ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรุง) ๗๓
เหมือนกัน โดยผสู้ ังเกต A และ B จะเหน็ ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นทางขอบฟา้
ดา้ นหนึ่งและเหน็ ดวงอาทิตยต์ กลบั จากขอบฟ้าอีกดา้ นหน่ึงเหมือนกนั
ในแตล่ ะวนั ผสู้ ังเกต A และ B จะมองเหน็ การขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์
ทางดา้ นเดมิ เสมอ โดยจะเห็นดวงอาทิตยป์ รากฏขึน้ จากขอบฟา้ ทางขวามือ
ของผสู้ งั เกตและตกทีข่ อบฟา้ ทางซา้ ยมอื ของผสู้ งั เกต เมอ่ื ผูส้ งั เกตหันหนา้ ไป
ทางทศิ เหนือหรือทางขว้ั โลกเหนือ
๗๔ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
คาํ ช้แี จงประกอบแผนจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑.๓ การกาํ หนดทศิ เวลา ๓ ชว่ั โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สาระสาํ คญั ของแผน
โลกหมุนรอบตัวเองทําให้เกิดการกําหนดทิศ โดยกําหนดให้ด้านท่ีดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้น ทางขวามือ เป็น
ทิศตะวนั ออก ดา้ นทีด่ วงอาทิตยต์ ก ทางซา้ ยมือ เป็นทิศตะวันตก
๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการนาํ ไปใช้ (ใหร้ ะบสุ ิง่ ทตี่ อ้ งการเน้นหรือข้อสงั เกต ข้อเสนอแนะ คําแนะนาํ )
ในเร่ืองต่อไปน้ี คอื
๒.๑ ขอบขา่ ยเนือ้ หา
การที่โลกหมนุ รอบตวั เองทําใหค้ นบนโลกมองเหน็ ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นทางดา้ นหน่งึ ซง่ึ กําหนดให้
เป็นทศิ ตะวนั ออก และมองเห็นดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟา้ อีกดา้ นหนึง่ กําหนดเป็นทศิ ตะวนั ตก โดยเมื่อให้
ด้านขวามืออยู่ทางทิศตะวันออก ด้านซ้ายมือจะเป็นทิศตะวันตก ด้านหน้าจะเป็นทิศเหนือ และด้านหลัง
จะเปน็ ทศิ ใต้
๒.๒ จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม) (ถา้ มี)
จุดประสงคด์ า้ นความรู้
อธิบายการเกิดทิศ
จดุ ประสงค์ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
๑. การจัดกระทําและสื่อความหมายข้อมูล
๒. การลงความเหน็ จากขอ้ มลู
๓. การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ
๔. การสรา้ งแบบจาํ ลอง
จุดประสงค์ดา้ นคุณธรรม
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. ม่งุ มั่นในการทาํ งาน
๒.๓ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑) การเตรียมตัวของครู นักเรียน (การจัดกลมุ่ ) (ถา้ มี)
๑.๑ การจัดกลมุ่ โดยแบง่ นกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔ คน
๑.๒ ครอู าจศึกษาวีดิทัศน์เร่ืองการข้ึนและตกของดวงอาทิตย์และ
การกําหนดทิศ เพื่อเตรียมการจัดการเรียนการสอนจาก
QR Code น้ี หรอื จาก http://ipst.me/9928
๗๕ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรงุ )
๒) การเตรยี มสอ่ื วัสดอุ ุปกรณ์ ของครู นักเรยี น (ถา้ ม)ี
ส่งิ ท่คี รูตอ้ งเตรยี ม คอื
๒.๑ ลูกโลก ๑ ใบ/กล่มุ
๒.๒ ไฟฉาย ๑ กระบอก/กลุ่ม
๒.๓ ดนิ นาํ้ มัน ๑ ก้อน/กลมุ่
๒.๔ ไมจ้ ม้ิ ฟัน ๑ อนั /กลุ่ม
๒.๕ กระดาษแข็งเทาขาว ๑ แผ่น/กลุม่
๒.๖ กรรไกร ๑ อัน/กลุม่
๒.๗ เทปใส ๑ มว้ น/ห้อง
ครูดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ชื่อ “AR สสวท. วิทย์ประถม” เพื่อใช้ดูภาพเสมือนจริงสามมิติ
(AR) เก่ียวกับการกําหนดทิศ ในหน้า ๓๘ เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว ให้กดเข้า
แอปพลิเคชันดังกล่าว เลือกคําว่า “สแกน AR” และเลือกระดับชั้น “ป.3” จากน้ันนําไปส่องท่ี
รูปหน้า ๓๖ ที่มีสัญลักษณ์ AR และจะปรากฏภาพเสมือนจริงสามมิติการกําหนดทิศในสมาร์ท
โฟน หรือแท็บเล็ต ทั้งน้ีครูสามารถศึกษาวิธีการใช้งาน AR ได้ โดยเข้าไปยังแอปพลิเคชันเดิม
และเลอื กคําว่า “วิธีใช้งาน” ซง่ึ ก็จะมขี ้อความแสดงวิธีใชง้ านบอกไว้
สิ่งทน่ี กั เรยี นต้องเตรียม คือ
๒.๘ หนังสอื หรอื ทีต่ ้งั ๔–๕ เลม่ /กลุม่
๓) เตรยี มใบงาน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (ถา้ มี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ การกาํ หนดทศิ
๓.๒ ใบความร้เู ร่อื งการกาํ หนดทิศ
๓.๓ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งการกําหนดทศิ
๒.๔ วัดผลประเมินผล (ถา้ ม)ี
๑) วธิ กี ารวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้
๑.๑ การตอบคําถามในใบงาน
๑.๒ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
๑.๓ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรมขณะทาํ กจิ กรรม
๒) วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
๒.๑ เครอื่ งมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ดา้ นความรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาํ ถามในใบงาน แลว้ ใชเ้ กณฑ์ในการใหค้ ะแนน ดังนี้
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตาํ่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๗๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
๒.๒ เคร่ืองมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ (ดังแนบ) นําคะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดังนี้
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ต่าํ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๓ เครื่องมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
สังเกตพฤติกรรมด้านคุณธรรมโดยใช้แบบประเมินด้านคุณธรรม (ดงั แนบ) นําคะแนน
มารวมกนั แลว้ ใช้เกณฑ์ในการใหค้ ะแนน ดังนี้
