รวมกฎหมาย
ทีด่ ิน – จัดสรร – อาคารชดุ
(ฉบับใชงานปจจุบนั )
รวบรวมโดย
นายชยั ชาญ สิทธวิ ิรชั ธรรม
ผูอาํ นวยการสํานกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ีดิน
กรมทีด่ นิ
๒๕๕๘
คํานาํ
โดยท่ีในปจจุบันไดมีการแกไขกฎหมายที่อยูในความรับผิดชอบ
ของกรมท่ีดินหลายครั้ง ไมวาจะเปนประมวลกฎหมายที่ดิน พระราชบัญญัติ
การจดั สรรทดี่ นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ และพระราชบญั ญตั อิ าคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒
ซึ่งการปรับปรุงแกไขเพ่ิมเติมแตละครั้งลวนแลวแตเพ่ือใหสอดคลองกับ
สถานการณ และสอดรับกับนโยบายของรัฐ ทําใหกฎหมายดังกลาวท่ี
เจาหนาท่ีมีอยูและใชในการปฏิบัติงานอาจไมเปนปจจุบัน ฉะน้ัน หนังสือ
“รวมกฎหมายท่ีดิน – จัดสรร – อาคารชุด” จึงเปนหนังสือท่ีรวบรวม
กฎหมายดังกลาวทั้ง ๓ ฉบับ ที่ปรับปรุงแกไขใหเปนปจจุบันแลว โดย
ไดนําเฉพาะมาตราของกฎหมายและกฎกระทรวงท่ีใชบังคับในปจจุบัน
เทานั้น มาจัดทํารวมไวเปนรูปเลมที่เหมาะสมเพื่อความสะดวกในการ
นําไปใชงาน และผูจัดทําไดจัดทําหัวขอสําคัญในแตละมาตราและขอของ
กฎหมายทั้ง ๓ ฉบับไว เพื่อใหพนักงานเจาหนาที่สามารถนําไปใชได
อยางสะดวกรวดเร็ว
ในการจัดพิมพห นังสอื นี้ คงเปนไปตามหลักการเดมิ ทไี่ มไดจัดพิมพ
เพื่อจําหนาย หากแตจัดพิมพเพื่อมอบให พี่ – นอง – เพ่ือนชาวดิน ไดมี
กฎหมายที่เปนปจจุบันไวใชในการปฏิบัติหนาท่ี และในการจัดทําตนฉบับ
ไดรับความชวยเหลือจากคุณสายฝน สมบูรณ นักวิชาการท่ีดินชํานาญการ
สาํ นักมาตรฐานการทะเบยี นทีด่ นิ ทก่ี รณุ าชว ยพิมพตน ฉบับและปรับแกไข
ตามความตองการของผูจัดทํา อีกทั้งไดรับการสนับสนุนการพิมพจาก
เพ่ือนและพี่ ทั้งในกรมท่ีดินและนอกกรมท่ีดิน จึงทําใหหนังสือเลมนี้
สาํ เรจ็ ไดด วยดี จึงขอขอบคณุ ไว ณ ทน่ี ด้ี วย
ผูจัดทําหวังวาหนังสือ “รวมกฎหมายท่ีดิน – จัดสรร – อาคารชุด”
ฉบับใชงานปจจุบันนี้จะสามารถอํานวยประโยชนในการปฏิบัติงานของ
พนักงานเจาหนาท่ีใหมีความสะดวกกอใหเกิดประสิทธิภาพ มุงผลสัมฤทธิ์
และเกดิ ความคมุ คา เปนประโยชนตอราชการโดยสวนรวม และเพ่ือเปาหมาย
ในการใหบริการประชาชนเปน ทตี่ ง้ั
ชัยชาญ สทิ ธิวิรัชธรรม
ผูอาํ นวยการสํานักมาตรฐานการทะเบยี นทด่ี ิน กรมที่ดนิ
พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗
สารบัญ หนา
คํานาํ ๑
๙
สารบญั ๙๙
๑๐๓
พระราชบญั ญตั ใิ หใชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๐๖
๑๐๙
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน ๑๑๗
- กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน ๑๒๓
๑๒๕
พระราชบัญญตั ิใหใชประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๓๐
- กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ข
- กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๔) ออกตามความใน ๑๓๗
พระราชบญั ญตั ิใหใชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๔๐
๑๔๔
- กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความใน ๑๔๖
พระราชบญั ญัติใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๕๒
๑๕๕
- กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความใน ๑๕๘
พระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๙๕
๒๐๗
- กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความใน ๒๑๕
พระราชบญั ญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใ ชประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัติใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
- กฎกระทรวง กาํ หนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขการ
ไดม าซงึ่ ที่ดนิ เพ่ือใชเปน ท่ีอยูอ าศัยของคนตา งดา ว พ.ศ. ๒๕๔๕
- กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑแ ละวธิ ีการในการสอบสวน
และการพิจารณาเพกิ ถอนหรือแกไ ขการออกโฉนดท่ดี นิ หรอื
หนังสอื รบั รองการทําประโยชนการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรม หรอื การจดแจง เอกสารรายการจดทะเบียนโดย
คลาดเคลอ่ื นหรือไมช อบดวยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓
ค
- ระเบียบวา ดว ยการจัดท่ีดนิ เพือ่ ประชาชน ๒๒๗
- ระเบยี บของคณะกรรมการจดั ท่ดี นิ แหงชาติ ฉบับท่ี ๓ ๒๔๒
- ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดนิ แหงชาติ ฉบบั ท่ี ๘ ๒๕๐
- ระเบยี บของคณะกรรมการจัดที่ดินแหง ชาติ ฉบับท่ี ๙ ๒๕๖
- ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ดี ินแหงชาติ ฉบับที่ ๑๐ ๒๖๘
- ระเบยี บของคณะกรรมการจดั ท่ดี ินแหง ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ ๒๗๑
พระราชบญั ญัติอาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒ ๒๗๙
- กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑ วิธกี าร และเง่ือนไขการจด ๓๔๗
ทะเบียนอาคารชุดการออกหนงั สือกรรมสทิ ธิ์หองชุด และ ๓๖๔
การจดทะเบียนนติ บิ คุ คลอาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๕๓
- กฎกระทรวง กาํ หนดคาธรรมเนียมและคาใชจ า ยเกย่ี วกบั
อาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๕๓
พระราชบัญญัติการจดั สรรทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ๓๖๙
๔๒๓
- กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่ือนไขในการ
อนุญาตและการออกใบอนญุ าตตามกฎหมายวาดวยการจัดสรร ๔๒๖
ท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๔ ๔๒๘
- กฎกระทรวง กําหนดคาธรรมเนียมตามกฎหมายวา ดวยการ
จดั สรรทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๔
- กฎกระทรวง วา ดวยการขอจดทะเบียนจัดต้ัง การบริหาร การ
ควบและการยกเลิกนติ ิบุคคลหมบู า นจัดสรร พ.ศ. ๒๕๔๕
ง
- กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขการ ๔๔๕
ยกเลกิ การจัดสรรท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๔๕๕
- ระเบียบคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง วาดวยการเก็บ ๔๖๓
รักษาเงิน การนําสงเงิน และการเบิกจายเงินตามสัญญาค้ํา ๔๗๑
ประกันหรือหนังสือรับรองการจัดใหมีสาธารณูปโภคหรือ
บริการสาธารณะหรือการปรับปรุงที่ดิน และการบํารุงรักษา
สาธารณปู โภค พ.ศ. ๒๕๔๔
- ระเบยี บคณะกรรมการจดั สรรทีด่ ินกลางวา ดวยการจัดต้ัง
นติ บิ คุ คลหมบู า นจัดสรรหรือนิตบิ คุ คลตามกฎหมายอ่นื และ
การขออนุมัติดาํ เนนิ การเพ่ือการบาํ รุงรกั ษาสาธารณูปโภค
พ.ศ. ๒๕๔๕
- ระเบยี บคณะกรรมการจัดสรรท่ีดนิ กลาง วาดวยการกําหนด
คา ใชจ าย หลักเกณฑและวธิ กี ารจัดเก็บคา ใชจ ายในการ
บํารุงรกั ษา และการจัดการสาธารณปู โภค และการจัดทาํ
บญั ชี พ.ศ.๒๕๔๕
นายชยั ชาญ สิทธวิ ิรชั ธรรม
ตําแหนง ผอู ํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน
ประวัติผูเ ขียน
วนั เดอื น ปเ กิด
๑ ตลุ าคม ๒๕๐๕
วฒุ ิการศึกษา
๑. นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคาํ แหง
๒. เนติบัณฑิตไทย
๓. ศิลปศาสตรม หาบณั ฑิต (รฐั ศาสตร) มหาวทิ ยาลัยรามคําแหง
๔. ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร
ประสบการณก ารทํางาน ทนายความ
พ.ศ. ๒๕๒๗ นักวิชาการที่ดิน ๓, ๔
พ.ศ. ๒๕๓๐ สาํ นกั งานที่ดินจังหวดั กาฬสินธุ, สมทุ รปราการ
(๑๗ ส.ค. ๒๕๓๐)
พ.ศ. ๒๕๓๓ นิติกร ๔ กองนิติการ
พ.ศ. ๒๕๓๕ เจา หนาที่บรหิ ารงานที่ดิน ๕
พ.ศ. ๒๕๓๘ สาํ นักงานคณะกรรมการชางรงั วัดเอกชน
- เจา หนาทีบ่ รหิ ารงานทีด่ ิน ๖
พ.ศ. ๒๕๔๑ สาํ นักงานท่ีดินจงั หวัดพิจิตร
- นักวิชาการที่ดิน ๖ กองควบคุมธุรกจิ ทีด่ นิ
พ.ศ. ๒๕๔๓ - นิตกิ ร ๖ กองนิตกิ าร
พ.ศ. ๒๕๔๕ - เจา หนาทบ่ี รหิ ารงานทด่ี ินอําเภอ ๗
- นิตกิ ร ๗ กองนิตกิ าร (หัวหนากลุม งานคดี
พ.ศ. ๒๕๕๑ และหัวหนา กลุมงานความรับผิดทางแพง)
- นิตกิ ร ๘ ว. กองนติ ิการ
พ.ศ. ๒๕๕๔ (หัวหนากลมุ งานรางกฎหมายและใหค าํ ปรึกษา)
พ.ศ. ๒๕๕๕ - เจาหนาทบี่ รหิ ารทด่ี นิ ๘
พ.ศ. ๒๕๕๕ - นกั วิชาการท่ีดิน ๘
พ.ศ. ๒๕๕๖ สํานักมาตรฐานการทะเบยี นท่ีดนิ
(ผูอํานวยการสวนมาตรฐานการ
จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม)
นักวิชาการที่ดิน ๙ ชช.
