แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 55

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 การบวกทีผ่ ลบวกไม่เกิน 100 เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมง

เร่อื ง การบวกจานวนสองหลกั กับสองหลกั ท่ผี ลบวกไมเ่ กนิ 100 ไม่มีการทด เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึน้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวช้วี ดั
ค 1.1 ป.1/1 : หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลบวกของจานวนสองหลกั กับจานวนหนึง่ หลักอาจใชก้ ารนบั ต่อ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายการหาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนสองหลักที่ผลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ี

การทดได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนสองหลกั ที่ผลบวกไมเ่ กนิ 100 ไม่มีการทดได้

(P)
3. นาความร้เู กี่ยวกบั การบวกจานวนสองหลกั กับสองหลักท่ผี ลบวกไมเ่ กนิ 100 ไม่มกี ารทด

ไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบวกจานวนสองหลักกับสองหลักที่ผลบวกไม่เกนิ 100 ไมม่ ีการทด

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครเู ขียนประโยคสัญลกั ษณ์การบวกจานวนสองหลกั กบั จานวนหนง่ึ หลกั ดังต่อไปน้ี

บนกระดานดา
60 + 5 = 
7 + 42 = 
23 + 4 = 

ครูสมุ่ นกั เรยี นแสดงการหาคาตอบหนา้ ชนั้ เรียน ซ่งึ นักเรยี นอาจใชก้ ารนบั ตอ่ หรอื ใช้
ความสัมพันธข์ องจานวนแบบสว่ นย่อย - สว่ นรวม ชว่ ยในการหาคาตอบ เช่น

60 + 5 = 
ใช้การนับต่อโดยนบั ต่อจาก 60 ทลี ะ 1 ไปอีก 5 ครงั้
จะได้ 61 62 63 64 65
ดงั นั้น 60 + 5 = 65
ข้ันสอน
2. ครูแนะนาการหาผลบวกของจานวนสองหลกั กับจานวนสองหลัก ด้วยแผน่ ตาราง
รอ้ ย โดยครูตดิ ตารางร้อยบนกระดานดา แลว้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตวิธีการหาผลบวกของ 30 + 20 = 
และ 20 +30 =  ดงั น้ี

หาผลบวกของ 30 + 20 = 
นบั ต่อจาก 30 ทลี ะ 10 ไป 2 คร้งั จะได้ 40 50
ดงั น้ัน 30 + 20 = 50
3. ครูให้นักเรียนแตล่ ะคู่ พจิ ารณาหาคาตอบของ 28 + 40 =  ว่านกั เรียนจะมี
วธิ กี ารหาคาตอบอย่างไร โดยใชแ้ ผน่ ตารางร้อย จากน้นั ขออาสาสมัครมาเฉลยบนกระดานดา
จากนัน้ ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ดังน้ี

หาผลบวกของ 28 + 40 = 
นับตอ่ จาก 28 ทลี ะ 10 ไป 4 ครัง้
จะได้ 38 48 58 68
ดงั น้ัน 28 + 40 = 68
4. ครใู หน้ ักเรยี นทา ใบงานที่ 4 การบวกจานวนสองหลกั กบั สองหลกั ทผี่ ลบวกไม่เกนิ
100 ไม่มกี ารทด เมื่อเสร็จแล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนักเรียน
รว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4
ขน้ั สรุป
5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกนั ดงั นี้ การหาผลบวกของจานวนสอง
หลักกบั จานวนหนึง่ หลกั อาจใช้การนบั ต่อ

สอ่ื การเรยี นรู้
1. แผน่ ตารางรอ้ ย
2. ใบงานท่ี 4 การบวกจานวนสองหลักกบั สองหลกั ทีผ่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไม่มีการทด

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิ่งท่ีตอ้ งการวัด วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานที่ 4 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
ท่ีพงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 4 การบวกจานวนสองหลักกับสองหลกั ท่ีผลบวกไม่เกนิ
100 ไม่มกี ารทด

คาชแ้ี จง แสดงวธิ ีหาผลบวกและเติมตัวเลขแสดงจานวนในช่องว่าง

70 + 20 =  1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
นับตอ่ จาก ทลี ะ 10 ไป
จะได้ คร้งั 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ดังนั้น 70 + 20 = 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
71 72 73 74 75 76 77 78 79 80
81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100

50 + 18 =  ครัง้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
นับต่อจาก ทลี ะ 10 ไป ครัง้ 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
จะได้ 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
จาก นับตอ่ ทลี ะ 1 ไป 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
จะได้ 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
ดังนั้น 50 + 18 = 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
71 72 73 74 75 76 77 78 79 80
81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100

70 + 23 =  ครงั้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
นับต่อจาก ทลี ะ 10 ไป คร้งั 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
จะได้ 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
จาก นบั ต่อทีละ 1 ไป 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
จะได้ 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
ดังน้นั 70 + 23 = 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
71 72 73 74 75 76 77 78 79 80
81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 56

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 12 การบวกทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 เวลาเรียน 10 ชว่ั โมง

เรื่อง การบวกจานวนสองหลกั กบั สองหลกั ทผี่ ลบวกไม่เกิน 100 ไมม่ ีการทด เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ป.1/1 : หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สัญลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0

สาระสาคัญ
การหาผลบวกของจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่งึ หลักอาจใชก้ ารนับตอ่ หรือใชค้ วามสมั พันธ์

ของจานวนแบบส่วนย่อย - ส่วนรวม

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการหาผลบวกของจานวนสองหลกั กบั จานวนสองหลักทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไม่มี

การทดได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองหลักกับจานวนสองหลกั ทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 100 ไมม่ ีการทดได้

(P)
3. นาความรู้เกี่ยวกับการบวกจานวนสองหลักกับสองหลักท่ีผลบวกไมเ่ กิน 100 ไม่มีการทด

ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบวกจานวนสองหลักกบั สองหลักทผี่ ลบวกไม่เกิน 100 ไม่มกี ารทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่งึ หลักดังตอ่ ไปนี้

บนกระดานดา
60 + 5 = 
7 + 42 = 
23 + 4 = 

ครสู ุ่มนกั เรียนแสดงการหาคาตอบหนา้ ช้ันเรยี น ซึง่ นักเรยี นอาจใชก้ ารนับต่อหรอื ใช้
ความสมั พนั ธข์ องจานวนแบบสว่ นยอ่ ย - สว่ นรวม ช่วยในการหาคาตอบ เช่น

60 + 5 = 
ใชก้ ารนับต่อโดยนับตอ่ จาก 60 ทลี ะ 1 ไปอีก 5 ครง้ั
จะได้ 61 62 63 64 65
ดงั นัน้ 60 + 5 = 65
ขนั้ สอน
2. ครแู จกแผ่นตารางสบิ 10 แผน่ แผ่นตารางหน่วย 10 แผน่ ให้นกั เรยี นคลู่ ะ 1 ชุด
จากนนั้ ครเู ขยี นโจทย์การบวก เช่น

23 + 30 = 

ครูใหน้ กั เรียนใช้แผน่ ตารางสิบ แผ่นตารางหนว่ ย ชว่ ยในการหาคาตอบ โดยใช้
คาถาม เช่น

- ตอ้ งใช้แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยอย่างละก่ีแผ่น แสดงจานวน 23
(แผ่นตารางสิบ 2 แผน่ หรือ 2 สบิ และแผ่นตารางหน่วย 3 แผ่น หรอื 3 หนว่ ย)

- ต้องใชแ้ ผ่นตารางสิบกแ่ี ผน่ แสดงจานวน 30 (แผ่นตารางสิบ 3 แผน่ หรือ 3
สบิ )

