The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by moonoymootoon, 2022-03-23 12:30:08

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

๕๑

๖. เข้าใจนา้ เสียง ความรสู้ ึกของผพู้ ูด รวมท้ังคาช้ีแจง คาบรรยาย คาแนะนา ลกั ษณะการพูดใน
ลักษณะตา่ งๆได้

๗. ออกเสยี งไดถ้ ูกต้องตามหลักการออกเสียง และเหมาะสมกบั เนอื้ หาที่พดู
๘. เข้าใจตีความและแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั การพูดประเภทตา่ งๆแลว้ ถ่ายทอดเปน็ ขอ้ ความที่ใช้

ถอ้ ยคาของตนเอง
๙. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสังคม เพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธ์ ดาเนนิ การส่ือสารโดยใชห้ ลักการพดู ท่ี

ถกู ตอ้ ง
๑๐. นาเสนอขอ้ มลู ความคิดรวบยอดต่อเหตุการณต์ า่ งๆด้วยวิธกี ารพดู ท่ีหลากหลายอย่าง
สร้างสรรค์

และมีประสทิ ธิภาพ
๑๑. เขา้ ใจความแตกตา่ งในเรอ่ื งภาษาไทยเก่ยี วกับเรอ่ื งคา วลี สานวน ประโยค ขอ้ ความ และนามา

ปรับใชใ้ นการพูดได้อยา่ งมีวิจารณญาณ
๑๒. ใช้ภาษาไดถ้ กู ต้องตามสถานการณต์ า่ งๆ ด้วยวิธกี ารและรปู แบบทีห่ ลากหลาย
๑๓. มีระเบียบวินยั ในการเรยี น ตรงตอ่ เวลา ท้ังในการเขา้ เรียน และการสง่ งาน
๑๔. มีความรว่ มมอื ในหม่คู ณะ กระตือรอื รน้ ในการแสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ท้ังในและนอก

หอ้ งเรยี น
รวมท้งั หมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕๒

คาอธบิ ายรายวิชา
รายวชิ า วรรณคดีมรดก รหัส ท ๓๐๒๐๙ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ - ๖
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง / ภาคเรยี น จานวน ๑.๐ หน่วยกติ

ฝึกอ่านบทกวีนิพนธ์ประเภทกลอนและบทละคร อันได้แก่ รามเกียรติ์ ฉบับ รัชกาลที่ ๑ขุนช้าง-
ขนุ แผน อิเหนา พระอภัยมณใี หร้ ูเ้ ร่อื งตลอดโดยสังเขป อ่านเฉพาะตอนท่ีสาคญั ในเชิงวรรณศิลป์ ตอนท่ีทาให้
เห็นสภาพชีวิตในสมัยของบรรพบุรุษ ตอนที่ทาใหเ้ ข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และตอนท่ีเกี่ยวกับศิลปะ สาขา
ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละครที่สาคัญ แนวคิดในเนื้อเรื่องโดย
เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในชีวิตปัจจบุ ัน เกิดความประทบั ใจในศิลปะการประพันธ์ สามารถนาไปกล่าวอา้ ง
ได้

ใช้กระบวนการอ่าน วิเคราะห์ สังเคราะห์และอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ประเมินค่าวรรณคดีมรดก
เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความซาบซง้ึ ในบทกวี

เสริมสร้างให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัยใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางานและรัก
ความเป็นไทย และมคี วามตระหนักในคณุ คา่ และรักษาวรรณคดมี รดกไวใ้ นฐานะมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
ผลการเรียนรู้

๑. บอกความหมายและแยกประเภทของวรรณคดไี ด้
๒. บอกกาเนดิ หรือท่มี าและคณุ คา่ ของวรรณคดีได้
๓. บอกประวตั ิผแู้ ตง่ ลักษณะคาประพันธ์และจุดมุ่งหมายในการแต่งวรรณคดีได้
๔. เลา่ เร่อื งตลอดเรอ่ื งโดยสังเขปจากวรรณคดีท่ีนามาเรยี นได้
๕. ถอดคาประพนั ธแ์ ละสรปุ ใจความสาคัญจากวรรณคดตี อนที่นามาเรียนได้
๖. บอกความหมายและใช้คาศพั ท์ สานวน โวหาร สภุ าษติ คาพังเพยท่ีอย่ใู นวรรณคดไี ด้
๗. บอกไดว้ ่าขอ้ ความทก่ี าหนดให้มีลกั ษณะอย่างไรหรอื หมายถึงใครได้
๘. ตอบคาถาม วิจารณเ์ นอ้ื เรื่อง ตัวละคร สรุปข้อคิด คติธรรม คุณคา่ ท่ีได้จากวรรณคดแี ละนามาใช้

ในชีวติ ประจาวนั ได้
๙. เขยี นวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั นักเรอ่ื งและพฤติกรรมของตวั ละครสาคัญใน

วรรณคดีได้
๑๐. พูดแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ความงามทางดา้ นวรรณศลิ ป์ อรรถรสจากวรรณคดไี ด้
รวมทัง้ หมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕๓

คาอธิบายรายวิชา
รายวิชา การศึกษาคน้ คว้าและสรา้ งองค์ความรู้ (IS) รหัส ท ๓๐๒๑๐ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ - ๖

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลาเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาวิเคราะห์ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา /ตั้งคาถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก
ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลที่สนับสนุนหรือโต้แยง้ ประเด็นความรู้โดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆและมี
ทฤษฎีรองรับเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลกโดยเขียนโครงร่างบทนาเนื้อเ รื่องสรุปในรูปของ
รายงานการศกึ ษาค้นคว้าเชงิ วิชาการเปน็ ภาษาไทยความยาวจานวน ๔,๐๐๐ คาหรือเป็นภาษาอังกฤษความ
ยาว ๒,๐๐๐ คามีการอา้ งองิ แหล่งความรทู้ เ่ี ช่ือถอื ได้อย่างหลากหลายเชอ่ื ถือได้ท้ังในประเทศและต่างประเทศ
เรียบเรียงและถ่ายทอดสื่อสารนาเสนอความคิดอย่างชัดเจนเป็นระบบมีการนาเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral
individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลายและมีการเผยแพร่
ผลงานสูส่ าธารณะ

ออกแบบวางแผนรวบรวมขอ้ มูลคน้ คว้าแสวงหาความรู้เก่ียวกับสมมติฐานทตี่ ง้ั ไว้จากแหล่งเรียนรู้ทั้ง
ปฐมภมู แิ ละทตุ ยิ ภูมิและสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพและพจิ ารณาความน่าเชอื่ ถอื ของแหล่งเรียนรู้อย่างมี
วิจารณญาณเพื่อให้ได้ขอ้ มูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธกี ารที่เหมาะสมสังเคราะห์สรุปองค์
ความรู้และร่วมกันมกี ระบวนการกลุ่มในการการวิพากษ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้ความรู้จากสาขาวิชา
ต่างๆเสนอแนวคิดวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยกระบวนการคิดกระบวนการแก้ปัญหากระบวนการ
ปฏิบตั เิ พ่อื ใหเ้ กิดทักษะในการคน้ คว้าแสวงหาความรสู้ ังเคราะห์สรปุ อภิปรายผลเปรียบเทยี บเช่ือมโยงความรู้
ความเปน็ มาของศาสตร์เข้าใจหลักการและวธิ คี ดิ ในสิง่ ที่ศกึ ษา

เหน็ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเห็นประโยชน์และคุณคา่ ในการสร้างสรรค์
งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรใู้ ห้เป็นประโยชนแ์ กส่ าธารณะ

ผลการเรยี นรู้
๑. ตั้งประเดน็ ปญั หาจากสถานการณป์ ัจจบุ นั และสงั คมโลก
๒. ตัง้ สมมติฐานและใหเ้ หตุผลที่สนับสนุนหรือโตแ้ ย้งประเดน็ ความรโู้ ดยใชค้ วามร้จู ากสาขาวชิ า
ต่างๆ และมีทฤษฎรี องรบั
๓. ออกแบบวางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
๔. ศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกยี่ วกับประเด็นทีเ่ ลอื กจากแหลง่ เรยี นรู้ที่มีประสิทธภิ าพ

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕๔

๕. ตรวจสอบความน่าเชอื่ ถอื ของแหล่งที่มาของข้อมลู
๖. วิเคราะหข์ ้อคน้ พบด้วยสถติ ิท่ีเหมาะสม
๗. สงั เคราะหส์ รปุ องค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม
๘. เสนอแนวคิดการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยองคค์ วามรู้จากการคน้ พบ
๙. วางโครงร่างการเขยี นตามหลักเกณฑ์องคป์ ระกอบและวธิ ีการเขียนโครงรา่ ง
๑๐. เขยี นรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเชงิ วชิ าการเปน็ ภาษาไทยความยาว ๔,๐๐๐ คาหรอื

ภาษาอังกฤษความยาว ๒,๕๐๐ คา
๑๑. นาเสนอขอ้ คน้ พบข้อสรุปจากประเดน็ ทเ่ี ลอื กในรปู แบบเดย่ี ว (Oral individual

presentation) หรือกล่มุ (Oral panel presentation) โดยใช้ส่อื เทคโนโลยีทห่ี ลากหลาย
๑๒. เผยแพร่ผลงานส่สู าธารณะโดยใช้การสนทนา / วิพากษผ์ ่านสือ่ อิเลคทรอนคิ เชน่

e-conference, social media online
๑๓. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าการสร้างสรรคง์ านและถ่ายทอดสิ่งทเ่ี รียนรู้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์
รวมทงั้ หมด ๑๓ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๕๕

โครงสร้างหลักสูตร
กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น

วชิ าพ้ืนฐาน ๓ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ค ๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน ๑ ๓ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ค ๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ๒ ๓ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
ค ๒๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ๓ ๓ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกิต
ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน ๔ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ค ๒๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ๕ ๓ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ๖

วิชาเพ่ิมเตมิ ๒ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ค ๒๑๒๐๑ คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม ๑ ๒ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ค ๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์เพิม่ เติม ๒ ๒ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ค ๒๒๒๐๑ คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๓ ๒ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ค ๒๒๒๐๒ คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๔ ๒ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
ค ๒๓๒๐๑ คณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม ๕ ๒ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ค ๒๓๒๐๒ คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ ๖

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕๖

คาอธิบายรายวิชา

รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ๑ รหสั วชิ า ค ๒๑๑๐๑

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ

...........................................................................................................................................................

