The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2558 (ปี 2558)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

(๗) คณะกรรมการรับซองเสนองาน  (การจ้างโดยวิธี
คัดเลือก)
(๘) คณะกรรมการรับซองเสนอราคา  (การจ้างโดยวิธี
คัดเลือกแบบจำ�กัดข้อกำ�หนด)
๑.๒.๓ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดตาม
ระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของ
เจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้เบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ ได้คณะละ จำ�นวน ๑ ครั้ง
๑.๒.๔ หลักเกณฑ์อื่นและอัตราค่าตอบแทน ให้เป็นไปตามหนังสือ
กระทรวงการคลงั ดว่ นทส่ี ดุ ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๓๘ ลงวนั ท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์
การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ

๒. ขอ้ เทจ็ จริง
๒.๑ หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๔๐๖.๔/ว ๘๐ ลงวันที่ ๒๓
กรกฎาคม  ๒๕๕๘  กำ�หนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการที่ได้รับ
แต่งตั้งตามประกาศสำ�นักนายกรัฐมนตรี  เรื่อง  แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาด
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic – Market : e – market) และดว้ ยวธิ ปี ระกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic
Bidding ; e – bidding) ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน (เอกสารหมายเลข ๗)
ดังนี้
๒.๑.๑ บคุ คลทไี่ ดร้ บั แตง่ ตงั้ ใหร้ บั ผดิ ชอบจดั ท�ำ รายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะ
เฉพาะของพัสดุที่จะจัดหาให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรา ไม่เกินคนละ ๑,๒๐๐ บาทต่องาน
๒.๑.๒ คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบจัดทำ�รายละเอียด
คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะจัดหา  และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราประธานกรรมการ ไม่เกินคนละ ๑,๕๐๐ บาทต่อครั้ง
ที่มาประชุม และกรรมการไม่เกินคนละ ๑,๒๐๐ บาทต่อครั้งที่มาประชุม

ฯลฯ
๒.๑.๔ หวั หนา้ สว่ นราชการระดบั กรมหรอื สว่ นราชการทเ่ี รยี กชอ่ื อยา่ งอน่ื
และมีฐานะเป็นกรมขึ้นไปอาจกำ�หนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงบประมาณรายจ่ายเพื่อ
ควบคุมค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการได้ตามความจำ�เป็น ประหยัด และเหมาะสมภายใต้
หลักเกณฑ์นี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๒.๒ บันทึกกองพัสดุ ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๕๐๘.๒/๖๔๙๗ ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม
๒๕๕๘  แจ้งว่าได้ตรวจสอบและพิจารณาการจ่ายเงินค่าตอบแทนบุคคลและคณะกรรมการตาม
ข้อ  ๒.๑  เพื่อกำ�หนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงบประมาณเพื่อควบคุมค่าตอบแทนบุคคล

๑๙๗

หรือคณะกรรมการตามความจำ�เป็น  ประหยัด  เหมาะสม  โดยกำ�หนดการเบิกจ่ายค่าตอบแทน
บุคคลหรือคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งตามประกาศสำ�นักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางปฏิบัติใน
การจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic – Market : e – market) และด้วยวิธีประกวด
ราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding ; e – bidding) การจัดซื้อ – จัดจ้างเฉพาะทมี่ วี งเงนิ ต้ังแต่
๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (เอกสารหมายเลข ๘) ดังนี้
๒.๒.๑ บคุ คลทไ่ี ดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหร้ บั ผดิ ชอบจดั ท�ำ รายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะ
เฉพาะของพัสดุที่จะจัดหาให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรา ไม่เกินคนละ ๑,๒๐๐ บาทต่องาน
๒.๒.๒ คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบจัดทำ�รายละเอียด
คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะจัดหา  และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราประธานกรรมการ ไม่เกินคนละ ๑,๕๐๐ บาทต่อครั้ง
ที่มาประชุม และกรรมการไม่เกิน ๑,๒๐๐ บาทต่อครั้งที่มาประชุม
๓. ความเห็น
กองคลังพิจารณาแล้ว เพื่อให้การบริหารงบประมาณของกรมที่ดินเป็นไป
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถควบคมุ การเบกิ จา่ ยเงนิ คา่ ตอบแทนบคุ คลหรอื คณะกรรมการไดต้ าม
ความจำ�เป็น  ประหยัด  เหมาะสม  สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำ�กัด  เห็นควรกำ�หนด
หลกั เกณฑก์ ารเบกิ จา่ ยคา่ ตอบแทนบคุ คลหรอื คณะกรรมการเพม่ิ เตมิ ตามขอ้ ๒.๒ ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๒๓
กรกฎาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณา หากเหน็ ชอบขอไดโ้ ปรดลงนามในหนงั สอื ถงึ จงั หวดั
ทุกจังหวัดที่แนบมาพร้อมนี้ และกองคลังจะได้แจ้งหน่วยงานในส่วนกลางต่อไป

(ลงชอื่ ) สุธรี ์ ญาณชโลทร
(นางสาวสุธีร์ ญาณชโลทร)
ผอู้ �ำ นวยการกองคลงั



๑๙๘

ด่วนท่สี ดุ (สำ�เนา)
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๘๐
กระทรวงการคลัง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘

เร่อื ง หลักเกณฑก์ ารเบิกจ่ายค่าตอบแทนบคุ คลหรือคณะกรรมการ
เรียน อธิบดกี รมทดี่ นิ
อ้างถงึ หนังสอื กระทรวงการคลัง ที่ กค ๐๔๐๖.๔/ว ๓๘ ลงวนั ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘
ส่งิ ทสี่ ง่ มาด้วย หลักฐานการจ่ายค่าตอบแทนกรรมการในคณะกรรมการ

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กระทรวงการคลังได้กำ�หนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย
ค่าตอบแทน ใหก้ ับคณะกรรมการตามระเบียบสำ�นกั นายกรฐั มนตรีวา่ ดว้ ยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะกรรมการก�ำ หนดราคากลางซ่งึ แต่งต้ังตามมตคิ ณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการ
สอบขอ้ เทจ็ จรงิ ความรบั ผดิ ทางละเมดิ ตามระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยหลกั เกณฑก์ ารปฏบิ ตั ิ
เกย่ี วกบั ความรบั ผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ท่ี พ.ศ.๒๕๓๙ ตามหนงั สอื กระทรวงการคลงั ดว่ นทส่ี ดุ
ที่ กค ๐๔๐๖.๔/ว ๓๘ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ ตอ่ มากรมบัญชกี ลางได้ดำ�เนนิ การพฒั นา
ระบบจดั ซ้อื จัดจ้างภาครฐั ด้วยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Government Procurement : e – GP)
เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐท่ีมีประสิทธิภาพ  โดยกำ�หนดหลักเกณฑ์ตามประกาศ
ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรี เรอ่ื ง แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการจดั หาพสั ดดุ ว้ ยวธิ ตี ลาดอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic
Market : e–market) และด้วยวิธปี ระกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e–bidding)
ซ่งึ แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการจัดหาพสั ดดุ ้วยวิธตี ลาดอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e – market)
และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e – bidding) แนบท้ายประกาศ
ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรฯี ขอ้ ๑๓ ก�ำ หนดการด�ำ เนนิ การซอ้ื หรอื จา้ งดว้ ยวธิ ปี ระกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ให้หัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยมี
องคป์ ระกอบตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แกไ้ ขเพิม่ เติม
ข้อ ๓๕ วรรคหนึ่ง และขอ้ ๒๕ วรรคสาม ก�ำ หนดใหห้ วั หน้าส่วนราชการอาจแตง่ ตั้งบุคคลใด
บุคคลหน่ึง หรือแตง่ ตง้ั คณะกรรมการขนึ้ มาคณะหน่งึ รับผดิ ชอบจดั ท�ำ รายละเอยี ดคุณลกั ษณะ
เฉพาะของพัสดุที่จะจัดหาได้ตามความจำ�เป็นและเหมาะสม  เพ่ือให้ตรงกับความต้องการของ
ส่วนราชการได้  และเพ่ือความรอบคอบและเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ  โดยหนังสือกระทรวง
การคลงั ฯ ข้างตน้ ไมค่ รอบคลมุ ถงึ คณะกรรมการตามประกาศส�ำ นกั นายกรฐั มนตรฯี ดังกล่าว นั้น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว  ขอเรียนว่า  เพ่ือให้คณะกรรมการตามประกาศ
ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรี เรอ่ื ง แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการจดั หาพสั ดดุ ว้ ยวธิ ตี ลาดอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic
Market : e – market) และดว้ ยวธิ ปี ระกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic Bidding : e – bidding)

๑๙๙

ได้รับค่าตอบแทนในลักษณะเดียวกันกับคณะกรรมการอ่ืนตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรี
วา่ ดว้ ยการพสั ดุ พ.ศ.๒๕๓๕ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ และระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการพสั ดุ
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์  พ.ศ. ๒๕๔๙  และเพ่ือเป็นการสร้างขวัญกำ�ลังใจให้กับบุคคลหรือ
คณะกรรมการดังกล่าว  จึงกำ�หนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการ
ท่ีได้รับแต่งตั้งตามประกาศสำ�นักนายกรัฐมนตรี  เรื่อง  แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี
ตลาดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Market : e – market) และด้วยวธิ ีประกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนิกส์
(Electronic Bidding : e – bidding) ให้สว่ นราชการถือปฏิบัตใิ ห้เปน็ ไปในแนวทางเดียวกันดังน้ี
๑. บุคคลท่ีได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบจัดทำ�รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของ
พัสดุทีจ่ ะจดั หาใหไ้ ดร้ บั คา่ ตอบแทนในอัตรา ไม่เกินคนละ ๑,๒๐๐ บาทตอ่ งาน
๒. คณะกรรมการทไ่ี ดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหร้ บั ผดิ ชอบจดั ท�ำ รายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะเฉพาะ
ของพัสดุที่จะจัดหา และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ได้รับ
คา่ ตอบแทนในอตั ราประธานกรรมการ ไมเ่ กนิ คนละ ๑,๕๐๐ บาทตอ่ ครง้ั ทม่ี าประชมุ และกรรมการ
ไมเ่ กนิ คนละ ๑,๒๐๐ บาทตอ่ คร้ังท่มี าประชมุ
๓. หลักฐานการจ่ายค่าตอบแทนตามข้อ  ๑  ให้ใช้ใบสำ�คัญรับเงินตามระเบียบ
การเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำ�เงินส่งคลัง  พ.ศ. ๒๕๕๑  และหลักฐาน
การจ่ายค่าตอบแทนตามข้อ ๒ ให้เป็นไปตามส่ิงที่สง่ มาดว้ ย
๔. หวั หนา้ สว่ นราชการระดบั กรมหรอื สว่ นราชการทเ่ี รยี กชอ่ื อยา่ งอน่ื และมฐี านะ
เป็นกรมข้ึนไป  อาจกำ�หนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงบประมาณรายจ่ายเพ่ือควบคุม
ค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการได้ตามความจำ�เป็น  ประหยัด  และเหมาะสมภายใต้
หลกั เกณฑน์ ี้
๕. การเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการที่นอกเหนือหรือแตกต่าง
จากท่ีกำ�หนดไว ้ ในหลกั เกณฑน์ ้ี ให้ขอทำ�ความตกลงกับกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ต้งั แตบ่ ดั นเ้ี ปน็ ต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพ่ือทราบและ
ถอื ปฏบิ ตั ติ ่อไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่ือ) พงษภ์ าณุ เศวตรุนทร์
(นายพงษภ์ าณ ุ เศวตรนุ ทร์)
รองปลดั กระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุม่ ภารกิจด้านทรัพย์สนิ
ปฏบิ ตั ริ าชการแทน ปลัดกระทรวงการคลัง

กรมบัญชกี ลาง สำ�นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๒ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๐

๒๐๐

หลกั ฐานการจา่ ยค่าตอบแทนกรรมการในคณะกรรมการ.........................................
สว่ นราชการ.........................................

การประชุมเร่อื ง.........................................คร้งั ท่ี...................
วนั ที.่ .........เดอื น...............................พ.ศ. ................. สถานทป่ี ระชมุ .........................................

ล�ำ ดับ ช่ือ – สกลุ ตำ�แหนง่ ผ้แู ทนหนว่ ยงาน อัตรา ลายมอื ชือ่
(ประธานกรรมการ/กรรมการ) คา่ ตอบแทน ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ ผรู้ บั เงนิ

๒๐๑ ....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................
....... .............................................. ........................................................ .................................. ................... ........................ .......................

รวมเงนิ ...................
จำ�นวนเงนิ (ตัวอักษร) (...........................................)

ที่ มท ๐๕๐๓.๒ / ว ๒๒๗๘๗ (สำ�เนา)
กรมทดี่ ิน
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงท่งุ สองหอ้ ง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๑ กนั ยายน ๒๕๕๘
เรอ่ื ง การส่งรายงานประจ�ำ เดือน
เรียน ผูว้ ่าราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั
อ้างถึง ๑. หนงั สือกรมบัญชีกลาง ที่ กค ๐๔๒๓.๓/ว ๓๐ ลงวันที่ ๒​ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๒
๒. หนงั สือกรมบัญชกี ลาง ท่ี กค ๐๔๒๓.๓/ว ๒๒๔ ลงวนั ท่ี ๒๙​ สิงหาคม ๒๕๕๗
๓. หนงั สอื กรมบัญชกี ลาง ที่ กค ๐๔๒๓.๓/ว ๔๓๙ ลงวันที่ ๒​ ธันวาคม ๒๕๕๒
๔. หนังสือกรมทดี่ นิ ด่วนทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๐๓.๒/ว ๑๘๙๑๑ ลงวนั ท่ี ๒๕​ กนั ยายน ๒๕๕๗
สงิ่ ทส่ี ่งมาดว้ ย สำ�เนาหนงั สอื กรมบัญชกี ลาง ท่ี กค ๐๔๒๓.๓/ว ๒๖๔ ลงวนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ด้วยกรมบัญชีกลางได้แจ้งยกเลิกการจัดส่งรายงานตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๑ – ๓
ในส่วนของรายงานประจำ�เดือนและรายงานที่เก่ียวข้องที่ส่งเป็นประจำ�เดือน  โดยให้ส่วนราชการ
ทเี่ ปน็ หน่วยเบกิ จ่ายด�ำ เนนิ การ ดังน้ี
๑. จดั ท�ำ และสง่ เฉพาะรายงานสรปุ ขอ้ มลู ทางบญั ชปี ระจ�ำ เดอื นของหนว่ ยเบกิ จา่ ย
คอื รายงานงบทดลองประจ�ำ เดือน ค�ำ สง่ั งาน ZGL_MVT_MONTH หรือ GFMIS Web Online
รายงานงบทดลองรายเดอื น–หนว่ ยเบกิ จา่ ย โดยใหห้ วั หนา้ หนว่ ยเบกิ จา่ ยลงลายมอื ชอ่ื ก�ำ กบั รบั รอง
ความถกู ตอ้ งของรายงานดงั กลา่ วสง่ ใหส้ �ำ นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ หรอื ส�ำ นกั งานการตรวจเงนิ
แผ่นดนิ ภูมิภาค ภายในวันที่ ๑๕ ของเดอื นถดั ไป สำ�หรบั รายงานอ่ืนๆ นอกเหนือจากรายงานงบ
ทดลองประจำ�เดือน หากสว่ นราชการเห็นความจำ�เปน็ เพือ่ การอา้ งอิงและตรวจสอบความถูกต้อง
สว่ นราชการสามารถจดั ท�ำ เปน็ การภายใน โดยใหส้ ว่ นราชการระดบั กรมพจิ ารณาตามความเหมาะสม
และแจ้งให้สว่ นราชการในสงั กดั ทราบเพอื่ ด�ำ เนนิ การต่อไป
๒. รายงานท่ีเกี่ยวข้องกับเงินทดรองราชการตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๓  ให้จัดทำ�
และเสนอหัวหนา้ หน่วยเบิกจ่ายทราบเปน็ ประจำ�ทกุ เดอื น ภายในวนั ที่ ๑๕ ของเดือนถดั ไป และ
ส่งรายงานดังกล่าวเป็นรายปี  พร้อมกับการส่งรายงานงบทดลองประจำ�ปีงบประมาณ  คำ�ส่ังงาน
ZGL_ MVT_MONTH หรือ GFMIS Web Online รายงานงบทดลองรายเดือน – หนว่ ยเบิกจ่าย
ระบุงวด ๑ – ๑๖ โดยใหห้ วั หนา้ หนว่ ยเบกิ จ่ายลงลายมือช่อื ก�ำ กบั รับรองความถกู ตอ้ งของรายงาน
ดังกล่าวส่งให้สำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค  ภายใน
๖๐ วันนบั จากวันส้ินปีงบประมาณ

