The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by moonoymootoon, 2022-03-23 12:30:08

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

หลักสูตรสถานศึกษา นยร.61

๑๕๑

อธิบายระบอบการปกครองแบบต่างๆ ทใี่ ช้ในยุคปัจจบุ ัน รแู้ ละเข้าใจอานาจหน้าท่ขี องรัฐบาล บทบาทสาคญั
ของรฐั บาลในการบริหารราชการแผน่ ดนิ

มสี ่วนร่วมในการปกปอ้ งคุ้มครองผู้อ่นื ตามหลักสทิ ธมิ นษุ ยชน วิเคราะหป์ จั จัยที่กอ่ ให้เกิดปญั หาความ
ขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคิดในการลดความขดั แยง้ เสนอแนวคิดในการดารงชีวติ อยา่ งมคี วามสุขใน
ประเทศและสังคมโลก ระบุปัจจัยที่ส่งเสริมการดารงชีวิตใหม้ คี วามสุข เชน่ การอย่รู ่วมกันอยา่ งมขี นั ติธรรม
หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรา้ งทกั ษะทางอารมณ์ รจู้ ักบริโภคด้วยปญั ญา เลอื กรับ-ปฏิเสธข่าวและ
วตั ถตุ า่ งๆ ปรับปรงุ ตนเองและสง่ิ ต่างๆ ใหด้ ขี ึน้ อยู่เสมอ เปรยี บเทยี บระบอบการปกครองของไทยกบั ประเทศ
อนื่ ๆ ท่ีมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย วิเคราะห์รัฐธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ ันในมาตราต่างๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั
การเลอื กต้งั การมสี ่วนรว่ ม และการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ วิเคราะห์ประเด็นปัญหาท่เี ปน็ อุปสรรคตอ่ การ
พฒั นาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยและเสนอแนวทางแกไ้ ข

อนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรบั วัฒนธรรมสากลท่ีเหมาะสม เหน็ คุณคา่ ของความรว่ มมือในการลด
ความขดั แย้งและการสร้างความสมานฉันท์ เหน็ คุณคา่ ในตนเอง รู้จกั มองโลกในแง่ดี

รหัสตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ม.๓/๑, ส ๑.๑ ม.๓/๒, ส ๑.๑ ม.๓/๓, ส ๑.๑ ม.๓/๔, ส ๑.๑ ม.๓/๕, ส ๑.๑ ม.๓/๖,
ส ๑.๑ ม.๓/๗,ส ๑.๑ ม.๓/๘, ส ๑.๑ ม.๓/๙, ส ๑.๑ ม.๓/๑๐
ส ๑.๒ ม.๓/๑, ส ๑.๒ ม.๓/๒, ส ๑.๒ ม.๓/๓, ส ๑.๒ ม.๓/๔, ส ๑.๒ ม.๓/๕, ส ๑.๒ ม.๓/๖,
ส ๑.๒ ม.๓/๗
ส ๒.๑ ม.๓/๑, ส ๒.๑ ม.๓/๒, ส ๒.๑ ม.๓/๓, ส ๒.๑ ม.๓/๔, ส ๒.๑ ม.๓/๕
ส ๒.๒ ม.๓/๑, ส ๒.๒ ม.๓/๒, ส ๒.๒ ม.๓/๓, ส ๒.๒ ม.๓/๔

รวม ๒๖ ตวั ช้ีวัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๒

คาอธบิ ายรายวิชา
วชิ า ประวัติศาสตร์ ๕ รหัสวิชา ส ๒๓๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

บอกข้นั ตอนของวิธีการทางประวัตศิ าสตรส์ าหรับการศึกษาเหตุการณท์ างประวัตศิ าสตร์ท่ีเกดิ ข้นึ ใน
ท้องถ่ินตนเอง อธบิ ายเหตกุ ารณส์ าคญั ในสมยั รตั นโกสนิ ทรโ์ ดยใช้วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ อธิบายพฒั นาการ
ทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของภูมภิ าคตา่ งๆ ในโลก ทงั้ ทีต่ ้งั และสภาพทางภมู ิศาสตร์ พฒั นาการทาง
สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื ง ระบอุ ทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกทมี่ ผี ลตอ่ พัฒนาการและการเปลยี่ นแปลง
ของสังคมโลก ศกึ ษาในเร่ือความรว่ มมือและความขัดแยง้ ในครสิ ต์ศตวรรษที่ ๒๐

ใชว้ ธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ในการศึกษาเรื่องราวตา่ งๆ ท่ตี นสนใจ วิเคราะหเ์ รอื่ งราวเหตกุ ารณ์สาคัญ
ทางประวตั ิศาสตร์ไดอ้ ย่างมเี หตุผลตามวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ วิเคราะห์ผลของการเปลยี่ นแปลงท่ีนาไปสู่
ความร่วมมอื และความขัดแย้งในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๒๐ ตลอดจนความพยายามในการขจัดปญั หาความขัดแยง้

เห็นความสาคญั ของการใช้วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ในการศกึ ษาทางประวตั ิศาสตร์ ตระหนักถงึ การ
รว่ มมือเพอ่ื ให้เกิดสันติภาพและตระหนกั ถึงโทษของความขัดแยง้ ท่ที าให้เกดิ ความสญู เสีย

รหสั ตัวชี้วัด

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๓

ส ๔.๑ ม.๓/๑, ส ๔.๑ ม.๓/๒
ส ๔.๒ ม.๓/๑, ส ๔.๒ ม.๓/๑
รวม ๔ ตัวชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
วชิ า สังคมศกึ ษาฯ ๖ รหัสวิชา ส ๒๓๑๐๓ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์
อธบิ ายความหมายและประเภทของตลาด ความหมายของอปุ สงค์และอปุ ทาน กลไกราคาและการ

กาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ รู้และเขา้ ใจหลักการสาคญั ของระบบสหกรณ์ อธิบายบทบาทหนา้ ที่ของ
รัฐบาลในระบบเศรษฐกจิ อภิปรายบทบาทความสาคัญของการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ และ
ผลกระทบท่เี กิดจากภาวะเงินเฟ้อ เงนิ ฝดื

วิเคราะหป์ ญั หาของท้องถน่ิ และมีส่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหาและพฒั นาท้องถิ่นตามปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง วเิ คราะหค์ วามสมั พันธ์ระหว่างแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งกับระบบสหกรณ์ ผลเสียจากการ
ว่างงานและแนวทางแกป้ ัญหา สาเหตุและวธิ กี ารกีดกันทางการคา้ ในการคา้ ระหว่างประเทศ

เหน็ ความสาคญั ของกลไกราคาและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ มีเจตคติทีด่ ีในการแสดง
ความคิดเห็นตอ่ นโยบายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐบาล

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๔

สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์
รูแ้ ละเขา้ ใจการใช้เครื่องมือทางภูมศิ าสตรท์ ีแ่ สดงลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของทวีปอเมริกา

เหนือและอเมรกิ าใต้ อธิบายการเปล่ียนแปลงประชากร เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม ทรพั ยากรธรรมชาติและ
ส่งิ แวดลอ้ มของทวปี อเมริกาเหนอื และอเมรกิ าใต้

ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภูมศิ าสตร์ในการรวบรวม วเิ คราะห์ และนาเสนอขอ้ มูลเกย่ี วกับลกั ษณะทางกายภาพ
และสังคมของทวีปอเมรกิ าเหนอื และอเมริกาใต้ วิเคราะห์การก่อเกิดสิ่งแวดลอ้ มใหมท่ างสงั คมอนั เป็นผลจาก
การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตแิ ละทางสงั คม อภิปรายประเด็นปญั หาเกีย่ วกบั สิง่ แวดลอ้ มท่ีเกดิ ขึ้นพรอ้ มท้ัง
ระบแุ นวทางการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มในทวปี อเมริกาเหนอื และอเมรกิ าใตท้ ่ีส่งผลต่อ
ประเทศไทย

ตระหนักถงึ ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มทเี่ กดิ ข้ึนในทวปี อเมรกิ าเหนือและอเมริกาใต้และผลกระทบต่อเน่ือง
ของสงิ่ แวดล้อมในทวีปอเมรกิ าเหนอื และอเมรกิ าใต้ท่ีสง่ ผลต่อประเทศไทย

ตวั ชีว้ ัด ส ๓.๑ ม.๓/๑, ส ๓.๑ ม.๒/๒, ส ๓.๑ ม.๓/๓
ส ๓.๒ ม.๓/๑, ส ๓.๒ ม.๓/๒, ส ๓.๒ ม.๓/๓, ส ๓.๒ ม.๓/๔, ส ๓.๒ ม.๓/๕, ส ๓.๒ ม.๓/๖
ส ๕.๑ ม.๓/๑, ส ๕.๑ ม.๓/๒, ส ๕.๒ ม.๓/๑, ส ๕.๒ ม.๓/๒, ส ๕.๒ ม.๓/๓, ส ๕.๒ ม.๓/๔

รวม ๑๕ ตัวช้ีวดั

คาอธิบายรายวิชา
วชิ า ประวัติศาสตร์ ๖ รหัสวิชา ส ๒๓๑๐๔ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

อธิบายการสถาปนากรงุ เทพมหานครเป็นราชธานีของไทย ปจั จัยท่ีสง่ ผลตอ่ ความม่นั คงและความ
เจรญิ รุง่ เรืองของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ บทบาทของพระมหากษตั ริย์ไทยในราชวงศจ์ กั รีในการสรา้ งสรรค์
ความเจริญและความมน่ั คงของชาติ พฒั นาการของไทยในสมัยรตั นโกสินทรท์ างดา้ นการเมือง การปกครอง
สังคม เศรษฐกิจ และความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศตามช่วงสมยั ต่างๆ เหตุการณส์ าคญั สมยั รัตนโกสินทรท์ ม่ี ี
ผลตอ่ การพัฒนาชาตไิ ทย

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๕

วเิ คราะหป์ จั จัยท่สี ง่ ผลตอ่ ความม่นั คงและความเจริญร่งุ เรืองของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ ภูมปิ ญั ญา
และวฒั นธรรมไทยสมัยรตั นโกสินทร์ อทิ ธิพลตอ่ การพัฒนาชาติไทย และบทบาทของไทยในสมยั
ประชาธปิ ไตย

สานกึ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศจ์ ักรใี นการสร้างสรรค์ความเจริญ
และความมนั่ คงของชาติ ร่วมอนุรกั ษ์ภมู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทย

รหัสตวั ช้ีวดั
ส ๔.๓ ม.๓/๑, ส ๔.๓ ม.๓/๒, ส ๔.๓ ม.๓/๓, ส ๔.๓ ม.๓/๔

รวม ๔ ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
วิชา เศรษฐกจิ พอเพียง รหัสวชิ า ส ๒๐๒๐๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๓
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

อธิบายจาแนก ยกตวั อยา่ ง สรปุ เปรียบเทยี บ และวิเคราะหค์ วามหมาย ความสาคญั ท่มี า และ
ลกั ษณะสาคญั ของหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง เกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๖

ตัวอย่างบุคคลพอเพยี ง ระบบเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจของไทย ปญั หาเศรษฐกจิ ของไทยและแนวทางการ
พัฒนา การพัฒนาเศรษฐกจิ การขับเคลอ่ื นเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ การพัฒนาประเทศตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง การขับเคลือ่ นของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทางสังคมศาสตร์ การคิดวเิ คราะห์ การสืบค้นข้อมูล กระบวนการกลมุ่ การ
แกป้ ญั หา และการอธบิ าย

เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสิ่งท่ีเรียนรู้ สามารถที่จะตัดสินใจ รวมทง้ั ปฏิบัติตาม
กฎหมายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตระหนกั เหน็ คณุ คา่ และความสาคญั ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมทั้งเห็นความสาคญั
ของการนามาประยุกต์ใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ

ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายหลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมท้งั สามารถนามาประยุกต์ใชใ้ น
การดาเนินชวี ิตได้
๒. อธิบายหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว รวมทั้งโครงการตาม
ประราชดารแิ ละนามาเปน็ แนวปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ิตไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
๓. อธบิ ายเกย่ี วกับระบบเศรษฐกิจ รวมท้งั ปญั หาของระบบเศรษฐกจิ ของไทยและแนว

ทางการแก้ไขได้
๔. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกจิ ของไทยและสภาพปัญหาของโครงสร้างทาง

เศรษฐกิจ
๕. อธิบายความสาคัญของการพัฒนาเศรษฐกจิ รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คม

แหง่ ชาตฉิ บบั ท่ผี ่านมาได้
๖. อธบิ ายถึงความสาคัญของการนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในแผนพฒั นา
เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาตฉิ บับปจั จบุ ันได้
๗. อธิบายแนวทางการประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของแตล่ ะภาค

รวม ๗ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ
วชิ า อาเซยี นศึกษา รหัสวชิ า ส ๒๐๒๐๒ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๓

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๗

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาความเปน็ มา วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดตง้ั และพฒั นาการของสมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชยี
ตะวันออกเฉียงใต้ สาระสาคญั ของกฎบตั รอาเซยี น ศึกษาความสัมพนั ธข์ องอาเซยี นกับตา่ งประเทศ รวมไปถงึ
องค์กรระหว่างประเทศ และผลทเ่ี กิดขน้ึ ต่อประเทศสมาชิกอาเซียน

