The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือปฏิบัติงานคลินิกจิตสังคม ศจ.ธัญบุรี (รวมเล่ม 1-2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by selflearningjor1, 2023-01-05 20:51:29

คู่มือปฏิบัติงานคลินิกจิตสังคม ศจ.ธัญบุรี

คู่มือปฏิบัติงานคลินิกจิตสังคม ศจ.ธัญบุรี (รวมเล่ม 1-2)

30 การใหค ำปรึกษา 346



ตัวอย่าง

• “กอ่ นทค่ี รจู ะใหร้ ายละเอยี ดเกย่ี วกบั เรอ่ื ง........ครอู ยากทราบวา่ หนเู ขา้ ใจเกย่ี วกบั
เรอื่ งน้ีว่าอย่างไรบ้าง”
• “ในสว่ นไหนของเรือ่ ง..............ท่หี นูคดิ ว่ายังไม่ร้แู ละตอ้ งการรายละเอียดเพ่ิม”
• “สำหรบั แนวทางทจี่ ะจดั การเรอื่ ง.......ครคู ดิ วา่ ควรจะ.......หนคู ดิ วา่ อยา่ งไรคะ”



ขอ้ ควรระวัง

การใหค้ ำแนะนำ มขี อ้ ควรระวังอย่หู ลายประการ เช่น หากผูร้ ับการปรกึ ษาไมช่ อบ

ก็จะปฏิเสธและมีทัศนคติทางลบต่อการปรึกษา หรือถ้าผู้รับการปรึกษาได้รับคำแนะนำ แล้วนำไป
ปฏบิ ตั แิ ละไมไ่ ดร้ บั ผลดกี จ็ ะโทษผใู้ หก้ ารปรกึ ษา หากไดร้ บั ผลดผี รู้ บั การปรกึ ษากจ็ ะมาใหมอ่ กี เปน การ
สร้างความรู้สึกผูกพันและพ่ึงพิง ผู้ให้การปรึกษาต้องตระหนักไว้เสมอว่าผู้รับการปรึกษาจะต้องเปน
ผู้ตัดสนิ ใจเลอื กเอง

11.
ทกั ษะการชี้ผลทีต่ ามมา
(Pointing
Outcome
Skill)


การช้ีผลท่ีตามมา เปนการเน้นให้ผู้รับการปรึกษาได้เห็นผลที่อาจตามมาจาก
การคดิ การตดั สนิ ใจ การวางแผนและการปฏบิ ัตขิ องเขาเองท้งั ในทางลบและทางบวก ผลท่ตี ามมาน้ี
อาจเปนได้ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในใจเขาหรือเหตุการณ์ภายนอก ซึ่งทำให้พฤติกรรมที่เปนปญหา
คงอยู่รุนแรงขึ้นหรือลดลง การช้ีผลท่ีตามมาทำได้ 2 ทาง คือ การช้ีผลท่ีตามมาในทางบวกเปนการ
ชใี้ หผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเหน็ ขอ้ ดแี ละประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั เปน การสนบั สนนุ ใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษากลา้ ตดั สนิ ใจ
หรือปฏิบัติตามแผนท่ีได้วางไว้ ส่วนการชี้ผลท่ีตามมาในทางลบเปนการบอกถึงผลที่ไม่ดีหรือโทษ
ที่อาจจะตามมาจากการตัดสนิ ใจหรอื การปฏิบตั ิ โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือ่

1. ใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษารบั รถู้ งึ ผลดแี ละผลเสยี ของการคดิ การตดั สนิ ใจ การวางแผน
และการปฏบิ ตั ขิ องเขาเองทง้ั ในทางลบและทางบวก

2. ใหผ้ รู้ ับการปรกึ ษาตัดสินใจได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้
แนวทางปฏิบตั ิ

- ทวนซ้ำหรือสะท้อนความรู้สึก ก่อนให้ผู้รับการปรึกษานึกถึงผลดีหรือผลเสีย
ท่ีจะตามมาจากการตัดสินใจ หรือการปฏิบัติของตนเอง หรือผู้ให้การปรึกษาเปนผู้ช้ีผลที่ตามมา
หากผรู้ ับการปรกึ ษาไม่สามารถชี้ผลท่ตี ามมาด้วยตนเองได้

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรกึ ษา 34731

ตวั อย่าง

นกั เรยี น : “ผมไมเรียนแลว ผมเบ่ือ.. เบ่ือทุกอยางเลย.. ผมจะไปจากทุกคน

ไปตามทางของผม แลวผมก็จะไมติดตอกับใครเลย...และก็ไมไป
ทบ่ี า นดวย อาจารยคอยดนู ะ”
กรณีท
ี่ 1
ผูร้ บั การปรกึ ษาช้ผี ลทีต่ ามมา

ครู : “ถา หนูทำอยา งที่บอก ลองคิดซวิ า พอ กับแมหนจู ะเปน อยา งไร”
กรณีที่
2
ผ้ใู หก้ ารปรึกษาช้ผี ลที่ตามมา

ครู : “ถา เธอทำอยา งท่บี อก พอ กบั แมเธอคงจะผิดหวงั และเสียใจมาก”
ในการให้การปรึกษาเชิงจิตวิทยาน้ัน ผู้ให้การปรึกษาควรเลือกใช้ทักษะการปรึกษา
ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะปญหา และควรใชท้ กั ษะใหห้ ลากหลาย ไมใ่ ช้ทักษะใดทกั ษะหนงึ่ บอ่ ยเกินไป

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

32 การใหคำปรกึ ษา 348

บรรณานกุ รม


คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2553). ชุดฝกอบรมแนะแนว
โครงการยกระดับ


คุณภาพครูทั้งระบบตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์

แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
วัชรี ทรัพยม์ .ี (2549). ทฤษฎใี ห้บริการปรกึ ษา. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
มัลลวีร์ อดุลวฒั นศริ .ิ (2554). เทคนคิ การให้คำปรึกษา
:
การนำไปใช้. พิมพค์ รั้งที่ 4. ขอนแก่น :

คลังนานาวทิ ยา.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้. (2551). หลักสูตรพัฒนาครูจิตวิทยาแนะแนว
โมดูล



การใหค้ ำปรกึ ษา. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ หจก. เจเอน็ ที.
สธุ รี พนั ธ์ กรลกั ษณ์ และคณะ. ม.ป.ป. การฝก ทกั ษะ
การใหบ้ รกิ ารปรกึ ษา. (เอกสารอดั สำเนา.)

๙.เทคนิคการให้คําปรึกษา (Techniques in Counseling)

การปรึกษาเชิงจิตวิทยารายบคุ คล
การใหคำปรึกษา 34933

3
บทที


1) §«“¡À¡“¬¢Õß°“√ª√°÷ …“‡™ß‘ ®µ‘ «∑‘ ¬“√“¬∫§ÿ §≈

การปรึกษาเชิงจิตวิทยารายบุคคล คือ กระบวนการที่ช่วยให้มีการสำรวจและ
หาข้อสรุปเกี่ยวกับปญหาส่วนตัวและสถานการณ์ท่ีเปนความต้องการของแต่ละบุคคล โดยผู้ให้
การปรึกษาทำหน้าที่เปนผู้เอื้ออำนวยให้ผู้ท่ีมารับการปรึกษาเข้าใจตัวเองและโลกอย่างถูกต้อง
ชัดเจน จากการท่ีทั้งผู้ให้และผู้รับคำปรึกษาสำรวจความรู้สึกและพฤติกรรมของผู้รับการปรึกษา
สำรวจสัมพันธภาพกับผู้อ่ืน ตลอดจนหาทางเลือกในการแก้ไขปญหาและตัดสินใจเลือกให้ดี
และเหมาะสมกบั สถานการณ์ปจจบุ ันของผู้รับการปรึกษา (Individual Counseling, 1995)

