แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่มงุ่ เนน้ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและ
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
รหสั วชิ า 30121-2101 วชิ า การควบคุมและวางแผนการกอ่ สร้างงานโยธา
หลกั สตู รหลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง พุทธศกั ราช 2563
ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม
สาขาวชิ าโยธา
จดั ทำโดย
นางสาวจารุวรรณ นามบดุ ดี
ตำแหน่ง ครูพิเศษสอน สาขาวชิ ากอ่ สรา้ งและโยธา
วทิ ยาลยั เทคนคิ มวกเหล็ก
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จัดทำขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน
รายวิชา การควบคุมและการวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101 ตามหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาโยธา โดยเนื้อหาใน
แผนการจัดการเรียนรู้จะประกอบด้วย จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา คำอธิบายรายวิชา หน่วย
การเรียนรู้ กำหนดการสอนรายสัปดาห์ แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย ซึ่งจะประกอบด้วย ชื่อหน่วย
สาระสำคัญ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดผลและ
ประเมินผลการเรียนรู้ และบันทึกหลงั การเรียนรู้
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้คงจะเป็นประโยชน์ สำหรับครูผู้สอน
ในรายวิชา การควบคุมและการวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101 หรือผู้ที่สนใจ ได้
นำไปใช้เป็นคู่มือหรือแนวทางในการประกอบการเรียนการสอนให้ตรงตามจุดประสงค์ของหลักสูตรที่
กำหนดไว้ และขอขอบคณุ คณะครูสาขางานกอ่ สรา้ ง/โยธา ตลอดจนบุคลากรของวิทยาลัยเทคนิคมวกเหล็ก
ทกุ ท่าน ที่ให้คำแนะนำ ชีแ้ นะในเรอ่ื งตา่ ง ๆ จนทำให้แผนการจดั การเรยี นรฉู้ บับนีเ้ สรจ็ สมบูรณ์
.
..............................
(จารวุ รรณ นามบดุ ดี)
ครพู ิเศษสอน
สาขาวชิ าก่อสร้างและโยธา
วทิ ยาลัยเทคนิคมวกเหล็ก
งานพฒั นาหลกั สตู รการเรยี นการสอน วทิ ยาลยั เทคนิคมวกเหลก็ ,2564
สารบัญ 2
4
เร่ือง 8
หน้า 10
คำนำ
ลักษณะวชิ า / จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม/สมรรถนะประจำหน่วย
ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร
ตารางกำหนดการสอน
งานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน วทิ ยาลยั เทคนิคมวกเหลก็ ,2564
ลักษณะรายวชิ า
รหัสวิชา 30121-2101 ช่ือวิชา การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา
หนว่ ยกติ (ท-ป-น) 3-0-3 เวลาเรียนต่อภาค 54 ชั่วโมง
รายวิชาตามหลกั สูตร
จุดประสงครายวิชา
เพ่อื ให
1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลักการจัดการและการจดั องคก์ ร
2. มีความสามารถในการวางแผนงานกอ่ สรา้ งด้วยวธิ ี ซพี เี อ็ม และบารช์ าร์ต และประยุกต์ใช้โปรแกรม
สำเร็จรูปในการวางแผน
3. มคี วามสามารถในการควบคมุ โครงการงานก่อสรา้ ง
4. มคี ณุ ธรรมและจริยธรรมในการจัดการงานก่อสรา้ ง
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความร้เู กี่ยวกับหลกั การบรหิ ารและการจัดองค์กร
2. ประสานงานและควบคุมการกอ่ สรา้ งตามโครงการ
3. เขียนแผนงานกอ่ สร้างดว้ ยวธิ ีซพี เี อม็ บารช์ าร์ต และการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
4. เขียนรายงานความกา้ วหน้าของงานการควบคมุ โครงการงานก่อสร้าง
คำอธิบายรายวิชา
ศกึ ษาเกีย่ วกับหลกั การจัดการและจดั องค์กร การประสานงานระหวา่ งผู้ที่เกยี่ วข้องในงานก่อสรา้ ง
การวางแผนงานก่อสรา้ งดว้ ยวิธีซพี ีเอม็ บารช์ ารต์ การดำเนินการก่อสร้าง การควบคุม และตดิ ตาม
ความก้าวหนา้ ของงานโดยนำระบบเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) และโปรแกรม
สำเร็จรูปมาประยุกต์ใช้
งานพฒั นาหลักสูตรการเรียนการสอน วทิ ยาลัยเทคนคิ มวกเหลก็ ,2564
หนว่ ยที่ ช่ือหนว่ ย ภาระงาน สมรรถนะประจำหนว่ ย จำนวน
ชวั่ โมง
บทนำ , แนะนำรายวิชา คำอธบิ ายรายวชิ า 1.อธบิ ายลกั ษณะเนอื้ หาและ จุดมงุ่ หมาย 3
- จดุ มงุ่ หมายรายวิชา เกณฑ์คะแนน ของวิชา พร้อมทงั้ เกณฑ์การให้คะแนนไดอ้ ย่าง
- เกณฑ์การวดั ผล ถูกต้อง
- ทฤษฎพี ื้นฐานทีส่ ำคัญ 2.อธิบายทฤษฎพี ืน้ ฐานสำคัญ ทีจ่ ะต้อง
นำมาใชใ้ นการเรียนได้อย่างถูกต้อง
1 การจดั การงานก่อสร้างและ มอบหมายงานทำ 1. ร้แู ละเขา้ ใจความหมายและลักษณะของการ 3
หน้าท่ขี องผคู้ วบคมุ งาน รายงานให้สรุป จัดการงานก่อสร้างและหนา้ ท่ีของผู้ควบคมุ
สาระสำคัญ 2. เหน็ ความสำคญั ในการจัดการงานก่อสร้าง
และหนา้ ที่ของผู้ควบคมุ งาน
2 หลกั ปฏิบตั ใิ นการควบคมุ และ มอบหมายงานทำ 1.อธบิ ายการเตรยี มการก่อนการควบคมุ และ 3
การตรวจงาน รายงานให้สรุป ตรวจงานได้
สาระสำคญั 2.อธิบายการตรวจงานดา้ นเทคนิคและ
หลักการก่อสร้างได้
3.อธิบายการตรวจงานดา้ นแรงงานและความ
ปลอดภยั ได้
3 งานดนิ และงานฐานราก มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายเกยี่ วกบั งานวางผังอาคารได้ 3
รายงานให้สรุป 2. อธบิ ายเกย่ี วกบั งานขุดและงานถมดินได้
สาระสำคญั 3. อธิบายเกย่ี วกบั งานเสาเข็มคอนกรีตหลอ่
สำเร็จรปู ได้
4. อธิบายเกย่ี วกบั งานทดสอบเสาเขม็ ได้
4 วสั ดผุ สมก่อสร้าง มอบหมายงานทำ 1. อธิบายเกี่ยวกับคอนกรีตและวัสดุผสม 3
รายงานใหส้ รุป คอนกรีตได้
สาระสำคญั 2. อธบิ ายวสั ดุกอ่ สร้างแบ่งตามลักษณะงานได้
3. อธิบายการตรวจสอบทจ่ี ำเป็นสำหรบั งาน
วสั ดุผสมกอ่ สร้างได้
5 งานเหล็กเสรมิ มอบหมายงานทำ 1. อธิบายความรพู้ ้นื ฐานเกยี่ วกับการเสริม 3
รายงานใหส้ รุป เหลก็ ได้
สาระสำคญั 2. อธิบายการตรวจสอบเหล็กเสริมก่อนการ
ติดตัง้ ได้
3. อธบิ ายการตรวจสอบการติดตั้งเหลก็ เสริมได้
6 งานแบบหล่อคอนกรตี มอบหมายงานทำ 1. อธิบายความรู้ท่ัวไปเกีย่ วกับงานแบบหล่อได้ 3
รายงานใหส้ รุป 2. อธบิ ายการตรวจสอบงานแบบหล่อใน
สาระสำคญั ข้นั ตอนตา่ งๆของการก่อสรา้ งได้
งานพฒั นาหลกั สตู รการเรียนการสอน วทิ ยาลยั เทคนิคมวกเหลก็ ,2564
7 การลำเลยี งและงานเท 3. บอกถึงข้อควรระวงั ในการตรวจสอบงาน 3
คอนกรีต แบบหลอ่ ได้ 3
8 งานไมแ้ ละงานเหล็ก มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายเก่ียวกับงานลำเลยี งคอนกรีตได้
โครงสรา้ ง รายงานใหส้ รุป 2. อธิบายเก่ยี วกบั งานเทคอนกรีตได้
สาระสำคญั 3. อธิบายเกยี่ วกบั งานรอยต่อคอนกรีตระหวา่ ง
การก่อสร้างได้
4. อธบิ ายการตรวจสอบหลังการหล่อคอนกรีต
ได้
มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายความรทู้ ั่วไปเก่ียวกับไมแ้ ละเหลก็ ได้
รายงานให้สรปุ 2. อธบิ ายการตรวจและควบคุมงานไม้
สาระสำคญั โครงสร้างได้
3. อธบิ ายการตรวจและควบคมุ งานเหล็ก
โครงสร้างได้
9 งานสถาปตั ยกรรม มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายความรู้พ้ืนฐานเกีย่ วกับการตรวจงาน 3
รายงานให้สรุป สถาปตั ยกรรมได้
สาระสำคัญ 2. อธบิ ายการตรวจสอบขณะเตรยี มการ
กอ่ สรา้ งและขณะทำการกอ่ สร้างได้
3. อธิบายการตรวจรับงานสถาปัตยกรรมได้
10 งานสุขาภิบาล มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายความรู้ทว่ั ไปเกย่ี วกับระบบสุขาภิบาล 3
รายงานใหส้ รุป ได้
สาระสำคญั 2. อธบิ ายการตรวจสอบก่อนการก่อสร้างได้
3. อธิบายการตรวจสอบขณะทำการก่อสร้างได้
11 งานไฟฟา้ งานระบบสอ่ื สาร มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายความรพู้ ื้นฐานในการตรวจงานดา้ น 3
รายงานใหส้ รุป วิศวกรรมไฟฟา้ ได้
สาระสำคัญ 2. การตรวจสอบงานระบบไฟฟ้าและ
ระบบส่อื สาร
3. ข้นั ตอนการตรวจสอบและการทดสอบงาน
วศิ วกรรมไฟฟ้า
งานพฒั นาหลกั สตู รการเรยี นการสอน วทิ ยาลัยเทคนิคมวกเหลก็ ,2564
12 งานระบบปรบั อากาศ มอบหมายงานทำ 1. อธิบายความรู้ท่ัวไปเก่ยี วกับระบบปรับ 3
รายงานใหส้ รุป อากาศได้
13 ระบบเคร่ืองกลประกอบ สาระสำคัญ 2. อธิบายการตรวจสอบเครอ่ื งปรบั อากาศและ 3
อาคาร 3
อปุ กรณ์ได้
14 ความปลอดภัยในการ 3. อธิบายขนั้ ตอนการตรวจสอบระบบปรับ 3
ปฏิบตั ิงาน อากาศได้ 3
54
15 การทดสอบคณุ สมบตั ิวสั ดุ มอบหมายงานทำ 1. อธิบายอปุ กรณ์ขนสง่ สำหรับอาคารได้
สอบปลายภาคเรียนที่ 1 รายงานใหส้ รปุ 2. อธิบายเครอื่ งสูบน้ำสำหรับอาคารได้
สาระสำคญั 3. อธิบายอปุ กรณร์ ะบบป้องกันอคั คีภยั สำหรับ
อาคารได้
มอบหมายงานทำ 1. อธบิ ายความรเู้ บื้องต้นเกีย่ วกับความ
รายงานให้สรปุ ปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงานได้
สาระสำคญั 2. อธิบายการกฎหมายและมาตรฐานที่
เก่ียวขอ้ งกับความปลอดภยั ได้
3. อธิบายสาเหตุและการป้อกนั อุบตั ิเหตุในงาน
ก่อสร้างได้
มอบหมายงานทำ 1. อธิบายความร้ทู ั่วไปเกีย่ วกับการทดสอบ
รายงานใหส้ รปุ คณุ สมบัตวิ สั ดุได้
สาระสำคัญ 2. อธบิ ายการทดสอบกำลงั คอนกรตี ได้
3. อธบิ ายการทดสอบแรงดงึ เหลก็ ได้
สอบ ผลสอบได้คะแนนผ่าน 50%
รวม
งานพฒั นาหลักสตู รการเรียนการสอน วิทยาลยั เทคนคิ มวกเหลก็ ,2564
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร
รหัสวชิ า 30101-2101 ชือ่ วิชา การควบคุมแลวางแผนการก่อสรา้ งงานสาปัตยกรรม หน่วยกติ 3
ระดบั ชนั้ ปวส.1 สาขาวิชา โยธา
พุทธิพิสยั
ความ ู้ร
พฤตกิ รรม ความข้าใจ
นำไปใช้
ชือ่ หนว่ ย ิวเคราะห์
สังเคราะห์
ประเ ิมน ่คา
ทักษะพิสัย
จิตพิ ัสย
รวม
ลำดับความสำ ัคญ
จำนวนคาบ
บทนำ , แนะนำรายวชิ า 2 12 5 43
การจัดการงานก่อสรา้ งและหน้าทขี่ องผู้ 2 12 5 33
ควบคมุ งาน
หลักปฏบิ ตั ิในการควบคุมและการตรวจงาน 2 12 5 33
งานดนิ และงานฐานราก 3 22 7 23
วัสดผุ สมกอ่ สรา้ ง 3 22 7 23
งานเหลก็ เสริม 3 22 7 23
งานแบบหล่อคอนกรตี 3 22 7 23
การลำเลยี งและงานเทคอนกรีต 3 22 7 23
งานไมแ้ ละงานเหล็กโครงสรา้ ง 3 22 7 23
งานสถาปัตยกรรม 3 22 7 23
งานสุขาภิบาล 3 22 7 23
งานไฟฟ้า งานระบบสือ่ สาร 2 22 6 33
งานระบบปรบั อากาศ 2 22 6 33
ระบบเคร่ืองกลประกอบอาคาร 2 22 6 33
ความปลอดภยั ในการปฏิบัตงิ าน 2 22 6 33
การทดสอบคณุ สมบัตวิ สั ดุ 3 33 9 13
รวม 0 14 27 0 0 0 30 33 104 40 54
ลำดับความสำคัญ 43 21
หมายเหตุ ระดบั พุทธพิ ิสัย 1 = ความจำ 2 = ความเขา้ ใจ
3 = การนำไปใช้ 4 = การวเิ คราะห์
5 = การสังเคราะห์ 6 = ประเมินคา่
งานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน วทิ ยาลยั เทคนคิ มวกเหลก็ ,2564
ระดบั ทักษะพสิ ัย 1 = การเลียนแบบ 2 = ทำตามแบบ
3 = ความถูกต้องตามแบบ 4 = การกระทำอยา่ งต่อเน่ือง
5 = การทำจนเคยชิน
ระดบั จิตพิสัย 1 = การเรียนรู้ 2 = การตอบสนอง
3 = การสรา้ งคณุ ค่า 4 = การจดั ระบบ
5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั
งานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน วิทยาลัยเทคนคิ มวกเหลก็ ,2564
กำหนดการสอน
สปั ดาห์ ชว่ั โมง ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ /รายการสอน สมรรถนะประจำหนว่ ย/เกณฑ์การ คา่ คะแนน
ท่ี ท่ี ปฏบิ ตั ิงาน ประจำ
หนว่ ย
1 บทนำ , แนะนำรายวิชา 1.อธบิ ายลักษณะเนื้อหาและ 0
- จดุ มงุ่ หมายรายวิชา จุดมงุ่ หมายของวิชา พร้อมท้ังเกณฑ์การ
- เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนได้อย่างถกู ต้อง
- ทฤษฎีพน้ื ฐานที่สำคัญ 2.อธบิ ายทฤษฎีพ้นื ฐานสำคัญ ท่จี ะต้อง
นำมาใช้ในการเรียนได้อยา่ งถูกตอ้ ง
2 การจดั การงานก่อสร้างและหน้าที่ 1. รู้และเข้าใจความหมายและลกั ษณะ 5
ของผู้ควบคุมงาน ของการจดั การงานก่อสรา้ งและหน้าท่ี
ของผคู้ วบคมุ
2. เหน็ ความสำคัญในการจดั การงาน
ก่อสร้างและหนา้ ที่ของผู้ควบคุมงาน
3 หลกั ปฏบิ ตั ใิ นการควบคมุ และการ 1.อธิบายการเตรยี มการก่อนการควบคมุ 5
ตรวจงาน และตรวจงานได้
2.อธิบายการตรวจงานด้านเทคนคิ และ
หลักการก่อสร้างได้
3.อธบิ ายการตรวจงานด้านแรงงานและ
ความปลอดภยั ได้
4 งานดินและงานฐานราก 1. อธบิ ายเกี่ยวกับงานวางผงั อาคารได้ 5
2. อธิบายเก่ยี วกับงานขุดและงานถมดนิ
ได้
3. อธิบายเกยี่ วกับงานเสาเข็มคอนกรตี
หล่อสำเรจ็ รูปได้
4. อธิบายเกี่ยวกับงานทดสอบเสาเขม็ ได้
5 วัสดุผสมก่อสรา้ ง 1. อธิบายเกยี่ วกับคอนกรีตและวัสดุ 5
ผสมคอนกรตี ได้
2. อธบิ ายวสั ดุก่อสร้างแบง่ ตามลกั ษณะ
งานได้
3. อธิบายการตรวจสอบท่ีจำเป็นสำหรบั
งานวสั ดุผสมกอ่ สรา้ งได้
งานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน วิทยาลยั เทคนิคมวกเหล็ก,2564
6 งานเหลก็ เสริม 1. อธบิ ายความร้พู ืน้ ฐานเกี่ยวกบั การ 5
เสริมเหลก็ ได้
2. อธิบายการตรวจสอบเหล็กเสรมิ ก่อน
การตดิ ต้งั ได้
3. อธบิ ายการตรวจสอบการติดตงั้ เหลก็
เสริมได้
7 งานแบบหล่อคอนกรตี 1. อธบิ ายความรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกับงานแบบ 5
