๙๖
ว ๒๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๔ คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์
ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
พยากรณ์การเคล่อื นที่ของวตั ถุทีเ่ ป็นผลของแรงลพั ธ์ท่ีเกดิ จากแรงหลายแรงทีก่ ระทาตอ่ วัตถุในแนว
เดียวกัน เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลัพธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงท่ีกระทาต่อวัตถุในแนวเดียวกัน แรง
ที่กระทาต่อวัตถุในของเหลว แรงเสียดทานและแรงอ่ืนๆ ที่กระทาต่อวัตถุ แรงเสียดทานและแรงอื่นๆ ที่
กระทาต่อวัตถุ ออกแบบการทดลองและทดลองปัจจัยที่มีผลต่อความดันของของเหลว ปัจจัยที่มีผลต่อ
ขนาดของแรงเสียดทาน โมเมนตข์ องแรง เม่ือวัตถุอยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุน และคานวณโดยใช้สมการ
วิเคราะห์แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถุในของเหลว อธิบายแรงเสียดทานสถิตและแรงเสียดทาน
จลน์ ประโยชนข์ องความรู้เรื่องแรงเสียดทานโดยวเิ คราะห์สถานการณ์ปญั หาและเสนอแนะวิธกี ารลดหรือ
เพิ่มแรงเสียดทานที่เป็นประโยชน์ต่อการทากิจกรรมในชีวิตปร ะจาวัน เปรียบเทียบแหล่งของ
สนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรงที่กระทาตอ่ วัตถุที่อยูใ่ นแต่ละสนามจาก
ข้อมูลที่รวบรวมได้ เขียนแผนภาพแสดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงที่กระทาต่อวัตถุ
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงท่ีกระทาต่อวัตถุท่ีอยู่ใน
สนามนั้นๆ กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ อธิบายและคานวณอัตราเร็ว
และความเรว็ ของการเคล่ือนทขี่ องวัตถุ เขียนแผนภาพแสดงการกระจัดและความเร็ว วิเคราะห์สถานการณ์
และคานวณเก่ียวกับงานและกาลังท่ีเกิดจากแรงท่ีกระทาต่อวัตถุจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ หลักการทางาน
ของเคร่ืองกลอย่างง่ายจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ความรขู้ องเคร่ืองกลอยา่ งง่าย ออกแบบและทดลองปัจจัยที่
มีผลต่อพลังงานจลน์ และพลังงานศักย์โน้มถ่วง แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงาน
ระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุโดยพลังงานกลของวัตถุมีค่าคงตัว วิเคราะห์
สถานการณ์และอธิบายการเปลี่ยนและการถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงาน เปรียบเทียบ
กระบวนการเกิด สมบตั ิ และการใช้ประโยชน์ รวมทง้ั อธิบายผลกระทบจากการใชเ้ ชอ้ื เพลิงซากดึกดาบรรพ์
ผลจากการใช้เชอ้ื เพลิงซากดึกดาบรรพ์ โดยนาเสนอแนวทางการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดาบรรพ์ เปรียบเทียบ
ขอ้ ดแี ละข้อจากัดของพลังงานทดแทนแตล่ ะประเภทจากการรวบรวมข้อมลู และนาเสนอแนวทางการใชพ้ ลัง
งานทดแทนท่ีเหมาะสมในท้องถ่ิน สร้างแบบจาลองท่ีอธิบายโครงสร้างภายในโลกตามองค์ประกอบทาง
เคมี อธิบายกระบวนการผุพังอยู่กับท่ี การกร่อน และการสะสมตัวของตะกอนจากแบบจาลองรวมท้ัง
ยกตวั อย่างผลของกระบวนการดังกล่าวทท่ี าให้ผิวโลกเกิดการเปลย่ี นแปลง ลักษณะของชั้นหน้าตัดดินและ
กระบวนการเกิดดิน จากแบบจาลอง รวมทง้ั ระบุปัจจัยที่ทาให้ดนิ มลี ักษณะและสมบัติแตกต่างกัน ตรวจวัด
สมบัติบางประการของดิน โดยใช้เคร่ืองมือที่เหมาะสมและนาเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์ดินจากข้อมูล
สมบัติของดิน อธิบายปัจจัยและกระบวนการเกิดแหล่งน้าผิวดินและแหล่งน้าใตด้ ิน จากแบบจาลอง สรา้ ง
แบบจาลองท่ีอธิบายการใช้น้า และนาเสนอแนวทางการใช้อย่างย่ังยืนในท้องถ่ินของตนเอง สร้าง
แบบจาลองท่ีอธิบายกระบวนการเกิดและผลกระทบของน้าท่วม การกัดเซาะชายฝ่ัง ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดิน
ทรุด
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม
๙๗
ตัวชว้ี ัด
ว ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ม.๒/๙ ม.๒/๑๐ ม.๒/๑๑
ม.๒/๑๒ ม.๒/๑๓ ม.๒/๑๔ ม.๒/๑๕
ว ๒.๓ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖
ว ๓.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ม.๒/๙ ม.๒/๑๐
รวมทัง้ หมด ๓๑ ตัวชี้วดั
๙๘
คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน
ว ๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ สมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และ
วัสดุผสม โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และสารสนเทศ การใช้วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุ
ผสม โดยเสนอ แนะแนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า การเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมถึงการจัดเรียง
ตัวใหม่ของอะตอมเม่ือเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใช้แบบจาลองและสมการข้อความ กฎทรงมวล ปฏิกิริยาดูด
ความร้อน และปฏิกิรยิ าคายความร้อน จากการเปล่ียนแปลงพลงั งานความร้อนของปฏิกิริยา ปฏิกิริยาการ
เกิดสนมิ ของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะ ปฏิกริ ิยาของกรดกับเบส และปฏิกิรยิ าของเบสกับโลหะ โดย
ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้
สารสนเทศ รวมท้ังเขียนสมการข้อความแสดงปฏิกิริยา ประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีท่ีมีตอ่ สิ่งมีชีวิต
และส่ิงแวดล้อม และยกตัวอย่างวิธีการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีท่ีพบในชีวิตประจาวัน
วิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน และ
คานวณปริมาณท่ีเกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า การวัดปริมาณทาง
ไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมื่อตอ่ ตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมและแบบ
ขนาน แผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและขนาน การทางานของช้ินส่วน
อิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย คานวณพลังงานไฟฟ้า เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยนาเสนอวิธีการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
อย่างประหยัดและปลอดภัยแบบจาลองท่ีอธิบายการเกิดคล่ืนและบรรยายส่วนประกอบของคล่ืน คล่ืน
แม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พัฒนาแอปพลิเคชัน รวบรวมข้อมูล ประมวลผล
ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี
หลากหลาย ประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของข้อมลู วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการให้ขา่ วสารท่ีผิด เพ่ือการ
ใช้งานอย่างรู้เท่าทัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตาม
กฎหมายเกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ ใชล้ ขิ สิทธ์ิของผอู้ น่ื โดยชอบธรรม
โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม
รหสั ตวั ชี้วดั
ว.๒.๑ ม.๓/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘
ว.๒.๓ ม.๓/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙, ม.๑/๑๐, ม.๑/๑๑, ม.๑/
๑๒
ว.๔.๒ ม.๓/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔,
รวมทั้งหมด ๒๔ ตวั ช้วี ัด
๙๙
คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ว ๒๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห กฎการสะท้อนของแสง การเคลื่อนที่ของแสง ภาพจากกระจกเงา การหักเหของ
แสง การกระจายแสงของแสงขาว การเกิดภาพจากเลนส์ ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง และการทางานของ
ทัศนอุปกรณ์ ความสว่างท่ีมีต่อดวงตา วัดความสว่างของแสง ปฏิสัมพันธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศ
รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ แบบจาลองในการอธิบายการถ่ายทอด
พลังงานในสายใยอาหาร ความสัมพันธข์ องผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ในระบบนิเวศ การ
สะสมสารพิษในส่ิงมีชีวิตในโซ่อาหาร ความสัมพันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม การถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรม การเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส การ
เปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซมอาจทาให้เกิดโรคทางพันธุกรรม ส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความ
หลากหลายทางชีวภาพ การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตยด์ ้วยแรงโนม้ ถ่วง แบบจาลองที่อธิบายการ
เกิดฤดู และการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์ แบบจาลองที่อธิบายการเกิดข้างขึ้นข้างแรม การ
เปล่ียนแปลงเวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร์ และการเกิดน้าขึ้นน้าลงการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี
อวกาศ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น
โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ ปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น เพ่ือพัฒนางาน
อาชีพ วิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นภายใต้เงื่อนไขและ
ทรัพยากรที่มีอยู่ ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้
ถกู ต้องกบั ลกั ษณะของงาน และปลอดภยั เพือ่ แกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน
โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวติ ประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม
รหสั ตวั ชี้วดั
ว ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖
ว ๑.๓ ม.๓/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙, ม.๑/๑๐, ม.๑/๑๑
ว ๒.๓ ม.๑/๑๓, ม.๑/๑๔, ม.๑/๑๕, ม.๑/๑๖, ม.๑/๑๗, ม.๑/๑๘, ม.๑/๑๙, ม.๑/๒๐, ม.๑/๒๑
ว ๔.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
รวมท้ังหมด ๓๑ ตวั ช้วี ดั
๑๐๐
คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๓๑๐๕ วิทยาศาสตร์๕ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษา ความเรง่ ผลของแรงลพั ธ์ท่ีกระทาต่อวัตถุ แรงกิรยิ า แรงปฏกิ ิรยิ า แรงพยุงของของเหลว
ที่กระทาต่อวัตถุ ความแตกต่างระหว่างแรงเสียดทานสถิตกับแรงเสียดทานจลน์ โมเมนต์ของแรง การ
เคลื่อนที่ของวัตถุแนวตรง แนวโค้ง ความสัมพันธ์ระหว่างงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักย์โน้มถ่วง กฎการ
อนุรักษ์พลงั งาน ความสัมพันธร์ ะหว่างความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน คานวณพลังงานไฟฟ้า
ของเคร่อื งใช้ไฟฟ้า การตอ่ วงจรไฟฟา้ ในบา้ น ตัวตา้ นทาน ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ และต่อวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์
เบื้องต้นที่มีทรานซิสเตอร์ และผลที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และผลที่เกิดข้ึนต่อส่ิงแวดล้อม และส่ิงมีชีวิตบน
โลก
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
สารวจตรวจสอบ สังเกต แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล การอธิบาย การอภิปราย ทดลอง
สรปุ
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้มีทักษะในการใช้ชีวิต เพ่ือให้
สามารถดารงชีวิตในสังคม รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสัตย์
สุจรติ ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน และ มีจติ สาธารณะ
รหัสตวั ช้ีวัด
