The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by janpim.2p, 2022-04-02 04:53:37

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,วิชาคณิตศาสตร์

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 77

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 13 การลบจานวนท่ตี วั ตง้ั ไมเ่ กนิ 100 เวลาเรียน 18 ชว่ั โมง

เรือ่ ง ความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ชี้วัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคญั
จานวนสองจานวนบวกกัน ผลบวกทไี่ ดล้ บดว้ ยจานวนใด จานวนหน่ึงในสองจานวนน้นั ผล

ลบคือจานวนอกี จานวนหนงึ่

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายเกย่ี วกับความสัมพนั ธร์ ะหว่างการบวกและการลบได้ (K)
2. เขียนประโยคแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการบวกและการลบได้ (P)
3. นาความรู้เก่ียวกบั ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์

ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครกู าหนดรูปภาพ ให้นักเรยี นชว่ ยกันสรา้ งเป็นสถานการณก์ ารบวก และ

สถานการณ์การลบ เชน่

- มลี กู ปิงปองสีขาว 23 ลูก สสี ้ม 25 ลกู มีลกู ปงิ ปองทัง้ หมด 23 + 25 = 48 ลูก
- มีลกู ปิงปองทั้งหมด 48 ลูก เป็นสสี ม้ 25 ลกู เปน็ สขี าว 48 – 25 = 23 ลกู
- มลี กู ปิงปองทง้ั หมด 48 ลูก เปน็ สขี าว 23 ลกู เป็นสสี ม้ 48 – 23 = 25 ลูก
2. ครใู ห้นกั เรียนเขียนความสัมพันธ์ของจานวนแบบส่ วนยอ่ ย – สว่ นรวมจาก
สถานการณก์ ารบวกและการลบท่ีสรา้ งข้นึ โดยใช้การถามตอบดงั น้ี
- มีจานวน 3 จานวนใดบ้าง (23 25 และ 48)
- จานวนที่มากท่ีสดุ คอื จานวนใด (48)
- เขยี นความสมั พนั ธข์ องจานวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวมได้อย่างไร

48

ขนั้ สอน 23 25

3. ครูนาสถานการณเ์ ก่ียวกับลูกปงิ ปองในขั้นนา และการเขยี นความสัมพนั ธข์ อง

จานวนแบบสว่ นยอ่ ย - ส่วนรวม ให้นกั เรียนสังเกตความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ ดังน้ี

- มีลูกปิงปองสขี าว 23 ลูก สสี ้ม 25 ลกู มลี ูกปงิ ปองทั้งหมด 23 + 25 = 48 ลูก
- มลี กู ปิงปองทั้งหมด 48 ลูก เป็นสสี ม้ 25 ลกู เปน็ สขี าว 48 – 25 = 23 ลูก
- มีลกู ปงิ ปองทั้งหมด 48 ลกู เปน็ สขี าว 23 ลูก เปน็ สสี ม้ 48 – 23 = 25 ลูก

48 23 + 25 = 48
23 25 48 – 25 = 23
48 – 23 = 25

4. ครกู าหนดโจทยก์ ารบวก โจทย์การลบท่มี คี วามสมั พนั ธ์กนั ใหน้ กั เรียนช่วยกันเตมิ
ตัวเลขลงใน  พร้อมให้เหตผุ ล เช่น

60 + 17 = 77
77 –  = 60
นักเรียนควรตอบได้ว่า 60 + 17 = 77 ดงั น้ัน จากความสัมพนั ธข์ องการบวกและ
การลบสามารถเขียนเป็นประโยคสัญลักษณก์ ารลบได้ 77 – 60 = 17 และ 77 – 17 = 60 จะไดว้ ่า
77 -  = 60 จานวนใน  คอื 17
 - 60 = 17 จานวนใน  คือ 77
หรอื นักเรียนอาจให้เหตผุ ล เน่อื งจากประโยคสัญลกั ษณท์ ่กี าหนดให้ 3 ประโยค
สัญลกั ษณ์เป็นความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ มจี านวนท่ีเกี่ยวขอ้ งสมั พนั ธก์ ัน 3 จานวนคอื 60
17 และ 77 ดังนนั้
77 –  = 60 จานวนใน  คอื 17 เพราะมี 77 กบั 60 แล้วจานวนที่
เหลอื คอื 17
 – 60 = 17 จานวนใน  คือ 77 เพราะมี 60 กับ 17 แล้วจานวนที่เหลอื
คอื 77
ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตวา่ จานวนสองจานวน (60 + 17) ผลบวกท่ไี ด้ (77) ลบดว้ ย
จานวนใดจานวนหนงึ่ (77 - 60 = 17) หรอื (77 - 17 = 60) ผลบวกคอื จานวนอกี จานวนหนึง่
5. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 16 ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ เม่อื เสรจ็ แลว้ ให้
นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 16
ขนั้ สรปุ
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั ดังนี้ ความสมั พนั ธข์ องการบวก
และการลบว่า จานวนสองจานวนบวกกนั ผลบวกทไี่ ด้ลบดว้ ยจานวนใดจานวนหนึง่ ในสองจานวนนั้น
ผลลบ คอื จานวนอีกจานวนหน่ึง

สอ่ื การเรียนรู้
1. รปู ภาพลูกปิงปอง
2. ใบงานที่ 16 ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่งิ ท่ตี อ้ งการวดั วธิ วี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 16 ใบงานที่ 16 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น
ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียนได้คะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทุกรายการขึ้นไปถอื ว่าผ่าน

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 16 ความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ

คาชแี้ จง สงั เกตความสัมพันธ์ของจานวน 3 จานวนแล้วเติมตวั เลขแสดงจานวน

1 19 + 25 = 44 2 20 + 45 = 65

44 - = 25 65 - 45 =
44 - = 19 65 - 20 =

3 47 + 23 = 70 4 19 + 41 = 60

- 23 = 47 - 19 = 41
- 47 = 23 60 - = 19

5 44 + 28 = 72 6 28 + 69 = 97

-= -=
-= -=

7 54 + 23 = 77 8 12 + 67 = 79

-= -=
-= -=

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 78

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 13 การลบจานวนท่ีตวั ตัง้ ไมเ่ กนิ 100 เวลาเรยี น 18 ชั่วโมง

เรื่อง การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กิดข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชี้วัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สัญลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การบวกและประโยคสัญลกั ษณ์การลบ อาจ

ใช้วธิ กี ารนบั ตอ่ การนับถอยหลงั หรือใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายเกย่ี วกับการหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ของประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกและประโยค

สญั ลกั ษณก์ ารลบได้ (K)
2. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าของประโยคสัญลักษณก์ ารบวกและประโยคสญั ลักษณก์ ารลบ

ของจานวนสองหลักกบั จานวนหน่งึ หลกั ได้ (P)
3. นาความรู้เก่ียวกบั การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าไปใช้แกป้ ญั หาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ โดยกาหนดประโยคสัญลกั ษณ์การ

บวก และประโยคสัญลกั ษณ์การลบท่ีสมั พันธก์ ัน ให้นักเรยี นเติมตวั เลขใน  พร้อมใหเ้ หตผุ ล เชน่
58 + 38 = 96
96 – 58 = 
96 – 38 = 

นกั เรียนอาจตอบว่า 96 – 58 = 38 เนอ่ื งจาก 58 กับ 38 บวกกนั ได้ 96 ดงั น้ัน 96
ลบด้วย 58 กต็ ้องเท่ากบั จานวนทีเ่ หลอื คือ 38 และนักเรียนควรตอบวา่ 96 – 38 = 58 เน่อื งจาก 38
กบั 58 บวกกันได้ 96 ดงั น้ัน 96 ลบด้วย 38 ก็ตอ้ งเทา่ กบั จานวนทเี่ หลือ คือ 58

ข้ันสอน
2. ครูกาหนดสถานการณก์ ารบวกทีม่ ตี ัวไมท่ ราบค่า ให้นักเรนี เขียนประโยคสัญลกั ษณ์

การบวกและหาคาตอบ เชน่ “มเี งิน 28 บาท ตอ้ งเก็บเงินเพิม่ อีกกีบ่ าท จึงจะซอ้ื ดนิ สอสรี าคากล่องละ
32 บาทได้พอด”ี

ซึง่ นกั เรียนอาจเขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกได้ 28 +  = 32
ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่า ซ่ึงอาจใช้วธิ ีหาได้ดังน้ี
1) หาคาตอบโดยใชก้ ารนบั ต่อทลี ะ 1 ดังนี้

จาก 28 เป็น 29 30 31 32 นบั ได้ 4 ครงั้
จะได้ 28 + 4 = 32
ดังนั้น ต้องเก็บเงินเพมิ่ อีก 4 บาท

2) หาคาตอบโดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ ดงั น้ี
28 +  = 32
จากความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ
32 – 28 = 
32 – 28 = 4
จะได้ 28 +  = 4
ดังนน้ั ต้องเกบ็ เงนิ เพิ่มอกี 4 บาท

3. ครเู ขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การลบทมี่ ตี วั ไม่ทราบ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั หาคา่ ของตัวไม่
ทราบคา่ เชน่

20 –  = 15

ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่า ซึง่ นกั เรยี นอาจใชว้ ธิ หี าได้ดงั นี้
1) นับถอยหลงั ทีละ 1 จาก 20 จะได้

