140
ข. เขยี นโปรแกรม โหลดโปรแกรม ตรวจสอบโปรแกรม และทดสอบโปรแกรม
ค. เขยี นโปรแกรม ทดสอบโปรแกรม โหลดโปรแกรม และตรวจสอบโปรแกรม
ง. เขยี นโปรแกรม ตรวจสอบโปรแกรม ทดสอบโปรแกรม และโหลดโปรแกรม
6. การนำโปรแกรมท่ีมีอยู่ในเครอ่ื ง PLC ขึน้ มายังคอมพิวเตอร์คือคำสั่งใด
ก. Upload Project
ข. Download Project
ค. Program Status
ง. Force
7. คำส่ังวาง (Paste) สามารถกดคีย์ลัด โดยการกดปมุ่ ใด
ก. Ctrl + C
ข. Ctrl + V
ค. Ctrl + A
ง. Ctrl + B
8. การ Download โปรแกรมลงใน PLC ติดต่อกันหลายครง้ั อาจทำให้ PLC ทำงานผดิ พลาดได้ ผู้ใช้
สามารถป้องกันปัญหาท่อี าจเกิดขึน้ นี้ โดยวธิ ใี ด
ก. ใช้คำสั่ง Compile ตรวจสอบโปรแกรมก่อน Download
ข. ใชค้ ำสั่ง Clear โปรแกรมก่อน Download
ค. ใช้คำสั่ง Upload โปรแกรมก่อน Download
ง. ใช้คำส่งั Program Status โปรแกรมกอ่ น Download
9. คำส่ังบงั คบั การทำงาน ของตำแหนง่ ที่ต้องการ ให้มีสถานะเปน็ On - Off คือคำสง่ั ใด
ก. Upload Project
ข. Download Project
ค. Program Status
ง. Force
10. ข้อใดเปน็ สัญลกั ษณข์ องคำส่ัง Unforce
ก.
ข.
ค.
ง.
141
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 5
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนคร้ังที่ 5
ช่อื หน่วย การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สัปดาหท์ ี่ 5
ขอ้ 1) ข
ขอ้ 2) ง
ข้อ 3) ก
ข้อ 4) ง
ข้อ 5) ก
ขอ้ 6) ก
ขอ้ 7) ข
ขอ้ 8) ข
ขอ้ 9) ง
ขอ้ 10) ข
142
ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 5
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครงั้ ท่ี 5
ชือ่ หน่วย การเขยี นโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สัปดาห์ท่ี 5
หนว่ ยที่ 5
การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN
ข้อกำหนดและขั้นตอนในการเขียนโปรแกรม รวมถึงวิธีการลบ การแทรก การคัดลอก การเคลียร์
โปรแกรม และการสั่งงานผ่าน Program Editor มีรูปแบบการปฏิบัติงานทีเ่ ป็นขั้นตอน ผู้ใช้งานควรศึกษา
ข้ันตอนตา่ ง ๆ ให้เขา้ ใจเพื่อใหส้ ามารถปฏิบัตงิ านการเขียนโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง
5.1 การกำหนดชื่อในตารางสัญลักษณ์ (Symbol Table)
เป็นการกำหนดชื่อหรือข้อความลงไปในโปรแกรมที่เขียน เพื่อให้สะดวกในการจดจำหน้าที่การ
ทำงานของอินพุตเอาต์พุตและตำแหน่งต่าง ๆ ในโปรแกรม ซึ่งเมื่อเขียนโปรแกรมเสร็จ หากต้องการ
กำหนดช่อื หรอื ข้อความ สามารถกำหนดไดใ้ นตารางสัญลักษณ์ (Symbol Table) โดย
1) คลกิ Symbol Table ใน Navigation Bar หรือสามารถดบั เบิ้ลคลิกที่ Symbol Table ใน
Instruction Tree แลว้ ดบั เบลิ้ คลิกที่ USER1 ดังรูปที่ 5.1
รูปท่ี 5.1 ขัน้ ตอนในการกำหนดค่าใน Symbol Table
2) การกำหนดรายละเอียดตา่ ง ๆ ในการกำหนดคา่ ประกอบด้วยสว่ นตา่ ง ๆ ดงั นี้
2.1) Symbol ให้กำหนดชื่อหรือหน้าทขี่ องอนิ พุตเอาต์พุตตำแหน่งทต่ี ้องการ เชน่ Start,
Stop, มอเตอร์ 1 (Motor1) , มอเตอร์ 2 (Motor2) เป็นต้น
143
2.2) Address ใหก้ ำหนดตำแหนง่ Address อินพุตเอาต์พตุ ของ PLC เช่น I0.0, Q0.0, T0,
C10, VB0, VW10, VD100 เป็นต้น
2.3) Comment ให้กำหนดรายละเอยี ดคำอธบิ ายของอุปกรณ์ เช่น มอเตอร์ (Motor),
ปม๊ั (Pump) , กระบอกสูบ (Cylinder) เป็นตน้
รูปท่ี 5.2 การกำหนดคา่ รายละเอียดในสว่ นต่าง ๆ
3) เมือ่ กำหนดรายละเอียดใน Symbol Table เสร็จเรียบร้อยคลิกทค่ี ำสั่ง Compile All และกลับไป
ยงั หนา้ ตา่ ง Program Block โดยเล่อื นเมาส์ไปชี้ท่ีคำสง่ั Program Block ใน Navigation Bar หรอื ดบั เบิล้
คลกิ ท่คี ำสงั่ Program Block ใน Instruction Tree จากนนั้ ดับเบิล้ คลกิ ที่ Main Program จะได้ลักษณะ
ของโปรแกรมท่ีไดก้ ำหนดชือ่ ตำแหนง่ และรายละเอียดตา่ ง ๆ ข้ึนมาใหม่ เพ่ือให้ผูใ้ ช้สามารถจดจำได้ง่ายขนึ้
ดงั รปู ที่ 5.3
รปู ที่ 5.3 Ladder ท่ไี ด้กำหนดชอ่ื ตำแหนง่ และรายละเอียดต่าง ๆ
144
5.2 การดสู ภาวะการทำงานใน Status Chart
การดสู ภาวะการทำงานใน Status Chart เป็นการดูและตรวจสอบคา่ พารามเิ ตอร์ต่าง ๆ ในขณะที่
โปรแกรมกำลังทำงาน เช่น การดูสภาวะการทำงานของเอาต์พุต ค่าของเวลา (Timer) ค่าจำนวนนับของ
ตวั นบั (Counter) เป็นต้น สามารถทำได้ดงั น้ี
1) คลิกท่ี Status Chart ใน Navigation Bar หรอื สามารถดบั เบ้ิลคลกิ ที่ Status Chart ใน
Instruction Tree จากนน้ั ดับเบิ้ลคลิกท่ี USER1 ดังรปู ท่ี 5.4
รปู ที่ 5.4 การดสู ภาวะการทำงานใน Status Chart
2) จะปรากฏหนา้ ตา่ ง Status Chart ขนึ้ มาดงั รูปท่ี 5.5
รปู ท่ี 5.5 หนา้ ต่างของ Status Chart
3) รายละเอียดต่าง ๆ ในการกำหนดคา่ ประกอบด้วยส่วนตา่ ง ๆ ดังนี้
3.1) ตำแหนง่ (Address)ให้กำหนดตำแหนง่ ต่าง ๆ ทีต่ ้องการดูสถานะเช่น I0.0, Q0.0, T0, C10
เป็นต้น
3.2) Format เปน็ การกำหนดรูปแบบของข้อมูล เช่น Bit (บิต), Signed, Unsigned
145
3.3) Current Value เปน็ การแสดงค่าข้อมูลหรือสถานะการทำงานท่กี ำหนดแบบ Real Time
เชน่ การ On–Off ของ Contact คา่ เวลาของ Timer หรอื ค่า V Memory ของ PLC
3.4) New Value เปน็ การกำหนดคา่ ข้อมลู หรือสถานะการทำงานของตำแหน่งทกี่ ำหนด เช่น
การสั่งการ On–Off ของคอนแทค คา่ Set Point ใหก้ บั ค่าการนับของ Counter และการ
ป้อนค่าใหม่ใหก้ ับ V Memory
4) ทดลองกำหนดรายละเอียด เพื่อดูสภาวะการทำงาน ดงั แสดงในรปู ที่ 5.6
รูปที่ 5.6 การกำหนดคา่ ใน Status Chart
5) เม่อื กำหนดรายละเอียดเสรจ็ สามารถดูขัน้ ตอนการทำงานของ Chart Status ไดโ้ ดยคลกิ ที่
เมนDู ebug ใน Menu Bar หรอื คลิกที่คำส่ัง Start Chart Status ในแถบเคร่ืองมือดงั รูปที่ 5.7
รปู ท่ี 5.7 การดูข้นั ตอนการทำงานของ Status Chart
6) จะปรากฏสถานะของขอ้ มูลส่วน Current Value ขนึ้ มาดังรปู ท่ี 5.8
รูปที่ 5.8 คา่ ของข้อมลู ในสว่ นของ Current Value
146
7) หากต้องการยกเลิก Chart Status คลกิ ที่คำสั่ง Debug ใน Menu Bar หรอื คลกิ ที่คำสง่ั Stop
Chart Status ในแถบเคร่ืองมอื อกี คร้ัง ดังรูปท่ี 5.9
รูปที่ 5.9 ขั้นตอนการยกเลกิ การทำงานของ Chart Status
8) การกลับไปยังหน้าต่างของโปรแกรมหลักคลิกที่ Program Block ใน Navigation Bar หรอื ดับเบิ้ล
คลกิ ที่ Program Block ใน Instruction Tree แลว้ ดบั เบล้ิ คลกิ ท่ี MAIN (OB1) ดังรูปท่ี 5.10
รปู ที่ 5.10 ขั้นตอนการกลับสู่หนา้ ตา่ งของโปรแกรมหลัก (Main Program)
5.3 การอัพโหลด (Upload Project)
การ Upload Project คอื การนำโปรแกรมทม่ี ีอย่ใู น PLC ข้ึนมายงั คอมพิวเตอร์ เพอื่ ใชง้ านหรือ
กระทำการใด ๆ สามารถทำไดต้ ามขน้ั ตอนในการ Upload Project ดงั นี้
147
