The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ruthairong Srikeaw, 2021-11-26 10:11:11

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.3

(สําหรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )  
 

๒ ประโยชน์และโทษของลม

ที่ ๒ การเกดิ ลม เวลา ๒ ช่วั โมง

าสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

กเรียนจะได้สรุปเก่ียวกับประโยชน์และโทษของลม

ะโยชนแ์ ละโทษของลม
๑๒๒-๑๒๓ พร้อมเฉลยคําตอบรว่ มกับนักเรียน
ยชน์และโทษของลม หน้า ๑๒๔-๑๒๖ พร้อมเฉลย

นรูใ้ นกิจกรรมน้ดี ้วยตนเองเกย่ี วกบั ประโยชน์และโทษ
รเกดิ ลม ในรปู แบบผังมโนทศั น์ ดังน้ี

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผูส้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ อากาศและการเกิดลม แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒.๒
กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยยอ่ ยท

รายวิชาวทิ ยาศา

 

กษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๒๕๕ 

๒ ประโยชนแ์ ละโทษของลม  
ท่ี ๒ การเกดิ ลม
าสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๒ ชว่ั โมง
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

 

๒๕๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ้สู อน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )

แบบประเมินดา้ นคณุ ธรรม
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒.๒ ประโยชนแ์ ละโทษของลม

ชอ่ื ผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมิน………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชอ่ื กลมุ่ รับการประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ท…่ี ……………….... วันที่ ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับพฤติกรรม คะแนนทไ่ี ด้
เกิด = ๑ ไม่เกดิ = ๐
๑. ใฝ่เรยี นรู้
๒. มุง่ มน่ั ในการทาํ งาน

รวมคะแนนท่ไี ดท้ ั้งหมด = …………… คะแนน

คุณลักษณะตามจดุ ประสงค์ด้านคณุ ธรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตาํ่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรุง) ๒๕๗ 

 

แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กิจกรรม

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒.๒ ประโยชน์และโทษของลม

เกณฑ์การประเมิน มดี งั นี้

๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง

สิ่งท่ีประเมิน คะแนน
การจัดกระทําและสอื่ ความหมายขอ้ มูล
การลงความเห็นจากข้อมูล
การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ

รวมคะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ

ทางวิทยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
สามารถจดั กระทาํ ข้อมูลโดย
การจัดกระทําและสือ่ สามารถจัดกระทําขอ้ มูล สามารถจัดกระทําขอ้ มูลโดย เขียนผังความคิดเก่ยี วกบั
ประโยชนแ์ ละโทษของลม
ความหมายข้อมลู โดยเขยี นผังความคิด เขียนผังความคิดเกย่ี วกบั ได้เพยี งบางสว่ น แต่ไมส่ ามารถ
นําเสนอใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจได้อย่าง
เก่ียวกบั ประโยชนแ์ ละโทษ ประโยชน์และโทษของลม ถูกตอ้ งได้ แมจ้ ะไดร้ บั
คําแนะนําจากครูหรือผูอ้ ืน่
ของลม และนําเสนอใหผ้ อู้ ่ืน และนาํ เสนอให้ผอู้ น่ื เข้าใจได้ สามารถลงความเห็นจากข้อมลู
เกยี่ วกบั ประโยชน์และโทษของ
เข้าใจได้อยา่ งถูกต้องไดด้ ้วย อยา่ งถกู ต้องได้ โดยอาศยั ลมได้เพียงบางสว่ น แม้จะได้รับ
คําแนะนาํ จากครูหรอื ผอู้ ื่น
ตนเอง คําแนะนําของครหู รือผอู้ ่นื สามารถตคี วามหมายข้อมลู
ทีไ่ ด้จากการอา่ นข้อมลู ใน
การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก ใบความรู้ และลงข้อสรุปได้
ขอ้ มูล ถูกต้องเพียงบางส่วนว่า
ขอ้ มลู เกี่ยวกับประโยชน์ ขอ้ มลู เก่ียวกับประโยชน์ ลมใหท้ ั้งประโยชน์และโทษตอ่
การตคี วามหมาย มนุษย์ แม้จะไดร้ ับคําแนะนาํ
ขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ และโทษของลมได้ด้วย และโทษของลมได้ โดยอาศัย จากครูหรือผอู้ น่ื

ตนเอง คําแนะนําของครหู รอื ผูอ้ ื่น

สามารถตคี วามหมายข้อมลู สามารถตคี วามหมายข้อมลู

ท่ีได้จากการอ่านข้อมูลใน ทไี่ ดจ้ ากการอ่านข้อมูลใน

ใบความรู้ และลงข้อสรปุ ได้ ใบความรู้ และลงข้อสรปุ ได้

อยา่ งถูกตอ้ งว่า ลมให้ทง้ั อย่างถูกต้องว่า ลมใหท้ ั้ง

ประโยชน์และโทษตอ่ มนษุ ย์ ประโยชน์และโทษตอ่ มนุษย์

ดว้ ยตนเอง โดยอาศัยคําแนะนาํ ของครู

หรอื ผูอ้ ่ืน

 
 

๒๕๘ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง)

เฉลยใบงาน

๒๕๙ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )

นักเรยี นเขียนผงั ความคดิ ตามความคดิ ของตนเอง เชน่

ลม

ประโยชน์ โทษ

แลน่ เรือใบ ต้นไมล้ ม้

หมนุ กงั หนั ลม เพ่ือผลิตไฟฟา้ บา้ นเรือนเสยี หาย

หมุนระหัดวิดนาํ้ พดั ฝนุ่ ละอองหรือ
พัดพาเมล็ดพชื ให้กระจาย กลนิ่ เหม็นเขา้ มา

พัดพาตะกอนใหเ้ คลื่อนท่ี หมายเหตุ : ผังความคิดของนักเรียน
ใช้ในยานพาหนะ อาจแตกต่างจากตวั อย่าง

๒๖๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )  

 

ใชแ้ ล่นเรอื ใบ ใช้หมนุ กงั หนั ลมเพ่ือผลิตไฟฟา้ หรือหมุนระหัดวิดนา้ํ ชว่ ยพดั พา
เมลด็ พชื ให้กระจายไปงอกและเจรญิ เตบิ โตในสถานทต่ี า่ ง ๆ พดั พาตะกอนให้
เคลือ่ นที่ ใชใ้ นยานพาหนะให้ขับเคล่ือนได้

พดั พาฝนุ่ ละอองและกลน่ิ เหม็นเขา้ มา ถา้ เป็นพายทุ าํ ใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อ
ชีวติ และทรพั ยส์ นิ

๒๖๑ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 

 

ลมมที ัง้ ประโยชน์และโทษตอ่ ส่ิงมชี ีวิต ประโยชน์ของลม เช่น
ใชเ้ ปน็ แหล่งพลังงานผลติ ไฟฟา้ ใช้ในการทาํ กจิ กรรมต่าง ๆ
โทษของลม เช่น หากลมเคลือ่ นทีด่ ว้ ยความเรว็ สูง จะทาํ ใหเ้ กิดความเสยี หาย
ตอ่ ชีวิตและทรพั ย์สนิ

 
 

๒๖๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

 

๑. พัดพาเมลด็ พชื ไปงอกและเจริญเติบโตในสถานท่ีตา่ ง ๆ
๒. หมุนกังหนั ลมเพื่อผลิตไฟฟา้
๓. หมนุ ระหัดวิดน้ํา

๒๖๓ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) 

 

เมล็ดพชื ไม่สามารถไปงอกและเจริญเติบโตในทอี่ ืน่ ๆ ได้ ทําใหพ้ ชื ไมม่ ี
การกระจายพนั ธ์ุ กังหนั ลมไมห่ มนุ ทาํ ใหไ้ ม่สามารถผลติ ไฟฟา้ ได้ มนษุ ยก์ ็ไมม่ ี
ไฟฟา้ ใช้ ระหดั วิดนาํ้ ไม่หมนุ ทาํ ให้ไม่มีน้ําส่งไปเลี้ยงตน้ พชื ได้ สง่ ผลให้ตน้ พชื
ไม่สามารถเจรญิ เตบิ โตและดาํ รงชีวติ อยู่ได้ และอาจตายในทสี่ ดุ

