The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอนวิชาการควบคุมและวางแผนก่อสร้างงานโยธา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jaruwan, 2022-05-05 04:01:33

เอกสารประกอบการสอนวิชาการควบคุมและวางแผนก่อสร้างงานโยธา

เอกสารประกอบการสอนวิชาการควบคุมและวางแผนก่อสร้างงานโยธา

1. ระบบใชถ้ งั พกั น้ำ ระบบน้ีเหมำะสำหรับบำ้ น ซ่ึง มีแรงดนั น้ำไมม่ ำกพอ จะชำระได้ สะอำดกวำ่ แต่ตอ้ งรอให้น้ำ
เตม็ ถงั ก่อ มีรำคำคอ่ นขำ้ งจะแพงกวำ่ เพรำะมีระบบซบั ซอ้ น กำรซ่อมบำรุงจะยงุ่ ยำกกวำ่ มีสีสนั และแบบใหเ้ ลือก
มำกกวำ่
2. ระบบฟลชั วำลว์ (FLUSH VALVE) ระบบน้ี จะเหมำะกบั บำ้ นท่ีมีแรงดนั น้ำสูง อำจตอ้ งใชเ้ คร่ืองปั๊มน้ำช่วย
ดว้ ย ไม่มีส่วนถงั เก็บน้ำ จึงทำใหร้ ะบบไม่ซบั ซอ้ น ดูแลรักษำ งำ่ ย ใชง้ ำนไดร้ วดเร็ว ไมต่ อ้ งรอใหน้ ้ำเตม็ ถงั ก่อน มี
รำคำถูก กวำ่ แต่มีแบบให้เลือก ไมม่ ำกนกั และทอ่ น้ำต่ำงๆ ที่ใชก้ บั ระบบน้ีตอ้ งใหญ่กวำ่
- ปัญหำเสียงลมดงั และรำดน้ำไมล่ ง
เสียงท่ีเกิดในหอ้ งน้ำเน่ืองจำกกำรไหลยอ้ นของลมและกำ๊ ซท่ีเกิดจำกทอ่ โสโครก เมื่อ กำรระบำยอำกำศไม่เพียงพอ
จึงเกิดกำรไหลยอ้ นกลบั ของก๊ำซ จึงทำใหเ้ กิดเสียงดงั มีวธิ ีแกไ้ ขกค็ อื ใหเ้ พ่ิมท่ออำกำศเหนือท่อโสโครก เมื่อน้ำ
ไหลเขำ้ อำกำศจำกทอ่ โสโครก จะถกู ดนั ออกทำงทอ่ อำกำศสูงเบ้ืองบนทำใหก้ ำรระบำยอำกำศเพียงพอ ลม หรือ
กำ๊ ซจะไม่ไหล ยอ้ นทำใหเ้ กิดเสียงดงั และกจ็ ะเป็นผลทำใหก้ ำรรำดน้ำ ลงได้ สะดวกดว้ ย
- ปัญหามกี ลนิ่ เหมน็ และเตม็ บ่อย
กำรเกิดกล่ินยอ้ น เน่ืองจำกขอ้ งอท่ีเกบ็ น้ำสำหรับ ดกั กลิ่นของส้วมแตกชำรุด ทำใหน้ ้ำ ไหลออกไปหมด กล่ิน
เหมน็ จึงยอ้ นข้ึนมำ วธิ ีแกไ้ ขก็คงตอ้ งซ่อมหรือเปลี่ยนอปุ กรณ์ ตวั ใหม่เลย ส่วนกรณีสว้ มเตม็ บอ่ ย อำจเกิดจำก
ขนำดของบ่อ เกรอะบอ่ ซึมเลก็ เกินไป หรือบ่อซึมอยใู่ นบริเวณท่ีมีน้ำมำก และในกรณีที่บอ่ เกรอะใชเ้ คร่ืองกล ก็
อำจลืมเสียบปลก๊ั กไ็ ด้
- ส้วมสาเร็จรูป
วธิ ีกำรกค็ อื ใชก้ ำรอดั ออกซิเจนเขำ้ ไปเล้ียงแบคทีเรียเพอื่ ทำปฏิกิริยำทำงชีวเคมี ใหน้ ้ำเสียกลำยเป็นน้ำดีวิธีน้ีจะทำ
ใหไ้ ม่เกิดกล่ินเหมน็ ส่วนกำกตะกอนกจ็ ะทำปฏิกิริยำ ยอ่ ยสลำยตวั เองไปเรื่อยๆดว้ ยวธิ ีน้ีจึงไมต่ อ้ งสูบสว้ มบ่อยๆ
เหมือนกบั ระบบบ่อเกรอะบ่อซึม เพรำะสำมำรถทำลำยตะกอนดว้ ยตนเองเพยี งแต่ใช้ เครื่องอดั อำกำศเขำ้ ไป ช่วย
ใหเ้ กิดปฏิกิริยำเท่ำน้นั

- บ่อดักไขมันสาเร็จรูป
บ่อดกั ไขมนั สำเร็จรูป สำมำรถตอ่ เขำ้ กบั ทอ่ น้ำทิ้ง ที่มำจำกหอ้ งครัว และส่วนซกั ลำ้ งได้ เลย ผลิตจำกไฟเบอร์
กลำส จึงมีควำมทนทำนไม่ร่ัวซึม สำมำรถดกั ไขมนั ไดม้ ำกกวำ่ 60 % กำรทำงำนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1. ทอ่ น้ำเขำ้ เม่ือน้ำเสียไหลสู่บอ่ ดกั ไขมนั จะมี ตะแกรงสแตนเลส ดกั เศษอำหำรและ ครำบไขมนั
2. ส่วนแยกไขมนั เมื่อน้ำเสียเขำ้ สู่ส่วนน้ีจะชำ้ ลง ทำใหไ้ ขมนั ลอยตวั สู่ผวิ หนำ้

3. ส่วนระบำยไขมนั เมื่อไขมนั แยกจำกน้ำเสีย ก็ จะสำมำรถระบำยไขมนั ทิ้งได้ โดยน้ำที่เหลือก็จะระบำยสู่ ทอ่
สำธำรณะตอ่ ไป
- ถังเกบ็ นา้ ใต้ดนิ
ถำ้ ไมจ่ ำเป็นจริงๆไม่ควรทำถงั ใตด้ ิน ควรจะวำงบนพ้ืนดินจะดีกวำ่ แตถ่ ำ้ ไม่มีท่ีจริงๆก็ตอ้ งระวงั เป็นพเิ ศษเพรำะ
กำร ทรุดตวั ของถงั น้ำใตด้ ินกบั ตวั อำคำรจะไม่เท่ำกนั เพรำะถงั น้ำใชเ้ ขม็ ส้ัน ดงั น้นั ท่อน้ำต่ำงๆท่ีต่อไวก้ อ็ ำจแตก
ไดแ้ ละขอ้ สำคญั เรำไมม่ ี สิทธ์ิจะรู้ไดจ้ นกวำ่ บิลค่ำน้ำจะมำเกบ็
- ถงั เกบ็ น้าบนดาดฟ้า
โดยปกติถำ้ บำ้ นมีพ้นื ท่ีสำหรับวำงถงั ไวด้ ำ้ นลำ่ งแลว้ ป๊ัมน้ำข้นึ ไปใชก้ ส็ ำมำรถทำได้ เพรำะไม่ตอ้ งใชก้ ำลงั ในกำร
ปั๊มมำกนกั แต่ถำ้ บำ้ นมีหลำยช้นั และมีพ้ืนท่ีบริเวณดำด ฟ้ำ ก็ ควรนำถงั ไวบ้ นดำดฟ้ำ แลว้ ป๊ัมน้ำไปเก็บไวด้ ำ้ นบน
แลว้ ปล่อย ลงมำตำมแรงโนม้ ถ่วง ซ่ึงจะทำใหป้ ั๊มน้ำตวั ลำ่ งไมต่ อ้ งทำงำน ตลอดเวลำ แตส่ ่ิงท่ีควรระวงั สำหรับ กำร
ติดต้งั ถงั เกบ็ น้ำบนดำด ฟ้ำก็คือ ตำแหน่งที่ติดต้งั เพรำะควรอยใู่ นที่ลบั หูลบั ตำ เพรำะ จะทำใหอ้ ำคำรขำดควำมงำม
แลว้ ท่ีสำคญั ตอ้ งเตรียมโครงสร้ำง ไวร้ องรับดว้ ย
- ความแตกต่างของเคร่ืองทานา้ อ่นุ กบั นา้ ร้อน
เครื่องทำน้ำอุ่น เคร่ืองชนิดน้ีจะทำไดแ้ ค่น้ำอุ่นเทำ่ น้นั จะมีจุดจ่ำยน้ำเพียงจุดเดียว เช่น ฝักบวั อำบน้ำ ไม่มีกำรแยก
ก๊อกน้ำร้อนและน้ำเยน็ รำคำจะถกู กวำ่ เครื่องทำน้ำร้อนจะทำใหน้ ้ำร้อนไดเ้ ร็วและเป็นจำนวนมำก จะใชก้ บั อ่ำง
อำบน้ำและอ่ำงลำ้ งมือ มี หลำยจุดก็ได้ กำรจ่ำยน้ำจะแยกออกเป็นก๊อกน้ำร้อนและน้ำเยน็ เวลำใชต้ อ้ งเปิ ด ท้งั 2
ก๊อกเพอื่ ใหน้ ้ำผสมกนั ท่อสำหรับน้ำร้อนตอ้ งเป็นท่อโลหะเพรำะมีควำมร้อนมำก รำคำค่อนขำ้ งแพง

สรุปวธิ ีการตรวจสอบงานสุขาภิบาล

❖ ตรวจสอบงำนฐำนรำกของถังกรองน้ำ ถังตกตะกอน
และถงั เก็บน้ำ ให้ถูกตอ้ งตำมรูปแบบ ตอ้ งตำมรูปแบบ
ตอ้ งควบคุมกำรตอกเสำเข็ม บดอดั ดิน ผูกเหลก็ และเท
คอนกรีตฐำนรำกให้ถูกตอ้ งเพ่ือควำมมน่ั คงแข็งแรงและ

❖ ตรวจสอบกำรผูกเหล็กเสริมงำนโครงสร้ำงของถงั กรอง
น้ำ ถงั ตะกอน และถงั เก็บน้ำให้ถูกตอ้ งตำมชนิด ขนำด
และตำแหน่ง จดั เหล็กและต่อเหลก็ ให้ถูกวิธี ใส่แผ่นยำง
กนั น้ำในจุดที่มีกำรหยดุ คอนกรีตเพื่อป้องกนั กำรรั่วซึม

❖ ตรวจสอบขนำด ระยะ และตำแหน่งของถงั กรองน้ำ ถงั
ตะกอน และถังเก็บน้ำให้ถูกตอ้ งตำมที่ระบุไวใ้ นแบบ
ตลอดจนอุปกรณ์ประกอบตำ่ งๆใหม้ ีกำรติดต้งั อยำ่ งถูกวิธี
และครบถ้วน สำมำรถใช้งำนได้ตำมวัตถุประสงค์ที่
ตอ้ งกำร

❖ ตรวจสอบสภำพทว่ั ไปของถงั น้ำวำ่ มีชำรุดทรุดตวั หรือไม่
ตรวจหำรอยร้ำวบริเวณรอบๆตวั ถงั ซ่ึงอำจเป็ นสำเหตุให้
น้ำรั่วซึมออกไป หรือน้ำสกปรกภำยนอกไหลเขำ้ มำ ซ่ึง
ถำ้ พบตอ้ งหำทำงแกไ้ ขใหเ้ ป็นปกติโดยเร็ว

❖ ตรวจชนิด ขนำด และระยะรูของแผน่ กรองน้ำใหถ้ ูกตอ้ ง
ตำมที่กำหนดไว้ รวมท้ังกำรติดต้งั ให้มีควำมหนำแน่น
แขง็ แรงสำหรับกรองเศษวสั ดุต่ำงๆได้ ควำมหนำของแผน่
กรองจะตอ้ งไดข้ นำดตำมท่ีกำหนดไวใ้ นแบบ

❖ ตรวจกำรจดั เตรียมช่องระบำยน้ำและจุดเชื่อมบรรจบของ
ท่อและทำงส่งน้ ำให้ทำงำนได้ตำมที่ต้องกำร ขนำด
จำนวน ระดบั และควำมลำดเทของท่อต่ำงๆจะตอ้ งเป็นไป
ตำมท่ีกำหนดไวใ้ นแบบเพอื่ ใหร้ ะบบทำงำนไมต่ ิดขดั

❖ ควบคุมงำนกำรเทคอนกรีตของถงั กรองน้ำ ถงั ตกตะกอน
และถงั เก็บน้ำให้ถูกวิธี กำลงั คอนกรีตไดต้ ำมกำหนด จ้ี
คอนกรีตใหแ้ น่นสม่ำเสมอ ไม่มีรูพรุน หรือเป็นโพรงที่จะ
รั่วซึม ใส่แผน่ ยำงกนั น้ำท่ีรอยต่อคอนกรีต

