้
ี
แผนการสอน/แผนการเรยนรูภาคทฤษฏ
ี
ี่
ู
ี
แผนการสอน/การเรยนรภาคทฤษฎ บทท 1
้
ี
้
ี่
ื่
ิ
ื
์
ิ
ชอวิชา งานไฟฟาและอเล็กทรอนกสเบ้องต้น สอนสัปดาห์ท 1
(Basic Electricity and Electronic)
้
่
ื
ชอหน่วย ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและ คาบรวม 4
์
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส
ื่
ื่
ชอเรอง. ระบบความปลอดภัย จ านวนคาบ 4
้
ื่
หัวขอเรอง
้
้
ดานความรู
ิ
้
1. คุณสมบัตของไฟฟา
่
ุ
้
2. อันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์
ิ
้
3. ข้อควรปฏบัติในการใช้ไฟฟาอย่างถูกต้องปลอดภัย
้
ี่
ิ
4. การปฏบัติงานด้านไฟฟาทปลอดภัย
ื
ู
้
่
5. การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
ู
้
6. การปฐมพยาบาลผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
ุ
7. บทสรป
้
ดานทักษะ
ิ
ิ
้
1. ปฏบัตงานด้านไฟฟาที่ปลอดภัย
ู
ื
้
่
2. ชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
้
ู
3. ปฐมพยาบาลผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
้
ิ
ดานคุณธรรม จรยธรรม
1. เตรยมความพรอมด้าน วัสด อุปกรณสอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง
์
้
ี
ุ
ื่
ิ
2. มความรบผิดชอบ ปฏบัตงานได้อย่างถูกต้องในเรองความปลอดภัยและอุบัตภัยต่างๆ และส าเรจภายใน เวลาทก าหนด
ั
ี่
ี
็
ิ
ิ
อย่างมเหตุและผลตามหลักปรชญาเศรษฐกจพอเพียง
ี
ั
ิ
สาระสาคัญ
ิ
ิ
ิ
้
้
การปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสที่ปลอดภัย ผู้ใช้ไฟฟาจะต้องทราบและเข้าใจคุณสมบัตทางไฟฟา ต้อง
้
์
ิ
ึ
ึ
็
่
ระมัดระวัง ไม่ประมาท ท างานอย่างเปนระบบและรอบคอบ ค านงถงกฎแหงความปลอดภัยขณะท างาน
ี
ิ
็
่
ื
ิ
็
ิ
ู
้
็
การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาเปนส่งจ าเปนและส าคัญอย่างย่ง ต้องกระท าอย่างถกวธ รวดเรว รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ท าให้ผู้ประสบอันตรายมโอกาสรอดพ้นจากอันตราย
ี
สมรรถนะอาชพประจ าหนวย (ส่งทต้องการให้เกดการประยุกต์ใช้ความร ทักษะ คุณธรรม เข้าด้วยกัน)
่
ี
ิ
ี
่
้
ิ
ู
• ปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด
ู
้
ค าศพทสาคัญ
์
ั
้
ไฟฟาช็อต Short Circuit
้
ู
ไฟฟาดด Electric Shock
Load
ภาระ
Direct Contact
สัมผัสโดยตรง
Indirect Contact
สัมผัสโดยอ้อม Cardio Pulmonary Resuscitation
ิ
ิ
ี
่
ื้
การปฏบัตการชวยฟนคืนชพ (CPR) Basic Life Support
ื
ื้
่
ี
การชวยฟนคืนชพขั้นพ้นฐาน (BLS) Respiratory Arrest
ภาวะหยุดหายใจ Electricity
้
ไฟฟา Electrical Energy
Tool
้
พลังงานไฟฟา Safety
ื
ื่
เครองมอ Electrical Device
ความปลอดภัย Wire
์
้
อุปกรณไฟฟา Dangerous
สายไฟ Safety Rule
Importance
อันตราย
Safety Tip
กฎความปลอดภัย
ความส าคัญ
ค าแนะน าความปลอดภัย
ี
์
จุดประสงคการสอน/การเรยนรู ้
ั
์
• จุดประสงคทวไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
่
ี่
่
1. เพื่อให้มความรเกยวกับ อันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ การปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสท ี่
ิ
ุ
์
ี
ิ
ิ
้
ู
้
้
ู
ื
้
ปลอดภัย และการปฏบัตงานทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟาและการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟา (ดานความร)
้
่
ุ
ี่
่
้
้
ิ
ิ
ู
้
้
ั
2. เพื่อให้มีทักษะในการปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด (ดานทกษะ)
ิ
ิ
์
็
3. เพื่อให้มเจตคตทดีต่อการเตรยมความพรอมด้านการเตรยม วัสด อุปกรณ และการปฏบัตงานอย่างถูกต้อง ส าเรจ
ี
ี่
ี
ิ
้
ี
ุ
ี่
ี
้
ิ
ั
ิ
ภายในเวลาทก าหนด มเหตุและผลตามหลักปรชญาเศรษฐกจพอเพียง (ดานคุณธรรม จรยธรรม)
• จุดประสงคเชงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
ิ
์
ุ
่
้
้
ู
ิ
้
1. อธบายอันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ ได้ (ดานความร)
ิ
้
ิ
ิ
้
ู
้
ี่
์
2. ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย (ดานความร)
ู
ี่
ิ
ิ
่
ุ
้
้
้
3. ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟาได้ (ดานความร)
ู
้
่
ี
ื
้
้
4. บอกวิธการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาได้ (ดานความร)
ั
ิ
ู
้
้
5. สาธตการปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด (ดานทกษะ)
ิ
ี
้
์
้
6. เตรยมความพรอมด้าน วัสด อุปกรณสอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง (ดานคุณธรรม จรยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจ
ุ
ิ
พอเพียง)
็
ี
ี่
ิ
ิ
7. ปฏิบัตงานได้อย่างถูกต้อง และส าเรจภายใน เวลาทก าหนดอย่างมเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจพอเพียง
ิ
ิ
้
(ดานคุณธรรม จรยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจพอเพียง)
้
ื
ี
เนอหาสาระการสอน/การเรยนรู
้
้
้
• ดานความรู(ทฤษฎี)
้
1.1 คุณสมบัติของไฟฟา
่
ไฟฟาจัดเปนพลังงานชนดหนง ชวยอ านวยความสะดวกแก่มวลมนษย์ ชวยให้มนษย์บนโลกมความเปนอยูทดมาก
่
้
ี
ุ
่
ี
็
็
ี
่
่
ุ
ึ
ิ
ื
่
ขึ้น โดยใช้ไฟฟาเปนแหลงพลังงานจ่ายไปให้กับอปกรณ เครองมอ เครองใช้ต่างๆ ให้สามารถท างานได้ ปจจุบันมความต้องการ
็
ื
่
์
่
ุ
้
ั
ี
ื
ิ
่
ี
ิ
่
ิ
้
ี
ิ
ใช้พลังงานไฟฟาในการด าเนนชวต ประจ าวัน และท ากจกรรมต่างๆ เพ่มมากขึ้นทุกขณะ สงผลต่อการก่อให้เกดโอกาสทจะขาด
ิ
ิ
้
่
ิ
ิ
้
ี
แคลนพลังงานไฟฟา เพราะไมสามารถหาแหลงผลตพลังงานไฟฟามาเพ่มเตมได้เพยงพอ การผลตไฟฟาและการน าไฟฟาไปใช้
่
้
้
ิ
ู
งาน แสดงดังรปที่ 1.1
ิ
่
รูปท 1.1 การผลตไฟฟาและการน าไฟฟาไปใช้งาน
ี
้
้
ไฟฟาเปนพลังงานทสามารถเปลยนแปลงรปพลังงานได้ โดยอาศัยค่าแรงดันและกระแส จ่ายไปให้อุปกรณ เครองมอ
ี่
ื
ู
์
็
ี่
ื่
้
่
ิ
ี่
้
ิ
ู
และเครองใช้ไฟฟาให้เกดการท างาน โดยจ่ายไปในรปกระแสไหล ไฟฟาเคลอนทได้ดในวัตถุตัวน าจ าพวกโลหะชนดต่างๆ เชน
้
ื่
ื่
ี
ิ
่
ิ
ู
ื
่
้
ี
็
่
ื
ี
่
ี
่
ื
ทองค า ทองแดง เงน เหล็ก ตะกั่ว และอะลมเนยม เปนต้น ไฟฟาไมสามารถเคลอนทผ่านไปได้หรอเคลอนทไปได้ล าบากในวัตถ ุ
่
ี
่
็
่
ั
่
็
็
้
ิ
่
ี
ิ
็
ิ
ู
้
ทเปนพวกฉนวน เชน พลาสตก ยาง แก้ว ไม้ และเซรามก เปนต้น ไฟฟาเปนส่งทมองไมเหน ไมสามารถรบรได้นอกจากไป
ื
่
ื
่
ั
ี
ิ
ั
้
ึ
สมผัสโดยตรง ก่อให้เกดอันตรายต่อผู้สมผัสถูกไฟฟา จงมักเรยกวาภัยมด การทดสอบวาสายไฟฟามไฟฟาหรอไม่ หรอ
้
้
ี
ื
้
ื
์
้
ี
่
ื
อปกรณไฟฟาทตดตั้งพรอมใช้งานมไฟฟาหรอไม จะต้องทดลองใช้อปกรณไฟฟาเหลานั้น หรอใช้เครองมอวัดไฟฟาตรวจวัด
ุ
่
ิ
่
ื
่
ี
ุ
ื
้
์
้
้
ทดสอบด ู
ี่
็
้
ึ
ึ
ี่
็
้
ี
ไฟฟามประโยชน์อนันต์และมโทษมหันต์ เปนค ากล่าวททันสมัยอยู่เสมอ ผู้ทใช้ไฟฟาทุกคนจ าเปนต้องค านงถงความ
ี
ั
่
่
ปลอดภัยในการใช้งานทุกคร้ง และใช้งานด้วยความระมัดระวัง โดยไมตกอยูในความประมาท
้
์
1.1.1 ประโยชนของไฟฟา
ประโยชน์ของไฟฟา มมากมายมหาศาล ถูกน าไปใช้งานอย่างแพรหลายทั่วไป เชน งานการผลตทาง
ี
่
่
ิ
้
อุตสาหกรรม งานทางการเกษตร งานด้านสอสารโทรคมนาคม งานด้านให้บรการ งานด้านอ านวยความสะดวก และการให้
ื่
ิ
ี
ิ
่
้
ื
้
็
ู
ิ
ความร ความบันเทง เปนต้น ประโยชน์ของไฟฟาเมอพจารณาทางด้านการน าไปใช้งาน แบ่งออกได้ดังน้
้
่
้
ี
้
็
ี่
้
้
1. ให้ความรอน โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนความรอน เชน เตาไฟฟา เตาอบ เตารดไฟฟา หม้อหงข้าว
ุ
่
ี
็
้
้
ื่
ไฟฟา เครองเปาผม และหัวแรงบัดกร เปนต้น
้
่
่
็
่
ี
2. ให้ความเย็น โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนความเย็น เชน ตู้แชแข็ง ตู้เย็น ตู้น ้าเย็น และเครองปรบอากาศ
ั
ื่
็
เปนต้น
้
็
ี่
่
่
์
้
3. ให้พลังงานกล โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนพลังงานกล เชน มอเตอร พัดลม สวานไฟฟา
็
ื่
ื่
่
ู
เครองซักผ้า และเครองดดฝุน เปนต้น
็
้
่
4. ให้อ านาจแม่เหล็ก โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนสนามแมเหล็ก เชน กระด่ง ไฟฟา หม้อแปลงไฟฟา
ี
้
่
่
ิ
้
้
็
ล าโพง และแม่เหล็กไฟฟา เปนต้น
ิ
่
้
5. ให้แสงสว่าง โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนแสงสว่าง เชน ไฟฉาย หลอดไฟฟา และการเกดประกายไฟ
ี่
็
้
็
ื่
้
จากการเชอมไฟฟา เปนต้น
์
ิ
์
้
6. ให้ความสะดวกสบาย โดยจ่ายพลังงานไฟฟาไปให้อุปกรณอิเล็กทรอนกส ท าให้เกดการท างานใน
ิ
ื่
อุปกรณอิเล็กทรอนกสชนดต่างๆ เชน เครองรบวทยุ เครองรบโทรทัศน์ เครองขยายเสยง เครองเล่นวดทัศน์ คอมพิวเตอร ์
ั
ื่
ิ
ี
ี
ี
์
ิ
ั
์
ื่
่
ิ
ื่
ื่
็
โทรศัพท์ และวิทยุสอสาร เปนต้น
1.1.2 โทษของไฟฟา
้
โทษของไฟฟามมากมายมหาศาลเชนเดยวกัน สวนใหญ่เกดจากการใช้ไฟฟาอย่างผิดวธ ขาดความ
ี
้
่
้
ี
่
ี
ิ
ิ
่
่
ุ
์
ิ
ิ
้
้
ระมัดระวัง หรอใช้ไฟฟาด้วยความประมาทเลนเลอ ก่อให้เกดอันตรายตามมาอย่างมากมาย ทั้งต่อทรพย์สน เชน อปกรณไฟฟา
ื
ิ
ั
ี
ี
์
็
ุ
ิ
ื
่
็
ี
ิ
ิ
ุ
ิ
และอิเล็กทรอนกสช ารดเสยหาย และท าให้เกดเพลงไหม้ เปนต้น หรอต่อรางกายมนษย์ เชน รางกายพิการ และเสยชวต เปนต้น
่
่
็
ิ
้
ี
จงจ าเปนต้องมการปองกันอันตรายทอาจเกดขึ้นจากการใช้ไฟฟา อันตรายเกดจากไฟฟาแบ่งออกได้เปน 2 ลักษณะ คือ ไฟฟาชอต
ิ
้
้
็
ี
ึ
้
็
่
้
ี
ี
ู
ั
ี่
ิ
ี่
(Short Circuit) และไฟฟาดด (Electric Shock) ทั้งสองลักษณะน้มสาเหตุของการเกดทต่างกัน และอันตรายทได้รบก็ต่างกันด้วย
