หลกั สตู รสถานศึกษา
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
(ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕60)
โรงเรยี นเซกา
อำเภอเซกา จงั หวดั บงึ กาฬ
สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๒๑
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ประกาศโรงเรยี นเซกา
เร่อื ง ใหใ้ ช้หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเซกา พุทธศักราช 2561 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน
พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
……….......................................…………………………………………….………………….
เพ่ือให้การจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
สภาพแวดล้อม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการพัฒนาและ
เสริมสร้างศักยภาพคนของชาติให้สามารถเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การยกระดับ
คุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากล สอดคล้องกับประเทศไทย 4.0 โลกใน
ศตวรรษที่ 21 และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและดารงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ ใน
ประชาคมโลก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรียนเซกาได้ดาเนินการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเซกา พุทธศักราช 2561 ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพ่ือให้สอดคล้อง
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอ่ื ง การบริหารจัดการเวลาเรียน และปรับมาตรฐานและตัวช้วี ัดสอดคล้อง
กับคาสั่ง สพฐ. ท่ี ๑๒๓๙/25๖๐ ลงวันท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ ประกาศ สพฐ. ลงวันท่ี ๘ มกราคม ๒๕๖๑
คาสั่ง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 และคาส่ัง สพฐ. ท่ี 922/2561 ลงวันที่ 3
พฤษภาคม 2561 เป็นทเี่ รียบร้อยแลว้ โดยมีเงอื่ นไขและระยะเวลาในการใช้ หลักสูตร ดงั นี้
1. ปีการศกึ ษา 2561 ให้ใชใ้ นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 และ 4
2. ปีการศกึ ษา 2562 ให้ใช้ในชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 , 2 , 4 และ 5
3. ตัง้ แต่ปกี ารศึกษา 2563 เป็นตน้ ไป ใหใ้ ชท้ ุกชน้ั เรยี น
ท้ังนี้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเซกา พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ัน
พ้ืนฐาน 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
เมื่อวนั ท่ี 10 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2561 จงึ ประกาศให้ใช้หลกั สตู รสถานศกึ ษาต้ังแตบ่ ัดนี้เปน็ ตน้ ไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561
(นายดสุ ติ เกิดลาภา) (นายวินิจ ชานุชติ )
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ผู้อานวยการโรงเรียนเซกา
โรงเรยี นเซกา
คำนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำส่งั สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ที่
๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ใหเ้ ปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคำสั่งให้โรงเรียนดำเนินการใช้หลักสูตรในปี
การศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เป็น
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทาง
ในการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนมพี ัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
เพือ่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายและเปา้ หมายของสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
โรงเรียนเซกาจึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเซกาปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ
ปรับปรุง ๒๕๖๐) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการ
เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนา
หลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มี
กระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัด
ประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกำหนดทิศทางในการ
จดั ทำหลักสตู รการเรยี นการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเนน้ โดยมกี รอบแกนกลางเป็นแนวทาง
ที่ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สงั คมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จรงิ
และมีทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑
ขอขอบคุณคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ
โรงเรียนเซกา ครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้มีส่วนเก่ียวข้องที่มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรฉบับนี้ให้
สำเรจ็ ลลุ ่วงดว้ ยดี สามารถนำไปใชเ้ พอื่ พัฒนาผ้เู รยี นให้ให้บรรลุเป้าหมายของหลกั สตู รตอ่ ไป
( นายวินจิ ชานชุ ติ )
ผู้อำนวยการโรงเรยี นเซกา
สารบัญ หนา้
เรือ่ ง
ความนำ ๑
วิสัยทศั น์ ๑
หลักการ ๑
จดุ หมาย ๒
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๓
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้มาตรฐานการเรียนรู้ ๔
๕
ตวั ช้วี ดั
สาระการเรยี นรู้ ๖
ความสมั พันธ์ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ๘
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑๒
๑๙
- สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๓๑
- สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๔๐
- สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ๔๔
- สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ๔๙
- สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๕๒
- สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ๕๖
- สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ๕๙
- สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ๖๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๖๓
โครงสรา้ งเวลาเรยี น ๗๗
โครงสรา้ งเวลาเรียนหลกั สูตรสถานศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ (ม. ๑ – ๓) ๑๐๘
โครงสร้างเวลาเรยี นหลักสูตรสถานศกึ ษาระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น (ม. ๔ – ๖) ๑๓๓
คำอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑๗๙
๒๐๔
คำอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๔๓
คำอธิบายรายวิชา สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ๒๘๒
คำอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ๒๙๕
คำอธิบายรายวชิ า สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๓๒๕
คำอธบิ ายรายวิชา สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
คำอธบิ ายรายวิชา สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
คำอธบิ ายรายวิชา สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
ภาคผนวก
๑
หลักสตู รโรงเรยี นเซกา
1. ส่วนนา
1.1 ความนา
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ัง
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคาสง่ั สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสั่งให้
โรงเรียนดาเนินการใช้หลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปี
การศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐาน
การเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มี
คุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน
โรงเรียนเซกาจึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตรใ์ น
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพ่ือนาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการ
วางแผนและพัฒนาหลกั สูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเปา้ หมายในการพัฒนาคณุ ภาพ
ผู้เรียน ให้มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจน
เกณฑ์การวัดประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปดิ โอกาสให้โรงเรยี นสามารถกาหนด
ทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบ
แกนกลางเป็นแนวทางท่ีชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม
คุณภาพ มคี วามรอู้ ย่างแทจ้ รงิ และมที ักษะในศตวรรษท่ี ๒๑
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในเอกสารนี้ ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในทุก
ระดับเห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรยี นรู้ของผู้เรียนท่ีชดั เจนตลอดแนว ซงึ่ จะสามารถชว่ ยให้
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างม่ันใจ ทาให้การจัดทา
หลักสูตรในระดบั สถานศึกษามีคณุ ภาพและมีความเป็นเอกภาพยิง่ ขน้ึ อีกท้ังยังชว่ ยให้เกดิ ความชัดเจนเร่ือง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังน้ันในการพัฒนา
หลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระท่ังถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรยี นรู้และตัวชว้ี ัดทก่ี าหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมท้ังเป็นกรอบทศิ ทางในการจัด
การศกึ ษาทกุ รูปแบบ และครอบคลมุ ผเู้ รยี นทุกกลุ่มเปา้ หมายในระดบั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่
เก่ียวข้องท้ังระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ
และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพ่ือพัฒนา
เยาวชนของชาติไปสู่คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรทู้ ก่ี าหนดไว้
1.2 วสิ ัยทัศนข์ องโรงเรยี น (Vision)
ภายในปี ๒๕๖๒ โรงเรียนเซกาและชุมชนท้องถ่ิน เป็นผู้นาการเปลย่ี นแปลงทมี่ ุ่งพัฒนาผู้เรียนทุก
คน ซ่ึงเป็นกาลังของชาตใิ หเ้ ปน็ มนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม มจี ิตสานึกในความเป็น
พลเมืองไทยและเป็นพลโลก มีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร การคิดแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี มี
๒
ทักษะชีวิต ยึดมั่นในประชาธิปไตย อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น น้อมนาหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการศึกษา รวมทั้ง มีเจตคติท่ีดีต่อการศึกษาและการประกอบอาชีพ
มุ่งทาประโยชน์สร้างสง่ิ ทดี่ ีงาม ให้แกส่ ังคม และอยู่ร่วมกนั อย่างมีความสขุ บนพ้นื ฐานความเชอื่ วา่ มนุษยท์ ุก
คนสามารถเรียนรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศกั ยภาพ
1.3 พนั ธะกิจ
1. พัฒนาผู้เรียนใหม้ ีศกั ยภาพเปน็ พลโลก
2. สง่ เสริมผู้เรยี นให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลกั สูตร และค่านิยมหลัก
คนไทย 12 ประการ
3. พฒั นาแหล่งเรยี นรู้ ศูนย์การเรียนให้ทนั สมยั ครบวงจรและเอ้ือต่อการเรยี นรู้
4. เสรมิ สรา้ งศักยภาพครูใหม้ ีความสามารถจดั การเรยี นรู้เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล
5. พัฒนาระบบบรหิ ารและการจัดการที่ดี
6. สง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ มในการจดั การศึกษาและการสร้างเครือขา่ ยการเรียนรู้
1.4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้และมาตรฐานการเรยี นรู้
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานกาหนดมาตรฐานการเรียนร้ใู น ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้
จานวน ๓๒ สาระ ๕๗ มาตรฐาน ดังนี้
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย (๕ สาระ ๕ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ แก้ปัญหาใน
การดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสยั รักการอา่ น
สาระที่ ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี น เขียนสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน
เร่ืองราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
ความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์
สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ
พลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิ ของชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง
เห็นคณุ ค่าและนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ (4 สาระการเรียนรู้ 8 มาตรฐานการเรยี นรู้)
สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การ
ของจานวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
๓
มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม และ
นาไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วย
แก้ปัญหา ท่ีกาหนดให้
สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการวัด
และนาไปใช้
มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์
ระหวา่ งรูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้
สาระที่ ๓ สถติ ิและความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ิในการแก้ปัญหา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนับเบือ้ งตน้ ความนา่ จะเปน็ และนาไปใช้
สาระท่ี ๔ แคลคลู ัส
มาตรฐาน ค ๔.๑ เขา้ ใจลิมิตและความต่อเนอื่ งของฟังก์ชนั อนุพนั ธข์ องฟังก์ชนั และปริพันธ์ของฟังก์ชัน
และนาไปใช้
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ (4 สาระ ๑๐ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พันธ์ระหวา่ งส่ิงไม่มีชีวิตกับ
ส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
สงิ่ แวดล้อม รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางาน
สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชทที่ างานสัมพันธ์กัน รวมท้ังนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ
ววิ ัฒนาการของส่ิงมชี วี ติ รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ
ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะ
ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ
ลกั ษณะการเคลือ่ นที่แบบต่างๆ ของวตั ถุ รวมท้งั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่
เกีย่ วข้องกับเสยี ง แสง และคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทง้ั นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์
๔
สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของ เอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ
ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลม ฟ้า อากาศ และ
ภมู ิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อส่งิ มีชีวติ และส่งิ แวดลอ้ ม
สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชีวิตในสังคมที่มี
การเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพ่ือ
แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และส่งิ แวดล้อม
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น
ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หา
ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (๕ สาระ ๑๑ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกัน
อย่างสันตสิ ุข
มาตรฐาน ส๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษา
พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับถือ
สาระท่ี ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดี
งามและธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย แ ละ สังคมโลก
อย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปัจจบุ ัน ยึดม่ัน ศรัทธา และ
ธารงรักษาไว้ซง่ึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ
สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค
การใช้ทรัพยากรท่ีมอี ยจู่ ากดั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพและคมุ้ คา่ รวมทงั้ เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เพื่อการดารงชีวติ อยา่ งมดี ุลยภาพ
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ
และความจาเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก
สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
สามารถใชว้ ิธกี ารทางประวัตศิ าสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตุการณต์ า่ งๆ อยา่ งเป็นระบบ
๕
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้าน
ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ
วเิ คราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ ขึ้น
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก
ความภูมิใจและธารงความเป็นไทย
สาระที่ ๕ ภมู ศิ าสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พันธ์ของสรรพส่ิงซงึ่ มี ผล
ต่อกัน ใช้แผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ตามกระบวนการทาง
ภูมิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพทีก่ ่อให้เกดิ การ
สร้างสรรค์วิถีการดาเนินชีวิต มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมเพื่อการ
พฒั นาท่ยี ่งั ยนื
กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา (๕ สาระ ๖ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์
สาระที่ ๒ ชวี ิตและครอบครวั
มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการ
ดาเนนิ ชวี ติ
สาระที่ ๓ การเคลือ่ นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจา
อย่างสม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน
สนุ ทรยี ภาพของการกีฬา
สาระที่ ๔ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การ
ป้องกนั โรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสขุ ภาพ
สาระท่ี ๕ ความปลอดภัยในชีวติ
มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกนั และหลกี เลีย่ งปจั จยั เส่ยี ง พฤติกรรมเสยี่ งต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การ
ใชย้ าสารเสพตดิ และความรนุ แรง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (๓ สาระ ๖ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ ทศั นศิลป์
มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ปต์ ามจินตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วิเคราะห์
วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณค่างานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ ต่องานศิลปะอย่างอสิ ระ
ชืน่ ชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั
มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม
เหน็ คณุ ค่างานทศั นศลิ ป์ทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
๖
สาระท่ี ๒ ดนตรี
มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ชืน่ ชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวัน
มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็น
คณุ ค่าของดนตรที ่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
สาระที่ ๓ นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่างสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์
วจิ ารณ์คุณค่านาฏศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ อยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน
มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็น
คณุ คา่ ของนาฏศลิ ปท์ ่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล
กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี (๔ สาระ ๔ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ การดารงชวี ิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน
ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้
มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม
เพือ่ การดารงชีวติ และครอบครัว
สาระท่ี ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของ
เคร่ืองใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สรา้ งสรรค์ต่อชวี ติ สังคม ส่ิงแวดล้อม และมีสว่ นรว่ มในการจดั การเทคโนโลยีทยี่ ง่ั ยนื
สาระที่ ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มาตรฐาน ง ๓.๑ เขา้ ใจ เห็นคณุ ค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้
ขอ้ มูลการเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทางาน และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมี
คุณธรรม
สาระท่ี ๔ การอาชพี
มาตรฐาน ง ๔.๑ เข้าใจ มีทักษะท่ีจาเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ
ใช้เทคโนโลยีเพอ่ื พัฒนาอาชพี มคี ุณธรรม และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่ออาชีพ
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (๔ สาระ ๘ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ
คิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดง
ความรสู้ กึ และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
๗
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ
นาไปใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ น่ื
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ ับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็น
พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชพี และการแลกเปลยี่ นเรยี นร้กู บั สงั คมโลก
ตัวชว้ี ัด
ตัวชวี้ ัดระบุส่ิงทีน่ ักเรยี นพึงรู้และปฏิบัตไิ ด้ รวมท้ังคุณลักษณะของผู้เรยี นในแต่ละระดับชน้ั ซ่ึงสะท้อน
ถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นาไปใช้ ในการกาหนดเนื้อหา จัดทา
หน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับการวัดประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพ
ผูเ้ รยี น
๑. ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรยี นแต่ละชน้ั ปีในระดับการศกึ ษาภาคบังคับ
(ประถมศึกษาปีท่ี ๑ – มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓)
๒. ตัวชีว้ ัดช่วงชัน้ เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรยี นในระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
(มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔- ๖)
หลกั สูตรได้มีการกาหนดรหสั กากบั มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วดั เพ่อื ความเข้าใจและให้ส่อื สาร
ตรงกัน ดังน้ี
ว ๑.๑ ป. ๑/๒ ตวั ช้วี ดั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ขอ้ ที่ ๒
ป.๑/๒ สาระที่ ๑ มาตรฐานขอ้ ท่ี ๑
๑.๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
ว
ตวั ชว้ี ดั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ข้อที่ ๓
ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓ สาระท่ี ๒ มาตรฐานข้อที่ ๒
ม.๔-๖/๓ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
๒.๓
ต
สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย องค์ความรู้ ทักษะหรอื กระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ ซ่ึงกาหนดให้ผเู้ รียนทกุ คนในระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐานจาเป็นต้องเรยี นรู้ โดยแบ่งเปน็ ๘ กล่มุ
สาระการเรียนรู้ ดงั น้ี
๘
1.5 สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนเซกาพุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานที่กาหนด ซงึ่ จะช่วยใหผ้ ้เู รยี นเกดิ สมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดังนี้
1.5.1 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
หลกั สตู รโรงเรยี นเซกาพุทธศักราช ๒๕๖๐ มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรอื ไม่รับข้อมูลข่าวสาร
ด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึง
ผลกระทบท่มี ตี อ่ ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิด อยา่ ง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพื่อการตดั สนิ ใจเก่ียวกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญ
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน
และแก้ไขปัญหา และมีกาตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อตนเอง สังคมและ
ส่ิงแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกันใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียง
พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่สี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทางาน การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม
1.5.2 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนเซกาพุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผเู้ รียนให้มีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอย่รู ่วมกับผู้อ่ืนในสงั คม
ไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้
1. รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ
3. มีวนิ ยั
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยู่อยา่ งพอเพียง
๙
6. มงุ่ มั่นในการทางาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มีจิตเปน็ สาธารณะ
1.7 คา่ นยิ มหลัก 12 ประการ
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
2. ซือ่ สัตย์ เสียสละ อดทน
3. กตัญญูตอ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศึกษาเล่าเรียนทงั้ ทางตรงและทางอ้อม
5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รกั ษาความสตั ย์
7. เข้าใจเรียนร้กู ารเปน็ ประชาธปิ ไตย
8. มีระเบียบ วนิ ัย เคารพกฎหมาย ผ้นู อ้ ยรจู้ ักการเคารพผใู้ หญ่
9. มสี ติรูต้ ัว รู้คดิ ร้ทู า
10. รจู้ ักดารงตนอยู่โดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
11. มีความเขม้ แข็งทงั้ ร่างกายและจติ ใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออานาจฝา่ ยต่า
12. คานึงถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวมมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง
องคค์ วามรู้ ทกั ษะสาคัญในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา
ภาษาไทย : ความรู้ ทักษะและวัฒนธรรมการใช้ภาษา เพื่อการส่ือสาร ความชื่นชม การเห็น
คุณค่าภูมิปัญญาไทยและภูมิใจในภาษาประจาชาติ
คณิตศาสตร์ : การนาความรู้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา การ
ดาเนินชีวิตและศึกษาต่อ การมีเหตุมีผล มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ พัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบและ
สรา้ งสรรค์
วิทยาศาสตร์ : การนาความรแู้ ละกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ไปใช้ในการศึกษา คน้ ควา้ หา
ความรู้ และแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบ การคิดอย่างเปน็ เหตเุ ปน็ ผล คิดวิเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์และ
จติ วิทยาศาสตร์
สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันติสุข การ
เป็นพลเมืองดี ศรัทธาในหลกั ธรรมของศาสนา การเห็นคุณค่าของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ความรักชาติ
และภมู ิใจในความเปน็ ไทย
สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ทักษะและเจตคติในการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยของ
ตนเองและผ้อู ืน่ การปอ้ งกันและปฏิบตั ติ ่อสิ่งตา่ งๆ ท่ีมผี ลต่อสขุ ภาพอย่างถูกวิธแี ละทักษะในการดาเนินชีวิต
ศิลปะ : ความรู้และทกั ษะในการคิดรเิ ริม่ จินตนาการ สร้างสรรค์งานศิลปะ สุนทรยี ภาพและการ
เหน็ คณุ ค่าทางศิลปะ
การงานอาชีพและเทคโนโลยี : ความรู้ ทักษะ และเจตคติในการทางาน การจัดการ การ
ดารงชวี ิต การประกอบอาชีพและการใชเ้ ทคโนโลยี
ภาษาต่างประเทศ : ความรู้ทักษะ เจตคติ และวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศในการ
ส่อื สาร การแสวงหาความร้แู ละการประกอบอาชีพ
๑๐
วสิ ัยทศั น์
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นทุกคน ซึ่งเป็นกาลังของชาตใิ ห้เป็นมนุษย์ทีม่ ี
ความสมดลุ ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดม่ันในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้นื ฐาน รวมทั้งเจตคติ
ทจ่ี าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวติ โดยมงุ่ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั บนพ้นื ฐาน
ความเช่อื ว่า ทุกคนสามารถเรยี นรู้และพัฒนาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ
จดุ หมำย
๑. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทพี่ ึงประสงค์ เหน็ คณุ ค่าของตนเอง มีวนิ ัยและปฏบิ ัติตน
ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒. มคี วามรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปญั หา การใช้
เทคโนโลยแี ละมีทักษะชวี ติ
๓. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ทีด่ ี มสี ขุ นสิ ัย และรักการออกกาลังกาย
๔. มีความรกั ชาติ มจี ิตสานึกในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยึดม่ันในวถิ ชี ีวิตและการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ
๕. มีจิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย การอนรุ ักษแ์ ละพัฒนาสิ่งแวดล้อม
มีจิตสาธารณะท่ีมุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งส่ิงทีด่ ีงามในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสขุ
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ความสามารถในการคดิ ๒. ซ่ือสัตยส์ ุจริต
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๓. มีวินัย
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
กิจกรรมพฒั นำผู้เรยี น
๑. กจิ กรรมแนะแนว
๒. กจิ กรรมนกั เรียน
๓. กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและ
สาธารณประโยชน์
๑๑
2. โครงสร้างหลักสตู ร
2.1 โครงสรา้ งเวลาเรียน
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรยี น ดงั นี้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/ เวลาเรยี น
กจิ กรรม
ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ – ๖
คณติ ศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
(๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
วทิ ยาศาสตร์
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
สังคมศกึ ษา ศาสนา (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
และวฒั นธรรม
- ประวัติศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
(๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
160 160 160 3๒๐
(4 นก.) (4 นก.) (4 นก.) (8 นก.)
40 40 40 80
(1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (2 นก.)
- ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
- หนา้ ที่พลเมอื ง วัฒนธรรม (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
และการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม
- เศรษฐศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐
- ภูมศิ าสตร์ (๒นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) (๓นก.)
๑๒๐
สขุ ศกึ ษาและ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๓ นก.)
พลศกึ ษา (๒นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) ๑๒๐
ศลิ ปศึกษา (๓ นก.)
๘๐ ๘๐ ๘๐ ๒๔๐
การงานอาชีพและ (๒นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) (๖ นก.)
เทคโนโลยี ๑,640
ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ (41 นก.)
(๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) ๓๖๐
รวมเวลาเรียน (พ้ืนฐาน)
๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ไม่นอ้ ยกวา่ 1,600 ช่ัวโมง
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น (๒2 นก.) (๒2 นก.) (๒2 นก.)
รายวชิ า / กิจกรรมท่ี รวม ๓ ปี ไม่น้อยกวา่
สถานศึกษาจดั เพม่ิ เติม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓,๖๐๐ ชัว่ โมง
ตามความพร้อมและจุดเน้น
ปีละไมน่ ้อยกวา่ 200 ชวั่ โมง
รวมเวลาเรียนทัง้ หมด
ไมน่ อ้ ยกว่า 1,200 ชัว่ โมง / ปี
๑๒
กรอบโครงสร้างเวลาเรยี นตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
โครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐาน ซึ่งระบุการจัด
เวลาเรยี นของแต่ละกล่มุ สาระการเรยี นรู้ เป็นกรอบทิศทางในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา ส่วนรายวิชา
เพิ่มเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาสามารถจัดให้เหมาะสมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และ บริบท
ของสถานศกึ ษาโดยการกาหนดเวลาเรียนในแต่ละระดบั การศึกษา ซ่ึงสรปุ ได้ดงั น้ี
ระดับประถมศึกษา : กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐานสาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8
กลุ่ม มีเวลาเรียนรวม 840 ช่ัวโมงต่อปี กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 ชั่วโมงต่อปี และรายวิชา/กิจกรรมท่ี
สถานศึกษาจัดเพ่ิมติมตามความพร้อมและจุดน้นไม่น้อยกว่า 40 ช่ัวโมงต่อปี รวมไม่น้อยกว่า 1,000
ชว่ั โมงตอ่ ปี
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนพน้ื ฐานสาหรับกลุม่ สาระการเรียนรู้
8 กลุ่ม มีเวลาเรียนรวม 880 ช่ัวโมงต่อปี (22 หน่วยกิต) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 ชั่วโมงต่อปี และ
รายวิชา/กิจกรรมท่ีสถานศึกษาจัดเพิ่มเติมตามความพร้อมและจุดเน้นปีละไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมงต่อปี
รวมไม่นอ้ ยกวา่ 1,200 ชว่ั โมงต่อปี
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : กาหนดกรอบโครงสร้งเวลาเรียนพื้นฐานสาหรับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ 8 กลุ่ม มีเวลาเรียนรวม 3 ปี จานวน 1,640 ช่ัวโมง (41 หน่วยกิต) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 360
ชั่วโมง และ รายวิชา/กิจกรรมท่สี ถานศึกษาจัดเพิ่มเติมตามความพร้อมและจุดน้ันปลี ะไม่น้อยกว่า 1,600
ช่วั โมง (40 หนว่ ยกติ ) รวม 3 ปี ไม่นอ้ ยกว่า 3,600 ชัว่ โมง
2.4 แผนการเรยี น
2.4.๑. ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนตน้ มี ๒ ประเภท รวม ๒ หลักสตู ร ดงั น้ี
2.4.๑.๑. ห้องเรียนปกติ มี ๑ หลกั สูตร ได้แก่
- ห้องเรยี นปกติที่จัดการเรียนการสอนตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน
2.4.๑.๒. ห้องเรียนพเิ ศษ มี ๑ หลักสตู ร ไดแ้ ก่
- หอ้ งเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ : (Intensive Program : IP)
๒.4.2. ระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย มี ๒ ประเภท รวม ๔ หลักสตู ร ดังนี้
2.4.๒.๑. ห้องเรยี นทีจ่ ดั การเรยี นการสอนแบบเน้นวิทยาศาสตร์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้
พ้ืนฐาน มี ๒ กลุ่มการเรียน ไดแ้ ก่
- หอ้ งเรยี นปกติหอ้ ง เรียนวิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์
- หอ้ งเรยี นพเิ ศษ หอ้ งเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ : (Intensive Program : IP)
2.4.๒.๒.หอ้ งเรยี นปกติท่ีจัดการเรียนการสอนแบบไมเ่ นน้ วิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั
พ้ืนฐาน มี 3 กลุ่มการเรยี น ได้แก่
- หอ้ งเรยี นการงานอาชีพ
- ห้องเรยี นภาษา – สงั คม
- ห้องดนตรีกีฬา
๑๓
2. โครงสร้างหลกั สูตร
2.1 โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรยี นเซกา พทุ ธศกั ราช 2562
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรงุ 2560)
กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ เวลาเรยี น
กจิ กรรม
ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
กลุม่ สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ – ๖
คณิตศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
(๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
วิทยาศาสตร์
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
สงั คมศกึ ษา ศาสนา (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
และวฒั นธรรม
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
(๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
160 160 160 3๒๐
(4 นก.) (4 นก.) (4 นก.) (8 นก.)