๒๐๒

ทัง้ น้ี ให้ถอื ปฏิบตั ติ ัง้ แตป่ ีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เปน็ ต้นไป รายละเอียดปรากฏตามสงิ่ ทส่ี ง่ มา
ดว้ ย
กรมท่ีดินจึงขอให้แจ้งสำ�นักงานท่ีดินหน่วยเบิกจ่ายจัดทำ�รายงานประจำ�เดือน
ตามนัยหนงั สอื กรมบญั ชีกลางดงั กลา่ ว และเนือ่ งจากกรมทีด่ นิ ได้ก�ำ หนดให้ส�ำ นกั งานทด่ี นิ หนว่ ย
เบิกจ่ายจัดทำ�สมุดบัญชีด้วยมือ  จำ�นวน  ๑๓  บัญชี  เพ่ือใช้ในการควบคุมและตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ งตามหนังสือทอ่ี ้างถงึ ๔ กรมที่ดนิ จึงก�ำ หนดการจัดทำ�รายงานอื่นๆ เพอ่ื ใหส้ ำ�นักงานทดี่ ิน
หนว่ ยเบิกจ่ายใชใ้ นการอา้ งอิงและตรวจสอบความถกู ต้องกบั บญั ชีทบ่ี ันทึกดว้ ยมอื ดังนี้
๑. รายงานแสดงยอดงบประมาณตามหนว่ ยรบั งบประมาณ ค�ำ สง่ั งาน ZFMA๕๕
หรือ  GFMIS  Web  Online  รายงานแสดงยอดงบประมาณตามหน่วยรับงบประมาณ  เพ่ือใช้
ตรวจสอบกบั ทะเบยี นคุมเงนิ ประจ�ำ งวดส่วนจงั หวดั
๒. รายงานเงินสดคงเหลือประจำ�วัน  คำ�สั่งงาน  ZFl_CASHBAL  หรือ  GFMIS
Web Online รายงานแสดงยอดเงนิ สดคงเหลือประจำ�วนั เพื่อใชต้ รวจสอบกบั รายงานเงินคงเหลอื
ประจำ�วนั และรายละเอียดแสดงข้อมูลเงินสดคงเหลือในมือของแต่ละศูนย์ต้นทนุ
๓. รายงานเคลอ่ื นไหวเงินฝากคลงั ค�ำ สั่งงาน ZGL_RPT๐๑๓ หรือ GFMIS Web
Online  รายงานแสดงการเคล่ือนไหวเงินฝากคลัง  เพ่ือใช้ตรวจสอบกับทะเบียนคุมเงินฝากคลัง
และทะเบยี นคมุ เงินมดั จ�ำ รงั วดั ทีฝ่ ากคลัง (๙๓๐)
โดยให้จัดทำ�และเสนอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด  สาขาผู้เบิก
ลงลายมือชื่อก�ำ กับรับรองความถูกตอ้ งของรายงาน ภายในวันท่ี ๑๕ ของเดอื นถดั ไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ  และแจ้งให้สำ�นักงานที่ดินหน่วยเบิกจ่ายดำ�เนินการ
ตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) ศิรพิ งษ์ ห่านตระกลู
(นายศริ ิพงษ์ หา่ นตระกูล)
อธิบดีกรมทีด่ ิน

กองคลัง
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๖๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๙๑

๒๐๓

ท่ี กค ๐๔๒๓.๓ / ว ๓๓๘ (ส�ำ เนา) กรมบญั ชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๒๒ กันยายน ๒๕๕๘

เรอ่ื ง แนวทางการแก้ไขปญั หาและข้อผิดพลาดส�ำ หรับการบญั ชีภาครฐั

เรยี น อธิบดกี รมที่ดิน

สิ่งทีส่ ่งมาดว้ ย แนวทางการแกไ้ ขปัญหาและข้อผิดพลาดสำ�หรบั การบญั ชภี าครฐั

ด้วยกรมบัญชีกลางได้ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานด้านบัญชีของส่วน
ราชการ ท�ำ ใหท้ ราบปัญหาทางบญั ชที ี่เกดิ ขึ้นกบั ส่วนราชการเปน็ ประจำ�ซงึ่ ส่งผลกระทบต่อขอ้ มูล
ทางบญั ชขี องสว่ นราชการ ทง้ั ในระดบั หนว่ ยเบกิ จา่ ยและระดบั กรม เชน่ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ไมเ่ ปน็ ไป
ตามข้นั ตอนการปฏิบัติงานในระบบ GFMIS การสับเปล่ยี นโยกยา้ ยเจ้าหน้าท่ผี ้ปู ฏิบัตงิ านซง่ึ ทำ�ให้
การปฏิบัติงานไมม่ คี วามตอ่ เน่ือง เป็นตน้
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว  เห็นว่า  การจัดทำ�บัญชีของส่วนราชการระดับ
หน่วยเบิกจ่ายเป็นฐานข้อมูลทางบัญชีท่ีสำ�คัญในการจัดทำ�รายงานการเงินระดับกรมและระดับ
กระทรวง  รวมถึงระดับประเทศให้มีความถูกต้องครบถ้วน  และน่าเช่ือถือ  จึงได้รวบรวมปัญหา
ในทางปฏิบัติด้านบัญชีท่ีเกิดข้ึนเป็นประจำ�มาจัดทำ�แนวทางการแก้ไขปัญหาและข้อผิดพลาด
ส�ำ หรบั การบญั ชีภาครฐั เพือ่ ให้สว่ นราชการระดับหนว่ ยเบกิ จา่ ยใชใ้ นการปรบั ปรงุ แก้ไขข้อมูลทาง
บัญชภี ายใต้การกำ�กบั ดูแลของสว่ นราชการระดบั กรม รายละเอยี ดปรากฏตามสิ่งทส่ี ่งมาด้วย

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้องถือปฏิบัติต่อไป  ทั้งน้ี
สามารถดาวนโ์ หลดแนวทางการแก้ไขดงั กล่าวไดท้ ่เี ว็บไซต์กรมบญั ชกี ลาง www.cgd.go.th

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่อื ) ณพงศ์ ศิริขนั ตยกลุ
(นายณพงศ ์ ศริ ิขนั ตยกลุ )
รองอธิบดี รักษาการในตำ�แหนง่
ท่ีปรึกษาด้านพัฒนาระบบบัญชี ปฏิบัติราชการแทน
อธิบดกี รมบญั ชกี ลาง

ส�ำ นกั มาตรฐานดา้ นการบัญชีภาครฐั
กลมุ่ งานระบบบัญชภี าครัฐ
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๐๗ – ๑๐
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๔๑๑

๒๐๔

(ส�ำ เนา)

ด่วนทีส่ ดุ
ส่วนราชการ กองคลัง ฝ่ายตรวจสอบใบสำ�คัญและวางฎีกา โทร. ๐๒–๑๔๑–๕๙๗๘ ภายใน ๑๕๙๗๘

ท่ี มท ๐๕๐๓.๔ / ว ๕๙๒๗ วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๘

เรอื่ ง พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘

เรียน ทป่ี รกึ ษาด้านประสิทธภิ าพ ที่ปรกึ ษาด้านวิศวกรรมสำ�รวจ รองอธบิ ดี หวั หนา้ ศูนย์ปฏบิ ัติการ
ต่อต้านการทุจรติ กรมทดี่ นิ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อ�ำ นวยการส�ำ นกั เจ้าพนักงานท่ีดนิ
กรงุ เทพมหานคร เลขานกุ ารกรม ผอู้ ำ�นวยการกอง ผู้อำ�นวยการส�ำ นกั งาน ผู้อ�ำ นวยการกลุม่
และผูอ้ ำ�นวยการศูนย์

กองคลังขอส่งสำ�เนาหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๒๐๓.๕ / ว ๕๑๔๒
ลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๘ แจ้งเวียนพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
ตามสำ�เนาหนังสือกระทรวงแรงงาน ด่วนที่สุด ที่ รง ๐๖๐๔/ว ๑๓๖๕ ลงวันที่ ๒๗ สิงหาคม
๒๕๕๘  โดยสำ�นักงานประกันสังคม  ได้ดำ�เนินการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันสังคม
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป สาระ
สำ�คัญตามมาตรา ๔ เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนลูกจ้างของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค
และราชการส่วนท้องถิ่น  เปลี่ยนแปลงจากเดิม  ตามตารางเปรียบเทียบพระราชบัญญัติประกัน
สังคม พ.ศ.๒๕๓๓ และพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๗ กับพระราชบัญญัติ
ประกันสังคม  (ฉบับที่  ๔)  พ.ศ. ๒๕๕๘  ที่ส่งมาพร้อมนี้  จึงขอให้หน่วยงานพิจารณาดำ�เนินการ
ขึ้นทะเบียนลูกจ้างของส่วนราชการตามพระราชบัญญัติประกันสังคม  (ฉบับที่  ๔)  พ.ศ. ๒๕๕๘
ต่อสำ�นักงานประกันสังคม
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและหากสำ�นัก/กอง  มีลูกจ้างตามความหมาย
ในมาตรา  ๔  ของพระราชบัญญัติประกันสังคม  (ฉบับที่  ๔)  พ.ศ. ๒๕๕๘  ขอให้แจ้งกองคลังเพื่อ
ขึ้นทะเบียนลกู จ้างและหักเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมต่อไป

(ลงชอื่ ) สธุ ีร์ ญาณชโลทร
(นางสาวสุธรี ์ ญาณชโลทร)
ผอู้ ำ�นวยการกองคลงั


๒๐๕

(ส�ำ เนา)
ที่ มท ๐๒๐๓.๕ / ว ๕๑๔๒
ถึง สว่ นราชการระดบั กรม / จังหวัดทุกจงั หวดั  / สว่ นราชการและหน่วยงานในสังกัด สป. / 
ส�ำ นกั งานรฐั มนตรี / หนว่ ยงานตรวจสอบภายใน มท. / กรุงเทพมหานคร และหนว่ ยงาน
รัฐวิสาหกิจในสังกดั มท.
ด้วย  กระทรวงแรงงาน  แจ้งเวียน  พระราชบัญญัติประกันสังคม  (ฉบับที่  ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามสำ�เนาหนงั สือกระทรวงแรงงาน ด่วนทีส่ ดุ ท่ี รง ๐๖๐๔/ว ๑๓๖๕ ลงวันที่ ๒๗
สงิ หาคม ๒๕๕๘ ท่ีส่งมาพร้อมนี้
จงึ เรียนมาเพ่อื ทราบและพิจารณาดำ�เนนิ การต่อไป

กระทรวงมหาดไทย
๗ กนั ยายน ๒๕๕๘

ส�ำ นกั งานปลัดกระทรวง
กองคลัง
โทร. ๐ – ๒๒๒๒ – ๔๘๗๕, ๕๐๓๕๗
โทรสาร ๐ – ๒๒๒๒ – ๔๘๗๕, ๕๐๓๔๗

๒๐๖

(สำ�เนา)

ดว่ นที่สดุ กระทรวงแรงงาน
ท่ี รง ๐๖๐๔ / ว ๑๓๖๕ ถนนมติ รไมตรี แขวงดินแดง
เขตดนิ แดง กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐


๒๗ สงิ หาคม ๒๕๕๘

เรอ่ื ง พระราชบัญญตั ปิ ระกันสงั คม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘

เรยี น ปลัดกระทรวงมหาดไทย

อา้ งถงึ พระราชบัญญัติประกนั สงั คม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘

สิ่งที่ส่งมาดว้ ย ตารางเปรียบเทียบพระราชบัญญตั ปิ ระกนั สังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และพระราชบัญญตั ิ
ประกนั สังคม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ กบั พระราชบญั ญัติประกนั สังคม (ฉบบั ท่ี ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๘

กระทรวงแรงงาน  โดย  สำ�นักงานประกันสังคม  ได้ดำ�เนินการแก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบญั ญัติประกนั สังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ เริ่มมผี ลบังคบั ใชต้ ้งั แตว่ ันที ่ ๒๐ ตลุ าคม
๒๕๕๘  เป็นต้นไป  ซึ่งสาระสำ�คัญตามมาตรา  ๔  เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนลูกจ้างของราชการ
ส่วนกลาง  ราชการส่วนภูมิภาค  และราชการส่วนท้องถ่ิน  เปลี่ยนแปลงจากเดิม  และ  ได้จัดทำ�
ตารางเปรยี บเทียบพระราชบญั ญัติประกนั สงั คม พ.ศ. ๒๕๓๓ และพระราชบญั ญัตปิ ระกันสงั คม
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ กบั พระราชบญั ญัติประกันสงั คม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามสิ่งทสี่ ง่
มาด้วย
ทงั้ น้ี กระทรวงแรงงาน โดย ส�ำ นกั งานประกนั สังคม ขอความอนเุ คราะหท์ า่ นแจง้
หน่วยงานในสังกัด  พิจารณาดำ�เนินการข้ึนทะเบียนลูกจ้างของราชการส่วนกลาง  ราชการส่วน
ภูมิภาค  และราชการส่วนท้องถ่ิน  ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม  (ฉบับที่  ๔)  พ.ศ. ๒๕๕๘
ตอ่ สำ�นกั งานประกนั สังคม

จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณา

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชือ่ ) นคร ศลิ ปอาชา
(นายนคร ศิลปอาชา)
ปลัดกระทรวงแรงงาน

สำ�นักงานประกันสงั คม ส�ำ นักเงนิ สมทบ ๒๐๗
โทร. ๐ ๒๙๕๖ ๒๒๕๗ – ๙
โทรสาร ๐ ๒๕๒๕ ๐๑๓๒

ตารางเปรยี บเทยี บพระราชบญั ญตั ปิ ระกนั สงั คม พ.ศ.๒๕๓๓ และพระราชบญั ญตั ปิ ระกนั สงั คม
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๓๗ กบั พระราชบญั ญตั ปิ ระกนั สงั คม (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๕๘

ตารางเปรียบเทยี บพระราชบญั ญัติประกันสังคม พระราชบญั ญัติประกนั สังคม (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๓๓ และพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๕๘
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗

มาตรา ๔ พระราชบญั ญัติน้ีไม่ใชบ้ งั คบั แก ่ “มาตรา ๔ พระราชบญั ญัตินี้ไม่ใช้บงั คังแก่
(๑) ขา้ ราชการ ลูกจา้ งประจ�ำ ลูกจ้างชวั่ คราวรายวัน (๑) ข้าราชการและลูกจ้างประจ�ำ ของ
และลกู จา้ งชั่วคราวรายชั่วโมงของราชการ ราชการสว่ นกลาง ราชการสว่ น
ส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วน ภูมภิ าค และราชการส่วนทอ้ งถ่นิ
ท้องถิน่ ยกเว้นลูกจ้างชั่วคราวรายเดอื น (๒) นกั เรยี น นกั เรียนพยาบาล นิสติ หรอื
(๒) ลูกจ้างของรัฐบาลตา่ งประเทศหรอื องคก์ าร นกั ศึกษา ซึง่ เปน็ ลกู จา้ งของโรงเรยี น
ระหว่างประเทศ สถานพยาบาล วทิ ยาลยั หรือ
(๓) ลูกจา้ งของนายจ้างที่มสี �ำ นักงานในประเทศและ มหาวิทยาลัยนั้น
ไปประจำ�ท�ำ งานในต่างประเทศ (๓) ลกู จ้างของรฐั บาลต่างประเทศหรอื
(๔) ครหู รอื ครใู หญ่ของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมาย องคก์ ารระหว่างประเทศ
วา่ ด้วยโรงเรยี นเอกชน (๔) กิจการหรือลกู จา้ งอน่ื ตามที่กำ�หนด
(๕) นกั เรยี น นกั เรยี นพยาบาล นิสิตหรอื นกั ศกึ ษา ในพระราชกฤษฎีกา”
หรือแพทยฝ์ กึ หดั ซึ่งเป็นลูกจา้ งของโรงเรยี น
มหาวทิ ยาลัย หรือโรงพยาบาล
(๖) กจิ การหรอื ลกู จ้างอื่นตามท่กี ำ�หนดในพระราช
กฤษฎกี า

หมายเหตุ พระราชบัญญัติประกนั สงั คม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ เริ่มมีผลบงั คับใชต้ ง้ั แต่วนั ท่ี ๒๐
ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป

๒๐๘

ดว่ นท่สี ดุ (ส�ำ เนา)
ที่ มท ๐๕๐๓.๒ / ว ๒๓๗๖๒ กรมท่ีดิน
ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงทุ่งสองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๘ กันยายน ๒๕๕๘

เรื่อง การกำ�หนดรหสั การอา้ งอิงในระบบ GFMIS
เรยี น ผูว้ ่าราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด
อ้างถงึ ๑. หนังสือกรมบัญชีกลาง ท่ี กค ๐๔๐๙.๓/ว ๒๓๙ ลงวันที่ ๑๒​ กรกฎาคม ๒๕๕๓
๒. หนงั สือกรมบญั ชีกลาง ท่ี กค ๐๔๐๙.๓/ว ๒๙๗ ลงวันที่ ๓๑​ สงิ หาคม ๒๕๕๔
สง่ิ ที่ส่งมาดว้ ย ตวั อย่างการก�ำ หนดรหสั การอา้ งองิ สำ�หรบั การบนั ทกึ ข้อมูลการจดั เกบ็ และน�ำ ส่ง
และการปรับปรงุ รายการบญั ชี

ตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ และ ๒ กรมบัญชีกลางได้พัฒนาระบบการรับและนำ�ส่ง
และระบบบัญชีแยกประเภท ผ่าน GFMIS Web Online โดยใหบ้ นั ทกึ รายการและเรียกรายงาน
การบันทึกรายการได้  เช่นเดียวกับการบันทึกรายการผ่านเคร่ือง  GFMIS  Terminal  รวมถึง
พัฒนาการรายงานผลการบันทึกรายการรับและนำ�ส่งเงิน  ให้แสดงข้อมูลระหว่างรายการรับเงิน
และนำ�ส่งเงิน  และการปรับปรุงรายการบัญชี  เพ่ือใช้ในการตรวจสอบ  ติดตามผลความถูกต้อง
ครบถว้ น ในการบันทกึ รายการในระบบ GFMIS โดยกำ�หนดให้มกี ารอา้ งอิงเลขท่เี อกสารเดียวกัน
และระบบจะประมวลผลการอ้างอิงทเี่ หมอื นเปน็ รายการรวม นั้น
กรมที่ดินพิจารณาแล้ว  เพื่อให้การปฏิบัติงานในการบันทึกข้อมูลทางบัญชีของ
ระบบรับและนำ�ส่ง และระบบบัญชีแยกประเภทเปน็ ไปในแนวทางเดียวกัน เพอ่ื ประโยชน์ในการ
ตรวจสอบและกระทบยอดข้อมูลในระบบ  GFMIS  จึงกำ�หนดรหัสการอ้างอิงสำ�หรับการบันทึก
ข้อมลู ทางบัญชีการจดั เก็บและนำ�สง่ และการปรับปรุงรายการบญั ชี ดังนี้
๑. ระบบรบั และนำ�ส่ง กำ�หนดรหัสการอ้างอิง จ�ำ นวน ๑๐ หลกั
RYYAAAXXXX ประกอบดว้ ย
R คอื ระบบรับและน�ำ สง่
YY คอื ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒ หลักสดุ ทา้ ย
AAA คือ รหสั ศนู ยต์ น้ ทุน ๓ หลักสดุ ทา้ ย
XXXX คือ Running Number (เลขล�ำ ดับการอ้างอิง)

