๓๘
รับรองการทําประโยชนได หรือตรวจสอบดวยวิธีอื่น
ทัง้ น้ี ตามระเบยี บทอ่ี ธบิ ดีกาํ หนด*
พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ แ ก ไ ข เ พิ่ ม เ ติ ม ป ร ะ ม ว ล
กฎหมายที่ดิน (ฉบบั ท่ี ๑๑)
มาตรา ๘ ใหผูซึ่งไดครอบครองและทํา ระยะเวลายื่น
ประโยชนในที่ดินอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายท่ีดิน จาก ส.ค.๑ (๒ ป)
ใชบังคับ โดยมีหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดิน
และยังมิไดย่ืนคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชน นําหลักฐานการแจงการ
ครอบครองที่ดินนั้นมายื่นคําขอเพ่ือออกโฉนดที่ดิน
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตอพนักงาน
เจาหนาท่ีภายในสองปนับแตวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช
บังคบั
เม่ือไดรับคําขอและหลักฐานการแจงการ การดาํ เนินการ
ครอบครองที่ดินตามวรรคหน่ึงแลว ใหพนักงาน ของเจาหนาที่
เจาหนาที่ดําเนินการเพ่ือออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทาํ ประโยชนตามประมวลกฎหมายที่ดินตอไป
เมื่อพนกําหนดเวลาตามวรรคหน่ึง หากมีผูนํา พน ระยะเวลาตอ ง
หลักฐานการแจงการครอบครองท่ีดินมาขอออกโฉนด มคี าํ พิพากษาศาล
* ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการตรวจสอบท่ีดินเพ่ือออกโฉนดที่ดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชน กรณีเปนท่ีดินท่ีมีอาณาเขตติดตอควบเก่ียว หรืออยู
ในเขตที่ดนิ ของรฐั ดว ยวธิ ีอื่น พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๙
ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน พนักงาน ประกอบ
เจาหนาท่ีจะออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทํา
ประโยชนใหไดตอเมื่อศาลยุติธรรมไดมีคําพิพากษา
หรือคําส่ังถึงที่สุดวาผูนั้นเปนผูซึ่งไดครอบครองและ
ทําประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอน
วันท่ปี ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ ังคบั
ในการพิจารณาของศาลตามวรรคสาม ใหศาล การพิจารณาของ
แจงใหกรมที่ดินทราบ และใหกรมที่ดินตรวจสอบกับ ศาลและหนา ท่ี
ระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทาง กรมท่ดี นิ
อากาศฉบับท่ีทําข้ึนกอนสุดเทาที่ทางราชการมีอยู
พรอมท้ังทําความเห็นเสนอตอศาลวา ผูน้ันได
ครอบครองหรือทําประโยชนในที่ดินนั้นโดยชอบดวย
กฎหมายกอนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ
หรือไม เพื่อประกอบการพิจารณาของศาล ความเห็น
ดังกลาวใหเสนอตอศาลภายในหน่ึงรอยแปดสิบวันนับแต
วนั ไดร ับแจง จากศาล เวนแตศาลจะขยายระยะเวลาเปน
อยางอื่น
เพ่อื ประโยชนแหงมาตรานี้ ผูครอบครองที่ดิน ผคู รอบครอง
ตามวรรคหนึง่ ใหห มายความรวมถึงผูซึ่งไดครอบครอง ตอเนื่อง
และทําประโยชนในท่ีดินตอ เนื่องมาจากบุคคลดังกลาว
ดว ย
มาตรา ๙ ใหอธิบดีกรมที่ดินทําการสํารวจ การสํารวจเพ่ือ
ตรวจสอบหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดินและ จาํ หนา ยทะเบียน
๔๐
ตําแหนงท่ีดินตามหลักฐานการแจงการครอบครอง ส.ค.๑
ที่ดินท่ีมีอยูจริงกับทะเบียนการครอบครองที่ดินระวาง
แผนท่ีหรือระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวาง
รูปถายทางอากาศ วาที่ดินที่มีหลักฐานการแจงการ
ครอบครองท่ีดินน้ัน ไดมีการออกโฉนดที่ดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนไปแลวหรือไมใหแลว
เสร็จภายในสองปนับแตวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช
บังคับ หากพบวาท่ีดินแปลงใดไดออกโฉนดท่ีดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนไปแลว ใหจําหนาย
หลกั ฐานการแจง การครอบครองที่ดนิ นั้นเสยี
ฯลฯ
มาตรา ๕๗๓๙ โฉนดท่ีดินและหนังสือรับรอง องคประกอบของ
การทําประโยชน ใหม ขี อ ความสําคัญ ดงั ตอ ไปน้ี ช่ือตัว หนังสอื แสดง
ช่ือสกุล ที่อยูของผูมีสิทธิในที่ดิน ตําแหนงที่ดิน สทิ ธใิ นทดี่ ิน
จํานวนเน้ือที่ รูปแผนที่ของท่ีดินแปลงน้ันซ่ึงแสดงเขต
ขางเคียงท้ังส่ีทิศ ใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัด เจา
พนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา หรือเจาพนักงานที่ดินซ่ึง
๓๙ มาตรา ๕๗ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวล
กฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๑
อธิบดีมอบหมาย เปนผูลงลายมือช่ือ* และประทับตรา
ประจําตําแหนงของเจาพนักงานที่ดินเปนสําคัญ กับให
มีสารบญั สําหรับจดทะเบียนไวดว ย
โฉนดท่ดี นิ และหนงั สือรับรองการทําประโยชน จับทําเปน คูฉบับ
ใหทําเปนคูฉบับรวมสองฉบับมอบใหผูมีสิทธิในท่ีดิน
ฉบับหนึ่ง อกี ฉบับหนง่ึ เก็บไว ณ สํานักงานท่ีดิน สําหรับ
ฉบับที่เก็บไว ณ สํานักงานท่ีดินนั้น จะจําลองเปนรูป
ถายหรือจัดเก็บโดยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสารก็ได ในกรณีเชนนี้ใหถือเสมือนเปน
ตน ฉบับ๔๐
มาตรา ๕๘๔๑ เมื่อรัฐมนตรีเหน็ สมควรจะใหมี ประกาศกําหนด
การออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนงั สอื รับรองการทําประโยชน จังหวัดเดินสาํ รวจ
ในจังหวัดใดในปใด ใหรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษากาํ หนดจังหวัดทจี่ ะทาํ การสาํ รวจรังวัดทําแผนท่ี
* ตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ บัญญตั ิใหการปฏบิ ัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ซึ่งเปน
อํานาจหนาที่ของหัวหนาเขต นายอําเภอ หรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนาประจําก่ิง
อําเภอ อยกู อนวันท่พี ระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ชบ ังคับใหผูดํารงตําแหนงดังกลาวปฏิบัติตอไป
พลางกอนจนกวารัฐมนตรีจะไดประกาศยกเลกิ ในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ทอ งท่ไี ป
๔๐ มาตรา ๕๗ วรรคสอง แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๐
๔๑ มาตรา ๕๘ แกไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๒
หรือพิสูจนสอบสวนการทําประโยชนสําหรับปนั้น
เขตจังหวัดท่ีรัฐมนตรีประกาศกําหนดไมรวมทองที่ท่ี
ทางราชการไดจ ําแนกใหเ ปนเขตปา ไมถาวร
เม่ือไดมีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหน่ึง ประกาศทองที่
ใหผูวาราชการจังหวัดกําหนดทองที่และวันเริ่มตนของ และวันเร่ิมตน
การเดินสํารวจรังวัดในทองท่ีนั้นโดยปดประกาศไว ณ
สํานักงานที่ดิน ท่ีวาการอําเภอ ที่วาการก่ิงอําเภอ ที่ทํา
การกํานัน และท่ีทําการผูใหญบานแหงทองที่กอนวัน
เริ่มตนสาํ รวจไมนอยกวาสามสบิ วนั
เม่ือไดมีประกาศของผูวาราชการจังหวัดตาม หนาท่ขี องเจา ของ
วรรคสอง ใหบ ุคคลตามมาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสอง หรือ ทดี่ นิ
ตัวแทนของบุคคลดังกลาว นําพนักงานเจาหนาที่หรือ
ผูซึ่งพนักงานเจาหนาที่มอบหมายเพื่อทําการสํารวจ
รังวัดทําแผนที่หรือพิสูจนสอบสวนการทําประโยชน
ในทีด่ ินของตนตามวนั และเวลาทีพ่ นกั งานเจาหนาที่ได
นัดหมาย
ในการเดินสํารวจพิสูจนสอบสวนการทํา การแตง ตั้ง
ประโยชนเพื่อออกหนังสือรับรองการทําประโยชน เจาหนาท่ีเดิน
เจาพนักงานท่ีดินมีอํานาจแตงต้ังผูซึ่งไดรับการอบรม สาํ รวจ
ในการพิสูจนสอบสวนการทําประโยชน เปนเจาหนาที่
ออกไปพิสจู นส อบสวนการทําประโยชนแ ทนตนได
ในการปฏิบัติหนาที่ตามวรรคส่ี ใหเจาหนาที่ เปนเจา พนักงาน
เปน เจาพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ป.อาญา
๔๓
มาตรา ๕๘ ทวิ๔๒ เม่ือไดสํารวจรังวัดทําแผน หลกั เกณฑก าร
ที่หรือพิสูจนสอบสวนการทําประโยชนในท่ีดินตาม ออกหนังสอื แสดง
มาตรา ๕๘ แลว ใหพนักงานเจาหนาที่ออกโฉนดที่ดิน สทิ ธใิ นท่ดี ิน
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน แลวแตกรณี (เดินสาํ รวจ)
ใหแกบุคคลตามที่ระบุไวในวรรคสอง เมื่อปรากฏวา
ท่ีดินที่บุคคลนั้นครอบครองเปนที่ดินที่อาจออกโฉนด
ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนไดตาม
ประมวลกฎหมายนี้
บุคคลซึ่งพนักงานเจาหนาที่อาจออกโฉนด บคุ คลผมู ีสทิ ธิ
ทีด่ ินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนต ามวรรคหนึ่ง
ใหได คอื
(๑) ผูซ่ึงมีหลักฐานการแจงการครอบครอง - กรณีมหี ลักฐาน
ที่ดิน มีใบจอง ใบเหยียบยํ่า หนังสือรับรองการทํา
ประโยชน โฉนดตราจอง ตราจองท่ีตราวา “ไดทํา
ประโยชนแลว” หรือเปนผูมีสิทธิตามกฎหมายวาดวย
การจดั ทด่ี ินเพ่ือการครองชพี
(๒) ผูซ่ึงไดปฏบิ ัตติ ามมาตรา ๒๗ ตรี - ครอบครองกอน
ป.ที่ดิน
(๓) ผูซึ่งครอบครองที่ดินและทําประโยชนใน - ครอบครองหลัง
ทีด่ ินภายหลังวนั ทปี่ ระมวลกฎหมายนีใ้ ชบงั คบั และไมมี ป.ทีด่ ิน
๔๒ มาตรา ๕๘ ทวิ แกไ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๔