สาํ นักมาตรฐานการทะเบียนทีด่ ิน
(ผูเ ชีย่ วชาญเฉพาะดานการทะเบียนที่ดิน)
เจาพนกั งานท่ดี ินจังหวัดลพบรุ ี (ผูอํานวยการระดับสูง)
ผูตรวจราชการกรมที่ดิน เขต ๖ (ผูอํานวยการระดับสูง)
ผูตรวจราชการกรมทด่ี ิน เขต ๑ (ผอู าํ นวยการระดับสงู )
ผอู ํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนทดี่ นิ
(ผอู ํานวยการระดบั สูง)
รางวัลการทํางาน
- บุคคลที่มีผลงานระดับดีเดนในการปองกันและแกไขปญหายาเสพติด
ดานการปราบปรามยาเสพติด ประจําป ๒๕๕๒ ของสํานักงาน ป.ป.ส. กระทรวง
ยุตธิ รรม
ราชการพเิ ศษ ปจจุบัน
๑. คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณเงินคาทดแทน (การเวนคืน) กระทรวง
คมนาคม
๒. อนกุ รรมการไตส วน ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สํานกั งาน ป.ป.ช.
๓. อาจารยพิเศษมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร
ฯลฯ
ราชการพิเศษ (ที่ผานมา)
๑. อนกุ รรมการประจาํ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส นิ สาํ นกั งาน ป.ป.ส.
๒. อนกุ รรมการตรวจสอบทรพั ยส ินภาคกลาง สาํ นักงาน ป.ป.ส.
๓. อนกุ รรมการบริหารจดั การทรัพยส ิน สํานกั งาน ป.ป.ง.
๔. อนกุ รรมาธิการฯ ของวุฒสิ ภาฯลฯ
***********************
พระราชบญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
พระราชบัญญตั ิ
ใหใชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ท่ี ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๗
เปนปท ี่ ๙ ในรชั กาลปจจุบนั
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ย
เดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหป ระกาศวา
โดยทเ่ี ปนการสมควรท่ีจะประกาศใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตรา
พระราชบัญญัติขึ้นไวโดยคําแนะนําและยินยอมของ
สภาผูแทนราษฎร ด่ังตอไปนี้
ม า ต ร า ๑ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ นี้ เ รี ย ก ว า ช่อื กฎหมาย
“พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗”
๒
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีใหใชบังคับต้ังแต วันบังคบั ใช
วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา๑ เปนตนไป
มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายท่ีดินตามที่ตราไว วนั บังคับใช
ตอทายพระราชบัญญัตินี้ ใหใชบังคับเปนกฎหมาย ป.ทด่ี ิน
ตั้งแตว นั ที่ ๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เปนตน ไป
มาตรา ๔ ต้ังแตวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดิน กฎหมายเกา
ใชบ ังคับ ใหย กเลกิ ทีถ่ ูกยกเลิก
๑) พระราชบัญญัติออกตราจองช่ัวคราว ซึ่ง
ประกาศเปล่ียนนามพระราชบัญญัติ เมื่อรัตนโกสินทรศก
๑๒๔ เปน พระราชบญั ญตั อิ อกโฉนดตราจอง
(๒) พระราชบัญญัติการออกโฉนดที่ดิน รัตน
โกสนิ ทรศก ๑๒๗
(๓) พระราชบัญญัติออกโฉนดทด่ี ิน ฉบับที่ ๒
(๔) พระราชบัญญัตอิ อกโฉนดทด่ี ิน ฉบับท่ี ๓
(๕) พระราชบัญญตั ิแกไขความในมาตรา ๒๕
แหงพระราชบญั ญัตกิ ารออกโฉนดทีด่ นิ ร.ศ. ๑๒๗
(๖) พระราชบัญญัติวาดวยการหวงหามท่ีดิน
รกรางวางเปลาอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน
พุทธศักราช ๒๔๗๘
๑ ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๗๘ ฉบับพเิ ศษ หนา ๑ วันที่
๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗
๓
(๗) พระราชบัญญัตอิ อกโฉนดท่ดี ิน (ฉบับท่ี ๕)
พุทธศกั ราช ๒๔๗๙
(๘) พระราชบัญญตั ิออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับที่ ๖)
พุทธศักราช ๒๔๗๙
(๙) พระราชบญั ญตั ิควบคมุ การไดม าซง่ึ ทด่ี ิน
โดยหา งหุนสว นและบรษิ ัทจํากดั เพื่อคากาํ ไร
พทุ ธศักราช ๒๔๘๕
(๑๐) พระราชบัญญัตอิ อกโฉนดทด่ี นิ (ฉบับท่ี ๗)
พทุ ธศักราช ๒๔๘๖
(๑๑) พระราชบัญญัติวาดวยพนักงานเจาหนาท่ี
จดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรม เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย พุทธศักราช
๒๔๘๖
(๑๒) พระราชบญั ญัติวาดว ยพนักงานเจาหนาที่
จดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรม เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๔๙๒
(๑๓) พระราชบญั ญตั ิท่ดี ินในสว นท่ีเกีย่ วกบั
คนตา งดาว พทุ ธศักราช ๒๔๘๖
(๑๔) พระราชบัญญตั ิท่ดี นิ ในสว นทีเ่ กี่ยวกบั
คนตา งดา ว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๓ และ
(๑๕) บรรดาบทกฎหมาย กฎ และขอบังคับ กรณกี ฎหมาย
อื่น ๆ ในสวนที่มีบัญญัติไวแลวในประมวลกฎหมาย ขัดแยงกนั
๔
ที่ดิน หรือซึ่งแยงหรือขัดตอบทแหงประมวลกฎหมาย
ทีด่ นิ
มาตรา ๕ ใหผูที่ไดครอบครองและทํา การแจง ส.ค.๑
ประโยชนในท่ีดินอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดิน
ใชบังคับ โดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธ์ิที่ดิน
แจงการครอบครองที่ดินตอนายอําเภอทองท่ีภายใน
หน่ึงรอยแปดสิบวันนับแตวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช
บังคับ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่รัฐมนตรีกําหนด
โดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา*
วรรคสอง๒(ยกเลกิ )
การแจงการครอบครองตามความในมาตราน้ี การแจง ส.ค.๑ ไม
ไมก อ ใหเกดิ สทิ ธขิ ึน้ ใหมแกผ ูแจงแตป ระการใด กอ ใหเ กิดสิทธใิ หม
มาตรา ๖ บคุ คลทีค่ รอบครองและทําประโยชน การรบั รองสทิ ธิ
ใ น ที่ ดิ น อ ยู โ ด ย ช อ บ ด ว ย ก ฎ ห ม า ย ก อ น วั น ท่ี ของผดู ําเนนิ การ
พระราชบญั ญัตอิ อกโฉนดทีด่ นิ (ฉบบั ที่ ๖) พุทธศักราช ตามกฎหมายเกา
๒๔๗๙ ใชบังคับและผูรับโอนท่ีดินดังกลาว ใหมีสิทธิ
ขอรับโฉนดที่ดินตามบทแหงประมวลกฎหมายที่ดิน
สํ า ห รั บ บุ ค ค ล ที่ ค ร อ บ ค ร อ ง ท่ี ดิ น ตั้ ง แ ต วั น ที่
* รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยไดออกประกาศเรอ่ื งแจงการ
ครอบครองทด่ี นิ ลงวันที่ ๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗
๒ มาตรา ๕ วรรคสอง ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖
ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๕
พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พุทธศักราช
๒๔๗๙ ใชบังคับเปนตนมา และกอนวันที่ประมวล
กฎหมายที่ดินใชบังคับ ถาไมดําเนินการใหชอบดวย
กฎหมายท่ีใชบังคับอยูในขณะนั้น การออกโฉนดที่ดิน
ใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดโดย
กฎกระทรวง* และใหพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน
(ฉบบั ที่ ๖) พุทธศกั ราช ๒๔๗๙ คงใชบังคบั ตอ ไป
มาตรา ๗ ที่ดินที่ไดรับอนุญาตใหจับจองไว การรบั รองสทิ ธิ
แลวตามพระราชบัญญัติออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับท่ี ๖) ของผูไดรบั
พุทธศักราช ๒๔๗๙ และยังมิไดรับคํารับรองวา ไดทํา อนุญาตจับจอง
ประโยชนแลวกอนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับ ให ตามกฎหมายเกา
ถือวาผูไดรับอนุญาตยังมีสิทธิท่ีจะมาขอคํารับรองจาก
นายอําเภอไดจนกวาจะครบกําหนดหน่ึงรอยแปดสิบวัน
นับจากวันสิ้นสุดเวลาแหงการจับจองตามพระราชบัญญัติ
ดังกลา ว
ในกรณีระยะเวลาแหงการจับจองดังกลาวใน ทีม่ าขอแบบ
วรรคแรกสิน้ สุดลง กอ นวนั ท่ปี ระมวลกฎหมายทดี่ ินใช หมายเลข ๓
บงั คับ หากปรากฏวาการทําประโยชนจากท่ีดินที่ไดรับ หลัง ป.ท่ีดนิ
อนุญาตใหจับจองอยูในสภาพที่จะพึงขอคํารับรองวา
ไดทําประโยชนดังกลาวแลวได ใหย่ืนคําขอตอ
* กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๖
นายอําเภอเพ่ือขอคํารับรองเสียภายในกําหนดหน่ึงรอย
แปดสิบวันนับแตวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ
เมื่อพนกําหนดเวลาดังกลาว ใหถือวาท่ีดินนั้นปลอด
จากการจับจองเวนแตนายอําเภอไดมีคําสั่งผอนผันให
เปน การเฉพาะราย
มาตรา ๘ การพิจารณาวาท่ีดินไดทําประโยชน หลักเกณฑการทํา
แลวหรือไม ใหเปนไปตามหลักเกณฑที่กําหนดใน ประโยชน
กฎกระทรวง*
ท่ีดนิ ทไี่ ดร บั อนุญาตใหจ บั จอง แตย งั ไมไ ด การโอนสิทธิ
รับคํารับรองจากนายอําเภอวาไดทําประโยชนแลว จบั จอง
ผไู ดร ับอนุญาตจะโอนไปไมไดเวน แตจ ะตกทอดโดย
ทางมรดก
ม า ต ร า ๙ ท่ี ดิ น ที่ ไ ด รั บ คํ า รั บ ร อ ง จ า ก การโอนสิทธิ
นายอาํ เภอวา ไดท าํ ประโยชนแลว ใหโ อนกนั ได ครองครอง
มาตรา ๑๐ ท่ีดินซ่ึงไดหวงหามไวเพ่ือประโยชน รบั รองการ
ตามพระราชบัญญัติวาดวยการหวงหามที่ดินรกรางวาง หวงหา มตาม
เปลาอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน พุทธศักราช กฎหมายเกา
๒๔๗๘ หรือตามกฎหมายอ่ืนอยูกอนวันที่ประมวล
กฎหมายท่ีดนิ ใชบังคบั ใหคงเปน ท่ีหวงหา มตอไป
มาตรา ๑๑ ในเขตทองที่ซ่ึงไดออกโฉนดตรา การนําวธิ กี าร
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๗
จองและตราจองท่ีตราวา “ไดทําประโยชนแลว” กอน ดําเนินการตาม
วันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับ ใหคงใชบท กฎหมายเกา มาใช
กฎหมายวาดวยการนั้นเฉพาะในสวนที่บัญญัติถึง ตอไป
วิธีการรังวัดและการออกหนังสือสําคัญดังกลาวขางตน
ตอไปจนกวาจะไดออกโฉนดท่ีดินตามประมวล
กฎหมายทด่ี ินแลว
มาตรา ๑๒ บุคคลใดจะไดมาซ่ึงท่ีดินโดยมี การคุมครองการ
สัญญาจะซ้ือจะขาย หรือสัญญาเชาซื้อซ่ึงไดกระทําไว ถอื สทิ ธิในท่ดี ิน
กอนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ถาไดจดแจง ตามกฎหมายเกา
สัญญานั้นตอพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ แหง
ประมวลกฎหมายท่ีดิน ตามหลักเกณฑและวิธีการท่ี
รัฐมนตรีกําหนด* ภายในหนึ่งรอยยี่สิบวันนับแตวันท่ี
พระราชบัญญัติน้ีใชบังคับ เมื่อไดมีการซ้ือขายไปตาม
สัญญาเชนวาน้ัน ใหถือเสมือนวาผูซื้อหรือผูเชาซื้อมี
สิทธิในท่ีดินอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใช
บังคับ
มาตรา ๑๓ บุคคลใดไดขายฝากที่ดินไวกอน การรบั รองสทิ ธิ
วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับ ถาไดทําการไถถอน ของผูไถถ อน
ทด่ี ินนัน้ เม่ือประมวลกฎหมายทด่ี นิ ไดใชบ งั คบั แลว ขายฝาก
* รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยไดกําหนดไวในคําสงั่ ที่ ๑๓๗๙/
๒๔๙๗ ลงวนั ท่ี ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗
๘
ใหถือเสมือนวาผูน้ันเปนผูมีสิทธิในท่ีดินอยูกอนวันท่ี
ประมวลกฎหมายทด่ี ินใชบ งั คับ
มาตรา ๑๔ บุคคลใดไดดําเนินการขอจับจอง สทิ ธขิ องผูขอ
ท่ดี ินไวต อ พนักงานเจาหนาท่ี กอนวันท่ีพระราชบัญญัติ จับจองทดี่ ินกอน
น้ีใชบังคับ แตยังไมไดรับอนุญาต ใหนายอําเภอมี ป.ทดี่ ิน (ท่ีมาของ
อํานาจดําเนินการตามนัยแหงพระราชบัญญัติออก ใบเหยยี บย่ําหลัง
โฉนดท่ีดิน (ฉบับที่ ๖) พุทธศักราช ๒๔๗๙ ตอไป ป.ทด่ี ิน)
จนถงึ ทีส่ ดุ ได
มาตรา ๑๕ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวง ผูรกั ษาการตาม
มหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และตาม กฎหมายและ
ประมวลกฎหมายที่ดิน และใหมีอํานาจแตงตั้งเจา อาํ นาจ
พ นั ก ง า น ที่ ดิ น แ ล ะ พ นั ก ง า น เ จ า ห น า ท่ี กั บ อ อ ก
ก ฎ ก ร ะ ท ร ว ง เ พ่ื อ ป ฏิ บั ติ ก า ร ใ ห เ ป น ไ ป ต า ม
พระราชบญั ญัตนิ ีแ้ ละประมวลกฎหมายที่ดิน
กฎกระทรวงนั้น เมื่อไดประกาศในราชกิจจา วันบังคับใช
นุเบกษาแลว ใหใ ชบ ังคับได กฎกระทรวง
ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี
(ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๗๘ ฉบบั พเิ ศษ หนา ๑ วันที่
๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๔๙๗)
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน
๙
ประมวลกฎหมายทดี่ ิน
หมวด ๑
บทเบด็ เสรจ็ ท่ัวไป
มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้ คํานิยาม
“ที่ดนิ ” หมายความวา พนื้ ทดี่ ินทว่ั ไป และให - ท่ีดนิ
หมายความรวมถึง ภเู ขา หว ย หนอง คลอง บงึ บาง ลาํ นา้ํ
ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเลดวย
“สิทธใิ นท่ีดิน” หมายความวา กรรมสทิ ธ์ิ และ - สทิ ธิในทีด่ ิน
ใหห มายความรวมถงึ สทิ ธิครอบครองดว ย
“ใบจอง” หมายความวา หนงั สอื แสดงการยอม - ใบจอง
ใหเ ขาครอบครองทดี่ นิ ชวั่ คราว
“หนังสือรับรองการทําประโยชน” หมายความวา - หนังสือรับรอง
หนังสือคํารับรองจากพนักงานเจาหนาท่ีวาไดทํา การทําประโยชน
ประโยชนใ นทดี่ ินแลว
“ใบไตสวน” หมายความวา หนังสือแสดงการ -ใบไตส วน
สอบสวนเพื่อออกโฉนดท่ีดิน และใหหมายความ
รวมถึงใบนาํ ดวย
“โฉนดที่ดิน” หมายความวา หนังสือสําคัญ - โฉนดที่ดิน
แสดงกรรมสิทธ์ิท่ีดิน และใหหมายความรวมถึงโฉนด
แผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราวา “ไดทํา
ประโยชนแลว”
๑๐
“การรังวัด” หมายความวา การรังวัดปกเขต - การรังวัด
และทาํ เขต จด หรือคํานวณการรังวัด เพ่ือใหทราบที่ต้ัง
แนวเขตท่ดี ิน หรือทราบทีต่ ง้ั และเนื้อท่ีของทด่ี ิน
“การคา ท่ดี นิ ”๓ (ยกเลิก)
“ทบวงการเมอื ง”๔หมายความวา - ทบวงการเมือง
(๑) ราชการสวนกลาง ราชการสวนภูมิภาค
หรอื ราชการสวนทอ งถนิ่
(๒) หนว ยงานอน่ื ของรฐั ท่ไี มใชร ฐั วสิ าหกิจ
“คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการ - คณะกรรมการ
จัดทด่ี ินแหง ชาติ
“พนักงานเจาหนาที่” หมายความวา เจา - พนักงาน
พนักงานซึ่งเปนผูปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายน้ี เจาหนาที่
และพนักงานอื่นซึ่งรัฐมนตรีแตงต้ังใหปฏิบัติการตาม
ประมวลกฎหมายนี้
“อธิบด”ี หมายความวา อธิบดีกรมที่ดนิ - อธบิ ดี
“รัฐมนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษา - รัฐมนตรี
การตามพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
๓ มาตรา ๑ นิยามคาํ วา “การคา ที่ดิน” ยกเลกิ โดยพระราชบัญญัติแกไข
เพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๔ มาตรา ๑ นิยามคาํ วา “ทบวงการเมอื ง” ซ่งึ เพม่ิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไ ข
เพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑ แกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญตั ิแกไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๑๑
และตามประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๒ ท่ีดินซึ่งมิไดตกเปนกรรมสิทธ์ิของ ทด่ี ินของรัฐ
บุคคลหน่งึ บคุ คลใด ใหถือวา เปน ของรัฐ
มาตรา ๓ บุคคลยอมมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดิน ใน ทด่ี ินเอกชน
กรณีตอ ไปนี้ (กรรมสทิ ธใ์ิ นท่ีดิน)
(๑) ไดมาซึ่งกรรมสิทธ์ิตามบทกฎหมายกอน
วันท่ีประมวลกฎหมายน้ีใชบังคับ หรือไดมาซึ่งโฉนด
ทดี่ ินตามบทแหง ประมวลกฎหมายนี้
(๒) ไดมาซึ่งกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายวาดวย
การจดั ที่ดินเพื่อการครองชีพ หรอื กฎหมายอ่ืน
มาตรา ๔ ภายใตบังคับมาตรา ๖ บุคคลใด ทดี่ ินเอกชน
ไดมาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดิน กอนวันท่ีประมวล (สิทธคิ รอบครอง)
กฎหมายนีใ้ ชบ งั คบั ใหมสี ทิ ธิครอบครองสืบไปและให
คมุ ครองตลอดถงึ ผูรบั โอนดว ย
มาตรา ๔ ทวิ๕ นับต้ังแตวันที่ประกาศของ การโอนตองจด
คณะปฏิวัติฉบับน้ีใชบังคับ การโอนกรรมสิทธ์ิหรือ ทะเบยี น
สิทธิครอบครองในที่ดินซ่ึงมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชน ตองทําเปนหนังสือและจด
ทะเบียนตอพนักงานเจา หนา ที่
มาตรา ๕ ผูใดมีความประสงคเวนคืนสิทธิใน เวนคนื สทิ ธิ
๕ มาตรา ๔ ทวิ เพ่มิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙
กมุ ภาพนั ธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๑๒
ท่ดี ินใหแ กร ฐั ใหยื่นคาํ ขอเวนคืนตอพนักงานเจาหนาที่ ใหแกร ฐั
ตามมาตรา ๗๑
มาตรา ๖๖ นับต้ังแตวันท่ีประกาศของคณะ การทอดทิ้งไมทํา
ปฏิวัตฉิ บบั นีใ้ ชบ งั คับ บคุ คลใดมีสิทธิในท่ีดินตามโฉนด ประโยชน
ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน หากบุคคล
นัน้ ทอดทิ้งไมทําประโยชนในที่ดิน หรือปลอยท่ีดินให
เปนทร่ี กรางวา งเปลา เกนิ กาํ หนดเวลา ดังตอ ไปนี้
(๑) สําหรับที่ดินท่ีมีโฉนดที่ดิน เกินสิบป - กรณโี ฉนด
ติดตอ กัน
(๒) สําหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทํา -กรณีหนังสอื รบั รอง
ประโยชน เกนิ หา ปติดตอ กัน การทําประโยชน
ใหถือวาเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะสวนที่ การดําเนนิ การ
ทอดทง้ิ ไมท าํ ประโยชนหรือท่ปี ลอ ยใหเปนทร่ี กรางวา ง ของรัฐ
เปลา เม่ืออธิบดีไดย่ืนคํารองตอศาล และศาลไดสั่งเพิก
ถอนหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นท่ีดินดงั กลาว ใหท่ีดินนั้นตก
เปนของรัฐเพื่อดําเนินการตามประมวลกฎหมายน้ี
ตอไป
มาตรา ๗๗ (ยกเลิก)
๖ มาตรา ๖ แกไขเพิม่ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี ๙๖ ลงวันที่
๒๙ กมุ ภาพันธ พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๗ มาตรา ๗ ยกเลิกโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ดี ิน
(ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖
๑๓
มาตรา ๘๘ บรรดาที่ดินท้ังหลายอันเปนสาธารณ การดแู ลรกั ษา
สมบัติของแผนดินหรือเปนทรัพยสินของแผนดินน้ัน ที่สาธารณสมบัติ
ถาไมมีกฎหมายกําหนดไวเปนอยางอ่ืน ใหอธิบดีมี ของแผนดนิ
อํานาจหนาที่ดูแลรักษา และดําเนินการคุมครองปองกัน
ไดตามควรแกกรณีอํานาจหนาท่ีดังวานี้ รัฐมนตรีจะ
มอบหมายใหทบวงการเมืองอน่ื เปนผใู ชกไ็ ด
ท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน การถอนสภาพ
สําหรับพลเมืองใชรวมกันหรือใชเพ่ือประโยชนของ หรอื การโอนเพือ่
แผนดินโดยเฉพาะ หรือเปนที่ดินที่ไดหวงหามหรือ ใชอ ยา งอนื่ ท่ี
สงวนไวตามความตองการของทบวงการเมืองอาจถูก สาธารณประโยชน
หรือท่ีดินท่ใี ชเพื่อ
ถอนสภาพหรือโอนไปเพ่ือใชประโยชน อยางอื่นหรือ แผน ดินโดยเฉพาะ
นาํ ไปจดั เพื่อประชาชนได ในกรณดี ังตอ ไปน้ี
(๑) ท่ีดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน ถาทบวง ที่ดนิ สาธารณ
การเมือง รัฐวิสาหกิจหรือเอกชนจัดหาที่ดินมาให ประโยชน
พลเมืองใชรวมกันแทนแลว การถอนสภาพหรือโอน ประชาชนใช
ใหกระทําโดยพระราชบัญญัติ แตถาพลเมืองไดเลิกใช ประโยชนรว มกัน
ประโยชนใ นท่ีดินนั้น หรือท่ีดินน้ันไดเปลี่ยนสภาพไป
จากการเปนท่ีดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน และมิได
ตกไปเปนกรรมสิทธ์ิของผูใดตามอํานาจกฎหมายอื่น
แลว การถอนสภาพใหก ระทําโดยพระราชกฤษฎีกา
๘ มาตรา ๘ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔
ลงวันท่ี ๑๓ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๑๔
(๒) ที่ดินท่ีใชเพ่ือประโยชนของแผนดิน ท่ีดินทใี่ ชเพอ่ื
โดยเฉพาะ หรือที่ดินที่ไดหวงหามหรือสงวนไวตาม ประโยชนข อง
ความตองการของทบวงการเมืองใด ถาทบวงการเมือง แผน ดนิ
น้ันเลิกใช หรือไมตองการหวงหามหรือสงวนตอไป โดยเฉพาะ
เมื่อไดมีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพแลว คณะรัฐมนตรี
จะมอบหมายใหท บวงการเมืองซ่ึงมีหนา ท่เี ปนผูใชหรอื
จัดหาประโยชนก็ได แตถาจะโอนตอไปยังเอกชน ให
กระทําโดยพระราชบัญญัติ และถาจะนําไปจัดเพื่อ
ประชาชนตามประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
ใหกระทําโดยพระราชกฤษฎีกา
การตราพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา การออกกฎหมาย
ตามวรรคสองใหมีแผนที่แสดงเขตท่ีดินแนบทาย
พระราชบญั ญตั หิ รือพระราชกฤษฎีกานนั้ ดวย
มาตรา ๘ ทวิ๙ ที่ดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใด การนําที่ดินของ
มีสิทธิครอบครอง หรือที่ดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน รบั ขนึ้ ทะเบียน
ซึ่งไดถอนสภาพตามมาตรา ๘ (๑) แลว รัฐมนตรีมี
อํานาจที่จะจัดข้ึนทะเบียนเพ่ือใหทบวงการเมืองใช
ประโยชนในราชการไดตามหลักเกณฑและวิธีการที่
๙ มาตรา ๘ ทวิ เพม่ิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวนั ที่ ๑๓
ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๑๕
กาํ หนดในกฎกระทรวง*
กอนที่จะจัดขึ้นทะเบียนตามวรรคหน่ึง ใหมี ขน้ั ตอนการนําข้ึน
การรังวัดทําแผนท่ี และใหผูวาราชการจังหวัดทองที่ ทะเบยี น
ประกาศการจัดข้ึนทะเบียนใหราษฎรทราบมีกําหนด
สามสิบวัน ประกาศใหปดในท่ีเปดเผย ณ สํานักงาน
ท่ีดิน ที่วาการอําเภอหรือท่ีวาการก่ิงอําเภอ ที่ทําการ
กาํ นัน และในบริเวณทีด่ ินน้นั
การจัดขึ้นทะเบียนตามวรรคหน่ึง ใหรัฐมนตรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใหมีแผนที่แนบทาย
ประกาศดว ย
มาตรา ๘ ตรี๑๐ ท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติของ การออกหนังสือ
แผนดนิ สําหรับพลเมืองใชรว มกัน หรือใชเพอ่ื ประโยชน สําคญั สาํ หรบั
ของแผนดินโดยเฉพาะ อธิบดีอาจจัดใหมีหนังสือ ทหี่ ลวง (น.ส.ล.)
