The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ม.6 เล่ม 2 (ปรับปรุง พ.ค.66)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by บุษราคัม ทองกุล, 2023-10-31 23:23:14

คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ม.6 เล่ม 2 (ปรับปรุง พ.ค.66)

คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ม.6 เล่ม 2 (ปรับปรุง พ.ค.66)

บทที่ 2 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงคุณภาพ 90 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 3) จากแผนภูมิรูปวงกลม สรุปไดวาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 เครื่องดื่มที่มียอดขาย มากที่สุดของรานคาแหงนี้คือ กาแฟ โดยขายได 6,000 แกว รองลงมาคือ โกโก โดยขายได 1,500 แกว และชาเขียวและน้ําผลไมปน โดยขายไดอยางละ 1,000 แกว และเครื่องดื่มที่มียอดขายนอยที่สุดคือ อิตาเลียนโซดา โดยขายไดเพียง 500 แกว 4. 1) มีผูสูงอายุที่ไมมีภาวะซึมเศรา 325 175 500 + = คน คิดเปนรอยละ 500 100 41.67 1,200 × ≈ ของผูสูงอายุที่สํารวจทั้งหมด 2) ผูสูงอายุเพศชายที่มีภาวะซึมเศราเล็กนอยถึงปานกลางคิดเปนรอยละ 250 100 20.83 1,200 × ≈ ของผูสูงอายุที่สํารวจทั้งหมด 3) ผูสูงอายุเพศหญิงที่มีภาวะซึมเศรารุนแรงคิดเปนรอยละ 125 100 20.83 600 × ≈ ของผูสูงอายุเพศหญิงที่สํารวจทั้งหมด 4) จากขอมูลสามารถเขียนแผนภูมิแทงพหุคูณไดดังนี้ 0 50 100 150 200 250 300 350 ชาย หญิง จํานวนผูสูงอายุ (คน) ไมมีภาวะซึมเศรา มีภาวะซึมเศรา มีภาวะซึมเศรา เล็กนอยถึง รุนแรง ปานกลาง


บทที่ 2 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 91 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5) มีผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด 700 คน คิดเป็นร้อยละ 700 100 58.33 1,200 ของผู้สูงอายุที่ส ารวจทั้งหมด และมีผู้สูงอายุเพศหญิงและ เพศชายที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด 425 และ 275 คน ตามล าดับ ดังนั้น ผู้สูงอายุเพศหญิงที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดคิดเป็นประมาณ 1.55 เท่าของ ผู้สูงอายุเพศชายที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด 5. 1) ในแต่ละสัปดาห์บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์B จากนิวซีแลนด์ 10 25 100,000 2,500 100 100 ผล 2) บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์A สัปดาห์ละ 10 35 100,000 100 100 20 25 35 40 100,000 100,000 22,500 100 100 100 100 ผล ดังนั้น บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์A ทั้งหมดเดือนละ 4 22,500 90,000 ผล 3) ในแต่ละสัปดาห์บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์D จากสหรัฐอเมริกา 20 35 100,000 7,000 100 100 ผล จากนิวซีแลนด์ 25 25 100,000 6,250 100 100 ผล ดังนั้น บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์D จากสหรัฐอเมริกามากกว่าน าเข้าแอปเปิลพันธุ์D จากนิวซีแลนด์ 7,000 6,250 750 ผล 4) ไม่สามารถสรุปได้เพราะจากแผนภูมิแท่งส่วนประกอบสามารถบอกได้แต่เพียงว่า บริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์A จากสาธารณรัฐประชาชนจีนร้อยละ 35 ของจ านวน แอปเปิลที่น าเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้งหมด และบริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์A จากนิวซีแลนด์ร้อยละ 20 ของจ านวนแอปเปิลที่น าเข้าจากนิวซีแลนด์ทั้งหมด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจ านวนแอปเปิลที่น าเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและ นิวซีแลนด์เป็นเท่าใด จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าบริษัทน าเข้าแอปเปิลพันธุ์ A จาก สาธารณรัฐประชาชนจีนมากหรือน้อยกว่าน าเข้าแอปเปิลพันธุ์A จากนิวซีแลนด์


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 92 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี บทที่ 3 การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ เนื้อหาในบทนี้ประกอบดวย การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณดวยตารางความถี่ การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณดวยแผนภาพ (ฮิสโทแกรม แผนภาพจุด แผนภาพ ลําตนและใบ แผนภาพกลอง และแผนภาพการกระจาย) และคาวัดทางสถิติ อันไดแก คากลางของขอมูล (คาเฉลี่ยเลขคณิต คาเฉลี่ยเลขคณิตถวงน้ําหนัก มัธยฐาน และฐานนิยม) คาวัดการกระจายสัมบูรณ (พิสัย พิสัยระหวางควอรไทล สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ความแปรปรวน) คาวัดการกระจายสัมพัทธ (สัมประสิทธิ์การแปรผัน) และคาวัดตําแหนงที่ ของขอมูล (ควอรไทลและเปอรเซ็นไทล) ในบทเรียนนี้มุงเนนใหนักเรียนบรรลุตัวชี้วัดตามสาระการเรียนรูแกนกลาง และบรรลุ จุดมุงหมายดังตอไปนี้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง ตัวชี้วัด • เขาใจและใชความรูทางสถิติในการ นําเสนอขอมูล และแปลความหมาย ของคาสถิติเพื่อประกอบการตัดสินใจ สาระการเรียนรูแกนกลาง • ตําแหนงที่ของขอมูล • คากลาง (ฐานนิยม มัธยฐาน คาเฉลี่ยเลขคณิต) • คาการกระจาย (พิสัย สวนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ความแปรปรวน) • การนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ • การแปลความหมายของคาสถิติ


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 93 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี จุดมุงหมาย 1. สามารถวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณดวยตารางความถี่และแผนภาพ (ฮิสโทแกรม แผนภาพจุด แผนภาพลําตนและใบ แผนภาพกลอง และแผนภาพ การกระจาย) พรอมทั้งสามารถสรุปผลที่ไดจากการนําเสนอขอมูลดวยตารางความถี่ และแผนภาพแบบตาง ๆ 2. หาคากลางของขอมูล (คาเฉลี่ยเลขคณิต คาเฉลี่ยเลขคณิตถวงน้ําหนัก มัธยฐาน และ ฐานนิยม) พรอมทั้งเลือกใชคากลางของขอมูลที่เหมาะสมเปนตัวแทนของขอมูลและ ใชคากลางของขอมูลในการแกปญหา 3. หาคาวัดการกระจายสัมบูรณ(พิสัย พิสัยระหวางควอรไทลสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และความแปรปรวน) และคาวัดการกระจายสัมพัทธ (สัมประสิทธิ์การแปรผัน) พรอมทั้งเลือกใชคาวัดการกระจายที่เหมาะสมในการอธิบายการกระจายของขอมูล และใชคาวัดการกระจายในการแกปญหา 4. หาคาวัดตําแหนงที่ของขอมูล(ควอรไทลและเปอรเซ็นไทล) พรอมทั้งใชคาวัดตําแหนง ที่ของขอมูลในการแกปญหา ความรูกอนหนา • ความหมายของสถิติศาสตรและขอมูล ipst.me/10678