หล่อได้
2. อธบิ ายการตรวจสอบงานแบบหลอ่
ในขัน้ ตอนต่างๆของการก่อสร้างได้
3. บอกถึงข้อควรระวังในการตรวจสอบ
งานแบบหล่อได้
1. อธิบายเกยี่ วกับงานลำเลยี งคอนกรีต 5
ได้
2. อธบิ ายเกย่ี วกบั งานเทคอนกรีตได้
8 การลำเลียงและงานเทคอนกรีต 3. อธิบายเกย่ี วกับงานรอยตอ่ คอนกรีต
ระหวา่ งการก่อสรา้ งได้
4. อธิบายการตรวจสอบหลงั การหลอ่
คอนกรีตได้
9 สอบกลางภาคเรยี น 10
งานไมแ้ ละงานเหล็กโครงสร้าง 1. อธบิ ายความรทู้ ัว่ ไปเก่ยี วกับไมแ้ ละ 5
เหลก็ ได้
2. อธบิ ายการตรวจและควบคมุ งานไม้
10 โครงสร้างได้
3. อธิบายการตรวจและควบคมุ งาน
เหล็กโครงสร้างได้
งานสถาปัตยกรรม 1. อธบิ ายความร้พู น้ื ฐานเกี่ยวกบั การ 5
11 ตรวจงานสถาปัตยกรรมได้
2. อธบิ ายการตรวจสอบขณะเตรยี มการ
กอ่ สร้างและขณะทำการกอ่ สร้างได้
3. อธบิ ายการตรวจรับงาน
สถาปัตยกรรมได้
12 งานสุขาภบิ าล 1. อธิบายความรทู้ ัว่ ไปเกยี่ วกับระบบ 5
สุขาภิบาลได้
งานพฒั นาหลักสูตรการเรียนการสอน วิทยาลัยเทคนิคมวกเหลก็ ,2564
2. อธบิ ายการตรวจสอบก่อนการ
ก่อสรา้ งได้
3. อธิบายการตรวจสอบขณะทำการ
ก่อสร้างได้
1. อธิบายความรพู้ น้ื ฐานในการตรวจ 5
งานไฟฟ้า งานระบบสอื่ สาร งานด้านวศิ วกรรมไฟฟ้าได้
13 2. การตรวจสอบงานระบบไฟฟ้าและ
ระบบสอื่ สาร
3. ข้นั ตอนการตรวจสอบและการ
ทดสอบงานวิศวกรรมไฟฟ้า
งานระบบปรับอากาศ 1. อธิบายความรูท้ ่ัวไปเก่ียวกับระบบ 5
ปรบั อากาศได้
2. อธบิ ายการตรวจสอบ
14 เคร่อื งปรับอากาศและอุปกรณ์ได้
3. อธบิ ายขนั้ ตอนการตรวจสอบระบบ
ปรบั อากาศได้
ระบบเครื่องกลประกอบอาคาร 1. อธิบายอปุ กรณ์ขนสง่ สำหรบั อาคาร 5
ได้
15 2. อธิบายเครอ่ื งสบู นำ้ สำหรับอาคารได้
3. อธบิ ายอปุ กรณ์ระบบป้องกนั อัคคีภัย
สำหรับอาคารได้
ความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน 1. อธบิ ายความร้เู บอื้ งต้นเกยี่ วกบั ความ 5
ปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิงานได้
2. อธิบายการกฎหมายและมาตรฐานท่ี
16 เก่ียวขอ้ งกบั ความปลอดภยั ได้
3. อธบิ ายสาเหตแุ ละการป้อกนั อบุ ตั ิเหตุ
ในงานก่อสรา้ งได้
การทดสอบคณุ สมบัติวัสดุ 1. อธบิ ายความรูท้ ว่ั ไปเกย่ี วกับการ 5
ทดสอบคุณสมบตั วิ สั ดุได้
17 2. อธิบายการทดสอบกำลังคอนกรีตได้
3. อธิบายการทดสอบแรงดงึ เหลก็ ได้
18 สอบปลายภาคเรยี น ผลสอบไดค้ ะแนนผา่ น 50% 20
รวม 100
งานพฒั นาหลักสตู รการเรียนการสอน วทิ ยาลยั เทคนคิ มวกเหลก็ ,2564
งานพฒั นาหลกั สูตรการเรียนการสอน วทิ ยาลยั เทคนิคมวกเหล็ก,2564
แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวชิ า 30121-2101
หน่วยที่ 1 เรื่อง การจัดการงานก่อสร้างและหน้าที่ของผู้ควบคุมงาน เวลา 3 ชั่วโมง
หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย
1.1 บทนำ
1.2 หลกั กำรกำรควบคุมและกำรตรวจงำน
1.3 กำรเตรียมงำนก่อนกำรควบคุมและกำรตรวจงำน
1.4 กำรตรวจสอบสถำนที่ก่อสร้ำง
1.5 ควำมหมำยของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำง
1.6 คุณสมบตั ิของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำง
1.7 กำรดำเนินงำนควบคุมงำนก่อสร้ำง
1.8 ขอบเขตและหนำ้ ท่ีของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำง
1.9 ขอ้ ควรปฏิบตั ิของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำง
1.10 จรรยำบรรณสำหรับผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำง
สาระสาคญั
1. กำรควบคุมงำน หมำยถึง กำรควบคุมดูแลกำรก่อสร้ำงใหถ้ กู ตอ้ งตำมแบบรูปและรำยกำรขอ้ กำหนด
รวมท้งั ตำมเง่ือนไขทำงวิชำกำรท่ีดี กำรควบคุมงำนแบ่งไดเ้ ป็น 2 ข้นั ตอน คือ ข้นั ตอนก่อนทำกำรก่อสร้ำง และ
ข้นั ตอนระหวำ่ งกำรก่อสร้ำง
2. ผคู้ วบคมุ งำนควรมีคณุ สมบตั ิดงั ต่อไปน้ี คือ มีคณุ วุฒิหรือพ้ืนฐำนกำรศึกษำ มีประสบกำรณ์ในกำร
ทำงำน มีควำมประพฤติดีและปฏิบตั ิตำมจรรยำบรรณ รวมท้งั มีควำมสมบรู ณ์ท้งั ทำงร่ำงกำยและจิตใจ
3. หนำ้ ท่ีหลกั ของผคู้ วบคุมงำน ไดแ้ ก่ กำรควบคุมกำรก่อสร้ำงใหด้ ำเนินไปตำมแบบรูปและรำยกำร
ขอ้ กำหนดและถกู ตอ้ งตำมหลกั วชิ ำกำร ควบคมุ กำรใชว้ สั ดุทกุ ประเภทที่เก่ียวขอ้ งกบั กำรควบคุมงำน รวบรวม
ผลกำรทดสอบคณุ ภำพวสั ดุทำงวิศวกรรม ตรวจสอบผลงำนก่อนจะมีกำรตรวจรับงำนตำมงวดงำนที่กำหนดใน
สัญญำ รวมท้งั กำรรวบรวมปัญหำ และอุปสรรคต่ำงๆท่ีเกิดข้ึนเพ่อื เสนอต่อผูเ้ กี่ยวขอ้ งและผมู้ ีอำนำจส่งั กำร
จดุ ประสงค์การเรียน การสอน
จุดประสงค์ทว่ั ไป
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. รู้และเขำ้ ใจควำมหมำยและลกั ษณะของกำรจดั กำรงำนก่อสร้ำงและหนำ้ ท่ีของผคู้ วบคุม
2. เห็นควำมสำคญั ในกำรจดั กำรงำนก่อสร้ำงและหนำ้ ท่ีของผคู้ วบคุมงำน
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1.อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำงได้
2.อธิบำยกล่มุ บุคคลที่เกี่ยวขอ้ งในงำนก่อสร้ำงได้
3. บอกควำมหมำยของกำรควบคุมงำนก่อสร้ำงได้
4. บอกควำมหมำยของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง
5. บอกคุณสมบตั ิของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงได้
6. อธิบำยควำมรู้พ้ืนฐำนของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำงได้
7. อธิบำย ขอบเขตและหนำ้ ที่ของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำงไดถ้ ูกตอ้ ง
8. อธิบำยขอ้ ควรปฏิบตั ิของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำงได้
9. มีเจตคติท่ีดีและปฏิบตั ิตำมจรรยำบรรณสำหรับผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงได้
กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำยควำมควำมหมำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของวชิ ำเทคนิคกำรควบคุมงำนก่อสร้ำง เพ่ือ
นำเขำ้ สู่บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มูล
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เร่ืองกำรจดั กำรงำนก่อสร้ำงและหนำ้ ที่ของผคู้ วบคุม
งำนตำม หวั ขอ้ ตำ่ งๆในเอกสำรประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้นื ฐำน หนำ้ ที่ และขอ้ ควรปฏิบตั ิของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำง
3. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคุม ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้ันสรุป
สรุปสำระสำคญั เร่ืองกำรจดั กำรงำนก่อสร้ำงและหนำ้ ที่ของผคู้ วบคุมงำนและสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำน
ตำมใบงำน
กจิ กรรมนักศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกล่มุ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ส่ือการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคมุ และวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. ส่ือแผน่ ใส และส่ือนำเสนอ (Presentation)
3. ส่ือ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ประเมินผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
เอกสารอ้างองิ
สุปรีชำ หิรัญโร “บทบำทและคุณสมบตั ิของผตู้ รวจงำน” ในเอกสำรกำรสอนชุดวิชำกำรตรวจงำน เล่มที่ 1
หน่วยท่ี 1 พิมพค์ ร้ังท่ี 7 นนทบรุ ี มหำวทิ ยำลยั สุโขทยั ธรรมำธิรำช 2538
โสภณ แสงไพโรจน์ แนวปฏิบตั ิกำรตรวจกำรจำ้ งงำนก่อสร้ำง กรุงเทพมหำนคร
สถำบนั เทคโนโลยรี ำชมงคล 2538
บนั ทึกหลงั การสอน
หน่วยท่ี 1
การจดั การงานก่อสร้างและหน้าท่ขี องผ้คู วบคุมงาน
1. บทนา
โดยท่วั ไป งำนก่อสร้ำงไม่ได้เร่ิมต้นเมื่อทำกำรปรับปรุงพ้ืนที่หรือส่องกลอ้ งปักผงั โครงกำรหำกแต่
เกิดข้ึนก่อนหน้ำน้ันแล้ว โดยเริ่มต้ังแต่เม่ือเจ้ำของโครงกำรตกลงให้ผู้ออกแบบทำกำรออกแบบและเมื่อ
ผูป้ ระกอบกำรธุรกิจก่อสร้ำงไดซ้ ้ือแบบหรือรับแบบมำมำคิดเพื่อเสนอรำคำ จนกระทงั่ ไดร้ ับกำรมอบหมำยให้
เป็ นผทู้ ำกำรก่อสร้ำงน้นั จริง กำรทำงำนก่อสร้ำงน้ันมีผเู้ ก่ียวขอ้ งในกำรทำงำนหลำยกลุ่ม และทุกกลุ่มที่ทำงำน
จะตอ้ งมีกำรตรวจสอบซ่ึงกนั และกนั ท้งั สิ้น ผอู้ อกแบบจะทำกำรตรวจสอบเพอ่ื ควำมถูกตอ้ งตรงกนั ของส่ิงที่ระบุ
ไวใ้ นแบบรูปรำยกำร เงื่อนไข และเอกสำรสัญญำ เพรำะเป็นที่ยอมรับกนั วำ่ ควำมขดั แยง้ หรือควำมไม่เหมำะสม
ในแบบรูปและรำยกำรละเอียด จะปรำกฏอยู่เสมอเนื่องจำกเอกสำรดงั กล่ำวจดั ทำโดยกลุ่มท่ีมีควำมรู้ และควำม
ชำนำญในดำ้ นวิชำชีพหลำยกลุ่มในช่วงระยะเวลำนำน และตลอดระยะเวลำดงั กล่ำวไดม้ ีกำรแกไ้ ขเปลี่ยนแปลง
อยู่ตลอดเวลำ ถึงแมว้ ่ำกำรทำงำนของคณะผูอ้ อกแบบจะเป็ นทีมงำนท่ีมีประสิทธิภำพเพียงใด ก็อำจจะมีกำร
ผิดพลำดอยู่บ้ำงไม่มำกก็น้อย ดังน้ันกำรควบคุมและกำรตรวจสอบจึงนับเป็ นเร่ืองจำเป็ นท่ีหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับผูป้ ระกอบธุรกิจก่อสร้ำงก็จะต้องทำกำรตรวจสอบอย่ำงพิถีพิถันในกำรดำเนินงำนทุกข้นั ตอน เพื่อ
ป้องกนั ควำมเสียหำยท่ีอำจเกิดข้ึน ส่วนเจำ้ ของโครงกำรก็จะตอ้ งควบคุมและตรวจสอบเพ่ือให้ไดง้ ำนก่อสร้ำงท่ี
มีคณุ คำ่ เหมำะกบั เงินที่ลงทุน รวมท้งั ใหเ้ ป็นไปตำมสญั ญำที่ตกลงกนั
2. หลกั การการควบคมุ และการตรวจงาน
ก่อนที่งำนก่อสร้ำงในหน่วยงำนก่อสร้ำงจะเริ่มข้ึนน้นั ผตู้ รวจงำนจะตอ้ งทำกำรเตรียมกำร
ก่อนกำรควบคมุ และกำรตรวจงำน โดยจะตอ้ งมีกำรตรวจสอบงำนดำ้ นเอกสำร ซ่ึงประกอบดว้ ยแบบรูป รำยกำร
ละเอียด และเอกสำรหลักฐำนประกอบสัญญำ รวมท้ังจะต้องทำกำรตรวจสอบสถำนที่ก่อสร้ำงก่อนเริ่ม
ดำเนินกำรจริงดว้ ย
กำรตรวจสอบงำนดำ้ นเทคนิคและหลกั กำรก่อสร้ำงน้นั จะตอ้ งดำเนินกำรตรวจสอบใน
ดำ้ นต่ำง ๆ ไดแ้ ก่ กำรตรวจสอบตำแหน่งผงั อำคำรและหมุดอำ้ งอิงต่ำง ๆ กำรตรวจสอบขนำดระยะระดบั และ
แนวต่ำงๆ กำรตรวจสอบวสั ดุและอปุ กรณ์ตำ่ ง ๆ รวมท้งั กำรตรวจสอบผลกำรกำ้ วหนำ้ ของงำนดว้ ยกำรตรวจงำน
ดำ้ นฝีมือแรงงำน เป็นกำรตรวจสอบดำ้ นมำตรฐำนฝี มือแรงงำน รวมท้งั กำรใชเ้ ครื่องมือ เคร่ืองจกั ร ในหน่วยงำน
ก่อสร้ำง อนั จะส่งผลต่อเน่ืองถึงคุณค่ำและคุณภำพของผลงำนก่อสร้ำงน้นั ๆ ส่วนกำรตรวจสอบในดำ้ นควำม
ปลอดภยั จะเป็ นกำรตรวจสอบกำรจดั ระบบควำมปลอดภยั และอำชีวอนำมยั ให้แก่ช่ำง และคนงำนในสถำนที่
ก่อสร้ำง รวมท้งั ควำมปลอดภยั ที่มีตอ่ บุคคลภำยนอกสถำนที่ก่อสร้ำงดว้ ย
3. การเตรียมงานก่อนการควบคมุ และการตรวจงาน
หลงั จำกท่ีทำกำรยนื่ ซองประกวดรำคำ จนกระทง่ั คดั เลือกไดผ้ ทู้ ่ีจะทำกำรก่อสร้ำงแลว้ น้นั ก่อนท่ีจะเริ่ม
ดำเนินกำรก่อสร้ำงท้ังฝ่ ำยเจ้ำของงำนและผูท้ ำกำรก่อสร้ำงต้องเตรียมกำรก่อนทำกำรก่อสร้ำงจริง งำนท่ี
จำเป็ นตอ้ งเตรียมกำรก่อนทำกำรก่อสร้ำง หรืออำจกล่ำวไดอ้ ีกอย่ำงหน่ึงวำ่ กำรเตรียมกำรก่อนกำรควบคุมและ
กำรตรวจงำนน้นั จะประกอบดว้ ยกำรเตรียมงำนดำ้ นเอกสำรและกำรตรวจสอบสถำนที่ก่อสร้ำง
1. การตรวจสอบงานด้านเอกสาร
งำนดำ้ นเอกสำรนับเป็ นงำนที่จำเป็ นตอ้ งตรวจสอบในลำดบั แรกก่อนท่ีจะดำเนินกำรก่อสร้ำง โดยทว่ั ไปงำน
เอกสำรท่ีจะตอ้ งตรวจสอบประกอบดว้ ย แบบรูปและรำยกำรละเอียดรวมท้งั เอกสำรหลกั ฐำนประกอบสัญญำ
1.1 แบบรูปและรายการละเอียด (Drawing and specification) แบบรูปและรำยกำรละเอียดนับเป็ น
เอกสำรสำคญั ในกำรดำเนินกำรก่อสร้ำง แบบรูปจะประกอบดว้ ยรำยละเอียดของแบบท่ีจะใชท้ ำกำรก่อสร้ำงซ่ึง
โดยท่ัวไปจะแบ่งงำนออกเป็ นหมวดๆ นับต้ังแต่งำนโครงสร้ำง งำนสถำปัตยกรรมและงำนระบบต่ำง ๆ
ประกอบอำคำร ท้งั น้ีควำมละเอียดของแบบรูปงำนระบบต่ำง ๆจะข้ึนอยกู่ บั ประเภทของโครงกำรน้นั ๆ ว่ำจะ
เนน้ ในส่วนใด ของงำนระบบใดเป็นพิเศษหรือไม่
กำรก่อสร้ำงน้นั แบบรูปเพียงอยำ่ งเดียวไมส่ ำมำรถอธิบำยรำยละเอียดของงำนท้งั หมดได้
จึงจำเป็ นตอ้ งมีรำยกำรละเอียดประกอบแบบด้วย รำยกำรละเอียดดังกล่ำวจะเป็ นเอกสำรท่ีใช้อธิบำยควำม
ตอ้ งกำรของผูอ้ อกแบบต่อบุคคลท่ีเก่ียวขอ้ ง เพ่ือกำหนด ชนิด ขนำด มำตรฐำนกำรทำงำนรำยละเอียดของฝี มือ
และวสั ดุอปุ กรณ์ รวมท้งั รำยละเอียดของงำนท่ีจะก่อสร้ำงให้ชดั เจนยงิ่ ข้ึนตวั อยำ่ งของขอ้ มูลท่ีปรำกฏในรำยกำร
ละเอียดประกอบแบบก่อสร้ำงน้นั ไดแ้ ก่ ขนำดหรือเบอร์ของหินหรือกรวดท่ีใชง้ ำนน้นั ส่วนผสมของคอนกรีต
ท่ีใช้ วิธีกำรทดสอบคุณภำพของคอนกรีตวิธีกำรปฏิบตั ิในกำรทำงำนต่ำงๆ นับต้งั แต่กำรติดต้งั แบบหล่อ กำร
ลำเลียงคอนกรีต กำรเทคอนกรีต รวมท้งั กำรกำหนดคำ่ ควำมคลำดเคลื่อนที่ยอมให้
ดังน้ัน เพ่ือให้กำรดำเนินกำรก่อสร้ำงได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและถูกตอ้ งเป็ นท่ีพอใจของทุกฝ่ ำย ที่
เกี่ยวขอ้ ง ผูต้ รวจงำนจะตอ้ งมีควำมเขำ้ ใจในเร่ืองแบบรูปและรำยกำรละเอียดอยำ่ งชดั เจนอยำ่ งไรก็ตำม ในทำง