❖ ตรวจชนิด ขนำด จำนวน และคุณภำพของหม้อแปลง
ไฟฟ้ำที่ใชก้ บั ระบบกรองน้ำให้ถูกตอ้ งตำมกำหนด ตรวจ
ควำมแขง็ แรงของฐำนท่ีต้งั และใหถ้ ูกตำแหน่ง ตรวจแนว
กำรเดินสำยไฟ ทำร้ัวก้นั โดยรอบและติดป้ำยเตือนไม่ให้
เขำ้ ใกล้

❖ ตรวจสภำพเสำตอมอ่ ท่ีรองรับถงั ตำ่ งๆของระบบ

❖ ตำแหน่งระดบั โครงสร้ำงทุกส่วนถูกตอ้ งตำมแบบ

❖ ระวงั งำนถมดินอยำ่ ใหเ้ ป็นอนั ตรำยตอ่ โครงสร้ำง
❖ ซ่อมผวิ คอนกรีตดว้ ยวสั ดุและวธิ ีกำรที่ไดร้ ับอนุมตั ิ
❖ เสริมเหลก็ ถกู ตอ้ งตำมขนำด จำนวน ตำแหน่ง
❖ ตรวจรวยร้ำวที่อำจเกิดกำรทรุดตวั ของถงั
❖ ขนำดและจำนวนถงั เก็บน้ำถูกตอ้ งตำมแบบระบุ

❖ ชนิดและกำรบรรจุวสั ดุกรองถูกตอ้ งตำมกำหนด
❖ ตรวจสอบยดึ ทอ่ ใหแ้ ขง็ แรงมน่ั คงตอ่ กำรใชง้ ำน
❖ ตรวจสอบแนวท่อและกำรร้อยสำยไฟในท่อใหถ้ ูกตอ้ ง
❖ ขอ้ ต่อทกุ ตำแหน่งตอ้ งมีควำมแขง็ แรงไม่รั่วซึม
❖ วำลว์ ในทอ่ ตำมจุดตำ่ งๆทกุ ตวั ทำงำนไดป้ กติ

❖ ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งของแผงควบคมุ ระบบกรองน้ำ
❖ ทดสอบกำรใชง้ ำนของแผงควบคมุ วำ่ ใชก้ ำรไดด้ ี
❖ ตรวจกำรทำงำนของเคร่ืองจกั รและอุปกรณ์ตำ่ งๆ
❖ ตรวจกำรติดต้งั สำยลอ่ ฟ้ำ สำหรับโครงสร้ำงสูง
❖ ทดสอบกำรทำงำนของระบบกรองน้ำท้งั หมด

ใบงานท่ี10 หน่วยท่ี 10
สอนคร้ังที่10
วิชา การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101 เวลา 3 ช่ัวโมง
ชื่อหน่วย งานระบบสุขาภิบาล
ชื่องาน งานระบบสุขาภิบาล

จุดประสงค์
เมื่อฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยควำมรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั ระบบสุขำภิบำลได้
2. อธิบำยกำรตรวจสอบก่อนกำรก่อสร้ำงได้
3. อธิบำยกำรตรวจสอบขณะทำกำรก่อสร้ำงได้

เครื่องมือ - อปุ กรณ์
1.เอกสำรใบงำน

ลาดับข้นั การปฏบิ ัติงาน
1. ครูบอกวธิ ีและประโยชน์ของงำนระบบสุขำภิบำล
2. ครูอธิบำยขอ้ ควรระวงั ในกำรใชง้ ำน และจุดที่ตอ้ งระวงั เป็นพิเศษของเครื่องมือ
แต่ละชิ้น
3. ครูสำธิตวธิ ีใชเ้ คร่ืองมือในงำนสุขำภิบำลโดยสังเขป
4. ใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมือสำรวจชนิดต่ำงๆ
5. ใหน้ กั ศึกษำสรุปกำรใชง้ ำนและกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมือสำรวจ โดยรำยงำนใน
สมุดสนำม

การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยควำมรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั ระบบสุขำภิบำลได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน

แบบประเมนิ ผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 10 เร่ือง งานระบบสุขาภบิ าล

คาสั่ง จงทำเคร่ืองหมำย  หนำ้ คำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว
1. ระบบสุขำภิบำลในบำ้ นประกอบไปดว้ ยอะไรบำ้ ง

ก. ระบบประปำ

ข. ระบบทอ่ ระบำยน้ำทิง้
ค. ระบบทอ่ ระบำยอำกำศ

ง. ถกู ทกุ ขอ้

2. หำกมีควำมจำเป็นตอ้ งใชเ้ คร่ืองสูบน้ำ เพ่ือใหม้ ีแรงดนั มำกข้ึนควรออกแบบอยำ่ งไร
ก. เดินท่อประปำลอดถนนใหฝ้ ังปลอกทอ่ เหลก็ ใตถ้ นน

ข. ตอ้ งใหม้ ีถงั เกบ็ น้ำและใหเ้ ดินท่อจำกกำรประปำมำจ่ำยน้ำใหถ้ งั เก็บน้ำ
ค. ถงั เกบ็ น้ำก็จะตอ้ งมีขนำดเหมำะสมกบั ขนำดของบำ้ น
ง. สูบน้ำจำกท่อท่ีต่อกบั ทอ่ ของกำรประปำโดยตรง
3. กำรเลือกเคร่ืองทำน้ำร้อนควรเลือกแบบใด
ก. แบบไมม่ ีหมอ้ พกั

ข. แบบมีหมอ้ พกั

ค.ใชก้ ำลงั ไฟฟ้ำที่ประมำณ 5 กิโลวตั ต์

ง. ถูกท้งั ขอ้ ก. และ ค.

4.เครื่องทำน้ำอุ่นจะช้ำลงั ไฟฟ้ำอยทู่ ี่ประมำณเท่ำไร

ก. 2 กิโลวตั ต์ ข. 3 กิโลวตั ต์

ค. 4 กิโลวตั ต์ ง. 5 กิโลวตั ต์

5.ขอ้ ควรในกำรพจิ ำรณำเลือกเครื่องทำน้ำร้อนน้ำอุ่นคือขอ้ ต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด

ก. มีเคร่ืองตดั ไฟร่ัวอยใู่ นตวั

ข. เลือกยหี่ อ้ ท่ีมีชื่อเสียง

ค. มีมำตรฐำนรองรับ

ง. เลือกท่ีรำคำถูกและรูปลกั ษณ์สวย

6. กำรเดินท่อแนวนอนตอ้ งมีควำมลำดเอียงอยำ่ งนอ้ ยเท่ำไร

ก. 1:100 (1เมตร/ 1ซ.ม.) ข. 2:100 (2เมตร/ 1ซ.ม.)

ค. 3:100 (3เมตร/ 1ซ.ม.) ง. 4:100 (4เมตร/ 1ซ.ม.)

7. ที่ดกั กล่ินที่ดีจะตอ้ งมีคุณสมบตั ิหลกั คอื

ก. สำมำรถถอดลำ้ งเอำขยะออกไดส้ ะดวก

ข. สำมำรถขงั น้ำไดส้ ูงพอประมำณ

ค.มีช่องระบำยน้ำท่ีพ้ืน

ง. ถกู ทกุ ขอ้ ที่กลำ่ วมำ

8. น้ำทิ้ง(Waste Water) คือ

ก. น้ำเสียจำกกำรชำระลำ้ งอำบน้ำ โดยจะระบำยสู่สำธำรณะโดยแรงโนม้ ถว่ ง

ข. น้ำเสียจำกสุขภณั ฑต์ ำ่ งๆเช่น โถปัสสำวะส้วม เป็นตน้

ค. น้ำเสียที่ไมส่ ำมำรถนำมำชำระลำ้ งส่ิงตำ่ งๆไดแ้ ลว้

ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู

9. ขอ้ เสียของบ่อเกรอะบอ่ ซึมคืออะไร

ก. มีควำมยงุ่ ยำกในกำรก่อสร้ำง

ข. ส่งกล่ินเหมน็ รบกวนบริเวณใกลเ้ คยี ง

ค.จะตอ้ งต้งั อยหู่ ่ำงจำกแหล่งน้ำท่ีใชใ้ นกำรอปุ โภคบริโภค

ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถูก

10. อตั รำกำรเกิดของกำกตะกอนในบอ่ เกระบ่อซึมอยทู่ ี่เท่ำไรต่อคนต่อวนั

ก. 1 ลิตร/คน/วนั ข. 2 ลิตร/คน/วนั

ค. 3 ลิตร/คน/วนั ง. 4 ลิตร/คน/วนั

ตอนท่ี 2 คาส่ัง จงทำอธิบำยในหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1.จงอธิบำยเกี่ยวกบั ลกั ษณะของบอ่ เกระวำ่ มีลกั ษณะอยำ่ งไรและมีกำรทำงำนอยำ่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….

2. จงบอกวธิ ีกำรใชง้ ำนและกำรดูแลรักษำบ่อเกระมำพอเขำ้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………….............
3.จงบอกขอ้ ดีขอ้ เสียของวสั ดุต่อไปน้ีมำพอเขำ้ ใจ
3.1โถสว้ มชนิดนง่ั ยอง
ขอ้ ดี…………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสีย………………………………………………………………………………………………..
3.2โถสว้ มชนิดนงั่ รำบ
ขอ้ ดี…………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสีย………………………………………………………………………………………………..
4.จงอธิบำยระบบน้ำท่ีใชก้ บั โถส้วมมำอยำ่ งละเอียด
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
5.อธิบำยควำมแตกตำ่ งของเคร่ืองทำน้ำอนุ่ กบั น้ำร้อนมำพอเขำ้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………….
6.จงอธิบำยเกี่ยวกบั กำรตรวจสอบดำ้ นงำนสุขำภิบำล
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….

แบบประเมินผลหลงั เรียนหน่วยท่ี 10 เร่ือง งานระบบสุขาภิบาล

คาสั่ง จงทำเครื่องหมำย  หนำ้ คำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว
1. ระบบสุขำภิบำลในบำ้ นประกอบไปดว้ ยอะไรบำ้ ง

ก. ระบบประปำ

ข. ระบบท่อระบำยน้ำทิง้
ค. ระบบท่อระบำยอำกำศ

ง. ถกู ทกุ ขอ้

2. หำกมีควำมจำเป็นตอ้ งใชเ้ คร่ืองสูบน้ำ เพื่อใหม้ ีแรงดนั มำกข้ึนควรออกแบบอยำ่ งไร
ก. เดินท่อประปำลอดถนนใหฝ้ ังปลอกท่อเหลก็ ใตถ้ นน

ข. ตอ้ งใหม้ ีถงั เกบ็ น้ำและใหเ้ ดินทอ่ จำกกำรประปำมำจ่ำยน้ำใหถ้ งั เกบ็ น้ำ
ค. ถงั เกบ็ น้ำกจ็ ะตอ้ งมีขนำดเหมำะสมกบั ขนำดของบำ้ น
ง. สูบน้ำจำกทอ่ ท่ีต่อกบั ทอ่ ของกำรประปำโดยตรง
3. กำรเลือกเคร่ืองทำน้ำร้อนควรเลือกแบบใด
ก. แบบไม่มีหมอ้ พกั

ข. แบบมีหมอ้ พกั
ค.ใชก้ ำลงั ไฟฟ้ำที่ประมำณ 5 กิโลวตั ต์

ง. ถูกท้งั ขอ้ ก. และ ค.

4.เคร่ืองทำน้ำอุ่นจะช้ำลงั ไฟฟ้ำอยทู่ ่ีประมำณเทำ่ ไร ข. 3 กิโลวตั ต์
ก. 2 กิโลวตั ต์ ง. 5 กิโลวตั ต์
ค. 4 กิโลวตั ต์

5.ขอ้ ควรในกำรพจิ ำรณำเลือกเครื่องทำน้ำร้อนน้ำอนุ่ คือขอ้ ต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. มีเคร่ืองตดั ไฟรั่วอยใู่ นตวั
ข. เลือกยหี่ อ้ ที่มีช่ือเสียง

ค. มีมำตรฐำนรองรับ

ง. เลือกที่รำคำถูกและรูปลกั ษณ์สวย

6. กำรเดินท่อแนวนอนตอ้ งมีควำมลำดเอียงอยำ่ งนอ้ ยเท่ำไร

ก. 1:100 (1เมตร/ 1ซ.ม.) ข. 2:100 (2เมตร/ 1ซ.ม.)

ค. 3:100 (3เมตร/ 1ซ.ม.) ง. 4:100 (4เมตร/ 1ซ.ม.)

