The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by janpim.2p, 2022-04-02 04:53:37

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,วิชาคณิตศาสตร์

ครใู ช้การถามตอบ ดงั น้ี
- โตะ๊ สูงกห่ี นว่ ย (3 หนว่ ย)
- ต้เู ก็บรองเท้าสงู กี่หนว่ ย (6 หน่วย)
- ชนั้ วางหนังสือสูงกห่ี น่วย (5 หน่วย)
- ตเู้ ก็บรองเท้าสูงกวา่ โตะ๊ ก่หี น่วย (ตู้เก็บรองเท้าสงู กว่าโตะ๊ 6 – 3 = 3 หนว่ ย)
- โต๊ะเตยี้ กว่าชน้ั วางหนังสอื กหี่ นว่ ย (โตะ๊ เต้ยี กวา่ ช้นั วางหนังสอื 5 – 3 = 2
หนว่ ย)
- ต้เู ก็บรองเท้าสูงกวา่ ชน้ั วางหนังสือกี่หน่วย (ตู้เกบ็ รองเท้าสูงกวา่ ชน้ั วางหนงั สอื
6 – 5 = 1 หน่วย)
4. ครใู หน้ ักเรยี นทา ใบงานท่ี 4 การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้หนว่ ยท่ีไมใ่ ชห่ น่วย
มาตรฐาน เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลย
กจิ กรรมในใบงานที่ 4
ขนั้ สรุป
5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี การเปรียบเทยี บความยาว
หรือความสงู ของส่งิ ของสองสิง่ ว่ายาวกวา่ หรอื สั้นกว่าอยเู่ ท่าไร ทาไดโ้ ดยนาความยาวหรอื ความสูงใน
หน่วยเดยี วกันของสงิ่ ของสองสง่ิ นนั้ มาลบกัน

สอ่ื การเรียนรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานที่ 4 การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใชห้ น่วยท่ีไมใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน

การวัดผลและประเมินผล

สงิ่ ที่ตอ้ งการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 4 ใบงานท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป

2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ ึ้นไป
3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
ท่พี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึง แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการข้ึนไปถือวา่ ผ่าน

ท่พี งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 4 การเปรียบเทียบความยาวโดยใชห้ นว่ ยทไี่ ม่ใชห่ น่วย
มาตรฐาน

คาชี้แจง ตอบคาถาม
กาหนดให้ แทนความสงู 1 หนว่ ย

แก้ว ปอ
ชาย

ตน้

1. ใครสูงทสี่ ุด สูงก่หี น่วย
2. ใครเต้ียท่ีสุด สูงกี่หน่วย
3. คนทส่ี งู ท่ีสดุ สูงกว่าคนทเี่ ต้ยี ที่สดุ ก่ีหน่วย
4. ชายสงู กวา่ ต้นกห่ี น่วย
5. ใครสูงเท่ากนั สูงก่ีหนว่ ย
6. แกว้ สงู กว่าปอก่ีหนว่ ย

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 45

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 การวดั ความยาว เวลาเรียน 11 ช่ัวโมง

เร่ือง การวัดความยาวเป็นเซนตเิ มตร เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวนั ท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจพนื้ ฐานเก่ียวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทต่ี อ้ งการ

วัด และนาไปใช้

ตวั ช้วี ดั
ค 1.2 ป.1/1 : วดั และเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและเมตร

สาระสาคญั
การวดั ความยาวหรอื ความสูงเปน็ เซนติเมตร ควรวางไม้บรรทัดทาบไปตามส่ิงที่วัด โดยให้

ตัวเลข 0 อยทู่ ีป่ ลายด้านใดด้านหน่ึงของสิ่งทีว่ ดั แลว้ อา่ นตัวเลขทต่ี รงกับปลายอีกดา้ นหน่ึงของสง่ิ ที่วดั

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายวิธีการวดั ความยาวโดยใชห้ นว่ ยการวดั เปน็ เซนติเมตรได้ (K)
2. วดั และบอกความยาวเปน็ เซนติเมตรโดยใชไ้ มบ้ รรทดั ได้ (P)
3. นาความรเู้ กยี่ วกบั การวัดความยาวเป็นเซนตเิ มตรไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การวดั ความยาวเปน็ เซนติเมตร

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสือ่ สารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครทู บทวนการวัดความยาวโดยใช้หนว่ ยที่ไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐาน โดยใหน้ กั เรียน 2

คน เลือกเครือ่ งวดั ท่ีมหี น่วยไมใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน (ไมซ่ า้ กัน เช่น หลอดดดู ไมไ้ อศกรีม ) จากนั้นให้
นักเรยี นทงั้ สองวดั ความยาวของ โต๊ะ โดยกาหนดหลอดดูด 1 หลอดแทนความยาว 1 หนว่ ยและไม้
ไอศกรมี 1 อันแทนความยาว 1 หนว่ ย

ให้นกั เรยี นตอบคาถาม ดังนี้
- วัดความยาวของโตะ๊ ดว้ ยหลอดดดู ได้กี่หนว่ ย (8 หน่วย)
- วัดความยาวของโตะ๊ ดว้ ยไม้ไอศกรมี ได้ก่ีหนว่ ย (12 หนว่ ย)
- ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ ความยาวของ โต๊ะเดยี วกัน แตน่ ักเรียนทั้งสองคน บอก
ความยาวของโตะ๊ ไม่ตรงกัน เพราะเหตใุ ด (ไมไ้ อศกรมี กับหลอดดดู ยาวไมเ่ ทา่ กัน)
- ถา้ นักเรียนสองคน ออกมาวดั ความยาวของ โต๊ะดว้ ยหลอดดูดเหมือนกัน จะได้
หน่วยในการวัดทีต่ รงกันหรอื ไม่ (ได้ตรงกนั ) และวดั ความยาวได้เท่ากบั กีห่ นว่ ย (8 หน่วย)
ข้ันสอน
2. ครแู นะนาเครอื่ งวัดทีใ่ ชว้ ัดความยาวท่มี ีหนว่ ยเปน็ หน่วยมาตรฐานว่ามีหลายชนิด
แลว้ นาของจรงิ ให้นักเรียนดู เช่น ไมบ้ รรทัด ไมเ้ มตร สายวดั ตัว ตลบั เมตร สายวดั ชนิดตลบั

3. ครจู ัดกิจกรรมเพือ่ แนะนาวธิ กี ารวดั ความยาวเป็นเซนตเิ มตรดว้ ยไมบ้ รรทดั โดยให้
นักเรยี นนาไม้บรรทดั ขนึ้ มาวางบนโต๊ะ แนะนาไม้บรรทดั และหนว่ ยยวดั ความยาวของไม้บรรทัดเปน็
เซนติเมตร โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตทีไ่ ม้บรรทดั ว่า จะมีการแบ่งเปน็ ชอ่ งทม่ี รี ะยะห่างเทา่ ๆ กนั และมี
ตวั เลขกากับไว้ ดงั ภาพ

ครชู ้ีให้นักเรียนดตู ัวเลขและแนะนาว่าเปน็ ตวั เลขทใ่ี ช้บอกความยาวที่มหี น่วยเป็น
เซนตเิ มตร โดยระยะหา่ ง 1 ช่องมีความยาวเท่ากับ 1 เซนตเิ มตร ครูเขยี น “1 เซนติเมตร ” บน
กระดาน ดงั รปู

1 เซนติเมตร (ซม.)

ครถู ามวา่
- ระยะห่าง 2 ชอ่ งจะมีความยาวเท่าไร (2 เซนติเมตร)
- ระยะหา่ ง 3 ชอ่ งจะมคี วามยาวเทา่ ไร (3 เซนติเมตร)
ครูแนะนาวา่ เซนติเมตรเป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้บอกความยาว ใช้อกั ษรย่อ “ซม.”
พรอ้ มกบั เขียนบนกระดาน
4. ครูสาธติ การวดั ความยาวของดินสอโดยใชไ้ มบ้ รรทดั ว่า ในการวัดความยาวของ
ดินสอ ให้วางดินสอทาบไปตามขอบหรอื ตามแนวตรงของไมบ้ รรทัด โดยใหจ้ ุดปลายข้างหน่ึงของ
ดินสอตรงกบั ปลายขา้ งหนงึ่ ของไม้บรรทดั แล้วบอกความยาว โดยดูจากตัวเลขบนไม้บรรทดั ทอี่ ย่ตู รง
กับปลายอีกข้างหนึ่งของดินสอ ดังน้ี

ความยาวของดินสอเท่ากับ 6 ช่อง หรือ 6 เซนตเิ มตร
ดงั นั้น ดินสอยาว 6 เซนติเมตร หรอื 6 ซม.

