The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ruthairong Srikeaw, 2021-11-26 10:11:11

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

(สําหรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  

 

๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง

สตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓

หน้า ๘๑-๘๒ จากน้ันร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการ วธิ กี ารประเมนิ

๑. การตอบคาํ ถามในแบบฝกึ หัด

กแี่ ผน่ (๒ แผ่น) ๒. สังเกตทกั ษะกระบวนการ

บา้ ง และแขวนอย่างไร (แขวนท่ีบริเวณโรงเรียนและ ทางวิทยาศาสตรใ์ นการทํา

รับรอ้ ยเชือก และนําไปแขวนตามที่ต่าง ๆ อย่างน้อย กจิ กรรม

๓. สงั เกตพฤติกรรมดา้ น

ดาษบริเวณท่ีโล่งนอกอาคารหรอื นอกบ้าน แต่ไม่ควร คุณธรรมขณะทํากิจกรรม

ม่ือใด (สังเกตบริเวณเทปใสด้านที่เป็นกาวก่อนนํา เกณฑก์ ารประเมิน

งเกตสภาพแวดล้อมของบริเวณที่นํากระดาษเทาขาว ๑. การตอบคาํ ถามใน

แบบฝกึ หดั ได้ถูกต้องด้วย

ณเทปใสดา้ นที่เป็นกาวกอ่ นนําไปแขวนและหลงั จาก ตนเอง

- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

นเริ่มปฏิบัติตามข้ันตอนของกิจกรรม และบันทึกผล - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

องก่อนแขวนและช่องสภาพแวดลอ้ ม - ตา่ํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

น ให้สงั เกตบริเวณเทปใสด้านที่เป็นกาวอกี คร้งั และ ๒. มที ักษะกระบวนการทาง

๘๓ ในตารางช่องหลังแขวนไว้ ๒ วัน และช่อง วิทยาศาสตร์ขณะทาํ กจิ กรรม

- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

 ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ อากาศและการเกิดลม หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑

กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส

จุดประสงค์ดา้ นคุณธรรม ๖. หลังจากทํากจิ กรรมเสร็จแล้ว ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกนั อภิป

๑. ใฝเ่ รียนรู้ ๖.๑ จากการสังเกตบริเวณเทปกาวด้านที่เป็นกาวก่อน

๒. ม่งุ ม่นั ในการทาํ งาน เปน็ กาว)

๖.๒ นักเรียนคดิ วา่ ถ้านํากระดาษท่ีติดเทปกาวไปแขว

จะแตกต่างจากก่อนนําไปแขวนหรือไม่ อย่างไร

แต่ให้นกั เรยี นไปหาคําตอบดว้ ยตนเองในชั่วโมงตอ่

ขัน้ สรุป (๕ นาท)ี

๗. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสรุปแนวคิดหรอื สงิ่ ท่ีได้เรียนร้ใู

๘. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า เมื่อส

บรเิ วณตา่ ง ๆ ไม่พบส่ิงใด

๙. ครแู จง้ วา่ ในชั่วโมงถัดไป นกั เรียนจะได้ทํากจิ กรรมน้ขี ้อ

ชว่ั โมงที่ ๒
ขัน้ นาํ (๕ นาที)
๑๐. ครูนํารูปบริเวณท่ีมีการจราจรแออัดหรือบริเวณก่อส

ฝุ่นละอองมาก ๆ มาใหน้ ักเรยี นสังเกต เพอ่ื ตรวจสอบ
ดงั น้ี

 

ศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๘๕ 

 
 

๑.๓ มลพิษทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง

สตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓

ปรายโดยครใู ชค้ ําถาม ดังน้ี - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

นนําไปแขวน พบสิ่งใด (ไม่พบสิ่งใดบนเทปกาวด้านท่ี - ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๓. มคี ณุ ลกั ษณะดา้ นคุณธรรม

วนเปน็ เวลา ๒ วันแล้ว บริเวณเทปกาวด้านท่เี ปน็ กาว - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

ร (นักเรียนตอบตามความคิด ครูยังไม่เฉลยคําตอบ - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

อไป) - ต่ํากว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

ในชว่ั โมงนีด้ ว้ ยตนเองเกยี่ วกับมลพษิ ทางอากาศ
สังเกตบริเวณเทปใสด้านท่ีเป็นกาวก่อนนําไปแขวนที่

อ ๔ ต่อไป

สร้าง หรือวีดิทัศน์ท่ีแสดงสภาพอากาศในบริเวณท่ีมี
บความรู้เดมิ เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ โดยใช้คําถาม

๑๘๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ อากาศและการเกิดลม หน่วยย่อยที่ ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส

๑๐.๑ สภาพแวดลอ้ มดงั รูปเป็นอย่างไร (นักเรยี นตอบ

มฝี ุน่ ละอองมาก)

๑๐.๒ บริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก ๆ เป็นบริเวณที่มีม

ความเข้าใจของตนเอง)

๑๐.๓ มลพิษทางอากาศเป็นอย่างไร และเกิดขึ้นไดอ้ ย

ขน้ั สอน (๕๐ นาท)ี

๑๑. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของชั่วโมงน้ีให้นักเ

บรรยายสงิ่ ทพ่ี บในอากาศกับมลพษิ ทางอากาศ

๑๒. หลังจากทํากิจกรรมข้อ ๑-๓ ครบ ๒ วนั แล้ว ครูอาจใ

สภาพแวดล้อมของบริเวณที่แขวนไว้ที่โรงเรียนและ

ใบงาน ๐๑ หนา้ ๘๓ ไว้บนกระดาน

๑๓. ครูนาํ อภปิ รายผลการทาํ กิจกรรม โดยใชค้ ําถามดงั นี้

๑๓.๑ บริเวณเทปใสด้านท่ีเป็นกาวบนแผ่นกระดาษก

เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แตกต่างก

บนเทปใส แต่หลังจากแขวนแผ่นกระดาษเป

สีนํา้ ตาล หรอื มเี ศษไมเ้ ลก็ ๆ ตดิ อยู่บนเทปใส)

(สําหรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)  

 

๑.๓ มลพิษทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง

สตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓

บตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น มกี ารจราจรแออัด

มลพิษทางอากาศหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตาม

ยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)

เรียนทราบอีกคร้ังว่า ทํากิจกรรมนี้เพ่ือสังเกตและ

ให้นักเรียนออกมานําเสนอผลการสงั เกต พร้อมบอก
ะท่ีบ้าน โดยครูอาจเขียนตารางผลการสังเกตตาม

ก่อนและหลังนําไปแขวนในบริเวณต่าง ๆ มีลักษณะ
กัน โดยก่อนนําแผ่นกระดาษไปแขวนไม่พบส่ิงใด
ป็นเวลา ๒ วัน พบว่ามีฝุ่นละอองเล็ก ๆ เป็นผงสีดํา
)

 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส

๑๓.๒ ส่ิงท่ีพบบนเทปใสบริเวณโรงเรียนและท่ีบ้าน

การทํากิจกรรมของนักเรียน เช่น แตกต่างกัน

มากกว่าเทปใสที่แขวนไวท้ ี่บ้าน)

๑๓.๓ เพราะเหตุใด แต่ละบริเวณจึงพบปริมาณฝุ่นล

แตกตา่ งกัน เชน่ บรเิ วณโรงเรียนอยใู่ กลถ้ นนใ

๑๓.๔ จากกิจกรรมน้ี แสดงว่าพบสิ่งใดในอากาศ (ฝุน่

๑๓.๕ นักเรียนคิดว่า ฝุ่นละอองเหล่าน้ีเกิดข้ึนได้อย่า

เกดิ ข้ึนจากควนั รถยนต์)