7. ท่ีดกั กลิ่นที่ดีจะตอ้ งมีคุณสมบตั ิหลกั คือ

ก. สำมำรถถอดลำ้ งเอำขยะออกไดส้ ะดวก

ข. สำมำรถขงั น้ำไดส้ ูงพอประมำณ

ค.มีช่องระบำยน้ำท่ีพ้นื

ง. ถูกทกุ ขอ้ ที่กล่ำวมำ

8. น้ำทิง้ (Waste Water) คือ

ก. น้ำเสียจำกกำรชำระลำ้ งอำบน้ำ โดยจะระบำยสู่สำธำรณะโดยแรงโนม้ ถว่ ง

ข. น้ำเสียจำกสุขภณั ฑต์ ำ่ งๆเช่น โถปัสสำวะส้วม เป็นตน้

ค. น้ำเสียที่ไมส่ ำมำรถนำมำชำระลำ้ งสิ่งต่ำงๆไดแ้ ลว้

ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก

9. ขอ้ เสียของบ่อเกรอะบอ่ ซึมคอื อะไร

ก. มีควำมยงุ่ ยำกในกำรก่อสร้ำง

ข. ส่งกลิ่นเหมน็ รบกวนบริเวณใกลเ้ คียง

ค.จะตอ้ งต้งั อยหู่ ่ำงจำกแหล่งน้ำท่ีใชใ้ นกำรอุปโภคบริโภค

ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก

10. อตั รำกำรเกิดของกำกตะกอนในบ่อเกระบอ่ ซึมอยทู่ ี่เท่ำไรตอ่ คนต่อวนั

ก. 1 ลิตร/คน/วนั ข. 2 ลิตร/คน/วนั

ค. 3 ลิตร/คน/วนั ง. 4 ลิตร/คน/วนั

ตอนท่ี 2 คาส่ัง จงทำอธิบำยในหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี

1.จงอธิบำยเก่ียวกบั ลกั ษณะของบ่อเกระวำ่ มีลกั ษณะอยำ่ งไรและมีกำรทำงำนอยำ่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
2. จงบอกวิธีกำรใชง้ ำนและกำรดูแลรักษำบ่อเกระมำพอเขำ้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………….............
3.จงบอกขอ้ ดีขอ้ เสียของวสั ดุตอ่ ไปน้ีมำพอเขำ้ ใจ
3.1โถส้วมชนิดนงั่ ยอง
ขอ้ ดี…………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสีย………………………………………………………………………………………………..
3.2โถส้วมชนิดนงั่ รำบ
ขอ้ ดี…………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสีย………………………………………………………………………………………………..
4.จงอธิบำยระบบน้ำท่ีใชก้ บั โถส้วมมำอยำ่ งละเอียด
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
5.อธิบำยควำมแตกต่ำงของเครื่องทำน้ำอุ่นกบั น้ำร้อนมำพอเขำ้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………….
6.จงอธิบำยเก่ียวกบั กำรตรวจสอบดำ้ นงำนสุขำภิบำล
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชา การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหสั วิชา 30121-2101

หน่วยท่ี 11 เรื่อง งานไฟฟ้า งานระบบส่ือสาร เวลา 3 ชั่วโมง

หัวเร่ือง-หวั ข้อย่อย
11.1 ควำมรู้พ้นื ฐำนในกำรตรวจงำนดำ้ นวศิ วกรรมไฟฟ้ำ
11.2 ตรวจสอบระบบงำนไฟฟ้ำและระบบสื่อสำร
11.3 ข้นั ตอนกำรตรวจสอบและกำรทดสอบงำนวศิ วกรรมไฟฟ้ำ

สาระสาคญั
1. ภำยในและภำยนอกอำคำรมีงำนติดต้งั ท้งั ระบบไฟฟ้ำแรงสูง แรงต่ำ ระบบไฟฟ้ำส่ือสำร ไฟฟ้ำกำลงั

ผตู้ รวจสอบแลผคู้ วบคมุ งำนจะตอ้ งศึกษำขอบขำ่ ยและวตั ถุประสงคใ์ นกำรตรวจสอบงำนทำงดำ้ น
วิศวกรรมไฟฟ้ำโดยละเอียด เพื่อใหง้ ำนติดต้งั ระบบไฟฟ้ำดำเนินงำนไปดว้ ยควำมเรียบร้อย รวดเร็วถูกตอ้ งตำม
หลกั วิชำ นอกจำกน้ี ผคู้ วบคุมงำนจะตอ้ งศึกษำ กฎระเบียบของทำงรำชกำรท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งำนวิศวกรรมไฟฟ้ำ
พร้อมมำตรฐำนของวสั ดุอุปกรณ์ สัญลกั ษณ์ กำรติดต้งั ระบบไฟฟ้ำใหเ้ ขำ้ ใจเพรำะเป็นสำระสำคญั ท่ีจะตอ้ ง
ดำเนินกำรจดั หำวสั ดุอุปกรณ์ไฟฟ้ำ และตรวจสอบกำรทำงำนใหเ้ กิดควำมปลอดภยั ในกำรปฏิบตั ิงำน

2. ในกำรตรวจสอบงำนระบบไฟฟ้ำและระบบส่ือสำร ผคู้ วบคมุ งำนตอ้ งเขำ้ ใจงำนระบบตำ่ งๆเป็นอยำ่ ง
ดีตอ้ งตรวจสอบถึงระบบถึงระบบกำรติดต้งั วำ่ ควรจะติดต้งั ระบบใดก่อนหลงั และตอ้ งตรวจสอบเบ้ืองตน้
ระหวำ่ งงำนระบบไฟฟ้ำ ระบบสื่อสำรเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ระบบอ่ืนๆโดยตรวจสอบจำกแบบขยำยจริงท่ีขอ
อนุมตั ิ ซ่ึงงำนน้ีมีอปุ กรณ์มำกมำยจึงจำเป็นตอ้ งตรวจสอบใหถ้ ูกตอ้ งตำมแบบอยำ่ งเคร่งครัด

3. ในระหวำ่ งกำรติดต้งั ระบบไฟฟ้ำ จะตอ้ งมีกำรตรวจสอบเป็นข้นั ตอน เช่น กำรตรวจสอบก่อนกำร
ติดต้งั ตรวจสอบขณะทำกำรติดต้งั และกำรตรวจสอบหลงั กำรติดต้งั ท้งั น้ีเพ่ือใหเ้ กิดติดต้งั ระบบไฟฟ้ำใชง้ ำน
ไดด้ ีตำมวตั ถุประสงค์ ซ่ึงกำรตรวจสอบจะตอ้ งใชผ้ ทู้ ่ีมีควำมรู้ควำมชำนำญและมีประสบกำรณ์ จึงจะทำใหก้ ำร
ตรวจงำนมีประสิทธิภำพและถกู ตอ้ งตำมหลกั วิชำ

จุดประสงค์การเรียน การสอน
จุดประสงค์ท่วั ไป
เม่ือศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยควำมรู้พ้นื ฐำนในกำรตรวจงำนดำ้ นวศิ วกรรมไฟฟ้ำได้
2. กำรตรวจสอบงำนระบบไฟฟ้ำและระบบส่ือสำร
3. ข้นั ตอนกำรตรวจสอบและกำรทดสอบงำนวศิ วกรรมไฟฟ้ำ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1.อธิบำยขอบข่ำยและวตั ถุประสงคใ์ นกำรตรวจงำนดำ้ นวิศวกรรมไฟฟ้ำได้
2.อธิบำยกฎระเบียบ มำตรฐำนและสัญลกั ษณ์ทำงไฟฟ้ำได้
3.อธิบำยระบบไฟฟ้ำสำหรับอำคำรได้

กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำยควำมควำมหมำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนไฟฟ้ำ งำนระบบส่ือสำร เพ่อื นำเขำ้ สู่
บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มลู
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เรื่องงำนไฟฟ้ำ งำนระบบสื่อสำร หวั ขอ้ ต่ำงๆใน
เอกสำรประกอบกำรสอน

2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้ืนฐำน หนำ้ ท่ี และงำนไฟฟ้ำ งำนระบบส่ือสำร ของ
นกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้ันสรุป
สรุปสำระสำคญั เรื่องงำนไฟฟ้ำ งำนระบบส่ือสำร และสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน

กจิ กรรมนักศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลุม่ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมที่ครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

ส่ือการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคมุ และวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. ส่ือแผน่ ใส และสื่อนำเสนอ (Presentation)
3. ส่ือ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้

ประเมินผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

บรรณานุกรม

บันทกึ หลงั การสอน

หน่วยที่ 11
งานไฟฟ้า งานระบบส่ือสาร

11.1 ควำมรู้พ้นื ฐำนในกำรตรวจงำนดำ้ นวิศวกรรมไฟฟ้ำ
ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

วธิ ีกำรเดินสำยไฟฟ้ำ แบ่งออกได้ 2 แบบ คือแบบเดินบนผนงั และแบบฝังในผนงั

1. กำรเดินสำยไฟบนผนงั
กำรเดินสำยไฟแบบน้ีจะมองเห็นสำยไฟ อำจทำใหด้ ูไม่เรียบร้อย ไม่สวยงำม หำกช่ำงเดินสำยไฟไม่เรียบตรง ยง่ิ
จะเสริมให้ดูไม่เรียบร้อย ตกแต่งห้องให้ดูสวยงำมยำก มีข้อดีที่ค่ำใช้จ่ำยถูกกว่ำแบบฝังในผนัง สำมำรถ
ตรวจสอบและซ่อมแซมไดง้ ่ำย

2. กำรเดินแบบฝังในผนงั
กำรเดินแบบฝังในผนังเป็นกำรเดินสำยไฟโดยร้อยสำยผำ่ นท่อสำยไฟซ่ึงฝังในผนงั อำคำร ทำใหด้ ูเรียบร้อยและ
ตกแต่งหอ้ งไดง้ ่ำย เพรำะมองไม่เห็นสำยไฟจำกภำยนอก กำรเดินท่อร้อยสำยตอ้ งทำควบคู่ไปพร้อมกำรก่อ-ฉำบ
ไม่ควรประหยดั หรือปลอ่ ยให้มีกำรลกั ไก่โดยกำรเดินสำยไฟแบบฝังในผนงั โดยไมร่ ้อยใส่ทอ่ ร้อยสำยไฟ เพรำะ
หำกเกิดไฟร่ัว อำจเกิดอุบตั ิเหตุกบั ผูอ้ ำศยั เมื่อไปสัมผสั กำแพง กำรติดต้งั มีค่ำใชจ้ ่ำยสูงกว่ำแบบเดินสำยบนผนัง

กำรติดต้งั มีควำมยุ่งยำกและซับซ้อนำ กำรเปล่ียนแปลงและซ่อมแซมภำยหลงั จำกที่ไดต้ ิดต้งั ไปแลว้ ทำไดย้ ำก
และเสียค่ำใชจ้ ่ำยมำกกวำ่ แบบแรกมำก

ข้อแนะนาในการออกแบบระบบวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
ระบบวงจรไฟฟ้ำภำยในบำ้ น ควรแยกวงจรควบคุมพ้ืนท่ีต่ำงๆ เป็นส่วนๆ เช่น แยกตำมช้นั หรือแยกตำมประเภท
ของกำรใชไ้ ฟฟ้ำ ทำใหง้ ่ำยต่อกำรซ่อมแซมในกรณีไฟฟ้ำขดั ขอ้ ง ห้องครัวควรแยกไวต้ ะหำกเพรำะหำกตอ้ งดบั
ในบำ้ นไม่เพื่อซ่อมแซม จะไดไ้ ม่ตอ้ งดบั ไฟหอ้ งครัวที่มีตเู้ ยน็ ที่แช่อำหำรไว้ อำหำรจะไดไ้ ม่เสีย

ระบบไฟฟ้าในห้องน้า
หอ้ งน้ำควรจะมีไฟส่องสวำ่ งท่ีหนำ้ กระจกติดกบั อ่ำงลำ้ งหนำ้ และบริเวณกลำงห้องบริเวณส่วนที่อำบน้ำ ไม่ควร
ติดต้งั ต่ำจนถูกน้ำกระเด็นโดนได้ ในกรณีหอ้ งน้ำมีพ้ืนท่ีนอ้ ยอำจพิจำรณำติดต้งั ไฟฟ้ำแสงสวำ่ งท่ีกลำงหอ้ งเพียง
จุดเดียวก็ได้ ส่วนปลกั๊ ควรอยู่ในระดบั ที่สูงพอ เพื่อไม่ให้โดนน้ำ สวิทซ์ปิ ด-เปิ ดควรอยู่นอกห้อง และระบบ
วงจรไฟฟ้ำของหอ้ งน้ำควรมีเบคเกอร์ตดั เป็นกำรป้องกนั ไฟฟ้ำลดั วงจร
วธิ ีการเดินสายไฟฟ้า
ประเภทแรกคือ กำรเดินสำยไฟบนผนังหรือท่ีเรียกวำ่ เดินลอย วิธีน้ีค่ำใช้จ่ำยถูกกว่ำ แต่จะมองเห็นสำยไฟบน
ผนงั ไม่คอ่ ยเรียบร้อย กำรตกแต่งห้องลำบำกกว่ำ แต่สำมำรถตรวจ สอบควำมเสียหำยไดง้ ่ำย รวมท้งั กำรเปล่ียน
สำยไฟกง็ ำ่ ย เพรำะมองเห็น
ประเภทที่สองคือ กำรเดินผ่ำนท่อซ่ึงฝังในผนังอำคำรหรือท่ีเรียกว่ำ เดินร้อยสำยผ่ำนท่อ วิธีน้ีจะได้งำนที่
เรียบร้อย เพรำะมองไม่เห็น จำกภำยนอก ท่อสำยไฟจะฝังอยู่ในผนัง ตอ้ ง ทำพร้อมกำรก่อสร้ำงอำคำร กำร
ตกแต่งห้องจะง่ำยกว่ำและมีท่อป้องกนั สำยไฟไว้ ค่ำใชจ้ ่ำยสูงกวำ่ แบบแรก กำรติดต้งั ก็ยุ่งยำกกวำ่ รวมถึงกำร
ตรวจสอบและกำรเปลี่ยนภำยหลงั ก็ทำได้ ลำบำกกวำ่ แบบแรก
- ระบบไฟฟ้ำภำยในบำ้ น
ระบบไฟฟ้ำภำยในบำ้ น ควรแยกวงจรเป็นส่วนๆ ไว้ เช่น แยกตำมช้นั ต่ำงๆ หำกเกิดไฟฟ้ำขดั ขอ้ งข้นึ ที่ช้นั ไหน ก็
สำมำรถสับคตั เอำท์ ปิ ดไฟเฉพำะส่วนช้นั น้ัน เพื่อซ่อมแซมได้ และที่สำคญั ส่วน ห้องครัว ควรแยกวงจรไว้
ต่ำงหำก ด้วย เวลำไม่อยู่บ้ำนนำนๆ จะได้ปิ ดไฟท้งั หมด เหลือเฉพำะ ส่วนครัวไวต้ ูเ้ ย็นในครัวจะใช้งำนได้
อำหำรตำ่ งๆ จะไดไ้ ม่เสีย