1. ไฟฟาช็อต หรอเรยกอีกชอว่า
้
ื
ี
ื่
้
้
ี่
ไฟฟาลัดวงจร คือ สภาวะทกระแสไฟฟาไหลได้ครบ
้
วงจร โดยไม่ผ่านอุปกรณไฟฟา เครอง ใช้ไฟฟา หรอ
์
ื
้
ื่
้
ภาระ (Load) ผลของไฟฟาช็อต จะท าให้เกดความรอน
ิ
้
ุ
ู
ึ
ื่
ิ
้
ิ
สง เมอความรอนถงจุดลกไหม้ ท าให้เกดเพลงไหม้ขึ้น
ิ
้
ู
ได้ การเกดไฟฟา ช็อต แสดงดังรปที่ 1.2
ิ
้
ิ
่
ี
รูปท 1.2 เพลงไหม้เกดจากไฟฟาช็อต
ู
้
้
ี่
2. ไฟฟาดด คือ สภาวะทกระแสไฟฟาไหล
ุ
่
ิ
ื
ุ
ื
่
ผ่านรางกายมนษย์ลงพ้นดน หรอไหลผ่านรางกายมนษย์
็
ิ
ครบวงจร จะก่อให้เกดอาการเกรงของกล้ามเน้อ จน
ื
ุ
่
่
ุ
รางกายมนษย์ไมสามารถด้นหรอสะบัดให้หลดออก
ื
ิ
จากไฟฟาได้ ผลทเกดจากไฟฟาดดอาจท าให้พิการ
้
้
ู
ี่
ิ
ื
ู
ู
ึ
ี
ิ
ี
้
หรอถงเสยชวิตได้ การเกดไฟฟาดด แสดงดังรปที่ 1.3
้
ู
่
ี
รูปท 1.3 ไฟฟาดด
์
่
่
1.2 อันตรายของไฟฟาตอรางกายมนุษย
้
ี
ิ
่
ี่
ี่
ิ
ิ
้
็
้
่
ไฟฟาเปนพลังงานทสามารถเคลอนทได้ การน าไฟฟาไปใช้งานโดยใช้ปรมาณของแรงดันทแหลงก าเนดไฟฟาผลตขึ้นมา
้
ื่
ิ
ี่
้
ิ
ิ
และปรมาณของกระแสทเกดจากภาระต้องการใช้งาน คุณสมบัตของไฟฟา คือกระแสไหลผ่านได้ดในวัตถุตัวน าจ าพวกโลหะ
ี
้
ทุกชนด โดยทขณะกระแสไหลไม่สามารถมองเหน เพียงแต่รบรได้จากการทอุปกรณ เครองมอ และเครองใช้ไฟฟาเกดการ
ั
ื่
ู
ี่
ี่
ื่
์
ื
ิ
ิ
้
็
ื
ื่
ิ
ื
ท างาน และจากการตรวจวัดด้วยเครองมอวัดทดสอบทางไฟฟา หรอจากการสัมผัสโดยตรงของรางกายมนษย์ทท าให้เกดกระแส
ี่
ุ
้
่
ู
่
่
้
้
ี
็
ไหลครบวงจร นั่นคือเปนผลของการเกดไฟฟาดดรางกายมนษย์เปนตัวน าไฟฟาเชนเดยวกับตัวน าอนๆ ไฟฟาสามารถผ่าน
้
ิ
ุ
็
่
ื
่
รางกายไปได้อย่างสะดวก ดังนั้นจงควรระมัดระวังไมให้รางกายทุกสวนสมผัสถกตัวน าไฟฟาทต่อรบพลังงานอยูกับ
ี
่
ู
ั
ั
้
่
่
่
ึ
่
ี่
้
แหล่งก าเนดไฟฟา หรอในขณะทมกระแสไหลผ่านตัวน าไฟฟาเหลานั้น โดยเฉพาะอย่างย่งขณะทสวนหนงสวนใดของรางกาย
ี
ื
ิ
่
่
้
่
ิ
่
ึ
่
ี
่
มนษย์สมผัสอยูกับพ้นน ้า พ้นดน พ้นปูน หรอโลหะทต่อถงพ้นดนหรอพ้นน ้า กระแสสามารถไหลผ่านรางกายลงสพ้นดน
่
ี
ื
ุ
ิ
ื
ึ
ั
่
ิ
ื
ิ
ู
่
ื
ื
ื
่
ื
ื
ี
้
ึ
่
ี
ื
ี
้
หรอพ้นน ้าได้สะดวก หรอในอกกรณหนงทรางกายมนษย์สมผัสถูกสายตัวน าไฟฟาพรอมกันมากกว่าหนงเส้น รางกายมนษย์จะ
่
ึ
ุ
ื
ั
ุ
่
่
่
ื
ิ
ี
ิ
ื่
็
ี
้
ุ
่
้
กลายเปนภาระไฟฟาทันทแทนเครองใช้ไฟฟา จะท าให้เกดกระแสไหลผ่านรางกายมนษย์ครบวงจร เรยกการเกดกระแสไหลใน
ู
ุ
ั
้
่
ู
้
ี
่
่
ี
ู
ลักษณะน้วาไฟฟาดด การถกไฟฟาดดของรางกายมนษย์จากการสมผัสสวนทมไฟฟา สามารถแยกตามลักษณะของการสมผัส
่
ั
ี
้
้
ไฟฟาได้ 2 แบบ คือ การสัมผัสโดยตรง (Direct Contact) และการสัมผัสโดยอ้อม (Indirect Contact)
้
1.2.1 การสมผัสไฟฟาโดยตรง
ั
ั
้
การสมผัสไฟฟาโดยตรง คือ เปนกรณ ี
็
ี
่
้
ทสวนของรางกายคนสัมผัสถูกสวนทมไฟฟาจ่ายมาโดยตรง
่
ี่
ี่
่
้
่
ื
เชน สายไฟฟาร่วเพราะฉนวนช ารด มคนใช้มอจับสายไฟฟา
ั
ี
้
ุ
่
่
ี
ี
ั
ื
ิ
ื
่
ทร่ว และจากการทใช้น้วมอหรอโลหะขนาดเล็ก เชน ลวด ไข
ื
ู
ั
็
้
ควง หรอโลหะอื่นๆ แหย่เข้าไปในรเต้ารบไฟฟา เปนต้น
้
ลักษณะการสมผัสไฟฟาโดยตรงน้ ี จะมผลให้เกดกระแส
ิ
ั
ี
ู
จ านวนมากไหลผ่านเข้าสรางกายคนไปลงดน ท าให้เกด
่
ิ
ิ
่
ึ
ื
ี
ิ
ั
ี
อันตรายมาก คนอาจพิการหรอถงเสยชวตได้ การสมผัส
้
ู
ไฟฟาโดยตรง แสดงดังรปที่ 1.4
้
รูปท 1.4 การสัมผัสไฟฟาโดยตรง
่
ี
ั
้
1.2.2 การสมผัสไฟฟาโดยออม
้
็
ั
้
การสมผัสไฟฟาโดยอ้อม เปนการสมผัส
ั
ี
ี่
ิ
ี่
ั
้
ทคนไม่ได้สมผัสกับสวนทมไฟฟาโดยตรง แต่เกดจากคน
่
ึ
สมผัสกับอุปกรณไฟฟา หรอเครองใช้ ไฟฟาตามปกต ซง
ื
้
ิ
ื่
ั
้
่
์
โดยปกตจะไม่มไฟฟาจ่ายออกมาทตัวถังโลหะ แต่ถ้าเมอ
้
ื่
ิ
ี
ี่
์
้
ื
ิ
้
ั
้
อุปกรณไฟฟา หรอเครองใช้ ไฟฟาเกดไฟฟาร่ว จงมไฟฟา
ึ
้
ื่
ี
ื
จ่ายอยู่ทตัวถังโลหะของอุปกรณไฟฟา หรอเครองใช้ไฟฟา ้
ี่
ื่
์
้
่
นั้น เมอคนไปสมผัสจงเกดกระแสไหลผ่านเข้าสรางกายคน
ื
ู
่
่
ั
ึ
ิ
้
ไปลงดน เชนเดยวกับการสมผัสสวนทมไฟฟา การสมผัส
ี
ั
ี
ิ
ั
่
่
ี่
ู
้
ี
ี
่
้
ั
ไฟฟาโดยอ้อมมอันตรายสงมาก เพราะจาก รูปท 1.5 การสมผัสไฟฟาโดยอ้อม
ู
้
การขาดความระมัดระวังของผู้ใช้งาน การสัมผัสไฟฟาโดยอ้อม แสดงดังรปที่ 1.5
ื
็
่
่
่
ื
รางกายคนเมอถกไฟฟาดด จะเกดอาการเกรงของกล้ามเน้อจนไมมแรงสะบัดให้หลดออกจากไฟฟาได้ ผลของไฟฟา
้
้
ู
ิ
ี
ู
ุ
้
ี
ึ
ดดอาจท าให้บาดเจ็บ พิการ หรออาจถงเสยชวตได้ อันตรายทเกดขึ้นจะมากหรอน้อยขึ้นอยูกับขนาดของกระแสทไหลผ่าน
่
ี
ี
ิ
ิ
่
ื
่
ู
ี
ื
ิ
ั
ิ
รางกายไป กระแสไหลผ่านน้อยเกดอันตรายน้อย กระแสไหลผ่านมากเกดอันตรายมาก ความสมพันธของปรมาณกระแสไหล
ิ
่
์
ิ
่
ี
ิ
่
ี
ิ
ิ
่
ี
ผ่านรางกายคนมผลต่อปฏกรยาทเกดขึ้น แสดงดังตารางท 1.1
ิ
ิ
ี
ิ
่
ี
ิ
่
ิ
ตารางที่ 1.1 ความสัมพันธ์ของปรมาณกระแสไหลผ่านรางกายคนมผลต่อปฏกรยาทเกดขึ้น
่
ิ
ปรมาณกระแสไหลผาน
ิ
ปฏิกิรยาที่เกิดขึ้น
่
รางกายคน
่
ิ
ี
ื
้
ู
ิ
ึ
์
ต ากว่า 0.5 มลลแอมป (mA) ยังไม่มผลหรอไม่รสก
้
ื
ู
ึ
ี
1 mA รสกจั๊กจ้หรอกระตุกเล็กน้อย
ี
ู
่
ึ
้
ั
รสกส่นเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บ คนสวนใหญ่สามารถหนได้ แต่การ
5 mA
ี่
ิ
ื่
เคลอนทอย่างไม่ระวังจะท าให้เกดอันตรายได้
้
ื
ี่
ิ
ึ
ู
ิ
ู
ี
6 – 25 mA (ผู้หญง) รสกเจ็บปวด สญเสยการควบคุมกล้ามเน้อ นคือปรมาณกระแสท ี่
่
9 – 30 mA (ผู้ชาย) รางกายไมสามารถขยับเขย้อนได้
ื
่
ได้รบความเจ็บปวดเปนอย่างมาก อวัยวะทเกยวกับการหายใจหยุด
ี่
ั
็
ี่
ื
ุ
ื
50 – 150 mA ท างาน กล้ามเน้อหดตัวอย่างรนแรง กล้ามเน้อข้อต่อจะแข็ง ท าให้
ี
ี
เสยชวิตได้
้
หัวใจหยุดเต้น กล้ามเน้อหดตัว เสนประสาทถูกท าลาย ท าให้
ื
์
1 – 4.3 แอมแปร (A)
ี
ี
เสยชวิต
ี
ี
ุ
10 A หัวใจหยุดเต้น และถูกเผาไหม้อย่างรนแรง เสยชวิต
่
ิ
ิ
์
ี่
ิ
์
ื
ุ
์
15 A กระแสเกนค่าต าสดทฟวส หรอเซอรกตเบรกเกอรจะตัดวงจร
นอกจากนั้นระยะเวลาทกระแสไหลผ่านรางกายคน จะสงผลถงอันตรายทจะเกดขึ้นน้อยหรอมากด้วย กระแสไหลผ่าน
ี
่
่
ื
่
ี
ิ
ึ
่
ู
ใช้เวลาน้อยเกดอันตรายน้อย กระแสไหลผ่านใช้เวลามากเกดอันตรายมาก ระยะเวลาทถกไฟฟาดด ดังนั้นถ้าไมมบุคคลอน
่
ื
่
ี
ิ
้
ู
ิ
่
ี
ั
็
ื
ั
ี
ื
ิ
ึ
่
ี
ี
็
่
ชวยเหลออย่างทันท่วงท อันตรายทได้รบกจะสาหัสมากขึ้น คือหัวใจเต้นรวเรวหรอช้า ซงอาจได้รบอันตรายถงเสยชวต เมอ
ื่
ี
่
ั
ึ
ี่
ิ
ี่
ู
ี่
้
ระยะเวลาทถูกไฟฟาดดนานเกนกว่าระยะเวลาก าหนดทบอกไว้ แสดงดังตารางท 1.2
ี
ี
ิ
่
ี่
ตารางที่ 1.2 ความสัมพันธ์ของปรมาณกระแสไหลผ่านรางกายคนกับระยะเวลาทท าให้เสยชวิต
่
ิ
ปรมาณกระแสไหลผาน
ระยะเวลา หมายเหตุ
่
รางกายคน
15 mA นานกว่า 2 นาท ี
20 mA นานกว่า 1 นาท ี
30 mA นานกว่า 35 วินาท ี ี ี
100 mA นานกว่า 3 วินาท ี เสยชวิต
500 mA นานกว่า 0.11 วินาท ี
1 A นานกว่า 0.01 วินาท ี
้
่
ั
1.3 ขอควรปฏิบัติในการใชไฟฟาอยางถูกตองปลอดภย
้
้
้
ู
ึ
การใช้ไฟฟาทุกคร้งควรค านงถงความปลอดภัย ใช้อย่างมประสทธภาพ มความคุ้มค่า เกดประโยชน์สงสด และใช้
ิ
ึ
ุ
้
ี
ิ
ิ
ี
ั
ุ
่
่
ั
ี
่
ึ
ี
อย่างประหยัด ซงนอกจากจะเปนการชวยประหยัดพลังงานแล้ว ยังมผลดต่อสวนรวมของประเทศในแง่ของการอนรกษ์
็
็
้
้
ี
ิ
้
ู
ี
ิ
ี
้
่
ธรรมชาตและส่งแวดล้อม ยังชวยลดภาวะโลกรอนได้อกด้วย ผู้ใช้ไฟฟาจงจ าเปนต้องเรยนรวิธการใช้ไฟฟาอย่างถูกต้อง ข้อควร
ึ
ี
ิ
ู
ิ
ิ
้
ิ
ปฏบัตในการใช้ไฟฟาอย่างถกต้องปลอดภัย ปฏบัตได้ดังน้
ั
ื
่
ิ
ิ
ี่
่
ิ
ิ
ื
1. ควรตรวจสอบให้แนชัดก่อนจ้างงานหรอท าสญญากับบรษัท หรอชางทจะด าเนนการออกแบบ และเดนสายไฟตดตั้ง
ื
้
ื่
ี่
ี
์
็
ี
้
ู
ระบบไฟฟาว่าเปนผู้ทมประสบการณ มความรความช านาญเชอถอได้เท่านั้น
ี่
็
ุ
ิ
่
์
ื่
ิ
ั
2. อปกรณการตดตั้งทางไฟฟาต้องเปนชนดทได้รบการรบรองจากมาตรฐานต่างๆ ทนาเชอถอ เชน ส านักงาน
ี
ื
่
ั
้
่
้
็
ิ
ื่
์
มาตรฐานผลตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.), UL, VDE และ IEC เปนต้น เครองหมายมาตรฐานอุปกรณไฟฟาประเทศต่างๆ แสดงดัง
ู
รปที่ 1.6
ิ
มอก. มาตรฐานไทย มาตรฐานอเมรกา มาตรฐานเยอรมัน มาตรฐานยุโรป
ื่
้
์
ี
่
รูปท 1.6 เครองหมายมาตรฐานอุปกรณไฟฟาประเทศต่างๆ
์
้
ิ
้
ุ
้
ิ
็
ิ
ิ
ุ
์
3. การเดนสายไฟ และตดตั้งอปกรณไฟฟา ต้องเปนไปตามกฎการเดนสายและตดตั้งอปกรณไฟฟาของการไฟฟานคร
้
ื
ิ
้
่
ี
หลวง และการไฟฟาสวนภูมภาค หรอมาตรฐานการตดตั้งทางไฟฟาทการไฟฟาทั้งสองยอมรบ
ั
้
ิ
่
้
ิ
ิ
่
ื
ึ
ื
4. ก่อนใช้เครองใช้ไฟฟา ผู้ใช้ต้องอ่านและศกษาคู่มอแนะน าการใช้งานให้เข้าใจ และปฏบัตตามค าแนะน าอย่าง
่
ั
เครงครด
ั
ี
่
ี่
้
5. ทุกคร้งทจะใช้เครองใช้ไฟฟา ควรตรวจสอบสายไฟ เต้าเสยบ และเต้ารบ ทจะใช้งานวามรองรอยของการช ารด
่
ี
่
ื
ี
่
ั
ุ
ื
หรอไม่
ี
ุ
ื
ื
้
ี่
ื่
ิ
้
ื่
ี่
6. เครองใช้ไฟฟาทมเปลอกห้มภายนอกท าด้วยโลหะทุกชนด หรอเครองใช้ไฟฟาทอาจม ี
ื่
้
ิ
็
้
ไฟฟาร่วมากับน ้า จ าเปนต้องต่อสายดนของเครองใช้ ไฟฟาเข้า
ั
ิ
ึ
ิ
ิ
กับระบบสายดน หมายถงจะต้องมการตดตั้งระบบสายดนท ่ ี
ี
ิ
ี
ี
ั
ถูกต้องภายในบ้าน และใช้เตาเสยบชนดมขั้วสายดน กับเต้ารบ
ิ
ี
้
่
ี
ชนดมขั้วสายดนทเปนมาตรฐานเดยวกัน เครองใช้ไฟฟาเหลาน้ ี
่
็
ี
่
ื
ิ
ิ
เชน ตู้เย็น เตารด หม้อหงข้าว เตาไมโครเวฟ เตาไฟฟา กระทะ
ี
่
้
ุ
่
ื
้
้
่
ไฟฟา หม้อต้มน ้ารอน เครองท าน ้าอน เครองปรบอากาศ และ
ั
ุ
่
ื
ื่
็
ิ
ี
ั
ี
ิ
เครองซักผ้า เปนต้น ลักษณะเต้าเสยบเต้ารบชนดมขั้วสายดน
ู
แสดงดังรปที่ 1.7
รูปท 1.7 เต้าเสยบเต้ารบชนดมขั้วสายดน