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๓) การทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน แบบฝกึ หัดกอ่ นเรยี น หลังเรยี น
ทาํ แบบฝกึ หดั ในใบงานหลงั เรียน
๓. อืน่ ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้ันประถมศึก
แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรขู้
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ ดวงอาทิตย์ เรอื่ ง การก
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศา
ข้ันนาํ แนวการจัดกิจ
ขน้ั สอน
ขนั้ สรุป ตรวจสอบความรู้เดมิ เกยี่ วกับการกาํ ห
ข้นั ประเมนิ ผล
ทําใบกิจกรรมท่ี ๑ ทิศเกิดข้ึนได้อย่า
ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับปราฏการ
ใบความรเู้ รือ่ งการกาํ หนดทศิ แล้วเขยี
ทาํ ใบงาน ๐๑ การกําหนดทิศ
อภปิ รายและลงขอ้ สรปุ เก่ียวกับการก
ทาํ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เรอื่ งการก
ประเมินจากการตอบคาํ ถาม
ประเมินจากการทาํ กจิ กรรมในชน้ั เรีย
ประเมินจากการทําแบบฝึกหดั
กษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๗๗
ของแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒
กําหนดทศิ
าสตร์และเทคโนโลยี เวลา ๓ ชวั่ โมง
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓
จกรรมการเรยี นรู้
หนดทศิ
างไร โดยสร้างแบบจําลองการเกิดทิศ สังเกตตําแหน่งของไฟฉายเมื่อเทียบกับตุ๊กตา
รณ์การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์และการกําหนดทิศจากแบบจําลอง รวมทั้งอ่าน
ยนแผนผังความคดิ สรปุ ความรเู้ กี่ยวกับการกาํ หนดทิศ
กาํ หนดทิศ
กําหนดทศิ
ยน
๗๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท
แผนการจัดการเรียนรู้ท
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ปรากฏการ
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ (๓ ชั่วโมง)
การทโ่ี ลกหมุนรอบ ชว่ั โมงท่ี ๑
ตัวเองทาํ ให้คนบนโลก ขั้นนํา (๑๐ นาท)ี
มองเห็นดวงอาทติ ยป์ รากฏ ๑. ครูทบทวนความรู้เรื่องทิศเหนือ ทิศใต้ โดยให้นักเรีย
ข้นึ ทางด้านหน่งึ ซงึ่ กําหนดให้ มาแล้วใน ป.๒ ว่าสามารถรู้ทิศเหนือ ทิศใต้ ได้จากแ
เป็นทศิ ตะวนั ออก และ แม่เหล็กข้ัวใต้ช้ีไปทางทิศใต้ ครูอาจนําแม่เหล็กมาแ
มองเหน็ ดวงอาทติ ย์ตก ห้องเรียนเป็นทิศเหนือ และทิศใต้ จากน้ันครูให้บัตรค
ลับขอบฟา้ อีกด้านหน่ึง นกั เรียนนาํ ไปตดิ ท่ผี นังหอ้ งเรยี นตามทิศนน้ั ๆ และตรว
กาํ หนดเป็นทศิ ตะวนั ตก ๒. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนกั เรียนเกี่ยวกบั เร่ืองทิศ โ
โดยเมือ่ ใหด้ า้ นขวามืออยู่ ๒.๑ นกั เรยี นคดิ ว่าทิศเกดิ ขึน้ ได้อย่างไร (นกั เรยี นตอบต
ทางทศิ ตะวนั ออก ด้าน ๒.๒ การเกิดทิศจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นและตกของดวง
ซ้ายมอื จะเปน็ ทศิ ตะวนั ตก ของตนเอง)
ด้านหน้าจะเป็นทิศเหนอื ครูจดคําตอบของนักเรียนไว้ โดยยังไม่เฉลยคําตอ
และดา้ นหลงั จะเปน็ ทศิ ใต้ การทาํ กิจกรรม
ขัน้ สอน (๔๕ นาที)
จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ ๓. ครูใหน้ ักเรียนทาํ กิจกรรมที่ ๑ ทศิ เกดิ ขึ้นได้อยา่ งไร หน
อธิบายการเกดิ ทิศ จากนน้ั ใชค้ ําถามต่อไปนี้
๓.๑ กจิ กรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (การเกดิ ท
ท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
ที่ ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณท์ เ่ี ก่ียวกับดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ช่วั โมง
ตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้
๑. ลูกโลก
๒. ไฟฉาย
ยนใช้ความรู้จากเรื่องการหาข้ัวของแม่เหล็กท่ีได้เรียน ๓. ดนิ นา้ํ มนั
แม่เหล็ก โดยแม่เหล็กข้ัวเหนือชี้ไปทางทิศเหนือ และ ๔. ไม้จิ้มฟนั
แขวนให้นักเรียนสังเกตแล้วให้บอกว่าทางด้านใดของ ๕. กระดาษแขง็ เทาขาว
คําทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก แล้วให้ ๖. กรรไกร
วจสอบความถกู ต้องอีกครง้ั ๗. เทปใส
โดยใชค้ ําถามดงั นี้ ๘. หนังสอื หรือที่ต้ัง
ตามความเข้าใจของตนเอง)
งอาทิตย์หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ภาระงาน / ชน้ิ งาน
๑. การบันทกึ ผลการทาํ
อบให้แกน่ ักเรียน และชักชวนนักเรียนไปหาคําตอบจาก กิจกรรมในใบกจิ กรรม
๒. การทําแบบฝึกหัด
นา้ ๓๐ โดยใหน้ ักเรยี นอ่านชื่อกิจกรรม และจุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ
๑. การตอบคําถามใน
ทศิ ) แบบฝึกหัด
ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถมศกึ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ ดวงอาทิตย์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ ปรากฏการ
กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
จุดประสงค์ดา้ นทกั ษะ ๓.๒ นักเรียนจะเรียนเรื่องน้ีด้วยวิธีใด (การสรา้ งแบบจาํ
กระบวนการทาง ๓.๓ เมอ่ื เรียนแลว้ นักเรียนจะทําอะไรได้ (อธบิ ายการเก
วทิ ยาศาสตร์ ๔. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และวิธีทําข้อ ๑–๕
๑. การจดั กระทาํ และ ทํากจิ กรรม โดยครใู ช้คาํ ถามดงั น้ี
สอื่ ความหมายข้อมลู ๔.๑ กจิ กรรมนีน้ ักเรยี นต้องทําอะไรอันดบั แรก (สร้างแ
๒. การลงความเหน็ จาก ๔.๒ แบบจําลองการเกิดทิศใช้อะไรแทนสิ่งใดในธรร
ขอ้ มลู แผ่นกระดาษวงกลมแทนขอบฟ้าของผู้สังเกต ใ
๓. การตีความหมายขอ้ มูล ดวงอาทิตย์)
และลงข้อสรปุ ๔.๓ นกั เรยี นต้องวางไฟฉายที่ตาํ แหนง่ ใด (วางห่างจาก
๔. การสร้างแบบจําลอง ๔.๔ เม่ือจัดอุปกรณ์และเปิดไฟฉายแล้ว นักเรียนต้อง
