The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรียนบ้านตาบา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by btbbantaba2561, 2022-10-02 23:48:26

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรียนบ้านตาบา

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรียนบ้านตาบา

197

หน่วย ช่อื หน่วยกำร สมรรถนะหลัก ผลลัพธ์ ควำมคิดรวบยอด เวลำ
ที่ เรียนรู้ กำรเรยี นรู้

๖ ผูป้ ระกอบการ ๑. การจัดการตนเอง Lo๔-HE-๐๒ คานงึ ถงึ ค่าใช้จ่าย คุณภาพของ ๑๐
วสั ดุ และประโยชน์ของช้ินงานท่ี
๒. การคดิ ขั้นสูง Lo๔-HE-๐๓ จะนาไปใช้สิ่งสาคัญในการ
ประดิษฐ์วสั ดเุ หลอื ใช้ คือ การมี
๓. การสื่อสาร ทกั ษะการคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
เพราะจะทาให้งานประดษิ ฐ์มี
๔. การรวมพลังทางานเป็นทีม ความหลากหลาย เกดิ เอกลักษณ์
เปน็ ของตนเอง อกี ทง้ั ยังจะชว่ ย
๕. การเปน็ พลเมืองทีเ่ ข้มแข็ง ประหยัดค่าใช้จา่ ยและยงั ชว่ ยเพ่มิ
มูลค่าของวสั ดุเหลอื ใชอ้ ีกด้วย
๖. การอยรู่ วมกับธรรมชาติ อธิบายความหมายและ
ความสาคัญของอาชีพ โดยศึกษา
และวทิ ยาการอยา่ งย่ังยืน อาชพี ในท้องถิ่นตนเอง หรอื จาก
สื่อการเรียนรู้ สนทนาและ
แลกเปล่ยี นกบั เพอ่ื นหรือครู
อภปิ รายต่อยอดความสนใจของ
ตนเองไปสู่การสรา้ งรายได้ และมี
เจตคตทิ ดี่ ตี ่อการประกอบอาชพี
สุจรติ โดยประยุกตใ์ ชค้ วามรู้และ
ทกั ษะพืน้ ฐานของการเปน็
ผปู้ ระกอบการท่ีดตี ามหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
และใชท้ ักษะกระบวนการทางาน
อย่างเปน็ ขน้ั ตอน ประยุกต์ใช้
ความรใู้ นการวางแผนการทางาน
ท่ีคานึงถึงความปลอดภยั เป็นหลัก
ลงมอื ทาตามแผนโดยใช้
ทรพั ยากร พลงั งานและ
เทคโนโลยอี ย่างรคู้ ุณค่าและ
พอเพียง ตรวจสอบแก้ไขและ

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

198

หนว่ ย ช่อื หน่วยกำร สมรรถนะหลัก ผลลพั ธ์ ควำมคดิ รวบยอด เวลำ
ท่ี เรียนรู้ กำรเรยี นรู้
ปรับปรุงการทางานใหบ้ รรลุ
เป้าหมายที่วางไว้

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

199

การจัดโครงสร้างรายวชิ า

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชา อัล-กุรอานนาทาง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลารวม 40 ชม./ปี

หน่วย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะหลัก ผลลัพธ์ ความคดิ รวบยอด เวลา
ที่ การเรียนรู้

1 อลั -กรุ อานทฉ่ี นั รัก พฤติกรรมบง่ ชีอ้ งค์ประกอบ QA 1 อต 1/1 มุสลมิ จา้ เป็นต้องเรยี นรู้ถงึ 5

สมรรถนะหลกั ความหมาย ความเป็นมาของ

สมรรถนะการสอ่ื สาร สเู ราะฮฺ- อัล-ฟาตหิ ะฮฺ - อัล-อิ
1. การรบั สารอย่างมีสติและ คลาศ
ถอดรหสั เพ่ือให้เกดิ ความเข้าใจ

2 หลักการอา่ นท่ฉี นั สมรรถนะการสอื่ สาร QA 2 อต 1/2 มุสลมิ จ้าเป็นตอ้ งอา่ นอัล-กุรฺ 15

ต้องรู้ 1. การรบั สารอย่างมีสติและ อานด้วยหลกั การอา่ นท่ี
ถอดรหสั เพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจ ถูกต้อง มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ
หลกั ของการอา่ นอัล-กรุ อาน

3 มาจา้ สูเราะฮกฺ ันเถอะ สมรรถนะการจัดการตนเอง QA 3 อต 1/3 มุสลิมจ้าเปน็ ตอ้ งเรยี นอัล-กุ 10

1. การเห็นคุณคา่ ในตนเอง รอานและผ้ทู ี่ท่องจ้าอัล-กุ

รอานน้ันสามารถช่วยเหลอื
บิดา-มารดาในโลกหน้าได้

4 หลกั คา้ สอนของอลั -กุ สมรรถนะการจดั การตนเอง QA 3 อต 1/3 หลักการปฏิบตั ศิ าสนกจิ ท่ี 10

รอาน 2. การมีเปา้ หมายในชวี ติ ถูกต้องนนั้ มาจากอัลกรุ อาน

รวม 40

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

200

การจดั โครงสรา้ งรายวชิ า

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชา อัล-กรุ อานนาทาง ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลารวม 40 ชม./ปี

หน่วย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะหลัก ผลลัพธ์ ความคดิ รวบยอด เวลา
ที่ การเรยี นรู้

1 อัล-กรุ อานท่ฉี ันรกั พฤติกรรมบ่งช้ี QA 1 อต 4/1 มสุ ลิมจ้าเปน็ ตอ้ งเรียนร้ถู งึ 5
องค์ประกอบ
ความหมาย ความเปน็ มาของสู

สมรรถนะหลกั เราะฮ-ฺ อลั -เกาซัร อลั -มาอูน
สมรรถนะการส่ือสาร กูรอยซฺ อลั -ฟลี
3. การเลอื กใช้กลวิธกี าร

ส่ือสารอย่างเหมาะสมโดย
ค้านงึ ถงึ ความรับผิดชอบ
ตอ่ สงั คมเพ่ือบรรลุ

วตั ถุประสงคใ์ นการสอ่ื สาร

2 หลักการอ่านทฉ่ี ัน สมรรถนะการสื่อสาร QA 2 อต 4/2 มสุ ลมิ จ้าเปน็ ต้องอ่านอลั -กุรฺ 15

ตอ้ งรู้ 3. การเลือกใช้กลวธิ ีการ อานด้วยหลักการอา่ นที่ถูกต้อง

สอ่ื สารอยา่ งเหมาะสมโดย มีความรู้ ความเข้าใจหลกั ของ

คา้ นงึ ถึงความรับผดิ ชอบ การอ่านอลั -กรุ อาน
ตอ่ สงั คมเพื่อบรรลุ
วัตถปุ ระสงคใ์ นการสอื่ สาร

3 มาจา้ สเู ราะฮฺกันเถอะ สมรรถนะการจัดการ QA 3 อต 4/3 มุสลมิ จา้ เปน็ ตอ้ งเรียนอัล-กุ 10
ตนเอง รอานและผู้ท่ีทอ่ งจา้ อลั -กรุ อาน

3. การจดั การอารมณ์และ นั้นสามารถช่วยเหลือบดิ า-
ความเครียด มารดาในโลกหนา้ ได้

4 หลกั คา้ สอนของอลั -กุ สมรรถนะการจดั การ QA 3 อต 4/3 หลกั ค้าสอนที่ถูกต้องนน้ั ต้องมา 10

รอาน ตนเอง จาก อลั กรุ อาน

3. การจดั การอารมณแ์ ละ

ความเครยี ด

รวม 40

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

201

หน่วยการเรียนรู้
วชิ าหลกั การแห่งชีวติ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ จานวนเวลา 40 ชัว่ โมง

หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วยกำรเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง หมำยเหตุ
1 มาร้จู ักอลั ลอฮฺและมาลาอิกตั กันเกอะ 6
2 พระนามของอัลลอฮฺผยู้ ิ่งใหญ่ 6
3 มารูจ้ กั หลกั อสิ ลามทงั้ 5ประการ 5
4 มาเรียนร้นู า้ สะอาด และวิธกี ารชาระนาญสิ 6
5 มาเรยี นรู้วิธีการอาบนา้ วูฎุอฺ การละหมาดฟรั ฎู 6
6 มาสลามกนั เถอะ 5
7 รกั สะอาด 3
8 มุสลิมทด่ี ี 3
๔๐
รวม

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

202

การจดั โครงสรา้ งรายวชิ า

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชา หลักการแหง่ ชวี ิต ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลารวม 40 ชม./ปี

หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะหลัก ผลลัพธ์ ความคดิ รวบยอด เวลา
ที่ การเรียนรู้ 6

1 มารจู้ ักอลั ลอฮฺและ พฤติกรรมบ่งช้ี KFD 1 อต 1/3 มสุ ลิมจา้ เปน็ ตอ้ งเรียนรู้ 6
มาลาอิกัตกันเกอะ องคป์ ระกอบ ศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺและ
5
สมรรถนะหลัก มาลากัต 6
สมรรถนะการสื่อสาร 6
1. การรับสารอย่างมสี ติ 5
3
และถอดรหสั เพ่ือใหเ้ กิด

ความเข้าใจ

2 พระนามของอลั ลอฮฺ สมรรถนะการส่อื สาร KFD 1 อต 1/2 มุสลมิ จ้าเป็นตอ้ งเรยี นรู้การ

ผยู้ ิง่ ใหญ่ 1. การรบั สารอย่างมีสติ เรยี นรูค้ วามหมายพระนาม

และถอดรหสั เพ่ือให้เกดิ ของอลั ลอฮฺล้าดบั ท่ี 1-10
ความเขา้ ใจ เพอื่ น้าไปสู่การศรัทธา
ต่ออัลลอฮฺและการปฏบิ ัตติ น

เป็นผศู้ รัทธาต่ออัลลอฮ

3 มาร้จู กั หลักอิสลาม สมรรถนะการจดั การ KFD 2อต 1/1 มสุ ลมิ จ้าเปน็ ต้องเรยี นรู้

ท้ัง5ประการ ตนเอง หลักการอิสลามเป็น
1. การเหน็ คุณค่าใน ขอ้ ก้าหนดทมี่ สุ ลิมทุกคน
ตนเอง ตอ้ งปฏิบตั ิ

4 มาเรียนรนู้ า้ สะอาด สมรรถนะการจัดการ KFD 2อต 1/2 มุสลมิ จ้าเป็นต้องเรียนรู้การ

และวิธีการช้าระ ตนเอง ชา้ ล้างนะญสิ

นาญิส 2. การมเี ป้าหมายใน ตอ้ งใชน้ ้าท่ีสะอาดตามศาสน
ชวี ิต บัญญตั ิ

5 มาเรยี นรวู้ ธิ ีการ สมรรถนะการสือ่ สาร KFD 2อต 1/3 มุสลิมจา้ เปน็ ตอ้ งเรียนรู้การ
อาบนา้ วฎู อุ ฺ การ สมรรถนะการจัดการ อาบน้าวฏุ อและการ
ละหมาดฟรั ฎู ตนเอง ละหมาดเป็นหลกั การ

อสิ ลามทต่ี ้องปฏบิ ตั ิ

6 มาสลามกนั เถอะ สมรรถนะการส่ือสาร KFD 3อ ต 1/1 มุสลมิ จ้าเป็นต้องเรียนร้กู าร

อต 1/2 กลา่ วและการตอบรบั สลาม
เปน็ มารยาทของการทักทาย

ในอิสลาม

7 รักสะอาด สมรรถนะการจัดการ KFD 3 อ ต มุสลิมจา้ เป็นตอ้ งเรยี นรู้การ

ตนเอง 1/1 อต 1/2 รักษาความสะอาด เปน็ สว่ น
หนง่ึ ของการศรัทธา

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

203

หน่วย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะหลัก ผลลพั ธ์ ความคิดรวบยอด เวลา
3
ท่ี การเรยี นรู้
40
8 มุสลิมทดี่ ี สมรรถนะการจดั การ KFD 3อ ต มสุ ลิมทด่ี ตี อ้ งมีมารยาทใน

ตนเอง 1/1 อต 1/2 การรับประทานอาหารตาม

แบบอย่างซนุ นะฮขฺ องท่านน

บี

รวม

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

204

หน่วยการเรยี นรู้

วชิ าหลักการแห่งชีวิต ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวนเวลา 40 ชัว่ โมง

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง หมำยเหตุ

1 มารู้จกั อลั ลอฮฺและมาลาอิกตั กนั เถอะ 3

2 มารจู้ กั อซั -ซฟิ าตของอัลลอฮฺกันเถอะ 3

3 มาเรยี นรคู้ วามแตกต่างระหวา่ งนบกี บั รอสลู 3

4 มอุ ญฺ ิซาต 2

5 อุลลุ อัซมีย์ 2

6 อัลอิสลาม 3

7 อัฏ-ฏอฮาเราะฮ์ 4

8 อศั -เศาะลาฮฺ 3

9 มาละหมาดกนั เถอะ 3

10 ละหมาดสนู ตั รอวาติบกนั เถอะ 2

11 มารู้จกั การละหมาดญัมอฺและก็อศรฺกันเถอะ 3

12 มารู้จักการละหมาดญัมอฺและก็อศรฺกันเถอะ 3

13 อลั -หะดษิ กับจรยิ ะ 6

รวม ๔๐

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

205

การจดั โครงสร้างรายวชิ า

โครงสรา้ งรายวิชา วิชา หลักการแห่งชีวติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลารวม 40 ชม./ปี

หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการ สมรรถนะหลกั ผลลัพธ์การ ความคดิ รวบยอด เวลา
เรียนรู้ เรยี นรู้

1 มารจู้ กั อัลลอฮฺ พฤติกรรมบง่ ช้ี KFD 1 อต มสุ ลมิ จา้ เปน็ ต้องเรยี นรู้เรยี นรู้ 3
และมาลาอิกตั องคป์ ระกอบ 4/1 พระนามของอลั ลอฮฺ พร้อม

กนั เถอะ สมรรถนะหลกั ความหมาย จะน้าไปสกู่ ารรูจ้ ัก
สมรรถนะการสื่อสาร และศรัทธาต่ออลั ลอฮฺ
3. การเลือกใชก้ ลวธิ ี

การสือ่ สารอย่าง
เหมาะสมโดยค้านึงถึง
ความรบั ผิดชอบต่อ

สังคมเพื่อบรรลุ
วตั ถปุ ระสงค์ในการ
ส่อื สาร

2 มาร้จู กั อัซ- สมรรถนะการสอ่ื สาร KFD 1 อต มุสลิมจา้ เป็นตอ้ งการเรยี นรู้ 3

ซิฟาต 3. การเลือกใช้กลวธิ ี 4/1 คณุ ลักษณะของอลั ลอฮฺนา้ ไปสู่
ของอลั ลอฮฺ การสือ่ สารอย่าง การศรทั ธาต่อพระองค์
กันเถอะ เหมาะสมโดยค้านึงถึง

ความรับผิดชอบต่อ
สงั คมเพ่ือบรรลุ
วัตถปุ ระสงคใ์ นการ

สอ่ื สาร

3 มาเรยี นรู้ สมรรถนะการจดั การ KFD 1 อต มสุ ลมิ จา้ เปน็ ตอ้ งเรยี นร้คู วาม 3

ความแตกตา่ ง ตนเอง 4/2 แตกต่างระหว่าง นบแี ละรสลู
ระหวา่ งนบีกับ สมรรถนะสามารถ จะนา้ ไปสูค่ วามศรทั ธาต่อรสลู
รอสูล ควบคมุ ตนเอง

4 มุอญฺ ิซาต สมรรถนะการจดั การ KFD 1 อต มุสลิมจา้ เปน็ ต้องเรยี นรู้ 2
ตนเอง 4/4 ความหมายและความส้าคัญ

สมรรถนะสามารถ ของมอุ ฺญิซาต นบีจะนา้ ไปสู่
ควบคมุ ตนเอง การศรทั ธา ต่อรสลู

5 อลุ ุลอัซมีย์ สมรรถนะการจัดการ KFD 1 อต มุสลมิ จา้ เปน็ ต้องเรียนรู้ 2

ตนเอง 4/3 ความหมาย จ้านวน และชื่อ

สมรรถนะสามารถ ของ อลู ลุ อซั มยี ์ เพ่ือน้าไปสู่

ควบคุมตนเอง การศรัทธาต่อ รสูล

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

206

หน่วยที่ ช่อื หน่วยการ สมรรถนะหลกั ผลลพั ธ์การ ความคดิ รวบยอด เวลา
6 เรียนรู้ เรยี นรู้ 3
อลั อิสลาม สมรรถนะการสอ่ื สาร มุสลมิ จา้ เปน็ ต้องเรยี นรู้ฮูกุมซัร 4
7 สมรรถนะสามารถ KFD 2 อต อยี เ์ ปน็ ฮูกุมท่ีมสุ ลมิ จะต้อง
อัฏ-ฏอฮา ควบคุมตนเอง 4/1 เรยี นรแู้ ละปฏบิ ัติ 3
เราะฮ์ สมรรถนะการสอื่ สาร มุสลิมจา้ เป็นตอ้ งเรยี นร้วู ฎุ อู ฺ,
สมรรถนะสามารถ KFD 2 อต การทา้ ตะยัมมุมเปน็ การทา้
ควบคุมตนเอง 4/2 ความสะอาดร่างกายตามที่
ศาสนาก้าหนด
8 อัศ-เศาะลาฮฺ สมรรถนะการสื่อสาร KFD 2 อต มสุ ลมิ จ้าเปน็ ตอ้ งเรยี นรปู้ กปิด
สมรรถนะสามารถ 4/4 เอาเราะฮฺ เป็นสว่ นทมี่ สุ ลมิ ตอ้ ง
ควบคุมตนเอง ปกปดิ