ิ
ี
ั
ี
ิ
่
ี
่
ื
่
ื
ื
้
ี่
ี
ี
่
7. เมอรางกายเปยกช้น ห้ามแตะต้องสวนทมไฟฟา หรอ
ี
์
่
ื่
ั
ี
ุ
เครองใช้ไฟฟาโดยเด็ดขาด เพราะอาจมไฟร่วทอปกรณเหลานั้น
้
่
ี
่
และความต้านทานต่อไฟฟาของผิวหนังทเปยกช้นจะลดลงอย่าง
ื
ี
้
มาก ท าให้กระแสไฟฟาสามารถไหลผ่านรางกายได้สะดวก ใน
้
่
็
่
ี่
กรณทจ าเปนต้องใช้ไฟฟาขณะทรางกายเปยกช้น เชน การใช้
่
ี
ี
้
ื
ี่
ิ
่
ื
ิ
่
ุ
เครองท าน ้าอนในการอาบน ้า นอกจากจะต้องตดตั้งสายดนแล้ว
ื
่
จะต้องตดตั้งเครองตัดไฟร่วชวยเสรมการท างานรวมกับสายดนให้
ิ
่
ิ
ิ
ั
่
ุ
ู
ิ
ื
่
ี
่
ปลอดภัยย่งขึ้นด้วย เครองท าน ้าอนทมระบบตัดไฟร่ว แสดงดังรป
่
ั
ี
ี่
ท 1.8
่
รูปท 1.8 เครองท าน ้าอนทมระบบตัดไฟร่ว
่
ุ
ี
่
ี
่
ั
ื
ี
ื
ิ
ิ
ื
้
็
่
8. ในการเดนสายไฟ หรอลากสายไฟไปใช้งานนอกอาคารเปนการชั่วคราว หรอถาวร เชน งานก่อสราง ต่อเตม
่
้
ปรบปรงนอกอาคาร นอกจากอปกรณไฟฟาและสายไฟฟาต้องเปนชนดทกันน ้าและทนทานต่อสภาวะแวดล้อมทางกลและ
็
ั
ิ
ุ
์
ี
้
ุ
ั
ื
ั
ื
ี
่
้
ึ
แสงแดดแล้ว วงจรไฟฟาหรอเต้ารบนั้นต้องมเครองตัดไฟร่วด้วยจงจะปลอดภัย
ึ
ิ
้
่
่
ี
่
9. ควรแยกวงจรไฟฟาทน ้าอาจท่วมถงออกต่างหาก เชน ในบรเวณชั้นลางของอาคาร เพื่อให้สามารถปลดไฟออกได้
ั
่
ื
ื
ี
ื
่
ิ
ิ
่
็
ทันทเมอเกดน ้าท่วม หรออาจตดตั้งเครองตัดไฟร่วรวมด้วยกได้
ื
้
ี
ิ
็
ุ
้
ั
่
์
10. หมั่นตรวจสอบอปกรณตดตั้งทางไฟฟา และเครองใช้ไฟฟา เปนประจ าอย่างน้อยปละ 1 คร้ง
ี
็
ี
ึ
ิ
ั
ิ
11. ฝกให้เปนคนชางสงเกตส่งผิดปกตจากส กล่น เสยง
่
ิ
ุ
ั
และการสมผัสอณหภม รวม ทั้งการใช้เครองมอง่ายๆ ในการ
ื่
ู
ื
ิ
่
ี
ั
่
ตรวจสอบ เชน ไขควงลองไฟ เปนต้น การสงเกต เชน สของ
็
ี
ี
ื
่
ิ
ี
่
สายไฟเปลยนไป มกล่นเหม็นไหม้ มรอยเขมา หรอรอยไหม้ มอ
ื
่
็
่
ี
ึ
ี
ื
้
ู
ิ
จับสวตชไฟหรอเต้าเสยบแล้วรสกอุ่น เปนต้น เหลาน้แสดงวาม ี
์
่
่
ิ
ิ
ิ
้
ความรอนผิด ปกตเกดขึ้น อาจเกดจากจุดต่อต่างๆ ไมแนน
เต้าเสยบ เต้ารบหลวม เปนต้น การใช้ไขควงลองไฟทดสอบไฟ
ี
็
ั
่
ั
ี
ู
ร่ว แสดงดังรปท 1.9
รูปท 1.9 การใช้ไขควงลองไฟทดสอบไฟร่ว
่
ั
ี
้
ิ
ื
ี่
ิ
ื่
์
่
้
ิ
ี
ื
๊
12. อย่าพยายามใช้ไฟฟาหรอเปดสวตชเครองใช้ไฟฟา เชน พัดลมระบายอากาศในบรเวณทมไอของสารระเหยหรอกาซท ี่
่
่
ุ
ื
่
ี
็
ุ
ิ
ิ
์
ื
๊
ไวไฟปกคลมอยูเต็มพ้นท เชน กาซหงต้ม ทนเนอร หรอไอน ้ามันเบนซน เปนต้น
ิ
้
์
ี่
ี
13. ระมัดระวังการใช้อุปกรณไฟฟาราคาถูกจากบางประเทศทผลตแบบไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะมอายุการใช้งาน
ั
ื่
ส้นแล้ว อาจไม่ปลอดภัยในการใช้งานโดยเฉพาะในเรองของอัคคีภัย
ิ
ี
์
ี
่
ี
ุ
14. อปกรณทมการเสยบปลั๊กท้งไว้นานๆ โดยไม ่
ู
มผู้ดแล เชน หลอดไฟทางเดน หรอบันได หม้อแปลงไฟ
ี
่
ื
ิ
์
ขนาดเล็ก (อะแดปเตอร) และเครองชารจแบตเตอรขนาดเล็ก
ื่
์
ี่
็
ี่
ี
เปนต้น หากมความจ าเปน ต้องใช้ให้หลกเลยงการใช้ใน
ี
็
ุ
ี่
ิ
ี
ิ
ี่
บรเวณทมวัสดทตดไฟได้ง่ายอยู่ใกล้ๆ
่
ิ
ั
ี
่
ิ
์
ิ
ื
้
15. ทุกคร้งทเลกใช้เครองใช้ไฟฟา ควรปดสวตชท ี่
ั
ั
ี
่
้
ื
เครองใช้ไฟฟาก่อน และถอดเต้าเสยบออกจากเต้ารบทุกคร้ง
ี
เพื่อไม่ให้เครองใช้ไฟฟาช ารดเสยหายง่าย การถอดเต้าเสยบ
ี
้
ื่
ุ
ื่
ั
ื่
ิ
ั
้
ออกจากเต้ารบทุกคร้งเมอเลกใช้งานเครองใช้ไฟฟา แสดงดัง
ู
ี่
รปท 1.10
ู
ี
้
้
ื่
ื่
ื
้
่
ี่
่
่
16. อย่าพยายามซอมเครองใช้ไฟฟาด้วยตัวเอง หรอโดยชางซอมทมความรความช านาญไม่เพียงพอ เครองใช้ไฟฟาบาง
ประเภทจ าเปนต้องอาศัยอุปกรณตรวจสอบด้านความปลอดภัย เชน เตาไมโครเวฟ ต้องมการตรวจสอบการร่วออกมาของคลน
์
ั
่
็
ื
ี
่
ื่
ิ
ี
ิ
ื่
ื
ไมโครเวฟ ไม่ให้มมากเกนอัตราทก าหนดหรอเครองใช้ทมสายดนต้องตรวจสอบความต่อเนองและฉนวนของสายดนกับสาย
ี่
ี่
ิ
ี
็
ศูนย์ เปนต้น
ี่
้
ื่
ี
ี่
17. หลกเลยงการใช้เครองใช้ไฟฟาในขณะทม ี
ุ
ฝนตกฟาคะนอง โดยเฉพาะอย่างย่ ิงเปนอปกรณ ์
็
้
์
อิเล็กทรอนกส เชน โทรศัพท์ อุปกรณสอสาร โทรทัศน์
์
่
ื่
ิ
็
ื่
ื่
ี
ี
์
เครองเล่นวีดทัศน์ เครองเสยง และคอมพิวเตอร เปนต้น
้
ุ
้
่
่
ื
่
็
เพอเปนการปองกันไมให้เครองใช้ไฟฟาเหลาน้ ีช ารด
่
ื
ี
เสยหาย เมอมีฟาผ่าเกดขึ้นในบรเวณใกล้เคียง ให้ปดเครอง
ื
ิ
่
ิ
ื่
้
ิ
ี
ถอดเต้าเสยบออก รวมทั้งสายอากาศ และสายโทรศัพท์ออก
ื
่
ั
ิ
้
ี
ู
่
จากเครองทุกคร้ง การเกดฟาผ่า แสดงดังรปท 1.11
้
รูปท 1.11 การเกดฟาผ่า
ิ
ี
่
ี่
ิ
18. เครองใช้ไฟฟาทควบคุมการเปดปดด้วย
้
ิ
ื่
่
ั
ิ
ื
ี
่
ปุมสมผัสอิเล็กทรอนกส หรอรโมทคอนโทรล เชน
์
โทรทัศน์ เครองเล่นวีดทัศน์ เครองเสยง และอุปกรณ ์
ี
ื่
ี
ื่
์
ิ
่
ื
ี
็
้
่
่
คอมพิวเตอร เปนต้น เครองใช้ไฟฟาเหลาน้เมอปด
ื
่
ี
ื
่
ื
ี
เครองแล้วยังมไฟเล้ยงวงจรควบคุมภายในเครองอยู ่
ิ
์
ี
ึ
ตลอด เวลา จงมโอกาสท าให้เกดอุปกรณควบคุม
ื
ิ
ั
ิ
ุ
ภายในช ารดได้ หรอบางคร้งอาจท าให้เกดเพลงไหม้
ั
ิ
ึ
ี
ี
ทรพย์สนเสยหายได้ ดังนั้นจงควรถอดเต้าเสยบออก
หรอตดตั้งวงจรสวตชตัดต่อวงจร เพอตัดไฟออกทุก
ิ
่
ิ
ื
์
ื
ิ
ิ
่
ิ
ี
คร้งทเลกใช้งาน การเกดเพลงไหม้ของคอมพวเตอร ์
ั
ิ
ู
แสดงดังรปที่ 1.12
ิ
ื่
ิ
รูปท 1.12 การเกดเพลงไหม้เครองคอมพิวเตอร ์
่
ี
้
ี่
ี
ิ
ิ
ี่
้
้
ื่
ิ
้
ื่
ี่
19. เมอไฟฟาทจ่ายมาจากการไฟฟาดับ ให้ดับสวตช์เครองใช้ไฟฟาทุกชนดทเปดค้างอยู่ทันท เพื่อปองกันสาเหตุทจะ
ิ
เกดขึ้น ดังน้ ี
ี
ิ
่
ิ
ื
ี่
่
ิ
่
้
ิ
ุ
้
่
ื่
เครองใช้ไฟฟาช ารดจากแรงดันทผิดปกตขณะไฟฟาดับไมสนท แรงดันอาจต ากวาปกต หรอขณะทเร่มม ี
้
ิ
ไฟฟากลับเข้ามาใหม่ แรงดันอาจมากเกนปกต ิ
ุ
้
่
ี
ิ
ิ
ี
่
ื
ั
ี
ื
่
์
ี
อปกรณตัดวงจรอาจท างานอกคร้ง เมอมไฟกลับเข้ามา และมเครองใช้ไฟฟาทกนไฟในการเร่มท างานมาก
ิ
่
ั
ิ
ี
เปดใช้งานอยู จะท าให้เกดไฟดับอกคร้งได้
ี่
้
้
่
ี
็
ี่
ี
ิ
ื่
ี
้
อันตรายจากเครองใช้ไฟฟาทมความรอนตดค้างอยู่ เชน เตารด และเตาไฟฟา เปนต้น ในขณะทมไฟกลับ
้
ู
เข้ามาโดยไม่รตัว
ิ
ี
ิ
้
ิ
ื่
้
ุ
ี
ู
ึ
่
้
ื
20. ฝกฝนให้รจักวธแก้ไขและปองกันรวมทั้งชวยเหลอปฐมพยาบาล เมอมอบัตเหตุทางไฟฟาเกดขึ้น
้
1.4 การปฏิบัติงานดานไฟฟาที่ปลอดภัย
้
้
ี่
ิ
ิ
การสมผัสจับต้องไฟฟาถอเปนอันตรายต่อรางกายคนอย่างรายแรง ดังนั้นการปฏบัตงานทางด้านทต้องเกยวข้องกับ
่
ั
ี่
็
้
ื
่
ิ
์
ไฟฟาจ าเปนต้องมความระมัดระวังอย่างมาก ต้องมั่นใจวาเกดความปลอดภัย ขณะปฏบัตงานจะต้องมอปกรณอ านวยความ
ุ
ี
้
ิ
ิ
็
ี
ี่
ิ
ู
ี
ี
็
ิ
สะดวก และอุปกรณปองกันอันตรายทเพยงพอ ต้องปฏบัตงานให้ถกขั้นตอน ท างานอย่างเปนระบบและมความรอบคอบ หลักการ
์
้
ี
ิ
ี
้
ิ
่
ปฏบัต งานทางด้านไฟฟาทปลอดภัย มดังน้ ี
ื่
ุ
ึ
้
ื
ึ
์
่
ั
่
้
1. ควรค านงถงกฎแหงความปลอดภัยทุกคร้ง ขณะท างานหรอซอมบ ารงเครองใช้ไฟฟา อุปกรณไฟฟา และอย่าท างาน
ด้วยความประมาท
้
2. ก่อนการปฏบัตงานเกยวกับไฟฟา ต้องถอวา ่
ี
่
ื
ิ
ิ
้
่
์
่
เครองใช้ไฟฟา อปกรณไฟฟาเหลานั้นมไฟฟาจ่ายอยู่ ต้อง
ี
ื
้
้
ุ
ตรวจสอบจนแนใจก่อนวาไมมไฟฟาจ่ายให้แล้ว ตัดไฟฟา
่
่
่
ี
้
้
ิ
ี
่
ู
ั
ิ
ทุกคร้งก่อนการปฏบัตงาน แสดงดังรปท 1.13
ี
ิ
้
ี่
ิ
ื่
3. จะปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาเรองใด ต้องมความร ู ้
ู
้
ื
่
ิ
ื
ิ
ความเข้าใจในเรองนั้นก่อนการปฏบัตงาน หรอถ้าไม่รไม่
้
ู
ู
้
็
เข้าใจควรสอบถามผู้ร และให้ผู้รเปนผู้กระท า
ิ
รูปท 1.13 ตัดไฟฟาทุกคร้งก่อนการปฏบัตงาน
้
ิ
ั
ี
่
ื
์
ี
่
ุ
ิ
์
ิ
ี่
ื่
ื
4. อุปกรณและเครองมอทใช้ในการปฏบัตงาน หากมสวนช ารดหรอไม่สมบูรณไม่ควรน ามาใช้งาน
ู
ื่
ิ
ึ
ื่
5. อย่าปฏบัตงานเมอรสก เหนอย อ่อนเพลย ง่วงนอน หรอรบประทานยาท าให้เกดอาการง่วงซม
ิ
ื
ี
ึ
ิ
้
ั
6. อย่าปฏบัตงานในขณะมอเปยกน ้า หรอยืนอยู่
ิ
ิ
ื
ี
ื
่
ี
ิ
ี
บนพ้นทเปยกน ้า ท าให้เกดอันตรายได้ง่าย อันตรายเกดจาก
ิ
ื
้
ู
ไฟฟากับน ้า แสดงดังรปที่ 1.14
ิ
ี่
็
ี
ิ
ิ
7. ถ้าจ าเปนต้องปฏบัตงานในบรเวณทมคน
พลุกพล่าน หรอมการปฏบัตงานอื่นๆ รวมด้วย ต้องแขวน
ี
ิ
ิ
่
ื
ปายหรอเขียนปายแสดงการงดใช้ไฟฟาไว้ให้มองเหนชัดเจน
้
็
้
ื
้
ิ
ิ
ิ
ั
ทุกคร้งก่อนเร่มการปฏบัตงาน
8. ถ้าจ าเปนต้องปฏบัตงานในบรเวณทไม่สามารถ
ี่
ิ
ิ
ิ
็
ื
้
ิ
ตัดไฟออกได้ ต้องกั้นบรเวณหรอปองกันไมให้ผู้ไม ่
่
ี่
เกยวข้องเข้าใกล้ได้
้
ิ
รูปท 1.14 อันตรายเกดจากไฟฟากับน ้า
่
ี
ิ
ิ
ี
ื่
ิ
ิ
ิ
่
9. การปฏบัตงานถ้ามการละงานไปชั่วคราว เชน พักเทยง เมอกลับมาปฏบัตงานต่อ ต้องตรวจสอบสวตชตัดตอน
์
ี่
่
ื
ี
ิ
่
ิ
ิ
่
สะพานไฟ ตลอดจนเครองหมายต่างๆ ทท าไว้ต้องอยูในสภาพเดมก่อนปฏบัตงานต่อไป
ั
่
ี
ิ
10. การปฏบัตงานแต่ละคร้ง ควรมผู้รวมปฏบัตงานด้วยอย่างน้อย 2 คน
ิ
ิ
ิ
้
ิ
้
่
ื
้
่
ี
่
ิ
ิ
่
11. การปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาแรงสง ควรใช้เครองชวยปองกันไฟฟาให้มากขึ้นกวาปกต เชน ใช้เสอยางฉนวนปู
ื่
่
ู
ั
ิ
็
ุ
ื
ื
ิ
พ้น สวมถงมอฉนวน และปลอกแขนฉนวน เปนต้น ก่อนการปฏบัต งานทุกคร้ง
1.5 การชวยเหลอผูประสบอันตรายจากไฟฟาดูด
ื
่
้
้
ู
้
่
ิ
็
ี
ิ
็
การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดนับเปนส่งจ าเปน และส าคัญอย่างย่งทต้องกระท าด้วยความรวดเรวอย่าง
็
่
ื
ี
่
ื
ู
้
ถกวธ มความรอบคอบ และด้วยความระมัดระวัง เพอให้ผู้ประสบอันตรายมโอกาสรอดพ้นจากอันตรายขั้นรายแรง และผู้ให้
ี
ิ
ี
ื
่
ื
ิ
ิ
่
่
ความชวยเหลอเกดความปลอดภัยไมเปนอันตรายตามไปด้วย ส่งส าคัญคือผู้ให้ความชวยเหลอต้องรจักวธให้ความชวยเหลอท ่ ี
ิ
้
็
ู
ื
่
ี
ู
ิ
ิ
ิ
ี
ู
ถกต้อง และถกวธ การปฏบัตท าได้ดังน้ ี
