ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศึก
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ ประโย
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยย่อยที่ ๒ ปร
กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
จดุ ประสงค์ดา้ นคุณธรรม ชวั่ โมงที่ ๒
๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ขน้ั นาํ (๕ นาที)
๒. มุ่งมนั่ ในการทํางาน ๑๐. ครูทบทวนความรู้ท่ีได้เรียนจากช่ัวโมงที่ผ่านมา โด
ส่ิงมีชีวิตมาพดู คยุ กับนกั เรียนอกี คร้งั โดยถามดงั น้ี
๑๐.๑ จากรูป ดวงอาทิตย์มีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตอ
การทํานาเกลือ การเกิดลม สัตว์มีพืชกิน พื
การย่อยสลาย มนษุ ยม์ พี ลงั งานใช)้
๑๐.๒ ดวงอาทิตย์มีประโยชน์ต่อพืชอย่างไร (พืชใช
สลายซากพชื ซากสตั ว์)
๑๐.๓ ดวงอาทติ ย์มีประโยชนต์ ่อสตั วอ์ ยา่ งไร (ทาํ ใหส้
๑๐.๔ ดวงอาทติ ยม์ ีประโยชนต์ อ่ มนษุ ยอ์ ย่างไร (ช่วยใ
๑๐.๕ ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานใดบ้าง และ
(นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ขั้นสอน (๕๐ นาท)ี
๑๑. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของชั่วโมงน้ีให้นักเรีย
และบรรยายประโยชน์ของดวงอาทติ ยท์ มี่ ีตอ่ ส่ิงมชี วี ิต
๑๒. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมที่ ๑ ข้อ ๒-
ทาํ กจิ กรรม โดยครใู ช้คาํ ถามดงั นี้
กษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรุง) ๑๐๙
ยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ อ่ สง่ิ มชี วี ิต
ระโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
สตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๓ ช่วั โมง
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓
ดยนํารูปจากตารางประโยชน์ของดวงอาทิตย์ท่ีมีต่อ
อย่างไรบ้าง (การทําให้ปลาแห้ง การทําให้ผ้าแห้ง
ชใช้แสงสร้างอาหารทําให้พืชเจริญเติบโต พืชเกิด
ช้แสงสร้างอาหาร พืชได้รับธาตุอาหารจากการย่อย
สตั ว์มพี ชื กิน สัตวจ์ ะได้รับพลังงานจากการกนิ พชื )
ใหม้ นุษยม์ องเห็นสิ่งตา่ ง ๆ ทาํ ใหม้ นษุ ย์มีพลังงานใช้)
แหล่งพลังงานนั้นมีประโยชน์ต่อส่ิงมีชีวิตอย่างไร
ยนทราบอีกคร้ังว่า ทํากิจกรรมน้ีเพ่ือรวบรวมข้อมูล
ต
-๓ หน้า ๔๕ จากนั้นร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการ
๑๑๐ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ ประโย
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หนว่ ยย่อยที่ ๒ ปร
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
๑๒.๑ นักเรียนต้องทําอะไรเป็นอันดับแรก (อ่านใบค
บันทึกสรุปความร้ทู ่ีได)้
๑๒.๒ แล้วนักเรียนต้องทําอะไรอีกบ้าง (รวบรวมข้อ
พืช สัตว์ และมนุ ษย์จากแหล่งข้อมูลทนี่ า่ เช่ือถ
๑๓. เม่ือเข้าใจข้ันตอนการทํากิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนอ่า
๔๙-๕๐ จากนน้ั นําอภปิ รายโดยใช้คาํ ถาม ดังนี้
๑๓.๑ ดวงอาทิตย์เปน็ แหล่งพลังงานใดบ้าง (แหลง่ พล
๑๓.๒ พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์มีประโย
มีอุณหภูมิเหมาะสมต่อการดํารงชีวิตของสิ่งมีช
กันแล้วทําให้เกิดลม รวมท้ังใช้พลังงานความ
การถนอมอาหาร การทํานาเกลอื )
๑๓.๓ พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์มีประโยชน์ต่อส่ิง
ในการสรา้ งอาหารของพชื ส่งผลทางออ้ มตอ่ ส
พืชเพื่อการดํารงชีวิตและการเจริญเติบโต เมื่อ
เป็นธาตุอาหารให้กับพืช และบางส่วนทับถม
นํา้ มันดบิ เป็นแหล่งพลังงานทีม่ นุษย์นาํ มาใช้ป
๑๓.๔ พลังงานความร้อนและพลังงานแสงจากดวง
ไฟฟา้ )
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ยชนข์ องดวงอาทิตย์ต่อส่ิงมชี วี ิต เวลา ๓ ชั่วโมง
ระโยชนข์ องดวงอาทิตย์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓
สตร์และเทคโนโลยี
ความรู้ เร่ืองประโยชน์ของดวงอาทิตย์ อภิปรายและ
อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของดวงอาทิตย์ที่มีต่อ
ถือ บนั ทึกผลในรปู แบบท่ีนา่ สนใจ และนําเสนอ)
านใบความรู้เร่ืองประโยชน์ของดวงอาทิตย์ ในหน้า
ลังงานความร้อนและพลังงานแสง)
ยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร (ช่วยให้โลกอบอุ่น หรือ
ชีวิต ทําให้บริเวณต่าง ๆ ของโลกมีอุณหภูมิแตกต่าง
มร้อนในการตากผ้า การตากผลผลิตทางการเกษตร
งมีชีวิตอย่างไร (ทําให้สิ่งมีชีวิตมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ช่วย
ส่งิ มีชวี ิตทกี่ ินพชื เปน็ อาหาร โดยจะได้รบั พลังงานจาก
อพืชและสัตว์ตายไป ซากพืช ซากสัตว์จะย่อยสลาย
มกันเป็นเวลานานก็จะเปล่ียนแปลงเป็นถ่านหินและ
ประโยชนไ์ ด้)
งอาทิตย์เปล่ียนเป็นพลังงานอะไรได้บ้าง (พลังงาน
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ช้ันประถมศกึ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ประโย
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ดวงอาทิตย์ หน่วยย่อยที่ ๒ ปร
กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
๑๔. ครใู หน้ กั เรียนบันทึกสรปุ ความร้ทู ไ่ี ด้ลงในใบงาน ๐๑
๑๕. นอกจากรูปในตารางที่นักเรียนสังเกต ดวงอาทิตย์ย
(นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
๑๖. ครูให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประ
ครูสามารถแนะนําแหล่งสืบค้นข้อมูลที่น่าเช่ือถือ เ
ที่น่าเชื่อถือ เช่น สารานุกรมไทยสําหรับเยาวชนฯ ท
ข้อมลู เช่น ดวงอาทติ ยเ์ ป็นแหล่งของพลังงาน ประโย
๑๗. ครูให้นักเรียนบันทึกประโยชน์ของดวงอาทิตย์ที่มีต่อ
ดวงอาทิตย์ หน้า ๕๒–๕๔
๑๘. หลงั จากทาํ กิจกรรมแล้ว ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมา
๑๘.๑ นอกจากข้อมูลที่ได้จากใบความรู้แล้ว ดวงอา
อกี บ้าง (นักเรียนตอบตามผลการทํากจิ กรรมข
๑๘.๒ ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ส่ิงมีชีวิตจะดํารงชีวิตอยูไ่ ด้ห
ตนเอง ซึ่งถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ส่ิงมีชีวิตก็ไม่สาม
มีการใช้ประโยชน์จากดวงอาทิตย์หลายอย่า
ดวงอาทิตย์ พืชจะไม่สามารถดํารงชีวิตอยู่ได
ดาํ รงชีวติ อย่ไู ด้)
กษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๑
ยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ อ่ ส่ิงมีชีวิต
ระโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
สตร์และเทคโนโลยี เวลา ๓ ช่วั โมง
ประโยชน์ของดวงอาทติ ย์ หนา้ ๕๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓
ยังมีประโยชน์ต่อพืช สัตว์ และมนุษย์อย่างไรอีกบ้าง
ะโยชน์ของดวงอาทิตย์ท่ีมีต่อพืช สัตว์ และมนุษย์
เช่น หนังสือ หรืออินเทอร์เน็ต โดยแนะนําเว็บไซต์
ทรูปัญญา หรือแนะนําคําค้นหาให้นักเรียนใช้สืบค้น
ยชน์ของดวงอาทิตย์
อพืช สัตว์ และมนุษย์ลงในใบงาน ๐๑ ประโยชน์ของ
านําเสนอ จากน้ันรว่ มกันอภปิ รายโดยใชค้ ําถามดงั นี้
าทิตย์ยังมีประโยชน์ต่อพืช สัตว์ และมนุษย์อย่างไร
ของตนเอง)
หรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความคิดของ
มารถดํารงชีวิตอยู่ได้ เพราะทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์
าง เช่น พืช ใช้แสงช่วยในการสร้างอาหาร ถ้าไม่มี
ด้ มนุษย์และสัตว์ก็จะไม่มีอาหาร ทําให้ไม่สามารถ
๑๑๒ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ประโย
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยย่อยที่ ๒ ปร
กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาส
ขั้นสรปุ (๕ นาที)
๑๙. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งท่ีได้เร
ดวงอาทติ ย์ท่มี ีต่อพชื สตั ว์ และมนษุ ย์
๒๐. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า ดวงอ
แสง มีประโยชน์ต่อการดํารงชีวิตของส่ิงมีชีวิตหลายอ
ของพืช มีประโยชน์ต่อสัตว์ เช่น ช่วยให้สัตว์อบอุ่น
ช่วยในการมองเหน็ ส่งิ ตา่ ง ๆ
๒๑. ครแู จง้ วา่ ในชั่วโมงถัดไป นักเรยี นจะได้ทํากจิ กรรมท่ี ๑
ชว่ั โมงที่ ๓
ข้นั นาํ (๕ นาท)ี
๒๒. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับประโยชน์ของดวงอาทิตย์ท
บนกระดาน หรือกระดาษบรู๊ฟ ดงั น้ี
ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ตอ่ พชื ประโยชนข์ องดวงอ
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ยชนข์ องดวงอาทติ ย์ต่อสิง่ มีชวี ติ เวลา ๓ ชัว่ โมง
ระโยชน์ของดวงอาทิตย์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
สตร์และเทคโนโลยี
รียนรู้ในช่ัวโมงนี้ด้วยตนเองเกี่ยวกับประโยชน์ของ
อาทิตย์เป็นทั้งแหล่งพลังงานความร้อนและพลังงาน
อย่าง มีประโยชน์ตอ่ พืช เช่น ช่วยในการสร้างอาหาร
น มีประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
๑ ขอ้ ๔ ต่อไป
ที่มีต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ โดยทําตารางเป็น ๓ ช่อง
อาทิตยต์ อ่ สัตว์ ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์ตอ่ มนษุ ย์
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศึก
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ ประโย
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ ดวงอาทิตย์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒ ปร
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาส
จากนน้ั ให้นักเรยี นออกมาเขียนประโยชนข์ องดวงอาท
ขั้นสอน (๕๐ นาท)ี
๒๓. ครูชี้แจงจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ องช่วั โมงน้ีให้นักเรยี น
ของดวงอาทิตยท์ มี่ ตี อ่ สิง่ มีชีวิต
๒๔. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทําในใบกิจกรรมที่ ๑ หน้า
ทํากิจกรรม โดยครูใช้คําถามว่า กิจกรรมในวันน้ีนักเ
ทีไ่ ด้เรียนมาท้ังหมดเกี่ยวกบั ดวงอาทิตย์ และนําเสนอ
๒๕. เมอ่ื เขา้ ใจข้นั ตอนการทํากิจกรรมแล้ว ใหน้ กั เรยี นเขยี
๒๖. หลังจากทํากิจกรรมแล้ว ครูสุ่มนักเรียนออกมานํา
อภิปรายโดยใช้คําถามว่า แผนผังความคิดของนักเร
แต่ละคนจะแตกต่างกันไป ขึน้ อยกู่ ับรปู แบบการเขียน
๒๗. ครูใหน้ ักเรียนตอบคําถามหลังจากทาํ กิจกรรม หนา้ ๕
๒๘. ครูให้นักเรียนทาํ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หัด เรอ่ื งประโยช
ข้ันสรปุ (๕ นาที)
๒๙. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงที่ได้เ
ส่งิ มีชีวิต
กษาปีที่ 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๑๓
ยชนข์ องดวงอาทิตยต์ ่อสิ่งมชี วี ติ
ระโยชนข์ องดวงอาทติ ย์
สตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๓ ช่ัวโมง
ทิตย์ทม่ี ีตอ่ พชื สัตว์ และมนุษยใ์ ห้ตรงตามตาราง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓
นทราบอีกครัง้ ว่า ทาํ กิจกรรมน้ีเพอื่ บรรยายประโยชน์
า ๔ ข้อ ๔๕ จากน้ันร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการ
เรียนต้องทําอะไร (เขียนผังความคิดเกี่ยวกับความรู้
อ)
ยนผงั ความคดิ ลงในใบงาน หน้า ๕๕
าเสนอแผนผังความคิดของตนเอง จากน้ันร่วมกัน
รียนเหมือนกันหรือไม่ (แผนผังความคิดของนักเรียน
นของนกั เรียน)
๕๖
ชน์ของดวงอาทติ ย์ทมี่ ีต่อสิ่งมีชวี ิต หน้า ๕๗–๕๘
เรียนรู้ในเก่ียวกับประโยชน์ของดวงอาทิตย์ท่ีมีต่อ
๑๑๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ ประโย
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๔ ดวงอาทติ ย์ หน่วยย่อยท่ี ๒ ปร
กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาส
๓๐. ครูประเมินความเข้าใจโดยให้นักเรียนตรวจสอบคํา
ดวงอาทติ ย์ สงิ่ มีชีวิตจะสามารถดํารงชวี ิตอย่ไู ด้หรอื ไม
๓๑. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายและสรปุ อีกครั้งว่า ดวง
แสง ซึง่ มปี ระโยชน์ต่อการดํารงชีวติ ของส่ิงมีชีวิต
(สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ ่อสง่ิ มชี วี ิต เวลา ๓ ชัว่ โมง
ระโยชน์ของดวงอาทติ ย์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓
สตร์และเทคโนโลยี
าตอบท่ีครูถามในช่วงข้ันนําเข้าสู่บทเรียนว่า ถ้าไม่มี
ม่ เพราะเหตใุ ด (ถ้าไม่มี)
งอาทิตย์เป็นทั้งแหลง่ พลังงานความร้อนและพลังงาน
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๕
แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ ประโยชน์ของดวงอาทิตยต์ ่อสิง่ มีชวี ติ
ชอ่ื ผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชื่อกลุ่มรบั การประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท่…ี ……………….... วนั ที่ ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับพฤติกรรม คะแนนท่ีได้
เกิด = ๑ ไม่เกิด = ๐
๑. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มงุ่ มัน่ ในการทาํ งาน
รวมคะแนนทไ่ี ดท้ ั้งหมด = …………… คะแนน
คณุ ลักษณะตามจดุ ประสงคด์ ้านคณุ ธรรม
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ต่าํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๑๑๖ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ )
แบบประเมินดา้ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการทาํ กิจกรรม
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒ ประโยชนข์ องดวงอาทิตยต์ อ่ สง่ิ มชี วี ติ
เกณฑ์การประเมิน มดี ังนี้
๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ
ส่ิงท่ีประเมิน คะแนน
การสังเกต
การจัดกระทําและสอ่ื ความหมายข้อมลู
การลงความเห็นจากข้อมูล
การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
รวมคะแนน
เกณฑ์การประเมิน
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
การสงั เกต สามารถใช้ประสาทสัมผสั สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั เกบ็
เก็บรายละเอยี ดเกี่ยวกบั เกบ็ รายละเอยี ดเกย่ี วกับ รายละเอยี ดเก่ียวกบั ประโยชน์
ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ ของดวงอาทิตยจ์ ากรปู ไดเ้ พียง
จากรูปไดด้ ้วยตนเอง โดยไม่ จากรูปได้ โดยการชแ้ี นะของครู บางส่วน แม้จะไดร้ บั คําแนะนํา
เพิ่มความคิดเหน็ หรอื ผอู้ ื่น จากครูหรอื ผู้อนื่
การจดั กระทาํ และสือ่ สามารถจัดกระทาํ ข้อมลู สามารถจัดกระทําข้อมูล สามารถจัดกระทําข้อมูล
ความหมายขอ้ มูล โดยการเขียนผังความคดิ โดยการเขยี นผงั ความคดิ เกย่ี วกบั โดยการเขยี นผังความคิด
เกยี่ วกับประโยชน์ของ ประโยชนข์ องดวงอาทิตย์ และ เกยี่ วกบั ประโยชนข์ อง
ดวงอาทติ ย์ และสอ่ื ใหผ้ อู้ นื่ ส่ือให้ผู้อนื่ เขา้ ใจได้ โดยการ ดวงอาทิตย์ และสื่อให้ผูอ้ ่ืน
เข้าใจได้ด้วยตนเอง ช้ีแนะของครูหรอื ผู้อ่นื เข้าใจไดเ้ พียงบางสว่ น แมจ้ ะ
ไดร้ ับคําแนะนาํ จากครูหรือ
ผอู้ ืน่
การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จากข้อมลู สามารถลงความเหน็ จากข้อมลู
ข้อมลู ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประโยชน์ของ เกย่ี วกับประโยชน์ของ เก่ยี วกับประโยชนข์ อง
ดวงอาทติ ย์ที่มีตอ่ ส่ิงมชี วี ติ ได้ ดวงอาทิตยท์ ีม่ ีตอ่ ส่งิ มชี ีวิตได้ ดวงอาทิตย์ทม่ี ีต่อสิ่งมชี วี ิตได้
ดว้ ยตนเอง โดยอาศัยคาํ แนะนําของครู เพียงบางส่วน แมจ้ ะได้รับ
หรือผอู้ ื่น คาํ แนะนําจากครหู รอื ผอู้ ่ืน
๑๑๗ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ระดบั ความสามารถ
ทกั ษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑)
การตคี วามหมาย สามารถตีความหมายขอ้ มูล สามารถตีความหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมายข้อมูล
ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ จากสงั เกตและรวบรวมข้อมูล จากสงั เกตและรวบรวมข้อมูล จากสังเกตและรวบรวมขอ้ มูล
เก่ยี วกบั ประโยชนข์ อง เกี่ยวกับประโยชน์ของ เก่ียวกบั ประโยชน์ของ
ดวงอาทติ ยท์ ม่ี ีตอ่ สิง่ มีชวี ิต ดวงอาทติ ยท์ มี่ ีต่อสิ่งมีชีวติ ดวงอาทิตย์ท่มี ีตอ่ สงิ่ มีชวี ติ
และลงข้อสรุปได้ว่า และลงข้อสรุปได้ว่า ดวงอาทติ ย์ และลงข้อสรุปไดว้ ่า ดวงอาทติ ย์
ดวงอาทิตยเ์ ป็นทั้งแหลง่ เปน็ ทั้งแหล่งพลังงานความร้อน เปน็ ทัง้ แหล่งพลังงานความร้อน
พลงั งานความร้อน และ และพลงั งานแสง ซ่งึ มีประโยชน์ และพลังงานแสง ซึ่งมีประโยชน์
พลงั งานแสง ซงึ่ มีประโยชน์ ต่อการดาํ รงชีวิตของส่งิ มชี ีวิตได้ ต่อการดํารงชีวติ ของสิง่ มชี ีวิตได้
ต่อการดาํ รงชีวิตของ โดยอาศยั คําแนะนาํ ของครู เพยี งบางส่วน แม้จะได้รบั
ส่งิ มีชวี ติ ได้ด้วยตนเอง หรือผอู้ ่นื คําแนะนาํ จากครูหรือผูอ้ ื่น
๑๑๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรุง)
เฉลยใบงาน
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๑๙
ทาํ ใหป้ ลาแหง้
ทําใหผ้ ้าแห้ง
การทํานาเกลอื
๑๒๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ทาํ ใหเ้ กดิ ลม
ทาํ ใหส้ ตั ว์มอี าหาร
ทําใหพ้ ืชสร้างอาหาร
และเจรญิ เตบิ โตได้
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๒๑
ทาํ ให้ซากพืชยอ่ ยสลาย
ทาํ ใหม้ พี ลงั งานไฟฟา้ ใช้
๑๒๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
คําตอบข้นึ อยกู่ ับผลการทํากจิ กรรมของนกั เรยี น เช่น