2) ∫∑∫“∑Àπ“â ∑¢Ë’ Õߺ⟄À°â “√ª√÷°…“

บทบาทและหน้าท่ีของผู้ให้การปรึกษาท่ีสามารถช่วยผู้ท่ีมีความทุกข์ได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ มีดังต่อไปนี้

1. ช่วยเหลือผ้มู ารับการปรึกษาด้วยความเต็มใจและเอาใจใส่
2. เขา้ ใจสภาพแวดล้อมและความแตกต่างของบุคคล
3. ฟงอยา่ งต้งั ใจและใสใ่ จ
4. พูดน้อยโดยพูดเท่าทจ่ี ำเปน และเปน ประโยชนต์ ่อผมู้ ารับการปรึกษา
5. กระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษามั่นใจในตัวเอง ว่าเขาสามารถใช้ศักยภาพของตัวเอง
ในการตัดสินใจเร่ืองตา่ ง ๆ ได้
6. ให้ผู้มารบั การปรกึ ษาเปลยี่ นแปลงความรสู้ กึ และยอมรบั ฟงความคดิ เห็น
7. กระตุ้นให้ผรู้ ับการปรึกษาตัดสนิ ใจด้วยตนเองและปรับปรงุ แก้ไขตนเอง
8. ส่งต่อหรือปรึกษาผู้เช่ียวชาญอื่น ๆ ในสาขานั้น ๆ เม่ือพิจารณาแล้วเห็นว่า
ไมส่ ามารถชว่ ยเหลือหรอื แก้ไขปญหาได้
9. จดบันทึกทุกคร้ังท่ีมีการให้การปรึกษาเพื่อประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือ
และการศึกษาคน้ ควา้

๙.เทคนคิ การให้คําปรึกษา (Techniques in Counseling)

34 การใหค ำปรกึ ษา 350

นอกจากนี้ Geldard (1989) ได้เสนอแนะว่า อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ผู้ให้การปรึกษา
ท่ีมีประสิทธิภาพควรจะทำให้เกิดขึ้นในการให้การปรึกษา คือ ช่วยให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกดีขึ้น
หรอื สบายใจข้ึน ซึ่งถือไดว้ า่ เปน บทบาทหนา้ ทใ่ี นเบือ้ งตน้ สว่ นบทบาทหรอื หน้าท่ีอ่ืน ๆ คอื

1. ชว่ ยให้ผรู้ ับการปรกึ ษาเรียนรูท้ จ่ี ะพงึ พอใจในตนเองมากขึ้น
2. ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษามน่ั ใจตวั เองและสามารถใชศ้ กั ยภาพของตวั เองในการตดั สนิ ใจ
เรือ่ งต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ช่วยให้ผู้รับการปรึกษาจัดการกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตได้โดยไม่ต้องพ่ึงพาผู้อื่น
ทกุ ครง้ั ทีม่ ีปญ หา
4. ช่วยใหผ้ ู้รับการปรกึ ษาเปลย่ี นแปลงและเจรญิ เติบโตเต็มตามศักยภาพของเขา

3) °“√‡µ√¬’ ¡µ«— ¢ÕߺŸâ„Àâ°“√ª√°÷ …“

การเตรียมพร้อมของผู้ให้การปรึกษามีส่วนช่วยให้การปรึกษาประสบความสำเร็จ
ผู้ใหก้ ารปรกึ ษาจงึ ควรเตรียมพร้อมในเร่ืองต่อไปน้ี

การเตรียมตัวในเร่อื งท่ัวไป


1. แตง่ กายสภุ าพเรยี บรอ้ ย
2. ศกึ ษาขอ้ มูลหรือรายละเอียดของผู้รบั การปรกึ ษาไว้ล่วงหนา้ (กรณที ่นี ดั หมายไว้)
3. เตรียมกระดาษทิชชูไว้สำหรับผู้รับการปรึกษาท่ีเกิดอารมณ์เศร้า สะเทือนใจ
แล้วร้องไห้
4. ตรงตอ่ เวลานดั หมายทง้ั ในช่วงของการเร่ิมตน้ และส้ินสดุ การให้การปรกึ ษา
5. หลีกเล่ียงการนัดหมายอ่ืนในเวลาเดียวกันกับท่ีมีนัดให้การปรึกษา (กรณีที่ผู้รับ
การปรึกษานัดหมายไว้ล่วงหนา้ )

การเตรยี มสถานท่

สถานท่ีให้การปรึกษาท่ีเปนสัดส่วน สามารถเก็บความลับได้ จะทำให้ผู้รับการปรึกษา
เกิดความมั่นใจและกล้าเปดเผยเรื่องราวของตนเอง รวมทั้งจัดสถานท่ีให้สะอาด สงบ หาเก้าอ้ี
ท่ีน่ังสบายวางไว้ในลักษณะท่ีเปนมุมฉากกันระหว่างท่ีน่ังของผู้ให้และผู้รับการปรึกษา โดยจัดตั้ง
ในระยะที่ไม่ห่างหรือใกล้กันมากนัก ระยะท่ีเหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 3-5 ฟุต โดยอาจสังเกต
จากท่าทางของผู้รับการปรึกษาว่า ระยะห่างเท่าใดที่ทำให้ผู้รับคำปรึกษารู้สึกสบายและผ่อนคลาย
ซึง่ Geldard (1989) เสนอความเหน็ ว่า การจดั ท่นี ัง่ สำหรบั การปรกึ ษาท่เี หมาะสม คอื การจดั ที่นง่ั
ให้เปนมุมฉากกันระหว่างท่ีนั่งของผู้ให้และผู้รับการปรึกษา โดยไม่ให้มีสิ่งกีดขวางเพื่อเอ้ืออำนวย
ให้การส่ือสารเปน ไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ดังรายละเอยี ดในภาพท่ี 1

๙.เทคนคิ การให้คําปรึกษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรึกษา 35135

ภาพที่ 1 การจดั ท่ีนงั่ สำหรบั การปรึกษาเชงิ จิตวทิ ยา
Thompson et al. (2004) ได้เสนอแนวทางการจัดทีน่ ่ังสำหรับการปรึกษาไว้ 3 แบบ
ดังรายละเอียดในภาพการจดั ทนี่ งั่ สำหรบั การปรึกษา