 
 

๒๖๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )  

 

ต้นไม้ล้มตาย บ้านเรอื นและทรัพยส์ นิ อนื่ ๆ พงั เสยี หาย คนในชมุ ชนไมม่ ี
ท่ีอยู่อาศัย

๒๖๕ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 

 

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖
พลงั งานไฟฟา้

 
 

๒๖๖ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ของหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๖
พลังงานไฟฟ้า (จาํ นวน ๑๒ ช่ัวโมง)

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ว ๒.๓
เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร

และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับเสียง แสง และ
คลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมทง้ั นําความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชวี้ ัด
ว ๒.๓ ป.๓/๑ ยกตวั อย่างการเปลีย่ นพลังงานหนึ่งไปเป็นอกี พลงั งานหนึง่ จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
ว ๒.๓ ป.๓/๒ บรรยายการทํางานของเคร่ืองกําเนดิ ไฟฟ้าและระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าจาก
ข้อมลู ท่รี วบรวมได้

ว ๒.๓ ป.๓/๓ ตระหนักในประโยชน์และโทษของไฟฟ้า โดยนําเสนอวธิ ีการใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและ
ปลอดภัย

๒๖๗ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง) 

 

ลําดบั การนําเสนอแนวคดิ หลกั ของหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ พลังงานไฟฟ้า

พลังงานเปน็ ปริมาณที่แสดงถึงความสามารถในการทํางาน

พลงั งานมีหลายแบบ เช่น พลังงานความร้อน พลงั งานเสียง พลงั งานแสง พลังงานกล พลงั งานไฟฟ้า

พลงั งานสามารถเปล่ยี นจากพลังงานหนึง่ ไปเปน็ อกี พลงั งานหนึง่ ได้

พลังงานไฟฟ้าสามารถเปลีย่ นเป็นพลงั งานอนื่ ได้ เชน่ พลงั งานความรอ้ น พลงั งานเสยี ง พลังงานแสง
พลังงานกล

ไฟฟ้าสว่ นใหญผ่ ลติ จากเคร่อื งกําเนดิ ไฟฟ้าโดยอาศัยการหมุนขดลวดทองแดงทอ่ี ยูร่ ะหว่างแท่งแมเ่ หลก็
หรอื การหมุนแท่งแมเ่ หล็กท่ีอยู่ระหวา่ งขดลวดทองแดง

ไฟฟ้าผลติ ไดจ้ ากการนาํ พลงั งานจากธรรมชาติ เชน่ พลงั งานลม พลังงานนํ้า มาทาํ ใหเ้ คร่ืองกาํ เนดิ ไฟฟ้าทํางานได้
หรอื นาํ พลังงานเช้อื เพลิงในธรรมชาติ เชน่ ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ มาตม้ น้าํ ให้ไอน้ําเพื่อทาํ ให้
เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้าทํางานได้

ไฟฟ้าสว่ นใหญผ่ ลติ มาจากพลงั งานเชือ้ เพลงิ ซงึ่ มอี ยู่อย่างจํากัด

พลงั งานไฟฟ้ามีประโยชนม์ ากมายในชีวิตประจาํ วนั เราควรใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดเพอ่ื ลดคา่ ใช้จา่ ยในบา้ นและ
ของประเทศ และควรใชไ้ ฟฟ้าใหป้ ลอดภัยเพื่อไม่ใหเ้ กิดอันตรายตอ่ ชีวิตและทรัพย์สิน

 
 

๒๖๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )  

 

โครงสร้างแผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๖ พลังงานไฟฟา้

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑.๑ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑.๒ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๓
(การเปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ (การผลติ ไฟฟ้า) (การใช้ไฟฟา้ ให้ประหยดั และ
(๓ ชั่วโมง)
ไปเป็นพลังงานอ่นื ) ปลอดภัย)
(๕ ช่ัวโมง) หนว่ ยย่อยท่ี ๑ (๔ ช่ัวโมง)
(พลังงานไฟฟา้ และการ

ผลติ ไฟฟ้า)

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๖
พลงั งานไฟฟา้
(๑๒ ช่ัวโมง)

๒๖๙ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) 

 

หนว่ ยย่อยท่ี ๑
พลังงานไฟฟา้ และการผลติ ไฟฟ้า

 
 

๒๗๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

 

หนว่ ยย่อยที่ ๑ พลงั งานไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๖ ชื่อหน่วย พลงั งานไฟฟ้า

จาํ นวนเวลาเรยี น ๑๒ ช่วั โมง จํานวนแผนการจดั การเรียนรู้ ๓ แผน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สาระสาํ คญั ของหน่วย
พลังงานเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสามารถในการทํางานของสิ่งต่าง ๆ พลังงานมีหลายแบบและสามารถ

เปล่ียนจากพลังงานหน่ึงไปเป็นอีกพลังงานหน่ึงได้ ไฟฟ้าเป็นพลังงานแบบหนึ่งซ่ึงส่วนใหญ่ผลิตจาก
เครอื่ งกาํ เนดิ ไฟฟา้ โดยใช้พลังงานจากแหลง่ ตา่ ง ๆ การใช้ไฟฟ้าตอ้ งใช้อย่างประหยัดและปลอดภยั

มาตรฐานและตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ว ๒.๓

เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง
และคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นําความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้วี ัด
ว ๒.๓ ป.๓/๑ ยกตัวอยา่ งการเปลย่ี นพลังงานหนงึ่ ไปเปน็ อกี พลงั งานหน่งึ จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์
ว ๒.๓ ป.๓/๒ บรรยายการทํางานของเคร่ืองกําเนิดไฟฟ้าและระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าจาก
ข้อมูลทรี่ วบรวมได้
ว ๒.๓ ป.๓/๓ ตระหนกั ในประโยชน์และโทษของไฟฟา้ โดยนาํ เสนอวธิ กี ารใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยดั และ
ปลอดภัย

๒๗๑ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) 

 

ลาํ ดบั การนาํ เสนอแนวคดิ หลกั ของหนว่ ยย่อยท่ี ๑ พลังงานไฟฟ้าและการผลิตไฟฟา้

พลังงานเปน็ ปริมาณทแี่ สดงถึงความสามารถในการทํางาน

พลงั งานมีหลายแบบ เชน่ พลงั งานความร้อน พลงั งานเสยี ง พลังงานแสง พลังงานกล พลังงานไฟฟ้า

พลงั งานสามารถเปลยี่ นจากพลงั งานหนงึ่ ไปเป็นอีกพลงั งานหนงึ่ ได้

พลังงานไฟฟ้าสามารถเปลยี่ นเปน็ พลังงานอนื่ ได้ เช่น พลังงานความรอ้ น พลงั งานเสียง
พลังงานแสง พลงั งานกล

ไฟฟา้ ส่วนใหญผ่ ลิตจากเครื่องกําเนดิ ไฟฟ้าโดยอาศัยการหมนุ ขดลวดทองแดงท่ีอยู่ระหวา่ งแท่งแม่เหล็ก
หรอื การหมุนแท่งแมเ่ หล็กท่ีอย่รู ะหว่างขดลวดทองแดง

ไฟฟ้าผลิตไดจ้ ากการนําพลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลงั งานลม พลังงานนาํ้
มาทาํ ใหเ้ ครอื่ งกาํ เนิดไฟฟา้ ทํางานได้ หรอื นําพลงั งานเช้อื เพลงิ ในธรรมชาติ เชน่ ถ่านหิน แกส๊ ธรรมชาติ