ปฏิบตั ิ กำรขดั แยง้ ระหวำ่ งแบบรูปท้งั ดำ้ นสถำปัตยกรรมและวศิ วกรรมทุกสำขำจะเกิดข้ึนอยเู่ สมอ นบั ต้งั แตก่ ำร
ขำดส่วนสำคญั ของแบบที่ควรจะระบุ หรือขยำยให้ชัดเจนกำรระบุเงื่อนไขหรือรำยกำรท่ีสับสน และขำดใน
สำระสำคญั ที่จะใช้ควบคุมกำรทำงำน รวมท้งั ควำมไม่ชดั เจนของแบบรูป ส่ิงต่ำง ๆ เหล่ำน้ีจะตอ้ งไดร้ ับกำร
ตรวจสอบและแกไ้ ขประกอบกบั กำรลงนำมทำสัญญำ กำรตรวจสอบดงั กล่ำวนอกจำกจะเป็นควำมพยำยำมขจดั
ขอ้ ขดั แยง้ ระหว่ำงแบบรูป รำยกำรละเอียด และเอกสำร อนั จะเป็ นส่วนหน่ึงของสัญญำในภำยหลงั แลว้ ยงั เป็ น
กำรทำควำมเขำ้ ใจในวตั ถุประสงค์ที่แสดงโดยแบบรูป รำยกำรละเอียดและเอกสำรให้เขำ้ ใจชดั เจน ซ่ึงจะเป็ น
ประโยชน์ในกำรตรวจงำนทว่ั ไป
1.2 เอกสารหลักฐานประกอบสัญญา ในกำรทำสัญญำว่ำจำ้ งก่อสร้ำงของโครงกำรท้งั ภำครัฐบำลและ
ภำคเอกชนนอกจำกแบบรูปและรำยกำรละเอียดแลว้ ยงั ตอ้ งใชเ้ อกสำรแสดงสถำนภำพต่ำง ๆ ของคู่สัญญำหรือ
ผทู้ ำกำรก่อสร้ำงประกอบเป็นหลกั ฐำนดว้ ย โดยเฉพำะงำนภำครัฐบำล เอกสำรเหล่ำน้ีจะตอ้ งมีอยำ่ งครบถว้ น จะ
ขำดอยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึงไมไ่ ด้ เอกสำรดงั กล่ำว
แยกออกตำมประเภทไดด้ งั น้ี
1.2.1 เอกสารท่ีแสดงสถานภาพของผู้ประกอบการ ตามกฎหมายประกอบด้วยหนังสือรับรอง
การจดทะเบียนเป็ นนิติบุคคล หรือหนังสือบริคณห์ สนธิในกรณีที่เป็ นบริษัทจากัด หนังสือรับรองกำรจด
ทะเบียนของสำนกั งำน ทะเบียนหุน้ ส่วนบริษทั ท่ีแสดงทุนจดทะเบียนวตั ถุประสงคใ์ นกำรดำเนินงำน กรรมกำร
หรือหุน้ ส่วนและอำนำจของกรรมกำร ใบทะเบียนภำษมี ูลค่ำเพิม่ รวมท้งั ตรำยำงประทบั ของนิติบคุ คล ( ถำ้ มี )
1.2.2 เอกสารประกอบที่สาคัญ ไดแ้ ก่ สำเนำของสัญญำร่วมคำ้ สำเนำบตั รประจำตวั ของผรู้ ่วม
คำ้ หรือสำเนำของหนงั สือเดินทำง ในกรณีที่ผูร้ ่วมคำ้ ฝ่ ำยใดฝ่ ำยหน่ึงเป็นบุคคลธรรมดำท่ีมิใช่สัญชำติไทย หรือ
เสำนำหนงั สือรับรองกำรจดทะเบียนนิติบุคคลท่ีเขำ้ ร่วมคำ้ ในกรณีที่ผรู้ ่วมคำ้ ฝ่ำยใดฝ่ ำยหน่ึงเป็นนิติบุคคล โดย
หลกั ฐำนต่ำง ๆ ทุกฉบบั จะตอ้ งมีกำรลงนำมรับรองสำเนำถูกตอ้ ง
1.2.3 หลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน และควำมรับผดิ ชอบตอ่ สัญญำ ที่เรียกวำ่
หนงั สือค้ำประกนั สัญญำหรือหลกั ประกนั สัญญำ ซ่ึงอำจเป็นหนงั สือค้ำประกนั ของธนำคำรท่ีเจำ้ ของงำนเช่ือถือ
หนังสือค้ำประกนั ของบริษทั เงินทุนอุตสำหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษทั เงินทุนหลกั ทรัพย์ หรือเงินสด
หรือเช็คที่ธนำคำรส่ังจ่ำยในนำมเจำ้ ของงำน หรือพนั ธบตั รรัฐบำลไทย ซ่ึงเป็ นกรรมสิทธ์ิโดยชอบดว้ ยกฎหมำย
ของผูท้ ำกำรก่อสร้ำง โดยปกติผูป้ ระกอบกำรจะใชห้ นังสือค้ำประกนั ของธนำคำรพำณิชยม์ ำกกว่ำอย่ำงอื่น จึง
จะตอ้ งตรวจสอบเงื่อนไขใหล้ ะเอียดวำ่ เจำ้ ของตอ้ งกำรใหป้ ฏิบตั ิอย่ำงไรในเร่ืองขอ้ ควำมที่ปรำกฏในหนงั สือน้นั
นอกจำกน้ีในกำรทำสัญญำบำงโครงกำรอำจจะตอ้ งมีกำรทำหลกั ประกนั กำรรับเงินลว่ งหนำ้ ดว้ ย
1.2.4 ใบเสนอราคา และบัญชีรายละเอียดแสดงปริมาณงาน ( Bill of quantities ) ซ่ึงจะต้อง
แสดงรำยละเอียดค่ำวสั ดุ อปุ กรณ์ ค่ำแรงงำน ภำษีประเภทตำ่ ง ๆ รวมท้งั กำไรไวด้ ว้ ย
1.2.5 อากรแสตมป์ หรือตราสารในการทาสัญญาจ้าง ทุกคร้ังจะตอ้ งมีกำรติดอำกร
แสตมป์ ตำมอตั รำท่ีบญั ญตั ิไวท้ ำ้ ยประมวลรัษฎำกรในอตั รำ 1,000 ละ 1 บำท สำหรับสัญญำที่มีวงเงินค่ำจำ้ งไม่
เกิน 200,000 บำท ทุก 1,000 บำท จะตอ้ งติดอำกรแสตมป์ 1 บำท ส่วนงำนที่มีวงเงินเกิน 200,000 บำท เป็ นตน้
ไป จะตอ้ งใชต้ รำสำรในอตั รำเดียวกนั
1.2.6 หนังสื อมอบอานาจให้ ทาการแทน ซ่ึงเป็ นเอกสำรมอบอำนำจให้ผู้ท่ีไม่มีอำนำจ
ดำเนินกำรลงนำมในสัญญำทนผทู้ ี่มีอำนำจ ท้งั น้ีควรตรวจสอบขอ้ ควำมให้ครอบคลุมอำนำจท่ีจะทำกำรใหห้ มด
โดยหนงั สือมอบอำนำจดงั กลำ่ วจะตอ้ งปิ ดอำกรแสตมป์ ตำมกฎหมำย พร้อมแนบสำเนำบตั รประจำตวั ประชำชน
ท้งั ของผูม้ อบอำนำจ และผูร้ ับมอบอำนำจไวด้ ว้ ยอย่ำงไรก็ตำม เอกสำรหลกั ฐำนประกอบสัญญำขำ้ งตน้ จะทำ
กำรตรวจสอบในเวลำท่ีต่ำงกนั เช่น ในกำรทำสัญญำก่อสร้ำงกบั ส่วนรำชกำร เอกสำรขอ้ 1-3 น้ันจะตรวจสอบ
ก่อนที่หน่วยรำชกำรน้ันจะรับรำคำจำกผูท้ ำกำรก่อสร้ำงน้ัน ส่วนเอกสำร ขอ้ 5-6 จะตรวจก่อนท่ีจะทำสัญญำ
สำหรับเอกสำรในข้อ 4 หรือใบเสนอรำคำน้ัน นับเป็ นเอกสำรสำคัญที่ใช้ประกอบกับแบบรูปและรำยกำร
ละเอียด เพอื่ ประโยชนใ์ นกำรควบคุมและตรวจงำนก่อสร้ำงตอ่ ไป
4. การตรวจสอบสถานท่ีก่อสร้าง
เมื่อลงนำมในสัญญำเรียบร้อยแลว้ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินกำรก่อสร้ำง จำเป็ น อย่ำงยิ่งที่จะตอ้ งทำกำร
ตรวจสอบสภำพและส่ิงแวดล้อมของสถำนท่ีที่จะทำกำรก่อสร้ำง โดยผูท้ ำกำรก่อสร้ำงควรท่ีจะทำกำร
ตรวจสอบสถำนท่ีก่อสร้ำงก่อนดำเนินกำรก่อสร้ำง ท้ังน้ีเพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มูลที่จำเป็ นสำหรับใช้ในกำร
ดำเนินงำนก่อสร้ำง เช่น กำรกำหนดตำแหน่งของสำนักงำน สนำม โรงเก็บวสั ดุ ลำนกองวสั ดุ ที่พกั ช่ำงและ
คนงำน ฯลฯ อยำ่ งไรก่อตำมกำรเขำ้ ไปสำรวจสถำนที่ก่อสร้ำงน้นั กข็ ้ึนอยกู่ บั ประสบกำรณ์ในกำรทำงำนของแต่
ละคนดว้ ย ส่วนใหญ่ผทู้ ่ีมีประสบกำรณ์มำกกวำ่ จะทำกำรสำรวจไดล้ ะเอียดรอบคอบกวำ่ โดยทวั่ ไปขอ้ มลู ที่ได้
จำกกำรสำรวจสถำนท่ีของผทู้ ำกำรก่อสร้ำงประกอบดว้ ยขอ้ มลู เบ้ืองตน้ ดงั ต่อไปน้ี
1. ภูมิประเทศ เก่ียวกับระดบั ควำมสูง ต่ำ ของพ้ืนท่ี ซ่ึงจะมีผลต่อกำรตดั ดิน หรือถมดินหรือกำรขุดถม ปรับ
ระดบั
2. ชนิดของดิน เป็ นดินเหนียว หรือดินเหลว ซ่ึงจะมีผลต่อกำรคำนวณเพ่ือเลือกใช้โครงสร้ำงช่ัวครำวในกำร
ป้องกนั ดินพงั เม่ือมีกำรขดุ ดิน รวมท้งั เลือกใชช้ นิด และลกั ษณะของเคร่ืองมือไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม
3. ระดบั น้ำใตด้ ิน ซ่ึงมีผลต่อกำรทำฐำนรำก และหอ้ งใตด้ ิน และกำรสูบน้ำออก
4. สิ่งก่อสร้ำงที่มีอยขู่ ำ้ งเคียง เก่ียวกบั กำรป้องกนั สิ่งน้นั ไมใ่ หเ้ สียหำย หรือพงั ขณะก่อสร้ำง
5. ขนำดของพ้นื ที่ เป็นส่ิงจำเป็นมำกท่ีจะตอ้ งตรวจสอบใหแ้ น่นอน เพรำะถำ้ หำกพ้ืนท่ีไมต่ รงกบั ที่กำหนดไวใ้ น
แบบรูป ก็อำจจะมีผลกระทบต่อขนำดของอำคำรท่ีจะก่อสร้ำง โดยอำจจะตอ้ งมีกำรปรับแบบก่อนก็ได้
6. ควำมแน่นของดินในระดบั ใตฐ้ ำนรำก ถำ้ ฐำนรำกน้นั ไม่ใชเ้ ขม็ รองรับ และถำ้ เป็นฐำนรำกท่ีจะตอ้ งใชเ้ ข็มกำร
เจำะแลว้ วเิ ครำะห์ผล ( Boringtest ) กเ็ ป็นส่ิงจำเป็นอยำ่ งยง่ิ ที่จะตอ้ งทำ
7. สภำพดินฟ้ำอำกำศปริมำณน้ำฝนและระยะเวลำที่ฝนตกรวมท้งั อุณหภมู ิสูง ต่ำ ในรอบปี
8. ทำงเขำ้ -ออก ซ่ึงจะเป็นทำงขนส่งทรัพยำกรเขำ้ ไปดำเนินกำรก่อสร้ำงวำ่ สะดวกหรือไม่
9. สำธำรณูปโภคในทอ้ งถ่ินเกี่ยวกบั ไฟฟ้ำ น้ำประปำ หรือน้ำใช้ รวมท้งั งำนสำธำรณูปกำรเกี่ยวกบั กำรส่ือสำร
ติดต่อกบั ภำยนอก
10. กฎระเบียบขอ้ บงั คบั ในทอ้ งถิ่น รวมท้งั ขนบธรรมเนียมประเพรีทอ้ งถ่ิน
11. ทรัพยำกรในทอ้ งถ่ินคือ แรงงำน ช่ำงฝี มือ วสั ดุและเครื่องมือ เคร่ืองทุ่นแรง และผูช้ ำนำญพิเศษ รวมท้งั
ผรู้ ับเหมำช่วงในทอ้ งถิ่น
5. ความหมายของผ้คู วบคุมงาน
คำว่ำ “ผูค้ วบคุมงำน” น้ี มีควำมหมำยในหลำยระดบั แลว้ แต่ควำมตอ้ งกำรของเจำ้ ของงำนที่จะให้ทำ
ท้งั น้ี ทีมผคู้ วบคุมงำนอำจจะมำจำกผูอ้ อกแบบ หรือเป็นวิศวกรท่ีเจำ้ ของโครงกำรจำ้ งไวเ้ พ่ือเป็ นพนกั งำนของ
ฝ่ำยเจำ้ ของโครงกำรกไ็ ด้
ผคู้ วบคุมงำน หมำยถึง ผทู้ ่ีเป็นผแู้ ทนของผวู้ ่ำจำ้ งซ่ึงอำจเป็นบุคคลคนเดียวสำหรับงำนขนำดเลก็ หรือ
เป็นกล่มุ บคุ คล หรือบริษทั ที่ปรึกษำสำหรับงำนขนำดใหญ่ โดยจะเป็นชุดเดียวกบั ชุดออกแบบก็ได้
ผู้ควบคุมงานมหี น้าท่ีดงั นี้
(๑) ตรวจและควบคมุ งำน ณ สถำนท่ีที่กำหนดไวใ้ นสัญญำ หรือที่ตกลงใหท้ ำงำนจำ้ งน้นั ๆ ทกุ วนั ให้เป็นไป
ตำมแบบรูป รำยกำรละเอียดและขอ้ กำหนดในสัญญำทุกประกำร โดยส่ังเปล่ียนแปลงแก้ไขเพ่ิมเติมหรือตดั
ทอนงำนจ้ำงได้ตำมท่ีเห็นสมควร และตำมหลกั วิชำช่ำงเพ่ือให้เป็ นไปตำมแบบรูป รำยกำรละเอียด และ
ขอ้ กำหนดในสัญญำ ถำ้ ผูร้ ับจำ้ งขดั ขืนไม่ปฏิบตั ิตำมก็ให้สั่งหยดุ งำนน้ันเฉพำะส่วนหน่ึงส่วนใดหรือท้งั หมด
แลว้ แต่กรณีไวก้ ่อน จนกว่ำผูร้ ับจำ้ งจะยอมปฏิบตั ิให้ถูกตอ้ งตำมคำสั่ง และให้รำยงำนคณะกรรมกำรตรวจ
กำรจำ้ งทนั ที
(๒) ในกรณีท่ีปรำกฏวำ่ แบบรูปรำยกำรละเอียดหรือขอ้ กำหนดในสัญญำมีขอ้ ควำมขดั กนั หรือเป็ นที่คำดหมำย
ไดว้ ่ำถึงแมง้ ำนน้นั จะไดเ้ ป็นไปตำมแบบรูป รำยละเอียดและขอ้ กำหนดในสัญญำ แต่เมื่อสำเร็จแลว้ ไม่มน่ั คง
แข็งแรง หรือไม่เป็ นไปตำมหลักวิชำช่ำงที่ดี หรือไม่ปลอดภัย ให้สั่งพักงำนน้ันไว้ก่อน แล้วรำยงำน
คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งโดยเร็ว
(๓) จดบนั ทึกสภำพกำรปฏิบตั ิงำนของผูร้ ับจำ้ งและเหตุกำรณ์แวดลอ้ มเป็ นรำยวนั พร้อมท้งั ผลกำรปฏิบตั ิงำน
หรือกำรหยุดงำนและสำเหตุที่มีกำรหยุดงำน อย่ำงน้อย ๒ ฉบบั เพื่อรำยงำนให้คณะกรรมกำรตรวจกำร
จำ้ งทรำบทุกสัปดำห์และเก็บรักษำไวเ้ พ่ือมอบให้เจำ้ หน้ำท่ีพสั ดุเม่ือเสร็จงำนแต่ละงวด โดยถือวำ่ เป็ นเอกสำร
สำคัญของทำงรำชกำรเพื่อประกอบกำรตรวจของผูม้ ีหน้ำท่ีกำรบันทึกกำรปฏิบัติงำนของผูร้ ับจ้ำงให้ระบุ
รำยละเอียดข้นั ตอนกำรปฏิบตั ิงำนและวสั ดุที่ใชด้ ว้ ย
( ควำมใน (๓) น้ี แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยขอ้ ๒๐ แห่งระเบียบสำนกั นำยกรัฐมนตรีวำ่ ดว้ ยกำรพสั ดุ ( ฉบบั ท่ี ๓ ) พ.ศ.
๒๕๓๙ )
(๔) ในวนั กำหนดลงมือทำกำรของผรู้ ับจำ้ งตำมสัญญำ และในวนั ถึงกำหนดส่งมอบงำนแต่ละงวดใหร้ ำยงำน
ผลกำรปฏิบตั ิงำนของผรู้ ับจำ้ งวำ่ เป็นไปตำมสัญญำหรือไม่ ใหค้ ณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งทรำบภำยใน ๓ วนั
ทำกำร นบั แตว่ นั ถึงกำหนดน้นั ๆ
ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม ( ฉบับที่ ๔ ) พ.ศ.
๒๕๔๑ ขอ้ ๖ ใหย้ กเลิกควำมในขอ้ ๑๐ แห่งระเบียบสำนกั นำยกรัฐมนตรีวำ่ ดว้ ยกำรพสั ดุ
( ฉบับที่ ๓ ) พ.ศ. ๒๕๓๙ กำหนดให้ใช้ควำมต่อไปน้ีแทน ( ส่วนท่ี ๓ บทกำหนดโทษ ในข้อ ๑๐ )
รำยละเอียดคอื
“ ข้อ ๑๐ ผมู้ ีอำนำจหรือหนำ้ ท่ีดำเนินกำรตำมระเบียบน้ี หรือผหู้ น่ึงผใู้ ดกระทำโดยจงใจหรือประมำทเลินเล่อ
ไม่ปฏิบตั ิตำมระเบียบน้ี หรือกระทำโดยมีเจตนำทุจริตหรือกระทำกำรโดยปรำศจำกอำนำจ หรือนอกเหนือ
อำนำจหน้ำท่ี รวมท้งั มีพฤติกรรมท่ีเอ้ืออำนวยแก่ผูเ้ ขำ้ เสนอรำคำหรือเสนองำน ให้มีกำรขดั ขวำงกำร
แข่งขนั รำคำอย่ำงเป็ นธรรม ถือว่ำผูน้ ้ันกระทำผิดวินัยกฎหมำยว่ำดว้ ยระเบียบขำ้ รำชกำรหรือตำมกฎหมำย
เฉพำะของส่วนรำชกำรน้นั ภำยใตห้ ลกั เกณฑ์ ดงั น้ี
(๑) ถำ้ กำรกระทำมีเจตนำทุจริต หรือเป็ นเหตุให้ทำงรำชกำรเสียหำยอย่ำงแรง ให้ดำเนินกำรลงโทษ
อยำ่ งต่ำปลดออกจำกรำชกำร
(๒) ถำ้ กำรกระทำเป็นเหตใุ หท้ ำงรำชกำรเสียหำยแตไ่ ม่ร้ำยแรง ใหล้ งโทษอยำ่ งต่ำตดั เงินเดือน
(๓) ถำ้ กำรกระทำไม่เป็นเหตุให้ทำงรำชกำรเสียหำย ใหล้ งโทษภำคทณั ฑห์ รือวำ่ กล่ำวตกั เตือน โดย
ทำคำส่งั เป็นลำยลกั ษณ์อกั ษร
กำรลงโทษทำงวินยั ตำม (๑) และ (๒) ไมเ่ ป็นเหตุใหผ้ กู้ ระทำหลุดพน้ จำกควำมรับผิดในทำงแพ่งตำม
กฎหมำย และระเบียบของทำงรำชกำรที่เก่ียวขอ้ งหรือควำมผดิ ทำงอำญำ”
ระเบียบสำนกั นำยกรัฐมนตรีวำ่ ดว้ ยกำรพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแกไ้ ขเพิ่มเติม ( ฉบบั ท่ี ๔ ) พ.ศ. ๒๕๔๑
ขอ้ ๑๒ ใหย้ กเลิกควำมในขอ้ ๓๗ แห่งระเบียบสำนกั นำยกรัฐมนตรีวำ่ ดว้ ยกำรพสั ดุ
( ฉบบั ที่ ๓ ) พ.ศ. ๒๕๓๙ กำหนดใหใ้ ชค้ วำมต่อไปน้ีแทน
“ ข้อ ๓๗ ในกำรจำ้ งก่อสร้ำงแต่ละคร้ัง ให้หัวหนำ้ ส่วนรำชกำรแต่งต้งั ผคู้ วบคุมงำนท่ีมีควำมรู้ควำมชำนำญ
ทำงด้ำนช่ำงตำมลกั ษณะของงำนก่อสร้ำงจำกข้ำรำชกำรหรือลูกจ้ำงประจำในสังกัด หรือข้ำรำชกำรหรือ
ลูกจำ้ งประจำในสังกดั อื่นตำมที่ไดร้ ับควำมยินยอมจำกหัวหน้ำส่วนรำชกำรของผูน้ ้นั แลว้ ในกรณีที่ลกั ษณะ
ของงำนก่อสร้ำงมีควำมจำเป็นตอ้ งใชค้ วำมรู้ควำมชำนำญหลำยดำ้ นจะแต่งต้งั ผคู้ วบคุมงำนเฉพำะดำ้ นหรือเป็ น
กลุม่ บคุ คลกไ็ ด้
ผูค้ วบคุมงำนควรมีคุณวุฒิตำมที่ผูอ้ อกแบบเสนอแนะ และโดยปกติจะตอ้ งมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่ำระดับ
ประกำศนียบตั รวิชำชีพ
ในกรณีที่จำเป็นตอ้ งจำ้ งที่ปรึกษำเป็นผคู้ วบคุมงำนแทนขำ้ รำชกำรหรือลูกจำ้ งประจำตำมวรรคหน่ึง ให้
ถือตำม หมวด ๒ ส่วนท่ี ๓ หรือส่วนท่ี ๔ แลว้ แต่กรณี ”
“ กองทพั บกไดอ้ อกคำสัง่ ทบ. ที่ ๑๑๕/๙๖๘๗ ลง ๒๕ ก.ค. ๙๓ เรื่องใหก้ วดขนั กำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่
ของคณะกรรมกำรตรวจรับ ซ่ึงเป็ นผลมำจำกกำรท่ี ทบ. ได้ต้ังกรรมกำรสอบสวนพฤติกำรณ์ใน ทบ.
