The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nmatroeng1, 2022-05-21 10:06:05

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

1. เลข
2. ที่
3.
4.
5.
6
7.
8.
9.
10.

ชื่อ-สกลุ

1. การเล่นอย่างปลอดภัยด้วยตนเอง ด้าน
ร่างกาย
2. การว่ิงหลบหลีกสิ่งกดี ขวาง
ดา้ นอารมณแ์ ละจิตใจ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ หน่วยการจดั ประส
3. การพดู แสดงออกต่อหนา้ กลุม่ หรือ ประเ
ห้องเรยี นอย่างเหมาะสมบางสถานการณ์ ด้านสังคม

4. การสรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือสือ่ สาร
ความคดิ ความร้สู กึ ของตนเองต่อผู้อ่ืน

5. การแสดงท่าทาง/เคล่อื นไหวประกอบเพลง
จังหวะ และดนตรี

6. การทา้ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายจนสา้ เร็จเม่อื
มีผู้ช้แี นะ

7. การใชส้ ิ่งของเครื่องใชอ้ ยา่ งประหยัดและ
พอเพยี งเมือ่ มผี ชู้ แี้ นะ

8. การมีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติและ สบการณ์ท่ี 16 ดิน หิน ทราย ชั้นอนบุ าลปที ่ี 2
ส่ิงแวดลอ้ มเม่อื มีผชู้ ้แี นะ เมนิ พฒั นาการ

9. การเล่าเร่อื งเป็นประโยคอย่างต่อเน่อื ง ม ดา้ นสติปญั ญา

10. การบอกลกั ษณะสว่ นประกอบของสิ่ง
ต่างๆ จากการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั

11. การจับคูห่ รือเปรยี บเทียบความแตกต่าง
หรือความเหมือนของ ดิน หิน ทราย

12. การจ้าแนกและจดั กลุม่ รายละเอียดภาพ
ดินหินทราย
13. การเรียงล้าดบั เหตุการณอ์ ย่างนอ้ ย 4
ลา้ ดบั
14. การคาดเดาหรือคาดคะเนส่งิ ที่อาจจะ
เกดิ ขึน้ และมีส่วนร่วมในการลงความเหน็ จาก
ข้อมลู

15. การกระตอื รือร้นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม

16. การคน้ หาค้าตอบขอ้ สงสัยตา่ ง ๆตาม
วธิ ีการของตนเอง

หมายเหตุ

๑1. เลข
๑2. ท่ี
๑3.
๑4. ชื่อ-สกลุ
๑5.
๑6
๑7.
๑8.
๑9.
๒0.

คาอธบิ าย

ระดบั ๓ ดี ครูสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ รายบุคคล จดบนั ทึกสรปุ เปน็ รายสปั ดาหร์ ะบ 1. การเล่นอย่างปลอดภัยด้วยตนเอง ด้าน
ร่างกาย
2. การว่ิงหลบหลีกสิ่งกดี ขวาง
ระดบั ๒ พอใช้ ดา้ นอารมณ์และจติ ใจ
3. การพดู แสดงออกต่อหนา้ กลุม่ หรือ
ห้องเรยี นอย่างเหมาะสมบางสถานการณ์ ประเ

4. การสรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือสือ่ สาร ด้านสังคม
ความคดิ ความรสู้ กึ ของตนเองต่อผู้อ่ืน

5. การแสดงท่าทาง/เคล่อื นไหวประกอบเพลง
จังหวะ และดนตรี

6. การทา้ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายจนสา้ เร็จเม่อื
มีผู้ช้แี นะ

7. การใชส้ ิ่งของเครื่องใชอ้ ยา่ งประหยัดและ
พอเพยี งเมือ่ มผี ชู้ แี้ นะ

บุระดบั คุณภาพเป็น ๓ ระดับ คอื 8. การมีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติและ เมนิ พัฒนาการ
ระดับ ๑ ควรสง่ เสริม ส่ิงแวดลอ้ มเม่อื มีผชู้ ้แี นะ

9. การเล่าเร่อื งเป็นประโยคอย่างต่อเน่อื ง
ดา้ นสติปญั ญา
10. การบอกลกั ษณะสว่ นประกอบของสิ่ง
ต่างๆ จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั

11. การจับคูห่ รือเปรยี บเทียบความแตกต่าง
หรือความเหมือนของ ดิน หิน ทราย

12. การจ้าแนกและจดั กลุม่ รายละเอียดภาพ
ดินหินทราย
13. การเรียงลา้ ดบั เหตุการณอ์ ย่างนอ้ ย 4
ลา้ ดบั
14. การคาดเดาหรือคาดคะเนส่งิ ที่อาจจะ
เกดิ ขึน้ และมีส่วนร่วมในการลงความเหน็ จาก
ข้อมลู

15. การกระตอื รือร้นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม

16. การคน้ หาค้าตอบขอ้ สงสัยตา่ ง ๆตาม
วธิ ีการของตนเอง

หมายเหตุ

หน่วยท่ี 17 สตั ว์นา่ รกั

นางสาวนันทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาชั้นอนบุ าล ๒

โรงเรียนบ้านทา่ เยย่ี มวิทยายล

สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต ๗
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน

การวิเคราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจัดประสบการณ์ ต

หน่วยที่ ๑๗ สตั วน์ ่ารกั ชนั้ อน

รายการ อนบุ าลปีท่ี๑ อ
สาระทีค่ วรเรยี นรู้ สตั วป์ ีก
๑. ลักษณะของสัตวป์ ีก สัตวน์ ้า
๒. สตั ว์ปีกและแมลงท่ีพบบ่อย ๑. ลกั ษณะของสตั ว์นา้
๒.๑ ไก่ ๒. ประเภทของสตั ว์ ส
๒.๒ นก และขนาดแตกต่างกนั
๒.๓ ผเี สือ้ ๓. สัตวแ์ ตล่ ะชนดิ มธี ร
๒.๔ แมลงปอ กัน
๓. การจบั คู่ภาพเหมือน ๔. การปอ้ งกนั อันตรา
๕. ความเมตตากรณุ า

๖. การสังเกต จบั คู่เป
จัดกลมุ่ สตั ว์

มาตรฐาน มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3
ตวั บ่งช้ี มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.๓) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1
สภาพทพี่ ึงประสงค์
ตบช. 2.2 (2.2.๓) ตบช. 2.2 (2.2
มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) มฐ ๓ ตบช ๓.๒ (๓.๒
มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑
ตบช ๔.๑ (๔.๑.๓) มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒
มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒.1) มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.๓
มฐ 7 ตบช 7.๑ (7.๑
มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.2.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓
มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1
มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒)
มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1)

ตบช. 9.๒ (9.๒.1)

ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐

นบุ าลปที ี่ 1 – 3 ภาคเรียนท่ี 1

อนุบาลปีท๒ี่ อนบุ าลปที ๓่ี

สัตว์เล้ียง

า ๑. ลกั ษณะของสตั ว์เลย้ี ง

สัตว์แตล่ ะชนดิ มรี ปู รา่ ง ลักษณะ ๒. ประเภทของสัตว์ สตั ว์แต่ละชนิดมีรูปรา่ ง

น ลกั ษณะ และขนาดแตกตา่ งกนั

รรมชาติความเปน็ อยูท่ ่ีแตกต่าง ๓. อาหาร ท่อี ยู่ของสัตว์ และชว่ งอายขุ องสตั ว์

๔. การป้องกนั อนั ตรายและความปลอดภัยจากสตั ว์

ายและความปลอดภยั จากสตั ว์ ๕. ประโยชน์ของสตั วต์ อ่ มนุษย์

า ตอ่ สตั ว์ ๖. ความเมตตากรณุ า ต่อสตั ว์

ปรยี บเทียบ จาแนก ๗. การจับค่ภู าพเหมอื น เกมโดมิโน การจบั คู่ภาพ
กบั สัญลกั ษณ์ การจบั ค่ภู าพกบั จานวน

3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1)
1.๓) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.๓)
2.๑) ตบช. 2.2 (2.2.๑)
๒.๒) มฐ ๓ ตบช ๓.๒ (๓.๒.๒)
๑.๓) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑)
๒.๑) มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒.๑)
๓.๑) มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.๓.๑)
๑.๑) มฐ 7 ตบช 7.๑ (7.๑.๑)
๓.๒) มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒)
1.๒) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.๒)