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 94 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 3.1 เนื้อหาสาระ 1. การเขียนตารางความถี่สําหรับขอมูลเชิงปริมาณมี 2 แบบ ไดแก 1.1 ตารางความถี่แบบไมไดแบงขอมูลเปนชวง ซึ่งเหมาะสําหรับใชในกรณีที่คาที่เปนไปได ของขอมูลมีจํานวนนอย 1.2 ตารางความถี่แบบแบงขอมูลเปนชวง ซึ่งเหมาะสําหรับใชในกรณีที่คาที่เปนไปได ของขอมูลมีจํานวนมาก โดยแบงขอมูลที่เปนไปไดทั้งหมดออกเปนชวง ๆ และเรียก แตละชวงวา อันตรภาคชั้น 2. ฮิสโทแกรม เปนการนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณที่สรางจากตารางความถี่ โดยใช แทงสี่เหลี่ยมมุมฉากที่เรียงติดกันบนแกนนอน เมื่อแกนนอนแทนคาของขอมูล ความสูง ของแทงสี่เหลี่ยมมุมฉากจะแสดงความถี่ของขอมูล ซึ่งการแสดงความถี่ของขอมูลอาจ นําเสนอความถี่ของขอมูลเพียงคาเดียวหรือขอมูลในแตละอันตรภาคชั้น โดยความกวาง ของแทงสี่เหลี่ยมมุมฉากแตละแทงจะสอดคลองกับความกวางของแตละอันตรภาคชั้นของ ตารางความถี่ 3. แผนภาพจุด เปนการนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณโดยใชจุดหรือวงกลมเล็ก ๆ แทนขอมูล แตละตัว เขียนเรียงไวเหนือเสนในแนวนอนที่มีสเกล จุดหรือวงกลมเล็ก ๆ ดังกลาวจะ เรียงกันในแนวตั้งตรงกับตําแหนงซึ่งแสดงคาของขอมูลแตละตัว 4. แผนภาพลําตนและใบ เปนการนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณโดยใชแผนภาพที่มีการแสดง ขอมูลโดยเรียงลําดับจากนอยไปมากและแบงการแสดงขอมูลออกเปนสองสวนที่เรียกวา สวนลําตน และสวนใบ 5. แผนภาพกลอง เปนการนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณที่แสดงตําแหนงสําคัญของขอมูล ซึ่งประกอบดวยคาต่ําสุด คาสูงสุด และควอรไทล นอกจากนี้ แผนภาพกลองสามารถใช ในการตรวจสอบวามีขอมูลที่แตกตางไปจากขอมูลสวนใหญหรือไม โดยจะเรียกขอมูล ดังกลาววา คานอกเกณฑ 6. นอกจากแผนภาพกลองจะสามารถใชในการตรวจสอบวาชุดขอมูลมีคานอกเกณฑหรือไม ยังสามารถใชในการอธิบายลักษณะการกระจายของขอมูลไดอีกดวย การกระจายของ ขอมูลจะทําใหเห็นวาโดยภาพรวมแลว ขอมูลมีการเกาะกลุมกันหรือไมถาขอมูลมีการ


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 95 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระจายมาก แสดงวาขอมูลมีคาแตกตางกันมากหรือขอมูลไมเกาะกลุมกัน แตถาขอมูล มีการกระจายนอย แสดงวาขอมูลมีคาใกลเคียงกันมากหรือขอมูลเกาะกลุมกัน 7. แผนภาพการกระจาย คือแผนภาพที่เกิดจากการลงจุดที่แสดงคาของตัวแปรคูหนึ่ง รูปแบบการกระจายของจุดตาง ๆ ที่ปรากฏในแผนภาพจะแสดงถึงรูปแบบความสัมพันธ ระหวางสองตัวแปรนั้น 8. คาเฉลี่ยเลขคณิต เปนคาที่หาไดจากการหารผลรวมของขอมูลทั้งหมดดวยจํานวนขอมูลที่มี ให 123 ,,, , N xxx x แทนขอมูลเมื่อ N แทนขนาดประชากร คาเฉลี่ยเลขคณิตของประชากร เขียนแทนดวย µ (อานวา มิว) หาไดจาก 123 N xxx x N ++++ µ = ให 123 ,,, , n xxx x แทนขอมูล เมื่อ n แทนขนาดตัวอยาง คาเฉลี่ยเลขคณิตของตัวอยาง เขียนแทนดวย x (อานวา เอ็กซบาร) หาไดจาก 123 n xxx x x n ++++ = 9. คาเฉลี่ยเลขคณิตถวงน้ําหนักเหมาะสําหรับใชในกรณีที่ขอมูลแตละคามีความสําคัญไมเทากัน ให 123 ,,, , N xxx x แทนขอมูลเมื่อ N แทนขนาดประชากร และให 123 ,,,, www w N แทนน้ําหนักของขอมูล 123 ,,, , N xxx x ตามลําดับ จะได คาเฉลี่ยเลขคณิตถวงน้ําหนัก = 11 2 2 3 3 123 N N N wx wx wx w x www w + + ++ + + ++ = 1 1 N i i i N i i w x w = = ∑ ∑ หมายเหตุ ในกรณีที่เปนขอมูลของตัวอยาง สามารถหาคาเฉลี่ยเลขคณิตถวงน้ําหนัก ไดในทํานองเดียวกันกับสูตรขางตน โดยเปลี่ยน N เปน n เมื่อ N แทน ขนาดประชากร และ n แทนขนาดตัวอยาง


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 96 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 10. เมื่อนําขอมูลทั้งหมดมาเรียงลําดับจากนอยไปมากหรือจากมากไปนอย จะเรียกคาที่อยูใน ตําแหนงกึ่งกลางของขอมูลวา มัธยฐาน ถาขอมูลมี n ตัว การหามัธยฐานทําไดโดยเรียงลําดับขอมูลจากนอยไปมากหรือจาก มากไปนอย จะไดมัธยฐานอยูในตําแหนงที่ 1 2 n + นั่นคือ • ถา n เปนจํานวนคี่ มัธยฐานคือขอมูลที่อยูกึ่งกลาง • ถา n เปนจํานวนคู มัธยฐานคือคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลสองตัวที่อยูกึ่งกลาง 11. ฐานนิยม คือ ขอมูลที่มีจํานวนครั้งของการเกิดซ้ํากันมากที่สุดหรือขอมูลที่มีความถี่สูงสุด ที่มากกวา 1 12. ขอสังเกตที่สําคัญเกี่ยวกับคากลางชนิดตาง ๆ 12.1 ฐานนิยมจะมีคาตรงกับคาใดคาหนึ่งของขอมูลชุดนั้น ในขณะที่คาเฉลี่ยเลขคณิต และมัธยฐานอาจไมใชคาใดคาหนึ่งของขอมูลชุดนั้น 12.2 โดยปกติคาเฉลี่ยเลขคณิตมักเปนคากลางที่นิยมมากที่สุด แตถาชุดขอมูลมีขอมูล ที่แตกตางจากขอมูลตัวอื่นมากจะมีผลตอคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลชุดนี้ แตจะ ไมมีผลตอมัธยฐานและฐานนิยม 12.3 สําหรับขอมูลเชิงคุณภาพ จะสามารถหาคากลางไดเฉพาะฐานนิยมเทานั้น ไมสามารถหาคาเฉลี่ยเลขคณิตและมัธยฐานได 12.4 คาเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมไมจําเปนตองมีคาเทากัน ทั้งนี้ คาเฉลี่ย เลขคณิตและมัธยฐานจะมีคาที่ไมสูงหรือต่ําเกินไปเมื่อเทียบกับคาของขอมูลทั้งหมด ในขณะที่ฐานนิยมอาจเปนคาสูงสุดหรือคาต่ําสุดของชุดขอมูลนั้นได 13. การแบงลักษณะการกระจายของขอมูลโดยใชความสัมพันธของคาเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม สามารถแบงได 3 แบบ ดังนี้


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 97 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี การแจกแจงสมมาตร การแจกแจงเบขวา การแจกแจงเบซาย รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 ลักษณะการกระจายของขอมูลในรูปที่ 1 เรียกวา การแจกแจงสมมาตร และจากรูปที่ 1 จะไดความสัมพันธของคากลางของขอมูล ดังนี้ คาเฉลี่ยเลขคณิต = มัธยฐาน = ฐานนิยม ลักษณะการกระจายของขอมูลในรูปที่ 2 เรียกวา การแจกแจงเบขวา โดยมีความสัมพันธ ของคากลางของขอมูลดังนี้ ฐานนิยม < มัธยฐาน < คาเฉลี่ยเลขคณิต ลักษณะการกระจายของขอมูลในรูปที่ 3 เรียกวา การแจกแจงเบซาย โดยมีความสัมพันธ ของคากลางของขอมูลดังนี้ คาเฉลี่ยเลขคณิต < มัธยฐาน < ฐานนิยม 14. การวัดการกระจายของขอมูลแบงไดเปน 2 วิธี คือ 14.1 การกระจายสัมบูรณคือ การวัดการกระจายของขอมูลดวยคาวัดทางสถิติที่มีหนวย เชนเดียวกับขอมูลหรือเปนกําลังสองของหนวยของขอมูล เพื่อใชพิจารณาวาขอมูล แตละตัวมีความแตกตางกันมากหรือนอยเพียงใด ในที่นี้จะศึกษาคาวัดการกระจาย สัมบูรณ4 ชนิด คือ 1. พิสัย คือ คาที่ใชวัดการกระจายของขอมูลชุดหนึ่ง โดยคํานวณจากผลตาง ระหวางคาสูงสุดและคาต่ําสุดของขอมูลชุดนั้น กําหนดใหขอมูลชุดหนึ่งมี max x และ min x เปนคาสูงสุดและคาต่ําสุด ตามลําดับ