9 มาละหมาด สมรรถนะการสื่อสาร KFD 2 อต มสุ ลมิ จา้ เป็นต้องเรยี นรกู้ าร 3

กนั เถอะ สมรรถนะสามารถ 4/4 ละหมาดฟรั ฎู เป็นส่วนที่มสุ ลมิ

ควบคุมตนเอง ต้องปฏิบตั ิ

10 ละหมาดสูนตั สมรรถนะการสื่อสาร KFD 2 อต มุสลมิ จ้าเปน็ ต้องเรียนรกู้ าร 2
รอวาติบกนั สมรรถนะสามารถ 4/2 ละหมาดสนู ตั รอวาติบ เป็นส่วน
เถอะ ควบคมุ ตนเอง ท่มี ุสลมิ ตอ้ งปฏบิ ัติ

11 มาละหมาดญุ สมรรถนะการส่อื สาร KFD 2 อต มุสลิมจ้าเป็นต้องเรยี นรู้การ 3

มาอะฮฺ กัน สมรรถนะสามารถ 4/4 ละหมาดญุมาอะฮฺ เป็นหลักการ

เถอะ ควบคุมตนเอง อสิ ลามทีม่ สุ ลิมทกุ คนต้อง

ปฏิบัติ

12 มารู้จกั การ สมรรถนะการสื่อสาร KFD 2 อต มสุ ลิมจ้าเปน็ ตอ้ งเรียนรู้การการ 3

ละหมาดญมั อฺ สมรรถนะสามารถ 4/4 ละหมาดญัมอฺและก็อศรฺ

และก็อศรฺกนั ควบคมุ ตนเอง

เถอะ

13 อลั -หะดษิ สมรรถนะการสื่อสาร KFD 3 อต อา่ น ทอ่ งจ้า สรุปความหมาย 6

กบั จรยิ ะ สมรรถนะสามารถ 4/1 4/2 ความสา้ คัญ เหน็ ประโยชนแ์ ละ

ควบคมุ ตนเอง ปฏบิ ัตติ นตามคา้ สอน ของหะ

ดษี ความอดทน, ความซื่อสัตย์

, ความรับผิดชอบ,อามานะฮฺ

รวม 40

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

207

หน่วยการเรยี นรู้
วชิ าภาษาน่ารู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ จานวนเวลา 40 ช่ัวโมง

หน่วย ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ จำนวนช่วั โมง หมำยเหตุ
กำร
เรียนรทู้ ี่ มารูจ้ ัก พยัญชนะกนั เถอะ 5
1 จานวนนับ 5
2 มาเรียนร้ภู าษาอาหรบั กันเถอะ 10
3 มาสนุกกบั สระกนั เถอะ 10
4 สระประสมและ พยญั ชนะประสมภาษามลายู 5
5 สระประสมและ พยญั ชนะประสมภาษาอาหรับ 5
6 ๔๐
รวม

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

208

กำรจดั โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชา ภาษานา่ รู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลารวม 40 ชม./ปี

หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะหลกั ผลลัพธ์การ ความคิดรวบยอด เวลา
เรียนรู้ 5
ท่ี การอ่านออกเสียงและ
MRL1 อต.1/1, เขยี น พยญั ชนะภาษา 5
1. มารจู้ กั พยญั ชนะกนั พฤติกรรมบง่ ชอ้ี งค์ประกอบของ มลายูและภาษาอาหรับ 10
เถอะ สมรรถนะหลัก MRL1 อต.1/1, เป็นพืน้ ฐานสา้ คญั ในการ 10
การจดั การตนเอง MRL1 อต.1/1, อา่ น เขยี น ภาษามลายู 5
MRL1 อต.1/1, ภาษาอาหรบั ได้ถกู ต้อง 5
2. การมเี ปา้ หมายในชวี ติ MRL1 อต.1/1, และ คลอ่ งแคล่ว ๔๐
MRL1 อต.1/1, จ้านวนนบั เป็นพน้ื ฐาน
การส่อื สาร ส้าคญั ในการอ่าน เขยี น
ภาษามลายไู ดถ้ ูกตอ้ ง
๑.ด้านการรับสารอย่างมสี ติและ และคลอ่ งแคล่ว

ถอดรหสั เพื่อใหเ้ กดิ ความเข้าใจ อา่ นออกเสยี ง เรียนรู้
พยัญชนะเป็นพนื้ ฐาน
2. จา้ นวนนบั การจัดการตนเอง ของการเรียนร้คู ้าศัพท์
2. การมเี ป้าหมายในชีวิต และประโยค

การสื่อสาร อ่านออกเสียง เรียนรู้
พยญั ชนะเป็นพน้ื ฐาน
1.ด้านการรบั สารอย่างมสี ตแิ ละ ของการเรียนรู้คา้ ศพั ท์
และประโยค
ถอดรหัส เพื่อใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ
สระประสมหนง่ึ เสยี ง คือ
3. มาเรยี นร้ภู าษา การจดั การตนเอง ai,au,oi สระประสมสอง
อาหรับกันเถอะ 2. การมีเป้าหมายในชีวติ เสยี ง คือ ai,au,ia,ua,ui
การส่อื สาร และ พยญั ชนะประสม
คอื kh,gh,sy,sh,ng,ny
1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมีสตแิ ละ สระประสมหนึง่ เสยี ง คือ
َ‫ َا – بَ – ت‬และ
ถอดรหสั เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจ คา้ ศพั ท์งา่ ยๆ คือ
َ‫ عين‬،‫رأس‬
4. มาสนกุ กับสระกัน การจดั การตนเอง
เถอะ 2. การมเี ป้าหมายในชวี ิต
การสอ่ื สาร

1.ดา้ นการรับสารอย่างมสี ตแิ ละ

ถอดรหสั เพอ่ื ให้เกิดความเข้าใจ

5. สระประสมและ การจัดการตนเอง
พยญั ชนะประสม 2. การมีเป้าหมายในชีวิต
การสื่อสาร
ภาษามลายู 1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมีสตแิ ละ

ถอดรหัส เพอ่ื ให้เกดิ ความเข้าใจ

6. สระประสมและ การจัดการตนเอง
พยัญชนะประสม 2. การมีเปา้ หมายในชวี ติ
ภาษาอาหรบั การสอ่ื สาร
1.ด้านการรับสารอยา่ งมีสติและ

ถอดรหสั เพือ่ ให้เกิดความเขา้ ใจ

รวม

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

209

หน่วยการเรียนรู้

วชิ าภาษานา่ รู้ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวนเวลา 40 ชั่วโมง

หนว่ ย ชอื่ หน่วยกำรเรียนรู้ จำนวนช่วั โมง หมำยเหตุ

ที่

1 ภำษำพำเพลนิ 5

2 คำสรรพนำมนำ่ รู้ 5

3 สนทนำพำสนุก 5

4 ประเภทของคำ‫الكلمة وأقسامها‬ 5

5 จำนวนนับและลักษณะนำม 5

6 สีต่ำงๆ‫الألوان‬ 5

7 โรงเรยี นของฉัน 5

8 กลุ่มคำกริยำ 3

9 ประโยคคำถำม‫الاستفهام‬ 2

รวม ๔๐

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

210

การจดั โครงสร้างรายวิชา

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชา ภาษาน่ารู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลารวม 40 ชม./ปี

หน่วย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะหลัก ผลลัพธ์การ ความคิดรวบยอด เวลา

ท่ี เรียนรู้
1. ภาษาพาเพลิน พฤติกรรมบง่ ช้ีองคป์ ระกอบของ MRL1 อต.4/1 รู้และเขา้ ใจ
กระบวนการฟงั พดู 5

สมรรถนะหลกั อ่าน เขยี น ประเภท
ของค้า ประโยค
การจัดการตนเอง ขอ้ ความ สามารถใช้
2. การมีเปา้ หมายในชีวติ ในชีวิตประจ้าวนั ได้
การสอ่ื สาร
1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมสี ติและ

ถอดรหสั เพื่อให้เกดิ ความเขา้ ใจ

2. ค้าสรรพนามนา่ รู้ การจัดการตนเอง MRL1 อต.4/1 รแู้ ละเขา้ ใจ 5

2. การมเี ป้าหมายในชีวิต ความหมายประเภท

การสอ่ื สาร ของคา้ สรรพนาม

1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมีสติและ สามารถน้าไปใช้ใน

ถอดรหสั เพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจ กระบวนการฟงั พดู

การรวมพลังทางานเป็นทีม อ่าน เขียน

1.ดา้ นการเป็นสมาชิกทีมท่ดี ี

และ มีภาวะผนู้ า้ MRL1 อต.4/1 รู้และเขา้ ใจในประโยค 5

3. สนทนาพาสนุก การจดั การตนเอง

2. การมเี ป้าหมายในชีวิต บอกเลา่ ประโยค

การส่ือสาร ค้าถาม ประโยคคา้ ส่งั

1.ดา้ นการรับสารอย่างมสี ติและ และประโยคปฏิเสธ

ถอดรหัส เพอื่ ใหเ้ กิดความเขา้ ใจ สามารถนา้ ไปใช้ใน

การรวมพลังทางานเปน็ ทีม ชวี ติ ประจา้ วนั ได้

4.ดา้ นการเป็นสมาชิกทีมทด่ี ี

และ มภี าวะผนู้ า้ MRL1 อต.4/1 ประเภทของคา้ ใน

4. ประเภทของคา้ การจัดการตนเอง 5

‫ الكلمة وأقسامها‬2. การมีเปา้ หมายในชวี ิต ภาษาอาหรับ

การสอื่ สาร

1.ดา้ นการรบั สารอย่างมสี ติและ

ถอดรหสั เพื่อให้เกิดความเข้าใจ

การรวมพลังทางานเป็นทีม

4.ดา้ นการเปน็ สมาชกิ ทีมทด่ี ี

และ มภี าวะผนู้ า้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

211

หน่วย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะหลัก ผลลัพธก์ าร ความคิดรวบยอด เวลา

ที่ เรียนรู้
MRL1 อต.4/1 การอา่ น เขยี น และ 5
5. จา้ นวนนับและ การจดั การตนเอง

ลกั ษณะนาม 2. การมเี ป้าหมายในชีวิต บอกความหมายของ

การสอ่ื สาร ค้าเกย่ี วกับจา้ นวนนับ

1.ด้านการรบั สารอยา่ งมีสติและ และลักษณะนามเปน็

ถอดรหัส เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจ พน้ื ฐานในการเรียน

การรวมพลังทางานเปน็ ทีม ภาษา

4.ด้านการเปน็ สมาชกิ ทีมที่ดี

และ มภี าวะผนู้ ้า MRL1 อต.4/1 การอ่าน เขยี น และ 5

6. สตี ่างๆ การจดั การตนเอง

‫الألوان‬ 2. การมีเปา้ หมายในชวี ิต บอกความหมายของ

การส่อื สาร คา้ เก่ียวกบั สีตา่ งๆเป็น

1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมีสติและ พื้นฐานในการเรียน

ถอดรหสั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใจ ภาษา

การรวมพลังทางานเปน็ ทีม

4.ดา้ นการเป็นสมาชิกทีมทด่ี ี

และ มภี าวะผู้นา้

7. โรงเรยี นของฉัน การจัดการตนเอง MRL1 อต.4/1 การอ่าน เขยี น และ 5

2. การมีเป้าหมายในชวี ิต บอกความหมายของ

การส่ือสาร คา้ เกี่ยวกบั โรงเรียน

1.ด้านการรับสารอยา่ งมีสติและ และการสนทนา

ถอดรหสั เพือ่ ให้เกิดความเข้าใจ เกย่ี วกบั เร่อื งภายใน

การรวมพลังทางานเปน็ ทีม โรงเรียนเป็นพ้ืนฐานใน

4.ด้านการเปน็ สมาชิกทีมทด่ี ี การเรยี นภาษา

และ มภี าวะผู้น้า

8. กลุ่มค้ากรยิ า การจัดการตนเอง MRL1 อต.4/1 การอ่าน เขยี น และ 3

2. การมเี ปา้ หมายในชวี ิต บอกความหมายของ

การสื่อสาร ค้าเกยี่ วกบั คา้ กริยา

1.ดา้ นการรับสารอยา่ งมีสติและ เป็นพืน้ ฐานในการ

ถอดรหัส เพอ่ื ใหเ้ กิดความเข้าใจ เรยี นภาษา

การรวมพลังทางานเป็นทีม

4.ด้านการเป็นสมาชิกทีมทดี่ ี

และ มภี าวะผู้น้า

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

212

หนว่ ย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะหลัก ผลลพั ธ์การ ความคดิ รวบยอด เวลา

ที่ เรียนรู้
9. ประโยคคา้ ถาม 1.ดา้ นการรบั สารอยา่ งมสี ติและ MRL1 อต.4/1 การสนทนาโตต้ อบ 2

‫ الاستفهام‬ถอดรหสั เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ สน้ั ๆช่วยฝกึ ทกั ษะใน

การรวมพลังทางานเปน็ ทีม การใชภ้ าษาของ

4.ดา้ นการเป็นสมาชิกทีมท่ีดี นักเรียนต่อไป

และ มภี าวะผู้นา้

รวม ๔๐

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

213

อธิบำยรำยวชิ ำภำษำไทย ๑

ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ เวลำเรยี น ๑๒๐ ช่วั โมง

ศึกษาและใช้ความรู้เร่ือง มีสมาธิในการฟังและการดู ค้าแนะน้า ค้าสั่งง่ายๆ แล้วปฏิบัติได้ถูกต้อง
มีมารยาทในการฟัง มีมารยาทในการพูดเข้าใจและตอบสนองต่อสิ่งท่ีฟังและดู สามารถถ่ายทอดเนื้อหาของ
เรื่องตัวฉัน ส่ิงทฟ่ี ังและดู รวมทั้งแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม พูดแนะนา้ ตัวเอง กล่าว
ค้าทักทาย ขอความช่วยเหลอื กล่าวคา้ ขอบคุณ เพื่อสอ่ื สารขอ้ เท็จจริง ความคิดเห็น ความรสู้ ึก เล่าเรอ่ื ง บอก
รายละเอียดและสาระส้าคัญ ของนิทาน เพลง เก่ียวชุมชนของฉันได้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นกลาง โดยเคารพ
ในความหลากหลาย อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง ค้าคล้องจอง ข้อความส้ันๆ ค้าพ้ืนฐานไม่น้อย
กวา่ ๖๐๐ ค้า ได้ถกู ตอ้ ง เขา้ ใจความหมายของคา้ ท่อี ่านออกเสียง สามารถอ่านออกเสยี งและเข้าใจตวั บทเรือ่ ง
ท่ใี ช้ในชวี ิตประจ้าวันในท้องถนิ่ ได้หลากหลาย มสี มาธิในการอา่ นหนังสือตามความสนใจ นิทาน เร่ืองส้ันๆ
ปริศนาค้าทาย บทร้องเล่น บทอาขยาน บทร้อยกรองเขา้ ใจส่งิ ที่อา่ นมีนสิ ัยรักการอ่าน สามารถวิเคราะห์ส่ิง
ทอ่ี ่านและน้าข้อคิดจากการอ่านเรื่องนทิ าน บทร้องเล่น เกยี่ วกับท้องถิน่ ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจา้ วันไดอ้ ยา่ ง
สร้างสรรค์ คัดลายมือบรรจงเต็มบรรทัดตัวอักษรตามรูปแบบอักษรไทยอย่างตั้งใจ และเขียนค้าจากรูปภาพ
เก่ยี วกับชุมชนไดถ้ กู ตอ้ ง มีมารยาทในการเขยี น แล้วสามารถนา้ ไปใช้ในการเขียนเร่อื งแนะน้าตนเองเพื่อสื่อสาร
ในชีวิตประจ้าวันได้ชัดเจนและเหมาะสม เขียนสื่อความด้วยถ้อยค้าและประโยคง่ายๆ แต่งประโยค เรียบ
เรียงประโยคเป็นข้อความสน้ั ๆเกี่ยวกับชุมชน ได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ เขียนแสดงความคิดเห็น เรอื่ งฉันคือใคร
งานเขียนของตนได้เหมาะสมเป็นกลางโดยไม่ละเมิดสิทธข์ิ องผู้อ่ืน ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนพยัญชนะ สระ
วรรณยุกต์และตัวเลขไทย การสะกดค้า การแจกลูก การอ่านเป็นค้ามาตราตัวสะกดท่ีตรงมาตราและไม่ตรง
มาตรา การผัน ความหมายของค้า การแต่งประโยค ค้าคล้องจองเกี่ยวกับชุมชน ได้ถูกต้อง เหมาะสมกับ
บคุ คลและกาลเทศะ มเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ การใชภ้ าษาไทยอย่างถูกต้อง

โดยใช้การฟัง การดู และการพูดเพ่ือพัฒนาการคิด การอ่านเพ่ือพัฒนาการคิด การเขียนเพ่ือ
พฒั นาการคดิ การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใช้ภาษาไทย

เพื่อให้เกิดการจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การสื่อสาร การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่
เข้มแข็ง การอยรู่ ว่ มกับธรรมชาตแิ ละวิทยาการอย่างยัง่ ยนื

ผลลพั ธ์กำรเรียนร้ชู นั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๑
๑. มสี มาธใิ นการฟงั และการดู เข้าใจและตอบสนองต่อสงิ่ ท่ฟี งั และดู สามารถถ่ายทอดเน้ือหาของส่งิ ท่ี

ฟังและดู รวมทั้งแสดงความคิดเหน็ และความรูส้ ึกได้อยา่ งเหมาะสม
๒. พูดเพ่ือสอ่ื สารข้อเทจ็ จรงิ ความคดิ เหน็ ความรู้สกึ ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมและเป็นกลาง โดยเคารพใน

ความหลากหลาย
๓. อา่ นออกเสียงคา้ ไดถ้ ูกต้อง เขา้ ใจความหมายของค้าทอี่ ่านออกเสียง สามารถอ่านออกเสยี งและ