วเิ คราะหเ์ ป้าหมายของประชาคมอาเซียนทั้ง ๓ ได้แก่ ประชาคมการเมอื งและความมั่นคงอาเซยี น
ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น และประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน รวมทงั้ ผลที่เกิดข้ึนตอ่ ประเทศไทย
และประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซยี น โดยใช้ทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลมุ่ ทักษะการส่ือสาร
ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี ทักษะการแก้ปญั หา ทกั ษะการแกป้ ัญหาอย่างสนั ติวิธี ทักษะการเรยี นรู้และการ
พัฒนาตน ทกั ษะพลเมอื งในประชาคมอาเซยี น

ตระหนักในความเปน็ อาเซียนรว่ มกัน เคารพในความแตกต่าง ภูมใิ จในความเป็นไทยและความเปน็
อาเซียน มวี ิถีชีวติ ประชาธปิ ไตยและสนั ตวิ ัฒนธรรม ดาเนินชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. วเิ คราะหค์ วามเปน็ มา วัตถุประสงคข์ องการจัดตัง้ และพฒั นาการของสมาคมประชาชาติ

แหง่ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
๒. วิเคราะหส์ าระสาคัญของกฎบัตรอาเซียน เปา้ หมายของประชาคมอาเซียน และผลท่ี

เกิดขึ้นต่อประเทศไทยและประเทศกลุ่มสมาชกิ อาเซียน
๓. วิเคราะห์ผลทเี่ กดิ ขนึ้ กับประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซยี นจากการที่อาเซยี นมี
ความสัมพนั ธก์ ับตา่ งประเทศและองค์กรระหวา่ งประเทศ
๔. ตระหนักในปัญหาสง่ิ แวดล้อม และดาเนินชวี ติ ที่อนรุ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม
๕. เขา้ รว่ มกจิ กรรมเกยี่ วกับอาเซียน และสรา้ งผลงานเผยแพร่ความรู้เกยี่ วกบั อาเซียน
๖. สามารถสือ่ สารภาษาอาเซียน และภาษาประเทศสมาชกิ อาเซียนไดอ้ ย่างนอ้ ย ๑ ภาษา
๗. ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมอื งดขี องประเทศและประชาคมอาเซียนทีเ่ คารพศกั ด์ิศรี
ความเป็นมนษุ ย์
๘. ภาคภูมิใจในความเป็นไทยและความเปน็ อาเซียน

รวม ๘ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕๘

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ
วิชา การปกครองส่วนท้องถ่ิน รหัสวชิ า ส ๒๐๒๒๒ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาและอธิบาย ความหมาย ความเปนมา วัตถุประสงค องคประกอบ หนาที่ ทฤษฎแี ละรูปแบบ
การปกครองสวนทองถิน่ องคการบริหารสวนจงั หวัด เทศบาล องคการบรหิ ารสวนตาบล การปกครองสวนท
องถนิ่ รปู แบบพเิ ศษ (กรุงเทพฯและพทั ยา ) และการบรหิ ารราชการแผนดิน ในปจจบุ นั

โดยใชก้ ระบวนการทางสังคมศาสตร์ การคิดวเิ คราะห์ การสบื คน้ ขอ้ มูล กระบวนการกล่มุ การ
แกป้ ญั หา และการอธิบายกระบวนการสบื คน้ เทคโนโลยสี มัยใหม่

ตระหนกั ถงึ สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพและหนาที่ในการปกครองตนเอง ของความ เปนพล
เมอื งดขี องชาติ ตามแนวทางรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทยวิเคราะหปญหาทางการเมอื ง การปกครองท
องถ่ิน ตลอดจนมีสวนรวมในการเสนอแนะแนวทางแกไข ซึง่ กอใหเกดิ เจตคติทด่ี ี มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ต
อตนเอง และสงเสรมิ ใหทองถิ่นมกี ารปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยได อยางสมบรู ณ

ผลการเรียนรู
๑. อธิบายและความสาคญั ขององคกรการปกครองสวนทองถิ่น และการบริหารราชการ
แผนดินในปจจุบนั
๒. เหน็ คุณคาในการปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หนาท่ีในฐานะ
พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย
๓. อธิบายจดุ มุงหมาย อานาจหนาที่ โครงสราง รายได การกากับดูแล การเลือกต้งั ของ
องคการบริหารสวนจังหวัด และองคการบริหารสวนตาบล
๔. อธบิ ายจุดมุงหมาย อานาจหนาท่ี โครงสราง รายได การกากับดแู ล การเลือกตงั้ ของ

เทศบาล
๕. อธบิ ายจดุ มุงหมาย อานาจหนาทโ่ี ครงสราง รายได การกากับดูแล การเลือกต้ังของการ

ปกครองสวนทองถนิ่ รปู แบบพิเศษ (กรงุ เทพฯและพทั ยา)
๖. วเิ คราะหปญั หาการเมืองท่ีสาคญั ของทองถน่ิ พรอมทั้งเสนอแนวทางแกไข
๗. เสนอแนวทางทางการเมือง การปกครองทนี่ าไปสูความเข้าใจ และการประสานประโยชน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕๙

รวมกนั ภายในองคกรและบุคคลในทองถิ่น
๘. เสนอแนวทางและมีสวนรวม ในการตรวจสอบการใชอานาจขององคกรการปกครอง

สวนทองถน่ิ
รวม ๘ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
วิชา กฎหมายนา่ รู้ รหัสวิชา ส ๒๐๒๒๓ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ กฎหมายเกี่ยวกับชื่อบุคคล บัตรประจาตัวประชาชน ความสามารถของ
ผเู้ ยาว์ กฎหมายแพ่งลกั ษณะครอบครวั การซอ้ื ขายและขายฝาก การเช่าทรัพย์ เชา่ ซือ้ การก้ยู มื เงิน กฎหมาย
เกย่ี วกับทะเบยี นราษฎร กฎหมายเกีย่ วกบั การศึกษา กฎหมายเก่ียวกบั จราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยการรับ
ราชการทหาร กฎหมายเก่ียวกบั ยาเสพตดิ ให้โทษ กฎหมายเกยี่ วกับภาษีอากร กฎหมายที่เก่ยี วกับการอนุรักษ์
ส่งิ แวดล้อมและวัฒนธรรม กฎหมายชมุ ชน และสังคม กฎหมายจราจร กฎหมายป่าไม้ กฎหมายคุ้มครองสัตว์
ปา่ โบราณสถาน กฎหมายเกี่ยวกับความม่นั คง กฎหมายแรงงาน ภาษอี ากร รบั ราชการทหาร อาวุธปนื การ
ฟอกเงิน

ประยุกต์ใช้ความรู้ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ สามารถ
วิเคราะห์และนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวิต

มีจิตสาธารณะ มีจริยธรรม คุณธรรมนาความรู้ และค่านิยมที่เหมาะสม ปฏิบัติตนตามระเบียบ
ขอ้ บงั คับ และหลักของกฏหมาย

ผลการเรียนรู้
๑. เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามกฎหมายท่ีเกีย่ วข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และ

ประเทศชาติ
๒. รแู้ ละเขา้ ใจความสามารถของผเู้ ยาว์ และพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ
๓. รู้และเข้าใจเรื่องกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การเขียนสัญญากยู้ มื เงนิ สญั ญาซือ้ ขาย

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๖๐

๔. รู้และเข้าใจกฎหมายชมุ ชน และสังคม กฎหมายจราจร กฎหมายปา่ ไม้ กฎหมายคุ้มครอง
สัตวป์ า่ โบราณสถาน สง่ิ แวดลอ้ ม

๕. รู้และเข้าใจกฎหมายเก่ยี วกับความมน่ั คง กฎหมายแรงงาน ภาษีอากร รับราชการทหาร
อาวุธปืน การฟอกเงนิ
รวม ๕ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
วิชา หน้าที่พลเมอื ง ๑ รหสั วิชา ส ๒๑๒๓๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

มีส่วนร่วมอนุรักษม์ ารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตง่ กาย การมีสมั มาคารวะ
แสดงออกถงึ ความเอือ้ เฟ้อื เผ่อื แผแ่ ละเสยี สละต่อสังคม ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ในการ
มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของสงั คม การตัดสินใจโดยใช้เหตุผล ยอมรับความหลากหลายทางสังคม
วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ในเรื่องวิถชี วี ติ วฒั นธรรม ศาสนา ส่ิงแวดล้อม อยรู่ ว่ มกันอย่าง
สนั ติและพึง่ พาซึ่งกนั และกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรม ดว้ ยการเคารพซ่งึ กนั และกัน ไมแ่ สดงกริ ยิ าและวาจาดู
หมน่ิ ผู้อืน่ ช่วยเหลอื ซึ่งกันและกัน แบ่งปัน ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างของความรักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และ
เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่อื สัตย์สุจริต อดทน
ขยนั หมนั่ เพยี ร ใฝห่ าความรู้ ตัง้ ใจปฏบิ ัติหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง
ค่านิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมลี กั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมนั่
ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๖๑

ทรงเปน็ ประมขุ มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยรู่ ว่ มกบั ผู้อน่ื อย่างสันติ จดั การความขัดแย้งด้วยสนั ติ
วิธี และมวี นิ ัยในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. มสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์มารยาทไทย
๒. แสดงออกถงึ ความเอ้ือเฟื้อเผอ่ื แผ่ และเสียสละต่อสงั คม
๓. ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตย
๔. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ และ
อยู่รว่ มกนั อยา่ งสนั ติ และพง่ึ พาซึง่ กนั และกัน
๕. เป็นแบบอย่างของความรกั ชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
๖. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ ีวินยั ในตนเอง

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม
วิชา หนา้ ท่พี ลเมือง ๒ รหสั วชิ า ส ๒๑๒๓๒ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

เห็นคณุ ค่าและอนุรกั ษ์ขนบธรรมเนยี มประเพณศี ิลปวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ปฏบิ ตั ติ นเป็น
พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย ในการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมต่าง ๆ ของสงั คม การตดั สนิ ใจโดยใช้เหตผุ ล มี
สว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตดั สินใจในกิจกรรมของห้องเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูล เพ่ือใช้
ประกอบการตดั สนิ ใจในกิจกรรมต่าง ๆประยกุ ตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท ในเร่ืองมีเหตผุ ล รอบคอบ
หลักการทรงงาน ในเรอ่ื งการใชธ้ รรมชาติช่วยธรรมชาติ การปลูกปา่ ในใจคน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง มสี ว่ นรว่ มในการแกป้ ญั หาความขัดแย้ง โดยสันติวธิ ี ในเรอื่ งการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่
ตรงกนั ด้วยการเจรจาไกลเ่ กลีย่ การเจรจาตอ่ รอง การระงบั ความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง ใน
เรื่องความซ่ือสตั ย์สจุ ริต อดทน ใฝห่ าความรู้ ตง้ั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๒

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการสร้าง
ค่านิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนมีลกั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ ม่ัน
ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์
ทรงเป็นประมขุ มสี ่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผ้อู น่ื อย่างสันติ จัดการความขัดแย้งดว้ ยสนั ติ
วิธี และมวี ินยั ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. เห็นคณุ คา่ และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย
๒. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย
๓. มีสว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มูลเพื่อใช้ประกอบการตดั สินใจ
ในกจิ กรรมต่าง ๆ
๔. มีสว่ นร่วมและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความขดั แยง้ โดยสนั ติวิธี
๕. ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
๖. ปฏิบัติตนเป็นผ้มู ีวนิ ัยในตนเอง

รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
วิชา หน้าท่ีพลเมอื ง ๓ รหสั วิชา ส ๒๒๒๓๓ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

มสี ่วนรว่ มและแนะนาผูอ้ ่ืนใหอ้ นรุ ักษม์ ารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตง่
กาย การมีสมั มาคารวะ แสดงออกและแนะนาผู้อื่นให้มีความเออ้ื เฟ้ือเผื่อแผ่และเสยี สละต่อสงั คม ปฏิบตั ติ น
เป็นแบบอยา่ ง และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทิดทูน
สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ปฏบิ ัติตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตย ในเรื่องการตดิ ตามข่าวสารบา้ นเมือง

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๖๓

ความกล้าหาญ ทางจรยิ ธรรม การเป็นผู้นาและการเปน็ สมาชิกที่ดี เห็นคุณค่าของการอยูร่ ่วมกนั ในภมู ภิ าค
เอเชียอย่างสนั ติ และพึง่ พาอาศยั ซึง่ กันและกันโดยคานึงถึง ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภมู ภิ าค
เอเชีย ในเร่ืองวถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศาสนา สิ่งแวดล้อม การอยูร่ ว่ มกันในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมและการพงึ่ พาซง่ึ
กนั และกัน ในเรอื่ งการเคารพซ่งึ กันและกัน ไมแ่ สดงกิริยา และวาจาดูหมิน่ ผู้อื่น ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั
แบ่งปนั ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่อื งความซื่อสตั ย์สจุ รติ ขยนั หม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และ
ตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี

โดยใช้กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสร้าง
คา่ นิยม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพ่ือให้ผู้เรยี นมลี ักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มั่น
ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ มสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งการปกครอง อยรู่ ่วมกับผู้อน่ื อยา่ งสันติ จดั การความขดั แยง้ ด้วยสนั ติ
วธิ ี และมีวนิ ัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. มีสว่ นรว่ มและแนะนาผู้อืน่ ใหอ้ นรุ ักษ์มารยาทไทย
๒. แสดงออกและแนะนาผู้อนื่ ใหม้ คี วามเอ้อื เฟือ้ เผอ่ื แผ่ และเสียสละต่อสังคม
๓. เปน็ แบบอย่างและมสี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรมทแี่ สดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ มัน่ ใน

ศาสนาและเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
๔. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๕. เห็นคุณค่าของการอยู่รว่ มกนั ในภูมภิ าคเอเชยี อยา่ งสนั ติ และพึ่งพาซ่งึ กนั และกนั
๖. ปฏิบัติตนเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง

รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
วชิ า หน้าทพ่ี ลเมือง ๔ รหัสวิชา ส ๒๒๒๓๔ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๖๔

เหน็ คณุ ค่า อนรุ กั ษ์ และสบื สานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
ประยกุ ต์ และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท ในเร่ืองการมีสติ ความขยนั อดทน หลกั การทรงงาน ในเรอื่ งภมู ิ
สงั คม ขาดทุนคอื กาไร และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย
ในเรอื่ งการติดตามข่าวสารบ้านเมอื ง ความกล้าหาญ ทางจรยิ ธรรม การเป็นผนู้ าและการเปน็ สมาชกิ ท่ีดี มี
สว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพอ่ื ใช้
ประกอบการตดั สนิ ใจในกจิ กรรมตา่ ง ๆ และรทู้ นั ขา่ วสาร มีส่วนร่วมและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความ
ขัดแยง้ โดยสันติวิธเี กี่ยวกบั การละเมดิ สทิ ธิ การใช้ของสว่ นรวม ดว้ ยการเจรจาไกล่เกล่ยี การเจรจาต่อรอง
การระงบั ความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีวนิ ัย ในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สจุ ริต ขยนั หม่นั เพยี ร อดทน
ใฝ่หาความรู้ และต้งั ใจปฏิบัติหน้าท่ี

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง
ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีลกั ษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่นั
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์
ทรงเป็นประมขุ มสี ว่ นร่วมทางการเมอื งการปกครอง อยู่รว่ มกับผู้อ่นื อยา่ งสนั ติ จดั การความขัดแยง้ ดว้ ยสนั ติ
วธิ ี และมีวินัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. เหน็ คณุ คา่ อนุรักษ์ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และ
ภูมิปัญญาไทย
๒. ประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
๓. ปฏิบัตติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย
๔. มีสว่ นร่วมและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตดั สนิ ใจใน

กิจกรรมต่าง ๆ และรูท้ ันขา่ วสาร
๕. มสี ่วนร่วมและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาความขัดแยง้ โดยสันติ
๖. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๕

คาอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม
วชิ า หน้าท่พี ลเมือง ๕ รหัสวิชา ส ๒๓๒๓๕ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

มสี ่วนรว่ ม แนะนาผอู้ นื่ ให้อนรุ กั ษ์ และยกยอ่ งผู้มมี ารยาทไทย ในเร่อื งการแสดงความเคารพ การ
สนทนา การแต่งกาย การมสี ัมมาคารวะ แสดงออก แนะนาผอู้ นื่ และมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมเก่ียวกับความ
เอือ้ เฟอ้ื เผือ่ แผ่ และเสียสละตอ่ สังคม ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่าง และมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่แสดงออก
ถงึ ความรักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ป์ ฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดตี ามวิถี
ประชาธิปไตย ในเร่ืองการใช้สทิ ธแิ ละหน้าที่ การใชเ้ สรภี าพอย่างรับผดิ ชอบ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการ
เลอื กตง้ั เห็นคุณค่าของการอย่รู ว่ มกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันตแิ ละพงึ่ พาซงึ่ กันและกนั ทา่ มกลาง ความ
หลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ในเรื่องวิถชี ีวติ วัฒนธรรม ศาสนา สิง่ แวดลอ้ ม
การอยรู่ ่วมกันในสังคมพหุวฒั นธรรมและพึง่ พาซง่ึ กนั และกนั ในเรื่องการเคารพซ่งึ กนั และกัน ไม่แสดงกริ ิยา
และวาจาดหู มนิ่ ผอู้ ืน่ ช่วยเหลอื ซงึ่ กนั และกัน แบ่งปนั ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซือ่ สตั ย์
สุจรติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบตั ิหน้าที่ และยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสร้าง
ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดมน่ั
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์
ทรงเปน็ ประมขุ มีสว่ นร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผอู้ น่ื อย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันติ
วิธี และมีวนิ ยั ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. มสี ่วนรว่ ม แนะนาผู้อื่นใหอ้ นุรกั ษ์ และยกยอ่ งผมู้ มี ารยาทไทย
๒. แสดงออก แนะนาผู้อน่ื และมีส่วนรว่ มในกิจกรรมเกี่ยวกบั ความเอ้ือเฟอ้ื เผ่อื แผ่ และ

เสยี สละ
๓. เปน็ แบบอย่างและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมท่แี สดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดมน่ั ใน

ศาสนาและเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
๔. ปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดตี ามวถิ ปี ระชาธิปไตย

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๖

๕. เหน็ คุณคา่ ของการอยู่รว่ มกันในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลกอยา่ งสนั ตแิ ละพ่ึงพาซง่ึ กนั และกัน
๖. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
วชิ า หน้าที่พลเมือง ๖ รหสั วชิ า ส ๒๓๒๓๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

เห็นคุณค่า อนรุ กั ษ์ สืบสาน และประยุกตข์ นบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และ ภมู ปิ ัญญา
ไทย ประยกุ ต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท ในเรื่องการเสียสละ ความซ่ือสตั ย์ หลักการทรงงาน ในเรือ่ ง
ศกึ ษาข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ แกป้ ัญหาที่จุดเลก็ ปฏิบัติตนเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย ในเร่ืองการใช้
สทิ ธแิ ละหน้าที่ การใช้เสรภี าพอยา่ งรับผดิ ชอบ การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเลือกตงั้ มสี ว่ นรว่ มและ
รบั ผิดชอบในการตัดสินใจตอ่ กจิ กรรมของหอ้ งเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มลู ตรวจสอบการทาหน้าที่
ของบุคคลเพื่อใชป้ ระกอบการตัดสินใจ มีส่วนร่วมและเสนอแนวทางการปอ้ งกันปญั หาความขดั แย้ง ในเรื่อง
ทัศนคติ ความคิด ความเชือ่ ชู้สาว ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินยั ในตนเอง ในเร่ืองความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต อดทน ใฝห่ า
ความรู้ ตัง้ ใจปฏิบัตหิ นา้ ที่ และยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์
กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสร้าง
คา่ นิยม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดมน่ั
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ เป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์
ทรงเปน็ ประมุข มีสว่ นร่วมทางการเมอื งการปกครอง อยรู่ ่วมกับผ้อู นื่ อย่างสนั ติ จดั การความขัดแยง้ ดว้ ยสนั ติ
วิธี และมวี นิ ยั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. เหน็ คณุ คา่ อนุรกั ษ์ สืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภมู ปิ ญั ญาไทย
๒. ประยกุ ต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของ

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๗

เศรษฐกิจพอเพยี ง
๓. ปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๔. มสี ่วนร่วมและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทาหน้าทข่ี อง
บคุ คล เพ่ือใช้ประกอบการตัดสนิ ใจ
๕. มีสว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการปอ้ งกนั ปญั หาความขดั แยง้
๖. ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
วชิ า เศรษฐศาสตรค์ รอบครัว รหสั วิชา ส ๒๐๒๔๑ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓
กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษา ค้นคว้า วเิ คราะห์ อภิปราย ความหมายและความสาคัญของวชิ าเศรษฐศาสตร์ กิจกรรมทาง
เศรษฐกจิ ระบบเศรษฐกิจ การเงนิ และการธนาคาร รายได้ รายจ่าย การออมและการลงทุน หน่วย
เศรษฐกิจ การผลติ และการบริโภค เศรษฐกจิ ภาครัฐบาล

ใชก้ ระบวนการ ค้นคว้า เกบ็ ข้อมูล และบนั ทึก อภปิ รายเพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ เหน็
ความสาคญั ของของวิชาเศรษฐศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้องทง้ั ด้านครอบครัว กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ระบบเศรษฐกิจ
การเงินและการธนาคาร รายได้ รายจา่ ย การออมและการลงทนุ หน่วยเศรษฐกจิ การผลติ และการบรโิ ภค
เศรษฐกิจภาครัฐบาล

เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสง่ิ ที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ
สามารถวเิ คราะห์และนาไปใช้ในการดาเนินชีวิตอยา่ งพอเพยี ง มจี ติ สาธารณะ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรมนา
ความรู้ และค่านยิ มที่เหมาะสม เพอื่ การอยรู่ ว่ มกันอย่างสันติ

ผลการเรียนรู้
๑. เขา้ ใจความสาคญั ของเศรษฐศาสตร์ทีม่ ีต่อครอบครั

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๘

๒. มคี วามรเู้ ก่ียวกบั ความเปน็ มาหลกั การและความสาคัญของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ต่อสังคมไทย

๓. การมสี ่วนร่วมในการแก้ไขปญั หาและพฒั นาทอ้ งถนิ่ ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๔. บทบาทหน้าท่ีของรฐั บาลทีม่ ใี นระบบเศรษฐกิจ
รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
วชิ า ประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถนิ่ รหัสวชิ า ส ๒๐๒๖๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ - ๓
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาประวัตคิ วามเป็นมา การตง้ั ถ่ินฐาน การพฒั นาทางประวตั ศิ าสตร์ เหตกุ ารณ์สาคัญๆหลักฐาน
ทางประวตั ศิ าสตร์ โบราณวตั ถุ โบราณสถาน และปัญหาด้านการทาลายโบราณวัตถุและโบราณสถานใน
ทอ้ งถิ่นการเปลย่ี นแปลงของประชากร ความสมั พันธ์ระหวา่ งประชากรกบั ส่งิ แวดลอ้ ม การประกอบอาชพี
และปัญหาเกยี่ วกบั ประชากรในทอ้ งถิน่ ประเพณีและวฒั นธรรม ศิลปหัตถกรรมและงานชา่ ง ภาษาและ
วรรณกรรม การละเล่นพน้ื บา้ น ความเชอื่ พิธีกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณใี นทอ้ งถน่ิ ศกึ ษาภมู ิปญั ญา
ชาวบ้านและเทคโนโลยดี ้านการทามาหากิน การรักษาโรค การกินอยู่ศิลปกรรม ภาษาและวรรณกรรม
ศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี การจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มศึกษาเอกลักษณ์ทาง
ธรรมชาตแิ ละวฒั นธรรมท่สี าคญั ในท้องถ่นิ
โดยใช้ทักษะสารวจ รวบรวมหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ตรวจสอบและประเมินขอเท็จ จริง
วิเคราะห์ วพิ ากษ์ขอ้ มูล ตีความ การใหเ้ หตุผล และการสังเคราะห์ เพอื่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั
ท้องถิ่นของตน มีความภาคภมู ิใจหวงแหน และผกู พนั กบั ท้องถิ่น ตลอดจนมสี ่วนร่วมในการพฒั นา รกั ษา สบื
ทอดมรดกท่ดี งี ามของชมุ ชนและปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกท่ีดแี ละมีคุณคา่ ของชุมชน

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖๙

เพื่อให้มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ เกย่ี วกับ ประวตั คิ วามเปน็ มา สภาพสังคม เศรษฐกจิ การดารงชวี ติ การ
ประกอบอาชพี มีส่วนร่วมในการอนรุ กั ษ์ วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาชาวบา้ น และเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจใน
ท้องถนิ่

ผลการเรียนรู้
๑. เขา้ ใจประวัตคิ วามเป็นมาและพัฒนาการของชุมชนจากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้าน

วฒั นธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และภูมิปญั ญาท้องถนิ่ รวมปัจจัยที่ส่งผลตอ่
พฒั นาการของชมุ ชน

๒. เหน็ ความสาคญั ของวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ มคี วาม
ภาคภูมิใจ หวงแหน และผูกพนั กับทอ้ งถ่ิน

๓. มีสว่ นรว่ มในการรกั ษา สบื ทอดมรดกท่ีดงี ามของชุมชน และปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ี
๔. ใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตรส์ ืบคนความเป็นมาของชุมชนของตนเองได้
๕. สบื ค้นความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่ โดยใชห้ ลักฐานทห่ี ลากหลาย
๖. บอกปัญหาทเ่ี กิดขน้ึ เก่ียวกบั โบราณสถาน โบราณวัตถุ และแหลง่ ทอ่ งเที่ยวท่ีสาคัญเพอ่ื
หาแนวทางแกไ้ ขและอนรุ กั ษ์
๗. อธิบายความหมายและการเปลีย่ นแปลงประชากรในท้องถิ่น
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

โครงสรา้ ง
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖

วิชาพืน้ ฐาน ๒ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ
ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี ๔ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ส ๓๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๑ ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกิต
ส ๓๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑
ส ๓๑๑๐๓ สงั คมศึกษาฯ ๒ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
ส ๓๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๒

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๕
ส ๓๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๓

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๐

ส ๓๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๑ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ
ส ๓๒๑๐๓ สังคมศึกษาฯ ๔ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ส ๓๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ ๑ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกิต
ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๖
ส ๓๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๕ ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ส ๓๓๑๐๒ สังคมศกึ ษาฯ ๖ ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต

รายวชิ าเพิ่มเติม

ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๔-๖

ส ๓๐๒๐๑ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
๑.๐ หน่วยกติ
ส ๓๐๒๐๒ อาเซียนศกึ ษา ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
๑.๐ หน่วยกติ
ส ๓๐๒๐๓ ศาสนากบั ปรชั ญา ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ
๑.๐ หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๒๑ ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกติ

ส ๓๐๒๒๒ การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
๐.๕ หน่วยกติ
ส ๓๐๒๒๓ กฎหมายนา่ รู้ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ

ส ๓๐๒๒๔ มนุษยก์ ับสังคม ๒ ชวั่ โมง/สปั ดาห์

ส ๓๐๒๒๕ ประชากรกับคุณภาพชีวิตแบบพอเพียง

๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์

ส ๓๐๒๓๑ หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๑ ๑ ชั่วโมง/สปั ดาห์

ส ๓๐๒๓๒ หนา้ ที่พลเมือง ๒ ๑ ชว่ั โมง/สัปดาห์

ส ๓๐๒๓๓ หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๓ ๑ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๓๔ หน้าที่พลเมือง ๔ ๑ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๐.๕ หน่วยกิต
ส ๓๐๒๔๑ การเงนิ การคลัง การธนาคาร ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หน่วยกิต
ส ๓๐๒๖๑ ประวตั ศิ าสตร์ท้องถิน่ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๖๒ เหตกุ ารณโ์ ลกปจั จุบัน ๒ ชวั่ โมง/สัปดาห์ ๑.๐ หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๘๑ ธรณวี ทิ ยานา่ รู้ ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยกติ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๑

คาอธิบายรายวชิ า
วชิ า สงั คมศกึ ษาฯ ๑ รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๑ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๒

อธบิ ายลักษณะของสงั คมชมพทู วีปและคติความเชือ่ ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพุทธเจ้า การกอ่ ตงั้
พระพทุ ธศาสนา วิธกี ารสอนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจรยิ า พุทธประวัติดา้ นการบริหาร
และการธารงรกั ษาพระพุทธศาสนา อธบิ ายความสาคัญของพระพุทธศาสนากับการศึกษาท่ีสมบรู ณ์
ความสาคญั ของพระพุทธศาสนากับการเมือง และความสาคญั ของพระพุทธศาสนากบั สนั ตภิ าพ ศกึ ษา
หลกั ธรรมในกรอบอรยิ สัจ ๔ หรอื หลกั คาสอนของพระพุทธศาสนา อธบิ ายความสาคัญของการสังคายนา
พระไตรปิฎก หรือคัมภีรข์ องศาสนาทตี่ นนับถอื และการเผยแผ่ สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารง
รกั ษาศาสนาที่ตนนบั ถอื อนั สง่ ผลถึงการพัฒนาตน พฒั นาชาติและโลก

วิเคราะหส์ งั คมชมพทู วปี และคติความเชือ่ ทางศาสนาสมัยกอ่ นพระพุทธเจ้า พทุ ธประวตั ิดา้ นการ
บรหิ ารและการธารงรกั ษาศาสนา ข้อปฏิบตั ทิ างสายกลางในพระพทุ ธศาสนา การพฒั นาศรัทธา และปัญญาท่ี
ถูกต้องในพระพุทธศาสนา วิเคราะห์ความสาคัญของพระพุทธศาสนาเก่ยี วกับการศึกษาที่สมบรู ณ์ การเมอื ง
และสนั ติภาพ หลกั ธรรมในกรอบอริยสัจ ๔ หรือหลกั คาสอนของศาสนาที่ตนนับถือ ขอ้ คิดและแบบอย่างการ
ดาเนนิ ชวี ติ จากประวตั สิ าวก ชาดก เรอ่ื งเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ ง วเิ คราะหค์ ุณค่าและความสาคัญของการ
สังคายนา พระไตรปฎิ ก หรอื คมั ภรี ข์ องศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบัตติ นเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ตี ่อสาวก สมาชกิ ใน
ครอบครวั และคนรอบขา้ ง ปฏิบัตติ นถกู ต้องตามศาสนพิธพี ิธกี รรมตามหลกั ศาสนาที่ตนนับถอื แสดงตนเป็น
พุทธมามกะหรอื แสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของศาสนาท่ตี นนบั ถือ วิเคราะหห์ ลกั ธรรม คติธรรมท่เี ก่ียวเน่ืองกับ
วันสาคญั ทางศาสนาและเทศกาลท่ีสาคญั ของศาสนาท่ีตนนบั ถือและปฏบิ ตั ติ นได้ถกู ตอ้ ง

เห็นคณุ ค่า เชื่อมน่ั และมงุ่ มน่ั พัฒนาชวี ติ ดว้ ยการพัฒนาจิตและพฒั นาการเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ คี ดิ แบบ
โยนิโสมนสิการ ตระหนกั ถึงความสาคญั และคุณค่าของพระไตรปิฎก ปกปอ้ ง คุ้มครอง ธารงรกั ษา
พระพทุ ธศาสนาของพทุ ธบริษทั ในสังคมไทย มจี ิตสานกึ และมีส่วนร่วมในสังคมพทุ ธ

รหสั ตวั ช้ีวัด
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๕,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๒, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๓, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๕,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๙
ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๕

รวม ๑๕ ตัวช้ีวดั

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๗๓

คาอธิบายรายวชิ า
วิชา ประวตั ิศาสตร์ ๑ รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๒ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

อธบิ ายเรอ่ื งเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตรท์ ี่ปรากฏในหลกั ฐานทางประวัติศาสตรไ์ ทยและ
ประวตั ิศาสตรส์ ากล ข้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ อธบิ ายประเด็นสาคญั ของประวัติศาสตร์ไทย และ
อิทธพิ ลทีม่ ีต่อสงั คมไทย ปัจจัยท่มี ีผลตอ่ การสถาปนาอาณาจักรไทยในชว่ งเวลาตา่ งๆ สาเหตุและผลของการ
ปฏิรปู ศกึ ษาบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริยใ์ นการพฒั นาชาตไิ ทยในดา้ นการป้องกันและรกั ษาเอกราช
ของชาติ การสร้างสรรค์วฒั นธรรมไทย อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวันตกและตะวันออกท่ีมตี อ่ สงั คมไทย
ผลงานของบคุ คลสาคญั ทัง้ ชาวไทยและตา่ งประเทศ ปัจจัยที่ส่งเสรมิ ความสรา้ งสรรค์ภมู ิปญั ญาไทยและ
วฒั นธรรมไทย อธิบายสภาพแวดลอ้ มทมี่ ีผลต่อการสรา้ งสรรคภ์ มู ิปญั ญาและวฒั นธรรมไทย วถิ ีชวี ิตของคน
ไทยในสมยั ตา่ งๆ รวมไปถึงการสบื ทอดและเปลย่ี นแปลงของวฒั นธรรมไทย

ยกตวั อย่างเวลาและยคุ สมัยทางประวัติศาสตรข์ องสังคมมนษุ ย์ท่ีมปี รากฏในหลักฐานทาง
ประวัตศิ าสตร์ สร้างองคค์ วามรใู้ หม่ทางประวัตศิ าสตร์โดยใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตร์อย่างเปน็ ระบบ
นาเสนอขนั้ ตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ วเิ คราะห์ประเดน็ สาคัญของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ความสาคญั
ของสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ่อชาตไิ ทย ปัจจยั ทส่ี ่งเสริมความสรา้ งสรรคภ์ มู ิปญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทยซึง่
มผี ลตอ่ สงั คมไทยในยคุ ปัจจุบนั วิเคราะหผ์ ลงานของบุคคลสาคัญทัง้ ชาวไทยและต่างประเทศทม่ี ีสว่ น
สรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทย วางแผนกาหนดแนวทางและการมีส่วนร่วมการอนุรักษภ์ ูมิ
ปญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทย

ตระหนักถงึ ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ทแ่ี สดงถึงการเปลย่ี นแปลงของ
มนษุ ยชาติ เห็นคุณค่าและประโยชนข์ องวิธีการทางประวตั ิศาสตรท์ ่มี ีต่อการศกึ ษาทางประวัตศิ าสตร์ ชื่นชม
ในผลงานของบุคคลสาคญั ท้ังชาวไทยและตา่ งประเทศ สานึกในพระมหากรณุ าธคิ ุณของสถาบนั
พระมหากษตั รยิ ใ์ นการพฒั นาชาติไทยในด้านต่างๆ มเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ แนวทางและมีส่วนร่วมในการอนรุ กั ษภ์ ูมิ
ปัญญาและวฒั นธรรมไทย

รหสั ตัวช้ีวัด
ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๔.๑ ม.๔-๖/๒
ส ๔.๓ ม.๔-๖/๑, ส ๔.๓ ม.๔-๖/๒, ส ๔.๓ ม.๔-๖/๓, ส ๔.๓ ม.๔-๖/๔, ส ๔.๓ ม.๔-๖/๕

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๔

รวม ๗ ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ า
วิชา สังคมศึกษาฯ ๒ รหสั วชิ า ส ๓๑๑๐๓ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

บอกเคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตร์ ให้ข้อมูลและข่าวสารภูมิลกั ษณ์ ภูมิอากาศและภูมิสงั คมของไทยและ
ภูมิภาคต่างๆ ทว่ั โลก อธิบายการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพในสว่ นต่างๆ ของโลก และการเกดิ ภมู ิ
สังคมใหมข่ องโลก ศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงของพน้ื ที่ซึ่งไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากปจั จัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทย
และทวปี ต่างๆ ลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พันธข์ องสรรพสิง่ ซึง่ มีผลต่อกันและกนั ในระบบ
ของธรรมชาติ

ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์ในการรวบรวม วเิ คราะห์และนาเสนอข้อมลู ภมู ิสารสนเทศอย่างมี
ประสทิ ธิภาพ วิเคราะหอ์ ิทธิพลของสภาพภมู ิศาสตรซ์ ่ึงทาใหเ้ กิดปญั หาทางกายภาพหรือภัยพบิ ัติทาง
ธรรมชาติในประเทศไทยและภูมภิ าคต่างๆ ของโลก วิเคราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงของพนื้ ทซี่ ่ึงไดร้ บั อทิ ธพิ ลจาก
ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่างๆ

เหน็ ประโยชน์ของการใช้เคร่อื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ เพื่อแก้ปญั หาทางกายภาพหรือภยั พิบตั ิทาง
ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ิภาคต่างๆ ของโลก ใชป้ ระโยชน์จากสง่ิ แวดล้อมในการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรม
อันเปน็ เอกลกั ษณข์ องทอ้ งถ่นิ ทัง้ ในประเทศไทยและโลก มีส่วนรว่ มในการแก้ปญั หาและ การดาเนินชีวติ
ตามแนวทางการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการพัฒนาท่ยี ่งั ยืน

รหสั ตวั ช้ีวัด
ส ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๕.๑ ม.๔-๖/๒, ส ๕.๑ ม.๔-๖/๓, ส ๕.๑ ม.๔-๖/๔
ส ๕.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๕.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๕.๒ ม.๔-๖/๓, ส ๕.๒ ม.๔-๖/๔, ส ๕.๒ ม.๔-๖/๕

รวม ๙ ตัวช้ีวดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๕

คาอธิบายรายวิชา
วิชา ประวตั ิศาสตร์ ๒ รหสั วิชา ส ๓๑๑๐๔ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒
กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

อธบิ ายเรือ่ งเวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ท่ีปรากฏในหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ไทยและ
ประวัตศิ าสตรส์ ากล ข้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ อธบิ ายอารยธรรมของโลกยคุ โบราณ ได้แก่
อารยธรรมล่มุ แม่น้าไทกรสี - ยเู ฟรตีส อารยธรรมลมุ่ แม่นา้ ไนล์ อารยธรรมลมุ่ แมน่ า้ ฮวงโห และอารยธรรมลุ่ม
แม่น้าสินธุ การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตก อทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมทม่ี ตี ่อกนั และกนั และ
เหตกุ ารณ์สาคญั ตา่ งๆ ท่ีสง่ ผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของโลกในปจั จุบัน

ออกแบบขัน้ ตอนของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์โดยนาเสนอตัวอย่างทีละขนั้ ตอนอยา่ งชดั เจนสร้าง
องคค์ วามรใู้ หมท่ างประวตั ศิ าสตร์โดยใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตรอ์ ย่างเป็นระบบ วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของอารย
ธรรมโบราณ และการตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตกทมี่ ีผลตอ่ พฒั นาการและการเปลี่ยนแปลง
ของโลก วเิ คราะหเ์ หตุการณ์สาคัญต่างๆ ท่สี ่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจและการเมอื ง เข้าสู่
โลกสมัยปจั จุบนั

ตระหนักถงึ คณุ ค่าและประโยชน์ของวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ทม่ี ีต่อการศึกษาทางประวตั ิศาสตร์
ตระหนักถงึ ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ทแี่ สดงถึงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ

รหสั ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๔.๑ ม.๔-๖/๒

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗๖

ส ๔.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๔.๒ ม.๔-๖/๒
รวม ๔ ตัวชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวิชา
วิชา สังคมศึกษาฯ ๓ รหัสวชิ า ส ๓๒๑๐๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

อธบิ ายโครงสร้างทางสงั คม การขัดเกลาทางสังคม การเปล่ียนแปลงทางสงั คม และการแกป้ ญั หา
และแนวทางการพฒั นาทางสังคม อธิบายความหมายและความสาคญั ของวฒั นธรรม ลักษณะและ
ความสาคญั ของวัฒนธรรมไทยทสี่ าคญั การปรับปรงุ เปล่ยี นแปลงและอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย ความแตกต่าง
ระหว่างวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล แนวทางการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยทีด่ ีงามและวิธีการเลือกรับ
วัฒนธรรมสากล ศกึ ษาวเิ คราะหค์ วามสาคญั และ ความจาเปน็ ทตี่ อ้ งธารงรักษาไวซ้ งึ่ การปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ เสนอแนวทางและมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้
อานาจรัฐ

