The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมกฎหมาย ที่ดิน-จัดสรร-อาคารชุด (ฉบับใช้งานปัจจุบัน) (ปี 2558)

สำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

๘๘

มาตรา ๑๐๘๙๐ ผูใดฝาฝนมาตรา ๙ อยูกอน ฝา ฝนมาตรา ๙
วันท่ีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใชบังคับ พนักงาน กอ น ปว. ฉบบั ๙๖
เจาหนาท่ีหรือผูซึ่งไดรับมอบหมายจากพนักงาน
เจาหนาท่ีมีอํานาจแจงเปนหนังสือใหผูฝาฝนปฏิบัติ
ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกําหนด* ถาผูฝาฝน
เพิกเฉยหรือไมปฏิบัติใหถูกตองตามระเบียบ ให
พนักงานเจาหนาที่มีคําส่ังเปนหนังสือใหผูฝาฝนออก
จากท่ีดินและหรือร้ือถอนสิ่งปลูกสรางในท่ีดินน้ัน
ภายในระยะเวลาท่ีกําหนด ถาไมปฏิบัติตามคําส่ังของ
พนักงานเจาหนาท่ี ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งป
หรอื ปรบั ไมเ กนิ หาพนั บาท หรือทั้งจําท้ังปรบั

ในการกํ าหนดระเบี ยบตามวรรคหนึ่ ง
คณะกรรมการจะกําหนดใหผูฝาฝนตองเสียคาตอบแทน
ในการใชท่ีดินนั้นใหแกรัฐหรือราชการบริหารสวน
ทอ งถน่ิ ดว ยก็ได

มาตรา ๑๐๘ ทวิ๙๑ นับต้ังแตวันท่ีประกาศของ ฝา ฝนมาตรา ๙
คณะปฏิวัติฉบับนี้ใชบังคับ ผูใดฝาฝนมาตรา ๙ ตอง หลัง ปว. ฉบับ ๙๖

๙๐ มาตรา ๑๐๘ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖
ลงวันที่ ๒๙ กมุ ภาพันธ พทุ ธศักราช ๒๕๑๕

* ระเบียบคณะกรรมการจัดท่ีดนิ แหงชาติ ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๑๕)
๙๑ มาตรา ๑๐๘ ทวิ เพิม่ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวันท่ี
๒๙ กุมภาพันธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕

๘๙

ระวางโทษจําคุกไมเกนิ หน่งึ ป หรือปรบั ไมเ กินหาพันบาท
หรือทง้ั จาํ ทั้งปรบั

ถาความผิดตามวรรคหน่ึงไดกระทําแกที่ดิน
ซึ่งเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน ท่ีประชาชนใช
รวมกัน หรือที่ใชเพ่ือประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ
ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกิน
หน่งึ หมืน่ บาท หรอื ทัง้ จําทัง้ ปรบั

ถาความผิดตามวรรคสองไดกระทําเปนเนื้อท่ี
เกินกวาหา สิบไร ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ หา ป หรือ
ปรับไมเกินสองหม่นื บาท หรอื ท้ังจําทง้ั ปรับ

ในกรณีที่มีคําพิพากษาวาผูใดกระทําความผิด
ตามมาตราน้ี ศาลมีอํานาจสั่งในคําพิพากษาใหผูกระทํา
ความผิด คนงาน ผูรับจาง ผูแทน และบริวารของ
ผูกระทาํ ความผดิ ออกไปจากท่ีดินนั้นดวย

บรรดาเครื่องมือ เคร่ืองใช สัตวพาหนะ
ยานพาหนะ หรือเคร่ืองจักรกลใด ๆ ซ่ึงบุคคลไดใชใน
การกระทําความผิด หรือไดใชเปนอุปกรณใหไดรับผล
ในการกระทําความผิดดังกลาว ใหริบเสียท้ังส้ิน ไมวา
จะมีผูถกู ลงโทษตามคําพพิ ากษาหรอื ไม

๙๐

มาตรา ๑๐๘ ตรี๙๒ ผูใดขัดขวางหรือไมให ขัดขวางการ

ความสะดวกตอ พนกั งานเจา หนาท่ีซ่ึงปฏิบัติหนาที่ตาม ปฏบิ ตั ิงาน

มาตรา ๖๖ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หน่งึ พันบาท

มาตรา ๑๐๙ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตาม - ยา ยหลกั เขต

มาตรา ๓๘ มาตรา ๖๗ หรือมาตรา ๗๔ มีความผิดตอง - ไมใหถอ ยคาํ

ระวางโทษปรับไมเกินสองพันบาท หรือจําคุกไมเกิน

สามเดอื น หรือทัง้ ปรบั ทัง้ จํา

มาตรา ๑๑๐ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตาม คนตางดาวฝา ฝน

มาตรา ๘๙ มีความผิดตองระวางโทษปรับไมเกินสาม

พันบาท หรือจาํ คุกไมเกนิ หกเดอื น หรือทง้ั ปรบั ทงั้ จาํ

มาตรา ๑๑๑๙๓ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตาม คนตา งดา วไดม า

มาตรา ๘๖ มีความผิดตองระวางโทษปรับไมเกินสอง ไมช อบ

หม่ืนบาท หรอื จําคุกไมเกนิ สองป หรือทั้งปรบั ทงั้ จํา

มาตรา ๑๑๒ นิติบคุ คลใด ความผดิ

(๑) ไดมาซ่ึงท่ีดินเปนการฝาฝนบทแหง นติ ิบุคคล

ประมวลกฎหมายนี้

(๒) ใชทด่ี นิ นนั้ เพอื่ กจิ การอืน่ นอกจากท่ไี ดร ับ

อนญุ าต

๙๒ มาตรา ๑๐๘ ตรี เพ่ิมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวนั ที่

๒๙ กุมภาพนั ธ พุทธศักราช ๒๕๑๕
๙๓ มาตรา ๑๑๑ แกไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เติมประมวล

กฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑

๙๑

(๓) ใชท ด่ี ินผดิ เงื่อนไขทคี่ ณะรฐั มนตรีกาํ หนด
ตามความในมาตรา ๙๙ ประกอบดวยมาตรา ๘๗ วรรคสอง

(๔) ไมแจงการไมใชที่ดินตามความในมาตรา
๙๙ ประกอบดว ยมาตรา ๘๙ หรอื

(๕)๙๔ (ยกเลกิ )
มคี วามผิดตอ งระวางโทษปรับไมเ กินหาหมนื่ บาท
มาตรา ๑๑๓ ผูใดไดมาซึ่งที่ดินในฐานะเปน ตวั แทนตา งดา ว
ตัวแทนของคนตางดาว หรือนิติบุคคลตามความใน
มาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ มีความผิดตองระวางโทษ
ปรับไมเ กนิ สองหม่ืนบาท หรือจําคุกไมเกินสองป หรือ
ทง้ั ปรบั ทั้งจํา

(ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๗๘ ฉบับพเิ ศษ หนา ๑ วนั ท่ี
๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗)

๙๔ มาตรา ๑๑๒ (๕) ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญัติแกไขเพิม่ เติมประมวล
กฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑

๙๒

บญั ชอี ัตราคา ธรรมเนียมและคา ใชจายทายประมวลกฎหมายที่ดนิ ๙๕

๑. คาธรรมเนยี มในการขอสัมปทาน รายละ ๕๐๐ บาท

๒. คาสัมปทานปหน่งึ ไรล ะ ๒๐ บาท

เศษของไรใ หค ดิ เปน หนง่ึ ไร

๓. คา ธรรมเนยี มออกหนังสอื รับรองการทําประโยชน

(๑) ทดี่ นิ เนือ้ ทไี่ มเ กนิ ๒๐ ไร แปลงละ ๓๐ บาท

(๒) ทดี่ ินเนอื้ ท่ีเกนิ ๒๐ ไร สว นทีเ่ กนิ ไรล ะ ๒ บาท

เศษของไรใหคิดเปนหนึ่งไร

๔. คา ธรรมเนยี มการพิสูจนสอบสวนหรือตรวจสอบเนือ้ ท่เี กีย่ วกับ

หนงั สือรับรองการทําประโยชน

(๑) ถาเรยี กเปน รายแปลง แปลงละ ๓๐ บาท

(๒) ถาเรยี กเปน รายวนั วนั ละ ๓๐ บาท

(๓) คาคัดหรอื จาํ ลองแผนที่ แปลงละ ๓๐ บาท

(๔) คา คาํ นวณเนือ้ ทีห่ รือสอบแส แปลงละ ๓๐ บาท

(๕) คา จบั ระยะ แปลงละ ๑๐ บาท

๕. คา ธรรมเนียมออกโฉนดทด่ี นิ

(๑) ทดี่ นิ เนื้อทไ่ี มเกนิ ๒๐ ไร แปลงละ ๕๐ บาท

(๒) ทดี่ ินเนือ้ ท่ีเกนิ ๒๐ ไร สวนท่ีเกนิ ไรละ ๒ บาท

เศษของไรใหคดิ เปน หนึ่งไร

๙๕ บัญชอี ัตราคาธรรมเนยี มและคา ใชจายทายประมวลกฎหมายท่ดี ิน แกไ ข
เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑

๙๓

๖. คา ธรรมเนียมรังวดั เกีย่ วกบั โฉนดท่ีดนิ

(๑) ถา เรียกเปน รายแปลง แปลงละ ๔๐ บาท

(๒) ถา เรยี กเปน รายวนั วนั ละ ๔๐ บาท

(๓) คา คัดหรอื จาํ ลองแผนท่ี แปลงละ ๓๐ บาท

(๔) คาคาํ นวณเนื้อทีห่ รอื สอบแส แปลงละ ๓๐ บาท

(๕) คาจับระยะ แปลงละ ๑๐ บาท

๗.๙๖ คาธรรมเนยี มจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม

(๑) มีทุนทรัพยใหเรียกเก็บรอยละ ๒ ของราคาประเมินทุนทรัพย

สําหรับการขอจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมโอนกรรมสิทธ์ิหรือ

สิทธิครอบครองในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย สวนกรณีอื่นใหเรียก

เก็บรอยละ ๒ ของจํานวนทุนทรัพยท่ีผูขอจดทะเบียนแสดงตาม

ความเปนจรงิ

เศษของรอ ยใหคดิ เปน หน่ึงรอ ย

(๒) ไมม ที ุนทรพั ย แปลงละ ๑,๐๐๐ บาท

๘. คา ธรรมเนียมการขอใหไ ดมาซึง่ ท่ดี ินของคนตา งดาว รายละ ๕๐๐ บาท

คาอนญุ าต ไรละ ๑๐๐ บาท

เศษของไรใ หคดิ เปนหน่งึ ไร

๙.๙๗ (ยกเลกิ )

๙๖ บญั ชีอตั ราคาธรรมเนยี มและคา ใชจา ยทายประมวลกฎหมายที่ดิน ๗.
แกไ ขเพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบับที่ ๙)
พ.ศ. ๒๕๔๓

๙๔

๑๐. คา ธรรมเนยี มเบด็ เตลด็ ๕ บาท
(๑) คาคําขอ แปลงละ
(๒) คา คัดสําเนาเอกสารตาง ๆ รวมทัง้ คา คัดสาํ เนา ๑๐ บาท
เอกสารเปนพยานในคดแี พง โดยเจา หนาทเ่ี ปน ผูคดั ๕ บาท
รอยคําแรกหรอื ไมถ ึงรอ ยคํา
รอ ยคําตอไป รอยละ ๑๐ บาท
เศษของรอ ยใหคดิ เปนหน่งึ รอย ๑๐ บาท
(๓) คา รบั รองเอกสารที่คัด ฉบับละ ๑๐ บาท
(๔) คาตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทีด่ ิน แปลงละ ๒๐ บาท
(๕) คา รบั อายดั ที่ดิน แปลงละ
(๖) คา มอบอํานาจ เรอ่ื งละ ๕๐ บาท
(๗) คาออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ หรอื หนงั สือแสดงสิทธิ ๑๐ บาท
ในท่ดี ินอยา งอืน่ ฉบับละ ๑๕ บาท
(๘) คา ประกาศ แปลงละ
(๙) คาหลกั เขตทดี่ ิน หลักละ ๖๐ บาท
ถาเปนการเดินสํารวจหรือสอบเขตท้ังตาํ บล
สาํ หรับกรณีออกโฉนดคดิ เปน รายแปลง แปลงละ

๙๗ บญั ชอี ตั ราคา ธรรมเนยี มและคาใชจ ายทายประมวลกฎหมายทด่ี ิน ๙.
ยกเลิกโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ.
๒๕๕๑

๙๕

(๑๐)๙๘ คาตรวจสอบขอมลู ดา นงานรงั วัด ดา นทะเบียนทดี่ ิน

ดานประเมนิ ราคาหรอื ขอ มลู อน่ื ครั้งละ ๑๐๐ บาท

(๑๑)๙๙ คาสําเนาจากสื่อบันทึกขอ มลู ทางคอมพิวเตอร

หรอื สื่ออิเลก็ ทรอนิกสอน่ื หรือสาํ เนาขอ มูลอื่นแผนละ ๕๐ บาท

๑๑.๑๐๐ คา ใชจา ย

(๑) คา พาหนะเดนิ ทางใหแกเ จา พนกั งาน ใหจ า ยในลกั ษณะเหมาจา ย

พนกั งานเจาหนา ที่ และคนงานทจี่ า ง ตามระเบยี บกระทรวง

ไปทาํ การรังวดั เกย่ี วกบั โฉนดทดี่ นิ มหาดไทยดว ยความ

หรอื พสิ จู นส อบสวน หรือตรวจสอบ เห็นชอบของ

เนอื้ ทเ่ี กยี่ วกบั หนงั สือรบั รองการ กระทรวงการคลัง

ทําประโยชนตามคาํ ขอ

(๒) คาเบ้ียเลีย้ งใหแ กเจา พนักงาน ใหจ ายในลกั ษณะเหมาจา ย

พนกั งานเจาหนา ท่ี และคาจาง ตามระเบียบกระทรวง

คนงาน ทจ่ี า งไปทําการรังวดั มหาดไทยดวยความ

๙๘ บัญชีอัตราคา ธรรมเนยี มและคา ใชจายทายประมวลกฎหมายท่ดี ิน ๑๐.
(๑๐) เพม่ิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ.
๒๕๔๓

๙๙ บญั ชีอตั ราคาธรรมเนียมและคาใชจ า ยทายประมวลกฎหมายที่ดิน ๑๐.
(๑๑) เพม่ิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๙) พ.ศ.
๒๕๔๓

๑๐๐ บญั ชอี ตั ราคา ธรรมเนยี มและคา ใชจา ยทา ยประมวลกฎหมายที่ดิน ๑๑.
แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับท่ี ๗)
พ.ศ. ๒๕๔๑

๙๖

เกยี่ วกับโฉนดที่ดิน หรอื พสิ จู น เหน็ ชอบของกระทรวง

สอบสวน หรอื ตรวจสอบเน้อื ท่ี การคลัง

เก่ยี วกบั หนังสอื รบั รองการ

ทําประโยชนตามคาํ ขอ

(๓) คา ปว ยการใหแ กเ จาพนักงานผูปกครอง

ทอ งทห่ี รือผแู ทนท่ีไปในการรังวดั เกย่ี วกับ

โฉนดที่ดิน หรือพสิ จู นสอบสวน หรือ

ตรวจสอบเนอ้ื ที่เกี่ยวกับหนงั สอื รับรอง

การทําประโยชน คนหนง่ึ วนั ละ ๑๐๐ บาท

(๔) คาใชจ า ยอน่ื ๆ ในการรงั วัดเก่ียวกับ ใหจ า ยในลกั ษณะเหมาจาย

โฉนดทดี่ นิ หรอื พิสูจนส อบสวน ตามระเบยี บกระทรวง

หรอื ตรวจสอบเน้ือทเ่ี กย่ี วกบั มหาดไทยดว ยความ

หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน เหน็ ชอบของกระทรวง

การคลัง

(๕) คาปด ประกาศใหแ กผปู ด ประกาศ แปลงละ ๒๐ บาท

(๖) คาพยานใหแกพ ยาน คนละ ๒๐ บาท

๙๗

บญั ชคี า ตอบแทนทายประมวลกฎหมายทด่ี ิน๑๐๑

คาตอบแทนในการอนุญาต

(๑) ตามมาตรา ๙ (๑) ไรละ ๑,๐๐๐ บาทตอป

(๒) ตามมาตรา ๙ (๒) หรอื มาตรา ๙ (๓)