๒๐๙

โดยก�ำ หนดเลขลำ�ดบั การอ้างอิงของการจดั เก็บและการน�ำ ส่งเงนิ เป็นเลขเดยี วกนั เรยี งลำ�ดบั ตาม
ขอ้ มลู ที่น�ำ สง่ เงินในแตล่ ะคร้ัง เริม่ ต้นจากเลข ๐๐๐๑ ไปจนถงึ สิ้นปีงบประมาณ
๒. การปรับปรุงรายการบัญชี การบันทกึ การรบั เงินออกทไ่ี มไ่ ด้ฝากคลงั (ประเภท
เอกสาร RE) การบนั ทึกการจา่ ยเงินนอกทีไ่ ม่ไดฝ้ ากคลงั (ประเภทเอกสาร PP) การบนั ทึกปรบั ปรงุ
บัญชีที่ไม่ใช่เงินสดและเงินฝากธนาคาร  (ประเภทเอกสาร  JV)  การบันทึกปรับปรุงบัญชีที่เป็น
ตัวเงินและเงินฝากธนาคาร  (ประเภทเอกสาร  JR)  และการบันทึกปรับปรุงบัญชีวัสดุคงคลัง
(ประเภทเอกสาร JM) กำ�หนดรหัสการอ้างองิ จำ�นวน ๑๐ หลัก เชน่
REYYAAAXXX ประกอบดว้ ย
RE คอื ประเภทเอกสารการรับเงนิ นอกทไี่ มไ่ ด้ฝากคลัง
YY คือ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒ หลกั สดุ ท้าย
AAA คือ รหัสศนู ย์ตน้ ทนุ ๓ หลักสดุ ทา้ ย
XXX คือ Running Number (เลขล�ำ ดับการอา้ งองิ )
โดยกำ�หนดเลขลำ�ดับการอ้างอิงแยกตามประเภทเอกสาร เริ่มต้นจากเลข ๐๐๑ ไปจนถึงสิ้นปี
งบประมาณ ทง้ั น้ี ใหถ้ ือปฏบิ ตั ติ งั้ แต่วนั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๘ (ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙)
เปน็ ต้นไป
จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งใหส้ �ำ นกั งานท่ีดนิ ถอื ปฏิบตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) ธรรมศักดิ์ ชนะ
(นายธรรมศักด ิ์ ชนะ)
รองอธบิ ดี ปฏิบัตริ าชการแทน
อธิบดีกรมทีด่ ิน

กองคลงั
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๖๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๙๒

๒๑๐

ตวั อยา่ งการกำ�หนดรหัสการอ้างอิง
๑. ระบบการรบั และน�ำ สง่
๑.๑ สำ�นักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
จัดเกบ็ รายไดว้ ันท่ี ๑ – ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ นำ�ส่งวันท่ี ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ ก�ำ หนดรหสั การอา้ งองิ
การจัดเกบ็ และน�ำ ส่งเงนิ ดังน้ี
R๕๙๐๓๗๐๐๐๑ ประกอบด้วย
R คอื ระบบรบั และนำ�สง่
๕๙ คือ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คอื ส�ำ นกั งานทดี่ นิ จังหวดั สมทุ รปราการ
๐๐๐๑ คือ การจดั เก็บและนำ�ส่ง ล�ำ ดับที่ ๑
๑.๒ สำ�นักงานท่ีดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
จัดเกบ็ รายได้วันที่ ๕ – ๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ นำ�ส่งวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ กำ�หนดรหสั การอา้ งอิง
การจดั เกบ็ และนำ�สง่ เงิน ดงั น้ี
R๕๙๐๓๗๐๐๐๒ ประกอบดว้ ย
R คือ ระบบรบั และน�ำ ส่ง
๕๙ คือ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คอื ส�ำ นกั งานท่ดี ินจังหวัดสมทุ รปราการ
๐๐๐๒ คือ การจดั เกบ็ และนำ�ส่ง ลำ�ดับท่ี ๒
๒. การปรบั ปรุงรายการบญั ชี
๒.๑ สำ�นักงานท่ีดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
รับเงินมัดจ�ำ รงั วดั ในวันท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ก�ำ หนดรหสั การอ้างอิงการรับเงนิ มัดจำ�รังวดั ดงั น้ี
RE๕๙๐๓๗๐๐๑ ประกอบด้วย
RE คอื การบนั ทึกการรบั เงินมัดจำ�รงั วัด
๕๙ คอื ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คือ ส�ำ นักงานทีด่ ินจังหวัดสมทุ รปราการ
๐๐๑ คอื การรับเงินมดั จ�ำ รังวัด ลำ�ดบั ที่ ๑
๒.๒ สำ�นักงานท่ีดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
รับเงนิ มัดจ�ำ รงั วดั ในวนั ท่ี ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ กำ�หนดรหสั การอา้ งองิ การรับเงนิ มดั จ�ำ รังวัด ดงั น้ี
RE๕๙๐๓๗๐๐๒ ประกอบด้วย
RE คือ การบันทกึ การรับเงนิ มัดจ�ำ รังวดั
๕๙ คอื ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คอื สำ�นักงานที่ดนิ จังหวัดสมทุ รปราการ
๐๐๒ คือ การรบั เงนิ มดั จ�ำ รังวัด ลำ�ดับท่ี ๒

๒๑๑

๒.๓ สำ�นักงานท่ีดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
จา่ ยเงินมดั จำ�รงั วัดในวนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๘ ก�ำ หนดรหสั การอ้างองิ การจา่ ยเงินมดั จำ�รงั วัด ดงั นี้
PP๕๙๐๓๗๐๐๑ ประกอบด้วย
PP คือ การบนั ทึกการรับเงินมดั จ�ำ รงั วัด
๕๙ คอื ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คือ ส�ำ นกั งานทดี่ นิ จงั หวดั สมทุ รปราการ
๐๐๑ คือ การจา่ ยเงนิ มดั จำ�รังวัด ลำ�ดับท่ี ๑
๒.๔ สำ�นักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ  รหัสศูนย์ต้นทุน  ๑๕๐๐๕๐๐๐๓๗
จา่ ยเงนิ มัดจ�ำ รงั วัดในวันท่ี ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ กำ�หนดรหัสการอ้างอิงการจ่ายเงนิ มัดจำ�รังวัด ดงั นี้
PP๕๙๐๓๗๐๐๒ ประกอบด้วย
PP คอื การบนั ทึกการรบั เงินมดั จ�ำ รังวัด
๕๙ คอื ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
๐๓๗ คอื สำ�นักงานท่ีดนิ จงั หวดั สมุทรปราการ
๐๐๒ คือ การจ่ายเงนิ มัดจำ�รังวัด ลำ�ดบั ท่ี ๒

  ______________________

๒๑๒

ดว่ นทีส่ ุด (สำ�เนา)
ท่ี กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๓๗๑
กรมบญั ชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๑ ตุลาคม ๒๕๕๘

เร่อื ง การขยายโครงการเบกิ จ่ายตรงประเภทผ้ปู ว่ ยใน สถานพยาบาลของเอกชน กรณี
นดั ผ่าตดั ลว่ งหน้า
เรยี น อธบิ ดกี รมทีด่ ิน
อา้ งถึง หนังสือกรมบัญชกี ลาง ด่วนที่สุด ท่ี กค ๐๔๒๒.๒/ว ๒๑๒ ลงวนั ที่ ๒๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๔
และดว่ นท่ีสุด ที่ กค ๐๔๒๒.๒/ว ๒๒๖ ลงวนั ท่ี ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕
ส่งิ ท่ีสง่ มาด้วย ๑. สำ�เนาประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑแ์ ละอตั ราค่ารักษาพยาบาล
ประเภทผู้ปว่ ยในสถานพยาบาลของเอกชน ตามเกณฑ์กลุ่มวนิ จิ ฉัยโรคร่วม
(DRGs) (ฉบบั ที่ ๓)
๒. รายช่อื สถานพยาบาลของเอกชนทีเ่ ข้ารว่ มโครงการ

ตามหนงั สอื ทีอ่ ้างถงึ กระทรวงการคลงั โดยกรมบญั ชีกลางไดด้ �ำ เนินการโครงการ
เบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยในสถานพยาบาลของเอกชน  กรณีนัดผ่าตัดล่วงหน้า  ต้ังแต่วันท่ี  ๑
พฤษภาคม ๒๕๕๔ ซึ่งมีสถานพยาบาลของเอกชนที่เขา้ ร่วมโครงการจ�ำ นวน ๓๐ แหง่ สามารถ
ใหบ้ ริการทางการแพทย์ประเภทผปู้ ว่ ยในแกผ่ มู้ สี ทิ ธิและบคุ คลในครอบครวั และสามารถใช้สทิ ธิ
เบิกจ่ายจากทางราชการได้  ซึ่งเป็นการเพ่ิมสิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการ
เกย่ี วกบั การรกั ษาพยาบาล พ.ศ.๒๕๕๓ และทแ่ี กไ้ ขเพิ่มเตมิ โดยไดแ้ จง้ ให้สว่ นราชการทราบและ
ถือปฏิบตั ไิ ปแล้ว นนั้
กรมบญั ชีกลางขอเรยี นว่า เพือ่ ให้ผูม้ สี ิทธแิ ละบุคคลในครอบครัวสามารถเขา้ ถงึ
บริการในสถานพยาบาลของเอกชนมากยิ่งข้ึน  กรมบัญชีกลางจึงได้ขยายโครงการเบิกจ่ายตรง
ประเภทผปู้ ่วยในสถานพยาบาลของเอกชน กรณนี ดั ผ่าตัดล่วงหนา้ ดงั นี้
๑. เพม่ิ เตมิ รายการโรคทจ่ี ะเขา้ รบั การรกั ษาจากเดมิ ๗๘ หตั ถการเปน็ ๘๖ หตั ถการ
โดยเร่ิมมผี ลใชบ้ งั คบั ตัง้ แตว่ ันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ รายละเอียดปรากฏตามส่ิงท่ีส่งมาด้วย ๑
๒. ขยายจ�ำ นวนสถานพยาบาลของเอกชนเพม่ิ เตมิ จากเดมิ ๓๐ แหง่ เปน็ ๙๖ แหง่
รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ท่ีสง่ มาด้วย ๒

๒๑๓

๓. กรมบญั ชกี ลางไดจ้ ดั ท�ำ คมู่ อื การใชบ้ รกิ ารโรงพยาบาลเอกชน ประเภทผปู้ ว่ ยใน
ส�ำ หรบั สทิ ธิในระบบสวสั ดิการรักษาพยาบาลขา้ ราชการ จำ�นวน ๑๕๐,๐๐๐ เล่ม โดยได้จัดสง่
ใหก้ ระทรวง กรม และสว่ นราชการอื่นทมี่ ฐี านะเทยี บเทา่ กรม แห่งละ ๑๐๐ เล่ม ส�ำ หรับจังหวดั
จัดส่งให้จังหวัดละ  ๑,๕๐๐  เล่ม  เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการ  ผู้มีสิทธิและบุคคล
ในครอบครวั ทราบถงึ ขน้ั ตอนและวธิ กี ารการใชส้ ทิ ธใิ นสถานพยาบาลของเอกชน ทง้ั น้ี กรมบญั ชกี ลาง
ไมส่ งวนสทิ ธใิ นการผลิตเพ่อื เผยแพร่ให้ผมู้ ีสทิ ธิและบุคคลในครอบครัวทราบ
อนึ่ง  กรมบัญชีกลางอำ�นวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิและส่วนราชการสามารถ
เข้าค้นหารายชื่อสถานพยาบาลของเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับกระทรวงการคลัง  บัญชีรายการโรค
และการรกั ษาพยาบาล ตลอดจนประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยสว่ นทเ่ี บกิ จากทางราชการไมไ่ ด้ ในรปู แบบ
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์  โดยสามารถค้นหาข้อมูลได้ท่ีเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง  (www.cgd.go.th)
เลือกหัวข้อ  “สวัสดิการรักษาพยาบาล”  และเลือก  “รายช่ือโรงพยาบาลเอกชนท่ีเข้าร่วมโครงการ
เบกิ จา่ ยตรงผปู้ ว่ ยในดว้ ยระบบ DRGs”
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดแจ้งผู้มีสิทธิและเจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป ทั้งนีโ้ ปรด Download ส่ิงที่สง่ มาดว้ ย ๑ และ ๒ จาก www.cgd.go.th เลอื กหัวข้อ “สวสั ดกิ าร
รกั ษาพยาบาล” และเลือก “ข้อมลู นา่ รู้”

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) มนสั แจม่ เวหา
(นายมนัส แจ่มเวหา)
อธิบดีกรมบญั ชกี ลาง

สำ�นักมาตรฐานคา่ ตอบแทนและสวัสดกิ าร
กลุม่ งานสวสั ดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๐๐๐ ตอ่ ๔๖๑๔
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๑๕๗

๒๑๔

ที่ กค ๐๔๒๒.๓ / ว ๑๒๒ (สำ�เนา) กระทรวงการคลงั
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๑๖ ตลุ าคม ๒๕๕๘

เร่ือง ขอความร่วมมอื ตรวจสอบการใช้สทิ ธเิ บิกคา่ เช่าบา้ นขา้ ราชการ
เรยี น อธิบดีกรมทด่ี นิ

ด้วยได้รับข้อมูลจากสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการใช้สิทธิเบิก
คา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการ ตามพระราชกฤษฎกี าคา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ
ในประเด็นว่า ข้าราชการใชส้ ทิ ธเิ บิกคา่ เช่าบา้ นขา้ ราชการไมถ่ ูกต้อง หรอื ไม่ตรงกับขอ้ เท็จจรงิ เช่น
ไม่มกี ารเชา่ และพักอาศัยอยู่จรงิ หรือใช้หลกั ฐานในการเบกิ จา่ ยเป็นเทจ็ เปน็ ต้น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว  เห็นควรขอความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ
ดังนี้
๑. ใหส้ ว่ นราชการตน้ สงั กดั ควบคมุ ใหม้ กี ารตรวจสอบการใชส้ ทิ ธกิ ารเบกิ คา่ เชา่ บา้ น
ขา้ ราชการของขา้ ราชการในสงั กดั ใหถ้ กู ตอ้ ง ตามพระราชกฤษฎกี าคา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการ พ.ศ.๒๕๔๗
และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ และระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารเกย่ี วกบั การเบกิ จา่ ย
เงนิ คา่ เช่าบา้ นข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเติม โดยเครง่ ครดั
๒. ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการรายใดใช้สิทธิไม่ถูกต้อง  เช่น
นำ�เอกสารหลักฐานปลอมหรือหลักฐานเท็จมาใช้ในการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ  พักอาศัยอยู่
ในบา้ นของบดิ ามารดาหรอื บคุ คลอนื่ โดยไม่ได้มกี ารเช่าจรงิ แต่ทำ�นิตกิ รรมอำ�พรางว่าเปน็ การเช่า
ซง่ึ โดยสภาพทแ่ี ทจ้ รงิ เปน็ การอาศยั หรอื ไมไ่ ดพ้ กั อาศยั อยจู่ รงิ เปน็ ปกตวิ สิ ยั ในบา้ นหลงั ทต่ี นใชส้ ทิ ธิ
เป็นต้น ให้ส่วนราชการต้นสังกัดชะลอการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านของข้าราชการรายนั้นไว้ก่อน
แล้วดำ�เนินการตรวจสอบการใช้สิทธิดังกล่าวอีกครั้งก่อนที่จะอนุมัติให้เบิกเงินค่าเช่าบ้าน
ข้าราชการในเดือนถดั ไป
๓. ในกรณที ม่ี กี ารตรวจสอบแลว้ พบวา่ ขา้ ราชการในสงั กดั รายใดเบกิ เงนิ คา่ เชา่ บา้ น
ข้าราชการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  ให้ส่วนราชการระงับการเบิกจ่ายและเรียกเงินค่าเช่าบ้าน
ขา้ ราชการคนื ซ่งึ การเรยี กเงนิ ดังกล่าวคนื ส่วนราชการตน้ สงั กัดจะต้องปฏิบตั ิ ตามมาตรา ๕๑
แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง  พ.ศ. ๒๕๓๙  และหากเกิดความเสียหายแก่
ทางราชการจะต้องดำ�เนินการสอบสวนหาผู้รับผิดชดใช้ความเสียหายตามพระราชบัญญัติความ
รับผดิ ทางละเมิดของเจา้ หนา้ ที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ต่อไปด้วย

๒๑๕

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ท่ีเก่ียวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) ประสทิ ธิ์ สบื ชนะ
(นายประสิทธ์ิ สืบชนะ)
รองปลัดกระทรวงการคลงั
หัวหน้ากลุม่ ภารกิจดา้ นรายได้
รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงการคลงั
หัวหน้ากลมุ่ ภารกจิ ด้านรายจา่ ยและหน้สี นิ
ปฏิบตั ริ าชการแทน ปลดั กระทรวงการคลงั
กรมบัญชกี ลาง
ส�ำ นกั มาตรฐานคา่ ตอบแทนและสวสั ดกิ าร
กลมุ่ งานคา่ ตอบแทนและสวสั ดกิ าร
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๐๐๐ ตอ่ ๔๙๕๗
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๑๘๗

๒๑๖

ด่วนที่สุด (สำ�เนา)
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๒๔
กรมบัญชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๓๐ ตลุ าคม ๒๕๕๘

เรื่อง ซอ้ มความเข้าใจเกย่ี วกบั การนบั อายบุ ุคคล

เรยี น อธบิ ดีกรมที่ดนิ

อา้ งถึง หนังสือกระทรวงการคลงั ด่วนมาก ที่ กค ๐๕๑๓/ว ๕๘ ลงวนั ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๗

สงิ่ ทสี่ ง่ มาดว้ ย หนังสือกระทรวงการคลงั ดว่ นมาก ท่ี กค ๐๕๑๓/ว ๕๘ ลงวนั ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๗

