The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2558 (ปี 2558)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ และตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอาคารชดุ กรณกี ารโอนและการจ�ำ นองอสงั หารมิ ทรพั ย์
และห้องชุดตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี
กำ�หนดแลว้ เมือ่ วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘ มผี ลใช้บังคบั ต้งั แตว่ นั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ถงึ
วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามส่ิงทส่ี ง่ มาดว้ ย ๑. และ ๒. ซงึ่ การจดทะเบยี นโอนและจ�ำ นอง
อสังหาริมทรัพย์และห้องชุดทีอ่ ยใู่ นหลักเกณฑเ์ รยี กเก็บค่าธรรมเนียมรอ้ ยละ ๐.๐๑ ตามประกาศ
กระทรวงมหาดไทยดงั กลา่ วจะตอ้ งมีลักษณะดงั นี้
๑. อสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุดท่ีขอจดทะเบียนต้ังอยู่ในท้องท่ีจังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี จังหวดั ยะลา จงั หวดั สงขลาเฉพาะในท้องท่อี ำ�เภอจะนะ อ�ำ เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี
และอ�ำ เภอสะบ้าย้อย และจงั หวัดสตลู
๒. ประเภทการจดทะเบียนโอน คือ ขาย (รวมทั้งขายฝาก) แลกเปลย่ี น ให้ และ
การโอนโดยทางมรดกให้แก่ทายาท  สำ�หรับการจดทะเบียนโอนชำ�ระหน้ีและโอนชำ�ระหนี้จำ�นอง
ไมอ่ ยใู่ นหลักเกณฑเ์ รยี กเกบ็ ค่าธรรมเนียมร้อยละ ๐.๐๑
๓. การจดทะเบียนจำ�นอง  หมายความรวมถึงการโอนสิทธิการรับจำ�นองด้วย
โดยถ้าเป็นการโอนสิทธิการรับจำ�นองอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน  เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนยี มร้อยละ ๐.๐๑ ของจ�ำ นวนเงนิ จ�ำ นองที่โอนกนั แต่อยา่ งสงู ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
หรืออย่างสูงไม่เกิน  ๑๐๐,๐๐๐  บาท  สำ�หรับการให้สินเช่ือเพ่ือการเกษตรของสถาบันการเงิน
ที่รัฐมนตรีกำ�หนด  แต่ถ้าเป็นการโอนสิทธิการรับจำ�นองห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมร้อยละ ๐.๐๑ ของจำ�นวนเงนิ จ�ำ นองท่โี อนกนั โดยไม่มเี พดานการเรียกเก็บ
โดยกรมท่ีดินได้จัดทำ�สรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนและการจำ�นอง
เพ่ือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม
มาตรการดงั กล่าว ตามสง่ิ ทสี่ ่งมาดว้ ย ๓. และ ๔.
ส�ำ หรบั ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี า่ ย และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ นน้ั ในขณะนพ้ี ระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา่ ดว้ ยการลดอตั ราและยกเวน้ รษั ฎากร ตามมาตรการดงั กลา่ ว
อยู่ระหว่างดำ�เนินการของกรมสรรพากร  ยังไม่มีผลใช้บังคับ  ฉะน้ัน  พนักงานเจ้าหน้าท่ีจึงต้อง
เรียกเก็บภาษีเงินได้หัก  ณ  ท่ีจ่าย  และภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราปกติไปก่อน  เว้นแต่จะอยู่ใน
หลักเกณฑ์ไดร้ ับลดอตั ราหรอื ยกเว้นตามมาตรการอืน่ เม่ือพระราชกฤษฎกี าดังกลา่ วมีผลใชบ้ งั คับ
แลว้ จะแจ้งใหท้ ราบตอ่ ไป สว่ นการขอคนื ภาษีอากร ใหพ้ นกั งานเจ้าหน้าที่แนะนำ�ผูข้ อจดทะเบียน
นำ�หลกั ฐานไปยน่ื ขอคนื ภาษีอากรทีก่ รมสรรพากรหรอื สรรพากรพ้นื ที่ท่ีผขู้ อคนื มภี ูมิล�ำ เนาอยู่ หรอื
ติดตอ่ สอบถามไปที่ศนู ยข์ ้อมูลกรมสรรพากร โทรศพั ท์หมายเลข ๑๑๖๑
อน่งึ กรณีมผี ูข้ อจดทะเบยี นขอคืนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม
ท่ีเสยี ไปในอตั ราปกตกิ อ่ นทีป่ ระกาศกระทรวงมหาดไทยตามสงิ่ ทสี่ ่งมาด้วย ๑. และ ๒. จะมผี ลใช้

๔๙๗

บังคับ หากพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมนั้นอยู่ใน
หลักเกณฑ์ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมเหลือ  ๐.๐๑  แล้ว  ก็ชอบที่จะดำ�เนินการเพ่ือให้มีการ
คืนค่าธรรมเนียมในส่วนที่พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บไว้เกินคืนให้แก่ผู้ขอได้  โดยการถอนคืน
ค่าธรรมเนียมท่ีได้มีการนำ�ส่งเป็นรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแล้ว  ในทางปฏิบัติ
ต้องส่งเร่ืองขอคืนค่าธรรมเนียมนั้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเจ้าของเงินรายได้เพ่ือถอนคืน
คา่ ธรรมเนยี มใหแ้ กผ่ ้ขู อจดทะเบียน โดยด�ำ เนนิ การตามกฎหมายและระเบยี บขององคก์ รปกครอง
ส่วนท้องถ่ินในสว่ นทีเ่ ก่ยี วข้อง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ  และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) ศิรพิ งษ์ ห่านตระกลู
(นายศิรพิ งษ์ หา่ นตระกลู )
อธบิ ดกี รมท่ดี ิน

สำ�นักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
สว่ นมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔


๔๙๘

สิ่งทสี่ ่งมาด้วย ๑
(ส�ำ เนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอื่ ง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ
กรณกี ารโอนและการจ�ำ นองอสงั หารมิ ทรพั ยต์ ามมาตรการสนบั สนนุ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ
ตามหลัก_เก_ณ__ฑ_์ท__คี่ _ณ__ะ_ร_ฐั _ม_น_ต_รีก�ำ หนด
โดยท่ีคณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ติเม่อื วนั ท่ี ๑๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เห็นชอบการขยาย
ระยะเวลามาตรการสำ�หรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  และให้ขยายระยะเวลาการลดหย่อน
คา่ ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ กรณกี ารโอนและการจ�ำ นอง
อสงั หารมิ ทรพั ยต์ ามมาตรการสนบั สนนุ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ ตามหลกั เกณฑท์ ค่ี ณะรฐั มนตรี
กำ�หนด  ออกไปจนถึงวันท่ี  ๓๑  ธันวาคม  พ.ศ.๒๕๖๐  ท้ังน้ี  เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่
ประชาชนในด้านการลงทุนและการประกอบกจิ การ และเปน็ การกระตนุ้ เศรษฐกิจ การค้า และ
การลงทุนในพื้นท่ีเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  อันจะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนา
เศรษฐกจิ ในเขตพื้นทีด่ งั กลา่ ว
ดงั นั้น เพอ่ื ให้เป็นไปตามตคิ ณะรฐั มนตรดี ังกลา่ ว รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
จงึ ออกประกาศไวด้ งั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำ�นอง
อสงั หาริมทรพั ย์ ร้อยละศูนยจ์ ดุ ศนู ยห์ น่ึง สำ�หรับการโอนอสงั หารมิ ทรัพย์โดยการขาย แลกเปลีย่ น
ให้  และการโอนโดยทางมรดกให้แก่ทายาท  หรือการจำ�นองอสังหาริมทรัพย์ที่ต้ังอยู่ในท้องที่
จงั หวัดนราธิวาส จงั หวัดปตั ตานี จังหวดั ยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในทอ้ งทอี่ �ำ เภอจะนะ อำ�เภอ
เทพา อำ�เภอนาทวี และอ�ำ เภอสะบ้าย้อย และจงั หวดั สตูล
ข้อ ๒ ประกาศน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  มกราคม  พ.ศ. ๒๕๕๘  ถึงวันท่ี  ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ประกาศ ณ วนั ที ่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจนิ ดา
รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย

ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๗๕ ง ๒ เมษายน ๒๕๕๘
๔๙๙

(สำ�เนา) ส่งิ ท่ีส่งมาดว้ ย ๒

ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอ่ื ง การเรยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอาคารชดุ
กรณีการโอนและการจ�ำ นองห้องชุดตามมาตรการสนบั สนนุ เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกจิ
ตามหลกั _เก_ณ__ฑ_ท์__ี่ค_ณ__ะ_ร_ัฐ_ม_น_ต_รีก�ำ หนด

โดยทีค่ ณะรัฐมนตรีได้มมี ตเิ มื่อวนั ท่ี ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เห็นชอบการขยาย
ระยะเวลามาตรการสำ�หรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  และให้ขยายระยะเวลาการลดหย่อน
ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด  กรณีการโอนและ
การจ�ำ นองหอ้ งชดุ ตามมาตรการสนบั สนนุ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ ตามหลกั เกณฑท์ ค่ี ณะรฐั มนตรี
กำ�หนด  ออกไปจนถึงวันท่ี  ๓๑  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๖๐  ทั้งน้ี  เพ่ือเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่
ประชาชนในด้านการลงทุนและการประกอบกิจการ  และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ  การค้า  และ
การลงทุนในพ้ืนท่ีเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  อันจะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนา
เศรษฐกจิ ในเขตพ้นื ท่ดี ังกลา่ ว
ดังนั้น เพอื่ ให้เปน็ ไปตามตคิ ณะรัฐมนตรดี งั กลา่ ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ขอ้ ๑ ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำ�นองห้องชุด
ร้อยละศูนย์จุดศูนย์หน่ึง  สำ�หรับการโอนห้องชุดโดยการขาย  แลกเปลี่ยน  ให้  และการโอนโดย
ทางมรดกให้แก่ทายาท  หรือการจำ�นองห้องชุดท่ีตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส  จังหวัดปัตตานี
จังหวัดยะลา จังหวดั สงขลา เฉพาะในทอ้ งทอ่ี �ำ เภอจะนะ อำ�เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอำ�เภอ
สะบา้ ยอ้ ย และจงั หวัดสตูล
ข้อ ๒ ประกาศน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันท่ี  ๑  มกราคม  พ.ศ. ๒๕๕๘  ถึงวันท่ี  ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ประกาศ ณ วันท ่ี ๒๖ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก อนพุ งษ์ เผา่ จนิ ดา
รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย

ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๗๕ ง ๒ เมษายน ๒๕๕๘
๕๐๐

ส่ิงท่สี ่งมาด้วย ๓
สรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนยี ม ภาษีเงนิ ได้หัก ณ ทจ่ี า่ ย ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์

ในการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละห้องชดุ ตามมาตรการสนับสนนุ

เขตพฒั นาพเิ ศ_ษ_เ_ฉ_พ_า_ะ_ก_จิ _จ_ังห__วดั_ช_ายแดนภาคใต้

ประเภท การเรยี กเกบ็ /อตั รา
๑. คา่ ธรรมเนียม – รอ้ ยละ ๐.๐๑ ของราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ย์ (ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๘
ไปจนถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐)

๒. คา่ ภาษเี งนิ ได้นติ บิ คุ คล – เรยี กเกบ็ ตามปกติ
หัก ณ ที่จ่าย

๓. ค่าภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดา – เรยี กเกบ็ ตามปกติ
หกั ณ ที่จา่ ย (จะได้รับลดหย่อนก็ต่อเมื่อพระราชกฤษฎีกาฯ  ของกรมสรรพากรมีผลใช้
บงั คบั แลว้ และถา้ ผขู้ อจดทะเบยี นไดเ้ สยี ภาษเี งนิ ไดไ้ ปกอ่ นทพ่ี ระราชกฤษฏกี าฯ
จะมีผลใช้บังคับ ให้แนะนำ�ผู้ขอจดทะเบียนนำ�หลักฐานไปยื่นขอคืนที่
กรมสรรพากรหรอื สรรพากรพน้ื ทท่ี ผ่ี ขู้ อคนื มภี มู ลิ �ำ เนาอย ู่ หรอื ตดิ ตอ่ สอบถาม
ไดท้ ่ศี ูนย์ขอ้ มลู กรมสรรพากร โทรศัพท์หมายเลข ๑๑๖๑)

๔. ค่าภาษธี ุรกิจเฉพาะ – เรียกเก็บตามปกติ
(จะได้รับลดหย่อนก็ต่อเม่ือพระราชกฤฎีกาฯ  ของกรมสรรพากรมีผลใช้
บงั คบั แลว้ และถา้ ผขู้ อจดทะเบยี นไดเ้ สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะไปกอ่ นทพ่ี ระราช-
๕. คา่ อากรแสตมป์ กฤษฎกี าฯ จะมผี ลใชบ้ งั คบั ใหแ้ นะน�ำ ผขู้ อจดทะเบยี นน�ำ หลกั ฐานไปยน่ื ขอ
คืนภาษีอากรที่กรมสรรพากรหรือสรรพากรพื้นที่ ที่ผู้ขอคืนมีภูมิลำ�เนาอยู่
หรอื ตดิ ตอ่ สอบถามไดท้ ศ่ี นู ยข์ อ้ มลู กรมสรรพากร โทรศพั ทห์ มายเลข ๑๑๖๑
– เรยี กเกบ็ ตามปกต ิ (ถา้ เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะแลว้ ไมต่ อ้ งเสยี คา่ อากรแสตมป์
ตามลกั ษณะแห่งตราสาร ที่ ๒๘. ใบรับ แหง่ บญั ชอี ตั ราอากรแสตมป์ทา้ ย
ประมวลรัษฎากร)

หมายเหตุ
๑. โอน หมายถึง ขาย, แลกเปลี่ยน, ให,้ โอนมรดกให้แก่ทายาท และขายฝาก (ตามหนังสือกรมทด่ี ิน
ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๘๒๒๕ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖) (ไมร่ วมถึงการจดทะเบียนโอนช�ำ ระหนี้
และโอนชำ�ระหน้จี �ำ นอง ตามหนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๑๕๖๖ ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑)
๒. เขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ หมายความวา่ ทอ้ งท่ีจังหวดั นราธวิ าส จงั หวัดปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จังหวดั สงขลา
เฉพาะในทอ้ งทอ่ี ำ�เภอจะนะ อำ�เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอำ�เภอสะบา้ ยอ้ ย และจังหวดั สตูล

______________

๕๐๑

ส่งิ ทส่ี ่งมาด้วย ๔
สรุปการเรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบียนจ�ำ นองอสงั หารมิ ทรัพย์และหอ้ งชุด

ตามมาตรการสนับสนุนเขต_พ__ัฒ_น_า_พ_ิเ_ศ_ษ_เ_ฉ_พ_า_ะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้

ประเภท การเรียกเก็บ/อตั รา
๑. คา่ ธรรมเนยี ม – ร้อยละ  ๐.๐๑  ของวงเงินจำ�นอง  (ตั้งแต่วันท่ี  ๑  มกราคม  ๒๕๕๘
ไปจนถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๐)
(– กรณจี �ำ นองอสงั หารมิ ทรพั ย์ กรณคี า่ ธรรมเนยี มจ�ำ นองเกนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ใหเ้ รยี กเกบ็ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ฯ
๒. ค่าอากรแสตมป์ ขอ้ ๒ (๗) (ฉ) หากเปน็ กรณกี ารใหส้ นิ เชอ่ื เพอ่ื การเกษตรของสถาบนั การเงนิ
ท่ีรฐั มนตรีก�ำ หนด ใหเ้ รียกเกบ็ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี
๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ฯ ข้อ ๒ (๗) (ช)
– กรณีห้องชุด  เรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามจำ�นวนทั้งหมด  เนื่องจาก
กฎหมายวา่ ดว้ ยอาคารชดุ ไมไ่ ด้กำ�หนดเพดานข้นั สงู สุดการเรยี กเก็บไว)้

เรียกเก็บตามปกติ  หากถือสัญญาจำ�นองเป็นหลักฐานกู้ยืมเงินด้วย
เรยี กเกบ็ รอ้ ยละ ๐.๐๕ แตอ่ ยา่ งสงู ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท

หมายเหตุ
๑. การจดทะเบียนจ�ำ นองกรณนี ีห้ มายความรวมถงึ การขึน้ เงินจ�ำ นอง, จำ�นองล�ำ ดับท่ี .... รวมถึงการโอนสิทธิ
การรบั จำ�นอง (ตามหนังสอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๒๖๓๘ ลงวนั ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๐) (ไมร่ วมถึง
การจดทะเบียนโอนช�ำ ระหนห้ี รอื โอนช�ำ ระหน้ีจำ�นอง ตามหนงั สือกรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๑๕๖๖
ลงวันท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑)
๒. เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจ หมายความวา่ ทอ้ งทจ่ี งั หวดั นราธวิ าส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวดั สงขลา
เฉพาะในท้องทีอ่ �ำ เภอจะนะ อำ�เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอ�ำ เภอสะบา้ ย้อย และจงั หวดั สตลู

______________

๕๐๒

(ส�ำ เนา)

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๘๔๗ กรมที่ดิน
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงท่งุ สองหอ้ ง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ เมษายน ๒๕๕๘

เรอื่ ง แจ้งรายชื่อบรษิ ทั บรหิ ารสินทรัพยร์ ายใหม่
เรยี น ผู้ว่าราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
อ้างถงึ ๑. หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๗๑๐/ว ๐๖๘๔๑ ลงวนั ที่ ๓​ มีนาคม ๒๕๔๒
๒. หนังสือกรมทดี่ นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๓๘๔๗ ลงวันท่ี ๑๑​ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๑
๓. หนงั สอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๗๕๕๐ ลงวันท่ี ๗​ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ส่ิงท่ีส่งมาดว้ ย ภาพถา่ ยใบทะเบยี นบรษิ ัทบริหารสินทรัพย์ของบรษิ ทั บริหารสินทรพั ย์ไทคณู จ�ำ กดั
ฉบบั ที่ ๐๐๓/๒๕๕๘ ลงวนั ท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๘

