The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนร่วมจิตต์วิทยา ล่าสุด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nitikorn700, 2022-08-26 01:04:56

หลักสูตรสถานศึกษาปรับปรุง2565

หลักสูตรโรงเรียนร่วมจิตต์วิทยา ล่าสุด

๑๔๖

คำอธบิ ายรายวิชา

วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ชีววทิ ยา) รหสั วิชา ว๓๑๑๐๓ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๑

เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ องค์ประกอบของ
ระบบนิเวศ ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เซลลแ์ ละโครงสร้างพ้ืนฐานของเซลล์ การลำเลยี งสารเข้าและ
ออกจากเซลล์ การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ กรด-เบส อุณหภูมิในร่างกายมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกัน
ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างอาหารของพืชด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง สารสังเคราะห์
จากพืช ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า ยีนและการถ่ายทอดลักษณะ
ทางพันธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมระดับยีนและโครโมโซม
การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
การคัดเลือกโดยธรรมชาติของส่งิ มีชีวติ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและการสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาสิง่ มีชีวิตอื่นๆ เฝ้าระวัง
และพัฒนาสิง่ แวดล้อมอย่างย่งั ยนื มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

รหสั ตัวช้ีวัด
ว ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔
ว ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๘, ม.๔/๙, ม.๔/๑๐, ม.๔/๑๑,

ม.๔/๑๒
ว ๑.๓ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔

รวม ๒๒ ตัวช้วี ัด

โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๔๗

คำอธิบายรายวชิ า

วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ รหสั วิชา ว๓๑๑๐๔ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษา วเิ คราะห์ เขา้ ใจ องค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี
ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อศึกษาความเป็นมา องค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลกและผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลง ลมฟ้าอากาศ และภูมิอากาศโลก
รวมทัง้ ผลต่อส่งิ มชี วี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้าน
การคิด และแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม

รหสั ตวั ชี้วดั
ว ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐
ว ๓.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐, ม.๖/๑๑,

ม.๖/๑๒, ม.๖/๑๓, ม.๖/๑๔

รวม ๒๔ ตัวช้วี ดั

โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๔๘

คำอธบิ ายรายวิชา

การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว๓๑๑๐๕ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๑

เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคำนวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ
การคิดเชงิ นามธรรม ตัวอย่างและประโยชน์ของแนวคิดเชิงคำนวณเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ประยุกต์ใช้
แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบขั้นตอนวิธีสำหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุ
ข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธีการทำซ้ำ การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล
ตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนวิธีเพื่อแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ การกำหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดำเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงาน
ท่ีมี การบรู ณาการรว่ มกับวชิ าอ่นื และเชอื่ มโยงกับชวี ิตจริง

รหสั ตวั ช้วี ดั
ว ๔.๒ ม.๔/๑

รวม ๑ ตวั ชีว้ ัด

โรงเรียนรว่ มจิตต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๔๙

คำอธิบายรายวชิ า

ฟิสกิ ส์ ๒ รหสั วิชา ว๓๑๒๐๒ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒

เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาหลักของกลศาสตร์ในเรือ่ งสมดุลกลและเงื่อนไขที่ทำให้วัตถุหรือระบบอยู่ในสมดลุ กลศูนยก์ ลาง
มวลของวัตถุและผลของศูนยถ์ ่วงทีม่ ีเสถียรภาพของวตั ถุ งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างงานและพลังงาน
จลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลงั งานศักย์โน้มถ่วง และความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงท่ีใชด้ งึ สปรงิ
ทย่ี ดื ออก แรงอนุรักษ์ กฎการอนุรกั ษพ์ ลังงาน กำลัง เครอ่ื งกลอยา่ งง่าย ประสทิ ธิภาพและการได้เปรียบเชิงกล
ของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โมเมนตัม การชนของวัตถุในหนึ่งมิติ การดล แรงดล และกฎการอนุรักษ์
โมเมนตัม การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ และการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ โดยใช้กระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย และ
สรุป เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มที กั ษะปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทั้ง
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา
ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่ที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คณุ ธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายสมดลุ กลของวตั ถุ โมเมนตแ์ ละผลรวม ของโมเมนตท์ ม่ี ีต่อการหมนุ แรงคู่ควบและผล ของ

แรงคู่ควบและผลของแรงคู่ควบที่มีต่อสมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพวัตถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ในสมดุลกล และ
คำนวณปรมิ าณต่างๆ ที่เกยี่ วข้อง รวมทงั้ ทดลองและอธิบายสมดุล ของแรงสามแรง

๒. สังเกตและอธบิ ายสภาพการเคลื่อนที่ของวตั ถุ เมอื่ แรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุผ่านศูนยก์ ลางมวลของวัตถุ
และผลของศูนย์ถ่วงทม่ี ีตอ่ เสถยี รภาพของวตั ถุ

๓. วเิ คราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพ้ืนทีใ่ ตก้ ราฟความสมั พันธร์ ะหว่างแรงกับ
ตำแหน่ง รวมทัง้ อธบิ าย และคำนวณกำลงั เฉล่ีย

๔. อธบิ าย และคำนวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพนั ธร์ ะหว่างขนาด
ของแรงที่ใช้ดงึ สปริงกับระยะทสี่ ปริงยืดออกและความสัมพนั ธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น

รวมทั้งอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้งอธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งงานของ
แรงลัพธ์และพลงั งานจลน์ และคำนวณงานทเ่ี กดิ ขน้ึ จากแรงลพั ธ์

๕. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมทั้ง วิเคราะห์และคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ
เคลอื่ นทข่ี องวตั ถใุ นสถานการณ์ต่างๆ โดยใชก้ ฎการอนุรกั ษพ์ ลังงานกล

๖. อธบิ ายการทำงาน ประสิทธิภาพและการได้ เปรยี บเชิงกลของเคร่ืองกลอยา่ งงา่ ยบางชนดิ โดยใช้
ความร้เู รื่องงานและสมดุลกล รวมท้งั คำนวณประสิทธภิ าพและการได้เปรยี บเชงิ กล

โรงเรียนร่วมจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๐
๗. อธิบาย และคำนวณโมเมนตัมของวัตถุและ การดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟ ความสัมพันธ์
ระหว่างแรงลัพธก์ ับเวลา รวมทง้ั อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแรงดลกบั โมเมนตมั
๘. ทดลอง อธบิ าย และคำนวณปรมิ าณตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วกับการชนของวัตถใุ นหน่ึงมิติทัง้ แบบ ยืดหย่นุ ไม่
ยดื หยุ่น และการดดี ตวั แยกจากกัน ในหนง่ึ มิตซิ งึ่ เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตมั
๙. อธิบาย วิเคราะห์และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ และ
ทดลองการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์
๑๐. ทดลอง และอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง แรงสศู่ นู ย์กลาง รัศมขี องการเคล่ือนที่ อัตราเรว็ เชิงเสน้
อตั ราเรว็ เชิงมุม และมวล ของวตั ถุในการเคล่ือนที่แบบวงกลมในระนาบ ระดับ รวมท้งั คำนวณ ปริมาณตา่ งๆ ที่
ก่ยี วขอ้ ง และประยุกต์ใช้ความรกู้ ารเคล่ือนที่ แบบวงกลม ในการอธิบายการโคจรของดาวเทียม
รวม ๑๐ ผลการเรียนรู้

โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๑

คำอธบิ ายรายวิชา

ฟิสิกส์ ๓ รหสั วิชา ว๓๒๒๐๓ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑

เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาลักษณะการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอ
นิก อย่างง่าย แรงกับการสั่นของมวลติดปลายสปริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถี่ธรรมชาติและการสั่นพ้อง
ธรรมชาติของคลื่น อัตราเร็วของคลื่น หลักการที่เกี่ยวกับคลื่น พฤติกรรมของคลื่น แนวคิดเกี่ยวกับ
แสงเชงิ คลื่น การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่ การเล้ยี วเบนของแสงผา่ นสลิตเดยี ว การเล้ียวเบนของแสงผ่าน
เกรตติง การสะท้อนและการหักเหของแสง การมองเห็นและการเกิดภาพ ภาพจากเลนส์ และกระจกเงาทรง
กลม แสงสแี ละการมองเหน็ แสงสี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และการใชป้ ระโยชนเ์ กยี่ วกับแสง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ด้านการคิด และการแก้ปัญหา สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. ทดลอง และอธิบายการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลูกตุ้ม อย่าง

งา่ ย รวมทงั้ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง
๒. อธบิ ายความถธี่ รรมชาติของวัตถแุ ละการเกดิ การส่นั พ้อง
๓. อธิบายปรากฏการณ์คลื่น ชนิดของคลื่นส่วนประกอบของคลื่น การแผ่ของหน้าคลื่นด้วยหลักการ

ของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคลื่นตามหลักการซ้อนทับ พร้อมทั้งคำนวณอัตราเร็ว ความถี่ และความยาว
คล่ืน

๔. สังเกต และอธิบายการสะท้อน การหักเหการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นผิวน้ำรวมทั้ง
คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง

๕. ทดลอง และอธิบายการแทรกสอดของแสงผ่านลิตคู่และเกรตติง การเลี้ยวเบนและการแทรกสอด
ของแสงผ่านลติ เดี่ยวรวมทัง้ คำนวณปรมิ าณต่างๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง

๖. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงที่ผิววตั ถตุ ามกฎการสะท้อน เขียนรังสขี องแสงและคำนวณ
ตำแหน่งและขนาดภาพของวัตถุ เมื่อแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลมรวมทัง้ อธิบายการนำ
ความร้เู รอื่ งการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลมไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน

๗. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุมตกกระทบ และมุมหักเหรวมทั้งอธิบาย
ความสัมพันธ์ระหว่างความลึกจริงและความลกึ ปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของแสงและคำนวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๕๒
๘. ทดลอง และเขียนรังสีของแสงเพื่อแสดงภาพที่เกิดจากเลนส์บาง หาตำแหน่ง ขนาด ชนิดของภาพ
และ ความสัมพันธ์ระหว่างระยะวัตถุระยะภาพและความยาวโฟกัส รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และอธิบายการนำความร้เู รอื่ งการหกั เหของแสงผ่านเลนส์บางไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน
๙. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เก่ียวกบั แสง เช่น รุง้ การทรงกลด มิราจ และการเห็นท้องฟ้าเป็นสี
ตา่ ง ๆ ในชว่ งเวลาต่างกนั
๑๐. สังเกต และอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสีรวมทั้งอธิบาย
สาเหตุของการบอดสี
รวม ๑๐ ผลการเรยี นรู้

โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๓

คำอธิบายรายวิชา

ฟิสิกส์ ๔ รหสั วชิ า ว๓๒๒๐๔ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาการเกิดเสียง การเคลื่อนที่ของเสียง การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบน
ของคลื่นเสียง การได้ยิน ความเข้มเสียง คุณภาพเสียง มลพิษทางเสียง คลื่นนิ่งของเสยี ง การสั่นพ้องของเสียง
การเกิดบตี ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คล่นื กระแทกของเสียง ธรรมชาติของไฟฟ้าสถิต การเหนยี่ วนำไฟฟ้าสถิต
กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟา้ ศกั ย์ไฟฟ้า ความต่างศักย์ ความจแุ ละพลังงานสะสมในตวั เก็บประจุการต่อตัวเก็บ
ประจุ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน การต่อตัวต้านทานอีเอ็มเอฟของแหล่งกำเนิด
ไฟฟา้ กระแสตรง พลงั งานไฟฟ้า และเทคโนโลยดี า้ นพลงั งาน โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะ
หาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้
ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทงั้ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี
๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด และการแก้ปัญหา สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ
นำความรู้ไปใช้ในชวี ิตของตนเอง มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายการเกิดเสียง การเคล่อื นทขี่ องเสียง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งคล่ืน การกระจดั ของ อนุภาคกับ

คลื่น ความดัน ความสัมพันธ์ระหว่าง อัตราเร็วของเสียงในอากาศที่ขึ้นกับอุณหภูมิ ในหน่วยองศาเซลเซียส
สมบัตขิ องคลืน่ เสยี ง ไดแ้ ก่ การสะทอ้ น การหักเห การแทรกสอด การเลีย้ วเบน รวมทัง้ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี
เกีย่ วข้อง