มฐ 1๐ ตบช. 10.1(10.1.๒) ตบช. 9.๒ (9.๒
มฐ 10 ตบช. 10.1(1

ตบช. 10.1(1

ประสบการณ์สาคัญ ร่างกาย รา่ งกาย

1.1.1 (2) การเคล่อื นไหวเคลอ่ื นท่ี ๑.๑.๑ (๑) การเคล่อื

1.1.2 (2) การเขียนภาพและการ (๒) การเคลอ่ื

เลน่ กับสี (๓) การเคลอื่

(3) การป้นั (๔) การเคล่อื

(5) การฉีก ปะ ของการใชก้ ลา้ มเนอ้ื ให

๑.๑.๔ (๓) การเลน่ เครื่องเล่นอยา่ ง (๕) การเล่นเค

ปลอดภยั ๑.๑.๒ (๒) การเขยี นภ

(๓) การป้นั

(๔) การประดษิ

(๕) การหยบิ จ

การตัด การปะ และร้อ

๑.๑.๔ (๑) การปฏบิ ตั

ชวี ติ ประจาวนั

(๓) การเลน่ เค

๑.๑.๕ (๑) การเคลือ่ น

ทศิ ทาง ระดับ และพน้ื

(๒) การเคล่ือน

๑.๒.๒ (๑) การเลน่ อสิ

(๓) การเลน่ ตา

(๔) การเลน่ นอ

๒.๑) ตบช. 9.๒ (9.๒.๑)
10.1.๒) มฐ 10 ตบช. 10.1(10.1.๒)
10.1.๓)
ตบช. 10.1(10.1.๓)
มฐ ๑๒ ตบช. ๑๒.๒(๑๒.๒.๑)

อนไหวอยกู่ ับท่ี ร่างกาย
อนไหวเคลอ่ื นที่ ๑.๑.๑ (๑) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่
อนไหวพรอ้ มอปุ กรณ์
อนไหวทใี่ ช้การประสานสัมพันธ์ (๒) การเคลื่อนไหวเคลอื่ นที่
หญใ่ นการจบั การโยน (๓) การเคล่ือนไหวพร้อมอปุ กรณ์
ครอื่ งเล่นสนามอยา่ งอสิ ระ (๔) การเคลอ่ื นไหวที่ใชก้ ารประสานสมั พนั ธ์
ภาพและการเลน่ กับสี ของการใช้กล้ามเนอื้ ใหญใ่ นการจบั การโยน
(๕) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามอยา่ งอิสระ
ษฐส์ ่ิงตา่ งๆด้วยเศษวสั ดุ ๑.๑.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี
จบั การใช้กรรไกร การฉกี (๓) การปัน้
อยวสั ดุ (๔) การประดษิ ฐส์ ่งิ ต่างๆดว้ ยเศษวัสดุ
ติตนให้ปลอดภยั ใน (๕) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉกี
การตดั การปะ และร้อยวสั ดุ
ครือ่ งเล่นอยา่ งปลอดภยั ๑.๑.๔ (๑) การปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั ใน
นไหวโดยควบคมุ ตนเองไปใน ชวี ิตประจาวนั
นที่ (๓) การเลน่ เครอื่ งเลน่ อยา่ งปลอดภัย
นไหวขา้ มสิง่ กีดขวาง ๑.๒.๒ (๑) การเลน่ อสิ ระ
สระ (๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
ามมมุ ประสบการณ์ (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน
อกหอ้ งเรียน

อารมณ์ อารมณ์
1.2.4 (๒) การเล่นบทบาทสมมติ ๑.๒.๓ (๒) การฟังนิท
(ท่าทางสตั ว์) ๑.๒.๔ (๑) การพดู สะ
ผอู้ ่นื
(5) การทางานศิลปะ
(๒) การเล่นบท
สงั คม (๓) การเคลอื่ น
๑.๒.๑ (๓) การเคลอื่ นไหวตาม (๔) การเล่นบท
เสียงเพลงและดนตรี (๕) การทางาน
1.๒.3 (๒) การฟงั นิทานเกยี่ วกบั ๑.๓.๒ (๓) การทางาน
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม หรอื สง่ิ ของเครื่องใช้ที่ใ
1.3.4 (2) การปฏิบัตติ นเปน็ (๕) การเลย้ี งสตั
สมาชิกท่ดี ขี องหอ้ งเรียน สังคม
๑.๒.๒ (๒) การเล่นรา
กลมุ่ ยอ่ ย กลมุ่ ใหญ่
(๓) การเลน่ ตา

๑.๓.๒ (๑) การมีสว่ นร
ส่ิงแวดล้อมภายในและ
หอ้ งเรยี น

(๒) การใช้วสั ด
ค้มุ ค่า

(๕) การเลี้ยงส
๑.๓.๓ (๑) การเลน่ บท
ความเปน็ ไทย

(๕) การละเลน่
๑.๓.๔ (๒) การปฏิบตั

อารมณ์

ทานเกีย่ วกับคณุ ธรรม จริยธรรม ๑.๒.๓ (๒) การฟงั นิทานเกีย่ วกบั คณุ ธรรม

ะท้อนความรสู้ ึกของตนเองและ จรยิ ธรรม

๑.๒.๔ (๑) การพดู สะทอ้ นความรสู้ กึ ของตนเองและ

ทบาทสมมติ ผ้อู ืน่

นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (๓) การเคลือ่ นไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี

ทบาทสมมติ (๔) การเลน่ บทบาทสมมติ

นศลิ ปะ

นศลิ ปะที่นาวัสดุ

ใชแ้ ลว้ มาใช้ซ้าหรแื ปรรปู ใหม่

ตว์

สังคม

ายบุคคล ๑.๒.๒ (๑) การเลน่ อิสระ

(๒) การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่

ามมมุ ประสบการณ์ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์

(๔) การเลน่ นอกห้องเรียน

รว่ มรบั ผดิ ชอบดแู ลรักษา ๑.๓.๒ (๑) การมีสว่ นร่วมรบั ผิดชอบดแู ลรกั ษา

ะภายนอกและภายนอก ส่ิงแวดล้อมภายในและภายนอกและภายนอก

หอ้ งเรยี น

ดแุ ละสง่ิ ของเครื่องใช้อยา่ ง (๒) การใช้วัสดแุ ละสง่ิ ของเคร่ืองใช้อยา่ ง

คุม้ ค่า

สัตว์ (๓) การทางานศลิ ปะที่นาวัสดุ

ทบาทสมมติ การปฏิบัตติ นใน หรอื ส่ิงของเคร่ืองใช้ทใ่ี ช้แล้วมาใช้ซ้าหรอื แปรรูป

ใหม่

นพื้นบ้านของไทย (๕) การเลย้ี งสตั ว์

ติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรยี น ๑.๓.๓ (๑) การเลน่ บทบาทสมมติ การปฏบิ ัติตนใน

(๓) การใหค้ วา
ตา่ งๆ

สตปิ ัญญา สติปัญญา
1.4.1 (2) การฟงั และปฏิบตั ิตาม ๑.๔.๑ (๒) การฟงั และ
คาแนะนา
(๓) การฟังเพล
(๕) การพดู เรื่องราว (๔) การพูดแส
เกย่ี วกับตนเอง ความต้องการ
(๕) การพดู กบั
(8) การรอจงั หวะท่ี ตนเอง หรอื พดู เล่าเรอ่ื
เหมาะสมในการพูด (๑๐) การอ่าน
ร่วมกัน การอ่านโดยม
(12) การเหน็ แบบอยา่ ง (๑๒) การเห็นแ
ของการอ่านทถี่ ูกตอ้ ง (๑๓) การสังเก
1.4.2 (1) การสังเกตลักษณะส่ิง และข้อความ
ตา่ งๆโดยใช้ประสาทสัมผัสอยา่ ง (๑๔) การอา่ น
เหมาะสม ตามบรรทัดจากซ้ายไป
(๑๗) การคาด
(๕) การคดั แยก การจัด นิทาน
กลมุ่ และการจาแนกส่ิงต่างๆ ตาม 1.4.2 (๑) การสงั เกต
ลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง เปลย่ี นแปลงและความ
ประสาทสัมผัสอยา่ งเห
(๑๓) การเปรยี บเทยี บสิง่ (๕) การคัดแย
ตา่ งๆตามลักษณะ ขนาดใหญ-่ เล็ก
ความสงู - ตา่

ามรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติกิจกรรม ความเป็นไทย
(๕) การละเลน่ พนื้ บา้ นของไทย
ะปฏิบัตติ ามคาแนะนา
ลง นทิ าน หรอื เร่อื งราวตา่ ง ๆ ๑.๓.๔ (๒) การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ทด่ี ีของ
สดงความคดิ เห็นความรสู้ กึ และ ห้องเรียน

