The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuryupo, 2021-09-26 03:57:06

คณิตป.1เล่ม1

คณิตป.1เล่ม1

ค่มู อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

7+9=

๑๖

14 - 5 =



13 - 8 =



ตรวจสอบความเข้าใจ สิ่งท่ไี ด้เรยี นรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ของการเรยี น การแก้โจทย์ปญั หาทำ�ได้โดย อ่านท�ำ ความเขา้ ใจปัญหา
ในชว่ั โมงน้ี ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียน วางแผนวธิ คี ดิ ซ่ึงอาจใชก้ ารวาดรปู หาคำ�ตอบ
เขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ใน หน้า 244 ครูควรใหน้ ักเรียนได้อ่านโจทย์ทีละข้อและ
แนะนำ�วเิ คราะห์สว่ นท่โี จทยถ์ ามและสว่ นท่โี จทยบ์ อก อาจให้ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.11 หนา้ 146-148
นักเรยี นทำ�วงลอ้ มรอบสว่ นทีโ่ จทยถ์ ามและขดี เส้นใต้สว่ น
ทีโ่ จทยบ์ อกก็ได้ จากนัน้ ครยู ังคงใชค้ �ำ ถามเดมิ เพอื่ เปน็ การ
ย้ำ�ทวน เช่น โจทย์ถามอะไร หาคำ�ตอบได้อย่างไร ใชว้ ธิ ี
การคิดหาค�ำ ตอบอยา่ งไร แล้วจึงใหน้ กั เรียนท�ำ ดว้ ยตนเอง

หากพบวา่ นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจทค่ี ลาดเคลอ่ื น ครอู าจ
จดั กจิ กรรมเสริมรายกลมุ่ ยอ่ ย โดยใหน้ ักเรยี นได้อธบิ าย
โจทยป์ ัญหาจากภาพ และหาคำ�ตอบโดยใช้ภาพ หรือให้
นักเรยี นฝกึ เรียงบตั รโจทย์ปญั หา อา่ นวเิ คราะหท์ ีละส่วน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  263

ค่มู ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 20
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

5.12 โจทยป์ ญั หาการบวก
และโจทยป์ ญั หาการลบ (2)

จุดประสงค์

นกั เรยี นสามารถแสดงวธิ หี าค�ำ ตอบ
ของโจทย์ปญั หาการบวกและ
โจทยป์ ญั หาการลบของจำ�นวนนับ
ไมเ่ กนิ 20 และ 0

สอื่ การเรยี นรู้
• ดอกไมก้ ระดาษ
• แถบจ�ำ นวน
• ปา้ ยชื่อคล้องคอ
• บตั รค�ำ วันนี้ เมอื่ วานนี้
• มะพรา้ วกระดาษ

แนวการจดั การเรียนรู้

ครอู าจสรา้ งสถานการณจ์ �ำ ลองโจทยป์ ญั หาจากภาพในหนงั สอื เรยี นหนา้ 245 โดยใหน้ กั เรยี นแสดงบทบาทเปน็ แกว้ ตา
และใบบวั มีป้ายชื่อ ใบบวั แกว้ ตา คล้องคอนักเรียนสองคนเก็บดอกไม้ท่ีครูติดไวบ้ นกระดานตามจำ�นวนในแบบเรยี น

ครเู ขียนโจทยป์ ญั หาบนกระดานให้นักเรียนไดอ้ ่านโจทย์ปญั หาพร้อมกันและบอกส่วนทโี่ จทย์บอก กบั สว่ นท่โี จทยถ์ าม

จากนั้นถามนักเรยี นว่า

จะหาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร โดยครใู หน้ กั เรียนเสนอแนวคดิ ที่ใชใ้ นการวิเคราะห์โจทย์ (ใบบัวเกบ็ ดอกไมไ้ ด้มากกวา่ แกว้ ตา

กี่ดอก เปน็ โจทย์ปญั หาทีใ่ ช้การเปรียบเทียบหาวา่ ต่างกนั อยู่เท่าไร ดังน้ันต้องน�ำ ไปลบ) ใหน้ ักเรียนบอกประโยคสญั ลกั ษณ์

แลว้ ครูเขียนบนกระดาน และถามนักเรียนวา่

• จากประโยคสัญลกั ษณจ์ ะหาคำ�ตอบได้อย่างไร

ครคู วรเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงแนวคดิ และหาค�ำ ตอบ จากน้ันครตู ิดแถบจ�ำ นวนแสดงการเปรียบเทียบบน

กระดานใหน้ ักเรียนชีว้ ่า สว่ นท่ตี ่างกันอยูค่ อื เทา่ ไร แลว้ จงึ เติมคำ�ตอบในประโยคสญั ลกั ษณ์ และสรปุ ค�ำ ตอบ อกี ทัง้ ให้

นักเรยี นตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ

12 – 8 = 12 – 8 = 4

สรุปไดว้ ่าใบบวั เกบ็ ดอกไมไ้ ดม้ ากกว่าแกว้ ตา 4 ดอก

264  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครอู าจจัดกจิ กรรมตดิ บตั รค�ำ เมอื่ วานน้แี ละวนั นี้บนกระดาน ครแู จกมะพรา้ วกระดาษให้นกั เรียนคนละผล
เลา่ เปน็ สถานการณเ์ มอ่ื วานนพ้ี อ่ ของแกว้ ตาเกบ็ มะพรา้ วได้ 9 ผล ครสู มุ่ ใหน้ กั เรยี นน�ำ มะพรา้ วไปตดิ ทก่ี ระดานจนครบ 9 ผล ดงั รปู

เมื่อวานน้ี
ครูใชค้ ำ�ถาม วันน้เี กบ็ ได้มากกวา่ เมอ่ื วาน 6 ผล จะทราบได้อย่างไรว่าวนั นเี้ กบ็ ได้ทง้ั หมดกผ่ี ล
ให้นกั เรยี นเสนอวธิ ีการหาคำ�ตอบ พรอ้ มแสดงวธิ คี ดิ (ได้มากกว่าและถามหาท้ังหมด จำ�นวนผลไมท้ ีไ่ ดต้ อ้ งมมี าก
ดงั นั้นจงึ น�ำ มาบวกกนั โดยเอาจำ�นวนมะพรา้ วท่ีเก็บได้ของเมอื่ วานนบี้ วกกับจ�ำ นวนท่เี ก็บไดม้ ากกว่าของวนั น้ี)
ให้นกั เรียนเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ (9 + 6 = ) และชว่ ยกันหาค�ำ ตอบ (9 + 6 = 15) ขณะครตู รวจสอบคำ�ตอบ
และอธิบายครอู าจให้นักเรยี นน�ำ มะพรา้ วมาตดิ บนกระดานตามจำ�นวนของวันนท้ี เ่ี กบ็ ได้แลว้ ชว่ ยกนั วเิ คราะห์ ตามรปู
เมอ่ื วานนี้
วันนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  265

คู่มือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 20
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

11 - 6 =



12 + 8 =

๒๐

แนวการจัดการเรียนรู้

ครูสามารถจดั กจิ กรรมดงั นี้ ใหน้ ักเรยี นแถบอา่ นโจทย์ปญั หาในหนังสอื เรียน ครูใช้คำ�ถาม เชน่

• สว่ นที่โจทยบ์ อกคอื อะไร
• สว่ นท่ีโจทยถ์ ามคืออะไร
• จะหาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร

ตวั อยา่ งเช่น ข้อ 1 ครสู ามารถ ครตู ดิ บัตรคำ� สว่ นท่โี จทย์ถาม ส่วนทโ่ี จทยบ์ อก ให้นักเรียนไปติดแถบขอ้ ความสว่ นที่
โจทย์ถาม (มีชมพู่นอ้ ยกว่ามงั คดุ กกี่ โิ ลกรัม) โจทย์บอก (มีชมพู่ 6 กิโลกรมั มมี งั คุด 11 กโิ ลกรัม)

• จากนนั้ อภปิ รายถามนกั เรยี นว่า นกั เรยี นจะหาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร (มีชมพูน่ ้อยกวา่ มงั คุดกีก่ โิ ลกรัม เปน็ การเปรยี บ

เทยี บหา่าต่างกนั อย่เู ท่าไร ดงั นน้ั ต้องน�ำ ไปลบ)
และให้นกั เรยี นเตมิ ประโยคสัญลกั ษณต์ ามหนังสือเรียนด้วยตนเอง จากน้ันให้นักเรียนหาค�ำ ตอบจากประโยค
สัญลกั ษณ์ ซง่ึ ครูสามารถให้นักเรยี นเขียนแถบจ�ำ นวนแสดงการเปรยี บเทียบตามภาพในหนังสือเรยี น และให้นักเรียน
ชี้สว่ นต่างให้ถกู ตอ้ งทุกคน ข้อที่ 2 ครูกจ็ ัดการเรียนรใู้ นท�ำ นองเดียวกัน

266  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 20
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

14 - 9 =



12 - 3 =



10 + 6 =

๑๖

ตรวจสอบความเข้าใจ สิ่งท่ีได้เรยี นรู้

เพื่อให้สอดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของ การแก้โจทยป์ ญั หาทำ�ได้โดย อา่ นทำ�ความเข้าใจปญั หา

การเรียนในชั่วโมงนี้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น วางแผนวธิ คี ิด ซ่ึงอาจใชก้ ารวาดรปู หาค�ำ ตอบ

โดยใหน้ ักเรียนอา่ นโจทย์ปญั หาโดยการอา่ นออกเสยี งพรอ้ ม และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

กัน วิเคราะห์สว่ นท่โี จทย์บอก และส่วนทโี่ จทย์ถาม และ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.12 หนา้ 149 -151
พิจารณารว่ มกันว่าโจทยถ์ ามหาอะไร จะหาคำ�ตอบได้อยา่ งไร

แล้วใหน้ กั เรยี นเขียนประโยคสญั ลักษณ์ด้วยตนเอง หาค�ำ

ตอบและสรปุ ค�ำ ตอบหนา้ 248 ข้ออื่น ๆ ครูทำ�เช่นเดยี วกัน

ควรใหน้ กั เรียนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณด์ ว้ ยตนเองเพอ่ื เปน็

การตรวจสอบความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง เพราะหากพบวา่

นักเรยี นไมส่ ามารถเขียนประโยคสัญลักษณไ์ ด้ถกู ต้องแสดง

ว่านักเรียนยงั ไม่สามารถวเิ คราะห์และทำ�ความเข้าใจกบั

โจทยไ์ ด้ ครูควรจัดกิจกรรมกลุม่ ยอ่ ยเสริมความเขา้ ใจให้กบั

นักเรียน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  267

คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

5.13 โจทยป์ ญั หาการบวก
และโจทยป์ ญั หาการลบ (3)

จดุ ประสงค์

นักเรียนสามารถหาคำ�ตอบของ
โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หา
การลบของจ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 20 และ 0

สื่อการเรียนรู้
• ช้ันวางหนังสือ
• หนังสือจ�ำ นวน 12 เลม่

แนวการจดั การเรียนรู้

ครอู าจสรา้ งสถานการณจ์ ำ�ลองจากภาพในหนงั สือเรียนหนา้ 249 โดยวางหนังสือ 12 เลม่ ส่มุ นักเรยี นแสดงละครเปน็
ใบบวั โดยใหใ้ บบวั อา่ นหนงั สอื และนบั จ�ำ นวนหนงั สอื ทต่ี นเองอา่ นพรอ้ มกบั พดู วา่ “มหี นงั สอื 12 เลม่ อา่ นไปแลว้ 7 เลม่
ต้องอ่านอีกก่เี ล่มจงึ จะครบ 12 เลม่ ” ครตู ิดโจทย์ปัญหาบนกระดานให้นักเรยี นอา่ นออกเสียง ใหน้ ักเรยี นช่วยกันวิเคราะห์
สว่ นท่ีโจทยบ์ อก ส่วนทีโ่ จทยถ์ าม และนักเรยี นจะหาค�ำ ตอบได้อย่างไร ครูสนทนากบั นักเรียน ดงั นี้