การจัดที่นง่ั แบบท่ี 1

การจัดที่นั่งแบบที่ 2
๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

36 การใหคำปรึกษา 352

การจัดที่นง่ั แบบท่ี 3
นอกจากนี้ Thompson et al. (2004) ยังสรุปว่า การจัดที่น่ังรูปแบบท่ี 1 และ 2
เปนการจัดท่ีนั่งสำหรับการให้การปรึกษาที่ไม่ค่อยเหมาะสม เน่ืองจากรูปการจัดที่นั่งแบบท่ี 1
มีโตะเปนสิ่งกีดขวางการส่ือสาร ส่วนการจัดที่นั่งรูปแบบที่ 2 เปนการจัดที่น่ังท่ีผู้ให้และผู้รับ
การปรึกษานั่งเผชิญหน้ากัน ซ่ึงจะทำบรรยากาศของการให้คำปรึกษาตึงเครียดและอาจทำให้รับ
การปรึกษาเกิดความรสู้ กึ อึดอัดได้ การจัดท่ีน่งั รปู แบบท่ี 3 เปน รปู แบบท่ีเหมาะสม เอ้อื ให้การปรกึ ษา
ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะการที่ผู้รับการปรึกษาน่ังบริเวณมุมโตะจะช่วยให้ผู้รับการปรึกษาสามารถ
เปลี่ยนอิริยาบถหรือเคลื่อนไหวแขนขาได้อย่างอิสระพอสมควร ซ่ึงจะทำให้ผู้รับการปรึกษาไม่รู้สึก
อดึ อัด และอยู่ในระยะหา่ งทีผ่ ูใ้ ห้การปรกึ ษาสามารถแสดงความเขา้ ใจ เหน็ ใจและปลอบโยน โดยการ
แตะหรือสัมผัสมอื หรอื แขนของผูร้ ับการปรกึ ษาได้
จะเห็นได้ว่าการจัดที่น่ังรูปแบบท่ี 3 ตามแนวคิดของ Thompson el al. (2004)
เปนการจัดท่ีนั่งที่ค่อนข้างเหมาะสมกับอุปนิสัยของคนไทยท่ีไม่ค่อยกล้าแสดงออก โดยเฉพาะ
การเล่าเร่ืองราวที่เปนปญหาของตนเองให้ผู้อ่ืนฟง ดังนั้น การจัดท่ีนั่งให้มีมุมของโตะบังมือ ขา เท้า
และร่างกายบางส่วนของผู้รับการปรึกษาไว้บ้าง จะช่วยทำให้ผู้รับการปรึกษารู้สึกปลอดภัย
และผ่อนคลายข้ึน โดยเฉพาะผู้รับการปรึกษาท่ีมีลักษณะนิสัยขี้อายหรือเปนเด็ก แต่ในการปฏิบัติ
เพ่อื ใหก้ ารปรกึ ษาในสถานการณ์จริงนั้น สถานทใ่ี ห้คำปรึกษาอาจตอ้ งปรับเปล่ยี นไปตามสภาพการณ์
เช่น การปรึกษาท่ีม้าน่ังบริเวณระเบียงอาคาร บริเวณม้าหินอ่อน ดังภาพที่ 2 แต่หลักการสำคัญ
ของการเลือกสถานท่ีในการปรึกษา คือ ควรเปนสถานท่ีไม่มีผู้อ่ืนได้ยินการสนทนาของผู้ให้และผู้รับ
การปรึกษา

๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรึกษา 35337

ภาพที่ 2 สถานท่ีใหการปรกึ ษาตามสถานการณจรงิ

4) ¢—ÈπµÕπ°“√ª√÷°…“‡™ß‘ ®‘µ«‘∑¬“

ข้ันตอนของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาเปนองค์ประกอบสำคัญท่ีส่งผลให้การช่วยเหลือ
บุคคลสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการปรึกษาได้เปนอย่างดี เพราะข้ันตอนการปรึกษา
เปนตัวกำหนดแนวทางช่วยเหลือท่ีเปนระบบและมีทิศทางท่ีชัดเจน ช่วยให้การปรึกษาดำเนินไป
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ซึ่งมี 5 ข้นั ตอน ดงั น้ี

1.
ขน้ั การสร้างสัมพนั ธภาพ


การเริ่มต้นพบกันครั้งแรกของผู้ให้และผู้รับการปรึกษาเปนส่ิงที่สำคัญมาก
เพราะการเร่ิมต้นพบกันท่ีเปนไปด้วยความอบอุ่นเปนกันเองจะช่วยให้ผู้รับการปรึกษาเกิดความรู้สึก
ประทับใจและไว้วางใจ พร้อมที่จะเปดเผยเร่ืองราวของตนเองและร่วมมือในการปรึกษา ทำให้
การปรึกษาบรรลเุ ปา หมายไดง้ ่ายข้ึน การสรา้ งสมั พนั ธภาพมวี ตั ถุประสงค์ เพื่อ

1. ลดความประหมา่ และวติ กกังวลของผ้รู ับการปรกึ ษา
2. สรา้ งความร้สู กึ คุน้ เคยและเปน กันเองระหวา่ งผูใ้ หแ้ ละผ้รู บั การปรกึ ษา
3. สร้างความเขา้ ใจท่ีถูกต้องเกย่ี วกบั การปรกึ ษาเชงิ จิตวิทยา
4. ให้ผ้รู บั การปรึกษาเกิดความมนั่ ใจต่อการปรกึ ษาและไวว้ างใจผใู้ หก้ ารปรกึ ษา


แนวทางปฏบิ ตั ิ

1. ย้มิ แย้มแจ่มใส
2. ลกุ ขึ้นตอ้ นรบั หรือเดินไปรับ และเชิญให้นัง่
3. แนะนำรายละเอยี ดของตัวเองสนั้ ๆ เช่น ชอื่ บทบาทหนา้ ท่ี เปน ต้น
4. ขอใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาแนะนำขอ้ มลู สว่ นตวั ทส่ี ำคญั เชน่ ชอ่ื ชนั้ เรยี นทกี่ ำลงั ศกึ ษา
5. พูดคุยเร่ืองท่ัวไป เช่น สภาพดินฟาอากาศ เหตุการณ์ท่ีกำลังเปนที่สนใจ
สภาพหรือลกั ษณะการเรยี น

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรึกษา (Techniques in Counseling)

38 การใหค ำปรึกษา 354

6. ใหผ้ รู้ ับการปรึกษาเลา่ สาเหตุทม่ี าขอรบั การปรกึ ษา
7. แจง้ ขอบขา่ ย ลกั ษณะ กระบวนการปรกึ ษาเชงิ จติ วทิ ยา ตลอดจนบทบาทหนา้ ที่
ของผ้ใู ห้การปรกึ ษาและผรู้ ับการปรึกษาตามความเหมาะสม
8. เน้นเรือ่ งการรักษาความลบั
9. ฟงและใสใ่ จผรู้ บั การปรึกษา


ตวั อย่าง

นักเรยี น : คณุ ครขู า วางม้ัยคะ
ครู : อา วจด๊ี ...(ยิม้ )...วา งคะ เขา มานง่ั กอ นซิ
นกั เรียน : ขอบคุณคะ
ครู : ไมไ ดเ จอกนั ตงั้ หลายวนั เปน ยงั ไงบา ง
นักเรียน : ก็ดอี ยูค ะ
ครู : ตะกถี้ ามวาครูวางมัย้ มีอะไรจะคยุ กบั ครูเหรอคะ

2.
ข้ันสำรวจ
ทำความเข้าใจปญหา
ผลกระทบ
ความต้องการ
และกำหนด

เปา หมายทีเ่ ปน จริงได

เปนข้ันตอนที่สำคัญและอาจต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก เน่ืองจากผู้รับการปรึกษา
ส่วนใหญ่จะมีความสับสนทางอารมณ์หรือมีการรับรู้ท่ีบิดเบือนจากความเปนจริง เช่น อคติ
เข้าข้างตนเอง หรือใช้กลไกปองกันตนเองสูง ไม่ยอมเปดเผยข้อมูลและรายละเอียดส่วนตัว
ในบางกรณีจงึ อาจตอ้ งใช้เวลาเพอื่ ดำเนินการในข้นั นม้ี ากกวา่ 1 ครงั้ โดยมวี ัตถุประสงค์ เพือ่
1. ให้ผู้รับการปรึกษาเข้าใจถึงปญหาและสาเหตุที่แท้จริง รวมทั้งผลกระทบ
ทเ่ี กิดขึ้น
2. ให้ผ้รู ับการปรกึ ษาค้นหาความตอ้ งการและตัง้ เปา หมายท่สี ามารถทำไดจ้ ริง
3. ให้กำลงั ใจและความมั่นใจในการแก้ไขปญ หาให้แกผ่ ู้รับการปรึกษา


แนวทางปฏบิ ัต

1. กระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษาได้เล่าระบายความรู้สึกและเร่ืองราวของตนเอง
รวมทง้ั ผลกระทบของปญหาท่ไี ด้รับ
2. ให้ผู้รับการปรึกษากำหนดเปาหมายทีเ่ ปน ไปได้
3. เงียบ ฟง สังเกต และใสใ่ จ ทวนซ้ำ สะท้อนกลับ สรปุ ให้กำลงั ใจ แสดงความ
เหน็ อกเห็นใจ

๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรึกษา 35539



ตัวอยา่ ง

ครู : มีอะไรใหค รูชวย วามาเลยลกู
นกั เรยี น : …….
ครู : แลวหนคู ดิ วา เรื่องน้มี สี าเหตมุ าจากอะไรเหรอ
นักเรียน : …….
ครู : ถา ปลอยใหเปน อยา งนีต้ อไปมันจะมีผลอยางไรกบั หนบู างละ
นักเรียน : …….
ครู : หนูอยากใหค รูชว ยยังไงละ
นกั เรยี น : .......