15 16 17 18 19 20

นับได้ 5 คร้ัง
ดังนน้ั 20 – 5 = 15
2) ใช้ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ ดังน้ี
15 +  = 20
จากความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ
20 – 15 = 
20 – 15 = 5
ดงั นั้น 20 – 5 = 15
4. ครูให้นกั เรียนทาใบงานที่ 17 การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ เม่ือเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี น
ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 17
ขั้นสรุป
5. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่
ในประโยคสัญลกั ษณ์การบวกและประโยคสญั ลักษณก์ ารลบ อาจใช้วิธีการนบั ตอ่ การนับถอยหลัง
หรอื ใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ

สอ่ื การเรยี นรู้
ใบงานท่ี 17 การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่

การวัดผลและประเมนิ ผล

ส่ิงท่ตี อ้ งการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 17 ใบงานท่ี 17 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ ึ้นไป
ท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2

ดา้ นคุณลักษณะ ทุกรายการข้นึ ไปถอื ว่าผ่าน

ทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 17 การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่า

คาชี้แจง แสดงวธิ คี ิดโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ

1 34 +  = 52 2 26 +  = 64

52 - 34 = ดงั นนั้ 26 + = 64
ดังนั้น 34 + = 52

3 53 -  = 26 4 65 -  = 33

26 + = 53 ดงั น้ัน 65 - = 33
ดังนัน้ 53 - = 26

5  + 8 = 45 6  + 9 = 79

45 - 8 = ดังน้ัน + 9 = 79
ดงั นน้ั + 8 = 45

7  - 7 = 56 8  - 6 = 92

56 + 7 = ดงั นนั้ - 6 = 92
ดังนน้ั - 7 = 56

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 79

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 13 การลบจานวนทตี่ วั ตง้ั ไมเ่ กนิ 100 เวลาเรียน 18 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่า เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ อาจ

ใช้วิธีการนบั ต่อ การนบั ถอยหลงั หรอื ใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายเกีย่ วกับการหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าของประโยคสญั ลักษณ์การบวกและประโยค

สัญลักษณ์การลบได้ (K)
2. หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าของประโยคสัญลกั ษณ์การบวกและประโยคสัญลกั ษณ์การลบ

ของจานวนสองหลักกับจานวนสองหลกั ได้ (P)
3. นาความรเู้ ก่ยี วกับการหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ โดยกาหนดประโยคสญั ลักษณก์ าร

บวก และประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบทีส่ ัมพันธ์กนั ใหน้ ักเรยี นเตมิ ตวั เลขใน  พรอ้ มใหเ้ หตผุ ล เชน่
53 + 27 = 80
80 – 53 = 
80 – 27 = 

นกั เรยี นอาจตอบว่า 80 – 53 = 27 เน่อื งจาก 53 กับ 27 บวกกันได้ 80 ดงั นั้น
80 ลบด้วย 53 ก็ตอ้ งเทา่ กับจานวนที่เหลือคือ 27 และนกั เรียนควรตอบไดว้ า่ 80 – 27 = 53
เน่อื งจาก 53 กบั 27 บวกกนั ได้ 80 ดงั น้ัน 80 ลบด้วย 27 ก็ตอ้ งเทา่ กับจานวนท่เี หลอื คอื 53

ขัน้ สอน
2. ครูกาหนดสถานการณก์ ารบวกทีม่ ตี ัวไมท่ ราบคา่ ให้นักเรนี เขียนประโยคสัญลักษณ์

การบวกและหาคาตอบ เชน่ “มีนา้ ขวดเลก็ 18 ขวด จะต้องเพม่ิ น้าขวดเล็กกีข่ วด จึงจะมนี า้ ขวดเลก็
30 ขวด”

ซึง่ นักเรียนอาจเขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณก์ ารบวกได้ 18 +  = 30
ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั หาค่าของตวั ไม่ทราบค่า ซงึ่ อาจใช้วธิ หี า คาตอบโดยใช้
ความสมั พันธข์ องการบวกและการลบ ดังนี้

30 – 18 = 
30 – 18 = 12
จะได้ 18 + 12 = 30
ดังนนั้ ตอ้ งเพ่มิ นา้ ขวดเลก็ อกี 12 ขวด
3. ครเู ขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ทม่ี ีตวั ไมท่ ราบ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันหาค่าของตวั ไมท่ ราบ
คา่ โดยใช้ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ เช่น

32 –  = 18

ใชค้ วามสมั พันธ์ของการบวกและการลบ ดังน้ี
18 +  = 32
32 – 18 = 
32 – 18 = 14
ดงั น้ัน 32 – 14 = 18

 + 17 = 41

ใช้ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ ดังน้ี
41 – 17 = 
41 – 17 = 24
ดงั น้ัน 24 + 17 = 41

 - 19 = 55

ใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ ดงั นี้
55 + 19 = 
55 + 19 = 74
ดังนน้ั 74 - 19 = 55
4. ครูให้นกั เรียนทาใบงานที่ 18 การหาค่าของตัวไม่ทราบค่า เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียน
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 18
ขัน้ สรุป
5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งท่ไี ด้เรียนรูร้ ว่ มกัน ดงั นี้ การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่
ในประโยคสัญลักษณก์ ารบวกและประโยคสญั ลักษณ์การลบ อาจใช้วิธกี ารนบั ตอ่ หรอื ใชค้ วามสมั พันธ์
ของการบวกและการลบ

สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 18 การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่า

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิ่งทีต่ ้องการวดั วิธีวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 18 ใบงานท่ี 18 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึน้ ไป
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนได้คะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการขึน้ ไปถือว่าผา่ น

ที่พึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 18 การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่

คาชีแ้ จง แสดงวิธีคดิ

1 55 +  = 92 2 70 +  = 76

3  + 9 = 58 4 76 -  = 15

5  - 39 = 18 6 96 - 38 = 

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 80

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ เวลาเรียน 19 ชวั่ โมง

เรือ่ ง สถานการณ์การบวก เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของ
จานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
เร่ืองราวหรอื สถานการณท์ ่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การนาจานวนมารวมกัน สามารถเขียนแสดงดว้ ย

ประโยคสัญลักษณ์การบวกเป็นสถานการณ์การบวก

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายสถานการณ์การบวกจากภาพทกี่ าหนดให้ได้ (K)
2. สามารถบอกสถานการณก์ ารบวกอยา่ งงา่ ย พร้อมทง้ั เขยี นประโยคสัญลักษณ์การบวก ได้

(P)
3. นาความรเู้ กย่ี วกบั สถานการณก์ ารบวกไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
สถานการณ์การบวก

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครูยกตัวอย่างสถานการณก์ ารบวก โดยอา่ นสถานการณ์แล้วใหน้ กั เรียนพิจารณาวา่

สถานการณน์ น้ั เป็นสถานการณก์ ารบวก เพราะเหตใุ ด ดังนี้
1) เตยซ้ือน้าส้ม 6 ขวด และน้าองนุ่ 6 ขวด ซือ้ น้าผลไมก้ ขี่ วด (การบวก เพราะ

ต้องรวมน้าผลไมท้ ง้ั หมด)
2) ฟางซอ้ื แก้วนา้ 1 ใบ และสบู่ 1 ก้อน ตอ้ งจา่ ยเงนิ กบ่ี าท (การบวก เพราะต้อง

รวมราคาของสิง่ ของ)
ขน้ั สอน
2. ครูยกตวั อยา่ งบัตรภาพแสดงสถานการณก์ ารบวกซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ การรวมกนั และ

แสดงใหเ้ ห็นการเพิม่ ขน้ึ ดงั นี้

ครูยกตัวอย่างการสรา้ งสถานการณ์การบวก เชน่ แก้วตามขี องเล่น 8 ชิ้น ขนุ มขี อง
เล่น 14 ชิน้ แก้วตาและขนุ มขี องเล่นรวมกัน 8 + 4 = 22 ช้นิ

ครยู กตัวอย่างการสร้างสถานการณ์การบวก เชน่ แก้วตาและขนุ มีของเล่นรวมกนั
22 ช้นิ ตน้ กลา้ เอาของเล่นมาเพิม่ อกี 5 ชิ้น รวมมีของเล่นทั้งหมด 22 + 5 = 27 ชนิ้

3. ครูยกตวั อย่างบัตรภาพแสดงสถานการณก์ ารบวกเชงิ เปรียบเทยี บ โดยจะมกี ารใชค้ า
ว่า “มากกว่า” เปรยี บเทยี บโดยบอกจานวนหนึ่งแลว้ ใหห้ าอีกจานวน ซึ่งจานวนนนั้ มากกว่าจานวนที่
กาหนดให้อยูเ่ ท่าไร ครูแนะนาเพม่ิ เตมิ วา่ สถานการณ์ในลกั ษณะน้ีจะหาคาตอบโดยคดิ จากจานวนที่
เท่ากอ่ นแลว้ คอ่ ยเพ่ิมสว่ นทต่ี ่างกนั ดังนี้