(ก) การขุดหรอื ดูดทราย ลูกบาศกเมตรละ ๒๘ บาท

(ข) การขดุ ดนิ หรือลูกรงั หรืออื่น ๆ ไรละ ๑๐,๐๐๐ บาทตอ ป

หรือลกู บาศกเ มตรละ ๑๐ บาท

๑๐๑ บัญชคี าตอบแทนทา ยประมวลกฎหมายท่ดี นิ แกไขเพม่ิ เติมโดย
พระราชบญั ญตั ิแกไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๔๑

 
 
 

กฎกระทรวง

 ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายทดี่ นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗

 

 

 

กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ช
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๓๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง
ไวดงั ตอไปน้ี

ขอ ๑. บุคคลใดมีที่ดินเกินกวาสิทธิตามจํานวน มที ่ดี นิ เกนิ สิทธิ
ที่กําหนดไวในมาตรา ๓๔ และมีหนาท่ีแจงตามมาตรา หนาที่ตองแจง
๓๘ (๑) ใหแจงตามแบบ จ.ส. ๑ ทา ยกฎกระทรวงนี้

ขอ ๒. การแจง ตามความในขอ ๑ ใหกรอกจํานวน วธิ กี ารแจง
ทด่ี ิน ซง่ึ ผแู จงมีอยูทกุ แปลงรวมลงในแบบแจง ฉบับเดียว
ในกรณีท่ีผูแจงถือสิทธิในที่ดินเพื่อประโยชนของ
บุคคลอน่ื ตามมาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ ใหระบุลงไว
ในชองหมายเหตุของแบบ จ.ส.๑ ดวย การระบุในชอง
หมายเหตุดังกลาวไมกระทบกระเทือนหนาที่ท่ีจะตอง

๑๐๐

แจงตามความในมาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ อีกช้ันหน่ึง

และใหระบุถึงขอเท็จจริงที่ทําใหผูแจงมีสิทธิในที่ดิน

เกินกาํ หนด (ถาม)ี ไวด วย

ขอ ๓. ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีสิทธิในท่ีดิน กรณถี ือสทิ ธิ

แปลงเดียวรวมกัน ใหแตละคนลงรายการจํานวนท่ีดิน รว มกันหลายคน

แปลงน้ันทั้งแปลงในแบบแจงของตน แตใหระบุไวใน

ชองหมายเหตุใหทราบวา มีสิทธิรวมกับบุคคลใดบาง

และใหบคุ คลผูเปนเจาของรว มลงลายมือชอื่ กํากับไวใ น

ชองหมายเหตุดว ย

ในกรณีท่ีเจาของรวมไมไดลงลายมือช่ือ ก็ให กรณีเจาของรว ม

หมายเหตุไวในชองหมายเหตุวาเจาของรวมไมไดลง ไมไ ดล งชื่อ

ลายมอื ช่ือเพราะเหตใุ ด

ขอ ๔. พนกั งานเจาหนา ท่ีผูร ับแจง คอื เจา หนา ที่

(๑) เจาพนักงานที่ดินในทองที่ซ่ึงมีสํานักงาน ผรู ับแจง

ที่ดิน หรือ

(๒) นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนา

ประจํากิ่งอําเภอในทองที่ซงึ่ ไมมีสาํ นกั งานท่ีดนิ

ขอ ๕. การแจงใหแจงตอพนักงานเจาหนาท่ีใน กรณมี ีหลาย

ทองท่ีซึ่งท่ีดินตั้งอยู และในกรณีที่มีที่ดินหลายแปลง ทอ งท่ี

จะแจงตอพนักงานเจาหนาที่ในทองท่ีซ่ึงท่ีดินแปลงใด

แปลงหนงึ่ ต้งั อยกู ไ็ ด

ขอ ๖. เมอ่ื พนกั งานเจาหนา ทไ่ี ดร บั แบบ จ.ส.๑ ออกใบรบั

ไวแ ลว ใหออกใบรบั มอบใหผ แู จงยึดถอื ไวเปน หลกั ฐาน

๑๐๑

ขอ ๗. บุคคลใดมีท่ีดินเกินกวาสิทธิตามจํานวน การมสี ิทธิ
ที่กําหนดไวในมาตรา ๓๔ และมีหนาที่แจงตามมาตรา เปลยี่ นแปลง
๓๘ (๒) ใหแจงตอพนักงานเจาหนาที่ผูรับจดทะเบียน
ในขณะที่ทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม
แบบ จ.ส.๑ ทา ยกฎกระทรวงนี้ แตใหระบุในชองหมาย
เหตุ ถึงกรณีท่ี ขอเ ท็จ จ ริ งแ หงสิ ทธิ ใ น ท่ีดิ นได
เปล่ียนแปลงไปดว ย

ใหไว ณ วันที่ ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรอื โท สุนาวนิ ววิ ฒั

รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

(ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๘๒ (ฉบับพเิ ศษ) ลงวนั ที่ ๑๑ ธันวาคม
๒๔๙๗)

๑๐๒

 

กฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใช
ประมวลกฎหมายทด่ี ิน

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง

พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.

๒๔๙๗ และมาตรา ๕๐ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน

รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวง

ไวด งั ตอ ไปนี้

ขอ ๑. ในการท่ีอธิบดีใชอํานาจจําหนายที่ดิน อธบิ ดีจําหนาย

โดยการขายหรือใหเชาซอื้ ใหปฏิบตั ิ ดังน้ี ทีด่ ิน

(๑) กรณีขาย ใหขายโดยวิธีซ้ือขายธรรมดา โดย - ขาย

การประกวดราคา หรอื โดยการทอดตลาด

(๒) กรณีใหเชาซ้ือ ใหปฏิบัติตามความใน (๑) - เชาซ้ือ

โดยอนโุ ลม

ขอ ๒. ผูมีสิทธิ์ในที่ดินที่จะเสนอความเห็นตอ ผูมสี ิทธใิ นท่ดี ิน

อธิบดีวา ในการขายหรือการใหเชาซ้ือนั้นควรจะใชวิธี เสนอวิธีจาํ หนา ย

ซื้อขายธรรมดา การประกวดราคา หรอื การทอดตลาดกไ็ ด

๑๐๔

ขอ ๓. การขายหรอื การใหเ ชาซ้ือ ใหดําเนินการ ประกาศการ
ในทองท่ีซึ่งท่ีดินต้ังอยูกอนที่จะทําการขายหรือใหเชา จาํ หนาย
ซื้อที่ดินแปลงใดตองประกาศใหประชาชนทราบมี
กําหนด ๓๐ วัน ประกาศนั้นใหปดไวในที่เปดเผย ณ
สํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขา ๑
ฉบับ ณ ที่วาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอทองที่ ๑ ฉบับ ณ
ท่ีวาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอทองที่ ๑ ฉบับที่บานกํานัน
๑ ฉบับ และในบริเวณที่ดินที่จะขาย ๑ ฉบับ ในเขต
เทศบาลใหปดไว ณ สํานักงานเทศบาล ๑ ฉบับ และจะ
ประกาศในหนังสือพมิ พรายวนั ดวยกไ็ ด

ขอ ๔. เม่ือหมดกําหนดระยะเวลาประกาศให กรณผี ูมีเสนอสูง
ขายหรือใหเชาซื้อท่ีดินตามขอ ๓ ถามีผูเสนอขอตกลง หรอื ต่ํากวาราคาท่ี
ซ้อื หรือขอเชา ซือ้ เทากบั หรือสงู กวาราคาท่ีบญั ญตั ไิ วใ น กําหนด
มาตรา ๕๒ ก็ใหขายหรือใหเชาซื้อไปได แตถามีผู
เสนอขอซื้อต่ํากวาราคาที่บัญญัติไวในมาตรา ๕๒ เมื่อ
ผูมีสทิ ธใิ นท่ดี นิ ยินยอมก็ใหข ายหรอื ใหเชาซอื้ ไปได