ศึกษาวิเคราะห์ ฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาในเรื่อง ห.ร.ม. และ
ค.ร.น. การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนบั และการนาไปใช้ จานวนเตม็ จานวนเต็มบวก จานวนเตม็ ลบ
จานวนเต็มศูนย์ การบวก การลบ การคณู และการหารจานวนเต็ม การนาความรู้และสมบัติเกี่ยวกับจานวน
เต็มไปใช้ โจทย์ปัญหาเกีย่ วกับจานวนเตม็ เลขยกกาลัง เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลงั เป็นจานวนเต็มการเขยี น
แสดงจานวนในรปู สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์(Ax๑๐nเม่ือ ๑≤A<๑๐ และ n เปน็ จานวนเตม็ ) การคณู และการหาร
เลขยกกาลงั ท่ีมีฐานเดียวกันและเลขชีก้ าลังเป็นจานวนเต็ม การประมาณคา่ การประมาณคา่ และการนาไปใช้
พื้นฐานทางเรขาคณิต การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต(ใช้วงเวียนและสันตรง) การสร้างส่วนของเส้นตรงให้
ยาวเท่ากบั ความยาวของส่วนของเส้นตรงท่ีกาหนดให้ การแบง่ ครึง่ ส่วนของเสน้ ตรงท่ีกาหนดให้ การสร้างมุม
ให้มีขนาดเท่ากับมุมที่กาหนดให้ การแบ่งครึ่งมุมที่กาหนดให้ การสร้างเส้นตั้งฉากจากจุดภายนอกมายัง
เสน้ ตรงท่ีกาหนดให้ การสร้างเสน้ ตั้งฉากที่จดุ ๆ หน่งึ บนเส้นตรงทก่ี าหนดให้ การสรา้ งรูปเรขาคณิตสองมิตโิ ดย
ใช้การสรา้ งพนื้ ฐานทางเรขาคณิต สมบัติทางเรขาคณติ ท่ีตอ้ งการการสบื เสาะสงั เกตและคาดการณ์

โดยใช้กระบวนการคณิตศาสตร์ การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้
ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัตจิ ริง ทดลองและสรปุ รายงาน โดยคานึงถึงมาตรฐานดา้ นทักษะกระบวนการทาง
คณิตศาสตร์ ใช้การวัดและประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลายให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ
กระบวนการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพของผูเ้ รียนใหใ้ ชว้ ิธกี ารทีห่ ลากหลายแก้ปญั หา ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการ
ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาในสถานการณต์ า่ งๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ใช้เหตุผลประกอบการ
ตัดสนิ ใจและสรุปได้อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสือ่ สาร การส่อื ความหมาย
และการนาเสนอได้อย่างถูกต้องและชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และนาความรู้ หลักการ
กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อ่ืน และ มีความคิดสร้างสรรค์

รหัสตัวชว้ี ดั
ค ๑.๑ ม.๑/๑ , ค ๑.๑ ม.๑/๒ , ค ๑.๒ ม.๑/๑ , ค ๑.๒ ม.๑/๓ , ค ๑.๒ ม.๑/๔ , ค ๑.๔ ม.๑/๑ ,
ค ๓.๑ ม.๑/๑ , ค ๓.๑ ม.๑/๒ , ค ๓.๑ ม.๑/๓ , ค ๖.๑ ม.๑/๑ , ค ๖.๑ ม.๑/๒ , ค ๖.๑ ม.๑/๓ ,

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๕๗

ค ๖.๑ ม.๑/๔ , ค ๖.๑ ม.๑/๕ , ค ๖.๑ ม.๑/๖
รวม ๑๕ ตัวชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าคณิตศาสตร์พื้นฐาน ๒ รหัสวิชา ค ๒๑๑๐๒

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน๑.๕ หน่วยกิต

............................................................................................................................................................

ศึกษา ฝึกทักษะ และหลักการของทศนิยมและเศษส่วน การเขียนเศษส่วนด้วยทศนิยมและเขียน
ทศนิยมซ้าเป็นเศษส่วน การเปรียบเทียบทศนิยมและเศษส่วน การบวก ลบ คูณ หาร ทศนิยมและเศษส่วน
โจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์เกี่ยวกบั ทศนิยมและเศษส่วน การประมาณค่า การประมาณค่าในสถานการณ์
ตา่ งๆ การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใชก้ ารประมาณคา่ คู่อันดับและกราฟ คู่อนั ดบั กราฟการนาไปใช้ สมการเชิงเสน้
ตวั แปรเดยี ว แบบรปู และความสัมพนั ธ์ คาตอบของสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว การแกส้ มการเชิงเส้นตัวแปร
เดียวโดยใช้สมบัติของการเทา่ กัน โจทย์สมการเก่ียวกับสมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว ความสัมพันธ์ระหว่างรูป
เรขาคณติ สองมิตแิ ละสามมิติ ภาพของรปู เรขาคณิตสองมิติทีเ่ กิดจากการคลร่ี ปู เรขาคณติ สามมิติ ภาพสองมิติ
ที่ได้จากการมองทางด้านหน้า (front view) ด้านข้าง (side view) หรือด้านบน (top view) ของรูป
เรขาคณิตสามมิติ การวาดหรอื ประดษิ ฐร์ ปู เรขาคณิตที่ประกอบขน้ึ จากลกู บาศก์

โดยใช้ทักษะกระบวนการหรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันทีใ่ กล้ตัวให้ผูเ้ รยี นไดศ้ ึกษาค้นควา้
โดยการปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการ ในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในการเรยี นร้สู งิ่ ต่างๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

เพื่อให้เกิดคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบความ
รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สจุ ริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ ง
พอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะและมคี วามเช่ือม่ันในตนเองเพื่อให้สามารถอยู่
ร่วมกบั ผูอ้ ่นื ในสงั คมไดอ้ ยา่ ง มคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก

รหสั ตัวชีว้ ดั
ค ๑.๑ ม.๑/๑ ค ๑.๒ ม.๑/๒ ค ๑.๓ ม.๑/๑ ค ๓.๑ ม.๑/๔ , ค ๓.๑ ม.๑/๕ , ค ๓.๑ ม.๑/๖

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๕๘

ค ๔.๑ ม.๑/๑ ค ๔.๒ ม.๑/๑ , ค ๔.๒ ม.๑/๒ , ค ๔.๒ ม.๑/๓ , ค ๔.๒ ม.๑/๔ , ค ๔.๒ ม.๑/๕
ค ๕.๒ ม.๑/๑ ค ๖.๑ ม.๑/๑ , ค ๖.๑ ม.๑/๒ , ค ๖.๑ ม.๑/๓ , ค ๖.๑ ม.๑/๔ , ค ๖.๑ ม.๑/๕ ,
ค ๖.๑ ม.๑/๖
รวม ๑๙ ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ค ๒๒๑๐๑
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ๓ จานวน ๑.๕ หน่วยกติ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่อง การใช้ความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละในการแก้โจทย์
ปญั หา เปรียบเทียบหนว่ ยความยาว หน่วยพื้นท่ใี นระบบเดียวกนั และต่างระบบ และเลือกใช้หนว่ ยการวัดได้
อย่างเหมาะสม คาดคะเนเวลา ระยะทาง พื้นท่ี ปรมิ าตรและนา้ หนกั ได้อยา่ งใกล้เคียง และอธิบายวิธีการที่ใช้
ในการคาดคะเน ใช้การคาดคะเนเกี่ยวกับการวดั ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ใช้ความรู้เกี่ยวกับ
ความยาวและพื้นที่แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้สมบัติเกี่ยวกับความเท่ากันทุกประการของรูป
สามเหล่ยี มและสมบตั ิของเสน้ ขนานในการให้เหตุผลและแก้ปญั หา ใชท้ ฤษฎบี ทพีทาโกรัสและบทกลับในการ
ให้เหตผุ ลและแก้ปัญหา เข้าใจเก่ียวกบั การแปลงทางเรขาคณิตในเร่ือง การเลื่อนขนาน การสะท้อน และการ
หมุน และนาไปใช้ บอกภาพที่เกิดขึ้นจากการเลื่อนขนาน การสะท้อนและการหมุนรปู ต้นแบบ และอธิบาย
วิธีการที่จะได้ภาพที่ปรากฏเมื่อกาหนดรูปต้นแบบและภาพนั้นให้ อ่านและนาเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมิรูป
วงกลม

โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรมหรือโจทย์ปัญหาที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทาง
คณิตศาสตรใ์ ช้ความรู้ ทักษะ/กระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง
ๆ ได้อย่างเหมาะสม ใช้วิธีการที่หลากหลายในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผลประกอบการ
ตัดสินใจและสรปุ ผลไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการสอื่ สาร การส่ือ
ความหมายและการนาเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนาความรู้
หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์ อื่น ๆ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕๙

คณติ ศาสตร์ มีความใฝเ่ รยี นรู้ ความมุ่งมั่นใน การทางาน ร้สู ามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีวินัย มี
ความรอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มีความซือ่ สตั ย์สจุ รติ มวี ิจารณญาณและมคี วามคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีระเบียบวินัยมุ่งมั่นในการทางาน
อย่างมีระบบ ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง รู้จักนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ใน
การดารงชีวิตได้อยา่ งพอเพียง และใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

รหสั ตวั ชีว้ ัด
ค ๑.๑ ม.๒/๔ ค ๒.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ค ๒.๒ ม. ๒/๑ ค ๓.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔
ค ๔.๒ ม.๒/๒ ค ๕.๑ ม.๒/๑ ค ๕.๒ ม.๒/๑ ค ๖.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕
ม.๒/๖

รวม ๑๗ ตัวชว้ี ดั

คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ค ๒๒๑๐๒
รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ๔ จานวน ๑.๕ หน่วยกิต
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรียน

ศึกษาความร้เู ก่ยี วกับเรอื่ ง ทฤษฎีบทพที าโกรสั สมบัตขิ องรปู สามเหลย่ี มมมุ ฉาก มีความร้คู วาม

เข้าใจเกย่ี วกบั ทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลับของทฤษฎบี ทพีทาโกรัสเพ่ือนาไปใช้แก้ปญั หาในชีวิตประจาวัน

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจานวนจริง จาแนกจานวนจริงและยกตัวอย่างจานวนตรรกยะ จานวนอตรรกยะ

พร้อมทั้งอธิบายความสมั พันธ์ของการยกกาลังการหารากของจานวนจริงและระบุ รากที่สองและรากท่ี

สามของจานวนจรงิ การประยุกตข์ องสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว การประยกุ ต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

เพื่อนาไปใช้ในการแก้ปัญหาเส้นขนาน เข้าใจคุณสมบัติของเส้นขนานและมุมภายใน เส้นขนานและมุมแย้ง

เส้นขนานและมมุ ภายนอกกบั มุมภายใน เส้นขนานและรูปสามเหลย่ี มในการหาขนาดของมมุ แต่ละมมุ พร้อม

กับการนาไปใช้ในการแกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวันได้

โดยใช้ความรู้ ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา ใน

สถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การให้

เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ทาง

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๖๐

คณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมายและการนาเสนอได้อยา่ งถูกต้องชดั เจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ
ในคณติ ศาสตร์และนาความรู้ หลกั การ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยง กับศาสตรอ์ นื่ ๆ

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความใฝ่เรียนรู้ ความมุ่งมั่นในการทางาน รู้สามารถ
ทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์สุจริต มี
วจิ ารณญาณและมีความเชอื่ ม่นั ในตนเองและใช้ในชวี ิตประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

รหัสตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ค ๑.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ ค ๑.๓ ม.๒/๑ ค ๑.๔ ม.๒/๑
ค ๓.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ ค ๔.๒ ม.๒/๑
ค ๖.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม.๒/๖

รวม ๑๖ ตวั ช้วี ัด

คาอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ค ๒๓๑๐๑
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ๕ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน

ศกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกับเรอ่ื ง ปรมิ าตรและพ้ืนท่ีผวิ การหาพน้ื ท่ผี ิวและปริมาตรของปรซิ มึ
ทรงกระบอก การหาปรมิ าตรของพีระมดิ กรวย และทรงกลม การเปรยี บเทียบหนว่ ยปริมาตร การแก้โจทย์
ปญั หาเกย่ี วกบั พื้นท่ีผิวและปรมิ าตร กราฟ กราฟเสน้ ตรง กราฟเสน้ ตรงกับการนาไปใช้ กราฟอื่น ๆ ระบบ
สมการเชงิ เส้น สมการเชงิ เส้นสองตวั แปร กราฟของสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร ระบบสมการเชงิ เส้นสองตัว
แปร การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การแก้โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั สมการเชงิ เส้นสองตัวแปร ความ
คลา้ ย รปู ที่คลา้ ยกัน รปู สามเหลย่ี มท่ีคล้ายกัน สมบัติของรปู สามเหลี่ยมท่ีคลา้ ยกัน การนาไปใช้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๖๑