พลงั งานความร้อนจากดวงอาทิตย์ : ช่วยให้โลกอบอนุ่ หรอื มีอุณหภมู ิเหมาะสม
ตอ่ การดาํ รงชวี ติ ของส่งิ มีชวี ติ ทําใหบ้ รเิ วณต่าง ๆ ของโลกมอี ุณหภูมิแตกตา่ งกัน
ทาํ ใหเ้ กดิ ลม นอกจากนย้ี งั มปี ระโยชนใ์ นการตากผา้ การตากผลผลติ ทางการเกษตร
การถนอมอาหาร การทาํ นาเกลือ
พลังงานแสงจากดวงอาทติ ย์ : ทําให้สงิ่ มีชวี ติ มองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ ช่วยในการสรา้ ง
อาหารของพชื สง่ ผลทางออ้ มตอ่ สงิ่ มีชีวติ ทม่ี ากินพชื เปน็ อาหาร โดยจะได้รับ
พลังงานจากพชื เพอ่ื การดาํ รงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โต เม่ือพืชและสตั ว์ตายไป
ซากพชื ซากสตั ว์จะยอ่ ยสลายเป็นธาตอุ าหารของพชื และบางส่วนจะทบั ถม
เป็นเวลานานภายใต้ความรอ้ นและความดนั และจะเปลย่ี นแปลงเปน็ ถ่านหนิ และ
นา้ํ มันดบิ เปน็ แหล่งพลังงานท่ีมนษุ ยใ์ ชป้ ระโยชน์ได้
ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๒๓
คาํ ตอบขึน้ อยกู่ ับผลการทํากิจกรรมของนกั เรยี น
๑๒๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
คําตอบขึ้นอยกู่ ับผลการทํากิจกรรมของนกั เรียน
ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรียนที่ 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๒๕
คําตอบขึ้นอยกู่ ับผลการทํากจิ กรรมของนกั เรยี น
๑๒๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
๑๒๗ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
ชว่ ยในการสร้างอาหารของพชื และส่งผลทางออ้ มตอ่ สิง่ มชี วี ติ อ่ืนที่มากนิ พืชเปน็ อาหาร
โดยจะได้รับพลงั งานจากพชื เมือ่ พืชและสัตวต์ ายไป ซากพชื ซากสตั วจ์ ะย่อยสลายเป็น
ธาตอุ าหารให้พชื บางสว่ นทับถมกนั จนเปลี่ยนเป็นถ่านหนิ และนํา้ มันดบิ เปน็ แหลง่ พลงั งาน
ทมี่ นษุ ย์นาํ ไปใชป้ ระโยชน์
ชว่ ยใหโ้ ลกมีอณุ หภมู เิ หมาะสมต่อการดาํ รงชีวิตของส่ิงมชี ีวติ ทําใหเ้ กดิ ลม
ความรอ้ นชว่ ยในการตากผา้ การตากผลผลติ ทางการเกษตร การถนอมอาหาร
การทาํ นาเกลอื
ดวงอาทติ ย์เปน็ แหล่งพลงั งานแสงและพลงั งานความรอ้ น โดยมปี ระโยชน์ต่อ
การดาํ รงชีวิตของส่งิ มชี ีวติ เชน่ ช่วยในการสร้างอาหารของพชื ชว่ ยให้มนษุ ย์
มองเหน็ ส่งิ ต่าง ๆ ช่วยในการถนอมอาหาร การทาํ นาเกลอื
๑๒๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๑. มนษุ ยใ์ ชใ้ นการผลิตไฟฟา้
๒. มนุษย์ใชใ้ นการมองเห็นส่งิ ตา่ ง ๆ
๓. พชื ใช้ในการสร้างอาหาร ส่งผลใหม้ นษุ ยแ์ ละสตั วม์ อี าหาร และได้รบั
พลงั งาน
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๒๙
๔. ชว่ ยใหค้ วามอบอ่นุ แกม่ นษุ ย์และสตั ว์
๑๓๐ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบับปรับปรุง)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕
อากาศและการเกดิ ลม
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๓๑
มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัดของหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕
อากาศและการเกดิ ลม (จาํ นวน ๑๕ ชัว่ โมง)
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ว ๓.๒
เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบน
ผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศ และภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อส่ิงมีชีวิตและ
สิง่ แวดลอ้ ม
ตัวชว้ี ัด
ว ๓.๒ ป. ๓/๑ ระบุส่วนประกอบของอากาศ บรรยายความสําคัญของอากาศ และผลกระทบของ
มลพษิ ทางอากาศตอ่ สงิ่ มีชวี ติ จากข้อมูลท่รี วบรวมได้
ว ๓.๒ ป. ๓/๒ ตระหนกั ถงึ ความสําคญั ของอากาศ โดยนําเสอแนวทางการปฏิบัติตนในการลดการเกิด
มลพิษทางอากาศ
ว ๓.๒ ป.๓/๓ อธบิ ายการเกิดลมจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
ว ๓.๒ ป.๓/๔ บรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลมจากขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้
๑๓๒ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรับครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ลําดบั การนําเสนอแนวคดิ หลักของหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม
อากาศโดยทว่ั ไปไมม่ ีสี ไมม่ ีกลน่ิ ประกอบดว้ ยแกส๊ ตา่ ง ๆ ไอนํ้า และฝุ่นละออง
แกส๊ ทีเ่ ป็นสว่ นประกอบของอากาศ ได้แก่ แกส๊ ไนโตรเจน แก๊สออกซเิ จน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
และแกส๊ อืน่ ๆ
อากาศมคี วามสาํ คัญตอ่ สิง่ มชี วี ิต
ในอากาศมฝี ุ่นละอองปรมิ าณมากหรอื น้อยขน้ึ อย่กู บั สภาพแวดลอ้ ม
อากาศทมี่ ีปริมาณสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ไมเ่ หมาะสม ทําให้เกิดมลพษิ ทางอากาศ
ทุกคนควรปฏบิ ตั ติ นเพอื่ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ
ความแตกตา่ งของอุณภมู ขิ องอากาศสองบริเวณที่อยูใ่ กลเ้ คียงกนั จะทาํ ให้มีการเคล่อื นท่ขี องอากาศ
เรยี กว่า ลม ซง่ึ เคลอื่ นที่ไดท้ งั้ แนวนอนและแนวต้งั
ลมมีประโยชน์ต่อส่งิ มชี วี ิต เช่น ใช้เปน็ แหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟา้ ใช้ในการทาํ กจิ กรรมต่าง ๆ
ของมนษุ ย์ ช่วยกระจายเมลด็ พันธพ์ุ ชื
ลมยงั มีโทษตอ่ สิ่งมชี ีวติ เชน่ เมอื่ ลมเคลอื่ นทด่ี ว้ ยความเรว็ สูงอาจทาํ ใหเ้ กิดอนั ตรายและความเสียหายต่อ
ชีวติ และทรพั ย์สิน
๑๓๓ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ )
โครงสรา้ งแผนการจัดการเรยี นรูห้ นว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ อากาศและการเกิดลม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑.๓
(ความสาํ คญั ของอากาศ) (มลพิษทางอากาศ)