วเิ คราะหค์ วามสาคัญของโครงสร้างทางสงั คม การขดั เกลาทางสงั คม และการเปล่ยี นแปลงทางสังคม
วิเคราะห์ความจาเป็นท่ีตอ้ งมกี ารปรับปรงุ เปล่ียนแปลงและอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยและเลือกรับวฒั นธรรม
สากล วเิ คราะหป์ ญั หาการเมอื งท่สี าคญั ในประเทศ จากแหล่งขอ้ มูลตา่ งๆ พร้อมทง้ั เสนอแนวทางแกไ้ ข

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๗๗

เสนอแนวทาง ทางการเมืองการปกครองที่นาไปสูค่ วามเข้าใจ และการประสานประโยชนร์ ว่ มกนั ระหวา่ ง
ประเทศ

ตระหนักถงึ ประโยชนใ์ นการแก้ปญั หาแนวทางการพฒั นาทางสังคม และแนวทางการอนุรกั ษ์
วฒั นธรรมไทยทดี่ ีงาม มคี ่านิยมทีด่ งี ามและธารงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยูร่ ว่ มกันใน
สังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสันติสุข เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยึดม่นั ศรทั ธาและ
ธารงรกั ษา ไวซ้ งึ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ

รหัสตัวช้ีวดั
ส ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ส ๒.๑ ม.๔-๖/๓, ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔, ส ๒.๑ ม.๔-๖/๕,
ส ๒.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๒.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๒.๒ ม.๔-๖/๓, ส ๒.๒ ม.๔-๖/๔

รวม ๙ ตัวช้ีวัด

คาอธิบายรายวิชา
วชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๓ รหัสวิชา ส ๓๒๑๐๒ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

อธบิ ายอารยธรรมของโลกยุคโบราณ ได้แก่ อารยธรรมกรกี และอารยธรรมโรมัน การติดตอ่ ระหว่าง
โลกตะวนั ออกกบั โลกตะวันตก และอทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมที่มตี อ่ กันและกนั อธบิ ายเหตุการณ์สาคัญตา่ งๆ ท่ี
ส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของโลกในปัจจุบัน เชน่ ระบอบฟวิ ดัล การฟื้นฟศู ิลปวทิ ยาการ สงครามครูเสด การ
สารวจทางทะเล การปฏิรปู ศาสนา การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ การปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม จกั รวรรดินยิ ม ลัทธิ
ชาตินิยม ความร่วมมือและความขดั แย้งของมนุษยชาติในโลก สถานการณ์สาคญั ของโลก เป็นตน้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๗๘

วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการติดตอ่ ระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกทม่ี ีผล
ต่อพัฒนาการและการเปล่ียนแปลงของโลก วิเคราะห์เหตุการณ์สาคัญต่างๆ ท่ีสง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลงทาง
สังคม เศรษฐกิจและการเมอื งเข้าสโู่ ลกสมยั ปจั จบุ ัน วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธพิ ลของประเทศใน
ยุโรปไปยังทวปี อเมรกิ า แอฟริกาและเอเชยี

เห็นความสาคัญและประโยชน์ของการศกึ ษาอารยธรรมของโลกยุคโบราณเหตุการณส์ าคัญต่าง ๆ ท่ี
สง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของโลกในปัจจบุ นั ความร่วมมอื และความขดั แย้งของมนษุ ยชาตใิ นโลก

รหัสตัวชี้วดั
ส ๔.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๔.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๔.๒ ม.๔-๖/๓

รวม ๓ ตัวชว้ี ัด

คาอธิบายรายวชิ า
วิชา สงั คมศกึ ษาฯ ๔ รหัสวิชา ส ๓๒๑๐๓ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาการกาหนดราคาและคา่ จ้างในระบบเศรษฐกจิ ตระหนักถึงความสาคญั ของปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งท่มี ตี อ่ เศรษฐกิจ ศกึ ษาวเิ คราะหป์ ัญหาทางเศรษฐกิจในชมุ ชนและเสนอแนวทางแกไ้ ข

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๗๙

ศึกษาบทบาทของรัฐบาลด้านนโยบายการเงนิ การคลงั ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเข้าใจระบบและ
สถาบันทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกิจและความจาเปน็ ของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกิจใน
สงั คมโลก

วิเคราะหผ์ ลกระทบของการเปดิ เสรที างเศรษฐกจิ ในยุคโลกาภวิ ตั นท์ ่มี ผี ลตอ่ สังคมไทย ผลดี ผลเสีย
ของความรว่ มมอื ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศในรปู แบบตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้เกิดความเขา้ ใจและสามารถบริหาร
จดั การทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้ทรพั ยากร ทีม่ ีอยู่จากดั ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและคุ้มคา่

เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ การดารงชีวิตอย่างมีดลุ ยภาพ ตระหนักถึงความสาคัญของ
ระบบสหกรณใ์ นการพัฒนาเศรษฐกจิ ในระดับชุมชนและประเทศ

รหสั ตัวช้ีวัด
ส ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๓.๑ ม.๔-๖/๒, ส ๓.๑ ม.๔-๖/๓, ส ๓.๑ ม.๔-๖/๔,
ส ๓.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๓.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๓.๒ ม.๔-๖/๓

รวม ๗ ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
วิชา ประวตั ิศาสตร์ ๔ รหัสวิชา ส ๓๒๑๐๔ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๘๐

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

อธิบายเหตกุ ารณ์สาคัญต่างๆ ท่ีส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของโลกในปัจจุบัน ความรว่ มมอื และ
ความขดั แย้งของมนษุ ยชาติในโลก สถานการณส์ าคัญของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ ๒๐ และคริสตศ์ ตวรรษท่ี
๒๑ เช่น สงครามโลก เหตกุ ารณ์ ๑๑ กนั ยายน ค.ศ. ๒๐๐๑ (Nine Eleven) การขาดแคลนทรัพยากร การกอ่
การรา้ ย ความขัดแย้งทางศาสนา

วเิ คราะห์สถานการณข์ องโลกในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ และคริสต์ศตวรรษท่ี ๒๑ วเิ คราะหส์ าเหตุ
ของการสงครามโลก การจดั ระเบยี บโลกใหม่ และความขัดแยง้ ของมนุษยชาติในโลกทส่ี ืบเนอ่ื งมาจากปัญหา
เชื้อชาติ ศาสนา และพรมแดน

เหน็ ความสาคัญในการรว่ มมอื เพื่อให้เกิดสันติภาพและตระหนักถึงโทษของความขดั แยง้ ที่ทาให้เกิด
ความสูญเสยี แกม่ นษุ ยชาติ

รหสั ตวั ช้ีวัด
ส ๔.๒ ม.๔-๖/๔

รวม ๑ ตัวช้ีวัด

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๑

คาอธิบายรายวชิ า
วชิ า สังคมศกึ ษาฯ ๕ รหสั วิชา ส ๓๓๑๐๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาประวตั ศิ าสดาของศาสนาอ่ืน ๆ โดยสงั เขป ตระหนกั ในคณุ คาและความสาคัญของ
คานิยม จรยิ ธรรมท่ีเปนตวั กาหนดความเชอื่ และพฤติกรรมที่แตกตางกันของศาสนกิ ชนศาสนาตาง ๆ เขาใจ
ประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลักธรรม ของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถือ มศี รทั ธาทถี่ ูกตอง อธบิ าย
วนั สาคัญทางศาสนาและเทศกาลท่ีสาคญั ของศาสนาท่ตี นนบั ถือ

วิเคราะหหลักธรรมสาคญั ในการอยูรวมกันอยางสนั ตสิ ขุ ของศาสนาอ่ืนๆ และเสนอแนวทางการจดั
กิจกรรม ความรวมมอื ของทกุ ศาสนาในการแกปญหาและพฒั นาสังคม โดยใชกระบวนการสรางความ
ตระหนกั กระบวนการเรยี นความรคู วามเขาใจ กระบวนการคดิ วเิ คราะห และกระบวนการปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติ
ตนเปนศาสนิกชนที่ดีตอสาวก สมาชิกในครอบครัว คนรอบขาง ปฏิบัตติ นถูกตองตามศาสนพิธี พธิ ีกรรมตาม
หลกั ศาสนาทตี่ นนับถือ และแสดงตนเปนพทุ ธมามกะ ปฏบิ ตั ิตนไดถกู ตอง สัมมนาและเสนอแนะแนวทางใน
การธารงรกั ษา ศาสนาทต่ี นนับถือ อนั สงผลถงึ การพัฒนาตน พฒั นาชาตแิ ละโลก

ยึดมนั่ และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรม เพอ่ื ขจดั ความขดั แยงและอยูรวมกนั ในสังคมอยางสันตสิ ุข เหน็
คุณคา เชอ่ื ม่นั และมุงมนั่ พัฒนาชีวติ ดวยการพฒั นาจิตและพัฒนาการเรียนรูดวยวิธคี ดิ แบบ โยนิโสมนสกิ าร
หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ สวดมนต แผเมตตาและ บรหิ ารจิตและเจริญปญญา
ตามหลกั สติปฏฐาน ชักชวน สงเสรมิ สนับสนนุ ใหบคุ คลอ่ืนเหน็ ความสาคญั ของการทาความดีตอกัน

รหสั ตัวช้ีวดั
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๗, ม.๔-๖/๑๘, ม.๔-๖/๑๙, ม.๔-๖/๒๐, ม.๔-๖/๒๑, ม.๔-๖/๒๒
ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-/๓ , ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕

รวม ๑๑ ตัวชี้วัด

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๘๒

คาอธบิ ายรายวชิ า
วิชา สังคมศกึ ษาฯ ๖ รหัสวิชา ส ๓๓๑๐๒ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาสงั คมชมพูทวปี และคติความเช่ือทางศาสนาสมัยกอ่ นพระพุทธเจ้า หรอื สังคมสมยั ของ
ศาสดาท่ีตนนับถอื ศึกษาวเิ คราะห์พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ มนุษย์ผ้ฝู ึกตนได้อย่างสงู สุดในการตรัสรู้ การ
ก่อต้งั วธิ ีการสอนและการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา หรือวิเคราะหป์ ระวัตศิ าสดาที่ตนนับถือ
ศกึ ษาพุทธประวัติดา้ นการบรหิ าร และการธารงรักษาศาสนา หรอื วิเคราะหป์ ระวตั ิศาสดาที่ตนนบั ถอื
ศกึ ษาวเิ คราะหข์ ้อปฏิบตั ทิ างสายกลาง การพฒั นาศรัทธา และปญั ญาในพระพุทธศาสนา หรือแนวคิดของ
ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ศึกษาวเิ คราะหห์ ลกั การของพระพทุ ธศาสนากับหลักวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะประชาธปิ ไตย
ในพระพทุ ธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาทตี่ นนบั ถือ

ฝกึ ฝนและพฒั นาตนเอง การพึง่ ตนเอง และการมุ่งอสิ รภาพในพระพุทธศาสนา การฝึกตนไม่ให้
ประมาท มงุ่ ประโยชน์และสันตภิ าพบุคคล สงั คมและโลก หรอื แนวคิดของศาสนาท่ีตนนับถอื วเิ คราะห์
พระพทุ ธศาสนาวา่ เป็นศาสตร์แหง่ การศกึ ษาซึง่ เนน้ ความสมั พนั ธข์ องเหตปุ จั จัยกบั วธิ กี ารแก้ปญั หา ปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี งและการพัฒนาประเทศแบบยัง่ ยืนหรือแนวคดิ ของศาสนาท่ตี นนับถือ สวดมนต์ แผ่
เมตตา และบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญาตามหลักสติปัฏฐาน หรอื ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือ วเิ คราะห์
หลกั ธรรมสาคัญในการอยู่รว่ มกนั อย่างสนั ติสขุ ของศาสนาอื่นๆ และชักชวน สง่ เสริม สนับสนนุ ใหบ้ ุคคลอ่ืน
เห็นความสาคัญของการทาความดีต่อกัน เสนอแนวทางการจดั กจิ กรรม ความร่วมมอื ของทกุ ศาสนาในการ
แก้ปัญหาและพฒั นาสงั คม

ปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ีตอ่ สาวก สมาชกิ ในครอบครวั และคนรอบขา้ ง ปฏบิ ัติตนถกู ตอ้ งตามศา
สนพธิ พี ิธกี รรมตามหลักศาสนา แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหรือแสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทตี่ นนบั ถือ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๘๓

รหัสตวั ชี้วัด
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ส ๑.๑ ม๔-๖/๕,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๖, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๗, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๘, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๙,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๑, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๒, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๓,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๕, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๖, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๗,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๘, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๙, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๐, ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๑,
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๒,
ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ส ๑.๒ ม.๔-๖/๕

รวม ๒๗ ตัวช้ีวดั

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ
วชิ า เศรษฐกิจพอเพยี ง รหัสวชิ า ส ๓๐๒๐๑ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

อธิบายจาแนก ยกตัวอยา่ ง สรปุ เปรยี บเทียบ และวิเคราะหค์ วามหมาย ความสาคญั ทมี่ า และ
ลกั ษณะสาคญั ของหลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดาริ
ตัวอยา่ งบคุ คลพอเพยี ง ระบบเศรษฐกจิ ภาวะเศรษฐกิจของไทย ปญั หาเศรษฐกิจของไทยและแนวทางการ
พัฒนา การพัฒนาเศรษฐกจิ การขับเคลื่อนเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ การพฒั นาประเทศตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง การขบั เคล่อื นของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทางสังคมศาสตร์ การคิดวเิ คราะห์ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการกลมุ่ การ
แก้ปัญหา และการอธบิ าย

เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่อื สารส่งิ ที่เรียนรู้ สามารถที่จะตัดสนิ ใจ รวมทง้ั ปฏบิ ัติตาม
กฎหมายได้อยา่ งถูกต้องตระหนกั เหน็ คุณค่า และความสาคัญของเศรษฐกจิ พอเพียง รวมทง้ั เห็นความสาคัญ
ของการนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการดาเนนิ ชีวิต

ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายหลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมท้งั สามารถนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ น
การดาเนนิ ชวี ติ ได้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๘๔

๒. อธิบายหลกั การทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั รวมทงั้ โครงการตาม
ประราชดารแิ ละนามาเป็นแนวปฏบิ ัตใิ นการดาเนนิ ชวี ติ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

๓. อธบิ ายเกี่ยวกบั ระบบเศรษฐกิจ รวมทง้ั ปัญหาของระบบเศรษฐกจิ ของไทยและแนว
ทางการแกไ้ ขได้

๔. รู้และเขา้ ใจเกยี่ วกับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยและสภาพปญั หาของโครงสรา้ งทาง
เศรษฐกจิ

๕. อธบิ ายความสาคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมท้งั แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คม
แหง่ ชาตฉิ บบั ที่ผ่านมาได้

๖. อธิบายถงึ ความสาคญั ของการนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติฉบับปัจจุบันได้

๗. อธิบายแนวทางการประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของแตล่ ะภาค
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ
วชิ า อาเซยี นศกึ ษา รหสั วิชา ส ๓๐๒๐๒ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาความเปน็ มา วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ต้ัง และพฒั นาการของสมาคมประชาชาตแิ ห่งเอเชีย
ตะวนั ออกเฉยี งใต้ สาระสาคญั ของกฎบัตรอาเซียน ศกึ ษาความสัมพันธข์ องอาเซยี นกบั ต่างประเทศ รวมไปถงึ
องคก์ รระหว่างประเทศ และผลที่เกิดขน้ึ ตอ่ ประเทศสมาชกิ อาเซยี น

วิเคราะห์เปา้ หมายของประชาคมอาเซียนท้ัง ๓ ได้แก่ ประชาคมการเมอื งและความมั่นคงอาเซียน
ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน รวมทั้งผลทีเ่ กิดข้นึ ต่อประเทศไทย
และประเทศกลุ่มสมาชกิ อาเซยี น โดยใช้ทักษะกระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการกลุ่ม ทักษะการสอ่ื สาร
ทักษะการใช้เทคโนโลยี ทักษะการแกป้ ญั หา ทกั ษะการแกป้ ัญหาอย่างสันติวธิ ี ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละการ
พฒั นาตน ทกั ษะพลเมอื งในประชาคมอาเซียน

ตระหนกั ในความเป็นอาเซยี นรว่ มกนั เคารพในความแตกต่าง ภมู ิใจในความเป็นไทยและความเป็น
อาเซยี น มวี ถิ ชี ีวิตประชาธิปไตยและสนั ตวิ ัฒนธรรม ดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๕

ผลการเรียนรู้
๑. วเิ คราะหค์ วามเปน็ มา วตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดต้งั และพัฒนาการของสมาคมประชาชาติ

แหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
๒. วิเคราะห์สาระสาคัญของกฎบัตรอาเซียน เปา้ หมายของประชาคมอาเซยี น และผลที่

เกดิ ขน้ึ ตอ่ ประเทศไทยและประเทศกล่มุ สมาชิกอาเซยี น
๓. วเิ คราะห์ผลท่ีเกิดขน้ึ กับประเทศไทยและประเทศสมาชกิ อาเซียนจากการที่อาเซยี นมี
ความสมั พันธก์ ับตา่ งประเทศและองคก์ รระหวา่ งประเทศ
๔. ตระหนกั ในปญั หาสง่ิ แวดล้อม และดาเนนิ ชวี ติ ทีอ่ นรุ กั ษส์ งิ่ แวดล้อม
๕. เขา้ ร่วมกจิ กรรมเกยี่ วกับอาเซยี น และสรา้ งผลงานเผยแพรค่ วามรู้เก่ยี วกบั อาเซียน
๖. สามารถสื่อสารภาษาอาเซียน และภาษาประเทศสมาชิกอาเซียนได้อย่างน้อย ๑ ภาษา
๗. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดขี องประเทศและประชาคมอาเซียนทเ่ี คารพศักดิ์ศรี
ความเป็นมนุษย์
๘. ภาคภมู ิใจในความเป็นไทยและความเป็นอาเซียน

รวม ๘ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
วิชา ศาสนากับปรัชญา รหสั วิชา ส ๓๐๒๐๓ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาประวัตขิ องศาสนาต่างๆ รวมท้งั ศาสดา หลักคาสอน เป้าหมาย วธิ กี าร โดยการเปรียบเทยี บ
ศาสนาท่มี กี ารนับถือมากในประเทศไทย โดยเฉพาะพุทธศาสนา ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์ ศาสนา
ขงจ๊อื เพอ่ื ให้เข้าใจในศาสนาต่าง ๆ ในแงป่ รัชญาและอยรู่ ่วมไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ขุ เปรียบเทยี บศาสนาที่สาคัญๆ
ในโลกตะวนั ออกและตะวนั ตก หลักแนวความคิดทีป่ ฏิบตั ิในแตล่ ะศาสนา หลกั คาสอนในแต่ละศาสนา
ทัศนะเกี่ยวกับศาสนาทจี่ ะส่งเสริมความเข้าใจอนั ดรี ะหวา่ งศาสนา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๖

โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้น
เทคโนโลยีสมยั ใหม่

เพือ่ ให้เข้าใจหลักการของศาสนาต่าง ๆ ในปจั จุบัน ความเหมอื นและความต่าง ในเรือ่ งศาสดา
คมั ภีร์ พธิ ีกรรม นิกาย คาสอน จดุ มงุ่ หมายและจุดสูงสดุ และขอ้ ปฏิบัตินาไปสู่จุดม่งุ หมายสงู สุด และการ
ปฏบิ ตั ติ นใหถ้ ูกต้องตามหลักของศาสนาต่าง ๆ

ผลการเรยี นรู้
๑. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับประวัติ ความสาคญั ของศาสนาต่าง ๆได้ เชน่ พุทธศาสนา ศาสนา

อสิ ลาม ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาขงจ๊อื
๒. ตระหนกั ในหลักธรรมและคาสอนของศาสนาต่าง ๆได้
๓. วิเคราะห์เปรยี บความแตกต่างและความคล้ายคลงึ ของศาสนาตา่ ง ๆได้
๔. เสนอแนวทางในการพัฒนาตนโดยอาศัยหลักธรรมของศาสนาต่างๆได้
๕. นาหลักคาสอนของศาสนาตา่ ง ๆมาประยุกตเ์ พ่ือพฒั นาตนเองและสงั คมได้
๖. เข้าใจหลกั คาสอน พธิ กี รรม คมั ภีร์ จดุ มงุ่ หมายในแต่ละศาสนาได้

รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เติม
วชิ า การปกครองส่วนท้องถนิ่ รหสั วชิ า ส ๓๐๒๒๒ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๗

ศกึ ษาและอธบิ าย ความหมาย ความเปนมา วัตถุประสงค องคประกอบ หนาที่ ทฤษฎีและรปู แบบ
การปกครองสวนทองถ่นิ องคการบริหารสวนจงั หวัด เทศบาล องคการบริหารสวนตาบล การปกครองสวนท
องถน่ิ รปู แบบพเิ ศษ (กรุงเทพฯและพทั ยา ) และการบรหิ ารราชการแผนดนิ ในปจจบุ ัน

โดยใช้กระบวนการทางสังคมศาสตร์ การคิดวเิ คราะห์ การสบื คน้ ขอ้ มูล กระบวนการกลุ่มการ
แก้ปัญหา และการอธบิ ายกระบวนการสบื ค้นเทคโนโลยีสมยั ใหม่

ตระหนักถึงสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพและหนาท่ใี นการปกครองตนเอง ของความ เปนพล
เมอื งดีของชาติ ตามแนวทางรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยวิเคราะหปญหาทางการเมอื ง การปกครองท
องถิน่ ตลอดจนมีสวนรวมในการเสนอแนะแนวทางแกไข ซงึ่ กอใหเกดิ เจตคติท่ีดี มีคณุ ธรรม จริยธรรม ต
อตนเอง และสงเสริมใหทองถิน่ มกี ารปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยได อยางสมบูรณ

ผลการเรียนรู
๑. อธบิ ายและความสาคัญขององคกรการปกครองสวนทองถ่ิน และการบรหิ ารราชการ
แผนดนิ ในปจจุบัน
๒. เหน็ คุณคาในการปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หนาที่ในฐานะ
พลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย
๓. อธิบายจุดมุงหมาย อานาจหนาท่ี โครงสราง รายได การกากบั ดแู ล การเลือกตง้ั ของ
องคการบริหารสวนจังหวดั และองคการบรหิ ารสวนตาบล
๔. อธิบายจดุ มุงหมาย อานาจหนาที่ โครงสราง รายได การกากับดูแล การเลอื กต้งั ของ

เทศบาล
๕. อธิบายจุดมุงหมาย อานาจหนาทีโ่ ครงสราง รายได การกากบั ดูแล การเลอื กต้ังของการ

ปกครองสวนทองถนิ่ รปู แบบพิเศษ (กรุงเทพฯและพทั ยา)
๖. วิเคราะหปญั หาการเมืองที่สาคัญของทองถ่นิ พรอมทง้ั เสนอแนวทางแกไข
๗. เสนอแนวทางทางการเมือง การปกครองท่นี าไปสูความเข้าใจ และการประสานประโยชน
รวมกันภายในองคกรและบุคคลในทองถน่ิ
๘. เสนอแนวทางและมสี วนรวม ในการตรวจสอบการใชอานาจขององคกรการปกครอง
สวนทองถนิ่

รวม ๘ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๘

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ
วิชา กฎหมายนา่ รู้ รหัสวิชา ส ๒๐๒๒๓ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๓
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ กฎหมายเกี่ยวกับชื่อบุคคล บัตรประจาตัวประชาชน ความสามารถของ
ผู้เยาว์ กฎหมายแพง่ ลักษณะครอบครัว การซ้ือขายและขายฝาก การเชา่ ทรพั ย์ เช่าซือ้ การกูย้ มื เงนิ กฎหมาย
เกี่ยวกับทะเบยี นราษฎร กฎหมายเกย่ี วกบั การศึกษา กฎหมายเกี่ยวกับจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยการรับ
ราชการทหาร กฎหมายเกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ให้โทษ กฎหมายเกี่ยวกับภาษอี ากร กฎหมายที่เก่ียวกบั การอนุรักษ์
สิง่ แวดล้อมและวฒั นธรรม กฎหมายชุมชน และสงั คม กฎหมายจราจร กฎหมายปา่ ไม้ กฎหมายคุ้มครองสัตว์
ป่า โบราณสถาน กฎหมายเกย่ี วกับความมั่นคง กฎหมายแรงงาน ภาษอี ากร รับราชการทหาร อาวธุ ปืน การ
ฟอกเงนิ

ประยุกต์ใช้ความรู้ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ สามารถ
วิเคราะห์และนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ

มีจิตสาธารณะ มีจริยธรรม คุณธรรมนาความรู้ และค่านิยมที่เหมาะสม ปฏิบัติตนตามระเบียบ
ข้อบังคับ และหลกั ของกฏหมาย

ผลการเรยี นรู้
๑. เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามกฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และ

ประเทศชาติ
๒. รู้และเข้าใจความสามารถของผเู้ ยาว์ และพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ
๓. รู้และเขา้ ใจเร่ืองกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ การเขียนสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาซ้อื ขาย
๔. ร้แู ละเข้าใจกฎหมายชมุ ชน และสงั คม กฎหมายจราจร กฎหมายป่าไม้ กฎหมายคุ้มครอง

สตั ว์ป่า โบราณสถาน สง่ิ แวดลอ้ ม
๕. รู้และเข้าใจกฎหมายเก่ยี วกับความมั่นคง กฎหมายแรงงาน ภาษีอากร รับราชการทหาร

อาวุธปนื การฟอกเงิน
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘๙

คาอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม
วชิ า มนุษย์กับสงั คม รหสั วชิ า ส ๓๐๒๒๔ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาความสมั พันธร์ ะหว่างมนษุ ย์กบั สังคม อิทธิพลของธรรมชาติท่ีมตี อ่ ชีวติ มนุษย์ บทบาทของ
มนุษย์กับการสรา้ งสรรคแ์ ละถา่ ยทอดวฒั นธรรม พฤตกิ รรมของการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมพื้นฐานความแตกต่าง
กันของมนษุ ย์ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คมและปญั หาสงั คม เพ่อื ใหม้ คี วามเข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างมนุษย์
กับสังคม

ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดีของสังคม แสดงบทบาทของมนุษยก์ ับการสรา้ งสรรคแ์ ละถ่ายทอด
วฒั นธรรมพฤติกรรมของการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมพนื้ ฐาน ปรับพฤตกิ รรมเพ่อื ให้เขา้ ใจในความแตกต่างกนั ของ
มนษุ ย์

เข้าใจและปรบั ตัวในการเปล่ียนแปลงทางสังคมและแกป้ ัญหาและพัฒนาสังคม เหน็ ความสาคัญใน
การรว่ มมอื แกป้ ัญหาและพฒั นาสังคม และปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกที่ดี