ครูยกตวั อยา่ งการสร้างสถานการณก์ ารบวก เช่น ใบบัวมขี องเลน่ 20 ชิน้ ครูมขี อง
เล่นมากกว่าใบบัว 4 ช้นิ ครูมขี องเลน่ 20 + 4 = 24 ชิน้

ครูยกตวั อย่างการสรา้ งสถานการณก์ ารบวก เชน่ ตน้ กล้ามีหุน่ ทหารเรอื 10 ตัว ขนุ มี
หุ่นทหารเรือมากกวา่ ตน้ กล้า 5 ตวั ขุนมหี นุ่ ทหารเรอื 10 + 5 = 15 ตวั

4. ครูให้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1 สถานการณก์ ารบวก เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 1

ขั้นสรุป
5. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ เรอ่ื งราวหรอื สถานการณท์ ี่

แสดงให้เห็นถึงการนาจานวนมารวมกนั สามารถเขียนแสดงดว้ ยประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกเปน็
สถานการณ์การบวก
สอ่ื การเรยี นรู้

1. บัตรภาพแสดงสถานการณ์การบวก
2. ใบงานท่ี 1 สถานการณ์การบวก

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิ่งท่ีตอ้ งการวัด วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 1 ใบงานที่ 1 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
ท่ีพงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 1 สถานการณ์การบวก

คาชแ้ี จง เตมิ ตวั เลขแสดงจานวน

1. บอยมขี องเล่น ช้ิน
กอ้ งมขี องเลน่ มากกว่าบอย ชิน้
กอ้ งมขี องเล่น + = ชิน้

2. แมซ่ ือ้ ไขไ่ ก่ ฟอง
และซอ้ื ไขเ่ ปด็ ฟอง
แมซ่ ื้อไข่ไกแ่ ละไข่เปด็ ท้ังหมด + = ฟอง

3. วนั แรกพอ่ ปลกู ตน้ ไม้ได้ ต้น
วนั ท่สี องปลกู ตน้ ไมไ้ ด้ ตน้
รวมสองวนั พ่อปลูกต้นไม้ได้ + = ต้น

4. มแี ม่ไก่ ตวั
และมีลกู ไก่ ตัว
รวมมีไกท่ ั้งหมด + = ตัว

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 81

รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ เวลาเรียน 19 ชัว่ โมง

เร่อื ง สถานการณก์ ารบวก เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบของ
จานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
เรื่องราวหรือสถานการณท์ ่แี สดงให้เหน็ ถงึ การนาจานวนมารวมกนั สามารถเขียนแสดงด้วย

ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกเป็นสถานการณ์การบวก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายสถานการณ์การบวกทกี่ าหนดให้ได้ (K)
2. สามารถวิเคราะห์สถานการณ์การบวก หาคาตอบ และเขียนประโยคสัญลกั ษณ์การบวก

ได้ (P)
3. นาความรู้เกี่ยวกบั สถานการณ์การบวกไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
สถานการณ์การบวก

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูเขียนสถานการณ์การบวกบนกระดานแล้วใชก้ ารถามตอบ ดังน้ี
“ต้นมีลูกบอลสแี ดง 13 ลกู ลูกบอลสีเขยี ว 5 ลูกอยู่ในตะกรา้ ”
- จะทราบไดอ้ ย่างไรวา่ ตน้ มีลูกบอลในตะกร้าทงั้ หมดกี่ลกู (นาจานวนลกู บอลสี

แดงรวมกบั จานวนลกู บอลสีเขยี ว หรือ 13 + 5)
- เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ได้อยา่ งไร (13 + 5= ) ครูเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์

บนกระดานดงั นี้ ประโยคสัญลกั ษณ์ 13 + 5 = 
- ตน้ มลี กู บอลในตะกรา้ ท้งั หมดกล่ี กู (18 ลูก) ครเู ขยี นบนกระดานดงั น้ี
ต้นมีลูกบอลในตะกร้าทงั้ หมด 13 + 5 = 18 ลกู

ข้นั สอน
2. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์การบวกโดยติดบัตรภาพบนกระดานแลว้ ใช้การถามตอบ

ดงั นี้
“ตะเกียบยาว 22 เซนตเิ มตร ต่อตะเกยี บกบั ดินสอยาว 4 เซนตเิ มตร”

ตะเกยี บยาว 22 เซนติเมตร

ตอ่ ตะเกียบกับดนิ สอ

- จะทราบไดอ้ ย่างไรว่าดินสอกบั ตะเกยี บยาวรวมกนั เทา่ ไร (นาความยาวของ
ตะเกยี บและความยาวของดนิ สอรวมกนั )

- เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร (22 + 4 = ) ครูเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์
บนกระดาน ดงั นี้ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 22 + 4 = 

- ความยาวของตะเกียบรวมกบั ความยาวของดนิ สอยาวเทา่ ไร (26 เซนติเมตร)
3. ครูติดบัตรภาพบนกระดาน ดงั น้ี

ครูเขยี นสถานการณก์ ารบวกบนกระดานแล้วใชก้ ารถามตอบ ดังนี้
“ขุนมีดินสอสสี ีนา้ เงนิ ยาว 6 เซนติเมตร ดินสอสสี ีแดงยาว 7 เซนตเิ มตร ขนุ นา
ดนิ สอสที ง้ั สองแท่งมาตอ่ กนั เพอ่ื ให้สะดวกในการจับ”
- จะทราบได้อยา่ งไรว่าดินสอสองแท่งยาวรวมกนั เทา่ ไร (นาความยาวของดนิ สอสี
สนี ้าเงินรวมกบั ความยาวของดินสอสสี ีแดง)

- ดินสอสสี ีนา้ เงนิ ยาวเทา่ ไร (6 เซนตเิ มตร)
- ดนิ สอสสี ีแดงยาวเท่าไร (7 เซนติเมตร)
- เขยี นประโยคสัญลักษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (6 + 7 = )
- ดนิ สอสีแท่งทีต่ อ่ กนั ยาวเทา่ ไร (13 เซนตเิ มตร) ครเู ขียนบนกระดานดังนี้ ดินสอ
สีแทง่ ที่ตอ่ กนั ยาว 6 + 7 = 13 เซนติเมตร)
4. ครแู นะนาว่าจากสถานการณ์ที่แสดงให้เหน็ ถงึ การนาจานวนมารวมกนั สามารถ
เขยี นแสดงด้วยประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกเปน็ สถานการณ์การบวก
5. ครสู มุ่ นกั เรียนยกตวั อย่างสถานการณ์การบวกจากภาพ 2 – 3 ตัวอยา่ ง เม่อื นกั เรียน
ยกตวั อย่าง ครูเขยี นบนกระดาน ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
6. ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 2 สถานการณก์ ารบวก เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกัน
ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 2
ขั้นสรุป
7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงท่ไี ด้เรยี นรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ เร่อื งราวหรอื สถานการณท์ ่ี
แสดงให้เหน็ ถงึ การนาจานวนมารวมกัน สามารถเขียนแสดงด้วยประโยคสัญลักษณก์ ารบวกเป็น
สถานการณก์ ารบวก

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานท่ี 2 สถานการณ์การบวก

การวดั ผลและประเมินผล

สิ่งท่ีต้องการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 2 ใบงานท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ ึน้ ไป
3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น
ท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการข้นึ ไปถือว่าผ่าน

ที่พึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 2 สถานการณก์ ารบวก

คาชแ้ี จง เติมคาตอบลงในชอ่ งวา่ ง

1. แมม่ ดี อกกหุ ลาบสีขาว 14 ดอก มดี อกกุหลาบสแี ดง 10 ดอก
แมม่ ดี อกกุหลาบท้งั หมด + = ดอก

2. แมค่ ้าขายไอศกรีมรสวนิลาได้ 16 ถ้วย ขายรสช็อกโกแลตได้ 17 ถ้วย
แมค่ ้าขายไอศกรมี ได้ทง้ั หมด + = ถว้ ย

3. ขวดนา้ แพ็คใหญส่ ูง 33 เซนตเิ มตร ขวดนา้ แพ็กเล็กสูง 23 เซนติเมตร
ขวดน้าแพ็กใหญ่กับแพก็ เลก็ วางซอ้ นกันสูง + = เซนติเมตร

4. พอ่ คา้ ขายแตงโมได้ 27 ผล และขายสับปะรดได้ 28 ผล
พ่อค้าขายแตงโมและสบั ปะรดได้ + = ผล

5. เหมีย่ วสะสมแสตมปไ์ ด้ 54 ดวง ขิงให้แสตมป์มาเพม่ิ 25 ดวง
เหมีย่ วมีแสตมป์ท้ังหมด + = ดวง

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 82

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ เวลาเรียน 19 ชั่วโมง

เร่อื ง สถานการณก์ ารบวก เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของ
จานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0

สาระสาคัญ
เรื่องราวหรือสถานการณท์ ่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงการนาจานวนมารวมกนั สามารถเขยี นแสดงดว้ ย

ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกเป็นสถานการณก์ ารบวก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายสถานการณ์การบวกทีก่ าหนดให้ได้ (K)
2. สามารถวิเคราะห์สถานการณ์การบวก หาคาตอบ และเขียนประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก

ได้ (P)
3. นาความรู้เกี่ยวกบั สถานการณก์ ารบวกไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
สถานการณ์การบวก