1) คลกิ ท่ีเมนู File เลอ่ื นลงมา คลกิ ที่ (1) คำสงั่ Upload (อัปโหลด) หรือสามารถคลิกที่ (2) คำส่งั
Upload ท่ีปรากฏในแถบเครื่องมือบนหน้าจอโปรแกรมดงั รูปที่ 5.11 2
1
รปู ท่ี 5.11 การ Upload Project
2) จะปรากฏหน้าตา่ ง Upload ข้นึ มา คลิก Upload ดงั รูปที่ 5.12
รปู ที่ 5.12 หนา้ ตา่ ง Upload คลิกเลือก Upload
3) รอจนกระทง่ั การ Upload สมบรู ณ์ เม่อื Upload เสร็จสมบูรณ์ จะปรากฏโปรแกรมทอ่ี ยู่ใน
PLC ขน้ึ มาท่ีหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ ดังรปู ที่ 5.13
148
รูปที่ 5.13 ขนั้ ตอนขณะทำการ Upload Program
5.4 การแทรก (Insert)
ก่อนการแทรกโปรแกรม ใหส้ ังเกตจากรูปท่ี 5.14 จะมีคำว่า INS (Insert หมายถงึ การเขียน
โปรแกรมแบบเขยี นแทรก) และเมื่อเรากด ปมุ่ Insert บนคยี ์บอร์ดของคอมพวิ เตอร์ ตวั อกั ษรจะเปลีย่ น
จาก INS เปน็ คำวา่ OVR (Over หมายถึง การเขียนโปรแกรมแบบเขยี นทบั )
รปู ที่ 5.14 ขัน้ ตอนการแทรก (Insert) โปรแกรม
5.4.1 การแทรกโปรแกรมสามารถทำไดด้ ังน้ี
1) ตามรูปท่ี 5.14 ในโปรแกรมแสดงข้อความ INS ผู้ใช้สามารถแทรกโปรแกรมที่ตอ้ งการเพิ่มเติม
ลงไปไดโ้ ดยเล่อื นเมาส์ไปคลกิ ยังตำแหน่งที่ต้องการแทรกดังรูปที่ 5.15
รูปท่ี 5.15 ข้นั ตอนการคลิกตำแหนง่ ท่ีต้องการแทรก
149
2) ดบั เบล้ิ คลกิ (1) ท่ีคำสั่งทตี่ ้องการแทรกเขา้ มาในโปรแกรม (2) จะปรากฏคำสัง่ นนั้ เข้ามาใน
โปรแกรมทนั ทดี ังรปู ท่ี 5.16
2
1
รูปที่ 5.16 ข้ันตอนการดับเบ้ิลคลิกคำสัง่ ท่ตี ้องการจะแทรก
3) หากรูปแบบการเขียนโปรแกรมอยใู่ นโหมด OVR ดงั รูปที่ 5.17 ซ่ึงหมายถึงการเขยี นโปรแกรม
แบบเขียนทับของเดิม เมื่อดับเบิ้ลคลิกที่คำสั่งที่ต้องการแทรก คำสั่งนั้นจะเขียนทับคำสั่งเก่าทันทีดังรูปท่ี
5.17
รูปท่ี 5.17 รปู แบบการเขยี นแบบเขยี นทับ
4) คลกิ (1) ที่คำสัง่ ใหม่ (2) คำส่ังใหมจ่ ะเขียนทับคำสง่ั เกา่ ทันทดี งั แสดงในรปู ท่ี 5.18
2
1
รูปท่ี 5.18 การออกแบบโปรแกรมในโหมด OVR
150
5.4.2 การแทรก Network (Insert Network)สามารถทำไดต้ ามขน้ั ตอนดังนี้
1) หากต้องการแทรก Network ใหม่ลงไปใน Network 2 ให้เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ Network 2
จากนน้ั คลิกขวาเล่อื นลงมาท่ีกลุ่มคำสงั่ Insert แล้วเล่ือนไปยงั กลุ่มย่อย Network(s) คลกิ เมาสซ์ ้าย หรือกด
F3 ดงั รปู ที่ 5.19
เลื่อนเมาสไ์ ปชท้ี ี่ Network 2 จากนน้ั คลกิ
ขวาเล่อื นลงมาที่กล่มุ คำสั่ง Insert แลว้ เลื่อน
ไปยังกลมุ่ ย่อย Network(s) คลกิ เมาสซ์ ้าย
หรือ กด F3
รูปท่ี 5.19 ขน้ั ตอนการคลิกคำส่งั เพ่ือแทรก Network
2) โปรแกรมใน Network ที่ 2 จะถูกเลื่อนลงมายัง Network 3 และ ให้ผู้ใช้สามารถออกแบบ
โปรแกรมทีต่ อ้ งการแทรกลงไปไดด้ งั รปู ที่ 5.20
151
พ้นื ทใ่ี น Network 2 จะเป็นพน้ื ทว่ี ่าง
รูปที่ 5.20 พืน้ ทวี่ า่ งของ Network หลงั จากการแทรก
3) การแทรกยงั สามารถทำได้อีกหลายรูปแบบดงั น้ี
ROW = การแทรกบรรทดั
Column = การแทรกคอลมั น์
Vertical = การตอ่ เส้นแนวตง้ั
Network(s) = การแทรก Networks
Subroutine = การแทรก Subroutine
Interrupt = การแทรก Interrupt
รปู ท่ี 5.21 ลักษณะการแทรกแบบต่าง ๆ
5.5 การลบ (Delete)
การลบโปรแกรมทเ่ี ขียนผิด มีข้นั ตอนในการลบตำแหน่งทเี่ ขยี นผิดดังน้ี
152
5.5.1 การลบ Column (Delete Column)
ให้เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ตำแหน่งต้องการลบคลิกเมาส์ซ้ายให้กรอบสี่เหลี่ยมล้อมตำแหน่งที่เขียนผิด
จากนั้นให้กดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด คำสั่งที่ต้องการลบจะถูกลบออกไปทันทีและสามารถที่จะแก้ไขให้
โปรแกรมถกู ตอ้ งตอ่ ไปได้ดังรปู ท่ี 5.22
รปู ที่ 5.22 การเลอื กตำแหน่งเพ่ือใช้คำสั่งลบ Column (Delete Column)
5.5.2 การลบ Network (Delete Network)
ให้เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ Network ที่ต้องการลบ จากนั้นดับเบิ้ลคลิกเมาส์ซ้าย จะขึ้นแถบสีน้ำเงินล้อม
Network ท่ตี ้องการจะลบ กดปุ่ม Delete ทค่ี ีย์บอรด์ โปรแกรมใน Network ดงั กล่าวจะถกู ลบออกไปทันที
ดังรูปที่ 5.23
รูปท่ี 5.23 Network ทตี่ ้องการลบ Network
5.6 การคัดลอกและวาง (Copy And Paste)
กรณโี ปรแกรมทต่ี ้องการเขียนในแต่ละ Network มลี ักษณะคลา้ ยคลึงกนั การคัดลอกโปรแกรมเป็น
วธิ ีการท่ชี ว่ ยให้การเขียนโปรแกรมมีความรวดเรว็ มากยง่ิ ขน้ึ ซึ่งมีขนั้ ตอนดงั น้ี
1) เลื่อนเมาส์ไปที่ Network ที่ต้องการคัดลอก แล้วดับเบิ้ลคลิกเมาส์ซ้ายให้ขึ้นกรอบสีน้ำเงินที่
Network ท่ีตอ้ งการคดั ลอก จากนัน้ คลกิ เมาส์ขวา 1 ครัง้ เลือ่ นแถบสนี ้ำเงนิ ลงมาท่คี ำว่า Copy หรือกดคีย์
ลดั Ctrl + C ดงั รูปที่ 5.24
2) เลื่อนเมาส์ไปคลิกยัง Network ทต่ี ้องการวางโปรแกรมทค่ี ดั ลอก ดงั รูปที่ 5.25
153
รปู ท่ี 5.24 การใชง้ านคำสงั่ Copy รปู ที่ 5.25 ตำแหน่งทต่ี ้องการวางโปรแกรมที่คัดลอก
3) คลกิ เมาสข์ วาเลอื่ นลงมายังคำวา่ Paste หรอื จะใชค้ ยี ์ลัด Ctrl + V ดังรูปที่ 5.26
4) โปรแกรมที่คัดลอกจะถกู วางลงใน Network ทีต่ อ้ งการ ผู้ใชส้ ามารถแก้ไขตำแหน่งอนิ พตุ เอาต์พตุ
ใหถ้ ูกต้องตามโปรแกรมต่อไป ดังรูปท่ี 5.27
รูปที่ 5.26 ขน้ั ตอนในการวาง รปู ที่ 5.27 การวางโปรแกรมท่คี ัดลอกลงใน
Network ทต่ี อ้ งการ
154
5.7 การเคลียร์โปรแกรม (Clear)
ในการใชง้ าน PLC ผใู้ ชอ้ าจทำการ Download (ดาวนโ์ หลด) โปรแกรมลงใน PLC ติดต่อกันหลาย
ครง้ั จนทำให้ PLC เกิดทำงานผดิ พลาดได้ ผู้ใชส้ ามารถปอ้ งกันปญั หาท่ีอาจเกิดขึน้ นี้ โดยทำการ Clear
โปรแกรมที่อยู่ใน PLC เดิมก่อน จากนั้นถึงจะทำการดาวนโ์ หลดซึ่งมขี ้ันตอนในการ Clear ดงั น้ี
1) คลกิ ท่ี PLC ใน Menu Bar และเลื่อนลงมาทีค่ ำส่ัง Clear แล้วคลิกเมาสซ์ า้ ยดังรปู ท่ี 5.28
รปู ท่ี 5.28 ข้ันตอนการเคลยี รโ์ ปรแกรม (Clear)
2) จะปรากฏหน้าต่างคำสง่ั Clear คลิกทป่ี ่มุ คำสัง่ Clear โปรแกรมที่อย่ใู น PLC จะถูกเคลียร์ท้งั หมด
พรอ้ มท้งั โหมดการทำงานของ PLC จะกลับไปอยู่ทโี่ หมด STOP ดังรปู ท่ี 5.29
รปู ที่ 5.29 หนา้ ตา่ งคำส่ัง Clear คลิกเลือก Clear
155
5.8 การสง่ั งานผา่ น Program Editor (Force)
เป็นคำสั่งบังคับการทำงานของตำแหน่งที่ต้องการ ให้มีสถานะเป็น On – Off โดยการสั่งงานผ่าน
Program Editor (Force) โดยการใช้งานคำสั่ง (Force) PLC ต้องอยู่ในสภาวะ Run Mode เท่านั้น มี
ข้ันตอนในการสง่ั งานดงั นี้
1) เมื่อเขยี นโปรแกรมเสรจ็ เรียบรอ้ ย ทำการ Compile, Download, Run Mode และส่ัง Status
Program
2) การส่ังงานผ่าน Program Editor (Force) เลื่อนเมาสไ์ ปชีค้ ำสงั่ ทต่ี ้องการส่ังงาน คลกิ เมาสข์ วา