บผู้อ่นื เกีย่ วกับประสบการณ์ของ (๓) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัติ
องราวเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ กรรมตา่ งๆ
นอยา่ งอิสระตามลาพงั การอ่าน สตปิ ญั ญา
มผี ้ชู ้แี นะ 1.4.1(๒) การฟังและปฏบิ ัติตามคาแนะนา
แบบอยา่ งของการอ่านท่ถี ูกต้อง
กตทศิ ทางการอา่ นตัวอักษร คา (๓) การฟังเพลง นิทาน หรือเรือ่ งราวตา่ ง ๆ
(๔) การพดู แสดงความคิดเห็นความรู้สึกและ
นและชข้ี ้อความโดยกวาดสายตา ความต้องการ
ปขวา จากบนลงล่าง (๕) การพูดกบั ผ้อู ื่นเก่ยี วกบั ประสบการณ์
ดเดา คาวลีหรือประโยคจาก ของตนเอง หรอื พดู เล่าเรอ่ื งราวเกี่ยวกับตนเอง
(๑๐) การอ่านอย่างอสิ ระตามลาพงั การอ่าน
ตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ รว่ มกัน การอา่ นโดยมีผู้ชแ้ี นะ
มสัมพันธ์ของสง่ิ ต่างๆโดยใช้ (๑๓) การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตวั อักษร คา
หมาะสม และขอ้ ความ
ยก การจัดกลุม่ และการจาแนก (๑๔) การอ่านและชข้ี อ้ ความโดยกวาด
สายตาตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา จากบนลงลา่ ง
(๑๗) การคาดเดา คาวลีหรอื ประโยคจาก
นทิ าน
1.4.2 (๑) การสังเกตลักษณะส่วนประกอบ การ
เปลยี่ นแปลงและความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ต่างๆโดยใช้
ประสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม

(๕) การคัดแยก การจัดกล่มุ และการจาแนก

สงิ่ ต่างๆ ตามลกั ษณะแ
(๖) การต่อขอ

สมบูรณแ์ ละการแยกช
(๘) การนบั แล

ชวี ิตประจาวนั
(๑๓) การจบั คู่

เรยี งลาดบั ส่งิ ตา่ ง ๆ ต

คณิตศาสตร์ ๑. การนบั ๑. การนับ
วทิ ยาศาสตร์
๑.๑ การนบั ปากเปลา่ 1 – 5 ๑.๑ การนบั ปากเป

๑.๒ การนบั และแสดงจานวน ๓ ๑.๒ การนับและแส

๓. การเปรยี บเทียบขนาดใหญ่-เลก็ ๒. เปรียบเทียบ จาแน

๑. ทักษะการสังเกต ๑. ทักษะการสงั เกต
๒. ทักษะการเปรยี บเทยี บ ๒. การส้ารวจ

พัฒนาการทางภาษา ๑. การฟงั และปฏิบัติตาม ๑ การฟังและปฏิบัติต
และการร้หู นังสือ คา้ แนะนา้
๒. การฟงั เพลงนิทานค้าคล้องจอง ๒. การอ่านหนังสอื ภา
๓. การอ่านหนังสือภาพ ๓. การเหน็ แบบอยา่ งก
๔. การรอจงั หวะทเี่ หม
๕ รจู้ ักส่วนประกอบห

และรปู รา่ ง รูปทรง สง่ิ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะและรูปร่าง รูปทรง
องชิ้นเลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญ่ให้ (๖) การตอ่ ของช้ินเลก็ เตมิ ในช้นิ ใหญ่ให้
ชิน้ ส่วน
ละแสดงจานวนของสิ่งตา่ ง ๆ ใน สมบูรณ์
(๘) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ต่าง ๆ ใน
การเปรยี บเทียบและการ
ตามลกั ษณะความยาว/ความสูง ชวี ิตประจาวนั
(๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและการ

เรียงลาดับสิ่งตา่ งๆตามลกั ษณะ ความยาว ความสงู
น้าหนัก ปรมิ าตร
1.4.4 (๑) การสารวจส่งิ ตา่ ง ๆ และแหล่งเรียนรู้
รอบตวั

(๒) การต้ังคาถามในเร่อื งทส่ี นใจ

ปลา่ 1 – ๑๐ ๑. การนบั
สดงจานวน ๑ - ๕ ๑.๑ การนบั ปากเปล่า 1 – ๒๐
นกจดั กล่มุ สตั ว์ ๑.๒ การนบั และแสดงจานวน ๑ - ๙

๒. เปรยี บเทียบ จาแนกจัดกลมุ่ สัตว์

๑. ทกั ษะการสังเกต
๒. การสา้ รวจ

ตามค้าแนะนา้ ๑ การฟังและปฏบิ ตั ิตามค้าแนะน้า

าพ นทิ าน ๒. การคาดคะเน เรือ่ งจากปกหนงั สือ
การอ่านท่ถี ูกต้อง ๓. การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน
มาะสมในการพดู ๔. การเหน็ แบบอย่างการอ่านที่ถกู ตอ้ ง
หนังสือ ปกหนา้ ปกใน ชอ่ื ผแู้ ต่ง ๕. การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพดู

๔. การพูดเร่อื งราวเก่ยี วกบั ตนเอง ผวู้ าดภาพ เน้อื เร่ือง
๖ การเตมิ คาดว้ ยปาก
๗. การเห็นแบบอย่างก

กเปล่าเม่ืออ่านถงึ คาท่พี บบอ่ ย ๖. รูจ้ กั สว่ นประกอบหนังสือ ปกหน้า ปกใน ชือ่ ผู้
การเขยี นท่ถี กู ตอ้ ง แตง่ ผู้วาดภาพ เน้อื เรอ่ื ง
๗. การเติมคาดว้ ยปากเปลา่ เมือ่ อา่ นถงึ คาทพ่ี บบ่อย
๘. การเห็นแบบอย่างการเขียนทีถ่ กู ต้อง

หนว่ ยการจัดประสบการณ์ สปั ดาหท์ ่ี ๑
แนวคิด

เด็กทุกคนควรรจู้ ักชื่อและลกั ษณะของสตั ว์ท่ีอยใู่ กลต้ ัวสัตวม์ ีหลายชนดิ เชน่ ส
สตั วม์ ปี ระโยชน์และอาจมโี ทษจงึ ต้องร้จู ักระมดั ระวังตนเองให้ปลอดภัยจากสัต

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวยั จ

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์
มาตรฐานที่ ๑
รา่ งกายเจริญเตบิ โตตาม ๑.๓ รักษาความ ๑.๓.๑ เลน่ และทากิจกรรม ๑. เลน่ ท
วยั และมสี ุขนิสยั ทีด่ ี
ปลอดภยั ของตนเองและ อย่างปลอดภัยด้วยตนเอง ปลอดภยั ด

ผอู้ ื่น

มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคลอ่ื นไหวร่างกาย ๒.๑.๓ วงิ่ หลบหลกี ส่งิ กีด ๒. เคลือ่ น
กลา้ มเน้อื ใหญแ่ ละ อย่างคล่องแคล่วประสาน ขวางได้ กจิ กรรมต
กล้ามเนอื้ เล็กแขง็ แรง สัมพันธแ์ ละทรงตัวได้ คล่องแคล
ใช้ได้อยา่ งคล่องแคลว่ และทรงต
และประสานสมั พนั ธ์กัน

๑๗ หนว่ ย สตั ว์น่ารัก ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๒

สตั วป์ ีก สตั ว์น้า สตั ว์บก และมรี ูปร่าง ลักษณะ แตกตา่ งกนั
ตว์เหลา่ นน้ั เราควรรกั และความเมตตาสัตว์

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้
ทากจิ กรรมอย่าง
ดว้ ยตนเอง ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

นไหวร่างกายใน ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภยั สตั วน์ ้า
ตา่ งๆอยา่ ง
ลว่ ประสานสมั พนั ธ์ (๑) การปฏิบัติตนให้ปลอดภยั ใน ๑. ลกั ษณะของสัตวน์ า้
ตวั ได้
ชวี ติ ประจาวัน ๒. ประเภทของสตั ว์ สตั วแ์ ต่

(๓) การเลน่ เครือ่ งเลน่ อยา่ งปลอดภยั ละชนิดมีรปู ร่าง ลักษณะ

๑.๒.๒ การเลน่ และขนาดแตกตา่ งกัน

(๑) การเลน่ อิสระ ๓. สัตว์แตล่ ะชนิดยอ่ มมี

(๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ ธรรมชาตคิ วามเป็นอยู่ท่ี

(๔) การเลน่ นอกห้องเรยี น แตกตา่ งกัน

๑.๑.๑ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ ๔. การป้องกนั อันตรายและ