ความยาวของพู่กนั เท่ากับ 12 ชอ่ ง หรือ 12 เซนตเิ มตร
ดงั นั้น พกู่ ันยาว 12 เซนติเมตร หรือ 12 ซม.
ให้นกั เรยี นตอบคาถาม ดังน้ี
- ดนิ สอยาวกว่าหรอื สน้ั กวา่ พูก่ ัน (สน้ั กวา่ ) กเ่ี ซนติเมตร (6 เซนตเิ มตร คิดไดจ้ าก
12 – 6 = 6)
5. ครใู ห้นักเรียนฝกึ ทกั ษะการใชไ้ ม้บรรทัดวัดความยาวของส่งิ ต่าง ๆ ทีม่ ีความยาวไม่
เกิน 30 เซนติเมตร แลว้ บอกความยาว ซงึ่ ครคู วรเตรียมอปุ กรณ์ท่ีมคี วามยาวเต็มหน่วยเซนติเมตร
เช่น แถบกระดาษสีเขยี ว แถบกระดาษสีเหลอื ง แถบกระดาษสีแดง แถบกระดาษสีชมพู โดยในขณะ
ทวี่ ัดครูตรวจสอบการวธิ กี ารวัดของนักเรยี น
6. ครใู ห้นักเรยี นทา ใบงานที่ 5 การวัดความยาวเป็นเซนตเิ มตร เม่ือเสร็จแลว้ ให้
นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 5
ขั้นสรปุ
7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั ดังนี้ การวัดความยาวเป็น
เซนติเมตรควรวางส่ิงทีต่ อ้ งการวดั ทาบไปตามไมบ้ รรทัดโดยให้ตวั เลข 0 อยู่ทปี่ ลายดา้ นใดด้านหน่ึง
ของสงิ่ ท่ีตอ้ งการวัด แลว้ อ่านตวั เลขท่ตี รงกับปลายอกี ด้านหนงึ่ ของสงิ่ ทตี่ ้องการวัด

สอ่ื การเรียนรู้
1. หลอดดดู
2. ไม้ไอศกรีม
3. โต๊ะ
4. ไม้บรรทดั ไม้เมตร สายวดั ตวั ตลับเมตร สายวัดชนดิ ตลบั
5. ดนิ สอ พกู่ ัน
6. ใบงานท่ี 5 การวัดความยาวเปน็ เซนติเมตร

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ท่ีตอ้ งการวัด วิธีวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 5 ใบงานท่ี 5 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป

2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี ึง
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนคณุ ภาพ 2

ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการขนึ้ ไปถือว่าผ่าน

ทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 5 การวัดความยาวเปน็ เซนติเมตร

คาชแี้ จง เตมิ คาตอบลงในช่องว่าง

สอ้ ม
ช้อน

1. ชอ้ นยาวกเี่ ซนติเมตร
2. สอ้ มยาวก่ีเซนตเิ มตร
3. ปากกายาวกี่เซนติเมตร
4. ลวดเสยี บกระดาษยาวกเี่ ซนติเมตร

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 56

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 การวดั ความยาว เวลาเรยี น 11 ชว่ั โมง

เรือ่ ง การวดั ความสูงเปน็ เซนตเิ มตร เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจพ้นื ฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ทีต่ อ้ งการ

วัด และนาไปใช้

ตัวช้ีวดั
ค 1.2 ป.1/1 : วัดและเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เซนติเมตรและเมตร

สาระสาคัญ
การวัดความยาวหรอื ความสูงเปน็ เซนตเิ มตร ควรวางไมบ้ รรทัดทาบไปตามสงิ่ ที่วัด โดยให้

ตวั เลข 0 อยูท่ ีป่ ลายดา้ นใดดา้ นหนง่ึ ของสิ่งท่ีวัดแล้วอ่านตัวเลขท่ตี รงกบั ปลายอีกด้านหน่ึงของสิ่งทวี่ ดั

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายวธิ ีการวัดความสงู โดยใชห้ นว่ ยการวดั เป็นเซนติเมตรได้ (K)
2. วดั และบอกความสูงเปน็ เซนตเิ มตรโดยใช้ไมบ้ รรทดั ได้ (P)
3. นาความร้เู กี่ยวกับการวดั ความสูงเป็นเซนติเมตรไปใช้แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การวัดความสงู เปน็ เซนติเมตร

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครทู บทวนการวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตร โดยแจกดินสอให้นักเรยี นคนละ 1 เล่ม

ใหน้ กั เรยี นใชไ้ มบ้ รรทัดวัดความยาวของ ดินสอ พรอ้ มบอกความยาวเปน็ เซนตเิ มตร แลว้ ร่วมกนั
สรุปว่า ดินสอแท่งนีย้ าว … เซนตเิ มตร (ตอบตามจรงิ )

2. จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกันบอกวธิ ีการวดั ความยาว ซ่งึ จะได้วา่ ในการวดั ความ
ยาวของสง่ิ ต่าง ๆ ใหว้ างไ ม้บรรทัดทาบไปตามขอบหรอื ตามแนวตรงของสิง่ ทตี่ ้องการวดั โดยให้
จดุ เรม่ิ ต้นของไม้บรรทัดตรงกับปลายข้างหนึ่งของส่งิ ที่ต้องการวดั แล้วบอกความยาวโดยดจู ากตวั เลข
บนไม้บรรทัดทอี่ ยตู่ รงกับปลายอกี ขา้ งหนง่ึ ของสิ่งที่ตอ้ งการวัด ครแู นะนาว่าการวางไมบ้ รรทัด

ข้ันสอน
3. ครแู นะนาว่าการวดั ความยาวในแนวตั้งเป็นการวดั ความสงู นั่นเอง ซึง่ วิธกี ารวัดความ

สงู จะมีวธิ กี ารวัดในทานองเดียวกันกับวธิ ีการวัดความยาว นัน่ คือ ให้วางไม้บรรทดั ในแนวต้ังทาบไป
ตามขอบหรือตามแนวตรงของสิ่งท่ตี อ้ งการวัด โดยให้จดุ เร่มิ ตน้ ของไม้บรรทดั ตรงกบั ปลายขา้ งหนึ่ง
ของส่ิงที่ตอ้ งการวัดแลว้ บอกความสงู โดยดจู ากตัวเลขบนไมบ้ รรทัดที่อยตู่ รงกับปลายอกี ข้างหน่ึงของ
ส่ิงทีต่ ้องการวัด ครูให้นกั เรยี นพิจารณาการวัดความสงู เปน็ เซนตเิ มตร ดงั น้ี

ความสูงของขวดพริกไทยเทา่ กบั 7 เซนติเมตร
ดงั นั้น ขวดพริกไทยสงู 7 เซนติเมตร หรือ 7 ซม.

ความสูงของแก้วน้าเท่ากับ 9 เซนตเิ มตร
ดังนัน้ แกว้ น้าสูง 9 เซนตเิ มตร หรอื 9 ซม.
4. ครใู ห้นักเรยี นฝึกทกั ษะการใช้ไม้บรรทัดวัดความสงู ของสงิ่ ตา่ ง ๆ ทีม่ ีความสงู ไมเ่ กนิ
30 เซนติเมตร แลว้ บอกความสงู เช่น ขวดนา้ กระปอ๋ ง กล่องนม เทยี นกัน แจกนั กระติกนา้ โดย
ในขณะทีว่ ัด ครูสงั เกตการวัดของนกั เรียน ถ้าความสงู ที่วดั ไดไ้ มเ่ ตม็ หน่วยเซนตเิ มตร ใหน้ กั เรียนบอก
ความสูงโดยประมาณเตม็ หนว่ ยเซนติเมตร
5. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 6 การวดั ความสงู เป็นเซนตเิ มตร เมื่อเสรจ็ แลว้ ให้นักเรียน
ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 6
ขนั้ สรุป
6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั ดังน้ี การวดั ความสูงเปน็ เซนตเิ มตร
ควรวางสิง่ ท่ตี ้องการวัดทาบไปตามไม้บรรทดั โดยให้ตวั เลข 0 อยู่ทีป่ ลายดา้ นใดดา้ นหนง่ึ ของสิง่ ที่
ต้องการวัด แลว้ อ่านตวั เลขทต่ี รงกับปลายอีกดา้ นหนงึ่ ของสิง่ ท่ตี อ้ งการวดั

สอ่ื การเรียนรู้
1. ดนิ สอ
2. ขวดพรกิ ไทย
3. แกว้ น้า
4. ไมบ้ รรทดั
5. ใบงานที่ 6 การวดั ความสูงเปน็ เซนตเิ มตร