- ประวตั ศิ าสตร์ 40 40 40 80
(1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (2 นก.)
- ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
- หนา้ ท่ีพลเมอื ง วัฒนธรรม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐
และการดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คม (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.)
- เศรษฐศาสตร์
- ภมู ศิ าสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐
(๒ นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) (๓ นก.)
สขุ ศึกษาและ 120 (3 นก.)
พลศกึ ษา 80 80 80
ศลิ ปศึกษา (2 นก.) (2 นก.) (2 นก.) 40 (1 นก.)
การงานอาชีพและ 40 40 40 240 (6 นก.)
เทคโนโลยี (1 นก.) (1 นก.) (1นก.)
ภาษาตา่ งประเทศ ๑,640
120 120 120 (๓๙ นก.)
รวมเวลาเรียน (พนื้ ฐาน) (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.)
๓๖๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๘8๐ ๘8๐ ๘8๐
รายวชิ า / กจิ กรรมที่ (๒2 นก.) (๒2 นก.) (๒2 นก.) 2,220 ชั่วโมง
สถานศกึ ษาจดั เพมิ่ เติม
ตามความพร้อมและจุดเนน้ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวม ๓ ปี 4,220 ช่วั โมง
รวมเวลาเรียนทั้งหมด 240 ชั่วโมง
1,240 ชว่ั โมง / ปี
๑๔
2.2 โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ ปี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒
ที่ รหสั วิชา รายวิชา นก. ชม. ท่ี รหสั วิชา รายวิชา นก. ชม.
๖๐
๑ ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๑.๕ ๖๐ ๑ ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑.๕ ๘๐
๖๐
๒ ค๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๒.๐ ๘๐ ๒ ค๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ ๒.๐ ๒๐
๒๐
๓ ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑ ๑.๕ ๖๐ ๓ ว๒๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๒ ๑.๕ ๒๐
๒๐
๔ ว๒๑๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๐.๕ ๒๐ ๔ ว๒๑๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ ๐.๕ ๒๐
๒๐
๕ ว๒๑๑๒๑ วิทยาการคานวณ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๕ ว๒๑๑๒๒ วิทยาการคานวณ ๒ ๐.๕ ๒๐
๒๐
๖ ส๒๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๖ ส๒๑๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาฯ ๒ ๐.๕ ๔๐
๔๐
๗ ส๒๑๑๑๑ ประวัติศาสตร์ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๗ ส๒๑๑๑๒ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๐.๕ ๖๐
๕๐๐
๘ ส๒๑๑๒๑ พระพทุ ธศาสนา ๑ ๐.๕ ๒๐ ๘ ส๒๑๑๒๒ พระพทุ ธศาสนา ๒ ๐.๕
๒๐
๙ ส๒๑๑๓๑ ภูมิศาสตร์ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๙ ส๒๑๑๓๒ ภูมิศาสตร์ ๒ ๐.๕ ๒๐
๒๐
๑๐ พ๒๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๑ ๐.๕ ๒๐ ๑๐ พ๒๑๑๐๒ สุขศึกษา ๒ ๐.๕ ๖๐
๑๑ พ๒๑๑๑๑ พลศกึ ษา ๑ ๐.๕ ๒๐ ๑๑ พ๒๑๑๑๒ พลศกึ ษา ๒ ๐.๕ ๒๐
๒๐
๑๒ ศ๒๑๑๐๑ ดนตรี ๑ ๑.๐ ๔๐ ๑๒ ศ๒๑๑๐๒ ดนตรี ๒ ๑.๐ ๑๐๐
๑๔๐
๑๓ ง๒๑๑๐๑ งานบ้าน ๑ ๑.๐ ๔๐ ๑๓ ง๒๑๑๐๒ งานบ้าน ๒ ๑.๐ ๗๐๐
๑๔ อ๒๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑.๕ ๖๐ ๑๔ อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ๑.๕ ๒๐
๔๐
รวม ๑๒.๕ ๕๐๐ รวม ๑๒.๕ ๒๐
๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑๐๐
๒๐๐
กิจกรรมแนะแนว+ กิจกรรมแนะแนว๙ ๗๖๐
สาธารณประโยชน์
๑ สาธารณประโยชน์ ๐.๕ ๒๐ ๒ ๐.๕
๒ กจิ กรรมลส.ยวุ .บพ. ๐.๕ ๒๐ ๓ กิจกรรมลส.ยุว.บพ. ๐.๕
๓ กิจกรรมชุมนมุ ๐.๕ ๒๐ ๔ กจิ กรรมชมุ นมุ ๐.๕
รวม ๑.๕ ๖๐ รวม ๑.๕
รายวชิ าเพ่ิมเติมห้องเรียนปกติ รายวชิ าเพิ่มเติมห้องเรยี นปกติ
๑ อ๒๐๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพิม่ เตมิ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๑ อ๒๐๒๐๒ ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม ๒ ๐.๕
๒ ส๒๐๒๓๑ หน้าท่ีพลเมือง ๑ ๐.๕ ๒๐ ๒ ส๒๐๒๓๒ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๒ ๐.๕
๓ ลดเวลาเรยี นเพิม่ เวลารู้ ๑ ๒.๕ ๑๐๐ ๓ ลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ ๒ ๒.๕
รวม ๓.๕ ๑๔๐ รวม ๓.๕
รวมท้ังหมด ๑๗.๕ ๗๐๐ รวมทั้งหมด ๑๗.๕
รายวิชาเพิม่ เติมหอ้ งเรียนพเิ ศษ IP รายวิชาเพ่ิมเตมิ ห้องเรียนพิเศษ IP
๑ ค๒๐๒๐๑ จินตคณติ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๑ ค๒๐๒๐๒ จินตคณติ ๒ ๐.๕
๒ ว๒๐๒๐๑ ชวี วิทยา ๑ ๑.๐ ๔๐ ๒ ว๒๐๒๐๒ ชีววทิ ยา ๒ ๑.๐
๓ อ๒๐๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพิม่ เตมิ ๑ ๐.๕ ๒๐ ๓ อ๒๐๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม ๒ ๐.๕
๔ ส๒๐๒๓๑ หน้าท่พี ลเมอื ง ๑ ๐.๕ ๒๐ ๔ ส๒๐๒๓๒ หน้าที่พลเมอื ง ๒ ๐.๕
๕ ลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ ๑ ๒.๕ ๑๐๐ ๕ ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ๒ ๒.๕
รวม ๕.๐ ๒๐๐ รวม ๕.๐
รวมทั้งหมด ๑๙.๐ ๗๖๐ รวมท้งั หมด ๑๙.๐
๑๕
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2
ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2
ที่ รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม. ท่ี รหัสวชิ า รายวิชา นก. ชม.
1.5 60
1 ท22101 ภาษาไทย 3 2.0 80 1 ท22102 ภาษาไทย 4 1.5 60
1.5 60
2 ค22101 คณติ ศาสตร์ 3 0.5 20 2 ค22102 คณิตศาสตร์ 4 2.0 80
0.5 20
3 ว22101 วิทยาศาสตร์ 3 0.5 20 3 ว22102 วิทยาศาสตร์ 4 1.5 60
0.5 20
4 ว22111 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 0.5 20 4 ว22112 การออกแบบและเทคโนโลยี 4 0.5 20
0.5 20
5 ว22121 วิทยาการคานวณ 3 0.5 20 5 ว22122 วทิ ยาการคานวณ 4 0.5 20
6 ส22101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 3 0.5 20
1.0 40 6 ส22102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 4 0.5 20
7 ส22111 ประวัตศิ าสตร์ 3 1.0 40
1.5 60 7 ส22112 ประวตั ศิ าสตร์ 4 0.5 20
8 ส22121 พระพุทธศาสนา 3 12.5 500
8 ส22122 พระพุทธศาสนา 4 0.5 20
9 ส22131 ภมู ิศาสตร์ 3 0.5 20
10 พ22101 สขุ ศึกษา 3 0.5 20 9 ส22132 ภูมิศาสตร์ 4 0.5 20
11 พ22111 พลศกึ ษา 3 0.5 20
1.5 60 10 พ22102 สขุ ศกึ ษา 4 0.5 20
12 ศ22101 ทศั นศลิ ป์ 1
1.0 40 11 พ22112 พลศกึ ษา 4 0.5 20
13 ง22101 งานเกษตร 1 0.5 20
2.0 80 12 ศ22102 ทศั นศิลป์ 2 1.0 40
14 อ22101 ภาษาองั กฤษ 3 3.5 140
รวม 17.5 700 13 ง22102 งานเกษตร 2 1.0 40
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
0.5 20 14 อ22102 ภาษาองั กฤษ 4 1.5 60
1 แนะแนว+สาธารณประโยชน์ 1.0 40
1.0 40 รวม 12.5 500
2 กจิ กรรมลส.ยุว.บพ. 0.5 20
3 กจิ กรรมชมุ นมุ 2.0 100 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน
5.0 220
รวม 19.0 780 2 แนะแนว+สาธารณประโยชน์+IS 3 0.5 20
รายวิชาเพม่ิ เติมห้องเรยี นปกติ 3 กิจกรรมลส.ยุว.บพ. 0.5 20
1 I20201 IS 1
2 ส20233 หนา้ ท่ีพลเมือง 1 4 กจิ กรรมชุมนมุ 0.5 20
3 ลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ 3
รวม 1.5 60
รวม
รายวิชาเพิ่มเตมิ ห้องเรยี นปกติ
รวมท้งั หมด
1 I20202 IS 2 1.0 40
รายวชิ าเพม่ิ เติมห้องเรยี นพิเศษ IP
2 ส20234 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 2 0.5 20
1 ค20203 GSP ม.ตน้ 1
3 ลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ 4 2.0 80
2 ว20203 เคมี 1
รวม 3.5 140
3 I20201 IS 1
รวมท้ังหมด 17.5 700
4 ส20233 หน้าทีพ่ ลเมือง 3
5 ลดเวลาเรยี นเพมิ่ เวลารู้ 3 รายวชิ าเพิม่ เตมิ หอ้ งเรียนพเิ ศษ IP
รวม
รวมทัง้ หมด 1 ค20204 GSP ม.ต้น 2 0.5 20
2 ว20204 เคมี 2 1.0 40
3 I20202 IS 2 1.0 40
4 ส20234 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 4 0.5 20
5 ลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ 4 2.0 100
รวม 5.0 220
รวมทงั้ หมด 19.0 780
๑๖
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ที่ รหสั วิชา รายวชิ า นก. ชม. ที่ รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม.