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนสถานการณก์ ารบวกโดยเลา่ สถานการณ์ ดงั นี้ ครูมไี มอ้ ยู่ 3 อันที่มีความ

ยาวแตกต่างกันดังรปู ต่อไปนี้

ไม้อนั ท่ี 1 ยาว 15 เซนติเมตร
ไมอ้ ันท่ี 2 ยาว 45 เซนตเิ มตร
ไม้อันท่ี 3 ยาว 35 เซนติเมตร

“ครตู ้องการนาไม้ 2 อันมาวางต่อกันใหม้ ีความยาวมากกว่า 50 เซนตเิ มตร” 50
- จะทราบไดอ้ ย่างไรวา่ ไม้ 2 อนั วางต่อกันแล้วมคี วามยาวมากกวา่ 50
เซนตเิ มตร (ตอบตามความเข้าใจ)
- จะหาความยาวของไม้ 2 อันท่ีนามาวางตอ่ กนั ได้ด้วยวธิ ใี ด (วิธบี วก)
ครูใหน้ ักเรยี นเลอื กไม้ 2 อันทีน่ ามาวางต่อกนั แลว้ มคี วามยาวมากกว่า
เซนติเมตร แลว้ นาเสนอหน้าชนั้ เรียน
ข้ันสอน
2. ครเู ขียนสถานการณก์ ารบวกบนกระดานแล้วใช้การถามตอบ ดังนี้

ใบบัวมดี ินสอสี 12 แท่ง ใบบวั มีดินสอสีนอ้ ยกวา่ ครู 8 แท่ง

- จะทราบไดอ้ ยา่ งไรวา่ ครูมดี ินสอสีทัง้ หมดกแ่ี ท่ง (ตอบตามความเข้าใจ)

ครเู ขยี นภาพประกอบการอธิบาย ดังนี้

- จะหาจานวนดินสอสีทค่ี รมู ีไดอ้ ย่างไร (นาจานวนดินสอสีของใบบัวรวมกบั
จานวนดนิ สอสีทคี่ รมู ีมากกว่า)

- จะหาคาตอบด้วยวธิ ใี ด (วิธีบวก)
- เขียนประโยคสัญลักษณไ์ ด้อย่างไร (12 + 8 = )
ครใู ห้ตวั แทนนักเรยี นออกมาแสดงวธิ ีการหาคาตอบ ซง่ึ นกั เรียนอาจหาคาตอบได้
โดยใช้การนับต่อ เสน้ จานวน หรอื ใช้การทาใหค้ รบสบิ (ใชค้ วามสมั พันธข์ องจานวนแบบส่วนย่อย -
ส่วนรวม)
ตัวอยา่ ง วธิ หี าคาตอบโดยใช้ความสัมพนั ธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม

12 + 8

ข้นั ท่ี 1 2 + 8 = 10

10 2 ขนั้ ที่ 2 10 + 10 = 20

ดงั นั้น 12 + 8 = 20

- คาตอบเป็นเทา่ ไร (20)

- สรุปคาตอบไดอ้ ย่างไร (ครมู ีดนิ สอสี 12 + 8 = 20 แทง่ )

3. ครเู ขยี นสถานการณก์ ารบวกบนกระดานแล้วใช้การถามตอบ ดงั น้ี

ดนิ สอสียาว 14 เซนติเมตร ดินสอสสี นั้ กวา่ ตะเกยี บ 8 เซนตเิ มตร
ตะเกียบยาวเท่าไร

- โจทย์ถามอะไร (ความยาวของตะเกยี บ)

- โจทยบ์ อกอะไรบ้าง (ดนิ สอสียาว 14 เซนติเมตร ดนิ สอสสี ัน้ กวา่ ตะเกยี บ 8

เซนติเมตร)

- ดินสอสียาวกว่าหรือส้นั กวา่ 14 เซนตเิ มตร (น้อยกวา่ 14 เซนตเิ มตร)

- จะหาคาตอบได้โดยวิธใี ด (การบวก)

- เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร (14 + 8 = )

ครใู ห้ตวั แทนนัก เรียนออกมาแสดงวิธกี ารหาคาตอบ ซึง่ นักเรียนอาจหาคาตอบได้

โดยใช้การนับตอ่ เส้นจานวน หรือใชก้ ารทาให้ครบสบิ (ใช้ความสมั พันธข์ องจานวนแบบสว่ นยอ่ ย -

ส่วนรวม)

ตวั อยา่ ง วธิ หี าคาตอบโดยใช้ความสัมพนั ธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวม

14 + 8

ขั้นที่ 1 4 + 8 = 12

10 4 ขั้นที่ 2 10 + 12 = 22

ดังนน้ั 14 + 8 = 22

- คาตอบเป็นเท่าไร (22)

- สรปุ คาตอบได้อยา่ งไร (ตะเกยี บยาว 22 เซนติเมตร)

4. ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 3 สถานการณ์การบวก เม่อื เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกัน

ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 3

ขน้ั สรปุ

5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ เรอ่ื งราวหรือสถานการณ์ท่ี

แสดงให้เห็นถึงการนาจานวนมารวมกนั สามารถเขียนแสดงด้วยประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกเป็น

สถานการณ์การบวก

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานท่ี 3 สถานการณก์ ารบวก

การวดั ผลและประเมินผล

สงิ่ ทต่ี ้องการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 3 ใบงานที่ 3 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะท่ีพงึ
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2

ด้านคุณลกั ษณะ ทุกรายการข้ึนไปถือวา่ ผา่ น

ท่พี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 3 สถานการณก์ ารบวก

คาชี้แจง เติมคาตอบลงในช่องวา่ ง

1. ห้อง ป.1/1 มีนกั เรียนหญงิ มากกวา่ นกั เรยี นชาย 9 คน มีนักเรยี นชาย 16 คน
หอ้ ง ป.1/1 มนี ักเรยี นหญงิ + = คน

2. เกา้ อีส้ งู 65 เซนตเิ มตร เก้าอ้เี ต้ียกว่าโต๊ะ 35 เซนตเิ มตร
โต๊ะสงู + = เซนตเิ มตร

3. น้องเกบ็ มะมว่ งได้ 8 ผล พีเ่ กบ็ มะมว่ งไดม้ ากกวา่ นอ้ ง 12 ผล
พ่ีเกบ็ มะม่วงได้ + = ผล

4. แมค่ ้าขายกางเกงตอนเชา้ ได้ 46 ตัว ตอนเช้าขายกางเกงได้น้ อยกว่าตอนบา่ ย
12 ตัว

แมค่ ้าขายกางเกงตอนบ่ายได้ + = ตวั

5. ใบเตยมีเงิน 47 บาท ใบตองมเี งนิ มากกว่าใบเตย 20 บาท
ใบตองมเี งิน + = บาท

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 83

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ เวลาเรยี น 19 ชว่ั โมง

เร่ือง สถานการณ์การลบ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของ
จานวนนับไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคัญ
เร่อื งราวหรือสถานการณ์ทแ่ี สดงให้เหน็ ถงึ การเอาออก เปรยี บเทียบหาสว่ นที่ต่างกนั สามารถ

เขียนแสดงดว้ ยประโยคสัญลักษณก์ ารลบเปน็ สถานการณก์ ารลบ

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายสถานการณก์ ารลบจากภาพท่ีกาหนดให้ได้ (K)
2. สามารถบอก สถานการณ์การลบ อยา่ งง่าย พร้อมทัง้ เขียนประโยคสัญลักษณ์การ ลบได้

(P)
3. นาความรู้เก่ียวกบั สถานการณก์ ารลบไปใช้แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
สถานการณก์ ารลบ

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูยกตวั อยา่ ง สถานการณก์ ารลบ โดยอา่ นสถานการณแ์ ล้วใหน้ กั เรียนพจิ ารณาวา่

สถานการณน์ ้นั เปน็ สถานการณก์ ารลบ เพราะเหตใุ ด ดงั นี้
1) ตังซ้ือชมพู่ 15 ผล แบง่ ใส่ถงุ 2 ใบ ถุงแรกใส่ 8 ผล ถุงท่ีสองจะมีชมพูก่ ผ่ี ล

(การลบ เพราะหาจานวนชมพู่ทเี่ หลอื หลังจากใสถ่ ุงแรก)
2) ปอมีเงิน 20 บาท ซื้อขนมราคา 5 บาท ผิงเหลอื เงนิ กบี่ าท (การลบ เพราะปอ

นาเงนิ ไปซ้อื ขนม ทาใหเ้ หลอื เงนิ นอ้ ยลง)
ข้นั สอน
2. ครูตดิ แผนภาพบนกระดาน ดังน้ี

ครยู กตวั อย่างสถานการณก์ ารลบบนกระดานว่า “คณุ แม่ทาเค้กสม้ 24 ชิ้น ใหเ้ พอ่ื น
บา้ น 20 ชิ้น” ครเู ขียนวงลอ้ มรอบภาพเค้กสม้ ดงั รปู และเขยี นใตภ้ าพ

คุณแม่เหลือเค้กส้ม 24 – 20 = 4 ชนิ้
3. ครเู ขียนสถานการณก์ ารลบบนกระดาน ดงั น้ี “แม่ทาเคก้ ส้มกบั เค้กกล้วยหอมได้ 48
ช้นิ เป็นเค้กส้ม 24 ช้ิน”