เล่ือนลงมาที่คำส่งั Force หรอื เล่ือนเมาสไ์ ปชี้ท่ีคำส่ัง Force บนแถบเคร่ืองมือ ดังรปู ท่ี 5.30
รปู ท่ี 5.30 การส่งั งานผา่ น Program Editor (Force)
3) จะปรากฏหน้าต่างคำสั่ง Force ขึ้นมา พร้อมบอกตำแหน่งที่จะ Force รวมถึงสถานะของ
ตำแหนง่ ทจี่ ะส่ังงานให้ Onหรอื Off หากตำแหนง่ และสถานะถกู ตอ้ งให้คลิก Force ดงั รปู ที่ 5.31
4) สังเกตตำแหน่งที่ถูกสั่งงาน (Force) จะมีสภาวะเป็น On และมีสัญลักษณ์รูปกุญแจบอกสภาวะ
การถูกควบคมุ ของตำแหนง่ นั้น ๆ ดังรูปท่ี 5.32
156
รูปที่ 5.31 การคลิกเลือก Force รปู ที่ 5.32 คำสัง่ Force ตำแหน่งท่ถี กู ส่งั งาน
5) การยกเลิกการส่งั งาน (Unforce ) เลือ่ นเมาส์ไปช้ที ต่ี ำแหน่งทถ่ี กู ควบคมุ คลิกเมาสข์ วา เลือ่ นลง
มาทีค่ ำสั่ง Unforce หรือเลื่อนเมาส์ไปช้ีทต่ี ำแหนง่ ที่ถูกควบคุม แลว้ เล่ือนเมาส์ไปคลกิ ท่ีคำส่ัง Unforce
บนแถบเคร่ืองมือ ดังรปู ท่ี 5.33
รปู ที่ 5.33 การยกเลิกการสัง่ งาน (Unforce )
6) หากต้องการยกเลิกการส่งั งานทั้งหมดทุกจุดทเี่ คยสัง่ งานไว้ เลอ่ื นเมาสไ์ ปคลกิ ท่ีคำส่ัง
Unforce All บนแถบเคร่ืองมือ ดังรูปที่ 5.34
รปู ท่ี 5.34 การยกเลิกการส่ังงานทั้งหมด (Unforce All)
157
5.9 การต่ออปุ กรณเ์ อาต์พุตของเคร่อื งโปรแกรมเมเบลิ คอนโทรลเลอร์
ในการต่ออุปกรณเ์ อาต์พุตของเคร่อื งโปรแกรมเมเบิลคอนโทรลเลอร์ รุ่น S7–200 จะมีลักษณะการ
ต่อสายของวงจรเอาต์พตุ ตามวัสดุอปุ กรณ์ทน่ี ำมาทำเป็นเอาตพ์ ุตดงั น้คี ือ
1) การต่อวงจรเอาต์พตุ ชนิดรีเลย์ หลักการตอ่ วงจรเอาต์พุตชนดิ รีเลย์ กรณีอุปกรณ์เอาต์พุตใชก้ ับ
ไฟตรงทำได้โดยการต่อขั้วไฟบวก 24 V จากเคร่ือง PLC หรือจากแหลง่ จ่ายภายนอกต่อเข้าที่ขั้วเอาต์พุต1L
(Common Output) ของ PLC และต่อขวั้ 0 V จากเครื่อง PLC หรือจากแหล่งจ่ายภายนอกเข้ากับขั้วด้าน
หนึ่งของอุปกรณ์ และอีกขั้วของอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับขั้วเอาต์พุตของ PLC ที่ใช้งาน
หากในกรณีที่อุปกรณ์เอาต์พุตใช้กับไฟสลับ ทำได้โดยการนำขั้ว L จากแหล่งจ่ายภายนอกต่อเข้าที่ข้ัว
เอาต์พุต 1L (Common Output) ของ PLC และต่อขั้ว N จากแหล่งจ่ายภายนอกเข้ากับขัว้ ดา้ นหนึ่งของ
อุปกรณ์และอกี ขวั้ ของอุปกรณต์ ่อเข้ากับขว้ั เอาตพ์ ตุ ของ PLC ทีใ่ ชง้ าน
2) การต่อสายของวงจรภาคเอาต์พุตชนิดทรานซิสเตอร์ 24 DCV หลักการต่อวงจรเอาต์พุตชนิด
ทรานซิสเตอร์ ทำได้โดยการต่อขั้วไฟบวก 24 V จากเครื่อง PLC หรือจากแหล่งจ่ายภายนอกต่อเข้าที่ข้ัว
เอาต์พุต 1L+ ของPLCและต่อขั้ว 0 V จากเครื่อง PLC หรือจากแหล่งจ่ายภายนอกเข้าที่ขั้วเอาต์พุต 1M
ของ PLC และต่อเข้ากับขั้วด้านหนึ่งของอุปกรณ์และอีกขั้วของอุปกรณ์เอาต์พุตต่อเข้ากับขั้วเอาต์พุตของ
PLC ท่ใี ช้งาน
158
(ก) (ข)
(ก) ไดอะแกรมการตอ่ สายของวงจรภาคเอาต์พตุ ชนดิ รเี ลย์
(ข) ไดอะแกรมการต่อสายของวงจรภาคเอาต์พุตชนิดทรานซสิ เตอร์
รปู ท่ี 5.35 ไดอะแกรมการต่อสายของวงจรภาคเอาต์พุต
ท่มี า : ชวนชม ลม่ิ ทอง,2558
สรุป
1. การกำหนดชือ่ ในตารางสัญลักษณ์ (Symbol Table) เป็นการกำหนดชื่อหรือข้อความลงไปใน
โปรแกรมทเี่ ขียน เพ่ือให้สะดวกในการจดจำหน้าที่การทำงานของอนิ พุตเอาต์พุตและตำแหนง่ ตา่ ง ๆ ใน
โปรแกรมสามารถกำหนดได้ในตารางสญั ลกั ษณ์ (Symbol Table)
2. การดสู ภาวะการทำงานใน Status Chart เปน็ การดูและตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ตา่ ง ๆ
ในขณะที่โปรแกรมกำลังทำงาน
3. การอัพโหลดงาน (Upload Project) คือ การนำโปรแกรมท่ีมีอยูใ่ น PLC ขนึ้ มายงั คอมพิวเตอร์
159
4. การแทรก (Insert) ใหส้ งั เกตมคี ำวา่ INS ทีม่ มุ ซา้ ยสุดของหนา้ จอโปรแกรมและเมื่อเรากด ปมุ่
Insert บนคยี ์บอรด์ ของคอมพวิ เตอร์ ตวั อักษรจะเปล่ยี นจาก INS เปน็ คำว่า OVR (Over หมายถึง การ
เขยี นโปรแกรมแบบเขียนทบั การแทรกมที ัง้ แทรกคำสง่ั Networks บรรทัดคอลมั น์การต่อเส้นแนวต้งั
5. การลบ (Delete) ให้เลื่อนเมาส์ไปชี้ทตี่ ำแหน่งต้องการลบซึง่ การลบมีทงั้ การลบColumn
(Delete Column) และการลบ Network (Delete Network)
6. การคดั ลอกและวาง (Copy And Paste) มลี ักษณะคล้ายคลงึ กัน การคดั ลอกโปรแกรมเป็นวธิ ีการ
ที่ชว่ ยให้การเขยี นโปรแกรมมีความรวดเร็วมากย่งิ ขึ้น
7. การเคลยี ร์โปรแกรม (Clear) สามารถทำได้โดยใชค้ ำส่ัง Clear เพื่อปอ้ งกนั ปญั หา PLC ทำงาน
ผดิ พลาดจากการ Download ตดิ ตอ่ กนั หลายๆครง้ั
8. การส่งั งานผ่าน Program Editor (Force) เปน็ คำสง่ั บงั คับการทำงานของตำแหน่งที่ต้องการ ให้
มีสถานะเป็น On – Off โดยการสัง่ งานผ่าน Program Editor (Force)โดยการใชง้ านคำสัง่ (Force) PLC
ต้องอย่ใู นสภาวะ Run Mode
160
แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยที่ 5
รหัสวิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า สอนครั้งท่ี 5
ชอ่ื หน่วย การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สัปดาห์ท่ี 5
คำสงั่ ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ และทำเคร่ืองหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. การกำหนดค่าในตารางทส่ี ญั ลกั ษณ์ Symbol Table คือข้อใด
ก. กำหนด CPU ของ PLC เพื่อใชง้ าน
ข. กำหนดชือ่ อินพตุ เอาตพ์ ุต และตำแหนง่ ตา่ งๆ ใน โปรแกรมเพื่อสะดวกในการจำ
ค. กำหนดรปู แบบของสายเคเบล้ิ ท่ใี ชใ้ นตดิ ต่อสอ่ื สาร
ง. เปน็ การดูและตรวจสอบค่าพารามเิ ตอรต์ า่ งๆ ในขณะกำลงั รันโปรแกรม
2. ขณะทดสอบโปรแกรม หากตอ้ งการแสดงสถานะการทำงานของโปรแกรม เพ่อื ให้โปรแกรมปรากฏเป็น
เส้นสี ทำใหม้ องเห็นการทำงานของโปรแกรมได้ชัดเจนย่งิ ขึ้น ต้องใช้คำสงั่ ใด
ก. Program Status
ข. Chart Status
ค. System Table
ง. Single Read
3. ข้อใด คือหน้าที่ของการกำหนดคา่ ใน Status Chart
ก. กำหนด CPU ของ PLC เพ่ือใช้งาน
ข. กำหนดชอื่ อินพตุ เอาตพ์ ุต และตำแหน่งต่างๆ ใน โปรแกรมเพ่ือสะดวกในการจำ
ค. กำหนดรูปแบบของสายเคเบล้ิ ทใ่ี ช้ในตดิ ต่อส่ือสาร
ง. เป็นการดูและตรวจสอบค่าพารามเิ ตอร์ต่างๆ ในขณะกำลังรนั โปรแกรม
4. จากรปู เป็นสัญลกั ษณ์ของคำส่งั ใด
ก. Download Project
ข. Compile All
ค. Chart Status
ง. Communication
5. ขอ้ ใดคือ ความหมายของการ Upload Project
ก. กำหนดชือ่ อินพตุ เอาต์พุต และตำแหนง่ ตา่ งๆ ในโปรแกรมเพ่ือสะดวกในการจำ
ข. การดแู ละตรวจสอบค่าพารามเิ ตอรต์ า่ งๆ ในขณะกำลงั รัน
โปรแกรม
161
ค. การนำโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ ลงไปยังเครื่อง PLC
ง. การนำโปรแกรมท่ีมีอยใู่ นเครือ่ ง PLC ขนึ้ มายงั โปรแกรม
คอมพวิ เตอร์
6. ข้อใด เปน็ สัญลักษณ์ของคำส่งั Upload Project
ก.
