The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมกฎหมาย ที่ดิน-จัดสรร-อาคารชุด (ฉบับใช้งานปัจจุบัน) (ปี 2558)

สำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

๑๘๘

๑๘๙

๑๙๐

๑๙๑

๑๙๒

๑๙๓

๑๙๔

กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)*
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใช

ประมวลกฎหมายท่ดี ิน
พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง

พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.

๒๔๙๗ และมาตรา ๑๐๓ วรรคหนึ่ง แหงประมวล

กฎหมายท่ีดิน ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ

แกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.

๒๕๒๑ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก

กฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ ใหยกเลกิ ยกเลกิ ของเดิม

* หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๘ (พ.ศ. ๒๕๔๒),
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๐ (พ.ศ. ๒๕๔๘), กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕๑ (พ.ศ. ๒๕๔๙),
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙), กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕๔ (พ.ศ. ๒๕๕๓)
และ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๙๖

(๑) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒)

ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล

กฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗

(๒) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๗ (พ.ศ. ๒๕๓๒)

ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล

กฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗

(๓) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ (พ.ศ. ๒๕๓๔)

ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล

กฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗

(๔) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๖ (พ.ศ. ๒๕๔๐)

ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล

กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗

ขอ ๒ ใหเรยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี มดังน้ี คาธรรมเนียม

(๑) คาธรรมเนียมในการขอสัมปทาน รายละ - สัมปทาน

๕๐๐ บาท

(๒) คาสมั ปทานตอ ป ไรละ ๒๐ บาท เศษของ

ไรใหค ดิ เปน หน่งึ ไร

(๓) คาธรรมเนียมออกหนังสือรับรองการทาํ - หนังสือรบั รอง

ประโยชน การทําประโยชน

(ก) ทดี่ นิ เนอ้ื ท่ีไมเ กนิ ๒๐ ไร แปลงละ ๓๐ บาท

(ข) ท่ดี นิ เน้อื ท่ีเกนิ ๒๐ ไร สวนท่เี กนิ ไรล ะ ๒

บาท เศษของไรใ หค ดิ เปน หนงึ่ ไร

(๔) คาธรรมเนียมการพิสูจนสอบสวนหรือ - คาพสิ ูจน

๑๙๗

ตรวจสอบเนื้อท่เี กย่ี วกับหนงั สือรบั รองการทําประโยชน สอบสวน/

(ก) ถาเรยี กเปน รายแปลง แปลงละ ๓๐ บาท ตรวจสอบเนื้อท่ี

(ข) ถา เรียกเปน รายวนั วนั ละ ๓๐ บาท

(ค) คาคัดหรือจาํ ลองแผนที่ แปลงละ ๓๐ บาท

(ง) คา จํานวนเนอ้ื ทีห่ รอื สอบแส แปลงละ ๓๐ บาท

(จ) คา จบั ระยะ แปลงละ ๑๐ บาท

(๕) คาธรรมเนียมออกโฉนดทดี่ นิ - โฉนดทดี่ ิน

(ก) ทดี่ นิ เน้ือท่ไี มเ กิน ๒๐ ไร แปลงละ ๕๐ บาท

(ข) ที่ดินเน้อื ทเ่ี กนิ ๒๐ ไร สวนทเ่ี กนิ ไรล ะ

๒ บาท เศษของไรใหคดิ เปน หนึ่งไร

(๖) คาธรรมเนยี มรงั วัดเก่ยี วกบั โฉนดที่ดิน - คา รังวัดโฉนด

(ก) ถาเรยี กเปน รายแปลง แปลงละ ๔๐ บาท

(ข) ถาเรียกเปน รายวนั วนั ละ ๔๐ บาท

(ค) คา คัดหรือจําลองแผนที่ แปลงละ ๓๐ บาท

(ง) คา คํานวณเนื้อท่ีหรอื สอบแส แปลงละ ๓๐ บาท

(จ) คาจบั ระยะ แปลงละ ๑๐ บาท

(๗) คาธรรมเนยี มจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม - คาธรรมเนียม

(ก) คาจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมีทุนทรัพย จดทะเบียนฯ

เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยตามท่ีคณะกรรมการ - มที ุนทรพั ย

กําหนดราคาประเมนิ ทุนทรพั ยก ําหนด รอ ยละ ๒

(ข) คาจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย เฉพาะ - คาโอนกรณี

ในกรณีท่ีองคการบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย หรือ องคกรพเิ ศษ

บริษัทจํากัดท่ีสถาบันการเงินตามพระราชกฤษฎีกา

๑๙๘

จัดตั้งองคการบริหารสินเช่ืออสังหาริมทรัพย พ.ศ.
๒๕๔๐ จัดต้ังขึ้นเพื่อดําเนินการบริหารสินเชื่อ
อสังหาริมทรัพยโดยความเห็นชอบของธนาคารแหง
ประเทศไทย เปนผูรับโอนหรือโอนคืน หรือกรณีท่ี
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพยท่ีไดรับความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการ ก.ล.ต. เปนผูรับโอน ใหเรียกตามราคา
ประเมินทุนทรัพยตามที่คณะกรรมการกําหนดราคา
ประเมินทุนทรัพยกําหนด รอยละ ๐.๐๑ แตอยางสูงไม
เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ข/๑) คาจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย - คา โอนกองทุน
เฉพาะในกรณีที่กองทุนรวมโครงสรางพื้นฐานท่ีจัดตั้ง พิเศษ
ขึ้นตามกฎหมายวา ดว ยหลกั ทรัพยและตลาดหลักทรัพย
เปนผูรับโอนหรือผูโอนอสังหาริมทรัพย ท้ังน้ี โดยมี
สัญญาการรับโอนอสังหาริมทรัพยนั้นกลับคืนจาก
กองทุนรวมโครงสรางพ้ืนฐานหรือมีสัญญาการโอน
อสังหาริมทรัพยนั้นตอใหสวนราชการหรือองคการ
ของรัฐบาลตามประมวลรัษฎากร ใหเรียกตามราคา
ประเมินทุนทรัพยตามที่คณะกรรมการกําหนดราคา
ประเมินทุนทรัพยกําหนด รอยละ ๐.๐๑ แตอยางสูง
ไมเ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ความในขอ ๒ (๗)(ข/๑) เพม่ิ เติมโดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖) ออกตามความในพระราชบญั ญัติ
ใหใชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

๑๙๙

(ค) คาจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย เฉพาะ - คาโอนกรณี

ในกรณีท่ีมูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิสงเสริมศิลปาชีพใน มลู นิธพิ เิ ศษ

สมเด็จพระนางเจา สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มูลนิธิสาย

ใจไทยในพระบรมราชูปถัมภสภากาชาดไทยหรือ

มูลนิธิสงเคราะหเด็กของสภากาชาดไทยเปนผูรับโอน

หรือผูโอน เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยตามที่

คณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยกําหนด

รอยละ ๐.๐๐๑

(ความในขอ ๒ (๗)(ค) แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง

ฉบับที่ ๕๔ (พ.ศ. ๒๕๕๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ใหใ ชประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

(ง) คาจดทะเบียนโอนมรดกหรือให ท้ังน้ี - คาโอนมรดก/ให

เฉพาะในระหวางผูบุพการีกับผูสืบสันดาน หรือ ระหวา งบพุ การี
ระหวางคูสมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยตามท่ี กบั ผูส บื สันดาน
คณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยกําหนด หรือคูสมรส

รอยละ ๐.๕

(จ) คาจดทะเบียนเฉพาะในกรณีท่ีวัดวาอาราม - กรณวี ัด/วดั

วัดบาดหลวงโรมันคาธอลิค หรือมัสยิดอิสลามเปน บาทหลวงโรมนั

ผูรับให เพื่อใชเปนที่ตั้งศาสนสถาน ท้ังน้ี ในสวนที่ คาธอลิคฯ และ
ไดมารวมกับที่ดินที่มีอยูกอนแลวไมเกิน ๕๐ ไร เรียก มัสยิดอิสลาม
ใชเ ปนที่ตั้ง
ตามราคาประเมินทุนทรัพยตามที่คณะกรรมการ ศาสนสถาน
กาํ หนดราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยกําหนด รอ ยละ ๐.๐๑

(ฉ) คาจดทะเบียนการจํานองหรือบุริมสิทธิ - จํานอง/

๒๐๐

รอยละ ๑ แตอยา งสูงไมเกนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท บุริมสิทธทิ วั่ ไป