3.
ขั้นหาแนวทางแกไ้ ขปญหา

แนวทางแก้ไขปญหาที่กำหนดโดยผู้รับการปรึกษาจะช่วยให้เขาเกิดความรู้สึก

ภาคภูมิใจในตนเอง ผู้ให้การปรึกษาควรกระตุ้นให้ผู้รับการปรึกษาคิดเองและตัดสินใจเลือกวิธี
ท่เี หมาะสมกับตัวเอง ขัน้ หาแนวทางแกไ้ ขปญ หามวี ัตถุประสงค์ เพื่อ

1. ใหผ้ รู้ ับการปรึกษามีแนวทางแก้ไขปญหาทีเ่ หมาะสม สามารถทำได้จริง
2. หาขอ้ ดี ขอ้ เสียของแนวทางแกไ้ ขปญ หา
3. ตดั สินใจเลือกแนวทางที่เหมาะสม


แนวทางปฏบิ ตั ิ

1. กระตุ้นใหผ้ ู้รบั การปรึกษาคิดวิธีแก้ไขปญหาหลาย ๆ วิธี
2. ผู้ใหก้ ารปรกึ ษาเสนอแนะวธิ ีแกไ้ ขเพิม่ เติม
3. ให้ผู้รับการปรึกษาบอกข้อดี ข้อเสียของวิธีแก้ไขปญหาแต่ละวิธี ถ้าข้อมูล
ไมเ่ พยี งพอ ผู้ใหก้ ารปรกึ ษาใหข้ อ้ มลู เพมิ่ เตมิ แล้วให้ผู้รบั การปรึกษาเลือกวธิ ที ่ีเหมาะสม


ตัวอย่าง

ครู : หนูคิดวามวี ธิ ีไหนบางในการแกปญหาเรื่องน้ี
นกั เรยี น : .....................
ครู : แตล ะวิธีมีขอ ดแี ละขอ เสียอยางไรบางละ
นักเรียน : ………………….
ครู : แลว วธิ ีไหนท่ีควรนำไปใชม ากท่ีสุดละ
นักเรยี น : ………………….

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

40 การใหค ำปรึกษา 356


4.
ขั้นวางแผนเพอื่ นำไปสู่การปฏิบัติ

การปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปญหาที่ผู้รับการปรึกษาตัดสินใจเลือกไว้ในข้ันที่ 3

เปนสิ่งสำคัญท่ีจะช่วยให้การให้การปรึกษามีคุณค่า และจะเปนประโยชน์มากขึ้น ถ้ามีการทำ
ข้อตกลงระหว่างผู้รับการปรึกษากับผู้ให้การปรึกษาว่าจะปฏิบัติตามแผน เพราะจะช่วยกระตุ้น
ให้ผู้รับการปรึกษาเกิดความต้ังใจและพร้อมที่จะลงมือปฏิบัติตาม ขั้นวางแผนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
มีวตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ

1. กำหนดข้ันตอนและรายละเอียดของการปฏิบัติ เพื่อให้เปนไปตามแนวทาง
การแก้ไขปญ หาท่ีผูร้ ับการปรึกษาเลือกไว้

2. กำหนดระยะเวลาทีจ่ ะใช้ในการแกไ้ ขปญ หา
3. กำหนดแนวทางการประเมนิ ผลการแกไ้ ขปญ หา
4. สร้างความมั่นใจในการลงมอื ปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปญ หา


แนวทางปฏบิ ัติ

1. กระตุ้นผู้รับการปรึกษาให้กำหนดข้ันตอนและรายละเอียดของการปฏิบัติ
ในการแกไ้ ขปญ หา
2. ให้กำลงั ใจ และช่วยทำความกระจ่างเกีย่ วกบั การวางแผนแกป้ ญ หา
3. ชักชวนใหท้ ำข้อตกลงวา่ จะปฏบิ ัติตามแผน


ตวั อยา่ ง

ครู : ถา ง้นั หนจู ะไปคยุ กบั เพอื่ นตอนไหน
นักเรยี น : .................
ครู : หนูจะคยุ ประเดน็ ไหนบางละ
นกั เรียน : .................
ครู : ดีมากเลย ครเู ชื่อวา หนูตองทำไดอ ยแู ลว ละ


5.
ข้นั ยุตกิ ารให้คำปรึกษา

เม่ือการปรึกษาดำเนินไปจนหมดเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละคร้ัง/ในแต่ละราย

หรือในกรณีที่ผู้รับการปรึกษามีท่าทีต่อต้าน/ไม่ร่วมมือในการปรึกษา ก็ให้ยุติการปรึกษา โดยให้
ดำเนินการด้วยความนุ่มนวล อบอุ่น เปนมิตร และแสดงความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
ในโอกาสตอ่ ไปถา้ ผรู้ บั การปรึกษาต้องการ การยุตกิ ารปรึกษามวี ัตถุประสงค์ เพ่ือ

1. จบการปรกึ ษาในแตล่ ะครงั้ หรอื แตล่ ะราย
2. ใหก้ ำลังใจและความมน่ั ใจแก่ผรู้ ับการปรึกษา

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรึกษา 35741



แนวทางปฏิบัติ

1. ส่งสัญญาณว่าใกล้จะหมดเวลา เช่น ดูนาฬกา บอกจำนวนเวลาที่เหลือตามที่

กำหนดไว้ เมือ่ เหลือเวลาประมาณ 5-10 นาที
2. ให้ผู้รับการปรึกษาสรุปประเด็นท่ีได้พูดคุยกันมา โดยผู้ให้การปรึกษาช่วย

เพ่มิ เติมสว่ นที่ขาดหายไป
3. ใหก้ ำลังใจและแสดงความมนั่ ใจวา่ ผู้รับการปรึกษาจะจดั การกับปญ หาได้
4. ในกรณีท่ีไม่สามารถแก้ไขปญหาได้ ก็เปดโอกาสให้ผู้รับการปรึกษานัดหมาย

กำหนดวนั เวลาในการปรกึ ษาคร้งั ตอ่ ไป
5. ในกรณีท่ีปญหาไม่ได้รับการคลี่คลายให้ส่งต่อผู้รับการปรึกษาไปยังผู้เชี่ยวชาญ

โดยให้ข้อมูลท่ีจะเปนประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้รับการปรึกษาในการขอรับการปรึกษาจาก
ผูเ้ ชี่ยวชาญต่อไป


ตัวอย่าง


ครู : (ดูนาฬกา) เอาละ ตอนน้ีเรามีเวลาเหลือประมาณ 5 นาที
เทา ทเ่ี ราคุยกนั มา หนชู วยสรปุ หนอยซิ เพือ่ ใหเราเขา ใจตรงกัน

นกั เรียน : .......................
ครู : ดีมากคะ ครูเชื่อวาหนูตองทำไดแน ๆ ครูเปนกำลังใจใหนะ