23 + 30 = 53

ครแู นะนาวิธกี ารบวก โดยนบั ตอ่ ในหลกั สบิ ว่า เรมิ่ จาก 20 นบั ต่อทลี ะ 10 ไป 3

คร้ัง จะได้ 30 40 50 และนับตอ่ จาก 50 ทีละ 1 อีก 8 จะได้ 58 หรอื อาจใชค้ วามสมั พันธข์ อง

จานวนแบบสว่ นย่อย - สว่ นรวม ดงั น้ี

23 + 30

ขัน้ ที่ 1 20 + 30 = 50

20 3 ขนั้ ที่ 2 50 + 3 = 53

ดงั นั้น 23 + 30 = 53

34 + 25 = 

ครใู ห้นกั เรยี นใช้แผน่ ตารางสบิ แผน่ ตารางหนว่ ย ชว่ ยในการหาคาตอบ โดยใช้
คาถาม เช่น

- ตอ้ งใชแ้ ผน่ ตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ยอย่างละก่ีแผน่ แสดงจานวน 34
(แผน่ ตารางสบิ 3 แผน่ หรอื 3 สบิ และแผ่นตารางหน่วย 4 แผ่น หรอื 4 หนว่ ย)

- ตอ้ งใชแ้ ผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ยอยา่ งละก่แี ผ่น แสดงจานวน 25
(แผน่ ตารางสบิ 2 แผ่นหรอื 2 สิบ และแผ่นตารางหน่วย 5 แผน่ หรอื 5 หน่วย)

34 + 25 = 59

ครแู นะนาวธิ กี ารบวก โดยนับต่อในหลกั สบิ ว่า เริม่ จาก 30 นับต่อทีละ 10 ไป 2

ครงั้ จะได้ 40 50 และนับตอ่ ในหลกั หน่วยจาก 4 ทีละ 1 ไป 5 คร้ัง จะได้ 5 6 7 8 9 จะได้ 9

34 + 25 = 50 + 9

ดงั นน้ั 34 + 25 = 59

หรอื อาจใช้ความสัมพันธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย - ส่วนรวม ดงั นี้

34 + 25

ข้ันที่ 1 4 + 5 = 9

30 4 20 5 ข้นั ที่ 2 30 + 20 = 50

ขน้ั ที่ 3 50 + 9 = 59

ดังนน้ั 34 + 25 = 59

3. ครใู ห้นกั เรียนทา ใบงานท่ี 5 การบวกจานวนสองหลกั กบั สองหลกั ท่ีผลบวกไมเ่ กนิ
100 ไมม่ กี ารทด เมอ่ื เสร็จแล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียน
รว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 5

ข้ันสรปุ
4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี การหาผลบวกของจานวนสอง

หลกั กับจานวนหนึง่ หลกั อาจใชก้ ารนบั ตอ่ หรอื ใช้ความสมั พนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม

สอ่ื การเรียนรู้
1. แผ่นตารางสิบและตารางหน่วย
2. ใบงานท่ี 5 การบวกจานวนสองหลกั กับสองหลักทผ่ี ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ กี ารทด

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 5 ใบงานท่ี 5 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป

2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ นึ้ ไป
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น
ทีพ่ ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึง แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลกั ษณะ ทกุ รายการขึน้ ไปถอื ว่าผา่ น

ทพี่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 5 การบวกจานวนสองหลักกบั สองหลักท่ผี ลบวกไม่เกิน
100 ไมม่ กี ารทด

คาชี้แจง หาผลบวก ขั้นที่ 1
ข้ันที่ 2
1 43 + 22 =  ขน้ั ท่ี 3

43 + 22 43 + 22 =

2 25 + 31 =  ขน้ั ที่ 1
ขั้นท่ี 2
25 + 31 ขั้นที่ 3

25 + 31 =

3 16 + 52 =  ขนั้ ที่ 1
ขั้นที่ 2
16 + 52 ขั้นท่ี 3
16 + 52 =

4 61 + 34 =  ขน้ั ที่ 1
ขั้นที่ 2
61 + 34 ขั้นที่ 3

61 + 34 =

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 57

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 การบวกทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 100 เวลาเรยี น 10 ชัว่ โมง

เรอ่ื ง การบวกจานวนสองหลกั กับหนึง่ หลักทีผ่ ลบวกไมเ่ กิน 100 มีการทด เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง

สอนวนั ที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ชีว้ ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลักษณ์แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0

สาระสาคัญ
การหาผลบวกของจานวนสองหลกั กบั จานวนหนงึ่ หลักอาจใชค้ วามสมั พนั ธ์ของจานวนแบบ

สว่ นย่อย - สว่ นรวม

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายวธิ กี ารหาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนหนง่ึ หลักทีผ่ ลบวกไมเ่ กิน 100 มี

การทดได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนหนึ่งหลกั ที่ผลบวกไม่เกิน 100 มีการทดได้ (P)
3. นาความร้เู ก่ยี วกบั การบวกจานวนสองหลักกบั หนึง่ หลักท่ีผลบวกไม่เกิน 100 มีการทด

ไปใช้แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบวกจานวนสองหลกั กบั หนึง่ หลักทผ่ี ลบวกไม่เกิน 100 มีการทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. ครเู ขียนประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกบนกระดานแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกันหาคาตอบ

โดยใช้ความสมั พนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม ดงั นี้

9+8=

วธิ ที า 9 + 8 ขั้นท่ี 1 9 + 8 = 17
17 ข้ันที่ 2 10 + 7 = 17
ดังนน้ั 9 + 8 = 17

32 + 7 = 

วธิ ีทา 32 + 7

ข้ันที่ 1 2 + 7 = 9

30 2 ข้นั ท่ี 2 30 + 9 = 39
ดังนน้ั 32 + 7 = 39

ขน้ั สอน

2. ครแู จกแผ่นตารางสิบ 10 แผ่น แผ่นตารางหน่วย 10 แผน่ ใหน้ ักเรยี นคูล่ ะ 1 ชดุ

จากนั้นครูเขียนโจทยก์ ารบวก เช่น

25 + 5 = 

ครูให้นกั เรยี นใช้แผน่ ตารางสบิ แผ่นตารางหนว่ ย ช่วยในการหาคาตอบ โดยใช้
คาถาม เชน่

- ตอ้ งใช้แผน่ ตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ยอยา่ งละกแ่ี ผน่ แสดงจานวน 25
(แผ่นตารางสิบ 2 แผน่ หรอื 2 สบิ และแผ่นตารางหนว่ ย 5 แผน่ หรอื 5 หน่วย)

- ตอ้ งใชแ้ ผน่ ตารางหน่วยกีแ่ ผ่น แสดงจานวน 5 (แผน่ ตารางหน่วย 5 แผน่ หรือ
5 หน่วย)

ครแู นะนาวธิ กี ารบวก โดยนับตอ่ ในหลักสิบว่า เรมิ่ จาก 25 นับตอ่ ทีละ 1 ไป 5 ครง้ั
จะได้ 26 27 28 29 30 ดังนี้

25 + 5 = 30

หรอื อาจใชค้ วามสมั พันธ์ของจานวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวม ดงั น้ี

25 + 5

ขัน้ ท่ี 1 5 + 5 = 10

20 5 ขนั้ ท่ี 2 20 + 10 = 30

ดังนน้ั 25 + 5 = 30

34 + 9 = 

ครใู ห้นกั เรียนใช้แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย ชว่ ยในการหาคาตอบ โดยใช้
คาถาม เช่น

- ตอ้ งใชแ้ ผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วยอยา่ งละกี่แผน่ แสดงจานวน 34
(แผน่ ตารางสบิ 3 แผน่ หรือ 3 สิบ และแผ่นตารางหนว่ ย 4 แผน่ หรอื 4 หน่วย)

- ตอ้ งใชแ้ ผน่ ตารางหน่วยก่ีแผน่ แสดงจานวน 9 (แผ่นตารางหน่วย 9 แผน่ หรอื
9 หน่วย)