ตามหนังสือที่อ้างถึง  ๑.  กรมท่ีดินได้แจ้งทางปฏิบัติในการจดทะเบียนขาย
หรือโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินไปให้บริษัทบริหาร
สินทรัพย์ว่า  นอกจากหลักฐานอื่นที่ผู้ขอจดทะเบียนต้องนำ�มาแสดงแล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่
เรียกใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามสำ�เนาตัวอย่างที่ส่งมา  เพื่อเป็นหลักฐานแสดงการ
จดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์  และเป็นหลักฐานประกอบการขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ตามพระราชกำ�หนดบริษัทบริหารสินทรัพย์  พ.ศ. ๒๕๔๑  และต่อมาได้มีหนังสือที่อ้างถึง  ๒.
ส่งพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพิม่ เติมพระราชกำ�หนดบรษิ ทั บริหารสินทรพั ย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาเพ่ือทราบและถือปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง  โดยในกรณีบริษัทบริหารสินทรัพย์ขอได้มาซ่ึงท่ีดิน
หรือห้องชดุ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ีถอื ปฏบิ ตั ติ ามหนังสอื ทอี่ า้ งถงึ ๓. นนั้
บัดนี้  ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งว่า  บริษัท  บริหารสินทรัพย์ไทคูณ  จำ�กัด
ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์กับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้  ตามหลักฐาน
ภาพถา่ ยใบทะเบยี นบรษิ ัทบรหิ ารสินทรัพยข์ องบริษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ์ ทคูณ จ�ำ กัด ฉบับที่ ๐๐๓/
๒๕๕๘ ลงวันท่ี ๒๔ มนี าคม ๒๕๕๘

๕๐๓

จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และขอสง่ ภาพถ่ายใบทะเบยี นบริษทั บริหารสนิ ทรพั ย์
ของบริษัท  บริหารสินทรัพย์ไทคูณ  จำ�กัด  มาเพ่ือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) สจุ ติ จงประเสรฐิ
(นายสจุ ิต จงประเสริฐ)
รองอธบิ ดกี รมที่ดนิ ปฏบิ ัติราชการแทน
อธบิ ดีกรมที่ดิน
ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ีดนิ
สว่ นมาตรฐานการจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๐๔

๕๐๕

ที่ มท ๐๕๑๕.๓ / ว ๑๐๑๕๖ (สำ�เนา)
กรมที่ดนิ
ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๓๐ เมษายน ๒๕๕๘

เร่ือง การขอตรวจสอบหลักทรพั ย์ของส�ำ นกั งานการบังคับคดี สำ�นกั งานอยั การสงู สดุ
เรยี น ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ทกุ จงั หวดั

ด้วยสำ�นักงานการบังคับคดี สำ�นักงานอัยการสูงสุด แจ้งว่า ได้มีหนังสือถึง
สำ�นักงานที่ดินต่างๆ  ขอความร่วมมือตรวจสอบทรัพย์สินที่ดินและส่ิงปลูกสร้างเพ่ือใช้ในการ
ดำ�เนินการบังคับคดียึดทรัพย์สินใช้หนี้ทางราชการ  แต่สำ�นักงานท่ีดินบางแห่งแจ้งเหตุขัดข้อง
และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบหลักทรัพย์ที่ดิน  เป็นเหตุให้การปฏิบัติงานของ
สำ�นักงานการบังคบั คดี ส�ำ นกั งานอยั การสงู สุด ตอ้ งชะลอลงและอาจหยุดชะงกั เพราะไมอ่ าจ
ปฏบิ ัตติ ามท่ีเจ้าพนักงานที่ดนิ แจง้ ได้
กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ตามพระราชบญั ญตั อิ งคก์ รอยั การและพนกั งานอยั การ
พ.ศ.๒๕๕๓ มาตรา ๑๖ บญั ญตั ใิ หพ้ นกั งานอยั การมอี �ำ นาจในการแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ และรวบรวม
พยานหลักฐาน  สอบปากคำ�พยานบุคคล  ออกคำ�สั่งเรียกบุคคลใดมาให้การต่อพนักงานอัยการ
ออกคำ�ส่ังให้ส่งพยานหลักฐาน  เอกสาร  หรือวัตถุ  และดำ�เนินการอื่นตามที่เห็นสมควร  รวมท้ัง
อาจแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีผู้มีอำ�นาจ  หรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐดำ�เนินการใดตามที่เห็นสมควรก็ได้  ดังน้ัน
กรณีสำ�นักงานการบังคับคดี  สำ�นักงานอัยการสูงสุด  ขอตรวจสอบหลักทรัพย์โดยอาศัยอำ�นาจ
ตามมาตรา  ๑๖  แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ  พ.ศ. ๒๕๕๓  จึงเป็น
กรณีขอตรวจสอบหลักทรัพย์โดยอาศัยอำ�นาจตามกฎหมาย  ซ่ึงตามระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วย
การตรวจหลักฐานทะเบยี นที่ดนิ การขอคดั ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์
พ.ศ.๒๕๕๖ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยระเบยี บกรมทด่ี นิ วา่ ดว้ ยการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ การขอคดั
ขอถ่ายสำ�เนาเอกสารและการตรวจสอบหลกั ทรัพย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอ้ ๓๐ กำ�หนด
ใหถ้ อื เปน็ หนา้ ทท่ี พ่ี นกั งานเจา้ หนา้ ทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย และไมต่ อ้ งเรยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี ม
ในการตรวจสอบ การคดั หรือถา่ ยส�ำ เนาเอกสารหรอื ค่ารบั รองเอกสารแต่อยา่ งใด
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ  และแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) ศริ พิ งษ์ ห่านตระกลู
(นายศิรพิ งษ ์ ห่านตระกูล)
อธิบดกี รมทด่ี ิน
สำ�นกั มาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ กลมุ่ พฒั นาการทะเบียนทีด่ ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๐๖

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๑๒๓๒ (ส�ำ เนา)
กรมทีด่ นิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘

เรอื่ ง การท�ำ นติ กิ รรมต่างๆ ของทรสั ตเ์ พ่อื การลงทนุ ในอสังหาริมทรัพย์
เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวดั ทกุ จงั หวัด
อ้างถึง หนงั สอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๗๐๘๒ ลงวนั ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
สง่ิ ท่ีส่งมาดว้ ย ๑. ขั้นตอนการจัดต้งั ทรสั ต์เพื่อการลงทนุ ในอสงั หารมิ ทรัพย์และการนำ�หน่วยทรัสต์
เขา้ จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพย์
๒. ตวั อยา่ งหนงั สือรับทราบการจดั ตง้ั ทรัสต์เพื่อการลงทนุ ในอสังหารมิ ทรพั ย์

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมท่ีดินได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของกองทรัสต์  พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานท่ีต้องใช้ประกอบ
การจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมดังกลา่ ว ให้พนักงานเจ้าหนา้ ทที่ ราบและถอื ปฏบิ ัติ น้ัน
กรมที่ดินได้รับแจ้งจากสำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลกั ทรพั ย์(“ส�ำ นกั งาน”)วา่ ตามขน้ั ตอนการจดั ตง้ั กองทรสั ตเ์ พอ่ื การลงทนุ ในอสงั หารมิ ทรพั ย์
ผู้จดั การกองทรสั ต์จะยืน่ ขออนญุ าตเสนอขายหนว่ ยทรัสตต์ อ่ ส�ำ นักงานและตอ้ งได้รบั อนุญาตจาก
ส�ำ นกั งาน จงึ จะสามารถเสนอขายหนว่ ยทรสั ตต์ อ่ ผลู้ งทนุ ได ้ หลงั จากมกี ารเสนอขายหนว่ ยทรสั ตแ์ ลว้
จะนำ�เงินที่ได้จากการเสนอขายมาก่อตั้งเป็นทรัสต์  โดยจะรายงานผลการเสนอขายหน่วยทรัสต์
และมีหนังสือแจ้งต่อสำ�นักงานว่ามีการก่อต้ังทรัสต์แล้ว  สำ�นักงานจะออกหนังสือรับทราบ
การก่อตั้งทรัสต์  (REIT)  เพื่อให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมได้
เมอ่ื กองทรสั ตโ์ ดยทรสั ตไี ดด้ �ำ เนนิ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั ทรพั ยส์ นิ ของกองทรสั ต์
เพื่อนำ�เงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามท่ีได้ระบุไว้ในหนังสือช้ีชวนเสนอขายหน่วยทรัสต์แล้ว
ทรัสตี/ผู้จัดการกองทรัสต์จึงจะนำ�หน่วยทรัสต์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(“ตลาดหลกั ทรพั ย”์ ) ซง่ึ ตลาดหลกั ทรพั ยจ์ ะออกหลกั ฐานการรบั หนว่ ยทรสั ตเ์ ปน็ หลกั ทรพั ยจ์ ดทะเบยี น
ในขั้นตอนน้ี  โดยสำ�นักงานได้สรุปข้ันตอนการจัดตั้งกองทรัสต์และตัวอย่างหนังสือรับทราบฯ
ตามส่ิงท่ีส่งมาด้วย  ๑.  และ  ๒.  ดังนั้น  ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน
ของกองทรัสต์  ผู้ขอจะมีเอกสารหลักฐาน  คือ  หนังสือรับทราบการจัดต้ังกองทรัสต์ที่ออกโดย

๕๐๗

ส�ำ นกั งาน  แตจ่ ะยงั ไมส่ ามารถน�ำ หลกั ฐานการจดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยม์ าแสดงตอ่ พนกั งาน
เจ้าหน้าที่ได้ จึงขอให้ใช้หนังสือรับทราบการจัดตั้งกองทรัสต์ที่ออกโดยสำ�นักงาน แทนหลักฐาน
การจดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยท์​ อ่ี อกโดยตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย ฉะนน้ั เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไป
ตามหลักเกณฑ์และข้ันตอนของการจัดต้ังทรัสต์เพ่ือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  จึงให้ยกเลิก
แนวทางปฏิบตั ใิ นข้อ ๖ ของหนังสือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๗๐๘๒ ลงวนั ท่ี ๑๖ ตลุ าคม
๒๕๕๖ ท่อี า้ งถงึ และใหถ้ ือปฏิบัติใหมด่ งั นี้
“๖. หลักฐานเอกสารประกอบการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมดังกล่าว
นอกจากผขู้ อตอ้ งน�ำ เอกสารหลกั ฐานตา่ งๆ มาแสดงเพอ่ื ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทต่ี รวจสอบและเกบ็ ไว้
เปน็ หลักฐาน เช่นเดียวกบั การจดทะเบยี นตามปกติแล้ว ใหผ้ ขู้ อนำ�เอกสารดังตอ่ ไปนี้มาแสดงเพ่อื
ให้พนกั งานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐานด้วย คือ
๖.๑ หลักฐานการได้รับใบอนุญาตจากสำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับ
หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ใหป้ ระกอบธุรกิจเปน็ ทรสั ตี
๖.๒ หลักฐานการได้รับแต่งตั้งเป็นทรัสตีของกองทรัสต์เพ่ือการลงทุน
ในอสงั หาริมทรัพย์
๖.๓ สญั ญากอ่ ตง้ั ทรสั ตเ์ พอ่ื การลงทนุ ในอสงั หารมิ ทรพั ย ์ ซง่ึ ระบรุ ายละเอยี ด
ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำ�เนินงานของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (ตามมาตรา ๑๔
แหง่ พระราชบัญญตั ทิ รัสต์เพือ่ ธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. ๒๕๕๐) เชน่ ชือ่ กองทรัสตซ์ งึ่ ต้องแสดง
ลักษณะสำ�คัญของกองทรัสต์  ชื่อและที่อยู่ของผู้ก่อตั้งทรัสต์  ทรัสตี  และผู้จัดการกองทรัสต์
วตั ถปุ ระสงคข์ องกองทรสั ต์ หนา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบ วธิ ดี �ำ เนนิ การในเร่ืองตา่ งๆ ของกองทรัสต์
เปน็ ต้น และหนังสอื แสดงเจตนาก่อตง้ั ทรสั ตใ์ นกรณีท่ีผู้กอ่ ตงั้ ทรสั ต์ และทรสั ตีเปน็ บคุ คลเดียวกัน
๖.๔ หลกั ฐานหนงั สอื รบั ทราบการจดั ตง้ั กองทรสั ตจ์ ากส�ำ นกั งานคณะกรรมการ
ก�ำ กับหลักทรพั ยแ์ ละตลาดหลักทรพั ย”์ (ตัวอยา่ งหนงั สือรับทราบฯ ตามส่งิ ท่ีสง่ มาด้วย ๒.)
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) ศิรพิ งษ์ ห่านตระกูล
(นายศริ ิพงษ์ ห่านตระกูล)
อธิบดีกรมทด่ี ิน

สำ�นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๐๘

ส่งิ ท่ีส่งมาด้วย ๑
ขั้นตอนการจดั ตง้ั ทรัสต์เพอื่ การลงทุนในอสงั หาริมทรพั ย์และการนำ�หน่วยทรัสต์

เข้าจดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์
๑. ผูจ้ ดั การกองทรสั ต์ ย่ืนค�ำ ขออนญุ าตเสนอขายหน่วยทรสั ตต์ ่อส�ำ นกั งาน ก.ล.ต.
๒. สำ�นักงาน ก.ล.ต อนญุ าตให้เสนอขายหนว่ ยทรัสต์
๓. ผจู้ ดั การกองทรสั ต์เสนอขายหนว่ ยทรัสตต์ ่อผลู้ งทุนตามระยะเวลาที่ก�ำ หนดไว้ในหนังสอื ชี้ชวน
๔. ผูจ้ ดั การกองทรสั ต์รายงานผลการเสนอขายหนว่ ยทรสั ต์ และน�ำ เงินทีไ่ ดจ้ ากการเสนอขาย
หน่วยทรัสต์ จัดตั้งเป็นกองทรสั ต์
๕. ส�ำ นกั งาน ก.ล.ต. ออกหนงั สอื รับทราบการจัดตง้ั กองทรสั ต์
๖. กองทรัสตโ์ ดยทรัสตีจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมเก่ยี วกบั ทรัพยส์ ิน น�ำ เงนิ ไปลงทุนใน
อสงั หาริมทรัพย์
๗. ทรัสต/ี ผจู้ ัดการกองทรัสต์ น�ำ หน่วยทรสั ต์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

๕๐๙

๕๑๐

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๑๔๗๗ (สำ�เนา)
กรมที่ดิน
ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงท่งุ สองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘

เรื่อง การลดหย่อนคา่ ธรรมเนียมและยกเวน้ ภาษอี ากรกรณีการปรบั ปรงุ โครงสร้างหน้ี
เรียน ผู้ว่าราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวัด
อ้างถึง หนงั สอื กรมท่ดี นิ ดว่ นท่สี ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๕๗๓๐ ลงวนั ที่ ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๕๗
สิง่ ท่ีส่งมาดว้ ย ๑. ส�ำ เนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้น
รัษฎากร (ฉบับที่ ๕๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. ส�ำ เนาประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เรอื่ ง ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และ
เงือ่ นไข กรณีหนที้ ีต่ ้องดำ�เนนิ การปรับปรงุ โครงสรา้ งหนีต้ ามหลกั เกณฑ์
การปรบั ปรุงโครงสรา้ งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทย
ประกาศก�ำ หนด ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
๓. ส�ำ เนาประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เรื่อง กำ�หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และ
เงอ่ื นไข การยกเวน้ ภาษีเงินได้ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมป์ สำ�หรบั
จ�ำ นวนเงนิ ที่ไดร้ ับจากการโอนอสงั หาริมทรัพยข์ องลกู หน้ขี องสถาบนั การเงนิ
นำ�มาจ�ำ นองเปน็ ประกนั หนีข้ องเจา้ หน้ที ีเ่ ปน็ สถาบันการเงนิ ใหแ้ ก่ผอู้ ื่น ซง่ึ มใิ ช่
เจ้าหนที้ ่เี ปน็ สถาบันการเงนิ เพื่อน�ำ ไปชำ�ระหน้ที ีค่ า้ งช�ำ ระแกเ่ จ้าหน้ที เี่ ป็น
สถาบนั การเงนิ ซง่ึ ด�ำ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน ้ี ตามหลกั เกณฑก์ ารปรบั ปรงุ
โครงสร้างหนีข้ องสถาบันการเงนิ ที่ธนาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมท่ีดินได้ส่งสำ�เนาประกาศกระทรวงมหาดไทย  เร่ือง
หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวล
กฎหมายท่ีดิน  สำ�หรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหน้ี  ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำ�หนด
ลงวนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๗ และ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง หลกั เกณฑก์ ารลดหยอ่ น
ค่าธรรมเนยี มจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมเป็นพเิ ศษตามกฎหมายวา่ ด้วยอาคารชุด สำ�หรับกรณี
การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี ตามหลกั เกณฑท์ ค่ี ณะรฐั มนตรกี �ำ หนด ลงวนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๗