ถา ไดผลอยางไร มาเลา ใหค รูฟง บางนะคะ
ในหลายกรณี ปญหาของผู้ขอรับการปรึกษาสามารถดำเนินการแก้ไขปญหาให้เสร็จสิ้น
ภายในการปรึกษาครั้งเดียว หากไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นในครั้งเดียวได้ ในการปรึกษา
คร้ังต่อไป ควรเร่ิมต้นด้วยการสร้างสัมพันธภาพ ท้ังน้ีเพ่ือให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ขอนำเสนอ
รายละเอียดของการปรกึ ษาในแตล่ ะคร้งั ตามแผนภมู ิการปรึกษาเชิงจติ วทิ ยาต่อไปน้ี

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

42 การใหค ำปรึกษา 358

·ºπ¿Ÿ¡°‘ “√ª√°÷ …“‡™‘ß®‘µ«‘∑¬“


กรณีท่ีไม่สามารถหาแนวทางการแก้ไขปญหาให้เสรจ็ สน้ิ ในคร้งั เดียว

แผนภมู กิ ารปรึกษาเชงิ จติ วทิ ยา
ครั้งที่
1

การต้อนรับทอี่ บอุ่นและเปน มิตร


Co
กับ
Cl
ไมร่ จู้ กั /ค้นุ เคยกนั
Co
กับ
Cl
รู้จัก/คนุ้ เคยกันแลว้

-
Co
แนะนำตวั เอง

-
ให
้ Cl
แนะนำตวั เอง


-
ชวนคยุ เร่ืองทว่ั ไป
1-2
นาที

-
นำเขา้ ส่ปู ระเดน็ การปรึกษา

-
ทำความเข้าใจเร่อื งการใหก้ ารปรกึ ษา


Cl
ลังเลทีจ่ ะขอรบั การปรกึ ษา
Cl
ปฏิเสธการรับการปรกึ ษา

-
ย้ำเรอื่ งการรกั ษาความลับ
-
แสดงความหวังดแี ละเต็มใจชว่ ย

-
ชแี้ จงประโยชน์ของการรบั การปรึกษา
-
ชแี้ จงประโยชน์ของการรับการปรึกษา

-
ยุตกิ ารให้การปรกึ ษา/ส่งต่อ


-
สำรวจและทำความเข้าใจปญ หา
หมายเหตุ

-
หาผลกระทบท่เี กดิ จากปญหา
Co
=
ผู้ให้การปรกึ ษา

-
ค้นหาความต้องการของ
Cl
Cl

=
ผู้รับการปรกึ ษา

-
กำหนดเปา หมายทเี่ ปนจริงได้

-
ฯลฯ

สรปุ และยตุ กิ ารให้การปรึกษาครัง้ ท
ี่ 1


๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรึกษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรึกษา 35943

แผนภูมิการปรึกษาเชิงจติ วิทยา
คร้ังที่
2-ก่อนสุดท้าย

การตอ้ นรับทีอ่ บอุน่ และเปน มิตร

ชวนคยุ เร่ืองทว่ั ไป
1-2
นาท


สรปุ เรอ่ื งท่พี ดู คุยในคร้ังทผี่ ่านมา
ตดิ ตามงานทมี่ อบหมายให
้ (ถา้ มี)


พิจารณาเปาหมายการปรึกษารว่ มกันอีกครัง้

กระตนุ้ ให
้ Cl
คดิ แนวทาง/วธิ กี ารแกไ้ ขปญ หาเพอ่ื ไปสเู่ ปา หมาย

สรปุ แนวทาง/วธิ กี ารแกไ้ ขปญ หาแตล่ ะแนวทาง/วธิ กี ารใหช้ ดั เจน

กระตนุ้ ให
้ Cl
คดิ ขอ้ ดแี ละขอ้ ดอ้ ยของแตล่ ะแนวทาง/วธิ กี าร


ให
้ Cl
ตดั สนิ ใจเลอื กแนวทางเอง

ร่วมกนั วางแผนเพ่ือนำไปสู่การปฏบิ ตั
ิ ประกอบด้วย

-
ขั้นตอนและวิธกี ารปฏิบตั ิ

-
ระยะเวลาทจี่ ะใชใ้ นการปฏิบัติ

-
วธิ ีประเมนิ ผลการปฏิบัต

-
แนวทางปอ งกนั /แกไ้ ขปญ หาทอ่ี าจเกดิ จากการปฏบิ ตั ติ ามแผน


สนับสนุนใหท้ ำข้อตกลงรว่ มกับ
Co
วา่ จะปฏบิ ตั ติ ามแผน


ใหก้ ำลงั ใจและความมนั่ ใจแก
่ Cl
วา่ จะสามารถปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามแผน


นัดหมายการปรึกษาคร้งั ต่อไป
หมายเหตุ

สรปุ และยุติการปรกึ ษาแตล่ ะครั้ง
Co
=
ผใู้ หก้ ารปรกึ ษา

Cl

=
ผรู้ บั การปรึกษา


กอ่ นยตุ ิการปรกึ ษาแตล่ ะครง้ั สรปุ และให้กำลังใจวา่ Cl จะบรรลุตามเปาหมายได้
๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