(๑) การเคลื่อนไหวอยู่กับท่ี ความปลอดภยั จากสัตว์

(๒) การเคลื่อนไหวเคลอื่ นที่ ๕. ความเมตตากรณุ าตอ่ สตั ว์

(๓) การเคลอ่ื นไหวพร้อมอุปกรณ์ ๖. การสงั เกต จบั คู่

(๔) การเคลอื่ นไหวท่ใี ชก้ ารประสาน เปรยี บเทียบ จาแนก

สัมพันธข์ องการใช้กลา้ มเนอ้ื ใหญ่ใน จัดกลุม่ สัตว์

การจบั การโยน

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จ

มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์

๒.๒ ใชม้ อื - ตาประสาน ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตัด ๓. ทากิจ
สมั พนั ธก์ ัน กระดาษตามแนวเส้นตรง กระดาษ
ได้

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
ประสบการณส์ าคัญ
(๕) การเลน่ เครื่องเลน่ สนามอย่าง
อสิ ระ
๑.๑.๕ การตระหนกั รู้เกีย่ วกับร่างกาย
ตนเอง
(๑) การเคล่ือนไหวโดยควบคมุ ตนเอง
ไปในทิศทาง ระดับ และพน้ื ที่
(๒) การเคลอ่ื นไหวขา้ มสิ่งกีดขวาง
๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ติ ามวฒั นธรรม
ทอ้ งถิน่ และความเปน็ ไทย
(๑) การเลน่ บทบาทสมมติ การปฏิบตั ิ
ตนในความเปน็ ไทย
(๕) การละเล่นพน้ื บ้านของไทย

จกรรมศลิ ปะ จาก ๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนื้อเล็ก
ษ ดนิ และเศษวัสดุได้ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี

(๓) การปน้ั
(๔) การประดษิ ฐ์ส่งิ ตา่ งๆดว้ ยเศษวัสดุ

(๕) การหยิบจบั การใช้กรรไกร การฉีก
การตดั การปะ และ ร้อยวัสดุ

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จ

มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๔.แสดงอ
ของตนได
มาตรฐานที่ 3 ๓.๒ มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ีตอ่ ๓.๒.๒แสดงความพอใจใน สถานกา
มีสขุ ภาพจติ ดแี ละมี
ความสุข ตนเองและผอู้ ่นื ผลงานและความสามารถ

ของตนเอง

มาตรฐานที่ ๔ ๔.๑ สนใจมคี วามสุขและ 4.1.3 สนใจมีความสุข ๕. ร่วมก
แสดงทา่ ทาง เคล่ือนไหว เคลื่อนไห
ชืน่ ชมและแสดงออกทาง แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ประกอบเพลง จงั หวะและ จงั หวะแ
ดนตรี
ศลิ ปะ ดนตรีและการ ดนตรี และการเคลื่อนไหว

เคลอื่ นไหว

มาตรฐานที่ ๕ ๕.๒ มีความเมตตากรณุ ามี ๕.๒.๑ แสดงความรกั และมี ๖. แสดง

มคี ุณธรรมจริยธรรมและ นา้ ใจและช่วยเหลือแบ่งปัน เมตตาสัตว์เลีย้ ง และมเี มต

จติ ใจทีด่ ีงาม เหมาะสม

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรยี นรู้

อารมณค์ วามรู้สกึ ประสบการณส์ าคัญ
ด้เหมาะสมตาม
ารณ์ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
(๑) การพดู สะท้อนความรู้สึกของ
ตนเองและผอู้ นื่
(๒)การเลน่ บทบาทสมมติ
(๓) การเคลือ่ นไหวตามเสยี งเพลง/

ดนตรี

กิจกรรมการ (๕) การทางานศิลปะ
หวประกอบเพลง ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
และดนตรีได้ (๓) การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลงและ
ดนตรี
(๔) การเล่นบทบาทสมมติ

งความรกั ต่อผอู้ ื่น การดแู ลรักษาธรรมชาติและ
ตตาตอ่ สตั ว์อย่าง สิง่ แวดลอ้ ม
ม (๓)การทางานศลิ ปะที่นาวสั ดุ
หรือสิง่ ของเคร่ืองใช้ทีใ่ ชแ้ ล้วมาใชซ้ า้
หรืแปรรปู ใหม่
(๕) การเลี้ยงสตั ว์

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวยั จ

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๗. ใช้ส่ิง
มาตรฐานที่ ๖ ประหยัด
มีทักษะชวี ติ และปรัชญา ๖.๓ ประหยัดและพอเพยี ง ๖.๓.๑ ใช้สิง่ ของเครือ่ งใช้ ผูช้ ้แี นะไ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
อยา่ งประหยัดและพอเพียง

เมื่อมผี ้ชู แี้ นะ

มาตรฐานที่ ๗ ๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติ ๗.๑.๑ มสี ่วนรว่ มดูแล ๘. มีส่วน
รกั ษาธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาต
รกั ธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อม และส่งิ แวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ มเมื่อมผี ู้ชีแ้ นะ ดว้ ยตนเอ

วัฒนธรรมและความเป็น

ไทย

มาตรฐานท่ี ๘ ๘.๓ ปฏบิ ัติตนเบอ้ื งตนใน ๘.๓.๒ ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้นา ๙. ปฏิบตั
และผตู้ ามไดด้ ว้ ยตนเอง ตามในก
อยูร่ ่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ยา่ งมี การเปน็ สมาชิกท่ดี ีของ และจงั ห

ความสขุ และปฏบิ ตั ิตน สงั คม

เป็นสมาชกิ ทีด่ ีของสงั คม

ในระบอบประชาธปิ ไตย

อนั มีพระมหากษตั รยิ ์

ทรงเป็นประมขุ

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้
ประสบการณส์ าคัญ
งของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ ง ๑.๓.๒ (๒) การใชว้ สั ดุและสิ่งของ
ดและพอเพียงเมื่อมี เคร่ืองใช้อยา่ งคุ้มคา่
ได้อย่างเหมาะสม

นรว่ มดูแลรกั ษา ๑.๓.๒ การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสง่
ติและสิ่งแวดล้อม แวดล้อม
อง (๑) การมสี ว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดแู ล
รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มภายในและภายนอก
และภายนอกห้องเรียน
(๕) การเลยี้ งสตั ว์

ติตนเปน็ ผูน้ าและผู้ ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มวี ินัยมสี ่วน
กจิ กรรมเคล่ือนไหว ร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
หวะได้ดว้ ยตนเอง (๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของ
ห้องเรียน
(๓) การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบัติ
กิจกรรมตา่ งๆ

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย

มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์
มาตรฐานท่ี ๙
ใชภ้ าษาส่อื สารได้ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและ ๙.๑.๒ เล่าเรอื่ งเปน็ ประโยค ๑๐. เล่า
เหมาะสมกบั วัย
เล่าเรอ่ื งใหผ้ ู้อื่นเข้าใจ อยา่ งต่อเนอื่ ง อย่างตอ่

๙.๒ อ่าน เขียน ภาพและ ๙.๒.๑ อ่านภาพและพดู ๑๑. อ่า
สญั ลกั ษณไ์ ด้ ขอ้ ความดว้ ยภาษาของตน ดว้ ยภาษ
เขา้ ใจได

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้

าเรอื่ งเปน็ ประโยค ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้
อเนื่องให้ผูอ้ ่นื เขา้ ใจได้
๑.๔.๑ การใชภ้ าษา

(๒) การฟังและปฏบิ ตั ิตาม

คาแนะนา

(๓) การฟังเพลง นิทาน

คาคล้องจองหรือเรอื่ งราวตา่ ง ๆ

(๔) การพูดแสดงความคิด

ความรสู้ กึ ความตอ้ งการ

านภาพและพูดเรอ่ื งราว (๑๐) การอา่ นหนงั สอื ภาพและ
ษาของตนให้ผู้อื่น นิทานหลากหลายประเภทรปู แบบ
ด้ (๑๒) การเห็นแบบอยา่ งของการ

อา่ นทถี่ ูกตอ้ ง

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย

มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์
มาตรฐานท่ี ๑๐
มคี วามสามารถในการ ๑๐.๑ มคี วามสามารถใน ๑๐.๑.๑ บอกลักษณะ ๑๒.บอก
คิดท่ีเป็นพ้นื ฐานในการ
เรียนรู้ การคดิ รวบยอด ส่วนประกอบ การ ความสมั