งานระบบส่ือสาร

ระบบโทรศพั ท์ แบ่งเป็นระบบภำยนอกและภำยใน

ระบบโทรศัพท์ภายนอก คือ ระบบที่ใช้เบอร์ โทรศพั ท์ ท่ีติดต่อกบั เบอร์โทรท่ีมีตวั เลข 9 หลกั ท้งั ในกรุงเทพ
ปริมณฑลและส่วนภูมิภำค รวมท้งั ระบบโทรศพั ท์ เคลื่อนท่ีต่ำง ๆ หรือแมแ้ ต่เบอร์โทรศพั ทก์ ำรใหบ้ ริกำรตำ่ ง ๆ
เช่นกำรสั่งอำหำร. โทรสอบถำมเส้นทำง, โทรสอบถำม รำยละเอียด อื่น ๆ กำรใชโ้ ทรศพั ท์ ในรูปแบบน้ี จะตอ้ ง
ทำเรื่องขอใชบ้ ริกำรจำก องคก์ ำรโทรศพั ท์ และบริษทั เอกชนท่ีรับ สมั ปทำนจำกรัฐบำล

ระบบโทรศัพท์ภายใน คือ ระบบท่ีใช้ติดต่อกันเองภำยในบำ้ น, อำคำร หรือภำยในหน่วยงำนระบบน้ีไม่เสีย
ค่ำบริกำรให้กบั ผูใ้ ห้ บริกำร แต่ตอ้ งเสียค่ำใช้จ่ำย อุปกรณ์ตำมปกติแลว้ ระบบโทรศพั ท์ภำยใน และภำยนอก
สำมำรถเช่ือมต่อกันได้ สำมำรถโอนสำย หรือพ่วงสำย ให้โทรศพั ท์ไดห้ ลำยเครื่องตำมตอ้ งกำร เรำสำมำรถมี
เครื่องอำนวยควำมสะดวก ในกำรส่ือสำรภำยในบำ้ นได้ เช่น ระบบเสียง ตำมสำย โดยกำร เดินระบบ เครื่องเสียง
ไดแ้ ก่ ไมโครโฟน และลำโพง กระจำยเสียงไปในส่วนท่ีตอ้ งกำรระบบเสียงตำมสำย อำจไม่ตอ้ งมี ไมโครโฟน
ส่ือสำรก็ได้ แต่อำจเป็นระบบเสียงเรียกแบบดนตรีหรือเสียงกริ่งได้

อนิ เตอร์เนต็ ความเร็วสูง (Boardband)
อินเตอร์เน็ตเป็ นระบบกำรส่ือสำร ที่ทนั สมยั และใช้ประโยชน์ไดห้ ลำกหลำยท่ีสุด ในปัจจุบนั ส่วนประกอบท่ี
สำคญั ในกำรใช้ ระบบ อินเตอร์เนต็ คอื
1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์
2. ระบบโทรศพั ท์
3. โมเดม็ และโปรแกรมใชง้ ำนอินเตอร์เนต็
4. สิทธิในกำรใชอ้ ินเตอร์เน็ต หรือชวั่ โมงกำรใชอ้ ินเตอร์เนต็ จำกผใู้ หบ้ ริกำร หรือ ISP
ในปัจจุบนั มีกำรพฒั นำสำยอินเตอร์เน็ต ควำมเร็วสูงจำกสำยโทรศพั ทธ์ รรมดำเป็นสำยเคเบิลใยแกว้ มีผลให้กำร
คน้ หำขอ้ มลู และกำรใชง้ ำนมีควำมเร็ว เพิ่มข้นึ มำก
กำรใชง้ ำน อินเตอร์เน็ต โดยทว่ั ไปจะตอ้ ง ต่อระบบสำยต่ำงๆ เขำ้ ไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่ำจะเป็นสำยไฟ
ต่ำงๆ โดยเฉพำะ สำยโทรศพั ท์ จะเป็ นส่ิงท่ีขำดไม่ได้ เพรำะขอ้ มูลต่ำงๆ ในกำรใชอ้ ินเตอร์เน็ต จะผ่ำนมำ ทำง
สำยโทรศพั ท์เป็ นหลกั สำหรับ ระบบ คอมพิวเตอร์ในสำนกั งำน ท่ีมีหลำยเครื่องน้ัน สำมำรถเช่ือมต่อระหว่ำง
เคร่ืองใหถ้ ึงกนั ไดโ้ ดยใชร้ ะบบ LAN โดยผำ่ นแม่ข่ำย เฉพำะ หรือ Server ซ่ึงถือเป็น อินเตอร์เน็ต แบบยอ่ ย อยำ่ ง
หน่ึงกำรใช้ระบบ LAN ทว่ั ๆไป จะตอ้ งเดิน ระบบสำยสัญญำณ จำกแม่ข่ำย ไปยงั เคร่ือง คอมพิวเตอร์ แต่ละ

เครื่อง ซ่ึงจะทำให้มี สำยสัญญำณตำ่ งๆ มำกมำย กำรติดต้งั และซ่อมบำรุงทำไดย้ ำก แต่ในปัจจุบนั มี กำรเชื่อมต่อ
ระบบ LAN โดยไม่ตอ้ งใชส้ ำยสญั ญำณ เรียกกนั ว่ำระบบ WI-FI ซ่ึงจะใชก้ บั คอมพิวเตอร์ Note Book เพรำะเป็น
คอมพิวเตอร์ที่ตอ้ ง เคล่ือนยำ้ ยอยู่ตลอดเวลำ ทำให้ไม่ตอ้ งมี สำยสัญญำณระเกะระกะ ถำ้ ระบบแม่ข่ำยกำลงั
เช่ือมต่ออินเตอร์เนต็ อยดู่ ว้ ย คอมพิวเตอร์ เครื่องน้นั กส็ ำมำรถใชง้ ำน อินเตอร์เน็ตไปดว้ ยกนั ไดเ้ ลย

ระบบโทรทัศน์ ท่ีเรำใชง้ ำนตำมปกติเป็น กำรรับสัญญำณภำพ และเสียงจำกสถำนีเครือข่ำยของสถำนีโทรทศั น์
ต่ำงๆ ในประเทศ ทำงช่อง 3,5,7,9,11 และ ITV นอกจำกน้ี ยงั มี สัญญำณโทรทศั น์ ท่ีเก็บค่ำชม โดยสัญญำณ จะ
แพร่มำตำม สำยเคเบิล เคเบิลทีวี เป็นกำรส่งขอ้ มูลจำกตน้ กำเนิดผำ่ น สำยเคเบิลใยแกว้ มำสู่เคร่ืองรับแต่ละส่วน
ซ่ึงแปรออกเป็นภำพ และเสียงผำ่ นทำง เคร่ืองรับโทรทศั น์ และสำมำรถเช่ือมโยงจำก เครื่องหน่ึงสู่เครื่องหน่ึงได้
เคเบิลทีวีมีขอ้ ดีคือภำพคมชดั มีรำยกำรให้รับชมมำก และหลำกหลำยรูปแบบ และทนั เหตุกำรณ์ ซ่ึงลว้ นเป็ น
รำยกำร ท่ีเป็ นที่นิยมของผูร้ ับชมส่วนใหญ่ นอกจำกน้ันยงั มีกำรพ่วง สัญญำณ โทรทศั น์ จำกสถำนีปกติทำให้
สัญญำณมีควำมคมชดั เพรำะไม่ข้ึนกบั สภำพอำกำศในกำรแพร่ภำพ แต่ขอ้ เสียในกำรใชบ้ ริกำร เคเบิลทีวีคือตอ้ ง
เสียค่ำใชจ้ ่ำยในกำรติดต้งั และเสียคำ่ ใชจ้ ่ำยรำยเดือนอีกดว้ ย

ระบบส่ื อสาร โดยพ้ืนฐำนประกอบด้วย อุปกรณ์อินพุท ( input device) เครื่ องส่ง ช่องทำงส่ื อสำร (
communication channel ) หรือแชนแนล ซ่ึงมกั จะมีนอยส์มำรบกวนเคร่ืองรับ และอุปกรณ์เอำตพ์ ุต ( output
device )
1. อุปกรณ์อินพตุ และเอำตพ์ ตุ

ควำมจริงอุปกรณ์อินพุตก็คือ อุปกรณ์ที่แปลงข่ำวสำรเป็ นสัญญำณไฟฟ้ำ ส่วนอุปกรณ์เอำต์พุตก็คือ
อุปกรณ์ที่แปลงสัญญำณไฟฟ้ำกลบั มำเป็ นข่ำวสำรน่นั เอง มีช่ือเรียกแตกต่ำงกนั ออกไปแลว้ แต่กำรใชง้ ำน เช่น
ในระบบวิทยุกระจำยเสียง อุปกรณ์อินพุตอำจเป็ นไมโครโฟน และอุปกรณ์เอำต์พุตจะเป็ นลำโพง สำหรับ
ไมโครโฟนทำหนำ้ ที่แปลงคลื่นเสียงเป็นสัญญำณไฟฟ้ำ และส่วนลำโพงทำหนำ้ ที่แปลงสัญญำณไฟฟ้ำกลบั เป็น
คล่ืนเสียงในทำนองเดียวกนั ในระบบแพร่ภำพทำงโทรทศั น์ อุปกรณ์อินพุตก็คือกลอ้ งถ่ำยโทรทศั น์ ซ่ึงเปล่ียน
พลังงำนแสง (จำกภำพ ) ไปเป็ นสัญญำณไฟฟ้ำ และอุปกรณ์เอำต์พุตก็คือหลอดภำพโทรทัศน์ซ่ึงเปลี่ยน
สัญญำณไฟฟ้ำกลบั คืนเป็นพลงั งำนแสง

อุปกรณ์อินพุตและเอำต์พุตของระบบสื่อสำรยงั มีอีกมำกมำย เช่น คันเคำะโทรเลข เครื่องโทรพิมพ์
เคร่ืองโทรสำร เครื่องโทรมำตร ( telemetry ) ฯลฯ อุปกรณ์อินพุตและเอำต์พุตจะต่อเขำ้ กับเคร่ืองส่งและ
เคร่ืองรับเสมอ

ข่ำวสำรที่รับหรือส่งระหวำ่ งกนั แบ่งออกเป็น 3 พวกใหญ่ คือ
1.เสียงหรือออดิโอ ( audio) ได้แก่ เสียงพูดในระบบโทรศัพท์ เสียงพูด เสียงเพลง หรือเสียงดนตรี ซ่ึง
ตอ้ งกำรคณุ ภำพเสียงดีในระบบวทิ ยกุ ระจำยเสียง

1.1ภำพ ( picture ) ไดแ้ ก่ ภำพนิ่งในระบบโทรสำร ( facsimile) และระบบส่งภำพระยะไกล(telephoto
) ภำพยนตใ์ นระบบโทรทศั น์
1.2ขอ้ มูล ( data ) ส่วนใหญ่ส่งมำเป็ นรหัสให้แก่เครื่องยนต์ เคร่ืองจักร เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
ได้แก่ ข้อมู ล แล ะคำสั่ งใน ระบ บ โท รมำตร ตัวอัก ษ รใน ระบ บ โท รพิ มพ์ ห รื อโท รเล ข
ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ในระบบส่ือสำรคอมพวิ เตอร์

2. เครื่องส่ง
เครื่องส่งทำหนำ้ ที่รับสัญญำณไฟฟ้ำจำกอุปกรณ์อินพุต แลว้ ทำกำรมอดูเลตลงบนคล่ืนพำหะควำมถ่ีสูง

เคร่ืองส่งประกอบดว้ ยแหล่งกำเนิดสญั ญำณควำมถี่สูง ( เรียกวำ่ ออสซิลเลเตอร์) กบั มอดูเลต เครื่องส่งส่วนใหญ่
มกั มีภำคขยำยอีกเพือ่ ใหส้ ัญญำณที่ส่งออกอำกำศมีกำลงั แรง ทำใหส้ ื่อสำรกนั ไดไ้ กลข้นึ

3. ช่องทำงส่ือสำร
ช่องทำงสื่อสำร ในที่น้ี ได้แก่ บรรยำกำศ อวกำศว่ำง (free space ) หรือสำย ฯลฯ แต่ในที่น้ีเรำจะ