44 การใหค ำปรกึ ษา 360

แผนภูมกิ ารปรกึ ษาเชิงจิตวิทยาครงั้ สดุ ท้าย

การตอ้ นรับท่อี บอ่นุ และเปน มติ ร

ชวนคยุ เรอ่ื งทัว่ ไป
1-2
นาที


สรุปรายละเอียดของการปรกึ ษาท้ังหมดและการตดิ ตามผล

ให
้ Cl
สรปุ สิ่งท่เี กดิ ข้นึ กับเขาจากการรับการปรกึ ษา
เช่น

-
วิถชี ีวติ /พฤตกิ รรม

-
ความรู้สึก/การรบั รู


Cl
มพี ฤติกรรม/การรับรู้ดขี น้ึ แลว้
Cl
ไมม่ พี ัฒนาการท่ีดีขึ้น/แก้ปญ หาไม่ได

ใหก้ ำลังใจและความม่นั ใจว่า
Cl
แสดงความเตม็ ใจที่จะชว่ ยเหลอื

สามารถจัดการกบั ปญหาตา่ ง

ในประเด็นปญหาอื่น



ถา้
Cl
ต้องการ

ไดด้ ว้ ยตวั เองแล้ว
ยุตกิ ารปรึกษา/สง่ ตอ่

ยตุ ิการปรึกษา
หมายเหต

Co
=
ผ้ใู หก้ ารปรกึ ษา

Cl

=
ผรู้ ับการปรกึ ษา


๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

การใหค ำปรกึ ษา 36145


กรณที ่สี ามารถหาแนวทางแก้ไขปญ หาให้เสรจ็ ส้นิ ในครงั้ เดียว

การตอ้ นรบั ท่อี บอุ่นและเปนมิตร


Co
กับ
Cl
ไม่รจู้ ัก/คนุ้ เคยกัน
Co
กับ
Cl
ร้จู กั /คุน้ เคยกันแล้ว

-
Co
แนะนำตัวเอง
-
ชวนคุยเรอื่ งทวั่ ไป
1-2
นาที

-
ให้
Cl
แนะนำตวั เอง
-
นำเขา้ ส่ปู ระเดน็ การปรึกษา

-
ทำความเข้าใจเรอื่ งการปรึกษา


Cl
ลงั เลทจี่ ะขอรบั การปรกึ ษา

-
ยำ้ เรอ่ื งการรักษาความลับ

-
ชี้แจงประโยชนข์ องการปรกึ ษา


-
สำรวจและทำความเขา้ ใจปญหา

-
หาผลกระทบท่ีเกิดจากปญ หา

-
คน้ หาความตอ้ งการของ
Cl

-
กำหนดเปา หมายทเี่ ปนจริงได้


-
กระตนุ้ ให้
Cl
คิดแนวทาง/วธิ ีการแก้ไขปญหาเพือ่ ไปสูเ่ ปา หมาย

-
สรปุ แนวทาง/วธิ กี ารแก้ไขปญหาแตล่ ะแนวทาง/วธิ ีการให้ชดั เจน

-
กระตนุ้ ให
้ Cl
คิดข้อดแี ละขอ้ ด้อยของแตล่ ะแนวทาง/วธิ ีการ

-
ให้
Cl
ตดั สินใจเลือกแนวทางเอง


รว่ มกนั วางแผนเพือ่ นำไปสูก่ ารปฏบิ ตั
ิ ประกอบด้วย

-
ข้ันตอนและวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ

-
ระยะเวลาที่จะใชใ้ นการปฏบิ ตั ิ

-
วิธีประเมนิ ผลการปฏบิ ตั

-
แนวทางปอ งกนั /แก้ไขปญ หาท่ีอาจเกดิ จากการปฏบิ ัตติ ามแผน


สนับสนนุ ใหท้ ำขอ้ ตกลงร่วมกับ
Co
วา่ จะปฏบิ ัติตามแผน
หมายเหตุ

Co
=
ผูใ้ หก้ ารปรกึ ษา

ให้กำลงั ใจและความมน่ั ใจแก
่ Cl
ว่าจะสามารถปฏิบตั ไิ ดต้ ามแผน
Cl

=
ผรู้ ับการปรึกษา


ยุตกิ ารปรกึ ษา


๙.เทคนคิ การให้คําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

46 การใหคำปรกึ ษา 362

5) µ—«Õ¬“à ß°“√ª√°÷ …“‡™ß‘ ®‘µ«∑‘ ¬“∑·’Ë  ¥ß¢πÈ— µÕπ·≈–∑°— …–°“√ª√°÷ …“

สถานการณ์ครูประจำชั้นสังเกตพบว่านักเรียนในห้องคนหนึ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป คือ
ขาดเรยี นบ่อย ไม่ส่งงาน และผลการเรยี นลดลง จงึ เรยี กนักเรียนพบ

ข้ันสรา้ งสัมพันธภาพ


นกั เรียน : สวัสดีคะ อาจารย
ครู : จะ นง่ั กอนซิ (ยมิ้ ชท้ี ่เี ก้าอ้ี : ทักษะการใส่ใจ)
นักเรยี น : อาจารย ใหเ พ่ือนไปตามหนมู ามีอะไรหรอื คะ
ครู : ครอู ยากคยุ ดวยนะ เปนยังไงบา งชวงนี้ สบายดีหรือเปลา

(ทกั ษะการใส่ใจและการถาม)
นกั เรียน : กส็ บายดีคะ อาจารย
ครู : ออื ครนู ึกวา หนไู มส บายเห็นไมคอ ยมาโรงเรยี น (ทกั ษะการใสใ่ จ)
นกั เรียน : เออ ....ท่ีจรงิ ก็..ไมค อยสบายนัก...
ครู : ไมคอ ยสบายเปน อะไรเหรอ (ทกั ษะการทวนซ้ำและการถาม)
นักเรียน : คอื ..ก็ไมไ ดปว ยอะไร..ตอนนี.้ .หนู…
ครู : .............(ทักษะการเงียบ)
นกั เรยี น : คอื ....หนู…
ครู : เธออาจจะกำลังลังเลวาควรเลาหรือไม แลวแตเธอนะ แตถาเธอกลัว

เรื่องการรักษาความลับ ครูรับรองวาจะไมนำเร่ืองของเธอไปเปดเผย
ใหใครฟงอยางแนนอน และการไดเลาเรื่องท่ีเราไมสบายใจใหใครสักคน
ที่เปนหวงและหวังดีตอเรา มันจะทำใหเรารูสึกดีข้ึน เพราะอยางนอยก็มี
คนรับฟง (ทักษะการใหข้ อ้ มลู )
นกั เรียน : หน.ู .ก็..มีเรือ่ งไมคอยสบายใจนิดหนอ ยนะ คะ
ครู : ทว่ี า มีเร่อื งไมค อ ยสบายใจ มีอะไรท่ีครูพอจะชวยไดค รูก็ยนิ ดนี ะ
(ทกั ษะการทวนซำ้ และการใสใ่ จ)

ขั้นสำรวจและทำความเข้าใจปญหา
ความต้องการของผู้รับคำปรึกษา
และกำหนด
เปา หมายทเี่ ปน จริงได้

นักเรยี น : คอื ..วา ตอนนห้ี น.ู ..ไมค อ ยสบายใจเร่ืองทางบานคะ
ครู : ไมส บายใจเรอื่ งทบ่ี า น มอี ะไรเหรอ (ทกั ษะการทวนซำ้ และการถาม)
นกั เรียน : คือวา...คุณพอของหนูตองไปทำงานที่ตางจังหวัดนะคะ หนูเลยตอง
อยูบานกับคุณแม 2 คน แตทีน้ี คุณแมเปนคนที่ชอบออกสังคม ไมคอย
ไดอยูบาน เวลาตอนเย็นหนูกลับบานก็ไมคอยไดเจอคุณแมเลย ขาวเย็น
หนกู ็ตอ งหากินเองคนเดียว เชา มาคณุ แมกไ็ ปทำงาน

๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหคำปรกึ ษา 36347

ครู : แลว หนูรสู กึ อยา งไร (ทักษะการถาม)
นักเรียน : หนกู .็ ..เหงา เซง็ เบอ่ื กเ็ ลยออกไปขา งนอกไปอยทู ห่ี อเพอ่ื น จะไดม เี พอื่ นคยุ

มเี พือ่ นกนิ ขา ว
ครู : ที่คุณแมไมคอยอยูบาน หนูตองกินขาวคนเดียวบอย ๆ มันทำใหหนูเหงา

กเ็ ลยตองออกไปหาเพ่ือน (ทกั ษะการสะทอ้ นกลบั )
นักเรยี น : คะ
ครู : ไปอยูกับเพอื่ นแลว เปนอยางไรบาง (ทกั ษะการถาม)
นกั เรยี น : กด็ คี ะ แตบางทหี นูก็...เกรงใจเคา แบบวาบางทแี ฟนเคา ก็มาหา หนูคิดวา

เคาอาจจะอยากมีความเปนสวนตัวบาง แลวเคาก็ชอบออกไปเท่ียว
กลางคืนกับแฟนเคาดวย เวลาเคาไปเคาก็ชอบชวนหนูไปดวย หนูก็
ไมอยากไปแตไมรูวาจะปฏิเสธเคายังไง จะอยูคนเดียวก็เหงาก็เลย...
ไปก็ไป พอตอนเชาหนูก็ต่ืนมาโรงเรียนไมไหว...แลวเคาก็ยังแนะนำเพ่ือน
ของแฟนใหรูจักกับหนู เคาบอกหนูวา...ใหหนูรีบมีแฟนจะไดไมตองเหงา
อยคู นเดียว
ครู : แลวหนูมีความคิดวายังไงกบั คำแนะนำของเขาจะ (ทักษะการถาม)
นกั เรียน : ก็ดีนะคะอาจารย หนูเห็นเวลาเคาอยูดวยกันเคาก็มีความสุขดี แต
อกี ใจหนง่ึ หนกู ว็ า ไมด ี เวลาเคา ทะเลาะกนั กน็ า กลวั แบบวา ...เคา โดนแฟนตี
ดว ยนะคะอาจารย แลว เพอ่ื นเคา แตละคนทแี่ นะนำใหหนรู ูจักเนี่ย นากลัว
กวา แฟนเพ่ือนหนูอีก หนไู มแนใ จวาจะมีแฟนดไี หม
ครู : จากทีห่ นูเลามาทั้งหมด หนูคิดวา ถาหนูใชชีวติ อยา งน้ตี อ ไปจะเปนยังไงจะ
(ทักษะการช้ผี ลทตี่ ามมา)
นกั เรียน : ก็……………………
ครู : …………..(ทักษะการเงยี บ)
นกั เรยี น : ก็คง……จะตองเขาไปอยูในกลุมเท่ียว กินเหลา สูบบุหรี่ ความจริงแลว
เพื่อนหนู...แตกอนเคาก็ไมไดเปนแบบน้ีหรอกคะ เคาพึ่งมาเปนตอน
คบกับแฟนคนนแ้ี หละ
ครู : นั่นซิ ถาหนูยังไปหาเพ่ือนคนน้ี ไปเที่ยวตอนกลางคืนแลวก็อยูในกลุมนี้
บอ ย ๆ...(ทกั ษะการทวนซ้ำ)
นกั เรยี น : หนู...คง...แย...เพราะต้ังแตหนูไปเท่ียวกับพวกเคา โรงเรียน...ก็ไมคอย
ไดมา มีการบาน มีงานคางเยอะไปหมด คะแนนของหนูก็แยลงแทบจะ
ทุกวชิ า

