The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2558 (ปี 2558)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

ดว่ นทส่ี ดุ (สำ�เนา)
ที่ มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๒๖๒๘๒ กองการเจา้ หน้าท่ ี กรมทีด่ ิน
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๘ ตลุ าคม ๒๕๕๘

เรื่อง การย่นื บญั ชีแสดงรายการทรัพย์สนิ และหนส้ี นิ ของเจ้าหนา้ ทข่ี องรัฐ
เรยี น ผูว้ า่ ราชการจังหวัด ทุกจังหวดั
อา้ งถงึ หนงั สอื กรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๐๒.๓/ว ๒๖๕๔ ลงวนั ที่ ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๗
สิ่งทีส่ ่งมาด้วย รายละเอยี ดการยน่ื บัญชแี สดงรายการทรัพย์สินและหนส้ี นิ ของเจา้ หน้าท่ีของรฐั

ตามหนงั สือทีอ่ า้ งถึง กรมทด่ี ินได้แจ้งใหท้ ราบว่า ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกัน
และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ เรอื่ ง ก�ำ หนดต�ำ แหน่งเจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั ซ่งึ จะต้องยนื่ บญั ชแี สดง
รายการทรัพย์สินและหน้ีสิน  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. ๒๕๔๒  มาตรา  ๔๐  ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๔ และ (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๗  กำ�หนดตำ�แหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐซ่ึงจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ
หนส้ี นิ ตามมาตรา ๒๖๔ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย โดยมขี า้ ราชการในสงั กดั กรมทด่ี นิ
ท่ีมีหน้าท่ีต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสิน  ดังน้ี.....๖๘)  เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด
๖๙) เจ้าพนกั งานท่ดี นิ จงั หวดั สาขาในกรุงเทพมหานคร....ฯลฯ และขอให้ผู้ดำ�รงต�ำ แหน่งดงั กล่าว
ย่นื บัญชีแสดงรายการทรัพย์สนิ และหนสี้ ินของตน ค่สู มรส และบตุ รที่ยังไม่บรรลนุ ิติภาวะ ตามที่มี
อยูจ่ ริง ณ วนั ท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๗ โดยย่นื ภายในสามสบิ วนั นับแต่ประกาศฯ มผี ลใช้บงั คับ น้ัน
เนอ่ื งจากกรมทด่ี นิ ไดร้ บั แจง้ จากส�ำ นกั งาน ป.ป.ช. วา่ ทผ่ี า่ นมาผมู้ หี นา้ ทย่ี น่ื บญั ชฯี
ยังปฏิบัติคลาดเคล่ือนหรือไม่ถูกต้องเป็นจำ�นวนมาก  ท้ังกรณีจงใจไม่ย่ืนบัญชีฯ  และเอกสาร
ประกอบภายในระยะเวลาท่ีกฎหมายกำ�หนด  รวมถึงกรณีจงใจย่ืนบัญชีฯ  และเอกสารประกอบ
ดว้ ยขอ้ ความอนั เปน็ เทจ็ หรอื ปกปดิ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทค่ี วรแจง้ ใหท้ ราบ และกรณรี า่ํ รวยผดิ ปกต/ิ ทรพั ยส์ นิ
เพิ่มขึ้นผิดปกติ ทั้งนี้ สำ�นักงาน ป.ป.ช. ได้ขอความร่วมมือให้กรมที่ดินจัดส่งสำ�เนาคำ�สั่งแต่งตั้ง
(เลื่อน/ย้าย)  เจ้าพนกั งานท่ดี นิ จงั หวัด เจ้าพนักงานท่ดี นิ กรงุ เทพมหานคร และเจา้ พนักงานท่ดี นิ
กรงุ เทพมหานคร สาขา ใหส้ �ำ นกั งาน ป.ป.ช. ทราบทกุ คร้ัง เพือ่ ประกอบการตรวจสอบข้อมลู ผมู้ ี
หน้าทีย่ ื่นบัญชแี สดงรายการทรพั ย์สินและหนส้ี ินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.

๙๗

จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ และก�ำ ชับเจ้าพนกั งานทีด่ ินจงั หวัด ซึ่งมีหนา้ ที่ตอ้ งยื่น
บญั ชแี สดงรายการทรพั ยส์ ินและหน้ีสนิ ตามกฎหมายทราบ และถอื ปฏิบัติโดยเครง่ ครดั ตอ่ ไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่อื ) อภินนั ท์ ซือ่ ธานุวงศ์
(นายอภินนั ท ์ ซ่อื ธานวุ งศ์)
อธิบดีกรมทด่ี ิน
กองการเจ้าหน้าท่ี
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๒๘
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๐

๙๘

รายละเอยี ดการย่นื บญั ชแี สดงรายการทรพั ย์สนิ และหน้สี ินของเจา้ หนา้ ทขี่ องรัฐ
ตามพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. ๒๕๔๒

(แก้ไขเพม่ิ เติม พ.ศ. ๒๕๕๐ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔)

ต�ำ แหน่ง ตปำ�รแะหเภนทง่ ระดับ ยืน่ บญั ชฯี ทรพั ยส์ ิน ในกรณี ระยะเวลา ทรัพยส์ ินและหน้ีสินทต่ี ้องแสดง

อธบิ ดี บรหิ าร สูง ๑. เขา้ รับต�ำ แหน่ง (ม.๓๙) ภายใน ๓๐ วัน ๑. ของผู้ดำ�รงตำ�แหนง่
๒. ทกุ ๓ ปีที่อยใู่ นต�ำ แหน่ง (ม.๓๙) ๒. ของคูส่ มรส
(ม. ๓๙ (๑๕)) ๓. พน้ จากต�ำ แหน่ง (ม.๓๙) **หมายเหตุ : กรณีผมู้ ี ๓. ของบตุ รท่ียังไม่บรรลนุ ติ ภิ าวะ
หน้าท่ฯี ตาย ให้ทายาท/ (รวมถึง ทรัพย์สนิ ทม่ี อบหมายใหอ้ ยู่ใน
(ยน่ื เมื่อพน้ จากการเป็นเจ้าหนา้ ทขี่ องรัฐ) ผจก.มรดก ยน่ื แทนภายใน ความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอนื่
๔. พ้นจากต�ำ แหนง่ ครบ ๑ ปี ๙๐ วนั นบั แตว่ นั ทตี่ าย ไม่ว่าทางตรงหรือทางออ้ ม)
(ม.๓๙ ว.๒ ประกอบ ม.๓๓ ว.๒) (ม.๓๙ ว.๒ ประกอบ ม.๓๒)
(ม.๓๙ ว.๒ ประกอบ ม.๓๓)

๙๙ ท่ีปรกึ ษา วชิ าการ ทรงคณุ วุฒิ ปจั จบุ ัน ไม่มหี น้าทต่ี ้องยื่นบญั ชฯี ทรพั ยส์ นิ
รองอธบิ ดี บริหาร ต้น ปจั จุบัน ไมม่ ีหน้าที่ต้องยืน่ บญั ชีฯ ทรัพยส์ ิน
ผตู้ รวจราชการกรม อำ�นวยการ สูง
ปัจจบุ ัน ไม่มหี น้าท่ีตอ้ งยน่ื บัญชฯี ทรัพย์สนิ
ผู้อำ�นวยการสำ�นกั /กอง อำ�นวยการ สูง / ตน้
ปัจจุบัน ไมม่ ีหน้าทตี่ ้องยื่นบัญชีฯ ทรัพย์สิน

เจ้าพนักงานทดี่ ินจงั หวัด/เจา้ พนกั งานท่ดี นิ กรุงเทพมหานคร ๑. เข้ารบั ต�ำ แหนง่ ๑. ของผดู้ ำ�รงต�ำ แหน่ง
(ม.๔๐ (๑) + ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำ�หนด อำ�นวยการ สูง (ม.๔๐ (๑) ประกอบ ม.๓๒) ภายใน ๓๐ วนั ๒. ของคู่สมรส
ตำ�แหน่งเจ้าหน้าทีข่ องรัฐฯ พ.ศ. ๒๕๕๔ แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) ตน้ ๒. พ้นจากต�ำ แหนง่ **หมายเหตุ : กรณีผมู้ ี
ตน้ (ม.๔๐ (๑) ประกอบ ม.๓๒) หนา้ ทฯ่ี ตาย ให้ทายาท/ ๓. ของบตุ รท่ียังไม่บรรลุนิติภาวะ
พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอ้ ๖๘) ๓. พน้ จากตำ�แหนง่ ครบ ๑ ปี ผจก.มรดก ยื่นแทนภายใน (รวมถงึ ทรัพย์สนิ ทีม่ อบหมายให้อยูใ่ น
(ม.๔๐ (๑) ประกอบ ม.๓๓ ว.๒) ๙๐ วนั นับแต่วนั ทตี่ าย ความครอบครองหรือดแู ลของบุคคลอื่น
กรุงเทพมหานคร (ม.๔๐ (๑) ประกอบ ม.๓๓) ไม่วา่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม)
(ม.๔๐ (๑) + ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ม.๔๐ (๑) ประกอบ ม.๓๒)
เรือ่ ง กำ�หนดต�ำ แหน่งเจ้าหนา้ ทข่ี องรฐั ฯ อ�ำ นวยการ

เจ้าพนกั งานทดี่ ินจังหวดั พ.ศ. ๒๕๕๔ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบับที่ ๒)
(สาขา) พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๖๙)

ภมู ิภาค อ�ำ นวยการ ปจั จบุ นั ไมม่ หี นา้ ท่ีตอ้ งย่นื บัญชฯี ทรัพย์สนิ

วชิ าการ ชำ�นาญการ

ท่ัวไป อาวโุ ส

ท่ี นร ๑๐๐๘.๓.๑ / ๑๘๓ (สำ�เนา)
สำ�นกั งาน ก.พ.
ถนนติวานนท ์ จงั หวดั นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐

๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘

เรอ่ื ง การเปลีย่ นช่ือต�ำ แหน่งในสายงาน
เรียน อธบิ ดีกรมที่ดนิ
อ้างถึง ๑. หนังสอื กรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๐๒.๔/๒๓๗๗๕ ลงวนั ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๖
ท่ี มท ๐๕๐๒.๔/๒๙๐๒ ลงวนั ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๗ และที่ มท ๐๕๐๒.๔/๒๑๗๖๑
ลงวันท่ี ๑๐ กนั ยายน ๒๕๕๘
๒. หนังสอื ส�ำ นักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๘/ว ๒ ลงวนั ท่ี ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๑  แจ้งว่าตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. ๒๕๓๕ ก.พ. เคยกำ�หนดต�ำ แหนง่ เจา้ หนา้ ท่ีบรหิ ารงานทดี่ นิ ระดบั ๖ และ ๗ ซ่ึงไดย้ ุบเลกิ
สายงานไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน  พ.ศ. ๒๕๕๑  และได้กำ�หนด
ตำ�แหน่งดังกล่าวเป็นตำ�แหน่งนักวิชาการที่ดิน ระดับชำ�นาญการ และเจ้าพนักงานที่ดิน ระดับ
อาวุโส  ซ่ึงเป็นตำ�แหน่งที่มีความแตกต่างกันท้ังสายงาน  ประเภท  และระดับตำ�แหน่ง  ทำ�ให้
การย้ายข้าราชการให้ดำ�รงตำ�แหน่งดังกล่าวในสำ�นักงานที่ดินอำ�เภอ  และสำ�นักงานที่ดินจังหวัด
ไมม่ ีความคลอ่ งตวั จึงขอหารือดังนี้
๑. หากกรมที่ดินจะขออนุมัติ  อ.ก.พ.  กระทรวงมหาดไทย  พิจารณากำ�หนดให้
ต�ำ แหนง่ ทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากการปรบั เปลย่ี นระบบจ�ำ แนกต�ำ แหนง่ ในสายงานเจา้ หนา้ ทบ่ี รหิ ารงาน
ทด่ี นิ (ระดบั ๖ – ๗ เดมิ ) สามารถก�ำ หนดต�ำ แหนง่ ไดท้ ง้ั ประเภทวชิ าการ (ต�ำ แหนง่ นกั วชิ าการทด่ี นิ )
และประเภททั่วไป  (ตำ�แหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน)  ในตำ�แหน่งเดียวกัน  จะดำ�เนินการได้หรือไม่
อย่างไร
๒. การยกเว้นคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่  ก.พ.  กำ�หนด  หรือดำ�เนินการอ่ืนใด
ในการเข้าสู่ตำ�แหน่งประเภทวิชาการของบุคลากรท่ีไม่มีคุณวุฒิปริญญาตามคุณสมบัติเฉพาะ
ส�ำ หรบั ต�ำ แหนง่ หรอื มคี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาตรงตามคณุ สมบตั เิ ฉพาะส�ำ หรบั ต�ำ แหนง่ แตไ่ ดม้ าภายหลงั
วนั ท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ และไดร้ ับผลกระทบจากการปรับเปล่ียนระบบจ�ำ แนกต�ำ แหน่งดังกลา่ ว
จะสามารถทำ�ได้หรือไม่
สำ�นักงาน ก.พ. ไดพ้ จิ ารณาแล้ว ขอเรียนดังน้ี
๑. กรณีท่ีกรมท่ีดินจะขออนุมัติ  อ.ก.พ.  กระทรวงมหาดไทย  พิจารณากำ�หนด
ต�ำ แหน่งตามท่ีหารอื ในข้อ ๑​ นัน้ ไมส่ ามารถด�ำ เนนิ การได้ เนอ่ื งจาก ก.พ. มไิ ดก้ ำ�หนดหลกั เกณฑ์

๑๐๐

ในลักษณะดังกล่าวไว้  ท้ังนี้  หากมีเหตุผลความจำ�เป็นที่จะเปลี่ยนชื่อตำ�แหน่งในสายงานจาก
สายงานหนึ่งเป็นอีกสายงานหนึ่ง  ให้กรมที่ดินดำ�เนินการตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไขที่กำ�หนดไว้
ตามหนงั สอื ที่อา้ งถงึ ๒
๒. การแต่งต้ังข้าราชการพลเรือนสามัญท่ีมีคุณสมบัติต่างไปจากคุณสมบัติ
เฉพาะสำ�หรับตำ�แหน่งตามมาตรฐานกำ�หนดตำ�แหน่ง ก.พ. อาจอนุมัติให้แต่งตั้งได้ในกรณีที่มี
เหตุผลและความจำ�เป็นตามนัยมาตรา  ๖๒  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ.๒๕๕๑ ดงั นน้ั การยกเวน้ คณุ สมบตั ขิ องขา้ ราชการ เพอ่ื แตง่ ตง้ั ใหด้ �ำ รงต�ำ แหนง่ นกั วชิ าการทด่ี นิ
สำ�หรับผู้ดำ�รงตำ�แหน่งเจ้าพนักงานที่ดินอำ�เภอ  และเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด  (สาขา)  ที่เคย
ดำ�รงตำ�แหน่งเจ้าหน้าท่ีบริหารงานที่ดิน  ระดับ  ๖  และ  ๗  ตามท่ีหารือมานั้น  กรมท่ีดินจึงต้อง
พจิ ารณาเหตผุ ล ลักษณะงาน หนา้ ทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของต�ำ แหนง่ ความรู้ ความสามารถและ
ประสบการณ์ของบุคคล  ตลอดจนเหตุผลความจำ�เป็นและประโยชน์ท่ีทางราชการจะได้รับเป็น
รายกรณี
จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่ือ) วชิรา ตรี กรวเิ ศษภกั ด ี
(นางสาววชริ า ตรี กรวเิ ศษภักดี)
ท่ปี รึกษาระบบราชการ ปฏบิ ตั ิราชการแทน
เลขาธกิ าร ก.พ.