• อา่ นหนังสือไปแล้ว 7 เลม่ ยังต้องอา่ นอีกกเ่ี ลม่ จงึ จะครบ 12 เลม่
• เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณเ์ พอ่ื หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าไดอ้ ย่างไร
ครูให้นักเรยี นแสดงประโยคสัญลกั ษณ์ 7+ =12 นกั เรยี นแสดงวิธีคดิ หาค�ำ ตอบโดยคดิ วา่ 7
บวกจำ�นวนใดได้ 12 ซ่ึงจ�ำ นวนทมี่ าบวกกับ 7 แลว้ ได้ 12 คือ 5 คำ�ตอบ 5 อาจได้มาจากหลากหลายวิธี
เช่น การนับตอ่ การใชค้ วามสมั พนั ธ์ของจำ�นวนแบบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวมกไ็ ดใ้ นขณะเดียวกันนักเรียนสามารถเขยี น
ประโยคสัญลกั ษณจ์ ากโจทย์ปัญหานี้ได้เป็น 12 – 7 = 5 กไ็ ด้

268  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

แนวการจัดการเรียนรู้

ครใู หน้ กั เรียนพิจารณาภาพในหนังสือเรียนหนา้ 250 สนทนากับนกั เรียนเกี่ยวกบั การรู้จกั ให้ คือการบริจาค
หลงั จากน้นั นกั เรยี นอ่านโจทย์ปญั หาพรอ้ มกนั ครูใช้คำ�ถาม

• สว่ นท่ีโจทยบ์ อกคืออะไร
• สว่ นท่โี จทย์ถามคอื อะไร
• เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร
• หนังสอื มีกเ่ี ลม่ (ยังไม่ทราบจ�ำ นวนหนงั สอื ทั้งหมด)

ครูแนะน�ำ ว่า ถา้ เราไมท่ ราบค่า ให้ใช้กล่องแทนตัวไม่ทราบค่าและบริจาคไปแลว้ 4 เป็นการแบง่ ออก หมายถงึ
การลบและเหลือ 11 เลม่ ซง่ึ โจทย์ปัญหานี้จะเขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ - 4 = 11 จากนน้ั นกั เรยี นอา่ นประโยค
สัญลักษณ์พร้อมกนั “จำ�นวนใดลบดว้ ย 4 เทา่ กบั 11” ใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงวิธีคิดหาคำ�ตอบโดยการใช้ความสัมพนั ธ์
ของจ�ำ นวนแบบส่วนยอ่ ย-สว่ นรวม หรอื การใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการบวกบวกลบ เม่อื ไดค้ ำ�ตอบแลว้ ใหน้ กั เรียนตรวจสอบ
ความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  269

ค่มู ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1

20 - = 9

๑๑

+ 5 = 14



แนวการจัดการเรยี นรู้

ครคู วรใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทยป์ ญั หาพรอ้ มกนั ทลี ะขอ้ โดยวเิ คราะหส์ ง่ิ ทโ่ี จทยบ์ อกและสง่ิ ทโ่ี จทยถ์ าม และรว่ มกนั วเิ คราะห์
วา่ จะเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณเ์ พ่ือหาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ได้อย่างไร หลังจากนั้นจงึ ให้นักเรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์
20 – = 9 และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียง “20 ลบดว้ ยจ�ำ นวนใดได้ 9” เปิดโอกาสให้นกั เรียนได้แสดงวธิ ีคิดหาค�ำ ตอบ
จากประโยคสัญลกั ษณ์ ซึ่งนกั เรียนอาจหาค�ำ ตอบโดยใช้ความสัมพันธข์ องจำ�นวนแบบส่วนย่อย-สว่ นรวม หรือความสมั พันธ์
ของการบวกและบวกลบก็ได้ ข้อ 2 ครกู ใ็ ช้วธิ ีการจัดกิจกรรมเชน่ เดียวกนั

270  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

8 + = 16



+ 6 = 12



ตรวจสอบความเขา้ ใจ ส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้

เพ่อื ให้สอดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ นการเรียน การแกโ้ จทย์ปัญหาทำ�ไดโ้ ดย อ่านทำ�ความเข้าใจปญั หา
ของชั่วโมงน้ี ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยให้ วางแผนวธิ ีคิด ซ่ึงอาจใช้การวาดรปู หาคำ�ตอบ
นกั เรียนอา่ นโจทย์ปัญหาพรอ้ มกนั วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หา และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล
โดยใชค้ �ำ ถาม ใหน้ กั เรยี นบอกสว่ นทโ่ี จทยบ์ อก สว่ นทโ่ี จทยถ์ าม
แล้วให้นักเรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์และหาค�ำ ตอบ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.13 หนา้ 152-154
ดว้ ยตนเอง หน้า 252 ซ่ึงนกั เรียนสามารถเขยี นประโยค
สญั ลักษณ์ไดม้ ากกวา่ 1 แบบ เชน่

8 + = 16 หรอื 16 – 8 =
+ 5 = 14 หรอื 14 – 5 =

หลังจากน้ันเฉลยรว่ มกัน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  271

คู่มอื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนับไม่เกิน 20
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

5.14 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากภาพ

จุดประสงค์

นกั เรยี นสามารถสร้างโจทยป์ ัญหาการลบ
หรอื โจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพทก่ี �ำ หนดให้

สือ่ การเรยี นรู้
• ภาพรปู วัว แพะ และแกะ
• ภาพไก่
• ภาพมะมว่ ง
• ภาพฝร่งั
• ภาพชมพู่

แนวการจัดการเรียนรู้

ครูตดิ ภาพววั 8 ตวั แพะ 11 ตวั และแกะ 4 ตัว ขนาด A3 บนกระดานใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกว่ามสี ัตว์อะไรบา้ ง
แตล่ ะชนิดมีจำ�นวนเทา่ ใด ครูเขยี นชอ่ื สตั ว์แต่ละชนิดและจำ�นวนสตั วบ์ นกระดานดงั นี้ มีแพะ 11 ตัว มวี วั 8 ตัว
มแี กะ 4 ตวั นกั เรียนตอบได้ไหมว่า มแี พะและวัวรวมกนั กต่ี ัว

ครูเขยี นบนกระดาน มแี พะ 11 ตัว มีววั 8 ตวั (มใี นภาพ) ครูใช้คำ�ถาม มแี พะและวัวรวมกนั กี่ตัว
ครบู อกนักเรียนวา่ การสร้างโจทย์ปญั หามสี ว่ นทโ่ี จทยบ์ อกคือ มแี พะ 11 ตัว มวี ัว 8 ตัว และสว่ นท่ีโจทย์ถาม คือ มีแพะ
และวัวรวมกนั ก่ีตัว สว่ นทีโ่ จทยถ์ ามเปน็ โจทย์ปญั หาการบวก
นักเรียนช่วยกันสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกอืน่ ๆ เชน่ มีแพะ 11 ตัว มีแกะ 4 ตวั มแี พะและแกะรวมกันก่ีตัว หรอื
มีววั 8 ตัว มแี กะ 4 ตัว มีวัวและแกะกี่ตัว ครูย�ำ้ เร่อื งสว่ นทโ่ี จทยบ์ อกและสว่ นท่โี จทยถ์ าม
จากนนั้ ครยู กตัวอย่างโจทย์ปญั หาบนกระดานดงั น้ี

มีแกะ 4 ตวั มีแพะ 11 ตัว มแี พะมากกวา่ แกะกต่ี วั

ครถู ามนกั เรยี นวา่ เป็นโจทย์ปญั หาการบวกหรือโจทย์ปัญหาการลบ (โจทยป์ ัญหาการลบ) ครูให้นกั เรยี นบอกส่วน
ทีโ่ จทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม

ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ วา่ โจทยถ์ ามวา่ มีแพะมากกว่าแกะก่ีตัว เปน็ การเปรยี บเทียบจำ�นวนแกะและแพะ
ครใู ห้นักเรียนช่วยกนั สรา้ งโจทยป์ ัญหาการลบและครูเขียนโจทย์ปัญหาทน่ี ักเรยี นชว่ ยกันสร้างบนกระดาน ดงั นี้

• มแี กะ 4 ตวั มีวัว 8 ตวั มวี ัวมากกวา่ แกะกี่ตัว
• มีวัว 8 ตวั มีแพะ 11 ตวั มีววั นอ้ ยกวา่ แพะกตี่ วั
• มีวัวและแกะรวมกนั 12 ตัว เป็นววั 8 ตวั เปน็ แกะก่ตี วั
ครคู วรยำ้�วา่ โจทย์ปญั หาประกอบดว้ ยส่วนท่ีโจทย์บอกและส่วนทีโ่ จทย์ถาม

272  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

แนวการจดั การเรียนรู้

ครูติดภาพไก่ตามหนงั สือเรียนหน้า 254 ขนาด A3 บนกระดาน แลว้ น�ำ สนทนากับนกั เรยี นเก่ยี วกบั รายละเอียด
ของภาพ เชน่ มไี ก่อยใู่ นเล้า 7 ตวั อยู่นอกเล้า 5 ตวั

ครใู ห้นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกจากภาพ เม่ือสรา้ งโจทย์ปัญหาเสรจ็ แลว้ ครูนำ�โจทยป์ ญั หา
เปน็ ตัวอย่างเขียนบนกระดาน เชน่

• มีไก่อยูใ่ นเล้า 7 ตวั อยู่นอกเลา้ 5 ตวั มไี กท่ ัง้ หมดกี่ตัว

จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ แล้วเขียนบนกระดาน เชน่

• มไี กอ่ ยใู่ นเล้า 7 ตัว อยนู่ อกเล้า 5 ตวั มีไกใ่ นเลา้ มากกวา่ อย่นู อกเลา้ กตี่ วั
• มไี กอ่ ยใู่ นเลา้ 7 ตวั อย่นู อกเลา้ 5 ตวั มไี ก่อยนู่ อกเล้านอ้ ยกว่าอยใู่ นเลา้ กตี่ วั
• มไี กท่ ง้ั หมด 12 ตัว อยู่นอกเล้า 5 ตวั มไี ก่อย่ใู นเล้ากตี่ ัว
• มีไกท่ ้งั หมด 12 ตัว อยู่ในเล้า 7 ตวั มีไกอ่ ยู่นอกเล้ากี่ตัว

ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยครยู �้ำ เก่ียวกับการสรา้ งโจทยป์ ัญหาตอ้ งมีสว่ นทโี่ จทย์บอกและ
ส่วนทโี่ จทยถ์ าม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  273

คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 20
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

ตนกลา มีมะมว งสุกอยใู นถาด 15 ผล อยูในตะกรา 3 ผล
ตน กลามมี ะมว งสกุ ทงั้ หมดกผี่ ล

15 + 3 =

ตนกลามีมะมวงสกุ อยูใ นถาด 15 ผล อยูในตะกรา 3 ผล
ตน กลามีมะมว งสุกในถาดมากกวา ในตะกรากี่ผล

15 - 3 =

* คาํ ตอบอาจแตกตางจากนีใ้ หอ ยใู นดลุ ยพินจิ ของผสู อน

แนวการจดั การเรยี นรู้

ครตู ิดภาพมะม่วงตามหน้า 255 บนกระดาน ครถู ามนกั เรยี น วา่ คนนำ�มะม่วงมาเพิ่มมะม่วงในถาด หรือนำ�มะม่วง
ออกจากถาด ถ้านำ�มะมว่ งมาเพิ่มในถาดสรา้ งเป็นโจทย์ปัญหาการบวก ถา้ น�ำ มะม่วงออกจากถาดสร้างเป็นโจทย์ปัญหา
การลบ ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั สรา้ งโจทย์ปัญหา