ว๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ว๔.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ว๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ว.๘.๑ ม.๑-๓/๑, ม.๑-๓/๒, ม.๑-๓/๓, ม.๑-๓/๔, ม.๑-๓/๕, ม.๑-๓/๖, ม.๑-๓/๗,ม.๑-๓/๘,
ม.๑-๓/๙
รวมท้ังหมด ๑๑ตวั ชี้วัด (๑๑ + ๙ )
๑๐๑
คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ว ๒๓๑๐๖ วิทยาศาสตร์ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาลักษณะของโครโมโซมยีนสารพันธุกรรมและกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมโรค
ทางพันธุกรรมท่ีเกิดจากความผิดปกติของยีนและโครโมโซมผลของความหลากหลายทางชีวภาพท่ีมีต่อ
มนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม ผลของเทคโนโลยีชีวภาพต่อการดารงชีวิตของมนุษย์และส่ิงแวดล้อม
ระบบนิเวศ ปัญหาส่ิงแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมความสัมพันธ์ระหว่าง
ดวงอาทิตย์โลก ดวงจันทร์และดาวเคราะห์อ่ืน ๆ และผลที่เกิดข้ึนต่อส่ิงแวดล้อมและส่ิงมีชีวิตบนโลก
ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีอวกาศ
โดยใช้การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การสารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสงิ่ ที่เรยี นรมู้ ีความสามารถในการตัดสินใจ
นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวันมจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม และคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
รหสั ตวั ชี้วัด
ว๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖
ว๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ว๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖
ว๗.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ว๗.๒ ม.๓/๑
ว.๘.๑ ม.๑-๓/๑, ม.๑-๓/๒, ม.๑-๓/๓, ม.๑-๓/๔, ม.๑-๓/๕, ม.๑-๓/๖, ม.๑-๓/๗,
ม.๑-๓/๘, ม.๑-๓/๙
รวมทั้งหมด๒๐ ตัวชีว้ ดั (๒๐ + ๙ )
๑๐๒
คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๑๑๒๑ วทิ ยาการคานวณ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะที่จาเป็นต่อการแก้ปัญหา ขั้นตอนการ
แก้ปัญหา การเขียนรหัสจาลองผังงาน การเขียนออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ท่ีมีการใช้งานตัว
แปร เงื่อนไข และการวนซ้า เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ
การประมวลหลข้อมูล การสร้างทางเลือก และประเมินผลเพ่ือตัดสินใจ ซอฟต์แวร์ และบริการบน
อนิ เทอร์เนต็ ท่ใี ชใ้ นการจัดการขอ้ มลู แนวทางการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ให้ปลอดภยั การจัดการ
อัตลักษณ์ การพจิ ารณาความเหมาะสมของเน้อื หา ขอ้ ตกลงและขอ้ กาหนดการใช้สื่อและแหลง่ เรยี นรู้
นาแนวคิดเชิงนามธรรม และขั้นตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือการ
แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูล และสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
ตระหนักถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และไม่สร้างความ
เสยี หายแกผ่ ูอ้ น่ื
ตวั ชวี้ ดั
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
1. ออกแบบอัลกอริทึ่มทใี่ ช้แนวคิดเชิงนามธรรมเพ่ือแก้ปญั หาหรืออธบิ ายการทางานท่ีพบในชวี ิตจรงิ
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพ่ือแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์
3. รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมนิ ผล นาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์
โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื บริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่ีหลากหลาย
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
รวมท้ังหมด ๔ ตัวชี้วัด
๑๐๓
คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๑๑๒๒ วิทยาการคานวณ ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลาเรียน ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ
ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะท่ีจาเป็นต่อการแก้ปัญหา ขั้นตอนการ
แก้ปัญหา การเขียนรหัสจาลองผังงาน การเขียนออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ที่มีการใช้งานตัว
แปร เง่ือนไข และการวนซ้า เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ
การประมวลหลข้อมูล การสร้างทางเลือก และประเมินผลเพื่อตัดสินใจ ซอฟต์แวร์ และบริการบน
อินเทอร์เนต็ ท่ใี ช้ในการจดั การข้อมลู แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ใหป้ ลอดภยั การจัดการ
อัตลกั ษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเนอ้ื หา ขอ้ ตกลงและข้อกาหนดการใชส้ ื่อและแหลง่ เรียนรู้
นาแนวคิดเชิงนามธรรม และขั้นตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือการ
แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูล และสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
ตระหนักถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และไม่สร้างความ
เสียหายแก่ผอู้ ่นื
ตวั ชวี้ ดั
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
1. ออกแบบอลั กอรทิ ่มึ ทใ่ี ชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรมเพื่อแก้ปญั หาหรืออธิบายการทางานทีพ่ บในชวี ิตจริง
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพ่อื แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์
3. รวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมนิ ผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์
โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือบริการบนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย
4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
รวมทงั้ หมด ๔ ตัวชี้วัด
๑๐๔
คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
ว ๒๒๑๒๑ วทิ ยาการคานวณ ๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาการออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหา หรอื การท างานท่ีพบในชีวิต
จริง การออกแบบและ เขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา การเขียนโปรแกรมโดยใช้
ซอฟต์แวร์Scratch, python, java และ c อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทางานของระบบ
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหา เบื้องต้น ตลอดจนใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ผลงาน โดยอาศัย
กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้โครงงาน
เป็น ฐาน (Project-based Learning) เพอ่ื เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏบิ ตั ิ ฝึกทกั ษะการคดิ เผชญิ สถานการณ์
การแกป้ ัญหา วาง แผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนาเสนอผ่านการท ากิจกรรมโครงงาน เพอ่ื ให้
เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะใน การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา จนสามารถนาเอาแนวคิดเชิง
คานวณมาประยกุ ต์ใชใ้ นการสร้างโครงงานได้
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การนาข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์
ประเมิน นาเสนอข้อมูลและ สารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ ใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่
พบในชีวิตจริง และเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
ส่ือสารอย่างรู้เท่าทันและรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนนาความรู้ความเข้าใจใน วิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดารงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและ
จนิ ตนาการ มีความสามารถในการแก้ปัญหาและมที ักษะในการสื่อสาร มคี วามสามารถในการตัดสินใจ และ
เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่าง
สร้างสรรค์
ตัวช้วี ดั
ว ๔.๒ ม.๒/๑ ออกแบบอลั กอรทิ ึมที่ใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปัญหา หรือการทางานท่พี บใน
ชีวิตจริง
ว ๔.๒ ม.๒/๒ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่ใชต้ รรกะ และฟังก์ชนั ในการแก้ปญั หา
ว ๔.๒ ม.๒/๓ อภปิ รายองค์ประกอบและหลักการทางานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
การสอ่ื สาร เพื่อประยุกตใ์ ช้งาน หรือแก้ปัญหาเบ้ืองต้น
ว ๔.๒ ม.๒/๔ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสิทธใิ น
การเผยแพร่ผลงาน
รวม ๔ ตวั ชวี้ ัด
๑๐๕
คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ว ๒๒๑๒๒ วทิ ยาการคานวณ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาแนวคิดเชิงคานวณ การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ การเขียนโปรแกรมที่มีการใช้
ตรรกะและ ฟังก์ชัน องค์ประกอบและหลักการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีส่ือสาร แนว
ทางการปฏิบัติเม่ือพบเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ วิธีการ
สร้างและกาหนดสิทธิความเป็นเจ้าของ ผลงาน น าแนวคิดเชิงคานวณไปประยุกตใ์ ช้ในการเขยี นโปรแกรม
หรือการแก้ปัญหาในชีวิตจริง สร้างและกาหนดสิทธ์ิ การใช้ข้อมูล ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่
ขอ้ มูล
ตัวช้ีวดั
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
๑. ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ใี ช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หา หรอื การทางานท่พี บในชวี ิตจริง
๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะและฟงั กช์ นั ในการ แก้ปัญหา
๓. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการส่ือสาร
เพอ่ื ประยุกตใ์ ช้งานหรือแกป้ ัญหาเบือ้ งต้น
๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธ์ิในการเผยแพร่
ผลงาน
รวมท้งั หมด ๔ ตัวช้ีวดั
๑๐๖
คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๓๑๒๑ วิทยาการคานวณ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาข้ันตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT)การเขียนโปรแกรมเพ่ือพัฒนา
แอปพลิเคชัน ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผล
ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตท่ีใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเช่ือถือของข้อมูล
การสืบค้นหาแหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด การรู้เท่าทันส่ือ
กฎหมายที่เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ การใช้ลิขสิทธ์ิของ ผู้อื่นโดยชอบธรรม รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ
ประมวลผล สร้างทางเลอื ก และนาเสนอการตัดสินใจได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ออกแบบและเขียนโปรแกรม
เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอ่ืนอย่างสร้างสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่าง
ร้เู ท่าทัน และมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
ตัวชวี้ ัด
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
๑. พฒั นาแอปพลเิ คชนั ทมี่ ีการบรู ณาการกับวชิ าอื่นอย่างสร้างสรรค์
๒. รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้