กล่ำวถึงเฉพำะระบบวิทยุเท่ำน้ัน ช่องทำงสื่อสำรของระบบวิทยุอำศัยกำรแผ่คล่ืนวิทยุออกไป โดยผ่ำน
บรรยำกำศซ่ึงเป็นตวั กลำง (medium) ซ่ึงคลื่นเดินทำงจำกเคร่ืองส่งผำ่ นไปยงั เครื่องรับ

4. ควำมถ่ีและควำมยำวคล่ืน
เรำนิยมแบ่งคล่ืนวิทยอุ อกเป็นยำ่ นควำมถ่ีต่ำง ๆ โดยมีหน่วยเป็ นเฮิรตซ์ ( Hertz ) ในประวตั ิศำสตร์กำร

วทิ ยุ เรำแบ่งคลื่นวิทยุตำมควำมยำวคล่ืน ( Wavelengh) ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งควำมถี่และควำมยำวคลื่นเป็นไป
ตำมสูตรดงั น้ี

ในที่น้ี l คือ ควำมยำวคลื่นมีหน่วยเป็นเมตร
V คอื ควำมเร็วของคลื่นวิทยใุ นอำกำศ เท่ำกบั ควำมเร็วของแสง = 3 * 108 เมตรต่อ
วินำที
f คือ ควำมถี่มีหน่วยเป็นเฮิรตซ์ ( Hz )

5. นอยส์ ( noise)
เป็นสัญญำณที่เขำ้ มำแทรกแซงหรือรบกวน ( interfere ) นอยส์ที่รับเขำ้ มำได้ แบ่งออกได้ 4 ประเภท
คือ
1.นอยส์บรรยำกำศ ( atmospheric noise ) เกิดข้ึนจำกควำมแปรปรวนของบรรยำกำศท่ีห่อหุ้มโลก เช่น
ฟ้ำแลบ ฟ้ำผ่ำ ก่อให้เกิดคล่ืนวิทยแุ ผ่กระจำยออกไปรอบโลก นอยส์บรรยำกำศเกิดข้ึนอยูต่ ลอดเวลำ
แมจ้ ะไมม่ ีพำยฝุ นฟ้ำคะนองกต็ ำม
2.นอยส์จำกอวกำศ ( space noise) เกิดจำกดวงอำทิตยแ์ ละดวงดำวนับลำ้ น ๆ ดวงในจกั รวำล ดวง
อำทิตยเ์ ป็ นวตั ถุท่ีมีขนำดมหึมำและมีควำมร้อนสูงถึง 6,000 องศำเซลเซียสท่ีผิวดวงอำทิตย์ ฉะน้ัน
ดวงอำทิตยจ์ ะแผ่พลงั งำนออกมำมีสเปกตรัมควำมถ่ีกวำ้ งมำก พลงั งำนน้ีปรำกฎออกเป็ นนอยส์คงที่
อยำ่ งไรก็ตำมท่ีผิวดวงอำทิตยย์ งั มีควำมแปรปรวนอ่ืน ๆ อีก เช่น จุดบนดวงอำทิตย์ (sun spot ) กำรลุก
โชติช่วง (solar flare ) ซ่ึงก่อให้เกิดนอยส์เพิ่มข้ึนอีก นอกจำกน้ีดวงอำทิตยบ์ ำงดวงที่ไกลออกไปจำก
ระบบสุริยจกั รวำลก็มีคุณสมบตั ิเหมือนดวงอำทิตย์ คือ มีควำมร้อนสูงและสำมำรถกำเนิดนอยส์มำยงั
โลกได้
3.นอยส์ท่ีเกิดข้ึนจำกส่ิงประดิษฐ์ที่มนุษยส์ ร้ำงข้ึน ( man-made noise ) ไดแ้ ก่ นอยส์จำกมอเตอร์ไฟฟ้ำ
เช่น พดั ลม ที่เป่ ำผม เคร่ืองดูดฝ่ ุน นอกจำกน้ีกย็ งั มีนอยส์ จำกระบบจุดระเบิดของรถยนต์ กำรรั่วของ
สำยไฟแรงสูง หลอดไฟฟลอู อเรสเซนต์ ฯลฯ
4.นอยส์ภำยในตัวอุปกรณ์ในเครื่องรับ ( internal noise ) แยกเป็ น 2 ประเภท คือนอยส์อุณหภูมิ (
thermal noise ) และช็อตนอยส์( shot noise ) นอยส์อุณหภูมิเกิดจำกกำรเคล่ือนท่ีของอิเล็กตรอนในตวั
อุปกรณ์ บำงคร้ังเรียกวำ่ จอห์นสันนอยส์ ( Johnson noise ) ส่วนช็อตนอยส์เกิดข้ึนในอุปกรณ์แอกตีฟ
(active device ) ทุกชนิด เนื่องจำกกำรรวมตวั ของอิเลก็ ตรอนกบั โฮล ( hole ) เช่น ในทรำนซิสเตอร์ ซ่ึง
ไมข่ ้ึนอยกู่ บั อณุ หภูมิ

6. เคร่ืองรับ
เมื่อรับสัญญำณจำกเครื่องรับ สัญญำณจะมีกำลังอ่อนลงและยงั มีนอยส์เข้ำมำแทรกแซงสัญญำณ ท่ี

ตอ้ งกำรจะรับอีกดว้ ย ดงั น้นั กำรรับสัญญำณอ่อน ๆ เช่นน้ี เครื่องรับจึงตอ้ งมีควำมสำมำรถพิเศษในกำรเลือกรับ
และขยำยเอำเฉพำะสัญญำณควำมถ่ีท่ีตอ้ งกำร พร้อมท้งั ตอ้ งมีกรรมวิธีในกำรกำจดั นอยส์หรือตอ่ สู้เอำชนะนอยส์
ที่รบกวน สัญญำณท่ีรับได้จะผ่ำนกำรดีมอดเพื่อแปลงสัญญำณข่ำวสำรท่ี เขำ้ มอดูเลตกลับมำ กรรมวิธีน้ี
ค่อนขำ้ งสลบั ซบั ซอ้ นพอสมควร
สรุปกำรตรวจสอบงำนระบบสื่อสำร

ใบงานท่ี 11 หน่วยที่ 11
สอนคร้ังที่11
วชิ า การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวชิ า 30121-2101 เวลา 3 ช่ัวโมง
ช่ือหน่วย งานไฟฟ้า งานระบบสื่อสาร
ช่ืองาน งานไฟฟ้า งานระบบส่ือสาร

จดุ ประสงค์
เมื่อฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
11.1 ควำมรู้พ้นื ฐำนในกำรตรวจงำนดำ้ นวิศวกรรมไฟฟ้ำ
11.2 ตรวจสอบระบบงำนไฟฟ้ำและระบบส่ือสำร
11.3 ข้นั ตอนกำรตรวจสอบและกำรทดสอบงำนวิศวกรรมไฟฟ้ำ

เคร่ืองมือ - อุปกรณ์
1.เอกสำรใบงำน

ลาดับข้นั การปฏบิ ัติงาน
1. ครูบอกชื่อเคร่ืองมือ และประโยชน์งำนไฟฟ้ำ งำนระบบสื่อสำร
2. ครูอธิบำยขอ้ ควรระวงั ในกำรใชง้ ำน และจุดที่ตอ้ งระวงั เป็นพเิ ศษของเคร่ืองมือ
แต่ละชิ้น
3. ครูสำธิตวธิ ีใชเ้ ครื่องมือโดยสังเขป

4. ใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมืองำนไฟฟ้ำ งำนระบบสื่อสำร
5. ใหน้ กั ศึกษำสรุปกำรใชง้ ำนและกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมืองำนไฟฟ้ำ งำนระบบสื่อสำร
การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยกำรควบคุมงำนและตรวจสอบงำนก่อสร้ำงได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน

แบบประเมินผลก่อนเรียนหน่วยท่ี11 เรื่อง งานไฟฟ้า งานระบบสื่อสาร
คาส่ัง จงอธิบำยหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1. จงอธิบำยวธิ ีกำรเดินสำยไฟฟ้ำมำอยำ่ งละเอียด

……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………
2. จงจำแนกฟิ วส์ท่ีมีในทอ้ งตลำดวำ่ มีก่ีชนิดและมีคณุ สมบตั ิอยำ่ งไรบำ้ ง

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………
3. ขอ้ แนะนำในกำรออกแบบระบบวงจรไฟฟ้ำภำยในบำ้ นมีอยำ่ งไรบำ้ งจงอธิบำย
…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………
5.หลอดไฟท่ีใชก้ นั อยทู่ ว่ั ไปมี 2 ประเภท คืออะไรบำ้ ง จงอธิบำย

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
6. ระบบโทรศพั ทภ์ ำยนอก คือ

…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..

7. ระบบโทรศพั ทภ์ ำยใน คอื
…………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………
8. ส่วนประกอบที่สำคญั ในกำรใช้ ระบบ อินเตอร์เน็ตคือ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
9. ระบบส่ือสำร โดยพ้ืนฐำนประกอบดว้ ยอะไรบำ้ งจงอธิบำย

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………

10. นอยส์ท่ีรับเขำ้ มำได้ แบง่ ออกได้ 4 ประเภท คือ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………….

แบบประเมนิ ผลหลงั เรียนหน่วยท่ี 11 เรื่อง งานไฟฟ้า งานระบบส่ือสาร
คาส่ัง จงอธิบำยในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี
1. จงอธิบำยวิธีกำรเดินสำยไฟฟ้ำมำอยำ่ งละเอียด

……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………
2. จงจำแนกฟิ วส์ที่มีในทอ้ งตลำดวำ่ มีก่ีชนิดและมีคณุ สมบตั ิอยำ่ งไรบำ้ ง

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………
3. ขอ้ แนะนำในกำรออกแบบระบบวงจรไฟฟ้ำภำยในบำ้ นมีอยำ่ งไรบำ้ งจงอธิบำย
…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………
4.หลอดไฟท่ีใชก้ นั อยทู่ ว่ั ไปมี 2 ประเภท คือ
..............……………………………………………………………………………………………แต่ล่ะประเภท
มีคณุ สมบตั ิอยำ่ งไรบำ้ งจงอธิบำย
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
5.หลอดไฟที่ใชก้ นั อยทู่ วั่ ไปมี 2 ประเภท คือ จงอธิบำย

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
6. ระบบโทรศพั ทภ์ ำยนอก คือ

…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..
7. ระบบโทรศพั ทภ์ ำยใน คอื

…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
8. ส่วนประกอบที่สำคญั ในกำรใช้ ระบบ อินเตอร์เน็ตคอื

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
9. ระบบสื่อสำร โดยพ้นื ฐำนประกอบดว้ ยอะไรบำ้ งจงอธิบำย

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………

10. นอยส์ท่ีรับเขำ้ มำได้ แบง่ ออกได้ 4 ประเภท คือ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………….

แผนการจดั การเรียนรู้

วิชา การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101

หน่วยท่ี 12 เร่ือง งานระบบปรับอากาศ เวลา 3 ช่ัวโมง

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย
11.1 ควำมรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ระบบปรับอำกำศ
11.2 ตรวจสอบเครื่องปรับอำกำศและอุปกรณ์
11.3 ข้นั ตอนกำรตรวจสอบระบบปรับอำกำศ

สาระสาคญั
1. เป็นที่ยอมรับในปัจจุบนั วำ่ กำรปรับอำกำศเป็นส่ิงจำเป็นสำหรับอำคำรประเภทต่ำงๆนบั ต้งั แต่อำคำร

สำนกั งำน โรงแรม โรงพยำบำล หรือแมก้ ระทง่ั อำคำรพกั อำศยั ดงั น้นั ในกำรควบคมุ และกำรตรวจงำนระบบ
ปรับอำกำศ ผคู้ วบคมุ และตรวจงำนจะตอ้ งมีควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรทำงำนของระบบปรับอำกำศ รวมท้งั ทรำบ
ถึงรำยละเอียดในกำรทำงำนของเคร่ืองปรับอำกำศประเภทตำ่ งๆดว้ ย

2. ในกำรตรวจสอบเครื่องปรับอำกำศ ก่อนกำรติดต้งั ผูค้ วบคมุ งำนจะตอ้ งพิจำรณำหลกั กำรตรวจสอบ
เบ้ืองตน้ ระหวำ่ งกำรติดต้งั เคร่ืองปรับอำกำศ นอกจำกน้ีจะตอ้ งตรวจคุณสมบตั ิและปริมำณของ

เครื่องปรับอำกำศและอุปกรณ์ใหถ้ กู ตอ้ งตำมแบบรูปและรำยกำรที่ไดร้ ับกำรอนุมตั ิ ก่อนท่ีผูร้ ับเหมำช่วงจะ
ดำเนินกำรติดต้งั ดว้ ย