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ในชวี ิตประจาวนั ท่ใี กล้ตัวให้ผู้เรียนไดศ้ กึ ษา คน้ ควา้ โดย
การปฏิบตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทักษะ/กระบวนการ ในการคดิ คานวณ การแกป้ ญั หา การให้
เหตผุ ล การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการที่ได้
ไปใช้ในการเรยี นรสู้ ิ่งตา่ งๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เห็นคณุ ค่าและเจตคติทด่ี ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มี
ความรบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเช่ือม่ันในตนเองการวัดผลประเมินผล ใช้วิธกี ารท่หี ลากหลายตาม
สภาพความเป็นจรงิ ใหส้ อดคล้องกับเน้อื หา และทักษะที่ตอ้ งการวดั

รหัสตัวช้ีวัด
ค ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔
ค ๒.๒ ม.๓/๑
ค ๓.๑ ม.๓/๑
ค ๓.๒ ม.๓/๑
ค ๔.๒ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕

รวมทงั้ หมด ๑๑ ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ค ๒๓๑๐๒
รายวิชาคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ๖ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๒

ศึกษาความรู้เกีย่ วกับเร่ือง อสมการ การหาคาตอบและกราฟแสดงคาตอบของอสมการเชิงเส้นตวั
แปรเดียว การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ความน่าจะเป็น การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ การหาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ และการนาไปใช้ สถิติ
การกาหนดประเด็น การเขียนข้อคาถาม การกาหนดวิธีการศึกษา และการเก็บรวบรวมข้อมูล การนาเสนอ
ข้อมูล การหาค่ากลางของข้อมูล การเลือกใช้ค่ากลางของข้อมูล การอ่าน การแปรความหมาย และการ
วิเคราะห์ข้อมูล การเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตสตร์ การเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
เกี่ยวกับจานวนเต็ม เศษส่วน และทศนิยม การเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์เก่ียวกับสมการเชิง
เสน้ และระบบสมการเชิงเส้น การเสริมทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกยี่ วกับปริมาตรและพื้นท่ีผวิ การ
เสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกีย่ วกับสมบัติของรูปสามเหลี่ยม เส้นขนาน และการนาไปใช้ การ
เสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรเ์ กี่ยวกับสถิติและความนา่ จะเป็น

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชวี ิตประจาวนั ทีใ่ กล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดย
การปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพฒั นาทกั ษะ/กระบวนการ ในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา การให้
เหตผุ ล การสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้
ไปใชใ้ นการเรยี นรสู้ งิ่ ตา่ งๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เห็นคณุ คา่ และเจตคตทิ ่ีดตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มี
ความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง การวัดผลประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลาย
ตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคล้องกับเนื้อหา และทกั ษะทต่ี ้องการวัด

รหสั ตวั ชี้วัด
ค ๔.๒ ม.๓/๑ ค ๕.๒ ม.๓/๑ ค ๕.๑ ม.๓/๑ ค ๕.๑ ม.๓/๒ ค ๕.๑ ม.๓/๓
ค ๕.๑ ม.๓/๔ ค ๕.๓ ม.๓/๑ ค ๕.๓ ม.๓/๒ ค ๖.๑ ม.๓/๑ ค ๖.๑ ม.๓/๒
ค ๖.๑ ม.๓/๓
รวมทง้ั หมด ๑๑ ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๓

รายวชิ าคณิตศาสตร์เพ่มิ เตมิ ๑ รหสั วิชา ค๒๑๒๐๑

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

ศึกษา ความรู้ทักษะกระบวนการเกี่ยวกับการประยุกต์ ๑ รูปเรขาคณิต จานวนนับ ร้อยละใน
ชีวิตประจาวัน ปัญหาชวนคิดจานวนและตัวเลข ระบบตัวเลขโรมัน ระบบตัวเลขฐานต่าง ๆ การประยกุ ต์
เกี่ยวกับจานวนเต็มและเลขยกกาลัง การคิดคานวณ โจทย์ปัญหาการสร้าง การสร้างรูปสามเหลี่ยมรูป
ส่ีเหล่ยี มด้านขนาน สรา้ งมุมขนาดต่างๆ

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณใ์ นชวี ติ ประจาวันทใ่ี กลต้ ัวใหผ้ เู้ รยี นได้ศกึ ษาค้นควา้
โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แกป้ ัญหา การให้เหตุผล การสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณด์ า้ นความรู้
ความคิดทกั ษะกระบวนการทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

รวมทั้งเห็นคณุ ค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบียบ มีความ
รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและมีความเช่ือมัน่ ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. ใช้ทักษะความร้แู ละทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ญั หาต่างๆได้
๒. อา่ นและเขยี นตัวเลขโรมนั ได้
๓. บอกคา่ ของเลขโดดในตัวเลขฐานตา่ งๆทกี่ าหนดให้ได้
๔. เขียนตัวเลขฐานที่กาหนดใหเ้ ป็นตวั เลขฐานตา่ งๆได้
๕. ใช้ความรเู้ ก่ยี วกบั จานวนเต็มและเลขยกกาลังในการแกป้ ญั หาได้
๖. ใช้การสรา้ งพนื้ ฐานสร้างมมุ ขนาดต่างๆได้
๗. ใช้การสร้างพ้นื ฐานสร้างรูปทซี่ ับซ้อนขึ้นได้
๘. ใช้ความรู้และทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์แก้ปัญหาต่างๆได้
๙. ตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของคาตอบทไี่ ด้

รวมทงั้ หมด ๙ ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๖๔

คาอธิบายรายวชิ า

รายวิชาคณติ ศาสตร์เพ่มิ เติม ๒ รหัสวิชา ค๒๑๒๐๒

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาความรู้ ฝึกทักษะและการวิเคราะห์เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการให้เหตุผล การให้
เหตุผลในชีวิตประจาวัน การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย พหุนาม เอกนาม การบวก การลบ
การคูณ และการหารเอกนาม พหุนาม การบวก การลบพหุนาม การคูณและการหารพหุนามอย่างง่าย
การประยุกต์ ๒ การประยกุ ต์ของจานวนและพีชคณติ การประยกุ ต์ทางเรขาคณติ และการวัดปัญหาท้า ให้
คิด

โดยจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณใ์ นชวี ติ ประจาวันทใี่ กล้ตวั ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาคน้ ควา้
โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด
ทักษะกระบวนการท่ไี ด้ไปใชใ้ นการเรียนรู้สง่ิ ตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

รวมทั้งเห็นคุณค่า และมเี จตคตทิ ่ีดตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและมคี วามเชื่อม่ันในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. สงั เกตให้ข้อความคาดการณ์และให้เหตผุ ลทางคณติ ศาสตรอ์ ยา่ งงา่ ยได้
๒. หาผลบวกและผลลบของเอกนามและพหนุ ามได้
๓. หาผลคูณและผลหารของพหุนามอย่างได้
๔. ใช้ความรูเ้ กย่ี วกับจานวนเต็มและเลขยกกาลังในการแก้ปญั หาได้
๕. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบทีไ่ ด้
๖. ใชว้ ธิ กี ารท่ีหลากหลายแก้ปัญหาได้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๕

รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าคณิตศาสตร์เพ่ิมเติม ๓ รหสั วิชา ค ๒๒๒๐๑

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาความร้แู ละฝึกทกั ษะกระบวนการ เกยี่ วกับ สมบัตขิ องเลขยกกาลงั การคูณและการหารเลข
ยกกาลงั ท่มี ีเลขชกี้ าลงั เปน็ จานวนเต็มและการนาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาหรอื สถานการณต์ ่าง ๆ การใชเ้ ลขยก
กาลงั ในการเขียนแสดงจานวนท่มี คี า่ น้อย ๆ หรือมาก ๆ ในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ การคานวณเกีย่ วกบั
จานวนทม่ี อี ยู่ในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ พหนุ ามและเศษสว่ นของพหุนาม อยา่ งงา่ ย การบวก การลบ การ
คณู และการหารพหุนาม การบวก การลบ การคณู และการหาร เศษสว่ นของพหนุ ามทม่ี ีดีกรไี มเ่ กินหนึ่ง
การประยุกตข์ องการแปลงทางเรขาคณิต การสรา้ งงานศลิ ปะโดยใช้การแปลงทางเรขาคณติ การออกแบบ
โดยใชก้ ารแปลงทางเรขาคณติ

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวันที่ใกลต้ วั ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาค้นควา้
โดยการปฏบิ ตั ิจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพือ่ พัฒนาทกั ษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การใหเ้ หตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทักษะ
กระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในการเรยี นรสู้ ิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

รวมทง้ั เห็นคุณคา่ และมเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วาม
รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชื่อมน่ั ในตนเอง

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๖

ผลการเรียนรู้
๑. คูณและหารจานวนท่เี ขียนอยู่ในรปู เลขยกกาลังที่มเี ลขชี้กาลงั เปน็ จานวนเตม็ โดยใชบ้ ท
นิยามและสมบัติของเลขยกกาลังและนาไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้
๒. คานวณและใชเ้ ลขยกกาลงั ในการเขียนแสดงจานวนทีม่ ีคา่ นอ้ ย ๆ หรือมาก ๆ ในรปู
สญั กรณว์ ทิ ยาศาสตรไ์ ด้
๓. บวก ลบ คณู หาร พหุนามได้
๔. บวก ลบ คณู หารเศษสว่ นของพหุนามที่มดี ีกรีไม่เกนิ หนง่ึ ได้
๕. ใช้ความร้เู กีย่ วกับการเลื่อนขนาน การสะท้อน และการหมนุ ในการสร้างสรรค์งานศลิ ปะ
หรือออกแบบ
๖. ตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของคาตอบทีไ่ ด้

รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพ่ิมเติม ๔ รหสั วชิ า ค ๒๒๒๐๒

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาความรู้และฝึกทักษะกระบวนการ เกี่ยวกับการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง
การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้สมบัติการแจกแจง การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรีสอง
ทอี่ ยู่ในรูป ax๒ +bx+c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตวั และ a ≠ ๐ การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่
ในรูปกาลังสองสมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองท่ีอยูใ่ นรปู ผลต่างกาลังสอง สมการกาลงั
สองตัวแปรเดียว การแก้สมการกาลังสองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตัวประกอบ การแก้โจทย์ปัญหา
เกยี่ วกับสมการกาลงั สองตัวแปรเดยี วโดยใชก้ ารแยกตัวประกอบ

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า
โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๖๗

แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด
ทกั ษะกระบวนการท่ีไดไ้ ปใช้ในการเรียนรสู้ งิ่ ตา่ ง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์

รวมท้ังเห็นคุณค่า และมเี จตคติท่ีดตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบียบ มีความ
รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบมวี ิจารณญาณและมคี วามเช่ือม่ันในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. แยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรีสองได้
๒. แกส้ มการกาลงั สองตัวแปรเดยี วโดยใช้การแยกตวั ประกอบได้
๓. แก้โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับสมการกาลงั สองตวั แปรเดียวโดยใช้การแยกตวั ประกอบได้
๔. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบทีไ่ ด้

รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพิม่ เติม ๕ รหัสวชิ า ค ๒๓๒๐๑

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาความรู้และฝึกทักษะกระบวนการ เกี่ยวกับกรณฑ์ที่สอง การบวก การลบ การคูณ และการ
หารจานวนจริงอยู่ในรูป a เมื่อ a  0 โดยใช้สมบัติ ab = a b เมื่อ a  0 และ b  0 และ

a = a เมื่อ a  0 และ b ๐ การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยวิธีทาเป็นกาลังสอง

bb

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๘

สมบรู ณ์ การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรีสูงกว่าสองทม่ี ีสัมประสทิ ธิเ์ ปน็ จานวนเตม็ โดยอาศัยวิธีทาเป็น

กาลังสองสมบูรณห์ รอื ทฤษฎีเศษเหลือ แกส้ มการตวั แปรเดียวโดยใชส้ ูตร x = − b  b2 − 4ac การแก้

2a

โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั สมการกาลังสองตัวแปรเดียว
โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า

โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด
ทักษะกระบวนการท่ไี ดไ้ ปใช้ในการเรยี นรู้สงิ่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

รวมทัง้ เห็นคณุ ค่า และมเี จตคติท่ีดีตอ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบียบ มีความ
รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเช่อื ม่นั ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. บวก ลบ คูณ และหารจานวนจรงิ ทอ่ี ยใู่ นรปู a เม่อื a  0และb  0

๒. ใชส้ มบัติเกยี่ วกับ a = a เม่ือ a  0 และ b ๐

bb

๓. แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องที่อยู่ในรปู กาลงั สองสมบูรณ์ได้
๔. แยกตัวประกอบของพหุนามดีกรสี ูงกว่าสองที่มีสมั ประสิทธเ์ิ ปน็ จานวนเตม็ โดยอาศัยวิธี
ทาเปน็ กาลงั สองสมบูรณห์ รือทฤษฎีเศษเหลือ

๕. แกส้ มการตวั แปรเดียวโดยใช้สูตร x = − b  b2 − 4ac ได้

2a

๖. แกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับสมการกาลังสองตวั แปรเดียวได้
๗. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบทไี่ ด้
รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๖ รหัสวชิ า ค ๒๓๒๐๒

ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๖๙

ศึกษาความรู้และฝกึ ทกั ษะกระบวนการ เกี่ยวกับ ระบบสมการ การแก้ระบบสมการสองตัวแปรท่ีมี
ดีกรีไม่เกินสอง การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับระบบสมการสองตัวแปรที่มีดีกรีไม่เกินสอง การให้เหตุผลทาง
เรขาคณิต สมบัติเกี่ยวกับวงกลม การให้เหตุผลเกี่ยวกับการสร้างรูปเรขาคณิตเศษส่วนของพหุนาม การ
บวก การลบ การคณู และการหารเศษส่วนของพหุนาม การแกส้ มการเศษส่วนของพหนุ าม การแก้ปัญหา
เกย่ี วกบั เศษสว่ นของพหุนาม

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการทีไ่ ดไ้ ปใชใ้ นการเรียนร้สู ิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

รวมท้ังเห็นคณุ ค่า และมเี จตคติที่ดตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชอ่ื มั่นในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. แก้ระบบสมการสองตวั แปรทีม่ ีดกี รไี มเ่ กินสองได้
๒. แกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกับระบบสมการสองตวั แปรท่มี ดี ีกรไี มเ่ กนิ สองได้
๓. ใช้สมบตั เิ กย่ี วกบั วงกลมในการให้เหตผุ ลได้
๔. สรา้ งและใหเ้ หตุผลเกีย่ วกับการสรา้ งรูปเหล่ยี มและรูปวงกลมท่กี าหนดใหไ้ ด้
๕. บวก การลบ การคูณและการหารเศษสว่ นของพหนุ ามได้
๖. แก้สมการเศษสว่ นของพหุนามได้
๗. แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั เศษส่วนของพหนุ ามได้
๘. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคาตอบทไี่ ด้

รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๗๐

โครงสร้างหลักสตู ร
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

วิชาพนื้ ฐาน ๒ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
ค ๓๑๑๐๑ คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ๑ ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ค ๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๒ ๒ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ค ๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์พื้นฐาน ๓ ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ค ๓๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ๔ ๒ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ค ๓๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ๕ ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ค ๓๓๑๐๒ คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ๖

วชิ าเพมิ่ เตมิ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ค ๓๑๒๐๑ คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ ๑ ๓ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ค ๓๑๒๐๒ คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๒ ๓ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๑.๕ หน่วยกิต
ค ๓๒๒๐๑ คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม ๓ ๓ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
ค ๓๒๒๐๒ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๔ ๓ ชัว่ โมง / สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
ค ๓๓๒๐๑ คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ ๕ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ค ๓๓๒๐๒ คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม ๖

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๗๑

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๑ รหสั วชิ า ค ๓๑๑๐๑

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หน่วยกิต

ศึกษา ค้นควา้ ปฏบิ ัตจิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงานโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับเซต การดาเนินการของเซต
แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์และการแก้ปัญหาการให้เหตุผล การให้เหตุผลแบบอุปนัยและนิรนัย การอ้าง
เหตุผล จานวนจรงิ สมบตั ิของจานวนจรงิ เกี่ยวกบั การบวกและการคณู สมบตั กิ ารเทา่ กันและการไม่เท่ากัน
สมการกาลงั สองตวั แปรเดียว อสมการตวั แปรเดยี ว คา่ สัมบรู ณ์

โดยการจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณใ์ นชวี ติ ประจาวนั ท่ีใกล้ตวั ให้ผูเ้ รยี นได้ศกึ ษาค้นคว้าโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นร้สู ิ่งต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์

รวมทั้งเหน็ คุณค่าและมเี จตคตทิ ี่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีวิจารญาณ และมคี วามเช่อื มนั่ ในตนเอง การวัดและประเมนิ ผล ใชว้ ิธีการท่ี
หลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ให้สอดคล้องกบั เนอื้ หาและทกั ษะทตี่ อ้ งการวัด

รหัสตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ม.๔-๖/๑ ค ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ค ๑.๑ ม.๔-๖/๓ ค ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ค ๑.๒ ม.๔-๖/๑
ค ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ค ๑.๔ ม.๔-๖/๑ ค ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ค ๔.๒ ม.๔-๖/๓ ค ๔.๒ ม.๔-๖/๔
ค ๔.๒ ม.๔-๖/๕

รวมทงั้ หมด ๑๑ ตวั ชี้วดั

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๗๒

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ๒ รหสั วชิ า ค ๓๑๑๐๒

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกติ

ศึกษา คน้ คว้า ปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงานโดยอาศยั ความรู้เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน โดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์และฟังก์ชัน กราฟของความสัมพันธ์และ
ฟังก์ชัน ตัวอยา่ งของฟังก์ชันที่ควรรู้จัก การนากราฟไปแกป้ ญั หาบางประการ

โดยการจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั ทีใ่ กลต้ ัวให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาค้นคว้าโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

รวมทง้ั เห็นคุณค่าและมเี จตคติท่ีดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี จิ ารญาณ และมีความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง การวัดและประเมินผล ใชว้ ธิ ีการท่ี
หลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาและทักษะท่ีต้องการวดั

รหัสตวั ชี้วัด
ค ๔.๑ ม.๔-๖/๒ ค ๔.๒ ม.๔-๖/๒ ค ๔.๑ ม.๔-๖/๓ ค ๔.๑ ม.๔-๖/๓
ค ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ค ๒.๒ ม.๔-๖/๑
รวมทง้ั หมด ๖ ตัวชี้วัด

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๗๓

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน ๓ รหัสวชิ า ค ๓๒๑๐๑

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกติ

ศึกษา ค้นควา้ ปฏบิ ัตจิ ริง ทดลอง สรปุ รายงานโดยอาศยั ความรเู้ กย่ี วกบั เลขยกกาลงั ท่ีมีเลขชี้กาลัง
เป็นจานวนตรรกยะ เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวน ตรรกยะ รากที่ n ของจานวนจริง
อัตราส่วนตรโี กณมิตแิ ละการนาไปใช้ อัตราสว่ นตรีโกณมิติ อัตราส่วนตรโี กณมิติของมุม ๓๐ องศา ๔๕
องศา และ ๖๐ องศา การอ่านค่าอัตราส่วนตรีโกณมิติจากตารางหรือเครื่องคิดเลข การนาอัตราส่วน
ตรโี กณมิติไปใชใ้ นการแก้ปัญหาเกยี่ วกับการหาระยะทาง และความสูง

โดยการจัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันทใี่ กลต้ วั ให้ผเู้ รียนได้ศกึ ษาคน้ คว้าโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการท่ีไดไ้ ปใช้ในการเรียนรสู้ ่ิงตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

รวมทงั้ เหน็ คณุ คา่ และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบ ระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารญาณ และมคี วามเชอ่ื มัน่ ในตนเอง การวัดและประเมินผล ใชว้ ธิ กี ารท่ี
หลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หาและทกั ษะท่ตี อ้ งการวดั

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๗๔

รหัสตวั ช้ีวัด ค ๔.๒ ม. ๔-๖/๑ ค ๕.๒ ม๔-๖/๑
ค ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ค ๔.๑ ม. ๔-๖/๕
ค ๕.๒ ม.๔-๖/๒ ค ๕.๓ ม.๔-๖/๒
รวมทัง้ หมด ๖ ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ๔ รหสั วชิ า ค ๓๒๑๐๒

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกติ

ศกึ ษา คน้ คว้า ปฏิบตั ิจรงิ ทดลอง สรปุ รายงานโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับ ลาดบั และอนุกรม ลาดับ
เลขคณิต ลาดับเรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต และอนุกรมเรขาคณิต ผลบวก n พจน์แรกของอนกุ รม
ความนา่ จะเปน็ กฎเกณฑเ์ บื้องตน้ เกยี่ วกับการนบั ความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์

ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /
กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนา
ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ใน
ชีวติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๗๕

รวมทัง้ เห็นคุณคา่ และมเี จตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบียบ มีความ
รอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มวี ิจารญาณ และมีความเช่อื มั่นในตนเอง การวดั และประเมินผล ใช้วิธีการท่ี
หลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ให้สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาและทักษะที่ต้องการวดั

รหสั ตัวชี้วัด ค ๕.๓ ม.๔-๖/๒
ค ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ค ๕.๑ ม.๔-๖/๒ ค ๕.๑ ม.๔-๖/๓
ค ๕.๓ ม.๔-๖/๑ ค ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ค ๕.๓ ม.๔-๖/๑
รวมทั้งหมด ๗ ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๕ รหัสวชิ า ค ๓๓๑๐๑

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกิต

ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงานโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับตัวอย่างของกรณีหรือ
ปญั หาทีต่ อ้ งสถิติ ความหมายของสถติ ิ สถติ กิ บั การตัดสนิ ใจและวางแผน ขอ้ มลู และการเก็บรวบรวมข้อมูล
สถติ เิ บ้ืองตน้ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การหาค่ากลางของข้อมูลโดยใช้ค่าเฉล่ียเลขคณิต มธั ยฐาน และฐาน

