341
7) ให้เขยี นโปรแกรมตอ่ ตามตวั อยา่ ง จนถึงคำสัง่ Compare ดับเบิ้ลคลกิ ที่กล่มุ คำส่งั Compare Real จะปรากฏคำส่งั
8) เลือ่ นเมาสช์ ที้ ี่คำสัง่ คลกิ เมาสซ์ า้ ย 1 คร้งั จะปรากฏคำส่งั เข้าใน Main Program
9) เครือ่ งหมาย ???? ดา้ นบน (IN1) ให้ใสต่ วั แปร VD200 และเคร่อื งหมาย ???? ดา้ นล่าง (IN2) ใหใ้ สค่ ่าตวั เลข 50.0 ดัง
รปู ท่ี 10.26
ดา้ นบน (IN1) ใส่ตวั แปร VD200
ดา้ นลา่ ง (IN2) ให้ใสค่ า่ ตวั เลข 50.0
รูปท่ี 10.26 การกำหนดค่าทค่ี ำส่งั Compare Real
10) จากนัน้ เขียนโปรแกรม ตามตวั อย่างที่ 10.4 จนครบ
11) หากโปรแกรม ที่ทดลองผิดพลาด สามารถกลับไปแก้ไขได้ เมื่อแก้ไขเสร็จสมบูรณ์ ให้ทำตามขั้นตอนเดิม คือ
การ Compile All, การ Download, การ RUN และ การ Program Status ตามลำดับ
12) ทดลองการทำงานเมือ่ สง่ั Run โปรแกรม คา่ เวลาของ TON จะเรมิ่ ตน้ ท่ี 0 คำสัง่ Convert I_DI รับคา่ อินพุตจาก
T101 และส่งไปเก็บไว้เอาตพ์ ตุ ที่ตวั แปร VD100 จากนนั้ คำส่ัง Convert DI_R จะสง่ ตอ่ คา่ อินพตุ จากตวั แปร VD100 ไปเกบ็ ไว้
เอาตพ์ ตุ ทีต่ ัวแปร VD200 กจ็ ะมคี ่าเทา่ กับ 0 รวมถึงคำสง่ั Compare Real ซึง่ รับคา่ เวลาจากตัวแปร VD200 จะเป็น 0 เช่นกนั
โปรแกรมจะยงั ไม่ทำงานจนกวา่ I0.0 จะมสี ภาวะเปน็ On ดงั รูปท่ี 10.27
รปู ท่ี 10.27 โปรแกรมขณะเริ่ม Run
13) เมื่ออินพุต I0.0 มีสภาวะ On (Onค้าง) จะมีสัญญาณเข้าที่ขา IN ของ TON คำสั่ง TON (T101) จะเริ่มนับเวลา
SM0.0 มีสภาวะเป็น On ตลอดเวลา ค่าเวลาที่เปลี่ยนแปลงของ TON จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ตัวแปร VD200 เมื่อค่าเวลาของ
342
TON มีค่าเท่ากับหรือมากกวา่ 5 วินาที หน้าสัมผัสของคำส่ัง Compare Real จะมีสภาวะ On ส่งผลให้เอาต์พุต Q0.0 ทำงาน
ดงั รูปท่ี 10.28
รูปที่ 10.28 การทำงานเมอื่ โยกสวติ ช์ I0.0
สรปุ
คำสั่ง Compare เป็นคำสั่งท่ใี ชใ้ นการเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ระหวา่ งคา่ 2 ค่า (ค่า IN1 กบั คา่ IN2) โดยแบง่ ตามขนาด
ของขอ้ มูล และมเี ครือ่ งหมายเขา้ มาเกีย่ วขอ้ งเช่น == (เท่ากับเทา่ กบั ), <> (นอ้ ยกวา่ หรือมากกว่า), >= (มากกว่าหรือ
เท่ากบั ), <= (นอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กับ), >(มากกว่า), < (น้อยกวา่ ) คำสง่ั Compare แบง่ ตามขนาดของขอ้ มลู คือ
คำส่งั
Compare Byte เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูลขนาด 8 บิตหน้าสัมผสั
ของคำสั่ง Compare Byte จะมีสภาวะ On เมื่อการเปรียบเทียบค่าท้ัง
สองคา่ นนั้ ถกู ตอ้ งหรอื เป็นจรงิ
Compare Integer เปน็ คำสั่งทีใ่ ชใ้ นการเปรียบเทยี บข้อมูลขนาด 16 บิตหน้าสัมผสั
ของคำสั่ง Compare Integer จะมีสภาวะ Onเมื่อการเปรียบเทียบคา่ ทงั้
Compare Double 2 คา่ นั้นถูกต้องหรือเปน็ จรงิ
Integer
เป็นคำส่ังท่ีใชใ้ นการเปรยี บเทยี บข้อมลู ขนาด 32 บิตหน้าสมั ผสั
Compare Real ของคำสั่ง Compare Double Integer จะมีสภาวะ On เมื่อการ
เปรียบเทียบค่าท้งั 2 คา่ นน้ั ถูกต้องหรือเป็นจริง
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูลเป็นจำนวนจริงในรูป
ทศนิยมหน้าสัมผัสของคำสั่ง Compare Real จะมีสภาวะ On เมื่อการ
เปรยี บเทียบคา่ ทง้ั 2 คา่ น้ันถูกตอ้ งหรือเปน็ จรงิ
343
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยท่ี 10
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครั้งที่ 10
ชือ่ หน่วย กลมุ่ คำส่ัง Compare สัปดาห์ท่ี 10
คำสั่ง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบทถ่ี ูกต้องที่สุดและทำเคร่อื งหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. คำสั่ง Compare Byte เป็นคำส่ังเปรียบเทียบข้อมูลขนาดกบี่ ิต
ก. 8 บิต
ข. 16 บิต
ค. 32 บิต
ง. 64 บิต
จาก Ladder Diagram (กำหนดค่า SMB28 = 255) ใช้ตอบคำถามขอ้ ที่ 2 – 3
2. จากโปรแกรม เอาต์พตุ Q0.0 จะทำงานเมอื่ ไร
ก. ค่าของ SMB28 = 100
ข. ค่าของ SMB28 = และ > 100
ค. ค่าของ SMB28 > 100
ง. ค่าของ SMB28 = และ < 100
3. จากโปรแกรม เอาต์พุต Q0.0 จะหยดุ ทำงานเมอื่ ไร
ก. ค่าของ SMB28 < 100
ข. คา่ ของ SMB28 > 100
ค. คา่ ของ SMB28 = 100
ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข และ ค
344
จาก Ladder Diagram ใชต้ อบคำถามขอ้ ที่ 4 – 6
4. จากโปรแกรม เอาตพ์ ตุ Q0.0 และ Q0.1 จะทำงานเมื่อไร
ก. เมอื่ คา่ เวลา Timer (T199) เทา่ กบั หรือมากกว่า 4 วนิ าที
ข. เมือ่ คา่ เวลา Timer (T199) เทา่ กบั หรือมากกวา่ 40 วนิ าที
ค. เมื่อคา่ เวลา Timer (T199) เท่ากบั 8 วินาที
ง. เม่อื คา่ เวลา Timer (T199) เท่ากบั 80 วนิ าที
5. จากโปรแกรม เอาตพ์ ตุ Q0.0 และ Q0.1ทำงานไปแลว้ เอาต์พตุ Q0.0 และ Q0.1 จะหยุดทำงานเม่ือไร
ก. หลงั จากเอาต์พุต Q0.0 ทำงานไปแลว้ 4 วนิ าที
ข. หลังจากเอาต์พุต Q0.0 ทำงานไปแลว้ 40 วินาที
ค. หลังจากเอาต์พตุ Q0.0 ทำงานไปแล้ว 8 วินาที
ง. หลังจากเอาต์พุต Q0.0 ทำงานไปแลว้ 80 วินาที
6. จากโปรแกรม หากต้องการใหเ้ อาต์พตุ Q0.0 และ Q0.1 หยดุ การทำงานหลงั จากท่ี Q0.0 และ Q0.1
ทำงานไปแลว้ 2 วินาที จะตอ้ งแกไ้ ขโปรแกรม ตรงจดุ ใด
ก. เปล่ียนคา่ เวลาจาก 40 เป็น 20
ข. เปลยี่ นคา่ เวลาจาก 40 เป็น 60
ค. เปลี่ยนค่าเวลาจาก 80 เป็น 20
ง. เปลีย่ นคา่ เวลาจาก 80 เป็น 60
7. คำสั่ง Compare Double Integer เป็นคำส่ังเปรียบเทียบข้อมูล ขนาดกบี่ ิต
ก. 8 บิต
ข. 16 บิต
ค. 32 บิต
ง. 64 บิต
345
8. ตัวแปรใด สามารถใชเ้ ป็นเอาตพ์ ุตใหค้ ำสั่ง Compare Double Integer
ก. IB
ข. QW
ค. TW
ง. VD
9. หากต้องการเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ทเี่ ป็นจุดทศนยิ ม ควรเลอื กใช้คำสัง่ ใด
ก. Compare Byte
ข. Compare Integer
ค. Compare Double Integer
ง. Compare Real
10. ตัวแปรใด สามารถใชเ้ ป็นอินพุตใหค้ ำส่ัง Compare Real
ก. VB
ข. VW
ค. VD
ง. TB
346
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 10
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครง้ั ท่ี 10
ชื่อหน่วย กลุ่มคำส่ัง Compare สัปดาห์ที่ 10
ข้อ 1) ก
ขอ้ 2) ง
ข้อ 3) ข
ข้อ 4) ก
ข้อ 5) ก
ขอ้ 6) ง
ขอ้ 7) ค
ขอ้ 8) ง
ขอ้ 9) ง
ข้อ 10) ค
347
แบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 10
รหสั วชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟา้ สอนคร้ังท่ี 10
ชื่อหน่วย กลมุ่ คำสั่ง Compare สัปดาหท์ ี่ 10
คำส่งั จากโปรแกรมท่กี ำหนดให้ จงอธิบายการทำงานของโปรแกรม
อธบิ ายการทำงานของโปรแกรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
348
แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 10
รหัสวิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟ้า สอนครั้งที่ 10
ชอ่ื หน่วย กลมุ่ คำสง่ั Compare สปั ดาห์ท่ี 10
เฉลยแบบฝกึ หดั
หนว่ ยที่ 10 กลุ่มคำส่ัง Compare
คำสง่ั จากโปรแกรมทก่ี ำหนดให้ จงอธิบายการทำงานของโปรแกรม
อธิบายการทำงานของโปรแกรม
เม่อื อนิ พุต I0.0 มีสภาวะ On (On ค้าง) จะมสี ญั ญาณเข้าท่ีขา IN ของ TON คำสั่ง TON (T101) จะ
เรม่ิ นับเวลา ใน Network ท่ี 2 เม่ือคา่ เวลาของ TON มีค่าเทา่ กับหรือมากกว่า 1 วินาที หน้าสมั ผสั ของคำส่ัง
Compare Integer จะมีสภาวะ On ส่งผลใหเ้ อาต์พุต Q0.0 ทำงาน ใน Network ที่ 3 เมอื่ คา่ เวลาของ TON
มีค่าเท่ากับหรอื มากกว่า 2 วินาที หนา้ สมั ผสั ของคำสง่ั Compare Integer จะมีสภาวะ On สง่ ผลใหเ้ อาตพ์ ุต
Q0.1 ทำงาน
ชอ่ื -สกลุ 120 คะแนน การประเมินผลการ ใบงานที่ 7 การใช้คำสั่ง Compare
ปฏิบัติงาน
1. คะแนนเตม็
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
5 5 5 5 10 10 10 10 20 20 5 5 5 5 คะแนน 1.1 การเตรียมเครื่องมอื ฯ 1. กระบวนการ หน่วยท่ี 10 กลุ่มคำสงั่ Compare แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน
1.2 ความถูกต้อง ฯ ปฏิบตั ิงาน
1.3 ปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน
1.4 ปฏิบตั ิงานเสรจ็ ตามเวลา ฯ 2. ผลการปฏบิ ัติงาน
2.1 การใชค้ ำสง่ั Compare Byte 3. กจิ นิสัยการ 349
2.2 การใชค้ ำส่งั Compare Integer ปฏบิ ัติงาน
2.3 การใชค้ ำสัง่ Compare Double Integer
2.4 การใช้คำส่ัง Compare Real
2.5 ออกแบบโปรแกรมโดยใช้ Compare
2.6 สรุปผลการทดลอง
3.1 ความปลอดภัย ฯ
3.2 การใช้เคร่อื งมือ อปุ กรณ์
3.3 ความเรียบรอ้ ยของพน้ื ท่ี ฯ
3.4 ความต้ังใจ ฯ
รวม
350
18. ใหค้ รผู ู้สอนนำคะแนนจากแบบประเมินผลการปฏบิ ัติงานทุกหนว่ ยมารวมกันแลว้ เทยี บ
19. บัญญัตไิ ตรยางคเ์ พ่อื เปน็ คะแนนภาคปฏิบตั ขิ องผู้เรียน
20.