ครแู นะนาวธิ ีการบวก โดยนบั ต่อในหลักสบิ ว่า เร่ิมจาก 34 นบั ต่อทลี ะ 1 ไป 9 ครั้ง
จะได้ 35 36 37 38 39 40 41 42 43 ดังนี้

34 + 9 = 43

หรอื อาจใช้ความสัมพนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม ดงั น้ี

34 + 9

ขั้นท่ี 1 4 + 9 = 13

30 4 ข้ันท่ี 2 30 + 13 = 43

ดังนน้ั 30 + 13 = 43

หรือ

34 + 9 = 43

หรืออาจใช้ความสัมพันธ์ของจานวนแบบสว่ นย่อย – ส่วนรวม ดังนี้

34 + 9

ขั้นที่ 1 1 + 9 = 10

33 1 ขน้ั ท่ี 2 33 + 10 = 43

ดังน้ัน 30 + 13 = 43

3. ครูใหน้ ักเรยี นทา ใบงานที่ 6 การบวกจานวนสองหลกั กบั หนึง่ หลกั ทผ่ี ลบวกไมเ่ กนิ

100 มกี ารทด เม่อื เสร็จแล้วให้นักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกัน

เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 6

ข้นั สรปุ

4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นร้รู ่วมกนั ดงั น้ี การหาผลบวกของจานวนสอง

หลักกบั จานวนหน่ึงหลกั อาจใชก้ ารนบั ต่อ หรอื ใช้ความสมั พันธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม

ทัง้ นีจ้ านวนท่เี ปน็ ส่วนยอ่ ยอาจเขยี นเป็นจา นวนใดกไ็ ดเ้ พอ่ื ง่ายตอ่ การหาผลบวกได้

สอื่ การเรยี นรู้
1. แผ่นตารางสิบและตารางหนว่ ย
2. ใบงานท่ี 6 การบวกจานวนสองหลกั กบั หนงึ่ หลกั ทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 มกี ารทด

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทีต่ อ้ งการวัด วิธีวัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 6 ใบงานที่ 6 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ ้นึ ไป
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น
ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึง แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการขึ้นไปถือว่าผา่ น

ท่ีพึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 6 การบวกจานวนสองหลักกบั หนึ่งหลกั ที่ผลบวกไมเ่ กนิ
100 มกี ารทด

คาชแ้ี จง หาผลบวก ขัน้ ที่ 1
ขนั้ ที่ 2
1 17 + 6 =  17 + 6 =

17 + 6

2 22 + 9 =  ขั้นที่ 1
ข้นั ท่ี 2
22 + 9 22 + 9 =

3 34 + 8 =  ขน้ั ท่ี 1
ขน้ั ท่ี 2
34 + 8 34 + 8 =

4 45 + 7 =  ขน้ั ที่ 1
ขั้นท่ี 2
45 + 7 45 + 7 =

5 63 + 8 =  ขั้นที่ 1
ขัน้ ท่ี 2
63 + 8 63 + 8 =

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 58

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 12 การบวกทผ่ี ลบวกไมเ่ กนิ 100 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง

เรอื่ ง การหาผลบวกโดยการต้งั บวกไมม่ ีการทด เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวช้ีวัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
การหาผลบวกโดยการตง้ั บวก ต้องเขยี นเลขโดดในหลักเดยี วกันใหต้ รงกัน แล้วจงึ นาจานวนท่ี

อยู่ในหลักเดียวกันมาบวกกนั

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายวิธกี ารหาผลบวกโดยการต้ังบวกทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ กี ารทดได้ (K)
2. หาผลบวกโดยการต้ังบวกท่ีผลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ีการทดได้ (P)
3. นาความรเู้ กย่ี วกบั การหาผลบวกโดยการต้งั บวกไมม่ ีการทด ไปใช้แก้ปัญหาทาง

คณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาผลบวกโดยการตัง้ บวกไม่มีการทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน
1. ครูเขยี นโจทย์ 44 + 3 =  บนกระดาน ใหน้ ักเรยี นใช้แผน่ ตารางสบิ กับแผ่น

ตารางหนว่ ย ชว่ ยในการหาคา ตอบ โดยครูถามวา่ 44 คือกส่ี บิ กับก่หี น่วย (4 สิบกับ 4 หน่วย) ให้
นักเรียนแสดง 44 ดว้ ยแผ่นตารางสบิ กบั แผน่ ตารางหนว่ ย จากน้นั ใหห้ าคาตอบ ซ่ึงจะไดว้ ่า 4 หนว่ ย
รวมกับ 3 หน่วย ได้ 7 หนว่ ย รวมกับ 4 สบิ ได้ 4 สบิ กับ 7 หนว่ ย หรอื 47

ข้นั สอน
2. ครเู ขยี นโจทยก์ ารบวกบนกระดาน เป็น 32 + 6 =  ครใู ชแ้ ผน่ ตารางสิบและแผน่

ตารางหนว่ ยอธิบายวิธกี ารหาผลบวกของ 32 + 6 =  ดังนี้
ครแู นะนาการบวกในแนวต้งั โดยเขยี น 3 ในหลักสิบ 2 ในหลกั หน่วย และแนะนาให้

เขียนตวั เลขในแตล่ ะหลกั ใหต้ รงกนั จากนัน้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั บอกผลบวก
ขน้ั ที่ 1 บวกในหลักหนว่ ย
2 หน่วย บวก 6 หน่วย ได้ 8 หนว่ ย

หลกั สิบ หลกั หน่วย
3
2 +
6

8

ขน้ั ที่ 2 บวกในหลกั สิบ
3 สิบ บวก 0 สบิ ได้ 3 สบิ

หลกั สบิ หลักหนว่ ย
3
2 +
3 6

8

ดงั นน้ั 32 + 6 = 38

3. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 7 การหาผลบวกโดยการต้งั บวกไม่มีการทด เมอื่ เสรจ็ แลว้
ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 7

ขน้ั สรุป
4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่ิงทไ่ี ด้เรียนรูร้ ว่ มกนั ดังนี้ การหาผลบวกโดยการต้งั บวก

และไม่มีทดตอ้ งเขยี นเลขโดดในหลักเดียวกันให้ตรงกนั แล้วจงึ นาจานวนท่ีอยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวก
กนั

ส่ือการเรยี นรู้
1. แผ่นตารางสบิ และตารางหนว่ ย
2. ใบงานที่ 7 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไมม่ ีการทด

การวัดผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ทีต่ อ้ งการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 7 ใบงานท่ี 7 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ ้นึ ไป
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น
ท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะท่ีพึง แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการข้ึนไปถอื ว่าผา่ น

ท่พี งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 7 การหาผลบวกโดยการตัง้ บวกไมม่ กี ารทด

คาชีแ้ จง หาผลบวก

1 23 + 5 =  2 44 + 4 = 
วิธที า 2 3 วิธีทา 4 4
5 + 4 +

ตอบ ตอบ

3 37 + 2 =  7 4 51 + 7 = 
วธิ ีทา 3 2 วธิ ีทา 5 1
+ 7 +

ตอบ ตอบ

5 56 + 3 =  6 6 65 + 1 = 
วิธที า 5 3 วธิ ที า 6 5
+ 1 +

ตอบ ตอบ

7 73 + 6 =  3 8 82 + 7 = 
วิธที า 7 6 วิธีทา 8 2
+ 7 +

ตอบ ตอบ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 59

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 12 การบวกทผี่ ลบวกไมเ่ กนิ 100 เวลาเรียน 10 ชัว่ โมง

เรื่อง การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไมม่ ีการทด เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชี้วัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงกา รบวกและประโยค
สญั ลักษณ์แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลบวกโดยการตัง้ บวก ต้องเขยี นเลขโดดในหลักเดยี วกันใหต้ รงกัน แลว้ จึงนาจานวนที่