นักเรียนสร้างโจทยป์ ัญหาการลบโดยการเอาออก เช่น มีมะม่วงในถาด 18 ผล น�ำ มาใส่ตะกรา้ 3 ผล เหลอื มะม่วงใน
ถาดกีผ่ ล หรือ โจทย์ปญั หาการลบโดยการเปรียบเทียบ เชน่

มมี ะมว่ งในถาด 15 ผล มีมะม่วงในตะกร้า 3 ผล มมี ะมว่ งในตะกร้านอ้ ยกว่ามะมว่ งในถาดกผ่ี ล
หรอื โจทย์ปญั หาการลบโดยใช้ความสมั พนั ธข์ องจำ�นวนแบบส่วนยอ่ ย-ส่วนรวม เชน่

มมี ะมว่ งทง้ั หมด 18 ผล มะมว่ งอยใู่ นถาด 15 ผล มะม่วงอย่ใู นตะกรา้ กี่ผล

274  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

ฉนั มีฝรง่ั 5 ผล มชี มพู 14 ผล ฉนั มฝี ร่ังและชมพรู วมกันกผี่ ล

5 + 14 =

ฉันมีฝรง่ั 5 ผล มชี มพู 14 ผล ฉนั มีฝรง่ั นอยกวาชมพกู ี่ผล

14 - 5 = * คาํ ตอบอาจแตกตางจากนใี้ หอยูในดลุ ยพินจิ ของผสู อน

ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ที่ได้เรียนรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ องการเรยี น การสรา้ งโจทยป์ ญั หาต้องมที ัง้ สว่ นทโี่ จทย์บอก
ในชว่ั โมงนต้ี รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยใหน้ กั เรยี น และส่วนทโ่ี จทย์ถาม
สร้างโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ
พรอ้ มเขยี นประโยคสญั ลกั ษณต์ ามหนงั สอื เรยี นหนา้ 256 จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.14 หนา้ 155-156
ซง่ึ ครคู วรย�ำ้ นกั เรยี นว่าโจทย์ปัญหามีสว่ นทีโ่ จทยบ์ อกและ
ส่วนท่ีโจทยถ์ าม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  275

คูม่ ือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

5.15 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาจาก
ประโยคสญั ลกั ษณ์

จุดประสงค์

นักเรียนสามารถสรา้ งโจทย์ปญั หา
การบวกหรอื โจทย์ปัญหาการลบ
จากประโยคสัญลกั ษณ์ทก่ี �ำ หนด

ส่ือการเรียนรู้

• บตั รตวั เลข 1 ถงึ บตั รตัวเลข 9
จ�ำ นวน 2 ชุด
• บตั รภาพ บัตรภาพสง่ิ ตา่ ง ๆ
ท่ใี นบตั รมสี ่งิ ของ 2 อยา่ ง เชน่
ภาพทีม่ ไี ขไ่ ก่กบั ไข่เป็ด
หรอื ภาพตุก๊ ตาหมกี ับตกุ๊ ตาช้าง

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครจู ดั กิจกรรมดงั นี้ เช่น
1. ครูสุ่มนกั เรียนมา 2 คน ให้นักเรยี นคนท่ีหนง่ึ หยิบ
บตั รตวั เลขจากชุดท่ี 1 นกั เรียนคนทส่ี องหยิบบัตรตัวเลขจาก บัตรตัวเลข บัตรภาพ
ชดุ ท่ี 2
2. ใหน้ ักเรยี นหยิบบตั รภาพข้ึนมา 1 บัตร 9+8 =
3. ครูเขียนประโยคสญั ลักษณ์การบวก 9–8 =
และประโยคสัญลักษณ์ การลบ โดยใช้ตวั เลขบนบตั รของ
นกั เรียนบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันสร้างโจทย์ นกั เรียนอาจสรา้ งโจทย์ปญั หา
ปัญหาจากประโยคสัญลักษณ์ โดยให้มีเร่ืองราวเก่ยี วกับ • มไี ข่ไก่ 9 ฟอง มีไขเ่ ป็ด 8 ฟอง มีไข่ไก่และไข่เปด็ ท้งั หมด
ภาพที่หยิบได้
กีฟ่ อง
276  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • มีไข่ไก่ 9 ฟอง มไี ข่เป็ด 8 ฟอง มีไข่ไก่มากกว่าไข่เป็ด

กี่ฟอง

คู่มือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครเู ขยี นประโยคสัญลักษณก์ ารบวก เช่น 14 + 5 = บนกระดานให้นกั เรยี นจับคกู่ นั เพ่ือสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก
จากนัน้ ครนู ำ�โจทยป์ ัญหาท่ีนกั เรียนสรา้ งเขยี นบนกระดานเพอื่ ให้นักเรียนชว่ ยกนั พจิ ารณาวา่ เปน็ โจทยป์ ัญหาการบวก
ท่ถี กู ตอ้ งและเหมาะสมหรือไม่

ครเู ขียนประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ เช่น 19 – 6 = และใหน้ กั เรยี นจบั คู่กันสร้างโจทย์ปญั หาการลบ ครนู ำ�โจทย์
ปัญหาการลบของนักเรียนมาเขียนบนกระดานควรเป็นโจทยป์ ัญหาการลบการเอาออก การเปรยี บเทยี บ และหาสว่ นใด
ส่วนหน่งึ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันพิจารณาวา่ เปน็ โจทยป์ ัญหาการลบท่ถี ูกต้องและเหมาะสมหรือไม่

ครตู ้องยำ�้ ว่าโจทยป์ ัญหามีส่วนท่ีโจทย์บอก และส่วนทีโ่ จทยถ์ าม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  277

คู่มอื ครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 20
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

ฉันมเี งิน 8 บาท แมใหอ ีก 7 บาท ฉนั มีเงินทั้งหมดกบ่ี าท

พอ มีไก 17 ตวั ใหลงุ ไป 8 ตวั พอเหลอื ไกก ีต่ ัว

* คําตอบอาจแตกตางจากนใี้ หอ ยใู นดุลยพินจิ ของผูสอน

แนวการจดั การเรียนรู้

ครคู วรสนทนากับนกั เรียนเกี่ยวกับสถานการณ์ท่สี ามารถน�ำ มาสร้างโจทยป์ ัญหาจากประโยคสัญลกั ษณ์ การบวกและ
ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ เชน่ สถานการณ์เกี่ยวกบั สตั วเ์ ล้ยี ง ผลไม้ เครอื่ งเขียน เปน็ ตน้ แลว้ ให้นักเรยี นจบั ค่กู นั สรา้ งโจทย์
ปัญหาตามหนังสือเรียนหนา้ 259 ในกระดาษ แลว้ น�ำ มาใหค้ รพู จิ ารณาความถกู ตอ้ งและเหมาะสมรว่ มกันแลว้ จงึ ให้นักเรียน
เขยี นลงในสมุด

278  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

ฉันมหี นงั สอื การตนู 9 เลม แมซ ือ้ ใหอีก 3 เลม
ฉนั มหี นังสอื การต นู ทงั้ หมดก่ีเลม

หนูมีขนมเทียน 13 ชิ้น แจกเพื่อนไป 7 ชนิ้ เหลอื ขนมเทียนกีช่ ้ิน

* คาํ ตอบอาจแตกตางจากนใ้ี หอยใู นดลุ ยพนิ จิ ของผูส อน

ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ อง การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมที ง้ั สว่ นทโ่ี จทยบ์ อก
การเรยี นในชว่ั โมงน้ี ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น และสว่ นทโ่ี จทยถ์ าม
โดยใหน้ กั เรยี นสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หา
การลบจากประโยคสญั ลกั ษณ์ หนา้ 260 (ซ่ึงครคู วรยำ�้ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หดั 5.15 หนา้ 157
นักเรยี นวา่ การสร้างโจทยป์ ัญหาต้องมทั้งีสว่ นท่ีโจทยบ์ อก
และส่วนท่โี จทย์ถาม)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  279

คู่มอื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 20
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

รับแลว้ แบง่

อุปกรณ์

• บัตรตวั เลข 1 ถงึ บัตรตัวเลข 19
• เบ้ยี บรรจุถงุ ถุงละ 10 อนั
จำ�นวนถงุ เท่ากบั จ�ำ นวนนกั เรียน

เตรยี มสถานท่ี

ใช้โต๊ะเรยี นภายในหอ้ งเรียน
ระเบียงหนา้ หอ้ ง หรือพน้ื ทีโ่ ลง่
ภายในโรงเรียน มโี ต๊ะ 1 ตวั
ส�ำ หรบั วางอปุ กรณ์

วิธีจัดกิจกรรม

จัดกิจกรรมรับแลว้ แบง่ ดังนี้
1. นกั เรียนแต่ละคนหยิบบตั รตวั เลขคนละ 1 ใบ
2. นักเรยี นจบั ค่กู ันโดยใหต้ วั เลขที่แสดงจ�ำ นวนบนบัตรมีผลบวกเปน็ 20
3. นกั เรยี นแต่ละครู่ บั ถุงเบ้ยี 2 ถุง แล้วให้แบง่ เบ้ยี เท่ากับจำ�นวนในบัตรตัวเลขของแต่ละคน โดยหาวธิ แี บ่งให้รวดเร็ว

ท่สี ดุ (ครูบอกนักเรียนวา่ เบี้ยแต่ละถุงมี 10 อนั )
4. นักเรยี นแตล่ ะคนู่ ำ�เสนอวธิ แี บ่งเบีย้
5. ครใู ห้นักเรียนบอกด้วยวา่ การแบ่งเบ้ียของนกั เรยี นสามารถเขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์การบวก หรอื เขียนเปน็

ประโยคสัญลกั ษณ์การลบได้ เช่น
แบ่งเบย้ี ใหเ้ พื่อน 2 อนั เขียนเป็น 10 – 2 = 8
เพ่ือนใหเ้ บี้ยมา 2 อนั เขยี นเป็น 10 + 2 = 12

280  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

แบบทดสอบบทท่ี 5

เป็นตัวอย่างแบบทดสอบท่ีใช้ในการประเมินเพ่ือพัฒนานักเรียนหากมีนักเรียนคนใดที่ไม่ผ่านการทดสอบครูควร
ให้นักเรียนคนน้ันฝึกทักษะมากขึ้นโดยอาจใช้แบบฝึกเสริมจากหนังสือเสริมเพิ่มปัญญาของสสวท.หรือแบบฝึกอื่นท่ี
เห็นว่าสมควร ซง่ึ แบบทดสอบท้ายบทนี้มีจ�ำ นวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที
และวิเคราะห์เป็นรายจดุ ประสงคไ์ ด้ดังนี้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อท่ี
12
หาผลบวกในประโยคสญั ลักษณ์การบวกของจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 20 และ 0 34
56
หาผลลบในประโยคสัญลักษณก์ ารลบของจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 20 และ 0
หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสัญลักษณ์การลบของจำ�นวนนับ 7 8 9 10
ไมเ่ กนิ 20 และ 0
แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20 และ 0

เขียน × ทบั ตัวเลอื กทเี่ ปน็ คำ�ตอบท่ถี ูกตอ้ ง

1. สงั เกตเส้นจ�ำ นวน 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ตรงกบั ประโยคสญั ลักษณ์ในข้อใด

ก. 16 – 4 = 12 ข. 12 + 4 = 16 ค. 8 + 8 = 16

2. ข้อใดเป็นการหาผลบวกโดยการบวกครบสิบ

ก. 7 + 2 + 4 = 9 + 4 ข. 6 + 3 + 4 = 9 + 4 ค. 6 + 3 + 4 = 10 + 3
= 13 = 13 = 13

3. จากภาพ ตรงกับประโยคสัญลักษณ์ในข้อใด

ก. 4 + 7 = 11 ข. 11 - 4 = 7 ค. 7 - 4 = 3

4. 18 - 9 = * ข้อใดแสดงการหาผลลบโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวนได้ถูกต้อง

ก.