๒. อธิบายความถธี่ รรมชาตขิ องวัตถแุ ละการเกดิ การส่ันพอ้ ง
๓. อธิบายความเข้มเสียง ระดับเสียง องค์ประกอบ ของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษทางเสียง
รวมทง้ั คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง
๔. สังเกต และอธิบายการสะท้อน การหักเหการแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลื่นผิวน้ำรวมท้ัง
คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง
๕. ทดลอง และอธิบายการเกิดการสั่นพ้องของ อากาศในท่อปลายเปิดหนึ่งด้าน รวมทั้งสังเกต และ
อธิบายการเกิดบีต คลื่นนิ่ง ปรากฏการณ์ ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสียง คำนวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่ี
เกีย่ วข้อง และนำความรู้ เรือ่ งเสียงไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
๖. ทดลอง และอธิบายการทำวัตถุที่เป็นกลางทาง ไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการ
เหนยี่ วนำไฟฟา้ สถติ
๗. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟ้าตามกฎของ คูลอมบ์
๘. อธิบาย และคำนวณสนามไฟฟา้ และแรงไฟฟ้า ที่กระทำกบั อนุภาคที่มีประจไุ ฟฟา้ ทีอ่ ยู่ในสนามไฟฟ้า
รวมทงั้ หาสนามไฟฟา้ ลพั ธ์เนอื่ งจากระบบ จุดประจโุ ดยรวมกันแบบเวกเตอร์

โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๔
๙. อธิบาย และคำนวณพลงั งานศกั ย์ไฟฟา้ ศักย์ไฟฟา้ และความตา่ งศักย์ระหวา่ งสองตำแหนง่ ใด ๆ
๑๐. อธิบายส่วนประกอบของตวั เก็บประจุ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งประจุไฟฟ้า ความตา่ งศักย์ และความ
จขุ องตัวเกบ็ ประจุ และอธิบาย พลงั งานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ และความจสุ มมูล รวมทงั้ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่
เกยี่ วขอ้ ง
๑๑. นำความรู้เร่ืองไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทำงาน ของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนดิ และปรากฏการณ์
ในชวี ิตประจำวัน
๑๒. อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ ความสัมพันธ์ระหว่าง
กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำกับความเร็วลอยเลื่อน ของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่ นของ
อิเลก็ ตรอนในลวดตัวนำและพน้ื ทีห่ นา้ ตัด ของลวดตัวนำ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
๑๓. ทดลอง และอธิบายกฎของโอห์ม อธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว
พื้นที่หน้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนำโลหะ ที่อุณหภูมิคงตัว และคำนวณปริมาณต่างๆ
ที่เกี่ยวขอ้ ง รวมทง้ั อธิบายและคำนวณ ความต้านทานสมมูล เมือ่ นำตัวต้านทาน มาต่อกนั แบบอนุกรมและแบบ
ขนาน
๑๔. ทดลอง อธิบาย และคำนวณอีเอ็มเอฟของ แหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบาย และ
คำนวณ พลังงานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟา้
๑๕. ทดลอง และคำนวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการ ต่อแบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้ง
คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงซึง่ ประกอบด้วย แบตเตอร่แี ละตวั ต้านทาน
๑๖. อธิบายการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็น พลังงานไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและอภิปราย เกี่ยวกับ
เทคโนโลยี ที่นำมาแก้ปัญหาหรือ ตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงาน ไฟฟ้า โดยเน้นด้านประสิทธิภาพ
และความคุ้มค่าด้านค่าใช้จ่าย

รวม ๑๖ ผลการเรียนรู้

โรงเรียนรว่ มจิตต์วิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๕

คำอธบิ ายรายวชิ า

ฟิสิกส์ ๕ รหัสวชิ า ว๓๓๒๐๕ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาเส้นสนามแม่เหล็กของแท่งแม่เหล็ก การคำนวณฟลักซ์แม่เหล็ก สนามแม่เหล็กที่เกิดจาก
กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำเส้นตรงและโซเลนอยด์ แรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ใน
สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้ง
ของการเคล่อื นที่เม่ือประจเุ คลอ่ื นทตี่ งั้ ฉากกบั สนามแมเ่ หล็ก แรงระหวา่ งเส้นลวดตัวนำคู่ขนานทีม่ ีกระแสไฟฟ้า
ไหลผ่าน หลักการทำงานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำและ
แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำ กฎการเหนี่ยวนำของฟาราเดย์ ความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส
มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ ๓ เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟของ หม้อแปลง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเสน้ และแผน่ โพลารอยด์ การนำคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าในช่วง
ความถี่ต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ การสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ เปรียบเทียบ
การสื่อสารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดิจิทัล ความร้อนที่ทำให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะ
ความร้อนที่เกิดจากการถ่ายโอนตามกฎการอนุรักษพ์ ลังงาน สภาพยืดหยุ่นและลักษณะการยืดหดตัวของวัตถุ
เมือ่ ถกู แรงกระทำ ความเคน้ ความเครยี ด และมอดูลสั ของยงั

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการ
คิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. สังเกต และอธบิ ายเส้นสนามแมเ่ หลก็ อธิบายและคำนวณฟลักซแ์ ม่เหลก็ ในบรเิ วณท่ีกำหนดรวมท้ัง

สังเกตและอธิบายสนามแมเ่ หลก็ ทเ่ี กิดจากกระแสไฟฟ้า ในลวดตัวนำเสน้ ตรงและโซเลนอยด์
๒. อธิบาย และคำนวณแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ใน สนามแม่เหล็ก

แรงแม่เหล็กท่กี ระทำต่อเส้นลวดทม่ี ีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหลก็ รศั มีความโค้งของ การเคลื่อนที่
เมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบายแรงระหว่างเส้นลวดตัวนำคู่ขนานที่มีกระแสไฟฟ้า
ผา่ น

๓. อธิบายหลักการทำงานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงรวมทั้งคำนวณปริมาณ
ตา่ ง ๆ ที่เก่ียวข้อง

๔. สงั เกต และอธบิ ายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนย่ี วนำ กฎการเหน่ียวนำของฟาราเดย์และคำนวณปริมาณ
ต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง รวมทง้ั นำความรู้เร่อื งอีเอม็ เอฟเหนี่ยวนำไปอธบิ ายการทำงานของเคร่ืองใช้ไฟฟา้

โรงเรียนร่วมจิตตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๕๖
๕. อธิบาย และคำนวณความต่างศักยอ์ าร์เอ็มเอสและกระแสไฟฟ้าอารเ์ อ็มเอส
๖. อธิบายหลักการทำงานและประโยชน์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ ๓ เฟส การแปลงอีเอ็ม
เอฟของหม้อแปลง และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง
๗. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเส้น
และแผน่ โพลารอยด์ รวมทง้ั อธบิ ายการนำคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในช่วงความถี่ตา่ ง ๆ ไปประยุกต์ใช้ และหลักการ
ทำงานของอปุ กรณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
๘. สืบค้น และอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในการส่งผ่านสารสนเทศ และ
เปรยี บเทยี บการสอื่ สารดว้ ยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดจิ ิทลั
๙. อธิบาย และคำนวณความร้อนที่ทำให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิ ความร้อนที่ทำให้สสาร เปลี่ยนสถาน
และความรอ้ นที่เกิดจากการถา่ ยโอนตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน
๑๐. อธิบายสภาพยืดหยุ่นและลักษณะการยืดและหดตัวของวัสดุที่เป็นแท่งเมื่อถูกกระทำด้วยแร ง
ต่างๆ รวมทั้งทดลอง อธิบายและคำนวณความเค้นตามยาวความเครียดตามยาว และมอดูลัสของยัง และนำ
ความรู้เรื่องสภาพยดื หยนุ่ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั
รวม ๑๐ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนร่วมจติ ต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๕๗

คำอธบิ ายรายวชิ า

ฟสิ กิ ส์ ๖ รหสั วชิ า ว๓๓๒๐๖ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒

เวลา ๖๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาหลักการของสสารและฟิสิกส์แผนใหมใ่ นเรือ่ ง ความดันในของไหลและกฎพาสคลั แรงพยุงและ
หลักอาร์คิมีดีส ความตึงผิว การเคลื่อนที่ในของไหลและหลักแบร์นูลลี ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กฎของแก๊สและ
พลงั งานภายในระบบของแกส๊ การคน้ พบอิเลก็ ตรอน แนวคดิ เกีย่ วกับแบบจำลองอะตอม สมมติฐานของพลังค์
ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี การสลายกัมมันตรังสี ปฏิกิริยา
นิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์ รังสีในธรรมชาติ สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส การแผ่รังสีของวัตถุดำ
การทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์ ปรากฏการณ์คอมป์ตัน สมมติฐานของเดอบรอยล์ โครงสร้างอะตอมตาม
แนวคิดกลศาสตร์ควอนตัม การค้นพบกัมมันตภาพรังสี การเปลี่ยนสภาพนิวเคลียส การสลายของนิวเคลียส
กัมมันตรังสี ไอโซโทป พลังงานยึดเหนี่ยว การป้องกันอันตรายและการใช้ประโยชน์จากกัมมันตภาพรังสีและ
พลงั งานนวิ เคลยี ร์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการ
คิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบาย และคำนวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้งอธิบาย

หลกั การทำงานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเครอ่ื งอดั ไฮดรอลกิ
๒. ทดลอง อธิบาย และคำนวณขนาดแรงพยุงจากของไหล
๓. ทดลอง อธิบาย และคำนวณความตึงผิวของของเหลว รวมทั้งสังเกตและอธิบายแรงหนืดของ

ของเหลว
๔. อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความต่อเนื่อง และสมการแบร์นูลลี รวมทั้งคำนวณ

ปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำความรู้เกี่ยวกับสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นลู ลีไปอธิบายหลักการ
ทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ

๕. อธบิ ายกฎของแก๊สอดุ มคตแิ ละคำนวณปริมาณต่างๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
๖. อธบิ ายแบบจำลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎจี ลนข์ องแกส๊ และอัตราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของ
แก๊ส รวมทง้ั คำนวณปริมาณตา่ งๆ ที่เก่ียวข้อง

โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๕๘
๗. อธิบาย และคำนวณงานที่ทำโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบายความสัมพันธ์
ระหว่างความร้อน พลังงานภายในระบบ และงาน รวมท้งั คำนวณปรมิ าณต่างๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งและนำความรู้เรื่อง
พลงั งานภายในระบบไปอธบิ ายหลกั การทำงานของเครื่องใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
๘. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอม
ไฮโดรเจน รวมทง้ั คำนวณปริมาณต่างๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง
๙. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริกและคำนวณพลังงานโฟตอน พลงั งานจลน์ของโฟโตอิเล็กตรอน
และฟงั ก์ชนั งานของโลหะ
๑๐. อธิบายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค รวมทั้งอธิบาย และคำนวณความยาวคลื่นเดอบรอยล์
๑๑. อธิบายกมั มนั ตภาพรังสีและความแตกตา่ งของรังสีแอลฟา บตี า และแกมมา
๑๒. อธิบาย และคำนวณกัมมันตภาพของนิวเคลียสกัมมันตรังสี รวมทั้งทดลอง อธิบาย และคำนวณ
จำนวนนวิ เคลยี สกัมมนั ตภาพรังสที เ่ี หลือจากการสลาย และครึ่งชีวติ
๑๓. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียสและพลังงานยึดเหนี่ยว รวมทั้งคำนวณปริมาณ
ตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง
๑๔. อธบิ ายปฏิกริ ิยานวิ เคลยี ร์ ฟชิ ชนั และฟิวชัน รวมทง้ั คำนวณพลังงานนิวเคลยี ร์
๑๕. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนิวเคลียร์ และรังสี รวมทั้งอันตรายและการป้องกันรังสีในด้าน
ตา่ งๆ
๑๖. อธิบายการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค แบบจำลองมาตรฐาน และการใช้ประโยชน์จากการ
ค้นควา้ วิจัยด้านฟสิ กิ ส์อนภุ าคในดา้ นตา่ งๆ

รวม ๑๖ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนร่วมจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๕๙

คำอธบิ ายรายวิชา

เคมี ๒ รหสั วิชา ว๓๑๒๒๒ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาความหมายและคำนวณมวลอะตอมสัมพัทธ์ มวลอะตอมเฉลี่ยของธาตุ โมล มวลต่อโมล
มวลโมเลกุลและมวลสูตร ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนโมล อนุภาค มวลและปริมาตรของแก๊สท่ี STP
ศึกษาสัดส่วนคงท่ี คำนวณอัตราส่วนโดยมวล อตั ราส่วนโดยโมล สูตรโมเลกลุ และสตู รเอมพริ คิ ัล

ศึกษาหนว่ ยความเขม้ ขน้ และการคำนวณความเขม้ ข้นของสารละลายในหน่วยร้อยละ ส่วนในล้านสว่ น
ส่วนในพันล้านส่วน โมลาริตี โมแลลิตี และเศษส่วนโมล ศึกษาการเตรียมสารละลายจากสารบริสุทธ์และ
จากการเจือจางสารละลายเข้มข้น เปรียบเทียบจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และ ความสัมพันธ์
ระหวา่ งโมล มวล ความเข้มข้น และปรมิ าตรแกส๊ คำนวณปรมิ าณสารในปฏิกิริยาเคมหี ลายขัน้ ปรมิ าณสารเมื่อ
มีสารกำหนดปริมาณและผลไดร้ อ้ ยละ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบายอภิปราย และสรปุ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคํานวณมวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ มวลโมเลกุล และ

