ตรวจสอบควำมลึกของหลุม ลำ้ งทอ่
หลงั จำกท่ีเจำะดินมำจนถึงช้นั ทรำยแลว้ ปรกติจะไมม่ ีกำรฝืนเจำะต่อไปอีก เพรำะบำงแห่งเม่ือเจำะ
ต่อไป จะทะลชุ ้นั ทรำยลงมำจนมีน้ำทะลกั ข้นึ มำ
เมื่อเจำะไดท้ ี่แลว้ ข้นั ตอนตอ่ ไป จะเป็นกำรวดั ควำมลึกของหลุม
วดั โดยใชไ้ ม้ หรือ ท่อนพวี ีซีก็ได้ ยำว 1เมตร วดั ตำมสำยสลิงที่หิ้วกระบะตกั ดิน
ไปจนถึงปลำยกระบะตกั ดินตำมภำพ
ควรทรำบวำ่ ช้นั ดินทรำยท่ีเรำตอ้ งกำรใหป้ ลำยของเสำเขม็ ไปนงั่ อยบู่ นช้นั น้ี ไม่ไดอ้ ยทู่ ่ีควำมลึก 21
เมตรเสมอไป บำงแห่งต้ืนกว่ำน้ี และบำงแห่งลึกกวำ่ น้ี
เม่ือวดั เสร็จเรียบร้อยไดค้ วำมลึกและเจำะถึงช้นั ทรำยตำมท่ีตอ้ งกำรแลว้ ก่อนทำกำรเทคอนกรีต ช่ำง
จะทำกำรลำ้ งท่อเอำสิ่งสรกปรกในท่อออก
ทำไดโ้ ดยใชถ้ ุงปนู ซีเมนตว์ ำงท่ีปำกหลมุ เอำกระบะตกั ดินวำงทบั และป่ อลลง
ไปที่กน้ หลมุ จำกน้นั ดึงกระบะข้ึนมำ
สภำพภำยในหลมุ เจำะ มมุ มองจำกดำ้ นบนหลงั กำรลำ้ งท่อ
เหลก็ เสริมคอนกรีต และ ระยะคฟั เวอร์ริ่ง ระยะจำกผิวคอนกรีตดำ้ นนอก ถึงเหลก็ เสริมคอนกรีตที่อยู่
ดำ้ นใน)ตำมขอ้ กำหนดของบริษทั ที่รับทำเขม็ เจำะทวั่ ไป นินมใชเ้ หลก็ เสริมคอนกรีตดงั น้ี เหลก็ เสริมคอนกรีต
สำหรับเสำเขม็ ขนำดไดมิเตอร์ 35 ซ.ม. เหลก็ เมนปรกติแลว้ จะใชเ้ หลก็ ขอ้ ออ้ ย 12 ม.ม. 6 เสน้ เหลก็ ปลอกใช้
เหลก็ กลม 6 ม.ม. ระยะห่ำงระหวำ่ งปลอกคือ 20 ซ.ม.
ในขณะที่เสำเขม็ เจำะขนำดไดมิเตอร์ 50 ซ.ม. จะใชเ้ หลก็ ขอ้ ออ้ ย 16 ม.ม. 8 เสน้ เหลก็ ปลอกใชเ้ หลก็ กลม 6 ม.ม.
ระยะห่ำงระหวำ่ งปลอกคือ 20 ซ.ม. ควำมของเหลก็ เสริมคอนกรีตยำวตลอดถึงกน้ หลมุ (ในทอ้ งตลำดมีใชเ้ หลก็
เสริมคอนกรีตไม่ถึงกน้ หลุมกม็ ี อยำ่ งไรก็ตำมในกรณีที่ใชเ้ หลก็ เสริมคอนกรีตไม่ถึงกน้ หลุม ใหป้ รึกษำวศิ วกร
ผอู้ อกแบบ) กำรใส่เหลก็ เสริมลงในหลมุ นอกจำกจะตอ้ งมีควำมยำวตลอดแลว้ สิ่งที่ตอ้ งคำนึงถึงอีกเรื่องกค็ ือ
ระยะห่ำงของเหลก็ เสริมคอนกรีตท่ีอยดู่ ำ้ นใน กบั ผิวคอนกรีตท่ีอยนู่ อกสุด ภำช่ำงเรียก ระยะคฟั เวอร์ริ่ง สำหรับ
เขม็ เจำะคือ 7.5 ซ.ม.
เหลก็ เสริมคอนกรีตำหรับเสำเขม็ เจำะ ไดมิเตอร์ 35 ซ.ม.
กอ้ นกลมๆที่เห็นขำ้ งบนน้ี คือลูกปูนท่ีจะช่วยหนุนใหเ้ หลก็ เสริมคอนกรีตใหอ้ ยหู่ ่ำงจำก ผวิ ดำ้ นในของปลอก
เหลก็ หรือที่เรียกวำ่ ระยะคฟั เวอร์ริ่ง สำหรับเขม็ เจำะคพั เวอร์ร่ิงเทำ่ กบั 7.5 ซ.ม.
ภำพชุดลำ่ งเป็นข้นั ตอนในกำรนำเหลก็ เสริมคอนกรีตของเสำเขม็ ลงหลมุ
คอนกรีต สาหรับเข็มเจาะ
คอนกรีตที่ใช้ ปกติจะใชค้ อนกรีตสำหรับโครงสร้ำง หรือปอร์ตแลนดค์ อนกรีต ที่มีกำลงั อดั ประลยั เม่ือ
อำยคุ รบ 28 วนั ท่ี 240 ก.ก./ตร.ซ.ม. เมื่อทดสอบดว้ ยรูปทรงลกู บำศก์ หรือตำมท่ีวิศวกรกำหนดคอนกรีตท่ีใช้
บำงรำยก็ใชค้ อนกรีตผสมเสร็จมำเท บำงรำยก็ใชป้ ูนผสมโม่ก็มี ซ่ึง เรื่องน้ีข้ึนอยกู่ บั ขอ้ ตกลงที่ทำกบั บริษทั รับทำ
เขม็ เจำะ
เม่ือเทคอนกรีตเสร็จเรียบร้อยแลว้ ข้นั ตอนต่อไปคอื กำรถอนปลอกเหลก็ ออก
สภำพเสำเขม็ หลงั จำกกำรเท 8-10 วนั
กำรใชง้ ำนตอ้ งตดั หวั เขม็ ออกก่อน เพรำะหัวเขม็ ค่อนขำ้ งสกปรก
และเพอ่ื ใหไ้ ดร้ ะดบั ตำมที่ตอ้ งกำร
การตรวจสอบเสาเข็มเจาะ ต้องดูอะไรบ้าง
• ตรวจสอบ กำรลงปลอกเหลก็ ทอ่ นแรก วำ่ ศนู ยก์ ลำงของปลอกเหลก็ ตรงกบั ศนู ยก์ ลำงของเสำ ตำมท่ี
วำงผงั ไวห้ รือไม่
• ตรวจสอบ ขณะท่ีตอกปลอกลงไปในดิน ดูวำ่ ไดด้ ่ิงหรือไม่
• ตรวจสอบ ดินกน้ หลมุ วำ่ ถึงช้นั ทรำยหรือยงั ทำกำรวดั ควำมลึกของกน้ หลุม
• ตรวจสอบ เหลก็ เสริมคอนกรีตท่ีใช้ เตม็ น้ำหนกั หรือไม่ จำนวนเสน้ ครบถว้ นไหม ระยะห่ำงของ
เหลก็ ปลอก เป็นไปตำมที่กำหนดหรือไม่
• ตรวจสอบ กำรเทคอนกรีต คอนกรีตมิกซ์ดูตว๋ั ปูนวำ่ กำลงั อดั ไดต้ ำมที่กำหนดหรือไม่ เทภำยใน
ระยะเวลำท่ีกำหนดหรือไม่
• ตรวจสอบ กำรเทคอนกรีต กรณีปนู โม่ ในเรื่องส่วนผสม และควำมขน้ เหลว
• ตรวจสอบ กำรเทคอนกรีต ไดต้ ำมหลกั วิชำกำรหรือไม่
• ถำ้ ตอ้ งกำรทรำบวำ่ เสำเขม็ ท่ีเทไปแลว้ มีควำมสมบรูณ์หรือไม่ สำมำรถตรวจสอบได้ ดว้ ยวิธีไซซำ
มิคส์เทสต์
ตรวจสอบกำรลงศนู ยก์ ลำงเสำ ตรวจสอบด่ิงของปลอกเหลก็
ตรวจสอบดินกน้ หลุม วดั ควำมลึกของหลุม
ตรวจสอบเหลก็ เสริมคอนกรีต และคฟั เวอร์ริ่ง ตรวจสอบกำรเทคอนกรีต
ใบงานที่ 3 หน่วยที่ 3
สอนคร้ังที่ 3
วิชา การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวชิ า 30121-2101 เวลา 3 ช่ัวโมง
ช่ือหน่วย งานดนิ และงานฐานราก
ชื่องาน งานดนิ และงานฐานราก
จดุ ประสงค์
เม่ือฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยเก่ียวกบั งำนวำงผงั อำคำรได้
2. อธิบำยเกี่ยวกบั งำนขดุ และงำนถมดินได้
3. อธิบำยเกี่ยวกบั งำนเสำเขม็ คอนกรีตหล่อสำเร็จรูปได้
4. อธิบำยเกี่ยวกบั งำนเสำเขม็ คอนกรีตหลอ่ ในที่ได้
5. อธิบำยเก่ียวกบั งำนทดสอบเสำเขม็ ได้
เครื่องมือ - อุปกรณ์
1.เอกสำรใบงำน
ลาดบั ข้ันการปฏบิ ตั งิ าน
1.อธิบำยควำมควำมหมำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนดินและงำนฐำนรำก
ข้นั ใหข้ อ้ มลู
2.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เร่ืองงำนดินและงำนฐำนรำกหวั ขอ้ ตำ่ งๆในเอกสำร
ประกอบกำรสอน
3.อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้ืนฐำนของงำนดินและงำนฐำนรำก
4. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคมุ ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยเก่ียวกบั งำนดินและงำนฐำนรำกได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน
แบบประเมนิ ผลก่อนเรียนหน่วยท่ี3 เรื่อง งานดนิ และงานฐานราก
คาสั่ง จงทำเคร่ืองหมำย หนำ้ คำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว
1. กำรวำงผงั คือ กำรกำหนดตำแหน่งของบำ้ นท่ีจะสร้ำง ข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั ต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ตำแหน่งของบำ้ น ซำ้ ย ขวำ หนำ้ หลงั ของท่ีดินที่จะทำกำรสร้ำง
ข. สภำพดินฟ้ำอำกำศในกำรสร้ำง
ค. ควำมตอ้ งกำรของเจำ้ ของบำ้ น
ง. ควำมเหมำะสมของสถำนท่ีเป็นหลกั
2. กำรตรวจสอบหมดุ หลกั เขตที่ดิน กบั โฉนดท่ีดินวำ่ มีครบถว้ นหรือไม่เพื่ออะไร
ก. เพ่ือควำมสวยงำนแนวถนน ข. ป้องกนั ปัญหำกำรวำงมุดไม่ครบ
ค. เพ่ือตรวจสอบวำ่ ถูกตอ้ งตำมแบบหรือไม่ ง. เพือ่ ป้องกนั หมุดเคล่ือน
จ. กำรสำรวจดว้ ยเทปและกลอ้ งสำรวจ
3.ถำ้ ตอ้ งกำรดูวำ่ บำ้ นมีควำมเอียงหรือมีควำมสวยงำมรับกบั ถนนหรือไมค่ วรตรวจสอบดำ้ นใด
ก. ตรวจสอบผงั ก่อสร้ำง ตำแหน่ง ทิศทำง แนวฉำก
ข. ตรวจสอบระดบั พ้ืนควำมลำดเอียง
ค. ตรวจสอบส่วนท่ียน่ื ของอำคำร
ง. ตรวจสอบแนวอำ้ งอิง ตำมแนวแกนX และแนวแกนY
4. คำวำ่ ”ขดุ ดิน”หมำยถึงอะไร
ก. พ้ืนผวิ ของดินท่ีเป็นอยตู่ ำมสภำพธรรมชำติที่มีลกั ษณะเป็นหลมุ
ข. กำรกระทำต่อพ้นื ดินท่ีทำใหส้ ภำพหนำ้ ดินเปลี่ยนแปลงไป
ค. กระทำแก่พ้นื ดินเพ่อื นำดินข้ึนจำกพ้นื ดิน หรือทำใหพ้ ้ืนดินเป็นบอ่ ดิน
ง. ถกู ทุกขอ้
5.คำวำ่ ”แผนผงั บริเวณ”หมำยถึงอะไร
ก. แผนที่แสดงสภำพของท่ีดิน ที่ต้งั และขอบเขตของท่ีดินที่จะขดุ ดินหรือถมดิน
ข. บริเวณท่ีบ่งบอกควำมมีเจำ้ ของของท่ีดิน
ค. พ้นื ดินที่เป็นบริเวณของสถำนท่ีก่อสร้ำง
ง. แผนท่ีท่ีแสดงซ้ึงอำคำร หรือ ส่ิงก่อสร้ำงในบริเวณนน่ั ๆ
6. กำรปรับบริเวณที่จะทำกำรก่อสร้ำงตอ้ งทำส่ิงใดบำ้ ง
ก. ทำกำรถำงป่ ำ ข. ตดั โค่นตน้ ไม้ พมุ่ ไม้
ค. ขดุ ตอ รำกไม้ วชั พชื ง. ถกู ทกุ ขอ้ ท่ีกลำ่ วมำ
7. บรรดำส่ิงของท่ีไมพ่ งึ ประสงคต์ อ่ งำนก่อสร้ำง ผรู้ ับจำ้ งตอ้ งนำของเหล่ำน้ีไปทิ้ง ณ ท่ีใด
ก. ทิ้งในป่ ำ หรือแม่น้ำบริเวณนนั่
ข.ทิ้งในถงั ขยะที่เตรียมไวเ้ พื่อรอรถเก็บขยะนำไปกำจดั
ค. หลมุ ที่ขดุ ข้ึนเพื่อทิ้งขยะจำกกำรปรับบริเวณ
ง. บริเวณที่คระกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งกำหนดให้
8. กรณีท่ีแบบมิไดก้ ำหนดแนวเส้นขอบเขตกำรขดุ ไวค้ วรใช้SLOPE เท่ำไรในกำรขดุ ดิน
ก. 1:1/2
ข. 1:1/4
ค. 2:2/3
ง. 2:2/4
9. กำรขดุ ดินจำกบอ่ ยมื ดิน ผรู้ ับจำ้ งตอ้ งปฏิบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. วสั ดุจำกบ่อยมื ดินตอ้ งเป็นวสั ดุที่เหมำะสมแก่กำรนำมำใชใ้ นกำรถม
ข. ขดุ ลอกหนำ้ ดินออกไมน่ อ้ ยกวำ่ 30 เซนติเมตร
ค.นำดินท่ีขดุ ลอกไปฝังกลบวชั พชื ท่ีทำกำรถำงหรือขดุ มำ