มาต้มนา้ํ ให้ไอนาํ้ เพือ่ ทาํ ให้เคร่อื งกําเนดิ ไฟฟ้าทํางานได้

ไฟฟ้าสว่ นใหญผ่ ลติ มาจากพลงั งานเช้ือเพลิงซงึ่ มีอยูอ่ ย่างจํากัด

พลงั งานไฟฟ้ามีประโยชนม์ ากมายในชวี ิตประจาํ วัน เราควรใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดเพือ่ ลดค่าใชจ้ ่ายในบ้านและ
ของประเทศ และควรใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยเพ่ือไมใ่ ห้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรพั ย์สิน

 
 

๒๗๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรุง)  

 

โครงสรา้ งของหนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ พลังงานไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้

หน่วยการเรียนรู้ ชอ่ื หนว่ ยยอ่ ย จาํ นวนแผน ช่ือแผนการจดั การเรยี นรู้ จาํ นวนชวั่ โมง

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๖ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ๓ ๑.๑ การเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ๔
พลังงานไฟฟ้าและ ไปเปน็ พลังงานอ่ืน
การผลติ ไฟฟ้า ๓
๑.๒ การผลิตไฟฟา้ ๕

๑.๓ การใช้ไฟฟ้าใหป้ ระหยดั
และปลอดภยั

๒๗๓ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) 

 

คาํ ชแ้ี จงประกอบแผนจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๖

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๑ การเปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอ่ืน เวลา ๔ ชว่ั โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑. สาระสาํ คญั ของแผน
พลังงานหนงึ่ สามารถเปล่ยี นเปน็ พลงั งานอน่ื ได้ และพลังงานไฟฟ้าทําใหเ้ ครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทํางานได้

๒. ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในการนําไปใช้ (ใหร้ ะบสุ ่ิงทต่ี ้องการเน้นหรอื ข้อสงั เกต ขอ้ เสนอแนะ คาํ แนะนาํ )
ในเรอื่ งตอ่ ไปน้ี คอื
๒.๑ ขอบขา่ ยเนอื้ หา
พลังงานมีหลายแบบ ซ่ึงพลังงานหน่ึงสามารถเปล่ียนเป็นพลังงานอื่นได้ เช่น พลังงานกลเปลี่ยนเป็น
พลังงานเสียงหรือพลังงานความร้อน พลังงานแสงเปล่ียนเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนเป็น
พลังงานแสง พลงั งานความร้อน หรอื พลงั งานกล
พลังงานไฟฟ้าทําให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทํางานได้ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น
พลังงานอ่ืนได้ เช่น การเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล พลังงานแสง พลังงานความร้อน หรือ
พลังงานเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดอาจเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอ่ืนได้มากกว่า ๑ แบบ
เชน่ โทรทศั น์เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลงั งานแสง พลงั งานเสยี ง และพลังงานความรอ้ น

๒.๒ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรมจริยธรรม คา่ นยิ ม) (ถ้ามี)
จุดประสงค์ดา้ นความรู้
ระบกุ ารเปล่ยี นพลงั งานหนึ่งไปเปน็ พลังงานอ่ืน
จุดประสงค์ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. การสงั เกต
๒. การลงความเห็นจากข้อมลู
๓. การตีความหมายขอ้ มูลและลงข้อสรปุ
จุดประสงค์ดา้ นคณุ ธรรม
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน

๒.๓ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑) การเตรียมตัวของครู นักเรยี น (การจดั กลุ่ม) (ถา้ ม)ี
๑.๑ การจดั กลุม่ โดยแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔-๕ คน

 
 

๒๗๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)

๑.๒ ครูสามารถศึกษาตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์

สาํ หรบั ครู เพื่อเตรียมตัวก่อนสอนได้จากวีดิทศั น์เรื่องไฟฟา้ เป็น

พลงั งานหรือไม่ จาก http://ipst.me/9454

๒) การเตรียมสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถ้ามี)

ส่งิ ทค่ี รตู ้องเตรียม คอื

๒.๑ ไมบ้ รรทัด ๑ อนั /กลุ่ม

๒.๒ โคมไฟ ๑ ดวง/กลุ่มหรอื ห้อง

๒.๓ ของเลน่ ทใ่ี ชเ้ ซลลส์ ุรยิ ะ ๑ ชนิ้ /กลมุ่

๒.๔ สายไฟฟา้ แบบคลปิ ปากจระเข้ ๒ เส้น/กลมุ่

๒.๕ ถ่านไฟฉาย ๑.๕ โวลต์ ๒ กอ้ น/กลุ่ม

๒.๖ หลอดไฟฟ้าพร้อมฐานหลอด ๑ ชุด/กล่มุ

๒.๗ มอเตอร์ไฟฟา้ ทีต่ ดิ ใบพัด ๑ ชุด/กลุม่

๒.๘ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ไดแ้ ก่ กระติกนา้ํ รอ้ น โคมไฟ พดั ลม โทรทศั น์ อย่างละ ๑ เคร่อื ง/ห้อง

๒.๙ ครเู ตรียมวดี ิทัศน์เรอื่ งพลงั งานไฟฟ้าเปล่ียนเป็นพลังงานอื่นไดห้ รอื ไม่

http://ipst.me/8756

๒.๑๐ ครูควรเตรียมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าตามรายการอุปกรณ์ และควรตรวจสอบ
อปุ กรณ์และเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าว่าพร้อมใชง้ านหรือไม่ ก่อนทีจ่ ะนํามาให้นักเรยี นทาํ กจิ กรรม

สิง่ ทน่ี ักเรยี นตอ้ งเตรียม คือ
-
๓) เตรียมใบงาน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (ถ้าม)ี
๓.๑ ใบงาน ๐๑ การเปลีย่ นพลงั งานหนึ่งไปเปน็ พลังงานอน่ื
๓.๒ ใบความรู้ เร่ือง พลังงาน
๓.๓ ใบงาน ๐๒ การเปล่ยี นพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานอืน่
๓.๔ ใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั เรื่อง การเปลีย่ นพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลงั งานอื่น

๒.๔ วดั ผลประเมนิ ผล (ถ้าม)ี
๑) วธิ กี ารวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้
๑.๑ การตอบคําถามในใบงาน
๑.๒ สงั เกตทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
๑.๓ สงั เกตพฤติกรรมด้านคุณธรรมขณะทาํ กจิ กรรม

๒๗๕ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) 

 

๒) วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์

๒.๑ เคร่อื งมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ด้านความรู้

ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาํ ถามในใบงาน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการใหค้ ะแนนดังน้ี

- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ตาํ่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๒.๒ เครื่องมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ

ทางวิทยาศาสตร์ (ดงั แนบ) นําคะแนนมารวมกนั แล้วใช้เกณฑใ์ นการให้คะแนนดงั นี้

- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ต่าํ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๒.๓ เคร่ืองมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ด้านคณุ ธรรม

สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรมโดยใชแ้ บบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม (ดงั แนบ) นาํ คะแนน

มารวมกนั แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการให้คะแนนดงั น้ี

- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

- ตา่ํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๓) การทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรยี น แบบฝึกหัดกอ่ นเรยี น หลังเรียน
ทาํ แบบฝกึ หัดในใบงานหลงั เรยี น

๓. อ่ืน ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

 
 

๒๗๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

 

แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ข

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๖ พลังงานไฟฟ้า เรอื่ ง การเปลยี่ นพลังงาน

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศ

ขัน้ นาํ แนวการจดั กจิ
ขัน้ สอน
ข้ันสรุป  ตรวจสอบความรเู้ ดมิ เกยี่ วกับการเปลี่ยนพ
ขัน้ ประเมนิ ผล
 ทาํ ใบกิจกรรมท่ี ๑ พลังงานหนง่ึ เปลยี่ นเป
พลงั งานอื่น ทําใบงาน ๐๑ การเปลี่ยนพล

 ทาํ ใบกิจกรรมท่ี ๒ พลงั งานไฟฟา้ เปลี่ยนเ

 อภิปรายและลงขอ้ สรปุ เก่ียวกบั การเปลีย่
 ทาํ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรอ่ื งการเปลีย่
 ประเมินจากการตอบคาํ ถาม
 ประเมินจากการทํากิจกรรมในช้ันเรยี น
 ประเมินจากการทําแบบฝึกหดั