มวลสูตร
๒. อธิบาย และคํานวณปริมาณใดปริมาณหนึ่งจากความสัมพันธ์ของโมล จํานวนอนุภาค มวล และ

ปรมิ าตรของแกส๊ ที่ STP

๓. คํานวณอตั ราส่วนโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสัดสว่ นคงท่ี
๔. คํานวณสูตรอยา่ งง่ายและสูตรโมเลกลุ ของสาร
๕. คาํ นวณความเข้มขน้ ของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ
๖. อธิบายวิธีการ และเตรียมสารละลายให้มีความเข้มข้น ในหน่วยโมลาริตีและปริมาตรสารละลาย
ตามทก่ี ําหนด
๗. เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกับสารบริสุทธิ์ รวมทั้งคํานวณจุดเดือดและ
จุดเยอื กแขง็ ของสารละลาย
๘. แปลความหมายสญั ลกั ษณ์ในสมการเคมี เขยี นและดุลสมการเคมีของปฏิกิรยิ าเคมบี างชนิด
๙. คํานวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมีท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั มวลสาร
๑๐. คํานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิริยาเคมที ี่เกย่ี วข้องกบั ความเข้มขน้ ของสารละลาย

โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๖๐

๑๑. คํานวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมที เี่ ก่ียวขอ้ งกบั ปริมาตรแกส๊
๑๒. คาํ นวณปริมาณของสารในปฏิกิรยิ าเคมีหลายข้ันตอน
๑๓. ระบุสารกําหนดปริมาณ และคาํ นวณปริมาณสารตา่ ง ๆ ในปฏกิ ิรยิ าเคมี
๑๔. คํานวณผลไดร้ ้อยละของผลติ ภัณฑใ์ นปฏิกิรยิ าเคมี

รวม ๑๔ ผลการเรียนรู้

โรงเรียนรว่ มจิตต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๖๑

คำอธบิ ายรายวิชา

เคมี ๓ รหัสวชิ า ว๓๒๒๒๓ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาสมบัติและการจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง ทดลองเตรียมผลึกสาร และศึกษาชนิดของ ผลึก
การเปลี่ยนสถานะของของแข็ง การหลอมเหลว การระเหิด ศึกษาวิเคราะห์สมบัติของของเหลว เกี่ยวกับ
ความตึงผิว การระเหย ความดันไอ ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับความดันไอกับจุดเดือดของ ของเหลว
ความสัมพันธ์ระหว่างความดันไอของของเหลวต่างชนิด และผลของอุณหภูมิต่อความดันไอ ศึกษาเกี่ยวกับ
สมบัติบางประการของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ของความดัน
อุณหภูมิและปริมาตรของแก๊ส และคํานวณหาปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊ส โดยใช้กฎของบอยล์
กฎของชาร์ล กฎรวมแก๊ส ศึกษาและคํานวณความดัน ปริมาตร จํานวนโมล มวล และอุณหภูมิของแก๊สตาม
กฎแก๊สสมบูรณ์ ศึกษาทดลองการแพร่และอัตราการแพร่ของแก๊ส การคํานวณ เกี่ยวกับกฎการแพร่ผ่าน
ของเกรแฮม ศกึ ษาเทคโนโลยที ่ีเกยี่ วขอ้ งกับสมบตั ิของของแข็ง ของเหลว และ แก๊ส

ศึกษาความหมายของอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ทดลองเพื่อศึกษาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การคํานวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาของสารจากกราฟ ศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยา
เคมี โดยใช้ทฤษฎีจลน์และการชนกันของอนุภาค การเกิดสารเชิงซ้อนกัมมันต์ พลังงานกับการดําเนินไป
ของปฏิกิริยา เคมี ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับผลของความเข้มข้น พื ้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งปฏิกิริยาและ
ตัวหน่วงปฏิกิริยา ต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยา และการใช้ทฤษฎีจลน์อธิบายผล
ของปจั จยั ตา่ งๆ ท่มี ตี อ่ อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ศกึ ษาปฏกิ ิริยาเคมีท่ีเกิดขึ น้ อย่างสมบูรณ์ การเกิดปฏิกิริยา
ไปข้างหน้า ปฏิกิริยาย้อนกลับและปฏิกิริยาที่ ผันกลับได้ ทดลองเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ ศึกษาการ
เปลี่ยนแปลงที่ทําให้เกิดภาวะสมดุลระหว่างสถานะ สมดุลในสารละลายอิ่มตัว สมดุลไดนามิก ศึกษาแล ะ
ทดลองสมดุลเคมีในปฏิกิริยา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดุล
ค่าคงที่สมดุลกับสมการเคมี คํานวณหาค่าคงที่ของสมดุลและ หาความเข้มข้นของสารในปฏิกิริยา ณ ภาวะ
สมดุล ทดลองเพื่อศึกษาผลของความเข้มข้น ความดัน อุณหภูมิต่อ ภาวะสมดุลและค่าคงที่สมดุล หลักของ
เลอชาเตอลิเอและการนําหลักของเลอชาเตอลิเอไปใช้ในกระบวนการ อุตสาหกรรม กระบวนการต่างๆ ของ
ส่งิ มชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบายอภิปราย และสรุป เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม

โรงเรียนรว่ มจติ ต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๖๒

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายความสัมพันธ์ และคํานวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตามกฎ

ของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลสู แซก
๒. คาํ นวณปริมาตร ความดนั หรืออณุ หภมู ิของแกส๊ ทภี่ าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส
๓. คํานวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จํานวนโมล หรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์ตามกฎของ

อาโวกาโดร และกฎแกส๊ อดุ มคติ
๔. คาํ นวณความดันยอ่ ยหรือจํานวนโมลของแกส๊ ในแก๊สผสม โดยใชก้ ฎความดันย่อยของดอลตนั
๕. อธิบายการแพร่ของแก๊ส โดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คำนวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของ

แกส๊ โดยใชก้ ฎการแพรผ่ า่ นของเกรแฮม
๖. สืบค้นข้อมลู นําเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้เก่ียวกบั สมบัติและกฎตา่ งๆ ของ

แกส๊ ในการอธบิ ายปรากฏการณ์ หรอื แก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั และในอตุ สาหกรรม
๗. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพ่ิมขนึ้ หรอื ลดลงของสารทท่ี ําการวัดในปฏกิ ิรยิ า
๘. คำนวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีและเขียนกราฟการลดลงหรือ เพิ่มขึ้นของสารที่ไม่ได้วัดใน

ปฏิกิริยา
๙. เขียนแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานที่ส่งผลต่ออัตราการ

เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
๑๐. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกริ ิยาท่มี ี

ต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
๑๑. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น

อณุ หภมู ิ และตัวเร่งปฏกิ ริ ยิ า
๑๒. ยกตัวอย่าง และอธิบายปัจจัย ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิต ประจำวันหรือ

อุตสาหกรรม
๑๓. ทดสอบ และอธิบายความหมายของปฏกิ ริ ยิ าผนั กลับไดแ้ ละภาวะสมดุล
๑๔. อธิบายการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสาร อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหนา และอัตรา

การเกดิ ปฏิกริ ยิ าย้อนกลบั เม่อื เริม่ ปฏิกิรยิ าจนกระทง่ั ระบบอย่ใู นภาวะสมดลุ
๑๕. คาํ นวณค่าคงท่ีสมดุลของปฏิกิริยา
๑๖. คํานวณความเขม้ ข้นของสารทภ่ี าวะสมดุล
๑๗. คาํ นวณคา่ คงที่สมดุลหรอื ความเข้มขน้ ของปฏิกิรยิ าหลายขน้ั ตอน
๑๘. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงที่สมดุลของระบบ รวมทั้งคาดคะเนการเปลี่ยนแปลง

ที่เกดิ ขึ้น เมื่อภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวนโดยใช้หลักของเลอชาเตอลเิ อ
๑๙. ยกตัวอย่าง และอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในส่ิงมีชีวิต ปรากฏการณ์ใน

ธรรมชาติ และกระบวนการในอุตสาหกรรม
รวม ๑๙ ผลการเรยี นรู้

โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๖๓

คำอธิบายรายวิชา

เคมี ๔ รหสั วิชา ว๓๒๒๒๔ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒

เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาและทดลองสมบัติบางประการของสารละลายอิเล็กโทรไลต์และสารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์
ประเภทของสารละลายอเิ ล็กโทรไลต์ ศกึ ษาไอออนในสารละลาย กรด และเบส ทฤษฎีกรดเบสของอาร์เรเนียส
เบรินสเตดลาวรี และลิวอิส ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับการถ่ายโอนโปรตอนของสารละลายกรดเบส ศึกษาคู่
กรด เบส การคํานวณและการเขียนสมการการแตกตวั ของกรดเบส การคํานวณค่าคงที่การแตกตวั เป็นไอออน
ของกรดอ่อนและเบสอ่อน ศึกษาและทดลองการแตกตัวเป็นไอออนของน้ำ การคํานวณค่าคงที่การแตกตัว
ของน pH ของสารละลาย และการคํานวณค่า pH อินดิเคเตอร์สําหรับกรดเบสสารละลายกรดเบส
ในชีวิตประจําวัน และในสิ่งมีชีวิต ศึกษาและทดลองเรื่องปฏิกิริยาสะเทินและปฏิกิริยาการเกิดเกลือจาก
ปฏิกิริยาระหว่างสารละลาย กรดกับสารละลายเบส ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ ศึกษาเกี่ยวกับการไทเทรต
สารละลายกรดเบส การเขยี นกราฟและการหาจดุ สมมูลจากกราฟของการไทเทรต และคํานวณหาความเข้มข้น
ของสารละลายกรดเบส ศึกษาหลักการเลือกใช้ อินดิเคเตอร์สําหรับไทเทรตกรดเบส การประยุกต์ความรู้
เร่ืองการไทเทรตไปใช้ใน ชีวติ ประจาํ วนั ศึกษาและทดลองสมบตั ิความเป็นบฟั เฟอรข์ องสารละลาย

ศึกษาทดลองการถ่ายโอนอิเล็กตรอนในปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับสารละลายของโลหะไอออน ศึกษา
ปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชัน ปฏกิ ริ ยิ ารีดักชนั ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ตัวรีดวิ ซ์ ตัวออกซไิ ดซ์ การเขยี นและดุลสมการรีดอกซ์
โดยใช้เลขออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยา ศึกษาเซลล์ไฟฟ้าเคมี ศึกษาและทดลองเก่ียวกับ หลักการของ
เซลล์กัลวานิก ศึกษาการเขียนแผนภาพของเซลล์กัลวานิก การหาค่าศักย์ไฟฟ้ าของเซลล์และ ศักย์ไฟฟ้า
มาตรฐานของครงึ่ เซลล์ ปฏกิ ริ ิยาในเซลล์กัลวานิกประเภทเซลล์ปฐมภูมิและเซลลท์ ุติยภูมิบางชนิด ทดลองเพ่ือ
ศึกษาหลักการสร้างและการทํางานของเซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว ศึกษาหลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติก
และทดลองการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้าตามหลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติก ศึกษาการแยกสารท่ี
หลอมเหลวด้วยไฟฟ้า ศกึ ษาและทดลองชุบโลหะดว้ ยกระแสไฟฟ้า ศกึ ษาวิธีการทาํ ให้ โลหะบริสทุ ธิ์ การถลุงแร่
ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับการผุกร่อนและการป้องกันการผุกร่อนของโลหะ ศึกษา ความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีที่เกยี่ วขอ้ งกับเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรยี บเทยี บ อธิบายอภิปราย และสรปุ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม

โรงเรยี นร่วมจิตต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๖๔

ผลการเรยี นรู้
๑. ระบุ และอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียสเบรินสเตด-ลาวรี

และลิวอิส
๒. ระบุคูกรด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี
๓. คํานวณ และเปรียบเทยี บความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส
๔. คํานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด

และเบส
๕. เขยี นสมการเคมแี สดงปฏิกิริยาสะเทินและระบุความเปน็ กรด-เบสของสารละลายหลงั การสะเทิน
๖. เขยี นปฏิกริ ยิ าไฮโดรลิซสิ ของเกลอื และระบคุ วามเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลอื
๗. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรต และเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสําหรับการไทเทรต

กรด-เบส
๘. คาํ นวณปรมิ าณสารหรอื ความเขม้ ขน้ ของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต
๙. อธิบายสมบตั ิ องคป์ ระกอบ และประโยชนข์ องสารละลายบฟั เฟอร์
๑๐. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ

กรด-เบส
๑๑. คาํ นวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏกิ ิริยาทเี่ ปน็ ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์
๑๒. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน และระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมทั้งเขียนครึ่ง

ปฏิกิรยิ าออกซิเดชนั และคร่งึ ปฏกิ ริ ยิ ารดี ักชันของปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์
๑๓. ทดลอง และเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์และเขียนแสดง

ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์
๑๔. ดลุ สมการรดี อกซด์ ้วยการใช้เลขออกซิเดชนั และวธิ ีครึ่งปฏกิ ริ ยิ า
๑๕. ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนดและแคโทด

ปฏิกิรยิ ารวม และแผนภาพเซลล์
๑๖. คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบุปุระเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า และ

ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ทีเ่ กิดขน้ึ
๑๗. อธิบายหลกั การทาํ งาน และเขยี นสมการแสดงปฏกิ ิริยาของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลล์ทุตยิ ภูมิ
๑๘. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ใน

การชบุ โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาํ โลหะใหบ้ รสิ ุทธ์ิ และการปอ้ งกนั การกัดกร่อนของโลหะ
๑๙. สบื ค้นขอ้ มลู และนาํ เสนอตัวอย่างความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์เคมีไฟฟ้า ใน

ชวี ิตประจาํ วัน

รวม ๑๙ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนร่วมจิตตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๖๕

คำอธบิ ายรายวชิ า

เคมี ๕ รหสั วิชา ว๓๓๒๒๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๑

เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาความหมายของสารประกอบอินทรีย์และเคมีอินทรีย์ การเขียนสูตรโครงสร้างแบบลิวอิส
แบบย่อ แบบผสม แบบใช้เส้นและมุม ศึกษาทดลองการเกิดไอโซเมอร์ของสารประกอบอินทรีย์ ศึกษาและ
ทดลอง เกี่ยวกับหมู่อะตอมที่แสดงสมบัติเฉพาะหรือหมู่ฟังก์ชั่นในโมเลกุลของสาร ศึกษาหมู่ฟังก์ชัน
การจําแนก ประเภทของสารประกอบอินทรีย์ ศึกษาโครงสร้าง การเขียนสูตร การเรียกชื่อ แนวโน้มของ
จุดหลอมเหลวและ จุดเดือด การละลายในน้ำ ปฏิกิริยาบางชนิด การนําไปใช้ประโยชน์ และอันตรายของ
สารประกอบอินทรีย์ ประเภทแอลเคน แอลคีน แอลไคน์ แอลกอฮอล์ ฟี นอล อีเทอร์ แอลดีไฮด์ คีโตน
กรดคาร์บอกซิลิก เอสเทอร์ เอมีนและเอไมด์ ศึกษาและทดลองสมบัติบางประการของสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอน การเตรียมเอสเทอร์จาก ปฏิกิริยาที่เรียกว่าเอสเทอริฟิ เคชันและปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของ
เอสเทอร์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทยี บ อธิบายอภปิ ราย และสรปุ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. สืบค้นข้อมูล และนําเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามที่

พบในชีวติ ประจาํ วนั
๒. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ

อินทรยี ์
๓. วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง และระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟงั กช์ นั
๔. เขียนสูตรโครงสร้าง และเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน ๑ หมู่

ตามระบบ IUPAC
๕. เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทต่าง ๆ
๖. วิเคราะห์ และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในนํ้าของสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชัน

ขนาดโมเลกุล หรอื โครงสร้างต่างกนั
๗. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้

ปฏิกริ ิยากับโบรมนี หรือปฏิกริ ยิ ากับโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต

โรงเรยี นรว่ มจิตตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๖๖
๘. เขียนสมการเคมี และอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์
ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสและปฏกิ ริ ิยาสะปอนนฟิ เิ คชัน
๙. ทดสอบปฏิกริ ิยาเอสเทอริฟเิ คชนั ปฏิกิริยาไฮโดรลซิ สิ และปฏกิ ริ ิยาสะปอนนิฟเิ คชนั
๑๐. สืบค้นข้อมูล และนําเสนอตัวอย่างการนําสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน
และอตุ สาหกรรม
รวม ๑๐ ผลการเรยี นรู้

โรงเรยี นร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๖๗

คำอธิบายรายวชิ า

เคมี ๖ รหสั วิชา ว๓๓๒๒๖ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาประเภทของพอลิเมอร์และปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชนั ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติ
ของพอลิเมอร์ ศึกษาสมบัติของผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ประเภทต่างๆ ศึกษาทดลองสมบัติบางประการของ
พลาสติกชนิดต่างๆ และการเตรียมเส้นใยกึ่งสังเคราะห์จากเส้น ใยธรรมชาติ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่
นํามาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ และการนําพอลิเมอร์ไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมและ
ปลอดภัย มลพิษที่อาจเกิดขึ ้น และแนวทางในการป้องกัน ศึกษาปัญหา และนําเสนอแนวทางการแก้ปัญหา
โดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม
แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีรวมกับสาขาวิชาอื่น รวมทั้งทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและ ความคิด
สรา้ งสรรค์ เพื่อแกป้ ญั หาในสถานการณ์หรอื ประเด็นท่สี นใจ นำเสนอผลงานหรอื ชิ้น งานท่ไี ด้จากการแก้ปัญหา
ในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจโดยใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา
การเข้ารว่ มประชุมวชิ าการ หรือ การแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ ในงานนทิ รรศการ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรยี บเทียบ อธิบายอภิปราย และสรปุ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. ระบปุ ระเภทของปฏิกริ ิยาการเกดิ พอลเิ มอรจ์ ากโครงสรา้ งของมอนอเมอร์หรอื พอลเิ มอร์
๒. วเิ คราะห์ และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างโครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์ รวมทั้งการนําไปใช้

ประโยชน์
๓. ทดสอบ และระบปุ ระเภทของพลาสตกิ และผลติ ภณั ฑย์ าง รวมทงั้ การนําไปใชป้ ระโยชน์
๔. อธบิ ายผลของการปรบั เปล่ียนโครงสร้าง และการสงั เคราะหพ์ อลเิ มอรท์ ม่ี ตี ่อสมบตั ิของพอลิเมอร์
๕. สืบค้นข้อมูล และนําเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกําจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และ

แนวทางแกไ้ ข
๖. กําหนดปัญหา และนําเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ในชวี ติ ประจําวนั การประกอบอาชพี หรืออตุ สาหกรรม
๗. แสดงหลักฐานถึงการบรู ณาการความรู้ทางเคมรี วมกับสาขาวิชาอื่น รวมทัง้ ทักษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและความคิด
สรา้ งสรรค์ เพื่อแกป้ ัญหาในสถานการณห์ รือประเด็นท่สี นใจ

โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๖๘
๘. นำเสนอผลงานหรือช้ิน งานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจโดยใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
๙. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือ การแสดงผลงาน
สง่ิ ประดษิ ฐ์ ในงานนทิ รรศการ
รวม ๙ ผลการเรียนรู้

โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๖๙

คำอธบิ ายรายวิชา

ชีววทิ ยา ๒ รหัสวชิ า ว๓๑๒๔๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาเกี่ยวกับโครโมโซม และสารพันธุกรรม โครงสร้างของ DNA การจำลอง DNA การควบคุม
ลักษณะทางพันธุกรรมของ DNA มิวเทชัน และการเกิดมิวเทชัน ศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ
พันธุศาสตร์เมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน ศึกษาเทคโนโลยีทาง DNA
พันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA การหาลำดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ทาง DNA และเทคโนโลยีทาง DNA กบั ความปลอดภยั ทางชีวภาพและชีวจริยธรรม ศกึ ษาเก่ียวกับวิวัฒนาการ
หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
พันธุศาสตร์ประชากรปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล และกำเนิดสปีชีส์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสงั เกต วเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ

DNA และสรุปการจำลอง DNA
๒. อธิบาย และระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าที่ของ DNA และ RNA

แตล่ ะชนิดในกระบวนการสงั เคราะห์โปรตนี
๓. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน

รวมท้งั ยกตัวอย่างโรคและกลมุ่ อาการทเ่ี ป็นผลของการเกิดมวิ เทชัน
๔. สืบค้นขอ้ มลู อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล
๕. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีนลักษณะทางพันธุกรรม และเชื่อมโยงกับ

ความรเู้ รอื่ งพันธุศาสตร์เมนเดล
๖. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลน้ี

ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และ
จีโนไทป์แบบต่าง ๆ ของรนุ่ F๑ และ F๒

๗. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน
ขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล

โรงเรียนรว่ มจติ ต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๗๐
๘. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและ
ลกั ษณะทางพันธุกรรมท่ีมกี ารแปรผนั ต่อเนื่อง
๙. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วย
ยีนบนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ
๑๐. อธิบายหลกั การสรา้ งส่งิ มีชีวติ ดดั แปรพันธุกรรมโดยใช้ DNA รคี อมบแิ นนท์
๑๑. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอธิบายการนำเทคโนโลยีทาง DNA ไปประยุกต์ใช้ทั้งใน
ด้านสงิ่ แวดล้อม นติ วิ ทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอตุ สาหกรรม และข้อคำนึงถงึ ดา้ นชวี จริยธรรม
๑๒. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการ
ของสิ่งมชี ีวิต
๑๓. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี
เกีย่ วกับววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี วี ติ ของชารล์ ดารว์ นิ
๑๔. ระบุสาระสำคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลีลและจีโนไทป์ของ
ประชากรโดยใช้หลักของฮารด์ ี- ไวน์เบิรก์
๑๕. สืบคน้ ขอ้ มลู อภิปราย และอธบิ ายกระบวนการเกดิ สปีชสี ใ์ หมข่ องสงิ่ มชี วี ติ
รวม ๑๕ ผลการเรียนรู้

โรงเรียนร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๗๑

คำอธบิ ายรายวิชา

ชวี วทิ ยา ๓ รหสั วชิ า ว๓๒๒๔๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของพืช โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะของพืชดอก เนื้อเยื่อพืช อวัยวะ
และหน้าที่ของอวัยวะของพืช โครงสร้างและหน้าที่ของราก ลำต้น และใบ การแลกเปลี่ยนแก๊สและ
การคายน้ำของพืช การลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร และการลำเลียงอาหารของพืช ศึกษาการสังเคราะห์
ด้วยแสง การค้นคว้าท่เี กยี่ วขอ้ งกับการสงั เคราะหด์ ้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง กลไกการเพม่ิ ความ
เข้มข้นของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C๔ และพืช CAM ปัจจัยบางประการท่ีมีผลตอ่ อัตราการสังเคราะห์
ด้วยแสง ศึกษาการสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต วัฏจักรชีวิตของพืชดอก การสืบพันธุ์แบบอาศัย
เพศของพืชดอก การสร้างสปอร์และเซลล์สืบพนั ธุ์ การปฏสิ นธิ โครงสรา้ งของผลและเมล็ด การงอกของเมล็ด
ศึกษาการตอบสนองของพืช การตอบสนองของพืชต่อสารเคมี และการตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อม
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มูล การสังเกต วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้แหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายเก่ียวกบั ชนดิ และลักษณะของเนือ้ เยือ่ พืชและเขยี นแผนผังเพ่ือสรปุ ชนดิ ของเนอื้ เยื่อพชื
๒. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและรากพืชใบเลี้ยงคู่

จากการตดั ตามขวาง
๓. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดย่ี วและลำต้นพืชใบเล้ียงคู่

จากการตดั ตามขวาง
๔. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพืชจากการตดั ตามขวาง
๕. สบื ค้นขอ้ มลู สงั เกต และอธบิ ายการแลกเปล่ียนแก๊สและการคายนำ้ ของพืช
๖. สบื ค้นขอ้ มลู และอธบิ ายกลไกการลำเลยี งนำ้ และธาตุอาหารของพืช
๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายความสำคัญของธาตุอาหารและยกตัวอย่างธาตุอาหารที่สำคัญที่มีผลต่อการ

เจริญเติบโตของพชื
๘. อธิบายกลไกการลำเลียงอาหารในพืช
๙. สืบค้นข้อมูล และสรุปการศึกษาที่ได้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกับ

กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง
๑๐. อธิบายข้นั ตอนที่เกิดขึน้ ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช C๓

โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๗๒
๑๑. เปรียบเทียบกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซดใ์ นพชื C๓ พืช C๔ และ พืช CAM
๑๒. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์
และอุณหภมู ิ ทีม่ ีผลตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื
๑๓. อธิบายวัฏจักรชีวิตแบบสลบั ของพชื ดอก
๑๔. อธิบาย และเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียของพืชดอกและ
อธิบายการ ปฏสิ นธขิ องพืชดอก
๑๕. อธิบายการเกิดเมล็ดและการเกิดผลของพืชดอกโครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตัวอย่าง
การใช้ประโยชน์จากโครงสรา้ งตา่ งๆ ของเมล็ดและผล
๑๖. ทดลอง และอธิบายเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด สภาพพักตัวของเมล็ดและ
บอกแนวทางในการแก้สภาพพักตวั ของเมล็ด
๑๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายบทบาทและหน้าที่ของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีนและกรด
แอบไซซิก และอภิปรายเก่ียวกับการนำไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร
๑๘. สืบค้นข้อมลู ทดลอง และอภิปรายเกี่ยวกบั ส่ิงเร้าภายนอกท่มี ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื
รวม ๑๘ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๗๓

คำอธบิ ายรายวชิ า

ชีววทิ ยา ๔ รหสั วิชา ว๓๒๒๔๔ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๒

เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิต ท้ังจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและ
สัตว์ การย่อยอาหารของมนุษย์ อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหารของมนุษย์ ความผิดปกติของทางเดิน
อาหารในมนุษย์ ศึกษาเกี่ยวกับระบบหายใจ การแลกเปลี่ยนแก๊สของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์
การแลกเปลี่ยนแก๊สของมนุษย์ โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊ส การแลกเปลี่ยนแก๊ส กลไกการหายใจ
การควบคมุ การหายใจ การวัดอัตราการหายใจ ความผดิ ปกติท่ีเก่ยี วขอ้ งกับปอด และ โรคระบบทางเดินหายใจ
ศึกษาเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือด การล้าเลียงสารในร่างกายของสัตว์และของมนุษย์ ระบบน้ ำเหลือง
ระบบภูมิคุ้มกัน กลไกการท้างานของระบบภูมิคุ้มกัน กลไกการสร้างภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของระบบ
ภูมิคุ้มกัน ศึกษาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย การขับถ่ายของสิง่ มีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์ การขับถ่ายของมนษุ ย์
ไตและอวัยวะในระบบขับถ่ายปัสสาวะ ไตกับการรักษาดุลยภาพของร่างกาย โรคที่เกี่ยวข้องกับไต
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู การสังเกต วเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้แหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มี

ทางเดนิ อาหาร สัตวท์ ี่มที างเดนิ อาหารแบบไม่สมบรู ณ์ และสตั วท์ ่มี ีทางเดนิ อาหารแบบสมบรู ณ์
๒. สังเกต อธิบาย การกินอาหารของไฮดรา และพลานาเรีย
๓. อธบิ ายเกี่ยวกับโครงสร้าง หนา้ ที่ และกระบวนการยอ่ ยอาหาร และการดดู ซมึ สารอาหารภายใน

ระบบยอ่ ยอาหารของมนุษย์
๔. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และเปรียบเทียบโครงสร้างทที่ ำหน้าทีแ่ ลกเปล่ยี นแกส๊ ของฟองน้ํา ไฮดรา

พลานาเรีย ไส้เดือนดนิ แมลง ปลา กบ และนก
๕. สงั เกต และอธบิ ายโครงสรา้ งของปอดในสตั วเ์ ลีย้ งลูกด้วยนํา้ นม
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สของ

มนุษย์
๗. อธิบายการทำงานของปอด และทดลองวัดปรมิ าตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์
๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียนเลือด

แบบปดิ

โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๗๔
๙. สังเกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และ
สรปุ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลอื ดกบั ความเรว็ ในการไหลของเลือด
๑๐. อธบิ ายโครงสร้าง และการทำงานของหัวใจและหลอดเลอื ดในมนุษย์
๑๑. สงั เกต และอธิบายโครงสรา้ งหวั ใจของสัตว์เล้ียงลกู ด้วยน้ํานม ทิศทางการไหลของเลอื ดผา่ นหัวใจ
ของมนุษย์ และเขยี นแผนผงั สรุปการหมนุ เวยี นเลอื ดของมนษุ ย์
๑๒. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ
พลาสมา
๑๓. อธิบายหมเู่ ลอื ด และหลกั การให้และรับเลอื ดในระบบ ABO และระบบ Rh
๑๔. อธิบาย และสรปุ เก่ียวกับส่วนประกอบและหน้าท่ีของนํ้าเหลือง รวมทัง้ โครงสร้างและหน้าที่ของ
หลอดนํ้าเหลือง และตอ่ มนาํ้ เหลือง
๑๕. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม
แบบไม่จำเพาะและแบบจำเพาะ
๑๖. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเปรียบเทยี บการสร้างภมู คิ ุ้มกนั ก่อเองและภูมิคุ้มกันรบั มา
๑๗. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกตขิ องระบบภมู ิคุ้มกันที่ทำให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การ
สรา้ งภูมิตา้ นทานตอ่ เนอ้ื เยอื่ ตนเอง
๑๘. สืบค้นขอ้ มูล อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งและหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
ของฟองนา้ํ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดนิ แมลง และสตั ว์มกี ระดกู สนั หลัง
๑๙. อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องไต และโครงสรา้ งทใ่ี ชล้ ำเลยี งปัสสาวะออกจากร่างกาย
๒๐. อธิบายกลไกการทำงานของหนว่ ยไตในการกำจัดของเสียออกจากรา่ งกาย และเขียนแผนผังสรุป
ข้ันตอนการกำจัดของเสียออกจากรา่ งกายโดยหน่วยไต
๒๑. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และยกตัวอยา่ งเกีย่ วกับความผิดปกติของไตอันเนอื่ งมาจากโรคต่างๆ

รวม ๒๑ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนรว่ มจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๗๕

คำอธิบายรายวิชา

ชวี วิทยา ๕ รหัสวชิ า ว๓๓๒๔๕ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาท โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ประสาท
กลไกการถ่ายทอดกระแสประสาท โครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนต่างๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมองส่วนหลังและไขสันหลัง การ
ทำงานของระบบประสาทโซมาติกและระบบประสาทอัตโนวัติ โครงสร้างและหน้าที่ของตา หู จมูก ลิ้น และ
ผิวหนังของมนุษย์ ตำแหน่งของจุดบอดและโฟเวียของตา ความไวในการรับสัมผัสของผิวหนัง โครงสร้างและ
หน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนท่ี โครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและการทำงานของกล้ามเนื้อท่ี
เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและแบบอาศัยเพศ
ในสตั ว์ โครงสรา้ งและหน้าที่ของอวยั วะในระบบสบื พันธเุ์ พศชายและระบบสบื พันธ์เุ พศหญิง กระบวนการสร้าง
สเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏิสนธิ การเจริญเติบโตระยะเอ็มบริโอและระยะหลังเอ็มบริโอ
หน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่สร้างฮอร์โมน พฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและพฤติกรรมที่
เกิดจากการเรียนรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบประสาท การสื่อสารระหว่างสัตว์
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มลู การสังเกต วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดราพลานา-

เรยี ไส้เดือนดนิ กุ้ง หอย แมลง และสตั วม์ ีกระดกู สนั หลงั
๒. อธบิ ายเกีย่ วกับโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องเซลล์ประสาท
๓. อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไก

การถ่ายทอดกระแสประสาท
๔. อธบิ าย และสรปุ เกี่ยวกบั โครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
๕. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ ง และหนา้ ทีข่ องส่วนตา่ ง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมอง

สว่ นหลัง และไขสนั หลัง
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติกและ

ระบบประสาทอตั โนวัติ

โรงเรียนรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

๑๗๖
๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตัวอย่าง
โรคต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง และบอกแนวทางในการดแู ลป้องกัน และรักษา
๘. สังเกต และอธบิ ายการหาตำแหนง่ ของจดุ บอด โฟเวีย และความไวในการรบั สมั ผสั ของผวิ หนัง
๙. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะทีเ่ กี่ยวข้องกับการเคล่ือนท่ี
ของแมงกะพรนุ หมึก ดาวทะเล ไสเ้ ดอื นดิน แมลง ปลา และนก
๑๐. สืบค้นข้อมูลและอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเนื้อที่เก่ี ยวข้องกับ
การเคลอ่ื นไหวและการเคลื่อนที่ของมนุษย์
๑๑. สังเกตและอธิบายการทำงานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่าง
ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเคล่ือนไหวและการเคล่ือนที่ของมนษุ ย์
๑๒. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัย
เพศในสตั ว์
๑๓. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องอวยั วะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบสืบพันธุ์
เพศหญิง
๑๔. อธบิ ายกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสรา้ งเซลล์ไข่ และการปฏิสนธใิ นมนุษย์
๑๕. อธิบายการเจริญเติบโตระยะเอม็ บรโิ อและระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไก่ และมนุษย์
๑๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าทีข่ องฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่สร้าง
ฮอรโ์ มน
๑๗. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและพฤติกรรม
ทเ่ี กดิ จากการเรยี นรู้ของสัตว์
๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบ
ประสาท
๑๙. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และยกตวั อย่างการส่อื สารระหวา่ งสตั วท์ ท่ี ำใหส้ ตั วแ์ สดงพฤตกิ รรม

รวม ๑๙ ผลการเรียนรู้

โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๗๗

คำอธบิ ายรายวชิ า

ชีววิทยา ๖ รหัสวิชา ว๓๓๒๔๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศึกษาเกี่ยวกับ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความเชื่อมโยงระหว่างความหลากหลายทางพันธุกรรม
ความหลากหลายของสปีชีส์ การเกิดเซลล์เริ่มแรกของสิ่งมีชีวิต วิวัฒนาการของเซลล์โพรคาริโอตและเซลล์
ยคู าริโอต ศกึ ษาสง่ิ มชี ีวิตกลุ่มแบคทเี รยี ส่ิงมีชวี ติ กลมุ่ โพรทิสต์ สง่ิ มีชวี ติ กลุ่มพืช สง่ิ มีชีวติ กล่มุ ฟังไจ การจำแนก
สิ่งมีชีวิต ชื่อวิทยาศาสตร์ของสิง่ มชี วี ิต การสร้างไดโคโทมัสคยี ์ ความหลากหลายของระบบนิเวศ กระบวนการ
ถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ไบโอแมกนิฟิเคชัน วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฏจักรฟอสฟอรัส
ไบโอมทกี่ ระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตรต์ ่างๆ บนโลก การเปลย่ี นแปลงแทนทแี่ บบปฐมภมู ิและการเปลี่ยนแปลง
แทนที่แบบทุติยภูมิ ศึกษาเกี่ยวกับประชากร ความหนาแน่นและการแพร่กระจายของประชากร ขนาดของ
ประชากร รูปแบบการเพิ่มของประชากร การรอดชีวิตของประชากร ประชากรมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติ
ทรพั ยากรน้ำ อากาศ ทรัพยากรดนิ ทรพั ยากรปา่ ไม้ ทรพั ยากรสตั ว์ปา่ การใชป้ ระโยชน์ ปญั หาและการจัดการ
หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้น
ข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์เปรียบเทียบอธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้า ใจ มี
ความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทักษะปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษท่ี ๒๑
ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้
และนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. อภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเชื่อมโยงระหว่างความ

หลากหลายทางพนั ธุกรรม ความหลากหลายของสปีชสี ์ และความหลากหลายของระบบนเิ วศ
๒. อธบิ ายการเกดิ เซลล์เริม่ แรกของสิง่ มชี ีวติ และวิวัฒนาการของสิง่ มีชีวิตเซลลเ์ ดียว
๓. อธิบายลกั ษณะสำคัญและยกตัวอย่างส่ิงมีชีวติ กลุ่มแบคทีเรีย สิ่งมีชีวิตกลุ่มโพรทิสต์ สิ่งมีชีวิตกลมุ่

พืช สิง่ มชี ีวิตกลุ่มฟงั ไจ และสิง่ มีชีวติ กล่มุ สัตว์
๔. อธิบาย และยกตวั อย่างการจำแนกส่งิ มีชีวติ จากหมวดหม่ใู หญ่จนถงึ หมวดหมยู่ ่อย และวิธีการเขียน

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ในลำดบั ขน้ั สปชี ีส์
๕. สร้างไดโคโทมัสคยี ใ์ นการระบสุ ิง่ มีชีวิตหรอื ตวั อย่างทก่ี ำหนดออกเป็นหมวดหมู่
๖. วิเคราะห์ อธิบาย และยกตวั อย่างกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ
๗. อธบิ าย ยกตัวอยา่ งการเกิดไบโอแมกนิฟเิ คชัน และบอกแนวทางในการลดการเกิดไบโอแมกนิฟิเค-

ชนั
๘. สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพเพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฏจักร

ฟอสฟอรสั

โรงเรยี นร่วมจิตต์วทิ ยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๗๘
๙. สบื คน้ ข้อมูล ยกตวั อย่าง และอธบิ ายลักษณะของไบโอมที่กระจายอยู่ตามเขตภูมศิ าสตร์ต่าง ๆ บน
โลก
๑๐. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง อธิบาย และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมแิ ละการ
เปล่ยี นแปลงแทนท่แี บบทตุ ิยภมู ิ
๑๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย ยกตัวอย่างและสรุปเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชีวิต
บางชนดิ
๑๒. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชียล
และการเพ่ิมของประชากรแบบลอจสิ ตกิ
๑๓. อธิบาย และยกตวั อย่างปจั จัยทค่ี วบคมุ การเติบโตของประชากร
๑๔. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาการขาดแคลนนาํ้ การเกิดมลพิษทางนํา้ และผลกระทบที่มีต่อ
มนษุ ยแ์ ละส่งิ แวดล้อม รวมท้งั เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การนา้ํ และการแก้ไขปัญหา
๑๕. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหามลพิษทางอากาศ และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และ
สงิ่ แวดลอ้ มรวมทง้ั เสนอแนวทางการแกไ้ ขปญั หา
๑๖. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และ
สงิ่ แวดลอ้ ม รวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
๑๗. วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหาผลกระทบทเ่ี กดิ จากการทำลายปา่ ไม้ รวมท้ังเสนอแนวทางใน
การป้องกนั การทำลายปา่ ไม้และการอนุรกั ษ์ปา่ ไม้
๑๘. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาผลกระทบที่ทำให้สัตว์ป่ามีจำนวนลดลง และแนวทางใน
การอนุรกั ษส์ ตั ว์ป่า

รวม ๑๘ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนร่วมจิตต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๗๙

คำอธิบายรายวิชา

วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๑ รหสั วชิ า ว๓๑๒๖๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒

เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาวิเคราะห์การแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี รูปแบบแนว
รอยต่อของแผ่นธรณี การเกิดภูเขาไฟระเบิด แนวทางใน การเกิด ขนาด และความรุนแรงและผลจาก
แผ่นดินไหว การเกิดและผลจากสึนามิ การเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ สามารถ
ระบุแยกแยะประเภทของแร่และหนิ ท่ีอยู่บนโลก การส ารวจปิโตรเลียมและการนำมาใช้ประโยชน์ รวมท้งั แปล
หมายหมายแผนที่ ระบลุ ักษณะภูมิประเทศต่าง ๆ บนผวิ โลกได้ โดยใชว้ ิธีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบ
เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ขอ้ มลู และการอภปิ ราย และการนำเสนอขอ้ มูล

โดยใช้วิธีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้น ข้อมูล
และการอภปิ ราย และการนำเสนอข้อมูล เพื่อใหม้ คี วามรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการ สามารถ
ส่ือสารสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคณุ คา่ ทางวทิ ยาศาสตร์ และนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ใน
ชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม การเฝ้าระวังและการปฏิบัติตน
ให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ พลังงานจากดวงอาทิตย์ การหมุนเวียนของอากาศ ทิศทางการเคลื่อนที่ของ
อากาศ การหมุนเวียนของน้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทร การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก การแปรความหมาย
สญั ลกั ษณ์ลมฟา้ อากาศ และแผนที่อากาศ

ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายการแบ่งชนั้ และสมบัติของโครงสรา้ งโลก พร้อมยกตวั อย่างข้อมูลที่สนบั สนนุ
๒. อธิบายหลักฐานทางธรณีวทิ ยาทสี่ นบั สนุนการเคลือ่ นท่ขี องแผ่นธรณี
๓. วิเคราะหห์ ลักฐานทางธรณีวิทยาท่พี บในปจั จบุ ัน และอธิบายลำดับเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ิทยา
๔. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด และปัจจัยที่ทำให้ความรุนแรงของการปะทุ และ

รปู ร่างของภูเขาไฟแตกตา่ งกัน รวมท้งั สบื ค้นข้อมูลพื้นที่เส่ียงภัย ออกแบบและนำเสนอ แนวทางการเฝา้ ระวัง
และการปฏิบัติตน ให้ปลอดภยั

๕. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิด ขนาดและ ความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้ง สืบค้น
ขอ้ มลู พ้ืนที่เสี่ยงภัยกระบวนการเกดิ ขนาดและความรนุ แรง และผลจากแผ่นดนิ ไหว รวมทง้ั สืบค้นขอ้ มูล พื้นท่ี
เสยี่ งภัย ออกแบบและนำเสนอ แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภัย

๖. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสินามรี วมทัง้ สบื ค้นข้อมูลพื้นทีเ่ ส่ียงภัย ออกแบบและ
นำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัย

๗. ตรวจสอบ และระบุชนิดแร่ รวมท้ังวเิ คราะหส์ มบัตแิ ละนำเสนอการใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรแร่
ทีเ่ หมาะสม

โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๐
๘. ตรวจสอบจำแนกประเภท และระบุซื่อหิน รวมทง้ั วิเคราะหส์ มบัติและนำเสนอการใช้ประโยชน์ของ
ทรัพยากรหินที่เหมาะสม
๙. อธิบายกระบวนการเกิดและการสำรวจแหล่งปีโตรเลียมและถ่านหิน โดยใช้ข้อมูลทางธรณีวิทยา
๑๐. อธบิ ายสมบัติฃองผลิตภัณฑ์ทีไ่ ดจ้ ากปีโตรเลียมและถ่านหนิ พรอ้ มนำเสนอการใช้ประโยชน์
อย่างเหมาะสม
๑๑. อ่านและแปลความหมายจากแผนที่ และแผนทีธรณีวิทยาของฟืนทีท่ีกำหนด พร้อมทั้งอธิบาย
และยกตวั อยา่ งการนำไปใชป้ ระโยชน์
รวม ๑๑ ผลการเรียนรู้

โรงเรียนรว่ มจิตตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๑

คำอธิบายรายวิชา

วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๒ รหัสวิชา ว๓๒๒๖๒ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑

เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศึกษาวิเคราะห์พลังงานจากดวงอาทิตย์ การหมุนเวียนของอากาศ ทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ
การหมนุ เวียนของน้ำ ผิวหนา้ ในมหาสมุทร การเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศของโลก การแปรความหมาย สัญลักษณ์
ลมฟ้าอากาศ และแผนท่ีอากาศ

โดยใช้วธิ กี ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ขอ้ มูล
และการอภิปราย และการนำเสนอข้อมลู

เพื่อให้มีความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มี
ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เหน็ คณุ คา่ ทางวิทยาศาสตร์ และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้

๑. อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกัน และผลที่มีต่อ
อณุ หภมู ิอากาศในแต่ละบริเวณของโลก

๒. อธบิ ายกระบวนการท่ที ำใหเ้ กิดสมดลุ พลังงานของโลก
๓. อธิบายการหมนุ เวยี นของอากาศตามเขตละติจูด • แตล่ ะบริเวณของโลกมคี วามกดอากาศ แตกต่าง
กัน และผลทม่ี ีต่อภมู ิอากาศ
๔. อธิบายปัจจยั ท่ีทำใหเ้ กิดการแบ่งชัน้ น้ำในมหาสมทุ ร
๕. อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทรและรูปแบบการหมุนเวียนของน้ำใน
มหาสมุทร
๖. อธิบายผลของการหมนุ เวยี นของน้ำใน
๗. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งเสถยี รภาพอากาศ
๘. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ • แนวปะทะอากาศเกิดจากการเคลื่อนที่ปะทะกัน
และลักษณะลมฟา้ อากาศทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
๙. อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง •โลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์โดยปริมาณ
ภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอยา่ งขอ้ มลู พลังงานเฉลย่ี ทโ่ี ลกได้รบั เท่ากบั พลงั งานเฉล่ียทีส่ นบั สนนุ
๑๐. วิเคราะห์ และอภปิ รายเหตกุ ารณ์ที่เป็นผลจากการเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศโลก และนำเสนอ แนว
ปฏิบตั ิของมนษุ ยท์ มี่ สี ว่ นช่วยในการชะลอการเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศโลก
๑๑. แปลความหมายสัญลกั ษณล์ มฟา้ อากาศบนแผนทีอ่ ากาศ
๑๒. วิเคราะห์และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศ เบื้องต้นจากแผนที่อากาศและข้อมูลสารสนเทศ
อื่นๆ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพและ การดำเนนิ ชีวิตให้สอดคลอ้ งกับสภาพลมฟา้ อากาศ
รวม ๑๒ ผลการเรยี นรู้

โรงเรยี นร่วมจิตต์วิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๘๒

คำอธิบายรายวิชา

วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ๓ รหสั วชิ า ว๓๒๒๖๓ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ศกึ ษาวิเคราะห์ ทฤษฏกี ารกำเนิดของโลก กำเนิดของดาวฤกษ์ พลังงานตา่ ง ๆ ของดวงดาว ระยะทาง
ของดวงดาว การกำเนิดของระบบสรุ ิยะ และดวงดาวต่าง ๆ ในระบบสุริยะ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สำรวจวัตถบุ น
ท้องฟ้า

โดยใช้วิธีกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมูล
และการอภปิ ราย และการนำเสนอขอ้ มูล

เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ ความคดิ ความเข้าใจ มที กั ษะกระบวนการ สามารถสอ่ื สารสิง่ ทเี่ รียนรู้ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบง

ในชว่ งเวลาต่าง ๆ ตามววิ ฒั นาการของเอกภพ
๒. อธิบายหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับระยะทางของ

กาแล็กซรี วมทง้ั ขอ้ มลู การค้นพบไมโครเวฟพ้ืนหลังจากอวกาศ
๓. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซี่ ทางข้างเฝือก และระบุตำแหน่งของระบบสุริยะ

พรอ้ มอธบิ ายเช่ือมโยงลบั การสังเกตเหน็ ทางขา้ งเฝือกของคนบนโลก
๔. อธิบายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาด จากดาว

ฤกษก์ ่อนเกิดจนเป็นดาวฤกษ์
๕. อธิบายกระบวนการสร้างพลังงานของดาวฤกษ์ และผลที่เกิดขึ้น โดยวิเคราะห์ปฏิกิริยาลูกโซ่

โปรตอน-โปรตอน และวฏั จกั รคารบ์ อน ไนโตรเจน ออกซิเจน
๖. ระบุปัจจัยที่ส่งผลตอ่ ความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์
๗. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภมู ผิ วิ และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์
๘. อธิบายวิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลักการแพรัลแลกซ์ พร้อมคำนวณหาระยะทางของ

ดาวฤกษ์
๙. อธบิ ายลำดับววิ ฒั นาการท่สี มั พันธ์กับมวลต้ังตน้ และวเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงสมบัติบาง ประการ

ของดาวฤกษใ์ นลำดับววิ ัฒนาการจากแผนภาพเฮริ ซ์ ปรุง-รัสเซลล์
๑๐. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะการแบ่งเขต บริวารของดวงอาทิตย์และลักษณะของ ดาว

เคราะห์ทเี่ อือ้ ตอ่ การดำรงชีวติ

โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๘๓
๑๑. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ ดว้ ยกฎเคพเลอร์และกฎความโน้มถ่วงของ นวิ
ตัน พรอ้ มคำนวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์
๑๒. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุ สุริยะ และวิเคราะห์ นำเสนอ
ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ทีเ่ กี่ยวข้องกับผลของลมสรุ ยิ ะ และพายสุ ุริยะที่มีต่อโลกรวมท้ังประเทศไทย
๑๓. สร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเชื่อมโยงจุดและเส้นสำคัญของแบบจำลองทรงกลมฟ้า
กบั ท้องฟา้ จริง และอธบิ ายการระบุพกิ ดั ของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศนู ยส์ ูตร
๑๔. สังเกตท้องฟา้ และอธบิ ายเส้นทางการข้นึ การตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์
๑๕. อธิบายเวลาสรุ ิยคตปิ รากฏ โดยรวบรวมขอ้ มลู และเปรยี บเทียบเวลาขณะทด่ี วงอาทติ ย์ผ่าน เม
รเิ ดยี นของผ้สู ังเกตในแตล่ ะวนั
๑๖. อธิบายเวลาสรุ ิยคตปิ านกลาง และการเปรยี บเทยี บเวลาของแตล่ ะเขตเวลาบนโลก
๑๗. อธิบายมมุ ห่างท่สี ัมพันธ์กบั ตำแหน่งในวงโคจร และอธบิ ายเช่ือมโยงกับตำแหน่ง ปรากฏของดาว
เคราะห์ที่สงั เกตไดจ้ ากโลก
๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลื่นต่าง ๆ
ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนำเสนอ แนวคิดการนำความรู้ทางค้านเทคโนโลยีอวกาศ มาประ
ยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวันหรือในอนาคต
๑๙. สืบค้นข้อมูล ออกแบบ และนำเสนอกิจกรรม การสังเกตดาวบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่าและ/หรือ
กล้องโทรทรรศน์
รวม ๑๙ ผลการเรยี นรู้