ง. ตอ้ งถำงป่ ำ ขดุ ตอ รำกไม้ และวชั พืช บริเวณบ่อยมื ใหเ้ รียบร้อย
10. งำนดินถมนน่ั ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ใดบำ้ งที่สำมำรถนำมำใชง้ ำนได้
ก. ตอ้ งเป็นดินท่ีไดร้ ับกำรคดั เลือกแลว้
ข. ตอ้ งไดร้ ับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งเสียก่อน
ค. ผจู้ ำ้ งตอ้ งคิดรำคำงำนตำมท่ีระบุไวใ้ นสญั ญำ
ง. ถูกทุกขอ้ ที่กลำ่ วมำ
11. วสั ดุที่ไมต่ อ้ งกำรหมำยถึงต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. วสั ดุท่ีไม่ไดใ้ ชก้ ำรแลว้
ข. วสั ดุท่ีไมเ่ หมำะสมที่จะใชใ้ นงำนถมในบริเวณที่กำหนด
ค. วสั ดุท่ีเหมำะสมแตม่ ีปริมำณเกินควำมตอ้ งกำร
ง. วสั ดุที่ผรู้ ับจำ้ งตอ้ งขนยำ้ ยไปทิง้ ณ ตำแหน่งท่ีคณะกรรมกำรตรวจกำรแจง้ กำหนด
12. จงบอกคณุ สมบตั ิของกำรถมบดอดั แน่น(CLAYEY AND SILTY MAERIALS)
ก. กำรถมและบดอดั ดินตอ้ งกระทำโดยกำรใชเ้ ครื่องจกั รกล
ข. เคร่ืองจกั รกลท่ีใชบ้ ดอดั ตอ้ งเป็นชนิดเดียวกนั และน้ำหนกั เทำ่ กนั
ค. ตอ้ งตรวจสอบควำมช้ืนของดินท่ีบ่อยมื ดิน ก่อนนำมำใชง้ ำน
ง. ถกู ทุกขอ้ ท่ีกล่ำวมำ
13. ควำมหนำของดินแต่ละช้นั เม่ือบดอดั ไดท้ ี่แลว้ ตอ้ งมีควำมหนำตำมเกณฑต์ อ่ ไปน้ีคือ
ก. ถำ้ ใชล้ ูกกลิง้ ตีนแกะ ดินแต่ละช้นั ตอ้ งหนำไม่มำกกวำ่ 2/3 ของควำมยำวตีนแกะ หรือ
หนำไม่เกิน 15 เซนติเมตร แลว้ แตก่ รณีไหนนอ้ ยกวำ่ กนั
ข. ถำ้ ใชล้ กู กลิง้ ตีนแกะ ดินแตล่ ะช้นั ตอ้ งหนำไม่มำกกวำ่ 2/3 ของควำมยำวตีนแกะ หรือ
หนำไมเ่ กิน 20 เซนติเมตร แลว้ แตก่ รณีไหนนอ้ ยกวำ่ กนั
ค. ถำ้ ใชเ้ ครื่องกระทงุ้ ดิน หรือทำกำรกระทุง้ ดว้ ยแรงคนควำมหนำของดินแตล่ ะ่ ช้นั เม่ืออดั
แน่นแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 15 เซนติเมตร
ง. ขอ้ ก และ ค ถกู
14. ในกรณีท่ีตอ้ งทำกำรตรวจวดั ปริมำตรดินขุด เพือ่ พิจำรณำสำหรับกำรจ่ำยเงินค่ำจำ้ งรับเหมำตอ้ ง
ดำเนินกำรตรวจวดั ดงั ตอ่ ไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ก่อนทำกำรขดุ ดินและถมดิน คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งจะทำแผนท่ี รูปตดั ตำมแบบ
แสดงระดบั ดินถมไว้
ข. เมื่อผรู้ ับจำ้ งทำกำรขดุ ดินหรือถมดินเสร็จเรียบร้อยตำมงวดกำรส่งมอบคณะกรรมกำร
ตรวจกำรจำ้ งจะทำกำรวดั ระดบั และทำแผนที่ ตำมหลกั วชิ ำช่ำง
ค. ในกรณีท่ีมีกำรโตแ้ ยง้ เร่ืองกำรคำนวณปริมำตรดินขดุ หรือดินถม ใหถ้ ือเอำปริมำตรดิน
ขดุ หรือดินถมที่คณะกรรมกำรตรวจสอบวดั ไดเ้ ป็นสำคญั
ง. ในกรณีที่กำหนดแนวขอบเขตกำรขุดในแบบ ผวู้ ำ่ จำ้ งคำนวณปริมำตรดินขดุ ตำมแนว
ขอบเขตกำรขดุ ที่กำหนดในแบบ ง. ถกู
15. คอนกรีตที่นำมำใชใ้ นงำนเสำเขม็ เจำะเปี ยกตอ้ งมีคุณลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี
ก. สำมำรถอดั ตวั แน่นไดด้ ว้ ยน้ำหนกั จำกแรงกดทบั
ข. มีระยะกำรเร่ิมก่อตวั เร็วกวำ่ ปกติ
ค. ทนทำนต่อน้ำใตด้ ินชะลำ้ งและมีกำลงั อดั ตำท่ีออกแบบไว้
ง. มีควำมทนทำนต่อกำรหดตวั และกำรเยม้ิ
16.คอนกรีตเสำเขม็ ระบบเจำะเปี ยกที่ถือวำ่ มีคณุ ภำพดีนนั่ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิอยำ่ งงไร
ก. ขณะเหลวตอ้ งมีควำมเหลวเพยี งพอต่อกำรเทผำ่ นทอ่ Tremie Pile
ข. สำมำรถอดั ตวั แน่นไดเ้ องดว้ ยน้ำหนกั ตวั
ค.เน้ือคอนกรีตมีควำมสม่ำเสมอไมเ่ กิดสภำวะกำรแยกตวั และเกิดกำรเยม้ิ
ทุกขอ้
17.ควำมไมแ่ น่นอนของวสั ดุส่วนผสมที่นำมำจำกธรรมชำติ ข้ึนอยกู่ บั อะไร
ก. ควำมละเอียดอ่อนของทรำยซ่ึงข้ึนอยกู่ บั แหล่งที่มำ
ข. กรรมวิธีและช่วงเวลำท่ีนำมำใช้
ค. ส่วนผสมส่วนใหญม่ ำจำกธรรมชำติ
ง. ถูกทกุ ขอ้
18. สำเหตุที่คณุ สมบตั ิของคอนกรีตควำมผนั แปร ข้ึนอยกู่ บั คณุ สมบตั ิต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. สำเหตุจำกผผู้ ลิตคอนกรีต
ข. จำกกำรอดั ตวั แน่นสมบรู ณ์
ค. สำเหตุจำกเน้ือคอนกรีตเอง
ง. สภำพแวดลอ้ มในช้นั ดินที่ผิดไปจำกปกติ
19. กำรซึมผำ่ นของน้ำเขำ้ สู่เน้ือคอนกรีตไดม้ ำกหรือนอ้ ยข้นึ อยกู่ บั อะไร
ก. ควำมแขง็ แรง ข. อตั รำส่วนของน้ำ
ค. ควำมพรุนของซีเมนตเ์ พสต์ ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถกู
20. สำรเคมีชนิดใดที่ส่งผลต่อคุณภำพคอนกรีตเสำเขม็
ก. แคลเซียมซลั เฟล
ข. โซเดียมคลอไรด์
ค. แมกนีเซียม
ง. คลอไรด์
แบบประเมินผลหลงั เรียนหน่วยท่ี 3 เร่ือง งานดนิ และงานฐานราก
คาส่ัง จงทำเคร่ืองหมำย หนำ้ คำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว
1. กำรวำงผงั คือ กำรกำหนดตำแหน่งของบำ้ นท่ีจะสร้ำง ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ตำแหน่งของบำ้ น ซำ้ ย ขวำ หนำ้ หลงั ของท่ีดินท่ีจะทำกำรสร้ำง
ข.ควำมตอ้ งกำรของเจำ้ ของบำ้ น
ค. สภำพดินฟ้ำอำกำศในกำรสร้ำง
ง. ควำมเหมำะสมของสถำนท่ีเป็นหลกั
2. กำรตรวจสอบหมดุ หลกั เขตท่ีดิน กบั โฉนดที่ดินวำ่ มีครบถว้ นหรือไม่เพ่ืออะไร
ก. ป้องกนั ปัญหำกำรวำงมุดไมค่ รบ ข. เพ่ือควำมสวยงำนแนวถนน
ค. เพอื่ ตรวจสอบวำ่ ถูกตอ้ งตำมแบบหรือไม่ ง. เพ่ือป้องกนั หมุดเคล่ือน
3.ถำ้ ตอ้ งกำรดูวำ่ บำ้ นมีควำมเอียงหรือมีควำมสวยงำมรับกบั ถนนหรือไม่ควรตรวจสอบดำ้ นใด
ก. ตรวจสอบแนวอำ้ งอิง ตำมแนวแกนX
ข. ตรวจสอบระดบั พ้ืนควำมลำดเอียง
ค. ตรวจสอบส่วนที่ยนื่ ของอำคำร
ง. ตรวจสอบผงั ก่อสร้ำง ตำแหน่ง ทิศทำง แนวฉำก และแนวแกนY
4. คำวำ่ ”ขดุ ดิน”หมำยถึงอะไร
ก. พ้ืนผวิ ของดินท่ีเป็นอยตู่ ำมสภำพธรรมชำติท่ีมีลกั ษณะเป็นหลมุ
ข. กระทำแก่พ้ืนดินเพอื่ นำดินข้นึ จำกพ้ืนดิน หรือทำใหพ้ ้ืนดินเป็นบ่อดิน
ค.กำรกระทำต่อพ้ืนดินท่ีทำใหส้ ภำพหนำ้ ดินเปลี่ยนแปลงไป
ง. ถูกทกุ ขอ้
5.คำวำ่ ”แผนผงั บริเวณ”หมำยถึงอะไร
ก. แผนที่แสดงสภำพของท่ีดิน ที่ต้งั และขอบเขตของท่ีดินที่จะขดุ ดินหรือถมดิน
ข. บริเวณที่บ่งบอกควำมมีเจำ้ ของของที่ดิน
ค. พ้นื ดินท่ีเป็นบริเวณของสถำนที่ก่อสร้ำง
ง. แผนที่ท่ีแสดงซ้ึงอำคำร หรือ ส่ิงก่อสร้ำงในบริเวณนนั่ ๆ
6. กำรปรับบริเวณที่จะทำกำรก่อสร้ำงตอ้ งทำส่ิงใดบำ้ ง
ก. ทำกำรถำงป่ ำ ข. ตดั โคน่ ตน้ ไม้ พุ่มไม้
ค. ขดุ ตอ รำกไม้ วชั พชื ง. ถูกทุกขอ้ ท่ีกลำ่ วมำ
7. บรรดำส่ิงของท่ีไม่พงึ ประสงคต์ ่องำนก่อสร้ำง ผรู้ ับจำ้ งตอ้ งนำของเหล่ำน้ีไปทิ้ง ณ ที่ใด
ก. ทิง้ ในป่ ำ หรือแมน่ ้ำบริเวณนน่ั
ข.ทิ้งในถงั ขยะท่ีเตรียมไวเ้ พื่อรอรถเก็บขยะนำไปกำจดั
ค. หลมุ ท่ีขดุ ข้ึนเพื่อทิ้งขยะจำกกำรปรับบริเวณ
ง. บริเวณที่คระกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งกำหนดให้
8. กรณีท่ีแบบมิไดก้ ำหนดแนวเสน้ ขอบเขตกำรขดุ ไวค้ วรใช้SLOPE เท่ำไรในกำรขดุ ดิน
ก. 1:1/2
ข. 2:2/3
ค. 1:1/4
ง. 2:2/4
9. กำรขดุ ดินจำกบ่อยมื ดิน ผรู้ ับจำ้ งตอ้ งปฏิบตั ิดงั ต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. วสั ดุจำกบ่อยมื ดินตอ้ งเป็นวสั ดุท่ีเหมำะสมแก่กำรนำมำใชใ้ นกำรถม
ข. ขดุ ลอกหนำ้ ดินออกไม่นอ้ ยกวำ่ 30 เซนติเมตร
ค.นำดินท่ีขดุ ลอกไปฝังกลบวชั พชื ที่ทำกำรถำงหรือขดุ มำ
ง. ตอ้ งถำงป่ ำ ขดุ ตอ รำกไม้ และวชั พชื บริเวณบ่อยมื ใหเ้ รียบร้อย
10. งำนดินถมนนั่ ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ใดบำ้ งท่ีสำมำรถนำมำใชง้ ำนได้
ก. ตอ้ งเป็นดินที่ไดร้ ับกำรคดั เลือกแลว้
ข. ตอ้ งไดร้ ับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งเสียก่อน
ค. ผจู้ ำ้ งตอ้ งคดิ รำคำงำนตำมท่ีระบุไวใ้ นสญั ญำ
ง. ถกู ทุกขอ้ ท่ีกลำ่ วมำ
11. วสั ดุท่ีไมต่ อ้ งกำรหมำยถึงตอ่ ไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. วสั ดุท่ีไมไ่ ดใ้ ชก้ ำรแลว้
ข. วสั ดุที่ไม่เหมำะสมท่ีจะใชใ้ นงำนถมในบริเวณที่กำหนด
ค. วสั ดุที่เหมำะสมแตม่ ีปริมำณเกินควำมตอ้ งกำร
ง. วสั ดุท่ีผรู้ ับจำ้ งตอ้ งขนยำ้ ยไปทิง้ ณ ตำแหน่งที่คณะกรรมกำรตรวจกำรแจง้ กำหนด
12. จงบอกคุณสมบตั ิของกำรถมบดอดั แน่น(CLAYEY AND SILTY MAERIALS)
ก. กำรถมและบดอดั ดินตอ้ งกระทำโดยกำรใชเ้ ครื่องจกั รกล
ข. เครื่องจกั รกลท่ีใชบ้ ดอดั ตอ้ งเป็นชนิดเดียวกนั และน้ำหนกั เท่ำกนั
ค. ตอ้ งตรวจสอบควำมช้ืนของดินท่ีบ่อยมื ดิน ก่อนนำมำใชง้ ำน
ง. ถกู ทกุ ขอ้ ที่กลำ่ วมำ
13. ควำมหนำของดินแตล่ ะช้นั เม่ือบดอดั ไดท้ ี่แลว้ ตอ้ งมีควำมหนำตำมเกณฑต์ ่อไปน้ีคือ
ก. ถำ้ ใชล้ กู กลิ้งตีนแกะ ดินแต่ละช้นั ตอ้ งหนำไมม่ ำกกวำ่ 2/3 ของควำมยำวตีนแกะ หรือ