(สาํ หรับครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรุง)  

ของแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑.๑ เวลา ๕ ชัว่ โมง
นไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานอนื่ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓

ศาสตร์และเทคโนโลยี

จกรรมการเรียนรู้

พลงั งานหน่งึ ไปเป็นพลงั งานอน่ื

ป็นพลังงานอะไรได้บา้ งโดยการสังเกตและอธบิ ายการเปลย่ี นพลงั งานหนึ่งไปเปน็
ลงั งานหนง่ึ ไปเป็นพลังงานอน่ื และอ่านใบความรู้ เรอ่ื ง พลงั งานไฟฟา้
เป็นพลงั งานใดไดบ้ า้ ง และทาํ ใบงาน ๐๒ การเปล่ยี นพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลงั งานอ่ืน

ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานอน่ื
ยนพลังงานไฟฟ้าไปเปน็ พลงั งานอ่นื

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันประถมศกึ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑.๑ การเปล

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ พลงั งานไฟฟา้ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ พลังงาน

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทย

ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๔ ชั่วโมง)

พลงั งานมีหลายแบบ ชัว่ โมงที่ ๑

ซึ่งพลังงานหน่ึงสามารถ ขัน้ นาํ (๕ นาท)ี

เปล่ียนเป็นพลงั งานอื่นได้ ๑. ครตู รวจสอบความรเู้ ดมิ เกย่ี วกับพลงั งาน โดยครูใช้แนว

เช่น พลงั งานกลเปลี่ยนเป็น ๑.๑ พลงั งานคืออะไร (นักเรียนตอบตามความความเข

พลงั งานเสียงหรอื พลงั งาน ๑.๒ พลงั งานทน่ี กั เรยี นรจู้ กั มอี ะไรบ้าง (นักเรยี นตอบต

ความรอ้ น พลงั งานแสง ขน้ั สอน (๕๐ นาที)

เปล่ียนเปน็ พลงั งานไฟฟ้า ๒. ครูชวนนักเรียนหาคําตอบที่ถูกต้องโดยเร่ิมทํากิจกรรม

พลังงานไฟฟ้าเปลยี่ นเป็น หน้า ๑๓๑ โดยให้นกั เรยี นอ่านชือ่ กิจกรรมและจดุ ประส

พลังงานแสง พลงั งานความ ๒.๑ กิจกรรมนีน้ ักเรยี นจะไดเ้ รียนเร่อื งอะไร (การเปลย่ี

ร้อน หรอื พลงั งานกล ๒.๒ นกั เรียนจะเรยี นเรือ่ งนี้ด้วยวิธใี ด (การสาํ รวจ)

พลงั งานไฟฟ้าทาํ ให้ ๒.๓ เมอื่ เรยี นแล้วนกั เรียนจะทาํ อะไรได้ (ระบุการเปลีย่

เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทํางานได้ ๓. ครูสรปุ จุดประสงค์ในวันน้ีให้นักเรียนทราบอีกครั้งว่า น

โดยเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าสามารถ กจิ กรรม

เปลยี่ นพลังงานไฟฟา้ เปน็ ๔. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และวิธีทําในใบกิจกร

พลังงานอืน่ ได้ เชน่ การ อภิปรายข้นั ตอนการทํากิจกรรม โดยใชค้ าํ ถามดังต่อไป

เปล่ยี นพลังงานไฟฟ้าเปน็ ๔.๑ นกั เรยี นใช้ไม้บรรทัดทําอะไรและสงั เกตอะไร (ใช้ไ

พลงั งานกล พลังงานแสง

 

กษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๒๗๗ 

 

ลีย่ นพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานอื่น

นไฟฟา้ และการผลิตไฟฟา้ เวลา ๔ ช่วั โมง

ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้

๑. ไมบ้ รรทัด

๒. โคมไฟ

วคําถามอภิปรายดังนี้ ๓. ของเลน่ ทีใ่ ช้เซลลส์ รุ ิยะ

ข้าใจของตนเอง) ๔. สายไฟฟ้าแบบคลปิ ปากจระเข้

ตามความความเข้าใจของตนเอง) ๕. ถ่านไฟฉาย ๑.๕ โวลต์

๖. หลอดไฟฟา้ พร้อมฐานหลอด

มที่ ๑ พลังงานหน่ึงเปลี่ยนเป็นพลังงานอะไรได้บ้าง ๗. มอเตอร์ไฟฟา้ ทต่ี ิดใบพัด

สงค์ จากนนั้ ใชค้ ําถามต่อไปน้ี ๘. เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ไดแ้ ก่ โคมไฟ

ยนพลงั งานหน่ึงไปเป็นพลังงานอนื่ ) กระตกิ นํ้ารอ้ น พดั ลม

โทรทัศน์

ยนพลังงานหนึง่ ไปเปน็ พลงั งานอื่น)

นักเรียนจะได้สํารวจพลังงานต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนขณะทํา ภาระงาน / ชน้ิ งาน

๑. การบนั ทึกผลการทํา

รรมท่ี ๑ ข้อ ๑-๔ หน้า ๑๒๙-๑๓๐ จากน้ันร่วมกัน กจิ กรรมในใบกจิ กรรม

ปน้ี ๒. การทาํ แบบฝกึ หัด

ไมบ้ รรทดั เคาะบนโต๊ะและสังเกตสงิ่ ทีเ่ กดิ ข้ึน)

 

๒๗๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

 

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑.๑ การเปล

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ พลงั งานไฟฟา้ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ พลงั งาน

กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ย

พลงั งานความร้อน หรอื ๔.๒ นักเรียนใช้มือทําอะไรบ้างและสังเกตอะไร (ถูฝ

พลงั งานเสยี ง และ เกิดขึ้น)

เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ บางชนิด ๔.๓ นักเรียนต้องใช้โคมไฟทําอะไรและสังเกตอะไร (ใช

อาจเปล่ยี นพลังงานไฟฟ้า สังเกตสง่ิ ทเี่ กิดข้ึนกับของเลน่ )

เปน็ พลังงานอ่ืนได้มากกว่า ๔.๔ ขณะท่ีสงั เกตของเลน่ กําลงั ทํางานแลว้ นักเรียนต้อ

๑ แบบ เชน่ โทรทศั น์ เซลล์สุริยะขณะที่ของเลน่ กาํ ลงั ทํางานและสังเกต

เปล่ยี นพลงั งานไฟฟ้าเปน็ มาปิดบริเวณเซลล์สุริยะ ต้องเปิดโคมไฟตลอด แ

พลังงานแสง พลงั งานเสียง ร้อนได้

และพลังงานความร้อน ๔.๕ นักเรียนต้องต่อถ่านไฟฉายและสายไฟฟ้าเข้ากับ

จุดประสงคด์ า้ นความรู้ หลอดไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าท่ีติดใบพัดและส
ระบกุ ารเปล่ียนพลงั งาน ถ่านไฟฉายและสายไฟฟ้า) ครูให้นักเรียนดูรูป
วิธีการใช้อุปกรณ์แต่ละอย่าง เช่น ถ่านไฟฉาย ส
หนงึ่ ไปเป็นพลังงานอนื่ สายไฟฟ้าแบบปากจระเข้ไปหนีบเข้ากับข้ัวขอ

จุดประสงค์ด้านทักษะ ใบพัด

กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์

๑. การสงั เกต

(สําหรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง)  

ล่ยี นพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานอืน่

นไฟฟ้าและการผลิตไฟฟา้ เวลา ๔ ช่ัวโมง

ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓

ฝ่ามือท้ังสองข้างเข้าด้วยกันแรง ๆ และสังเกตส่ิงท่ี วธิ ีการประเมนิ

๑. การตอบคาํ ถามใน

ช้โคมไฟส่องไปท่ีบริเวณเซลล์สุริยะของของเล่นและ แบบฝึกหดั

๒. สังเกตทักษะกระบวนการ

องทาํ อะไรตอ่ (นกั เรียนต้องนาํ กระดาษมาปิดบรเิ วณ ทางวิทยาศาสตรใ์ นการ

ตสง่ิ ทีเ่ กิดขึ้น) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าขณะที่นาํ กระดาษ ทาํ กจิ กรรม