ใบจอง ใบเหยียบย่ํา หรือไมมีหลักฐานวาเปนผูมีสิทธิ
ตามกฎหมายวาดวยการจัดทีด่ นิ เพ่อื การครองชีพ
เพ่ือประโยชนแหงมาตรานี้ ผูซ่ึงมีหลักฐาน ผคู รอบครอง
การแจงการครอบครองท่ีดินตามวรรคสอง (๑) ให ตอเน่อื ง
หมายความรวมถึงผูซ่ึงไดครอบครอบและทําประโยชน
ในท่ดี นิ ตอ เนอื่ งมาจากบุคคลดังกลา วดวย
สําหรับบุคคลตามวรรคสอง (๒) และ (๓) ให กรณีออกเกิน
ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ๕๐ ไร
แลวแตกรณี ไดไมเกินหาสิบไร ถาเกินหาสิบไร
จะตองไดรับอนุมัติจากผูวาราชการจังหวัดเปนการ
เฉพาะราย ทงั้ นี้ ตามระเบยี บทีค่ ณะกรรมการกาํ หนด*
ภายในสิบปนับแตวันท่ีไดรับโฉนดที่ดินหรือ หา มโอนและ
หนังสือรับรองการทําประโยชนตามวรรคหนึ่ง หามมิ ขอยกเวน
ใหบุคคลตามวรรคสอง (๓) ผูไดมาซึ่งสิทธิในที่ดิน
ดังกลาวโอนที่ดินน้ันใหแกผูอ่ืน เวนแตเปนการตก
ทอดทางมรดก หรือโอนใหแกทบวงการเมือง องคการ
ของรัฐบาลตามกฎหมายวาดวยการจัดตั้งองคการของ
รฐั บาล รัฐวิสาหกจิ ท่จี ัดตงั้ ข้นึ โดยพระราชบัญญตั ิ หรือ
โอนใหแกสหกรณเพ่ือชําระหน้ีโดยไดรับอนุมัติจาก
นายทะเบยี นสหกรณ
ภายในกําหนดระยะเวลาหามโอนตามวรรคหา หา มบงั คบั คดี
* ระเบียบคณะกรรมการจดั ทด่ี ินแหงชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
๔๕
ที่ดนิ นน้ั ไมอ ยใู นขา ยแหงการบงั คบั คดี
มาตรา ๕๘ ตรี๔๓ เม่ือรัฐมนตรีเห็นสมควรจะ กรณอี อกโฉนด
ใหมีการออกโฉนดที่ดินสําหรับที่ดินท่ีมีหนังสือ ท่ดี นิ ยายแปลง
รับรองการทําประโยชนซ่ึงใชระวางรูปถายทางอากาศ
ในทองที่ใด ใหรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
กําหนดทองที่นั้นและวันท่ีเร่ิมดําเนินการออกโฉนด
ทดี่ ินใหทราบลว งหนาไมนอยกวาสามสบิ วนั
การทาํ แผนท่เี พื่อออกโฉนดทด่ี นิ ตามวรรคหนงึ่
ใหน ําหลักฐานเกี่ยวกับระวางรูปถายทางอากาศที่ใชกับ
หนังสือรับรองการทําประโยชนมาปรับแกตามหลัก
วิชาการ แผนท่ีรูปถายทางอากาศโดยไมตองทําการ
สํารวจรังวัด เวนแตกรณีจําเปนใหเจาพนักงานที่ดินทํา
การสาํ รวจรังวดั
เม่ือถึงกําหนดวันที่เร่ิมดําเนินการออกโฉนด การระงบั ทาํ
ท่ีดินตามประกาศของรัฐมนตรี ตามวรรคหนึ่งแลว ให นติ กิ รรมทต่ี อง
ระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใด ๆ ท่ีตองมี มกี ารรังวัด
การรงั วัดสําหรับท่ดี นิ ทม่ี หี นังสือรับรองการทําประโยชน
โดยใชระวางรูปถา ยทางอากาศในทองท่ีดังกลาว เวนแต
ในกรณจี ําเปนเจา พนกั งานทีด่ ินจะอนุญาตเฉพาะรายก็ได
๔๓ มาตรา ๕๘ ตรี เพมิ่ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมาย
ท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๖
ท้งั นี้ ตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการกาํ หนด*
การออกโฉนดทดี่ นิ ตามมาตรานี้ ใหอ อกแกผ ูมี ช่ือเจาของโฉนด
ช่อื ซ่งึ เปน ผูม สี ทิ ธิในหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน
เมื่อไดจัดทําโฉนดที่ดินแปลงใดพรอมที่จะ ประกาศแจก
แจกแลว ใหเจาพนักงานที่ดินประกาศกําหนดวันแจก และผลยกเลกิ
โฉนดที่ดินแปลงนั้นแกผูมีสิทธิ และใหถือวาหนังสือ น.ส.๓ ก. เดมิ
รับรองการทําประโยชนสําหรับที่ดินแปลงนั้นได
ยกเลิกต้ังแตวันกําหนดแจกโฉนดที่ดินตามประกาศ
ดังกลาว และใหสงหนังสือรับรองการทําประโยชนที่
ยกเลิกแลวนั้นคืนแกเจาพนักงานที่ดิน เวนแตกรณี
สูญหาย
มาตรา ๕๙๔๔ ในกรณีที่ผมู สี ทิ ธคิ รอบครอง ขอออกหนังสอื
ท่ีดินมาขอออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สือรับรองการทํา แสดงสทิ ธิในทด่ี ิน
ประโยชนเ ปน การเฉพาะรายไมวาจะไดม ปี ระกาศของ เฉพาะราย
รฐั มนตรตี ามมาตรา ๕๘ แลว หรอื ไมก ต็ าม เมอื่ พนกั งาน
เจา หนาทพ่ี จิ ารณาเหน็ สมควร ใหด าํ เนนิ การออกโฉนด
ท่ีดินหรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน แลว แตก รณี
ไดตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารที่ประมวลกฎหมายน้กี าํ หนด
เพ่อื ประโยชนแ หง มาตรานี้ ผูมีสิทธิครอบครอง ผูครอบครอง
* ระเบยี บคณะกรรมการจัดที่ดนิ แหง ชาติ ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
๔๔ มาตรา ๕๙ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๙๖
ลงวันท่ี ๒๙ กมุ ภาพันธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๔๗
ที่ดินตามวรรคหน่ึงใหหมายความรวมถึงผูซึ่งได ตอ เนื่อง
ครอบครองและทําประโยชนในที่ดินตอเนื่องมาจาก
ผูซง่ึ มหี ลักฐานการแจงการครอบครองดว ย
มาตรา ๕๙ ทวิ๔๕ ผูซ่ึงครอบครองและทํา การขอเฉพาะราย
ประโยชนในที่ดินอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช กรณคี รอบครอง
บังคับโดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธ์ิที่ดิน กอน ป.ทีด่ นิ
และมิไดแจงการครอบครองตามมาตรา ๕ แหง แตไมแจง ส.ค.๑
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
แตไมรวมถึงผูซ่ึงมิไดปฏิบัติตามมาตรา ๒๗ ตรี ถามี
ความจําเปนจะขอออกโฉนดท่ีดิน หรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนเปนการเฉพาะราย เม่ือพนักงาน
เจาหนาท่ีพิจารณาเห็นสมควรใหดําเนินการออกโฉนด
ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน แลวแตกรณี
ไดตามหลักเกณฑและวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้
กําหนด แตตองไมเกินหาสิบไร ถาเกินหาสิบไรจะตอง
ไดรับอนุมัติจากผูวาราชการจังหวัด ท้ังน้ี ตามระเบียบ
ท่คี ณะกรรมการกาํ หนด*
เพ่ือประโยชนแหงมาตราน้ี ผูครอบครองและ ผคู รอบครอง
ทําประโยชนในท่ีดินตามวรรคหน่ึงใหหมายความ ตอ เนอ่ื ง
๔๕ มาตรา ๕๙ ทวิ เพ่มิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙
กมุ ภาพนั ธ พุทธศักราช ๒๕๑๕
* ระเบียบคณะกรรมการจัดท่ดี นิ แหง ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
๔๘
รวมถึงผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนในที่ดิน
ตอเนอ่ื งมาจากบคุ คลดังกลา วดวย
มาตรา ๕๙ ตรี๔๖ ในการออกโฉนดท่ีดินหรือ กรณีรังวดั ได
หนังสือรับรองการทําประโยชน ถาปรากฏวาเนื้อท่ีท่ี เนือ้ ทตี่ า งจาก
ทําการรังวัดใหมแตกตางไปจากเน้ือที่ตามใบแจงการ ส.ค.๑
ครอบครอง ตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ใหพนักงาน
เจาหนาท่ีพิจารณาออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินให
ไดเทาจํานวนเน้ือท่ีที่ไดทําประโยชน ทั้งน้ี ตาม
ระเบียบท่คี ณะกรรมการกาํ หนด*
มาตรา ๕๙ จัตวา๔๗ การออกโฉนดท่ีดินตาม การยกรายการ
มาตรา ๕๘ ทวิ มาตรา ๕๘ ตรี และมาตรา ๕๙ ถาหนังสือ ภาระผกู พนั หรือ
แสดงสิทธิในท่ีดินเดิมมีรายการภาระผูกพัน หรือมี เปลี่ยนแปลงมา
รายการเปล่ียนแปลงผูมีสิทธิในท่ีดินในระหวาง จดแจง
ดําเนินการออกโฉนดที่ดิน ใหยกรายการดังกลาวมาจด
แจง ไวในโฉนดทดี่ ินดว ย
๔๖ มาตรา ๕๙ ตรี เพมิ่ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙
กุมภาพันธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
* ระเบียบคณะกรรมการจดั ที่ดนิ แหงชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
๔๗ มาตรา ๕๙ จัตวา เพ่ิมโดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เติมประมวล
กฎหมายท่ดี นิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๙
มาตรา ๕๙ เบญจ๔๘ การออกโฉนดที่ดินตาม ยกเลกิ หลักฐาน
มาตรา ๕๘ ทวิ และมาตรา ๕๙ ใหถือวาหนังสือแสดง เดิม
สิทธิในที่ดินเดิมเปนอันยกเลิก และใหสงหนังสือ
แสดงสิทธิในท่ีดินท่ียกเลิกแลวนั้นคืนแกเจาพนักงาน
ที่ดนิ เวน แตก รณีสูญหาย
มาตรา ๖๐๔๙ ในการออกโฉนดท่ีดินหรือ การเปรยี บเทียบ
หนังสือรับรองการทําประโยชน ถามี ผูโตแยงสิทธิกัน ออกหนังสอื แสดง
ใหพนกั งานเจาหนา ท่หี รอื เจา พนกั งานทดี่ ิน แลว แตกรณี สิทธิในทด่ี ิน
มีอํานาจทําการสอบสวนเปรียบเทียบ ถาตกลงกันไดก็ให
ดําเนินการไปตามท่ีตกลง หากตกลงกันไมไดใหเจา
พนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
สาขามอี าํ นาจพิจารณาส่งั การไปตามท่ีเห็นสมควร
เม่ือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงาน ไมพอใจคําส่ังให
ที่ดินจังหวดั สาขาสง่ั ประการใดแลว ใหแ จงเปน หนังสือ ฟอ งศาล
ตอคูกรณีเพื่อทราบ และใหฝายที่ไมพอใจไปดําเนินการ
ฟองตอ ศาลภายในกําหนดหกสบิ วนั นับแตวันทราบคาํ สงั่
ในกรณีท่ีไดฟองตอศาลแลว ใหรอเรื่องไว การรอเรอื่ งรอผล
เมื่อศาลไดพิพากษาหรือมีคําส่ังถึงที่สุดประการใด จึงให พจิ ารณาคดี
๔๘ มาตรา ๕๙ เบญจ เพ่มิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๙ มาตรา ๖๐ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไขเพมิ่ เติมประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๕๐