- จะทราบได้อยา่ งไรว่าคุณแม่ทาเคก้ กลว้ ยหอมกี่ช้นิ (นาจานวนเคก้ ท้ังหมดลบ
ด้วยจานวนเคก้ สม้ หรือ 48 – 24)

- เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร (48 – 24 = ) ครูเขียนประโยค
สัญลกั ษณบ์ นกระดาน

ครใู หต้ วั แทนนกั เรยี นออกมาแสดงวิธกี ารหาคาตอบ ซง่ึ นักเรียนอาจหาคาตอบได้
โดยใช้แผน่ ตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ยช่วยในการหาผลลบ หรือใช้การตงั้ ลบ ดงั น้ี

- คุณแมท่ าเค้กกล้วยหอมก่ชี ้นิ (24 ชิ้น)
ครเู ขยี นบนกระดานดงั น้ี คณุ แมท่ าเคก้ กล้วยหอม 48 – 24 = 24 ช้นิ
ครูแนะนาวา่ เรื่องราวหรอื สถานการณ์ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถึงการเอาออกเปน็ สถานการณ์
การลบสามารถเขยี นแสดงดว้ ยประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ
4. ครูเขยี นสถานการณก์ ารลบบนกระดานแล้วใชก้ ารถามตอบ ดังนี้ “แมท่ าซาลาเปา
ใหแ้ ก้วตา 10 ลกู ทาซาลาเปาใหใ้ บบัว 15 ลกู ”
- จะทราบไดอ้ ยา่ งไรว่าแม่ทาซาลาเปาใหแ้ ก้วตาน้อยกวา่ ใบบัวกล่ี ูก (นาจานวน
ซาลาเปาท่แี มท่ าให้ใบบัวลบด้วยจานวนซาลาเปาทแ่ี ม่ทาให้แก้วตา หรือ 15 – 10)
ครูเขียนภาพประกอบการอธบิ ายเพ่มิ เติม ดงั นี้

- เขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร (15 – 10 = ) ครเู ขียนประโยค
สญั ลกั ษณ์บนกระดาน

ครูให้ตวั แทนนกั เรยี นออกมาแสดงวธิ ีการหาคาตอบ ซึ่งนักเรยี นอาจหาคาตอบได้
โดยใชก้ ารนบั ถอยหลงั นับต่อเส้นจานวน หรอื ใช้ความสัมพันธข์ องจา นวนแบบสว่ นยอ่ ย - สว่ นรวม
ดงั นี้

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

นบั ต่อจาก 10 ไปอีก 5 ได้ 15
- แม่ทาซาลาเปาใหแ้ กว้ ตานอ้ ยกวา่ ใบบัวก่ีลูก (5 ลูก)
ครเู ขยี นบนกระดาน ดงั นี้ แม่ทาซาลาเปาใหแ้ ก้วตาน้อยกวา่ ใบบัว 15 – 10 = 5 ลกู
ครูแนะนาว่าเรือ่ งราวหรอื สถานการณท์ แ่ี สดงใหเ้ หน็ ถึงการเปรียบเทียบเป็น
สถานการณก์ ารลบ สามารถเขียนแสดงดว้ ยประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ
5. ครูให้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 4 สถานการณ์การลบ เมือ่ เสร็จแล้วให้นักเรียนชว่ ยกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 4
ขัน้ สรปุ
6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สิง่ ท่ไี ด้เรียนร้รู ่วมกนั ดังนี้ เร่อื งราวหรือสถานการณ์ท่ี
แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การเอาออก เปรยี บเทียบหาสว่ นต่างกัน เป็นสถานการณ์การลบ สามารถเขยี นแสดง
ด้วยประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 4 สถานการณก์ ารลบ

การวัดผลและประเมินผล

สิ่งทีต่ อ้ งการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 4 ใบงานท่ี 4 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ ึ้นไป
ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึง
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนคณุ ภาพ 2

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ทกุ รายการขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น

ทีพ่ ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 4 สถานการณ์การลบ

คาชแี้ จง เติมตัวเลขแสดงจานวน

1. ในห้องเรียนมนี กั เรยี นทง้ั หมด คน
เปน็ นักเรียนหญิง คน
เป็นนกั เรียนชาย - = คน

2. พ่อปลูกตน้ มะลแิ ละตน้ กหุ ลาบจานวน ตน้
เปน็ ต้นมะลิ ต้น
เปน็ ต้นกุหลาบ - = ตน้

3. แมค่ ้ามีส้มโอ ลูก
ขายไป ลูก
แมค่ า้ เหลือส้มโอ - = ลกู

4. แก้วตามไี ข่ ฟอง = ฟอง
ทาเปน็ อาหาร ฟอง
แกว้ ตาเหลือไข่ -

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 84

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ เวลาเรยี น 19 ชวั่ โมง

เรอ่ื ง สถานการณ์การลบ เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตัวชี้วดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบของ
จานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
เร่ืองราวหรอื สถานการณท์ แี่ สดงให้เห็นถึงการเอาออก เปรยี บเทียบหาสว่ นที่ตา่ งกัน สามารถ

เขยี นแสดงดว้ ยประโยคสัญลักษณก์ ารลบเปน็ สถานการณก์ ารลบ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายสถานการณก์ ารลบทกี่ าหนดให้ได้ (K)
2. สามารถวิเคราะหส์ ถานการณ์การลบ หาคาตอบ และเขยี นประโยคสญั ลักษณ์การลบได้

(P)
3. นาความร้เู กี่ยวกบั สถานการณก์ ารลบไปใช้แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
สถานการณก์ ารลบ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูเขยี นสถานการณ์การลบบนกระดานแล้วใช้การถามตอบ ดังนี้
“ในหอ้ งเรียนมีนักเรยี นท้ังหมด 25 คน เป็นนกั เรียนหญิง 10 คน”
ครูถามว่าจะหาจานวนนกั เรียนชายได้อยา่ งไร (นาจานวนนกั เรยี นทั้งหมดมาลบด้วย

จานวนนกั เรยี นชาย หรือ 25 – 10) สถานการณน์ ี้เปน็ สถานการณ์การบวกหรอื การลบ (การลบ)
เพราะเหตุใด (หาจานวนนกั เรยี นทเี่ หลอื ) ในหอ้ งเรยี นมนี ักเรียนชายทั้งหมดก่คี น (15 คน) ครเู ขียน
บนกระดานดังนี้ ในห้องเรยี นมีนกั เรียนชาย 25 – 10 = 15 คน

ขน้ั สอน
2. ครเู ขยี นสถานการณ์การลบบนกระดาน และใช้การถามตอบ ดังน้ี
“เกง่ มียางรดั 22 เส้น กอ้ งมยี างรดั 16 เส้น”
- จะทราบไดอ้ ยา่ งไรว่าเกง่ มยี างรดั มากกว่ากอ้ งเทา่ ไร (นาจานวนยางรัดที่เก่งมี

ลบด้วยจานวนยางรัดท่กี ้องมี หรือ 22 – 16)
ครูเขียนภาพประกอบการอธบิ าย ดงั นี้

- สถานการณน์ ีเ้ ป็นสถานการณ์การลบเพราะอะไร (เป็นการเปรียบเทยี บ)
- เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้อย่างไร (22 – 16 = ) ครูเขยี นประโยค
สัญลักษณบ์ นกระดาน
- เกง่ มยี างรดั มากกว่ากอ้ งเท่าไร (6 เสน้ )
ครเู ขียนบนกระดานดงั น้ี เกง่ มยี างรดั มากกว่าก้อง 22 – 16 = 6 เส้น
3. ครเู ขยี นสถานการณก์ ารลบบนกระดาน และใช้การถามตอบ ดังนี้
“ขุนมียางรดั 20 เส้น ขนุ มียางรัดมากกวา่ ก้อง 4 เสน้ ”
- จะทราบไดอ้ ย่างไรวา่ ก้องมียางรดั กีเ่ ส้น (นาจานวนยางรัดของขุนลบดว้ ยจานวน
ยางรดั ทีข่ นุ มมี ากกว่ากอ้ ง หรอื 20 – 4)
ครูเขียนภาพประกอบการอธบิ าย ดงั นี้

- สถานการณ์น้เี ป็นสถานการณ์การลบเพราะอะไร (เป็นการเปรยี บเทียบ)

- เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้อยา่ งไร (20 – 4 = ) ครูเขียนประโยค
สญั ลักษณ์บนกระดาน

- เกง่ มยี างรดั เท่าไร (16 เสน้ )
ครเู ขยี นบนกระดานดงั นี้ ก้องมยี างรดั 20 – 4 = 16 เสน้
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปว่า เรอ่ื งราวหรือสถานการณ์ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงการ
เปรียบเทียบ หาสว่ นต่างกันเปน็ สถานการณก์ ารลบ สามารถเขยี นแสดงด้วยประโยคสัญลกั ษณ์การลบ
4. ครใู ห้นกั เรียนทา ใบงานท่ี 5 สถานการณ์การลบ เมื่อเสร็จแลว้ ให้นักเรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 5
ข้ันสรุป
5. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั ดังนี้ เร่อื งราวหรอื สถานการณ์ที่
แสดงให้เหน็ ถงึ การเอาออก เปรียบเทียบหาสว่ นตา่ งกนั เปน็ สถานการณ์การลบ สามารถเขียนแสดง
ด้วยประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 5 สถานการณก์ ารลบ