ปรำกฏผลจำกกำรสอบสวนว่ำคณะกรรมกำรตรวจรับของ ไดก้ ระทำหละหลวมประมำทเลินเล่อต่อหน้ำที่ ทำ
กำรตรวจไม่ละเอียดถี่ถว้ นทุกชิ้นทุกอนั ส่วนมำกกระทำพอเป็นพิธี ไม่สุจริตแอบอำ้ งอำนำจหนำ้ ที่ของ
ขำ้ รำชกำรผใู้ หญ่ ว่ำเป็ นผมู้ ีหุ้นส่วนกบั กำรส่งของรำยน้นั จึงละเวน้ ไม่กระทำตำมหน้ำท่ีบำ้ ง บำงรำยทุจริต
ต่อหน้ำท่ี รับสินบนจำกพ่อคำ้ ก็มีพฤติกำรณ์ต่ำง ๆ ของคณะกรรมกำรตรวจรับของดงั กล่ำวน้ี เป็ นเหตุให้
ทำงรำชกำรไดร้ ับสิ่งของไวไ้ ม่ถกู ตอ้ งตำมตวั อยำ่ งและสัญญำ ไดร้ ับควำมเสียหำยเป็นอนั มำก กำรกระทำดงั น้ี
ถือว่ำขดั ขืนหรือละเลยไม่กระทำตำมขอ้ บงั คบั ทหำรอนั เป็นควำมผิดตำมประมวลกฎหมำยอำญำทหำร ซ่ึงบำง
รำยไดก้ ระทำผิดถึงขนำด และไดส้ ั่งใหน้ ำคดีข้ึนฟ้องศำลแลว้ ก็มีบำงรำยถูกกกั และขงั ก็มี บำงรำยตอ้ งชดใช้
เงินแก่ทำงรำชกำร เพรำะฉะน้นั ต้งั แต่บดั น้ีเป็ นตน้ ไป ให้ผูม้ ีอำนำจต้งั กรรมกำรและขำ้ รำชกำร ซ่ึงไดร้ ับ
แต่งต้งั เป็นกรรมกำรตรวจรับ ระมดั ระวงั กำรปฏิบตั ิตำมหนำ้ ที่ ตำมนยั แห่งขอ้ บงั คบั ทหำรวำ่ ดว้ ยกำรซ้ือของ
ใชร้ ำชกำรและขอ้ บงั คบั ทหำรวำ่ ดว้ ยกำรจำ้ งเหมำโดยเคร่งครัด และใหด้ ำเนินกำรดงั น้ี.-
(๑) กำรต้งั กรรมกำรไม่จำเป็นตอ้ งต้งั ๓ นำยเสมอไป ควรต้งั กรรมกำรให้มีมำกพอท่ีจะตรวจรับของ
น้นั ๆ ถำ้ มีผทู้ ี่จะต้งั ใหเ้ ป็นกรรมกำรมีจำนวนจำกดั ก็ใหก้ ำหนดจำนวนลกู มือใหก้ รรมกำรตรวจรับดว้ ย
(๒) ในเรื่องกำรตรวจรับของก่อนตรวจรับสิ่งของ คณะกรรมกำรตรวจรับได้ตรวจดูคู่สัญญำและ
ตวั อย่ำงโดยถ่องแทแ้ ลว้ ว่ำเป็ นตวั อย่ำงที่แทจ้ ริง เช่น มีป้ำยผูกตีตรำประทบั ลงชื่อคู่สัญญำไวใ้ นแ ผ่นป้ำย
และของตวั อยำ่ งน้นั และใหพ้ ิจำรณำตรำประทบั วำ่ ตรำประทบั น้นั ถกู ตอ้ งเรียบร้อยหรือไม่
(๓) ส่ิงของที่จะให้ตรวจอยู่แห่งใด จะต้องสอบถำมเจ้ำหน้ำที่ผูร้ ับฝำกของไว้ อย่ำงน้อยต้อง
สอบถำมขำ้ รำชกำรช้นั สัญญำบตั รและให้จดบนั ทึกไวโ้ ดยแน่นอนว่ำผูใ้ ดเป็ นผูน้ ำช้ีให้ตรวจของเหล่ำน้นั ท้งั น้ี
เพ่ือป้องกันมิให้กรรมกำรตรวจรับทำกำรตรวจรับของอื่น ๆ อนั มิใช่สิ่งของท่ีตกลงซ้ือตำมสัญญำน้ัน โดย
บนั ทึกดงั กลำ่ วใหต้ ิดอยกู่ บั เร่ืองดว้ ย
(๔) กรรมกำรตรวจรับจะตอ้ งตรวจให้ละเอียดทุกชิ้นทุกอนั ว่ำสิ่งเหล่ำน้ันมีชนิด จำนวน น้ำหนัก
ลกั ษณะ ขนำด และคุณภำพถูกตอ้ งตำมตวั อย่ำงหรือสัญญำเท่ำใด ไม่ถูกตอ้ งเท่ำใด มิใช่เป็ นกรรมกำร
ตรวจคดั เลือกว่ำของคลำ้ ยคลึงตวั อย่ำง ทดั เทียมตวั อย่ำง และเลวกวำ่ ตวั อย่ำง ซ่ึงเป็ นกำรปฏิบตั ิท่ีไม่ถูกตอ้ ง
ตำมหนำ้ ที่ของกรรมกำรตรวจรับ
อน่ึงถำ้ ของสิ่งใดตกลงซ้ือขำยเป็นชุด เช่น เคร่ืองสนำม ก็จะตอ้ งตรวจสิ่งของประกอบในชุดหน่ึงน้ัน
ให้ถูกตอ้ งแต่ละชุดไปและในชุดหน่ึงจะมีสิ่งของท่ีไม่ถูกตอ้ งปะปนอยู่ไม่ได้ และถำ้ เป็ นสิ่งของที่จะนำไป
ประกอบกบั ของเดิม เหมำะสมกบั ควำมตอ้ งกำรของทำงรำชกำร เช่น เกลียวตวั ผูม้ ีอยู่แลว้ ทำสัญญำซ้ือ
เกลียวตวั เมียมำ เช่นน้ีตอ้ งทดลองมำประกอบกนั เขำ้ ใหเ้ หมำะสมที่จะใชไ้ ด้ เป็นตน้
(๕) ถำ้ เป็ นสิ่งของไม่ครบถว้ น ไม่ถูกตอ้ งตำมสัญญำ คณะกรรมกำรตรวจรับลงชื่อในใบส่ังไม่ได้
ท้งั น้ีไม่มีหนำ้ ที่แจง้ ให้พ่อคำ้ ส่งส่ิงของทรำบว่ำ จะรับส่ิงของน้นั หรือไม่เพียงใด แต่เม่ือทำกำรตรวจเสร็จ
คณะกรรมกำรตรวจรับมีหนำ้ ที่เพยี งรำยงำนใหผ้ มู้ ีอำนำจแต่งต้งั กรรมกำรทรำบและส่ังกำร คณะกรรมกำรตรวจ
รับไม่มีหน้ำท่ีที่จะส่ังให้พ่อคำ้ นำของมำเปล่ียนให้เม่ือผิดตวั อย่ำงหรือสัญญำก็ให้รำยงำนวำ่ ควรรับเท่ำใด ไม่
ควรรับเท่ำใด ท้งั น้ีพร้อมดว้ ยเหตุผล
(๖) ในเวลำปฏิบตั ิหน้ำที่กรรมกำรตรวจรับมีขอ้ ขดั ขอ้ งประกำรใดก็ดี มีหน้ำที่รำยงำนโดยตรงต่อผู้
แตง่ ต้งั กรรมกำร
(๗) เมื่อกรรมกำรรับของได้รับตัวอย่ำงจำกหน่วยใด ให้กรรมกำรตรวจรับลงชื่อกำกับไวท้ ี่ซอง
ตวั อยำ่ งเหล่ำน้ันหรือเขียนไวใ้ นแผ่นป้ำยติดกบั ซองตวั อยำ่ งไวแ้ ลว้ แต่กรณี ถำ้ ใช้เชือกผูกติดกบั ของตวั อยำ่ ง
น้นั ก็ให้ตีตรำประจำไวด้ ว้ ย เม่ือตรวจรับเสร็จแลว้ มีหนำ้ ท่ีตอ้ งส่งคืนไปยงั หน่วยท่ีรับ และควรมีหลกั ฐำนกำร
รับส่งส่ิงของตวั อยำ่ งไวด้ ว้ ย
(๘) กรรมกำรตรวจรับแต่ละนำยย่อมมีเสียง ๆ หน่ึงและมีอิสระเตม็ ท่ีในกำรที่จะแสดงควำมเห็นของตน
ถำ้ ไม่เห็นพอ้ งกบั กรรมกำรอื่นก็มีสิทธ์ิจะทำควำมเห็นแยง้ ได้ ถำ้ ไม่ทำควำมเห็นแยง้ และลงช่ือในกำรตรวจรับ
กถ็ ือวำ่ ตอ้ งรับผิดชอบร่วมกนั
(๙) ให้คณะกรรมกำรมีหน้ำที่รำยงำนโดยละเอียดชดั แลว้ ว่ำ ส่ิงของท่ีได้ตรวจรับน้ัน มีลกั ษณะ
ขนำด ชนิด และคุณภำพอยำ่ งใด เช่น เน้ือผำ้ สีของผำ้ มีตรำเคร่ืองหมำยหรือช่ือหำ้ งร้ำนใดประทบั อยู่ ทำ
ในประเทศใด เป็ นตน้ ตลอดจนกำรส่งสิ่งของรำยน้ัน ๆ ว่ำ ได้ส่งถูกต้องเรียบร้อยตำมกำหนดในสัญญำ
ครบถว้ นหรือไม่ หรือตอ้ งริบมดั จำ เรียกเบ้ีย ปรับอยำ่ งใด และเทำ่ ใด
(๑๐) นอกจำกท่ีกล่ำวมำแลว้ คณะกรรมกำรตรวจรับ มีหน้ำที่ในกำรแสดงควำมคิดเห็นอย่ำงใดก็ได้
แตใ่ หพ้ งึ ระวงั กำรแสดงควำมคดิ เห็น อนั จะเป็นกำรผกู พนั ใหก้ องทพั บกตอ้ งรับผดิ ชอบ หรือเสียเปรียบพอ่ คำ้
(๑๑) ให้ขำ้ รำชกำร ทบ. ปฏิบตั ิตำมโดยเคร่งครัด ผใู้ ดขดั ขืน หรือละเลย มิกระทำตำมขอ้ บงั คบั หรือ
คำส่ังเกี่ยวกบั กำรตรวจรับจะถูกลงทณั ฑอ์ ย่ำงหนกั หรือส่งคดีข้นึ ฟ้องศำล แลว้ แต่กรณี ท้งั น้ีต้งั แต่ ๒๕ ก.ค. ๙๓
เป็นตน้ ไป ”
สรุปหน้าที่ของผ้คู วบคุมงานก่อสร้าง
1. ตรวจและควบคุมงำน ณ สถำนที่ที่กำหนดไวใ้ นสัญญำ หรือท่ีตกลงใหท้ ำงำนจำ้ งน้นั ๆ ทกุ วนั ใหเ้ ป็นไปตำม
สญั ญำ แบบรูปรำยกำร รำยละเอียดหรือขอ้ กำหนด
2. ส่ังเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพ่ิมเติม หรือตัดทอนงำนจำ้ ง ตำมที่เห็นสมควรและตำมหลักวิชำช่ำงท่ีดี เพื่อให้
เป็ นไปตำมสัญญำ หำกผรู้ ับจำ้ งขดั ขืน ให้สั่งหยุดงำนท้งั หมดหรือบำงส่วน แลว้ แต่กรณีจนกว่ำผูร้ ับจำ้ งจะยอม
ปฏิบตั ิถกู ตอ้ งตำมคำส่งั และรำยงำนใหค้ ณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งทรำบ
3. หำกรูปแบบรำยกำร รำยละเอียดประกอบแบบ หรือขอ้ กำหนดในสัญญำขดั กนั ให้สั่งพกั งำนแลว้ รำยงำนให้
คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งพจิ ำรณำ
4. หำกเป็ นท่ีคำดหมำยวำ่ แมจ้ ะก่อสร้ำงตำมสัญญำ แต่งำนก่อสร้ำงจะไม่มง่ั คงหรือไม่เป็นไปตำมหลกั วิชำช่ำง
ที่ดี ใหส้ ่งั พกั งำน แลว้ รำยงำนใหค้ ณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งพจิ ำรณำ
5. จัดทำสมุดบันทึกกำรปฏิบัติงำนของผูร้ ับจ้ำง และเหตุกำรณ์แวดล้อมเป็ นรำยวนั พร้อมท้ังข้ันตอนวิธี
ปฏิบตั ิงำน ผลกำรปฏิบตั ิงำน วสั ดุที่ใช้
6. จดั ทำรำยงำนประจำสัปดำห์เสนอให้คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งพิจำรณำ ทุกสัปดำห์ โดยบนั ทึกอย่ำง
นอ้ ย 2 ฉบบั
7. รวบรวมเก็บรักษำรำยงำนประจำสปั ดำห์ เพ่ือมอบใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ีพสั ดุ เม่ือเสร็จงำนแต่ละงวด
8. มอบสมุดบนั ทึกคมุ งำนใหก้ บั เจำ้ หนำ้ ที่พสั ดุ เม่ือส่งงำนงวดสุดทำ้ ยเสร็จเรียบร้อย โดยให้มีกำรลงบนั ทึกรับสุ
มดใหเ้ รียบร้อย
9. วนั กำหนดลงมือทำกำร วนั กำหนดส่งมอบงำนแต่ละงวด ผลกำรปฏิบตั ิงำนเป็นอย่ำงไร ให้รำยงำนคณะกรร
กำรตรวจกำรจำ้ งทรำบภำยใน 3 วนั นบั แต่พน้ กำหนดน้นั ๆ
6. คุณสมบตั ิของผ้คู วบคมุ งาน
ประกอบ บำรุงผล(2546: 57-58) ไดก้ ล่ำววำ่ คุณสมบตั ิของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมีดงั น้ี
1. มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ คอื
1.1 ไมถ่ ือตวั ทกั ทำยปรำศรัยกบั คนทกุ ระดบั
1.2 รับฟังควำมคิดเห็นของผอู้ ่ืนได้
1.3 ช่วยเหลือผอู้ ื่น ยำมทกุ ขย์ ำกตำมสมควร
1.4 รู้จกั เป็นผรู้ ับและผใู้ ห้
2. มีบคุ ลิกภำพ คอื
2.1 มีกำย คอื รักษำควำมสะอำดและมีกิริยำอำกำร กำรแตง่ กำยถูกตอ้ งตำมกำลเทศะ
2.2 มีจิตใจดี มีคุณธรรม โดยยดึ หลกั พรหมวิหำร4
2.3 มีวำจำดี สุภำพ ออ่ นโยน กำรพูดจำถูกตอ้ งตำมกำลเทศะ
3. มีควำมประพฤติส่วนตวั ดี ไม่เสพสุรำ ยำเสพติด หรือเล่นกำรพนนั เป็นกิจ ทำตวั เป็นตวั อยำ่ ง เช่น
ประพฤติตนตำมระเบียบวินยั ของสงั คม
4. มีควำมยตุ ิธรรม ใหค้ วำมเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ำย ไม่ลำเอียงเขำ้ กบั ฝ่ำยใดมำกเกินไปจนเสียผลประโยชน์
กบั อีกฝ่ำยอื่น
5. มีประสบกำรณ์ในงำนวชิ ำชีพ นอกจำกประสบกำรณ์ที่ไดเ้ รียนมำในสถำนศึกษำแลว้ ควรหำ
ประสบกำรณ์ใหม่ๆเสมอ
6. มีนิสัยตรงต่อเวลำ เป็นควำมสำคลั อยำ่ งยง่ิ ที่ผคู้ วบคุมงำนจะตอ้ งรักษำคณุ สมบตั ิขอ้ น้ีไว้ กำรนดั
ผรู้ ับเหมำเทคอนกรีต กำรนดั ตรวจรับงำน เป็นตน้ หำกผิดนดั แลว้ จะทำใหผ้ รู้ ับเหมำเสียผลประโยชน์
นอกจำกน้นั ผคู้ วบคุมงำนควรอยดู่ ูแลงำนตลอดเวลำท่ีผรู้ ับเหมำทำงำนดว้ ย
7. มีควำมสมบรู ณ์ท้งั ร่ำงกำยและจิตใจ ปรำศจำกโรคภยั อนั จะเป็นปัญหำต่อกำรปฏิบตั ิงำน เพรำะงำน
ก่อสร้ำงเป็นงำนที่ดำเนินไปตลอดท้งั วนั ภำยใตล้ มฟ้ำอำกำศท่ีปรวนแปรอยเู่ สมอ บำงคร้ังอำจตอ้ งทำงำน
นอกเวลำปกติดว้ ย (Over time)
8. มีวุฒิกำรศึกษำตำมกฎหมำยระบุ วุฒิกำรศึกษำสำหรับผคู้ วบคุมงำนอำจกำหนดโดย
กฎหมำยตำมขนำดโครงกำร
9. มีไหวพริบปฏิภำณดี สำมำรถแนะนำวิธีแกไ้ ขปัญหำไดด้ ีและฉบั ไว
10. มีฉนั ทะและรับผดิ ชอบในงำน คือมีทศั นคติท่ีดีตอ่ อำชีพของตน
อรุณ ชยั เสรี (2541: 2) กล่ำววำ่ ผคู้ วบคุมงำนควรมีคุณสมบตั ิดงั น้ี
1. ซ่ือสัตยต์ อ่ วิชำชีพไมใ่ ชค้ วำมรู้ในทำงที่ผดิ
2. ปฏิบตั ิตำมจรรยำบรรณทกุ ขอ้ โดยเคร่งครัด
3. ไม่ใชอ้ ำรมณ์ในกำรปฏิบตั ิงำน
4. ใหค้ วำมเป็นธรรมแก่ทกุ ฝ่ำย
5. มีควำมรับผดิ ชอบต่องำน
6. ไม่ยงุ่ เกี่ยวกบั กิจกำรภำยในของผรู้ ับเหมำก่อสร้ำง
7. ประสำนงำนระหวำ่ งเจำ้ ของโครงกำร ผอู้ อกแบบ และผูร้ ับเหมำก่อสร้ำงในระดบั หน่ึงเพื่อใหก้ ำร
ก่อสร้ำงดำเนินโดยมีอุปสรรคนอ้ งที่สุด
8. มีมนุษยส์ ัมพนั ธด์ ี
กล่าวโดยสรุปผู้ควบคมุ งานควรมคี ุณสมบัติดงั นี้
(๑) มีควำมเท่ียงธรรม และยตุ ิธรรม
(๒) มีประสบกำรณ์ท้งั ภำคปฏิบตั ิและทฤษฎีเกี่ยวกบั งำนกอ่ สร้ำง
(๓) รู้เร่ืองรำยละเอียดเกี่ยวกบั งำนที่จะทำอยเู่ ป็นอยำ่ งดี
(๔) สำมำรถปฏิบตั ิงำนภำยใตก้ ำรควบคุมของผชู้ ำนำญกำรได้
(๕) อุปนิสยั ใจคอ บคุ ลิกลกั ษณะเป็นท่ีเคำรพรักนบั ถือของคนทว่ั ไป
(๖) ใจคอหนกั แน่น และยตุ ิธรรม มีลกั ษณะผนู้ ำท่ีดี
(๗) ซ่ือสตั ยแ์ ละรับผิดชอบต่อตนเองและงำนที่รับผิดชอบ
(๘) มีมนุษยส์ มั พนั ธด์ ี สำมำรถทำงำนร่วมกบั ผูอ้ ่ืนไดโ้ ดยไม่มีปัญหำ
(๙) สำมำรถรับคำส่ังจำกกำรตกลงใจของผู้บังคับบัญชำโดยไม่ขัดเคืองและปฏิบัติตำมโดย
เคร่งครัด
(๑๐) ตอ้ งเป็นคนช่ำงสงั เกต จดจำแมน่ ยำรู้วำ่ ที่ใดควรเอำใจใส่เป็นกรณีพิเศษ
(๑๑) ปฏิบตั ิใหง้ ำนก่อสร้ำงเป็นไปตำมแบบรูปรำยกำร ขอ้ กำหนดต่ำง ๆ เวน้ แต่มีกำรสั่ง ก ำร ใ ห้
เปล่ียนแปลงเป็นลำยลกั ษณ์อกั ษร
(๑๒) ตอ้ งไมล่ ะเลยตอ่ หนำ้ ที่ ซ่ึงจะทำใหเ้ กิดควำมบกพร่องและเสียหำย เป็นอนั ตรำยตอ่ ชี วิ ต
และทรัพยส์ ินได้
(๑๓) มีวจิ ำรณญำณท่ีดี
(๑๔) ส่ังหยดุ งำนตอ่ เม่ือไม่มีทำงเลือกอ่ืนเทำ่ น้นั
(๑๕) กำรก่อสร้ำงกระทำไดห้ ลำยวธิ ี ผคู้ วบคุมงำนแนะนำผรู้ ับจำ้ งได้ แต่ไม่สมควรสงั่ ให้ ผูร้ ับจำ้ ง
ทำวิธีใดวธิ ีหน่ึงตำมใจที่ตนเองท่ีคดิ วำ่ ดี