เปล่ียนแปลงหรอื ความสัมพันธ์ การสงั เก

ของสงิ่ ตา่ งๆจากการสังเกตโดย

ใช้ประสาทสัมผัส

๑๐.๑.๒ จับค่หู รอื เปรียบเทยี บ ๑๓. จับ
สิ่งตา่ ง ๆ โดยใชล้ ักษณะหรอื ตา่ ง ๆ
หน้าทก่ี ารใช้งานเพยี งลกั ษณะ
เดียว

๑๐.๑.๓ จาแนกและจดั กลุ่ม ๑๔.จาแ
ส่งิ ตา่ งๆโดยใช้อย่างน้อยหน่ึง นา้ ได้
ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กลักษณะสตั ว์นา้ ทม่ี ี ประสบการณ์สาคัญ
มพันธ์กบั จานวนจาก ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ
กตได้ เหตุผล การตัดสินใจและแก้ปญั หา
(๑) การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ
บคู่หรอื เปรียบเทียบสง่ิ การเปลีย่ นแปลงและความสัมพันธข์ อง
ส่งิ ตา่ งๆโดยใช้ประสาทสมั ผัสอยา่ ง
แนกและจดั กลุ่มสตั ว์ เหมาะสม
(๕) การคัดแยก การจัดกลุม่ และการ
จาแนกสิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะและ
รปู ร่าง รูปทรง
(๖) การตอ่ ของชน้ิ เล็กเติมในชน้ิ ใหญใ่ ห้
สมบรู ณ์และการแยกช้ินสว่ น
(๘) การนบั และแสดงจานวนของส่ิง
ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั
(๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ
การเรยี งลาดับสงิ่ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะ
ความยาว/ความสูง

การวางแผนกจิ กรรมรายหนว่ ยการจดั ประสบ

วันที่ เคลื่อนไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสรา้ งส
๑.ปั้นดินเหนียวเป็น
การเคลือ่ นไหวเคลือ่ นท่ี พัฒนาการทางภาษาและการรู้

ประกอบ หนงั สือ ตา่ งๆ

1 เพลง สตั วบ์ ก สตั วน์ า้ ๑. คาดคะเนจากปกนิทานเรอื่ ง ๒.การวาดภาพ ระบ
อะไรอยใู่ นน้า สเี ทยี น

๒. ลักษณะของสตั ว์น้า ประเภท ๑. วาดภาพ ระบาย
ของสัตว์ สัตว์แต่ละชนดิ

การเคลอ่ื นไหวร่างกาย พฒั นาการทางภาษาและการรู้

ไปในทิศทาง ระดับ หนงั สอื เทยี น

2 และพน้ื ทอ่ี ยา่ งอสิ ระ ๑. แนะนาองค์ประกอบของ ๒. พมิ พภ์ าพจากน
หนงั สอื และฝกึ การต้งั คาถาม

จากนทิ านเรื่อง อะไรอยใู่ นน้า

๒. ความแตกต่างกันของสัตว์น้า

การเคลอื่ นไหวเคลอื่ นท่ี พฒั นาการทางภาษาและการรู้ ๑.พมิ พ์ภาพจากนวิ้

เชิงสร้างสรรค์ประกอบ หนังสือ ๒.ทาภาพสัตวด์ ว้ ยก

อุปกรณ์ หว่ งโซ่ ๑. กิจกรรมอา่ นร่วมกนั และเตมิ คา ตดั ปะ

3 พลาสตกิ ปากเปล่าจากหนงั สือนทิ านเร่ือง

อะไรอย่ใู นน้า

๒. การป้องกันอันตรายและความ

บการณ์ ชนั้ อนุบาลปีที่ ๒ หนว่ ยสัตว์นา่ รกั

กจิ กรรม

สรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา
เกมภาพตดั ตอ่ สตั ว์น้า
นสัตว์ แนะนาหนงั สือเรอ่ื ง เล่นเครอ่ื งเล่นสนาม

อะไรอย่ใู นนา้ และ

บายสีดว้ ย หนังสือเก่ยี วกบั สัตวน์ ้า

ยสดี ว้ ยสี มมุ สรา้ งสรรค์ จดั วาง เลน่ นา้ เลน่ ทราย เกมสังเกตรายละเอียด
น้วิ มือ อุปกรณ์ สัตวจ์ าลอง ภาพสตั วน์ ้า
ตา่ งๆ

วมือ มมุ บทบาทสมมติ จัด เล่นน้า เล่นทราย เกมจาแนกสัตว์นา้ ต่าง
การ ฉกี วางหุน่ ถงุ มอื หวั สตั ว์ ชนิดกัน
ต่างๆ

ปลอดภัยจากสัตว์

การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี พัฒนาการทางภาษาและการรู้ ๑.การฉกี ตัดปะภา

เลยี นแบบท่าทางสัตว์ หนงั สือ ๒.ปั้นรูปสตั ว์นามา

ต่างๆทมี่ ใี นนทิ านเรื่อง ๑. กิจกรรมการอ่านร่วมกนั และ สวนสัตว์

4 อะไรอยู่ในน้า การปิดคาให้เด็กทายจากนทิ าน

เร่อื ง อะไรอยู่ในนา้

๕. ความเมตตากรุณา ต่อสตั ว์

การเคล่ือนไหวเคลอื่ นท่ี พฒั นาการทางภาษาและการรู้ ๑. พับหุ่นสวมหวั จ

แสดงทา่ ทางเปน็ ผ้นู า หนงั สอื เหลอื ใชเ้ ปน็ รูปสตั ว

และผตู้ าม ๑. กิจกรรมการอา่ นร่วมกันและ ๒. ปั้นดินน้ามันเป็น

อาสาสมัครเด็กอา่ นคาจากนทิ าน ต่างๆ

5 เรอื่ ง อะไรอย่ใู นน้า
๒. ประโยชนข์ องสัตวน์ ้าตอ่ มนุษย์

๓. การนบั การจาแนกและ

เปรยี บเทยี บ ๑ - ๕

าพสตั ว์ มมุ ประสบการณ์ อย่าง การละเลน่ พื้นบา้ น เกมจับค่ภู าพกับสัญลักษณ์
(บัตรคา) พร้อมบตั ร
าจดั เป็น นอ้ ย ๔ มมุ ไอ้เขไ้ อ้โขง ตรวจสอบสัตว์น้า

จากวัสดุ มุมประสบการณ์ อย่าง การเล่นเกมสง่ เต่าลง เกมจับคภู่ าพสตั ว์นา้ กับ
ว์ จานวน ๑ - ๕
นสัตว์ น้อย ๔ มุม ทะเล

ผงั ความคดิ แผนการจัดประสบการณ

๑. กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ ๒. กจิ ก

๑. การเคลอ่ื นไหวเคลอ่ื นทป่ี ระกอบเพลง สัตวบ์ กสัตว์น้า ๑. พัฒนาการทางภ
๒. การเคลอื่ นไหวร่างกายไปในทศิ ทาง ระดบั และพื้นท่ี อะไรอยูใ่ นนา้
อยา่ งอิสระ ๒. ลักษณะของสตั ว
๓. การเคล่ือนไหวเคลอ่ื นทเี่ ชิงสรา้ งสรรคป์ ระกอบ มีรูปรา่ ง ลักษณะ แล
อปุ กรณ์ ห่วงโซพ่ ลาสตกิ ๓. การรักษาความป
๔. การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ีเลยี นแบบท่าทางสตั วต์ ่างๆ สัตว์
ทีม่ ีในนทิ าน อะไรอยใู่ นน้า ๔. ความเมตตากรุณ
๕. การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ีแสดงท่าทางเป็นผู้นา ๕. ประโยชน์ของสัต
และผ้ตู าม ๖. การนับ การจาแน

๔. กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ ๕. กจิ ก

๑. มมุ หนงั สอื แนะนาหนงั สอื เรือ่ งอะไรอย่ใู นนา้ ๑. การเลน่ เครอ่ื งเ
และหนังสือเกยี่ วกับสัตวน์ ้า ๒. การเลน่ นา้ -เลน่
๒ มุมสรา้ งสรรค์ จัดวางอปุ กรณ์ สตั ว์จาลองต่างๆ ๓. การเลน่ นา้ -เลน่
๓. มมุ บลอ็ ก ๔. การละเลน่ พนื้ บ
๔. มุมบทบาทสมมติ จัดวางหนุ่ ถงุ มอื หวั สตั วต์ ่างๆ ๕. การเลน่ เกมสง่

ณ์ หน่วยสัตว์นา่ รกั ชั้นอนุบาลปที ่ี ๒

กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
ภาษาและการรหู้ นังสอื จากนทิ านเร่ือง
๑. ปั้นดินเหนียวเป็นสัตว์ต่างๆ
วน์ า้ ประเภทของสตั ว์ สตั ว์แต่ละชนดิ ๒. การวาดภาพ ระบายสดี ้วยสีเทียน
ละขนาดแตกต่างกันของสตั ว์ ๓. การพมิ พ์ภาพจากน้วิ มอื
ปลอดภัยและป้องกนั อนั ตรายจาก ๔. การทาภาพสตั ว์ด้วยการฉีก ตัดปะ
๕. การพับหนุ่ สวมหวั จากวสั ดเุ หลือใช้
ณา ต่อสตั ว์ เปน็ รปู สัตว์
ตวน์ ้าต่อมนษุ ย์
นกและเปรียบเทยี บ ๑ - ๕

หนว่ ย ๖. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา
สตั วน์ า่ รกั
๑. เกมภาพตัดตอ่ สตั ว์น้า
กรรมกลางแจ้ง ๒. เกมสงั เกตรายละเอยี ดภาพสตั วน์ า้
๓. เกมจาแนกสัตวน์ ้าต่างชนดิ กนั
เลน่ สนาม ๔. เกมจบั คู่ภาพกับสัญลักษณ์(บัตรคา) พร้อมบัตร
นทราย ตรวจสอบ
นทราย ๕. เกมจบั คู่ภาพสตั ว์นา้ กบั จานวน ๑ - ๕
บา้ น ไอเ้ ข้ไอ้โขง
งเตา่ ลงทะเล

แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี 1

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. แนะนาเ
1 รอบ
กจิ กรรมการเคล่อื นไหว ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ 2. เดก็ รอ้ งต
และจงั หวะ 3. เด็กร้องเ
รว่ มกจิ กรรมการ (๑) การเคลื่อนไหวอยู่ 4. ให้เดก็ ท
เคลือ่ นไหวประกอบ กับที่ อสิ ระ
เพลงสัตว์ทะเลอยา่ งมี (๒) การเคล่อื นไหว 5. เม่อื ไดย้ ิน
ความสุข เคลอ่ื นท่ี สัตว์คนละ
(๓) การเคลือ่ นไหวตาม ๖. ทาเช่นน

เสียงเพลง/ดนตรี

กิจกรรมเสริม (๒) ฟังและปฏิบัติตาม ๑. ความรู้พื้นฐาน ๑. พัฒนาก
ประสบการณ์ คาแนะนา
1. อา่ นภาพและพดู (๑๐) การอ่านหนังสือ เก่ยี วกับหนังสือและ 1.๑ นาห
เรอื่ งราวดว้ ยภาษาของ ภาพ เด็กดูหน้าป
ตนให้ผูอ้ น่ื เขา้ ใจได้ (๑๒) การเหน็ แบบอย่าง ตัวหนังสอื นทิ านเรอ่ื ง ๑.๒. ใหเ้ ด
2. บอกลักษณะของสัตว์ ของการอ่านทถ่ี ูกต้อง เก่ยี วกับอะไ
นา้ ได้ (๔) การพูดแสดง อะไรอยใู่ นน้า ๑.๓ จดบ
ความคิด ความรูส้ ึก
ความตอ้ งการ ๒. ลกั ษณะของสตั ว์น้า คาดคะเน
ประเภทของสตั ว์ สตั ว์
แต่ละชนดิ ๑.๔ ครูอ่า
จนจบ โดยช

๑.๕ ครอู า่

ความเห็นเร

หนว่ ยที่ ๑๗ สตั ว์น่ารัก ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๒

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ

เพลงสตั วบ์ กสัตว์นา้ โดยร้องให้เด็กฟงั ๑. เคร่ืองเคาะจังหวะ สงั เกต
๒. เพลงสัตว์ทะเล การเลน่ อย่างปลอดภยั
เม่อื มผี ชู้ ้แี นะ
ตามทลี ะบทอีกหน่ึงรอบ
เพลงพร้อมครู
ทาท่าประกอบเพลงสัตว์บกสัตวน์ า้ อยา่ ง

นสญั ญาณหยดุ ในท่านนั้ แล้วพดู ชอ่ื
๑ ชื่อ
นอี้ กี 4 - 5 คร้งั

การทางภาษาและการรู้หนงั สือ หนังสือนิทานเรือ่ งอะไร สังเกต

หนงั สือนทิ านเรือ่ งอะไรอย่ใู นนา้ มาให้ อยู่ในน้า 1. การอ่านภาพและพูด
ปกหนังสอื
ด็กคาดคะเน เรือ่ งจากปกว่าเป็นเรือ่ ง เรอ่ื งราวดว้ ยภาษาของ
ไร
บนั ทกึ ชอ่ื เดก็ พร้อมขอ้ ความที่เด็ก ตนใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ

2. การบอกลกั ษณะ

ของสตั ว์น้า

านหนงั สือ นิทานเรือ่ งอะไรอยใู่ นน้า
ชี้คาตรงกบั เสียงอ่าน

านข้อความทีเ่ ด็กคาดคะเนไว้และถาม

ร่อื งชอ่ื ของนทิ านอีกคร้งั หนงึ่

กิจกรรมศิลปะ (๓) การปัน้ ๑.๖ สนท
สร้างสรรค์ (๕) การทางานศิลปะ นทิ านเปน็ เร
ป้ันสตั วน์ า้ จาก ดนิ บา้ ง
เหนียวได้ ๒. ครแู นะน
สัตวน์ ้าในแ
๓. สนทนาเ
การปน้ั ดนิ เ

๑. นาดินเห

ทบุ ดินให้น่มิ

๒. ครสู าธิต

๓. เด็กปน้ั ส

๔. ทาเสรจ็ น

ทนาซักถามเด็กสบื เนื่องจากนิทานวา่ ใน
รื่องเกี่ยวกบั อะไร เด็กรจู้ ักสัตว์ตัวไหน

นาสตั วน์ า้ จากนทิ านเปน็ สัตวท์ ะเล มี ๑. ดนิ เหนียว สังเกต
แมน่ ้าด้วย เรยี กสัตวน์ า้ จดื ๒. แผน่ รองป้นั การ ปั้นสตั ว์น้าจาก ดิน
เรื่องสัตว์แตล่ ะชนดิ เคล่ือนท่ีอย่างไร เหนียว
เหนียวเปน็ สตั วต์ ่างๆ

หนียวมาใหเ้ ดก็ ทดลองจับ บบี คลึง ปน้ั



ตการป้นั สตั วน์ ้าจากดนิ เหนยี ว

สตั ว์นา้ ตามความสนใจ

นาเสนอผลงานทส่ี าเรจ็

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มุมประสบก
เด็กเลือกกิจ
กจิ กรรมเล่นตามมุม ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ สนใจ ไดแ้ ก่
๑.ใชส้ ิง่ ของเครอื่ งใช้ 1.๑ แนะน
อย่างประหยดั และ (๓) การเลน่ ตามมมุ
พอเพียงเมือ่ มผี ู้ช้ีแนะ ประสบการณ์ เกยี่ วกับสตั ว
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (๒) การใชว้ ัสดุและสงิ่ ของ
เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ ค่า ๑.๒ มุมสร

กิจกรรมกลางแจง้ (๒) การเลน่ รายบุคคลกลุ่ม ต่างๆ
๑.เล่นและทากจิ กรรม ยอ่ ย กล่มุ ใหญ่
ในสนามเดก็ เล่นอยา่ ง (๔) การเลน่ นอกห้องเรยี น ๑.๓ มมุ บล
ปลอดภัยดว้ ยตนเอง (๕) การเลน่ เครอ่ื งเลน่
สนามอย่างอสิ ระ ๑.๔ มมุ วิท

2. เม่อื หมดเ
1. เดก็ เลือก
สนใจอยา่ งอ
2. เมื่อหมดเ
ลา้ งมือ กลบั

เกมการศึกษา (๖) การตอ่ ของชิน้ เล็กเตมิ การเล่นภาพตดั ตอ่ 1. แนะนาเก
๑. เลน่ เกมภาพตดั ตอ่ ในช้ินใหญ่ให้สมบรู ณ์ 2. แบ่งเดก็ เ
สัตว์นา้ ได้ มอบเกมใหม
อยู่แลว้
3. หมนุ เวยี น
4. เดก็ เกบ็ เก