สําคัญสาํ หรับที่หลวงเพอื่ แสดงเขตไวเ ปน หลกั ฐาน
แบบ หลักเกณฑ และวิธีการออกหนังสือสําคัญ หลักเกณฑ
สาํ หรับท่หี ลวง ใหเปนไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง**
* กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๐ มาตรา ๘ ตรี เพิ่มโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓
ธนั วาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
** กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖) และ ฉบับท่ี ๔๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๖
ที่ดินตามวรรคหนึ่งแปลงใดยังไมมีหนังสือ
สําคัญสําหรับที่หลวง เขตของท่ีดินดังกลาวใหเปนไป
ตามหลกั ฐานของทางราชการ
มาตรา ๙ ภายใตบังคับกฎหมายวาดวยการ การหวงหา มทด่ี ิน
เหมืองแรและการปาไม ท่ีดินของรัฐนั้นถามิไดมีสิทธิ
ครอบครอง หรือมิไดรับอนุญาตจากพนักงาน
เจา หนาท*่ี แลว หา มมิใหบุคคลใด
(๑) เขา ไปยดึ ถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการ
กนสรา งหรือเผาปา
(๒) ทาํ ดว ยประการใด ใหเ ปนการทําลาย หรือ ขอ หา มกระทํา
ทําใหเสื่อมสภาพท่ีดิน ท่ีหิน ที่กรวด หรือที่ทราย ใน
บริเวณท่ีรัฐมนตรีประกาศหวงหาม**ในราชกิจจา
นุเบกษา หรือ
(๓) ทําส่ิงหน่ึงส่ิงใดอันเปนอันตรายแก
ทรัพยากรในทด่ี นิ
มาตรา ๙ ทว๑ิ ๑ (ยกเลกิ )
* คาํ สง่ั กระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๐๙/๒๕๓๘ ลงวันท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๘
** รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทยไดป ระกาศหวงหา ม ลงวันท่ี ๒๑
พฤษภาคม ๒๕๒๓
๑๑ มาตรา ๙ ทวิ ถูกยกเลิก และบัญญัตมิ าตรา ๙/๑ แทนโดยแกไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๗
มาตรา ๙/๑ ใหผูรับอนุญาตตามมาตรา ๙ เสีย อตั ราคาตอบแทน
คาตอบแทนเปนรายปใหแกเทศบาล องคการบริหาร มาตรา ๙
สวนตําบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือองคกร
ปกครองสวนทองถ่ินอื่นท่ีมีกฎหมายจัดต้ังท่ีที่ดินท่ี
ไดรับอนุญาตตั้งอยู ยกเวนองคการบริหารสวน
จังหวัด๑๒ ท้ังนี้ ตามวิธีการและอัตราที่กําหนดใน
ขอบัญญัติทองถ่ินนั้น แตตองไมเกินอัตราตามบัญชี
ทายประมวลกฎหมายน้ี
ใหองคกรปกครองสวนทองถ่ินในเขตจังหวัด การแบง
แบงคาตอบแทนที่ไดรับตามวรรคหน่ึง ใหแกองคการ คาตอบแทน
บริหารสว นจังหวดั ในอัตรารอยละส่ีสิบของคา ตอบแทน
ทไ่ี ดรบั ภายในกําหนดสามสบิ วันนบั แตว นั ท่ไี ดรับ เพ่ือ
เปนรายไดขององคการบริหาร สวนจังหวัด และให
คาตอบแทนสวนท่ีเหลือตกเปนรายไดขององคกร
ปกครองสวนทองถิ่นที่ที่ดินที่ไดรับอนุญาตตั้งอยู
ในกรณีท่ีที่ดินดังกลาวไมไดตั้งอยูในเขตขององคการ
๑๒ มาตรา ๗ แหง พระราชบัญญตั แิ กไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับ
ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ใหผูรับอนุญาตตามมาตรา ๙ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน กอนวันท่ี
พระราชบัญญัตินี้ (ฉบับที่ ๑๑) ใชบังคับ เสียคาตอบแทนตามมาตรา ๙ ทวิ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันที่
๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ จนกวา การอนุญาตจะสนิ้ สุดลง
๑๘
บริหารสวนจังหวัด ใหคาตอบแทนท่ีไดรับตามวรรคหนึ่ง
ตกเปนรายไดขององคกรปกครอง สวนทองถ่ินนั้น
ทงั้ หมด
มาตรา ๑๐ ท่ีดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมี การจัดหา
สิทธิครอบครองและมิใชสาธารณสมบัติของแผนดิน ผลประโยชน
อันราษฎรใชประโยชนรวมกันน้ัน ใหอธิบดีมีอํานาจ ในทด่ี ินของรัฐ
จัดหาผลประโยชนในการจัดหาผลประโยชน ให
รวมถึงจัดทาํ ใหท ีด่ นิ ใชประโยชนไ ด ซ้อื ขาย แลกเปลยี่ น
ใหเชา และใหเชา ซือ้
หลักเกณฑและวิธีการจัดหาผลประโยชน ให หลักเกณฑ
กําหนดโดยกฎกระทรวง* แตสําหรับการขาย การ
แลกเปล่ียน และการใหเชาซื้อท่ีดินตองไดรับอนุมัติ
จากรฐั มนตรี
การดําเนินการจัดหาผลประโยชนตามความ ขอ คํานึงถึง
ในมาตราน้ี ใหค ํานงึ ถงึ การทีจ่ ะสงวนท่ีดินไวใหอนุชน อนาคต
รุนหลงั ดวย
มาตรา ๑๑ การจัดหาผลประโยชนซ่ึงที่ดิน การมอบหมายให
ของรัฐตามนัยดังกลาวมาในมาตรากอนนี้ รัฐมนตรีจะ ทบวงการเมืองอื่น
ม อ บ ห ม า ย ใ ห ท บ ว ง ก า ร เ มื อ ง อื่ น เ ป น ผู จั ด ห า เปน ผจู ดั หา
ผลประโยชนสําหรับรัฐหรือบํารุงทองถ่ินก็ได ทั้งนี้ ประโยชน
* กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ออกตามความในพระราชบญั ญัติ
ใหใ ชป ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๙
ใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดใน
กฎกระทรวง*
มาตรา ๑๒ ที่ดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมี การขอสัมปทาน
สิทธิครอบครอง รัฐมนตรีมีอํานาจใหสัมปทาน ให
หรือใหใชในระยะเวลาอันจํากัด ท้ังนี้ ใหเปนไปตาม
หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง**
บทบัญญัติในมาตราน้ีไมกระทบกระเทือนถึง
กฎหมายวาดว ยการเหมอื งแรแ ละการปาไม
มาตรา ๑๓ เพ่ือดําเนินการใหเปนไปตามบท ตั้งสํานกั งานท่ดี ิน
แหงประมวลกฎหมายนี้ ใหรัฐมนตรีมีอํานาจจัดตั้ง จังหวัด
สํานักงานทดี่ นิ จงั หวดั ขึ้น
จังหวัดใดมีความจําเปนที่จะตองตั้งท่ีทําการ ตัง้ สาํ นักงานท่ดี ิน
ที่ดินมากกวาหนึ่งแหงใหรัฐมนตรี มีอํานาจจัดตั้ง สาขา
สํานักงานที่ดินสาขาขึ้นโดยใหสังกัดอยูในสํานักงาน
ทีด่ ินจังหวดั
ก า ร จั ด ต้ั ง สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น จั ง ห วั ด แ ล ะ
สํานกั งานท่ดี นิ สาขาใหป ระกาศในราชกจิ จานุเบกษา
* กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
** กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐) แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๐๓) และ ฉบบั ที่ ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๒๐
หมวด ๒
การจดั ที่ดนิ เพอ่ื ประชาชน
มาตรา ๑๔๑๓ ใหมีกรรมการคณะหนึ่งเรียกวา คณะกรรมการ
“คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ” ประกอบดวย จัดท่ีดินแหง ชาติ
รัฐมนตรีวาการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอม* เปนประธาน รัฐมนตรีชวยวาการ
กระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัด
กระทรวงกลาโหม อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรม
พัฒนาสังคมและสวัสดิการ อธิบดีกรมสงเสริมสหกรณ
อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมชลประทานอธิบดีกรม
พัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมสงเสริม
การเกษตร อธิบดีกรมปาไม อธิบดีกรมธนารักษ
ผูอํานวยการสํานักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการ
กฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแหงชาติ เลขาธิการสํานักงานเรงรัดพัฒนา
๑๓ มาตรา ๑๔ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔
ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
* แกไ ขเพ่ิมเตมิ ใหส อดคลองกบั การปฏิรปู ระบบราชการ ตามมาตรา ๔ แหง
พระราชกฤษฎีกาแกไขบทบัญญัติใหสอดคลองกับการโอนอํานาจหนาที่ของสวน
ราชการใหเปนไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕
พ.ศ. ๒๕๔๕ (มีผลใชบ งั คบั ในวนั ที่ ๙ ตลุ าคม ๒๕๔๕)