ซอฟต์แวร์ หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย
๓. ประเมินความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มูล วิเคราะหส์ ่ือและผลกระทบจากการให้ข่าวสารทผี่ ิดเพื่อการ
ใชง้ านอย่างรู้เทา่ ทนั
๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ปฏิบัตติ ามกฎหมาย
เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ ใชล้ ขิ สิทธข์ิ องผู้อน่ื โดยชอบธรรม
รวมท้ังหมด ๔ ตวั ช้ีวัด
๑๐๗
คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ว ๒๓๑๒๒ วิทยาการคานวณ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาข้ันตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT)การเขียนโปรแกรมเพ่ือพัฒนา
แอปพลิเคชัน ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผล
ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตท่ีใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเช่ือถือของข้อมูล
การสืบค้นหาแหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารท่ีผิดพลาด การรู้เท่าทันส่ือ
กฎหมายที่เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ การใชล้ ิขสิทธ์ิของ ผู้อื่นโดยชอบธรรม รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ
ประมวลผล สร้างทางเลอื ก และนาเสนอการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ออกแบบและเขียนโปรแกรม
เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอ่ืนอย่างสร้างสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่าง
ร้เู ท่าทัน และมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม
ตัวชวี้ ัด
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
๑. พฒั นาแอปพลเิ คชนั ทมี่ ีการบรู ณาการกับวิชาอ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์
๒. รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์โดยใช้
ซอฟต์แวร์ หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย
๓. ประเมินความนา่ เช่ือถอื ของข้อมูล วิเคราะหส์ ื่อและผลกระทบจากการให้ข่าวสารทผี่ ิดเพื่อการ
ใชง้ านอย่างรู้เทา่ ทนั
๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม ปฏิบัตติ ามกฎหมาย
เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ ใชล้ ขิ สิทธข์ิ องผู้อื่นโดยชอบธรรม
รวมท้ังหมด ๔ ตวั ช้ีวัด
๑๐๘
คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๑๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา อธิบายความหมายของเทคโนโลยี วเิ คราะหส์ าเหตุหรือปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ การเปล่ียนแปลง
ของเทคโนโลยี การทางานของระบบทางเทคโนโลยี ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะห์
เปรยี บเทยี บและเลือกขอ้ มูลที่จาเปน็ เพื่อออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หาในชวี ิตประจาวันในด้านการเกษตรและ
อาหาร และสร้างชน้ิ งานหรือพฒั นาวิธกี ารโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทง้ั เลือกใชว้ สั ดุ
อุปกรณ์ เครือ่ งมือในการแกป้ ัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
ตัวช้วี ัด
ว ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
รวมทั้งหมด ๕ ตวั ชีว้ ดั
๑๐๙
คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ว ๒๑๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา อธิบายความหมายของเทคโนโลยี วเิ คราะหส์ าเหตุหรือปัจจยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปล่ียนแปลง
ของเทคโนโลยี การทางานของระบบทางเทคโนโลยี ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทักษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะห์
เปรยี บเทยี บและเลือกขอ้ มูลที่จาเปน็ เพื่อออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั ในด้านการเกษตรและ
อาหาร และสร้างชน้ิ งานหรือพฒั นาวิธกี ารโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมท้งั เลือกใชว้ สั ดุ
อุปกรณ์ เครือ่ งมือในการแกป้ ัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
ตัวช้วี ัด
ว ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
รวมทั้งหมด ๕ ตวั ชีว้ ดั
๑๑๐
คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ว ๒๒๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๓ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึนโดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรอื ปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การ
เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยแี ละวิเคราะห์เปรียบเทียบตดั สินใจเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบที่
เกดิ ขนึ้ ต่อชีวติ สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ มระบุปญั หาหรือความต้องการในชมุ ชนหรอื ท้องถิน่ สรปุ กรอบของปัญหา
รวบรวมวเิ คราะห์ข้อมลู และแนวคิดที่เกยี่ วข้องกับปัญหาออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาโดยวเิ คราะห์
เปรียบเทยี บและตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเปน็ ภายใตเ้ งินไขและทรัพยากรที่มีอยู่นาเสนอแนวทางการ
แกป้ ญั หาใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจวางแผนขน้ั ตอนการทางานและดาเนินการแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ข้นั ตอนทดสอบ
ประเมนิ ผลและอธบิ ายปญั หาหรอื ขอ้ บกพรอ่ งทเ่ี กิดขนึ้ ภายใตก้ รอบเงอ่ื นไขพรอ้ มท้งั หาแนวทางการ
ปรบั ปรุงแก้ไขและนาเสนอผลการแก้ปัญหาใชค้ วามรู้และทักษะเกยี่ วกับวสั ดอุ ุปกรณ์เคร่ืองมือกลไกไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมและปลอดภยั
ตวั ช้ีวัด
ว ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
รวมท้ังหมด ๕ ตัวชว้ี ดั
๑๑๑
คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ว ๒๒๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๔ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึนโดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรอื ปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การ
เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยแี ละวิเคราะห์เปรียบเทียบตดั สินใจเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบที่
เกดิ ขนึ้ ต่อชวี ติ สังคมและสงิ่ แวดลอ้ มระบุปญั หาหรือความต้องการในชมุ ชนหรอื ท้องถิน่ สรปุ กรอบของปัญหา
รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหาออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาโดยวเิ คราะห์
เปรียบเทยี บและตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเปน็ ภายใตเ้ งินไขและทรัพยากรที่มีอยู่นาเสนอแนวทางการ
แกป้ ญั หาให้ผู้อื่นเข้าใจวางแผนขน้ั ตอนการทางานและดาเนินการแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ข้นั ตอนทดสอบ
ประเมนิ ผลและอธบิ ายปญั หาหรอื ขอ้ บกพร่องทเ่ี กิดขนึ้ ภายใตก้ รอบเงอ่ื นไขพรอ้ มท้งั หาแนวทางการ
ปรบั ปรุงแก้ไขและนาเสนอผลการแก้ปัญหาใช้ความรู้และทักษะเกยี่ วกับวสั ดอุ ุปกรณ์เคร่ืองมือกลไกไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาหรอื พฒั นางานได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมและปลอดภยั
ตวั ช้ีวัด
ว ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
รวมท้ังหมด ๕ ตวั ชว้ี ดั
๑๑๒
คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
ว ๒๓๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีความสัมพันธ์ของ
เทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบและเลือก
ข้อมูลท่ีจาเป็นเพื่อออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันในด้านการเกษตร อาหารพลังงาน และการ
ขนส่งและสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ
อุปกรณ์ เครือ่ งมือในการแกป้ ญั หาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย
ตวั ชวี้ ัด
ว ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
รวมทั้งหมด ๕ ตัวช้วี ดั
๑๑๓
คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน
ว ๒๓๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๖ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีความสัมพันธ์ของ
เทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบและเลือก
ข้อมูลท่ีจาเป็นเพื่อออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันในด้านการเกษตร อาหารพลังงาน และการ
ขนส่งและสร้างช้ินงานหรือพัฒนาวิธีการโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ
อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื ในการแก้ปญั หาได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั
ตวั ช้ีวัด
ว ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
รวมท้ังหมด ๕ ตัวช้วี ัด
๑๑๔
คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๕ โครงงานทางวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษา เกี่ยวกับ ลักษณะของนักวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางานของนักวิทยาศาสตร์ การ
ต้ังสมมติฐานจากปัญหา หรือสถานการณ์ ออกแบบการทดลองกาหนดและควบคุมตัวแปร กาหนดนิยาม
เชิงปฏิบัติการ ออกแบบวิธีการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติการทดลอง บันทึกข้อมูล สรุปผล
ข้อมูล วิเคราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์ การคิดวางแผนการทดลอง จัดทาเค้าโครงงานวิทยาศาสตร์ การ
ออกแบบดัดแปลงการทดลอง กาหนดวัสดอุ ุปกรณต์ า่ งๆในการปฏิบตั ิกิจกรรมแกป้ ญั หา
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ มี
ความสามารถ ในการคิดแก้ปัญหา การสือ่ สาร การใช้เทคโนโลยี การสืบค้นขอ้ มูลและการอภปิ ราย
เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน สามารถส่ือสารสิ่งท่ี
เรียนรู้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดารงชีวิตและดูแลส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ี
เหมาะสมและเขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยสี งั คมและสงิ่ แวดล้อมเก่ยี วขอ้ งสัมพนั ธก์ ัน
ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายลักษณะของนักวิทยาศาสตร์ และกระบวนการทางานของนักวิยาศาสตร์
๒. อธิบาย การต้ังสมมตฐิ านจากปญั หา หรือสถานการณต์ ่างๆ
๓. ออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ านโดยมีการกาหนดและควบคุมตัวแปรตา่ งๆ และ
กาหนด นิยามเชิงปฏิบัตกิ าร
๔. ออกแบบวิธีการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์ และลงมือทาการทดลอง
๕. บนั ทึกข้อมูลที่สามารถ อ่านเข้าใจงา่ ย และสรุปผลของข้อมลู จากการศึกษาทดลอง
๖. วิเคราะหโ์ ครงงานวิทยาศาสตร์ และมีแนวคิดในการวางแผนการทดลอง รวมถึงจัดทาเค้าโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์
๗. อภปิ ราย อธิบาย ออกแบบหรือดัดแปลงการทดลอง ตลอดจน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการทากิจกรรม
แก้ปัญหา
๘. มที ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จิตวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปญั หาโดยใช้ วิธกี าร
ทางวิทยาศาสตร์
รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรียนรู้
๑๑๕
คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