ผลการเรยี นรู้
๑. เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ บั สงั คม
๒. อธิบายถงึ อทิ ธพิ ลของธรรมชาตทิ มี่ ีต่อชีวิตมนุษย์ และสามารถวิเคราะห์ได้
๓. สามารถเขา้ ใจและปรบั ตัวในการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม แก้ปัญหาและพฒั นาสงั คมได้
๔. ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดีของสังคม
๕. สร้างสรรคแ์ ละถ่ายทอดวัฒนธรรมพฤติกรรมของการอยรู่ ่วมกันในสังคมพน้ื ฐาน

รวม ๕ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๙๐

คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ
วิชา ประชากรกบั คุณภาพชีวิตแบบพอเพยี ง รหัสวิชา ส ๓๐๒๒๕ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ - ๖

กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ ความสัมพันธ์ ระหว่างภาวะประชากร สถานะองค์ประกอบของประชากรในด้าน
ต่างๆ ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมกับ คุณภาพชีวิต สาเหตุผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แนวทางแก้ไข
ปัญหาสังคมทีส่ าคัญๆ ปัญหาสุขภาพอนามยั ปัญหาการประกอบอาชีพ ปัญหาอาชยกรรม ปัญหาสิ่งเสพติด
ใหโ้ ทษ ปญั หาการขาดแคลนทรัพยากร ปัญหาความไมส่ มดุลระหว่างจานวนประชากรและทรัพยากร สาเหตุ
สาคญั ของการเปล่ยี นแปลงของประชากรอันเนอ่ื งมาจากการเกดิ ตาย ยา้ ยถนิ่

โดยใช้กระบวนการ สบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทกึ และการอภปิ รายเพอ่ื ให้เกิดความรู้
ความคดิ ความเขา้ ใจ

เห็นความสาคัญของแก้ปัญหาประชากร ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต เห็นแนวทางในการร่วมมือในการ
แกป้ ญั หาสงั คม และพฒั นาคณุ ภาพชีวติ

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งประชากรกบั ส่งิ แวดลอ้ มได้
2. อธิบายความหมาย สถานะองค์ประกอบของประชากรในดา้ นต่างๆ ไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ
3. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงทางประชากรในดา้ นขนาด การกระจายตัว และองค์ประกอบของประชากร
ได้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙๑

4. บอกสาเหตสุ าคัญของการเปลี่ยนแปลงของประชากรอนั เนื่องมาจากการเกดิ ตาย ยา้ ยถน่ิ
5. อธิบายความเกี่ยวขอ้ งระหว่างการเปลย่ี นแปลงของประชากรกับผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม
6. บอกสาเหตุของปญั หาสิ่งแวดลอ้ มทสี่ าคัญในระดบั ชมุ ชนประเทศ และโลกในปัจจบุ นั ได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม
วิชา หนา้ ที่พลเมอื ง ๑ รหสั วิชา ส ๓๐๒๓๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

มสี ว่ นร่วมและแนะนาผูอ้ นื่ ใหอ้ นุรักษ์และเผยแพรม่ ารยาทไทยสู่สาธารณะ ในเรอ่ื งการแสดงความ
เคารพ การสนทนา การแตง่ กาย การมสี ัมมาคารวะ เหน็ คณุ คา่ อนรุ ักษ์ สืบสาน ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยา่ ง
และมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์ ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอยา่ งและสง่ เสริมสนบั สนนุ ใหผ้ ้อู นื่ เปน็ พลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย ใน
เรื่อง การเปน็ ผนู้ าและการเปน็ สมาชกิ ทีด่ ี การใช้สิทธิและหน้าท่ี การใชเ้ สรีภาพอย่างรับผิดชอบ ความกล้า
หาญ ทางจรยิ ธรรม การเสนอแนวทางการแก้ปัญหาสังคมต่อสาธารณะ การตดิ ตามและประเมินขา่ วสารทาง
การเมือง และการรเู้ ทา่ ทันสื่อ ยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง ยอมรบั ในอัตลักษณแ์ ละเคารพ
ความหลากหลายในสงั คมพหุวัฒนธรรม ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้มู ีวินยั ในตนเอง ในเร่อื งความอดทน ใฝห่ าความรู้
และยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จาก การกระทาของตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีลักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่น
ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๙๒

ทรงเปน็ ประมขุ มีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง มีวจิ ารณญาณในการเลอื กต้งั และการวพิ ากษน์ โยบาย
สาธารณะ อย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื อยา่ งสันติ จัดการความขดั แย้งด้วยสันตวิ ธิ ี และมวี นิ ยั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. มสี ว่ นรว่ ม แนะนาผอู้ ืน่ ให้อนุรักษ์ และยกย่องผูม้ มี ารยาทไทย
๒. เปน็ แบบอยา่ งและมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมทแ่ี สดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่นั ใน

ศาสนาและเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
๓. เปน็ แบบอยา่ งและสง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้ผู้อ่นื เป็นพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๔. ประยุกตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธปิ ไตยในการวพิ ากษ์ประเดน็ นโยบายสาธารณะท่ี
ตนสนใจ
๕. ยอมรับในอัตลกั ษณ์และเคารพความหลากหลายในสังคมพหวุ ัฒนธรรม
๖. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มวี ินัยในตนเอง

รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม
วิชา หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๒ รหสั วชิ า ส ๓๐๒๓๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ประยกุ ต์และเผยแพรข่ นบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย ปฏิบัตติ นเปน็
แบบอยา่ ง ประยุกต์ และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรือ่ งการมรี ะเบยี บวนิ ยั ความสามคั คี หลักการทรง
งาน ในเร่ืองระเบดิ จากขา้ งใน ไม่ติดตารา บรกิ ารรวมท่จี ดุ เดียว ใชอ้ ธรรมปราบอธรรม และหลักปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพียง การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื ง ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการ
วพิ ากษ์ประเดน็ นโยบายสาธารณะท่ตี นสนใจ มีสว่ นร่วมและตดั สินใจเลอื กต้ังอยา่ งมีวิจารณญาณ รู้ทนั
ขา่ วสารและรู้ทนั ส่อื คาดการณ์เหตกุ ารณล์ ่วงหนา้ บนพน้ื ฐานของข้อมลู เหน็ คณุ ค่าของการอย่รู ่วมกัน อย่าง
สนั ติ และพ่ึงพาซ่ึงกันและกนั ด้วยการเคารพซง่ึ กันและกัน ไม่แสดงกิรยิ าและวาจาดูหมน่ิ ผูอ้ ่นื ช่วยเหลือซึ่งกัน
และกัน แบ่งปัน ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง ในเรอื่ งควมซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ขยันหมั่นเพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้
ต้ังใจปฏบิ ัตหิ น้าที่ ยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙๓

โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์
กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีลกั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดม่นั
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์
ทรงเปน็ ประมุข มสี ่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง มวี ิจารณญาณในการเลอื กตัง้ และการวพิ ากษน์ โยบาย
สาธารณะ อยูร่ ว่ มกบั ผู้อ่นื อยา่ งสันติ จัดการความขัดแย้งดว้ ยสนั ติวิธี และมวี ินัยในตนเอง

ผลการเรียนรู้
๑. เหน็ คุณค่าและอนุรกั ษ์ สบื สาน ประยุกต์ และเผยแพร่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี

ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมิปญั ญาไทย
๒. เป็นแบบอย่าง ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่ พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลัก

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๓. มสี ่วนรว่ มและตัดสินใจเลือกตง้ั อย่างมวี จิ ารณญาณ
๔. รูท้ ันขา่ วสารและรูท้ ันสื่อ
๕. คาดการณ์เหตกุ ารณล์ ว่ งหน้าบนพน้ื ฐานของข้อมลู
๖. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้มู ีวินยั ในตนเอง

รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
วิชา หน้าทพ่ี ลเมือง ๓ รหสั วชิ า ส ๓๐๒๓๓ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

มสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรม และสนบั สนนุ ให้ผู้อื่นแสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และ
เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่างและสง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้ผู้อนื่ เปน็ พลเมืองดีตามวถิ ี
ประชาธปิ ไตย ในเรือ่ ง การเป็นผนู้ าและการเปน็ สมาชกิ ทดี่ ี การใช้สิทธิและหน้าท่ี การใช้เสรีภาพอย่าง
รบั ผดิ ชอบ ความกลา้ หาญ ทางจริยธรรม การเสนอแนวทางการแก้ปญั หาสังคมต่อสาธารณะ การติดตามและ
ประเมนิ ข่าวสารทางการเมือง และการรเู้ ทา่ ทนั สื่อ การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง มีสว่ นรว่ มในการ
แก้ปัญหาเมื่อเกิดความขัดแยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี ดว้ ยการเจรจาไกลเ่ กลี่ย การเจรจาตอ่ รอง การระงบั ความขดั แยง้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๙๔

และสร้างเครอื ขา่ ยป้องกนั ปัญหาความขัดแยง้ ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้มวี นิ ัย ในตนเอง ในเรื่องความซอื่ สตั ย์สุจริต
ขยนั หมัน่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้

เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมีลักษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ มั่น
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์
ทรงเป็นประมขุ มสี ว่ นร่วมทางการเมืองการปกครอง มวี ิจารณญาณในการเลือกต้ัง และการวพิ ากษน์ โยบาย
สาธารณะ อยูร่ ว่ มกับผอู้ ื่นอยา่ งสนั ติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันตวิ ิธี และมวี ินัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
๑. แสดงออก แนะนาผูอ้ ื่น และยกยอ่ งบคุ คลที่มีความเอ้อื เฟอ้ื เผือ่ แผ่ และเสยี สละ
๒. เป็นแบบอย่าง มีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรม และสนบั สนนุ ให้ผู้อน่ื แสดงออกถึง
ความรักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์
๓. เปน็ แบบอย่างและส่งเสรมิ สนับสนุนให้ผอู้ ่ืนเป็นพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๔. ประยกุ ต์ใชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษ์ประเด็นนโยบายสาธารณะ
ที่ตนสนใจ
๕. มีส่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาเมือ่ เกิดความขัดแย้งโดยสนั ติวิธแี ละสร้างเครือข่าย
การปอ้ งกนั ปัญหาความขัดแยง้
๖. คาดการณเ์ หตกุ ารณล์ ่วงหน้าบนพื้นฐานของขอ้ มูล
๗. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูม้ วี นิ ัยในตนเอง

รวม ๗ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม
วิชา หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๔ รหัสวชิ า ส ๓๐๒๓๔ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่าง ประยุกต์ และเผยแพร่ พระบรมราโชวาท ในเรื่องการมีระเบียบวินัย
ความสามัคคี หลักการทรงงาน ในเร่ืองระเบิดจากขา้ งใน ไมต่ ิดตารา บรกิ ารรวมทจี่ ุดเดยี ว ใช้อธรรมปราบ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙๕

อธรรม และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งการ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอย่างและส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้ผูอ้ ืน่ เป็น
พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรอื่ ง การเป็นผู้นาและการเปน็ สมาชิกทด่ี ี การใช้สิทธแิ ละหน้าท่ี การใช้
เสรีภาพอยา่ งรบั ผดิ ชอบ ความกล้าหาญ ทางจรยิ ธรรม การเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาสงั คมตอ่ สาธารณะ
การติดตามและประเมินขา่ วสารทางการเมือง และการร้เู ทา่ ทนั สือ่ มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื ง
ประยกุ ต์ใช้กระบวนการประชาธปิ ไตยในการวิพากษ์ประเดน็ นโยบายสาธารณะทต่ี นสนใจ มสี ว่ นรว่ มและ
ตัดสินใจเลือกตง้ั อย่างมีวิจารณญาณ รูท้ นั ขา่ วสารและรูท้ ันสือ่ คาดการณเ์ หตุการณ์ลว่ งหน้าบนพ้ืนฐานของ
ขอ้ มลู มีสว่ นร่วมในการแกป้ ญั หาเมอื่ เกิดความขดั แย้งโดยสันติวิธี ดว้ ยการเจรจาไกล่เกลีย่ การเจรจาตอ่ รอง
การระงบั ความขัดแยง้ และสร้างเครอื ข่ายป้องกนั ปญั หาความขดั แย้ง ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเรือ่ ง
ความซือ่ สัตย์สุจรติ อดทน และยอมรับผลทเี่ กิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพื่อให้ผู้เรยี นมลี ักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มั่น
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ มสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งการปกครอง มวี จิ ารณญาณในการเลือกตั้ง และการวิพากษน์ โยบาย
สาธารณะ อยรู่ ่วมกับผู้อนื่ อยา่ งสนั ติ สามารถจัดการความขดั แยง้ ดว้ ยสันตวิ ธิ ี และมวี นิ ยั ในตนเอง
ผลการเรียนรู้

๑. เปน็ แบบอยา่ ง ประยกุ ต์ และเผยแพร่ พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน
และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

๒. เป็นแบบอย่างและส่งเสรมิ สนบั สนุนให้ผ้อู ืน่ เป็นพลเมอื งดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย
๓. ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษ์ประเด็นนโยบายสาธารณะ

ทต่ี นสนใจ
๔. มสี ่วนรว่ มและตัดสินใจเลือกต้ังอยา่ งมวี ิจารณญาณ
๕. รู้ทันขา่ วสารและรูท้ นั ส่อื
๖. มีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาเมือ่ เกิดความขัดแย้งโดยสันตวิ ธิ ีและสรา้ งเครือข่าย