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๗๖

นิยม การหาตาแหน่งที่ของข้อมูลโดยใช้เปอร์เซ็นไทล์ การวัดการกระจายของข้อมูลโดยใช้ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน การแจกแจงความถี่ของข้อมูล การแจกแจงความถี่โดยใช้กราฟ การวัดตาแหน่งที่ของข้อมูล
การวัดค่ากลางของขอ้ มูล การวดั การกระจายของข้อมูล วธิ ีการสารวจความคิดเหน็ ขอบเขตของการสารวจ
วธิ กี ารเลอื กตวั อย่าง การสรา้ งแบบสารวจความคิดเหน็ การประมวลผลและวิเคราะห์ความคิดเหน็ การนา
ผลการสารวจความคิดเห็นไปใชป้ ระโยชนก์ ารนาเสนอขอ้ มลู โดยการจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ใน
ชวี ติ ประจาวนั ที่ใกล้ตวั

ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /
กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนา
ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

รวมทัง้ เห็นคุณค่าและมเี จตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบียบ มีความ
รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารญาณ และมีความเชอื่ ม่ันในตนเอง การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ธิ กี ารท่ี
หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคลอ้ งกับเน้ือหาและทักษะทต่ี ้องการวัด

รหัสตัวชวี้ ัด ค๕.๑ ม.๔–๖/๒ ค๕.๑ ม.๔–๖/๓ ค๖.๑ ม๔–๖/๕
ค๕.๑ ม.๔–๖/๑ ค๕.๓ ม.๔–๖/๑ ค๖.๑ ม.๔–๖/๑
ค๕.๒ ม.๔–๖/๑ ค๖.๑ ม.๔–๖/๓ ค๖.๑ ม.๔–๖/๔
ค๖.๑ ม.๔–๖/๒

รวมทงั้ หมด ๑๐ ตัวช้วี ดั

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ้ืนฐาน ๖ รหสั วชิ า ค ๓๓๑๐๒

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกติ

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๗๗

ศกึ ษา ค้นควา้ ปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงานโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกบั ตัวอยา่ งของกรณี

หรอื ปัญหาทต่ี ้องสถิติ ความหมายของสถติ ิ สถติ ิกับการตดั สนิ ใจและวางแผน ข้อมูลและการเก็บรวบรวม
ข้อมลู การแจกแจงความถ่ขี องข้อมูล การแจกแจงความถโ่ี ดยใช้กราฟ การวดั ตาแหน่งท่ขี องขอ้ มลู การวดั
คา่ กลางของขอ้ มูล การวัดการกระจายของขอ้ มลู วิธีการสารวจความคดิ เห็น ขอบเขตของการสารวจ
วิธีการเลือกตัวอย่าง การสร้างแบบสารวจความคิดเห็น การประมวลผลและวเิ คราะหค์ วามคดิ เหน็ การนา
ผลการสารวจความคิดเห็นไปใช้ประโยชน์ การนาเสนอข้อมูลโดยการจัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์
ในชีวิตประจาวันทใี่ กลต้ วั

ให้ผเู้ รยี นไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยการปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะ /
กระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนา
ประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทกั ษะกระบวนการท่ไี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้ส่งิ ตา่ ง ๆ และใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ มคี วาม
รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารญาณ และมีความเช่อื มน่ั ในตนเอง การวัดและประเมนิ ผล ใช้วิธีการที่
หลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ให้สอดคลอ้ งกับเน้ือหาและทกั ษะทีต่ ้องการวดั

รหสั ตวั ชี้วัด ค๕.๑ ม.๔–๖/๓
ค๕.๑ ม.๔–๖/๑ ค๕.๑ ม.๔–๖/๒ ค๖.๑ ม.๔–๖/๑
ค๕.๒ ม.๔–๖/๑ ค๕.๓ ม.๔–๖/๑ ค๖.๑ ม.๔–๖/๔
ค๖.๑ ม.๔–๖/๒ ค๖.๑ ม.๔–๖/๓
ค๖.๑ ม๔–๖/๕
รวมทั้งหมด ๑๐ ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ า

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๗๘

รายวิชาคณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม ๑ รหัสวชิ า ค ๓๑๒๐๑

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษา ความรู้เกีย่ วกับประพจน์ การหาค่าความจรงิ ของประพจน์ การสร้างตารางค่าความจริงของ
ประพจน์ รปู แบบของประพจนท์ สี่ มมลู กัน การอ้างเหตผุ ล ขอ้ ความทม่ี ีตวั บ่งปรมิ าณและคา่ ความจริงของ
ประโยคท่มี ีตัวบ่งปรมิ าณ สมมูลและนเิ สธของประโยคท่มี ตี ัวบ่งปริมาณ ตวั แปรเดยี ว จานวนจริง การแก้
สมการพหนุ ามตัวแปรเดยี ว สมบัติการไมเ่ ท่ากัน ชว่ งและการแก้สมการ คา่ สมั บูรณ์ และการแกส้ มการและ
อสมการในรูปคา่ สัมบูรณ์

โดยจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั ทใ่ี กลต้ วั ให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยการ
ปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพือ่ พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคดิ คานวณ การแกป้ ัญหา การ
ให้เหตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการทีไ่ ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้ส่งิ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมเี จตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มีความ
รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเชื่อมนั่ ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. หาค่าความจริงของประพจน์ได้
๒. หารปู แบบของประพจน์ท่ีสมมลู กนั ได้
๓. บอกได้ว่าการอ้างเหตุผลท่กี าหนดให้สมเหตสุ มผลหรือไม่
๔. มคี วามคิดรวบยอดเก่ียวกับระบบจานวนจริง
๕. นาสมบตั ิตา่ งๆ เกยี่ วกบั จานวนจริงและการดาเนนิ การไปใช้ได้
๖. ใช้ความรู้และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ญั หาตา่ งๆได้
๗. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบท่ีได้
รวมทัง้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๗๙

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาคณิตศาสตรเ์ พมิ่ เติม ๒ รหสั วชิ า ค ๓๑๒๐๒

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษาความรู้ เสน้ ตรง ภาคตัดกรวย ฟงั ก์ชันโพลโิ นเมยี ล ฟังกช์ ันคอมโพสทิ ฟงั กช์ ันอนิ เวริ ส์ และ
พีชคณติ ของฟงั ก์ชัน

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ในชวี ิตประจาวนั ท่ใี กลต้ วั ให้ผ้เู รยี นได้ศกึ ษาค้นควา้ โดยการ
ปฏบิ ตั จิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพื่อพฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การ
ใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทกั ษะ
กระบวนการท่ีไดไ้ ปใช้ในการเรยี นรสู้ ่งิ ตา่ ง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เห็นคณุ ค่าและมีเจตคติท่ดี ีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มคี วาม
รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมคี วามเชอ่ื มั่นในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. หาระยะระหว่างจดุ สองจดุ จุดกึ่งกลาง ระยะระหวา่ งเสน้ ตรงกบั จุดได้
๒. หาความชันของเสน้ ตรง สมการเสน้ ตรง เส้นขนาน เสน้ ตั้งฉากและนาไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้
๓. เขียนความสมั พนั ธ์ที่มกี ราฟเปน็ ภาคตัดกรวย เมือ่ กาหนดส่วนต่างๆ ของภาคตดั กรวยใหแ้ ละ
เขียนกราฟของความสัมพนั ธน์ ัน้ ได้
๔. นาความรเู้ รอื่ งการเล่อื นแกนทางขนานไปใชใ้ นการเขียนกราฟได้
๕. นาความร้เู รื่องเรขาคณิตวิเคราะห์ไปใชใ้ นการแก้ปัญหาได้
๖. มีความคิดรวบยอดเก่ยี วกบั ฟังก์ชัน เขยี นกราฟของฟงั กช์ นั และสรา้ งฟงั กช์ นั จากโจทยป์ ัญหาท่ี
กาหนดให้ได้
๗. นาความรู้เรอื่ งฟังก์ชนั ไปใช้แกป้ ญั หาได้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๘๐

รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ ๓ รหัสวชิ า ค ๓๒๒๐๑

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาความรูแ้ ละฝึกทักษะเกี่ยวกับ ฟังก์ชนั เอกโปเนลเชียลและฟงั ก์ชนั ลอกกาลทิ มึ การแกส้ มการ
เอกซโ์ ปเนลเชียลและลอกาลทิ ึมอย่างง่ายได้ ฟงั ก์ชันตรโี กณมติ ิ กราฟของฟังก์ชันตรโี กณมติ ิ การนาความรู้
เรอื่ งฟังก์ชันตรโี กณมิติไปแก้ปัญหาบางประการ สญั ลักษณข์ องเมทรกิ ซ์ สมบตั ิของเมทริกซ์ ดีเทอร์มินนั ต์
การใช้เมทริกซแ์ กร้ ะบบสมการเชงิ เส้นโดยวิธดี ีเทอร์มินนั ต์และการดาเนินการตามแถวเบื้องตน้

โดยจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันท่ใี กลต้ วั ให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาค้นคว้าโดยการ
ปฏบิ ตั จิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การ
ใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทกั ษะ
กระบวนการท่ไี ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์

เหน็ คุณค่าและมีเจตคติทด่ี ีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเชือ่ มน่ั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้

๑. มีความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั ฟงั กช์ ันเอกโปเนลเชียลและฟังกช์ ันลอการทิ มึ และเขยี น
กราฟของฟังก์ชันท่ีกาหนดใหไ้ ด้

๒. นาความรู้เกยี่ วกบั ฟังกช์ ันเอกซ์โพเนนเชยี ลและฟงั ก์ชนั ลอการทึ ึมไปใช้แก้ปญั หาได้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๘๑

๓. มีความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั ฟงั ก์ชันตรีโกณมิตแิ ละเขียนกราฟของฟงั ก์ชันที่กาหนดให้ได้
๔. นาความรเู้ รอ่ื งฟงั กช์ ันตรโี กณมิตแิ ละการประยุกตไ์ ปใชแ้ กป้ ญั หาได้
๕. มีความคิดรวบยอดเกยี่ วกับเมทริกซ์และการดาเนินการของเมทรกิ ซ์
๖. หาดเี ทอรม์ นิ นั ตข์ องเมทริกซ์ nxn เมอื่ n เป็นจานวนเต็มไม่เกนิ สี่ได้
๗. วิเคราะหแ์ ละหาคาตอบของระบบสมการเชิงเส้นได้

รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณิตศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ ๔ รหสั วชิ า ค ๓๒๒๐๒

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ

ศึกษาความรู้และฝึกทกั ษะกราฟของอสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร การสร้างแบบจาลองทาง
คณิตศาสตร์เพ่ือหาคาตอบของปัญหา กฏเกณฑ์เบ้ืองตน้ เก่ยี วกบั การนับ แฟคทรอเรียล n วิธีเรียงสับเปลยี่ น
วิธีจัดหมู่ ทฤษฏีบททวนิ าม ความนา่ จะเปน็ และกฏทส่ี าคญั บางประการของความน่าจะเปน็

โดยจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชวี ิตประจาวันทใี่ กล้ตวั ให้ผเู้ รยี นได้ศกึ ษาค้นคว้าโดยการ
ปฏบิ ัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การ
ใหเ้ หตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคดิ ทกั ษะ
กระบวนการท่ีไดไ้ ปใชใ้ นการเรียนรสู้ ่ิงต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคณุ ค่าและมเี จตคติทดี่ ีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วาม
รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๘๒