๕๑๑

จ�ำ นวน ๒ ฉบบั ซง่ึ ใชบ้ งั คบั ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑๘ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๗
พรอ้ มทง้ั แจง้ แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม และแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบ
ในเบื้องต้นว่ายังคงต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากรตามปกติไปก่อน  ไม่อาจเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ  ๐.๐๑  หรือยกเว้นภาษีอากรได้  เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาออก
ตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
และประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากรทก่ี ำ�หนดหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไขในการยกเวน้ ภาษอี ากร
อยรู่ ะหว่างดำ�เนนิ การ ยงั ไมม่ ผี ลใชบ้ งั คับ รวมท้ังแจ้งทางปฏบิ ัตใิ นการพจิ ารณาคืนคา่ ธรรมเนียม
และแนะนำ�ให้ขอคืนภาษีอากรต่อกรมสรรพากรหรือสรรพากรพื้นที่  และเม่ือพระราชกฤษฎีกา
และประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร มผี ลใชบ้ ังคบั แล้วจะแจง้ ใหท้ ราบตอ่ ไป นัน้
บัดนี้  กรมที่ดินได้รับแจ้งจากกรมสรรพากรว่า  ได้มีพระราชกฤษฎีกาออกตาม
ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
มาตรา ๘ และมาตรา ๙ กำ�หนดใหย้ กเว้นภาษเี งินไดห้ กั ณ ท่ีจา่ ย ภาษธี ุรกิจเฉพาะ และอากร
แสตมป์ ใหแ้ ก่ลกู หน้ขี องสถาบันการเงนิ และสถาบันการเงินลกู หนข้ี องเจ้าหนอี้ ่นื และเจา้ หนีอ้ ่ืน
สำ�หรับเงนิ ได้ทีไ่ ดร้ บั จากการโอนอสังหาริมทรพั ย์ (รวมถึงหอ้ งชดุ ) อันเนือ่ งมาจากการด�ำ เนินการ
ปรับปรุงโครงสร้างหน้ี  ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินท่ีธนาคาร
แห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด  สำ�หรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ท่ีได้กระทำ�ในระหว่างวันที่
๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ถงึ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไข
การยกเวน้ ภาษอี ากรเปน็ ไปตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร ประกาศ ณ วันท่ี ๑๑ กุมภาพนั ธ์
พ.ศ. ๒๕๕๘ จำ�นวน ๒ ฉบบั จงึ สง่ ส�ำ เนาพระราชกฤษฎีกาฯ และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
ตามส่ิงทส่ี ่งมาดว้ ย ๑, ๒ และ ๓ ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าที่ทราบและถอื ปฏิบัติ ทง้ั นี้ เพือ่ ประกอบ
การพจิ ารณาคนื เงนิ คา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมกรณกี ารปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
เฉพาะการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมทไ่ี ด้กระทำ�ตั้งแต่วนั ที่ ๑๘ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ถงึ วนั ที่
๓๑  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๗  ที่ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
ลงวันท ี่ ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ทีก่ รมทีด่ ินได้แจง้ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทสี่ อบสวนและบันทึก
ถ้อยคำ�ผู้ขอจดทะเบียนประเภท  “โอนชำ�ระหนี้”  “โอนชำ�ระหนี้จำ�นอง”  “ขาย”  “จำ�นอง”  หรือ
“ข้ึนเงินจากจำ�นอง”  ซ่ึงอยู่ในหลักเกณฑ์ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียม  ตามประกาศกระทรวง
มหาดไทยไวห้ ลงั สญั ญาหรอื บนั ทกึ ขอ้ ตกลง  แลว้ แตก่ รณ ี เพอ่ื เปน็ หลกั ฐานวา่ การจดทะเบยี นรายน้ี
เป็นกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์ท่ีธนาคารแห่งประเทศไทย
ประกาศกำ�หนดและมีการทำ�สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ฉบับใดไว้แล้ว  หรือไม่  อย่างไร  และ
ให้ผู้โอนหรือผู้จำ�นองลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน  พร้อมทั้งบันทึกรายละเอียดลงในบัญชีตาราง
การลดหย่อนค่าธรรมเนียมและยกเว้นภาษีอากรกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหน้ี  ตามมติ
คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ และมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน

๕๑๒

พ.ศ.๒๕๕๗  ตามท่ีกรมที่ดินแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติตามนัยข้อ  ๔
ของหนงั สอื ทีอ่ า้ งถงึ
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) ศริ ิพงษ์ หา่ นตระกูล
(นายศริ ิพงษ ์ ห่านตระกูล)
อธบิ ดกี รมทดี่ ิน
ส�ำ นักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี นิ
สว่ นมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔


๕๑๓

(ส�ำ เนา) สง่ิ ที่สง่ มาดว้ ย ๑

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบบั ที่ ๕๘๑)

___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๘____
ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นปที ี่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบนั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช  มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ใหป้ ระกาศว่า
โดยท่ีเป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพ่ิม  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และ
อากรแสตมป์ บางกรณี
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๒๒  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบบั ชว่ั คราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จึงทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขนึ้ ไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกี าน้ีเรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รษั ฎากร วา่ ดว้ ยการยกเวน้ รัษฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๘๑) พ.ศ.๒๕๕๘”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเป็นตน้ ไป
มาตรา ๓ พระราชกฤษฎกี านใ้ี หใ้ ชบ้ งั คบั กบั หนท้ี ต่ี อ้ งด�ำ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ
ก�ำ หนด ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขทีอ่ ธิบดปี ระกาศกำ�หนด
มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎีกาน้ี
“สถาบันการเงิน” หมายความวา่
(๑) สถาบันการเงนิ ของรฐั ท่ีมีกฎหมายเฉพาะจดั ต้งั ขน้ึ
(๒) สถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธรุ กจิ สถาบนั การเงนิ
(๓) บรรษัทบรหิ ารสินทรัพย์ไทยตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบรรษทั บรหิ ารสินทรพั ยไ์ ทย
(๔) บรษิ ัทบรหิ ารสนิ ทรัพยต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยบรษิ ัทบริหารสนิ ทรพั ย์
(๕) นิติบคุ คลอนื่ ทอ่ี ธบิ ดีประกาศกำ�หนดโดยอนุมัตริ ฐั มนตรี

๕๑๔

“เจ้าหนี้อื่น”  หมายความว่า  เจ้าหน้ีท่ีมิใช่สถาบันการเงิน  ซึ่งได้ดำ�เนินการเจรจา
ร่วมกับสถาบันการเงินในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหน้ี  และได้ทำ�ความตกลงเป็น
หนงั สือรว่ มกบั เจา้ หน ้ี ซึง่ เป็นสถาบนั การเงนิ
“ลกู หน้ีของสถาบนั การเงนิ ” ใหห้ มายความรวมถึงผู้ค้าํ ประกนั ของลูกหนี้ด้วย
“ลูกหน้ขี องเจา้ หนีอ้ นื่ ” หมายความว่า ลูกหน้ขี องเจ้าหน้ีอนื่ ซึ่งเปน็ ลูกหนข้ี องสถาบนั
การเงินด้วย และใหห้ มายความรวมถึงผคู้ ้ําประกันของลกู หนี้ดว้ ย
มาตรา ๕ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๒  และส่วน ๓  หมวด ๓  ในลักษณะ ๒
แห่งประมวลรัษฎากร  ให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน  สำ�หรับเงินได้ท่ีได้รับจากการปลดหนี้ของ
สถาบันการเงิน  โดยสถาบันการเงินนั้นได้ดำ�เนินการตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ของสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด ทง้ั น้ี เฉพาะการปลดหนท้ี ไ่ี ดก้ ระท�ำ
ในระหวา่ งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถงึ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๖ ใหย้ กเวน้ ภาษีเงินได้ตามสว่ น ๒ และส่วน ๓ หมวด ๓ ภาษีมลู คา่ เพมิ่
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมป์ตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒
แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินและสถาบันการเงิน สำ�หรับเงินได้ที่ได้รับ
จากการโอนทรัพย์สิน  การขายสินค้าหรือการให้บริการ  และสำ�หรับการกระทำ�ตราสาร 
อนั เนอ่ื งมาจากการปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ ทไ่ี ดด้ �ำ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ
กำ�หนด  ท้ังน้ี  เฉพาะการโอนทรัพย์สิน  การขายสินค้าหรือการให้บริการและสำ�หรับการกระทำ�
ตราสารทไี่ ด้กระทำ�ในระหว่างวนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถงึ วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๗ ให้ยกเว้นภาษเี งินได้ตามสว่ น ๒ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แห่งประมวลรัษฎากร  ให้แก่ลูกหน้ีของเจ้าหน้ีอ่ืน  สำ�หรับเงินได้ท่ีได้รับจากการปลดหน้ีของ
เจ้าหน้อี ื่น  ซึง่ ไดด้ �ำ เนนิ การปรับปรงุ โครงสร้างหน้ีโดยนำ�หลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของ
สถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนดมาใชโ้ ดยอนโุ ลม ทง้ั น้ี เฉพาะการปลดหน้ี
ที่ไดก้ ระท�ำ ในระหว่างวนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถงึ วันท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๘ ให้ยกเว้นภาษเี งนิ ได้ตามสว่ น ๒ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ภาษมี ูลคา่ เพิม่
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมป์ตามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แหง่ ประมวลรษั ฎากร ให้แก่ลกู หน้ีของเจา้ หนอี้ ่ืนและเจ้าหนอี้ ื่น สำ�หรับเงนิ ไดท้ ่ไี ดร้ ับจากการโอน
ทรพั ยส์ นิ การขายสนิ คา้ หรอื การใหบ้ รกิ ารและส�ำ หรบั การกระท�ำ ตราสาร อนั เนอ่ื งมาจากการปรบั ปรงุ
โครงสร้างหนี้ของเจ้าหนี้อ่ืนท่ีได้ดำ�เนินการโดยนำ�หลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของ
สถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนดมาใช้โดยอนุโลม  ท้ังน้ี  เฉพาะการโอน
ทรัพย์สิน  การขายสินค้าหรือการให้บริการ  และสำ�หรับการกระทำ�ตราสารที่ได้กระทำ�ในระหว่าง
วนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗

๕๑๕

มาตรา ๙ ใหย้ กเว้นภาษเี งนิ ไดต้ ามสว่ น ๒ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ภาษีธรุ กิจเฉพาะ
ตามหมวด ๕ และอากรแสตมปต์ ามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แหง่ ประมวลรษั ฎากร ใหแ้ ก่ลกู หนี้
ของสถาบนั การเงิน ส�ำ หรบั เงินได้ท่ไี ดร้ ับจากการโอนอสังหาริมทรัพยท์ ีล่ กู หนีข้ องสถาบันการเงนิ
นำ�มาจำ�นองเป็นประกันหน้ีของสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ท่ีเป็นสถาบันการเงิน
และสำ�หรับการกระทำ�ตราสารอันเน่ืองมาจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว  โดยลูกหนี้ของ
สถาบันการเงินต้องนำ�เงินได้น้ันไปชำ�ระหน้ีแก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน  ซึ่งได้ดำ�เนินการ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคาร
แหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด  ทง้ั น ้ี เฉพาะสว่ นทไ่ี มเ่ กนิ กวา่ หนท้ี ค่ี า้ งช�ำ ระอยกู่ บั สถาบนั การเงนิ
หรอื มภี าระผูกพันตามสญั ญาประกนั หนก้ี บั สถาบันการเงิน ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไข
ท่ีอธิบดีประกาศกำ�หนด  และให้ใช้บังคับสำ�หรับการโอนอสังหาริมทรัพย์และการกระทำ�ตราสาร
ทไี่ ดก้ ระท�ำ ในระหวา่ งวนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๑๐ ใหร้ ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี

ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ ์ จันทรโ์ อชา
นายกรฐั มนตรี
______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎกี าฉบับน ี้ คือ เน่อื งจากประเทศไทยประสบ
ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำ�ระหน้ีของภาคเอกชน  ทำ�ให้
สถาบันการเงิน  และเจ้าหนี้อื่นต้องปรับปรุงโครงสร้างหน้ีเพ่ือให้สอดคล้องกับความสามารถ
ในการชำ�ระหนี้ของลูกหนี้  จึงได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร 
ว่าด้วยการยกเวน้ รษั ฎากร  (ฉบับท ่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ กำ�หนดให้สทิ ธิประโยชนท์ างภาษีอากร
แกล่ กู หนแ้ี ละเจา้ หนซ้ี ง่ึ เปน็ สถาบนั การเงนิ หรอื เจา้ หนอ้ี น่ื เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
ซง่ึ มีผลใชบ้ งั คบั ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ แตโ่ ดยท่ใี นขณะนี้การปรบั ปรงุ โครงสร้างหน้ี
ของสถาบันการเงนิ และเจา้ หน้ีอื่นยังด�ำ เนนิ การไมเ่ สร็จสิ้น จำ�เป็นต้องให้สทิ ธิประโยชน์ทางภาษี
อากรต่อไปอีกระยะหนึ่ง  ดังนั้น  เพ่ือเป็นการส่งเสริมให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบัน
การเงินและเจ้าหน้ีอื่น  และเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาภาระภาษีอากรในการปรับปรุง
โครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินหรือเจ้าหน้ีอื่น  อันจะช่วยสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพทาง
เศรษฐกจิ ของประเทศไทยใหเ้ ตบิ โตอยา่ งตอ่ เนอ่ื งภายใตส้ ภาวการณเ์ ศรษฐกจิ โลกทย่ี งั มคี วามผนั ผวน
สมควรกำ�หนดให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน  หรือ
เจ้าหนีอ้ ่ืน บางกรณี ทไี่ ด้กระทำ�ในระหวา่ งวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๗ จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี
ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๔ ก ลงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๘

๕๑๖

(สำ�เนา) ส่งิ ที่ส่งมาด้วย ๒

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เร่อื ง ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไข กรณหี น้ที ี่ตอ้ งด�ำ เนินการปรบั ปรงุ

โครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑก์ ารปรับปรงุ โครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงิน
ทธ่ี นาคารแ_ห_่ง_ป_ร_ะ_เ_ท_ศ__ไท__ย_ป_ร_ะ_กาศก�ำ หนด

อาศัยอ�ำ นาจตามความในมาตรา ๓ แหง่ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากร  ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  (ฉบับท่ี  ๕๘๑)  พ.ศ. ๒๕๕๘  อธิบดีกรมสรรพากรกำ�หนด
หลักเกณฑ์  วิธีการและเง่ือนไข  กรณีหน้ีท่ีต้องดำ�เนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์
การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนขี้ องสถาบนั การเงนิ ท่ธี นาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศกำ�หนด ดังตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ หน้ีที่ต้องดำ�เนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุง
โครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด  หมายความว่า  หนี้
แต่ละบัญชีของลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นตํ่ากว่ามาตรฐาน สงสัย สงสัยจะสูญ และสูญ
ตามหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำ�รองของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ประกาศกำ�หนด  และให้รวมถึงหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นสงสัยจะสูญท่ีกันสำ�รองครบ
ร้อยละร้อย  และตัดออกจากบัญชีแล้วแต่ยังไม่ได้บันทึกกลับเข้ามาในบัญชี  และได้ดำ�เนินการ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้  ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคาร
แหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด ทง้ั น้ี ไมว่ า่ บญั ชลี กู หนจ้ี ะไดร้ บั การจดั ชน้ั ดงั กลา่ วกอ่ นปี พ.ศ.๒๕๕๖
หรอื ภายใน วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ข้อ ๒ กรณตี ามขอ้ ๑ เจา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ เจา้ หนอ้ี น่ื ลกู หนข้ี องสถาบนั การเงนิ
และลกู หนข้ี องเจา้ หนอ้ี น่ื   จะตอ้ งรว่ มกนั จดั ท�ำ หนงั สอื รบั รองหนท้ี ต่ี อ้ งด�ำ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ
กำ�หนด โดยหนงั สอื รบั รองดงั กลา่ วตอ้ งมขี อ้ ความอยา่ งน้อยตามท่ีแนบท้ายประกาศนี้
ลูกหน้ีของสถาบันการเงิน  และลูกหน้ีของเจ้าหน้ีอ่ืน  ต้องแจ้งหนังสือรับรองตาม
วรรคหนง่ึ ดงั นี้
(๑) แจ้งต่อเจ้าพนักงานท่ีดินท้องท่ีที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  โดยให้ส่งมอบ
หนังสือรับรองดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานท่ีดินผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย  เว้นแต่ลูกหน้ีของสถาบันการเงินและลูกหนี้ของเจ้าหน้ีอื่นประสงค์
จะช�ำ ระภาษอี ากรกอ่ น ในขณะทจ่ี ดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมาย กไ็ มต่ อ้ งแจง้ และสง่ มอบ
หนงั สือรับรองดงั กลา่ วต่อเจา้ พนกั งานที่ดิน
(๒) แจง้ ตอ่ อธบิ ดกี รมสรรพากร โดยใหส้ ง่ มอบหนงั สอื รบั รองดงั กลา่ วผา่ นสรรพากรพน้ื ท่ี
ในเขตท้องที่ทล่ี ูกหน้ขี องสถาบันการเงนิ   และลูกหนีข้ องเจ้าหนี้อ่ืนมภี มู ิลำ�เนาหรือสถานประกอบการ
ตัง้ อยหู่ รอื ในเขตท้องท่ีทีอ่ สังหาริมทรัพย์ท่ีโอนต้งั อยู่
ขอ้ ๓ ประกาศนใี้ หใ้ ช้บงั คบั ต้งั แตว่ ันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นตน้ ไป

ประกาศ ณ วันท ี่ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
ประสงค์ พูนธเนศ
๕๑๗อธิบดีกรมสรรพากร

หนังสือรับรองหน้ีท่ีต้องดำ�เนินการปรับปรุงโครงสร้างหน้ีตามหลักเกณฑ์การปรับปรุง
โครงสรา้ งหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด  ตามพระราชกฤษฎกี าฯ
(ฉบับที่ ๕๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๘