ข.
ค.
ง.
7. คำส่ังคัดลอก (Copy) สามารถกดคยี ล์ ดั โดยการกดป่มุ ใด
ก. Ctrl + C
ข. Ctrl + V
ค. Ctrl + A
ง. Ctrl + B
8. การ Download โปรแกรมลงใน PLC ติดต่อกนั หลายครง้ั อาจทำให้ PLC ทำงานผิดพลาดได้ ผ้ใู ช้
สามารถปอ้ งกนั ปัญหาทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ นี้ โดยวธิ ใี ด
ก. ใช้คำส่ัง Compile ตรวจสอบโปรแกรมกอ่ น Download
ข. ใช้คำสั่ง Clear โปรแกรมกอ่ น Download
ค. ใช้คำสัง่ Upload โปรแกรมกอ่ น Download
ง. ใชค้ ำสง่ั Program Status โปรแกรมกอ่ น Download
9. ขอ้ ใดเปน็ สญั ลักษณ์ของคำสัง่ force
ก.
ข.
ค.
ง.
10. คำส่ังบงั คับการทำงาน ของตำแหน่งท่ีต้องการ ให้มีสถานะเป็น On - Off คือคำสัง่ ใด
ก. Upload Project
ข. Download Project
ค. Program Status
ง. Force
162
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 5
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนคร้ังที่ 5
ช่อื หน่วย การเขยี นโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สัปดาหท์ ี่ 5
ขอ้ 1) ข
ขอ้ 2) ง
ข้อ 3) ก
ข้อ 4) ง
ข้อ 5) ก
ขอ้ 6) ก
ขอ้ 7) ข
ขอ้ 8) ข
ขอ้ 9) ง
ขอ้ 10) ข
163
แบบฝึกหดั หน่วยที่ 5
รหัสวิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครงั้ ที่ 5
ช่อื หน่วย การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สปั ดาหท์ ี่ 5
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การกำหนดสัญลักษณ์ในตารางสญั ลกั ษณ์ (Symbol Table) มีประโยชนอ์ ย่างไร
……………………………………....................................………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
2. การใช้งาน Status Chart มีประโยชน์อยา่ งไร......................................................................................
……………………………………....................................………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
…………....................................…………………………………………………………………………………………………
3. การอัพโหลด (Upload) คือ.............................……………………………………………………………………………
.....................................……………………………………………………………………………………………………………
4. การเคลียร์โปรแกรม (Clear) คอื ............................…….………………………………….……………………………
.....................................……………………………………………………………………………………………………………
5. การส่ังงานผา่ น Program Editor Force คือ…….………………………………….......................……………….
.....................................……………………………………………………………………………………………………………
6. จงอธิบายรปู แบบ การแทรก (Insert) ตามรายการดงั น้ี
6.1 Insert ROW หมายถึง...................................................................................................................
6.2 Insert Column หมายถงึ ..............................................................................................................
6.3 Insert Vertical หมายถงึ ..............................................................................................................
6.4 Insert Network หมายถงึ .............................................................................................................
6.5 Insert Subroutine หมายถงึ .......................................................................................................
164
เฉลยแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครั้งที่ 5
ชือ่ หน่วย การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN สปั ดาหท์ ี่ 5
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การกำหนดสญั ลักษณ์ในตารางสัญลักษณ์(Symbol Table) มปี ระโยชน์อย่างไร
เปน็ การกำหนดชื่อหรือขอ้ ความลงไปในโปรแกรมท่เี ขยี น เพอื่ ใหส้ ะดวกในการจดจำ หน้าท่กี ารทำงาน
ของอินพุต เอาต์พุตและตำแหนง่ ต่าง ๆ ในโปรแกรม
2. การใชง้ าน Status Chart มีประโยชน์อย่างไร
การดูสภาวะการทำงานใน Status Chart เปน็ การดูและตรวจสอบคา่ พารามเิ ตอร์ตา่ ง ๆ ในขณะที่
โปรแกรมกำลงั ทำงาน
3. การ Upload คือ
การนำโปรแกรมท่ีมีอยูใ่ น PLC ขน้ึ มายังคอมพวิ เตอร์ เพื่อใชง้ าน
4. การเคลยี ร์โปรแกรม(Clear) คอื
การลบโปรแกรมออกจากหน่วยความจำ เนอื่ งจาก Download โปรแกรมลงใน PLC ตดิ ตอ่ กนั หลาย
คร้ัง จนทำให้ PLC เกดิ ทำงานผดิ พลาด ผ้ใู ช้สามารถป้องกันปญั หาทอี่ าจเกิดขน้ึ น้ี โดยทำการ Clear
โปรแกรมท่ีอย่ใู น PLC เดิมก่อน
5. การสัง่ งานผ่าน Program Editor(Force)คือ
เป็นคำสั่งบังคับการทำงานของตำแหนง่ ทีต่ ้องการ ใหม้ ีสถานะเป็น On - Off โดยการส่ังงานผา่ น
Program Editor(Force) โดยการใชง้ านคำสั่ง(Force) PLC ตอ้ งอย่ใู นสภาวะ Run Mode
6. จงอธบิ ายรปู แบบ การแทรก(Insert) ตามรายการดังนี้
6.1 Insert ROW หมายถึง การแทรกบรรทัด
6.2 Insert Column หมายถึง การแทรกคอลัมน์
6.3 Insert Vertical หมายถึง การต่อเสน้ แนวตง้ั
6.4 Insert Network หมายถงึ การแทรก Networks
6.5 Insert Subroutine หมายถงึ การแทรก Subroutine
165
ตารางบันทกึ ผลการปฏิบตั งิ าน
รายการปฏบิ ัติงาน การปฏบิ ัติ
ปฏิบัตไิ ด้ ปฏบิ ตั ไิ มไ่ ด้ หมายเหตุ
1. การกำหนดช่ือในตารางสัญลักษณ์ (Symbol Table)
2. การดสู ภาวะการทำงานใน Status Chart
3. การอัพโหลด (Upload project)
การแทรก (Insert)
4. การแทรกโปรแกรม
5. การแทรก Network
การลบ (Delete)
6. การลบ Column
7. การลบ Network
8. การคดั ลอกและวาง (Copy And Paste)
9. การเคลียรโ์ ปรแกรม (Clear)
10.การส่ังงานผา่ น Program Editor (Force)
166
แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน
หน่วยท่ี 5 การเขียนโปรแกรมบน STEP 7–Micro/WIN
ใบงานที่ 2 การใช้งานคำสัง่ พ้นื ฐานและการตอ่ อุปกรณอ์ ินพตุ /เอาตพ์ ุต
การประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน 1. กระบวนการ 2. ผลการปฏิบัติงาน 3. กิจนสิ ยั การ
คะแนนเตม็ 120 คะแนน ปฏบิ ตั งิ าน ปฏิบัติงาน
1.1 การเตรียมเครื่อง ืมอ ฯ
1.2 ความ ูถก ้ตอง ฯ
1.3 ปฏิบั ิตงานตาม ั้ขนตอน
1.4 ปฏิ ับติงานเสร็จตามเวลา ฯ
2.1 ปฏิบัติงานตามตาราง ับน ึทก
ผลการป ิฏบัติงาน
2.2 การต่ออุปกรณ์ ิอน ุพตและ
เอาต์ ุพต
2.3 สรุปผลการทดลอง
3.1 ความปลอด ัภย ฯ
3.2 การใ ้ชเคร่ือง ืมอ ุอปกรณ์
3.3 ความเรียบร้อยของ ื้พน ีท่ ฯ
3.4 ความตั้งใจ ฯ
รวม
ช่ือ-สกุล 5 5 5 5 30 30 20 5 5 5 5 คะแนน
1.
2.
3
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
167
19.
20.