การปอ้ งกนั ปญั หาความขดั แยง้
๗. ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ วี ินัยในตนเอง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๙๖

วิชา การเงิน การคลัง การธนาคาร รหสั วิชา ส ๓๐๒๔๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ - ๖
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศึกษาววิ ฒั นาการของเศรษฐกจิ ไทย ระบบเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ของโลก ตลาดและประเภทของตลาด
การกาหนดราคาตามอุปสงค์ อุปทาน บทบาทของภาครฐั ภาคการเงินและการคา้ ระหวา่ งประเทศ นโยบาย
การเงิน นโยบายการคลัง ภาวะเงนิ เฟ้อ เงนิ ฝดื ปญั หาการวา่ งงาน แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ
รายไดป้ ระชาชาติ การคา้ ระหว่างประเทศและองคก์ รความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สาคญั ในภมู ภิ าคเอเชีย
ปจั จยั ท่ีนาไปสกู่ ารพ่ึงพา การแข่งขนั การขัดแยง้ และการประสานผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ปัญหา
เศรษฐกจิ ไทย เชน่ ความเหล่ือมล้าของรายได้ การพฒั นาภาคเกษตร การพัฒนาอุตสาหกรรมในชนบท ความ
เสอื่ มโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ผลกระทบ และการปรบั ตัวของอตุ สาหกรรมไทยสู่
ประชาคมอาเซียน

โดยใช้วิธี การอธบิ าย การอภปิ ราย การสืบค้นข้อมลู ทางเศรษฐกิจ การยกตวั อยา่ ง การวเิ คราะห์
การสังเคราะห์เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ หลักการบริหารทรพั ยากรทีม่ อี ย่จู ากัดในการผลิต การบริโภคได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพและคมุ้ ค่า ความร่วมมือทางเศรษฐกจิ อาเซียน

เพื่อให้ผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะที่ดีของคนไทย มีจิตสาธารณะ มงุ่ มั่นในการทางาน ใฝ่เรียนรู้ มี
ภมู ิคุม้ กนั ทางเศรษฐกจิ เพอื่ การดารงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และมคี วามสขุ ทัง้ ในสังคมไทยและสงั คมโลก

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้ความเขา้ ใจววิ ัฒนาการของเศรษฐกจิ ไทย
๒. อภปิ รายลกั ษณะและขอ้ ดีขอ้ เสยี ของระบบเศรษฐกิจประเภทต่างๆ ของโลกได้
๓. อธิบายหลกั การบริหารจัดการทรัพยากรเพอ่ื การผลิตและการบรโิ ภคได้
๔. อภิปรายการกาหนดราคา การกาหนดค่าจ้าง การแทรกแซงราคาโดยรัฐ ตลาดและ

ประเภทของตลาดได้
๕. อธบิ ายบทบาทของรฐั บาลเก่ียวกบั นโยบายการเงิน การคลัง การธนาคารในการพฒั นา

เศรษฐกิจของประเทศได้
๖. วิเคราะห์ผลดี ผลเสยี ของความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศในรูปแบบต่างๆ
๗. อภิปรายเป้าหมาย วัตถุประสงค์ จดุ เน้น และแนวทางในการพัฒนาประเทศของ

แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติฉบับต่างๆ จนถึงปัจจุบัน

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙๗

๘. อภปิ รายปัญหาเศรษฐกิจไทย ผลกระทบและการปรบั ตัวของอตุ สาหกรรมไทยสู่
ประชาคมอาเซยี นได้
รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
วิชา ประวัติศาสตรท์ อ้ งถน่ิ รหัสวิชา ส ๓๐๒๖๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาประวตั คิ วามเปน็ มา การตง้ั ถนิ่ ฐาน การพฒั นาทางประวัติศาสตร์ เหตุการณ์สาคัญๆหลกั ฐาน
ทางประวัตศิ าสตร์ โบราณวตั ถุ โบราณสถาน และปัญหาดา้ นการทาลายโบราณวัตถุและโบราณสถานใน
ทอ้ งถิ่นการเปล่ียนแปลงของประชากร ความสมั พันธ์ระหว่างประชากรกบั สงิ่ แวดล้อม การประกอบอาชพี
และปญั หาเก่ียวกับประชากรในทอ้ งถิ่นประเพณีและวฒั นธรรม ศลิ ปหตั ถกรรมและงานช่าง ภาษาและ
วรรณกรรม การละเลน่ พ้นื บ้าน ความเช่อื พิธีกรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณใี นทอ้ งถิน่ ศึกษาภมู ปิ ญั ญา
ชาวบา้ นและเทคโนโลยดี า้ นการทามาหากนิ การรักษาโรค การกนิ อยศู่ ิลปกรรม ภาษาและวรรณกรรม
ศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมศึกษาเอกลักษณ์ทาง
ธรรมชาติและวัฒนธรรมทีส่ าคัญในทอ้ งถ่นิ

โดยใช้ทักษะสารวจ รวบรวมหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ตรวจสอบและประเมินขอเท็จ จริง
วิเคราะห์ วพิ ากษข์ ้อมลู ตคี วาม การใหเ้ หตุผล และการสงั เคราะห์ เพอื่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับ
ทอ้ งถน่ิ ของตน มีความภาคภมู ิใจหวงแหน และผกู พนั กบั ท้องถิ่น ตลอดจนมสี ว่ นร่วมในการพัฒนา รกั ษา สบื
ทอดมรดกทีด่ ีงามของชุมชนและปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี แี ละมีคุณค่าของชมุ ชน

เพือ่ ใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจ เก่ยี วกับ ประวัตคิ วามเป็นมา สภาพสังคม เศรษฐกจิ การดารงชวี ิตการ
ประกอบอาชีพ มีส่วนร่วมในการอนุรกั ษ์ วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาชาวบ้าน และเห็นคุณค่าและภาคภมู ิใจใน
ท้องถน่ิ

ผลการเรียนรู้
๑. เข้าใจประวัติความเปน็ มาและพฒั นาการของชมุ ชนจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในด้าน

วฒั นธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ รวมปจั จยั ที่สง่ ผลตอ่
พฒั นาการของชมุ ชน

๒. เหน็ ความสาคญั ของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ มีความ
ภาคภูมิใจ หวงแหน และผูกพันกับทอ้ งถิน่

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพทิ ยาคม รัชมงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙๘

๓. มสี ว่ นร่วมในการรักษา สบื ทอดมรดกท่ดี งี ามของชมุ ชน และปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ที่ดี
๔. ใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตรส์ ืบคนความเป็นมาของชมุ ชนของตนเองได้
๕. สบื คน้ ความเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ โดยใชห้ ลกั ฐานท่ีหลากหลาย
๖. บอกปัญหาท่ีเกิดขึน้ เกย่ี วกบั โบราณสถาน โบราณวตั ถุ และแหลง่ ท่องเทยี่ วท่ีสาคัญเพื่อ
หาแนวทางแก้ไขและอนรุ ักษ์
๗. อธิบายความหมายและการเปลี่ยนแปลงประชากรในท้องถ่ิน
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
วชิ า เหตกุ ารณ์ปจั จุบนั รหสั วิชา ส ๓๐๒๖๒ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ - ๖
กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษาและวเิ คราะห์สภาพเหตุการณ์ปจั จุบัน และภมู ิหลงั ทางประวัติศาสตร์ กรณีตวั อย่าง
เหตกุ ารณ์สาคญั ที่เกดิ ขน้ึ ในภูมิภาคต่างๆ ของโลกในดา้ นการเมือง การปกครอง เศรษฐกจิ สงั คม และ
วฒั นธรรม เข้าใจถงึ พัฒนาการของอารยธรรมตะวนั ตก และอารยธรรมตะวนั ออกของยุคโบราณและยคุ กลาง
วเิ คราะหเ์ หตแุ ละผลกระทบ ของลัทธจิ ักรวรรดนิ ิยมทก่ี ่อใหเ้ กิดการขัดแยง้ ของชาตมิ หาอานาจตะวันตก จน
นามาซง่ึ สงครามโลกครง้ั ท่ี ๑ และ ๒ วิเคราะหเ์ หตุผล และผลกระทบของสงครามเย็นทมี่ ตี ่อสถานการณ์โลก
ปัจจบุ ัน เขา้ ใจเกีย่ วกบั ความสาคญั และความจาเป็นของความร่วมมอื ระดบั ภูมภิ าคในดา้ นการเมืองและ
เศรษฐกิจ

โดยใชก้ ระบวนการสบื คน้ ขอ้ มูล วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ กระบวนการกลุม่ กระบวนการแก้ปญั หา
กระบวนการพฒั นาคา่ นิยม ความสามคั คี วิเคราะหป์ ญั หาผู้ล้ภี ยั โดยเฉพาะผลกระทบตอ่ ประเทศ ยกตัวอยา่ ง
บทบาทของสหประชาชาตแิ ละองค์การชานาญพเิ ศษ

เพอ่ื ใหม้ คี วามเข้าใจ สภาวการณป์ ัจจบุ นั และแนวโน้ม ตระหนักในปญั หาพน้ื ฐานสาคัญของโลก
ผลกระทบของปัญหาท่ีเกิดขึ้น และวิเคราะห์เหตุการณส์ าคัญสามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้ความเข้าใจถึงพัฒนาการของอารยธรรมตะวันตก และอารยธรรมตะวนั ออก

ของยุคโบราณและยคุ กลางได้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๙๙

๒. สามารถวิเคราะหเ์ หตุและผลกระทบ ของลัทธิจกั รวรรดนิ ยิ มทก่ี ่อให้เกดิ การขดั แยง้
ของชาติมหาอานาจตะวนั ตก จนนามาซง่ึ สงครามโลกครง้ั ที่ ๒ ได้

๓. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจถงึ สาเหตขุ องสงครามโลกคร้งั ที่ ๑ และ ๒ ได้
๔. สามารถวิเคราะห์เหตุผล และผลกระทบของสงครามเยน็ ท่ีมตี ่อสถานการณ์โลกปัจจุบนั
๕. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั ความสาคัญ และความจาเปน็ ของความร่วมมอื ระดับ
ภูมิภาคในด้านการเมอื งและเศรษฐกจิ
๖. มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถวเิ คราะหป์ ัญหาผลู้ ภ้ี ัยโดยเฉพาะผลกระทบต่อ
ประเทศ
๗. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกับบทบาทและความสาเร็จด้านเศรษฐกจิ ของสหประชาชาติ
และองคก์ ารชานาญพิเศษและสามารถยกตัวอย่างบทบาทในปัจจุบนั ได้
๘. มคี วามรคู้ วามเข้าใจ สภาพปัญหา ของโลกในปจั จบุ นั และความจาเปน็ ตอ้ งเร่งแกป้ ัญหา
รวม ๘ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
วิชา ธรณวี ทิ ยานา่ รู้ รหสั วิชา ส ๓๐๒๘๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ - ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาลักษณะวิชาและขอบเขตของการศกึ ษาทางธรณีวิทยา ลักษณะทางกายภาพของพ้ืนโลก
สว่ นประกอบของโลก ปรากฏการณท์ างธรณที ่มี ีผลทาให้เกิดภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ทรพั ยากร หิน และ
ววิ ัฒนาการโลก

โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการฝึกปฏบิ ตั ิ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการสืบคน้ นา
เทคโนโลยเี ข้ามาเป็นสืบคน้ ลักษณะทางธรณีวิทยา ลกั ษณะทางกายภาพของพืน้ โลก ส่วนประกอบของโลก
ปรากฏการณท์ างธรณีท่ีมีกระบวนการทาให้เกดิ ภูมิประเทศท่แี ตกตา่ งกัน และการเปล่ียนแปลงของทรัพยากร
หนิ และววิ ัฒนาการโลก ภยั ธรรมชาติที่มผี ลต่อการเปลย่ี นแปลง การดารงชีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม

เพ่ือใหม้ คี วามร้คู วามเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการ มเี จตคตแิ ละเข้าใจกระบวนการตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึน
บนผวิ โลกและภายในโลก ความสมั พนั ธข์ องกระบวนการตา่ งๆ ทม่ี ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลง ภมู ปิ ระเทศ และ
สัณฐานของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอ่ื สารส่งิ ท่ีเรียนรู้และนาความร้ไู ปใช้ประโยชนแ์ ละใชเ้ ปน็
พ้นื ฐานในการศึกษาวชิ าอืน่ ตอ่ ไป

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๐๐

ผลการเรยี นรู้
๑. เขา้ ใจสว่ นประกอบทางธรณีวิทยาของโลก
๒. อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงภายในโลกได้
๓. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงบนพน้ื ผิวโลกและผลท่เี กิดขึ้นได้
๔. เข้าใจปรากฏการณ์ทางธรณีที่มีผลทาให้เกิดภูมิประเทศทแ่ี ตกตา่ งกันได้

รวม ๔ ผลการเรียนรู้

โครงสร้างหลักสตู ร กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้

รายวชิ าพน้ื ฐาน เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
พ ๒๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๑ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
พ ๒๑๑๐๒ เทเบิลเทนนสิ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
พ ๒๑๑๐๓ สุขศกึ ษา ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต
พ ๒๑๑๐๔ วอลเล่ย์บอล เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ
พ ๒๒๑๐๑ สขุ ศึกษา ๓ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
พ ๒๒๑๐๒ กรฑี า เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
พ ๒๒๑๐๓ สขุ ศึกษา ๔ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
พ ๒๒๑๐๔ กระบกี่ ระบอง

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองยองพิทยาคม รัชมงั คลาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑


Click to View FlipBook Version