(๑๖) ไม่ถือตวั ปรองดอง ช่วยเหลือเก้ือกูลผรู้ ับจำ้ งและคนงำน
(๑๗) พึงหลีกเล่ียงควำมสนิทสนมกบั ผรู้ ับจำ้ งมำกจนเกินไป และไมค่ วรรับกำรเอำอกเอำ ใจจำกผู้
รับจำ้ งเป็นกำรส่วนตวั จนเสียงำนควบคุม
(๑๘) กำรเปล่ียนแปลงใด ๆ ที่เป็นประโยชนต์ ่องำนน้นั สำมำรถทำได้ แตม่ ิใช่กระทำเพ่อื เ ป็ น
กำรแสดงอำนำจของผคู้ วบคมุ งำนเอง
(๑๙) ไมเ่ ท่ียวโจมตีกำรจดั ระบบงำนของผรู้ ับจำ้ งหรือเที่ยวโฆษณำขอ้ บกพร่องใด ๆ ท่ีตน ตรวจ
พบ ควรเจรจำตกลงใหเ้ ป็นเรื่องเป็นรำวกบั ผรู้ ับจำ้ ง ผูร้ ับจ้ำง
ห รื อ
(๒๐) ควรแจง้ ขอ้ เสนอแนะแก่ผมู้ ีอำนำจเตม็ ของผูร้ ับจำ้ งเทำ่ น้นั ปกติคอื ผคู้ วบคุมงำนของ ส ำ คั ญ
ท่ีผรู้ ับจำ้ งแตง่ ต้งั มำควบคุมงำนน้นั อยำ่ งเป็นทำงกำร ใ ห้ ผู้
อ ย่ ำ ใ ช้
(๒๑) อยำ่ ละเมิดสิทธ์ิของผรู้ ับจำ้ ง โดยกำรส่ังใหท้ ำอยำ่ งน้นั อยำ่ งน้ีซ่ึงพน้ จำกขอ้ ตกลง ง ำ น น้ ั น
สัญญำ ก่ อ น ไ ด้
(๒๒) ผคู้ วบคมุ งำนควรเฝ้ำดูกำรปฏิบตั ิงำนของผรู้ ับจำ้ งดว้ ยควำมระมดั ระวงั ขอ้ แนะนำ ท ำต น
ควรทำเป็นลำยลกั ษณ์อกั ษรแจง้ แก่ผรู้ ับจำ้ งทรำบ เลิกงำน
(๒๓) ปกติผคู้ วบคมุ งำนสั่งงำนโดยตรงต่อผรู้ ับจำ้ งช่วง แตห่ ำกผรู้ ับจำ้ งช่วงไมป่ ฏิบตั ิตำม แ ก้ ไ ข
ควบคุมงำนแจง้ แก่ผรู้ ับจำ้ ง ซ่ึงรับผิดชอบตำมที่ไดล้ งนำมในสัญญำ
(๒๔) ก่อนสัง่ กำรใด ๆ ผคู้ วบคมุ งำนตอ้ งแน่ใจวำ่ ไดผ้ ำ่ นขบวนกำรวินิจฉยั อยำ่ งดีแลว้
อำรมณ์สง่ั งำน
(๒๕) หลีกเลี่ยงกำรโตแ้ ยง้ ดว้ ยวำจำ หำกมีปัญหำใหร้ ำยงำนผบู้ งั คบั บญั ชำของผคู้ วบคุม
ๆ หรือคณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ ง
(๒๖) กำรแกไ้ ขงำนท่ีจำเป็นตอ้ งทำ โดยไมท่ ำใหเ้ จตนำท่ีแทจ้ ริงเปลี่ยนไปสำมำรถรับไว้
แลว้ รำยงำนใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชำทรำบ
(๒๗) ถือคติวำ่ กำรเริ่มงำนแต่ตน้ ดว้ ยดี เทำ่ กบั งำนสำเร็จไปแลว้ คร่ึงหน่ึง
(๒๘) อยำ่ ตรวจงำนเป็นเวลำในลกั ษณะท่ี ผรู้ ับจำ้ งคำดคะเนได้ แต่ในขณะเดียวกนั ก็อยำ่
เป็นแบบนกั สืบที่คอยจบั ทจุ ริตผรู้ ับจำ้ งตลอดเวลำ
(๒๙) กำรปฏิบตั ิตนในแต่ละวนั ตอ้ งไปถึงท่ีต้งั แหลง่ งำนก่อนผรู้ ับจำ้ งและกลบั หลงั เวลำ
( จะไดม้ ีเวลำตรวจตรำใหม้ ำกและเพียงพอ )
(๓๐) ขณะที่ผรู้ ับจำ้ งเทคอนกรีต ตอ้ งเฝ้ำดูตลอดเวลำเพอื่ ใหเ้ ป็นตำมขอ้ กำหนด
(๓๑) ควบคุมงำนใหเ้ ป็นไปตำมแบบรูปรำยกำรและสญั ญำ สิ่งใดไม่ถกู ตอ้ งตำมแบบตอ้ ง
ใหเ้ ป็นไปตำมหลกั วชิ ำกำร
(๓๒) ซื่อสตั ยต์ ่อวชิ ำชีพ ไม่ใชค้ วำมรู้ในทำงท่ีผดิ กลน่ั แกลง้ ผรู้ ับจำ้ ง
(๓๓) ปฏิบตั ิตำมจรรยำบรรณกำรควบคุมงำนก่อสร้ำงโดยเคร่งครัด
(๓๔) ไม่ใชอ้ ำรมณ์ในกำรปฏิบตั ิงำน
(๓๕) ใหค้ วำมเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ำย
(๓๖) มีควำมรับผดิ ชอบตอ่ งำน ทำงำนดว้ ยใจจดจ่อ อยำ่ ทำงำนแบบส่งเดช
(๓๗) ทำหนำ้ ท่ีประสำนงำนระหวำ่ ง ผวู้ ำ่ จำ้ ง และ ผรู้ ับจำ้ ง เพื่อใหก้ ำรก่อสร้ำงดำเนินไป โ ด ย มี
อปุ สรรคนอ้ ยที่สุด
(๓๘) มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ และพยำยำมสร้ำงบรรยำกำศท่ีดี ในกำรปฏิบตั ิงำนร่วมกนั กบั ผู้ รั บ จ้ ำ ง
และคนงำนของผรู้ ับจำ้ ง
(๓๙) จงอุทิศตน เพือ่ งำนท่ีควบคมุ อยู่ อยำ่ ทำงำนแบบขอไปที
(๔๐) จงระมัดระวัง ในกำรดำเนิ นกำรควบคุมงำน เพรำะเป็ นเรื่ องท่ีเกี่ยวข้องทำงด้ำนข้อ
กฎหมำย กำรส่ังกำร โดยไมช่ อบมำพำกลบำงคร้ังอำจทำให้ ทบ. ผกู พนั และตอ้ งรับผิด ท ำงข้อ
กฎหมำยได้
7. การดาเนินงานควบคุมงานก่อสร้าง
กำรควบคุมงำนจะตอ้ งมีข้นั ตอน เพ่ือใหก้ ำรดำเนินเป็นไปตำมระบบของงำนที่มีคุณภำพกำรปล่อยให้ผู้
รับจำ้ งทำงำนขำ้ มข้นั ตอน อำจมีผลกระทบตอ่ โครงสร้ำงทำให้ขำดควำมมนั่ คงแขง็ แรงและคุณภำพของงำนอำจ
ลดลงไป ไม่สมบูรณ์ตำมที่สถำปนิกหรือวศิ วกรคำดหวงั เอำไว้
ข้นั ตอนท่ีจัดเป็ นลาดบั ได้ดังต่อไปนี้
1. ข้ันเตรียมการ
ก่อนท่ีผรู้ ับจำ้ งจะลงมือก่อสร้ำง ผบู้ ริหำรจะแต่งต้งั ครูคนใดคนหน่ึงหรือ 2 คน เป็นผคู้ วบคมุ งำน ซ่ึงผไู้ ดร้ ับ
มอบหมำย ควรตอ้ งเตรียมกำรดงั ต่อไปน้ี
1.1 เตรียมแบบรูปรำยกำรสำเนำสัญญำรำยกำรประกอบสัญญำให้ครบถว้ นพร้อมท้งั สุมดบนั ทึกกำรทำงำน
แฟ้มเก็บเอกสำร เป็นตน้
1.2 ผูค้ วบคุมงำนควรจะต้องศึกษำแบบรูปรำยกำร ตลอดจนเง่ือนไขกำหนด และสัญญำอย่ำงละเอียด ทำ
เคร่ืองหมำยและเขียนขอ้ ควรปฏิบัติหรือเตือนใจไวใ้ ห้เห็นชัดเจนไว้ เป็ นข้อสังเกตอ่ำนแบบล่วงหน้ำก่อน
ออกไปคุมงำนแต่ละวนั จุดไหนเห็นว่ำสำคญั ที่สุดตอ้ งให้ควำมสนใจเป็ นพิเศษในขณะที่ไปทำกำรตรวจสอบ
กำรที่จะนำแบบรูปมว้ นใหญ่ ๆ ไปท้งั หมด จะไม่สะดวก ควรทำแบบย่อให้เล็กลง พบั และพกติดตวั ไปได้
สะดวก ถำ้ พบแบบรูปขดั แยง้ กนั เองรีบปรึกษำ คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ ง เพ่อื พิจำรณำช้ีใหช้ ดั ลงไปวำ่ จะเห็น
ควรปฏิบตั ิอยำ่ งไร ไมค่ วรตดั สินใจเอง
1.3 ศึกษำควำมคลำดเคล่ือนท่ียอมใหอ้ ยำ่ งละเอียด รวมท้งั ทำรำยกำรยอ่ ส่วนสำคญั ๆ
1.4 เตรียมเคร่ืองมือสำหรับวดั ตรวจสอบ เช่น ตลบั เมตร
2. ข้นั ดาเนนิ การ
เมื่อผูร้ ับจำ้ งจะลงมือทำงำน จะตอ้ งทำกำรช้ีแจงวิธีกำรดำเนินงำนใหเ้ ป็นท่ีเขำ้ ใจตรงกนั และใหเ้ ป็นไปตำม
ข้นั ตอนดงั น้ี
2.1 กำหนดเขตบริเวณกำรทำงำน
2.1.1 ที่กองวสั ดุ
2.1.2 ที่พกั คนงำน
2.1.3 ทำงเขำ้ – ออก
2.1.4 กำรใชน้ ้ำและไฟฟ้ำ
2.1.5 กำรก้นั เขตบริเวณก่อสร้ำง
2.1.6 แนวปักผงั
2.1.7 ที่เก็บวสั ดุที่ตอ้ งป้องกนั ฝนและควำมช้ืน
2.2 กำรปักผงั อำคำรท่ีจะก่อสร้ำงและเตรียมพ้ืนที่ กำรปักหมดุ หรือแนวอำคำรจุดที่ตอกเขม็ ศูนยเ์ สำ และ
ตรวจสอบเม่ือปักผงั เสร็จเรียบร้อยแลว้
2.3 ถ่ำยระดบั และกำหนดระดบั ใหเ้ ป็นหมุดถำวร และทำระดบั + 0.00 กบั ระดบั พ้นื อำคำรที่กำหนดใหใ้ นวนั ช้ี
สถำนที่มำไวท้ ี่ผงั และบนั ทึกไวว้ ำ่ ระดบั ที่ตอ้ งกำรจริง + เท่ำไร กบั หลงั ผงั
2.4 กำรตอกเขม็ เม่ือมีกำรตอกเสำเขม็ จะตอ้ งมีคนงำนชุดตอกเขม็ เขำ้ มำดำเนินกำรจะตอ้ ตรวจสอบป้ันจน่ั
เสำเขม็ ตอ้ งทำควำมเขำ้ ใจก่อนลงมือตอกเขม็ เช่น กำรยกลกู ตมุ้ ควำมลึกของเสำเขม็ กำรส่งเสำเขม็ กำรตดั หวั
เขม็
2.5 กำรขดุ หลุม เตรียมที่กองดิน กำรกนั ดินพงั ทลำย
2.6 ดบั เหลก็ ตะแกรงฐำนรำก เหลก็ ปลอก เหลก็ เสำ คำน
2.7 หล่อลกู ปูนหนุนเหลก็
2.8 ตดั หวั เขม็ ท่ีแตก หรือลงไมไ่ ดร้ ะดบั
2.9 เทคอนกรีตหยำบ
2.10 วำงตะแกรงฐำนรำกและเหลก็ ตอม่อ
2.11 ประกอบแบบฐำนรำก
2.12 เทคอนกรีตฐำนรำก
2.13 ประกอบแบบตอม่อเสำ เสำ และเทคอนกรีตตอม่อเสำ เสำ
2.14 กำรปรับระดบั ทอ้ งคำนคอดิน หรือคำนรับพ้นื ติดดิน
2.15 ผกู เหลก็ คำนคอดิน หรือคำนรับพ้ืนช้นั ลำ่ ง
2.16 ประกอบแบบคำนคอดิน หรือคำนรับพ้ืนช้นั ล่ำง
2.17 เทคอนกรีตคำนคอดิน หรือคำนรับพ้ืนช้นั ลำ่ ง
กำรดำเนินงำนท่ีกล่ำวมำ จำเป็ นจะต้องตรวจสอบทุกข้ันตอน ให้เป็ นไปตำมแบบรูปและรำยกำร
จุดสำคญั ๆ ในช่วงน้ีก็คือจุดที่เป็ นห้องน้ำ ระเบียง บนั ได จะตอ้ งเริ่มทำไปพร้อมกบั กำรทำคำนรับพ้ืนช้นั ล่ำง
กำรลดระดบั ต่ำง ๆ มกั จะผดิ พลำดในช่วงน้ีเสมอ พ้นื ช้นั ล่ำงจะเป็นลกั ษณะใด ตอ้ งทำพร้อมคำนหรือทำภำยหลงั
ดูในรำยกำรท่ีกำหนด ตำแหน่งเสำเอ็น เสำลอย จะตอ้ งผกู เหล็กไวใ้ ห้ตรงจุดก่อนเทคอนกรีต กำรทำบ่อเกรอะ-
บ่อซึมก็เช่นเดียวกนั ถำ้ อยู่ใตพ้ ้ืนอำคำร จะตอ้ งทำก่อนเทคอนกรีตพ้ืนและต่อท่อไวใ้ ห้เรียบร้อย กำรถอดแบบ
กำรซ่อมและกำรรักษำคอนกรีต ผูค้ วบคุมงำนจะตอ้ งปฏิบตั ิตำมรำยกำรมำตรฐำนประกอบแบบก่อสร้ำงโดย
เคร่งครัด
เมื่องำนโครงสร้ำงช้นั ลำ้ งผ่ำนพน้ ไป จะเป็นงำนทำเสำรับพ้ืนช้นั ที่ ถำ้ มีชำนพกั บนั ไดเสำที่รับชำนพกั
จะตอ้ งทำแค่ทอ้ งคำนรับชำนพกั และทำคำนพ้ืนชำนพกั พร้อมท้งั บนั ได้ ค.ส.ล. ใหเ้ สร็จเรียบร้อยก่อน จึงทำเสำ
ตอ่ ข้นึ ไปรับทอ้ งคำนช้นั หำ้ มเสียบเหลก็ เอำไวท้ ำภำยหลงั กำรผูกเหลก็ และประกอบแบบเสำระดบั ควำมสูงตอ้ ง
ตรวจสอบให้เรียบร้อย ระดบั คำนซอย คำนทบั หลงั จุดยดึ ผนงั หรือจุดเชื่อมส่วนประกอบท่ีเป็นเหล็กตอ้ งเตรียม
เหลก็ ไวใ้ หค้ รบถว้ น ตลอดจนทอ่ น้ำ ถำ้ ตอ้ งฝังในเสำก็ตอ้ งทำใหเ้ รียบร้อยไปพร้อมกนั ระดบั ประตู – หนำ้ ต่ำง –
ช่องแสง ตอ้ งตรวจสอบใหเ้ รียบร้อยก่อนเทคอนกรีตเสำและเสียบเหลก็ ไวใ้ หต้ รงตำแหน่ง
2.18 กำรเทพ้นื ช้นั ล่ำง
2.19 กำรผกู เหลก็ เสำรับช้นั 2
2.20 กำรประกอบแบบเสำ
2.21 กำรประกอบแบบชำนพกั และบนั ได
2.22 กำรประกอบแบบชำนพกั บนั ได และข้นั บนั ได
2.23 กำรผกู เหลก็ บนั ได
2.24 กำรเทคอนกรีตเสำรับคำนรับพ้นื ชำนพกั และรับคำนรับพ้นื ช้นั 2
2.25 กำรเทคอนกรีตเสำรับคำนรับพ้ืนชำนพกั และรับคำนรับพ้ืนช้นั 2 กำรผูกเหลก็ กำรเทคอนกรีตพ้ืน คำน กนั
สำด ครีบนอน ตอ้ งเทไปพร้อมกัน ถำ้ พ้ืนไทจะวำงตรงรับพ้ืนก่อนทำเสำช้ัน 3 ก็ได้ เพื่อใช้รองรับวสั ดุและ
สะดวกในกำรทำงำนหรือจะปล่อยไวก้ ่อนก็ได้ ถำ้ พ้ืนสำเร็จรูป จะตอ้ งทำก่อนหรือหลงั ก็ข้ึนอยู่กบั กำรแบ่งงวด
หรือควำมสมคั รใจของผรู้ ับจำ้ ง เพียงแตถ่ ำ้ วำงพ้ืนสำเร็จรูป ตอ้ งเทคอนกรีตทบั หนำ้ ใหเ้ สร็จก่อนจึงจะดำเนินกำร
ต่อไปได้ อย่ำปูพ้ืนทิ้งไวเ้ พรำะอำจทำให้ชำรุดเสียหำย หรือสกปรก ทำควำมสะอำดให้เรียบร้อยไดย้ ำก และบ่ม
คอนกรีตทนั ทีจำกวนั ถดั ไปหลกั กำรเทคอนกรีตจนกวำ่ ครบกำหนดตำมรำยกำรมำตรฐำนประกอบแบบก่อสร้ำง
2.26 เมื่อพน้ ช้นั 2 เรียบร้อย แบบอ้ งคำนหรือทอ้ งพ้ืนครบอำยุ ถอดแบบไดก้ ็ให้ดำเนินงำนส่วนประกอบของช้นั
2 ไดเ้ ลย เช่น กำรต้งั วงกบ ก่ออิฐ ทำผนงั ก้นั หอ้ ง ฉำบปูน
2.27 ดำเนินกำรกำรส่วนท่ีเป็นข้นั ต่อไปจนถึงโครงหลงั คำ เม่ือจะเทคอกรีตโครงสร้ำงช้นั ต่อไปในขณะที่ตอ้ ง
ถำ่ ยน้ำหนกั ลงสู่ช้นั ต่ำกวำ่ จำเป็นจะตอ้ งมีไมค้ ้ำยนั โครงสร้ำงที่รองรับใหแ้ ขง็ แรงดว้ ย จนกวำ่ โครงสร้ำงส่วนบน
จะรับน้ำหนกั ตวั เองได้
2.28 ตกแตง่ ฉำบปนู ติดต้งั อุปกรณ์ประตู-หนำ้ ต่ำง
2.29 เดินทอ่ ต่ำง ๆ บำงคร้ังตอ้ งทำควบค่กู นั ไปกบั กำรเทคอนกรีตโครงสร้ำง
2.30 กำรเดินสำยไฟฟ้ำ ติดต้งั อปุ กรณ์ไฟฟ้ำ ติดสำยลอ่ ฟ้ำ
2.31 ทำครุภณั ฑ์ ติดต้งั ปั๊มน้ำ และสุขภณั ฑ์
2.32 ทำสี
2.33 ติดต้งั เครื่องดบั เพลิง
2.34 ทำควำมสะอำดทว่ั ไปรวมท้งั บริเวณและร้ือส่ิงปลูกสร้ำงชว่ั ครำว แลว้ ส่งงำนงวดสุดทำ้ ยท้งั 34 ขอ้ เป็ น
ตวั อย่ำงลำดบั ข้นั ตอนของกำรทำงำนและกำรตรวจสอบ ซ่ึงบำงกรณีอำจสลบั ข้นั ตอนกนั ไปตำมควำมจำเป็ น
หรือควำมเหมำะสม แต่ตอ้ งไม่ขำ้ มข้นั ตอนจนทำใหข้ ำดควำมมนั่ คงแข็งแรง หรือเกิดควำมเสียหำยแก่อำคำรท่ี
ก่อสร้ำง
8. ขอบเขตและหน้าทีข่ องผ้คู วบคุมงาน
งำนของผูค้ วบคุมงำนอำจจะจดั แบ่งประเภทตำมลกั ษณะงำนที่ทำ ได้แก่ งำนตรวจสอบ งำนควบคุมงำนและ
งำนจดั กำรงำนก่อสร้ำง โดยผคู้ วบคุมงำนมีหนำ้ ที่เป็น ตวั แทนในกำรควบคมุ งำนก่อสร้ำง และเป็นผใู้ กลช้ ิดกบั
งำนซ่ึงกระทำโดยผูร้ ับเหมำมำกท่ีสุด ดงั น้ัน ผูค้ วบคุมงำนจะเป็ นผูร้ ู้ผูเ้ ห็นปัญหำต่ำงๆ ท่ีเกิดข้ึนและจะตอ้ ง
แกไ้ ขปัญหำตำม ขอบเขตหนำ้ ท่ีควำมรับผิดชอบดงั น้ี
1. เป็นตวั แทนของเจำ้ ของโครงกำรในกำรตรวจสอบและดูแลกำรทำงำนของผรู้ ับเหมำให้
2. เป็นไปตำมรูปแบบรำยกำรก่อสร้ำงและขอ้ กำหนดอยำ่ งถูกตอ้ ง
3. เป็ นผูป้ ระสำนงำนเพ่ือขจดั ควำมขดั แยง้ ของกลุ่มต่ำงๆ ในงำนก่อสร้ำง เช่นระหวำ่ งเจำ้ ของโครงกำร