้
1. อย่าใช้มอเปล่าแตะต้องตัวผู้ทก าลังตดอยู่กับสายไฟฟา หรอตัวน าไฟฟาทมกระแสไหลผ่าน เพื่อปองกันไม่ให้ผู้ให้
ื
ิ
ื
้
ี
ี่
ี่
้
ิ
ื
่
ความชวยเหลอเกดอันตรายตามไปด้วยอีกคน
ิ
้
ี
ื
ิ
ิ
ี
์
์
ิ
2. รบหาทางตัดทางเดนของไฟฟาก่อน โดยถอดเต้าเสยบ ตัดสวตชตัดวงจรอัตโนมัต หรอสวตชประธาน ถ้าท าไม่ได้
้
ุ
ให้ใช้วัสดทไม่เปนสอตัวน าไฟฟา เชน ผ้าแห้ง เชอกแห้ง ไม้แห้ง สายยางแห้ง หรอผ้าพลาสตกทแห้งสนท ลากตัวผู้ประสบ
่
ิ
ี่
ื
ื
ี่
็
ิ
ื่
้
ื
่
่
ุ
ิ
ี
อันตรายให้พ้นจากส่งทมไฟฟา หรอใช้ไม้แห้งเขียสายไฟฟาให้หลดพ้นออกจากตัวผู้ประสบอันตราย หรอเขียสวนของรางกายผู้
้
่
่
ี
ื
่
็
้
ประสบอันตรายให้หลุดพ้นออกจากสายไฟฟาโดยเรว
ู
่
การชวยผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด แสดงดังรปท ี่
้
ู
1.15
ิ
3. เมอไม่สามารถท าวธอื่นใดได้แล้ว ให้ใช้
ี
ื่
็
ื
ี
มด ขวาน หรอของมคมทมด้ามไม้หรอด้ามทเปน
ี
ื
ี่
ี่
ี
ฉนวน ฟนสายไฟฟาให้ขาดหลุดออกจากผู้ประสบภัย
ั
้
็
โดยเรวทสด และต้องแนใจวาสามารถท าได้ด้วยความ
ี่
่
่
ุ
ปลอดภัย
ี
ี
่
4. ในกรณทมกระแสอยูในบรเวณทมน ้าขัง
ี
่
ี
่
ี
ิ
อย่าลงไปในน ้า ให้หาทางเขี่ยสายไฟฟาออกไปให้พ้น
้
น ้า หรอตัดไฟฟาออกก่อนจะลงไปชวยผู้ประสบ
่
้
ื
่
่
ี
ิ
อันตรายทอยูในบรเวณนั้น
ู
้
รูปท 1.15 การชวยผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
่
ี
่
ี่
้
ู
็
้
ี่
ี
ั
ี
5. ถ้ากรณทเปนสายไฟฟาแรงสง ให้พยายามหลกเลยงอย่าเข้าไปใกล้ และรบแจ้งการไฟฟาทรบผิดชอบให้ทราบ
ี่
ี
ุ
ี่
็
โดยเรวทสด
้
้
1.6 การปฐมพยาบาลผูประสบอันตรายจากไฟฟาดูด
ิ
ู
่
ผู้ประสบอันตรายจากกระแสไฟฟาดด สวนมากจะหมดสตไมรสกตัว ซงอาจจะไม่หายใจ และมสภาวะหัวใจหยุดเต้น
ึ
ึ
่
ี
่
้
้
ู
ื
สงเกตได้จากอาการทเกดขึ้นดังน้ รมฝปากเขียว สหน้าซดเขียวคล ้า ทรวงอกเคลอนไหวน้อยมากหรอไมเคลอนไหว ชพจรเต้น
่
ื
่
ื
ี
่
ี
ิ
ี
ี
ี
ี
่
ั
ิ
ี
ี
ี
ิ
ช้าและเบามาก หากหัวใจหยุดเต้นจะคล าชพจรไม่พบ ม่านตาขยายค้างไม่หดเล็กลง การหมดสตเชนน้ต้องรบให้การปฐม
่
ิ
ิ
ี
ื้
ี
่
ื
่
ี
ื
ี
่
่
พยาบาลทันท เพอให้ปอดและหัวใจท างาน เรยกการชวยเหลอน้วา การปฏบัตการชวยฟนคืนชพ (Cardio Pulmonary Resuscitation ;
่
CPR) โดยวธการชวยฟนคืนชพขั้นพ้นฐาน (Basic Life Support ; BLS) ได้แก่ การผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปากทเรยกวา
ี
ิ
ี
ื
่
ี
ื้
่
ี
่
่
่
่
การเปาปาก รวมกับการนวดหัวใจภายนอก ก่อนน าผู้ปวยสงแพทย์
้
1.6.1 การผายปอดดวยการใหลมหายใจทางปาก
้
ิ
ภาวะหยุดหายใจ (Respiratory Arrest) เปนภาวะทมการหยุดการท างานของอวัยวะในระบบทางเดนหายใจและ
็
ี่
ี
ี
การไหลเวยนของโลหต สวนมากมักจะพบวามการหยุดหายใจก่อนเกดภาวะหัวใจหยุดเต้น และถ้าไมได้รบการชวยเหลอท ่ ี
ั
ิ
ี
ื
่
่
่
่
ิ
ี
ี
ิ
ี
็
่
ี
ิ
ิ
็
ื
ี
ื
ถูกต้อง จะท าให้เสยชวิตได้ การผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปาก เปนวธพ้นฐานทจ าเปนต้องปฏบัตในเบ้องต้น ท าได้ดังน้
1. ให้ผู้ปวยนอนหงายราบกับพ้น
ื
่
ี
ิ
จัดท่านอนให้เหมาะสม เพื่อเปดทางให้มอากาศเข้าส ่ ู
ปอดได้สะดวก โดยผู้ปฐมพยาบาลจะอยู่ทางด้านขวา
หรอด้านซ้ายบรเวณศรษะของผู้ปวยก็ได้ ลักษณะการจัด
่
ี
ื
ิ
่
ี่
ู
ี่
ท่านอนทถูกต้องเหมาะสมให้ผู้ปวย แสดงดังรปท 1.16
ื
ึ
่
2. ใช้มอข้างหนงดงคางผู้ปวยหรอ
ื
ึ
่
้
ดันใต้คอพรอมกับใช้มออีกข้างดันหน้าผากให้หน้า
ื
ุ
่
้
ิ
ี
็
แหงน เปนวิธปองกันไมให้ล้นตกไปอด
่
ี่
รูปท 1.16 การจัดท่านอนทถูกต้องเหมาะสมให้ผู้ปวย
่
ี
่
ื
ิ
ปดทางเดนหายใจ และต้องระวังไมให้น้วมอทดงคาง
ิ
ิ
ี
ึ
่
่
ึ
ื
นั้น กดลกลงไปในสวนของเน้อใต้คาง เพราะจะท าให้
ิ
อดกั้นทางเดนหายใจได้โดยเฉพาะอย่างย่งในเด็กเล็ก
ิ
ุ
ส าหรบในเด็กแรกเกด ไม่ควรหงายคอมากเกนไป
ั
ิ
ิ
เพราะอาจท าให้เกดหลอดลมแฟบ และเกดอุดตัน
ิ
ิ
ิ
ี
ทางเดนหายใจได้ ลักษณะการใช้มอจับศรษะผู้ปวยให้
ื
่
ู
ี่
หน้าแหงน แสดงดังรปท 1.17
รูปท 1.17 การใช้มอจับศีรษะผู้ปวยให้หน้าแหงน
ื
่
ี
่
ิ
่
่
ื
3. สอดน้วหัวแมมอเข้าในปากผู้ปวย จับขากรรไกรลางยกขึ้นจนปากอ้าออก
่
ิ
ี
ั
ื
่
่
4. ล้วงเอาส่งอนๆ ทอาจมตดค้างอยู่ในปากและล าคอออกให้หมด เชน ฟนปลอม และเศษอาหาร เปนต้น เพื่อ
ิ
ี
่
็
ไม่ให้ขวางทางลม
5. ตรวจสอบการหายใจของผู้ปวย
่
่
โดยเอียงหน้ามองไปทางปลายเท้าผู้ปวย ให้หชดปาก
ู
ิ
ผู้ปวย เพื่อฟงเสยงหายใจ ตาดการ เคลอนไหวของทรวง
ี
ื่
ู
ั
่
อก ถ้าผู้ปวยหายใจได้เองอย่างเพียงพอ ให้จัดท่านอนให้
่
่
ึ
่
ผู้ปวยใหม่ โดยจัดให้นอนตะแคงกงคว าเพื่อนอนพัก
่
่
การจัดท่านอนให้ผู้ปวยนอนตะแคงกงคว า แสดงตาม
่
ึ
่
ู
่
ี
ขั้นตอนท 1 – 4 ตามรปที่ 1.18
รูปท 1.18 การจัดท่านอนให้ผู้ปวยนอนตะแคงกงคว ่า
่
ึ
่
ี
่
่
6. ถ้าผู้ปวยไม่หายใจ ให้ผู้ปฐมพยาบาลท าการผายปอดด้วยการเปาปากผู้ปวย ผู้ปฐมพยาบาลอ้าปากให้กว้าง
่
่
หายใจเข้าปอดเต็มท มอข้างหนงบบจมูกผู้ปวยให้แนนสนท มออีกข้างหนงยังอยู่ทคางผู้ปวยอยู่ แล้วจงประกบปากปดปาก
ึ
ิ
่
ึ
ี
ึ
่
่
่
ื
ิ
ี่
ี่
ื
่
้
ิ
่
่
ผู้ปวยให้สนท พรอมกับเปาลมเข้าไป
ี
็
เปนจังหวะประมาณ 12 – 15 คร้ ัง/นาท ในเด็กเล็ก
่
ี
ั
ประมาณ 20 – 30 คร้ง/นาท การผายปอดด้วยการเปาลม
ี่
ู
เข้าปาก แสดงดังรปท 1.19
่
่
7. ขณะท าการเปาปากผู้ปวย ตาต้อง
่
ี
เหลอบดด้วยวา หน้าอกผู้ปวยมอาการขยายขึ้นลง
ื
่
ู
ี
ื
หรอไม หากไมมการกระเพอมขึ้นลงอาจเปนเพราะท่า
่
่
่
ื
็
ื
ิ
่
ิ
ี
ี
นอนไมดหรอมส่งกดขวางทางเดนหายใจ ซงต้องรบ
ี
ี
่
ึ
ี
แก้ไขจัดท่าใหม่ และอย่าให้มส่งกดขวางทางเดนหายใจ
ี
ิ
ิ
ู
ี่
่
ู
การดหน้าอกผู้ปวยขยายขึ้นลง แสดงดังรปท 1.20
่
่
ี
รูปท 1.19 การผายปอดด้วยการเปาลมเข้าปาก
8. ถ้ากรณทไม่สามารถอ้าปากของ
ี
ี่
ิ
่
ิ
ื
่
ผู้ปวยได้ ให้ใช้มอปดปากผู้ปวยให้สนท และเปาลมเข้า
่
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ทางจมูกแทน โดยใช้วธการปฏบัตในท านองเดยวกับ
่
การเปาปาก
9. ขณะน าสงโรงพยาบาล ให้ท า
่
่
ั
การเปาปากไปด้วยจนกวาผู้ปวยจะฟน หรอเมอได้รบการ
ื
ื่
่
่
ื้
้
่
ี
ื
็
ี่
ชวยเหลอจากแพทย์เปนทเรยบรอยแล้ว
่
รูปท 1.20 การดหน้าอกผู้ปวยขยายขึ้นลง
่
ู
ี
1.6.2 การนวดหัวใจภายนอก
ื
ี
่
ึ
ภาวะหัวใจหยุดเต้น หมายถงการไหลเวยนเลอดหยุดลงอย่างส้นเชง ซงทราบได้จากการหมดสตไมมการ
ิ
่
ิ
ิ
ึ
ี
ี
่
ี
่
ี
็
่
ิ
่
เคลอนไหว ไมมอาการไอ คล าชพจรไมได้ ไมมการหายใจอย่างทเปนตามปกต ภาวะหัวใจหยุดเต้น เกดขึ้นหลังจากภาวะหยุด
ื
ี
ิ
่
่
ี
หายใจ คนทหยุดการหายใจและหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ยังมโอกาสฟนขึ้นได้ ต้องรบท าการชวยให้หัวใจกลับเต้นขึ้นมาทันทด้วย
ี่
ี
ี
ื้
ิ
ิ
ี
ี
ิ
การนวดหัวใจ มวธการปฏบัตดังน้ ี
ื
1. ให้ผู้ปวยนอนราบกับพ้นแข็งๆ หรอใช้ไม้
ื
่
กระดานรองหลังของผู้ปวย ผู้ปฐมพยาบาลนั่งคุก เข่าลงข้างขวา
่
ิ
ื
่
หรอข้างซ้ายบรเวณหน้าอกผู้ปวย
ู
ี่
่
ุ
2. คล าหาสวนล่างสดของกระดกอกทต่อกับ
่
่
ั
กระดกซโครง โดยใช้สองน้วสมผัสสวนลางกระดกอก ใช้ฝามออีก
ู
ิ
ี่
ู
ื
่
ข้างวางไลขึ้นมา ถ้าคุกเข้าข้างขวาใช้มอขวาคล าหาสวนล่างกระดก
ื
ู
่
่
ื
อก หากคุกเข่าข้างซ้ายใช้มอ
ื
ี
่
่
รูปท 1.21 ต าแหนงการวางมอเพื่อนวดหัวใจ
ู
ื
่
่
ู
ซ้ายคล าหาสวนล่างกระดกอก ต าแหนงการวางมอเพื่อนวดหัวใจ แสดงดังรปที่ 1.21
3. วางมออีกข้างทับบนหลังมอทวางไว้แล้วใน
ื
ื
ี่
ิ
ื
่
ู
ี
ต าแหนงทถกต้อง เหยยดน้วมอตรง และเกยวน้วมอ 2
่
ี
่
ื
ี
ิ
ข้างเข้าด้วยกัน เหยียดแขนตรงโน้มตัวตั้งฉากกับหน้าอก
่
ผู้ปวย ท้งน ้าหนักลงบนแขนขณะกดหน้าอกผู้ปวยให้
่
ิ
ิ
ื่
ื
กระดกลดระดับลง 1.5 – 2 น้ว หรอ 4 – 5 ซม. เมอกดสดให้
ู
ุ
่
ื่
ื
ื
ผ่อนมอขึ้นทันท โดยทต าแหนงมอไม่ต้องเลอนจากจุดที่
ี
่
ี
ื
ก าหนด ขณะกดหน้าอกนวดหัวใจ ห้ามใช้น้วมอกดลง
ิ
่
ี่
ื
บนซโครงผู้ปวย ลักษณะการวางมอ
่
่
่
ี
ื
รูปท 1.22 ต าแหนงการวางมอบนหน้าอกผู้ปวย
ี่
ู
่
บนหน้าอกผู้ปวย แสดงดังรปท 1.22
ึ
ี
ี
ั
ั
่
่
่
4. ขณะทกดหน้าอกแต่ละคร้งต้องนับจ านวนคร้งทกดดังน้ หนง และสอง และ
ี
สาม และส และห้า ….. โดยกดหน้าอกทุกคร้งทนับตัว เลข และ
ี่
ั
ี
่
ปล่อยมอจากการกดตอนค าวา “และ” สลับกันไปให้ได้อัตราการ
ื
่
ู
่
ี
ั
กดประมาณ 90 – 100 คร้ง/นาท การกดหน้าอกผู้ปวย แสดงดังรป
ี่
ท 1.23
ี
ี
ิ
ั
ิ
5. ถ้าผู้ปฏบัตมคนเดยว ให้นวดหัวใจ 15 คร้ง
่
่
สลับกับการเปาปาก 2 คร้ ัง ท าสลับกันเชนน้จนครบ 4 รอบ
ี
ี
แล้วตรวจชพจรและการหายใจ หากคล าชพจรไม่ได้ต้องนวด
ี
่
ี
่
ี
หัวใจต่อ แต่ถ้าคล าชพจรได้ รูปท 1.23 การกดหน้าอกผู้ปวย
่
ี
และยังไม่หายใจต้องเปาปากต่อไปอย่างเดยว
ิ
ี
ิ
ั
ี่
่
ั
่
6. ถ้ามผู้ปฏบัต 2 คน ให้นวดหัวใจ 5 คร้ง สลับกับการเปาปาก 1 คร้ง โดยขณะทเปาปาก อีกคนต้องหยุด
นวดหัวใจ
่
ื
ี
7. ในกรณชวยเหลอเด็กอ่อน หรอเด็กแรก
ื
ิ
ิ
่
ึ
เกด การนวดหัวใจให้ใช้น้วเพยง 2 น้ว กดบรเวณกงกลางกระดก
ิ
ี
ู
ิ
หน้าอกให้ได้อัตราการกด 100 – 120 คร้ง/นาท การนวดหัวใจ
ี
ั
เด็กอ่อน แสดงดังรปที่ 1.24
ู
่
8. การนวดหัวใจไม่วาผู้ใหญ่ หรอเด็ก ต้อง
ื
ี
่
ิ
่
ู
ี
ท าอย่างระมัดระวัง และถูกวิธ มเชนนั้นอาจท าให้กระดกซโครง
หัก ตับแตก และม้ามแตกได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กต้องใช้ความ
็
ระมัดระวังเปนพิเศษ
ี
่
รูปท 1.24 การนวดหัวใจเด็กอ่อน
1.7 บทสรุป
ู
้
ิ
ี
ิ
่
ึ
ี
็
ี
ิ
ไฟฟาเปนพลังงานชนดหนง มทั้งโทษและประโยชน์ในเวลาเดยวกัน หากใช้ถกวธจะเกดประโยชน์มากมายมหาศาล