(ช) คาจดทะเบียนการจํานองหรือบุริมสิทธิ - จาํ นอง/

สําหรับการใหสินเชื่อเพ่ือการเกษตรของสถาบัน บุริมสทิ ธสิ ําหรับ
การเงินท่ีรัฐมนตรีกําหนด รอยละ ๐.๕ แตอยางสูงไม สนิ เชอื่ เกษตร

เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ซ) คาจดทะเบียนการจํานองหรือบุริมสิทธิ - จาํ นอง/

เฉพาะในกรณีที่องคก ารบรหิ ารสนิ เชือ่ อสังหาริมทรัพย บุรมิ สิทธอิ งคก ร

หรือบริษัทจํากัดที่สถาบันการเงินตามพระราช การเงิน

กฤษฎีกาจัดต้ังองคการบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย

พ.ศ. ๒๕๔๐ จัดต้ังข้ึนเพื่อดําเนินการบริหารสินเช่ือ

อสังหาริมทรัพยโดยความเห็นชอบของธนาคารแหง

ประเทศไทย เปนผูขอจดทะเบียน รอยละ ๐.๐๑ แต

อยา งสงู ไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ซ/๑) คาจดทะเบยี นการจํานอง เฉพาะในกรณที ่ี - จํานองกรณี

กองทุนรวมโครงสรางพื้นฐานท่ีจัดต้ังขึ้นตามกฎหมาย กองทุนรวมฯ

วาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยเปนผูขอจด

ทะเบยี น รอยละ ๐.๐๑ แตอ ยางสูงไมเกนิ ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ความในขอ ๒ (๗)(ซ/๑) เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง

ฉบับท่ี ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗)

(ฌ) คาจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานอง - โอนสิทธกิ ารรับ

เฉพาะในกรณีท่ีสถาบันการเงินรับโอนสิทธิเรียกรอง จํานองเฉพาะ

จากการขายทรัพยสินเพ่ือชําระบัญชีของบริษัทท่ีถูก กรณี

๒๐๑

ระงับการดําเนินกิจการตามมาตรา ๓๐ แหงพระราช
กําหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๐
เปนผูขอจดทะเบียน รอยละ ๐.๐๑ แตอยางสูงไมเกิน
๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ญ) คาจดทะเบียนการจํานอง สําหรับการให - จาํ นองฟน ฟูจาก
สินเชื่อเพื่อฟนฟูความเสียหายจากอุทกภัย อัคคีภัย ภัยพิบัติ
วาตภัย หรือมหันตภัยอื่น ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑท่ี
รฐั มนตรกี ําหนด รอ ยละ ๐.๐๑

(ฎ) คาจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย และคา - โอน/จาํ นองตาม
จดทะเบียนการจํานองเฉพาะในกรณีท่ีคณะรัฐมนตรีมี มติ ครม.
มติใหลดหยอนคาธรรมเนียมเปนพิเศษเพ่ือประโยชน
สาธารณะ หรือความม่ันคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
ท้ังน้ี ตามหลกั เกณฑที่คณะรฐั มนตรกี าํ หนด รอยละ ๐.๐๑

(ฎ/๑) คาจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย - โอนกรณี
เฉพาะในกรณีท่ีธนาคารอิสลามแหงประเทศไทยโอน ธนาคารอสิ ลาม
อสังหาริมทรัพยใหแกผูรับโอน เนื่องจากการใหเชาซื้อ
อสังหาริมทรัพยของธนาคารอิสลามแหงประเทศไทย
ใหเรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยตามท่ีคณะกรรมการ
กาํ หนดราคาประเมินทนุ ทรพั ยกาํ หนด รอยละ ๑

(ความในขอ ๒(๗)(ฎ/๑) เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๑ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห
ใชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

(ฏ) คาจดทะเบียนทรัพยสิทธิที่มีคาตอบแทน - ทรพั ยสิทธมิ ี

๒๐๒

ยกเวนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมท่ีมีทุนทรัพย คา ตอบแทนอื่น ๆ

ตาม (ก) (ข) (ข/๑) (ค) (ง) (จ) (ฎ) และ (ฎ/๑) รอ ยละ ๑

(ความในขอ ๒ (๗)(ฏ) แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง

ฉบับท่ี ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗)

(ฐ) คาจดทะเบยี นการเชา รอ ยละ ๑ - เชา

(ฐ/๑) คา จดทะเบียนการเชา เฉพาะในกรณที ่ี

กองทุนรวมโครงสรา งพืน้ ฐานทจี่ ดั ต้ังข้ึนตามกฎหมาย

วาดว ยหลักทรัพยและตลาดหลกั ทรัพยเ ปน ผเู ชา ผเู ชา

ชว ง ผใู หเ ชา หรือผูใหเ ชาชว ง รอยละ ๐.๐๑ แตอยา ง

สงู ไมเ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

(ความในขอ ๒ (๗)(ฐ/๑) เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง

ฉบับท่ี ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗)

(ฑ) คา จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมไมม ที ุน - กรณไี มม ี

ทรพั ย แปลงละ ๕๐ บาท ทุนทรัพย

(๘) คาธรรมเนยี มการขอใหไ ดม าซ่งึ ทด่ี ินของ - ตางดา วขอไดมา

คนตา งดา ว รายละ ๕๐๐ บาท ซงึ่ ทด่ี ิน

คาอนุญาต ไรละ ๑๐๐ บาท เศษของไรใ หคิด

เปน หนึ่งไร

(๙) คาธรรมเนียมการขอใหไดมาซ่ึงที่ดินเพ่ือ - ขอคาท่ดี ิน

การคา ทีด่ ิน รายละ ๕๐๐ บาท

คาอนุญาต ไรละ ๒๐ บาท เศษของไรใหคิด

เปนหนึ่งไร

๒๐๓

(๑๐) คา ธรรมเนยี มเบ็ดเตลด็ คาธรรมเนียม

เบด็ เตล็ด

(ก) คาคําขอ แปลงละ ๕ บาท - คา คาํ ขอ

(ข) คาคัดสําเนาเอกสารตาง ๆ รวมท้ังคาคัด - คาคัดสําเนา

สําเนาเอกสารเปนพยานในคดีแพงโดยเจาหนาท่ีเปนผู

คัด รอยคําแรกหรือไมถึงรอยคํา ๑๐ บาท รอยคําตอไป

รอ ยละ ๕ บาท เศษของรอ ยใหคิดเปน หนึ่งรอย

(ค) คารบั รองเอกสารที่คดั ฉบบั ละ ๑๐ บาท - คา รับรอง

(ง) คาตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน แปลงละ - คา ตรวจ

๑๐ บาท

(จ) คารับอายดั ทีด่ ิน แปลงละ ๑๐ บาท - อายดั

(ฉ) คามอบอาํ นาจ เรื่องละ ๒๐ บาท - มอบอาํ นาจ

(ช) คาออกใบแทนโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ - ใบแทน

แสดงสทิ ธิในทีด่ นิ อยา งอ่ืน ฉบับละ ๕๐ บาท

(ซ) คา ประกาศ แปลงละ ๑๐ บาท - คาประกาศ

(ฌ) คา หลักเขตทดี่ ิน หลกั ละ ๑๕ บาท - คาหลักเขต

ถาเปนการเดินสํารวจหรือสอบเขตท้ังตําบล

สําหรับกรณีออกโฉนดคิดเปนรายแปลง แปลงละ ๖๐

บาท

(ญ) คาตรวจสอบขอมูลดานงานรังวัดดาน - คา ตรวจขอมูล

ทะเบียนท่ีดิน ดานประเมินราคาหรือขอมูลอื่น ครั้งละ

๑๐๐ บาท

(ฎ) คาสาํ เนาจากสอ่ื บันทึกขอมลู ทางคอมพิวเตอร - คาสําเนาจากส่ือ

๒๐๔

หรอื สื่ออิเล็กทรอนิกสอ่นื หรือสําเนาขอ มูลอ่ืน แผนละ อเิ ล็กทรอนิกส

๕๐ บาท”

(ความในขอ ๒ (๑๐) แกไขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง

ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ

ใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๓ ราคาประเมินทุนทรัพยเพื่อเรียกเก็บ - ราคาประเมิน

คาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือราคา เศษตํ่ากวา ๑๐๐
ทุนทรัพยท่ีผูขอจดทะเบียนแสดงในการขอจดทะเบียน ปด เปน ๑๐๐