ขอ ๕. เม่ือมีการตกลงซื้อขายหรือใหเชาซ้ือกัน ชาํ ระ ๒๐% กอน
แลว ใหผ ูซ้ือหรอื ผเู ชาซือ้ ชาํ ระราคาท่ดี นิ ไวรอยละย่ีสิบ
กอน สวนราคาท่ีดินที่เหลือนั้นสําหรับกรณีซ้ือขาย
เดด็ ขาดใหชาํ ระใหเ สรจ็ ในเมอ่ื จดทะเบียนโอนท่ีดินตอ
พนักงานเจาหนาท่ี สําหรับกรณเี ชาซ้ือโดยผอนชาํ ระ

๑๐๕

ราคาใหคํานวณราคาที่จะพึงผอนชําระเปนงวด ๆ ให
เสร็จสน้ิ ภายในกําหนดเวลาท่รี ะบุไวในมาตรา ๕๔

ใหไว ณ วันท่ี ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สนุ าวนิ ววิ ฒั

รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

(ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบบั พเิ ศษ) ลงวนั ที่ ๑๑ ธนั วาคม
๒๔๙๗)

 

กฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗)*
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ช
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๖๕ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง
ไว ดังตอ ไปนี้

ขอ ๑. การรังวัดทําแผนที่เพ่ือออกโฉนดที่ดิน วิธกี ารรังวัด
ใหก ระทําได ๒ วิธี คอื

(๑) แผนที่ช้ันหนึ่ง กระทําโดยการใชกลองธีโอ - แผนท่ชี ั้นหนงึ่
โดไลทและเคร่ืองมือวัดระยะโยงยึดหลักเขตวัดงามมุม
ภาคของทิศ หรือใชกลองสํารวจแบบประมวลผล หรือ
การรังวัดดวยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมหรือดวย

* หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๙ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๐๗

เครื่องมือสํารวจประเภทอื่นที่มีความละเอียดถูกตอง
ไมตํ่ากวาเกณฑมาตรฐานท่ีกรมท่ีดินกําหนด โดย
คาํ นวณเปนคา พิกัดฉากสืบเนือ่ งจากหมุดหลักฐานแผน
ที่ของกรมที่ดิน และคํานวณพ้ืนท่ีโดยวิธีคณิตศาสตร
จากคาพิกัดฉากของแตละมมุ เขต

(ความใน ขอ ๑. (๑) แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๔๙ (พ.ศ. ๒๕๔๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใชป ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

(๒) แผนท่ีช้ันสอง ซึ่งใชแผนท่ีระวางเปนหลัก - แผนท่ชี น้ั ๒
กระทําโดยวิธีวัดระยะเปนมุมฉากหรือวัดระยะสกัด
เปนรปู สามเหล่ียมจากเสนหมุดหลักฐานโครงงานแผน
ที่หรือโดยวิธีจากรูปถายทางอากาศ และคํานวณเนื้อที่
โดยวิธคี ณิตศาสตรห รอื โดยมาตราสว น

ท่ีดินบริเวณใดควรกระทําโดยวิธีใด ใหอธิบดี อธบิ ดกี าํ หนดวิธี
กําหนด

ขอ ๒. ท่ีดินในแผนที่ระวางออกโฉนดที่ดินซ่ึง การรังวัดตอ ง
ทําการรังวัดเพ่ือออกโฉนดท่ีดินไวแลวโดยวิธีแผนท่ี มาตรฐานเทา เดิม
ชน้ั หนึง่ หรอื โดยวธิ ีแผนท่ีชั้นสอง เมอื่ มีความจําเปนตอ ง หรือดีกวา
รังวัดใหม ใหทําการรังวัดโดยมีมาตรฐานเทาเดิมหรือ
ดกี วา

ขอ ๓. เพื่อใหเสนเขตท่ีดินท่ีทําการรังวัดเปน กรณเี ขตทดี่ ินเปน
เสนตรงไมคดไปคดมา ใหเจาของท่ีดินทั้งสองฝายทํา เสนคด
ความตกลงกําหนดเสนเขตเสียใหม ใหเ ปน เสนตรงเสน

๑๐๘

เดียวหรือหลายเสนตอกันไดเมื่อตกลงกันประการใด
ใหพนักงานเจาหนาทที่ ําการรังวดั ไปตามนน้ั

ใหไ ว ณ วนั ที่ ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สนุ าวนิ วิวัฒ

รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

(ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบับพเิ ศษ) ลงวนั ท่ี ๑๑ ธนั วาคม
๒๔๙๗)

กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)*
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ช
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๗๗ มาตรา ๗๘ แหงประมวล
กฎหมายที่ดิน รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
ออกกฎกระทรวงไวด งั ตอ ไปนี้

ขอ ๑ ภายใตบังคับขอ ๘ และขอ ๙ บุคคลใดมี การยื่นคําขอ
ความประสงคจะขอทําการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรม
ใหบุคคลน้ันย่ืนคําขอตามแบบ ท.ด. ๑ สําหรับท่ีดินท่ีมี
โฉนดที่ดิน หรือแบบ ท.ด. ๑ ก สําหรับที่ดินที่ยังไมมี
โฉนดท่ีดนิ และอสงั หารมิ ทรัพยอยางอ่ืน พรอ มท้ังแนบ

* หมายเหตุ แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖),
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๑๐

หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือหลักฐานอยางอ่ืนตอ
พนักงานเจา หนาที่

แบบ ท.ด. ๑ และแบบ ท.ด. ๑ ก ตามวรรคหนึ่ง แบบ ท.ด.๑
ใหเ ปน ไปตามท่อี ธิบดปี ระกาศกาํ หนด

(ความในขอ ๑ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับ
ที่ ๕๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ช

ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)
ขอ ๒. กอนทําการจดทะเบียนใหพนักงาน การสอบสวน

เจา หนาทส่ี อบสวนในเรอื่ งดังตอ ไปนีด้ วย คือ
(๑) สิทธิและความสามารถของบุคคลรวม

ตลอดถึงความสมบูรณแหงนิติกรรมตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย

(๒) ขอกําหนดสิทธิในที่ดินและการคาท่ีดิน
หรือการหลกี เล่ยี งกฎหมาย เชน การไดมาซ่ึงท่ีดินเพ่ือ
ประโยชนแกค นตา งดาว

(๓) การกาํ หนดทุนทรัพยสาํ หรับเสีย
คาธรรมเนียมในการจดทะเบยี น

ขอ ๓. ในกรณีทีเ่ ห็นเปนการสมควร พนักงาน ออกตรวจสภาพ
เจา หนาทจี่ ะใหคูกรณีนําพนักงานเจาหนาที่หรือเจาหนาที่
อืน่ ไปตรวจสภาพของท่ีดิน หรืออสังหาริมทรัพยอยาง
อืน่ โดยคูกรณีเปนผอู อกคาใชจา ยเองกไ็ ด

๑๑๑

ขอ ๔. นิติกรรมท่ีคูกรณีขอใหจดทะเบียนนั้น การจัดทําเอกสาร
ถาทําในรูปหนังสือสัญญาใหทําเปนคูฉบับเพ่ือเก็บไว
ณ สํานักงานที่ดิน ๑ ฉบับ และมอบใหผูเปนฝายอีก ๑
ฉบับ หรือ ๒ ฉบับ แลวแตกรณี ถาทําเปนรูปบันทึก
ขอ ตกลงใหทํา ๑ ฉบับ เพ่อื เกบ็ ไว ณ สาํ นักงานทีด่ นิ

ขอ ๕ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม กรณตี องประกาศ
เก่ียวกับที่ดินท่ียังไมมีโฉนดท่ีดินใบไตสวน หรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนตามแบบ น.ส.๓ ก.
หรือเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนในที่ดินดังกลาว
หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอ ยา งอื่นในทด่ี นิ ที่มีโฉนด
ที่ดิน ใบไตสวนหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามแบบ น.ส.๓ ก. ในกรณีไมรวมกับท่ดี นิ ดงั กลาว ให
ประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมมีกําหนด
สามสิบวัน

ประกาศตามวรรคหนึ่งใหปดไวในท่ีเปดเผย ปดประกาศ
ณ สํานักงานที่ดินทองที่ซ่ึงท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย ขอ ยกเวนไมตอ ง
อยางอ่ืนตั้งอยู สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือ ประกาศ
ที่วาการกิ่งอําเภอทองที่ ท่ีทําการแขวงหรือท่ีทําการ
กํานันทองที่ และบริเวณที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยน้ัน
แหงละหน่งึ ฉบบั

(ความในขอ ๕. แกไขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั
ท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

๑๑๒

ขอ ๖ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม กรณีไมต อง
ดงั ตอไปน้ี ไมตองประกาศตามความในขอ ๕ คือ ประกาศ

(๑) การจดทะเบยี นเลกิ สิทธิหรือนิติกรรม เชน
เลกิ เชา เลิกการจํายอม เปนตน

(๒) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่
เก่ียวเน่ืองกับการจํานอง เชน การไถถอน การขึ้นเงิน
การผอนตน การโอนสิทธิ การโอนหลุดเปนสิทธิ การ
โอนชําระหน้ีจํานอง การแกไขเปล่ียนแปลงจํานอง
หรือหนี้อันจาํ นองเปน ประกนั เปนตน

(๓) การไถถอนจากการขายฝาก การปลด
เงือ่ นไขการไถหรือการโอนสิทธกิ ารไถถ อนจากการ
ขายฝาก

(๔) การจดทะเบียนการไดมาจากการขายทอด
ตลอดโดยมีการบงั คบั คดที างศาล

(๕) การจดทะเบียนตาม (๒) (๓) หรือ (๔)
แลว จดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมประเภทอืน่ ตอไปใน
วนั เดยี วกัน

(๖) เมื่อมีการประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมประเภทหนึ่งประเภทใดไวครบกําหนด
แลว ตอมามีการตกลงเปล่ียนประเภทการจดทะเบียน
หรือเปลย่ี นคกู รณฝี ายผูร ับสญั ญา

(๗) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทหนึ่งประเภทใดซ่ึงไดกระทําติดตอในวัน

๑๑๓

เดียวกันเม่อื การจดทะเบยี นลาํ ดบั แรกนนั้ มีการประกาศ
ตามขอ ๘ แลว

(๘) การจะทะเบยี นการโอนตามคําส่งั ศาล
(๙) การจดทะเบียนการโอนตามคําส่ัง
พนกั งานเจาหนา ท่ผี ูมีอํานาจตามกฎหมายอืน่

(ความในขอ ๖. แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับ
ท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๗. ในการประกาศตามความในขอ ๕. ถา กรณมี ีการคัดคา น
ไมมผี ใู ดคดั คานภายในกําหนดเวลาแลว ใหดําเนินการ
จดทะเบียนตอไป ในกรณีท่ีมีผูคัดคาน ใหพนักงาน
เ จ า ห น า ท่ี ส อ บ ส ว น พ ย า น ห ลั ก ฐ า น แ ล ะ ทํ า ก า ร
เปรียบเทียบท้ังสองฝาย ถาตกลงกันได ใหทําหนังสือ
สัญญาประนีประนอมยอมความไวแลวดําเนินการ
ตามนั้น ถาตกลงกันไมไดใหงดดําเนินการไวแลวแจง
ใหท้ังสองฝายไปจัดการฟองรองวากลาวกันตอไป และ
เม่ือมีคําพิพากษาถึงท่ีสุดแลว จึงดําเนินการจดทะเบียน
ตามผลแหง คาํ พพิ ากษา

ขอ ๘. การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ซึ่งไดมา จดครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ปรปกษ
๑๓๘๒ ใหดําเนินการดงั น้ี

๑๑๔

(๑) ผไู ดมาตองย่นื คําขอตอพนกั งานเจาหนา ท่ี คําพพิ ากษาถึง

พรอมดวยคําพิพากษา หรือคําส่ังศาลอันถึงท่ีสุด ที่สุด

แสดงวาตนมกี รรมสิทธ์ิในทีด่ นิ ดังกลาวน้ัน

(๒) ถาผูไดมาไดกรรมสิทธิ์ที่ดินมาเต็มตาม “ไดม าโดยการ

โฉนดท่ีดิน ใหพนักงานเจาหนาที่จดทะเบียนใน ครอบครอง”

ประเภทไดมาโดยการครอบครอง

(๓) ถาโฉนดที่ดินมีชื่อบุคคลคนเดียวหรือ ตกลงได

หลายคนแตผ ูไ ดม าไดกรรมสทิ ธิ์เฉพาะสวนหนึ่งสวนใด “ไดม าโดยการ
ใหสอบสวนวาตางฝายตางจะยอมใหผูไดมามีช่ือรวมใน ครอบครอง)

โฉนดที่ดินหรือไม ถาตกลงกัน ก็ใหจดทะเบียนใน

ประเภทไดม าโดยการครอบครอง โดยเติมช่ือผูไดมาลงไป ตกลงไมไ ด
ในโฉนด ถาไมตกลงกันก็ใหแบงแยกสวนของผูไดมา “แบงไดมาโดย
ออก โดยใหผูไดมาและผูมีช่ือในโฉนดท่ีดินยังมี การครอบครอง”

กรรมสิทธ์ิอยูไปดูและระวังเขตที่ดินในกรรมสิทธ์ิของตน

แลวจดทะเบียนในประเภทแบงไดมาโดยการครอบครอง

ถาผูไดมาไดกรรมสิทธิ์เฉพาะสวนของคนใด กรณีไดม า

คนหน่ึงหรือหลายคนไมเต็มตามโฉนดท่ีดิน ใหจด เฉพาะสว น

ทะเบียนในประเภทไดม าโดยการครอบครองเฉพาะสว น

(๔) ในกรณีตาม (๑) (๒) และ (๓) ถาไมได การออกใบแทน

โฉนดที่ดินมาใหถือวา โฉนดที่ดินสูญหายใหเจา

พนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดท่ีดิน แลวดําเนินการ

จดทะเบียนตอไปตามควรแกกรณี ในกรณีเชนวานี้

โฉนดทีด่ ินเดิมเปนอนั ใชไมไ ดตอไป

๑๑๕

(๕) ถาผูไดมาไดกรรมสิทธิ์มาไมตรงตาม กรณีไดม าไมตรง

โฉนดที่ดนิ ใหเ จา พนักงานท่ดี ินออกโฉนดที่ดินใหใ หม โฉนด

เม่ือออกโฉนดท่ีดินใหใหมแลว ถาไดโฉนด

ที่ดินเดิมมา ใหหมายเหตุดวยหมึกแดง ลงไวใน

ดานหนาของโฉนดเดิมแสดงวาโฉนดที่ดินฉบับน้ันไดมี

การออกโฉนดใหมแลว สําหรับกรณีไมไดโฉนดท่ีดิน

เดิมมา ใหระบุไวในประกาศแจกโฉนดท่ีดิน แสดงวา

ไมไดโ ฉนดที่ดินมาดวย

(๖) ถาโฉนดที่ดินนั้นมีการจดทะเบียน กรณมี ี

ผูกพัน เชน จํานอง เชา ภาระจํายอม ใหพนักงาน ภาระผูกพนั

เจาหนาที่แจงใหศาลทราบ เมื่อศาลแจงมาอยางไร ให

ปฏิบัตติ ามควรแกกรณี

ขอ ๙. การจดทะเบียนสิทธิในท่ีดินโดย จดสิทธกิ รณอี นื่

ประการอ่ืนนอกจากนติ กิ รรม ใหดําเนนิ การดังนี้ นอกจากนิติกรรม

(๑) ผไู ดม าตองยน่ื คาํ ขอตอ พนักงานเจา หนาที่

พรอ มดว ยเอกสารแสดงสทิ ธกิ ารไดม าและโฉนดทีด่ ิน

(๒) ถาเปนกรณีไดมาโดยศาลสั่ง ใหจด

ทะเบียนในประเภทโอนตามคําสั่งศาล โดยระบุคําส่ัง

ศาลไวดว ย

(๓) ถา เปน กรณีไดมาโดยประการอนื่ ให

ปฏบิ ตั ิตามความใน (๒) โดยอนโุ ลม

(๔) ถาโฉนดที่ดินมีชื่อไมตรงกับกรณีศาลส่ัง

มาหรือมีการจดทะเบียนผูกพันอยูเชนจํานอง เชา

๑๑๖

ภารจํายอม ใหพนักงานเจาหนาที่แจงใหศาลทราบ
เม่ือศาลแจง มาอยา งไร ใหป ฏิบตั ิตามควรแกกรณี

ใหไว ณ วนั ท่ี ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
(ลงชอ่ื ) พลเรอื โท สนุ าวนิ ววิวฒั
(พลเรือโท สุนาวินววิวัฒ)
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย

(ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบับพิเศษ) ลงวนั ท่ี ๑๑ ธนั วาคม
๒๔๙๗)

 

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ช
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง

พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.

๒๔๙๗ และมาตรา ๘๖ มาตรา ๘๙ แหงประมวล

กฎหมายทดี่ ิน รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก

กฎกระทรวงไวด งั ตอไปน้ี

ขอ ๑. คนตางดาวผูใดไดมาซ่ึงที่ดินตามความ เงอื่ นไขตามท่ี

ในประมวลกฎหมายทีด่ นิ ตองปฏบิ ัตดิ ังนี้ ไดม าซง่ึ ท่ดี นิ

(๑) ตองใชท่ีดินน้ันดวยตนเองตามที่ไดรับ

อนุญาต

(๒) ตองเร่ิมใชท่ีดินน้ันเพ่ือกิจการตามท่ีขอ

ภายในกําหนดหนึ่งป นับแตวันท่ีไดรับโอนสิทธิใน

ท่ีดนิ มา

(๓) ถาจะจําหนายจายโอนท่ีดินไปตองไดรับ

อนญุ าตจากรฐั มนตรกี อน

๑๑๘

ขอ ๒. การยื่นคําขออนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดินให การขออนุญาต

ย่ืนตอ พนักงานเจาหนา ที่ตามความในมาตรา ๗๑

ขอ ๓. เมอื่ ไดร ับคาํ ขอแลว ใหพนักงานเจาหนาท่ี การเสนอ รตม.

สอบสวนแลวเสนอรัฐมนตรีพจิ ารณา

ขอ ๔. แบบคาํ ขอใหใ ชดงั นี้ แบบคาํ ขอไดมา/

(๑) การขออนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดินใหใชแบบ ขอใชเพือ่

ต. ๑ ทายกฎกระทรวงน้ี หรือแบบ ๑ ทายกฎกระทรวง กิจการอื่น

มหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ดินใน

สว นท่เี ก่ียวกบั คนตางดาว พทุ ธศักราช ๒๔๘๖

(๒) การขออนุญาตใชที่ดินเพ่ือกิจการอื่นใหใช

แบบ ต. ๒ ทายกฎกระทรวงนี้ หรือแบบ ๒ ทาย

กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติ

ที่ดนิ ในสว นท่เี ก่ียวกบั คนตา งดาว พุทธศักราช ๒๔๘๖

ขอ ๕. การแจงไมใชท่ีดินใหใชแบบ ต. ๓ ทาย การแจง ไมใชท่ดี ิน

กฎกระทรวงนี้ หรือแบบ ๒ ทายกฎกระทรวงมหาดไทย

ออกตามความในพระราชบัญญัติท่ีดินในสวนท่ี

เกยี่ วกบั คนตา งดาวพทุ ธศักราช ๒๔๘๖

ขอ ๖. ในกรณีที่นิติบุคคลตามมาตรา ๙๗ ย่ืนคํา กรณีนิตบิ ุคคล

ขอใหไดมา หรือใชเพื่อกิจการอยางอื่นซ่ึงท่ีดิน ใหใช ไดมา/ขอใช

แบบอยางเดียวกับที่บัญญัติไวในขอ ๔ และขอ ๕ โดย

อนโุ ลม แลว ใหแสดงรายการดงั ตอไปน้ดี วย คอื

(๑) ถาเปนบริษัทจํากัด หางหุนสวนจํากัด หรือ - กรณีบริษทั

หางหุนสวนสามัญท่ีจดทะเบียนแลวใหแสดงวามีทุน หจก. หางหุนสว น

๑๑๙

เทาใด แบงเปนกี่หุน มีผูถือหุนหรือผูเปนหุนสวนเปน สามัญ
คนสัญชาติใดเทาใดถือหุนคนละเทาใด ผูจัดการหรือ
กรรมการเปนคนสัญชาติใด เฉพาะบริษัทจํากัดให
แสดงดวยวาไดออกใบหุนชนิดออกใหแกผูถือบาง
หรือไม ถาออกไดออกไปเปนจํานวนเทาใด ถามีนิติ
บุคคลเปนผูถือหุนหรือเปนหุนสวน ใหแสดงรายการ
อยางเดียวกับท่ีกลาวมาขางตนสําหรับนิติบุคคลนั้น
ดวยและใหแสดงใบสําคัญการจดทะเบียนกอตั้งนิติ
บคุ คลกับหนงั สอื บริคณหส นธิ และขอ บงั คบั (ถา มี) ดวย

(๒) ถาเปนสมาคมหรือสหกรณ ใหแสดงวามี - กรณีสมาคม
สมาชิกเปนคนสัญชาติใด เทาใด มีวัตถุประสงค หรอื สหกรณ
อยางไร มีผูจัดการหรือกรรมการเปนคนสัญชาติใด
และใหแสดงใบสําคัญการจดทะเบียนหรือตราสาร
กอ ตง้ั นติ ิบุคคลและขอ บงั คบั ดว ย

(๓) ถาเปนมูลนิธิ ใหแสดงวามีวัตถุประสงค - กรณีมูลนธิ ิ
อยางไร มีผูจัดการหรือกรรมการเปนคนสัญชาติใด
และใหแสดงใบสําคัญการจดทะเบียนหรือตราสาร
กอ ตงั้ มลู นธิ แิ ละขอบังคับดวย

ใหไ ว ณ วันท่ี ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สุนาวนิ วิวฒั

รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย

(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๘๒ (ฉบบั พิเศษ) ลงวันที่ ๑๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗)

๑๒๐

๑๒๑

๑๒๒

 

กฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐)*
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ช
ประมวลกฎหมายท่ดี ิน

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. การจดั หา
๒๔๙๗ และมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ แหงประมวล ผลประโยชนใน
กฎหมายทีด่ ิน รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก ทดี่ ินของรัฐ
กฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ การขายที่ดินใหกระทําโดยวิธีขาย วิธีขายทอดตลาด
ทอดตลาด เวนแต

(๑) การขายท่ีดินในกรณีท่ีมีผูเชาหรือผูอาศัยอยู - กรณีมีผเู ชา หรือ
ในท่ีดินน้ันติดตอกันมาไมนอยกวาหาปใหกระทําโดย ผูอาศัยไมนอ ย
วธิ ีกําหนดราคาขายตามราคาตลาด และเปดโอกาสใหผู กวา ๕ ป
เชา ผูอาศัยรวมถึงทายาทของผูเชาหรือผูอาศัย แลวแต

* หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๒๔

ขอ ๒. เมื่อไดรับคําขออนุญาตใหพนักงาน การอนุญาต
เจาหนาที่สอบสวนตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทย
เสร็จแลวใหรายงานพรอมทั้งสงเอกสารการสอบสวน
ไปยังรัฐมนตรี

ใหไ ว ณ วนั ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สุนาวนิ วิวัฒ

รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย

(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบับพิเศษ) ลงวันท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๔๙๗)

 

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๗)*
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๑๐๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง
ไวดงั ตอ ไปน้ี

ขอ ๑. บุคคลใดประสงคจะทําการคาท่ีดินให ขอคา
ย่ืนคําขออนุญาตตอพนักงานเจาหนาท่ีตามความใน
มาตรา ๗๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน โดยแสดง
แผนผงั ของที่ดินทจี่ ะขายหรือท่จี ะแบงขาย หรอื ที่จะให
เชาซื้อ โครงการและราคาท่ีจะขายหรือราคาที่จะใหเชา
ซือ้ เสนอไปพรอมกับคําขอดวย

* ปจจุบัน การขอคาท่ีดินไดถูกยกเลิกแลว โดยพระราชบัญญัติแกไข
เพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑

๑๒๖

กรณี มโี อกาสซ้ือไดกอนผูอื่น เมื่อไมเปนท่ีตกลงกันจึง
ใหก ระทําโดยวธิ ขี ายทอดตลาด หรอื

(๒) การขายที่ดินแกบุคคลผูมีสวนไดเสียหรือ - กรณปี ระกวด
ไดชวยทําประโยชนในที่ดินน้ันใหกระทําโดยวิธี ราคา
กําหนดราคาแตถาบุคคลดังกลาวหลายคนประสงคจะ
ซ้ือที่ดินแปลงเดียวกัน และไมอาจตกลงกันได ให
กระทําโดยวธิ ปี ระกวดราคา

ขอ ๒ การแลกเปลี่ยนท่ีดิน ใหแลกเปลี่ยนกับ วธิ ีแลกเปลี่ยน
ท่ีดินซึ่งมีราคาใกลเคียงกัน โดยคํานึงถึงวัตถุประสงค
และประโยชนของการแลกเปลย่ี นนน้ั

ขอ ๓ การใหเชาที่ดิน ใหกําหนดราคาคาเชา วธิ ใี หเชา
โดยคํานึงถึงสภาพแหงทองท่ีประกอบกับทุนท่ีไดลง
ไปในที่ดินนัน้

ในกรณีใหเชาที่ดินสําหรับอยูอาศัย ถาผู การพิจารณา
ประสงคจะเชามีหลายคนเกินกวาที่ดินที่กําหนดไวให คดั เลือก
พิจารณาคัดเลือกบุคคลท่ีมีความจําเปนและไดรับความ
เดือดรอนเก่ียวกับท่ีอยูอาศัยมากกวา ไดเชากอน
ตามลาํ ดับ

การใหเชาท่ีดินแกบุคคลผูมีสวนไดเสียหรือได กรณตี องประกวด
ชวยทําประโยชนในที่ดินน้ันใหกระทําโดยวิธีกําหนด ราคาคา เชา
ราคาคา เชาแตถ า บุคคลดังกลา วหลายคนประสงคจะเชา
ท่ีดินแปลงเดียวกัน และไมอาจตกลงกันได ใหกระทํา
โดยวธิ ปี ระกวดราคาคาเชา

๑๒๗

ขอ ๓ ทวิ ในกรณีใหเชาที่ดินซึ่งถูกกันออกจาก กรณีใหเชา ทีด่ ิน
ท่ีดินที่ทางราชการไมออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน ท่ีถกู กนั ออก
ถาผูขอเชาเปนผูไดรับครอบครองที่ดินนั้น ใหกําหนด
ตามอัตราคาเชาปานกลางที่มีการเชาอยูในทองท่ีนั้นใน
วันทําสัญญาเชา และมิใหมีการเชาชวง หรือโอนสิทธิ
การเชาใหแกบ ุคคลอน่ื

(ความในขอ ๓ ทวิ เพ่ิมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๐
(พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๔ การใหเชาซ้ือท่ีดิน ใหกําหนดจํานวนเงิน กรณเี ชาซอื้
และระยะเวลาการสงใชเงินเปนคราว ๆ โดยคํานึงถึง
สภาพแหง ทอ งที่ประกอบกบั ทนุ ท่ไี ดลงไปในท่ดี นิ น้นั

ถาผูประสงคจะเชาซ้ือมีหลายคนเกินกวาที่ดินที่ จบั สลาก
กําหนดไว ใหดําเนินการเชาซื้อโดยวิธีจับสลาก เวนแต
การเชาซ้ือท่ีดินสําหรับอยูอาศัย ใหพิจารณาคัดเลือก
บุคคลที่มีความจําเปนและไดรับความเดือดรอน
เก่ียวกับท่ีอยูอาศัยมากกวาไดเ ชาซอื้ กอ นตามลําดบั

ขอ ๔ ทวิ ในกรณีใหเชาซื้อท่ีดินซ่ึงถูกกันออก กรณีใหเ ชาซื้อ
จากที่ดินที่ทางราชการไมออกหนังสือแสดงสิทธิใน ทดี่ นิ ทีถ่ กู กันออก
ท่ีดิน ถาผูขอเชาซื้อเปนผูไดครอบครองท่ีดินนั้น ให
ถือเอาราคาประเมินทุนทรัพยในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมเก่ียวกับที่ดินในวันทําสัญญาเชาซื้อเปน
ราคาใหเชาซื้อการชําระคาเชาซื้อจะแบงเปนกี่งวด

๑๒๘

แตละงวดจะชําระเปนรายปหรือหลายปตองวดก็ได

แตต องชําระใหเสร็จสิ้นภายในยสี่ บิ ป

ขอ ๔ ตรี คาเชา และคา เชาซอื้ ทีไ่ ดจากท่ีดินรายใด ผูไดรับรายได

ใหเปนรายไดของราชการบริหารสวนทองถิ่นท่ีที่ดิน

นนั้ ต้ังอยู และใหน ําไปบํารงุ ทอ งถ่ินน้นั

ขอ ๔ จัตวา การพิจารณาใหเชาตามขอ ๓ ทวิ

หรือใหเชาซื้อตามขอ ๔ ทวิ ใหผูวาราชการจังหวัดเปน

ผพู จิ ารณาตามควรแกกรณี

(ความในขอ ๔ ทวิ ขอ ๔ ตรี และ ขอ ๔ จัตวา เพิ่มโดย

กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความใน

พระราชบัญญัตใิ หใ ชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๕ การมอบหมายใหทบวงการเมืองอื่น กรณที บวง

จดั หาผลประโยชน ใหกระทําโดยประกาศในราชกิจจา การเมืองอนื่ จดั หา
ผลประโยชน
นุเบกษา

ในการประกาศใหระบุถึงเขตที่ดิน จํานวนเนื้อ การประกาศ

ทด่ี นิ ชอ่ื ทบวงการเมอื งและกิจการท่ีมอบหมาย รวมถึง

ความประสงคใหจัดหาผลประโยชนสําหรับรัฐหรือ

บํารุงทอ งถนิ่ ดวย

ขอ ๖ ใหอธิบดีหรือหัวหนาทบวงการเมืองท่ี ประกาศไมนอย

ไดรับมอบหมาย แลวแตกรณีประกาศวัตถุประสงคที่ กวา ๓๐ วัน

จะดาํ เนินการ วิธกี าร และรายละเอยี ดใหท ราบลวงหนา

ไมนอยกวาสามสิบวันประกาศน้ันใหปดไว ณ

สํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขาหนึ่ง

๑๒๙

ฉบับ ณ ทวี่ า การอําเภอหรอื ก่งิ อาํ เภอทองท่ีหนึ่งฉบับ ท่ี
บานกํานันหนึ่งฉบับ และในท่ีเปดเผยในบริเวณท่ีดิน
น้ันหน่ึงฉบบั

ใหไ ว ณ วันท่ี ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
พลโท ป. จารเุ สถยี ร

รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

หมายเหต:ุ - เหตผุ ลในการประกาศใชก ฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เพื่อกําหนด
หลักเกณฑและวิธีการจัดหาผลประโยชนในที่ดินของรัฐ ซึ่งมิไดมีบุคคล
ใดมีสิทธิครอบครองและมิใชสาธารณสมบัติของแผนดินอันราษฎรใช
ประโยชนร วมกนั

(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๔ ตอนท่ี ๑๑๐ (ฉบับพเิ ศษ) ลงวันท่ี ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๐๐)

 

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐)*
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๑๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง
ไว ดังตอ ไปนี้

ขอ ๑ ผใู ดมคี วามประสงคจะขอสัมปทานเพื่อ การขอสัมปทาน
กระทํากิจการอยางใด ๆ ในท่ีดินใหทําเร่ืองราวตาม
แบบ ท.ด. ๗๓ ทายกฎกระทรวงน้ี ยื่นตอนายอําเภอ
ทองท่รี วมหา ชดุ พรอมดวยแผนท่ีทีด่ ินสิบชุด

ในกรณีขอสัมปทานที่ดินซ่ึงถูกกันออกจาก

* หมายเหตุ แกไ ขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๐๓) และ
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๓๑

ที่ดินที่ทางราชการไมออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน

ผขู อสมั ปทานจะตองเปนผูซ่ึงไดครอบครองทีด่ นิ นั้น

(ความในขอ ๑ วรรคสอง เพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง

ฉบบั ท่ี ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห

ใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๒ แผนที่ท่ดี นิ ตามขอ ๑ ใหแสดงเขตที่ดิน แผนท่ียื่นพรอ ม

และภมู ิประเทศในบรเิ วณท่ีขอสัมปทาน มีรัศมีหางจาก คําขอ

เขตที่ดินออกไปดานละอยางนอย ๓๐๐ เมตร และให

แสดงวามีสิ่งปลูกสราง พืชพันธุไมหรือทรัพยากรอันมี

คาอยางใดบางหรือไมกับใหแสดงแผนผังท่ีจะใชท่ีดิน

นนั้ กระทํากจิ การโดยละเอยี ด

ขอ ๓ เม่ือไดรับเร่ืองราวตามขอ ๑ ให การปดประกาศ

นายอําเภอทองที่ปดประกาศ ณ สํานักงานท่ีดินจังหวัด

หรือสํานักงานท่ีดินสาขา ณ ท่ีวาการอําเภอหรือก่ิง

อําเภอทองท่ี ที่บานกํานัน และในท่ีเปดเผยในบริเวณ

ที่ดินนั้น เปนระยะเวลาไมนอยกวาสามสิบวัน เมื่อครบ

กําหนดแลว จะมีผูคัดคานหรือไมก็ตาม ใหนายอําเภอ การพจิ ารณา
สอบสวนพิจารณาเร่ืองราวเสนอความเห็นไปยังผูวา เสนอเร่ือง

ราชการจังหวัด และใหผูวา ราชกาลจังหวัดพจิ ารณาเสนอ

ความเห็นไปยงั รัฐมนตรีเพอ่ื สง่ั การตอไป

ขอ ๔ การใหสัมปทานท่ีดินนั้น ใหรัฐมนตรี ลักษณะผูข อ

อนุญาตตอ เมอื่ และทดี่ นิ ทขี่ อ

(๑) ผขู อมีความประพฤติดี สัมปทาน

๑๓๒

(๒) ผูขอมีความสามารถ และมีปจจัยที่จะ

กระทาํ กิจการทีไ่ ดรบั สมั ปทานใหเ ปนผลสําเรจ็ ได

(๓) ท่ีดินท่ีจะอนุญาตสมควรกับกิจการที่ขอ

สัมปทานและไมเปนที่เส่ือมเสียแกเศรษฐกิจของ

ประเทศ ไมขัดตอสาธารณประโยชน และไมเปน

อันตรายแกทรัพยสิน หรือขัดตอสวัสดิภาพของ

ประชาชนที่อยใู นบรเิ วณใกลเคียง

ขอ ๕ รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดเง่ือนไขใด ๆ อาํ นาจกาํ หนด

ไวในสัมปทานและกําหนดอายุสัมปทานตามท่ี เงอื่ นไข
- ไมเกนิ ๕๐ ป
เหน็ สมควรแกก ิจการนน้ั แตไมเ กินหาสบิ ป

ในการท่ีจะใหสัมปทานผูใดเกินย่ีสิบป ตอง - เกิน ๒๐ ป

ไดร ับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีกอ นเปน ราย ๆ ไป ครม.อนุมัติ

สัมปทานบัตรใหจัดทําเปนสี่ฉบับ เก็บรักษา จาํ นวนฉบับของ

ไวท่ีกรมท่ีดินหน่ึงฉบับ จังหวัดและอําเภอทองท่ีแหง สัมปทานบัตร

ละหน่งึ ฉบับ และใหผรู บั สัมปทานถือไวหนึ่งฉบบั

(ความในขอ 5 แกไขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั

ท่ี ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ช

ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

ขอ ๖ ถาผูรับสัมปทานไมมีความประสงคจะ ไมป ระสงคทําตอ

กระทํากิจการท่ีไดรับสัมปทานตอไปก็ใหย่ืนเรื่องราว

ตอรัฐมนตรีโดยผานนายอําเภอทองที่ตามลําดับและให

สมั ปทานนั้นสน้ิ อายุนบั แตว นั ที่รฐั มนตรอี นมุ ตั ิ

ขอ ๗ ในกรณีท่ีผูรับสัมปทานเปนบุคคล ผรู บั สัมปทานตาย

๑๓๓

ธรรมดา เมื่อผูรับสัมปทานถึงแกกรรมทายาทหรือผูมี
สวนไดเสียคนใดมีความประสงคจะถือสัมปทานนั้น
ตอไป ใหยื่นเรื่องราวตอรัฐมนตรีโดยผานนายอําเภอ
ทองท่ีตามลําดับภายในกําหนดเกาสิบวัน นับแตวันที่
ผูรับสัมปทานถึงแกกรรม ถาไมมีผูใดย่ืนเร่ืองราว
ภายในกําหนดเวลาดังกลาวใหถือวา สัมปทานน้ันส้ิน
อายุในวันท่คี รบกําหนดเกาสิบวัน

ขอ ๘ ถาผูรับสัมปทานมีความประสงคจะ ขอโอนสัมปทาน
โอนสัมปทานใหแกผูอื่น ใหผูโอนและผูรับโอนย่ืน
เ ร่ื อ ง ร า ว ต อ รั ฐ ม น ต รี โ ด ย ผ า น น า ย อํ า เ ภ อ ท อ ง ที่
ตามลําดับ เมื่อรัฐมนตรีพิจารณาเห็นสมควรก็อนุญาต
ใหโอนได

ผูรับโอนยอมไดรับชวงสิทธิและหนาท่ีใน สทิ ธผิ ูรับโอน
กิจการของสัมปทานนั้นตอไปเทาที่ผูรับสัมปทานเดิม
มอี ยู

ใหไว ณ วันที่ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
พลโท ป. จารเุ สถียร

รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เพื่อกําหนด
หลักเกณฑและวิธีการใหสัมปทาน ใหหรือใหใชท่ีดินของรัฐ ซึ่งมิไดมี
บุคคลใดมีสิทธิครอบครอง

(ราชกิจจานเุ บกษา เลม ๗๔ ตอนท่ี ๑๑๐ (ฉบบั พเิ ศษ) ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๐๐)

๑๓๔

๑๓๕

๑๓๖

 

กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๔)
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใช
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน

พ.ศ. ๒๔๙๗

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ และมาตรา ๒๖ (๑) แหงประมวลกฎหมาย
ท่ีดิน รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออก
กฎกระทรวงไว ดังตอไปน้ี

ขอ ๑ บุคคลใดมีสิทธิในท่ีดินหรือครอบครอง หนา ท่ผี ูมีสทิ ธิ
ท่ีดินซึ่งอยูภายในเขตสํารวจท่ีดินตามประกาศของ ในท่ีดินในเขต
คณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ และมีหนาที่แจงตาม สาํ รวจ
มาตรา ๒๖ (๑) แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ใหแจง
รายการและลงลายมือชื่อไวเปนสําคัญตามแบบบัญชี
แจงการมีสิทธิในท่ีดินหรือการครอบครองที่ดินในเขต
สํารวจที่ดินทายกฎกระทรวงน้ีตอนายอําเภอ หรือผูทํา
การแทน หรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอ
หรือผทู ําการแทนในทอ งที่ซึง่ ท่ดี ินตง้ั อยู


Click to View FlipBook Version