อยู่ในหลักเดยี วกนั มาบวกกัน

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายวิธีการหาผลบวกโดยการต้ังบวกทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ กี ารทดได้ (K)
2. หาผลบวกโดยการตัง้ บวกที่ผลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ีการทดได้ (P)
3. นาความร้เู ก่ียวกบั การหาผลบวกโดยการต้งั บวกไมม่ กี ารทด ไปใช้แก้ปัญหาทาง

คณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาผลบวกโดยการตง้ั บวกไม่มีการทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครเู ขยี นโจทย์ 44 + 3 =  บนกระดาน ใหน้ กั เรยี นใชแ้ ผ่นตารางสิบกับแผน่

ตารางหน่วย ช่วยในการหาคา ตอบ โดยครูถามวา่ 44 คอื กสี่ บิ กับก่หี น่วย (4 สิบกับ 4 หน่วย) ให้
นักเรยี นแสดง 44 ดว้ ยแผน่ ตารางสบิ กับแผน่ ตารางหนว่ ย จากน้ันให้หาคาตอบ ซง่ึ จะไดว้ ่า 4 หน่วย
รวมกับ 3 หน่วย ได้ 7 หนว่ ย รวมกับ 4 สิบ ได้ 4 สบิ กบั 7 หนว่ ย หรอื 47

ขน้ั สอน
2. ครเู ขียนโจทยก์ ารบวกบนกระดาน เปน็ 25 + 23 =  จากนน้ั ให้นักเรยี นผลบวก

โดยการต้งั บวก โดยเขียนตวั เลขในแตล่ ะหลกั ใหต้ รงกนั จากน้นั ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกผลบวก ดงั นี้
ขั้นท่ี 1 บวกในหลักหนว่ ย
5 หนว่ ย บวก 3 หน่วย ได้ 8 หนว่ ย

หลกั สิบ หลกั หน่วย
2
2 5 +
3

8

ขนั้ ที่ 2 บวกในหลกั สิบ
2 สบิ บวก 2 สบิ ได้ 4 สบิ

หลักสบิ หลักหนว่ ย

2 5 +
2 3

ดังน้ัน 25 + 23 = 48 48

ครเู ขยี นแสดงวธิ หี าผลบวกของ 25 + 23 ดงั น้ี

2 5 +
2 3

48

ตอบ ๔๘

3. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 8 การหาผลบวกโดยการตงั้ บวกไมม่ ีการทด เม่ือเสร็จแล้ว
ให้นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 8

ขนั้ สรุป
4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั ดงั นี้ การหาผลบวกโดยการต้ังบวก

และไม่มที ดต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดียวกนั ใหต้ รงกัน แล้วจงึ นาจา นวนท่อี ยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวก
กัน

สื่อการเรยี นรู้
1. แผน่ ตารางสิบและตารางหน่วย
2. ใบงานที่ 8 การหาผลบวกโดยการต้งั บวกไม่มกี ารทด

การวดั ผลและประเมินผล

ส่งิ ทีต่ อ้ งการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 8 ใบงานที่ 8 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ดา้ นทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึน้ ไป
ที่พึงประสงค์ สังเกตพฤติกรรมด้าน
คุณลกั ษณะท่พี งึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการข้นึ ไปถอื ว่าผ่าน

ท่ีพงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 8 การหาผลบวกโดยการต้ังบวกไมม่ ีการทด

คาชีแ้ จง หาผลบวก

1 60 + 28 =  21 32 + 40 = 
วธิ ที า 6 0 วธิ ที า 3 2
2 8 + 4 0 +

ตอบ ตอบ

3 41 + 27 =  1 4 25 + 33 = 
วิธีทา 4 7 วธิ ที า 2 5
2 + 3 3 +

ตอบ ตอบ

5 41 + 17 =  1 6 32 + 25 = 
วธิ ีทา 4 7 วธิ ีทา 3 2
1 + 2 5 +

ตอบ ตอบ

7 62 + 25 =  2 8 53 + 46 = 
วิธีทา 6 5 วธิ ที า 5 3
2 + 4 6 +

ตอบ ตอบ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 60

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 12 การบวกทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 100 เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง

เรือ่ ง การหาผลบวกโดยการต้ังบวกมีการทด เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลบวกของจา นวนสองจานวนโดยการตัง้ บวกตอ้ งเขยี นเลขโดในหลกั เดยี วกนั ให้

ตรงกัน แล้วจงึ นาจานวนทีอ่ ยใู่ นหลกั เดยี วกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลักหน่วยเป็น 1 สบิ หรือ
มากกวา่ 1 สิบ ตอ้ งทด 1 สบิ ไปรวมกับจานวนในหลกั สบิ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธีการหาผลบวกโดยการตั้งบวกทีผ่ ลบวกไมเ่ กนิ 100 มกี ารทดได้ (K)
2. หาผลบวกโดยการต้ังบวกที่ผลบวกไม่เกิน 100 มกี ารทดได้ (P)
3. นาความรเู้ กี่ยวกับการหาผลบวกโดยการต้งั บวกมีการทด ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์

ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาผลบวกโดยการต้งั บวกมกี ารทด

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. นกั เรยี นทบทวน เรอื่ ง การบวกจานวนสองหลกั กับจานวนสองหลกั โดยนักเรียน

พจิ ารณาแถบโจทย์ท่ีตดิ บนกระดานแลว้ รว่ มกันหาคาตอบ ดงั น้ี

22 + 43 = 

วิธที า 2 2 +
4 3

65

ข้ันสอน ตอบ ๖๕

2. ครตู ิดแผนภาพราคาสนิ คา้ แหง่ หนึง่ บนกระดาน

ครเู ขยี นคาถาม “ซ้อื นม 1 ขวดกับแซนดว์ ิช 1 ชิน้ ใบบวั ต้องจ่ายเงินทั้งหมดกี่บาท ”
ให้นักเรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ของค่าสนิ คา้ ทั้งสองอยา่ ง จากนน้ั ครูเขยี นประโยคสญั ลักษณบ์ น
กระดาน (24 + 8 = ) ครูใหน้ ักเรยี นจัดแผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วยแทนจานวนเงินของ
สนิ คา้ ทัง้ 2 ชนดิ และเขียนแสดงการหาผลบวกในแนวตง้ั โดยแนะนาให้เขียนตวั เลขในแตล่ ะหลกั ให้
ตรงกัน

ข้นั ที่ 1 บวกในหลกั หนว่ ย
4 หน่วย บวก 8 หนว่ ย ได้ 12 หน่วย หรือ
1 สบิ กบั 2 หนว่ ย

หลักสบิ หลักหนว่ ย

1 4 +
8
2

2

ข้นั ที่ 2 บวกในหลกั สบิ

2 สบิ บวก 0 สบิ บวก 1 สิบ ได้ 3 สบิ

หลักสบิ หลักหนว่ ย

1 4 +
8
2

32
ดังน้นั 24 + 8 = 32
ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตแผ่นตารางสิบและแผน่ ตารางหนว่ ย จะพบวา่ มแี ผ่นตารางสบิ

2 แผน่ เทา่ กบั 2 สิบหรือ 20 และแผ่นตารางหนว่ ยอกี 12 แผ่น ครถู ามวา่ 12 คิดเป็นกี่สิบ และก่ี

หนว่ ย (1 สิบ กบั 2 หนว่ ย) ดงั ภาพตารางข้างบน
3. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 9 การหาผลบวกโดยการตงั้ บวกมีการทด เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ให้

นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9

ขนั้ สรุป
4. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ทไ่ี ด้เรียนร้รู ่วมกนั ดงั นี้ การหาผลบวกโดยการตง้ั บวก