โรงเรียนร่วมจติ ตว์ ทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๔

กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

โรงเรยี นร่วมจิตต์วทิ ยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๕

กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ทำไมตอ้ งเรยี นสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ ว่ามนษุ ยด์ ำรงชวี ิตอย่างไร ท้งั ในฐานะปัจเจกบคุ คล และการอยู่
ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ ยังช่วยให้
ผู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจใน
ตนเอง และผู้อื่น มีความอดทน อดกลั้น ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถนำความรูไ้ ปปรับใช้
ในการดำเนินชวี ติ เปน็ พลเมืองดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก

เรยี นร้อู ะไรในสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มี

ความเชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบท
สภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
โดยได้กำหนดสาระต่าง ๆ ไว้ ดังนี้

✧ ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคดิ พน้ื ฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของ
พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และ
การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้งบำเพ็ญ
ประโยชน์ตอ่ สังคมและสว่ นรวม

✧ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็น
พลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยมด้าน
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุข
ในสงั คมไทยและสังคมโลก

✧ เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ
ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการนำหลั กเศรษฐกิจ
พอเพียงไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน

✧ ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ
มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ผลกระทบที่เกิดจาก
เหตุการณ์สำคัญในอดีต บุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในอดีต ความเป็นมาของชาติไทย
วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย แหลง่ อารยธรรมท่สี ำคัญของโลก

โรงเรยี นรว่ มจิตต์วิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๖

✧ ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศ
ของประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กัน
ของสิ่งต่าง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์
สรา้ งข้นึ การนำเสนอขอ้ มูลภมู ิสารสนเทศ การอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ มเพอื่ การพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม
เพ่ืออยู่รว่ มกนั อย่างสันตสิ ขุ
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาที่ตนนับถอื

สาระที่ ๒ หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมท่ีดีงาม และ

ธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ
สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรกั ษาไว้
ซ่งึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้

ทรัพยากรทีม่ ีอยจู่ ำกัดได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและคมุ้ คา่ รวมทัง้ เข้าใจหลักการ
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อการดำรงชีวิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และ
ความจำเป็นของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก

สาระท่ี ๔ ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตกุ ารณต์ า่ งๆ อยา่ งเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ

การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ
วเิ คราะห์ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น

โรงเรยี นร่วมจิตต์วิทยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

๑๘๗

มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ
สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์ และธำรงความเปน็ ไทย
มาตรฐาน ส ๕.๑
เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ งซึ่งมีผลต่อกัน
มาตรฐาน ส ๕.๒ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล
ตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
เข้าใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างมนษุ ยก์ บั สิ่งแวดล้อมทางกายภาพทกี่ อ่ ให้เกิด
การสรา้ งสรรค์วิถีการดำเนนิ ชวี ติ มีจิตสำนกึ และมสี ่วนร่วมในการจดั การทรัพยากร
และสิง่ แวดลอ้ มเพื่อการพัฒนาทย่ี ัง่ ยืน

โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๘๘

ตัวช้ีวัด

สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม

มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือ

ศาสนา ทต่ี นนับถือและศาสนาอน่ื มีศรัทธาที่ถกู ตอ้ ง ยดึ ม่ันและปฏบิ ัตติ าม

หลักธรรมเพ่อื อยู่ร่วมกันอย่างสันตสิ ุข

ส ๑.๑ ม.๑/๑ อธิบายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือสู่ประเทศไทย

ส ๑.๑ ม.๑/๒ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ที่มีต่อ

สภาพแวดลอ้ มในสังคมไทย รวมทัง้ การพัฒนาตนและครอบครัว

ส ๑.๑ ม.๑/๓ วิเคราะห์พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงบำเพ็ญทุกรกิริยา หรือประวัติ

ศาสดาที่ตนนบั ถือตามทกี่ ำหนด

ส ๑.๑ ม.๑/๔ วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก

ประวตั สิ าวก ชาดก/เรื่องเลา่ และศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามทีก่ ำหนด

ส ๑.๑ ม.๑/๕ อธิบายพุทธคุณ และข้อธรรมสำคัญในกรอบอริยสัจ ๔ หรือหลักธรรมของ

ศาสนา ที่ตนนับถือ ตามที่กำหนด เห็นคุณค่าและนำไปพัฒนาแก้ปัญหา

ของตนเองและครอบครัว

ส ๑.๑ ม.๑/๖ เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิต เพื่อการเรยี นรูแ้ ละการดำเนนิ ชีวิต ด้วยวิธีคิด

แบบโยนิโสมนสิการคือวิธีคิดแบบคุณค่าแท้–คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบ

คุณ–โทษ และทางออก หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตน

นับถือ

ส ๑.๑ ม.๑/๗ สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือ

ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนบั ถือตามที่กำหนด

ส ๑.๑ ม.๑/๘ ว ิ เ ค ร า ะ ห ์ แ ล ะ ป ฏ ิ บั ต ิ ต น ต า ม ห ล ั ก ธ ร ร ม ท า ง ศ า ส น า ท ี ่ ต น น ั บ ถื อ

ในการดำรงชีวติ แบบพอเพียง และดูแลรกั ษาสง่ิ แวดล้อมเพอื่ การอยู่ร่วมกัน

ได้อย่างสนั ติสขุ

ส ๑.๑ ม.๑/๙ วเิ คราะหเ์ หตุผลความจำเปน็ ที่ทกุ คนตอ้ งศึกษาเรียนร้ศู าสนาอ่ืนๆ

ส ๑.๑ ม.๑/๑๐ ปฏบิ ัตติ นตอ่ ศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่างๆไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ส ๑.๑ ม.๑/๑๑ วิเคราะห์การกระทำของบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์ และ

นำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติของตนเอง

ส ๑.๑ ม.๒/๑ อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศ

เพือ่ นบา้ น

ส ๑.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธ- ศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือที่ช่วย

เสรมิ สร้างความเข้าใจอันดกี บั ประเทศเพ่อื นบ้าน

โรงเรยี นร่วมจิตตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๕)

ส ๑.๑ ม.๒/๓ ๑๘๙
ส ๑.๑ ม.๒/๔
ส ๑.๑ ม.๒/๕ วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนับถอื ในฐานะที่
ส ๑.๑ ม.๒/๖ เปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณข์ องชาติและมรดกของชาติ
ส ๑.๑ ม.๒/๗ อภิปรายความสำคัญของพระพุทธ -ศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือกับ
ส ๑.๑ ม.๒/๘ การพัฒนาชมุ ชนและการจัดระเบียบสงั คม
วิเคราะห์พุทธประวัติหรือประวัติศาสดาของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ี
ส ๑.๑ ม.๒/๙ กำหนด
วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้ อคิดจาก
ส ๑.๑ ม.๒/๑๐ ประวตั ิสาวก ชาดก/เรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามทีก่ ำหนด
ส ๑.๑ ม.๒/๑๑ อธิบายโครงสร้าง และสาระสังเขปของพระไตรปิฎก หรือคัมภีรข์ องศาสนา
ที่ตนนับถอื
ส ๑.๑ ม.๓/๑ อธิบายธรรมคุณ และข้อธรรมสำคัญในกรอบอริยสจั ๔ หรือหลักธรรมของ
ส ๑.๑ ม.๓/๒ ศาสนาท่ตี นนบั ถือตามที่กำหนด เหน็ คุณคา่ และนำไปพัฒนา แก้ปัญหาของ
ส ๑.๑ ม.๓/๓ ชมุ ชนและสงั คม
ส ๑.๑ ม.๓/๔ เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตเพ่ือการเรียนรูแ้ ละดำเนินชีวิต ด้วยวิธคี ิดแบบ
ส ๑.๑ ม.๓/๕ โยนิโสมนสิการคือ วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม และวิธีคิดแบบ
ส ๑.๑ ม.๓/๖ อรรถธรรมสัมพนั ธ์ หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ
สวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรือตาม
แนวทางของศาสนาทต่ี นนบั ถอื
วิเคราะห์การปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อการดำรง
ตนอย่างเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกัน
อย่างสนั ติสุข
อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศต่างๆ
ทั่วโลก
วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือในฐานะ
ทีช่ ว่ ยสรา้ งสรรค์อารยธรรม และความสงบสขุ แก่โลก
อภิปรายความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ กับ
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและ การพฒั นาอย่างย่งั ยืน
วิเคราะห์พุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางต่างๆ หรือประวัติศาสดาที่ตน
นบั ถอื ตามทก่ี ำหนด
วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามทีก่ ำหนด
อธิบายสังฆคุณ และข้อธรรมสำคัญในกรอบอริยสัจ ๔ หรือหลักธรรมของ
ศาสนาทีต่ นนับถอื ตามท่กี ำหนด

โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ิทยา พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

ส ๑.๑ ม.๓/๗ ๑๙๐
ส ๑.๑ ม.๓/๘
เห็นคุณค่า และวิเคราะห์การปฏิบัติตนตามหลักธรรมในการพัฒนาตนเพ่ือ
ส ๑.๑ ม.๓/๙ เตรยี มพรอ้ มสำหรับการทำงาน และการมีครอบครวั
ส ๑.๑ ม.๓/๑๐ เห็นคุณค่าของการพัฒนาจติ เพื่อการเรียนรูแ้ ละดำเนินชีวิต ด้วยวิธคี ิดแบบ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑ โยนโิ สมนสิการคอื วิธคี ดิ แบบอรยิ สจั และวธิ ีคดิ แบบสบื สาวเหตปุ ัจจัย หรือ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒ การพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถือ
สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๓ ตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนบั ถือ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๔ วิเคราะห์ความแตกต่างและยอมรับวิถีการดำเนินชีวิตของศาสนิกชนใน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๕ ศาสนาอ่นื ๆ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๖ วิเคราะห์สังคมชมพูทวีป และคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๗ พระพุทธเจา้ หรือสงั คมสมยั ของศาสดาทตี่ นนับถือ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๘ วเิ คราะห์ พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ มนุษย์ผู้ฝกึ ตนได้อย่างสงู สุดในการตรัสรู้
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๙ การกอ่ ตงั้ วิธกี ารสอนและการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา หรอื วิเคราะหป์ ระวัติ
ศาสดาทีต่ นนับถือ ตามทก่ี ำหนด
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐ วิเคราะห์พุทธประวัติด้านการบริหาร และการธำรงรักษาศาสนา หรือ
วเิ คราะหป์ ระวตั ิศาสดาท่ตี นนับถือ ตามที่กำหนด
วิเคราะห์ข้อปฏิบัติทางสายกลางในพระพุทธศาสนา หรือแนวคิดของ
ศาสนาทต่ี นนับถอื ตามที่กำหนด
วิเคราะห์การพัฒนาศรัทธา และปัญญาที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนา หรือ
แนวคดิ ของศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามทีก่ ำหนด
วเิ คราะหล์ กั ษณะประชาธิปไตยในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคดิ ของศาสนา
ทตี่ นนบั ถอื ตามท่ีกำหนด
วิเคราะห์หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักวิทยาศาสตร์ หรือแนวคิด
ของศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามที่กำหนด
วิเคราะหก์ ารฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง การพึ่งตนเอง และการมงุ่ อิสรภาพใน
พระพทุ ธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามทก่ี ำหนด
วิเคราะห์พระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษาซึ่งเน้นความสัมพันธ์
ของเหตุปัจจัยกับวธิ ีการแก้ปญั หา หรอื แนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามที่
กำหนด
วิเคราะห์พระพุทธศาสนาในกาการฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และ
สันติภาพบุคคล สังคมและโลก หรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ี
กำหนด

โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๕)

