๒๓๗
แปลงเล็กแปลงนอยดังกลาวนี้ ใหเจาหนาที่ประกาศ
เปนรายตําบลหรือรายอาํ เภอแลวแตจ ะเห็นสมควร
ใหไว ณ วนั ที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม
ประธานคณะกรรมการจัดทด่ี นิ แหง ชาติ
(ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๒ ตอน ๖๘ วันที่ ๖ กันยายน ๒๔๙๘)
๒๓๘
๒๓๙
๒๔๐
๒๔๑
ระเบยี บของคณะกรรมการจัดท่ดี ินแหง ชาติ
ฉบบั ที่ ๓ ( พ.ศ. ๒๕๑๕ )
วาดวยวธิ ปี ฏบิ ัตใิ นการแจง และออกคาํ สัง่ แกผ ฝู าฝน
มาตรา ๙ แหงประมวลกฎหมายทีด่ นิ อยูกอ นวันที่
ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙
กมุ ภาพันธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕ ใชบงั คับ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ และ
มาตรา ๑๐๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งแกไข
เพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลง
วั น ท่ี ๒ ๙ กุ ม ภ า พั น ธ พุ ท ธ ศั ก ร า ช ๒ ๕ ๑ ๕
คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ กําหนดระเบียบไว
ดงั ตอ ไปน้ี
หมวด ๑
บทท่วั ไป
ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา "ระเบียบวาดวยวิธี
ปฏิบัติในการแจงและออกคําสั่งแกผูฝาฝนมาตรา ๙
แหงประมวลกฎหมายที่ดินอยูกอนวันที่ประกาศของ
คณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ
พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕ ใชบงั คับ"
ขอ ๒ ใหใชระเบียบน้ีตั้งแตวันถัดจากวัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป
๒๔๓
ขอ ๓ การแจงแกผูฝาฝนมาตรา ๙ แหง ฝา ฝนกอน ปว.ใช
ประมวลกฎหมายท่ีดินอยูกอนวันที่ประกาศของคณะ บังคับ
ปฏิวัติ ฉบับท่ี ๙๖ ลงวันท่ี ๒๙ กุมภาพันธ พุทธศักราช
๒๕๑๕ ใชบงั คบั ใหพ นกั งานเจา หนา ทดี่ าํ เนนิ การดงั น้ี
(๑) ที่ดินท่ีสงวนหรือหวงหามไวเพื่อใช - ที่สงวนหวงหาม
ประโยชนของทางราชการเมื่อทบวงการเมืองซึ่งมี
หนาที่ดูแลรักษาหรือใชประโยชนรองขอใหพนักงาน
เจาหนาที่แจงใหผูฝาฝนทราบเพื่อปฏิบัติการอยางหน่ึง
อยางใด ดงั ตอ ไปน้ี
ก.ใหมาจัดการทําบันทึกไวเปนหลักฐานตอ
ทางราชการภายในเวลาท่ีกําหนด วาไดครอบครองและ
ทําประโยชนอยูในที่ดินเปนเนื้อที่เทาใดต้ังแตเม่ือใด
และจะออกไปจากทด่ี ินนน้ั ไดเมื่อใด
ข. ใหมาทําความตกลงเพ่ือเสียคาตอบแทน
ตามอัตราและเวลาท่ที างราชการกําหนดให
ค. เม่ือมีความจําเปนอาจส่ังใหฝาฝนและ
บริวารออกไปจากที่ดินหรือร้ือถอนสิ่งปลูกสราง
ออกไปจากท่ดี ินดวยก็ได
(๒) ทีด่ ินอันเปน สาธารณสมบตั ิของแผนดินท่ี - ท่สี าธารณ
ประชาชนใชประโยชนรวมกัน ใหมีคําสั่งใหผูฝาฝน ประโยชน
ออกไปจากที่ดิน เวนแตกรณีท่ีมีเหตุผลและความ
จําเปนเปนพิเศษ และไมเปนการกระทําใหเส่ือม
ประโยชนในการทป่ี ระชาชนจะใชท่ีดินนั้น จะผอนผัน
๒๔๔
ใหอยูอาศัยหรือใชประโยชนเปนการช่ัวคราวโดยเสีย
คาตอบแทนหรอื ไมกไ็ ด
(๓) ท่ีดินท่ีทางราชการมีโครงการจะจัดให - ทดี่ ินที่มี
ประชาชนเขาอยูอาศัยและประกอบอาชีพ ใหแจง โครงการจะจัด
ผูฝาฝนไปติดตอกับเจาหนาที่ผูมีหนาท่ีในการจัดที่ดิน
เพื่อขอรับคําวินิจฉัยเก่ียวกับสิทธิในที่ดิน และเพ่ือ
ปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกําหนดและเงื่อนไข
ในการจัดที่ดนิ ตามโครงการจดั ที่ดนิ น้นั ตอ ไป
(๔) ท่ีดินที่มีทรัพยากรธรรมชาติ เปนตนวา ท่ี - ที่ที่มที รัพยากร
หิน ที่กรวด หรือท่ีทราย ไมวาท่ีดินนั้นรัฐมนตรีจะได ธรรมชาติ
ประกาศหวงหามไวตามมาตรา ๙ ( ๒ ) แหงประมวล
กฎหมายท่ีดินแลวหรือไมก็ตาม ถามีผูฝาฝนเขาไปทํา
ดวยประการใด ๆ ใหเปนการทําลายหรือหรือทําให
เส่ือมสภาพหรือเปนอันตรายแกทรัพยากรในท่ีดินให
แจงใหผูบุกรุกระงับการกระทําหรือสั่งใหออกไปจาก
ที่ดินน้ัน และถาการกระทํานั้นกอใหเกิดความเสียหาย
แกสาธารณชนใหผูฝาฝนแกไขการกระทําน้ันให
กลบั คนื สูสภาพเดมิ ดว ย
ขอ ๔ การขอเขาอยูอาศัยหรือขอใชประโยชน ขอช่ัวคราว
ในที่ดินของรัฐเปนการช่ัวคราว ใหดําเนินการตาม
หมวด ๓ วาดวยการขอเขาอยูอาศัยหรือขอใช
ประโยชนใ นทีด่ นิ ของรฐั เปน การชวั่ คราว
๒๔๕
หมวด ๒
การแจงและมีคาํ สั่งใหผ ูฝ า ฝน ออกจากที่ดินของรัฐ
ขอ ๕ การแจง ของพนกั งานเจาหนาท่ีหรือผูซึ่ง สาระของ
ไดรับมอบหมายจากพนักงานเจาหนาท่ี ใหแจงเปน หนงั สือแจง
หนังสือมสี าระสาํ คญั ดังตอไปนี้
(๑) ชอื่ และช่ือสกุลของผฝู า ฝน
(๒) ตาํ แหนงที่ดินที่เขาไปบุกรุก ยึดถือ
ครอบครอง หรือใชป ระโยชน
(๓) กาํ หนดวธิ กี าร เงื่อนไข และระยะเวลาท่ี
จะใหผูฝา ฝน ปฏิบัติ
ขอ ๖ การกําหนดระยะเวลาที่จะแจงให ระยะเวลาออก
ผูฝาฝนออกจากท่ีดินหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสรางออกจาก
ที่ดินของรฐั ใหพจิ ารณาดังน้ี
(๑) ในกรณีท่ีผูฝาฝนไดเขาบุกรุก ยึดถือ - ปลกู พชื ลมลกุ
ครอบครอง ไดปลูกไมลมลุกหรือธัญชาติไว ให
กําหนดเวลาแจงใหออกไปจากท่ีดินนั้นไมนอยกวา
สามสิบวันหลังจากการเก็บเกี่ยวพืชผลในที่ดินนั้น
เสร็จแลว
(๒) ในกรณีเปนการบุกรุก ยึดถือครอบครอง - ทด่ี นิ ที่มี
ตามขอ ๓ ( ๔ ) ใหแจงใหออกจากท่ีดินที่บุกรุก หรือ ทรัพยากร
แจงใหร้ือถอนสิ่งปลูกสรางโดยเร็วแตตองไมนอยกวา
เจด็ วัน นบั แตวันไดรบั หนังสอื แจง
๒๔๖
(๓) การบุกรุกยึดถือครอบครองในกรณีอ่ืน - กรณอี ื่น ๆ
นอกจาก ( ๑ ) และ ( ๒ ) ใหแจงใหออกไปจากที่ดิน
น้ันภายในกําหนดที่แจง แตตองไมนอยกวาเกาสิบวัน
นบั แตว ันไดร บั หนังสอื แจง
ขอ ๗ การสงหนังสือแจง ใหสงโดยทาง การสงหนงั สือ
ไปรษณียลงทะเบียนตอบรับ เวนแต ทองที่ใดไม แจง
ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร ส ง ท า ง ไ ป ร ษ ณี ย ต อ บ รั บ ก็ ใ ห จั ด
เจา หนา ทนี่ าํ ไปสง
ในกรณีที่ใหเจา หนาทนี่ าํ ไปสงใหป ฏบิ ตั ดิ งั นี้
(๑) ใหผูฝาฝนหรือผูท่ีบรรลุนิติภาวะแลว ซ่ึง
อยูอาศัยในครอบครัวเดียวกันกับผูฝาฝนน้ัน ลงชื่อรับ
หนังสือแจงในใบรับ แลว เกบ็ เขา เรือ่ งไวเปนหลักฐาน
(๒) ในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลาวตาม ( ๑ ) ไมยอม
ลงช่ือ ก็ใหเจาหนาที่ผูนําสงหนังสือแจงบันทึก
เหตุการณและเหตุผลในการไมยอมรับหนังสือแจงไว
และใหมีพยานอยางนอย ๒ คน ลงช่ือรับรองไวใน
บันทึกน้ันดวย เม่ือผูนําสงหนังสือแจงไดปฏิบัติการ
ดงั กลา วน้นั แลว ใหถอื วา ผูฝา ฝนไดรบั หนงั สอื แจง แลว