และไม่มที ดต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดียวกันใหต้ รงกัน แล้วจงึ นาจานวนท่ีอยู่ในหลักเดยี วกนั มาบวก
กนั

ส่อื การเรยี นรู้

1. แผ่นตารางสบิ และตารางหน่วย
2. ใบงานที่ 9 การหาผลบวกโดยการตงั้ บวกมกี ารทด

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทต่ี อ้ งการวัด วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานท่ี 9 ใบงานท่ี 9 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึน้ ไป
2. ดา้ นทักษะ
กระบวนการ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ ้นึ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน
คุณลกั ษณะที่พงึ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลกั ษณะ ทุกรายการข้ึนไปถือว่าผา่ น

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 9 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกมีการทด

คาชีแ้ จง หาผลบวก

1 59 + 7 =  2 66 + 5 = 
วิธีทา 5 9 วิธที า 6 6
7 + 5 +

ตอบ ตอบ

3 74 + 7 =  4 4 65 + 8 = 
วธิ ีทา 7 7 วิธที า 6 5
+ 8 +

ตอบ ตอบ

5 28 + 6 =  8 6 53 + 9 = 
วิธที า 2 6 วิธที า 5 3
+ 9 +

ตอบ ตอบ

7 47 + 5 =  7 8 88 + 7 = 
วธิ ีทา 4 5 วธิ ที า 8 8
+ 7 +

ตอบ ตอบ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 61

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 12 การบวกทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 100 เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง

เรือ่ ง การหาผลบวกโดยการต้ังบวกมีการทด เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลบวกของจา นวนสองจานวนโดยการตัง้ บวกตอ้ งเขยี นเลขโดในหลกั เดยี วกนั ให้

ตรงกัน แล้วจงึ นาจานวนทีอ่ ยใู่ นหลกั เดยี วกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลักหน่วยเป็น 1 สบิ หรือ
มากกวา่ 1 สิบ ตอ้ งทด 1 สบิ ไปรวมกับจานวนในหลกั สบิ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธีการหาผลบวกโดยการตั้งบวกทีผ่ ลบวกไมเ่ กนิ 100 มกี ารทดได้ (K)
2. หาผลบวกโดยการต้ังบวกที่ผลบวกไม่เกิน 100 มกี ารทดได้ (P)
3. นาความรเู้ กี่ยวกับการหาผลบวกโดยการต้งั บวกมีการทด ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์

ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาผลบวกโดยการต้งั บวกมกี ารทด

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. นักเรยี นทบทวน เรื่อง การบวกจานวนสองหลักกับจานวนสองหลัก โดยนักเรียน

พจิ ารณาแถบโจทยท์ ี่ตดิ บนกระดานแล้วรว่ มกนั หาคาตอบ ดังนี้

22 + 43 = 

วิธีทา 2 2 +
4 3

65

ข้นั สอน ตอบ ๖๕

2. ครูเขยี นโจทย์การบวกบนกระดาน เปน็ 19 + 26 =  จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นผลบวก

โดยการตัง้ บวก โดยเขียนตวั เลขในแต่ละหลกั ใหต้ รงกนั จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกผลบวก ดงั น้ี

ข้ันท่ี 1 บวกในหลักหนว่ ย
9 หนว่ ย บวก 6 หน่วย ได้ 15 หนว่ ย หรือ
1 สบิ กบั 5 หน่วย

หลักสิบ หลักหนว่ ย

1 9 +
6
1
2

5

ข้ันที่ 2 บวกในหลกั สบิ
1 สบิ บวก 2 สบิ บวก 1 สบิ ได้ 4 สิบ

หลกั สบิ หลกั หน่วย

1 9 +
6
1
2 5

4

ดงั น้ัน 19 + 26 = 45
ครเู ขียนแสดงวธิ ีหาผลบวกของ 19 + 26 ดังนี้

1

1 9 +
2 6

45

3. ครูใหน้ ักเรยี นทาตใอบบงานท๔่ี 1๘0 การหาผลบวกโดยการต้งั บวกมกี ารทด เมือ่ เสรจ็ แล้ว

ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 10

ขั้นสรปุ

4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ที่ไดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การหาผลบวกโดยการต้ังบวก

และไมม่ ีทดต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดียวกันใหต้ รงกนั แลว้ จงึ นาจานวนท่อี ยู่ในหลกั เดยี วกันมาบวก

กนั

สื่อการเรยี นรู้
1. แผน่ ตารางสิบและตารางหนว่ ย
2. ใบงานที่ 10 การหาผลบวกโดยการตัง้ บวกมีการทด

การวดั ผลและประเมินผล

สง่ิ ทีต่ อ้ งการวัด วิธีวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานท่ี 10 ใบงานที่ 10 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ท่ีพึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลกั ษณะที่พึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

ท่ีพงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 10 การหาผลบวกโดยการต้งั บวกมีการทด

คาชีแ้ จง หาผลบวก

1 23 + 19 =  2 34 + 16 = 
วธิ ีทา 2 3 วิธีทา 3 4
1 9 + 1 6 +

ตอบ ตอบ

3 37 + 24 =  7 4 45 + 17 = 
วธิ ที า 3 4 วธิ ีทา 4 5
2 + 1 7 +

ตอบ ตอบ

5 51 + 29 =  1 6 63 + 28 = 
วิธีทา 5 9 วธิ ที า 6 3
2 + 2 8 +

ตอบ ตอบ

7 77 + 15 =  7 8 69 + 12 = 
วธิ ีทา 7 5 วิธีทา 6 9
1 + 1 2 +

ตอบ ตอบ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 62

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 13 การลบจานวนท่ตี ัวต้งั ไมเ่ กิน 100 เวลาเรยี น 18 ช่วั โมง

เร่อื ง ทบทวนการลบท่ีตวั ต้งั ไมเ่ กิน 20 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชวี้ ัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
จานวนของสงิ่ ต่าง ๆ ทง้ั หมด เมือ่ เอาออกไปจานวนหนึ่ง สามารถหาจานวนทีเ่ หลอื ไดด้ ว้ ย

การลบ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการหาผลลบท่ตี วั ตั้งไมเ่ กนิ 20 ได้ (K)
2. หาผลลบท่ีตวั ต้ังไม่เกิน 20 ได้ (P)
3. นาความรู้เกย่ี วกับการลบท่ีตวั ตั้งไม่เกนิ 20 ไปใช้แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
ทบทวนการลบทีต่ วั ต้งั ไมเ่ กิน 20

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนความหมายการลบ โดยให้นักเรียนช่วยกันยกตวั อย่างสถานการณ์ที่

เกย่ี วกบั การลบในลกั ษณะการเอาออก การเปรยี บเทยี บ และความสัมพนั ธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย
– ส่วนรวม เชน่

- แก้วตามีลูกอม 18 เม็ด แบง่ ใหใ้ บบวั 8 เม็ด เหลือลูกอมกีเ่ มด็
- แกว้ ตามลี ูกอม 10 เมด็ ใบบัวมีลกู อม 8 เม็ด แก้วตามลี ูกอมมากกวา่ ใบบวั ก่ี
เม็ด

- มลี ูกอม 18 เม็ด เป็นลกู อมของแกว้ ตา 10 เมด็ เปน็ ลกู อมของใบบัวกี่เม็ด
2. ครูพจิ ารณาวา่ นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างสถานการณ์การลบได้ทง้ั 3 ความหมาย
หรอื ไม่ ถา้ ไมไ่ ด้ ครชู ่วยให้คาแนะนา หรือใช้การถามตอบจนนกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างสถานการณ์
การลบไดค้ รอบคลุมท้งั 3 ความหมาย
ขน้ั สอน
3. ครูนาสถานการณก์ ารลบที่นกั เรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งจากข้ันนา มาช่วยกันเขียน
ประโยคสัญลกั ษณ์การลบ และหาผลลบ โดยการถามตอบ เชน่