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ

การณ์ควรมอี ยา่ งนอ้ ย ๔ มมุ อปุ กรณม์ มุ สงั เกต
จกรรมตามมุมประสบการณต์ ามความ ประสบการณ์ใน การใชส้ งิ่ ของเคร่ืองใช้
หอ้ งเรยี น อย่างประหยดั และ
นาหนงั สือเรื่องอะไรอยู่ในน้าและหนังสือ พอเพียงเมอ่ื มผี ชู้ ีแ้ นะได้
วน์ ้า อย่างเหมาะสม
ร้างสรรค์ จดั วางอุปกรณ์ สตั ว์จาลอง

ลอ็ ก สนามเดก็ เลน่ ของ สงั เกต
โรงเรียน เลน่ และทากิจกรรมใน
ทยาศาสตร์ สนามเดก็ เล่นอยา่ ง
ปลอดภัยดว้ ยตนเอง
เวลาเด็กเกบ็ ของเข้าท่ใี ห้เรยี บรอ้ ย
กเล่นอุปกรณใ์ นสนามเดก็ เลน่ ตามความ
อิสระ
เวลา ช่วยกนั เก็บทาความสะอาดสนาม
บเข้าห้องเรียน

กมภาพตัดตอ่ สัตว์น้า 1. เกมภาพตัดตอ่ สงั เกต
เป็นกลมุ่ 2 - 3 คน ตามความสมคั รใจ สตั วน์ า้ เลน่ เกมภาพตดั ต่อสัตว์
ม่ให้เด็ก 1 กลุ่ม กล่มุ อ่นื ๆ เลน่ เกมทม่ี ี 2. เกมชดุ เดมิ ในมุม น้า
เกมการศึกษา
นการเลน่ จนหมดเวลา
กมการศึกษาเขา้ ที่เดมิ

แผนการจัดประสบการณร์ ายวัน วันที่ ๒

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้

เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้

กิจกรรมเคล่ือนไหว (๑) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับ 1. การเคลื่อนไห
พื้นท่ี ตามสัญญ
และจังหวะ ท่ี กิจกรรม เช่น ให
กริ ยิ าท่าทางตา่ ง
รว่ มกจิ กรรมการ (๒) การเคลอ่ื นไหว ทา่ น้ัน แลว้ บอก
เคล่อื นไหวรา่ งกายไป เคลอ่ื นที่ 2. เร่ิมสญั ญาณ
ในทศิ ทาง ระดบั และ (๑) การเคล่อื นไหวโดย 4 - 5 ครงั้ หรอื จ
พื้นท่ี อยา่ งมคี วามสุข ควบคมุ ตนเองไปใน

ทศิ ทาง ระดับ และพื้นที่

กจิ กรรมเสรมิ (๑๐) การอ่านหนังสือ ๑. ความรู้พ้นื ฐาน ๑. ความรพู้ ้ืนฐ
เกย่ี วกับหนงั สอื และ 1.1 เด็กอ่านห
ประสบการณ์ ภาพ นทิ าน ตัวหนังสอื นิทาน พรอ้ มกันจนจบ
เร่ืองอะไรอยู่ในน้า ๑.๒ ครแู นะน
1. อา่ นภาพและพูด (๑๒) การเห็นแบบอยา่ ง ๒. ความแตกตา่ งกัน ปกหนา้ ปกใน ช
ของสตั ว์นา้ เนอ้ื เรอ่ื ง
เร่ืองราวดว้ ยภาษา การอ่านทถี่ ูกต้อง
๑.๓ ครูชกั ช
ของตนใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ (๕) การเลย้ี งสตั ว์ อา่ น สัตวน์ า้ แตล่
และเปดิ โอกาสใ
ได้ ๒. สรุปรว่ มกนั
เหมือนกันและบ
2. ลกั ษณะที่แตกตา่ ง

กนั ของสัตวน์ ้าได้

หนว่ ยที่ ๑๗ สัตว์นา่ รัก ชัน้ อนบุ าลปที ี่ ๒

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

หวเคล่อื นทไี่ ปในทิศทาง ระดับและ เครอื่ งเคาะจังหวะ สงั เกต
ญาณหรือคาสง่ั ตามที่ได้ตกลงก่อนเรม่ิ การรว่ มกจิ กรรมการ
หเ้ ดก็ เคล่อื นทไ่ี ปรอบๆ หอ้ งดว้ ย เคลือ่ นไหวรา่ งกายไปใน
ง ๆ ได้ยนิ สัญญาณหยุดใหห้ ยดุ ใน ทศิ ทาง ระดบั และพ้ืนท่ี
กว่าตนเองเคลอื่ นที่ดว้ ยท่าทางอะไร ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
ณใหมใ่ ห้เปล่ยี นท่าทาง ทาเช่นนี้
จนกว่าจะครบกาหนดเวลา

ฐานเกี่ยวกบั หนังสอื และตัวหนังสือ หนังสือนทิ านเรอื่ ง อะไร สงั เกต
หนังสอื นิทานเรอ่ื ง อะไรอย่ใู นนา้ อยใู่ นน้า ๑. การอ่านภาพและพูด
๑ รอบ ขอ้ ความเปน็ ภาษาของ
นาสว่ นประกอบหนังสือทีละหน้าได้แก่ ตนเอง
ชอ่ื ผู้แตง่ ผวู้ าดภาพ ๒. การบอกลักษณะที่
แตกต่างกันของสัตวน์ า้

ชวนใหเ้ ด็กต้ังคาถามเกีย่ วกับนทิ านที่
ละชนดิ เหมอื นกันหรอื ตา่ งกนั อย่างไร
ให้เพ่ือนในหอ้ งช่วยกันตอบคาถาม
สัตว์แต่ละชนิดมลี ักษณะบางอยา่ ง
บางอยา่ งแตกต่างกัน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เด็กเลือกกิจกรร
กจิ กรรมศลิ ปะ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ อปุ กรณข์ องแตล่
สร้างสรรค์ (๒) การเขียนภาพและ ๓ - ๔ คนอยา่ งอ
ทาภาพศลิ ปะ จาก นว้ิ การเล่นกบั สี ๑. วาดภาพ ระบ
มอื ได้ (๕) การหยิบจบั การใช้
กรรไกร การฉกี การตดั ๒. พิมพภ์ าพจา
กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ การปะ การพับกระดาษ ๒.๑ ครูสาธิต
ใช้ส่ิงของเครื่องใช้อยา่ ง (๑) การพดู สะท้อน ๒.๒ ใชน้ ้วิ หัว
ประหยดั และพอเพยี ง ความร้สู กึ ของตนเองและ
เม่ือมผี ูช้ แ้ี นะได้อยา่ ง ผอู้ นื่ ทลี ะนวิ้
เหมาะสม (๕) การทากจิ กรรม ๒.๓ ใช้ปลาย
ศิลปะ
กระดาษขนาด A
(๓) การเล่นตามมุม ๓. ถามเด็กเวลา
ประสบการณ์ ๔. ทาเสรจ็ นาเส
(๒)การใช้วัสดุและ 1. เดก็ เลอื กกิจก
สิง่ ของเครื่องใช้อยา่ ง สนใจ ไดแ้ ก่
ค้มุ ค่า
1.๑ แนะนาห

เกยี่ วกบั สัตว์น้า

๑.๒ มุมสร้าง

ต่างๆ

๑.๓ มมุ บลอ็ ก

๑.๔ มมุ วทิ ยา

2. เมื่อหมดเวลา

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
สงั เกต
รมคนละ ๑ กจิ กรรมและเลอื ก ๑. สนี ้า การทาภาพศลิ ปะ จาก
ละกิจกรรม น่ังตามโต๊ะท่ีจดั ไว้ ๒. สีเทยี น นวิ้ มือ
อิสระ ๓. กระดาษ
บายสีดว้ ยสเี ทยี น ๔. จานสี สงั เกต
๕. แกว้ นา้ การใช้สิ่งของเคร่ืองใช้
ากนว้ิ มอื อยา่ งประหยัดและ
ตการผสมสีท่ีจะใชพ้ มิ พภ์ าพ พอเพยี งเมือ่ มผี ชู้ ีแ้ นะได้
วแมม่ ือและน้วิ ช้ีเปน็ แบบพิมพ์ พมิ พ์ อย่างเหมาะสม

ยนว้ิ แตะสเี บาๆ นามาพมิ พบ์ น
A๔ ตามความคิดตนเอง
าเลือกกิจกรรมคดิ ตดั สินใจอยา่ งไร
สนอผลงานทีส่ าเรจ็

กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตามความ มุมประสบการณ์ใน
หอ้ งเรยี น