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 98 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี พิสัย = max min x x − 2. พิสัยระหวางควอรไทลคือ คาที่ใชวัดการกระจายของขอมูล โดยคํานวณจาก ผลตางระหวางควอรไทลที่ 3 และควอรไทลที่ 1 เขียนแทนพิสัยระหวาง ควอรไทลดวย IQR ให Q1 และ Q3 เปนควอรไทลที่ 1 และควอรไทลที่ 3 ของขอมูล ชุดหนึ่ง ตามลําดับ จะได 3 1 IQR = − Q Q 3. สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือ คาที่ใชวัดการกระจายของขอมูล โดยเปนคาที่ บอกใหทราบวาขอมูลแตละตัวอยูหางจากคาเฉลี่ยเลขคณิตโดยเฉลี่ยประมาณ เทาใด สูตรของสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีดังนี้ ให 123 ,,, , N xxx x แทนขอมูล เมื่อ N แทนขนาดประชากร และให µ แทนคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลชุดนี้ สวนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากร เขียนแทนดวย σ (อานวา ซิกมา) หาไดจาก ( ) 2 =1 − = ∑ N i i x N µ σ ให 123 ,,, , n xxx x แทนขอมูล เมื่อ n แทนขนาดตัวอยาง และให x แทนคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลชุดนี้ สวนเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวอยาง เขียนแทนดวย s หาไดจาก ( ) 2 1 1 = − = − ∑ n i i x x s n 4. ความแปรปรวน คือ คาที่ใชวัดการกระจายของขอมูล โดยคํานวณจาก กําลังสองของสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จะได สูตรของความแปรปรวน ดังนี้ ให 123 ,,, , N xxx x แทนขอมูล เมื่อ N แทนขนาดประชากร และให µ แทนคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลชุดนี้


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 99 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความแปรปรวนของประชากร หาได้จาก 2 2 1 N i i x N ให้ 1 2 3 , , , , n x x x x แทนข้อมูล เมื่อ n แทนขนาดตัวอย่าง และให้ x ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดนี้ ความแปรปรวนของตัวอย่าง หาได้จาก 2 2 1 1 n i i x x s n 14.2 การกระจายสัมพัทธ์คือ การวัดการกระจายของข้อมูลด้วยค่าวัดทางสถิติที่ไม่มีหน่วย ซึ่งเป็นค่าที่ใช้ในการเปรียบเทียบการกระจายระหว่างข้อมูลมากกว่า 1 ชุด ในที่นี้ จะศึกษาค่าวัดการกระจายสัมพัทธ์เพียงชนิดเดียวคือสัมประสิทธิ์การแปรผัน โดยมีสูตรดังนี้ สัมประสิทธิ์การแปรผันของประชากร เมื่อ 0 สัมประสิทธิ์การแปรผันของตัวอย่าง s x เมื่อ x 0 สัมประสิทธิ์การแปรผันอาจเขียนในรูปร้อยละ ได้ดังนี้ สัมประสิทธิ์การแปรผันของประชากร 100% เมื่อ 0 สัมประสิทธิ์การแปรผันของตัวอย่าง 100% s x เมื่อ x 0 15. การวัดต าแหน่งที่ของข้อมูลเป็นการพิจารณาต าแหน่งที่ของข้อมูลตัวหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบ กับข้อมูลตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในชุดข้อมูลเดียวกัน ค่าวัดต าแหน่งที่ของข้อมูลที่นิยมใช้กันมาก คือ ควอร์ไทล์และเปอร์เซ็นไทล์ 15.1 ควอร์ไทล์มีทั้งหมดสามค่า ได้แก่ควอร์ไทล์ที่ 1 Q1 ควอร์ไทล์ที่ 2 Q2 และ ควอไทล์ที่ 3 Q3 โดยควอร์ไทล์จะแบ่งข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปมากออกเป็น 4 ส่วน เท่าๆกัน ควอร์ไทล์ที่ i Qi เมื่อ i 1, 2, 3 เป็นค่าที่มีจ านวนข้อมูลที่มี


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ 100 คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค่าน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ i ส่วน และมีจ านวนข้อมูลที่มีค่ามากกว่าค่านี้อยู่ ประมาณ 4 i ส่วน ให้ n แทนจ านวนข้อมูลทั้งหมด และ i 1, 2, 3 การหาควอร์ไทล์ที่ i Qi ท าได้โดยเรียงล าดับข้อมูล n ตัว จากน้อยไปมาก จากนั้นจะได้ว่า Qi อยู่ใน ต าแหน่งที่ 1 4 i n 15.2 เปอร์เซ็นไทล์ประกอบด้วย เปอร์เซ็นไทล์ที่ 1, 2, 3, , 99 โดยเปอร์เซ็นไทล์ที่ i เมื่อ i 1, 2, 3, , 99 แทนด้วยสัญลักษณ์ Pi หมายความว่าเมื่อแบ่งข้อมูล ที่เรียงจากน้อยไปมากออกเป็น 100 ส่วน เท่า ๆ กัน เปอร์เซ็นไทล์ที่ i Pi เมื่อ i 1, 2, 3, , 99 จะเป็นค่าที่มีจ านวนข้อมูลที่มีค่าน้อยกว่าค่านี้อยู่ ประมาณ i ส่วน หรือร้อยละ i ของข้อมูลทั้งหมด และมีจ านวนข้อมูลที่มีค่า มากกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 100 i ส่วน หรือร้อยละ 100 i ของข้อมูลทั้งหมด ให้ n แทนจ านวนข้อมูลทั้งหมด และ i 1, 2, 3, , 99 การหาเปอร์เซ็นไทล์ ที่ i Pi ท าได้โดยเรียงล าดับข้อมูล n ตัว จากน้อยไปมาก จากนั้นจะได้ว่า Pi อยู่ในต าแหน่งที่ 1 100 i n


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 101 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 3.2 ขอเสนอแนะเกี่ยวกับการสอน การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณดวยตารางความถี่ ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับเนื้อหาและสิ่งที่ควรตระหนักเกี่ยวกับการสอน • โจทยเกี่ยวกับตารางความถี่ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษา ปที่ 6 เลม 2 ไดกําหนดจํานวนอันตรภาคชั้น คาเริ่มตนและคาสุดทายให ดังนั้น จึงแนะนําใหครูกําหนดคาดังกลาวใหนักเรียน ในกรณีที่ครูจัดทําตัวอยาง แบบฝกหัด เพิ่มเติม รวมทั้งขอสอบ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบคําตอบของนักเรียน เนื่องจากในหัวขอนี้มีวัตถุประสงคเพื่อใหนักเรียนเขาใจแนวคิดเกี่ยวกับการเขียนตาราง ความถี่และสามารถสรุปผลที่ไดจากการนําเสนอขอมูลตารางความถี่ ไมไดมุงเนนเกี่ยวกับ การเลือกจํานวนอันตรภาคชั้น คาเริ่มตนและคาสุดทาย • การกําหนดคาสุดทายของอันตรภาคชั้นสุดทายจะตองมากกวาหรือเทากับขอมูลทุกคา ในบางกรณีที่กําหนดคาสุดทายเปนคาสูงสุดของขอมูลอาจพบวาอันตรภาคชั้นสุดทาย ไมครอบคลุมขอมูลทั้งหมด เชน ขอมูลคะแนนสอบของนักเรียนหองหนึ่งมีคาต่ําสุด และคาสูงสุดเทากับ 0 และ 100 คะแนน ตามลําดับ ถากําหนดใหจํานวนอันตรภาคชั้น เทากับ 5 ชั้น คาเริ่มตนและคาสุดทายเทากับคาต่ําสุดและคาสูงสุดของขอมูลตามลําดับ จะได ความกวางของอันตรภาคชั้นเทากับ 100 0 20 5 − = และกําหนดอันตรภาคชั้นไดดังนี้ อันตรภาคชั้น คาเริ่มตน คาสุดทาย ชั้นที่ 1 0 0 20 1 19 + −= ชั้นที่ 2 20 20 20 1 39 + −= ชั้นที่ 3 40 40 20 1 59 + −= ชั้นที่ 4 60 60 20 1 79 + −= ชั้นที่ 5 80 80 20 1 99 + −=