ตามหนังสือที่อา้ งถึง กระทรวงการคลงั ได้ก�ำ หนดเรอื่ ง การนับอายุบคุ คล ใหเ้ ร่มิ
นบั แต่วันเกิด...ฯลฯ ตามมาตรา ๑๖ แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แตเ่ น่อื งจากหนังสอื
กระทรวงการคลังดังกล่าว  ได้กำ�หนดเรื่องการนับอายุบุคคลมานานแล้วต้ังแต่ปี  พ.ศ. ๒๕๓๗
อาจทำ�ให้สว่ นราชการหลายแหง่ ไม่ทราบถึงเรอื่ งดังกล่าว
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า  เพื่อให้ส่วนราชการได้ทราบถึงสาระสำ�คัญ
ของหนังสือกระทรวงการคลัง  ด่วนมาก  ท่ี  กค  ๐๕๑๓/ว  ๕๘  ลงวันท่ี  ๖  พฤษภาคม  ๒๕๓๗
จึงเห็นควรซอ้ มความเข้าใจ เพ่อื ใหเ้ กิดความเข้าใจยง่ิ ขึน้ ดงั นี้
๑. บุคคลซึ่งเกิดในวนั ท่ี ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙ จะมีอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์ วนั ท่ี ๓๐
กันยายน  ๒๕๕๙  ตามนัยมาตรา  ๑๖  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  (ที่ใช้บังคับ
ในปจั จบุ นั ) ใหบ้ คุ คลผนู้ น้ั พน้ จากราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการในวนั ท่ี ๑
ตุลาคม ๒๕๕๙ (รบั ราชการได้ถงึ วันท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๙)
ส�ำ หรับผทู้ ีเ่ กิดในวันท่ี ๑​ ตุลาคม ของปตี อ่ ๆ ไป กใ็ ห้ถอื หลกั การนบั อายคุ รบ
๖๐ ปบี รบิ รู ณ์ และพน้ จากราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการตามนยั ดงั กลา่ ว
ข้างต้น
๒. การนบั อายขุ องบคุ คลในกรณอี น่ื ๆ เชน่ การลาออกจากราชการเพราะอายคุ รบ
หา้ สบิ ปบี รบิ รู ณ ์ หรอื การเบกิ จา่ ยบ�ำ นาญพเิ ศษและบ�ำ เหนจ็ ตกทอดในสว่ นของบตุ รขา้ ราชการผตู้ าย
ให้ถือปฏิบัติการนับอายุของบุคคลตามนัยมาตรา  ๑๖  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ท่ีใชบ้ งั คบั ในปจั จุบัน)

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไปดว้ ย ขอแสดงความนับถือ

(ลงชือ่ ) อรนชุ ไวนุสทิ ธ์ิ
(นางอรนชุ ไวนุสทิ ธ์)ิ
รองอธบิ ดี ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
อธบิ ดีกรมบญั ชีกลาง
ส�ำ นกั กฎหมาย
โทรศัพท ์ ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๔ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๗

๒๑๗

ด่วนมาก (ส�ำ เนา)
ท่ี กค ๐๕๑๓ / ว ๕๘
กระทรวงการคลงั
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๖ พฤษภาคม ๒๕๓๗
เรอ่ื ง การนบั อายุบคุ คล
เรียน ผวู้ ่าราชการจงั หวัด ปลดั กระทรวง ปลดั ทบวง อธบิ ดี เลขาธกิ าร ผู้อำ�นวยการ

ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติตามนัยหนังสือสำ�นักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  ท่ี  สร
๐๔๐๓/ว. ๘๓ ลงวนั ที่ ๑๔ กนั ยายน ๒๕๐๙ ใหก้ ระทรวงการคลงั ถอื ปฏิบัติการนบั อายุของบคุ คล
โดยอาศยั มาตรา ๑๕๘ แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซง่ึ เป็นบทบัญญัติเกีย่ วกับการนบั
ระยะเวลาเป็นเกณฑ์ในการคำ�นวณนับอายุบุคคลมิให้นับวันเกิดเป็นวันแรกแห่งการคำ�นวณ
อายุ โดยให้เร่ิมนับวันถัดไป ดงั กรณีข้าราชการซ่ึงเกิดวนั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๔๔๙ จงึ ตอ้ งเริ่มนบั อายุ
ต้งั แตว่ ันท่ี ๒ ตุลาคม ๒๔๔๙ และจะมีอายคุ รบ ๖๐ ปีบริบูรณ์ในวนั ท่ี ๑​ ตลุ าคม ๒๕๐๙​ ซ่ึงมี
สทิ ธไิ ด้รบั ราชการตอ่ ไปอกี หนงึ่ ปี แต่เนอื่ งจากในปจั จบุ ันได้มีการแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมาย
แพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เก่ียวกับการนับอายุบุคคลโดยบัญญัติวิธีการนับอายุของบุคคลไว้เป็น
เรื่องเฉพาะตามมาตรา  ๑๖  ซึ่งบัญญัติว่า  “การนับอายุของบุคคลให้เริ่มนับแต่วันเกิด....ฯลฯ”
(มผี ลใชบ้ งั คับตามกฎหมายเม่ือวันท่ี ๘ มถิ ุนายน ๒๕๓๕) จึงทำ�ให้การค�ำ นวณอายขุ องบุคคลซ่งึ
ถอื ปฏบิ ตั ิอย่เู ดมิ เปลี่ยนแปลงไป มผี ลกระทบตอ่ การคำ�นวณนับอายขุ องบคุ คลกรณตี ้องออกจาก
ราชการเพราะเหตุสูงอายุ  รวมท้ังการเบิกจ่ายบำ�นาญพิเศษและบำ�เหน็จตกทอดในส่วนของบุตร
ขา้ ราชการผตู้ าย เป็นตน้
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า  เพื่อให้วิธีปฏิบัติเก่ียวกับการคำ�นวณนับ
อายุของบุคคลเป็นไปตามกฎหมายที่ได้มีบทบัญญัติในการนับอายุของบุคคลไว้โดยเฉพาะ  และ
เพอ่ื ใหส้ ่วนราชการปฏิบตั ิให้เปน็ ไปในแนวทางเดียวกนั จึงเห็นควรให้ถือปฏิบัติการนบั อายบุ ุคคล
ดังน้ี
๑. บุคคลซ่ึงเกิดในวันท่ี  ๑  ตุลาคม  ๒๔๗๗  จะมีอายุครบ  ๖๐ ​ปีบริบูรณ์
วันท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๓๗ ตามนยั มาตรา ๑๖ แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ (ทใ่ี ช้
บังคับในปัจจุบัน)  ให้บุคคลผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ
ในวนั ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๗ (รบั ราชการไดถ้ ึงวนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๓๗)
ส�ำ หรบั ผทู้ เ่ี กิดในวันที่ ๑​ ตุลาคม ๒๔๗๘ และวันที่ ๑ ตลุ าคม ของปตี ่อๆ ไป
ก็ให้ถือหลักการนับอายุครบ  ๖๐  ปีบริบูรณ์  และพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำ�เหน็จ
บ�ำ นาญขา้ ราชการตามนยั ดงั กล่าวข้างต้น

๒๑๘

๒. การนบั อายขุ องบคุ คลในกรณอี น่ื ๆ เชน่ การลาออกจากราชการเพราะอายคุ รบ
หา้ สบิ ปบี รบิ รู ณ ์ หรอื การเบกิ จา่ ยบ�ำ นาญพเิ ศษและบ�ำ เหนจ็ ตกทอดในสว่ นของบตุ รขา้ ราชการผตู้ าย
ให้ถือปฏิบัติการนับอายุของบุคคลตามนัยมาตรา  ๑๖  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ที่ใชบ้ งั คับในปจั จบุ ัน) ต้ังแตบ่ ัดน้ีเป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไปด้วย

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) กมล จนั ทมิ า
(นายกมล จันทิมา)
รองปลัดกระทรวงฯ รักษาราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
กรมบญั ชกี ลาง
กองอนุมตั ิจา่ ย ๒
โทร. ๒๗๓๙๕๖๗

๒๑๙

ดว่ นทีส่ ุด (สำ�เนา)
ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๔๔๗
กรมบญั ชกี ลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

เรือ่ ง อตั ราคา่ บรกิ ารสาธารณสุขเพอื่ ใชส้ ำ�หรับการเบิกจ่ายคา่ รกั ษาพยาบาลในสถานพยาบาล
ของทางราชการ หมวดที่ ๑๕ ค่าบรกิ ารฝังเขม็ และคา่ บรกิ ารการใหก้ ารบ�ำ บัดของ
ผปู้ ระกอบโรคศิลปะอ่นื
เรียน อธิบดีกรมที่ดนิ
อา้ งถงึ หนงั สือกระทรวงการคลงั ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๓๓ ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๔
สง่ิ ท่สี ง่ มาดว้ ย รายการอตั ราค่าบรกิ ารสาธารณสุขเพือ่ ใช้สำ�หรับการเบกิ จา่ ยค่ารักษาพยาบาล
ในสถานพยาบาลของทางราชการ หมวดท่ี ๑๕ ค่าบรกิ ารฝังเขม็ และคา่ บรกิ าร
การให้การบ�ำ บัดของผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะอืน่

ตามหนงั สอื ทอ่ี า้ งถงึ กระทรวงการคลงั ไดก้ �ำ หนดหลกั เกณฑก์ ารเบกิ จา่ ยคา่ รกั ษา
พยาบาลด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  เพ่ือใช้ในการเบิกจ่ายเงิน
สวสั ดิการรกั ษาพยาบาลข้าราชการ นั้น
กรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอำ�นาจจากกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว
ขอเรยี นวา่
๑. เพ่ือให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนไทยและ
การแพทยท์ างเลอื กมคี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั สภาวะทางเศรษฐกจิ ในปจั จบุ นั จงึ เหน็ ควร
ย ก เ ลิ ก ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ ก า ร เ บิ ก จ่ า ย ค่ า รั ก ษ า พ ย า บ า ล ด้ ว ย วิ ธี ก า ร ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ
การแพทย์ทางเลือก ตามหนังสือทอ่ี า้ งถงึ และใหถ้ อื ปฏบิ ตั ติ ามอตั ราค่าบริการสาธารณสขุ เพ่ือใช้
ส�ำ หรบั การเบิกจา่ ยค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ หมวดที่ ๑๕ ค่าบริการ
ฝังเข็มและค่าบริการการใหก้ ารบ�ำ บดั ของผูป้ ระกอบโรคศลิ ปะอื่น ตามสิ่งทสี่ ่งมาด้วย ทัง้ นี้ ใหม้ ี
ผลบังคับใช้สำ�หรับการรักษาพยาบาลด้วยวิธีการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนไทยท่ีเกิดข้ึน
ต้งั แต่วนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เปน็ ตน้ ไป
๒. ใหส้ ถานพยาบาลของทางราชการด�ำ เนนิ การ ดังน้ี
๒.๑ กรณีการออกเอกสารการรับเงิน หรือใบแสดงรายการค่ารกั ษาพยาบาล
ใหผ้ มู้ สี ทิ ธนิ �ำ ไปยน่ื เบกิ กบั ตน้ สงั กดั ใหส้ ถานพยาบาลออกใบรบั รองการรกั ษาโดยผปู้ ระกอบวชิ าชพี
ตามหลักเกณฑท์ ่กี ระทรวงการคลงั กำ�หนดเพ่อื เป็นหลกั ฐานประกอบการเบกิ จ่าย

๒๒๐

๒.๒ กรณีระบบเบิกจ่ายตรง ในการส่งข้อมูลการเบิกค่ารักษาพยาบาลทาง
อิเล็กทรอนิกส์  ให้สถานพยาบาลระบุรหัสรายการทั้งประเภทผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกให้แก่
สำ�นักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพ  (สกส.)  หรือสำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.) แล้วแตก่ รณี ตง้ั แต่วนั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป
๒.๓ บันทึกข้อมูลการรักษาตามแนวเวชปฏิบัติทางการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือกไวใ้ นเวชระเบยี นเพือ่ ประโยชน์การตรวจสอบ
๓. ให้ส่วนราชการตรวจสอบคำ�ขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีทางการ
แพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลอื กใหถ้ กู ตอ้ ง ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขทก่ี ระทรวงการคลงั
ก�ำ หนดอยา่ งเคร่งครดั
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง้ ให้เจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องถอื ปฏบิ ัติต่อไป อนง่ึ
หลักเกณฑ์ดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง  www.cgd.go.th  หัวข้อ
กฎหมาย/ระเบยี บ/หนังสือเวยี น ภารกจิ การควบคมุ ดา้ นงบบุคลากรของบุคลากรภาครฐั
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) มนัส แจ่มเวหา
(นายมนัส แจ่มเวหา)
อธิบดกี รมบญั ชีกลาง

ส�ำ นักมาตรฐานค่าตอบแทนและสวัสดกิ าร
กลุม่ งานสวสั ดิการรักษาพยาบาลขา้ ราชการ
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๓๙๖ – ๘
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๑๕๗


๒๒๑

รายการอัตราค่าบรกิ ารสาธารณสุขเพ่ือใช้ส�ำ หรบั การเบิกจา่ ยคา่ รกั ษาพยาบาล
ในสถานพยาบาลของทางราชการ
หมวดท่ี ๑๕

ค่าบริการฝงั เขม็ และคา่ บริการการให้การบำ�บัดของผู้ประกอบโรคศลิ ปะอื่น
ค่ารักษาพยาบาลเพ่ือการบำ�บัดรักษาโรคและการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยวิธี
การทางการแพทย์แผนไทยและการแพทยแ์ ผนจนี
ค่ารักษาพยาบาลเพื่อการบำ�บัดรักษาโรคและการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยวิธีการ
ทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน  หมายถึง  ค่าบริการในการบำ�บัดรักษาโรคและ
การฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน  ตามที่กำ�หนดใน
กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบวิชาชีพและการประกอบโรคศิลปะ
การเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีการบำ�บัดรักษาโรคและฟื้นฟูสมรรถถาพด้วย
วธิ ีการทางการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยแ์ ผนจนี จะต้องเป็นกรณีเพอื่ การรักษาพยาบาลหรือ
ฟนื้ ฟสู มรรถภาพ มใิ ชก่ รณเี พื่อการสง่ เสริมสขุ ภาพหรอื ปอ้ งกันโรค โดยมขี อ้ บง่ ช้ที างการแพทย์ว่า
จ�ำ เปน็ ต้องรกั ษาหรือฟน้ื ฟสู มรรถภาพด้วยศาสตร์น้ันๆ
คา่ บ�ำ บดั รักษาและการฟื้นฟูโรคดว้ ยวธิ ที างการแพทย์แผนจนี
ค่าบริการฝังเข็ม  และค่าฝังเข็มพร้อมการกระตุ้นจุดฝังเข็มด้วยเคร่ืองกระตุ้น
โดยผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะสาขาการแพทยแ์ ผนจนี หรอื ผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมทผ่ี า่ นการฝกึ อบรม
หลกั สูตรการฝังเขม็ ทไ่ี ด้รบั การรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากหนว่ ยงานภาครฐั ของไทย
๑. ค่าบริการฝังเข็ม  ให้เบิกได้เฉพาะกรณีการฝังเข็มเพ่ือการบำ�บัดรักษาโรค  และ
การฟน้ื ฟูสมรรถภาพ
๒. ค่าฝังเข็มพร้อมการกระตุ้นจุดฝังเข็มด้วยเครื่องกระตุ้น  ให้เบิกได้เฉพาะกรณี
การรกั ษาและการฟ้นื ฟสู มรรถภาพ ผปู้ ว่ ยโรคอมั พฤกษ์ อมั พาต
ท้ังน้ี  การเบิกนั้นต้องมีใบรับรองซ่ึงออกโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมท่ีผ่านการอบรมหลักสูตร
การฝังเข็มท่ีได้รับการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากหน่วยงานภาครัฐของไทย  หรือผู้ประกอบ
โรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน  ว่าผู้ป่วยจำ�เป็นต้องได้รับการบำ�บัดรักษาโรคหรือการฟื้นฟู
สมรรถภาพด้วยวิธีการฝังเข็มเป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย  โดยใบรับรองนั้นต้องระบุโรค
หรืออาการ และระยะเวลาในการเร่ิมตน้ และส้ินสดุ การรักษาในแต่ละคร้ัง หรอื รอบของการรกั ษา
อย่างชัดเจน ท้งั นี้ ในแตล่ ะรอบตอ้ งไมเ่ กนิ ๑​ เดอื น
ค่าบริการบำ�บัดรักษาโรคและการฟื้นฟูสมรรถถาพด้วยวิธีการทางการแพทย์
แผนไทย สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามรายการและไมเ่ กนิ อัตราที่ก�ำ หนด และใหเ้ บกิ ได้
เฉพาะกรณีการบำ�บัดรักษาโรคและการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม  หรือ
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย  หรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์  ท้ังนี้