ขอ ๘. ผูฝาฝนผูใดมีความจําเปนไมอาจจะ ขอผอ นผนั
ปฏิบัติตามหนังสือแจงของพนักงานเจาหนาที่ได ให
ยื่นคํารองขอผอนผันลวงหนาไมนอยกวาสามสิบวัน
กอนครบกําหนดระยะเวลาตามขอ ๖ ถาพนักงาน
เ จ า ห น า ที่ ห รื อ ผู ท่ี ไ ด รั บ ม อ บ ห ม า ย จ า ก พ นั ก ง า น
๒๔๗
เจาหนาท่ีเห็นสมควร ก็ใหมีอํานาจผอนผันไดตาม
ความจาํ เปนแลวแตก รณี
ขอ ๙ ในกรณีที่ผูฝาฝนไมปฏิบัติตามหนังสือ การแจงผูฝาฝน
แจง ใหพนักงานเจาหนาที่หรือผูซ่ึงไดรับมอบหมาย
จากพนักงานเจาหนาท่ีมีคําสั่งเปนหนังสือสงไปยัง
ผูฝาฝน และกําหนดใหผูฝาฝนออกไปจากที่ดินนั้น
ภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันไดรับคําส่ังของ
พนักงานเจาหนาท่ี หากผูนั้นยังฝาฝนอยูอีกก็ให
ดําเนินคดีตอ ไป
การมีคําสั่งและการสงคําส่ังใหนําความในขอ
๕ และขอ ๗ มาใชบงั คับโดยอนโุ ลม
หมวด ๓
การขอเขาอยูอาศยั หรือขอใชป ระโยชนใ นทด่ี นิ ของรัฐ
เปนการชั่วคราวและการเสียคา ตอบแทน
ขอ ๑๐ การขอเขาอยูอาศัยและขอใชประโยชน ขอชว่ั คราว
ในทีด่ ินของรัฐเปนการชว่ั คราว ใหด ําเนินการดงั นี้
(๑) ใหผูขอย่ืนคํารองตามแบบท่ีทางราชการ
กําหนดตอนายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนา
ประจาํ กง่ิ อาํ เภอทองทซ่ี ่งึ ทด่ี นิ น้ันตง้ั อยูและผูขอจะตอง
เปนผูไดเ ขา ยดึ ถือครอบครองหรอื ใชประโยชนในที่ดิน
อยูกอ นวันท่ปี ระกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๙๖ ลงวันที่
๒๙ กุมภาพนั ธพทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕ ใชบ ังคับ
๒๔๘
(๒) เม่ือไดรับคํารองแลว ใหนายอําเภอหรือ
ปลัดอําเภอผูเปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอทองท่ีหรือ
ขาราชการท่ีไดรับมอบหมายออกไปตรวจสอบสภาพ
ท่ีดิน จํานวนเน้ือท่ีท่ีครอบครอง และการใชประโยชน
ในทีด่ ินนน้ั
(๓) ผูไดรับผอนผันใหอยูอาศัยหรือใช
ประโยชนในท่ีดินของรัฐจะตองเสียคาตอบแทนใหแก
องคการบริหารสวนจังหวัด ตามขอ ๑๑ เวนแตกรณีขอ
ยืดเวลาออกไปจากที่ดินตามขอ ๘ จึงไมตองเสีย
คา ตอบแทน
ขอ ๑๑ คาตอบแทนในการเขาอยูอาศัยและ คา ตอบแทน
การใชประโยชนใ นทด่ี ินของรฐั ใหอ งคก ารบริหารสวน
จังหวดั เปนผกู าํ หนด โดยถอื ตามอตั ราคาเชา ปานกลาง
ซ่ึงมีการเชา อยูในทองที่นัน้ ในวันยน่ื คําขอ ตามขอ ๑๐ (๑)
ขอ ๑๒ ผูไดรับผอนผันใหเขาอยูอาศัยหรือใช ไดรบั ผอ นผัน
ประโยชนท ่ดี ินจะตองปฏบิ ัตดิ งั น้ี
(๑) ตองชําระคาตอบแทน ณ สํานักงานอําเภอ
หรือก่ิงอําเภอ ตอนายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปน
หัวหนาประจําก่ิงอําเภอทองที่ ตามจํานวนและเวลาที่
องคการบริหารสวนจงั หวัดกําหนด
(๒) ตองใชประโยชนในที่ดินนั้นตามประเภท
ของกิจการดวยตนเอง
๒๔๙
(๓) ตองประกอบกิจการตามเขตและเน้ือที่ที่
ไดรับผอนผัน และในการนี้ผูไดรับผอนผันใหอยูอาศัย
หรือใชประโยชนในท่ีดินของรัฐ ตองปกหลักเขตให
ปรากฏเปนหลักฐานแนน อน
(๔) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามเงื่อนไขท่ีพนักงาน
เจาหนาทีก่ าํ หนดใหปฏิบตั เิ ปน การเฉพาะราย
ขอ ๑๓ ในกรณีท่ีผูไดรับผอนผันใหเขาอยู กรณไี มปฏบิ ตั ิ
อาศัยหรือใชประโยชนที่ดินไมปฏิบัติตามขอ ๑๒ ไม ตามเงื่อนไข
วาจะเปนกรณีหนึ่งกรณีใด เมื่อพนักงานเจาหนาที่
เห็นสมควร ใหมีหนังสือแจงใหปฏิบัติใหถูกตอง และ
ถาเห็นวาไมสมควรจะใหอยูอาศัยหรือใชประโยชนใน
ท่ีดินน้ันตอไปแลว ใหนําความในขอ ๕ ขอ ๖ ขอ ๗
ขอ ๘ และขอ ๙ มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม
ใหไว ณ วนั ท่ี ๑๙ เมษายน ๒๕๑๕
พว ง สุวรรณรฐั
ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู ชอํานาจของ
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจดั ทด่ี ินแหง ชาติ
(ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๘๙ ตอน ๖๔ (ฉบับพิเศษ) วนั ที่ ๒๔ เมษายน
๒๕๑๕)
ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดนิ แหง ชาติ
ฉบบั ท่ี ๘ (พ.ศ.๒๕๒๙)*
วา ดว ยการควบคมุ การจดั ที่ดนิ ของทบวงการเมอื ง
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ แหง
ป ร ะ ม ว ล ก ฎ ห ม า ย ท่ี ดิ น ซึ่ ง แ ก ไ ข เ พิ่ ม เ ติ ม โ ด ย
พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖ คณะกรรมการจัดที่ดิน
แหง ชาติวางระเบียบไวดังตอ ไปน้ี
ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา "ระเบียบของ
คณะกรรมการการจัดท่ีดินแหงชาติ ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ.
๒๕๒๙) วาดวยการควบคุมการจัดท่ีดินของทบวง
การเมือง"
ขอ ๒ ระเบียบน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจาก
วันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปนตน ไป
ขอ ๓ ในระเบียบน้ี
"การจัดท่ีดินของทบวงการเมือง" หมายความ คาํ นยิ าม
วา การดําเนินการของทบวงการเมืองใด ๆ ในการนํา
ท่ีดินไปจัดใหประชาชนใชอยูอาศัยหรือประกอบการ
ทํามาหาเล้ียงชีพตามประมวลกฎหมายท่ีดิน กฎหมาย
* หมายเหตุ แกไ ขเพ่ิมเติมโดยระเบยี บของคณะกรรมการจัดท่ดี ินแหงชาติ
ฉบับท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๓๐)
๒๕๑
วาดวยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กฎหมายวา
ดวยการจดั ที่ดนิ เพอ่ื การครองชพี หรอื ตามกฎหมายอน่ื
"เลขาธิการ" หมายความวา เลขาธิการ
คณะกรรมการจดั ทด่ี ินแหง ชาติ
หมวดท่ี ๑
การจดั ทําโครงการจดั ทด่ี ิน
ขอ ๔ ทบวงการเมืองใดประสงคจะดําเนินการ ทบวงการเมือง
จัดท่ีดินแปลงใดใหจัดทําโครงการการจัดที่ดินแปลงนั้น จดั ที่ดิน
เสนอตอคณะกรรมการเพ่ือพิจารณาอนุมัติ โดยยื่นตอ
เลขาธิการ เมื่อคณะกรรมการอนุมัติใหดําเนินการจัด
ท่ีดินแปลงใดไดแลว จึงใหทบวงการเมืองดําเนินการ
จัดท่ดี ินแปลงนน้ั ได
ขอ ๕ กอนเสนอโครงการการจัดท่ีดินแปลง ท่ีดนิ ท่จี ะให
ใด ท่ดี ินแปลงนนั้ จะตองไดร ับการพจิ ารณาการใชที่ดิน นาํ มาจัด
ใหสอดคลองและเปนไปตามมาตรการการใชที่ดินของ
การกําหนดช้ันคุณภาพลุมน้ําประเทศตามท่ีคณะกรรมการ
ส่ิงแวดลอมแหงชาติกําหนดโดยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรี รวมท้ังไดรับการสํารวจความเหมาะสม
ของดิน และวางแผนการใชท่ีดินจากกรมพัฒนาที่ดิน
กอ น
(ความในขอ ๕ แกไขเพิ่มเติมโดยระเบียบของ
คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ.