และผรู้ ับเหมำ ผรู้ ับเหมำกบั ผอู้ อกแบบ ผรู้ ับเหมำรำยใหญ่กบั ผรู้ ับเหมำรำยยอ่ ย เป็นตน้
4. ตรวจสอบแผนกำรทำงำนของผรู้ ับเหมำเป็นระยะๆ เพ่อื ตรวจสอบควำมกำ้ วหนำ้ หรือลำ้ ชำ้ ของงำน
5. กำรใชเ้ ทป กลอ้ งระดบั กลอ้ งวดั มุม กลอ้ งวดั ระยะ และกลอ้ งอตั โนมตั ิไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง
6. เสนอแนะกำรทำงำนและช่วยแกป้ ัญหำภำคสนำมเพื่อให้งำนก่อสร้ำงดำเนินไปไดต้ ำมวิธีกำรท่ีถูกตอ้ ง
ส่ังให้ผูร้ ับเหมำหยุดงำนหรือแก้ไขเมื่อพิจำรณำแลว้ เห็นว่ำถำ้ ทำงำนต่อไปแลว้ เกิดควำมเสียหำยต่อ
โครงกำร
7. รำยงำนควำมกำ้ วหน้ำของงำนเป็ นระยะๆ หำกมีกำรเปล่ียนแปลงกำรก่อสร้ำงใด ซ่ึงหำกผิดจำกแบบ
และขอ้ กำหนดตอ้ งรำยงำนใหว้ ิศวกรทรำบทนั ที
8. ทำรำยงำนประจำวนั ประจำสปั ดำห์ ประจำเดือน และรำยงำนประจำงวด
9. ตรวจสอบวสั ดุอุปกรณ์ก่อสร้ำงท้งั คุณภำพและควำมถูกตอ้ ง กำรตรวจตรำกำรเก็บตวั อย่ำงวสั ดุเพ่ือ
ทดสอบคุณภำพ
10. ดูแลควำมปลอดภยั ในกำรทำงำน หำกพบจุดบกพร่องอนั จะนำควำมเสียหำยแก่งำนตอ้ งแนะนำให้
ผูร้ ับเหมำแก้ไข รวมท้ังให้ผูร้ ับเหมำก่อสร้ำงจัดมำตรกำรป้องกันอันตรำยต่ำงๆ มิให้เกิดชีวิตและ
ทรัพย์สิน ท้ังในเขตก่อสร้ำงและบริเวณข้ำงเคียง อีกท้ังดูแลควำมสะอำดเรียบร้อย ตลอดจน
ส่ิงแวดลอ้ มดว้ ย
11. ตรวจสอบผลงำน กำรเบิกงวดกำรชำระเงิน เพ่ือเสนอขอ้ คิดเห็นในกำรอนุมตั ิกำรจ่ำยเงิน โดยตอ้ ง
ตรวจสอบวำ่ ผลงำนมีปริมำณงำน และคณุ ภำพตรงตำมงวดงำนหรือไม่
12. ประสำนงำนกำรก่อสร้ำง เตรียมกำรติดต้งั อุปกรณ์ฝังในคอนกรีตสำหรับงำนระบบอ่ืนๆ เช่น ระบบ
เคร่ืองกลและระบบไฟฟ้ำใหเ้ ป็นไปตำมควำมเหมำะสมกบั ลำดบั ข้นั ตอนกำรก่อสร้ำง
ท้งั น้ี กำรทำงำนของผคู้ วบคุมงำนร่วมกบั ผูร้ ับเหมำน้นั ควรเป็นกำรใหค้ วำมร่วมมือและมีทศั นคติท่ีดี
ต่อกนั คือผูร้ ับเหมำทำหนำ้ ท่ีก่อสร้ำงตำมแบบรูปรำยกำรท่ีกำหนด ในขณะท่ีผคู้ วบเพอื่ วตั ถุประสงคเ์ ดียวกนั
คือควำมสำเร็จของงำนนนั่ เอง
9. ข้อควรปฏิบัติของผู้ควบคมุ งาน
สิ่งท่ีผคู้ วบคุมงำนจะตอ้ งยดึ ถือและปฏิบตั ิตำม มีดงั น้ีคือ
1) จะตอ้ งมีควำมยนิ ดีและให้ควำมร่วมมืออย่ำงเตม็ ที่ในกำรท่ีจะทำให้งำนสำเร็จไปอยำ่ งถูกตอ้ ง
ตำมรูปแบบและรำยกำรรวมท้งั ภำยในระยะเวลำที่กำหนดไว้ โดยยึดถือหลกั ท่ีว่ำให้เจำ้ ของ
โครงกำรให้ไดง้ ำนที่มีคุณภำพมำกที่สุดในขณะเดียวกนั กบั ผูร้ ับเหมำใช้วิธีกำรที่ถูกตอ้ งและ
ไดผ้ ลดีที่สุด
2) ตอ้ งไม่มีขอ้ ผกู มดั หรือไม่มีส่วนไดส้ ่วนเสียกบั ผผู้ ลิตสินคำ้ สำหรับงำนท่ีควบคุมอยู่และยดึ ถือ
ควำมถกู ตอ้ งตำมขอ้ กำหนดเป็นหลกั
3) ตรวจสอบกำรทำงำนของผรู้ ับเหมำเป็นระยะๆ หำกตรวจสอบขอ้ บกพร่อง หรือมีขอ้ ผิดพลำด
จะไดแ้ จง้ ใหผ้ รู้ ับจำ้ งทรำบเพอื่ ทำกำรแกไ้ ขไดท้ นั เวลำ
4) ควรหลีกเลี่ยงกำรทำควำมสนิทสนมจนเกินไปและไม่ควรรับกำรเอำอกเอำใจหรือของกำนัล
จำกผรู้ ับเหมำอนั จะทำใหเ้ กิดควำมรำบำกใจกนั ไม่วำ่ จะทำงตรงและทำงออ้ มกต็ ำม
5) ไม่กล่ำววิพำกษว์ ิจำรณ์ผูอ้ ่ืน ซ่ึงอำจเกิดควำมไม่ยุติธรรมต่อผูท้ ี่ถูกวิจำรณ์ อนั ทำให้เกิดควำม
บำดหมำงได้
6) จะตอ้ งไมอ่ อกแสดงควำมเห็นหรือควำมขดั แยง้ กนั เองตอ่ หนำ้ ผรู้ ับเหมำ ซ่ึงทำใหล้ ดควำม
ศรัทธำจำกผรู้ ับเหมำได้
7) ตอ้ งไม่หน่วงเหนี่ยวกำรตรวจสอบงำนก่อสร้ำงหรือกำรตรวจสอบวสั ดุ ใหก้ ระทำทนั ทีท่ีมีกำร
ขอร้องดว้ ยควำมเตม็ ใจ ผลตวั อยำ่ งวสั ดุท่ีใชไ้ ม่ได้ ใหร้ ีบแจง้ ใหผ้ รู้ ับเหมำทรำบโดยไมช่ กั ชำ้
เพอ่ื ใหด้ ำเนินเปล่ียนและแกไ้ ขโดยไมท่ ำใหง้ ำนหยดุ ชะงกั
8) ตอ้ งไมเ่ ป็นคนคยุ โมโ้ ออ้ วดหรือแสดงอำนำจของตน กำรสั่งกำรเปลี่ยนแปลงใดๆ ตอ้ งแสดง
ใหเ้ ห็นวำ่ ไดก้ ระทำไปเพอื่ ประโยชนข์ องงำนโดยบริสุทธ์ิใจเทำ่ น้นั
9) ยอมรับถึงกำรตดั สินใจที่ผิดพลำดเนื่องจำกควำมรู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์
10. จรรยาบรรณสาหรับผ้คู วบคมุ งานก่อสร้าง
ประกอบ บำรุงผล (2546:56-57) ไดก้ ลำ่ ววำ่ จรรยำบรรณสำหรับผคู้ วบคุมงำน ก่อสร้ำงมีดงั ต่อไปน้ี
1. ยนิ ดีเสนอแนะวิธีกำรทำงำนที่ถูกตอ้ งและดูแลกำรทำงำนท่ีถกู ตอ้ งและดูแลกำรทำงำน ของ
ผรู้ ับเหมำอยำ่ งใกลช้ ิดเพ่ือหลีกเล่ียงกำรทำงำนที่ผดิ พลำดจำกสัญญำ เสนอแนะวธิ ีกำรทำงำน
โดยไดผ้ ลดีท้งั เจำ้ ของโครงกำรและผรู้ ับเหมำ คอื ใหค้ วำมยตุ ิธรรมท้งั สองฝ่ำย
2. ไม่สร้ำงเง่ือนไขกบั ผูร้ ับเหมำ หรือผคู้ ำ้ วสั ดุก่อสร้ำงเพ่ือผลประโยชน์ของตน
3. ไมร่ ับส่ิงของหรือผลประโยชน์อ่ืนใด อนั จะก่อให้เกิดควำมไม่
4. ไม่ยยุ งใหผ้ รู้ ับเหมำเรียกร้องเงินเพิ่มจำกเจำ้ ของโครงกำร โดยไม่สมควรกบั เหตุ
5. ไม่เก่ียวขอ้ งกบั กิจกำรภำยในของผรู้ ับเหมำ
สรุป
กำรดำเนินกิจกำรใดๆ ในปัจจุบนั จะตอ้ งมีงำนก่อสร้ำงเขำ้ มำเป็นส่วนหน่ึงของกำรดำเนินกำรทำงธุรกิจ
ดว้ ยเสมอ ในกระบวนกำรของงำนก่อสร้ำงจะมีกลุ่มบุคคลท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งำนก่อสร้ำงไดแ้ ก่ เจำ้ ของโครงกำรท่ี
ปรึกษำโครงกำร ผอู้ อกแบบ และผกู้ ่อสร้ำงหรือผรู้ ับเหมำก่อสร้ำงน่ันเอง จุดประสงคห์ ลกั ของผูเ้ กี่ยวขอ้ งทุก
ฝ่ำยคอื ตอ้ งกำรดำเนินงำนท่ีตนเองรับผิดชอบใหเ้ ป็นไปอย่ำงรำบรื่นและสำเร็จตำมเป้ำหมำย โดยในกำรทำงำน
ร่วมกนั ของทุกฝ่ ำยน้นั อำจเกิดปัญหำขอ้ ขดั แยง้ ท้งั ในทำงดำ้ นเทคนิคและวิธีกำรก่อสร้ำง ดงั น้นั ผคู้ วบคุมงำน
จึงมีควำมสำคลั อย่ำงย่ิงในกำรที่จะเป็ นผูค้ วบคุมงำนก่อสร้ำงและตดั สินปัญหำต่ำงๆ ผูค้ วบคุมงำนจึงควรมี
ควำมรู้ท้งั ในทำงดำ้ นทฤษฎีและปฏิบตั ิมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ท่ีดีมีควำมบริสุทธ์ิใจและปฏิบตั ิตำมจรรยำบรรณของผู้
ควบคุมงำนก่อสร้ำงเพอ่ื ใหง้ ำนในโครงกำรก่อสร้ำงต่ำงๆบรรลุจุดม่งุ หมำยที่ต้งั ไว้
ใบงานท่ี 1
วิชา วสั ดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม รหัสวชิ า 30121-2101 หน่วยที่ 1
ช่ือหน่วย การจดั การงานก่อสร้างและหน้าที่ของผ้คู วบคุมงาน สอนคร้ังท่ี 1
ชื่องาน หน้าที่ของผ้คู วบคุมงาน เวลา 3 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์
เม่ือฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. บอกควำมหมำย และข้นั ตอนของกำรควบคมุ งำนได้
2. บอกคณุ สมบตั ิของผคู้ วบคุมงำนได้
3. บอกหนำ้ ที่ของผคู้ วบคมุ งำนได้
เครื่องมือ - อปุ กรณ์
1.เอกสำรใบงำน
ลาดบั ข้ันการปฏิบตั ิงาน
1. ครูอธิบำยรำยละเอียดเกี่ยวกบั หนำ้ ท่ีของผคู้ วบคมุ
2. ครูแจกใบงำนให้นกั ศึกษำปฏิบตั ิตำมใบงำน
3. ครูสรุปในรำยละเอียดหวั ขอ้ ตำ่ งๆของแบบฝึกหดั
การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยกำรควบคมุ งำนและตรวจสอบงำนก่อสร้ำงได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน
แบบประเมนิ ผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 1 เร่ือง หน้าท่ีของผู้ควบคุมงาน
คาสั่ง จงเติมคำใหส้ มบูรณ์ในแตล่ ะ่ ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1. กลุม่ บคุ คลที่เกี่ยวขอ้ งกบั งำนก่อสร้ำงแบง่ ออกเป็น........กลุม่
2.กลุม่ เจำ้ ของโครงกำรคอื .....................................................................................ประกอบดว้ ยเจำ้ ของโครงกำร
.......ประเภท คือ........................................................................................................
3.กลมุ่ ท่ีปรึกษำโครงกำรหรือกลมุ่ จดั กำรงำนก่อสร้ำงคือ ..................................................................
............................................................................................................................................................
4.กลุม่ ผอู้ อกแบบ คือ...........................................................................................................................
5.กลมุ่ ผกู้ ่อสร้ำง คอื กลมุ่ ผรู้ ับเหมำก่อสร้ำงแยกออกเป็น..............ประเภท คือ
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................6.ประกอบ บำรุงผล(2546:55) ไดใ้ ห้
ควำมหมำยของกำรควบคมุ งำนก่อสร้ำงไวว้ ำ่ อยำ่ งไร
.................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................7.งำนก่อสร้ำงมีกำร
แบ่งแยกออกเป็นหลำยระดบั ซ้ึงข้ึนอยกู่ บั ระดบั ของงำน เช่น
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................
8.จงอธิบำยควำมหมำยของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมำพอเขำ้ ใจ
.................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
9.จงบอกคณุ สมบตั ิของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำงมำพอเขำ้ ใจ
.................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
10.จงบอกควำมรู้พ้ืนฐำนของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำงมำพอเขำ้ ใจ
.................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
แบบประเมนิ ผลหลงั เรียนหน่วยท่ี 1 เรื่อง หน้าทข่ี องผู้ควบคมุ งาน
คาสั่ง จงอธิบำยรำยละเอียดในแตล่ ะ่ หวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1. จงอธิบำยเก่ียวกบั กระบวนกำรของงำนก่อสร้ำงมำอยำ่ งละเอียด (ไมน่ อ้ ยกวำ่ 3 บรรทดั )
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................
2.จงบอกคณุ สมบตั ิของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมำอยำ่ งนอ้ ย 5 หวั ขอ้
2.1มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ คอื
2.1.1...........................................................................................
2.1.2...........................................................................................
2.1.3...........................................................................................
2.1.4...........................................................................................
2.2 มีบคุ ลิกภำพ คือ
2.1..............................................................................................
2.2..............................................................................................
2.3..............................................................................................
2.4 .............................................................................................
2.5 ……………………………………………………………..
3.จงอธิบำยขอบเขตและหนำ้ ท่ีของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมำอยำ่ งละเอียด
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.............................................................................
4.จงบอกขอ้ ควรปฏิบตั ิของผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมำอยำ่ งนอ้ ย 5 หวั ขอ้
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………….
5.จงบอกจรรยำบรรณสำหรับผคู้ วบคุมงำนก่อสร้ำงมำอยำ่ งละเอียด
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.........................................................
แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101
หน่วยที่ 2 เรื่อง หลกั ปฏิบตั ิในการควบคุมและการตรวจงาน เวลา 3 ช่ัวโมง
หัวเร่ือง-หวั ข้อย่อย
2.1 หลกั กำรทว่ั ไปในกำรควบคมุ และกำรตรวจงำน
2.2 ข้นั ตอนกำรตรวจงำน
2.3 ปัญหำและแนวปฏิบตั ิสำคญั ในกำรตรวจงำนของส่วนรำชกำร
สาระสาคัญ
1. โดยท่ัวไปในกำรตรวจงำนน้ันเป็ นควำมรับผิดชอบของผูต้ รวจงำนที่จะต้องดำเนินกำร โดยมี
หลกั กำรทว่ั ไปในกำรตรวจตำมหัวขอ้ ต่อไปน้ีคือ กำรตรวจงำนในข้นั เตรียมกำรก่อนที่จะตรวจงำนจริง กำร
ตรวจงำนดำ้ นเทคนิคและหลกั กำรก่อสร้ำง กำรตรวจงำนดำ้ นมำตรฐำนฝี มือแรงงำน รวมท้งั กำรตรวจงำนดำ้ น
ควำมปลอดภยั และอำชีวอนำมยั
2. ในระหว่ำงดำเนินกำรก่อสร้ำงน้ัน ผูต้ รวจงำนมีหน้ำท่ีท่ีจะต้องเข้ำไปตรวจงำนในหน่อยงำน
ก่อสร้ำงระหว่ำงกำรก่อสร้ำง 2 ลกั ษณะ คือ กำรตรวจงำนระหว่ำงดำเนินกำรก่อสร้ำงและกำรตรวจงำนตำม
หมวด กำรตรวจงำนระหว่ำงดำเนินกำรก่อสร้ำง เป็ นกำรเขำ้ ไปตรวจงำนตำมระยะเวลำที่กำหนดหรือเมื่อมี
เหตุขดั ขอ้ งในระหวำ่ งกำรก่อสร้ำง ส่วนกำรตรวจงำนตำมงวดเป็นกำรตรวจงำนเม่ือผทู้ ำกำรก่อสร้ำงตอ้ งกำรส่ง
มอบงำนงวดเพ่ือขอเบิกเงินค่ำทำงำนในงวดน้ัน และเมื่อผูท้ ำกำรก่อสร้ำงดำเนินกำรก่อสร้ำงแลว้ เสร็จตำม
สญั ญำ ผตู้ รวจงำนกจ็ ะไปดำเนินกำรตรวจงำนเพ่ือตรวจรับงำนงวดสุดทำ้ ย
3. แนวปฏิบัติในกำรตรวจงำนน้ัน จะแตกต่ำงกันไปตำมสถำนภำพของเจ้ำของโครงกำรว่ำ เป็ น
โครงกำรของหน่วยงำนเอกชนหรือของหน่วยงำนรำชกำร ซ่ึงแนวปฏิบตั ิโดยทวั่ ไปจะข้ึนอยกู่ บั ขอ้ ตกลงร่วมกนั
ระหวำ่ งเจำ้ ของงำนและผูท้ ำกำรก่อสร้ำง อย่ำงไรก็ตำมสำหรับโครงกำรของส่วนรำชกำรจะมีแนวทำงในกำร
ปฏิบตั ิท่ีแน่นอน ชัดเจนและรัดกุม โดยมีระเบียบสำนักนำยรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพสั ดุเป็ นระเบียบควบคุม
แนวทำงปฏิบตั ิ แนวปฏิบตั ิสำคญั ของกำรตรวจงำนท่ีพบอยเู่ สมอ ไดแ้ ก่ แนวปฏิบตั ิในกำรเปลี่ยนแปลงแกไ้ ข
แบบรูปรำยกำรหรือเอกสำรสญั ญำ และแนวปฏิบตั ิในกำรพิจำรณำขยำยเวลำทำกำรก่อสร้ำง
จุดประสงค์การเรียน การสอน
จดุ ประสงค์ท่ัวไป
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยหลกั กำรทว่ั ไปในกำรตรวจงำนได้
2. อธิบำยข้นั ตอนกำรตรวจงำนได้
3. บอกปัญหำและแนวปฏิบตั ิสำคญั ในกำรตรวจงำนของส่วนรำชกำรได้
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
เม่ือศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1.อธิบำยกำรเตรียมกำรก่อนกำรควบคุมและตรวจงำนได้
2.อธิบำยกำรตรวจงำนดำ้ นเทคนิคและหลกั กำรก่อสร้ำงได้
3.อธิบำยกำรตรวจงำนดำ้ นแรงงำนและควำมปลอดภยั ได้
กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำยควำม ประโยชน์ ของหลกั ปฏิบตั ิในกำรควบคมุ และกำรตรวจงำนเพ่ือนำเขำ้ สู่บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มลู
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เร่ืองของหลกั ปฏิบตั ิในกำรควบคุมและกำรตรวจงำน
หวั ขอ้ ต่ำงๆในเอกสำรประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้นื ฐำน หนำ้ ที่ และของหลกั ปฏิบตั ิในกำรควบคุมและกำร
ตรวจงำน
3. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคุม ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้ันสรุป
สรุปสำระสำคญั เร่ืองหลกั ปฏิบตั ิในกำรควบคมุ และกำรตรวจงำนและสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบ
งำน
กจิ กรรมนักศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลมุ่ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคุมและวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. สื่อแผน่ ใส และส่ือนำเสนอ (Presentation)
3. ส่ือ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ประเมินผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
บรรณานุกรม
พนม ภยั หน่ำย กำรบริหำรงำนก่อสร้ำง ฉบบั ปรับปรุง กรุงเทพมหำนคร สมำคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย-
ญี่ป่ นุ ) ดวงกมลสมยั 2539
โสภณ แสงไพโรจน์ แนวปฏิบตั ิกำรตรวจกำรจำ้ งงำนก่อสร้ำง กรุงเทพมหำนคร สถำบนั เทคโนโลยรี ำชมงคล
2537
บันทึกหลงั การสอน
หน่วยที่ 2
หลกั ปฏบิ ัตใิ นการควบคุมและการตรวจงาน
โดยท่วั ไป งำนก่อสร้ำงไม่ไดเ้ ร่ิมตน้ เมื่อทำกำรปรับปรุงพ้ืนที่หรือส่องกลอ้ งปักผงั โครงกำรหำกแต่
เกิดข้ึนก่อนหน้ำน้ันแล้ว โดยเริ่มต้ังแต่เมื่อเจ้ำของโครงกำรตกลงให้ผูอ้ อกแบบทำกำรออกแบบและเม่ือ
ผูป้ ระกอบกำรธุรกิจก่อสร้ำงไดซ้ ้ือแบบหรือรับแบบมำมำคิดเพ่ือเสนอรำคำ จนกระทงั่ ไดร้ ับกำรมอบหมำยให้
เป็ นผูท้ ำกำรก่อสร้ำงน้นั จริง กำรทำงำนก่อสร้ำงน้นั มีผเู้ ก่ียวขอ้ งในกำรทำงำนหลำยกลุ่ม และทุกกลุ่มท่ีทำงำน
จะตอ้ งมีกำรตรวจสอบซ่ึงกนั และกนั ท้งั สิ้น ผูอ้ อกแบบจะทำกำรตรวจสอบเพอ่ื ควำมถกู ตอ้ งตรงกนั ของสิ่งท่ีระบุ
ไวใ้ นแบบรูปรำยกำร เงื่อนไข และเอกสำรสัญญำ เพรำะเป็นที่ยอมรับกนั ว่ำควำมขดั แยง้ หรือควำมไม่เหมำะสม
ในแบบรูปและรำยกำรละเอียด จะปรำกฏอย่เู สมอเนื่องจำกเอกสำรดงั กล่ำวจดั ทำโดยกลุ่มที่มีควำมรู้ และควำม
ชำนำญในดำ้ นวิชำชีพหลำยกลุ่มในช่วงระยะเวลำนำน และตลอดระยะเวลำดงั กล่ำวไดม้ ีกำรแกไ้ ขเ้ ปล่ียนแปลง
อยู่ตลอดเวลำ ถึงแมว้ ่ำกำรทำงำนของคณะผูอ้ อกแบบจะเป็ นทีมงำนที่มีประสิทธิภำพเพียงใด ก็อำจจะมีกำร
ผิดพลำดอยู่บ้ำงไม่มำกก็น้อย ดังน้ันกำรควบคุมและกำรตรวจสอบจึงนับเป็ นเรื่องจำเป็ นที่หลีกเล่ียงไม่ได้
สำหรับผูป้ ระกอบธุรกิจก่อสร้ำงก็จะตอ้ งทำกำรตรวจสอบอย่ำงพิถีพิถันในกำรดำเนินงำนทุกข้ันตอน เพ่ือ
ป้องกนั ควำมเสียหำยที่อำจเกิดข้ึน ส่วนเจำ้ ของโครงกำรก็จะตอ้ งควบคุมและตรวจสอบเพ่ือให้ไดง้ ำนก่อสร้ำงที่
มีคุณค่ำเหมำะกบั เงินที่ลงทุน รวมท้งั ใหเ้ ป็นไปตำมสญั ญำท่ีตกลงกนั
2.1 หลกั การท่ัวไปในการควบคุมและการตรวจงาน
ก่อนที่งำนก่อสร้ำงในหน่วยงำนก่อสร้ำงจะเร่ิมข้ึนน้ัน ผูต้ รวจงำนจะตอ้ งทำกำรเตรียมกำรก่อนกำร
ควบคุมและกำรตรวจงำน โดยจะตอ้ งมีกำรตรวจสอบงำนดำ้ นเอกสำร ซ่ึงประกอบดว้ ยแบบรูป รำยกำรละเอียด
และเอกสำรหลกั ฐำนประกอบสัญญำ รวมท้งั จะตอ้ งทำกำรตรวจสอบสถำนท่ีก่อสร้ำงก่อนเริ่มดำเนินกำรจริง
ดว้ ยกำรตรวจสอบงำนดำ้ นเทคนิคและหลกั กำรก่อสร้ำงน้ัน จะตอ้ งดำเนินกำรตรวจสอบในดำ้ นต่ำง ๆ ไดแ้ ก่
กำรตรวจสอบตำแหน่งผงั อำคำรและหมุดอำ้ งอิงต่ำง ๆ กำรตรวจสอบขนำดระยะระดับ และแนวต่ำงๆ กำร
ตรวจสอบวสั ดุและอุปกรณ์ต่ำง ๆ รวมท้งั กำรตรวจสอบผลกำรก้ำวหน้ำของงำนดว้ ยกำรตรวจงำนด้ำนฝี มือ
แรงงำน เป็ นกำรตรวจสอบดำ้ นมำตรฐำนฝี มือแรงงำน รวมท้งั กำรปลอดภยั และอำชีวอนำมยั ให้แก่ช่ำง และ
คนงำนในสถำนท่ีก่อสร้ำง รวมท้งั ควำมปลอดภยั ท่ีมีต่อบุคคลภำยนอกสถำนท่ีก่อสร้ำงดว้ ย
2.1.1 การเตรียมงานก่อนการควบคุมและการตรวจงาน
หลงั จำกที่ทำกำรยน่ื ซองประกวดรำคำ จนกระทงั่ คดั เลือกไดผ้ ทู้ ี่จะทำกำรก่อสร้ำงแลว้ น้นั
ก่อนท่ีจะเร่ิมดำเนินกำรก่อสร้ำงท้งั ฝ่ ำยเจำ้ ของงำนและผูท้ ำกำรก่อสร้ำงตอ้ งเตรียมกำรก่อนทำกำร
ก่อสร้ำงจริง งำนท่ีจำเป็ นต้องเตรียมกำรก่อนทำกำรก่อสร้ำง หรืออำจกล่ำวได้อีกอย่ำงหน่ึงว่ำกำร
เตรียมกำรก่อนกำรควบคุมและกำรตรวจงำนน้ัน จะประกอบดว้ ยกำรเตรียมงำนดำ้ นเอกสำรและกำร
ตรวจสอบสถำนท่ีก่อสร้ำง
1. การตรวจสอบงานด้านเอกสาร
งำนดำ้ นเอกสำรนบั เป็นงำนที่จำเป็นตอ้ งตรวจสอบในลำดบั แรกก่อนท่ีจะดำเนินกำร
ก่อสร้ำง โดยทวั่ ไปงำนเอกสำรที่จะตอ้ งตรวจสอบประกอบดว้ ย แบบรูปและรำยกำรละเอียดรวมท้งั
เอกสำรหลกั ฐำนประกอบสญั ญำ
1.1 แบบรูปและรายการละเอยี ด (Drawing and specification) แบบรูปและรำยกำรละเอียด
นบั เป็นเอกสำรสำคญั ในกำรดำเนินกำรก่อสร้ำง แบบรูปจะประกอบดว้ ยรำยละเอียดของแบบท่ีจะใชท้ ำ
กำรก่อสร้ำงซ่ึงโดยทว่ั ไปจะแบ่งงำนออกเป็ นหมวดๆ นับต้งั แต่งำนโครงสร้ำง งำนสถำปัตยกรรมและ
งำนระบบต่ำง ๆ ประกอบอำคำร ท้งั น้ีควำมละเอียดของแบบรูปงำนระบบต่ำง ๆจะข้ึนอยู่กบั ประเภท
ของโครงกำรน้นั ๆ วำ่ จะเนน้ ในส่วนใด ของงำนระบบใดเป็นพิเศษหรือไม่กำรก่อสร้ำงน้นั แบบรูปเพยี ง
อย่ำงเดียวไม่สำมำรถอธิบำยรำยละเอียดของงำนท้งั หมดได้จึงจำเป็ นตอ้ งมีรำยกำรละเอียดประกอบ
แบบดว้ ย รำยกำรละเอียดดงั กล่ำวจะเป็ นเอกสำรที่ใช้อธิบำยควำมตอ้ งกำรของผูอ้ อกแบบต่อบุคคลที่
เกี่ยวขอ้ ง เพื่อกำหนด ชนิด ขนำด มำตรฐำนกำรทำงำนรำยละเอียดของฝี มือและวสั ดุอุปกรณ์ รวมท้งั
รำยละเอียดของงำนที่จะก่อสร้ำงใหช้ ดั เจนยง่ิ ข้นึ ตวั อยำ่ งของขอ้ มลู ที่ปรำกฏในรำยกำรละเอียดประกอบ
แบบก่อสร้ำงน้ัน ได้แก่ ขนำดหรือเบอร์ของหินหรือกรวดที่ใช้งำนน้ัน ส่วนผสมของคอนกรีตที่ใช้
วิธีกำรทดสอบคณุ ภำพของคอนกรีตวิธีกำรปฏิบตั ิในกำรทำงำนต่ำงๆ นบั ต้งั แต่กำรติดต้งั แบบหล่อ กำร
ลำเลียงคอนกรีต กำรเทคอนกรีต รวมท้งั กำรกำหนดค่ำควำมคลำดเคล่ือนที่ยอมให้ดงั น้นั เพ่ือให้กำร
ดำเนินกำรก่อสร้ำงไดอ้ ย่ำงมีประสิทธิภำพและถูกตอ้ งเป็ นที่พอใจของทุกฝ่ ำย ท่ีเก่ียวขอ้ ง ผูต้ รวจงำน
จะตอ้ งมีควำมเขำ้ ใจในเรื่องแบบรูปและรำยกำรละเอียดอย่ำงชดั เจนอย่ำงไรก็ตำม ในทำงปฏิบตั ิ กำร
ขดั แยง้ ระหว่ำงแบบรูปท้งั ดำ้ นสถำปัตยกรรมและวิศวกรรมทุกสำขำจะเกิดข้ึนอยู่เสมอ นบั ต้งั แต่กำร
ขำดส่วนสำคญั ของแบบท่ีควรจะระบุ หรือขยำยให้ชดั เจนกำรระบุเง่ือนไขหรือรำยกำรท่ีสับสน และ
ขำดในสำระสำคญั ท่ีจะใช้ควบคุมกำรทำงำน รวมท้ังควำมไม่ชัดเจนของแบบรูป สิ่งต่ำง ๆ เหล่ำน้ี
จะตอ้ งไดร้ ับกำรตรวจสอบและแกไ้ ขประกอบกบั กำรลงนำมทำสัญญำ กำรตรวจสอบดงั กล่ำวนอกจำก
จะเป็ นควำมพยำยำมขจดั ขอ้ ขดั แยง้ ระหว่ำงแบบรูป รำยกำรละเอียด และเอกสำร อนั จะเป็ นส่วนหน่ึง
ของสัญญำในภำยหลงั แล้ว ยงั เป็ นกำรทำควำมเขำ้ ใจในวตั ถุประสงค์ท่ีแสดงโดยแบบรูป รำยกำร
ละเอียดและเอกสำรใหเ้ ขำ้ ใจชดั เจน ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ในกำรตรวจงำนทว่ั ไป
1.2 เอกสารหลกั ฐานประกอบสัญญา ในกำรทำสญั ญำวำ่ จำ้ งก่อสร้ำงของโครงกำรท้งั
ภำครัฐบำลและภำคเอกชนนอกจำกแบบรูปและรำยกำรละเอียดแลว้ ยงั ตอ้ งใชเ้ อกสำรแสดงสถำนภำพ
ต่ำง ๆ ของคสู่ ัญญำหรือผทู้ ำกำรก่อสร้ำงประกอบเป็นหลกั ฐำนดว้ ย โดยเฉพำะงำนภำครัฐบำล เอกสำร
เหล่ำน้ีจะตอ้ งมีอยำ่ งครบถว้ น จะขำดอย่ำงใดอยำ่ งหน่ึงไม่ได้ เอกสำรดงั กล่ำวแยกออกตำมประเภทได้
ดงั น้ี
1.2.1 เอกสารท่ีแสดงสถานภาพของผู้ประกอบการ ตำมกฎหมำยประกอบดว้ ยหนงั สือรับรอง
กำรจดทะเบียนเป็ นนิติบุคคล หรือหนงั สือบริคณห์สนธิในกรณีท่ีเป็ นบริษทั จำกดั หนังสือรับรองกำร
จดทะเบียนของสำนกั งำน ทะเบียนหุน้ ส่วนบริษทั ที่แสดงทนุ จดทะเบียนวตั ถปุ ระสงคใ์ นกำรดำเนินงำน
กรรมกำร หรือหุ้นส่วนและอำนำจของกรรมกำร ใบทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่มรวมท้งั ตรำยำงประทบั ของ
นิติบคุ คล ( ถำ้ มี )
1.2.2 เอกสารประกอบที่สาคัญ ไดแ้ ก่ สำเนำของสัญญำร่วมคำ้ สำเนำบตั รประจำตวั ของผรู้ ่วม
คำ้ หรือสำเนำของหนงั สือเดินทำง ในกรณีท่ีผรู้ ่วมคำ้ ฝ่ ำยใดฝ่ ำยหน่ึงเป็ นบุคคลธรรมดำท่ีมิใช่สัญชำติ
ไทย หรือเสำนำหนงั สือรับรองกำรจดทะเบียนนิติบุคคลท่ีเขำ้ ร่วมคำ้ ในกรณีที่ผูร้ ่วมคำ้ ฝ่ ำยใดฝ่ ำยหน่ึง
เป็นนิติบุคคล โดยหลกั ฐำนต่ำง ๆ ทุกฉบบั จะตอ้ งมีกำรลงนำมรับรองสำเนำถูกตอ้ ง
1.2.3 หลกั ฐานแสดงฐานะทางการเงนิ และควำมรับผดิ ชอบต่อสัญญำ ที่เรียกวำ่
หนงั สือค้ำประกนั สัญญำหรือหลกั ประกนั สัญญำ ซ่ึงอำจเป็ นหนงั สือค้ำประกนั ของธนำคำรที่เจำ้ ของ
งำนเชื่อถือ หนังสือค้ำประกันของบริษทั เงินทุนอุตสำหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษทั เงินทุน
หลกั ทรัพย์ หรือเงินสด หรือเช็คที่ธนำคำรสั่งจ่ำยในนำมเจำ้ ของงำน หรือพนั ธบตั รรัฐบำลไทย ซ่ึงเป็ น
กรรมสิทธ์ิโดยชอบดว้ ยกฎหมำยของผทู้ ำกำรก่อสร้ำง โดยปกติผปู้ ระกอบกำรจะใชห้ นงั สือค้ำประกนั