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ข.

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ค.

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  281

คูม่ ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 20
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

5. * - 6 = 7 ขอ้ ใดแสดงวธิ ีคดิ หาตวั ไม่ทราบคา่

ก. 7 - 6 = * ข. 13 - 6 = * ค. 6 + 7 = *

6. 8 + * = 15 คำ�ตอบตรงกบั ข้อใด

ก. 6 ข. 7 ค. 9

7. วนั แรกแพรเกบ็ มะม่วงได้ 8 ผล วนั ท่สี องเกบ็ ได้ 4 ผล แพรเกบ็ มะมว่ งได้ทง้ั หมดก่ผี ล ขอ้ ใดคอื ส่วนที่โจทยถ์ าม
ก. วันแรกแพรเกบ็ มะม่วง 8 ผล
ข. วนั ทสี่ องเก็บได้ 4 ผล
ค. แพรเก็บมะมว่ งได้ทั้งหมดก่ผี ล

8. ขอ้ ใดเปน็ โจทยป์ ญั หาการบวก

ก. อ่านหนงั สอื นิทานได้ 5 เลม่ อ่านหนังสอื ประวัติศาสตร์ได้ 11 เล่ม อา่ นหนังสือได้ท้ังหมดก่ีเลม่
ข. มแี ตงโม 13 ชิ้น แบ่งใหย้ ่า 4 ชิน้ เหลอื แตงโมก่ีช้นิ
ค. แดงมีขนมลูกชบุ 13 ชิ้น ด�ำ มี 7 ชิ้น แดงมขี นมลูกชุบมากกวา่ ด�ำ กช่ี ้ิน

9. ในตะกร้ามีไขไ่ กแ่ ละไขเ่ ป็ด 13 ฟอง เป็นไขเ่ ปด็ 6 ฟอง เปน็ ไขไ่ ก่กฟี่ อง เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ได้อยา่ งไร

ก. 13 – 6 = * ข. 13 + 6 = * ค. 13 – 7 =*

10. พลอยซักผ้าไปแลว้ 8 ผืน ตอ้ งซกั อกี กผี่ นื จงึ จะครบ 12 ผืน

ก. ต้องซักอกี 20 ผนื
ข. ต้องซกั อกี 4 ผนื
ค. ตอ้ งซกั อีก 8 ผนื

เฉลย

1. ข
2. ค
3. ข
4. ก
5. ค
6. ข
7. ค
8. ก
9. ก
10. ข

282  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

แบบทดสอบบทที่ 6

เป็นตัวอย่างแบบทดสอบที่ใช้ในการประเมินเพื่อพัฒนานักเรียนหากมีนักเรียนคนใดท่ีไม่ผ่านการทดสอบครูควร
ให้นักเรียนคนน้ันฝึกทักษะมากข้ึนโดยอาจใช้แบบฝึกเสริมจากหนังสือเสริมเพ่ิมปัญญาของสสวท.หรือแบบฝึกอ่ืนที่
เห็นวา่ สมควร ซง่ึ แบบทดสอบทา้ ยบทน้มี ีจำ�นวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที
และวเิ คราะห์เป็นรายจุดประสงคไ์ ด้ดงั น้ี

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขอ้ ที่

1. ใชข้ ้อมลู จากแผนภมู ิรูปภาพในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา เมื่อกำ�หนด 1 รปู แทน 1 หน่วย 1 2 3 และ 4

1. รปู ที่ก�ำ หนดในแตล่ ะข้อควรอยใู่ นกลมุ่ ใด เขยี น × ทับกลมุ่ สิ่งของท่เี ลอื ก (4 คะแนน)

รูปที่กำ�หนด กลุ่มสง่ิ ของ กล่มุ สิง่ ของ
1)

2)

3)

4)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  283

คมู่ ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

2. พจิ ารณารปู ต่อไปน้ี ใหเ้ ขียนรอยขีด หรอื และเขียนตวั เลขแสดงจ�ำ นวนปลาแต่ละชนิดในอา่ งเล้ยี งปลา
(4 คะแนน)

ปลาชนิดต่างๆ รอยขดี จ�ำ นวน
ตัวอย่าง 2
||
1)

2)

3)

4)

284  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

3. พิจารณาแผนภูมิรปู ภาพ แลว้ เติมคำ�ตอบ (5 คะแนน)
ดาวความดที ่ี เดก็ ชายภาคณิ สะสมได้ใน 5 วนั

วนั จันทร์ วนั องั คาร วนั พธุ วันพฤหสั บดี วันศุกร์

1) วนั ………………………………..เดก็ ชายภาคนิ สะสมดาวความดีได้น้อยท่ีสุด
2) วนั .......................................…………………........................เดก็ ชายภาคินสะสมดาวความดีไดเ้ ทา่ กนั
3) วนั .......................................เด็กชายภาคินสะสมดาวความดีได้มากกว่าวนั ......................................อยู่ 4 ดวง
4) ใน 5 วนั น้ี เดก็ ชายภาคิณสะสมดาวความดีไดร้ วม………………………….ดวง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  285

ค่มู อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

4. ในอ่างน�ำ้ มปี ลาหลายสี ระบายสีปลาในแผนภูมิรูปภาพตามจำ�นวนปลาสตี ่างๆ ในอ่างน�้ำ แลว้ เตมิ ค�ำ ตอบ
(7 คะแนน)

ปลาสตี า่ ง ๆ ในอ่าง

กำ�หนดให้ 1 รปู แทนจำ�นวนปลา 1 ตัว

1) ในอา่ งน�ำ้ มปี ลาส.ี ...................นอ้ ยทส่ี ุด
2) ในอา่ งน�ำ้ มปี ลาส.ี ...................และปลาส.ี .....................เท่ากนั
3) ในอา่ งนำ้�มีปลาสี....................มากกว่าปลาส.ี .....................อยู่ 2 ตัว

286  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมริ ูปภาพ
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1 กลุ่มสิง่ ของ

เฉลย รปู ทกี่ �ำ หนด กล่มุ สิง่ ของ
1.

1)

2)

3)

4)

2. รอยขดี จำ�นวน
2
ปลาชนดิ ต่างๆ ||
ตัวอย่าง 5
10
1) 4
2
2)
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  287
3)

4)

คูม่ อื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมิรปู ภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

เฉลย
3.

1) วัน…ศ…ุก…ร…์ ……………………..เดก็ ชายภาคนิ สะสมดาวความดไี ดน้ ้อยท่สี ดุ
2) วนั ...จ..ัน...ท...ร..์ .แ..ล..ะ...ว..ัน..อ...ัง..ค..า..ร.....…………………........................เด็กชายภาคนิ สะสมดาวความดีได้เท่ากัน
3) วนั ...พ...ธุ .................................เด็กชายภาคินสะสมดาวความดีไดม้ ากกวา่ วัน......ศ..กุ ..ร..์..........................อยู่ 4 ดวง
4) ใน 5 วันนี้ เด็กชายภาคณิ สะสมดาวความดไี ดร้ วม…………1…3…………….ดวง

4.

1) ในอา่ งน้ำ�มปี ลาส.ี ..ฟ...า้ ..............น้อยที่สุด
2) ในอา่ งนำ้�มีปลาส.ี ..แ..ด..ง.............และปลาส.ี .เ.ข...ยี ..ว..............เทา่ กนั
3) ในอ่างน�ำ้ มปี ลาส.ี ..แ..ด..ง.............มากกวา่ ปลาสี........เ..ข..ีย..ว........อยู่ 2 ตวั

หรือ ปลาสสี ม้ มากกว่าปลาสีแดง

288  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวดั น้ำ�หนัก
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

แบบทดสอบบทท่ี 7

เป็นตัวอย่างแบบทดสอบที่ใช้ในการประเมินเพื่อพัฒนานักเรียนหากมีนักเรียนคนใดท่ีไม่ผ่านการทดสอบครูควร
ให้นักเรียนคนนั้นฝึกทักษะมากข้ึนโดยอาจใช้แบบฝึกเสริมจากหนังสือเสริมเพ่ิมปัญญาของสสวท.หรือแบบฝึกอื่นท่ี
เห็นวา่ สมควร ซ่งึ แบบทดสอบท้ายบทนม้ี ีจ�ำ นวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใช้เวลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที
และวเิ คราะห์เป็นรายจุดประสงคไ์ ด้ดังนี้

จดุ ประสงคการเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี
1. บอกได้วา่ ส่งิ ใด หนักกวา่ เบากว่า หนกั เทา่ กนั หนกั ท่สี ดุ เบาท่สี ดุ 237
2. ชงั่ และบอกนำ้�หนักเปน็ กิโลกรมั เปน็ ขดี 1 6 10
3. เปรียบเทียบนำ้�หนัก เปน็ กิโลกรัม เป็นขีด
4. แกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบเกยี่ วกับนำ�้ หนกั 8
4 59

เขยี น × ทับตวั เลือกทีเ่ ป็นคำ�ตอบที่ถูกต้อง

1. ขอ้ ใดหนว่ ยนำ้�หนกั ของทเุ รยี น 1 ลูก คอื

ก. กิโลกรมั ข. ขดี ค. กิโลกรมั และขีด

2. พจิ ารณาภาพ

รปู ที่ 1 รูปท่ี 2

ในรูปที่ 2 ถ้าวาง บนจานขา้ งซา้ ยของเครื่องชง่ั สองแขนอย่างงา่ ย จานข้างขวาจะใช้ กอี่ นั
จงึ จะอยู่ในระดับเดยี วกนั
ข. มากกวา่ 7 อนั ค. นอ้ ยกวา่ 6 อัน
ก. 6 อนั

3. กล่องนุ่นและกลอ่ งถ่วั ลิสงขนาดเทา่ กนั บรรจเุ ตม็ กลอ่ ง ขอ้ ความใดถกู ตอ้ ง

ก. น่นุ หนักกว่าถวั่ ลิสง ข. นุน่ เบากว่าถ่ัวลิสง ค. นุ่นและถ่วั ลิสงหนกั เท่ากนั

4. พานใบหนงึ่ หนกั 9 ขีด พานท่ีมีดอกไมจ้ นั ทนว์ างอยหู่ นกั 13 ขีด ดอกไม้จนั ทน์ทน่ี ำ�ไปวางเบากว่าพานก่ีขดี

ก. 4 ข. 5 ค. 6

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  289

คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวัดน�ำ้ หนกั
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1
3
5. ให้ หนกั เทา่ กับ ค. ถุง 3 เบาท่สี ุด

12

ข้อความใดถกู ตอ้ ง ข. ถุง 2 หนกั เท่ากบั ถุง 3
ก. ถงุ 1 เบากวา่ ถุง 3

6. พิจารณาภาพ เติมค�ำ ตอบ

2 2 หนกั ................... กิโลกรมั
20 4 20 4 หนกั ................... กโิ ลกรัม
18 6 18 6
16 8 16 8

14 12 10 14 12 10

7. จติ อาสาหวิ้ น้�ำ ด่ืม แจกให้แก่ประชาชน รู้สกึ วา่ น�้ำ ดมื่ น่าจะหนัก 2 กโิ ลกรัม

แจกแลว้ เหลอื อยู่ นกั เรยี นคาดคะเนวา่ นำ�้ ดมื่ ทเี่ หลืออยนู่ ่าจะหนกั กก่ี โิ ลกรัม

8. เขยี นเข็มช้ีท่ีหน้าปัดของเครอื่ งชัง่ สปรงิ ทช่ี ัง่ ผักชี โดยทผี่ กั ชีเบากว่าผกั คะน้า 3 ขีด

290  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 7 | การวดั น้�ำ หนกั
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

9. พิจารณาภาพ แล้วตอบคำ�ถาม

ขยะรไี ซเคลิ หนัก 16 กิโลกรมั เปน็ ขยะยอ่ ยสลายยาก ขยะใช้ประโยชน์ได้

ถ้าเหลอื ขยะท่ีน�ำ ไปใช้ประโยชนใ์ หม่ได้ 9 กโิ ลกรัม ขยะยอ่ ยสลายยากปนอยูก่ ีก่ ิโลกรัม
10. ขนมแตล่ ะกล่องมีขนาดเท่ากันให้นกั เรียนเขยี นเขม็ ชท้ี เ่ี ครอ่ื งชัง่ สปรงิ ที่ชง่ั ขนม 1 กลอ่ ง และขนม 3 กลอ่ ง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  291

คู่มือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวัดนำ�้ หนกั
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

เฉลย หนกั 7 กิโลกรมั

1. ค
2. ก
3. ข
4. ก
5. ค
6. หนกั 4 กิโลกรัม
7. 1 กิโลกรมั
8.