หมายเหตุ
ใหค้ รผู ู้สอนนำคะแนนจากแบบประเมินผลการปฏิบตั งิ านทุกหนว่ ยมารวมกันแลว้ เทยี บ
บัญญตั ิไตรยางคเ์ พื่อเป็นคะแนนภาคปฏิบตั ิของผ้เู รยี น
หลักเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
รายการประเมนิ ผล หลักเกณฑก์ ารให้คะแนน
1. กระบวนการปฏบิ ตั ิงาน
1.1 การเตรยี มเคร่ืองมือ (1) เตรยี มเคร่อื งมือ อุปกรณค์ รบถ้วน ได้ 5 คะแนน
อปุ กรณ์ (2) ขาดบางส่วน ตดั รายการละ 1 คะแนน
(3) ไม่มีเคร่อื งมือ อปุ กรณ์ ได้ 0 คะแนน
1.2 ความถูกต้องในการใช้ (1) ใชเ้ ครื่องมือ อุปกรณ์ถูกต้องครบถว้ น ได้ 5 คะแนน
เคร่อื งมอื อุปกรณ์ (2) ใชเ้ ครอื่ งมือ อุปกรณ์ถกู ต้องบางส่วน ตดั จุดละ 1 คะแนน
(3) ใชเ้ คร่อื งมือ อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง ได้ 0 คะแนน
1.3 ปฏบิ ตั ิงานตามขน้ั ตอน (1) ปฏิบัติงานตามข้นั ตอนทุกขนั้ ตอนได้ 5 คะแนน
(2) ปฏิบัติงานตามขัน้ ตอนบางส่วนตัดจดุ ละ 1 คะแนน
(3) ไม่ปฏิบัติงานตามข้นั ตอน ได้ 0 คะแนน
1.4 ปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ตามเวลา (1) ปฏิบตั งิ านเสรจ็ ตามเวลาทกี่ ำหนด ได้ 5 คะแนน
ท่กี ำหนด (2) ปฏบิ ัตงิ านไมเ่ สรจ็ ตามเวลาท่ีกำหนด ได้ 3 คะแนน
2. ผลการปฏบิ ตั งิ าน (1) ปฏบิ ตั ิงานตามตารางบันทึกผลการปฏบิ ัติงานได้ทกุ ขอ้ ได้ 30 คะแนน
2.1 ปฏบิ ัติงานตามตาราง (2) ปฏิบตั ิงานตามตารางบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงานไดบ้ างสว่ น ตัดขอ้ ละ 3
บนั ทึกผลการปฏิบตั งิ าน คะแนน
(3) ปฏิบัติงานตามตารางบนั ทึกผลการปฏบิ ัติงานไม่ได้ได้ 0 คะแนน
2.2 การตอ่ อปุ กรณอ์ ินพตุ (1) โปรแกรมทำงานตามข้ันตอนและตอ่ สายจากภาคอินพุตและเอาตพ์ ตุ ของ
และเอาต์พุต เคร่อื ง PLC ถกู ต้องได้ 30 คะแนน
(2) โปรแกรมทำงานตามขัน้ ตอนและต่อสายจากภาคอินพุตและเอาต์พตุ ของ
เครอ่ื ง PLC ถูกต้องบางส่วน ตัดจดุ ละ 5 คะแนน
(3) โปรแกรมไม่ทำงานและการต่อสายจากภาคอนิ พุตและเอาต์พตุ ของเครื่อง
PLC ไม่ถกู ต้อง ได้ 0 คะแนน
2.3 สรปุ ผลการทดลอง (1) ถูกต้องครบถว้ นได้ 20 คะแนน
(2) ถูกต้องบางส่วนตัดจดุ ละ 2 คะแนน
168
(3) ไมถ่ ูกตอ้ งทง้ั หมด ได้ 0 คะแนน
3. กิจนิสัยในการปฏิบตั ิงาน
3.1 ความปลอดภยั ในการ (1) คำนงึ ถึงความปลอดภยั ได้ 5 คะแนน
ปฏิบัตงิ าน (2) ไมค่ ำนึงถึงความปลอดภยั ได้ 0 คะแนน
3.2 การบำรุงรักษาเคร่ืองมือ (1) มกี ารบำรุง ดูแล รักษาเครื่องมอื อปุ กรณ์ ได้ 5 คะแนน
อปุ กรณ์ (2) ไมบ่ ำรุง ดแู ล รกั ษาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ ได้ 0 คะแนน
3.3 ความเรียบรอ้ ยของพ้นื ท่ี (1) พื้นท่ปี ฏบิ ตั ิงานสะอาดเรยี บร้อย ได้ 5 คะแนน
ปฏิบัตงิ าน (2) พื้นท่ปี ฏิบัตงิ านไมส่ ะอาด สกปรก ไมเ่ รียบร้อย ได้ 0 คะแนน
3.4 ความตัง้ ใจในการ (1) มคี วามตั้งใจปฏิบัติงาน ได้ 5 คะแนน
ปฏบิ ัตงิ าน (2) ไมต่ ั้งใจปฏบิ ัติงาน ได้ 0 คะแนน
169
บันทึกข้อเสนอแนะ ปญั หา / อุปสรรค และอ่ืน ๆ ของผู้เรยี น
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
……………………………………………………………………….……………………………………………………………………………..
……………………………………….……..……………….………….…….……………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………..…………… ครูผสู้ อน
(……………………………………………..)
170
แผนจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ 6
รหสั วชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนคร้ังท่ี 6
ชอื่ หน่วย กลุ่มคำสง่ั Bit Logic สปั ดาห์ท่ี 6
1. หน่วยการเรียนรู้ กลมุ่ คำสง่ั Bit Logic
2. หวั ข้อเรอื่ ง
2.1 ภาคทฤษฎี
1) การใชค้ ำสง่ั Normally Open : NO
2) การใชค้ ำสัง่ Normally Closed : NC
3) การใชค้ ำสง่ั Output
4) การใช้คำสั่ง Set (S) และการใชค้ ำสั่ง Reset (R)
5) การใชค้ ำสัง่ Positive Transition (P) และ คำสง่ั Negative Transition (N)
6) การใช้คำสั่ง Jump to Label
2.2 ภาคปฏบิ ัติ
1) ใบงานท่ี 3 การใชค้ ำส่งั พื้นฐาน
3. จำนวนช่วั โมง 4 ชว่ั โมง
4. จุดประสงค์ท่ัวไป
1) เพอ่ื ให้มคี วามรู้ เขา้ ใจเกยี่ วกับโปรแกรมกลุม่ คำส่งั Bit Logic
2) เพื่อให้มที ักษะเกย่ี วกบั โปรแกรมกลุม่ คำสง่ั Bit Logic
3) เพ่อื ให้ผู้เรยี นเปน็ ผู้มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์สอดคล้องกบั
จรรยาบรรณวชิ าชีพ
5. จุดประสงค์การเรยี นร้ปู ระจำหนว่ ย
5.1 ดา้ นความรู้
1) บอกความหมายของสัญลกั ษณ์และหลักการทำงานของกลุม่ คำสงั่ Bit Logic ได้ถกู ต้อง
2) บอกการทำงานของโปรแกรมที่ใช้คำส่ัง Set (S) และคำสง่ั Reset (R) ไดถ้ ูกต้อง
3) บอกการทำงานของโปรแกรมทใ่ี ช้คำส่งั Positive Transition (P) และ คำสงั่ Negative
Transition (N) ได้ถูกต้อง
4) บอกการทำงานของโปรแกรมท่ใี ช้คำสงั่ Jump to Label ได้ถูกต้อง
5.2 ด้านทกั ษะ
1) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่ัง Normally Open : NO , Normally Closed : NC และ
OUTPUT ได้ถูกตอ้ ง
2) เขยี นโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Set (S) และการใชค้ ำส่งั Reset (R) ไดถ้ ูกต้อง
171
3) เขยี นโปรแกรมโดยใช้คำสง่ั Positive Transition (P) และ คำสงั่ Negative Transition
(N) ได้ถูกต้อง
4) เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Jump to Label ได้ถูกต้อง
5.3 ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
1) มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์สอดคล้องกับจรรยาบรรณวชิ าชีพ
6. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1) แสดงความรู้ในการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำสงั่ Normally Open และ Normally Closed และ
คำส่ัง Output
2) แสดงความรู้ในการเขยี นโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Set และ Reset
3) แสดงความรูใ้ นการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง Positive และ Negative Transition
4) แสดงความรู้ในการเขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่ัง Jump to Label
7. กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั ตอนการสอน/กจิ กรรมครู ขนั้ ตอนการเรยี น/กจิ กรรมผู้เรยี น
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น (ใช้เวลา 25 นาท)ี ขน้ั เตรยี ม (ใชเ้ วลา 25 นาที)
1. ครูอธิบายและใหผ้ ู้เรียนศึกษาจดุ ประสงค์การ 1. จดั เตรยี มวสั ดุ อปุ กรณ์ ส่ือ และเอกสารตาม
เรยี นรู้ สาระสำคัญและรายละเอยี ดของเนือ้ หา ท่คี รูผู้สอนและแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ีกำหนดไว้
ภาคทฤษฏีดังน้ี
2. ผเู้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 6
1) การใชค้ ำสง่ั Normally Open : NO กล่มุ คำสัง่ Bit Logic และสลับกันตรวจคำตอบ
2) การใชค้ ำสง่ั Normally Closed : NC
3) การใชค้ ำสั่ง Output
4) การใชค้ ำสั่ง Set (S) และการใช้คำสงั่
Reset (R)
5) การใช้คำสงั่ Positive Transition (P) และ
คำสงั่ Negative Transition (N)
6) การใช้คำสง่ั Jump to Label
2. ทดสอบก่อนเรยี น หน่วยท่ี 6 กล่มุ คำส่ัง Bit
Logic ให้ผเู้ รียนสลับกันตรวจคำตอบ และให้
คะแนน
172
3. แจ้งจุดประสงค์การเรียนหนว่ ยการเรียนที่ 6 3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกบั จดุ ประสงค์การเรียนของ
และการชว่ ยกนั รักษากตกิ าที่ทุกคนรว่ มกันสรา้ งใน หน่วยการเรยี นที่ 6 และชว่ ยกันรักษากตกิ าทที่ ุก