หนงั สือเร่อื งอะไรอยู่ในน้าและหนงั สอื

งสรรค์ จดั วางอุปกรณ์ สัตวจ์ าลอง


าศาสตร์
าเด็กเกบ็ ของเข้าทใี่ หเ้ รยี บร้อย

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ การเลน่ นา้ - เล
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้
1. นาเด็กไปเลน่
กจิ กรรมกลางแจ้ง (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น
เล่นและทากิจกรรม การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ท่ี ใหน้ ากะละมังให
การเล่นนา้ - ดขี องหอ้ งเรียน
เลน่ ทรายอย่าง (๑) การชว่ ยเหลือตนเอง - ใหเ้ ดก็ เป็นผู้น
ปลอดภัยด้วยตนเอง ในกจิ วัตรประจาวัน
เพอื่ ให้เพื่อนหา
เกมการศึกษา (๑) การสังเกตลักษณะ การสังเกต
บอกลกั ษณะสตั ว์น้า สัตว์
ท่ีมคี วามสมั พันธ์กบั สว่ นประกอบ การ รายละเอยี ดภาพ
จานวนจากการ - เล่นทายกับอ
สังเกตได้ เปลยี่ นแปลงและ
ต่างๆ
ความสัมพนั ธข์ องส่งิ ตา่ งๆ
- การกอ่ ทราย
โดยใช้ประสาทสมั ผสั อยา่ ง
๒. นาวัสดุ อุปก
เหมาะสม
เลน่ สงั เกตการจ

กาบมะพร้าวเม่อื

๓. เมือ่ หมดเวลา
ตนเอง
1. แนะนาเกมส
2. แบ่งเด็กเป็นก
มอบเกมใหมใ่ ห้เ
แล้ว
3. หมนุ เวยี นกา
4. เดก็ เกบ็ เกมก

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ

ล่นทราย ๑. อุปกรณ์เลน่ น้า สังเกต
นทก่ี ระบะทราย สาหรับบริเวณเล่นน้า ๒. อุปกรณ์เลน่ ทราย การเลน่ และทากจิ กรรม
หญ่ใสน่ ้าให้เดก็ เลน่ ๓. พลาสติกกันเปอ้ื น การเลน่ นา้ - เล่นทราย
นาสิ่งของไปฝังซ่อนในกระบะทราย อยา่ งปลอดภัยดว้ ย
เชน่ เปลือกหอย รปู จาลองกระดูก ตนเอง

อุปกรณแ์ บบพมิ พ์ขนม เปน็ รูปรา่ ง

ยเปน็ รูปทรง อยา่ งอิสระ
กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการเลน่ นา้ ให้เด็กทดลอง
จม-ลอยและการเปล่ยี นลักษณะ เช่น
อโดนนา้ จะเปลี่ยนสเี ป็นตน้
าเดก็ ทาความสะอาดลานทราย และ

สงั เกตรายละเอยี ดภาพสตั วน์ า้ เกมสังเกตรายละเอียด สังเกต

กล่มุ 2 - 3 คน ตามความสมัครใจ ภาพสตั ว์นา้ การเล่นเกมสงั เกต

เด็ก 1 กล่มุ กลุ่มอืน่ ๆ เล่นเกมท่ีมีอยู่ รายละเอยี ดภาพสัตวน์ ้า

ารเลน่ จนหมดเวลา
การศึกษาเขา้ ที่เดิม

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวัน วันที่ ๓

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. ใหเ้ ด็กเคล
อปุ กรณ์ ห่วง
กจิ กรรมเคล่ือนไหว ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ เซนติเมตร โด
และจงั หวะ ได้ยินสญั ญาณ
๑ .เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย (2) การเคลอื่ นไหว จบั คู่ กล่มุ เล็ก
ในกจิ กรรมตา่ งๆอย่าง พร้อมวัสดอุ ุปกรณ์ ให้เพอื่ นฟงั วา่
คลอ่ งแคล่วประสาน ๒. เปล่ยี นกล
สมั พนั ธแ์ ละทรงตัวได้ (๒) การฟังและปฏบิ ัติ ๑. ความร้พู นื้ ฐาน เคลื่อนไหวให
๒. แสดงอารมณ์ ตามคาแนะนา เก่ยี วกบั หนังสอื และ 3. เคลือ่ นไหว
ความรู้สกึ ของตนได้ (๔) การพูดแสดง ตัวหนังสอื นิทานเรอ่ื ง สนใจและเวล
เหมาะสมตาม ความคิด ความรสู้ ึก อะไรอยู่ในนา้ ๑. พัฒนากา
สถานการณ์ ความตอ้ งการ ๒. การป้องกันอันตราย
(๕) การเลยี้ งสัตว์ และความปลอดภัยจาก ๑.๑ ความ
กิจกรรมเสรมิ (๑๐) การอ่านหนงั สอื สตั ว์ ตัวหนงั สือ เด
ประสบการณ์ ภาพและนทิ าน อะไรอยใู่ นนา้
๑. อา่ นภาพ สัญลักษณ์ หลากหลายประเภท เปลา่ เมื่ออ่าน
คา พร้อมทั้งช้ีหรอื รปู แบบ
กวาดตามองขอ้ ความ ๑.๒ ทากจิ
ตามบรรทัดได้ เช่น อะไ – อ
๒. บอกได้วา่ สัตว์ ชนิด
ใดเปน็ อนั ตราย ๑.๓ สนทน
ทม่ี อี ันตราย เ

หนว่ ยที่ ๑๗ สตั วน์ ่ารัก ชนั้ อนบุ าลปที ี่ ๒

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

ล่อื นไหวเชิงสร้างสรรค์ประกอบ ๑. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ สังเกต
งโซพ่ ลาสตกิ ยาวประมาณ ๔ ๒. ห่วงโซพ่ ลาสตกิ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย
ดยให้เดก็ คดิ ทา่ ทางเคลอ่ื นไหวขึน้ เอง ในกจิ กรรมต่างๆอย่าง
ณหยุด ให้จับกลุ่มรวมกัน เรม่ิ จาก ๑. หนงั สอื นิทานเร่อื ง คล่องแคลว่ ประสาน
ก กลุม่ ใหญ่ นาโซ่มาต่อกนั และเลา่ อะไรอยใู่ นนา้ สมั พันธ์และทรงตัว
าเปน็ รูปอะไร ๒. แถบประโยค
ลุ่มและรูปทรงทุกคร้งั ทเี่ รม่ิ ต้น สงั เกต
หม่ ๑. การอา่ นภาพ
วอกี 2 - 3 ครั้ง กาหนดตามความ สัญลักษณ์ คา พร้อมท้งั
ลา ชห้ี รอื กวาดตามอง
ารทางภาษาและการรู้หนงั สือ ข้อความตามบรรทดั
มร้พู ื้นฐานเกีย่ วกับหนังสือและ ๒. การระบชุ ือ่ ชนิดของ
ดก็ และครอู ่านหนังสอื นทิ านเรอื่ ง สตั วท์ เ่ี ปน็ อันตราย
าพรอ้ มกนั จนจบ ฝกึ เติมคาดว้ ยปาก
นถึงคาท่ีพบบ่อย
จกรรมเติมตัวอักษรในคาทีพ่ บบอ่ ย
อยู่ ใ - น้า (อะไรอยใู่ นน้า)
นากบั เด็กวา่ ในนทิ านมีสตั วอ์ ะไรบ้าง
เราต้องป้องกนั อย่างไร

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ๑.๔ เดก็ เคยได
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ เราจะป้องกันอยา่
๑. พิมพภ์ าพจาก
กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพและ
สร้างสรรค์ การเล่นกบั สี ๒. ทาภาพสัตวด์ ว้
สนใจและแสดงออก (๕) การหยิบจบั การใช้
ทางศิลปะ กรรไกร การฉกี การ ๓. เด็กเลอื กกิจกร
ตดั การปะ อุปกรณ์ของแตล่ ะ
๓ - ๔ คนอยา่ งอ
๓. ถามเดก็ เวลาเ
๔. ทาเสรจ็ นาเสน

กิจกรรม (๓) การเลน่ ตามมมุ เด็กเลอื กกิจกรรม
สนใจ ไดแ้ ก่
เล่นตามมุม ประสบการณ์
1.๑ แนะนาหน
ใช้ส่งิ ของเครอื่ งใช้ (๑) การช่วยเหลอื
เกี่ยวกบั สัตวน์ า้
อย่างประหยัดและ ตนเองในกจิ วัตร
๑.๒ มุมสรา้ งส
พอเพยี งเม่ือมผี ู้ชี้แนะ ประจาวัน
ตา่ งๆ
ได้อยา่ งเหมาะสม
๑.๓ มุมบทบา

ต่างๆ

๑.๔ มุมวิทยาศ

2. เมือ่ หมดเวลาเ


Click to View FlipBook Version