๒๒๒

การเบกิ นน้ั ตอ้ งมใี บรบั รอง ซง่ึ ออกโดยผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม หรอื ผปู้ ระกอบวชิ าชพี การแพทย์
แผนไทย หรือผปู้ ระกอบวชิ าชีพการแพทยแ์ ผนไทยประยกุ ต์ วา่ ผู้ปว่ ยจำ�เป็นตอ้ งไดร้ บั การบ�ำ บัด
รักษาโรคและการฟ้ืนฟูสมรรถภาพด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนไทยเป็นหลักฐานประกอบการ
เบกิ จ่าย โดยใบรับรองน้ันตอ้ งระบโุ รค หรืออาการ ระยะเวลาในการเริ่มตน้ และสิน้ สุดการรักษาใน
แตล่ ะครัง้ อย่างชัดเจน หรอื รอบของการรกั ษาอย่างชดั เจน ทั้งน้ี ในแตล่ ะรอบต้องไม่เกิน ๑ เดือน
ค่าบริการบำ�บัดรกั ษาโรคดว้ ยวธิ กี ารแพทยแ์ ผนไทย ใหเ้ บกิ ไดด้ งั น้ี
๑. คา่ นวดเพ่ือการบำ�บดั รกั ษาโรค
๒. ค่านวดเพ่ือการฟื้นฟูสมรรถภาพ  สำ�หรับผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์  โรคอัมพาต
โรคสันนบิ าต และการฟื้นฟมู ารดาหลังคลอด
๓. ค่าอบไอนํา้ สมนุ ไพร สำ�หรับการบำ�บดั รกั ษาโรคหอบ หืด โรคภมู ิแพ้ การฟ้ืนฟู
สมรรถภาพผู้ปว่ ยโรคอมั พฤกษ์ โรคอัมพาต โรคสันนบิ าต และการฟ้นื ฟมู ารดาหลงั คลอด
๔. คา่ ประคบสมนุ ไพร สำ�หรบั การบ�ำ บัดรักษาโรค การฟื้นฟสู มรรถภาพผู้ปว่ ยโรค
อัมพฤกษ์ โรคอัมพาต โรคสันนบิ าต และเพอื่ การฟืน้ ฟมู ารดาหลงั คลอด
๕. ค่าทบั หม้อเกลือ ส�ำ หรบั การฟื้นฟมู ารดาหลังคลอด

รายการ เงอ่ื นไข และอตั ราค่ารกั ษาพยาบาลเพอื่ การบ�ำ บัดรกั ษาโรคและการฟ้ืนฟูสมรรถภาพ
ด้วยวธิ กี ารทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน ท่ีใหเ้ บกิ มีดงั น้ี

ลำ�ดับ รหสั รายการ หนว่ ย ราคา หมายเหตุ
(บาท)

๑๕.๑ ๕๘๐๐๑ คา่ ฝงั เขม็ ไม่เกินวันละ ๑ ครั้ง ๑๕๐ ราคาเหมาจา่ ย
ราคาคา่ เข็ม
และค่าบริการ
ทางการแพทย์

๑๕.๒ ๕๘๐๒๐ ค่าฝงั เขม็ พรอ้ มการกระตุ้น ไม่เกินวนั ละ ๑ ครงั้ ๒๐๐ ราคาเหมาจ่าย
จุดฝงั เข็มดว้ ยเครอ่ื งกระตุ้น รวมค่าเข็มและ
เฉพาะกรณกี ารรกั ษาและ ค่าบรกิ าร
ฟนื้ ฟสู มรรถภาพ ผปู้ ่วยโรค ทางการแพทย์
อมั พฤกษ์ อมั พาต

๑๕.๓ ๕๘๑๐๑ คา่ นวดเพอ่ื การบ�ำ บัด ไมเ่ กนิ วนั ละ ๑ คร้ังและ ๒๐๐ ราคาเหมาจ่าย
รักษาโรค ต้องไมเ่ กนิ ๓ คร้ัง/สัปดาห ์ รวมคา่ บริการ
ทางการแพทย์
๑๕.๔ ๕๘๑๐๒ ค่านวดเพ่ือการฟ้นื ฟู ไมเ่ กินวันละ ๑ ครัง้ และ ๒๐๐ ราคาเหมาจ่าย
สมรรถภาพ สำ�หรบั ผูป้ ว่ ย ต้องไมเ่ กนิ ๕ คร้ัง/สัปดาห์ รวมคา่ บริการ
โรคอัมพฤกษ์ อมั พาต กรณีการฟืน้ ฟูมารดา ทางการแพทย์
โรคสนั นบิ าต และ หลังคลอดไมเ่ กนิ วันละ
การฟน้ื ฟูมารดาหลงั คลอด ๑ ครัง้ รวมไมเ่ กนิ ๕ ครัง้
ภายใน ๓ เดอื นหลงั คลอด

๒๒๓

ลำ�ดับ รหัส รายการ หนว่ ย ราคา หมายเหตุ
(บาท)

๑๕.๕ ๕๘๑๓๐ ค่านวดและประคบสมุนไพร ไม่เกนิ วนั ละ ๑ ครง้ั และ ๒๕๐ ราคาเหมาจา่ ย
เพื่อการบ�ำ บดั รกั ษาโรค ตอ้ งไมก่ ิน ๓ คร้ัง/สัปดาห์ รวมคา่ ลกู ประคบ
และค่าบรกิ าร
ทางการแพทย์

๑๕.๖ ๕๘๑๓๑ คา่ นวดและประคบสมุนไพร ไมเ่ กนิ วันละ ๑ คร้งั และ ๒๕๐ ราคาเหมาจ่าย
เพ่อื การฟ้ืนฟสู มรรถภาพ ต้องไม่เกนิ ๕ ครง้ั /สปั ดาห ์ รวมค่าลูกประคบ
ส�ำ หรบั ผปู้ ว่ ย กรณีการฟน้ื ฟมู ารดา และค่าบริการ
อัมพาต โรคสนั นิบาต และ หลงั คลอดไม่เกนิ วันละ ทางการแพทย์
การฟื้นฟมู ารดาหลังคลอด ๑ ครง้ั รวมไม่เกิน ๕ คร้ัง
ภายใน ๓ เดอื นหลังคลอด

๑๕.๗ ๕๘๒๐๑ ค่าประคบสมุนไพรสำ�หรบั ไม่เกินวนั ละ ๑ ครง้ั และ ๑๕๐ ราคาเหมาจา่ ย
การบำ�บัดรกั ษาโรค ต้องไม่เกิน ๓ ครัง้ /สปั ดาห ์ รวมคา่ ลูกประคบ
การฟ้ืนฟสู มรรถภาพผ้ปู ่วย กรณกี ารฟื้นฟูมารดา และคา่ บริการ
โรคอมั พฤกษ์ อัมพาต หลังคลอดไมเ่ กินวนั ละ ทางการแพทย์
โรคสนั นบิ าต และ ๑ คร้ัง รวมไม่เกนิ ๕ ครั้ง
การฟืน้ ฟูมารดาหลงั คลอด ภายใน ๓ เดือนหลงั คลอด

๑๕.๘ ๕๘๒๒๐ ค่าทบั หมอ้ เกลอื เพื่อการ ไม่เกนิ วันละ ๑ ครง้ั ๓๐๐ ราคาเหมาจา่ ย
ฟืน้ ฟมู ารดาหลงั คลอด รวมไมเ่ กิน ๕ ครั้งภายใน รวมค่าหมอ้ เกลือ
๓ เดอื นหลงั คลอด และค่าบรกิ าร
ทางการแพทย์

๑๕.๙ ๕๘๓๐๑ คา่ อบไอนา้ํ สมุนไพร ส�ำ หรบั ไม่เกนิ วันละ ๑ คร้ังและ ๑๒๐ ราคาเหมาจ่าย
การบ�ำ บัดรักษาโรคหอบ หืด ตอ้ งไมเ่ กิน ๓ ครั้ง/สปั ดาห ์ รวมคา่ สมนุ ไพร
ภูมแิ พ้ การฟน้ื ฟสู มรรถภาพ กรณีการฟนื้ ฟูมารดา และค่าบริการ
ผปู้ ว่ ยโรคอมั พฤกษ์ อมั พาต หลังคลอดไม่เกินวันละ ทางการแพทย์
โรคสันนบิ าต และ ๑ คร้ัง รวมไม่เกิน ๕ ครง้ั
การฟน้ื ฟูมารดาหลงั คลอด ภายใน ๓ เดือนหลงั คลอด

หมายเหตุ
– การเบกิ คา่ รักษาพยาบาลในรหัส ๕๘๐๐๑ และ ๕๘๐๒๐ ภายในวันเดียวกัน ใหเ้ บิกได้
เพยี งรหัสใดรหสั หน่งึ เทา่ นั้น
– การเบิกค่ารักษาพยาบาลในรหสั ๕๘๑๐๑ ๕๘๑๐๒ ๕๘๑๓๐ ๕๘๑๓๑ และ ๕๘๒๐๑
ภายในวันเดยี วกัน ใหเ้ บิกไดเ้ พยี งรหสั ใดรหสั หน่ึงเท่าน้นั
– ค่ายาสมุนไพรหรือยาแผนไทยที่ใช้ในการบำ�บัดรักษาโรค  ให้เบิกจ่ายในหมวดที่  ๓  ค่ายา
และสารอาหารทางเส้นเลือด และหมวดท่​ี ๔ ค่ายากลับบา้ น แล้วแต่กรณโี ดยใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์
ท่ีกระทรวงการคลงั /กรมบัญชีกลางก�ำ หนด

๒๒๔

ด่วนท่สี ดุ (ส�ำ เนา)
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๓๗
กระทรวงการคลัง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘

เร่อื ง ประกาศกระทรวงการคลงั เร่ือง กำ�หนดรายชื่อคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
ท่ีมสี ทิ ธไิ ดร้ บั เบยี้ ประชมุ เปน็ รายเดอื น และอตั ราเบยี้ ประชุมเปน็ รายเดอื นและเปน็ รายครงั้
สำ�หรบั กรรมการ อนกุ รรมการ เลขานกุ ารและผูช้ ่วยเลขานกุ าร พ.ศ. ๒๕๕๘

เรยี น อธบิ ดกี รมทีด่ ิน

อ้างถงึ ๑. หนงั สอื กระทรวงการคลัง ดว่ นท่สี ดุ ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๒๑ ลงวนั ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
๒. หนงั สือกระทรวงการคลัง ด่วนท่ีสุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๓๙ ลงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๔
๓. หนงั สอื กระทรวงการคลัง ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๘๑ ลงวนั ที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๕๔
๔. หนงั สอื กระทรวงการคลงั ด่วนท่สี ดุ ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๑๖ ลงวนั ที่ ๔ มนี าคม ๒๕๕๗
๕. หนังสอื กระทรวงการคลัง ด่วนที่สดุ ที่ กค ๐๔๐๖.๔/ว ๖๙ ลงวนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗

สิ่งทสี่ ง่ มาดว้ ย ส�ำ เนาประกาศกระทรวงการคลงั เรื่อง ก�ำ หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนกุ รรมการท่มี สี ิทธิได้รับเบ้ยี ประชมุ เปน็ รายเดือน และอัตราเบย้ี ประชมุ
เปน็ รายเดอื นและเปน็ รายครั้งส�ำ หรับกรรมการ อนกุ รรมการ เลขานกุ ารและ
ผู้ช่วยเลขานุการ พ.ศ. ๒๕๕๘

ตามท่ีกระทรวงการคลังได้ประกาศกำ�หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและ
เป็นรายครง้ั ส�ำ หรบั กรรมการ อนุกรรมการ เลขานกุ ารและผ้ชู ่วยเลขานกุ าร รวม ๕ ฉบบั นน้ั
กระทรวงการคลงั พจิ ารณาแล้ว เพอื่ ใหเ้ กดิ ความชัดเจนและสะดวกในการอ้างอิง
ของสว่ นราชการ จึงไดย้ กเลิกประกาศกระทรวงการคลงั เรอื่ ง ก�ำ หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและ
เป็นรายครั้งสำ�หรับกรรมการ อนกุ รรมการ เลขานกุ ารและผชู้ ่วยเลขานกุ าร ตามทีอ่ ้างถึง ๑ – ๕
และก�ำ หนดข้นึ ใหม่ รายละเอียดปรากฏตามส�ำ เนาประกาศกระทรวงการคลงั ท่สี ่งมาพร้อมน้ี
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องเพ่ือทราบและ
ถอื ปฏิบัตติ อ่ ไป

ขอแสดงความนับถือ

(ลงชอื่ ) สุทธริ ัตน์ รัตนโชติ
(นางสาวสุทธิรัตน์ รตั นโชต)ิ
รองปลัดกระทรวงการคลงั

กรมบญั ชีกลาง สำ�นกั กฎหมาย หวั หนา้ กลมุ่ ภารกจิ ด้านรายจ่ายและหน้สี ิน

โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๑ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๒๖๒๐๕

(สำ�เนา)
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรอื่ ง กำ�หนดรายช่อื คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการทมี่ ีสทิ ธไิ ด้รับเบยี้ ประชมุ
เป็นรายเดอื น และอตั ราเบยี้ ประชมุ เป็นรายเดือนและเปน็ รายครั้งส�ำ หรับกรรมการ
อนุกรรมการ เลขานกุ ารและผชู้ ว่ ยเลขานุการ
_____พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๘_____
อาศยั อ�ำ นาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๕ แหง่ พระราชกฤษฎกี า
เบย้ี ประชมุ กรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการคลังจงึ ออก
ประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้
๑. ใหย้ กเลิก
(๑) ประกาศกระทรวงการคลัง  เรื่อง  กำ�หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบ้ียประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและ
เป็นรายครั้งส�ำ หรบั กรรมการ อนกุ รรมการ เลขานกุ ารและผูช้ ว่ ยเลขานุการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกาศ
ณ วนั ท่ี ๑๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓
(๒) ประกาศกระทรวงการคลัง  เร่ือง  กำ�หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการท่ีมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน
และเป็นรายครั้งสำ�หรับกรรมการ  อนุกรรมการ  เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ  (ฉบับที่  ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔
(๓) ประกาศกระทรวงการคลัง  เรื่อง  กำ�หนดรายช่ือคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการท่ีมีสิทธิได้รับเบ้ียประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน
และเป็นรายครั้งสำ�หรับกรรมการ  อนุกรรมการ  เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ  (ฉบับท่ี  ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
(๔) ประกาศกระทรวงการคลัง  เร่ือง  กำ�หนดรายชื่อคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการท่ีมีสิทธิได้รับเบ้ียประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบ้ียประชุมเป็นรายเดือน
และเป็นรายครั้งสำ�หรับกรรมการ  อนุกรรมการ  เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ  (ฉบับที่  ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๘ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗
(๕) ประกาศกระทรวงการคลัง  เร่ือง  กำ�หนดรายช่ือคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน  และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน
และเป็นรายครั้งสำ�หรับกรรมการ  อนุกรรมการ  เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ  (ฉบับที่  ๕)
พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

๒๒๖

๒. กำ�หนดรายช่ือคณะกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมและอัตราเบ้ียประชุมเป็น
รายเดอื น ตามบญั ชีหมายเลข ๑ แนบทา้ ยประกาศน้ี
๓. กำ�หนดรายช่ือคณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมและอัตราเบ้ียประชุม
เป็นรายเดือน ตามบัญชหี มายเลข ๒ แนบท้ายประกาศน้ี
๔. กำ�หนดอัตราเบ้ยี ประชมุ รายครัง้ สำ�หรบั กรรมการ อนกุ รรมการ เลขานุการ และ
ผูช้ ่วยเลขานุการ ตามบญั ชหี มายเลข ๓ แนบท้ายประกาศน้ี
๕. ประกาศนี้ให้ใชบ้ ังคับตง้ั แต่วันออกประกาศเปน็ ต้นไป
ประกาศ ณ วันท่ ี ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๘
(ลงช่อื ) อภศิ ักด์ิ ตนั ติวรวงศ์
(นายอภิศักด์ ิ ตันตวิ รวงศ)์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลงั

๒๒๗

บัญชหี มายเลข ๑

รายช่อื คณะกรรมการท่มี ีสทิ ธิไดร้ บั เบยี้ ประชมุ เปน็ รายเดอื นและอตั ราเบย้ี ประชมุ

อัตราไม่เกนิ (บาท : คน : เดือน)

ล�ำ ดบั ท่ี รายช่อื คณะกรรมการ ประธาน รอง กรรมการ
ประธาน

๑. คณะกรรมการสภากลาโหม ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๓. คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔. คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือนในสถาบนั อดุ มศกึ ษา ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๕. คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๖. คณะกรรมการข้าราชการตำ�รวจ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๗. คณะกรรมการขา้ ราชการทหาร ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๘. คณะกรรมการพิจารณาเงินเดอื นแห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๙. คณะกรรมการนโยบายต�ำ รวจแหง่ ชาต ิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๑๐. คณะกรรมการปฏริ ูปกฎหมาย ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๑๑. คณะกรรมการส่งเสริมการลงทนุ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๒. คณะกรรมการสง่ิ แวดล้อมแห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๓. คณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๔. คณะกรรมการสง่ เสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๕. คณะกรรมการท่รี าชพัสดุ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๖. คณะกรรมการนโยบายพลงั งานแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๗. คณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๘. คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณแ์ ห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๑๙. คณะกรรมการนโยบายและแผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณ ์ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๐. คณะกรรมการผ้สู ูงอายุแห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๑. คณะกรรมการนโยบายและก�ำ กบั การบรหิ ารหนี้สาธารณะ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๒. คณะกรรมการคมุ้ ครองเด็กแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๓. คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๔. คณะกรรมการสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๕. คณะกรรมการมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๖. คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์ (ปคม.) ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๒๗. คณะกรรมการประสานและก�ำ กบั การด�ำ เนินงานปอ้ งกนั และ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
ปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ (ปกค.)
๒๘. คณะกรรมการสง่ เสริมการพัฒนาเดก็ และเยาวชนแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
(ตามพระราชบัญญตั สิ ่งเสริมการพฒั นาเดก็ และเยาวชนแห่งชาติ
พ.ศ.๒๕๕๐ ทัง้ น้ี ต้งั แต่วันที่ ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๕๒)
๒๙. คณะกรรมการนโยบายและยทุ ธศาสตร์ครอบครวั แหง่ ชาติ (กยค.) ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๓๐. คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพฒั นาสถานภาพ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
สตรีแหง่ ชาติ (กยส.)