1 ท23101 ภาษาไทย 5 1.5 60 1 ท23102 ภาษาไทย 6 1.5 60
2 ค23101 คณิตศาสตร์ 5 2.0 80 2 ค23102 คณติ ศาสตร์ 6 2.0 80
3 ว23101 วทิ ยาศาสตร์ 5 1.5 60 3 ว23102 วิทยาศาสตร์ 6 1.5 60
4 ว23111 การออกแบบและเทคโนโลยี 5 0.5 20 4 ว23112 การออกแบบและเทคโนโลยี 6 0.5 20
5 ว23121 วิทยาการคานวณ 5 0.5 20 5 ว23122 วทิ ยาการคานวณ 6 0.5 20
6 ส23101 สังคมศึกษา ศาสนาฯ 5 0.5 20 6 ส23102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 6 0.5 20
7 ส23111 ประวตั ิศาสตร์ 5 0.5 20 7 ส23112 ประวตั ิศาสตร์ 6 0.5 20
8 ส23121 พระพทุ ธศาสนา 5 0.5 20 8 ส23122 พระพทุ ธศาสนา 6 0.5 20
9 ส23131 ภมู ิศาสตร์ 5 0.5 20 9 ส23132 ภูมศิ าสตร์ 6 0.5 20
10 พ23101 สขุ ศกึ ษา 5 0.5 20 10 พ23102 สขุ ศกึ ษา 6 0.5 20
11 พ23111 พลศึกษา 5 0.5 20 11 พ23112 พลศกึ ษา 6 0.5 20
12 ศ23101 นาฏศิลป์ 1 1.0 40 12 ศ23102 นาฏศิลป์ 2 1.0 40
13 ง23101 งานไม้เครอ่ื งเรอื น 1.0 40 13 ง23102 งานไฟฟ้าเบือ้ งต้น 1.0 40
14 อ23101 ภาษาองั กฤษ 5 1.5 60 14 อ23102 ภาษาองั กฤษ 6 1.5 60
รวม 12.5 500 รวม 12.5 500
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
กจิ กรรมแนะแนว+ กจิ กรรมแนะแนว๙
1 สาธารณประโยชน์ 0.5 20 2 สาธารณประโยชน์ 0.5 20
2 กิจกรรมลส.ยวุ .บพ. 0.5 20 3 กจิ กรรมลส.ยวุ .บพ. 0.5 20
3 กจิ กรรมชุมนมุ 0.5 20 4 กิจกรรมชมุ นมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวิชาเพ่มิ เตมิ หอ้ งเรียนปกติ รายวิชาเพ่มิ เตมิ ห้องเรยี นปกติ
1 อ20203 ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม 3 0.5 20 1 อ20204 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 4 0.5 20
2 ส20235 หน้าท่พี ลเมอื ง 5 0.5 20 2 ส20236 หน้าที่พลเมือง 6 0.5 20
3 ลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารู้ 5 2.5 100 3 ลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้ 6 2.5 100
รวม 3.5 140 รวม 3.5 140
รวมทง้ั หมด 17.5 700 รวมท้ังหมด 17.5 700
รายวชิ าเพ่ิมเติมห้องเรียนพิเศษ IP รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หอ้ งเรียนพเิ ศษ IP
1 ค20205 โครงงานคณติ ศาสตร์ ม.ต้น 1 0.5 20 1 ค20206 โครงงานคณติ ศาสตร์ ม.ตน้ 2 0.5 20
2 ว20205 ฟิสกิ ส์ 1 1.0 40 2 ว20206 ฟสิ กิ ส์ 2 1.0 40
3 อ20203 ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม 3 0.5 20 3 อ20204 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 4 0.5 20
4 ส20235 หนา้ ที่พลเมอื ง 5 0.5 20 4 ส20236 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 6 0.5 20
5 ลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ 5 2.5 100 5 ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ 6 2.5 100
รวม 5.0 200 รวม 5.0 200
รวมท้ังหมด 19.0 760 รวมทง้ั หมด 19.0 760
๑๗
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 (แผนเน้นวทิ ย)์
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2
ท่ี รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม. ที่ รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม.
1 ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 40 1 ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 40
2 ค31111 คณิตศาสตร์ 1 2.5 100 2 ค31112 คณติ ศาสตร์ 2 2.5 100
3 ว31111 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 0.5 20 3 ว31112 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 0.5 20
4 ว31131 วทิ ยาการคานวณ 1 0.5 20 4 ว31132 วทิ ยาการคานวณ 2 0.5 20
5 ส31101 สงั คมศึกษา ศาสนาฯ 1 0.5 20 5 ส31102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 2 0.5 20
6 ส31111 ประวตั ิศาสตร์ 1 0.5 20 6 ส31112 ประวตั ศิ าสตร์ 2 0.5 20
7 ส31121 ภมู ิศาสตร์ 1 0.5 20 7 ส31122 ภูมิศาสตร์ 2 0.5 20
8 พ31101 สขุ ศึกษา 1 0.5 20 8 พ31102 สขุ ศึกษา 2 0.5 20
9 ศ31101 ดนตรี 1 0.5 20 9 ศ31102 ดนตรี 2 0.5 20
10 ง31101 งานเกษตรพชื 0.5 20 10 ง31102 งานเกษตรสตั ว์ 0.5 20
11 อ31101 ภาษาอังกฤษ 1 1.0 40 11 อ31102 ภาษาองั กฤษ 2 1.0 40
รวม 8.5 340 รวม 8.5 340
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20 1 กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20
2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20 2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20
3 กจิ กรรมชุมนมุ 0.5 20 3 กิจกรรมชมุ นมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวิชาเพิ่มเติมห้องเรยี นปกติ รายวิชาเพ่ิมเตมิ ห้องเรียนปกติ
1 อ30201 ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม 1 0.5 20 1 อ30202 ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม 2 0.5 20
2 ว30201 ฟสิ กิ ส์ 1 2.0 80 2 ว30202 ฟิสกิ ส์ 2 2.0 80
3 ว30221 เคมี 1 1.5 60 3 ว30222 เคมี 2 1.5 60
4 ว30241 ชวี วทิ ยา 1 1.5 60 4 ว30242 ชวี วิทยา 2 1.5 60
5 ว30261 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 1.0 40 5 ว30262 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 1.0 40
6 ส30231 หนา้ ทพี่ ลเมือง 1 0.5 20 6 ส30232 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 2 0.5 20
7 พ30211 เซปกั ตะกร้อ 0.5 20 7 พ30212 ฟตุ บอล 0.5 20
รวม 7.5 300 รวม 7.5 300
รวมทัง้ หมด 17.5 700 รวมท้งั หมด 17.5 700
รายวิชาเพ่มิ เตมิ ห้องเรยี นพเิ ศษ IP รายวชิ าเพม่ิ เติมหอ้ งเรยี นพิเศษ IP
1 อ30201 ภาษาองั กฤษเพมิ่ เติม 1 0.5 20 1 อ30202 ภาษาองั กฤษเพ่มิ เติม 2 0.5 20
2 อ30211 ภาษาองั กฤษฟงั พูด 1 0.5 20 2 อ30212 ภาษาอังกฤษฟังพูด 2 0.5 20
3 ค30201 GSP ม.ปลาย 1 0.5 20 3 ค30202 GSP ม.ปลาย 2 0.5 20
4 ว30201 ฟิสิกส์ 1 2.0 80 4 ว30202 ฟสิ กิ ส์ 2 2.0 80
5 ว30221 เคมี 1 1.5 60 5 ว30222 เคมี 2 1.5 60
6 ว30241 ชวี วทิ ยา 1 1.5 60 6 ว30242 ชวี วทิ ยา 2 1.5 60
๑๘
รายวชิ าเพิ่มเติมหอ้ งเรยี นพิเศษ IP รายวิชาเพิ่มเตมิ ห้องเรียนพเิ ศษ IP
7 ว30261 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 1.0 40 7 ว30262 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 1.0 40
8 ว30281 เทคนิคปฏบิ ัตกิ ารทางเคมี 1.0 40 8 ว30282 เทคนคิ ปฏบิ ัตกิ ารทางชีววทิ ยา 1.0 40
9 ส30231 หน้าทพ่ี ลเมอื ง 1 0.5 20 9 ส30232 หน้าทพี่ ลเมือง 2 0.5 20
10 พ30211 เซปักตะกร้อ 0.5 20 10 พ30212 ฟตุ บอล 0.5 20
รวม 9.5 380 รวม 9.5 380
รวมท้ังหมด 19.5 780 รวมทงั้ หมด 19.5 780
๑๙
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ (แผนเนน้ วทิ ย์)
ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ท่ี รหัสวิชา รายวชิ า นก. ชม. ที่ รหัสวิชา รายวชิ า นก. ชม.
1 ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 40 1 ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 40
2 ค32111 คณิตศาสตร์ 3 2.5 100 2 ค32112 คณิตศาสตร์ 4 2.5 100
3 ว32111 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 0.5 20 3 ว32112 การออกแบบและเทคโนโลยี 4 0.5 20
4 ว32131 วทิ ยาการคานวณ 3 0.5 20 4 ว32132 วิทยาการคานวณ 4 0.5 20
5 ส32101 สังคมศกึ ษา ศาสนาฯ 3 0.5 20 5 ส32102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 4 0.5 20
6 ส32111 ประวัตศิ าสตร์ 3 0.5 20 6 ส32112 ประวตั ศิ าสตร์ 4 0.5 20
7 ส32121 ภมู ิศาสตร์ 3 0.5 20 7 ส32122 ภมู ศิ าสตร์ 4 0.5 20
8 พ32101 สขุ ศกึ ษา 3 0.5 20 8 พ32102 สขุ ศึกษา 4 0.5 20
9 ศ32101 ทัศนศิลป์ 1 0.5 20 9 ศ32102 ทัศนศิลป์ 2 0.5 20
10 ง32101 ช่างไฟฟ้า 1 0.5 20 10 ง32102 ชา่ งไฟฟ้า 2 0.5 20
11 อ32101 ภาษาองั กฤษ 3 1.0 40 11 อ32102 ภาษาอังกฤษ 4 1.0 40
รวม 8.5 340 รวม 8.5 340
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20 1 กจิ กรรมสาธารณะประโยชน+์ IS 3 0.5 20
2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20 2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20
3 กจิ กรรมชุมนมุ 0.5 20 3 กิจกรรมชุมนมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวชิ าเพ่มิ เติมหอ้ งเรียนปกติ รายวิชาเพ่มิ เตมิ ห้องเรียนปกติ
1 I30201 IS 1 1.0 40 1 I30202 IS 2 1.0 40
2 ว30203 ฟสิ กิ ส์ 3 2.0 80 2 ว30204 ฟสิ กิ ส์ 4 2.0 80
3 ว30223 เคมี 3 1.5 60 3 ว30224 เคมี 4 1.5 60
4 ว30243 ชีววทิ ยา 3 1.5 60 4 ว30244 ชวี วทิ ยา 4 1.5 60
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
5 ว30263 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3 1.0 40 5 ว30264 4 1.0 40
6 พ30213 บาสเกตบอล 0.5 20 6 พ30214 วอลเลย์บอล 0.5 20
รวม 7.5 300 รวม 7.5 300
รวมทงั้ หมด 17.5 700 รวมทั้งหมด 17.5 700
รายวชิ าเพิ่มเติมห้องเรียนพิเศษ IP รายวิชาเพิ่มเติมหอ้ งเรียนพิเศษ IP
1 I30201 IS 1 1.0 40 1 I30202 IS 2 1.0 40
2 อ30213 ภาษาองั กฤษฟงั พูด 3 0.5 20 2 อ30214 ภาษาอังกฤษฟังพูด 4 0.5 20
3 ค30203 PAT คณิตศาสตร์ 1 0.5 20 3 ค30204 PAT คณติ ศาสตร์ 2 0.5 20
4 ว30203 ฟสิ กิ ส์ 3 2.0 80 4 ว30204 ฟิสิกส์ 4 2.0 80
5 ว30223 เคมี 3 1.5 60 5 ว30224 เคมี 4 1.5 60
6 ว30243 ชีววทิ ยา 3 1.5 60 6 ว30244 ชีววทิ ยา 4 1.5 60
7 ว30263 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3 1.0 40 7 ว30264 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 4 1.0 40
8 ว30283 เทคนิคปฏิบัติการทางฟสิ กิ ส์ 1.0 40 8 ว30284 ระเบียบวิธวี จิ ยั เบอื้ งตน้ 1 1.0 40
9 พ30213 บาสเกตบอล 0.5 20 9 พ30214 วอลเลยบ์ อล 0.5 20
รวม 9.5 380 รวม 9.5 380
รวมทัง้ หมด 19.5 780 รวมทงั้ หมด 19.5 780
๒๐
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 (แผนเน้นวิทย์)
ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ท่ี รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม. ที่ รหัสวชิ า รายวิชา นก. ชม.