ว ๒๐๒๐๖ แสงและทัศนูอุปกรณ์ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ และอธิบายเก่ียวกับการสะท้อนของแสงบนกระจกเงาระนาบ การ
เกิดภาพจากกระจกเงาระนาบและกระจกโค้ง วิธีการเขียนทางเดินของแสงเพ่ือหาตาแหน่งและลักษณะ
ภาพท่ีเกิดจากการสะท้อนบนกระจกโค้ง และสามารถคานวณหาตาแหน่งภาพท่ีเกิดจากการสะท้อนบน
กระจกโค้ง รวมทั้งมีทักษะในการทดลองเพ่ือศึกษาการสะท้อนของแสงและการเกิดภาพบนกระจกเงา
ระนาบและกระจกโค้ง หลักการทางานของเส้นใยนาแสงและเลเซอร์ การสะท้อนกลับของแสงภายใน
เส้นใยนาแสง ประโยชน์ของเส้นใยนาแสงและแสงเลเซอร์ การหักเหของแสงที่ผ่านเลนส์นูนและเลนส์เว้า
การเกิดภาพจากเลนส์นูนและเลนสเ์ วา้ วิธีการเขยี นทางเดนิ ของแสงเพื่อหาตาแหนง่ และลักษณะภาพท่ีเกิด
จากการหักเหของแสงที่ผ่านเลนส์ และสามารถคานวณหาตาแหน่งภาพท่ีเกิดจากเลนส์ รวมท้ังมีทักษะใน
การทดลองเพือ่ ศึกษาแนวรังสที ผ่ี ่านเลนส์ และการเกิดภาพจรงิ และภาพเสมือน
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การคานวณ ตั้งคาถามที่กาหนดประเด็นหรือตัวแปรที่สาคัญ
ในการสารวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจได้อย่างครอบคลุมและเชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานท่ี
สามารถตรวจสอบได้และวางแผนการสารวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี เลอื กเทคนิควิธกี ารสารวจตรวจสอบทั้ง
เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพท่ีได้ผลเท่ียงตรงและปลอดภัย โดยใช้วัสดุและเคร่ืองมือท่ีเหมาะสม รวบรวม
ข้อมูล จัดกระทาข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพ วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของประจักษ์พยาน
กับข้อสรุป ทั้งท่ีสนับสนุนหรือขัดแย้งกับสมมติฐาน และความผิดปกติของข้อมูลจากการสารวจตรวจสอบ
สร้างแบบจาลอง หรือรูปแบบ ที่อธิบายผลหรือแสดงผลของการสารวจตรวจสอบ สร้างคาถามท่ีนาไปสู่
การสารวจตรวจสอบ ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง และนาความรู้ท่ีได้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่หรืออธิบายเกี่ยวกับ
แนวคิด กระบวนการ และผลของโครงงานหรือช้ินงานให้ผู้อื่นเข้าใจ บันทึกและอธิบายผลการสังเกต การ
สารวจ ตรวจสอบ ค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ให้ได้ข้อมูลท่ีเช่ือถือได้ และยอมรับการ
เปลี่ยนแปลงความรูท้ ี่ค้นพบเมื่อมขี ้อมูลและประจักษ์พยานใหมเ่ พ่ิมขึ้นหรอื โตแ้ ย้งจากเดิม จัดแสดงผลงาน
เขยี นรายงาน และ/หรอื อธิบายเกยี่ วกับแนวคิด กระบวนการ และผลของโครงงานหรือช้ินงานใหผ้ ู้อนื่ เขา้ ใจ
เพ่อื ให้เกิดความตระหนกั และมจี ิตวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เห็นคณุ ค่าของวิทยาศาสตร์ สามารถ
นาความรู้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการหาความรู้ใหม่และแก้ปัญหาต่างๆใน
ชีวิตประจาวันโดยมีจิตวิทยาศาสตร์ มีความรับผิดชอบ ความเพียรพยายาม ใจกว้าง ยอมรับฟังความ
คิดเหน็ ผู้อ่ืนและมีจริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. ทดลองและอธิบายเกยี่ วกบั การสะทอ้ นของแสง ซง่ึ สามารถนาสมบัตนิ ีไ้ ปหาตาแหนง่
และขนาดของภาพทเ่ี กิดจากกระจกเงาท้ังโดยการเขียนภาพและการคานวณ
๒. ทดลองและอธบิ ายเก่ยี วกบั การหักเหของแสง เมื่อผ่านรอยตอ่ ระหว่างตวั กลางสองชนดิ
ซ่ึงเป็นไปตามกฎของสเนลล์ การกระจายของแสง
๓. ทดลองและอธิบายเกี่ยวกับการหักเหของแสง ซึ่งนาไปหาตาแหน่งและขนาดของภาพทเี่ กิด
๑๑๖
จากเลนส์โดยการเขียนภาพและคานวณ ความยาวโฟกัสของเลนส์บางข้ึนอยู่กับดรรชนีหักเหของเลนส์และ
รัศมคี วามโค้งของท้ังสองผิว
๔. อธบิ ายเกย่ี วกับสมบตั ิการแทรกสอดและการเลย้ี วเบนของแสง
๕. อธบิ ายปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่เป็นผลมาจากสมบตั ิต่าง ๆ ของแสง
๖. อธบิ ายกลไกในการมองเห็นแสง และ สขี องตา รวมทัง้ ความผิดปกติที่เกิดจากการมอง
๗. สามารถบอกผลลพั ธ์ของการผสมแสง และสไี ด้อยา่ งถูกตอ้ ง
๘. อธบิ ายการทางาน รวมทั้งสว่ นประกอบของทัศนปู กรณ์ท่ใี ช้ในชีวิตประจาวนั ได้
ผลการเรยี นรู้รวม ๘ ผลการเรียนรู้
๑๑๗
คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๑ ชีววทิ ยา ๑ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศกึ ษา วเิ คราะห ผลการทดลองของเมนเดล กฎแหง่ การแยกและกฎแห่งการรวมกลมุ่ อย่างอสิ ระ
และนากฎของเมนเดลนไ้ี ปอธิบายการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม และใชใ้ นการคานวณโอกาสในการ
เกดิ ฟีโนไทป์และจโี นไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรนุ่ F๑ และ F๒ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่เี ปน็ ส่วน
ขยายของ พนั ธศุ าสตร์เมนเดล วเิ คราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพนั ธกุ รรมที่มีการแปรผันไมต่ ่อเนอ่ื ง
และลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่มกี ารแปรผันต่อเนือ่ ง การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซมและยกตัวอย่างลักษณะ
ทางพนั ธกุ รรมที่ถูกควบคุมดว้ ยยนี บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ สมบตั แิ ละหนา้ ทข่ี องสาร
พันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ DNA
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา กา รนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายและสรุปผลการทดลองของเมนเดล
๒. อธบิ ายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ
๓. นากฎของเมนเดลน้ีไปอธิบายการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม
๔. ใช้ในการคานวณโอกาสในการเกิดฟโี นไทป์และจีโนไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรนุ่ F๑ และ F๒
๕. สบื ค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ อธบิ าย และสรปุ เกีย่ วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมทีเ่ ปน็ ส่วนขยาย
ของ พันธศุ าสตรเ์ มนเดล
๖. สืบค้นขอ้ มูล วิเคราะห์ และเปรียบเทยี บลักษณะทางพนั ธุกรรมทม่ี กี ารแปรผนั ไม่ตอ่ เน่ืองและลักษณะ
ทางพนั ธุกรรมท่ีมีการแปรผนั ตอ่ เนอ่ื ง
๗. อธบิ ายการถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซมและยกตัวอยา่ งลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีถกู ควบคมุ ด้วยยีนบนออโต
โซมและยีนบนโครโมโซมเพศ
๘. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายสมบัติและหน้าที่ของสารพนั ธกุ รรม โครงสรา้ งและองค์ประกอบทางเคมีของ DNA
รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรียนรู้
๑๑๘
คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๒ ชีววทิ ยา ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา สมบัติท่ีสาคัญของส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ของการจัดระบบในส่ิงมีขีวิตท่ีทาให้ส่ิงมีชีวิต
ดารงชีวิตอยู่ได้ ความสาคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และวิธีการ
ตรวจสอบสมมติฐาน รวมทั้งการออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน สมบัติของน้าและบอก
ความสาคัญของน้าที่มีต่อส่ิงมีชีวิตและยกตัวอย่างธาตุชนิดต่างๆที่มีความสาคัญต่อร่างกายสิ่งมีชีวิต
โครงสร้างของคาร์โบไฮโดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรตรวมทั้งความสาคัญของคาร์โบไฮเดรตที่มีต่อ
ส่ิงมีชีวิต โครงสร้างของโปรตีนและความสาคัญของโปรตีนท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิต โครงสร้างของลิพิดและ
ความสาคัญของลิพิดท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิต โครงสร้างของกรดนิวคลิอิกและระบุชนิดของกรดนิวคลิอิกและ
ความสาคัญของกรดนิวคลิอิกท่มี ีต่อสิ่งมีชวี ิต บอกวิธีการและเตรียมตัวอย่างส่ิงมีชีวติ เพื่อศกึ ษาภายใต้กล่อง
จุลทรรศน์ใช้แสง วัดขนาดโดยประมาณและวาดภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอกวิธีการใช้ และการดูแล
รักษากล้องจุลทรรศนใ์ ช้แสงที่ถกู ตอ้ ง โครงสรา้ งและหน้าทข่ี องส่วนทีห่ อ่ หุ้มเซลลข์ องเซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์
ระบชุ นดิ และหนา้ ทขี่ องออรแ์ กเนลล์
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายและสรุปสมบัติท่ีสาคัญของสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมีขีวิตที่ทาให้
สง่ิ มีชีวิตดารงชวี ิตอยู่ได้
๒. อภิปรายและบอกความสาคัญของการระบปุ ญั หา ความสมั พันธร์ ะหว่างปญั หา สมมติฐาน และวธิ ีการ
ตรวจสอบสมมตฐิ าน รวมทัง้ การออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน
๓. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายเกย่ี วกบั สมบัตขิ องนา้ และบอกความสาคัญของนา้ ทมี่ ีต่อสิ่งมชี วี ติ และยกตวั อย่าง
ธาตุชนิดต่างๆที่มีความสาคญั ตอ่ ร่างกายส่ิงมชี ีวติ
๔. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ งของคารโ์ บไฮโดรต ระบุกลุม่ ของคารโ์ บไฮเดรตรวมทง้ั ความสาคญั ของ
คารโ์ บไฮเดรตทีม่ ีต่อสิง่ มีชีวิต
๕. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งของโปรตีนและความสาคัญของโปรตนี ที่มีต่อสง่ิ มชี วี ติ
๖. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายโครงสรา้ งของลิพดิ และความสาคัญของลิพดิ ที่มตี ่อส่งิ มีชีวติ
๗. อธิบายโครงสรา้ งของกรดนวิ คลอิ ิกและระบชุ นิดของกรดนวิ คลอิ กิ และความสาคญั ของกรดนิวคลิอิกที่มี
ต่อส่งิ มชี วี ิต
๘. บอกวิธกี ารและเตรยี มตัวอยา่ งสง่ิ มชี วี ิตเพื่อศึกษาภายใต้กล่องจุลทรรศน์ใชแ้ สง วดั ขนาดโดยประมาณ
และวาดภาพทปี่ รากฏภายใต้กลอ้ ง บอกวธิ ีการใช้ และการดูแลรกั ษากล้องจลุ ทรรศน์ใช้แสงท่ีถกู ต้อง
๙. อธิบายโครงสร้างและหนา้ ที่ของส่วนทห่ี ่อห้มุ เซลลข์ องเซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์
๑๐. สบื ค้นข้อมลู อธบิ าย และระบชุ นิดและหนา้ ที่ของออรแ์ กเนลล์
๑๑. อธิบายโครงสร้างและหน้าทีข่ องนวิ เคลยี ส
รวมทัง้ หมด ๑๑ ผลการเรียนรู้
๑๑๙
คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๓ เคมี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายข้อปฏิบัติเบื้องต้น ปฏิบัติตนที่แสดงถึงความตระหนักในการทา
ปฏิบัติการเคมีเพื่อให้มีความปลอดภัยท้ังต่อตนเอง ผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทางแก้ไขเมื่อเกิด
อุบัติเหตุ เลือก และใช้อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือในการทาปฏิบัติการ และวัดปริมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
ระบุหน่วยวัดปริมาณต่างๆ ของสาร ธาตุและสารประกอบ โครงสร้างอะตอม แบบจาลองอะตอม อนุภาค
มูลฐานของอะตอม สัญลกั ษณน์ วิ เคลียรข์ องธาตุ ไอโซโทป ตารางธาตแุ ละสมบตั ิของธาตุตามตารางธาตุ
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายข้อปฏิบตั ิเบ้ืองต้น และปฏิบัติตนทแี่ สดงถึงความตระหนักในการทาปฏิบัติการเคมีเพ่ือให้มีความ
ปลอดภัยท้งั ตอ่ ตนเอง ผู้อืน่ และสงิ่ แวดล้อม และเสนอแนวทางแกไ้ ขเม่ือเกิดอุบตั เิ หตไุ ด้
๒. อธบิ ายการเลือกใชอ้ ุปกรณ์หรอื เครื่องมอื ในการทาปฏิบตั ิการ และวัดปริมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมได้
๓. ระบุหน่วยวัดปริมาณต่างๆ ของสาร และเปลี่ยนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟก
เตอร์เปลย่ี นหน่วยได้
๔. ระบวุ า่ สารเปน็ ธาตหุ รอื สารประกอบ และอยู่ในรปู อะตอม โมเลกุล หรอื ไอออนจากสตู รเคมี