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 102 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี จะเห็นวา 100 ไมอยูในอันตรภาคชั้นสุดทาย แสดงวาตองกําหนดคาสุดทายใหมใหเปน คาที่มากกวาคาสูงสุดของขอมูล เชน อาจกําหนดคาสุดทายเทากับ 101 คะแนน เนื่องจาก 101 0 20.2 5 − = จะไดความกวางของอันตรภาคชั้นเทากับ 21 และกําหนดอันตรภาคชั้น ไดดังนี้ อันตรภาคชั้น คาเริ่มตน คาสุดทาย ชั้นที่ 1 0 0 21 1 20 + −= ชั้นที่ 2 21 21 21 1 41 + −= ชั้นที่ 3 42 42 21 1 62 + −= ชั้นที่ 4 63 63 21 1 83 + −= ชั้นที่ 5 84 84 21 1 104 + −= จะเห็นวาอันตรภาคชั้นที่ไดครอบคลุมขอมูลทุกคา การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณดวยแผนภาพ ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับแบบฝกหัด แบบฝกหัด 3.2 10. คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 และ 6/2 แสดง ดวยแผนภาพกลองไดดังนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 60 67 75 88 100 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 103 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 5) กําหนดใหนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 และ 6/2 มีจํานวนเทากัน และ นักเรียนไดเกรด 4 ก็ตอเมื่อนักเรียนไดคะแนนตั้งแต 80 คะแนนขึ้นไป จงพิจารณาวาหองใดนาจะมีนักเรียนไดเกรด 4 มากกวากัน พรอมทั้งใหเหตุผล ประกอบ ครูอาจใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพิ่มเติมในประเด็นตอไปนี้ • เปนไปไดหรือไมที่นักเรียนทั้งสองหองจะมีจํานวนนักเรียนที่ไดเกรด 4 เทากัน เพราะเหตุใด แนวคําตอบ เปนไปได เชน ในกรณีที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 ที่ไดคะแนน นอยที่สุดแตมากกวา 75 คะแนน ไดคะแนนตั้งแต 80 คะแนนขึ้นไป และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 ที่ไดคะแนนมากที่สุดแต นอยกวา 85 คะแนน ไดคะแนนนอยกวา 80 คะแนน โดยในกรณีนี้ จะไดวานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 และ 6/2 ที่ไดเกรด 4 มีจํานวน ประมาณ 50% ของนักเรียนแตละหอง เนื่องจากควอรไทลที่ 2 ของ คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 และ 6/2 คือ 75 และ 85 คะแนน ตามลําดับ • เปนไปไดหรือไมที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 ที่ไดเกรด 4 มีจํานวนมากกวานักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 ที่ไดเกรด 4 เพราะเหตุใด แนวคําตอบ เปนไปไมได เนื่องจากจํานวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 ที่ไดเกรด 4 มีอยางมาก 50% ของนักเรียนทั้งหอง ในขณะที่จํานวนนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 ที่ไดเกรด 4 มีอยางนอย 50% ของนักเรียนทั้งหอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 64 77 85 91 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ 104 คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค่ากลางของข้อมูล ประเด็นส าคัญเกี่ยวกับเนื้อหาและสิ่งที่ควรตระหนักเกี่ยวกับการสอน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของประชากรและตัวอย่างต่างหาได้จากการหารผลรวมของข้อมูล ทั้งหมดด้วยจ านวนข้อมูลที่มีแต่จะใช้สัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน โดยใช้ แทนค่าเฉลี่ย เลขคณิตของประชากร และใช้ x แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิตของตัวอย่าง เพื่อให้ไม่เกิด ความสับสนเมื่อน าไปเขียนในสูตรของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากรและ ตัวอย่าง ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ าหนัก ถึงแม้ว่าเกรด (4, 3, 2, 1, 0) เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ แต่เป็นที่นิยมโดยทั่วไปให้สามารถ พิจารณาเป็นข้อมูลเชิงปริมาณและสามารถหาเกรดเฉลี่ย (grade point average: GPA) โดยใช้สูตรค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ าหนักได้ ดังในตัวอย่างที่ 12 และแบบฝึกหัดท้ายบท ข้อ 18 ฐานนิยม ในที่นี้จะพิจารณาเฉพาะชุดข้อมูลที่มีฐานนิยมเพียงค่าเดียว ในกรณีที่ครูจัดท าตัวอย่าง แบบฝึกหัดเพิ่มเติม รวมทั้งข้อสอบ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ชุดข้อมูลที่มีฐานนิยม หลายค่าหรือไม่มีฐานนิยม


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 105 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค่าวัดการกระจาย ประเด็นส าคัญเกี่ยวกับเนื้อหาและสิ่งที่ควรตระหนักเกี่ยวกับการสอน การวัดการกระจายสัมบูรณ์ ครูควรเน้นย้ าว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีหน่วยเหมือนกับหน่วยของข้อมูล แต่ ความแปรปรวนมีหน่วยเป็นก าลังสองของหน่วยของข้อมูล เช่น จากตัวอย่างที่ 20 ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 หน้า 143 – 144 จะได้ว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความสูงของนักวอลเลย์บอลหญิงจ านวน 10 คน มีค่าประมาณ 6.84 เซนติเมตร และความแปรปรวนของความสูงของนักวอลเลย์บอล หญิงจ านวน 10 คน มีค่าประมาณ 46.84 เซนติเมตร2 ในกรณีที่ข้อมูลมีหน่วยเป็นเซนติเมตร ความแปรปรวนจะมีหน่วยเป็น เซนติเมตร 2 อาจท าให้นักเรียนเกิดความสับสนว่าคือ ตารางเซนติเมตร ซึ่งไม่ถูกต้อง ครูควรแนะน าว่า ในที่นี้ เซนติเมตร2 อ่านว่า เซนติเมตรก าลังสอง เป็นคนละหน่วยกับตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็นหน่วยของพื้นที่ ความเข้าใจคลาดเคลื่อน การวัดการกระจายสัมบูรณ์ นักเรียนอาจเข้าใจว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นค่าเฉลี่ยของผลต่างของข้อมูล แต่ละตัวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิต ซึ่งไม่ถูกต้อง ครูควรเน้นย้ าว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นค่าที่บอกให้ทราบเพียงคร่าว ๆ ว่าข้อมูลแต่ละตัวอยู่ห่างจากค่าเฉลี่ยเลขคณิต โดยเฉลี่ยประมาณเท่าใด โดยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอาจไม่เท่ากับค่าเฉลี่ยของ ผลต่างของข้อมูลแต่ละตัวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิต กล่าวคือ


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ 106 คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 1 N i i x N อาจไม่เท่ากับ 1 N i i x N เมื่อ N แทนขนาดประชากร 1 2 3 , , , , N x x x x แทนข้อมูล และ แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิตของประชากร ในท านองเดียวกัน 2 1 1 n i i x x s n อาจไม่เท่ากับ 1 n i i x x n เมื่อ n แทนขนาดตัวอย่าง 1 2 3 , , , , n x x x x แทนข้อมูล และ x แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิตของตัวอย่าง ค่าวัดต าแหน่งที่ของข้อมูล ประเด็นส าคัญเกี่ยวกับเนื้อหาและสิ่งที่ควรตระหนักเกี่ยวกับการสอน หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6เล่ม 2 หน้า 153ได้น าเสนอ วิธีการหาควอร์ไทล์ดังนี้ ให้ n แทนจ านวนข้อมูลทั้งหมด และ i1, 2, 3 การหาควอร์ไทล์ที่ i Q i ท าได้โดยเรียงล าดับข้อมูล n ตัว จากน้อยไปมาก จากนั้นจะได้ว่า Qi อยู่ใน ต าแหน่งที่ 1 4 i n


บทที่ 3 | การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2 107 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้น าเสนอวิธีการหาเปอร์เซ็นไทล์ดังนี้ ให้ n แทน จ าน ว น ข้ อ มู ลทั้งห ม ด แ ล ะ i 1, 2, 3, , 99 ก า รห า เปอร์เซ็นไทล์ที่ i P i ท าได้โดยเรียงล าดับข้อมูล n ตัว จากน้อยไปมาก จากนั้น จะได้ว่า Pi อยู่ในต าแหน่งที่ 1 100 i n จากวิธีการหาควอร์ไทล์และเปอร์เซ็นไทล์ข้างต้น จะได้ว่า 1 25 2 50 Q P Q P , และ Q P 3 75 นอกจากวิธีการหาควอร์ไทล์ข้างต้น ยังอาจพบการหาควอร์ไทล์ด้วยวิธีอื่น เช่น จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 หน้า 219 ได้น า เสนอวิธีการหาควอร์ไทล์โดยใช้ความรู้เรื่องมัธยฐานของข้อมูล ซึ่งท าได้ดังนี้ 1. เรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก 2. หามัธยฐานของข้อมูล จะได้ควอร์ไทล์ที่ 2 1. 3. หามัธยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในล าดับที่ต่ ากว่าควอร์ไทล์ที่ 2 จะได้มัธยฐานดังกล่าวเป็นควอร์ไทล์ที่ 1 2. 4. หามัธยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในล าดับที่สูงกว่าควอร์ไทล์ที่ 2 จะได้มัธยฐานดังกล่าวเป็นควอร์ไทล์ที่ 3 ควอร์ไทล์ที่ได้จากวิธีข้างต้นอาจให้ค่าที่ไม่สอดคล้องกับเปอร์เซ็นไทล์ เนื่องจาก ควอร์ไทล์ที่ได้จากวิธีที่แตกต่างกันอาจให้ค่าที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ วิธีการหา ควอร์ไทล์ที่น าเสนอในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ยังเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ในโปรแกรม GeoGebra อีกด้วย ดังนั้น ในการหาควอร์ไทล์ ด้วยโปรแกรมต่าง ๆ นักเรียนจึงควรระมัดระวังว่าอาจได้ค่าที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่า ใช้วิธีการใด โดยในที่นี้ขอให้ค านวณโดยใช้วิธีการที่น าเสนอในหนังสือเรียนรายวิชา เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 2