(๓ ชวั่ โมง) (๒ ชว่ั โมง)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑.๑
(สว่ นประกอบของอากาศ)
(๓ ช่วั โมง)
หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑
(อากาศ)
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๕
อากาศและการเกิดลม
(๑๕ ชัว่ โมง)
หนว่ ยย่อยที่ ๒
(การเกดิ ลม)
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒.๑ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๒.๒
(การเกดิ ลม) (ประโยชนแ์ ละโทษของลม)
(๕ ชัว่ โมง)
(๒ ชว่ั โมง)
๑๓๔ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
หน่วยย่อยท่ี ๑
อากาศ
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรบั ครูผู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบบั ปรับปรุง) ๑๓๕
หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อากาศ
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ ชอื่ หนว่ ย อากาศและการเกดิ ลม
จํานวนเวลาเรียน ๘ ชว่ั โมง จาํ นวนแผนการจดั การเรียนรู้ ๓ แผน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระสาํ คญั ของหนว่ ย
อากาศโดยท่ัวไปไมม่ ีสี ไม่มีกลิ่น ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจน แกส๊ ออกซิเจน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์
แก๊สอื่น ๆ รวมท้ังไอนํ้า และฝุ่นละออง อากาศมีความสําคัญต่อสิ่งมีชีวิต หากส่วนประกอบของอากาศ
ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีแก๊สบางชนิดหรือฝุ่นละอองในปริมาณมาก จนเกิดเป็นมลพิษทางอากาศ อาจเป็น
อนั ตรายตอ่ สง่ิ มีชวี ิตชนดิ ตา่ ง ๆ
มาตรฐานและตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว ๓.๒
เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและ
บนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ และภมู ิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและ
สิง่ แวดล้อม
ตัวชีว้ ดั
ว ๓.๒ ป. ๓/๑ ระบุส่วนประกอบของอากาศ บรรยายความสําคัญของอากาศ และผลกระทบของ
มลพิษทางอากาศต่อสงิ่ มีชวี ิตจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้
ว ๓.๒ ป. ๓/๒ ตระหนกั ถงึ ความสําคัญของอากาศ โดยนาํ เสอแนวทางการปฏบิ ัตติ นในการลดการเกดิ
มลพษิ ทางอากาศ
๑๓๖ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สําหรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ )
ลาํ ดบั การนาํ เสนอแนวคิดหลกั ของหน่วยยอ่ ยที่ ๑ อากาศ
อากาศโดยทั่วไปไม่มสี ี ไมม่ กี ลิน่ ประกอบดว้ ยแก๊สตา่ ง ๆ ไอนา้ํ และฝุ่นละออง
แกส๊ ทเี่ ปน็ สว่ นประกอบของอากาศ ไดแ้ ก่ แกส๊ ไนโตรเจน แกส๊ ออกซิเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
และแกส๊ อ่นื ๆ
อากาศมีความสําคญั ต่อส่ิงมชี วี ิต
ในอากาศมฝี ุ่นละอองปริมาณมากหรอื นอ้ ยขึน้ อยู่กบั สภาพแวดลอ้ ม
อากาศที่มปี ริมาณสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ไม่เหมาะสม ทําให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ
ทกุ คนควรปฏบิ ตั ิตนเพอื่ ช่วยลดมลพษิ ทางอากาศ
โครงสร้างของหนว่ ยย่อยที่ ๑ อากาศ
หน่วยการเรยี นรู้ ชอื่ หนว่ ยย่อย จาํ นวนแผน ชอ่ื แผนการจดั การเรียนรู้ จาํ นวนชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ๓ ๑.๑ ส่วนประกอบของอากาศ ๓
อากาศ ๑.๒ ความสาํ คญั ของอากาศ ๒
๑.๓ มลพษิ ทางอากาศ ๓
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรับครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๓๗
คําชี้แจงประกอบแผนจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๑ ส่วนประกอบของอากาศ เวลา ๓ ช่วั โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สาระสาํ คญั ของแผน
อากาศโดยทั่วไปเป็นอากาศชื้น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ประกอบด้วยแก๊สต่าง ๆ รวมท้ังไอนํ้า โดยปริมาณ
ไอนํ้าในแตล่ ะบริเวณจะแตกตา่ งกันขน้ึ อยู่กบั สภาพแวดล้อมในแต่ละบริเวณ
๒. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในการนาํ ไปใช้ (ใหร้ ะบสุ ่งิ ท่ตี อ้ งการเน้นหรือข้อสงั เกต ขอ้ เสนอแนะ คาํ แนะนาํ )
ในเรอื่ งต่อไปนี้ คอื
๒.๑ ขอบขา่ ยเนอื้ หา
อากาศโดยทั่วไปเป็นอากาศช้ืน ไม่มีสี ไม่มีกล่ิน ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนมากที่สุด รองลงมาคือ
แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และแก๊สอื่น ๆ เช่น อาร์กอน ตามลําดับ รวมทั้งไอนํ้า โดย
ปริมาณไอนา้ํ ในแตล่ ะบรเิ วณจะแตกตา่ งกันขนึ้ อย่กู บั สภาพแวดล้อมในแตล่ ะบรเิ วณ
๒.๒ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความรู้ ทักษะ คุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม) (ถา้ ม)ี
จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้
ระบสุ ว่ นประกอบของอากาศ
จุดประสงค์ดา้ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. การสังเกต
๒. การจัดกระทาํ และส่ือความหมายขอ้ มูล
๓. การลงความเหน็ จากข้อมูล
๔. การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป
จดุ ประสงคด์ า้ นคุณธรรม
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มุ่งมนั่ ในการทํางาน
๒.๓ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
๑) การเตรียมตวั ของครู นกั เรยี น (การจัดกลมุ่ ) (ถ้ามี)
การจัดกลุ่ม โดยแบง่ นกั เรียนออกเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ ๔-๕ คน
๒) การเตรียมสอ่ื วัสดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถา้ มี)
สิง่ ทคี่ รตู อ้ งเตรียม คือ
๒.๑ ถุงพลาสติก ๑ ใบ/กลมุ่
๒.๒ ยางรัดของ ๑ เสน้ /กลมุ่