๒๒๘

ล�ำ ดบั ท่ี รายชือ่ คณะกรรมการ ประธาน รอง กรรมการ
ประธาน

๓๑. คณะกรรมการพฒั นาสอื่ ปลอดภัยและสร้างสรรคแ์ ห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๓๒. คณะกรรมการนโยบายทรพั ยส์ ินทางปญั ญาแห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๘,๐๐๐
๓๓. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาต ิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๔. คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๕. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๖. คณะกรรมการการกระจายอำ�นาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๗. คณะกรรมการสภาการศึกษา ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๘. คณะกรรมการคุม้ ครองผ้บู รโิ ภค ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๓๙. คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกจิ สมั พนั ธ์ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๐. คณะกรรมการสง่ เสริมการจดั สวัสดกิ ารสงั คมแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๑. คณะกรรมการจัดทดี่ นิ แห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๒. คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ ตามมาตรา ๔๒ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
แห่งพระราชบญั ญตั ิการแขง่ ขนั ทางการคา้ พ.ศ. ๒๕๔๒
๔๓. คณะกรรมการกลางว่าดว้ ยราคาสินคา้ และบริการ (กกร.) ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๔. คณะกรรมการพจิ ารณาการท่มุ ตลาดและการอดุ หนนุ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๕. คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดทิ ัศนแ์ หง่ ชาต ิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๖. คณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๔๗. คณะกรรมการนโยบายการบรหิ ารงานจังหวดั และกลุ่มจงั หวัด ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
แบบบรู ณาการ (ก.น.จ.)
๔๘. คณะกรรมการพจิ ารณามาตรการปกปอ้ ง (ท้ังนี้ ตงั้ แต่ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
วนั ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๒)
๔๙. คณะกรรมการพลังงานปรมาณเู พื่อสนั ติ (ท้ังน้ี ตัง้ แต ่ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
วันที่ ๒๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๒)
๕๐. คณะกรรมการการบินพลเรอื น ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๕๑. คณะกรรมการปฏิรูปท่ดี นิ เพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๕๒. คณะกรรมการอาหารแหง่ ชาต ิ ๑๐,๐๐๐ – ๘,๐๐๐
๕๓. คณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ ินของสำ�นักงาน ป.ป.ส. ๖,๒๕๐ ๕,๖๒๕ ๕,๐๐๐
๕๔. คณะกรรมการบรหิ ารสภาวจิ ยั แหง่ ชาต ิ ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๕๕. คณะกรรมการผังเมอื ง ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๕๖. คณะกรรมการวินิจฉยั การเปิดเผยข้อมลู ขา่ วสาร ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๕๗. คณะกรรมการพิจารณาคา่ ตอบแทนผู้เสยี หายและค่าทดแทน ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
และค่าใช้จ่ายแกจ่ ำ�เลยในคดอี าญา
๕๘. คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๕๙. คณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๐. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐

๒๒๙

ล�ำ ดับที่ รายช่อื คณะกรรมการ ประธาน รอง กรรมการ
ประธาน

๖๑. คณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวัสดภิ าพครแู ละบคุ ลากร ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
ทางการศกึ ษา
๖๒. คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๓. คณะกรรมการวตั ถอุ นั ตราย ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๔. คณะกรรมการวตั ถุที่ออกฤทธติ์ ่อจติ และประสาท ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๕. คณะกรรมการอาหาร ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๖. คณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดให้โทษ ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๗. คณะกรรมการเครื่องมอื แพทย์ ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๘. คณะกรรมการปอ้ งกันการใชส้ ารระเหย ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๖๙. คณะกรรมการเครือ่ งสำ�อาง ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๗๐. คณะกรรมการกำ�กบั การประกอบกิจการดแู ลผลประโยชน ์ ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๗๑. คณะกรรมการเทคนิค ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๗๒. คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการพัสดุ (กวพ.) ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๗๓. คณะกรรมการว่าด้วยการพสั ดดุ ว้ ยวธิ ีการทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
(กวพ.อ.)
๗๔. คณะกรรมการสง่ เสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐
๗๕. คณะกรรมการการถวายความปลอดภัย ๖,๒๕๐ – ๕,๐๐๐

๒๓๐

บัญชีหมายเลข ๒

รายชอื่ คณะอนกุ รรมการท่มี สี ิทธิไดร้ ับเบีย้ ประชุมเป็นรายเดอื นและอัตราเบีย้ ประชุม

อตั ราไมเ่ กนิ (บาท : คน : เดอื น)

ลำ�ดับ รายชื่อคณะอนกุ รรมการ ประธาน รอง อนุกรรมการ
ท่ี ประธาน

คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการ กยค. ๕,๐๐๐ ๔,๕๐๐ ๔,๐๐๐
คณะอนุกรรมการซงึ่ กยค. แตง่ ต้ังตามขอ้ ๑๐ (๑๑)

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการ กยส. ๕,๐๐๐ ๔,๕๐๐ ๔,๐๐๐
คณะอนุกรรมการซึง่ กยส. แต่งตงั้ ตามข้อ ๑๑ (๑๐)

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการ ก.พ. จ�ำ นวน ๑๓ คณะ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
๑. อ.ก.พ. วสิ ามญั เกย่ี วกบั วนิ ยั และการออกจากราชการ
๒. อ.ก.พ. วิสามัญเกย่ี วกบั การอุทธรณ์และการร้องทกุ ข์
๓. อ.ก.พ. วิสามญั เกย่ี วกบั กฎหมายและระเบยี บขา้ ราชการ
๔. อ.ก.พ. วิสามัญเกย่ี วกับการสร้างระบบและมาตรฐานการสรรหา
ทรพั ยากรบคุ คล
๕. อ.ก.พ. วสิ ามญั เกย่ี วกบั การสรา้ งและพฒั นาคณุ ภาพก�ำ ลงั คนภาครฐั
๖. อ.ก.พ. วสิ ามัญเกยี่ วกบั ระบบจ�ำ แนกตำ�แหน่งและคา่ ตอบแทน
๗. อ.ก.พ. วิสามญั เก่ียวกบั การสรา้ งประสิทธภิ าพด้านการบรหิ าร
ทรพั ยากรบุคคล
๘. อ.ก.พ. วิสามญั เกย่ี วกับการพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล
๙. อ.ก.พ. วิสามญั เกี่ยวกับการส่งเสรมิ จรยิ ธรรมเพ่ือราชการใสสะอาด
๑๐. อ.ก.พ. วสิ ามัญเกี่ยวกบั การรักษาระบบมาตรฐานหลักสูตร
การฝกึ อบรมนักบรหิ ารระดับสูง
๑๑. อ.ก.พ. วิสามญั เกย่ี วกับการเตรยี มกำ�ลงั คนภาครฐั
๑๒. อ.ก.พ. วิสามญั เกย่ี วกบั การประเมินบคุ คลเพ่อื แต่งตั้งให้ด�ำ รง
ตำ�แหน่งประเภทวิชาการ
๑๓. อ.ก.พ. วสิ ามัญเกี่ยวกบั การรบั รองมาตรฐานนักกฎหมายภาครัฐ

คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการ ก.พ.ร. จ�ำ นวน ๒๑ คณะ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
๑. อ.ก.พ.ร. เก่ยี วกับการทบทวนและปรบั ปรุงโครงสรา้ งสว่ นราชการ
ด้านเศรษฐกจิ
๒. อ.ก.พ.ร. เก่ยี วกบั การทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการ
ดา้ นสงั คม
๓. อ.ก.พ.ร. เก่ยี วกบั การส่งเสริมและพฒั นาระบบการบริหารราชการ
ในสว่ นภมู ิภาคและท้องถนิ่
๔. อ.ก.พ.ร. เกยี่ วกับการส่งเสรมิ การบริหารกิจการบ้านเมืองทด่ี ี


๒๓๑

ลำ�ดบั รายช่อื คณะอนุกรรมการ ประธาน รอง อนกุ รรมการ
ที่ ประธาน

๕. อ.ก.พ.ร. เกยี่ วกับการปรบั ปรุงระบบบุคคลและคา่ ตอบแทน
๖. อ.ก.พ.ร. เกย่ี วกบั การสง่ เสรมิ การปรบั เปลย่ี นกระบวนทศั นว์ ฒั นธรรม
และค่านยิ มของระบบราชการ
๗. อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการตีความและวนิ จิ ฉยั ปญั หากฎหมาย
ในการบรหิ ารราชการแผ่นดิน
๘. อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกบั การพัฒนาระบบรัฐบาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์
๙. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกี่ยวกับการวิเคราะห์และติดตามประเมนิ ผล
โครงการตามแผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบราชการไทย
๑๐. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกย่ี วกับการสง่ เสรมิ และพฒั นาองคก์ ารมหาชน
และองคก์ รรูปแบบอืน่ ในกำ�กบั ของราชการฝา่ ยบรหิ ารที่มิใช่
สว่ นราชการ
๑๑. อ.ก.พ.ร. เกยี่ วกบั การปรบั ปรงุ ระบบการเงนิ และงบประมาณ
๑๒. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกจิ เกย่ี วกบั การยกระดบั คณุ ภาพมาตรฐานและ
ลดขนั้ ตอนระยะเวลาการปฏิบตั ริ าชการเพอื่ อำ�นวยความสะดวก
และตอบสนองความต้องการของประชาชน
๑๓. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกี่ยวกบั โครงการพัฒนานกั บริหาร
การเปล่ยี นแปลงรุ่นใหม่
๑๔. อ.ก.พ.ร. เก่ยี วกบั การพฒั นาคณุ ภาพการบรหิ ารจัดการภาครฐั
๑๕. อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสรมิ การบรหิ ารราชการ
แบบมสี ่วนรว่ ม
๑๖. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกย่ี วกบั การก�ำ หนดหลักการจัดและพฒั นา
โครงสร้างระบบราชการ
๑๗. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกจิ เกย่ี วกับการเตรียมการให้เปน็ ไปตามบทบัญญัติ
ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
มาตรา ๒๗๙ และมาตรา ๒๘๐
๑๘. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกจิ เกย่ี วกับการส่งเสริมและพฒั นาการสง่ มอบ
บรกิ ารประชาชนของอำ�เภอและท้องถน่ิ
๑๙. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกจิ เกยี่ วกับการเตรยี มความพร้อมในการขับเคล่ือน
พระราชบญั ญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน (ฉบับท่ี ๗)
พ.ศ. ๒๕๕๐ และรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐
ไปสูก่ ารปฏิบัติ
๒๐. อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจเกย่ี วกับวิธีการปฏิบัติงานของข้าราชการเพือ่
ประหยัดพลงั งานของสว่ นราชการและลดค่าครองชีพของขา้ ราชการ
๒๑. คณะอนุกรรมการพฒั นาระบบราชการเกีย่ วกบั การบริหารโครงการ
บรู ณาการงานบริการภาครัฐใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ

๒๓๒

ลำ�ดับ รายชอ่ื คณะอนกุ รรมการ ประธาน รอง อนุกรรมการ
ท่ี ประธาน

คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายต�ำ รวจแห่งชาติ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
(ก.ต.ช.) จ�ำ นวน ๓ คณะ
๑. คณะอนกุ รรมการนโยบายต�ำ รวจแห่งชาตดิ า้ นกฎหมาย
๒. คณะอนกุ รรมการนโยบายตำ�รวจแหง่ ชาตดิ ้านการก�ำ กับ ดูแลและ
ตดิ ตามผลการด�ำ เนนิ การตามนโยบาย
๓. คณะอนกุ รรมการนโยบายต�ำ รวจแห่งชาติด้านการตรวจสอบและ
ตดิ ตามการบรหิ ารงานต�ำ รวจ

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการขา้ ราชการต�ำ รวจ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
จำ�นวน ๗ คณะ
๑. คณะอนกุ รรมการ ก.ตร. เกย่ี วกับการด�ำ เนินการทางวนิ ัย
๒. คณะอนกุ รรมการ ก.ตร. เกีย่ วกับการอทุ ธรณ์
๓. คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกยี่ วกับการร้องทุกข์
๔. คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกย่ี วกับกฎหมายและระเบยี บ
๕. คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกยี่ วกับการส่งเสรมิ จริยธรรมและ
การพฒั นาคุณธรรม
๖. คณะอนกุ รรมการ ก.ตร. เกย่ี วกบั การบริหารทรัพยากรบุคคล
๗. คณะอนกุ รรมการ ก.ตร. เกีย่ วกับการพฒั นาทรัพยากรบุคคล
(ต้ังแตว่ นั ที่ ๒๕ มนี าคม ๒๕๕๔)

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการ ก.พ.อ. จ�ำ นวน ๗ คณะ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
๑. คณะอนุกรรมการเกี่ยวกบั การพฒั นาระบบบริหารงานบคุ คล
ในสถาบันอดุ มศึกษา
๒. คณะอนกุ รรมการเกย่ี วกบั ต�ำ แหนง่ ทางวชิ าการของขา้ ราชการพลเรอื น
ในสถาบันอุดมศึกษา
๓. คณะอนุกรรมการเกี่ยวกบั คุณวฒุ ิ
๔. คณะอนกุ รรมการเกี่ยวกับกฎหมาย และระเบียบ
๕. คณะอนกุ รรมการเก่ียวกบั อุทธรณ์ ร้องทกุ ข์และจรรยาบรรณ
๖. คณะอนกุ รรมการเก่ียวกับการส่งเสริมและพัฒนางานวิจยั
๗. คณะอนุกรรมการเกย่ี วกับการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ในระบบ
อุดมศึกษา


๒๓๓

ล�ำ ดับ รายชื่อคณะอนุกรรมการ ประธาน รอง อนกุ รรมการ
ท่ี ประธาน

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
ทางการศึกษา จำ�นวน ๙ คณะ
๑. อ.ก.ค.ศ. วิสามญั เกย่ี วกบั กฎหมายและระเบยี บข้าราชการครแู ละ
บคุ ลากรทางการศกึ ษา
๒. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญเกย่ี วกับวนิ ยั และการออกจากราชการ
๓. อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกย่ี วกับการอุทธรณ์และการรอ้ งทุกข์
๔. อ.ก.ค.ศ. วิสามญั เกย่ี วกบั ตำ�แหนง่ ข้าราชการครแู ละบุคลากร
ทางการศกึ ษา
๕. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามญั เกย่ี วกับวทิ ยฐานะขา้ ราชการครูและบคุ ลากร
ทางการศึกษา
๖. อ.ก.ค.ศ. วิสามญั เกี่ยวกับการพฒั นานโยบายและระบบบรหิ าร
งานบคุ คล
๗. อ.ก.ค.ศ. วิสามญั เกยี่ วกับเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ จังหวดั
ชายแดนภาคใต้
๘. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญเกี่ยวกบั การก�ำ กับ ติดตาม และประเมนิ ผล
การบรหิ ารงานบคุ คล
๙. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามญั เกีย่ วกบั การเสรมิ สรา้ งประสทิ ธิภาพในการปฏิบตั ิ
ราชการของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (ท้งั น้ี ตงั้ แต่
วันที่ ๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๓)

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการวิสามญั เกยี่ วกับต�ำ แหน่ง ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
บุคลากรทางการศกึ ษาอื่น
คณะอนกุ รรมการวสิ ามญั เกย่ี วกบั ต�ำ แหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื
ตามมาตรา ๓๘ ค (๒)

คณะอนกุ รรมการในคณะกรรมการแข่งขันทางการคา้ ๕,๐๐๐ – ๔,๐๐๐
คณะอนุกรรมการเช่ยี วชาญเฉพาะเรื่องธุรกจิ คา้ สง่ ค้าปลกี


๒๓๔

บัญชีหมายเลข ๓
อัตราเบ้ียประชุมรายครั้งส�ำ หรับกรรมการ อนกุ รรมการ เลขานุการและผูช้ ่วยเลขานกุ าร

ประเภท อัตราไมเ่ กิน (บาท : คน : ครัง้ )

กรรมการในคณะกรรมการตามมาตรา ๖ (๒) ๑,๖๐๐
เลขานุการและผู้ช่วยเลขานกุ ารในคณะกรรมการตามมาตรา ๖ ๑,๖๐๐
๑,๐๐๐
อนกุ รรมการในคณะกรรมการตามมาตรา ๗ (๒) ๑,๐๐๐
เลขานกุ ารและผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารในคณะอนุกรรมการตามมาตรา ๗

๒๓๕

ดว่ นท่สี ดุ (สำ�เนา)
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๗๕
กรมบัญชีกลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

เร่ือง หลักเกณฑ์และวธิ ปี ฏิบตั ิในการใชห้ นงั สอื รับรองสทิ ธิในบ�ำ เหน็จตกทอดเพ่ือใชเ้ ปน็
หลกั ทรัพย์ประกันการกู้เงนิ ฉบับเดมิ
เรียน อธิบดีกรมที่ดิน
อ้างถงึ ๑. หนังสอื กรมบญั ชกี ลาง ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๓ ลงวนั ที่ ๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๖
๒. หนงั สอื กระทรวงการคลงั ด่วนท่ีสดุ ที่ กค ๐๔๐๒.๙ / ว ๕๓ ลงวนั ท่ี ๒๙ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒
๓. หนงั สือกรมบญั ชกี ลาง ดว่ นท่สี ุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๙๔ ลงวนั ที่ ๑๕ มิถนุ ายน ๒๕๕๔

ตามที่กรมบัญชีกลางได้ดำ�เนินโครงการการกู้เงินกับสถาบันการเงินโดยนำ�สิทธิ
ในบ�ำ เหนจ็ ตกทอดไปเปน็ หลกั ทรพั ยป์ ระกนั การกเู้ งนิ กบั สถาบนั การเงนิ โดยก�ำ หนดใหผ้ รู้ บั บ�ำ นาญ
จะต้องขอรับหนังสือรับรองสิทธิในบำ�เหน็จตกทอดเพ่ือใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงินจาก
กรมบัญชีกลางหรือสำ�นักงานคลังจังหวัด  เพื่อนำ�ไปใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงินกับสถาบัน
การเงิน โดยหากผรู้ บั บ�ำ นาญได้น�ำ หนงั สือรับรองไปยื่นกกู้ บั สถาบนั การเงินแล้ว จะไม่สามารถขอ
หนังสือรับรองฉบบั ใหมไ่ ดจ้ นกวา่ จะช�ำ ระคืนเงนิ ก้ทู ั้งหมด นนั้
กรมบญั ชกี ลางพิจารณแลว้ ขอเรียนดังน้ี
๑. กรณีผู้รับบำ�นาญได้นำ�หนังสือรับรองไปย่ืนกู้กับสถาบันการเงินและขอกู้
ไม่เต็มจำ�นวนในหนังสือรับรอง  ต่อมาภายหลังต้องการกู้เงินส่วนที่เหลือเพิ่มเติม  ก็สามารถกู้เงิน
กับสถาบันการเงินเดิมโดยใช้หนงั สอื รบั รองฉบบั เดมิ ได้ ตามหลักเกณฑ์การให้สนิ เชือ่ ของสถาบนั
การเงินน้ัน รายละเอยี ดปรากฏตามหนังสือทอ่ี ้างถงึ ๑
๒. กรณผี รู้ บั บ�ำ นาญไดน้ �ำ หนงั สอื รบั รองไปยน่ื กกู้ บั สถาบนั การเงนิ เตม็ จ�ำ นวนแลว้
และได้มีการชำ�ระหนี้เงินกู้แล้วบางส่วน  ต่อมาประสงค์จะกู้เงินเพิ่มในส่วนท่ีได้ชำ�ระหน้ีกับ
สถาบนั การเงนิ ไปแลว้ กใ็ หส้ ามารถกเู้ งนิ เพม่ิ กบั สถาบนั การเงนิ เดมิ โดยใชห้ นงั สอื รบั รองฉบบั เดมิ ได้
ซ่ึงจำ�นวนเงินท่ีกู้เดิมกับจำ�นวนเงินที่กู้เพิ่มเม่ือรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินจำ�นวนเงินที่ระบุใน
หนังสือรับรองตามหลักเกณฑ์การให้สินเช่ือของสถาบันการเงินน้ัน  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่  ๑  ธันวาคม
๒๕๕๘ เป็นต้นไป

๒๓๖

๓. กรณีผู้รับบำ�นาญได้รับบำ�นาญเพิ่มจากการกลับไปรับบำ�นาญตามพระราช
บญั ญตั บิ �ำ เหน็จบ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๔๙๔ และประสงค์จะขอบำ�เหนจ็ ด�ำ รงชพี ผรู้ บั บำ�นาญ
สามารถยื่นแบบขอรับบำ�เหน็จดำ�รงชีพได้ท่ีส่วนราชการผู้เบิกบำ�เหน็จบำ�นาญโดยดำ�เนินการ
ตามหนงั สอื ที่อ้างถึง ๒ ท้งั นี้ ตัง้ แตว่ ันท่ี ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๕๘ เปน็ ตน้ ไป
๔. กรณีผู้รับบำ�นาญได้รับบำ�นาญเพิ่มจากการกลับไปรับบำ�นาญตามพระราช
บัญญัติบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการ  พ.ศ. ๒๔๙๔  และประสงค์จะกู้เงินเพิ่มในส่วนท่ีได้รับสิทธิ
ในบำ�เหน็จตกทอดเพ่ิม  ผู้รับบำ�นาญสามารถขอรับหนังสือรับรองเฉพาะส่วนที่เพิ่มขึ้นได้  โดยให้
ด�ำ เนนิ การตามหนงั สอื ท่ีอ้างถงึ ๓ ทง้ั นี้ ต้งั แตว่ ันท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป อย่างไรกด็ ี
หากผรู้ บั บ�ำ นาญไดข้ อรบั หนงั สอื รบั รองเฉพาะสว่ นทเ่ี พม่ิ ขน้ึ แลว้ จะไมม่ สี ทิ ธยิ น่ื ขอบ�ำ เหนจ็ ด�ำ รงชพี
ในสว่ นทไี่ ดร้ ับบ�ำ นาญเพิ่ม
จึงขอให้ส่วนราชการประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับบำ�นาญทราบ  โดยผู้รับบำ�นาญสามารถติดต่อกับ
สถาบนั การเงินท่ผี ู้รับบ�ำ นาญกเู้ งนิ ไดโ้ ดยตรง
จึงเรียนมาเพือ่ โปรดประชาสมั พันธใ์ ห้ผทู้ ่ีเกย่ี วข้องทราบต่อไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) อรนุช ไวนสุ ิทธ์ิ
(นางอรนุช ไวนสุ ทิ ธ์)ิ
รองอธิบดี ปฏิบตั ริ าชการแทน
อธิบดกี รมบัญชกี ลาง
ส�ำ นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๔
โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๗

๒๓๗

ท่ี รง ๐๖๒๓ / ๒๒๒๘๒ (ส�ำ เนา)
สำ�นกั งานประกนั สงั คมกรงุ เทพมหานครพ้ืนท่ี ๒
ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐

๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

เร่อื ง ขอใหป้ ฏิบตั ติ ามกฎหมายประกนั สังคมอย่างเครง่ ครดั
เรียน อธบิ ดกี รมทดี่ ิน

ตามท่ีสถานประกอบการได้ขึ้นทะเบียนเป็นนายจ้างตามพระราชบัญญัติประกัน
สังคม  พ.ศ. ๒๕๓๓  ซ่ึงมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคมอย่างเคร่งครัด  โดยเฉพาะการ
ขน้ึ ทะเบยี นผู้ประกันตน การแจ้งการออกจากงานของลูกจา้ งทเี่ ป็นผู้ประกันตน และการนำ�ส่งเงนิ
สมทบตามระยะเวลาทกี่ ฎหมายก�ำ หนด นน้ั
สำ�นักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นท่ี  ๒  ขอเรียนว่าจากการดำ�เนินงาน
ของสำ�นักงานฯ  ในช่วงเวลาที่ผ่านมายังมีสถานประกอบการหลายแห่งกระทำ�ผิดตามกฎหมาย
ประกนั สังคม กล่าวคือ มีการแจง้ ขึ้นทะเบียนผปู้ ระกันตน การแจ้งออกจากงานของลกู จ้างท่ีเป็น
ผู้ประกันตนเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายประกันสังคมกำ�หนดและไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
รวมทั้งมีการแจ้งรายชื่อบุคคลท่ีไม่ใช่ลูกจ้างของสถานประกอบการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน
ซ่ึงอาจเนื่องมาจากความไม่เข้าใจกฎหมายประกันสังคมหรือมีเจตนาในการกระทำ�ผิดหรือไม่
ทราบถงึ บทลงโทษที่กฎหมายก�ำ หนด เป็นต้น ส�ำ นกั งานฯ จึงขอเรยี นชีแ้ จง ดังน้ี
๑. ให้นายจ้างซึ่งมีลกู จ้างอายไุ ม่ตํา่ กวา่ ๑๕ ปบี รบิ รู ณ์ และไมเ่ กิน ๖๐ ปบี รบิ ูรณ์
มหี นา้ ทย่ี น่ื แบบรายการแสดงรายชอ่ื อตั ราคา่ จา้ ง และขอ้ ความอน่ื ตามแบบขน้ึ ทะเบยี นผปู้ ระกนั ตน
(สปส.๑ – ๐๓, สปส.๑ – ๐๓/๑) ภายใน ๓๐ วัน นบั แตว่ ันทลี่ ูกจา้ งเป็นผปู้ ระกันตน หากทา่ นมี
เจตนาฝา่ ฝนื ถอื เป็นความผิดตามพระราชบญั ญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มาตรา ๙๖
ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกิน  ๖  เดือน  หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท  หรือท้ังจำ�ทั้งปรับ
ถ้าการกระทำ�ผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อเน่ือง  ต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาท
ตลอดระยะเวลาที่ยังฝา่ ฝนื หรอื ไม่ปฏบิ ตั ติ าม
๒. กรณีมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนายจ้างหรือผู้ประกันตนที่เคยยื่นไว้ต่อสำ�นักงานฯ
เปลี่ยนแปลงไปให้นายจ้างแจ้งเป็นหนังสือต่อสำ�นักงานฯ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติม
รายการภายในวันที่  ๑๕  ของเดือนถัดจากเดือนท่ีมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว  เช่น  การแจ้ง
เปลย่ี นแปลงขอ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั นายจา้ ง (สปส.๖ – ๑๕) หรอื การแจง้ ออกจากงานของผปู้ ระกนั ตน
(สปส.๖ – ๐๙) ภายในวันที่ ๑๕ ของเดอื นถดั จากเดอื นท่มี กี ารเปล่ียนแปลงหรอื การออกจากงาน
แล้วแต่กรณี หากทา่ นมเี จตนาฝ่าฝืนตอ้ งรบั โทษเช่นเดยี วกบั ขอ้ ๑

๒๓๘

๓. กรณเี ป็นการกระท�ำ โดยมกี ารแจ้งรายการตามข้อ ๑ หรือขอ้ ๒ โดยมเี จตนา
กรอกข้อความ เป็นเทจ็ เชน่ น�ำ บุคคลอน่ื ทีม่ ใิ ชล่ กู จ้างของตนมาขึน้ ทะเบียนเปน็ ผปู้ ระกันตน เป็น
ความผิดตามพระราชบัญญัติประกนั สังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มาตรา ๙๗ ตอ้ งระวางโทษจ�ำ คกุ ไม่เกนิ
๖ เดือน หรือปรบั ไม่เกินสองหมืน่ บาท หรือทง้ั จ�ำ ท้ังปรบั อกี ทั้งยังมีความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญาด้วย
ทัง้ นี้ ส�ำ หรับนายจา้ งท่กี ระทำ�ความผิด นอกจากจะไดร้ บั บทลงโทษตามที่กล่าว
มาซ่ึงถือเป็นความรับผิดในทางอาญาแล้ว  นายจ้างผู้กระทำ�ความผิดอาจต้องรับผิดชอบชดใช้
ค่าเสียหายในทางแพ่งที่เกิดจากการไม่ย่ืนแบบรายการเพื่อข้ึนทะเบียนผู้ประกันตน  ไม่แจ้ง
เปล่ยี นแปลงขอ้ เทจ็ จรงิ (การแจง้ ออกจากงาน) หรือขอแก้ไขเพม่ิ เติมรายการภายในระยะเวลาที่
กำ�หนด หรอื การนำ�บุคคลซ่งึ มใิ ชล่ กู จา้ งของตนมาข้ึนทะเบยี นเปน็ ผปู้ ระกนั ตน อีกดว้ ย หากการ
กระท�ำ ผดิ ดงั กลา่ วท�ำ ใหส้ �ำ นกั งานฯ ไดร้ บั ความเสยี หายจากการทต่ี อ้ งจา่ ยคา่ บรกิ ารทางการแพทย์
ให้แก่สถานพยาบาลหรือผู้ประกันตน  หรือต้องจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร  หรือ
กรณวี า่ งงาน ให้แกล่ กู จา้ งทไี่ มม่ ีสทิ ธิตามกฎหมาย ดังนน้ั สำ�นักงานฯ จงึ ขอใหส้ ถานประกอบการ
ของท่านซ่ึงอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ. ๒๕๓๓  ปฏิบัติตามกฎหมาย
เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่กองทุนประกันสังคม  อีกท้ังเป็นการช่วยเหลือให้ลูกจ้างได้รับสิทธิ
ประโยชน์ครบถ้วนตามสิทธิที่ควรจะได้รับตามกฎหมาย  ตลอดจนเป็นการช่วยรักษาเสถียรภาพ
ของกองทนุ ประกนั สงั คมใหม้ นั่ คงต่อไป
จึงเรียนมาเพ่ือทราบ  และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  หากสำ�นักงานฯ  พบการ
กระท�ำ ผดิ มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งด�ำ เนนิ คดตี ามกฎหมายทง้ั คดอี าญาและหรอื คดแี พง่ จนถงึ ทส่ี ดุ ตอ่ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่อื ) สะอาด ยวดยง่ิ ยง
(นายสะอาด ยวดยิ่งยง)
นักวิชาการแรงงานชำ�นาญการพเิ ศษ รกั ษาราชการแทน
ผ้อู ำ�นวยการสำ�นกั งานประกันสงั คมกรงุ เทพมหานครพืน้ ท่ี ๒

สว่ นงานทะเบยี นและประสานการแพทย์
โทร. ๐–๒๙๕๔–๒๕๗๗ ต่อ ๑๗๑–๑๘๒
โทรสาร ๐–๒๙๕๔–๔๘๖๙
(นายกมล กระทุม่ แก้ว)

๒๓๙

ด่วนทส่ี ุด (ส�ำ เนา)
ที่ นร ๐๗๐๔ / ว ๒๕
สำ�นักงบประมาณ
ถนนพระรามที่ ๖ กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐

๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘

เรอื่ ง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีปฏิบตั ิเกีย่ วกบั การใช้จา่ ยเงินกูต้ ามระเบยี บสำ�นักนายกรฐั มนตรีว่าด้วย
การบริหารโครงการเงนิ กูเ้ พื่อการพัฒนาระบบบรหิ ารจดั การทรัพยากรนํ้าและระบบขนส่ง
ทางถนน ระยะเรง่ ดว่ น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
เรยี น อธิบดีกรมท่ดี นิ
อ้างถึง ๑. หนงั สือสำ�นักงบประมาณ ดว่ นทีส่ ดุ ท่ี นร ๐๗๐๔/ว ๗๓ ลงวันท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘
๒. ระเบยี บสำ�นักนายกรัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการบรหิ ารโครงการเงินกู้เพอ่ื การพฒั นาระบบบริหาร
จัดการทรัพยากรนํ้าและระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเร่งดว่ น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
ส่งิ ทีส่ ง่ มาดว้ ย หลกั เกณฑ์และวิธีปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกับการใชจ้ ่ายเงินกู้ตามระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตร ี
ว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกเู้ พ่ือการพฒั นาระบบบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนํา้
และระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งดว่ น (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
ตามที่สำ�นักงบประมาณได้กำ�หนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่าย
เงินกู้ตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพ่ือการพัฒนาระบบ
บริหารจดั การทรัพยากรนํ้า และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเร่งดว่ น พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามหนังสอื ท่ี
อา้ งถงึ ๑ นนั้ เนือ่ งจากคณะรฐั มนตรไี ด้มมี ติเมอื่ วนั ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เห็นชอบให้กระทรวง
การคลังดำ�เนินการยืมเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง  กิจการโทรทัศน์  และ
กิจการโทรคมนาคม  เพ่ือประโยชน์สาธารณะ  ของสำ�นักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ วงเงนิ ๑๔,๓๐๐ ลา้ นบาท เพอ่ื น�ำ ไปใชแ้ ทนเงนิ กู้
บางส่วนสำ�หรับโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา  และระบบขนส่ง
ทางถนน  ระยะเร่งด่วน  และนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้วางระเบียบ
ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการบรหิ ารโครงการเงนิ กเู้ พอ่ื การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ํ
และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเรง่ ด่วน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามหนังสอื ทอ่ี า้ งถึง ๒ น้นั
เพอ่ื ใหก้ ารใชจ้ า่ ยเงนิ ยมื จากกองทนุ ฯ เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยและมปี ระสทิ ธภิ าพ
สอดคล้องกับระเบียบที่อ้างถึง  ๒  สำ�นักงบประมาณจึงกำ�หนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับ
การใช้จ่ายเงินกู้ตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนา
ระบบบรหิ ารจดั การทรพั ยากรน้ํา และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเรง่ ด่วน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
เพม่ิ เตมิ รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ท่ีส่งมาดว้ ย
จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบและถอื ปฏิบตั ติ ่อไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) สมศกั ด์ิ โชติรตั นะศริ ิ
(นายสมศักด ์ิ โชตริ ัตนะศริ ิ)
ผู้อ�ำ นวยการสำ�นักงบประมาณ
ส�ำ นกั กฎหมายและระเบียบ
โทร. ๐ ๒๒๖๕ ๒๐๘๓ โทรสาร ๐ ๒๒๗๓ ๙๔๒๓๔๖๐

หลักเกณฑ์และวธิ ีปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั การใชจ้ า่ ยเงินกู้
ตามระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตรีวา่ ด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพื่อการพฒั นาระบบ
บรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ํ และระบ__บ_ข_น_ส__ง่ _ท_า_ง_ถ_น_น__ร_ะยะเรง่ ดว่ น (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๘
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินยืมจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง  กิจการ
โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม  เพ่ือประโยชน์สาธารณะ  เพ่ือใช้จ่ายภายใต้โครงการเงินกู้เพื่อ
การพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าและระบบขนส่งทางถนน  ระยะเร่งด่วน  เป็นไปด้วย
ความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  สอดคล้องกับระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหาร
โครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าและระบบขนส่งทางถนน  ระยะ
เรง่ ดว่ น (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
อาศัยอำ�นาจตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพ่ือ
การพฒั นาระบบบริหารจดั การทรพั ยากรนํ้าและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๘
ขอ้ ๖ ข้อ ๑๑ (๑) ขอ้ ๑๔ ข้อ ๑๘ และข้อ ๑๙ สำ�นักงบประมาณจงึ กำ�หนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ี
ปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินกู้ตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้
เพอ่ื การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ํ และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเรง่ ดว่ น (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ข้อ ๑ หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเก่ียวกับการใช้จ่ายเงินกู้ตามระเบียบสำ�นักนายก
รัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพ่ือการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ําและ
ระบบขนส่งทางถนน ระยะเรง่ ดว่ น (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ฉบับนี้ ใหใ้ ช้บงั คับตงั้ แต่วันทีร่ ะเบียบ
ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการบรหิ ารโครงการเงนิ กเู้ พอ่ื การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ํ
และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเรง่ ดว่ น (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มผี ลใช้บงั คับ
ขอ้ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ  ๑  หมวด  ๑  บททั่วไปของหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ
เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินกู้ตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพ่ือ
การพฒั นาระบบบรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ํ และระบบขนสง่ ทางถนน ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๘
และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ี
“ข้อ  ๑  หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติฉบับน้ี  ให้ใช้บังคับสำ�หรับการจัดสรรเงินกู้
การเปลย่ี นแปลงรายละเอยี ดของโครงการ การใช้เงินเหลอื จ่ายของโครงการและการใช้เงินสำ�รอง
จ่ายตามโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าและระบบขนส่งทางถนน
ระยะเรง่ ด่วน
เงินกู้ตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงเงินท่ีกระทรวงการคลังยืมจากกองทุนวิจัย
และพฒั นากจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชนส์ าธารณะ
ตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถ่ีและกำ�กับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อน�ำ ไปใชจ้ ่ายตามโครงการเงนิ ก้เู พอ่ื การพฒั นาระบบ
บรหิ ารจัดการทรพั ยากรนํ้า และระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตีความตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติฉบับน้ี  หรือมี
ความจ�ำ เปน็ ตอ้ งปฏบิ ตั นิ อกเหนอื จากทก่ี �ำ หนดไวใ้ นหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ปี ฏบิ ตั ฉิ บบั น้ี ใหผ้ อู้ �ำ นวยการ
ส�ำ นักงบประมาณเปน็ ผมู้ อี �ำ นาจพิจา_ร_ณ__า_ว_ิน__จิ _ฉ_ัย_”_________