๒๕๒
๒๕๓๐ ) วาดวยการควบคุมการจัดท่ีดินของทบวง
การเมอื ง)
ขอ ๖ โครงการการจัดที่ดินอยางนอยตองมี โครงการ
สาระสาํ คญั ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ชอื่ ทบวงการเมืองที่จะจดั ท่ีดิน
(๒) ผลการพิจารณาของกรมพฒั นาทด่ี ินตาม
ขอ ๕
(๓) ทตี่ ั้ง เน้ือท่ี อาณาเขต และสภาพที่ดนิ ที่จะ
ดําเนนิ การจัดท่ีดิน
(๔) ผลการสํารวจการถือครองในพนื้ ท่ที จ่ี ะ
ดําเนนิ การจัดที่ดิน
(๕) จํานวนเนอื้ ทีท่ ่ีจะจดั แบง ใหประชาชนเขา
ครอบครอง
(๖) หลักเกณฑแ ละวิธกี ารในการคัดเลอื ก
บุคคลทจ่ี ะรับการจดั ที่ดนิ
(๗) เงื่อนไขทผ่ี ไู ดรบั การจัดทด่ี นิ ตอ งปฏบิ ตั ิ
(๘) การใหส ิทธิในที่ดนิ แกผไู ดรับการจดั ทด่ี ิน
(๙) การจัดใหม สี าธารณูปโภคตาง ๆ
(๑๐) กาํ หนดเวลาการจัดที่ดิน ตลอดจน
ระยะเวลาดําเนนิ การ
(๑๑) งบประมาณในการดาํ เนนิ การ
(๑๒) หลักเกณฑใ นการใหผ ไู ดร ับการจดั ท่ีดนิ
ชดใชท นุ ที่รฐั บาลไดล งไปในการจัดทด่ี ิน
๒๕๓
(๑๓) แผนผังแสดงพ้ืนท่ีท่ีจะดําเนินการจัด
ท่ีดิน พรอมท้ังแสดงบริเวณที่จะจัดแบงท่ีดินเปนที่อยู
อาศัย ประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพสมบัติสวนกลาง
และสาธารณูปโภค โดยใชมาตราสวนท่ีสามารถใช
พจิ ารณาไดส ะดวก
ขอ ๗ ในการอนุมัติโครงการของคณะกรรมการ การอนมุ ัติ
ตามขอ ๔ คณะกรรมการจะกําหนดหลักเกณฑและ
เงื่อนไขใด ๆ ที่เห็นสมควรใหทบวงการเมืองดําเนินการ
ดว ยก็ได
หมวด ๒
การควบคุมการจัดทดี่ นิ ตามโครงการ
ขอ ๘ ใหทบวงการเมืองเร่ิมดําเนินการจัด ระยะเวลา
ท่ีดนิ ตามโครงการทไี่ ดรบั อนุมตั โิ ดยไมช ักชา เริม่ จดั ทด่ี นิ
เม่ือเร่ิมดําเนินการจัดท่ีดินแลว ใหทบวง
การเมืองรายงานผลการดําเนินการใหคณะกรรมการ
ทราบตามแบบและระยะเวลาท่ีคณะกรรมการกําหนด
ขอ ๙ การจัดที่ดินของทบวงการเมืองตาม
โครงการใด จะตองดําเนินการใหเปนไปตามโครงการ
ที่คณะกรรมการอนมุ ตั ิ
ขอ ๑๐ ในกรณีท่ีทบวงการเมืองประสงคจะ เปลยี่ นแปลง
เปล่ียนแปลงสาระสําคัญของโครงการท่ีไดรับอนุมัติ โครงการ
แลวใหเสนอรายการที่ประสงคจะเปล่ียนแปลง พรอม
๒๕๔
ทั้งเหตุผลและความจําเปนใหคณะกรรมการพิจารณา
อนุมัติ เม่ือคณะกรรมการอนุมัติใหเปล่ียนแปลงแลว
จงึ ใหดําเนินการตามน้นั ได
ขอ ๑๑ ในการควบคุมใหการจัดที่ดินดําเนิน การควบคมุ
ไปตามโครงการท่ีไดรับอนุมัติ คณะกรรมการอาจมีมติ
ใหรฐั มนตรี
(๑) มีหนังสือเรียกเจาหนาที่ของทบวง
การเมืองมาชี้แจงขอเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับการจัดท่ีดิน และใหสงเอกสารหลักฐานหรือ
ส่ิ ง อ่ื น ที่ เ ก่ี ย ว ข อ ง ม า ป ร ะ ก อ บ ก า ร พิ จ า ร ณ า ข อ ง
คณะกรรมการ
(๒) แตงต้ังพนักงานเจาหนาท่ีไปตรวจสอบ
การดําเนินการจดั ท่ดี ินยังสถานทท่ี ่ีดาํ เนนิ การจัดที่ดนิ
ขอ ๑๒ ทบวงการเมืองใดประสบปญหาหรือ มีปญ หา
อุปสรรคในการจัดที่ดินตามโครงการที่ไดรับอนุมัติ
ใหเสนอปญหาและอุปสรรคตอคณะกรรมการเพื่อ
ทราบและพิจารณาดําเนินการแกไขหรือใหความ
ชว ยเหลอื ได
บทเฉพาะกาล
ขอ ๑๓ ทบวงการเมืองใดดําเนินการจัดท่ีดิน
อยูในวันที่ระเบียบนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให
ดําเนินการตอไปโดยไมอยูภายใตบังคับแหงระเบียบน้ี
๒๕๕
แตตองแจงจํานวนและรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ
การจัดท่ีดินที่กําลังดําเนินการอยูตอคณะกรรมการ
ภายในหกสิบวันนับแตวันท่ีระเบียบนี้ใชบังคับ และ
ตองรายงานผลการดําเนินการใหคณะกรรมการทราบ
ตามแบบและระยะเวลาท่ีคณะกรรมการกําหนดจนกวา
จะดําเนินการจัดท่ดี นิ ตามโครงการน้ัน ๆ เสร็จ
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๙
พลเอก สิทธิ จริ โรจน
รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจัดทดี่ ินแหงชาติ
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๐๓ ตอน ๑๑ (ฉบับพเิ ศษ) วนั ที่ ๒๓ มกราคม
๒๕๒๙)
ระเบยี บของคณะกรรมการจัดที่ดินแหง ชาติ
ฉบับท่ี ๙ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
วาดวยการสงวนหรอื หวงหา มที่ดนิ ของรฐั เพ่ือให
ประชาชนใชป ระโยชนร วมกนั
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ (๔) และ
(๑๐) แหงประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดย
พระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖ คณะกรรมการจัดที่ดิน
แหง ชาตวิ างระเบียบไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา "ระเบียบของ
คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ ฉบับที่ ๙ (พ.ศ.๒๕๒๙)
วาดวยการสงวนหรือหวงหามที่ดินของรัฐเพ่ือให
ประชาชนใชป ระโยชนร ว มกนั "
ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจาก
วันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปนตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิก ยกเลกิ
(๑) ระเบียบขอบังคับวาดวยการประสานงาน ระเบียบเกา
เก่ียวกับการสงวนท่ีดินตามประมวลกฎหมายที่ดินของ
คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๐๓
ลงวนั ที่ ๑๔ มนี าคม ๒๕๐๓
(๒) ระเบียบขอ บงั คับวา ดวยการประสานงาน
เก่ียวกับการสงวนท่ดี นิ ตามประมวลกฎหมายท่ดี ินของ
๒๕๗
คณะกรรมการจดั ทีด่ นิ แหงชาติ พ.ศ. ๒๔๙๘ ลงวนั ที่
๒๖ มีนาคม ๒๔๙๘
บรรดาระเบียบ ขอ บงั คับ และคาํ สงั่ อนื่ ๆ ใน
สวนทกี่ ําหนดไวแ ลว ในระเบียบน้ี หรอื ซึ่งขัดหรือแยง
กับระเบยี บน้ี ใหใชร ะเบียบนแ้ี ทน
ขอ ๔ ในทองที่อําเภอใดมีท่ีดินของรัฐท่ีมิใช ที่ดนิ ของรฐั
สาธารณสมบัติของแผนดิน สําหรับพลเมืองใชรวมกัน ทจ่ี ะสงวน
หรือใชเพ่ือประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ เมื่อ
นายอําเภอหรือสวนราชการใดเปนสมควรจะสงวน
หรือหวงหามไวเพ่ือใหประชาชนใชประโยชนรวมกัน
ใหเสนอความเห็นตอผูวาราชการจังหวัด ถาผูวา
ราชการจังหวัดเห็นชอบดวย ใหสั่งนายอําเภอของ
อําเภอที่ท่ีดินน้ันอยูในเขตดําเนินการเพื่อสงวนหรือ
หวงหา มทด่ี ินนน้ั ตามระเบียบนี้
ถาท่ีดินท่ีจะสงวนหรือหวงหามนั้นอยูในเขต ที่ดินต้ังอยูใ นเขต
ของสองอําเภอขึ้นไป และผูวาราชการจังหวัดเห็นสมควร ๒ อําเภอ
จะสงวนหรือหวงหามที่ดินในทั้งสองอําเภอ ใหผูวา
ราชการจังหวัดส่ังใหนายอําเภอของแตละอําเภอ
ประสานงานกันในการดาํ เนินการตามระเบียบน้ี
ถาที่ดินท่ีจะสงวนหรือหวงหามน้ันอยูในเขต อยใู นเขต ๒
ของสองจังหวัดขึ้นไปและผูวาราชการจังหวัดของแตละ จงั หวดั
จังหวัดที่ที่ดินน้ันอยูในเขตเห็นพองดวยกันในอันที่จะ
สงวนหรอื หวงหามท่ดี นิ นน้ั ใหผ วู าราชการจังหวัดของ
๒๕๘
แตละจังหวัดส่ังใหนายอําเภอของแตละจังหวัด
ประสานงานกันในการดาํ เนินการตามระเบียบน้ี
ถาผูวาราชการจังหวัดของจังหวัดท่ีที่ดินน้ัน กรณี ผวจ.