ของธนำคำรพำณิชยม์ ำกกว่ำอย่ำงอ่ืน จึงจะต้องตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียดว่ำเจ้ำของตอ้ งกำรให้
ปฏิบตั ิอย่ำงไรในเรื่องขอ้ ควำมท่ีปรำกฏในหนงั สือน้ัน นอกจำกน้ีในกำรทำสัญญำบำงโครงกำรอำจจะ
ตอ้ งมีกำรทำหลกั ประกนั กำรรับเงินลว่ งหนำ้ ดว้ ย
1.2.4 ใบเสนอราคา และบัญชีรายละเอียดแสดงปริมาณงาน ( Bill of quantities ) ซ่ึงจะต้อง
แสดงรำยละเอียดคำ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ คำ่ แรงงำน ภำษปี ระเภทตำ่ ง ๆ รวมท้งั กำไรไวด้ ว้ ย
1.2.5 อากรแสตมป์ หรือตราสารในการทาสัญญาจ้าง ทกุ คร้ังจะตอ้ งมีกำรติดอำกร
แสตมป์ ตำมอตั รำที่บญั ญตั ิไวท้ ำ้ ยประมวลรัษฎำกรในอตั รำ 1,000 ละ 1 บำท สำหรับสัญญำที่มีวงเงิน
ค่ำจ้ำงไม่เกิน 200,000 บำท ทุก 1,000 บำท จะต้องติดอำกรแสตมป์ 1 บำท ส่วนงำนท่ีมีวงเงินเกิน
200,000 บำท เป็นตน้ ไป จะตอ้ งใชต้ รำสำรในอตั รำเดียวกนั
1.2.6 หนงั สือมอบอานาจให้ทาการแทน ซ่ึงเป็นเอกสำรมอบอำนำจใหผ้ ทู้ ี่ไม่มีอำนำจดำเนินกำร
ลงนำมในสัญญำทนผูท้ ่ีมีอำนำจ ท้งั น้ีควรตรวจสอบขอ้ ควำมให้ครอบคลุมอำนำจที่จะทำกำรให้หมด
โดยหนงั สือมอบอำนำจดงั กล่ำวจะตอ้ งปิ ดอำกรแสตมป์ ตำมกฎหมำย พร้อมแนบสำเนำบตั รประจำตวั
ประชำชนท้งั ของผูม้ อบอำนำจ และผูร้ ับมอบอำนำจไวด้ ว้ ยอย่ำงไรก็ตำม เอกสำรหลกั ฐำนประกอบ
สัญญำขำ้ งตน้ จะทำกำรตรวจสอบในเวลำท่ีต่ำงกัน เช่น ในกำรทำสัญญำก่อสร้ำงกับส่วนรำชกำร
เอกสำรขอ้ 1-3 น้ันจะตรวจสอบก่อนท่ีหน่วยรำชกำรน้ันจะรับรำคำจำกผูท้ ำกำรก่อสร้ำงน้ัน ส่วน
เอกสำร ขอ้ 5-6 จะตรวจก่อนที่จะทำสัญญำ สำหรับเอกสำรในขอ้ 4 หรือใบเสนอรำคำน้ัน นับเป็ น
เอกสำรสำคญั ที่ใชป้ ระกอบกบั แบบรูปและรำยกำรละเอียด เพ่ือประโยชน์ในกำรควบคุมและตรวจงำน
ก่อสร้ำงต่อไป
2.2 ข้นั ตอนการตรวจงาน
เม่ือลงนำมในสัญญำเรียบร้อยแลว้ ก่อนท่ีจะเร่ิมดำเนินกำรก่อสร้ำง จำเป็ น อย่ำงย่ิงท่ีจะตอ้ งทำกำร
ตรวจสอบสภำพและส่ิงแวดลอ้ มของสถำนท่ีท่ีจะทำกำรก่อสร้ำง โดยผทู้ ำกำรก่อสร้ำงควรท่ีจะทำกำรตรวจสอบ
สถำนท่ีก่อสร้ำงก่อนดำเนินกำรก่อสร้ำง ท้งั น้ีเพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มูลท่ีจำเป็ นสำหรับใช้ในกำรดำเนินงำน
ก่อสร้ำง เช่น กำรกำหนดตำแหน่งของสำนักงำน สนำม โรงเก็บวสั ดุ ลำนกองวสั ดุ ที่พกั ช่ำงและคนงำน ฯลฯ
อย่ำงไรก่อตำมกำรเขำ้ ไปสำรวจสถำนท่ีก่อสร้ำงน้ันก็ข้ึนอยู่กับประสบกำรณ์ในกำรทำงำนของแต่ละคนดว้ ย
ส่วนใหญ่ผูท้ ี่มีประสบกำรณ์มำกกว่ำจะทำกำรสำรวจไดล้ ะเอียดรอบคอบกว่ำ โดยทวั่ ไปขอ้ มูลท่ีไดจ้ ำกกำร
สำรวจสถำนท่ีของผทู้ ำกำรก่อสร้ำงประกอบดว้ ยขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ภูมิประเทศ เก่ียวกบั ระดบั ควำมสูง ต่ำ ของพ้ืนท่ี ซ่ึงจะมีผลต่อกำรตดั ดิน หรือถมดินหรือกำรขุดถม ปรับ
ระดบั
2. ชนิดของดิน เป็ นดินเหนียว หรือดินเหลว ซ่ึงจะมีผลต่อกำรคำนวณเพ่ือเลือกใช้โครงสร้ำงชวั่ ครำวในกำร
ป้องกนั ดินพงั เม่ือมีกำรขดุ ดิน รวมท้งั เลือกใชช้ นิด และลกั ษณะของเครื่องมือไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม
3. ระดบั น้ำใตด้ ิน ซ่ึงมีผลตอ่ กำรทำฐำนรำก และหอ้ งใตด้ ิน และกำรสูบน้ำออก
4. สิ่งก่อสร้ำงที่มีอยขู่ ำ้ งเคียง เกี่ยวกบั กำรป้องกนั สิ่งน้นั ไม่ใหเ้ สียหำย หรือพงั ขณะก่อสร้ำง
5. ขนำดของพ้นื ท่ี เป็นสิ่งจำเป็นมำกท่ีจะตอ้ งตรวจสอบใหแ้ น่นอน เพรำะถำ้ หำกพ้ืนที่ไม่ตรงกบั ท่ีกำหนดไวใ้ น
แบบรูป ก็อำจจะมีผลกระทบตอ่ ขนำดของอำคำรท่ีจะก่อสร้ำง โดยอำจจะตอ้ งมีกำรปรับแบบก่อนก็ได้
6. ควำมแน่นของดินในระดบั ใตฐ้ ำนรำก ถำ้ ฐำนรำกน้นั ไม่ใชเ้ ขม็ รองรับ และถำ้ เป็นฐำนรำกท่ีจะตอ้ งใชเ้ ขม็ กำร
เจำะแลว้ วเิ ครำะหผ์ ล ( Boringtest ) ก็เป็นสิ่งจำเป็นอยำ่ งยง่ิ ท่ีจะตอ้ งทำ
7. สภำพดินฟ้ำอำกำศปริมำณน้ำฝนและระยะเวลำท่ีฝนตกรวมท้งั อุณหภมู ิสูง ต่ำ ในรอบปี
8. ทำงเขำ้ -ออก ซ่ึงจะเป็นทำงขนส่งทรัพยำกรเขำ้ ไปดำเนินกำรก่อสร้ำงวำ่ สะดวกหรือไม่
9. สำธำรณูปโภคในทอ้ งถิ่นเก่ียวกบั ไฟฟ้ำ น้ำประปำ หรือน้ำใช้ รวมท้งั งำนสำธำรณูปกำรเก่ียวกบั กำรส่ือสำร
ติดตอ่ กบั ภำยนอก
10. กฎระเบียบขอ้ บงั คบั ในทอ้ งถ่ิน รวมท้งั ขนบธรรมเนียมประเพรีทอ้ งถ่ิน
11. ทรัพยำกรในทอ้ งถิ่นคือ แรงงำน ช่ำงฝี มือ วสั ดุและเคร่ืองมือ เคร่ืองทุ่นแรง และผูช้ ำนำญพิเศษ รวมท้งั
ผรู้ ับเหมำช่วงในทอ้ งถิ่น
การตรวจงานด้านเทคนิคและหลกั การก่อสร้าง
1. การตรวจสอบตาแหน่งผงั อาคารและหมุดอ้างองิ ต่าง ๆ
กำรเริ่มต้นงำนก่อสร้ำงในหน่วยงำนสนำมน้ัน โดยทั่วไปผูท้ ำกำรก่อสร้ำงจะต้องยึดถือแบบรูปที่สถำปนิก
ผูอ้ อกแบบกำหนดไว้ นับต้งั แต่ตำแหน่งอำคำร ขนำด รวมท้งั ระยะห่ำงจำกหมุดเขตที่ดินดำ้ นต่ำง ๆ ดังน้ันใน
ข้นั ตน้ เมื่อเริ่มดำเนินกำรก่อสร้ำง ผทู้ ำกำรก่อสร้ำงจะตอ้ งทำกำรตรวจสอบรำยละเอียดตำ่ ง ๆ ดงั น้ีคอื
• ตรวจสอบหมุดหลกั เขตท่ีดิน กบั โฉนดที่ดิน โดยตรวจสอบกบั เจำ้ ของท่ีดินขำ้ งเคียง หำกยงั มีขอ้ ขดั แยง้
ในเร่ืองตำแหน่งหมุดไม่ตรงกนั อำจจำเป็ นตอ้ งให้เจำ้ ของโครงกำรทำเร่ืองติดต่อเจำ้ พนกั งำนที่ดินเพ่ือ
ทำรังวดั สอบเขต
• ตรวจสอบขอบเขตของพ้ืนที่ดินจริงท้ังหมดเปรียบเทียบกับพ้ืนท่ีในผงั บริเวณท่ีกำหนดในแบบรูป
รวมท้งั ตรวจสอบตำแหน่งท่ีจะวำงอำคำรและขนำดของอำคำร เพ่ือจะไดก้ ำหนดผงั อำคำรที่จะก่อสร้ำง
รวมท้งั ตำแหน่งของศูนยเ์ สำ
• ตรวจสอบระดบั พ้ืนดินเดิม และระดบั ถนนรวมท้งั กำหนดหมุดระดบั อำ้ งอิง เพื่อหำระดบั ควำมสูงของ
อำคำรท่ีจะสร้ำงจริง
• ตรวจสอบตำแหน่งระบบสำธำรณูปโภคต่ำง ๆ ไดแ้ ก่ ตำแหน่งท่อระบำยน้ำสำธำรณะ ท่อประปำ แนว
สำยไฟสำธำรณะ เพือ่ เปรียบเทียบกบั ตำแหน่งในแบบรูปและรำยกำรละเอียด
• ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตำแหน่งผงั อำคำรและหมดุ อำ้ งอิงตำ่ ง ๆ น้ี ควรตรวจสอบอยำ่ งละเอียดเพรำะนอกจำกจะ
มีประโยชน์ในกำรกำหนดพ้ืนที่ก่อสร้ำงอำคำรแลว้ ยงั ผลต่อกำรบริหำรงำนของหน่วยงำนสนำมด้วย
โดยทำให้สำมำรถนำขอ้ มูลไปวำงแผนกำหนดตำแหน่งสำนักงำนสนำม ที่พกั คนงำน บริเวณกองเก็บ
วสั ดุและลำนประกอบชิ้นส่วนต่ำง ๆ ซ่ึงถำ้ หำกพ้ืนท่ีไม่เพียงพอจะไดว้ ำงแผนจดั หำสถำนที่ทดแทนไว้
ลว่ งหนำ้
การตรวจสอบขนาด ระยะ ระดบั และแนวต่าง ๆ
ขณะท่ีดำเนินกำรก่อสร้ำงน้นั สิ่งสำคญั ที่ผคู้ วบคมุ จำเป็นตอ้ งตรวจสอบก็คือ เร่ืองของ
ขนำด ระยะ ระดบั และแนวต่ำง ๆ ซ่ึงจะตอ้ งตรวจสอบอย่ำงละเอียดให้ตรงตำมแบบรูปและรำยกำร รวมท้งั
ถกู ตอ้ งตำมมำตรฐำนและหลกั วิชำกำรท่ีดี เพรำะถำ้ หำกเกิดควำมผิดพลำดข้ึนแลว้ จะแกไ้ ขไดย้ ำก เช่น ระยะช่วง
เสำผิดจำกที่กำหนดเสำเข็มผิดศูนย์ ฐำนรำกผิดไปจำกแนว ควำมสูงระหว่ำงช้นั ไม่เป็ นไปตำมท่ีกำหนดไวใ้ น
แบบรูป เป็ นตน้ ควำมผิดพลำดที่เกิดจำกเร่ืองน้ีจะส่งผลกระทบต่อเน่ืองถึงงำนในส่วนอ่ืน ๆ รวมท้งั เกิดควำม
สูญเสียทำงดำ้ นตน้ ทุนและเวลำกำรทำงำนดว้ ย ดงั น้ันจึงควรตรวจสอบอย่ำงละเอียดถี่ถว้ นและรอบคอบที่สุด
เคร่ืองมือสำหรับวดั จะตอ้ งเป็ นเครื่องมือเฉพำะงำนก่อสร้ำง วิธีวดั จะตอ้ งเป็นไปตำมหลกั กำรที่ถูกตอ้ ง กำรใช้
สำยวดั บำงอย่ำงเช่น เทปผำ้ อำจทำให้ระยะคลำดเคล่ือนไดม้ ำก โดยเฉพำะอยำ่ งยิ่งถำ้ วิธีกำรวดั ไม่ถูกตอ้ งดว้ ย
แลว้ ควำมผิดพลำดจะยิ่งมำกข้ึนดำ้ นขนำดของวสั ดุประเภทต่ำง ๆ ก็เป็นส่ิงที่ผูต้ รวจงำนจะละเลยไม่ได้ ขนำดท่ี
ควรตรวจสอบได้แก่ ขนำดของผลิตภณั ฑ์ประเภทเหล็กเสริมคอนกรีต และเหล็กรูปพรรณ ขนำดไมท้ ุกชนิด
ควำมหนำของวสั ดุพ้ืน และวสั ดุแผ่นต่ำง ๆ ควำมหนำของโลหะแผ่น ขนำดของท่อต่ำง ๆขนำดของสำยไฟฟ้ำ
และควำมหนำของวสั ดุฉำบผิวต่ำง ๆ ควำมหนำและขนำดเหล่ำน้ีบำงอย่ำงก็มีมำตรฐำนกำหนดเกณฑ์ควำม
คลำดเคล่ือนไว้ หรืออำจมีระบุค่ำควำมคลำดเคล่ือนท่ียอมรับไดไ้ วใ้ นรำยกำรละเอียดประกอบแบบ แต่บำง
ประเภทกอ็ ำจจะยงั ไมม่ ีระบุไว้ ดงั น้นั ผตู้ รวจงำนจึงตอ้ งยดึ ตำมเกณฑท์ ่ีกำหนด รวมท้งั ใชว้ ิจำรณญำณที่มีเหตผุ ล
ในกำรตรวจเสมอ
การตรวจสอบวัสดแุ ละอปุ กรณ์ต่าง ๆ
กำรตรวจสอบวสั ดุอปุ กรณ์ที่จะใชใ้ นกำรก่อสร้ำง ผตู้ รวจจะตอ้ งยึดมำตรฐำนอตุ สำหกรรม (มอก.) หรือ
ขอ้ มูลทำงดำ้ นเทคนิคของผูผ้ ลิตเป็ นสำคญั ท้งั เร่ืองขนำดและคุณภำพของวสั ดุอุปกรณ์ ในกำรตรวจสอบดำ้ น
ขนำดน้นั สำมำรถที่จะวดั ไดด้ ว้ ยเคร่ืองวดั ท่ีมีควำมละเอียดแตส่ ำหรับกำรตรวจสอบดำ้ นคุณภำพน้นั ผตู้ รวจสอบ
ควรใชค้ วำมละเอียดรอบคอบเป็นพิเศษ สิ่งท่ีควรระวงั อีกอย่ำงหน่ึง คือเร่ืองควำมเขำ้ ใจผิดในชนิดของวสั ดุ เช่น
กระเบ้ืองเคลือบ และกระเบ้ืองเซรำมิกเคลือบ บำงคนมีควำมเขำ้ ใจวำ่ เป็นชนิดเดียวกนั ควำมจริงแลว้ เป็นคนละ
ชนิดเพรำะแตกต่ำงกนั ในกรรมวิธีกำรผลิต กำรตรวจงำนจึงควรระวงั กำรใชผ้ ิดประเภทโดยไม่ไดต้ ้งั ใจนอกจำก
กำรตรวจสอบดำ้ นคุณภำพแลว้ ผูต้ รวจงำนในหน่วยงำนก่อสร้ำงส่วนใหญ่ควรจะตอ้ งควบคุมและตรวจสอบ
ปริมำณควำมสูญเสียของวสั ดุ ในหน่วยงำนท่ีเกิดควำมสะเพร่ำของช่ำงหรือคนงำน หรือจำกกำรควบคุมท่ีไม่
รัดกุมทำให้วสั ดุอุปกรณ์เสียหำยดว้ ยเพรำะจะช่วยในกำรตรวจสอบปริมำณวสั ดุคงเหลือในคลงั จ่ำยวสั ดุของ
หน่วยงำน เพ่ือเปรียบเทียบกับเน้ืองำนท่ีทำเสร็จไปพร้อมกนั นอกจำกน้ีแลว้ ยงั เป็ นกำรคำนวณปริมำณวสั ดุท่ี
เหลืออยู่ในหน่วยงำนวำ่ จะเพียงพอสำหรับใช้งำนไดอ้ ีกกี่วนั เพรำะจะไดเ้ ตรียมกำรส่ังซ้ือวสั ดุอุปกรณ์ดงั กล่ำว
มำใชท้ นั ต่อควำมตอ้ งกำรใชง้ ำน
การตรวจสอบผลการก้าวหน้าของงาน
กำรดำเนินกำรก่อสร้ำงท่ีมีแผนกำรดำเนินงำน จะมีวิธีกำรติดตำมผลกำ้ วหนำ้ ของงำนคอื บนั ทึกผลงำนที่
ทำไดไ้ วเ้ ป็นรำยวนั รำยสัปดำห์ หรือรำยเดือน ซ่ึงจะนำมำเทียบกบั แผนงำนหลกั เพื่อหำแนวโนม้ ควำมกำ้ วหน้ำ
ของงำนว่ำชำ้ หรือเร็วกว่ำแผนอยำ่ งไร ท้งั น้ีผคู้ วบคุมงำนควรจะเขำ้ ตรวจสอบรำยละเอียดของกำรทำงำนจริง ให้
เป็ นไปตำมแผนงำนท่ีกำหนดไว้ หรือให้ใกลเ้ คียงกบั แผนงำนมำกท่ีสุดเท่ำที่จะทำได้ หรือถำ้ หำกงำนที่กำลงั
ดำเนินกำรอยไู่ มเ่ ป็นไปตำมที่แผนงำนกำหนด เกิดอปุ สรรคหรือปัญหำบำงประกำรผคู้ วบคุมงำนควรปรึกษำกบั
ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งเพอื่ แกไ้ ขปัญหำดงั กลำ่ วใหเ้ สร็จสิ้นโดยเร็วบำงโครงกำรท่ีมีผรู้ ับเหมำช่วงเขำ้ ทำงำน ผคู้ วบคมุ งำนก็
จะเป็ นตอ้ งประสำนและควบคุมกำรทำงำนของผูร้ ับเหมำช่วงให้สอดคลอ้ งกบั แผนกำรดำเนินงำนหลกั ของ
โครงกำรดว้ ย
การตรวจงานด้านมาตรฐานฝี มือแรงงาน และความปลอดภัย
การตรวจงานด้านมาตรฐานฝี มือแรงงาน
มำตรฐำนฝี มือแรงงำนส่งผลต่อเนื่องถึงคุณค่ำของงำนก่อสร้ำง ซ่ึงเป็ นสิ่งท่ีมองเห็นและตรวจสอบได้
งำ่ ย ระดบั ด่ิง ฉำกและแนวจะเป็นเครื่องช้ีถึงควำมประณีตของฝี มือแรงงำนไดเ้ ป็นอยำ่ งดี เช่น กำรก่ออิฐโชวแ์ นว
กำรฉำบปูน กำรปูกระเบ้ือง กำรทำฝ้ำเพดำน กำรเขำ้ ปำกไม้ งำนต้งั วงกบและบำนประตหู นำ้ ต่ำง งำนฝำผนงั เบำ
เป็นตน้ สำหรับงำนตกแต่งท่ีใชฝ้ ี มือชำนำญเฉพำะพิเศษ เช่น บวั พ้ืนและฝ้ำเพดำนต่ำง ๆ บวั ป้ันปูน ไมแ้ กะสลกั
หรือกำรฉลุต่ำง ๆ รวมท้งั งำนอลั ลอยด์ ควรตรวจท้งั ด้ำนฝี มือ ควำมประณีต และควำมงำมตำมลกั ษณะแห่ง
ศิลปะน้นั ๆ ดว้ ยสำหรับกำรตรวจงำนท่ีตอ้ งใชค้ วำมรู้ในเทคนิคเฉพำะอยำ่ ง เช่น กำรเช่ือม (welding) งำนระบบ
เครื่องกลประกอบอำคำรต่ำง ๆ งำนระบบไฟฟ้ำ งำนปรับอำกำศ ฯลฯ ผตู้ รวจงำนจะตอ้ งมีควำมรู้ในเร่ืองต่ำง ๆ
เหล่ำน้ีอย่ำงกวำ้ งขวำง เพรำะกำรตรวจเป็ นกำรมุ่งหำคุณภำพ ควำมปลอดภยั และควำมคงทนถำวร เป็ นสำคญั
ปัจจุบนั เคร่ืองมือและเคร่ืองจกั รในงำนก่อสร้ำงมีหลำยประเภท แตล่ ะประเภทกเ็ หมำะสำหรับหนำ้ ท่ีใชส้ อยต่ำง
ๆ กัน เครื่องจักรกลเหล่ำน้ีมีท้ังคุณและโทษ หำกกำรติดต้ัง กำรติดต้ังกำรใช้งำน กำรร้ือถอน รวมท้ังกำร
บำรุงรักษำ ไมถ่ ูกตอ้ งตำมวิธีที่ผผู้ ลิตแนะนำไวใ้ นคู่มือประจำเคร่ืองน้นั ๆ ก็อำจจะก่อให้เกิดควำมเสียหำยท้งั ต่อ
งำนก่อสร้ำงรวมถึงผูป้ ฏิบตั ิงำนได้ โดยปกติเคร่ืองจกั รกลทุ่นแรงเหล่ำน้ี จะต้องมีกำรตรวจสอบส่วนต่ำงๆ