ส�ำ นักพฒั นาระบบจำ�แนกตำ�แหนง่ และคา่ ตอบแทน
กลมุ่ ให้ค�ำ ปรึกษาแนะน�ำ ที่ ๔ (กระทรวงมหาดไทย)
โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๙๘๗
โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๙๘๒

๑๐๑

(ส�ำ เนา)
ดว่ นที่สุด
ท่ี มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๒๗๙๔๖
ถงึ จังหวัด ทุกจงั หวัด
กรมทดี่ ินขอสง่ คำ�ส่งั ท่ี ๔๐๑๖/๒๕๕๘ ลงวนั ท่ี ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เร่อื ง
แกไ้ ขคำ�สั่งการมอบอำ�นาจการปฏิบตั ริ าชการแทนอธบิ ดกี รมท่ดี นิ มาเพือ่ โปรดทราบ
กรมทด่ี นิ
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

กองการเจา้ หนา้ ที่
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๒๘
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๐

๑๐๒

(ส�ำ เนา)

ค�ำ สง่ั กรมทดี่ นิ
ที่ ๔๐๑๖/๒๕๕๘
เร่อื ง แก้ไขคำ�ส่งั การมอบอ_�ำ _น_า_จ__ก_า_ร_ป_ฏ_ิบ__ัต_ริ _าชการแทนอธบิ ดกี รมที่ดิน

ตามท่กี รมทีด่ ินได้มีคำ�ส่ัง ๓๖๔๔/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เรอ่ื ง มอบ
อำ�นาจการปฏบิ ัติราชการแทนอธิบดกี รมท่ดี ิน โดยให้ นายสุจติ จงประเสริฐ รองอธบิ ดกี รมที่ดนิ
เปน็ ผปู้ ฏิบตั ิราชการแทนอธิบดีกรมทด่ี ิน นัน้
เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในเร่ืองการมอบหมายอำ�นาจการปฏิบัติราชการแทน
อธิบดีกรมท่ีดิน  อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๓๒  และมาตรา  ๓๘  แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิ
ระเบียบบริหารราชการแผน่ ดนิ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๔ แหง่ พระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วย
การมอบอำ�นาจ พ.ศ. ๒๕๕๐ และมาตรา ๙๐ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการ
พลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๕๐ ของระเบยี บกระทรวงการคลัง ว่าด้วยลกู จ้างประจ�ำ ของส่วนราชการ
พ.ศ. ๒๕๓๗  ข้อ  ๓๕  และข้อ  ๒๖  ของระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรี  ว่าด้วยพนักงานราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๗ และหนงั สือสำ�นักงาน ก.พ. ท่ี นร ๑๐๑๑/ว ๓๕ ลงวันท่ี ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ เรื่อง
หลกั เกณฑก์ ารมอบหมายอ�ำ นาจหนา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การด�ำ เนนิ การทางวนิ ยั จงึ ใหแ้ กไ้ ขค�ำ สง่ั กรมทด่ี นิ
ที่  ๓๖๔๔/๒๕๕๘  ลงวันที่  ๑  ตุลาคม  ๒๕๕๘  เรื่อง  การมอบอำ�นาจการปฏิบัติราชการแทน
อธิบดีกรมทด่ี ิน โดยให้ยกเลกิ ความในข้อ ๑.๒ ในค�ำ สั่งดังกล่าว โดยใหใ้ ช้ความดังตอ่ ไปน้แี ทน
นอกจากน้นั ให้คงเปน็ ไปตามเดิม
“๑.๒ การบรหิ ารทรัพยากรบุคคล การพิจารณา สงั่ การ การดำ�เนนิ การใด เก่ียวกับ
การบรรจุและแตง่ ตง้ั การสรรหา การเลือ่ นเงนิ เดือน การทำ�บตั รประจ�ำ ตวั เจ้าหน้าท่ขี องรฐั รวมถงึ
การด�ำ เนนิ การทางวินัย ตามหมวด ๗ แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑
แก่ข้าราชการในตำ�แหน่งประเภทอำ�นวยการ  ตำ�แหน่งประเภทวิชาการ  ระดับเชี่ยวชาญ  ระดับ
ทรงคณุ วฒุ ิ และต�ำ แหนง่ ประเภทบรหิ าร”

ทง้ั น้ี ตั้งแตบ่ ดั นเี้ ปน็ ต้นไป

สงั่ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๘

(ลงช่ือ) อภนิ นั ท์ ซ่อื ธานวุ งศ์
(นายอภินนั ท์ ซื่อธานุวงศ)์
อธบิ ดีกรมท่ีดิน

๑๐๓

ดว่ นที่สดุ (ส�ำ เนา)
ที่ มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๒๘๗๙๕ กองการเจา้ หน้าท่ ี กรมที่ดนิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘

เรือ่ ง ให้ขา้ ราชการฝา่ ยอืน่ ชว่ ยปฏบิ ัติงานในฝ่ายทะเบยี นตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกจิ ของรฐั บาล
เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด
อา้ งถึง ๑. หนงั สือกรมทด่ี นิ ดว่ นมาก ที่ มท ๐๖๐๓/ว ๓๓๑๕๒ ลงวนั ที่ ๑๘ ธนั วาคม ๒๕๓๙
๒. หนงั สือกรมที่ดิน ด่วนมาก ที่ มท ๐๗๐๓/ว ๐๕๐๕๗ ลงวนั ท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐
๓. หนังสอื กรมทด่ี ิน ด่วนทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๐๒.๓/ว ๒๙๑๔ ลงวันท่ี ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
๔. หนงั สอื กรมทด่ี ิน ด่วนท่สี ดุ ที่ มท ๐๕๐๒.๓/ว ๔๗๕๘ ลงวนั ท่ี ๒๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๘

ตามหนงั สือทอ่ี ้างถงึ ๑ และ ๒ กรมที่ดินไดห้ ้ามเจ้าพนักงานท่ดี นิ จงั หวัด หรอื
สาขา  ส่ังการให้เจ้าหน้าที่ในฝ่ายอำ�นวยการไปปฏิบัติงานในฝ่ายทะเบียน  เนื่องจากทำ�ให้ไม่มี
ผู้ปฏิบัติงานในฝ่ายอำ�นวยการ  ก่อให้เกิดความเสียหายในงานที่รับผิดชอบโดยตรง  หนังสือที่
อา้ งถงึ ๓ แจ้งห้ามมใิ หเ้ จา้ พนกั งานท่ีดินจังหวดั เจ้าพนกั งานทด่ี ินจงั หวัดสาขา/ส่วนแยก ส่ังให้
เจา้ หน้าที่ในฝา่ ยอน่ื ของส�ำ นักงานท่ดี นิ ไปชว่ ยปฏบิ ัตงิ านในฝ่ายทะเบียน และหนงั สอื ทอ่ี ้างถงึ ๔
ซักซ้อมความเข้าใจ กรณีขอ้ สง่ั การดังกลา่ ว เปน็ กรณี ห้ามมิให้มคี �ำ สงั่ ส�ำ นกั งานทีด่ ิน หรอื ค�ำ ส่ัง
เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก  ให้เจ้าหน้าท่ีฝ่ายอื่นไปช่วยปฏิบัติงานในฝ่ายทะเบียน
เท่านั้น มไิ ดเ้ กย่ี วกับการที่ผูว้ ่าราชการจังหวัดออกค�ำ ส่ังใหข้ า้ ราชการไปชว่ ยราชการฝ่ายทะเบยี น
โดยอาศยั อำ�นาจตามนยั มาตรา ๕๔ และมาตรา ๕๗ แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการ
แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และทีแ่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ นนั้
เนื่องจาก  ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยได้มีประกาศกระทรวง
มหาดไทย ลงวันท่ี ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๕๘ ก�ำ หนดลดค่าธรรมเนยี มจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรม
ตามมาตรการสนับสนุนการซ้อื ขายอสงั หาริมทรัพย์ ตามมตคิ ณะรัฐมนตรี เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ ตลุ าคม
๒๕๕๘ โดยบงั คบั ใช้ตัง้ แต่วันที่ ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๕๘ ถงึ วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ รวมระยะเวลา
๖ เดือน ประกอบกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จะประกาศกำ�หนดใช้ราคาประเมินทุนทรพั ย์
อสังหาริมทรัพย์  เพ่ือใช้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใหม่  ในวันท่ี  ๑
มกราคม ๒๕๕๙ ส่งผลให้การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของฝ่ายทะเบียนมีปริมาณงานเพิ่ม
สงู ขน้ึ เปน็ ล�ำ ดบั ไมเ่ หมาะสมกบั อตั ราก�ำ ลงั เจา้ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั งิ านของฝา่ ยทะเบยี นทม่ี อี ยใู่ นปจั จบุ นั

๑๐๔

ขณะนี้กรมท่ีดินมีตำ�แหน่งว่างแต่ไม่สามารถนำ�มาใช้จัดสรรเพ่ือบริการประชาชนได้  เน่ืองจาก
ต้องนำ�ไปใช้ยุบแทนตำ�แหน่งที่เกษียณอายุราชการ  ในปีงบประมาณ  ๒๕๕๘  ซึ่งกรมท่ีดินอยู่
ระหวา่ งด�ำ เนนิ การเพอ่ื ขอคนื ต�ำ แหนง่ ดงั กลา่ ว ดงั นน้ั เพอ่ื ใหง้ านบรกิ ารประชาชนเกดิ ความคลอ่ งตวั
และมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในภาวะขาดแคลนอัตรา
กำ�ลัง  กรมท่ีดินจึงอนุญาตให้เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด  เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา/ส่วนแยก
พจิ ารณาบริหารงานบุคคลในส�ำ นักงานทด่ี นิ โดยส่งั ให้เจา้ หนา้ ทใ่ี นฝ่ายอ่ืนของส�ำ นกั งานท่ีดินไป
ปฏิบัติงานในฝ่ายทะเบียนได้เท่าที่มีความจำ�เป็น  และต้องมิให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน
ด้านอำ�นวยการและงานอ่ืนๆ  รวมท้ังต้องมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและการบริการ
ประชาชนในภาพรวม  ท้ังน้ี  ให้ดำ�เนินการได้ภายในห้วงเวลาตามกำ�หนดของมาตรการสนับสนุน
การซ้ือขายอสงั หาริมทรัพย์ (จนถงึ วันท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙)
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดทราบและ
ถอื ปฏิบัตติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) อภินันท์ ซอ่ื ธานวุ งศ์
(นายอภินันท ์ ซอื่ ธานวุ งศ)์
อธิบดีกรมทีด่ นิ

กองการเจา้ หนา้ ท่ ี
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๒๘
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๐

๑๐๕



บัญชรี ายช่อื หนังสือเวยี น ระเบียบ และคำ�สั่งต่างๆ
กองคลงั

ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขทหี่ นังสือเวียน ชือ่ เรื่อง หนา้
ลำ�ดับที่ ระเบียบ ค�ำ สงั่ ๑๑๕

๒. ลงวัน เดอื น ปี ๑๒๑

๑. ด่วนที่สุด
ที่ กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๑๔ แนวปฏบิ ัติทางบัญชีและการตรวจสอบบัญช ี
ลว. ๑๖ ม.ค. ๕๘ สำ�หรับสว่ นราชการในการรับเงนิ คืนและ
การจา่ ยเงนิ สว่ นเพ่มิ ของผรู้ ับบ�ำ นาญและ
ทหารกองหนุนมีเบย้ี หวดั ทป่ี ระสงคข์ อใชส้ ิทธิ
รบั บำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จ
บำ�นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔

๒. ที่ กค ๐๕๐๓.๓ / ว ๓๐๑๘ การท�ำ ลายสำ�เนาใบเสรจ็ รบั เงิน
ลว. ๕ ก.พ. ๕๘

๓. ดว่ นที่สดุ แก้ไขปรับปรงุ แบบหนงั สือสัญญาการใช้เงินคนื ๑๒๓
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๙ (แบบ ชงค.) หนังสือสญั ญาคา้ํ ประกนั
ลว. ๑๖ ก.พ. ๕๘ (แบบ คปก.) แนบทา้ ยหนังสือกระทรวงการคลงั
ด่วนทส่ี ุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๒๒ ลงวนั ที่
๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

๔. ดว่ นทีส่ ุด การยนื่ ขอรับบ�ำ นาญเพ่ิมของผรู้ บั บ�ำ นาญ ๑๓๖
ท่ี กค ๐๔๒๐.๗ / ว ๖๘ สมาชกิ กบข. ทป่ี ระสงค์ UNDO
ลว. ๒๖ ก.พ. ๕๘

๕. ดว่ น การบนั ทกึ รายการบญั ชใี นการใช้เชค็ เพ่อื ๑๓๘
ที่ กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๗๗ สั่งจา่ ยเงนิ จากบัญชีเงนิ ฝากธนาคารประเภท
ลว. ๓ ม.ี ค. ๕๘ ออมทรัพย์


๑๐๗

บญั ชีรายชือ่ หนังสือเวียน ระเบียบ และคำ�ส่ังตา่ งๆ
กองคลัง

ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขท่หี นงั สือเวยี น ชอื่ เรอื่ ง หนา้
ล�ำ ดับท่ี ระเบียบ ค�ำ สงั่

๒. ลงวัน เดอื น ปี

๖. ด่วนทสี่ ุด ๑๓๙
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๖ การเบกิ ค่าใช้จา่ ยตามมติคณะรัฐมนตรี
ลว. ๑๖ มี.ค. ๕๘ เมอื่ วนั ท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๕๘

๗. ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๑๕ ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการเบิกจ่าย ๑๔๑
ลว. ๒๓ มี.ค. ๕๘ เงินเพ่มิ การครองชพี ช่วั คราวของข้าราชการ
และลูกจ้างประจ�ำ ของสว่ นราชการ (ฉบบั ที่ ๖)
พ.ศ. ๒๕๕๘

๘. ดว่ นท่ีสุด ๑๔๔
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๒๗ พระราชกฤษฎกี าเงนิ ช่วยค่าครองชีพผู้รบั
ลว. ๓๐ ม.ี ค. ๕๘ เบ้ยี หวดั บำ�นาญ (ฉบบั ท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๕๘

๙. ดว่ นท่สี ดุ การเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนักเรยี น นกั ศึกษา ๑๔๗
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๓๐ ท่ชี ่วยปฏบิ ัติงานราชการ
ลว. ๓ เม.ย. ๕๘

๑๐. ที่ กค ๐๔๒๐.๗ / ว ๑๔๘ ซ้อมความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การยื่นขอรบั บ�ำ นาญ ๑๕๑
ลว. ๘ เม.ย. ๕๘ ของข้าราชการหรือผูร้ ับเบยี้ หวัดทป่ี ระสงค์
จะย่นื undo

๑๑. ดว่ นท่สี ุด หลักเกณฑก์ ารเบิกจ่ายค่าตอบแทน ๑๕๔
ที่ กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๓๘ คณะกรรมการ
ลว. ๒๘ เม.ย. ๕๘

๑๐๘

บัญชรี ายช่ือหนงั สอื เวยี น ระเบียบ และค�ำ ส่ังต่างๆ
กองคลัง

ประจำ�ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขทห่ี นังสอื เวยี น ชื่อเรอ่ื ง หน้า
ล�ำ ดบั ท่ี ระเบยี บ คำ�ส่ัง ๑๕๘

๒. ลงวัน เดอื น ปี

๑๒. ดว่ นทสี่ ุด การปรับปรงุ หลักการจำ�แนกประเภทรายจ่าย
ท่ี นร ๐๗๐๔ / ว ๖๘ ตามงบประมาณ
ลว. ๒๙ เม.ย. ๕๘

๑๓. ท่ี มท ๐๕๐๓.๔ / ๒๙๒๙ การเบกิ จ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงาน ๑๖๐
ลว. ๒๐ พ.ค. ๕๘ นอกเวลาราชการ

๑๔. ท่ี มท ๐๕๐๓.๕ / ว ๓๒๗๒ หลกั เกณฑ์การเบิกจา่ ยคา่ ตอบแทน ๑๖๓
ลว. ๘ ม.ิ ย. ๕๘ คณะกรรมการ

๑๕. ด่วนทส่ี ดุ
ท่ี กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๒๒๒ ประเภทและอัตราคา่ อวยั วะเทียมและอุปกรณ์ ๑๖๗
ลว. ๒๖ มิ.ย. ๕๘ ในการบำ�บัดรกั ษาโรค (ฉบับท่ี ๒)

๑๖. ดว่ นทีส่ ุด แนวทางการเรยี กเงนิ ชว่ ยคา่ ครองชพี ผรู้ ับ ๑๗๗
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๖๒ เบ้ยี หวดั บำ�นาญ (ช.ค.บ.) ซ่ึงผรู้ บั บำ�นาญพิเศษ
ลว. ๓๐ ม.ิ ย. ๕๘ ในฐานะทายาทได้รบั ไปเกนิ สิทธิส่งคืนคลงั


๑๗. ด่วนทส่ี ุด หลกั เกณฑว์ ิธปี ฏบิ ตั ิในการรับเงนิ กรณีผูเ้ สนอ ๑๗๙
ที่ กค ๐๔๐๖.๓ / ว ๖๘ ราคาซอ้ื เอกสารจดั ซอ้ื จดั จา้ งด้วยวิธปี ระกวด
ลว. ๓ ก.ค. ๕๘ ราคาอิเลก็ ทรอนิกส์


๑๐๙

บญั ชีรายช่ือหนงั สือเวียน ระเบียบ และค�ำ ส่ังต่างๆ
กองคลงั

ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขทห่ี นงั สือเวยี น ชือ่ เร่อื ง หน้า
ล�ำ ดับที่ ระเบียบ ค�ำ สงั่ การถอนคนื เงินรายไดแ้ ผ่นดนิ ๑๘๒

๒. ลงวนั เดอื น ปี
๑๘. ดว่ นมาก
ท่ี กค ๐๔๒๐.๑ / ว ๗๘
ลว. ๒๒ ก.ค. ๕๘

๑๙. ดว่ นทส่ี ุด หลกั เกณฑ์การเบกิ คา่ ยานวดบรรเทาอาการ ๑๘๕
ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๒๖๒
ลว. ๒๙ ก.ค. ๕๘

๒๐. ท่ี กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๒๖๗ คูม่ ือการบัญชภี าครัฐส�ำ หรบั สว่ นราชการ ๑๘๗
ลว. ๓ ส.ค. ๕๘

๒๑. ดว่ นที่สุด หลักเกณฑก์ ารเบิกค่ายาบรรเทาอาการ ๑๘๘
ท่ี กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๘๓ ขอ้ เส่ือมท่ีออกฤทธิช์ ้า และกลุม่ ยาฉดี เขา้ ข้อ
ลว. ๑๓ ส.ค. ๕๘ บรรเทาอาการขอ้ เสอื่ ม
พระราชบญั ญตั ิประกนั สังคม (ฉบับท่ี ๔) ๑๙๓
๒๒. ด่วนที่สดุ พ.ศ. ๒๕๕๘
ท่ี รง ๐๖๐๔ / ว ๑๓๖๕
ลว. ๒๗ ส.ค. ๕๘

๒๓. ด่วนท่สี ุด ๑๙๕
ท่ี มท ๐๕๐๓.๕ / ว ๕๓๒๐ หลักเกณฑก์ ารเบกิ จา่ ยคา่ ตอบแทนบคุ คล ๒๐๒
ลว. ๓๑ ส.ค. ๕๘ หรือคณะกรรมการ

๒๔. ท่ี มท ๐๕๐๓.๒ / ว ๒๒๗๘๗ การส่งรายงานประจำ�เดือน
ลว. ๒๑ ก.ย. ๕๘

๑๑๐

บัญชีรายช่ือหนงั สอื เวยี น ระเบยี บ และค�ำ สัง่ ตา่ งๆ
กองคลงั

ประจำ�ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขทห่ี นังสอื เวยี น ช่ือเรื่อง หน้า
ลำ�ดับที่ ระเบียบ ค�ำ สัง่

๒. ลงวัน เดือน ปี

๒๕. ท่ี กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๓๓๘ แนวทางการแก้ไขปญั หาและขอ้ ผิดพลาด ๒๐๔
ลว. ๒๒ ก.ย. ๕๘ ส�ำ หรับการบญั ชภี าครัฐ

๒๖. ด่วนท่สี ุด
ท่ี มท ๐๕๐๓.๔ / ว ๕๙๒๗ พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) ๒๐๕
ลว. ๒๔ ก.ย. ๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๘

๒๗. ดว่ นที่สุด
ที่ มท ๐๕๐๓.๒ / ว ๒๓๗๖๒ การก�ำ หนดรหสั การอา้ งองิ ในระบบ GFMIS ๒๐๙
ลว. ๒๘ ก.ย. ๕๘