“แก้วตามีลูกอม 18 เมด็ แบง่ ให้ใบบวั 8 เม็ด เหลอื ลกู อมกีเ่ มด็ ”
- แก้วตามีลกู อมทง้ั หมดกเ่ี มด็ (18 เมด็ )
- แบง่ ใหใ้ บบัวกี่เมด็ (8 เม็ด)
- แกว้ ตาเหลือลกู อมมากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 18 เม็ด เพราะเหตใุ ด (น้อยกว่า 18
เม็ด เพราะแบ่งใหแ้ ก้วตาไป 8 เม็ด)
- แกว้ ตาเหลือลกู อมก่เี มด็ หาไดอ้ ย่างไร (นา 8 ไปลบออกจาก 18)
- เขียนประโยคสัญลักษณ์ไดอ้ ย่างไร (ประโยคสัญลักษณ์การลบ 18 – 8 = )
ซง่ึ นักเรยี นอาจใชก้ รอบสบิ แสดงการหาผลลบ ดงั น้ี

มลี กู อม 18 เม็ด ให้แก้วตาไป 8 เม็ด
18 – 8 = 10

หรือใชเ้ ส้นจานวนหาผลลบ ดังนี้

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

เริม่ จาก 0 ไป 18

ถอยหลังไป 8 ได้ 10
ดงั น้นั 18 – 8 = 10
4. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 1 ทบทวนการลบทต่ี วั ตง้ั ไม่เกนิ 20 เมอ่ื เสร็จแล้วให้
นกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 1
ขั้นสรุป
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี จานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ ท้ังหมด
เมือ่ เอาออกไปจานวนหนงึ่ สามารถหาจานวนที่เหลอื ได้ด้วยการลบ

สอ่ื การเรียนรู้
1. กรอบสบิ
2. เส้นจานวน
3. ใบงานท่ี 1 ทบทวนการลบท่ตี วั ตัง้ ไม่เกิน 20

การวดั ผลและประเมินผล

ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ วี ัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 1 ใบงานที่ 1 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึง
ประสงค์ แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนคุณภาพ 2

ดา้ นคณุ ลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน

ทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 1 ทบทวนการลบท่ตี ัวตัง้ ไมเ่ กนิ 20

คาชแี้ จง หาผลลบโดยใชก้ ารวาดรูป

15 - 5 = …….

2

16 - 9 = …….

3

14 - 6 = …….

4

12 - 7 = …….

5

20 - 4 = …….

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 63

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 13 การลบจานวนทตี่ วั ตัง้ ไมเ่ กนิ 100 เวลาเรยี น 18 ชั่วโมง

เร่ือง การลบจานวนสองหลักกบั จานวนหน่ึงหลักไมม่ กี ารกระจาย เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง

สอนวนั ท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
การหาผลลบของจานวนสองหลักกบั จานวนหน่งึ หลกั อาจใชก้ ารเอาออกแลว้ หาจานวนที่

เหลอื ใด้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการหาผลลบของจานวนสองหลกั กบั จานวนหนงึ่ หลกั ไม่มีการกระจายได้ (K)
2. หาผลลบของจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่งึ หลกั ไม่มีการกระจายได้ (P)
3. นาความรู้ เกีย่ วกับการลบจานวนสองหลกั กับจานวนหนึ่งหลักไมม่ กี ารกระจายไปใช้

แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การลบจานวนสองหลกั กับจานวนหน่ึงหลักไม่มีการกระจาย

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
1. นกั เรยี นทบทวนความรูเ้ รอ่ื งการลบจานวนนบั ที่ตวั ตั้งไมเ่ กนิ 20 โดยตวั แทนนกั เรยี น

1 คน ออกมาจบั สลากโจทย์จากกลอ่ งปริศนาแล้วตดิ บนกระดาน จากนัน้ ตวั แทนนักเรียนอีก 3 คน
ออกมาแขง่ ขันกนั หาคาตอบ ดังตัวอย่าง

15 – 4 =  (11)

นกั เรยี นและครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ดาเนินกจิ กรรมน้อี ีก 1-2 ครง้ั เพื่อ
ทบทวนทักษะการลบจานวนนบั ท่มี ตี ัวตัง้ ไม่เกิน 20 แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายวิธีการหาคาตอบวา่ ใช้วิธีคิด
แบบใด (การนบั ตอ่ การวาดภาพแล้วนบั จานวนที่เหลือ)

ข้ันสอน
2. ครแู บ่งกลมุ่ นักเรยี น 3 – 4 คน แจกแผน่ ตารางสิบ แผ่นตารางหน่วย กลุม่ ละ 1 ชดุ

(1 ชุดมี แผน่ ตารางสบิ 9 แผน่ แผ่นตารางหนว่ ย 9 แผ่น) ครยู กตวั อย่างสถานการณก์ ารลบที่ตวั ต้งั
เป็นจานวนสองหลัก ตวั ลบเป็นจานวนหน่ึงหลกั และไม่มกี ารกระจายใหน้ กั เรยี นหาผลลบ ดังน้ี

มีขนมปงั ไส้ครมี 29 ช้นิ ขายไป 3 ชิ้น เหลือขนมปงั ไสค้ รมี กี่ชนิ้

ครูให้คาถามถามนักเรยี นดงั น้ี
- เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณไ์ ด้อย่างไร (29 – 3 = )
- ตวั ตงั้ คอื จานวนใด (29)
- ตวั ลบคือจานวนใด (3)
ครูแนะนาการหาผลลบโดย ใชแ้ ผน่ ตารางสิบกบั แผน่ ตารางหน่วยหาผลลบโดยการ
เอาออก ดังนี้ แสดงจานวน 29 เพราะ 29 เปน็ ตวั ตั้ง จากนั้นใหน้ กั เรียนใช้แผ่นตารางสิบ ตารางหนว่ ย
แสดง 29 จะได้

- หาผลลบได้อย่างไร (มีอยู่ 29 เอาออก 3 หนว่ ย) ใหน้ ักเรียนแสดงวิธกี ารเอา

ออก ดังน้ี

- จานวนท่เี หลอื คืออะไร (2 สิบ กบั 6 หนว่ ย หรอื 26)
ดังน้ัน 29 – 3 = 26

3. ครูกาหนดโจทยก์ ารลบทต่ี วั ตง้ั เป็นจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่ึงหลกั และไม่มี
การกระจายอกี 2 – 3 ข้อ เชน่

- 24 – 4 = 
- 49 – 5 = 
- 68 – 2 = 
4. ครูให้นักเรยี นทา ใบงานท่ี 2 การลบจานวนสองหลักกับจานวนหน่ึงหลกั ไมม่ กี าร
กระจาย เม่อื เสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลย
กิจกรรมในใบงานท่ี 2
ขัน้ สรุป
5. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาผลลบของจานวนสอง
หลักกับจานวนหนึง่ หลักไมม่ กี ารกระจาย อาจใชก้ ารเอาออกแล้วหาจานวนทีเ่ หลือ

สอ่ื การเรียนรู้
1. แผน่ ตารางสบิ แผ่นตารางหนว่ ย
2. ใบงานที่ 2 การลบจานวนสองหลักกับจานวนหน่ึงหลกั ไมม่ ีการกระจาย

การวัดผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ท่ีต้องการวดั วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 2 ใบงานที่ 2 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใชข้ ึน้ ไป
ทีพ่ ึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลกั ษณะท่ีพงึ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทุกรายการข้ึนไปถอื ว่าผ่าน

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 2 การลบจานวนสองหลักกับจานวนหนึง่ หลกั ไม่มกี ารกระจาย

คาชแ้ี จง หาผลลบ

1

46 - 4 = …….

2

25 - 5 = …….

3

58 - 7 = …….