ตกุ๊ ตา ทาํ เคร่ืองหมาย E บนแผ่นกระดาษวงกลมต
จดุ ประสงค์ดา้ นคณุ ธรรม ๔.๕ นักเรียนต้องสังเกตตําแหน่งของไฟฉายเม่ือเทียบก
๑. ใฝเ่ รียนรู้ (สังเกตตําแหน่งของไฟฉาย ๔ ตําแหน่ง และต
๒. มุ่งมั่นในการทาํ งาน ตกกระทบบนกระดาษเป็นจุดสุดทา้ ย)
๔.๖ หลังจากนั้นนักเรียนต้องทําอะไรต่อ (อภิปรายแ
ดวงอาทติ ย์ และการกาํ หนดทิศจากแบบจาํ ลอง)
กษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๗๙
ที่ ๑.๓ การกําหนดทศิ
รณท์ เี่ กย่ี วกับดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ชั่วโมง
ตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
าลอง) ๒. สังเกตทกั ษะกระบวนการ
กดิ ทิศได้) ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการ
๕ หน้า ๓๐–๓๑ จากน้ันร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการ ทาํ กิจกรรม
๓. สงั เกตพฤติกรรม
แบบจาํ ลองการเกิดทศิ ) ดา้ นคณุ ธรรมขณะ
รมชาติบ้าง (ใช้ตุ๊กตาดินน้ํามันแทนผู้สังเกต ใช้ขอบ ทํากิจกรรม
ใช้ไม้จ้ิมฟันแทนแขนขวาของผู้สังเกต ใช้ไฟฉายแทน
เกณฑ์การประเมิน
กลูกโลก ๓๐ เซนตเิ มตร ทางด้านขวาของตุ๊กตา) ๑. การตอบคําถามใน
งทําอะไรบ้าง (สังเกตตําแหน่งของไฟฉายเม่ือเทียบกับ แบบฝกึ หัดได้ถูกตอ้ ง
ตรงตาํ แหนง่ ทเี่ ร่มิ เห็นแสงตกกระทบกระดาษ) ดว้ ยตนเอง
กับตุ๊กตาก่ีตําแหน่ง และต้องทําเคร่ืองหมาย W เมื่อใด - มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
ต้องทําเคร่ืองหมาย W ตรงตําแหน่งที่มองเห็นแสง - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ละบันทึกผลเก่ียวกับปรากฏการณ์การข้ึนและตกของ ๒. มที กั ษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ขณะทํากิจกรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
๘๐ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท
แผนการจดั การเรยี นรทู้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๔ ดวงอาทิตย์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสต
ครูอาจสาธิตตําแหน่งของตุ๊กตาท้ังส่ีตําแหน่งปร
ลูกโลกทวนเขม็ นาฬิกา แลว้ หยดุ ท่ีตาํ แหน่ง ๒ ๓ ๔ แล
โดยยงั ไมต่ อ้ งเปิดไฟฉาย หรือใหน้ กั เรยี นทําไปพรอ้ ม ๆ
๕. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทํากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียน
ใช้แบบจําลองเดียวกับแบบจาํ ลองการขึน้ และตกของด
๖. หลังจากทํากิจกรรมเสร็จ ครูให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปราย
๖.๑ เมื่อผู้สังเกตอยู่ตําแหน่งที่ ๑ หันหน้าไปทางทิศเห
ของผู้สงั เกต)
๖.๒ เม่ือผู้สังเกตอยู่ตําแหน่งท่ี ๒ หันหน้าไปทางทิศเห
ศรี ษะของผสู้ ังเกต)
๖.๓ เม่ือผู้สังเกตอยู่ตําแหน่งท่ี ๓ หันหน้าไปทางทิศเห
ของผสู้ ังเกต)
๖.๔ เมอื่ ผู้สังเกตอยูต่ ําแหนง่ ท่ี ๔ หนั หนา้ ไปทางทศิ เหน
ผ้สู ังเกต ผสู้ ังเกตมองไม่เหน็ ไฟฉาย)
๖.๕ นักเรียนทําเคร่ืองหมาย E และ W เม่ือตุ๊กตา
ที่ตําแหน่งที่ ๑ เพราะเป็นตําแหน่งที่เร่ิมเห็นแ
ทตี่ าํ แหนง่ ท่ี ๓ เพราะเป็นตาํ แหน่งท่เี ห็นแสงตกก
๖.๖ สญั ลกั ษณ์ E และ W ใชแ้ ทนทศิ ใด รู้ได้อยา่ งไร (น
ท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ท่ี ๑.๓ การกําหนดทศิ
รณ์ทเี่ กี่ยวกับดวงอาทิตย์ เวลา ๓ ช่วั โมง
ตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓
ระกอบการอภิปรายข้ันตอนการทํากิจกรรม โดยหมุน - ตาํ่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ละกลบั ไปตําแหน่ง ๑ ให้นักเรียนเข้าใจกอ่ นทํากจิ กรรม ๓. มีคณุ ลักษณะด้านคณุ ธรรม
ๆ กับการสาธิตของครู - มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
นเร่ิมปฏิบัติตามข้ันตอนของกิจกรรม นักเรียนสามารถ - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ดวงอาทติ ย์ได้ - ตา่ํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ยผลการทาํ กิจกรรม โดยใชค้ ําถามดงั น้ี
หนือ ไฟฉายจะอยู่ตําแหน่งใดของผู้สังเกต (ด้านขวามือ
หนือ ไฟฉายจะอยู่ตําแหน่งใดของผู้สังเกต (อยู่ตรงกับ
หนือ ไฟฉายจะอยู่ตําแหน่งใดของผู้สังเกต (ด้านซ้ายมือ
นอื ไฟฉายจะอยตู่ าํ แหน่งใดของผสู้ ังเกต (อยใู่ ตเ้ ท้าของ
าอยู่ท่ีตําแหน่งใด เพราะเหตุใด (ทําเครื่องหมาย E
แสงตกกระทบบนกระดาษ และทําเคร่ืองหมาย W
กระทบบนกระดาษเปน็ จดุ สดุ ท้าย)
นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถมศกึ
แผนการจัดการเรียนรู้ท
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หนว่ ยย่อยที่ ๑ ปรากฏการ
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสต
๖.๗ แบบจําลองน้ีสามารถอธิบายปรากฏการณ์การข้ึน
(นกั เรียนตอบตามผลการอภิปรายของตนเอง)
ข้ันสรปุ (๕ นาที)
๗. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงท่ีได้เรีย
ดวงอาทติ ย์ และการกําหนดทศิ จากแบบจําลอง
๘. ครูให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายและลงข้อสรปุ ว่า การท่ีโ
บริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ ทําให้คนบนโลกมองเห็นดว
และมองเหน็ ดวงอาทติ ย์ตกลับขอบฟ้าด้านท่ีมสี ญั ลักษณ
๙. ครแู จง้ วา่ ในชัว่ โมงถัดไป นกั เรียนจะไดท้ าํ กจิ กรรมที่ ๑
ชว่ั โมงที่ ๒
ขั้นนํา (๕ นาท)ี
๑๐. ครูทบทวนส่ิงที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงท่ีผ่านมาเก่ียวกับก
แบบจําลอง โดยใช้คําถามดังนี้
๑๐.๑ จากแบบจําลองการขึ้นและตก ตําแหน่งใดที่ผ
และตําแหน่งใดที่ผู้สังเกตบนโลกเห็นแสงตกก
เริ่มมองเห็นแสงตกกระทบบนกระดาษ คือ
ตกกระทบบนกระดาษเปน็ จุดสดุ ทา้ ย คอื ตาํ แ
กษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๘๑
ท่ี ๑.๓ การกําหนดทศิ
รณ์ทเ่ี ก่ียวกบั ดวงอาทิตย์
ตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๓ ชัว่ โมง
นและตกของดวงอาทิตย์ และการกําหนดทิศได้อย่างไร ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓
ยนรู้ในชั่วโมงนี้ด้วยตนเองเกี่ยวกับการข้ึนและตกของ
โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนนาฬิกา เมือ่ มองจาก
วงอาทิตย์เร่ิมปรากฏจากขอบฟ้าด้านที่มีสัญลักษณ์ E
ณ์ W
ข้อ ๖ ต่อไป เพอื่ อธบิ ายการกําหนดทศิ
การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ และการกําหนดทิศจาก
ผู้สังเกตบนโลกเร่ิมมองเห็นแสงตกกระทบบนกระดาษ
กระทบบนกระดาษเป็นจุดสุดท้าย (ตําแหน่งที่ผู้สังเกต
ตําแหน่งท่ี ๑ ส่วนตําแหน่งท่ีผู้สังเกตบนโลกเห็นแสง
แหนง่ ที่ ๓)
๘๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท
แผนการจดั การเรียนรู้ท
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
๑๐.๒ ตาํ แหน่งทเ่ี ร่ิมเห็นแสงตกกระทบบนกระดาษ
จุดสดุ ท้าย เปน็ ทิศใด ตามลําดับ (นักเรียนตอบ
๑๐.๓ ทศิ เกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร (นกั เรียนตอบตามความเ
ขน้ั สอน (๕๐ นาท)ี
๑๑. ครูช้ีแจงชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของช่ัวโมงน้ีให้น
และอธบิ ายการเกิดทศิ
๑๒. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมที่ ๑ ข้อ ๖ หน
โดยครูใช้คําถามว่า กิจกรรมในวันน้ี นักเรียนต้องท
อภิปรายปรากฏการณท์ เี่ ก่ียวข้องกับการเกดิ ทิศ แล้ว
๑๓. เมื่อเข้าใจขั้นตอนการทํากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรีย
ไปทีละหน้า และนาํ อภปิ รายโดยใชร้ ูปประกอบและใช
หลงั จากอ่านใบความรู้ หน้า ๓๕
๑๓.๑ โลกหมุนรอบตัวเองขณะโคจรรอบดวงอาทิต
การขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์ การกําหนดทศิ
๑๓.๒ คนบนโลกเรียกด้านท่ีมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น
(ทิศตะวนั ออก ใช้สัญลกั ษณ์ E)
๑๓.๓ คนบนโลกเรียกด้านท่ีมองเห็นดวงอาทิตย์ตก
(ทิศตะวนั ตก ใชส้ ญั ลกั ษณ์ W)
ที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) เวลา ๓ ชัว่ โมง
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓
ที่ ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณท์ เี่ ก่ียวกับดวงอาทติ ย์
ตร์และเทคโนโลยี
และตาํ แหน่งทมี่ องเห็นแสงตกกระทบบนกระดาษเป็น
บตามความเข้าใจของตนเอง)
เข้าใจของตนเอง)
นักเรียนทราบอกี คร้ังวา่ ทํากิจกรรมนี้เพื่ออ่านใบความรู้
น้า ๓๒ จากนั้นร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการทํากิจกรรม
ทําอะไรบ้าง (อ่านใบความรู้เร่ืองการกําหนดทิศ และ
วเขียนผงั สรุปความรู้เกยี่ วกบั การเกิดทิศ นาํ เสนอ)
ยนอ่านใบความรู้เรื่องการกําหนดทิศในหน้า ๓๕-๓๗
ชค้ ําถามดงั นี้
ตย์ ทําให้เกิดปรากฏการณ์ใดบ้าง (กลางวัน กลางคืน
ศ)
นจากขอบฟ้าว่าทิศใด และใช้สัญลักษณ์ใดแทนทิศนั้น
กลับขอบฟ้าว่าทิศใด และใช้สัญลักษณ์ใดแทนทิศนั้น
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศึก
แผนการจัดการเรียนรทู้
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยย่อยที่ ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
๑๓.๔ ถ้าหันหน้าไปทางขั้วโลกเหนือ ทิศเหนือและท
ดา้ นที่อยทู่ างข้วั โลกเหนอื ใช้สญั ลักษณ์ N แล
๑๓.๕ เราสามารถหาทิศเหนือและทิศใต้ได้หรือไม่
แมเ่ หล็ก หรอื เขม็ ทิศ)
หลงั จากอา่ นใบความรู้ หนา้ ๓๖
๑๓.๖ รูปที่ ๕ ในใบความรู้ ตรงกับตําแหน่งใดของ
ดวงอาทิตย์อยู่ทางด้านใด และกําหนดให
ดวงอาทิตย์ปรากฏขนึ้ จากขอบฟา้ ทางขวามือ
๑๓.๗ รูปท่ี ๖ ในใบความรู้ ตรงกับตําแหน่งใดของ
ดวงอาทติ ย์อยู่ทางด้านใด (ตาํ แหน่งที่ ๒ ทต่ี ําแ
กษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๘๓
ที่ ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณ์ทเี่ กย่ี วกบั ดวงอาทติ ย์
ตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๓ ชัว่ โมง
ทิศใต้อยู่ทางด้านใด และใช้สัญลักษณ์ใด (ทิศเหนือคือ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
ละทศิ ใตค้ ือด้านท่อี ยูท่ างขัว้ โลกใต้ ใชส้ ัญลักษณ์ S)
อย่างไร (เราสามารถหาทิศเหนือและทิศใต้ได้ โดยใช้
งผู้สังเกตในแบบจําลอง ตําแหน่งน้ีคนบนโลกมองเห็น
ห้เป็นทิศใด (ตําแหน่งท่ี ๑ ที่ตําแหน่งน้ีจะมองเห็น
และกําหนดให้เปน็ ทศิ ตะวนั ออก)
งผู้สังเกตในแบบจําลอง ตําแหน่งนี้คนบนโลกมองเห็น
แหนง่ น้จี ะมองเห็นดวงอาทติ ย์อยู่กลางศรี ษะ)
๘๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท
แผนการจัดการเรยี นรทู้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสต
หลังจากอา่ นใบความรู้ หนา้ ๓๗
๑๓.๘ รูปท่ี ๗ ในใบความรู้ ตรงกับตําแหน่งใดของ
ดวงอาทิตย์อยู่ทางด้านใด และทางขวามือ
ที่ตาํ แหนง่ น้จี ะมองเห็นดวงอาทติ ยอ์ ยทู่ างซา้ ย
๑๓.๙ รูปท่ี ๘ ในใบความรู้ ตรงกับตําแหน่งใดของ
เพราะเหตุใด (ตําแหน่งท่ี ๔ และท่ีตําแห
ดวงอาทติ ย)์
ท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) เวลา ๓ ชั่วโมง
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓
ที่ ๑.๓ การกําหนดทศิ
รณ์ทเี่ ก่ยี วกับดวงอาทติ ย์
ตรแ์ ละเทคโนโลยี
งผู้สังเกตในแบบจําลอง ตําแหน่งนี้คนบนโลกมองเห็น
อและซ้ายมือของผู้สังเกตเป็นทิศใด (ตําแหน่งที่ ๓
ยมอื )
งผู้สังเกตในแบบจําลอง และท่ีตําแหน่งนี้เป็นเวลาใด
