๓๔ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ ดวงอาทิตย์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๑
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยย่อยที่ ๑ ปรากฏการ
รายวิชาวทิ ยาศาส
ชว่ั โมงท่ี ๔
ขั้นนาํ (๕ นาที)
๓๔. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการเกิดกลางวั
การทบทวนความรู้ และใชค้ ําถามดังน้ี
๓๔.๑ กลางวัน กลางคืนเกิดขึ้นได้อย่างไร (กลางว
ดา้ นหนึ่งของโลกได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ ดา้
รับแสงจากดวงอาทิตย์ ด้านน้ันจะมืด จึงเ
อย่างต่อเน่ืองทําให้ด้านท่ีเคยได้รับแสงเป
เวลากลางวันเป็นเวลากลางคืน ในทางกลับ
ด้านนนั้ จะเปลยี่ นจากเวลากลางคนื เปน็ เวลากล
๓๔.๒ การเกิดกลางวัน กลางคืนเป็นวัฏจักรหรือไม
อย่างต่อเนือ่ ง ทําใหโ้ ลกแต่ละด้านเกิดกลางว
เป็นแบบรูปซํา้ ๆ เป็นวัฏจกั ร)
ขน้ั สอน (๕๐ นาท)ี
๓๕. ครูช้แี จงจุดประสงค์การเรียนรู้ของชั่วโมงนี้ให้นักเรียน
การเกิดกลางวัน กลางคนื
๓๖. ครใู หน้ ักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมท่ี ๒ หน้า ๘ ขอ้
โดยครูใชค้ ําถามว่า กจิ กรรมวนั นีน้ กั เรียนตอ้ งทําอะไร
(สําหรับครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
๑ การเกิดกลางวัน กลางคืน เวลา ๔ ชว่ั โมง
รณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ดวงอาทติ ย์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
น กลางคืนโดยนําลูกโลกและไฟฉายมาประกอบ
วัน กลางคืนเกิดจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง โดย
านนั้นจะสว่าง จงึ เป็นเวลากลางวนั อกี ด้านหน่งึ ไม่ได้
เป็นเวลากลางคืน และการท่ีโลกหมุนรอบตัวเอง
ปล่ียนเป็นไม่ได้รับแสง ด้านนั้นก็จะเปลี่ยนจาก
บกันด้านท่ีไม่เคยได้รับแสงจะเปล่ียนเป็นได้รับแสง
ลางวนั ซง่ึ จะหมนุ เวยี นเป็นแบบรูปซ้ํา ๆ เปน็ วัฏจกั ร)
ม่ อย่างไร (เป็นวัฏจักร เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง
วัน กลางคืนสลับกันไปมาอย่างต่อเน่ือง หมุนเวียน
นทราบอีกครั้งว่า ทํากิจกรรมนี้เพื่อเขียนผงั มโนทัศน์
อ ๕ จากน้ันรว่ มกันอภิปรายข้ันตอนการทํากิจกรรม
รบ้าง (เขยี นผงั มโนทัศน์การเกดิ กลางวัน กลางคืน)
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศึก
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส
๓๗. ครูทบทวนวิธีการเขียนผังมโนทัศน์ให้แก่นักเรียนก่อ
นักเรียนเขียนผงั มโนทัศน์การเกดิ กลางวัน กลางคืน ห
๓๘. หลังจากนักเรียนเขียนผังมโนทัศน์เสร็จแล้ว ครูสุ่มน
กลางคืน จากน้ันถามคําถามว่า ผังมโนทัศน์การเก
อย่างไร (คําตอบข้ึนอยู่กับผลการทํากิจกรรมของนัก
แตกต่างกนั )
๓๙. ครูให้นกั เรยี นตอบคําถามหลังจากทาํ กิจกรรม หน้า ๑
๔๐. ครูให้นักเรยี นทําใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เรอื่ งการเกดิ
ให้แก่นักเรียน
ข้ันสรปุ (๕ นาท)ี
๔๑. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรีย
กลางคนื
๔๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปอีกคร
หมุนรอบตวั เอง ซง่ึ จะหมนุ เวียนเปน็ แบบรปู ซ้ํา ๆ เป
กษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๓๕
๑ การเกดิ กลางวัน กลางคืน เวลา ๔ ช่ัวโมง
รณ์ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับดวงอาทติ ย์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓
สตร์และเทคโนโลยี
อนลงมือทํากิจกรรม เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูให้
หน้า ๑๒ โดยครคู อยให้ความชว่ ยเหลอื นักเรียน
นักเรียนออกมานําเสนอผังมโนทัศน์การเกิดกลางวัน
กิดกลางวัน กลางคืนของนักเรียนเหมือนกันหรือไม่
กเรียน ซึ่งผังมโนทัศน์ของนักเรียนแต่ละคนอาจจะ
๑๓-๑๕ พรอ้ มเฉลยคําตอบให้แก่นกั เรียน
ดกลางวัน กลางคืน หน้า ๑๖-๑๗ พร้อมเฉลยคาํ ตอบ
ยนรู้ในช่ัวโมงนี้ด้วยตนเองเกี่ยวกับการเกิดกลางวัน
ร้ังว่า การเกิดกลางวัน กลางคืนเกิดจากการที่โลก
ปน็ วัฏจกั ร
๓๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ การเกิดกลางวนั กลางคนื
ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมิน………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชื่อกลุ่มรบั การประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ท…ี่ ……………….... วันที่ ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ท่ี ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดับพฤติกรรม คะแนนท่ีได้
เกิด = ๑ ไมเ่ กิด = ๐
๑. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มงุ่ มัน่ ในการทาํ งาน
รวมคะแนนทไี่ ดท้ ง้ั หมด = …………… คะแนน
คณุ ลกั ษณะตามจดุ ประสงคด์ า้ นคณุ ธรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ํ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๓๗ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรงุ )
แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑.๑ การเกิดกลางวัน กลางคืน
เกณฑก์ ารประเมิน มดี งั นี้ ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง
๓ หมายถงึ ดี
สิง่ ท่ีประเมิน คะแนน
การจดั กระทําและส่ือความหมายข้อมลู
การลงความเหน็ จากข้อมูล
การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป
การสร้างแบบจําลอง
รวมคะแนน
เกณฑก์ ารประเมิน ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (๑)
ทกั ษะกระบวนการ สามารถจัดกระทําขอ้ มูลโดย พอใช้ (๒) สามารถจัดกระทาํ ข้อมลู โดย
ทางวทิ ยาศาสตร์ เขียนผงั มโนทศั นก์ ารเกิด เขยี นผงั มโนทศั น์การเกดิ
การจัดกระทาํ และสอ่ื กลางวัน กลางคนื และสอื่ ให้ สามารถจัดกระทาํ ขอ้ มลู โดย กลางวนั กลางคืน และสอ่ื ให้
ความหมายขอ้ มลู ผ้อู ืน่ เขา้ ใจได้ด้วยตนเอง เขยี นผงั มโนทศั นก์ ารเกิด ผอู้ นื่ เข้าใจได้เพียงบางสว่ น
กลางวนั กลางคืน และสอื่ แม้จะได้รับคาํ แนะนาํ จากครู
การลงความเห็นจาก ใหผ้ อู้ ่ืนเข้าใจได้ โดยการ หรือผูอ้ น่ื
ข้อมูล ชแี้ นะของครหู รือผอู้ น่ื สามารถลงความเห็นจาก
ข้อมูลได้ว่า โลกมีลกั ษณะ
สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก คลา้ ยทรงกลมไดร้ บั แสงจาก
ดวงอาทิตย์ครึ่งดวง ทาํ ใหโ้ ลก
ข้อมูลได้ว่า โลกมีลักษณะ ข้อมลู ไดว้ า่ โลกมลี ักษณะ ดา้ นที่ไดร้ ับแสงเป็นเวลา
กลางวัน ส่วนโลกด้านท่ีไมไ่ ด้
คลา้ ยทรงกลมได้รับแสงจาก คล้ายทรงกลมได้รบั แสงจาก รบั แสงเปน็ เวลากลางคนื ได้
เพียงบางสว่ น แมจ้ ะไดร้ บั
ดวงอาทติ ย์คร่ึงดวง ทาํ ใหโ้ ลก ดวงอาทติ ยค์ รึ่งดวง ทาํ ให้ คําแนะนําจากครหู รือผ้อู ืน่
ด้านที่ได้รับแสงเป็นเวลา โลกดา้ นทไี่ ดร้ ับแสงเป็นเวลา
กลางวัน ส่วนโลกดา้ นที่ไมไ่ ด้ กลางวัน ส่วนโลกดา้ นท่ไี มไ่ ด้
รบั แสงเปน็ เวลากลางคืนได้ รบั แสงเปน็ เวลากลางคนื ได้
ดว้ ยตนเอง โดยการชแี้ นะของครหู รอื
ผ้อู ่ืน
๓๘ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
ทางวทิ ยาศาสตร์
การตีความหมาย ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
ข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
สามารถตคี วามหมายข้อมลู สามารถตคี วามหมายข้อมลู สามารถตีความหมายขอ้ มูล
การสรา้ งแบบจาํ ลอง
และลงข้อสรุปไดว้ ่า โลกหมนุ และลงข้อสรปุ ได้ว่า โลก และลงข้อสรุปไดว้ า่ โลกหมุน
รอบตวั เองในทิศทางทวนเขม็ หมุนรอบตวั เองในทศิ ทาง รอบตัวเองในทิศทางทวนเข็ม
นาฬกิ าเมือ่ มองจากบรเิ วณ ทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจาก นาฬิกาเม่อื มองจากบริเวณ
เหนือขัว้ โลกเหนอื ทาํ ให้เกิด บรเิ วณเหนอื ขวั้ โลกเหนอื เหนือขั้วโลกเหนือ ทําให้เกดิ
กลางวัน กลางคนื หมุนเวยี น ทําให้เกดิ กลางวนั กลางคืน กลางวัน กลางคืน หมนุ เวียน
เปน็ วัฏจกั รได้ด้วยตนเอง หมนุ เวียนเป็นวัฏจกั รไดโ้ ดย เป็นวฏั จกั รไดเ้ พียงบางสว่ น
การช้แี นะของครูหรือผอู้ ื่น แมจ้ ะไดร้ บั คาํ แนะนาํ จากครู
หรือผอู้ นื่
สามารถสรา้ งและใช้ สามารถสรา้ งและใช้ สามารถสรา้ งและใช้
แบบจําลองอธิบายการเกิด แบบจาํ ลองอธิบายการเกิด แบบจาํ ลองอธิบายการเกิด
กลางวนั กลางคืนได้ดว้ ย กลางวนั กลางคนื ได้ โดยการ กลางวนั กลางคืนได้เพียง
ตนเอง ชีแ้ นะของครหู รือผ้อู ื่น บางสว่ น แมจ้ ะไดร้ บั คําแนะนาํ
จากครหู รอื ผอู้ นื่
๓๙ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
เฉลยใบงาน
๔๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๔๑ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรุง)
ทศิ ทางเดียวกนั โดยโลกจะหมนุ รอบตัวเองในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ าเมอ่ื มองจาก
บริเวณเหนอื ขวั้ โลกเหนอื
โลกโคจรรอบดวงอาทติ ยใ์ นทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ าเมื่อมองจากบริเวณเหนอื
ขวั้ โลกเหนอื
โลกหมนุ รอบตัวเองและโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ นทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ าเมอ่ื มอง
จากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนอื
๔๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
คาํ ตอบขึ้นอยกู่ ับผลการออกแบบแบบจําลองของนักเรยี น เชน่
ดวงอาทติ ย์
โลก
๑. ลกู โลก แทน โลก
๒. ไฟฉาย แทน ดวงอาทิตย์
๔๓ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
คําตอบขน้ึ อยกู่ ับผลการออกแบบของนักเรยี น
ดวงอาทติ ย์
โลก
๑. ลูกโลก แทน โลก
๒. ไฟฉาย แทน ดวงอาทิตย์
๔๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
คําตอบขึ้นอยกู่ ับผลการทํากิจกรรมของนกั เรยี น เชน่
๔๕ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรงุ )
ไฟฉายแทนดวงอาทติ ย์ เพราะไฟฉายเปน็ แหลง่ กาํ เนิดแสงเหมือนกับดวงอาทิตย์
คําตอบขึ้นอยกู่ บั ผลการทาํ กจิ กรรมของนกั เรยี น เช่น เหมือนกนั โดยทง้ั กอ่ นและ
หลังอ่านใบความรู้ ออกแบบแบบจําลองโดยให้โลกหมุนรอบตัวเอง ซ่ึงเขียนลกู ศร
แสดงการหมนุ ของโลกในทศิ ทางทวนเข็มนาฬกิ าเมอื่ มองจากบรเิ วณเหนือข้วั โลกเหนือ
โดยใชล้ ูกโลกแทนโลก และใช้ไฟฉายแทนดวงอาทติ ย์
กลางวนั กลางคืน เกิดจากการที่โลกหมุนรอบตวั เอง โดยโลกดา้ นหนึ่งไดร้ ับแสงจาก
ดวงอาทติ ย์ ดา้ นนนั้ สวา่ ง เป็นเวลากลางวัน ส่วนโลกอกี ดา้ นหนง่ึ ไม่ไดร้ ับแสง
ดา้ นนนั้ มืด เปน็ เวลากลางคนื
๔๖ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
กลางคนื เพราะโลกมีลกั ษณะคล้ายทรงกลม ทาํ ให้โลกได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
คร่งึ ดวง โดยดา้ นท่ีไดร้ บั แสงเป็นเวลากลางวนั สว่ นโลกอีกดา้ นหนง่ึ ไมไ่ ดร้ บั แสง
จงึ เปน็ เวลากลางคืน
ประเทศไทยมกี ลางวัน กลางคืนไดท้ ุกวนั เพราะโลกหมนุ รอบตวั เองอยา่ งต่อเนือ่ ง
ทําใหใ้ นแต่ละวันเกิดกลางวนั และกลางคนื
เพราะโลกหมนุ รอบตัวเองอยา่ งตอ่ เน่ือง ทาํ ให้โลกแตล่ ะดา้ นได้รบั แสงและไมไ่ ด้
รับแสงสลบั กนั ไป เกดิ เปน็ กลางวนั กลางคนื อยา่ งตอ่ เนอื่ ง หมุนเวยี นเปน็ แบบรปู
ซํ้า ๆ เปน็ วฏั จกั ร
๔๗ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรุง)
โลกมลี กั ษณะคลา้ ยทรงกลม หมุนรอบตัวเองในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬิกาเมือ่ มองจาก
บริเวณเหนอื ขว้ั โลกเหนอื และโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซ่งึ การท่โี ลกหมนุ รอบตวั เอง
ทาํ ใหเ้ กดิ กลางวัน กลางคืน โดยโลกด้านหนึง่ ไดร้ บั แสง เป็นเวลากลางวนั ส่วนโลก
อกี ด้านหนง่ึ ไม่ได้รบั แสง เปน็ เวลากลางคนื ซง่ึ จะหมนุ เวียนเปน็ แบบรูปซ้ํา ๆ
๔๘ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
√
√
๔๙ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ดวงอาทติ ย์
๕๐ ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง)
คําชแี้ จงประกอบแผนจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เวลา ๓ ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑.๒ การข้ึนและตกของดวงอาทติ ย์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สาระสาํ คญั ของแผน
การหมนุ รอบตวั เองของโลกทําให้เกิดปรากฏการณก์ ารขึน้ และตกของดวงอาทิตย์ หมุนเวียนเปน็
แบบรปู ซา้ํ ๆ เปน็ วัฏจักร
๒. ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมในการนาํ ไปใช้ (ให้ระบสุ ่งิ ท่ีต้องการเน้นหรอื ข้อสังเกต ขอ้ เสนอแนะ คําแนะนาํ )
ในเรื่องต่อไปนี้ คือ
๒.๑ ขอบขา่ ยเนอ้ื หา
โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ ทําให้ในแต่ละ
วันเกดิ ปรากฏการณก์ ารขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์ หมุนเวยี นเป็นแบบรูปซาํ้ ๆ เป็นวฏั จักร
๒.๒ จุดประสงค์การเรยี นรู้ (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม) (ถ้ามี)
จุดประสงคด์ า้ นความรู้
อธิบายการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์
จุดประสงค์ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. การหาความสมั พนั ธร์ ะหว่างสเปซกับสเปซ
๒. การลงความเหน็ จากขอ้ มลู
๓. การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป
๔. การสรา้ งแบบจําลอง
จุดประสงค์ดา้ นคุณธรรม
๑. ใฝ่เรยี นรู้
๒. มุ่งม่นั ในการทาํ งาน
๒.๓ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๑) การเตรียมตัวของครู นกั เรียน (การจัดกลมุ่ ) (ถา้ มี)
การจัดกลมุ่ โดยแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ ละ ๔-๖ คน
๒) การเตรยี มสอื่ วัสดอุ ปุ กรณ์ ของครู นักเรียน (ถ้าม)ี
ส่ิงทค่ี รูตอ้ งเตรยี ม คอื
๒.๑ ลูกโลก ๑ ใบ/กลมุ่
๒.๒ ไฟฉาย ๑ อัน/กลุม่
๕๑ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
๒.๓ดินน้ํามัน ๑ กอ้ น/กลมุ่
๒.๔ ไม้จม้ิ ฟัน ๑ อนั /กลุ่ม
๒.๕ กระดาษแข็งเทาขาว ๑ แผ่น/กลุม่
๒.๖ กรรไกร ๑ อนั /กล่มุ
๒.๗ เทปใส ๑ - ๒ มว้ น/ห้อง
๒.๘ วีดทิ ัศนก์ ารหมนุ รอบตัวเองของโลก ๑ เรอื่ ง/หอ้ ง
๒.๙ วดี ทิ ัศน์ดวงอาทิตยก์ ําลังเคลอื่ นที่บนทอ้ งฟา้ ๑ เรื่อง/ห้อง
สิ่งทน่ี กั เรียนตอ้ งเตรยี ม คือ
๒.๑๐ หนังสอื หรือทตี่ ง้ั ๔ - ๕ เลม่ /กลมุ่
๓) เตรียมใบงาน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (ถ้ามี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ การข้ึนและตกของดวงอาทติ ย์
๓.๒ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เร่ืองการขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์
๒.๔ วัดผลประเมินผล (ถา้ ม)ี
๑) วิธีการวัดผลประเมนิ ผลการเรียนรู้
๑.๑ การตอบคําถามในใบงาน
๑.๒ สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทาํ กจิ กรรม
๑.๓ สงั เกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรมขณะทาํ กิจกรรม
๒) วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
๒.๑ เครอ่ื งมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ด้านความรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาํ ถามในใบงาน แลว้ ใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เคร่อื งมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดังแนบ) นําคะแนนมารวมกนั แลว้ ใช้เกณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ต่ํากว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๕๒ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
๒.๓ เคร่ืองมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
สังเกตพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรมโดยใชแ้ บบประเมินด้านคณุ ธรรม (ดงั แนบ) นาํ คะแนน
มารวมกัน แลว้ ใชเ้ กณฑใ์ นการใหค้ ะแนน ดงั น้ี
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๓) การทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น แบบฝกึ หดั กอ่ นเรยี น หลังเรยี น
ทาํ แบบฝึกหดั ในใบงานหลังเรียน
๓. อื่น ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถม
แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ข
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ เร่อื ง การขน้ึ และต
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส
แนวการจดั กจิ
ข้นั นาํ ทบทวนความรูพ้ ้นื ฐานเก่ยี วกบั การหม
ข้ันสอน ตรวจสอบความรู้เดมิ เกี่ยวกับการขึน้ แ
ข้นั สรุป ทํากิจกรรมที่ ๑ ดวงอาทิตย์ข้ึนและ
ขน้ั ประเมนิ ผล
ไฟฉายเมื่อเทียบกับตุ๊กตา ต้ังแต่เร่ิมห
เช่อื มโยงข้อมลู ในตารางกับผลการสัง
ทําใบงาน ๐๑ การขนึ้ และตกของดวง
รว่ มกันสรุปเกยี่ วกบั การขึน้ และตกขอ
ทาํ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรอื่ งการข
ประเมินจากการตอบคาํ ถาม
ประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมในช้นั เรยี
ประเมนิ จากการทําแบบฝกึ หดั
มศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๓
ของแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ เวลา ๓ ชั่วโมง
ตกของดวงอาทิตย์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
จกรรมการเรยี นรู้
มุนรอบตัวเองของโลกและการเกดิ กลางวนั กลางคนื
และตกของดวงอาทติ ย์
ะตกอย่างไร โดยสร้างแบบจําลองการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ สังเกตตําแหน่งของ
หมุนลูกโลก ทํา ๒ รอบ จากน้ันสรุปผลการสังเกตการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ และ
งเกตการหมุนรอบตัวเองของโลก และบนั ทึกสรุปความรู้ทไี่ ด้ บนั ทกึ ผล
งอาทติ ย์
องดวงอาทติ ย์
ขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์
ยน
๕๔ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส
ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ (๓ ช่วั โมง)
โลกหมนุ รอบตัวเอง ช่วั โมงที่ ๑
ในทิศทางทวนเข็มนาฬกิ า ขัน้ นาํ (๑๐ นาที)
เมื่อมองจากบริเวณเหนือ ๑. ครูทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาแล้วโดยเปิดวีดิทัศน์แส
ข้ัวโลกเหนือทาํ ใหใ้ นแต่ละวนั หน้า ๓ หรือ http://ipst.me/11805 เพื่อให้นักเรีย
มปี รากฏการณ์การขึ้นและตก นาฬิกาเมื่อมองจากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ
ของดวงอาทิตย์ หมนุ เวียน ๒. ครูให้นักเรียนสังเกตรูปต่อไปน้ี และใช้คาํ ถามดังต่อไป
เปน็ แบบรปู ซ้ํา ๆ เป็นวัฏจักร
จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้
อธิบายการขึ้นและตก
ของดวงอาทติ ย์
จุดประสงคด์ า้ นทักษะ ๒.๑ นักเรียนเห็นลักษณะท้องฟ้ามีรูปร่างอย่างไร (ค
กระบวนการ ๒.๒ ทัองฟ้าประกอบด้วยอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตา
ทางวิทยาศาสตร์
๑. การหาความสมั พันธ์ ท้องฟ้าประกอบด้วยขอบฟ้าดังรูป
ระหว่างสเปซกับสเปซ
(สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
การขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์
รณท์ เ่ี ก่ียวกับดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ชว่ั โมง
สตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. ลูกโลก
๒. ไฟฉาย
สดงการหมุนรอบตัวเองของโลกจาก QR Code ใน ๓. ดินนา้ํ มัน
ยนสังเกตว่าโลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็ม ๔. ไม้จม้ิ ฟัน
๕. กระดาษแข็งเทาขาว
ปนี้ ๖. กรรไกร
๗. เทปใส
๘. หนังสือหรอื ท่ตี ง้ั
ภาระงาน / ชน้ิ งาน
๑. การบันทกึ ผลการทาํ กิจกรรม
ในใบกิจกรรม
๒. การทาํ แบบฝึกหัด
คล้ายคร่ึงวงกลม) วิธกี ารประเมนิ
ามความเข้าใจของตนเอง) ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ๑. การตอบคําถามใน
แบบฝึกหัด
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับครูผสู อน) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร) ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถม
แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ ๑.๒ ก
หนว ยการเรียนรทู ี่ ๔ ดวงอาทติ ย หนว ยยอยที่ ๑ ปรากฏการ
กลุม สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส
๒. การลงความเห็นจาก
ขอ มลู
๓. การตคี วามหมายขอมูล
และลงขอ สรุป พน้ื ดนิ
๔. การสรางแบบจําลอง
๒.๓ นักเรียนสังเกตดวงอาทิตยในรูปทั้งหมดเป
จุดประสงคด า นคุณธรรม ดวงอาทิตยเปล่ียนตําแหนงบนทองฟาในเวลาก
๑. ใฝเรียนรู ๒.๒ ปรากฏการณดังกลาวเกิดข้ึนไดอยางไร (นักเรียน
๒. มุงมนั่ ในการทํางาน ๓. ครูเช่ือมโยงความรูเดิมของนักเรียนสูการเรียนเรื่อง
การข้ึนและตกของดวงอาทิตยเกิดขึ้นไดอยางไร เราจ
ขั้นสอน (๔๕ นาท)ี
๔. ครูใหนักเรียนอานชื่อกิจกรรมและจุดประสงคในใบกิจ
จากนน้ั ครูถามคําถามดังตอ ไปนี้
๔.๑ นักเรยี นจะเรียนเรือ่ งอะไร (การข้ึนและตกของดว
๔.๒ นกั เรยี นจะเรยี นดวยวธิ กี ารใด (การสงั เกต)
๔.๓ เมือ่ เรยี นจบแลว นกั เรียนจะทําอะไรได (อธบิ ายกา
๕. ครูสรุปจุดประสงคในวันนี้ใหแกนักเรียนอีกคร้ังวา ทํา
ดวงอาทติ ย
มศกึ ษาปท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๕๕
การข้นึ และตกของดวงอาทติ ย
รณท เี่ กีย่ วกับดวงอาทติ ย เวลา ๓ ช่วั โมง
สตรแ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๓
ทอ งฟา ๒. สงั เกตทกั ษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรใ นการทํา
ขอบฟา กจิ กรรม
๓. สงั เกตพฤตกิ รรมดา น
ปนอยางไร (นักเรียนตอบตามที่สังเกตได เชน คุณธรรมขณะทํากจิ กรรม
กลางวัน และไมมีดวงอาทิตยในเวลากลางคืน) เกณฑการประเมิน
นตอบตามความเขาใจของตนเอง)
๑. การตอบคาํ ถามใน
งการขึ้นและตกของดวงอาทิตย โดยใชคําถามวา แบบฝกหดั ไดถ ูกตอ งดวย
จะไดไปเรียนรูกันในกิจกรรม
ตนเอง
- มากกวา ๘๐% ได ๓ คะแนน
จกรรมที่ ๑ ดวงอาทิตยขึ้นและตกอยางไร หนา ๑๙ - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน
วงอาทติ ย) - ต่ํากวา ๕๐% ได ๑ คะแนน
๒. มีทกั ษะกระบวนการทาง
ารขน้ึ และตกของดวงอาทิตยไ ด) วทิ ยาศาสตรข ณะทาํ กจิ กรรม
- มากกวา ๘๐% ได ๓ คะแนน
ากิจกรรมนี้เพ่ือสังเกตและอธิบายการขึ้นและตกของ - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน
- ตาํ่ กวา ๕๐% ได ๑ คะแนน
๕๖ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ ปรากฏการ
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาส
๖. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และวิธีทําในใบกิจก
ขั้นตอนการทาํ กจิ กรรม โดยครูใชค้ าํ ถามดงั นี้
๖.๑ กิจกรรมนี้นกั เรียนต้องทําอะไร (สรา้ งแบบจาํ ลอง
๖.๒ จากรูปแบบจําลอง เราต้องใช้อะไรแทนส่ิงใดบ้า
วงกลมแทนท้องฟ้า โดยให้ขอบกระดาษแทนขอบ
หนั หนา้ ไปทางขั้วโลกเหนือ)
๖.๓ ตุ๊กตาดินน้ํามนั อย่ทู ต่ี าํ แหน่งใดของโลก (ประเทศไ
๖.๔ ตุก๊ ตาดินน้าํ มนั หันหนา้ ไปทางใด
๗. เมื่อนักเรียนเข้าใจขั้นตอนของกิจกรรมแล้ว ให้นัก
ครูอาจปั้นตุ๊กตาดินน้ํามันและตัดกระดาษเป็นวงกล
กับการทํากิจกรรมของนักเรียน ซึ่งครูสามารถช่วยเ
๘. ครูทบทวนเกี่ยวกับตําแหน่งของขั้วโลกเหนือและข
ถามว่า ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้อยู่ที่จุดใด ซึ่งครูอา
และขั้วโลกใต้
๙. ครูให้นักเรียนนําตุ๊กตาดินนํ้ามันที่มีไม้จิ้มฟันติดอ
ลูกโลก โดยให้ตุ๊กตาดินนํ้ามันยืนอยู่ที่ตําแหน่งประ
เดินสํารวจแบบจําลองของนักเรียนแต่ละกลุ่ม เพ่ือต
(สาํ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
การขึน้ และตกของดวงอาทติ ย์
รณ์ทเี่ ก่ยี วกบั ดวงอาทิตย์ เวลา ๓ ชวั่ โมง
สตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓
กรรมที่ ๑ ข้อ ๑ หน้า ๑๙ จากนั้นร่วมกันอภิปราย ๓. มคี ณุ ลักษณะดา้ นคณุ ธรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
งการขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์) - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
าง (ใช้ตุ๊กตาดินน้ํามันแทนผู้สังเกต ใช้แผ่นกระดาษ - ต่าํ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
บฟ้า ใช้ไม้จ้ิมฟันแทนแขนขวาของผู้สังเกตบนโลกท่ี
ไทย)
เรียนปั้นตุ๊กตาดินนํ้ามัน ตัดกระดาษวงกลม โดย
ลมให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง หรือสาธิตไปพร้อม
เหลือนักเรียนขณะทํากิจกรรมได้
ขั้วโลกใต้ โดยนําลูกโลกมาให้นักเรียนสังเกตแล้ว
าจสุ่มนักเรียนออกมาชี้ตําแหน่งของขั้วโลกเหนือ
อยู่ และกระดาษวงกลมที่เตรียมไว้ มาติดลงบน
ะเทศไทยและหันหน้าไปทางขั้วโลกเหนือ ครูอาจ
ตรวจสอบความถูกต้อง
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
๑๐. หลังจากเตรียมแบบจําลองเรียบร้อยแล้ว ครูให้นัก
๑๐.๑ แบบจาํ ลองในกิจกรรมน้ีใช้อธิบายเก่ียวกับ
๑๐.๒ แบบจําลองนี้ใช้อะไรแทนสิ่งใดในธรรมชาต
ผู้สังเกต ใช้แผน่ กระดาษวงกลมแทนขอบฟา้
ข้ันสรุป (๕ นาที)
๑๑. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในช่ัวโมงน
ดวงอาทติ ย์
๑๒. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปเก
จําเป็นต้องมีการออกแบบและวางแผนก่อนว่าจะใช
การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ เราใช้ตุ๊กตาดินนํ้ามัน
ขอบฟา้ ใชไ้ ม้จมิ้ ฟนั แทนแขนขวาของผ้สู ังเกต
๑๓. ครแู จง้ วา่ ในช่ัวโมงถัดไปนักเรยี นจะได้ทาํ กิจกรรมที่ ๑
ของดวงอาทิตย์
ชว่ั โมงที่ ๒
ข้นั นาํ (๕ นาที)
๑๔. ครูทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมในชั่วโมงที่ผ่าน
ใช้อะไรใช้แทนสิ่งใดในธรรมชาติบ้าง (ใช้ตุ๊กตาดินน
แทนท้องฟ้าโดยทีข่ อบกระดาษแทนขอบฟา้ ใชไ้ ม้จิ้มฟ
มศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง) ๕๗
การขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ช่วั โมง
รณ์ทเ่ี กยี่ วกับดวงอาทิตย์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
สตร์และเทคโนโลยี
กเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้คําถามดังนี้
บอะไร (การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์)
ติบ้าง (ใช้ลูกโลกแทนโลก ใช้ตุ๊กตาดินน้ํามันแทน
ใช้ไมจ้ ิม้ ฟันแทนแขนขวาของผู้สงั เกต)
น้ีด้วยตนเองเก่ียวกับแบบจําลองการข้ึนและตกของ
ก่ียวกับกิจกรรมในวันนี้ว่า การสร้างแบบจําลอง
ช้วัสดุ อุปกรณ์อะไรบ้าง เช่น การสร้างแบบจําลอง
นแทนผู้สังเกตบนโลก ใช้แผ่นกระดาษวงกลมแทน
๑ ขอ้ ท่ี ๒-๕ เพือ่ อธิบายปรากฏการณก์ ารขน้ึ และตก
นมา โดยถามคําถามว่า จากแบบจําลองที่เตรียมไว้
น้ํามันแทนผู้สังเกตบนโลก ใช้แผ่นกระดาษวงกลม
ฟันแทนแขนขวาของผสู้ งั เกต)
๕๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑.๒ ก
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส
๑๕. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการขึ้นและตกขอ
ตกได้อย่างไร และแบบจําลองที่สร้างขึ้นจะสามาร
(นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
๑๖. ครูช้ีแจงชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของชั่วโมงน้ีให
การขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์
ขัน้ สอน (๕๐ นาท)ี
๑๗. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมท่ี ๑ ข้อ
การทํากจิ กรรม โดยครใู ชค้ าํ ถามดงั นี้
๑๗.๑ วิธีทําข้อท่ี ๒ นักเรียนต้องทําอะไร (วางไฟฉ
๓๐ เซนติเมตร)
๑๗.๒ ไฟฉายใช้แทนสิง่ ใดในธรรมชาติ (ไฟฉายใชแ้ ทน
๑๗.๓ เม่อื เปิดไฟฉายแลว้ นักเรยี นตอ้ งสังเกตอะไร (ส
๑๗.๔ นักเรียนตอ้ งหมุนลกู โลกและสังเกตตําแหนง่ ขอ
๑๗.๕ หลังจากนัน้ นกั เรียนตอ้ งทําอะไรต่อ (สรุปผลก
ครอู าจเขียนสรปุ ขัน้ ตอนการทํากจิ กรรมสน้ั ๆ บนกร
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
การขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ชวั่ โมง
รณ์ทเ่ี กยี่ วกบั ดวงอาทิตย์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
องดวงอาทิตย์ โดยใช้คําถามว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นและ
รถอธิบายการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ได้อย่างไร
ห้นักเรียนทราบอีกครั้งว่า ทํากิจกรรมน้ีเพ่ืออธิบาย
๒-๕ หน้า ๒๐ จากน้ันร่วมกันอภิปรายขั้นตอน
ฉายไว้ทางขวามือของตุ๊กตา โดยให้ห่างจากลูกโลก
นดวงอาทติ ย)์
สงั เกตตําแหนง่ ของไฟฉายเมือ่ เทยี บกบั ตกุ๊ ตา)
องไฟฉายเมอื่ เทยี บกับตุ๊กตากีร่ อบ (๒ รอบ)
การสังเกตเกีย่ วกบั การขึน้ และตกของดวงอาทิตย)์
ระดาน ดังนี้
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส
วางไฟฉายทางขวามอื ของตุ๊กตา หา่ ง ๓๐ เซนติเมต
สงั เกตตาํ แหนง่ ของไฟฉาย ตง้ั แต่เริม่ หมนุ ลกู โลกจน
สรปุ ผลการสังเกตการข้ึนและตกของดวงอาทติ ย์
๑๘. เมื่อนักเรียนเข้าใจข้ันตอนของกิจกรรมแล้ว ให้นักเร
ในใบงาน ๐๑ การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ หน้า
พร้อม ๆ กัน แลว้ คอ่ ยให้ทาํ รอบที่ ๒ และบนั ทกึ ผล
๑๙. หลงั จากทาํ กิจกรรมแล้ว ครใู หน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รา
๑๙.๑ ถ้าสมมติตนเองเป็นตุ๊กตาท่ีอยู่บนโลก เมื่อห
ตําแหน่งเดิมหรือไม่ อย่างไร (ไฟฉายไม่อยู่ตํา
บริเวณขอบกระดาษทางขวามือของตุ๊กตา เม
ตุ๊กตา เม่ือหมุนลูกโลกต่อไปอีกไฟฉายจะอยู่บ
หมุนลูกโลกจนตุ๊กตาไปอย่ดู ้านตรงข้ามกบั ไฟฉ
ครง้ั เม่อื ลูกโลกหมนุ จนตุ๊กตามาอย่ทู ตี่ าํ แหน่งเ
๑๙.๒ การมองเห็นไฟฉายในขณะท่ีหมุนลูกโลกรอ
(เหมือนกัน โดยท้ังขณะท่ีหมุนลูกโลกรอบท่ี
ตําแหนง่ ไปตามการหมนุ ของลกู โลก)
มศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๕๙
การขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ช่วั โมง
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
รณ์ทเ่ี กยี่ วกบั ดวงอาทิตย์
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
ตร เปดิ ไฟฉาย
นครบ ๑ รอบ ทาํ เช่นเดมิ ๒ รอบ
รียนทํากิจกรรมตามขั้นตอนข้อ ๒-๔ และบันทึกผล
๒๑-๒๒ โดยให้นักเรียนทํารอบท่ี ๑ แล้วบันทึกผล
ายโดยใชค้ าํ ถาม ดังนี้
หมุนลูกโลกอย่างช้า ๆ เราจะมองเห็นไฟฉายอยู่ท่ี
าแหน่งเดิม โดยตอนท่ีเร่ิมหมุนลูกโลกไฟฉายจะอยู่
มื่อหมุนลูกโลกต่อไปไฟฉายจะอยู่ตรงกลางศีรษะของ
บริเวณขอบกระดาษทางซ้ายมือของตุ๊กตา และเมื่อ
ฉาย จะมองไม่เห็นไฟฉาย และจะมองเห็นไฟฉายอีก
เริม่ ตน้ )
อบที่ ๑ และรอบที่ ๒ เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร
๑ และรอบที่ ๒ ผู้สังเกตจะมองเห็นไฟฉายเปล่ียน
๖๐ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส
๑๙.๓ ขณะท่ีผู้สังเกตมองเห็นไฟฉายเปล่ียนตําแห
เคลอ่ื นท่ี)
๑๙.๔ การหมุนลูกโลกในแต่ละรอบ เปรียบได้กับเว
ก่วี นั (๑ วัน)
๑๙.๕ จากแบบจําลองนี้ นักเรียนสามารถอธิบายกา
หมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเม
สังเกตเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึนจากขอบฟ
ดวงอาทติ ย์เคลือ่ นทีเ่ ปลย่ี นตําแหน่งไปบนท้อง
เรอ่ื ย ๆ ดวงอาทติ ยจ์ ึงปรากฏข้นึ และตกเปน็ แ
๑๙.๖ การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์เป็นวัฏจักรห
ผู้สังเกตหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทางขั้ว
ด้านขวามือของผู้สังเกต แล้วตกจากขอบฟ้าทา
เช่นนอี้ ย่างตอ่ เนอ่ื งไมม่ ที ส่ี น้ิ สดุ )
๒๐. ครใู ห้นกั เรียนสรุปผลการสงั เกตเกีย่ วกบั การขึน้ และต
ขั้นสรปุ (๕ นาท)ี
๒๑. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งท่ีได้เรียน
ดวงอาทติ ย์จากแบบจําลอง
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
การขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ช่วั โมง
รณท์ เ่ี กี่ยวกับดวงอาทิตย์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
สตร์และเทคโนโลยี
หน่ง ไฟฉายมีการเคล่ือนท่ีหรือไม่ (ไฟฉายไม่มีการ
วลาในการหมุนรอบรอบตัวเองของโลกในธรรมชาติ
ารขึ้นตกและตกของดวงอาทิตย์ได้อย่างไร (เม่ือโลก
มื่อมองจากบริเวณเหนือข้ัวโลกเหนือ คนบนโลกจะ
ฟ้าด้านหนึ่ง ขณะที่โลกหมุนรอบตัวเองจึงดูเหมือน
งฟา้ จนลบั ขอบฟา้ อกี ด้าน เมอ่ื โลกหมนุ รอบตัวเองไป
แบบรปู ซาํ้ เดมิ เชน่ น้)ี
หรือไม่ อย่างไร (เป็นวัฏจักร โดยในแต่ละวัน เมื่อ
วโลกเหนือ จะเห็นดวงอาทิตย์ข้ึนจากขอบฟ้าทาง
างด้านซ้ายมือของผู้สังเกต แล้วหมุนเวียนเป็นแบบรูป
ตกของดวงอาทติ ยล์ งในใบงาน ๐๑ หนา้ ๒๓
นรู้ในชั่วโมงน้ีด้วยตนเองเก่ียวกับการขึ้นและตกของ
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ ก
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส
๒๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปส่ิงที่ได
ทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากบริเวณเหนือข้ัวโลกเหน
ของดวงอาทติ ย์ หมนุ เวยี นเป็นแบบรปู ซํ้า ๆ ต่อเนื่อง
๒๓. ครใู ห้นกั เรียนเก็บกระดาษรูปวงกลมและตุก๊ ตาไว้เพื่อ
ช่ัวโมงที่ ๓
ขน้ั นาํ (๕ นาที)
๒๔. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการข้ึนและตกของ
ดวงอาทิตย์เกิดข้ึนได้อย่างไร (การขึ้นและตกของ
โดยขณะที่โลกหมุนรอบตัวเอง คนบนโลกจะมองเห็น
เคล่ือนที่ไปบนท้องฟ้า จนตกกลบั ทางขอบฟา้ อกี กดา้
ขั้นสอน (๕๐ นาท)ี
๒๕. ครใู หน้ ักเรียนตอบคาํ ถามหลงั จากทํากิจกรรม หน้า ๒
๒๖. ครูให้นักเรียนทําใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรื่องการขึ้น
คําตอบใหแ้ กน่ ักเรียน
ขน้ั สรปุ (๕ นาที)
๒๗. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปส่ิงที่ได้เรียน
ทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเมื่อมองจากบริเวณเหนือขั้วโ
และตกของดวงอาทิตย์ หมนุ เวียนเป็นแบบรปู ซ้ํา ๆ ต
มศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรุง) ๖๑
การขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ชวั่ โมง
รณ์ทเ่ี กี่ยวกับดวงอาทิตย์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓
สตร์และเทคโนโลยี
ด้เรียนรู้ในชั่วโมงนี้ว่า โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทาง
นือ ทําให้ในแต่ละวันมีปรากฏการณ์การขึ้นและตก
งไม่มที ีส่ นิ้ สุดเปน็ วฏั จักร
อใชส้ ร้างแบบจําลองอีกครั้งเมือ่ เรยี นการกําหนดทศิ
งดวงอาทิตย์ โดยใช้คําถามว่า การขึ้นและตกของ
งดวงอาทิตย์เกิดจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง
นดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึนจากขอบฟ้าด้านหน่ึง แล้ว
านหน่ึง)
๒๔–๒๖ พร้อมเฉลยคําตอบใหแ้ ก่นักเรียน
นและตกของดวงอาทิตย์หน้า ๒๗–๒๘ พร้อมเฉลย
นรู้ในกิจกรรมนี้อีกครั้งว่า โลกหมุนรอบตัวเองใน
โลกเหนือ ทําให้ในแต่ละวันมีปรากฏการณ์การขึ้น
ต่อเน่ืองไม่มีท่สี ้นิ สดุ เปน็ วฏั จักร
๖๒ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
แบบประเมินดา้ นคณุ ธรรม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑.๒ การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์
ช่ือผปู้ ระเมนิ /กลุม่ ประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชื่อกลมุ่ รบั การประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท…ี่ ……………….... วันท่ี ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับพฤติกรรม คะแนนท่ไี ด้
เกิด = ๑ ไมเ่ กดิ = ๐
๑. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มงุ่ มน่ั ในการทาํ งาน
รวมคะแนนทีไ่ ด้ทงั้ หมด = …………… คะแนน
คุณลักษณะตามจุดประสงคด์ า้ นคุณธรรม
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๖๓ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )
แบบประเมินด้านทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๒ การข้นึ และตกของดวงอาทติ ย์
เกณฑก์ ารประเมิน มีดังน้ี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ
๓ หมายถงึ ดี
สง่ิ ทีป่ ระเมนิ คะแนน
การหาความสมั พันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซ
การลงความเห็นจากขอ้ มลู
การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
การสรา้ งแบบจําลอง
รวมคะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ
ทักษะกระบวนการ ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (๑)
ทางวิทยาศาสตร์ สามารถระบุความสมั พนั ธ์ พอใช้ (๒)
การหาความสัมพันธ์ ระหว่างตําแหน่งของ
ระหว่างสเปซกับสเปซ ดวงอาทิตยก์ ับการมองเหน็ สามารถระบคุ วามสมั พนั ธ์ สามารถระบุความสมั พันธ์
ดวงอาทิตย์เมอื่ โลกหมนุ รอบ ระหว่างตําแหน่งของ ระหวา่ งตาํ แหน่งของ
การลงความเหน็ จาก ตวั เองได้ด้วยตนเอง ดวงอาทิตยก์ ับการมองเห็น ดวงอาทิตย์กับการมองเห็น
ข้อมลู ดวงอาทติ ย์เมอ่ื โลกหมุนรอบ ดวงอาทติ ย์เมื่อโลกหมนุ รอบ
สามารถลงความเหน็ ตัวเองได้โดยการช้ีแนะของครู ตัวเองไดเ้ พียงบางสว่ น
เกี่ยวกับการข้ึนและตกของ หรอื ผอู้ นื่ แม้จะไดร้ ับคาํ แนะนําจากครู
ดวงอาทิตย์จากข้อมูลทไี่ ด้ หรือผูอ้ นื่
จากการสร้างแบบจําลอง
และตารางการขน้ึ และตก สามารถลงความเห็นเกีย่ วกบั สามารถลงความเห็นเกี่ยวกบั
ของดวงอาทิตย์ได้ด้วยตนเอง
การขน้ึ และตกของดวงอาทิตย์ การขึน้ และตกของดวงอาทิตย์
จากขอ้ มลู ที่ได้จากการสร้าง จากข้อมลู ท่ไี ด้จากการสรา้ ง
แบบจาํ ลองและตารางการ แบบจาํ ลองและตาราง
ข้นึ และตกของดวงอาทิตย์ได้ การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์
โดยอาศัยคําแนะนําของครู ได้เพียงบางสว่ น แมจ้ ะได้รบั
หรอื ผู้อนื่ คําแนะนําจากครหู รือผอู้ ่ืน
๖๔ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
ทางวิทยาศาสตร์
การตคี วามหมายขอ้ มูล ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
และลงข้อสรุป
สามารถตีความหมายขอ้ มูล สามารถตีความหมายขอ้ มลู สามารถตคี วามหมายขอ้ มูล
การสร้างแบบจําลอง
จากแบบจําลองและตาราง จากแบบจําลองและตาราง จากแบบจาํ ลองและตาราง
การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์ การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์
และลงข้อสรุปไดว้ า่ โลกหมนุ และลงข้อสรุปไดว้ า่ โลกหมุน และลงขอ้ สรปุ ได้วา่ โลกหมุน
รอบตัวเองทาํ ให้เกดิ การ รอบตวั เองทาํ ให้เกิดการขึน้ รอบตัวเองทาํ ใหเ้ กดิ การ
ขน้ึ และตกของดวงอาทิตย์ และตกของดวงอาทติ ย์ ขึ้นและตกของดวงอาทิตย์
หมุนเวยี นเป็นแบบรูปซาํ้ ๆ หมนุ เวียนเป็นแบบรูปซ้าํ ๆ หมนุ เวยี นเป็นแบบรูปซ้าํ ๆ
เปน็ วฏั จักรได้ด้วยตนเอง เป็นวัฏจกั รได้ โดยอาศัย เปน็ วฏั จกั รไดเ้ พยี งบางส่วน
คาํ แนะนําของครูหรอื ผู้อ่ืน แม้จะไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากครู
หรือผอู้ ืน่
สามารถสร้างแบบจําลอง สามารถสร้างแบบจาํ ลอง สามารถสร้างแบบจาํ ลอง
การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์ การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์
และใช้แบบจําลองอธิบาย และใชแ้ บบจําลองอธบิ าย และใช้แบบจําลองอธิบาย
การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การขึน้ และตกของดวงอาทิตย์ การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์
ได้ด้วยตนเอง ไดโ้ ดยอาศยั คําแนะนําของครู ได้เพียงบางส่วน แม้จะไดร้ บั
หรอื ผู้อื่น คาํ แนะนําจากครูหรอื ผ้อู ่นื
๖๕ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
เฉลยใบงาน
๖๖ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
√
√
√
√
√
๖๗ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
√
√
√
√
√
๖๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
คาํ ตอบขึน้ อยกู่ ับผลการทาํ กจิ กรรมของนกั เรียน เชน่ จะมองเหน็ ดวงอาทิตยป์ รากฏ
ข้นึ ทางขวามอื ของผสู้ ังเกต และตกทางซา้ ยมือของผสู้ ังเกต
๖๙ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
โลกหมนุ รอบตวั เองขณะโคจรรอบดวงอาทิตย์
ผู้สงั เกตจะมองเห็นดวงอาทติ ยป์ รากฏขนึ้ ทางขวามือ และตกทางซ้ายมอื
เหมือนกัน โดยดวงอาทติ ยจ์ ะปรากฏขน้ึ ทางขวามือของผสู้ ังเกต และตกทางซา้ ยมอื
ของผสู้ ังเกต เหมือนกันทงั้ รอบท่ี ๑ และรอบที่ ๒
๗๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์แตล่ ะครัง้ ใชเ้ วลา ๑ วนั รไู้ ดจ้ ากการทโ่ี ลกหมุนรอบ
ตวั เองแต่ละรอบ จะทาํ ใหค้ นบนโลกมองเห็นดวงอาทติ ย์ข้นึ ทางขอบฟา้ ด้านหนง่ึ
แลว้ ตกลบั ขอบฟ้าอกี ดา้ นหน่ึง ซง่ึ จะเหมอื นกนั ในทุกรอบของการหมนุ ของโลก
เปน็ วฏั จกั ร เพราะโลกหมุนรอบตัวเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง ทาํ ใหค้ นบนโลกมองเห็น
ดวงอาทิตยป์ รากฏข้ึนทางขอบฟา้ ดา้ นหนง่ึ และตกลับทางขอบฟา้ อกี ด้านหนึง่
ซงึ่ เกิดหมนุ เวยี นอย่างต่อเนอื่ งเปน็ แบบรปู ซํ้า ๆ
๗๑ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๑ วนั
หมุนรอบตวั เอง ตก
ขนึ้
ขนึ้ และตก
วฏั จกั ร
๗๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ถ้าผู้สงั เกตหนั หนา้ ไปทางข้วั โลกใต้ ผู้สงั เกตจะสงั เกตเหน็ ดวงอาทิตยป์ รากฏข้ึน
จากขอบฟา้ ดา้ นซ้ายมอื ของผ้สู งั เกต และตกขอบฟา้ ดา้ นขวามอื ของผู้สังเกต
เพราะโลกหมนุ รอบตวั เองขณะโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ า
เมอื่ มองจากบริเวณเหนอื ขวั้ โลกเหนือ