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 108 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ครูอาจใหนักเรียนทบทวนความรูเรื่องคาวัดทางสถิติ โดยใหนักเรียนทํากิจกรรม “อุรังอุตัง” กิจกรรม : อุรังอุตัง คําชี้แจง อุรังและอุตังเปนพี่นองกัน อุรังตองการเดินทางไปหาอุตัง แตอุรังจําทางไมได อุตังจึงให แผนที่แสดงเสนทางเดินทางซึ่งมีปริศนาซอนอยูในแผนที่ ใหนักเรียนลากเสนทางเดินทาง ที่ใหผลลัพธที่ถูกตองจากอุรังไปหาอุตัง


กําหนดขอมูลของประชากรในแตละชุดดังตอไปนี้ แผชุด ก: 4, 6, 7, 7, 8, 10 ชุด ข : 4, 5, 6, 6, 6, 7, 8 ชุด ค : 5, 5, 6, 7, 7, 7, 7, 7, 8, 8, 10 3 7 8 มัธยฐานของ2 6 IQR ของชุด ข มัธยฐานของชุด ก 4 ของชุด 1.73 1.43 3 8 3.33 1.83 5 1.35 ของชุดพิสัยของชุด ข ของชุด ก ของชุด ข คาต่ําสุดของชุด ข ฐานนิยมของชุด ก ของชุด ข ของชุด ค ของชุด ข ของชุด ก


ผนที่แสดงเสนทางเดินทางจากอุรังไปหาอุตัง อุรัง พิสัยของชุด ค งชุด ข 5 8 8 ข 6 3.33 2 4 6 1.83 ด ค 7 พิสัยของชุด ก ของชุด ค ฐานนิยมของชุด ค ของชุด ข IQR ของชุด ค ของชุด ข คาต่ําสุดของชุด ก ของชุด ก อุตัง ของชุด ค


เฉลยกิจกรรม : อุรังอุตัง 3 7 8 มัธยฐานข2 6 IQR ของชุด ข มัธยฐานของชุด ก 4 ของช1.73 1.43 3 8 3.33 1.83 5 1.35 ของพิสัยของชุด ข ของชุด ก ของชุด ข คาต่ําสุดของชุด ข ฐานนิยมของชุด ก ของชุด ข ของชุด ค ของชุด ข ของชุด ก 4 2 7 7 1.83 7 7 6 4 1.43 6 1.35


อุรัง พิสัยของชุด ค ของชุด ข 5 8 8 ชุด ข 6 3.33 32 4 6 1.83 งชุด ค 7 พิสัยของชุด ก ของชุด ค ฐานนิยมของชุด ค ของชุด ข IQR ของชุด ค ของชุด ข คาต่ําสุดของชุด ก ของชุด ก อุตัง ของชุด ค 7 5 8 5 3.33 6 7 4 7 2 6 6


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 111 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี แนวทางการจัดกิจกรรม : อุรังอุตัง เวลาในการจัดกิจกรรม 30 นาที สื่อ/แหลงเรียนรู ใบกิจกรรม “อุรังอุตัง” ดาวนโหลดใบกิจกรรมสําหรับพิมพไดที่ ipst.me/11539 ขั้นตอนการดําเนินกิจกรรม 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 – 5 คน แบบคละความสามารถ จากนั้นแจก ใบกิจกรรม “อุรังอุตัง” กลุมละ 1 ใบ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมปฏิบัติตามคําชี้แจงในใบกิจกรรม ในระหวางที่นักเรียนทํา กิจกรรม ครูควรเดินดูนักเรียนใหทั่วถึงทุกกลุม เพื่อสังเกตการทํางานและฟงบทสนทนา ของนักเรียน 3. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 1 กลุม ออกมานําเสนอคําตอบ พรอมทั้งใหเหตุผลประกอบ คําตอบแตละขั้น และใหนักเรียนทั้งหองรวมกันอภิปราย เพื่อนําไปสูขอสรุปวาคําตอบ ใดถูกตอง โดยมีเหตุผลประกอบคําตอบที่สอดคลองกับเนื้อหาในหนังสือเรียน


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 112 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ครูอาจใหนักเรียนทบทวนความรูเรื่องการวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ โดยใหนักเรียน ทํากิจกรรม “ขอความที่ซอนอยู” กิจกรรม : ขอความที่ซอนอยู คําชี้แจง ตอนที่ 1 ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ตารางความถี่ตอไปนี้แสดงผลสํารวจจํานวนผูใชบริการโรงภาพยนตรแหงหนึ่งจําแนกตามอายุ อายุ (ป) จํานวนผูใชบริการ (คน) นอยกวา 12 50 12 – 17 650 18 – 24 12,560 25 – 34 8,720 35 – 49 5,838 50 – 60 2,554 มากกวา 60 110 ขอสรุปใดถูกตอง ก. มีผูใชบริการอายุ 12 – 24 ปจํานวน 12,210 คน รหัสคือ คุณปู ข. มีผูใชบริการทั้งหมด 31,483 คน รหัสคือ คุณยา ค. มีผูใชบริการอายุตั้งแต 35 ป ขึ้นไป จํานวน 8,502 คน รหัสคือ คุณตา ง. มีผูใชบริการอายุนอยกวา 50 ปจํานวน 27,829 คน รหัสคือ คุณยาย 2. คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนหองหนึ่ง จํานวน 40 คน โดยเรียงขอมูล จากนอยไปมาก แสดงไดดังนี้ 42 44 46 47 48 50 50 51 51 52 55 55 56 57 58 59 60 61 63 64 66 66 66 66 67 68 70 72 76 76 80 82 83 84 87 88 88 89 89 89 การนําเสนอขอมูลในขอใดถูกตอง


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 113 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ก. รหัสคือ อายุ 62 ป 4 2 4 6 7 8 5 0 0 1 1 5 5 6 7 8 9 6 0 1 3 6 6 6 6 7 8 7 0 2 6 8 1 2 3 4 7 8 8 9 9 ข. รหัสคือ อายุ 69 ป คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ค. รหัสคือ อายุ 73 ป 35 40 45 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 จํานวนนักเรียน (คน) คะแนน 0 41.5 49.5 57.5 65.5 73.5 81.5 89.5 10 8 6 4 2


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 114 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ง. รหัสคือ อายุ 75 ป คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร 3. กําหนดขอมูลชุดหนึ่งดังนี้ 1 2 2 3 3 3 3 4 4 4 5 5 5 5 5 5 5 5 6 6 7 8 9 ขอสรุปใดถูกตอง ก. ขอมูลชุดนี้ไมมีคานอกเกณฑ รหัสคือ วิ่งออกจากบาน ข. ขอมูลชุดนี้มีคานอกเกณฑ 1 คา รหัสคือ เดินออกจากบาน ค. ขอมูลชุดนี้มีคานอกเกณฑ 2 คา รหัสคือ นั่งรถรับจางออกจากบาน ง. ขอมูลชุดนี้มีคานอกเกณฑ 3 คา รหัสคือ ขับรถยนตออกจากบาน 4. ถาคาเฉลี่ยเลขคณิตของน้ําหนักของนักเรียน 3 คน คือ 57 กิโลกรัม และพิสัยระหวาง ควอรไทลของน้ําหนักของนักเรียนทั้งสามคนคือ 21 กิโลกรัม และนักเรียนที่มีน้ําหนัก มากที่สุดหนักกวานักเรียนที่มีน้ําหนักเทากับมัธยฐาน 18 กิโลกรัม จงหามัธยฐานของ น้ําหนักของนักเรียนทั้งสามคนนี้ ก. 45 กิโลกรัม รหัสคือ ตอน 7 โมงเชา ข. 49 กิโลกรัม รหัสคือ ตอน 10 โมงเชา ค. 52 กิโลกรัม รหัสคือ ตอน 5 โมงเย็น ง. 70 กิโลกรัม รหัสคือ ตอน 2 ทุม 40 45 50 55 60 65 70 75 80 85 90