ระหว่างการเรยี น คนร่วมกนั สร้างในระหว่างการเรียน
ข้ันสอน (ใชเ้ วลา 190 นาที) ข้ันสอน (ใชเ้ วลา 190 นาที)
1. ครอู ธิบายและสาธิตวธิ กี ารเขียนโปรแกรมโดยใช้ 1. ผู้เรียนตง้ั ใจฟังและจดบันทึกเกี่ยวกับวธิ ีการ
คำสง่ั Normally Open : NO , Normally เขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่ัง Normally Open :
Closed : NC และ OUTPUT พรอ้ มแจกเอกสาร NO, Normally Closed : NC และ OUTPUT
ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 6 กลุ่มคำสง่ั Bit Logic พรอ้ มกับศกึ ษา เอกสารประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี
ใช้ประกอบการเรยี น 6 เร่ือง กล่มุ คำส่ัง Bit Logic
ขน้ั ตอนการสอน/กิจกรรมครู ข้ันตอนการเรยี น/กจิ กรรมผเู้ รยี น
2. ครอู ธบิ ายและสาธิตวิธกี ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 2. ผู้เรียนตง้ั ใจฟังและจดบนั ทึก ศึกษา เอกสาร
คำส่งั Set (S) และการใชค้ ำส่ัง Reset (R) ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 6 พร้อมกับซักถาม
ปัญหาทส่ี งสยั
3. ครอู ธบิ ายและสาธิตวิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 3. ผู้เรยี นตง้ั ใจฟงั และจดบนั ทึก ศกึ ษา เอกสาร
คำสั่ง Positive Transition (P) และคำสงั่ ประกอบการเรยี นหนว่ ยท่ี 6 พรอ้ มกบั ซักถาม
Negative Transition (N) ปญั หาท่ีสงสัย
4. ครอู ธบิ ายและสาธติ วิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 4. ผู้เรียนตัง้ ใจฟังและจดบันทึก ศึกษา เอกสาร
คำสั่ง Jump to Label ประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 6 พร้อมกับซักถาม
ปัญหาท่สี งสัย
5. ครูให้ผเู้ รียนแบ่งกลุ่มกันเองกล่มุ ละ 3 คนโดย 5. ผเู้ รยี นแบ่งกล่มุ กนั เองตามความสมคั รใจกลุม่ ละ
มสี มาชิกไม่ซำ้ กับสปั ดาห์ท่ีผ่านมา พร้อมกับให้ 3 คน โดยมีสมาชิกไม่ซ้ำกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัง้ ใจ
ทบทวนการเขยี นโปรแกรมด้วยคำสัง่ ต่าง ๆ ที่ได้ ฟงั และปฏิบตั ิงานตามที่ได้รับมอบหมาย เพ่ือ
อธิบายและสาธิต พร้อมกบั แจ้งวธิ กี ารประเมินการ เตรยี มรับการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ าน
ปฏิบัตงิ าน
6. ครแู จกใบงานที่ 3 ให้ผูเ้ รียนแต่ละกลุ่ม พร้อม 6. ผเู้ รยี นปฏิบตั งิ านตามใบงานที่ครูแนะนำ ใบงาน
ทัง้ อธบิ ายวิธกี ารทำใบงาน ท่ี 3
7. ผู้เรยี นปฏบิ ตั งิ านตามรายละเอียดของใบงาน
และคอยซักถามเมื่อเกิดสงสัยปญั หา
173
7. ครใู หผ้ ู้เรยี นปฏบิ ัตงิ านตามรายละเอยี ดของใบ
งาน พร้อมกบั คอยแนะนำและให้คำแนะนำปรึกษา
เมอ่ื ผเู้ รยี นสงสยั ปัญหา ขัน้ สรปุ (ใชเ้ วลา 25 นาท)ี
1. ผู้เรียนรบั ฟงั คำสรุปและขอ้ แนะนำจากครู
ข้ันสรปุ (ใช้เวลา 25 นาที) พรอ้ มท้ังจดบนั ทกึ ข้อมลู และซกั ถามหรือตอบ
1. ครูใหผ้ เู้ รียนช่วยกนั อภิปรายสรุป คำถามในหวั ขอ้ ทยี่ ังไมเ่ ข้าใจ
- การใชค้ ำส่งั Normally Open : NO
- การใชค้ ำส่งั Normally Closed : NC
- การใชค้ ำสัง่ Output
- การใชค้ ำสง่ั Set (S)
และการใช้คำสง่ั Reset (R)
- การใชค้ ำส่งั Positive Transition (P) และ
คำส่ัง Negative Transition (N)
- การใช้คำสัง่ Jump to Label 2. ทำแบบทดสอบหลังเรยี น
3. ผ้เู รียนนำคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ครูแจกแบบทดสอบหลังเรียน และแบบทดสอบหลังเรยี นมาเปรยี บเทยี บเพ่ือดู
3. ครตู รวจแบบทดสอบหลงั เรยี นพรอ้ มกับบันทึก ความ กา้ วหน้าทางการเรียนของตนเอง
คะแนน 4. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัดท้ายหน่วย
4. ใหผ้ ้เู รยี นทำแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ย ขั้นตอนการเรียน/กจิ กรรมผู้เรียน
ขนั้ ตอนการสอน/กิจกรรมครู 5. ผเู้ รียนทำแบบประเมินผลพฤติกรรมบคุ คล
ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ฯ
5. ให้ผเู้ รยี นทำแบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบุคคล
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ฯ
รวมเวลาเรยี นทง้ั หมด 240 นาที
หรอื 4 ชวั่ โมงเรียน
8. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อสง่ิ พิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรยี นวิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า ของนางชวนชม ล่มิ ทอง
2) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 6 กลุ่มคำสั่ง Bit Logic
174
3) แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 6 กลมุ่ คำสัง่ Bit Logic
4) เอกสารประกอบการเรยี นหนว่ ยที่ 6 กลมุ่ คำส่ัง Bit Logic
5) ใบงานที่ 3 การใช้คำสั่งพื้นฐาน
6) แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 6 กลุ่มคำสัง่ Bit Logic
7) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน และแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วย ใช้
ประกอบในข้นั เตรียมและข้ันสรุป
8) แบบประเมินผลพฤตกิ รรมบุคคล ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ฯ
9) แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน พร้อมหลกั เกณฑ์การประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
8.2 ส่ือโสตทัศน์
1) เครอ่ื งฉายภาพ (projector)
2) งานนำเสนอหนว่ ยที่ 6 เรื่อง กลมุ่ คำสงั่ Bit Logic
(จากเอกสารสอื่ ประกอบการเรยี นการสอน รหสั วชิ า 2104-2109 วชิ าการโปรแกรมและ
ควบคุมไฟฟ้า )
8.3 ส่ือของจริง
1) คอมพิวเตอร์ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 พร้อมโปรแกรม Step 7 Micro/WIN
2) ชดุ ฝกึ PLC SIEMENS รนุ่ SIMATIC S7–200
3) สาย PC/PPI cable
(จากเอกสาร ส่ือประกอบการเรยี นการสอน รหัสวชิ า 2104-2109 วชิ าการโปรแกรมและ
ควบคุมไฟฟา้ ส่อื ของจรงิ )
9. เกณฑ์การตดั สินผล
การวัดประเมินผลแตล่ ะครัง้ ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม แล้วนำคะแนนรวม มา
ตัดสินผลการเรยี นตามเกณฑ์ดงั น้ี
คะแนนผลการประเมนิ ระดับการเรียน อยูร่ ะดับ
รอ้ ยละ 80-100 4 ดเี ย่ยี ม
ร้อยละ 75-79 3.5 ดีมาก
รอ้ ยละ 70-74 3 ดี
ร้อยละ 65-69 2.5 ดีพอใช้
รอ้ ยละ 60-64 2 พอใช้
ร้อยละ 55-59 1.5 ออ่ น
ร้อยละ 50-54 1 อ่อนมาก
รอ้ ยละ 0-49 0 ตำ่ กวา่ เกณฑ์
175
10. การวัดและประเมนิ ผล
10.1 วธิ กี ารประเมิน
1) ประเมนิ โดยการสังเกตขณะเรยี น และขณะปฏิบัตงิ าน
2) ประเมินจากแบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน
3) ประเมินองคค์ วามรู้หลังเรียน
10.2 เครื่องมือประเมิน
1) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 6 กลุ่มคำสงั่ Bit Logic
2) แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 6 กล่มุ คำสั่ง Bit Logic
3) เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 6 กลุ่มคำสัง่ Bit Logic
4) เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 6 กลุ่มคำสั่ง Bit Logic
5) เฉลยแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 6 กลุม่ คำส่ัง Bit Logic
6) แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรมบคุ คล ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
7) แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน พรอ้ มหลักเกณฑ์การประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน
176
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 6
รหัสวชิ า 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟ้า สอนคร้ังท่ี 6