การวดั ผลและประเมินผล

สิง่ ที่ต้องการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 6 ใบงานท่ี 6 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ ้ึนไป
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน
ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการขน้ึ ไปถือว่าผา่ น

ทพ่ี งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 6 การวดั ความสูงเป็นเซนตเิ มตร

คาชีแ้ จง ตอบคาถาม

1. โถสงู กเ่ี ซนตเิ มตร
2. ดนิ สอสงู กีเ่ ซนตเิ มตร
3. ไมส้ ูงกเ่ี ซนตเิ มตร
4. รบิ บ้ินสงู กี่เซนตเิ มตร
5. ขวดสงู ก่ีเซนตเิ มตร

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 47

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 การวดั ความยาว เวลาเรียน 11 ชัว่ โมง

เร่อื ง การคาดคะเนความยาวหรือความสูงเปน็ เซนติเมตร เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจพ้นื ฐานเกยี่ วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทตี่ ้องการ

วัด และนาไปใช้

ตัวชวี้ ดั
ค 1.2 ป.1/1 : วัดและเปรยี บเทยี บความยาวเปน็ เซนติเมตรและเมตร

สาระสาคัญ
การคาดคะเนความยาวหรอื ความสูงเป็นเซนติเมตร เป็นการบอกความยาวหรือความสูงให้

ใกลเ้ คียงกับความยาวหรอื ความสูงจริง โดยเทยี บกับ 1 เซนติเมตร

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายวิธกี ารคาดคะเนความยาวหรอื ความสูงเปน็ เซนติเมตรได้ (K)
2. คาดคะเนความยาวหรือความสูงเป็นเซนติเมตรได้ (P)
3. นาความรูเ้ กยี่ วกบั การคาดคะเนความยาวหรอื ความสูงเป็นเซนตเิ มตรไปใชแ้ กป้ ญั หาทาง

คณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การคาดคะเนความยาวหรอื ความสูงเปน็ เซนตเิ มตร

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนการวดั ความยาวของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยการถามตอบให้ได้

ว่าในการวัดความยาวเป็นเซนตเิ มตรควรวางไม้บรรทัดทาบไปตามส่ิงท่ีต้องการวดั โดยให้ตัวเลข 0 อยู่
ทปี่ ลายดา้ นใดดา้ นหนงึ่ ของสิง่ ทีว่ ัด แล้วอา่ นตวั เลขท่ตี รงกบั ปลายอกี ดา้ นหน่ึงของ สิ่งท่ีวัดเพือ่ บ อก
ความยาว

2. ครใู หน้ กั เรียนวัดความยาวหรือความสงู ของส่ิงต่าง ๆ รอบ ๆ ตวั ดว้ ยไม้บรรทดั แล้ว
บอกความยาว เช่น วดั ความยาวของหนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ สมุด กล่องใส่อุปกรณ์การเรยี น ความ
สงู ของขวดนา้ แก้วนา้ ครตู รวจสอบวธิ ีการวัดของนกั เรยี น

ขั้นสอน
3. ครชู ยู างลบที่มแี ถบสแี ดงยาว 1 เซนติเมตรติดอยูด่ ังรปู

ครู ถามนกั เรยี นว่ายางลบก้อนน้ีน่าจะยาวกเ่ี ซนติเมตร ถา้ แถบสแี ดงยาว 1

เซนติเมตร (นกั เรียนตอบตามท่นี ักเรยี นคดิ ) ครูเขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน จากนั้นครวู ัด

ความยาวจริงของยางลบ ดังน้ี

ความยาวของยางลบท่ีคาดคะเนไว้ .................. เซนติเมตร

ความยาวของยางลบที่วดั จริง 4 เซนตเิ มตร

ครแู นะนาว่าการตอบโดยใช้สายตาและความรู้สกึ ว่าส่งิ ต่าง ๆ มคี วามยาวเท่าใด โดย

ไมไ่ ดท้ าการวัดจริง เรียกว่า การคาดคะเนความยาว ซึ่งการคาดคะเนความยาวในลักษณะนี้เปน็ การ

บอกความยาวให้ได้ใกล้เคยี งกับความยาวจรงิ โดยเทียบกบั 1 เซนตเิ มตร

4. ครูชูแก้วนา้ ที่มแี ถบสแี ดงสูง 1 เซนติเมตร ติดไวท้ แ่ี กว้ นา้ ดงั น้ี จากน้นั ครู

ถามว่าแกว้ นา้ ใบนน้ี า่ จะสูงกเี่ ซนตเิ มตร ถ้าแถบสแี ดงสงู 1 เซนติเมตร (ตอบตามความคดิ ของนักเรียน)

ครูเขยี นคาตอบของนกั เรยี นบนกระดาน จากน้นั ครสู มุ่ นกั เรยี น 1 คนออกมาวดั ความสูงของแกว้ น้า

ด้วยไม้บรรทัด ดังน้ี

ความสูงของแกว้ น้าทค่ี าดคะเนไว้ .................. เซนตเิ มตร

ความสงู ของแก้วน้าท่วี ดั จรงิ 7 เซนติเมตร

5. ครใู หน้ กั เรี ยนรว่ มกันทากิจกรรมโดยนาสง่ิ ตา่ งๆ เช่น ดินสอ สมดุ ยางลบ ขวดน้า

แจกัน กล่องนม ใหน้ กั เรยี นคาดคะเนความยาวหรอื ความสูง แล้วเขียนบนั ทึกความยาวหรอื ความสงู ที่

คาดคะเนลงในแบบบนั ทึก จากนน้ั สุม่ ตวั แทนนกั เรียนออกมาวัดความยาวหรือความสูงจรงิ โดยมีครู

และเพื่อนคอยชว่ ยตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ นกั เรียนทกุ คนบันทกึ ความยาวหรอื ความสงู จริงใน

แบบบันทึก

แบบบันทึกความยาว

ส่ิงของ คาดคะเน วัดจรงิ
(เซนติเมตร) (เซนตเิ มตร

6. ครูให้นักเรยี นทาใบงานที่ 7 การคาดคะเนความยาวหรือความสูงเปน็ เซนติเมตร เมื่อ
เสร็จแล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมใน ใบ
งานท่ี 7

ขนั้ สรปุ
7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั ดังนี้ การคาดคะเนความยาวหรือ

ความสงู เป็นเซนตเิ มตรเป็นการบอกความยาวหรือความสงู ให้ได้ใกล้เคยี งกับความยาวหรือความสงู
จรงิ โดยเทยี บกับ 1 เซนติเมตร

สอ่ื การเรียนรู้
1. สิ่งของตา่ ง ๆ ทอ่ี ย่รู อบตัว เชน่ ดนิ สอ สมดุ ยางลบ ขวดนา้ แจกัน กลอ่ งนม
2. ไมบ้ รรทดั
3. ใบงานที่ 7 การคาดคะเนความยาวหรือความสูงเป็นเซนติเมตร

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิ่งท่ีตอ้ งการวัด วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 7 ใบงานที่ 7 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
ท่ีพงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 7 การคาดคะเนความยาวหรือความสงู เป็นเซนติเมตร

คาช้ีแจง คาดคะเนและวดั จรงิ กาหนดให้ แทนความยาว 1 เซนตเิ มตร
1.

คาดคะเนกรรไกรยาว เซนตเิ มตร วดั จริงยาว เซนตเิ มตร
2.

รถไฟยาว เซนติเมตร วดั จริงยาว เซนตเิ มตร
3.

กลอ่ งนมสูง เซนตเิ มตร วัดจรงิ สูง เซนตเิ มตร

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 48

รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 11 การวัดความยาว เวลาเรยี น 11 ชั่วโมง

เรอ่ื ง การวัดความยาวเป็นเมตร เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เขา้ ใจพ้ืนฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ที่ต้องการ

วดั และนาไปใช้

ตัวช้วี ดั
ค 1.2 ป.1/1 : วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตรและเมตร

สาระสาคัญ
ความยาว 1 เมตร เทา่ กบั ความยาว 100 เซนตเิ มตร ใช้อักษรยอ่ ว่า ม.