การวัดผลและประเมนิ ผล

ส่ิงที่ตอ้ งการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 5 ใบงานที่ 5 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน
ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการข้ึนไปถือวา่ ผ่าน

ทพ่ี งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 5 สถานการณ์การลบ

คาชแี้ จง เติมคาตอบลงในช่องวา่ ง

1. พอ่ เกบ็ ไขไ่ ก่ได้ 30 ฟอง เก็บไขเ่ ป็ดได้นอ้ ยกวา่ ไขไ่ ก่ 10 ฟอง
พ่อเก็บไขเ่ ปด็ ได้ - = ฟอง

2. เชือกสีแดงยาว 25 เมตร เชือกสีแดงยาวกว่าเชอื กสีเขยี ว 12 เมตร
เชือกสีเขียวยาว - = เมตร

3. ขุนเลี้ยงแกะขาว 24 ตวั เลี้ยงแกะขาวมากกว่าแกะดา 13 ตัว
ขนุ เล้ียงแกะดา - = ตวั

4. ธารีมีเงนิ 50 บาท ไพรินมเี งินนอ้ ยกว่าธารี 16 บาท
ไพรนิ มเี งนิ - = บาท

5. ขวญั ใจตดั เสื้อได้ 64 ตวั ขา้ วหอมตดั เสอื้ ได้น้อยกว่าขวญั ใจ 18 ตัว
ขา้ วหอมตัดเสอ้ื ได้ - = ตวั

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 85

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 14 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ เวลาเรยี น 19 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาการบวก เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กิดขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของ
จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
การแก้โจทยป์ ญั หาทาไดโ้ ดยอา่ นทาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบ และ

ตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาการบวกได้ (K)
2. สามารถการวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หาการบวก และหาคาตอบได้ (P)
3. นาความรู้เก่ียวกับโจทยป์ ญั หาการบวกไปใช้แกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
โจทยป์ ญั หาการบวก

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน

1. ครูทบทวนการบวกจานวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 100 โดยติดบัตรโจทยก์ ารบวกบน

กระดาน ดงั นี้

- 34 + 5 =  - 26 + 5 = 

- 48 + 2 =  - 52 + 5 = 

- 69 + 4 =  - 78 + 3 = 

ข้ันสอน

2. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ญั หาการบวกบนกระดาน พรอ้ มทง้ั อา่ นโจทยใ์ หน้ กั เรียนอา่ นตาม

พรอ้ มตดิ บัตรภาพประกอบ ดงั นี้

ลงุ มีไกอ่ ย่ใู นรวั้ 23 ตัว อยู่นอกรั้ว 4 ตวั ลงุ มไี กท่ ้งั หมดกต่ี วั

ครูให้นกั เรียนฝึกวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา โดยตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้

- โจทยถ์ ามอะไร (ลุงมีไก่ทั้งหมดกีต่ ัว)

- โจทย์บอกอะไรบา้ ง (ลงุ มไี กอ่ ยู่ในรั้ว 23 ตัว อยูน่ อกรวั้ 4 ตวั )

- ลุงมีไกท่ ้ังหมดนอ้ ยกว่าหรอื มากกวา่ 23 ตัว เพราะเหตใุ ด (มากกว่า 23 ตัว

เพราะลุงมีไกใ่ นรวั้ 23 ตัว แล้วยังมีอยู่นอกร้ัว 4 ตวั อีก)

- หาคาตอบได้ดว้ ยวธิ ีใด (วธิ บี วก)

- เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร (23 + 4 = ) ครูเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์

บนกระดาน

ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาแสดงวิธีการหาคาตอบ ซ่งึ นกั เรยี นอาจหาคาตอบไดโ้ ดยใช้

ความสมั พันธ์ของจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ดงั นี้

23 + 4

ขนั้ ท่ี 1 3 + 4 = 7

20 3 ขั้นที่ 2 20 + 7 = 27
ดังน้นั 23 + 4 = 27

- ลงุ มไี ก่ทงั้ หมดกตี่ ัว (27 ตวั )

- 27 เป็นคาตอบท่สี มเหตสุ มผลหรือไม่ เพราะเหตุใด (เป็นคาตอบท่ีสมเหตุสมผล
เพราะคาตอบควรมากกว่า 23)

- สรุปคาตอบได้อยา่ งไร (ลงุ มไี ก่ท้งั หมด 27 ตวั )
ครเู ขยี นสรปุ คาตอบบนกระดาน ซึ่งบนกระดานจะมขี ้อความปรากฏดังน้ี

โจทยป์ ญั หา ลงุ มีไกอ่ ยูใ่ นรัว้ 23 ตวั อย่นู อกร้วั 4 ตวั ลุงมีไก่ทั้งหมดกตี่ วั
โจทย์ถาม ลุงมไี ก่ทั้งหมดกตี่ ัว
โจทยบ์ อก ลงุ มไี กอ่ ยู่ในร้ัว 23 ตวั อยนู่ อกรว้ั 4 ตวั
ประโยคสญั ลกั ษณ์ 23 + 4 = 

23 + 4 = 27
ตอบ ลงุ มไี กท่ ้ังหมด ๒๗ ตวั

3. ครฝู กึ วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวกตามลกั ษณะกิจกรรมทท่ี ามาขา้ งตน้ อกี 1 – 2
ตวั อย่าง

4. ครูให้นักเรียนทา ใบงานท่ี 6 โจทยป์ ญั หาการบวก เมือ่ เสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6

ขั้นสรุป
5. ครแู ละนักเรยี นร่วม กันสรุปสิ่งทไี่ ด้เรยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ โจทยป์ ญั หาเป็นการนา

จานวนหรือสถานการณ์ตา่ ง ๆ มาเขยี นเปน็ คาถาม เพอ่ื ใหค้ ดิ หาคาตอบ ซึ่งเราตอ้ งอา่ นโจทย์ให้เขา้ ใจ
พิจารณาว่าโจทยก์ าหนดอะไรให้บ้าง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใช้วิธกี ารแก้ไขปัญหาอย่างไร
สอ่ื การเรยี นรู้

1. แถบโจทยป์ ญั หาการบวก
2. บตั รภาพ
3. ใบงานท่ี 6 โจทย์ปญั หาการบวก

การวัดผลและประเมินผล

สิง่ ท่ตี ้องการวดั วิธีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานท่ี 6 ใบงานท่ี 6 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ทีพ่ ึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน
คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน

ทพี่ ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 6 โจทย์ปญั หาการบวก

คาชี้แจง เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคาตอบ

1. รา้ นคา้ มีตกุ๊ ตาหมสี ขี าว 26 ตัว และตกุ๊ ตาหมสี นี า้ ตาล 22 ตัว ร้านค้ามี
ตกุ๊ ตาหมที ั้งหมดกีต่ วั

โจทยถ์ าม
โจทย์บอก
ประโยคสญั ลักษณ์
ตอบ

2. นักกีฬาชน้ั ป .1 เปน็ ผู้หญิง 38 คน เป็นผชู้ าย 49 คน นกั กฬี าชัน้ ป .1 มี
ทง้ั หมดกีค่ น

โจทย์ถาม
โจทย์บอก
ประโยคสญั ลกั ษณ์
ตอบ

3. วันแรกพิมอา่ นหนงั สอื ได้ 23 หน้า วนั ทส่ี องพิมอ่านหนงั สอื ได้ 15 หนา้
สองวนั พิมอา่ นหนังสือได้กห่ี น้า

โจทยถ์ าม
โจทยบ์ อก
ประโยคสัญลกั ษณ์
ตอบ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 86

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 14 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ เวลาเรียน 19 ช่ัวโมง

เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการลบ เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของ
จานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
การแก้โจทยป์ ญั หาทาได้โดยอา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบ และ

ตรวจสอบความสมเหตุสมผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการลบได้ (K)
2. สามารถการวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการลบ และหาคาตอบได้ (P)
3. นาความรเู้ กย่ี วกับโจทย์ปัญหาการลบไปใช้แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หาการลบ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุง่ มนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรียน

1. ครูทบทวนการลบจานวนท่ีตัวต้งั ไมเ่ กิน 100 โดยตดิ บตั รโจทย์การบวกบนกระดาน

ดงั น้ี

- 34 - 5 =  - 26 - 5 = 

- 48 - 2 =  - 52 - 5 = 

ขน้ั สอน

2. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการ ลบบนกระดาน พรอ้ มทั้งอ่านโจทย์ใหน้ ักเรยี นอา่ นตาม

ดงั น้ี มาลมี ีไข่ไก่ 35 ฟอง แบง่ ให้ป้าไป 5 ฟอง มาลเี หลือไข่ไกก่ ่ฟี อง

ครูใหน้ ักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปญั หา โดยตอบคาถามดังตอ่ ไปน้ี

- โจทยถ์ ามอะไร (มาลีเหลอื ไข่ไก่กฟี่ อง)