หน่งน้ีเป็นเวลากลางคืน เพราะผู้สังเกตมองไม่เห็น
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศึก
แผนการจัดการเรยี นรู้ท
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ปรากฏการ
กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
๑๓.๑๐ เมื่อตําแหน่งของผู้สังเกตเปล่ียนไป ทิศเปล
เปล่ยี นไป ทิศจะเปลีย่ นไปตามตาํ แหน่งของผ
และซ้ายมอื ของผสู้ งั เกตยงั คงเป็นทิศตะวันอ
๑๓.๑๑ การมองเห็นดวงอาทิตย์ข้ึนและตกเก่ียวข
ดวงอาทิตย์ข้ึนจากขอบฟ้าด้านหนึ่งและตกล
ขน้ึ มา โดยกาํ หนดใหด้ า้ นที่ดวงอาทิตย์ข้นึ เป
๑๓.๑๒ จากแบบจําลองสามารถใชอ้ ธบิ ายการเกดิ ทิศ
นาฬิกา เม่ือมองจากบริเวณเหนือขั้วโลก
จะมองเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นจากขอ
มีสัญลักษณ์ E และดวงอาทิตย์ตกลับขอบ
มีสญั ลักษณ์ W)
๑๔. ครูให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิดสรุปความรู้ที่ได้เก
โดยอาจสมุ่ นักเรยี น ๒–๓ คน ออกมานาํ เสนอ
ข้นั สรุป (๕ นาท)ี
๑๕. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนสรุปแนวคิดหรือสิง่ ที่ได้เรยี น
๑๖. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า โลก
บริเวณเหนือข้ัวโลกเหนือ ทําให้คนบนโลกมอง
คนบนโลกจึงกาํ หนดใหเ้ ป็นทศิ ตะวันออก ซ่งึ ใช้สญั ลัก
กษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๘๕
ท่ี ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณ์ทเ่ี ก่ียวกับดวงอาทติ ย์
ตร์และเทคโนโลยี เวลา ๓ ชว่ั โมง
ลี่ยนไปด้วยหรือไม่ อย่างไร (เมื่อตําแหน่งของผู้สังเกต ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
ผ้สู ังเกต โดยไมว่ า่ ผูส้ งั เกตจะอยู่ตําแหนง่ ใด ทางขวามือ
ออกและทศิ ตะวันตกเสมอ)
ข้องกับการเกิดทิศอย่างไร (การที่คนบนโลกมองเห็น
ลับทางขอบฟ้าอีกด้านหน่ึง ทําให้คนบนโลกกําหนดทิศ
ปน็ ทศิ ตะวันออก ด้านท่ดี วงอาทิตย์ตกเป็นทศิ ตะวันตก)
ศไดอ้ ย่างไร (เมือ่ โลกหมุนรอบตวั เองในทิศทางทวนเข็ม
กเหนือ และผู้สังเกตบนโลกหันหน้าไปทางทิศเหนือ
บฟ้าด้านหนึ่งเสมอ จึงกําหนดให้เป็นทิศตะวันออก
บฟ้าอีกด้านหน่ึงเสมอ จึงกําหนดให้เป็นทิศตะวันตก
ก่ียวกับการเกิดทิศลงในใบงาน หน้า ๓๘ และนําเสนอ
นรู้ในชั่วโมงนด้ี ้วยตนเองเก่ียวกับการเกิดทศิ
หมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเมื่อมองจาก
งเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึนจากขอบฟ้าด้านหน่ึง
กษณ์ E และกําหนดให้ดา้ นท่มี องเห็นดวงอาทติ ย์ตกลับ
๘๖ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท
แผนการจัดการเรยี นรทู้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
ขอบฟ้าเป็นทิศตะวันตก ซ่ึงใช้สัญลักษณ์ W ส่ว
ใชส้ ัญลักษณ์ N ด้านหลังจะเป็นทิศใต้ ใชส้ ัญลกั ษณ์ S
ช่วั โมงที่ ๓
ข้ันนาํ (๕ นาท)ี
๑๗. ครทู บทวนความรูเ้ กย่ี วกบั การเกดิ ทิศ โดยใช้คาํ ถามด
๑๗.๑ ทิศเกิดข้ึนได้อย่างไร (โลกหมุนรอบตัวเอง
ขอบฟ้าด้านหน่ึง คนบนโลกจึงกําหนดให
ดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟา้ อีกด้านหนึง่ เป็นทศิ ต
๑๗.๒ เมื่อผู้สังเกตหันหน้าไปทางขั้วโลกเหนือ ทิศต่า
ทางขวามอื ทิศตะวันตกอยูท่ างซา้ ยมือ ทศิ เหน
๑๗.๓ ทิศอยู่กับท่ีหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ทิศไม่ได้อยู่ก
โลก เพราะคนบนโลกเปน็ ผู้กาํ หนดทศิ ขึน้ จากก
ขน้ั สอน (๔๕ นาท)ี
๑๘. ครูใหน้ ักเรยี นตอบคาํ ถามหลังจากทํากจิ กรรม หนา้ ๓
๑๙. ครูให้นักเรียนทําใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรื่องการ
นกั เรยี น
ท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) เวลา ๓ ชว่ั โมง
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
ท่ี ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณท์ เ่ี กย่ี วกับดวงอาทติ ย์
ตร์และเทคโนโลยี
วนด้านหน้าท่ีอยู่ทางข้ัวโลกเหนือจะเป็นทิศเหนือ
S
ดงั นี้
ทําให้คนบนโลกมองเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึนจาก
ห้เป็นทิศตะวันออก และกําหนดให้ด้านท่ีมองเห็น
ตะวนั ตก)
าง ๆ อยู่ทางด้านใดของผู้สังเกตบ้าง (ทิศตะวันออกอยู่
นอื อยู่ด้านหนา้ ทศิ ใตอ้ ยดู่ า้ นหลัง)
กับที่ แต่เปล่ียนไปตามตําแหน่งของผู้สังเกตหรือคนบน
การมองเห็นดวงอาทิตย์ข้ึนและตกจากขอบฟา้ )
๓๙–๔๐ พรอ้ มเฉลยคาํ ตอบให้แก่นักเรยี น
รกําหนดทิศ หน้า ๔๑–๔๓ พร้อมเฉลยคําตอบให้แก่
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้ันประถมศึก
แผนการจดั การเรียนรู้ท
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ปรากฏการ
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
ขน้ั สรปุ (๑๐ นาท)ี
๒๐. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงที่ไ
การเกิดทศิ
๒๑. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปส่ิงท่ีได้เรียนร
เกี่ยวกับปรากฏการณท์ ่ีเกิดขน้ึ เนอื่ งจากการท่ีโลกหม
กษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๘๗
ที่ ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
รณท์ เี่ กีย่ วกับดวงอาทิตย์
ตร์และเทคโนโลยี เวลา ๓ ช่วั โมง
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓
ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ีทั้งหมดด้วยตนเองเกี่ยวกับ
รู้ในหน่วยน้ีท้ังหมดโดยชวนนักเรียนเขียนผังมโนทัศน์
มนุ รอบตวั เอง ดงั นี้
๘๘ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
ช่ือผู้ประเมนิ /กลมุ่ ประเมิน………………………………………………………………………………………………………………………………..