้
ี
ี
ี่
ื่
ิ
ี
้
ี
ิ
่
หากใช้ผิดวธจะมโทษมากมายมหาศาลเชนเดยวกัน ไฟฟาเคลอนทได้ดในวัตถุตัวน าจ าพวกโลหะชนดต่างๆ ไฟฟาไม่สามารถ
่
้
ิ
ี่
ื
ี่
ี่
เคลอนทผ่านไปได้หรอเคลอนทไปได้ล าบากในวัตถุทเปนพวกฉนวน ไฟฟาสามารถไหลผ่านรางกายคนได้อย่างสะดวก เกด
็
ื่
ื่
ี่
่
ื
ิ
็
้
ิ
ไฟฟาดดหรอไฟฟาชอต ปรมาณกระแสทไหลผ่านรางกายแตกต่างกัน เกดอันตรายต่อรางกายแตกต่างกันไป กระแสไหลผ่าน
่
ู
้
ึ
ี
ี
ี
็
็
ื
น้อยเปนอันตรายน้อย กระแสไหลผ่านมากเปนอันตรายมาก มผลท าให้บาดเจ็บ พิการ หรอถงเสยชวิตได้
ิ
ิ
้
ี่
้
การปฏบัตงานทางด้านไฟฟาทปลอดภัย ผู้ใช้ไฟฟาจะต้องทราบและเข้าใจคุณสมบัตของไฟฟา ต้องระมัดระวัง ไม่
้
ิ
ี
่
็
ึ
ึ
็
ึ
้
ประมาท ท างานอย่างเปนระบบและรอบคอบ ค านงถงกฎแหงความปลอดภัยขณะท างาน ผู้ใช้ไฟฟาจงจ าเปนต้องเรยนร ู ้
ี
ิ
ิ
ู
้
้
ี
้
วิธการใช้ไฟฟาอย่างถูกต้อง และเรยนรข้อควรปฏบัตในการใช้ไฟฟาอย่างถูกต้องปลอดภัย
ู
ี
ึ
่
ู
้
่
้
ิ
ึ
่
ผู้ประสบอันตรายจากกระแสไฟฟาดด สวนมากจะหมดสตไมรสกตัว ซงอาจจะไม่หายใจ และมสภาวะหัวใจหยุดเต้น
ิ
่
ิ
่
ี
ื
ื
ี
่
ด้วย การหมดสตเชนน้ต้องรบให้การปฐมพยาบาลทันท เพอให้ปอดและหัวใจท างาน เรยกการชวยเหลอน้วา การปฏบัตการชวย
่
ี
่
ี
ิ
ี
ื
่
ื้
ี
่
ี
ฟนคืนชพ (CPR) โดยวธการชวยฟนคืนชพขั้นพ้นฐาน (BLS) ได้แก่ การผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปาก รวมกับการนวด
ิ
ื้
ี
่
็
็
้
่
ิ
ื
ิ
่
หัวใจภายนอก ก่อนน าผู้ปวยสงแพทย์ การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาเปนส่งจ าเปน ส าคัญอย่างย่ง ต้องกระท าอย่าง
็
ี
ี
ถูกวิธ รวดเรว รอบคอบ และระมัดระวัง ท าให้ผู้ประสบอันตรายมโอกาสรอดพ้นจากอันตราย
้
่
้
ิ
์
ี
• ดานทักษะ(ปฏิบัติ) (จุดประสงคเชงพฤติกรรมขอท 5)
ิ
้
ิ
ี่
ี่
1. ใบปฏบัติงานท 1.1 การชวยเหลือผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด และ ใบปฏบัติงานท 1.2 การนวดหัวใจผู้
ู
่
ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
้
ู
2. แบบฝกหัดบทท 1
ึ
ี่
้
ิ
• ดานคุณธรรม/จรยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
(จุดประสงคเชงพฤตกรรมขอท 6-7)
ี่
้
ิ
ิ
์
ุ
ุ
้
ี
์
ึ
ี
ึ
1. การเตรยมความพรอมด้านการเตรยม วัสด อปกรณนักศกษาจะต้องกระจายงานได้ทั่วถง และตรง
ี
ตามความสามารถของสมาชกทุกคน มการจัดเตรยมสถานท สอ วัสด อุปกรณไว้อย่างพรอมเพรยง
ี
ี
ิ
ื่
ี่
ุ
้
์
ี
ิ
ี
ิ
ึ
ั
2. ความมเหตุมีผลในการปฏบัติงาน ตามหลักปรชญาเศรษฐกจพอเพียง นักศกษาจะต้องมการใช้
่
่
ิ
ิ
่
่
ี
ี
ี
เทคนคทแปลกใหม ใช้สอและเทคโนโลย ประกอบการ น าเสนอทนาสนใจ น าวัสดในท้องถ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและ
่
ื
ุ
ประหยัด
ี
ื
ี
กิจกรรมการเรยนการสอนหรอการเรยนรู ้
ขนตอนการสอนหรอกิจกรรมของครู ขนตอนการเรยนรูหรอกิจกรรมของนกเรยน
้
ี
ื
ั
้
ั
้
ื
ี
ั
้
้
่
้
่
้
ี
ี
1. ขันน าเขาสูบทเรยน (15 นาที ) 1. ขันน าเขาสูบทเรยน (15 นาที )
ิ
1. จัดเตรยมเอกสาร พรอมกับแนะน ารายวชา 1. จัดเตรยมเอกสาร ฟงอาจารย์ผู้สอนแนะน ารายวชา
ี
้
ิ
ั
ี
ื่
ิ
ี
ิ
ี
ี
ี
วธการให้คะแนนและวธการเรยนเรอง ระบบความปลอดภัย วธการให้คะแนนและวธการเรยนเรอง องค์ประกอบของ
ี
ิ
ิ
ื่
ี
้
์
ิ
ในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส คอมพิวเตอร ์
ี
ี
ี่
ี
ี
่
2. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรยนของหนวยเรยนท ี่ 2. ผู้เรยนท าความเข้าใจเกยวกับจุดประสงค์การเรยน
่
่
ิ
ิ
่
ี่
1 และการให้ความรวมมอของนักศกษาในการท ากจกรรม ของหนวยเรยนท 1 และการให้ความรวมมอในการท ากจกรรม
ื
ื
ึ
ี
3. ผู้สอนให้ผู้เรยนยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้าน 3. ผู้เรยนยกตัวอย่าง เรอง การปฏบัตงานทางด้านไฟฟา
ิ
ิ
ี
ิ
้
ี
ื่
ิ
ี่
้
ิ
ิ
์
์
ี่
ไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย และอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย ตามความเข้าใจของตนเอง
ี่
ึ
ี
ี
ื่
4. ผู้เรยนท าแบบฝกหัดก่อนเรยนบทท 1 เรอง ระบบ
ี
ี
4. ผู้สอนให้ผู้เรยนท าแบบฝกหัดก่อนเรยนบทท 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส แล้วสลับกัน
ี่
ึ
้
ิ
์
ิ
้
ื่
เรอง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส ตรวจค าตอบด้วยความซอสัตย์
์
ื่
แล้วให้นักศกษาสลับกันตรวจค าตอบ และให้คะแนน
ึ
้
้
้
2. ขันใหความรู (75 นาที) 2. ขันใหความรู (75 นาที )
้
้
้
ี่
ื่
1. ผู้สอนฉายแผ่นใส บทท 1 เรอง ระบบความ 1. ผู้เรยนดบทเรยนจากแผ่นใส บทท 1 เรอง ระบบ
ื่
ี
ู
ี
ี่
้
ิ
์
ปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส ความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส พรอมกับจด
์
ิ
้
้
บันทกเน้อทได้เรยน
ึ
ี
ี
่
ื
ื
่
2. ผู้สอนรวมมอกับผู้เรยนอธบายและยกตัวอย่าง
ี
ิ
ื
ิ
ี
่
ุ
่
อันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ การ 2. ผู้เรยนรวมมอกับผู้สอนอธบายและยกตัวอย่าง
้
ิ
ุ
ิ
้
่
ปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย และ อันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ การปฏบัตงานทางด้าน
์
ี่
้
ิ
ิ
ิ
ิ
ี่
ไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย และ การปฏบัตงาน
์
ิ
้
ิ
้
ุ
ี่
ิ
ิ
่
การปฏบัตงานทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟา ทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟา ตามทได้ดบทเรยนจาก
ี
่
ี่
ู
้
ี่
ุ
้
์
้
3. ขันประยุกตใช ( 90 นาที )
แผ่นใส
ี
็
ี
1. ผู้สอนให้ผู้เรยนท าการแบ่งนักเรยนออกเปน 5 กลุ่ม คือ ้ ์ ้
่
ี่
ุ
กลุ่มท 1 อันตรายต่อรางกายมนษย์ 3. ขันประยุกตใช ( 90 นาที )
ี
ี่
ิ
กลุ่มท 2 การปฏบัตงานด้านไฟฟาและ 1. ผู้เรยนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม
ิ
้
อิเล็กทรอนกส ์
ิ
ื
ี
ี
กิจกรรมการเรยนการสอนหรอการเรยนรู ้
ื
้
ั
ขันตอนการสอนหรอกิจกรรมของครู ขนตอนการเรยนรูหรอกิจกรรมของนกเรยน
้
ั
ี
้
ื
ี
ุ
้
่
ี่
กลุ่มท 3 การซอมบ ารงไฟฟา
ี่
้
่
ื
ู
กลุ่มท 4 ชวยเหลอผู้ถูกไฟฟาดด
ี่
กลุ่มท 5 การปฐมพยาบาล 2. ผู้เรยนแต่ละกลมอธบายหน้าชั้นเรยนโดยขอ
ุ
่
ิ
ี
ี
ี
ี
ุ
2. ผู้สอนให้ผู้เรยนน าเสนอ หน้าชั้นเรยน ผู้สอนคอยสรป ค าแนะน าจากผู้สอน
ุ
่
ื
เน้อหาแต่ละกลม 3. ผู้เรยนท าใบปฏบัตงานท 1.1 เรอง การชวยเหลอผู้
ี่
ี
ิ
ื
่
ิ
ื่
3. ผู้สอนแนะน าล าดับขั้นตอนการทดลอง ตามใบ ประสบอันตรายจากไฟฟาดด และใบปฏบัตงานท 1.2 เรอง
ู
้
ื่
ิ
ิ
ี่
ปฏบัตงานท 1.1 เรอง การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจาก การนวดหัวใจผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
ิ
ิ
ื
่
ี่
ื่
้
ู
ไฟฟาดด และใบปฏบัตงานท 1.2 เรอง การนวดหัวใจผู้ประสบ
ี่
ู
ื่
ิ
ิ
้
้
ู
้
อันตรายจากไฟฟาดด 4. ขันสรุปและประเมินผล ( 60 นาที )
ี
ี่
ี
ุ
่
ื
1. ผู้สอนและผู้เรยนรวมกันสรปเน้อหาทได้เรยนให้ม ี
้
4. ขันสรุปและประเมินผล ( 60 นาที ) ความเข้าใจในทศทางเดยวกัน
ิ
ี
ุ
1. ผู้สอนและผู้เรยนรวมกันสรปเน้อหาทได้เรยนให้ม ี 2. ผู้เรยนท าแบบฝกหัดการเรยนรบทท 1
ื
ี
ี
ี่
่
ี่
ี
ึ
้
ี
ู
ี
ิ
ความเข้าใจในทศทางเดยวกัน
ี่
้
ึ
ี
ู
ี
2. ผู้สอนให้ผู้เรยนท าแบบฝกหัดการเรยนร บทท 1 3. ผู้เรยนท าแบบฝกหัดบทที่ 1 ด้วยความซอสัตย์
ึ
ี
ื่
ื่
ี่
ึ
3. แจกแบบฝกหัดบทท 1 เรอง ระบบความปลอดภัย 4. ผู้เรยนน าคะแนนจากแบบฝกหัด เพื่อด ู
ึ
ี
้
ิ
์
ในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส ความก้าวหน้าของตนเอง
ึ
ึ
ี
้
4. ผู้สอนตรวจแบบฝกหัดหลังเรยนพรอมกับบันทก
์
ี่
้
ิ
ิ
คะแนน (บรรลุจุดประสงคเชงพฤตกรรมขอท 1-7)
ิ
์
ี่
้
ิ
(บรรลุจุดประสงคเชงพฤตกรรมขอท 1-7)
ี
ี
ื
(รวม 240 นาท หรอ 4 คาบเรยน)
ื
งานที่มอบหมายหรอกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล
กอนเรยน
ี
่
1. จัดเตรยมเอกสาร สอการเรยนการสอนตามทอาจารย์ผู้สอนและบทเรยนก าหนด
ี่
ี
ี
ื่
ี
2. ท าความเข้าใจเกยวกับจุดประสงค์การเรยนของบทท 1 และการให้ความรวมมอในการท ากจกรรมในบทท 1
ี
ี่
ื
่
ิ
ี่
ี่
ี
ขณะเรยน
1. ศกษาเน้อหา ในบทท 1 เรอง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส ์
ื
ิ
ึ
ี
่
ื่
้
2. รายงานผลหน้าชั้นเรยน
ี
ี่
ื่
3. ปฏบัตใบปฏิบัตงานท 1.1 เรอง การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด และ ใบปฏิบัตงานท 1.2 เรอง การ
ื
่
ื่
ู
ิ
้
ี่
ิ
ิ
ิ
นวดหัวใจผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด
ู
้
4. สรปผลการทดลอง
ุ
ี
หลังเรยน
1. ท าแบบฝกหัดบทท 1
ึ
ี่
ผลงาน/ชนงาน/ความสาเรจของผูเรยน
ิ
็
้
ี
้
1. แบบฝกหัดบทท 1 ใบปฏบัตงานท 1.1 ใบปฏบัตงานท 1.2
ี่
ี่
ึ
ิ
ิ
ิ
ิ
ี่
ู
้
ิ
2. ตรวจผลงาน การสาธต การปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด
ี
สอการเรยนการสอน/การเรยนรู
้
ี
ื
่
ื่
ิ่
สอสงพิมพ ์
ี
ิ
ี
ิ
ิ
์
้
ิ
ื
1. หนังสอเรยนวิชา งานไฟฟาและอเล็กทรอนกสเบ้องต้น (ใช้ประกอบการเรยนการสอนจุดประสงค์เชงพฤตกรรม
ื
ข้อท 1-7)
ี่
้
ี่
ื่
2. แผ่นใส บทท 1 เรอง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนกส (ใช้ประกอบการเรยนการสอนขั้น
์
ิ
ี
สอน เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์เชงพฤตกรรมข้อท 1-5)
ิ
ี่
ิ