เขา้ ใจตัวบท ไดห้ ลากหลายมากข้นึ

หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

214
๔. มสี มาธิในการอ่านเข้าใจสิ่งทอ่ี ่านมีนสิ ยั รักการอา่ น สามารถวเิ คราะหส์ ิง่ ท่ีอ่านและนา้ ข้อคิดจากการ
อา่ น ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจา้ วนั ได้อย่างสร้างสรรค์
๕. คัดลายมือและเขียนค้าได้ถูกต้อง แล้วสามารถน้าไปใชใ้ นการเขยี นเพื่อสื่อสารในชีวติ ประจ้าวัน ได้
ชัดเจนและเหมาะสม
๖. เขียนสอื่ สารไดต้ รงตามวัตถุประสงค์ เขยี นแสดงความคิดเห็นและความรสู้ ึกเกย่ี วกบั งานเขยี นของ
ตนได้เหมาะสมเปน็ กลางโดยไมล่ ะเมิดสิทธ์ิของผู้อ่ืน
๗-
๘. ใชภ้ าษาพูดและภาษาเขียนไดถ้ ูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ
๙. มีเจตคติที่ดีต่อการใชภ้ าษาไทยอยา่ งถูกต้อง

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

215

คาอธิบายรายวชิ าภาษาไทย ๔

ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลาเรยี น ๑๒๐ ชว่ั โมง

ศึกษาและใช้ความรู้เรื่อง การฟัง ดู สื่อต่างๆ จากข่าว บทความส้ันๆ การพูดล้าดับขั้นตอนการ

ปฏิบัติงาน การพูดล้าดับเหตุการณ์ จากโทรทัศน์หรือสื่อต่างๆในห้องเรียน พูดโน้มน้าว พูดปฏิเสธ และพูด

โต้ตอบด้วยความม่ันใจ การฟังเพลงคุณธรรม ฟังนิทาน พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับการพูดของ

ตนและผู้อื่นอย่างเป็นกลางและสร้างสรรค์ การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม

ไพเราะเพือ่ ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการน้อย การอ่านสญั ญาลักษณต์ ่างๆแผนผัง แผนทีอ่ ย่างงา่ ยๆ ความหมาย

ของขอ้ มูลจากสื่อได้ถกู ตอ้ ง และน้าไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ อ่านเรอ่ื งบอกความหมายและความแตกต่างจาก

เร่ืองท่ีอ่าน เช่นนิทานพื้นบ้าน เร่ืองสั้น ตั้งค้าถาม ตอบค้าถาม ร่วมกันสรุปข้อคิดท่ีได้จากนิทานพื้นบ้าน หรือ

เร่ืองสั้นรวมท้ังวรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน เพื่อน้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตลอดจนมีนิสัย รักการ

อ่าน การเขียนคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด การเขียนลักษณะของค้าไวพจน์ ด้วยลายมือที่

เป็นไปตามมาตรฐานโครงสร้างตัวอักษรไทย การเขียนค้าขวัญ เรียงความ การเขียนอธิบายการท้าว่าวบุหลันอย่าง

ง่ายๆ เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น การเขียนจดหมายถึงเพ่ือน บิดา

มารดาและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ในสถานการณ์ต่างๆ เขยี นป้ายรณรงค์รักษาความสะอาด การย่อความ เขียน

บันทึกการอ่าน การเขียนรายงานศึกษาค้นคว้าเร่ืองสหกรณ์โรงเรียน หลักการเขียนโครงเรื่องและแผนภาพ

ความคิด เขียนตามจินตนาการเรื่องเยาวชนยุคโควิด-19 เรียงความเรื่องโรงเรียนของฉัน บอกความหมายและ

ลักษณะของภาษาพดู และภาษาเขียน ระดับภาษา ทกั ษะการใช้ภาษา ความส้าคัญของภาษาไทยมาตรฐาน การ

ฝึกหาค้าศัพท์ภาษาถิ่นในชีวิตประจ้าวัน พร้อมความหมาย ๑๐๐ ค้า การเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับ

ภาษาถิ่น ส้านวนไทย ค้าราชาศัพท์ ค้าควบกล้า ค้าท่ีมีอักษรน้า ค้าที่มีตัวการันต์ แต่งประโยค เพ่ือพัฒนา

ศักยภาพของตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบการน้อย แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้อง มีวรรณศิลป์ค้าคล้องจอง การ

แต่งกลอนสี่ ท่องบทอาขยานที่ก้าหนดและบทกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจหลักการทักษะการใช้ภาษาไทย

และโครงสร้างภาษาไทย เข้าใจการฟัง การอ่าน และการดูจากสื่อต่างๆเพื่อค้นหาศกั ยภาพของตนเองสู่การเป็น

เมล็ดพันธ์ใหม่

โดยใช้ การฟงั ดู และการพดู เพื่อพัฒนาการคิด การอา่ นเพ่ือพัฒนาการคิด การเขยี นเพ่ือพฒั นาการคิด

การเขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและการใชภ้ าษาไทย

เพ่อื ให้เกิดการจดั การตนเอง การคดิ ขัน้ สูง การสือ่ สาร การรวมพลังท้างานเปน็ ทีม การเปน็ พลเมอื งท่ี

เขม้ แข็ง การอย่รู ่วมกบั ธรรมชาติและวิทยาการอยา่ งยัง่ ยนื

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

216

ผลลพั ธ์การเรยี นรู้
1. ฟงั และ/ หรือดสู ่ือตา่ ง ๆ แลว้ สามารถวิเคราะห์ความน่าเชอ่ื ถือ พูดสือ่ สารในรูปแบบตา่ ง ๆ พูด

แสดงการคิด วิเคราะห์ ความรู้ ความรู้สกึ และความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ รวมทงั้ สามารถเลอื ก
ฟงั และดสู ่ือท่เี หมาะสมแกต่ นเอง

2. พูดโน้มน้าว พูดปฏเิ สธ และพูดโตต้ อบดว้ ยความมนั่ ใจอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งพดู แสดง
ความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกบั การพดู ของตนและผู้อน่ื อยา่ งเป็นกลางและสรา้ งสรรค์

3. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง เหมาะสม และไพเราะ
4. อ่านวเิ คราะหค์ วามหมายของข้อมลู จากสอื่ ตา่ ง ๆ ได้ถูกตอ้ ง และนา้ ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
5. อ่านเร่ืองจากส่ือต่าง ๆ รวมทั้งวรรณคดีและวรรณกรรม แล้วสามารถต้ังค้าถาม ตอบค้าถาม จับ
ใจความสรุปความ วิเคราะห์ ตีความ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็น และน้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ตลอดจนนิสยั รกั การอา่ น
6. เขียนสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยลายมือท่ีเป็นไปตามมาตรฐาน โครงสร้างตัวอักษรไทย โดยใช้ค้า
ได้ถูกต้องและเหมาะสม
7. เขยี นส่อื สารในรูปแบบตา่ ง ๆได้ถกู ตอ้ งตามมาตรฐาน รวมท้ังเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น
ด้วยตัวอกั ษรหรือสัญลักษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ได้เหมาะสมกับบุคคล โอกาส และกาลเทศะ ตลอดจนเขียนประเมิน
งานเขยี นของทง้ั ตนเองและผู้อืน่ อยา่ งเปน็ กลางและสรา้ งสรรค์
8. เขียนโครงเรื่องและแผนภาพความคิด แล้วน้าไปเขียนเร่ืองตามจินตนาการและเรียงความได้ถูกต้องและ
เหมาะสม
9. ใช้ภาษาพดู และภาษาเขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมท้ังภาษาไทยมาตรฐานไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสมกับ
บคุ คลโอกาสและกาลเทศะ ตลอดจนเขา้ ใจความหลากหลายของผู้อื่นโดยเรียนรผู้ า่ นภาษาถนิ่
10.ใช้คา้ ค้ายมื ค้าราชาศัพท์ และส้านวนไดถ้ ูกต้องเหมาะสมกับบุคคล โอกาส และกาลเทศะ รวมท้ัง
ใช้ ประโยคสอื่ สารไดถ้ ูกต้องตามหลักภาษา
11. แต่งบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ งและมีวรรณศิลป์ ตลอดจนน้าไปใช้ประกอบการพูด การนา้ เสนอ หรือ
การเขยี นใหน้ ่าสนใจยิ่งข้ึน
12. มเี จตคติทด่ี ตี ่อการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

217

คำอธิบำยรำยวชิ ำคณิตศำสตร์

ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ ๑ เวลำเรยี น ๑๒o ชวั่ โมง

ศึกษาและใช้ความรู้ สื่อสาร เพื่อสร้างความเข้าใจเก่ียวกับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ อ่านและ

เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวน และนาไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่าง

เหมาะสม อธิบายความสัมพันธ์ของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้การรวม (compose) หรือการแยก

(decompose) ของจานวนและใช้หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนพร้อม

ให้เหตุผล อธิบายความสัมพันธ์ของแบบรูปซ้าของจานวนนับท่ีเพ่ิมข้ึน หรือลดลงทีละเท่าๆกันและแบบรูปซ้า

เก่ียวกับสี รูปร่างหรือขนาด พร้อมให้เหตุผล อธิบายสถานการณ์ในชีวิตจริงท่ีจะนาการบวก การลบ การ

แก้ปัญหา ของจานวนไม่เกินสองหลัก สร้างตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ในการดาเนินการ คานวณ และเลือกใช้

เครื่องมอื ในการบวก การลบ โดยเชอ่ื มโยงกับความสัมพนั ธ์และสมบัติตา่ งๆ ของการดาเนินการได้อยา่ งยดื หยุ่น

และคลอ่ งแคล่ว และแปลความหมายภาษา และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตรเ์ ป็นสถานการณใ์ นชีวิตจริง อธบิ าย

สถานการณ์ในชีวิตจริงที่เก่ียวกับการวัด เลือกใช้เครื่องวัดความยาว เป็นเมตรและเซนติเมตร น้าหนัก เป็น

กิโลกรัมและขีด ส่ือสารเกี่ยวกับเวลา ระยะเวลา บอกและเขยี นระยะเวลาโดยใช้คาศพั ท์ กลางวัน กลางคืน เช้า

เท่ียง สาย บ่าย เย็น ชั่วโมง นาที ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ส่ือสารเก่ียวกับเงนิ เปรยี บเทียบ และการแกป้ ัญหา ได้อย่าง

ถูกต้องและนาไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ รบั รู้และอธิบายลักษณะของรูปร่างต่างๆ จาแนก รูปเรขาคณิตสามมิติ

ได้แก่ ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย จากสิ่งของ สิ่งแวดล้อมรอบตัว สถานการณ์ใน

ชีวิตจริง การสร้างรูปร่าง เช่ือมโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติ ได้อย่างถูกต้อง ให้เหตุผลในการจาแนก

และบอกลักษณะของรปู เรขาคณติ สองมติ ิ เชน่ กลม กลง้ิ ได้ เลอ่ื นได้และวาดรปู ได้ จดั การข้อมลู แบบมีส่วนรว่ ม

ในการให้ข้อมูล และนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปภาพ และสื่อสารและแปลความหมายของข้อมูล และใช้

ข้อมูลเพื่ออธิบายเหตุการณ์ ตัดสินใจ และร่วมกันแก้ปัญหาทางสถิติในสถานการณ์ใกล้ตัวในสถานการณ์ต่างๆ

ได้อย่างถูกต้อง

โดยการแก้ปญั หา การสอ่ื สารและนาเสนอ การใหเ้ หตผุ ล การสร้างขอ้ สรปุ ท่ัวไปและขยายแนวคดิ การ

คิดสรา้ งสรรค์ และการใช้เครื่องมือในการเรยี นรู้

เพ่อื ให้เกิดการจดั การตนเอง การคดิ ขั้นสงู การสอ่ื สาร การรวมพลงั ทางานเปน็ ทมี การเปน็ พลเมืองที่

เข้มแข็ง และการอยรู่ ่วมกับธรรมชาตแิ ละวทิ ยาการอยา่ งย่ังยนื

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

218

ผลลัพธ์กำรเรยี นรชู้ ้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๑
๑. ส่ือสารทางคณิตศาสตรเ์ กี่ยวกับจา้ นวนนบั ได้อยา่ งถูกต้อง และน้าไปใช้ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้

อย่างเหมาะสม
๒. อธบิ ายความสมั พนั ธข์ องจ้านวนนบั โดยใช้การรวม (compose) หรือการแยก (decompose) ของ

จา้ นวนเปรยี บเทยี บและเรยี งลา้ ดบั จา้ นวนพร้อมให้เหตผุ ล
๓. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของแบบรูปซา้ ของจ้านวน รูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ และแบบรปู ของจ้านวน

นบั ท่เี พม่ิ ขึ้น หรือลดลงทีละเท่า ๆ กนั พร้อมใหเ้ หตุผล สรา้ งข้อสรุป และขยายแนวคิดเพ่ือสร้างแบบรูปและ
รว่ มกันแก้ปัญหาในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อย่างหลากหลายหรือแตกต่างจากเดิม

๔. อธบิ ายสถานการณใ์ นชวี ิตจรงิ ท่ีจะนา้ การบวก การลบ การคณู และการหารมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม
สร้างตัวแบบเชงิ คณิตศาสตร์ ในการดา้ เนินการ คา้ นวณและเลือกใชเ้ ครือ่ งมือในการบวก การลบ การคูณ และ
การหาร โดยเชอื่ มโยงกับความสัมพนั ธ์และสมบตั ติ า่ ง ๆ ของการด้าเนนิ การได้อย่างยดื หยุ่นและคล่องแคลว่
และแปลความหมายภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เป็นสถานการณ์ในชีวิตจริง

๕. แก้ปญั หาเกยี่ วกับจา้ นวนนับ ในสถานการณ์ต่าง ๆด้วยแนวคดิ ทห่ี ลากหลายหรอื แตกต่างจากเดมิ
อยา่ งมุมานะ พรอ้ มท้ังแลกเปล่ียนแนวคดิ รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนโดยตระหนักถึงความแตกตา่ งระหว่างบุคคล

๖. อธิบายสถานการณ์ในชีวิตจรงิ ท่เี กยี่ วกับการวัดความยาว น้าหนกั และปรมิ าตร เลอื กใช้หน่วยการ
วัดและเครอื่ งวัดเพื่อวดั และบอกความยาว น้าหนกั และปรมิ าตรไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

๗. ส่ือสารเก่ียวกบั เวลา ระยะเวลาได้ถูกต้อง โดยเชอื่ มโยงกับสถานการณ์ในชีวติ จรงิ
๘. สอื่ สารเกีย่ วกบั เงนิ เปรยี บเทียบจา้ นวนเงนิ แลกเงนิ ได้อย่างถูกต้องหลากหลาย และน้าไปใช้ใน
สถานการณ์ต่าง ๆ
๙. แก้ปญั หาเก่ียวกบั ความยาว นา้ หนกั ปริมาตร เวลา และเงนิ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ดว้ ยแนวคิดท่ี
หลากหลายหรอื แตกต่างจากเดมิ อย่างมมุ านะ พร้อมทัง้ แลกเปลย่ี นแนวคดิ รว่ มกบั ผู้อื่น
๑๐. รับรูแ้ ละอธิบายลักษณะของรูปรา่ งตา่ ง ๆ จากสิ่งของ ส่ิงแวดลอ้ มรอบตัว สถานการณใ์ นชีวิตจรงิ
ผา่ นการสงั เกตและการสรา้ งรูปรา่ ง เชือ่ มโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณติ สองมติ ิ รปู เรขาคณิตสามมติ ิ
๑๑. ใหเ้ หตผุ ลในการจา้ แนกและบอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณติ สามมิติและรูปที่มี
แกนสมมาตร และน้าไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ
๑๒. จัดการขอ้ มลู และน้าเสนอข้อมลู โดยใช้แผนภมู ิรปู ภาพ แผนภูมแิ ท่ง หรือตารางทางเดยี ว ส่อื สาร
แปลความหมายของข้อมูล และใชข้ ้อมูลเพื่ออธิบายเหตุการณ์ ตัดสนิ ใจ หรอื แก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ
๑๓. ร่วมกันแกป้ ัญหาทางสถิตใิ นสถานการณ์ใกลต้ ัว หรือส่ิงแวดล้อมในบรเิ วณบา้ น โรงเรยี น หรอื
ชมุ ชนของตนเอง อยา่ งมมุ านะ และสร้างสรรค์

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

219

คาอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ ๔

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาเรยี น ๑๒๐ ชวั่ โมง

ศึกษาความรู้ ส่ือสาร ฝึกการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับจ้านวนที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ผ่าน

สถานการณ์ต่างๆ อ่านและเขียนแสดงจ้านวนด้วยตัวเลขและตัวหนังสือ เขียนแสดงความสัมพันธ์ของจ้านวน

โดยใช้ค่าประจ้าหลัก ให้เหตุผลในการเปรียบเทียบและเรียงล้าดับจ้านวน บอกค่าประมาณของจ้านวนนับ หา

ผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหาร และผลลัพธ์ของการบวก ลบ คณู หารระคนอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและตามล้าดับข้ัน

ของการด้าเนินการผ่านการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆและใช้เทคโนโลยีช่วยในการแก้ปัญหาและตรวจ

ค้าตอบเพ่ือต่อยอดไปสู่การเป็นผู้ประกอบการน้อย สร้างความเข้าใจในเรื่องเศษส่วน ความหมายของเศษส่วน

ไปสู่การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเศษส่วนแท้ เศษเกิน จ้านวนคละ อธิบายและบอกปริมาณของส่ิงต่างๆด้วย

เศษส่วน อ่านและเขียนเศษส่วนแสดงปริมาณของส่ิงต่างๆท่ีก้าหนดด้วยวิธีหรือเครื่องมือท่ีหลากหลาย

เปรียบเทียบ เรียงล้าดบั หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจ้านวนคละท่ีตวั ส่วนตวั หน่ึงเป็นพหุคูณของตัวส่วน

อกี ตัวหนึ่งผ่านกิจกรรมการแก้ปัญหา บอกความหมายของทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ต้าแหน่งและทศนยิ มท่เี ทา่ กัน อ่าน

และการเขียนทศนิยมไม่เกิน ๓ ต้าแหน่ง อธิบายและบอกปริมาณของสิ่งต่างๆด้วยทศนิยม เขียนแสดง