ดําเนินการไปตามกรณี ถาไมฟองภายในกําหนด ก็ให
ดําเนินการไปตามท่ีเจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจา
พนักงานท่ดี ินจังหวดั สาขาสงั่ แลวแตกรณี
มาตรา ๖๑๕๐ เม่อื ความปรากฏวาไดออกโฉนด การเพิกถอน/
ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน หรือไดจด แกไ ข เอกสาร
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย สิทธใิ นท่ดี ิน และ
หรือจดแจง เอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย รายการทะเบียน
ใหแกผูใดโดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบดวยกฎหมาย
ใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนง
รองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดินมีอํานาจหนาท่ี
ส่งั เพิกถอนหรือแกไขได
กอนที่จะดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ใหอธิบดี ข้ันตอน
ห รื อ ผู ซ่ึ ง อ ธิ บ ดี ม อ บ ห ม า ย ต า ม ว ร ร ค ห น่ึ ง ต้ั ง ดําเนินการ
คณะกรรมการสอบสวนข้ึนคณะหน่ึง โดยมีอํานาจเรียก - ต้ังคณะ
โฉนดท่ีดิน หนังสือรับรองการทําประโยชน เอกสารท่ี กรรมการ
ไดจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เอกสารที่ไดจดแจง - แจง ผมู สี วน
รายการทะเบียนอสังหาริมทรัพย หรือเอกสารอื่นที่ ไดเ สยี
เก่ียวของมาพิจารณา พรอมท้ังแจงใหผูมีสวนไดเสีย
ทราบเพื่อใหโอกาสคัดคาน ถาไมคัดคานภายในกําหนด
สามสบิ วันนบั แตวันที่ไดร บั แจง ใหถอื วาไมมีการคัดคา น
๕๐ มาตรา ๖๑ แกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพ่มิ เตมิ ประมวล
กฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๑
คณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดท่ีดิน - องคประกอบ
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนที่ออกโดย คณะกรรมการ
คลาดเคลื่อนหรือไมชอบดวยกฎหมาย อยางนอยตองมีเจา
พนักงานฝายปกครองและตัวแทนคณะผูบริหารทองถิ่น
หรือผบู รหิ ารทองถ่นิ ทีท่ ีด่ ินนนั้ ตัง้ อยเู ปนกรรมการ
การสอบสวนตามวรรคสองตองดําเนินการให - ระยะเวลา
แลวเสร็จและสงใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย สอบสวน
ตามวรรคหนึง่ ภายในกาํ หนดหกสิบวันนับแตวันที่ไดมี - กรณีขอขยาย
คําส่ังใหทําการสอบสวน ในกรณีที่คณะกรรมการ เวลา
สอบสวนไมสามารถดําเนินการใหแลวเสร็จ ภายใน
กําหนดเวลาดังกลาว ใหคณะกรรมการสอบสวน
รายงานเหตุที่ทําใหการสอบสวนไมแลวเสร็จตออธิบดี
หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายตามวรรคหน่ึงเพ่ือขอขยาย
ระยะเวลาการสอบสวน โดยใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดี
มอบหมายตามวรรคหน่ึงสั่งขยายระยะเวลาดําเนินการ
ไดตามความจําเปนแตไ มเ กนิ หกสิบวัน
ใหอธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายตามวรรค การพิจารณา
หน่ึงพิจารณาใหแลวเสร็จภายในสิบหาวันนับแตไดรับ ของผูมอี ํานาจ
รายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตาม เพิกถอนแกไข
วรรคส่ี เมื่ออธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรค
หน่ึงพจิ ารณาประการใดแลว กใ็ หด ําเนนิ การ ไปตามนนั้
การดําเนินการเพิกถอนหรือแกไขตามความ การออกใบแทน
ในมาตรานี้ ถาไมไดโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรอง
๕๒
การทําประโยชนมา ใหถือวาโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชนน้ันสูญหาย และใหเจา
พนักงานที่ดินออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
เพ่ือดาํ เนินการตอ ไป
ถามีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากเขียนหรือพิมพ กรณีเขยี น
ขอ ความผิดพลาดโดยมีหลักฐานชัดแจงและผูมีสวนได คลาดเคล่ือน
เสียยินยอมเปนลายลักษณอักษรแลว ใหเจาพนักงาน
ที่ดนิ มีอาํ นาจหนา ทแ่ี กไขใหถูกตองได
ในกรณีทศ่ี าลมีคําพิพากษาหรอื คาํ ส่งั ถึงท่ีสุด กรณศี าลสั่ง
ใหเ พกิ ถอนหรอื แกไขอยา งใดแลว ใหเ จาพนกั งานทด่ี นิ เพกิ ถอน/แกไ ข
ดาํ เนินการตามคาํ พพิ ากษาหรอื คาํ สั่งนนั้ ตามวธิ กี ารที่
อธบิ ดีกําหนด
การตั้งคณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน หลกั เกณฑและ
การแจงผูมีสวนไดเสียเพื่อใหโอกาสคัดคานและการ วิธดี าํ เนนิ การ
พิจารณาเพิกถอนหรือแกไข ใหเปนไปตามหลักเกณฑ
และวธิ ีการ ทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง*
มาตรา ๖๒ บรรดาคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวดวยเร่ือง การแจงผลคดี
กรรมสิทธิ์ท่ีดินที่ไดออกโฉนดท่ีดินแลว เม่ือศาล เกีย่ วกับ
กรรมสิทธิ์ที่ดนิ
* กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการสอบสวนและการ
พิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนโดย
คลาดเคล่อื นหรอื ไมช อบดว ยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓
๕๓
พิจารณาพิพากษาคดีถึงที่สุดแลว ใหศาลแจงผลของคํา ของศาล
พิพากษาอันถึงท่ีสุดหรือคําสั่งนั้นตอเจาพนักงานท่ีดิน
แหง ทองทซ่ี งึ่ ที่ดินน้นั ต้งั อยูดว ย
มาตรา ๖๓ โฉนดที่ดินของผูใดเปนอันตราย การออกใบแทน
ชํารุด สูญหายดวยประการใด ใหเจาของมาขอรับใบแทน
โฉนดทีด่ นิ นนั้ ได*
เมือ่ ไดออกใบแทนไปแลว โฉนดที่ดินเดิมเปน ฉบับของเดมิ
อันยกเลกิ เวน แตศาลจะส่งั เปน อยา งอืน่ ยกเลกิ
สําหรับการขอใบแทนใบจอง หนังสือรับรอง ใชกบั ใบจองและ
การทําประโยชนหรือใบไตสวน ใหนําความดังกลาว หนังสอื รับรองการ
ขา งตน มาใชบงั คับโดยอนุโลม ทาํ ประโยชนด ว ย
มาตรา ๖๔๕๑ ถา โฉนดที่ดิน ใบไตสวน หนังสือ สรา งใหม
รับรองการทําประโยชน หรือใบจอง ฉบับสํานักงาน ท้งั คูฉบับ
ท่ีดินเปนอันตราย ชํารุด สูญหาย ใหพนักงานเจาหนาที่
ตามมาตรา ๗๑ มีอํานาจเรียกหนังสือแสดงสิทธิใน
ทดี่ ินดังกลาวจากผูมีสิทธิในที่ดินมาพิจารณาแลวจัดทํา
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๕๑ มาตรา ๖๔ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพม่ิ เติมประมวล
กฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
๕๔
ขึ้นใหม โดยอาศยั หลักฐานเดิมได*
หมวด ๕
การรังวดั ท่ีดนิ
มาตรา ๖๕ การรังวัดเพ่ือออกโฉนดท่ีดิน ให หลกั เกณฑก าร
เปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่กําหนดใน รงั วัด
กฎกระทรวง**
มาตรา ๖๖ เพ่ือประโยชนแกการรังวัด ให อาํ นาจชางรังวัด
พนักงานเจาหนาที่และคนงานมีอํานาจ เขาไปในท่ีดิน - เขาทด่ี นิ
ของผูมีสิทธิในท่ีดิน หรือผูครอบครองในเวลากลางวัน
ไดแตจ ะตอ งแจงใหผูมีสิทธิในท่ีดนิ ทราบเสียกอ น และ
ใหผูมีสิทธิในท่ีดินหรือผูครอบครองที่ดินนั้นอํานวย
ความสะดวกตามควรแกก รณี
ในกรณีตองสรางหมุดหลักฐานการแผนที่ใน - สรางหมุด
ท่ีดินของผูใด ใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจสรางหมุด หลกั ฐาน
หลักฐานลงไดตามความจาํ เปน
ในการรังวัด เม่ือมีความจําเปนและโดย - อาํ นาจขุด
* ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วาดวยการจดั ทําหนังสอื แสดงสทิ ธิในท่ีดนิ
ขึ้นใหม ในกรณีทีห่ นังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ฉบับสํานักงานท่ดี ินเปน อนั ตราย ชํารดุ
สญู หาย พ.ศ. ๒๕๒๔
** กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๕๕
สมควร พนกั งานเจา หนา ท่ีมอี ํานาจทีจ่ ะ ขุดดิน ตัด ราน ตดั ตนไม
ก่ิงไมหรือกระทําการอยางอื่นแกส่ิงที่กีดขวางแกการ
รังวัดไดเทาที่จําเปน ทั้งนี้ ใหระลึกถึงการที่จะให
เจา ของไดรบั ความเสียหายนอยทีส่ ุด
มาตรา ๖๗ เม่ือพนักงานเจาหนาที่ไดจัดทํา หามบุคคลอืน่ ยาย
หลกั หมายเขตท่ีดิน หรือไดสรางหมุดหลักฐานเพ่ือการ ทาํ ลายหลักเขต
แผนที่ลงไวในท่ีใด หามมิใหผูหนึ่งผูใดนอกจาก
พนักงานเจาหนาที่ ทําลาย ดัดแปลง เคล่ือนยาย ถอดถอน
หลักหมายเขตหรือหมุดหลักฐานเพ่ือการแผนท่ีนั้นไป
จากทีเ่ ดิม เวน แตจ ะไดร บั อนญุ าตจากเจา พนักงานทดี่ นิ
มาตรา ๖๘ เม่ือบุคคลใดมีความจําเปนท่ี ขออนุญาต
จะตอ งกระทาํ การตามความในมาตรา ๖๗ ใหย ื่นคํารอง ยา ยหลัก
ตอ เจาพนกั งานท่ีดินเพอื่ ขออนุญาต
ในกรณีท่ีเจาพนักงานที่ดินไมอนุญาต ให กรณไี มอ นุญาต
เจาของที่ดินมีสิทธิอุทธรณตอรัฐมนตรีได ภายในสิบ
หาวันนับจากวันทราบคําส่ังไมอนุญาต ใหรัฐมนตรีส่ัง
ภายในหกสิบวันนับจากวันไดรับอุทธรณ คําส่ัง
รฐั มนตรีใหเ ปน ที่สดุ
ถารัฐมนตรีไมส่ังภายในกําหนดหกสิบวัน อนุญาตโดย
ดงั กลาวในวรรคกอน ใหถือวา อนญุ าต ปรยิ าย
มาตรา ๖๙ เม่ือเปนการสมควรจะทําการสอบ สอบเขตท้งั ตําบล
เขตที่ดินตามแผนที่ระวางในทองที่ใด ใหผูวาราชการ
จังหวัดประกาศใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบลวงหนาไม
๕๖
นอยกวาสิบหาวัน การประกาศใหทําหนังสือปดไวใน
บริเวณที่ดินเพ่ือใหผูที่เกี่ยวของทราบดวยและใหแจง