๕. เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของแบบจาลองอะตอมของโบร์กับแบบจาลองอะตอมแบบ
กล่มุ หมอก
๖. ระบุจานวนโปรตอน นิวตรอน และอเิ ล็กตรอนของอะตอม และไอออนท่ีเกดิ จากอะตอมเดียว
๗. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลยี ร์ของธาตแุ ละระบุการเปน็ ไอโซโทป
๘. ระบุหมู่และคาบของธาตุ และระบุว่าธาตุเป็นโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟ หรือกลุ่ม
ธาตุแทรนซิชัน จากตารางธาตุ
รวมทัง้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้
๑๒๐
คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๔ เคมี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมี เขียนและดุลสมการเคมีของปฏิกิริยา
เคมีบางชนิด เขียนแผนภาพ คานวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ผลของความเข้มข้น พ้ืนที่ผิวของสารต้ัง
ต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมายสญั ลักษณ์ในสมการเคมไี ด้
๒. เขียนและดุลสมการเคมีของปฏิกริ ยิ าเคมีบางชนิดได้
๓. คานวณอตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
๔. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มขน้ พ้นื ท่ีผิวของสารต้งั ตน้ อณุ หภมู ิ และตัวเรง่ ปฏิกริ ยิ าทีม่ ตี ่ออัตรา
การเกดิ ปฏิกิริยาเคมีได้
๕. เปรยี บเทยี บอตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเมอ่ื มีการเปลย่ี นแปลงความเข้มขน้ พนื้ ท่ผี ิวของสารต้งั ต้น อุณหภมู ิ
และตัวเร่งปฏกิ ิรยิ าได้
๖. ยกตัวอยา่ ง และอธิบายปัจจัยท่มี ผี ลต่ออตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมีในชวี ติ ประจาวนั หรืออตุ สาหกรรมได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
๑๒๑
คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ว ๒๐๒๐๕ ฟสิ ิกส์ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ การค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของหลักการ
และแนวคดิ ทางฟิสกิ สท์ ่ีมผี ลตอ่ การแสวงหาความรู้ใหม่และการพฒั นาเทคโนโลยี วัด และรายงานผลการวัด
ปรมิ าณทางฟิสกิ ส์ ความร้อน การเปล่ียนสถานะของสาร การถา่ ยโอนพลังงานความรอ้ นตามกฎการอนุรกั ษ์
พลงั งาน
โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
ในศตวรรษที่ ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ
สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา กานาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. สืบค้น และอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของหลักการและ
แนวคิดทางฟสิ กิ สท์ ี่มผี ลตอ่ การแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพฒั นาเทคโนโลยี
๒. วัด และรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนาความคลาดเคลื่อนในการวัดมา
พิจารณาในการนาเสนอผล รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์และแปลความหมายจาก
กราฟเสน้ ตรง
๓. อธบิ ายและคานวณความร้อนท่ที าให้สสารเปลีย่ นอณุ หภูมิ
๔. คานวณพลังงานความรอ้ นท่ที าใหส้ สารเปลย่ี นสถานะ
๕. อธิบายการถ่ายโอนตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน
รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
๑๒๒
คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ว ๒๐๒๐๖ ฟิสิกส์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษาหลักการพ้ืนฐานของแรงและการเคลื่อนท่ีในเรื่องระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว
ความเรง กฎการเคลอื่ นที่ของนิวตัน การเคลื่อนท่ีแนวตรง การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล การเคลื่อนทีแ่ บบ
วงกลม และการใชประโยชนจากแรงและการเคล่ือนทแ่ี บบต่าง ๆ
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างตาแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการเคล่ือนที่
ของวตั ถใุ นแนวตรงท่ีมีความเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ
๒. ทดลองหาคา่ ความเร่งโนม้ ถ่วงของโลก และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง
๓. ทดลอง และอธบิ ายการหาแรงลพั ธข์ องแรงสองแรงที่ทามุมต่อกนั
๔. เขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทาตอ่ วัตถุอิสระ
๕. ทดลอง อธิบายกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและการใช้กฎการเคล่ือนที่ของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนท่ี
ของวตั ถุ รวมทั้งคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
๖. อธบิ าย วเิ คราะห์ และคานวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกับการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์
๗. ทดลองการเคลอื่ นท่แี บบโพรเจกไทล์
๘. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคล่ือนที่ อัตราเร็วเชิงเส้น และ
มวล
ของวัตถุ ในการเคลอื่ นทีแ่ บบวงกลมในระนาบระดับ
๙. คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคล่ือนท่ีแบบวงกลม ในการอธิบายการ
โคจรของดาวเทยี ม
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
๑๒๓
คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
IS ๒๐๒๐๑ การศกึ ษาค้นคว้าและสร้างองคค์ วามรู้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะการตั้งประเด็นปัญหาหรือคาถามในเรื่องท่ีสนใจ ต้ังสมมติฐาน
อย่างมีเหตุผลโดยการใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย
วางแผนออกแบบการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการที่เหมาะสม เสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบด้วยกระบวนการคิด โดยการปฏิบัติเป็นรายบุคคลหรือกลุ่ม อภิปรายสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน
เพ่ือใหเ้ ห็นคุณค่าและประโยชนข์ องการศึกษาคน้ คว้า
ผลการเรยี นรู้
1. ตงั้ คาถามจากสถานการณ์ที่กาหนดให้ และระบุประเดน็ ปญั หาท่ีสนใจได้
2. ตั้งสมมติฐานจากประเดน็ ปัญหาทส่ี นใจ
3. ออกแบบ วางแผน กาหนดขอบเขต ลาดบั ข้นั ตอนในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. แสวงหาความรู้จากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ีหลากหลายและระบุแหล่งทีม่ าของขอ้ มูลได้ถูกต้อง
5. เสนอแนวคดิ เทคนคิ วิธี วธิ ีการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยกระบวนการคดิ เป็นรายบคุ คลหรือกลุ่มได้
6. ศึกษา รวบรวมข้อมูล และบันทึกผลการสารวจ ผลการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง ครอบคลุม
ทง้ั ในเชิงปริมาณและเชิงคณุ ภาพ
7. จัดกระทาข้อมูล โดยคานึงถึงการรายงานผลเชงิ ตัวเลขที่มรี ะดับความถูกต้องและนาเสนอข้อมูลด้วยวิธี
ที่เหมาะสม
8. แปลความหมายและวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินความสอดคล้องของข้อมูล สรุปสาระสาคัญ เพ่ือ
ตรวจสอบสมมติฐานทต่ี ้งั ไว้ โดยใช้หลักสถิตทิ ่เี หมาะสม
9. สรปุ องค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม ในการอภปิ ราย วพิ ากษแ์ ลกเปลี่ยนความคิดเหน็ องค์ความรู้ที่
ไดจ้ ากการคน้ พบด้วยตนเองหรือกลุ่ม
10.บอกประโยชนแ์ ละคณุ ค่าของการศึกษาค้นคว้าได้
รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
๑๒๔
คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
IS ๒๐๒๐๒ การสื่อสารและการนาเสนอ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะการต้ังประเด็นปัญหาหรือคาถามในเรื่องที่สนใจ ตั้งสมมติฐาน
อย่างมีเหตุผลโดยการใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
วางแผนออกแบบการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการที่เหมาะสม เสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบด้วยกระบวนการคิด โดยการปฏิบัติเป็นรายบุคคลหรือกลุ่ม อภิปรายสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน
เพอื่ ให้เหน็ คณุ ค่าและประโยชนข์ องการศึกษาค้นคว้า
ผลการเรยี นรู้
1. ต้งั คาถามเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า องค์ความรู้เชงิ วิชาการภาษาไทย ความยาว ๒,๕๐๐ คา
2. นาเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากองค์ความรู้ที่ศึกษาในรูปแบบกลุ่มหรือรายบุคคลโดยใช้สื่อ อุปกรณ์ใน
การนาเสนอได้อย่างเหมาะสม
3. มีทักษะการเขียนรายงานเชิงวิชาการและการส่ือสารโดยใช้สื่อประสมในการนาเสนอได้อย่างเหมาะสม
มีประสทิ ธภิ าพ
4. เผยแพร่ผลงานการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบบทความวิชาการ บทความวิจัย แสดงนิทรรศการผลงาน
ตพี มิ พใ์ นเอกสารวารสารทางวชิ าการหรอื เทคโนโลยสี ารสนเทศ
5. บอกประโยชน์และคณุ ค่าในการสรา้ งสรรค์งานและถ่ายทอดสง่ิ ท่ีเรยี นแก่สาธารณะ
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
๑๒๕
คาอธบิ ายรายวชิ า
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มัธยมศึกษาตอนปลาย
๑๒๖
คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
รหัสวิชา ว ๓๑๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน o.๕ หน่วยกติ
ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยีความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ประเมนิ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ สิง่ แวดล้อม เพ่ือเป็นแนวทางในการ
พฒั นาเทคโนโลยี ระบุปัญหาหรือความต้องการทีม่ ีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มลู และแนวคิด
ที่เก่ียวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อน เพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหา โดยคานึงถึงความ
ถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา ศึกษาการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และ
ตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ น าเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่น
เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่หลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบ วางแผนข้ันตอนการ
ทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหา การทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ ให้เหตุผลของปัญหาหรือขอ้ บกพร่องท่ี
เกิดข้ึนภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข พร้อมท้ังเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด
เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ีซับซ้อนในการแก้ปัญหาหรือ
พัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัยโดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
(Problem – based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project – based Learning)
เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และ
นาเสนอผ่านการท ากิจกรรมโครงงานเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ความสัมพันธ์ของความรู้
วทิ ยาศาสตร์ท่ีมีผลต่อการพฒั นาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มกี ารคดิ ค้น
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม ตลอดจนนาความรู้
ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดารงชีวิต จน
สามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจดั การทักษะในการ
สื่อสาร ความสามารถในการตดั สินใจ เป็นผู้ท่ีมีจติ วิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม
จรยิ ธรรม ค่านยิ มในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
ตวั ช้วี ัด
ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕
รวม ๕ ตัวชวี้ ัด
๑๒๗
คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
รหัสวชิ า ว ๓๑๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน o.๕ หน่วยกิต
ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยีความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ประเมินผลกระทบที่จะเกิดข้ึนต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ สิง่ แวดล้อม เพ่ือเป็นแนวทางในการ
พฒั นาเทคโนโลยี ระบปุ ญั หาหรือความต้องการทีม่ ีผลกระทบตอ่ สังคม รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มูลและแนวคิด
ที่เก่ียวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อน เพ่ือสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหา โดยคานึงถึงความ
ถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา ศึกษาการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และ
ตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จาเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ น าเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่ืน
เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการท่ีหลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบ วางแผนขั้นตอนการ
ทางานและดาเนินการแก้ปญั หา การทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ ให้เหตุผลของปัญหาหรือขอ้ บกพร่องท่ี
เกิดขึ้นภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข พร้อมทั้งเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด
เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ีซับซ้อนในการแก้ปัญหาหรือ
พัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัยโดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
(Problem – based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project – based Learning)
เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และ
นาเสนอผ่านการท ากิจกรรมโครงงานเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ความสัมพันธ์ของความรู้
วทิ ยาศาสตร์ทม่ี ีผลตอ่ การพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีส่งผลให้มีการคดิ ค้น
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนนาความรู้
ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดารงชีวิต จน
สามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจดั การทักษะในการ
สื่อสาร ความสามารถในการตดั สินใจ เป็นผทู้ ่มี ีจิตวิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม
จรยิ ธรรม ค่านิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
ตวั ช้วี ดั
ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕
รวม ๕ ตัวชวี้ ัด
๑๒๘
คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
รหัสวิชา ว ๓๒๑๑๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน o.๕ หน่วยกติ
การทาโครงงานเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากสัตว์ต่างๆรวมทั้งทรัพยากรในการสร้าง
หรือพัฒนาช้ินงานหรือวิธีการเพ่ือแก้ปัญหาหรืออานวยความสะดวกในการทางานการทาโครงงานการ
ออกแบบและเทคโนโลยีสามารถดาเนินการได้โดยเริ่มจากการสารวจสถานการณ์ปัญหาท่ีสนใจเพื่อกาหนด
หัวข้อโครงงานแล้วรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหาการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา
วางแผนและดาเนนิ การแก้ปญั หาทดสอบประเมนิ ผลปรับปรงุ แก้ไขวธิ ีการแก้ปัญหาหรือช้นิ งานและนาเสนอ
วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจ
ตรวจสอบสามารถนาความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เช่ือมโยง อธิบายปรากฎการณ์หรือแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจาวัน สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มีความสามารในการตัดสินใจ
แก้ปญั หา มจี ติ วิทยาศาสตร์ เห็นคณุ คา่ ของวิทยาศาสตร์ มีจริยธรรมคณุ ธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม
ตัวชว้ี ัด
ว ๔.๑ ม.๔/๑ ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้และทกั ษะจากสตั วต์ า่ งๆรวมทั้งทรพั ยากรในการทาโครงงานเพ่ือ
แก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน
รวมทงั้ หมด ๑ ตัวช้ีวัด
๑๒๙
คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหสั วิชา ว ๓๒๑๑๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน o.๕ หนว่ ยกติ
การทาโครงงานเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากสัตว์ต่างๆรวมทั้งทรัพยากรในการสร้าง
หรือพัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการเพ่ือแก้ปัญหาหรืออานวยความสะดวกในการทางานการทาโครงงานการ
ออกแบบและเทคโนโลยีสามารถดาเนินการได้โดยเริ่มจากการสารวจสถานการณ์ปัญหาที่สนใจเพื่อกาหนด
หัวข้อโครงงานแล้วรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหาการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา
วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหาทดสอบประเมนิ ผลปรับปรงุ แกไ้ ขวธิ ีการแก้ปญั หาหรือชน้ิ งานและนาเสนอ
วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจ
ตรวจสอบสามารถนาความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฎการณ์หรือแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจาวัน สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มีความสามารในการตัดสินใจ
แกป้ ัญหา มีจติ วิทยาศาสตร์ เหน็ คุณค่าของวทิ ยาศาสตร์ มีจริยธรรมคุณธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม
ตัวช้วี ัด
ว ๔.๑ ม.๔/๑ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้แู ละทักษะจากสัตวต์ า่ งๆรวมทงั้ ทรพั ยากรในการทาโครงงานเพื่อ
แก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
รวมทัง้ หมด ๑ ตัวชี้วดั
๑๓๐
คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
รหสั วชิ า ว ๓๑๑๓๑ วิทยาการคานวณ ๑ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน o.๕ หน่วยกติ
ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ
กา ร คิด เ ชิง น า มธ ร รม ตั ว อ ย่ าง แ ล ะป ร ะโ ย ช น์ ข อง แ น ว คิ ด เชิ ง ค าน ว ณเ พื่ อ แก้ ปั ญห า ใ น
ชีวิตประจาวัน ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณใน การออกแบบข้ันตอนวิธีสาหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหา
ด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธีการทาซ้า
การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนวิธีเพ่ือแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษา
ตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกาหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดาเนินงาน สรุปผลและ
เผยแพร่ ในการพฒั นาโครงงานทมี่ กี ารบูรณาการรว่ มกบั วชิ าอนื่ และเชื่อมโยงกับชีวติ จริง
ตวั ช้วี ัด
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพฒั นา โครงงานที่มกี ารบรู ณาการกับวิชาอ่นื อย่างสร้างสรรค์ และ
เชื่อมโยงกบั ชวี ิตจริง
รวมทั้งหมด ๑ ตัวชี้วัด
๑๓๑
คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
รหสั วิชา ว ๓๑๑๓๒ วทิ ยาการคานวณ ๒ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน o.๕ หน่วยกติ
ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ
กา ร คิด เ ชิง น า มธ ร รม ตั ว อ ย่ าง แ ล ะป ร ะโ ย ช น์ ข อง แ น ว คิ ด เชิ ง ค าน ว ณเ พื่ อ แก้ ปั ญห า ใ น
ชีวิตประจาวัน ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณใน การออกแบบข้ันตอนวิธีสาหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหา
ด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธีการทาซ้า
การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการออกแบบข้ันตอนวิธีเพื่อแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษา
ตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกาหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดาเนินงาน สรุปผลและ
เผยแพร่ ในการพฒั นาโครงงานท่ีมีการบูรณาการรว่ มกบั วชิ าอ่ืนและเชอื่ มโยงกับชีวติ จริง
ตวั ช้ีวัด
ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ประยุกตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนา โครงงานที่มีการบรู ณาการกับวิชาอ่นื อย่างสร้างสรรค์ และ
เชื่อมโยงกับชีวติ จริง
รวมท้ังหมด ๑ ตวั ชี้วัด
๑๓๒
คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
รหสั วิชา ว ๓๒๑๓๑ วทิ ยาการคานวณ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน o.๕ หนว่ ยกิต
การนาความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์สือ่ ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชแ้ กป้ ญั หากบั ชีวิต
จริ งการเ พิ่มมูลร าคาให้ บริ การ หรื อผลิ ตภั ณฑ์การ เ ก็บ ข้อมูล และการ จัด เ ตรี ยมข้อมูลให้ พร้ อมกับการ
ประมวลผลการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติการประมวลผลข้อมูลและเครื่องมือการทาข้อมูลให้เป็นภาพการ
เลือกใช้แหล่งข้อมูล เช่น data.go.th,wolfam alpha, OECD.org,ตลาดหลักทรัพย์, worid economic
forum
คุณค่าของขอ้ มลู และกรณีศกึ ษากรณีศกึ ษาและวิธีการแก้ปญั หาตวั อย่างปญั หา เช่น รูปแบบของบรรจุภัณฑ์
ที่ดึงดูดความสนใจและตรงตามความต้องการผู้ใช้ในแต่ละประเภท การกาหนดตาแหน่งป้ายรถเมล์เพ่ือลด
เวลาเดินทางและปญั หาการจราจร สารวจความตอ้ งการรับประทานอาหารในชุมชนและเลือกขายอาหารที่
จะได้กาไรสูงสุด ออกแบบรายการอาหารเจ็ดวันสาหรบั ผู้ป่วยเบาหวาน โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู้และหลักการไปใช้
ประโยชน์ เช่ือมโยงอธิบายปรากฎการณ์หรือแก้ปัญหาในชีวิตปราจาวัน สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์
ข้อมูลสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารในการตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของ
วทิ ยาศาสตรม์ ีจริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม
ตัวช้วี ดั
ว ๔.๒ ม.๔/๑ รวบรวมวเิ คราะหข์ ้อมูลและใช้ความรดู้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สอ่ื ดิจิทลั
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาหรอื เพ่ิมมลู ค่าให้กับบริการหรือผลติ ภัณฑ์ที่ใชใ้ นชวี ติ จรงิ อยา่ ง
สรา้ งสรรค์
รวมทั้งหมด ๑ ตวั ช้วี ัด
๑๓๓
คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
รหัสวิชา ว ๓๒๑๓๒ วทิ ยาการคานวณ ๔ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน o.๕ หน่วยกติ
การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์สือ่ ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้แก้ปญั หากบั ชีวิต
จริงการเพ่ิมมูลราคาให้บริการหรือผลิตภัณฑ์การเก็บข้อมูลและการจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมกับการ
ประมวลผลการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติการประมวลผลข้อมูลและเคร่ืองมือการทา ข้อมูลให้เป็นภาพการ