ชอื่ หน่วย กลุ่มคำสัง่ Bit Logic สัปดาหท์ ี่ 6
คำสัง่ ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องทีส่ ดุ และทำเครอื่ งหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ
1. คำสัง่ ทห่ี น้าสัมผัสจะเปลย่ี นสภาวะจากปกติเปิดเปน็ สภาวะปดิ เม่อื มีการเปล่ียนแปลงสญั ญาณอินพุต
จาก 0 เปน็ 1 จากคำอธบิ าย คือคุณสมบตั กิ ารทำงานของคำสัง่ ใด
ก. คำส่ัง Normally Open
ข. คำสงั่ Normally Close
ค. คำสั่ง Positive Transition
ง. คำสง่ั Negative Transition
2. จากรปู เปน็ สญั ลกั ษณ์ของคำส่ังใด
ก. คำสั่ง Set
ข. คำสง่ั Normally Close
ค. คำสง่ั Output
ง. คำสัง่ Normally Open
3. จากรูป เป็นสญั ลักษณข์ องคำสงั่ ใด
ก. คำสัง่ Output
ข. คำสง่ั Normally Close
ค. คำสั่ง Set
ง. คำสัง่ Jump to Label
จาก Ladder Diagram ใช้ตอบคำถามข้อที่ 4 และ 5
4. เมอ่ื กดสวิตช์ I0.0 จะมกี ารทำงานอย่างไร
ก. เอาต์พตุ Q0.0 ทำงาน 4 วนิ าทีแล้วหยุดการทำงาน
ข. เอาต์พุต Q0.0 ทำงาน
ค. เอาต์พุต Q0.0 – Q0.3 ทำงาน
ง. เอาต์พุต Q0.0 – Q0.4 ทำงาน
177
5. เมือ่ กดสวติ ช์ I0.1 จะมีการทำงานอย่างไร
ก. เอาต์พตุ Q0.0 หยดุ ทำงาน
ข. ตง้ั เวลา 4 วนิ าที เอาตพ์ ุต Q0.0 ทำงาน
ค. เอาต์พตุ Q0.0 – Q0.3 หยดุ ทำงาน
ง. เอาต์พุต Q0.0 – Q0.4 หยดุ ทำงาน
6. คำสงั่ Set สามารถกำหนดยา่ นของตำแหนง่ ที่สามารถ Set ไดค้ อื ตำแหนง่ ใด
ก. 0 – 8
ข. 1 – 15
ค. 0 – 255
ง. 1 - 255
7. คำสงั่ ทีห่ นา้ สมั ผสั On ดว้ ยระยะเวลา 1 Scan time เมอื่ เกิดการเปล่ียนแปลงสญั ญาณจาก On เปน็
Off จากคำอธบิ าย คือคุณสมบัตกิ ารทำงานของคำส่ังใด
ก. คำสัง่ Reset
ข. ข. คำส่ัง Positive Transition
ค. ค. คำสง่ั Negative Transition
ง. ง. คำสง่ั Jump To Label
8. คำสั่งทห่ี น้าสัมผสั On ดว้ ยระยะเวลา 1 Scan time เมอ่ื เกิดการเปลีย่ นแปลงสัญญาณจาก Off เปน็
On จากคำอธบิ าย คือคุณสมบตั ิการทำงานของคำสัง่ ใด
ก. คำสัง่ Positive Transition
ข. คำสั่ง Negative Transition
ค. คำสง่ั Normally Close
ง. คำสง่ั Normally Open
จาก Ladder Diagram
ใชต้ อบคำถามขอ้ ท่ี 9 – 10
9. เม่ือคำสง่ั Jump to Label ทำงาน (กดสวติ ช์ I0.2 ค้าง) จะมผี ลการทำงานตามข้อใด
ก. กดสวติ ช์ I0.3 เอาต์พุต Q0.0 ทำงาน
ข. กดสวิตช์ I0.4 เอาตพ์ ุต Q0.0 ทำงาน
178
ค. โปรแกรมระหว่างคำสง่ั JMP และ LBL ทำงานเป็นปกติ
ง. โปรแกรมระหว่างคำสั่ง JMP และ LBL ค้างสภาวะการทำงานเดมิ ก่อนหน้า
10. ตัวเลข 0 ทีอ่ ยเู่ หนอื คำส่ัง JMP และ LBL มีความหมายอยา่ งไร
ก. ไมม่ ีความหมายใด กำหนดอยา่ งไรกไ็ ด้
ข. เรม่ิ ตน้ ใหค้ ำสงั่ JMP และ LBL มสี ภาวะ Off
ค. กำหนดขอบเขตเร่ิมต้นและส้นิ สุด
ง. เปน็ การกำหนดใหเ้ อาต์พุต Q0.0 ทำงานตอนกดสวิตช์ I0.2
179
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยที่ 6
รหัสวิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟา้ สอนครั้งท่ี 6
ช่อื หน่วย กลมุ่ คำสง่ั Bit Logic สัปดาห์ที่ 6
ข้อ 1) ก
ขอ้ 2) ข
ขอ้ 3) ก
ขอ้ 4) ค
ข้อ 5) ค
ข้อ 6) ค
ขอ้ 7) ข
ขอ้ 8) ข
ขอ้ 9) ง
ข้อ 10) ค
180
ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 6
รหสั วิชา 20104-2108 วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟา้ สอนครง้ั ท่ี 6
ช่อื หน่วย กลมุ่ คำส่ัง Bit Logic สัปดาหท์ ่ี 6
หนว่ ยท่ี 6
กลมุ่ คำส่ัง Bit Logic
การเขียนโปรแกรม PLC น้นั จะมีกลุ่มคำสงั่ ให้เลือกใชม้ ากมาย และกลมุ่ คำสั่ง Bit logic เป็นกล่มุ
คำส่ังพนื้ ฐาน อย่ใู นส่วนของ Instruction Tree เมื่อดบั เบล้ิ คลิกที่ Bit logic จะปรากฏคำสง่ั ต่าง ๆ สำหรับ
ใชง้ านดังรูปท่ี 6.1
รปู ท่ี 6.1 คำส่งั Bit Logic
กลุ่มคำส่งั Bit logic จะมสี ัญลกั ษณแ์ ละชือ่ คำสงั่ ใหใ้ ช้งานสำหรบั เขียนโปรแกรมพ้ืนฐาน มี
ความหมายและการทำงานตามตารางที่ 6.1
ตารางท่ี 6.1 สัญลักษณ์ของกลุ่มคำสั่ง Bit logic
สญั ลกั ษณ์และช่ือคำสงั่ ความหมาย : การทำงาน
ความหมายเปน็ คำสั่งหน้าสัมผัสปกตเิ ปิด
การทำงาน หน้าสัมผสั จะเปลยี่ นสภาวะจากปกตเิ ปิดเปน็ สภาวะปิด
Normally Open (NO) เมือ่ มีการเปล่ียนสัญญาณอนิ พุตจาก 0 เปน็ 1 หรือจาก Off เปน็ On
181
Normally Close (NC) ความหมายเปน็ คำสง่ั หนา้ สมั ผัสปกติปิด
การทำงาน หน้าสมั ผัสจะเปลี่ยนสภาวะจากปกตปิ ดิ เปน็ สภาวะเปดิ
เม่ือมีการเปลย่ี นสญั ญาณอนิ พตุ จาก 0 เป็น 1 หรือจาก Off เปน็ On
Positive Transition (P) ความหมายเป็นคำสั่งท่หี น้าสัมผัสทำงาน (On) ดว้ ยระยะเวลา 1
Scantime เม่ือเปลย่ี นสัญญาณจาก Off เป็น On (ขอบขาขึน้ )
การทำงาน หนา้ สมั ผสั ทำงาน (On) เป็นระยะเวลา 1 Scantime เมือ่
เปล่ียนสญั ญาณอนิ พุตจาก 0 เปน็ 1 หรือจาก Off เป็น On (หรือเรยี กวา่
ชว่ งขอบขาข้ึน)
ตารางที่ 6.1 สัญลกั ษณข์ องกลุ่มคำสง่ั Bit logic (ต่อ)
สัญลกั ษณ์และช่ือคำสง่ั ความหมาย : การทำงาน
ความหมาย เป็นคำสงั่ ทหี่ นา้ สมั ผัส On ด้วยระยะเวลา 1 Scantime เม่อื
เปล่ียนสญั ญาณจาก On เป็น Off (ขอบขาลง)
Negative Transition (N) การทำงาน หนา้ สมั ผสั จะทำงาน On เปน็ ระยะเวลา 1 Scantime เมือ่
เปลย่ี นสญั ญาณอนิ พตุ จาก 1 เปน็ 0 หรอื จาก On เปน็ Off (หรือท่ี
เรียกว่า ช่วงขอบขาลง)
Output ความหมาย เปน็ คำสั่งการแสดงผลของ Output
Set การทำงานเอาต์พตุ จะทำงานเม่ือมสี ญั ญาณอนิ พตุ เข้าท่เี อาต์พุตคอยล์
Reset
ความหมาย เป็นคำสง่ั ทใ่ี ช้กระทำการ Set คา่ ที่ตอ้ งการบิต (bit) และ
ย่านของตำแหน่ง(N)ทสี่ ามารถ Set ไดค้ อื 1 – 255
การทำงาน เมอื่ มสี ญั ญาณจากอนิ พตุ เข้าทคี่ ำส่งั Set จะทำใหค้ ำส่ัง Set
ทำงานไปกระทำการ Set bit ที่ตงั้ คา่ ไว้ตามย่านของตำแหน่ง (N)
ความหมาย เป็นคำสั่งทีใ่ ชก้ ระทำการ Reset คา่ ทีต่ ้องการบติ (bit) และ
ยา่ นของตำแหน่ง (N) ท่ีสามารถตอ้ งการ Reset ได้ คือ 1 – 255
การทำงาน เม่อื มีสัญญาณจากอนิ พตุ เข้าท่คี ำสง่ั Reset จะทำให้คำส่งั
Reset ทำงาน ไป Reset bit ทตี่ ัง้ คา่ ไว้ตามยา่ นของตำแหน่ง (N)
182
6.1 คำส่งั Normally Open (NO)
คำส่ัง Normally Open (NO) หรอื คำส่งั หนา้ สัมผสั ปกตเิ ปิด โดยหนา้ สัมผัสจะเปล่ยี นสภาวะจากปกตเิ ปิด
เปน็ สภาวะปิด เมื่อมีการเปล่ียนสัญญาณอินพตุ จาก 0 เป็น 1 ดงั รปู ท่ี 6.2 (ก)
6.2 คำส่งั Normally Closed (NC)
คำสั่ง Normally Closed (NC) หรือคำส่ังหนา้ สัมผัสปกติปิด โดยหนา้ สัมผัสจะเปล่ยี นสภาวะจากปกตปิ ดิ
เปน็ สภาวะเปิด เม่อื มีการเปลี่ยนสัญญาณอินพตุ จาก 0 เปน็ 1 ดงั รูปท่ี 6.2 (ข)
bit bit
(ก) คำสงั่ Normally Open (ข) คำสงั่ Normally Closed
รูปที่ 6.2 Normally Open และคำสง่ั Normally Closed
6.3 คำสงั่ เอาตพ์ ุต (Output)
คำสั่งเอาต์พตุ (Output) เปน็ คำส่งั การแสดงผลของเอาต์พุต
รูปท่ี 6.3 คำสง่ั Output
ตวั อยา่ งท่ี 6.1 การใช้คำสัง่ หนา้ สมั ผัสปกตเิ ปดิ (Normally Open : NO) คำส่งั หนา้ สมั ผสั ปกตปิ ดิ
(Normally Closed : NC) และคำสั่งเอาต์พตุ
การทำงานของโปรแกรม
เปน็ การใชค้ ำสัง่ หนา้ สัมผัสปกตเิ ปดิ และคำส่ัง
หนา้ สัมผัสปกตปิ ดิ ควบคุมการทำงานของเอาต์พตุ โดยมี
การทำงานของโปรแกรม คือ เมอ่ื อนิ พตุ I0.0 ทำงาน จะทำ
ใหค้ ำสง่ั เอาต์พุต Q0.0 และ Q0.1 ทำงานและเมอ่ื อินพตุ
I0.1 ทำงาน จะทำให้คำสั่งเอาตพ์ ุต Q0.0 และ Q0.1 หยดุ
ทำงาน ดังรปู ท่ี 6.4
รปู ที่ 6.4 โปรแกรมตวั อยา่ งโดยใช้คำสัง่ Normally Closed Normally Open และ Output
183