๒๘. ดว่ นทีส่ ุด การขยายโครงการเบกิ จา่ ยตรงประเภท ๒๑๓
ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๓๗๑ ผปู้ ว่ ยใน สถานพยาบาลของเอกชน ๒๑๕
ลว. ๑ ต.ค. ๕๘ กรณีนดั ผ่าตัดลว่ งหน้า
ขอความรว่ มมอื ตรวจสอบการใช้สทิ ธิ
เบิกคา่ เช่าบา้ นข้าราชการ
๒๙. ท่ี กค ๐๔๒๒.๓ / ว ๑๒๒
ลว. ๑๖ ต.ค. ๕๘

๓๐. ด่วนทสี่ ดุ ซอ้ มความเข้าใจเกยี่ วกับการนับอายบุ ุคคล ๒๑๗
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๒๔
ลว. ๓๐ ต.ค. ๕๘



๑๑๑

บญั ชีรายชือ่ หนงั สอื เวียน ระเบยี บ และคำ�ส่ังต่างๆ
กองคลัง

ประจำ�ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขทีห่ นังสือเวยี น ชอ่ื เรอื่ ง หนา้
ล�ำ ดบั ที่ ระเบียบ ค�ำ สง่ั

๒. ลงวนั เดือน ปี

๓๑. ดว่ นทส่ี ดุ
ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๔๔๗ อตั ราค่าบริการสาธารณสขุ เพ่อื ใชส้ ำ�หรับ ๒๒๐
ลว. ๑๒ พ.ย. ๕๘ การเบิกจ่ายคา่ รักษาพยาบาลในสถาน
พยาบาลของทางราชการหมวดท่ี ๑๕
ค่าบริการฝงั เข็มและค่าบรกิ ารการใหก้ ารบำ�บดั
ของผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะอ่ืน
๓๒. ดว่ นทส่ี ดุ
ที่ กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๓๗ ประกาศกระทรวงการคลงั เรอ่ื ง ก�ำ หนด ๒๒๕
ลว. ๑๓ พ.ย. ๕๘ รายชอื่ คณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการ
ท่มี ีสิทธไิ ด้รับเบ้ยี ประชมุ เปน็ รายเดอื น และ
อัตราเบี้ยประชมุ เป็นรายเดอื นและเป็น
รายคร้งั ส�ำ หรับกรรมการ อนุกรรมการ
เลขานุการ และผชู้ ่วยเลขานกุ าร พ.ศ. ๒๕๕๘
๓๓. ด่วนที่สดุ
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๗๕ หลกั เกณฑ์และวิธีปฏบิ ตั ิในการใช้หนงั สอื ๒๓๖
ลว. ๒๔ พ.ย. ๕๘ รับรองสิทธใิ นบ�ำ เหนจ็ ตกทอด เพ่ือใช้เปน็
หลกั ทรพั ยป์ ระกันการก้เู งินฉบบั เดมิ

๓๔. ท่ี รง ๐๖๒๓ / ๒๒๒๘๒ ขอใหป้ ฏิบัติตามกฎหมายประกนั สังคม ๒๓๘
ลว. ๒๖ พ.ย. ๕๘ อย่างเคร่งครัด

๓๕. ดว่ นที่สดุ หลกั เกณฑแ์ ละวิธปี ฏิบตั ิเกี่ยวกบั การใช้จ่าย ๒๔๐
ท่ี นร ๐๗๐๔ / ว ๒๕ เงนิ ก้ตู ามระเบียบสำ�นกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วย
ลว. ๓๐ พ.ย. ๕๘ การบรหิ ารโครงการเงนิ ก้เู พื่อการพัฒนาระบบ
บรหิ ารจดั การทรัพยากรนา้ํ และระบบขนส่ง
ทางถนน ระยะเร่งดว่ น (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘

๑๑๒

บญั ชรี ายชือ่ หนังสอื เวียน ระเบียบ และค�ำ สง่ั ต่างๆ
กองคลัง

ประจำ�ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

๑. เลขที่หนังสือเวียน ชื่อเรือ่ ง หนา้
ล�ำ ดับท่ี ระเบียบ คำ�สัง่

๒. ลงวนั เดือน ปี

๓๖. ด่วนทส่ี ุด การจา่ ยเงนิ ช่วยค่าครองชีพผรู้ บั เบี้ยหวัด ๒๔๒
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๙๑ บำ�นาญ (ช.ค.บ.) ส�ำ หรับผทู้ แ่ี สดงความ
ลว. ๓ ธ.ค. ๕๘ ประสงคข์ อกลับไปใชส้ ิทธริ ับบ�ำ นาญตาม
พระราชบญั ญัติบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญข้าราชการ
พ.ศ. ๒๔๙๔


๓๗. ท่ี กค ๐๔๒๒.๓ / ว ๑๕๒ การเบกิ เงินสวสั ดิการเก่ียวกบั การศึกษา ๒๔๓
ลว. ๔ ธ.ค. ๕๘ ของบตุ ร

๓๘. ท่ี กค ๐๕๐๓.๔ / ว ๗๖๘๓ ขอความรว่ มมอื ตรวจสอบการใช้สทิ ธิ ๒๔๔
ลว. ๙ ธ.ค. ๕๘ เบกิ คา่ เชา่ บา้ นข้าราชการ

๓๙. ดว่ นทส่ี ุด ๒๕๐
ที่ มท ๐๕๐๓.๒ / ว ๗๗๓๗ การแจ้งข้อมลู ประกอบการขอเบกิ เงิน
ลว. ๑๔ ธ.ค. ๕๘

๔๐. ที่ มท ๐๒๐๒.๒ / ว ๗๔๗๕ การถือปฏิบัติตามพระราชกฤษฎกี า ๒๕๓
ลว. ๑๕ ธ.ค. ๕๘ คา่ เช่าบ้าน พ.ศ. ๒๕๔๗ และระเบยี บ ๒๕๔
หลักเกณฑท์ ่ีเกี่ยวข้อง

๔๑. ที่ กค ๐๔๓๒.๔ / ว ๑๕๓ การยืน่ ขอรับบำ�เหนจ็ บ�ำ นาญดว้ ยตนเอง
ลว. ๑๗ ธ.ค. ๕๘ ทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (Pensions’ Electronic
Filing)

๑๑๓



ดว่ นท่สี ุด (ส�ำ เนา)
ที่ กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๑๔
กรมบญั ชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๑๖ มกราคม ๒๕๕๘

เร่ือง แนวปฏิบัติทางบญั ชีและการตรวจสอบบญั ชสี ำ�หรับสว่ นราชการในการรับเงินคนื และ
การจา่ ยเงินส่วนเพิ่มของผ้รู ับบ�ำ นาญและทหารกองหนนุ มเี บีย้ หวัดท่ปี ระสงคข์ อใชส้ ทิ ธิ
รบั บำ�นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหน็จบ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔
เรียน อธบิ ดีกรมที่ดิน
อา้ งถงึ หนังสอื กรมบญั ชีกลาง ดว่ นท่ีสุด ที่ กค ๐๔๒๓.๓/ว ๔๐๔ ลงวันท่ี ๒๙ ธนั วาคม ๒๕๕๗
สิง่ ท่ีส่งมาดว้ ย แนวปฏบิ ัติทางบญั ชีและการตรวจสอบบญั ชสี �ำ หรบั สว่ นราชการในการรับเงนิ คนื
และการจา่ ยเงนิ สว่ นเพิม่ ของผู้รบั บ�ำ นาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวดั ที่ประสงค์
ขอใชส้ ทิ ธริ ับบ�ำ นาญตามพระราชบญั ญัตบิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔
(สามารถดาวน์โหลดไดจ้ ากเว็บไซตข์ องกรมบญั ชีกลาง www.cgd.go.th)

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  กรมบัญชีกลางได้กำ�หนดแนวปฏิบัติทางบัญชีและการ
ตรวจสอบบัญชี  สำ�หรับส่วนราชการในการรับเงินคืนและการจ่ายเงินส่วนเพิ่มของผู้รับบำ�นาญ
และทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัดท่ีประสงค์ขอใช้สิทธิรับบำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จ
บ�ำ นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ นน้ั
กรมบัญชีกลางขอเรียนว่า  เนื่องจากมีข้อคลาดเคล่ือนของคำ�ส่ังงานท่ีใช้ในการ
บันทึกรายการบญั ชีรับเงนิ จากผูร้ บั บำ�นาญเป็นหน้ีสนิ ในบญั ชเี งนิ รับฝากอน่ื ค�ำ สั่งงาน ZGL_RE
หรือ บช ๐๑ ประเภทเอกสาร RE และคำ�ผดิ พ.ศ. ของพระราชบัญญตั กิ องทนุ บ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ
ข้าราชการ  จึงขอยกเลิกหนังสือตามที่อ้างถึงและให้ใช้หนังสือฉบับนี้แทน  โดยมีแนวปฏิบัติทาง
บัญชีและการตรวจสอบบัญชีสำ�หรับส่วนราชการในการรับเงินคืน  และการจ่ายเงินส่วนเพ่ิมของ
ผู้รับบำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัดท่ีประสงค์ขอใช้สิทธิรับบำ�นาญตามพระราชบัญญัติ
บ�ำ เหน็จบ�ำ นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ รายละเอียดปรากฏตามสิ่งท่ีสง่ มาด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ท่ีเก่ียวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป อน่ึง ท่านสามารถเปดิ ดหู นังสือน้ีได้ทเี่ ว็บไซต์ของกรมบญั ชกี ลาง www.cgd.go.th
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) ณพงศ์ ศิริขันตยกุล
(นายณพงศ ์ ศริ ิขันตยกุล)
รองอธิบดี รกั ษาการในตำ�แหน่ง
ที่ปรกึ ษาดา้ นพัฒนาระบบบัญชี ปฏิบตั ิราชการแทน
อธิบดกี รมบญั ชีกลาง

ส�ำ นกั มาตรฐานดา้ นการบญั ชภี าครฐั กลมุ่ งานระบบบัญชภี าครฐั
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๐๗ – ๑๐ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๑๑

๑๑๕

สงิ่ ท่สี ง่ มาด้วย
แนวปฏิบัตทิ างบัญชีและการตรวจสอบบญั ชีสำ�หรับส่วนราชการในการรับเงินคืน
และการจ่ายเงินส่วนเพิม่ ของผูร้ บั บำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัดทีป่ ระสงค์
ขอใช้สทิ ธิรับบำ�นาญตามพระราชบัญญัตบิ ำ�เหนจ็ บ�ำ นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔
แนบหนงั สอื กรมบัญชีกลาง ดว่ นทสี่ ดุ ที่ กค ๐๔๒๓.๓/ว ๑๔ ลงวนั ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘
ตามพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำ�เหน็จบำ�นาญตามพระราชบัญญัติ
บ�ำ เหน็จบำ�นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๕๕๗ ก�ำ หนดให้ขา้ ราชการ ผูร้ บั บำ�นาญและ
ทหารกองหนุนมีเบี้ยหวดั ทีเ่ ข้ารบั ราชการอยกู่ อ่ นวันที่ ๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐ และเป็นสมาชกิ กองทนุ
บำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ (กบข.) โดยสมัครใจสามารถแสดงความประสงค์กลับไปรับบำ�เหน็จ
บำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  ได้  โดยให้เป็นไปตาม
หลักเกณฑ์และวธิ ีการที่กระทรวงการคลังกำ�หนด
กระทรวงการคลังจึงได้กำ�หนดหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความประสงค์กลับไป
ใชส้ ิทธิในบำ�เหนจ็ บำ�นาญตามพระราชบญั ญตั บิ ำ�เหน็จบ�ำ นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ ส�ำ หรับ
ขา้ ราชการและหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารแสดงความประสงคข์ อใชส้ ทิ ธริ บั บ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั ิ
บำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  และการรับเงินคืนและการจ่ายเงินส่วนเพิ่ม  สำ�หรับ
ผรู้ บั บ�ำ นาญและทหารกองหนุนมีเบ้ยี หวดั โดยข้อ ๑๖ ของหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารดังกล่าวสำ�หรับ
ผู้รับบำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัด  กำ�หนดให้การบัญชีให้เป็นไปตามท่ีกรมบัญชีกลาง
ก�ำ หนด
หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวในส่วนที่เก่ียวข้องกับการบัญชีของส่วนราชการ
ในกรณีทผี่ ู้รบั บ�ำ นาญและทหารกองหนนุ มีเบีย้ หวดั ซ่งึ เคยเป็นข้าราชการและเปน็ สมาชกิ กองทนุ
บำ�เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ (กบข.) ท่ีเข้ารับราชการอยู่ก่อนวันที่ ๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐ ยืน่ แบบ
แสดงความประสงคข์ อใชส้ ทิ ธริ บั บ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๔๙๔
สำ�หรับผู้รับบำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัด  (แบบ บ.๑)  ต่อส่วนราชการผู้เบิกบำ�นาญ
ใหแ้ ลว้ เสร็จภายในวันที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๕๘ และให้สว่ นราชการผเู้ บิกบ�ำ นาญตรวจสอบความ
ถูกต้อง และน�ำ ขอ้ มูลในแบบ บ.๑ บนั ทกึ ในระบบบ�ำ เหน็จบ�ำ นาญ พรอ้ มค�ำ นวณบำ�นาญตาม
พระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  และพระราชบัญญัติกองทุนบำ�เหน็จ
บำ�นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตั้งแต่วันที่ออกจากราชการจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘
เมื่อหักกลบลบกันได้บำ�นาญเพ่ิมขึ้นเป็นเท่าใดให้นำ�มาหักกลบลบกันกับเงินก้อน  (เงินประเดิม
เงนิ ชดเชย เงนิ สมทบ และผลประโยชน์ของเงินดงั กล่าว) ที่ไดร้ ับจาก กบข. เพื่อรบั เงินคืนหรอื จา่ ย
เงินสว่ นเพ่ิม

๑๑๖

ดังน้ัน  เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านบัญชีของส่วนราชการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
สอดคลอ้ งกบั หลกั เกณฑ์และวธิ ีการดังกลา่ ว จงึ ได้ก�ำ หนดแนวปฏบิ ตั ิทางบญั ชีและการตรวจสอบ
บัญชีสำ�หรับส่วนราชการในการรับเงินคืนและการจ่ายเงินส่วนเพิ่มของผู้รับบำ�นาญและทหาร
กองหนุนมีเบี้ยหวัดท่ีประสงค์ขอใช้สิทธิรับบำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญ
ข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ ดงั น้ี

๑. การรบั เงนิ คนื จากราชการ
กรณจี �ำ นวนเงนิ บ�ำ นาญทเ่ี พม่ิ ขน้ึ สงู กวา่ จ�ำ นวนเงนิ กอ้ นจาก กบข. ทผ่ี รู้ บั บ�ำ นาญตอ้ งคนื
(แบบ บ.๒ และ แบบ บ.๔ สำ�หรบั ผ้รู บั บำ�นาญ)
ให้ส่วนราชการผู้เบิกบำ�นาญพิมพ์ใบรับแบบแสดงความประสงค์ขอใช้สิทธิใน
บำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญ  พ.ศ. ๒๔๙๔  และแจ้งจำ�นวนเงินส่วนเพ่ิมที่ผู้รับ
บ�ำ นาญมสี ทิ ธไิ ดร้ บั จากทางราชการ (แบบ บ.๒) ใหผ้ รู้ บั บ�ำ นาญ และเมอ่ื กรมบญั ชกี ลางตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งแลว้ จะออกใบรบั รองสทิ ธใิ นบ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ
พ.ศ. ๒๔๙๔ กรณผี ู้รบั บำ�นาญไดร้ บั เงินสว่ นเพม่ิ (แบบ บ.๔) สง่ ให้สว่ นราชการผเู้ บกิ บำ�นาญผ่าน
ระบบบ�ำ เหน็จบ�ำ นาญตรวจสอบและพิมพ์แบบ บ.๔ ดงั กล่าว สง่ ใหผ้ ้รู ับบำ�นาญทราบ
ไม่ตอ้ งบนั ทึกรายการบัญชี

๒. การจา่ ยเงนิ คืนใหร้ าชการ
กรณจี �ำ นวนเงนิ บ�ำ นาญทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ตา่ํ กวา่ จ�ำ นวนเงนิ กอ้ นจาก กบข. ทผ่ี รู้ บั บ�ำ นาญตอ้ งคนื
(แบบ บ.๓ และแบบ บ.๕ สำ�หรับผู้รบั บำ�นาญ แบบ บ.๗ และแบบ บ.๘ สำ�หรับทหาร
กองหนุนมเี บีย้ หวดั )
ให้ส่วนราชการผู้เบิกบำ�นาญพิมพ์ใบรับแบบแสดงความประสงค์ขอใช้สิทธิใน
บำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญ  พ.ศ. ๒๔๙๔  และแจ้งจำ�นวนเงินที่ผู้รับบำ�นาญ
ตอ้ งคนื แก่ทางราชการ แบบ บ.๓ ใหผ้ รู้ บั บ�ำ นาญ หรือใบรับแบบแสดงความประสงคข์ อใชส้ ทิ ธิใน
บำ�นาญตามพระราชบัญญัตบิ ำ�เหน็จบ�ำ นาญ พ.ศ. ๒๔๙๔ และแจ้งจ�ำ นวนเงินทีท่ หารกองหนุนมี
เบย้ี หวัดตอ้ งคนื แก่ทางราชการ แบบ บ.๗ ให้ทหารกองหนุนมีเบี้ยหวดั และผู้รับบ�ำ นาญหรือทหาร
กองหนนุ มีเบ้ียหวดั น�ำ เงินมาคนื ให้สว่ นราชการผู้เบกิ บำ�นาญทั้งจ�ำ นวนภายในวนั ที่ ๓๐ มถิ นุ ายน
๒๕๕๘ เว้นแตก่ รณแี บ่งชำ�ระเงนิ เปน็ สว่ นๆ ๓ งวดเทา่ ๆ กนั ตามจ�ำ นวนเงินทก่ี ำ�หนดโดยตอ้ งชำ�ระ
เงินใหแ้ ลว้ เสรจ็ ไมเ่ กินวนั ท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘
เม่ือกรมบัญชีกลางตรวจสอบความถูกต้องแล้ว  ให้ออกใบรับรองสิทธิในบำ�นาญ
ตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  กรณีผู้รับบำ�นาญได้นำ�เงินมาคืน
แบบ บ.๕ หรอื ใบรบั รองสทิ ธใิ นบ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๔๙๔
สำ�หรับทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัด  แบบ  บ.๘  ส่งให้ส่วนราชการผู้เบิกบำ�นาญผ่านระบบบำ�เหน็จ
บำ�นาญเพื่อตรวจสอบและพมิ พแ์ บบ บ.๕ ส่งให้ผรู้ ับบ�ำ นาญ หรอื แบบ บ.๘ ส่งให้ทหารกองหนุน
มเี บี้ยหวดั ทราบ
๑๑๗