- โจทยบ์ อกอะไรบา้ ง (มาลีมีไขไ่ ก่ 35 ฟอง แบง่ ให้ป้าไป 5 ฟอง)

- มาลเี หลอื ไข่ไกน่ อ้ ยกวา่ หรอื มากกว่า 35 ฟอง เพราะเหตใุ ด (นอ้ ยกว่า 35 ฟอง

เพราะแบ่งใหป้ ้าไป)

- หาคาตอบไดด้ ว้ ยวธิ ีใด (วิธีลบ)

- เขียนประโยคสญั ลักษณไ์ ด้อย่างไร (35 - 5 = ) ครูเขียนประโยคสญั ลักษณ์

บนกระดาน

ใหต้ วั แทนนกั เรียนออกมาแสดงวธิ ีการหาคาตอบ ซึง่ นักเรียนอาจหาคาตอบไดโ้ ดยใช้

ความสัมพันธ์ของจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ดังน้ี

35 - 5

ข้นั ท่ี 1 5 - 5 = 0

30 5 ข้ันท่ี 2 30 + 0 = 30
ดงั น้นั 35 - 5 = 30

- มาลเี หลอื ไขไ่ กก่ ่ฟี อง (30 ฟอง)

- 30 เปน็ คาตอบทส่ี มเหตสุ มผลหรือไม่ เพราะเหตุใด (เป็นคาตอบท่สี มเหตุสมผล

เพราะคาตอบควรนอ้ ยกว่า 35)

- สรุปคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (มาลีเหลอื ไขไ่ ก่ 30 ฟอง)

ครูเขียนสรปุ คาตอบบนกระดาน ซึ่งบนกระดานจะมีขอ้ ความปรากฏดังน้ี

โจทย์ปญั หา มาลีมีไข่ไก่ 35 ฟอง แบ่งให้ปา้ ไป 5 ฟอง มาลีเหลอื ไข่ไกก่ ฟี่ อง
โจทยถ์ าม มาลเี หลือไข่ไก่กี่ฟอง
โจทยบ์ อก มาลีมีไข่ไก่ 35 ฟอง แบ่งให้ป้าไป 5 ฟอง
ประโยคสัญลกั ษณ์ 35 - 5 = 

35 - 5 = 30
ตอบ มาลเี หลือไข่ไก่ ๓๐ ฟอง

3. ครฝู กึ วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาการ ลบตามลักษณะกจิ กรรมท่ีทามาขา้ งต้นอกี 1 – 2
ตวั อยา่ ง

4. ครใู หน้ ักเรียนทา ใบงานที่ 7 โจทย์ปัญหาการลบ เมื่อเสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 7

ข้ันสรปุ
5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้รว่ มกัน ดงั น้ี โจทย์ปญั หาเปน็ การนา

จานวนหรอื สถานการณ์ต่าง ๆ มาเขยี นเปน็ คาถาม เพอื่ ใหค้ ดิ หาคาตอบ ซ่ึ งเราต้องอา่ นโจทยใ์ ห้เข้าใจ
พิจารณาว่าโจทย์กาหนดอะไรให้บา้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ิธีการแก้ไขปญั หาอยา่ งไร

สอ่ื การเรียนรู้
1. แถบโจทยป์ ัญหาการบวก
2. ใบงานที่ 7 โจทยป์ ัญหาการลบ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่ิงทต่ี อ้ งการวดั วธิ วี ัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 7 ใบงานที่ 7 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใชข้ นึ้ ไป
ทีพ่ ึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน
คณุ ลักษณะท่ีพึง แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรยี นได้คะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลกั ษณะ ทกุ รายการข้ึนไปถือว่าผา่ น

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 7 โจทยป์ ญั หาการลบ

คาช้ีแจง เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบ

1. ฟารม์ แหง่ หนึ่งเลีย้ งววั ไวท้ ้งั หมด 51 ตัว เปน็ ววั ตวั ผู้ 9 ตัว ทเ่ี หลือเปน็ วัว
ตวั เมยี ฟารม์ แห่งนเ้ี ล้ยี งวัวตัวเมียกี่ตัว

โจทยถ์ าม
โจทยบ์ อก
ประโยคสัญลักษณ์
ตอบ

2. มะปรางมเี งนิ 76 บาท จา่ ยคา่ ตวั๋ รถเมล์ไป 18 บาท มะปรางเหลอื เงินก่ี
บาท

โจทยถ์ าม
โจทยบ์ อก
ประโยคสัญลกั ษณ์
ตอบ

3. แม่คา้ ขายเป็ดได้ 16 ตัว ขายไกไ่ ด้ 47 ตัว แม่คา้ ขายไกไ่ ด้มากกวา่ เปด็ กี่
ตวั

โจทย์ถาม
โจทยบ์ อก
ประโยคสัญลักษณ์
ตอบ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 87

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ เวลาเรียน 19 ชว่ั โมง

เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกทม่ี คี าวา่ มากกวา่ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของ
จานวนนับไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การแกโ้ จทยป์ ญั หาทาได้โดยอ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบ และ

ตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการบวกทีม่ ีคาว่ามากกวา่ ได้ (K)
2. สามารถการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการบวกท่มี คี าว่ามากกวา่ และหาคาตอบได้ (P)
3. นาความรู้เกี่ยวกบั โจทยป์ ญั หาการบวกทม่ี ีคาว่ามากกว่าไปใช้แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์

ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
โจทยป์ ญั หาการบวกทีม่ ีคาว่ามากกวา่

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทบทวนการวเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการบวกโดยครเู ขยี นโจทย์ปญั หาบนกระดาน ให้

นักเรียนบอกวิธคี ิดและหาคาตอบ เช่น “มะลเิ กบ็ ไขไ่ กต่ อนเช้า 20 ฟอง และเกบ็ ตอนเย็น 9 ฟอง มะลิ
เกบ็ ไขไ่ กไ่ ดท้ ้งั หมดกีฟ่ อง”

- โจทยถ์ ามอะไร (มะลิเก็บไขไ่ กไ่ ดท้ ้งั หมดกีฟ่ อง)
- โจทย์บอกอะไรบา้ ง (มะลเิ ก็บไขไ่ ก่ตอนเชา้ 20 ฟอง และเกบ็ ตอนเยน็ 9 ฟอง)
- มะลิเก็บไข่ไกไ่ ด้ทงั้ หมดมากกว่าหรือน้อยกวา่ 20 ฟอง เพราะเหตุใด (ควรได้
มากกวา่ 20 ฟอง เพราะเก็บไขไ่ กต่ อนเช้า 20 ฟอง ยังเก็บตอนเย็นได้อกี 9 ฟอง)
- เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร (20 + 9 = )
- มะลเิ ก็บไขไ่ กไ่ ดท้ ัง้ หมดกี่ฟอง (29 ฟอง)
- 29 เปน็ คาตอบท่สี มเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (29 เปน็ คาตอบท่ี
สมเหตสุ มผล เพราะ 29 มากกวา่ 20)
ขนั้ สอน
2. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ญั หาการ ลบบนกระดาน พร้อมท้งั อ่านโจทย์ใหน้ กั เรยี นอ่านตาม
ดงั น้ี
วิภาเกบ็ สม้ โอ 20 ผล เกบ็ ฝรั่งได้มากกวา่ ส้มโอ 40 ผล วภิ าเกบ็ ฝร่งั ไดก้ ี่ผล

ครใู หน้ กั เรยี นฝึกวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยตอบคาถามดังต่อไปน้ี
- โจทย์ถามอะไร (วภิ าเกบ็ ฝรงั่ ไดก้ ผี่ ล)
- โจทยบ์ อกอะไรบา้ ง (วิภาเก็บส้มโอ 20 ผล เกบ็ ฝร่ังได้มากกว่าส้มโอ 40 ผล)
- คาตอบควรมากกวา่ หรอื น้อยกว่า 20 ผล (มากกวา่ 20 ผล)
ครเู ขียนภาพประกอบการอธบิ าย ดงั นี้

- หาคาตอบไดด้ ว้ ยวธิ ใี ด (วิธีบวก)
- เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ไดอ้ ย่างไร (20 + 40 = ) ครเู ขยี นประโยค
สัญลกั ษณ์บนกระดาน
ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาแสดงวธิ กี ารหาคาตอบ ซ่งึ นกั เรียนอาจหาคาตอบไดโ้ ดยใช้
เสน้ จานวน การต้ังบวก หรือใช้การนับครบสิบ
- วิภาเกบ็ ฝรงั่ ไดก้ ีผ่ ล (60 ผล)

- 60 เป็นคาตอบท่สี มเหตสุ มผลหรือไม่ เพราะเหตุใด (เปน็ คาตอบทสี่ มเหตสุ มผล
เพราะ 60 มากกวา่ 20)

ครแู นะนาใหน้ กั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบ โดยใหส้ งั เกตวา่ 60 – 20
= 40 ซง่ึ 40 เปน็ ผลต่างระหวา่ งจานวนฝร่ังและสม้ โอ ดงั นน้ั 60 เปน็ คาตอบทีถ่ กู ต้อง

- สรุปคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (วภิ าเกบ็ ฝรงั่ ได้ 60 ผล)
ครเู ขยี นสรุปคาตอบบนกระดาน ซึง่ บนกระดานจะมขี ้อความปรากฏดังน้ี