วนั ท่.ี ..........เดอื น...........................พ.ศ. ...............
เจ้าพนกั งานที่ดิน...................................
เรียน
อธิบดกี รมสรรพากร (ผ่านสรรพากรพืน้ ท่ี..................................)
๑. หนงั สอื น้ที �ำ ขึน้ โดย
(๑) สถาบันการเงิน.........................................ส�ำ นักงานตงั้ อยเู่ ลขท.่ี ..................
ต�ำ บล/แขวง..................................อ�ำ เภอ/เขต.................................จังหวัด..................................
ซึ่งตอ่ ไปนีเ้ รียกวา่ “เจา้ หน”ี้
(๒) ..............................................................ส�ำ นกั งานตง้ั อยเู่ ลขท.ี่ ....................
ตำ�บล/แขวง..................................อ�ำ เภอ/เขต.................................จังหวดั ..................................
ซ่ึงตอ่ ไปนเี้ รยี กวา่ “เจา้ หน้อี น่ื ”
(๓) .................................................................เป็นลกู หน/้ี ผคู้ ้าํ ประกนั ของลกู หนี้
ราย..................................................สำ�นักงานต้ังอยเู่ ลขที.่ ................ถนน...................................
ตำ�บล/แขวง..................................อำ�เภอ/เขต..................................จังหวดั .................................
ซึ่งตอ่ ไปนเี้ รยี กวา่ “ลกู หน้”ี
๒. ตามที่ลูกหน้ีมีภาระหน้ีกับเจ้าหนี้/เจ้าหนี้อื่น  เน่ืองจากมีภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ
อันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำ�ระหนี้ ทำ�ให้ไม่สามารถชำ�ระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้/เจ้าหนี้อื่น
ตามจำ�นวนเงินและ/หรือตามกำ�หนดเวลาท่ีตกลงไว้กับเจ้าหน้ี/เจ้าหน้ีอื่นได้  จึงต้องดำ�เนินการ
ปรับปรุงโครงสร้างหน้ีตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินที่ธนาคาร
แห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด  ท้ังน้ี  ตามรายละเอียดในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหน้ี
เลขท่.ี .............................ลงวนั ท่.ี ......................................
๓. เจ้าหนี้/เจ้าหนี้อื่น  ขอรับรองว่า  หนี้แต่ละบัญชีของลูกหนี้เป็นหนี้ที่ถูกจัดชั้น
เป็นสนิ ทรพั ย ์ จัดช้นั ตํา่ กวา่ มาตรฐาน สงสยั สงสยั จะสญู และสญู ตามหลักเกณฑ์การจัดชั้นและ
การกันเงินสำ�รองของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด  และให้รวมถึงหน้ี
ทถ่ี กู จดั ชน้ั เปน็ สนิ ทรพั ยจ์ ดั ชน้ั สงสยั จะสญู ทก่ี นั ส�ำ รองครบรอ้ ยละรอ้ ยและตดั ออกจากบญั ชแี ลว้ แตย่ งั
ไมไ่ ด้บันทกึ กลบั เขา้ มาในบญั ช ี และได้ด�ำ เนนิ การปรบั ปรุงโครงสรา้ งหน้ตี ามหลกั เกณฑ์การปรบั ปรุง
โครงสรา้ งหนี้ของสถาบันการเงนิ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศก�ำ หนด  ทง้ั นี้ ตามรายละเอียด
ประเภทสินเชอ่ื ...............................เลขทบี่ ัญชี...........................จำ�นวนเงิน...........................บาท
รวมเป็นเงินทง้ั สน้ิ ...........................บาท

๕๑๘

เจ้าหน้/ี เจา้ หน้ีอ่นื และลกู หน้ี/ผู้คํ้าประกนั ของลกู หนี้ ขอรับรองวา่ รายการในหนังสอื
ฉบบั นี้ เปน็ ความจริงทกุ ประการ
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ

ลงชอื่ .............................................. เจ้าหน้ี
(...........................................)
ในฐานะ.........................................

ลงชือ่ .............................................. เจา้ หน้ีอ่ืน
(............................................)
ในฐานะ..........................................

ลงชอ่ื .............................................. ลกู หน้/ี ผู้ค้ําประกนั ของลูกหนี้
(............................................)
ในฐานะ..........................................

๕๑๙

(ส�ำ เนา) สง่ิ ทส่ี ง่ มาด้วย ๓

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เรอ่ื ง ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไข การยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมป์

สำ�หรับจ�ำ นวนเงนิ ที่ได้รบั จากการโอนอสังหาริมทรพั ยข์ องลกู หนข้ี องสถาบนั การเงนิ น�ำ มา
จ�ำ นองเปน็ ประกนั หนข้ี องเจา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ ใหแ้ กผ่ อู้ น่ื ซง่ึ มใิ ชเ่ จา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ
เพอ่ื น�ำ ไปช�ำ ระหนท้ี ค่ี า้ งช�ำ ระแกเ่ จา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ ซง่ึ ด�ำ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้ี
ตามหลกั เกณฑก์ ารปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน_ข้ี _อ_ง_ส_ถ_า_บ_นั_ก_า_ร_เ_ง_นิ _ท_ธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด

อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๙  แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากร ว่าด้วยการยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ อธิบดีกรมสรรพากรก�ำ หนดหลกั เกณฑ์
วิธีการและเง่ือนไข การยกเวน้ ภาษีเงนิ ได้ ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป ์ ส�ำ หรบั จำ�นวนเงินทไี่ ด้รับ
จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหน้ีของสถาบันการเงินที่นำ�มาจำ�นองเป็นประกันหน้ีของเจ้าหน้ี
ที่เป็นสถาบันการเงินให้แก่ผู้อ่ืนซ่ึงมิใช่เจ้าหน้ีที่เป็นสถาบันการเงิน  เพ่ือนำ�เงินที่ได้รับจากการโอน
อสังหาริมทรัพย์ไปชำ�ระหน้ีแก่เจ้าหน้ีที่เป็นสถาบันการเงิน  ซึ่งได้ดำ�เนินการปรับปรุงโครงสร้างหน้ีตาม
หลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำ�หนด
ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ จำ�นวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และอากรแสตมป์
ส�ำ หรบั เงินได้ทลี่ กู หน้ีของสถาบนั การเงินไดร้ บั จากการโอนอสงั หาริมทรัพย์ท่นี �ำ มาจ�ำ นองเปน็ ประกันหน้ี
ของเจ้าหน้ีที่เป็นสถาบันการเงินให้แก่ผู้อ่ืนซึ่งมิใช่เจ้าหน้ีท่ีเป็นสถาบันการเงิน  และสำ�หรับการกระทำ�
ตราสารอนั เนือ่ งมาจากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์ดังกล่าว ไดแ้ ก่ จำ�นวนเงินเฉพาะสว่ นทไ่ี มเ่ กนิ กวา่ หนท้ี ี่
ค้างชำ�ระอยู่กับเจ้าหน้ีที่เป็นสถาบันการเงิน  หรือมีภาระผูกพันตามสัญญาประกันหน้ีกับเจ้าหน้ีท่ีเป็น
สถาบนั การเงนิ และตอ้ งเปน็ จ�ำ นวนเงนิ ทน่ี �ำ ไปช�ำ ระหนแ้ี กเ่ จา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ ซง่ึ ไดด้ �ำ เนนิ การ
ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนต้ี ามหลกั เกณฑก์ ารปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทย
ประกาศกำ�หนด
การยกเวน้ ภาษอี ากรตามวรรคหนง่ึ   ลกู หนข้ี องสถาบนั การเงนิ   เจา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ
และผู้รับโอนอสังหารมิ ทรพั ย ์ จะต้องรว่ มกันจดั ท�ำ หนงั สอื รบั รองการโอนอสังหาริมทรพั ย์ของลกู หนข้ี อง
สถาบนั การเงนิ ใหแ้ กผ่ อู้ น่ื ซง่ึ มใิ ชเ่ จา้ หนท้ี เ่ี ปน็ สถาบนั การเงนิ เพอ่ื น�ำ เงนิ ทไ่ี ดร้ บั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์
ไปชำ�ระหน้ใี ห้แกเ่ จ้าหนีท้ ี่เป็นสถาบนั การเงนิ โดยหนงั สือรับรองดงั กล่าวตอ้ งมขี ้อความอย่างนอ้ ยตามที่
แนบทา้ ยประกาศนี้
ลูกหนี้ของสถาบนั การเงิน ต้องแจ้งหนงั สอื รับรองตามวรรคสอง ดงั น้ี
(๑) แจ้งต่อเจ้าพนักงานท่ีดินท้องท่ีท่ีจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  โดยให้ส่งมอบหนังสือ
รับรองดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานท่ีดินผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียนสิทธิและ
นิตกิ รรม เว้นแตล่ ูกหน้ขี องสถาบันการเงินประสงคจ์ ะช�ำ ระภาษีอากรกอ่ นในขณะที่จดทะเบยี นสทิ ธิและ
นิตกิ รรมตามกฎหมาย กไ็ มต่ ้องแจ้งและส่งมอบหนังสือรับรองดังกลา่ วตอ่ เจ้าพนกั งานทด่ี ิน
(๒) แจง้ ต่ออธิบดีกรมสรรพากร โดยให้สง่ มอบหนงั สอื รับรองดงั กลา่ วผา่ นสรรพากรพ้นื ที่
ในเขตท้องที่ที่ลูกหน้ีของสถาบันการเงินมีภูมิลำ�เนาหรือสถานประกอบการต้ังอยู่  หรือในเขตท้องท่ีที่
อสังหาริมทรัพย์ทีโ่ อนต้ังอยู่
ขอ้ ๒ ประกาศนีใ้ หใ้ ช้บงั คบั ตงั้ แตว่ นั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เปน็ ต้นไป

ประกาศ ณ วันท่ ี ๑๑ กมุ ภาพนั ธ ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
ประสงค ์ พูนธเนศ
อธิบดีกรมสรรพากร

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๗๐ ง ลงวนั ท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘
๕๒๐

หนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินให้แก่ผู้อ่ืนซึ่งมิใช่
เจ้าหน ี้ ท่ีเป็นสถาบนั การเงิน เพ่ือนำ�เงินที่ไดจ้ ากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยไ์ ปชำ�ระหนี้แกเ่ จ้าหน้ที เ่ี ป็น
สถาบนั การเงนิ เพอ่ื ขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนท์ างภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๘๑) พ.ศ.๒๕๕๘

วนั ท่.ี ..........เดอื น.........................พ.ศ. .................
เจ้าพนักงานทีด่ นิ ...................................
เรียน
อธบิ ดีกรมสรรพากร (ผา่ นสรรพากรพื้นที.่ .................................)

๑. หนงั สอื น้ีท�ำ ข้ึนโดย
(๑) .......................................ผู้โอนอสังหาริมทรัพยซ์ ่งึ เป็นลกู หน/้ี ผู้ค้าํ ประกนั ของ
ลกู หน้ี ราย.......................................................ส�ำ นักงาน (ของผ้โู อน) ต้ังอยู่เลขท.ี่ ........................
ถนน....................................ตำ�บล/แขวง..................................อ�ำ เภอ/เขต..................................
จังหวดั ....................................
(๒) สถาบนั การเงนิ .......................................ส�ำ นกั งานต้ังอยู่เลขท่ี.....................
ต�ำ บล/แขวง..................................อ�ำ เภอ/เขต...............................จังหวัด....................................
ซ่งึ ตอ่ ไปนเี้ รียกวา่ “เจ้าหน้”ี
(๓) ผู้รับโอนอสังหาริมทรัพย์..........................ส�ำ นกั งานต้งั อยเู่ ลขท.ี่ ....................
ตำ�บล/แขวง..................................อ�ำ เภอ/เขต...............................จงั หวัด....................................
ซึ่งต่อไปนี้เรียกวา่ “ผซู้ ้อื ”
๒. ตามที่ลูกหนี้มีภาระหนี้กับเจ้าหนี้ เนื่องจากมีภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ อันส่งผล
กระทบตอ่ ความสามารถในการชำ�ระหนี้ ท�ำ ให้ลกู หนไ้ี ม่สามารถช�ำ ระหนใ้ี หแ้ กเ่ จา้ หน้ตี ามจำ�นวนเงิน
และ/หรือตามกำ�หนดเวลาที่ตกลงไว้กับเจ้าหนี้ได้ ลูกหนี้และหรือผู้คํ้าประกันและเจ้าหนี้จึงได้ตกลง
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยประกาศก�ำ หนด ทั้งนี้ ตามรายละเอยี ดในสญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหน้เี ลขท.ี่ ................
ลงวนั ท่ี...................................
๓. ลกู หน้/ี ผคู้ ํา้ ประกันของลูกหน้ ี จงึ ไดโ้ อนอสงั หารมิ ทรัพย์ โฉนด น.ส. ๓ น.ส. ๓ ก.
อ่นื ๆ เลขท.ี่ .............หมู่ท่.ี .......ตำ�บล/แขวง..................อำ�เภอ/เขต...................จังหวัด....................
ซงึ่ เปน็ อสังหารมิ ทรพั ยท์ ล่ี ูกหน/ี้ ผูค้ า้ํ ประกันของลูกหน้ี ไดน้ ำ�มาจดทะเบียนจ�ำ นองเป็นประกันหนีข้ อง
เจา้ หน ี้ ทัง้ น ี้ ตามหนงั สือสญั ญาขาย ลงวันท่ี............เดอื น.........................พ.ศ. ............ซ่งึ ลกู หน้/ี
ผู้ค้ําประกันของลกู หนี้ และผูซ้ ื้อตกลงซ้ือขายกันในราคา......................บาท ราคาประเมินทุนทรัพย์
ในการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมเปน็ จ�ำ นวนเงนิ ..............................บาท
๔. ลูกหน้ีมีหน้ีคงค้างชำ�ระอยู่กับเจ้าหน้ี  ณ  วันที่ทำ�สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหน้ี
กับเจ้าหน้ีตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแห่งประเทศไทย
ประกาศกำ�หนด จำ�นวน...............................บาท และในขณะทีท่ �ำ สัญญาโอนอสงั หารมิ ทรัพยต์ าม
หนังสือรับรองฉบบั นี้ ลูกหนี้มหี นค้ี งค้างชำ�ระอยู่กับเจ้าหนจี้ �ำ นวน............................บาท

๕๒๑

๕. ลูกหนี้/ผู้คํ้าประกันของลูกหน้ี  เจ้าหน้ี  และผู้ซ้ือตกลงและรับทราบว่า  ลูกหนี้ต้อง
นำ�เงนิ จำ�นวน........................บาท ท่ไี ด้จากการโอนอสงั หาริมทรัพย์ตาม ๓. มาช�ำ ระหนใ้ี ห้แก่เจ้าหน้ี
ซง่ึ เป็นจ�ำ นวนเงนิ ท่ไี ดร้ บั ยกเว้นภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี ๕๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๘
ลูกหนี้/ผู้ค้ําประกันของลูกหน้ี  เจ้าหน้ี  และผู้ซื้อ  ขอรับรองว่า  รายการในหนังสือ
รบั รองฉบับนเ้ี ป็นความจริงทุกประการ
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ

ลงช่ือ .............................................. ลกู หนี้/ผู้คํา้ ประกันของลูกหน้ี
(............................................)
ในฐานะ..........................................

ลงชือ่ .............................................. เจา้ หน้ี
(............................................)
ในฐานะ..........................................

ลงช่อื .............................................. ผูซ้ อื้
(............................................)
ในฐานะ..........................................

๕๒๒

ด่วนทส่ี ดุ (ส�ำ เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๓๒๑๐ กรมที่ดิน
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักด ี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๕ มิถุนายน ๒๕๕๘

เรอ่ื ง มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมในเขตพฒั นาพเิ ศษ
เฉพาะกจิ จังหวดั ชายแดนภาคใต้
เรียน ผวู้ ่าราชการจังหวดั ทกุ จงั หวัด
อา้ งถึง หนงั สอื กรมท่ดี ิน ด่วนทีส่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๘๖๙๙ ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๘
สิง่ ท่สี ง่ มาด้วย ๑. ส�ำ เนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร ว่าดว้ ยการลดอัตรา
และยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๘๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. สรุปการเรยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี ม ภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ท่ีจ่าย ภาษีธุรกจิ เฉพาะ
และอากรแสตมปใ์ นการโอนอสังหาริมทรพั ยแ์ ละหอ้ งชดุ ตามมาตรการ
สนบั สนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกจิ จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมท่ีดินได้ส่งประกาศกระทรวงมหาดไทยกำ�หนดให้เรียก
เก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินและตามกฎหมาย
ว่าด้วยอาคารชุด  กรณีการโอนและการจำ�นองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุด  อัตราร้อยละ  ๐.๐๑
ตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะรัฐมนตรีกำ�หนด
ลงวันที่  ๒๖  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๘  จำ�นวน  ๒  ฉบับ  มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันท่ี  ๑  มกราคม
พ.ศ. ๒๕๕๘  ถึงวันที่  ๓๑  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๖๐  พร้อมทั้งส่งสรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ในการโอนอสังหาริมทรัพย์และ
ห้องชุด  ตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้  และสรุป
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำ�นองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุด  ตามมาตรการ
สนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บ
ภาษีเงินได้หัก ณ ทจ่ี ่าย และภาษธี รุ กจิ เฉพาะในอัตราปกตไิ ปก่อน เนอื่ งจากพระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา่ ดว้ ยการลดอตั ราและยกเวน้ รษั ฎากร ตามมาตรการดงั กลา่ ว
ยงั ไมม่ ผี ลใชบ้ งั คบั และเมอ่ื พระราชกฤษฎกี าดงั กลา่ วมผี ลใชบ้ งั คบั แลว้ จะแจง้ ใหท้ ราบตอ่ ไป นน้ั