๙.เทคนิคการใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

48 การใหค ำปรกึ ษา 364

ครู : ครดู ใี จนะทห่ี นูคดิ ไดแ บบนี้ แลวหนคู ิดวาหนูจะทำอยางไรตอ ไปละ
(ทักษะการใหก้ ำลงั ใจและการถาม)

นักเรยี น : หนูวา จะเลิกไปหาเคา ทีห่ อ แลวก.็ ....อยูบา นแทน
ครู : เปนความคิดท่ีดีมากเลย เออ..แตวา หนูบอกครูวา...ท่ีออกไปหาเพื่อน

เพราะวา เหงาตอ งอยบู า นคนเดยี ว แลว ถา หนไู มอ อกไปหาเคา ...จะอยบู า น
หนูจะเปน ยังไง
(ทักษะการให้กำลงั ใจ การสรุปความ และการถาม)
นกั เรียน : กค็ งจะเหงา..แลวก็เหงามากดวยคะ ...

ขนั้ หาแนวทางแกไ้ ขปญ หา

ครู : นั่นสิ อยูบานก็เหงา ไปหาเพื่อนก็ดูจะอันตราย แลวหนูคิดวาจะทำ
อยา งไร (ทกั ษะการสรปุ ความและการถาม)
นักเรยี น : กค็ งดูทีวี ฟงเพลง ไปตามภาษา เรื่อยเปอ ย
ครู : ดทู วี ี ฟง เพลง แลว หนคู ดิ วา จะหายเหงาไหม (ทกั ษะการทวนซำ้ และการถาม)
นกั เรียน : มนั ก.็ ..ไมห ายเหงาหรอกคะ อาจารย ทหี่ นไู ปเทย่ี วผบั กบั เพอื่ น ๆ ความจรงิ กด็ ี
หายเหงา เพ่ือนเยอะดี อยบู า นแลวเซ็ง ไปคางหอเพ่ือนบางกด็ ี
ครู : ไปเที่ยวผับ แลวก็ไปคางหอเพ่ือนตอ ถาพอแมกลับมาแลวรูวาหนู
ไมอ ยบู า นหนคู ดิ วา จะเกดิ อะไรขนึ้ (ทกั ษะการทวนซำ้ และการชผ้ี ลทต่ี ามมา)
นักเรียน : ……….(เงียบ)…พอกับแมคงโมโหมาก เพราะเคยบอกวาอยาไปไหน
ตอนกลางคนื ไมใ หไ ปคา งบา นคนอน่ื …หากไมไ ดข ออนญุ าต อา …ทำไงดคี ะ
ครู : นัน่ ซิ ทำไงดลี ะ (ทักษะการถาม)
นักเรยี น : ชา งเหอะ จะไดร มู ง่ั วา คนเรากเ็ หงา กก็ ลวั เปน เหมอื นกนั ทต่ี อ งอยคู นเดยี ว
ครู : ฟงดูเหมือนกับวา ท่ีหนูไปเท่ียวกับเพื่อนดึก ๆ ด่ืน ๆ เน๊ียะ นอกจาก
จะเหงาแลวหนูยังกลัวท่ีตองอยูคนเดียวตอนกลางคืน แลวก็จะประชด
คณุ แมดว ย (ทกั ษะการสรุปความ)
นักเรยี น : ..........(เงยี บ กม หนา น้ำตาไหล)
ครู : ……..สง กระดาษซับนำ้ ตาให......(ทักษะการเงยี บและการใส่ใจ)
นกั เรยี น : หนูเหงา....(สะอืน้ ) หนอู ยากให. ..แมมเี วลาใหหนบู าง
ครู : ……..สงกระดาษซบั น้ำตาให......(ทกั ษะการเงียบและการใสใ่ จ).........
หนูเคยบอกหรือทำอะไรใหคุณแมรูบางวา...หนูเหงา แลวก็อยากใหเขา
อยกู ินขา วดวยในตอนเย็น (ทกั ษะการถาม)
นกั เรยี น : ไมค ะ..
ครู : ทีไ่ มบ อกเนยี๊ ะ เพราะอะไรเหรอ (ทกั ษะการทวนซำ้ และการถาม)

๙.เทคนิคการใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

การใหคำปรึกษา 36549

นักเรียน : ทำไมตองใหบอกดวย แมก ็ตอ งรซู ิวา ลกู ทไ่ี หน ๆ เขากอ็ ยากใหแมอ ยูด วย
ท้งั นั้นแหละ

ครู : เปนไปไดไหมที่คุณแมจะคิดวาหนูอยูเองคนเดียวได เขาจึงออกงานสังคม
บอย ๆ แลวอีกอยาง...ตัวหนูเองก็ไมเคยบอกหรือทำใหเขารูวาอยากให
เขาอยูดวย (ทกั ษะการถามและการสรปุ ความ)

นักเรียน : หนู..ไมร ู
ครู : แลว หนูคดิ ยงั ไง ถาจะบอกความตองการใหค ุณแมร ู (ทกั ษะการถาม)
นักเรยี น : ก.็ ..นาจะ...ดีเหมือนกันคะ

ข้ันวางแผนเพอื่ นำไปส่กู ารปฏบิ ัต

ครู : ถาดี.....หนูจะลองบอกคุณแมดูไหม แลวถาจะบอกหนูอยากจะบอก

คณุ แมว ายังไงดลี ะ (ทักษะการทวนซำ้ และการถาม)
นกั เรยี น : ก็…บอกวา... หนูอยากใหคุณแมออกงานตอนเย็นใหนอยลง และมีเวลา

ใหห นูบา ง กนิ ขาวเย็นกับหนูบาง แคอ าทิตยล ะ 2-3 วนั กพ็ อแลว
ครู : ดีคะ..(ยิ้ม ผงกศีรษะ).. แลวความรูสึกของหนูที่ตองอยูคนเดียวละ

จะบอกไหม (ทกั ษะการให้กำลังใจและการถาม)
นักเรยี น : บอกดีไหมคะ...บอกดีกวาหนูจะบอกวา...หนูเหงาแลวก็กลัวดวยที่ตอง

อยคู นเดยี ว
ครู : ออื ... ถาหนพู ดู แบบน้ีกบั คณุ แม หนคู ิดวา คณุ แมจ ะวา ยังไง

(ทกั ษะการถาม)
นกั เรียน : คุณแมก็คง…จะอยูบานกับหนูมากขึ้น เพราะหนูก็ไมไดเรียกรองอะไร

มากมาย
ครู : อ่มื …ครกู ค็ ิดอยางน้ันแหละแลว ตอนนร้ี สู ึกยังไงบาง

(ทกั ษะการใหก้ ำลงั ใจและการถาม)
นกั เรยี น : กด็ คี ะ โลง ๆ ดี ขอบคณุ มากนะคะอาจารย
ครู : ครูวา ถา หนูทำตามอยางทหี่ นูคิด ทุกอยา งนา จะดขี ้นึ แลว จะพดู กับคุณแม