3. ในระหวำ่ งกำรดำเนินกำรติดต้งั งำนระบบปรับอำกำศ จำเป็นตอ้ งมีกำรตรวจสอบเป็นข้นั ตอน
นบั ต้งั แต่ข้นั ตอนก่อนกำรติดต้งั ระหวำ่ งดำเนินกำรติดต้งั ก่อนกำรส่งมอบงำน จนถึงภำยหลงั กำรติดต้งั แลว้
เสร็จ เพ่ือใหร้ ะบบปรับอำกำศท่ีติดต้งั สำมำรถทำงำนไดต้ ำมวตั ถปุ ระสงค์ ดงั น้นั ผตู้ รวจสอบจึงตอ้ งเป็นผทู้ ี่มี
ควำมรู้ควำมชำนำญจึงจะสำมำรถทำกำรตรวจงำนไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ

จุดประสงค์การเรียน การสอน
จุดประสงค์ทว่ั ไป
เม่ือศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยควำมรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั ระบบปรับอำกำศได้
2. อธิบำยกำรตรวจสอบเครื่องปรับอำกำศและอุปกรณ์ได้
3. อธิบำยข้นั ตอนกำรตรวจสอบระบบปรับอำกำศได้

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1.อธิบำยหลกั กำรทำงำนของระบบปรับอำกำศได้
2.บอกประเภทของเคร่ืองปรับอำกำศได้

กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนระบบปรับอำกำศเพื่อนำเขำ้ สู่บทเรียน

ข้นั ใหข้ อ้ มลู
1.อธิบำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เรื่องงำนระบบปรับอำกำศหวั ขอ้ ตำ่ งๆในเอกสำรประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้นื ฐำน หนำ้ ที่ และงำนระบบปรับอำกำศ ของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้ันสรุป
สรุปสำระสำคญั เรื่องงำนระบบปรับอำกำศ และสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน

กจิ กรรมนักศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลุม่ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมที่ครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมที่ครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

สื่อการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำกำรควบคุมและวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. ส่ือแผน่ ใส และสื่อนำเสนอ (Presentation)
3. สื่อ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้

ประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน

2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

บรรณานุกรม

บันทกึ หลงั การสอน

หน่วยท่ี 12
งานระบบปรับอากาศ

11.1 ควำมรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั ระบบปรับอำกำศ
เครื่องปรับอำกำศ (AIR CONDITIONERS) ใช้ ปรับอำกำศเพื่อควำมสบำย เช่น ภำยในบำ้ นสำนักงำน

เป็นตน้ ปรับอำกำศเพ่อื กำรอตุ สำหกรรม เช่น ในกำรทำงำนวจิ ยั ในกระบวนกำรผลิต เป็นตน้ เรำสำมำรถจำแนก
ระบบปรับอำกำศ(CONDITIONING SYSTEM) ได้ดงั น้ี คือ ระบบอำกำศท้ังหมด(ALL-AIR SYSTEM) เป็ น
ระบบท่ีต้นทุนต่ำและออกแบบติดต้ังบำรุ งรักษำง่ำย ระบบน้ ำและอำกำศ เป็ นระบบท่ีขนำดของ
เคร่ืองปรับอำกำศส่วนกลำงและกำรถ่ำยเทควำมร้อนนอ้ ยกวำ่ ระบบอำกำศท้งั หมด ระบบน้ำท้งั หมด เป็นระบบ
ที่ควบคุมควำมช้ืนไดไ้ ม่ดีนกั ระบบเคร่ืองปรับอำกำศแบบหน่วยเดียว เป็ นระบบท่ีควบคุมควำมช้ืนไดไ้ ม่ดีนัก
ระบบเคร่ืองปรับอำกำศแบบหน่วยเดียว เป็นระบบใชใ้ นท่ีพกั อำศยั และอำคำรทว่ั ไปท่ีไม่ตอ้ งกำรกำรควบคุม
อณุ หภมู ิข้นั ละเอียด

เคร่ืองปรับอำกำศแบบชุด(PACKAGED TYPE AIR CONDITIONER) เป็ นชนิดท่ีมีเคร่ืองปรับอำกำศ
และเคร่ืองทำควำมเยน็ ในเปลือกหุ้มเดียวกนั โดยมีส่วนเคร่ืองทำควำมเยน็ อยู่ใตส้ ่วนเคร่ืองปรับอำกำศใช้งำน
ปรับอำกำศเพื่อให้เกิดควำมสบำยและเพื่อกำรอุตสำหกรรมที่ต้องกำรอุณหภูมิ และควำมช้ืนต่ำ
เครื่องปรับอำกำศแบบชุดน้ีมีรำคำถูกแต่ค่ำบำรุงรักษำค่อนขำ้ งสูง เพรำะจะตอ้ งตรวจลำ้ งแผ่นกรองอำกำศและ
อุปกรณ์อื่นๆอยำ่ งสม่ำเสมอ

- ชนิดของระบบปรับอำกำศ
มีอยู่ 3 ระบบ คือ ระบบติดหน้ำต่ำง ระบบแยกส่วน ที่เรียกว่ำ สปลิทไทพ์ (Split Type) และระบบเครื่องทำน้ำ
เยน็ (Water Chiller)
- ระบบติดหนำ้ ต่ำง ตอ้ งเตรียมโครงไวส้ ำหรับรับน้ำ หนกั ของตวั เครื่อง เพรำะมีน้ำหนกั มำก และตอ้ งติดลอยอยู่
กลำงกำแพง ถำ้ ไมเ่ ตรียมไวจ้ ะเกิดกำรแตกร้ำวได้ เพรำะควำม สั่นสะเทือนของเคร่ือง
-ระบบแยกส่วน จะมีปัญหำมำก ถำ้ ตวั เครื่องเป่ ำลม เยน็ อยูก่ ลำงห้อง เพรำะตอ้ งคำนึงถึงกำรระบำยน้ำว่ำจะไป
ทำง ใด และถำ้ ต่อลงห้องน้ำ ก็อำจมีกลิ่นยอ้ นเขำ้ มำ ทำให้ภำยใน ห้องมีกลิ่นเหม็น และภำยนอก ตอ้ งมีท่ีวำง
คอนเดนเซอร์
เครื่องทำลมเยน็ ของเคร่ืองปรับอำกำศแบบแยกส่วน จะประกอบดว้ ย โบลเ์ วอร์ และคอลย์ เยน็ ซ่ึงมีสำรทำควำม
เยน็ ระเหยอยู่ภำยในคอล์ยที่ควำมดนั ต่ำ ถำ้ เป็ นสำรทำควำมเยน็ ฟรีออน 22 ที่ใช้กนั จะมีควำมดนั ประมำณ 4.5
บำร์ ขณะที่ท่อทนควำมดนั ไดก้ วำ่ 20 บำร์ โอกำสที่จะเกิดกำรระเบิดจึงนอ้ ยมำก และหำกจะมีกำรระเบิดเกิดข้ึน
เพรำะควำมบกพร่องของฝี มือกำรประกอบก็จะไม่เกิดไฟไหมข้ ้ึน เพรำะสำรทำควำมเยน็ ไม่ติดไฟ เป็ นสำรท่ี
สำมำรถใชด้ บั ไฟได้ โดยเฉพำะใชเ้ ป็ นสำรดบั ไฟในห้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยกำรเขำ้
ไปไล่อำกำศ (ออกซิเจน) ออกไปจำกหอ้ ง หรือทำใหอ้ ำกำศภำยในหอ้ งมีสัดส่วนออกซิเจนเจือจำงจนไฟดบั ไป

- ระบบเคร่ื องทำน้ ำเย็น (Water Chiller) เครื่ องปรับอำกำศท่ีใช้ในอำคำรขนำดใหญ่ โดยทั่วไปจะเป็ น
เคร่ืองปรับอำกำศระบบน้ำเยน็ ซ่ึงมีน้ำเยน็ ไหลเวียนไปยงั เคร่ืองทำลมเยน็ ท่ีติดต้งั อยใู่ นบริเวณที่จะปรับอำกำศ
ของอำคำร น้ำเยน็ ที่ไหลเขำ้ ไปใน เคร่ืองทำลมเยน็ มีอณุ หภูมิประมำณ 7 C แลไหลออกไปมีอุณหภูมิประมำณ 13
C ในขณะที่อำกำศที่ไหลเขำ้ ไปมีภำวะที่ 26 C กระเปำะแหง้ ควำมช้ืนสมั พทั ธ์ 55 เปอร์เซน้ ต์ และออกจำกเคร่ือง
ท่ีภำวะ 15.5 C กระเปำะแหง้ 14.5 C กระเปำะเปี ยก น้ำที่ออกจำกเคร่ืองทำลมเยน็ จะถกู ป้ัมเขำ้ ไปในเคร่ืองทำน้ำ
เยน็ ขนำดใหญ่ ที่ติดต้งั อยใู่ นห้องเครื่องประธำน (Main Machine Room) เพื่อทำใหน้ ้ำมีอุณหภูมิลดลงจำก 13 C
เป็น 7 C เคร่ืองทำลมเยน็ ท่ีติดต้งั อยใู่ นบริเวณท่ีปรับอำกำศ มีส่วนประกอบคอื แผน่ กรองอำกำศ ซ่ึงโดยทว่ั ไปจะ
เป็ นแผงใยอะลูมิเนียม แผงท่อน้ำเยน็ ท่ีมีน้ำเยน็ ไหลอยู่ภำยใน มีโบลเ์ วอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ำท่ีดูดอำกำศ จำก
บริเวณท่ีปรับอำกำศ ใหไ้ หลผำ่ นแผน่ กรอง และแผงท่อน้ำเยน็ แลว้ ส่งอำกำศ ท่ีถูกกรองใหส้ ะอำดและถูกทำให้
เยน็ ลงเขำ้ ไป ปรับอำกำศในบริเวณที่ปรับอำกำศ จะเห็นไดว้ ำ่ บริเวณท่ีปรับอำกำศน้นั มีเฉพำะเครื่องทำลมเยน็ ท่อ
น้ำ และท่อลมที่ต่อเขำ้ กบั เครื่องทำลมเยน็ เท่ำน้นั ไม่มีส่วนที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ ไม่มีส่วนที่จะระเบิด ท่อน้ำ
อำจจะแตกไดถ้ ำ้ ประกอบหรือเช่ือมไม่ดี และหำกท่อแตก ก็จะทำใหน้ ้ำร่ัวกระจำยทำควำมเสียหำยเพรำะเปี ยกน้ำ
เทำ่ น้นั

- วธิ ีกำรติดต้งั ระบบแยกส่วน (Split Type)
แบ่งออกเป็น 3 ระบบ คือ
1. แบบต้งั พ้ืน คือ ติดต้งั ส่วนที่เป่ ำลมเยน็ ไวก้ บั พ้ืน วิธีน้ีจะสะดวกในกำรติดต้งั สำมำรถซ่อนท่อน้ำทิ้งไดส้ ะดวก
ดูแลรักษำง่ำย แต่จะเสียพ้นื ที่ในกำรติดต้งั ไม่เหมำะสำหรับ หอ้ งเลก็
2. แบบติดผนงั คือส่วนท่ีเป่ ำลมเยน็ ไวก้ บั ผนงั กำร ติดต้งั คอ่ นขำ้ งลำบำก เสียพ้ืนที่กำรใชง้ ำนในส่วนผนงั แตไ่ ม่
เสียพ้นื ที่กำรใชง้ ำนของหอ้ ง ถำ้ เกิดกำรร่ัวซึม จะทำใหห้ ้อง เลอะเทอะบริเวณผนงั
3. แบบแขวนเพดำน คือ ติดต้งั ส่วนท่ีเป่ ำลมเยน็ ไว้ บนเพดำน ขอ้ ดี คือ ใชพ้ ้ืนที่ห้องไดเ้ ตม็ ท่ีมำกกวำ่ 2 แบบ แรก
กำรติดต้งั ลำบำกมำก เพรำะตอ้ งแขวนกบั ฝ้ำเพดำน ตอ้ งเตรียมวำงแผนลว่ งหนำ้ กำรดูแลรักษำยำก ยงิ่ เกิดกำร
รั่วซึมจะทำใหพ้ ้นื ที่ใชง้ ำนใตเ้ ครื่องเปี ยกได้

- ประโยชนข์ องเคร่ืองปรับอำกำศ
ประโยชนข์ องเคร่ืองปรับอำกำศ นอกจำกทำควำม เยน็ แลว้ ยงั ช่วยทำใหอ้ ำกำศสะอำด และควบคมุ ควำมช้ืน
ภำยในหอ้ งดว้ ยแต่สิ่งที่ไม่ควรลืมคือ กำรติดต้งั พดั ลมระบำยอำกำศ ดว้ ย เพรำะจะทำให้อำกำศไม่อบั มีกำร
ถ่ำยเทอำกำศจำก ภำยนอกดว้ ย ซ่ึงถำ้ มีแตร่ ะบบทำควำมเยน็ อยำ่ งเดียว จะทำ ใหอ้ ำกำศถ่ำยเทไม่สะดวก มีผลเสีย
ต่อสุขภำพ

- ปัญหำเคร่ืองปรับอำกำศไมเ่ ยน็
เหตทุ ี่แอร์ไมเ่ ยน็ อำจจะเกิดจำกสำเหตุดงั ต่อไปน้ีคือ
1. ตวั เคร่ืองแอร์กบั คอนเดนเซอร์อยหู่ ่ำงกนั เกินไป
2. ตวั คอนเดนเซอร์อยใู่ นท่ีอบั ไม่สำมำรถระบำย อำกำศได้
3. น้ำยำแอร์หมดนอกจำกน้ีแลว้ ก็ยงั ข้นึ อยกู่ บั กำรบำรุงรักษำและวิธีกำรใชท้ ี่ถกู ตอ้ งก็จะทำใหย้ ดื อำยกุ ำรใชง้ ำน
ไดอ้ ีกนำน