9. 7 กโิ ลกรัม
10.

292  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวิชาพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ริ ูปภาพ
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

บทที่ 6 แผนภูมริ ูปภาพ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสาระสำ�คญั

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำ�คญั

นักเรยี นสามารถ xxแผนภมู ริ ปู ภาพเปน็ การใชร้ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนของ สง่ิ ตา่ งๆ
xxส่วนท้ายของแผนภูมิคอื ข้อกำ�หนดของแผนภูมริ ูปภาพ
1. ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำ�ตอบ รปู ภาพทแ่ี ทนสิง่ เดยี วกันต้องเป็นรูปภาพทเ่ี หมือนกนั
ของโจทยป์ ญั หาเมื่อก�ำ หนด 1 รปู แทน 1 หน่วย และมขี นาดเท่ากนั
xxรอยขดี | ใช้ในการบนั ทึกข้อมูล แลว้ นำ�ขอ้ มลู
(เนอื้ หาในหัวขอ้ 6.1 - 6.3) มาแสดงเปน็ แผนภูมริ ูปภาพโดยรปู ภาพ 1 รูป แทน
รอยขีด 1 ขดี

ตารางการวิเคราะห์เน้ือหากบั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

หัวข้อ เนือ้ หา ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

jklmn

เตรยี มความพรอ้ ม  
6.1 การอ่านแผนภูมริ ปู ภาพอย่างง่าย
6.2 การอา่ นแผนภมู ริ ูปภาพ  
6.3 รอยขดี กับแผนภูมริ ปู ภาพ

ร่วมคิดร่วมท�ำ




ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

j การแก้ปญั หา k การสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
l การเชอ่ื มโยง
m การให้เหตุผล n การคิดสรา้ งสรรค์

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  293

คู่มอื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ริ ูปภาพ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ค�ำ สำ�คัญ

แผนภมู ิรปู ภาพอยา่ งงา่ ย
แผนภมู ริ ูปภาพ ข้อกำ�หนด
รอยขีด

ความรหู้ รือทกั ษะพืน้ ฐาน
• การสงั เกต
• การจ�ำ แนก
• การจดั กลมุ่
• การนับ
• การเปรียบเทยี บ

เวลาท่ีใชจ้ ัดการเรยี นรู้

5 ชวั่ โมง

สือ่ และแหล่งเรียนรู้

1. หนังสอื เรยี นหน้า 262 -277
2. แบบฝกึ หดั หน้า 159 - 168
3. เอกสาร แบบบันทกึ ใบกจิ กรรม และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ท่ีใช้ในการท�ำ กิจกรรม ดงั นี้

• แผนภูมริ ปู ภาพตา่ ง ๆ เช่น แผนภูมริ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนนักเรียนที่กนิ ผลไมช้ นิดต่าง ๆ
• แผนภูมิรปู ภาพแสดงไอศกรมี รสต่าง ๆ ท่ีนักเรียนกินในงานเลี้ยงปใี หม่
• อุปกรณต์ ่าง ๆ เชน่ Graph grid กระดาษโพสอทิ กระดาษสติกเกอร์หน้าคนยม้ิ
• บัตรภาพต่าง ๆ เช่น บัตรภาพลกู โปง่ 4 สีไดแ้ ก่ สสี ม้ สีเขียว สชี มพู สีฟา้ บตั รภาพอาหาร
• บตั รภาพขนม

294  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรูปภาพ
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

แนวการจัดการเรยี นรู้

ใช้ขอ้ มลู ในหนงั สอื เรยี นหน้าเปิดบท เพ่ือกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นเห็นความจำ�เป็นเกย่ี วกบั การเก็บและรวบรวมข้อมูล
และการน�ำ เสนอข้อมลู ในรปู แผนภูมริ ปู ภาพโดยใชค้ ำ�ถาม เชน่

• เห็นอะไรจากภาพ (เด็ก 4 คนอยู่ในงานเล้ยี งวันปีใหม)่
• คณุ ครถู ามค�ำ ถามอะไร (งานเลย้ี งปใี หมน่ ้ี นักเรียนสว่ นใหญ่ชอบกินอาหารอะไรมากทีส่ ุด)
• คณุ ครูทราบหรือยงั ว่านักเรยี นในหอ้ งชอบกนิ อาหารอะไรมากทส่ี ุด (ยัง)
• คุณครูต้องทำ�อยา่ งไร (ใช้การถามนกั เรยี นทุกคน)
คณุ ครแู นะน�ำ วา่ ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการสอบถามตอ้ งน�ำ มาจดั เรยี งใหมใ่ หส้ ะดวกตอ่ การน�ำ ไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ เราเรยี กวา่
การนำ�เสนอขอ้ มูลในบทนี้เราจะได้เรยี นเก่ยี วกับการน�ำ เสนอข้อมูลในรูปแผนภมู ริ ูปภาพ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  295

คมู่ ือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

แนวการจัดการเรยี นรู้

ตรวจสอบความรู้พ้นื ฐานของนักเรียนเรือ่ งการสังเกต 3
การจ�ำ แนกการจดั กลมุ่ รวมถงึ การนบั โดยก�ำ หนดสถานการณ์
ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ เตรยี มความพร้อม พร้อมแจกกระดาษ 13
รูปหมวกท้งั 3 แบบจ�ำ นวนเท่ากับในหนงั สือใหน้ กั เรียนกลมุ่ นับจาํ นวนหมวกทน่ี ักเรยี นใสมารวมงาน
ละ 1 ชุด จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันจัดกลุ่มหมวกท่ีเหมอื น * ขอ1 และขอ 3 คําตอบของนกั เรียนอาจแตกตา งจากนี้
กันอยกู่ ลุม่ เดยี วกัน นำ�เสนอวิธีการจัดกล่มุ หมวก
พรอ้ มบอกเหตผุ ล/เกณฑใ์ นการจดั จากนน้ั ใหน้ กั เรยี น 2
เตมิ ค�ำ ตอบตามหนงั สอื หนา้ 264

ครูถามค�ำ ถามเพ่ิมเตมิ เช่น แตล่ ะกลมุ่ มหี มวกกี่ใบ
จดั กลมุ่ หมวกแบบอ่ืนได้อกี หรอื ไม่ จัดอย่างไร

ส�ำ หรบั ค�ำ ถามในกรอบดา้ นลา่ งครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่
ชว่ ยกันแกป้ ัญหา โดยครูอาจถามคำ�ถามชว่ ยในการหาค�ำ ตอบ

* คาํ ตอบอาจแตกตา งจากนี้

เช่น
• สถานการณ์เดิมมนี กั เรยี นใสห่ มวกสีแดงกี่คน (4 คน)

• สถานการณ์ใหม่ต้องมนี กั เรียนใส่หมวกสีแดงกี่คน (4 คน) เปล่ยี นไปหรือไม่ อยา่ งไร (ไมเ่ ปลย่ี น เทา่ เดมิ )

• สถานการณเ์ ดมิ มนี กั เรียนใส่หมวกสรี ุ้งกค่ี น (5 คน)

• สถานการณใ์ หมต่ ้องมนี ักเรียนใสห่ มวกสรี ุ้งก่ีคน (5 คนเทา่ เดิม หรอื อาจจะมากข้ึนเป็น 6 7 8 …)

• สถานการณ์เดมิ มนี กั เรียนใสห่ มวกสนี �ำ้ เงินกี่คน (4 คน)

• สถานการณ์ใหม่ต้องมนี ักเรยี นใส่หมวกสีนำ�้ เงินกค่ี น (6 คน หรอื อาจจะมากขึ้นเปน็ 7 8 9…) เพราะเหตใุ ด
(นกั เรยี นใส่หมวกสีน�ำ้ เงนิ ตอ้ งมากกว่านกั เรียนใสห่ มวกสรี ้งุ 1 คนเสมอ)

• แสดงว่ามนี ักเรียนใสห่ มวกมาร่วมงานเพม่ิ กคี่ น (2 คน หรอื 4 คน หรอื 6 คน หรือ 8 คน ตามล�ำ ดับ)
ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันสรุปจ�ำ นวนนักเรียนทใ่ี ส่หมวกแตล่ ะแบบ โดยครตู รวจสอบให้ถูกตอ้ งตามเงอ่ื นไข
แตอ่ าจจะไม่จำ�เป็นตอ้ งอธบิ ายเปน็ กรณีท่วั ไป
ครอู าจจัดกิจกรรมเพม่ิ เติมโดยใชบ้ ตั รภาพแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ เชน่ ผลไมช้ นิดต่าง ๆ ไมเ่ กนิ 4 ชนดิ ใหน้ ักเรียนจดั กลมุ่
ผลไม้ทีเ่ หมอื นกนั อยู่กลมุ่ เดยี วกัน ซ่ึงนกั เรียนอาจจดั ได้เป็นผลไมป้ ระเภทเดียวกนั อยกู่ ลมุ่ เดยี วกันหรือผลไม้ที่มีสีเดียวกัน
อยู่กลุ่มเดยี วกัน หรือผลไม้ทต่ี อ้ งปอกเปลอื กกบั ผลไม้ทีไ่ มต่ อ้ งปอกเปลอื กจากนั้นให้นักเรียนนำ�เสนอวิธีการจดั กลมุ่ ผลไม้
พรอ้ มบอกเหตุผล/เกณฑใ์ นการจดั

296  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

6.1 การอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพอย่างงา่ ย

จุดประสงค์

นักเรียนสามารถอ่านและตอบค�ำ ถามจาก
แผนภูมริ ูปภาพอยา่ งงา่ ย

สื่อการเรยี นรู้
• บตั รภาพลูกโปง่ 4 สี ได้แก่ สีสม้ สเี ขยี ว สีชมพู สีฟา้
• Graph grid
• แผนภูมริ ูปภาพแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นทก่ี ินผลไม้

ชนดิ ต่าง ๆ ในงานเลี้ยงปใี หม่
• แผนภมู ริ ปู ภาพแสดงไอศกรมี รสตา่ ง ๆ ทนี กั เรยี นกนิ
• กระดาษโพสอิท