สิทธิและนิติกรรมตามขอ ๒ (๗) ถามีเศษตํ่ากวาหน่ึง

รอ ยบาทใหค ิดเปน หนึง่ รอ ยบาท

การเรียกเก็บคาธรรมเนียมตามขอ ๒ เศษของ - คาธรรมเนียม

หน่ึงบาทใหคดิ เปน หนึง่ บาท เศษต่ํากวาบาท
คิดเปน ๑ บาท

“ขอ ๔ คาใชจาย

(๑) คาพาหนะเดินทาง ใหแกเจาพนักงาน -คาพาหนะ

พนักงานเจาหนาที่และคนงานท่ีจางไปทําการรังวัด

เ ก่ี ย ว กั บ โ ฉ น ด ท่ี ดิ น ห รื อ พิ สู จ น ส อ บ ส ว น ห รื อ

ต ร ว จ ส อ บ เ นื้ อ ที่ เ ก่ี ย ว กั บ ห นั ง สื อ รั บ ร อ ง ก า ร ทํ า

ประโยชนต ามคําขอ

ใหจายในลักษณะเหมาะจายตามระเบียบกระทรวง

มหาดไทยดวยความเหน็ ชอบของกระทรวง การคลัง

(๒) คาเบี้ยเลี้ยง ใหแกเจาพนักงาน พนักงาน -เบยี้ เล้ยี ง

เจาหนาทแ่ี ละคาจา งคนงานทจ่ี างไปทําการังวัดเกี่ยวกับ

๒๐๕

โฉนดที่ดินหรือพิสูจนสอบสวนหรือตรวจสอบเนื้อท่ี

เกย่ี วกับหนังสอื รับรองทาํ ประโยชนตามคําขอ

ใหจายในลักษณะเหมาะจายตามระเบียบกระทรวง

มหาดไทย ดวยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั

(๓) คาปวยการ ใหแกเจาพนักงานผูปกครอง - คาปวยการ

ทองท่ีหรือผูแทนท่ีไปในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดท่ีดิน

หรือพิสูจนสอบสวนหรือตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกับ

หนังสอื รบั รองการทําประโยชนคนหนง่ึ วนั ละ ๕๐ บาท

(๔) คาใชจายอ่ืน ๆ ในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนด - คา ใชจายอน่ื ๆ

ท่ีดิน หรือพสิ จู นส อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่เกี่ยวกับ

หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน

ใหจายในลักษณะเหมาะจายตามระเบียบกระทรวง

มหาดไทย ดว ยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั

(๕) คาปด ประกาศ ใหแ กผ ูปด ประกาศ แปลงละ - คา ปดประกาศ

๑๐ บาท

(๖) คา พยาน ใหแ กพ ยาน คนละ ๑๐ บาท - คา พยาน

(ความในขอ ๔ แกไขเพม่ิ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่

๔๘ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ช

ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

ใหไว ณ วนั ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

วัฒนา อศั วเหม

รัฐมนตรชี ว ยวา การฯ ปฏิบัตริ าชการแทน

รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

๒๐๖

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยท่ี
รัฐบาลมีนโยบายปรับลดคาธรรมเนียมการจํานองอสังหาริมทรัพยเพ่ือ
สนับสนุนการขายทอดตลาดทรัพยสินขององคการเพื่อการปฏิรูประบบ
สถาบันการเงินใหไดรับความสนใจมากย่ิงขึ้น อันจะมีผลทําใหราคา
ประมูลซ้อื ดีขึ้น นอกจากนเ้ี พอ่ื กําหนดคาธรรมเนียมการจดทะเบียนจํานอง
เพื่อประกันการกูยืมเงินเพ่ือฟนฟูความเสียหายอันเกิดจาก อุทกภัย อัคคีภัย
หรือมหันตภัยอื่น การจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยในกรณีท่ีองคการ
บริหารสินเช่ืออสังหาริมทรัพยหรือบริษัทจํากัดท่ีสถาบันการเงินตามพระ
ราชกฤษฎีกาจัดตั้งองคการบริหารสินเช่ืออสังหาริมทรัพย พ.ศ. ๒๕๔๐
จัดต้ังขึ้นเพื่อดําเนินการบริหารสินเช่ือ อสังหาริมทรัพยโดยความเห็นของ
ธนาคารแหงประเทศไทยเปนผูโอนคนื ใหแ กผูโอน การจดทะเบยี นยกทด่ี นิ
ใหแกศาสนสถานของศาสนาตาง ๆ และการจดทะเบียนทรัพยสิทธิท่ีมี
คาตอบแทน การกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยคาจดทะเบียนการจํานอง
หรือบุริมสิทธิท่ีจดทะเบียน คาจดทะเบียนทรัพยสิทธิที่มีคาตอบแทน และ
คาจดทะเบียนการเชา และการกําหนดคาธรรมเนียมสําหรับกรณีท่ีคระ
รัฐมนตรีมีมติใหลดหยอนคาธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เปนพิเศษเพ่ือประโยชนสาธารณะหรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของ
ประชาชน ประกอบกับกฎกระทรวงวาดวยอัตราคาธรรมเนียม ออกตาม
ความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ไดใช
บังคับมาต้ังแต พ.ศ. ๒๕๒๒ และไดมีการแกเพ่ิมเติมหลายคร้ัง สมควร
ปรับปรุงเปนฉบับเดียวกันเพ่ือประโยชนในการตรวจสอบและอางอิงของ
พนกั งานเจา หนา ทแ่ี ละประชาชนทั่วไป จงึ จําเปน ตองออกกฎกระทรวงนี้

(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๑๕ ตอนที่ ๗๖ ก ลงวันท่ี ๒๖ ตลุ าคม ๒๕๔๑)

กฎกระทรวง
กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงือ่ นไข
การไดมาซงึ่ ทดี่ นิ เพื่อใชเ ปน ที่อยอู าศัยของคนตางดา ว

พ.ศ. ๒๕๔๕

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
และมาตรา ๙๖ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่ง
แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ แกไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒ อัน
เปน พระราชบัญญัตทิ ี่มีบทบัญญตั ิ บางประการเก่ียวกับ
การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐
ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติให
กระทําไดโดยอาศัย อํานาจตามบทบัญญัติแหง
กฎหมาย รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก
กฎกระทรวงไว ดงั ตอ ไปนี้

ขอ ๑ คนตางดาวซ่ึงประสงคจะไดมาซ่ึงที่ดิน คนตา งดา วนําเงิน
เพื่อใชเปนที่อยูอาศัยโดยไมตองอาศัย บทสนธิสัญญา มาลงทนุ
ซ่ึงบัญญัติใหมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย ตองนํา

๒๐๘

เงนิ มาลงทุนในธรุ กจิ หรอื กิจการ ประเภทหนึ่งประเภทใด

ดังตอ ไปน้ี

๑. การซ้ือพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตร - ซือ้ พันธบตั ร

ธนาคารแหงประเทศไทย พันธบัตร รัฐวิสาหกิจ หรือ

พันธบัตรท่ีกระทรวงการคลังค้ําประกันตนเงินหรือ

ดอกเบ้ยี

๒. การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย - กองทุนรวมฯ

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพยเพื่อแกไข ปญหาในระบบ

สถาบันการเงิน หรือกองทุนรวมเพ่ือแกไขปญหาใน

ระบบสถาบันการเงิน ท่ีจัดต้ังขึ้นตาม กฎหมายวาดวย

หลกั ทรพั ยแ ละตลาดหลักทรพั ย

๓. การลงทุนในทุนเรือนหุนของนิติบุคคลที่ - นิติบคุ คลไดร ับ

ไดรับการสงเสริมการลงทุนตามกฎหมาย วาดวยการ BIO

สงเสริมการลงทุน

๔. การลงทนุ ในกิจการท่ีคณะกรรมการสงเสริม - ลงทุนกิจการ

การลงทุนไดประกาศใหเปนกิจการ ที่สามารถขอรับ ตามประกาศ

การสงเสริมการลงทุนไดตามกฎหมายวาดวยการ

สง เสรมิ การลงทุน

จํานวนเงินที่ลงทุนในธุรกิจหรือกิจการตาม ไมต าํ่ กวา ๔๐ ลา น

วรรคหนึ่ง ตองมีจํานวนไมตํ่ากวาสี่สิบ ลานบาท และ ดาํ รงทุนไมนอ ย

ตอ งดาํ รงการลงทนุ ไวไ มนอยกวา หา ป กวา ๕ ป

ขอ ๒ ที่ดินท่ีคนตางดาวจะไดมาตามขอ ๑ ตอง เขตท่ีซื้อได

อยูภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมอื งพัทยา หรือเขต

๒๐๙

เทศบาล หรืออยูภายในบริเวณที่กําหนดเปนเขตท่ีอยู
อาศัยตามกฎหมายวาดวย การผังเมือง และตองอยูนอก
เขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมายวาดวยเขต
ปลอดภยั ใน ราชการทหาร