๒๔๑

ด่วนทส่ี ุด (ส�ำ เนา)
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๔๙๑
กรมบญั ชีกลาง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๓ ธันวาคม ๒๕๕๘

เร่ือง การจา่ ยเงนิ ช่วยคา่ ครองชพี ผ้รู บั เบี้ยหวดั บ�ำ นาญ (ช.ค.บ.) ส�ำ หรบั ผ้ทู ี่แสดงความประสงค์
ขอกลับไปใช้สิทธิรับบำ�นาญตามพระราชบญั ญตั ิบ�ำ เหนจ็ บำ�นาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔

เรียน อธบิ ดกี รมท่ีดิน
ตามท่ีผู้รับบำ�นาญซ่ึงใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำ�เหน็จ
บำ�นาญตามพระราชบัญญัติบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๕๕๗ จ�ำ นวนมาก
สอบถามวา่ เม่อื บ�ำ นาญเปลี่ยนจากบำ�นาญ กบข. (ตามพระราชบัญญตั ิกองทุนบ�ำ เหนจ็ บำ�นาญ
ขา้ ราชการ พ.ศ.๒๕๓๙) เปน็ บ�ำ นาญตามพระราชบญั ญตั บิ �ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๔๙๔ แลว้
จะมีการคำ�นวณเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำ�นาญ  (ช.ค.บ.)  ย้อนหลังตามฐานบำ�นาญที่
เปล่ียนไปหรือไม่ นน้ั
กรมบญั ชกี ลางขอเรยี นว่า พระราชบัญญัติการกลบั ไปใช้สิทธใิ นบ�ำ เหน็จบ�ำ นาญ
ตามพระราชบัญญตั บิ ำ�เหน็จบ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๑๓ ก�ำ หนด
ใหผ้ ู้กลับไปใช้สิทธมิ หี น้าทตี่ ้องคนื เงนิ สมทบ เงนิ ประเดิม เงนิ ชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทน
ของเงินดังกล่าว รวมทง้ั เงินบำ�นาญทีไ่ ดร้ ับหรือพงึ ไดร้ บั ตามตามพระราชบญั ญัติกองทุนบ�ำ เหน็จ
บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๕๓๙ โดยวธิ กี ารหกั กลบลบกนั กบั เงนิ บ�ำ นาญทพ่ี งึ ไดร้ บั ตามพระราชบญั ญตั ิ
บ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ.๒๔๙๔ ตง้ั แตว่ นั ออกจากราชการจนถงึ วนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๘
ซึ่งการหักกลบลบกันดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้คำ�นวณรวมไปถึง  ช.ค.บ.  ที่เป็นสวัสดิการของ
ทางราชการเพ่ือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รับบำ�นาญเน่ืองจากภาวะการครองชีพที่สูงข้ึนให้สามารถ
ดำ�รงชีพได้ในขณะนั้น  ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าวก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้วไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
และการได้รับ  ช.ค.บ.  ของผู้กลับไปใช้สิทธินั้นย่อมเป็นไปตามที่มีกฎหมายกำ�หนดไว้โดยเฉพาะ
ดังนั้น  บำ�นาญ  และ  ช.ค.บ.  จึงเป็นคนละเรื่องกัน  ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของสำ�นักงาน
คณะกรรมการกฤษฎกี า และในการประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู เพ่ือประกอบการพจิ ารณาของผู้กลับไป
ใช้สิทธิ  ได้มีการแจ้งให้ทราบถึงสิทธิท่ีจะได้รับเมื่อขอกลับไปรับบำ�นาญตามพระราชบัญญัติ
บำ�เหนจ็ บ�ำ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ ดว้ ยแลว้

จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดประชาสมั พันธ์ให้ผทู้ ีเ่ กย่ี วข้องทราบต่อไป

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอ่ื ) อรนชุ ไวนุสิทธิ์
(นางอรนุช ไวนุสิทธ)์ิ
รองอธบิ ดี ปฏิบัตริ าชการแทน
อธบิ ดกี รมบัญชีกลาง
สำ�นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๔ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๒๖๗

๒๔๒

ที่ กค ๐๔๒๒.๓ / ว ๑๕๒ (สำ�เนา) กระทรวงการคลงั
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐

๔ ธนั วาคม ๒๕๕๘

เร่อื ง การเบกิ เงินสวสั ดิการเกีย่ วกับการศกึ ษาของบุตร
เรยี น อธิบดีกรมท่ีดิน

ด้วยมีสถานศึกษาในประเทศหลายแห่งได้จัดหลักสูตรการศึกษาท่ีเป็นความ
ร่วมมือ / ข้อตกลง / จัดโครงการพิเศษกับสถานศึกษาในต่างประเทศ  โดยกำ�หนดให้ผู้ศึกษาต้อง
ไปศึกษาหรือสมัครไปศึกษาในสถานศึกษาของต่างประเทศ  ซ่ึงเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่
มีการพัฒนาการ  โดยสถานศึกษาในต่างประเทศเป็นผู้ออกหลักฐานการชำ�ระเงินหรือค่าใช้จ่าย
ในระหว่างศึกษาในต่างประเทศ
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว  ขอเรียนว่า  กรณีดังกล่าวผู้มีสิทธิสามารถนำ�
หลักฐานการชำ�ระค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการศึกษาของบุตรที่สถานศึกษาในประเทศได้จัดหลักสูตร
การศึกษาที่เป็นความร่วมมือ / ข้อตกลง / จัดโครงการพิเศษกับสถานศึกษาในต่างประเทศ  มาย่ืน
ขอเบิกเงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาของบุตร  ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการ
ศึกษาของบุตร  พ.ศ. ๒๕๒๓  และท่ีแก้ไขเพิ่มเติมได้ตามประเภท  และอัตราเงินบำ�รุงการศึกษา
และค่าเล่าเรียนเช่นเดียวกับสถานศึกษาในประเทศ  โดยสถานศึกษาในประเทศที่จัดหลักสูตร
ต้องรับรองว่า  หลักฐานการชำ�ระค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการศึกษาของบุตรระหว่างศึกษาในสถาน
ศึกษาต่างประเทศเป็นการศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว  และระบุภาคการศึกษา / ปีการศึกษา
รวมทงั้ รับรองการเรยี กเก็บค่าใช้จา่ ยตา่ งๆ ตามท่ีหลกั สตู รกำ�หนด และใหม้ ีคำ�แปลเป็นภาษาไทย
ประกอบการเบกิ จา่ ยเงินสวสั ดิการเก่ยี วกบั การศึกษาของบตุ ร
ท้งั น้ี ตัง้ แต่ปกี ารศึกษา ๒๕๕๘ เปน็ ต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและโปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องทราบและ
ถือปฏบิ ตั ติ อ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) สุทธิรัตน์ รัตนโชติ
(นางสาวสทุ ธริ ัตน ์ รตั นโชต)ิ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลมุ่ ภารกิจดา้ นรายจ่ายและหนสี้ ิน
ปฏิบัตริ าชการแทน ปลดั กระทรวงการคลัง

กรมบัญชีกลาง
ส�ำ นกั มาตรฐานคา่ ตอบแทนและสวัสดกิ าร กล่มุ งานค่าตอบแทนและสวสั ดกิ าร
โทร. ๐ ๒๑๒๗ ๗๐๐๐ ต่อ ๔๙๒๘ โทรสาร ๐ ๒๑๒๗ ๗๑๘๗

๒๔๓

(สำ�เนา)

สว่ นราชการ กองคลงั ฝา่ ยตรวจสอบใบส�ำ คญั และวางฎกี า โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๘๕ ภายใน ๑๕๙๘๕

ท่ี มท ๐๕๐๓.๔ / ๗๖๘๓ วนั ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๘

เร่อื ง ขอความร่วมมือตรวจสอบการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ

เรียน อธิบดีกรมที่ดิน

๑. เรือ่ งเดมิ
กระทรวงการคลัง มีหนังสือที่ กค ๐๔๒๒.๓/ว ๑๒๒ ลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม
๒๕๕๘ แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากสำ�นักงานการตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน
ข้าราชการ  ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๗  และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ในประเด็นว่า ข้าราชการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการไม่ถกู ต้อง หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เช่น
ไม่มีการเช่าและพักอาศัยอยู่จริง หรือใช้หลักฐานในการเบิกจ่ายที่เป็นเท็จ จึงขอความร่วมมือจาก
ส่วนราชการต่างๆ ดังนี้
๑.๑ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดควบคุมให้มีการตรวจสอบการใช้สิทธิการเบิก
คา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการของขา้ ราชการในสงั กดั ใหถ้ กู ตอ้ ง ตามพระราชกฤษฎกี าคา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๗  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเคร่งครัด
๑.๒ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการรายใดใช้สิทธิไม่ถูกต้อง เช่น
นำ�เอกสารหลักฐานปลอมหรือหลักฐานเท็จมาใช้ในการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ  พักอาศัยอยู่ใน
บ้านของบิดามารดาหรือบุคคลอื่นโดยไม่ได้มีการเช่าจริง แต่ทำ�นิติกรรมอำ�พรางว่าเป็นการเช่า
ซง่ึ โดยสภาพทแ่ี ทจ้ รงิ เปน็ การอาศยั  หรอื ไมไ่ ดพ้ กั อาศยั อยจู่ รงิ เปน็ ปกตวิ สิ ยั ในบา้ นหลงั ทต่ี นใชส้ ทิ ธิ
เป็นต้น ให้ส่วนราชการต้นสังกัดชะลอการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านของข้าราชการรายนั้นไว้ก่อน
แล้วดำ�เนินการตรวจสอบการใช้สิทธิดังกล่าวอีกครั้งก่อนที่จะอนุมัติให้เบิกเงินค่าเช่าบ้าน
ข้าราชการในเดือนถัดไป
๑.๓ ในกรณีที่มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ข้าราชการในสังกัดรายใดเบิกเงิน
ค่าเช่าบ้านข้าราชการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  ให้ส่วนราชการระงับการเบิกจ่ายและเรียกเงิน
ค่าเช่าบ้านข้าราชการคืน  ซึ่งการเรียกเงินดังกล่าวคืน  ส่วนราชการต้นสังกัดจะต้องปฏิบัติ  ตาม
มาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และหากเกิดความ
เสียหายแก่ทางราชการจะต้องดำ�เนินการสอบสวนหาผู้รับผิดชดใช้ความเสียหาย  ตามพระราช
บัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ต่อไปด้วย (เอกสารหมายเลข ๑)

๒๔๔

๒. ข้อเท็จจริง
กรมที่ดินมีข้าราชการสังกัดส่วนกลางซึ่งปฏิบัติงานทางสำ�นัก/กองต่างๆ
ยื่นขอใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ จำ�นวน ๓๗๔ ราย แยกเป็นการทำ�สัญญาเช่าบ้าน จำ�นวน
๒๗๑  ราย  และสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาเงินกู้เพื่อชำ�ระราคาบ้าน  จำ�นวน  ๑๐๓  ราย  (เอกสาร
หมายเลข ๒)
๓. กฎหมาย – ระเบียบ
๓.๑ พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๗  และที่แก้ไข
เพิ่มเติม (เอกสารหมายเลข ๓)

ฯลฯ
มาตรา ๗ ข้าราชการผู้ใดได้รับคำ�สั่งให้เดินทางไปประจำ�สำ�นักงาน
ในต่างท้องที่มีิสทธิได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการเท่าที่ต้องจ่ายจริงตามที่สมควรแก่สภาพแห่งบ้าน
แตอ่ ยา่ งสงู ไมเ่ กนิ จ�ำ นวนเงนิ ทก่ี �ำ หนดไวต้ ามบญั ชอี ตั ราคา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการทา้ ยพระราชกฤษฎกี าน้ี
ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้นั้น
(๑) ทางราชการได้จัดที่พักอาศัยให้ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง
กำ�หนด
(๒) มีเคหสถานอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรสในท้องที่ที่ไป
ประจำ�สำ�นักงานใหม่ โดยไม่มีหนี้ค้างชำ�ระกับสถาบันการเงิน
(๓) ได้รับคำ�สั่งให้เดินทางไปประจำ�สำ�นักงานใหม่ในต่างท้องที่ตาม
คำ�ร้องขอของตนเอง
ความในวรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการผู้ได้รับคำ�สั่งให้เดินทางไป
ประจำ�สำ�นักงานในต่างท้องที่ที่เป็นท้องที่ที่เริ่มรับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้ารับราชการ
ใหม่ด้วย

ฯลฯ
มาตรา ๑๔ ให้ข้าราชการมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการตั้งแต่
วันที่ข้าราชการผู้นั้นได้เช่าอยู่จริง แต่ไม่ก่อนวันที่รายงานตัวเพื่อเข้ารับหน้าที่ และให้สิ้นสุดในวันที่
ขาดจากอตั ราเงนิ เดอื นหรอื วนั ทอ่ี ยใู่ นขา่ ยหมดสทิ ธไิ ดร้ บั คา่ เชา่ บา้ นขา้ ราชการตามพระราชกฤษฎกี าน้ี
ถ้าผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ไปรับราชการในท้องที่อื่นไม่สามารถออกเดินทางไปได้ในวันที่ส่งมอบหน้าที่
ให้มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการต่อไปอีกไม่เกินสิบวันนับแต่วันส่งมอบหน้าที่  เว้นแต่มีความ
จำ�เป็นจะต้องอยู่ต่อไปอีก  ให้เบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการต่อไปได้เท่าที่จำ�เป็นโดยได้รับการอนุมัติ
จากผู้ออกคำ�สั่งแต่งตั้ง

ฯลฯ
๓.๒ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเบิก
จ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (เอกสารหมายเลข ๔)

๒๔๕

ข้อ ๘ ให้บุคคลดังต่อไปนี้ เป็นผู้รับรองการมีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านของ
ข้าราชการในสังกัด ในแบบ ๖๐๐๕
(๑) ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลาง  ให้เลขานุการรัฐมนตรี
เลขานุการกรม หรือหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกองหรือเทียบเท่าขึ้นไป เป็นผู้รับรอง
ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางที่มีสำ�นักงานอยู่ในภูมิภาคหรือ
แยกต่างหากจากกระทรวง ทบวง กรม ให้หัวหน้าสำ�นักงานซึ่งดำ�รงตำ�แหน่งไม่ตํ่ากว่าประเภท
ทั่วไป ระดับชำ�นาญงานขึ้นไป ประเภทวิชาการ ระดับชำ�นาญการขึ้นไป หรือดำ�รงตำ�แหน่งไม่ตํ่า
กว่าระดับ ๖ หรือเทียบเท่า เป็นผู้รับรอง
(๒) ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ให้หัวหน้าส่วนราชการ
ประจำ�จังหวัด หรือหัวหน้าส่วนราชการประจำ�อำ�เภอ แล้วแต่กรณี เป็นผู้รับรอง

ฯลฯ
ข้อ ๙ เมื่อมีการรับรองสิทธิขอรับค่าเช่าบ้านแล้ว ให้ผู้มีอำ�นาจอนุมัติ
การเบิกค่าเช่าบ้านตามข้อ ๑๐  แต่งตั้งข้าราชการจำ�นวนไม่น้อยกว่าสามคนเป็นกรรมการ
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีเช่าบ้าน ให้ตรวจสอบว่าได้เช่าบ้านและพักอาศัยอยู่จริง ระยะ
เวลาเริ่มต้นของการเช่าบ้านและการเข้าพักอาศัย ตลอดจนความเหมาะสมของอัตราค่าเช่าบ้าน
เมื่อเปรียบเทียบกับสภาพแห่งบ้าน
(๒) กรณีเช่าซื้อบ้านหรือกู้เงินเพื่อชำ�ระราคาบ้าน ให้ตรวจสอบสัญญา
เช่าซื้อบ้านหรือสัญญาเงินกู้เพื่อชำ�ระราคาบ้าน  วงเงินเช่าซื้อหรือวงเงินกู้  เอกสารหลักฐานอื่นที่
เกี่ยวข้อง และวันเริ่มต้นการเข้าพักอาศัยอยู่จริงในบ้าน
เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเอียดครบถ้วนแล้ว
ให้จัดทำ�รายงานการตรวจสอบการขอรับค่าเช่าบ้านตามแบบท้ายระเบียบนี้  เสนอต่อผู้มีอำ�นาจ
อนุมัติการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ ตามข้อ ๑๐ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเบิกจ่ายต่อไป
๔. ขอ้ พจิ ารณา
กองคลงั พจิ ารณาแลว้ เพอ่ื ใหก้ ารใชส้ ทิ ธกิ ารเบกิ เงนิ คา่ เชา่ บา้ นของขา้ ราชการ
ในสังกัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เป็นไปโดยถกู ต้องตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๗  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๙  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  พร้อมทั้งเป็นไป
ตามหนงั สอื กระทรวงการคลงั ทข่ี อความรว่ มมอื จากสว่ นราชการตา่ งๆ ตามขอ้ ๑ เหน็ ควรด�ำ เนนิ การ
ดังนี้
๔.๑ แจ้งหน่วยงานส่วนกลาง เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบและถือ
ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค ๐๔๒๒.๓/ว ๑๒๒ ลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ และ
แจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเบิกค่าเช่าบ้านของข้าราชการในแต่ละหน่วยงาน
ตรวจสอบการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านของข้าราชการในสังกัด ดังนี้

๒๔๖


Click to View FlipBook Version