ความสัมพันธ์ของทศนิยมในรูปแบบต่างๆ เปรียบเทียบ เรียงล้าดับ หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓

ต้าแหน่งในสถานการณ์ต่างๆ ผา่ นกิจกรรมการแก้ปัญหาโดยใช้เคร่ืองมอื และวิธีการทีห่ ลากหลาย ค้นหาและใช้

วิธีของตนเอง เขียนแสดงแนวคิด และตรวจสอบค้าตอบของการด้าเนินการ ใช้เคร่ืองมือวัดระยะเวลาและ

สอ่ื สารเกี่ยวกับระยะเวลา หาระยะเวลาและเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลาเพ่ือ

น้าไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์แสดงจุด เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รังสี

อธิบายส่วนประกอบของมุม วัดขนาด บอกชนิดของมุม และสร้างมุมขนาดต่างๆ บอกชนิดและสมบัติของรู ป

สี่เหลี่ยมมุมฉาก อธิบายลักษณะและสร้างรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าและรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และน้าไปใช้แก้ปัญหา

เกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากในสถานการณ์ต่างๆ การอ่านและเขียนแผนภูมิแท่ง

การอ่านตารางสองทาง โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ใกล้ตัว ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าจากการ

ปฏิบตั จิ รงิ

โดยใช้การแก้ปัญหา การสื่อสารและการน้าเสนอ การให้เหตุผล การสร้างข้อสรุปทั่วไปและขยาย

แนวคิด การคิดสรา้ งสรรค์ การใช้เครือ่ งมอื และเทคโนโลยใี นการเรยี นรู้

เพ่ือให้เห็นคุณค่า มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มพี ฤติกรรมบ่งช้ีตามสมรรถนะหลัก ๕ ประการ ในด้าน

การจัดการตนเอง การส่ือสาร การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง และการอยู่ร่วมกันกับ

ธรรมชาตแิ ละวิทยาการอยา่ งยงั่ ยนื

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

220

ผลลพั ธ์การเรียนรู้ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๑. ส่ือสารทางคณิตศาสตร์เก่ียวกับจ้านวนนับ เศษส่วน ทศนิยม ร้อยละและอัตราส่วนได้ถูกต้อง และ
น้าไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
๒. อธิบายความสัมพนั ธ์ของจ้านวนนับ เศษส่วน ทศนิยม และร้อยละ เปรียบเทียบและเรียงล้าดบั จ้านวน
นับ เศษส่วน และทศนยิ ม พร้อมใหเ้ หตุผล
๓. อธิบายความสัมพันธ์ของแบบรูป แสดงแนวคิดประกอบการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ สร้างข้อ
คาดการณ์และขอ้ สรปุ และแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างหลากหลายหรือแตกตา่ งจากเดมิ
๔. อธิบายสถานการณ์ในชีวิตจริงท่ีเก่ยี วกับการดา้ เนินการของจ้านวนนับ เศษส่วน และทศนิยม สร้างตัว
แบบเชิงคณิตศาสตร์ในการด้าเนินการ หาผลลัพธ์ของการด้าเนินการได้อย่างคล่องแคล่ว ยืดหยุ่น
รอบคอบ และแปลความหมายภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตรเ์ ปน็ สถานการณใ์ นชีวติ จริง
๕. แก้ปัญหาเกี่ยวกับจ้านวนนับ เศษสว่ น ทศนิยมรอ้ ยละและอัตราสว่ นในสถานการณ์ต่างๆด้วยแนวคดิ ที่
หลากหลายหรือแตกต่างจากเดิม อย่างมุมานะและกระตือรือร้น พร้อมท้ังแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกับ
ผูอ้ น่ื โดยตระหนกั ถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล
๖. สื่อสารเกี่ยวกับระยะเวลาได้ถูกต้อง และแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมุมานะ และ
กระตือรือร้น
๗. สือ่ สารทางคณิตศาสตร์เกีย่ วกับจุด มุม เส้นตรง ส่วนของเสน้ ตรง รังสี เส้นต้ังฉาก และเส้นขนาน โดย
ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้ถูกต้อง พรอ้ มทั้งอธิบายสมบัติของเส้นขนาน และน้าไปใช้ในสถานการณ์
ต่าง ๆ
๘. ให้เหตุผล สร้างข้อคาดการณ์และข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติของรูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม และ
ขยายแนวคิดเพื่อหาความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหล่ียม และวงกลมใน
สถานการณ์ตา่ ง ๆ ดว้ ยวธิ ีท่หี ลากหลาย
๙. ให้เหตุผลในการจ้าแนก อธิบายลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของแบบจ้าลอง และสร้างแบบจ้าลองของ
ปริซึม พีระมิด ทรงกระบอก กรวย และทรงกลม สร้างข้อคาดการณ์และข้อสรุปเก่ียวกับการหา
ปริมาตรและความจุของทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก และหาปรมิ าตรและความจุของทรงสี่เหลีย่ มมุมฉาก
๑๐.แก้ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสามเหล่ียม รูปสี่เหล่ียม และวงกลม ปริมาตรและ
ความจุของทรงสี่เหล่ียมมุมฉากในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยแนวคิดท่ีหลากหลายหรือแตกต่างจากเดิม
อย่างมุมานะ และกระตือรอื รน้ พร้อมทั้งแลกเปลยี่ นแนวคดิ รว่ มกับผู้อนื่
๑๑.จัดการข้อมูล และน้าเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง ตาราง กราฟเส้น แผนภูมิรูปวงกลม ได้อย่าง
เหมาะสม โดยใช้เทคโนโลยี วิเคราะห์และแปลความหมายของข้อมูลจากส่ือต่าง ๆ ส่ือสารและใช้
ขอ้ มลู เพ่อื แก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อธิบายเหตกุ ารณ์ คาดการณ์ หรอื ตดั สนิ ใจอย่างรเู้ ท่าทัน
๑๒.ร่วมกันวางแผน มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทางสถิติในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับโรงเรียนและ
ชมุ ชน อย่างมมุ านะ กระตือรอื รน้ และสร้างสรรค์

หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

221

คำอธิบำยรำยวชิ ำภำษำอังกฤษ ๑

ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๑ เวลำ ๑๒๐ ชั่วโมง

ฟัง พูดคาศัพท์ กลุ่มคา บอกความหมายภาษาอังกฤษอย่างง่ายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน

ชุมชน อาหารและเครื่องดื่มในท้องถิ่น และนันทนาการ ภายในวงคาศัพท์ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คา (คาศัพท์ท่ี

เป็นรูปธรรรม) โดยออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง ฟัง พูด โต้ตอบ บอกความต้องการของตนเอง

แลกเปลี่ยนและนาเสนอข้อมูลด้วยคาสน้ั ๆ และง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของตนเอง เหตกุ ารณ์ในสถานการณ์ใกล้

ตัวในชีวิตประจาวันและชุมชน ปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจ ฟัง พูดเก่ียวกับเนื้อหาท่ีสนใจ จากบท

อ่านเก่ียวกับเรือ่ งใกลต้ วั และนิทานท่ีมีภาพประกอบเกย่ี วกับท้องถน่ิ โดยเลือกใช้คาหรือประโยค อยา่ งง่าย เพ่ือ

แสดงความคิดเห็นท่ีมีต่อเหตุการณ์ หรือเรื่องราวน้ันๆ อย่างเหมาะสม อ่านประโยคคาสั่ง คาแนะนาเก่ียวกับ

ตนเองและเหตุการณ์ในสถานการณ์ใกล้ตัวเก่ียวกับชุมชน และนาไปปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อ่าน

นิทานเกี่ยวกับท้องถิ่น ได้อย่างถูกต้อง และบอกความรู้สึกของ ตนเองจากเร่ืองท่ีอ่าน ได้อย่างเหมาะสม เขียน

ประโยคอย่างงา่ ยเกี่ยวกบั ตนเอง เช่น บอกช่ือ อายุ รปู ร่าง ส่วนสูง เรียกส่ิงต่างๆ จานวน ๑-๒๐ สี ขนาด สถานที่ในชุมชน

ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กับบุคคลตามกาลเทศะ ใช้ทักษะการเขียนคา วลี จากภาพถ่ายของชุมชน เพื่อ

แสดงความคิดหรือสะท้อนความรู้สึก ได้อย่างเหมาะสม ใช้คาอย่างง่ายในการส่ือสารความต้องการของตนเอง

และแลกเปลี่ยนความคิดเก่ียวกับอาหารและเคร่ืองด่ืมในท้องถ่ิน ในการทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม

เลือกใช้เพลง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางภาษาท่ีสะท้อนความเป็นท้องถิ่นและการเรียนรู้ตามความถนัดและ

ความสนใจของตนเอง อยา่ งเหมาะสม

โดยใช้ทักษะการฟัง พูดเพื่อการสื่อสาร อ่านเพื่อความเข้าใจ เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นและสะท้อน

ความรสู้ กึ ใชภ้ าษาเพื่อการเรยี นรู้ และทางานร่วมกบั ผ้อู นื่

เพ่ือให้เกิดการจัดการตัวเอง การคิดขั้นสูง การส่ือสาร การรวมพลังทางานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ี

เขม้ แข็งและการอยูร่ ่วมกับระบบธรรมชาติและวิทยาการอยา่ งย่งั ยนื

ผลลัพธก์ ำรเรยี นรู้
๑. ฟัง พูดคาศัพท์ กลมุ่ คา บอกความหมายภาษาอังกฤษอย่างงา่ ยเกย่ี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น

ชุมชน อาหารและเครื่องด่ืมในท้องถิน่ และนันทนาการ ภายในวงคาศัพท์ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คา (คาศพั ท์ที่
เป็นรูปธรรรม) โดยออกเสยี งภาษาอังกฤษได้อยา่ งถูกต้อง

๒. ฟัง พดู โต้ตอบ บอกความต้องการของตนเอง แลกเปลีย่ นและนาเสนอขอ้ มลู ด้วยคาสั้นๆ และงา่ ยๆ
เกย่ี วกับเร่อื งราวของตนเอง เหตกุ ารณ์ในสถานการณ์ใกล้ตัวในชีวติ ประจาวันและชมุ ชน ปฏิบัติตามได้อยา่ ง
เหมาะสมและมน่ั ใจ

๓. ฟงั พูดเกย่ี วกบั เน้ือหาที่สนใจ จากบทอา่ นเกี่ยวกบั เรอื่ งใกล้ตวั และนทิ านท่ีมีภาพประกอบเก่ยี วกบั
ทอ้ งถ่นิ โดยเลือกใช้คาหรือประโยค อยา่ งง่าย เพ่ือแสดงความคิดเหน็ ที่มตี ่อเหตุการณ์ หรอื เรอ่ื งราวนัน้ ๆ อย่าง
เหมาะสม

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

222
๔. อา่ นประโยคคาส่งั คาแนะนาเกีย่ วกับตนเองและเหตกุ ารณ์ในสถานการณใ์ กล้ตวั เกี่ยวกบั ชุมชน และ
นาไปปฏิบัตติ ามได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
๕. อา่ นนิทานเก่ียวกับทอ้ งถ่ิน ได้อย่างถูกต้อง และบอกความร้สู กึ ของตนเองจากเรื่องท่ีอา่ น ไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม
๖. เขียนประโยคอยา่ งงา่ ยเกี่ยวกบั ตนเอง เชน่ บอกช่ือ อายุ รปู ร่าง สว่ นสูง เรยี กสิง่ ตา่ งๆ จานวน ๑-
๒๐ สี ขนาด สถานท่ใี นชุมชน ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม กับบุคคลตามกาลเทศะ
๗. ใชท้ ักษะการเขียนคา วลี จากภาพถา่ ยของชุมชน เพือ่ แสดงความคิดหรือสะท้อนความรูส้ ึก ได้อยา่ ง
เหมาะสม
๘. ใชค้ าอย่างง่ายในการส่อื สารความตอ้ งการของตนเอง และแลกเปลยี่ นความคิดเกีย่ วกับอาหารและ
เครือ่ งด่ืมในท้องถิ่น ในการทางานร่วมกับผอู้ นื่ อย่างเหมาะสม
๙. เลอื กใชเ้ พลง เพื่อสร้างสรรคผ์ ลงานทางภาษาทส่ี ะท้อนความเปน็ ท้องถิ่นและการเรยี นรตู้ ามความ
ถนัดและความสนใจของตนเอง อยา่ งเหมาะสม

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

223

คำอธิบำยรำยวชิ ำภำษำองั กฤษ ๔

ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำ ๑๒๐ ช่วั โมง

ใช้คาศัพท์พ้ืนฐาน วลี ประโยคเด่ียว ข้อความที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน ตนเอง ครอบครัว บุคคล

โรงเรยี น ชุมชน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหารท้องถิ่น เครอ่ื งดม่ื เวลาว่างและนนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซ้อื -

ขาย และลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คา (คาศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและ

นามธรรม) ได้อย่างม่ันใจและถูกตอ้ ง ฟัง พูด สนทนาโตต้ อบ บทสนทนาที่ใชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ

ขอโทษ ประโยค/ข้อความที่ใช้แนะนาตนเอง ประโยค/ข้อความท่ีใช้ในการประกอบการ แลกเปลี่ยนความ

คิดเห็น ข้อมูล รวมทั้งการสื่อความหมาย ความรู้สกึ อารมณ์ ต่อสถานการณ์ในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม

และถูกต้อง อา่ นและตอบคาถามเกี่ยวกับขอ้ มูลตนเอง เพ่ือน ชมุ ชน การประกอบการ อ่านประโยค บทสนทนา

นิทานพ้ืนบ้านท่ีมีภาพประกอบเพื่อบอกใจความสาคัญ และรายละเอียดที่เหมาะสมกับช่วงวัยได้อย่างถูกต้อง

เขยี นคาและประโยคเด่ยี ว (Simple sentence) เพื่อแสดงความคิดเห็น และความรู้สกึ ของตนเอง เกย่ี วกับเร่อื ง

ใกล้ตัว และกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เขียน สนทนาและโต้ตอบให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคล

สัตว์ ผู้ประกอบการ และเร่ืองใกล้ตัว เช่น ช่ือ อายุ รูปร่าง สี ขนาด รูปทรง ส่ิงต่างๆ จานวน ๑-๑๐๐ วัน

เดือน ปี ฤดูกาล อยู่ของสิ่งต่างๆ เคร่ืองหมายวรรคตอนเหตุการณ์ปัจจุบัน และประเด็นต่างๆ ที่สนใจได้อย่าง

ถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาเพ่ือสืบค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆ ในโรงเรียน ชุมชนและแลกเปล่ียนความรู้ใน

การทางานร่วมกับผู้อ่ืน แสวงหาความรู้และสร้างผลงานทางภาษาอย่างสร้างสรรค์ผ่านการนาเสนอในรูปแบบ

โปสการ์ดแนะนาจุดเด่นของท้องถิ่น จากการฟัง ดูหรืออ่านข้อมูลเก่ียวกับเหตกุ ารณ์และสถานการณ์รอบตัวได้

อย่างถูกต้อง ใช้ภาษาเพ่ือสร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนยอมรับ และเขา้ ใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้

อย่างเหมาะสม

โดยใช้ทักษะการฟัง พูดเพื่อการสื่อสาร อ่านเพ่ือความเข้าใจ เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นและสะท้อน

ความรสู้ กึ ใชภ้ าษาเพื่อการเรยี นรู้ และทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื

เพ่ือให้เกิดการจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การส่ือสาร การรวมพลังทางานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่

เขม้ แขง็ และการอยรู่ ว่ มกับธรรมชาตแิ ละวิทยาการอย่างยง่ั ยืน

ผลลัพธก์ ำรเรยี นรู้
๑. ใช้คาศัพท์พ้ืนฐาน วลี ประโยค เด่ียว ข้อความท่ีเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน ตนเอง ครอบครัว

บุคคล โรงเรียน ชุมชน ส่ิงแวดล้อม อาหารท้องถ่ิน เคร่ืองด่ืม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ
การซ้ือ-ขาย และลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คา (คาศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและ
นามธรรม) ได้อยา่ งมน่ั ใจและถูกต้อง

๒. ฟงั พูด สนทนาโต้ตอบ บทสนทนาที่ใชใ้ นการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยค/ขอ้ ความ
ท่ีใช้แนะนาตนเอง ประโยค/ข้อความที่ใช้ในการประกอบการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อมูล รวมท้ังการสื่อ
ความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ ตอ่ สถานการณ์ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง

หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

224

๓. อ่านและตอบคาถามเก่ียวกับข้อมูลตนเอง เพื่อน ชุมชน การประกอบการ ที่เหมาะสมกับช่วงวัยได้
อย่างถกู ต้อง

๔. อา่ นประโยค บทสนทนา นิทานพ้ืนบา้ นท่ีมีภาพประกอบเพ่ือบอกใจความสาคัญ และรายละเอยี ดที่
เหมาะสมกับช่วงวัยได้อย่างถูกตอ้ ง

๕. เขียนคาและประโยคเด่ียว (Simple sentence) เพื่อแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกของตนเอง
เก่ียวกบั เรอ่ื งใกลต้ วั และกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

๖. เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง บคุ คล สัตว์ ผู้ประกอบการ และเร่ืองใกล้ตัว เช่น ชื่อ อายุ รูปร่าง
สี ขนาด รูปทรง ส่ิงต่างๆ จานวน ๑-๑๐๐ วัน เดือน ปี ฤดูกาล อยู่ของส่ิงต่างๆ เครื่องหมายวรรคตอน
เหตุการณป์ จั จบุ นั และประเดน็ ตา่ งๆ ทสี่ นใจได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

๗. สนทนาและโต้ตอบข้อมูลเก่ียวกับตนเอง บุคคล สัตว์ การประกอบการ และเรื่องใกล้ตัว เช่น ชื่อ
อายุ รูปรา่ ง สี ขนาด รปู ทรง สง่ิ ตา่ งๆ จานวน ๑-๑๐๐ วนั เดอื น ปี ฤดกู าล อยขู่ องสิ่งต่างๆ และแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล ในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกนั กบั ผ้อู ่ืน ได้อย่างเหมาะสม