๒๑
ชนบทเปนกรรมการ ผูอาํ นวยการสาํ นักงานนโยบายและ
แผนทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม เปนกรรมการ
และเลขาธิการโดยตําแหนงและคณะกรรมการผูทรง
คุณวุฒิอื่นอีกไมเกินเจด็ คน ซง่ึ คณะรฐั มนตรีแตงต้ัง
มาตรา ๑๕๑๔ กรรมการผูทรงคุณวุฒิดํารง กรรมการ
ตําแหนงมีกําหนดส่ีป กรรมการผูทรงคุณวุฒิที่พนจาก ผูทรงคณุ วุฒิ
ตําแหนง คณะรัฐมนตรีจะแตงตั้งใหเปนกรรมการอีก
กไ็ ด
มาตรา ๑๖ นอกจากการออกจากตําแหนงตาม การพนจาก
วาระตามความในมาตรา ๑๕ กรรมการผูทรงคุณวุฒิ ตําแหนงกรรมการ
พนจากตาํ แหนงเมื่อ ผูทรงคุณวุฒิ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ตองจําคกุ โดยคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุก
เวนแตความผิดที่เปนลหุโทษ หรือความผิดที่มีโทษช้ัน
ลหุโทษ หรือความผดิ อันไดกระทําโดยประมาท
(๔) คณะรัฐมนตรใี หออกจากตาํ แหนง
ในกรณีที่มีการพนจากตําแหนงตามมาตราน้ี กําหนดเวลาของ
ใหคณะรัฐมนตรีแตงตั้งผูทรงคุณวุฒิเปนกรรมการ ผูถูกตั้งแทน
แทน กรรมการท่ีไดรับแตงต้ังเขาแทนนี้ยอมอยูใน
๑๔ มาตรา ๑๕ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔
ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๒๒
ตาํ แหนง ไดเพียงเทากาํ หนดเวลาของผซู ึง่ ตนแทน
มาตรา ๑๗ การประชมุ ของคณะกรรมการ ตอ ง องคประชุม
มีกรรมการมาประชมุ เกินกวา กง่ึ หนงึ่ จงึ เปน องคป ระชุม
มาตรา ๑๘ ในเม่ือประธานไมอยูในที่ประชุม กรณปี ระธาน
ใหกรรมการเลอื กตั้งกนั ข้ึนเองเปน ประธาน ไมอ ยู
มาตรา ๑๙ การลงมติวินิจฉัยขอปรึกษาน้ันให มติท่ีประชุม
ถอื เอาเสียงขา งมากเปน ประมาณ
กรรมการคนหนึ่งยอมมีเสียงหนึ่งในการลง
คะแนน ถามีจํานวนเสียงลงคะแนนเทากัน ใหประธานใน
ทป่ี ระชมุ ออกเสยี งเพิ่มข้นึ ไดอกี เสียงหน่ึงเปนเสียงช้ีขาด
มาตรา ๒๐๑๕ ใหคณะกรรมการมีอํานาจหนาท่ี อํานาจหนา ท่ี
ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) วางนโยบายการจัดที่ดนิ เพื่อใหป ระชาชน
มที ่ดี ินสําหรับอยอู าศยั และหาเล้ียงชีพตามควรแกอ ัตภาพ
(๒) วางแผนการถือครองท่ดี ิน
(๓) สงวนและพัฒนาที่ดินเพ่ือจัดใหแก
ประชาชน
(๔) สงวนหรือหวงหามที่ดินของรัฐซ่ึงมิไดมี
บุ ค ค ล ใ ด มี สิ ท ธิ ค ร อ บ ค ร อ ง เ พ่ื อ ใ ห ป ร ะ ช า ช น ใ ช
ประโยชนรวมกนั
๑๕ มาตรา ๒๐ แกไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพม่ิ เติมประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖
๒๓
(๕) อนุมตั โิ ครงการการจัดทดี่ ินของทบวง
การเมอื ง
(๖) ควบคมุ การจดั ทด่ี ินตามประมวลกฎหมายนี้
และกฎหมายอน่ื
(๗) ปฏิบัตกิ ารเก่ยี วกบั ท่ีดนิ ตามท่ีคณะรัฐมนตรี
มอบหมาย
(๘) มอบหมายใหทบวงการเมืองท่ีเกี่ยวของ
ดําเนินการเก่ียวกับอํานาจหนาท่ีอยางใดอยางหนึ่งใน
มาตรานี้แทนคณะกรรมการไดต ามทเี่ หน็ สมควร
(๙) ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไวในประมวล
กฎหมายนีห้ รอื กฎหมายอื่น
(๑๐) วางระเบียบหรือขอบังคับกําหนด
หลักเกณฑหรือเง่ือนไขเกี่ยวกับการจัดท่ีดินหรือเพ่ือ
กจิ การอ่นื ตามประมวลกฎหมายนี้
ระเบียบ*หรอื ขอ บงั คับท่เี กยี่ วขอ งกบั ประชาชน
ใหป ระกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๑ ใหรัฐมนตรีดําเนินการตามมติ มอบหมายให
ของคณะกรรมการ และมีอํานาจมอบหมายใหทบวง ทบวงการเมืองอ่ืน
การเมืองท่ีเก่ียวของดําเนินการใด ๆ อันเกี่ยวกับการจัด จดั ท่ีดิน
ที่ดินได และถาสามารถทําได ใหทบวงการเมืองที่
* ระเบียบวาดวยการจัดท่ีดินเพื่อประชาชน, ระเบียบของคณะกรรมการ
จัดท่ีดินแหงชาติ ฉบบั ท่ี ๒ – ฉบับท่ี ๑๒
๒๔
เกี่ยวของปฏิบัติการใหเปนไปตามท่ีไดรับมอบอํานาจ
ไปนน้ั โดยไมชกั ชา และเพอ่ื ประโยชนแ หง มาตรานี้ ให
เจาพนักงานของทบวงการเมืองเชนวาน้ันมีอํานาจ
หนา ที่อยางเดียวกับพนักงานเจาหนาที่ตามท่ีกําหนดไว
ในประมวลกฎหมายนี้
ในการมอบอาํ นาจใหทบวงการเมืองดําเนินการ การเบิก
ตามความในวรรคกอน รัฐมนตรีจะใหทบวงการเมือง งบประมาณแทน
เชนวานั้นเบิกเงินในงบประมาณของกรมที่ดิน ไปใช
จา ยตามรายการในงบประมาณแทนกรมที่ดินกไ็ ด
มาตรา ๒๒ ใหร ฐั มนตรีและพนักงานเจาหนา ที่ อํานาจหนา ท่ขี อง
ทร่ี ัฐมนตรมี อบหมายมีอาํ นาจ ดงั ตอไปนี้ รฐั มนตรี และ
(๑) มีหนังสือเรียกบุคคลใด ๆ มาชี้แจง ผไู ดรับมอบหมาย
ขอเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการจัดที่ดิน
และใหสงเอกสารหลักฐานหรือส่ิงอื่นท่ีเก่ียวของมา
ประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมการ
(๒) เขาไปยังสถานที่หรือที่ดินของทบวง
การเมือง องคการของรัฐหรือเอกชนเพื่อตรวจสอบ
เรื่องตาง ๆ ท่ีเกี่ยวกับการจัดที่ดิน และใหมีอํานาจ
สอบถามขอเท็จจริง เรียกเอกสารหลักฐาน หรือส่ิงอื่น
ที่เก่ียวของ จากบุคคลที่อยูในสถานที่หรือท่ีดินเชนวา
น้ัน มาตรวจพิจารณาไดตามความจําเปน ในการนี้
บุคคลเชนวาน้ันตองใหความสะดวกแกคณะกรรมการ
และพนกั งานเจา หนาทต่ี ามสมควร
๒๕
มาตรา ๒๓ ในการใชอํานาจหนาท่ีตาม อาํ นาจหนาท่ขี อง
ประมวลกฎหมายน้ี พนักงานเจาหนาที่และเจา พนกั งาน
พนักงานของทบวงการเมืองซึ่งมีอํานาจหนาท่ีอยาง เจา หนาที่
เดียวกับพนักงานเจาหนาที่ตามความในมาตรา ๒๑
ตอ งมบี ัตรประจาํ ตวั และแสดงแกบ คุ คลท่ีเกย่ี วขอ ง
มาตรา ๒๔ ใหถือวาพนักงานเจาหนาที่และ เปน เจา พนักงาน
เจาพนักงานท่ีปฏิบัติหนาท่ีตามความในประมวล ตาม ป.อาญา
กฎหมายน้ี เปนเจาพนักงานตามความหมายใน
กฎหมายลักษณะอาญา
มาตรา ๒๕๑๖ เพื่อประโยชนในการจัดท่ีดิน การสาํ รวจทีด่ นิ
หรือการสํารวจความอุดมสมบูรณของดิน คณะกรรมการ
จะจดั ใหมกี ารสํารวจที่ดนิ กไ็ ด
เมื่อเปนการสมควรจะสํารวจท่ีดินในทองที่ใด
ใหคณะกรรมการประกาศทองท่ีนั้นเปนเขตสํารวจที่ดิน
ในราชกิจจานุเบกษา และใหปดประกาศนั้น ณ ที่วาการ
อาํ เภอและบานกํานนั ในตาํ บลทอ่ี ยูใ นเขตสํารวจ ประกาศ
ของคณะกรรมการดังกลาวใหมีแผนที่ประเมินเขต
ที่ดินที่กําหนดใหเปนเขตสํารวจที่ดินไวทายประกาศ
ดวย แผนทดี่ ังกลา วนี้ ใหถ อื วา เปนสว นแหง ประกาศ
มาตรา ๒๖ ภายในเขตสํารวจท่ีดินตามความ หนา ทข่ี องผูมี
๑๖ มาตรา ๒๕ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔
ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๒๖
ในมาตรา ๒๕ ใหผูมีสิทธิในท่ีดินหรือผูครอบครอง สิทธิในท่ดี ินใน
ทด่ี นิ ซึ่งอยใู นเขตสํารวจทดี่ นิ มีหนา ท่ี เขตสํารวจ
(๑) แจงตอพนักงานเจาหนาที่ในทองท่ีซึ่ง
ที่ดินต้ังอยูภายในระยะเวลาที่ผูวาราชการจังหวัด
ประกาศกําหนด ตามแบบและวิธีการท่ีกําหนดใน
กฎกระทรวง* ในกรณีเชนนจ้ี ะจัดใหบ ุคคลอ่ืนแจงแทน
ก็ได
(๒) นําหรือจัดใหบุคคลอื่นนําพนักงาน
เจาหนาที่ไปชี้เขตท่ีดินซึ่งตนมีสิทธิหรือครอบครองอยู
ในเม่ือไดรับคําบอกกลาวจากพนักงานเจาหนาที่
ลวงหนาเปนเวลาอันสมควร
(๓) ลงช่ือรบั รองการสํารวจท่ีดนิ ของพนักงาน
เจาหนาที่ตามที่เปนจริง ในกรณีที่จัดใหบุคคลอ่ืนนําช้ี
เขตท่ีดินใหบุคคลซึ่งนําชี้เขตที่ดินเปนผูลงช่ือรับรอง
การสาํ รวจท่ดี ินแทน
มาตรา ๒๗ นอกจากท่ีดินท่ีสวนราชการหรือ การจัดทีด่ ิน
องคการของรัฐนําไปจัดตามกฎหมายอ่ืนแลว อธิบดีมี ของกรมทด่ี ิน
อํานาจจัดที่ดินของรัฐซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิ (ผนื ใหญ)
ครอบครอง ใหราษฎรเพ่ือเปนที่อยูอาศัยและทํามาหา
* กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชป ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๒๗
เลี้ยงชีพได ทั้งน้ี ตองเปนไปตามระเบียบ* ขอบังคับ
ขอกําหนด และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนดซ่ึงให
รวมถงึ รายการดังตอไปนี้ดวย คือ
(๑) จาํ นวนทดี่ ินท่จี ะแบงใหค รอบครอง
(๒) หลักเกณฑสอบสวนคัดเลือกผูเขา
ครอบครอง
(๓) วิธที ี่ผเู ขา ครอบครองพึงปฏบิ ัติ
(๔) หลักเกณฑการชดใชทุนท่ีไดลงไปใน
ท่ดี ินนนั้ และการเรยี กคา ธรรมเนียมบางอยาง
(๕) กิจการท่จี าํ เปน สําหรบั การจัดแบง ทด่ี ิน
ระเบียบ ขอบังคับ ขอกําหนด และเงื่อนไข
ของคณะกรรมการ ใหประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๗ ทวิ๑๗ ในกรณีท่ีผูครอบครองและ ขอผอนผันการ
ทําประโยชนในท่ีดินหรือผูซึ่งไดครอบครองและทํา แจง ส.ค.๑
ประโยชนในที่ดินตอเนื่องจากบุคคลดังกลาว ไดยื่น
คํ า ร อ ง ข อ ผ อ น ผั น ก า ร แ จ ง ก า ร ค ร อ บ ค ร อ ง ต า ม
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
กอนวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใชบังคับและ
* ระเบียบวาดวยการจดั ทีด่ นิ เพอื่ ประชาชน ลงวันที่ ๒๔ สงิ หาคม ๒๔๙๘,
ระเบียบคณะกรรมการจดั ทด่ี นิ แหงชาติ
๑๗ มาตรา ๒๗ ทวิ เพิ่มโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันท่ี ๒๙
กมุ ภาพันธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๒๘
ผูวาราชการจังหวัดยังไมไดมีคําส่ัง ใหผูวาราชการ
จังหวดั พิจารณาสงั่ การใหเสรจ็ สิน้ โดยไมช กั ชา แตท ้งั น้ี
ไมต ดั สิทธผิ ูครอบครองและทําประโยชนในที่ดินน้ันท่ี
จะใชสทิ ธิตามมาตรา ๒๗ ตรี แหง ประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๒๗ ตรี๑๘ เมื่อผูวาราชการจังหวัดได แจงสิทธิในทีด่ ินท่ี
ประกาศกําหนดทองที่และวันเร่ิมตนของการสํารวจ ไดม ากอ น ป.ทด่ี ิน
ตามมาตรา ๕๘ วรรคสอง ผูครอบครองและทํา ในการเดนิ สํารวจ
ประโยชนในท่ีดินอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายนี้ใช
บังคับโดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
และมิไดแจงการครอบครองตามมาตรา ๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ หรือผูซ่ึงรอคําส่ังผอนผันจากผูวาราชการ
จังหวัดตามมาตรา ๒๗ ทวิ แตไดครอบครองและทํา
ประโยชนในที่ดินน้ันติดตอมาจนถึงวันทําการสํารวจ
รังวัดหรือพิสูจนสอบสวน ถาประสงคจะไดสิทธิใน
ที่ดินน้ัน ใหแจงการครอบครองท่ีดินตอเจาพนักงาน
ที่ดิน ณ ที่ดินนั้นตั้งอยูภายในกําหนดเวลาสามสิบวัน
นับแตวันปดประกาศ ถามิไดแจงการครอบครอง
ภายในกําหนดเวลาดังกลาว แตไ ดมานําหรือสงตัวแทน
มานาํ พนักงานเจา หนาที่ทําการสํารวจรังวัดตามวันและ
๑๘ มาตรา ๒๗ ตรี แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๒๙
เวลาท่ีพนักงานเจาหนาท่ีประกาศกําหนด ใหถือวายัง
ประสงคจ ะไดส ทิ ธิในทีด่ นิ น้นั
เพ่ือประโยชนแหงมาตรานี้ ผูครอบครองและ ผูครอบครอง
ทําประโยชนในท่ีดินตามวรรคหนึ่ง ใหหมายความ ตอ เนื่อง
รวมถึงผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินตอ
เนอื่ งมาจากบุคคลดงั กลาวดวย
มาตรา ๒๘ ใหคณะกรรมการมีอํานาจแตงต้ัง ตั้งอนุกรรมการ
คณะอนุกรรมการเพื่อชวยเหลือในการดําเนินกิจการ ของคณะกรรมการ
จัดที่ดินแหงชาติ
อยางใดอยา งหนึ่งแลว รายงานคณะกรรมการ
ใหนําความในมาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และ
มาตรา ๑๙ มาใชบังคบั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๒๙ ในการดําเนินการตามความใน การจัดทดี่ ินเพือ่
มาตรา ๒๗ ท่ีดินท่ีไดรับมาโดยบทแหงประมวล ประชาชน
กฎหมายน้ีตั้งอยูในทองท่ีใด ใหจัดใหบุคคลท่ีมี
ภูมิลําเนาอยูในทองที่น้ันไดรับ ไดซ้ือ ไดแลกเปลี่ยน
หรือไดเชาซื้อกอน ตอเม่ือมีท่ีดินเหลืออยู จึงใหจัดให
บุคคล ที่มีภูมิลําเนาอยูในทองท่ีอ่ืนไดรับ ไดซ้ือ ได
แลกเปลย่ี น หรือไดเชา ซอื้ ตอ ไป
มาตรา ๓๐๑๙ เม่ือไดจัดใหบุคคลเขาครอบครอง การออกใบจอง
ในที่ดินรายใดแลว ใหพนักงานเจาหนาท่ีออกใบจอง และออกหนังสือ
๑๙ มาตรา ๓๐ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔
ลงวันท่ี ๑๓ ธนั วาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๓๐
ใหไวเปนหลักฐานกอน และเมื่อปรากฏแกพนักงาน แสดงสิทธิในที่ดิน
เจาหนาท่ีวา บคุ คลทีไ่ ดจ ดั ใหเขา ครอบครองที่ดินไดทํา
ประโยชนในท่ีดิน และท้ังไดปฏิบัติตามระเบียบ
ขอบังคับ ขอกําหนด และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ
กําหนดโดยครบถวนแลว ก็ใหพนักงานเจาหนาที่ออก
หนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ ใหโ ดยเรว็
มาตรา ๓๑๒๐ โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรอง หามโอน
การทําประโยชนท่ีไดออกสืบเน่ืองมาจากใบจองตาม
มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ หามมิใหผูไดมาซ่ึงสิทธิในท่ีดิน
ดังกลา วโอนทีด่ ินนั้นใหแ กผูอน่ื ในกรณี ดงั ตอไปน้ี
(๑) ถาเปนกรณีท่ีไดออกใบจองในหรือหลัง หา มโอน ๑๐ ป
วันท่ี ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ หามโอนภายใน
กําหนดสิบปนับแตวันไดรับโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
รบั รองการทําประโยชน
(๒) ถาเปน กรณีท่ีไดออกใบจองกอนวันท่ี ๑๔ หา มโอน ๕ ป
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ เฉพาะท่ีรัฐใหการชวยเหลือใน
ดานสาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ เน่ืองจากการจัดท่ีดิน
หามโอนภายในกําหนดหาป นับแตวันไดรับโฉนด
ท่ดี นิ หรอื หนังสือรับรองการทาํ ประโยชน
ความในวรรคหนึ่งมิใหใชบังคับแกกรณีที่ ขอยกเวน
๒๐ มาตรา ๓๑ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพม่ิ เติมประมวล
กฎหมายทีด่ ิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๓๑
ที่ดินน้ันตกทอดทางมรดกหรือโอนใหแกทบวง การหา มโอน
การเมือง องคการของรัฐบาลตามกฎหมายวาดวยการ
จัดตั้งองคการของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจท่ีจัดต้ังขึ้นโดย
พระราชบัญญัติ หรือโอนใหแกสหกรณเพ่ือชําระหนี้
โดยไดร บั อนมุ ัติจากนายทะเบยี นสหกรณ
ภายในกําหนดเวลาหามโอนตามวรรคหน่ึง หา มบังคับคดี
ที่ดนิ นน้ั ไมอยูในขา ยแหง การบังคับคดี
มาตรา ๓๒ บุคคลใดเขาครอบครองท่ีดินตาม การสั่งขาดสิทธิ
นัยแหงบทบัญญัติมาตรา ๓๐ ไมปฏิบัติตามระเบียบ ในท่ดี นิ ท่จี ดั ให
ขอบังคับ ขอกําหนด หรือเง่ือนไขของคณะกรรมการ
อธิบดีมีอํานาจสั่งใหบุคคลน้ันออกไปจากท่ีดินนั้นได
และนับตั้งแตวันไดรับคําสั่ง ใหบุคคลน้ันขาดสิทธิอัน
จะพึงไดต ามระเบียบขอ บงั คบั ทง้ั หลายทนั ที
ถาบุคคลนั้นไมพอใจคําส่ังดังกลาวในวรรค การอุทธรณค าํ ส่ัง
กอน ก็มีสิทธิย่ืนอุทธรณตอรัฐมนตรีไดภายในกําหนด
สามสิบวัน นับแตวันไดรับคําส่ัง แตถารัฐมนตรีมิได
วินิจฉยั สง่ั การภายในกาํ หนดหกสบิ วัน นับแตวันไดรับ
อุทธรณใหถือวารัฐมนตรีส่ังใหมีสิทธิครอบครองใน
ที่ดินน้ันตอไป แตจะตองปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ
ขอกาํ หนด และเง่ือนไขของคณะกรรมการตามเดมิ
คําส่ังของรฐั มนตรีใหถือเปน ท่ีสุด คาํ สั่งเปนทส่ี ุด
มาตรา ๓๓ ในเขตทองที่ใดท่ีคณะกรรมการ จัดทีด่ นิ แปลงเล็ก
ยงั มิไดป ระกาศเขตสํารวจทดี่ ินตามความในหมวดนี้ก็ดี แปลงนอ ย
๓๒
หรือในกรณีที่สภาพของทีด่ นิ เปนแปลงเล็กแปลงนอยก็ดี
ราษฎรจะขออนุญาตจับจองที่ดินไดโดยปฏิบัติตาม
ระเบียบ ขอบงั คับ ขอกําหนดและเง่ือนไขที่คณะกรรมการ
กําหนด* และเมื่อพนักงานเจาหนาท่ีอนุญาตแลว ก็ให
ออกใบจองใหตอ ไป
หมวด ๓
การกําหนดสทิ ธิในทีด่ ิน
มาตรา ๓๔๒๑ (ยกเลกิ )
มาตรา ๓๕๒๒ (ยกเลิก)
มาตรา ๓๖๒๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๓๗๒๔ (ยกเลกิ )
มาตรา ๓๘๒๕ (ยกเลิก)
* ระเบียบวาดวยการจดั ท่ีดินเพื่อประชาชน และฉบบั ทแ่ี กไ ข (ฉบับท่ี ๕, ๖)
๒๑ มาตรา ๓๔ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๒๒ มาตรา ๓๕ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๒๓ มาตรา ๓๖ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๒๔ มาตรา ๓๗ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๓๓
มาตรา ๓๙๒๖ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๐๒๗ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๑๒๘ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๒๒๙ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๓๓๐ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๔๓๑ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๕๓๒ (ยกเลกิ )
๒๕ มาตรา ๓๘ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๒๖ มาตรา ๓๙ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๒๗ มาตรา ๔๐ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๒๘ มาตรา ๔๑ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๒๙ มาตรา ๔๒ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๓๐ มาตรา ๔๓ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๓๑ มาตรา ๔๔ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๓๒ มาตรา ๔๕ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๓๔
มาตรา ๔๖๓๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๗๓๔ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๘๓๕ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๙๓๖ (ยกเลิก)
มาตรา ๕๐ ในการที่อธิบดีใชอํานาจจําหนาย หลักเกณฑการ
ที่ดนิ ตามบทแหง ประมวลกฎหมายน้ี ใหอ ธิบดีมีอํานาจ จาํ หนายทีด่ ินโดย
จาํ หนายโดยการขาย หรือใหเชาซื้อตามหลักเกณฑและ อธิบดกี รมที่ดิน
วิธีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง* และใหอธิบดีมี
อํานาจเรียกคาธรรมเนียมไดไมเกินรอยละหาของราคา
ท่ีจําหนายน้ัน ถาจําหนายไมไดภายในสองป ใหอธิบดี
โดยอนุมัติรัฐมนตรีมีอํานาจจัดการขายท่ีดินน้ันดวยวิธี
ผอ นสง ภายในสบิ ป
อํานาจตามความที่กลาวในวรรคแรกน้ัน เมื่อ แบง ขายได
๓๓ มาตรา ๔๖ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๓๔ มาตรา ๔๗ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๓๕ มาตรา ๔๘ ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
๓๖ มาตรา ๔๙ ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓
มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๐๒
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๓๕
อธิบดีเห็นเปนการสมควรจะจัดแบงท่ีดินออกเปน
แปลง ๆ เพอ่ื จําหนายกไ็ ด
มาตรา ๕๑ ในกรณีท่ีอธิบดีจะใชอํานาจจําหนาย สทิ ธิในการตกลง
ท่ีดินตามประมวลกฎหมายน้ี ใหผูมีสิทธิในที่ดินอันจะ กําหนดแปลง
พงึ จาํ หนายตกลงกบั พนกั งานเจาหนาทีว่ าทด่ี ินแปลงใด จาํ หนาย
หรอื สว นของทีด่ ินตอนใดจะพึงจําหนาย ถาไมสามารถ
ตกลงกนั ได ใหเสนอเรอื่ งใหค ณะกรรมการชข้ี าด
มาตรา ๕๒ ในกรณีที่อธิบดีเห็นสมควรจะใช ขัน้ ตอนการ
อํานาจจําหนายท่ีดิน ใหพนักงานเจาหนาท่ีแจงไปใหผู จาํ หนายทีด่ นิ
มีสิทธิในที่ดินทราบลวงหนาไมนอยกวาสามสิบวัน
เมื่อพนกําหนดดังกลาว ใหพนักงานเจาหนาที่ตกลงกับ
ผูมีสิทธิในท่ีดินเกี่ยวกับราคาที่ดิน ถาไมสามารถตกลง การกําหนดราคา
ราคาที่ดินกันได ใหนําบทบัญญัติวาดวยการกําหนด
ราคาอสังหาริมทรัพยโดยอนุญาโตตุลาการตามกฎหมาย
วา ดวยการเวนคืนอสังหาริมทรัพยมาใชบ ังคับโดยอนุโลม
ราคาที่ดินที่จะพึงตกลงหรือท่ีจะพึงกําหนด
โดยอนุญาโตตุลาการนั้นใหถือราคาตลาดตามที่เปนอยู
ในวันท่พี นักงานเจา หนา ที่แจง ใหผ มู ีสิทธิในที่ดนิ ทราบ
วา อธิบดีจะใชอาํ นาจจําหนาย
มาตรา ๕๓ นับแตวันท่ีพนักงานเจาหนาที่ อํานาจการ
แจงใหทราบตามความในมาตรา ๕๒ ใหอธิบดีมี ครอบครองและ
อํานาจครอบครองที่ดินน้ันทันที และใหผูมีสิทธิใน ระยะเวลาตอ ง
ที่ดิน บริวาร ผูเชา ผูอาศัย และบุคคลอ่ืนใดที่อยูใน ออกจากท่ดี ิน
๓๖
ทดี่ นิ นนั้ ออกจากท่ีดินภายในกาํ หนดหน่ึงป
ในกรณีท่ีมีสัญญาเชาท่ีดินแปลงน้ันอยู ก็ให กรณีมกี ารเชาอยู
สัญญาเชาเปนอันระงับไปในวันที่พนักงานเจาหนาท่ี
แจงใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบวาอธิบดีจะใชอํานาจ
จําหนาย
มาตรา ๕๔ เมื่อมีการจําหนายท่ีดินของผูใด การชาํ ระราคา
ตามนัยแหงประมวลกฎหมายน้ี โดยวิธีเชาซ้ือหรือผอน ผอนชําระ
ชําระราคา ใหอธิบดีชําระราคาท่ีดินใหแกผูมีสิทธิใน
ทดี่ นิ เปน งวด ๆ ใหเ สร็จสน้ิ ภายในระยะเวลา ดังตอ ไปน้ี
(๑) กรณีการจําหนายตามมาตรา ๓๙ ใหผอน
ชาํ ระราคาทด่ี ินภายในหา ป
(๒) กรณีการจําหนายตามมาตราอื่น ใหผอน
ชาํ ระราคาที่ดนิ ภายในสบิ ป
สําหรับการผอนชําระราคาที่ดินนั้น ใหคิด ดอกเบี้ย
ดอกเบีย้ รอยละสามตอ ปของราคาทด่ี นิ ทคี่ า งชาํ ระจากผู
ซ้อื หรือผเู ชา ซื้อ ใหแกผูมีสิทธิในทด่ี ินเดิม
มาตรา ๕๕ ในกรณีการขายหรือใหเชาซ้ือ การเรียกที่ดิน
ท่ีดินตามความในมาตรา ๕๐ ถาผูซ้ือหรือผูเชาซ้ือไม ท่จี ําหนายคืน
ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาซ้ือขายหรือสัญญาเชาซ้ือ
แลวแตกรณี ใหอธิบดีมีอํานาจเรียกที่ดินคืน ในการ
เรียกที่ดินคืน ใหสิทธิในท่ีดินตกเปนของกรมท่ีดินใน
วันที่ผูซ้ือหรือผูเชาซ้ือไดทราบ หรือควรจะไดทราบถึง
การเรียกที่ดินคนื
๓๗
หมวด ๔
การออกหนงั สอื แสดงสทิ ธิในท่ดี นิ
มาตรา ๕๖๓๗ ภายใตบงั คบั มาตรา ๕๖/๑ แบบ หลักเกณฑการ
หลักเกณฑ และวิธีการออกใบจอง หนังสือรับรองการ ออกหนังสือแสดง
ทําประโยชน ใบไตสวนหรือโฉนดที่ดิน รวมท้ังใบแทน สิทธใิ นท่ีดิน
ของหนังสือดังกลาว ใหเปนไปตามที่กําหนดใน
กฎกระทรวง*
มาตรา ๕๖/๑๓๘ การออกโฉนดท่ีดินหรือ กรณที ด่ี ินมีเขต
หนังสือรับรองการทําประโยชน ถาเปนที่ดินท่ีมีอาณา ติดตอ หรอื อยูใ น
เขตตดิ ตอ คาบเกย่ี วหรอื อยใู นเขตที่ดินของรัฐท่ีมีระวาง เขตท่ดี ินของรฐั
แผนท่ีรูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศ
พนักงานเจาหนาท่ีจะออกใหไดตอเม่ือตรวจสอบกับ
ระวางแผนท่ีรูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทาง
อากาศฉบับท่ีทําข้ึนกอนสุดเทาที่ทางราชการมีอยูแลว
วาเปนท่ีดินท่ีสามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
๓๗มาตรา ๕๖ แกไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่มิ เติมประมวล
กฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๓๘ มาตรา ๕๖/๑ เพ่มิ โดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
ที่ดิน (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