อยูในเขตคนหนึ่งคนใด เห็นวาไมสมควรจะสงวนหรือ เหน็ ไมต รงกัน
หวงหามที่ดินนั้น ใหแจงใหผูวาราชการจังหวัดคน
อ่ืนๆ ทราบ และถาผูวาราชการจังหวัดที่ไดรับแจง
เห็นสมควรที่จะสงวนหรือหวงหามที่ดินท่ีอยูในเขต
จังหวัดของตน ใหส่ังนายอําเภอของอําเภอที่ที่ดินน้ัน
อยูในเขตดําเนินการเพื่อสงวนหรือหวงหามที่ดิน
ดังกลาวตามระเบียบนี้เฉพาะสวนท่ีอยูในเขตจังหวัด
ของตน
ขอ ๕ ภายในสามสิบวนั นับแตวันท่ีนายอําเภอ การดาํ เนินการ
ไดรับทราบคําส่ังของผูวาราชการจังหวัดที่ส่ังการให ของนายอาํ เภอ
ดําเนินการเพ่ือสงวนหรือหวงหามท่ีดิน เพื่อให
ประชาชนใชประโยชนรวมกัน ใหนายอําเภอดําเนินการ
ตรวจสอบวา
(ก) ที่ดนิ น้ันเปนทด่ี ินรกรา งวางเปลา หรือเปน
ท่ีดินที่มีผูเวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเปนของ
แผนดินโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
หรอื ไม
(ข) ท่ีดินน้ันมีผูครอบครองหรือทําประโยชน
อยแู ลวหรือไม
๒๕๙
(ค) ที่ดินนั้นเปนที่ดินที่อยูในเขตท่ีดินที่ได
จําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี
หรือเปนท่ีดินที่ไดสงวนหรือหวงหามไวตามความ
ตองการของทบวงการเมอื งใดแลว หรอื ไม
(ง) คณะกรรมการหมูบานและสภาตําบล
เห็นวา สมควรจะสงวนหรือหวงหามท่ีดินนั้นเพื่อให
ประชาชนใหประโยชนร ว มกนั หรอื ไม
ขอ ๖ ในการตรวจสอบตามขอ ๕ ถาปรากฏวา
(ก) ทดี่ ินนน้ั เปนท่ีดินรกรางวา งเปลา หรือเปน - ที่ดินรกราง
ที่ดินที่มีผูเวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเปนของ
แผนดินโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ให
นายอําเภอตรวจสอบดวยวาที่ดินนั้นมีสภาพอยางไร
และจัดทาํ แผนทสี่ งั เขปแสดงตําแหนงท่ีดิน จํานวนเนื้อ
ที่ อาณาเขตความกวา งขวาง เขตขางเคียงของท่ีดิน และ
แสดงขอบเขตท่ีดินนั้นลงในแผนที่ภูมิประเทศ และ
รายงานใหผวู า ราชการจงั หวัดทราบ
(ข) ที่ดินน้ันมีผูครอบครองหรือทําประโยชน - มีผูค รอบครอง
อยูแลว ใหบันทึกดวยวาผูครอบครองหรือผูทํา อยู
ประโยชนมีหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือเอกสาร
หลักฐานแสดงวา ไดร ับอนุญาตใหทําประโยชนหรือไม
และใหนายอาํ เภอแสดงอาณาเขตและจํานวนเนื้อท่ีของ
ที่ดินที่มีการครอบครองหรือการทําประโยชนลงใน
แผนท่ีสังเขปและรายงานใหผ วู าราชการจังหวดั ทราบ
๒๖๐
(ค) ที่ดินน้ันไมเปนที่ดินรกรางวางเปลา
หรือไมเปนที่ดินท่ีมีผูเวนคืนหรือทอดท้ิงหรือกลับมา
เปนของแผนดินโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมาย
ที่ดินหรือเปนที่ดินท่ีอยูในเขตที่ดินท่ีไดจําแนกใหเปน
เขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีหรือเปนท่ีดินท่ีได
สงวนหรือหวงหามไวตามความตองการของทบวง
การเมืองใดแลว ใหนายอําเภอรวบรวมหลักฐานที่
เก่ียวกับท่ีดินท่ีมีสภาพดังกลาวขางตนและรายงานให
ผวู าราชการจังหวัดทราบ
(ง) คณะกรรมการหมูบานและหรือสภาตําบล กรณที อ งถ่ิน
มีความเห็นวาไมส มควรจะสงวนหรอื หวงหา มทด่ี ินน้ัน ไมเห็นดว ย
ใหนายอําเภอรวบรวมความเห็นของคณะกรรมการ
หมูบานและสภาตําบล และรายงานใหผูวาราชการ
จงั หวัดทราบ
ในการรายงานผูวาราชการจังหวัดตาม (ก) (ข)
(ค) หรือ (ง) ใหนายอําเภอเสนอความเห็นของตนไป
ดว ยเพือ่ ประกอบการพิจารณาของผวู าราชการจังหวัด
ขอ ๗ เม่ือผูวาราชการจังหวัดไดรับรายงาน การพจิ ารณา
จากนายอําเภอตามขอ ๖ แลว ใหพิจารณาดําเนินการ ของผูวาราชการ
ดงั น้ี จังหวดั
(ก) ถาที่ดินที่จะสงวนหรือหวงหามนั้นเปน
ที่ดินรกรางวางเปลาหรือเปนท่ีดินที่มีผูเวนคืนหรือ
ทอดท้ิงหรือกลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่น
๒๖๑
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ใหผูวาราชการจังหวัด
พิจารณาวาสมควรจะสงวนหรือหวงหามที่ดินนั้นตาม
รายงานของนายอาํ เภอหรือไมเ พียงใด
(ข) ถาที่ดินที่จะสงวนหรือหวงหามน้ันมีผู
ครอบครองหรือทําประโยชนแลว ใหผูวาราชการ
จังหวัดพิจารณาวาสมควรจะสงวนหรือหวงหามที่ดิน
ดังกลาวหรือไม ถาเห็นวาไมสมควรใหผูวาราชการ
จังหวัดส่ังใหนายอําเภอยุติการดําเนินการในท่ีดินสวน
ท่ีมีการครอบครองหรือทําประโยชนอยูแลว แตถาเห็น
วาสมควร ใหผูวาราชการจังหวัดดําเนินการตางๆ ท่ี
จําเปนเพื่อใหไดท่ีดินนั้นมาสําหรับจะสงวนหรือหวง
หา มเพอื่ ใหประชาชนใหประโยชนรวมกัน และถาหาก
จําเปนใหผูวาราชการจังหวัดรายงานคณะกรรมการจัด
ทีด่ นิ แหงชาตพิ รอ มดว ยความเห็น
(ค) ถาที่ดนิ ท่ีจะสงวนหรอื หวงหามนั้นไมเปน
ท่ีดินรกรางวางเปลาหรือไมเปนท่ีดินที่มีผูเวนคืนหรือ
ทอดทิ้งหรือกลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่น
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน หรือเปนที่ดินที่อยูในเขต
ท่ีดินท่ีไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรหรือเปนท่ีดินที่
ไดมีการสงวนหรือหวงหามไวตามความตองการของ
ทบวงการเมืองอื่นแลวใหผูวาราชการจังหวัดพิจารณา
วา สมควรจะสงวนหรือหวงหามท่ีดินดังกลาวหรือไม
ถาเห็นวาไมสมควร ใหผูวาราชการจังหวัดส่ังให
๒๖๒
นายอําเภอยุติการดําเนินการ แตถาเห็นวาสมควร ให
ผูวาราชการจังหวัดดําเนินการตางๆ ท่ีจําเปนเพื่อใหได
ท่ีดินน้ันมาสําหรับจะสงวนหรือหวงหามเพื่อให
ประชาชนใชประโยชนรวมกัน และถาหากจําเปน ให
ผูวาราชการจังหวัดรายงานคณะกรรมการจัดท่ีดิน
แหง ชาติพรอมดวยความเห็น
(ง) ถาคณะกรรมการหมูบานและหรือสภา
ตําบลมีความเห็นวาไมสมควรสงวนหรือหวงหามที่ดิน
นั้น ใหผูวาราชการจังหวัดพิจารณาวาความเห็น
ดังกลาวมีเหตุผลสมควรหรือไม ถาเห็นวามีเหตุผล
สมควรหรือไม ถาเห็นวามีเหตุผลสมควรใหผูวา
ราชการจังหวัดสั่งใหนายอําเภอยุติการดําเนินการ แต
ถาเห็นวาไมมีเหตุผลสมควร ใหผูวาราชการจังหวัดสั่ง
ใหนายอําเภอดําเนินการสงวนหรือหวงหามที่ดินน้ัน
ตอ ไป
ขอ ๘ เม่ือคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ การพิจารณาของ
ไดรับรายงานจากผูวาราชการจังหวัดตามขอ ๗ (ข) คณะกรรมการ
หรือ (ค) แลว ใหคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ จัดท่ดี ินแหงชาติ
พิจารณาวา สมควรจะสงวนหรือหวงหามท่ีดินนั้น
เพื่อใหประชาชนใชประโยชนรวมกันหรือไม ถาเห็น