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๑ ๑๙๑
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๒
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๓ วิเคราะห์พระพุทธศาสนากับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนา
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔ ประเทศแบบยงั่ ยืน หรอื แนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือตามทก่ี ำหนด
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๕ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับการศึกษาที่สมบูรณ์
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๖ การเมืองและสนั ตภิ าพหรือแนวคดิ ของศาสนาทีต่ นนบั ถือตามที่กำหนด
วิเคราะห์หลักธรรมในกรอบ อริยสัจ ๔ หรือหลักคำสอนของศาสนาที่ตน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๗ นบั ถือ
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๘ วิเคราะห์ข้อคิดและแบบอย่าง การดำเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก
เรือ่ งเลา่ และศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ตามท่ีกำหนด
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๙ วิเคราะหค์ ุณคา่ และความสำคัญของการสังคายนา พระไตรปิฎก หรอื คมั ภีร์
ของศาสนาทต่ี นนับถอื และการเผยแผ่
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๐ เชื่อมั่นต่อผลของการทำความดี ความชั่ว สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๑ ต้องเผชิญและตัดสินใจเลือกดำเนินการหรือปฏิบัติตนได้อย่างมีเหตุผล
ถูกต้องตามหลักธรรม จริยธรรม และกำหนดเป้าหมาย บทบาทการดำเนิน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๒ ชีวิตเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และอยู่ร่วมกันเป็นชาติอย่าง
สมานฉนั ท์
อธบิ ายประวตั ศิ าสดาของศาสนาอนื่ ๆ โดยสงั เขป
ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของค่านิยม จริยธรรมที่เป็นตัวกำหนด
ความเชื่อและพฤติกรรมที่แตกต่างกันของศาสนิกชนศาสนาต่างๆ เพื่อขจัด
ความขัดแย้งและ อยูร่ ว่ มกันในสังคมอยา่ งสนั ติสุข
เห็นคุณค่า เชื่อมั่น และมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตดว้ ยการพัฒนาจติ และพัฒนาการ
เรียนรู้ด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ
ศาสนาท่ีตนนบั ถือ
สวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน
หรอื ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ
วิเคราะห์หลักธรรมสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของศาสนาอื่นๆ
และชักชวน ส่งเสริม สนบั สนุนใหบ้ ุคคลอ่ืนเหน็ ความสำคัญของการทำ
ความดตี อ่ กนั
เสนอแนวทางการจัดกิจกรรม ความร่วมมือของทุกศาสนาในการแก้ปัญหา
และพฒั นาสังคม

โรงเรยี นร่วมจติ ตว์ ิทยา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๙๒

มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา

หรือศาสนาที่ตนนับถือ

ส ๑.๒ ม.๑/๑ บำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ศาสนสถานของศาสนาที่ตนนบั ถือ

ส ๑.๒ ม.๑/๒ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพื่อเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และ

ปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมตอ่ สาวกของศาสนาทตี่ นนบั ถือ

ส ๑.๒ ม.๑/๓ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่างๆ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถือตามท่ี

กำหนด

ส ๑.๒ ม.๑/๔ จดั พิธกี รรม และปฏบิ ัตติ นในศาสนพิธี พธิ กี รรมได้ถูกตอ้ ง

ส ๑.๒ ม.๑/๕ อธิบายประวัติ ความสำคัญ และ ปฏิบัติตนในวันสำคัญทางศาสนาที่ตน

นบั ถือ ตามที่กำหนดได้ถกู ต้อง

ส ๑.๒ ม.๒/๑ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ

ตามทก่ี ำหนด

ส ๑.๒ ม.๒/๒ มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนกิ ชนท่ดี ี ตามทกี่ ำหนด

ส ๑.๒ ม.๒/๓ วเิ คราะห์คุณค่าของศาสนพิธี และปฏบิ ตั ิตนไดถ้ กู ตอ้ ง

ส ๑.๒ ม.๒/๔ อธิบายคำสอนทเ่ี กยี่ วเนอ่ื งกบั วันสำคัญทางศาสนา และปฏิบตั ิตนได้ถูกต้อง

ส ๑.๒ ม.๒/๕ อธบิ ายความแตกตา่ งของศาสนพธิ ีพธิ ีกรรมตามแนวปฏิบตั ิของศาสนาอ่ืนๆ

เพ่อื นำไปสกู่ ารยอมรับ และความเข้าใจซึ่งกนั และกนั

ส ๑.๒ ม.๓/๑ วเิ คราะหห์ น้าทีแ่ ละบทบาทของสาวก และปฏบิ ตั ติ นต่อสาวกตามที่กำหนด

ได้ถูกตอ้ ง

ส ๑.๒ ม.๓/๒ ปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ บคุ คลตา่ ง ๆ ตามหลักศาสนา ตามท่ีกำหนด

ส ๑.๒ ม.๓/๓ ปฏบิ ตั หิ น้าทีข่ องศาสนกิ ชนที่ดี

ส ๑.๒ ม.๓/๔ ปฏิบตั ติ นในศาสนพิธพี ธิ กี รรมไดถ้ กู ต้อง

ส ๑.๒ ม.๓/๕ อธบิ ายประวัตวิ นั สำคัญทางศาสนาตามทีก่ ำหนดและปฏิบัติตนได้ถกู ต้อง

ส ๑.๒ ม.๓/๖ แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือ แสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาที่ตน

นับถือ

ส ๑.๒ ม.๓/๗ นำเสนอแนวทางในการธำรงรกั ษาศาสนาท่ตี นนบั ถอื

ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ปฏิบตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนท่ีดตี ่อสาวก สมาชิกในครอบครวั และคนรอบขา้ ง

ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ปฏบิ ัตติ นถูกต้องตามศาสนพิธพี ธิ ีกรรมตามหลักศาสนาทตี่ นนับถือ

ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓ แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาที่ตน

นบั ถือ

ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔ วิเคราะห์หลักธรรม คติธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวันสำคัญทางศาสนา และ

เทศกาลทส่ี ำคญั ของศาสนาท่ตี นนับถือและปฏิบตั ติ นไดถ้ กู ต้อง

โรงเรยี นรว่ มจติ ตว์ ิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๙๓

ส ๑.๒ ม.๔-๖/๕ สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ
อนั สง่ ผลถึงการพฒั นาตน พฒั นาชาตแิ ละโลก

สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ิตในสังคม

มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงามและธำรง

รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก

อยา่ งสนั ตสิ ขุ

ส ๒.๑ ม.๑/๑ ปฏบิ ัติตามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของบคุ คล

ส ๒.๑ ม.๑/๒ ระบุความสามารถของตนเอง ในการทำประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ

ส ๒.๑ ม.๑/๓ อภปิ รายเก่ียวกบั คุณคา่ ทางวัฒนธรรมที่เปน็ ปจั จยั ในการสรา้ งความสัมพันธ์

ทด่ี ีหรืออาจนำไปสูค่ วามเข้าใจผดิ ตอ่ กนั

ส ๒.๑ ม.๑/๔ แสดงออกถึงการเคารพในสิทธขิ องตนเองและผู้อืน่

ส ๒.๑ ม.๒/๑ อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน

และประเทศ

ส ๒.๑ ม.๒/๒ เห็นคุณค่าในการปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ บทบาท สทิ ธิ เสรภี าพ หน้าท่ีใน

ฐานะพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย

ส ๒.๑ ม.๒/๓ วเิ คราะหบ์ ทบาท ความสำคญั และความสัมพันธข์ องสถาบนั ทางสงั คม

ส ๒.๑ ม.๒/๔ อธบิ ายความคลา้ ยคลงึ และความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรม

ของประเทศในภมู ภิ าคเอเชีย เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจอนั ดีระหว่างกัน

ส ๒.๑ ม.๓/๑ อธบิ ายความแตกต่างของการกระทำความผิดระหวา่ งคดีอาญาและคดแี พง่

ส ๒.๑ ม.๓/๒ มสี ว่ นรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผูอ้ น่ื ตามหลักสิทธิมนษุ ยชน

ส ๒.๑ ม.๓/๓ อนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรบั วัฒนธรรมสากลทเี่ หมาะสม

ส ๒.๑ ม.๓/๔ วิเคราะห์ปจั จยั ที่ก่อใหเ้ กิดปัญหาความขัดแยง้ ในประเทศ และเสนอแนวคิด

ในการลดความขดั แย้ง

ส ๒.๑ ม.๓/๕ เสนอแนวคดิ ในการดำรงชวี ิตอย่างมีความสขุ ในประเทศและสังคมโลก

ส ๒.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว

ชมุ ชน ประเทศชาติ และสังคมโลก

ส ๒.๑ ม.๔-๖/๒ วิเคราะห์ความสำคัญของโครงสร้างทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม และ

การเปล่ยี นแปลงทางสังคม

ส ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ปฏิบตั ิตนและมสี ่วนสนับสนนุ ใหผ้ ู้อ่นื ประพฤติปฏบิ ตั ิเพ่ือเป็นพลเมืองดีของ

ประเทศชาติ และสังคมโลก

ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมนิ สถานการณส์ ิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา

ส ๒.๑ ม.๔-๖/๕ วิเคราะห์ความจำเป็นที่ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและอนุรักษ์

วฒั นธรรมไทยและเลือกรับวฒั นธรรมสากล

โรงเรยี นร่วมจิตต์วิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)

๑๙๔

มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยดึ มั่น ศรทั ธาและธำรงรกั ษา

ไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ

ส ๒.๒ ม.๑/๑ อธิบายหลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ

แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจบุ นั โดยสังเขป

ส ๒.๒ ม.๑/๒ วิเคราะห์บทบาทการถ่วงดุลของอำนาจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญแห่ง

ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปจั จบุ ัน

ส ๒.๒ ม.๑/๓ ปฏิบัติตนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ฉบับปจั จุบันท่ีเกีย่ วข้องกบั ตนเอง

ส ๒.๒ ม.๒/๑ อธิบายกระบวนการในการตรากฎหมาย

ส ๒.๒ ม.๒/๒ วิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารทางการเมืองการปกครองที่มีผลกระทบต่อ

สงั คมไทยสมัยปัจจุบนั

ส ๒.๒ ม.๓/๑ อธบิ ายระบอบการปกครองแบบตา่ ง ๆ ทีใ่ ชใ้ นยคุ ปัจจุบนั

ส ๒.๒ ม.๓/๒ วิเคราะห์ เปรียบเทียบระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอื่นๆ

ท่มี ีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย

ส ๒.๒ ม.๓/๓ วิเคราะห์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในมาตราต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ

การเลือกตัง้ การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั

ส ๒.๒ ม.๓/๔ วิเคราะห์ประเด็น ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของ

ประเทศไทยและเสนอแนวทางแกไ้ ข

ส ๒.๒ ม.๔-๖/๑ วเิ คราะหป์ ญั หาการเมอื งทสี่ ำคญั ในประเทศจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ พร้อมทั้ง

เสนอแนวทางแกไ้ ข

ส ๒.๒ ม.๔-๖/๒ เสนอแนวทาง ทางการเมืองการปกครองที่นำไปสู่ความเข้าใจและ

การประสานประโยชนร์ ่วมกันระหว่างประเทศ

ส ๒.๒ ม.๔-๖/๓ วิเคราะห์ความสำคัญและ ความจำเป็นที่ต้องธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครอง

ตามระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ

ส ๒.๒ ม.๔-๖/๔ เสนอแนวทางและมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั

โรงเรียนรว่ มจิตต์วทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๕)

๑๙๕

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์

มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค

การใช้ทรัพยากร ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ

หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื การดำรงชวี ิตอย่างมดี ลุ ยภาพ

ส ๓.๑ ม.๑/๑ อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์

ส ๓.๑ ม.๑/๒ วิเคราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมซึ่งส่งผลต่อ

เศรษฐกิจของชมุ ชนและประเทศ

ส ๓.๑ ม.๑/๓ อธิบายความเป็นมาหลักการและความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงตอ่ สังคมไทย

ส ๓.๑ ม.๒/๑ วิเคราะหป์ ัจจัยทีม่ ีผลตอ่ การลงทนุ และการออม

ส ๓.๑ ม.๒/๒ อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิต

สนิ ค้าและบริการ

ส ๓.๑ ม.๒/๓ เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง

ส ๓.๑ ม.๒/๔ อภิปรายแนวทางการคุ้มครองสิทธขิ องตนเองในฐานะผ้บู รโิ ภค

ส ๓.๑ ม.๓/๑ อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ

ส ๓.๑ ม.๓/๒ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง

ส ๓.๑ ม.๓/๓ วเิ คราะหค์ วามสัมพันธ์ระหวา่ งแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงกับระบบสหกรณ์

ส ๓.๑ ม.๔-๖/๑ อภิปรายการกำหนดราคาและคา่ จ้างในระบบเศรษฐกิจ

ส ๓.๑ ม.๔-๖/๒ ตระหนักถึงความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อเศรษฐกิจ

สงั คมของประเทศ

ส ๓.๑ ม.๔-๖/๓ ตระหนักถึงความสำคัญของระบบสหกรณ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับ

ชุมชนและประเทศ

ส ๓.๑ ม.๔-๖/๔ วิเคราะหป์ ัญหาทางเศรษฐกิจ ในชมุ ชนและเสนอแนวทางแกไ้ ข

มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ

ความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก

ส ๓.๒ ม.๑/๑ วิเคราะห์บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของสถาบันการเงินแต่ล ะ

ประเภทและธนาคารกลาง

ส ๓.๒ ม.๑/๒ ยกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นการพึ่งพาอาศัยกัน และการแข่งขันกันทาง

เศรษฐกิจในประเทศ

ส ๓.๒ ม.๑/๓ ระบปุ จั จยั ทีม่ อี ทิ ธิพลตอ่ การกำหนด อปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน

ส ๓.๒ ม.๑/๔ อภปิ รายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา

โรงเรยี นรว่ มจติ ต์วทิ ยา พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๕)


Click to View FlipBook Version