3. ใบปฏบัติงานท 1.1 เรอง การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด (ใช้ประกอบการเรยนการสอนจุดประสงค์
ิ
ื่
ี่
ี
้
ื
ู
่
เชงพฤตกรรมข้อท 4)
ิ
ิ
ี่
ู
ี
ี่
ื่
ิ
4. ใบปฏบัติงานท 1.2 เรอง การนวดหัวใจผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด (ใช้ประกอบการเรยนการสอนจุดประสงค์
้
เชงพฤตกรรมข้อท 5)
ิ
ิ
ี่
5. แบบฝกหัดบทท 1 ใช้ประกอบการสอนขั้นเตรยม ข้อ 2
ี
ึ
ี่
6. แบบฝกหัดผลงานตามใบปฏิบัตงาน ใช้ประกอบการสอนขั้นการเรยนการสอน ข้อ 2
ี
ึ
ิ
7. แบบฝกหัดพฤตกรรมการท างานกลม ใช้ประกอบการสอนขั้นการเรยนการสอน ข้อ 2
ุ
ิ
ึ
่
ี
ี
์
ื่
สอโสตทัศน (ถ้าม)
1. เครองฉาย ภาพ โปรเจคเตอร (PROJECTOR)
์
ื่
2. เครองฉายแผ่นใส (OVERHEAD)
ื่
ิ
ื่
สอของจรง
ึ
1. ไม้แห้งขนาดพอเหมาะยาวประมาณ 1.5 ม. ถง 2 ม. 1 ท่อน
2. ท่อ PVC ขนาด 6 หล ยาวประมาณ 105 ม. ถง 2 ม. 1 ท่อน
ุ
ึ
ึ
ื
ื
3. เชอกหรอเข็มขัดยาว 1 ม.ถง 1.5 ม. 1 เส้น
4. ผ้าพลาสตกใช้ปูนอน 1 ผืน
ิ
ิ
5. ผ้าพลาสตกใช้ปูนอน 1 ผืน
ี
้
่
แหลงการเรยนรู
ในสถานศึกษา
1. ห้องสมุด
์
ึ
ิ
ิ
2. ห้องปฏบัตการคอมพิวเตอร ศกษาหาข้อมูลทาง INTERNET
ึ
นอกสถานศกษา
ิ
ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถ่น
์
ื
การบูรณาการ/ความสมพันธกับวิชาอน
ั
่
ิ
ิ
ึ
ี
1. บูรณาการกับวิชาชวิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการฝกปฏบัตตนทางสังคมด้านการ
เตรยมความพรอม ความรบผิดชอบ และความสนใจใฝร ู ้
ั
้
่
ี
ิ
ิ
ิ
ื
ื
2. บูรณาการกับวชาการบรหารการจัดซ้อ ด้านการซ้อ การแสวงหาผลตภัณฑ์
ื
ุ
่
ิ
ี
ิ
ี
ิ
3. บูรณาการกับวชากฬาเพอพัฒนาสขภาพและบุคลกภาพ ด้านบุคลกภาพในการน าเสนอหน้าชั้นเรยน
้
ี
การประเมินผลการเรยนรู
ิ
้
ี
หลักการประเมนผลการเรยนรู
ี
ขณะเรยน
ิ
ิ
ี่
ี่
ิ
1. ตรวจผลงานตามใบปฏบัตงานท 1.1 และ ใบปฏบัติงานท 1.2
2. สังเกตการท างานกลุ่ม
ี
หลังเรยน
1. ตรวจแบบฝกหัด บทท 1
ึ
ี่
ึ
ี
2. ตรวจแบบแบบฝกหัดผลการเรยนร ู ้
ค าถาม
์
ิ
์
ี
อธบายให้ได้ใจความสมบูรณและแสดงวิธท าให้สมบูรณถูกต้อง
1. ไฟฟาคืออะไร มอันตรายต่อมนษย์อย่างไร
้
ุ
ี
2. ไฟฟามประโยชน์อะไรบ้างบอกมาเปนข้อๆ
ี
้
็
3. ปรมาณกระแสไหลผ่านรางกายคนแตกต่างกัน จะเกดผลต่อปฏกรยาทเกดขึ้นกับรางกายคนอย่างไร
่
ิ
่
่
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
4. บอกหลักการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาทปลอดภัยมาเปนข้อๆ ตามล าดับ
ิ
ี่
้
ิ
็
5. อธบายการผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปากมาเปนข้อๆ ตามล าดับ
ิ
็
ี
้
้
ผลงาน/ชนงาน/ผลสาเรจของผูเรยน
็
ิ
ิ
้
ู
ตรวจผลงาน การสาธตการปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด
ี
รายละเอียดการประเมินผลการเรยนรู
้
่
้
ี่
ุ
ิ
ิ
ิ
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 1 อธบายอันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ ได้
ิ
ี
1. วิธการประเมน : ทดสอบ
ื่
ื
ึ
2. เครองมอ : แบบฝกหัด
ิ
้
ุ
่
3. เกณฑ์การให้คะแนน : อธบายอันตรายของไฟฟาต่อรางกายมนษย์ ได้ จะได้ 2 คะแนน
ิ
ี่
ิ
ี่
์
ิ
้
ิ
ิ
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 2 ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัยได้
ี
ิ
1. วิธการประเมน : ทดสอบ
ื่
ื
ึ
2. เครองมอ : แบบฝกหัด
ิ
้
์
ิ
ิ
ี่
3. เกณฑ์การให้คะแนน : ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาและอิเล็กทรอนกสทปลอดภัย
• ได้จะได้ 3 คะแนน
ี่
ิ
ิ
ิ
ี่
้
ุ
ิ
่
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 3 ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟาได้
ี
ิ
1. วิธการประเมน : ทดสอบ
ึ
ื
ื่
2. เครองมอ : แบบฝกหัด
้
ิ
ุ
่
ี่
ิ
3. เกณฑ์การให้คะแนน : ยกตัวอย่างการปฏบัตงานทางด้านการซอมบ ารงเกยวกับไฟฟาได้ จะได้
3 คะแนน
ี
้
ิ
่
ี่
ื
ิ
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 4 บอกวิธการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาได้
ี
ิ
1. วิธการประเมน : ทดสอบ
ื
ื่
ึ
2. เครองมอ : แบบฝกหัด
้
ื
่
ี
3. เกณฑ์การให้คะแนน : บอกวิธการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟา จะได้ 5 คะแนน
้
ี่
ิ
ู
ิ
ิ
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 5 สาธตการปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด
ิ
ี
1. วิธการประเมน : ทดสอบ
ื
ื่
ึ
2. เครองมอ : แบบฝกหัด
ิ
้
ู
3. เกณฑ์การให้คะแนน : สาธตการปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด 15 คะแนน
้
ิ
์
ี
ุ
ิ
ี่
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 6 เตรยมความพรอมด้าน วัสด อุปกรณสอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง
ี
ิ
1. วิธการประเมน : ตรวจผลงาน
ึ
ื่
ื
2. เครองมอ : แบบฝกหัดกระบวนการท างานกลุ่ม
ุ
์
้
ี
3. เกณฑ์การให้คะแนน : เตรยมความพรอมด้าน วัสด อุปกรณสอดคล้องกับงานได้อย่าง
ถูกต้อง จะได้ 6 คะแนน
ี่
ี
็
ิ
ิ
ี่
ิ
ิ
• จุดประสงค์เชงพฤตกรรม ข้อท 7 ปฏบัตงานได้อย่างถูกต้อง และส าเรจภายใน เวลาทก าหนดอย่างมเหตุ
ิ
ั
และผลตามหลักปรชญาเศรษฐกจพอเพียง
ิ
ี
1. วิธการประเมน : ตรวจผลงาน
ึ
ื
ื่
2. เครองมอ : แบบฝกหัดกระบวนการท างานกลุ่ม
ี
ิ
ิ
็
ี่
3. เกณฑ์การให้คะแนน : ปฏบัตงานได้อย่างถูกต้อง และส าเรจภายใน เวลาทก าหนดอย่างมเหตุ
ิ
ั
และผลตามหลักปรชญาเศรษฐกจพอเพียง จะได้ 6 คะแนน
ึ
แบบฝกหัดบทที่ 1
ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและอเล็กทรอนกส์
ิ
้
ิ
ื่
วัตถุประสงค์ เพื่อประเมนความรเดมของนักศกษาเกยวกับเรอง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและ
ิ
้
ู
ึ
ิ
ี่
้
ิ
ิ
อเล็กทรอนกส์
ี่
ี่
เขียนเครองหมายกากบาท (X) ลงในข้อทถูกต้องทสด
ื่
ุ
้
็
ึ
1. ข้อควรค านงเปนอับดับแรกในการใช้ไฟฟาคืออะไร
ก. ความคุ้มค่า ข. ความประหยัด
ิ
ู
ุ
ค. ความปลอดภัย ง. เกดประโยชน์สงสด
้
ึ
ู
2. ไฟฟาดดหมายถงอะไร
ิ
่
ก. เกดกระแสไหลผ่านรางกายคน
ี
้
ข. มกระแสไหลผ่านในวงจรไฟฟาตลอดเวลา
ู
ึ
้
ค. สนามแม่เหล็กไฟฟาสามารถดงดดโลหะจ าพวกเหล็กได้
ึ
่
้
่
ิ
ึ
ง. เกดสนามไฟฟากระโดดข้ามจากสายไฟเส้นหนงไปยังอีกเส้นหนง
ี่
ุ
ิ
3. วัสดชนดใดทกระแสไหลผ่านได้ง่าย
ก. ไม้แห้ง ข. แก้วน ้า
ิ
ค. พลาสตก ง. ยางเปยก
ี
่
ุ
ิ
ื
ู
ี่
่
ุ
4. กระแสไหลผ่านรางกายมนษย์ลงสพ้นชนดใดได้ล าบากทสด
ื
ิ
ื
ก. พ้นไม้ ข. พ้นดน
ื
ื
ค. พ้นปูน ง. พ้นทราย
ี
้
้
5. การสัมผัสไฟฟาแบบใดเรยกว่าการสัมผัสไฟฟาโดยตรง
ุ
ี
ี่
ื
ก. ใช้มอจับสายไฟทมฉนวนห้ม
ี
ี่
้
ู
ั
ข. ใช้ตะปูแหย่เข้าไปในรเต้ารบทมไฟฟา
่
ื
ั
ี
้
ี
่
ค. จับตัวถังโลหะเครองใช้ไฟฟาทมไฟฟาร่วอยู่
้
ี
ั
้
ั
่
ี
ี
ง. ขณะน าเต้าเสยบเสยบเข้าเต้ารบมไฟฟาร่วผ่านรางกาย
้
้
ี
6. การสัมผัสไฟฟาแบบใดเรยกว่าการสัมผัสไฟฟาโดยอ้อม
่
ุ
ื
่
่
ิ
ก. ขณะอาบน ้าด้วยเครองท าน ้าอนเกดอาการชาตามรางกาย
ู
้
ี
ู
ื
ิ
่
ข. ขณะล้างอางเล้ยงปลาเกดอาการชาเหมอนถกไฟฟาดด
้
ิ
ึ
่
ู
ค. ขณะเปดตู้เย็นรสกเจ็บปวดตามรางกาย
ง. ถูกทุกข้อ
ื
ื
้
ี่
ุ
ื่
7. การเลอกซ้อเครองใช้ไฟฟามาใช้งานอย่างไรถูกต้องทสด
ิ
ก. สนค้าน าเข้า ข. ราคาถูกใช้งานด ี
ิ
ี่
ี่
ื่
็
ี
ค. มเครองหมาย มอก. ง. ยี่ห้อทก าลังเปนทนยมใช้
ิ
ี่
ี่
ิ
ุ
้
8. การปฏบัตงานด้านไฟฟาทปลอดภัยข้อใดถูกต้องทสด
ี
ิ
ิ
ั
ี
่
้
ก. ปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาแต่ละคร้งควรท าคนเดยวโดยล าพัง
ุ
้
์
ื่
ข. อุปกรณและเครองไฟฟาช ารดเพียงเล็กน้อยยังสามารถใช้งานได้ปกต ิ
ี่
ิ
ี
้
้
ิ
ค. การปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาท าได้ทันทโดยไม่ต้องตรวจสอบไฟฟาในระบบ
้
้
ิ
ิ
ื่
ู
ื
ี
ื่
ี่
ึ
ง. การปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาเมอรสกอ่อนเพลย เหนอย หรอง่วงนอนไม่ควรท างาน
้
ึ
่
่
้
9. ขณะไฟฟาไหลผ่านรางกายคน เพราะเหตุใดจงไม่สามารถชวยตัวเองให้หลุดพ้นจากไฟฟาได้
ก. เลอดในรางกายหยุดการไหลเวียน
่
ื
ี
่
ื
ิ
ข. ไมมแรงพอและกล้ามเน้อเกดการหดตัว
ิ
ี
ค. เกดอาการอ่อนเพลยง่วงนอนและนอนหลับ
ง. สมองสับสนไม่สามารถบังคับและควบคุมตนเองได้
ื
่
้
10. การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาข้อใดถูกต้องเหมาะสม
้
ื
็
ก. ใช้มอจับฉนวนสายไฟฟาออกจากตัวผู้ประสบภัยโดยเรว
ู
ื
้
ื
ี
ู
่
่
ี
ข. รบลงไปชวยเหลอทันทเมอผู้ประสบภัยถกไฟฟาดดในน ้า
ี
้
ี
็
ี
ั
ค. ใช้มด ขวาน ของมคมมด้ามเปนฉนวนฟนสายไฟฟาให้ขาด
ิ
้
ง. ตัดก่งไม้ยาวๆ มาเขี่ยสายไฟฟาออกจากตัวผู้ประสบภัยทันท ี
ใบปฏบัติงาน การชวยเหลอผูประสบอันตราย
ิ
้
ื
่
1.1 จากไฟฟาดูด
้
้
์
ี
จุดประสงคการเรยนรู
่
ื
้
ู
1. บอกขั้นตอนการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดได้
ี
่
2. แสดงวิธการชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดได้
้
ื
ู
ิ
3. เกดความตระหนักในการท างาน
ื
่
ื
เครองมอและอุปกรณ ์
ุ
ื
1. ไม้แห้งขนาดพอเหมาะ (หรอท่อ PVC ขนาด 6 หล) ยาว 1.5 เมตร 1 ท่อน
ื
2. เชอกยาว 2 เมตร 1 เส้น
ิ
3. ผ้าพลาสตกขนาด 1 x 2 เมตร 1 ผืน
ล าดับขันการทดลอง
้
1. แบ่งนักเรยนออกเปนกลุ่มละ 2 คน
็
ี
ิ
2. จ าลองเหตุการณขึ้นมา เชน ผู้ประสบอันตรายถูกไฟฟาดดตดอยู่กับสายไฟ
ู
่
้
์
่
ื
้
ู
็
ี่
ี
ึ
่
ิ
3. ฝกปฏบัตให้การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายถูกไฟฟาดด โดยให้นักเรยนคนหนงท าหน้าทเปนผู้ประสบอันตราย