วาไมสมควร ใหคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติแจงให
ผูวาราชการจังหวัดทราบ แตถาเห็นวาสมควรให
คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติดําเนินการตางๆ ที่
๒๖๓
จําเปนเพ่ือใหไดท่ีดินน้ันมาสําหรับจะสงวนหรือหวง
หามเพ่ือใหประชาชนใชประโยชนรวมกัน แลวใหแจง
ใหผวู า ราชการจงั หวัดทราบ
ขอ ๙ เม่ือผูวาราชการจังหวัดและหรือ กรณีสมควร
คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ เห็นสมควรใหสงวน สงวนหวงหาม
หรือหวงหามที่ดินเพื่อใหประชาชนใชประโยชน
รวมกันแลว ใหนายอําเภอของอําเภอที่ท่ีดินนั้นอยูใน
เขตโฆษณาใหประชาชนทราบถึงตําแหนงท่ีดิน
จํานวนเน้ือท่ี เขตขางเคียงของที่ดินท่ีจะสงวนหรือหวง
หาม โดยจัดทําประกาศระบุรายละเอียดตางๆ เก่ียวกับ
ท่ีดินท่ีจะสงวนหรือหวงหามตามแบบทายระเบียบนี้
ปดไวใ นทีเ่ ปดเผย ณ ศาลากลางจังหวัด สํานักงานที่ดิน
จังหวัดหรือสาขา ทีว่ า การอาํ เภอหรือก่งิ อําเภอ ทีท่ ําการ
ตําบล ที่ทําการหมบู า น แหง ละอยา งนอยหนง่ึ ฉบบั
ในการโฆษณาใหประชาชนทราบถงึ ที่ดนิ ทจ่ี ะ
สงวนหรือหวงหามเพ่ือใหประชาชนใชประโยชน
รวมกัน นายอําเภอจะจัดใหมีการประชุมราษฎรใน
ทองท่ีเพ่ือทําการช้ีแจงหรือจะใหมีการประกาศช้ีแจง
ทางวทิ ยุกระจายเสียงดว ยก็ได
ใหนายอาํ เภอจัดใหมีหลักเขตหรอื เคร่ืองหมาย
อ่ืนแสดงแนวเขตของที่ดินท่ีจะสงวนหรือหวงหาม
และปายระบุรายละเอียดตางๆ เกี่ยวกับท่ีดินท่ีจะสงวน
หรือหวงหามเชนเดียวกับประกาศวรรคหนึ่ง มีขนาด
๒๖๔
และจํานวนพอสมควรติดตั้งไวในบริเวณท่ีดินดังกลาว
เพื่อใหประชาชนทราบวาเปนเขตท่ีดินท่ีจะสงวนหรือ
หวงหา ม
ขอ ๑๐ ภายในหกสิบวันนับแตวันปดประกาศ - กรณไี มมีการ
ถาไมมีผูคัดคานการสงวนหรือหวงหามท่ีดิน ใหผูวา คดั คาน
ราชการจังหวัดเสนอเร่ืองพรอมดวยเอกสารหลักฐานท่ี
เกี่ยวของไปยังคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติเพื่อ - กรณีมีการ
คัดคาน
ดําเนินการตามขอ ๑๑ ตอไป แตถามีผูคัดคานการ
ส ง ว น ห รื อ ห ว ง ห า ม ที่ ดิ น โ ด ย อ า ง ว า ต น เ ป น ผู มี
กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง หรือไดรับอนุญาตให
ทําประโยชนใ นทีด่ ินโดยชอบดว ยกฎหมายหรอื ไมแ ลว
เสนอใหผูวาราชการจังหวัดพิจารณาสั่งการ เมื่อผูวา
ราชการจังหวัดส่ังประการใดแลว ใหแจงแกผูคัดคาน
ทราบ ถาผูคัดคานไมพอใจคําส่ังดังกลาว ก็ใหไป
ดําเนนิ การฟอ งหรือรองตอศาลได
ในกรณีท่ีมีการฟองหรือรองตอศาล ผูวา รอผลคดี
ราชการจังหวัดจะรอการสงวนหรือหวงหามที่ดิน
ทั้งหมดไวก อนจนกวาจะมีคําพิพากษาถึงท่ีสุดแลวก็ได
หรือจะดําเนินการเพื่อสงวนและหวงหามท่ีดินนั้น
ตอไปโดยยกเวนที่ดินสวนท่ีมีผูคัดคานนั้นจากการ
สงวนหรือหวงหามไวกอนจนกวาจะมีคําพิพากษาถึง
ทสี่ ดุ แลวกไ็ ด
๒๖๕
เมื่อไดมีคําพิพากษาถึงที่สุดใหยกคํารอง กรณีศาลมีคาํ
คัดคาน ใหผูวาราชการจังหวัดเสนอเรื่องพรอมดวย พิพากษาแลว
เอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวของไปยังคณะกรรมการจัด
ที่ดินแหงชาติเพื่อดําเนินการตามขอ ๑๑ ตอไป แตถา
ศ า ล ไ ด มี คํ า พิ พ า ก ษ า ถึ ง ที่ สุ ด ว า ผู คั ด ค า น เ ป น ผู มี
กรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครอง หรือไดรับอนุญาตให
ทําประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมาย ใหผูวา
ราชการจังหวัดรายงานคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ
เพ่ือพิจารณาวาสมควรจะยกเวนที่ดินสวนท่ีมีผูคัดคาน
จากการสงวนหรือหวงหาม หรือจะดําเนินการใหที่ดิน
นั้นตกมาเปนของรัฐเพื่อประโยชนในการสงวนหรือ
หวงหา มเพอื่ ใหประชาชนใชป ระโยชนรว มกนั
ขอ ๑๑ เมื่อคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติได การประกาศการ
มีมติใหสงวนหรือหวงหามที่ดินเพ่ือใหประชาชนใช สงวนหวงหา ม
ประโยชนรวมกันแลว ใหจัดทําประกาศการสงวนหรือ
หวงหามท่ีดินเพ่ือใหประชาชนใชประโยชนรวมกัน
โดยใหมีแผนที่แสดงตําแหนงที่ดิน จํานวนเน้ือที่ และ
เขตขางเคียงของท่ีดินท่ีสงวนหรือหวงหามแนบทาย
ประกาศดว ย
แผนท่ีที่แสดงเขตที่ดินท่ีสงวนหรือหวงหาม
ตองเปนแผนท่ีท่ีพรอมจะนําลงในระวางแผนที่หรือ
ระวางรปู ถายทางอากาศตามระเบยี บของกรมท่ดี นิ ได
๒๖๖
และตองแสดงเขตติดตอขางเคียงโดยรอบ โดยมีมาตรา
สว นขนาดพอสมควร
ประกาศการสงวนหรือหวงหามที่ดินเพื่อให
ประชาชนใชป ระโยชนรวมกันใหประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา
ขอ ๑๒ เม่ือไดประกาศการสงวนหรือหวง
หามที่ดินเพ่ือใหประชาชนใชประโยชนรวมกันในราช
กิจจานุเบกษาแลว ใหผูวาราชการจังหวัดโฆษณาการ
สงวนหรือหวงหามที่ดินใหประชาชนทราบ โดยปด
สําเนาประกาศและแผนท่ีแนบทายประกาศไวในท่ี
เปดเผย ณ ศาลากลางจังหวัด สํานักงานท่ีดินจังหวัด
หรือสาขา ที่วาการอําเภอ หรือก่ิงอําเภอที่ทําการตําบล
ทที่ ําการหมบู าน แหง ละอยางนอ ยหนงึ่ ฉบับ
ใหไ ว ณ วันท่ี ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๙
พลเอก ประจวบ สนุ ทรางกรู
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจัดทด่ี นิ แหงชาติ
(ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๐๓ ตอน ๒๐๐ (ฉบับพิเศษ) วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๒๙)
๒๖๗
ระเบยี บของคณะกรรมการจัดท่ดี นิ แหง ชาติ
ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ.๒๕๒๙)
วา ดว ยกรณจี าํ เปนสาํ หรบั การอนญุ าตใหจดทะเบยี น
สิทธิและนติ กิ รรมเปน การเฉพาะรายในทอ งทที่ ่ี
กาํ หนดใหมีการออกโฉนดทด่ี ินสาํ หรบั ทด่ี นิ ที่มหี นงั สอื
รับรองการทําประโยชนโ ดยใชระวางรปู ถา ยทางอากาศ
ตามมาตรา ๕๘ ตรี
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ (๑๐)
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดย
พระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๕๒๖ และมาตรา ๕๘ ตรี วรรคสาม
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๒๘ คณะกรรมการจัดท่ีดิน
แหง ชาตวิ างระเบียบไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา " ระเบียบของ
คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ.