- วธิ ีกำรใชเ้ ครื่องปรับอำกำศใหป้ ระหยดั
แบง่ ได้ 2 แบบ คอื
1. วิธีประหยดั ท่ีไมต่ อ้ งลงทุน เช่น จดั ระบบให้ เครื่องปรับอำกำศทำงำนเป็นช่วงสลบั กนั และปรับควำมเยน็ ให้
อยใู่ นระดบั ท่ีพอเหมำะคือ 25 องศำเซลเซียส ควบคมุ ปริมำณอำกำศภำยนอกท่ีจะเขำ้ มำ เพื่อไม่ใหเ้ สียควำมเยน็
ออกไป ทำควำมสะอำดแผน่ กรองอำกำศอยำ่ งสม่ำเสมอ และ ติดต้งั เคร่ืองปรับอำกำศใหอ้ ยสู่ ูงจำกพ้นื พอควร

เพอ่ื อำกำศจะ ไดห้ มนุ เวียนไดโ้ ดยงำ่ ย และอยำ่ ใหเ้ คร่ืองไดร้ ับแสงอำทิตย์ โดยตรง จะทำใหเ้ คร่ืองทำงำนหนกั
ข้นึ
2. วธิ ีประหยดั ที่ตอ้ งลงทนุ เช่น ใส่ฉนวนกนั ควำม ร้อนท่ีเพดำน ติดต้งั แผ่นสะทอ้ นควำมร้อนจำกแสงอำทิตย์ ท่ี
หลงั คำของบำ้ น หรืออำจติดต้งั กระจก 2 ช้นั เพ่ือลดควำม ร้อนจำกแสงอำทิตย์ ซ่ึงวธิ ีน้ีคอ่ นขำ้ งมีค่ำใชจ้ ่ำยสูง
รวมท้งั กำรติดต้งั ม่ำนกนั แสง เลือกขนำดของเครื่องปรับอำกำศให้เหมำะสมกบั ขนำดของพ้ืนท่ีหอ้ ง และควร
เป็นเครื่องปรับ อำกำศท่ีมีฉลำกเบอร์ 5 ดว้ ยกำรติดต้งั พดั ลมดูดอำกำศบนฝ้ำเพดำน
บำ้ นที่มีระบบปรับอำกำศทวั่ ไปจะมีกำรติดต้งั พดั ลมดูดอำกำศ เพ่อื ระบำยอำกำศ เสีย และนำเอำอำกำศบริสุทธ์ิ
(FRESH AIR) เขำ้ มำหมุนเวียนภำยในหอ้ ง ซ่ึงพดั ลม ดงั กล่ำวอำจติดบริเวณผนงั หรือบนหนำ้ ต่ำงท่ีเป็นกระจก
ซ่ึงทำใหไ้ ม่สวยงำม จึงนิยมระบำย ข้ึนไปในช่องวำ่ งของฝ้ำเพดำน ซ่ึงถำ้ จำนวนพดั ลมมีมำกและเป่ ำข้นึ เพดำน
พร้อมๆ กนั อำจ ทำใหอ้ ำกำศระบำยออกไม่ทนั วิธีแกไ้ ขก็คือ เพม่ิ เกลด็ ระบำยอำกำศบริเวณฝ้ำเพดำนส่วน
ภำยนอกหอ้ ง เพ่อื ให้ อำกำศใตฝ้ ้ำระบำยออกไดท้ นั

- ชนิดของระบบเคร่ืองฟอกอำกำศ
เคร่ืองฟอกอำกำศในบำ้ น มีดว้ ยกนั 2 ชนิด คือ
1. ระบบแผน่ กรองอำกำศ จะทำงำนโดยกำรกรอง ฝ่ ุนละอองตำ่ งๆ ที่ผำ่ นเขำ้ มำใหต้ ิดอยบู่ นแผน่ กรอง ระบบ น้ี
จะมีรำคำถกู แตจ่ ะสิ้นเปลืองคำ่ ใชจ้ ่ำยในกำรเปล่ียนแผน่ กรองในระยะยำว คือ ตอ้ งเปล่ียนทกุ 4-6 เดือน
2. ระบบไฟฟ้ำสถิต เป็นระบบที่ไดพ้ ฒั นำข้นึ มำ อีกข้นั หน่ึง คือ ใชแ้ ผน่ กรองระบบไฟฟ้ำสถิต โดยกำรดูด จบั ฝ่นุ
ใหเ้ ขำ้ มำติดอยกู่ บั แผน่ กรอง สำมำรถดกั จบั ฝ่นุ ขนำด เลก็ มำกๆ ได้ และยงั ผลิตอำกำศบริสุทธ์ิไดด้ ว้ ย ระบบน้ี
รำคำคอ่ นขำ้ งสูง แตจ่ ะประหยดั ในระยะยำว เพรำะสำมำรถ ถอดลำ้ งทำควำมสะอำดไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเปล่ียนแผน่
กรอง

สรุปวธิ ีการตรวจสอบระบบปรับอากาศ

❖ ติดต้งั แฟนคอยลย์ ูนิตตำมตำแหน่งท่ีไดก้ ำหนดไวใ้ นแบบ
และมีพ้ืนที่วำ่ งโดยรอบเพ่ือกำรบำรุงรักษำ ควรตรวจสอบ
เคร่ืองตำมมำตรฐำนที่ผู้ลิตระบุไว้ ยึดเครื่องให้มั่นคง
แขง็ แรงกบั พ้นื ผนงั หรือเพดำนแลว้ แตก่ รณี

❖ ตรวจสอบสถำนที่ติดต้งั คอนเดนซ่ึงยูนิตให้ถูกตอ้ งตำมที่
กำหนดไว้ มีพ้ืนที่โดยรอบเครื่อง กวำ้ งเพียงพอตอ่ กำรเขำ้
ไปบำรุงรักษำเครื่องไดส้ ะดวกระยะห่ำงระหว่ำงผนังกับ
ตวั เครื่องตอ้ งไม่นอ้ ยกวำ่ ที่ผผู้ ลิตกำหนด

❖ ตรวจชนิด ขนำด และรำยละเอียดของเครื่องและอุปกรณ์
ต่ำงๆ ให้ตรงกบั รูปแบบรำยกำรกำหนดไวอ้ ย่ำงครบถว้ น
และอยใู่ นสภำพดีไม่ชำรุด ตรวจกำรประกอบยดึ ติดต้งั ให้
มีควำมแขง็ แรงมน่ั คงตรงตำมตำแหน่งท่ีระบุ

❖ ตรวจสอบขนำดและควำมหนำของท่อทองแดงและ
อุปกรณ์ให้ถูกตอ้ งตำมแบบ โดยมีกำรต่อเชื่อมกนั อย่ำง
แน่นสนิท ม่ันคงมีอุปกรณ์ยึดจับท่อให้เป็ นระเบียบ
เรี ยบร้อยดูสวยงำม และง่ำยต่อกำรบำรุงรักษำตำม
กำหนดเวลำ

❖ ตรวจกำรต่อสำยไฟเขำ้ เคร่ืองให้ถูกตอ้ ง ใชข้ นำดของสำย
ที่กำหนด พนั เทปสำยไฟให้เรียบร้อยจดั ไวเ้ ป็ นระเบียบ
ไม่พนั กนั ทำกำรทดสอบกำรทำงำนของเคร่ืองเพ่ือดูว่ำมี
สิ่งใดผดิ ปกติหรือไม่ ถำ้ มีตอ้ งแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อย

❖ ตรวจสอบควำมเรียบร้อยของกำรเชื่อมต่อท่อทองแดงและ
อุปกรณ์ซ่ึงจะตอ้ งสะอำดท่ีสุด ไม่ให้มีเขม่ำเกิดข้ึนในท่อ
ในภำยหลัง และควรยึดหรือรองรับท่อและอุปกรณ์ให้
มนั่ คงแขง็ แรง ติดอปุ กรณ์กนั สะเทือนตำมจุดที่กำหนด

❖ ตรวจสอบชนิดและขนำดและชนิด ควำมหนำของฉนวน
หุม้ ท่อน้ำยำใหถ้ ูกตอ้ ง และปิ ดรอยต่อของฉนวนให้สนิท
ทุกจุด กำรหุม้ ฉนวนจะตอ้ งแน่นหนำตลอดควำมยำวของ
ท่อทองแดง โดยไม่เวน้ ให้มีท่อเปลือยในส่วนใดๆของ
ทอ่

❖ ภำยหลงั ต่อท่อทองแดงเขำ้ เครื่องแลว้ ตอ้ งตรวจสอบรวย
รั่วบนผิวท่อ โดยเฉพำะตำมข้อต่อต่ำงๆรวมท้ังจุดต่อ
ภำยในเคร่ือง อำจทดสอบโดยกำรใช้ฟองสบู่ไลต้ ำมผิว
ทอ่ แลข้ อ้ ต่อ หำกไมพ่ บรอยรั่วซึมจึงส่งมอบงำนได้

❖ ตรวจสอบกำรไล่อำกำศภำยในระบบโดยกำจดั ควำมช้ืน
ออก จำก ระบ บ ให้ แห้งท่ี สุ ดก่ อน ท ำกำรท ดลองเค ร่ื อง
ทดสอบกำรร่ัวซึมของท่อโดยติดต้งั มำตรวดั เพื่อดูควำม
ดนั ในท่อให้คงท่ี ตลอดระยะเวลำที่ทดสอบหำรอยรั่ว
ของทอ่

❖ วดั แรงดนั ของน้ำยำใหถ้ กู ตอ้ งตำมท่ีกำหนดไว้

❖ ต้งั เครื่องใหม้ ีพ้ืนท่ีระบำยอำกำศตำมผผู้ ลิตกำหนด
❖ ติดต้งั คอนเดนซ่ึงยนู ิตใหม้ ีควำมมนั่ คงแขง็ แรง
❖ ตรวจสอบกำรตอ่ วงจรไฟฟ้ำของเครื่องใหถ้ กู ตอ้ ง
❖ ชิ้นส่วนตำ่ งๆอยใู่ นสภำพดี ไมม่ ีกำรชำรุดเสียหำย
❖ กำจดั สิ่งสกปรกท่ีครีบอะลมู ิเนียมในคอยลเ์ ยน็
❖ ตรวจขนำดของฟิ วส์ของสวิตซเ์ คร่ืองใหถ้ กู ตอ้ ง

❖ ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งใหไ้ หลสะดวกไม่เกิดกำรอุดตนั
❖ จดั พ้ืนที่ใหม้ ำกพอสำหรับเขำ้ ไปบำรุงรักษำเคร่ือง
❖ ตรวจสอบอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้ำใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น
❖ ตรวจสอบขอ้ ตอ่ ต่ำงๆใหแ้ น่นสนิททุกจุดเพื่อกนั ร่ัว

❖ ฉนวนหุม้ ท่อมีชนิดและขนำดถูกตอ้ งตำมกำหนด
❖ ทำควำมสะอำดอปุ กรณ์ใหป้ รำศจำกฝ่นุ ละออง
❖ ตรวจกำรส่นั สะเทือนและเสียงในขณะเดินเคร่ือง
❖ ตรวจสอบแนวทอ่ กำรยดึ กำรรองรับท่อใหม้ นั่ คง
❖ พนั เทปรอยต่อฉนวนหุม้ ท่อใหแ้ น่นสนิททกุ ดำ้ น
❖ ทำควำมสะอำดตะแกรงกรองฝ่นุ ของเครื่อง

❖ เป่ ำลมลุ่นละอองในครีบอะลูมิเนียมใหส้ ะอำด

ใบงานที่ 12 หน่วยที่ 12
สอนคร้ังที่12
วิชา การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหสั วชิ า 30121-2101 เวลา 3 ชั่วโมง
ชื่อหน่วย งานระบบปรับอากาศ
ชื่องาน งานระบบปรับอากาศ

จดุ ประสงค์
เมื่อฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
11.1 ควำมรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั ระบบปรับอำกำศ
11.2 ตรวจสอบเครื่องปรับอำกำศและอปุ กรณ์
11.3 ข้นั ตอนกำรตรวจสอบระบบปรับอำกำศ

เคร่ืองมือ - อปุ กรณ์
1.เอกสำรใบงำน

ลาดับข้นั การปฏบิ ัตงิ าน
1. ครูบอกช่ือเคร่ืองมือ และประโยชน์กำรใชง้ ำนระบบปรับอำกำศ
2. ครูอธิบำยขอ้ ควรระวงั ในกำรใชง้ ำน และจุดที่ตอ้ งระวงั เป็นพิเศษของเครื่องมือ
แตล่ ะชิ้น
3. ครูสำธิตวธิ ีใชเ้ คร่ืองมือโดยสงั เขป
4. ใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมืองำนระบบปรับอำกำศ
5. ใหน้ กั ศึกษำสรุปกำรใชง้ ำนและกำรบำรุงรักษำเครื่องมืองำนระบบปรับอำกำศ โดยรำยงำนในสมดุ

การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยกำรควบคุมงำนและตรวจสอบงำนก่อสร้ำงได้

2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน

แบบประเมนิ ผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 12 เรื่อง งานระบบปรับอากาศ
คาส่ัง จงอธิบำยในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี
1.ระบบปรับอำกำศมีอยู่ 3 ระบบ คอื

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
2. จงอธิบำยวธิ ีกำรติดต้งั ระบบแยกส่วน(Split Type)

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
3. จงบอกประโยชน์ของเคร่ืองปรับอำกำศ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
4.จงบอกสำเหตุที่เกิดปัญหำเคร่ืองปรับอำกำศไม่เยน็

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………….
5.เคร่ืองฟอกอำกำศในบำ้ น มี 2 ชนิดดว้ ยกนั คือ และจงอธิบำยคุณสมบตั ิของแต่ละ่ ชนิด

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
6. จงบอกข้นั ตอนกำรตรวจสอบระบบปรับอำกำศ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………..................