๘. ใช้ภาษาเพื่อสืบค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆ ในโรงเรียน ชุมชนและแลกเปล่ียนความรู้ในการ
ทางานร่วมกบั ผอู้ ืน่

๙. แสวงหาความรู้และสร้างผลงานทางภาษาอย่างสร้างสรรค์ผ่านการนาเสนอในรูปแบบโปสการ์ด
แนะนาจุดเด่นของท้องถ่ิน จากการฟัง ดูหรืออ่านข้อมูลเก่ียวกับเหตุการณ์และสถานการณ์รอบตัวได้อย่าง
ถกู ต้อง

๑๐. ใช้ภาษาเพื่อสรา้ งความสัมพันธ์ แลกเปล่ียนยอมรับ และเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้
อยา่ งเหมาะสม

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

225

คำอธิบำยรำยวิชำ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ๑

ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๑ เวลำเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง

ศกึ ษาเกี่ยวกับเร่ืองการปฏบิ ัติตามหลักสขุ บัญญัติแห่งชาติ ทากิจวัตรประจาวัน กิจกรรมนันทนาการที่

เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย อารมณ์ สงั คม อย่างเหมาะสม ดู ฟัง อ่าน แลกเปลยี่ นและใช้ข้อมูลดา้ นสุขภาพ

เพ่ือเสริมสร้างนิสัยเก่ียวกับการดูแลสุขภาพที่หมาะสมกับวัย รู้จักการปฏิเสธคนท่ีไม่รู้จัก แสดงออกด้วย

พฤติกรรมท่ีเหมาะสมตามสถานการณ์อย่างมีเหตุผล รับรู้และหลีกเลี่ยงภาวะหรอื สถานการณท์ ่ีก่อให้เกิดความ

ขัดแย้ง และตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่ไว้วางใจอย่างเหมาะสม หากเมื่อมีอาการเจ็บป่วยต้องรู้ถึง

วิธีปฏิบัติตนเม่ือมีอาการเจ็บป่วยท่ีเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ป้องกันตนเองให้ปลอดภัย จากอุบัติเหตุ หรือ

เหตุร้าย สารวจตนเอง จุดเดน่ จดุ ด้อย และ ข้อจากดั ของตนเองในการทากิจกรรม ในชีวิตประจาวนั ท้ังส่วนตัว

และร่วมกับผู้อื่น และปรับปรุงพัฒนาตนเองให้เกิดความมั่นใจและความภาคภูมิใจ ฝึกการเคล่ือนไหวร่างกาย

ให้สัมพันธ์กัน และมีทักษะการเคล่ือนไหวพ้ืนฐานได้อย่างถูกต้อง ตามรูปแบบท้ังใช้อุปกรณ์และไม่ใช้อุปกรณ์

อย่างมีสติ โดยคานึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อ่ืนเป็นสาคัญ เล่นเกม เล่นการละเล่นพื้นเมือง เป็น

ประจาสม่าเสมอจนเป็นนิสัยด้วยความสนุกสนาน ปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม เล่นร่วมกันกับเพ่ือน

ครอบครัวชุมชน โดยรับรู้ว่าตนเองเป็นส่วนหน่ึงของทีม ร่วมวางแผนเพื่อให้ทีมประสบความสาเร็จ มีน้าใจ

นกั กีฬา เคารพกฎ กตกิ า มารยาท และขอ้ ตกลงรว่ มกนั

โดยใช้การมีสุขภาพกายท่ีดีและการเจริญเติบโตท่ีเหมาะสตามวัยม การมีกิจกรรมทางกายอย่าง

สนกุ สนานและปลอดภยั การมสี ุขภาพจติ ทดี่ แี ละมที ักษะในการดาเนินชีวติ

เพื่อให้เกิดการจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การสื่อสาร การรวมพลังทางานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ี

เขม้ แข็ง การอยรู่ ่วมกบั ธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยนื

ผลลัพธ์กำรเรยี นรู้

๑. ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั สขุ บัญญตั แิ หง่ ชาติ ดูแลสุขอนามยั ทางเพศ ทากจิ วัตรประจาวัน กิน นอน
พกั ผ่อน เลน่ และกจิ กรรมนันทนาการท่ีสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย อารมณ์ และสงั คมอยา่ งสมดุลและ
เหมาะสมตามวัย ด้วยความเข้าใจ ถึงผลดตี ่อสขุ ภาพกายและจิต ดู ฟัง อ่าน และแลกเปล่ียนขอ้ มูลด้านสุขภาพ
ทเ่ี หมาะสมกบั วยั เพื่อนามาใช้ในชวี ติ ประจาวันอย่างปลอดภัย และเสรมิ สร้างนิสัยเก่ยี วกับการดูแลสุขภาพ

๒. รบั รูแ้ ละหลีกเลยี่ งการนาตนเองไปอยูใ่ นสถานการณแ์ ละสภาพแวดลอ้ มท่ีเส่ียงและเป็นอันตรายต่อ
สขุ ภาพ ปฏบิ ตั ิตนตามคาแนะนา และขอความชว่ ยเหลือจากบุคคลท่ีไวว้ างใจอย่างเหมาะสม เมื่อมีอาการ
เจบ็ ป่วย บาดเจบ็ จากอบุ ัติเหตุ เหตรุ ้าย หรืออยใู่ นสถานการณ์ที่เป็นอันตรายตอ่ ตนเอง

๓. สงั เกตส่งิ แวดลอ้ มและข้อมลู ขา่ วสารรอบตวั ระมัดระวัง ดแู ลและป้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั จาก
อุบตั เิ หตุ อาการเจบ็ ป่วยหรอื โรคภัยตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสมตามวัย และสขุ ภาพรายบคุ คล

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

226
๔. มีสมรรถภาพทางกาย มีกิจกรรมทางกาย เคลื่อนไหวอวัยวะทกุ สว่ นไดส้ ัมพนั ธ์กัน มีทักษะการ
เคล่ือนไหวพื้นฐานได้อย่างถกู ตอ้ ง และหลากหลายรูปแบบทั้งมอี ุปกรณ์และไม่มีอปุ กรณ์ ดว้ ยความแรง
ระยะทาง หรือมีความแมน่ ยาในบริบทท่เี หมาะสมอย่างมสี ติ โดยคานึงถงึ ความปลอดภัยของตนเองและผูอ้ ่นื
๕. เลน่ เกม เลน่ การละเลน่ พืน้ เมือง ออกกาลังกาย และเล่นกฬี า อยา่ งสมา่ เสมอจนเป็นนิสยั
ดว้ ยความสนุกสนาน มีนา้ ใจนักกีฬา รบั รแู้ ละปฏิบตั ติ ามกฎกติกา มารยาท ข้อตกลงร่วมกนั และรักษา
สิง่ แวดล้อม โดยจดั พื้นที่ปลอดภัยในการทากิจกรรมทัง้ ก่อนและหลังทากิจกรรม
๖. สารวจตนเอง และบอกความคดิ ความตอ้ งการ ความรู้สึก ความสามารถ จุดเดน่ จดุ ด้อย และ
ข้อจากดั ของตนเองในการทากจิ กรรมในชวี ติ ประจาวนั ทัง้ ส่วนตัวและร่วมกับผอู้ ืน่ ตลอดจนแลกเปลีย่ น
ความคิด ข้อมลู เพอ่ื ปรับปรงุ และพฒั นาตนเอง ให้เกิดความม่ันใจและความภาคภมู ิใจ
๗. สงั เกตอารมณ์ พฤติกรรม ความรู้สึกของตนเองและบคุ คลรอบข้าง แสดงออกดว้ ยพฤติกรรมท่ี
เหมาะสมตามสถานการณ์อย่างมีเหตุผล รบั ร้แู ละหลีกเลย่ี งภาวะหรือสถานการณท์ ่ีก่อให้เกิดความขัดแยง้
หรอื ความไมส่ บายใจ หาทางออกในการแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ทไ่ี มเ่ ป็นการทารา้ ยหรอื ใชค้ วามรุนแรง ขอ
ความชว่ ยเหลือ คาปรึกษา คาแนะนา จากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือผู้ใหญท่ ่ีไว้วางใจ
๘. มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั และกลมุ่ เพื่อนอยา่ งมีความสขุ และมีการสอื่ สารให้เกิด
สัมพนั ธภาพที่ดีกบั คนอ่ืน

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

227

คำอธิบำยรำยวชิ ำสุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๔

ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง

ศึกษาและบอกปัจจัยท่ีส่งผลต่อการมีสุขภาพดี การเจริญเติบโตตามเกณฑ์มาตรฐาน ที่ส่งผลต่อการมี

สุขภาพดีและการเจริญเติบโตและข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพและยารักษาโรค และ

ตัดสินใจเลือกซื้อและเลือกใช้อย่างมีเหตุผล ดูแลสุขภาพทางเพศตามช่วงวัย คุณลักษณะของความเป็นเพื่อน

และสมาชิกท่ีดีของครอบครัว แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศของตนตามวัฒนธรรมไทย เทคนิคการขอ

ความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวเมื่อประสบภัยต่าง ๆ บอกผลเสียของการสูบบุหร่ี การด่ืมสุรา สารเสพติด

การติดเกมและการพนัน ท่ีมตี ่อสุขภาพ ป้องกันและหลีกเลยี่ งโรคและอุบัตเิ หตุที่พบบ่อยในชีวิตประจ้าวัน และ

ให้การปฐมพยาบาลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายแบบผสมผสาน ทั้งแบบอยู่กับที่
เช่น การกระโดดเหยียดตัว แบบเคลื่อนท่ี เช่น ว่ิงซิกแซก ว่ิงเปลี่ยนทิศทาง ควบม้า และแบบใช้อุปกรณ์
ประกอบ เช่น บอล เชือก ออกก้าลังกาย เล่นเกมเลียนแบบและกิจกรรมแบบผลัดกีฬาพื้นฐาน เช่น แชร์บอล
แฮนด์บอล ห่วงขา้ มตาขา่ ยและกฬี าพ้ืนบ้านทตี่ นเองชอบและมีความสามารถ โดยเห็นประโยชนท์ ่ีเกดิ กับตนเอง
และผู้อื่น โดยปฏิบัติตามกฎกติกาและข้อตกลงร่วมกัน อย่างปลอดภัย มีสติ รู้เท่าทันเร่ืองอารมณ์และความเครียด
บอกความหมายและความส้าคญั ของสมั พันธภาพในครอบครัวและผูอ้ ่นื

โดยใช้การสร้างเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น การเคลื่อนไหวร่างกายและ
กิจกรรมกีฬาตามกฎ กติกาและข้อตกลง อย่างสนุกสนานและปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น การจัดการ
อารมณ์และความรู้สกึ ของตนเอง กบั ผอู้ นื่ สร้างและรักษาสมั พนั ธภาพท่ดี ีกับผูอ้ ื่น

เพื่อให้เกิดการจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การรวมพลังเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่
รว่ มกับธรรมชาตแิ ละวทิ ยาการอย่างยงั่ ยืน

ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้
๑. ดูแลรักษาร่างกายและสุขภาพของตนเองให้ทางานตามปกติ โดยวิเคราะห์เหตุและผลของการ

รับประทานอาหาร การขับถ่าย การเคล่ือนไหวร่างกาย การออกกาลังกาย การเล่นกีฬา การพักผ่อนและการ

นอนหลับท่ีส่งผลต่อการมีสุขภาพดีและการเจริญเติบโต รับรู้และแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารด้านการสร้างเสริม

สุขภาพ ข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ส่ือโฆษณา ในการตัดสินใจเลือกซื้อและ

เลือกใชอ้ ยา่ งมเี หตุผล

๒. ดูแลสุขภาพทางเพศตามช่วงวัย ป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการคุกคามทางเพศและไม่แสดง
พฤติกรรมคุกคามทางเพศผู้อ่ืน ท้ังกายและวาจา ด้วยความเข้าใจในผลเสียหรืออันตรายท่ีเกิดจากพฤติกรรม
เสี่ยงอันอาจน้าไปสู่ปัญหาทางเพศและผลกระทบอ่ืน ๆ ที่ตามมา รู้ทันส่ือ และระวังอันตรายจากบุคคลที่รู้จัก
ผ่านทางออนไลน์ซ่ึงอาจน้าไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มเหงรังแก และการใช้ความรุนแรงทางออนไลน์

หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

228

โดยหาทางออกได้อย่างเหมาะสม ปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ท่ีไว้ใจหรือหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ
หลีกเล่ียงและปฏิเสธอย่างร้ทู นั สถานการณท์ ไี่ ม่ปลอดภัยและไมเ่ หมาะสม

๓. หลีกเลี่ยงบุคคล สถานการณ์ สถานที่ สภาพแวดล้อม ท่ีจะน้าไปสู่การเก่ียวข้องกับบุหรี่ สุรา สาร
เสพติด การตดิ เกมและการพนัน โดยเข้าใจผลเสียทีม่ ีต่อร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ตลอดจน
ชกั ชวนให้ผ้อู น่ื หลีกเล่ยี งสิง่ ที่เป็นอนั ตรายต่อตนเองและผู้อนื่

๔. ป้องกันและหลีกเลีย่ งโรคและอบุ ัตเิ หตทุ พ่ี บบ่อยในชวี ิตประจา้ วัน แจ้งผู้ใหญ่เพอื่ ขอความชว่ ยเหลือ
บอกปัญหาสุขภาพของตนเอง ใชย้ าตามค้าแนะนา้ ของแพทย์ ใหก้ ารปฐมพยาบาลได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
และแสดงพฤติกรรมท่ีรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและส่วนรวมโดย รับรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
ด้านการปอ้ งกันโรค การใชย้ าและการปฐมพยาบาล เพื่อการดแู ลสขุ ภาพทดี่ ี

๕. เคล่ือนไหวรา่ งกายแบบผสมผสานและมีกจิ กรรมทางกายด้วยตนเองและร่วมกบั ผอู้ ่ืน ท้ังแบบอยู่
กบั ที่ แบบเคลอื่ นท่ี และแบบใช้อุปกรณป์ ระกอบ ผา่ นการฝึกทกั ษะการเคล่ือนไหวเรือ่ งการรบั แรง การใช้แรง
ความสมดุลของรา่ งกายอยา่ งมีสติ สม้่าเสมอ และคา้ นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผอู้ นื่ โดยเห็นคุณคา่
ของการพฒั นาสมรรถภาพทางกายอย่างต่อเนอ่ื ง

๖. ออกก้าลังกาย เล่นเกม เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและทีม ที่ตนเองชอบและมี
ความสามารถ โดยเห็นประโยชน์ที่เกิดกับตนเองและผู้อ่ืนจากการปฏิบัติเป็นประจ้า เป็นทั้งผู้เล่นและ
ผู้ด้าเนินการได้อย่างเหมาะสมตามวัย ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเล่นเกมและกีฬา มีความ
สามัคคี มีน้าใจนักกีฬา ปฏิบัติตามกฎ กติกาและข้อตกลง วิเคราะห์ทักษะการเล่น จุดแข็ง กลวิธีการเล่นของ
ทมี เพ่อื ปรับปรุงทมี ใหป้ ระสบความส้าเร็จ

๗. มีสติรู้เทา่ ทนั อารมณ์ และความรสู้ ึกทีเ่ กิดข้ึน โดยรขู้ ดี จา้ กัดด้านอารมณ์และความรู้สกึ ของตนเอง รู้
สาเหตุของความเครียด น้าไปสู่การควบคุมตนเองให้แสดงอารมณ์และความรู้สึกในสถานการณ์ต่าง ๆ และการ
บรรเทาความเครียดอยา่ งเหมาะสมและเขา้ ใจผลดีและผลเสียทีเ่ กิดข้ึนต่อตนเองและผูอ้ ืน่

๘. สร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับครอบครัว เพื่อนและบุคคลที่เก่ียวข้องกับการใช้ชีวิตประจ้าวัน
แกไ้ ขความขดั แยง้ โดยไม่ใชค้ วามรุนแรง ยอมรับความแตกตา่ งระหว่างของบคุ คล

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

229

คำอธบิ ำยรำยวิชำวทิ ยำศำสตรแ์ ละระบบธรรมชำติ ๑

ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๑ เวลำเรยี น ๔o ชว่ั โมง

ศึกษาเรียนรู้ อธบิ าย และการนาเสนอเก่ียวกับการใชป้ ระโยชนจ์ ากดินและนา้ จากชวี ติ ประจาวนั ของ

ตนเองหรือจากกจิ กรรมต่าง ๆ รอบตวั ความหมายของสภาพแวดลอ้ ม เนน้ กระบวนการสบื เสาะรว่ มกันในการ

รวบรวมหลักฐาน โดยการสารวจและเลอื กการบันทึกข้อมูลเก่ียวกับความเหมาะสมกับการดารงชีวิตของพชื

และสัตวท์ ีอ่ าศัยอยู่ อธิบายการเกดิ ลมประโยชน์และโทษของลม ลกั ษณะของภัยธรรมชาติ วางแผนหาแนวทาง

ปฏบิ ัติเพื่อความปลอดภัยจากวาตภยั และอุทกภยั เข้าใจชนิดของวัสดุ สมบัติของวสั ดกุ ่อนและหลังผสมวัสดอุ ื่น

ในชวี ิตประจาวนั เช่น การทาขนมโค แก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยการสร้างและออกแบบ (กล่องส่ีเหลี่ยม) ใชก้ าร

ลองผดิ ลองถูก การเปรียบเทยี บ เขียนโคด้ อย่างง่ายโดยใชบ้ ัตรคาสั่ง จัดลาดับข้ันตอนการทากจิ กรรม ใช้

เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเข้าถึงแหล่งเรียนรใู้ นการสืบค้นข้อมูลและสื่อสาร ระบวุ ธิ ีการใชส้ งิ่ ของในชวี ิตประจาวันตาม