๑. สร้างแบบจาลองทางคณิตศาสตรแ์ ละใช้วธิ กี ารของกาหนดการเชงิ เส้นทใี่ ช้กราฟของสมการและ
อสมการทม่ี ีสองตัวแปรในการแก้ปัญหาได้

๒. แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใช้กฏเกณฑ์เบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั การนับ วิธเี รยี งสบั เปลี่ยน และวิธีจดั หมู่
๓. นาความรู้เรื่องทฤษฎบี ททวินามไปใชไ้ ด้
๔. หาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณท์ ี่กาหนดใหไ้ ด้

รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพ่มิ เติม ๕ รหัสวิชา ค ๓๓๒๐๑

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษาความรแู้ ละฝกึ ทักษะกระบวนการ เกยี่ วกับ ลมิ ติ ของฟงั กช์ ัน ความตอ่ เน่อื งของฟงั ก์ชัน
อนพุ ันธ์ของฟงั ก์ชัน ความชันของเส้นโค้ง การหาอนพุ นั ธ์ของฟงั กช์ นั พชี คณิตโดยใช้สูตร การประยกุ ต์ของ
อนพุ นั ธ์ของฟังกช์ ันพีชคณิตโดยใช้สูตร การประยกุ ตข์ องอนพุ นั ธอ์ ย่างงา่ ย ปรพิ นั ธ์ ปริพนั ธไ์ มจ่ ากดั เขต
ปริพันธจ์ ากัดเขต พนื้ ทท่ี ่ปี ิดลอ้ มดว้ ยเสน้ โคง้

โดยจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั ทใี่ กลต้ ัวให้ผู้เรยี นได้ศึกษาคน้ คว้าโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พัฒนาทกั ษะ / กระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา
การใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะ
กระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในการเรยี นรสู้ งิ่ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๘๓

เห็นคุณค่าและมีเจตคติทีด่ ตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มคี วาม
รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมคี วามเชอื่ ม่นั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. หาลมิ ิตของฟงั ก์ชันท่กี าหนดได้
๒. บอกไดว้ า่ ฟังกช์ นั ที่กาหนดให้เปน็ ฟงั กช์ ันต่อเนือ่ งหรอื ไม่
๓. หาอนพุ ันธ์ของฟงั ก์ชนั ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
๔. นาความรู้เร่ืองอนุพนั ธ์ของฟังก์ชันไปประยกุ ตไ์ ด้
๕. หาปรพิ นั ธไ์ มจ่ ากัดของฟังกช์ ันทีก่ าหนดให้ได้
๖. หาปรพิ ันธจ์ ากัดเขตของฟงั ก์ชนั บนชว่ งทกี่ าหนดใหแ้ ละหาพน้ื ท่ีปิดลอ้ มด้วยเสน้ โค้งบนช่วงท่ี
กาหนดใหไ้ ด้
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ า

รายวิชาคณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม ๖ รหสั วิชา ค ๓๓๒๐๒

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศกึ ษาความรแู้ ละฝกึ ทกั ษะกระบวนการ เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมลู เบ้ืองตน้ โดยใช้ค่ากลางและการ
วดั การกระจายของขอ้ มลู คา่ มาตรฐาน การแจกแจงปกตแิ ละเส้นโคง้ ปกติ

โดยจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั ทีใ่ กลต้ ัวให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ โดยการ
ปฏบิ ัตจิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๘๔

ใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทกั ษะ
กระบวนการที่ไดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้สงิ่ ตา่ ง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติทด่ี ตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มีความ
รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. เลอื กวธิ ีวิเคราะหข์ อ้ มูลเบื้องต้นและอธิบายผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ได้ถกู ต้อง
๒. นาความรเู้ รอื่ งการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ไปใช้แก้ปัญหาบางประการได้
๓. นาความรู้เร่อื งมาตรฐานไปใช้ในการเปรียบเทียบขอ้ มลู ได้
๔. หาพ้นื ท่ใี ต้โค้งปกติและนาความรเู้ ก่ยี วกบั พื้นท่ีใต้โคง้ ปกติไปใช้ได้
รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้

โครงสรา้ งหลักสตู ร
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น

รายวิชาพื้นฐาน ๓ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ว ๒๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๒ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๘๕
ว ๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ ๓ ชวั่ โมง / สปั ดาห์
ว ๒๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๔ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ ๓ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๒๓๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๖ ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๕ หนว่ ยกติ
๑.๕ หน่วยกิต
๑.๕ หนว่ ยกิต

รายวิชาเพมิ่ เตมิ สนกุ กบั โครงงานวิทยาศาสตร์ ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
ว ๒๐๒๘๑ ของเลน่ เชิงวทิ ยาศาสตร์ ๒ ชวั่ โมง / สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว ๒๐๒๘๒ วิทยาศาสตรก์ ับความงาม ๒ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว ๒๐๒๘๓ เชอ้ื เพลงิ เพอ่ื การคมนาคม ๒ ช่ัวโมง / สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว ๒๐๒๘๔ พลงั งานทดแทนกบั การใช้ประโยชน์ ๒ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ว ๒๐๒๘๕

คาอธบิ ายรายวิชา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๘๖

รายวิชา วิทยาศาสตร์ ๑ รหัส ว ๒๑๑๐๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษา อธบิ าย ทดลอง สบื ค้นขอ้ มลู วเิ คราะห์ สารวจ ตรวจสอบ เกย่ี วกบั รปู รา่ ง ลักษณะของเซลล์
ของสิง่ มีชวี ติ เซลลเ์ ดยี วและเซลลข์ องสิง่ มีชีวติ หลายเซลลก์ ารเปรียบเทยี บสว่ นประกอบสาคญั ของเซลล์พชื
และเซลล์สตั ว์ หนา้ ที่ของสว่ นประกอบทสี่ าคญั ของเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ กระบวนการสารผ่านเซลล์ โดย
การแพรแ่ ละออสโมซิส ปัจจยั บางประการท่ีจาเป็นต่อการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ผลท่ไี ด้จากการ
สังเคราะหด์ ว้ ยแสง ของพืช ความสาคัญของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชต่อส่งิ มชี ีวติ และ
สง่ิ แวดล้อม กลมุ่ เซลล์ที่เกย่ี วข้อง กบั การลาเลียงน้าของพชื โครงสรา้ งทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การลาเลยี งน้าและ
อาหารของพืช โครงสรา้ งของดอกท่เี กี่ยวข้องกบั การสบื พันธ์ุ กระบวนการสบื พันธ์แุ บบอาศยั เพศของพืชดอก
และการสืบพนั ธ์แุ บบไม่อาศยั เพศของพืชโดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืชเพื่อช่วยในการขยายพันธุ์ การตอบสนอง
ของพชื ตอ่ แสง นา้ และการสมั ผัส หลกั การและผลของการใช้เทคโนโลยีชวี ภาพในการขยายพันธ์ุ ปรับปรุง
พันธุ์ เพิ่มผลผลิตของพชื จาแนกสารเป็นกล่มุ โดยใชเ้ นอ้ื สารหรือขนาดอนภุ าคเป็นเกณฑ์ อธิบายสมบตั ขิ อง
สารในแตล่ ะกลุ่ม การเปลีย่ นสถานะของสารโดยใชแ้ บบจาลองการจดั เรียงอนภุ าคของสาร วธิ ีการเตรียม
สารละลายทมี่ ีความเขม้ ข้นเป็นรอ้ ยละ การเปล่ียนแปลงสมบัติ มวล และพลังงานของสารเมื่อสารเปลยี่ น
สถานะและเกดิ การละลาย ปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การเปลี่ยนสถานะและการละลายของสาร สมบัติความเปน็ กรด-
เบสของสารละลาย การตรวจสอบค่า pH ของสารละลายและนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู
และการอภปิ ราย

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ
เห็นคุณค่าของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ
คา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด
ว ๑.๑ ม.๑/๑ - ม.๑/๑๓
ว ๓.๑ ม.๑/๑ - ม.๑/๔
ว ๓.๒ ม.๑/๑ - ม.๑/๓
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑ - ม.๑-๓/๙

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๘๗

รวม ๒๙ ตวั ชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ า
รายวิชา วิทยาศาสตร์ ๒ รหัส ว ๒๑๑๐๒ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษา ทดลอง สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ สารวจ ตรวจสอบ อธิบายเกี่ยวกับปริมาณสเกลาร์ ปริมาณ
เวกเตอร์ ระยะทาง การกระจัด อัตราเรว็ และความเรว็ ในการเคล่ือนทข่ี องวัตถุ อุณหภมู แิ ละการวัดอุณหภูมิ
การถ่ายโอนความร้อน การดดู กลนื การคายความร้อนโดยการแผ่รงั สี สมดลุ ความร้อนและผลของความร้อน
ต่อการขยายตัวของสารและนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน องค์ประกอบและการแบ่งชั้นบรรยากาศที่ปก
คลุมผิวโลก ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ ความชื้น และความกดอากาศที่มีผลต่อปรากฏการณ์ทางลมฟ้า
อากาศ การเกิดปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศที่มีผลต่อมนษุ ย์ การแปลความหมายข้อมูลจากการพยากรณ์
อากาศ ผลของลมฟา้ อากาศตอ่ การดารงชีวติ ของส่งิ มีชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม ปจั จยั ทางธรรมชาติและการกระทา
ของมนุษย์ที่มีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมขิ องโลก รูโหว่โอโซน และฝนกรด ผลของภาวะโลกร้อน รูโหว่
โอโซน และฝนกรด ท่มี ตี ่อส่ิงมีชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ ม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล
และการอภิปราย

เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
คา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

ตัวชี้วัด
ว ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒
ว ๕.๑ ม.๑/๑-ม.๑/๔
ว ๖.๑ ม.๑/๑-ม.๑/๗
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑ - ม.๑-๓/๙

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๘๘

รวม ๒๒ ตัวชว้ี ัด

คาอธิบายรายวชิ า
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ๓ รหสั ว ๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษา อธิบาย ทดลอง สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ สารวจ ตรวจสอบ เกี่ยวกับโครงสร้างและการทางาน
ของระบบย่อยอาหาร ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์และสัตว์
รวมทั้งระบบประสาทของมนุษย์ ความสัมพันธ์ในระบบต่างๆ ของมนุษย์ พฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ที่
ตอบสนองต่อสิ่งเร้าทั้งภายนอกและภายใน หลักการและผลของการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการขยายพันธุ์
ปรับปรงุ พนั ธ์ุ และเพ่มิ ผลผลิตของสัตวแ์ ละนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ สารอาหารในอาหารท่มี ีปริมาณพลังงาน
และสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย ผลของสารเสพติดต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย และแนวทางในการ
ปอ้ งกันตนเองจากสารเสพติด องค์ประกอบ สมบัติของธาตุและสารประกอบ สมบัติของธาตุโลหะ ธาตอุ โลหะ
ธาตุก่ึงโลหะ และธาตุกมั มนั ตรงั สี หลักการแยกสารดว้ ยวิธีการกรอง การตกผลกึ การสกดั การกลัน่ และโคร
มาโทกราฟี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล
และการอภิปราย

เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
คา่ นยิ มที่เหมาะสม

รหัสตัวชี้วัด
ว ๑.๑ ม.๒/๑- ม.๒/๖

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๘๙

ว ๓.๑ ม.๒/๑- ม.๒/๓
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑ - ม.๑-๓/๙
รวม ๑๘ ตวั ช้ีวัด