๒๕๒๙) วาดวยกรณีจําเปนสําหรับการอนุญาตใหจด
ทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมเปน การเฉพาะราย ในทองท่ี
ที่กําหนดใหมีการออกโฉนดที่ดินสําหรับที่ดินที่มี
หนังสือรับรองการทําประโยชนโดยใชระวางรูปถาย
ทางอากาศตามมาตรา ๕๘ ตรี"
๒๖๙
ขอ ๒ ระเบียบน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจาก
วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตนไป
ขอ ๓ นับแตวันที่เร่ิมดําเนินการออกโฉนด การขออนุญาต
ทดี่ ินตามประกาศของรัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย จดทะเบยี น
ตามมาตรา ๕๘ ตรี วรรคหนึ่ง แหงประมวลกฎหมาย ท่ตี องมีการรงั วัด
ท่ีดิน เจาพนักงานท่ีดินจะอนุญาตใหมีการจดทะเบียน ระหวางยายแปลง
สิทธิและนิติกรรมใด ๆ ที่ตองมีการรังวัดท่ีดินที่มี
หนังสือรับรองการทําประโยชนโดยใชระวางรูปถาย
อากาศในทองที่ที่รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
ไดป ระกาศกาํ หนด เฉพาะในกรณีจําเปน ดงั ตอ ไปนี้
(๑) เมื่อเปนที่ดินท่ีถูกเวนคืนบางสวนตาม
กฎหมายวา ดว ยการเวนคนื อสงั หาริมทรพั ย
(๒) เม่ือเปนที่ดินท่ีผูมีสิทธิในที่ดินประสงค
จะแบง แยกเพือ่ โอนใหแกทบวงการเมือง รัฐวิสาหกิจท่ี
จัดต้ังขึ้นโดยพระราชบัญญัติองคการของรัฐบาลตาม
กฎหมายวาดวยการจัดต้ังองคการของรัฐบาล หรือ
หนวยงานธุรกิจที่รัฐบาลเปนเจาของ โดยการขาย
แลกเปล่ียนหรือให
(๓) เมื่อเปนที่ดินที่ศาลไดมีคําพิพากษาหรือ
คาํ ส่งั ถึงท่สี ดุ ใหแ บงแยก
(๔) เมื่อเปนที่ดินที่ผูมีสิทธิในที่ดินไดพิสูจน
ใหเปนที่พอใจแกเจาหนาที่ดินวามีความจําเปนและ
เรงดวนที่ตองแบงแยกและหากรอไวจะกอใหเกิด
๒๗๐
ความเสียหายอยางรายแรงแกผูมีสิทธิในท่ีดินน้ันหรือ
ผูร ับโอน
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๒๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๒๙
พลเอก ประจวบ สุนทรางกรู
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจดั ทด่ี ินแหงชาติ
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๐๓ ตอน ๒๐๐ (ฉบบั พเิ ศษ) วันท่ี ๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๒๙)
ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดนิ แหง ชาติ
ฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
วา ดวยเงือ่ นไขการออกโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สือรับรอง
การทําประโยชน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ แหง
ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๕๘ ทวิ วรรคส่ี
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ และมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนึ่ง
และมาตรา ๕๙ ตรี แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่ง
แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖
ลงวันท่ี ๙ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๑๕ คณะกรรมการจัด
ทดี่ ินแหง ชาติวางระเบียบไวดังตอไปน้ี
ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา "ระเบียบของ
คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.
๒๕๓๒) วาดวยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือ
หนงั สอื รับรองการทําประโยชน"
ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจาก
วนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตน ไป
๒๗๒
ขอ ๓ ใหย กเลิก ยกเลิก
(๑) ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดิน ระเบยี บเกา
แหงชาติ ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๕) วาดวยหลักเกณฑ
วิธีการ และเง่ือนไขการออกโฉนดที่ดินและออก
หนงั สือรบั รองการทําประโยชน
(๒) ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดิน
แหงชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๑๕) วาดวยหลักเกณฑ
วิธีการ และเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินและออก
หนังสือรับรองการทําประโยชน
(๓) ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดิน
แหงชาติ ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๔) วาดวยหลักเกณฑ
วิธีการ และเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินและออก
หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน
ขอ ๔ การออกโฉนดที่ดินใหกระทําไดใน ออกโฉนดที่ดนิ ใน
บริเวณท่ีดินที่ไดสรางระวางแผนท่ีเพ่ือการออกโฉนด บรเิ วณสราง
ที่ดินไวแลว ในบริเวณที่ดินนอกจากน้ีใหออกเปน ระวางแผนทีแ่ ลว
หนังสือรับรองการทําประโยชน เวนแตอธิบดีกรม
ท่ีดินเห็นเปนการสมควร ใหออกหนังสือรับรองการ
ทําประโยชนในบริเวณท่ีดินท่ีไดสรางระวางแผนที่ไว
แลว ไปพลางกอ นได
๒๗๓
หมวด ๑
การอนมุ ัตใิ หออกโฉนดท่ดี นิ หรอื หนงั สอื รับรองการทาํ
ประโยชน ตามมาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสี่ และมาตรา ๕๙
ทวิ วรรคหน่งึ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ นิ
ขอ ๕ ผูวาราชการจังหวัดจะอนุมัติใหออก ผวู า ราชการ
โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนรายใด อนุมัตอิ อก
เกินหาสิบไรไดตอเม่ือผูวาราชการจังหวัด หรือผูท่ีผูวา เกิน ๕๐ ไร
ราชการจังหวัดมอบหมายไดตรวจสอบการทําประโยชน
แลว ปรากฏวา
(๑) ผูครอบครองไดทําประโยชนหรือ
อาํ นวยการทาํ ประโยชนในท่ดี ินนน้ั ดว ยตนเอง และ
(๒) สภาพการทําประโยชนในท่ีดินน้ันเปน
หลักฐานม่ันคงและมีผลผลิตอันเปนประโยชนในทาง
เศรษฐกจิ
ขอ ๖ ในกรณีท่ีปรากฏวาเน้ือท่ีที่ทําประโยชน กรณอี อก
ตองดวยหลักเกณฑตามขอ ๕ เกินหาสิบไร ให - เกิน ๕๐ ไร
พนักงานเจาหนาท่ีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนเทาจํานวนเนื้อท่ีที่ผูวาราชการจังหวัด
สั่งอนุมัติ
ในกรณีท่ีปรากฏวาเนื้อที่ที่ทําประโยชนตอง - ไมเกิน ๕๐ ไร
ดวยหลักเกณฑตามขอ ๕ ไมเกินหาสิบไร ใหผูวา
ราชการจังหวัดสั่งไมอนุมัติ ในกรณีเชนน้ีใหเจา
๒๗๔
พนักงานเจาหนาที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนใหเทาจํานวนเน้ือท่ีที่ไดทําประโยชน
แลวตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออก
ตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมาย
ที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ แตตองไมเ กินหา สบิ ไร
ขอ ๗ พนักงานเจาหนาที่จะออกโฉนดท่ีดิน กรณจี าํ เปน
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนใหแกบุคคลตาม ขอเฉพาะราย
มาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนึ่ง เปนการเฉพาะรายได ถามี กรณีไมแจง ส.ค.๑
ความจําเปนดังตอไปนี้
(๑) ที่ดินน้ันถูกเวนคืนตามกฎหมายวาดวย
การเวนคืนอสงั หารมิ ทรัพย
(๒) ผูครอบครองและทําประโยชนในทดี่ นิ จะ
โอนทดี่ นิ น้นั ใหแกท บวงการเมือง องคการของรัฐบาล
ตามกฎหมายวาดวยการจัดต้ังองคการของรัฐบาล หรือ
รฐั วสิ าหกิจท่จี ัดตัง้ ขนึ้ โดยพระราชบัญญตั ิ
(๓) มีความจําเปนอยางอ่ืนโดยไดรับอนุมัติ
จากผูว า ราชการจังหวดั
หมวด ๒
การออกโฉนดท่ีดินหรอื หนังสือรับรองการทาํ
ประโยชนต ามมาตรา ๕๙ ตรี
แหง ประมวลกฎหมายท่ดี ิน
ขอ ๘ ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ กรณีเนอื้ ที่
๒๗๕