4

39 - 3 = …….

5

68 - 3 = …….

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 64

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 การลบจานวนทต่ี ัวตั้งไมเ่ กิน 100 เวลาเรียน 18 ชั่วโมง

เรอ่ื ง การลบจานวนสองหลกั กบั จานวนหนึง่ หลกั ไม่มีการกระจาย เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สัญลกั ษณแ์ สดงการลบของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลลบของจานวนสองหลักกบั จานวนหนงึ่ หลกั อาจใช้การนบั ถอยหลัง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการหาผลลบของจานวนสองหลกั กบั จานวนหนง่ึ หลกั ไมม่ กี ารกระจายได้ (K)
2. หาผลลบของจานวนสองหลักกบั จานวนหนงึ่ หลกั ไมม่ ีการกระจายได้ (P)
3. นาความรู้เก่ยี วกบั การลบจานวนสองหลกั กบั จานวนหนงึ่ หลักไมม่ กี ารกระจายไปใช้

แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การลบจานวนสองหลักกบั จานวนหน่งึ หลกั ไม่มกี ารกระจาย

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. นักเรียนทบทวนความรู้เร่ืองการลบจานวนนบั ท่ีตวั ต้ังไม่เกนิ 20 และครถู ามนักเรยี น

ว่า นอกจากใช้ตัวนับหาผลลบโดยการเอาออกแล้ว ยังมีวิธอี ื่นหาผลลบไดอ้ ีกหรอื ไม่ ซง่ึ นักเรยี นควรจะ
ตอบได้วา่ ใชเ้ ส้นจานวนโดยการนับถอยหลงั หลงั จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั หาผลลบดว้ ยวธิ ี
ดงั กล่าว ดงั นี้

18 – 5 =  (13)

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

นับถอยหลงั ทีละ 1 จาก 18 ไป 5 ครัง้
ดังนน้ั 18 – 5 = 13
นักเรยี นและครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ดาเนินกจิ กรรมนีอ้ กี 1-2 ครงั้ เพื่อ
ทบทวนทกั ษะการลบจานวนนับท่ีมีตวั ต้งั ไม่เกิน 20 แล้วร่วมกันอภิปรายวิธกี ารหาคาตอบ โดยใช้เส้น
จานวนหาผลลบโดยการนับถอยหลงั
ข้ันสอน
2. ครูแบง่ กลมุ่ นักเรยี น 3 – 4 คน ครยู กตวั อย่าง โจทย์การลบ ทต่ี วั ต้งั เปน็ จานวนสอง
หลกั ตวั ลบเปน็ จานวนหนึ่งหลัก และไมม่ กี ารกระจายใหน้ ักเรยี นหาผลลบ ดงั นี้

47 – 5 = 

ครแู นะนาการหาผลลบโดยใช้เสน้ จานวนหาผลลบโดยการนับถอยหลงั ครเู ขียนเส้น
จานวนใหน้ กั เรยี นพจิ ารณา ดังน้ี

40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50

- เริ่มนบั ถอยหลงั จากจานวนใด (47) เพราะเหตุใด (47 เปน็ ตัวต้งั )
- นบั ถอยหลงั ไปทีละ 1 กี่คร้ัง (5 ครัง้ ) เพราะเหตใุ ด (5 เปน็ ตวั ลบ)
ครูใหน้ กั เรียนหาผลลบโดยใชเ้ สน้ จานวน ดงั นี้

40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50

ครอู าจเอาเส้นจานวนออก ให้นกั เรียนนบั ถอยหลงั ดังน้ี
ให้นกั เรียนแสดงการนบั ถอยหลัง จะได้

นับถอยหลังทลี ะ 1 จาก 47 ไป 5 คร้งั

42 43 44 45 46 47

ดงั น้ัน 47 – 5 = 42
3. ครกู าหนดโจทยก์ ารลบท่ีตวั ตง้ั เปน็ จานวนสองหลกั กับจานวนหนึ่งหลัก และไม่มีการ
กระจายอีก 2 – 3 ขอ้ ใหน้ ักเรียนหาผลลพั ธ์โดยใชก้ ารนบั ถอยหลัง เช่น

- 58 – 5 = 
- 36 – 3 = 
- 67 – 7 = 
4. ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 3 การลบจานวนสองหลักกับจานวนหนึ่งหลกั ไม่มกี าร
กระจาย เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 3
ข้นั สรุป
5. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีได้เรยี นร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การหาผลลบของจานวนสอง
หลกั กับจานวนหน่ึงหลักไม่มีการกระจาย อาจใชก้ ารนับถอยหลัง

สอ่ื การเรียนรู้
1. เส้นจานวน
2. ใบงานท่ี 3 การลบจานวนสองหลกั กับจานวนหน่งึ หลกั ไม่มกี ารกระจาย

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ ีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 3 ใบงานท่ี 3 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้นึ ไป
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี ึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 3 การลบจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่ึงหลักไม่มกี ารกระจาย

คาชี้แจง เตมิ ตวั เลขแสดงจานวน

1. 65 – 3 = 
นับถอยหลังทีละ 1 จาก ไป ครง้ั

65 – 3 = 60 61 62 63 64 65 66 67

2. 86 – 5 = 
นับถอยหลงั ทีละ 1 จาก ไป ครั้ง

86 – 5 = 80 81 82 83 84 85 86 87

3. 78 – 4 = 
นบั ถอยหลงั ทลี ะ 1 จาก ไป ครั้ง

78 – 4 = 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79

4. 56 – 2 = 
นับถอยหลงั ทลี ะ 1 จาก ไป ครง้ั

56 – 2 = 50 51 52 53 54 55 56 57

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 65

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 13 การลบจานวนที่ตวั ตง้ั ไมเ่ กนิ 100 เวลาเรียน 18 ช่ัวโมง

เรื่อง การลบจานวนสองหลกั กบั จานวนหน่ึงหลักไมม่ กี ารกระจาย เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่เี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตวั ชีว้ ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการลบของจานวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลลบของจานวนสองหลักกับจานวนหน่ึงหลกั อาจ ใช้ความสัมพันธ์ของจานวนแบบ

ส่วนยอ่ ย - สว่ นรวม

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายการหาผลลบของจานวนสองหลักกับจานวนหนง่ึ หลักไมม่ กี ารกระจายได้ (K)
2. หาผลลบของจานวนสองหลกั กับจานวนหน่งึ หลกั ไมม่ ีการกระจายได้ (P)
3. นาความรเู้ กย่ี วกบั การลบจานวนสองหลักกบั จานวนหนง่ึ หลักไม่มกี ารกระจายไปใช้

แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การลบจานวนสองหลักกับจานวนหนึง่ หลักไมม่ กี ารกระจาย

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. นักเรียนทบทวนความรู้เร่อื งการลบ และครูถามนักเรยี นว่า นอกจากใชต้ ัวนบั หาผล

ลบโดยการเอาออกแล้ว การนับถอยหลัง ยงั มวี ธิ ีอ่ืนหาผลลบได้อกี หรอื ไม่ ซึง่ นักเรียนควรจะตอบไดว้ า่
ใช้ความสัมพันธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย - สว่ นรวมหาผลลบ หลงั จากนั้นครใู ห้นักเรยี นช่วยกันหาผล
ลบด้วยวธิ ีดงั กล่าว ดังน้ี

8 – 3 =  (5)

7
8

1

จากความสมั พันธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย - ส่วนรวม จะได้

5+3=8 8 – 5 = 3 และ 8 – 3 = 5

ดงั นั้น 8 – 3 = 5

นักเรยี นและครรู ่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ดาเนินกิจกรรมนอี้ กี 1-2 ครง้ั เพื่อ