หนำไม่เกิน 15 เซนติเมตร แลว้ แต่กรณีไหนนอ้ ยกวำ่ กนั
ข. ถำ้ ใชล้ ูกกลงิ้ ตีนแกะ ดินแต่ละช้นั ตอ้ งหนำไม่มำกกวำ่ 2/3 ของควำมยำวตีนแกะ หรือ
หนำไม่เกิน 20 เซนติเมตร แลว้ แต่กรณีไหนนอ้ ยกวำ่ กนั
ค. ถำ้ ใชเ้ คร่ืองกระทุง้ ดิน หรือทำกำรกระทงุ้ ดว้ ยแรงคนควำมหนำของดินแต่ละ่ ช้นั เมื่ออดั
แน่นแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 15 เซนติเมตร
ง. ขอ้ ก และ ค ถูก
14. ในกรณีที่ตอ้ งทำกำรตรวจวดั ปริมำตรดินขดุ เพื่อพิจำรณำสำหรับกำรจ่ำยเงินคำ่ จำ้ งรับเหมำตอ้ ง
ดำเนินกำรตรวจวดั ดงั ตอ่ ไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ก่อนทำกำรขดุ ดินและถมดิน คณะกรรมกำรตรวจกำรจำ้ งจะทำแผนท่ี รูปตดั ตำมแบบ
แสดงระดบั ดินถมไว้
ข. เม่ือผรู้ ับจำ้ งทำกำรขดุ ดินหรือถมดินเสร็จเรียบร้อยตำมงวดกำรส่งมอบคณะกรรมกำร
ตรวจกำรจำ้ งจะทำกำรวดั ระดบั และทำแผนที่ ตำมหลกั วชิ ำช่ำง ง. ถกู
ค. ในกรณีที่มีกำรโตแ้ ยง้ เรื่องกำรคำนวณปริมำตรดินขดุ หรือดินถม ใหถ้ ือเอำปริมำตรดิน
ขดุ หรือดินถมท่ีคณะกรรมกำรตรวจสอบวดั ไดเ้ ป็นสำคญั
ง. ในกรณีท่ีกำหนดแนวขอบเขตกำรขุดในแบบ ผวู้ ำ่ จำ้ งคำนวณปริมำตรดินขดุ ตำมแนว
ขอบเขตกำรขดุ ท่ีกำหนดในแบบ
15. คอนกรีตที่นำมำใชใ้ นงำนเสำเขม็ เจำะเปี ยกตอ้ งมีคณุ ลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี
ก. สำมำรถอดั ตวั แน่นไดด้ ว้ ยน้ำหนกั จำกแรงกดทบั
ข. ทนทำนต่อน้ำใตด้ ินชะลำ้ งและมีกำลงั อดั ตำที่ออกแบบไว้
ค. มีระยะกำรเริ่มก่อตวั เร็วกวำ่ ปกติ
ง. มีควำมทนทำนต่อกำรหดตวั และกำรเยมิ้
16.คอนกรีตเสำเขม็ ระบบเจำะเปี ยกที่ถือวำ่ มีคุณภำพดีนน่ั ตอ้ งมีคณุ สมบตั ิอยำ่ งงไร
ก. ขณะเหลวตอ้ งมีควำมเหลวเพยี งพอต่อกำรเทผำ่ นทอ่ Tremie Pile
ข. สำมำรถอดั ตวั แน่นไดเ้ องดว้ ยน้ำหนกั ตวั
ค.เน้ือคอนกรีตมีควำมสม่ำเสมอไมเ่ กิดสภำวะกำรแยกตวั และเกิดกำรเยม้ิ
ทุกขอ้
17.ควำมไม่แน่นอนของวสั ดุส่วนผสมท่ีนำมำจำกธรรมชำติ ข้นึ อยกู่ บั อะไร
ก. ควำมละเอียดอ่อนของทรำยซ่ึงข้ึนอยกู่ บั แหลง่ ท่ีมำ
ข. กรรมวธิ ีและช่วงเวลำที่นำมำใช้
ค. ส่วนผสมส่วนใหญม่ ำจำกธรรมชำติ
ง. ถกู ทกุ ขอ้
18. สำเหตทุ ี่คณุ สมบตั ิของคอนกรีตควำมผนั แปร ข้ึนอยกู่ บั คณุ สมบตั ิต่อไปน้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. สำเหตุจำกผผู้ ลิตคอนกรีต
ข. สำเหตจุ ำกเน้ือคอนกรีตเอ
ค. จำกกำรอดั ตวั แน่นสมบรู ณ์ง
ง. สภำพแวดลอ้ มในช้นั ดินท่ีผิดไปจำกปกติ
19. กำรซึมผำ่ นของน้ำเขำ้ สู่เน้ือคอนกรีตไดม้ ำกหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั อะไร
ก. ควำมพรุนของซีเมนตเ์ พสต์
ข. อตั รำส่วนของน้ำ
ค. ควำมแขง็ แรง
ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู
20. สำรเคมีชนิดใดที่ส่งผลต่อคุณภำพคอนกรีตเสำเขม็
ก.แมกนีเซียม
ข. โซเดียมคลอไรด์
ค. แคลเซียมซลั เฟล
ง. คลอไรด์
แผนการจดั การเรียนรู้ รหสั วชิ า 30121-2101
เวลา 3 ช่ัวโมง
วชิ า วสั ดุและวธิ ีการก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม
หน่วยท่ี 4 เร่ือง วสั ดุผสมก่อสร้าง
หัวเร่ือง-หัวข้อย่อย
1.1 คอนกรีตและวสั ดุผสมคอนกรีต
1.2 วสั ดุก่อสร้ำงแบง่ ตำมลกั ษณะงำน
1.3 กำรตรวจสอบท่ีจำเป็นสำหรับงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำง
สาระสาคัญ
1. คอนกรีตเป็ นวสั ดุก่อสร้ำงท่ีเป็นวสั ดุผสม ประกอบดว้ ยปูนซีเมนต์ มวลรวม และน้ำ โดยมีอำกำศ
ในส่วนผสมปกติอีกประมำณร้อยละ 2.5 นอกจำกน้ี อำจจะมีสำรผสมอ่ืนๆเพิม่ ควำมจำเป็นคุณภำพของคอนกรีต
ข้ึนอยกู่ บั กำรควบคมุ คณุ ภำพและสดั ส่วนของวสั ดุส่วนผสมแต่ละชนิด รวมท้งั กำหนดระยะเวลำในกำรผสม
2. กำรผสมคอนกรีตจะตอ้ งให้ไดค้ อนกรีตที่มีส่วนผสมสม่ำเสมอ มีควำมขน้ เหลวท่ีพอเหมำะ และ
คอนกรีตมีกำลงั อดตำมท่ีออกแบบไวเ้ ม่ือมีอำยุตำมมำตรฐำน กำรผสมคอนกรีตจะตอ้ งจดั ปฏิภำคส่วนผสมให้
ประหยดั ที่สุดและใชง้ ำนไดด้ ีทีสุด
3. กำรตรวจสอบที่จำเป็ นสำหรับงำนผสมคอนกรีต ไดแ้ ก่ กำรตรวจสอบกำรเก็บรักษำวสั ดุผสมและ
กำรตรวจสอบคุณสมบตั ิของวสั ดุผสม รวมท้งั กำรตรวจสอบกำรผสมคอนกรีต คุณภำพของคอนกรีตที่ผสมใน
สถำนท่ีก่อสร้ำงข้ึนอยู่กับคุณสมบัติของวสั ดุผสมแต่ละชนิด รวมท้ังข้ันตอนและวิธีกำรผสมคอนกรีต
คุณสมบตั ิของวสั ดุผสมก็ข้ึนอยู่กบั กำรเก็บรักษำ ถำ้ กำรเก็บรักษำไม่ดีพอ วสั ดุผสมอำจจะเส่ือมสภำพและไม่
สำมำรถใชผ้ สมคอนกรีตได้
จดุ ประสงค์การเรียน การสอน
จดุ ประสงค์ทวั่ ไป
เม่ือศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยเกี่ยวกบั คอนกรีตและวสั ดุผสมคอนกรีตได้
2. อธิบำยวสั ดุก่อสร้ำงแบ่งตำมลกั ษณะงำนได้
3. อธิบำยกำรตรวจสอบท่ีจำเป็นสำหรับงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำงได้
กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำยควำมควำมหมำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำงเพ่ือนำเขำ้ สู่บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มูล
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เรื่องงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำงหวั ขอ้ ตำ่ งๆในเอกสำร
ประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้ืนฐำน หนำ้ ท่ี และขอ้ ควรปฏิบตั ิของงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำง
3. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคมุ ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้นั สรุป
สรุปสำระสำคญั เร่ืองงำนวสั ดุผสมก่อสร้ำงและสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน
กจิ กรรมนกั ศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลุม่ ยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคุมและวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. สื่อแผน่ ใส และส่ือนำเสนอ (Presentation)
3. สื่อ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
บรรณานุกรม กรุงเทพมหำนคร สมำคมส่งเสรม
พิภพ สุนทรสมยั คอนกรีตคอนสตน๊ั ชนั่ และกำรเขียนแบบอำคำรสูง
เทคโนโลย(ี ไทย-ญี่ป่ ุน) 2540
ววิ ตั ฒ์ ธรรมำภรณ์พลิ ำส คอนกรีตเสริมเหลก็ กรุงเทพมหำนคร ภำคพิมพ์ 2528
“กำรเตรียมกำรก่อนเทและกำรเทคอนกรีต” ในเอกสำรกำรสอนชุดวิชำกำรตรวจงำน หน่วยที่ 6 เลม่ ท่ี 1 พิมพ์
คร้ังที่ 7 นนทบุรี มหำวทิ ยำลยั สุโขทยั ธรรมำธิรำช 2537
บันทึกหลงั การสอน
หน่วยท่ี 4
งานวสั ดุก่อสร้าง
วัสดุก่อสร้าง คือ วสั ดุที่ใชใ้ นจุดประสงค์สำหรับกำรก่อสร้ำง ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ที่อยู่อำศยั ของมนุษยแ์ ละ
ส่ิงมีชีวิตที่มนุษยส์ ร้ำงข้นึ รวมไปถึงสถำปัตยกรรมท่ีถกู สร้ำงข้ึน วสั ดุก่อสร้ำงมีกำรหลำกหลำยในทำงวสั ดุต้งั แต่
ดินจนถึงโลหะ พลำสติกหรือแกว้ วสั ดุแบ่งแยกในหลำยดำ้ นไม่ว่ำโครงสร้ำงทำงวตั ถุ จุดประสงค์กำรใช้งำน
มกั จะหมำยถึงชิ้นส่วนผลิตภณั ฑ์ สำหรับใชใ้ นงำนจำเพำะเจำะจงและอำจหมำยถึงวสั ดุต่ำงชนิดไดเ้ ช่น เสำเข็ม
สำมำรถหมำยถึง เสำเข็มคอนกรีต เสำเข็มไม้ หรือเสำเข็มเหล็ก หรือแม้แต่ในปัจจุบันได้มีกำรเล็งเห็นถึง
ควำมสัมพนั ธ์ของวสั ดุก่อสร้ำงและส่ิงแวดลอ้ ม ไดม้ ีหลำยองคก์ ำรที่จดั แบ่งแยกวสั ดุออกตำมกำรนำกลบั มำใช้
ใหม่
ในเมืองไทยคอนกรีตเป็นวสั ดุก่อสร้ำงที่นิยมมำกท่ีสุดในปัจจุบนั เนื่องจำกคุณสมบตั ิท่ีแข็งแรงและทน
ไฟ คอนกรีตได้มีกำรใช้ในงำนอำคำร ถนน หรือแมแ้ ต่อนุสำวรีย์ และดว้ ยเหตุผลทำงกำรเมืองที่รัฐบำลมีกำร
สนบั สนุนคอนกรีต และมีกำรต้งั ภำษนี ำเขำ้ ของเหลก็ สูง
วสั ดุก่อสร้างแบ่งตามลกั ษณะงาน
ตำมลกั ษณะงำน วสั ดุก่อสร้ำงสำมำรถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 15 หมวด คอื
งานดิน ถนน ฐานราก
หมวด 1 งำนดิน ถนน ฐำนรำก หมำยถึงวสั ดุท่ีใชใ้ นงำนโครงสร้ำง ก่อสร้ำงถนน ฐำนรำกอำคำร-
สิ่งก่อสร้ำง วสั ดุในหมวดน้ีไดแ้ ก่ กล่องลวดตำข่ำย กำแพงไดอะแฟรม ทรำยใยสังเครำะห์ แผน่ พลำสติกปรู อง
พ้ืนคอนกรีต-อำ่ งเกบ็ น้ำ แผ่นใยสังเครำะหส์ ำหรับงำนดิน ยำงมะตอย รำวเหลก็ กนั ถนน สีทำถนน เสำเขม็ กลม
แรงเหวี่ยงอดั แรง เสำเขม็ เข่ือน เสำเขม็ คอนกรีตอดั แรง เสำเขม็ เจำะ เสำเขม็ พืดเหลก็ กลำ้ และ เสำเขม็ ไม้