แบบประเมนิ ผลหลงั เรียนหน่วยท่ี 12 เรื่อง งานระบบปรับอากาศ

คาสั่ง จงอธิบำยในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
1.ระบบปรับอำกำศมีอยู่ 3 ระบบ คอื

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
2. จงอธิบำยวธิ ีกำรติดต้งั ระบบแยกส่วน(Split Type)

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
3. จงบอกประโยชนข์ องเคร่ืองปรับอำกำศ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
4.จงบอกสำเหตุที่เกิดปัญหำเคร่ืองปรับอำกำศไมเ่ ยน็

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………….
5.เคร่ืองฟอกอำกำศในบำ้ น มี 2 ชนิดดว้ ยกนั คือ และจงอธิบำยคุณสมบตั ิของแต่ละ่ ชนิด

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………

6. จงบอกข้นั ตอนกำรตรวจสอบระบบปรับอำกำศ
…………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………..................

แผนการจดั การเรียนรู้

วชิ า การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหสั วชิ า 30121-2101

หน่วยที่ 13 เรื่อง งานระบบเครื่องกลประกอบอาคาร เวลา 3 ช่ัวโมง

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย
13.1 อธิบำยอุปกรณ์ขนส่งสำหรับอำคำรได้
13.2 อธิบำยเคร่ืองสูบน้ำสำหรับอำคำร
13.3 อธิบำยอุปกรณ์ระบบป้องกนั อคั คีภยั สำหรับอำคำรได้

สาระสาคญั

1. งำนก่อสร้ำงในปัจจุบนั โดยมำกจะมีอุปกรณ์อำนวยควำมสะดวกในกำรขนส่ง อุปกรณ์ของระบบ
ในแนวด่ิง คือลิฟต์ และอุปกรณ์ขนส่งระหวำ่ งช้นั หรือภำยในช้นั เดียวกนั ไดแ้ ก่ บนั ไดเล่ือนและทำงเล่ือน
ระบบเหล่ำน้ีเหมำะกบั อำคำรท่ีมีผใู้ ชบ้ ริกำรมำก กำรตรวจสอบ กำรติดต้งั และกำรป้องกนั ควำมปลอดภยั จึงเป็น
สิ่งสำคญั

2. อำคำรสมยั ใหม่ โดยทว่ั ไปจะตอ้ งมีระบบเครื่องกลประกอบอำคำร เพอ่ื ควำมสะดวกในกำรใชส้ อย
และควำมปลอดภยั ของผใู้ ชอ้ ำคำร เครื่องสูบน้ำเป็นอุปกรณ์สำคญั ของระบบเครื่องกลประกอบอำคำรดงั น้นั
ก่อนใชง้ ำนจึงตอ้ งทำกำรตรวจสอบใหถ้ ูกตอ้ ง ท้งั ในเรื่องกำรติดต้งั และกำรใชง้ ำน

3. ปัจจุบนั ในกำรก่อสร้ำงอำคำรสูง จะตอ้ งคำนึงถึงควำมปลอดภยั ของผใู้ ชอ้ ำคำร โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่
ในดำ้ นอุบตั ิภยั จำกเพลิงไหม้ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดควำมเสียหำยต่อทรัพยส์ ินและชีวิต ดงั น้นั จึงตอ้ งมีระบบป้องกนั
อคั คภี ยั สำหรับอำคำรดงั กล่ำว เพื่อควำมมน่ั ใจของผใู้ ชอ้ ำคำร กำรตรวจสอบกำรใชง้ ำนของระบบดงั กลำ่ วจึง
ตอ้ งดำเนินกำรใหถ้ กู ตอ้ งตำมมำตรฐำนควำมปลอดภยั

จดุ ประสงค์การเรียน การสอน

จุดประสงค์ท่วั ไป
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยอุปกรณ์ขนส่งสำหรับอำคำรได้
2. อธิบำยเครื่องสูบน้ำสำหรับอำคำรได้
3. อธิบำยอปุ กรณ์ระบบป้องกนั อคั คภี ยั สำหรับอำคำรได้

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
เมื่อศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1.อธิบำยบนั ไดเลื่อนและทำงเลื่อนสำหรับอำคำรได้
2.อธิบำยข้นั ตอนกำรตรวจสอบงำนติดต้งั เคร่ืองสูบน้ำสำหรับอำคำรได้
3.อธิบำยควำมรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั ระบบป้องกนั อคั คีภยั ภำยในอำคำรได้

กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนระบบเครื่องกลประกอบอำคำร เพ่ือนำเขำ้ สู่บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มูล
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เรื่องงำนระบบเคร่ืองกลประกอบ หัวขอ้ ต่ำงๆใน
เอกสำรประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้นื ฐำน หนำ้ ท่ี และงำนระบบเคร่ืองกลประกอบของ
นกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ

ข้นั สรุป
สรุปสำระสำคญั เรื่องหลกั ปฏิบตั ิในกำรควบคมุ และกำรตรวจงำนและสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบ
งำน

กจิ กรรมนกั ศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้

2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลมุ่ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมที่ครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

สื่อการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคุมและวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. ส่ือแผน่ ใส และส่ือนำเสนอ (Presentation)
3. ส่ือ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้

ประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้

บรรณานุกรม

บนั ทกึ หลงั การสอน

หน่วยที่ 13
งานระบบเคร่ืองกลประกอบ

13.1 อธิบายอปุ กรณ์ขนส่งสาหรับอาคารได้
ลฟิ ต์ (ELEVATOR)

ใช้ประโยชน์ในกำรโดยสำรข้ึนลงตำมช้นั ต่ำงๆของอำคำร มีส่วนประกอบต่ำงๆดงั น้ี คือ ตูล้ ิฟต์(CAR)เป็ นตู้
แขวนด้วยสำยเคเบิลสำหรับโดยสำร สำยเคเบิล(CABLE)1ทำด้วยเหล็กกล้ำใช้รับน้ำหนักตู้ลิฟต์ท้ังหมด
เคร่ืองยนตล์ ิฟต์ เป็นตวั ยกหรือปลอ่ ยตูล้ ิฟตข์ ้นึ ลงตำมช้นั ต่ำงๆเครื่องควบคมุ ลิฟต์ ทำหนำ้ ท่ีควบคมุ กำรเรียก ปิ ด
–เปิ ดประตู เป็นตน้ น้ำหนกั ถ่วง ช่วยถ่วงลิฟต์ เพื่อลดกำลงั ของเครื่องยนต์ ปล่องลิฟตเ์ ป็นช่องสำหรับให้ตูล้ ิฟต์
และน้ำหนักถ่วงเล่ือนข้ึนลง รำงนำลิฟต์ เป็ นรำงติดต้ังในแนวด่ิงใช้นำทำงตู้ลิฟต์และน้ำหนักถ่วง ห้อง
เครื่องยนตล์ ิฟตอ์ ยตู่ อนบนของปล่องใชเ้ ป็นท่ีวำงเครื่องยนต์ ระบบเบรกฉุกเฉิน

ควรทำกำรทดสอบกำรใชง้ ำนลิฟตใ์ นเรื่องต่ำงๆดงั น้ีคือ กำรเรียกใชต้ ำมช้นั ต่ำงๆถูกตอ้ งตำมหมำยเลข
ของป่ ุมกดเรียก กำรเคล่ือนท่ีของลิฟตแ์ ละกำรหยุดระหวำ่ งช้นั ไม่กระตุก กระชำก หรือเกิดกำรกระแทก ระดบั
กำรจอดของพ้ืนลิฟต์ตอ้ งเสมอกบั พ้ืนคำนพอดี ไม่มีเสียงดังขณะเคล่ือนตวั สวิตซ์และป่ ุมควบคุมทำงำนได้
ตำมที่ตอ้ งกำร ตรวจสอบสภำพควำมเรียบร้อยทว่ั ไป หำกมีขดั ขอ้ งแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อยก่อนส่งมอบงำน

สรุปข้นั ตอนการตรวจสอบลฟิ ต์

ตรวจสอบผนงั คอนกรีตของช่องลิฟตใ์ ห้ไดด้ ่ิงตลอดเวลำท่ีมี
กำรก่อสร้ำง เพ่ือสำมำรถติดต้งั รำงลิฟตส์ ำหรับบงั คบั กำร
ข้ึนลงของลิฟตใ์ ห้อยใู่ นแนวดิ่งตรวจสอบกำรยดึ สลกั เกลียว
ท่ีรำงลิฟตท์ กุ จุดใหม้ ีควำมมน่ั คงแขง็ แรง

ตรวจมู่เล่ล้อ เพลำ สำหรับชักรอกสำยสลิงให้มีชนิดและ
ขนำดถูกตอ้ งตำมกำรใชง้ ำน ตรวจสอบสลกั ลอ้ เพลำ แท่น
ยึดมู่เล่ วำ่ มีควำมมน่ั คงแข็งแรงยึดให้ถูกตำแหน่งที่จะเก่ียว
ร้อยสำยสลิงสำหรับดึงลิฟตข์ ้นึ ลง

ตรวจสอบเคร่ืองจักรอุปกรณ์ในกำรบังคบั ควบคุมกำรปิ ด
เปิ ดประตูลิฟต์ ระบบเบรกฉุกเฉินให้ทำงำนได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ กำรติดตงั ชิ้นส่วนต่ำงๆตรงตำมตำแหน่งท่ี
กำหนด มีกำรยึดอย่ำงแน่นหนำมัง่ คงและทดสอบกำรใช้
งำน

ตรวจ แท่ น เค รื่ อ ง ท่ี ใ ช้ค วบ คุ ม ก ำรชัก รอ ก ลิ ฟ ต์ข้ ัน ล งใ ห้
สำมำรถทำงำนได้เป็ นปกติ มีขนำด ชนิด และประเภท
ถูกตอ้ งตำมรูปแบบรำยกำร ติดต้งั ให้ตรงตำมตำแหน่ง กำร
ป ร ะ ก อ บ ยึ ด มี ค ว ำ ม มั่น ค ง แ ข็ ง แ ร ง เพ่ื อ ใ ช้ ง ำ น ไ ด้ อ ย่ ำ ง
ปลอดภยั

ตรวจสอบกำรติดต้งั แผงควบคุมภำยในห้องลิฟต์ เช่น ป่ ุม
เลือกช้นั ป่ ุมปิ ดเปิ ดประตูลิฟต์ ป่ ุมสัญญำณฉุกเฉินหรือ
โทรศพั ทส์ ำหรับติดต่อ ให้ถูกตอ้ งครบถว้ น ตำมที่กำหนด
ไว้และทดสอบให้แน่ ใจว่ำ สำมำรถทำงำนได้ตำม
วตั ถปุ ระสงค์

ตรวจอุปกรณ์และวงจรควบคุมลิฟต์ส่ วนล่ำงน้ ำหนักถ่วง
ของลิฟตใ์ หไ้ ดม้ ำตรฐำนตำมที่ผผู้ ลิตกำหนดมีกำรประกอบ
ชิ้นส่วนถูกต้องครบถ้วน ทดสอบระบบเบรกฉุกเฉินให้
แน่ ใจว่ำส ำม ำรถท ำงำน ได้อย่ำงมี ป ระสิ ท ธิ ภ ำพ เม่ื อเกิ ด
ปัญหำ

ตรวจแผงวงจรท่ีใช้ในกำรควบคุมกำรทำงำนของลิฟต์ ว่ำ
ติดต้งั ตรงตำมตำแหน่ง ต่อวงจรไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น มีกำร
ทดสอบอุปกรณ์ควบคุมดังกล่ำวให้สำมำรถทำงำนได้ตำม
คุณสมบตั ิที่กำหนดไวใ้ นรูปแบบรำยกำรทุกประกำร

ตรวจสอบรำยละเอียด และขนำดของบ่อลิฟตบ์ ่อสำหรับดกั
น้ำเพื่อดูดน้ำข้ึนจำกกน้ ลิฟต์ ตรวจสอบอุปกรณ์กนั กระแทก
ให้ติดต้งั มน่ั คงแข็งแรง ตรวจชนิดและจำนวนของสำยพำน
ของลวดสลิงใหถ้ ูกตอ้ งใชง้ ำนไดป้ ลอดภยั


Click to View FlipBook Version