๕๒๓

บดั น ้ี ไดม้ พี ระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา่ ดว้ ยการลดอตั รา
และยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๘๔) พ.ศ.๒๕๕๘ ตามมาตรการดงั กลา่ วขา้ งตน้ และมผี ลใชบ้ งั คบั แลว้
โดยประกาศราชกจิ จานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เลม่ ๑๓๒ ตอนท่ี ๓๗ ก วันท่ี ๑ พฤษภาคม
๒๕๕๘ มผี ลใช้บังคับตง้ั แต่ วันท่ี ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ซ่งึ ความตามมาตรา ๖ และมาตรา ๘
ก�ำ หนดใหล้ ดอัตราภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย และภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ส�ำ หรบั การขาย
อสังหาริมทรัพย์ท่ีตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  ได้แก่  จังหวัดนราธิวาส  จังหวัดปัตตานี
จงั หวัดยะลา จงั หวัดสงขลาเฉพาะในท้องทอ่ี ำ�เภอจะนะ อ�ำ เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอ�ำ เภอ
สะบ้าย้อย และจงั หวัดสตูล ทไี่ ดก้ ระท�ำ ในระหวา่ งวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ถงึ วันที่ ๓๑
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ กรมท่ดี ินจึงขอสง่ สำ�เนาพระราชกฤษฎีกาฯ ดงั กล่าวตามสิง่ ทีส่ ง่ มาดว้ ย ๑.
พร้อมนี้ ได้สง่ สรปุ การเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี ม ภาษีเงนิ ได้หัก ณ ที่จา่ ย ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ และ
อากรแสตมป์ในการโอนอสังหาริมทรัพย์และห้องชุด  ตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษ
เฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้  ท่ีจัดทำ�ใหม่เพ่ือให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาฯ  ดังกล่าว
ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๒. เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแทนสรุปการเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียม  ภาษีเงินได้หัก  ณ  ที่จ่าย  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และอากรแสตมป์ในการโอน
อสังหาริมทรัพย์และห้องชุด  ตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ ท่ีส่งมาพร้อมหนงั สือที่อา้ งถึง
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) ศริ ิพงษ์ ห่านตระกูล
(นายศริ ิพงษ ์ หา่ นตระกูล)
อธบิ ดีกรมที่ดนิ

ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นทีด่ นิ
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๒๔

ส่งิ ทีส่ ่งมาดว้ ย ๑

(สำ�เนา)

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรษั ฎากร
วา่ ดว้ ยการลดอตั ราและยกเวน้ รัษฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๘๔)

__พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๘__
ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นปีท่ี ๗๐ ในรชั กาลปจั จุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ให้ประกาศวา่
โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราและยกเว้นรัษฎากรสำ�หรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีธรุ กจิ เฉพาะบางกรณี
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๒๒  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชัว่ คราว) พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ (๑) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ซึง่ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ
โดยพระราชบญั ญัตแิ กไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลรัษฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จึงทรงพระกรณุ า
โปรดเกล้าฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎีกาขน้ึ ไว้ ดงั ต่อไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกว่า  “พระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากร วา่ ด้วยการลดอัตราและยกเว้นรษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๘๔) พ.ศ. ๒๕๕๘”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกานี้
“สินค้า”  หมายความว่า  ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างท่ีอาจมีราคาและ
ถอื เอาได้ ไมว่ า่ จะมไี วเ้ พือ่ ขาย เพ่อื ใช้ หรอื เพ่ือการใดๆ
“บริการ”  หมายความว่า  การกระทำ�ใดๆ  อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่
การผลติ สนิ คา้ หรือการขายสินค้า
“สถานประกอบกิจการ”  หมายความว่า  สถานที่ซึ่งผู้ประกอบกิจการใช้ประกอบ
กิจการเป็นประจ�ำ หรือสถานทซี่ ง่ึ ใชเ้ ปน็ ท่ีผลิตสินคา้ เป็นประจ�ำ
“เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ” หมายความว่า ท้องทีจ่ งั หวัดนราธิวาส จงั หวดั ปตั ตานี
จังหวัดยะลา จงั หวัดสงขลาเฉพาะในทอ้ งทอ่ี �ำ เภอจะนะ อำ�เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอำ�เภอ
สะบา้ ย้อย และจงั หวดั สตูล

๕๒๕

มาตรา ๔ ผู้มีเงินได้ท่ีได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา  ๔๐  (๗)  และ  (๘)
แหง่ ประมวลรษั ฎากร ซง่ึ มสี ถานประกอบกจิ การตง้ั อยใู่ นเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ เมอ่ื ถงึ ก�ำ หนด
ยน่ื รายการเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ได ้ จะเลอื กเสยี ภาษเี งนิ ไดใ้ นอตั รารอ้ ยละศนู ยจ์ ดุ หนง่ึ ของเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ
โดยไม่ต้องน�ำ ไปรวมคำ�นวณเพอ่ื เสียภาษีตามมาตรา ๔๘ (๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร กไ็ ด้
ทง้ั นี้ สำ�หรับเงนิ ไดท้ เ่ี กดิ ขนึ้ ตัง้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๘ ถงึ พ.ศ. ๒๕๖๐ เฉพาะท่ไี ด้จากการผลิตสินค้า
หรือการขายสินค้าในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  หรือการให้บริการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขที่อธบิ ดีประกาศก�ำ หนด
ค�ำ ว่า “การขาย” ตามวรรคหนึง่ หมายความวา่ การจ�ำ หน่าย จา่ ย หรือโอนสนิ ค้า
โดยมีหรือไม่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน  สัญญาให้เช่าซื้อสินค้า  สัญญาซื้อขายผ่อนชำ�ระ
ท่ีกรรมสิทธ์ิในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อมีการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ  และการส่งสินค้า
ออกนอกราชอาณาจักร  แต่ท้ังน้ี  ไม่รวมถึงการขายสินค้าท่ีผู้ขายมิได้เป็นผู้ผลิตสินค้าและมี
การส่งออกสินคา้ โดยทางนํา้ หรอื ทางอากาศ
กรณีการให้บริการตามวรรคหน่ึง  หากผู้ให้บริการมีสถานประกอบกิจการในเขต
พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  การให้บริการต้องเกิดขึ้นในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจและการใช้บริการ
ต้องเกิดข้ึนในราชอาณาจักร  แต่ถ้าผู้ให้บริการมีสถานประกอบกิจการทั้งในและนอกเขตพัฒนา
พิเศษเฉพาะกิจ  การให้บริการและการใช้บริการนั้นต้องเกิดข้ึนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
เท่าน้ัน
มาตรา ๕ ใหล้ ดอัตราภาษเี งนิ ไดต้ าม (ก) ของ (๒) ส�ำ หรบั บริษทั หรือหา้ งห้นุ สว่ น
นติ บิ ุคคล แหง่ บัญชีอตั ราภาษีเงนิ ได้ทา้ ยหมวด ๓ ในลกั ษณะ ๒ แห่งประมวลรษั ฎากร และ
คงจัดเก็บในอัตราร้อยละสามของกำ�ไรสุทธิ  ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซ่ึงมีสถาน
ประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจและมีรายได้ท่ีเกิดขึ้นจากการผลิตสินค้าหรือ
การขายสินค้าในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกิจ หรือการให้บริการในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ ต้งั แต่
รอบระยะเวลาบัญชี ๒๕๕๘ ที่เรม่ิ ในหรอื หลังวันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ถงึ รอบระยะเวลา
บัญชี ๒๕๖๐ ทส่ี ้นิ สดุ ภายในหรือหลังวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ
และเง่ือนไขที่อธิบดีประกาศกำ�หนด  ทั้งนี้  บริษัทหรือห้างหุ้นสุ่วนนิติบุคคลที่จะใช้สิทธิลดอัตรา
ภาษีเงินได้นี้ ตอ้ งไม่ใชส้ ทิ ธิยกเว้นภาษเี งินไดต้ ามมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎกี าออกตามความ
ในประมวลรษั ฎากร วา่ ด้วยการลดอตั ราและยกเว้นรษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๓๐) พ.ศ.๒๕๕๔ ซึง่ แก้ไข
เพ่ิมเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้น
รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๖๔) พ.ศ. ๒๕๕๖
ให้นำ�ความในมาตรา  ๔  วรรคสองและวรรคสาม  มาใช้บังคับกับการขายและ
การใหบ้ ริการตามวรรคหนึ่ง แลว้ แต่กรณี

๕๒๖

มาตรา ๖ ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ในการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา ๕๐ (๕)
แหง่ ประมวลรษั ฎากร และคงจดั เกบ็ ในอตั รารอ้ ยละศนู ยจ์ ดุ หนง่ึ ของเงนิ ได ้ ส�ำ หรบั เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ
ที่ได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ท่ีต้ังอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  ซ่ึงเมื่อคำ�นวณภาษี
ตามมาตรา ๕๐ (๕) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว อยู่ในบังคับตอ้ งหักเป็นเงนิ ภาษสี งู กว่ารอ้ ยละ
ศูนย์จุดหนึ่ง ของเงินได้พึงประเมินนั้น ทั้งนี้ สำ�หรับเงินได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึง
พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๗ ผู้มีเงินได้ท่ีได้รับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนา
พิเศษเฉพาะกิจ ซ่งึ ถูกหักภาษเี งินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา ๖ แลว้ เมื่อถึงก�ำ หนดยน่ื รายการ
ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำ�เงินได้พึงประเมินดังกล่าวมารวมคำ�นวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา
๔๘ (๑) (๒) และ (๔) แหง่ ประมวลรัษฎากร ทัง้ น้ี เฉพาะกรณีทผี่ ู้มเี งินได้ไมข่ อรับเงินภาษีท่ีถกู
หกั ไวค้ นื หรอื ไม่ขอเครดติ เงนิ ภาษที ี่ถูกหกั ไวน้ ัน้ ไมว่ ่าท้ังหมดหรอื บางส่วน
มาตรา ๘ ให้ลดอตั ราภาษธี ุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๖ (๓) แหง่ ประมวลรษั ฎากร
และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละศูนย์จุดหนึ่งสำ�หรับรายรับจากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้า
หรือหาก�ำ ไร ตามมาตรา ๙๑/๒ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร ทงั้ นี้ เฉพาะการขายอสังหารมิ ทรัพย์
ท่ตี ั้งอยใู่ นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกจิ ทไ่ี ด้กระท�ำ ในระหวา่ งวนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๘ ถึงวนั ที่
๓๑ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๐
มาตรา ๙ ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั รกั ษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี
ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

๕๒๗

______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบบั น้ี คอื เน่อื งจากมาตรการภาษี
สนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจตามท่ีกำ�หนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๖๖) พ.ศ. ๒๕๕๖ มีผลใช้
บงั คบั ถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ แตโ่ ดยทีป่ ระชาชนและผปู้ ระกอบการในเขตพฒั นา
พิเศษเฉพาะกิจยังมีความจำ�เป็นท่ีจะต้องได้รับการช่วยเหลือด้านภาษีอากรต่อไปอีกระยะหนึ่ง
สมควรลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้มีเงินได้ที่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา
๔๐ (๗) และ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ลดอัตราภาษเี งนิ ได้นติ บิ คุ คลใหแ้ ก่บรษิ ัทหรือห้างหนุ้ ส่วน
นิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  ลดอัตราภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดากรณีการขายอสังหาริมทรัพย์ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ กำ�หนดให้ผู้มีเงินได้
ที่ได้รับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ท่ีตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจซึ่งถูกหักภาษี
เงินได้  ณ  ท่ีจ่ายแล้ว  ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำ�เงินได้ดังกล่าวมาคำ�นวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตาม
มาตรา ๔๘ (๑) (๒) และ (๔) แหง่ ประมวลรัษฎากร และลดอัตราภาษีธุรกจิ เฉพาะสำ�หรับกจิ การ
ขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำ�ไรท่ีต้ังอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจท่ีได้กระทำ�
ในระหวา่ งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ถงึ วันท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ทงั้ น้ี เพือ่ บรรเทา
ภาระภาษีให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบกิจการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  จึงจำ�เป็นต้องตรา
พระราชกฤษฎกี านี้
ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๓๗ ก ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘

๕๒๘

สง่ิ ท่สี ่งมาดว้ ย ๒
สรปุ การเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนยี ม ภาษเี งนิ ไดห้ ัก ณ ท่ีจ่าย ภาษีธรุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
ในการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละหอ้ งชดุ ตามมาตรการสนบั สนนุ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้

––––––––––––––––––

ประเภท การเรยี กเก็บ/อัตรา

๑. ค่าธรรมเนยี ม – รอ้ ยละ ๐.๐๑ ของราคาประเมินทุนทรัพย์ (ตัง้ แตว่ ันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๘
ไปจนถึง วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๐)

๒. คา่ ภาษเี งินไดน้ ิตบิ คุ คล – เรยี กเก็บตามปกติ
หัก ณ ทจ่ี า่ ย

๓. คา่ ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา – คำ�นวณด้วยวิธีการคำ�นวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามปกติตามมาตรา ๕๐ (๕)
หกั ณ ที่จ่าย แห่งประมวลรัษฎากร  แล้วนำ�มาเปรียบเทียบกับอัตราร้อยละ  ๐.๑  จากราคา
ประเมินทุนทรัพย์  จำ�นวนเงินใดต่ํากว่าเรียกเก็บตามจำ�นวนตํ่ากว่านั้น  สำ�หรับ
การโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์และห้องชุดต้งั แต่วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ไปจนถงึ วนั ท่ี
๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๘๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
– ถ้าผู้ขอจดทะเบียนได้เสียภาษีเงินได้ไปก่อนที่พระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าวจะมีผล
ใช้บังคับ  ให้แนะนำ�ผู้ขอจดทะเบียนนำ�หลักฐานไปยื่นขอคืนท่ีกรมสรรพากร
หรือสรรพากรพื้นท่ีท่ีผู้ขอคืนมีภูมิลำ�เนาอยู่  หรือติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ข้อมูล
กรมสรรพากร โทรศัพท์หมายเลข ๑๑๖๑

๔. ค่าภาษีธุรกจิ เฉพาะ – รอ้ ยละ ๐.๑๑ (รวมภาษที อ้ งถิน่ ) โดยค�ำ นวณจากราคาทนุ ทรพั ย์ที่ผ้ขู อแสดง หรอื
ราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
แลว้ แตร่ าคาใดสงู กวา่ (ต้งั แตว่ ันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ไปจนถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๐)
– กรณอี สงั หารมิ ทรพั ยต์ ดิ จ�ำ นองใหค้ �ำ นวณยอดรายรบั จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ย์
รวมกับภาระจำ�นองที่ติดกับทรัพย์น้ันด้วย  ตามข้อ  ๖  ของหนังสือกรมสรรพากร
ดว่ นทสี่ ดุ ท่ี กค ๐๘๑๑/๐๐๐๘๑ ลงวนั ที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๒ เรอ่ื ง การจัดเก็บภาษี
ธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากรซึ่งกรมท่ีดินเรียกเก็บเพ่ือกรมสรรพากร  เวียนโดย
หนังสอื กรมทด่ี ิน ด่วนทีส่ ดุ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๐๙๐๕ ลงวนั ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๔๒
– ถ้าผู้ขอจดทะเบียนได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไปก่อนที่พระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว
จะมีผลใช้บงั คบั ให้แนะนำ�ผูข้ อจดทะเบียนนำ�หลักฐานไปย่ืนขอคืนที่กรมสรรพากร
หรือสรรพากรพื้นที่ท่ีผู้ขอคืนมีภูมิลำ�เนาอยู่  หรือติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ข้อมูล
กรมสรรพากร โทรศัพทห์ มายเลข ๑๑๖๑

๕. คา่ อากรแสตมป์ – เรียกเก็บตามปกติ  (ถ้าเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
ตามลกั ษณะแห่งตราสารที่ ๒๘. ใบรับ แห่งบัญชอี ัตราอากรแสตมป์ ทา้ ยประมวล
รษั ฎากร)

หมายเหตุ
๑. โอน หมายถึง ขาย, แลกเปล่ียน, ให,้ โอนมรดกให้แกท่ ายาท และขายฝาก (ตามหนังสอื กรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/
ว ๑๘๒๒๕ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖) (ไม่รวมถึงการจดทะเบียนโอนช�ำ ระหน้แี ละโอนชำ�ระหน้ีจ�ำ นอง
ตามหนังสือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๑๕๖๖ ลงวนั ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑)
๒. เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ หมายความวา่ ทอ้ งท่จี งั หวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวดั ยะลา จังหวดั สงขลา
เฉพาะในท้องที่อำ�เภอจะนะ อ�ำ เภอเทพา อ�ำ เภอนาทวี และอำ�เภอสะบ้าย้อย และจงั หวดั สตลู

๕๒๙

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๓๓๐๙ (สำ�เนา)
กรมทดี่ ิน
ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๘ มถิ ุนายน ๒๕๕๘

เร่อื ง ภาษีธรุ กิจเฉพาะ กรณีการขายอสังหารมิ ทรพั ย์ทไ่ี ถ่จากขายฝาก และกรณกี ารจดทะเบยี น
ขายฝากทด่ี ินและไถจ่ ากการขายฝากรวมหลายครง้ั
เรยี น ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ทุกจงั หวดั

ดว้ ยกรมทด่ี นิ ไดห้ ารอื กรมสรรพากรเกย่ี วกบั ปญั หาการเรยี กเกบ็ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
และอากรแสตมป์ รวม ๒ ประเดน็ ดังน้ี
ประเดน็ ท่ี ๑ กรณผี ขู้ ายไดจ้ ดทะเบยี นขายฝากทด่ี นิ พรอ้ มบา้ นและจดทะเบยี นไถ่
จากขายฝากภายในกำ�หนดเวลาไถ่ และประสงค์จดทะเบียนขายต่อไปในวันเดียวกัน ซึ่งเมื่อนับ
ระยะเวลาตง้ั แตผ่ ขู้ ายจดทะเบยี นรบั โอนทด่ี นิ พรอ้ มบา้ นมากอ่ นขายฝาก ระยะเวลาระหวา่ งขายฝาก
จนถึงวนั ทีจ่ ดทะเบยี นไถจ่ ากขายฝากและจดทะเบยี นขายในวนั เดียวกนั รวมระยะเวลาแลว้ ไมถ่ งึ
ห้าปี จึงไมไ่ ด้รับยกเว้นภาษีธรุ กจิ เฉพาะ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร
ว่าดว้ ยการก�ำ หนดกจิ การท่ไี ด้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับท่ี ๓๖๕) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๓
ผู้ขายจึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา  ๔  (๖)  แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำ�ไร  (ฉบับที่  ๓๔๒)
พ.ศ. ๒๕๔๑  แต่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร์มาแล้ว
เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหน่ึงปีนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนได้มาซ่ึงกรรมสิทธิ์ในท่ีดินพร้อมบ้านต้ังแต่
ก่อนขายฝาก  พนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่เรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา  ๔  (๖)  (ค)  แห่ง
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้า
หรือหากำ�ไร (ฉบบั ท่ี ๓๔๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ จงึ มปี ระเดน็ พจิ ารณาว่า กรณีตามขอ้ เท็จจรงิ ดงั กลา่ ว
ข้างตน้ พนักงานเจ้าหนา้ ทีจ่ ะเรียกเก็บภาษธี ุรกจิ เฉพาะหรอื อากรแสตมป์
ประเดน็ ท่ี ๒ กรณจี ดทะเบยี นขายฝากทด่ี นิ และไถถ่ อนจากขายฝากรวมหลายครง้ั
ครง้ั สดุ ทา้ ยจดทะเบยี นไถจ่ ากขายฝากแลว้ จะจดทะเบยี นขายหรอื ขายฝากตอ่ ไป มปี ระเดน็ พจิ ารณา
เก่ยี วกบั การนับระยะเวลาการไดม้ าซง่ึ ทีด่ ินวา่ จะเริม่ นบั ตัง้ แตเ่ มือ่ ใด กลา่ วคือ หากเริม่ นบั ระยะ
เวลาการได้มาตั้งแต่วันที่ผู้ขายจดทะเบียนได้มาซ่ึงท่ีดินครั้งแรกก่อนการขายฝาก  ระยะเวลา
ระหวา่ งขายฝากทกุ ครง้ั ระยะเวลาภายหลงั การไถจ่ ากขายฝากครง้ั สดุ ทา้ ย จนถงึ วนั จดทะเบยี นขาย
หรอื ขายฝากครง้ั ตอ่ ไป รวมระยะเวลาการไดม้ าเกนิ หา้ ปอี ยใู่ นหลกั เกณฑไ์ มต่ อ้ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ

๕๓๐

แต่หากเร่ิมนับระยะเวลาการได้มาต้ังแต่วันจดทะเบียนไถ่จากขายฝากคร้ังสุดท้าย  จนถึงวัน
จดทะเบียนขายหรือขายฝากครั้งต่อไป  รวมระยะเวลาไม่เกินห้าปีอยู่ในหลักเกณฑ์ต้องเสียภาษี
ธรุ กจิ เฉพาะ
บัดนี้ กรมทีด่ ินได้รบั แจ้งผลการพจิ ารณาจากกรมสรรพากรสรปุ ได้ ดงั นี้
ประเดน็ ที่ ๑ การนับระยะเวลาท่ีผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมาย
ว่าด้วยการทะเบียนราษฎรมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันท่ีได้มาซ่ึงกรรมสิทธิ์ใน
อสังหาริมทรัพย์  กรณีขายที่ดินพร้อมบ้านภายหลังที่ได้ไถ่จากขายฝาก  ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่
ผู้ขายได้จดทะเบียนไถ่จากขายฝากซึ่งเป็นวันที่กรรมสิทธิ์ในท่ีดินพร้อมบ้านตกเป็นของผู้ขาย
จนถึงวันที่จดทะเบียนขายครั้งต่อไป เมื่อวันจดทะเบียนไถ่จากขายฝากและจดทะเบียนขายเป็น
วันเดียวกัน  จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นสถานท่ีอยู่อาศัยอันเป็น
แหล่งสำ�คัญท่ีผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันท่ีได้มาซึ่ง
อสังหาริมทรัพย์  จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา  ๙๑/๒  (๖)  แห่งประมวล
รัษฎากร ประกอบกับมาตรา ๔ (๖) (ค) แห่งพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการขายอสังหารมิ ทรพั ยเ์ ป็นทางคา้ หรอื หาก�ำ ไร (ฉบบั ท่ี ๓๔๒) พ.ศ. ๒๕๔๑
ประเด็นท่ี ๒ การนบั ระยะเวลาการไดม้ าซ่ึงทีด่ นิ กรณีมีการจดทะเบียนขายฝาก
ทด่ี นิ และไถ่จากขายฝากรวมหลายคร้งั ครง้ั สุดทา้ ยจดทะเบยี นไถ่จากขายฝากแลว้ จะจดทะเบียน
ขายหรือขายฝากต่อไป  ต้องเริ่มนับต้ังแต่วันท่ีผู้ขายจดทะเบียนได้มาซ่ึงท่ีดินครั้งแรก  ระยะเวลา
ระหวา่ งขายฝากทกุ ครง้ั ระยะเวลาหลงั จากวนั ไถจ่ ากขายฝากครง้ั สดุ ทา้ ย จนถงึ วนั จดทะเบยี นขาย
หรอื ขายฝากครง้ั ตอ่ ไป เมอ่ื รวมระยะเวลาทกุ ช่วงเข้าดว้ ยกันแล้วเกนิ ห้าปี ย่อมอยใู่ นหลกั เกณฑ์
ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ  ตามมาตรา  ๓​  (๑๕)  (ข)  แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการกำ�หนดกิจการท่ีได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ  (ฉบับที่  ๒๔๐)
พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่งึ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับที่ ๓๖๕) พ.ศ. ๒๕๔๓
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบตั ติ อ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) สจุ ิต จงประเสริฐ
(นายสุจติ จงประเสรฐิ )
รองอธบิ ดีกรมทดี่ นิ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
อธบิ ดีกรมทีด่ นิ

ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบียนทดี่ นิ
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๓๑

(ส�ำ เนา)

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๓๘๗๒ กรมท่ดี นิ
ศูนยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘

เร่ือง ภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ กรณีจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรพั ย์
เพ่อื บริจาคใหแ้ กม่ หาวิทยาลัยมหิดล
เรียน ผวู้ ่าราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั
อา้ งถงึ หนงั สอื กรมท่ีดิน ดว่ นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๓๕๑๓ ลงวนั ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สง่ิ ที่ส่งมาด้วย ๑. ส�ำ เนาพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา่ ดว้ ยการยกเวน้
รษั ฎากร (ฉบับที่ ๔๒๐) พ.ศ. ๒๕๔๗
๒. ส�ำ เนาประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เร่ือง ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์ วิธีการ และ
เงือ่ นไข เพือ่ การยกเวน้ ภาษเี งินได้ ภาษมี ูลค่าเพิ่ม ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและ
อากรแสตมป์ ส�ำ หรบั เงินได้ท่ีจ่ายเป็นคา่ ใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนการศกึ ษา
ลงวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมท่ีดินได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทราบและถือปฏิบัติ
กรณี สำ�นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าได้พจิ ารณาว่า มหาวทิ ยาลยั มหดิ ลไมอ่ ย่ใู นความหมาย
ของคำ�ว่า “ทางราชการ” จงึ ไม่ได้รบั ยกเว้นคา่ ธรรมเนยี มตามมาตรา ๑๐๓ ทวิ แหง่ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน ดงั นนั้ การบริจาคอสงั หารมิ ทรพั ย์ใหแ้ กม่ หาวิทยาลัยมหดิ ล ตอ้ งเสียคา่ ธรรมเนยี ม
การจดทะเบียนประเภทให้ในอัตราร้อยละ  ๒  จากราคาประเมินทุนทรัพย์ตามที่คณะกรรมการ
กำ�หนดราคาประเมินทุนทรัพย์กำ�หนด  ตามมาตรา  ๑๐๓  และมาตรา  ๑๐๔  วรรคหนึ่ง 
แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน  ประกอบกฎกระทรวง  ฉบับที่  ๔๗  (พ.ศ. ๒๕๔๑)  ออกตามความ
ในพระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ้ ๒ (๗) (ก) นัน้
กรมที่ดนิ ได้หารือกรมสรรพากรเก่ียวกับการเสยี ภาษีอากร กรณนี ติ ิบุคคลบริจาค
อสงั หารมิ ทรัพยใ์ ห้แกม่ หาวทิ ยาลยั มหิดลไปดว้ ยวา่ นติ บิ คุ คลนั้นจะไดร้ บั ยกเวน้ ภาษีเงนิ ได้ ภาษี
ธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ หรือไม่ อยา่ งไร และได้รับแจง้ ผลการพจิ ารณาจากกรมสรรพากร
สรุปได้ว่า  กรณีนิติบุคคลบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล  ซ่ึงเข้าลักษณะเป็น
สถานศึกษา  ตามมาตรา  ๓  แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วย

๕๓๒

การยกเว้นรัษฎากร (ฉบบั ที่ ๔๒๐) พ.ศ.๒๕๔๗ เพื่อสนับสนุนการศกึ ษาตามโครงการทกี่ ระทรวง
ศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ  นั้น  นิติบุคคลดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีธุรกิจเฉพาะ
และอากรแสตมป์ ตามมาตรา ๔ แหง่ พระราชกฤษฎกี าฉบบั ดงั กล่าว ทัง้ นี้ นิตบิ ุคคลจะตอ้ งไมน่ �ำ
ต้นทุนของทรัพย์สินหรือของสินค้าซึ่งได้รับยกเว้นดังกล่าว  มาหักเป็นรายจ่ายในการคำ�นวณภาษี
เงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  โดยนิติบุคคลจะต้องแสดงหลักฐานจากสถานศึกษา
ทพี่ ิสูจน์ไดว้ ่าเปน็ ค่าใช้จา่ ยเพือ่ สนบั สนุนการศกึ ษา ตามที่ก�ำ หนดในข้อ ๑๐ ของประกาศอธบิ ดี
กรมสรรพากร เรื่อง กำ�หนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษี
มลู คา่ เพม่ิ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและอากรแสตมป์ ส�ำ หรบั เงนิ ไดท้ จ่ี า่ ยเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยเพอ่ื การสนบั สนนุ
การศกึ ษา ลงวันท่ี ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ดงั นัน้ หากคกู่ รณแี สดงหลกั ฐานจากสถานศึกษา
ดงั กลา่ วประกอบการขอจดทะเบยี นดว้ ย และพนักงานเจา้ หน้าท่ไี ด้บนั ทกึ ถ้อยค�ำ ผู้โอนใหร้ บั ทราบ
และยืนยันว่า ผโู้ อนจะไม่นำ�ตน้ ทนุ ของทรพั ย์สินหรือของสินค้าซง่ึ ได้รบั ยกเวน้ ภาษอี ากรดังกล่าว
มาหักเป็นรายจ่ายในการคำ�นวณภาษีเงินได้ของผู้โอนและลงลายมือช่ือไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ในกรณีน้ี  พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามประมวลกฎหมายท่ีดินไม่มีหน้าท่ีต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้
นติ บิ ุคคลหกั ณ ทจี่ า่ ย ภาษธี รุ กิจเฉพาะและอากรแสตมป์แตอ่ ย่างใด รายละเอียดปรากฏตาม
สิ่งท่สี ่งมาดว้ ย
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) สจุ ิต จงประเสริฐ
(นายสจุ ติ จงประเสรฐิ )
รองอธิบดีกรมทดี่ ิน ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
อธบิ ดีกรมทีด่ นิ

ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ดี นิ
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๓๓

(ส�ำ เนา) ส่งิ ที่สง่ มาด้วย ๑

พระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา่ ด้วยการยกเว้นรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๔๒๐)

___พ__.ศ__. ๒__๕_๔_๗____
ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี ๑๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
เป็นปีท่ี ๕๙ ในรัชกาลปจั จุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช  มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ให้ประกาศว่า
โดยท่ีเป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพิ่ม  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และ
อากรแสตมป์ ใหแ้ กผ่ สู้ นับสนุนการศึกษาบางกรณี
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๒๒๑  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และมาตรา  ๓  (๑)  แห่งประมวลรัษฎากร  ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลรษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ.๒๔๙๖ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎกี าขน้ึ ไว้
ดังตอ่ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานเ้ี รยี กว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รษั ฎากร ว่าด้วยการยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบับที่ ๔๒๐) พ.ศ. ๒๕๔๗”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ใหย้ กเวน้ ภาษีเงนิ ได้ตามสว่ น ๒ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ในลกั ษณะ ๒
แห่งประมวลรษั ฎากร ส�ำ หรบั เงนิ ไดท้ จ่ี ่ายเปน็ คา่ ใช้จา่ ยเพอื่ สนบั สนุนการศกึ ษาให้แก่สถานศกึ ษา
ของทางราชการ สถานศกึ ษาขององคก์ ารของรัฐบาล โรงเรียนเอกชนท่ีตั้งข้นึ ตามกฎหมายว่าดว้ ย
โรงเรียนเอกชน  หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งข้ึนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษา
เอกชน ดงั นี้
(๑) สำ�หรับบุคคลธรรมดา  ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำ�หรับเงินได้พึงประเมินหลังจาก
หกั คา่ ใช้จา่ ยและหกั ค่าลดหยอ่ นตามมาตรา ๔๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) หรอื (๖) แห่งประมวล
รษั ฎากร เป็นจำ�นวนสองเท่าของรายจา่ ยทจ่ี า่ ยไปเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยเพอ่ื สนบั สนุนการศึกษา แตต่ ้อง
ไมเ่ กนิ ร้อยละสิบของเงินไดพ้ งึ ประเมนิ หลังจากหกั คา่ ใช้จา่ ยและหกั คา่ ลดหย่อนดงั กล่าวนัน้
(๒) สำ�หรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำ�หรับเงินได้
เป็นจำ�นวนเงิน  หรือมูลค่าของทรัพย์สินเป็นจำ�นวนสองเท่าของรายจ่ายท่ีจ่ายไปเป็นค่าใช้จ่าย

๕๓๔

เพ่ือสนับสนุนการศึกษา  แต่ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำ�ไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพ่ือการกุศล
สาธารณะหรอื เพอ่ื สาธารณประโยชน์ และเพือ่ การศกึ ษาหรือเพอ่ื การกีฬา ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๓)
แห่งประมวลรัษฎากร
ทั้งน้ี  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขท่ีอธิบดีกรมสรรพากรประกาศ
ก�ำ หนด
ค่าใช้จ่ายเพ่ือสนับสนุนการศึกษาตามวรรคหนึ่ง  ต้องเป็นค่าใช้จ่ายสำ�หรับโครงการ
ทกี่ ระทรวงศึกษาธิการใหค้ วามเหน็ ชอบ และเปน็ ค่าใชจ้ ่ายส�ำ หรับรายการดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) จัดหาหรือจัดสร้างอาคาร  อาคารพร้อมท่ีดิน  หรือที่ดินให้แก่สถานศึกษา
เพือ่ ใชป้ ระโยชน์ทางการศกึ ษา
(๒) จัดหาวสั ดุอปุ กรณเ์ พื่อการศกึ ษา แบบเรียน ตำ�รา หนังสอื ทางวชิ าการ ส่ือและ
เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา  ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อ่ืนๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้แก่สถานศึกษา
ตามท่ีรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการคลังก�ำ หนด
มาตรา ๔ ให้ยกเวน้ ภาษีเงนิ ไดต้ ามสว่ น ๒ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ภาษีมลู คา่ เพมิ่
ตามหมวด ๔ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมป์ตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒
แหง่ ประมวลรษั ฎากร ใหแ้ ก่บุคคลธรรมดา หรือบริษัทหรอื ห้างหุน้ ส่วนนิตบิ ุคคล สำ�หรับเงนิ ไดท้ ี่
ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน  หรือการขายสินค้า  หรือสำ�หรับการกระทำ�ตราสารอันเนื่องมาจาก
การดำ�เนินการสนับสนุนการศึกษา  ตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบตาม
มาตรา ๓ โดยผโู้ อนจะตอ้ งไมน่ ำ�ตน้ ทนุ ของทรัพย์สนิ หรอื สินคา้ ซงึ่ ได้รบั ยกเว้นภาษดี ังกลา่ วมาหกั
เป็นค่าใช้จ่ายในการคำ�นวณภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา  หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ทั้งนี้ ใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่อี ธิบดีกรมสรรพากรประกาศก�ำ หนด
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี

ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ
พนั ตำ�รวจโท ทกั ษณิ ชินวตั ร
นายกรัฐมนตรี

ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม่ ท่ี ๑๒๑ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ก ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗
______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับน ้ี คือ โดยที่เปน็ การสมควรยกเวน้
ภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพ่ิม  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และอากรแสตมป์ให้แก่ผู้สนับสนุนการศึกษา
แก่สถานศึกษาของทางราชการ  สถานศึกษาขององค์การของรัฐบาล  โรงเรียนเอกชนท่ีต้ังข้ึน
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน  หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนท่ีต้ังข้ึนตามกฎหมายว่าด้วย
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน  เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการศึกษา
จงึ จำ�เป็นตอ้ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี

๕๓๕

สิ่งท่ีสง่ มาดว้ ย ๒

(สำ�เนา)

ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร
เรือ่ ง กำ�หนดหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไข เพือ่ การยกเวน้ ภาษีเงินได้

ภาษีมลู คา่ เพิม่ ภาษธี ุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ สำ�หรับเงินได้
ท่จี ่ายเป็นคา่ ใ_ช_้จ_า่_ย_เ_พ__่ือ_ก_า_ร_ส_น_บั__สนนุ การศึกษา

อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๓  และมาตรา  ๔  แห่งพระราชกฤษฎีกาออก
ตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  (ฉบับที่  ๔๒๐)  พ.ศ. ๒๕๔๗  อธิบดี
กรมสรรพากรก�ำ หนดหลักเกณฑ์  วธิ กี าร และเง่อื นไข  เพ่ือการยกเว้นภาษีเงนิ ได้ ภาษีมูลคา่ เพิ่ม
ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์  สำ�หรับเงินได้ท่ีจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา
แกส่ ถานศึกษาของทางราชการ สถานศึกษาขององค์การของรัฐบาล โรงเรียนเอกชนที่ตั้งข้ึนตาม
กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนท่ีตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบัน
อุดมศึกษาเอกชน ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาของทางราชการ สถานศกึ ษาขององค์การ
รัฐบาล โรงเรียนเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ท่ีตัง้ ข้ึนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน
ขอ้ ๒ เงินได้ท่ีจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพ่ือสนับสนุนการศึกษาให้แก่สถานศึกษา
โดยบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หรือภาษเี งินได้นติ ิบคุ คลต้องเปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีก�ำ หนดในข้อ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ขอ้ ๖ ขอ้ ๗
ข้อ ๘ ขอ้ ๙ ข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑
ขอ้ ๓ ค่าใช้จา่ ยสำ�หรบั การจัดหาหรือจดั สรา้ งอาคาร อาคารพรอ้ มทีด่ นิ หรอื ทด่ี ิน
ใหแ้ กส่ ถานศกึ ษา ตอ้ งเปน็ การจดั หาหรอื จดั สรา้ งทรพั ยส์ นิ ดงั กลา่ วเพอ่ื ใชป้ ระโยชนท์ างการศกึ ษา
ตามโครงการท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการให้ความเห็นชอบ
ขอ้ ๔ ค่าใช้จ่ายสำ�หรับการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพ่ือการศึกษา  แบบเรียน  ตำ�รา
หนังสือทางวิชาการ  สื่อ  และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา  ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อ่ืนๆ  ที่เก่ียวข้อง
กับการศึกษา  ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำ�หนด  ท่ีให้แก่สถานศึกษาดังกล่าวต้อง
เปน็ การจัดหาตามโครงการที่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารให้ความเห็นชอบ
วัสดุอุปกรณ์เพ่ือการศึกษาตามวรรคหนึ่ง  ในกรณีท่ีเป็นคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
ของคอมพิวเตอร์  ต้องไม่เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการของผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีเงินได้
บคุ คลธรรมดาหรือบริษทั หรอื ห้างหุ้นสว่ นนติ บิ คุ คล และตอ้ งไมผ่ ่านการใชง้ านมาแล้ว

๕๓๖

คอมพิวเตอร์ตามวรรคสอง หมายถึง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทำ�หน้าที่
เสมือนสมองกลใช้สำ�หรับแก้ปัญหาต่างๆ  ท้ังที่ง่ายและซับซ้อน  โดยวิธีทางคณิตศาสตร์และ
อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์  หมายถึง  เคร่ืองมือ  เครื่องใช้  เคร่ืองช่วย  หรือเครื่องประกอบกับ
คอมพิวเตอร์ เพ่ือใหค้ อมพิวเตอร์ใชง้ านไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ แต่ไมร่ วมถงึ โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ขอ้ ๕ โครงการทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารให้ความเห็นชอบมดี ังตอ่ ไปน้ี
(๑) สถานศึกษาตามโครงการพระราชดำ�ริ
(๒) สถานศึกษาตามนโยบายทจ่ี ะระดมพลังเพือ่ เรง่ รัด ปรบั ปรงุ คณุ ภาพ
(๓) สถานศึกษาทีร่ องรับพัฒนาเดก็ ด้อยโอกาส เด็กพกิ าร
สถานศึกษาตามโครงการตามวรรคหนึ่ง  เป็นไปตามรายชื่อสถานศึกษาท่ีกระทรวง
ศึกษาธกิ ารประกาศก�ำ หนด
ขอ้ ๖ ผู้ที่ประสงค์จะให้กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบโครงการเพื่อ
สนับสนุนการศึกษาตามขอ้ ๕ ตอ้ งยื่นค�ำ ขอตอ่ กระทรวงศกึ ษาธิการ เพ่ือพิจารณาตามหลักเกณฑ์
วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารก�ำ หนด และเมอ่ื กระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหค้ วามเหน็ ชอบแลว้
ใหแ้ จง้ โครงการที่ได้รับความเหน็ ชอบตอ่ กรมสรรพากรเพอื่ ใหป้ ระกาศตามขอ้ ๕
ขอ้ ๗ การยกเว้นภาษีเงินได้สำ�หรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการ
ศึกษาแกส่ ถานศึกษาดงั กล่าว ผู้มหี น้าทเี่ สียภาษีซ่งึ เปน็ บคุ คลธรรมดาหรอื บรษิ ัทหรอื หา้ งหุ้นสว่ น
นิติบุคคลต้องไม่นำ�ค่าใช้จ่ายเพ่ือสนับสนุนการศึกษาท่ีได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้น้ีไปหักเป็น
คา่ ลดหย่อนสำ�หรบั เงินบริจาค ตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรษั ฎากร หรือไม่น�ำ ไปหักเปน็
รายจา่ ยเพือ่ การศกึ ษา ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๓) แหง่ ประมวลรษั ฎากร
ขอ้ ๘ การยกเวน้ ภาษเี งนิ ไดข้ องบรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนติ บิ คุ คล ส�ำ หรบั เงนิ ไดท้ จ่ี า่ ย
เปน็ คา่ ใช้จา่ ยเพ่ือสนับสนุนการศึกษาแก่สถานศึกษาดังกลา่ ว บริษัทหรือหา้ งหนุ้ ส่วนนิตบิ คุ คลนัน้
ต้องไม่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกันกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ี
ประกอบกจิ การโรงเรยี นเอกชน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรยี นเอกชนหรอื กจิ การสถาบนั อดุ มศกึ ษา
เอกชน ตามกฎหมายวา่ ด้วยสถาบันอดุ มศกึ ษาเอกชน
ขอ้ ๙ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพิ่ม  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และ
อากรแสตมป์ สำ�หรบั การโอนทรพั ย์สนิ หรอื การขายสนิ ค้า หรือสำ�หรบั การกระท�ำ ตราสารอนั เนื่อง
มาจากการดำ�เนินการสนับสนุนการศึกษา  ตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ
ผู้โอนจะต้องไม่นำ�ต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้าซ่ึงได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวมาหักเป็นค่าใช้จ่าย
ในการคำ�นวณภาษเี งนิ ไดข้ องบคุ คลธรรมดา หรอื บรษิ ัทหรือหา้ งหนุ้ ส่วนนติ ิบคุ คล
ขอ้ ๑๐ การไดร้ ับยกเว้นภาษตี ามประกาศนี้ ผไู้ ดร้ ับยกเว้นภาษีตอ้ งมีหลักฐานจาก
สถานศกึ ษาท่พี สิ จู น์ไดว้ า่ ค่าใชจ้ ่ายเพอื่ สนับสนนุ การศึกษา ตามข้อ ๓ และข้อ ๔ เปน็ คา่ ใช้จา่ ย
เพื่อการสนับสนุนการศกึ ษาตามโครงการทีก่ ระทรวงศกึ ษาธิการให้ความเหน็ ชอบ

๕๓๗

ข้อ ๑๑ กรณีท่ีมีปัญหาในทางปฏิบัติ  ให้อธิบดีกรมสรรพากรมีอำ�นาจวินิจฉัย
และคำ�วินิจฉัยของอธิบดีกรมสรรพากรให้ถือเป็นหลักเกณฑ์  วิธีการและเงื่อนไขที่กำ�หนดตาม
ประกาศนี้ดว้ ย
ขอ้ ๑๒ ประกาศนใี้ หใ้ ช้บงั คบั ตัง้ แตว่ นั ท่ี ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เปน็ ต้นไป

ประกาศ ณ วันท่ ี ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ศโิ รตม์ สวัสด์ิพาณชิ ย์
อธิบดีกรมสรรพากร
ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่มที่ ๑๒๒ ตอนท่ี ๑๖ ง ๒๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๘

๕๓๘

(ส�ำ เนา)

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๔๖๙๖ กรมท่ดี ิน
ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักด ี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๒ มถิ ุนายน ๒๕๕๘

เรือ่ ง การเรยี กเกบ็ คา่ อากรแสตมปจ์ ากผ้ซู ้ือทรพั ยจ์ ากการขายทอดตลาดของกรมบงั คับคดี
เรยี น ผ้วู ่าราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด
อ้างถงึ ๑. หนงั สือกรมทดี่ ิน ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๑๙๑๕๔ ลงวนั ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๗
๒. หนังสอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๗๑๐/ว ๐๙๙๒๓ ลงวนั ที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๑
๓. หนังสือกรมทด่ี นิ ด่วนท่สี ดุ ท่ี มท ๐๗๒๘/ว ๐๔๒๓๓ ลงวนั ท่ี ๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๔๔
สงิ่ ที่สง่ มาด้วย ๑. สำ�เนาหนังสือกรมสรรพากร ที่ กค ๐๗๐๒/๒๓๘๖ ลงวันที่ ๑๖ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๘
๒. ส�ำ เนาประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เก่ยี วกับอากรแสตมป์ (ฉบบั ท่ี ๒๑) เรือ่ ง
กำ�หนดวิธีการช�ำ ระอากรเป็นตวั เงนิ แทนการปิดแสตมปอ์ ากรส�ำ หรบั
ตราสาร ๒๘. (ข) แหง่ บญั ชีอัตราอากรแสตมป์ ลงวันท่ี ๔ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  กรมท่ีดินได้แจ้งแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บอากร
แสตมป์ในการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ซ้ือทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของ
กรมบงั คับคดี สรปุ ได้ว่า เจา้ พนักงานบังคบั คดมี ีหน้าทเี่ รียกเก็บค่าอากรแสตมป์เป็นตวั เงินส�ำ หรับ
ตราสารใบรับ ตามลกั ษณะแห่งตราสาร ๒๘. (ข) แหง่ บญั ชอี ัตราอากรแสตมป์ ดังนน้ั พนกั งาน
เจา้ หนา้ ทจ่ี งึ ไมต่ อ้ งเรยี กเกบ็ คา่ อากรแสตมปใ์ นกรณดี งั กลา่ วอกี และกรณมี กี ารเรยี กเกบ็ อากรแสตมป์
ไม่ครบถ้วนถูกต้อง  กรมสรรพากรจะส่ังเรียกเก็บเพิ่มเติมตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
ต่อไป นั้น
บดั นี ้ กรมที่ดนิ ไดร้ ับแจ้งจากกรมบงั คับคดีว่า กรมบงั คบั คดีไดเ้ ปลี่ยนขอ้ สญั ญา
ในหนังสือสัญญาซื้อขายสำ�หรับการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี  ข้อ  ๖  ระบุให้ผู้ซื้อทรัพย์
เป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์  ค่าภาษีต่างๆ  จากการขายทอดตลาด
อสังหารมิ ทรัพย์ รวมถึงคา่ อากรแสตมป์ตามประมวลรษั ฎากรดว้ ย เจ้าพนักงานบังคับคดจี ึงได้ท�ำ
หนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินเรียกเก็บค่าธรรมเนียม  ค่าภาษีต่างๆ  และค่าอากรแสตมป์จาก
การขายอสังหารมิ ทรัพยต์ ามประมวลรษั ฎากรจากผซู้ อ้ื ด้วยแลว้ และขอความร่วมมอื ให้กรมที่ดิน
แจ้งเจ้าพนักงานท่ีดินสำ�นักงานท่ีดินจังหวัดหรือสาขา  แล้วแต่กรณี  เรียกเก็บค่าอากรแสตมป์

๕๓๙

จากผู้ซื้อทรัพย์ให้ครบถ้วน  กรมท่ีดินจึงได้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรพิจารณาว่า  กรมบังคับคดี
สามารถเปล่ียนหน้าที่ในการเรียกเก็บอากรแสตมป์จากผู้ซ้ือทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของ
กรมบังคับคดีมาให้เจ้าพนักงานที่ดินเป็นผู้เรียกเก็บได้หรือไม่ ประการใด และได้รับแจ้งผล
การพจิ ารณาจากกรมสรรพากร สรปุ ไดว้ า่ กรมทด่ี นิ ไมม่ อี �ำ นาจตามกฎหมายทจ่ี ะสง่ั ใหเ้ จา้ พนกั งาน
ที่ดินเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์จากผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี  ตามที่
กรมบงั คับคดีขอความร่วมมอื ได้ จึงขอก�ำ ชับใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าทถ่ี ือปฏบิ ตั ิวา่ ในการจดทะเบียน
โอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ซ้ือได้จากการขายทอดตลาดในการบังคับคดีของกรมบังคับคดี
พนกั งานเจ้าหนา้ ทต่ี ้องเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี ม และคา่ ภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ท่จี ่าย ภาษีธรุ กิจเฉพาะ
จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ยต์ ามประมวลรษั ฎากร แตไ่ มม่ หี นา้ ทเ่ี รยี กเกบ็ อากรแสตมปเ์ ปน็ ตวั เงนิ
สำ�หรับตราสารใบรับตามลกั ษณะแห่งตราสาร ๒๘. (ข) เพราะกรมสรรพากรก�ำ หนดใหเ้ ปน็ หนา้ ท่ี
ของเจ้าพนกั งานบังคบั คดเี ป็นผเู้ รยี กเกบ็ ตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เก่ยี วกับอากรแสตมป์
(ฉบับท่ี  ๒๑)  เร่ือง  กำ�หนดวิธีการชำ�ระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำ�หรับ
ตราสาร ๒๘. (ข) แหง่ บญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ ลงวันท่ี ๔ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๒๕ ขอ้ ๑ (๓) แต่หาก
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งให้โอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อได้จากการขายทอดตลาด
โดยให้เจ้าพนักงานท่ีดินเรียกเก็บอากรแสตมป์จากผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาด
ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี �ำ หนงั สอื แจง้ กลบั ไปวา่ เจา้ พนกั งานทด่ี นิ ไมม่ อี �ำ นาจเรยี กเกบ็ คา่ อากรแสตมป์
จากผซู้ ้อื ทรพั ยไ์ ด้จากการขายทอดตลาด ตามท่ีกรมสรรพากรแจ้งให้ทราบตามส่งิ ทีส่ ่งมาด้วย
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) สจุ ิต จงประเสริฐ
(นายสุจติ จงประเสริฐ)
รองอธิบดีกรมทีด่ ิน ปฏบิ ัตริ าชการแทน
อธิบดีกรมทดี่ ิน

ส�ำ นักมาตรฐานการทะเบียนทด่ี ิน
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๔๐

(ส�ำ เนา) สง่ิ ทสี่ ่งมาดว้ ย ๑

ที่ มท ๐๗๐๒ / ๒๓๘๖ กรมสรรพากร
๙๐ ซอยพหลโยธนิ ๗
ถนนพหลโยธนิ แขวงสามเสนใน
เขตพญาไท กท. ๑๐๔๐๐

๑๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘

เร่อื ง อากรแสตมป์ กรณกี ารยกเลิกการเรียกเกบ็ ค่าอากรแสตมปจ์ ากผซู้ ือ้ ทรพั ยจ์ ากการขาย
ทอดตลาดของกรมบงั คับคดี
เรียน อธิบดีกรมท่ีดนิ
อ้างถึง หนังสอื ดว่ นทีส่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/๒๔๕๓๓ ลงวันท่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๕๗

ตามหนงั สอื ที่อ้างถึง กรมท่ดี นิ แจง้ วา่ กรมบงั คบั คดไี ด้มหี นงั สอื ดว่ นทส่ี ุด ท ี่ ยธ
๐๕๐๙/๕๘๘๒ ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึงกรมที่ดินโดยแจ้งว่า กรมบังคับคดีได้มี
หนังสือแจ้งกรมสรรพากรเพ่ือขอยกเลิกการเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์จากผู้ซื้อทรัพย์จาก
การขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีตามข้อ ๑ (๓) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
อากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๒๑) เรือ่ ง ก�ำ หนดวิธกี ารช�ำ ระอากรเป็นตวั เงนิ แทนการปดิ แสตมป์อากร
สำ�หรับตราสาร ๒๘. (ข) แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ลงวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕
ซ่ึงประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าวได้กำ�หนดให้กรณีขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์ 
ในการบังคบั คดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี ให้ชำ�ระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน
ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในวันที่ได้ขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์  โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
นำ�เงินค่าอากรแสตมป์ท่ีได้รับส่งสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องท่ี  แต่เนื่องจากกรมบังคับคดี
ประสบปัญหาในการนำ�ส่งค่าอากรแสตมป์ดังกล่าวเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำ�หนดไว้  จึงขอให้
กรมสรรพากรพิจารณาแก้ไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๒๑)ฯ
ลงวันที่  ๔  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๒๕  เป็นกำ�หนดให้การเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์ดังกล่าวอยู่ใน
ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  กรมบังคับคดีจึงขอความร่วมมือให้กรมที่ดินแจ้ง
เจ้าพนักงานที่ดินสำ�นักงานที่ดินจังหวัด  หรือสาขาแล้วแต่กรณี  เรียกเก็บค่าอากรแสตมป์
จากผู้ซื้อทรัพย์ให้ครบถ้วน ตามหนังสือแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งระบุให้
เจา้ พนกั งานทีด่ ินเรยี กเก็บคา่ อากรแสตมป์จากผู้ซ้อื ทรัพย์ตามท่กี ำ�หนดในข้อ ๑ (๑) ของประกาศ
อธิบดกี รมสรรพากร เกี่ยวกบั อากรแสตมป์ (ฉบบั ท่ี ๒๑)ฯ ลงวนั ท่ี ๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๕
ดงั ความละเอียดแจ้งแลว้ นัน้

๕๔๑

กรมสรรพากรขอเรียนวา่
๑. กรณีการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์ในการบังคับคดีของเจ้าพนักงาน
บังคับคดี  กรมบังคับคดีน้ัน  ข้อ  ๑ (๓)  ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เก่ียวกับอากรแสตมป์
(ฉบบั ท่ี ๒๑)ฯ ลงวันที่ ๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๕ ก�ำ หนดใหก้ รณีขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย ์
ในการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี ให้ชำ�ระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินต่อ
เจา้ พนกั งานบงั คบั คดใี นวนั ทไ่ี ดข้ ายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ นน้ั ซง่ึ ขณะนป้ี ระกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร
ดงั กลา่ วยงั มผี ลใชบ้ งั คบั มไิ ดแ้ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ใหผ้ ซู้ อ้ื ทรพั ยไ์ ดจ้ ากการขายทอดตลาดช�ำ ระคา่ อากรแสตมป์
เป็นตัวเงินต่อเจ้าพนักงานที่ดินผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินท่ีได้จาก
การขายทอดตลาดแต่อย่างใด  กรมที่ดินจึงไม่มีอำ�นาจตามกฎหมายท่ีจะสั่งให้เจ้าพนักงานท่ีดิน
ดำ�เนินการตามท่ีกรมบังคับคดีขอความร่วมมือได้  จึงขอให้กรมที่ดินปฏิบัติตามกฎหมายกรณี
ขายทอดตลาดอสงั หารมิ ทรัพย์ในการบังคับคดีของเจา้ พนกั งานบังคบั คดี กรมบงั คับคดี ท่ียงั คง
ใชบ้ ังคบั อยูใ่ นปจั จบุ ันต่อไป
๒. กรณีกรมบังคับคดีขอยกเลิกการเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์จากผู้ซ้ือทรัพย์
จากการขายทอดตลาดน้ัน  ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานงานกับกรมบังคับคดีเพื่อเชิญผู้แทน
จากกรมบังคับคดีมาหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาในประเด็นว่า  ควรมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว
หรือไม่

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) วีระวุฒิ วิทยกลุ
(นายวรี ะวุฒ ิ วิทยกลุ )
รองอธิบด ี ปฏิบัตริ าชการแทน
อธิบดกี รมสรรพากร

สำ�นกั กฎหมาย
กลมุ่ กฎหมาย ๔
โทร. ๐๒-๒๗๒-๙๐๕๖

๕๔๒

สิง่ ทีส่ ง่ มาดว้ ย ๒

(ส�ำ เนา)

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เก่ยี วกับอากรแสตมป์ (ฉบบั ที่ ๒๑)
เรอื่ ง กำ�หนดวิธกี ารช�ำ ระอากรเป็นตัวเงนิ แทนการปิดแสตมปอ์ ากร
สำ�หรับตราสาร ๒_๘__._(_ข_)_แ_ห_่ง_บ__ญั _ช__อี _ตั ราอากรแสตมป์

อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๐๓ (๓) แหง่ ประมวลรัษฎากร
ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลรัษฎากร  (ฉบับท่ี  ๑๐)  พ.ศ. ๒๔๙๖
และมาตรา  ๑๒๓  ทวิ  แห่งประมวลรัษฎากร  ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลรัษฎากร  (ฉบับที่  ๑๒)
พ.ศ. ๒๔๙๓ อธิบดกี รมสรรพากร โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำ�หนดวธิ ีการช�ำ ระ
อากรเปน็ ตัวเงินแทนการปดิ อากรแสตมป์ ส�ำ หรบั ตราสาร ๒๘. (ข) แห่งบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ผู้ออกใบรับสำ�หรับการโอนหรือก่อตั้งสิทธิใดๆ  เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
ในเม่ือนิติกรรมท่ีเป็นเหตุให้ออกใบรับน้ันมีการจดทะเบียนตามกฎหมายเสียอากรแสตมป์เป็น
ตวั เงินตามมาตรา ๑๐๓ (๓) แหง่ ประมวลรัษฎากรแทนการปิดแสตมปบ์ ริบูรณ ์ สำ�หรบั ตราสาร
ตามลกั ษณะแห่งตราสาร ๒๘. (ข) แห่งบัญชอี ัตราอากรแสตมป์ ท้ายหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แห่งประมวลรษั ฎากรดังนี้
“(๑) ในกรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินให้ชำ�ระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินต่อ
พนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมน้ันๆ  ก่อน  หรือในวันท่ีมีการรับจดทะเบียน
ดงั กลา่ ว และใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทด่ี งั กลา่ วน�ำ เงนิ คา่ อากรแสตมปท์ ไ่ี ดร้ บั ช�ำ ระไวน้ น้ั สง่ เปน็ รายได้
แผ่นดนิ ตามระเบยี บของทางราชการ”
ตราสารดังกล่าวถือว่าปิดแสตมป์บริบูรณ์ก็ต่อเม่ือได้มีการบันทึก
ข้อความไวใ้ นตราสารนั้นวา่ “ไดช้ �ำ ระคา่ อากรแสตมปเ์ ปน็ ตวั เงนิ .................................บาท แลว้
ตามใบเสร็จรับเงิน เลม่ ท่.ี ...........เลขที.่ ...............ลงวันท่.ี ................” แลว้ ลงลายมือช่ือพนักงาน
เจ้าหน้าทอ่ี ากรแสตมปแ์ ละวันเดือนปที ี่บนั ทกึ ขอ้ ความดงั กลา่ ว
“(๒) ในกรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสังกัดกรุงเทพมหานคร  ให้ชำ�ระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินต่อ
สรรพากรพ้ืนท่ีสาขาในเขตท้องที่ก่อนหรือในวันที่มีการรับจดทะเบียนดังกล่าวตามระเบียบของ
กรมสรรพากร”
(แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เก่ียวกับอากรแสตมป์  (ฉบับท่ี  ๔๓)  ใช้บังคับ
๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ เปน็ ตน้ ไป)

๕๔๓

“(๓) ในกรณขี ายทอดตลาดอสงั หารมิ ทรพั ยใ์ นการบงั คบั คดขี องเจา้ พนกั งาน
บังคับคดี  กรมบังคับคดี  ให้ชำ�ระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในวันที่ได้
ขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์น้ัน  และให้เจ้าพนักงานดังกล่าวนำ�เงินค่าอากรแสตมป์ท่ีได้รับ
ชำ�ระส่งสรรพากรพ้นื ที่สาขาในเขตท้องท่ีเดือนละ ๒ งวด คอื
(ก) งวดแรก  ค่าอากรที่ได้รับเป็นตัวเงินต้ังแต่วันท่ี​  ๑  ถึงวันที่  ๑๕
ของเดอื น ให้น�ำ ส่งภายในวนั ที่ ๓๐ ของเดือนเดยี วกัน
(ข) งวดท่สี อง ค่าอากรที่ไดร้ บั เปน็ ตวั เงนิ ต้ังแตว่ ันท่​ี ๑๖ ถงึ วันสุดท้าย
ของเดือน ให้นำ�ส่งภายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดือนถดั ไป”
(แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับอากรแสตมป์  (ฉบับท่ี  ๕๒)  ใช้บังคับ
ต้ังแตว่ ันท่ี ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นไป)
“เม่ือสรรพากรพ้ืนท่ีสาขาในเขตท้องที่นั้นได้รับชำ�ระเงิน
คา่ อากรแสตมปต์ ามวรรคหนง่ึ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทอ่ี ากรแสตมปอ์ อกใบสลกั หลงั ตราสาร (อ.ส.๕)
แก่ผ้นู �ำ สง่ เงนิ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานเพอื่ รวมไวใ้ นสำ�นวนแตล่ ะคดี”
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับอากรแสตมป์  (ฉบับท่ี  ๔๓)  ใช้บังคับ
๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ เป็นต้นไป)
ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใช้หนังสือของศาลซึ่งมีรายละเอียดแสดงว่าการขายอสังหาริมทรัพย์
ดงั กล่าวน้นั “ไดช้ ำ�ระคา่ อากรแสตมป์เปน็ ตัวเงนิ .....บาท ไว้แลว้ ตามใบสลักหลังตราสาร (อ.ส.๕)
เลขที.่ .....ลงวนั ที่..........” ทมี่ ีถึงพนกั งานเจ้าหน้าทผ่ี รู้ ับจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมเป็นหลกั ฐาน
แสดงการช�ำ ระคา่ อากรแสตมปใ์ นการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมในกรณีดงั กลา่ วด้วย”
ข้อ ๒ ประกาศน้ีให้ใช้บังคับเม่ือพ้นหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษา เปน็ ตน้ ไป

ประกาศ ณ วันท่ ี ๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๕
พนสั สมิ ะเสถียร
อธบิ ดกี รมสรรพากร

๕๔๔

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๕๓๖๘ (ส�ำ เนา)
กรมที่ดิน
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๙ มถิ ุนายน ๒๕๕๘

เรื่อง การจดทะเบียนแบ่งแยกในนามเดิมซึง่ ไดจ้ ดทะเบยี นบรรยายส่วนไว้

เรยี น ผวู้ ่าราชการจงั หวัดทุกจังหวัด

สิง่ ท่สี ่งมาด้วย ๑. ตัวอย่างค�ำ ขอจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมและการสอบสวนสิทธิในท่ดี ิน
ประเภทแบง่ แยกในนามเดมิ (ครอบบรรยายสว่ น) แปลงคงหลอื จ�ำ นวน ๑ ฉบับ
๒. ตวั อยา่ งสารบญั จดทะเบียนแปลงเดิม จำ�นวน ๑ ฉบับ
๓. ตัวอย่างค�ำ ขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมและการสอบสวนสทิ ธิในทีด่ ิน
ประเภทแบ่งแยกในนามเดมิ (ครอบบรรยายสว่ น) แปลงแยก จำ�นวน ๑ ฉบบั
๔. ตวั อย่างสารบัญจดทะเบียนแปลงทแ่ี ยกไปใหม่ จ�ำ นวน ๑ ฉบบั

ดว้ ยปรากฏวา่ มปี ญั หาในทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การจดทะเบยี นแบง่ แยกในนามเดมิ
ท่ีมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมหลายคน  และมีการจดทะเบียนบรรยายส่วนกันไว้แล้ว  โดยมีบาง
สำ�นักงานท่ีดินได้ยกรายการบรรยายส่วนไปจดแจ้งลงในโฉนดท่ีดินแปลงแยก  แต่บางสำ�นักงาน
ทด่ี นิ ไมย่ กรายการบรรยายสว่ นไปจดแจง้ ลงในโฉนดทด่ี นิ แปลงแยก ท�ำ ใหเ้ มอ่ื มกี ารมาจดทะเบยี น
โอนที่ดินแปลงแยกพนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินราคาทุนทรัพย์ที่ดินในส่วนของผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม
แต่ละคนผดิ สดั ส่วนไป อันส่งผลใหก้ ารเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนียมและภาษอี ากรผิดพลาดไปดว้ ย
กรมที่ดินพิจารณาแล้ว  เพื่อให้การจดทะเบียนแบ่งแยกในนามเดิมที่ดินที่มีชื่อ
ผถู้ อื กรรมสทิ ธร์ิ ว่ มหลายคน และมกี ารจดทะเบยี นบรรยายสว่ นกนั ไวแ้ ลว้ เปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั
และเป็นการป้องกันมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากรผิดสัดส่วน
ตามท่ีแต่ละคนถือกรรมสิทธ์ิไว้  ดังนั้น  จึงวางทางปฏิบัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติ  เมื่อมี
การจดทะเบียนแบ่งแยกในนามเดิมแล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยกรายการบรรยายส่วนไปจดแจ้ง
ในโฉนดท่ดี ินแปลงแยกดว้ ย รายละเอยี ดปรากฏตามสิ่งท่ีสง่ มาดว้ ย
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชือ่ ) สจุ ิต จงประเสรฐิ
(นายสุจติ จงประเสริฐ)
รองอธบิ ดีกรมที่ดนิ ปฏบิ ัติราชการแทน
อธบิ ดกี รมทด่ี ิน
สำ�นักมาตรฐานการทะเบยี นท่ีดนิ สว่ นมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๔๕

ตัวอย่างที่ ๑ ส่งิ ท่ีสง่ มาดว้ ย ๑

(ท.ด. ๑)

ีท่ ิดนแปลง ่ทีแยกไปนี้และแปลงคงเหลือ การบรรยายส่วนยังคงมีอยู่ ตาม ับน ึทกข้อตกลงฉ ับบลง ัวนที่........เ ืดอน...............พ.ศ. .... ที่บา้ น
เ ้จาพ ันกงาน ีท่ ิดน ทสี่ วน / ไร่
ท่ีนา

เตหรละน�ำ ขวแา้ทาสหงดี่ ำ�.น.นิร.ง่.ว..ท..จ.....่ดี........นิ............................5๒๔......1..๔.๓...3.....๔..6....แ.......I..ล.V........ะ...7....ก...2......า2......ร8........-ส......1...อ.........บ..........ส.........ว........น.......ค...ส......�ำ...ิท...ข......ธ....อ.....ใิ....จ..น......ด...ท........ท...ด่ี.......ะ...ิน...เ......บ......ป...ีย......ร...น.....ะ.... ส เอตจภงั�ำิท�ำ หเบทภธวลอ.ัดแิ....แ.....ล...บ........ะง่........แ....น....ย........ิตก...........ใ.กิ....น.......ร....น........รา........มม...........เ....ด........ิม................(........ค........ร........อ........บ...........บ........ร........ร.......ย........า........ย........ส.........่ว.......น........)..................................แ........ปใทน...น...ลอ่.ี.......เง....ขก....ค....ตเ....ข.ง.......ตเ....ห............ล.......ือ......

โจเลฉ�ำ ขนนทวดี.่น.ท.ท.่ดี..่ดี .ิน.ิน................................๒๑......๕......๕.....๐...................................................................เไลร่ม.่ .....................-๒.... ..๖..................................................................................................งหานนา้.....................-๕......๐..................................................................ต...า.ร..า..ง..ว..า.
๑. ข้าพเจ้าผู้มีนามต่อไปน้ี  มีความประสงค์ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย์ท่ีกล่าวข้างบนน้ี  และ
ไดป้ ฏญิ าณตนแล้ว ขอให้ถ้อยคำ�ด้วยความสัตยจ์ รงิ ถ้าขา้ พเจ้าให้ถอ้ ยคำ�ไมเ่ ปน็ ความจริงให้ใชถ้ ้อยคำ�น้ยี นั ขา้ พเจ้าในทางคดีอาญาได้
อายุ...๕...๐...,..๔...๕.. ๒ ...ป. ข ี า้ สพ ัญ เ จช า้ า...ต.....ิ.................๑๒ไ.....ท.........ย...น..น......า.า.....ยย..........กข............. .............................บ.....ิด....า.... ./... .ม.....า...ร...ด.....า..ชื่อ.....................เ..ล..ข..ป..ร..ะ..จ..�ำ..ต..วั..ป...ร.ะ..ช..า..ช..น...........................ผ....ู้ ........ข....อ............................................
โสด หม้าย คสู่ มรสชอื่ ..............................................................................................
อยู่ท่ีบา้ น / หมู่บา้ น..................................เลขท่.ี ...........................ตรอก / ซอย..................................ถนน................................หมู่ท.ี่ ...........
ตำ�บล / แขวง...........................................อำ�เภอ / เขต....................................จงั หวัด.................................หมายเลขโทรศพั ท.์ .....................
อายุ...๕...๐...,..๔...๕..๓ ....ปข ี ้า สพ ัญ เ จช า้ า...ต.....ิ..................๒๑ไ....ท..........ย...น.น......า.า.....ยย...........กข............ .............................บ.....ดิ.....า... ./... .ม.....า...ร....ด....า..ชือ่ .....................เ..ล..ข..ป..ร..ะ..จ..�ำ..ต..ัว..ป...ร.ะ..ช..า..ช..น...........................ผ..ู.้.........ข....อ............................................
โสด หมา้ ย คู่สมรสชื่อ...............................................................สญั ชาติ....................
อยทู่ ี่บา้ น / หมู่บ้าน..................................เลขที.่ ...........................ตรอก / ซอย..................................ถนน................................หมู่ท่.ี ...........
ต�ำ บล / แขวง...........................................อ�ำ เภอ / เขต....................................จังหวัด.................................หมายเลขโทรศัพท์......................
๔. ข้าพเจา้ ขอแสดงราคาทรพั ยท์ ่ีขอทำ�นติ ิกรรมนีเ้ ปน็ เงิน..........................................................บาท...........................สตางค์
๕. ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่า
(๑) ขา้ พเจ้าไมไ่ ดร้ บั โอนแทนหรอื เพอื่ ประโยชน์แก่บุคคลต่างด้าว
(๒) ราคาทรัพย์ที่แสดงไว้ใน ๔. เป็นราคาท่ีแทจ้ ริง
(๓) แ...บ..่ง..แ..ย..ก..ใ..น..น...า..ม..เ.ด...มิ ....ต..า..ม..ค...ำ�.ข...อ..ฉ..บ...ับ..ล..ง..ว..นั...ท..่ี....................เ.ด..ือ..น......................................พ.....ศ.....................................................................................
(๔) ............................................................................................................................................................................
(๕) ............................................................................................................................................................................
ลล งง ชช ่ืืออ่ .. .... .. .. .... .. .. .... .. .. .... ..ว....ัน......ท....่.ี............นน........าา......ยย..........ขก..........เ..ด......อื ....น........................................................... ผผ...ู้ขูข้ ..ออ..........พ.ศ. ...................


ลงชื่อ ................................................................ ผู้สอบสวน
( ...............................................................)

สำ�หรบั พนกั งานเจ้าหนา้ ที่
๑) ราคาประเมนิ ทุนทรพั ย์..........................................................................................................บาท..............................................สตางค์
๒) โฉนดทด่ี นิ ใหมร่ ะวาง.................................................เลขทีด่ นิ ..............................................หนา้ ส�ำ รวจ................................................
โฉนดที่ดินเลขที่........................................................เลม่ .....................................................หนา้ .........................................................
จำ�นวนที่ดนิ ..............................................................ไร.่ .......................................................งาน.............................................ตารางวา
คงเหลอื ....................................................................ไร.่ .......................................................งาน.............................................ตารางวา
๓) ไดจ้ ดทะเบยี นแลว้ แตว่ ันท่ี......................เดอื น........................................พ.ศ. ......................
ลงชอ่ื ................................................................
( ...............................................................)
๕๔๖ เจ้าพนักงานที่ดิน


Click to View FlipBook Version