คาอธิบายรายวชิ า
รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ๔ รหสั ว ๒๒๑๐๒ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษา อธิบาย ทดลอง สบื ค้นขอ้ มูล วเิ คราะห์ สารวจ ตรวจสอบการเปล่ียนแปลงสมบตั ิ มวล และ
พลงั งานเมอ่ื สารเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี ปจั จัยท่ีมีผลต่อการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี สมการเคมีของปฏิกิริยาของสารต่างๆ
ผลของสารเคมี ปฏิกิรยิ าเคมตี อ่ สง่ิ มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การใช้สารเคมีอย่างถกู ต้อง ปลอดภัย วิธีป้องกัน
และแกไ้ ขอนั ตรายที่เกิดขน้ึ จากการใช้สารเคมี การหาแรงลัพธข์ องแรงหลายแรงในระนาบเดยี วกันทก่ี ระทา
ตอ่ วัตถุ แรงลพั ธท์ ี่กระทาตอ่ วัตถุทีห่ ยุดนิ่งหรอื วตั ถุเคล่อื นท่ีด้วยความเรว็ คงตวั การสะท้อนของแสง การหัก
เหของแสง ผลของความสว่างทม่ี ีตอ่ มนุษย์และสงิ่ มชี ีวิตอ่นื ๆ การดูดกลืนแสงสี การมองเห็นสีของวตั ถุ และ
นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ลักษณะของชัน้ หนา้ ตัดดนิ สมบตั ขิ องดิน และกระบวนการเกิดดิน การใชป้ ระโยชน์
และการปรับปรุงคุณภาพของดิน กระบวนการเกดิ ลักษณะ สมบัติ และองคป์ ระกอบของหิน การจาแนก
ประเภทของหนิ ลักษณะทางกายภาพของแร่ กระบวนการเกิด ลกั ษณะ และสมบตั ขิ องปโิ ตรเลียม ถ่านหนิ
และหินน้ามัน ลกั ษณะแหล่งน้าธรรมชาติ การใช้ประโยชนแ์ ละการอนรุ กั ษแ์ หล่งนา้ ในท้องถิน่ การเกิดแหลง่
นา้ บนดนิ แหล่งนา้ ใต้ดิน กระบวนการผพุ งั อยูก่ ับท่ี การกรอ่ น การพัดพา การทบั ถม การตกผลึก และผลของ
กระบวนการดงั กล่าว โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของโลก

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๐

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล
และการอภปิ ราย

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่งิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ
เหน็ คุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
ค่านยิ มที่เหมาะสม

ตัวชว้ี ัด
ว ๓.๒ ม.๒/๑ - ม.๒/๔
ว ๔.๑ ม.๒/๑ - ม.๒/๒
ว ๕.๑ ม.๒/๑ - ม.๒/๓
ว ๖.๑ ม.๒/๑ - ม.๒/๑๐
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑ - ม.๑-๓/๙
รวม ๒๘ ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวชิ า
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ๕ รหสั ว ๒๓๑๐๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓
กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษา อธิบาย ทดลอง สืบค้นข้อมลู วิเคราะห์ สารวจ ตรวจสอบเกย่ี วกับลักษณะของโครโมโซมทมี่ ี
หนว่ ยพนั ธกุ รรมหรือยนี ในนิวเคลียส สารพันธกุ รรมหรือดีเอน็ เอ กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม
โรคทางพนั ธุกรรมทเ่ี กดิ จากความผิดปกติของยนี และโครโมโซม ความหลากหลายทางชวี ภาพในทอ้ งถิน่ ท่ีทา
ให้สง่ิ มชี ีวติ ดารงชวี ติ ได้อย่างสมดุล ความหลากหลายทางชวี ภาพทม่ี ีผลตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษย์ สัตว์ พืช
และสิง่ แวดลอ้ ม ผลของเทคโนโลยีชวี ภาพต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์และส่ิงแวดล้อม ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มและ
แนวทางการแก้ปญั หา ความสมั พนั ธข์ ององค์ประกอบภายในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลังงานของสง่ิ มชี ีวติ
ในรูปของโซอ่ าหารและสายใยอาหาร วฏั จักรนา้ วัฏจักรคาร์บอน และความสาคัญท่มี ีตอ่ ระบบนเิ วศ ปจั จยั ท่ี
มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงขนาดของประชากรในระบบนิเวศ สภาพปญั หาสิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๑

ในทอ้ งถนิ่ และแนวทางในการแกป้ ัญหา แนวทางรกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศ การใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ ง
ยง่ั ยนื การใชท้ รัพยากรธรรมชาตติ ามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง การมีสว่ นรว่ มในการดแู ลและอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมในท้องถิน่ อยา่ งยง่ั ยืน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูล
และการอภปิ ราย

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ
เหน็ คณุ ค่าของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
ค่านิยมทเี่ หมาะสม

ตัวชว้ี ัด
ว ๑.๒ ม.๓/๑- ม.๓/๖
ว ๒.๑ ม.๓/๑- ม.๓/๔
ว ๒.๒ ม.๓/๑- ม.๓/๖
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑-ม.๑-๓/๙
รวม ๒๕ ตัวชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ๖ รหัส ว ๒๓๑๐๒ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษาความเร่งและผลของแรงลพั ธ์ท่ีทาตอ่ วตั ถุ ทดลองและอธบิ ายแรงกริ ิยาและแรงปฏิกิรยิ า
ระหวา่ งวัตถุ แรงพยงุ ของของเหลวที่กระทาต่อวัตถุ ความแตกต่างระหว่างแรงเสียดทานสถติ กบั แรงเสยี ด
ทานจลน์ โมเมนต์ของแรง อธิบายการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุทเ่ี ป็นแนวตรงและแนวโค้ง พลังงานจลน์ พลังงาน
ศักยโ์ นม้ ถ่วง กฎการอนุรักษพ์ ลงั งาน และความสัมพันธ์ระหว่างปรมิ าณเหล่านี้ ทดลองและอธิบาย

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๒

ความสมั พันธร์ ะหวา่ งความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้า ความตา้ นทาน คานวณพลงั งานของเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้
อภิปรายการตอ่ วงจรไฟฟ้าในบ้านอย่างถูกตอ้ ง ปลอดภัยและประหยดั อธิบายตวั ต้านทาน ไดโอด
ทรานซสิ เตอร์ และทดลองตอ่ วงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บื้องตน้ ที่มีทรานซิสเตอร์ อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหว่างดวง
อาทติ ย์ โลก ดวงจนั ทร์ และดาวเคราะห์อน่ื ๆ และผลทีเ่ กดิ ขึ้นต่อสิง่ แวดลอ้ มและส่ิงมีชวี ติ บนโลก
องคป์ ระกอบของเอกภพ กาแลก็ ซี และระบบสรุ ยิ ะ ระบุตาแหนง่ ของกลุ่มดาว อภปิ รายความก้าวหน้าของ
เทคโนโลยอี วกาศทใ่ี ชส้ ารวจอวกาศ วตั ถุท้องฟ้า สภาวะอากาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ การเกษตร และการ
สอ่ื สาร

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล
และการอภิปราย

เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ
เห็นคุณค่าของการนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
คา่ นิยมทเ่ี หมาะสม

ตวั ชี้วัด
ว ๔.๑ ม.๓/๑-ม.๓/๓
ว ๔.๒ ม.๓/๑-ม.๓/๓
ว ๕.๑ ม.๓/๑-ม.๓/๕
ว ๗.๑ ม.๓/๑-ม.๓/๓
ว ๗.๒ ม.๓/๑
ว ๘.๑ ม.๑-๓/๑-ม.๑-๓/๙
รวม ๒๔ ตัวชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา สนุกกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหัส ว ๒๐๒๘๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ - ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๓

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ทากจิ กรรม สรา้ งแรงบนั ดาลใจ ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ลกั ษณะสาคัญของ
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทตา่ งๆ การเร่มิ ต้นทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ตั้งคาถามและการสืบค้นข้อมูล การวางแผนและการออกแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนเค้า
โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนรายงาน และการนาเสนอโครงงาน
วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ
สอ่ื สารส่งิ ที่รู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ

นาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. ตงั้ คาถามจากสถานการณต์ า่ งๆ ตามความสนใจ โดยมปี ระเด็นหรอื ตวั แปรท่สี าคญั ในการสารวจ
ตรวจสอบหรอื ศกึ ษาได้อย่างครอบคลมุ และเชื่อถือได้
2. ออกแบบและวางแผนการสารวจตรวจสอบ โดยมีการกาหนดและควบคุมตัวแปรตา่ งๆ กาหนดนยิ าม
เชงิ ปฏิบัตกิ าร เลอื กวิธีการสารวจตรวจสอบเชงิ ปรมิ าณ เชิงคุณภาพท่ีได้ผลเทยี่ งตรงและปลอดภัย
โดยใช้วัสดแุ ละเครื่องมือทเ่ี หมาะสม
3. วิเคราะห์และอธบิ ายผลการทดลองเช่อื มโยงกับสมมตฐิ าน และสถานการณ์ในชวี ิตประจาวนั ได้
4. วเิ คราะหโ์ ครงงานวิทยาศาสตร์ และมีแนวคิดในการวางแผนการทดลอง รวมถึงจัดทาเค้าโครงของ
โครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้
5. ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตามความสนใจ โดยมีข้ันตอนของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการ
แกป้ ญั หา และนาเสนอไดอ้ ย่างเหมาะสม

รวมท้งั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ า

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๙๔

รายวิชา ของเล่นเชงิ วทิ ยาศาสตร์ รหัส ว ๒๐๒๘๒ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ - ๓
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ - ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ ออกแบบ สร้างของเล่นอยา่ งงา่ ยตามแบบท่ีกาหนดให้ ดัดแปลงหรือ ประดิษฐ์ของ
เล่นที่ใช้เครื่องกลอย่างง่ายหรือหลักการทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย และอธิบายการทางานของ
ของเล่น ด้วยหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์

ใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา สามารถสื่อสารสิ่งท่ี
เรยี นรู้ สามารถตดั สนิ ใจ

นาความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. ตัง้ คาถามเกยี่ วกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ทส่ี งั เกตไดจ้ ากการเล่นของเล่น
2. สงั เกตและอธบิ ายหลักการทางานของเครอื่ งกลอยา่ งง่าย วงจรไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์อยา่ งงา่ ยที่
ประกอบขึ้นในของเล่น
3. ตรวจสอบและแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของเครือ่ งกลอยา่ งง่าย วงจรไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ สอ์ ย่างงา่ ยท่ี
ประกอบข้นึ ในของเลน่ ทก่ี าหนด
4. ออกแบบและประดษิ ฐข์ องเลน่ โดยใช้เครือ่ งกลอย่างง่าย และไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์อย่างง่าย
5. มเี จตคติทด่ี ีตอ่ หลักการทางวิทยาศาสตร์ในของเล่น

รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๙๕

คาอธิบายรายวชิ า
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์กบั ความงาม รหัส ว ๒๐๒๘๓ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ - ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ หลักการทางวทิ ยาศาสตร์ทเ่ี ก่ียวกบั ความงาม โครงสรา้ งร่างกายการดูแลผิวพรรณ
เครื่องสาอางในชีวิตประจาวันและเครื่องสาอางในท้องตลาด การใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อความงามและ
สุขภาพ เทคโนโลยเี พอ่ื ความงามและสุขภาพ แนวทางปฏิบตั ิเพอ่ื การดูแลความงามตามธรรมชาติที่สมวยั