กรณีไม่สามารถชำ�ระเงินให้ครบตามจำ�นวนที่ต้องคืนแก่ทางราชการภายในกำ�หนด
เวลา  ให้ส่วนราชการแจ้งกรมบัญชีกลาง  เพ่ือคืนเงินที่ชำ�ระมาแล้วโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝาก
ธนาคารของผรู้ ับบ�ำ นาญที่รบั บ�ำ นาญอยใู่ นปัจจบุ นั
๒.๑ การรบั เงนิ
๒.๑.๑ การดำ�เนนิ การ
เม่ือไดร้ ับเงนิ จากผูร้ บั บ�ำ นาญ ให้ออกใบเสรจ็ รบั เงินใหแ้ ก่ผูร้ บั บ�ำ นาญ
และบนั ทกึ เลขทใ่ี บเสรจ็ รบั เงนิ เขา้ ระบบบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ (e–Pension) และใชส้ �ำ เนาใบเสรจ็ รบั เงนิ
เป็นหลักฐานประกอบการบันทึกรายการบัญชี  โดยบันทึกรายการบัญชีรับเงินให้รับรู้เป็นหนี้สิน
ในบัญชเี งินรับฝากอืน่ ดว้ ยค�ำ สัง่ งาน ZRP_RE หรอื บช ๐๑ ประเภทเอกสาร RE ดังนี้
เดบติ บัญชีเงินสดในมือ (๑๑๐๑๐๑๐๑๐๑) xx
เครดิต บญั ชเี งนิ รับฝากอ่ืน (๒๑๑๑๐๒๐๑๙๙) xx
๒.๑.๒ การตรวจสอบ
ให้ตรวจสอบรายชื่อ  จำ�นวนเงินที่ปรากฏในสำ�เนาใบเสร็จรับเงินกับ
ใบรบั แบบแสดงความประสงคข์ อใชส้ ทิ ธใิ นบ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ พ.ศ.๒๔๙๔
และแจ้งจำ�นวนเงินที่ผู้รับบ�ำ นาญตอ้ งคืนแกท่ างราชการ (แบบ บ.๓) หรอื ใบรับแบบแสดงความ
ประสงคข์ อใชส้ ิทธิในบำ�นาญตามพระราชบญั ญตั ิบ�ำ เหน็จบ�ำ นาญ พ.ศ. ๒๔๙๔ และแจ้งจำ�นวน
เงินท่ีทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัดต้องคืนแก่ทางราชการ  (แบบ บ.๗)  จากระบบบำ�เหน็จบำ�นาญ
(e–Pension) ทกุ สิ้นวนั
๒.๒ การนำ�เงนิ ฝากธนาคารของสว่ นราชการ
๒.๒.๑ การดำ�เนินการ
ให้นำ�เงินที่ได้รบั จากข้อ ๒.๑ ฝากเข้าบญั ชีเงินฝากธนาคารรฐั วิสาหกิจ
ของส่วนราชการที่เปดิ ใหม่ เป็นบญั ชีกระแสรายวัน ช่อื บัญชีรบั เงิน UNDO (ชอ่ื ส่วนราชการ) ในวนั
ท่ไี ดร้ ับหรืออย่างช้าภายในวนั ท�ำ การถัดไป โดยใชใ้ บนำ�ฝากเงนิ ตามแบบปกติของธนาคาร และ
ใช้สำ�เนาใบรับเงินจากธนาคารเป็นหลักฐานประกอบการบันทึกรายการบัญชี  โดยบันทึกรายการ
บัญชีน�ำ เงนิ ฝากธนาคารด้วยค�ำ สั่งงาน ZGL_JR หรอื บช ๐๑ ประเภทเอกสาร JR ดงั นี้
เดบิต บัญชเี งนิ ฝากไม่มีรายตัว (๑๑๐๑๐๓๐๑๙๙) xx
เครดติ บญั ชเี งินสดในมือ (๑๑๐๑๐๑๐๑๐๑) xx
๒.๒.๒ การตรวจสอบ
ให้ตรวจสอบจำ�นวนเงินท่ีปรากฏในสำ�เนาใบรับเงินจากธนาคาร
ตรงกับจำ�นวนเงินท่ีนำ�ฝาก
๒.๓ การน�ำ เงินส่งคลงั
๒.๓.๑ การดำ�เนนิ การ

๑๑๘

(๑) ส่วนราชการสั่งจ่ายเช็คในนามกระทรวงการคลังจากบัญชีเงินฝาก
ธนาคาร ตามขอ้ ๒.๒ ทกุ วันที่ ๑ และวันที่ ๑๖ ของทุกเดือน และน�ำ เงินดงั กล่าวฝากคลังท่ี บมจ.
ธนาคารกรุงไทย  โดยใช้ใบนำ�ฝากเงินรหัสศูนย์ต้นทุนของกรมบัญชีกลาง  (สำ�นักบริหารการ
รับ–จา่ ยเงนิ ภาครฐั ) หรอื ส�ำ นักงานคลงั จงั หวดั แลว้ แตก่ รณี ในรหัสศนู ยต์ ้นทนุ ๐๓๐๐๔A๐๐xx
ระบบชอ่ ง “เงินฝากคลงั ” ซ่งึ ระบบจะบันทกึ รายการบัญชกี ารน�ำ เงนิ สง่ คลังให้อัตโนมตั ิ ประเภท
เอกสาร CJ ในบญั ชขี องกรมบญั ชกี ลางหรอื ส�ำ นกั งานคลงั จงั หวดั แลว้ แตก่ รณี และใหส้ ว่ นราชการ
ใช้สำ�เนาใบนำ�ฝากเงิน  และสำ�เนาใบรับเงินจาก  บมจ. ธนาคารกรุงไทย  เป็นหลักฐานบันทึก
รายการบัญชีของส่วนราชการ  โดยบันทึกรายการลดยอดบัญชีเงินฝากธนาคารกับบัญชีเงิน
รับฝากอืน่ ดว้ ยคำ�สัง่ งาน ZF_๐๒_PP หรือ บช ๐๑ ประเภทเอกสาร PP ดังนี้
เดบติ บญั ชเี งินรับฝากอ่ืน (๒๑๑๑๐๒๐๑๙๙) xx
เครดติ บญั ชีเงินฝากไม่มรี ายตวั (๑๑๐๑๐๓๐๑๙๙) xx
(๒) ส่วนราชการบันทึกรหัสคีย์อ้างอิง  ๓  ในระบบบำ�เหน็จบำ�นาญ
(e–Pension) พรอ้ มสง่ แบบแสดงความประสงคข์ อใชส้ ทิ ธใิ นบ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็
บำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  สำ�หรับผู้รับบำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัด  (แบบ บ.๑)
ส�ำ เนาใบน�ำ ฝากเงนิ สำ�เนาใบรบั เงินจาก บมจ. ธนาคารกรงุ ไทย และใบสรปุ รายช่ือผ้รู ับบำ�นาญ
ท่ีได้นำ�เงินมาคืนจากระบบบำ�เหน็จบำ�นาญ  (e–Pension)  ให้กรมบัญชีกลาง  (สำ�นักบริหาร
การรับ–จา่ ยเงนิ ภาครฐั ) หรอื ส�ำ นักงานคลงั จังหวัด แล้วแต่กรณี เดอื นละ ๒ ครง้ั โดยส่งภายใน
๓ วนั ท�ำ การนับถดั จากวนั ทน่ี ำ�เงนิ ฝากคลัง (วนั ที่น�ำ เงินฝากคลังทุกวนั ท่ี ๑ และวนั ท่ี ๑๖ ของทุก
เดือน)
ไม่ตอ้ งบันทึกรายการบญั ชี
๒.๓.๒ การตรวจสอบ
ใหต้ รวจสอบประเภทการน�ำ ส่งเงิน และจ�ำ นวนเงิน ในส�ำ เนาใบรับเงิน
จาก บมจ.ธนาคารกรุงไทย ตรงกับทรี่ ะบุไวใ้ นใบน�ำ ฝากเงนิ (Pay–in slip) หากพบข้อผิดพลาด
ให้แจ้งธนาคารแก้ไขทันทีภายในวันที่นำ�ฝาก  และกรณีพบข้อผิดพลาดภายหลังจากวันที่นำ�ฝาก
ธนาคารให้แจ้งกรมบัญชีกลางแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำ�หนด  และตรวจสอบสำ�เนาใบรับเงิน
จากธนาคารแสดงรหัสคยี อ์ า้ งอิง ๓ จ�ำ นวน ๑๖ หลกั พร้อมทั้งตรวจสอบรหสั คีย์อ้างองิ ๓ ในระบบ
บ�ำ เหนจ็ บำ�นาญ (e–Pension) ใหต้ รงกับรหัสคยี ์อา้ งอิง ๓ ในสำ�เนาใบรับเงินจาก บมจ. ธนาคาร
กรุงไทย
_____________________



๑๑๙

แผนผงั การปฏบิ ัติงานดา้ นบญั ชขี องส่วนราชการ

ส่วนราชการ

ผู้รับบ�ำ นาญ/ทหารกองหนนุ มเี บยี้ หวัด A

แบบ บ.๑ s ss เงินสด/แคชเชยี รเ์ ช็ค
สำ�เนาบัตรประชาชน s ออกใบเสร็จรับเงนิ ตรวจสอบ
ss s
ตรวจสอeบ–Pบeันnsทiกึonในระบบ sและบนั ทกึ การรบั เงิน
ss s
ส�ำ เนา แบบ บ.๑ s ต้นฉบับ แบบ บ.๑ ต้นฉบับ s สำ�เนา
ผ้รู บั บ�ำ นาญ/ทหาร สำ�เนาบตั รประชาชน ใบเสรจ็ รบั เงิน ใบเสรจ็ รับเงนิ
กองหนนุ มเี บี้ยหวัดs ผรู้ บั บำ�นาญ/ทหาร s
ss ค�ำ นวeณ–Pหeกั nกsลioบnลบกัน กองหนนุ มีเบย้ี หวดัss เงนิ สด/เช็ค

s s น�ำ เงนิ ฝากธนาคารบัญชีเงินรบั UNDO
s และบนั ทกึ การนำ�เงินฝากธนาคาร
s ของสว่ นราชการ

กรณีรับเงินคืนจากราชการ กรณีจ่ายเงนิ คนื ให้ราชการ และบันทสึกง่ั กจา่ารยนเำ�ชเ็คงินส่งคลัง

แบบ บ.๒ แบบ บ.๓/บ.๗ ตแรวลจะสบอันบทขึกอ้ eม–ูลPกeาnรsนio�ำ nสง่

ผู้รบั บำ�นาญ ผู้รบั บ�ำ นาญ/ทหาร แบบ บ.๑
กองหนนุ มเี บ้ยี หวดั
แบบ บ.๓ / บ.๗
เงินสด/แคชเชยี รเ์ ชค็ แบบสรปุ รายชือ่

A ส�ำ เนาใบน�ำ ฝากเงิน
สำ�เนาใบรับเงิน

สว่ นกลาง ส่วนภูมภิ าค

กรมบัญชกี ลาง ส�ำ นักงานคลังจงั หวดั

(ส�ำ นักบริหารการรับ–จา่ ยเงินภาครฐั )

๑๒๐

ท่ี มท ๐๕๐๓.๓ / ว ๓๐๑๘ (ส�ำ เนา)
กรมที่ดนิ
ศูนยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๕ กมุ ภาพันธ ์ ๒๕๕๘

เรือ่ ง การท�ำ ลายส�ำ เนาใบเสรจ็ รับเงิน
เรยี น ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด
สิง่ ทส่ี ่งมาดว้ ย สำ�เนาหนงั สอื กรมบญั ชกี ลาง ดว่ นที่สุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๖/๐๒๒๙๗ ลงวันท่ี ๒๑
มกราคม ๒๕๕๘

ด้วยกรมท่ีดิน  ได้หารือกรมบัญชีกลางในแนวทางการปฏิบัติงานตามระเบียบ
การเบกิ จ่ายเงนิ จากคลัง การเก็บรกั ษาเงนิ และการนำ�เงินสง่ คลงั พ.ศ. ๒๕๕๑ ขอ้ ๗๒ ก�ำ หนด
“ใหส้ ว่ นราชการเกบ็ รกั ษาส�ำ เนาใบเสรจ็ รบั เงนิ ซง่ึ ส�ำ นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ยงั มไิ ดต้ รวจสอบ
ไว้ในทปี่ ลอดภัย อยา่ ใหส้ ูญหายหรือเสยี หายได้ และเม่อื ได้ตรวจสอบแลว้ ให้เก็บไว้อย่างเอกสาร
ธรรมดาได”้ แตเ่ นอ่ื งจากระเบยี บฯ ดงั กลา่ วมไิ ดว้ างแนวทางปฏบิ ตั ใิ นกรณสี �ำ นกั งานการตรวจเงนิ
แผ่นดินยังไม่เข้าตรวจสอบ  ทำ�ให้มีสำ�เนาใบเสร็จรับเงินเป็นจำ�นวนมากท่ีต้องเก็บรักษาไว้ให้
สำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบอย่างไม่มีกำ�หนดระยะเวลาส้ินสุดเป็นภาระในการ
จัดเกบ็ เอกสาร
กรมทดี่ นิ ขอเรียนวา่ ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ กรมที่ดนิ ได้เขา้ รว่ มโครงการ
เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ านการคลงั เพอ่ื ผอ่ นคลายกฎ ระเบยี บ กบั กรมบญั ชกี ลาง โดยไดเ้ สนอ
ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานตามนัยข้อหารือระเบียบฯ  ดังกล่าว  เพื่อให้กรมบัญชีกลาง
หาแนวทางผ่อนคลายกฎ ระเบียบ และไดร้ บั แจง้ จากกรมบญั ชกี ลางวา่ ได้ดำ�เนินการหาแนวทาง
ในการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและ
การนำ�เงินส่งคลัง  พ.ศ. ๒๕๕๑  โดยได้เชิญผู้แทนสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดิน  สำ�นักงาน
ปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี  และหน่วยงานภายในกรมบัญชีกลาง  ประชุมหารือร่วมกันเมื่อวันท่ี
๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ ทกุ หนว่ ยงานท่ีเขา้ ร่วมประชุมมคี วามเหน็ ตรงกนั ว่า “สำ�นักงานการตรวจเงิน
แผ่นดินควรตรวจสอบเอกสารทางการเงินจากต้นฉบับ  เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมแปลงแก้ไข
เอกสารดงั กลา่ ว กรมทด่ี นิ จงึ ตอ้ งจดั เกบ็ เอกสารทางการเงนิ เพอ่ื รอใหส้ �ำ นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ
ตรวจสอบโดยถือปฏิบัตติ ามระเบียบการเบกิ จา่ ยเงินจากคลงั การเกบ็ รกั ษาเงนิ และนำ�เงินสง่ คลงั
พ.ศ. ๒๕๕๑ และเกบ็ รกั ษาเอกสารดงั กลา่ วตามระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยงานสารบรรณ

๑๒๑

พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม” กรณีนี้ กรมที่ดินจึงต้องเก็บเอกสารทางการเงินฉบับจริงไว้
เพ่ือรอการตรวจสอบจากสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินเช่นเดิม  ไม่สามารถทำ�ลายเอกสาร
ทางการเงินก่อนการตรวจสอบของสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดิน  เพ่ือเป็นการป้องกันการทุจริต
ซง่ึ รวมถึงการปลอมแปลงเอกสาร
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอื่ ) ศริ ิพงษ์ ห่านตระกลู
(นายศริ พิ งษ์ ห่านตระกลู )
อธบิ ดีกรมท่ีดิน
กองคลัง
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๗๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๙๕

๑๒๒

(ส�ำ เนา)

ดว่ นทสี่ ุด กระทรวงการคลงั
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๙ ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐


๑๖ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๘

เรอ่ื ง แกไ้ ขปรับปรงุ แบบหนงั สอื สัญญาการใช้เงินคืน (แบบ ชงค.) หนังสอื สญั ญาค้ําประกัน
(แบบ คปก.) แนบท้ายหนงั สือกระทรวงการคลัง ด่วนทีส่ ุด ที่ กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๒๒
ลงวันท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
เรียน อธิบดีกรมท่ีดนิ
อา้ งถึง หนังสอื กระทรวงการคลงั ด่วนทสี่ ุด ที่ กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๒๒ ลงวนั ท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
สิ่งทส่ี ่งมาด้วย ๑. หนังสอื สัญญาการใชเ้ งินคนื (แบบ ชงค.)
๒. หนงั สอื สญั ญาคํา้ ประกัน (แบบ คปก.)
๓. พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ (ฉบบั ที่ ๒๐)
พ.ศ. ๒๕๕๗