1 ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 40 1 ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 40
2 ค33111 คณติ ศาสตร์ 5 2.5 100 2 ค33112 คณติ ศาสตร์ 6 2.5 100
3 ว30101 ฟิสิกส์พ้นื ฐาน 1.5 60
4 ว30121 เคมีพนื้ ฐาน 1.5 60
5 ว30141 ชวี วทิ ยาพ้นื ฐาน 1.5 60
6 ว30161 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศพนื้ ฐาน 1.5 60
3 ว33111 การออกแบบและเทคโนโลยี 5 0.5 20 7 ว33112 การออกแบบและเทคโนโลยี 6 0.5 20
4 ว33131 วิทยาการคานวณ 5 0.5 20 8 ว33132 วทิ ยาการคานวณ 6 0.5 20
5 ส33101 สงั คมศึกษา ศาสนาฯ 5 0.5 20 9 ส33102 สงั คมศึกษา ศาสนาฯ 6 0.5 20
6 ส33111 ประวตั ิศาสตร์ 5 0.5 20 10 ส33112 ประวตั ศิ าสตร์ 6 0.5 20
7 ส33121 ภูมิศาสตร์ 5 0.5 20 11 ส33122 ภูมศิ าสตร์ 6 0.5 20
8 พ33101 สขุ ศกึ ษา 5 0.5 20 12 พ33102 สุขศกึ ษา 6 0.5 20
9 ศ33101 นาฏศิลป์ 1 0.5 20 13 ศ33102 นาฏศิลป์ 2 0.5 20
10 ง33101 งานเกษตรชวี ภาพ 0.5 20 14 ง33102 งานบ้าน 0.5 20
11 อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 1.0 40 15 อ33102 ภาษาองั กฤษ 6 1.0 40
รวม 8.5 340 รวม 14.5 580
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
1 กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20 1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20
2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20 2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20
3 กจิ กรรมชุมนมุ 0.5 20 3 กจิ กรรมชมุ นมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวิชาเพ่ิมเติมหอ้ งเรียนปกติ รายวชิ าเพิ่มเติมห้องเรยี นปกติ
1 อ30203 ภาษาองั กฤษเพ่ิมเติม 3 0.5 20 1 อ30204 ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม 4 0.5 20
2 ว30205 ฟิสกิ ส์ 5 2.0 80 2
3 ว30225 เคมี 5 1.5 60 3
4 ว30245 ชีววิทยา 5 1.5 60 4
1.0 40 5
โลก ดาราศาสตร์ และ
5 ว30265 อวกาศ 5
6 ส30233 หน้าทีพ่ ลเมอื ง 3 0.5 20 6 ส30234 หน้าทพ่ี ลเมือง 4 0.5 20
7 พ30215 กฬี าและนนั ทนาการ 0.5 20 7 พ30216 ลีลาศ 0.5 20
รวม 7.5 300 รวม 1.5 60
รวมทง้ั หมด 17.5 700 รวมท้งั หมด 17.5 700
รายวชิ าเพิ่มเตมิ ห้องเรยี นพเิ ศษ IP รายวิชาเพิม่ เติมห้องเรียนพิเศษ IP
1 อ30203 ภาษาองั กฤษเพิ่มเตมิ 3 0.5 20 1 อ30204 ภาษาอังกฤษเพ่มิ เตมิ 4 0.5 20
2 อ30215 ภาษาองั กฤษฟังพูด 5 0.5 20 2 อ30216 ภาษาอังกฤษฟงั พูด 6 0.5 20
3 ค30205 PAT คณติ ศาสตร์ 3 0.5 20 3 ค30206 โครงงานคณติ ศาสตร์ 0.5 20
4 ว30205 ฟิสกิ ส์ 5 2.0 80 4 ๒๑
1.5 60 5
5 ว30225 เคมี 5 1.5 60 6 1.0 40
0.5 20
6 ว30245 ชีววิทยา 5 1.0 40 7 0.5 20
โลก ดาราศาสตร์ และ 3.5 140
1.0 40 8 ว30286 ระเบียบวิธีวิจยั เบ้อื งตน้ 2 19.5 780
7 ว30265 อวกาศ 5
0.5 20 9 ส30234 หน้าที่พลเมอื ง 4
8 ว30285 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ม.ปลาย
0.5 20 10 พ30216 ลลี าศ
9 ส30233 หน้าทพ่ี ลเมอื ง 3
9.5 380 รวม
10 พ30215 กีฬาและนันทนาการ
19.5 780 รวมทัง้ หมด
รวม
รวมทั้งหมด
๒๒
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 (แผนไม่เนน้ วิทย์)
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ที่ รหสั วชิ า รายวชิ า นก. ชม. ที่ รหัสวิชา รายวิชา นก. ชม.
1 ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 40 1 ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 40
2 ค31101 คณิตศาสตร์ 1 1.0 40 2 ค31102 คณิตศาสตร์ 2 1.0 40
วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 2 1.0 40
3 ว31101 (ชีววทิ ยา1) 1.0 40 3 ว31101 (ชีววิทยา2)
4 ว31111 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 0.5 20 4 ว31112 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 0.5 20
5 ว31131 วิทยาการคานวณ 1 0.5 20 5 ว31132 วิทยาการคานวณ 2 0.5 20
6 ส31101 สังคมศึกษา ศาสนาฯ 1 0.5 20 6 ส31102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 2 0.5 20
7 ส31111 ประวัติศาสตร์ 1 0.5 20 7 ส31112 ประวัติศาสตร์ 2 0.5 20
8 ส31121 ภูมศิ าสตร์ 1 0.5 20 8 ส31122 ภมู ศิ าสตร์ 2 0.5 20
9 พ31101 สุขศึกษา 1 0.5 20 9 พ31102 สขุ ศกึ ษา 2 0.5 20
10 ศ31101 ดนตรี 1 0.5 20 10 ศ31102 ดนตรี 2 0.5 20
11 ง31101 งานเกษตรพชื 0.5 20 11 ง31102 งานเกษตรสตั ว์ 0.5 20
12 อ31101 ภาษาอังกฤษ 1 1.0 40 12 อ31102 ภาษาองั กฤษ 2 1.0 40
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20 1 กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20
2 กิจกรรมแนะแนว 0.5 20 2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20
3 กิจกรรมชุมนมุ 0.5 20 3 กิจกรรมชุมนมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ รายวิชาเพิม่ เติม
1 อ30201 ภาษาองั กฤษเพ่มิ เตมิ 1 0.5 20 1 อ30202 ภาษาองั กฤษเพิม่ เติม 2 0.5 20
ภาษาอังกฤษเพื่อการ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การ
2 อ30221 ทอ่ งเที่ยว 1 1.0 40 2 อ30222 ทอ่ งเทยี่ ว 2 1.0 40
หลักฐานและวิธกี ารทาง
3 ส30201 การปกครองท้องถิ่น 0.5 20 3 ส30203 ประวัติศาสตร์ 0.5 20
4 ส30202 กฏหมายที่ประชาชนควรรู้ 1.0 40 4 ส30204 ประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถ่ิน 1.0 40
5 ท30201 การพดู 1.0 40 5 ท30202 วรรณกรรมปัจจบุ นั 1.0 40
6 ท30202 การอ่านและพิจารณาวรรณกรรม 1.0 40 6 ท30203 วรรณคดีมรดก 1.0 40
7 ง30201 ชา่ งเขียนแบบเทคนคิ 1.5 60 7 ง30202 การเพาะเหด็ ด้วยวัสดเุ พาะ 1.5 60
8 ศ30201 ทัศนศลิ ป์ 1 0.5 20 8 ศ30202 ทัศนศิลป์ 2 0.5 20
9 ส30231 หนา้ ที่พลเมือง 1 0.5 20 9 ส30232 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 2 0.5 20
10 พ30211 เซปักตะกร้อ 0.5 20 10 พ30212 ฟุตบอล 0.5 20
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
รวมท้ังหมด 17.5 700 รวมทง้ั หมด 17.5 700
๒๓
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5 (แผนไม่เน้นวิทย์)
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2
ท่ี รหสั วชิ า รายวิชา นก. ชม. ท่ี รหสั วิชา รายวชิ า นก. ชม.
1 ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 40 1 ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 40
2 ค32101 คณิตศาสตร์ 3 1.0 40 2 ค32102 คณติ ศาสตร์ 4 1.0 40
วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ 2 1.0 40
3 ว32101 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 (เคมี) 1.0 40 3 ว32102 (ฟิสกิ ส)์
4 ว32131 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 0.5 20 4 ว32112 การออกแบบและเทคโนโลยี 4 0.5 20
5 ว32151 วทิ ยาการคานวณ 3 0.5 20 5 ว32132 วิทยาการคานวณ 4 0.5 20
6 ส32101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 3 0.5 20 6 ส32102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 4 0.5 20
7 ส32111 ประวตั ศิ าสตร์ 3 0.5 20 7 ส32112 ประวตั ิศาสตร์ 4 0.5 20
8 ส32121 ภมู ศิ าสตร์ 3 0.5 20 8 ส32122 ภูมิศาสตร์ 4 0.5 20
9 พ32101 สขุ ศกึ ษา 3 0.5 20 9 พ32102 สุขศึกษา 4 0.5 20
10 ศ32101 ทัศนศลิ ป์ 1 0.5 20 10 ศ32102 ทัศนศลิ ป์ 2 0.5 20
11 ง32101 ช่างไฟฟ้า 1 0.5 20 11 ง32102 ช่างไฟฟ้า 2 0.5 20
12 อ32101 ภาษาอังกฤษ 3 1.0 40 12 อ32102 ภาษาอังกฤษ 4 1.0 40
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
กจิ กรรมสาธารณะประโยชน+์
1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20 1 IS 3 0.5 20
2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20 2 กิจกรรมแนะแนว 0.5 20
3 กจิ กรรมชมุ นมุ 0.5 20 3 กิจกรรมชุมนมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ รายวชิ าเพิ่มเตมิ
1 I30201 IS 1 1.0 40 1 I30202 IS 2 1.0 40
ภาษาองั กฤษเพอ่ื การ ภาษาอังกฤษเพือ่ การท่องเที่ยว
2 อ30223 ทอ่ งเท่ยี ว 3
1.0 40 2 อ30224 4 1.0 40
อนุรักษว์ ฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ 0.5 20 3 ส30207 นเิ วศนท์ ้องถ่นิ 0.5 20
3 ส30205 อสี าน
4 ส30206 การเงนิ การคลัง การธนาคาร 1.0 40 4 ส30208 ภมู ิศาสตรเ์ ศรษฐกิจ 1.0 40
5 ท30205 การเขยี น 1.0 40 5 ท30207 วรรณกรรมท้องถนิ่ 1.0 40
6 ท30206 ประวตั ศิ าสตร์วรรณคดี 1.0 40 6 ท30208 การแต่งคาประพนั ธ์ 1.0 40
7 ง30203 ชา่ งซ่อมเครอื่ งไฟฟา้ 1.5 60 7 ง30204 ช่างไม้ 1.5 60
8 ศ30203 นาฏศิลป์ 1 0.5 20 8 ศ30204 นาฏศิลป์ 2 0.5 20
6 พ30213 บาสเกตบอล 0.5 20 6 พ30214 วอลเลยบ์ อล 0.5 20
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
รวมทัง้ หมด 17.5 700 รวมท้งั หมด 17.5 700
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 (แผนไม่เนน้ วิทย์) ๒๔
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ท่ี รหสั วิชา รายวชิ า นก. ชม. ท่ี รหัสวชิ า รายวชิ า นก. ชม.
1 ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 40 1 ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 40
2 ค33101 คณติ ศาสตร์ 5 1.0 40 2 ค33102 คณติ ศาสตร์ 6 1.0 40
3 ว33101 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ 1 1.0 40 3 ว33102 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ 2 1.0 40
4 ว33131 การออกแบบและเทคโนโลยี 5 0.5 20 4 ว33132 การออกแบบและเทคโนโลยี 6 0.5 20
5 ว33151 วิทยาการคานวณ 5 0.5 20 5 ว33152 วทิ ยาการคานวณ 6 0.5 20
6 ส33101 สงั คมศึกษา ศาสนาฯ 5 0.5 20 6 ส33102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ 6 0.5 20
7 ส33111 ประวตั ิศาสตร์ 5 0.5 20 7 ส33112 ประวัติศาสตร์ 6 0.5 20
8 ส33121 ภมู ิศาสตร์ 5 0.5 20 8 ส33122 ภมู ศิ าสตร์ 6 0.5 20
9 พ33101 สขุ ศึกษา 5 0.5 20 9 พ33102 สุขศึกษา 6 0.5 20
10 ศ33101 นาฏศิลป์ 1 0.5 20 10 ศ33102 นาฏศลิ ป์ 2 0.5 20
11 ง33101 งานเกษตรชีวภาพ 0.5 20 11 ง33102 งานบา้ น 0.5 20
12 อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 1.0 40 12 อ33102 ภาษาองั กฤษ 6 1.0 40
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
กจิ กรรมสาธารณะ
1 ประโยชน์ 0.5 20 1 กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 0.5 20
2 กจิ กรรมแนะแนว 0.5 20 2 กิจกรรมแนะแนว 0.5 20
3 กิจกรรมชมุ นมุ 0.5 20 3 กิจกรรมชมุ นมุ 0.5 20
รวม 1.5 60 รวม 1.5 60
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ รายวิชาเพมิ่ เติม
1 อ30203 ภาษาอังกฤษเพ่ิมเตมิ 3 0.5 20 1 อ30204 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เติม 4 0.5 20
ภาษาอังกฤษเพ่อื การ ภาษาอังกฤษเพ่ือการ
2 อ30225 ท่องเทย่ี ว 5 1.0 40 2 อ30226 ท่องเท่ียว 6 1.0 40
3 ส30209 รายไดป้ ระชาชาติ 0.5 20 3 ส30211 วัฒธรรมสากล 0.5 20
4 ส30210 ประชากรกับคณุ ภาพชวี ติ 1.0 40 4 ส30212 สทิ ธิมนุษยชน 1.0 40
ภาษาเพ่อื กิจกรรมการ
5 ท30209 แสดง 1.0 40 5 ท30211 การพดู ตอ่ หนา้ ชุมชน 1.0 40
6 ท30210 ภาษากับวัฒนธรรม 1.0 40 6 ท30212 หลกั ภาษา 1.0 40
7 ง30205 โครงงานชา่ งอตุ สาหกรรม 1 1.5 60 7 ง30206 โครงงานชา่ งอุตสาหกรรม 2 1.5 60
8 ศ30205 ดนตรี 1 0.5 20 8 ศ30206 ดนตรี 2 0.5 20
9 ส30233 หน้าทพี่ ลเมือง 3 0.5 20 9 ส30234 หน้าทพ่ี ลเมอื ง 4 0.5 20
10 พ30215 กฬี าและนนั ทนาการ 0.5 20 10 พ30216 ลลี าศ 0.5 20
รวม 8.0 320 รวม 8.0 320
รวมทัง้ หมด 17.5 700 รวมท้งั หมด 17.5 700
๒๕
โครงสรา้ งเวลาเรียนหลกั สตู รสถานศกึ ษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม. ๑ - ๓) โรงเรยี นเซกา อาเภอเซกา จงั หวัดบึงกาฬ
กลุ่มสาระ จานวนหน่วยกิต / ภาคเรยี น
ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓
ภาคเรยี น ภาคเรยี น ภาคเรียน ภาคเรียน ภาคเรยี น ภาคเรยี น
ที่ ๑ ท่ี ๒ ท่ี ๑ ท่ี ๒ ท่ี ๑ ที่ ๒
พ้ืนฐาน
เพ่ิมเ ิตม
พ้ืนฐาน
เพิ่มเ ิตม
พ้ืนฐาน
เพ่ิมเติม
พื้นฐาน
เพ่ิมเ ิตม
พ้ืนฐาน
เพิ่มเ ิตม
พ้ืนฐาน
เพ่ิมเติม
๑. สาระภาษาไทย ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
๕๕๕๕๕๕
๒. สาระคณิตศาสตร์ ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
๕๕๕๕๕๕
๓. สาระวทิ ยาศาสตร์ ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
๕๕๕๕๕๕
๔. สาระสังคมศึกษา ศาสนา ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒
และวัฒนธรรม
๕. สาระสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๑. ๒. ๑. ๒. ๑. ๒. ๑. ๒. ๑. ๒. ๑. ๒.