รับรองการทําประโยชนถาปรากฏวาท่ีดินมีอาณาเขต คํานวณไดต า งกับ
ระยะของแนวเขต และที่ดินขางเคียงทุกดานถูกตอง เนื้อท่ีใน ส.ค.๑
ตรงกับหลักฐานการแจงการครอบครองตามมาตรา ๕
แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ เช่ือไดวาเปนที่ดินแปลงเดียวกัน แตเนื้อท่ีที่
คํานวณไดแตกตางไปจากเน้ือท่ีตามหลักฐานการแจง
การครอบครองดังกลาว ใหพนักงานเจาหนาท่ีออก
โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเทา
จํานวนเน้ือที่ที่ไดทําประโยชนแลว แตไมเกินเน้ือที่ที่
คํานวณได
ในกรณีท่ีระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาด ระยะแนวเขต
คลาดเคลื่อนใหพนักงานเจาหนาท่ีออกโฉนดท่ีดินหรือ ผิดพลาด
หนังสือรับรองการทําประโยชนเทาจํานวนเน้ือท่ีที่ได
ทําประโยชนแลวเม่ือผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงไดลงช่ือ
รับรองแนวเขตไวเ ปนการถกู ตอ งครบถวนทกุ ดาน
ขอ ๙ การรบั รองแนวเขตของผูมีสิทธิในที่ดิน การรับรอง
ขา งเคียงตามขอ ๘ วรรคสอง ใหพนกั งานเจา หนาที่แจง แนวเขตของ
เปนหนังสือซึ่งมีขอความดวยวา ถาผูมีสิทธิในท่ีดิน ขา งเคยี ง
ขางเคียงไมมาหรือมาแตไมยอมลงชื่อรับรองแนวเขต
โดยไมคัดคานการรังวัด เมื่อพนกําหนดสามสิบวันนับ
แตวันทําการรังวัด พนักงานเจาหนาท่ีจะไดออกโฉนด
ทด่ี ินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยไมตองมี
การรับรองแนวเขต สงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบ
๒๗๖
รับไปยังผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงตามท่ีอยูท่ีเคยติดตอ
หรือตามที่อยูท่ีผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงนั้นไดแจงเปน
หนังสอื ไวต อ พนักงานเจา หนาท่ี เพ่ือใหมารับรองแนว
เขตหรือคัดคานการรังวัดและใหอยูในบังคับแหง
เงอื่ นไข ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ในกรณีที่ผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงไดรับ - ไมมา/มา แต
หนังสือจากพนักงานเจาหนาที่ใหมาระวังแนวเขตแลว ไมลงชื่อรบั รอง
แตไมมาหรือมาแตไมยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม แนวเขต
คัดคานการรังวัด ใหพนักงานเจาหนาที่ออกโฉนด
ที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเทาจํานวน
เนื้อท่ีท่ีไดทําประโยชนแลว โดยไมตองมีการรับรอง
แนวเขต เม่ือพนกําหนดเวลาสามสิบวันนับแตวันทํา
การรงั วดั
(๒) ในกรณีที่ไมอาจติดตอผูมีสิทธิในที่ดิน - ตดิ ตอไมไ ด
ขางเคียงใหมาระวังแนวเขตได ใหพนักงานเจาหนาท่ี
ปดประกาศแจงใหผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงนั้นมาลงชื่อ
รับรองแนวเขตหรือคัดคานการรังวัดไวในที่เปดเผย
ณ สํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขา
สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอ ท่ีทํา
การกํานัน ที่ทําการผูใหญบาน และบริเวณที่ดินของ
ผมู ีสิทธใิ นทด่ี ินขา งเคยี งแหงละหนึง่ ฉบับ ในกรณีท่ีดนิ
อยูในเขตเทศบาลใหปด ณ สํานักงานเทศบาลอีกหนึ่ง
ฉบับดวย ถาผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงไมมาติดตอหรือ
๒๗๗
คัดคานประการใดภายในสามสิบวันนับแตวันปด
ประกาศ ใหพนักงานเจาหนาท่ีออกโฉนดที่ดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนเทาจํานวนเน้ือท่ีท่ีได
ทําประโยชนแลว โดยไมต อ งมกี ารรับรองแนวเขต
ขอ ๑๐ ในกรณีท่ีท่ีดินนั้นมีดานหนึ่งดานใด กรณี ส.ค.๑ จดปา
หรือหลายดานจดที่ปาหรือรกรางวางเปลาและระยะที่ หรือรกราง
วัดไดเกินกวาระยะท่ีปรากฏในหลักฐานการแจงการ
ครอบครองใหถือระยะท่ีปรากฏในหลักฐานการแจง
การครอบครองเปนหลักในการออกโฉนดที่ดินหรือ
หนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๒
พลตํารวจเอก ประมาณ อดเิ รกสาร
รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจัดทดี่ ินแหงชาติ
(ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๑๖ ตอน ๑๗๔ วนั ท่ี ๑๒ ตุลาคม ๒๕๓๒)
พระราชบัญญัตอิ าคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒
พระราชบัญญัติ
อาคารชดุ
พ.ศ. ๒๕๒๒*
ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒
เปนปท ่ี ๓๔ ในรัชกาลปจ จบุ นั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอ
ดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ให
ประกาศวา
โดยที่เปน การสมควรมกี ฎหมายวา ดว ยอาคารชุด
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตรา
พระราชบัญญัติข้ึนไวโดยคําแนะนําและยินยอมของ
สภานิติบัญญตั ิแหงชาติ ทําหนา ทร่ี ัฐสภา ดังตอ ไปน้ี
ม า ต ร า ๑ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ น้ี เ รี ย ก ว า ชือ่ กฎหมาย
“พระราชบญั ญตั ิอาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒”
* แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติอาคารชุด ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๔),
ฉบับท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๒) และ ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๑)
๒๘๐
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเมื่อ วันใชบงั คับ
พนกําหนดหน่ึงรอยแปดสิบวันนับแตวันประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษาเปนตน ไป๑
มาตรา ๓ บรรดาบทกฎหมาย กฎ หรือขอบังคับ การบังคบั ใช
อื่นในสวนที่มีบัญญัติไวแลวในพระราชบัญญัตินี้ หรือ
ซึ่งขัดหรือแยงกับบทแหงพระราชบัญญัตินี้ ใหใช
พระราชบญั ญัตินี้แทน
มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั นิ ้ี คํานยิ าม
“อาคารชุด” หมายความวา อาคารที่บุคคล “อาคารชดุ ”
สามารถแยกการถือกรรมสิทธ์ิออกไดเปนสวนๆ โดย
แตละสว นประกอบดว ยกรรมสิทธิ์ในทรัพยสวนบุคคล
และกรรมสิทธิร์ วมในทรัพยสวนกลาง
“ทรัพยส วนบคุ คล” หมายความวา หองชุด และ “ทรพั ยสวน
หมายความรวมถงึ สิ่งปลูกสรา ง หรือทีด่ ินทจี่ ดั ไวใหเปน บุคคล”
ของเจาของหอ งชุดแตละราย
“หองชุด” หมายความวา สวนของอาคารชุดท่ี “หองชดุ ”
แยกการถือกรรมสิทธอ์ิ อกไดเปนสวนเฉพาะของแตละ
บุคคล
“ทรัพยสวนกลาง” หมายความวา สวนของ “ทรัพย
อาคารชุดที่มิใชหองชุด ที่ดินที่ต้ังอาคารชุด และท่ีดิน สว นกลาง”
๑ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม ๙๖ ตอนท่ี ๖๗ วันที่ ๓๐ เมษายน
๒๕๒๒
๒๘๑
หรือทรัพยสินอื่นท่ีมีไวเพ่ือใชหรือเพ่ือประโยชน
รว มกนั สําหรบั เจาของรว ม
“หนังสือกรรมสิทธิ์หองชุด” หมายความวา “หนงั สือ
หนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพยสวนบุคคล กรรมสทิ ธหิ์ อง
ชุด”
และกรรมสทิ ธิ์รวมในทรัพยสว นกลาง
“เจาของรวม” หมายความวา เจาของหองชุด “เจา ของรว ม”
ในอาคารชดุ แตล ะอาคารชดุ
“นิตบิ คุ คลอาคารชุด” หมายความวา นติ ิบุคคล “นิติบคุ คลอาคาร
ที่ไดจดทะเบียนตามพระราชบัญญตั ิน้ี ชุด”
“ขอบังคับ” หมายความวา ขอบังคับของนิติ “ขอบังคับ”
บคุ คลอาคารชดุ
“การประชุมใหญ”๒ หมายความวา การประชุม “การประชุม
ใหญสามัญหรือการประชุมใหญวิสามัญของเจาของ ใหญ”
รว ม แลวแตก รณี
“คณะกรรมการ”๓ หมายความวา คณะกรรมการ “คณะกรรมการ”
นิตบิ คุ คลอาคารชุด
“กรรมการ”๔ หมายความวา กรรมการนิติ “กรรมการ”
บคุ คลอาคารชุด
๒แกไ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิอาคารชดุ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓ แกไขเพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๔ แกไ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั อิ าคารชุด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๘๒
“ผูจัดการ”๕ หมายความวา ผูจัดการนิติบุคคล “ผจู ัดการ”
อาคารชดุ
“พนักงานเจาหนาที่” หมายความวา ผูซึ่ง “พนักงาน
รฐั มนตรแี ตงตง้ั ใหปฏบิ ตั ิการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ เจาหนาที่”
“รัฐมนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษา “รัฐมนตรี”
การตามพระราชบัญญัตนิ ้ี
มาตรา ๕ ใหร ฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ผูร กั ษาการ
รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ีและใหมีอํานาจแตงต้ัง กฎหมายและ
พนักงานเจาหนาที่ ออกกฎกระทรวงกําหนด อํานาจ
ค า ธ ร ร ม เ นี ย ม แ ล ะ ค า ใ ช จ า ย ไ ม เ กิ น อั ต ร า ท า ย
พระราชบัญญัติน้ี และกําหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญตั นิ ี้
กฎกระทรวงน้ัน เม่ือไดประกาศในราชกิจจา กฎกระทรวง
นุเบกษาแลว ใหใ ชบังคับได
หมวด ๑
การจดทะเบียนอาคารชดุ
มาตรา ๖๖ ผูมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดินและอาคาร การย่ืนคาํ ขอและ
ใดประสงคจะจดทะเบียนท่ีดิน และอาคารน้ันใหเปน หลักฐาน
อาคารชุดตามพระราชบัญญัตินี้ ใหย่ืนคําขอจดทะเบียน
๕ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติอาคารชุด (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖ แกไ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิอาคารชุด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๘๓
อาคารชุดตอพนักงานเจาหนาท่ีพรอมหลักฐานและ
รายละเอียด ดงั ตอไปน้ี
(๑) โฉนดที่ดนิ
(๒) แผนผังอาคารชุด รวมทั้งเสนทางเขาออก
สูทางสาธารณะ
(๓) รายละเอียดเก่ียวกับหองชุด ทรัพยสวน
บุคคล และทรัพยสวนกลาง ไดแก จํานวนพ้ืนที่
ลักษณะการใชประโยชนและอ่ืนๆ ตามท่ีรัฐมนตรี
ประกาศกาํ หนด
(๔) อัตราสวนที่เจาของหองชุดแตละหองชุด
มกี รรมสิทธิใ์ นทรพั ยส วนกลางตามมาตรา ๑๔
(๕) คํารับรองของผูย่ืนคําขอวาอาคารที่ขอจด
ทะเบยี นอาคารชุดนัน้ ปราศจากภาระผกู พนั ใดๆ เวนแต
การจํานองอาคารรวมกับทดี่ ิน
(๖) รางขอบังคบั ของนิตบิ ุคคลอาคารชุด
(๗) หลักฐานอน่ื ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง๗
มาตรา ๖/๑๘ ในกรณีท่ีผูมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การโฆษณาขาย
และอาคารตามมาตรา ๖ ทําการโฆษณาขายหองชุดใน
๗ กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการจดทะเบียน
อาคารชุด การออกหนังสือกรรมสิทธ์ิหองชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด
พ.ศ. ๒๕๕๓
๘ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิอาคารชดุ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๘๔
อาคารชุด ตองเก็บสําเนาขอความหรือภาพท่ีโฆษณา
หรือหนังสือชักชวนที่นําออกโฆษณาแกบุคคลท่ัวไป การเก็บรักษา
ไมวาจะทําในรูปแบบใดไวในสถานท่ีทําการจนกวาจะมี โฆษณา
การขายหอ งชุดหมด และตองสงสําเนาเอกสารดังกลาว
ใหน ิตบิ ุคคลอาคารชุดจดั เก็บไวอยา งนอยหนง่ึ ชุด
การโฆษณาขายหองชุดในอาคารชุดในสวนที่ รายละเอียด
เก่ยี วกับหลกั ฐานและรายละเอียดท่กี ําหนดไวในมาตรา โฆษณา
๖ ขอความหรือภาพที่โฆษณาจะตองตรงกับหลักฐาน
และรายละเอียดที่ยื่นพรอมคําขอจดทะเบียน และตอง
ระบุรายละเอียดเก่ียวกับทรัพยสวนกลางนอกจากท่ี
บญั ญตั ไิ วในมาตรา ๑๕ ใหช ัดเจน
ใหถือวาขอความหรือภาพที่โฆษณา หรือ โฆษณาเปน
หนังสือชักชวนเปนสวนหนึ่งของสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาจะซ้ือจะ
หรือสัญญาซื้อขายหองชุด แลวแตกรณี หากขอความ ขาย
หรือภาพใดมีความหมายขัดหรือแยงกับขอความใน
สัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญาซ้ือขายหองชุด ให
ตีความไปในทางที่เปน คุณแกผูจะซื้อหรือผูซอื้ หอ งชุด
มาตรา ๖/๒๙ สัญญาจะซ้ือจะขายหรือสัญญา แบบสญั ญาจะซ้อื
ซื้อขายหองชุดระหวางผูมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดินและ จะขาย
อาคารตามมาตรา ๖ กบั ผจู ะซื้อหรือผซู ้ือหองชุดตองทํา
๙ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิอาคารชุด (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๘๕
ตามแบบสญั ญาท่ีรฐั มนตรปี ระกาศกาํ หนด๑๐
สัญญาจะซ้ือจะขายหรือสัญญาซื้อขายหองชุด กรณีสัญญาไม
ตามวรรคหนึ่งสวนใด มิไดทําตามแบบสัญญาท่ี ตรงแบบ
รัฐมนตรีประกาศกําหนดและไมเปนคุณตอผูจะซื้อ
หรอื ผูซอ้ื หอ งชุด สัญญาสวนนนั้ ไมม ีผลใชบังคับ
มาตรา ๗ เม่ือพนักงานเจาหนาที่ไดรับคําขอ กรณมี ีหนี้ผูกพัน
จดทะเบียนอาคารชุดตามมาตรา ๖ แลว ถามีรายชื่อ อยู
เจาหน้ีจํานองหรือเจาหน้ีซึ่งมีบุริมสิทธิเหนือท่ีดินและ
อาคารที่ขอจดทะเบียนน้ันปรากฏอยูในโฉนดท่ีดิน ให
พนักงานเจาหนาที่ประกาศคําขอนั้นพรอมกับมี
หนังสือแจงไปยังเจาหน้ีดังกลาวใหมาแจงแกพนักงาน
เจาหนาท่ี พรอมทั้งแสดงหลักฐานภายในสามสิบวัน
นับแตว ันไดรับหนงั สอื แจง
วรรคสอง (ยกเลกิ )๑๑
เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีพิจารณาเห็นวาเปนการ หลกั เกณฑก ารรับ
ถูกตองและที่ดินนั้นปราศจากภาระผูกพันใดๆ หรือใน จดอาคารชดุ
กรณีที่ที่ดินน้ันติดการจํานองแตผูรับจํานองยินยอมให
จดทะเบียนอาคารชุด ใหพนักงานเจาหนาที่รับจด
๑๐ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กําหนดแบบสัญญาจะซ้ือจะขาย
และสัญญาซ้ือขายหองชุด ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๑
กรกฎาคม ๒๕๕๑
๑๑ ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั อิ าคารชุด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๘๖
ทะเบียนอาคารชุดได แตในกรณีท่ีอาคารติดการจํานอง
โดยไมค รอบถึงทด่ี ิน หา มมิใหร ับจดทะเบยี นอาคารชดุ
ในกรณีท่ีพนักงานเจาหนาที่เห็นวาการขอจด กรณีสั่งไมรบั จด
ทะเบียนอาคารชุดดังกลาวไมถูกตอง ใหพนักงาน ทะเบียน
เจาหนาที่มีคําสั่งไมรับจดทะเบียนอาคารชุดและมี
หนังสือแจงไปยังผูย่ืนคําขอพรอมดวยเหตุผลโดยไม
ชักชา
การจดทะเบยี นอาคารชดุ ใหพ นกั งานเจาหนาท่ี
ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
มาตรา ๘ การขอจดทะเบียนตามมาตรา ๖ หลักเกณฑข อจด
การประกาศ การแจงเจาหนี้และการจดทะเบียนตาม และการจด
มาตรา ๗ ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และ ทะเบยี น
เงือ่ นไขท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง๑๒
มาตรา ๙ เม่ือพนักงานเจาหนาท่ีรับจด การจดแจง โฉนด
ทะเบียนอาคารชุดแลว ใหพนักงานเจาหนาท่ีสงโฉนด ทด่ี ินทีข่ อจด
ที่ดินที่ยื่นมาตามมาตรา ๖ ไปยังเจาพนักงานที่ดิน อาคารชุด
ทองท่ีท่ีอาคารชุดน้ันต้ังอยูภายในสิบหาวันเพื่อใหจด
แจงในสารบัญสําหรับจดทะเบียนของโฉนดท่ีดินวา
ท่ีดินน้ันอยูภายใตบังคับแหงพระราชบัญญัติน้ีและให
๑๒ กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการจดทะเบียน
อาคารชุด การออกหนังสือกรรมสิทธิ์หองชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด
พ.ศ. ๒๕๕๓