และระวังไม่ให้โดนหลอดไฟที่โคมไฟเพราะจะทําให้ ๓. สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน

คุณธรรมขณะทาํ กิจกรรม

บเครื่องใช้ไฟฟ้าใดบ้างและสังเกตอะไร (ต่อเข้ากับ เกณฑก์ ารประเมนิ
สังเกตสิ่งท่ีเกิดข้ึนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเม่ือต่อเข้ากับ ๑. การตอบคาํ ถามในแบบฝึกหัด
ก และ ข ในใบงาน หน้า ๑๓๐ จากน้ันครูแนะนํา
สายไฟฟ้าแบบปากจระเข้ ครูสาธิตโดยการนําปลาย ได้ถูกต้องดว้ ยตนเอง
งฐานหลอดไฟฟ้าหรือฐานของมอเตอร์ไฟฟ้าท่ีติด - มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

๒. มที กั ษะกระบวนการทาง

วทิ ยาศาสตร์ขณะทาํ กิจกรรม

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศึก

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ พลงั งานไฟฟา้ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ พลังงาน

กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ย

๒. การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ๕. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทํากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียน

๓. การตคี วามหมายขอ้ มูล และบันทึกผลลงในใบงาน ๐๑ การเปลี่ยนพลังงานหนึง่

และลงข้อสรปุ การสังเกต

๖. หลังจากทํากิจกรรมเสร็จ ครูสุ่มนักเรียนนาํ เสนอ จากน

จุดประสงค์ดา้ นคณุ ธรรม ดังนี้

๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๖.๑ การใช้ไม้บรรทัดเคาะบนโต๊ะกับการถูฝ่ามือสอง

๒. มุ่งมัน่ ในการทํางาน แตกต่างกัน อย่างไร (แตกต่างกัน โดยเม่ือเคาะไม

แรง ๆ จะเกิดเสียงและรู้สกึ ร้อนที่ฝ่ามือ)

๖.๒ เมื่อนําโคมไฟส่องที่บริเวณเซลล์สุริยะกับการนํา

เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แตกต่างกัน โดย

ทาํ กจิ กรรม เช่น เม่อื นําโคมไฟสอ่ งท่บี ริเวณเซลล

แสง มเี สยี ง แต่เมือ่ นาํ กระดาษปิดบริเวณเซลล์สรุ

๖.๓ เม่ือต่อสายไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉาย แล้วต่อเข้า

เกิดข้ึนเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แตกต่า

หลอดไฟฟ้าแล้ว หลอดไฟฟ้าจะสว่าง แต่เม่ือต่อส

ใบพดั แล้ว ใบพัดจะหมนุ )

๖.๔ จากการทาํ กิจกรรมทัง้ ๔ ข้อ มีพลังงานเกิดขึ้นหร

ตนเอง พรอ้ มให้เหตุผล)

 

กษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรุง) ๒๗๙ 

 

ลีย่ นพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอื่น

นไฟฟา้ และการผลิตไฟฟา้ เวลา ๔ ช่ัวโมง

ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓

นปฏิบัติตามข้ันตอนข้อ ๑-๔ ไปทีละข้อพร้อม ๆ กัน - มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

งไปเป็นพลงั งานอ่ืน หน้า ๑๓๒-๑๓๔ เฉพาะช่องผล - ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

- ตํา่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

น้ันร่วมกันอภปิ รายผลการทํากิจกรรม โดยใช้คําถาม ๓. มคี ณุ ลกั ษณะด้านคณุ ธรรม

- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน

งข้างเข้าด้วยกันแรง ๆ ส่ิงที่เกิดขึ้นเหมือนกันหรือ - ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน

ม้บรรทัดบนโต๊ะเกิดเสียง แต่เมื่อถูฝ่ามือเข้าด้วยกัน - ต่ํากวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน

ากระดาษปิดบริเวณเซลล์สุริยะของของเล่น ได้ผล
ยผลการสังเกตขึ้นอยู่กับลักษณะของของเล่นท่ีนํามา
ล์สรุ ยิ ะของของเล่น เช่น รถ รถก็จะเคล่ือนทไี่ ด้ อาจมี
ริยะของของเล่น ของเล่นไม่สามารถทํางานได)้
ากับหลอดไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไฟฟ้าท่ีติดใบพัด ส่ิงท่ี
างกัน โดยเมื่อต่อสายไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉายและ
สายไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉายและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติด

รือไม่ รู้ได้อย่างไร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของ

 

๒๘๐ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

 

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑.๑ การเปล

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ พลงั งานไฟฟ้า หนว่ ยย่อยที่ ๑ พลงั งาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ย

ขั้นสรุป (๕ นาที)

๗. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นสรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ในช่ัวโมงน้ดี ้ว

๘. ครูแจ้งว่าในช่ัวโมงถัดไปนักเรียนจะได้ตรวจคําตอบขอ

กจิ กรรม มีพลงั งานเกดิ ขึ้นหรือไม่ และถา้ มพี ลังงานเกิด

ช่ัวโมงที่ ๒
ขนั้ นาํ (๕ นาท)ี
๙. ครูทบทวนสิ่งที่เกิดข้ึนจากการทํากิจกรรมในช่ัวโมง

การถูฝ่ามือเข้าด้วยกันแรง ๆ การส่องโคมไฟที่บริเวณ
เครอื่ งใช้ไฟฟา้ จากน้ันตรวจสอบความรเู้ ดิมเกย่ี วกับกา
ว่า กิจกรรมใดบ้างที่มีการเปลี่ยนพลังงานหน่ึงไปเป็นพ
ใด (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ข้นั สอน (๕๐ นาที)
๑๐. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของช่ัวโมงนี้ให้นักเร

ความหมายของพลงั งานและระบกุ ารเปลี่ยนพลงั งานห
๑๑. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในกิจกรรมที่ ๑ พลังงานหน

จากน้ันร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการทํากิจกรรม โดย
(อ่านใบความรู้เรื่องพลังงาน จากนั้นร่วมกันอภิปร
ทาํ กจิ กรรมในชัว่ โมงท่แี ลว้ และนาํ เสนอ)

(สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง)  

ลยี่ นพลังงานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอ่นื เวลา ๔ ชว่ั โมง
นไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วยตนเองเก่ียวกับสิ่งทีส่ งั เกตได้จากการทํากจิ กรรม
องนักเรียนว่า ส่ิงท่ีเกิดข้ึนจากการทํากิจกรรมทั้ง ๔
ดขึ้น มีการเปล่ยี นพลงั งานหรอื ไม่ อยา่ งไร

งท่ีแล้ว ได้แก่ กิจกรรมการใช้ไม้บรรทัดเคาะโต๊ะ
ณเซลล์สุริยะของของเล่น และการต่อถ่านไฟฉายกับ
ารเปล่ียนพลงั งานหน่ึงเป็นพลงั งานอ่นื โดยใช้คําถาม
พลังงานอ่ืน และมีการเปล่ียนพลังงานใดเป็นพลังงาน

รียนทราบอีกครั้งว่า นักเรียนจะได้อธิบายเกี่ยวกับ
หน่ึงไปเปน็ พลังงานอนื่ ได้
นึ่งเปลี่ยนเป็นพลังงานอะไรได้บ้าง ข้อ ๕ หน้า ๑๓๐
ยครูใช้คําถามว่า กิจกรรมนี้นักเรียนต้องทําอะไรบ้าง
รายเกี่ยวกับการเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการ

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๖ พลังงานไฟฟ้า หนว่ ยย่อยที่ ๑ พลงั งาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ย

๑๒. เมอ่ื นกั เรยี นเข้าใจวิธกี ารทาํ กิจกรรมแล้ว ครใู ห้นกั เรีย

๑๓. หลงั จากอ่านใบความรแู้ ลว้ ครูให้นักเรยี นร่วมกนั อภิป

๑๓.๑ พลังงานคืออะไร (พลังงานเป็นสิ่งที่ไม่มีน้ําหน

ทํางานของสง่ิ ต่าง ๆ)

๑๓.๒ ในชีวติ ประจาํ วนั เราใชพ้ ลงั งานทํากจิ กรรมใดบ

๑๓.๓ ในใบความรู้กล่าวถึงพลงั งานแบบใดบ้าง (พลัง

ไฟฟา้ พลงั งานกล)

๑๓.๔ พลังงานแต่ละแบบ ทํางานได้เหมือนหรือแ

แตกต่างกัน เช่น พลังงานความร้อนจะให้คว

เสียง พลังงานไฟฟ้าจะทําให้เครื่องใช้ไฟฟ

เคล่ือนไหวได้)

๑๔. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายกิจกรรมท่ีไ

หนงึ่ ไปเปน็ พลงั งานอ่ืน และบนั ทึกผลลงในใบงาน ๐๑

๑๕. ครูสุ่มนักเรียนนําเสนอ จากน้ันชักชวนนักเรียนร่วมก

ท่ไี ดจ้ ากการอ่านใบความรู้ โดยใช้คาํ ถามดังน้ี

๑๕.๑ การใช้ไม้บรรทัดเคาะบนโต๊ะ ต้องใช้พลังงานแ

โต๊ะ)

๑๕.๒ เมอ่ื ใชไ้ มบ้ รรทดั เคาะบนโตะ๊ มพี ลังงานเกดิ ขึ้น

 

กษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ ) ๒๘๑ 

ล่ยี นพลังงานไฟฟา้ ไปเปน็ พลงั งานอืน่  
นไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้
ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา ๔ ชวั่ โมง
ยนอ่านใบความรเู้ ร่ืองพลงั งาน หนา้ ๑๓๑ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓
ปราย โดยใชแ้ นวคําถามดงั นี้
นัก ไม่ต้องการท่ีอยู่ แต่แสดงถึงความสามารถในการ  

บ้าง (เช่น การแปรงฟนั อาบนํ้า เดิน วิ่ง)
งงานความร้อน พลังงานแสง พลงั งานเสียง พลังงาน

แตกต่างกัน อย่างไร (พลังงานแต่ละแบบทํางานได้
วามร้อน พลังงานแสงจะให้แสง พลังงานเสียงจะให้
ฟ้าทํางานได้ พลังงานกลทําให้วัตถุเคล่ือนท่ีหรือ

ได้ทําไปในช่ัวโมงท่ีแล้ว เพ่ือระบุการเปล่ียนพลังงาน
๑ ชอ่ งผลการอภปิ ราย หนา้ ๑๓๒-๑๓๔
กันอภิปรายเพื่อเช่ือมโยงผลการทํากิจกรรมกับข้อมูล

แบบใด อย่างไร (ใช้พลังงานกลตีไม้บรรทัดลงบน

นหรือไม่ เปน็ พลงั งานใด (มี เป็นพลงั งานเสยี ง)

๒๘๒ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

 

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑.๑ การเปล

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ พลังงานไฟฟ้า หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ พลงั งาน

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทย

๑๕.๓ การใช้ไม้บรรทัดเคาะบนโต๊ะ มีการเปล่ียนพ

(มกี ารเปลย่ี นพลังงานจากพลงั งานกลไปเปน็ พ

๑๕.๔ การถูฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแรง ๆ ตอ้ งใ

ทงั้ สองข้างเข้าดว้ ยกัน)

๑๕.๕ เมื่อถูฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแรง ๆ มีพ

พลังงานความร้อน)

๑๕.๖ เมื่อถูฝ่ามือท้ังสองข้างเข้าด้วยกันแรง ๆ มีกา

พลงั งานจากพลังงานกลเป็นพลังงานเสียงและ

๑๕.๗ ของเล่นเซลล์สรุ ยิ ะซึ่งเปน็ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ จะทํา

๑๕.๘ เมื่อนําโคมไฟมาส่องบริเวณเซลล์สุริยะของขอ

นําโคมไฟมาสอ่ งบรเิ วณเซลลส์ รุ ิยะของเลน่ จะ

แสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า และเปล่ียน

พลงั งานเสียง ขนึ้ อยู่กบั ของเล่นที่ใช้ในการทาํ

๑๕.๙ การท่ีหลอดไฟฟ้าสว่างเม่ือต่อหลอดไฟฟ้าเ

พลังงานหรือไม่ อย่างไร (มกี ารเปล่ยี นพลังงาน

๑๕.๑๐ การที่ใบพัดที่ติดอยู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหมุน มีก

พลังงานจากพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล)

(สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรงุ )  

ลย่ี นพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอืน่ เวลา ๔ ชัว่ โมง
นไฟฟา้ และการผลิตไฟฟา้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓
ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
พลังงานหน่ึงไปเป็นพลังงานอ่ืนหรือไม่ อย่างไร
พลังงานเสียง)
ใช้พลังงานแบบใด อย่างไร (ใช้พลังงานกลถูฝา่ มือ

พลังงานเกิดข้ึนหรือไม่ เป็นพลังงานใด (มี เป็น

ารเปล่ียนพลังงานหรือไม่ อย่างไร (มีการเปลี่ยน
ะพลังงานความรอ้ น)
างานได้ต้องใช้พลงั งานอะไร (ใช้พลงั งานไฟฟ้า)
องเล่น มีการเปลี่ยนพลังงานหรือไม่ อย่างไร (เมื่อ
ะมกี ารเปลีย่ นพลงั งานแสงท่ีได้มาจากโคมไฟหรือ
นพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล พลังงานแสง หรือ
ากิจกรรม)
เข้ากับถ่านไฟฉายและสายไฟฟ้า มีการเปลี่ยน
นจากพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานแสง)
การเปล่ียนพลังงานหรือไม่ อย่างไร (มีการเปลี่ยน

ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ช้นั ประถมศกึ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ พลงั งานไฟฟ้า หน่วยยอ่ ยที่ ๑ พลงั งาน

กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทย

๑๕.๑๑ การที่หลอดไฟฟ้าสว่าง และใบพัดที่ติด

หลอดไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าได้พลังงาน

มาจากถ่านไฟฉาย)

๑๖. ครูและนักเรยี นร่วมกันตอบคําถามหลังจากทํากิจกรร

ขั้นสรุป (๕ นาท)ี

๑๗. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่ัวโมง

การเปลี่ยนพลังงานหน่ึงไปเป็นพลงั งานอน่ื

๑๘ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า พลังงานเป็นส่ิงที่ไมม่ ีน

การทํางานของส่ิงต่าง ๆ พลังงานมีหลายแบบ เช่น

พลังงานไฟฟ้า พลังงานกล พลังงานหน่ึงสามารถ

เปล่ียนเป็นพลังงานเสียง หรอื จากพลงั งานไฟฟ้าเปล่ีย

๑๙. ครูแจง้ วา่ ในชัว่ โมงถัดไปนักเรียนจะได้เรยี นรเู้ กีย่ วกบั ก

ชั่วโมงที่ ๓
ขนั้ นาํ (๕ นาท)ี
๒๐. ครูทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาแล้วเกี่ยวกับการเปล

จากกิจกรรมในชวั่ โมงท่ีแล้ว การต่อหลอดไฟฟา้ และก
พลังงานใด รู้ได้อย่างไร (การต่อหลอดไฟฟ้ามีการ

 

กษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๒๘๓ 

ล่ียนพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอ่ืน  
นไฟฟ้าและการผลิตไฟฟา้
ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๔ ช่วั โมง
ดอยู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหมุนได้ เกิดขึ้นเนื่องจาก ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓
นไฟฟ้ามาจากแหล่งพลังงานใด (ได้พลังงานไฟฟ้า

รม และบันทึกลงในใบงาน ๐๑ หนา้ ๑๓๕-๑๓๖

งน้ีด้วยตนเองเกี่ยวกับความหมายของพลังงาน และ

น้ําหนัก ไม่ต้องการที่อยู่ แต่แสดงถึงความสามารถใน
น พลังงานความร้อน พลังงานแสง พลังงานเสียง
ถเปลี่ยนเป็นพลังงานอ่ืนได้ เช่น จากพลังงานกล
ยนเป็นพลงั งานแสง
การเปลี่ยนพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอนื่ เพม่ิ เติม

ลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอ่ืน โดยใช้คําถามว่า
การตอ่ มอเตอร์ไฟฟ้ามีการเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็น
รเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง รู้ได้จาก

 

๒๘๔ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

 

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ พลงั งานไฟฟ้า หน่วยย่อยที่ ๑ พลงั งาน

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ย

หลอดไฟฟ้าสว่าง และการต่อมอเตอร์ไฟฟ้ามีการเป

หมนุ )

๒๑. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ียวกับการเปล่ียนพลังงาน

ไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงหรือพลังงานกลแล

หรอื ไม่ ยกตวั อย่าง (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจขอ

ขัน้ สอน (๕๐ นาท)ี

๒๒. ครูชวนนักเรียนหาคําตอบที่ถูกต้องโดยเริ่มทํากิจกรร

หนา้ ๑๓๗ โดยให้นกั เรยี นอ่านชื่อกจิ กรรมและจุดปร

๒๒.๑ กิจกรรมน้นี กั เรียนจะไดเ้ รียนเรอื่ งอะไร (การเ

๒๒.๒ นักเรียนจะเรยี นเรื่องนด้ี ว้ ยวธิ ีใด (การสงั เกต)

๒๒.๓ เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทาํ อะไรได้ (ระบกุ ารเ

๒๓. ครูแจ้งจุดประสงค์ให้นักเรียนทราบว่า วันนี้นักเรียน

การเปล่ียนพลังงานไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานอ่นื

๒๔. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และวิธีทําในใบก

อภปิ รายขั้นตอนการทํากจิ กรรม โดยใชค้ าํ ถามดังตอ่ ไ

๒๔.๑ เราต้องสังเกตการทํางานของเครื่องใช้ไฟฟ

โทรทศั น)์

(สําหรบั ครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  

ลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอื่น เวลา ๔ ชัว่ โมง
นไฟฟ้าและการผลิตไฟฟา้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓
ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล รู้ได้จากใบพัด

ไฟฟ้าเป็นพลังงานอื่น โดยถามว่า นอกจากพลังงาน
ล้ว พลังงานไฟฟ้ายังเปล่ียนเป็นพลังงานอื่น ๆ ได้อีก
องตนเอง)

รมท่ี ๒ พลังงานไฟฟ้าเปล่ียนเป็นพลังงานใดได้บ้าง
ระสงค์ จากน้นั ใช้คําถามตอ่ ไปนี้
เปลีย่ นพลังงานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอ่นื )

เปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ ไปเป็นพลงั งานอ่นื )
นจะได้สังเกตการทํางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบุ

กิจกรรมที่ ๑ ข้อ ๑-๒ หน้า ๑๓๗ จากน้ันร่วมกัน
ไปน้ี
ฟ้าอะไรบ้าง (กระติกน้ําร้อน โคมไฟ พัดลม และ

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศกึ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ พลังงานไฟฟา้ หน่วยย่อยที่ ๑ พลงั งาน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ย

๒๔.๒ ในการสังเกตการทํางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า สั

เคร่ืองใช้ไฟฟา้ เมอ่ื เสียบปล๊ัก)

๒๔.๓ หลังจากสังเกตการทํางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า

เมื่อเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าทาํ งาน มีการเปลีย่ นพลังงาน

๒๕. เม่ือนักเรียนเข้าใจข้ันตอนการทํากิจกรรมแล้ว ครูน

กระติกน้ําร้อน โคมไฟ พัดลม และโทรทัศน์ จากนั้น

ทํางานทีละเคร่ือง แล้วให้นักเรียนสังเกตและอภิปร

บนั ทกึ ผลในใบงาน ๐๒ การเปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ ไปเ

๒๖. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายผลการสังเกตดังต่อไป

๒๖.๑ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าใดเม่ือทํางานแล้วมีการเปล่ียน

โคมไฟ และโทรทัศน์) ในกรณีกระติกนํ้าร้อ

เคร่ือง

๒๖.๒ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าใดเม่ือทํางานแลว้ มีการเปลย่ี น

๒๖.๓ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าใดเม่ือทํางานแลว้ มีการเปล่ียน

ร้อน โคมไฟ)

๒๖.๔ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ใดเม่ือทํางานแล้วมกี ารเปล่ยี น

๒๖.๕ เครื่องใช้ไฟฟ้าใดเมื่อทํางานแล้วมีการเปลี่ยน

และเปลี่ยนเป็นพลังงานใด (กระติกนํ้าร้อน

 

กษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรุง) ๒๘๕ 

ลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานอ่นื  
นไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้
ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๔ ช่ัวโมง
งเกตอย่างไร (สังเกตการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้นของ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓

าแล้ว ต้องอภิปรายเก่ียวกับเรื่องอะไร (อภิปรายว่า  
นไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงานใดบา้ ง)
นําเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มาให้นักเรียนสังเกต เช่น
นเสียบปล๊ักเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแล้วเปิดให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
รายว่ามีการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานใด
เปน็ พลังงานอื่น หนา้ ๑๓๘
ปนี้
นพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานแสง (กระติกนํ้าร้อน
อนน้ันจะสังเกตได้จากปุ่มไฟท่ีแสดงการทํางานของ

นพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลงั งานเสยี งบา้ ง (โทรทศั น์)
นพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานความร้อน (กระติกนํ้า

นพลังงานไฟฟา้ ไปเป็นพลังงานกล (พัดลม)
นพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานอ่ืนมากกว่า ๑ อย่าง
นเปล่ียนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานแสงและ

๒๘๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

 

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๖ พลงั งานไฟฟ้า หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ พลังงาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ย

พลังงานความร้อน โทรทัศน์เปลี่ยนจากพล

โคมไฟเปลี่ยนจากพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลังงา

ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ในการอภิปรายว่าเครื่องใช้ไฟฟ

อะไรบ้าง นักเรียนอาจตอบพลังงานอย่างอ่ืนท่ีไม่ใช

เปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงและพลังง

จะรู้สึกร้อน ดังน้ัน นักเรียนบางคนอาจตอบว่าโทรท

ครูอาจนําอภิปรายว่าโทรทัศน์มีการเปลี่ยนพลังงาน

พลงั งานความรอ้ นจากโทรทัศนไ์ ปใชป้ ระโยชน์

๒๗. ครชู ักชวนนักเรยี นทาํ กจิ กรรมต่อ โดยให้นกั เรียนอ่าน

ร่วมกันอภปิ รายวิธกี ารทาํ กิจกรรม โดยครใู ช้คําถามด

๒๗.๑ นักเรยี นต้องเลอื กสงั เกตการทาํ งานของเครอ่ื ง

๒๗.๒ นักเรียนต้องอภิปรายเก่ียวกับอะไร (อภิปราย

ไฟฟ้าไปเป็นพลงั งานใดบ้าง)

๒๘. เม่ือนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูอาจยกตัวอย่างเครื่อง

เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ บริเวณใกล้ ๆ ห้องเรียน เช่น

เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่บ้าน เช่น เตาไมโครเวฟ หม้อหุง

การสงั เกตลงในใบงาน ๐๒ หนา้ ๑๓๘ เพม่ิ เตมิ แล้วม

(สาํ หรับครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )  

ลี่ยนพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอ่ืน เวลา ๔ ชัว่ โมง
นไฟฟ้าและการผลติ ไฟฟา้ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานแสงและพลังงานเสียง
านแสงและพลงั งานความร้อน)
ฟ้าชนิดหนึ่งเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงาน
ช่จุดประสงค์ของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น เช่น โทรทัศน์
งานเสียง แต่เม่ือใช้มือสัมผัสท่ีด้านหลังของโทรทัศน์
ทัศน์เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน ซ่ึง
นไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อนด้วย แต่เราไม่ได้นํา

นวธิ ีทํา ขอ้ ๓ ในใบกิจกรรมที่ ๒ หน้า ๑๓๗ จากนน้ั
ดังตอ่ ไปนี้
งใชไ้ ฟฟา้ อนื่ อีกกอ่ี ย่าง (๓ อยา่ ง)
ยว่าเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแต่ละอย่างมีการเปล่ียนพลังงาน

งใช้ไฟฟ้าท่ีนักเรียนรู้จักหรือพานักเรียนไปสังเกต
ตู้เย็น เคร่ืองปรับอากาศ หรือให้นักเรียนไปสังเกต
งข้าว เคร่ืองป้ิงขนมปัง แล้วให้นักเรียนบันทึกผล
มานาํ เสนอในชว่ั โมงถดั ไป

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถมศกึ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ พลงั งานไฟฟ้า หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ พลงั งาน

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ย

ข้นั สรุป (๕ นาท)ี

๒๙. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในชั่วโมงน

พลังงานอนื่

๓๐. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปอีกคร

เมอ่ื เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ แต่ละอย่างทาํ งาน จะมกี ารเปลี่ยน

พลังงานความร้อน พลังงานแสง พลังงานกล โดยอา

อาจเปล่ียนไปได้หลายพลงั งาน

ชัว่ โมงที่ ๔
ขน้ั นาํ (๕ นาที)
๓๑. ครูเตรียมบัตรภาพเคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่นักเรียนได้เรียน

ครูเตรียมบัตรคําพลังงานต่าง ๆ ได้แก่ พลังงานเสีย
นกั เรียนแต่ละกลุ่ม จากน้นั ครูยกภาพเครื่องใชไ้ ฟฟ้าแ
กับเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแต่ละอย่าง เพ่ือตรวจสอบความ
คลาดเคลอ่ื น ครแู ก้ไขให้ถกู ตอ้ ง
ข้ันสอน (๕๐ นาที)
๓๒. ครูแจ้งจุดประสงค์ให้นักเรียนทราบว่า ในช่ัวโมงน้ีน
ไฟฟ้าไปเป็นพลังงานอน่ื

 

กษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๒๘๗ 

ล่ยี นพลังงานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอื่น  
นไฟฟา้ และการผลิตไฟฟา้
ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา ๔ ช่วั โมง
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
นีด้ ้วยตนเองเกี่ยวกับการเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าไปเป็น

รั้งว่า พลังงานไฟฟ้าทําให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทํางานได้
นพลังงานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอ่ืน เช่น พลังงานเสียง
าจเปล่ียนไปเป็นพลังงานอ่ืนเพียงพลังงานเดียวหรือ

นมาแล้ว เช่น โทรทัศน์ กระติกน้ําร้อน โคมไฟ และ
ยง พลังงานความร้อน พลังงานแสง พลังงานกล ให้
และให้นักเรยี นแข่งกนั ยกบตั รคาํ พลังงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
มเข้าใจของนักเรียน หากนักเรียนยังมีความเข้าใจ

นักเรียนจะได้อภิปรายและสรุปการเปลี่ยนพลังงาน

 

๒๘๘ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

 

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑.๑ การเปล

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ พลงั งานไฟฟ้า หน่วยย่อยท่ี ๑ พลงั งาน

กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทย

๓๓. ครูชวนนักเรียนนําเสนอผลการสังเกตการทํางาน

การสังเกตเคร่ืองใช้ไฟฟ้าจากบ้าน ว่ามีการเปลี่ยนพ

การนาํ เสนอไวบ้ นกระดานหน้าชั้นเรียน

๓๔. ครูชวนนักเรียนอภปิ รายการเปล่ยี นพลังงานไฟฟา้ ไปเ

๓๔.๑ นักเรียนได้บันทึกการทํางานของเครื่องใช้ไฟ

(คําตอบขึ้นอยู่กับผลการทํากิจกรรมของ

เคร่อื งปรับอากาศ กระทะไฟฟา้ )

๓๔.๒ เครื่องใช้ไฟฟ้าในข้อ ๓๔.๑ มีการเปล่ียนพล

อย่างไร (คําตอบขึ้นอยู่กับผลการทํากิจกรรม

เป็นพลังงานกล หม้อหุงข้าว เตาไมโครเวฟ

พลังงานความรอ้ น)

ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า นักเรียนอาจตอบว่า ตู้เย็นม

ซง่ึ ครูควรอภิปรายให้นักเรียนเข้าใจว่าในทางวิทยาศา

พลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานกล ในการทํางานเพ่ือให

ตเู้ ยน็ ลดลง

๓๕. ครูชวนนักเรียนทํากิจกรรมต่อ โดยอ่านวิธีทําในใบก

อภปิ รายวิธกี ารทํากจิ กรรม โดยใช้คาํ ถามดังตอ่ ไปนี้

(สาํ หรับครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)  

ล่ียนพลงั งานไฟฟา้ ไปเปน็ พลงั งานอ่ืน เวลา ๔ ชั่วโมง
นไฟฟา้ และการผลติ ไฟฟา้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓
ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
นของเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืน ๆ นอกห้องเรียนหรือจาก
ลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานใดบ้าง โดยครูบันทึกผล

เป็นพลงั งานอนื่ โดยใช้คําถามดงั ต่อไปน้ี
ฟฟ้าใดเพิ่มเติมบ้าง จากนอกห้องเรียนหรือที่บ้าน
นักเรียน เช่น ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว

ลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานอื่นท่ีเหมือนกันหรือไม่
มของนักเรียน เช่น ตู้เย็นมีการเปล่ียนพลังงานไฟฟ้า
ฟ และกระทะไฟฟ้ามีการเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็น

มีการเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานความเย็น
าสตร์ไม่มีคําว่าพลังงานความเย็น ตู้เย็นมีการเปล่ียน
ห้ความร้อนในตู้เย็นระบายออกมา ทําให้อุณหภูมิใน

กิจกรรมท่ี ๒ ข้อ ๔ จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกัน

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๑ การเปล

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ พลังงานไฟฟา้ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ พลงั งาน

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทย

๓๕.๑ นักเรียนต้องเขียนผังความคิดสรุปเก่ียวกับเร

อืน่ )

๓๕.๒ นกั เรียนต้องใช้ขอ้ มูลจากทใ่ี ดมาเขยี นผังความ

ท่ีได้อภิปรายในชั้นเรียน)

๓๕.๓ นักเรียนจะนําเสนอผังความคิดในรูปแบบใดใ

เช่น เขียนลงในใบงาน ๐๒ หน้า ๑๓๙ และร

ห้องเรียน หรอื เล่าเร่ืองเป็นการสนทนากันระห

โปรแกรมวาดภาพท่ีบ้านแล้วแชร์คลิปให้เพอ่ื น

ทําได้ในช้นั เรียนและมีเวลาเพียงพอ กใ็ ห้นกั เรยี

๓๖. ครชู วนนักเรยี นตอบคาํ ถามหลงั จากทํากิจกรรม หนา้

ขนั้ สรปุ (๕ นาท)ี

๓๗. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงท่ีได้เรียน

ไฟฟ้าไปเป็นพลังงานอ่ืนว่า พลังงานไฟฟ้าทําให้เคร

สามารถเปลี่ยนพลงั งานไฟฟ้าไปเปน็ พลังงานอนื่ ไดม้ า

๓๘. ครูให้นักเรียนทําใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เร่ือง การเ

๑๔๒-๑๔๓ โดยครูอาจให้นักเรียนไปเปิดคลิปวีดิทัศ

เครื่องปั่นนาํ้ ผลไม้ ทบี่ ้านเพ่ือใหน้ ักเรียนสังเกตและต

ทถี่ ูกตอ้ ง

 


Click to View FlipBook Version