เพ่ือใหเ้ กดิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และสามารถอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียนส่ือความ
ได้

เกดิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคโ์ ดยการสงั เกตพฤติกรรม การปฏิบตั ิ การถาม การทดสอบ การ
ประเมินผลงานกลุ่มและรายบุคคล และเคร่ืองมอื ที่หลากหลายตามสภาพความเปน็ จริง

ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายความสาคัญของอาหารและปจั จยั ที่มผี ลต่อสขุ ภาพ
๒. อธบิ ายโครงสร้างที่เก่ยี วขอ้ งกับความงาม ระบปุ ญั หาและแนวทางแก้ไขปัญหาความงามในวัยร่นุ
๓. สืบค้นขอ้ มลู เกีย่ วกับเครอ่ื งสาอางและผลทเี่ กิดจากการใช้เครือ่ งสาอางในชีวติ ประจาวัน
๔. สารวจและสบื ค้นข้อมูลเกยี่ วกบั สมนุ ไพรและเทคโนโลยที เ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ความงามและสุขภาพ รวมท้ัง
นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
๕. สารวจและสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เครื่องสาอางทีม่ จี าหน่ายในท้องตลาด และนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์
๖. แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนว่ามคี วามสามารถในการตดั สินใจ นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
มจี ิตวทิ ยาสาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสมกับความงาม

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๖

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ า เชอ้ื เพลิงเพอื่ การคมนาคม รหัส ว ๒๐๒๘๔ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ - ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง องค์ประกอบและประเภทของปิโตรเลยี ม หินต้นกาเนิดและแหลง่ กักเกบ็
ปิโตรเลียม การสารวจและแหล่งปิโตรเลยี ม ผลกระทบและแนวทางแก้ไขทเ่ี กดิ จากการสารวจและการผลิต
ปโิ ตรเลียม การแยกกา๊ ซธรรมชาติ การกลัน่ นา้ มันดิบ ผลิตภัณฑจ์ ากก๊าซธรรมชาติและจากการกล่ันน้ามันดิบ
และการใช้ประโยชน์ ผลกระทบจากกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑจ์ ากปโิ ตรเลยี มและแนวทางแก้ไข
สถานการณ์พลังงานของโลกและของประเทศไทย การใชพ้ ลังงานด้านการคมนาคมของประเทศไทย การ
กาหนดราคาน้ามนั เชื้อเพลงิ ผลกระทบและแนวทางการแกไ้ ขผลจากการใชเ้ ช้อื เพลงิ เพอื่ การคมนาคม
เช้ือเพลิงท่เี ปน็ พลงั งานทดแทน

เพอื่ ใหเ้ กิด ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และสามารถอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขยี นส่อื ความ
ได้

มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์โดยการสงั เกตพฤติกรรม การปฏิบตั ิ การถาม การทดสอบ การ
ประเมินผลงานกล่มุ และรายบุคคล และเคร่ืองมือทีห่ ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ

ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายความสาคัญ และการกาเนดิ ของปโิ ตรเลยี ม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหนิ และหินนา้ มนั
๒. อธบิ ายแหล่ง การสารวจ และปรมิ าณสารองของปโิ ตรเลยี ม และ แกส๊ ธรรมชาติ

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๗

๓. อธบิ ายผลิตภัณฑ์ปโิ ตรเลียมและการนาไปใช้ประโยชน์
๔. อธบิ ายโครงสร้างราคาและวิเคราะห์สถานการณ์การใชน้ า้ มันเชอื้ เพลิงเพือ่ การคมนาคม
๕. อธิบายประเภทและการใชป้ ระโยชน์ จากเชือ้ เพลิงท่เี ป็นพลงั งานทดแทน
๖. นาเสนอแนวทางการใช้ปิโตรเลียม และแก๊สธรรมชาติ อยา่ งประหยัดและถกู วิธี
รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา พลงั งานทดแทนกับการใช้ประโยชน์ รหัส ว ๒๐๒๘๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ - ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง ตรวจสอบ เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทติ ย์ พลังงานลม พลังงานน้า พลังงาน
ชีวมวลและพลงั งานนิวเคลียร์ เพื่อให้มีความรู้ความเขา้ ใจในหลักการทางวิทยาศาสตรข์ องพลงั งาน และการ
นามาใช้เป็นพลงั งานทดแทน

สืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ
นาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั

ตระหนักในบทบาทและผลกระทบของพลังงานเหล่านั้นที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่เี หมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายความสาคญั ของพลังงานทดแทน
2. อธบิ ายหลกั การทางวิทยาศาสตร์ ในการนาพลงั งานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้า พลังงานชวี
มวลและพลงั งานนวิ เคลียร์ ไปใชป้ ระโยชน์

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๙๘

3. อธิบายการใชป้ ระโยชน์ พลังงานแสงอาทิตย์ พลงั งานลม พลงั งานน้า พลังงานชีวมวลและพลังงาน
นิวเคลยี ร์ ในประเทศไทย

4. อธิบายขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั เกี่ยวกับการใชป้ ระโยชน์และแนวทางการพัฒนา ของพลงั งานแสงอาทติ ย์
พลงั งานลม พลงั งานน้า พลังงานชวี มวลและพลังงานนวิ เคลียร์

รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้

โครงสร้างหลักสูตร
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

วชิ าวิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน

ว ๓๑๑๐๑ ฟิสิกสพ์ ื้นฐาน ๔ ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๒.๐ หนว่ ยกิต
๑.๕ หนว่ ยกิต
ว ๓๑๑๐๒ เคมีพนื้ ฐาน ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกิต
๑.๐ หน่วยกติ
ว ๓๑๑๐๓ ชวี วทิ ยาพื้นฐาน ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาคเรยี น

ว ๓๑๑๐๔ โลกดาราศาสตร์และอวกาศ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาคเรียน

วิชาวิทยาศาสตรเ์ พ่มิ เติม ๔ ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๒.๐ หน่วยกิต
ว ๓๑๒๐๑ ฟิสกิ ส์ ๑ ๓ ชัว่ โมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกิต
ว ๓๑๒๒๑ เคมี ๑ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ว ๓๑๒๔๑ ชีววทิ ยา ๑

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๙๙

ว ๓๒๒๐๑ ฟิสกิ ส์ ๒ ๔ ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาคเรยี น ๒.๐ หนว่ ยกติ
ว ๓๒๒๒๑
ว ๓๒๒๔๑ เคมี ๒ ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๓๒๒๐๒
ว ๓๒๒๒๒ ชวี วิทยา ๒ ๓ ช่วั โมง/สัปดาห์/ภาคเรยี น ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๓๒๒๔๒
ว ๓๓๒๐๑ ฟิสิกส์ ๓ ๔ ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาคเรยี น ๒.๐ หน่วยกิต
ว ๓๓๒๒๑
ว ๓๓๒๔๑ เคมี ๓ ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ว ๓๓๒๐๒
ว ๓๓๒๒๒ ชวี วิทยา ๓ ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว ๓๓๒๔๒
ว ๓๐๒๖๑ ฟสิ ิกส์ ๔ ๔ ชว่ั โมง/สัปดาห/์ ภาคเรียน ๒.๐ หนว่ ยกติ
ว ๓๐๒๘๑
ว ๓๐๒๘๒ เคมี ๔ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาคเรยี น ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๓๐๒๘๓
ว ๓๐๒๘๔ ชวี วทิ ยา ๔ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกติ
ว ๓๐๒๘๕
ฟสิ กิ ส์ ๕ ๔ ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาคเรียน ๒.๐ หน่วยกติ

เคมี ๕ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ชวี วทิ ยา ๕ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกติ

ดวงดาวและโลกของเรา ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ดุลยภาพของสิง่ มชี ีวิต ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกติ

สารและสมบัตขิ องสาร ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห/์ ภาคเรยี น ๑.๕ หน่วยกติ

การเคล่อื นที่และแรงในธรรมชาติ ๓ ชวั่ โมง/สัปดาห/์ ภาคเรยี น ๑.๕ หนว่ ยกิต

พันธกุ รรมและสิ่งแวดล้อม ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ธรณวี ิทยา ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกิต

คาอธบิ ายรายวิชา
รายวชิ า ฟสิ ิกส์พืน้ ฐาน รหสั ว ๓๑๑๐๑ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต

ศึกษาหลกั การพืน้ ฐานของแรงและการเคล่อื นทใี่ นเรือ่ ง ระยะทาง การกระจดั อตั ราเร็ว ความเรว็
ความเร่ง การเคล่ือนที่แนวตรง การเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์ การเคลอื่ นที่แบบวงกลมและการเคล่ือนท่แี บบ
ฮารม์ อนกิ อยา่ งงา่ ย แรงที่กระทาตอ่ วัตถใุ นสนามโนม้ ถ่วงและการเคล่ือนที่ของวัตถใุ นสนามโน้มถ่วง แรงที่
กระทาตอ่ อนุภาคทม่ี ปี ระจุไฟฟา้ ในสนามไฟฟา้ และสนามแม่เหล็ก รวมทัง้ แรงนวิ เคลียร์ในนิวเคลียส และการ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๐๐

ใชป้ ระโยชน์จากแรงและการเคล่ือนทแี่ บบต่างๆ ศึกษาหลักการพน้ื ฐานของพลงั งานในเรอื่ งองค์ประกอบของ
คลน่ื สมบตั ขิ องคล่ืนเสยี งและการไดย้ ิน ความเขม้ เสียง มลพษิ ทางเสยี ง สเปกตรมั คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้
กมั มันตภาพรังสี รังสีในชวี ิตประจาวัน ปฏกิ ิรยิ านวิ เคลียร์ พลงั งานนวิ เคลยี ร์ และการใชป้ ระโยชนใ์ นทาง
สรา้ งสรรค์ ผลกระทบต่อส่ิงมชี ีวิตและสิง่ แวดล้อม

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ สืบคน้ ข้อมลู บนั ทึกจัด
กลมุ่ ข้อมลู อภิปรายและการทดลอง

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปอธบิ ายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดขน้ึ ไดอ้ ย่าง
ถกู ต้อง เกิดความคดิ สรา้ งสรรค์ต่อเน่ือง ตัดสินใจไดอ้ ยา่ งรวดเร็วแมน่ ยา ปรับตวั เพอื่ รับการเปล่ยี นแปลง
นาความร้ไู ปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั สามารถบรู ณาการหลกั คดิ เศรษฐกจิ พอเพียง เกดิ ผลเชิงบวก
มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม

รหัสตัวชี้วดั
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓ , ม.๔-๖/๔
ว ๔.๒ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓ , ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕ , ม.๔-๖/๖ , ม.๔-๖/๗ ,
ม.๔-๖/๘ , ม.๔-๖/๑๐
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑ ,ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓ , ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕ , ม.๔-๖/๖ , ม.๔-๖/๗ ,
ม.๔-๖/๘ , ม.๔-๖/๑๐, ม.๔-๖/๑๑ , ม.๔-๖/๑๒ , ม.๔-๖/๑๓
รวม ๒๘ ตวั ช้ีวดั

คาอธบิ ายรายวิชา
รายวชิ า เคมีพื้นฐาน รหัส ว ๓๑๑๐๒ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑


Click to View FlipBook Version