แนวการจัดการเรียนรู้

ครูกำ�หนดสถานการณ์ปัญหาในหนังสือเรยี นหนา้ 265 ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ใช้บตั รภาพลกู โป่งท้ัง 4 สี
ชว่ ยในการแกป้ ญั หาทกี่ �ำ หนด พรอ้ มช่วยกนั บอกวธิ ีในการแกป้ ญั หาซึ่งจะไดว้ ธิ ที ีห่ ลากหลาย เช่น จัดกลุม่ ลูกโป่งตามสี
แลว้ นบั จ�ำ นวนลูกโปง่ แตล่ ะสี หรือนบั จำ�นวนลกู โปง่ ทลี ะสโี ดยท�ำ รอยขีดบนภาพทนี่ บั แล้ว/เลื่อนภาพที่นับแล้วไปไว้ดา้ นข้าง
ครกู ระตนุ้ ให้นกั เรียนหาวธิ จี ดั ลกู โปง่ แบบอ่นื โดยใช้คำ�ถาม เช่น

• มีวธิ จี ดั ลูกโปง่ แบบอน่ื อีกหรอื ไม่

• ถา้ จดั ลกู โป่งเปน็ กลมุ่ ตามสจี ะจัดลกู โป่งไดก้ ก่ี ล่มุ (4 กล่มุ )

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  297

ค่มู อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมริ ูปภาพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

สีชมพู

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครใู ห้นกั เรียนจัดบัตรภาพลูกโป่งเรยี งเปน็ แถวตามสบี นกระดาน อาจเรยี งในแนวต้ังหรอื แนวนอนกไ็ ด้ จากนั้นครเู ขียน
ตารางแบง่ กลุ่มลูกโป่งแตล่ ะสีพร้อมเขียนชอื่ สกี �ำ กับทีท่ า้ ยตาราง ครแู นะนำ�ว่าการจัดเรียงลักษณะนเี้ ป็นการนำ�เสนอข้อมลู
ในรูปของแผนภูมิรูปภาพซงึ่ เปน็ แผนภมู ิทีใ่ ช้รปู ภาพแสดงจ�ำ นวนของสิ่งตา่ ง ๆ ครูถามคำ�ถามเพอ่ื ให้นกั เรยี นพิจารณา
องค์ประกอบส�ำ คญั ของแผนภมู ริ ปู ภาพและบอกขอ้ มลู ทท่ี ราบจาก แผนภมู ริ ปู ภาพวา่ “รปู ภาพทแ่ี สดงในแผนภมู นิ ค้ี อื รปู อะไร
(ลกู โปง่ สตี า่ ง ๆ)” “มลี ูกโปง่ กส่ี ี (4 ส)ี ” “มตี ารางกช่ี ่อง (4 ชอ่ ง)” “แตล่ ะสมี จี �ำ นวนเทา่ ใด (สฟี ้า 4 ลกู สีส้ม 4 ลกู สเี ขียว 5 ลกู
สีชมพู 3 ลูก)”“ลกู โปง่ ทแี่ สดงในแผนภูมิเป็นลูกโปง่ ท่ีใชท้ ำ�อะไร (ใช้ตกแตง่ ห้องเรยี นในงานเล้ียง)” ครแู นะน�ำ ช่ือแผนภูมิ
“ลูกโป่งสตี ่าง ๆ ทีใ่ ชต้ กแต่งห้องเรียน” พรอ้ มเขยี นบนกระดาน จากนั้นถามคำ�ถามเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นฝกึ อ่านขอ้ มลู จากแผนภมู ิ
รปู ภาพ เช่น

xxนกั เรยี นใช้ลกู โป่งสอี ะไรตกแตง่ ห้องเรียนน้อยทส่ี ุด (สชี มพู)
xxนักเรยี นใชล้ ูกโป่งสีอะไรตกแต่งห้องเรยี นมากที่สดุ (สีเขียว)
xxนักเรยี นใชล้ ูกโปง่ สีอะไรเทา่ กนั ในการตกแตง่ หอ้ งเรียน (สฟี ้าและสีส้ม)
xxนักเรยี นใช้ลูกโปง่ สีอะไรตกแตง่ ห้องเรยี นมากกว่าสีส้มอยู่ 1 ลูก (สีเขียว)
xxนักเรยี นใช้ลูกโปง่ สอี ะไรตกแตง่ หอ้ งเรียนน้อยกว่าสเี ขยี วอยู่ 2 ลูก (สีชมพ)ู

298  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

3 แอสปมเปล
3
8
แอปเปล 2

1

แนวการจดั การเรียนรู้

ครตู ิดแผนภูมริ ูปภาพในหนังสือเรียนหน้าพฒั นาความรู้ 267 บนกระดาน ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั บอกสง่ิ ที่ทราบ
จากแผนภูมิรปู ภาพ เชน่ มจี �ำ นวนนักเรยี นทก่ี ินส้ม 3 คน มีจำ�นวนนักเรียนท่กี ินชมพู่ 4 คน มีจ�ำ นวนนักเรียนกนิ สม้ เทา่ กบั
นักเรยี นที่กินกลว้ ย จากนั้นใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ตอบค�ำ ถามในหนงั สอื เรยี น

ส�ำ หรบั ค�ำ ถามในกรอบดา้ นลา่ ง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเดก็ ทก่ี นิ กลว้ ยเพม่ิ อกี 1 คน บนแผนภูมริ ูปภาพ จากนั้นถามวา่
“ตอนนี้มีนกั เรียนกินกล้วยทัง้ หมดกีค่ น (4 คน)” และถามวา่ “ผลไม้ชนดิ ใดท่นี กั เรียนกินน้อยท่ีสุด (สม้ ) ”

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  299

คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

วานิลลาและสตรอวเ บอรร่ี 8
2
ช็อคโกแลต

4

ตรวจสอบความเขา้ ใจ สิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ องการเรยี น • แผนภูมิรูปภาพเป็นแผนภูมิท่ีใช้รูปภาพแสดงจ�ำ นวน
ในชั่วโมงนี้ ครตู รวจสอบความเข้าใจโดยให้นกั เรียนอา่ น ของสงิ่ ตา่ ง ๆ
ข้อมลู แผนภูมริ ปู ภาพและตอบคำ�ถามในหนา้ 268 ซง่ึ • ชอ่ื แผนภูมิบอกให้รู้วา่ แผนภูมริ ปู ภาพนน้ั แสดงอะไร
กจิ กรรมนม้ี ีจุดประสงคเ์ พอื่ ตรวจสอบว่า นักเรยี นสามารถ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 6.1 หนา้ 159 - 161
อา่ นแผนภมู ิรูปภาพอยา่ งง่ายไดห้ รอื ไม่ ส�ำ หรบั ค�ำ ถามใน
กรอบด้านลา่ ง จะเน้นให้นักเรยี นไดพ้ ัฒนาทักษะการแก้
ปญั หาโดยนกั เรียนตอ้ งวิเคราะห์สถานการณป์ ัญหาที่กำ�หนด
ให้และเลอื กใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมิรปู ภาพในการแก้ปัญหาใน
ท่นี ้นี ักเรยี นตอ้ งอา่ นแผนภมู ิและทราบว่านักเรียนกินไอศกรีม
รสชอ็ คโกแลตไป 5 อนั ถา้ ครูเตรียมไอศกรีมไวร้ สละ 5 อัน
แสดงว่าไอศกรมี รสช็อคโกแลตหมดแล้ว ทำ�นองเดยี วกัน
จะพบว่ามไี อศกรมี รสวานลิ ลาเหลือ 2 อนั และ
รสสตรอวเ์ บอรร์ เ่ี หลอื 2 อนั แสดงวา่ เหลอื ไอศกรมี ทง้ั หมด 4 อนั

300  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ริ ูปภาพ
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

6.2 การอ่านแผนภูมริ ูปภาพ

จดุ ประสงค์

นกั เรียนสามารถใช้ข้อมลู จากแผนภูมริ ปู ภาพ
ในการหาคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหา เมือ่ ก�ำ หนด 1 รปู
แทน 1 หน่วย

สือ่ การเรยี นรู้
• บัตรภาพอาหารชนิดต่าง ๆ 4 ชนดิ
• กระดาษโพสอทิ หรอื กระดาษสตกิ เกอรห์ นา้ คนยม้ิ
• Graph grid
• Graph Grid ที่มีวงกลม 10 วงแตล่ ะแถว
• แผนภมู ิรปู ภาพแสดงจำ�นวนนักเรียนท่ีชอบกนิ

อาหารชนิดตา่ ง ๆ ในงานเลยี้ งปใี หม่
• บตั รภาพสถานการณ์ขนมทเี่ หลือจากงานเลีย้ ง
• แผนภูมริ ูปภาพแสดงขนมไทยที่เหลือเมอ่ื
งานเลี้ยงเลกิ (ในแนวนอน)
• แผนภูมริ ูปภาพแสดงขนมไทยท่เี หลอื เมือ่
งานเลย้ี งเลิก (ในแนวตัง้ )

แนวการจดั การเรยี นรู้

ครูอาจจดั กิจกรรมสำ�รวจอาหารท่ีนกั เรียนในหอ้ งชอบกนิ มากทีส่ ดุ โดยสอบถามนักเรยี นว่า “นกั เรยี นอยากกนิ อาหาร
ชนดิ ใดมากทสี่ ุดในงานเลี้ยงปใี หม่” หรือ “นักเรียนชอบกินอาหารชนดิ ใดมากทส่ี ุดในงานเล้ยี งปใี หม่” ซ่งึ นกั เรยี นอาจจะตอบ
หลากหลายครูเลือกเขยี นชื่ออาหารทนี่ กั เรยี นเลอื กมา 4 ชนดิ บนกระดาน จากนนั้ ครตู ดิ ตารางส�ำ หรบั ทำ�แผนภมู บิ นกระดาน
พร้อมเขียนชื่ออาหารในแตล่ ะช่อง จากนน้ั ใหน้ กั เรยี น ทกุ คนออกมาตดิ สตกิ เกอรห์ นา้ คนยม้ิ (หรอื ใชก้ ระดาษโพสอทิ เขียนช่ือ
นักเรียนแทนได้) ในชอ่ งอาหารทต่ี นเลอื กหรอื ครอู าจใชข้ อ้ มลู จากหนงั สอื เรยี นหนา้ 269 จากนน้ั ครถู ามค�ำ ถามเพอ่ื ใหน้ กั เรยี น
พจิ ารณาองคป์ ระกอบสำ�คัญของแผนภมู ิรปู ภาพ ดงั นี้

• มอี าหารกช่ี นดิ (4 ชนดิ ) อะไรบา้ ง (ตอบตามความจรงิ )

• มตี ารางกช่ี อ่ ง (4 ชอ่ ง) แตล่ ะชอ่ งแสดงจ�ำ นวนของอะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบ/ตอ้ งการกนิ อาหารชนดิ ตา่ งๆทง้ั 4 ชนดิ )

• แผนภมู นิ แ้ี สดงอะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบ/ตอ้ งการกนิ อาหารชนดิ ต่าง ๆ ในงานเลี้ยงปใี หม)่ จากน้นั ครูเขียน
ชอ่ื แผนภูมิบนกระดาน “จำ�นวนนักเรียนท่ชี อบ/ต้องการกนิ อาหารชนิดต่าง ๆ ในงานเลยี้ งปีใหม่”

• รปู ภาพทใ่ี ชใ้ นแผนภมู มิ รี ปู อะไรบา้ ง (มรี ปู หนา้ คนยม้ิ เพยี งแบบเดยี ว) รูปภาพแต่ละรปู แทนอะไร (แทนนักเรียน 1 คน)