6.4 คำสั่ง Set (S) และคำส่ัง Reset (R)
คำสงั่ Set เปน็ คำสง่ั ให้ตำแหน่งบิต (bit) ที่ถูกระบุทำงาน (Lock) ดงั รูปที่ 6.5 (ก) และคำส่ัง Reset
เป็นคำสงั่ ให้ตำแหน่งบติ ที่ถกู ระบุหยดุ ทำงาน (Unlock) ดงั รูปท่ี 6.5 (ข) ตามรายละเอยี ดจำนวนของจดุ (N)
โดยเริม่ ต้นตามรายละเอยี ดของตำแหน่งบติ ผู้ใช้สามารถท่ีจะสัง่ Set และ Reset ตามรายละเอียดจำนวน
ของจุดได้ คือคา่ 1 – 255 ถ้าใชค้ ำสัง่ Reset กบั Timer หรือเคานเ์ ตอร์ (Counter) จะมีผลทำให้ค่าเวลา
ของ Timer และค่าการนับของเคาน์เตอร์ถกู เคลยี รไ์ ปดว้ ย
(ก) คำสัง่ Set (S) (ข) คำสงั่ Reset (R)
รูปที่ 6.5 คำสั่ง Set (S) และ คำสงั่ Reset (R)
ตัวอยา่ งท่ี 6.2 การใช้คำสั่ง Set (S) และการใชค้ ำสงั่ Reset (R)
การทำงานของโปรแกรม
เป็นการใช้คำสั่ง Set และ Reset เพื่อควบคุมการทำงานของ
เอาต์พุตการทำงานคือเมื่ออินพุต I0.0 ทำงาน จะทำให้คำสั่ง Set
ทำงาน ส่งผลให้เอาต์พุตตั้งแต่ตำแหน่ง Q0.0 ทำงานและทำงานไป
จนถึงตำแหน่งของ N ในที่นี้คือ 4 จุดหรือ 4 บิต ฉะนั้นจะเห็นเอาต์พตุ
ทำงานตงั้ แตต่ ำแหนง่ Q0.0 จนถงึ Q0.3 และเมือ่ อินพตุ I0.1 ทำงาน จะ
ทำให้คำสั่ง Reset ทำงาน ส่งผลให้เอาต์พุตตั้งแต่ตำแหน่งของเอาต์พุต
Q0.0 –Q0.3 หยุดทำงานดังรูปที่ 6.6
รูปท่ี 6.6 ตัวอยา่ งการใช้คำสง่ั Set ( S) และ Reset (R)
วธิ กี ารเขียนโปรแกรม
1) เปดิ โปรแกรม STEP 7–Micro/WIN แลว้ Communication เพอื่ ตดิ ตอ่ ส่ือสารขอ้ มลู ระหว่าง
คอมพวิ เตอร์กับ PLC จากน้นั ดบั เบิล้ คลกิ ท่ี Bit Logic ใน Instructions จะปรากฏคำส่ังหน้าสมั ผสั ทใ่ี ช้
ในการเขยี นโปรแกรมดังรูปท่ี 6.7
184
รูปท่ี 6.7 คำสงั่ หนา้ สมั ผสั ในกลุ่มคำสัง่ Bit Logic
2) เขยี นโปรแกรมตามที่กำหนดจนถงึ คำสั่ง Set (S) ดบั เบล้ิ คลกิ ทค่ี ำสง่ั Set ดงั รูปที่ 6.8
รูปท่ี 6.8 การเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำส่ัง Set (S)
3) กำหนดรายละเอียดในการใชง้ านคำสั่ง Set โดยด้านบนใสเ่ อาต์พุตบิตเร่ิมตน้ คือ Q0.0 และ
ดา้ นล่างใส่จำนวนจุด (N) ทต่ี ้องการให้ทำงานคอื 4 ดังรูปท่ี 6.9 เขยี นโปรแกรมต่อไปจนครบตามท่ีกำหนด
ดงั รปู ที่ 6.10 แลว้ ทดลองการทำงานของโปรแกรมตามข้นั ตอน
185
4 = จำนวนเอาตพ์ ตุ บติ ท่ตี ้องการ
ใหท้ ำงาน (Q0.0 - Q0.3)
รปู ที่ 6.9 การกำหนดรายละเอยี ดในการใช้งานคำสั่ง Set (S)
4 = จำนวนเอาต์พตุ บิตทต่ี ้องการ
ใหท้ ำงาน (Q0.0 - Q0.3)
รูปที่ 6.10 โปรแกรมท่ีเสร็จสมบูรณ์ตามตวั อย่างที่ 6.2
6.5 คำส่ัง Positive Transition (P) และคำสัง่ Negative Transition (N)
คำสงั่ Positive Transition เป็นคำสัง่ ท่มี ผี ลต่อตำแหนง่ ทต่ี ่อร่วมกับคำสั่ง Pดว้ ยระยะเวลาเพยี ง 1
Scantime เมอ่ื ได้รบั สัญญาณสภาวะ On หรอื ชว่ งขอบขาข้ึนจากคอนแทคที่ควบคุมคำสั่ง P
คำสัง่ Negative Transition เป็นคำส่งั ทีม่ ผี ลต่อตำแหนง่ ท่ีต่อรว่ มกบั คำส่ัง N ด้วยระยะเวลาเพยี ง 1
Scantime เมื่อได้รับสัญญาณสภาวะ Off หรอื ช่วงขอบขาลงจากคอนแทคที่ควบคมุ คำสั่ง N
(ก) คำส่ัง Positive Transition (ข) คำสั่ง Negative Transition
รปู ท่ี 6.11 คำส่ัง Positive Transition และคำสั่ง Negative Transition
ตวั อย่างที่ 6.3 การใชค้ ำสั่ง Positive Transition และคำสัง่ Negative Transition
186
การทำงานของโปรแกรม
เมื่ออินพุต I0.0 ทำงานหรือมีสภาวะ On
(ช ่ ว ง ข อ บ ข า ข ึ ้ น ) จ ะ ท ำ ใ ห้ ค ำ ส ั ่ ง Positive
Transition ทำงาน ส่งผลให้เอาต์พุต Q0.0 ทำงาน
เป็นระยะเวลา 1 Scantime และเมื่ออินพุต I0.0
หยุดทำงานหรือมีสภาวะ Off (ช่วงขอบขาลง) จะ
ทำให้เอาต์พุต Q0.1 ทำงานเป็นระยะเวลา 1
Scantime ดังรูปท่ี 6.12
รูปที่ 6.12 โปรแกรมตัวอย่างโดยใช้คำส่งั Positive (P) และ Negative (N)
วธิ อี อกแบบโปรแกรม
1) เปดิ โปรแกรม STEP 7–Micro/WIN ทำการ Communication เพอ่ื ติดต่อสื่อสารขอ้ มลู ระหวา่ ง
คอมพวิ เตอร์กับ PLC จากนน้ั ดับเบ้ลิ คลิกท่ี Bit Logic ใน Instructions จะปรากฏคำส่ังหน้าสมั ผัสทใี่ ช้
ในการเขียนโปรแกรม
2) เขยี นโปรแกรมตามโปรแกรมตัวอย่างจนถึงคำส่งั Positive Transition ดบั เบล้ิ คลกิ ทค่ี ำส่ัง
Positive Transition ดงั รูปที่ 6.13
รูปท่ี 6.13 คำสง่ั Positive Transition
187
3) เขียนโปรแกรมจนครบตามโปรแกรมตวั อยา่ งดงั รปู ที่ 6.12 จากนั้นทดลองการทำงานของ
โปรแกรมตามข้นั ตอนดังรปู ท่ี 6.14
รปู ท่ี 6.14 การทดลองการทำงาน
ตามที่กล่าวมาแล้วคำสั่ง Positive และ Negative Transition มีผลเพียง Scantime เดียว โดย
คำสั่ง Positive Transition จะมีผลช่วงขอบขาขึ้นและ Negative Transition จะมีผลช่วงขอบขาลงของ
อินพุตที่ควบคุมคำสั่ง Positive และ Negative Transition ดงั รปู ที่ 6.15
Input I0.0
Positive Transition 1 Scan time
(Output Q0.0)
Negative Transition
(Output Q0.1)
1 Scan time
รปู ที่ 6.15 Timing Diagram ของ Positive Transition และ Negative Transition
6.6 การใชค้ ำสั่ง Jump to Label
เป็นคำสั่งที่ขึ้นต้นด้วยคำสั่ง JMP และต้องลงท้ายด้วยคำสั่ง LBL เสมอการระบุจำนวนสามารถระบุ
จดุ ไดส้ ูงสดุ ถงึ 256 จดุ (0-255 จดุ ) การเขยี นโปรแกรมคำสงั่ Jump และ Label จะต้องอยูใ่ นหน้าเดยี วกัน
โดยมีเงื่อนไขคือเมื่อคำสั่ง Jump ทำงาน โปรแกรมซึ่งอยู่ระหว่างคำสั่ง Jump และ Label จะคงค้าง
สถานะเปรียบเหมือน CPU ของ PLC ไม่ประมวลผลโปรแกรมที่อยู่ระหว่างคำสั่ง Jump กับ Label ถ้า
เอาต์พุตทำงานก่อนคำส่ัง Jump จะทำงาน เอาต์พุตนั้น ๆ จะคงทำงานคา้ งตลอด เปลยี่ นแปลงการทำงาน
ไมไ่ ดจ้ นกว่าคำสั่ง Jump จะหยุดทำงาน หากเมอื่ คำส่ัง Jump หยุดทำงานทุกเงอ่ื นไขจะกลับสู่สภาวะปกติ
188
รปู ท่ี 6.16 สญั ลกั ษณ์คำส่ัง Jump to Label
ตัวอยา่ งที่ 6.4 การใช้คำสงั่ Jump to Label
การทำงานของโปรแกรม
เมื่อคำสั่ง Jump ยังไม่ทำงาน (I0.0 มีสภาวะOff)
โปรแกรมทกุ Network จะยังทำงานตามปกติ แต่เม่ือคำสงั่
Jump ทำงาน (I0.0 มีสภาวะ On และคงสภาวะ On ไว้)
จะทำให้โปรแกรมซึ่งอยู่ระหว่างคำสั่ง Jump และ Label
(โปรแกรมใน Network ที่ 2) จะค้างสภาวะการทำงานเดิม
ก่อนหน้า (CPU ไม่ประมวลผลการทำงาน) และเมื่อคำส่ัง
Jump หยุดทำงาน (I0.0 มีสภาวะ Off) การทำงานของ
โปรแกรมทุก Network จะกลับมาทำงานตามปกติ ดังรูป
ที่ 6.17
รปู ที่ 6.17 ตวั อยา่ งการใชค้ ำสงั่ Jump to Label
วิธีออกแบบโปรแกรม
1) ดบั เบล้ิ คลกิ ท่ีกลมุ่ คำสง่ั Bit Logic ใน Instructions จะปรากฏคำสั่งหน้าสัมผสั ท่ใี ช้เขยี น
โปรแกรม
2)เขยี นโปรแกรมตามโปรแกรมตัวอยา่ งที่ 6.4 จนถึงคำสง่ั Jump ดบั เบล้ิ คลกิ ทก่ี ลมุ่ คำสง่ั
Program Control จากนน้ั คลกิ เลอื กคำส่งั Jump ดังรปู ที่ 6.18
3) กำหนดค่าด้านบน ???? คำสัง่ jump เปน็ คา่ 0 ดงั รปู ที่ 6.19
189
รูปที่ 6.18 การใชค้ ำสง่ั jump รปู ท่ี 6.19 การกำหนดรายละเอียดคำสง่ั jump
4) เขยี นโปรแกรมต่อไปจนถึงคำสัง่ Label ดังรปู ที่ 6.20
5) เลอื กคำสง่ั Label กำหนดคา่ ด้านบน ???? คำส่ัง Label เปน็ คา่ 0 แลว้ เขียนโปรแกรมต่อจน
ครบตามโปรแกรมตัวอย่างท่ีกำหนด ดงั รูปท่ี 6.21
รปู ที่ 6.20 การใชค้ ำสัง่ Label
รูปท่ี 6.21 การกำหนดรายละเอียดคำส่ัง Label
6) ทดลองการทำงานของโปรแกรม ตามข้ันตอนดงั รปู
ท่ี 6.22
การทำงานของโปรแกรม จะทำงานเป็นปกติ คือ On–Off
I0.1 Output Q0.0 ทำงาน
On–Off I0.2 Output Q0.0 หยุดทำงาน
กรณีท่ี I0.0 ยงั ไม่ On (คำสง่ั Jump ยังไมท่ ำงาน)
รูปที่ 6.22 การทำงานของโปรแกรมคำสั่ง JMP และ LBL