ตามหนังสือท่ีอ้างถึงกระทรวงการคลังได้กำ�หนดเร่ือง  วิธีปฏิบัติในการขอรับ
บ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญของขา้ ราชการหรอื ลกู จา้ งประจ�ำ ซง่ึ มกี รณหี รอื ตอ้ งหาวา่ กระท�ำ ผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง
หรอื มกี รณถี กู ฟอ้ งคดอี าญาหรอื ตอ้ งหาวา่ กระท�ำ ความผดิ อาญาโดยกรณหี รอื คดอี าญายงั ไมถ่ งึ ทส่ี ดุ
โดยก�ำ หนดใหก้ ารขอรบั บ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ ในกรณดี งั กลา่ วตอ้ งท�ำ ประกนั ในการขอรบั บ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ
ดว้ ยบคุ คลหรือทรัพย์สนิ ไวก้ ับสว่ นราชการเจ้าสังกดั ตามวิธปี ฏิบตั ทิ ก่ี ระทรวงการคลังกำ�หนด น้นั
โดยท่ีในปัจจุบันได้มีการแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดย
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  (ฉบับที่  ๒๐)  พ.ศ. ๒๕๕๗
ในส่วนของบทบัญญัติเก่ียวกับผู้ค้ําประกันและผู้จำ�นอง  โดยมีสาระสำ�คัญเพื่อคุ้มครองสิทธิ
ผู้คํ้าประกันและผู้จำ�นองให้ไม่ต้องรับผิดเสมือนเป็นลูกหนี้ชั้นต้น  ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อวิธีปฏิบัติในการขอรับบำ�เหน็จบำ�นาญ
ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนทีส่ ดุ ที่ กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๒๒ ลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
ท่ไี ดก้ ำ�หนดให้ผคู้ ํา้ ประกันตอ้ งรับผดิ อย่างเดียวกับลูกหนี้ร่วมหรอื ในฐานะเปน็ ลกู หนรี้ ว่ ม อย่างไร
ก็ดี  สำ�หรับสัญญาคํ้าประกันท่ีได้ทำ�ไว้แล้วตามหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าวไม่กระทบ
กระเทือน แต่อยา่ งใด เวน้ แตข่ อ้ ตกลงทกี่ �ำ หนดใหผ้ คู้ า้ํ ประกันตอ้ งรบั ผดิ อยา่ งลูกหนีร้ ว่ มนั้นเป็น
โมฆะ ท้งั น้ี ตามมาตรา ๑๘ แหง่ พระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์
(ฉบับท่ี ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗ และเพือ่ ให้สัญญาท่ใี ช้ในการขอรับบำ�เหนจ็ บ�ำ นาญของขา้ ราชการและ

๑๒๓

ลูกจ้างประจำ�ซึ่งมีกรณีหรือต้องหาว่ากระทำ�ผิดวินัย  หรือมีกรณีถูกฟ้องคดีอาญาหรือต้องหาว่า
กระทำ�ความผิดอาญา โดยกรณีหรอื คดีอาญายงั ไม่ถึงท่สี ุด สอดคลอ้ งกับบทบัญญตั ขิ องกฎหมาย
ที่แกไ้ ขเพิม่ เติมใหม่ กระทรวงการคลังจงึ แก้ไขปรับปรงุ หนังสือสญั ญาการใช้เงินคืน (แบบ ชงค.)
และหนังสอื สัญญาค้ําประกัน (แบบ คปก.) ทแ่ี นบทา้ ยหนังสอื กระทรวงการคลงั ดว่ นท่ีสดุ ท่ี กค
๐๔๐๖.๕/ว ๑๒๒ ลงวนั ท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ รายละเอยี ดปรากฏตามสิ่งทสี่ ่งมาด้วย ทัง้ นี้
หนังสอื สัญญาดังกล่าวให้ใช้ตัง้ แต่บัดน้ีเปน็ ต้นไป
อน่ึง  เม่ือมีกรณีที่จะต้องบังคับตามสัญญาการใช้เงินคืน  (แบบ  ชงค.)  หนังสือ
สัญญาค้าํ ประกัน (แบบ คปก.) ให้ส่วนราชการด�ำ เนนิ การตามขัน้ ตอนวิธีปฏิบตั ติ ามบทบัญญตั ิ
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยเครง่ ครัดดว้ ย
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชือ่ ) นริศ ชัยสตู ร
(นายนรศิ ชัยสตู ร)
รองปลดั กระทรวงการคลงั
หัวหนา้ กลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนสี้ นิ
ปฏิบตั ิราชการแทน ปลดั กระทรวงการคลัง

กรมบัญชกี ลาง
สำ�นกั กฎหมาย
โทร. ๐-๒๑๒๗-๗๒๖๔
โทรสาร ๐-๒๑๒๗-๗๒๖๗

๑๒๔

(แบบ ชงค.)

หนังสอื สญั ญาการใช้เงินคนื

เขยี นท่ี.........................................(๑)
วนั ท.่ี ..........เดือน............................พ.ศ. ..............

ข้าพเจา้ ..................................................................(๒) อายุ...................ปี ผใู้ ห้สญั ญา
อยบู่ า้ นเลขท่ี.......................ถนน..........................................ต�ำ บล/แขวง..........................................
อ�ำ เภอ/เขต...............................................จงั หวัด..............................................ก่อนออกจากราชการ
ด�ำ รงตำ�แหนง่ ......................................สำ�นกั /สว่ น/กอง..............................กรม................................
กระทรวง............................................................ผู้ยื่นเรอ่ื งราวขอรับ............................................(๓)
ไดท้ �ำ หนังสือสัญญาใหไ้ ว้กับ............................................(๔) ผูร้ ับสญั ญาดงั มีขอ้ ความต่อไปนี้
ขอ้ ๑ ตามทข่ี ้าพเจา้ ไดย้ ่ืนเรื่องขอรบั เงนิ ..........................................................(๓) และ
กรมบัญชีกลางไดส้ ่ังจา่ ยเงินบำ�เหน็จบ�ำ นาญใหแ้ ก่ข้าพเจา้ ตามหนังสอื ..........................................(๕)
ลงวนั ท่ี..........เดอื น.......................พ.ศ. ...........เป็นเงินบำ�เหนจ็ ปกติ.....................บาท............สตางค์
หรือเป็นเงินบำ�นาญหรอื บ�ำ เหน็จรายเดอื น เดือนละ.....................บาท.............สตางค์ และเมอ่ื ค�ำ นวณ
เงินบำ�นาญหรอื บำ�เหน็จรายเดอื นภายในระยะเวลา ๓ ปี เป็นเงนิ ............................บาท............สตางค์
ถ้าปรากฏในภายหลังวา่ ขา้ พเจ้าได้รับเงนิ ........................................(๓) ไปโดยไมม่ สี ทิ ธิ
ข้าพเจ้ายินยอมคืนเงินที่ได้รับไปโดยไม่มีสิทธิให้แก่ทางราชการภายใน  ๓๐  วันนับจากวันท่ีข้าพเจ้า
ได้รับแจง้ จากทางราชการ
ขอ้ ๒ หากข้าพเจ้าไม่คืนเงินให้แก่ทางราชการภายในกำ�หนดเวลาตามข้อ  ๑  ข้าพเจ้า
ยินยอมให้ทางราชการเรียกร้องเงินดังกล่าวคืนรวมทั้งค่าเสียหายต่างๆ  ท่ีเกิดข้ึนจากการดำ�เนินการ
เรยี กเงนิ ดังกล่าวคืนดว้ ย
ข้อ ๓ เพอ่ื เปน็ การประกันการปฏบิ ัติตามสญั ญาน้ี ขา้ พเจ้าได้ดำ�เนนิ การดังนี้ (๖)
๓.๑ ข้าพเจ้าได้นำ�ทรัพย์สินของข้าพเจ้ามาเป็นประกันการชำ�ระหนี้  ดังทรัพย์สิน
ท่รี ะบไุ วต้ อ่ ไปน้ี
(๑) ........................................................................................................
(๒) ........................................................................................................
(๓) ........................................................................................................
และข้าพเจา้ ขอรบั รองว่าจะไม่ก่อให้เกดิ การรอนสิทธิ หรอื ภาระผูกพนั แกท่ รัพยส์ นิ ดังกล่าว
๓.๒ ขา้ พเจ้าไดน้ ำ�..........................................................(๗) มาเป็นผคู้ ํ้าประกัน
การปฏิบตั ิตามสัญญาน้ี โดยไดท้ �ำ หนังสอื สัญญาคํา้ ประกันไวต้ ่อ...................................................(๔)
ตามหนังสอื สัญญาคํ้าประกันลงวนั ท่ี.............เดอื น..........................พ.ศ. .................
ขอ้ ๔ ถ้าขา้ พเจ้าได้รบั เงิน..............................................................(๓) ไปโดยไม่มสี ทิ ธิ
เม่ือ...............................................................(๔) ได้แจง้ ให้ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจา้ จะนำ�เงนิ ไปชำ�ระให้
ตามระยะเวลาในข้อ ๑ ถา้ ขา้ พเจ้าไมน่ �ำ เงินไปช�ำ ระใหต้ ามระยะเวลาในขอ้ ๑ ข้าพเจ้ายอมให้...............
..............................................(๔) ด�ำ เนินการบังคับช�ำ ระหน้จี ากทรพั ย์สินตามข้อ ๓.๑ ไดต้ ามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์

๑๒๕

ในการแจ้งเรอ่ื งใดๆ แกข่ ้าพเจา้ นนั้ หาก.....................................(๔) มีหนงั สือถึงขา้ พเจ้า
ตามทอ่ี ยูท่ ร่ี ะบุไวใ้ นสัญญาน้ี ใหถ้ อื วา่ ขา้ พเจ้าไดร้ ับทราบเร่ืองน้นั ๆ แล้ว
ข้อ ๕ เมอื่ .............................................................(๔) ไดร้ บั เงินจากการบงั คับชำ�ระหนี้
ตามขอ้ ๔ ไดเ้ งนิ จ�ำ นวนสทุ ธเิ ทา่ ใด ใหจ้ ดั สรรชำ�ระหนีข้ องข้าพเจ้าจนครบ ถ้ามเี งินเหลอื .......................
..........................................(๔) จะแจ้งใหข้ ้าพเจ้าทราบเพอื่ มารบั เงินดังกลา่ ว หากข้าพเจา้ ไม่มารับเงิน
ท่เี หลอื ภายในเวลา ๕ ปี นับแต่วนั ทแ่ี จ้งใหข้ ้าพเจา้ ทราบ ขา้ พเจา้ ยอมให้เงนิ ทีเ่ หลอื ตกเปน็ ของแผ่นดิน
ถ้า.............................................(๔) ไดร้ บั เงินจากการบงั คับชำ�ระหน้ีไม่ครบตามจ�ำ นวน
ที่ข้าพเจ้าได้รับ.......................................(๓) ไปโดยไมม่ สี ทิ ธิ ขา้ พเจา้ ยนิ ยอมช�ำ ระเงนิ จำ�นวนทีข่ าดอยู่
ให้ครบถ้วนทันทีเมอื่ ไดร้ ับแจง้ จาก....................................................(๔)
ขอ้ ๖ ....................................................(๔) โดย..................................................(๘)
ต�ำ แหน่ง......................................เปน็ ผแู้ ทนด�ำ เนินการท�ำ ประกันดว้ ยทรพั ยส์ นิ ตามท่ีระบไุ ว้ในข้อ ๓.๑
กบั ..............................................(๒) ถูกตอ้ งแล้ว โดยได้เกบ็ รกั ษาหลักฐานการประกนั ไว้ที่แผนก/ฝ่าย
..................................................ส�ำ นัก/ส่วน/กอง.....................................กรม..................................
กระทรวง...........................................จังหวัด...........................................
หากปรากฏวา่ ขา้ พเจ้าไดช้ ดใช้หนี้ตามสญั ญาถกู ตอ้ งครบถว้ นแลว้ หรือในกรณที ีข่ ้าพเจา้
ไมต่ อ้ งรบั ผิดชดใชเ้ งนิ ตามสญั ญานี้.......................................................(๔) ยินยอมใหข้ า้ พเจ้าไถถ่ อน
การประกนั หนีภ้ ายใน ๓๐ วัน นบั แตว่ ันท่ขี ้าพเจ้าย่ืนคำ�ขอ
สญั ญาฉบับน้ีทำ�ข้ึนสองฉบับข้อความตรงกัน เกบ็ รกั ษาไวท้ ี่.....................................(๔)
หนึ่งฉบับ  และเก็บไว้ท่ีข้าพเจ้าหน่ึงฉบับ  ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อความในหนังสือสัญญานี้ดีแล้ว
จึงได้ลงลายมอื ช่อื ให้ไว้เปน็ สำ�คญั ต่อหนา้ พยาน

ลงชอ่ื ...................................(๒) ผ้ใู หส้ ัญญา
(......................................)
ลงชอ่ื ........................................ สามี/ภริยาผู้ใหค้ วามยินยอม
(......................................)
ลงชอ่ื ...................................(๘) ผู้รบั สญั ญา
(......................................)
ลงชื่อ ........................................ พยาน
(......................................)
ลงชื่อ ........................................ พยาน
(......................................)

๑๒๖

หมายเหตุ
(๑) กระทรวง ทบวง กรม เจา้ สงั กัด หรือจงั หวดั
(๒) ชือ่ ผู้ท�ำ สัญญาพร้อมทั้งรายละเอียด
(๓) บำ�เหนจ็ ปกติ บ�ำ นาญ บ�ำ เหนจ็ รายเดอื น
(๔) ส่วนราชการเจา้ สงั กัด ซงึ่ มฐี านะเป็นนติ ิบคุ คล หรือจงั หวัด
(๕) หนงั สอื สั่งจา่ ย บำ�เหน็จ บ�ำ นาญ
(๖) กรณผี ขู้ อรบั บ�ำ เหน็จบำ�นาญนำ�ทรัพยส์ นิ มาเป็นประกันใหก้ รอกรายละเอยี ดตามข้อ ๓.๑
หากน�ำ บุคคลมาประกันใหก้ รอกรายละเอยี ดเฉพาะข้อ ๓.๒ โดยไม่ต้องกรอกรายละเอียด
ในข้อ ๔ ข้อ ๕ และข้อ ๖
(๗) ชื่อผ้คู ํ้าประกนั
(๘) หัวหน้าสว่ นราชการ หรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบอำ�นาจตามพระราชบญั ญตั ิระเบยี บ
บรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔



๑๒๗

(แบบ คปก.)

หนังสือสัญญาคํ้าประกัน

เขยี นท่.ี .............................................
วนั ท่.ี ..........เดอื น............................พ.ศ. ..............

ขา้ พเจ้า.....................................................(๑) อาย.ุ ...........ปี อาชีพ.............................
ตำ�แหนง่ ....................................สังกดั ......................................อตั ราเงินเดือน...........................บาท
อยบู่ า้ นเลขท.่ี .........................ถนน...........................................ต�ำ บล/แขวง......................................
อ�ำ เภอ/เขต..................................จงั หวดั .................................ขอท�ำ หนังสอื สัญญาค้าํ ประกันใหไ้ ว้ตอ่
............................................................(๒) เพอื่ เปน็ หลกั ฐานดังตอ่ ไปน้ี
ข้อ ๑ ตามท่ี..........................................................(๓) ได้ขอรบั .............................(๔)
โดยท�ำ หนงั สอื สญั ญาการใชเ้ งนิ คืน ฉบบั ลงวันท่.ี ..............เดือน................................พ.ศ. .................
ไว้ตอ่ .....................................................(๒) เพอ่ื ประกนั การขอรับเงิน...........................................(๔)
ข้าพเจา้ ยินยอมคา้ํ ประกันภายในวงเงิน.............................................บาท (๕)
ข้อ ๒ ขา้ พเจา้ ทราบขอ้ ผกู พันตามหนังสือสัญญาการใช้เงนิ คืนของ...........................(๓)
โดยตลอดแล้ว ข้าพเจา้ ยนิ ยอมผกู พนั ตนเปน็ ผคู้ ํ้าประกนั การปฏบิ ัติตามหนังสอื สัญญาการใช้เงินคืนนั้น
ขอ้ ๓ หาก.................................................(๓) ไม่ปฏิบัตติ ามสญั ญาไมว่ ่าข้อหนึ่งขอ้ ใด
และ.........................................(๒) ได้แจ้งความน้ันใหข้ า้ พเจ้าทราบ ขา้ พเจ้ายอมรบั ผดิ ชำ�ระหนร้ี วมทง้ั
คา่ เสียหายต่างๆ จากหนด้ี งั กล่าวแทน..................(๓) ภายในวงเงินคํา้ ประกันทนั ที โดยมิพกั ใชส้ ิทธขิ อง
ผูค้ ํ้าประกันตามมาตรา ๖๘๘, ๖๘๙, และ ๖๙๐ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์แตป่ ระการใด
ขอ้ ๔ ข้าพเจ้ายอมผูกพนั วา่ ข้าพเจา้ ไมห่ ลุดพน้ จากความรับผดิ ตามสัญญานี้จนกว่า
มลู หนต้ี ามสัญญาการใชเ้ งนิ คืนจะระงับสิน้ ไป และจะไมเ่ พิกถอนการคํา้ ประกนั ตลอดระยะเวลาท.่ี ........
.............................................(๓) ต้องรับผดิ ชอบอยตู่ ามหนงั สือสญั ญาการใช้เงินคืน
ข้อ ๕ หาก........................................................................(๓) ตกเปน็ บุคคลล้มละลาย
หรือตาย หรือกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือสาบสูญ หรือไปเสียจากถิ่นที่อยู่โดยมิได้แจ้งให้
..........................................(๒) ทราบ หรอื ด้วยเหตอุ น่ื ใด อันท�ำ ให้...............................................(๓)
ไม่สามารถช�ำ ระหนตี้ ามหนังสือสัญญาการใชเ้ งินคืนได้ ข้าพเจา้ ยนิ ยอมให้.....................................(๒)
เรยี กรอ้ งเงนิ ที.่ ..........................................(๓) คา้ งชำ�ระจากขา้ พเจ้าภายในวงเงนิ ทค่ี ้าํ ประกันได้
หนังสอื สัญญาคํา้ ประกันฉบบั นท้ี ำ�ไว้ ณ วันทรี่ ะบุขา้ งตน้ และข้าพเจา้ ได้อ่านรายละเอียด
เข้าใจดีแลว้ จึงไดล้ งลายมอื ช่อื ไว้เป็นสำ�คญั ตอ่ หนา้ พยาน

ลงชือ่ ........................................ ผู้ค้าํ ประกัน
(......................................)

ลงชือ่ ........................................ สามี/ภรยิ าผู้ให้ความยนิ ยอม
(......................................)