• รปู ภาพทใี่ ช้ในแผนภมู ินแี้ ตกต่างจากแผนภมู ิรปู ภาพอยา่ งง่ายทเ่ี ราเรยี นในช่ัวโมงก่อนหน้าอย่างไร (ภาพทใี่ ช้เปน็ ภาพ
เดียวกนั ท้งั แผนภูมิ แตแ่ ผนภมู ิรูปภาพอย่างงา่ ยจะใช้รปู จริงซึ่งแตล่ ะชอ่ งจะใช้รปู ทแ่ี ตกต่างกันได้)
ครูเขียนข้อก�ำ หนดของแผนภมู ิรปู ภาพใต้แผนภมู ิ และแนะนำ�ว่าส่วนทา้ ยของแผนภมู ริ ูปภาพคือขอ้ กำ�หนดของ
แผนภูมิรปู ภาพ รูปภาพทแ่ี ทนสิง่ เดียวกันต้องเป็นรปู ภาพท่ีเหมือนกันและมขี นาดเท่ากัน จากน้นั ครถู ามคำ�ถามเพอื่ ให้
นกั เรียนฝกึ อา่ นข้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพ เช่น มีนกั เรยี นชอบกิน….ก่ีคน อาหารชนดิ ใดท่คี นชอบกนิ น้อยท่สี ุด อาหารชนดิ ใด
ที่คนชอบกนิ มากทีส่ ดุ ถา้ ครูเลือกเตรียมอาหารเพียง 3 ชนิดครูควรเลือกเตรยี มอะไร เพราะเหตุใด

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  301

คู่มือครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

ไกทอด ไสกรอก เกี๊ยวทอด ลกู ช้ินปง

เพราะมนี ักเรียนชอบกนิ มากกวา 3 คน
* คําตอบของขอ6 อาจแตกตา งจากนี้

แนวการจัดการเรยี นรู้

ในกรณที ่ีครไู มไ่ ดใ้ ช้หนังสือเรยี นหน้า 269 ให้นกั เรียนย้อนกลบั ไปดู ถามนักเรียนวา่ “ครูไพลนิ ถามนกั เรียนวา่ อะไร”
(ชอบกนิ อาหารอะไรมากท่ีสุดในงานเลยี้ งปใี หม่) พรอ้ มตดิ ขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากการสอบถามบนกระดานและแนะนำ�วา่ ส่งิ ท่ไี ด้จาก
การสอบถามนี้เรยี กวา่ ข้อมลู จากนั้นครสู นทนากบั นกั เรยี นเพ่อื ใหน้ กั เรยี นเหน็ วา่ จากข้อมูลทไี่ ด้สามารถน�ำ เสนอเป็นแผนภูมิ
รูปภาพได้โดยใช้ค�ำ ถาม ดงั น้ี

• มีอาหารกีช่ นิด (4 ชนดิ ) อะไรบา้ ง (ไก่ทอด ลกู ชนิ้ ปง้ิ เก๊ียวทอด ไส้กรอก)

• ในแผนภมู ริ ูปภาพควรมีชอ่ งกชี่ ่อง (4 ชอ่ ง) อะไรบา้ ง (ไกท่ อด ลกู ชิ้นปิง้ เก๊ยี วทอด ไสก้ รอก)

• ครตู ดิ ตารางส�ำ หรบั ท�ำ แผนภูมิรปู ภาพพรอ้ มเขียนชือ่ อาหารท้ัง 4 ชนิดในชอ่ งแต่ละชอ่ ง

• นกั เรยี นชอบกินไก่ทอดกคี่ น ใครบ้าง (7 คน ไดแ้ ก่ นิชา จินนี่ ภมี อลนั ขวญั นวล นารา)

ถา้ ใช้รปู 1 รปู แทนนกั เรยี น 1 คน ดงั นนั้ ตอ้ งใชร้ ูป กร่ี ูป แทนจำ�นวนนักเรียนทช่ี อบกนิ ไก่ทอด (7 รูป)

ครูติดรปู เรียงเปน็ แนวตัง้ ใหค้ รบ 7 รูป ในชอ่ งไก่ทอด ครจู ัดกิจกรรมท�ำ นองเดยี วกนั จนครบทุกชนิด ครูเขยี นข้อกำ�หนด

ของแผนภมู ริ ูปภาพใตแ้ ผนภูมริ ปู ภาพ แลว้ ถามคำ�ถามเพ่อื ให้นกั เรียนฝกึ อ่านข้อมลู จากแผนภูมิรปู ภาพ จากน้นั ใหน้ ักเรียน

แตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันตอบค�ำ ถามในหนงั สือเรยี นหน้า 270 เม่ือเสร็จแล้วเฉลยรว่ มกนั

302  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ริ ปู ภาพ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

ขา วตม มดั
ขนมกลว ย

ขา วตมมดั
ขนมกลว ย

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครูกำ�หนดสถานการณ์จากหนงั สือเรียนหนา้ 271 ใหน้ กั เรยี นบอกสง่ิ ทท่ี ราบจากสถานการณค์ รอู าจใชค้ �ำ ถามชว่ ย
เช่น ครูเตรียมขนมไทยไว้กช่ี นดิ (3 ชนิด) อะไรบ้าง (ขา้ วต้มมัดขนมกลว้ ย ขนมตาล) “หลังงานเลย้ี งมขี นมแต่ละชนดิ เหลอื อยูเ่ ทา่ ไร”
(เหลอื ขา้ วตม้ มดั 7 มดั เหลอื ขนมกลว้ ย 3 ชน้ิ เหลอื ขนมตาล 5 อนั ) จากนน้ั ครตู ดิ ตารางส�ำ หรบั ท�ำ แผนภมู ริ ปู ภาพในแนวนอน
พรอ้ มเขยี นชอ่ื ขนมแตล่ ะชนดิ ในแตล่ ะแถว สมุ่ นกั เรยี นออกมาระบายสี แสดงจ�ำ นวนขนมทเ่ี หลอื จากนน้ั ครถู ามนกั เรยี นวา่
แผนภมู ิน้คี วรมีช่อื ว่าอะไร (ขนมไทยทเี่ หลอื เมอ่ื งานเล้ยี งเลิก) ครเู ขยี นชอ่ื และข้อกำ�หนดของแผนภูมิ จากน้ันครถู ามค�ำ ถาม
เพ่ือให้นกั เรยี นใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการตอบคำ�ถาม ซ่งึ เปน็ ค�ำ ถามทน่ี กั เรียนตอ้ งใชก้ ารคิดวเิ คราะหเ์ พ่ือหาคำ�ตอบ
ไมส่ ามารถอ่านขอ้ มูลจากแผนภูมิรูปภาพและตอบค�ำ ถามไดท้ นั ที เชน่ “ขนมชนิดใดท่นี กั เรียนกนิ น้อยทส่ี ดุ ” นกั เรียนตอ้ งคิดวา่
ขนมทีค่ นกนิ นอ้ ยทส่ี ดุ แสดงว่าเหลอื มากที่สุด ซึง่ จากแผนภมู ริ ูปภาพจะได้ขา้ วตม้ มดั เหลอื มากที่สุด ดังน้นั คำ�ตอบตอ้ งเป็น
ขา้ วตม้ มดั หรอื “ขนมชนดิ ใดทค่ี นกนิ ไป 7 อนั ” นกั เรยี นตอ้ งคดิ วา่ เดมิ มขี นม 10 อนั มคี นกนิ ไปแลว้ 7 อนั แสดงวา่ เหลอื ขนม 3 อนั
ซงึ่ จากแผนภูมจิ ะไดว้ ่ามขี นมกล้วยเหลอื อยู่ 3 อนั ดังนน้ั คำ�ตอบตอ้ งเปน็ ขนมกล้วย จากน้ันใหน้ กั เรียนบอกสิง่ ท่ีตนเองทราบ
จากแผนภมู ริ ปู ภาพใหฟ้ งั คนละ 1-2 อยา่ ง สดุ ทา้ ยครตู ดิ แผนภมู ริ ปู ภาพในหนา้ พฒั นาความรหู้ นา้ 269 และ 271 แลว้ ถามวา่
แผนภูมทิ ั้งสองแตกต่างกนั อย่างไร ครแู นะน�ำ วา่ แผนภมู ิรูปภาพในหนา้ 269 เป็นแผนภูมิรปู ภาพในแนวนอน
สว่ นแผนภูมริ ปู ภาพในหนา้ 271 เปน็ แผนภมู ิรปู ภาพในแนวตั้ง ครูติดแผนภมู ริ ูปภาพในแนวต้ังทีแ่ สดงข้อมูลเดยี วกบั
แผนภมู ิรูปภาพหนา้ 271 ใหน้ กั เรียนบอกสิง่ ทีท่ ราบจากแผนภูมิ พร้อมถามวา่ แผนภมู ิทั้งสองแสดงข้อมลู เดยี วกนั หรอื ไม่
(เดยี วกนั ) มขี อ้ มลู สว่ นไหนทเ่ี ปลย่ี นไปหรอื ไม่ (ไมม่ )ี ครสู รปุ วา่ นกั เรยี นสามารถแสดงขอ้ มลู ในรปู แผนภมู ริ ปู ภาพได้
ท้ังแนวต้งั หรือแนวนอน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  303

คูม่ อื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1

ป.1
5 คน

มีนกั เรยี นช้นั ป.2 มาทาํ บญุ ก่คี น

ตอบ ๕ คน * คําตอบอาจแตกตางจากน้ใี หอยใู นดุลยพินิจของผสู อน

ตรวจสอบความเขา้ ใจ ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ อง การอ่านแผนภมู ริ ูปภาพ เรมิ่ จากอ่านชื่อแผนภูมิ
การเรยี นในชว่ั โมงน้ี ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น จากน้นั พิจารณาข้อกำ�หนดแลว้ อา่ นขอ้ มูลแต่ละรายการ
โดยใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ มลู จากแผนภูมริ ปู ภาพ หน้า 272
และเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนต้งั ค�ำ ถามเอง 1 คำ�ถาม จากนนั้ ให้นกั เรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 6.2 หน้า 162 - 164
พร้อมเขียนคำ�ตอบ

304  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ริ ปู ภาพ
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

6.3 รอยขีดกบั แผนภูมิรูปภาพ

จุดประสงค์

1. นักเรียนรู้จักรอยขดี และใช้รอยขดี บนั ทึกข้อมลู
2. นกั เรยี นสามารถใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมิรปู ภาพ

ในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา
เมื่อก�ำ หนด 1 รูป แทน 1 หน่วย

สอื่ การเรยี นรู้

• บตั รภาพวิธเี ดนิ ทางมาโรงเรยี นทั้ง 5 วธิ ี
• กระดาษโพสอิทหรือกระดาษสตกิ เกอรว์ งกลม
• แผนภูมิรูปภาพแสดงจำ�นวนนักเรียนท่ีเดินทาง
มาโรงเรยี นโดยวิธตี ่างๆ

รถยนต�

แนวการจดั การเรยี นรู้

ครจู ดั กจิ กรรมส�ำ รวจวธิ เี ดนิ ทางมาโรงเรยี นของนกั เรยี นทกุ คนในหอ้ ง โดยสอบถามนกั เรยี นวา่ “นกั เรยี นเดนิ ทางมาโรงเรยี น

ดว้ ยวธิ ใี ด” ซง่ึ นกั เรยี นอาจจะตอบหลากหลายครูเลอื กเขียนชื่อวิธที ่ีนักเรียนเลอื กมา 4 – 5 วธิ ี พรอ้ มตดิ ภาพประกอบ

บนกระดาน เชน่ เดิน ข่ีจกั รยาน น่งั รถยนต์ นั่งรถประจำ�ทาง หากนกั เรียนเดนิ ทางมาโรงเรยี นหลากหลายวธิ ีที่มากกวา่

5 วธิ ี ให้บอกวธิ ีอื่น ๆ จากนัน้ ครูแนะนำ�วา่ รอยขดี 1 รอย แทนจำ�นวนนักเรยี น 1 คน พรอ้ มสาธิตการเขยี นรอยขดี บน

กระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนทุกคนออกมาเขียนรอยขีดในช่องทตี่ รงกบั วิธเี ดนิ ทางมาโรงเรยี นของตนเองจนครบทุกคน