ขอ ๓ การขออนุญาตใหไดมาซ่ึงที่ดินตามขอ ๑ แบบคําขอ
ใหยื่นคําขอตามแบบ ต. ๔ ทายกฎกระทรวงนี้ตอ
พนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ พรอมท้ังเอกสาร
หลกั ฐานตามที่กําหนดใน แบบ ต. ๔

ขอ ๔ เม่ือพนักงานเจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑ ได การดําเนินการ
รับคําขอพรอมทั้งเอกสารหลักฐาน ตามขอ ๒ และ ของสํานักงาน
ตรวจสอบเอกสารหลักฐานดังกลาวแลว เห็นวาเปน ทีด่ ินและ
เอกสารท่ีถูกตอง และผูขออนุญาต เปนคนตางดาวซึ่ง กรมทีด่ นิ
อยูในหลักเกณฑท่ีจะไดมาซึ่งที่ดินตามขอ ๑ ได ใหสง
เอกสารหลักฐานท่ีเกี่ยวของ ไปยังอธิบดีเพื่อพิจารณา
เสนอรัฐมนตรตี อไป

ขอ ๕ เม่ือรัฐมนตรีพิจารณาแลวมีคําสั่งเปน การแจง ผล
ประการใด ใหพนักงานเจาหนาที่ตาม มาตรา ๗๑ แจง
ผลการพิจารณาเปนหนังสือใหผูขออนุญาตทราบ โดย
สง ไปยังทอี่ ยูในประเทศไทย ตามที่แจงไวใ นแบบ ต. ๔

ขอ ๖ ผูไดรับอนุญาตตองใชท่ีดินนั้นเพื่อเปนท่ี การใชที่ดนิ
อยูอาศัยสําหรับตนเองและ ครอบครัวโดยไมขัดตอ
ศีลธรรม จารีตประเพณี หรือวิถีชีวิตอันดีของชุมชนใน
ทอ งถ่นิ นัน้

๒๑๐

ขอ ๗ ผูไดรับอนุญาตตองแจงการใชท่ีดินน้ัน วนั เร่มิ ใช
เพื่อเปนท่ีอยูอาศัยใหพนักงานเจาหนาที่ ตามมาตรา
๗๑ ทราบภายในหกสิบวันนบั แตวนั ทเี่ รมิ่ ใชท ่ดี ินนั้น

ขอ ๘ เมื่อไดรับแจงเปนหนังสือจากพนักงาน การกํากบั ดแู ล
เจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ ผูไดรับ อนุญาตตองอํานวย การใช
ความสะดวกแกพนักงานเจาหนาที่ตามสมควรในการ
กํากับดูแลการใชท่ีดินน้ัน ใหเปนไปตามหลักเกณฑ
และเงอ่ื นไขทกี่ ฎหมายกําหนด

ขอ ๙ ถาผูไดรับอนุญาตถอนการลงทุนในธุรกิจ การขอถอนทนุ
หรอื กจิ การตามขอ ๑ กอ นครบ กําหนดเวลาการดํารงทุน กอ นครบเวลา
ตามขอ ๑ วรรคสอง ตองแจงเปนหนังสือใหพนักงาน
เจา หนา ท่ตี าม มาตรา ๗๑ ทราบภายในหกสิบวันนับแต
วันท่ถี อนการลงทุน

ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๕
(ลงช่อื ) สมบตั ิ อทุ ัยสาง
(นายสมบตั ิ อทุ ยั สาง)

รฐั มนตรีชวยวา การฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยที่มาตรา
๙๖ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
แกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติให
คนตางดา วซงึ่ นาํ เงนิ มาลงทนุ ตามจํานวนทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง ซง่ึ ตอง

๒๑๑

ไมตํา่ กวาส่สี ิบลา นบาท อาจไดมาซง่ึ ท่ีดินเพ่ือใชเปน ทีอ่ ยอู าศัยไดโดยไมต อ ง
อาศยั บทสนธิสัญญาซึ่งบัญญัติใหมีกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพย และการ
ไดมา ซ่ึงท่ีดินของคนตางดาวดังกลาวตองเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ
และเงอ่ื นไขท่ีกําหนดในกฎกระทรวง จึงจาํ เปน ตองออกกฎกระทรวงนี้

(ราชกจิ จานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เลม ๑๑๙ ตอนที่ ๗ ก วนั ท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๔๕)

๒๑๒

๒๑๓

๒๑๔

กฎกระทรวง
กําหนดหลักเกณฑและวิธกี ารในการสอบสวน
และการพิจารณาเพิกถอนหรอื แกไขการออก
โฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สือรับรองการทําประโยชน
การจดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรม หรอื การจดแจง
เอกสารรายการจดทะเบียนโดยคลาดเคลื่อน

หรอื ไมช อบดว ยกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๕๓

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
และมาตรา ๖๑ วรรคเกา แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ อัน
เปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการ
จํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ และ
มาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติ
แหงกฎหมาย รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก

๒๑๖

กฎกระทรวงไว ดงั ตอไปน้ี
ขอ ๑ ใหยกเลกิ กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ ยกเลิกกฎเดิม

และวิธีการในการต้ังคณะกรรมการสอบสวน การ
สอบสวน การแจงผูมีสวนไดเสียเพ่ือใหโอกาสคัดคาน
และการพจิ ารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน การจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจด
แจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยโดย
คลาดเคลื่อนหรอื ไมชอบดว ยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๔๔

หมวด ๑
การต้ังคณะกรรมการสอบสวนและการสอบสวน

ขอ ๒ เม่ือความปรากฏวาไดมีการออกโฉนดท่ีดิน ผูมอี ํานาจแตง ต้ัง
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนหรือจดทะเบียน คณะกรรมการฯ
สทิ ธิและนิตกิ รรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจด
แจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยใหแก
ผูใดโดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบดวยกฎหมาย ให
อธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรอง
อธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการ
สอบสวนขน้ึ คณะหนง่ึ ดังตอไปนี้

(๑) กรณีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ - กรณอี อกไมชอบ/
รับรองการทําประโยชนโดยคลาดเคลื่อนหรือไมชอบ คลาดเคลือ่ น
ดวยกฎหมาย

๒๑๗

(ก) สําหรับกรุงเทพมหานคร ประกอบดวย เจา - เขต กทม.
พนักงานท่ีดินกรุงเทพมหานครหรือเจาพนักงานที่ดิน
กรุงเทพมหานครสาขา หรือขาราชการสังกัดกรมท่ีดิน
ท่ีอธิบดีหรอื ผซู ึง่ อธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรอง
อธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดินเห็นสมควร เปน
ประธานกรรมการ ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร
ผูอํานวยการเขตซ่ึงที่ดินน้ันต้ังอยู และผูแทนสวน
ราชการอ่ืนที่เกี่ยวของตามท่ีเห็นสมควร เปนกรรมการ
และใหอ ธิบดหี รอื ผซู ่ึงอธบิ ดมี อบหมายซึ่งดํารงตาํ แหนง
รองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดินแตงตั้งขาราชการ
ซึง่ ดาํ รงตําแหนงประเภทท่ัวไปตั้งแตระดับชํานาญงาน
ขนึ้ ไปหรือขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงประเภทวิชาการ
ต้ังแตระดับชํานาญการข้ึนไปในสํานักงานที่ดิน
กรุงเทพมหานครหรือสํานักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร
สาขา เปน กรรมการและเลขานุการ

(ข) สําหรับจังหวัดอื่น ประกอบดวย เจา - จังหวดั อ่นื
พนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
สาขา หรือขาราชการสังกัดกรมท่ีดินท่ีอธิบดีหรือผูซ่ึง
อธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือ
ผูตรวจราชการกรมที่ดินเห็นสมควร เปนประธาน
กรรมการ นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนา
ประจาํ กิ่งอาํ เภอซึง่ ที่ดนิ นัน้ ตั้งอยู ตวั แทนคณะผูบรหิ าร
ทองถิ่นหรือผูบริหารทองถิ่นซึ่งที่ดินน้ันต้ังอยู และ

๒๑๘

ผูแทนสวนราชการอื่นท่ีเก่ียวของตามท่ีเห็นสมควร
เปนกรรมการ และใหอธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย
ซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรม
ที่ดินแตงตั้งขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงประเภททั่วไป
ต้ังแตระดับชํานาญงานข้ึนไปหรือขาราชการซึ่งดํารง
ตําแหนงประเภทวิชาการตั้งแตระดับชํานาญการขึ้นไป
ในสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินจังหวัด
สาขาเปน กรรมการและเลขานุการ

ในกรณีท่ีท่ีดินนั้นมีอาณาเขตติดตอ คาบเก่ียว กรณมี เี ขต
หรอื อยูในเขตทไ่ี ดจําแนกใหเ ปน เขตปา ไมถ าวรตามมติ คาบเกีย่ วปา
คณะรัฐมนตรี เขตปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยาน
แหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา หรือเขตหามลาสัตวปา
ใหแ ตง ตัง้ ผูแ ทนกรมพัฒนาท่ดี ิน ผแู ทนกรมปาไม หรือ
ผูแทนกรมอุทยานแหงชาติสัตวปา และพันธุพืช เปน
กรรมการดวย แลว แตก รณี

(๒) กรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม กรณจี ดทะเบียนฯ
เก่ียวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสาร
รายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยโดยคลาดเคลื่อน
หรือไมช อบดว ยกฎหมาย

(ก) สําหรับกรุงเทพมหานคร ประกอบดวย - เขต กทม.
เจาพนักงานที่ดนิ กรงุ เทพมหานครหรือเจา พนกั งานทด่ี นิ
กรุงเทพมหานครสาขา หรือขาราชการสังกัดกรมท่ีดิน
ท่อี ธบิ ดีหรอื ผซู งึ่ อธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรอง

๒๑๙

อธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดินเห็นสมควร เปน
ประธานกรรมการและใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย
ซง่ึ ดาํ รงตาํ แหนง รองอธบิ ดีหรอื ผูตรวจราชการกรมท่ีดิน
แตงต้ังขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงประเภททั่วไปตั้งแต
ระดับชํานาญงานขึ้นไปหรอื ขาราชการ ซ่ึงดํารงตําแหนง
ประเภทวิชาการต้ังแตระดับชํานาญการขึ้นไปใน
สํานักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร หรือสํานักงานที่ดิน
กรุงเทพมหานครสาขาจํานวนสองคน เปนกรรมการ
โดยใหกรรมการคนหนง่ึ เปน เลขานุการ

(ข) สําหรับจังหวัดอื่น ประกอบดวย เจา - จงั หวดั อ่นื
พนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
สาขา หรือขาราชการสังกัดกรมท่ีดินที่อธิบดีหรือผูซ่ึง
อธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือ
ผูตรวจราชการกรมที่ดินเห็นสมควร เปนประธาน
กรรมการ และใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่ง
ดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดิน
แตงต้ังขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงประเภทท่ัวไปตั้งแต
ระดับชํานาญงานข้ึนไปหรือขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนง
ประเภทวิชาการตั้งแตระดับชํานาญการขึ้นไปใน
สํานกั งานทด่ี ินจงั หวัดหรอื สํานักงานท่ีดินจังหวัดสาขา
จํานวนสองคนเปนกรรมการ โดยใหกรรมการคนหนึ่ง
เปนเลขานกุ าร

ขอ ๓ ใหคณะกรรมการสอบสวนดําเนินการ - การสอบสวน

๒๒๐

สอบสวนพยานหลักฐานใหไดความวาไดมีการออก พยานหลักฐาน
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน หรือ
ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น สิ ท ธิ แ ล ะ นิ ติ ก ร ร ม เ ก่ี ย ว กั บ
อสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสารรายการจด
ทะเบียนอสังหาริมทรัพยท่ีสอบสวนน้ันคลาดเคลื่อน
หรือไมช อบดว ยกฎหมายหรอื ไม

การนัดสอบสวน การนัดพิจารณาหรือการอยางอ่ืน การแจงผมู สี วน
ที่คณะกรรมการสอบสวนตองแจงเปนหนังสือใหผูมี ไดเสยี
สวนไดเสียทราบ

ขอ ๔ ในการสอบสวน ใหคณะกรรมการ อาํ นาจคณะ
สอบสวนมีอํานาจเรียกโฉนดท่ีดิน หนังสือรับรองการ กรรมการฯ
ทําประโยชน เอกสารที่ไดจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เอกสารท่ีไดจดแจงรายการทะเบียนอสังหาริมทรัพย
หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวของจากผูยึดถือมาประกอบการ
พิจารณาพรอมทั้งแจงใหผูมีสวนไดเสียทราบเพื่อให
โอกาสคดั คาน

เมื่อคณะกรรมการไดร บั เอกสารมาตามวรรคหนง่ึ
แลว ใหอ อกใบรบั ไวเปน หลกั ฐาน

ในกรณีท่ีคณะกรรมการสอบสวนไมอาจเรียก กรณีเรยี กเอกสาร
เอกสารมาตามวรรคหนึ่งได ใหบันทึกเหตุผลไวใน ไมได
สํานวนการสอบสวนท่ีเสนออธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดี
มอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจ
ราชการกรมที่ดินดว ย

๒๒๑

ขอ ๕ เม่ือดําเนินการสอบสวนเสร็จแลว ให การเสนอรายงาน
คณะกรรมการสอบสวนรายงานผลการสอบสวนน้ัน ผลการสอบสวน
ตออธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนง
รองอธบิ ดีหรอื ผตู รวจราชการกรมท่ีดนิ

ในรายงานผลการสอบสวนตามวรรคหน่ึง ให - เสนอความเห็น
สรุปขอเท็จจริงและเหตุท่ีมีการออกโฉนดท่ีดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชน หรือการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยหรือการจด
แจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยโดย
คลาดเคลื่อนหรือไมชอบดวยกฎหมายน้ัน รวมท้ังให
เสนอความเห็นตออธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายซ่ึง
ดํา รงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดิน
ดวยวาสมควรสั่งเพิกถอนหรือแกไขความคลาดเคล่ือน
หรอื ไมชอบดว ยกฎหมายนน้ั หรอื ไมอ ยา งไร

กรรมการสอบสวนผูใดมีความเห็นแยง ใหทํา ความเหน็ แยง
ความเห็นแยงติดไวกับสํานวนการสอบสวนโดยใหถือ
เปน สวนหน่ึงของสาํ นวนการสอบสวนน้ันดว ย

ขอ ๖ ในกรณีท่ีคณะกรรมการสอบสวนไม ขอขยายเวลา
สามารถดําเนินการสอบสวนใหแลวเสร็จภายใน สอบสวน
กําหนดหกสิบวันนับแตวันที่ไดมีคําสั่งใหดําเนินการ
สอบสวน ใหคณะกรรมการสอบสวนรายงานเหตุท่ีทํา
ใหการสอบสวนนั้นไมแลวเสร็จตออธิบดีหรือผูซึ่ง
อธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือ

๒๒๒

ผูตรวจราชการกรมท่ีดินเพ่ือขอขยายระยะเวลาการ
สอบสวนกอ นครบกําหนดระยะเวลาดังกลาว

ขอ ๗ ภายในสิบหา วนั นบั แตว นั ที่ไดรับรายงาน การสั่งสอบสวน
การสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน ถาอธิบดี เพม่ิ เตมิ
หรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซ่ึงดํารงตําแหนงรองอธิบดี
หรือผูตรวจราชการกรมที่ดินเห็นสมควรใหมีการ
สอบสวนเพ่ิมเติม ใหกําหนดประเด็นพรอมทั้งสง
เอกสารท่ีเกี่ยวของไปใหคณะกรรมการสอบสวนคณะ
เดมิ เพือ่ ดําเนินการสอบสวนเพ่มิ เติมตอ ไป

ใหคณะกรรมการสอบสวนดาํ เนินการสอบสวน
เพิ่มเติมใหแลวเสร็จโดยเร็วและใหสงผลการสอบสวน
เพ่ิมเติมนั้นไปใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่ง
ดํารงตําแหนง รองอธบิ ดีหรือผูต รวจราชการกรมทด่ี ิน

หมวด ๒
การแจง ผมู สี ว นไดเ สยี เพอ่ื ใหโ อกาสคดั คาน

ขอ ๘ ในการสอบสวน ใหคณะกรรมการสอบสวน การแจงผูมสี ว น
สง หนังสือแจงผูมีสวนไดเสียเพ่ือใหโอกาสคัดคานการ ไดเ สีย
เพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชนหรือการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจดแจง
เ อ ก ส า ร ร า ย ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น อ สั ง ห า ริ ม ท รั พ ย ท่ี
คลาดเคลื่อนหรือไมช อบดวยกฎหมายนัน้

๒๒๓

ขอ ๙ การแจงผูมีสวนไดเสียเพ่ือใหโอกาส วิธีสง

คัดคานใหกระทําเปนหนังสือโดยสงทางไปรษณีย

ลงทะเบียนตอบรับตามที่อยูท่ีผูมีสวนไดเสียไดใหไว

แกพ นักงานเจา หนาทใี่ นสารบบทดี่ นิ แปลงนัน้

ขอ ๑๐ ในกรณีที่ไมอาจแจงผูมีสวนไดเสีย กรณแี จง ไมได

เพ่ือใหโอกาสคัดคานได ใหคณะกรรมการสอบสวน

แจงผูมีสวนไดเสียโดยปดหนังสือแจงไวในที่เปดเผย

สามารถเหน็ ไดชัดเจน ณ สาํ นักงานที่ดนิ สํานักงานเขต

ที่วาการอําเภอหรือท่ีวาการก่ิงอําเภอ ที่ทําการแขวง

หรือที่ทําการกํานันทองท่ีสํานักงานหรือท่ีทําการ

องคกรปกครองสวนทองถ่ิน ซ่ึงท่ีดินน้ันตั้งอยู และใน

บริเวณทด่ี ินน้นั แหงละหน่งึ ฉบบั

ใหถือวาผูมีสวนไดเสียไดรับแจงเมื่อลวงพน นับระยะเวลาปด

ระยะเวลาสบิ หา วันนบั แตว ันปด หนงั สอื แจง การแจง

ขอ ๑๑ เมื่อผูมีสวนไดเสียไดรับหนังสือแจง การคดั คานและ

หรือถือวาไดรับแจงเพ่ือใหมีโอกาสคัดคานแลวและมี กาํ หนดเวลา

ความประสงคท่ีจะคัดคานการเพิกถอนหรือแกไขการ

ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน

ห รื อ ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น สิ ท ธิ แ ล ะ นิ ติ ก ร ร ม เ ก่ี ย ว กั บ

อสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสารรายการจด

ทะเบียนอสังหาริมทรัพยที่คลาดเคลื่อนหรือไมชอบ

ดวยกฎหมายน้ัน ใหทําหนังสือคัดคานยื่นตอประธาน

คณะกรรมการสอบสวนภายในกําหนดสามสิบวันนับ

๒๒๔

แตวันที่ไดรับแจง หรือถือวาไดรับแจงโดยใหระบุ

เหตุผลที่คัดคานพรอมทั้งแสดงพยานหลักฐานท่ี

เก่ียวขอ งดว ย

ถาผูมีสวนไดเสียไมคัดคานภายในกําหนดเวลา ไมคดั คา นภายใน

ตามวรรคหนงึ่ ใหถือวา ไมป ระสงคท ีจ่ ะคัดคา น กําหนด

หมวด ๓

การสงั่ เพกิ ถอนหรอื แกไข

ขอ ๑๒ เม่ือไดรับรายงานการสอบสวนจาก การพิจารณา
คณะกรรมการสอบสวนตามขอ ๕ หรือขอ ๗ แลว ส่งั การ
อธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรอง
อธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดินจะพิจารณาส่ังเพิก
ถอนหรือแกไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชน หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติ
กรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสาร
รายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยที่คลาดเคล่ือน
หรือไมชอบดวยกฎหมายนั้นได ตอเมื่อปรากฏชัดแจง
วาไดมีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทํา
ประโยชน หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสาร
รายการจดทะเบยี นอสงั หาริมทรัพยนั้นโดยคลาดเคลื่อน
หรอื ไมชอบดวยกฎหมาย

๒๒๕

ขอ ๑๓ ในการออกคําสั่งเพิกถอนหรือแกไข การแจงคาํ สง่ั
ก า ร อ อ ก โ ฉ น ด ท่ี ดิ น ห รื อ ห นั ง สื อ รั บ ร อ ง ก า ร ทํ า
ประโยชน หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย หรือการจดแจงเอกสาร
รายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยท่ีคลาดเคลื่อน
หรือไมชอบดวยกฎหมายตามขอ ๑๒ ใหอธิบดีหรือผู
ซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือ
ผูตรวจราชการกรมท่ีดินแจงคําสั่งดังกลาวพรอมดวย
เหตุผลใหผ ูม สี วนไดเ สียทราบดวย ท้ังนี้ ใหนําความใน
ขอ ๘ ขอ ๙ และขอ ๑๐ มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม

ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ถาวร เสนเนียม

รัฐมนตรีชวยวา การฯ ปฏิบตั ริ าชการแทน
รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยท่ีเปน
การสมควรปรับปรุงหลักเกณฑและวิธีการในการตั้งคณะกรรมการ
สอบสวน การสอบสวน การแจงผูมีสวนไดเสียเพื่อใหโอกาสคัดคานและ
การพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชน การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย
หรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยโดยคลาดเคล่ือน
หรือไมชอบดวยกฎหมาย เพื่อใหสอดคลองกับมาตรา ๖๑ แหงประมวล
กฎหมายท่ีดิน ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวล

๒๒๖

กฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ท่ีบญั ญัตใิ หอ ธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดี
มอบหมายซง่ึ ดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดินเปนผูมี
อํานาจหนาที่ในการส่ังเพิกถอนหรือแกไขได ท้ังน้ี เพ่ือใหการดําเนินการ
ดังกลาวเปนไปดวยความรวดเร็วและสอดคลองกับหลักการปฏิรูประบบ
ราชการที่มงุ เนนใหมีการกระจายภารกิจและการกระจายอํานาจการตัดสินใจ
จงึ จาํ เปนตอ งออกกฎกระทรวงน้ี

(ราชกิจจานเุ บกษา ฉบับกฤษฎีกา เลม ๑๒๗ ตอนที่ ๔๕ ก วันท่ี ๒๒ กรกฎาคม
๒๕๕๓)

ระเบยี บคณะกรรมการจดั ทดี่ นิ แหง ชาติ

 
 

ระเบยี บวาดวยการจดั ท่ีดินเพือ่ ประชาชน*

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ (๖)
มาตรา ๒๗ และมาตรา ๓๓ แหงประมวลกฎหมาย
ท่ีดิน คณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติวางระเบียบวาดวย
การจดั ที่ดนิ เพ่อื ประชาชนดงั ตอ ไปนี้

หมวด ๑
ขอความทว่ั ไป

ขอ ๑. ระเบียบน้ีเรียกวา "ระเบียบวาดวยการ
จดั ท่ีดินเพ่อื ประชาชน"

ขอ ๒. ใหใชระเบียบน้ี ต้ังแตบ ดั นีเ้ ปน ตน ไป
หมวด ๒

ลกั ษณะของทีด่ นิ ท่ีจะจดั ใหป ระชาชน

ขอ ๓. ที่ดนิ ที่จะจัดใหประชาชนอยูอาศัยหรือ ลักษณะทด่ี ิน
ประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพตามความในมาตรา ๒๐ ท่นี ํามาจัด
(๑) และมาตรา ๒๗ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ตอง
เปนทดี่ นิ ของรัฐซงึ่ อยใู นลกั ษณะดังตอไปนี้ คอื

* หมายเหตุ แกไขเพ่ิมเตมิ โดยระเบยี บคณะกรรมการจดั ท่ดี นิ แหงชาติ
ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๑) และ ฉบบั ที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๒๑)

๒๒๘

(๑) ท่ีดินซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง
และมิใชสาธารณสมบัติของแผนดินอันราษฎรใช
ประโยชนรวมกันหรือมิใชที่สงวนหวงหาม หรือมิใช
ที่เขา ที่ภเู ขา

(๒) ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน
ที่ราษฎรเคยใชประโยชนรวมกัน แตปรากฏวาราษฎร
มิไดใชประโยชนตอไปแลว หรือรัฐหาที่ดินอื่นให
ราษฎรใชประโยชนรวมกันแทน และไดมีพระราช
กฤษฎีกาถอนสภาพทส่ี าธารณประโยชนน น้ั แลว

(๓) ท่ีดินซ่ึงมีผูเวนคืนสิทธิในที่ดินใหแกรัฐ
หรือทอดทิ้งไมทําประโยชน หรือปลอ ยใหเ ปนท่ีรกราง
วา งเปลาจนตกเปน ของรฐั ตามประมวลกฎหมายท่ดี ิน

หมวด ๓
คณุ สมบัตขิ องบุคคลทีจ่ ะจัดใหเขาอยอู าศัย

หรอื ประกอบการทํามาหาเล้ยี งชพี

ขอ ๔. บุคคลที่จะจัดใหเขาอยูอาศัยหรือ คุณสมบตั ขิ องผูท่ี
ประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพ จะตองเปนบุคคล จะจัดใหเ ขาอยู
ธรรมดามีคุณสมบัติและอยูในลักษณะขอกําหนดโดย
ครบถว ยดังน้ี คือ

(๑) มสี ญั ชาตไิ ทย
(๒) บรรลนุ ติ ภิ าวะแลว หรอื เปนหวั หนา
ครอบครัว

๒๒๙

(๓) มีรา งกายสมบูรณ ไมท ุพพลภาพ หรือไร
ความสามารถ หรือมีสติฟนเฟอนไมสมประกอบหรือ
เปนโรคติดตออันนารังเกียจ เวนแตจะเปนหัวหนา
ครอบครัวท่ีอยูในลักษณะมีความจําเปน ซ่ึงทางการ
พิจารณาเปน สมควรยกเวน

(๔) มคี วามขยนั ขันแขง็ ในการประกอบอาชีพ
(๕) มีความประพฤติดี ไมเปนคนเสเพลหรือ
อันธพาล
(๖) มีความสามารถประกอบการอาชีพเก่ียวกับ
ท่ดี ินท่ีจัดใหได
(๗) ไมม ที ดี่ ินเปน ของตนเอง หรอื มอี ยแู ลวแต
เปน จาํ นวนนอ ยไมพอเล้ยี งชีพ
(๘) ตองรับปฏิบัติตามขอบังคับระเบียบ
ขอกําหนดและเง่ือนไขที่คณะกรรมการจัดท่ีดิน
แหงชาตกิ ําหนด

หมวด ๔
การดาํ เนินการจัดทดี่ นิ ใหป ระชาชน

ขอ ๕ ในการจัดท่ีดินใหราษฎรอยูอาศัย หรือ การดําเนินการ
ประกอบการทาํ มาหาเล้ยี งชีพใหเ ปนไปตามโครงการท่ี กอนนํามา
คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติกําหนด และใหกรม จัดทด่ี นิ
พัฒนาที่ดินดําเนินการสํารวจดิน การวินิจฉัยคุณภาพ
ของท่ีดิน จําแนกสมรรถนะท่ีดิน และวางแผนการใช

๒๓๐

ท่ีดินใหถูกตองตามหลักวิชาการกอนท่ีจะดําเนิน
โครงการจดั ทดี่ ินใหประชาชน

(ความในหมวด ๔ ขอ ๕ แกไขเพิ่มเติมโดย
ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ ฉบับท่ี ๖
(พ.ศ. ๒๕๒๑) วาดวยการจดั ที่ดินเพื่อประชาชน)

ขอ ๖. โดยปกติใหจัดแบงท่ีดินใหแตละ
ครอบครัวตามสมควรแกอัตภาพ ทั้งน้ี ภายใตกําหนด
สทิ ธกิ ารมีท่ดี นิ ของบคุ คลตามประมวลกฎหมายท่ดี นิ

ขอ ๗. กอนที่จะจัดท่ีดินใหประชาชนอยู ประกาศกาํ หนด
อาศัย หรือประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพ ใหเจาหนาที่ เขตและท่ตี ั้งทด่ี ิน
ในการจัดทีด่ ินตามโครงการของคณะกรรมการจดั ที่ดนิ
แหงชาติ หรืออธบิ ดีกรมที่ดิน ซ่ึงเปนเจาหนาท่ีในการ
จัดท่ีดิน ตามมาตรา ๒๗ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
แลวแตกรณี ประกาศกําหนดเขตและที่ตั้งของท่ีดินที่
จะจัดใหประชาชนอยูอาศัยหรือประกอบการทํามาหา
เล้ียงชีพ ตลอดจนวิธีการรับบุคคลเขาอยูอาศัยให
ประชาชนทราบตามแบบ จ.ด. ๑ ทายระเบยี บน้ี

ขอ ๘. ประกาศตามความในขอ ๗ น้ัน ใหปด ที่ปด ประกาศ
ไวในท่ีเปดเผย ณ ที่วาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอ ๑ ฉบับ
ที่บานกํานันหรือผูใหญบาน ๑ ฉบับ และในท่ีดินที่จัด
๑ ฉบบั

หากเปนการสมควรจะประกาศโดยวิธีอ่ืนดวย
กไ็ ด

๒๓๑

ขอ ๙. การกําหนดวันรับสมัครบุคคลเขาอยู ประกาศลวงหนา
อาศัยหรือประกอบการทํามาหาเล้ียงชีพ ตองประกาศ
ใหประชาชนทราบลวงหนามีกําหนดไมนอยกวาหนึ่ง
เดือน

ขอ ๑๐. บุคคลใดประสงคจะเขาอยูอาศัยหรือ ยนื่ คาํ รอง
ประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพในที่ดินที่จัดไว ใหยื่น
คํารองตอเจาหนาที่ในการจัดท่ีดินน้ันภายในกําหนด
ประกาศของเจา หนาท่ีตามแบบ จ.ด. ๒ ทายระเบยี บนี้

ขอ ๑๑ เมื่อครบกําหนดประกาศรับบุคคลเขา กรรมการคัดเลือก
อยูอาศัยหรือประกอบการทํามาหาเล้ียงชีพแลว ให บคุ คลเขาอยูอาศัย
เจาหนาที่ในการจัดท่ีดินแตงต้ังคณะกรรมการขึ้นคณะ
หนงึ่ มจี ํานวนไมนอยกวาสามนาย เรียกวา คณะกรรมการ
คัดเลือกบุคคล และใหคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลมี
หนาที่พิจารณาคัดเลือกบุคคลตามหลักเกณฑแหง
ระเบยี บนี้

ขอ ๑๒ บุคคลใดประสงคจะไดรับการจัดให กรณีตอ งจับสลาก
เขาอยูอาศัย หรือประกอบการทํามาหาเลี้ยงชีพในท่ีดิน
แปลงใด ใหจัดเขาอยูอาศัยหรือประกอบการทํามาหา
เลี้ยงชีพในท่ีดินแปลงนั้น แตถามีบุคคลหลายคน
ประสงคที่ดินแปลงเดียวกันก็ใหใชวิธีจับฉลาก เวนแต
ในกรณีที่มคี วามจาํ เปนเพือ่ ประโยชน ความมน่ั คงและ

๒๓๒

ความปลอดภัยของประเทศชาติ คณะกรรมการคัดเลือก
อ า จ จ ะ พิ จ า ร ณ า เ ลื อ ก บุ ค ค ล ใ ห อ ยู ใ น ท่ี ดิ น ต า ม ที่
เห็นสมควรก็ได

(ความในขอ ๑๒ แกไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบ
ของคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ.
๒๕๒๑) วา ดว ยการจัดทดี่ นิ เพอื่ ประชาชน)

ขอ ๑๓. ในกรณที ่ที ีด่ ินทจี่ ะจัดใหเขา อยอู าศยั กรณีทดี่ นิ ไมพอ
หรอื ประกอบการทาํ มาหาเลย้ี งชีพมไี มพ อกบั จํานวน กบั จํานวนคน
บคุ คลซงึ่ คณะกรรมการคดั เลอื กบุคคลไดคัดเลือกไว
แลว ใหคณะกรรมการคัดเลือกบคุ คลพจิ ารณาคัดเลือก
อีกชนั้ หนงึ่ ตามหลกั เกณฑดงั นี้