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 115 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 5. โรงเรียนแหงหนึ่งกําหนดวานักเรียนจะไดเกรด 4 วิชาคณิตศาสตร ก็ตอเมื่อนักเรียน ไดคะแนนเฉลี่ยไมต่ํากวา 80 คะแนน โดยการสอบวิชาคณิตศาสตรของโรงเรียนแหงนี้ ประกอบดวยการสอบยอย 3 ครั้ง และสอบปลายภาค 1 ครั้ง คะแนนสอบยอย แตละครั้งคิดเปนรอยละ 20 ของคะแนนทั้งหมด และคะแนนสอบปลายภาคคิดเปน รอยละ 40 ของคะแนนทั้งหมด ถานักเรียนคนหนึ่งไดคะแนนสอบยอยทั้งสามครั้ง เปน 70, 80 และ 76 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน นักเรียนคนนี้จะตองได คะแนนสอบปลายภาคอยางนอยเทาใด จึงจะไดเกรด 4 ก. 84 คะแนน รหัสคือ ไปรานปานกปากซอย ข. 87 คะแนน รหัสคือ ไปรานลุงเปาทายซอย ค. 94 คะแนน รหัสคือ ไปรานยายหวีกลางซอย ง. 97 คะแนน รหัสคือ ไปรานตาสีหนาบาน 6. ขอสอบวิชาหนึ่งมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยคะแนนของผูเขาสอบ 19 คน แสดงได ดังนี้ 65 62 59 49 77 76 80 68 74 60 69 64 78 72 50 90 95 71 55 ถาเกณฑในการสอบผานคือตองไดคะแนนไมต่ํากวาเปอรเซ็นไทลที่ 75 แลวจะมี ผูสอบผานกี่คน ก. 3 คน รหัสคือ ซื้อปลานิล 2 ตัว ข. 4 คน รหัสคือ ซื้อหมูปง 7 ไม ค. 5 คน รหัสคือ ซื้อน้ําเตาหู 3 ถุง ง. 6 คน รหัสคือ ซื้อสม 1 กิโลกรัม ตอนที่ 2 ใหนักเรียนนํารหัสที่ไดจากการตอบคําถามในตอนที่ 1 มาเขียนเรียงเปนเรื่องราว ตามลําดับของรหัสที่ได ...................................................................................................................................... ......................................................................................................................................


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 116 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เฉลยกิจกรรม : ขอความที่ซอนอยู ตอนที่ 1 1. ค รหัสคือ คุณตา 2. ค รหัสคือ อายุ 73 ป 3. ข รหัสคือ เดินออกจากบาน 4. ค รหัสคือ ตอน 5 โมงเย็น 5. ข รหัสคือ ไปรานลุงเปาทายซอย 6. ค รหัสคือ ซื้อน้ําเตาหู 3 ถุง ตอนที่ 2 คุณตาอายุ 73 ป เดินออกจากบาน ตอน 5 โมงเย็น ไปรานลุงเปาทายซอย ซื้อน้ําเตาหู 3 ถุง


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 117 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี แนวทางการจัดกิจกรรม : ขอความที่ซอนอยู เวลาในการจัดกิจกรรม 30 นาที สื่อ/แหลงเรียนรู ใบกิจกรรม “ขอความที่ซอนอยู” ดาวนโหลดใบกิจกรรมสําหรับพิมพไดที่ ipst.me/11540 ขั้นตอนการดําเนินกิจกรรม 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 – 5 คน แบบคละความสามารถ จากนั้นแจก ใบกิจกรรม “ขอความที่ซอนอยู” กลุมละ 1 ใบ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมปฏิบัติตามคําชี้แจงในใบกิจกรรม ในระหวางที่นักเรียนทํา กิจกรรม ครูควรเดินดูนักเรียนใหทั่วถึงทุกกลุม เพื่อสังเกตการทํางานและฟงบทสนทนา ของนักเรียน 3. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 1 กลุม ออกมานําเสนอคําตอบ พรอมทั้งใหเหตุผลประกอบ คําตอบแตละขอ และใหนักเรียนทั้งหองรวมกันอภิปราย เพื่อนําไปสูขอสรุปวาคําตอบ ใดถูกตอง โดยมีเหตุผลประกอบคําตอบที่สอดคลองกับเนื้อหาในหนังสือเรียน


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 118 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ครูอาจใหนักเรียนทบทวนความรูเรื่องการวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ โดยใหนักเรียน ทํากิจกรรม “คะแนนสอบ” กิจกรรม : คะแนนสอบ คําชี้แจง 1. ใหนักเรียนตัดภาพที่ 1 – 3 ตามรอยประ จะไดทั้งหมด 12 ชิ้น 2. นํากระดาษแตละชิ้นที่ตัดไดในขอ 1 มาจัดเปนกลุม 4 กลุม กลุมละ 3 ชิ้น โดยแตละกลุม ประกอบดวยขอมูล แผนภาพ และขอสรุป ที่สอดคลองกัน คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 แสดงไดดังนี้ 48 50 55 57 60 62 63 65 66 67 67 68 68 68 70 71 71 72 72 73 73 74 75 75 81 82 85 87 89 90 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 แสดงไดดังนี้ 48 49 50 52 57 59 62 63 65 66 66 67 67 68 68 68 68 70 70 72 73 74 77 78 79 79 80 86 87 89 90 91 91 92 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/3 แสดงไดดังนี้ 48 48 50 52 53 57 57 57 63 65 66 66 67 68 68 68 68 70 71 72 72 72 73 73 74 74 74 75 75 75 83 84 84 86 87 88 88 90 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/4 แสดงไดดังนี้ 37 38 40 44 49 57 60 62 63 68 68 68 70 70 71 71 72 73 74 74 75 81 82 83 88 97 98 ภาพที่ 1


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 119 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ภาพที่ 2 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100 35 40 45 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 120 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ขอสรุป ขอสรุป • 1 Q = 65 • มัธยฐานคือ 70 คะแนน • 3 Q = 75 • 1 Q = 60 • ฐานนิยมคือ 68 คะแนน • 3 Q = 75 • มีคานอกเกณฑมากกวา 1 คา • มีคานอกเกณฑ2 คา ขอสรุป ขอสรุป • 3 Q = 75 • 1 Q = 65 • 3 1 Q Q− =10 • 2 Q = 70 • 2 Q = 72 • 3 1 Q Q− =15 • มีคานอกเกณฑ • พิสัยคือ 50 คะแนน ภาพที่ 3


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 121 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เฉลยกิจกรรม : คะแนนสอบ กลุมที่ 1 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 แสดงไดดังนี้ 48 50 55 57 60 62 63 65 66 67 67 68 68 68 70 71 71 72 72 73 73 74 75 75 81 82 85 87 89 90 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ขอสรุป • 1 Q = 65 • 3 Q = 75 • ฐานนิยมคือ 68 คะแนน • มีคานอกเกณฑมากกวา 1 คา 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 122 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กลุมที่ 2 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/2 แสดงไดดังนี้ 48 49 50 52 57 59 62 63 65 66 66 67 67 68 68 68 68 70 70 72 73 74 77 78 79 79 80 86 87 89 90 91 91 92 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ขอสรุป • 1 Q = 65 • 2 Q = 70 • 3 1 Q Q− =15 • พิสัยคือ 50 คะแนน 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 123 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กลุมที่ 3 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/3 แสดงไดดังนี้ 48 48 50 52 53 57 57 57 63 65 66 66 67 68 68 68 68 70 71 72 72 72 73 73 74 74 74 75 75 75 83 84 84 86 87 88 88 90 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ขอสรุป • 3 Q = 75 • 3 1 Q Q− =10 • 2 Q = 72 • มีคานอกเกณฑ 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 124 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กลุมที่ 4 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/4 แสดงไดดังนี้ 37 38 40 44 49 57 60 62 63 68 68 68 70 70 71 71 72 73 74 74 75 81 82 83 88 97 98 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร ขอสรุป • มัธยฐานคือ 70 คะแนน • 1 Q = 60 • 3 Q = 75 • มีคานอกเกณฑ2 คา 35 40 45 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 125 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี แนวทางการจัดกิจกรรม : คะแนนสอบ เวลาในการจัดกิจกรรม 30 นาที สื่อ/แหลงเรียนรู ใบกิจกรรม “คะแนนสอบ” ดาวนโหลดใบกิจกรรมสําหรับพิมพไดที่ ipst.me/11541 ขั้นตอนการดําเนินกิจกรรม 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 – 5 คน แบบคละความสามารถ จากนั้นแจก ใบกิจกรรม “คะแนนสอบ” กลุมละ 1 ใบ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมปฏิบัติตามคําชี้แจงในใบกิจกรรม ในระหวางที่นักเรียนทํา กิจกรรม ครูควรเดินดูนักเรียนใหทั่วถึงทุกกลุม เพื่อสังเกตการทํางานและฟงบทสนทนา ของนักเรียน 3. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 1 กลุม ออกมานําเสนอคําตอบ พรอมทั้งใหเหตุผลประกอบ คําตอบ และใหนักเรียนทั้งหองรวมกันอภิปราย เพื่อนําไปสูขอสรุปวาคําตอบใดถูกตอง โดยมีเหตุผลประกอบคําตอบที่สอดคลองกับเนื้อหาในหนังสือเรียน