๒.๓ กระติกนา้ํ แข็ง ๑-๒ ใบ/หอ้ ง
๑๓๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
๒.๔ น้ําแขง็ ๒ กโิ ลกรมั /หอ้ ง
๒.๕ ผา้ สะอาดหรอื กระดาษเยอ่ื ๑ ผืน/กลุม่
สิง่ ทนี่ ักเรยี นตอ้ งเตรยี ม คอื
-
๓) เตรยี มใบงาน ใบความรู้ ใบกจิ กรรม (ถ้าม)ี
๓.๑ ใบงาน ๐๑ ส่วนประกอบของอากาศ
๓.๒ ใบความร้เู รือ่ งส่วนประกอบของอากาศ
๓.๓ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรื่องส่วนประกอบของอากาศ
๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถา้ ม)ี
๑) วธิ กี ารวดั ผลประเมินผลการเรียนรู้
๑.๑ การตอบคาํ ถามในใบงาน
๑.๒ สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทาํ กจิ กรรม
๑.๓ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรมขณะทาํ กจิ กรรม
๒) วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
๒.๑ เคร่ืองมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ด้านความรู้
ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาํ ถามในใบงาน แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดังน้ี
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ต่าํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครื่องมอื และเกณฑใ์ นการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ (ดงั แนบ) นาํ คะแนนมารวมกัน แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดังนี้
- มากกวา่ ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตาํ่ กวา่ ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒.๓ เครอ่ื งมอื และเกณฑ์ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม
สงั เกตพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรมโดยใช้แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม (ดังแนบ) นาํ คะแนน
มารวมกัน แลว้ ใชเ้ กณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดงั นี้
- มากกว่า ๘๐% ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙% ได้ ๒ คะแนน
- ตํา่ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สําหรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๓๙
๓) การทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรยี น แบบฝึกหัดก่อนเรียน หลงั เรยี น
ทาํ แบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน
๓. อน่ื ๆ
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
๑๔๐ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (
แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรขู้
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๕ อากาศ เร่อื ง สว่ นประก
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศา
ขนั้ นาํ แนวการจัดกจิ
ขนั้ สอน
ขั้นสรปุ ตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับส่วนประ
ขน้ั ประเมนิ ผล
ทาํ ใบกิจกรรมท่ี ๑ สว่ นประกอบของ
เพอ่ื ระบุสว่ นประกอบของอากาศ
ทําใบงาน ๐๑ ส่วนประกอบของอาก
อ่านใบความรเู้ รื่องส่วนประกอบของอ
อภิปรายและลงข้อสรุปเกยี่ วกบั ส่วนป
ทําใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หัด ส่วนประก
ประเมินจากการตอบคําถาม
ประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมในชน้ั เรยี
ประเมนิ จากการทําแบบฝึกหดั
(สําหรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
ของแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑.๑
กอบของอากาศ เวลา ๓ ชั่วโมง
าสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓
จกรรมการเรียนรู้
ะกอบของอากาศ
งอากาศมีอะไรบา้ ง โดยการสงั เกต รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสว่ นประกอบของอากาศ
กาศ
อากาศ
ประกอบของอากาศ
กอบของอากาศ
ยน
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาํ หรับครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ชัน้ ประถม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๑
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ อากาศและการเกดิ ลม หน่วยยอ่ ยที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๓ ชว่ั โมง)
อากาศโดยทัว่ ไปเปน็ ชว่ั โมงท่ี ๑
อากาศช้ืน ไมม่ สี ี ไมม่ ีกลิ่น ขนั้ นาํ (๕ นาที)
ประกอบดว้ ยแกส๊ ๑. ครูทบทวนความรู้ท่ีได้เรียนมาแล้วเกี่ยวกับอากาศ แ
ไนโตรเจนมากทสี่ ุด อากาศ โดยใช้แนวคําถามอภปิ ราย ดงั น้ี
รองลงมาคือ ๑.๑ อากาศมอี ยู่ที่ใด (อากาศมีอยรู่ อบตัว)
แกส๊ ออกซเิ จน แก๊ส ๑.๒ เรามองเหน็ อากาศท่อี ยูร่ อบตวั หรือไม่ (มองไม่เห็น
คารบ์ อนไดออกไซด์ และ ๑.๓ อากาศมีส่วนประกอบประกอบอะไรบ้าง (นกั เรียน
แก๊สอืน่ ๆ เช่น อาร์กอน ๑.๔ อากาศในบริเวณต่าง ๆ มีส่วนประกอบเหมือนกัน
ตามลาํ ดับ รวมทั้งไอนา้ํ ตนเอง)
โดยปรมิ าณไอนํา้ ในแตล่ ะ ๒. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องส่ว
บรเิ วณจะแตกตา่ งกนั อากาศเข้ามาอย่ใู นถงุ พลาสตกิ และมดั ปากถงุ จะมีอะไร
ขึน้ อยู่กบั สภาพแวดลอ้ มใน ขั้นสอน (๕๐ นาท)ี
แต่ละบรเิ วณ ๓. ครูชวนนักเรียนหาคําตอบท่ีถูกต้องโดยเริ่มทํากิจกรรม
โดยใหน้ ักเรยี นอ่านชื่อกจิ กรรมและจดุ ประสงค์ จากนัน้ ใ
๓.๑ กจิ กรรมน้นี ักเรยี นจะได้เรียนเร่อื งอะไร (ส่วนประก
๓.๒ นักเรยี นจะเรยี นเร่อื งน้ีด้วยวิธใี ด (การสงั เกตและร
มศกึ ษาปที ี่ 3 (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๔๑
๑ สว่ นประกอบของอากาศ
๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง
ตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. ถุงพลาสติก
๒. ยางรัดของ
และตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับส่วนประกอบของ ๓. กระติกน้าํ แขง็
๔. นํา้ แข็ง
๕. ผา้ สะอาดหรือกระดาษ
น) เยอ่ื
นตอบตวามความเขา้ ใจของตนเอง)
นหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตวามความเข้าใจของ ภาระงาน / ชน้ิ งาน
๑. การบันทึกผล
วนประกอบของอากาศ โดยใช้คําถามว่า ถ้าเราเก็บ การทาํ กิจกรรม
รเกดิ ขึ้นภายในถุง เราจะได้ไปเรยี นรู้กนั ในกิจกรรม ในใบกิจกรรม
๒. การทําแบบฝกึ หัด
มที่ ๑ ส่วนประกอบของอากาศมีอะไรบ้าง หน้า ๖๑
ใช้คําถามต่อไปนี้ วธิ ีการประเมนิ
กอบของอากาศ) ๑. การตอบคาํ ถามใน
รวบรวมขอ้ มูล) แบบฝึกหดั
๑๔๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑.๑
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนว่ ยย่อยท่ี ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
จุดประสงคด์ า้ นความรู้ ๓.๓ เมอื่ เรียนแล้วนกั เรียนจะทําอะไรได้ (ระบุส่วนประ
ระบุส่วนประกอบของ ๔. ครูสรุปจุดประสงค์ในวันนี้ให้แก่นักเรียนอีกครั้งว่า
อากาศ ส่วนประกอบของอากาศ
จุดประสงคด์ า้ นทักษะ ๕. ครูให้นักเรียนอ่านวัสดุ-อุปกรณ์ และวิธีทําในใบกิจกร
กระบวนการทาง ข้นั ตอนการทํากจิ กรรม โดยใชค้ าํ ถามดังตอ่ ไปนี้
วิทยาศาสตร์ ๕.๑ นกั เรียนต้องทาํ อะไรเปน็ อันดับแรก (ระบสุ ่วนประ
๑. การสงั เกต ๕.๒ นักเรียนต้องสังเกตส่งิ ใด และใชส้ ว่ นใดของร่างกาย
๒. การจัดกระทาํ และ และใชม้ ือสัมผสั )
สอื่ ความหมายขอ้ มูล ๕.๓ นักเรียนต้องสัมผัสภายในถุงพลาสติกก่ีคร้ัง และต
๓. การลงความเหน็ จาก และหลังนาํ ถุงพลาสติกไปแชใ่ นกระติกนํา้ แข็ง)
ขอ้ มลู ๕.๔ นกั เรยี นต้องนาํ ถุงพลาสตกิ ทบ่ี รรจุอากาศไปแชล่ งใ
๔. การตคี วามหมาย ๕.๕ เมื่อนําถุงพลาสติกออกจากกระติกน้ําแข็ง ก่อนส
ขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป ดา้ นนอกถุงพลาสติกให้แห้ง)
๕.๖ การเก็บอากาศบรรจุในถุงพลาสติก ทําได้อย่างไร
จุดประสงคด์ ้านคุณธรรม รบี มัดปากถงุ ใหแ้ น่น)
๑. ใฝ่เรยี นรู้ ๕.๗ หลังจากท่ีสัมผัสอากาศภายในถุงพลาสติกทั้งส
๒. มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน (อภิปรายและบนั ทกึ ว่าสง่ิ ทพ่ี บในถงุ พลาสติกเกดิ ข
(สาํ หรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร์) ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
๑ สว่ นประกอบของอากาศ
๑ อากาศ เวลา ๓ ช่ัวโมง
ตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
ะกอบของอากาศ) ๒. สังเกตทกั ษะ
ทํากิจกรรมน้ีเพ่ือสังเกต รวบรวมข้อมูล และระบุ กระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรใ์ นการ
รรมท่ี ๑ ข้อ ๑-๕ หน้า ๖๑ จากนั้นร่วมกันอภิปราย ทํากจิ กรรม
๓. สงั เกตพฤตกิ รรม
ะกอบของอากาศตามความเข้าใจ และบนั ทกึ ผล) ดา้ นคุณธรรม
ยในการสังเกต (สงั เกตภายในถุงพลาสตกิ ใช้ตามองดู ขณะทาํ กิจกรรม
ต้องสัมผัสเมื่อใด (ต้องสัมผัส ๒ คร้ัง โดยสัมผัสก่อน เกณฑ์การประเมิน
๑. การตอบคําถามในแบบฝกึ หดั
ในกระตกิ น้าํ แข็งเป็นเวลาเท่าใด (๑๐ นาที) ได้ถูกต้องดว้ ยตนเอง
สัมผัสภายในถุงพลาสติกต้องทําอย่างไร (เช็ดมือและ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐% - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ร (เปิดปากถุง แกว่งถุงไปมาให้อากาศเข้าเต็มถุง แล้ว - ตา่ํ กว่า ๕๐% ได้ ๑ คะแนน
๒. มีทักษะกระบวนการทาง
สองครั้งแล้ว ต้องอภิปรายและบันทึกเกี่ยวกับอะไร วทิ ยาศาสตร์ขณะทํา
ข้นึ ได้อยา่ งไร) กิจกรรม
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั ครูผสู อน) กลุม สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร) ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถม
แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๑.๑
หนว ยการเรียนรทู ่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนวยยอยที่ ๑
กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสต
๖. เมื่อนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหนักเรียน
สวนประกอบของอากาศ หนา ๖๒ สว นที่เปนสว นประก
๗. เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ครูใหนักเรียนนําเ
อะไรบาง
๘. ครูแจกอุปกรณใหกับนักเรียนและชวนนักเรียนทํากิจก
๖๒–๖๓
๙. หลังจากทาํ กิจกรรมขอ ๒-๕ เสร็จแลว ครใู หนักเรยี นรว
๙.๑ สวนประกอบของอากาศตามความเขาใจของน
กจิ กรรม)
๙.๒ สิ่งท่ีเกิดขึ้นภายในถุงพลาสติกกอนและหลังจากแ
(แตกตางกัน ภายในถุงพลาสติกกอนแชในกระ
ในกระตกิ นาํ้ แขง็ แลว พบวา ท่ผี วิ ดานในของถุงพลา
๙.๓ นา้ํ ท่ีพบทผี่ วิ ดา นในถงุ พลาสติกมาจากไหน (มาจาก
ข้นั สรุป (๕ นาที)
๑๐. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนสรุปแนวคิดหรือส่ิงท่ีไดเรีย
อากาศท่สี ังเกตไดจากการทาํ กิจกรรม
๑๑. ครแู ละนักเรยี นรว มกันอภิปรายและลงขอ สรปุ วา ในอ
มศกึ ษาปท ่ี 3 (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๔๓
๑ สว นประกอบของอากาศ
๑ อากาศ เวลา ๓ ชั่วโมง
ตรและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๓
นปฏิบัติตามข้ันตอนขอ ๑ บันทึกผลลงในใบงาน ๐๑ - มากกวา ๘๐ % ได ๓ คะแนน
กอบของอากาศตามความเขาใจ - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน
เสนอวา นักเรียนคิดวาสวนประกอบของอากาศมี - ตาํ่ กวา ๕๐% ได ๑ คะแนน
๓. มีคณุ ลักษณะดานคุณธรรม
กรรมในวิธีทําขอ ๒-๕ และบันทึกผลในใบงาน หนา - มากกวา ๘๐ % ได ๓ คะแนน
วมกนั อภปิ รายผลการทาํ กจิ กรรม โดยใชคําถามดงั น้ี - ๕๐% - ๗๙ % ได ๒ คะแนน
นักเรียน มีอะไรบาง (นักเรียนตอบตามผลการทํา - ตาํ่ กวา ๕๐% ได ๑ คะแนน
แชในกระติกน้ําแข็ง เหมือนหรือแตกตางกันอยางไร