จากน้นั ครแู นะน�ำ วา่ ถา้ มรี อยขดี ครบ 5 รอยจะเขยี นแสดงในลกั ษณะดังน้ี ซ่งึ แทนจำ�นวนนักเรยี น 5 คน

ใหน้ ักเรยี นนับจำ�นวนรอยขีดของแตล่ ะวิธี โดยครูเขียนตัวเลขก�ำ กับ จากนัน้ ครแู นะน�ำ วา่ จากขอ้ มลู ข้างตน้ สามารถนำ�เสนอ

เป็นแผนภูมริ ปู ภาพได้ ครตู ดิ ตารางส�ำ หรบั ท�ำ แผนภูมริ ูปภาพในแนวต้ังบนกระดานพรอ้ มเขียนชอ่ื วธิ กี ารเดินทางมาโรงเรียน

ในแตล่ ะช่อง ครถู ามนักเรียนวา่ มนี กั เรยี นเดินทางมาโรงเรียนด้วยการเดนิ ก่ีคน (ตอบตามความจริง เช่น 3 คน) ครูถามต่อวา่

ถา้ ครใู ช้ แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 1 คน ครคู วรใช้ กี่รปู (ตอบตามความจริง เชน่ 3 รูป) ครตู ดิ เรยี งกันในแนวตง้ั

3 รูปในชอ่ ง “เดิน” จัดกิจกรรมทำ�นองเดียวกนั จนครบทกุ วธิ ี จากนัน้ ครูถามว่าแผนภมู ริ ปู ภาพนี้ควรช่ืออะไร (จำ�นวนนักเรยี น

ท่ีเดินทางมาโรงเรยี นโดยวธิ ตี ่างๆ) ข้อก�ำ หนดของแผนภมู รปู ภาพิควรเขยี นอยา่ งไร (ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรียน

1 คน) ครเู ขยี นชือ่ แผนภมู ิรปู ภาพและข้อกำ�หนดบนกระดานจากน้นั ครูถามค�ำ ถามเพือ่ ให้นกั เรยี นฝึกอา่ นขอ้ มลู จากแผนภูมิ

รูปภาพ เชน่ นักเรยี นในห้องนเี้ ดนิ ทางมาโรงเรียนด้วยวิธีใดบ้าง มีนกั เรยี นเดนิ ทางมาโดยรถประจ�ำ ทางกค่ี น

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  305

ค่มู ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

8
18

รถจักรยาน

5

รถจกั รยานยนต

1

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครใู ช้สถานการณ์ในหนังสอื เรยี นหนา้ 273 โดยตดิ ข้อมูลการส�ำ รวจวิธเี ดนิ ทางมาโรงเรยี นของนักเรยี นทุกคนในหอ้ ง
บนกระดานและถามนักเรยี นอกี คร้ังวา่ รอยขีด 1 รอย แทนจำ�นวนของอะไร รอยขีด 5 รอย แทนจ�ำ นวนของอะไร จากนัน้ ครู
ติดแผนภมู ริ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นที่เดินทางมาโรงเรียนโดยวธิ ตี า่ งๆ ให้นักเรยี นบอกส่งิ ท่ีทราบจากแผนภมู ิรปู ภาพ เช่น
แผนภมู นิ ้ชี อ่ื แผนภูมิรปู ภาพแสดงจ�ำ นวนนกั เรียนท่ีเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยวิธีตา่ ง ๆ นักเรยี นห้องนเี้ ดินทางมาโรงเรียนด้วยวธิ ี
ตา่ งกนั ท้งั หมด 5 วิธี ไดแ้ ก่ เดนิ รถจักรยาน รถจกั รยานยนต์ นง่ั รถยนต์ นั่งรถประจำ�ทาง จากนั้นให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ
ชว่ ยกันตอบค�ำ ถามในหนงั สอื เรยี นหน้า 274 ซ่ึงจะเห็นว่าค�ำ ถามท่ีใช้เปน็ คำ�ถามทนี่ กั เรียนตอ้ งคดิ วิเคราะหเ์ พ่อื หาค�ำ ตอบ
ไมส่ ามารถอ่านขอ้ มลู จากแผนภูมริ ปู ภาพและตอบค�ำ ถามไดท้ ันที เช่น นกั เรยี นมาโรงเรยี นโดยรถที่มสี องลอ้ กค่ี น นักเรียนต้อง
คิดว่ามีรถอะไรบ้างในแผนภูมริ ปู ภาพทีม่ สี องลอ้ ซึ่งไดแ้ ก่รถจกั รยาน (3 คน) และรถจกั รยานยนต์ (5คน) จากนั้นจึงหาจำ�นวน
คนท่ีเดินทางดว้ ยรถทง้ั สองประเภทน้ัน ดังนั้นค�ำ ตอบตอ้ งเปน็ 8 คน

306  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรปู ภาพ
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

15
แสดงบนเวที

6

18

แนวการจัดการเรยี นรู้

ครูใช้สถานการณ์จากหนงั สือเรยี นหน้า 275 โดยติดขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการส�ำ รวจจำ�นวนนักเรียนทีเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ
แล้วถามนกั เรยี นว่า คุณครบู ันทกึ ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสำ�รวจโดยวิธีใด (ใชร้ อยขีด) รอยขดี 1 รอย แทนจ�ำ นวนของอะไร
(จำ�นวนนักเรียน 1 คน) รอยขดี 1 รอย แทนรูปหนา้ คนย้ิมก่ีรปู (1 รปู ) ดังนนั้ ในแผนภมู ริ ูปภาพชอ่ งกิจกรรมจับสลาก
ตอ้ งมีหนา้ คนย้ิมกร่ี ูป (15 รปู ) ทราบไดอ้ ยา่ งไร (เนือ่ งจากมีรอยขีด 15 รอยแสดงจ�ำ นวนคน 15 คนทีเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรมน)ี้
ครูตดิ แผนภูมิรปู ภาพแสดงจำ�นวนนกั เรยี นทเี่ ขา้ รว่ มกิจกรรมต่างๆ ในงานเลีย้ งปีใหม่ ให้นักเรยี นอา่ นชื่อแผนภูมิและข้อ
กำ�หนดของแผนภูมิพรอ้ มกัน บอกสงิ่ ทต่ี นเองทราบจากแผนภมู ิรูปภาพคนละ 1-2 ข้อ และตอบค�ำ ถามในหนังสือเรียนหนา้
275

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  307

คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ริ ปู ภาพ
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

15
2

2

ตรวจสอบความเข้าใจ สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้

เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ของการเรยี นรู้ เราใช้รอยขดี บนั ทกึ ข้อมลู แล้วนำ�ขอ้ มูลมาแสดง
ในชวั่ โมงนี้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้ เปน็ แผนภมู ริ ปู ภาพโดยรปู ภาพ 1 รปู แทนรอยขดี 1 ขดี
นกั เรียนเติมคำ�ตอบจากขอ้ มลู หนา้ 276 จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหัด 6.3 หนา้ 165-167

308  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1
crayons cpoelonucrilesd
ร่วมคดิ รว่ มท�ำ

สื่อการเรยี นรู้

สือ่ ของจรงิ หรอื บตั รภาพสิ่งของต่าง ๆ
ทสี่ ามารถจัดกล่มุ ได้ 3-4 กลุม่

ของกนิ (ขนม) 4
หนงั สอื 4
5

ของกนิ (ขนม)
หนังสือ

วธิ ีจัดกจิ กรรม

1. ครูแจกส่ือของจริงหรอื บัตรสิง่ ของตา่ งๆ และใบกิจกรรมรว่ มคดิ ร่วมทำ�ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มจัดสง่ิ ของต่างๆ เปน็ กลมุ่
พร้อมบอกเหตุผลในการจดั กลุ่ม ครูชว่ ยสรุปประเภทของของขวัญใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ เขยี นชื่อประเภท
ของขวญั และ จำ�นวนในใบกิจกรรม เชน่ สชี นิดตา่ งๆ รถของเล่น หนังสอื ของกิน

2. ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ระบายสีแสดงจ�ำ นวนของขวญั แต่ละประเภทในแผนภูมริ ปู ภาพทีก่ �ำ หนด จากน้ันใหส้ มาชิก
ในกลุ่มผลัดกนั เล่าสิง่ ทท่ี ราบจากแผนภมู ริ ูปภาพให้เพือ่ นฟงั และชว่ ยกนั ตั้งค�ำ ถามจากแผนภูมริ ปู ภาพกล่มุ ละ
2 ข้อ พรอ้ มเขียนคำ�ตอบ โดยเขยี นลงในกระดาษ A4

3. ครสู มุ่ นกั เรยี นบางกลมุ่ น�ำ เสนอแผนภมู ริ ปู ภาพของกลมุ่ ตนเองพรอ้ มค�ำ ถามจากแผนภมู ริ ปู ภาพทน่ี �ำ เสนอกลมุ่ ละ 1 ขอ้
4. หากมีเวลาครูชวนนักเรียนสำ�รวจว่าเพ่ือนในห้องตอ้ งการได้ของขวัญวันเดก็ หรือของขวัญวนั เกิดเป็นอะไร

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  309

ค่มู อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

แบบทดสอบบทที่ 6

เป็นตัวอย่างแบบทดสอบท่ีใช้ในการประเมินเพื่อพัฒนานักเรียนหากมีนักเรียนคนใดท่ีไม่ผ่านการทดสอบครูควร
ให้นักเรียนคนน้ันฝึกทักษะมากข้ึนโดยอาจใช้แบบฝึกเสริมจากหนังสือเสริมเพิ่มปัญญาของสสวท.หรือแบบฝึกอ่ืนที่
เหน็ ว่าสมควร ซงึ่ แบบทดสอบท้ายบทนี้มจี �ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที
และวเิ คราะห์เป็นรายจุดประสงค์ไดด้ ังน้ี

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี

1. ใช้ขอ้ มูลจากแผนภมู ิรปู ภาพในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา เม่ือก�ำ หนด 1 รูป แทน 1 หนว่ ย 1 2 3 และ 4

1. รปู ทีก่ �ำ หนดในแตล่ ะขอ้ ควรอยู่ในกลุม่ ใด เขยี น × ทับกลมุ่ สิง่ ของทเ่ี ลือก (4 คะแนน)

รูปทก่ี �ำ หนด กล่มุ สง่ิ ของ กลุ่มส่ิงของ
1)

2)

3)

4)

310  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

2. พจิ ารณารปู ตอ่ ไปน้ี ใหเ้ ขยี นรอยขีด หรือ และเขียนตัวเลขแสดงจ�ำ นวนปลาแต่ละชนิดในอา่ งเลี้ยงปลา
(4 คะแนน)

ปลาชนิดต่างๆ รอยขดี จ�ำ นวน
ตัวอย่าง 2
||
1)

2)

3)

4)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  |  311

คมู่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

3. พจิ ารณาแผนภมู ิรูปภาพ แล้วเติมค�ำ ตอบ (5 คะแนน)
ดาวความดที ่ี เด็กชายภาคณิ สะสมไดใ้ น 5 วนั

วนั จนั ทร์ วันองั คาร วันพธุ วนั พฤหสั บดี วันศุกร์

1) วัน………………………………..เด็กชายภาคนิ สะสมดาวความดไี ด้นอ้ ยทีส่ ุด
2) วัน.......................................…………………........................เดก็ ชายภาคินสะสมดาวความดไี ดเ้ ท่ากนั
3) วนั .......................................เด็กชายภาคินสะสมดาวความดไี ดม้ ากกว่าวัน......................................อยู่ 4 ดวง
4) ใน 5 วันนี้ เด็กชายภาคณิ สะสมดาวความดไี ด้รวม………………………….ดวง

312  |  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version