หน้าทใ่ี ช้สอยและการใช้งานอยา่ งปลอดภัย

โดยอธิบายปรากฏการณ์อยา่ งเปน็ วทิ ยาศาสตร์ ประเมินและออกแบบการสบื เสาะเชิงวิทยาศาสตร์

ตีความหมายข้อมลู และหลักฐานทางวทิ ยาศาสตร์ แก้ปัญหา สรา้ งนวตั กรรม และการอยู่ร่วมกัน ใชแ้ ละเข้าใจ

ภาษาเชิงวทิ ยาศาสตร์ ใช้เคร่ืองมือในการเรียนรู้

เพอ่ื ให้เกดิ การจัดการตนเอง การคดิ ขนั้ สงู การสื่อสาร การรวมพลังทางานเปน็ ทมี การเปน็ พลเมืองที่

เขม้ แข็ง การอย่รู ว่ มกบั ธรรมชาติและวิทยาการอย่างยง่ั ยนื

ผลลัพธก์ ำรเรียนรู้

๑. วเิ คราะห์ข้อมูลเกยี่ วกับพฤติกรรมการใช้ดนิ และนา้ ของตนเองและครอบครัวท่ีสง่ ผลท้งั ในแง่บวกและแง่

ลบกบั ตนเองและผู้อนื่ บอกแนวการปฏบิ ัติตนในการใชป้ ระโยชน์จากดินและนา้ ในการทากิจวัตรต่าง ๆ ได้อยา่ ง

เหมาะสมและมีเหตผุ ล โดยประยุกต์ใช้ความรเู้ กยี่ วกับลักษณะ สมบตั ิ และประโยชนข์ องดินและนา้ จากการ

สังเกตและใช้เครื่องมืออยา่ งง่าย เลือกใชส้ อ่ื ในการนาเสนอการดูแลรกั ษาดินและน้าใหเ้ ข้าใจง่ายและเหมาะสม

๓. ตัดสนิ ใจรว่ มกนั และปฏิบัตติ ามบทบาทหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมายในการออกแบบการบันทึกข้อมูล เลือกใช้

เครอ่ื งมอื อย่างง่ายและลงข้อสรุปเกยี่ วกับส่ิงทจี่ าเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตและการดารงชีวิตของพชื และสัตว์

และวัฏจกั รชีวิตของพชื ดอกและสัตว์ในทอ้ งถ่นิ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตุผลเกยี่ วกบั ความเหมาะสม

ของสภาพแวดล้อมกบั การดารงชีวติ ของพืชและสัตว์จากหลกั ฐานทร่ี วบรวมได้ เลอื กรูปแบบการนาเสนอท่ี

เหมาะสมกบั ข้อมูลหรอื ให้นา่ สนใจและนาเสนอดว้ ยภาษาที่เหมาะสมกบั วัย รวมท้งั ตระหนกั ถงึ สิ่งที่จาเป็นต่อ

การดารงชวี ิตของพืชและสัตว์โดยบอกแนวทางการดูแลพืชและสัตว์ใหเ้ จรญิ เติบโตและดารงชวี ติ อยู่ใน

สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

230
๖. รบั ผดิ ชอบตามหน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมายในการรวบรวมหลกั ฐานต่าง ๆ เพ่ือนาไปสู่การสร้างคาอธบิ ายการ
เกดิ ลม นาเสนอเก่ยี วกบั ผลของลมต่อส่ิงมชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ มจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ โดยมกี ารเลอื กสอ่ื ท่ีใชใ้ น
การสอื่ สารใหเ้ หมาะสมกับบคุ คล
๗. วางแผนการปฏิบตั ิตนท่เี ป็นไปไดจ้ ริงเพื่อให้มคี วามปลอดภยั จากวาตภยั และอทุ กภยั โดยอาศยั ความรู้
เกี่ยวกบั ลกั ษณะของภยั ธรรมชาติ
๘. ส่ือสารความเข้าใจเกี่ยวกบั แรงผลของแรงที่มตี อ่ วัตถุตา่ ง ๆ และแรงแม่เหล็กทส่ี ังเกตได้จากการทา
กิจกรรมหรือพบในสถานการณต์ ่าง ๆ ในชวี ิตประจาวนั ผ่านสื่อและภาษา ทเี่ หมาะสม เขา้ ใจงา่ ย เลอื กใช้วัสดุ
ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานโดยพจิ ารณาจากสมบัติของวัสดอุ ย่างมเี หตผุ ล และมีสว่ นรว่ มในการทางาน
กบั ผอู้ ่ืนและรบั ผิดชอบตามหน้าทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมายในการประยกุ ตใ์ ช้ความรูเ้ รอ่ื งแรงและสมบัติของวัสดเุ พื่อ
แก้ปญั หาหรือสรา้ งของเล่นของใชอ้ ยา่ งงา่ ย
๙. แกป้ ัญหาอยา่ งง่ายหรือทากิจกรรมในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งมีข้ันตอน แสดงวิธีการหาคาตอบหรือวิธี
แกป้ ัญหาระบุเหตผุ ลที่นาไปสูค่ าตอบ มีความมุ่งม่นั ในการแกป้ ญั หาให้สาเรจ็
๑๐. ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทลั หรอื แหลง่ เรยี นรใู้ นการสืบค้นข้อมูล สรุปความเข้าใจจากข้อมูล และตดิ ต่อสื่อสารใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสมและปลอดภยั
๑๑. สร้างของเลน่ หรอื ของใช้ เพ่อื แกป้ ัญหาตามความสนใจ โดยร่วมกันทางานเปน็ ทีม เลอื กและใช้ส่ิงของ
เครื่องใชใ้ นชีวิตประจาวันตามหนา้ ที่ใชส้ อยได้อย่างปลอดภัย

หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

231

คาอธบิ ายรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ 4

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 80 ชัว่ โมง

ศึกษาการเรียนรู้ ตั้งค้าถาม สังเกต และอธิบายการเกิดเสียง ทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียงจาก

แหลง่ กา้ เนิดเสียง และตัวกลางของเสียงชนิดตา่ ง ๆ ต้ังสมมตฐิ านเพอ่ื น้าไปสู่ทดลองเพือ่ อธิบายการเกิดและการ

ได้ยินเสยี งดงั เสียงค่อยจากแหล่งก้าเนิดเสียง ประยุกตใ์ ช้ความรู้ในการวิเคราะห์และอธบิ ายสถานการณ์ต่าง ๆ

ท่เี กี่ยวข้องกับเสียง สมบัติของสสารในสถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส การน้าสมบัติทางกายภาพของวัสดุ

ไปใช้ในชีวิตประจ้าวันสมบัติของสสารทั้ง 3 สถานะ เช่น ละแซ วิเคราะห์และให้เหตุผลเกี่ยวกับสถานะของ

แหล่งน้าบนโลกโดยใช้ความรู้เก่ียวกบั สมบัติของน้าในแต่ละสถานะ การใช้เคร่ืองมือช่วยในการสังเกต รวบรวม

หลักฐานจากส่ือหรือ Application ต่างๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อบอกความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตในแหล่งที่อยู่

ต่างๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อ่ืนเพื่ออธิบายการปรับตัวด้านโครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตที่เหมาะสมกับ

การด้ารงชีวิตในแหล่งที่อยู่ต่าง ๆ ตั้งค้าถามเก่ียวกับเก่ียวลักษณะการเคลื่อนท่ีของแสง รับรู้ความส้าคัญของ

แสงที่มีต่อการมองเห็น ใช้หลักฐานที่ได้จากการสังเกตในการอธิบายลักษณะและทิศทางการเคล่ือนท่ีของแสง

จากแหล่งก้าเนิดแสงต่าง ๆ น้าเสนอความเข้าใจเก่ียวกับการมองเห็นส่ิงต่าง ๆ รอบตัวด้วยการเขียนแผนภาพ

รังสีของแสงแสดงการมองเห็นอธิบายการมองเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ พยายามสร้างแบบจ้าลอง ใช้

เหตุผลและความสมั พันธ์ของข้อมูลในการคาดการณ์การมองเห็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวง

จันทร์บนท้องฟ้า วิเคราะห์ความสมเหตุสมผลของดาวต่าง ๆ ในระบบสุริยะกับการด้ารงชีวิตของสิ่งมีชีวิต

ปฏิบัติตนท่ีไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมบนโลก เพ่ือแสดงความตระหนักว่าโลกเป็นดาวดวง

เดียวในระบบสุรยิ ะท่เี หมาะสมกบั การด้ารงชีวิต เลือกวธิ ีทดลองเพื่อน้าไปสู่การตอบค้าถาม เกี่ยวกับสมบตั ิดา้ น

ความแข็งและสมบัติการน้าความร้อนของวัสดุต่าง ๆ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและปรับปรุง

เครื่องมือหรือเครื่องใช้ที่มีอยู่เพ่ือแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการในชีวิตประจ้าวัน โดยเลือกใช้ความรู้

เรอ่ื งสมบตั ิดา้ นความแข็ง และ/หรือการน้าความร้อนของวัสดุตา่ ง ๆ

โดยใช้อธิบายปราฏการณ์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ประเมินและออกแบบการสืบเสาะเชิงวิทยาศาสตร์

ตีความหมายข้อมูลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แก้ปัญหา สร้างนวัตกรรมและการอยู่ร่วมกัน ใช้และเข้าใจ

ภาษาเชิงวิทยาศาสตร์ใชเ้ ครอื่ งมอื ในการเรยี นรู้

เพ่ือให้เกิดการจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การส่ือสาร การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ี

เขม้ แข็ง การอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละวิทยาการอย่างย่ังยนื

ผลลัพธก์ ารเรียนรู้
2. สงั เกต ทดลอง และอธิบายการเกิดเสียง การเคลื่อนท่ีของเสียง เสียงสูง เสียงต่า้ เสียงดัง เสียงค่อย
และวิเคราะห์สาเหตทุ ่ที ้าใหเ้ กดิ มลพิษทางเสียงโดยประเมินความน่าเชื่อถือและความสมเหตสุ มผลของหลักฐาน
ไมป่ ระพฤตติ นเป็นสาเหตทุ ่ีท้าใหเ้ กดิ มลพิษทางเสียง และนา้ เสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยจากมลพิษ
ทางเสยี งเพื่อใหม้ สี ขุ ภาพกายและจติ ทด่ี ีดว้ ยวิธีการทีเ่ หมาะสมเพื่อให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและผู้อ่ืน

หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

232

3. ร่วมกันทางานเป็นทีมในการรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทางานอย่างเป็นขั้นตอนในการ
สร้างแบบจาลองเพ่ืออธิบายกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง น้าค้างแข็ง ฝน หิมะ และลูกเห็บ โดยอาศัย
ความรเู้ กยี่ วกับสถานะและการเปล่ยี นสถานะของสสารและจากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

4. วิเคราะห์แบบจาลองวัฏจักรน้าร่วมกับข้อมูลปริมาณน้าบนโลก เพื่อเปรียบเทียบปริมาณน้าจืดที่
มนุษย์นามาใช้ได้เทียบกับปริมาณน้าทั้งหมดบนโลก ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์และเคร่ืองมือดิจิทัลในการ
จัดการและนาเสนอข้อมูลอย่างเหมาะสม และนาเสนอแนวทางการปรับเปล่ียนพฤติกรรมการใช้น้าของคนใน
บา้ นหรือในโรงเรียน วเิ คราะห์ จัดลาดบั สาเหตขุ องปัญหา และร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปญั หา หรอื นาเสนอ
แนวทางการอนุรกั ษ์นา้ ในชมุ ชน เพื่อเป็นส่วนหนึง่ ทช่ี ว่ ยให้ชุมชนมนี า้ ใช้อย่าง ไมข่ าดแคลน

5. สรา้ งคาอธิบายและแลกเปล่ียนข้อมลู เกีย่ วกบั ความสมั พันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่งิ แวดลอ้ มในแหล่ง
ท่ีอยู่ในเรื่องการปรับตัวด้านโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตท่ีเหมาะสมกับการดารงชีวิต ความสัมพันธ์
ระหว่างส่ิงมีชีวติ กับส่ิงมีชีวิตในการถ่ายทอดพลังงานและการเป็นที่อยู่อาศัย โดยแบ่งบทบาทหนา้ ทใี่ นการเลือก
วิธีการรวบรวมข้อมูลที่เหมาะสม จัดการข้อมูล และเลือกรูปแบบการนาเสนอข้อมูลให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย และ
สอดคล้องกับจุดประสงค์ รับรู้ความสาคัญของความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมโดยบอกแนวทางการ
ดูแลส่ิงแวดล้อมอย่างมีเหตุผลและปฏิบัติตนเพ่ือให้การถ่ายทอดพลังงาน การดารงชีวิต และความหลากหลาย
ของสิ่งมชี วี ิตเป็นไปตามธรรมชาติ

6. อธิบายการมองเห็นส่ิงต่าง ๆ รอบตัวและการเกิดเงา คาดการณ์การมองเห็นปรากฏการณ์การ
เปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์บนท้องฟ้า พยายามหาสาเหตุและอธิบายการเกิดปรากฏการณ์ อุปราคาได้
อย่างสมเหตุสมผล โดยอาศัยความรู้เร่ืองแสงกับการมองเห็น การเกิดเงา ร่วมกับการสังเกต และการสร้าง
แบบจาลอง ส่ือสารความรู้และแลกเปล่ียนความคิดเห็นบนพ้ืนฐานของความเข้าใจอย่างมีเหตุผลและตระหนัก
ถึงความแตกต่างในดา้ นความเช่อื และวัฒนธรรมของคนในสงั คม นาเสนอโดย เลือกใช้สอื่ และวธิ ีการทีเ่ หมาะสม

7. วิเคราะห์ความสมเหตุสมผลของดาวต่าง ๆ ในระบบสุริยะกับการดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิตจากการ
สังเกต แบบจาลองระบบสรุ ิยะและรวบรวมข้อมลู และนาเสนอโดยใชแ้ บบจาลองหรือในรูปแบบท่ีนา่ สนใจ เพื่อ
นาไปส่คู วามตระหนักวา่ โลกเป็นดาวดวงเดยี วในระบบสุริยะทีเ่ หมาะสมกับการดารงชวี ิต

8. สร้างคาอธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยอาศัยหลักฐานและการเชื่อมโยงความรู้จาก
การ สังเกต จากแบบจาลอง และจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ และนาเสนอประโยชน์และผลกระทบของ
ปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อส่ิงมีชวี ิตและสิง่ แวดล้อม

หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

233
11. รว่ มกันทางานเป็นทีมอย่างกระตือรือร้นในการสร้างเครื่องมือหรอื เครื่องใช้อย่างสร้างสรรค์เพื่อ แก้ปัญหา
หรือตอบสนองต่อความต้องการ โดยเลือกใช้ความรู้เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย การต่อ เซลล์ไฟฟ้าแบบ
อนุกรม การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน สมบัติการนาไฟฟ้า สมบัติ การนาความร้อน และ
สมบัตดิ า้ นความแขง็ ของวสั ดุ ประเมินตนเองในด้านผลงานและการทางานใน บทบาทการเปน็ สมาชกิ ของทมี

หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

234

คำอธิบำยรำยวิชำภูมปิ ระวตั ิและวฒั นศิลป์ ๑

ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๑ เวลำเรียน ๘๐ ชัว่ โมง

ศึกษา อธิบาย อภิปราย สารวจสังเกตธรรมชาติที่อยู่ในท้องถ่ิน เพ่ือซึมซับและรับรู้ ความงามของ

สีสัน รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว จากธรรมชาติและประวัติของชุมชน อาชีพ สถานท่ีสาคัญในชุมชน ส่ิงแวดล้อม

รอบโรงเรียน เลือกเก็บวัสดุธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ ก่ิงไม้ ลูกไม้ เมล็ด ก้อนหิน ท่ีมีรูปร่างลักษณะต่าง ๆ

หรือสิ่งของอื่น ๆ ท่ีมีในชุมชนและท้องถ่ิน เพ่ือนามาจัดเรียงเป็นภาพที่มีองค์ประกอบศิลป์ จากรูปร่าง รูปทรง

เส้น สีสัน ของส่ิงเหล่าน้ันด้วยวิธีการต่าง ๆ การพิมพ์มือ แขน เท้า หรือส่วนอื่น ๆ จากร่างกาย ด้วยสีน้า ดิน

หรือสีอื่น ๆ ลงบนกระดาษ ฝึกปฏิบัติ รูปร่าง ลักษณะ และขนาดของสิ่งต่างๆ รอบตัวใน ธรรมชาติและ

ส่งิ ทมี่ นุษย์สร้างขน้ึ การใช้วัสดุ อปุ กรณ์สร้างงานทัศนศิลป์ การทดลองใช้สีด้วยเทคนิคง่ายๆ ความร้สู ึกท่ี

มีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีอยู่รอบๆ ตัว การวาดภาพระบายสีภาพธรรมชาติตามความรู้สึกของตนเอง

งานทัศนศิลป์ในชีวิตประจาวัน ส่ิงต่างๆ ก่อกาเนิดเสียงที่แตกต่างกัน ฟังเพลงที่เสริมสร้างทักษะชีวิต เช่น

เพลงข้ามถนน ทานองเพลงฟ้อนเง้ยี ว และเพลงไทยสากล ร้องเพลงหรือเคาะจังหวะตามเพลงที่สนใจ เพื่อให้

เกิดความแมน่ ยาในการใช้จังหวะในการร้องเพลง ลักษณะของเสียงดัง-เบา และความช้า-เร็วของจังหวะ การ

ทอ่ งบทกลอนและร้องเพลงง่ายๆ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมดนตรีอย่างสนุกสนาน ความเกี่ยวข้องของเพลงที่

ใช้ในชีวิตประจาวัน เพลงในท้องถ่ิน สิ่งท่ีช่ืนชอบในดนตรีท้องถิ่น การเลียนแบบการเคล่ือนไหว เข้าใจ