ช่อื กลุ่มรับการประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ท่ี………………….... วนั ท่ี ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ท่ี ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดับพฤตกิ รรม คะแนนที่ได้
เกดิ = ๑ ไม่เกดิ = ๐
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มงุ่ ม่ันในการทาํ งาน
รวมคะแนนทไี่ ด้ทง้ั หมด = …………… คะแนน
คณุ ลักษณะตามจดุ ประสงค์ด้านคุณธรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตาํ่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๘๙
แบบประเมินดา้ นทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑.๓ การกาํ หนดทศิ
เกณฑ์การประเมนิ มดี งั น้ี
๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง
ส่งิ ทีป่ ระเมนิ คะแนน
การจัดกระทาํ และส่ือความหมายขอ้ มลู
การลงความเห็นจากขอ้ มูล
การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป
การสร้างแบบจาํ ลอง
รวมคะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ
ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
การจัดกระทาํ และสอ่ื สามารถจัดกระทําข้อมลู สามารถจดั กระทําขอ้ มูล โดย สามารถจัดกระทาํ ข้อมูล โดย
ความหมายข้อมูล โดยเขียนผงั ความคิดสรุป เขยี นผงั ความคิดสรุปความรู้ เขยี นผงั ความคดิ สรปุ ความรูท้ ี่
ความร้ทู ี่ไดเ้ ก่ยี วกบั การเกิด ทีไ่ ด้เก่ียวกบั การเกดิ ทศิ และ ได้เกยี่ วกับการเกดิ ทิศ และสอื่
ทศิ และสื่อใหผ้ ูอ้ ่นื เข้าใจได้ สอื่ ใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจได้ โดยการ ให้ผู้อนื่ เขา้ ใจได้เพียงบางสว่ น
ด้วยตนเอง ชแ้ี นะของครหู รือผูอ้ ่นื แม้จะไดร้ บั คาํ แนะนําจากครู
หรือผอู้ นื่
การลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จากข้อมลู
ขอ้ มูล ขอ้ มลู เกยี่ วกับการเกิดทศิ ข้อมลู เก่ียวกบั การเกิดทศิ เก่ยี วกบั การเกิดทิศโดยการ
โดยการสังเกตแบบจําลอง โดยการสังเกตแบบจําลอง สงั เกตแบบจําลองและอา่ น
และอ่านใบความร้ไู ดด้ ว้ ย และอา่ นใบความรไู้ ด้ โดย ใบความรู้ไดเ้ พียงบางส่วน
ตนเอง การชแี้ นะของครูหรือผู้อื่น แมจ้ ะไดร้ บั คาํ แนะนาํ จากครู
หรือผูอ้ น่ื
การตีความหมาย สามารถตีความหมายข้อมูลท่ี สามารถตีความหมายขอ้ มูลที่ สามารถตีความหมายขอ้ มลู ทไ่ี ด้
ข้อมูลและลงขอ้ สรุป ไดจ้ ากการสรา้ งแบบจาํ ลอง ได้จากการสร้างแบบจําลอง จากการสรา้ งแบบจาํ ลองและ
และอ่านใบความรู้ และลง และอ่านใบความรู้ และลง อ่านใบความรู้ และลงข้อสรุปได้
ขอ้ สรุปได้วา่ ทิศเกิดจากโลก ข้อสรุปได้วา่ ทิศเกดิ จากโลก วา่ ทิศเกิดจากโลกหมุนรอบ
หมนุ รอบตวั เอง ทาํ ให้คนบน หมนุ รอบตัวเอง ทาํ ให้คนบน ตวั เอง ทาํ ใหค้ นบนโลกมองเห็น
๙๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ทักษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
โลกมองเห็นดวงอาทติ ย์ โลกมองเห็นดวงอาทติ ย์ปรากฏ ดวงอาทติ ย์ปรากฏขน้ึ จาก
ปรากฏขึ้นจากขอบฟ้า ข้ึนจากขอบฟ้าดา้ นหน่ึง ขอบฟ้าด้านหน่ึง กําหนดใหเ้ ป็น
ดา้ นหนึ่ง กําหนดให้เปน็ กาํ หนดให้เป็นทิศตะวันออก ทิศตะวันออก และมองเหน็
ทิศตะวันออก และมองเห็น และมองเห็นดวงอาทติ ย์ตกลับ ดวงอาทิตย์ตกลบั จากขอบฟ้า
ดวงอาทิตย์ตกลบั จากขอบฟ้า จากขอบฟ้าอกี ด้านหน่ึง อีกดา้ นหนึ่ง กําหนดให้เป็น
อีกดา้ นหนึ่ง กาํ หนดใหเ้ ป็น กาํ หนดให้เป็นทิศตะวันตกได้ ทศิ ตะวันตกได้เพยี งบางสว่ น
ทิศตะวันตกได้ดว้ ยตนเอง โดยการชี้แนะของครหู รือ แม้จะไดร้ บั คาํ แนะนาํ จากครู
ผ้อู นื่ หรอื ผ้อู ืน่
การสร้างแบบจําลอง สามารถสร้างแบบจําลอง สามารถสร้างแบบจาํ ลอง สามารถสร้างแบบจาํ ลอง
การเกิดทิศและใช้แบบจาํ ลอง การเกดิ ทิศและใชแ้ บบจําลอง การเกดิ ทศิ และใช้แบบจําลอง
อธิบายการเกิดทศิ ได้ดว้ ย อธิบายการเกิดทศิ ได้ โดยการ อธิบายการเกิดทศิ ไดเ้ พยี ง
ตนเอง ชีแ้ นะของครูหรือผอู้ ื่น บางส่วน แม้จะได้รบั คําแนะนํา
จากครหู รอื ผู้อน่ื
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๙๑
เฉลยใบงาน
๙๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
ทางขวามอื E
ตรงกลางศีรษะ W
ทางซา้ ยมือ
ใต้เทา้
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๙๓
คาํ ตอบข้ึนอยกู่ บั ผลการอภิปรายของนกั เรียน เชน่
ตําแหนง่ ที่ไฟฉายอยทู่ างขวามอื ของต๊กุ ตา
จะเร่ิมมองเหน็ ไฟฉายเปน็ จดุ แรก หรอื มองเห็นดวงอาทติ ยข์ ้ึน และเมอ่ื ไฟฉายอยู่
ทางซ้ายมอื ของต๊กุ ตา จะมองเหน็ ไฟฉายเปน็ จุดสดุ ทา้ ย หรือมองเหน็ ดวงอาทติ ยต์ ก
ตะวนั ออก มองเห็นไฟฉายเป็น
จุดแรก
ตะวนั ตก มองเห็นไฟฉายเปน็
จดุ สุดท้าย
๙๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๙๕
ปรากฏการณก์ ารขึน้ และตกของดวงอาทิตย์
ด้านท่ีมองเหน็ ดวงอาทิตยป์ รากฏขนึ้ กําหนดเปน็ ทิศตะวนั ออก
ดา้ นทมี่ องเหน็ ดวงอาทิตย์ลบั ขอบฟา้ กาํ หนดเปน็ ทศิ ตะวนั ตก
เป็นทศิ เดิมตลอด เพราะทิศเกดิ จากคนบนโลกเปน็ ผกู้ าํ หนดขึ้นจากปรากฏการณ์
การขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์ โดยกาํ หนดให้ทางขวามือเป็นทิศตะวนั ออก และ
ทางซา้ ยมือเปน็ ทิศตะวนั ตก
๙๖ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
โลกหมนุ รอบตัวเองขณะโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทําใหค้ นบนโลกมองเหน็ ดวงอาทติ ย์
ปรากฏขึ้นทางขอบฟา้ ด้านหนงึ่ กาํ หนดเป็นทศิ ตะวันออก และมองเหน็ ดวงอาทติ ย์
ตกลบั ขอบฟ้าอกี ทางหนงึ่ กาํ หนดเปน็ ทศิ ตะวันตก
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๙๗
ตะวนั ตก ตะวันออก
ตะวนั ตก ตะวนั ออก
๙๘ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ระหวา่ งเดนิ ทางจากจังหวดั ระนองไปลําปาง จะมองเหน็ ดวงอาทิตยข์ นึ้ ทางดา้ น
ขวาของรถ ทางทิศตะวนั ออก และจะตกทางดา้ นซ้ายของรถ ทางทศิ ตะวันตก
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ้สู อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ ) ๙๙
โรงเรียนอย่ทู างทศิ ตะวนั ออกของบา้ น
ร้านค้าอย่ทู างทิศตะวนั ตกของภูเขา
เดินไปทางทศิ ตะวันออก เดนิ ลงไปทางทิศใต้ และเดนิ ตอ่ ไปทางทศิ ตะวนั ออก
๑๐๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรุง)
หน่วยย่อยท่ี ๒
ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
๑๐๑ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒ ประโยชนข์ องดวงอาทิตย์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ ช่ือหนว่ ย ดวงอาทติ ย์
จาํ นวนเวลาเรยี น ๓ ชว่ั โมง จํานวนแผนการจัดการเรยี นรู้ ๑ แผน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระสาํ คญั ของหนว่ ย