๑๒๘

ลงชอ่ื ........................................ พยาน
(......................................)
ลงชือ่ ........................................ พยาน
(......................................)
หมายเหตุ
(๑) ช่อื ผู้ค้าํ ประกนั
(๒) สว่ นราชการเจ้าสงั กัดซ่ึงมีฐานะเป็นนิตบิ คุ คล หรือจงั หวัด
(๓) ช่ือผู้ขอรับบ�ำ เหน็จ/บำ�นาญ
(๔) ประเภทของเงินท่ีขอรับ (บ�ำ เหน็จปกติ / บ�ำ นาญ / บ�ำ เหน็จรายเดือน)
(๕) จำ�นวนเงนิ ทค่ี ํา้ ประกันซ่ึงจะตอ้ งไมต่ ่าํ กว่าจำ�นวนเงินบำ�เหนจ็ หรอื จำ�นวนเงนิ บำ�นาญ
หรอื บำ�เหน็จรายเดอื น ถา้ เป็นจำ�นวนเงินบำ�นาญหรือบ�ำ เหน็จรายเดือนให้ค�ำ นวณภายใน
ระยะเวลา ๓ ปี





๑๒๙

(ส�ำ เนา) สำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

พระราชบญั ญัติ
แก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ (ฉบับท่ี ๒๐)

__พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๗__

ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗

เป็นปีท่ี ๖๙ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ใหป้ ระกาศวา่
โดยท่ีเปน็ การสมควรแกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ขิ น้ึ ไวโ้ ดยค�ำ แนะน�ำ และยนิ ยอม
ของสภานติ บิ ญั ญัติแหง่ ชาติ ดังตอ่ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า  “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ (ฉบบั ที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗”
มาตรา ๒๑ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกำ�หนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ
ในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๖๘๑ แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์
และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน
“มาตรา ๖๘๑ อนั คํ้าประกนั น้ันจะมีให้แตเ่ ฉพาะเพื่อหนอี้ นั สมบูรณ์
หนี้ในอนาคตหรือหน้ีมีเง่ือนไขจะประกันไว้เพ่ือเหตุการณ์ซ่ึงหน้ีนั้นอาจเป็นผลได้
จรงิ กป็ ระกันได้ แตต่ ้องระบุวตั ถุประสงค์ในการกอ่ หน้ีรายทีค่ า้ํ ประกัน ลักษณะของมลู หน้ี จำ�นวน
เงินสงู สุดที่คาํ้ ประกนั และระยะเวลาในการกอ่ หน้ีทจ่ี ะคํา้ ประกัน เวน้ แตเ่ ปน็ การคํ้าประกนั เพอื่
กิจการเนอ่ื งกนั ไปหลายคราวตามมาตรา ๖๙๙ จะไม่ระบรุ ะยะเวลาดงั กลา่ วก็ได้
สญั ญาคา้ํ ประกนั ตอ้ งระบุหน้หี รือสัญญาทีค่ าํ้ ประกนั ไว้โดยชดั แจ้ง และผ้คู ้ําประกัน
ย่อมรับผิดเฉพาะหน้ีหรือสญั ญาทีร่ ะบไุ ว้เท่าน้นั
หน้ีอันเกิดแต่สัญญาซึ่งไม่ผูกพันลูกหนี้เพราะทำ�ด้วยความสำ�คัญผิดหรือเพราะเป็น
ผู้ไร้ความสามารถนัน้ ก็อาจจะมปี ระกนั อย่างสมบรู ณไ์ ด้ ถา้ หากวา่ ผคู้ าํ้ ประกนั รู้เหตสุ ำ�คญั ผิดหรือ
ไร้ความสามารถน้ันในขณะที่เขา้ ท�ำ สญั ญาผกู พันตน”

๑ ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๓๑/ตอนท่ี ๗๗ ก/หน้า ๑๔/๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

๑๓๐

มาตรา ๔ ใหเ้ พิม่ ความต่อไปน้ีเปน็ มาตรา ๖๘๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และ
พาณชิ ย์
“มาตรา ๖๘๑/๑ ข้อตกลงใดทีก่ ำ�หนดให้ผ้คู าํ้ ประกันตอ้ งรับผิดอย่างเดยี วกบั ลกู หนี้
รว่ มหรือในฐานะเป็นลูกหนีร้ ว่ ม ข้อตกลงนน้ั เป็นโมฆะ”
มาตรา ๕ ให้เพิม่ ความตอ่ ไปนเ้ี ปน็ มาตรา ๖๘๕/๑ ของหมวด ๑ บทเบ็ดเสร็จทวั่ ไป
ของลกั ษณะ ๑๑ คาํ้ ประกัน ของบรรพ ๓ เอกเทศสญั ญา แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์
“มาตรา  ๖๘๕/๑  บรรดาข้อตกลงเกี่ยวกับการค้ําประกันท่ีแตกต่างไปจากมาตรา
๖๘๑ วรรคหนึง่ วรรคสอง และวรรคสาม มาตรา ๖๙๔ มาตรา ๖๙๘ และมาตรา ๖๙๙ เป็นโมฆะ”
มาตรา ๖ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๖๘๖ แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
และใหใ้ ช้ความต่อไปนแ้ี ทน
“มาตรา  ๖๘๖  เม่ือลูกหนี้ผิดนัด  ให้เจ้าหน้ีมีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ําประกัน
ภายในหกสิบวันนับแต่วันท่ีลูกหนี้ผิดนัด  และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดเจ้าหน้ีจะเรียกให้
ผู้ค้าํ ประกนั ชำ�ระหนกี้ อ่ นท่หี นังสอื บอกกลา่ วจะไปถึงผู้ค้ําประกันมิได้ แต่ไมต่ ดั สิทธิผูค้ ้ําประกนั ที่
จะช�ำ ระหนเี้ มอ่ื หนี้ถึงก�ำ หนดช�ำ ระ
ในกรณีท่ีเจ้าหนี้มิได้มีหนังสือบอกกล่าวภายในกำ�หนดเวลาตามวรรคหน่ึง
ใหผ้ คู้ า้ํ ประกนั หลดุ พน้ จากความรบั ผดิ ในดอกเบย้ี และคา่ สนิ ไหมทดแทน ตลอดจนคา่ ภาระตดิ พนั
อนั เป็นอุปกรณ์แหง่ หนีร้ ายนัน้ บรรดาทเี่ กดิ ข้ึนภายหลงั จากพน้ กำ�หนดเวลาตามวรรคหนงึ่
เม่ือเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ผู้ค้ําประกันชำ�ระหน้ีหรือผู้คํ้าประกันมีสิทธิชำ�ระหน้ีได้ตาม
วรรคหน่งึ ผ้คู าํ้ ประกนั อาจช�ำ ระหนี้ทง้ั หมดหรอื ใชส้ ิทธิช�ำ ระหน้ตี ามเง่อื นไขและวธิ กี ารในการช�ำ ระ
หน้ที ลี่ กู หน้ีมอี ย่กู บั เจา้ หนีก้ อ่ นการผดิ นดั ช�ำ ระหน้ี ทงั้ น้ี เฉพาะในส่วนทต่ี นต้องรับผดิ ก็ได้ และให้
นำ�ความในมาตรา ๗๐๑ วรรคสอง มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม
ในระหว่างที่ผู้ค้ําประกันชำ�ระหน้ีตามเง่ือนไขและวิธีการในการชำ�ระหน้ีของลูกหน้ี
ตามวรรคสาม เจา้ หน้ีจะเรยี กดอกเบี้ยเพิ่มขนึ้ เพราะเหตทุ ่ลี กู หน้ผี ิดนดั ในระหว่างนน้ั มไิ ด้
การชำ�ระหนี้ของผู้คํ้าประกันตามมาตรานี้  ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้คํ้าประกัน
ตามมาตรา ๖๙๓”
มาตรา ๗ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๖๙๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน
“มาตรา  ๖๙๑  ในกรณีที่เจ้าหนี้กระทำ�การใดๆ  อันมีผลเป็นการลดจำ�นวนหน้ีท่ีมี
การคํ้าประกัน รวมทั้งดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทน หรือค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้
รายน้ัน ถ้าลกู หนี้ได้ชำ�ระหน้ีตามที่ได้ลดแลว้ กด็ ี ลูกหน้ีชำ�ระหนี้ตามทีไ่ ดล้ ดดงั กลา่ วไม่ครบถว้ น
แตผ่ คู้ า้ํ ประกนั ไดช้ �ำ ระหนส้ี ว่ นทเ่ี หลอื นน้ั แลว้ กด็ ี ลกู หนไ้ี มช่ �ำ ระหนต้ี ามทไ่ี ดล้ ดดงั กลา่ วแตผ่ คู้ า้ํ ประกนั
ไดช้ �ำ ระหนตี้ ามทไ่ี ด้ลดน้นั แลว้ ก็ดี ทง้ั นี้ ไม่ว่าจะลว่ งเลยกำ�หนดเวลาชำ�ระหน้ีตามทีไ่ ดล้ ดดังกล่าว
แลว้ หรอื ไม่กต็ าม ให้ผู้คํา้ ประกนั เป็นอนั หลุดพน้ จากการคา้ํ ประกัน

๑๓๑

ขอ้ ตกลงใดทม่ี ผี ลเปน็ การเพม่ิ ภาระแกผ่ คู้ า้ํ ประกนั ใหม้ ากกวา่ ทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ้ นวรรคหนง่ึ
ขอ้ ตกลงนั้นเปน็ โมฆะ”
มาตรา ๘ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๗๐๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน
“มาตรา  ๗๐๐  ถ้าคํ้าประกันหนี้อันจะต้องชำ�ระ  ณ  เวลามีกำ�หนดแน่นอนและ
เจ้าหน้ียอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหน้ี  ผู้ค้ําประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด  เว้นแต่ผู้คํ้าประกัน
จะได้ตกลงดว้ ยในการผอ่ นเวลานั้น
ข้อตกลงท่ีผู้คํ้าประกันทำ�ไว้ล่วงหน้าก่อนเจ้าหนี้ผ่อนเวลาอันมีผลเป็นการยินยอมให้
เจา้ หนีผ้ อ่ นเวลา ข้อตกลงน้นั ใชบ้ งั คบั มิได้”
มาตรา ๙ ให้เพิม่ ความตอ่ ไปนเ้ี ป็นมาตรา ๗๑๔/๑ ของหมวด ๑ บทเบด็ เสรจ็ ทัว่ ไป
ของลักษณะ ๑๒ จ�ำ นอง ของบรรพ ๓ เอกเทศสัญญา แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“มาตรา ๗๑๔/๑ บรรดาข้อตกลงเกีย่ วกับการจำ�นองที่แตกตา่ งไปจากมาตรา ๗๒๘
มาตรา ๗๒๙ และมาตรา ๗๓๕ เป็นโมฆะ”
มาตรา ๑๐ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๗๒๗ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนี้แทน
“มาตรา ๗๒๗ ให้น�ำ บทบญั ญตั มิ าตรา ๖๙๑ มาตรา ๖๙๗ มาตรา ๗๐๐ และ
มาตรา  ๗๐๑  มาใช้บังคับกับกรณีที่บุคคลจำ�นองทรัพย์สินเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอ่ืนจะต้อง
ช�ำ ระดว้ ยโดยอนุโลม”
มาตรา ๑๑ ใหเ้ พิ่มความตอ่ ไปน้ีเป็นมาตรา ๗๒๗/๑ ของหมวด ๓ สิทธแิ ละหน้าท่ี
ของผ้รู ับจ�ำ นองและผ้จู �ำ นอง ของลกั ษณะ ๑๒ จ�ำ นอง ของบรรพ ๓ เอกเทศสัญญา แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“มาตรา ๗๒๗/๑ ไมว่ ่ากรณจี ะเปน็ ประการใด ผู้จำ�นองซึง่ จ�ำ นองทรัพยส์ ินของตนไว้
เพ่ือประกันหน้อี นั บคุ คลอนื่ จะต้องช�ำ ระ ไมต่ ้องรบั ผิดในหนนี้ ั้นเกนิ ราคาทรพั ย์สนิ ทจ่ี ำ�นองในเวลา
ทีบ่ งั คบั จ�ำ นองหรอื เอาทรพั ยจ์ �ำ นองหลดุ
ข้อตกลงใดอันมีผลให้ผู้จำ�นองรับผิดเกินท่ีบัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง  หรือให้ผู้จำ�นอง
รบั ผิดอยา่ งผู้คํา้ ประกนั ขอ้ ตกลงนัน้ เปน็ โมฆะ ทงั้ น้ี ไมว่ ่าข้อตกลงนั้นจะมีอยู่ในสัญญาจำ�นอง
หรอื ท�ำ เปน็ ข้อตกลงตา่ งหาก”
มาตรา ๑๒ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๗๒๘ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์
และให้ใชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน
“มาตรา  ๗๒๘  เม่ือจะบังคับจำ�นองนั้น  ผู้รับจำ�นองต้องมีหนังสือบอกกล่าวไปยัง
ลูกหน้ีก่อนว่าให้ชำ�ระหน้ีภายในเวลาอันสมควรซึ่งต้องไม่น้อยกว่าหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหน้ีได้
รบั ค�ำ บอกกลา่ วน้นั ถ้าและลกู หนล้ี ะเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำ�บอกกล่าว ผูร้ บั จำ�นองจะฟอ้ งคดตี ่อ
ศาลเพอ่ื ให้พพิ ากษาส่ังใหย้ ึดทรัพย์สนิ ซง่ึ จ�ำ นองและใหข้ ายทอดตลาดก็ได้

๑๓๒

ในกรณีตามวรรคหน่งึ ถ้าเป็นกรณีผ้จู ำ�นองซ่งึ จำ�นองทรัพย์สินของตนไว้เพอื่ ประกนั
หนี้อันบุคคลอ่ืนต้องชำ�ระ  ผู้รับจำ�นองต้องส่งหนังสือบอกกล่าวดังกล่าวให้ผู้จำ�นองทราบภายใน
สิบห้าวันนับแต่วันท่ีส่งหนังสือแจ้งให้ลูกหนี้ทราบ  ถ้าผู้รับจำ�นองมิได้ดำ�เนินการภายในกำ�หนด
เวลาสบิ หา้ วนั นั้น ให้ผู้จำ�นองเชน่ ว่าน้นั หลดุ พ้นจากความรบั ผิดในดอกเบี้ยและคา่ สินไหมทดแทน
ซึ่งลูกหน้ีค้างชำ�ระ  ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหน้ีรายนั้นบรรดาที่เกิดข้ึนนับแต่
วันทีพ่ ้นก�ำ หนดเวลาสิบห้าวันดงั กลา่ ว”
มาตรา ๑๓ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๗๒๙ แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์
และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแี้ ทน
“มาตรา ๗๒๙ ในการบงั คบั จำ�นองตามมาตรา ๗๒๘ ถา้ ไมม่ ีการจ�ำ นองรายอน่ื หรือ
บุริมสิทธิอื่นอันได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันน้ี  ผู้รับจำ�นองจะฟ้องคดีต่อศาลเพ่ือ
เรยี กเอาทรพั ยจ์ �ำ นองหลดุ ภายในบงั คบั แหง่ เงอ่ื นไขดงั จะกลา่ วตอ่ ไปนแ้ี ทนการขายทอดตลาดกไ็ ด้
(๑) ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบีย้ มาแลว้ เป็นเวลาถงึ ห้าปี และ
(๒) ผู้รับจำ�นองแสดงให้เป็นท่ีพอใจแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นน้อยกว่าจำ�นวน
เงินอันคา้ งช�ำ ระ”
มาตรา ๑๔ ใหเ้ พ่ิมความต่อไปนีเ้ ป็นมาตรา ๗๒๙/๑ แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และ
พาณิชย์
“มาตรา ๗๒๙/๑ เวลาใดๆ หลังจากทีห่ นถี้ งึ ก�ำ หนดช�ำ ระ ถา้ ไมม่ กี ารจ�ำ นองรายอื่น
หรือบุริมสิทธิอื่นอันได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันน้ี  ผู้จำ�นองมีสิทธิแจ้งเป็นหนังสือ
ไปยงั ผรู้ บั จ�ำ นองเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั จ�ำ นองด�ำ เนนิ การใหม้ กี ารขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ทจ่ี �ำ นองโดยไมต่ อ้ ง
ฟ้องเป็นคดีต่อศาล  โดยผู้รับจำ�นองต้องดำ�เนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำ�นองภายในเวลา
หนึ่งปีนบั แตว่ ันที่ได้รับหนงั สือแจง้ นนั้ ท้ังนี้ ให้ถอื วา่ หนงั สอื แจง้ ของผจู้ �ำ นองเป็นหนังสอื ยนิ ยอม
ให้ขายทอดตลาด
ในกรณีที่ผู้รับจำ�นองไม่ได้ดำ�เนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินท่ีจำ�นองภายในระยะ
เวลาท่ีกำ�หนดไว้ในวรรคหน่ึง  ให้ผู้จำ�นองพ้นจากความรับผิดในดอกเบ้ียและค่าสินไหมทดแทน
ซง่ึ ลกู หนค้ี า้ งช�ำ ระ ตลอดจนคา่ ภาระตดิ พนั อนั เปน็ อปุ กรณแ์ หง่ หนร้ี ายนน้ั บรรดาทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายหลงั
วนั ทพี่ น้ ก�ำ หนดเวลาดงั กล่าว
เมอ่ื ผรู้ บั จ�ำ นองขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ทจ่ี �ำ นองไดเ้ งนิ สทุ ธจิ �ำ นวนเทา่ ใด ผรู้ บั จ�ำ นอง
ต้องจัดสรรชำ�ระหนี้และอุปกรณ์ให้เสร็จสิ้นไป  ถ้ายังมีเงินเหลือก็ต้องส่งคืนให้แก่ผู้จำ�นอง  หรือ
แกบ่ ุคคลผู้ควรจะได้เงนิ นั้น แตถ่ ้าได้เงินนอ้ ยกวา่ จ�ำ นวนท่ีคา้ งชำ�ระ ให้เปน็ ไปตามท่กี �ำ หนดไว้ใน
มาตรา ๗๓๓ และในกรณีท่ีผูจ้ �ำ นองเปน็ บุคคลซึ่งจำ�นองทรพั ยส์ นิ เพ่อื ประกันหนีอ้ นั บุคคลอน่ื จะ
ต้องชำ�ระ ผ้จู ำ�นองยอ่ มรับผิดเพยี งเทา่ ท่ีมาตรา ๗๒๗/๑ กำ�หนดไว”้
มาตรา ๑๕ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๗๓๕ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
และให้ใช้ความต่อไปนีแ้ ทน