ความหมายและอารมณข์ องท่าทางการเคลื่อนไหวในการแสดงนาฏศิลป์ การรา่ ยราของท้องถ่ิน หรือการเตน้ รา

เก่ียวกับของชุมชนและท้องถิ่น สามารถฝึกแสดงท่าทาง การเคล่ือนไหว ไปพร้อมกับบทเพลงในชุมชนและ

ท้องถ่ินอย่างง่าย ๆ ด้วยการใช้ท่าราพ้ืนฐานที่ส่ือความหมายของบทเพลง เช่น ระบาในน้ามีปลา ในนามีข้าว

และอื่น ๆ การแสดงท่าทางง่ายๆ เพ่ือส่ือความหมายแทนคาพูด การละเล่นของเด็กไทย ส่ิงท่ีตนเองชอบ

จากการดูหรอื ร่วมการแสดง และการแสดงนาฏศลิ ป์

โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางทศั นศลิ ป์ ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ ในการสรา้ งและนาเสนอผลงานทัศนศลิ ป์

ในการแสดงออกทางดนตรีและนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ การเลือกใช้วัสดุ ท่ีมีในชุมชนและท้องถิ่น อุปกรณ์ที่

เหมาะสม การวิเคราะห์ การวิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ เพื่อให้เห็นคุณค่างาน

ทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล เข้าใจ

ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี-นาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม นาความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน

ชวี ติ ประจาวัน มจี รยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม

มีเจตคติท่ีดีต่อการทางาน มีมารยาท ขยัน อดทน รับผิดชอบ ซื่อสัตย์และสุจริตในการทางาน ปลูก

จิตสานึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรในการทางานอย่างประหยัดและคุ้มค่าเหมาะสม ตลอดจนนาความรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

235
ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีพฤติกรรมบ่งชี้ตามสมรรถนะหลัก ๖ ประการ ในด้านการจัดการตัวเอง การคิดขั้นสูง
การส่ือสาร การรวมพลังทางานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเขม้ แขง็ การอยู่รว่ มกับธรรมชาติและวิทยาการอย่าง
ยัง่ ยนื
ผลลพั ธก์ ำรเรียนรู้
๑.การสังเกต รับรู้ สมั ผสั ถงึ สุนทรยี ภาพ และซึมซบั ความงามของสีสัน รปู รา่ งรปู ทรง พื้นผิว จากธรรมชาติ
๒. ความสามารถในการขับร้องเพลงที่เสริมสรา้ งทกั ษะการใช้ชีวติ
๓. ความสามารถในการสร้างสรรคง์ านศิลปะดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ อย่างมจี นิ ตนาการ
๔. การเข้าใจ เข้าถึงความหมาย และอารมณ์ของบทเพลงท้ังเพลงไทยและสากล สามารถถ่ายทอดขับร้องบท
เพลงได้อยา่ งไพเราะและเปน็ ธรรมชาต
๕. ความสามารถเคล่ือนไหวร่างกายเลียนแบบธรรมชาติ คน สัตว์ สิ่งของในลักษณะต่างๆ อย่างอิสระ
สร้างสรรค์ และมสี ุนทรียภาพ

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

236

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ คาอธิบายวชิ าภมู ิประวตั ิและวฒั นศลิ ป์ ๔
เวลา ๘๐ ช่วั โมง

ศึกษา เปรียบเทียบ อภิปราย สังเกตและรับรู้รายละเอียดของรูปร่าง (Shape) รูปทรง (Form)
เส้น (Line) สีสัน (Color) พ้ืนผิว (Texture)ของวัสดุธรรมชาติท่ีมีชุมชนและท้องถ่ิน (Organic Form) ด้วย
วิธีการร่างภาพ(Sketch) เพื่อเรียนรู้องค์ประกอบของศิลปะท่ีปรากฎอยู่ในธรรมชาติ น้ามาประยุกต์ใช้ในการ
สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเองฝึกปฏิบัติ ในธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเรือ่ งเส้น
สี รูปรา่ ง รูปทรง พ้ืนผิว และพื้นที่ว่าง อิทธิพลของสีวรรณะอ่นุ และสวี รรณะเย็นที่มตี อ่ อารมณข์ องมนุษย์
การวาดภาพระบายสีโดยใช้สีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็น ถ่ายทอดความรู้สึกและจินตนาการ การใช้วัสดุ
อุปกรณ์สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพและงานวาดการวาดภาพ (Drawing) สถานที่ส้าคัญในชุมชนและท้องถ่ิน
ฝึกฝนทักษะควบคู่กับการขัดเกลาจิตใจ เป็น“สมุด บันทึกลายเส้น ลีลา ท่าทาง” ฝึกวาดภาพต้นไม้ สัตว์ คน
และส่ิงแวดลอ้ มโรงเรียนในมมุ มองท่ปี ระทับใจ วาดภาพระบายสีน้า (Water color painting) ทา้ ความรู้จกั ของ
สีน้า ด้วยวิธีการฝึกระบายสีน้าข้ันพื้นฐาน การทดลองหยดสีการผสมสี และระบายเคลือบสีทับซ้อน สังเกตการ
ไหลซึมเข้าหากัน การฟุ้งกระจายออกของสีคุณสมบัติของสีน้า การผสมสีและระบายสีน้าแบบต่าง ๆ และวาด
ต่อเติม จัดวางองค์ประกอบศิลป์ เรื่อง เส้นรูปร่าง รูปทรง พ้ืนผิวตามจินตนาการบนกระดาษ ภาพระบายสี
ลักษณะภาพที่เน้นการจัดระยะ ความลึก น้าหนัก และแสงเงา การถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกผ่านงาน
ทศั นศิลป์ของตนเองและผอู้ ื่น งานทศั นศิลป์ในเหตุการณ์และงานเฉลิมฉลองของวฒั นธรรมท้องถ่ิน สังเกตการ
แสดงพื้นบ้าน การแสดงประจ้าท้องถ่ินและชุมชนอ่ืนๆ และถ่ายทอดท่าทางการร่ายร้า ความงามของลีลา ที่
สะท้อนถึงการรับรู้ความงามของนาฏศิลป์ และร่วมกับการเล่นดนตรี การขับร้องเพลงได้อย่างพร้อมเพรียง
การใช้ส่ือเร่ืองราวของดนตรี แหล่งที่มาและความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตไทยที่สะท้อนในดนตรีและเพลงท้องถ่ิน
ทักษะพ้ืนฐานทางนาฏศิลป์และการละครท่ีใช้ส่ือความหมายและอารมณ์ การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์หรือ
ศัพท์ทางการละครง่ายๆ ในการถ่ายทอดเร่ืองราว การแสดงการเคล่ือนไหวในจังหวะต่างๆ ตามความคิดของ
ตน การแสดงนาฏศลิ ปเ์ ปน็ คู่และหมู่ สิง่ ท่ีช่ืนชอบในการแสดงโดยเนน้ จดุ สา้ คัญของเรื่องและลักษณะเด่นของ
ตวั ละคร ประวตั ิความเป็นมาของนาฏศิลป์หรือชดุ การแสดงอยา่ งงา่ ยๆ ความส้าคัญของการแสดงความเคารพ
ในการเรียนและการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงนาฏศิลป์กับการแสดงที่สังเกตท่าทางทางธรรมชาติ แล้วน้ามา
ออกแบบท่ารา้ โดยใชภ้ าษาท่าสื่อความหมาย ในรปู แบบการแสดงนาฏศลิ ป์มาจากวฒั นธรรมอนื่ เหตุผลทค่ี วร
รกั ษาและสบื ทอดการแสดงนาฏศิลป์

มีเจตคติท่ีดีต่อการท้างาน มีมารยาท ขยัน อดทน รับผิดชอบ ซ่ือสัตย์และสุจริตในการท้างาน ปลูก
จิตส้านึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรในการท้างานอย่างประหยัดและคุ้มค่าเหมาะสม ตลอดจนน้าความรู้
ไปใช้ในชีวิตประจ้าวัน มีพฤติกรรมบ่งชี้ตามสมรรถนะหลัก ๖ ประการ ในด้านการจัดการตัวเอง การคิดข้ันสูง
การสื่อสาร การรวมพลงั ท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมอื งท่ีเข้มแขง็ การอยู่รว่ มกับธรรมชาติและวิทยาการอย่าง
ยัง่ ยืน

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

237
ผลลพั ธ์การเรยี นรู้

๑. การแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับความงามจากการสัมผัส รับรธู้ รรมชาติ สภาพแวดลอ้ มและผลงาน
ศลิ ปะ

๒. การอธบิ ายถงึ แรงบนั ดาลใจและความชื่นชมของตนเองเกยี่ วกบั ผลงานทศั นศลิ ป์
๓. การสรา้ งสรรค์ผลงานทศั นศลิ ป์ทต่ี นเองชืน่ ชอบ รจู้ กั การใชอ้ งคป์ ระกอบทางทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอด
ความคิดความรู้สกึ จินตนาการ สะทอ้ นถึงธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม เรอ่ื งราวใกลต้ ัว ในชวี ิตประจ้าวนั ทีเ่ ช่ือมโยง
กับตนเอง
ครอบครัว โรงเรยี นและทอ้ งถิ่น
๔.. การเคลอ่ื นไหวร่างกายโดยใชท้ ่ารา้ ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ ในการสื่อความหมาย อย่างม่ันใจและ
งดงาม สะท้อนอารมณข์ องตนเองในรูปแบบการแสดงต่าง ๆ ท้ังเดีย่ วและกล่มุ
๕. รว่ มสรา้ งงานการแสดง เพ่ือเปน็ การรณรงคเ์ กี่ยวกับปญั หาสิง่ แวดล้อมใกล้ตัว ชมุ ชน ท้องถิ่น
อนุรกั ษ์สบื สานภูมปิ ัญญาไทย

หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

238

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

วิชำวิถีพลเมืองสู่ผปู้ ระกอบกำรน้อย ๑

ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำเรียน ๘๐ ช่วั โมง

มีศรัทธา เคารพ และตระหนักในหลักคาสอนของศาสนาที่ตนนับถือ บอกความหมาย ความสาคัญ เห็น

คุณค่า และมีส่วนร่วมในการเคารพต่อสถาบันหลัก เห็นคุณค่าและแสดงออกการเป็นสมาชิกที่ดีในครอบครัว

โรงเรียน ยอมรับความแตกต่างที่หลากหลาย เข้าใจการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และ

สิ่งแวดล้อมทมี่ ีจากัด สามารถจัดการตนเองและดาเนินชีวิตตามวิถีอิสลามอย่างมสี ติ สมาธิและปัญญาทีก่ ่อให้เกิด

การคิดขั้นสูง รบั รู้สทิ ธขิ องตนเองและผู้อ่ืน เข้าใจและยอมรับข้อตกลงเกี่ยวกบั การใช้จา่ ยที่จาเป็น เลอื กซื้อของ

ที่มีฮาลาลและก่อประโยชน์แก่ตนเองและสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด คุ้มค่า และ

พอเพียง เพ่ือให้เกิดความสมดุลอย่างย่ังยืน สังเกตความสามารถ ความดีของตนเองและผู้อื่น มีส่วนร่วมใน

กิจกรรมชั้นเรียนด้วยมารยาทท่ีดีงาม ทาความเข้าใจกับข้อตกลง รับรู้บทบาทหน้าท่ีของตนเองและผู้อ่ืน

ความหมายและความแตกต่างของบทบาท สิทธิ หน้าท่ีในครอบครัวและโรงเรียน การดูแลตนเองจากการถูก

รังแกหรือการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ท้ังร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน บอกข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ต่างๆ ใน

ชีวิตประจาวันด้วยคาพูด รูปภาพ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับผู้ประกอบการ สังเกตและตั้งคาถามอย่าง

งา่ ยเกี่ยวกบั ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีความสัมพันธ์กบั ตนเอง ครอบครัว และโรงเรียน อธบิ ายประโยชน์และ

โทษของสื่อ สารสนเทศ ดิจิทัล โดยใช้หลักการคิดวิจารณญาณในความเท่าทันของตนเองและบริบทครอบครัว

นาองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ีสามารถต่อยอดผลผลิตและสร้างรายได้ในครอบครัว

โรงเรียน และชมุ ชน

โดยใช้กระบวนการอธิบาย การตั้งคาถาม การสืบค้น การสรุปข้อมูล การประยุกต์ใช้ความรู้
กระบวนการกลุ่ม การใช้แหล่งเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี การบูรณาการวิถีอิสลาม ทักษะทางวัฒนธรรม การ
ปฏิบัติจริง มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียนและในบ้าน มีมารยาทในแบบอิสลาม เห็นคุณค่าของหลัก
เศรษฐกิจพอเพียง การวางแผนการใช้จ่าย การออมเงิน เห็นความสาคัญของเหตุการณ์ในปจั จบุ ันและอดีต ร่วม
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น และแหล่งวัฒนธรรมในชุมชน ตลอดจนสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้อย่าง
เหมาะสม

เพอื่ ให้เกดิ การจัดการตนเอง การคิดขนั้ สูง การสื่อสาร การรวมพลังทางานเปน็ ทมี การเป็นพลเมอื งที่
เขม้ แข็ง การอย่รู ่วมกบั ธรรมชาติและวทิ ยาการอยา่ งย่งั ยืน

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

239

ผลลัพธก์ ำรเรยี นรู้ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๑
LO๑-So-๐๑ มีศรทั ธา เคารพ และตระหนกั รูใ้ นพระคุณของพระรัตนตรยั หรือศาสดาในศาสนาอื่นที่

ตนนับถือ หม่นั ฝึกตนตามหลักเบญจศีล เบญจธรรม หรอื หลักคาสอนของศาสนาทตี่ นนบั ถอื สามารถจดั การ
ตนเองและดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คมยคุ ปกติใหม่อย่างมสี ติ สมาธิและปัญญาทกี่ ่อให้เกิดการคดิ ขน้ั สูง

LO๑-So-๐๒ สามารถส่ือสารด้วยท่าทีที่สุภาพ มีสติ เคารพพ่อแม่ ครู หรือผู้ใหญ่ เคารพในความ
แตกต่างระหว่างกัน อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ในฐานะเป็นพลเมืองไทย ใช้
สอยธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมอย่างรู้คุณค่าเพ่ือให้เกิดความสมดุลอย่างย่ังยืน และใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน
อย่างรูเ้ ท่าทันและพอเพยี ง

LO๑-So-๐๓ ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวในการระบุสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหา เพื่อนาไปสู่การ
แยกแยะความต้องการและความจาเป็น วางแผนการใช้จ่าย และออมเงินอย่างเหมาะสมและมีวินัย
เพอ่ื แสดงถงึ ความรับผดิ ชอบด้วยกันในการลดค่าใช้จา่ ย

LO๑-So-๐๔ ระมัดระวังในการใช้ของส่วนรวมและทรัพยากรในการทางาน การทากิจกรรม การทา
กิจวัตรประจาวัน อย่างประหยัด คุ้มค่า และพอเพียง ด้วยความตระหนักถึงผลของการใช้ทรัพยากรที่มีต่อ
ตนเอง ครอบครัวและโรงเรยี น

LO๑-So-๐๗ ทากิจกรรมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีมารยาทปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ี ยอมรับ
ข้อตกลง กฎ กติกาท่ีสร้างร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ร่วมตัดสินใจในการแก้ปัญหาหรือ
ความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเต็มใจเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อส่วนรวมด้วยความรู้สึกว่าเป็นสมาชิก
ของครอบครวั ช้ันเรยี น และโรงเรียน

LO๑-So-๐๘ ปฏิบัติตนบนพ้ืนฐานสิทธิของตน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ปฏิเสธเพื่อไม่ให้ตนถูกรังแก
หรือละเมิดสิทธิเสรีภาพ ทั้งร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สินและแจ้งผู้ใหญ่ท่ีเกี่ยวข้อง แสดงพฤติกรรมเชิงบวกทั้งทาง
กายและวาจาเมื่อร่วมกิจกรรมหรือทางานกับผอู้ ่ืน ท่ีแสดงถึงการยอมรับความคิด ความเช่ือและการปฏบิ ัตขิ อง
บุคคลอ่ืนที่แตกต่างกันโดยปราศจากอคติ และการเหมารวม รวมทั้งไม่กล่ันแกล้งเพ่ือน (Bullying) ควบคุม
อารมณ์และความรู้สกึ ของตน ไมท่ าให้ผ้อู ื่นเดือดร้อน

LO๑-So-๑๐ ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องที่แสดงถึงการเคารพสถาบันหลักและสัญลักษณ์ของชาติไทย
และรว่ มกิจกรรมที่ทาประโยชน์เพือ่ สว่ นรวมตามกาลงั ของตนภายใตก้ ารดูแลและคาแนะนา

LO๑-So-๑๑ เลือกและจัดการเวลาในการใช้สื่อ สารสนเทศ และดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน โดยรับผิดชอบ
ต่อผลทเ่ี กิดข้นึ ต่อตนเองและผ้อู ่ืน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

240
LO๑-So-๑๒ ตัดสินใจท่ีจะเช่ือหรือปฏิบัติโดยเข้าใจวัตถุประสงค์ ประโยชน์ และโทษของส่ือ
สารสนเทศ ดจิ ิทัล สร้างและสง่ ตอ่ ข้อมลู สารสนเทศ เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและครอบครวั

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

241

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

วชิ ำวถิ ีพลเมืองสู่ผู้ประกอบกำรนอ้ ย ๔

ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๔ เวลำเรียน ๘๐ ชวั่ โมง

บอกความหมายของของสติ สมาธิ และปัญญาท่ีใช้ในการศึกษา การดาเนินชีวิต และการทางาน เพ่ือ

การช่วยเหลือเก้ือกูลกันในหมู่คณะ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในสังคมด้วยสันติวิธี ปฏิบัติตนอย่าง

เหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ ระเบียบ กฎ กติกา และวิถีของชุมชนและท้องถ่ิน จัดการอารมณ์และความรู้สึก

ของตนเองตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเองและผู้อ่ืน เคารพในความ