(๑) ใหพิจารณาใหบุคคลท่ีมีภูมิลําเนาอยูใน
ทองท่ีนั้นไดเขาอยูอาศัยหรือประกอบการทํามาเล้ียง
ชพี กอน เมอ่ื มที ี่ดินเหลอื อยูจึงจัดใหบุคคลท่ีมิภูมิลําเนา
อยูในทอ งท่ีอนื่ ตอ ไป

(๒) ถามีดินที่จะจัดแบงมีนอย ไมพอแกการ
จัดแบงใหท่ัวถึงอีก ก็ใหคณะกรรมการคัดเลือกบุคคล
จัดใหมีการจับสลาก เพื่อใหไดจํานวนบุคคลพอดีกับ
จาํ นวนท่ีดนิ ทีจ่ ะแบง

สว น บุคคลท่ีเ ห ลือ ก็ให สอบถามควา ม บคุ คลที่เหลอื อยู
ประสงควา ถามีท่ีดินเหลือจากการจัดแบงในทองที่อื่น
แลว ทางการจะจัดใหเขาอยูอาศยั หรอื ประกอบการทํา

๒๓๓

มาหาเลี้ยงชีพจะขัดของหรือเต็มใจหรือไม แลวบันทึก
ถอยคาํ ไวเปนหลกั ฐานเพือ่ พิจารณาตอไป

หมวด ๕
การออกใบจอง

ขอ ๑๔. เมื่อไดจัดใหบุคคลใดเขาอยูอาศัย การออกใบจอง
หรือประกอบการทํามาหาเลี้ยงชพี ในที่ดินแปลงใดและ
บุคคลนั้นไดปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการจัด
ท่ีดินแหงชาติแลว ใหเจาหนาท่ีในการจัดที่ดิน
ดําเนินการติดตอใหนายอําเภอทองที่หรือปลัดอําเภอผู
เปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอซึ่งที่ดินน้ันต้ังอยู ซ่ึงเปน
พนักงานเจาหนาที่ตามความในมาตรา ๓๐ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดินออกใบจองใหบุคคลน้ันยึดถือ
ไวเปน หลักฐาน

หมวด ๖
การทําประโยชนในทด่ี นิ และการส้นิ สทิ ธใิ นทด่ี ิน

ตามใบจอง

ขอ ๑๕. ใหผูถือใบจองเริ่มทําประโยชนใน วนั เรมิ่ ทาํ
ท่ีดินทจ่ี ดั แบงภายในหกเดอื น นบั แตวันไดรับใบจอง ประโยชน

ขอ ๑๖. ถาผูถือใบจองไมเริ่มทําประโยชนใน ไมทําประโยชน
ที่ดนิ ท่จี ัดแบง ใหภ ายในหกเดอื นนับแตว นั ไดร บั ใบจอง ภายในกําหนด
ใหเจา หนา ที่ในการจดั ท่ีดินสอบสวนรายงานตามลําดับ

๒๓๔

ไปยังอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาสั่งใหผูน้ันออกไป
จากท่ีดิน ตามมาตรา ๓๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
เม่อื ผูน ้ันไดรับทราบคําสงั่ หรือควรจะไดรับทราบคําส่ัง
อธิบดีกรมที่ดินแลว เปนอันขาดสิทธิในการอยูอาศัย
หรือประกอบการทํามาหาเล้ียงชีพในท่ีดินท่ีจัดแบง
ตามใบจองน้ัน เวนแตจะมีเหตุผลสมควรก็ให
เจาหนาท่ีในการจัดท่ีดินสอบสวนชี้แจงเหตุผลไปยัง
พนักงานเจาหนาที่ผูออกใบจองพิจารณาเมื่อพนักงาน
เจาหนาท่ีพิจารณาอนุมัติแลว ใหมีสิทธิในท่ีดินตามใบ
จองน้ันตอไปได และใหถือเสมือนวาเปนผูรับใบจอง
ใหม ซ่ึงจะตอ งปฏิบตั ติ ามนยั ขอ ๑๕

ขอ ๑๗. ผูถือใบจองตองทําประโยชนใหแลว ระยะเวลาทาํ
ภายใน ๓ ป นับต้ังแตวันที่ไดรับใบจอง แตถาใน ประโยชน
ทองท่ีใดมีความจําเปน ซึ่งไมสามารถจะทําประโยชน แลว เสรจ็
ใหแลวภายใน ๓ ปได ก็ใหเสนอเหตุผลใหพนักงาน
เจาหนาที่เสนอใหคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ
พ ิจ า ร ณ า กํ า ห น ด อ า ย ุก า ร ทํ า ป ร ะ โ ย ช น เ ก ิน ก ว า
๓ ปไ ด

การทําประโยชนใหแลวเสร็จตามความหมาย ๓ ใน ๔ สวน
ในขอ นี้ ใหห มายถึงการทาํ ประโยชนประมาณ ๓ ใน ๔
สวน

ขอ ๑๘. ถาผูถือใบจองทําประโยชนไมแลว ทําประโยชน
เสร็จภายใน ๓ ป นับตั้งแตวันที่ไดรับใบจองหรือ ไมแลว เสรจ็

๒๓๕

ภายในระยะเวลาท่ีคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ ในระยะเวลา
กําหนดไวแลวแตกรณี ใหเจาหนาท่ีในการจัดที่ดิน
สอบสวนรายงานตามลําดับเสนอไปยังอธิบดีกรมที่ดิน
เพื่อพิจารณาสั่งใหผูนั้นขาดสิทธิอันพึงจะไดตาม
มาตรา ๓๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน เม่ือผูนั้น
ไดรับทราบคําสั่งหรือควรจะไดรับทราบคําส่ังอธิบดี
กรมที่ดินแลว ใหผูถือใบจองน้ันเปนอันขาดสิทธิใน
การครองครองและทําประโยชนในท่ีดินเฉพาะสวนที่
ยังไมไ ดทําประโยชนต ามสมควรแกเ นื้อที่

หมวด ๗
การส่งั ใหออกจากท่ดี ิน

ขอ ๑๙. บุคคลใดท่ีไดรับการจัดแบงท่ีดินจาก สั่งใหออกจาก
ทางการแลวปรากฏวาไมปฏิบัติตามขอบังคับระเบียบ ที่ดนิ
ขอกําหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการจัดที่ดิน
แหง ชาติ ใหเจาหนาที่ในการจัดท่ีดินสอบสวนรายงาน
ตามลําดับไปยังอธิบดีกรมท่ีดิน เพ่ือพิจารณาส่ังให
บุคคลนัน้ ออกไปจากทีด่ นิ ตามความในมาตรา๓๒ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดนิ ตอไป

ขอ ๒๐. เม่ืออธิบดีกรมที่ดินสั่งใหผูใด การอุทธรณ
ออกไปจากที่ดินครอบครองแลว ใหบุคคลนั้นพรอม
ดว ยบรวิ ารออกไปจากท่ีดินท่ีครอบครองภายในกําหนด
ตามคําสั่ง เวนแตจะไดมีการอุทธรณคําสั่ง ตามมาตรา

๒๓๖

๓๒ วรรค ๒ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงใหปฏิบัติ
ตามคําส่ังของรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
ตอ ไป

หมวด ๘
การรับรองการทําประโยชน

ขอ ๒๑. เม่ือผูถือใบจองไดทําประโยชนใน การขอหนังสือ
ที่ดินนั้นโดยปฏิบัติตามขอบังคับ ระเบียบ ขอกําหนด รบั รองการทํา
หรือเง่ือนไขของคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ และ ประโยชน
ไดชดใชเงินคาบริการในการจัดท่ีดินดวยวิธีผอนสง
เสร็จสิ้นแลว ใหยื่นคําขอหนังสือรับรองการทํา
ประโยชน ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๕ (พ.ศ.
๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในการย่ืนคําขอ
ดงั กลาวใหยื่นผานเจาหนาทใี่ นการจัดทด่ี นิ

หมวด ๙
การจบั จองทด่ี ิน

ขอ ๒๒. ในกรณีท่ีใหราษฎรไดจับจองท่ีดิน จบั จองท่ดี ิน
ตามนัยมาตรา ๓๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน ใหนํา แปลงเล็ก
ระเบียบหมวด ๒ ถึง หมวด ๘ มาใชบ งั คับโดยอนุโลม

ในการประกาศใหประชาชนทราบถึงเขตและ
ที่ตง้ั ของท่ดี นิ ท่จี ะจดั ใหป ระชาชนจับจอง สําหรับที่ดิน


Click to View FlipBook Version