หมายเหตุ
หลกั เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ าน
รายการประเมนิ ผล หลกั เกณฑ์การใหค้ ะแนน
1. กระบวนการปฏบิ ตั งิ าน
1.1 การเตรียมเครื่องมือ (1) เตรียมเครอ่ื งมือ อปุ กรณค์ รบถ้วน ได้ 5 คะแนน
อุปกรณ์ (2) ขาดบางส่วน ตดั รายการละ 1 คะแนน
(3) ไมม่ ีเครอ่ื งมอื อุปกรณ์ ได้ 0 คะแนน
1.2 ความถกู ต้องในการใช้ (1) ใชเ้ ครื่องมือ อุปกรณ์ถูกต้องครบถว้ น ได้ 5 คะแนน
เครื่องมือ อปุ กรณ์ (2) ใช้เคร่อื งมือ อุปกรณ์ถกู ต้องบางสว่ น ตดั จดุ ละ 1 คะแนน
(3) ใช้เครอ่ื งมือ อุปกรณ์ไม่ถกู ต้อง ได้ 0 คะแนน
1.3 ปฏบิ ัตงิ านตามขั้นตอน (1) ปฏิบัตงิ านตามขัน้ ตอนทุกขน้ั ตอนได้ 5 คะแนน
(2) ปฏบิ ัตงิ านตามขน้ั ตอนบางสว่ นตัดจุดละ 1 คะแนน
(3) ไมป่ ฏบิ ัตงิ านตามขั้นตอน ได้ 0 คะแนน
1.4 ปฏบิ ัติงานเสร็จตามเวลา (1) ปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ตามเวลาที่กำหนด ได้ 5 คะแนน
ทก่ี ำหนด (2) ปฏบิ ตั ิงานไมเ่ สร็จตามเวลาที่กำหนด ได้ 3 คะแนน
2. ผลการปฏบิ ัตงิ าน (1) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่งั Compare Byte และอธิบายการทำงานได้
2.1 การใช้คำสง่ั Compare ถูกต้อง ได้ 10 คะแนน
Byte (2) เขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำส่ัง Compare Byte และอธิบายการทำงานได้
บางสว่ น ตัดจดุ ละ 2 คะแนน
(3) เขียนโปรแกรมและอธิบายการทำงานไมไ่ ด้ ได้ 0 คะแนน
2.2 การใช้คำสัง่ Compare (1) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Compare Integer และอธิบายการทำงานได้
Integer ถูกต้อง ได้ 10 คะแนน
(2) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Compare Integer และอธิบายการทำงาน ได้
บางส่วน ตัดจดุ ละ 2 คะแนน
(3) เขยี นโปรแกรมและอธบิ ายการทำงานไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
2.3 การใชค้ ำสัง่ Compare (1) เขยี นโปรแกรมโดยใช้คำส่งั Compare Double Integer และอธบิ ายการ
Double Integer ทำงานได้ถูกต้อง ได้ 10 คะแนน
351
(2) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสัง่ Compare Double Integer และอธบิ ายการ
ทำงานได้บางสว่ น ตดั จดุ ละ 2 คะแนน
(3) เขยี นโปรแกรมและอธบิ ายการทำงานไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
2.4 การใชค้ ำส่งั Compare (1) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Compare Real และอธบิ ายการทำงานได้
Real ถกู ต้อง ได้ 10 คะแนน
(2) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำส่งั Compare Real และอธิบายการทำงานได้
บางส่วน ตัดจุดละ 2 คะแนน
(3) เขยี นโปรแกรมและอธิบายการทำงานไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
หลกั เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน (ต่อ)
รายการประเมินผล หลกั เกณฑก์ ารให้คะแนน
2.5 ออกแบบโปรแกรมโดยใช้ (1) ออกแบบโปรแกรม โดยใช้คำส่งั Compare ได้ถูกต้องและโปรแกรมทำงาน
คำส่ัง Compare ตามข้นั ตอนได้ถกู ต้อง ได้ 20 คะแนน
(2) ออกแบบโปรแกรม โดยใช้คำส่ัง Compare ไดบ้ างส่วนและโปรแกรม
ทำงานตามขน้ั ตอนได้บางส่วน ตัดจุดละ 5 คะแนน
(3) ออกแบบโปรแกรม โดยใช้คำสง่ั Compare ไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
2.6 สรุปผลการทดลอง (1) ถกู ต้องครบถว้ นได้ 20 คะแนน
(2) ถกู ต้องบางส่วนตัดจุดละ 2 คะแนน
(3) ไมถ่ ูกตอ้ งท้งั หมด ได้ 0 คะแนน
3. กจิ นสิ ัยในการปฏบิ ัติงาน
3.1 ความปลอดภยั ในการ (1) คำนึงถึงความปลอดภยั ได้ 5 คะแนน
ปฏบิ ตั ิงาน (2) ไม่คำนึงถงึ ความปลอดภยั ได้ 0 คะแนน
3.2 การบำรุงรักษาเคร่ืองมือ (1) มีการบำรุง ดูแล รกั ษาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ ได้ 5 คะแนน
อปุ กรณ์ (2) ไมบ่ ำรุง ดแู ล รักษาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ ได้ 0 คะแนน
3.3 ความเรียบรอ้ ยของพนื้ ท่ี (1) พื้นท่ีปฏิบตั งิ านสะอาดเรยี บร้อย ได้ 5 คะแนน
ปฏิบตั งิ าน (2) พืน้ ท่ปี ฏิบตั ิงานไม่สะอาด สกปรก ไม่เรยี บร้อย ได้ 0 คะแนน
3.4 ความต้ังใจในการ (1) มีความต้งั ใจปฏิบตั ิงาน ได้ 5 คะแนน
ปฏิบัตงิ าน (2) ไมต่ ัง้ ใจปฏิบัติงาน ได้ 0 คะแนน
352
บนั ทึกขอ้ เสนอแนะ ปญั หา / อปุ สรรค และอื่น ๆ ของผู้เรียน
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………..…………… ครูผู้สอน
(……………………………………………..)
353
แผนจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 11
รหสั วชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครั้งที่ 11
ช่อื หน่วย กลมุ่ คำสั่ง Convert สัปดาหท์ ี่ 11
1. หนว่ ยการเรียนรู้ กลุ่มคำสั่ง Convert
2. หัวข้อเรือ่ ง
2.1 ภาคทฤษฎี
1) คำสง่ั Convert Byte to Integer (B_I)
2) คำสั่ง Convert Integer to Double Integer (I_DI)
3) คำสั่ง Convert Double Integer to Real (DI_R)
4) คำสั่ง Convert Integer to Byte (I_B)
5) คำสั่ง Convert Double Integer to Integer (DI_I)
6) คำสง่ั ROUND
7) คำสง่ั TRUNC
2.2 ภาคปฏบิ ัติ
1) ใบงานที่ 8 การใช้คำสงั่ Convert
3. จำนวนช่วั โมง 4 ชั่วโมง
4. จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1) เพอ่ื ให้มคี วามรู้ เข้าใจเก่ยี วกับโปรแกรมกลุ่มคำสั่ง Convert
2) เพื่อให้มที ักษะเกีย่ วกบั โปรแกรมกลุม่ คำสั่ง Convert
3) เพ่ือให้ผูเ้ รียนเปน็ ผมู้ คี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์สอดคล้องกับ
จรรยาบรรณวชิ าชีพ
5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจำหนว่ ย
5.1 ด้านความรู้
1) อธิบายหลักการทำงานของโปรแกรมที่ใชค้ ำสง่ั Convert Byte to Integer (B_I) ได้
ถูกต้อง
2) อธบิ ายหลักการทำงานของโปรแกรมที่ใช้คำสง่ั Convert Integer to Double Integer
(I_DI) ได้ถกู ต้อง
3) อธิบายหลกั การทำงานของโปรแกรมท่ใี ชค้ ำสงั่ Convert Double Integer to Real
(DI_R) ได้ถูกต้อง
4) อธบิ ายหลกั การทำงานของโปรแกรมที่ใช้คำสัง่ Convert Integer to Byte (I_B) ได้
ถกู ต้อง
354
5) อธิบายหลักการทำงานของโปรแกรมทีใ่ ช้คำสง่ั Convert Double Integer to Integer
(DI_I) ได้ถกู ต้อง
6) อธิบายหลักการทำงานของโปรแกรมท่ีใช้คำส่ังบอกการทำงานของโปรแกรมทใ่ี ช้คำส่ัง
ROUND ไดถ้ กู ต้อง
7) อธิบายหลกั การทำงานของโปรแกรมทใ่ี ชค้ ำสัง่ TRUNC ได้ถูกต้อง
5.2 ด้านทักษะ
1) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสง่ั Convert Byte to Integer (B_I) ได้ถูกต้อง
2) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่งั Convert Integer to Double Integer (I_DI)ไดถ้ ูกต้อง
3) เขยี นโปรแกรมโดยใช้คำส่ัง Convert Double Integer to Real (DI_R) ได้ถูกตอ้ ง
4) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Convert Integer to Byte (I_B) ได้ถกู ต้อง
5) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Convert Double Integer to Integer (DI_I) ได้ถูกต้อง
6) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง ROUND ไดถ้ ูกต้อง
7) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสง่ั TRUNC ไดถ้ ูกต้อง
5.3 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์
1) มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์สอดคลอ้ งกับจรรยาบรรณวิชาชีพ
6. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1) แสดงความรใู้ นการเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำส่งั Convert Byte to Integer (B_I)
2) แสดงความรู้ในการเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำสงั่ Convert Integer to Double Integer (I_DI)
3) แสดงความรู้ในการเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Convert Double Integer to Real (DI_R)
4) แสดงความรใู้ นการเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำส่ัง Convert Integer to Byte (I_B) ไดถ้ ูกต้อง
5) แสดงความรใู้ นการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำสง่ั Convert Double Integer to Integer (DI_I)
6) แสดงความร้ใู นการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่ัง ROUND
7) แสดงความรู้ในการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำสัง่ TRUNC
355
7. กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั ตอนการสอน/กจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรยี น/กจิ กรรมผู้เรียน
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน (ใช้เวลา 25 นาท)ี ขั้นเตรยี ม (ใชเ้ วลา 25 นาที)
1. ครูอธิบายและใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาจดุ ประสงค์การ 1. จดั เตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ ส่ือ และเอกสารตาม
เรียนรู้ สาระสำคญั และรายละเอียดของเนือ้ หา ที่ครูผสู้ อนและแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ีกำหนดไว้
ภาคทฤษฏีดังนี้
1) คำสั่ง Byte to Integer (B_I)
2) คำสงั่ Integer to Double Integer (I_DI)
3) คำสง่ั Double Integer to Real (DI_R)
4) คำสั่ง Integer to Byte (I_B)
5) คำสง่ั Double Integer to Integer (DI_I)
6) คำสั่ง ROUND
7) คำสงั่ TRUNC
2. ทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 11 กลมุ่ คำส่ัง 2. ผ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 11
Convert ใหผ้ เู้ รยี นสลบั กนั ตรวจคำตอบ และให้ กลมุ่ คำสงั่ Convert และสลับกนั ตรวจคำตอบ
คะแนน
3. แจง้ จุดประสงค์การเรียนหน่วยการเรยี นท่ี 11 3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นของ
และการช่วยกันรักษากติกาที่ทกุ คนร่วมกันสรา้ งใน หนว่ ยการเรยี นท่ี 11 และช่วยกันรกั ษากตกิ าทท่ี ุก
ระหว่างการเรยี น คนรว่ มกันสรา้ งในระหว่างการเรยี น
ขั้นสอน (ใชเ้ วลา 190 นาที) ขนั้ สอน (ใชเ้ วลา 190 นาที)
1. ครอู ธิบายและสาธติ วธิ กี ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 1. ผ้เู รยี นต้ังใจฟงั และจดบันทึก เกี่ยวกับวธิ ีการ
คำส่ัง Convert Byte to Integer (B_I) พรอ้ ม เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง B_I (Byte to
แจก Integer)
เอกสารประกอบการเรียนหน่วยที่ 11 กลมุ่ คำสง่ั พร้อมกับศกึ ษา เอกสารประกอบการเรยี นหน่วยท่ี
Convert ใช้ประกอบการเรียน 11 กลุม่ คำส่งั Convert
2. ครอู ธบิ ายและสาธิตวิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 2. ผู้เรียนตง้ั ใจฟังและจดบนั ทึก ศกึ ษา เอกสาร
คำสงั่ Convert Integer to Double Integer ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 11 พรอ้ มกับซกั ถาม
(I_DI) ปัญหาที่สงสัย
356
3. ครูอธิบายและสาธติ วธิ ีการเขียนโปรแกรมโดยใช้ 3. ผ้เู รยี นตัง้ ใจฟังและจดบันทึก ศึกษา เอกสาร
คำสง่ั Convert Double Integer to Real ประกอบการเรียนหน่วยท่ี 11 พร้อมกบั ซักถาม
(DI_R) ปญั หาท่สี งสัย
4. ผูเ้ รยี นตง้ั ใจฟงั และจดบันทึก ศกึ ษา เอกสาร
4. ครอู ธบิ ายและสาธิตวิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 11 พร้อมกบั ซักถาม
คำสงั่ Convert Integer to Byte (I_B) ปัญหาทีส่ งสัย
5. ผู้เรยี นตง้ั ใจฟังและจดบนั ทึก ศึกษา เอกสาร
5. ครอู ธบิ ายและสาธติ วธิ กี ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้ ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 11 พรอ้ มกบั ซกั ถาม
คำสั่ง Convert Double Integer to Integer ปญั หาที่สงสยั
(DI_I)
ขน้ั ตอนการสอน/กิจกรรมครู ขั้นตอนการเรยี น/กจิ กรรมผเู้ รยี น
357
6.ครอู ธบิ ายและสาธติ วิธกี ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 6. ผ้เู รียนต้ังใจฟงั และจดบนั ทึก ศกึ ษา เอกสาร
คำสัง่ ROUND ประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี 11 พร้อมกบั ซักถาม
ปัญหาท่สี งสยั
7. ครอู ธบิ ายและสาธิตวิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 7. ผู้เรียนตง้ั ใจฟังและจดบันทึก ศึกษา เอกสาร
คำสงั่ TRUNC ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 11 พรอ้ มกับซักถาม
ปญั หาที่สงสัย
8. ครูให้ผ้เู รียนแบง่ กลุม่ กันเองกลุ่มละ 3 คนโดยมี 8. ผูเ้ รยี นแบง่ กลมุ่ กันเองตามความสมัครใจ กลุ่ม
สมาชิกไม่ซ้ำกับสปั ดาห์ทผ่ี ่านมา พร้อมกบั ให้ ละ 3 คน โดยมสี มาชิกไมซ่ ้ำกับสปั ดาห์ที่ผ่านมา
ทบทวนการเขียนโปรแกรมด้วยคำสัง่ ต่าง ๆ ที่ได้ ตั้งใจฟงั และปฏบิ ตั งิ านตามท่ีได้รับมอบหมาย เพ่ือ
อธบิ ายและสาธิต พร้อมกับแจง้ วธิ ีการประเมนิ การ เตรยี มรับการประเมินผลการปฏิบัตงิ าน
ปฏิบัตงิ าน
9. ครแู จกใบงานท่ี 8 ให้ผเู้ รยี นแต่ละกลุ่ม พรอ้ ม 9. ผเู้ รียนปฏิบตั ิงาน ตามใบงานทค่ี รูแนะนำใบงาน
ทั้งอธบิ ายวธิ ีการทำใบงาน ท่ี 8
10. ครใู ห้ผู้เรียนปฏิบตั งิ านตามรายละเอียดของใบ 10. ผ้เู รยี นปฏิบตั ิงานตามรายละเอยี ดของใบงาน
งาน พร้อมกับคอยแนะนำและให้คำแนะนำปรึกษา และคอยซกั ถามเม่อื เกิดสงสัยปญั หา
เม่ือผูเ้ รยี นสงสัยปญั หา
ขั้นสรปุ (ใช้เวลา 25 นาที) ขั้นสรุป (ใชเ้ วลา 25 นาท)ี
1. ครใู หผ้ เู้ รียนช่วยกันอภปิ รายสรปุ 1. ผูเ้ รยี นรับฟงั คำสรุปและขอ้ แนะนำจากครู
พรอ้ มทงั้ จดบนั ทึกข้อมลู และซักถามหรือตอบ
- คำสั่ง B_I (Byte to Integer) คำถามในหวั ข้อทย่ี งั ไม่เข้าใจ
- คำสัง่ I_DI (Integer to Double Integer)
- คำสงั่ DI_R (Double Integer to Real) 2. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
- คำสง่ั I_B (Integer to Byte) 3. ผู้เรียนนำคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน
- คำสง่ั DI_I (Double Integer to Integer) และแบบทดสอบหลงั เรียนมาเปรยี บเทยี บเพื่อดู
- คำสั่ง ROUND ความ กา้ วหนา้ ทางการเรียนของตนเอง
- คำสั่ง TRUNC 4. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั ท้ายหน่วย
2. ครแู จกแบบทดสอบหลงั เรียน
3. ครตู รวจแบบทดสอบหลังเรียนพรอ้ มกบั บนั ทึก
คะแนน
4. ใหผ้ เู้ รียนทำแบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ย
358
5. ใหผ้ ู้เรียนทำแบบประเมินผลพฤติกรรมบคุ คล 5. ผเู้ รียนทำแบบประเมินผลพฤติกรรมบคุ คล
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ฯ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ฯ
รวมเวลาเรยี นทั้งหมด 240 นาที
หรอื 4 ช่ัวโมงเรยี น
359
8. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือส่ิงพิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรยี นวิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ ของนางชวนชม ลมิ่ ทอง
2) แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 11 กล่มุ คำส่ัง Convert
3) แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 11 กล่มุ คำส่งั Convert
4) เอกสารประกอบการเรียนหน่วยที่ 11 กลมุ่ คำส่ัง Convert
5) ใบงานท่ี 8 การใชค้ ำสงั่ Convert
6) แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 11 กลุ่มคำสงั่ Convert
7) แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน และแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วย
8) แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบคุ คล ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ฯ
9) แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน พร้อมหลกั เกณฑ์การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน
8.2 สื่อโสตทัศน์
1) เครอื่ งฉายภาพ (projector)
2) งานนำเสนอหน่วยท่ี 11 กลมุ่ คำสง่ั Convert
(จากเอกสาร ส่อื ประกอบการเรียนการสอน รหัสวิชา 2104-2109 วิชาการโปรแกรมและ
ควบคุมไฟฟ้า )
8.3 ส่ือของจริง
1) คอมพวิ เตอรร์ ะบบปฏิบตั ิการ Windows 7 พร้อมโปรแกรม Step 7 Micro/WIN
2) ชดุ ฝกึ PLC SIEMENS ร่นุ SIMATIC S7–200
3) สาย PC/PPI cable
(จากเอกสาร ส่ือประกอบการเรยี นการสอน รหัสวชิ า 2104-2109 วิชาการโปรแกรมและ
ควบคมุ ไฟฟา้ สอ่ื ของจริง )
9. เกณฑ์การตัดสนิ ผล
การวัดประเมนิ ผลแตล่ ะครงั้ ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม แลว้ นำคะแนนรวม มา
ตัดสนิ ผลการเรยี นตามเกณฑ์ดงั น้ี
คะแนนผลการประเมนิ ระดับการเรียน อยรู่ ะดับ
รอ้ ยละ 80-100 4 ดเี ยี่ยม
ร้อยละ 75-79 3.5 ดมี าก
ร้อยละ 70-74 3
ร้อยละ 65-69 2.5 ดี
รอ้ ยละ 60-64 2 ดีพอใช้
พอใช้
รอ้ ยละ 55-59 1.5 360
รอ้ ยละ 50-54 1
ร้อยละ 0-49 0 ออ่ น
อ่อนมาก
ตำ่ กว่าเกณฑ์
10. การวัดและประเมนิ ผล
10.1 วธิ กี ารประเมนิ
1) ประเมินโดยการสังเกตขณะเรยี น และขณะปฏิบตั งิ าน
2) ประเมินจากแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน
3) ประเมนิ องคค์ วามรู้หลังเรียน
10.2 เคร่ืองมือประเมนิ
1) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 11 กลุ่มคำสั่ง Convert
2) แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 11 กลมุ่ คำสัง่ Convert
3) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 11 กลุม่ คำสง่ั Convert
4) เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 11 กลุม่ คำส่งั Convert
5) เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 11 กลมุ่ คำสง่ั Convert
6) แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบุคคล ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
7) แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน พร้อมหลกั เกณฑ์การประเมินผลการปฏิบตั งิ าน
361
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 11
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟ้า สอนครัง้ ท่ี 11
ช่อื หน่วย กลมุ่ คำสั่ง Convert สปั ดาห์ที่ 11
คำส่งั ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ุดและทำเคร่อื งหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. คำสงั่ แปลงขนาดขอ้ มลู ขอ้ มูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 8 bit เป็น 16 bit คือคำส่งั ใด
ก. คำส่งั DI_I
ข. คำส่ัง DI_R
ค. คำสง่ั I_DI
ง. คำสัง่ B_I
จาก Ladder Diagram ใช้ตอบคำถามขอ้ ท่ี 2 – 4
2. ตำแหน่ง A คือตำแหน่งของอะไร
ก. VB10
ข. VD10
ค. VW10
ง. VD20
3. ตำแหนง่ B คือตำแหนง่ ของอะไร
ก. VB20
ข. VW20
ค. VD20
ง. VB10
4. ตำแหน่ง C คือตำแหน่งของอะไร
ก. VB30
ข. VW30
ค. VD20
ง. VD30
362
5. ขอ้ ใด คือคำสงั่ แปลงขนาดข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit เปน็ ข้อมูลแบบจำนวนจริงแบบทศนยิ ม
ก. คำสงั่ DI_R
ข. คำสัง่ I_DI
ค. คำสัง่ DI_I
ง. คำส่งั B_I
6. ตวั แปร ที่นำมาเก็บขอ้ มลู ทางดา้ นเอาต์พุต ของคำสั่งแปลงขนาดข้อมลู แบบ I_B คือข้อใด
ก. VB
ข. VW
ค. VD
ง. QD
7. ขอ้ ใดคือ คำสงั่ แปลงขนาดข้อมูลแบบลดขนาด
ก. คำสัง่ B_I
ข. คำสัง่ DI_I
ค. คำสั่ง I_D
ง. คำสง่ั DI_R
จาก Ladder Diagram ใชต้ อบคำถามข้อท่ี 8 – 10
8. ข้อมูลที่อยใู่ นตัวแปร VD20 เป็นขอ้ มลู แบบใด
ก. ขอ้ มูลจำนวนเตม็ ขนาด 16 bit
ข. ขอ้ มูลจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
ค. ข้อมลู จำนวนจริงแบบทศนิยม
ง. ขอ้ มลู จำนวนจรงิ ขนาด 8 bit
9. ข้อมลู ท่ีอยูใ่ นตัวแปร VD40 เป็นข้อมลู แบบใด
ก. ข้อมลู จำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบนำคา่ ทศนยิ มมาใช้
ข. ขอ้ มลู จำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบไม่คดิ ค่าตวั เลขทศนิยม
ค. ขอ้ มูลจำนวนจรงิ ขนาด 16 bit แสดงผลแบบทศนยิ ม
ง. ข้อมูลจำนวนจริง ขนาด 32 bit แสดงผลแบบทศนิยม
363
10. ขอ้ มลู ที่อยใู่ นตวั แปร VD50 เป็นข้อมลู แบบใด
ก. ขอ้ มูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบนำค่าทศนยิ มมาใช้
ข. ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit แบบไม่คดิ ค่าตวั เลขทศนยิ ม
ค. ขอ้ มลู แบบจำนวนจริง ขนาด 16 bit แสดงผลแบบทศนิยม
ง. ข้อมลู แบบจำนวนจริง ขนาด 32 bit แสดงผลแบบทศนยิ ม
364
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 11
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครง้ั ท่ี 11
ชื่อหน่วย กลุ่มคำส่ัง Convert สัปดาห์ที่ 11
ข้อ 1) ง
ขอ้ 2) ค
ข้อ 3) ค
ข้อ 4) ง
ข้อ 5) ก
ขอ้ 6) ก
ขอ้ 7) ข
ขอ้ 8) ค
ขอ้ 9) ก
ข้อ 10) ข
365
ใบเน้อื หา หน่วยท่ี 11
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนคร้ังที่ 11
ชื่อหน่วย กลุม่ คำสั่ง Convert สปั ดาห์ที่ 11
หน่วยท่ี 11
กล่มุ คำสั่ง Convert
กลุ่มคำสั่ง Convert เป็นคำส่ังที่ใช้ในการแปลงขนาดข้อมูล จากข้อมูลซึ่งมีขนาดหนึ่ง มาเป็นข้อมูลอีกขนาดหนง่ึ
แบง่ การแปลงขอ้ มลู ออกเป็น 2 แบบ คือการแปลงเพอื่ เพิม่ ขนาดของข้อมูล และการแปลงเพอ่ื ลดขนาดของข้อมลู
11.1 การแปลงขนาดขอ้ มลู (Convert) แบบเพิ่มขนาดขอ้ มูล
ในการแปลงขอ้ มูลเพอื่ เพ่มิ ขนาดของขอ้ มลู ด้วยกลมุ่ คำสง่ั Convert มอี ย่ดู ว้ ยกัน 3 คำส่งั ด้วยกันคือ Convert Byte
to Integer (B_I), Convert Integer to Double Integer (I_DI) และ Convert Double Integer to Real (DI_R) ซงึ่ มลี ักษณะการ
ทำงานแตกต่างกนั ตามตารางที่ 11.1
ตารางที่ 11.1 การแปลงขนาดขอ้ มลู ดว้ ยคำสั่ง Convert แบบเพม่ิ ขนาดขอ้ มลู
คำสงั่ สญั ลักษณ์ การทำงาน
เป็นคำสั่งที่ใช้แปลงขนาดข้อมูลโดยค่า
Convert Byte to Integer (B_I) Input (IN) จะมีขนาดเป็นแบบ Byte (ข้อมูลแบบ
จำนวนเต็มขนาด 8 bit มีขนาดข้อมูล 0–255) และ
Convert Integer to Double Integer Output (OUT) แบบ Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม
(I_DI) ขนาด 16 bit มีขนาดขอ้ มลู 0–32,767)
เป็นคำสั่งที่ใช้แปลงขนาดข้อมูล โดยค่า
Convert Double Integer to Real Input (IN) จะมีขนาดเป็นแบบ Integer (ข้อมูลแบบ
(DI_R) จำนวนเต็มขนาด 16 bit) และ Output (OUT) แบบ
Double Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32
bit)
เปน็ คำสั่งท่ใี ช้ในการแปลงขนาดข้อมลู โดย
ค่า Input (IN) จะมีขนาดเป็นแบบ Double Integer
(ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit) และ Output
(OUT) แบบ Real (ข้อมูลแบบจำนวนจริงที่มีการ
แสดงผลเป็นแบบทศนิยม)
366
ตวั อย่างที่ 11.1 การใช้งานกลมุ่ คำสั่ง Convert แบบเพิม่ ขนาดขอ้ มลู การทำงานของโปรแกรม
เมื่อสั่ง Run โปรแกรม SM0.0 ซึ่งมี
รปู ท่ี 11.1 การเขียนโปรแกรมโดยใชก้ ลุ่มคำสั่ง Convert
แบบเพม่ิ ขนาดข้อมูล คณุ สมบตั ิเป็น Always On จะทำให้คอนแทค
ของ SM0.0 มีสภาวะเป็น ON ตลอดเวลา
ข ้ อ ม ู ล Input จ า ก Analog Adjustment V0
(SMB28) ใ น ค ำ ส ั ่ ง Convert Byte to Integer
(B_I) จะถูกเปลี่ยนขนาด จาก Byte ไปเป็น
ข้อมูลแบบ Integer และขอ้ มูลจะถูกเกบ็ ไวใ้ น
ตวั แปร VW0
จากนั้นในคำสั่ง Convert Integer to Double Integer (I_DI) ข้อมูล Input จากตัวแปร VW0 จะถูกเปลี่ยนขนาดจาก
Integer ไปเป็นข้อมูลแบบ Double Integer และข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในตัวแปร VD10 และสุดท้ายในคำสั่ง Convert Double
Integer to Real (DI_R) ข้อมูล Input จาก VD10 จะถูกเปลี่ยนขนาด จาก Double Integer ไปเป็นข้อมูลแบบ Real ที่มีการ
แสดงผลข้อมลู เปน็ แบบทศนยิ มและข้อมลู จะถกู เก็บไว้ในตัวแปร VD20
วธิ ีออกแบบโปรแกรม
1) เปิดโปรแกรม STEP 7–Micro/WIN ทำการ Communication เรม่ิ ต้นการเขียนโปรแกรมตามรูปที่ 11.4 จนถึงกลมุ่
คำส่งั Convert ดับเบลิ้ คลิกทก่ี ลมุ่ คำส่ัง Convert จะปรากฏคำสง่ั Convert Byte to Integer (B_I) ข้นึ มาดังรปู ท่ี 11.5
คำส่งั Convert Byte to Integer (B_I)
กลุม่ คำสง่ั Convert
รปู ท่ี 11.2 การใช้คำสั่ง Convert Byte to Integer (B_I)
3) เล่ือนเม้าส์ชท้ี ่ีคำสั่ง คลิกเม้าส์ จะปรากฏคำสั่ง เข้าใน Main Program
4) เครอ่ื งหมาย ???? ด้าน IN ใหใ้ สต่ ำแหน่ง SMB28 เคร่ืองหมาย ???? ด้าน OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VW0 ดังรูปท่ี 11.3
5) จากน้ันเขียนโปรแกรม คำสงั่ ตามตวั อยา่ งที่ 11.1
เครือ่ งหมาย ???? ด้าน IN ใหใ้ สต่ ำแหนง่ VW0
เคร่อื งหมาย ???? ด้าน OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VD10 ดงั รูปที่ 11.3
ดา้ น IN ใสต่ ำแหนง่ SMB28 ดา้ น IN ใสต่ ำแหนง่ VW0
367
ด้าน OUT ใส่ตวั แปร VW0 ด้าน OUT ใส่ตัวแปร VD10
รปู ที่ 11.3 การกำหนดคา่ ทคี่ ำสั่ง Convert Byte to Integer (B_I)
และ Convert Integer to Double Integer (I_DI)
6) จากนั้นเขียนคำสั่ง Convert Double Integer to Real (DI_R) ตามตัวอย่างที่ 11.1 เครื่องหมาย ???? ด้าน IN ให้ใส่
ตำแหนง่ VD10 และเครื่องหมาย ???? ดา้ น OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VD20 ดงั รปู ท่ี 11.4
ด้าน OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VD20
ด้าน IN ใสต่ ำแหน่ง VD10
รปู ท่ี 11.4 การกำหนดคา่ ทค่ี ำสัง่ Double Integer to Real (DI_R)
7) หากโปรแกรมทที่ ดลองผิดพลาดสามารถกลบั ไปแกไ้ ขได้ เมื่อแกไ้ ขเสรจ็ สมบรู ณ์ให้ทำตามขั้นตอนเดมิ คอื