ิ
ึ
ื
ี่
็
่
่
ู
ี
ึ
้
ถูกไฟฟาดด นักเรยนอีกคนหนงท าหน้าทเปนผู้ให้การชวยเหลอ
4. นักเรยนทท าหน้าทเปนผู้ให้การชวยเหลอ ฝกให้การชวยเหลออย่างถกวธเปนล าดับดังน้ ี
ื
่
ึ
ี่
ู
่
ี่
ื
ี
ี
็
ิ
็
ื
ี
4.1 หาไม้แห้ง หรอท่อ PVC มความยาวพอเหมาะ เขี่ยสายไฟให้หลุดออกจากผู้ประสบอันตราย
ึ
่
ื
4.2 ใช้เชอกคล้องตัวผู้ประสบอันตราย ดงออกมาให้หางจากสายไฟ
่
่
ี
5. สบเปลยนหน้าทการฝกปฏบัต ท าการฝกปฏบัตในลักษณะเดยวกันตามขั้นตอน
ั
ี
ึ
ิ
ิ
ึ
ี
ิ
ิ
6. ฝกปฏบัตหลายๆ คร้งให้เกดความช านาญ
ึ
ิ
ิ
ั
ิ
สรุปผลการทดลอง
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
ค าถามและการวิเคราะห
์
้
ู
็
ื
1. การชวยเหลอผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดท าได้อย่างไร บอกมาเปนล าดับ
่
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
ั
ใบปฏิบัติงาน การนวดหวใจผูประสบอันตราย
้
1.2 จากไฟฟาดูด
้
้
ี
์
จุดประสงคการเรยนรู
้
ู
1. บอกขั้นตอนการนวดหัวใจผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดได้
2. แสดงวิธการนวดหัวใจผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดดได้
ี
ู
้
ิ
3. เกดความสามัคคีในการท างานกลุ่ม
่
เครองมอและอุปกรณ ์
ื
ื
ื
1. ตุ๊กตา CPR หรอตุ๊กตาหมขนาดพอเหมาะ 1 ตัว
ี
ิ
2. ผ้าพลาสตกขนาด 1 x 2 เมตร 1 ผืน
้
ล าดับขันการทดลอง
ื
ี
ิ
1. ฝกปฏบัตการนวดหัวใจให้ผู้ปวย โดยน าตุ๊กตา CPR หรอตุ๊กตาหมทเตรยมไว้แทนผู้ประสบอันตราย
ิ
่
ี
ึ
ี่
์
ุ
่
2. จ าลองเหตุการณขึ้นมา เชน หลังจากชวยเหลอผู้ประสบอันตรายให้หลดจากสายไฟแล้ว หัวใจผู้ประสบอันตราย
่
ื
หยุดเต้น
ึ
ื
3. ฝกหัดการนวดหัวใจ โดยให้ผู้ประสบอันตรายนอนราบกับพ้นแข็ง
ิ
่
ื
4. ผู้ชวยเหลอคุกเข้าลงข้างขวาหรอข้างซ้ายบรเวณหน้าอกผู้ประสบอันตราย
ื
ี่
ี่
ู
ื
่
ู
ุ
5. คล าหาสวนล่างสดของกระดกอกทต่อกับกระดกซโครง โดยใช้สองน้วสมผัสสวนลาง สดของกระดกอก ใช้ฝามอ
่
ิ
ั
่
ุ
ู
่
ู
ี
ื
่
อกข้างวางไลขึ้นมา การหาต าแหนงวางมอนวดหัวใจ แสดงดังรปที่ 1.1
่
่
ี
ี
ิ
ื
ื
ู
ิ
่
6. วางมออีกข้างทับบนหลังมอทวางไว้แล้วในต าแหนงทถกต้อง เหยยดน้วมอตรง และเกยวน้วมอ 2 ข้างเข้าด้วยกัน
ื
ี
ี
ื
่
่
ึ
ื
การประสานมอฝกนวดหัวใจ
7. เหยยดแขนตรง โน้มตัวตั้งฉากกับหน้าอกผู้ประสบอันตราย ท้งน ้าหนักลงบนแขนขณะกดหน้าอกผู้ประสบ
ิ
ี
ิ
่
ุ
ื
อันตราย ให้กระดกหน้าอกลดระดับลง 1.5 – 2 น้ว เมอกดสดให้ผ่อนมอขึ้นทันท ลักษณะการกดหน้าอกผู้ประสบอันตราย
ี
ื
ู
ู
แสดงดังรปที่ 1.2
ื
ึ
ื
่
ี
่
ี
่
รูปท 1.1 การหาต าแหนงวางมอนวดหัวใจ รูปท 1.2 การประสานมอฝกกดนวดหัวใจ
ี
่
8. ขณะกดหน้าอกแต่ละคร้งให้นับเลขตามไปด้วย ดังน้ 1 และ 2 และ 3 และ 4 และ 5 โดยกดหน้าอกทุกคร้งทนับ
ั
ี
ั
ั
ี
่
ื
ตัวเลข และปล่อยมอขณะค าว่า “และ” ท าเชนน้สลับกันไป ในอัตราการกดประมาณ 90 – 100 คร้ง/นาท ี
ิ
ึ
ี่
ิ
9. ผลัดเปลยนการฝกปฏิบัตให้ครบทุกคน และฝกปฏบัติจนเกดความช านาญ
ิ
ึ
สรุปผลการทดลอง
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
์
ค าถามและการวิเคราะห
่
็
้
ู
1. บอกวิธหาต าแหนงจุดนวดหัวใจของผู้ประสบอันตรายจากไฟฟาดด บอกเปนล าดับ
ี
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________________
ึ
แบบฝกหัดผลการน าเสนอผลงาน
ื่
ชอกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง
............................
ื่
ิ
รายชอสมาชก
1……………………………………เลขท…….
ี่
ี่
2……………………………………เลขท…….
ี่
3……………………………………เลขท…….
ี่
4……………………………………เลขท…….
ิ
ท ี่ รายการประเมน คะแนน ข้อคิดเห็น
3 2 1
1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกียวกับเนื้อหา ความถูกต้อง
่
ั
ิ
ปฏภาณในการตอบ และการแก้ไขปญหาเฉพาะหน้า)
ู
2 รปแบบการน าเสนอ
3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม
4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น ้าเสียง ซึ่งท าให้ผู้ฟังมีความ
สนใจ
รวม
ิ
ผู้ประเมน…………………………………………………
้
์
เกณฑการใหคะแนน
ื
1. เน้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง
ี
3 คะแนน = มสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจดประสงค์
ุ
2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์
1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์
2. รปแบบการน าเสนอ
ู
ื่
ู
ี่
ี่
ิ
ี
ี
3 คะแนน = มรปแบบการน าเสนอทเหมาะสม มการใช้เทคนคทแปลกใหม่ ใช้สอและเทคโนโลยี
่
ี
ุ
ิ
ประกอบการ น าเสนอทนาสนใจ น าวัสดในท้องถ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด
่
่
ี่
ื่
ิ
ี
2 คะแนน = มเทคนคการน าเสนอทแปลกใหม่ ใช้สอและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่นาสน ใจแต่
ิ
ุ
ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดในท้องถ่น
่
ิ
1 คะแนน = เทคนคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่นาสนใจ
3. การมสวนรวมของสมาชกในกลุ่ม
ิ
ี
่
่
่
3 คะแนน = สมาชกทุกคนมีบทบาทและมสวนรวมกจกรรมกลุ่ม
ิ
่
ี
ิ
่
ี
ิ
่
ิ
่
ี
2 คะแนน = สมาชกสวนใหญ่มบทบาทและมสวนรวมกจกรรมกลุ่ม
ี
1 คะแนน = สมาชกสวนน้อยมบทบาทและมสวนรวมกจกรรมกลุ่ม
่
่
ี
ิ
่
ิ
ั
4. ความสนใจของผู้ฟง
้
ั
ื
3 คะแนน = ผู้ฟงมากกว่ารอยละ 90 สนใจ และให้ความรวมมอ
่
ั
่
ื
้
2 คะแนน = ผู้ฟงรอยละ 70-90 สนใจ และให้ความรวมมอ
ั
ื
่
้
1 คะแนน = ผู้ฟงน้อยกว่ารอยละ 70 สนใจ และให้ความรวมมอ
แบบฝกหัดกระบวนการท างานกล่ม
ุ
ึ
ชอกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง
ื่
............................
ื่
ิ
รายชอสมาชก
ี่
1……………………………………เลขท…….
ี่
2……………………………………เลขท…….
ี่
3……………………………………เลขท…….
ี่
4……………………………………เลขท…….
ิ
ท ี่ รายการประเมน คะแนน ข้อคิดเห็น
3 2 1
่
้
1 การก าหนดเปาหมายรวมกัน
2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม
3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน
รวม
ิ
ผู้ประเมน…………………………………………………
ื
ี่
วันท…………เดอน……………………..พ.ศ…………...
้
์
เกณฑการใหคะแนน
1. การก าหนดเปาหมายรวมกัน
้
่
่
้
3 คะแนน = สมาชกทุกคนมีสวนรวมในการก าหนดเปาหมายการท างานอย่างชัดเจน
่
ิ
่
2 คะแนน = สมาชกสวนใหญ่มีสวนรวมในการก าหนดเปาหมายในการท างาน
้
ิ
่
่
้
่
่
ิ
่
1 คะแนน = สมาชกสวนน้อยมีสวนรวมในการก าหนดเปาหมายในการท างาน
ี่
้
ั
ี
2. การหน้าทรบผิดชอบและการเตรยมความพรอม
ี
่
ื
ี
่
3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกทกคน มการจัดเตรยมสถานท สอ /
ี
ิ
ุ
ี
อุปกรณ์ไว้อย่างพรอมเพรยง
้
่
้
่
ื
2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แตไมตรงตามความสามารถ และมสอ / อุปกรณ์ไว้อย่างพรอมเพรยง แต่ขาด
ี
่
ี
ี
การจัดเตรยมสถานท ี่
่
่
ี
ื
1 คะแนน = กระจายงานไมทั่วถึงและมสอ / อุปกรณ์ไม่เพียงพอ
3. การปฏบัตหน้าททได้รบมอบหมาย
ิ
ี่
ี่
ั
ิ
็
ี่
3 คะแนน = ท างานได้ส าเรจตามเปาหมาย และตามเวลาทก าหนด
้
ี่
้
็
2 คะแนน = ท างานได้ส าเรจตามเปาหมาย แต่ช้ากว่าเวลาทก าหนด
้
็
1 คะแนน = ท างานไม่ส าเรจตามเปาหมาย
ุ
ั
4. การประเมินผลและปรบปรงงาน
ุ
ั
3 คะแนน = สมาชกทุกคนรวมปรกษาหารอ ตดตาม ตรวจสอบ และปรบปรงงานเปนระยะ
็
ิ
ึ
ิ
ื
่
ั
่
ึ
ื
2 คะแนน = สมาชกบางสวนมีสวนรวมปรกษาหารอ แต่ไม่ปรบปรงงาน
ิ
่
ุ
่
่
่
่
1 คะแนน = สมาชกบางสวนมีสวนรวมไม่มีสวนรวมปรกษาหารอ และปรบปรงงาน
ิ
ื
ั
ุ
่
่
ึ
เฉลยบทที่ 1 ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟา
้
ตอนที่ 1
1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ข
6. ง 7. ค 8. ง 9. ข 10. ค
ตอนที่ 2
ี
้
ุ
1. ไฟฟาคืออะไร มอันตรายต่อมนษย์อย่างไร
ไฟฟาเปนพลังงานทสามารถเปลยนแปลงรปพลังงานได้ โดยอาศัยค่าแรงดันและกระแส จ่ายไปให้อุปกรณ
ี่
ี่
ู
็
์
้
เครองมอ และเครองใช้ไฟฟาให้เกดการท างาน โดยจ่ายไปในรปกระแสไหล ไฟฟาเคลอนทได้ดในวัตถุตัวน าจ าพวกโลหะ
ู
ี
ื
้
ิ
ื่
้
ื่
ี่
ื่
ิ
่
ู
ื
ื
่
่
่
ี
ื
่
ิ
ี
็
้
ิ
ชนดต่างๆ เชน ทองค า ทองแดง เงน เหล็ก ตะกั่ว และอะลมเนยม เปนต้น ไฟฟาไมสามารถเคลอนทผ่านไปได้หรอเคลอนท ี ่
็
ี
ี่
็
ิ
ิ
้
ิ
็
่
ไปได้ล าบากในวัตถทเปนพวกฉนวน เชน พลาสตก ยาง แก้ว ไม้ และเซรามก เปนต้น ไฟฟาเปนส่งทมองไม่เห็น ไม่สามารถ
ุ
่
ู
้
ู
ิ
ั
้
้
ื
รบรได้นอกจากไปสมผัสโดยตรง ก่อให้เกดอันตรายต่อผู้สมผัสถกไฟฟา จงมักเรยกวาภัยมด ไฟฟามประโยชน์อนันต์และม ี
ี
ั
ึ
่
ี
ั
ั
ี่
ึ
ึ
็
้
โทษมหันต์ ผู้ทใช้ไฟฟาทุกคนจ าเปนต้องค านงถงความปลอดภัยในการใช้งานทุกคร้ง และใช้งานด้วยความระมัดระวัง โดย
ไม่ตกอยู่ในความประมาท
ิ
ิ
่
้
ี
ื
้
โทษของไฟฟามมากมายมหาศาล สวนใหญ่เกดจากการใช้ไฟฟาอย่างผิดวธ ขาดความระมัดระวัง หรอใช้ไฟฟาด้วย
ี
้
ิ
้
ิ
ั
ความประมาทเลนเล่อ ก่อให้เกดอันตรายตามมาอย่างมากมาย ทั้งต่อทรพย์สน เชน อุปกรณไฟฟาและอิเล็กทรอนกสช ารด
ุ
ิ
์
่
์
ิ
่
ื
เสยหาย และท าให้เกดเพลงไหม้ หรออันตรายต่อรางกายมนษย์ เชน รางกายพิการ และเสยชวต จงจ าเปนต้องมการปองกัน
ี
็
ี
ุ
่
้
ิ
ิ
ี
่
ี
ึ
ิ
ิ
้
อันตรายทอาจเกดขึ้นจากการใช้ไฟฟา อันตรายเกดจากไฟฟาแบ่งออกได้เปน 2 ลักษณะ คือ ไฟฟาช็อต และไฟฟาดด ทั้งสอง
็
้
ู
ิ
ี่
้
้
็
ี
ี
ี
่
ี
ิ
่
ั
ลักษณะน้มสาเหตุของการเกดทต่างกัน และอันตรายทได้รบกต่างกันด้วย
็
้
ี
2. ไฟฟามประโยชน์อะไรบ้างบอกมาเปนข้อๆ
ประโยชน์ของไฟฟา มมากมายมหาศาล ถกน าไปใช้งานอย่างแพรหลายทั่วไป เชน งานการผลตทางอุตสาหกรรม
่
ู
ี
ิ
้
่
ื่
ิ
ู
้
งานทางการเกษตร งานด้านสอสารโทรคมนาคม งานด้านให้บรการ งานด้านอ านวยความสะดวก และการให้ความร ความ
ี
ื
ิ
้
่
ิ
็
บันเทง เปนต้น ประโยชน์ของไฟฟาเมอพจารณาทางด้านการน าไปใช้งาน แบ่งออกได้ดังน้
้
ี
้
ุ
1. ให้ความรอน โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนความรอน เชน เตาไฟฟา เตาอบ เตารดไฟฟา หม้อหงข้าว
่
ี่
้
็
้
้
้
้
ื่
ี
็
่
ไฟฟา เครองเปาผม และหัวแรงบัดกร เปนต้น
็
้
2. ให้ความเย็น โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนความเย็น เชน ตู้แชแข็ง ตู้เย็น ตู้น ้าเย็น และ
ี่
่
่
็
ั
ื่
เครองปรบอากาศ เปนต้น
ี่
้
่
์
3. ให้พลังงานกล โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนพลังงานกล เชน มอเตอร พัดลม สวานไฟฟา
่
้
็
่
ื่
ู
็
ื่
เครองซักผ้า และเครองดดฝุน เปนต้น
็
้
่
ิ
4. ให้อ านาจแม่เหล็ก โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนสนามแม่เหล็ก เชน กระด่ง ไฟฟา หม้อแปลงไฟฟา
้
้
ี่
็
้
ล าโพง และแม่เหล็กไฟฟา เปนต้น
ิ
้
ี่
่
้
่
็
5. ให้แสงสว่าง โดยเปลยนพลังงานไฟฟาให้เปนแสงสวาง เชน ไฟฉาย หลอดไฟฟา และการเกดประกาย
้
ื่
็
ไฟจากการเชอมไฟฟา เปนต้น
์
ิ
์
้
ิ
6. ให้ความสะดวกสบาย โดยจ่ายพลังงานไฟฟาไปให้อุปกรณอิเล็กทรอนกส ท าให้เกดการท างานใน
ิ
ั
ื่
ื่
์
ิ
ี
ี
่
อุปกรณอิเล็กทรอนกสชนดต่างๆ เชน เครองรบวทยุ เครองรบโทรทัศน์ เครองขยายเสยง เครองเล่นวดทัศน์ คอมพิวเตอร ์
ิ
ื่
ื่
์
ั
ี
ื่
็
โทรศัพท์ และวิทยุสอสาร เปนต้น
ิ
ิ
่
ิ
ี
่
ิ
่
ิ
ิ
3. ปรมาณกระแสไหลผ่านรางกายคนแตกต่างกัน จะเกดผลต่อปฏกรยาทเกดขึ้นกับรางกายคนอย่างไร
ี
ู
ื่
้
ิ
่
ื
รางกายคนเมอถูกไฟฟาดด จะเกดอาการเกรงของกล้ามเน้อจนไมมแรงสะบัดให้หลุดออกจากไฟฟาได้ ผลของ
็
่
้
ี
่
ื
่
ิ
ิ
่
ี
ึ
ื
ี
ี
ู
ไฟฟาดดอาจท าให้บาดเจ็บ พิการ หรออาจถงเสยชวตได้ อันตรายทเกดขึ้นจะมากหรอน้อยขึ้นอยูกับขนาดของกระแสทไหล
้
ิ
ผ่านรางกายไป กระแสไหลผ่านน้อยเกดอันตรายน้อย กระแสไหลผ่านมากเกดอันตรายมาก ความสัมพันธ์ของปรมาณกระแส
่
ิ
ิ
ี
่
ี
ิ
่
ิ
ิ
ิ
ไหลผ่านรางกายคนมผลต่อปฏกรยาทเกดขึ้น แสดงได้ดังตาราง
่
ิ
ปรมาณกระแสไหลผาน
ิ
ปฏิกิรยาที่เกิดขึ้น
่
รางกายคน
ิ
์
้
ู
ื
ี
ิ
ึ
่
ต ากว่า 0.5 มลลแอมป (mA) ยังไม่มผลหรอไม่รสก
ู
ื
ึ
ี
้
1 mA รสกจั๊กจ้หรอกระตุกเล็กน้อย
รสกส่นเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บ คนสวนใหญ่สามารถหนได้ แต่การ
้
ึ
ั
ู
ี
่
5 mA
ิ
ี่
ื่
เคลอนทอย่างไม่ระวังจะท าให้เกดอันตรายได้
ิ
ื
ึ
ู
ิ
ี
ี
่
้
ู
6 – 25 mA (ผู้หญง) รสกเจ็บปวด สญเสยการควบคุมกล้ามเน้อ นคือปรมาณกระแสท ่ ี
ื
9 – 30 mA (ผู้ชาย) รางกายไมสามารถขยับเขย้อนได้
่
่
ี่
ั
็
ี่
ได้รบความเจ็บปวดเปนอย่างมาก อวัยวะทเกยวกับการหายใจหยุด
ุ
ื
ื
50 – 150 mA ท างาน กล้ามเน้อหดตัวอย่างรนแรง กล้ามเน้อข้อต่อจะแข็ง ท าให้
ี
เสยชวิตได้
ี
ื
หัวใจหยุดเต้น กล้ามเน้อหดตัว เสนประสาทถูกท าลาย ท าให้
้
์
1 – 4.3 แอมแปร (A)
ี
ี
เสยชวิต
ี
ี
ุ
10 A หัวใจหยุดเต้น และถูกเผาไหม้อย่างรนแรง เสยชวิต
่
ิ
์
์
ุ
ื
ี่
ิ
์
ิ
15 A กระแสเกนค่าต าสดทฟวส หรอเซอรกตเบรกเกอรจะตัดวงจร
ี่
ิ
็
ิ
้
4. บอกหลักการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาทปลอดภัยมาเปนข้อๆ ตามล าดับ
หลักการปฏบัตงานทางด้านไฟฟาทปลอดภัย มดังน้
ี
่
ี
ี
ิ
้
ิ
่
้
ั
ึ
ุ
ึ
ื่
1. ควรค านงถงกฎแหงความปลอดภัยทุกคร้ง ขณะท างานหรอซอมบ ารงเครองใช้ไฟฟา อปกรณไฟฟา และอย่า
้
ุ
่
์
ื
ท างานด้วยความประมาท
้
้
ุ
2. ก่อนการปฏบัตงานเกยวกับไฟฟา ต้องถอวาเครองใช้ไฟฟา อปกรณไฟฟาเหลานั้นมไฟฟาจ่ายอยู่ ต้องตรวจสอบ
ิ
ี
่
่
ี
ิ
์
่
้
่
ื
ื
้
้
่
ี
่
่
จนแนใจก่อนวาไมมไฟฟาจ่ายให้แล้ว
ิ
้
ิ
3. ปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาเรองใด ต้องมความรความเข้าใจในเรองนั้นก่อนการปฏบัตงาน หรอถ้าไม่รไม่เข้าใจควร
ิ
ี
ื
ื
ู
้
่
่
ื
ิ
ี
้
ู
่
ู
ู
้
็
้
สอบถามผู้ร และให้ผู้รเปนผู้กระท า
ิ
ิ
์
ื่
ื
ี่
ื
4. อุปกรณและเครองมอทใช้ในการปฏบัตงาน หากมสวนช ารดหรอไม่สมบูรณไม่ควรน ามาใช้งาน
์
ี
่
ุ
ึ
้
ู
ั
ี
ื่
ื
ื่
ึ
5. อย่าปฏบัตงานเมอรสก เหนอย อ่อนเพลย ง่วงนอน หรอรบประทานยาท าให้เกดอาการง่วงซม
ิ
ิ
ิ
ื
ื
ื
ิ
ิ
ี
่
ี
ิ
้
ู
่
ี
6. อย่าปฏบัตงานในขณะมอเปยกน ้า หรอยนอยูบนพ้นทเปยกน ้า ท าให้เกดอันตรายจากไฟฟาดดได้ง่าย
ื
ิ
่
็
ื
้
ิ
ื
ี
ี่
ิ
ิ
ี
ิ
7. ถ้าจ าเปนต้องปฏบัตงานในบรเวณทมคนพลุกพล่าน หรอมการปฏบัตงานอื่นๆ รวมด้วย ต้องแขวนปายหรอเขียน
็
ั
้
ิ
ิ
ิ
้
ปายแสดงการงดใช้ไฟฟาไว้ให้มองเหนชัดเจนทุกคร้งก่อนเร่มการปฏบัตงาน
ิ
่
ี่
็
ิ
ิ
ิ
ื
่
ี่
้
8. ถ้าจ าเปนต้องปฏบัตงานในบรเวณทไม่สามารถตัดไฟออกได้ จะต้องกั้นบรเวณหรอปองกันไมให้ผู้ไมเกยวข้อง
เข้าใกล้ได้
ี่
ื่
ิ
ิ
ี
่
9. การปฏบัตงานถ้ามการละงานไปชั่วคราว เชน พักเทยง เมอกลับมาปฏบัตงานต่อ ต้องตรวจสอบสวตช์ตัดตอน
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
่
ิ
่
ี
ื
่
สะพานไฟ ตลอดจนเครองหมายต่างๆ ทท าไว้ต้องอยูในสภาพเดมก่อนปฏบัตงานต่อไป
ิ
ิ
10. การปฏบัตงานแต่ละคร้ง ควรมผู้รวมปฏบัตงานด้วยอย่างน้อย 2 คน
ี
ิ
ั
ิ
่
่
ิ
่
่
ื
ู
้
ิ
่
ิ
้
11. การปฏบัตงานเกยวกับไฟฟาแรงสง ควรใช้เครองชวยปองกันไฟฟาให้มากขึ้นกวาปกต เชน ใช้เสอยางฉนวนปู
ี่
้
ื่
ื
ุ
ั
พ้น สวมถงมอฉนวน และปลอกแขนฉนวน เปนต้น ก่อนการปฏบัต งานทุกคร้ง
ิ
ื
ิ
็
ิ
็
5. อธบายการผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปากมาเปนข้อๆ ตามล าดับ
่
ี
การผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปาก เปนวธพ้นฐานทจ าเปนต้องปฏบัตในเบ้องต้น ท าได้ดังน้ ี
็
ิ
ิ
ิ
็
ี
ื
ื
ื
1. ให้ผู้ปวยนอนหงายราบกับพ้น จัดท่านอนให้เหมาะสม เพื่อเปดทางให้มีอากาศเข้าสปอดได้สะดวก โดยผู้ปฐม
่
่
ู
ิ
ื
ี
่
ิ
พยาบาลจะอยู่ทางด้านขวา หรอด้านซ้ายบรเวณศรษะของผู้ปวยก็ได้
็
ึ
ิ
ึ
ื
้
้
ี
่
่
่
ื
ื
2. ใช้มอข้างหนงดงคางผู้ปวยหรอดันใต้คอพรอมกับใช้มออีกข้างดันหน้าผากให้หน้าแหงน เปนวิธปองกันไมให้ล้นตก
ึ
ี
่
ไปอุดปดทางเดนหายใจ และต้องระวังไมให้น้วมอทดงคางนั้น กดลกลงไปในสวนของเน้อใต้คาง เพราะจะท าให้อดกั้น
ึ
ื
ิ
่
ิ
่
ิ
ุ
ื
ิ
ทางเดนหายใจได้ โดยเฉพาะอย่างย่งในเด็กเล็ก ส าหรบในเด็กแรกเกด ไม่ควรหงายคอมากเกนไป เพราะอาจท าให้เกด
ิ
ิ
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
หลอดลมแฟบ และเกดอุดตันทางเดนหายใจได้
ิ
่
่
่
ื
3. สอดน้วหัวแมมอเข้าในปากผู้ปวย จับขากรรไกรลางยกขึ้นจนปากอ้าออก
ี่
่
4. ล้วงเอาส่งอนๆ ทอาจมตดค้างอยู่ในปากและล าคอออกให้หมด เชน ฟนปลอม และเศษอาหาร เปนต้น เพื่อไม่ให้
ี
ิ
่
ิ
ั
็
ื
ขวางทางลม
ั
ู
ิ
่
่
5. ตรวจสอบการหายใจของผู้ปวย โดยเอียงหน้ามองไปทางปลายเท้าผู้ปวย ให้หชดปากผู้ปวย เพื่อฟงเสยงหายใจ ตาด ู
่
ี
่
ึ
ื่
่
การ เคลอนไหวของทรวงอก ถ้าผู้ปวยหายใจได้เองอย่างเพียงพอ ให้จัดท่านอนให้ผู้ปวยใหม่ โดยจัดให้นอนตะแคงกงคว าเพื่อ
่
่
นอนพัก
่
่
6. ถ้าผู้ปวยไม่หายใจ ให้ผู้ปฐมพยาบาลท าการผายปอดด้วยการเปาปากผู้ปวย ผู้ปฐมพยาบาลอ้าปากให้กว้างหายใจ
่
ิ
ี่
ึ
่
ื
่
่
เข้าปอดเต็มท มอข้างหนงบบจมูกผู้ปวยให้แนนสนท มออีกข้างหนงยังอยู่ทคางผู้ปวยอยู่ แล้วจงประกบปากปดปากผู้ปวยให้
ิ
่
ื
ึ
ี่
ี
ึ
่
่
็
ิ
้
ี
ั
่
ี
ั
สนท พรอมกับเปาลมเข้าไปเปนจังหวะประมาณ 12 – 15 คร้ง/นาท ในเด็กเล็กประมาณ 20 – 30 คร้ง/นาท
ื
ี
่
7. ขณะท าการเปาปากผู้ปวย ตาต้องเหลอบดด้วยว่า หน้าอกผู้ปวยมอาการขยายขึ้นลงหรอไม่ หากไม่มการกระเพื่อม
ู
่
่
ี
ื
ี
ขึ้นลงอาจเปนเพราะท่านอนไมดหรอมส่งกดขวางทางเดนหายใจ ซงต้องรบแก้ไขจัดท่าใหม และอย่าให้มส่งกดขวางทางเดน
็
ิ
่
ิ
ี
ี
ี
ิ
ี
ิ
ึ
ี
่
ื
่
หายใจ
ิ
่
ี
ี
่
ี่
ิ
่
ื
ิ
8. ถ้ากรณทไม่สามารถอ้าปากของผู้ปวยได้ ให้ใช้มอปดปากผู้ปวยให้สนท และเปาลมเข้าทางจมูกแทน โดยใช้วธการ
ี
ิ
ิ
่
ปฏบัตในท านองเดยวกับการเปาปาก
่
่
่
็
ื้
่
ื
่
ั
ื่
9. ขณะน าสงโรงพยาบาล ให้ท าการเปาปากไปด้วยจนกวาผู้ปวยจะฟน หรอเมอได้รบการชวยเหลอจากแพทย์เปนท ี่
ื
้
ี
เรยบรอยแล้ว
บันทึกหลังการสอน
์
บทที่ 1 ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟาและอิเล็กทรอนิกส
้
ี
ผลการใช้แผนการเรยนร ู ้
ิ
ิ
ื
1. เน้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์เชงพฤตกรรม
ิ
ี
ิ
2. สามารถน าไปใช้ปฏบัตการสอนได้ครบตามกระบวนการเรยนการสอน
ื่
3. สอการสอนเหมาะสมด ี
ผลการเรยนของนักเรยน
ี
ี
ี
ึ
ิ
่
ู
้
่
่
่
1. นักศกษาสวนใหญ่มีความสนใจใฝร เข้าใจในบทเรยนรวมกัน อภปรายตอบค าถามในกลุ่ม และรวมกันปฏิบัต ิ
ิ
ี่
ั
ใบปฏบัติงานทได้รบมอบหมาย
ั
ื
ี่
ื
็
ึ
2. นักศกษากระตอรอร้นและรบผิดชอบในการท างานกลุ่มเพื่อให้งานส าเรจทันเวลาทก าหนด
ู
้
ึ
3. นักศกษาปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟาดด
ู
ผลการสอนของคร
ู
ื
1. สอนเน้อหาได้ครบตามหลักสตร
ื
ี
ิ
ุ
2. แผนการสอนและวธการสอนครอบคลมเน้อหาการสอนท าให้ผู้สอนสอนได้อย่างมั่นใจ
ี่
3. สอนได้ทันตามเวลาทก าหนด
ั
ปญหาและอุปสรรค์
ี
1. นักศกษาแต่ละคนมความรพ้นฐานในเน้อหาทเรยนไมเท่ากัน
ื
่
ึ
่
ี
ู
ี
ื
้
ึ
ิ
ิ
2. นักศกษาแต่ละคนมีทักษะในการปฏบัตงานไม่เท่ากัน