วันไหนดลี ะ (ทักษะการใหก้ ำลงั ใจและการถาม)
นักเรียน : เย็นนเ้ี ลยคะอาจารย คณุ แมก ลบั ดกึ ยังไงหนกู จ็ ะรอ

ขั้นยุตกิ ารให้คำปรกึ ษา

ครู : ดีแลว คะ รีรอไปกไ็ มม ปี ระโยชนอะไร ไดผ ลเปนยงั ไงกม็ าเลาใหครูฟงนะ

(ทักษะการให้กำลงั ใจและการใส่ใจ)
นักเรียน : คะ...อาจารย ขอบคณุ มากนะคะ สวสั ดคี ะ
ครู : ไมเ ปน ไรจะ ครยู ินดี

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

50 การใหคำปรกึ ษา 366

บรรณานกุ รม


มลั ลวรี ์ อดุลวัฒนศิร.ิ (2554). เทคนิคการให้คำปรึกษา
:
การนำไปใช.้ พิมพค์ รัง้ ที่ 4. ขอนแก่น :
คลังนานาวทิ ยา.

Faiver, C., Eisengart, S. & Colonna, R. (1995). The
Counselor
Intern’s
Handbook.
California : Brooks/Cole.

Geldard, D. (1989). Basic
Personal
Counseling
:
A
Training
Manual
for
Counselors.
New York : Prentice-Hall.

Meier, S. T. & Davis, S. R. (1993.) The
Elementary
of
Counseling. 2nd ed. California :
Brooks/Cole.

Thomson, C. L., Rudolph, L. B., & Henderson, D. (2004). Counseling
Children.
6th ed.
Belmont : Brooks/Cole.

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

367
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

368

1

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

369
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

370

3

14. %iilriIu ..........
15. 5iilrih.l ..........
16. tiilrihl . . . . . . . . . .

17. Tiidu ..,.......

la. tiiidu . . . . . . . . . .
19. ciltsu ..........
2 0 . fi-ulih ..........

๙.เทคนคิ การให้คําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

371
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

372

16. Tiiih ...., ......
v

17. n7’1hfuawwdFiitIwi: L&q 6iu-J~. .

18. h+hIiil~U liMVii~?%diJrr’u; 6..................

19. . . . . . . . . . .

๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

373

20.

21.
22.
23.
24.

25.

26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.
40.
41.
42.
43.

๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

374

.*.............
8I

53. lvmulq . . . . . . . . . .
54. l7alclLi.lnLuwii raJ~mliu . . . . . . . . . .
55. ~,,u?,i,‘Ru~~lLItl~~~?u~u ii% . . . . . . . . . .
56. t&m q Ciimu G$ii ..........

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

375
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

376

IY
uuU~nMlu

1. n.

‘II.

2. n.
0.

3. n.

‘PI.

4. n.
0.

5. n.

0.

6. n.

‘d.

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

377
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

378

13. n.
0.

14. n.
‘d.

15. n.
3.

16. n.
‘II.

17. n.
‘PI.

18. n.
0.

๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

379

19. n.
‘II.

20. n.
8.

21. n.
91.

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

380

t&u n. i&u n. ~d.~ n. l&lU 91. 1L4flu 31. 1uih 8.
mn ,
mm f 1 FiflR??
i n. U'mruQU
u'nuuau 1 8.
2 n. 2 0.
I 3 3.
3 n. I 4 'II.
5 3.
c-4 n. 6 'PI.
7 0.
5 n. 8 3.
6 n. 9 2.
10 '91.
7 n. 11 3.
8 n. 12 9.
1 3 a.
9 n. 14 'J.
15 3.
10 n . 1 6 a.
11 n . / 17 9.
12 n . 1 8 q.
19 3.
I-13 n.
I 20 3.
14 n. 21 a.

F15 n.

16 n .
17 n .
18 n .
19 n .
20 n .
21 n .

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

381
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

382

15

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

383
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

384

1:1. n. myurnb ...........................................
2, 5 LW .............................................

. . . . . . . . . . . . . . . ..*................................
. .................................................
. .. .. .. .. .. .. .. .. .... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .

1:~. n. q~iR% ...........................................
a. ~RL?U .............................................

. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .... .. .. .. .. .. .. .. ...... .. .. .
.. . . . . . . . ... . . . . . . . . . .. .. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..
. ... ... ... ... ...... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... .

1:3. n. mpLfda ...........................................
'I], ?.c t-m .............................................

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..~.

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..“........

. .................... .................... .........

๙.เทคนิคการให้คาํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

385

18

1:4. n . nquda. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*.................
Ii. +ll?u . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. ......... ......... ......... ......... ......... ....
. ........ ........ ........ ........ ........ ........ .
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*......

1:5. n. Pep dfl . . . . . . . . . . ..*..............................

a , til?u. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*......
. ............ ............ ............ ............ .
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*...........

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

386

. Y, t

๙.เทคนคิ การใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

387

20

2:i. n. mytf& ...........................................
a. 9.5 LVU .............................................

..................................................
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*.............*....
..................................................

2:2. n. myL&~ ...........................................
n. Filtw .............................................

. ..f..............................................
. ............................................ .....
..................................................

2:3. n. R~utR% ...........................................
a. %luu .............................................
..................................................

. .................................................
..................................................

2:4. n. wptRi;a ...........................................

a . 55l19u. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
..................................................
............... ...................................
..................................................

2:5. n. ~t;uif&~ ...........................................
a. GlL3U .............................................

. .................................................
. ............................................. ....

. . . . ..‘...................................~.......

๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

388
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

389

22

3:1. n. fiqulf& . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..a......................
0, _ 5% l?U . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

*..................................................

. ............................................ ......

...................................................

3:2. n. plqumi;O ............................................
a. ti?iilW ..............................................

........................................ ...........

............................................. ......

...................................................

3:3. n. nfpL&% ............................................
a. GllW . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. ........................ ........................ ..

. . . . . . . . . . ..~......................................
...................................................

314. n. mptn& ............................................
0. 55l L?U . . . . . . . . . . . . . . ...*.........................*..

. . . . . . . . . . . . . ..*...................................

. . . . . . . . . ..I . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*.............

...................................................

3:5. n. mpLi4a ............................................
0. knew . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. .......... ................................. .......

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ...“. . ............. ...

. . . . . . . . ..*...............................*........

๙.เทคนิคการใหค้ าํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

390
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

391

24

4:1. n. br? tw . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
‘d. i-ii L9I.i . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .*............e...

. ........................ ........................
. . . . ..**.....*.*..............*..................

,

4:2. n. lu~~tw ..........................................
=a. ~nL9w ............................................

. . . . . . . . . . . . . . . . ,....,...........................
............................................. ....
................. ............................. ...

,
4:3. n . IIJ~~w..................... . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. . . .... ..... . .. . . .. . ....... . .. . . ... ... ... ... ... ..
. ................................. ...............

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*.......................
9

4:4. n. lufhrw . . . ..*....................................

9. %lW . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..a.......................
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*...........
............................................. ....
. ............................................. ...

๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

392

25

4:5. n . luii%~wl......................... . . . . . . . . ..s....*..

3. 5GllVU . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..*.........I.....

. . ..e.......................... . ....... ....... ....

*................ .................. ...............

. . . . . . . . . . . . ..*..*...........*..... . ........ ......

๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

393
๙.เทคนคิ การให้คาํ ปรึกษา (Techniques in Counseling)

33 394
๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)

3 4 395
๙.เทคนคิ การใหค้ ําปรกึ ษา (Techniques in Counseling)


Click to View FlipBook Version