Compile All, Download, RUN และ Program Status ตามลำดบั
8) เม่อื Run โปรแกรม SM0.0 มสี ภาวะ
เป็น On ตลอดเวลา สงั เกตค่าขอ้ มลู จาก Analog
Adjustment V0 (SMB28) ที่ Input ของคำสั่ง Convert
Byte to Integer (B_I) และสังเกตคา่ ขอ้ มลู ท่ี
Output ของคำสั่ง Convert Double Integer to Real
(DI_R) จะแสดงผลออกมาเป็นทศนยิ มดังรูปที่ 11.5
รูปท่ี 11.5 โปรแกรมขณะเร่มิ Run
368
9) ใช้ไขควงปรับที่ Analog Adjustment V0 (SMB28)
เมื่อค่า Input จาก SMB28 มีการเปลี่ยนแปลงค่าท่ี
Output ปลายทาง ที่ตัวแปร VD20 จะเปลี่ยนแปลง
ตามดงั รปู ท่ี 11.6
รูปท่ี 11.6 โปรแกรมขณะเริ่ม Run
11.2 การแปลงขนาดขอ้ มูล (Convert) แบบลดขนาดข้อมลู
ในการแปลงขอ้ มูลเพ่ือลดขนาดของขอ้ มูลดว้ ยกลมุ่ คำส่ัง Convert มอี ยู่ดว้ ยกนั 4 คำสง่ั ดว้ ยกนั คอื Integer to Byte
(I_B) , Double Integer to Integer (DI_I) , ROUND และ TRUNC ซึง่ มลี กั ษณะการทำงานแตกตา่ งกันตามตารางที่ 11.2
ตารางท่ี 11.2 การแปลงขนาดขอ้ มูลด้วยคำสง่ั Convert แบบลดขนาดขอ้ มลู
คำสัง่ สญั ลักษณ์ การทำงาน
เป็นคำสั่งที่ใช้แปลงขนาดข้อมูล โดยค่า Input (IN) จะมี
Convert Integer to Byte ขนาดเป็นแบบ Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเต็มขนาด 16 bit มี
(I_B) ขนาดข้อมูล 0–32,767) และ Output (OUT) แบบ Byte (ข้อมูล
แบบจำนวนเตม็ ขนาด 8 bit มีขนาดขอ้ มลู 0–255)
Convert Double Integer เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแปลงขนาดข้อมูลโดยค่า Input (IN)
to Integer (DI_I) จะมีขนาดเปน็ แบบ Double Integer (ขอ้ มลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด
32 bit) และ Output (OUT) แบบ Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม
ROUND ขนาด 16 bit)
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแปลงขนาดข้อมลู โดยค่า Input (IN)
TRUNC จะมีขนาดเป็นแบบ Real (ข้อมูลแบบจำนวนจริงทีม่ ีการแสดงผล
เป็นแบบทศนิยม) และ Output (OUT) แบบ Double Integer
(ข้อมูลแบบจำนวนเต็มขนาด 32 bit แบบนำค่าตัวเลขทศนิยมมา
ใชง้ าน หากคา่ ทศนยิ มมคี า่ เทา่ กับหรอื สูงกวา่ 0.5 จะปดั ขึ้น หาก
คา่ ทศนิยมมคี ่าตำ่ กว่า 0.5 จะปดั ลง)
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแปลงขนาดข้อมูลโดยค่า Input (IN)
จะมีขนาดเป็นแบบ Real (ข้อมูลแบบจำนวนจริงทีม่ ีการแสดงผล
เป็นแบบทศนยิ ม) และOutput (OUT) แบบ Double Integer (ข้อมลู
แบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบไม่คิดคา่ ตวั เลขทศนยิ ม)
369
ตัวอย่างท่ี 11.2 การใช้งานกลมุ่ คำสัง่ Convert แบบลดขนาดขอ้ มูล
รูปที่ 11.7 การเขียนโปรแกรมโดยใช้ การทำงานของโปรแกรม
กลมุ่ คำส่งั Convert แบบลดขนาดขอ้ มลู เมื่อสั่ง Run โปรแกรม SM0.0 (Always ON) จะ
ทำใหค้ อนแทคของ SM0.0 มีสภาวะเป็น On ตลอดเวลา
ข้อมูล Input จากค่าคงที่เท่ากับ 120 จะถูกเคลื่อนย้าย
ข้อมูล ในคำสั่ง Move Double Word (MOV_DW) ไปเก็บ
ไว้ท่ตี วั แปร VD10 จากนั้นในคำสัง่ ลดขนาดขอ้ มลู Move
Double Word (MOV_DW) ข้อมูล Input จาก VD10 จะ
ถูกเปลี่ยนขนาดจาก Double Integer ไปเป็นข้อมลู แบบ
Integer
และข้อมลู จะถกู เก็บไว้ในตัวแปร VW20 และสดุ ท้ายในคำส่ังลดขนาดขอ้ มูล Convert Integer to Byte (I_B) ข้อมูล
Input จาก VW20 จะถกู เปลีย่ นขนาดจาก Integer ไปเปน็ ขอ้ มูลแบบ Byte และขอ้ มลู จะถกู เกบ็ ไว้ในตวั แปร VB30
วธิ ีออกแบบโปรแกรม
1) เปิดโปรแกรม STEP 7–Micro/WIN ทำการ Communication เพือ่ ตดิ ต่อสื่อสารระหว่าง คอมพวิ เตอร์กับ PLC เริ่มต้น
การเขยี นโปรแกรมตามตัวอยา่ งที่ 11.2
2) ให้เขียนโปรแกรมตามตัวอย่าง จนถึงกลุ่มคำสั่ง MOVE ดับเบิ้ลคลิกที่กลุ่มคำสั่ง MOVE จะปรากฏคำสั่ง Move
Double Word (MOV_DW) ข้ึนมาดังรูปที่ 11.8
คำสง่ั Move Double Word
(MOV_DW)
รูปท่ี 11.8 การใช้คำสงั่ Move Double Word (MOV_DW)
3) ให้เล่อื นเม้าส์ทค่ี ำสงั่ Move Double Word (MOV_DW) คลิกเมา้ ส์ซา้ ย 1 ครัง้ จะปรากฏคำสั่ง
เขา้ ใน Main Program
4) เคร่ืองหมาย ???? ดา้ น IN ใหใ้ สค่ ่าตวั เลขเท่ากบั 120 เครื่องหมาย ???? ดา้ น OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VD10 ดงั รูปที่ 11.9
5) จากนน้ั เขียนโปรแกรมคำสัง่ Convert Double Integer to Integer (DI_I) ตามตวั อย่างท่ี 11.2 เคร่ืองหมาย ???? ดา้ น
IN ใหใ้ สต่ ัวแปร VD10 เครื่องหมาย ???? ดา้ น OUT ใหใ้ ส่ตัวแปร VW20 ดังรูปท่ี 11.9
370
ดา้ น IN ใสค่ ่าตัวเลข 120 ดา้ น IN ใหใ้ สต่ ัวแปร VD10
ดา้ น OUT ใหใ้ สต่ วั แปร VD10 ดา้ น OUT ใสต่ วั แปร VW20
รูปที่ 11.9 การกำหนดค่าทคี่ ำส่งั Move Double Word (MOV_DW)
และคำสง่ั Convert Double Integer to Integer (DI_I)
6) จากนัน้ เขียนคำสงั่ Convert Integer to Byte (I_B) ตามตัวอย่างที่ 11.2 เคร่อื งหมาย ???? ดา้ น IN ใหใ้ สต่ วั แปร VW20
และเคร่อื งหมาย ???? ดา้ น OUT ให้ใสต่ ัวแปร VB30 ดังรปู ท่ี 11.10
ดา้ น IN ใสต่ ัวแปร VW20 ด้าน OUT ใส่ตัวแปร VB30
รูปท่ี 11.10 การกำหนดค่าทคี่ ำส่งั Convert Integer to Byte (I_B)
7) หากโปรแกรมที่ทดลองผิดพลาดสามารถกลบั ไปแกไ้ ขได้ เมอ่ื แกไ้ ขเสร็จสมบรู ณใ์ หท้ ำตามขนั้ ตอนเดมิ คือ
Compile All, Download, RUN และ Program Status ตามลำดบั
8) ทดลองการทำงาน เม่ือ Run โปรแกรม SM0.0 จะมสี ภาวะเป็น On ตลอดเวลา สงั เกตขอ้ มลู Input จากค่าคงท่ี
เทา่ กบั 120 จะถูกเคลอ่ื นย้ายข้อมลู ในคำสง่ั Move Double Word (MOV_DW) ไปเกบ็ ไว้ทต่ี วั แปร VD10 และถกู ลดขนาดขอ้ มลู
ลงโดย Convert Double Integer to Integer (DI_I) ขอ้ มลู จะถกู เปลยี่ นขนาดจาก Double Integer เปน็ ขอ้ มูลแบบ Integer และ
จะถูกลดขนาดข้อมลู ลงอีกครง้ั โดยคำส่ังลดขนาดขอ้ มูล Convert Integer to Byte (I_B) ขนาดขอ้ มูลจะถกู เปล่ยี นจากขนาด
Integer ไปแบบ Byte และข้อมลู จะถูกเกบ็ ไว้ในตัวแปร VB30 ดังรปู ที่ 11.11
รปู ท่ี 11.11 โปรแกรมขณะเร่มิ Run
371
ตัวอย่างที่ 11.3 การใชง้ านกลมุ่ คำสง่ั Convert แบบลดขนาดขอ้ มลู
การทำงานของโปรแกรม
เม่อื สัง่ Run โปรแกรม SM0.0 (Always ON)
คอนแทคของ SM0.0 ซ่ึงมีสภาวะ On ตลอดเวลา
ขอ้ มลู Input จาก Analog Input (AIW0) จะถกู แปลง
ขนาดข้อมลู จาก Integer เป็น Double Integer เก็บ
ขอ้ มลู ไวท้ ต่ี ัวแปร VD0 และถูกแปลงขอ้ มลู อกี ครั้ง
จาก Double Integer มาเปน็ ขอ้ มลู แบบ Real (ขอ้ มูล
รูปท่ี 11.12 การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ แบบจำนวนจรงิ ท่ีมีการแสดงผลเปน็ แบบทศนยิ ม)
กลมุ่ คำส่ัง Convert แบบลดขนาด
เก็บข้อมูลไว้ที่ตัวแปร VD40 จากนั้นนำไปตั้งสมการคณิตศาสตร์การบวกแบบทศนิยม (ADD_R) โดย IN1 รับข้อมูลจากตัว
แปร VD40 และ IN2 รับข้อมูลจากค่าคงท่ี (Constant) เท่ากับ 0.5 เก็บผลลัพธไ์ ว้ทีต่ วั แปร VD100 ข้อมูลในตัวแปร VD100 ซ่ึง
อยู่ในรปู ขอ้ มูลแบบจำนวนจรงิ ทมี่ ีการแสดงผลเป็นแบบทศนิยมจะถูกแปลงกลบั แบบลดขนาดอีกคร้ัง โดยใชค้ ำสัง่ สองแบบ
แบบแรกคอื ใช้คำสง่ั ROUND ขอ้ มลู Input จากตวั แปร VD40 จะถูกเปล่ยี นรปู กลบั ไปเปน็ ขอ้ มูลแบบจำนวนเต็มขนาด 32 bit
แบบนำคา่ ตวั เลขทศนยิ มมาใช้งาน หากค่าทศนยิ มมคี า่ เท่ากับหรอื สงู กว่า 0.5 จะปดั ขึน้ หากค่าทศนิยมมีค่าต่ำกวา่ 0.5 จะ
ปัดลงแบบที่สองคือใช้คำสั่ง TRUNC ข้อมูล Input จากตัวแปร VD40 เช่นเดียวกัน แต่ Output จะถูกเปลี่ยนเป็นข้อมูลแบบ
จำนวนเต็มขนาด 32 bit แบบไม่คดิ คา่ ตวั เลขทศนิยม
วิธอี อกแบบโปรแกรม
1) เปดิ โปรแกรม STEP 7–Micro/WIN ทำการ Communication เพ่อื ติดต่อส่ือสารระหว่าง คอมพิวเตอร์กบั PLC เรม่ิ ตน้
การเขยี นโปรแกรมตามตวั อยา่ งที่ 11.3
2) ใหเ้ ขียนโปรแกรมตามตัวอยา่ ง จนถงึ กล่มุ คำส่ัง Convert ดบั เบ้ิลคลกิ ทก่ี ลุม่ คำส่ัง Convert จะปรากฏคำสง่ั
Convert Integer to Double Integer (I_DI) ขนึ้ มาดังรูปท่ี 11.13
คำสงั่ Convert Integer to Double
Integer (I_DI)
รูปท่ี 11.13 การใช้คำสัง่ Convert Integer to Double Integer (I_DI)
372
3) จากนัน้ เขียนโปรแกรมคำสง่ั Convert Integer to Double Integer (I_DI) ตามตวั อยา่ งท่ี 11.3 เครอ่ื งหมาย ????
ดา้ นซ้าย (IN) ใหใ้ สต่ ำแหน่ง AIW0 และเครอ่ื งหมาย ???? ด้านขวา (OUT) ใหใ้ สต่ วั แปร VD0 ดงั รูปท่ี 11.14
4) จากนั้นเขยี นคำส่งั Convert Double Integer to Real (DI_R) ตามตัวอยา่ งที่ 11.3 เคร่ืองหมาย ???? ด้านซ้าย (IN) ให้
ใส่ตวั แปร VD0 และเครื่องหมาย ???? ด้านขวา (OUT) ใหใ้ สต่ ัวแปร VD40 ดงั รูปที่ 11.14
ดา้ นซ้าย (IN) ใส่ AIW0 ดา้ นซ้าย (IN) ใส่ VD0
ด้านขวา (OUT) ใส่ VD0 ดา้ นขวา (OUT) ใส่ VD40
รปู ท่ี 11.13 การกำหนดคา่ ทคี่ ำส่งั Convert Integer to Double Integer (I_DI)
และคำสงั่ Convert Double Integer to Real (DI_R)
5) เขียนโปรแกรมตามตวั อยา่ ง จนถงึ คำสั่ง Add Real (ADD_R) ดับเบลิ้ คลกิ ท่กี ลมุ่ คำส่ัง Floating-Point Math จะ
ปรากฏคำสั่ง Add Real (ADD_R) ข้ึนมาดงั รูปที่ 11.14
คำสงั่ Add Real (ADD_R)
รูปท่ี 11.14 การใชค้ ำสงั่ Add Real (ADD_R)
6) ใหเ้ ลื่อนเม้าส์ชี้ทคี่ ำสง่ั Add Real (ADD_R) คลิกเมา้ ส์ซา้ ย 1 ครงั้ จะปรากฏคำส่ัง เข้าใน Main
Program
7) เครอื่ งหมาย ???? ด้านซ้าย (IN1) ใหใ้ สต่ ัวแปร VD40 เคร่ืองหมาย ???? ดา้ นซ้าย (IN2) ใหใ้ สต่ ัวเลข 0.5 เคร่อื งหมาย
???? ด้านขวา (OUT) ใหใ้ สต่ ัวแปร VD100 ดังรปู ท่ี 11.15
รูปท่ี 11.15 การกำหนดคา่ ทคี่ ำส่ัง Add Real (ADD_R)
8) จากนนั้ เขียนโปรแกรมคำสง่ั ROUND ตามตวั อยา่ งที่ 11.3 เครื่องหมาย ???? ดา้ นซ้าย (IN) ใหใ้ สต่ วั แปร VD100 และ
เคร่ืองหมาย ???? ด้านขวา (OUT) ให้ใส่ตัวแปร VD200 ดังรปู ที่ 11.16
373
9) จากนน้ั จากนัน้ เขยี น คำสง่ั TRUNC ตามตวั อยา่ งท่ี 11.3 เคร่อื งหมาย ???? ดา้ นซ้าย (IN) ใหใ้ สต่ ำแหนง่ VD100
และเครอื่ งหมาย ???? ด้านขวา (OUT) ใหใ้ สต่ วั แปร VD200 ดังรูปท่ี 11.16
ด้านขวา (OUT)ใสต่ วั แปร VD200
ดา้ นซ้าย (IN) ใสต่ ำแหนง่ VD100
รปู ท่ี 11.16 การกำหนดค่าทคี่ ำส่ัง ROUND และคำสงั่ TRUNC
10) หากโปรแกรม ท่ที ดลองผดิ พลาด สามารถกลับไปแกไ้ ขได้ เมอ่ื แกไ้ ขเสรจ็ สมบรู ณ์ ให้ทำตามขนั้ ตอนเดิม คอื
Compile All, Download, RUN และ Program Status ตามลำดบั
11) ทดลองการทำงาน เมื่อ Run โปรแกรม SM0.0 จะมีสภาวะเปน็ ON ตลอดเวลา สังเกตค่าผลลัพธ์ที่ผ่านการบวก
แบบทศนิยม (ADD_R) ที่ตัวแปรVD100 และผ่านการแปลงข้อมูล โดยใช้คำสั่ง ROUND ผลลัพธ์ที่ออกมาที่ตำแหน่ง VD200
เมื่อมีค่าทศนิยมมากกว่า 0.5 จะถูกปัดขึ้น ส่วนการแปลงข้อมูล โดยใช้คำสั่ง TRUNC ผลลัพธ์ที่ออกมาที่ตัวแปร VD200
ทศนิยมจะไมถ่ ูกนำมาคิดดังรูปท่ี 11.17
รปู ที่ 11.17 โปรแกรมขณะเร่ิม Run
374
สรุป
คำสงั่ Convert เป็นคำสงั่ ที่ใช้แปลงขนาดขอ้ มูล จากขอ้ มลู ซึ่งมขี นาดหน่ึงมาเปน็ ขอ้ มูลอกี ขนาดหนง่ึ แบง่ การแปลง
ข้อมูลออกเปน็ 2 แบบ คือการแปลงเพอื่ เพิม่ ขนาดของขอ้ มูล และการแปลงเพอ่ื ลดขนาดของขอ้ มูล
1. การแปลงขนาดข้อมูล (Convert)แบบเพิ่มขนาดข้อมูล
คำสง่ั สญั ลักษณ์ การทำงาน
Convert Byte to Integer (B_I) ใช้แปลงขนาดข้อมูล โดยคา่ Input มีขนาดเปน็ แบบ Byteและ
Output แบบ Integer
Convert Integer to Double Integer ใช้แปลงขนาดข้อมูล โดยคา่ Input มขี นาดเปน็ แบบ Integer
(I_DI) และ Output แบบ Double Integer
Convert Double Integer to Real ใช้ในการแปลงขนาดข้อมูล โดยค่า Input มขี นาดเปน็ แบบ
(DI_R) Double Integerและ Output แบบ Real
2. การแปลงขนาดขอ้ มลู (Convert) แบบลดขนาดข้อมูล
คำสั่ง สัญลักษณ์ การทำงาน
Convert Integer to Byte (I_B) ใช้แปลงขนาดขอ้ มูล โดยคา่ Input จะมีขนาดเป็นแบบ
Integerและ Output แบบ Byte
Convert Double Integer to Integer ใชใ้ นการแปลงขนาดขอ้ มูล โดยคา่ Input มีขนาดเป็นแบบ
(DI_I) Double Integer และ Output แบบ Integer
ROUND ใช้ในการแปลงขนาดข้อมูล โดยค่า Input จะมีขนาดเป็นแบบ
Realและ Output แบบ Double Integer(ขอ้ มูลแบบจำนวน
เตม็ ขนาด 32 bit แบบนำคา่ ตวั เลขทศนยิ มมาใช้งาน หากคา่
ทศนิยมมคี ่าเท่ากับหรอื สงู กว่า 0.5 จะปดั ขนึ้ หากค่าทศนยิ ม
มคี า่ ตำ่ กว่า 0.5 จะปัดลง)
TRUNC เป็นคำสัง่ ทีใ่ ช้ในการแปลงขนาดขอ้ มูลโดยค่า Input มีขนาด
เปน็ แบบ Realและ Output แบบ Double Integer (ขอ้ มูลแบบ
จำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบไมค่ ดิ คา่ ตวั เลขทศนยิ ม)
หมายเหตุ
1) Byte : ขอ้ มลู แบบจำนวนเตม็ ขนาด 8 bit มขี นาดข้อมลู 0–255
2) Integer : ข้อมูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 16 bit มขี นาดข้อมลู 0 – 32,767
3) Double Integer : ขอ้ มูลแบบจำนวนเต็มขนาด 32 bit
4) Real : ขอ้ มูลแบบจำนวนจริงที่มีการแสดงผลเปน็ แบบทศนิยม
375
แบบทดสอลหลังเรยี น หนว่ ยที่ 11
รหัสวิชา 2104-2109 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครัง้ ที่ 11
ชอื่ หน่วย กล่มุ คำสัง่ Convert สัปดาห์ที่ 11
คำส่งั ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องทสี่ ุดและทำเครอ่ื งหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. คำสัง่ แปลงขนาดข้อมลู ขอ้ มูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 8 bit เป็น 16 bit คือคำสงั่ ใด
ก. คำส่งั DI_I
ข. คำสัง่ DI_R
ค. คำสัง่ I_DI
ง. คำส่ัง B_I
จาก Ladder Diagram ใชต้ อบคำถามขอ้ ท่ี 2 – 4
2. ตำแหน่ง 1 คือตำแหนง่ ของอะไร
ก. SMB28
ข. VD10
ค. VW10
ง. VD20
3. ตำแหนง่ 2 คือตำแหน่งของอะไร
ก. VW80
ข. VW200
ค. VD200
ง. VD400
4. ตำแหน่ง 3 คือตำแหน่งของอะไร
ก. VB300
ข. VW300
ค. VD200
ง. VD400
376
5. ข้อใด คือคำส่งั แปลงขนาดข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit เป็นข้อมลู แบบจำนวนจริงแบบทศนยิ ม
ก. คำส่ัง DI_R
ข. คำสั่ง I_DI
ค. คำสั่ง DI_I
ง. คำส่งั B_I
6. ตัวแปรทน่ี ำมาเกบ็ ขอ้ มลู ทางด้านเอาตพ์ ตุ ของคำสัง่ แปลงขนาดข้อมลู แบบ I_B คือข้อใด
ก. VB
ข. VW
ค. VD
ง. QD
7. ข้อใดคือ คำสงั่ แปลงขนาดขอ้ มูลแบบลดขนาด
ก. คำส่ัง B_I
ข. คำส่ัง DI_I
ค. คำสั่ง I_D
ง. คำส่งั DI_R
จาก Ladder Diagram ใช้ตอบคำถามขอ้ ที่ 8 – 10
8. ขอ้ มูลท่ีอยู่ในตวั แปร VD10 เป็นขอ้ มูลแบบใด
ก. ขอ้ มลู จำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
ข. ข้อมลู จำนวนเตม็ ขนาด 32 bit
ค. ข้อมูลจำนวนจรงิ แบบทศนิยม
ง. ข้อมูลจำนวนจรงิ ขนาด 8 bit
9. ขอ้ มลู ที่อยู่ในตวั แปร VD30 เป็นข้อมลู แบบใด
ก. ข้อมูลจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit แบบนำค่าทศนยิ มมาใช้
ข. ข้อมลู จำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบไม่คิดค่าตวั เลขทศนิยม
ค. ข้อมูลจำนวนจรงิ ขนาด 16 bit แสดงผลแบบทศนยิ ม
ง. ขอ้ มูลจำนวนจริง ขนาด 32 bit แสดงผลแบบทศนยิ ม
377
10. ขอ้ มลู ที่อยใู่ นตวั แปร VD50 เป็นข้อมลู แบบใด
ก. ขอ้ มูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบนำค่าทศนยิ มมาใช้
ข. ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit แบบไม่คดิ ค่าตวั เลขทศนยิ ม
ค. ขอ้ มลู แบบจำนวนจริง ขนาด 16 bit แสดงผลแบบทศนิยม
ง. ข้อมลู แบบจำนวนจริง ขนาด 32 bit แสดงผลแบบทศนยิ ม
378
เฉลยแบบทดสอลหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 11
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครง้ั ท่ี 11
ชื่อหน่วย กลุ่มคำส่ัง Convert สัปดาห์ที่ 11
ข้อ 1) ง
ขอ้ 2) ก
ข้อ 3) ก
ข้อ 4) ง
ข้อ 5) ก
ขอ้ 6) ก
ขอ้ 7) ข
ขอ้ 8) ข
ขอ้ 9) ง
ข้อ 10) ข
379
แบบฝึกหดั หน่วยที่ 11
รหสั วชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครงั้ ท่ี 11
ชอื่ หน่วย กลมุ่ คำสัง่ Convert สัปดาหท์ ่ี 11
จากตาราง จงเลอื กตวั เลอื กที่มคี วามหมายของคำสัง่ ท่ีถูกต้อง โดยเติมตัวเลือกลงในวงเล็บ
คำสง่ั ตัวเลือก
1. Convert B_I ( a. คำสง่ั แปลงข้อมูลแบบเพ่ิมขนาด จากข้อมูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 8
) bit เปน็ ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
2. Convert I_DI ( b. คำสงั่ แปลงข้อมลู แบบลดขนาด จากข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 16
) bit เป็น ขอ้ มลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 8 bit
3. Convert DI_R ( c. คำสง่ั แปลงขอ้ มลู แบบลดขนาด Input เปน็ แบบ Real (ข้อมูลแบบ
) จำนวนจริง ทม่ี กี ารแสดงผลเปน็ แบบทศนิยม) Output (OUT) เป็นแบบ
Double Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit แบบไมค่ ิดคา่
ตวั เลขทศนยิ ม)
4. Convert I_B ( d. คำสั่งแปลงข้อมลู แบบลดขนาด จากข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 32
) bit เปน็ ขอ้ มลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
5. Convert DI_I ( e. คำส่งั บวกคา่ แบบทศนยิ ม
)
6. TRUNC ( ) f. คำสงั่ แปลงข้อมูลแบบเพ่มิ ขนาด จากข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 16
bit เป็น ข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
7. ROUND ( ) g. คำส่ังแปลงข้อมลู แบบลดขนาด Input เป็นแบบ Real Output เป็น
แบบ Double Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบนำคา่
ตัวเลขทศนยิ ม มาใชง้ าน หากค่าทศนิยม มีคา่ เทา่ กบั หรือสูงกวา่ 0.5 จะ
ปัดข้ึน หากคา่ ทศนยิ ม มคี ่าต่ำกว่า 0.5 จะปดั ลง
8. ADD_R ( ) h. คา่ สัญญาณแอนะลอกแบบปรับค่าได้ (Analog Adjustment V0)
9. MOV_DW ( i. คำส่ังเคลอ่ื นย้ายข้อมูลขนาด 32 บิต
)
10. SMB28 ( j.คำสง่ั แปลงขอ้ มลู แบบเพิ่มขนาดจากข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
) เป็นขอ้ มูลแบบจำนวนจริง ท่ีมีการแสดงผลเป็นแบบทศนิยม
380
เฉลยแบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 11
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟา้ สอนคร้งั ท่ี 11
ชือ่ หน่วย กลมุ่ คำสั่ง Convert สปั ดาห์ที่ 11
จากตาราง จงเลอื กตวั เลอื กท่ีมคี วามหมายของคำสั่งท่ีถกู ต้อง เติมลงในวงเลบ็
คำสั่ง ตัวเลือก
1. Convert B_I ( a ) a. คำสง่ั แปลงข้อมลู แบบเพิ่มขนาด จากข้อมลู แบบจำนวนเตม็ ขนาด 8 bit
เปน็ ข้อมลู แบบจำนวนเตม็ ขนาด 16 bit
2. Convert I_DI ( f ) b. คำสง่ั แปลงข้อมูลแบบลดขนาด จากข้อมูลแบบจำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
เปน็ ข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 8 bit
3. Convert DI_R ( j c. คำสง่ั แปลงข้อมลู แบบลดขนาด Input เป็นแบบ Real (ข้อมลู แบบจำนวน
) จริง ที่มกี ารแสดงผลเปน็ แบบทศนยิ ม) Output(OUT) เปน็ แบบ Double
Integer (ข้อมูลแบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบไม่คิดค่าตวั เลขทศนยิ ม)
4. Convert I_B ( b ) d. คำสงั่ แปลงข้อมลู แบบลดขนาด จากข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
เปน็ ขอ้ มลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
5. Convert DI_I ( d e. คำส่ัง บวกค่าแบบทศนิยม
)
6. TRUNC ( c ) f. คำส่ังแปลงข้อมูลแบบเพม่ิ ขนาด จากข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 16 bit
เป็น ขอ้ มลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
7. ROUND ( g ) g. คำสั่งแปลงข้อมลู แบบลดขนาด Input เปน็ แบบ Real Output เป็นแบบ
Double Integer (ขอ้ มลู แบบจำนวนเตม็ ขนาด 32 bit แบบนำคา่ ตวั เลข
ทศนิยม มาใช้งาน หากค่าทศนิยม มคี ่าเท่ากับหรือสูงกวา่ 0.5 จะปัดขึน้ หาก
ค่าทศนิยม มีค่าต่ำกวา่ 0.5 จะปดั ลง)
8. ADD_R ( e ) h. คา่ สญั ญาณแอนะลอกแบบปรบั คา่ ได้ (Analog Adjustment V0)
9. MOV_DW ( i ) i. คำสัง่ เคลื่อนยา้ ยข้อมลู ขนาด 32 บิต
10. SMB28 ( h ) j.คำส่ังแปลงข้อมลู แบบเพิ่มขนาดจากข้อมลู แบบจำนวนเต็ม ขนาด 32 bit
เป็นข้อมูลแบบจำนวนจรงิ ท่ีมกี ารแสดงผลเปน็ แบบทศนิยม
ชือ่ -สกลุ ใบงานที่ 8 การใชค้ ำสั่ง Convert
การประเมินผลการปฏบิ ัติงาน 1. กระบวนการ
1. คะแนนเต็ม 120 คะแนน ปฏิบัตงิ าน
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
รวม 1.1 การเตรียมเคร่ืองมอื ฯ 2. ผลการ แบบประเมินผลการปฏิบตั งิ าน
5 5 5 5 20 20 20 20 5 5 5 5 คะแนน1.2 ความถกู ต้อง ฯ ปฏบิ ัติงาน หน่วยท่ี 11 กลุ่มคำสง่ั Convert
1.3 ปฏบิ ัตงิ านตามขั้นตอน
1.4 ปฏบิ ตั ิงานเสรจ็ ตามเวลา ฯ 3. กิจนิสัยการ
2.1 การใช้คำสง่ั Convert แบบ ปฏิบตั งิ าน
เ2พ.2มิ่ ขกนาราใดชค้ ำสั่ง Convert แบบ
ล2.ด3ขอนธาบิดายการทำงานของ
โ2ป.4รแสกรรปุ มผลการทดลอง
3.1 ความปลอดภัย ฯ
3.2 การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์
3.3 ความเรียบรอ้ ยของพ้ืนที่ ฯ
3.4 ความต้งั ใจ ฯ
381
382
18.
19.
20.
หมายเหตุ ให้ครูผู้สอนนำคะแนนจากแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานทุกหน่วยมารวมกันแล้วเทยี บ
บัญญัตไิ ตรยางค์เพอ่ื เป็นคะแนนภาคปฏิบตั ขิ องผู้เรยี น
หลกั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
รายการประเมินผล หลกั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1. กระบวนการปฏบิ ัติงาน (1) เตรยี มเคร่อื งมือ อปุ กรณ์ครบถว้ น ได้ 5 คะแนน
1.1 การเตรียมเครื่องมอื (2) ขาดบางสว่ น ตัดรายการละ 1 คะแนน
อปุ กรณ์ (3) ไมม่ เี ครอ่ื งมอื อุปกรณ์ ได้ 0 คะแนน
1.2 ความถกู ต้องในการใช้ (1) ใช้เคร่ืองมือ อุปกรณ์ถูกต้องครบถว้ น ได้ 5 คะแนน
เครอื่ งมือ อปุ กรณ์ (2) ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ถกู ต้องบางสว่ น ตัดจดุ ละ 1 คะแนน
(3) ใชเ้ คร่อื งมือ อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง ได้ 0 คะแนน
1.3 ปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอน (1) ปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอนทุกขนั้ ตอนได้ 5 คะแนน
(2) ปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอนบางส่วนตดั จดุ ละ 1 คะแนน
(3) ไมป่ ฏบิ ตั งิ านตามขัน้ ตอน ได้ 0 คะแนน
1.4 ปฏบิ ัตงิ านเสรจ็ ตามเวลา (1) ปฏบิ ตั ิงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด ได้ 5 คะแนน
ทกี่ ำหนด (2) ปฏิบัติงานไมเ่ สรจ็ ตามเวลาท่ีกำหนด ได้ 3 คะแนน
2. ผลการปฏิบัตงิ าน (1) เขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำสั่ง Convert แบบเพิ่มขนาดข้อมูล และอธบิ าย
2.1 การใช้คำสัง่ Convert การทำงานได้ถูกต้อง ได้ 20 คะแนน
แบบเพ่ิมขนาดข้อมลู (2) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Convert แบบเพ่ิมขนาดข้อมลู และอธิบาย
การทำงานได้บางสว่ น ตัดจุดละ 5 คะแนน
(3) เขียนโปรแกรมและอธิบายการทำงานไมไ่ ด้ ได้ 0 คะแนน
2.2 การใช้คำสงั่ Convert (1) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Convert แบบลดขนาดข้อมลู และอธบิ ายการ
แบบลดขนาดข้อมลู ทำงานได้ถกู ต้อง ได้ 10 คะแนน
(2) เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั Convert แบบลดขนาดข้อมูล และอธบิ ายการ
ทำงาน ไดบ้ างสว่ น ตัดจุดละ 2 คะแนน
(3) เขียนโปรแกรมและอธิบายการทำงานไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
2.3 อธิบายการทำงานของ (1) อธบิ ายการทำงานของโปรแกรมที่ใช้กลมุ่ คำส่ัง Convert ไดถ้ ูกต้อง
โปรแกรมทใ่ี ช้กลุ่มคำสัง่ ได้ 20 คะแนน
Convert
383
(2) อธิบายการทำงานของโปรแกรมท่ีใช้กลมุ่ คำสง่ั Convert ไดบ้ างสว่ น ตัดจุด
ละ 5 คะแนน
(3) เขียนโปรแกรมและอธบิ ายการทำงานไม่ได้ ได้ 0 คะแนน
2.4 สรปุ ผลการทดลอง (1) ถูกต้องครบถว้ นได้ 20 คะแนน
(2) ถูกต้องบางสว่ นตัดจดุ ละ 2 คะแนน
(3) ไมถ่ ูกต้องท้ังหมด ได้ 0 คะแนน
3. กจิ นิสยั ในการปฏิบตั งิ าน
3.1 ความปลอดภยั ในการ (1) คำนึงถงึ ความปลอดภยั ได้ 5 คะแนน
ปฏิบัติงาน (2) ไมค่ ำนึงถงึ ความปลอดภัยได้ 0 คะแนน
3.2 การบำรุงรักษาเครื่องมือ (1) มีการบำรงุ ดูแล รกั ษาเครื่องมือ อปุ กรณ์ ได้ 5 คะแนน
อุปกรณ์ (2) ไม่บำรุง ดูแล รักษาเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ ได้ 0 คะแนน
หลักเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน (ต่อ)
รายการประเมินผล หลักเกณฑ์การให้คะแนน
3.3 ความเรยี บรอ้ ยของพืน้ ที่ (1) พน้ื ท่ีปฏบิ ตั ิงานสะอาดเรียบร้อย ได้ 5 คะแนน
ปฏิบัติงาน (2) พ้ืนท่ปี ฏิบตั ิงานไมส่ ะอาด สกปรก ไม่เรยี บร้อย ได้ 0 คะแนน
3.4 ความตั้งใจในการ (1) มคี วามตงั้ ใจปฏบิ ตั ิงาน ได้ 5 คะแนน
ปฏบิ ัตงิ าน (2) ไมต่ ัง้ ใจปฏบิ ัติงาน ได้ 0 คะแนน
384
บันทึกข้อเสนอแนะ ปญั หา / อปุ สรรค และอื่น ๆ ของผู้เรยี น
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
ลงชือ่ ………………..…………… ครูผสู้ อน
(……………………………………………..)