๕๐๕๐๕๐๕๐๕๐๕
๐
๖. สาระศิลปะ ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
๗. สาระการงานอาชพี ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
และเทคโนโลยี ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
๘. สาระภาษาตา่ งประเทศ ๑. ๑. ๑. ๑. ๑. ๑.
๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕
รวมหนว่ ยกิต ๑๑ ๒. ๑๑ ๒. ๑๑ ๒. ๑๑ ๒. ๑๑ ๒. ๑๑ ๒.
รวมหน่วยกิตท้ังภาคเรียน ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕
รวมเวลาเรยี น (ชั่วโมง) ๑๓.๕ ๑๓.๕ ๑๓.๕ ๑๓.๕ ๑๓.๕ ๑๓.๕
กิจกรรมแนะแนว (ชั่วโมง)
กจิ กรรมนักเรยี น (ชั่วโมง) ๕๔๐ ๕๔๐ ๕๔๐ ๕๔๐ ๕๔๐ ๕๔๐
กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐
(ชวั่ โมง) ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๕
รวมเวลาเรียนตลอดภาคเรียน
๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๕
(ชว่ั โมง)
รวมหน่วยการเรียนตลอดปี ๖๐๐ ๖๐๐ ๖๐๐ ๖๐๐ ๖๐๐ ๖๐๐
๒๗.๐ ๒๗.๐ ๒๗.๐
รายวิชาพื้นฐาน โครงสรา้ งหลกั สตู ร ๒๖
ท 21101 ภาษาไทย 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ท 21102 ภาษาไทย 2 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
ท 22101 ภาษาไทย 3 มัธยมศกึ ษาตอนต้น 60 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น
ท 22102 ภาษาไทย 4 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน
ท 23101 ภาษาไทย 5 1.5 หน่วยกติ 60 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น
ท 23102 ภาษาไทย 6 1.5 หน่วยกติ 60 ชั่วโมง/ภาคเรยี น
1.5 หน่วยกติ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
1.5 หน่วยกิต
1.5 หนว่ ยกติ
1.5 หน่วยกติ
รายวชิ าเพม่ิ เติม
-
โครงสรา้ งหลกั สตู ร
รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๒๗
ท31101 ภาษาไทย 1 มัธยมศึกษาตอนปลาย
ท31102 ภาษาไทย 2 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 หนว่ ยกิต 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 หน่วยกิต 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน
ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 หนว่ ยกิต 40 ช่วั โมง/ภาคเรียน
ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 หนว่ ยกติ 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน
1.0 หนว่ ยกิต 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน
1.0 หนว่ ยกติ
รายวชิ าเพิม่ เติม 1.0 หน่วยกติ 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น
ท30201 การพดู 1.0 หน่วยกติ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
ท30202 การอ่านและพิจารณาวรรณกรรม 1.0 หนว่ ยกิต 40 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น
ท3020๓ วรรณกรรมปัจจุบัน 1.0 หน่วยกิต 40 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น
ท3020๔ วรรณคดีมรดก 1.0 หน่วยกิต 40 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น
ท30205 การเขยี น 1.0 หน่วยกิต 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น
ท30206 ประวัติศาสตร์วรรณคดี 1.0 หนว่ ยกิต 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น
ท30207 วรรณกรรมท้องถน่ิ 1.0 หนว่ ยกติ 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น
ท30208 การแตง่ คาประพนั ธ์ 1.0 หนว่ ยกติ 40ช่วั โมง/ภาคเรียน
ท30209 ภาษาเพ่ือกจิ กรรมการแสดง 1.0 หนว่ ยกิต 40ชั่วโมง/ภาคเรยี น
ท30210 ภาษากบั วัฒนธรรม 1.0 หนว่ ยกติ 40ช่วั โมง/ภาคเรยี น
ท30211 การพดู ต่อหนา้ ชุมชน 1.0 หน่วยกิต 40ชัว่ โมง/ภาคเรยี น
ท30212 หลกั ภาษา
๒๘
คาอธบิ ายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
มัธยมศกึ ษาตอนตน้
๒๙
คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ท 21101 ภาษาไทย 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อ่านจับใจความสาคัญระบุเหตุและผล
ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ระบุและอธิบายคาเปรียบเทียบและคาที่มีหลายความหมายในบริบทต่างๆ
ตีความคายาก และมีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคา
ถูกต้องชัดเจนเหมาะสม เขียนแนะนาตนเอง เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสาคัญและ
รายละเอยี ด เขียนส่อื สารเผยแพร่แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วโบราณสถานหรอื แหล่งวัตถใุ นเขตธนบรุ ี เขยี นเรยี งความ
เขยี นย่อความจากเร่ืองท่ีอ่าน เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธรุ ะ และมีมารยาทในการอ่าน
ฝึกสรุปความสาคัญของเร่ืองท่ีฟังและดู เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู พูดรายงานจากการศึกษาค้นคว้า
นาเสนอเร่ืองอาชีพของชาวธนบุรีท่ีสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันและมีมารยาทในการฟัง ดู พูด ศึกษาการ
อธิบายลักษณะของเสียง สร้างคาในภาษาไทยและแต่งบทร้อยกรอง กาพย์ยานี 11 ศึกษาสรุปเน้ือหา
วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และท่อง
อาขยานตามทีก่ าหนดได้ โดยใชว้ ธิ กี ารฝกึ ทกั ษะ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการสร้างความตระหนกั
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
ในชวี ติ ประจาวัน
รหสั ตัวช้วี ัด
ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ท 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ท 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ท 4.1 ม.1/1, ม.1/2
ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2
รวมทงั้ หมด 18 ตวั ชวี้ ัด
๓๐
คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
ท 21102 ภาษาไทย 2 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
อ่านตีความ การระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียน การอ่านและปฏิบัติตาม
เอกสารคู่มอื การอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ มารยาทในการอา่ น การเขียนแสดงความคดิ เหน็ การเขียน
จดหมายส่วนตวั การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ การเขียนรายงาน มารยาทในการเขยี น การพดู ประเมนิ ความ
น่าเชื่อถือของส่ือ การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้า มารยาทในการฟัง การวิเคราะห์ความแตกต่างของ
ภาษาพูด ภาษาเขียน สานวนท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิต การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดี
และวรรณกรรม บทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณคา่
โดยอ่านตีความ ปฏิบัติตามคู่มือแนะนาวิธีการใช้งาน วิเคราะห์คุณค่าท่ีได้รับจากการอ่าน มี
มารยาทในการอา่ น เขียนแสดงความคิดเหน็ เขียนจดหมายส่วนตวั เขียนจดหมายกิจธรุ ะ เขยี นรายงาน
มีมารยาทในการเขียน พูดประเมินความน่าเชื่อถือของส่ือ พูดรายงาน มีมารยาทในการฟัง วิเคราะห์
ความแตกต่างของภาษาพูด ภาษาเขยี น แต่งบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 จาแนกและใชส้ านวนท่ี
เป็นคาพังเพยและสุภาษิต สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบท
อาขยานตามที่กาหนดและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่าตามสนใจ
เพ่ือให้นกั เรียนมคี วามสามารถในการส่ือสารและความสามารถในการคิดใช้กระบวนการอ่าน การ
พูด กระบวนการเขียนอย่างมีวิจารณญาณและมีมารยาท ใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
มงุ่ ม่นั ใน การทางาน มีจิตสาธารณะ และรกั ความเปน็ ไทย
รหัสตัวช้ีวดั
ท 1.1 ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 2.1 ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 3.1 ม.1/5, ม.1/6
ท 4.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท 5.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
รวมทงั้ หมด 17 ตวั ช้ีวดั
๓๑
คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ท 22101 ภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
ผู้เรียนศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง การอ่านจับใจความสาคัญ การสรุปความ
และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอ่าน การวิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจรงิ การอา่ นหนังสือบทความหรือ
คาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดท่ีได้จากการอ่าน เพ่ือนาไปใช้แก้ปัญหาใน
ชีวิต มีมารยาทในการอ่าน การเขียนวิเคราะห์วิจารณ์แสดงความรู้ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเร่ืองท่ี
อา่ นอย่างมีเหตุผล การวิเคราะห์คุณคา่ และข้อคิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม บทอาขยานและบทรอ้ ย
กรองทม่ี คี ุณค่า การสรา้ งคาในภาษาไทย โครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยคความรวมและประโยคความ
ซ้อน การแต่งร้อยกรอง การใช้คาราชาศัพท์ ตลอดจนสามารถอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่อี ่าน ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามสนใจ
เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการคิด ใช้กระบวนการอ่าน
การพูด กระบวนการเขยี นอย่างมวี ิจารณญาณและมีมารยาท ใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน
และรักความเปน็ ไทย
รหสั ตวั ช้ีวัด
ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ท 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ท 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ท 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2
รวมทง้ั หมด 16 ตัวชว้ี ดั
๓๒
คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ท 22102 ภาษาไทย 4 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต
ผู้เรียนศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง การอ่านจับใจความสาคัญ การสรุปความ
และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอา่ น การวิเคราะหแ์ ละจาแนกข้อเทจ็ จรงิ การอา่ นหนงั สือบทความหรือ
คาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จากการอ่าน เพ่ือนาไปใช้แก้ปัญหาใน
ชีวิต มีมารยาทในการอ่าน การเขียนวิเคราะห์วิจารณ์แสดงความรู้ความคิดเห็นหรอื โต้แย้งในเร่ืองท่ีอ่าน
อย่างมีเหตุผล การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม บทอาขยานและบทร้อย
กรองทม่ี คี ุณค่า การสรา้ งคาในภาษาไทย โครงสร้างประโยคสามญั ประโยคความรวมและประโยคความ
ซ้อน การแต่งร้อยกรอง การใช้คาราชาศัพท์ ตลอดจนสามารถอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่ีอา่ น ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่าตามสนใจ
เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร และความสามารถในการคิด ใช้กระบวนการอ่าน
การพูด กระบวนการเขยี นอย่างมีวิจารณญาณและมมี ารยาท ใชภ้ าษาแสวงหาความรู้ เป็นผู้ใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น
และรกั ความเป็นไทย
รหสั ตวั ชว้ี ัด
ท 1.1 ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
ท 2.1 ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
ท 3.1 ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6
ท 4.1 ม.2/4, ม.2/5
ท 5.1 ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
รวมท้งั หมด 16 ตัวชีว้ ดั
๓๓
คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ท 23101 ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศึกษาการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ บทรอ้ ยกรอง การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ต่างๆ การคัดลายมือ
การเขียนข้อความตามสถานการณ์ การเขียนอัตชีวประวัติ การเขียนย่อความ การเขียนจดหมายกิจธุระ
การพูดแสดงความคิดเห็น การพูดวิเคราะห์ ศึกษาหลักภาษาไทยเรื่องคาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ
ประโยคซับซ้อน ระดบั ภาษา ศึกษาวรรณคดีวรรณกรรมท้องถ่นิ
โดยให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง การอ่านจับใจความจากสื่อต่างการคัด
ลายมือ การเขียนข้อความตามสถานการณ์ การเขียนอัตชีวประวัติ การเขียนย่อความ การเขียนจดหมาย
กิจธรุ ะ การพูดแสดงความคิดเหน็ การพดู วิเคราะห์ ศึกษาหลักภาษาไทยเรือ่ งคาทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ
ประโยคซบั ซอ้ น ระดบั ภาษา ศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมทอ้ งถนิ่
เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสารและความสามารถในการคิด ใช้กระบวนการอ่านใน
การฟังและดู กระบวนการเขียนอย่างมีวิจารณญาณเข้าใจหลักภาษาไทย วิเคราะห์วรรณคดีและ
วรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่า เปน็ ผูใ้ ฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น มุ่งมั่นในการทางาน มจี ติ สาธารณะ และรักความ
เป็นไทย
รหัสตัวชว้ี ัด
ท 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
ท 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
ท 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ท 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2
รวมท้งั หมด 18 ตวั ชวี้ ัด
๓๔
คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ท 23102 ภาษาไทย 6 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่วั โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต
ผู้เรยี นศกึ ษาการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ การอา่ นตามความสนใจ การเขยี นอธิบาย การ
เขียนวิเคราะห์ การกรอกแบบสมัครงาน การเขียนรายงาน มารยาทในการเขียน การพูดรายงาน
การศึกษาค้นคว้า การพูดในโอกาสต่างๆ การพูดโน้มน้าว ศึกษาหลักภาษาไทย เรื่องคาทับศัพท์
คาศัพทบ์ ัญญัติ คาศัพทท์ างวิชาการและวิชาชีพ โคลงส่สี ุภาพ การวิเคราะห์คุณค่าวถิ ีไทยจากวรรณคดี
และวรรณกรรม บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่
โดยให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง การอ่านจับใจความจากสื่อต่างๆ การคัด
ลายมือ การเขียนข้อความตามสถานการณ์ การเขียนอัตชีวประวัติ การเขียนย่อความ การเขียนจดหมาย
กิจธุระ การพูดแสดงความคิดเห็น การพูดวิเคราะห์ ศึกษาหลั กภาษาไทยเรื่องคาที่มาจาก
ภาษาตา่ งประเทศ ประโยคซบั ซ้อน ระดับภาษา ศึกษาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ
เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามสามารถในการสื่อสารและความสามารถในการคดิ ใช้กระบวน
การอ่าน ในการฟังและดู กระบวนการเขียนอย่างมีวิจารณญาณเข้าใจหลักภาษาไทย วิเคราะห์
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า เป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ
และรกั ความเปน็ ไทย
รหสั ตวั ช้ีวดั
ท 1.1 ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ท 2.1 ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ท 3.1 ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ท 4.1 ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ท 5.1 ม.3/3, ม.3/4
รวมทั้งหมด 18 ตวั ชว้ี ัด
๓๕
คาอธิบายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
๓๖
คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
ท 31101 ภาษาไทย 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
อ่านออกเสียง อ่านจับใจความ ตีความ แปลความ ขยายความ อ่านวิเคราะห์ วิจารณ์
บทความและวรรณคดีในบทเรียน บทละคร เรื่องสั้น บทกวี และบทร้อยกรองอย่างมีมารยาท สืบค้น
และสังเคราะห์ความรู้จากการอ่านส่ือส่ิงพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เก่ียวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดย
ประมวลความรู้และบันทึกส่ิงที่เป็นประโยชน์ท้ังต่อตนเอง ต่อชุมชนหรือท้องถิ่นอย่างสม่าเสมอเพ่ือนาไป
ประยุกต์ใชใ้ นการพัฒนาตน พฒั นาการเรียน และพฒั นาความรู้ทางอาชีพในทอ้ งถิน่
เขียนส่ือสารในรูปแบบประกาศ จดหมายกิจธุระ โครงการ รายงานการดาเนินโครงการ การ
กรอกแบบรายการต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์โดยใช้ภาษาเรียบเรียงได้ถูกต้อง มีสาระสาคัญชัดเจน
เขียนเรียงความ ย่อความจากบทความวิชาการ เร่ืองส้ัน และสารคดี กวีนิพนธ์ วรรณคดี เขียนบันทึก
ความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายเพ่ือนาไปพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ พูดต่อหน้าท่ีประชุมชน พูด
สรุปแนวคิด แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์แนวคิด การใช้ภาษา และความน่าเช่ือถือ จากเร่ืองท่ีฟัง ดู
และพูด อย่างมีเหตุผลและมีมารยาท อธิบายธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา ลักษณะของภาษา
เสียงในภาษา ส่วนประกอบของภาษา องค์ประกอบของพยางค์ คา และการเพิ่มคา วิเคราะห์อิทธิพล
ของภาษาตา่ งประเทศ ใช้ภาษาเหมาะสมกับโอกาส กาลเทศะ บคุ คลตามระดับของภาษา แต่งบทร้อย
กรอง กาพย์ และโคลง วิเคราะห์วิจารณ์จุดมุ่งหมาย รูปแบบ เนื้อหา กลวิธีของวรรณคดีและบทความ
ตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดี ท่องจาและบอกคุณค่าของบทอาขยาน
ตามท่กี าหนด
มีทักษะในการส่ือสาร ในการคิด ในการแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี มี
ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่ือสตั ย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มงุ่ มั่นในการทางาน รัก
ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ
รหัสตัวช้ีวัด
ท 1.1 ม.4-6/1
ท 2.1 ม.4-6/1
ท 3.1 ม.4-6/1
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/5
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/6
รวมทั้งหมด 8 ตวั ช้วี ดั
๓๗
คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ท 31102 ภาษาไทย 2 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
อา่ นออกเสียงวรรณกรรม วรรณคดีร้อยแก้วประเภทบทความ และบทร้อยกรองประเภทกาพย์ กลอน
ร่าย และโคลง เป็นทานองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจ ตีความ แปลความ และขยายความ วิเคราะห์ข้อเท็จจริง
ขอ้ คิดเหน็ จากการอ่านนามาพัฒนาตนเอง การเรยี น อาชพี และมมี ารยาทการอา่ น
เขียนเรียงความ ย่อความ ประเมินงานเขียนของผู้อ่นื นามาพัฒนางานเขียนตนเอง เขียนรายงาน
ทางการศึกษา บนั ทกึ การศกึ ษาค้นควา้ เพ่อื นาไปพฒั นาตนเอง และมมี ารยาทในการเขยี น
ฟัง ดูสือ่ ข่าวสาร บทความ บนั เทิงคดี การพูดแสดงความคดิ เหน็ วเิ คราะห์แนวคดิ ทั้งท่เี ป็นทางการ
และไม่เป็นทางการ ประเมินเร่ืองโดยใช้วิจารณญาณในการเลือกเร่ืองที่จะฟังและดู พูดแนะนาตนเองและ
เสนอแนวคิดใหม่ ๆ ดว้ ยภาษาท่ถี ูกต้อง และมมี ารยาทการพูด การฟงั และการดู
อธิบายธรรมชาติ และลกั ษณะของภาษา การเลือกใช้คา การเปล่ียนแปลงของภาษา การใช้ภาษา
เขียนเชิงวิชาการ การใช้ตัวเลขไทย การใช้เทคโนโลยีสื่อสารพัฒนาความรู้ อาชีพ และการดาเนินชีวิต
สามารถแต่งบทร้อยกรอง ร่าย โคลง ฉันท์ กาพย์ และกลอน วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ
และภาษาถิ่น อธบิ ายและวิเคราะห์หลกั การสร้างคา
วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบ้ืองต้น เช่ือมโยงลักษณะเด่นกับ
การเรียนรูท้ างประวตั ศิ าสตรแ์ ละวถิ ชี ีวิตของสงั คมในอดตี ประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ สงั เคราะหข์ อ้ คิด
รวบรวมวรรณกรรมพื้นบ้านและอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ี
กาหนดหรือตามความสนใจ ศึกษาประวัติวรรณคดี กวีสาคัญสมัยกรุงสุโขทัย ปัจจัยแวดล้อมที่ทาให้เกิด
วรรณกรรมและวรรณคดี พิจารณาของเร่อื ง เนอ้ื หา สภาพสงั คม วถิ ีชีวิต ค่านยิ ม และความเชอื่ เพอ่ื นาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ
รหัสตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3
ท 2.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3
ท 3.1 ม.4-6/2
ท 4.1 ม.4-6/2
ท 5.1 ม.4-6/2, ม.4-6/6
รวมท้ังหมด 8 ตวั ชีว้ ัด
๓๘
คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ท 32101 ภาษาไทย 3 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
อ่านเรื่องต่าง ๆ อย่างเข้าใจโดยการแปลความ ตีความ ขยายความ และใช้วิจารณญาณ นาความรู้
และประสบการณจ์ ากการอา่ นและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาใชใ้ นการพฒั นาสมรรถภาพการเขียน และการพูด
คิดตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างหลากหลาย
เป็นเคร่ืองมือพัฒนาสมรรถภาพการอ่านและการเรียนรู้ นาไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาต่อและทางาน มี
มารยาทและนสิ ยั รักการอา่ น
เขยี นสอ่ื สารได้ตามอกั ขรวิธี เลือกใช้คาในการเขียนไดต้ รงความหมาย เรียบเรียงคาเป็นประโยคได้
ถูกต้อง และถูกระดับภาษา ใช้กระบวนการเขียนพัฒนางานเขียน และเขียนเร่ืองให้สมบูรณ์ เขียน
เรียงความ ย่อความ รายงาน โครงงาน มีมารยาทในการเขียน โดยใช้ภาษาสุภาพ รับผิดชอบในส่ิงที่เขียน
เขยี นอยา่ งสร้างสรรค์ และอ้างอิงแหลง่ ทม่ี า
ศึกษาธรรมชาติของภาษา การเปล่ียนแปลงของภาษาไทย หลักการสร้างคาทับศพั ท์ ศัพท์บัญญัติ คา
เฉพาะกลุ่ม คาภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น หลักการใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคในการส่ือความ ใช้
คาและกลุ่มคาสร้างประโยคไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์
ศึกษากวีนิพนธ์ประเภท กาพย์ กลอน ร่าย โคลง ฉันท์ และ วรรณกรรมประเภท เร่ืองส้ัน นวนิยาย
และบทความ พิจารณาเร่ืองที่อ่าน วิเคราะห์องค์ประกอบของงานประพันธ์และประเมินคุณค่าด้าน
วรรณศลิ ป์ และคุณคา่ ดา้ นสังคม และนาไปใช้ในชีวิตจริงได้ ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยาน ท่ีกาหนดให้
ได้
รหสั ตัวช้วี ัด
ท 1.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5
ท 2.1 ม.4-6/4
ท 3.1 ม.4-6/3
ท 4.1 ม.4-6/3, ม.4-6/5
ท 5.1 ม.4-6/3, ม.4-6/6
รวมทัง้ หมด 8 ตัวชว้ี ดั
๓๙
คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ท32102 ภาษาไทย 4 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
อ่านหนังสือประเภทต่าง ๆ วิเคราะห์เนื้อหา รูปแบบ คุณค่าด้านวรรณศิลป์และสังคม รวมท้ัง
วิจารณ์และประเมินค่า อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและอ่านทานองเสนาะได้อย่างถูกต้อง เลือกอ่านหนังสือ
และส่ือสารสนเทศท้ังสอ่ื ส่งิ พิมพ์ และสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ จากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ และตอบคาถามได้ตามเวลา
ท่กี าหนด มีมารยาทและนสิ ยั รักการอา่ น
เขียนรายงานการค้นคว้าเร่ืองท่ีสนใจ ตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ และใช้ข้อมูลสารสนเทศใน
การอ้างอิงได้อย่างถูกต้อง ประเมินงานเขียนท่ีได้ศึกษาโดยใช้หลักการประเมินท่ีถูกต้อง เพ่ือใช้เป็น