๑๓.๖ ฝุ่นละอองเหลา่ น้ี ทําใหเ้ กิดมลพษิ ทางอากาศไ

ตนเอง โดยครยู ังไม่ตอ้ งเฉลยคําตอบ แต่ชกั ชว

๑๔. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมท่ี ๑ ข้อ ๔

กจิ กรรม โดยครูใชค้ ําถาม ดงั น้ี

๑๔.๑ นกั เรียนต้องอ่านใบความรู้เรือ่ งอะไร (อ่านใบค

๑๔.๒ เมื่ออ่านใบความรู้แล้ว ต้องอภิปรายและลงคว

สง่ิ ท่พี บจากการทาํ กจิ กรรมทาํ ให้เกิดมลพษิ ทา

๑๕. เมอื่ เขา้ ใจขั้นตอนการทํากจิ กรรมแล้ว ครูให้นกั เรียนอ

รว่ มกันอภปิ ราย โดยครูใชค้ ําถามดงั น้ี

 

ศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๘๗ 

๑.๓ มลพิษทางอากาศ  
๑ อากาศ  
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
นแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (คําตอบข้ึนอยู่กับผล เวลา ๓ ชว่ั โมง
น โดยบริเวณโรงเรียนมีฝุ่นอยู่บนเทปใสในปริมาณ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

ละอองแตกต่างกัน (สภาพแวดล้อมของแต่ละบริเวณ
ใหญ่ มรี ถวง่ิ ผ่านมากกว่าบริเวณบา้ น)
นละออง)
างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น

ได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ
วนนักเรียนไปหาคาํ ตอบจากการทํากจิ กรรมขอ้ ท่ี ๔)
หน้า ๘๒ จากนั้นร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการทํา

ความรู้เรือ่ งมลพิษทางอากาศ)
วามเห็นเก่ียวกับอะไร (อภิปรายและลงความเห็นว่า
างอากาศไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด)
อา่ นใบความรเู้ รื่องมลพษิ ทางอากาศ แลว้ ให้นักเรียน

๑๘๘ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (

แผนการจดั การเรียนรู้ที่

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ อากาศและการเกิดลม หน่วยย่อยที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส

๑๕.๑ ลักษณะใดที่จัดว่าเป็นมลพิษทางอากาศ (อา

หรือมสี ารพิษบางอย่างทีส่ ่งผลเสียต่อสุขภาพ)

๑๕.๒ สิ่งเจือปนในอากาศท่ีทําให้เกิดมลพิษทางอากา

เป็นเวลานาน สารพิษบางอยา่ ง)

๑๕.๒ มลพิษทางอากาศเกิดได้อย่างไร (เกิดจากกา

ยานพาหนะ การท้งิ ขยะ การเผาปา่ )

๑๖. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายและลงความเห็นว่า ส่งิ

ไดห้ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด พร้อมท้งั บนั ทึกผลในใบงาน

๑๗. หลงั จากทาํ กจิ กรรมแลว้ ครูอาจใชค้ าํ ถามอภิปราย ด

๑๗.๑ ส่งิ ท่ีพบจากการทาํ กจิ กรรมนี้ คอื อะไร (ฝุ่นละ

๑๗.๒ สิ่งที่พบจากกิจกรรมทําให้เกิดมลพิษทางอา

การทํากิจกรรม เช่น ทําให้เกิดมลพิษทางอาก

มีผลต่อส่ิงมีชีวิต โดยครูอาจให้ความรู้แก่น

แต่อากาศบริเวณน้ันอาจเป็นหรืออาจไม่เป็น

บริเวณใดเป็นมลพิษทางอากาศ อาจต้องพ

ฝุ่นละออง และผลที่เกิดขึน้ กบั สง่ิ มชี ีวิต)

๑๗.๓ ถ้าเราสูดดมอากาศที่อยู่บริเวณท่ีมีฝุ่นละออง

ตนเอง เชน่ อาจป่วย หายใจไมส่ ะดวก)

(สําหรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  

 

๑.๓ มลพิษทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชวั่ โมง

สตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

ากาศไม่สะอาด มีสิ่งเจือปน หรืออากาศมีกล่ินเหม็น

าศเช่นอะไรบา้ ง (ฝุ่นละอองท่ีมีปรมิ าณมากกวา่ ปกติ

ารกระทําของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงของ

งทพ่ี บจากการทํากิจกรรมทําให้เกิดมลพิษทางอากาศ
๐๑ มลพิษทางอากาศ หนา้ ๘๕
ดงั นี้
ะออง)
กาศได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามผล
กาศได้ เพราะฝุ่นละอองเป็นสิ่งเจือปนอยู่ในอากาศท่ี
นักเรียนเพิ่มเติม ดังนี้ แม้พบฝุ่นละอองบนเทปใส
นมลพิษทางอากาศก็ได้ ในการพิจารณาว่าอากาศ
พิจารณาเรื่องปริมาณฝุ่นละออง ระยะเวลาท่ีพบ

งมาก จะเป็นอย่างไร (นักเรียนตอบตามเข้าใจของ

 ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ูส้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หน่วยยอ่ ยที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส

ข้ันสรปุ (๕ นาที)

๑๘. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นสรุปแนวคดิ หรอื สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี น

๑๙. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงขอ้ สรุปว่า อากา

มีสารพิษบางอย่าง ซ่ึงอาจเกิดจากการกระทําของมน

มลพิษทางอากาศ และส่งผลเสียต่อส่ิงมชี วี ิต

๒๐. ครใู หน้ ักเรยี นตอบคาํ ถามหลงั จากทาํ กจิ กรรม หน้า ๘

๒๑. ครแู จง้ วา่ ในชวั่ โมงถัดไป นักเรียนจะไดท้ ํากจิ กรรมที่ ๒

ชั่วโมงที่ ๓
ขน้ั นํา (๕ นาท)ี
๒๒. ครตู รวจสอบความร้เู ดิมของนักเรียนเกยี่ วกับการลดม

๒๒.๑ กิจกรรมใดบ้างในชีวิตประจําวันที่ก่อให้เกิดม
การใช้รถยนต์สว่ นตวั เป็นประจํา)

๒๒.๒ เราจะมีแนวทางการปฏิบัติตนเพ่ือลดมลพิษท
ของตนเอง เช่น ลดการใชร้ ถยนตส์ ว่ นตัว ใช้รถ

๒๒.๓ ถ้าในบริเวณที่เราอาศัยอยู่มีมลพิษทางอากาศ
ตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น สวมหน้ากากอ

 

ศึกษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรุง) ๑๘๙ 

๑.๓ มลพิษทางอากาศ  
๑ อากาศ  
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
เวลา ๓ ชว่ั โมง
นรใู้ นช่วั โมงน้ดี ว้ ยตนเองเกีย่ วกบั มลพษิ ทางอากาศ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓
าศที่มีสิ่งเจือปน เช่น ฝุ่นละอองในปริมาณมาก หรือ
นุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง การเผาป่า ทําให้เกิด

๘๖-๘๗ เป็นการบา้ น
๒ ลดมลพิษทางอากาศไดอ้ ย่างไร ต่อไป

มลพษิ ทางอากาศ โดยใช้คําถามดงั นี้
มลพิษทางอากาศ (นักเรียนตอบตามความคิด เช่น

ทางอากาศได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
ถสาธารณะมากขน้ึ )
ศ ควรปฏิบัติตนอย่างไร เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบ
อนามัย เพราะอาจเกิดอนั ตรายต่อสุขภาพ)

๑๙๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ อากาศและการเกดิ ลม หน่วยยอ่ ยที่ ๑

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส

ขัน้ สอน (๕๐ นาท)ี

๒๓. ครูให้นักเรียนทํากิจกรรมที่ ๒ ลดมลพิษทางอากาศไ

และจดุ ประสงค์ จากนน้ั ใช้คาํ ถามต่อไปน้ี

๒๓.๑ กิจกรรมน้ีนกั เรยี นจะไดเ้ รียนเร่อื งอะไร (แนวท

๒๓.๒ นักเรียนจะเรียนเรื่องนี้ด้วยวธิ ีใด (การรวบรวม

๒๓.๓ เมื่อเรยี นแลว้ นกั เรียนจะทําอะไรได้ (นําเสนอแ

๒๔. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ โดยครูสามารถสแก

หนา้ ๘๘ เพอ่ื เตรียมแหล่งขอ้ มลู สําหรบั ทํากจิ กรรมให

๒๕. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านวธิ ีทาํ ข้อ ๑–๔ หน้า ๘๘-๘๙ จากน

คาํ ถามดังน้ี

๒๕.๑ เมื่อสังเกตรูปแล้ว นักเรียนต้องทําอะไร (วิเ

ทางอากาศ และกจิ กรรมน้ัน ๆ ส่งผลต่อส่งิ มชี

๒๕.๒ นักเรียนต้องระดมความคิดเก่ียวกับอะไร (แน

กจิ กรรมต่าง ๆ ในข้อ ๑)

๒๕.๓ นักเรียนต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอะไร แล

มลพิษทางอากาศท่ีเกิดจากฝุ่นละออง แก๊ส

การปฏบิ ัตติ นในการลดมลพษิ ทางอากาศ)

(สําหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง)  
 

๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชวั่ โมง

สตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓

ได้อย่างไร หน้า ๘๘ โดยให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม

ทางการปฏบิ ตั ิตนในการลดมลพิษทางอากาศ)
มข้อมูล)
แนวทางการปฏิบตั ิตนในการลดมพษิ ทางอากาศได้)
กน QR Code หรือพิมพ์ URL ตามใบกิจกรรมท่ี ๒
หแ้ ก่นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ล่วงหน้าได้
นน้ั ร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการทํากจิ กรรม โดยครูใช้

เคราะห์ว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่อาจก่อให้เกิดมลพิษ
ชวี ิตอยา่ งไร บนั ทึกผล)
นวทางการปฏิบัติตนในการลดมลพิษทางอากาศจาก

ละวิเคราะห์เกี่ยวกับอะไร (รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ
ส หรือสารเจือปนต่าง ๆ และวิเคราะห์หาแนวทาง

 ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาส

๒๕.๔ นักเรียนต้องนําเสนอเกี่ยวกับอะไร และจะน

มลพิษทางอากาศและแนวทางการปฏิบัติตนใน

ขึ้นอยกู่ บั ความคดิ ของนักเรียน เช่น ทําผังควา

๒๖. เม่ือนักเรียนเข้าใจข้ันตอนการทํากิจกรรมแล้ว ให้นั

๐๒ มลพิษทางอากาศ หน้า ๙๐-๙๑

๒๗. หลังจากนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูอาจทําตา

จากนน้ั ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมานําเสนอ โดยครนู

๒๗.๑ จากรูป มีกิจกรรมใดบ้างที่อาจก่อให้เกิดมล

รถยนต์ การปล่อยควันจากโรงงานก่อให้เกิด

แก๊สพิษในอากาศ การทิ้งขยะไม่ถูกที่และ

เพราะทาํ ใหม้ กี ลน่ิ เหมน็ อากาศไมส่ ะอาด)

๒๗.๒ จากกิจกรรมดังกล่าว ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอย่าง

การหายใจของส่ิงมีชีวิต ควันไปบดบังแสงท่ีพืช

และถ้ามีควันมาก ๆ จะทําให้มองเห็นสิ่งต่าง

ของสุนัข ทําให้เกิดความสกปรก เป็นแหล่งสะ

สัตว์)

๒๗.๓ แนวทางการปฏิบตั ิตนเพื่อลดมลพษิ ทางอากาศ

ตอบตามความคิด เชน่ ใช้รถสาธารณะมากขึน้

 

ศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๙๑ 

๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ  
๑ อากาศ  
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
นําเสนอในรูปแบบใด (นําเสนอกิจกรรมที่ทําให้เกิด เวลา ๓ ชวั่ โมง
นการลดมลพษิ ทางอากาศ และนําเสนอในรูปแบบที่ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓
ามคดิ วาดรปู ใชโ้ ปรแกรมต่าง ๆ ถ่ายรูป)
กเรียนทํากิจกรรมข้อ ๑-๒ และบันทึกผลในใบงาน

าราง ๒ ตามใบงาน ๐๒ หน้า ๙๐-๙๑ บนกระดาน
นาํ อภิปรายตามแนวคําถามดงั น้ี
ลพิษทางอากาศ เพราะเหตุใด (การปล่อยควันจาก
ดมลพิษทางอากาศ เพราะทําให้เกิดฝุ่นละอองและ
การขับถ่ายของสุนัขก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ

งไร (ควันจากรถยนต์และควันจากโรงงาน ส่งผลต่อ
ชนําไปใช้ในการสร้างอาหาร ทําให้บ้านเมืองสกปรก
ง ๆ ได้ไม่ชัดเจน การทิ้งขยะไม่ถูกที่และการขับถ่าย
ะสมเช้ือโรคท่ีอาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ แก่มนุษย์และ

ศที่เกดิ จากกิจกรรมดงั กล่าว ทําได้อย่างไร (นักเรียน
น ปลูกต้นไม้ ลดการใชว้ ัสดทุ ่ที าํ ใหเ้ กดิ ขยะ)

๑๙๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หน่วยยอ่ ยที่ ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส

๒๘. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กจิ กรรมขอ้ ๓ และบันทึกผลในใบงา

๒๙. หลังจากทํากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนร่วมกันอ

แนวทางการปฏบิ ัติตนเพ่ือลดมลพิษทางอากาศทําไดอ้

(- เปลี่ยนหลอดไฟฟา้ จากหลอดไสใ้ ห้เป็นหลอ

- ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน

- พยายามนาํ พลาสติก กระดาษ แก้วน้าํ กลบั ม

- พยายามเปิดเครื่องปรับอากาศให้น้อยทส่ี ดุ

- ใช้รถโดยสารประจําทางแทนการใชร้ ถส่วนต

- ปลกู ตน้ ไม้

- หมัน่ ตรวจสอบเครือ่ งยนต์ใหอ้ ยู่ในสภาพทีส่

๓๐. ครูให้นักเรียนทํากิจกรรมข้อ ๔ โดยให้แต่ละกล

แนวทางการปฏิบัติตนเพ่ืลดมลพิษทางอากาศในรูป

วาดรูป ในใบงาน ๐๒ มลพิษทางอากาศ หน้า ๙๒ ห

ทําเปน็ ช้ินงานและนาํ มาสง่ ในชว่ั โมงถัดไป

๓๑. ครใู ห้นกั เรยี นตอบคาํ ถามหลงั จากทํากจิ กรรม หนา้ ๙

ข้นั สรุป (๕ นาท)ี

๓๒. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงท่ีได

การลดมลพิษทางอากาศ

(สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  

 

๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ

๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง

สตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓

าน ๐๒ มลพษิ ทางอากาศ หนา้ ๙๑

อภิปราย โดยครูใช้คําถามว่า จากการรวบรวมข้อมูล

อยา่ งไรบา้ ง

อดฟลอู อเรสเซนต์ ปดิ ไฟทุกดวงในบา้ นเมือ่ ไม่ใช้

มาใช้ใหม่ รวมทง้ั ลดการใช้ถงุ พลาสตกิ

ตวั

สมบรู ณ)์
ลุ่มร่วมกันอภิปรายและจัดกระทําข้อมูลเกี่ยวกับ
ปแบบท่ีน่าสนใจ ซ่ึงนักเรียนอาจทําผังความคิด หรือ
หรือรูปแบบอื่น ๆ หากเวลาไม่พอ ครูอาจให้นักเรียน

๙๓-๙๔ และร่วมกนั เฉลยคําตอบ

ด้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ีทั้งหมดด้วยตนเองเก่ียวกับ

 ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันประถมศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส

๓๓. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปวา่ กจิ กร

ขยะ ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซ่ึงอาจเป็นอันตราย

ลดมลพิษทางอากาศทําได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหต

ลดการใช้รถสว่ นตวั ลดการใช้ถงุ พลาสตกิ เพอ่ื ลดการ

๓๔. ครูให้นักเรยี นทําใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั เรอื่ งมลพษิ ท

 

ศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง) ๑๙๓ 

๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ  
๑ อากาศ  
สตรแ์ ละเทคโนโลยี
รรมต่าง ๆ เช่น การปล่อยควนั จากการใช้รถ การท้ิง เวลา ๓ ชวั่ โมง
ยต่อส่ิงมีชีวิตชนิดต่าง ๆ แนวทางการปฏิบัติตนเพ่ือ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓
ตุของการเกิดมลพิษทางอากาศในแต่ละบริเวณ เช่น
รสร้างขยะ
ทางอากาศ หน้า ๙๕-๙๗ เปน็ การบ้าน

๑๙๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )  

 

แบบประเมินด้านคณุ ธรรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ

ชอ่ื ผ้ปู ระเมนิ /กล่มุ ประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..
ช่ือกลมุ่ รบั การประเมนิ …………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ท…่ี ……………….... วนั ที่ ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับพฤติกรรม คะแนนทไ่ี ด้
เกิด = ๑ ไมเ่ กดิ = ๐
๑. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน

รวมคะแนนท่ีได้ท้ังหมด = …………… คะแนน

คุณลกั ษณะตามจุดประสงค์ด้านคุณธรรม
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตาํ่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๙๕ 

 

แบบประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กิจกรรม

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑.๓ มลพิษทางอากาศ

เกณฑ์การประเมิน มดี งั นี้

๓ หมายถงึ ดี ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง

สิง่ ทป่ี ระเมิน คะแนน
การสงั เกต
การจดั กระทําและสือ่ ความหมายขอ้ มูล
การลงความเหน็ จากข้อมูล
การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ

รวมคะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ

ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)

การสงั เกต สามารถใช้ประสาทสมั ผสั สามารถใช้ประสาทสัมผสั สามารถใช้ประสาทสัมผสั เกบ็

เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับ เก็บรายละเอียดเก่ียวกบั รายละเอียดเก่ียวกับ

สง่ิ ท่พี บบนเทปใสด้านท่ีเป็น สงิ่ ทพี่ บบนเทปใสด้านท่ีเป็น สง่ิ ท่พี บบนเทปใสด้านท่ีเปน็

กาวเม่อื นําไปแขวนไว้ที่ กาวเม่อื นาํ ไปแขวนไวท้ ี่ กาวเมือ่ นําไปแขวนไวท้ ี่บรเิ วณ

บริเวณต่าง ๆ รวมทง้ั สงั เกต บริเวณตา่ ง ๆ รวมทงั้ สงั เกต ต่าง ๆ รวมทั้งสงั เกตรูปเพอ่ื

รปู เพ่ือวเิ คราะห์ กิจกรรมท่ี รูปเพ่อื วิเคราะห์ กจิ กรรมท่ี วิเคราะห์ กจิ กรรมท่กี อ่ ใหเ้ กดิ

ก่อให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ กอ่ ใหเ้ กิดมลพษิ ทางอากาศ มลพิษทางอากาศได้เพยี ง

ได้ดว้ ยตนเอง โดยไม่เพ่ิม ได้ โดยการชี้แนะของครหู รอื บางส่วน แมจ้ ะได้รบั คาํ แนะนาํ

ความคดิ เห็น ผอู้ ืน่ จากครหู รือผู้อนื่

การจดั กระทําและส่อื สามารถจัดกระทําข้อมูล สามารถจัดกระทําข้อมูล สามารถจัดกระทําข้อมูล

ความหมายข้อมูล ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น

เขียนผังความคิด วาดรูป เขียนผังความคิด วาดรูป เขียนผังความคิด วาดรูป หรือ

หรือรูปแบบอื่น ๆ ท่ี หรือรูปแบบอื่น ๆ ท่ีน่าสนใจ รูปแบบอ่ืน ๆ ที่น่าสนใจ และ

น่าสนใจ และส่ือให้ผู้อ่ืน และส่ือให้ผู้อื่นเข้าใจได้ โดย สื่อให้ผู้อื่นเข้าใจได้เพียง

เข้าใจได้ด้วยตนเอง การชี้แนะของครูหรือผู้อื่น บางส่วน แม้จะได้รับ

คําแนะนําจากครูหรือผู้อ่ืน

 
 

๑๙๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรุง)  

 

ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ

ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)

การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก

ข้อมลู การสงั เกตและการอ่าน การสงั เกตและการอา่ น การสังเกตและการอ่าน

ใบความรู้ไดว้ ่า ส่ิงทพ่ี บบน ใบความรู้ได้ว่า ส่งิ ท่พี บบน ใบความรู้ไดว้ า่ สง่ิ ที่พบบน

เทปใสด้านท่ีเปน็ กาวคอื เทปใสดา้ นที่เป็นกาวคืออะไร เทปใสดา้ นทีเ่ ป็นกาวคอื อะไร

อะไร และก่อใหเ้ กดิ มลพิษ และก่อใหเ้ กดิ มลพษิ ทาง และก่อใหเ้ กิดมลพษิ ทาง

ทางอากาศได้หรอื ไม่ เพราะ อากาศไดห้ รอื ไม่ เพราะ อากาศได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด

เหตุใด รวมทั้งลงความเห็น เหตใุ ด รวมทั้งลงความเหน็ รวมทงั้ ลงความเหน็ จากการ

จากการอ่านใบความรู้ จากการอ่านใบความรู้ อา่ นใบความรูเ้ ก่ยี วกับผลจาก

เก่ยี วกับผลจากมลพษิ ทาง เก่ียวกบั ผลจากมลพิษทาง มลพษิ ทางอากาศที่มตี อ่

อากาศทีม่ ีต่อสิง่ มีชวี ิต และ อากาศทม่ี ีตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และ ส่งิ มีชีวิต และแนวทางในการ

แนวทางในการปฏบิ ัตติ นใน แนวทางในการปฏิบัติตนใน ปฏิบตั ิตนในการลดมลพิษทาง

การลดมลพิษทางอากาศได้ การลดมลพิษทางอากาศได้ อากาศไดเ้ พยี งบางส่วน แม้จะ

ดว้ ยตนเอง โดยการชแี้ นะของครูหรือ ไดร้ ับคําแนะนําจากครูหรอื

ผอู้ ่ืน ผอู้ น่ื

การตีความหมาย สามารถตคี วามหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมายข้อมลู สามารถตคี วามหมายข้อมูลที่

ขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป ท่ีได้จากการทํากจิ กรรมและ ท่ไี ดจ้ ากการทาํ กจิ กรรมและ ไดจ้ ากการทาํ กิจกรรมและการ

การอ่านใบความรูแ้ ละ การอา่ นใบความร้แู ละลง อา่ นใบความรู้และลงขอ้ สรุปได้

ลงข้อสรปุ ไดว้ ่า อากาศทม่ี ี ข้อสรุปได้วา่ อากาศที่มี ว่า อากาศทมี่ ีสิง่ เจือปนใน

ส่งิ เจอื ปนในปริมาณมาก ส่งิ เจือปนในปรมิ าณมาก ปริมาณมาก หรือมสี ารพษิ

หรอื มีสารพษิ บางอยา่ ง หรือมสี ารพิษบางอย่าง ซ่งึ บางอย่าง ซงึ่ เกิดจากการทาํ

ซึ่งเกิดจากการทาํ กิจกรรม เกดิ จากการทํากิจกรรม กจิ กรรมต่าง ๆ ของมนุษย์

ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ จะส่งผล ตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ จะส่งผล จะส่งผลให้เกิดมลพษิ ทาง

ให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ ใหเ้ กดิ มลพษิ ทางอากาศ อากาศ และทําให้เป็นอันตราย

และทําใหเ้ ป็นอนั ตรายต่อ และทาํ ให้เปน็ อนั ตรายตอ่ ตอ่ สิ่งมีชวี ิต แนวทางการ

สิ่งมชี ีวิต แนวทางการปฏบิ ัติ สงิ่ มีชวี ติ แนวทางการ ปฏบิ ัติตนเพือ่ ลดมลพษิ ทาง

ตนเพ่อื ลดมลพิษทางอากาศ ปฏิบตั ิตนเพื่อลดมลพิษทาง อากาศทาํ ไดห้ ลายวิธขี ึน้ อยกู่ ับ

ทําได้หลายวิธีขึน้ อยกู่ บั อากาศทําไดห้ ลายวิธขี ้นึ อยู่ สาเหตุของการเกิดมลพิษทาง

สาเหตุของการเกิดมลพิษ กบั สาเหตขุ องการเกิดมลพิษ อากาศในแต่ละบรเิ วณไดเ้ พียง

ทางอากาศในแตล่ ะบริเวณ ทางอากาศในแต่ละบรเิ วณได้ บางสว่ น แมจ้ ะไดร้ บั คําแนะนํา

ได้ด้วยตนเอง โดยการชแี้ นะของครูหรอื จากครหู รือผ้อู น่ื

ผูอ้ น่ื

๑๙๗ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) 

 

เฉลยใบงาน

 
 

๑๙๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )  

 

นกั เรยี นวาดรปู ตามทส่ี งั เกตได้ นักเรยี นตอบตามทสี่ งั เกตได้
เช่น อยูใ่ กล้ถนน มีรถวิ่งผา่ น
หลายคัน

นักเรยี นวาดรปู ตามท่ีสงั เกตได้ นักเรียนตอบตามทีส่ ังเกตได้
เชน่ มีตน้ ไมห้ ลายตน้

๑๙๙ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)

ฝนุ่ ละออง



ฝุ่นละออง เปน็ สง่ิ เจอื ปนอยใู่ นอากาศทีม่ ีผลต่อสิง่ มชี วี ิต

๒๐๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )

นักเรยี นตอบตามผลการสงั เกต เช่น แตกตา่ งกัน โดยเมอื่ แขวนกระดาษที่มเี ทปใส
บริเวณโรงเรียนซง่ึ อย่ใู กลถ้ นนและมีรถวิง่ ผา่ นหลายคนั พบวา่ มฝี ุน่ ละอองตดิ อยู่
บนเทปใสมากกวา่ เทปใสท่ีแขวนไวบ้ รเิ วณบา้ น
นักเรยี นตอบตามผลการสงั เกต เชน่ ไม่เทา่ กนั เพราะแต่ละบรเิ วณมสี ภาพแวดลอ้ ม
ไมเ่ หมือนกัน

บริเวณที่มีส่ิงเจือปนในอากาศ เชน่ ฝนุ่ ละอองในปริมาณมากกว่าปกตเิ ป็นเวลานาน
หรืออากาศทมี่ กี ลิ่นเหมน็ หรอื มีสารพิษบางอย่าง เพราะทําใหเ้ กดิ อันตรายตอ่
ส่งิ มีชวี ติ และส่งผลเสียตอ่ สขุ ภาพ

๒๐๑ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )

นกั เรยี นตอบตามผลการสงั เกต เชน่ ที่บรเิ วณโรงเรยี น มีการใชร้ ถจํานวนมาก

ในแต่ละบรเิ วณจะมฝี นุ่ ละอองปรมิ าณมาก น้อยแตกต่างกัน ขน้ึ อยู่กบั สภาพแวดลอ้ ม
ในแต่ละบรเิ วณ โดยบรเิ วณทม่ี สี ิง่ เจอื ปนในอากาศ เชน่ ฝนุ่ ละอองปรมิ าณมาก
เป็นเวลานาน หรอื มีกลิ่นเหม็นหรอื สารพษิ ทสี่ ง่ ผลต่อเสยี ตอ่ สิ่งมชี วี ติ จัดเปน็
มลพิษทางอากาศ ซึ่งบางครง้ั เกดิ จากการกระทําของมนษุ ย์

๒๐๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

 

นกั เรียนตอบตามผลการสงั เกตและการวิเคราะห์ เชน่

การปลอ่ ยควนั จากรถยนต์ หายใจไมส่ ะดวก ลดการใช้รถสว่ นตวั เปลีย่ นมาใช้
รถสาธารณะมากข้ึน

การปลอ่ ยควนั จาก หายใจไม่สะดวก ลดการปล่อยควัน
โรงงาน ปลกู ต้นไม้

การท้ิงขยะ ส่งกลนิ่ เหมน็ ท้งิ ขยะใหถ้ กู ทถี่ ูกทาง ลดการใช้
เกดิ ความสกปรก ส่งิ ของท่กี อ่ ใหเ้ กดิ ขยะ

การขับถา่ ยของสนุ ขั ส่งกลนิ่ เหมน็ ฝกึ ให้สนุ ขั ขับถ่ายเปน็ ท่ี หรอื เก็บ
เกดิ ความสกปรก มูลสนุ ัขไปทิ้งในที่ที่เหมาะสม

๒๐๓ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรงุ ) 

 

แนวคาํ ตอบ เช่น การปลกู ต้นไม้ การใชร้ ถสาธารณะหรอื ใช้จกั รยานแทนการใช้
รถส่วนตวั เพอื่ ลดปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดท์ เ่ี กดิ จากการเผาไหมเ้ ช้ือเพลิง
การท้ิงขยะใหถ้ กู ทถี่ ูกทาง คดั แยกขยะก่อนท้ิงเพ่อื ใหส้ ามารถนาํ ขยะทใี่ ชแ้ ลว้ กลบั มา
ใช้ใหมไ่ ด้อกี เปน็ การช่วยลดปรมิ าณขยะ

 
 

๒๐๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรุง)  

 

นกั เรียนนาํ เสนอในรปู แบบที่นา่ สนใจ เชน่

กิจกรรมทีท่ ําใหเ้ กิด การใชร้ ถสว่ นตัว
มลพษิ ทางอากาศ
ใช้รถสาธารณะ
แนวทางการปฏบิ ัตติ น ใชจ้ กั รยาน

ทางเดยี วกนั ไปด้วยกัน

หมายเหตุ : รูปแบบการนาํ เสนออาจแตกตา่ งไปจากตวั อย่าง นักเรียนอาจ
นําเสนอในรปู แบบอืน่ เชน่ วาดรูป

๒๐๕ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรงุ ) 

 

การปล่อยควนั จากรถยนตแ์ ละโรงงาน การขับถ่ายของสุนขั
การทงิ้ ขยะไม่ถูกทีถ่ ูกทาง

แนวทางการปฏบิ ตั ติ นขน้ึ อยกู่ บั สาเหตทุ ่ีกอ่ ให้เกิดมลพษิ ทางอากาศ เชน่
การปลกู ตน้ ไม้ การใชร้ ถสาธารณะหรอื ใชจ้ กั รยานแทนการใชร้ ถส่วนตวั
ทิง้ ขยะใหถ้ กู ท่ีถูกทาง คดั แยกขยะกอ่ นทงิ้ ลดการใช้สิ่งของทีท่ ําใหเ้ กิดขยะ

 
 

๒๐๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

 

กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาํ วัน ก่อใหเ้ กิดมลพษิ ทางอากาศ ซ่งึ ส่งผลตอ่
สิ่งมีชีวิต แนวทางการปฏิบตั ิตนเพือ่ ลดมลพษิ ทางอากาศทาํ ได้หลายวธิ ขี ้ึนอยู่กับ
สาเหตขุ องการเกิดมลพษิ ทางอากาศนน้ั

๒๐๗ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) 

 



มีการปลอ่ ยควันปรมิ าณมากจาก
โรงงาน
ลดการปลอ่ ยควนั ปลูกต้นไม้ เพอ่ื ชว่ ยลด
แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดท์ ี่เกดิ จากการเผาไหม้



เปน็ หมอก ซึง่ ไมไ่ ดส้ ่งผลเสยี ต่อ
สงิ่ มชี ีวิต

-

 
 

๒๐๘ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)  

 



การใชร้ ถยนตจ์ ํานวนมากทาํ ให้
เกิดการปลอ่ ยควันจากการเผาไหม้เช้อื เพลงิ
ลดการใชร้ ถสว่ นตัว ใช้รถสาธารณะมากขนึ้



ฝุ่นละอองจาํ นวนมาก ทาํ ให้เกดิ
อนั ตรายต่อสงิ่ มชี วี ิต หายใจไม่สะดวก
ลดการใชร้ ถหรือกจิ กรรมท่ีก่อใหเ้ กดิ การ
ปล่อยควนั

๒๐๙ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) 

 



เกดิ กลน่ิ เหมน็

คัดแยกขยะกอ่ นท้งิ ลดการใช้สงิ่ ของที่
กอ่ ใหเ้ กดิ ขยะ

 
 

๒๑๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )  

 

หน่วยย่อยที่ ๒
การเกดิ ลม

๒๑๑ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) 

 

หน่วยยอ่ ยที่ ๒ การเกิดลม

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ ชือ่ หนว่ ย อากาศและการเกดิ ลม

จาํ นวนเวลาเรียน ๗ ชวั่ โมง จาํ นวนแผนการจดั การเรยี นรู้ ๒ แผน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สาระสาํ คญั ของหน่วย
ลม คือ อากาศที่เคล่ือนที่ เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศบริเวณท่ีอยู่ใกล้กัน โดยอากาศ

บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงจะลอยตัวสูงข้ึน และอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ํากว่าจะเคลื่อนเข้าไปแทนที่ ทําให้เกิด
ลม ลมสามารถนํามาใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้า และนําไปใช้ประโยชน์ในการทํากิจกรรม
ต่าง ๆ ของมนุษย์ หากลมเคลื่อนท่ีด้วยความเร็วสูงอาจทําให้เกิดอันตรายและความเสียหายต่อชีวิตและ
ทรพั ย์สนิ ได้

มาตรฐานและตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ว ๓.๒

เขา้ ใจองคป์ ระกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก
ธรณีพบิ ตั ิภัย กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทั้งผลตอ่ สิ่งมชี ีวิตและส่งิ แวดล้อม

ตวั ชี้วัด
ว ๓.๒ ป. ๓/๓ อธบิ ายการเกิดลมจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์

ว ๓.๒ ป. ๓/๔ บรรยายประโยชน์และโทษของลมจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้

 
 

๒๑๒ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)  

 

ลําดับการนาํ เสนอแนวคดิ หลกั ของหน่วยย่อยที่ ๒ การเกิดลม

ความแตกต่างของอุณภมู ขิ องอากาศสองบรเิ วณท่อี ยใู่ กล้เคียงกนั จะทาํ ใหม้ กี ารเคลื่อนท่ขี องอากาศ
เรยี กว่า ลม ซึ่งเคลอ่ื นทีไ่ ดท้ ง้ั แนวนอนและแนวต้ัง

ลมมีประโยชนต์ อ่ สิ่งมีชีวิต เช่น ใชเ้ ปน็ แหลง่ พลังงานในการผลิตไฟฟา้ ใชใ้ นการทาํ กิจกรรมต่าง ๆ
ของมนษุ ย์ ช่วยกระจายเมลด็ พันธุ์พืช

ลมยังมโี ทษต่อส่ิงมีชีวติ เชน่ เมอื่ ลมเคล่ือนทด่ี ้วยความเรว็ สูงอาจทําให้เกิดอนั ตรายและความเสยี หายตอ่
ชวี ติ และทรพั ยส์ ิน

โครงสรา้ งของหนว่ ยย่อยท่ี ๒ การเกดิ ลม

หน่วยการเรยี นรู้ ชื่อหน่วยย่อย จาํ นวนแผน ช่ือแผนการจดั การเรยี นรู้ จาํ นวนชว่ั โมง

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ หน่วยย่อยที่ ๒ ๒ ๒.๑ การเกิดลม ๕
อากาศและการเกิด การเกิดลม ๒
ลม ๒.๒ ประโยชน์และโทษ
ของลม

๒๑๓ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 

 

คําชแี้ จงประกอบแผนจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒.๑ การเกิดลม เวลา ๕ ช่วั โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑. สาระสาํ คญั ของแผน
ลมเกดิ จากความแตกตา่ งของอณุ หภูมอิ ากาศบริเวณท่อี ยูใ่ กลก้ นั

๒. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในการนาํ ไปใช้ (ให้ระบสุ ่งิ ทตี่ อ้ งการเน้นหรอื ขอ้ สังเกต ขอ้ เสนอแนะ คําแนะนาํ )

ในเรอื่ งต่อไปน้ี คอื

๒.๑ ขอบขา่ ยเนอื้ หา

ลมเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศบริเวณที่อยู่ใกล้กัน โดยอากาศบริเวณท่ีมีอุณหภูมิสูง

จะลอยตวั สงู ข้นึ และอากาศบรเิ วณทมี่ อี ณุ หภมู ติ ่าํ กวา่ จะเคลื่อนเขา้ ไปแทนท่ี ทาํ ใหเ้ กิดลม

๒.๒ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม คา่ นยิ ม) (ถา้ ม)ี

จดุ ประสงคด์ า้ นความรู้

๑. เปรียบเทยี บอุณหภมู ขิ องอากาศในบริเวณต่าง ๆ

๒. อธิบายการเกิดลม

จดุ ประสงคด์ า้ นทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

๑. การสังเกต

๒. การวัด

๓. การพยากรณ์

๔. การลงความเห็นจากข้อมูล

๕. การตีความหมายจากขอ้ มลู

๖. การสรา้ งแบบจาํ ลอง

จุดประสงค์ดา้ นคุณธรรม

๑. ใฝเ่ รียนรู้

๒. มงุ่ มน่ั ในการทาํ งาน

๒.๓ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

๑) การเตรยี มตวั ของครู นักเรียน (การจัดกลมุ่ ) (ถ้ามี)

การจดั กลมุ่ โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ ๔ คน

๒) การเตรียมสอื่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ของครู นกั เรยี น (ถา้ ม)ี

สิง่ ทค่ี รตู ้องเตรยี ม คือ

๑. เทอร์มอมิเตอร์ ๒ แทง่ /กล่มุ

๒. กระดาษ ๑ แผน่ /กลุ่ม

 
 

๒๑๔ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )  

 

๓. เทปใส ๑ มว้ น/กลมุ่

๔. เชือก (ยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร) ๑ เส้น/กลมุ่

๕. กรรไกร ๑ เล่ม/กล่มุ

๖. ธปู ๑ ดอก/กลุ่ม

๗. เทียนไข ๑ เลม่ /กลมุ่

๘. ไมข้ ดี ไฟ ๑ กลกั /ห้อง

๙. มีดคัตเตอร์ ๑ เล่ม/กล่มุ

๑๐. กระป๋องทราย ๑ ใบ/กลมุ่

สง่ิ ทนี่ ักเรียนต้องเตรียม คอื

๑๑. ขวดพลาสตกิ ใบใหญ่ ๑ ใบ/กลุม่

๑๒. ขวดพลาสติกใบเลก็ ๑ ใบ/กลุ่ม

๓) เตรยี มใบงาน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (ถา้ มี)

๓.๑ ใบกจิ กรรมที่ ๑ อณุ หภมู ขิ องอากาศในบริเวณตา่ ๆ เปน็ อย่างไร

๓.๒ ใบงาน ๐๑ อณุ หภูมขิ องอากาศในบริเวณต่าง ๆ

๓.๓ ใบกจิ กรรมที่ ๒ ลมเกิดขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร

๓.๔ ใบงาน ๐๒ การเกดิ ลม

๓.๕ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เรื่องการเกดิ ลม

๒.๔ วัดผลประเมินผล (ถ้าม)ี

๑) วิธีการวดั ผลประเมนิ ผลการเรียนรู้

๑.๑ การตอบคาํ ถามในใบงาน

๑.๒ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กิจกรรม

๑.๓ สงั เกตพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมขณะทาํ กจิ กรรม

๒) วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์

๒.๑ เคร่ืองมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ด้านความรู้

ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคําถามในใบงาน แลว้ ใชเ้ กณฑ์ในการใหค้ ะแนน ดงั นี้

- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๒.๒ เคร่อื งมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ

ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดงั แนบ) นําคะแนนมารวมกัน แล้วใชเ้ กณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดังน้ี

๒๑๕ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 

 

- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ต่ํากว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๒.๓ เครอ่ื งมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม

สังเกตพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรมโดยใชแ้ บบประเมนิ ด้านคุณธรรม (ดงั แนบ) นําคะแนน

มารวมกนั แลว้ ใชเ้ กณฑใ์ นการให้คะแนน ดังน้ี

- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ตํ่ากวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๓) การทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน แบบฝกึ หัดก่อนเรียน หลงั เรยี น

ทาํ แบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน

๓. อน่ื ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

 
 

๒๑๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส

แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรูข้

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรอ่ื ง ก

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศ

ข้ันนาํ แนวการจดั กิจ
ข้นั สอน
 ตรวจสอบความรเู้ ดมิ เกยี่ วกับอณุ หภมู
ข้ันสรุป
ขัน้ ประเมนิ ผล  ทําใบกจิ กรรมท่ี ๑ อุณหภมู ขิ องอากา
รว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกบั อณุ หภูมิ ๒ บ

 ทําใบงาน ๐๑ อณุ หภมู ขิ องอากาศใน
 ทาํ ใบกิจกรรมที่ ๒ ลมเกิดขนึ้ ไดอ้ ย่าง

อภปิ รายเกยี่ วกับการเกิดลมในแบบจ
 ทําใบงาน ๑๒ การเกดิ ลม
 อภปิ รายและลงข้อสรุปเก่ยี วกับความ
 ทําใบงาน ๐๓ แบบฝึกหัด เรอ่ื ง การเ
 ประเมนิ จากการตอบคาํ ถาม
 ประเมินจากการทํากิจกรรมในชัน้ เรีย
 ประเมินจากการทาํ แบบฝึกหดั

สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  
 

ของแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒.๑

การเกิดลม เวลา ๕ ชั่วโมง

ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓

จกรรมการเรยี นรู้

มขิ องอากาศในแต่ละบริเวณ และการเกิดลม
าศในบรเิ วณต่าง ๆ เปน็ อยา่ งไร โดยการวดั อณุ หภูมิของอากาศในบรเิ วณต่าง ๆ และ
บริเวณทแ่ี ตกตา่ งกนั เก่ียวขอ้ งกับการเกิดลมหรอื ไม่ อย่างไร
นบริเวณต่าง ๆ
งไร โดยสร้างแบบจาํ ลองการเกดิ ลม รวมท้งั อา่ นใบความรู้เร่ืองการเกดิ ลม แลว้ ร่วมกัน
จาํ ลองโดยใช้ข้อมูลตามใบความรู้

มแตกตา่ งของอุณหภูมใิ นบริเวณต่าง ๆ และการเกดิ ลม
เกดิ ลม

ยน

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชั้นประถมศกึ

แผนการจัดการเรยี น

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ อากาศและการเกิดลม หน่วยยอ่ ยท

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยา

ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้ (๔ ชั่วโมง)

ลมเกดิ จากความ ช่วั โมงท่ี ๑

แตกต่างของอุณหภมู อิ ากาศ ข้ันนํา (๕ นาท)ี

บริเวณท่ีอยใู่ กล้กนั โดย ๑. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับอุณหภูมิของอากาศใน

อากาศบริเวณที่มีอณุ หภูมิ สภาพแวดล้อมแตกตา่ งกนั เช่น ป่า สนามหญ้าโล่งแจ้ง

สูงจะลอยตัวสูงข้ึน และ ในเวลาเดียวกันอุณหภูมิของอากาศตามบริเวณต่าง ๆ

อากาศบริเวณทม่ี อี ณุ หภูมิ ตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ไม่เท่ากัน ในป่าจะมีอ

ตา่ํ กว่าจะเคลื่อนเข้าไป จากการใช้เครื่องวดั อุณหภูมิ เช่น เทอรม์ อมเิ ตอร์ มาวัด

แทนท่ี ทาํ ใหเ้ กิดลม ขัน้ สอน (๕๐ นาที)

๒. ครูให้นักเรียนเร่ิมทํากิจกรรมท่ี ๑ อุณหภูมิของอาก

จุดประสงค์ดา้ นความรู้ นกั เรยี นอ่านชือ่ กิจกรรม และจุดประสงค์ จากนั้นใช้คํา

๑. เปรียบเทียบอุณหภูมิ ๒.๑ กจิ กรรมนีน้ ักเรียนจะไดเ้ รยี นเร่ืองอะไร (อณุ หภูมขิ

ของอากาศในบริเวณ ๒.๒ นกั เรียนจะเรียนเรือ่ งนดี้ ้วยวธิ ีใด (การสังเกตและก

ตา่ ง ๆ ๒.๓ เม่ือเรียนแลว้ นักเรียนจะทําอะไรได้ (เปรยี บเทยี บอ

๒. อธบิ ายการเกิดลม ๓. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และนําวัสดุ-อุปกรณ

มาแสดงใหน้ ักเรียนดู

๔. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นวิธีทําในใบกิจกรรมท่ี ๑ อุณหภูมิขอ

๙๙-๑๐๐ จากนนั้ ร่วมกันอภปิ รายขนั้ ตอนการทาํ กิจกร

 

กษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง) ๒๑๗ 

 

นรทู้ ่ี ๒.๑ การเกิดลม

ท่ี ๒ การเกิดลม เวลา ๕ ชัว่ โมง

าศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓

ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้

๑. เทอรม์ อมิเตอร์

๒. กระดาษ

นแต่ละบริเวณและในแต่ละวัน โดยนํารูปสถานท่ีท่ีมี ๓. เทปใส

ง มาให้นกั เรยี นสังเกต จากนนั้ ครอู าจใชค้ าํ ถามดังนี้ ๔. เชอื ก

ๆ เท่ากันหรือไม่ และจะรู้ได้อย่างไร (นักเรียนตอบ ๕. กรรไกร

อุณหภูมิของอากาศต่ํากว่าสนามหญ้าท่ีโล่งแจ้ง รู้ได้ ๖. ธูป

ดอุณหภมู ิของอากาศในบรเิ วณตา่ ง ๆ) ๗. ขวดพลาสติกใบใหญ่

๘. ขวดพลาสตกิ ใบเล็ก

กาศในบริเวณต่าง ๆ เป็นอย่างไร หน้า ๙๙ โดยให้ ๙. เทียนไข

าถามตอ่ ไปนี้ ๑๐. ไม้ขดี ไฟ

ของอากาศในบริเวณต่าง ๆ) ๑๑. มีดคตั เตอร์

การวดั ) ๑๒. กระปอ่ งทราย

อณุ หภูมิของอากาศในบริเวณต่าง ๆ)

ณ์ที่นักเรียนอาจจะยังไม่รู้จัก เช่น เทอร์มอมิเตอร์ ภาระงาน / ชน้ิ งาน

๑. การบันทกึ ผลการทาํ

องอากาศในบริเวณต่าง ๆ เป็นอย่างไร ข้อ ๑-๔ หน้า กิจกรรมในใบกจิ กรรม

รรม โดยครใู ชค้ าํ ถาม ดงั น้ี ๒. การทาํ แบบฝึกหัด

 

๒๑๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส

แผนการจัดการเรียน

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ อากาศและการเกิดลม หน่วยยอ่ ยท

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยา

จุดประสงค์ดา้ นทักษะ ๔.๑ นักเรียนต้องเลือกบรเิ วณทีจ่ ะสํารวจอณุ หภมู ขิ องอ

กระบวนการทาง ๔.๒ นกั เรียนต้องใช้เคร่อื งมอื ใดในการวัดอณุ หภมู ิ (เทอ

วิทยาศาสตร์ ๔.๓ นักเรียนจะเตรียมเครื่องมือที่จะวัดอุณหภูมิขอ

๑. การสังเกต แล้วนํากระดาษมาทาํ เป็นรม่ )

๒. การวดั ๔.๔ เพราะเหตใุ ดจึงต้องนํากระดาษมาหมุ้ เทอร์มอมเิ ต

๓. การพยากรณ์ ดวงอาทิตย์โดยตรง)

๔. การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ๔.๕ ตอ้ งแขวนเทอรม์ อมิเตอรท์ ่เี ตรยี มไวแ้ ลว้ อยา่ งไร (