385
แผนจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 12
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟา้ สอนครั้งที่ 12
ชือ่ หน่วย การควบคุมมอเตอร์โดยใชโ้ ปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์ สัปดาหท์ ่ี 12
1. หน่วยการเรยี นรู้ การควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
2. หวั ข้อเรอ่ื ง
2.1 ภาคทฤษฎี
1) การควบคุมมอเตอร์เบื้องต้น
2) การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
3) ตัวอย่างการควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
2.2 ภาคปฏบิ ตั ิ
1) ใบงานท่ี 9 การออกแบบโปรแกรมจากวงจรควบคมุ มอเตอร์ 1
3. จำนวนช่วั โมง 4 ช่วั โมง
4. จุดประสงค์ทั่วไป
1) เพอ่ื ให้มีความรู้ เข้าใจเก่ียวกับความหมายและประเภทการควบคุมมอเตอร์เบอ้ื งตน้
2) เพือ่ ให้มคี วามรู้ เขา้ ใจเกยี่ วกับการควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
3) เพือ่ ใหม้ ที ักษะเกี่ยวกบั การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
4) เพอื่ ให้ผเู้ รียนเปน็ ผู้มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์สอดคล้องกับ
จรรยาบรรณวิชาชีพ
5. จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
5.1 ดา้ นความรู้
1) บอกความหมายและประเภทการควบคุมมอเตอร์เบื้องตน้ ไดถ้ ูกต้อง
2) บอกวธิ ีการควบคมุ มอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์ไดถ้ ูกต้อง
3) แปลงวงจรควบคุมมอเตอร์มาเปน็ Ladder diagramไดถ้ ูกตอ้ ง
5.2 ด้านทกั ษะ
1) ออกแบบโปรแกรมควบคุมมอเตอรโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์ไดถ้ ูกต้อง
2) ปฏิบตั กิ ารตอ่ วงจรการใช้งานควบคุมมอเตอรโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์ได้
ถูกต้อง
5.3 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
1) มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์สอดคลอ้ งกับจรรยาบรรณวิชาชีพ
6. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1) แสดงความรู้ในการบอกความหมายและประเภทการควบคมุ มอเตอรเ์ บือ้ งตน้
2) ใช้ชุดคำส่ังในการออกแบบโปรแกรมควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
386
3) ตอ่ วงจรการใช้งานควบคุมมอเตอร์โดยใชโ้ ปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
7. กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขัน้ ตอนการสอน/กจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรียน/กจิ กรรมผ้เู รียน
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน (ใชเ้ วลา 35 นาท)ี ข้นั เตรยี ม (ใชเ้ วลา 35 นาที)
1. ครอู ธบิ ายและให้ผูเ้ รียนศึกษาจุดประสงค์การ 1. จดั เตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ ส่ือ และเอกสารตาม
เรียนรู้ สาระสำคญั และรายละเอยี ดของเนื้อหา ที่ครผู ู้สอนและแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่กำหนดไว้
ภาคทฤษฏดี งั น้ี
2. ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยท่ี 12
1) การควบคุมมอเตอรเ์ บื้องต้น การควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ
2) การควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์และสลบั กันตรวจคำตอบ
คอนโทรลเลอร์ 3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับจดุ ประสงค์การเรียนของ
3) ตัวอย่างการควบคมุ มอเตอรโ์ ดยใช้ หน่วยการเรยี นที่ 12 และช่วยกันรกั ษากติกาทท่ี ุก
โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ คนร่วมกันสร้างในระหวา่ งการเรยี น
2. ทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยที่ 12 การควบคุม
มอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ให้
ผู้เรียนสลบั กันตรวจคำตอบ และใหค้ ะแนน
3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นหนว่ ยการเรียนท่ี 12
และการชว่ ยกันรกั ษากตกิ าท่ีทุกคนร่วมกันสรา้ งใน
ระหว่างการเรียน
ขน้ั สอน (ใชเ้ วลา 180 นาที) ขนั้ สอน (ใชเ้ วลา 180 นาที)
1. ครอู ธิบายวธิ ีการควบคุมมอเตอร์เบ้ืองต้น 1. ผู้เรียนต้ังใจฟังและจดบนั ทึก เกีย่ วกับวธิ ีการ
พรอ้ มแจกเอกสารประกอบการเรยี นหน่วยที่ 12 ควบคุมมอเตอรเ์ บ้ืองต้น พร้อมกบั ศึกษาเอกสาร
การควบคมุ มอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 12 การควบคุมมอเตอร์
คอนโทรลเลอร์ ใช้ประกอบการเรยี น โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
2. ครอู ธิบายและสาธติ วธิ ีการควบคุมมอเตอรโ์ ดย 2. ผู้เรียนต้งั ใจฟังและจดบันทึก ศึกษา เอกสาร
ใช้ โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ ประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี 12 พรอ้ มกับซกั ถาม
ปัญหาที่สงสยั
3. ครอู ธิบายและยกตัวอยา่ งการควบคุมมอเตอร์ 3. ผูเ้ รียนตัง้ ใจฟังและจดบนั ทึก ศึกษาเอกสาร
โดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ ประกอบการเรียนหน่วยที่ 12 พรอ้ มกับซกั ถาม
4. ครใู หผ้ ้เู รยี นแบง่ กลมุ่ กันเองกลมุ่ ละ 3 คนโดยมี ปญั หาทีส่ งสยั
สมาชกิ ไมซ่ ้ำกับสปั ดาห์ท่ีผา่ นมา พร้อมกับให้ 4. ผู้เรียนแบ่งกลมุ่ กันเองตามความสมัครใจกลมุ่ ละ
387
ทบทวนเน้ือหาการเรียนต่าง ๆ ทไี่ ด้อธิบายและ 3 คน โดยมีสมาชกิ ไมซ่ ำ้ กับสปั ดาห์ที่ผา่ นมา ตง้ั ใจ
สาธติ พรอ้ มกับแจ้งวธิ ีการประเมินการปฏิบัตงิ าน ฟังและปฏบิ ตั งิ านตามที่ไดร้ บั มอบหมาย เพอื่
เตรียมรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ข้นั ตอนการสอน/กจิ กรรมครู ขน้ั ตอนการเรียน/กิจกรรมผู้เรียน
5. ครูแจกใบงานท่ี 9 ให้ผเู้ รียนแต่ละกลุ่ม พร้อม 5. ผเู้ รียนปฏบิ ตั งิ านตามใบงานที่ครูแนะนำใบงาน
ท้งั อธิบายวธิ ีการทาใบงาน ท่ี 9
(สปั ดาหท์ ่ี 12 ปฏิบัติใบงานที่ 9 (สัปดาหท์ ่ี 12 ปฏบิ ตั ิใบงานท่ี 9
สปั ดาห์ที่ 13 ปฏิบัติใบงานท่ี 10) สปั ดาห์ที่ 13 ปฏิบัติใบงานท่ี 10)
6. ครใู ห้ผเู้ รยี นปฏิบตั งิ านตามรายละเอียดของใบ 6. ผู้เรยี นปฏิบัตงิ านตามรายละเอยี ดของใบงาน
งาน พร้อมกบั คอยแนะนำและใหค้ ำแนะนำปรึกษา และคอยซกั ถามเม่อื เกดิ สงสัยปัญหา
เมื่อผเู้ รียนสงสัยปัญหา
ขัน้ สรปุ (ใชเ้ วลา 25 นาท)ี ข้นั สรปุ (ใชเ้ วลา 25 นาที)
1. ครูใหผ้ เู้ รียนช่วยกนั อภิปรายสรุป 1. ผ้เู รียนรบั ฟังคำสรุปและขอ้ แนะนำจากครู
พรอ้ มทงั้ จดบนั ทึกข้อมูล และซกั ถามหรือตอบ
- การควบคมุ มอเตอร์เบื้องต้น คำถามในหัวข้อทีย่ ังไมเ่ ข้าใจ
- การควบคมุ มอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิล
คอนโทรลเลอร์ 2. ผเู้ รียนทำแบบฝกึ หดั ท้ายหน่วย
- ตัวอย่างการควบคุมมอเตอร์ โดยใช้ 3. ผ้เู รยี นทำแบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบคุ คล
โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ ด้านคุณธรรม จริยธรรม ฯ
2. ให้ผเู้ รียนทำแบบฝกึ หดั ท้ายหน่วย
3. ให้ผเู้ รียนทำแบบประเมินผลพฤตกิ รรมบคุ คล
ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ฯ
รวมเวลาเรยี นทั้งหมด 240 นาที
หรอื 4 ช่วั โมงเรยี น
8. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรียนวชิ าการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ ของนางชวนชม ล่ิมทอง
2) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 12 การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบิล
คอนโทรลเลอร์
388
3) เอกสารประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี 12 การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบลิ
คอนโทรลเลอร์
4) ใบงานท่ี 9 การออกแบบโปรแกรมจากวงจรควบคมุ มอเตอร์ 1
5) แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 12 การควบคมุ มอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
6) แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น และแบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ย
7) แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบคุ คล ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ฯ
8) แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน พร้อมหลกั เกณฑ์การประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน
8.2 ส่ือโสตทัศน์
1) เครือ่ งฉายภาพ (projector)
2) งานนำเสนอหนว่ ยท่ี 12 การควบคมุ มอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
(จากเอกสาร สื่อประกอบการเรยี นการสอน รหัสวชิ า 2104-2109 วชิ าการโปรแกรมและ
ควบคุมไฟฟา้ )
8.3 ส่ือของจรงิ
1) คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบตั ิการ Windows 7 พร้อมโปรแกรม Step 7 Micro/WIN
2) ชุดฝึก PLC SIEMENS รนุ่ SIMATIC S7–200
3) สาย PC/PPI cable
4) ชุดฝกึ การควบคุมมอเตอร์โดยใชโ้ ปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
(จากเอกสาร สื่อประกอบการเรียนการสอน รหัสวชิ า 2104-2109 วิชาการโปรแกรมและ
ควบคุมไฟฟ้า ส่ือของจรงิ )
9. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผล
การวัดประเมินผลแตล่ ะครั้ง ต้องผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม แล้วนำคะแนนรวม มา
ตัดสนิ ผลการเรียนตามเกณฑ์ดงั นี้
คะแนนผลการประเมนิ ระดับการเรยี น อยรู่ ะดับ
ร้อยละ 80-100 4 ดีเย่ียม
รอ้ ยละ 75-79 3.5 ดีมาก
ร้อยละ 70-74 3 ดี
รอ้ ยละ 65-69 2.5 ดีพอใช้
รอ้ ยละ 60-64 2 พอใช้
รอ้ ยละ 55-59 1.5 อ่อน
รอ้ ยละ 50-54 1 ออ่ นมาก
รอ้ ยละ 0-49 0 ตำ่ กวา่ เกณฑ์
389
10. การวัดและประเมนิ ผล
10.1 วิธีการประเมนิ
1) ประเมนิ โดยการสังเกตขณะเรียน และขณะปฏบิ ัติงาน
2) ประเมนิ จากแบบประเมินผลการปฏิบตั งิ าน
3) ประเมนิ องค์ความรู้หลังเรียน
10.2 เคร่อื งมือประเมนิ
1) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 12 การควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิล
คอนโทรลเลอร์
2) แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 12 การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบิล
คอนโทรลเลอร์
3) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 12 การควบคุมมอเตอรโ์ ดยใช้โปรแกรมเมเบิล
คอนโทรลเลอร์
4) เฉลยแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 12 การควบคุมมอเตอร์โดยใช้โปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์
5) แบบประเมินผลพฤติกรรมบุคคล ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
6) แบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน พร้อมหลักเกณฑ์การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน
หมายเหตุ
1. การหาคา่ คะแนนเฉล่ียใหน้ ำคะแนนรวมของผปู้ ระเมินแตล่ ะคนมารวมกันแลว้ หารดว้ ยจำนวนคน
2. ให้ครูผู้สอนนำคะแนนจากแบบประเมินฯ ทุกหนว่ ยมารวมกันแลว้ เทียบบญั ญัติไตรยางค์เพื่อเปน็
คะแนนคณุ ธรรม จริยธรรมฯของแต่ละคน
390
แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 12
รหสั วชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนคร้ังที่ 12
ชอ่ื หน่วย การควบคุมมอเตอร์โดยใชโ้ ปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์ สัปดาหท์ ี่ 12
คำสั่ง ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องที่สดุ และทำเคร่ืองหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. ขอ้ ใดคือความหมายของการควบคุมมอเตอร์
ก. การควบคุมใหม้ อเตอร์ทำงานตาม คำส่ัง เงื่อนไข
ข. การเรม่ิ ทำงาน–หยดุ ทำงาน (Start–Stop)
ค. การควบคุมความเรว็ (Speed)
ง. ถูกทุกข้อ
2. การควบคมุ ซงึ่ ผูป้ ฏิบตั งิ านทำหนา้ ทคี่ วบคุมอปุ กรณเ์ คร่อื งกลให้ทำงาน โดยใช้วธิ กี ารจา่ ยแรงดันไฟฟ้า
ใหก้ ับมอเตอร์ไฟฟา้ โดยตรง คือการควบคุมแบบใด
ก. การควบคมุ ดว้ ยมือ
ข. การควบคุมกง่ึ อตั โนมัติ
ค. การควบคมุ อตั โนมัติ
ง. การควบคุมแบบผสม
3. อุปกรณ์ในขอ้ ใด ไม่ใช่สว่ นประกอบของการควบคุมมอเตอร์ดว้ ยมือ
ก. Power Panel
ข. Manual Starter
ค. Magnetic Contactor
ง. Motor
4. อปุ กรณใ์ นข้อใด นำมาเสริมเพื่อให้การควบคุมเป็นการควบคมุ แบบกึ่งอตั โนมัติ
ก. Power Panel
ข. Magnetic Contactor
ค. Manual Starter
ง. Motor
5. การนำอปุ กรณ์แมกเนตกิ ส์คอนแทคเตอร์ และสวติ ช์ปุ่มกด เข้ามา เพ่ือใหเ้ ริ่มตน้ การทำงาน(Start)
และหยดุ ทำงาน (Stop) ได้ คือการควบคุมแบบใด
ก. การควบคมุ ด้วยมือ
ข. การควบคุมกง่ึ อัตโนมตั ิ
ค. การควบคุมอตั โนมัติ
ง. การควบคุมแบบผสม