โจทยป์ ญั หา วิภาเก็บสม้ โอ 20 ผล เกบ็ ฝรัง่ ไดม้ ากกวา่ สม้ โอ 40 ผล วภิ าเกบ็ ฝรง่ั ได้ก่ผี ล
โจทยถ์ าม วิภาเกบ็ ฝรั่งไดก้ ี่ผล
โจทยบ์ อก วภิ าเกบ็ ส้มโอ 20 ผล เกบ็ ฝร่งั ไดม้ ากกว่าส้มโอ 40 ผล
ประโยคสญั ลักษณ์ 20 + 40 = 

20 + 40 = 60
ตอบ วิภาเก็บฝรั่งได้ ๖๐ ผล

3. ครฝู กึ วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาการ บวกทม่ี ีคาวา่ มากกวา่ ตามลักษณะกจิ กรรมท่ที ามา
ขา้ งตน้ อกี 1 – 2 ตัวอย่าง

4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 8 โจทยป์ ัญหาการบวกที่มีคาว่ามากกวา่ เมื่อเสร็จแลว้ ให้
นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 8

ขัน้ สรุป
5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปส่งิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกนั ดงั นี้ โจทยป์ ัญหาเป็นการนา

จานวนหรอื สถานการณ์ตา่ ง ๆ มาเขยี นเป็นคาถาม เพอ่ื ใหค้ ิดหาคาตอบ ซงึ่ เราตอ้ งอา่ นโจทยใ์ ห้เข้าใจ
พจิ ารณาว่าโจทยก์ าหนดอะไรให้บา้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร

สอ่ื การเรยี นรู้
1. แถบโจทย์ปญั หาการบวก
2. ใบงานที่ 8 โจทย์ปัญหาการบวกทมี่ ีคาวา่ มากกวา่

การวัดผลและประเมินผล

สงิ่ ท่ีต้องการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 8 ใบงานท่ี 8 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ ้นึ ไป
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถือว่าผ่าน

ที่พึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 8 โจทยป์ ญั หาการบวกท่ีมคี าวา่ มากกวา่

คาชแี้ จง เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบ

1. ออ้ ยมเี งนิ 56 บาท อายมีเงิน 85 บาท อายมีเงนิ มากกว่าออ้ ยก่บี าท
โจทย์ถาม
โจทยบ์ อก
ประโยคสัญลักษณ์
ตอบ

2. ชัน้ ป.1 มีนกั เรียน 67 คน ชนั้ ป.2 มนี กั เรยี นมากกว่าชั้น ป .1 15 คน ช้ัน
ป.2 มนี กั เรียนกคี่ น

โจทยถ์ าม
โจทยบ์ อก
ประโยคสญั ลักษณ์
ตอบ

3. พ่อปลูกมะมว่ ง 50 ตน้ ปลกู ส้มมากกวา่ มะม่วง 12 ต้น พอ่ ปลูกสม้ กตี่ ้น
โจทย์ถาม
โจทยบ์ อก
ประโยคสญั ลกั ษณ์
ตอบ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 88

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 14 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ เวลาเรียน 19 ช่วั โมง

เร่ือง โจทยป์ ญั หาการลบท่มี ีคาว่ามากกวา่ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/5 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบของ
จานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคัญ
การแก้โจทย์ปัญหาทาไดโ้ ดยอา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบ และ

ตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการวิเคราะห์โจทย์ปญั หาการลบท่มี ีคาวา่ มากกว่าได้ (K)
2. สามารถการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาการลบทีม่ คี าวา่ มากกว่า และหาคาตอบได้ (P)
3. นาความรู้เกย่ี วกับโจทยป์ ญั หาการลบที่มคี าว่ามากกว่าไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้

(A)

สาระการเรียนรู้
โจทย์ปญั หาการลบท่มี ีคาวา่ มากกวา่

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการลบ โดยครูเขียนโจทยป์ ัญหาบนกระดาน ให้

นักเรียนบอกวิธีคิดและหาคาตอบ เช่น“มะปรางมไี ข่ไก่ 24 ฟอง ทาอาหารไป 5 ฟอง มะปรางเหลือไขไ่ ก่
กี่ฟอง”

- โจทยถ์ ามอะไร (มะปรางเหลือไขไ่ กก่ ีฟ่ อง)
- โจทย์บอกอะไรบ้าง (มะปรางมไี ขไ่ ก่24 ฟอง ทาอาหารไป5 ฟอง)
- คาตอบควรมากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 24 ฟอง (น้อยกว่า 24 ฟอง)
- เขยี นประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้อย่างไร (24 - 5 = )
- มะปรางเหลอื ไขไ่ ก่กี่ฟอง (19 ฟอง)
- 19 เปน็ คาตอบท่สี มเหตสุ มผลหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (19 เป็นคาตอบท่ี
สมเหตุสมผล เพราะ 19 น้อยกวา่ 24)
ขน้ั สอน
2. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการ ลบบนกระดาน พรอ้ มท้ังอ่านโจทย์ใหน้ ักเรียนอ่านตาม
ดงั นี้

เลย้ี งไกต่ ัวเมีย 35 ตวั เลย้ี งไกต่ ัวเมยี มากกวา่ ไก่ตวั ผู้ 5 ตัว เลีย้ งไก่ตวั ผู้กี่ตวั

ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ วิเคราะห์โจทย์ปญั หา โดยตอบคาถามดังต่อไปนี้
- โจทย์ถามอะไร (เลี้ยงไก่ตัวผกู้ ่ตี ัว)
- โจทยบ์ อกอะไรบา้ ง (เล้ยี งไก่ตัวเมีย 35 ตัว เลยี้ งไกต่ วั เมียมากกว่าไก่ตัวผู้ 5 ตวั )
- คาตอบควรมากกว่าหรอื น้อยกวา่ 35 ตัว (น้อยกวา่ 35 ตวั )
ครูเขียนภาพประกอบการอธบิ าย ดังนี้

- หาคาตอบไดด้ ้วยวิธีใด (วิธลี บ)
- เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (35 - 5 = ) ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณ์
บนกระดาน
ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาแสดงวธิ ีการหาคาตอบ ซง่ึ นกั เรยี นอาจหาคาตอบไดโ้ ดยใช้
การนับถอยหลงั หรือใช้การนบั ครบสบิ
- เล้ียงไกต่ วั ผู้กีต่ วั (30 ตวั )
- 30 เป็นคาตอบที่สมเหตสุ มผลหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (เปน็ คาตอบท่ีสมเหตุสมผล
เพราะ 30 นอ้ ยกว่า 35)

ครูแนะนาให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบ โดยให้สงั เกตวา่ 30 + 5 =
35 ซง่ึ 35 เปน็ ตวั ตงั้ ดังน้นั 30 เป็นคาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง

- สรุปคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (เลี้ยงไก่ตัวผู้ 30 ตวั )
ครเู ขียนสรุปคาตอบบนกระดาน ซงึ่ บนกระดานจะมีข้อความปรากฏดงั นี้

โจทย์ปัญหา เลี้ยงไก่ตวั เมีย 35 ตัว เลย้ี งไกต่ วั เมียมากกวา่ ไก่ตวั ผู้ 5 ตัว เล้ียงไก่ตัวผู้กต่ี วั
โจทย์ถาม เลย้ี งไกต่ วั ผู้กต่ี ัว
โจทยบ์ อก เลี้ยงไกต่ วั เมีย 35 ตวั เลย้ี งไกต่ ัวเมียมากกวา่ ไกต่ ัวผู้ 5 ตวั
ประโยคสญั ลกั ษณ์ 35 - 5 = 

35 - 5 = 5
ตอบ เล้ียงไกต่ วั ผู้ ๓๐ ตวั

3. ครฝู ึกวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาการลบท่ีมคี าว่ามากกวา่ ตามลกั ษณะกจิ กรรมท่ที ามา
ขา้ งต้นอีก 1 – 2 ตวั อย่าง

4. ครูให้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 9 โจทย์ปญั หาการลบทีม่ คี าว่ามากกว่า เมอ่ื เสร็จแลว้ ให้
นักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9

ขั้นสรุป
5. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ที่ได้เรยี นรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี โจทย์ปัญหาเปน็ การนา

จานวนหรอื สถานการณ์ตา่ ง ๆ มาเขยี นเปน็ คาถาม เพื่อให้คิดหาคาตอบ ซึง่ เราตอ้ งอ่านโจทยใ์ ห้เข้าใจ
พจิ ารณาวา่ โจทย์กาหนดอะไรใหบ้ า้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ธิ กี ารแก้ไขปัญหาอยา่ งไร

สอ่ื การเรียนรู้
1. แถบโจทย์ปญั หาการลบ
2. ใบงานท่ี 9 โจทยป์ ัญหาการลบท่ีมีคาว่ามากกวา่

การวดั ผลและประเมินผล

สิ่งทต่ี ้องการวดั วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 9 ใบงานที่ 9 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน
ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พงึ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลักษณะ ทุกรายการขึ้นไปถือว่าผ่าน

ทีพ่ ึงประสงค์ เกณฑ์


Click to View FlipBook Version