คอนกรีต
หมวด 2 คอนกรีต เป็นหมวดของวสั ดุกลุ่มคอนกรีต-ซีเมนต์ ไดแ้ ก่ คอนกรีตบลอ็ ก คอนกรีตบลอ็ ก
กำแพงกนั ดิน คอนกรีตบลอ็ กปูถนน-ทำงเทำ้ คอนกรีตเบำ คอนกรีตผสมเสร็จ คอนกรีตเสริมใยแกว้ คำน
สะพำนคอนกรีตอดั แรง ชิ้นส่วนบำ้ นและอำคำรคอนกรีตสำเร็จรูป ท่อคอนกรีตดนั ลอด ท่อระบำยน้ำคอนกรีต
บ่อพกั คอนกรีต ปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนตข์ ำว ปูนซีเมนตผ์ สมเสร็จ ปูนทนไฟ อิฐทนไฟ ผนงั คอนกรีตเบำ ผนงั
คอนกรีตสำเร็จรูป แผงคอนกรีตก้นั ถนน พ้ืนคอนกรีตสำเร็จรูป พ้ืนคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง พ้นื คอนกรีต
อดั แรงระบบโพสตเ์ ทนชน่ั ร้ัวคอนกรีตสำเร็จรูป เสำไฟฟ้ำคอนกรีตอดั แรง หิน ดิน ทรำย และ อิฐมวลเบำ
เคมีภณั ฑ์ก่อสร้าง
หมวด 3 เคมีภณั ฑก์ ่อสร้ำง เป็นหมวดของวสั ดุทำงเคมี ซ่ึงใชใ้ นสนบั สนุนงำนคอนกรีตและงำน
โครงสร้ำง วสั ดุในหมวดน้ีคือ กำว-ยำแนว เคมีภณั ฑท์ ำควำมสะอำด น้ำยำกนั ซึม วสั ดุกนั ซึม น้ำยำทำแบบ น้ำยำ
บม่ คอนกรีต น้ำยำประสำนคอนกรีต น้ำยำผสมคอนกรีตเพือ่ เร่งกำรแขง็ ตวั น้ำยำผสมคอนกรีตเพ่ือลดน้ำและ
เพมิ่ กำลงั น้ำยำผสมคอนกรีตเพ่อื หน่วงกำรแขง็ ตวั น้ำยำผสมปูนก่อ-ปูนฉำบ น้ำยำลำ้ ง/เคลือบเงำพ้ืนหินอ่อน
และแกรนิต ปูนซีเมนตพ์ ิเศษสำหรับงำนเกร๊ำทแ์ ละซ่อมโครงสร้ำง ปูนเทปรับระดบั พ้ืน แผน่ กนั น้ำ แผน่ ก้นั
รอยต่อคอนกรีต แผน่ ยำงรองคอสะพำน แผน่ วสั ดุปูกนั ซึม-กนั ช้ืน พ้ืนผิวแกร่ง พ้นื อีพอ็ กซี่ไฟเบอร์กล๊ำส วสั ดุ
กนั ไฟโครงสร้ำงเหลก็ วสั ดุเคลือบป้องกนั กำรกดั กร่อน วสั ดุซ่อมรอยแตกร้ำว วสั ดุเสริมควำมแขง็ แรงของ
คอนกรีต วสั ดุอุดน้ำ วสั ดุอุดร่องและยำแนวรอยตอ่ สำรเคลือบสระวำ่ ยน้ำใชแ้ ทนกระเบ้ือง
งานเหลก็
หมวด 4 เหลก็ โลหะ ไดแ้ ก่วสั ดุจำพวกโลหะ เช่น ขอ้ ต่อเหลก็ เสน้ โครงเหลก็ โครงหลงั คำเหลก็ โครง
เหลก็ สำเร็จรูป ตะแกรงเหลก็ ลวดตำขำ่ ย ตะแกรงเหลก็ พ้ืนทำงเทำ้ ตะแกรงเหลก็ เสริมคอนกรีต ท่อสแตนเลส
และอปุ กรณ์ ทองแดง ทองเหลือง นอ็ ต-สกรู ลวด ลวดสลิง สลิงอ่อน ลวดเหลก็ เสริมคอนกรีตอดั แรง สแตนเลส
เหลก็ โครงสร้ำงรูปพรรณ เหลก็ แผน่ เหลก็ แผน่ ลำยกนั ล่ืน เหลก็ เส้น อะลมู ิเนียม
รายการตรวจสอบงานโครงสร้างเหลก็
➢ ตรวจสอบลกั ษณะของวสั ดุ เช่นตรง สนิม โก่ง กำรโคง้ งอ
➢ ตรวจสอบขนำดควำมหนำ และพ้ืนที่หนำ้ ตดั ของเหลก็
➢ ตรวจสอบคำ่ ควำมควำมเคล่ือนของขนำดที่กำหนด
➢ ตรวจสอบชนิดของเหลก็ โดยใหน้ ำชิ้นตวั อยำ่ งไปทดสอบ
➢ ตรวจสอบหมุดย้ำท้งั รูปร่ำงและชนิดที่ใช้
➢ ตรวจสอบระยะห่ำงระหวำ่ งหมดุ ย้ำ
➢ ตรวจสอบสลกั เกลียว และวงแหวน
➢ ตรวจสอบเคร่ืองมือขนั สลกั เกลียวที่รับแรงพเิ ศษ
➢ ตรวจสอบกำรเจำะรูท้งั ถำวรและชวั่ ครำว
➢ ตรวจสอบตำแหน่ง กำรจดั ระยะ และควำมยำวของเหลก็
➢ ตรวจสอบประเภทของธูปเช่ือม
➢ ตรวจสอบคุณสมบตั ิของช่ำงเช่ือม ควรมีกำรทดสอบก่อน
➢ ตรวจสอบผวิ ม่ีเชื่อม และกำรเชื่อมทบั ผวิ เดิม
➢ ตรวจสอบกำรเช่ือมแบบต่ำงๆเช่น ทำบโลหะ ตรึง และแนวส้นั ๆ
➢ ตรวจสอบกำรเผ่ือระยะ สำหรับหดตวั กำรผิดรูปหรือกำรยดึ เหน่ียวในกำรเช่ือม
➢ ตรวจสอบกำรเช่ือมภำยหลงั ของปลำยสุดของรอยเช่ือม ท่ีขอบของมุมจุดเริ่มและจุดจบ
➢ ตรวจนง่ั ร้ำน สำหรับกำรเชื่อม
➢ ตรวจสอบกระแสไฟฟ้ำและกำรลดั วงจรไฟฟ้ำขณะเช่ือม
➢ ตรวจสอบควำมหนำของรอยเช่ือม
➢ ตรวจสอบกำรตดั เหลก็
➢ ตรวจสอบกำรทำควำมสะอำดผวิ เหลก็ ก่อนกำรเช่ือม
➢ ตรวจสอบกำรประกอบรูปโครงเหลก็ ตำ่ งๆในโรงงำนประกอบ
➢ ตรวจสอบกำรขนยำ้ ยและกำรขนส่ง
➢ ตรวจสอบกำรประกอบติดต้งั จริงในสถำนท่ีก่อสร้ำง
➢ ตรวจสอบกำรทำสีรองพ้ืนป้องกนั สนิม
➢ ตรวจสอบกำรป้องกนั ควำมเสียหำย อนั เกิดจำกสะเก็ดไฟเชื่อม โดยเฉพำะอำจทำใหเ้ กิดไฟไหมแ้ ละ
สะเกด็ ไฟถกู กระจกเสียหำย
➢ ตรวจสอบระดบั แนวรำบ แนวด่ิง ตำแหน่ง ระยะห่ำงของโครงเหลก็ ส่วนต่ำงๆใหต้ รงตำมระบุใน
แบบ
➢ ตรวจระยะห่ำงของชิ้นงำนท่ีจะเชื่อมติดกนั ใหเ้ ป็นไปตำมแบบ
➢ สำยดิน หำ้ มใชเ้ หลก็ เสริมโครงสร้ำงมำต่อแทนสำยดินเด็ดขำด ใหใ้ ชส้ ำยไฟ
งานพืน้ และผนัง
หมวด 5 พ้ืน ผนงั ไดแ้ ก่วสั ดุปพู ้ืน บผุ นงั และงำนท่ีเก่ียวขอ้ ง มีวสั ดุจำนวนมำก เช่น กระเบ้ืองแกรนิต
กระเบ้ืองแกว้ โมเสคแกว้ กระเบ้ืองคอนกรีตปูพ้ืน-ทำงเทำ้ กระเบ้ืองแผน่ เรียบ กระเบ้ืองเซรำมิค กระเบ้ืองดินเผำ
กระเบ้ืองยำง กระเบ้ืองยำงพีวซี ี กระเบ้ืองยำงสงั เครำะห์ กระเบ้ืองหินขดั กระเบ้ืองหินอ่อนอดั โครงเคร่ำผนงั
เหลก็ ชุบสงั กะสี โครงเคร่ำผนงั อะลูมิเนียม โครงผนงั ไมส้ ำเร็จรูป โครงสร้ำงเบำแบบรังผ้งึ จมกู บนั ได บวั เชิง
ผนงั เซ้ียม ร่องสำเร็จรูป ผนงั กนั ควำมร้อน ผนงั กนั ไฟ ผนงั ก้นั หอ้ งกนั เสียงเคลื่อนยำ้ ยได้ ผนงั ทองแดงรีดลอน
แผน่ ซีเมนตบ์ อร์ด แผ่นเซลโลกรีต แผน่ ผนงั คอนกรีตเสริมใยแกว้ แผน่ ผนงั พีวซี ี แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แผน่
แมก็ นีเซียมบอร์ด แผน่ ยำง/บลอ็ กยำงปูพ้นื สำเร็จรูป แผน่ ยิบซมั่ บอร์ด แผน่ ยบิ ซมั่ ไฟเบอร์บอร์ด แผน่ เหลก็
เคลือบตกแตง่ และบผุ นงั อำคำร แผน่ อะลูมิเนียมตกแตง่ และบุผนงั อำคำร แผน่ อะคสู ติคบอร์ด พรมพีวซี ี พรมยำง
ดกั ฝ่นุ พรมหญำ้ เทียม พ้นื คอนกรีตพมิ พล์ ำย พ้ืน-ผนงั เหลก็ เคลือบรีดลอน พ้นื ยก ไมฝ้ ำสงั เครำะห์ ไม้
สงั เครำะห์-ไมเ้ ทียม ร้ัว-ระแนงพวี ซี ี ลูกกรง-ช่องลมเซรำมิค วสั ดุกนั เสียง-ดูดซบั เสียง หินแกรนิต หินอ่อน หิน
ขดั หินลำ้ ง กรวดลำ้ ง ทรำยลำ้ ง หินกำบ หินชนวน หินภูเขำ หินประดิษฐ์ (หินเทียม) อิฐก่อ อิฐโปร่ง อิฐประดบั
อิฐขำว
รายการตรวจสอบงานพื้นสาเร็จรูป
➢ ตรวจสอบนิดของพ้นื ที่ใชต้ ำมระบุในแบบหรือรำยกำร
➢ ตรวจสอบรอยแตกหกั
➢ ตรวจสอบวิธีกำรติดต้งั ทิศทำงกำรวำงและค้ำยนั
➢ ตอ้ งมีกำรคำนวณพร้อมกบั กำรทดสอบกำรรับน้ำหนกั ของพ้นื
➢ ตรวจสอบปลำยของพ้ืนที่นงั่ อยบู่ นคำนถกู ตอ้ งตำมขอ้ กำหนดหรือไม่
➢ ตรวจสอบกำรเสริมเหลก็
➢ พ้นื สำเร็จรูปช้นั บนสุด(ดำดฟ้ำ)ควรผสมน้ำยำกนั ซึมกบั คอนกรีตทบั หนำ้ และควรมีเหลก็ กนั แตก
เนื่องจำกอณุ หภมู ิ
➢ ตรวจสอบพ้นื ที่จะตอ้ งเวน้ ไวเ้ ปิ ดช่อง และพ้ืนที่ยงั เหลือเศษจำกกำรปู
➢ ตรวจสอบควำมหนำของพ้นื คอนกรีตทบั หนำ้
➢ ตรวจสอบขนำดและระยะห่ำงของเหลก็ เสียบไวส้ ำหรับยดึ ดวงโคม และทอ่ ตำ่ งๆตำมแนวท่ีกำหนด
➢ ตรวจสอบกำรขนส่ง
➢ ตรวจสอบกำรกองวสั ดุ ใหเ้ ป็นไปตำมท่ีออกแบบไว้
➢ เตรียมผิวหนำ้ พ้ืนไวเ้ พื่อกำรตกแตง่ ผิวตำมระบุในแบบ
➢ ตรวจสอบระดบั ใหแ้ น่นอน ตรงกบั ที่ระบใุ นแบบ
➢ ขณะเทคอนกรีต ตอ้ งไม่เทรวมกนั เป็นจุดเดียว เนื่องจำกน้ำหนกั อำจมำกเกินไป
➢ ในกรณีท่ีผวิ ตกแตง่ เป็นหินขดั อำจแตกร้ำวไดท้ ่ีรอยต่อพ้นื สำเร็จรูปหลงั คำน ใหป้ รึกษำกบั ผอู้ อกแบบ
เพ่ือแกไ้ ขก่อน
➢ กำรยดึ อปุ กรณ์อื่นติดกบั ตงของระบบพ้นื สำเร็จรูป ใหป้ รึกษำวิธีกำรยดึ กบั ผอู้ อกแบบก่อนเสมอ
งานหลงั คาและเพดาน
หมวด 6 หลงั คำ เพดำน ไดแ้ ก่ กระเบ้ืองคอนกรีตปพู ้ืนดำดฟ้ำ กระเบ้ืองคอนกรีตมุงหลงั คำ กระเบ้ือง
เซรำมิคมุงหลงั คำ กระเบ้ืองเซลโลกรีตมุงหลงั คำ กระเบ้ืองดินเผำมุงหลงั คำ กระเบ้ืองโปร่งแสง กระเบ้ืองไฟ
เบอร์ซีเมนตม์ งุ หลงั คำ กระเบ้ืองเหลก็ เคลือบมุงหลงั คำ โครงเคร่ำเพดำนเหลก็ ชุบสงั กะสี โครงเคร่ำเพดำน
อะลูมิเนียม โครงสร้ำงผำ้ ใยสงั เครำะห์ โครงหลงั คำไมส้ ำเร็จรูป แปหลงั คำเหลก็ สำเร็จรูป ผำ้ ใบ แผน่ คำร์บอน
ไฟเบอร์ยพู วี ซี ีมงุ หลงั คำ แผ่นชิงเก้ิลมุงหลงั คำ แผน่ ปิ ดเชิงชำยใตห้ ลงั คำกนั นก แผน่ ปิ ดรอยต่อกระเบ้ืองหลงั คำ
กนั ซึม แผน่ ฝ้ำเพดำน แผน่ ฝ้ำเพดำนเคลือบไวนิล-พวี ซี ี ฝ้ำชำยคำไวนิล ฝ้ำเพดำนโลหะ ระแนง-แปหลงั คำพีวีซี
สำเร็จรูป [[[รำงน้ำฝน รำงน้ำฝนอะลูมิเนียม รำงน้ำฝนสำเร็จรูป seamless aluminum
gutter]]]http://www.igsgutter.com สงั กะสีมงุ หลงั คำ หลงั คำทองแดงรีดลอน หลงั คำเหลก็ เคลือบรีดลอน หลงั คำ
อะลมู ิเนียมรีดลอน
ไม้ พลาสติก กระจก
หมวด 7 ไม้ พลำสติก กระจก เป็นหมวดที่แยกออกมำจำกหมวดหลกั อื่นๆ เน่ืองจำกงำนไม้ พลำสติก
และกระจก มีควำมหลำกหลำย วสั ดุในหมวดน้ีไดแ้ ก่ กระจก กระจกกนั กระสุน กระจกกนั ไฟ กระจกแกะสลกั -
พ่นลำย กระจกเงำ กระจกฉนวนกนั ควำมร้อน (กระจกสูญญำกำศ) กระจกดดั โคง้ กระจกนิรภยั กระจกลวดลำย