เลือกใช้แหล่งข้อมูล เช่น data.go.th,wolfam alpha, OECD.org,ตลาดหลักทรัพย์, worid economic
forum คุณค่าของข้อมูลและกรณีศึกษากรณีศึกษาและวิธีการแก้ปัญหาตัวอย่างปัญหา เช่น รูปแบบของ
บรรจุภัณฑ์ท่ีดึงดูดความสนใจและตรงตามความต้องการผู้ใช้ในแต่ละประเภท การกาหนดตาแหน่งป้าย
รถเมลเ์ พื่อลดเวลาเดนิ ทางและปญั หาการจราจร สารวจความตอ้ งการรับประทานอาหารในชุมชนและเลือก
ขายอาหารที่จะได้กาไรสูงสุด ออกแบบรายการอาหารเจ็ดวันสาหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยใช้การเรียนรู้ด้วย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรแู้ ละหลักการ
ไปใช้ประโยชน์ เช่ือมโยงอธิบายปรากฎการณ์หรือแก้ปัญหาในชีวิตปราจาวัน สามารถจัดกระทาและ
วเิ คราะหข์ ้อมูลส่ือสารส่ิงทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารในการตัดสินใจแกป้ ัญหา มีจติ วิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของ
วทิ ยาศาสตรม์ ีจริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม
ตัวช้ีวัด
ว ๔.๒ ม.๔/๑ รวบรวมวเิ คราะห์ข้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทัล
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแกป้ ัญหาหรือเพม่ิ มลู ค่าใหก้ ับบริการหรอื ผลติ ภัณฑ์ทีใ่ ช้ในชีวติ จรงิ อย่าง
สร้างสรรค์
รวมทงั้ หมด ๑ ตัวช้ีวัด
๑๓๔
คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหัสวชิ า ว ๓๓๑๓๑ วิทยาการคานวณ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน o.๕ หน่วยกิต
การนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล เช่น การเขียนบลอ็ ก อัพโหลดวิดีโอภาพอินโฟกราฟิก การนาเสนอ
และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย เช่น ระมัดระวังผลกระทบท่ีตามมาเม่ือมีการแบ่งปันข้อมูลหรือเผยแพร่
ข้อมูลไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสาระสนเทศเทคโนโลยีเกิด
ใหม่แนวโน้มในอนาคต การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านต่างๆที่เก่ียวข้องกับ
ชีวิตประจาวันอาชีพเก่ียวกับเทคโนโลยีสาระสนเทศ ผลกระทบของเทคโนโลยีสาระสนเทศต่อการดาเนิน
ชีวิตอาชีพสังคมและวัฒนธรรม โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้
การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เช่ือมโยง อธิบายปรากฎการณ์ หรือ
แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์ข้อมูลส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารในการ
ตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์มีจริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ี
เหมาะสม
ตัวชี้วดั
ว ๔.๒ ม๖/๑
ใช้เทคโนโลยีสาระสนเทศในการนาเสนอและแบ่งปันข้อมลู อยา่ งปลอดภัยมจี รยิ ธรรมและวิเคราะห์การ
เปลี่ยนแ
ปลงเทคโนโลยสี าระสนเทศที่มีผลต่อการดาเนนิ ชีวติ อาชพี สังคมและวัฒนธรรม
รวมท้ังหมด ๑ ตัวชวี้ ดั
๑๓๕
คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
รหสั วิชา ว ๓๓๑๓๒ วิทยาการคานวณ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน o.๕ หน่วยกิต
การนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล เช่น การเขียนบลอ็ ก อัพโหลดวิดีโอภาพอินโฟกราฟิก การนาเสนอ
และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย เช่น ระมัดระวังผลกระทบที่ตามมาเมื่อมีการแบ่งปันข้อมูลหรือเผยแพร่
ขอ้ มูลไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสาระสนเทศเทคโนโลยีเกิด
ใหม่แนวโน้มในอนาคต การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ
ชีวิตประจาวันอาชีพเก่ียวกับเทคโนโลยีสาระสนเทศ ผลกระทบของเทคโนโลยีสาระสนเทศต่อการดาเนิน
ชวี ิตอาชีพสังคมและวัฒนธรรม โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้
การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฎการณ์ หรือ
แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์ข้อมูลสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารในการ
ตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์มีจริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่
เหมาะสม
ตัวช้ีวดั
ว ๔.๒ ม๖/๑
ใชเ้ ทคโนโลยสี าระสนเทศในการนาเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัยมจี รยิ ธรรมและวิเคราะห์การ
เปลีย่ นแ
ปลงเทคโนโลยีสาระสนเทศที่มผี ลต่อการดาเนินชีวติ อาชพี สังคมและวฒั นธรรม
รวมท้ังหมด ๑ ตัวชวี้ ัด
๑๓๖
คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ว ๓๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ๑ (ชวี วิทยา ๑) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษาโครงสร้างและสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ การลาเลียงสารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์แบบต่างๆ การ
ควบคมุ ดุลยภาพของน้าและสารในเลือดโดยการทางานของไต การควบคุมดุลยภาพของกรด-เบสของเลือด
โดยการทางานของไตและปอด การควบคุมดุลยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกายโดยระบบหมุนเวียนเลือด
ผิวหนัง และกล้ามเน้ือโครงร่าง กลไกในการต่อต้านหรือทาลายส่ิงแปลกปลอมท้ังแบบไม่จาเพาะและแบบ
จาเพาะ โรคหรืออาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องท่ีมีสาเหตุมา
จากการติดเชื้อ HIV การดารงชีวิตของพืช กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง การใช้ประโยชน์จากสารต่างๆ
ท่พี ืชบางชนิดสร้างขึน้ ปัจจัยภายนอกท่มี ีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช สารควบคมุ การเจริญเตบิ โตของพืช
ท่ีมนุษย์สังเคราะห์ขึ้นเพ่ือนามาประยุกต์ใช้ทางด้านการเกษตร การตอบสนองของพืชต่อส่ิงเร้าในรูปแบบ
ต่างๆ แบบท่ีมีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้าและแบบที่ไม่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้าที่
ส่งผลต่อการเจริญเติบโต วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ
วิทยาศาสตร์เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี ระบุปญั หาหรอื ความต้องการที่มผี ลกระทบตอ่ สังคม
รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อนเพ่ือสังเคราะห์วิธีการ นาเสนอ
แนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่ืนเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่หลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการ
ออกแบบ วางแผนข้ันตอนการทางานและดาเนินการแก้ปัญหา ประเมินผล วิเคราะห์ และให้เหตุผลของ
ปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิดข้ึนภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการ
แก้ปัญหา พร้อมท้ังเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ
กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน ได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสมและปลอดภยั
โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมูล การสังเกต
การ วิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและสรุป เพื่อใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรูและนาความรูไปใชในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอ่ืน ๆ เฝ้า
ระวงั และพัฒนาส่งิ แวดลอมอยา่ งย่ังยืน มจี ติ วทิ ยาศาสตร จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคานิยมที่เหมาะสม
รหสั ตัวช้ีวัด
ว ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๘, ม.๔/๙, ม.๔/๑๐,
ม.๔/๑๑, ม.๔/๑๒
ว ๔.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕
รวมทั้งหมด ๑๗ ตัวชวี้ ัด
๑๓๗
คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน
ว ๓๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ (ชีววทิ ยา ๒) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษาระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอม
ชนิดต่างๆ การเปลยี่ นแปลงแทนท่ีของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงขององคป์ ระกอบในระบบนิเวศทั้งทาง
กายภาพและทางชีวภาพมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
สิ่งแวดล้อมเพ่ือให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืน ความสัมพันธ์ระหว่างยีน การสังเคราะห์โปรตีน และ
ลักษณะทางพันธุกรรม ดีเอ็นเอ นิวคลีโอไทด์ หลักการถ่ายทอดลักษณะที่ถูกควบคุมด้วยยีนที่อยู่บน
โครโมโซมเพศและมัลติเปลิ แอลลีล ตาบอดสี และฮโี มฟเี ลีย หมูเ่ ลือดระบบ ABO มิวเทชันและการนาไปใช้
ประโยชน์ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม การตรวจล าย
พิมพ์ดีเอ็นเอ การใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอในด้านต่างๆ ชีวจริยธรรม และผลกระทบทางด้านสังคม ความ
หลากหลายของสิ่งมีชีวิต วิวัฒนาการ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอ
และแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภยั มีจรยิ ธรรม และวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีผลต่อ
การดาเนินชวี ิต อาชพี สังคม และวัฒนธรรม
โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมูล การสังเกต
การ วิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและสรุป เพ่ือใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนาความรูไปใชในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอื่น ๆ เฝ้า
ระวังและพฒั นาสิ่งแวดลอมอย่างยัง่ ยืน มีจติ วทิ ยาศาสตร จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคานยิ มทเี่ หมาะสม
รหสั ตวั ชี้วดั
ว ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔
ว ๑.๓ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖
ว ๔.๒ ม.๖/๑
รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวช้วี ดั
๑๓๘
คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ว ๓๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ๒ (เคมี ๒) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษาธาตุและสารประกอบ โครงสร้างอะตอม แบบจาลองอะตอม อนุภาคมูลฐานของอะตอม
สญั ลักษณ์นิวเคลียรข์ องธาตุ ไอโซโทป ตารางธาตุและสมบัติของธาตุตามตารางธาตุ พันธะเคมี สารละลาย
อิเล็กโทรไลต์และสารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ กรดเบส มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ สารประกอบอินทรีย์
สมบัติความเป็นกรดเบสของสารประกอบอินทรีย์ การละลายของสาร ปฏิกิริยาเคมี สมการเคมี ปัจจัยที่มี
ผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิริยารีดอกซ์ สมบัติของสารกัมมันตรังสี ครึ่งชีวิตของสารกัมมันตรังสี
รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิตัล เทรโนโลยีสารสนเทศในการ
แก้ปญั หาหรอื เพม่ิ มลู ค่าให้กบั บรกิ ารหรอื ผลติ ภัณฑ์ท่ีใชใ้ นชีวติ จริงอยา่ งสรา้ งสรรค์
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู การสังเกต
การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและสรุป เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มคี วามสารถใน
การตดั สินใจ ส่ือสารส่ิงทเี่ รียนรู้นาความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ เหน็ คุณคา่ ของ
วทิ ยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม
รหสั ตัวช้ีวัด
ว ๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐ ,ม.๕/๑๑, ม.
๕/๑๒ ,
ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔, ม.๕/๑๕, ม.๕/๑๖, ม.๕/๑๗, ม.๕/๑๘, ม.๕/๑๙, ม.๕/๒๐, ม.๕/๒๑, ม.๕/
๒๒, ม.๕/๒๓,
ม.๕/๒๔, ม.๕/๒๕
ว ๔.๒ ม.๕/๑
รวม ๒๗ ตวั ชว้ี ดั
๑๓๙
คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน
ว ๓๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ ๑ (ฟสิ กิ ส์ ๑) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาหลักการพื้นฐานของแรงและการเคล่ือนท่ีในเร่ืองระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว
ความเรง การเคล่ือนท่ีแนวตรง การเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล การเคล่ือนที่แบบวงกลมและการเคล่ือนท่ี
แบบสนั่ แรงทกี่ ระทาตอวัตถุในสนามโนม้ ถว่ ง และการเคล่ือนทขี่ องวัตถุในสนามโน้มถวง แรงที่กระทาตออ
นภุ าค ท่ีมีประจไุ ฟฟาในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก รวมทั้งแรงนิวเคลียรในนวิ เคลียส และการใชประ
โยชน จากแรงและการเคล่ือนท่ีแบบต่าง ๆ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการพัฒนาโครงงานท่ีมี
การบูรณาการกบั วิชาอ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชอื่ มโยงกบั ชวี ติ จริง
โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมูล การสังเกต
การ วิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและสรุป เพ่ือใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ สื่อสารส่ิงที่เรียนรูและนาความรูไปใชในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เฝ้า
ระวงั และพัฒนาสิ่งแวดลอมอยา่ งยัง่ ยนื มจี ติ วทิ ยาศาสตร จรยิ ธรรม คุณธรรมและคานิยมท่เี หมาะสม
รหสั ตวั ช้ีวัด
ว ๒.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๘, ม.๔/๙, ม.๔/๑๐
ว ๔.๒ ม.๔/๑
รวมทั้งหมด ๑๑ ตวั ช้ีวัด
๑๔๐
คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน
ว ๓๐๑๐๑ ฟิสกิ สพ์ ื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖
ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาหลักการพื้นฐานของแรงและการเคล่ือนที่ในเรื่องระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว
ความเรง การเคล่ือนที่แนวตรง การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล การเคล่ือนที่แบบวงกลมและการเคล่ือนที่
แบบสั่น แรงท่กี ระทาตอวัตถใุ นสนามโนม้ ถว่ ง และการเคลื่อนทข่ี องวัตถใุ นสนามโน้มถวง แรงที่กระทาตออ
นภุ าค ท่ีมีประจไุ ฟฟาในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก รวมท้ังแรงนวิ เคลียรในนิวเคลียส และการใชประ
โยชนจากแรงและการเคลื่อนทีแ่ บบตา่ ง ๆ ศึกษาหลกั การพนื้ ฐานของพลงั งานในเรือ่ งองคประกอบของคล่ืน
สมบัติของคลื่น เสียงและการได้ยิน ความเขมเสียง การเกิดเสียงสะท้อนกลับ บีต ดอปเพลอร์ และการสั่น
พ้องของเสียง มลพิษทางเสียง การมองเห็นสีของวัตถุ การผสมสารสีและการนาไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจาวัน สเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา การส่ือสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลักการทางานของ
อุปกรณ์บางชนิด ท่ีอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า กัมมันตภาพรังสี รังสีในชีวิตประจาวัน ปฏิกริ ิยานิวเคลียร
พลังงานนิวเคลียรและการใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค ผลกระทบตอสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดลอม ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวิเคราะห์การ
เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี ีผลต่อการดาเนินชวี ิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม ประยกุ ต์ใช้ความรู้
และทักษะจากศาสตร์ต่างๆ รวมทัง้ ทรัพยากรในการทาโครงงานเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม
รหสั ตัวช้ีวดั
ว๒.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐
ว๒.๓ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐ ม.๖/๑๑,
ม.๖/๑๒
ว๔.๑ ม.๕/๑
ว๔.๒ ม.๖/๑
รวมทั้งหมด ๒๓ ตัวชี้วัด
๑๔๑
คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
ว ๓๐๑๒๑ เคมพี ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาธาตุและสารประกอบ โครงสร้างอะตอม แบบจาลองอะตอม อนุภาคมูลฐานของอะตอม
สญั ลักษณ์นวิ เคลียรข์ องธาตุ ไอโซโทป ตารางธาตุและสมบตั ิของธาตุตามตารางธาตุ พันธะเคมี สารละลาย
อิเล็กโทรไลต์และสารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ กรดเบส มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ สารประกอบอินทรีย์
สมบัติความเป็นกรดเบสของสารประกอบอินทรีย์ การละลายของสาร ปฏิกิริยาเคมี สมการเคมี ปัจจัยท่ีมี
ผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ สมบัตขิ องสารกมั มนั ตรังสี ครึ่งชวี ิตของสารกัมมนั ตรังสี
ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการพัฒนาโครงงานท่ีมีการบูรณาการกับวิชาอ่ืนอย่างสร้างสรรค์ และ
เช่ือมโยงกับชีวิตจริง กัมมันตรังสี รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิ
จิตัล เทรโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตจริงอย่าง
สร้างสรรค์
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม
รหัสตวั ชี้วดั
ว๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐ ,ม.๕/๑๑,
ม.๕/๑๒ ,
ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔, ม.๕/๑๕, ม.๕/๑๖, ม.๕/๑๗, ม.๕/๑๘, ม.๕/๑๙, ม.๕/๒๐, ม.๕/๒๑, ม.๕/
๒๒, ม.๕/๒๓,
ม.๕/๒๔, ม.๕/๒๕
ว๔.๒ ม.๔/๑
ว๔.๒ ม.๕/๑
รวม ๒๗ ตวั ช้ีวดั
๑๔๒
คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
ว ๓๐๑๔๑ ชีววิทยาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอม
ชนิดต่างๆ การเปลยี่ นแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบในระบบนิเวศท้ังทาง
กายภาพและทางชีวภาพมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
ส่ิงแวดล้อมเพ่ือให้เกิดการใช้ประโยชน์ท่ียั่งยืน โครงสร้างและสมบัติของเย่ือหุ้มเซลล์ การลาเลียงสารผ่าน
เยื่อหุ้มเซลล์แบบต่างๆ การควบคุมดุลยภาพของน้าและสารในเลือดโดยการทางานของไต การควบคุมดุลย
ภาพของกรด-เบสของเลอื ดโดยการทางานของไตและปอด การควบคุมดลุ ยภาพของอณุ หภูมิภายในร่างกาย
โดยระบบหมนุ เวยี นเลือด ผวิ หนงั และกลา้ มเนือ้ โครงรา่ ง กลไกในการตอ่ ตา้ นหรือทาลายส่ิงแปลกปลอมทั้ง
แบบไมจ่ าเพาะและแบบจาเพาะ โรคหรืออาการท่ีเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิค้มุ กนั ภาวะภมู ิคุ้มกัน
บกพร่องที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ HIV การดารงชีวิตของพืช กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง การใช้
ประโยชนจ์ ากสารตา่ งๆ ที่พืชบางชนิดสรา้ งขึ้น ปจั จยั ภายนอกท่ีมผี ลต่อการเจริญเติบโตของพชื สารควบคุม
การเจริญเติบโตของพืชที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นเพื่อนามาประยุกต์ใช้ทางด้านการเกษตร การตอบสนองของ
พชื ต่อส่ิงเรา้ ในรูปแบบต่างๆ แบบท่ีมีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้าและแบบทไ่ี ม่มีทิศทางสัมพันธ์กับ
ทิศทางของสิ่งเร้าท่ีส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพันธ์ระหว่างยีน การสังเคราะห์โปรตีน และลักษณะ
ทางพันธุกรรม ดีเอ็นเอ นิวคลีโอไทด์ หลักการถ่ายทอดลักษณะที่ถูกควบคุมด้วยยีนท่ีอยู่บนโครโมโซมเพศ
และมัลติเปิลแอลลีล ตาบอดสี และฮีโมฟีเลีย หมู่เลือดระบบ ABO มิวเทชันและการนาไปใช้ประโยชน์
เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม การตรวจลายพิมพ์ดีเอ็นเอ
การใชเ้ ทคโนโลยที างดเี อ็นเอในด้านต่างๆ ชวี จรยิ ธรรม และผลกระทบทางดา้ นสงั คม ความหลากหลายของ
ส่ิงมีชีวิต วิวัฒนาการ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับ
ศาสตร์อ่ืนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี ระบุปัญหาหรือความต้องการท่ี
มีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อนเพื่อ
สังเคราะห์วิธีการ นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการท่ีหลากหลาย โดยใช้
ซอฟต์แวร์ ช่วยในการออกแบบ วางแผนข้นั ตอนการทางานและดาเนนิ การแกป้ ัญหา ประเมนิ ผล วิเคราะห์
และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิดขึ้นภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และ
นาเสนอผลการแก้ปัญหา พร้อมท้ังเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ
อปุ กรณ์ เครอ่ื งมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ีซับซอ้ นในการแก้ปญั หาหรือพัฒนางาน
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและปลอดภยั
โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา กา รนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม
รหวั ตัวชวี้ ัด
ว ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔
๑๔๓
ว ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๘, ม.๔/๙, ม.๔/๑๐, ม.๔/
๑๑, ม.๔/๑๒
ว ๑.๓ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖
ว ๔.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕
รวมทั้งหมด ๒๗ ตัวชี้วัด
๑๔๔
คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
ว ๓๐๑๖๑ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษากาเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบงใน
ช่วงเวลาต่าง ๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก
กระบวนการเกดิ ดาวฤกษ์ การเปลยี่ นแปลงความดัน อณุ หภูมิ ขนาด กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่ง
เขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์ การสารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลืน่ ต่าง ๆ ดาวเทียม
ยานอวกาศสถานีอวกาศ โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ การแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้าง
โลก กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว สึนามิ การเคล่ือนท่ีของอากาศ การหมุนเวียนของ
อากาศและน้าผิวหน้าในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ ส่ิงมีชีวิต การเปล่ียนแปลง
ภมู ิอากาศของโลกทีส่ ่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลก
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
รหัสตวั ชี้วดั
ว๓.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐
ว๓.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐ ,ม.๕/๑๑, ม.
๕/๑๒ ,
ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔
รวม ๒๔ ตวั ชว้ี ัด
๑๔๕
คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
ว ๓๓๑๐๑ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษาการกาเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบง
หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงข้อมูลการค้นพบไมโครเวฟพื้นหลังจากอวกาศโครงสร้างและ
องค์ประกอบ ของกาแล็กซีทางช้างเผือกระบุตาแหน่งของระบบสุริยะ กระบวนการเกิดดาวฤกษ์การ
เปลี่ยนแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาด จากดาวฤกษ์ก่อนเกิดจนเป็นดาวฤกษ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่อง
สว่างของ ดาวฤกษ์ความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ความสัมพันธ์ระหว่างสี
อุณหภูมิผิว และ สเปกตรัมของดาวฤกษ์ลาดับวิวัฒนาการท่ีสัมพันธ์กับมวลตั้งต้นการเปลี่ยนแปลงสมบัติ
บางประการของดาว ฤกษก์ ระบวนการเกิดระบบสรุ ิยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลกั ษณะของดาว
เคราะห์ท่ีเอื้อต่อการดารงชีวิต โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะปรากฏการณ์หรือ
เหตุการณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกับผล ของลมสุริยะ พายสุ ุริยะท่มี ีตอ่ โลกรวมท้ังประเทศไทยการสารวจอวกาศ โดยใช้
กลอ้ งโทรทรรศน์ในช่วงความ ยาวคล่นื ต่าง ๆ ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ ในการสังเกต การอธิบาย การระบุ วิเคราะห์ สืบค้นข้อมูล และการนาเสนอ เห็นคุณค่าของ
การน าองค์ความรู้ที่ค้นพบและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
มเี จตคติทีด่ ีตอ่ วทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่ีพึงประสงค์
รหัสตัวช้ีวัด
ว ๓.๑ ม.๖/๑ ม.๖/๒ ม.๖/๓ ม.๖/๔ ม.๖/๕ ม.๖/๖ ม.๖/๗ ม.๖/๘ ม.๖/๙ ม.๖/๑๐
รวมท้ังหมด ๑ ตวั ชวี้ ดั