ะติกน้ําแข็งไมพบส่ิงใดในถุง แตเมื่อแชถุงพลาสติก
าสติกมีนาํ้ )
กอากาศท่ีอยใู นถุง)
ยนรูในชั่วโมงนี้ดวยตนเองเกี่ยวกับสวนประกอบของ
อากาศมนี าํ้
๑๔๔ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ อากาศและการเกิดลม หน่วยย่อยท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสต
๑๒. ครูใหน้ ักเรยี นเปรียบเทยี บสิ่งทค่ี น้ พบกบั สิ่งท่ีคิดไวต้ าม
กจิ กรรมน้เี พ่ือสังเกตสว่ นประกอบของอากาศต่อในวิธ
ชว่ั โมงที่ ๒
ขนั้ นาํ (๕ นาที)
๑๓. ครทู บทวนความรู้ของนักเรยี นจากช่ัวโมงที่ผา่ นมา โดย
๑๓.๑ ชัว่ โมงท่ผี า่ นมา เราไดร้ ้อู ะไรบา้ งเกี่ยวกับส่วนป
๑๓.๒ จากการบันทึกผลในช่ัวโมงที่แล้ว นักเรียนคิด
ตามท่ีบนั ทึกไวใ้ นใบงาน หนา้ ๖๒)
ขัน้ สอน (๕๐ นาที)
๑๔. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของช่ัวโมงน้ีให้นักเรีย
ข้อมลู และลงความเห็นจากขอ้ มลู เพ่ือระบุส่วนประกอ
๑๕. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทาํ ในใบกิจกรรมที่ ๑ ส่วนประก
ร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการทํากิจกรรม โดยครูใช้คํา
ความรู้เรื่องส่วนประกอบของอากาศ ร่วมกันอภิปรา
จดั กระทําและนาํ เสนอในรปู แบบที่น่าสนใจ)
๑๖. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทํากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรี
๖๔
(สาํ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาศาสตร)์ ภาคเรยี นท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
๑ สว่ นประกอบของอากาศ
๑ อากาศ เวลา ๓ ชว่ั โมง
ตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓
มข้อ ๑ แลว้ ครูแจง้ ว่าในชวั่ โมงถัดไปนักเรียนจะไดท้ ํา
ธีทาํ ข้อท่ี ๖-๗
ยใช้คําถามดงั น้ี
ประกอบของอากาศ (อากาศมีนา้ํ เปน็ สว่ นประกอบ)
ดว่าอากาศประกอบด้วยอะไรอีกบ้าง (นักเรียนตอบ
ยนทราบอีกครั้งว่า กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้รวบรวม
อบของอากาศ
กอบของอากาศมอี ะไรบ้าง ข้อ ๖-๗ หน้า ๖๑ จากน้ัน
าถามว่า กิจกรรมน้ีนักเรียนต้องทําอะไรบ้าง (อ่านใบ
ายเกี่ยวกับส่วนประกอบของอากาศ และนําข้อมูลมา
ยนอ่านใบความรู้เร่ืองส่วนประกอบของอากาศ หน้า
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาํ หรับครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาศาสตร์) ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ ประถม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ อากาศและการเกิดลม หนว่ ยย่อยท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
๑๗. หลังจากอ่านใบความรูแ้ ล้ว ครูให้นักเรียนร่วมกันอภปิ
๑๗.๑ อากาศแห้งมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (แก๊สไนโต
แก๊สอน่ื ๆ)
๑๗.๒ เรยี งลําดับชนิดของแก๊สในอากาศจากปริมาณม
ออกซิเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ และแก๊สอ
๑๗.๓ อากาศสว่ นใหญ่บนโลกเปน็ อากาศแบบใด (อา
๑๗.๔ ส่วนประกอบของอากาศช้ืนและอากาศแห้ง
อากาศชื้นและอากาศแห้งเหมือนกัน แต่แต
แต่อากาศแหง้ ไมม่ ไี อนํา้ )
๑๗.๕ อากาศในแต่ละบริเวณมีปริมาณไอนํ้าเท่าก
ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบริเ
น้อยกว่าบรเิ วณใกล้แหลง่ นาํ้ )
๑๘. ครูชักชวนนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือเชื่อมโยงผลก
โดยใชค้ าํ ถามดงั น้ี
๑๘.๑ เมื่อบรรจุอากาศเข้าไปในถุง ผูกปากถุงให้แน่น
ภายในถุงพลาสตกิ (มีนา้ํ )
๑๘.๒ น้ําท่พี บในถุงพลาสติกมาจากไหน (ไอน้าํ ในอาก
มศึกษาปีที่ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๔๕
๑ สว่ นประกอบของอากาศ เวลา ๓ ชวั่ โมง
๑ อากาศ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓
ตร์และเทคโนโลยี
ปราย โดยใช้แนวคาํ ถามดงั น้ี
ตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และ
มากที่สุดไปนอ้ ยทสี่ ุดได้อย่างไร (แก๊สไนโตรเจน แก๊ส
อืน่ ๆ)
ากาศสว่ นใหญเ่ ปน็ อากาศช้ืน)
งเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร (ส่วนประกอบของ
ตกต่างกันท่ี อากาศช้ืนจะมีไอนํ้าเป็นส่วนประกอบ
กันหรือไม่ อย่างไร (อากาศในแต่ละบริเวณมีไอน้ํา
เวณนั้น โดยบริเวณทะเลทรายจะมีปริมาณไอน้ํา
การทํากิจกรรมกับข้อมูลที่ได้จากการอ่านใบความรู้
น แล้วนําไปแช่ในกระติกนํ้าแข็ง พบว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น
กาศ)
๑๔๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑.๑
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ อากาศและการเกดิ ลม หนว่ ยย่อยท่ี ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสต
๑๘.๓ นํ้าท่ีพบในถงุ พลาสติกเกิดข้ึนได้อยา่ งไร (นักเร
ว่าเกิดจากไอน้ําในอากาศรวมตัวกันเป็นห
หยดนํ้า)
ครูเชื่อมโยงคําศัพท์ของนักเรียนกับคําศัพท์วิท
ภาษาวิทยาศาสตร์จะใช้คําว่า ควบแน่น จากน้ันคร
อากาศช้ืน เมื่อสัมผัสกับบริเวณที่เย็นกว่าหรือมีอุณห
บริเวณผิวของถุงพลาสติกที่นําไปแช่กระติกน้ําแข็ง ไอ
ภายในถุงพลาสตกิ ที่นาํ ไปแชก่ ระตกิ นํา้ แขง็
๑๙. ครูให้นักเรียนกลับไปทบทวนส่ิงที่ตนเองคิดไว้เก่ีย
หนา้ ๖๒ แลว้ แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง
๒๐. ครูให้นักเรียนนําข้อมูลเรื่องส่วนประกอบของอากาศม
ใบงาน ๐๑ สว่ นประกอบของอากาศ หนา้ ๖๕
ขน้ั สรปุ (๕ นาที)
๒๑. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสรุปสิ่งทไี่ ด้เรียนรูใ้ นชัว่ โมงนี้ด
๒๒. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่วนประกอบของอากาศ
รองลงมาเป็นแก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไ
แผนภูมิวงกลม