๕. การตีความหมายจากขอ้ มูล ๔.๖ นักเรียนต้องสังเกตและบันทึกอะไรในบริเวณท่ีเล

๖. การสรา้ งแบบจาํ ลอง ของแตล่ ะบรเิ วณ)

จดุ ประสงค์ด้านคุณธรรม ๕. ก่อนให้นักเรียนลงมือทํากิจกรรม ครูให้นักเรียนสังเก

๑. ใฝเ่ รียนรู้ อุณหภูมิให้นักเรียนดูหน้าชั้นเรียน จากน้ันให้นักเรียน

๒. มงุ่ มน่ั ในการทํางาน บนเทอร์มอมเิ ตอรไ์ ด้

ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ

๑. เทอร์มอมิเตอร์บางชนิดบรรจุของเหลวสีแดง

เป็นสีแดงหรือสีเงินท่ีปลายด้านหน่ึงของเทอร

วัดอุณหภูมิของสิ่งใดก็นํากระเปาะไปสัมผ

ขยายตัวเพือ่ บอกระดับความร้อนของวัตถุหร

สาํ หรับครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

 

นร้ทู ี่ ๒.๑ การเกดิ ลม

ท่ี ๒ การเกดิ ลม เวลา ๕ ชว่ั โมง

าศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓

อากาศท่ไี มซ่ าํ้ กับเพื่อนกลุม่ อน่ื กีบ่ ริเวณ (๒ บรเิ วณ) วธิ ีการประเมนิ

อรม์ อมเิ ตอร์) ๑. การตอบคําถามใน

องอากาศอย่างไร (ร้อยเชือกเข้ากับเทอร์มอมิเตอร์ แบบฝกึ หัด

๒. สังเกตทักษะกระบวนการ

ตอร์ (เพ่ือไมใ่ ห้กระเปาะเทอร์มอมิเตอรไ์ ดร้ บั แสงจาก ทางวิทยาศาสตร์ในการทํา

กิจกรรม

แขวนใหส้ ูงจากพืน้ ไม่น้อยกว่า ๑ เมตร) ๓. สงั เกตพฤติกรรมดา้ น

ลือก (สังเกตและบันทึกอุณหภูมิและสภาพแวดล้อม คณุ ธรรมขณะทาํ กิจกรรม

กตลักษณะของเทอร์มอมิเตอร์ และสาธิตวิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
นฝึกวัดอุณหภูมิจนนักเรียนวัดและอ่านค่าอุณหภูมิ ๑. การตอบคําถามใน

แบบฝึกหดั ไดถ้ ูกตอ้ งดว้ ย
ตนเอง
ง บางชนิดบรรจุของเหลวสีเงิน ครูแนะนําส่วนที่เห็น - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
รม์ อมิเตอร์ เรียกว่า กระเปาะเทอร์มอมิเตอร์ เมอื่ จะ - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ผัสกับวัตถุน้ัน ของเหลวด้านในจะสามารถหดหรือ - ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
รืออณุ หภมู ิได้

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรบั ครูผูสอน) กลุม สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร) ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ

แผนการจัดการเรยี น

หนว ยการเรียนรูที่ ๕ อากาศและการเกิดลม หนวยยอยท

กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยา

๒. การอานคาอุณหภูมิ ใหดูจากระดับความสูง

โดยตองจัดใหระดับของของเหลวอยูตรงกับร

เทอรมอมิเตอรแบบแทง ยาวจะสามารถวัดอณุ

๖. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหนักเร

แนะนําใหเลือกสถานท่ีท้ังท่ีเปนกลางแจง เชน สนา

ใตอาคารเรียน นอกจากน้ีใหนักเรียนตกลงเวลาที่จะวัด

เพ่ือจะไดเปรียบเทียบขอมูลระหวาง ๒ บริเวณได ซ

พรอมกัน

๗. ครูใหนักเรียนออกแบบตารางบันทึกผลอุณหภูมิและ

อุณหภูมิของอากาศในบริเวณตาง ๆ หนา ๑๐๑ จากน

แขวนไวย ังบริเวณนัน้

ขน้ั สรปุ (๕ นาท)ี

๘. ครเู ปดโอกาสใหน กั เรยี นสรุปสิง่ ทีไ่ ดเ รยี นรูในช่วั โมงนดี้ ว

๙. ครใู หน ักเรยี นรว มกนั อภิปรายวา เคร่อื งมือสําหรบั วัดอ

บนเทอรมอมิเตอรตองใหของเหลวในเทอรมอมิเตอรอ

ในบานเราคอื หนว ยองศาเซลเซียส

๑๐. ครูแจงวาในช่ัวโมงถัดไป นักเรียนจะไดอภิปรายผล

ตา ง ๆ จากผลการบนั ทกึ และทํากิจกรรมนใ้ี นขอท่ี ๕

กษาปที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๒๑๙

นรูท่ี ๒.๑ การเกิดลม

ท่ี ๒ การเกิดลม เวลา ๕ ช่วั โมง

าศาสตรและเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓

งของของเหลวดานใน ที่ตรงกับขีดแบงบนแทงแกว ๒. มีทักษะกระบวนการ

ระดับสายตา อุณหภูมิมีหนวยวัดเปนองศาเซลเซียส ทางวทิ ยาศาสตร

ณหภมู ไิ ดต้งั แต ๐-๑๐๐ องศาเซลเซียส ขณะทํากจิ กรรม

รียนแตละกลุมเลือกสถานที่ที่ไมซํ้ากัน โดยครูควร - มากกวา ๘๐ % ได ๓ คะแนน

ามหนาโรงเรียน และสถานท่ีในรม เชน ใตตนไม - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน

ดอุณหภูมิของอากาศตามสถานท่ีตาง ๆ ใหเหมือนกัน - ตาํ่ กวา ๕๐% ได ๑ คะแนน

ซึ่งนักเรียนอาจเลือกชวงพักกลางวันท่ีนักเรียนวาง ๓. มีคณุ ลักษณะดานคุณธรรม

- มากกวา ๘๐ % ได ๓ คะแนน

ะสภาพแวดลอมบริเวณท่ีสํารวจ ลงในใบงาน ๐๑ - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน

นั้นใหนักเรียนนําเคร่ืองมือวัดอุณหภูมิท่ีเตรียมไวไป - ตาํ่ กวา ๕๐% ได ๑ คะแนน

วยตนเองเก่ียวกบั การวดั อุณหภมู ิในบรเิ วณตา ง ๆ
อุณหภูมิเรียกวา เทอรมอมิเตอร การอา นคาอุณหภูมิ
อยูตรงกับระดับสายตา หนวยวัดอุณหภูมิที่นิยมใช

ลการบันทึกอุณหภูมิและสภาพแวดลอมในบริเวณ
๕ ตอ ไป

๒๒๐ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม แผนการจดั การเรียน
กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยย่อยท

รายวิชาวิทยา

ชัว่ โมงท่ี ๒

ขัน้ นาํ (๕ นาที)

๑๑. ครตู รวจสอบความรเู้ ดิมเกยี่ วกับอุณหภูมใิ นบริเวณต่า

๑๑.๑ นักเรียนคิดว่าบริเวณกลางแจ้ง (เช่น สนามห

จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันหรือไม่ เพราะเหต

แตกต่างกัน เพราะบริเวณกลางแจ้งได้รับแสงแ
แสงแดด)

๑๑.๒ ถา้ ในแต่ละบริเวณมอี ุณหภมู ิแตกต่างกนั จะเก

เชน่ ทาํ ใหเ้ กดิ การเคลอื่ นทขี่ องอากาศ)

ข้ันสอน (๕๐ นาท)ี

๑๒. ครูช้ีแจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของชั่วโมงน้ีให้นักเรีย

เปรยี บเทียบอุณหภูมขิ องอากาศในบริเวณตา่ ง ๆ

๑๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานําเสนอผลการสังเกต

ของบริเวณนั้น ๆ โดยเขียนตารางบันทึกผลที่ออ

กระดาษบรู๊ฟ


Click to View FlipBook Version