กําหนด วัน เวลา ไปใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบอีก
ชั้นหนึ่ง และใหผูมีสิทธิในท่ีดินนําพนักงานเจาหนาท่ี
ทําการรังวัดสอบเขตทดี่ นิ
ผูมีสิทธิในท่ีดินตามความในวรรคกอน จะต้ัง
ตัวแทนนาํ พนกั งานเจาหนา ที่ทาํ การรงั วดั สอบเขตท่ดี นิ
ของตนกไ็ ด
ที่ดินท่ีไดทําการสอบเขตแลว ใหเจาพนักงาน สรา งโฉนดใหม
ทด่ี ินมอี ํานาจทําโฉนดทดี่ นิ ใหใ หม แทนฉบับเดิม สวน
ฉบับเดิมเปน อนั ยกเลกิ และใหส งคืน
มาตรา ๖๙ ทวิ๕๒ ผูมีสิทธิในท่ีดินประสงคจะ สอบเขต
ขอสอบเขตโฉนดท่ีดินเฉพาะรายของตน ใหยื่นคําขอ เฉพาะราย
พรอมดวยโฉนดที่ดินน้ันตอเจาพนักงานที่ดินและให
พนกั งานเจา หนา ทไ่ี ปทําการรังวัดให
ในการรังวัด ถาปรากฏวาการครอบครองไมตรง กรณคี รอบครอง
กับแผนท่ีหรือเน้ือที่ในโฉนดที่ดิน เมื่อผูมีสิทธิในท่ีดิน ไมต รง
ขางเคียงไดรับรองแนวเขตแลว ใหเจาพนักงานท่ีดินมี
อํานาจแกไขแผนท่ีหรือเนื้อที่ใหตรงกับความเปนจริง
ได เวน แตจ ะเปนการสมยอมเพอ่ื หลีกเลีย่ งกฎหมาย
๕๒ มาตรา ๖๙ ทวิ แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไขเพมิ่ เตมิ ประมวล
กฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๕๗
ในกรณีที่ไมอาจติดตอผูมีสิทธิในที่ดิน กรณตี ิดตอไมได/
ขางเคียงใหมาระวังแนวเขตได หรือในกรณีท่ีผูมีสิทธิ ขางเคยี งไมล งช่ือ
ในท่ีดินขา งเคยี งไดร บั การตดิ ตอจากพนักงานเจาหนาท่ี
ใหมาระวังแนวเขตแลวแตไมมา หรือมาแตไมยอมลง
ชื่อรับรองแนวเขตโดยไมไดคัดคานการรังวัด ให
พนักงานเจาหนาท่ีแจงเปนหนังสือใหผูน้ันมาลงชื่อ
รับรองแนวเขตหรือคัดคานภายในสามสิบวันนับแต
วันที่ไดสงหนังสือ ถาผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงไม
ดําเนินการอยางหนึ่งอยางใดภายในกําหนดดังกลาว
และผูขอไดใหคํารับรองวามิไดนําทําการรังวัดรุกลํ้า
ที่ดินขางเคียงและยินยอมใหแกไขแผนท่ีหรือเน้ือท่ีให - แกไขแผนทหี่ รือ
ตรงกับความเปนจริง ใหเจาพนักงานที่ดินดําเนินการ เนอ้ื ที่
ตามวรรคสองไปไดโดยไมตอ งมกี ารรับรองแนวเขต
การติดตอหรือการแจงผูมีสิทธิในที่ดิน การแจง ขา งเคียง
ขางเคียงตามวรรคสาม ใหเปนไปตามหลักเกณฑและ
วิธีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง*
หากปรากฏวามีผูคัดคาน ใหเจาพนักงานท่ีดิน กรณีคดั คา น/
มีอาํ นาจสอบสวนไกลเ กลยี่ โดยถอื หลักฐานแผนที่เปน ไกลเกลีย่
หลักในการพิจารณา ถาตกลงกันไดก็ใหดําเนินการไป
ตามท่ตี กลง แตต อ งไมเปน การสมยอมกนั เพอ่ื หลีกเลี่ยง
* กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๕๘
กฎหมาย หากตกลงกันไมไดใหแจงคูกรณีไปฟองตอ
ศาลภายในเกาสิบวันนับแตวันท่ีไดรับแจง ถาไมมีการ
ฟอง ภายในกําหนดดังกลาว ใหถือวาผูขอไมประสงค
จะสอบเขตโฉนดทีด่ นิ นน้ั ตอไป
ในกรณีผูมีสิทธิในที่ดินประสงคจะขอให การตรวจสอบเนือ้ ที่
ตรวจสอบเน้ือที่ตามหนังสือรับรองการทําประโยชน หนังสอื รับรอง
เฉพาะรายของตน ใหยื่นคําขอพรอมดวยหนังสือรับรอง การทําประโยชน
การทําประโยชนสําหรับที่ดินน้ันตอเจาพนักงานท่ีดิน
และใหนําความในวรรคสอง วรรคสาม วรรคส่ี และ
วรรคหา มาใชบงั คบั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๗๐ เพอ่ื ประโยชนแ กก ารรังวดั ให อํานาจพนักงาน
พนกั งานเจา หนาที่มอี าํ นาจ เจาหนา ท่เี ก่ียวกับ
(๑) เรยี กผมู สี ทิ ธิในที่ดินขางเคียงมาระวงั แนว รงั วดั
เขต และลงช่อื รับทราบแนวเขตทด่ี ินของตน
(๒) เรียกใหบุคคลท่ีเก่ียวของมาใหถอยคํา
หรือสั่งใหสงเอกสาร หรือหลักฐานอื่นใดท่ีเก่ียวของ
ในการสอบสวน
มาตรา ๗๐ ทวิ๕๓ ใหนําความในมาตรา ๖๖ และ กรณีนํามาใชกบั
มาตรา ๗๐ มาใชบังคับแกการพิสูจนสอบสวนที่ดินเพ่ือ หนงั สอื รับรอง
ออกหนังสือรับรองการทําประโยชน และการตรวจสอบ การทําประโยชน
๕๓ มาตรา ๗๐ ทวิ แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพิ่มเตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
๕๙
เนื้อท่ีตามหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนโดยอนุโลม
หมวด ๖
การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม
มาตรา ๗๑๕๔ ใหเจาพนักงานที่ดิน เปน เจาพนกั งาน
พนักงานเจาหนาที่* จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ผมู ีอํานาจ
เก่ียวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพง จดทะเบยี น
และพาณิชย สําหรับอสังหาริมทรัพยท่ีอยูในเขตทองท่ี
สาํ นกั งานทด่ี ินจังหวัดหรือสาํ นักงานทด่ี นิ สาขานนั้
ในกรณที ีส่ ํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงาน จดทะเบียน
ที่ดินสาขาไดนําระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการ ตางสํานักงาน
ส่ือสารมาใชในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแลว (ปจจบุ ันยังปฏบิ ัติ
ใหเจา พนกั งานทีด่ ิน เปน พนักงานเจา หนาทจี่ ดทะเบยี น ไมไ ด)
สทิ ธิและนิตกิ รรมเกยี่ วกับอสังหาริมทรัพยต ามประมวล
ก ฎ ห ม า ย แ พ ง แ ล ะ พ า ณิ ช ย โ ด ย ร ะ บ บ เ ท ค โ น โ ล ยี
๕๔ มาตรา ๗๑ แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
* มาตรา ๗๑ แกไขโดยมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติ แกไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ :-การปฏิบัติการตามประมวล
กฎหมายที่ดิน ซ่ึงเปนอํานาจหนาท่ีของหัวหนาเขต นายอําเภอ หรือปลัดอําเภอผูเปน
หัวหนาประจํากิ่งอําเภออยูกอนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหผูดํารงตําแหนง
ดังกลาวปฏิบัติตอไปพลางกอน จนกกวารัฐมนตรีจะไดประกาศยกเลิกในราชกิจจา
นุเบกษาเปน ทองทไี่ ป
๖๐
สารสนเทศและการสอื่ สารสําหรับอสงั หาริมทรพั ยท ี่อยู
ในเขตทองที่สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดิน
สาขาอ่ืนไดดวย เวนแตการจดทะเบียนท่ีตองมีการ
ประกาศหรือตองมีการรังวัด ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑและ
วธิ ีการทอี่ ธิบดีประกาศกําหนดในราชกจิ จานเุ บกษา๕๕
มาตรา ๗๒๕๖ ผูใดประสงคจะจดทะเบียน ย่นื คาํ ขอ
สิ ท ธิ แ ล ะ นิ ติ ก ร ร ม เ กี่ ย ว กั บ อ สั ง ห า ริ ม ท รั พ ย ต า ม
ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ใหคูกรณีนํา
ห นั ง สื อ แ ส ด ง สิ ท ธิ ใ น ท่ี ดิ น ม า ข อ จ ด ท ะ เ บี ย น ต อ
พนกั งานเจาหนาทีต่ ามมาตรา ๗๑
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม ยน่ื คาํ ขอ
วรรคหนึ่ง สําหรับท่ีดินที่มีโฉนดที่ดิน ใบไตสวนหรือ ตางสํานักงาน
หนังสือรับรองการทําประโยชน คูกรณีอาจย่ืนคําขอตอ
พนักงานเจา หนา ที่ ณ กรมทด่ี นิ หรือสํานกั งานทด่ี นิ แหง
ใดแหงหนึ่ง เพ่ือใหพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑
ดําเนินการจดทะเบียนให เวนแตการจดทะเบียนที่ตอง
มีการประกาศหรือตองมีการรังวัด
มาตรา ๗๓ เม่ือปรากฏตอพนักงานเจาหนาที่ นติ ิกรรมโมฆะ
๕๕ มาตรา ๗๑ วรรคสอง เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๐
๕๖ มาตรา ๗๒ แกไขโดยพระราชบญั ญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
ท่ดี นิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๖๑
วานิติกรรมที่คูกรณีนํามาขอจดทะเบียนน้ันเปนโมฆะ
กรรม พนักงานเจาหนาทไ่ี มต องจดทะเบยี นให
หากนิติกรรมที่คูกรณีนํามาขอจดทะเบียนน้ัน นติ กิ รรมโมฆียะ
ปรากฏวาเปนโมฆียะกรรมใหพนักงานเจาหนาที่รับจด
ทะเบยี นในเมื่อคกู รณฝี า ยทอี่ าจเสียหายยนื ยันใหจ ด
มาตรา ๗๔ ในการดําเนินการจดทะเบียน อํานาจสอบสวน
สิทธิและนิติกรรมของพนักงานเจาหนาที่ ตามมาตรา และเรยี กคน
๗๑ ใหพนักงานเจาหนาท่ีมีอํานาจสอบสวนคูกรณี หรือเอกสาร
และเรยี กบุคคลทเ่ี กี่ยวของมาใหถอยคํา หรือสงเอกสาร
หลักฐานท่ีเกี่ยวของไดตามความจําเปน แลวให
พนกั งานเจา หนา ทดี่ ําเนินการไปตามควรแกก รณี
ถามีกรณีเปนท่ีควรเช่ือไดวา การขอจด กรณีหลกี เลี่ยง
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมน้ัน จะเปนการหลีกเล่ียง กฎหมายหรอื เพ่ือ
กฎหมาย หรือเปนที่ควรเชื่อไดวาบุคคลใดจะซ้ือที่ดิน ประโยชนตา งดาว
เพื่อประโยชนแกคนตางดาว ใหขอคําส่ังตอรัฐมนตรี
คาํ สั่งรฐั มนตรเี ปนที่สดุ
มาตรา ๗๕๕๗ การดําเนินการจดทะเบียนสิทธิ ทาํ สัญญาและ
และนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินท่ีมีโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ จดทะเบียน
รับรองการทําประโยชน ใหเจาพนักงานที่ดินบันทึก ท้ังสองฉบบั
ขอตกลงหรือทําสัญญาเก่ียวกับการน้ัน แลวแตกรณี
๕๗ มาตรา ๗๕ แกไ ขโดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๖๒
แลวใหจดบันทึกสาระสําคัญลงในโฉนดท่ีดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนฉบับสํานักงานที่ดิน
และฉบบั เจา ของที่ดินใหตรงกนั ดวย
มาตรา ๗๖ ในกรณีการขอจดทะเบียนสิทธิ จดทะเบียน
และนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดินซึ่งพนักงานเจาหนาที่ไดทํา ใบไตส วน
การสอบสวนและรังวัดหมายเขตไวแลว แตยังไมได
ออกโฉนดที่ดิน ใหไปขอจดทะเบียนตอพนักงาน
เจา หนา ที่ตามความในมาตรา ๗๑
การจดทะเบียนดังกลาวในวรรคกอน ใหจด
แจงในใบไตสวน อนุโลมตามวิธีการวาดวยการจด
ทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมเกยี่ วกับที่ดนิ ที่มโี ฉนดที่ดนิ
มาตรา ๗๗ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม วิธีการจดทะเบยี น
เกี่ยวกับที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่น ถาประมวล
กฎหมายนี้มิไดบัญญัติไวเปนอยางอ่ืน ใหปฏิบัติตาม
หลักเกณฑและวิธีการทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง*
มาตรา ๗๘ การขอจดทะเบียนสิทธิและ แยงการ
นติ ิกรรมในท่ีดนิ ซึ่งไดม าตามประมวลกฎหมายแพงและ ครอบครอง
พาณิชย มาตรา ๑๓๘๒ หรือโดยประการอื่นนอกจาก (ครอบครอง
ปรปก ษ)
* กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) และแกไ ขเพมิ่ เติมตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖) , กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑), กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔๒ (พ.ศ. ๒๕๓๖) และ ฉบับท่ี ๕๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๖๓
นิติกรรมสาํ หรับทีด่ นิ ท่ีมโี ฉนดท่ีดนิ แลว ใหปฏบิ ัติตาม
หลักเกณฑและวธิ ีการทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง*
มาตรา ๗๙๕๘ ผูมีสิทธิในท่ีดินประสงคจะ การขอแบงแยก
แบงแยกที่ดินออกเปนหลายแปลงหรือรวมที่ดินหลาย หรอื รวมโฉนด
แปลงเขาเปนแปลงเดียวกัน ใหยื่นคําขอพรอมดวย
หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินน้ันตอพนักงานเจาหนาท่ี
ตามมาตรา ๗๑
เพื่อประโยชนแหงมาตรานี้ ใหนํามาตรา ๖๙ - จดทะเบยี นกอ น
ทวิ มาใชบังคับโดยอนุโลมดวย และถาจะตองจด ออกแปลงแบงแยก
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ก็ใหจดทะเบียนสิทธิและ - นาํ เร่อื งคัดคา น/
นิติกรรมเสียกอน แลวจึงออกหนังสือแสดงสิทธิใน ไกลเ กล่ียสอบเขต
มาใช
ทีด่ ินฉบับใหมให
มาตรา ๘๐๕๙ ในกรณีไถถอนจากจํานอง หรือ ขอไถถ อน
ไถถอนจากการขายฝากซึ่งท่ีดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิ ฝา ยเดยี ว
ในท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอื่น เม่ือผูรับจํานองหรือ
ผูรับซื้อฝากไดทําหลักฐานเปนหนังสือวาไดมีการ
* กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๕๘ มาตรา ๗๙ แกไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓
ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๕๙ มาตรา ๘๐ แกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๖๔
ไถถอนแลว ใหผูมีสิทธิไถถอนหรือผูมีสิทธิใน
อสังหาริมทรัพยนําหลักฐานท่ีแสดงวาไดมีการไถถอน
แลวมาขอจดทะเบยี นไถถอนตอ พนกั งานเจา หนาท่ไี ด
เมื่อพนักงานเจาหนาที่ตรวจเปนการถูกตอง
ใหจดทะเบียนในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือใน
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยให
ปรากฏการไถถอนนัน้
มาตรา ๘๑๖๐ การขอจดทะเบียนสิทธิเก่ียวกับ โอนมรดก
อสังหาริมทรัพยซึ่งไดมาโดยทางมรดก ใหผูไดรับ
มรดกนําหลักฐานสําหรับท่ีดินหรือหนังสือแสดงสิทธิ
ในท่ีดินหรือหลักฐานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอื่น
พรอมดวยหลักฐานในการไดรับมรดกมายื่นคําขอตอ
พนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ ถาหนังสือแสดง
สิทธิในท่ีดินอยูกับบุคคลอ่ืน ใหพนักงานเจาหนาที่มี
อาํ นาจเรยี กหนงั สือแสดงสทิ ธิในที่ดนิ ดงั กลาวน้นั ได๖ ๑
เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนพยาน สอบสวน
หลักฐานและเชื่อไดวาผูขอเปนทายาทแลว ใหประกาศ ประกาศ
โดยทําเปนหนังสือปดไวในที่เปดเผยมีกําหนดสามสิบวัน และจดทะเบียน
๖๐ มาตรา ๘๑ แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมาย
ทีด่ ิน (ฉบบั ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๖๑ มาตรา ๘๑ วรรคหนง่ึ แกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๖๕
ณ สํานักงานท่ีดิน สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอ โอนมรดก
หรือกิ่งอําเภอ สํานักงานเทศบาล ที่ทําการองคการ
บริหารสวนตําบล ที่ทําการแขวงหรือที่ทําการกํานัน ท่ี
ทําการผูใหญบานแหงทองท่ีซ่ึงอสังหาริมทรัพยต้ังอยู
และบริเวณอสังหาริมทรัพยนั้นแหงละหน่ึงฉบับ และ
ใหพนักงานเจาหนาที่มีหนังสือสงประกาศดังกลาวให
บคุ คลทผี่ ขู อแจงวา เปน ทายาทและมิไดม าดว ยในวันย่ืน
คําขอทราบเทาที่จะทําได หากไมมีทายาทซึ่งมีสิทธิ
ไดร ับมรดกโตแ ยง ภายในกําหนดเวลาท่ีประกาศ และมี
หลกั ฐานเปนที่เชอ่ื ไดวาผูขอมีสิทธิไดรับมรดกแลว ให
พนักงานเจาหนาท่ีดําเนินการจดทะเบียนใหตามที่ผูขอ
แสดงหลักฐานการมีสิทธิตามกฎหมาย ตามหลักเกณฑ
และวิธีการทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง๖๒ *
ในกรณีท่ีมีทายาทซึ่งมีสิทธิไดรับมรดกโตแยง โตแ ยง
ใหพ นักงานเจา หนาท่ีมอี ํานาจสอบสวนคกู รณีและเรียก เปรยี บเทยี บ
บุคคลใด ๆ มาใหถอยคํา หรือสั่งใหสงเอกสารท่ี
เกี่ยวของไดตามความจําเปน และใหพนักงาน
เจาหนาที่เปรียบเทียบ ถาเปรียบเทียบไมตกลง ให
๖๒ มาตรา ๘๑ วรรคสอง แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพิ่มเตมิ
ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๖๖
พนักงานเจาหนาทส่ี งั่ การไปตามที่เหน็ สมควร
เม่ือพนักงานเจาหนาท่ีสั่งประการใดแลว ให ไมพ อใจฟองศาล
แจงใหคูกรณีทราบ และใหฝายท่ีไมพอใจไปดําเนินการ
ฟองตอศาลภายในกําหนดหกสิบวันนับแตวันท่ีไดรับ
แจง หากผูน้ันมิไดฟองตอศาลและนําหลักฐานการย่ืน
ฟองพรอมสําเนาคําฟองเก่ียวกับสิทธิในการไดรับ
มรดกมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่ภายในกําหนด
เวลาดังกลาว ก็ใหดําเนินการไปตามท่ีพนักงาน
เจา หนาที่สั่ง
ในกรณีที่ทายาทไดย่ืนฟองตอศาลภายใน ฟอ งศาลระงบั จด
กําหนดเวลาตามความในวรรคสี่ หรือทายาทอื่นซึ่งมี ทะเบียน
สิทธิไดรับมรดกไดฟองคดีเก่ียวกับสิทธิในการไดรับ
มรดกตอศาลกอนท่ีพนักงานเจาหนาที่ไดจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมการไดมาโดยทางมรดก เม่ือผูน้ันนํา
หลักฐานการยื่นฟองพรอมสําเนาคําฟองแสดงตอ
พนักงานเจาหนาที่ ใหพนักงานเจาหนาที่ระงับการจด
ทะเบียนไว เม่ือศาลไดมีคําพิพากษาหรือคําส่ังถึงท่ีสุด
ประการใดก็ใหดําเนินการไปตามคําพิพากษาหรือ
คาํ ส่ังนนั้
๖๗
มาตรา ๘๒๖๓ ผูใดประสงคจะขอจดทะเบียน ผจู ดั การมรดก
ลงชื่อผูจัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน ให
ยื่นคําขอพรอมดวยนําหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินน้ัน
และหลักฐานการเปนผูจัดการมรดกมาแสดงตอ
พนักงานเจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑ ถาเปนผูจัดการ
มรดกโดยคําสั่งศาล ใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนินการ
จดทะเบียนใหตามคําขอ แตถาเปนผูจัดการมรดกใน
กรณีอืน่ ใหพ นกั งานเจาหนา ที่สอบสวนและตรวจสอบ
หลักฐาน และใหนาํ ความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง มาใช
บงั คบั โดยอนโุ ลม เมื่อไมม ผี ูโตแยง ใหพนักงานเจาหนาท่ี
จดทะเบียนลงชื่อผูจัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิ
ในท่ีดินนั้นได แตถามีผูโตแยงก็ใหรอเรื่องไว และให
คูกรณีไปฟองรองตอศาล เมื่อศาลมีคําพิพากษาหรือ
คําสั่งถึงท่ีสุดประการใดแลว ใหดําเนินการไปตามคํา
พิพากษาหรอื คาํ สงั่ ศาลน้ัน
ในกรณีท่ีผูจัดการมรดกซึ่งไดมีชื่อในหนังสือ โอนมรดก
แสดงสิทธิในที่ดินแลว ขอจดทะเบยี นสทิ ธใิ นทด่ี นิ ใหแ ก
ทายาท ใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนินการจดทะเบียนให
ตามคําขอโดยไมต อ งประกาศตามมาตรา ๘๑
ในกรณีท่ีทรัสตีของทรัสตซ่ึงไดกอต้ังขึ้นโดย ทรสั ตี
๖๓ มาตรา ๘๒ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไขเพมิ่ เตมิ ประมวล
กฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๖๘
ชอบดวยกฎหมายไวแลวขอจดทะเบียนในฐานะเปน
ทรัสตี เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนพยานหลักฐาน
แลว ใหด าํ เนนิ การจดทะเบียนได
มาตรา ๘๓๖๔ ผูใดมีสวนไดเสียในท่ีดินใดอัน อายัด
อาจจะฟองบังคับใหมีการจดทะเบียน หรือใหมีการ
เปล่ียนแปลงทางทะเบียนได มีความประสงคจะขออายัด
ท่ดี ิน ใหย่นื คําขอตอพนักงานเจาหนาทตี่ ามมาตรา ๗๑
เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนเอกสารหลักฐาน รับอายัด
ที่ผูขอไดนํามาแสดงแลว ถาเห็นสมควรเชื่อถือก็ใหรับ อายดั ซาํ้
อายัดไวมีกําหนดสามสิบวันนับแตวันท่ีส่ังรับอายัด
เมื่อพนกําหนดระยะเวลาดังกลาว ใหถือวาการอายัด
สน้ิ สุดลงและผูนนั้ จะขออายดั ซ้ําในกรณเี ดียวกันอีกไมได
ถาผูมีสวนไดเสียคัดคานวาการอายัดนั้นไม คดั คา น
ชอบดวยกฎหมาย ใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจ เลิกอายดั
สอบสวนพยานหลักฐานเทาที่จําเปน เมื่อเปนที่เชื่อ
ไดวาไดรับอายัดไวโดยไมชอบดวยกฎหมาย ให
พนักงานเจาหนาที่มีอํานาจส่ังยกเลิกการอายัดน้ัน และ
แจง ใหผ ขู ออายัดทราบ*
๖๔ มาตรา ๘๓ แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตแิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวล
กฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
* คําส่งั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๖๓๕/๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๗
๖๙
หมวด ๗
การกําหนดสทิ ธใิ นท่ดี ินเพื่อการศาสนา
มาตรา ๘๔ การไดมาซง่ึ ที่ดนิ ของวัดวาอาราม การขอนญุ าต
วัดบาดหลวงโรมันคาธอลิค มูลนิธิเกี่ยวกับคริสตจักร ไดม า
หรอื มสั ยิดอสิ ลาม ตองไดรับอนุญาตจากรัฐมนตรี และ
ใหไดมาไมเกนิ ๕๐ ไร
ในกรณีที่เปนการสมควร รัฐมนตรีจะอนุญาต กรณเี กิน ๕๐ ไร
ใหไดมาซึ่งที่ดินเกินจํานวนที่บัญญัติไวในวรรคแรก
ก็ได
บทบัญญัติในมาตราน้ีไมกระทบกระเทือน ขอ ยกเวน
ก า ร ไ ด ม า ซึ่ ง ท่ี ดิ น ท่ี มี อ ยู แ ล ว ก อ น วั น ที่ ป ร ะ ม ว ล
กฎหมายน้ีใชบังคับ และการไดมาซ่ึงที่ดินของมัสยิด
อิสลามโดยทางบทบัญญัติแหงศาสนาอิสลามใน
จังหวดั ท่ีมีตําแหนง ดะโตะ ยุตธิ รรม
มาตรา ๘๕ ในกรณีท่ีนิติบุคคลไดมาซ่ึงที่ดิน กรณไี ดมาเกิน
เกินกําหนดตามความในมาตรา ๘๔ เมื่อประมวล สทิ ธิ/การจําหนา ย
กฎหมายนไี้ ดใ ชบงั คบั แลว ใหน ิติบุคคลดังกลา วจดั การ
จําหนายภายในหาป ถาไมจําหนายท่ีดินภายในเวลาที่
กําหนด ใหอธิบดีมีอํานาจจําหนายที่ดินนั้น และใหนํา
บทบัญญัติเร่ืองการบังคับจําหนายที่ดินตามความใน
หมวด ๓ มาใชบ ังคบั โดยอนุโลม
๗๐
หมวด ๘
การกาํ หนดสิทธิในที่ดินของคนตางดาว
มาตรา ๘๖ คนตางดาวจะไดมาซ่ึงท่ีดินก็โดย ไดมาโดย
อาศัยบทสนธิสัญญาซึ่งบัญญัติใหมีกรรมสิทธ์ิใน สนธิสญั ญา
อสังหาริมทรัพยได และอยูในบังคับบทบัญญัติแหง
ประมวลกฎหมายนดี้ วย
ภายใตบังคับมาตรา ๘๔ คนตางดาวดังกลาว
จะไดมาซ่ึงที่ดินเพื่อใชเปนท่ีอยูอาศัย ประกอบกิจการ
ในทางพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การ
สุสาน การกุศลสาธารณะ หรือการศาสนา ตองเปนไป
ตามเง่ือนไขและวิธีการซึ่งกําหนดโดยกฎกระทรวง*
และตองไดร บั อนญุ าตจากรัฐมนตรี
มาตรา ๘๗ จํานวนที่ดินที่จะพึงอนุญาตให จาํ นวนที่พึง
ตามความในมาตรากอ น มีกาํ หนดดังนี้ อนุญาต
(๑) ที่อยอู าศัย ครอบครวั ละไมเ กนิ ๑ ไร
(๒) ทใี่ ชเพอ่ื พาณิชยกรรม ไมเกิน ๑ ไร
(๓) ทใ่ี ชเพือ่ อตุ สาหกรรม ไมเ กิน ๑๐ ไร
(๔)ทีใ่ ชเพื่อเกษตรกรรมครอบครวั ละไมเกิน๑๐ไร
(๕) ทใ่ี ชเ พอ่ื การศาสนา ไมเ กิน ๑ ไร
* กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๗๑
(๖) ทใี่ ชเ พอ่ื การกุศลสาธารณะ ไมเกนิ ๕ ไร
(๗) ทใี่ ชเพือ่ การสสุ าน ตระกลู ละไมเกิน ๑/๒ไร
คนตางดาวผูใดตองการมีสิทธิในที่ดินเพื่อการ กรณีจาํ นวนเกนิ
อุตสาหกรรมเกินกวาท่ีบัญญัติไวใน (๓) ถาเห็นเปน
การสมควร คณะรัฐมนตรีจะอนุญาตใหไดมาซึ่งที่ดิน
เกินกวาจํานวนท่ีกําหนดไว โดยกําหนดเงื่อนไขก็ได
และใหนําบทบัญญัติมาตรา ๔๘ มาใชบังคับโดย
อนุโลม
มาตรา ๘๘ บทบัญญัติในมาตรา ๘๗ มิให ไมก ระทบจํานวน
กระทบกระเทือนแกที่ดินของคนตางดาวที่มีอยูแลว กอ นกฎหมาย
เกนิ กาํ หนดตามความในมาตรา ๘๗ กอนวันที่ประมวล
กฎหมายนี้ใชบังคับ สวนผูที่มีท่ีดินอยูแลวนอยกวา
กําหนด หรือผูท่ีไดจําหนายที่ดินเดิมของตนไป อาจ
ไดม าซ่ึงที่ดินไดอีก แตรวมแลวตองไมเกินกําหนดตาม
มาตรา ๘๗
มาตรา ๘๙ เม่ือคนตางดาวไดรับอนุญาตให เง่อื นไขการใช
ไดมาซ่ึงที่ดินเพื่อกิจการใดผูรับอนุญาตตองใชท่ีดิน ประโยชน
เพ่ือกิจการน้ัน จะใชเพ่ือกิจการอ่ืนไมได เวนแตจะ
ไดร บั อนุญาต ใหใชเ พื่อกจิ การอน่ื ใหมตามจํานวนที่ไม
เกินกําหนดในมาตรา ๘๗ ถาจะไมใชที่ดินตามที่ไดรับ
อนุญาตน้ันตองแจงใหทราบตามแบบและวิธีการที่
๗๒
กาํ หนดในกฎกระทรวง* ภายในกําหนดสามสิบวันนับ
แตว ันไมใชที่ดินน้นั
คนตางดาวผูใดประสงคจะใชที่ดินเพ่ือกิจการ ใชก ิจการใหม
อ่ืนใหม ใหขออนุญาตใหมตอรัฐมนตรีตามแบบและ
วธิ ีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง** ถา รฐั มนตรเี หน็ สมควร
ก็ใหมีอาํ นาจอนญุ าต
มาตรา ๙๐ คนตางดาวท่ีไดรับอนุญาตใหมีและ ไมใ ชตองจําหนา ย
ใชท่ีดินเพื่อกิจการใด ถาไมใชที่ดินน้ันตอไป หรือไดใช
ทีด่ ินเพอื่ กจิ การอ่ืนโดยไมไดร บั อนญุ าตใหม ใหจัดการ
จําหนายท่ีดินน้ันภายในเวลาท่ีอธิบดีกําหนด ซึ่งไมนอย
กวาหนึ่งรอยแปดสิบวัน แตไมใหเกินหน่ึงป ถาพน
กําหนดเวลาดงั กลา ว ใหอธิบดีมอี าํ นาจจําหนายทด่ี ินนน้ั
มาตรา ๙๑ คนตางดาวที่ไดรับอนุญาตใหใช กจิ การใหมสิทธิ
ท่ดี นิ เพอื่ กิจการใด ถา ไดรบั อนญุ าตใหม ใหใชที่ดินนั้น นอ ยลง ตอ ง
เพ่ือกิจการอื่นซึ่งจํานวนที่ดินท่ีไดรับอนุญาตนี้ลดลง จําหนา ยสวนเกิน
ใหจําหนายท่ีดินสวนท่ีเกินนั้นภายในเวลาท่ีอธิบดี
กําหนด ซึ่งไมนอยกวาหน่ึงรอยแปดสิบวัน แตไมให
เกินหนึ่งป ถาพนกําหนดเวลาดังกลาว ใหอธิบดีมี
* กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
** กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๗๓
อาํ นาจจาํ หนา ยทดี่ นิ นน้ั
มาตรา ๙๒ คนตางดาวผูใดไดรับอนุญาตให ไมป ฏบิ ัติตาม
ไดมาซึ่งท่ีดินตามความในมาตรา ๘๗ วรรคสอง ถา เงื่อนไข
ไมไดปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด ให
จําหนายที่ดินสวนที่ไดรับอนุญาตใหไดมาเกินกวา
จํานวนท่ีกําหนดไวน้ัน ภายในเวลาที่อธิบดีกําหนด ซ่ึง
ไมนอยกวาหน่ึงรอ ยแปดสบิ วัน แตไมใหเกินหน่ึงป ถา
พนกําหนดเวลาดังกลาว ใหอธิบดีมีอํานาจจําหนาย
ที่ดนิ นัน้
มาตรา ๙๓ คนตางดาวไดมาซ่ึงท่ีดินโดย กรณรี ับมรดก
ไดรับมรดกในฐานะที่เปนทายาทโดยธรรม รัฐมนตรี
จะอนุญาตใหไดมาซ่ึงท่ีดินนั้น แตเมื่อรวมกับท่ีมีอยู
แลวไมเ กินจาํ นวนท่จี ะพงึ มไี ด ตามความในมาตรา ๘๗
กไ็ ด
มาตรา ๙๔ บรรดาที่ดินที่คนตางดาวไดมา ไดม าไมชอบดว ย
โดยไมชอบดวยกฎหมาย หรือไมไดรับอนุญาต ใหคน กฎหมาย
ต า ง ด า ว น้ั น จั ด ก า ร จํ า ห น า ย ภ า ย ใ น เ ว ล า ที่ อ ธิ บ ดี
กําหนดให ซ่ึงไมนอยกวาหนึ่งรอยแปดสิบวัน แตไม
เกินหน่ึงป ถาไมจําหนายที่ดินภายในเวลาที่กําหนด ให
อธิบดีมีอํานาจจําหนายท่ีดินน้ัน และใหนําบทบัญญัติ
เร่ืองการบังคับจําหนายที่ดินตามความในหมวด ๓ มา
ใชบ ังคับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๙๕ ผูใดไดมาซึ่งที่ดินในขณะท่ีมี กรณเี ปลี่ยน
๗๔
สัญชาตไิ ทย ถา ภายหลังผูน ั้นเปลยี่ นสญั ชาตเิ ปน คนตา ง สญั ชาติเปน
ดาว ใหคงมสี ทิ ธิถอื ทีด่ นิ ไดเทา ท่ีคนตางดาวนั้นจะพึงมี ตา งดา ว
นอกจากน้ันใหทําการจําหนาย และใหนําบทบัญญัติ
มาตรา ๙๔ มาใชบ งั คบั โดยอนุโลม
มาตรา ๙๖ เมื่อปรากฏวาผูใดไดมาซ่ึงที่ดิน กรณถี อื แทน
แหงใดในฐานะเปนเจาของแทนคนตางดาว หรือนิติ ตา งดา ว
บุคคลตามความในมาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ ให
อธิบดีมีอํานาจทําการจําหนายท่ีดินน้ัน และใหนํา
บทบญั ญตั มิ าตรา ๙๔ มาใชบงั คับโดยอนุโลม
มาตรา ๙๖ ทวิ๖๕ บทบัญญัติวาดวยคนตางดาว กรณีนําเงิน
จะไดมาซึ่งที่ดินโดยอาศัยบทสนธิสัญญาตามมาตรา มาลงทนุ
๘๖ วรรคหนึง่ มิใหใชบ ังคับกับคนตา งดา วซ่งึ ไดน ําเงิน
มาลงทุนตามจํานวนที่กําหนดในกฎกระทรวง ซ่ึงตอง
ไมต่ํากวาสี่สิบลานบาท โดยใหไดมาซ่ึงท่ีดินเพื่อใช
เปนท่ีอยูอาศัยไดไมเกินหนึ่งไร และตองไดรับอนุญาต
จากรฐั มนตรี
การไดมาซึ่งท่ีดินของคนตางดาวตามวรรค หลักเกณฑ
หน่ึง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขที่
๖๕ มาตรา ๙๖ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมาย
ที่ดนิ (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒
๗๕
กาํ หนดในกฎกระทรวง* โดยในกฎกระทรวงอยางนอย
ตองมสี าระสาํ คญั ดงั ตอไปน้ี
(๑) ประเภทของธุรกิจที่คนตางดาวลงทุนซ่ึง - ประกอบธรุ กจิ
ตองเปน ประโยชนต อเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ
หรือเปนกิจการที่คณะกรรมการสงเสริมการลงทุนได
ประกาศใหเปนกิจการที่สามารถขอรับการสงเสริมการ
ลงทนุ ตามกฎหมายวาดวยการสงเสรมิ การลงทุนได
(๒) ระยะเวลาการดํารงการลงทุนตองไมนอย - ระยะเวลาลงทุน
กวา สามป
(๓) บริเวณที่ดินที่อนุญาตใหคนตางดาวไดมา - ท่ีตัง้ ที่ดิน
ตองอยภู ายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขต
เทศบาล หรืออยูภายในบริเวณท่ีกําหนดเปนเขตท่ีอยู
อาศยั ตามกฎหมายวา ดว ยการผังเมือง
มาตรา ๙๖ ตรี๖๖ คนตางดาวซึ่งไดรับอนุญาต ไมปฏิบตั ิตาม
ใหไดมาซ่ึงท่ีดินตามมาตรา ๙๖ ทวิ ถากระทําการผิด เง่อื นไข/ จาํ หนาย
หลักเกณฑหรือเง่ือนไขที่กําหนดในกฎกระทรวงตาม
มาตรา ๙๖ ทวิ วรรคสอง ใหจัดการจําหนายท่ีดินใน
สวนท่ีตนมีสิทธิภายในเวลาท่ีอธิบดีกําหนด ซ่ึงไมนอย
* กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑ วธิ ีการและเงื่อนไข การไดม าซึ่งท่ีดนิ เพื่อ
ใชเปนท่ีอยูอาศัยของคนตา งดาว พ.ศ. ๒๕๔๕
๖๖ มาตรา ๙๖ ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
ทีด่ ิน (ฉบบั ที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒
๗๖
กวาหนึ่งรอยแปดสิบวันแตไมเกินหนึ่งป ถาพน
กําหนดเวลาดงั กลา วใหอ ธิบดมี อี ํานาจจาํ หนา ยทดี่ นิ นนั้
คนตางดาวซ่ึงไดรับอนุญาตใหไดมาซึ่งที่ดิน ไมใชท ดี่ นิ
ตามมาตรา ๙๖ ทวิ ถาไมไดใชท่ีดินน้ันเพ่ือเปนที่อยู จาํ หนาย
อาศัยภายในกําหนดเวลาสองปนับแตวันจดทะเบียน
การไดมา ใหอ ธบิ ดีมอี าํ นาจจําหนายท่ดี นิ น้นั
หมวด ๙
การกําหนดสทิ ธใิ นที่ดนิ ของนติ บิ คุ คลบางประเภท
มาตรา ๙๗ นิติบุคคลดังตอไปนี้ใหมีสิทธิใน นติ ิบคุ คลตางดา ว
ท่ดี ินไดเสมือนกับคนตางดาว
(๑)๖๗ บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดที่มี - จาํ นวนหนุ
หุนอันเปนทุนจดทะเบียน ถือโดยคนตางดาวเกินกวา
รอยละส่ีสิบเกาของทุนจดทะเบียน หรือผูถือหุนเปน
คนตางดา วเกินกวา ก่ึงจาํ นวนผูถือหุน แลว แตกรณี
เพื่อประโยชนแ หงหมวดนบี้ ริษัทจํากัดใดออก
ใบหุนชนิดออกใหแกผูถือ ใหถือวา ใบหุนน้ันคนตาง
ดาวเปน ผูถอื
๖๗ มาตรา ๙๗ (๑) แกไ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญัติแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวล
กฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๗๗
(๒)๖๘ หางหุนสวนจํากัด หรือหางหุนสวน - จํานวนผูถือหุน
สามัญท่ีจดทะเบียนแลว ที่มีคนตางดาวลงหุนมีมูลคา
เกินกวารอยละสี่สิบเกาของทุนทั้งหมด หรือผูเปน
หุนสวนเปนคนตางดาวเกินกวาก่ึงจํานวนของผูเปน
หุน สวน แลว แตกรณี
(๓) สมาคมรวมท้ังสหกรณที่มีสมาชิกเปนคน - จาํ นวนสมาชิก
ตางดาวเกินกวากึ่งจํานวน หรือดําเนินกิจการเพ่ือ หรือกจิ กรรม
ประโยชนคนตา งดาวโดยเฉพาะ หรือเปนสว นใหญ
(๔) มูลนิธิท่ีมีวัตถุประสงคเพ่ือประโยชนคน - วตั ถุประสงค
ตา งดาวโดยเฉพาะ หรือเปน สวนใหญ มูลนิธิ
(๕)๖๙ (ยกเลิก)
มาตรา ๙๘๗๐ ในกรณีที่นิติบุคคลที่ระบุไวใน ผลการถอื หนุ ของ
มาตรา ๙๗ เขาถือหุนหรือลงหุน แลวแตกรณี ในนิติ นิติบุคคลตางดาว
บุคคลอื่นตามนัยท่ีกลาวในมาตรา ๙๗ ใหถือวานิติ
บุคคลอนื่ น้นั เปน คนตางดา ว
๖๘ มาตรา ๙๗ (๒) แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายท่ีดนิ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๖๙ มาตรา ๙๗ (๕) ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันท่ี
๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
๗๐ มาตรา ๙๘ แกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพม่ิ เติมประมวล
กฎหมายทีด่ ิน (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๗๘
มาตรา ๙๙๗๑ ในกรณีที่นิติบุคคลตามมาตรา ไดม าไมช อบ
๙๗ หรือมาตรา ๙๘ จะไดมาหรือตองจําหนายไปซ่ึง
สิทธิในท่ีดิน ใหนําบทบัญญัติในหมวด ๘ มาใชบังคับ
โดยอนุโลม และใหนิติบุคคลดังกลาวมีหนาท่ีและ
ความรับผิดเชนเดียวกับที่กําหนดไวสําหรับคนตางดาว
และบุคคลท่วั ไป
มาตรา ๑๐๐ นิติบุคคลใดไดมาซ่ึงที่ดินใน เปลย่ี นสภาพเปน
ขณะที่ไมตองดวยบทบัญญัติของมาตรา ๙๗ และ ตา งดา ว
มาตรา ๙๘ ถาภายหลังมีสภาพตองดวยบทบัญญัติใน
มาตรา ๙๗ หรอื มาตรา ๙๘ ใหนาํ บทบัญญัติมาตรา ๙๕
มาใชบ ังคบั โดยอนโุ ลม
หมวด ๑๐
การคา ทดี่ นิ ๗๒
มาตรา ๑๐๑๗๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๒๗๔ (ยกเลิก)
๗๑ มาตรา ๙๙ แกไขเพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิม่ เติมประมวล
กฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๒ หมวด ๑๐ การคาทด่ี นิ มาตรา ๑๐๑ ถงึ มาตรา ๑๐๒ ยกเลกิ โดย
พระราชบญั ญัติแกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๓ มาตรา ๑๐๑ ยกเลิกโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมาย
ท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๙
หมวด ๑๑
คา ธรรมเนยี ม
มาตรา ๑๐๓๗๕ ในการดําเนินการออกหนังสือ อัตรา
แสดงสิทธิในท่ีดิน การรังวัด การจดทะเบียนสิทธิและ คา ธรรมเนียม
นติ กิ รรม หรอื การทําธรุ ะอนื่ ๆ เกยี่ วกบั อสังหารมิ ทรัพย
ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียมและคาใชจายตามที่กําหนด
ในกฎกระทรวง* แตตองไมเกินอัตราตามบัญชีทาย
ประมวลกฎหมายน้ี
ในกรณีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง คา ธรรมเนียม
การทําประโยชนตามมาตรา ๕๘ ใหเรียกเก็บเฉพาะ ออกโฉนดกรณี
คาธรรมเนียมเปนคาออกโฉนดท่ีดิน คาออกหนังสือ เดินสาํ รวจ
รับรองการทําประโยชน คาหลักเขตที่ดิน และคามอบ
อํานาจในกรณีท่ีมีการมอบอํานาจ แลวแตกรณี โดยผูมี
สิทธิในที่ดินจะขอรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนไปกอนแตยังไมชําระเงินคาธรรมเนียม
๗๔ มาตรา ๑๐๒ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๕ มาตรา ๑๐๓ แกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวล
กฎหมายทีด่ นิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
* กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และท่ีแกไ ขเพม่ิ เติม
๘๐
ก็ได และใหพนักงานเจาหนาที่จดแจงการคางชําระเงิน
คาธรรมเนียมใหปรากฏในโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชนน้ัน ถาไดยื่นคําขอจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมครั้งแรก ใหผูย่ืนคําขอเปนผูชําระ
คาธรรมเนียมท่คี างชาํ ระ๗๖
ในกรณีออกโฉนดที่ดนิ ตามมาตรา ๕๘ ตรี ให กรณยี ายแปลง
ไดร ับยกเวน คาธรรมเนียมและคาใชจ า ย๗๗
มาตรา ๑๐๓ ทวิ๗๘ การจดทะเบียนสิทธิและ ยกเวน
นิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยท่ีบริจาคใหแกทาง คาธรรมเนยี ม
ราชการ ใหไดร บั ยกเวน คาธรรมเนียม
มาตรา ๑๐๔๗๙ ในกรณีการขอจดทะเบียน เสียคา ธรรมเนยี ม
สิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครอง ตามราคาประเมิน
ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย ใหผูขอจดทะเบียนเสีย
คาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโดยคํานวณ
ตามราคาประเมนิ ทุนทรพั ยตามมาตรา ๑๐๕ เบญจ
๗๖ มาตรา ๑๐๓ วรรคสอง แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพ่มิ เติม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๗๗ มาตรา ๑๐๓ วรรคสาม เพ่มิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพม่ิ เตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๗๘ มาตรา ๑๐๓ ทวิ เพมิ่ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๑๖ ลงวันที่ ๗
พฤศจิกายน พุทธศกั ราช ๒๕๒๐
๗๙ มาตรา ๑๐๔ แกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพ่มิ เติมประมวล
กฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๘๑
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับ กรณีเก็บ
อสังหาริมทรัพยในกรณีอื่นนอกจากที่กําหนดไวใน คาธรรมเนียม
วรรคหน่ึง ใหผูขอจดทะเบียนเสียคาธรรมเนียมจด ตามทนุ ทรพั ย
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โดยคํานวณตามจํานวนทุน
ทรัพยท ่ผี ูขอจดทะเบยี นแสดงตามความเปน จริง
มาตรา ๑๐๕๘๐ ใหมีคณะกรรมการกําหนด คณะกรรมการ
ราคาประเมินทุนทรัพย ประกอบดวยปลัดกระทรวง กําหนดราคา
มหาดไทย เปนประธานกรรมการ อธิบดีกรมการปกครอง ประเมนิ ทนุ
หรือผแู ทน อธิบดีกรมสรรพากรหรือผูแทน อธิบดีกรม ทรัพย
โยธาธิการและผังเมืองหรือผูแทน* อธิบดีกรมธนารักษ
หรือผูแทน** ผูอํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง
หรือผูแทนและผูทรงคุณวุฒิอีกไมเกินส่ีคนซ่ึงรัฐมนตรี
แตงตั้ง เปนกรรมการ และใหผูอํานวยการสํานักงาน
กลางประเมินราคาทรัพยสิน เปนกรรมการและ
เลขานกุ าร
๘๐ มาตรา ๑๐๕ แกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเตมิ ประมวล
กฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔ และ
* พระราชกฤษฎีกาแกไขบทบญั ญัตใิ หส อดคลองกับการโอนอาํ นาจหนา ที่
ของสว นราชการใหเ ปนไปตามพระราชบญั ญตั ิปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.
๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
** พระราชกฤษฎกี าแกไขบทบัญญัติใหส อดคลองกับการโอนอาํ นาจหนาท่ี
ของสว นราชการใหเปนไปตามพระราชบัญญตั ิปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.
๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
๘๒
มาตรา ๑๐๕ ทวิ๘๑ กรรมการซึ่งรัฐมนตรี วาระกรรมการ
แตง ต้ัง มวี าระอยใู นตําแหนงคราวละสามป ผูทรงคณุ วฒุ ิ
กรรมการซึ่งพนจากตําแหนงตามวาระอาจ
ไดรับแตง ต้งั เปนกรรมการอกี ได
มาตรา ๑๐๕ ตรี๘๒ นอกจากการพนจาก การพน จาก
ตําแหนงตามวาระตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ กรรมการซึ่ง ตําแหนงของ
รฐั มนตรแี ตงตง้ั พนจากตาํ แหนง เม่อื กรรมการ
(๑) ตาย ผูทรงคณุ วุฒิ
(๒) ลาออก
(๓) รัฐมนตรีใหอ อก
(๔) เปนคนไรความสามารถหรือคนเสมือนไร
ความสามารถ หรือเปนบุคคลลมละลาย
(๕) ไดรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุด
ใหจําคุกหรือคําส่ังท่ีชอบดวยกฎหมายใหจําคุก เวนแต
เปนโทษสําหรับความผิดที่กระทําโดยประมาทหรือ
ความผดิ ลหุโทษ
ในกรณีที่กรรมการพนจากตําแหนงกอนวาระ กรณีต้ังแทน
ใหร ัฐมนตรีแตงต้งั ผอู ่นื เปนกรรมการแทน
๘๑ มาตรา ๑๐๕ ทวิ เพ่มิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมาย
ท่ีดนิ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๒ มาตรา ๑๐๕ ตรี เพ่มิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมาย
ทด่ี ิน (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๓
กรรมการซงึ่ ไดรบั แตง ตั้งตามวรรคสอง ใหอยู วาระของ
ในตําแหนงไดเทากับวาระท่ีเหลืออยูของกรรมการซ่ึง กรรมการ
ไดแตง ตัง้ ไวแลวนน้ั ท่ตี ้ังแทน
ม า ต ร า ๑ ๐ ๕ จั ต ว า ๘๓ ก า ร ป ร ะ ชุ ม ข อ ง องคประชุม
คณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย ตองมี
กรรมการมาประชุมไมนอยกวาก่ึงหนึ่งของจํานวน
กรรมการท้งั หมด จงึ จะเปน องคประชุม
ถาประธานกรรมการไมอยูในท่ีประชุม ให ประธานที่
กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเปน ประชุม
ประธานในทีป่ ระชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมใหถือเสียง มติทปี่ ระชุม
ขา งมาก
ก ร ร ม ก า ร ค น ห น่ึ ง ใ ห มี เ สี ย ง ห นึ่ ง ใ น ก า ร
ลงคะแนน ถาคะแนนเสียงเทากันใหประธานในที่
ประชุมออกเสยี งเพม่ิ ข้นึ อีกเสียงหนงึ่ เปนเสียงชีข้ าด
มาตรา ๑๐๕ เบญจ๘๔ ใหคณะกรรมการ อํานาจหนาท่ี
กํ า ห น ด ร า ค า ป ร ะ เ มิ น ทุ น ท รั พ ย มี อํ า น า จ ห น า ที่
ดังตอไปนี้
๘๓ มาตรา ๑๐๕ จัตวา เพิ่มโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพมิ่ เตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๔ มาตรา ๑๐๕ เบญจ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๔
(๑) กําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการ
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยของอสังหาริมทรัพย
เพือ่ เรียกเก็บคาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ตามประมวลกฎหมายนี้*
(๒) ใหความเห็นชอบตอการกําหนดราคา
ประเมินทุนทรัพยท่ีคณะอนุกรรมการประจําจังหวัด
เสนอเพ่ือใชในการเรียกเก็บคาธรรมเนียมจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมสําหรับอสังหาริมทรัพยท่ีตั้งอยูใน
เขตจังหวัดนั้น หรือในทองท่ีหนึ่งทองท่ีใดในเขต
จังหวดั น้นั
(๓) วินิจฉัยปญหาเก่ียวกับการเรียกเก็บ
คาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามท่ีกรม
ที่ดนิ ขอความเหน็
(๔) แตงตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ือพิจารณา
หรือปฏิบัติการอยางหนึ่งอยางใดตามท่ีคณะกรรมการ
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยมอบหมายก็ได แลว
รายงานตอคณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทนุ ทรพั ย
* ระเบียบของคณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย วาดวย
หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารในการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยของอสังหาริมทรัพย เพื่อ
เรียกเก็บคาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม พ.ศ. ๒๕๓๕ (แกไขเพ่ิมเติม
ฉบับที่ ๒) (พ.ศ. ๒๕๓๘)
๘๕
(๕) ปฏบิ ัตกิ ารอ่ืนตามที่บัญญัติไวในประมวล
กฎหมายนหี้ รอื กฎหมายอน่ื
ราคาประเมินทุนทรัพยท่ีคณะกรรมการ การใชบ ญั ชรี าคา
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยไดใหความเห็นชอบ ประเมนิ ฯ
ตาม (๒) แลวใหปดประกาศไว ณ สํานักงานท่ีดิน
จังหวัด สํานักงานท่ีดินสาขา และสํานักงานเขต หรือ
ทว่ี าการอําเภอหรอื ทีว่ าการกง่ิ อาํ เภอทอ งท่ี
มาตรา ๑๐๕ ฉ๘๕ ใหม ีคณะอนุกรรมการประจํา อนกุ รรมการ
จังหวัดแตละจังหวัด ประกอบดวยผูวาราชการจังหวัด ประจําจงั หวดั
เปนประธานอนุกรรมการ ปลัดจังหวัด สรรพากรจังหวัด
และผูทรงคุณวุฒิอีกไมเกินสามคนซ่ึงคณะกรรมการ
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยแตงต้ัง เปนอนุกรรมการ
และใหธ นารกั ษจงั หวัด* เปน อนุกรรมการและเลขานุการ
คณะอนุกรรมการประจําจังหวัดสําหรับ อนุกรรมการ
กรุงเทพมหานคร ประกอบดวยปลัดกรุงเทพมหานคร ประจํากรุงเทพฯ
เปน ประธานอนกุ รรมการ ผแู ทนกรมการปกครองผูแทน
กรมสรรพากร เจาพนักงานท่ีดินกรุงเทพมหานคร และ
๘๕ มาตรา ๑๐๕ ฉ เพม่ิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
ท่ีดนิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔ และ
* พระราชกฤษฎีกาแกไขบทบญั ญัตใิ หส อดคลอ งกบั การโอนอํานาจหนาท่ี
ของสว นราชการใหเปนไปตามพระราชบญั ญัติปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.
๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
๘๖
ผูทรงคุณวุฒิอีกไมเกินสามคนซึ่งคณะกรรมการกําหนด
ราคาประเมินทนุ ทรพั ยแตง ตง้ั เปนอนุกรรมการและให
ผูอํานวยการสํานักงานกลางประเมินราคาทรัพยสิน
เปน อนกุ รรมการและเลขานกุ าร
ใหนํามาตรา ๑๐๕ ทวิ มาตรา ๑๐๕ ตรี และ
มาตรา ๑๐๕ จัตวา มาใชบังคับแกคณะอนุกรรมการ
ประจําจังหวดั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๐๕ สัตต๘๖ ใหคณะอนุกรรมการ หนาทอี่ นุฯ
ประจําจังหวัดมีหนาท่ีพิจารณากําหนดราคาประเมิน จงั หวัด
ทุนทรัพยเพ่ือใชในการเรียกเก็บคาธรรมเนียมจด
ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสําหรับอสังหาริมทรัพยท่ี
ตั้งอยูในเขตจังหวัดน้ัน หรือในทองท่ีหนึ่งทองที่ใดใน
เขตจังหวัดนั้น เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการกาํ หนดราคาประเมินทุนทรพั ย
มาตรา ๑๐๕ อัฏฐ๘๗ เมื่อไดมีการประกาศ กรณีราคาซือ้ ขาย
กาํ หนดราคาประเมินทุนทรัพยสําหรับเขตจังหวัดใดไว แตกตางจาก
แลว ถาตอมาปรากฏวาราคาที่ซ้ือขายกันตามปกติใน ราคาประเมิน
ทองตลาดของอสังหาริมทรัพยในทองท่ีหน่ึงทองที่ใด มากพอสมควร
๘๖ มาตรา ๑๐๕ สัตต เพมิ่ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิม่ เติมประมวล
กฎหมายทีด่ นิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๗ มาตรา ๑๐๕ อัฏฐ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายทีด่ นิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๗
ในเขตจังหวัดน้ันแตกตางจากราคาประเมินทุนทรัพยที่
ไดป ระกาศกําหนดไวมากพอสมควร ใหคณะอนุกรรมการ
ประจาํ จงั หวดั น้นั พิจารณาปรบั ปรงุ ราคาประเมินทุนทรพั ย
สําหรับทองท่ีน้ัน เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการกาํ หนดราคาประเมินทนุ ทรพั ยโดยเรว็
มาตรา ๑๐๖๘๘ (ยกเลิก)
หมวด ๑๒
บทกาํ หนดโทษ
มาตรา ๑๐๗๘๙ ผูใดไมนําพนักงานเจาหนาท่ี - ไมนํา/ไมปฏบิ ตั ิ
ทําการสํารวจรังวัดทําแผนท่ีหรือพิสูจนสอบสวนการ
ทําประโยชนในท่ีดินของตน หรือไมตั้งตัวแทนเพื่อ
การดังกลาว ตามมาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๖๙ หรือผูใด
ฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ หรือมาตรา ๗๐
ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หา รอยบาท
๘๘ มาตรา ๑๐๖ ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญัติแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมาย
ทดี่ ิน (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๙ มาตรา ๑๐๗ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๙๖
ลงวันท่ี ๒๙ กมุ ภาพันธ พุทธศักราช ๒๕๑๕