หลากหลายของบคุ คล ให้เกียรตเิ ห็นอกเห็นใจ และไม่สร้างความเดอื ดร้อนแกต่ นเองและผอู้ ่ืน กาหนดเปา้ หมาย

และการดาเนินงานเพื่อการจัดการทรัพยากรของครอบครัวและโรงเรียน มีมารยาทท่ีถูกต้องตามกาลเทศะ ช่ืน

ชมการทาความดีของบุคคลในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน รวมท้งั ส่งเสริมและอนุรกั ษ์ธรรมชาติส่ิงแวดล้อม

อย่างประหยัด คุ้มค่า และพอเพียง รู้เท่าทันและใช้ประโยชน์จากสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้างและ

เผยแพร่ข้อมูลของสินค้าและบริการอย่างมีมารยาท โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ติดตามข่าวสารต่าง ๆ เพื่อ

รับมอื ป้องกัน และแก้ปัญหาความขดั แย้ง โดยใช้กระบวนการตามวถิ ีประชาธปิ ไตย โดยตระหนักถึงผลกระทบ

ต่อตนเองและส่วนรวม เห็นความสาคัญของการทาบัญชีรายรับ รายจ่าย วางแผนการใช้จ่าย การออมของ

ตนเอง ครอบครัว และกิจการได้อย่างเหมาะสม มีวินัย และถูกต้องตามหลักเศรษฐศาสตร์และการจัดการใน

อิสลาม มีความรับผิดชอบในการใช้ชีวิตและทางาน ฝึกทักษะอาชีพอย่างง่ายตามระดับความสามารถและ

ความชอบแต่ละบุคคล ศึกษากฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จัดลาดับความสาคัญเพ่ือตัดสินใจเลือกใช้

ทรัพยากรอย่าง รู้เทา่ ทนั โฆษณา ส่ือ และสารสนเทศของสนิ คา้ และบรกิ าร

โดยใช้กระบวนการอธิบาย การต้ังคาถาม การอภิปรายผล การสืบค้น การแสดงบทบาทสมมุติ การใช้

สถานการณฺจาลอง การประยุกต์ใช้ความรู้ กระบวนการกลุ่ม การใช้แหล่งเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี การบูรณา

การวิถีอสิ ลาม ทักษะทางวัฒนธรรม การปฏิบัตจิ ริง มีมารยาทในแบบอิสลาม การปฏบิ ัติตนเป็นพลเมืองดีตาม

วิถีประชาธิปไตย เศรษฐกิจของคนในชุมชน พัฒนาการของมนุษยชาติในดินแดนไทย ความสัมพันธ์ของส่ิง

ต่าง ๆ ในจังหวัด การใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ตระหนักในสถานภาพ บทบาท สิทธิ หน้าท่ี ในฐานะพลเมืองดี

ภูมิใจและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่น ตลอดจนเห็นคุณค่าของหลักเศรษฐกิจ

พอเพียงและนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั

เพือ่ ใหเ้ กิดการจัดการตนเอง การคดิ ขั้นสงู การสอื่ สาร การรวมพลังทางานเป็นทมี การเป็นพลเมอื งท่ี

เข้มแข็ง การอย่รู ่วมกบั ธรรมชาตแิ ละวิทยาการอยา่ งยงั่ ยืน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

242

ผลลัพธก์ ำรเรยี นรู้ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๔
LO๔-So-๐๑ มีสติ สมาธิ ในการศึกษาและทากิจวัตรประจาวัน จัดการอารมณ์และความรู้สึกของ

ตนเองโดยการพัฒนากาย วาจา ใจ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือ และปฏบิ ัติตามหลักกุศลกรรมบถ ๑๐ หรือ
หลกั ปฏิบัตติ ามคาสอนในศาสนาอน่ื ทีต่ นนับถือ

LO๔-So-๐๒ สามารถใช้ปัญญาในการชว่ ยเหลือเก้ือกูลและแก้ปัญหาในชีวติ ของตนเอง หมู่คณะ และ
สังคม ตลอดถึงส่ิงแวดล้อมรอบตัวเพ่ืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ใช้หลักสันติวิธีในการ
สื่อสาร การทางานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก บนพื้นฐานของหลักธรรมทาง
พระพุทธศาสนาและศาสนาที่ตนนับถือ รวมท้ังส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและใช้เทคโนโลยีให้
เกิดประโยชน์และมคี ุณคา่ ตอ่ การเรยี นรแู้ ละการดาเนินชีวติ อยา่ งพอเพยี ง

LO๔-So-๐๓ วางแผนการใช้จา่ ยของตนเองและครอบครัวอย่างเหมาะสมและมีวินัย ชว่ ยลดคา่ ใช้จา่ ย
ในครอบครัว ตดั สินใจบริโภคอยา่ งรทู้ ันโฆษณา ส่ือและสารสนเทศของสินค้าและบริการ ติดตามและตรวจสอบ
ข้อมูลข่าวสารท่ีเก่ียวข้องกับการบริโภคในชีวิตประจาวันและกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค วางแผนการออม
เงนิ ของตนเองอย่างมีเปา้ หมาย

LO๔-So-๐๔ จัดลาดับความสาคัญเพ่ือตัดสินใจเลือกใช้ทรัพยากรในชีวิตประจาวัน หาทางออก
ร่วมกันกับผู้เก่ียวข้องในการตัดสินใจกาหนดเป้าหมายและการปฏิบัติเพื่อการจัดการทรัพยากรของครอบครัว
และโรงเรียนอย่างประหยัด คุ้มค่า และพอเพียง ด้วยความตระหนักถึงผลกระทบของการใช้ทรัพยากรที่มีต่อ
ตนเอง และส่วนรวม

LO๔-So-๐๘ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ ระเบียบ กฎ กติกา และวิถีวัฒนธรรมของ
ชุมชนและท้องถิ่นด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ช่ืนชมการทาความดีของบุคคลในครอบครัว โรงเรียนและ
ชุมชน ปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเองและผู้อ่ืน เคารพในความหลากหลายของบุคคล ไม่กลั่นแกล้งเพ่ือนทาง
ร่างกาย วาจา และความสัมพันธ์ทางสังคม (Social bullying) ให้เกียรติ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)
ช่วยเหลือผู้อ่ืนในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ด่วนตัดสินผู้อื่นโดยใช้อคติ แบ่งปันสิ่งของต่าง ๆ ของตนให้กับผู้อื่นตาม
ความเหมาะสม โดยไมส่ ร้างความเดอื ดรอ้ นต่อตนเอง ผู้อนื่ และสว่ นรวม

LO๔-So-๐๙ ติดตามข่าวสารและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสาร เหตุการณ์ สถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนใน
สงั คม เพือ่ รับมือ ปอ้ งกันและแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต และร่วมกันหาทางออกกบั ผเู้ กี่ยวข้องในการแกป้ ัญหาหรือ
ความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการตามวิถีประชาธิปไตย วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้นและ
ยอมรบั ผลจากการตัดสินใจร่วมกัน รวมทง้ั เข้าร่วมกจิ กรรมเป็นอาสาสมัครด้วยความรู้สกึ ว่าเป็นสมาชิกของชมุ ชน
ตามกาลงั ของตน

หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

243
LO๔-So-๑๐ รู้เท่าทันและจัดการอารมณ์ เวลา ความต้องการในการใช้สื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล
อย่างเหมาะสม ประเมินความน่าเชื่อถือและผลกระทบจากการใช้สื่อสารสนเทศ สร้างและเผยแพร่ข้อมูล
สารสนเทศอย่างมีมารยาท เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติผู้อื่นและรับผิดชอบ เพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและ
ชมุ ชน

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบา้ นตาบา สพป.นธ. ๒

244

คาอธบิ ายรายวิชาอลั -กรุ อานนาทาง ๑

ชน้ั อิสลามศึกษาตอนต้นปีท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี

ศึกษาเกี่ยวกับความหมายของอัล-กุรอานและความหมายของสูเราะฮ อัล-ฟาติหะฮ สูเราะฮ อัล-อิ

คลาส อ่านพยัญชนะฮิญาอียะฮ พยัญชนะที่มีสระฟัตหะฮ พยัญชนะท่ีออกเสียงแตกต่างกัน การประสม

พยัญชนะ การอ่านส้ันและยาวโดยอะลิฟ ท่องจ้าสูเราะฮ อัล-ฟาติหะฮ อัล-อิคลาศ และน้าหลักค้าสอน

ของอัล-กรุ อาน สูเราะฮอัล-ฟาติหะฮ สูเราะฮฺอัล-อิคลาส น้าหลักค้าสอนจากอัล-กุรอานสเู ราะฮอัล-ฟาติหะฮ

สูเราะฮอัล-อิคลาส ไปใช้ในชีวิตประจ้าวันของตนเองอย่างเหมาะสมตามวัย ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักตนเอง

เรยี นรูอ้ ่านออก เขยี นได้ มคี วามรับผิดชอบ เป็นเดก็ ดี ด้ารงชวี ิตตามวิถอี สิ ลาม

โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งความรูค้ วามเข้าใจ การทอ่ งจ้า กระบวนการทา้ งานแบบมสี ่วนร่วม การแสดง

ความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ การใช้เกม อนาซีด การตั้งค้าถาม การน้าเสนองานที่เหมาะสมกับช่วงวัย

การน้าความรู้และทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจ้าวันอย่างสร้างสรรค์ การฟังเสียงและบอก

ความรสู้ กึ ทีเ่ กิดจากการรบั สารอย่างงา่ ย ๆ การจัดการตนเองทา้ กจิ วัตรประจา้ วันภายใตค้ ้าแนะนา้ ของผอู้ น่ื

เพ่อื ให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ เห็นความส้าคญั เห็นคุณค่า สามารถปฏิบัติตนตามหลักการศาสนาและ

น้าไปประยุกต์ใช้ในการด้าเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข มีพฤติกรรมบ่งช้ีตามสมรรถนะหลัก 6 ประการ

ในด้านการจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การสื่อสาร การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง

และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างย่ังยืน อยู่ในระดับเร่ิมต้น ระดับก้าลังพัฒนา และระดับ

สามารถ (ระดับ 1-3)

ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้

1. บอกความหมาย ความเป็นมา และความส้าคัญของ สูเราะฮฺที่ก้าหนดโดยสรุป ยึดม่ันในบทบัญญัติ
ของอัล-กรุ อานและนา้ หลักคา้ สอนของสูเราะฮไฺ ปปฏบิ ตั ติ ่อตนเองอยา่ งเหมาะสมตามวยั

2. อ่านพยัญชนะตามหลักการที่ก้าหนด และน้าหลักการอ่านไปปฏิบัติต่อตนเองและบุคคลใกล้ชิด
อย่างเหมาะสมตามวัย

3. ทอ่ งจ้าสเู ราะฮฺทีก่ ้าหนดและนา้ สูเราะฮฺ ไปใช้ในการปฏิบตั ศิ าสนกิจตอ่ ตนเองอย่างเหมาะสมตามวยั

หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

245

คาอธบิ ายรายวชิ าอลั -กุรอานนาทาง ๔

ชั้นอิสลามศึกษาตอนตน้ ปีที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง

ศกึ ษาความหมาย ความเปน็ มา ความส้าคญั ของสูเราะฮฺอลั -เกาซรั สูเราะฮฺอัล-มาอูน สูเราะฮกฺ ูรอยซฺ

และสูเราะฮฺ อัล-ฟีล อ่านอัล-กุรอาน ยุซอฺที่ 1- 10 ตามหลักการหูกุมนูนสากีนะฮฺ และตันวีน อิคฟาอฺ อิดฆ

อม อิดฆอมบิลาฆุนนะฮฺ อิดฆอมมะอัลฆุนนะฮฺ อิกลาบ อิซฮารฺ และก็อลเกาะละฮฺ และการน้าอายะฮฺจากสู

เราะฮฺอัล-เกาษัร อัล-มาอูน กุร๊อยชฺ อัล-ฟลิ ท่องจา้ สูเราะฮฺอัล-เกาษัร สูเราะฮอฺ ัล-มาอนู สเู ราะฮกฺ ุร๊อยชฺ และ

สเู ราะฮฺ อลั -ฟิล

โดยใช้กระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ การท่องจ้า กระบวนการคิดวิเคราะห์ การท้างานแบบมี

ส่วนร่วม การแสดงความคิดเหน็ อย่างสรา้ งสรรค์ การใชเ้ กม อนาซดี การตงั้ ค้าถาม การน้าเสนองานที่เหมาะสม

กับช่วงวัย การน้าความรู้และทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในชวี ิตประจ้าวันอย่างสร้างสรรค์

เพื่อให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ เห็นความสา้ คัญ เห็นคุณค่า สามารถปฏิบัติตนตามหลักการศาสนาและ

น้าไปประยุกต์ใช้ในการด้าเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข มีพฤติกรรมบ่งชี้ตามสมรรถนะหลัก 6 ประการ

ในด้านการจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การส่ือสาร การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง

และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน อยู่ในระดับสามารถ และระดับเหนือความคาดหวัง

(ระดบั 3-5)

ผลลพั ธ์การเรยี นรู้

1. บอกความหมาย ความเป็นมาและความสา้ คัญของสูเราะฮท่ีก้าหนดโดยสรปุ ยึดมัน่ ในบทบญั ญัติ

ของอลั -กุรอานและน้าหลักค้าสอนของสเู ราะฮไฺ ปปฏบิ ตั ติ ่อตนเองและผูอ้ ื่นเพือ่ อยู่รว่ มกันในสงั คมอย่างสนั ติสุข
2. อา่ นอลั -กุรอานยุซอฺทีก่ า้ หนด ตามหลกั การอา่ น และน้าหลักการอา่ นไปปฏบิ ตั ิต่อตนเองและผู้อนื่

เพอื่ อยรู่ ว่ มกันในสงั คมอย่างสันตสิ ุข

3. ทอ่ งจา้ สเู ราะฮทฺ ่กี ้าหนดและน้าหลกั ค้าสอนของสูเราะฮฺ ไปปฏิบัติต่อตนเองและผูอ้ ่นื เพอื่ อยู่รว่ มกนั

ในสังคมอย่างสันตสิ ขุ

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นบ้านตาบา สพป.นธ. ๒

246

คาอธิบายรายวิชาหลกั การแหง่ ชีวติ ๑

ช้ันอสิ ลามศกึ ษาตอนตน้ ปที ่ี 1 จานวน 40 ชัว่ โมง /ปี

บอกความหมาย ความส้าคัญของหลักศรัทธาต่ออัลลอฮฺและการศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ บอกพระนาม

ของ อัลลอฮฺพร้อมความหมายล้าดับที่ 1-10 บอกความหมาย จา้ นวนคุณลักษณะของมลาอิกะฮฺทีจ่ ้าเป็นต้องรู้

ตลอดจนปฏิบัติตนเป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺสุบหานะฮุวะตะอาลา และศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ ศึกษาเกี่ยวกับ
หลักการอิสลาม ๕ ประการ การปฏิญาณตน การจ่ายซะกาฮฺ การถือศิลอด และการประกอบพิธีหัจญฺ น้า
สะอาด นะญิส ความหมายของนะญิส ความส้าคัญของการช้าระล้างนะญิส การท้าวูฎุอฺ ความหมาย

ความส้าคัญของวูฎุอฺ วิธีการท้าวูฎุอฺ การละหมาดฟัรฎู เวลาในการละหมาดฟัรฎุ ฝึกปฏิบัติในการช้าระล้าง
นะญิส การทา้ วูฎุอฺ การนียะฮฺในการละหมาดฟัรฎู อริ ิยาบทในการละหมาดฟัรฎูศึกษาความหมาย ความสา้ คัญ
เห็นคุณค่าสามารถปฏิบัติตามหลักอัล- หะดีษการกล่าวสลามและการตอบรับสลาม ความสะอาด การกินและ

การด่ืม ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักตนเอง เรียนรู้อ่านออก เขียนได้ มีความรับผิดชอบ เป็นเด็กดี ด้ารงชีวิตตามวิถี
อิสลาม

โดยใช้กระบวนการสร้างความรู้ และกระบวนการปฏิบัติการตั้งค้าถาม การสื่อสาร การสร้างความรู้
ความเขา้ ใจและความรู้ทกั ษะกระบวนการปฏบิ ตั ิทไ่ี ด้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจา้ วนั อย่างสรา้ งสรรค์

เพื่อให้มีความเข้าใจ สามารถสื่อสารได้ ยึดม่ัน ยอมรับ และน้าไปปฏิบัติในชีวิตประจ้าวันได้อย่าง
ถูกต้อง มีพฤติกรรมบ่งช้ีตามสมรรถนะหลัก 6 ประการ ในด้านการจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การสื่อสาร
การรวมพลังท้างานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างย่ังยืน
อยใู่ นระดับเริ่มต้น ระดบั กา้ ลังพัฒนา และระดับสามารถ (ระดับ 1-3)

ผลลพั ธ์การเรียนรู้

1. บอกความหมาย ความส้าคญั องคป์ ระกอบของหลักศรทั ธา พระนามของอัลลอฮฺ ยอมรับยึดม่ัน เป็น
ผศู้ รทั ธาทีด่ ี และนา้ ไปปฏบิ ตั อิ ยา่ งถูกตอ้ ง

2. อธิบายความหมาย ความส้าคัญของหลักการอิสลาม น้าสะอาด นะญิส การท้าวฎุอฺ การอิสตินญาอฺ
การอาซานและอิกอมะฮฺ การละหมาดฟัรฎูและการถือศีลอด เห็นคุณค่าและปฏิบัติตามหลักการ บทบัญญัติ
อิสลาม เพือ่ เปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ศิ าสนากิจและการด้าเนนิ ชวี ิตในสังคมอยา่ งมีความสุข

3. อ่านและบอกความหมาย ของหะดีษท่ีก้าหนด เห็นความส้าคัญ ยึดมั่นและน้าหลกั ค้าสอนไปปฏิบัติ
ในการด้าเนินชวี ิต

หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒


Click to View FlipBook Version