กระจกลวดลำยเคลือบเซรำมิค กระจกสลบั สี กระจกสีตดั แสง กระจกสะทอ้ นแสง โครงสร้ำงผนงั กระจก
ตะแกรงไฟเบอร์กล๊ำส ตำขำ่ ยพลำสติก แผน่ พลำสติก แผน่ อะครีลิค แผน่ พลำสวดู แผ่นโพลีคำร์บอเนต แผ่นไฟ
เบอร์กล๊ำส ฟิ ลม์ กรองแสง ไมค้ อร์ก ไมบ้ วั ไมค้ ้วิ ไมล้ กู กรง-รำวบนั ได ไมป้ ำร์เก้ ไมพ้ ้ืน ไมป้ รู ะเบียง ไมแ้ ปรรูป
ไมไ้ ผอ่ ดั ไมส้ ังเครำะห์-ไมเ้ ทียม ไมว้ เี นียร์ ไมอ้ ดั /บอร์ด
รายงานการตรวจสอบงานกระจก
➢ ตรวจสอบชนิดของกระจกท่ีใช้
➢ ตรวจสอบควำมหนำของกระจก
➢ ตรวจสอบตำหนิของกระจก
➢ ตรวจสอบขอบกระจกที่ถูกตดั
➢ ตรวจสอบวสั ดุที่ใชอ้ ุดยำแนวร่อง
➢ ตรวจสอบสีของกระจกและคณุ สมบตั ิตำมที่ตอ้ งกำรในแบบ
➢ ตรวจสอบกระจกที่ติดต้งั ในท่ีสูงรับแรงะทะของลม
➢ ตรวจสอบกระจกที่วำงกองไว้ หลงั จำกำรขนส่ง
➢ ตรวจสอบอปุ กรณ์ตลอดจนเครื่องใชแ้ ละวธิ ีกำรติดต้งั กระจก
➢ ตรวจสอบควำมประณีตของช่ำง
➢ ตรวจสอบกำรป้องกนั กระจกเสียหำยหลงั ติดต้งั แลว้ เช่น กำรป้องกนั กำรกระแทก และป้องกนั สะเก็ด
ไฟจำกงำนเช่ือมเป็ นตน้
ประตู หน้าต่าง
หมวด 8 ประตู หนำ้ ตำ่ ง ประกอบดว้ ย กญุ แจระบบกำร์ด (คยี ก์ ำร์ด) กุญแจอิเลก็ ทรอนิกส์ กุญแจลกู บิด
ประตู โชค้ อพั ประตู บำนเกล็ดหนำ้ ตำ่ ง บำนซ้ิงค์ บำนพบั ประตูตรวจจบั อำวธุ ประตพู ีวีซี ประตไู ฟเบอร์กลำ๊ ส
ประตไู ม้ ประตู-หนำ้ ตำ่ งยพู ีวีซี ประตูใยไมอ้ ดั แขง็ ประตูโรงงำน-ประตูโรงรถอตั โนมตั ิ ประตสู แตนเลส ประตู
เหลก็ ประตเู หลก็ กนั ไฟ ประตูเหลก็ มว้ น ประตูเหลก็ ยดื ประตูอะลูมิเนียม ประตูอตั โนมตั ิ ประตูอลั ลอยด์ ประตู
ร้ัว ประตูเอบีเอส มือจบั ประต-ู หนำ้ ต่ำง มุง้ ลวด ลูกกรง รำวบนั ได เหลก็ ดดั หนำ้ ตำ่ งพวี ซี ี หนำ้ ต่ำงไม้ หนำ้ ต่ำง
ระบำยอำกำศแบบติดหลงั คำ หนำ้ ต่ำงเหลก็ หนำ้ ตำ่ งอะลูมิเนียม อปุ กรณ์ประตู-หนำ้ ต่ำง อปุ กรณ์เปิ ด-ปิ ดประตู
อตั โนมตั ิ
รายการตรวจสอบ งานวงกบ ประตูกหน้าต่างไม้และโลหะ
➢ ตรวจสอบชนิดวสั ดุท่ีใช้
➢ ตรวจสอบขนำดและชิ้นส่วนขององคป์ ระกอบ
➢ ตรวจสอบกำรเชำะร่องหรือบงั ใบ
➢ ตรวจสอบกำรยดึ และติดต้งั
➢ ตรวจสอบกำรติดต้งั กระจกและชนิดวสั ดุที่ใชอ้ ดุ ยำแนวร่องกระจกกบั ตวั บำน
➢ ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กลอน บำนพบั กญุ แจ เป็นตน้
➢ ตรวจสอบกำรขนส่งและเกบ็ รักษำ
➢ ตรวจสอบกำรป้องกนั น้ำร่ัวซึม ตำมรอยต่อรอบๆวงกบประตู หนำ้ ตำ่ ง ท้งั ภำยใน และภำยนอก
➢ ตรวจสอบควำมประณีตของช่ำง
➢ ตรวจสอบมุง้ ลวด
➢ ตรวจสอบกำรทำสี
➢ ตรวจสอบกำรเขำ้ ไมท้ ่ีรอยต่อ
➢ ตรวจสอบระดบั ประตู หนำ้ ต่ำง
➢ ตรวจสอบเหลก็ ถำ้ เป็นประตูเหลก็ มว้ น พร้อมอุปกรณ์กำรติดต้งั
➢ วงกบไมเ้ ม่ือติดต้งั แลว้ ตอ้ งป้องกนั ไมว้ งกบดูดน้ำดว้ ย
➢ ใหจ้ ดั มำตรกำรป้องกนั วงกบ กนั วงกบเสียดำย หลงั จำกติดต้งั แลว้ ดว้ ย
ห้องน้า สุขภัณฑ์
หมวด 9 ห้องน้ำ สุขภณั ฑ์ ประกอบดว้ ย ก๊อกน้ำ ฝักบวั ก๊อกน้ำอตั โนมตั ิ เครื่องทำน้ำร้อน-น้ำอุ่น เคร่ือง
เป่ ำมืออตั โนมตั ิ บำนเลื่อนหอ้ งน้ำ-ตอู้ ำบน้ำ ผนงั ก้นั ห้องน้ำสำเร็จรูป ผำ้ ม่ำนหอ้ งน้ำ-พรมกนั ล่ืน ฝำโถสว้ มรอง
นง่ั ฟลชั วำลว์ สุขภณั ฑ์ หอ้ งน้ำ-หอ้ งสุขำสำเร็จรูป อำ่ งอำบน้ำ อำ่ งสปำ จำกุ๊ซซี่ อุปกรณ์หอ้ งน้ำ
งานตกแต่ง
หมวด 10 งำนตกแต่ง ประกอบดว้ ย กระดำษปิ ดผนงั (วอลเปเปอร์) กนั สำด แผงกนั แดด แผงประดบั
ฉำกก้นั หอ้ ง ตน้ ไม-้ ดอกไมป้ ระดิษฐ์ ตูเ้ ซฟ น้ำมนั เคลือบแขง็ พ้นื ไม้ น้ำยำรักษำเน้ือไม้ สียอ้ มไม้ บวั -คิว้ ประดบั
สำเร็จรูป ป้ำยโฆษณำ ป้ำยกล่องไฟ ผำ้ บุเฟอร์นิเจอร์ ผำ้ ม่ำน-รำงม่ำนและอปุ กรณ์ แผ่นลำมิเนต-วสั ดุปิ ดผิว พรม
พรมแผน่ สำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์ มูล่ ่ี ม่ำนปรับแสงสี แชลแลค็ แลค็ เกอ้ ร์ น้ำมนั วำนิช สีทำกระเบ้ืองหลงั คำ สีผง สี
พน่ ลำย สีเคลือบนูน สีพ่น-ฉำบหินธรรมชำติ เสำโรมนั หินสังเครำะห์ อ่ำงลำ้ งจำน อิฐแกว้
ระบบประปา-สุขาภิบาล
หมวด 11 ระบบประปำ-สุขำภิบำล ประกอบดว้ ย เคร่ืองกรองน้ำ/ระบบกรองน้ำ เครื่องสูบน้ำ-เคมี-
ของเหลว ตะแกรงท่อน้ำทิง้ ถงั ดกั ไขมนั ถงั น้ำไฟเบอร์กล๊ำส / ถงั น้ำพอี ี (โพลีเอธิลีน) ถงั น้ำสแตนเลส ถงั น้ำ
เหลก็ อำบสังกะสี ถงั บำบดั น้ำเสีย ทอ่ /ขอ้ ตอ่ และอปุ กรณ์ ท่อซีเมนตใ์ ยหิน ท่อทองเแดง/ทองเหลือง ทอ่ พบี ีและ
อปุ กรณ์ ท่อพีพีและอปุ กรณ์ ทอ่ พพี ีอำร์และอุปกรณ์ ท่อพีวซี ีและอปุ กรณ์ ท่อพีอีและอุปกรณ์ ทอ่ ไฟเบอร์กล๊ำส
ทอ่ ยำง/ท่อออ่ นและอุปกรณ์ ท่อสแตนเลสและอปุ กรณ์ ท่อเหลก็ และอปุ กรณ์ ท่อเหลก็ เคลือบพีวซี ี ทอ่ เหลก็ บุพีอี
ทอ่ เอบีเอส มำตรวดั น้ำ วำลว์ สปริงเกอร์รดน้ำตน้ ไม้ หอถงั น้ำ อปุ กรณ์/ระบบบำบดั น้ำเสีย
ระบบปรับอากาศ
หมวด 12 ระบบปรับอำกำศ ประกอบดว้ ย เคร่ืองปรับอำกำศ เคร่ืองผลิตโอโซน เครื่องฟอกอำกำศ
ฉนวนกนั ควำมร้อน ฉนวนกนั ไฟ ท่อลม แผน่ ฟอยลส์ ะทอ้ นควำมร้อน พดั ลมระบำยอำกำศ ม่ำนลม ระบบทำ
ควำมเยน็ หอ้ งเยน็ หนำ้ กำกแอร์ หนำ้ ตำ่ งระบำยอำกำศแบบติดหลงั คำ ห้องควบคมุ ควำมสะอำด หอทำควำมเยน็
อปุ กรณ์/ระบบบำบดั อำกำศเสีย ฝ่นุ ควนั
ระบบไฟฟ้า
หมวด 13 ระบบไฟฟ้ำ ประกอบดว้ ย เครื่องกำเนิดไฟฟ้ำ เครื่องป้องกนั ไฟฟ้ำดูด-ไฟฟ้ำชอ็ ต โคมไฟ/
โคมไฟประดบั โคมไฟฉุกเฉินอตั โนมตั ิ/ป้ำยทำงออก ตสู้ วิทชบ์ อร์ด/แผงควบคมุ ทอ่ ร้อยสำยไฟ/รำงเดินสำยไฟ
บลั ลำสต์ มำตรวดั ไฟฟ้ำ ระบบควบคมุ ทำงเขำ้ -ออก ระบบควบคุมบำ้ น-อำคำรอจั ฉริยะ ระบบจดั ควิ อตั โนมตั ิ
ระบบตรวจจบั น้ำอตั โนมตั ิ ระบบโทรทศั นว์ งจรปิ ด ( CCTV ) ระบบโทรศพั ท์ ระบบป้องกนั อคั คีภยั /เคร่ือง
ดบั เพลิงและอปุ กรณ์ ระบบสญั ญำณกนั ขโมย ระบบสื่อสำร/เสำอำกำศ/จำนดำวเทียม ระบบแสง เสียง อุปกรณ์
กำรประชุม ลิฟท/์ บนั ไดเลื่อน/ทำงเล่ือน ลกู ถว้ ยไฟฟ้ำ สวทิ ช/์ ปลก๊ั สวิทชต์ ดั ตอนอตั โนมตั ิ สำยไฟ สำยเคเบิล
เสำโครงเหลก็ งำนส่ือสำรโทรคมนำคม เสำไฟฟ้ำแรงสูง หมอ้ แปลงไฟฟ้ำ หลอดไฟ อุปกรณ์ป้องกนั กำรระเบิด
อปุ กรณ์ป้องกนั ฟ้ำผำ่
งานก่อสร้างพเิ ศษ
หมวด 14 งำนก่อสร้ำงพิเศษ ประกอบดว้ ย เตำเผำขยะ ที่จอดรถสำเร็จรูป ป้อมยำม น้ำพุ น้ำตก ระบบ
ควบคุมทำงเขำ้ -ออกรถยนต์ แขนก้นั ทำงอตั โนมตั ิ สนำมกีฬำ โรงยมิ สนำมเดก็ เล่น สนำมเทนนิส สระวำ่ ยน้ำ
สำนกั งำน-ร้ำนคำ้ สำเร็จรูป เสำธง หอ้ งเซำน่ำ / ห้องอบไอน้ำ
เคร่ืองจกั ร-อปุ กรณ์ก่อสร้าง
หมวด 15 เคร่ืองจกั ร-อุปกรณ์ก่อสร้ำง ประกอบดว้ ย กระเชำ้ ไฟฟ้ำ กลอ้ งสำรวจ-อปุ กรณ์รังวดั เคร่ืองขดั
พ้ืน เคร่ืองจ้ีคอนกรีต เครื่องเจำะสกดั คอนกรีต เคร่ืองเจำะหิน-เครื่องจกั รงำนเหมืองแร่ เครื่องฉีดน้ำแรงดนั สูง
เครื่องเช่ือมและอุปกรณ์ เคร่ืองดดั เหลก็ -เครื่องตดั เหลก็ เครื่องตบดิน เคร่ืองตดั คอนกรีต เครื่องทำลำยคอนกรีต
เคร่ืองปั๊มคอนกรีต เคร่ืองผสมคอนกรีต เคร่ืองผสมยำงมะตอย เคร่ืองพ่นคอนกรีต เครื่องพ่นทรำย เครื่องพ่นปูน
ฉำบ เครื่องพ่นสี เคร่ืองมือช่ำง เคร่ืองมือไฟฟ้ำ เคร่ืองมือลม เครื่องมือ-อปุ กรณ์ขดั /เจียร เครื่องมือ-อุปกรณ์ทำ
ควำมสะอำด เคร่ืองยอ่ ยหิน เครื่องอดั คอนกรีตบลอ็ ก เคร่ืองอดั ลม ซอฟแวร์สำหรับกำรออกแบบและก่อสร้ำง
ทำวเวอร์เครน นงั่ ร้ำนและอุปกรณ์ แบบหล่อคอนกรีต (ไมแ้ บบ) แบบหล่อเสำกลม ปลก๊ั ฝังคอนกรีต-อปุ กรณ์ยดึ
คอนกรีต ป้ันจน่ั -เครื่องตอกเสำเขม็ พำลเลท รถกระเชำ้ รถขดุ รถตกั รถเกลี่ยดิน รถเข็น รถเครน รถดม๊ั เปอร์ รถ
เทรลเลอ่ ร์ รถบดอดั รถบบรรทกุ รถป๊ัมคอนกรีต รถปยู ำง รถผสมคอนกรีต รถยก-รถฟอร์กลิฟท์ รอก-เครน
ลิฟทก์ ่อสร้ำง อปุ กรณ์ตรวจสอบและวเิ ครำะห์ดิน อุปกรณ์ทดสอบกำลงั คอนกรีต
ใบงานที่ 4 หน่วยท่ี 4
สอนคร้ังที่ 4
วิชา การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวิชา 30121-2101 เวลา 3 ชั่วโมง
ช่ือหน่วย งานวัสดุผสมคอนกรีต
ชื่องาน งานวสั ดผุ สมคอนกรีต
จดุ ประสงค์
เมื่อฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยเก่ียวกบั คอนกรีตและวสั ดุผสมคอนกรีตได้
2. อธิบำยกำรผสมคอนกรีตและกำรจดั ปฏิภำคส่วนผสมได้
3. อธิบำยกำรตรวจสอบท่ีจำเป็นสำหรับงำนผสมคอนกรีตได้
เครื่องมือ - อุปกรณ์
1.เอกสำรใบงำน
ลาดบั ข้ันการปฏบิ ตั งิ าน
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคญั เน้ือหำสำระ เรื่องงำนผสมคอนกรีต หวั ขอ้ ตำ่ งๆในเอกสำร
ประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้นื ฐำน หนำ้ ท่ี และขอ้ ควรปฏิบตั ิของผคู้ วบคมุ งำนก่อสร้ำง
3. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคมุ ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยเกี่ยวกบั คอนกรีตและวสั ดุผสมคอนกรีตได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน
แบบประเมินผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 4 เรื่อง งานวสั ดผุ สม
คาส่ัง จงทำเคร่ืองหมำย หนำ้ คำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว
1. คอนกรีต เป็นวสั ดุท่ีนิยมใชใ้ นงำนก่อสร้ำงประกอบดว้ ย 3 ส่วนหลกั คือ ยกเวน้ อะไร
ก. ปูนซีเมนต์
ข. วสั ดุผสม
ค. น้ำ
ง. สำรผสมเพิ่ม
2. น้ำและซีเมนตเ์ ม่ือทำปฏิกิริยำทำงเคมีกนั เรียกลกั ษณะที่เกิดข้นึ วำ่ อะไร
ก. กำรไฮเดรชนั่ ข. กำรออกซิเดชนั่
ค. กำรออกไซด์ ง. กำรไฮซิเดรชน่ั
3. คอนกรีตจะเร่ิมแขง็ ตวั โดยประมำณหลงั จำกกำรแขง็ ตวั แลว้ กี่วนั
ก. 25 วนั ข. 26 วนั
ค. 27 วนั ง. 28 วนั
4.ถำ้ ตอ้ งกำรใหค้ อนกรีตสำมำรถรับแรงดึงจะมีกำรเสริมวสั ดุอื่นเพิม่ เขำ้ ไปใหค้ อนกรีตเรียกวำ่
ก. คอนกรีตเสริมแรง ข. คอนกรีตอดั แรง
ค. คอนกรีตสำเร็จรูป ง. คอนกรีตหลอ่ สำเร็จ
5.งำนดำ้ นไหนที่นิยมใชใ้ นงำนดำ้ นคอนกรีตอดั แรง
ก. งำนก่อสร้ำงอำคำร
ข. งำนสร้ำงถนน
ค. งำนสะพำนและทำงยกระดบั
ง. งำนดำ้ นโครงสร้ำงเสำ
6. อะไรที่มีอิทธิพลต่อกำลงั ของคอนกรีต
ก. วตั ถุดิบในกำรผสม ข. ปริมำณและส่วนผสมของคอนกรีต
ค. กำรใส่สำรผสมเพิ่ม ง. ควำมช้ืน
7. สดั ส่วนปูนซีเมนตต์ อ่ ทรำยตอ่ หินของงำนเสำและโครงสร้ำง คือ
ก. สัดส่วน 1:1.5:3
ข. สัดส่วน 1:2:4
ค.สดั ส่วน 1:2.5:4
ง. สัดส่วน 1:3:4
8. คณุ สมบตั ิของคอนกรีตท่ีแขง็ ตวั แลว้ คือ
ก. กำลงั อดั คงตวั
ข. ดำ้ นควำมทนทำน
ค. ควำมตำ้ นทำนและกำรซึมผำ่ นของน้ำ
ง. ถกู ทกุ ขอ้
9. ควำมสำมำรถเทได้ คือ
ก. ปริมำณงำนท่ีใชใ้ นกำรบดอดั คอนกรีตใหแ้ น่นโดยปรำศจำกกำรแยกตวั
ข. คณุ สมบตั ิของเน้ือคอนกรีตที่สำมำรถจบั รวมตวั เป็นกลมุ่ หรือสลำยตวั ออกจำกกนั ไดอ้ ีก
ค.สภำพควำมเหลวของคอนกรีตซ้ึงข้ึนอยกู่ บั ปริมำณน้ำเป็นส่วนใหญ่
ง. กำรแยกตวั ออกของส่วนประกอบต่ำงๆในเน้ือคอนกรีตทำใหส้ ่วนผสมมีเน้ือไมส่ ม่ำเสมอ
10. ควำมขน้ เหลว คือ
ก. กำรแยกตวั ออกของส่วนประกอบตำ่ งๆในเน้ือคอนกรีตทำใหส้ ่วนผสมมีเน้ือไม่สม่ำเสมอ
ข. สภำพควำมเหลวของคอนกรีตซ้ึงข้ึนอยกู่ บั ปริมำณน้ำเป็นส่วนใหญ่
ค. ปริมำณงำนที่ใชใ้ นกำรบดอดั คอนกรีตใหแ้ น่นโดยปรำศจำกกำรแยกตวั
ง. กำรแยกตวั ชนิดหน่ึง เกิดข้ึนเมื่อส่วนประกอบท่ีหนกั กวำ่ จมตวั ลงดนั น้ำซ่ึงเบำข้ึนมำสู่ผิว
11. ควำมสำมำรถในกำรเทข้ึนอยกู่ บั องคป์ ระกอบตำ่ งๆต่อไปน้ี ยกเวน้
ก. จำนวนน้ำในส่วนผสม
ข. คุณสมบตั ิของหิน ทรำย
ค. ส่วนผสมของคอนกรีต
ง. ช่วงเวลำในกำรเท
12. ขอ้ กำหนดคุณสมบตั ิทว่ั ๆไปของมวลรวมสำหรับงำนคอนกรีตมีดงั น้ี ยกเวน้
ก. ขนำดคละของมวลรวม ข. ดูดควำมช้ืนช่วยป้องกนั รำ และสนิม
ค. ควำมสำมำรถตำ้ นกำรเสียดสี ง. กำรอยตู่ วั
13. ควำมสำคญั ของน้ำมีดงั น้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ใชผ้ สมกบั ปูนซีเมนตเ์ พือ่ ใหเ้ กิดปฏิกิริยำไฮเดรชนั่
ข. ใชบ้ ม่ คอนกรีตใหม้ ีกำลงั เพม่ิ ข้ึน
ค. ใชล้ ำ้ งมวลรวมที่สกปรก
ง. ทำใหม้ ีควำมชุ่มช่ืน
14. วิธีใดที่ใชส้ งั เกตวำ่ น้ำน้นั ใชผ้ สมคอนกรีตไดห้ รือไม่ ยกเวน้ ขอ้ ใดต่อไปน้ี
ก. ควำมสะอำด
ข. รส
ค. สี
ง. ถกู ทุกขอ้
15. ควำมเป็นกรด-ด่ำง(PH)ในกำรผสมคอนกรีตอยใู่ นช่วงใด
ก. 6-8
ข. 7-8
ค. 8-9
ง. 9-10
16.สำรผสมเพิม่ หรือน้ำยำผสมคอนกรีต หมำยถึงสำรที่ก่อใหเ้ กิดอะไรตอ่ ไปน้ี
ก. เพอื่ ปรับปรุงหรือเพ่มิ ประสิทธิภำพคอนกรีต
ข. เพ่อื เพมิ่ ควำมแขง็ แรงใหค้ อนกรีต
ค. เพื่อทำใหค้ อนกรีตมีอำยกุ ำรใชง้ ำนยำวข้นึ
ง.ไม่มีขอ้ ใดถกู
17.มอก.213ไดก้ ำหนดมำตรฐำนขอบเขตควำมคลำดเคลื่อนของน้ำหนกั ปนู ซีเมนตไ์ วท้ ี่เท่ำไรที่น้ำหนกั นอ้ ยกวำ่
200 กก.
ก. ± 1% ข. ± 2%
ค. ± 3% ง. ± 4%
18. คอนกรีตอกั ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ท่ีสำคญั คือ
ก. กำลงั ของมอร์ตำ้ ข.กำลงั และโมดูลสั ยดี หยนุ่ ของมวลรวม
ค. แรงยดึ เหยยี่ วระหวำ่ งมอร์ตำ้ กบั ผวิ ของมวลรวม
ง. ถูกทกุ ขอ้
19. สำเหตุท่ีกำลงั อดั ไมเ่ ป็นไปตำมขอ้ กำหนดคือ
ก. ใชส้ ดั ส่วนผสมที่ไมเ่ หมำะสม ข. ควบคมุ ปริมำณน้ำไมด่ ีพอ
ค. ใชห้ ินทรำยที่ไม่มีคุณภำพตำมที่กำหนดไว้ ง. ถกู ทกุ ขอ้
20.ลกั ษณะกำรแตกหกั ของกอ้ นตวั อยำ่ งคอนกรีตที่รับแรงมกั แตกออกเป็นรูปใด
ก. รูปกรวยคู่ ข. รูปกรวย
ค. รูปบำศก์ ง. แตกละเอียด
แบบประเมินผลหลงั เรียนหน่วยที่ 4 เรื่อง งานวัสดุผสม
คาสั่ง จงทำเครื่องหมำย หนำ้ คำตอบที่ถกู ตอ้ งที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. คอนกรีต เป็นวสั ดุท่ีนิยมใชใ้ นงำนก่อสร้ำงประกอบดว้ ย 3 ส่วนหลกั คือ ยกเวน้ อะไร
ก. ปูนซีเมนต์
ข. วสั ดุผสม
ค. น้ำ
ง. สำรผสมเพิม่
2. น้ำและซีเมนตเ์ ม่ือทำปฏิกิริยำทำงเคมีกนั เรียกลกั ษณะท่ีเกิดข้นึ วำ่ อะไร
ก. กำรไฮเดรชนั่ ข. กำรออกซิเดชน่ั
ค. กำรออกไซด์ ง. กำรไฮซิเดรชน่ั
3. คอนกรีตจะเร่ิมแขง็ ตวั โดยประมำณหลงั จำกกำรแขง็ ตวั แลว้ กี่วนั
ก. 25 วนั ข. 26 วนั
ค. 27 วนั ง. 28 วนั
4.ถำ้ ตอ้ งกำรใหค้ อนกรีตสำมำรถรับแรงดึงจะมีกำรเสริมวสั ดุอ่ืนเพม่ิ เขำ้ ไปใหค้ อนกรีตเรียกวำ่
ก. คอนกรีตเสริมแรง ข. คอนกรีตอดั แรง
ค. คอนกรีตสำเร็จรูป ง. คอนกรีตหลอ่ สำเร็จ
5.งำนดำ้ นไหนท่ีนิยมใชค้ อนกรีตอดั แรง
ก. งำนก่อสร้ำงอำคำร
ข. งำนสร้ำงถนน
ค. งำนสะพำนและทำงยกระดบั
ง. งำนดำ้ นโครงสร้ำงเสำ
6. อะไรที่มีอิทธิพลต่อกำลงั ของคอนกรีต
ก. วตั ถุดิบในกำรผสม ข. ปริมำณและส่วนผสมของคอนกรีต
ค. กำรใส่สำรผสมเพ่ิม ง. ควำมช้ืน
7. สดั ส่วนปูนซีเมนตต์ ่อทรำยต่อหินของงำนเสำและโครงสร้ำง คอื
ก. สดั ส่วน 1:1.5:3
ข. สัดส่วน 1:2:4
ค.สัดส่วน 1:2.5:4
ง. สดั ส่วน 1:3:4
8. คณุ สมบตั ิของคอนกรีตที่แขง็ ตวั แลว้ คอื
ก. กำลงั อดั คงตวั
ข. ดำ้ นควำมทนทำน
ค. ควำมตำ้ นทำนและกำรซึมผำ่ นของน้ำ
ง. ถูกทุกขอ้
9. ควำมสำมำรถเทได้ คอื
ก. ปริมำณงำนท่ีใชใ้ นกำรบดอดั คอนกรีตใหแ้ น่นโดยปรำศจำกกำรแยกตวั
ข. คณุ สมบตั ิของเน้ือคอนกรีตท่ีสำมำรถจบั รวมตวั เป็นกลุ่มหรือสลำยตวั ออกจำกกนั ไดอ้ ีก
ค.สภำพควำมเหลวของคอนกรีตซ้ึงข้ึนอยกู่ บั ปริมำณน้ำเป็นส่วนใหญ่
ง. กำรแยกตวั ออกของส่วนประกอบต่ำงๆในเน้ือคอนกรีตทำใหส้ ่วนผสมมีเน้ือไมส่ ม่ำเสมอ
10. ควำมขน้ เหลว คือ
ก. กำรแยกตวั ออกของส่วนประกอบต่ำงๆในเน้ือคอนกรีตทำใหส้ ่วนผสมมีเน้ือไมส่ ม่ำเสมอ ข. สภำพ
ควำมเหลวของคอนกรีตซ้ึงข้ึนอยกู่ บั ปริมำณน้ำเป็นส่วนใหญ่
ค. ปริมำณงำนที่ใชใ้ นกำรบดอดั คอนกรีตใหแ้ น่นโดยปรำศจำกกำรแยกตวั
ง. กำรแยกตวั ชนิดหน่ึง เกิดข้นึ เมื่อส่วนประกอบที่หนกั กวำ่ จมตวั ลงดนั น้ำซ่ึงเบำข้ึนมำสู่ผวิ
11. ควำมสำมำรถในกำรเทข้ึนอยกู่ บั องคป์ ระกอบต่ำงๆต่อไปน้ี ยกเวน้
ก. จำนวนน้ำในส่วนผสม
ข. คณุ สมบตั ิของหิน ทรำย
ค. ส่วนผสมของคอนกรีต
ง. ช่วงเวลำในกำรเท
12. ขอ้ กำหนดคุณสมบตั ิทว่ั ๆไปของมวลรวมสำหรับงำนคอนกรีตมีดงั น้ี ยกเวน้
ก. ขนำดคละของมวลรวม ข. ดูดควำมช้ืนช่วยป้องกนั รำ และสนิม
ค. ควำมสำมำรถตำ้ นกำรเสียดสี ง. กำรอยตู่ วั
13. ควำมสำคญั ของน้ำมีดงั น้ียกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ใชผ้ สมกบั ปูนซีเมนตเ์ พอ่ื ใหเ้ กิดปฏิกิริยำไฮเดรชน่ั
ข. ใชบ้ ม่ คอนกรีตใหม้ ีกำลงั เพม่ิ ข้นึ
ค. ใชล้ ำ้ งมวลรวมท่ีสกปรก
ง. ทำใหม้ ีควำมชุ่มช่ืน
14. วธิ ีใดที่ใชส้ งั เกตวำ่ น้ำน้นั ใชผ้ สมคอนกรีตไดห้ รือไม่ ยกเวน้ ขอ้ ใดต่อไปน้ี
ก. ควำมสะอำด
ข. รส
ค. สี
ง. ถกู ทุกขอ้
15. ควำมเป็นกรด-ด่ำง(PH)ในกำรผสมคอนกรีตอยใู่ นช่วงใด
ก. 6-8
ข. 7-8
ค. 8-9
ง. 9-10
16.สำรผสมเพ่มิ หรือน้ำยำผสมคอนกรีต หมำยถึงสำรที่ก่อใหเ้ กิดอะไรต่อไปน้ี
ก. เพอ่ื ปรับปรุงหรือเพิม่ ประสิทธิภำพคอนกรีต
ข. เพือ่ เพิ่มควำมแขง็ แรงใหค้ อนกรีต
ค. เพ่อื ทำใหค้ อนกรีตมีอำยกุ ำรใชง้ ำนยำวข้ึน
ง.ไมม่ ีขอ้ ใดถกู
17.มอก.213ไดก้ ำหนดมำตรฐำนขอบเขตควำมคลำดเคลื่อนของน้ำหนกั ปนู ซีเมนตไ์ วท้ ี่เท่ำไรที่น้ำหนกั นอ้ ยกวำ่
200 กก.
ก. ± 1% ข. ± 2%
ค. ± 3% ง. ± 4%
18. คอนกรีตอกั ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ท่ีสำคญั คือ
ก. กำลงั ของมอร์ตำ้ ข.กำลงั และโมดูลสั ยดี หยนุ่ ของมวลรวม
ค. แรงยดึ เหยย่ี วระหวำ่ งมอร์ตำ้ กบั ผิวของมวลรวม
ง. ถกู ทกุ ขอ้
19. สำเหตทุ ่ีกำลงั อดั ไมเ่ ป็นไปตำมขอ้ กำหนดคอื
ก. ใชส้ ัดส่วนผสมท่ีไมเ่ หมำะสม ข. ควบคมุ ปริมำณน้ำไม่ดีพอ
ค. ใชห้ ินทรำยที่ไมม่ ีคุณภำพตำมท่ีกำหนดไว้ ง. ถกู ทุกขอ้
20.ลกั ษณะกำรแตกหกั ของกอ้ นตวั อยำ่ งคอนกรีตที่รับแรงมกั แตกออกเป็นรูปใด
ก. รูปกรวยคู่ ข. รูปกรวย
ค. รูปบำศก์ ง. แตกละเอียด
แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า การควบคมุ และวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวชิ า 30121-2101
หน่วยที่ 5 งานเหลก็ เสริม เวลา 3 ช่ัวโมง
หวั เรื่อง-หวั ข้อย่อย
5.1 ควำมรู้พ้นื ฐำนเกี่ยวกบั กำรเสริมเหลก็
5.2 กำรตรวจสอบเหลก็ ก่อนกำรติดต้งั
5.3 กำรตรวจสอบกำรติดต้งั เหลก็ เสริม
สาระสาคญั
1. คอนกรีตเสริมเหล็กเป็ นวสั ดุที่สนองประโยชน์ในกำรออกแบบโครงสร้ำงต่ำงๆไดอ้ ยำ่ งดีเยี่ยมกำร
ออกแบบโครงสร้ำงคอนกรีตเสริมเหล็กจะตอ้ งทรำบขอ้ มูลท่วั ไปของเหล็กเสริม ไม่ว่ำจะเป็ นประเภทหรือ
คุณสมบัติของเหล็กเสริม และควรจะเข้ำใจพฤติกรรมของโครงสร้ำงเป็ นอย่ำงดี เพ่ือที่จ ะได้ออกแบบ
โครงสร้ำงเหล่ำน้นั อยำ่ งถูกตอ้ ง และสนองประโยชน์ตำมตอ้ งกำร รวมท้งั มีควำมปลอดภยั ตอ่ ผทู้ ่ีใชส้ ิ่งก่อสร้ำง
น้นั
2. กำรตรวจสอบเหล็กเสริมก่อนกำรติดต้งั ประกอบดว้ ยตรวจสอบเบ้ืองตน้ และกำรตรวจสอบกำรตดั
และกำรดดั เหลก็ เสริม กำรตรวจสอบงำนดงั กล่ำวมีควำมสำคญั ต่อกำรทำงำนเหล็กเสริม รวมท้งั ควำมปลอดภยั
ของโครงสร้ำง
3. กำรตรวจสอบกำรติดต้งั เหลก็ เสริม ประกอบดว้ ยกำรตรวจสอบกำรจดั วำงและระยะเรียงของเหลก็
เสริม
จุดประสงค์การเรียน การสอน
จุดประสงค์ท่ัวไป
เม่ือศึกษำจบหน่วยกำรเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยควำมรู้พ้ืนฐำนเกี่ยวกบั กำรเสริมเหลก็ ได้
2. อธิบำยกำรตรวจสอบเหลก็ เสริมก่อนกำรติดต้งั ได้
3. อธิบำยกำรตรวจสอบกำรติดต้งั เหลก็ เสริมได้
กจิ กรรมการเรียน- การสอน
กจิ กรรมครู กจิ กรรม การสอน
ข้นั นำ
อธิบำย ควำมสำคญั ประโยชน์ ของงำนเหลก็ เสริมคอนกรีตเพอื่ นำเขำ้ สู่บทเรียน
ข้นั ใหข้ อ้ มูล
1.อธิบำย ควำมหมำย ควำมสำคัญ เน้ือหำสำระ งำนเหล็กเสริมคอนกรีต หัวขอ้ ต่ำงๆในเอกสำร
ประกอบกำรสอน
2. อธิบำยกระบวนกำรงำนก่อสร้ำง ควำมรู้พ้ืนฐำน หนำ้ ท่ี และขอ้ ควรปฏิบตั ิในงำนเหลก็ เสริมคอนกรีต
ได้
3. มอบหมำยงำนใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิงำน ตำมใบงำน และควบคุม ดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
4. ตรวจผลงำนกำรปฏิบตั ิงำน และรำยงำนกำรปฏิบตั ิงำนของนกั ศึกษำ
ข้นั สรุป
สรุปสำระสำคญั เรื่องงำนเหล็กเสริมคอนกรีตและสรุปผลจำกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน
กจิ กรรมนกั ศึกษา กจิ กรรม การเรียน
1. บอกจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
2. ครูบรรยำยสำระสำคญั
3. นกั เรียนทำกำรอภิปรำยกลุ่มยอ่ ย
4. นกั เรียนทำกิจกรรมตำมท่ีครูมอบหมำย
5. ครุและนกั เรียนช่วยกนั สรุป
6.นกั เรียนทำกิจกรรมตำมที่ครุมอบหมำย
7.นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ส่ือการเรียนรู้
1. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรควบคมุ และวำงแผนกำรก่อสร้ำงงำนโยธำ
2. สื่อแผน่ ใส และสื่อนำเสนอ (Presentation)
3. ส่ือ power point
4.ใบงำน
5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้
ประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลหลงั กำรเรียน
2. ประเมินผลจำกใบงำน
3. กำรทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้
บรรณานุกรม
วิวฒั น์ ธรรมำภรณ์พิลำศ คอนกรีตเสริมเหลก็ กรุงเทพมหำนคร ภำคพิมพ์ 2538
อรุณ ชยั เสรี ประสงค์ ธำรำไชย และสืบศกั ด์ิ พรหมบุญ “แบบหล่อและกำรวำงเหลก็ เสริมคอนกรีต” ในเอกสำร
กำรสอนชุดวิชำกำรตรวจงำน หน่อยที่ 5 เล่มท่ี 1 พมิ พค์ ร้ังท่ี 7 นนทบุรี มหำวทิ ยำลยั สุโขทยั ธรรมำธิรำช 2537
บันทกึ หลงั การสอน
หน่วยท่ี 5
งานเหลก็ เสริม
1. ความรู้พื้นฐานเกย่ี วกบั เหล็กเสริม
เหลก็ เสริมทีใ่ ช้ในการก่อสร้างแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ดังนี้
1. เหลก็ ข้ออ้อย เป็นเหลก็ ท่ีมีแรงยดึ เกำะท่ีผวิ สูง เหมำะสำหรับงำนคอนกรีตเสริมเหลก็ ท่ีตอ้ งกำรควำมแขง็ แรง
สูง เช่น ตึกท่ีมีควำมสูงมำก ๆ สะพำน เขอ่ื น และงำนก่อสร้ำงที่ตอ้ งรับแรงอดั มำก ๆ เหลก็ ขอ้ ออ้ ยผลิตตำม
มำตรฐำน มอก.24-2548 ช้นั คุณภำพ SD30 SD40 และSD50เสน้ ผำ่ ศูนยก์ ลำง 6 มม. - 32 มม. ควำมยำว 10 เมตร
และ 12 เมตร ดงั ภำพท่ี 4.13 (ก)
2. เหลก็ เส้นกลม เหมำะสำหรับงำนก่อสร้ำงขนำดเลก็ และขนำดกลำง เช่น อำคำรพำณิชย์ บำ้ น และงำนก่อสร้ำง
ทว่ั ไป เหลก็ เส้นกลมผลิตตำมมำตรฐำน มอก.20-2543 ช้นั คุณภำพ SR24 เสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำง 6 มม. - 25 มม. ควำม
ยำว 10 เมตร และ 12 เมตร ดงั ภำพที่ 4.13 (ข)
ภำพ เหลก็ เสริมท่ีใชต้ อ้ งไดม้ ำตรฐำน มอก.
บ่อยคร้ังที่ผูร้ ับเหมำได้นำเหล็กที่ไม่ไดม้ ำตรฐำนหรือเหล็กรีดซ้ำมำใช้ก่อสร้ำง ดงั น้ันกำรที่จะอนุญำตให้ใช้
เหล็กชนิดใดน้ันต้องทำกำรทดสอบกำลังรับแรงดึง กำรยืดตัวของเหล็ก ซ่ึงต้องเป็ นไปตำมมำตรฐำน
อตุ สำหกรรมจึงจะอนุมตั ิใหใ้ ชเ้ หลก็ น้นั ในงำนก่อสร้ำง
กำรเก็บตวั อย่ำงใหเ้ ก็บหน่ึงตวั อยำ่ งจำกเหลก็ เส้นเส้นหน่ึง ตอ่ จำนวนเหล็กเส้นทุก ๆ 100 เส้น หรือเศษของ 100
เส้น แต่จำนวนตวั อยำ่ งแต่ขนำดที่ส่งมำทดสอบในแต่ละชุดตอ้ งไม่นอ้ ยกวำ่ 3 ตวั อยำ่ ง กำรเก็บตวั อยำ่ งตอ้ งเก็บ
ในสถำนท่ีก่อสร้ำง และเก็บตอ่ หนำ้ ผคู้ วบคมุ งำน
การเกบ็ เหลก็ เสริม
กำรเกบ็ เหล็กเสริมเป็นสิ่งสำคญั ที่ควรใส่ใจเป็นอยำ่ งมำกในกำรก่อสร้ำงเน่ืองจำกหำกเหลก็ เกิดกำรเสียหำยหรือ
เป็ นสนิมกดั ผุกร่อนเสียรูปไม่ไดต้ ำมมำตรฐำนจะทำให้ส่วนของโครงไม่สำมำรถรับแรงไดต้ ำมที่ตอ้ งกำร หรือ
อำจเลวร้ำยถึงทำใหโ้ ครงสร้ำงพงั ทลำยลงดงั น้นั ควรเก็บวสั ดุในที่สำมำรถป้องกนั ฝน น้ำคำ้ ง และสิ่งสกปรก ได้
ดีถำ้ หำกมีเน้ือท่ีมำกพอที่เหลือจำกกำรอำคำรก่อสร้ำงก็ควรทำโรงเก็บเหล็กควรวำงเหล็กให้อยู่เหนือพ้ืนดินไม่
ควรวำงเหล็กกับพ้ืนโดยตรงควรแยกประเภทของเหล็กให้ชัดเจนเพ่ือสะดวกต่อกำรนำไปใช้งำนเหล็กเสริ ม
คอนกรีตที่ส่งเขำ้ มำในหน่วยงำนก่อสร้ำง จะตอ้ งจดั แจงวำ่ เหลก็ ที่กองเกบ็ น้นั กองไหนมำก่อนและมำหลงั เพอ่ื ที่
สำมำรถเอำเหลก็ ท่ีมำก่อนไปใชโ้ ดยที่แน่ใจวำ่ ไดว้ ำ่ ไม่ไดน้ ำเหลก็ ใหม่ไปใชเ้ หลก็ ที่สนิมจบั มำก ดงั ภำพที่
ง-3 ไมค่ วรนำมำใช้ แต่ตรวจสอบแลว้ ไม่เป็นสนิมขมุ กส็ ำมำรถใชไ้ ด้ แตต่ อ้ งทำกำรขดั และทำควำมสะอำดก่อน
การงอเหลก็
1. หำกผอู้ อกแบบระบุกำรงอเหลก็ มำให้อยำ่ งละเอียดระบุถึงรัศมีของกำรงอเหลก็ ฉะน้นั เรำสำมำรถกระทำตำม
แบบไดเ้ ลย
2. กรณีท่ีผูอ้ อกแบบที่ไม่มีกำรระบุรัศมีของกำรงอเหล็ก ให้งอเหล็กตำมเกณฑ์ต่อไปน้ีส่วนที่งอเหล็กเป็ นคร่ึง
วงกลมโดยมีส่วนท่ียนื่ ต่อออกไปอีกอยำ่ งนอ้ ย 4 เท่ำของเสน้ ผำ่ นศูนยก์ ลำงของเหลก็ น้นั แตร่ ะยะน้ีตอ้ งนอ้ ยกวำ่
6 ซม.ส่วนท่ีงอเป็ นมุมฉำกโดยมีส่วนที่ย่ืนออกไปถึงปลำยสุดของเหล็กอีกอย่ำงน้อย 12 เท่ำของเส้นผ่ำน
ศูนยก์ ลำงของเหล็กน้ัน เฉพำะเหล็กลูกต้งั และเหล็กปลอก ให้งอ 90 องศำ หรือ 135 องศำ โดยมีส่วนท่ีย่ืนถึง
ปลำยขออีกอย่ำงนอ้ ย 6 เท่ำของเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงของเหล็กแต่ตอ้ งไม่นอ้ ยกวำ่ 6 ซม.ในกำรงอหรือดดั เหล็กถำ้
เป็ นเหล็กขนำดใหญ่ควรใชเ้ ครื่องช่วยในกำรงอ และตดั ดงั ภำพท่ี 4.14 (ก) และ (ข) ตำมลำดบั จะทำใหง้ ำนดดั
และงอเหล็กมีประสิทธิภำพและรวดเร็วมำกข้ึน ส่วนกำรงอเหล็กดงั ภำพที่ 4.14 (ค) สำมำรถทำไดแ้ ต่เหล็กที่มี
ขนำดไม่ใหญ่ ในงำนก่อสร้ำงหลำยโครงกำรไม่มีเคร่ืองดดั และตดั เหล็ก เมื่อมีกำรใชเ้ หล็กขนำดใหญ่เสริมใน
โครงสร้ำงจึงละเลยกำรงอเหลก็ ไป ดงั ภำพท่ี 4.14 (ง)
ภำพ กำรใชเ้ คร่ืองตดั และตดั เหลก็
2. การตรวจสอบเหลก็ ก่อนการตดิ ต้งั
กองเหลก็ โดยมีหลงั คำป้องกนั หรือ มีส่ิงปกคลมุ
ยห่ี อ้ เหลก็ จะอยบู่ นเส้นเหลก็ ตำมภำพซำ้ ยมือ
ภำพขวำคือกอ้ นมอร์ตำ้ เอำไวส้ ำหรับหนุนเหลก็ เพื่อใหไ้ ดคฟั เวอร์ริ่ง
รายการตรวจสอบ ประโยชน์ที่ได้
ตรวจสอบ ตรำยห่ี อ้ เหลก็ มี ม.อ.ก. หรือไม่ เพื่อใหเ้ ป็นไปตำมขอ้ ตกลง และเพ่ือใหไ้ ด้
มำตรฐำนกำรทำงำนยงั มีผรู้ ับจำ้ งสร้ำงบำ้ น
จำนวนหน่ึง ชอบเอำเหลก็ ไมเ่ ตม็ น้ำหนกั มำใช้
เพรำะเจำ้ ของบำ้ นไม่รู้ส่วนเจำ้ ของบำ้ นท่ีชอบ
กดรำคำผรู้ ับจำ้ ง ก็พึงสังวรณ์ไวว้ ำ่ บำ้ น อำจ
สร้ำงดว้ ยเหลก็ ไมเ่ ตม็ น้ำหนกั เพรำะมีผลมนั ก็
เกิดจำกเหตนุ นั่ แหละ
กำรกองเหลก็ จะตอ้ งเกบ็ เหลก็ เสริมคอนกรีตไว้ เป็ นไปตำมมำตรฐำนกำรก่อสร้ำง
เหนือพ้ืนดิน และตอ้ งมีหลงั คำป้องกนั น้ำคำ้ ง
น้ำฝน และเก็บรักษำใหพ้ น้ สิ่งสกปรก ดิน สี
น้ำมนั ฯลฯ
กำรผกู เหลก็ เพ่ือใหเ้ ป็นไปตำมท่ีแบบระบุไว้
✓ ตรวจสอบชนิด (เหลก็ ขอ้ ออ้ ย หรือ
เหลก็ กลม) ขนำด และ จำนวนของ
เหลก็ เสริมคอนกรีต วำ่ ถกู ตอ้ งหรือไม่
โดยตรวจสอบท่ีทำไวห้ นำ้ งำน กบั ท่ี
ระบไุ วใ้ นแบบก่อสร้ำง
✓ ตรวจสอบกำรเดินเหลก็ วำ่ คดไปคด
มำหรือไม่
✓ ตรวจสอบระยะห่ำงของเหลก็ เมน
และ เหลก็ ปลอก วำ่ ถูกตอ้ งหรือไม่
✓ ตรวจสอบวิธีกำรผกู เหลก็ ถูกตอ้ ง
แน่นหนำดีหรือไม่
✓ ตรวจสอบวำ่ เหลก็ เสริม มีครำบโคลน
ครำบปูนทรำย ที่หลุดง่ำยติดอยู่
หรือไม่ ถำ้ มีใหเ้ อำออก
คฟั เวอร์ร่ิง ส่วนหุม้ คอนกรีตจำกผวิ ไมแ้ บบถึง เพื่อป้องกนั เหลก็ เสริมคอนกรีตข้นึ สนิม
ผวิ นอกเหลก็ เสริม
ตรวจสอบระยะท่ีผวิ คอนกรีตหุม้ เหลก็ วำ่
ถูกตอ้ งหรือไม่ โดยมีระยะ คฟั เวอร์ร่ิงดงั น้ี
ทอ้ งพ้ืน 1.5 ซม.
เสำ คำน ผนงั 2.5 ซม.
ฐำนรำก เสำตอม่อ 5.0 ซม.
3. การตรวจคณุ ภาพงานเหลก็ เสริมคอนกรีต
ในปัจจุบันกำรผลิตเหล็กจะตอ้ งเป็ นไปตำมมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมทุกประกำร ฉะน้ัน
ปัญหำเร่ืองคุณภำพของวสั ดุจึงไมค่ อ่ ยมี แตเ่ น่ืองจำกเหลก็ ในมำตรฐำนดงั กล่ำวมีหลำย ประกำรหลำยขนำดและ
หลำยระดบั โดยเฉพำะปัจจุบนั มีมำตรฐำนเหล็กรีดซ้ำและเหล็กกำลงั ต่ำ ท่ีห้ำม ใช้กนั งำนคอนกรีตเสริมเหล็ก
เพิ่มข้ึน ผคู้ วบคุมงำนมีหนำ้ ที่ตรวจสอบวำ่ เหลก็ ที่นำมำ ใชน้ ้นั ตอ้ งมีคุณสมบตั ิตรงตำมที่กำหนดไวใ้ นแบบ และ
ในบทกำหนดทุกประกำร
การตรวจเหลก็ และลวดผูกเหลก็ มีดังนี้
1. ตรวจชนิด ขนำด ควำมคลำดเคลื่อน ยหี่ อ้ ของเหลก็ ใหต้ รงตำมรูปแบบและรำยกำรกำหนด
2. ตรวจดูสนิมที่เกำะเหลก็ ในเบ้ืองตน้ เพรำะเหลก็ ที่ร้ำนคำ้ นำมำส่ง ถำ้ เป็นสนิมแลว้ กวำ่ จะ ใช้
เลก็ ก่อสร้ำงหมด สนิมจะลำมกินเน้ือเหลก็ จนใชง้ ำนไมไ่ ด้
3. แยกกองชนิดของเหล็ก ขนำดของเหล็ก จะตอ้ งเก็บไวใ้ นท่ีมีสิ่งรองรับกนั ช้ืน และมีส่ิง ปกปิ ดกนั ฝนไดอ้ ยำ่ งดี
พร้อมกบั มีป้ำยบอกชนิดและขนำดเหลก็ ไวอ้ ยำ่ งชดั เจน
4. ตรวจสอบอยำ่ ให้มีกำรนำเหล็กที่ผำ่ นกำรใชง้ ำนมำแลว้ เขำ้ มำปะปนกบั เหลก็ ใหม่ เพรำะเหลก็ ที่ผ่ำนกำรใช้
มำแลว้ จะมีกำลงั ต่ำกวำ่ เหลก็ ใหม่ .
5. ตรวจสอบกำรดดั เหลก็
ในส่วนที่ตอ้ งดดั โดยจะตอ้ งตรวจสอบ ขนำดของส่วนดดั ระยะของส่วนดดั ฉำก กำรบิดตวั ของเหล็ก ที่ดดั ข้ึน
ซอ้ นกนั กำรดดั เหลก็ หลีกกนั เรียงกนั จนไม่มีช่องวำ่ งใหค้ อนกรีตแทรก
6. ตรวจกำรงอเหลก็
ให้ถูกตอ้ งตำมมำตรฐำน เพรำะจะเกี่ยวกบั กำรคลำกของเหลก็ เหลก็ ท่ีงอปลำยมำก กำรเกำะจบั คอนกรีตก็มีมำก
กำรคลำกกม็ ีนอ้ ย
7.ตรวจกำรตอ่ เหลก็
จะตอ้ งยดึ ตำมหลกั วิชำกำร ท่ีกำหนดวำ่ เหล็กเสริมที่มีขนำดเลก็ กวำ่ 25 มิลลิเมตร จะตอ่ ดว้ ยวิธีทำบ ระยะทำบที่
นอ้ ยท่ีสุดมีดงั น้ี
7.1 สำหรับกำรต่อเหล็กเสริมรับแรงดึง เหล็กขอ้ ออ้ ย SD 30 หรือน้อยกว่ำ มีระยะทำบ 24 เท่ำของเส้น
ผ่ำนศูนยก์ ลำง เหล็กขอ้ อ้อย SD 40 มีระยะทำบ 30 เท่ำของเส้นผ่ำนศูนยก์ ลำง เหล็กขอ้ ออ้ ย SD 50 มี
ระยะทำบ 36 เทำ่ ของเสน้ ผำ่ นศนู ยก์ ลำง
- ควรหลีกเลี่ยงกำรต่อเหล็กเสริม ณ จุดท่ีเกิดแรงดึงสูงสุดเท่ำที่จะทำได้ แต่หำกจำเป็ น ควรใช้วิธี
ต่อเชื่อม หรือวิธีต่อทำบโดยใหม้ ีกำรถำ่ ยแรงไดเ้ ตม็ ที่
- ถำ้ ระยะช่องวำ่ งทำงดำ้ นขำ้ งของเหล็กท่ีต่อกนั แคบกว่ำ 12 เท่ำของเส้นผ่ำนศูนยก์ ลำง หรืออยู่ห่ำง
จำกขอบนอกเป็นระยะไม่ถึง 0.15 เมตร หรือ 6 เท่ำของเสน้ ผำ่ นศนู ยก์ ลำง จะตอ้ ง เพ่มิ ระยะทำบอีกร้อย
ละ 20
7.2 สำหรับกำรต่อเหลก็ เสริมรับแรงอดั
- ถำ้ คอนกรีตมีกำลงั อดั เทำ่ กบั หรือมำกกวำ่ 200 กิโลกรัมตอ่ ตำรำงเซนติเมตร เหลก็ ขอ้ ออ้ ย SD 30 หรือ
นอ้ ยกวำ่ มีระยะทำบ 20 เทำ่ ของเส้นผำ่ นศนู ยก์ ลำง เหลก็ ขอ้ ออ้ ย SD 40 มีระยะทำบ 24 เท่ำของเส้นผำ่ น
ศนู ยก์ ลำง เหลก็ ขอ้ ออ้ ย SD 50 มีระยะทำบ 30 เทำ่ ของเส้น ผำ่ นศูนยก์ ลำง
-สำหรับคอนกรีตที่มีกำลงั อดั ต่ำกวำ่ 200 กิโลกรัมต่อตำรำงเซนติเมตรให้เพ่ิมระยะทำบอีก 1/3 ของ
ค่ำขำ้ งบนน้ี ควำมยำวของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบท่ีนำมำทำบต่อกนั ตอ้ งไม่น้อยกว่ำ 2 เท่ำของค่ำที่
กำหนดสำหรับเหล็กขอ้ ออ้ ย และไม่ว่ำกรณีใดๆ ควำมยำวของรอยทำบตอ้ งไม่น้อยกวำ่ 0.30 เมตร ถำ้
ตอ้ งนำเหล็กที่มีขนำดใหญ่มำทำบกบั เหล็กท่ีมีขนำดเล็ก ให้ใช้ระยะทำบของเหล็ก ขนำดใหญ่ ถำ้ เป็ น
เหลก็ ที่มีขนำดใหญ่กวำ่ 25 มิลลิเมตรให้ใช้วิธีต่อเชื่อม โดยรอยต่อเชื่อม ที่ถูกตอ้ ง ตอ้ งสำมำรถรับแรง
ดึงไดอ้ ยำ่ งนอ้ ยร้อยละ 125 ของค่ำกำลงั ครำกของเหลก็ ตำมท่ีระบุไว้
8.ตรวจกำรจดั เหลก็
โดยจะตอ้ งจดั ระยะหรือช่องวำ่ งของเหล็กใน เสริมให้เป็นไปตำมที่ระบุไวใ้ นแบบ กำรเสริมเหล็ก ในคอนกรีต
มำกเกินควำมจำเป็ น มิไดม้ ีขอ้ เสียแต่เพียงในเรื่องของกำรสิ้นเปลืองและไม่ประหยดั เท่ำน้ัน บำงคร้ังทำให้มี
ผลเสียถึงโครงสร้ำงขององคอ์ ำคำรอีกดว้ ย ท้งั น้ี เน่ืองจำกวสั ดุหยำบ ซ่ึงเป็นส่วนผสมของคอนกรีต ไม่สำมำรถ
แทรกเหล็กลงไปในช่วงต่อตอนล่ำง และเป็ นตวั กกั กนั คอนกรีตไม่ให้ลงไปขำ้ งล่ำงดว้ ย ทำให้เกิดช่องวำ่ งใน
เน้ือคอนกรีตข้นึ ที่เรียกวำ่ คอนกรีตโพรง
9. ตรวจกำรผกู เหลก็
วำ่ มีกำรผกู ลวดในส่วนที่ผำ่ นกนั และมีกำรต่อเนื่องกนั ลกั ษณะกำรผกู ลวดถกู ตอ้ งหรือไม่ ตอ้ งผกู ใหถ้ กู ตอ้ งและ
แน่นหนำ ตลอดจนเกบ็ ปลำยลวดที่เหลือตอ้ งใหเ้ รียบร้อย
10. เหลก็ ท่ีผกู ไวน้ ำน แตย่ งั ไม่ไดเ้ ทคอนกรีตอำจเกิดสนิมขมุ ข้ึนได้
ควรที่จะขจดั สนิมออกบำงก่อนที่จะเทคอนกรีต มิฉะน้นั อำจมีผลเสียตอ่ โครงสร้ำงคอนกรีต แต่ไม่ตอ้ งถึงกบั ขดั
ใหเ้ ป็นมนั เพรำะแทนที่จะเป็นผลดีกบั เป็นผลเสียในกำรยดึ หน่วง ของคอนกรีตกบั เหลก็
11. กำรคดงอของเหลก็ ที่ผกู ไว้
สำเหตุจำกกำรถูกเหยียบ หรือถูกงดั ถำ้ เหล็กคดงอนอ้ ยอำจยอมให้ดดั กลบั สภำพเดิมได้ แต่ถำ้ งอมำก ตอ้ งแกไ้ ข
โดยเปลี่ยนเหลก็ เสียใหม่ เพรำะเหล็ก ที่คดงอนอกจำกจะมีผล กบั กำรรับกำลงั แลว้ บำงคร้ังจะเป็นอุปสรรคต่อ
กำรแทรกตวั ของวสั ดุหยำบในส่วนผสม ของคอนกรีตดว้ ย
12. กำรหนุนเหลก็ และรองเหลก็
โดยทว่ั ไป โครงเหล็กจะตอ้ งมีกำรหนุนให้ห่ำงจำกแบบเท่ำกบั ควำมหนำของคอนกรีตที่หุม้ เหลก็ ลูกปูนที่หนุน
จะตอ้ งหนุนเป็นระยะในช่วงท่ีเหลก็ ไมส่ ำมำรถแอ่นตวั ได
ใบงานท่ี 5 หน่วยที่ 5
สอนคร้ังที่ 5
วิชา การควบคุมและวางแผนการก่อสร้างงานโยธา รหัสวชิ า 30121-2101 เวลา 3 ชั่วโมง
ช่ือหน่วย งานเหลก็ เสริมคอนกรีต
ชื่องาน งานเหลก็ เสริมคอนกรีต
จุดประสงค์
เมื่อฝึกกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนน้ีแลว้ นกั ศึกษำจะสำมำรถ
1. อธิบำยควำมรู้พ้ืนฐำนเกี่ยวกบั กำรเสริมเหลก็ ได้
2. อธิบำยกำรตรวจสอบเหลก็ เสริมก่อนกำรติดต้งั ได้
3. อธิบำยกำรตรวจสอบกำรติดต้งั เหลก็ เสริมได้
เครื่องมือ - อุปกรณ์
1.เอกสำรใบงำน
ลาดับข้ันการปฏิบัติงาน
1. ครูบอกชื่อเครื่องมือ และประโยชนก์ ำรใชง้ ำนของเคร่ืองมือสำรวจประเภทต่ำงๆ
ทีละชิ้น
2. ครูอธิบำยขอ้ ควรระวงั ในกำรใชง้ ำน และจุดท่ีตอ้ งระวงั เป็นพเิ ศษของเคร่ืองมือ
แตล่ ะชิ้น
3. ครูสำธิตวิธีใชเ้ คร่ืองมือโดยสงั เขป
4. ใหน้ กั ศึกษำปฏิบตั ิกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมือสำรวจชนิดต่ำงๆ
5. ใหน้ กั ศึกษำสรุปกำรใชง้ ำนและกำรบำรุงรักษำเคร่ืองมือสำรวจ โดยรำยงำนใน
สมดุ สนำม
การประเมินผล
1. นกั ศึกษำสำมำรถอธิบำยกำรตรวจสอบเหลก็ เสริมคอนกรีตได้
2.ประเมินผลจำกผลกำรปฏิบตั ิใบงำน
แบบประเมินผลก่อนเรียนหน่วยท่ี 5 เร่ือง งานเหลก็ เสริมคอนกรีต
คาสั่ง จงอธิบำยหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1. จงบอกควำมรู้พ้นื ฐำนเก่ียวกบั กำรเสริมเหลก็ มำพอเขำ้ ใจ(อยำ่ งนอ้ ย10 บรรทดั )
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…….
2.จงบอกรำยกำรตรวจสอบเหลก็ มำอยำ่ งนอ้ ย 5ตวั อยำ่ ง พร้อมบอกประโยชนม์ ำดว้ ย
รำยกำรตรวจสอบ ประโยชนท์ ี่ได้
3.จงบอกวธิ ีกำรตรวจเหลก็ และกำรผกู เหลก็ มำพอเขำ้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………