ทบทวนทักษะการลบ แล้วรว่ มกนั อภิปรายวิธีการหาคาตอบโดยใช้สว่ นยอ่ ย - สว่ นรวม

ข้ันสอน

2. ครูแบ่งกลมุ่ นกั เรียน 3 – 4 คน ครยู กตวั อย่าง โจทย์การลบ ทต่ี ัวตั้งเปน็ จานวนสอง

หลกั ตัวลบเป็นจานวนหนง่ึ หลกั และไมม่ ีการกระจายใหน้ ักเรียนหาผลลบ และแนะนาการหาผลลบ

โดยใช้ความสัมพนั ธ์ของจานวนแบบสว่ นย่อย - สว่ นรวมดงั นี้

38 – 7 = 

ครสู อบถามนกั เรียนวา่ 38 สามารถกระจายเปน็ จานวนใดไดบ้ า้ ง เพอ่ื สะดวกในการ
หาผลลบ (3 สิบ กับ 8 หน่วย) ครูอาจใช้บตั รภาพเพื่อชว่ ยในการอธิบายการกระจายจานวน จากนน้ั
ให้นกั เรียนแสดงการหาผลลบไดด้ งั นี้

38 – 7 = 31

วิธีทา 38 - 7

ขัน้ ที่ 1 8 – 7 = 1

30 8 ขน้ั ที่ 2 30 + 1 = 31

ดงั นั้น 38 – 7 = 31

3. ครูกาหนดโจทย์การลบทีต่ ัวตงั้ เป็นจานวนสองหลกั กับจานวนหนึง่ หลกั และไมม่ กี าร
กระจายอกี 2 – 3 ข้อ ใหน้ ักเรียนหาผลลพั ธ์โดยใชค้ วามสมั พันธข์ องจานวนแบบสว่ นย่อย - สว่ นรวม
เชน่

- 28 – 3 = 
- 96 – 6 = 
- 58 – 7 = 
4. ครใู หน้ กั เรยี นทา ใบงานที่ 4 การลบจานวนสองหลักกับจานวนหน่งึ หลักไม่มกี าร
กระจาย เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 4
ขนั้ สรุป
5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั ดงั นี้ การหาผลลบของจานวนสอง
หลักกับจานวนหนึ่ งหลักไม่มกี ารกระจาย อาจใชโ้ ดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย -
สว่ นรวม

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 4 การลบจานวนสองหลกั กับจานวนหนึ่งหลักไม่มกี ารกระจาย

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานที่ 4 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
ท่ีพึงประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลกั ษณะทพ่ี ึง แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลกั ษณะ ทกุ รายการข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

ทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 4 การลบจานวนสองหลักกบั จานวนหน่งึ หลกั ไมม่ กี ารกระจาย

คาชแ้ี จง หาผลลบ ขน้ั ท่ี 1
ขน้ั ท่ี 2
1-4= 25 - 4 =

25 - 4

2 36 - 2 =  ขั้นท่ี 1
ขั้นที่ 2
36 - 2 36 - 2 =

3 38 - 4 =  ขน้ั ที่ 1
ขน้ั ท่ี 2
38 - 4 38 - 4 =

4 47 - 5 =  ขั้นท่ี 1
ขั้นท่ี 2
47 - 5 47 - 5 =

5 68 - 3 =  ขั้นท่ี 1
ขั้นที่ 2
68 - 3 68 - 3 =

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 66

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 13 การลบจานวนทต่ี ัวตั้งไม่เกิน 100 เวลาเรยี น 18 ชวั่ โมง

เรอ่ื ง การลบจานวนสองหลักกบั จานวนสองหลักไมม่ กี ารกระจาย เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชีว้ ัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สัญลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การลบจานวนสองหลักดว้ ยจานวนสองหลกั อาจใช้การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนนัน้ ว่า

ตา่ งกนั เท่าไร การเอาออก การนบั ตอ่ หรือการนบั ถอยหลงั

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายการหาผลลบของจานวนสองหลกั กบั จานวนสองหลกั ไมม่ กี ารกระจายได้ (K)
2. หาผลลบของจานวนสองหลกั กบั จานวนสองหลักไมม่ ีการกระจายได้ (P)
3. นาความร้เู ก่ยี วกับ การลบจานวนสองหลกั กับจานวนสองหลกั ไมม่ ีการกระจาย ไปใช้

แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การลบจานวนสองหลักกับจานวนสองหลกั ไม่มีการกระจาย

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูแจกแผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ยให้ นกั เรยี นทบทวน การหาผลลบของ

จานวนสองหลักกับจานวนหนึง่ หลกั ไมม่ กี ารกระจาย โดยกาหนดโจทย์ใหน้ ักเรียนช่วยกนั หาผลลบ
และนาเสนอ เช่น

45 – 4 = 

ครใู หน้ ักเรียนใชแ้ ผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วยแสดงจานวน 45 หลงั จากน้ัน
ใหน้ กั เรียนนาแผน่ ตารางหนว่ ยออก 4 หนว่ ย เหลือแผน่ ตารางสบิ 4 สบิ กับแผน่ ตารางหน่วย 1
หน่วย หรอื 41 ดงั นี้

ดงั นน้ั 45 – 4 = 41
ขนั้ สอน

2. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี น 3 – 4 คน แจกแผน่ ตารางสบิ แผน่ ตารางหนว่ ย กลมุ่ ละ 1 ชดุ
(1 ชดุ มี แผน่ ตารางสิบ 9 แผ่น แผน่ ตารางหนว่ ย 9 แผน่ ) ครูยกตวั อย่างสถานการณ์การลบทีต่ วั ต้ัง
เปน็ จานวนสองหลกั ตวั ลบเปน็ จานวน สองหลกั และไมม่ กี ารกระจายใหน้ กั เรียนหาผลลบ โดยการเอา
ออก ดังนี้

นับสมดุ ปกออ่ นได้ 50 เล่ม นบั สมดุ ปกแข็งได้ 20 เล่ม มีสมุดปกอ่อนมากกว่า
สมุดปกแขง็ อยเู่ ทา่ ไร

ครแู นะนาการหาผลลบโดย ใชแ้ ผ่นตารางสิบกบั แผ่นตารางหน่วยหาผลลบโดยการ
เอาออก ดังน้ี แสดงจานวน 50 เพราะ 50 เป็นตัวต้งั จากนั้นให้นกั เรียนใช้แผ่นตารางสบิ ตารางหน่วย
แสดง 50 จะได้

ดงั น้ัน 50 – 20 = 30
มสี มุดปกออ่ นมากกวา่ สมดุ ปกแข็งอยู่ 30 เล่ม
3. ครกู าหนดโจทยป์ ัญหาบนกระดาน จากนั้นครแู นะนาการหาผลลบโดยการเอาออก
ดังน้ี

39 – 15 = 

ดังนั้น 39 – 15 = 24
4. ครกู าหนดโจทย์การลบท่ตี ัวตั้งเปน็ จานวนสองหลักกับจานวนสองหลัก และไมม่ กี าร
กระจายอีก 2 – 3 ข้อ เช่น

- 40 – 20 = 
- 93 – 53 = 
- 58 – 54 = 
5. ครูให้นกั เรียนทา ใบงานที่ 5 การลบจานวนสองหลักกับจานวนสองหลักไมม่ กี าร
กระจาย เมอ่ื เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 5
ขั้นสรปุ
6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ร่วมกนั ดงั นี้ การลบจานวนสองหลกั ดว้ ย
จานวนสองหลกั อาจใช้การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนนน้ั ว่าต่างกันเท่าไร การเอาออก การนับ
ตอ่ หรอื การนบั ถอยหลงั

สอ่ื การเรียนรู้
1. แผ่นตารางสิบและแผ่นตารางหน่วย
2. ใบงานท่ี 5 การลบจานวนสองหลักกับจานวนสองหลักไมม่ กี ารกระจาย