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 126 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ครูอาจใหนักเรียนทบทวนความรูเรื่องการวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ โดยใหนักเรียน ทํากิจกรรม “ไททานิก” กิจกรรม : ไททานิก คําชี้แจง จงพิจารณาสถานการณตอไปนี้ โศกนาฏกรรมของเรืออารเอ็มเอสไททานิก (RMS Titanic) เปนความสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญของการเดินเรือ โดยเรือไดอับปางลงในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หลังจากชนกับภูเขาน้ําแข็ง สงผลใหมีผูเสียชีวิต 1,514 คน และมีผูรอดชีวิตเพียง 710 คน ฮิสโทแกรมและแผนภูมิแทงตอไปนี้แสดงความถี่ สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารที่รอดชีวิตและไมรอดชีวิตโดยแยกพิจารณาตามตัวแปร ตาง ๆ ไดแก เพศ อายุ การเดินทางคนเดียวหรือเดินทางกับผูอื่น ระดับชั้นโดยสาร และราคาคาโดยสาร จากขอมูลของผูโดยสารสวนหนึ่งจํานวน 711 คน ประกอบดวย ผูโดยสารที่รอดชีวิต 287 คน และผูโดยสารที่ไมรอดชีวิต 424 คน แผนภูมิแทงแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารแตละเพศที่รอดชีวิตและไมรอดชีวิต ความถี่สัมพัทธ 1 0.8 0.6 0.4 0.2 0 รอดชีวิต ไมรอดชีวิต 0.683 0.317 0.151 0.849 ชาย หญิง


ฮิสโทแกรมแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารในแตละชวงอายุที่รอดชีวิต ฮิสแผนภูมิแทงแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารที่เดินทางคนเดียว และเดินทางกับผูอื่นที่รอดชีวิตและไมรอดชีวิต แผ ความถี่สัมพัทธ 0.18 0.16 0.14 0.12 0.10 0.08 0.06 0.04 0.02 0 10 20 30 40 50 60 70 80 อายุ(ป) 0.094 0.038 0.118 0.024 0.136 0.132 0.139 0.105 0.063 0.056 0.049 0.003 0.021 0.021 คเดินทางคนเดียว เดินทางกับผูอื่น ความถี่สัมพัทธ 1 0.8 0.6 0.4 0.2 0 รอดชีวิต ไมรอดชีวิต 0.554 0.446 0.354 0.646 ค


สโทแกรมแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารในแตละชวงอายุที่ไมรอดชีวิต ผนภูมิแทงแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารในแตละระดับชั้นโดยสาร ที่รอดชีวิตและไมรอดชีวิต ความถี่สัมพัทธ 0.18 0.16 0.14 0.12 0.10 0.08 0.06 0.04 0.02 0 10 20 30 40 50 60 70 80 อายุ(ป) 0.031 0.026 0.123 0.021 0.177 0.160 0.130 0.092 0.071 0.059 0.042 0. 0. 009024 0.021 0.014 ความถี่สัมพัทธ 1 0.8 0.6 0.4 0.2 0 รอดชีวิต ไมรอดชีวิต 0.212 0.415 0.637 0.289 First class Second class Third class 0.296 0.151


ฮิสโทแกรมแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารในแตละชวงราคาคาโดยสาร ที่รอดชีวิต ฮิ สมมติวาสามารถนําขอมูลของผูโดยสาร 711 คนนี้ซึ่งประกอบดวยผูโดยสสรุปเกี่ยวกับผูโดยสารเรืออารเอ็มเอสไททานิกทั้งหมด ถา Master Robertและมีขอมูลวาเขาเปนเพศชาย มีอายุอยูในชวง [5, 10) ป เดินทางกับครอในชวง [130, 140) ปอนด จงพิจารณาวา Master Robert Douglas Spedขั้นตอนตอไปนี้ 1. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารเพศชายที่รอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสา2. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่มีอายุอยูในชวง [5, 10) ป ที่รอดชีวิ3. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่เดินทางกับผูอื่นที่รอดชีวิตตอจํานว4. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่อยูระดับชั้นโดยสาร First class ที่รความถี่สัมพัทธ 0.05 0.04 0.03 0.02 0.01 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 220 240 260 ราคา คาโดยสาร (ปอนด) 0.1640.230 0.178 0.084 0.014 0.077 0.021 0.056 0.038 0.024 0.007 0.014 0.017 0.014 0.010 0.003 0.014 0.014 0.007 0.010 0.003 คว00000


ฮิสโทแกรมแสดงความถี่สัมพัทธของจํานวนผูโดยสารในแตละชวงราคาคาโดยสาร ที่ไมรอดชีวิต สารที่รอดชีวิต 287 คน และผูโดยสารที่ไมรอดชีวิต 424 คน มาใช t Douglas Spedden เปนหนึ่งในผูโดยสารเรืออารเอ็มเอสไททานิก อบครัวในระดับชั้นโดยสาร First class และมีราคาคาโดยสารอยู dden มีโอกาสรอดชีวิตหรือไมรอดชีวิตมากกวากัน โดยทําตาม ารที่รอดชีวิตทั้งหมด วิตตอจํานวนผูโดยสารที่รอดชีวิตทั้งหมด นผูโดยสารที่รอดชีวิตทั้งหมด รอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสารที่รอดชีวิตทั้งหมด 0.446 0.210 0.151 0.075 0.024 0.021 0.009 0.028 0.005 0.002 0.005 0.005 0.002 0.007 0.002 0.002 0.005 วามถี่สัมพัทธ 0.05 0.04 0.03 0.02 0.01 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 220 240 260 ราคา คาโดยสาร (ปอนด)


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 129 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 5. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่มีราคาคาโดยสารอยูในชวง [130, 140) ปอนด ที่รอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสารที่รอดชีวิตทั้งหมด 6. จงหาผลคูณของคาที่ไดในขอ 1 – 5 คูณดวยสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่รอดชีวิตตอ จํานวนผูโดยสารทั้งหมด 7. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารเพศชายที่ไมรอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสารที่ไมรอดชีวิต ทั้งหมด 8. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่มีอายุอยูในชวง [5, 10) ป ที่ไมรอดชีวิตตอจํานวน ผูโดยสารที่ไมรอดชีวิตทั้งหมด 9. จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่เดินทางกับผูอื่นที่ไมรอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสารที่ไม รอดชีวิตทั้งหมด 10.จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่อยูระดับชั้นโดยสาร First class ที่ไมรอดชีวิตตอ จํานวนผูโดยสารที่ไมรอดชีวิตทั้งหมด 11.จงหาสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่มีราคาคาโดยสารอยูในชวง [130, 140) ปอนด ที่ไมรอดชีวิตตอจํานวนผูโดยสารที่ไมรอดชีวิตทั้งหมด 12.จงหาผลคูณของคาที่ไดในขอ 7 – 11 คูณดวยสัดสวนของจํานวนผูโดยสารที่ไมรอดชีวิตตอ จํานวนผูโดยสารทั้งหมด 13.จงใชคาที่ไดในขอ 6 และ 12 ในการพิจารณาวา Master Robert Douglas Spedden มีโอกาสรอดชีวิตหรือไมรอดชีวิตมากกวากัน โดยวิธีการดังนี้ • ถาคาที่ไดในขอ 6 มากกวาคาที่ไดในขอ 12 แสดงวา Master Robert Douglas Spedden มีโอกาสรอดชีวิตมากกวา • ถาคาที่ไดในขอ 12 มากกวาคาที่ไดในขอ 6 แสดงวา Master Robert Douglas Spedden มีโอกาสไมรอดชีวิตมากกวา


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 130 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เฉลยกิจกรรม : ไททานิก 1. 0.317 2. 0.038 3. 0.554 4. 0.415 5. 0.017 6. ( )( )( )( )( ) 287 0.317 0.038 0.554 0.415 0.017 711       ซึ่งมีคาประมาณ 0.000019 7. 0.849 8. 0.026 9. 0.354 10. 0.151 11. 0.002 12. ( )( )( )( )( ) 424 0.849 0.026 0.354 0.151 0.002 711       ซึ่งมีคาประมาณ 0.000001 13. เนื่องจากคาที่ไดในขอ 6 มีคาประมาณ 0.000019 และคาที่ไดในขอ 12 มีคาประมาณ 0.000001 ดังนั้น Master Robert Douglas Spedden มีโอกาสรอดชีวิตมากกวา


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 131 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี แนวทางการจัดกิจกรรม : ไททานิก เวลาในการจัดกิจกรรม 50 นาที สื่อ/แหลงเรียนรู ใบกิจกรรม “ไททานิก” ดาวนโหลดใบกิจกรรมสําหรับพิมพไดที่ ipst.me/11542 ขั้นตอนการดําเนินกิจกรรม 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 – 5 คน แบบคละความสามารถ จากนั้นแจก ใบกิจกรรม “ไททานิก” แลวใหนักเรียนศึกษาสถานการณปญหา 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมหาคําตอบของคําถามทุกขอใหเสร็จสิ้นภายในเวลาที่กําหนด ในระหวางที่นักเรียนทํากิจกรรม ครูควรเดินดูนักเรียนใหทั่วถึงทุกกลุมและคอยชี้แนะ 3. ครูเลือกกลุมนักเรียนเพื่อนําเสนอคําตอบของคําถามแตละขอ พรอมทั้งใหเหตุผล ประกอบคําตอบ และใหนักเรียนทั้งหองรวมกันอภิปราย เพื่อนําไปสูขอสรุปวาคําตอบใด ถูกตอง โดยมีเหตุผลประกอบคําตอบที่สอดคลองกับเนื้อหาในหนังสือเรียน 4. ครูอาจมีคําถามทิ้งทายใหนักเรียนกลับไปคิดเพิ่มเติมวา ถามีขอมูลของผูโดยสารเรือ อารเอ็มเอสไททานิกคนอื่น นักเรียนจะมีแนวทางอยางไรในการพิจารณาวาผูโดยสาร คนนั้นมีโอกาสรอดชีวิตหรือไมรอดชีวิตมากกวากัน โดยครูอาจยกตัวอยางขอมูลจริง เชน • Emma Eliza Bucknell เปนเพศหญิง มีอายุอยูในชวง [55, 60) ป เดินทางคนเดียว ในระดับชั้นโดยสาร First class และมีราคาคาโดยสารอยูในชวง [70, 80) ปอนด • Dimitrios M. Chronopoulos เปนเพศชาย มีอายุอยูในชวง [15, 20) ป เดินทางกับ พี่ชายในระดับชั้นโดยสาร Third class และมีราคาคาโดยสารอยูในชวง [10, 20) ปอนด


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 132 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 3.3 แนวทางการจัดกิจกรรมในหนังสือเรียน กิจกรรม : ความลาชาของเที่ยวบิน สายการบินแหงหนึ่งตองการปรับปรุงการใหบริการของเที่ยวบินจากขอนแกนไป กรุงเทพฯ จึงไดเก็บขอมูลระยะเวลาที่เที่ยวบินลาชา (นาที) ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ถึงเดือนกุมภาพันธ พ.ศ. 2561 จํานวนทั้งหมด 170 เที่ยวบิน แสดงไดดังนี้ นักเรียนสามารถคัดลอกชุดขอมูลนี้ไดที่ ipst.me/10680


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 133 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ขั้นตอนการปฏิบัติ 1. เขียนตารางความถี่ของขอมูลชุดนี้ 2. นําเสนอขอมูลชุดนี้ดวยรูปแบบการนําเสนอที่คิดวาเหมาะสม พรอมทั้งใหเหตุผล ประกอบ 3. หาคาเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมของขอมูลชุดนี้ และพิจารณาวาควรใชคากลางใด เปนตัวแทนของขอมูลชุดนี้ พรอมทั้งใหเหตุผลประกอบ 4. หาพิสัย พิสัยระหวางควอรไทลสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และความแปรปรวนของขอมูล ชุดนี้ พรอมทั้งอธิบายความหมายของคาที่คํานวณได 5. หาควอรไทลที่ 1 ควอรไทลที่ 2 และควอรไทลที่ 3 ของขอมูลชุดนี้ 6. หาคานอกเกณฑของขอมูลชุดนี้ 7. ถาตัดคานอกเกณฑออกจากขอมูลชุดนี้ จงหาคาเฉลี่ยเลขคณิตของขอมูลที่เหลือ 8. แทนคานอกเกณฑของขอมูลชุดนี้ดวยคาเฉลี่ยเลขคณิตที่หาไดในขอ 7 แลวพิจารณาวา 8.1 คากลางใดไดรับผลกระทบจากการแทนขอมูลดังกลาวมากที่สุด เพราะเหตุใด 8.2 คาวัดการกระจายใดไดรับผลกระทบจากการแทนขอมูลดังกลาวมากที่สุด เพราะเหตุใด 8.3 ควอรไทลที่ 1 ควอรไทลที่ 2 และควอรไทลที่ 3 ไดรับผลกระทบจากการแทนขอมูล ดังกลาวหรือไม เพราะเหตุใด


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ 134 คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เฉลยกิจกรรม : ความลาชาของเที่ยวบิน 1. เขียนตารางความถี่ดังนี้ 1. กําหนดจํานวนอันตรภาคชั้นทั้งหมด 12 ชั้น หมายเหตุ นักเรียนสามารถกําหนดจํานวนอันตรภาคชั้นแตกตางไปจากนี้ 2. เนื่องจากขอมูลมีคาต่ําสุดคือ 1 นาที และคาสูงสุดคือ 165 นาที จึงกําหนดคาเริ่มตน คือ 1 นาที และคาสุดทายคือ 165 นาที หมายเหตุ นักเรียนสามารถกําหนดคาเริ่มตนคือคาที่นอยกวาคาต่ําสุดของขอมูล และคาสุดทายคือคาที่มากกวาคาสูงสุดของขอมูล 3. คํานวณความกวางของอันตรภาคชั้น ไดดังนี้ คาสุดทาย – คาเริ่มตน จํานวนอันตรภาคชั้น 165 1 13.67 12 − = ≈ ดังนั้น ความกวางของอันตรภาคชั้นคือ 14 นาที 4. กําหนดอันตรภาคชั้น ไดดังนี้ อันตรภาคชั้น คาเริ่มตน คาสุดทาย ชั้นที่ 1 1 1 14 1 14 + −= ชั้นที่ 2 15 15 14 1 28 + −= ชั้นที่ 3 29 29 14 1 42 + −= ชั้นที่ 4 43 43 14 1 56 + −= ชั้นที่ 5 57 57 14 1 70 + −= ชั้นที่ 6 71 71 14 1 84 + −= ชั้นที่ 7 85 85 14 1 98 + −= ชั้นที่ 8 99 99 14 1 112 + −= ชั้นที่ 9 113 113 14 1 126 + −= ชั้นที่ 10 127 127 14 1 140 + −=


บทที่ 3 | การวิเคราะหและนําเสนอขอมูลเชิงปริมาณ คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 2 135 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี อันตรภาคชั้น คาเริ่มตน คาสุดทาย ชั้นที่ 11 141 141 14 1 154 + −= ชั้นที่ 12 155 155 14 1 168 + −= 5. เขียนตารางความถี่ ไดดังนี้ อันตรภาคชั้น ความถี่ 1 14 − 101 15 28 − 56 29 42 − 9 43 56 − 1 57 70 − 0 71 84 − 0 85 98 − 1 99 112 − 0 113 126 − 0 127 140 − 1 141 154 − 0 155 168 − 1 2. คําตอบมีไดหลากหลาย เชน นําเสนอขอมูลดวยฮิสโทแกรม เนื่องจากเหมาะสําหรับกรณีที่ขอมูลมีจํานวนมาก ชวยใหเห็นภาพรวมและลักษณะการกระจายของขอมูล และสามารถสรางไดงาย โดยเริ่มจากการหาขอบบนของชั้นและขอบลางของชั้นของแตละอันตรภาคชั้นของ ตารางความถี่ในขอ 1 ดังนี้


Click to View FlipBook Version