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายวธิ ีการวัดความยาวทีม่ หี นว่ ยเป็นเมตรได้ (K)
2. วดั และความยาวเป็นเมตรได้ (P)
3. นาความรู้เกีย่ วกับการวดั ความยาวเปน็ เมตรไปใช้แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
การวดั ความยาวเป็นเมตร

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทบทวนการวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรดว้ ยไมบ้ รรทดั โดยครูชแู ปรงลบกระดาน

แลว้ ถามว่า แปรงลบกระดานยาวกเ่ี ซนติเมตร นักเรยี นทราบได้อยา่ งไร (ใช้ไมบ้ รรทัดวัดความยาว )
ครสู มุ่ ตัวแทนนกั เรียนออกมาวดั ความยาวของแปรงลบกระดาน ครถู ามวา่ นักเรียนมวี ธิ กี าร ใช้ไม้
บรรทัดวดั ความยาวของแปรงลบกระดานอยา่ งไร (วางไมบ้ รรทดั ทาบไปตามขอบหรอื ตามแนวตรง
ของแปรงลบกระดาน โดยให้จดุ เร่มิ ตน้ ของไม้บรรทดั ตรงกบั ปลายขา้ งหนึ่งของ แปรงลบกระดาน แลว้
บอกความยาวโดยดจู ากตวั เลขบนไม้บรรทัดท่ีอยตู่ รงกบั ปลายอกี ข้างหนึ่งของแปรงลบกระดาน)

ขั้นสอน
2. ครูแนะนาไมเ้ มตรโดยชไู มเ้ มตรและใหน้ ักเรยี นสงั เกตช่องเล็ก ๆ ดา้ นเซนติเมตร

และถามวา่ มีท้ังหมดกช่ี ่อง (100 ช่อง ) ครูแนะนาวา่ ระยะห่าง 1 ช่อง มคี วามยาวเท่ากบั 1
เซนติเมตรครถู ามว่า ไม้เมตรมีความยาวกีเ่ ซนตเิ มตร (100 เซนติเมตร) ครแู นะนาวา่ ไมเ้ มตรมี ความ
ยาว 1 เมตรดงั น้ัน 1 เมตรเทา่ กับก่ีเซนตเิ มตร (100 เซนตเิ มตร) ครเู ขยี นบนกระดาน

ความยาว 1 เมตร เท่ากับ ความยาว 100 เซนติเมตร
หรอื 1 เมตร เท่ากับ 100 เซนตเิ มตร
ครูแนะนาวา่ “เมตร” เปน็ หน่วยมาตรฐานท่ีใชบ้ อกความยาว ใชอ้ ักษรย่อ “ม.”
3. ครูสาธิตการใชไ้ มเ้ มตรวัดความยาวของกระดาน โดยครูวางไม้เมตรทาบไปตามแนว
ขอบของกระดานดา ใช้ดินสอขีดทาเครอ่ื งหมายแสดงความยาว 1 เมตร ดังรูป

จากนั้นวางไม้เมตรวัดต่อจากขีดทที่ าเครื่องหมายไว้ และขีดเครื่องหมายทกุ ๆ ความ
ยาว 1 เมตร จนสดุ กระดานดา

ดังน้นั กระดานดาน้ียาว 3 เมตร

4. ครใู หน้ ักเรยี นทา ใบงานที่ 8 การวดั ความยาวเปน็ เมตร เม่อื เสร็จแล้วใหน้ ักเรยี น
ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 8

ขั้นสรุป
5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้รว่ มกัน ดงั น้ี
- เมตรเปน็ หนว่ ยมาตรฐานทใ่ี ชบ้ อกความยาว ใช้อกั ษรยอ่ วา่ ม.
- ความยาว 1 เมตร เท่ากบั ความยาว 100 เซนติเมตร

สอ่ื การเรียนรู้
1. ไมบ้ รรทดั
2. ไม้เมตร หรอื แถบกระดาษยาว 1 เมตร
3. แปรงลบกระดาน
4. กระดานดา
5. ใบงานที่ 8 การวัดความยาวเป็นเมตร

การวัดผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ที่ต้องการวดั วิธีวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานท่ี 8 ใบงานท่ี 8 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป
2. ดา้ นทกั ษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้นึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์ สังเกตพฤติกรรมด้าน
คุณลกั ษณะทพ่ี ึง แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลกั ษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถอื วา่ ผา่ น

ท่พี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 8 การวัดความยาวเปน็ เมตร ความยาวที่วดั ได้ (เมตร)

คาช้ีแจง วดั ความยาวหรือความสงู ตามท่กี าหนด

ลาดบั สิง่ ของทีว่ ัด
1 ความยาวของกระดานดา
2 ความสูงของโตะ๊ นกั เรยี น
3 ความยาวของหอ้ งเรยี น
4 ความกวา้ งของประตู
5 ความสงู ของประตู
6 ความสงู ของชัน้ วางของในหอ้ งเรียน

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 49

รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 การวดั ความยาว เวลาเรยี น 11 ชัว่ โมง

เรื่อง การเปรยี บเทยี บความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เขา้ ใจพ้ืนฐานเกยี่ วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทต่ี ้องการ

วดั และนาไปใช้

ตวั ชี้วดั
ค 1.2 ป.1/1 : วัดและเปรียบเทียบความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและเมตร

สาระสาคัญ
การเปรียบเทยี บความยาวและความสงู ของสิ่งของสองสง่ิ ว่ายาวกว่าหรอื สน้ั กว่า สูงกวา่ หรือ

เต้ยี กว่า อยู่เทา่ ไรทาไดโ้ ดยนาความยาวในหน่วยเดยี วกันของสงิ่ ของสองสง่ิ นั้นมาลบกนั

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธกี ารเปรยี บเทยี บความยาวทม่ี หี นว่ ยเป็นเซนติเมตร เปน็ เมตรได้ (K)
2. เปรยี บเทยี บความยาวที่มีหน่วยเปน็ เซนตเิ มตร เปน็ เมตรได้ (P)
3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การเปรียบเทยี บความยาวท่มี หี น่วยเป็นเซนติเมตร เป็นเมตรไปใช้

แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
การเปรียบเทียบความยาวทมี่ หี น่วยเปน็ เซนตเิ มตร เปน็ เมตร

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ครทู บทวนการวดั ความยาวเป็นเมตร เป็นเซนติเมตร ดังน้ี
- ครตู ิดแถบกระดาษกาวยน่ ทมี่ คี วามยาวประมาณ 3 เมตรลงบนพื้น แล้วถามวา่

แถบกระดาษกาวยน่ นยี้ าวเท่าไร (นกั เรยี นอาจตอบไมไ่ ด้ ) จากน้นั ครสู มุ่ ตัวแทนนกั เรียน 2 คน
ออกมาชว่ ยกันวดั และบอกความยาวเปน็ เมตร (3 เมตร)

- ครแู จกไมไ้ อศกรมี ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 อนั แลว้ ถามว่ า ไม้ไอศกรมี ยาวเท่าไร
จากนั้นให้นกั เรียนวัดและบอกความยาว (15 เซนติเมตร)

ขนั้ สอน
2. ครตู ิดบตั รภาพแสดงความยาวของส้อมและพูก่ นั บนกระดาน ดังนี้

ให้นกั เรียนตอบคาถาม ดังนี้
- พกู่ นั ยาวกเ่ี ซนติเมตร (14 เซนติเมตร)
- ส้อมจ้มิ ผลไม้ยาวก่เี ซนติเมตร (8 เซนตเิ มตร)
- พกู่ นั ยาวกว่าหรือสัน้ กว่าสอ้ มจม้ิ ผลไม้ (ยาวกวา่ ) ยาวกวา่ กีเ่ ซนติเมตร (พู่กนั
ยาวกว่าสอ้ มจ้ิมผลไม้ 14 – 8 = 6 เซนติเมตร)
3. ครตู ดิ บตั รภาพแสดงความยาวของปากกา ดินสอ กรรไกร และแปรงลบกระดาน
ดังน้ี

ให้นักเรียนตอบคาถาม ดงั นี้
- ดนิ สอยาวกเ่ี ซนติเมตร (14 เซนติเมตร)
- แปรงลบกระดานยาวก่เี ซนติเมตร (9 เซนติเมตร)
- ปากกากบั กรรไกรยาวเทา่ กันยาวกี่เซนตเิ มตร (12 เซนตเิ มตร)
- กรรไกรยาวกว่าหรอื สั้นกวา่ แปรงลบกระดาน (ยาวกวา่ ) ยาวกวา่ อยู่กี่เซนตเิ มตร
(3 เซนตเิ มตร) คิดอยา่ งไร (12 – 9 = 3 เซนตเิ มตร)

- แปรงลบกระดานยาวกว่าหรือสั้นกว่าดนิ สอ (สนั้ กวา่ ) ส้นั กวา่ อย่กู ่เี ซนติเมตร (5
เซนติเมตร) คิดอย่างไร (14 – 9 = 5 เซนติเมตร)

- ดนิ สอยาวกวา่ หรอื ส้ันกวา่ ปากกา (ยาวกว่า ) ยาวกวา่ อยกู่ ่เี ซนตเิ มตร (2
เซนติเมตร) คิดอยา่ งไร (14 – 12 = 2 เซนตเิ มตร)

4. ครตู ดิ บัตรภาพแสดงความสูงของอาคาร 4 อาคาร ไดแ้ ก่ อาคาร A อาคาร B อาคาร
C บนกระดานดังน้ี

ครูใช้การถามตอบ ดงั น้ี
- อาคาร A สงู กเ่ี มตร (12 เมตร)
- อาคาร B สงู กเ่ี มตร (16 เมตร)
- อาคาร C สูงกเี่ มตร (20 เมตร)
- อาคาร B สูงกวา่ หรือเตย้ี กว่าอาคาร A (สงู กว่า) สงู กว่าอยกู่ ี่เมตร (4 เมตร) คดิ
อยา่ งไร (16 – 12 = 4 เมตร)
- อาคาร A สูงกวา่ หรอื เตี้ยกวา่ อาคาร C (เต้ียกว่า) เตีย้ กวา่ อยู่ก่ีเมตร (8 เมตร)
คิดอย่างไร (20 – 12 = 8 เมตร)
- อาคาร C สงู กว่าหรือเตี้ยกว่าอาคาร B (สงู กว่า) สงู กวา่ อยู่กเ่ี มตร (4 เมตร) คดิ
อย่างไร (20 – 16 = 4 เมตร)
5. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานที่ 9 การเปรียบเทียบความยาวท่ีมหี น่วยเปน็ เซนตเิ มตร เปน็
เมตร เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลย
กจิ กรรมในใบงานที่ 9
ขนั้ สรุป
6. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี การเปรียบเทยี บความยาว
และความสูงของสิง่ ของสองสิ่งวา่ ยาวกวา่ หรอื ส้นั กว่า สงู กว่า หรือเต้ยี กวา่ อยเู่ ท่าไรทาได้โดยนาความ
ยาวในหนว่ ยเดียวกนั ของสองสงิ่ น้นั มาลบกัน

สอ่ื การเรียนรู้
1. แถบกระดาษกาวย่น
2. ไมไ้ อศกรีม
3. บัตรภาพ
4. ใบงานที่ 9 การเปรียบเทียบความยาวทม่ี ีหนว่ ยเปน็ เซนติเมตร เป็นเมตร

การวดั ผลและประเมินผล

สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ วี ัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานที่ 9 ใบงานท่ี 9 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ นึ้ ไป
ที่พงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลกั ษณะทพ่ี งึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น

ทพี่ ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 9 การเปรยี บเทียบความยาวที่มีหน่วยเปน็ เซนติเมตร
เป็นเมตร

คาชีแ้ จง เตมิ คาตอบ

กระดานดายาว 3 เมตร
โต๊ะนักเรียนสูง 1 เมตร
ห้องเรียนยาว 5 เมตร
ตหู้ นังสอื สูง 2 เมตร
ปากกายาว 10 เซนตเิ มตร
ดินสอยาว 12 เซนติเมตร
หนงั สอื ยาว 15 เซนติเมตร

1. ตู้หนังสือสงู กวา่ โต๊ะนกั เรยี นกเี่ มตร

2. กระดานดาสน้ั กว่าหอ้ งเรยี นก่ีเมตร

3. หนังสือยาวกวา่ ดินสอกเี่ ซนติเมตร

4. ปากกาสน้ั กวา่ ดนิ สอกเี่ ซนติเมตร

5. ปากกาส้ันกวา่ หนงั สือกเ่ี ซนตเิ มตร

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 50

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 การวดั ความยาว เวลาเรยี น 11 ชว่ั โมง

เรอื่ ง การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจพืน้ ฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ทตี่ อ้ งการ

วัด และนาไปใช้

ตวั ชว้ี ัด
ค 1.2 ป.1/1 : วดั และเปรียบเทยี บความยาวเป็นเซนติเมตรและเมตร

สาระสาคญั
การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดย อ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนวธิ ีคดิ ซ่งึ อาจใช้การวาดภาพ

หาคาตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายขน้ั ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบได้ (K)
2. สามารถแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบได้ (P)
3. นาความรเู้ ก่ียวกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบไปใชแ้ ก้ปัญหาทาง

คณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน
1. ครทู บทวนการเปรยี บเทยี บความยาวเปน็ เมตร โดยติดบัตรภาพบนกระดาน แล้วใช้

การถามตอบ ดงั น้ี

- เชือกยาวกว่าไม้ไผอ่ ยเู่ ท่าไร (1 เมตร)
- เชอื กยาวกวา่ ริบบิน้ อยู่เทา่ ไร (2 เมตร)
- ไม้ไผ่ยาวกวา่ รบิ บ้นิ อยู่เทา่ ไร (1 เมตร)
2. ครทู บทวนการเปรยี บเทยี บความสงู เปน็ เซนตเิ มตร โดยตดิ บัตรภาพบนกระดาน
แล้วใชก้ ารถามตอบ ดงั น้ี

- ส่งิ ใดสงู ทส่ี ุด (กระติกนา้ ) ส่ิงใดเต้ียท่ีสดุ (แกว้ นา้ )
- กระติกนา้ สูงกวา่ แกว้ นา้ อยู่เทา่ ไร (13 เซนติเมตร)
- กระติกน้าสูงกวา่ ขวดน้าอยเู่ ท่าไร (5 เซนติเมตร)
- ขวดนา้ สูงกวา่ แก้วนา้ อยเู่ ท่าไร (8 เซนตเิ มตร)
ขัน้ สอน
3. ครูเขยี นโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ความยาวเป็นเซนตเิ มตรบนกระดาน ดงั นี้
แกว้ ตานาก่ิงหมอ่ นไปปกั ชาในดิน ส่วนทปี่ ั กลงดนิ ลึก 8 เซนตเิ มตร สว่ นทีโ่ ผลพ่ น้
ดนิ ข้นึ มา 12 เซนติเมตร ก่งิ หม่อนนยี้ าวกีเ่ ซนติเมตร
ใหน้ กั เรยี นอ่านโจทย์พร้อมกันแล้วช่วยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ โดยครูถามคาถามดังน้ี
- โจทย์ถามอะไร (กงิ่ หม่อนยาวกีเ่ ซนตเิ มตร)
- โจทยบ์ อกอะไรบ้าง (แกว้ ตานากง่ิ หมอ่ นไปปักชาในดนิ ส่วนทป่ี ักลงดินลกึ 8
เซนติเมตร ส่วนท่โี ผลพ่ ้นดินขึน้ มา 12 เซนติเมตร)

ครูตดิ บัตรภาพประกอบ ดังน้ี

- หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (12 + 8) ครูเขียนประโยคสัญลักษณบ์ นกระดาน (12 + 8
= )

- กง่ิ หมอ่ นยาวกเี่ ซนติเมตร (20 เซนติเมตร) ครเู ขียน 12 + 8 = 20 บนกระดาน
4. ครเู ขียนโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ความยาวเปน็ เซนตเิ มตรบนกระดาน ดังนี้

พู่กนั สีแดงยาว 15 เซนตเิ มตร และยาวกว่าพู่กันสเี ขียว 4 เซนตเิ มตร พู่กันสเี ขยี ว
ยาวก่ีเซนติเมตร

เซนตเิ มตร) ให้นักเรยี นอา่ นโจทยพ์ รอ้ มกนั แลว้ ช่วยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ โดยครูถามคาถามดงั นี้
- โจทยถ์ ามอะไร (พกู่ นั สเี ขียวยาวกีเ่ ซนตเิ มตร)
- โจทยบ์ อกอะไรบา้ ง (พกู่ ันสีแดงยาว 15 เซนตเิ มตร และยาวกว่าพู่กนั สีเขียว 4

ครูตดิ บตั รภาพประกอบ ดงั นี้

- หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (15 – 4) ครูเขยี นประโยคสัญลกั ษณบ์ นกระดาน (15 – 4
= )

- พกู่ ันสเี ขียวยาวกีเ่ ซนติเมตร (11 เซนติเมตร) ครเู ขยี น 15 – 4 = 11 บน
กระดาน

5. ครใู ห้นกั เรียนทา ใบงานที่ 10 การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ
เมอ่ื เสร็จแล้วให้นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรม
ในใบงานที่ 10

ขั้นสรุป
6. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ การแก้โจทยป์ ญั หาทาไดโ้ ดย

อา่ นทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หาซงึ่ อาจใชก้ ารวาดภาพ หาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ

สอ่ื การเรียนรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานที่ 10 การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ท่ีต้องการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 10 ใบงานท่ี 10 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
ท่พี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี ึง
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2

ดา้ นคณุ ลักษณะ ทุกรายการขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ น

ทพี่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 10 การแก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ

คาช้แี จง หาคาตอบ
1. แป้งป่นั จักรยานจากบ้านไปตลาด 45 เมตร และปน่ั จากตลาดถงึ โรงเรยี นอีก

35 เมตร ระยะทางจากบ้านผ่านถงึ โรงเรยี นกี่เมตร

2. โตะ๊ สงู 35 เซนติเมตร ตู้สูงกวา่ โตะ๊ 65 เซนตเิ มตร ตู้สงู ก่ีเซนติเมตร

3. กระถางใบใหญ่สงู 33 เซนตเิ มตร กระถางใบเล็กเตีย้ กว่ากระถางใบใหญ่ 28
เซนติเมตร กระถางใบเลก็ จะสงู เทา่ ไร

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 51

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 การวดั ความยาว เวลาเรยี น 11 ช่ัวโมง

เรอื่ ง การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจพืน้ ฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่ งท่ตี ้องการ

วัด และนาไปใช้

ตวั ชว้ี ัด
ค 1.2 ป.1/1 : วดั และเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและเมตร

สาระสาคญั
การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดย อ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนวธิ คี ิดซึง่ อาจใชก้ ารวาดภาพ

หาคาตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายขน้ั ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบได้ (K)
2. สามารถแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบได้ (P)
3. นาความรเู้ กีย่ วกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบไปใชแ้ กป้ ัญหาทาง

คณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ โดยครูเขยี นโจทย์
ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครทู บทวนการแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ

ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวเปน็ เซนติเมตรบนกระดานดังนี้

แก้วน้าสูง 11 เซนติเมตร ขวดน้าสงู กวา่ แก้วนา้ 7 เซนตเิ มตร ขวดน้าสงู
กี่เซนติเมตร

เซนติเมตร) ใหน้ ักเรียนอ่านโจทยพ์ รอ้ มกนั แลว้ ชว่ ยกันวิเคราะห์โจทย์ โดยครูถามคาถามดังน้ี
- โจทย์ถามอะไร (ขวดน้าสงู ก่เี ซนติเมตร)
- โจทย์บอกอะไรบ้าง (แกว้ นา้ สงู 11 เซนตเิ มตร ขวดน้าสงู กวา่ แก้วนา้ 7

ครตู ิดบัตรภาพประกอบ ดงั น้ี

- หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (11 + 7) ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณบ์ นกระดาน (11 + 7
= )

- ขวดน้าสูงก่ีเซนตเิ มตร (18 เซนตเิ มตร) ครเู ขยี น 11 + 7 = 18 บนกระดาน
ขนั้ สอน

2. ครูเขียนโจทย์ปญั หาเก่ียวกับความยาวเป็นเซนติเมตรบนกระดาน ดงั นี้

แกว้ ตาตอ้ งการรอ้ ยสรอ้ ยลูกปัดยาว 16 เซนติเมตร รอ้ ยไปแลว้ 7 เซนตเิ มตร ตอ้ ง
รใอ้หย้นสักรเร้อียยนลอกู ่าปนัดโอจีกทกย่เี ์พซนรอ้ตมเิ มกตันรแล้วช่วยกนั วเิ คราะหโ์ จทย์ โดยครูถามคาถามดังน้ี
- โจทย์ถามอะไร (แก้วตาตอ้ งร้อยสรอ้ ยลกู ปัดอีกกเี่ ซนตเิ มตร)
- โจทย์บอกอะไรบ้าง (แกว้ ตาต้องการร้อยสรอ้ ยลกู ปัดยาว 16 เซนตเิ มตร รอ้ ยไป
แลว้ 7 เซนตเิ มตร)
ครตู ิดบัตรภาพประกอบ ดังน้ี

- แกว้ ตาตอ้ งรอ้ ยสรอ้ ยลกู ปดั ควรมากกว่าหรอื น้อยกวา่ 10 เพราะเหตุใด (ควร
นอ้ ยกว่า 10 เพราะ 10 กับ 7 เป็น 17)

- หาคาตอบได้อย่างไร (16 - 7) ครเู ขยี นประโยคสญั ลกั ษณบ์ นกระดาน (16 – 7
= ) ถ้านักเรยี นตอบเปน็ อยา่ งอืน่ เชน่ หาจานวนท่ีรวมกบั 7 แลว้ ได้ 16 ครเู ขยี นประโยค
สญั ลักษณบ์ นกระดาน 7 +  = 16 ครอู าจถามตอ่ ว่าจะหาคาตอบของประโยคสัญลักษณน์ ไี้ ด้
อยา่ งไร (ใช้ความสัมพนั ธก์ ารบวกและการลบ) ครเู ขยี นบนกระดาน

- แกว้ ตาต้องรอ้ ยสรอ้ ยลูกปัดอีกกีเ่ ซนติเมตรจึงจะ ได้สร้อยลกู ปัดยาว 16
เซนตเิ มตร (9 เซนตเิ มตร)

ครเู ขียน 16 – 7 = 9 บนกระดาน ถ้านกั เรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ 7 +  =
16 ครเู ขยี นแสดงการหาคาตอบดังนี้

ประโยคสญั ลักษณ์ 7 +  = 16
ใช้ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ
จาก 7 + 9 = 16
ดังนั้น แกว้ ตาตอ้ งรอ้ ยสรอ้ ยลกู ปัดอีก 9 เซนตเิ มตร จะทาให้สรอ้ ยลูกปัดยาว 16
เซนตเิ มตร
3. ครูเขียนโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวเปน็ เมตรบนกระดาน ดงั นี้

ช่างตดั เส้ือมีผา้ ผืนหนงึ่ ใช้ตัดเสอื้ ไป 7 เมตร แล้วเหลือผา้ อีก 8 เมตร เดมิ ช่างตดั
เสอ้ื มผี า้ กี่เมตร

อีก 8 เมตร) ใหน้ กั เรียนอ่านโจทย์พรอ้ มกันแลว้ ช่วยกันวิเคราะหโ์ จทย์ โดยครูถามคาถามดงั น้ี
- โจทยถ์ ามอะไร (เดิมช่างตดั เสอ้ื มีผา้ กเ่ี มตร)
- โจทย์บอกอะไรบา้ ง (ช่างตดั เสื้อมีผา้ ผนื หน่งึ ใชต้ ัดเสอ้ื ไป 7 เมตร แลว้ เหลือผ้า

ครูตดิ บัตรภาพประกอบ ดงั น้ี

- หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (8 + 7) ครเู ขียนประโยคสัญลักษณบ์ นกระดาน 8 + 7 =
 ถา้ นักเรยี นตอบเปน็ อย่างอน่ื เชน่ หาจานวนใดท่ีนาออกไป 7 แล้วเหลอื 15 ครเู ขียนประโยค

สัญลักษณ์บนกระดาน  - 7 = 8 ครูอาจถามตอ่ ว่าจะหาคาตอบของประโยคสญั ลกั ษณ์นไี้ ดอ้ ยา่ งไร
(ใช้ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ) ครเู ขียนบนกระดาน

- เดมิ ชา่ งตัดเส้อื มีผา้ กเ่ี มตร (15 เมตร) ครูเขยี น 8 + 7 = 15 บนกระดาน
ถา้ นกั เรียนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์  - 7 = 15 ครเู ขยี นแสดงการหาคาตอบ ดังนี้

ประโยคสัญลักษณ์  - 7 = 15
ใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ
จาก 8 + 7 = 15
ดังน้ัน เดิมชา่ งตัดเส้ือมผี ้า 15 เมตร
4. ครูใหน้ กั เรยี นทา ใบงานที่ 11 การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ
เม่อื เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรม
ในใบงานท่ี 11
ข้ันสรปุ
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรูร้ ่วมกนั ดังน้ี การแก้โจทยป์ ัญหาทาได้โดย
อ่านทาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ

สอ่ื การเรียนรู้
ใบงานท่ี 11 การแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ที่ตอ้ งการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานที่ 11 ใบงานที่ 11 ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดับ
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ท่พี งึ ประสงค์ สังเกตพฤติกรรมด้าน
คณุ ลักษณะทีพ่ งึ แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลักษณะ ทุกรายการข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 11 การแก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ

คาชี้แจง หาคาตอบ
1. มีเชือกเส้นหน่ึงตัดไปใช้ 33 เมตร เหลือเชือก 18 เมตร เดิมเชือกเส้นน้ียาว

เทา่ ไร

2. จุ๋มจม๋ิ มผี ้าอยเู่ ท่าไร ถา้ ใช้ตัดผ้ามา่ นไป 85 เมตร แลว้ ยังเหลอื ผา้ อกี 15 เมตร

3. ปีท่ีแลว้ บอลสงู เทา่ ไร ถา้ ปีนบ้ี อลสูงเพ่ิมขนึ้ อีก 3 เซนติเมตร ทาให้ปนี ี้บอลสูง
78 เซนติเมตร

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 52

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 การบวกท่ผี ลบวกไม่เกิน 100 เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมง

เร่ือง ทบทวนการบวกท่ผี ลบวกไม่เกิน 20 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตวั ชีว้ ัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยค
สัญลักษณ์แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
การบวกจานวนสองจานวนสามารถหาผลบวกไดโ้ ดยใชก้ ารนับตอ่ การทาให้ครบสบิ การบวก

จานวนสองจานวนทใี่ กลเ้ คียงกนั หรืออาจใชเ้ ส้นจานวนในการหาผลบวก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายการหาผลบวกของจานวนสองจานวนทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 20 ได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองจานวนที่ผลบวกไมเ่ กนิ 20 ได้ (P)
3. นาความรู้เกีย่ วกบั การบวกท่ผี ลบวกไมเ่ กนิ 20 ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
ทบทวนการบวกที่ผลบวกไมเ่ กนิ 20

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครสู นทนากับนักเรยี น วา่ “ในตะกรา้ มลี ูกบอลสฟี า้ 7 ลกู มลี ูกบอลสชี มพู 3 ลูก”

ครถู ามนักเรียนว่าในตะกรา้ มลี ูกบอลมากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ 7 ลูก (มากกว่า) เพราะเหตใุ ด (เพราะใน
ตะกรา้ มีลูกบอลสีฟ้า 7 ลูกแลว้ และยงั มีลกู บอลสีชมพอู กี 3 ลูก จงึ ทาใหใ้ นตะกรา้ ควรมลี กู บอล
มากกวา่ 7 ลกู ) มลี ูกบอลในตะกร้าท้งั หมดกล่ี ูก (10 ลกู ) นักเรียนหาคาตอบอย่า งไร (นา 7 รวมกับ
3)

ขั้นสอน
2. ครูเขียนโจทยบ์ นกระดาน ดงั น้ี “แม่ไปตลาดซอ้ื แอปเปิลฝากคณุ ยาย 12 ผล และซ้ือ

ใหน้ อ้ ง 4 ผล แม่ตอ้ งซ้ือแอปเปิลทง้ั หมดก่ีผล” ครูตดิ บัตรภาพรูปแอปเปิลบนกระดาน

แม่ไปตลาดซือ้ แอปเปิลฝากคณุ ยาย 12 ผล ซอ้ื ใหน้ อ้ ง 4 ผล

ใหน้ ักเรียนร่วมกนั บอกประโยคสัญลกั ษณ์การบวกจากสถานการณ์ จากนน้ั ครูเขียน
ประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก 12 + 4 =  บนกระดาน แล้วถามนกั เรยี นวา่ นักเรยี นมีวธิ ีการหา
ผลบวกได้อย่างไร ซึ่งอาจจะได้วา่

12 + 4 = 
วธิ ีท่ี 1 ใชก้ ารนบั ตอ่ โดยนับตอ่ จาก 12 ทลี ะ 1 ไป 4 ครั้งจะได้ 13 14 15 16

ดังนน้ั 12 + 4 = 16
วธิ ีที่ 2 ใชเ้ สน้ จานวน

จากสถานการณ์ท่กี าหนดให้ ครถู ามนกั เรยี นวา่ เราควรดาเนนิ การเร่ิมต้น
การบวกจากจานวนใด (12) เพราะเหตุใด (เป็นจานวนทีม่ ากกว่า ทาใหห้ าผลบวกได้ง่ายกว่า ) จากนน้ั
ครูสาธติ การเขียนเส้นจานวนโดยเขยี นเสน้ โค้งจาก 0 ไปท่ี 12

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

แลว้ เขียนเส้นต่อจาก 12 ไปอกี 4 จะไดอ้ ะไร (13 14 15 16) ครูดาเนินการนับเพ่ิม
ไปพรอ้ มนกั เรยี นและสาธติ การเขยี นเส้นจานวนดงั ตอ่ ไปนี้

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

เร่มิ จาก 0 ไป 12 แลว้ นบั ตอ่ จาก 12 ไปอกี 4 จะได้ 16
ดงั นั้น แม่ต้องซือ้ แอปเปลิ ท้ังหมด 16 ผล
3. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 1 ทบทวนการบวกทผ่ี ลบวกไมเ่ กนิ 20 เมื่อเสร็จแล้วให้
นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1
ขั้นสรปุ
4. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ การบวกจานวนสองจานวน
สามารถหาผลบวกได้โดยใชก้ ารนับตอ่ การทาใหค้ รบสิบ การบวกจานวนสองจานวนท่ีใกล้เคียงกนั
หรืออาจใชเ้ สน้ จานวนในการหาผลบวก

สอ่ื การเรียนรู้
1. บัตรภาพรูปแอปเปิล
2. เสน้ จานวน
3. ใบงานท่ี 1 ทบทวนการบวกทผี่ ลบวกไมเ่ กนิ 20

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สิ่งท่ีตอ้ งการวัด วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 1 ใบงานที่ 1 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
ท่ีพงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทกุ รายการข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น

ที่พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 1 ทบทวนการบวกทผ่ี ลบวกไม่เกิน 20

คาชแ้ี จง เขียนประโยคสญั ลักษณ์และเตมิ คาตอบตอ่ ไปนี้

1. แมม่ ฝี รั่ง 4 ผล มีมังคดุ 9 ผล แม่มีฝร่ังและมังคดุ ทัง้ หมดก่ผี ล
ประโยคสัญลกั ษณ์
ตอบ

2. จุ๋มตอ้ งการซอ้ื กลว้ ย 8 หวี ดาวฝากจมุ๋ ซือ้ กล้วยเพมิ่ อกี 6 หวี จ๋มุ ตอ้ งซ้อื
กล้วยทั้งหมดก่ีหวี

ประโยคสัญลักษณ์
ตอบ

3. ผลไม้ถาดแรกมีส้ม 13 ผล ผลไมถ้ าดทสี่ องมสี ม้ 3 ผล ผลไมส้ องถาดมีสม้
รวมกันกี่ผล

ประโยคสญั ลกั ษณ์
ตอบ

4. วนั แรกก้อยเกบ็ ชมพไู่ ด้ 8 ผล วนั ทสี่ องก้อยเกบ็ ชมพูไ่ ด้ 6 ผล วนั ทสี่ ามกอ้ ย
เกบ็ ชมพู่ได้อีก 2 ผล รวมทงั้ สามวัน ก้อยเก็บชมพไู่ ดก้ ีผ่ ล

ประโยคสญั ลักษณ์
ตอบ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 53

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 การบวกทผี่ ลบวกไม่เกิน 100 เวลาเรียน 10 ชัว่ โมง

เร่อื ง การบวกจานวนสองหลักกับหนงึ่ หลักที่ผลบวกไม่เกิน 100 ไมม่ ีการทด เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวนั ที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0

สาระสาคญั
การหาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนหนง่ึ หลกั อาจใช้การนบั ต่อ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการหาผลบวกของจานวนสองหลกั กับจานวนหนง่ึ หลักทีผ่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไม่มี

การทดได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองหลกั กับจานวนหนงึ่ หลกั ทีผ่ ลบวกไม่เกิน 100 ไม่มีการทดได้

(P)
3. นาความรเู้ กยี่ วกบั การบวกจานวนสองหลกั กบั หนง่ึ หลักท่ผี ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ กี ารทด

ไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบวกจานวนสองหลักกบั หน่ึงหลกั ท่ีผลบวกไม่เกนิ 100 ไมม่ ีการทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยใช้คาถามกระตุ้นความสนใจ ดงั น้ี การหา

ผลบวกโดยการกระจายจานวนสองหลักแลว้ หาผลบวก มขี ้อควรระวงั อะไรบา้ งเพ่อื ไม่ใหห้ าผลบวกผิด
2. นกั เรยี นทบทวน เรอื่ ง การบวกจานวนสองจานวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 20 โดยตวั แทน

นักเรยี น 3 คน ให้แตล่ ะคนแสดงวธิ ีการบวกในแนวตั้งและหาคาตอบ นักเรียนและครูรว่ มกัน
ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ และทบทวนความหมายของการบวก

7+5= 3+9= 8+4=

ขั้นสอน
3. ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณ์ 50 + 7 =  ครแู สดงการหาคาตอบโดยใชก้ ารนับตอ่

เพ่ือชว่ ยหาผลบวกโดยใช้แผน่ ตารางสบิ และตารางหน่วยชว่ ยอธบิ าย ดงั ตอ่ ไปน้ี

ใชก้ ารนับต่อโดยนับตอ่ จาก 50 ทลี ะ 1 ไป 7 ครง้ั
จะได้ 51 52 53 54 55 56 57
ดังน้นั 50 + 7 = 57
4. ครเู ขียน 22 + 5 =  บนกระดาน จากนัน้ ให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาหาผลบวก
ซ่ึงอาจใชว้ ธิ ีการนบั ต่อ ดังน้ี
นบั ต่อจาก 22 ทลี ะ 1 ไป 5 คร้ังจะได้ 22 23 24 25 26 27

จะได้ 22 + 5 = 27
5. ครูใหน้ กั เรียนทา ใบงานที่ 2 การบวกจานวนสองหลักกบั หน่ึงหลกั ทผี่ ลบวกไมเ่ กิน
100 ไมม่ ีการทด เมอ่ื เสร็จแลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนักเรียน
รว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2
ขน้ั สรปุ
6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี การหาผลบวกของจานวนสอง
หลกั กับจานวนหน่งึ หลัก อาจใช้การนับตอ่

สอ่ื การเรียนรู้
1. แผน่ ตารางสบิ และตารางหนว่ ย
2. ใบงานท่ี 2 การบวกจานวนสองหลักกับหนึ่งหลกั ท่ผี ลบวกไม่เกนิ 100 ไมม่ ีการทด

การวัดผลและประเมินผล

ส่ิงทต่ี ้องการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 2 ใบงานท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ ึน้ ไป
ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี งึ
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2

ด้านคณุ ลกั ษณะ ทุกรายการขนึ้ ไปถือว่าผา่ น

ท่ีพงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 2 การบวกจานวนสองหลกั กบั หนงึ่ หลักที่ผลบวกไมเ่ กิน
100 ไมม่ ีการทด

คาช้แี จง หาผลบวกต่อไปน้ี

25 + 4 =  ครั้ง จะได้
นับตอ่ จาก ทีละ 1 ไป
ดงั นนั้ 25 + 4 =

2 33 + 5 =  คร้ัง จะได้

นับต่อจาก ทลี ะ 1 ไป

ดงั นนั้ 33 + 5 =

3 62 + 7 =  ครัง้ จะได้

นบั ตอ่ จาก ทีละ 1 ไป
ดังนน้ั 62 + 7 =

4 20 + 9 =  ครั้ง จะได้

นบั ตอ่ จาก ทีละ 1 ไป
ดังนัน้ 20 + 9 =

5 41 + 2 =  ครั้ง จะได้

นบั ตอ่ จาก ทลี ะ 1 ไป
ดังนน้ั 41 + 2 =

6 50 + 4 =  คร้งั จะได้

นบั ต่อจาก ทีละ 1 ไป
ดังน้ัน 50 + 4 =

7 94 + 3 =  คร้ัง จะได้

นบั ต่อจาก ทลี ะ 1 ไป
ดังนั้น 94 + 3 =

8 63 + 5 =  คร้ัง จะได้

นบั ตอ่ จาก ทีละ 1 ไป
ดงั นั้น 63 + 5 =

9 42 + 5 =  ครั้ง จะได้

นบั ต่อจาก ทลี ะ 1 ไป
ดงั นน้ั 42 + 5 =

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 54

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 12 การบวกทีผ่ ลบวกไม่เกนิ 100 เวลาเรียน 10 ช่ัวโมง

เร่ือง การบวกจานวนสองหลักกับหน่ึงหลักท่ผี ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ีการทด เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และการนาไปใช้

ตัวชวี้ ัด
ค 1.1 ป.1/4 : หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการลบของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0

สาระสาคัญ
การหาผลบวกของจานวนสองหลักกับจานวนหน่งึ หลักอาจใชก้ ารนับต่อ หรอื ใชค้ วามสมั พันธ์

ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย - ส่วนรวม

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการหาผลบวกของจานวนสองหลักกบั จานวนหน่งึ หลกั ท่ีผลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ี

การทดได้ (K)
2. หาผลบวกของจานวนสองหลักกับจานว นหนึง่ หลักที่ผลบวกไมเ่ กิน 100 ไม่มกี ารทดได้

(P)
3. นาความรเู้ กี่ยวกับการบวกจานวนสองหลกั กับหน่งึ หลกั ที่ผลบวกไม่เกิน 100 ไม่มกี ารทด

ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบวกจานวนสองหลกั กบั หนง่ึ หลกั ทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ ีการทด

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น
1. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยใชค้ าถามกระต้นุ ความสนใจ ดังน้ี การหา

ผลบวกโดยการกระจายจานวนสองหลักแลว้ หาผลบวก มีข้อควรระวงั อะไรบ้างเพอ่ื ไม่ให้หาผลบวกผดิ
2. นกั เรยี นทบทวน เร่ือง การบวกจานวนสองจานวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 20 โดยตวั แทน

นกั เรียน 3 คน ให้แตล่ ะคนแสดงวธิ กี ารบวกในแนวตงั้ และหาคาตอบ นักเรียนและครูร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ และทบทวนความหมายของการบวก

7+5= 3+9= 8+4=

ขนั้ สอน
3. ครแู นะนาให้นกั เรียนใช้ความสมั พันธแ์ บบส่วนย่อย-สว่ นรวม เพอ่ื ชว่ ยหาผลบวกโดย

ใช้แผน่ ตารางสิบและตารางหน่วยช่วยอธิบาย ดงั นี้

32 + 7 = 

32 + 7
ขน้ั ที่ 1 2 + 7 = 9

30 2 ข้นั ที่ 2 30 + 9 = 39
ดงั น้ัน 32 + 7 = 39

7 + 32 = 

7 + 32

ขัน้ ที่ 1 7 + 2 = 9

30 2 ข้นั ท่ี 2 30 + 9 = 39

ดังน้นั 7 + 32 = 39

ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ 32 + 7 และ 7 + 32 ได้ผลบวก 39 เท่ากัน แสดงว่าจานวน

สองจานวนบวกกันเมือ่ สลับที่กนั ผลบวกยงั คงเท่าเดิม

4. ครูให้นกั เรยี นทา ใบงานท่ี 3 การบวกจานวนสองหลักกบั หนงึ่ หลักทีผ่ ลบวกไม่เกิน

100 ไมม่ ีการทด เมือ่ เสร็จแลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ครูและนักเรยี น

รว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3

ข้นั สรุป
5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่งิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั ดงั น้ี การหาผลบวกของจานวนสอง

หลกั กบั จานวนหนึง่ หลกั อาจใช้การนบั ตอ่ หรือใชค้ วามสัมพนั ธข์ องจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – ส่วนรวม

สอ่ื การเรยี นรู้
1. แผ่นตารางสิบและตารางหน่วย
2. ใบงานที่ 3 การบวกจานวนสองหลกั กบั หน่งึ หลักทผ่ี ลบวกไมเ่ กิน 100 ไมม่ กี ารทด

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่ิงทตี่ ้องการวดั วธิ วี ัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานที่ 3 ใบงานท่ี 3 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ
ด้านทักษะกระบวนการ พอใชข้ น้ึ ไป
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน
ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึง แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลกั ษณะ ทกุ รายการข้นึ ไปถอื วา่ ผ่าน

ท่ีพึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 3 การบวกจานวนสองหลกั กับหนึ่งหลกั ท่ีผลบวกไมเ่ กนิ
100 ไม่มกี ารทด

คาชี้แจง หาผลบวก

1 35 + 3 =  ขน้ั ท่ี 1
ขั้นท่ี 2
35 + 3 35 + 3 =

2 53 + 4 =  ขั้นท่ี 1
ขน้ั ที่ 2
53 + 4 53 + 4 =

3 46 + 2 =  ข้นั ที่ 1
ขัน้ ท่ี 2
46 + 2 46 + 2 =

4 33 + 2 =  ขั้นท่ี 1
ขนั้ ที่ 2
33 + 2 33 + 2 =

5 52 + 6 =  ขนั้ ท่ี 1
ขั้นที่ 2
52 + 6 52 + 6 =

6 37 + 2 =  ข้นั ท่ี 1
ขั้นท่ี 2
37 + 2 37 + 2 =

7 76 + 2 =  ข้ันที่ 1
ขั้นที่ 2
76 + 2 76 + 2 =


Click to View FlipBook Version