แนวทางในการปรบั ปรุงและพัฒนางานเขียนของตนเอง มนี ิสัยรกั การเขยี น และจดบันทึกอยา่ งสม่าเสมอ มี
มารยาทในการเขียน
สรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์แนวคิดการใช้ภาษาและความ
นา่ เชื่อถือจากเรื่องทีฟ่ งั และดูอยา่ งมีเหตผุ ล ประเมนิ เรอื่ งทีฟ่ ังและดูและกาหนดแนวทางนาไปประยุกต์ใชใ้ น
การดาเนินชีวิต มีวิจารณญาณในการเลือกเร่ืองท่ีฟังและดู การพูดโน้มน้าวใจ มีมารยาทในการฟัง การดู
และการพูด
วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากส่ิงพิมพ์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในการส่ือสารเพื่อพัฒนา
ความรู้ อาชพี และการดาเนินชีวติ
ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยาน ท่ีกาหนดให้ได้ อธิบายปัจจัยแวดล้อมที่มีส่วนให้เกิด
วรรณคดีและวรรณกรรม อธิบายประวัติวรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยอยุธยา และวิวัฒนาการทาง
วรรณคดีและวรรณกรรม เข้าใจโลกทัศน์และวถิ ีของสังคมในอดีต
รหัสตวั ชว้ี ัด
ท 1.1 ม.4-6/6, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/5, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/4
ท 4.1 ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/5, ม.4-6/6
รวมท้งั หมด 8 ตวั ชี้วดั
๔๐
คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ท33101 ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
อ่านหนังสือประเภทต่าง ๆ วิเคราะห์เน้ือหา รูปแบบ คุณค่าด้านวรรณศิลป์และสังคม รวมท้ัง
วิจารณ์และประเมินค่า อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและอ่านทานองเสนาะได้อย่างถูกต้อง เลือกอ่านหนังสือ
และส่ือสารสนเทศท้ังสือ่ สง่ิ พมิ พ์ และสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ จากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ และตอบคาถามได้ตามเวลา
ทก่ี าหนด มีมารยาทและนิสัยรักการอา่ น
เขียนรายงานการค้นคว้าเรือ่ งที่สนใจ ตามหลักการเขียนเชิงวชิ าการ และใช้ข้อมูลสารสนเทศใน
การอ้างอิงได้อย่างถูกต้อง ประเมินงานเขียนท่ีได้ศึกษาโดยใช้หลักการประเมินท่ีถูกต้อง เพ่ือใช้เป็น
แนวทางในการปรบั ปรุงและพัฒนางานเขียนของตนเอง มนี ิสัยรักการเขียน และจดบนั ทกึ อยา่ งสม่าเสมอ
พดู แสดงความคิดเห็นพูดโต้แย้ง พูดแสดงทรรศนะ พูดโนม้ น้าวใจ เจรจาต่อรองโดยการใช้ภาษา
ถกู ต้อง เหมาะสม และมเี หตผุ ล ใชก้ ริ ยิ าทา่ ทางและแสดงออกไดเ้ หมาะสมตามหลกั การพดู
มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
ใช้ภาษาถูกต้องตามระดับของภาษา และใช้คาราชาศัพท์ถูกต้องตามฐานะของบุคคล อธิบาย
หลักการแต่ง และแต่งคาประพันธ์ประเภทฉันท์ วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากส่ิงพิมพ์และสื่อ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ในการส่ือสารเพอ่ื พัฒนาความรู้ อาชพี และการดาเนินชีวิต
อธิบายคุณค่าของภูมปิ ัญญาทางภาษาประเภทคาสู่ขวัญ คาให้พร คาสอน และความเชื่อ ท่องจา
และบอกคุณคา่ บทอาขยาน ท่ีกาหนดใหไ้ ด้ อธิบายปัจจัยแวดลอ้ มท่ีมสี ่วนให้เกิดวรรณคดแี ละวรรณกรรม
อธิบายประวัติวรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยรัตนโกสินทร์ และวิวัฒนาการทางวรรณคดีและวรรณกรรม
เขา้ ใจโลกทศั นแ์ ละวิถขี องสงั คมในอดตี
รหัสตัวช้ีวดั
ท 1.1 ม.4-6/7
ท 2.1 ม.4-6/6
ท 3.1 ม.4-6/5
ท 4.1 ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/4
รวมทั้งหมด 5 ตวั ชว้ี ัด
๔๑
คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ท33102 ภาษาไทย 6 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
การฝึกออกเสยี ง ร ล อักษรควบควบ อักษรนา ข้อความท่เี ป็นสานวนไทย โวหารต่างๆ การ
อ่านออกเสียงและอ่านในใจคาประพันธ์ต่างๆ การศึกษาความหมายของคา การจับใจความสาคัญ การ
แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น การสรุปข้อดีและข้อด้อยของเรื่องโดยใช้แผนภาพความคิดพัฒนาการอ่าน
การเล่าเรื่องและการย่อเร่ือง การจาแนกคุณค่าด้านภาษา การเลือกอ่านหนังสือและสื่อต่างๆ เพ่ิมเติม
จากภาษาไทยพ้นื ฐาน
การพัฒนางานเขียนเรียงความ ย่อความ อธบิ ายและแสดงความคดิ เหน็ เขยี นรายงานและการ
เขยี นเชงิ สร้างสรรค์ เพ่ิมเติมจากภาษาไทยพ้ืนฐาน
การฝึกจับใจความสาคัญจากเรื่องท่ฟี ังและดูสื่อชนดิ ต่างๆ สรุปความ จับประเดน็ แยกขอ้ เท็จจริง
จากการฟังและการดู การแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลจากการฟัง การพูดนาเสนอความรู้เชิง
สรา้ งสรรค์เลือกใช้ภาษาได้ถกู ต้องตามกาลเทศะ เพม่ิ เตมิ จากภาษาไทยพน้ื ฐาน
การศึกษาเร่ืองอักษรไทยและหลักการเขียนอักษรไทย ลักษณะคาไทย ความหมายและ
ความสาคัญของการส่ือสาร การแต่งประโยค ความเข้าใจเกี่ยวกับฉันทลักษณ์ของคาประพันธ์
จุดมุ่งหมาย การร้องของการเล่นเพลงพื้นเมืองและการร้องเพลงกล่อมเด็กอย่างง่าย การใช้เทคโนโลยีการ
ส่ือสารเพื่อพัฒนาความรู้ การใช้ภาษาพูดที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการตามหลักการใช้ภาษา การ
เลือกใช้ภาษาอยา่ งสร้างสรรค์ การใชศ้ ัพท์บัญญตั แิ ละศพั ทเ์ ฉพาะ เพ่ิมเตมิ จากภาษาไทยพืน้ ฐาน
การฝึกการอ่านกวีนิพนธ์ วรรณกรรมประเภทเร่ืองสั้นและบทความ การเขียนในรูปแบบต่างๆ
รักการอ่าน การเขียน รักการศึกษาค้นคว้า การอนุรักษ์ภาษา การใช้ตัวเลขอย่างเห็นคุณค่า เพ่ิมเติม
จากภาษาไทยพ้นื ฐาน
รหสั ตัวชีว้ ดั
ท 1.1 ม.4-6/8
ท 2.1 ม.4-6/7
ท 3.1 ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/6
รวมทง้ั หมด 5 ตัวชว้ี ัด
๔๒
คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
ท ๓๐๒๐๑ การพดู กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษาการพดู ตอ่ หน้าชุมชนใชภ้ าษาในการส่ือสารเพื่อสรา้ งมนษุ ยสมั พันธ์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
กบั กาลเทศะใช้ภาษาสภุ าพ ถูกต้องตามฐานะของบคุ คลคิดไตรต่ รองและลาดบั ความคดิ ก่อนพูด พดู โน้ม
น้าวใจดว้ ยการเลือกใช้ถอ้ ยคาท่สี รา้ งความรสู้ กึ ทดี่ มี มี ารยาทในการพูด การพูดในชวี ิตประจาวัน ใช้วจน
ภาษา และอวจนภาษา ในการติดต่อสือ่ สารเพื่อสร้างมนุษยสัมพนั ธไ์ ดถ้ ูกต้องเหมาะสมกบั
กาลเทศะสามารถอย่รู ว่ มกับบุคคลในสังคมได้อยา่ งมีความสุข
ผลการเรยี นรู้
1. พูดในโอกาสตา่ งๆได้อย่างเหมาะสม
2. พูดโนม้ น้าวใจ อาทิ โตว้ าที สุนทรพจน์ และการพูดทางวทิ ยโุ ทรทัศนไ์ ด้
3. ใช้ถอ้ ยคาสร้างความรู้สึกที่ดี
4. แสดงมารยาทในการพดู โดยใชภ้ าษาสภุ าพ ถูกต้องตามฐานะของบคุ คลคดิ ไตรต่ รองและลาดบั ความคิด
กอ่ นการพูด
รวมท้งั หมด 4 ผลการเรยี นรู้
๔๓
คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ท ๓๐๒๐๒ การอา่ นและพจิ ารณาหนงั สือ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาหลกั การอ่านและพจิ าณาหนังสอื บันเทิงคดี สารคดี ในรูปแบบต่างๆ ทง้ั นิทาน เรอื่ ง
ส้ัน นวนิยาย บทร้อยกรอง บทความ ความเรียง บอกความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์จาแนกชนิด
ประเภท องค์ประกอบของงานเขียน วิเคราะห์เน้ือหาสาระต่าง ๆ แนวคิด ข้อคิด การใช้ภาษาและความ
น่าเช่ือถือแสดงความคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่านอย่างมีเหตุผล เลือกอ่านหนังสือหลากหลายชนิดอย่างมี
วิจารณญาณ ตลอดจนประเมินค่างานเขยี น
โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และกระบวนการสรา้ งความตระหนักเพื่อให้เกิดการ
พัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้ การศึกษาค้นคว้า เกิดทักษะทางภาษา นาความรู้ ความเข้าใจ ความคิดไป
ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริงได้ มีมารยาทในการอ่าน ฟัง ดู พูด อ่าน เขียนและมีนสิ ยั รกั การอา่ น
ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมาย ความสาคัญ ประโยชนข์ องการอา่ นหนังสือได้
2. สามารถจาแนกประเภทของหนังสอื
3. อธบิ ายองค์ประกอบของงานเขียนประเภทต่าง ๆ ได้
4. อา่ นและพิจารณาหนังสอื ประเภทนิทาน และเรอ่ื งเล่าได้
5. อ่านและพิจารณาหนงั สือประเภทเร่อื งสน้ั ได้
6. อา่ นและพิจารณาหนงั สือประเภทนวนิยายขนาดสนั้ ได้
7. อ่านและพิจารณาหนังสอื ประเภทบทร้อยกรองได้
8. วเิ คราะห์ แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเนอื้ หาสาระ แนวคดิ ขอ้ คดิ ประโยชน์จากบันเทิงคดีท่ีอา่ นได้
9. เขียนบันทึกหนงั สือเล่มโปรดของนักเรยี นได้
10. มมี ารยาทและมนี สิ ยั รักการอ่าน
รวม 10 ผลการเรยี นรู้
๔๔
คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ท ๓๐๒๐๓ วรรณกรรมปัจจบุ นั กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
อ่านวรรณกรรมไทยประเภทบันเทิงคดีทั้งรูปแบบร้อยแก้วและร้อยกรอง ตีความ และ
ขยายความเร่ืองท่ีอ่าน วิเคราะห์ และวิจารณ์เร่ืองท่ีอ่านในทุกๆด้านอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์ วิจารณ์
แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเร่ืองที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมีเหตุผล สังเคราะห์ความรู้จากการ
อ่านมาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรู้ทางอาชีพ โดยใช้กระบวนการอ่านเก็บความ อ่าน
เอาเรื่อง อ่านวิเคราะห์เร่ือง และอ่านตีความ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในวรรณกรรมไทยอันเป็น
สมบตั ขิ องชาติ ใชภ้ าษาในการแสวงหาความรู้ เป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น และรกั ความเปน็ ไทย
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายรปู แบบของการอ่านได้
2. อ่านเก็บความ อ่านเอาเร่ือง อ่านวิเคราะห์เรื่อง และอ่านตีความในรูปแบบงานเขียนร้อยแก้วและร้อย
กรองได้
3. วจิ ารณ์งานเขยี นในรปู แบบร้อยแกว้ และร้อยกรองได้
4. บอกคุณค่าของวรรณกรรมไทยในปัจจบุ ันได้
5. สังเคราะหค์ วามรู้จากการอ่านวรรณกรรมไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้
๔๕
คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ท ๓๐๒๐๔ วรรณคดมี รดก กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษาความหมายลกั ษณะองค์ประกอบ วรรณกรรม วรรณศลิ ป์และวรรณคดีมรดก สามารถอา่ น
วรรณคดีมรดกของไทยเรื่อง รามเกียรติ์ อิเหนา ขุนช้างขุนแผนและพระอภัยมณี รู้เร่ืองโดยตลอด
พรอ้ มทงั้ มองเหน็ สภาพชวี ิตในสมยั บรรพบรุ ษุ เขา้ ใจถึงธรรมชาติของมนษุ ย์จนสามารถวเิ คราะหว์ จิ ารณ์
และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับตัวละครท่สี าคญั ไดแ้ นวคดิ จากเน้ือเร่ืองมาเปรียบเทยี บกบั เหตุการณ์ในชวี ิต
จริง การใช้ภาษาในวรรณคดีมรดกของไทยในดา้ นวรรณศิลป์
ผลการเรียนรู้
1. สามารถอา่ นบทกวนี พิ นธ์ประเภทกลอน บทละครรเู้ รอ่ื งโดยตลอด
2. สามารถอ่านวรรณกรรมประเภทเรือ่ งสน้ั นวนิยาย สารดดี และ บทความ
3. สามารถใชห้ ลกั การวิจารณ์วรรณคดี เบอื้ งต้นพิจารณาเร่อื งทอี่ ่านได้
4. สามารถวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของงาน ประพันธป์ ระเภทวรรณคดีมรดกได้
5. รู้จักประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ เนอ้ื หาและคุณค่าทางสังคม และ นาไปใช้ในชีวิตจริง
6. รูจ้ กั ความงามทางภาษา
7. สามารถเขา้ ใจประวตั วิ รรณคดีและวรรณกรรมในแตล่ ะสมยั
8. รูจ้ ักปัจจยั แวดลอ้ มทีม่ ีส่วนให้เกดิ วรรณคดี และวรรณกรรม
9. สามารถเข้าใจววิ ัฒนาการทางวรรณคดีและวรรณกรรมในแตล่ ะสมยั
10. สามารถใชค้ วามรู้ พื้นฐานในการเข้าใจโลกทัศนแ์ ละวิถชี วี ติ ของคนไทย
รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู้