คำอธิบายรายวิชา ๓๔๖
การงานอาชีพ ๑ (ประดษิ ฐข์ องชำร่วย) รหสั วิชา ง๓๒๒๐๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒
เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ศึกษาความหมายและโอกาสในการใช้ของชำรว่ ย หลกั การออกแบบ ข้นั ตอนและวธิ ีการประดิษฐ์ของ
ชำร่วยแบบต่าง ๆ การใช้และการบำรุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ ปฏิบัติงานออกแบบเลือกวัสดุ ประดิษฐ์ของ
ชำร่วยแบบต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า ๒ ชนิด คำนวณค่าใช้จ่าย กำหนดราคาหรือค่าบริการ จัดจำหน่าย จดบันทึก
การปฏิบตั ิงาน ทำบญั ชี รายรับ-รายจา่ ย และประเมินผล
เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ และมที ักษะเกี่ยวกับการออกแบบ การประดษิ ฐข์ องชำร่วยตามแบบท่ี
กำหนด และจำหนา่ ยได้
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกถึงหลักของความปลอดภัยสาเหตขุ องการเกิดอุบตั ิเหตุและการป้องกนั อบุ ัตเิ หตุในการ
ปฏิบตั ิงานชา่ งไฟฟา้ ในอาคารได้
๒. บอกหลักการออกแบบข้ันตอนและวิธีการเลือกวสั ดปุ ระดิษฐข์ องชำร่วยแบบต่าง ๆ ได้
๓. บอกการใช้และการบำรุงรักษาเครื่องมืออปุ กรณป์ ฏิบตั กิ ารออกแบบเลือกวัสดปุ ระดิษฐ์ของชำร่วย
แบบต่าง ๆ ได้
๔. ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบเลือกวัสดุประดษิ ฐข์ องชำรว่ ยแบบต่างๆได้
๕. คำนวณคา่ ใช้จา่ ย กำหนดราคาคา่ บริการและจดั จำหนา่ ยทำบญั ชรี ายรบั – รายจ่ายและ
ประเมนิ ผลงานได้
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๔๗
คำอธิบายรายวิชา
การงานอาชพี ๒ (งานเชื่อมโลหะ) รหัสวชิ า ง๓๒๒๐๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ศึกษาเร่ืองความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟา้ เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในงานเชอ่ื มไฟฟา้ อปุ กรณ์ในงานเชอื่ ม
ไฟฟา้ ท่าเชอ่ื มที่ใชใ้ นงานเช่ือมไฟฟ้า
ปฏบิ ตั งิ านเชอ่ื มไฟฟา้ แบบง่าย ๆ ได้ ปฏบิ ตั งิ านตามแบบท่ีกำหนด และแก้ไขปญั หาทเ่ี กิดจากงาน
เชอ่ื มไฟฟ้าได้
เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ความปลอดภัยในงานเชอ่ื มไฟฟ้า เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในงาน
เชอ่ื มไฟฟ้า ทา่ ทใี่ ชใ้ นการเช่ือม ปฏบิ ัตงิ านเชือ่ มตามแบบที่กำหนดให้ได้ มคี วามขยนั ซ่ือสัตย์ ขยัน อดทน และ
มีวินยั ในการทำงาน
ผลการเรียนรู้
๑. เพอ่ื ให้เขา้ ใจ หลกั การใชแ้ ละบำรงุ รักษาเคร่ืองมืองานเช่ือมไฟฟ้าดว้ ยลวดเช่อื มหมุ้ ฟลกั ซ์
๒. เพอ่ื ใหม้ ที ักษะในการปฏิบัติงานเช่ือมแบบตา่ ง ๆ
๓. เพอ่ื ให้มเี จตคติ มีความรบั ผดิ ชอบ และจรรยาบรรณท่ีดใี นงานวชิ าชีพ
รวม ๓ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนร่วมจิตต์วิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๔๘
คำอธบิ ายรายวชิ า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
งานเกษตร (ปลูกผกั สวนครวั ) รหสั วิชา ง๓๒๒๐๗
เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของพืชผักสวนครัว เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ โหระพา
ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การเตรียมดินปลูก แปลงเพาะ แปลงปลูก วิธีการปลูก การปฏิบัติดูแล
รกั ษา การเก็บเกีย่ ว
อธิบายวิธีการปลูกผักเพื่อการดำรงชีวิตและการอาชีพ การวิเคราะห์พันธุ์ผักที่เหมาะสมกับฤดูกาล
การเตรยี มดนิ กระบวนการ ปลูก ดูแล บำรงุ รักษา การปอ้ งกนั โรค และแมลง การเกบ็ เกย่ี วตดั แตง่ ผักเพื่อ
การค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การสร้างตลาดรองรับผลผลิตโดยใช้ทักษะกระบวนการ การทำงานเป็น
กลมุ่ ทกั ษะการคดิ ทักษะการแกป้ ญั หา ตลอดจนทักษะในการทำงานอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน
มุ่งมั่นแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม จริยธรรมในการดำรงชีวิตและการทำงาน มีความเป็น
ประชาธปิ ไตย มีเจตคติทีด่ ตี ่อการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ผลการเรียนรู้
๑. นักเรยี นอธบิ ายความหมาย ความสำคัญ ประโยชนข์ องการปลกู ผัก เพ่ือการดำรงชีวติ และการ
อาชพี ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
๒. นักเรียนวเิ คราะห์พันธุผ์ กั ท่เี หมาะสมกบั ฤดกู าล สร้างสรรค์ และมีทักษะในการปลกู พืชผกั
๓. นกั เรยี นมีทักษะในการจดั การเกีย่ วกับการเตรยี มดิน กระบวนการ ปลูก ดแู ล บำรุงรักษา การ
ปอ้ งกนั โรคและแมลง อยา่ งมกี ระบวนการตามขั้นตอน
๔. นักเรยี นมที ักษะในการแสวงหาการสร้างตลาดรองรบั ผลผลิต
๕. นกั เรียนมีทกั ษะในการเก็บเกีย่ วตัดแตง่ ผกั เพ่ือการค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพ่อื ให้ การ
ทำงานสำเร็จตามเป้าหมายท่วี างไว้
๖. นักเรยี นรจู้ ักการเลือกใชท้ รพั ยากรธรรมชาตทิ ีเ่ หมาะสม อย่างคมุ้ คา่ และยั่งยืน เพ่อื อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มและนักเรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและคณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์ในการทำงานดำรงชีวิต ตามแนวหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
คำอธบิ ายรายวชิ า ๓๔๙
การงานอาชพี ๑ (การทำดอกไม้ประดิษฐ์) รหสั วชิ า ง๓๓๒๐๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑
เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ศึกษา ค้นคว้าความรู้เกยี่ วกบั งานอาชีพดอกไมป้ ระดิษฐ์ หลักการ วิธกี าร ข้ันตอนการทำงาน การนำ
เทคโนโลยมี าใชส้ ร้างและพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ใหม่ ๆ
ฝึกปฏิบัติการใช้เครื่องมืองานดอกไม้ประดิษฐ์ สามารถประดิษฐ์ดอกไม้จากวัสดุต่าง ๆ การทำบรรจุ
ภัณฑส์ ินค้า รวมถึงการกำหนดราคา การจัดจำหน่ายผลิตภณั ฑแ์ ละการทำบัญชรี ายรับ-รายจา่ ย
มุ่งปลูกฝังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพสุจริต รักการทำงาน มีความรับผิดชอบ รอบคอบ
ละเอียด ประณีตในการทำงาน รักษาความสะอาด มีระเบียบในการทำงาน รู้จักใช้ บำรุงรักษาเครื่องมือ
เครื่องใช้ในการทำงานอยา่ งถกู วธิ ี รกั ษาสิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่าและประหยัด
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกสว่ นประกอบ ข้ันตอน วัสดุอปุ กรณง์ านดอกไม้ประดษิ ฐ์ได้
๒. อธิบายวิธีการออกแบบและเลือกใชว้ สั ดุอุปกรณ์ท่เี หมาะสมกบั ชนดิ ของดอกไมป้ ระดษิ ฐ์ได้
๓. วเิ คราะห์และนำทักษะงานดอกไม้ประดษิ ฐม์ าประดิษฐ์ชิ้นงานเพื่อการอาชพี ได้
๔. มีทักษะในการออกแบบงานดอกไมป้ ระดษิ ฐ์เพ่ือการตกแต่ง
๕. สามารถอธิบายและคำนวณค่าใช้จา่ ย กำหนดราคา/คา่ บริการ พร้อมจดั ทำบัญชีรายรบั
รายจา่ ยได้
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
คำอธิบายรายวชิ า ๓๕๐
การงานอาชพี ๒ (ช่างไม)้ รหสั วชิ า ง๓๓๒๐๗ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑
เวลา ๒๐ ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ศกึ ษาความหมาย ความสำคญั และประโยชน์ของเคร่ืองเรือนที่ทำด้วยไม้ ชนิด ขนาด ลักษณะที่นิยม
ในทอ้ งถน่ิ ชนดิ ของไม้ เครอ่ื งมือ วัสดุ อุปกรณ์ ขน้ั ตอนและวธิ ีการประกอบชิน้ งาน การปรับปรงุ พฒั นาชิน้ งาน
จัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ วิเคราะห์เลือกชนิดของเครื่องเรือนที่ทำด้วยด้วยไม้ ๑ – ๒ ชนิด ออกแบบ
อา่ นแบบเลือกผลิตเคร่ืองเรือนตามความสนใจ ๑-๒ ชนิด วางแผนการทำงาน ปฏบิ ัติการงานตามขน้ั ตอน คือ
การวัด การตดั ไม้ การใสไม้ เจาะบาก การประกอบชิน้ งาน ทดลองใชแ้ ละปรับปรงุ คณุ ภาพชิ้นงาน
การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ การปฏิบัติงาน คือ มีความ
พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี มีเหตุผล มีความรู้และมีคุณธรรม โดยคำนึงถึงหลักความปลอดภัยในการใช้
การเก็บรักษาเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ มีระเบียบวินัย มีความขยัน อดทน ประหยัด ประณีตและสะอาด
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจถงึ ความหมายความสำคญั และประโยชน์ของเครอ่ื งเรือนท่ีทำดว้ ยไม้ได้
๒. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในการใช้ การเก็บรกั ษา เคร่ืองมือ วสั ดุ อุปกรณ์ เก่ียวกับงานไม้
๓. เลือกและวางแผนการผลิตชน้ิ งานเครือ่ งเรือน ๑ – ๒ ชนิด
๔. ผลติ ชิ้นงานเคร่ืองเรือนได้ ๑ - ๒ ชนดิ
๕. ประเมินผลช้นิ งาน และปรับปรุงพัฒนาคุณภาพช้นิ งานได้
๖. มีคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม และมีเจตคติทีด่ ตี ่อการอาชพี
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนร่วมจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
คำอธบิ ายรายวิชา ๓๕๑
งานเกษตร (การปลกู พืชสมนุ ไพร) รหัสวชิ า ง๓๓๒๑๐ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ศึกษาความหมายเก่ยี วกับ ความสำคัญและประโยชน์ของพืชสมุนไพรในท้องถ่นิ ลกั ษณะประเภทและ
สรรพคุณทางยาของพืชสมุนไพร การปลูกพืชสมุนไพร การดูแลบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยว การจัดการผลผลิต
และจำหนา่ ย
วิเคราะห์ขอ้ มลู ความต้องการของตลาด เลือกพืชสมนุ ไพร สำหรับปลกู และขยายพันธ์ ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย
๓ ชนดิ การปลูกในแปลง และการปลูกในภาชนะต่าง ๆ การดแู ลรักษา การเกบ็ เกี่ยว การจดั จำหน่ายผลผลิต
การคำนวณค่าใช้จ่าย การกำหนดราคาขาย การจดบันทึกการปฏิบัติงาน การทำบัญชี รับ - จ่าย และการ
ประเมินผล
เพื่อให้มีความรูค้ วามเข้าใจและทักษะในการปลูกและการขยายพนั ธุพ์ ืชสมุนไพรในท้องถิ่นและจำหนา่ ย
ได้
ผลการเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายความสำคญั และประโยชนข์ องพชื สมุนไพร
๒. มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั ประเภทและชนิดของพชื สมนุ ไพร
๓. มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับสรรพคณุ ทางยาของพชื สมนุ ไพร
๔. มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับการขยายพนั ธพ์ุ ชื สมนุ ไพร
๕. สามารถปลกู พืชสมนุ ไพรและปฏิบตั ดิ แู ลรักษาพืชสมนุ ไพรไดอ้ ย่างน้อย 3 ชนิด
๖. สามารถปฏบิ ัติการดูแลรกั ษาพชื สมุนพรใหเ้ จริญเติบโต
๗. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับการเกบ็ เกยี่ วและการแปรรปู พืชสมุนไพร
๘. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับการตลาดและการจำหน่ายพืชสมุนไพร
๙. จดบนั ทึกการปฏิบตั งิ านและการทำบัญชีรายรบั รายจา่ ยในการปลกู พชื สมุนไพรได้
รวม ๙ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นร่วมจิตต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
คำอธบิ ายรายวิชา ๓๕๒
การงานอาชพี ๑ (งานธุรกิจ) รหสั วชิ า ง๓๓๒๐๘ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒
เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ศึกษาความหมายและความสำคัญของธุรกิจ รูปแบบขององค์การธุรกิจ หลักการจัดการ
การวางแผน การจัดองค์กร การจดั การท่ัวไปและการใช้เทคโนโลยีประกอบธุรกิจ จรรยาบรรณและคุณสมบัติ
ของผปู้ ระกอบธรุ กจิ ระบบการแลกเปลีย่ น แหล่งเงนิ ทนุ สถาบันทีช่ ่วยสนบั สนุนการดำเนินงานธรุ กจิ
มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะการทำงานอาชพี ที่สุจริต มีการจัดการทำงานอย่างมีระบบ มีกลยุทธ์ ทำงาน
ร่วมกับผู้อื่น ได้เห็นคุณค่าในการประกอบชีพสุจิต เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ เลือกใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศได้เหมาะสมกับกับงานและอย่างถูกต้อง มีคุณธรรม สามารถคิดออกแบบ สร้างและพัฒนางาน
หรือวิธีการใหม่ ๆ ในการทำงาน
เพื่อให้ทำงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ขยัน ประหยัด อดออม มุ่งมั่นในการทำงาน อดทน
มองเห็นแนวทางในการออกไปประกอบอาชีพ
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมาย ความสำคัญของธุรกิจ จดุ มงุ่ หมายในการประกอบธรุ กิจ รูปแบบขององค์กร
ธรุ กิจ ปัจจัยพนื้ ฐานในการประกอบธุรกิจ ความสมั พันธ์ของธรุ กจิ ทมี่ ตี ่อบคุ คล องคป์ ระกอบของ
สภาพแวดล้อมของธรุ กิจ แหลง่ ข้อมูลธรุ กิจ และกจิ กรรมทางด้านธรุ กิจต่าง ๆ ได้
๒. บอกความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ ของการบริหารหรือการจดั การ หลักการจดั การ
การวางแผน การจัดองคก์ ร การสรรหาบคุ คลเขา้ ทำงาน การส่งั การหรืออำนวยการ การควบคมุ ได้
๓. บอกความหมายของจรรยาบรรณหรอื จริยธรรม คุณสมบตั ขิ องผปู้ ระกอบการธรุ กิจได้
๔. บอกถึงวิวัฒนาการของการแลกเปลย่ี น ระบบการแลกเปลี่ยนของต่อของ ระบบ
การแลกเปล่ียนโดยใชเ้ งนิ ตรา และระบบการแลกเปลีย่ นโดยใช้บตั รเครดติ ได้
๕. บอกแหลง่ เงนิ ทนุ และสถาบนั การเงนิ ท่สี นบั สนุนการดำเนนิ งานธรุ กจิ ได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนรว่ มจติ ต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
คำอธิบายรายวชิ า ๓๕๓
การงานอาชพี ๒ (โครงงานช่าง) รหัสวชิ า ง๓๓๒๐๙ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒
เวลา ๒๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ศึกษาลักษณะของการทำโครงงาน จากปญั หาหรือเรอ่ื งทสี่ นใจ วิเคราะห์รูปแบบกระบวนการ
ดำเนนิ การโครงงาน แนวทางการประยุกตง์ านชา่ งกบั โครงงาน
ปฏิบตั ิโครงงานการผลิตชนิ้ งาน โดยใช้ความรู้ ความคดิ จิตนาการ ทักษะ เหตุผล และกระบวนการ
ทำงานช่าง ตลอดจนประสบการณท์ ี่ได้ศกึ ษา มาเชื่อมโยงให้เกดิ กระบวนการทำงานอย่างมีระบบ
เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ ในการจัดทำโครงงาน มีทัศนคติท่ีดีต่อการทำโครงงานและสามารถเกิด
ทกั ษะในการทำงาน การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยี คำนึงถึงความประหยดั ซื่อสัตย์และอดทน
ผลการเรียนรู้
๑. บอกความหมายและความสำคัญของโครงงานได้
๒. วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของการทำโครงงานได้
๓. สำรวจความต้องการในการบรโิ ภคของชมุ ชนได้
๔. สามารถวางแผนการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเปน็ ระบบได้
๕. ปฏบิ ัตโิ ครงงาน ตามที่กำหนดไว้อยา่ งมคี ณุ ภาพ
๖. สามารถคำนวณราคาตน้ ทุนการผลิตและกำไร ขาดทนุ ได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนร่วมจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
คำอธบิ ายรายวิชา ๓๕๔
งานเกษตร (การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์) รหัสวิชา ง๓๓๒๑๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๒
เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ศกึ ษาความหมาย ประวัตแิ ละความสำคัญของการปลูกผักไร้ดิน การวางแผนการปลูกผักไร้ดินปัจจัยที่
เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของผักและวัสดุอุปกรณ์สำหรับการปลูกผักไร้ดิน และขั้นตอนการปลูกผักไร้ดิน
การดูแลรักษาพืชผักโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม การเก็บเกี่ยวผัก การเก็บรักษาผัก การจัดจำหน่าย การมี
เจตคตทิ ่ดี ตี อ่ อาชพี การมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรมในการจำหน่าย
ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรูพ้ ้ืนฐาน มีเจตคติที่ดี เหน็ คุณค่าและความสำคญั ของการปลกู ผักไร้ดิน
๒. สามารถศกึ ษาข้อมูลและวางแผนการปลูกผักไร้ดนิ ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมกับสภาพท้องถน่ิ
๓. สามารถผลติ ผักไรด้ นิ ใหม้ ีคุณภาพได้ตามข้ันตอนและกระบวนการผลิตที่กำหนด
๔. สามารถใชเ้ ทคโนโลยตี า่ ง ๆ มาพัฒนาเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผกั ไร้ดินได้
๕. สามารถเก็บเกยี่ วบรรจภุ ณั ฑแ์ ละจำหน่ายผกั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๕๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๕๖
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ทำไมต้องเรียนภาษาต่างประเทศ
ในสังคมโลกปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน
เน่อื งจากเปน็ เครื่องมือสำคัญในการติดต่อส่ือสาร การศกึ ษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้าง
ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรีและความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มี
ความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม
ประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และ
ใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศน์
ในการดำเนนิ ชีวิต
ภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐาน ซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น อาหรับ บาลี
และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือภาษาอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะจัดทำรายวิชาและ
จดั การเรยี นรูต้ ามความเหมาะสม
เรยี นรู้อะไรในภาษาตา่ งประเทศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดตี ่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้
ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอด
ความคดิ และวฒั นธรรมไทยไปยังสงั คมโลกได้อยา่ งสร้างสรรค์ ประกอบดว้ ยสาระสำคัญ ดังน้ี
✧ ภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมู ความคิดรวบยอดและความคิดเห็น
ในเร่ืองต่างๆ และสร้างความสมั พันธร์ ะหวา่ งบุคคลอยา่ งเหมาะสม
✧ ภาษาและวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพันธ์
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาและวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับวัฒนธรรมไทย และนำไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
✧ ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยง
ความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่ืน เป็นพื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
✧ ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งใน
ห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และ
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้กับสังคมโลก
โรงเรยี นรว่ มจิตต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๕๗
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๑ ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน
สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเปน็ พ้ืนฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สาระท่ี ๔ ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับสังคมโลก
โรงเรยี นรว่ มจิตต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๕๘
ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสือ่ สาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
ต ๑.๑ ม.๑/๑ ปฏิบัติตามคำส่งั คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชแี้ จงงา่ ยๆ ที่ฟงั และอา่ น
ต ๑.๑ ม.๑/๒ อา่ นออกเสียงข้อความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตาม
หลกั การอ่าน
ต ๑.๑ ม.๑/๓ เลือก/ระบุประโยคและข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง
(non-text information) ท่ีอา่ น
ต ๑.๑ ม.๑/๔ ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถาม
จากการฟังและอา่ น บทสนทนา นทิ าน และเรอ่ื งสั้น
ต ๑.๑ ม.๒/๑ ปฏิบตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำคำชแ้ี จง และคำอธบิ ายง่ายๆ ทฟ่ี ังและอ่าน
ต ๑.๑ ม.๒/๒ อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตาม
หลักการอ่าน
ต ๑.๑ ม.๒/๓ ระบุ/เขียนประโยค และข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง
รปู แบบต่างๆ ท่อี า่ น
ต ๑.๑ ม.๒/๔ เลือกหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ
(supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน
พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งง่ายๆ ประกอบ
ต ๑.๑ ม.๓/๑ ปฏบิ ัตติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธิบายท่ฟี งั และอ่าน
ต ๑.๑ ม.๓/๒ อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตาม
หลักการอ่าน
ต ๑.๑ ม.๓/๓ ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค
และข้อความท่ฟี ังหรอื อ่าน
ต ๑.๑ ม.๓/๔ เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ
พร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑ ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และ
คำบรรยายทฟี่ ังและอ่าน
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒ อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และ
บทละครสัน้ (skit) ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๕๙
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓ อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง
รูปแบบต่างๆ ท่ีอ่านรวมทัง้ ระบุและเขียนส่ือที่ไม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆ
ให้สัมพันธก์ ับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔ จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความสรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผล
และยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ต ๑.๒ ม.๑/๑ สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ
ในชวี ติ ประจำวนั
ต ๑.๒ ม.๑/๒ ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ และคำช้แี จง ตามสถานการณ์
ต ๑.๒ ม.๑/๓ พูดและเขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ
การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๑/๔ พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรื่องท่ีฟัง
หรอื อ่านอย่างเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๑/๕ พูดและเขียนแสดงความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว กิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบอย่าง
เหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๒/๑ สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว และ
สถานการณต์ า่ งๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๒/๒ ใชค้ ำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธบิ ายตามสถานการณ์
ต ๑.๒ ม.๒/๓ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลือ ตอบรับและ
ปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๒/๔ พดู และเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
เรือ่ งทฟี่ งั หรอื อา่ นอย่างเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๒/๕ พูดและเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่างๆ
กจิ กรรม และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๓/๑ สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสาร
อย่างต่อเนอื่ งและเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๓/๒ ใชค้ ำขอร้อง ใหค้ ำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๓/๓ พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและ
ปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณต์ ่างๆ อย่างเหมาะสม
โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๖๐
ต ๑.๒ ม.๓/๔ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดง
ต ๑.๒ ม.๓/๕ ความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑ เรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผล
ประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๒ สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๓ ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจ
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔ ของสังคม และสอ่ื สาร อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและเหมาะสม
เลือกและใช้คำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธบิ าย อยา่ งคลอ่ งแคลว่
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับและปฏิเสธการให้
ความช่วยเหลือในสถานการณจ์ ำลองหรือสถานการณจ์ รงิ อยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่าน
อยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ
เร่ืองตา่ งๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์อย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดย
การพูด และการเขยี น
ต ๑.๓ ม.๑/๑ พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ
ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั
ต ๑.๓ ม.๑/๒ พูด/เขียน สรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ(theme) ที่ได้จากการวิเคราะห์
เร่ือง/เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต ๑.๓ ม.๑/๓ พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรือเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว
พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ
ต ๑.๓ ม.๒/๑ พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ
ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสงั คม
ต ๑.๓ ม.๒/๒ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเรื่อง (topic) ที่ได้จาก
การวเิ คราะห์เรอื่ ง/ขา่ ว/เหตุการณ์ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต ๑.๓ ม.๒/๓ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว และ
ประสบการณ์ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ
ต ๑.๓ ม.๓/๑ พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ /เรื่อง
/ประเด็นตา่ งๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๖๑
ต ๑.๓ ม.๓/๒ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการ
วิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ/์ สถานการณท์ ี่อยู่ในความสนใจของสงั คม
ต ๑.๓ ม.๓/๓ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และ
เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบ
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์
เรอื่ งและประเด็นต่างๆ ตามความสนใจของสังคม
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๒ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง
กิจกรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และสถานการณ์ตามความสนใจ
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๓ พูดและเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และ
เหตุการณ์ ทั้งในท้องถ่นิ สังคม และโลก พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต ๒.๑ ม.๑/๑ ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต ๒.๑ ม.๑/๒ บรรยายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของ
เจา้ ของภาษา
ต ๒.๑ ม.๑/๓ เข้าร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต ๒.๑ ม.๒/๑ ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาท
สงั คม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต ๒.๑ ม.๒/๒ อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณี
ของเจ้าของภาษา
ต ๒.๑ ม.๒/๓ เขา้ รว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต ๒.๑ ม.๓/๑ เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาส
ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต ๒.๑ ม.๓/๒ อธิบายเกีย่ วกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของ
ภาษา
ต ๒.๑ ม.๓/๓ เขา้ รว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑ เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส
และสถานท่ี ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒ อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม
และประเพณีของเจ้าของภาษา
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๓ เขา้ รว่ ม แนะนำ และจดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมอยา่ งเหมาะสม
โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๖๒
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
ต ๒.๒ ม.๑/๑ บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค
ชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้าง
ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต ๒.๒ ม.๑/๒ เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง
วนั สำคญั และชีวติ ความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
ต ๒.๒ ม.๒/๑ เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการ
ออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต ๒.๒ ม.๒/๒ เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิต
ความเปน็ อย่แู ละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย
ต ๒.๒ ม.๓/๑ เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการ
ออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต ๒.๒ ม.๓/๒ เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิต
ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้
อย่างเหมาะสม
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ
สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๒ วิเคราะห์/อภิปราย ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต
ความเชื่อและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทยและนำไปใช้
อย่างมีเหตุผล
โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๖๓
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ นื่
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และ
เปน็ พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ต ๓.๑ ม.๑/๑ ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อ่ืนจากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น
ต ๓.๑ ม.๒/๑ ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรยี นรู้อนื่ จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต ๓.๑ ม.๓/๑ ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรียนรูอ้ ่ืนจากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูล
ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอ
ดว้ ยการพูดและการเขยี น
สาระที่ ๔ ภาษากับความสมั พนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต ๔.๑ ม.๑/๑ ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน
และสถานศึกษา
ต ๔.๑ ม.๒/๑ ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน
ต ๔.๑ ม.๓/๑ ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กบั สงั คมโลก
ต ๔.๒ ม.๑/๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/คน้ ควา้ ความร้/ู ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและ
แหล่งการเรยี นร้ตู า่ งๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี
ต ๔.๒ ม.๒/๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้/
ข้อมลู ตา่ งๆ จากสือ่ และแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชพี
ต ๔.๒ ม.๒/๒ เผยแพร/่ ประชาสัมพันธข์ ้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียนเปน็ ภาษาตา่ งประเทศ
โรงเรียนร่วมจิตต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
ต ๔.๒ ม.๓/๑ ๓๖๔
ต ๔.๒ ม.๓/๒
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๒ ขอ้ มลู ตา่ งๆ จากสอ่ื และแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆในการศึกษาต่อและประกอบ
อาชพี
เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น
เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ
ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุป
ความรู/้ ข้อมูลต่างๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพ
เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/
ประเทศชาติ เป็นภาษาตา่ งประเทศ
โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
รายวชิ าพ้ืนฐาน โครงสร้างหลกั สตู ร ๓๖๕
อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ
อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ๑.๕ หนว่ ยกติ
อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑.๕ หนว่ ยกติ
อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกิต
อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๑.๐ หนว่ ยกิต
อ๓๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑.๐ หน่วยกิต
อ๓๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ๓๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ๓๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
อ๓๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์
๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์
รายวิชาเพมิ่ เติม ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ๓๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
อ๓๒๒๐๒ ภาษาอังกฤษ ๑ ช่วั โมง/สปั ดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ
อ๓๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกิต
อ๓๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษ
โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๖๖
คำอธิบายรายวชิ า ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๒๑๑๐๑
เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์จำลอง
สถานการณ์จริงท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา ใชภ้ าษาในการค้นควา้ รวบรวมข้อมลู ความรู้สาขาวชิ าต่างๆ
โดยปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจงง่ายๆระบุหัวข้อ ใจความสำคัญ สื่อที่ไม่เป็นความเรียง
ป้าย สัญลักษณ์ และที่เป็นความเรียงประเภทสิ่งพิมพ์ ฉลากสินค้า โฆษณา เว็บไซต์ บทสนทนา เพลง นิทาน
บทความสั้นๆ ที่อ่านและฟังในเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว อาหาร เครื่องดื่ม การซื้อขาย สุขภาพ
อากาศ ออกเสยี งคำ วลี ประโยค บทสนทนา บทอา่ นสั้นๆ ตามหลกั การออกเสียง สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลใช้
คำขอร้องให้คำแนะนำ แสดงความต้องการ ขอ-ตอบรับ ตอบปฏิเสธความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึก พูดและ
เขียนบรรยาย สรุปใจความสำคัญ เกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวันประสบการณ์ บรรยายความสำคัญของ
เทศกาล วัฒนธรรมประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
เห็นคณุ คา่ ของภาษาองั กฤษ มที กั ษะในการส่ือสาร ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มีวินัยในตนเองและมีจิตสาธารณะ
รหสั ตัวช้ีวัด
ต ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔
ต ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
ต ๑.๓ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒
ต ๓.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๒ ม.๑/๑
รวม ๒๐ ตัวชี้วดั
โรงเรียนร่วมจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๖๗
คำอธบิ ายรายวชิ า ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๒๑๑๐๒
เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์จำลอง
สถานการณ์จริงทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ตลอดจนใช้ภาษาในการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลความรู้
สาขาวชิ าต่างๆโดยปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ้ จงง่ายๆระบุหวั ข้อ ใจความสำคัญ ตีความและ
ถ่ายโอนสื่อที่ไม่เป็นความเรียง ตาราง กราฟ แผนภูมิ ป้ายสัญลักษณ์ และที่เป็นความเรียงประเภทสิ่งพิมพ์
ฉลากสินค้า ฉลากยา โฆษณา เว็บไซท์ บทสนทนา เพลง นิทาน เรื่องสั้นง่ายๆ ที่อ่านและฟัง ในเรื่องราว
เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว อาหาร เครื่องดื่ม การซื้อขายสุขภาพ นันทนาการ การศึกษา อาชีพ อากาศ
สิ่งแวดล้อม ออกเสียงคำ วลี ประโยคบทสนทนา บทอ่านสั้นๆ บทร้อยกรองสั้นๆ สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล
แสดงความต้องการ ขอ-ตอบรับ ตอบปฏิเสธความช่วยเหลือ แสดงความคิดเห็น ด้วยการใช้คำศัพท์ สำนวน
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล พูดและเขียนบรรยาย สรุปใจความสำคัญ แสดงความคิดเห็น โดยใช้
เหตผุ ลส้ันๆเกย่ี วกบั ชีวิตประจำวัน สงิ่ แวดลอ้ ม เหตกุ ารณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม เปรยี บเทยี บวัฒนธรรม
ประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ของไทย และของเจ้าของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ เข้าร่วมกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มที ักษะการคิดให้เหตุผล รักความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ
รหัสตัวชว้ี ัด
ต ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔
ต ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
ต ๑.๓ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒
ต ๓.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๒ ม.๑/๑
รวม ๒๐ ตัวชีว้ ัด
โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๖๘
คำอธิบายรายวชิ า ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ๒๒๑๐๑
เวลา ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์จำลอง
สถานการณ์จริงทั้งในและนอกสถานศึกษา ตลอดจนใช้ภาษาในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลความรู้สาขาวิชา
ต่างๆ โดยปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจงง่ายๆ ระบุหัวข้อ ใจความสำคัญ สื่อที่ไม่เป็น
ความเรียง ป้าย สัญลักษณ์ และที่เป็นความเรียงประเภทสิ่งพิมพ์ ฉลากสินค้า โฆษณา เว็บไซท์ บทสนทนา
เพลง นิทาน บทความสั้นๆ ที่อ่านและฟังในเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว อาหาร เครื่องดื่ม การซื้อขาย
สุขภาพ อากาศ อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง
สั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียง สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ แสดง
ความต้องการ ขอ-ตอบรับ ปฏิเสธความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ
โดยใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาอย่างถูกต้อง พูดและเขียนบรรยายสรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตร
ประจำวนั ประสบการณ์ มารยาททางสังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เปรยี บเทียบวฒั นธรรมประเพณี
ชีวิตความเป็นอยู่ของไทย และของเจ้าของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมตามความสนใจ มที กั ษะการคิดให้เหตผุ ล รักความเป็นไทยและมจี ิตสาธารณะ
รหสั ตวั ชี้วดั
ต ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔
ต ๑.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
ต ๑.๓ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓
ต ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓
ต ๒.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒
ต ๓.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒
รวม ๒๑ ตวั ชว้ี ดั
โรงเรียนรว่ มจิตต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๖๙
คำอธิบายรายวิชา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๒๒๑๐๒
เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์จำลอง
สถานการณ์จริง ตลอดจนใช้ภาษาในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลความรู้สาขาวิชาต่าง ๆ โดยปฏิบัติตามคำส่ัง
คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง ระบุหัวข้อ ใจความสำคัญ สื่อที่ไม่เป็นความเรียง ป้าย สัญลักษณ์ และ
ทีเ่ ปน็ ความเรียงประเภทสิ่งพิมพ์ ฉลากสนิ คา้ โฆษณา เวบ็ ไซต์ บทสนทนา เพลง นทิ าน บทความส้ัน ๆ ท่ีอ่าน
และฟงั ในเรือ่ งเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั อาหาร เครอื่ งดืม่ การซอื้ ขาย สขุ ภาพ อากาศ อ่านออกเสียงข้อความ
ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียง สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ใช้คำ
ขอร้อง ให้คำแนะนำ แสดงความต้องการ ขอ-ตอบรับ ปฏิเสธความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึก แสดงความ
คิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ พูดและเขียนบรรยายสรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน
ประสบการณ์ มารยาททางสงั คม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เปรียบเทยี บวฒั นธรรมประเพณี ชวี ิตความ
เปน็ อย่ขู องไทย และของเจา้ ของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาองั กฤษ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
ตามความสนใจ มที กั ษะการคดิ ให้เหตุผล รักความเปน็ ไทยและมจี ิตสาธารณะ
รหสั ตัวชีว้ ดั
ต ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔
ต ๑.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
ต ๑.๓ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓
ต ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓
ต ๒.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒
ต ๓.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒
รวม ๒๑ ตวั ชว้ี ดั
โรงเรียนรว่ มจิตต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๗๐
คำอธบิ ายรายวชิ า ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ๒๓๑๐๑
เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ใช้ภาษา น้ำเสียง และท่าทาง สื่อสารตามมารยาทสังคม ใช้เทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลในการเรียน การปฏิบัติงาน การสมัครงาน ขอ และให้ข้อมูล ความช่วยเหลือ และบริการผู้อ่ืน
ถ่ายโอนข้อมูลที่ได้ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง คำ วลี ใช้ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบาย
อ่านข้อความทซ่ี บั ซ้อน ข้อมูล บทอ่าน เร่ืองราวส้นั ๆ ทง้ั ทเี่ ป็นความเรียง และไมเ่ ป็นความเรียงจากส่ือสิ่งพิมพ์
และสื่ออิเลคทรอนิค ในเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สุขภาพ การศึกษา
ประวตั ศิ าสตร์ และอน่ื ๆ แล้วถา่ ยโอนเป็นถอ้ ยคำของตนเองในรูปแบบตา่ ง ๆ แสดงความคิดเห็นความต้องการ
ความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง บทกวี บทเพลง บทละครสั้น ๆ เปรียบเทียบข้อมูลข่าวสาร
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันท้องถิ่นและสังคม ประสบการณ์ การศึกษาการทำงานเทคโนโลยี
งานประเพณี วันสำคัญของชาติ วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมเจ้าของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ
เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรม สามารถใชภ้ าษาเปน็ เครอ่ื งมือแสวงหาความรู้เพ่มิ เติม และเชอ่ื มโยง
กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื มจี ติ สาธารณะ มีวนิ ยั ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น
รหัสตวั ช้วี ดั
ต ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต ๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต ๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
รวม ๒๑ ตวั ชีว้ ัด
โรงเรียนรว่ มจิตต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๑
คำอธิบายรายวิชา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ๒๓๑๐๒
เวลา ๖๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ใช้ภาษา น้ำเสียง และท่าทาง สื่อสารตามมารยาทสังคม ใช้เทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลในการเรียน การปฏิบัติงาน การสมัครงาน ขอ และให้ข้อมูล ความช่วยเหลือ และบริการผู้อ่ืน
ถ่ายโอนข้อมูลที่ได้ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง คำ วลี ใช้ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบาย
อา่ นขอ้ ความทซ่ี ับซ้อน ข้อมูล บทอา่ น เร่ืองราวส้ัน ๆ ทัง้ ทเ่ี ป็นความเรียง และไม่เป็นความเรียงจากส่ือส่ิงพิมพ์
และสื่ออิเลคทรอนิค ในเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สุขภาพ การศึกษา
ประวัตศิ าสตร์ และอ่นื ๆ แลว้ ถา่ ยโอนเปน็ ถ้อยคำของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นความต้องการ
ความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง บทกวี บทเพลง บทละครสั้น ๆ เปรียบเทียบข้อมูลข่าวสาร
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันท้องถิ่นและสังคม ประสบการณ์ การศึกษาการทำงานเทคโนโลยี
งานประเพณี วันสำคัญของชาติ วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมเจ้าของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ
เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรม สามารถใชภ้ าษาเป็นเครือ่ งมอื แสวงหาความรูเ้ พิ่มเตมิ และเชื่อมโยง
กับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น มีจติ สาธารณะ มวี ินัย ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น
รหสั ตวั ชีว้ ัด
ต ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต ๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต ๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
รวม ๒๑ ตัวชว้ี ัด
โรงเรยี นรว่ มจิตต์วิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๗๒
คำอธิบายรายวชิ า ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๓๑๑๐๑
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง จับใจความสำคัญ สรุปความ ตีความเรื่อง
ที่เป็นสารคดี / เลือกและใช้คำขอร้อง ปฏิบัติตามและให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายในคู่มือการใช้งาน
อธิบายและเขียนประโยคข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง
โครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาไทย
สนทนา เขียนบรรยายโต้ตอบ แสดงความต้องการ ความรู้สึก ตอบรับและปฏิเสธ ขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับ
ตนเอง กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว และเหตุการณ์ในท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมใน
สถานการณ์จริง หรือจำลองในห้องเรียน โดยใช้ภาษาสื่อสาร น้ำเสียง กิริยาท่าทาง เหมาะสมตามมารยาท
สังคม ใช้ภาษาอังกฤษในการค้นคว้า บันทึก รวบรวม แสดงความคิดเห็น สรุปข้อมูล และการเผยแพร่
ประชาสมั พนั ธ์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และรักความเปน็ ไทย
รหัสตวั ชีว้ ดั
ต ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔
ต ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๑, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕
ต ๑.๓ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓
ต ๒.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓
ต ๒.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒
ต ๓.๑ ม.๔/๑
ต ๔.๑ ม.๔/๑
ต ๔.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒
รวม ๒๑ ตัวชี้วดั
โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๓
คำอธบิ ายรายวิชา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ๓๑๑๐๒
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง จบั ใจความสำคญั สรปุ ความ ตคี วามเรื่อง
ที่เป็นสารคดี / เลือกและใช้คำขอร้อง ปฏิบัติตามและให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายในคู่มือการใช้งาน
อธิบายและเขียนประโยคข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง
โครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาไทย
สนทนา เขียนบรรยายโต้ตอบ แสดงความต้องการ ความรู้สึก ตอบรับและปฏิเสธ ขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับ
ตนเอง กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว และเหตุการณ์ในท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมใน
สถานการณ์จริง หรือจำลองในห้องเรียน โดยใช้ภาษาสื่อสาร น้ำเสียง กิริยาท่าทาง เหมาะสมตามมารยาท
สังคม ใช้ภาษาอังกฤษในการค้นคว้า บันทึก รวบรวม แสดงความคิดเห็น สรุปข้อมูล และการเผยแพร่
ประชาสมั พันธ์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน และรักความเป็นไทย
รหสั ตัวชว้ี ดั
ต ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔
ต ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕
ต ๑.๓ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓
ต ๒.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒
ต ๒.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒
ต ๓.๑ ม.๔/๑
ต ๔.๑ ม.๔/๑
ต ๔.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒
รวม ๒๑ ตวั ชวี้ ดั
โรงเรยี นร่วมจติ ต์วทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๔
คำอธบิ ายรายวชิ า ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ๓๒๑๐๑
เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ่านออกเสียงข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้นถูกต้องตามหลักการอ่าน ปฏิบัติ
ตามคำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน เลือกและใช้คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบาย และให้คำแนะนำ
อธิบายและเขียนประโยคและข้อความสัมพันธ์กับสื่อทีไ่ ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน สื่อสารแสดงความ
ตอ้ งการ เสนอและให้ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จำลองหรอื สถานการณจ์ ริงอย่าง
เหมาะสม อภิปรายวิถีชวี ิต ความคดิ ความเชอ่ื เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งโครงสร้างประโยค ข้อความ
สำนวน คำพังเพย สุภาษิต บทกลอน ความเชื่อและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้า รวบรวม
บันทึก สรุปใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ นำเสนอข้อมูลเรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ ประสบการณ์และ
สถานการณ์ต่างๆ ตามความสนใจ และแสดงความคิดเห็น พร้อมให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบในการฟัง
และอ่านสารคดี บนั เทิงคดี และเรื่องทีเ่ กี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ ในการศึกษา
ต่อและประกอบอาชีพ โดยใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ และสถานการณ์
จำลองอย่างเหมาะสมกับระดบั ของบุคคล เวลา โอกาส และสถานที่ ถูกต้องตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษา เป็นผูท้ ่ีมีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมั่น
ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ
รหัสตวั ชี้วัด
ต ๑.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔
ต ๑.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕
ต ๑.๓ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓
ต ๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓
ต ๒.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒
ต ๓.๑ ม.๕/๑
ต ๔.๑ ม.๕/๑
ต ๔.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒
รวม ๒๑ ตัวชวี้ ดั
โรงเรยี นร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๕
คำอธบิ ายรายวชิ า ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๓๒๑๐๒
เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
อ่านออกเสียงข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้นถูกต้องตามหลักการอ่าน ปฏิบัติ
ตามคำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน เลือกและใช้คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบาย และให้คำแนะนำ
อธิบายและเขียนประโยคและข้อความสมั พันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน สื่อสารแสดงความ
ต้องการ เสนอและให้ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริง
อย่างเหมาะสม อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค
ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต บทกลอน ความเชื่อและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้า
รวบรวม บันทึก สรุปใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ นำเสนอข้อมูลเรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์
ประสบการณ์และสถานการณ์ต่างๆ ตามความสนใจ และแสดงความคิดเห็น พร้อมให้เหตุผลและยกตัวอย่าง
ประกอบในการฟังและอา่ นสารคดี บันเทิงคดี และเร่ืองที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้
ตา่ ง ๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ โดยใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการส่ือสารในสถานการณ์
จริงและสถานการณ์จำลองอย่างเหมาะสมกับระดับของบุคคล เวลา โอกาส และสถานที่ ถูกต้องตามมารยาท
สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เปน็ ผทู้ มี่ ีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตย์สุจรติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่
อยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ
รหัสตัวช้วี ัด
ต ๑.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔
ต ๑.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕
ต ๑.๓ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓
ต ๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓
ต ๒.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒
ต ๓.๑ ม.๕/๑
ต ๔.๑ ม.๕/๑
ต ๔.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒
รวม ๒๑ ตวั ชวี้ ัด
โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๖
คำอธิบายรายวิชา ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า อ๓๓๑๐๑
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้นถูกต้องตามหลักการ
อา่ น ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่าง ๆ เลอื กและใช้คำขอร้อง คำช้แี จง คำอธิบาย และคำบรรยาย
ให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณ์ จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม อธิบาย ระบุและเขียนประโยค ข้อความให้สัมพันธ์
กับสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ที่อ่าน วิเคราะห์ เปรียบเทยี บความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค
ขอ้ ความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต บทกลอน วถิ ีชวี ิต ความคดิ ความเชื่อ ทมี่ าของขนบธรรมเนียมประเพณี
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล สืบค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์
บันทึกสรุป นำเสนอความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้
ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และ
ท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็นภาษาต่างประเทศ สื่อสารอย่างต่อเนื่อง เหมาะสมในสถานการณ์จริง /สถานการ
จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคม เพื่อขอและให้ และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
และเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ วิเคราะห์ตีความ สะท้อนความรู้สึก และแสดงความ
คิดเห็นของตนเอง พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ รวมทั้งสรุปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จาก
การวเิ คราะห์เร่ืองท่ีเป็นสารคดี และบันเทิงคดี กจิ กรรม ประเดน็ /ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ประสบการณ์ สถานการณ์
ในสังคมและโลก ประเด็นที่อยู่ในความสนใจอย่างมีเหตุผล เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมอย่างเหมาะสมโดยเลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและกริยาท่าทางเหมาะสมกับระดับของบุคคล เวลา
โอกาส และสถานที่ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เป็นผูท้ ี่มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ
รหัสตัวช้วี ัด
ต ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔
ต ๑.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕
ต ๑.๓ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓
ต ๒.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓
ต ๒.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒
ต ๓.๑ ม.๖/๑
ต ๔.๑ ม.๖/๑
ต ๔.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒
รวม ๒๑ ตัวชี้วดั
โรงเรียนร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๗๗
คำอธบิ ายรายวชิ า ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๓๑๐๒
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้นถูกต้องตามหลักการ
อ่าน ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำในคู่มือการใชง้ านต่างๆ เลอื กและใช้คำขอร้อง คำชแ้ี จง คำอธิบาย และคำบรรยาย
ให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณ์ จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม อธิบาย ระบุและเขียนประโยค ข้อความให้สัมพันธ์
กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ที่อา่ น วิเคราะห์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค
ข้อความ สำนวน คำพงั เพย สุภาษติ บทกลอน วถิ ชี วี ติ ความคดิ ความเชื่อ ทีม่ าของขนบธรรมเนียมประเพณี
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล สืบค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์
บันทึกสรุป นำเสนอความรู้/ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้
ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และ
ท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็นภาษาต่างประเทศ สื่อสารอย่างต่อเนื่อง เหมาะสมในสถานการณ์จริง /สถานการ
จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคม เพื่อขอและให้ และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
และเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ วิเคราะห์ตีความ สะท้อนความรู้สึก และแสดงความ
คิดเห็นของตนเอง พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ รวมทั้งสรุปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ไดจ้ าก
การวเิ คราะห์เร่ืองท่ีเป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี กิจกรรม ประเดน็ /ขา่ ว/เหตุการณ์ ประสบการณ์ สถานการณ์
ในสังคมและโลก ประเด็นที่อยู่ในความสนใจอย่างมีเหตุผล เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมอย่างเหมาะสมโดยเลือกใช้ภาษาน้ำเสียงและกริยาท่าทางเหมาะสมกับระดับของบุคคล เวลา
โอกาส และสถานท่ีตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เป็นผู้ท่ีมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซอื่ สัตย์สุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มุง่ มน่ั ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ
รหสั ตัวช้วี ัด
ต ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔
ต ๑.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕
ต ๑.๓ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓
ต ๒.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓
ต ๒.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒
ต ๓.๑ ม.๖/๑
ต ๔.๑ ม.๖/๑
ต ๔.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒
รวม ๒๑ ตวั ช้ีวัด
โรงเรียนรว่ มจิตต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๗๘
คำอธบิ ายรายวิชา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ๓๒๒๐๑
เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ฝึกพูด บทสนทนาและเขียนได้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม เลือกใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง
แสดงความต้องการเสนอ และให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์
ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแก้ปญั หา
เพื่อให้สามารถสื่อสารด้านการพูดได้ ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เห็นคุณค่าของการเรียนทางภาษา
ตลอดจนมคี า่ นิยม จรยิ ธรรม และค่านยิ มทีพ่ งึ ประสงค์
ผลการเรียนรู้
๑. ใชภ้ าษาในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล การทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ชมเชย การพดู สอดแทรก การ
ชกั ชวน การแลกเปล่ียนข้อมูล
๒. ใช้ภาษาในการขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบาย ท่ีมีข้ันตอน
๓. พดู แสดงความต้องการเสนอ และใหค้ วามชว่ ยเหลือ ในสถานการณ์ต่าง ๆ
๔. คำศัพท์ สำนวนภาษาประโยค และข้อความที่ใช้ในการขอ และให้ข้อมูล บรรยาย หรืออธิบาย
เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับขอ้ มูลต่าง ๆ
๕. พูดแสดงความรสู้ ึก ความคิดเหน็ และใหเ้ หตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสยี ใจ
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๗๙
คำอธิบายรายวิชา ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ๓๒๒๐๒
เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ฝึกพูดบทสนทนา และเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม เลือกใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง
แสดงความต้องการเสนอ และให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์
ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม ให้ข้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรอ่ื งต่าง ๆ
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกล่มุ
เพื่อให้สามารถสื่อสารด้านการพูดได้ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เห็นคุณค่าของการเรียนทางภาษา
ตลอดจนค่านิยม จรยิ ธรรม ทพ่ี งึ ประสงค์
ผลการเรยี นรู้
๑. สนทนาและเขียนสื่อสารระหว่างบุคคล การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ชมเชย การพูด สอดแทรก
การชกั ชวน การแลกเปลี่ยนข้อมูล
๒. พูดเพ่ือขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ้ จง คำอธิบาย ทม่ี ีข้นั ตอน
๓. พดู ส่อื สารแสดงความต้องการเสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลือในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
๔. พูดและเขียนคำศัพท์ สำนวนภาษา ประโยค และข้อความที่ใช้ในการขอ และให้ข้อมูล บรรยาย
หรอื อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ประเดน็ ขา่ ว หรือเหตุการณ์ท่ีฟัง และอา่ น
๕. พูดแสดงความรสู้ ึก ความคดิ เห็น และใหเ้ หตุผลประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนรว่ มจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๘๐
คำอธบิ ายรายวิชา ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๓๓๒๐๑
เวลา ๒๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาบทอ่าน บทสนทนาตามหลักการอ่านจับใจความสำคัญ สรุปความแสดงความคิดเห็น พร้อมท้ัง
ให้เหตุผลในการนำเสนอข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม โดย
ใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทาง เหมาะกับระดับของบุคคล โอกาสและสถานที่ ตามมารยาททาง สังคมและ
เจ้าของภาษา ในสถานการณ์จริง สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อและวัฒนธรรม ประเพณีของ
เจ้าของภาษา สืบค้น บันทึก สรุปข้อมูลความรู้ต่าง ๆ จากสื่อแหล่งเรียนรู้ พร้อมเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์
ขา่ วสารของโรงเรียน ชุมชน เข้าร่วม แนะนำ และจัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอยา่ งเหมาะสม
โดยใช้ทักษะการสื่อสารภาษา การคิด การแก้ปัญหา การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักใช้ส่ือ
เทคโนโลยใี นการสบื ค้นข้อมูล ความร้อู ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
เพื่อให้ผูเ้ รียนรูค้ ุณค่าของภาษาองั กฤษ มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สจุ ริต มีวินัย ใฝ่ เรียนรู้
อยูอ่ ย่างเพียงพอ มงุ่ มั่นในการท างาน รักความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงบทอ่าน บทสนทนา ขอ้ ความ ตามหลกั การอ่านและสรุปใจความสำคญั ได้
๒. สนทนาโตต้ อบโดยใชภ้ าษาแลกเปล่ียนขอ้ มลู กับบคุ คลต่าง ๆ
๓. พดู บรรยายเรื่องตา่ ง ๆ กิจกรรม ประสบการณไ์ ด้อย่างเหมาะสม
๔. ใช้ภาษาสื่อสารตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและระดับบคุ คล กาลเทศะ
๕. ค้นคว้าข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ จากสื่อ แหล่งเรียนรู้ อินเทอร์เน็ตและนำเสนอ แสดงความ
คิดเห็นท่เี กย่ี วขอ้ งกบั สาระการเรยี นรู้อน่ื
๖. ส่ือสารภาษาโดยใช้โครงสร้างทางภาษาตามที่กำหนดและเหมาะสมกับระดบั ช้ัน
๗. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและเผยแพร่ขอ้ มูล ข่าวสารของโรงเรยี น
๘. อธิบาย น าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ความเชื่อ ชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา
รวม ๘ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นร่วมจติ ต์วิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๑
คำอธบิ ายรายวิชา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ๓๓๒๐๒
เวลา ๒๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ถ่ายโอนคำ กลุ่มคำ และประโยคที่ฟังหรืออ่านเป็นภาพสัญลักษณ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พูด บอก
ใจความสำคัญจากบทความ บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบได้ พูดบอกความรู้สึกของตนเอง เกี่ยวกับ
เรื่องใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่อ่านหรือฟังได้ นำเสนอบทเพลงหรือบทกวีจากสื่อประเภทต่าง ๆ ได้
พูดอภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าของภาษาได้เขียนหรือ
พูดสรุปและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ข้อมลู กลุม่ สาระการเรยี นรู้อื่น
โดยใช้กระบวนการสื่อทางภาษา และฝึกปฏิบัติการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ การบันทึก
สรุป การแสดงบทบาทสมมุติ การศึกษาค้นคว้า การสนทนาการใช้พจนานุกรม การเข้าร่วมกิจกรรม
การ นำเสนอ การแสดงความคดิ เห็น มคี วามใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน
เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างเพียงพอ มุ่งมั่นในการ
ทำงาน รักความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. ถ่ายโอนคำ กลมุ่ คำและประโยคท่ฟี งั หรืออ่านเป็นภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ได้อยา่ งเหมาะสม
๒. พดู บอกใจความสำคญั ในบทความ บทสนทนา หรอื นทิ านงา่ ย ๆ ทมี่ ภี าพประกอบได้
๓. พดู บอกความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับสง่ิ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามที่อา่ นหรือฟงั ได้
๔. นำเสนอความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับข้อมูลทฟ่ี ังหรืออ่านได้
๕. นำเสนอบทเพลงหรือบทกวจี ากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ ได้
๖. อภปิ รายวถิ ีชีวติ ความคิด ความเชือ่ และทีม่ าของขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษาได้
๗. พูดหรอื เขยี นสรปุ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับขอ้ มลู ที่เกย่ี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน
รวม ๗ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๘๒
สาระการเรยี นรูท้ ้องถิน่ ละหานทราย
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ สภาพแวดลอ้ มทางภูมิศาสตร์
มาตรฐาน พร ๑.๑ รู้จกั สภาพทั่วไปในปจั จุบนั ของชมุ ชนเมืองพนมรุ้ง เขาพนมร้งุ และปราสาทพนมรุ้ง
มาตรฐาน พร ๑.๒ เข้าใจ และอธิบายลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ที่ตั้ง ขนาด รูปร่าง อาณาเขต
ติดต่อ ทรพั ยากรธรรมชาติ และสภาพแวดลอ้ มทั่วไป ของปราสาทพนมรงุ้
สาระท่ี ๒ ประวัติ ความเป็นมา และความสำคญั ของปราสาทพนมรงุ้
มาตรฐาน พร ๒.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความเป็นมาของปราสาทพนมรุ้งและอุทยานประวัติศาสตร์
พนมรุง้
มาตรฐาน พร ๒.๒ ชน่ื ชม ภาคภูมิใจ เห็นคุณคา่ และความสำคัญของปราสาทพนมร้งุ
สาระที่ ๓ สถาปัตยกรรมและประติมากรรม
มาตรฐาน พร ๓.๑ ร้จู กั ผลงานทเี่ กดิ จากการสรา้ งสรรค์สถาปตั ยกรรมและประตมิ ากรรมของ
ปราสาทพนมรุง้
มาตรฐาน พร ๓.๒ ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และเกิดความซาบซึ้งในความงดงามทางศิลปะ
ของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมปราสาทพนมรุ้ง
สาระท่ี ๔ ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม
มาตรฐาน พร ๔.๑ รู้จัก เข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญ ของขนบธรรมเนียม ประเพณี และ
วัฒนธรรมท่ีเกดิ จากภมู ปิ ัญญาของบรรพบรุ ุษ ปฏบิ ตั ิสืบทอดกันตอ่ มา
มาตรฐาน พร ๔.๒ ศึกษาวรรณกรรม เรื่องบอกเล่า และบันทึกตำนานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
เกีย่ วกับเรื่องราวของปราสาทพนมรุ้ง
มาตรฐาน พร ๔.๓ เห็นประโยชน์ และคุณค่าของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม
สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนินชีวติ
สาระที่ ๕ การท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ปราสาทพนมรงุ้
มาตรฐาน พร ๕.๑ มีความภาคภูมใิ จ หวงแหน และเหน็ คณุ ค่าของปราสาทพนมรุ้ง ซงึ่ เป็นมรดกทาง
วฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง
มาตรฐาน พร ๕.๒ มีส่วนร่วมในการส่งเสริม ช่วยเหลือ สนับสนุน การท่องเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้ง
และเผยแพรใ่ ห้เป็นท่รี ู้จักแกค่ นท่วั ไป
มาตรฐาน พร ๕.๓ ให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตนเพื่อการรักษาสภาพแวดล้อมทั่วไปของ ปราสาท
พนมรุ้ง และใช้ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างคมุ้ คา่
โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๓
การจัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเปน็
มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เปน็ ผู้มศี ีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบ
วินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่น
อย่างมคี วามสุข โรงเรียนร่วมจติ ต์วิทยา จดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๓ ลักษณะ ดังนี้
๑. กจิ กรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ
คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครอง
ในการมีส่วนร่วมพฒั นาผ้เู รียน
๒. กิจกรรมนกั เรยี น
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบการทำงาน
ร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทร และ
สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคลอ้ งกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผเู้ รียน ให้ไดป้ ฏบิ ัติด้วยตนเอง
ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน
เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของ
สถานศึกษาและท้องถนิ่ กจิ กรรมนักเรียนประกอบด้วย
๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผบู้ ำเพญ็ ประโยชน์ และนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร
๒.๒ กิจกรรมชมุ นมุ /ชมรม ไดแ้ ก่
- กิจกรรมชุมนุมภาษาไทย
- กจิ กรรมชุมนมุ คณติ ศาสตร์
- กิจกรรมชมุ นมุ วิทยาศาสตร์
- กจิ กรรมชุมนุมสังคมศกึ ษา
- กจิ กรรมชุมนมุ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
- กิจกรรมชุมนมุ ศิลปะ ดนตรี และนาฎศลิ ป์
- กจิ กรรมชมุ นุมการงานอาชพี และเทคโนโลยี
- กจิ กรรมชุมนุมภาษาอังกฤษ
- กจิ กรรมชมุ นุมนักศกึ ษาวชิ าทหาร
- กิจกรรมแนะแนว
โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๔
๓. กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตาม
ความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม
มีจติ สาธารณะ เชน่ กจิ กรรมอาสาพฒั นาต่าง ๆ กจิ กรรมสร้างสรรคส์ ังคม
โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๕
การจัดการเรียนรู้
การจดั การเรียนร้เู ปน็ กระบวนการสำคัญในการนำหลกั สูตรสู่การปฏิบตั ิ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เปน็ เปา้ หมายสำหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชน
ในการพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณสมบัตติ ามเปา้ หมายหลักสตู ร ผูส้ อนพยายามคดั สรร กระบวนการเรียนรู้
จดั การเรยี นรโู้ ดยช่วยให้ผ้เู รยี นเรียนรู้ผา่ นสาระทก่ี ำหนดไว้ในหลกั สูตร ๘ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ รวมทั้งปลกู ฝงั
เสริมสร้างคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ พฒั นาทกั ษะต่างๆ อันเป็นสมรรถนะสำคญั ใหผ้ เู้ รยี นบรรลุตามเป้าหมาย
๑. หลกั การจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า
ผู้เรยี นมีความสำคญั ที่สดุ เชอ่ื วา่ ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ ยดึ ประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึง
ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เนน้ ให้ความสำคัญทง้ั ความรู้ และคณุ ธรรม
๒. กระบวนการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย
เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้ จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ
ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเองกระบวนการ
พฒั นาลักษณะนสิ ยั
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ทีผ่ ูเ้ รียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จึงจำเป็นต้องศึกษาทำ
ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่าง
มีประสทิ ธภิ าพ
๓. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญ
ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบ
การจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้
ผู้เรียนไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพและบรรลุตามเปา้ หมายที่กำหนด
โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)
๓๘๖
๔. บทบาทของผสู้ อนและผู้เรยี น
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควร
มบี ทบาท ดงั น้ี
๔.๑ บทบาทของผู้สอน
๑) ศกึ ษาวเิ คราะห์ผูเ้ รียนเป็นรายบุคคล แลว้ นำข้อมลู มาใชใ้ นการวางแผน การจัดการเรียนรู้
ทีท่ ้าทายความสามารถของผูเ้ รียน
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ
ทเี่ ป็นความคิดรวบยอด หลักการ และความสมั พันธ์ รวมท้ังคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พัฒนาการทางสมอง เพื่อนำผ้เู รยี นไปส่เู ป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศที่เอ้ือตอ่ การเรียนรู้ และดแู ลชว่ ยเหลือผูเ้ รียนใหเ้ กิดการเรียนรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยี
ท่ีเหมาะสมมาประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของ
วชิ าและระดบั พัฒนาการของผู้เรยี น
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุง
การจัดการเรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผูเ้ รยี น
๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรับผดิ ชอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม
คิดหาคำตอบหรอื หาแนวทางแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ
๓) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์
ต่าง ๆ
๔) มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ ทำงาน ทำกจิ กรรมร่วมกบั กลมุ่ และครู
๕) ประเมินและพฒั นากระบวนการเรียนร้ขู องตนเองอยา่ งต่อเนอื่ ง
โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)
๓๘๗
สอื่ การเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้
มีหลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรยี นรูต้ ่างๆ ที่มีในท้องถิ่น
การเลอื กใช้สอ่ื ควรเลอื กให้มีความเหมาะสมกบั ระดับพฒั นาการ และลลี าการเรียนร้ทู ี่หลากหลายของผูเ้ รยี น
การจดั หาสื่อการเรยี นรู้ ผเู้ รียนและผ้สู อนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่าง
มีคุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสาร
ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยโรงเรียนได้จัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการ
ดังน้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์การเรียนรู้ ระหวา่ งสถานศึกษา ท้องถ่ิน ชุมชน สังคมโลก
๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้ง
จดั หาส่ิงที่มอี ยู่ในท้องถิน่ มาประยุกต์ใชเ้ ป็นสอ่ื การเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ
เรยี นรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรยี นรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรยี น
๔. ประเมนิ คณุ ภาพของส่ือการเรยี นรทู้ ีเ่ ลือกใช้อย่างเปน็ ระบบ
๕. ศึกษาคน้ ควา้ วิจัย เพอ่ื พฒั นาสื่อการเรยี นรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั กระบวนการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี น
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้ส่ือ
การเรยี นรู้เปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในโรงเรียน จึงต้องคำนึงถึง
หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง
ของชาติ ไม่ขัดตอ่ ศลี ธรรม มีการใช้ภาษาที่ถกู ต้อง รปู แบบการนำเสนอทเี่ ข้าใจง่าย และน่าสนใจ
โรงเรียนร่วมจิตต์วทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๘
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือการประเมิน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จ
นั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรี ยนรู้ สะท้อน
สมรรถนะสำคัญ และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการ
เรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็น
ประโยชนต์ ่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกดิ การพฒั นาและเรยี นรูอ้ ย่างเต็มตามศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดบั เขตพื้นที่การศกึ ษา และระดบั ชาติ มีรายละเอียด ดังนี้
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน
การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมิน
เพื่อน ผูป้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณที ไี่ มผ่ า่ นตัวชี้วดั ใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสรมิ
การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเปน็ ผลมาจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือไม่ และมากนอ้ ยเพียงใด มีส่งิ ท่จี ะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย
ท้ังนีโ้ ดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้วี ัด
๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียน
ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อ
การเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของ
ผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจน เพื่อการ
จั ด
ทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงาน
ผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ผปู้ กครองและชมุ ชน
โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๘๙
๓. การประเมนิ ระดบั เขตพืน้ ท่ีการศึกษา เปน็ การประเมนิ คุณภาพผเู้ รียนในระดบั เขตพน้ื ท่ีการศึกษา
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมิน
คุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วย
ความรว่ มมอื กับหน่วยงานต้นสงั กดั ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนยี้ งั ได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูล
จากการประเมินระดบั สถานศึกษาในเขตพ้นื ที่การศึกษา
๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนได้จัดใหผ้ ูเ้ รียนทุกคนที่เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ และ
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ เขา้ รับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมลู ในการเทยี บเคยี งคุณภาพการศึกษา
ในระดับต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน
การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น โรงเรียนได้นำไปตรวจสอบทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ซึ่งถือเป็นภาระความรับผดิ ชอบของโรงเรยี นท่จี ะตอ้ งจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลอื ปรบั ปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนบั สนุน
เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหา
และความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มี
ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น
หัวใจของโรงเรียนในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ
ประสบความสำเร็จในการเรียน
โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๙๐
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
จากการท่ีกระทรวงศึกษาธิการ ไดป้ ระกาศใชห้ ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ เมอ่ื วันท่ี ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๑ โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ิทยา จึงไดก้ ำหนดระเบยี บว่าดว้ ย
การประเมินผลการเรียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ดงั ต่อไปนี้
ขอ้ ๑ ระเบียบนีเ้ รียกว่า “ระเบียบโรงเรียนรว่ มจติ ต์วิทยาวา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผล
การเรยี นตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ข้อ ๒ ระเบียบน้ีใชบ้ ังคับต้ังแต่ปกี ารศึกษา ๒๕๕๒ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ใช้ระเบยี บนี้ควบคู่กับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
หมวด ๑
หลกั การประเมนิ ผลการเรียน
ข้อ ๔ การประเมินผลการเรยี นให้เปน็ ไปตามหลกั การ ต่อไปน้ี
๔.๑ โรงเรียนเป็นผู้รับผดิ ชอบการประเมินผลการเรียนของผูเ้ รียนและเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวขอ้ ง
เช่น ผู้ปกครอง ชุมชน มีสว่ นรว่ มในการประเมนิ ตามลกั ษณะของแต่ละสาระของการเรยี นรู้
๔.๒ การวัดและการประเมินผลการเรียนต้องครอบคลุมและสอดคล้องกับสาระมาตรฐาน
ตวั ชีว้ ัดชัน้ ปี ตัวชว้ี ดั ชว่ งช้ันและผลการเรยี นรู้
๔.๓ ประเมนิ เพ่ือปรบั ปรุงพฒั นาผเู้ รยี นและตัดสนิ ผลการเรยี น
๔.๔ วดั และประเมนิ ด้วยวธิ ีการท่หี ลากหลายตามสภาพจรงิ ของสิ่งท่ีตอ้ งการวัด
๔.๕ เปดิ โอกาสให้ผเู้ ก่ียวขอ้ งตรวจสอบผลการประเมนิ ได้
๔.๖ ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนระหว่างรูปแบบการจัดการศึกษาและระหวา่ งโรงเรยี น
หมวด ๒
วธิ ีการประเมินผล
ขอ้ ๕ การประเมินผลเพ่ือพฒั นาผู้เรียน ให้ปฏิบัตดิ ังน้ี
๕.๑ การประเมินผลการเรยี นกล่มุ สาระการเรียนรู้
๕.๑.๑ แจง้ ใหผ้ เู้ รยี นทราบตัวช้ีวัด ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการประเมนิ ผล
๕.๑.๒ ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้สอนต้องประเมินผู้เรียนก่อนเรียน เพื่ อ
ตรวจสอบความร้พู น้ื ฐานและทักษะเบื้องตน้ ของผเู้ รยี น
โรงเรียนร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)
๓๙๑
๕.๑.๓ ระหว่างภาคเรียนหรือปี ให้ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นระยะ
ตามตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับสาระ มาตรฐาน เพื่อให้ทราบพัฒนาการเรียนรู้และสะสมไว้
ประกอบการประเมินผลปลายภาคเรียนหรือปลายปี
๕.๑.๔ ปลายภาคเรียนหรือปลายปี หลังจากจบกระบวนการเรียนการสอนให้ประเมินผล
การเรียนปลายภาคหรือปลายปี โดยประเมินตามตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับสาระ มาตรฐาน
เพ่อื ตรวจสอบความสามารถของผู้เรียนและใช้เปน็ ข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสนิ ผา่ นระดบั ชัน้
๕.๑.๕ สัดส่วนคะแนนระหว่างภาคเรียน : ปลายภาคเรียน และ สัดส่วนคะแนนระหว่าง
ภาค : ปลายภาค กำหนดไว้ดังน้ีสัดส่วนคะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๘๐ : ๒๐
๕.๑.๖ การประเมินให้เลือกใช้เครื่องมืออย่างหลากหลายและเหมาะสมกับผลการเรียนรู้
ที่คาดหวังของแต่ละสาระการเรียนรู้ ถ้าผลการประเมินระหว่างภาคเรียนของนักเรียนรายใดต่ำกว่าร้อยละ
๕๐ ของแต่ละตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ ให้ผู้สอนสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนรายนั้น และผลการประเมินให้ได้
ไมส่ งู กว่าร้อยละ ๕๐ ของตวั ช้วี ดั ผลการเรยี นร้นู ัน้ ๆ
กรณีการประเมินตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ใดมีคะแนนเต็มเป็นเลขคี่ให้ใช้เกณฑ์ผ่านเป็นเลข
จำนวนเต็ม เชน่
คะแนนเตม็ เกณฑ์ผ่าน
๓๒
๕๓
๗๔
๙๕
การประเมินระหว่างภาค เครื่องมือที่ใช้เน้นการประเมินตามสภาพจริง แบบทดสอบอัตนัย
ปรนัย และเป็นไปตามลกั ษณะ ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้
การประเมินปลายภาค เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบทดสอบปรนัย ใช้เวลาไม่เกิน ๑-๒ ชั่วโมง
และ/หรอื การปฏบิ ัติ ชน้ิ งานตามลกั ษณะ ธรรมชาตขิ องแต่ละสาระการเรียนรู้
๕.๑.๗ ให้ใช้ผลการประเมินข้อ ๕.๑.๓ และ ๕.๑.๔ ในการตัดสินผลการเรียนของแต่ละ
รายวชิ า
๕.๑.๘ การประเมินผลการเรียนตามข้อ ๕.๑.๗ ให้แจ้งระดับผลการเรียน ในทุกรายวิชา
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้เรียนเป็นระดับคุณภาพ ๘ ระดับพร้อมคำบรรยาย ซึ่งมีรายละเอียดของ
ระดับคณุ ภาพ ดังนี้
๔ หมายถึง ผลการเรียนดีเย่ยี ม (ร้อยละ ๘๐-๑๐๐)
๓.๕ หมายถงึ ผลการเรียนดีมาก (รอ้ ยละ ๗๕-๗๙)
๓ หมายถึง ผลการเรียนดี (ร้อยละ ๗๐-๗๔)
๒.๕ หมายถงึ ผลการเรียนค่อนข้างดี (ร้อยละ ๖๕-๖๙)
๒ หมายถงึ ผลการเรยี นน่าพอใจ (รอ้ ยละ ๖๐-๖๔)
โรงเรยี นร่วมจติ ต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๙๒
๑.๕ หมายถึง ผลการเรยี นพอใช้ (รอ้ ยละ ๕๕ - ๕๙)
๑ หมายถงึ ผลการเรยี นผา่ นเกณฑ์ข้นั ต่ำ (รอ้ ยละ ๕๐-๕๔)
๐ หมายถึง ผลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑ์ (๐-๔๙)
ร หมายถงึ รอการตดั สนิ หรือยังตัดสินไม่ได้
มส หมายถึง ไม่มสี ทิ ธเิ์ ข้ารับการประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น
ผ หมายถงึ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ การเขา้ ร่วมกิจกรรม
มผ หมายถึง ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินการเข้ารว่ มกิจกรรม
๕.๑.๙ ผเู้ รยี นที่ขาดการประเมินปลายภาคเรียนหรือปลายปี ในรายวชิ าใดให้ได้รับผลการ
ประเมิน “ร” ในรายวชิ านัน้ เม่ือผู้เรียนเขา้ รบั การประเมินปลายภาคเรียน จึงใหไ้ ดผ้ ลการเรยี นตามข้อ ๕.๑.๘
๕.๑.๑๐ ผู้เรียนที่ไม่มาเรียนจนมีเวลาเรียนไม่ถึง ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดใน
รายวิชาใด ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินปลายภาคเรียนในรายวิชานั้น และให้มีผลการประเมิน “มส”
ซ่งึ แยกเปน็ ๒ กรณี คือ
กรณีที่ ๑ เวลาเรียนไม่ถึง ร้อยละ ๖๐ ให้เรียนซ้ำในรายวิชานั้นในภาคเรียนหรือ
ปีการศกึ ษาถดั ไป
กรณที ่ี ๒ เวลาเรยี น ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป แตไ่ มถ่ งึ ร้อยละ ๘๐ ใหเ้ รียนเพ่มิ เตมิ จนกว่า
เวลาเรียนจะครบร้อยละ ๘๐ หรอื อยู่ในดุลยพินจิ ของหัวหนา้ สถานศึกษา
เมื่อผู้เรียนได้เรียนและมีเวลาเรียนอย่างน้อย ร้อยละ ๘๐ จึงมีสิทธิ์ประเมินปลายภาค
เรยี น ในรายวชิ านน้ั และใหไ้ ดผ้ ลการเรียนตามข้อ ๕.๑.๘
เวลาเรยี นรอ้ ยละ ๖๐ และรอ้ ยละ ๘๐ ดังตารางที่ ๑
ตารางที่ ๑ แสดงเวลาเรียนร้อยละ ๖๐ และร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้งั หมด
เวลาเรยี นท้ังหมด (ชว่ั โมง) ร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรยี น ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน
๒๐ ๑๒ ๑๖
๔๐ ๒๔ ๓๒
๖๐ ๓๖ ๔๘
๘๐ ๔๘ ๖๔
๑๐๐ ๖๐ ๘๐
๑๒๐ ๗๒ ๙๖
๑๖๐ ๙๖ ๑๒๘
๒๐๐ ๑๒๐ ๑๖๐
โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
๓๙๓
๕.๑.๑๑ ผู้เรยี นทีม่ ีผลการประเมิน “๐” หรอื “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขภายใน ๒ เดือนของ
ภาคเรียนถัดไป ยกเว้นภาคเรียนที่ ๖ ของระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ให้ดำเนินการได้ภายใน ๒
สัปดาหห์ ลังจากอนุมตั ผิ ลการประเมนิ หรอื อยใู่ นดุลยพินจิ ของหวั หน้าสถานศึกษา
๕.๑.๑๒ การดำเนินการแก้ไขผลการเรียน “๐”, “ร” หรือ “มส” ให้อยู่ในความดูแลของ
ผู้สอน ครูที่ปรึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ และผู้ปกครองนักเรียน โดยร่วมมือติดตาม แก้ไข ปรับปรุง
พัฒนาผู้เรยี น
๕.๑.๑๓ ผู้เรียนที่มีผลการประเมิน “๐” หรือ “มส” เมื่อดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงแล้ว
จะไดร้ ับผลการเรียน ระดับคณุ ภาพ ๑
๕.๑.๑๔ ผู้เรียนที่ไม่สามารถแก้ไขผลการประเมิน “๐”, “ร” และ “มส” ภายในเวลา
ทีโ่ รงเรยี นกำหนด ให้เรียนซำ้ ในรายวิชานน้ั ในภาคเรยี นหรือปกี ารศกึ ษาถดั ไป
๕.๒ การประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น
๕.๒.๑ แจ้งให้ผู้เรียนทราบผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง วิธีการประเมินผล ที่สอดคล้องกับ
อ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ในแตล่ ะรายวชิ า
๕.๒.๒ ประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน โดยใช้แบบทดสอบ หรือแบบฝึกหดั หรือ
การทำโครงงาน โดยมุ่งเนน้ การพฒั นาของผู้เรียนเป็นระยะๆ อยา่ งน้อยประเมนิ ภาคเรียนละ ๑ ครั้ง ในแต่ละ
รายวชิ า
๕.๒.๓ นำผลการประเมนิ ของแต่ละรายวชิ ามาหาฐานนยิ ม
๕.๒.๔ ผลการประเมนิ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี น มี ๔ ระดบั
๓ หมายถึง ดีเยีย่ ม
๒ หมายถงึ ดี
๑ หมายถงึ ผา่ น
๐ หมายถงึ ไม่ผ่าน
๕.๓ การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๕.๓.๑ แจง้ ใหผ้ ู้เรียนทราบคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียนในสถานศกึ ษา
ตวั อยา่ งตัวชีว้ ัดและเกณฑ์การประเมนิ ดังนี้
โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓๙๔
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซืส่ ัตย์ สุจริต ตวั อย่างตวั ช้ีวัด
๓. มีวินยั ๑. เป็นพลเมืองดีของชาติ
๒. ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย
๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. ศรัทธายดึ ม่นั และปฏิบัติตนตามหลักศาสนา
๕. อย่อู ย่างพอเพียง ๔. เคาพรเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
๑. ไม่พูดเทจ็
๖. ความม่งุ มน่ั ในการทำงาน ๒. ไมล่ กั ขโมย
๓. ไมท่ จุ ริต
๔. ไม่นำหรอื แอบอ้างผลงานของคนอื่นมาเป็นของตน
๑. ปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรยี น เช่น การแตง่ กาย
๒. กิจกรรมหน้าเสาธง กจิ กรรมโฮมรมู
๓. กิจกรรมการเรยี นการสอน
๔. กิจกรรมท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้ ในโอกาสตา่ งๆ
๕. ตรงต่อเวลา
๖. มสี มั มมคารวะ
๗. การเขา้ คิว
๘. ขึน้ – ลงบันไดใหช้ ิดขวา
๑. กล้าซกั ถามแสดงความคิดเหน็ มคี วามคดิ ริเร่ิม
๒. มีความกระตือรือล้น
๓. คน้ ควา้ หาความรอู้ ย่างต่อเนอ่ื ง
๔. มไี หวพรบิ ปฏพิ านในการแกป้ ญั หา
๕. ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์
๑. การออมทรพั ย์
๒. ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งคุ้มคา่ คมุ้ ประโยชน์
๓. ใช้จักรยานเปน็ พาหนะ
๔. ใชจ้ า่ ยตามความจำเปน็
๕. ใชน้ ำ้ และไฟฟา้ อยา่ งรคู้ ุณค่า
๖. นำอาหารมารับประทานที่โรงเรยี น
๗. นำวสั ดุเหลือใช้มาใช้ประโยชน์
๑. ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในหน้าที่
๒. ทำงานด้วยความเพยี รพยายาม
๓. ไมท่ จุ ริต
๔. ไม่นำหรือแอบอา้ งผลงานของคนอ่นื มาเปน็ ของตน
โรงเรียนรว่ มจติ ต์วิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓๙๕
๗. รักความเป็นไทย
ตวั อย่างตัวชวี้ ัด
๘. มจี ติ สาธารณะ ๑. เลือกรับประทานอาหารที่มคี ณุ ค่า
๒. การเลือกใช้สิง่ ของเครื่องใช้ทีม่ ีวตั ถุดิบในประเทศไทย
๓. ความเปน็ ตัวของตวั เอง ภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย
๔. เลือกคบเพื่อนทีด่ ี
๕. เลือกรับนันทนาการทเี่ หมาะสมกับวัย ฐานะ และเป็น
ประโยชน์
๖. ปลอดจากสารเสพตดิ
๗. ปฏบิ ัตติ นตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกจิ พอเพยี ง
๘. การไอหรือจาม ต้องปิดปากและจมูก
๙. การใช้ช้อนกลางในการรบั ประทานอาหาร
๑๐. แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย
๑๑. รว่ มประเพณี ศิป วัฒนธรรมไทย
๑. ใชท้ รัพยากรอยา่ งคมุ้ คา่ และประหยัด
๒. ดแู ลรกั ษาสาธารณสมบัติ
๓. มีนสิ ยั รักษาความสะอาด
๔. ไม่กอ่ มลภาวะให้กับสิ่งแวดลอ้ ม เช่น มลภาวะทางเสียง
๕. การดำเนินชีวติ ใหเ้ ปน็ มิตรกับธรรมชาติ เช่น ลดการใช้
พลังงานทางอ้อมจากการบริโภคปัจจยั ๔
๖. ชว่ ยเหลือผู้อน่ื ดว้ ยความเต็มใจไม่หวงั ผลตอบแทน
การพิจารณาให้คะแนนแต่ละคณุ ลักษณะ
คะแนน ๐ มีพฤติกรรมท่ีต้องปรบั ปรงุ /ไม่ผา่ น นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐
คะแนน ๑
คะแนน ๒ ปฏิบัติตามตัวอย่างตวั ช้ีวดั ร้อยละ ๕๐-๕๙
คะแนน ๓
ปฏบิ ตั ติ ามตัวอยา่ งตวั ช้วี ัด รอ้ ยละ ๖๐-๗๙
ปฏบิ ัติตามตัวอย่างตวั ชวี้ ดั รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไปและทำเป็นตัวอย่าง
แกผ่ อู้ ื่นชักชวนผูอ้ ่นื ใหป้ ฏิบัติ
มผี ลปรากฏอยา่ งเด่นชัด
โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)