ในเวลากลางวนั โลกจะได้รับพลงั งานแสงและพลงั งานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทาํ ให้สงิ่ มชี ีวติ ดํารงชวี ิต
อยู่ได้
มาตรฐานและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว ๓.๑
เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ
ระบบสรุ ิยะ รวมท้ังปฏสิ ัมพนั ธ์ภายในระบบสรุ ิยะทสี่ ง่ ผลต่อส่งิ มชี ีวติ และการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ
ตวั ชี้วัด
ว ๓.๑ ป. ๓/๓ ตระหนักถึงความสําคัญของดวงอาทติ ย์ โดยบรรยายประโยชน์ของดวงอาทติ ยต์ ่อ
ส่งิ มีชีวติ
๑๐๒ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ลาํ ดับการนาํ เสนอแนวคิดหลกั ของหนว่ ยยอ่ ยที่ ๒
ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
ดวงอาทติ ยม์ คี วามสําคัญตอ่ สงิ่ มีชวี ิต
ในเวลากลางวนั โลกจะได้รบั พลงั งานแสงและพลงั งานความรอ้ นจากดวงอาทติ ย์
ทาํ ใหส้ ่งิ มีชีวิตดาํ รงชีวิตอยู่ได้
พลงั งานแสงจากดวงอาทิตย์มปี ระโยชน์ตอ่ สิง่ มชี ีวติ เช่น ช่วยในการสรา้ งอาหารของพืช ช่วยให้มนษุ ยม์ องเหน็
ส่ิงตา่ ง ๆ
พลงั งานความร้อนจากดวงอาทิตยม์ ปี ระโยชน์ต่อสิ่งมชี วี ิต เช่น ช่วยให้โลกอบอุ่น ชว่ ยใหโ้ ลกมีอุณหภมู ิ
เหมาะสมต่อการดาํ รงชีวติ ของสิ่งมีชีวติ ช่วยในการถนอมอาหาร การทาํ นาเกลือ
โครงสร้างของหนว่ ยย่อยท่ี ๒ ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
หน่วยการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยยอ่ ย จํานวนแผน ชอ่ื แผนการจดั การเรียนรู้ จํานวนชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ หน่วยย่อยท่ี ๒ ๑ ๒ ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ ๓
ตอ่ สง่ิ มีชวี ติ
ดวงอาทิตย์ ประโยชน์ของ
ดวงอาทิตย์
๑๐๓ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )
คาํ ช้ีแจงประกอบแผนจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์ เวลา ๓ ชวั่ โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สาระสาํ คญั ของแผน
ดวงอาทิตย์มีความสําคัญต่อการดํารงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โดยในเวลากลางวันโลกจะได้รับพลังงานแสง
และพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทําให้ส่ิงมีชีวติ สามารถดํารงชวี ิตอยไู่ ด้
๒. ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ ในการนําไปใช้ (ใหร้ ะบสุ ่งิ ทีต่ ้องการเน้นหรือขอ้ สังเกต ขอ้ เสนอแนะ คาํ แนะนาํ )
ในเรือ่ งต่อไปนี้ คอื
๒.๑ ขอบขา่ ยเน้ือหา
ดวงอาทิตย์มีความสําคัญต่อการดํารงชีวิตของส่ิงมชี ีวิต โดยในเวลากลางวันโลกจะได้รับพลงั งานแสง
และพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์มีประโยชน์ต่อส่ิงมีชีวิต เช่น ช่วยใน
การสร้างอาหารของพืช ช่วยให้มนุษย์มองเห็นส่ิงต่าง ๆ ส่วนพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์
มีประโยชน์ต่อส่ิงมีชีวิต เช่น ช่วยให้โลกอบอุ่น มีอุณหภูมิเหมาะสมต่อการดํารงชีวิตของส่ิงมีชีวิต
ชว่ ยในการถนอมอาหาร การทาํ นาเกลอื
๒.๒ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นยิ ม) (ถา้ มี)
จุดประสงค์ดา้ นความรู้
บรรยายประโยชน์ของดวงอาทติ ย์ทมี่ ีต่อสงิ่ มชี วี ิต
จดุ ประสงคด์ า้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
๑. การสังเกต
๒. การจดั กระทาํ และสื่อความหมายข้อมูล
๓. การลงความเหน็ จากข้อมลู
๔. การตีความหมายจากขอ้ มลู
จดุ ประสงค์ดา้ นคณุ ธรรม
๑. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน
๒.๓ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
๑) การเตรียมตวั ของครู นกั เรียน (การจดั กลมุ่ ) (ถา้ มี)
การจดั กลมุ่ โดยแบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ ๔ คน
๑๐๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรุง)
๒) การเตรยี มสอื่ วัสดุอุปกรณ์ ของครู นักเรยี น (ถ้ามี)
ส่งิ ทคี่ รตู ้องเตรยี ม คอื
-
สง่ิ ทน่ี ักเรยี นต้องเตรียม คอื
-
๓) เตรียมใบงาน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (ถา้ มี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ทมี่ ีต่อสงิ่ มชี ีวติ
๓.๒ ใบความรู้ เรื่อง ประโยชน์ของดวงอาทิตย์
๓.๓ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เร่อื ง ประโยชน์ของดวงอาทิตยท์ ่มี ีตอ่ สิ่งมีชีวติ
๒.๔ วดั ผลประเมนิ ผล (ถ้าม)ี
๑) วิธีการวัดผลประเมินผลการเรยี นรู้
๑.๑ การตอบคําถามในใบงาน
๑.๒ สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการทาํ กิจกรรม
๑.๓ สงั เกตพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมขณะทาํ กจิ กรรม
๒) วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
๒.๑ เคร่อื งมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ดา้ นความรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาํ ถามในใบงาน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการใหค้ ะแนน ดงั น้ี
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครื่องมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ (ดังแนบ) นําคะแนนมารวมกนั แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนนดังนี้
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๓ เครอื่ งมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรมโดยใช้แบบประเมนิ ดา้ นคุณธรรม (ดังแนบ) นาํ คะแนน
มารวมกัน แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการให้คะแนนดงั นี้
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ต่าํ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๑๐๕ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
๓) การทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรียน แบบฝึกหัดกอ่ นเรียน หลังเรียน
ทาํ แบบฝกึ หดั ในใบงานหลงั เรยี น
๓. อ่นื ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
๑๐๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรขู้
เรอ่ื ง ประโยชน์ของด
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ รายวชิ าวิทยาศ
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ข้ันนาํ แนวการจัดกจิ
ข้นั สอน
ขน้ั สรุป ตรวจสอบความร้เู ดมิ เกยี่ วกับประโยช
ขนั้ ประเมนิ ผล
ทําใบกิจกรรมท่ี ๑ ดวงอาทิตย์มปี ระโ
สง่ิ มีชีวติ อา่ นใบความรู้ เรอื่ ง ประโยช
เขียนผังความคดิ เกี่ยวกบั ความรู้ท่ไี ด้เ
ทําใบงาน ๐๑ ประโยชน์ของดวงอาท
อภปิ รายและลงข้อสรุปเกี่ยวกบั ประโย