๑๓๓

“มาตรา  ๗๓๕  เมื่อผู้รับจำ�นองคนใดจะบังคับจำ�นองเอาแก่ผู้รับโอนทรัพย์สินซ่ึง
จำ�นอง ผรู้ บั จำ�นองตอ้ งมีจดหมายบอกกลา่ วแก่ผู้รบั โอนลว่ งหนา้ เปน็ ระยะเวลาไมน่ ้อยกวา่ หกสบิ
วันกอ่ น จึงจะบงั คบั จ�ำ นองได”้
มาตรา ๑๖ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๗๓๗ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
และให้ใชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน
“มาตรา ๗๓๗ ผรู้ บั โอนจะไถ่ถอนจ�ำ นองเมื่อใดก็ได้ แต่ถา้ ผรู้ ับจ�ำ นองได้บอกกลา่ ว
วา่ จะบงั คับจำ�นอง ผรู้ ับโอนตอ้ งไถถ่ อนจำ�นองภายในหกสบิ วนั นบั แต่วันรบั ค�ำ บอกกลา่ ว”
มาตรา ๑๗ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๗๔๔ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน
“มาตรา ๗๔๔ อนั จ�ำ นองยอ่ มระงบั สนิ้ ไป
(๑) เมอ่ื หนี้ทป่ี ระกนั ระงบั ส้ินไปดว้ ยเหตปุ ระการอ่นื ใดมใิ ชเ่ หตอุ ายุความ
(๒) เมอื่ ปลดจำ�นองให้แกผ่ ู้จ�ำ นองด้วยหนงั สอื เป็นส�ำ คัญ
(๓) เมอ่ื ผู้จ�ำ นองหลุดพน้
(๔) เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินซ่ึงจำ�นองตามคำ�ส่ังศาลอันเนื่องมาแต่การบังคับ
จ�ำ นองหรอื ถอนจำ�นอง หรือเมื่อมีการขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ตามมาตรา ๗๒๙/๑
(๕) เมอื่ เอาทรัพย์สนิ ซง่ึ จำ�นองน้นั หลดุ ”
มาตรา ๑๘ บทบญั ญตั ขิ องพระราชบญั ญตั นิ ไ้ี มก่ ระทบกระเทอื นถงึ สญั ญาทไ่ี ดท้ �ำ ไว้
ก่อนวันท่ีพระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ ังคบั เวน้ แตก่ รณที พ่ี ระราชบญั ญตั ินี้บัญญัติไว้เปน็ อย่างอื่น
มาตรา ๑๙ ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ  สิทธิและ
หน้าท่ีของเจ้าหนี้และผู้ค้ําประกัน  ให้เป็นไปตามมาตรา  ๖๘๖  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณชิ ย์ ซึ่งแก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั นิ ี้
มาตรา ๒๐ ในกรณีท่ีเจ้าหน้ีกระทำ�การใดๆ  นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
อันมีผลเปน็ การลดจำ�นวนหนีท้ ่ีมกี ารคํา้ ประกัน รวมทัง้ ดอกเบี้ย คา่ สนิ ไหมทดแทน หรอื ค่าภาระ
ติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหน้ีรายนั้น  ให้ผู้คํ้าประกันเป็นอันหลุดพ้นจากการคํ้าประกันตาม
เงอ่ื นไขทบี่ ัญญตั ิไว้ในมาตรา ๖๙๑ วรรคหนงึ่ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ซ่งึ แกไ้ ข
เพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั นิ ้ี
มาตรา ๒๑ บทบัญญัติตามมาตรา ๗๒๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี  ให้ใช้กับสัญญาจำ�นองที่ยังมีผลบังคับอยู่ในวันท่ี
พระราชบัญญตั ินใี้ ช้บงั คับด้วย
มาตรา ๒๒ บทบัญญตั ิตามมาตรา ๗๒๘ และมาตรา ๗๓๕ แห่งประมวลกฎหมาย
แพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี  ให้ใช้บังคับกับการบังคับจำ�นองที่ทำ�ข้ึน
นับแต่วนั ท่ีพระราชบัญญตั นิ ีใ้ ชบ้ ังคบั ดว้ ย

๑๓๔

มาตรา ๒๓ บทบญั ญัติตามมาตรา ๗๓๗ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี  ให้ใช้บังคับกับกรณีที่ผู้รับโอนต้องการไถ่ถอนจำ�นองเมื่อ
มีการบอกกลา่ วบงั คับจำ�นองตามมาตรา ๗๓๕ แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ซ่ึงแกไ้ ข
เพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญัตนิ ี้
มาตรา ๒๔ ให้รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงพาณิชยร์ กั ษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี

ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ ์ จันทร์โอชา
นายกรฐั มนตรี

______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบับนี้ คือ โดยทบ่ี ทบญั ญัตขิ องประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ท่ีใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิและให้ความ
เป็นธรรมแก่ผู้ค้ําประกันและผู้จำ�นองซึ่งมิใช่ลูกหนี้ชั้นต้น  แต่เป็นเพียงบุคคลภายนอกที่ยอม
ผูกพันตนต่อเจ้าหน้ีในการที่จะชำ�ระหนี้แทนลูกหนี้เท่านั้น  โดยข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติปรากฏว่า
เจ้าหนส้ี ว่ นใหญ่ ซงึ่ เป็นสถาบนั การเงินหรือผปู้ ระกอบอาชพี ให้กู้ยมื มกั จะอาศัยอ�ำ นาจต่อรองท่ี
สูงกว่าหรือความได้เปรียบในทางการเงินกำ�หนดข้อตกลงอันเป็นการยกเว้นสิทธิของผู้ค้ําประกัน
หรือผจู้ ำ�นองตามทก่ี ฎหมายบญั ญัตไิ ว้ หรอื ให้ค้ําประกัน หรือผูจ้ ำ�นองตอ้ งรับผิดเสมือนเป็นลูกหน้ี
ชั้นต้น  กรณีจึงส่งผลให้ผู้ค้ําประกัน  หรือผู้จำ�นองซึ่งเป็นประชาชนท่ัวไปไม่ได้รับความคุ้มครอง
ตามเจตนารมณข์ องกฎหมาย รวมทง้ั ต้องกลายเป็นผถู้ กู ฟอ้ งลม้ ละลายอีกเป็นจ�ำ นวนมาก ดงั นัน้
เพ่ือสร้างความเปน็ ธรรมให้แก่ผคู้ ํ้าประกนั และผจู้ �ำ นอง จงึ จำ�เป็นต้องตราพระราชบญั ญตั ินี้

๑๓๕

ด่วนทสี่ ดุ (ส�ำ เนา)
ท่ี กค ๐๔๒๐.๗ / ว ๖๘
กรมบญั ชีกลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๒๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘

เรอ่ื ง การย่ืนขอรบั บ�ำ นาญเพิม่ ของผู้รับบำ�นาญสมาชกิ กบข. ที่ประสงค์ UNDO
เรยี น อธบิ ดีกรมท่ีดิน
อ้างถึง ๑. หนังสอื กระทรวงการคลัง ดว่ นท่ีสดุ ที่ กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๑๔ ลงวันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน
๒๕๕๗
๒. หนงั สอื กระทรวงการคลัง ดว่ นที่สดุ ที่ กค ๐๔๒๐.๙/ว ๕๓ ลงวนั ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๒

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๑.  ได้กำ�หนดหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความประสงค์
กลับไปใช้สิทธิในบำ�เหน็จบำ�นาญตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔
สำ�หรับข้าราชการและหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความประสงค์ขอใช้สิทธิรับบำ�นาญตาม
พระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ และการรบั เงนิ คนื และการจา่ ยเงนิ สว่ นเพม่ิ
สำ�หรับผู้รับบำ�นาญและทหารกองหนุนมีเบ้ียหวัด  เพ่ือให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เก่ียวข้อง
ถอื ปฏบิ ัติ ความละเอียดแจง้ แล้ว น้นั
เนือ่ งจากปรากฏข้อเท็จจริงวา่ มีผ้รู บั บำ�นาญบางรายไดร้ บั การเลื่อนขน้ั เงินเดือน
ย้อนหลัง  หรือมีเอกสารรับรองเวลาราชการเพ่ิมขึ้นจากเดิม  โดยข้อมูลเพ่ิมเติมดังกล่าวนอกจาก
จะมีผลทำ�ให้ผู้รับบำ�นาญมีสิทธิได้รับบำ�นาญและ/หรือเวลาราชการเพิ่มมากข้ึนแล้ว  ยังมีผลต่อ
การหกั กลบลบกันเพือ่ คำ�นวณบำ�นาญตามพระราชบัญญตั กิ ารกลับไปใช้สิทธใิ นบำ�เหน็จบำ�นาญ
ตามพระราชบัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  พ.ศ.๒๕๕๗  อีกด้วย  ดังนั้น
กรมบัญชีกลางจึงเห็นควรกำ�หนดแนวทางปฏิบัติกรณีผู้รับบำ�นาญ  กบข.  ท่ีประสงค์จะย่ืนเร่ือง
ขอรบั บำ�นาญเพ่มิ เตมิ กอ่ นใชส้ ทิ ธิ UNDO ดังนี้
๑. ผรู้ บั บ�ำ นาญ กบข.
๑.๑ กรณีท่ียังไม่ได้ยื่นแบบ  บ. ๑  ให้ติดต่อส่วนราชการผู้ขอ  (ส่วนราชการ
ทีย่ ืน่ เร่ืองขอรบั บำ�นาญคร้งั แรก) เพอื่ ย่ืนเร่อื งขอรับบ�ำ นาญเพ่ิม
๑.๒ กรณีทยี่ น่ื แบบ บ.๑ ท่ีส่วนราชการผเู้ บิกบ�ำ นาญแล้ว ใหส้ ง่ คืนแบบ บ.๒
หรอื บ.๓ (เฉพาะรายทย่ี ังไมไ่ ดช้ �ำ ระเงินคนื แกท่ างราชการ) พร้อมท�ำ หนงั สอื แจง้ ความประสงค์
จะขอย่นื เรือ่ งรับบำ�นาญ กบข. เพิม่ ตอ่ ส่วนราชการผู้เบกิ บ�ำ นาญเพ่อื ใหล้ บข้อมลู แบบ บ.๑ และ
ยกเลกิ แบบ บ.๒ หรือ บ.๓ ต่อไป

๑๓๖

กรณที ี่ ๑.๑ และ ๑.๒ ให้ผรู้ บั บ�ำ นาญ กบข. ดำ�เนินการใหเ้ สร็จสิน้ ภายใน
วันท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๘ หากพ้นระยะเวลาดังกลา่ ว ใหย้ ่ืนเรื่องขอรับบ�ำ นาญเพิม่ ได้ ตัง้ แตว่ ันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เปน็ ตน้ ไป
๑.๓ กรณีผรู้ ับบำ�นาญทีย่ นื่ แบบ บ. ๑ และได้รบั แบบ บ. ๓ โดยไดช้ �ำ ระเงิน
คนื แกท่ างราชการบางส่วนหรือทั้งหมดแลว้ ใหย้ น่ื เรือ่ งขอรบั บำ�นาญเพ่ิมได้ ตงั้ แตว่ ันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป
๒. ส่วนราชการผู้เบิกบำ�นาญ  เมื่อได้รับหนังสือแจ้งความประสงค์พร้อมแบบ
บ. ๒ หรือ บ. ๓ (ตามขอ้ ๑.๒) จากผรู้ บั บำ�นาญแลว้
๒.๑ ให้เร่งดำ�เนินการลบข้อมูลแบบ  บ. ๑  ออกจากระบบ  และยกเลิก
แบบ บ. ๒ หรอื บ. ๓ ต่อไป
๒.๒ หากสง่ ขอ้ มลู แบบ บ. ๑ ไปยังกรมบัญชกี ลางหรอื ส�ำ นักงานคลงั จงั หวัด
เรยี บรอ้ ยแลว้ ใหท้ �ำ หนงั สอื แจง้ สาเหตไุ ปยงั กรมบญั ชกี ลางหรอื ส�ำ นกั งานคลงั จงั หวดั เพอ่ื พจิ ารณา
ตกี ลบั เร่ืองดังกลา่ วให้โดยเรว็ ตอ่ ไป
๓. ส่วนราชการผ้ขู อ เมือ่ ได้รับเรือ่ งขอรบั บำ�นาญเพมิ่ จากผู้รับบ�ำ นาญ กบข. แล้ว
ให้เร่งดำ�เนินการบันทึกข้อมูลและส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลางหรือสำ�นักงานคลังเขตให้เสร็จสิ้น
ภายในวนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๘ หากพ้นระยะเวลาดงั กลา่ วแล้ว ใหด้ ำ�เนนิ การได้ ตัง้ แต่ วนั ที่ ๑
ตลุ าคม ๒๕๕๘ เปน็ ตน้ ไป
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจ้งให้ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งทราบและถือปฏิบัตติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) อรนชุ ไวนุสิทธิ์
(นางสาวอรนชุ ไวนสุ ิทธิ์)
รองอธิบดี ปฏิบตั ริ าชการแทน
อธิบดีกรมบัญชกี ลาง

ส�ำ นักบรหิ ารการรับ–จ่ายเงนิ ภาครฐั
ส่วนบรหิ ารการจา่ ยเงนิ ๒
โทรศพั ท์ ๐ ๒๑๒๗ ๗๓๔๐
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๓๕๐

๑๓๗

ด่วน (ส�ำ เนา)
ที่ กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๗๗
กรมบัญชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๓ มีนาคม ๒๕๕๘

เร่อื ง การบันทกึ รายการบัญชใี นการใช้เช็คเพ่ือส่ังจา่ ยเงินจากบัญชเี งินฝากธนาคารประเภท
ออมทรัพย์
เรยี น อธิบดกี รมท่ดี ิน
อา้ งถงึ หนงั สอื กรมบญั ชีกลาง ที่ กค ๐๔๒๓.๓/ว ๖๓ ลงวนั ท่ี ๒๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๔

ด้วยปัจจุบันส่วนราชการหลายแห่งได้เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารและขอใช้
บริการโอนเงินระหว่างบัญชีกับธนาคาร  โดยให้ธนาคารโอนเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์
เข้าเงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวันเป็นการอัตโนมัติ  ตามจำ�นวนเงินที่ส่วนราชการส่ังจ่าย
ในเช็คให้กบั เจา้ หนห้ี รอื ผูม้ ีสทิ ธิ
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว  เห็นว่า  เนื่องจากมีส่วนราชการบางแห่งยังบันทึก
รายการบัญชีคลาดเคล่ือนที่เกิดจากการให้ธนาคารโอนเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์เข้า
เงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวันเป็นการอัตโนมัติ  โดยใช้เช็คเพ่ือสั่งจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้
หรอื ผู้มีสทิ ธแิ ละให้ตัดเงินจากบัญชเี งินฝากธนาคารประเภทออมทรพั ย์ จงึ ให้บันทึกรายการบญั ชี
เปน็ ดังนี้
๑. บันทึกล้างรายการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ท่ีสถาบันการเงิน  รหัสบัญชีแยก
ประเภท ๑๑๐๑๐๓๐๑๐๒ (ส�ำ หรบั สว่ นราชการทใี่ ชบ้ ัญชีย่อย Subbook) หรอื บญั ชเี งินฝากไม่มี
รายตวั รหสั บัญชีแยกประเภท ๑๑๐๑๐๓๐๑๙๙ (สำ�หรบั ส่วนราชการทีไ่ มใ่ ชบ้ ญั ชีย่อย) ในวันที่
มกี ารจา่ ยเช็คใหก้ บั เจ้าหนห้ี รือผูม้ ีสิทธิ โดยไม่ต้องรอใหธ้ นาคารมกี ารตดั เงนิ จากเงินฝากธนาคาร
ประเภทออมทรัพย์
๒. ให้จัดทำ�งบกระทบยอดเงินฝากธนาคารทุกส้ินเดือน  เพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง
ของบญั ชีเงินฝากธนาคารดังกลา่ วตามขอ้ ๑ โดยถอื ปฏบิ ตั ิตามหนังสอื ทอ่ี ้างถึง
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ เจา้ หนา้ ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ งทราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป
อน่งึ ท่านสามารถเปิดดูหนงั สือนไ้ี ดท้ ี่เว็บไซต์ของกรมบัญชกี ลาง www.cgd.go.th

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชือ่ ) ณพงศ์ ศิริขนั ตยกลุ
(นายณพงศ ์ ศริ ขิ นั ตยกุล)
รองอธิบดี รกั ษาการในตำ�แหนง่
ทป่ี รึกษาด้านพฒั นาระบบบัญชี ปฏบิ ัตริ าชการแทน
อธิบดกี รมบัญชีกลาง

สำ�นักมาตรฐานด้านการบญั ชภี าครัฐ กลมุ่ งานระบบบัญชภี าครัฐ
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๐๗ – ๑๐ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๑๑

๑๓๘

(สำ�เนา)

ดว่ นท่สี ุด กระทรวงการคลัง
ที่ กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๖ ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐


๑๖ มนี าคม ๒๕๕๘

เรือ่ ง การเบิกค่าใช้จ่ายตามมติคณะรฐั มนตรี เม่อื วันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๕๘
เรียน อธบิ ดกี รมท่ดี นิ

ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่  ๓  มีนาคม  ๒๕๕๘  แจ้งตามหนังสือสำ�นัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดว่ นทส่ี ุด ท่ี นร ๐๕๐๖/ว ๕๔ ลงวนั ที่ ๕ มนี าคม ๒๕๕๘ ใหห้ ัวหนา้
ส่วนราชการ  ผู้บริหารของส่วนราชการท้ังส่วนกลาง  ภูมิภาคและส่วนท้องถ่ิน  กรรมการและ
ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ  นิติบุคคลท่ีรัฐถือหุ้น  งดเว้นการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศในช่วง
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ยกเว้นกรณีเข้ารว่ มประชุม อบรม สัมมนาตามพันธกรณี ขอ้ ตกลง
ระหว่างประเทศหรือหลกั สูตรการศึกษาท่ไี ดก้ ำ�หนดไวแ้ ลว้ โดยหากมีความจ�ำ เปน็ ใหข้ ออนุมัตติ อ่
รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นรายกรณี  และให้รวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีทราบเป็นรายเดือน  และ
มอบหมายให้กระทรวงการคลังดำ�เนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบให้ข้าราชการผู้ดำ�รงตำ�แหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง (อธบิ ดีหรอื เทยี บเทา่ ผู้ว่าราชการจงั หวดั ผูต้ รวจราชการ เอกอัครราชทูต
รองปลัดกระทรวง)  ผู้ดำ�รงตำ�แหน่งประเภทวิชาการ  ระดับทรงคุณวุฒิ  เดินทางด้วยเครื่องบิน
ภายในประเทศในชน้ั ประหยดั และเดนิ ทางตา่ งประเทศในชน้ั ธรุ กจิ และใหผ้ ดู้ �ำ รงต�ำ แหนง่ ประเภท
บริหารระดับตน้ ประเภทอำ�นวยการ ระดบั สงู ประเภทวิชาการ ระดับเชีย่ วชาญ เดินทางด้วย
เครื่องบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในชั้นประหยัด ทั้งนี้ ในระหว่างที่กระทรวงการคลัง
ด�ำ เนนิ การปรบั ปรงุ ระเบยี บฯ ใหข้ า้ ราชการถอื ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางดงั กลา่ ว ตง้ั แตว่ นั ทค่ี ณะรฐั มนตรี
มีมติ
กระทรวงการคลงั พจิ ารณาแลว้ ขอเรยี นวา่ จากมตคิ ณะรฐั มนตรขี า้ งตน้ ปรากฏวา่
มีส่วนราชการต่างๆ  ขอหารือเก่ียวกับรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึนจากการยกเลิกการเดินทางไป
ศกึ ษาดงู าน ประชมุ สัมมนา อบรม คา่ ใชจ้ ่ายในการคนื บัตรโดยสารเครอ่ื งบนิ ซ่งึ เป็นรายการ
ค่าใช้จ่ายท่ีไม่สามารถเบิกจ่ายได้  ดังนั้น  เพื่อเป็นการลดข้ันตอนการปฏิบัติงานของส่วนราชการ
ในการขอทำ�ความตกลงกับกระทรวงการคลัง  จึงกำ�หนดรายการค่าใช้จ่ายท่ีหัวหน้าส่วนราชการ
สามารถเบิกจา่ ยได้เทา่ ทีจ่ ่ายจริงดังนี้
๑. ค่าธรรมเนยี มในการคนื บัตรโดยสารเคร่อื งบนิ
๒. ค่าธรรมเนียมยกเลิกห้องพัก  ห้องประชุม  สัมมนา  อบรม  หรือค่าปรับ
ในการยกเลิกห้องพัก หอ้ งประชมุ สมั มนา อบรม หรอื ค่าห้องพักในกรณที ี่ไมส่ ามารถยกเลิกได้

๑๓๙

๓. ค่าธรรมเนยี มหนังสอื เดินทาง และหรือคา่ ธรรมเนยี มการตรวจลงตรา (Visa)
๔. ค่าลงทะเบียนในการฝึกอบรม  หรือค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายทำ�นอง
เดยี วกนั ท่ีเรียกชื่ออยา่ งอ่ืน ท้งั น้ี ตั้งแต่วันทค่ี ณะรัฐมนตรมี มี ติเป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องเพ่ือทราบและ
ถือปฏบิ ัติต่อไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอื่ ) นริศ ชัยสตู ร
(นายนริศ ชัยสูตร)
รองปลดั กระทรวงการคลัง
หัวหน้ากล่มุ ภารกจิ ดา้ นรายจา่ ยและหน้สี นิ
ปฏบิ ัตริ าชการแทน ปลัดกระทรวงการคลงั

กรมบัญชีกลาง
สำ�นักกฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๑
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๐


๑๔๐

(ส�ำ เนา)

ที่ กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๑๕ กรมบญั ชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๒๓ มนี าคม ๒๕๕๘

เรือ่ ง ระเบียบกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยการเบกิ จ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชวั่ คราวของขา้ ราชการ
และลูกจ้างประจ�ำ ของสว่ นราชการ (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘
เรยี น อธบิ ดกี รมที่ดนิ

ด้วยกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้กำ�หนดระเบียบกระทรวงการคลัง
วา่ ดว้ ยการเบิกจ่ายเงนิ เพม่ิ การครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจา้ งประจ�ำ ของส่วนราชการ
(ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึง่ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เลม่ ๑๓๒
ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง วันท่ี ๒๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘ โดยมีผลบังคบั ใช้ตัง้ แตว่ นั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๗
กรมบัญชีกลางเห็นสมควรแจ้งเวียนให้ส่วนราชการได้ทราบและถือปฏิบัติต่อไป
โดยไดน้ ำ�ลงเว็บไซต์ www.cgd.go.th ในระบบสารสนเทศกฎหมาย เรียบร้อยแลว้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) อรนชุ ไวนุสิทธ์ิ
(นางสาวอรนุช ไวนสุ ิทธ)์ิ
รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน
อธบิ ดกี รมบญั ชกี ลาง

ส�ำ นักกฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๑
www.cgd.go.th

๑๔๑

(ส�ำ เนา)

ระเบียบกระทรวงการคลงั
ว่าด้วยการเบิกจา่ ยเงินเพ่มิ การครองชพี ช่ัวคราว
ของข้าราชการและลูกจา้ งประจำ�ของส่วนราชการ (ฉบับท่ี ๖)

__พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๘__

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่าย
เงนิ เพ่มิ การครองชีพช่วั คราวของขา้ ราชการและลูกจา้ งประจ�ำ ของสว่ นราชการ พ.ศ. ๒๕๔๘ และ
ท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ เพื่อให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจ�ำ และลูกจา้ งช่วั คราว ทีบ่ รรจ ุ หรอื แตง่ ต้ังให้ด�ำ รง
ตำ�แหน่งที่กำ�หนด  คุณสมบัติเฉพาะสำ�หรับผู้สำ�เร็จการศึกษาต่ํากว่าปริญญาตรี  และทหาร
กองประจ�ำ การ ทม่ี ีรายได้นอ้ ย ไดร้ ับเงินเพม่ิ การครองชีพช่ัวคราวเพิ่มขึ้น เพอ่ื ใหบ้ ุคลากรภาครฐั
ดังกล่าวมีรายได้เพยี งพอต่อการด�ำ รงชีพและสอดคลอ้ งกับสภาวะเศรษฐกิจทปี่ รบั สูงข้นึ
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา ๒๑ (๒) แห่งพระราชบญั ญัตวิ ธิ กี ารงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๐๒  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงออก
ระเบยี บไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า  “ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพ่ิม
การครองชีพช่ัวคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของสว่ นราชการ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒ ระเบียบน้ใี หใ้ ช้บังคบั ตงั้ แต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๖/๒ ของระเบยี บกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่าย
เงินเพ่ิมการครองชีพช่ัวคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพ่ิมการครองชีพช่ัวคราว
ของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  (ฉบับท่ี  ๕)  พ.ศ. ๒๕๕๕  และให้ใช้ความ
ต่อไปนีแ้ ทน
“ขอ้ ๖/๒ ในกรณีท่ตี ำ�แหน่งของข้าราชการและลูกจา้ งประจำ�ที่คณะกรรมการบรหิ าร
งานบุคคลกลางของขา้ ราชการแต่ละประเภทก�ำ หนด หรือทีก่ ระทรวงการคลังกำ�หนด ได้ก�ำ หนด
ใหค้ ณุ สมบตั เิ ฉพาะส�ำ หรบั ต�ำ แหนง่ นน้ั ตอ้ งใชว้ ฒุ กิ ารศกึ ษาระดบั ตา่ํ กวา่ ปรญิ ญาตร ี ใหข้ า้ ราชการ
และลกู จา้ งประจ�ำ ซง่ึ บรรจหุ รอื แตง่ ตง้ั ใหด้ �ำ รงต�ำ แหนง่ ดงั กลา่ วทม่ี เี งนิ ดอื นหรอื คา่ จา้ งไมถ่ งึ เดอื นละ
หนง่ึ หมน่ื สามพนั สองรอ้ ยแปดสบิ หา้ บาท ใหไ้ ดร้ บั เงนิ เพม่ิ การครองชพี ชว่ั คราวเดอื นละสองพนั บาท
แต่เม่ือรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้ว  ต้องไม่เกินเดือนละเดือนละหนึ่งหมื่นสามพันสองร้อย
แปดสิบห้าบาท
กรณีจำ�นวนเงินที่ได้รับตามวรรคหนึ่งรวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละหนึ่งหม่ืนบาท
ให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำ�นั้นได้รับเงินเพ่ิมการครองชีพชั่วคราวเพ่ิมข้ึนจากเงินเดือนหรือ
ค่าจา้ งอีกจนถงึ เดอื นละหนงึ่ หม่ืนบาท”

๑๔๒

ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖/๓ ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่าย
เงินเพ่ิมการครองชีพช่ัวคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพช่ัวคราว
ของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  (ฉบับที่  ๕)  พ.ศ. ๒๕๕๕  และให้ใช้ความ
ต่อไปนี้แทน
“ขอ้ ๖/๓ ในกรณที ต่ี �ำ แหนง่ ของลกู จา้ งชว่ั คราวทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารงานบคุ คลกลาง
ของขา้ ราชการแตล่ ะประเภทก�ำ หนด หรอื ทก่ี ระทรวงการคลงั ก�ำ หนด ไดก้ �ำ หนดใหค้ ณุ สมบตั เิ ฉพาะ
สำ�หรับตำ�แหน่งน้ันต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ํากว่าปริญญาตรี  ให้ลูกจ้างชั่วคราวซึ่งบรรจุหรือ
แตง่ ตงั้ ให้ด�ำ รงตำ�แหนง่ ดงั กล่าวที่มคี ่าจา้ งไมถ่ งึ เดอื นละหน่ึงหมน่ื บาท ได้รบั เงินเพิ่มการครองชพี
ชัว่ คราวเพ่ิมขน้ึ จากคา่ จ้างอีกจนถึงเดอื นละหนง่ึ หมนื่ บาท”
ขอ้ ๕ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๗/๒ ของระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการเบิกจ่าย
เงินเพิ่มการครองชีพช่ัวคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพ่ิมการครองชีพช่ัวคราว
ของข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ของส่วนราชการ  (ฉบับที่  ๕)  พ.ศ. ๒๕๕๕  และให้ใช้ความ
ต่อไปน้แี ทน
“ข้อ  ๗/๒  ทหารกองประจำ�การซ่ึงได้รับเงินเดือนในระดับ  พ.๑  กรณีที่เงินเดือน
รวมกบั เบีย้ เลยี้ งประจ�ำ ตามขอ้ บงั คบั กระทรวงกลาโหมวา่ ดว้ ยการนั้นแลว้ มีจ�ำ นวนไมถ่ งึ เดือนละ
หนึ่งหมื่นบาท  ให้ได้รับเงินเพ่ิมการครองชีพช่ัวคราวเพิ่มขึ้นตามอัตราที่กระทรวงกลาโหมกำ�หนด
ซึ่งเม่ือรวมกับเงินเดือนและเบ้ียเลี้ยงประจำ�ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมดังกล่าวแล้วต้อง
ไมเ่ กนิ เดือนละหน่ึงหมืน่ บาท
ใหน้ �ำ ความในข้อ ๘ ข้อ ๙ และขอ้ ๑๒ มาใช้บังคับกบั การจ่ายเงนิ เพม่ิ การครองชีพ
ชว่ั คราวใหแ้ กท่ หารกองประจ�ำ การดว้ ยโดยอนโุ ลม”
ประกาศ ณ วนั ท่ ี ๑๗ กมุ ภาพนั ธ ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
สมหมาย ภาษี
รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลัง

๑๔๓

(ส�ำ เนา)

ด่วนทีส่ ุด กรมบัญชีกลาง
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๒๗ ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐


๓๐ มนี าคม ๒๕๕๘

เรอ่ื ง พระราชกฤษฎกี าเงินชว่ ยคา่ ครองชีพผูร้ บั เบ้ียหวัดบ�ำ นาญ (ฉบบั ที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๕๘
เรยี น อธบิ ดีกรมท่ีดนิ
สงิ่ ทส่ี ่งมาด้วย พระราชกฤษฎีกาเงินชว่ ยคา่ ครองชพี ผ้รู ับเบ้ยี หวดั บำ�นาญ (ฉบับท่ี ๑๕) พ.ศ.๒๕๕๘

ด้วยพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำ�นาญ  (ฉบับที่  ๑๕)
พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๒๑ ก เม่อื วันที่ ๒๖ มนี าคม
๒๕๕๘ โดยพระราชกฤษฎกี าดงั กล่าวก�ำ หนดใหป้ รับเพิ่มเงนิ ชว่ ยคา่ ครองชีพผรู้ บั เบี้ยหวัดบำ�นาญ
(ช.ค.บ.) ใหผ้ ไู้ ดร้ บั หรอื มสี ทิ ธไิ ดร้ บั เบย้ี หวดั ตามขอ้ บงั คบั กระทรวงกลาโหม ผไู้ ดร้ บั หรอื มสี ทิ ธไิ ดร้ บั
บำ�นาญปกติ  บำ�นาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ  บำ�นาญพิเศษหรือบำ�นาญตกทอดในฐานะ
ทายาทหรือผู้อุปการะหรือผู้อยู่ในอุปการะตามกฎหมายว่าด้วยบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ
ให้มีสิทธิได้รับ  ช.ค.บ.  เพ่ิมขึ้นอีกในอัตราเดือนละร้อยละ  ๔  ของจำ�นวนเบี้ยหวัด  หรือบำ�นาญ
และ ช.ค.บ. ทไ่ี ดร้ บั หรอื มสี ทิ ธไิ ดร้ บั ทง้ั น้ี ใหม้ ผี ลใชบ้ งั คบั ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๗ เปน็ ตน้ ไป
รายละเอยี ดปรากฏตามสิ่งทส่ี ่งมาดว้ ย
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) อรนชุ ไวนุสทิ ธ์ิ
(นางสาวอรนุช ไวนสุ ทิ ธิ์)
รองอธิบดี ปฏบิ ตั ิราชการแทน
อธบิ ดีกรมบญั ชกี ลาง

สำ�นักกฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๔
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๗

๑๔๔

(สำ�เนา)
พระราชกฤษฎีกา
เงินช่วยค่าครองชีพผรู้ ับเบย้ี หวดั บำ�นาญ (ฉบับท่ี ๑๕)
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๘____
ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
เปน็ ปีท่ี ๗๐ ในรัชกาลปัจจบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ใหป้ ระกาศวา่
โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับ
เบี้ยหวดั บ�ำ นาญ
อาศยั อำ�นาจตามความในมาตรา ๒๒ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (ฉบับ
ชัว่ คราว) พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญตั ิการกำ�หนดหลักเกณฑเ์ กย่ี วกับ
การจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย  พ.ศ. ๒๕๑๘  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ตราพระราชกฤษฎกี าขึ้นไว้ ดังตอ่ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกว่า  “พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับ
เบีย้ หวัดบ�ำ นาญ (ฉบับท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๕๘”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเป็นตน้ ไป
มาตรา ๓ ให้เพ่ิมความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๔ เตรส แหง่ พระราชกฤษฎีกาเงนิ ช่วย
คา่ ครองชพี ผู้รบั เบ้ียหวดั บำ�นาญ พ.ศ. ๒๕๒๑
“มาตรา ๔ เตรส  ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม
ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับบำ�นาญปกติ  บำ�นาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ  บำ�นาญพิเศษหรือ
บำ�นาญตกทอดในฐานะทายาท หรอื ผูอ้ ุปการะหรือผู้อยู่ในอุปการะตามกฎหมายวา่ ด้วยบ�ำ เหนจ็
บำ�นาญข้าราชการอยูแ่ ลว้ ในวันที่พระราชกฤษฎกี านี้ใชบ้ งั คบั ให้ได้รับ ช.ค.บ. ในอตั ราดังต่อไปน้ี
ทง้ั น้ี ต้งั แตว่ ันท่ี ๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เปน็ ตน้ ไป
(๑) ผู้ท่ีได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบ้ียหวัดหรือบำ�นาญและ  ช.ค.บ.  อยู่แล้ว  ให้ได้รับ
ช.ค.บ.  เพ่ิมขึ้นอีกในอัตราเดือนละร้อยละส่ีของจำ�นวนเบี้ยหวัดหรือบำ�นาญและ  ช.ค.บ.  ท่ีได้รับ
หรือมีสทิ ธไิ ดร้ ับ

๑๔๕

(๒) ผทู้ ไ่ี ดร้ บั หรอื มสี ทิ ธไิ ดร้ บั เฉพาะเบย้ี หวดั หรอื บ�ำ นาญ  ใหไ้ ดร้ บั  ช.ค.บ.  ในอัตรา
เดอื นละรอ้ ยละสี่ของจ�ำ นวนเบีย้ หวัดหรือบำ�นาญทไ่ี ดร้ ับหรอื มีสิทธิไดร้ ับ
การคำ�นวณ ช.ค.บ. ถา้ มเี ศษของบาทใหป้ ดั ท้งิ ”
ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา
นายกรฐั มนตรี


______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :–เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎีกาฉบับน ้ี คอื เนอื่ งจากสภาวะทางเศรษฐกิจ
และค่าครองชีพในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น  ประกอบกับมีการปรับปรุงอัตราเงินเดือนข้าราชการและ
เจา้ หน้าทีข่ องรฐั ประเภทต่างๆ  ให้เหมาะสมกับภาวะคา่ ครองชีพ  สมควรเพมิ่ เงินชว่ ยค่าครองชีพ
ผู้รับเบ้ียหวัดบำ�นาญให้แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำ�นาญ  เพื่อให้สอดคล้องกัน  จึงจำ�เป็นต้องตรา
พระราชกฤษฎีกานี้

๑๔๖


Click to View FlipBook Version