ทาํ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เรอ่ื ง ประโ
ประเมนิ จากการตอบคําถาม
ประเมนิ จากการทํากจิ กรรมในชน้ั เรีย
ประเมินจากการทําแบบฝึกหดั
(สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
ของแผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เวลา ๓ ช่วั โมง
ดวงอาทติ ยต์ อ่ สงิ่ มชี วี ิต ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓
ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
จกรรมการเรยี นรู้
ชนข์ องดวงอาทติ ย์
โยชน์ต่อสง่ิ มชี ีวติ อย่างไรบ้าง โดยสังเกตรูปแล้วบอกประโยชน์ของดวงอาทติ ย์ทีม่ ตี อ่
ชนข์ องดวงอาทติ ย์ และรวบรวมข้อมูลเพิม่ เติมจากแหลง่ ขอ้ มลู ทนี่ ่าเชอ่ื ถอื รวมท้งั
เรยี นรมู้ าท้งั หมดเกย่ี วกบั ดวงอาทิตย์
ทติ ยท์ ี่มีตอ่ สิ่งมีชีวติ
ยชนข์ องดวงอาทติ ย์ทีม่ ตี อ่ ส่งิ มีชวี ิต
โยชนข์ องดวงอาทติ ย์ทีม่ ตี อ่ สง่ิ มชี ีวิต
ยน
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั ครูผูสอน) กลุม สาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร) ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศึก
แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๒ ประโย
หนว ยการเรยี นรูท ่ี ๔ ดวงอาทติ ย หนวยยอยท่ี ๒ ปร
กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาส
ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู (๓ ชว่ั โมง)
ดวงอาทติ ยมี ชว่ั โมงท่ี ๑
ความสาํ คัญตอการดํารงชีวิต ข้ันนํา (๕ นาท)ี
ของส่งิ มีชีวติ โดยในเวลา ๑. ครตู รวจสอบความรเู ดมิ เกย่ี วกบั ประโยชนข องดวงอาท
กลางวนั โลกจะไดรบั ๑.๑ นักเรียนคิดวาดวงอาทิตยมีประโยชนตอส่ิงมีชีวิต
พลงั งานแสงและพลงั งาน ตนเอง)
ความรอนจากดวงอาทิตย ๑.๒ ถาไมมีดวงอาทิตย สิ่งมีชีวิตจะสามารถดํารงช
พลังงานแสงจาก ความเขาใจของตนเอง)
ดวงอาทติ ยมปี ระโยชนต อ ๒. ครูเช่ือมโยงความรูเดิมของนักเรียนสูการเรียนเรื่องประ
สง่ิ มชี วี ิต เชน ชว ยในการ วา ดวงอาทติ ยม ปี ระโยชนต อส่งิ มีชวี ติ อยา งไร เราจะได
สรา งอาหารของพชื ชว ยให ขั้นสอน (๕๐ นาที)
มนษุ ยม องเห็นสิ่งตา ง ๆ ๓. ครูใหนักเรียนเริ่มทํากิจกรรมที่ ๑ ดวงอาทิตยมีประโยช
สว นพลงั งานความรอนจาก อานชอื่ กจิ กรรม และจดุ ประสงค จากนั้นใชคาํ ถามตอ ไ
ดวงอาทติ ยมปี ระโยชนต อ ๓.๑ กจิ กรรมนี้นักเรยี นจะไดเ รียนเร่ืองอะไร (ประโยชน
สิ่งมชี วี ิต เชน ชว ยใหโลก ๓.๒ นักเรยี นจะเรียนเรอ่ื งนด้ี วยวธิ ใี ด (การสงั เกตและร
อบอนุ มีอุณหภูมเิ หมาะสม ๓.๓ เมอื่ เรยี นแลวนกั เรียนจะทาํ อะไรได (บรรยายประโ
ตอการดํารงชีวติ ของ
กษาปท ี่ 3 (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๐๗
ยชนของดวงอาทิตยต อ ส่ิงมีชีวติ เวลา ๓ ช่ัวโมง
ระโยชนของดวงอาทิตย ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ ๓
สตรและเทคโนโลยี
สื่อ / แหลง เรียนรู
-
ทติ ย โดยใชคาํ ถามดังน้ี ภาระงาน / ชิ้นงาน
ตหรือไม อยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของ ๑. การบนั ทึกผลการทํา
กจิ กรรมในใบกจิ กรรม
ชีวิตอยูไดหรือไม เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตาม ๒. การทําแบบฝกหดั
ะโยชนของดวงอาทิตยท่ีมีตอสิ่งมีชีวิต โดยใชคําถาม วธิ ีการประเมนิ
ดไปเรยี นรกู นั ในกิจกรรม ๑. การตอบคําถามใน
แบบฝกหัด
ชนตอส่ิงมีชีวิตอยางไรบาง หนา ๔๕ โดยใหนักเรยี น ๒. สงั เกตทกั ษะกระบวนการ
ไปน้ี ทางวิทยาศาสตรในการทํา
นข องดวงอาทติ ยท ม่ี ตี อสง่ิ มชี ีวิต) กจิ กรรม
รวบรวมขอมลู ) ๓. สงั เกตพฤติกรรมดาน
ะโยชนของดวงอาทติ ยทม่ี ตี อ ส่งิ มชี ีวติ ) คณุ ธรรมขณะทํากจิ กรรม
๑๐๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ประโย
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยยอ่ ยที่ ๒ ปร
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
ส่งิ มชี วี ติ ชว่ ยในการถนอม ๔. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมที่ ๑ ข้อ ๑ หน้า
อาหาร การทาํ นาเกลอื โดยครูใช้คาํ ถามวา่ กิจกรรมน้ีนักเรยี นตอ้ งทําอะไรบ้าง
ส่งิ มีชวี ติ บันทกึ ผล)
จุดประสงคด์ า้ นความรู้ ๕. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทํากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียน
บรรยายประโยชน์ของ ของดวงอาทิตยท์ ่มี ีตอ่ สิ่งมชี วี ิต หน้า ๔๖–๔๘
ดวงอาทิตยท์ ีม่ ีตอ่ ส่ิงมชี ีวิต ๖. หลงั จากทาํ กิจกรรมเสร็จ ครูใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปราย
รูปในตาราง ดวงอาทิตย์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง (กา
จุดประสงค์ดา้ นทักษะ การเกิดลม สัตว์มีพืชกิน พืชใช้แสงสร้างอาหารทํา
กระบวนการทาง มีพลงั งานใช้)
วิทยาศาสตร์ ขั้นสรุป (๕ นาท)ี
๑. การสงั เกต ๗. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรีย
๒. การจัดกระทําและส่ือ ดวงอาทิตย์
ความหมายข้อมลู ๘. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า ดวงอ
๓. การลงความเห็นจาก ทาํ ใหผ้ า้ แห้ง ทาํ ให้พืชสร้างอาหารได้ ทําใหส้ ัตวม์ พี ชื กิน
ข้อมูล ๙. ครูแจง้ วา่ ในชวั่ โมงถดั ไป นกั เรียนจะได้ทาํ กจิ กรรมที่ ๑
๔. การตีความหมายจาก
ขอ้ มลู
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)
ยชนข์ องดวงอาทิตย์ตอ่ สง่ิ มีชวี ิต
ระโยชนข์ องดวงอาทิตย์ เวลา ๓ ชั่วโมง
สตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
๔๖ จากน้ันร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการทํากิจกรรม เกณฑก์ ารประเมิน
ง (สงั เกตรูปแล้วบอกประโยชน์ของดวงอาทิตยท์ ่ีมตี ่อ ๑. การตอบคําถามในแบบฝกึ หดั
ไดถ้ ูกต้องด้วยตนเอง
นสังเกตรูปและบันทึกผลลงในใบงาน ๐๑ ประโยชน์ - มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ยผลการทาํ กจิ กรรม โดยใช้คําถามว่า จากการสังเกต - ต่ํากว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ารทําให้ปลาแห้ง การทําให้ผ้าแห้ง การทํานาเกลือ ๒. มีทักษะกระบวนการทาง
าให้พืชเจริญเติบโต พืชเกิดการย่อยสลาย มนุษย์ วทิ ยาศาสตรข์ ณะทาํ กิจกรรม
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ยนรู้ในชั่วโมงนี้ด้วยตนเองเก่ียวกับประโยชน์ของ - ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๓. มคี ุณลกั ษณะดา้ นคณุ ธรรม
อาทิตย์มีประโยชน์ต่อส่ิงมีชีวิต เช่น ทําให้ปลาแห้ง - มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
น ทาํ ให้มนษุ ย์มีพลังงานใช้ - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ขอ้ ๒ - ๓ ต่อไป - ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน