The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานประจำปี 2565

รายงานประจำปี 2565

Keywords: รายงานประจำปี 2565

362 | P a g e ล าดับ เรื่องที่ร้องเรียน ผู้ที่ถูกร้องเรียน ผลการด าเนินการ 5. คลินิกโฆษณาขายคอร์สโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการสถานพยาบาล คลินิก อ.เมือง ให้ยื่นขออนุญาตสถานพยาบาล 6. จ าหน่ายอุปกรณ์จัดฟันแฟชัน ที่พักอาศัยส่วนบุคคล อ. กันทรารมย์ ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง 7. คลินิกการพยาบาลให้การรักษาเกินมาตรฐาน ด้วยยาอันตราย คลินิก อ.ยางชุมน้อย ด าเนินคดีเปรียบเทียบปรับ 8. ผลิตภัณฑ์น้ ากระเทียมดอง ฉลากไม่ถูกต้อง สถานที่ผลิต อ.เมือง ส่งเรื่องต่อ สสจ.ปทุมธาณี 9. ตรวจสอบพฤติกรรมเข้าข่ายลามก อนาจาร ร้าน นวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวด อ.เมือง ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง 10. การจ าหน่ายผลิตภัณฑ์น้ ากระท่อม หาบเร่/แผงลอย อ.เมือง ประชาสัมพันธ์ 11. พบการจ าหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสภาพไม่ สมบูรณ์ ร้านค้า อ.ขุนหาญ ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง 12. การจ าหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ยาชุดลด น้ าหนักออนไลน์ ที่พักอาศัย อ.กันทรลักษ์ ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง/ ส่งเรื่องต่อ อย. 13. ร้องเรียนสิทธิ์ได้รับข้อมูลยารักษา จากการรับบริการคลินิกเวชกรรม คลินิก อ.กันทรลักษ์ ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง 14. ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ร้านค้า อ.อุทุมพรพิสัย ให้แก้ไขทันที 15. คลินิกการการพยาบาลแสดงรายละเอียดการ รับรองผล ATK Covid-19 ไม่ถูกต้อง คลินิก อ.ขุขันธ์ ให้แก้ไขทันที 16. การให้บริการร้านเสริมสวยเข้าข่ายการให้บริการ สถานพยาบาล ร้านเสริมสวย อ.เมือง ให้แก้ไขทันที/ด าเนินการขออนุญาต ให้ถูกต้อง 17. การให้บริการร้านเสริมสวยเข้าข่ายการให้บริการ สถานพยาบาล ร้านเสริมสวย อ.อุทุมพรพิสัย ให้แก้ไขทันที/ด าเนินการขออนุญาต ให้ถูกต้อง 18. คลินิกให้บริการโดยไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวช กรรม คลินิก อ.เมือง ด าเนินคดีเปรียบเทียบปรับ


363 | P a g e ล าดับ เรื่องที่ร้องเรียน ผู้ที่ถูกร้องเรียน ผลการด าเนินการ 19. จ าหน่ายเนื้อวัวปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง ร้านค้า อ.เบญจลักษ์ ไม่พบการกระท าผิดตามที่แจ้ง 20. พบผลิตภัณฑ์อาหารหมดอายุ สถานที่จ าหน่าย อ.กันทรารมย์ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงาน สอบสวนด าเนินคดี 21. การให้บริการร้านเสริมสวยเข้าข่ายการให้บริการ สถานพยาบาล ร้านเสริมสวย อ.เมือง ให้แก้ไขทันที/ด าเนินการขออนุญาต ให้ถูกต้อง 22. ขอให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ชาจากพืช สถานที่ผลิต อ.ราษีไศล ให้ยื่นขออนุญาตสถานที่ผลิต 23. การประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับ อนุญาต คลินิก อ.เมืองศรีสะเกษ ให้ยื่นขออนุญาตทันที 24. การโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารทางสถานีวิทยุ สถานีวิทยุ อ.เมือง ยุติเรื่อง/ไม่พบการกระท าผิด 25. ผลิตภัณฑ์แสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง สถานที่ผลิต อ.กันทรลักษ์ ไม่พบการกระท าผิด 26. โฆษณาขายตรงคลอโรฟิลล์ทางสื่อออนไลน์ อ.โนนคูณ แจ้งเรื่องต่อหน่วยงานต้นสังกัด ผู้กระท าผิด 27. การขายยาสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่จ าหน่าย อ.เมือง อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง 28. ผลิตภัณฑ์แสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง สถานที่จ าหน่าย อ.ห้วยทับทัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง 29. เครื่องดื่มสมุนไพร พบสารสเตียรอยด์และแสดง ฉลากไม่ถูกต้อง สถานที่จ าหน่าย อ.กันทรารมย์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง 30. ร้านยาจ าหน่ายยาหมดอายุ ร้านยา อ.เมือง ไม่พบการกระท าผิด 31. การให้บริการจัดฟันแฟชันจากเฟซบุค สถานที่ อ.ขุขันธ์ ลงพื้นที่ไม่พบเป้าหมาย/ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรคที่พบในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2565 1. จากสถานการณ์เรื่องร้องเรียนด้านผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ ในจังหวัดศรีสะเกษ ผู้บริโภค ตระหนักในสิทธิและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น จึงส่งผลต่อสถานการณ์เรื่องเรียนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น


364 | P a g e กระจายตัวใน 11 อ าเภอ ท าให้เจ้าหน้าที่จังหวัดไม่สามารถด าเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนได้อย่างครบถ้วน และทันท่วงที 2. การสื่อสารความเสี่ยง โดยการรายงานการจัดการความเสี่ยงและเรื่องร้องเรียนด้านผลิตภัณฑ์ และบริการสุขภาพในพื้นที่ของทีมตรวจสอบระดับอ าเภอต่อส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษที่ไม่ครบถ้วน 3. พนักงานเจ้าหน้าที่ยังขาดทักษะในการด าเนินงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ท าให้เกิดความ เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องหรือการบังคับใช้กฎหมายขาดประสิทธิภาพ แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ 1. กระตุ้นการรายงานการจัดการความเสี่ยงและเรื่องร้องเรียนด้านผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ ผ่านทางระบบเว็บไซต์รายงานความเสี่ยง 2. ด าเนินการจัดการความเสี่ยงตามระดับความรุนแรง ให้มีประสิทธิภาพ 3. เพิ่มศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ด้านความรู้ ทักษะ ประสบการณ์และการบังคับใช้กฎหมาย


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานทันตสาธารณสุข


365 | P a g e 3.7 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานทันตสาธารณสุข สุขภาพช่องปากส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างชัดเจนทั้งด้านกายภาพ อารมณ์และสังคมโดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียฟัน จากผลการส ารวจสภาวะทันตสุขภาพของจังหวัดศรีสะเกษ ประจ าปี 2565 พบว่า กลุ่มเด็กอายุ 3 ปี ปราศจากฟันผุร้อยละ 82.58 (ค่าเฉลี่ยระดับประเทศร้อยละ 77.21) กลุ่มเด็กอายุ 12 ปี ปราศจากฟันผุ (cavity Free) ร้อยละ 71.20 (ค่าเฉลี่ยระดับประเทศร้อยละ 75.87) และกลุ่มผู้สูงอายุมีฟัน ใช้ได้งานมากกว่า 20 ซี่ ร้อยละ 30.55 (ค่าเฉลี่ยระดับประเทศร้อยละ 33.44) ผลการส ารวจแสดงให้เห็นว่า สภาวะ สุขภาพช่องปากของประชากรโดยรวมของจังหวัดศรีสะเกษใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของระดับประเทศ แต่ยังมีประชากร ในจังหวัดที่ยังมีปัญหาสุขภาพช่องปากรอรับการแก้ไขปัญหาอยู่ ดังนั้นการด าเนินงานด้านทันตสาธารณสุขยังคงมี ความจ าเป็น โดยควรยึดหลัก ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู ในการด าเนินงานให้ประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ มีสุขภาพช่องปากที่ดีน าไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ตัวชี้วัด/ผลลัพธ์ 1. ผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจัดบริการสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ 3. อัตราการใช้บริการสุขภาพช่องปาก 4. เด็กอายุ 3 ปี ปราศจากโรคฟันผุ (Caries Free) 5. เด็กอายุ 3 ปี ได้รับการทาฟลูออไรด์ 6. เด็กอายุ 6 - 12 ปี ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน 7. กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพในเด็กประถมศึกษา 8. เด็กอายุ 12 ปี ปราศจากโรคฟันผุ (Cavity Free) 9. ผู้สูงอายุมีฟันแท้ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 20 ซี่ 10. มูลค่าการจัดซื้อร่วมวัสดุทันตกรรม 1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 1.1 หน่วยบริการสุขภาพช่องปาก ตารางที่ 153 หน่วยบริการสุขภาพช่องปาก จ านวนอ าเภอ 22 แห่ง จ านวน CUP 22 แห่ง จ านวน PCU/NPU 143 แห่ง จ านวน รพ.สต. 254 แห่ง จ านวนคลินิกทันตกรรม 28 แห่ง รพ.เอกชน 2 แห่ง 1.2 จ านวนทันตบุคลากรในจังหวัด ตารางที่ 154 จ านวนทันตบุคลากรในจังหวัด บุคลากร จ านวน (คน) 1 จ านวนทันตแพทย์(ภาครัฐ) 136


366 | P a g e บุคลากร จ านวน (คน) 1.1 ทันตแพทย์ใน รพ. 114 1.2 ทันตแพทย์ใน PCU 14 1.3 ทันตแพทย์ลาศึกษาต่อ 9 2 จ านวนทันตาภิบาลทั้งหมด 180 2.1 นวก./ทันตาภิบาล ใน สสจ./สสอ. 4 2.2 นวก./ทันตาภิบาลใน รพ. 47 2.3 ทันตาภิบาล ใน รพ.สต. 129 3 จ านวนผู้ช่วยทันตแพทย์ทั้งหมด 109 3.1 ผู้ช่วยทันตแพทย์ (จพ.ทันตสาธารณสุข) 13 3.2 ผู้ช่วยงานทันตกรรม 96 4. ช่างทันตกรรม 1 1.3 สถานการณ์สภาวะในช่องปากและพฤติกรรม ข้อมูลสถานการณ์สภาวะสุขภาพช่องปากประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2562 -2565 พบว่า แนวโน้มการเกิดโรคฟันผุในเด็ก 18 เดือน เด็ก 3 ปี และเด็ก 12 ปี มีแนวโน้มการเกิดโรคฟันผุลดต่ าลง รายละเอียดดังแสดงในตาราง ตารางที่ 155 ข้อมูลสถานการณ์สภาวะสุขภาพช่องปากประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2562 -2565 กลุ่มอายุ ตัวชี้วัดสภาวะ ทันตสุขภาพ จังหวัดศรีสะเกษ 2562 2563 2564 2565 18 เดือน ร้อยละเด็กปราศจากฟันผุ 96.97 97.54 97.45 97.64 3 ปี ร้อยละเด็กปราศจากฟันผุ 74.72 73.47 78.28 82.52 12 ปี ร้อยละเด็กปราศจากฟันผุในฟันถาวร 69.75 70.20 67.32 71.23 ร้อยละเด็กฟันดีไม่มีผุ (cavity free) 86.97 86.40 79.81 71.20 ผู้สูงอายุ ร้อยละผู้สูงอายุมีฟันแท้ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 20 ซี่ 30.34 31.46 29.87 30.55 หมายเหตุ ข้อมูลจากโปรแกรม HDC ณ วันที่ 23 กันยายน 2565 2. มาตรการในการด าเนินงานในปี 2565 2.1 ด าเนินงานเชิงรุก โดยค้นหากลุ่มเป้าหมายและจัดบริการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุใน รพ.สต. ร่วมกับ เน้นงานส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปาก 2.2 สนับสนุนให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจัดบริการสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ และเพิ่ม การเข้าถึงบริการสุขภาพช่องปากใน รพ.สต. โดยจัดทันตบุคลากรหมุนเวียนให้บริการรวมถึงสนับสนุนครุภัณฑ์ ทันตกรรมส าหรับ รพ.สต.ที่ขาดแคลน


367 | P a g e 2.3 พัฒนาระบบการบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ 2.4 เน้นคุณภาพการฝึกทักษะการแปรงฟันในทุกกลุ่มวัย 2.5 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดสนับสนุนรถหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ ช่องปากของประชาชน 2.6 ก้าหนดมาตรการระดับจังหวัด ก้ากับและติดตามการจัดซื้อร่วมวัสดุทันตกรรม เพื่อลดต้นทุนวัสดุของ หน่วยบริการทางการแพทย์ในจังหวัด 2.7 ส่งเสริมและสนับสนุนภาคีเครือข่าย ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน ชมรมผู้สูงอายุ ฯลฯ ใน การด าเนินงานและจัดกิจกรรมรวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพช่องปากที่ดี 3. ผลการด าเนินงาน (ตุลาคม 2564 – กันยายน 2565) ตารางที่156 ผลการด าเนินงานตามตัวชี้วัดกระทรวง/กรม/เขต/จังหวัดงานทันตสาธารณสุข ล าดับ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลงาน 1 จ านวนผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการใส่ฟัน เทียมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 964 ราย 941 ราย (ร้อยละ 97.61) 2 ร้อยละโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจัดบริการ สุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ ร้อยละ 60 ร้อยละ 46.69 3 อัตราการใช้บริการสุขภาพช่องปาก ร้อยละ 45 ร้อยละ 35.69 4 ร้อยละเด็กอายุ 3 ปี ปราศจากฟันผุ(caries free) ร้อยละ 54 ร้อยละ 82.52 5 เด็กอายุ 3 ปี ได้รับการทาฟลูออไรด์ ร้อยละ 50 ร้อยละ 55.87 6 เด็กอายุ 6 - 12 ปี ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน ร้อยละ 50 ร้อยละ 11.20 7 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพในเด็กประถมศึกษา - รางวัล เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ยอดเยี่ยม ระดับประเทศ เครือข่าย “เด็กเมืองศรี ฟันดี ยิ้มสวย” เทศบาลเมืองศรีสะเกษ 8 ร้อยละเด็กอายุ 12 ปี ฟันดีไม่มีผุ (cavity free) ร้อยละ 54 ร้อยละ 82.55 9 ร้อยละผู้สูงอายุมีฟันแท้ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 20 ซี่ ร้อยละ 50 ร้อยละ 71.80 10 ร้อยละมูลค่าการจัดซื้อร่วมวัสดุ ทันตกรรม ร้อยละ 30 ร้อยละ 70.61 หมายเหตุ ข้อมูลจากโปรแกรม HDC ณ วันที่ 23 กันยายน 2565 ตารางที่ 157 แสดงข้อมูลผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ปีงบประมาณ 2565 ล าดับที่ หน่วยบริการ ผลงาน 1 รพ.ศรีสะเกษ 132 2 รพ.ยางชุมน้อย 53


368 | P a g e ล าดับที่ หน่วยบริการ ผลงาน 3 รพ.กันทรารมย์ 78 4 รพ.กันทรลักษ์ 74 5 รพ.ขุขันธ์ 99 6 รพ.ไพรบึง 0 7 รพ.ปรางค์กู่ 21 8 รพ.ขุนหาญ 169 9 รพ.ราษีไศล 100 10 รพ.อุทุมพรพิสัย 49 11 รพ.บึงบูรพ์ 8 12 รพ.ห้วยทับทัน 0 13 รพ.โนนคูณ 7 14 รพ.ศรีรัตนะ 0 15 รพ.น้ าเกลี้ยง 4 16 รพ.วังหิน 0 17 รพ.ภูสิงห์ 16 18 รพ.เมืองจันทร์ 0 19 รพ.เบญจลักษ์ 3 20 รพ.พยุห์ 76 21 รพ.โพธิ์ศรีสุวรรณ 0 22 รพ.ศิลาลาด 0 23 คลินิกทันตกรรม สสจ.ศรีสะเกษ 52 ผลรวมจังหวัด 941 หมายเหตุข้อมูลจากโปรแกรมฟันเทียมพระราชทาน ณ วันที่ 23 กันยายน 2565


369 | P a g e ตารางที่ 158 แสดงร้อยละของ รพ.สต./ศสม.ที่จัดบริการสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ ปีงบประมาณ 2565 อ าเภอ รพ.สต./ศสม.ที่ จัดบริการสุขภาพช่อง ปากได้ตามเกณฑ์ใน 6 กลุ่มวัย 14 กิจกรรม รพ.สต./ศสม.ที่ จัดบริการสุขภาพช่อง ปากตรอบคลุม ประชากร ร้อยละ 20 รพ.สต./ศสม.ที่ จัดบริการสุขภาพช่อง ปากที่มีคุณภาพ อัตราการใช้บริการสุขภาพช่อง ปาก รวมทุกสิทธิ์ในพื้นที่ เป้า ผลงาน ร้อย ละ เป้า ผลงาน ร้อย ละ เป้า ผลงาน ร้อย ละ เป้า ผลงาน ร้อย ละ เมืองศรีสะเกษ 19 3 15.79 19 14 73.68 19 2 10.53 101,605 31,952 31.45 ยางชุมน้อย 6 3 50 6 4 66.67 6 3 50 25,566 6,071 23.75 กันทรารมย์ 17 13 76.47 17 16 94.12 17 13 76.47 68,526 22,950 33.49 กันทรลักษ์ 35 8 22.86 35 24 68.57 35 7 20 169,472 47,224 27.87 ขุขันธ์ 27 11 40.74 27 20 74.07 27 11 40.74 102,469 31,932 31.16 ไพรบึง 7 2 28.57 7 6 85.71 7 2 28.57 30,230 11,956 39.55 ปรางค์กู่ 13 5 38.46 13 11 84.62 13 5 38.46 41,780 18,559 44.42 ขุนหาญ 19 11 57.89 19 14 73.68 19 10 52.63 78,996 27,253 34.5 ราษีไศล 14 9 64.29 14 13 92.86 14 9 64.29 50,489 23,852 47.24 อุทุมพรพิสัย 21 16 76.19 21 21 100 21 16 76.19 67,260 34,058 50.64 บึงบูรพ์ 2 1 50 2 2 100 2 1 50 7,436 3,357 45.15 ห้วยทับทัน 8 8 100 8 8 100 8 8 100 27,136 12,916 47.6 โนนคูณ 8 3 37.5 8 7 87.5 8 3 37.5 27,269 11,982 43.94 ศรีรัตนะ 8 3 37.5 8 8 100 8 3 37.5 36,446 19,151 52.55 น้ าเกลี้ยง 7 1 14.29 7 4 57.14 7 1 14.29 31,158 10,221 32.8 วังหิน 8 2 25 8 4 50 8 2 25 37,283 8,498 22.79 ภูสิงห์ 9 6 66.67 9 9 100 9 6 66.67 35,084 14,386 41 เมืองจันทร์ 4 3 75 4 4 100 4 3 75 11,301 4,307 38.11 เบญจลักษ์ 6 4 66.67 6 6 100 6 4 66.67 23,621 8,278 35.05 พยุห์ 6 3 50 6 5 83.33 6 3 50 21,626 6,734 31.14 โพธิ์ศรีสุวรรณ 8 7 87.5 8 8 100 8 7 87.5 15,659 6,809 43.48 ศิลาลาด 5 1 20 5 2 40 5 1 20 12,286 2,533 20.62 ผลรวมจังหวัด 257 123 47.86 257 210 81.71 257 120 46.69 1,022,698 364,979 35.69 หมายเหตุ ข้อมูลจากโปรแกรม HDC ณ วันที่ 23 กันยายน 2565


370 | P a g e 4. โครงการเด่น/ Best Practice นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ส าหรับการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Sponge Brush All in One) รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ การน าเสนอผลงานวิชาการและประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบ บริการสุขภาพ ปี พ.ศ. 2565 สาขาสุขภาพช่องปาก รายละเอียดผลงาน 1. ชื่อเรื่อง Sponge Brush All in One 2. ชื่อผู้ส่งผลงาน นายชาญชัย ศานติพิพัฒน์ หน่วยงาน ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 3. ความส าคัญของปัญหา เป้าประสงค์ของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปากคือ การลดโรคและเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ ช่องปากของประชาชน ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพในระหว่างที่มีความเจ็บป่วยคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก (dental plaque) จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อก่อโรคของระบบทางเดินหายใจ จากงานวิจัยพบว่าการมีอนามัยช่องปาก ที่ไม่ดี มีความสัมพันธ์กับอุบัติการณ์การติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เช่น pneumonia ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้(Bartova J et al., 2014) ในผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงร่วมกับการมีอนามัยช่อง ปากที่ไม่ดี มักจะมีภาวะเหงือกบวมมีเลือดออก จึงส่งผลให้ผู้ป่วยกลุ่มนี่มักจะหลีกเลี่ยงหรือไม่ให้ความร่วมมือใน การท าความสะอาดช่องปาก เพราะแปรงสีฟันที่เป็นขนแปรงท าให้เลือดออกหรือเจ็บเหงือกมากยิ่งขึ้น จากเหตุผล ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการประดิษฐ์นวัตกรรม Sponge Brush All in One โดยยึดหลักการ/แนวคิดในการ ออกแบบผลงานที่สามารถใช้ท าความสะอาดทั้งคราบจุลินทรีย์ที่ผิวฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม ตลอดจนเนื้อเยื่ออ่อน อื่นๆ ในช่องปากได้ โดยไม่ท าให้ผู้ป่วยเจ็บปวด เพื่อลดโรคในช่องปาก ลดโอกาสการติดเชื้อจากระบบทางเดิน หายใจและลดความเสี่ยงเสียชีวิต


371 | P a g e 4. วัตถุประสงค์การศึกษา 4.1 เพื่อสร้างนวัตกรรมอุปกรณ์ท าความสะอาดช่องปากที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงด้าน สุขภาพ 4.2 เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของการขจัดคราบจุลินทรีย์ที่ผิวฟัน การท าให้เหงือกเลือดออก และการท าให้ เกิดความเจ็บปวด จากการท าความสะอาดช่องปากระหว่าง sponge brush กับแปรงสีฟัน ในผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยที่มี ภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพ 5. วิธีการศึกษา/กระบวนการสร้างนวัตกรรม 5.1 กระบวนการผลิตชิ้นงาน sponge brush วัสดุ อุปกรณ์ – แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว เอ็นหรือไหมขัดฟัน ฟองน้ าม้วนผม ขั้นตอนการผลิตชิ้นงาน - น าแปรงสีฟันมาตัดขนแปรงออกเหลือเฉพาะด้าม ตัดฟองน้ าม้วนผมยาว ประมาณ 2.5 เซนติเมตรมาหุ้มบริเวณหัวแปรงสีฟัน ยึดฟองน้ ากับด้ามแปรงสีฟันโดยใช้เอ็นหรือไหมขัดฟันมัดให้ แน่นไม่ให้ฟองน้ าหลุดขณะใช้งาน 5.2 ขั้นตอนการด าเนินงาน 1. ทดสอบการใช้ sponge brush กับโมเดลฟันจ าลอง 2. ทดสอบการใช้ sponge brush ในช่องปาก (ทดลองใช้ในช่องปากผู้ประดิษฐ์ผลงาน) 3. น า sponge brush ไปทดลองใช้ในผู้สูงอายุและ/หรือผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพ 4. บันทึกผล วิเคราะห์ อภิปรายและสรุปผลการด าเนินงาน กระบวนการศึกษาเปรียบเทียบการใช้ sponge brush และแปรงสีฟันในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง เข้าร่วมการท ากิจกรรม โดยก าหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกดังนี้ o เป็นผู้สูงอายุที่อยู่ในกลุ่มภาวะพึ่งพิงที่มีค่า Barthel ADL Index ระหว่าง 0 - 4 คะแนน o มีฟันในช่องปาก ไม่น้อยกว่า 16 ซี่ กระจายอยู่ทั้ง 6 ส่วนในช่องปากและมีฟันซี่ 16, 11, 26, 36, 31 และ 46 ชี้แจงวัตถุประสงค์ อธิบายขั้นตอน กระบวนการท างานให้ผู้สูงอายุและญาติรับทราบ พร้อมขอความ ยินยอม


372 | P a g e ก าหนดผู้ตรวจสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ1 คน ตลอดการท ากิจกรรม มีหน้าที่ตรวจและบันทึกคะแนน คราบจุลินทรีย์ที่ผิวฟัน (Debris Index) ในช่องปากผู้สูงอายุตามเกณฑ์Simplified Oral Hygiene Index (Greene and Vermillion,1964) โดยตรวจและบันทึกข้อมูลก่อนและหลังท าความสะอาดช่องปาก ก าหนดผู้รับผิดชอบท าความสะอาดช่องปาก 1 คน ตลอดการท ากิจกรรม โดยให้ใช้เทคนิคการท าความ สะอาดแบบขยับปัด (Modified Bass) ขยับอุปกรณ์ท าความสะอาดในแนวนอนสั้นๆ 10 ครั้ง แล้วปัดลง แนวดิ่งในฟันบน ปัดขึ้นในฟันล่าง เสร็จแล้วจึงขยับไปท าในฟันซี่ถัดไปจนครบทุกซี่ หมายเหตุผู้ตรวจช่องปากไม่ทราบว่าผู้ท าความสะอาดช่องปากก าหนดใช้แปรงสีฟันหรือ Sponge brush ด้านซ้ายหรือขวา (Blind Technique) เริ่มต้นท าความสะอาดช่องปาก โดยแบ่งช่องปากเป็น 2 ส่วน คือฝั่งซ้ายและขวา (Split Mouth Technique) โดยก าหนดให้ฝั่งขวามือของผู้สูงอายุ 3 ซี่ (16B, 11La และ 46Li) ใช้แปรงสีฟันผู้ใหญ่ตาม มาตรฐานกรมอนามัยร่วมกับยาสีฟันท าความสะอาด และฝั่งซ้ายมือ 3 ซี่ (26B, 31La และ 36Li) ใช้ อุปกรณ์นวัตกรรม sponge brush ร่วมกับยาสีฟันท าความสะอาดช่องปาก บันทึกคะแนนคราบจุลินทรีย์ที่ผิวฟันก่อน-หลังการท าความสะอาด เปรียบเทียบผลต่างคะแนนก่อน-หลัง การท าความสะอาดด้วยแปรงสีฟัน และอุปกรณ์ sponge brush สังเกตและบันทึกข้อมูลการมีเหงือกเลือดออกภายหลังท าความสะอาดด้วยแปรงสีฟันและ sponge brush ประเมินความเจ็บปวดของผู้สูงอายุ โดยให้คะแนน 1 – 5 หลังการท าความสะอาดผิวฟันโดยใช้อุปกรณ์ sponge brush เปรียบเทียบกับการใช้แปรงสีฟัน 6. ผลการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง จ านวน 8 คน เป็นเพศหญิง ร้อยละ 62.5 เพศชายร้อยละ 37.5 ช่วงอายุตั้งแต่ 61-83 ปี มีค่าเฉลี่ยผลต่างคราบจุลินทรีย์บนผิวฟันภายหลังการท าความสะอาดด้วยแปรงสีฟันและ sponge brush เท่ากับ 4.5 และ 4.1 ตามล าดับ การมีเลือดออกภายหลังการท าความสะอาดด้วยแปรงสีฟัน คิดเป็นร้อยละ 25 แต่ไม่พบการมีเลือดออกภายหลังการท าความสะอาดด้วย sponge brush กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 87.5 ให้ คะแนนระดับความเจ็บปวดการท าความสะอาดด้วยแปรงสีฟันระดับเล็กน้อย มีคะแนนเฉลี่ยระดับความเจ็บปวด เท่ากับ 1.87 ส่วนการท าความสะอาดด้วย sponge brush กลุ่มตัวอย่างทุกคนให้คะแนนระดับความเจ็บปวด ระดับน้อยที่สุดหรือไม่ปวดเลย โดยมีคะแนนเฉลี่ยระดับความเจ็บปวดเท่ากับ 1 7. อภิปรายผล การศึกษาพบว่า sponge brush มีประสิทธิผลในการท าความสะอาดผิวฟันน้อยกว่าการใช้แปรง สีฟันเล็กน้อย โดย sponge brush ไม่ท าให้เหงือกเลือดออก และไม่ท าให้ผู้ป่วยเจ็บปวด แต่การใช้แปรงสีฟันท า ให้ผู้ป่วยบางรายมีเหงือกเลือดออก และเจ็บปวดเล็กน้อยหลังท าความสะอาด


373 | P a g e 8. สรุปและข้อเสนอแนะ 1. Sponge Brush All in One ใช้เป็นอุปกรณ์ทางเลือกการท าความสะอาดช่องปากตามความเหมาะสม (Individual care plan) ในผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพแต่ละรายได้ และมีต้นทุนการผลิตที่ต่ า (5 บาทต่อชิ้น) โดยผู้ดูแลผู้ป่วย (care giver) สามารถท าขึ้นเอง เพื่อใช้ท าความสะอาดช่องปากผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงได้ 2. การใช้ Sponge Brush All in One ร่วมกับยาสีฟันท าให้เกิดฟองน้อยกว่าการใช้แปรงสีฟัน จึงช่วยลดโอกาส ส าลักในการท าความสะอาดช่องปาก อีกทั้งยังสามารถเช็ดท าความสะอาดเหงือก/เนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปากได้ ดีกว่าแปรงสีฟัน จึงอาจน าไปใช้ร่วมกับน้ ายาบ้วนปาก เช่น Chlorhexidine เพื่อช่วยลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ตามความจ าเป็นของผู้ป่วยแต่ละรายได้ 3. Sponge Brush All in One ยังไม่ได้ทดสอบถึงอายุการใช้งาน การท าความสะอาดฟองน้ าเพื่อน ามาใช้ต่อ การ เก็บรักษาให้ถูกสุขลักษณะ หรือวัดการสะสมของแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่ที่ฟองน้ า ดังนั้นอาจต้องศึกษาเพิ่มเติมถึง เรื่องดังกล่าว 4. ในขั้นตอนการหาวัสดุอุปกรณ์ ได้ทดลองใช้ฟองน้ าหลากหลายชนิดลองท าความสะอาดช่องปาก พบว่า บางชนิด นิ่มเกินไป บางชนิดหลุดลอกเป็นขุย จนพบว่าฟองน้ าม้วนผมมีลักษณะที่เหมาะสมในการท าความสะอาดช่องปาก ซึ่งถ้าอุปกรณ์นี้เป็นที่แพร่หลายและท าให้ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาจติดต่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุฟองน้ า/โรงงานอุตสาหกรรม เพื่อผลิตฟองน้ าเป็นที่ครอบด้ามแปรงสีฟันเหมือน Sponge Brush All in One เพื่อให้คนไทยสามารถผลิตใช้เป็นนวัตกรรมในประเทศได้ รวมถึงการจดสิทธิบัตรการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ 5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในปีงบประมาณ 2566 5.1 ด าเนินงานเชิงรุกเน้นงานส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปากส าหรับประชาชนทุกกลุ่มวัย 5.2 สนับสนุนให้หน่วยบริการทุกระดับจัดบริการสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ และเพิ่มการเข้าถึงบริการ สุขภาพช่องปากใน รพ.สต. โดยจัดทันตบุคลากรหมุนเวียนให้บริการ รวมถึงสนับสนุนครุภัณฑ์ทันตกรรมส าหรับ รพ. สต. ที่ขาดแคลน 5.3 พัฒนาทักษะการแปรงฟันคุณภาพในประชากรทุกกลุ่มวัย 5.4 เพิ่มช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์โครงการ/กิจกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากผ่านทางสื่อสังคม ออนไลน์ เพื่อสร้างโอกาสให้ภาคีเครือข่าย/กลุ่มเป้าหมายได้เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมเพิ่มมากขึ้น 5.5 ผลักดันนโยบายในระดับจังหวัดและสนับสนุนมาตรการงานส่งเสริมป้องกันให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัย อาทิ เช่น เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและเด็กกลุ่มเสี่ยงได้รับการทาฟลูออไรด์วานิช อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เด็ก ป.1 และ ป.6 ได้รับบริการเคลือบหลุมร่องฟันแท้(Sealant)


374 | P a g e ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงได้รับการคัดกรองและทาฟลูออไรด์วาร์นิชที่ผิวรากฟันป้องกันรากฟันผุ 5.6 สนับสนุนให้โรงเรียน สถานประกอบการ และชุมชนจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพช่องปากที่ดี ส่งเสริมนโยบายปลอดน้ าอัดลมและเครื่องดื่มผสมน้ าตาล 5.7 พัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ 5.8 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดสนับสนุนรถหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ ช่องปากของประชาชน 5.9 ก้าหนดมาตรการระดับจังหวัด ก้ากับและติดตามการจัดซื้อร่วมวัสดุทันตกรรม เพื่อลดต้นทุนวัสดุของ หน่วยบริการทางการแพทย์ในจังหวัด 5.10 ส่งเสริมและสนับสนุนภาคีเครือข่ายได้แก่ โรงเรียน ชมรมผู้สูงอายุ โรงงาน สถานประกอบการ ร้านค้า ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ในการด าเนินงานและจัดกิจกรรมรวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมี สุขภาพช่องปากที่ดี


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก


375 | P a g e 3.8 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประเด็นงาน 1. พัฒนาระบบบริการ การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 2. พัฒนาระบบคลินิกบริการการแพทย์แผนไทย 3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรและวิชาการ ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 4. เพิ่มศักยภาพการแปรรูป/ผลิตสมุนไพรในจังหวัดศรีสะเกษ 5. คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาไทย 6. การใช้ยากัญชาทางการแพทย์ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จังหวัดศรีสะเกษ มีการงานโครงการที่เกี่ยวข้องการพัฒนาวัตถุดิบสมุนไพร เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความ อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ปลูกที่มีคุณภาพสูงเพราะเป็นดินภูเขาไฟ ซึ่งเป็นที่มาของพืช GI ของจังหวัดศรีสะเกษที่ประสบ ความส าเร็จสูง คือ ทุเรียนภูเขาไฟ และจากการส่งตรวจวิเคราะห์สาระส าคัญของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าฟ้าทะลายโจรมีสาร Andrographolide สูงถึง 6.02% (พื้นที่ปลูกต าบลผักไหม อ าเภอ ห้วยทับทัน) และ 4.20% (พื้นที่ปลูกต าบลปราสาท อ าเภอห้วยทับทัน) นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองคุณภาพ สมุนไพรระดับทอง จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในสมุนไพรขมิ้น และระดับเงิน ในสมุนไพรมะขามป้อม ซึ่งถือ ได้ว่าพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นพื้นที่เหมาะสมในการปลูกพืชสมุนไพรที่ให้สารส าคัญสูงบริบทด้านการน าองค์กรถือ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยส าคัญที่จะท าให้การด าเนินการพัฒนาสมุนไพรประสบความส าเร็จ จังหวัดศรีสะเกษ โดยการน า ของผู้ว่าราชการจังหวัด มุ่งเน้นที่จะพัฒนาหอมแดงศรีสะเกษเป็นพืช GI ในล าดับต่อไป ด้วยการบูรณาการความ ร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน โดยการขับเคลื่อนแผนพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ และคณะกรรมการพัฒนา หอมแดง GI นอกจากนี้จังหวัดศรีสะเกษยังมีเครือข่ายการผลิตยาสมุนไพรที่มีคุณภาพทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ ใน ส่วนการด าเนินกิจกรรมภาครัฐ การพัฒนาสมุนไพรจังหวัดมีดังนี้ ต้นน้ า จังหวัดศรีสะเกษมีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร/กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 19 กลุ่ม (จ านวน 121 ราย) จากเดิม 15 กลุ่ม (จ านวน 86 ราย) มีพื้นที่ปลูกสมุนไพรรวม จ านวน 73 ไร่ ได้แก่ พื้นที่ปลูกไพล 28.55 ไร่ พื้นที่ ปลูกขมิ้นชัน 26.3 ไร่ และพื้นที่ปลูกมะขาป้อม 15.75 ไร่ และอื่นๆ เช่น ฟ้าทะลายโจร เพชรสังฆาต รางจืด รวม 2.4 ไร่ ซึ่งได้มีการสนับสนุนส่งเสริมการปลูกให้กับเกษตรกลุ่มปลูกในฐานข้อมูลที่รับผิดชอบมีการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานกับศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษโดยการขอสนับสนุนหัวพันธ์พืชและต้นกล้าพืชสมุนไพรทาง เศรษฐกิจ (เช่น ไพล ขมิ้น มะขามป้อม) และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชด าริ มาให้ความรู้ ความเข้าในระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) ให้กับเกษตรกร กลุ่มปลูก ในพื้นที่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชสมุนไพร ให้ได้มาตรฐานตามระบบการ ปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) เพิ่มมูลค่าพืชสมุนไพรและยกระดับกลุ่มผู้ปลูก


376 | P a g e สมุนไพรผ่านมาตรฐาน GAP เพิ่มขึ้น โดยมีเกษตรกรเข้ารับการอบรม จ านวน 50 คน โดยแบ่งเป็นเกษตรกรใน เครือข่ายโรงพยาบาลห้วยทับทัน 15 คน โรงพยาบาลขุนหาญ 13 คน โรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา 12คน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพิงพวย 10 คน กลางน้ า จังหวัดศรีสะเกษ มีโรงพยาบายห้วยทับทัน เป็นศูนย์กลางการผลิตยาสมุนไพร ผ่านการรับรอง WHO GMP มีการผลิตยาสมุนไพร ทั้งหมด 41 รายการ แบ่งเป็นประเภท ดังนี้ แคปซูล 24 รายการ ยาน้ า 8 รายการ ชาชง 4 รายการ และยาใช้ภานอก 5 รายการ มีโรงพยาบาลขุนหาญ เป็นศูนย์การแปรรูปสมุนไพร และ โรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เป็นศูนย์การผลิตเวชเวชส าอางและยาภายนอก ซึ่งได้รับ งบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ปีงบประมาณ 2562,2563 และมีศีรษะโศก เป็น ศูนย์ภาคเอกชนในการการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม ยาสมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มสมุนไพร และเวชส าอาง ปลายน้ า ความยั่งยืน การตลาดและความพึงพอใจของผู้รับบริการ ซึ่งในส่วนของภาครัฐจังหวัดศรีสะเกษ มีศูนย์กระจายสินค้า ณ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งโรงพยาบาลศรีสะเกษ และในส่วนของ ภาคเอกชนชุมชนศีรษะโศก เป็นศูนย์การผลิตและกระจายสินค้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม ยา สมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มสมุนไพร และเวชส าอาง เพื่อพัฒนาและรายได้ของกลุ่มปลูกสมุนไพรอย่าง ยั่งยืน โดยก าหนดเป็นนโยบายของจังหวัด กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินการ เปิดคลินิกแพทย์แผนไทย เมื่อ วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ มีกิจกรรมบริการนวดแผน-ไทย ประคบสมุนไพร และ จ่ายยาสมุนไพร จากข้อมูลผู้รับบริการวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ – กันยายน ๒๕๖๕ พบว่ามีผู้รับบริการ ๓๘ คน ส่วน ใหญ่เข้ารับการบ าบัดอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อบ่า อาการเวียนศีรษะ อาการปวดเข่า เป็นต้น ท าให้เกิดรายได้ จากการให้บริการจ านวน 20,250 บาท การให้บริการในระยะแรกๆ คือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกรกฎาคม ๒๕๖๕ การให้บริการพบปัญหาเกี่ยวกับวัสดุ ครุภัณฑ์ เวชภัณฑ์ยาสมุนไพรหลายรายการยังไม่มี รวมถึงระบบอ านว นความสะดวกในการบริการ เช่นระบบข้อมูล ระบบท าความสะอาดผ้ายังไม่พร้อม จึงท าให้การบริการไม่ราบลื่น เท่าที่ควร มีหน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐที่ได้มาตรฐานแพทย์แผนไทย 276 แห่ง แยกได้ดังนี้ โรงพยาบาลศูนย์ (ระดับ A) จ านวน 1 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป(ระดับ M 1) จ านวน 1 แห่ง และโรงพยาบาลชุมชน จ านวน 20 แห่ง มีโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย 1 แห่ง (โรงพยาบาลขุนหาญ) โรงพยาบาลที่ผลิตยาสมุนไพร 1 แห่ง (โรงพยาบาล ห้วยทับทัน) ที่สามารถผลิตยาสมุนไพรได้ 39 รายการ โรงพยาบาลให้บริการฝังเข็ม จ านวน 4 แห่ง รพ.สต. มี ทั้งหมด 254 แห่ง ปีงบประมาณ 2565 ร้อยละของผู้รับบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในแผนก ผู้ป่วยนอก ในสถานบริการร้อยละ 18 มีอ าเภอที่ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด 8 อ าเภอ ไม่ผ่านเกณฑ์ 14 อ าเภอ เนื่องจากมี


377 | P a g e สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ท าให้มีการงดบริการแพทย์แผนไทยส่งผลให้ผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ และมีการ บริการเชิงรุกน้อยลงท าให้มีการบริการไม่ผ่านเกณฑ์ โครงการปีงบประมาณ 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการด าเนินโครงการ 10 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการพัฒนากัญชาส าหรับการใช้ในทางการแพทย์แผนไทย ในรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล 2.โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน 3. โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก 4. โครงการสร้างเครือข่ายเกษตรพันธสัญญาเพื่อเพิ่มศักยภาพการแปรรูป/ผลิตสมุนไพร 5. โครงการศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย ส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2565 6. โครงการคลินิกบริการด้านการแพทย์แผนไทย สสจ.ศรีสะเกษ 7. โครงการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาไทย ปีงบประมาณ 2565 8. โครงการจัดงานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ปี งบประมาณ 2565 9.โครงการเพิ่งศักยภาพการแปรรูป/ผลิตสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพรสุขภาพ 10. โครงการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ตัวชี้วัด 1. ร้อยละของผู้ป่วยนอกทั้งหมดที่ได้รับบริการ ตรวจ วินิจฉัย รักษาโรค และฟื้นฟูสภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผน ไทยและการแพทย์ทางเลือก ร้อยละ 20.5 ผลการด าเนินงาน 1. จัดงานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ปี 2565 เพื่อการเฉลิมพระเกียรติและส านึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กลุ่ม งานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส านักงานสาธารณสุขศรีสะเกษ จึงได้มีโครงการจัดงาน “วันภูมิ ปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” ปีงบประมาณ 2565 ในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ซึ่งมีเครือข่ายแพทย์แผนไทย จังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 120 คน โดยมีกิจกรรมการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎา ราชเจ้า ซึ่งมีการจัดกิจกรรมต่างๆภายในงาน ได้แก่ พิธี ไหว้ครูแพทย์แผนไทย (โรงพยาบาลขุนหาญ) พิธีถวายพานพุ่ม การแสดงนิทรรศการด้านการแพทย์แผนไทย การ มอบโล่และเกียรติแก่เจ้าหน้าที่ และพื้นที่ต้นแบบดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย และการมอบประกาศนียบัตรผ่าน การอบรมนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง


378 | P a g e 2. สรุปการคัดเลือกพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติ ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ ทางเลือก ระดับจังหวัด ปีงประมาณ 2565 การประกวดคัดเลือกพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติ ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และ การแพทย์ทางเลือก ระดับจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ 2565 ในวันที่ 2 เดือน กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีการ ประกวดทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ประเภท โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป ประเภท โรงพยาบาลชุมชน ประเภท โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบล/สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี ณ ห้องประชุม 301อาคารส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายไพฑูรย์ แก้วภมร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษเป็นประธาน คัดเลือก ประเภท ประเภท โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล/สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินท ราชินีมี และนายช านาญ สมรมิตร ผู้อ านวยการโรงพยาบาลยางชุมน้อย เป็นประธาน คัดเลือก ประเภท โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน ผลการประกวดดังนี้ 1. พื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ระดับจังหวัด 1.1 ประเภท โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป ชนะเลิศ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ 1.2 ประเภท โรงพยาบาลชุมชน ชนะเลิศ โรงพยาบาลขุขันธ์ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 โรงพยาบาลน้ าเกลี้ยง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 โรงพยาบาลห้วยทับทัน รางวัลชมเชย โรงพยาบาลศรีรัตนะ และโรงพยาบาลศิลาลาด 1.3 ประเภท โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล/สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี ชนะเลิศ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพราน อ าเภอขุนหาญ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลละลม อ าเภอภูสิงห์ รองชนะเลิศอันดับที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลกล้วยกว้าง อ าเภอห้วยทับทัน


379 | P a g e 3. การคัดเลือกหมอพื้นบ้านดีเด่น หมอไทยดีเด่น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านแพทย์แผนไทยดีเด่น และผู้ช่วย แพทย์แผนไทยดีเด่น ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2565 วัตถุประสงค์ เพื่อคัดเลือกบุคลากรดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทยในระดับระดับจังหวัด รายชื่อผู้ได้รับโล่รางวัลการคัดเลือกบุคลากรดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ ทางเลือก ระดับจังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 มีดังนี้ ประเภทหมอพื้นบ้านต้นแบบดีเด่น 1. นายเลื่อน ประทุมวงษ์หมอพื้นบ้านต าบลไพร อ าเภอขุนหาญ ประเภทผู้ช่วยแพทย์แผนไทยต้นแบบดีเด่น 2. นางสุหมัน วงษ์พินิจ โรงพยาบาลขุนหาญ อ าเภอขุนหาญ ประเภทเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทยต้นแบบดีเด่น 3. นางสาวณัฐญานันท์ ศรีวงษ์ โรงพยาบาลโพธิ์ศรีสุวรรณ อ าเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ประเภทผู้ช่วยแพทย์แผนไทยต้นแบบ 1. นายถาวร ศรีด้วง โรงพยาบาลกันทรลักษ์อ าเภอกันทรลักษ์ 2. นางสาวดอกไม้ พาสมบูรณ์ โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย อ าเภออุทุมพรพิสัย


380 | P a g e 4. ประชุมผู้ขออนุญาตปลูกกัญชา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ ผู้เข้าร่วมประชุม จ านวน 47 คน ประชุมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ณ ห้องประชุม 202 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ สรุปสาระส าคัญได้ ดังนี้ 1. ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ แพทย์แผนไทยฯ ควรที่จะเข้าไปกระตุ้นหรือให้ความรู้ในการปลูกสมุนไพร ส าหรับชาวบ้านที่มีความพร้อมที่จะปลูกสมุนไพร เนื่องจากการปลูกพืชสวนหรือสมุนไพรของจังหวัดศรีสะเกษ ยังมีไม่ มาก แพทย์แผนไทยฯ ควรจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปสนับสนุน เพื่อท าให้เกิดการรับซื้อสมุนไพรที่จะน าไปผลิตเป็น ยาที่ได้มาตรฐานในรูปแบบต่างๆต่อไปในอนาคต 2. ประเด็นเรื่องของสมุนไพรควบคุม (กัญชา) หลังจากที่กัญชาไม่ได้เป็นสิ่งเสพติดแล้วนั้น ท าให้ กัญชาไม่ไม่สิ่งที่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ทุกคนสามารถปลูกได้อย่างเสรีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือกได้ใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา พ.ศ. 2542 ประกาศให้กัญชากลายเป็นสมุนไพร ควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการซื้อขายกันอย่างเสรีมากจนเกินไป ดังนั้น ท่านใดที่ต้องการจะศึกษาวิจัย จ าหน่าย แปรรูปและส่งออกจะต้องท าการขออนุญาต หากไม่ท าการขออนุญาต จะถือว่าผิดกฎหมาย 3. ประเด็นเรื่อง การให้บริการ การให้บริการแพทย์แผนไทยฯในสถานบริการต่างๆ ทีมงานแพทย์แผน ไทยจะต้องเน้นการบริการในเชิงรุก หมายความว่า ต้องมีการประสานงานกับแพทย์ผู้ที่ท าการรักษา หากพบผู้ป่วยที่อยู่ใน ขั้นวิกฤติ หรืออยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต รักษาอย่างไรก็ไม่หาย อาการไม่ดีขึ้น ก่อนการที่จะปรับเปลี่ยนยารักษาอาจจะมี การส่งตัวมาที่แพทย์แผนไทยฯ เพื่อให้แพทย์แผนไทยฯได้มีส่วนช่วยในการรักษาโรคต่างๆให้ดียิ่งขึ้น กระบวนการเหล่านี้ อาจจะส่งผลให้ช่วยลดงบประมาณในการปรับเปลี่ยนยาในการรักษา หรือส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น 5. ประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการจัดท าทะเบียนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย มีการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุม จ านวน 63 คน ประชุมเมื่อวันที่30 มิถุนายน 2565 ณ ส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ วัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาด้าน


381 | P a g e การแพทย์แผนไทย และเพื่อสร้างขวัญก าลังใจและสอบถามถึงสภาพปัญหาการท างานที่เกี่ยวกับงานคุ้มครองภูมิ ปัญญา และเพื่อสร้างขวัญก าลังใจในการท างานให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง 6. ลงพื้นที่เพื่อมอบหนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน (ระหว่างวันที่ 28 เมษายน 2565 - 4 พฤษภาคม 2565) วัตถุประสงค์ เพื่อมอบหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านให้กับแต่ละพื้นที่ และเพื่อเป็นการป้องกันและ ลดการรวมกลุ่มของประชานเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีการมอบหนังสือรับรองหมอ พื้นบ้านตามรายอ าเภอ ได้แก่ อ าเภอราษีไศล อ าเภอขุนหาญ อ าเภอกันทรารมย์ อ าเภอศรีรัตนะ อ าเภอกันทรลักษ์ อ าเภออุทุมพรพิสัย อ าเภอเมืองจันทร์ 7. โครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานบริการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสาน กิจกรรมที่ 1 ออกประเมินมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย (รพ.สส.พท) ในระดับรพศ. รพท. รพช. และรพ.สต. - โรงพยาบาลที่ได้รับผลประเมินระดับดีเยี่ยม ทั้งสิ้น 15 แห่ง จาก 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 68.18 - โรงพยาบาลที่ได้รับผลประเมินระดับดีมาก ทั้งสิ้น 7 แห่ง จาก 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 31.81


382 | P a g e สรุปผลการประเมินมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย (รพ.สส.พท.) ในระดับโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบล - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ได้รับผลประเมินระดับดีเยี่ยม ทั้งสิ้น 95 แห่ง จาก 256 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 20 - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ได้รับผลประเมินระดับดีมาก ทั้งสิ้น 112 แห่ง จาก 256 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 43.76 - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ได้รับผลประเมินระดับดี ทั้งสิ้น 40 แห่ง จาก 256 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 15.62 - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ได้รับผลประเมินระดับผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับพื้นฐาน ทั้งสิ้น 3 แห่ง จาก 256 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 1.17 - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งสิ้น 5 แห่ง จาก 256 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 1.95 8. โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กิจกรรมที่ 1 ประชุมชี้แจงสรุปผลการออกประเมินมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ สรุปผลการประเมินมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยในระดับ รพศ. รพท. รพช. และรพ.สต ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ณ ห้องประชุม 202 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด ศรีสะเกษ มี ผู้เข้าร่วมประชุมจ านวน 22 คน


383 | P a g e 9. โครงการพัฒนากัญชาส าหรับการใช้ทางการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล กิจกรรมที่ 1 ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโรงเรือนปลูกกัญชา จ านวน 6 แห่ง ตารางที่ 159 แสดงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่เข้าร่วมโครงการและมีการด าเนินการต่อเนื่อง ล าดับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล สถานะการ ก่อสร้าง โรงเรือน ใบอนุญาต ผลิต(ปลูก) ยส.5 การด าเนินการ 1 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลขะยูง R ได้รับแล้ว ด าเนินการต่อ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลโพธิ์ชัย R ได้รับแล้ว ไม่ได้ด าเนินการ 3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านยาง R ได้รับแล้ว ไม่ได้ด าเนินการ 4 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลเมืองจันทร์ R ได้รับแล้ว ไม่ได้ด าเนินการ 5 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านปลาซิว R ได้รับแล้ว ด าเนินการต่อ 6 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านหนองครกใต้ R ได้รับแล้ว ด าเนินการต่อ หมายเหตุ N = ยังไม่ก่อสร้าง UC = ก าลังก่อสร้าง R = ก่อสร้างเสร็จแล้ว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลที่ได้รับใบอนุญาตผลิต (ปลูก) สารเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 จ านวน 6 แห่ง และมีการด าเนินการปลูกและส่งขายอย่างต่อเนื่อง จ านวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลขะ ยูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านปลาซิว และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้าน หนองครกใต้ 10. โครงการเปิดบริการคลินิกแพทย์แผนไทย ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์แผนไทยได้ง่าย สะดวก 2. เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่ไปเข้ารับบริการแพทย์แผนไทยที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 3. เพื่อเป็นคลินิกแพทย์แผนไทยต้นแบบที่เปิดบริการในส านักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยได้รับ อนุมัติงบประมาณจากเงินบ ารุง จ านวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) เพื่อน ามาใช้จ่ายจัดเตรียมความพร้อม


384 | P a g e รวมถึงจัดซื้อ วัสดุและครุภัณฑ์ รวมใช้งบประมาณทั้งสิ้น 98,683.38 บาท (เก้าหมื่นแปดพันหกร้อยแปดสิบสาม บาทสามสิบแปดสตางค์ถ้วน) งานด้านคลินิกบริการ การให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย งบประมาณ 2565 สรุปดังนี้ 1.กลุ่มผู้รับบริการ ส่วนมากเป็นโรคปวดกล้ามเนื้อ คอ บ่า หลัง ตามล าดับ 2.กลุ่มสิทธิที่มารับบริการ ส่วนมากใช้สิทธิ ข้าราชการ ประกันสังคม ตามล าดับ 3. มีรายได้และกิจกรรมดังนี้ ตารางที่ 160 การให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย ประจ าเดือน มีนาคม - กันยายน 2565 มี.ค. เม.ย พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. รวม ล าดับ รายการ จ านวน จ านวน จ านวน จ านวน จ านวน จ านวน จ านวน (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) 1 ค่าบริการหัตถการแพทย์ แผนไทย 1,250 1,750 2,250 2,750 3,750 5,000 3,500 20,250 2 ค่ายาสมุนไพร 300 275 145 80 300 95 435 1,630 3 ค่าอื่นๆ รวม 1,550 2,025 2,395 2,830 4,050 5,095 3,935 21,880 งานส่งเสริมการบริการแพทย์แผนไทยในปฐมภูมิ หน่วยบริการปฐมภูมิน าร่อง 3 แห่ง คือ 1.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลโพธิ์ชัย อ าเภออุทุมพรพิสัย 2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพราน อ าเภอขุนหาญ 3.โรงพยาบาลศรีสะเกษ ผ่านการอบรมหลักสูตรเวชปฏิบัติของแพทย์แผนไทยเพื่อปฏิบัติงานในทีมผู้ให้บริการสุขภาพปฐม ภูมิ 2 แห่ง คือโรงพยาบาลศรีสะเกษและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพราน อ าเภอขุนหาญ โดยโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบลโพธิ์ชัย อ าเภออุทุมพรพิสัย ไม่ผ่านการอบรม 11. การพัฒนาสมุนไพรไทยและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดศรีสะเกษมีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร/กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 19 กลุ่ม (จ านวน 121 ราย) จากเดิม 15 กลุ่ม (จ านวน 86 ราย) มีพื้นที่ปลูกสมุนไพรรวม จ านวน 73 ไร่ ได้แก่ พื้นที่ปลูกไพล 28.55 ไร่ พื้นที่ ปลูกขมิ้นชัน 26.3 ไร่ และพื้นที่ปลูกมะขาป้อม 15.75 ไร่ และอื่นๆ เช่น ฟ้าทะลายโจร เพชรสังฆาต รางจืด รวม


385 | P a g e 2.4 ไร่ ซึ่งได้มีการสนับสนุนส่งเสริมการปลูกให้กับเกษตรกลุ่มปลูกในฐานข้อมูลที่รับผิดชอบมีการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานกับศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษโดยการขอสนับสนุนหัวพันธ์พืชและต้นกล้าพืชสมุนไพรทาง เศรษฐกิจ (เช่น ไพล ขมิ้น มะขามป้อม) และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชด าริ มาให้ ความรู้ความเข้าในระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) ให้กับเกษตรกร กลุ่มปลูกในพื้นที่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชสมุนไพร ให้ได้มาตรฐานตาม ระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) เพิ่มมูลค่าพืชสมุนไพรและยกระดับ กลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรผ่านมาตรฐาน GAP เพิ่มขึ้น โดยมีเกษตรกรเข้ารับการอบรม จ านวน 50 คน โดยแบ่งเป็น เกษตรกรในเครือข่ายโรงพยาบาลห้วยทับทัน 15 คน โรงพยาบาลขุนหาญ 13 คน โรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิม พระเกียรติ 80 พรรษา 12 คน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพิงพวย 10 คน โดยใช้งบประมาณ ด าเนินการจากกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ประจ าปี 2564 รวมเป็นเงิน 20,400 บาท (สองหมื่นสี่ร้อย บาทถ้วน) ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมบูรณาการกับศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดศรีสะเกษ ในการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรกลุ่มปลูกสมุนไพรในจังหวัด เพื่อติดตามและให้ค าแนะน ากลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกสมุนไพรให้ผ่านการตรวจรับรอง GAP ดังนั้น กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้จัดท าโครงการสร้างเครือข่ายเกษตรพันธสัญญา เพื่อเพิ่มศักยภาพ การแปรรูป/ผลิตสมุนไพรปีงบประมาณ 2565 ขึ้น จึงได้ท าการลงพื้นที่ติดตามและให้ค าแนะน ากลุ่มเกษตรกรผู้ ปลูกสมุนไพรภายในจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ อ าเภอห้วยทับทัน อ าเภอขุนหาญ อ าเภอเบญจลักษ์ และอ าเภอศรี รัตนะ ใช้ระยะเวลาด าเนินการ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 – เดือนกันยายน 2565


386 | P a g e 12. หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตารางที่ การออกหน่วยปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในหน่วยแพทย์ พอ.สว. เนื่องจาก สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ดังนั้นการรักษาจะเน้นการจ่าย ยาสมุนไพรเป็นหลัก และอ าเภอที่มีการท าหัตถการ ได้แก่ อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ และอ.ภูสิงห์ โดยใน ปีงบประมาณ 2565 ได้ออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) ทั้งสิ้น 12 อ าเภอ มีเจ้าหน้าที่ให้บริการด้าน การแพทย์แผนไทย รวม 97 คน มีผู้มารับบริการทางการแพทย์แผนไทย รวม 349 คน 13. โครงการศูนย์กระจายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย จังหวัดศรีสะเกษ 2565 ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณ 22,000 บาท (สองหมื่นสองพันบาทถ้วน) ซึ่งใช้ในกิจกรรม ประชุมเชิงปฏิบัติการภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน วิสาหกิจชุมชน OTOP ที่มีผลผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร และภูมิปัญญาไทย ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร 1 ครั้ง /ปี จ านวน 100 คน


387 | P a g e ได้ด าเนินการตามกิจกรรมและแผนงานและโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วแล้ว สู่การขับเคลื่อนการ ด าเนินงานในรูปแบบคณะกรรมการ โดยจดทะเบียนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้า ผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย "ศรีล าดวน" จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเครือข่ายประกอบไปด้วย 14. โครงการเปิดศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้รับการจัดสรร งบประมาณ จากหมวดเงินบ ารุงส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 10,000 บาท(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อใช้ จ่ายในกิจกรรมจ้างเหมาตกแต่งสถานที่และพิธีเปิดศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรและ ภูมิ ปัญญาไทย “ศรีล าดวน” เป็นเงิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ได้เปิดทดลองระบบศูนย์กระจายสินค้าฯเมื่อ วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 และท าพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กันยายน 2565 15. การพัฒนาบุคลากร โครงการพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ประจ าปี 2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพ ฟื้นฟูความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยส าหรับเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย ในหน่วยบริการ มาตรฐาน ตาม COVID – Free setting 16. ตัวชี้วัดประเมินผลการปฏิบัติงานสาธารณสุข (KPI) ปีงบประมาณ 2565 กลุ่มงานแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จังหวัดศรีสะเกษ ก าหนดเกณฑ์ ประเมินผลการ ปฏิบัติงานสาธารณสุข (KPI) ปีงบประมาณ 2565 วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลของการปฏิบัติงานการแพทย์แผน ไทยระดับอ าเภอ,จังหวัด มีเกณฑ์ตัวชี้วัด ดังต่อไปนี้ 1. ร้อยละความครอบคลุมผู้รับบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในสถานบริการ ของรัฐตามเกณฑ์ ภาพรวมจังหวัดร้อยละ 20.5


388 | P a g e ข้อมูลอ้างอิงจาก KPI จังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 30 กันยายน 2565 ร้อยละความครอบคลุมผู้รับบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในสถานบริการ ของรัฐตามเกณฑ์ ภาพรวมจังหวัด คิดเป็นร้อยละ 18 มีอ าเภอที่ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด 8 อ าเภอ ไม่ผ่านเกณฑ์ 14 อ าเภอ เนื่องจากมีสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ท าให้มีการงดบริการแพทย์แผนไทยส่งผลให้ผลงานไม่ผ่าน เกณฑ์ และมีการบริการเชิงรุกน้อยลงท าให้มีการบริการไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรการในการด าเนินงาน 1. ส่งเสริมการใช้ยาสนับสนุนยาสมุนไพรจากโรงพยาบาลผ่าน GMP (รพ.ห้วยทับทัน) ร้อยละ 80 2. ส่งเสริมการใช้ยาพัฒนาจากสมุนไพรเป็นอันดับแรก(Frist Line Drug) อย่าง 2 ตัว ฟ้าทะลายโจร และ ขมิ้นชันและส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน อย่างน้อย 3 รายการ 3. ส่งเสริมการปลูกสมุนไพรส าหรับการผลิตยาสมุนไพร เครื่องส าอาง และสมุนไพรแปรรูป ที่ผ่านการรับรองอย่างน้อย GAP (ห้วยทับทัน,ขุนหาญ,เบญจลักษ์,และศรีรัตนะ) และพัฒนาสู่การรับรอินทรีย์ 0 5 10 15 20 25 30 เมืองศรีสะเกษ ยางชุมน้อย กันทรารมย์ กันทรลักษ์ ขุขันธ์ ไพรบึง ปรางค์กู่ ขุนหาญ ราษีไศล อุทุมพรพิสัย บึงบูรพ์ ห้วยทับทัน โนนคูณ ศรีรัตนะ น้ าเกลี้ยง วังหิน ภูสิงห์ เมืองจันทร์ เบญจลักษ์ พยุห์ โพธิ์ศรีสุวรรณ ศิลาลาด 11.8 19.08 16.0415.12 21.45 15.53 24.81 25.01 27.71 15.24 9.66 20.62 13.95 19.84 10.05 15.3 22.07 22.39 16.17 24.13 17.56 20.09


389 | P a g e ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยบริการในการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร 2. มีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการท างาน เช่น ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กลุ่มเกษตรกรกลุ่มปลูกพืช สมุนไพร วิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ศีรษะอโศก เป็นต้น 3. ได้รับโอกาสจากผู้บริหารในการสร้างเครือข่าย สร้างผลงานให้บรรลุผลส าเร็จ ปัญหาอุปสรรค 1.ขาดแคลนสมุนไพรพันธุ์ดี/สมุนไพรราคาต่ า 2.เกษตรกรที่ยังไม่ผ่าน GAP และขาดความรู้ในการปลูกพืชสมุนไพรตามกระบวนการ GAP อีกทั้งยังขาด ความรู้และประสบการณ์ในการตรวจรับรองคุณภาพสมุนไพร 3.มูลค่าการใช้ยาสมุนไพรลดลง การมารับบริการด้านแพทย์แผนไทยลดลง เนื่องจากสถานการณ์แพร่ ระบาดเชื้อโควิด-19 4.กระแสการใช้สมุนไพรน้อย ไม่ยั่งยืน ขาดข้อมูลการตลาดวัตถุดิบสมุนไพรที่ชัดเจน ควรศึกษาข้อมูล การตลาดเพื่อส่งเสริมการขายวัตถุดิบสมุนไพรและสร้างเครือข่ายการตลาดรับซื้อวัตถุดิบสมุนไพร โดยก าหนดราคา กลางซื้อขายวัตถุดิบในพื้นที่โดยอ้างอิงจากราคาตลาด 5. ผู้ที่จบการศึกษาแพทย์แผนไทยยังไม่สามารถที่จะสอบผ่านเพื่อการมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมไทย 6. การรักษาด้วยวิธีปรุงยาเฉพาะรายยังไม่เป็นระบบที่ชัดเจน ข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไข โอกาสพัฒนา แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. ขอความร่วมมือกับศูนย์วิจัยพืชสวนหรือส านักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษในการส่งเสริมให้ความรู้ เกษตรกรตามกระบวนการ GAP และการตรวจรับรองคุณภาพสมุนไพรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิชาการเกษตร เป็นต้น


390 | P a g e 2. ต ารับกัญชาที่ได้รับมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้ามีต ารับที่ใกล้หมดอายุสามารถขอเปลี่ยนทดแทนจาก กรมการแพทย์แผนไทยฯ 3. การเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์มีจ านวนน้อย เพิ่มการประชาสัมพันธ์งานบริการ และประชาสัมพันธ์ผู้ขอครอบครองกัญชาเพื่อการรักษาให้เข้าสู่ระบบการรักษาฯ 4. การพัฒนางานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้เป็นที่ยอมรับให้มากขึ้นจะต้องมีการ พัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทย ให้มีความรู้ทักษะด้านการตรวจเวชกรรมไทย มีการจัดการเรียนการสอน แพทย์แผนไทยและสมุนไพรในโรงเรียนแพทย์ และปฐมนิเทศแพทย์บรรจุใหม่ให้มีความรู้และทัศนคติที่ดีต่อ การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย และมีกิจกรรมการเชิดชูหมอพื้นบ้าน/องค์ความรู้การแพทย์พื้นบ้าน ต ารับ/ ต ารา ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปให้สามารถเล็งเห็นคุณค่าและความส าคัญให้มากขึ้น 5. ต่อยอดการด าเนินงานพัฒนาคลินิกแพทย์แผนไทยด้วยวิธีปรุงยาฌพาะรายให้ครอบคลุมในโรงพยาบาล ศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง 6. ส่งเสริมการปลูกแบบเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ 7. พัฒนา/แจกจ่ายสมุนไพรพันธุ์ดี แก่เกษตรกรกลุ่มปลูก และสนับสนุนการปลูกสมุนไพร Organic 8. ส่งเสริมให้ความรู้เกษตรกรตามกระบวนการ GAP และการตรวจรับรองคุณภาพสมุนไพรกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเช่น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิชาการเกษตร 9. สนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยบริการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยที่หายจากอาการ โควิด-19 10. ประชาสัมพันธ์ กระตุ้นการใช้ยาสมุนไพรโดยก าหนดเป็นนโยบายตัวชี้วัดระดับจังหวัดให้มีการสั่งใช้ยา สมุนไพรในหน่วยบริการของรัฐ ร้อยละ 80


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานบริหารทั่วไป


391 | P a g e 3.9 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานบริหารทั่วไป ประเด็น : งานตรวจสอบและควบคุมภายใน โครงการ 1. โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง บางหน่วยงานยังมีความเข้าใจในการแนบเอกสารในระบบคลาดเคลื่อน ท าให้การด าเนินงานยังไม่ถูกต้อง ครบถ้วนตามเกณฑ์การประเมินที่ก าหนด ตารางที่ 161 ตัวชี้วัด เป้าหมายงานตรวจสอบและควบคุมภายใน ตัวชี้วัด เป้าหมาย (ร้อยละ) 1. หน่วยงานในสังกัดส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใส ในการด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 92 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับ กระทรวง (IA ๐02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 80 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 90 ตารางที่ 162 ผลการด าเนินงานตรวจสอบและควบคุมภายใน ประเด็นงาน/โครงการ ผลการด าเนินงาน 1. โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการ ด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผลคะแนนในระดับจังหวัด เท่ากับ 100% : ผ่านเกณฑ์ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรี สะเกษ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาล ชุมชน ทุกแห่ง และส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ ทุกอ าเภอ จ านวน 45 หน่วย ผ่านเกณฑ์การประเมิน ITA (ร้อยละ 92) ปีงบประมาณ 2565 ผ่านเกณฑ์ (95.00 – 100) ระดับ AA 41 หน่วยงาน ผ่านเกณฑ์ (85.00 – 94.99) ระดับ A 4 หน่วยงาน


392 | P a g e ประเด็นงาน/โครงการ ผลการด าเนินงาน 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศ ให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผลคะแนนในระดับจังหวัด เท่ากับ 100% : ผ่านเกณฑ์ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง ผ่าน เกณฑ์การประเมิน ทุกแห่ง ร้อยละ 100 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผลการด าเนินงานในภาพรวมของ ระดับจังหวัด ผลคะแนนร้อยละ 86.16อยู่ในเกณฑ์ดี จาก การตรวจสอบภายในด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ตารางที่ 163 มาตรการในการด าเนินงานตรวจสอบและควบคุมภายใน ประเด็นงาน/โครงการ มาตรการในการด าเนินงาน 1. โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการ ด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - พัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประสานงานการประเมินคุณธรรม และความโปร่งใสในการด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ตามข้อค าถามแบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (MOPH Open Data Integrity and Transparency Assessment : MOIT) - ให้ค าแนะน ากลวิธีประเมินผลระดับคุณธรรมและความ โปร่งใสการด าเนินงานของหน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ITA เพื่อเสนอแนะแนวทางแก่หน่วยงานที่เข้ารับการประเมินใน การน าไปปรับปรุงหรือพัฒนาการด าเนินงานด้านคุณธรรมและ ความโปร่งใสการด าเนินงานของหน่วยงานตนเอง - เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นแก่ หน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ในการน าไปปรับปรุง กระบวนงาน แบบประเมินและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิด ความมั่นใจว่าผลการประเมินสะท้อนภาพความเป็นจริงในการ ปฏิบัติงานของหน่วยงาน 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศให้ กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2565 - ด าเนินจัดประชุมและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ด าเนินงาน หน่วยงานในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ตาม ข้อค าถามการประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบ สารสนเทศให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) - เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น แก่หน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ในการน าไปปรับปรุง


393 | P a g e ประเด็นงาน/โครงการ มาตรการในการด าเนินงาน กระบวนงาน แบบประเมิน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิด ความมั่นใจว่าผลการประเมินสะท้อนภาพความเป็นจริงในการ ปฏิบัติงานของหน่วยงาน 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินประสิทธิภาพระบบ ควบคุมภายในด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ(Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จ านวน 1 วัน - ขั้นตอนในการประเมินประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่1 หน่วยงานด าเนินการเปิดระบบตรวจสอบอัตโนมัติ 5 มิติ เพื่อให้หน่วยบริการแนบไฟล์เอกสารตามหัวข้อแบบ ประเมินที่ก าหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์เอกสารแบบประเมิน ประสิทธิภาพการเงินการคลัง 5 มิติ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ขั้นตอนที่ 2 ผู้ตรวจสอบภายในที่ได้รับแต่งตั้งของส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ควบคุม ก ากับ ติดตาม ให้หน่วย บริการประเมินผลในระบบตรวจสอบอัตโนมัติ 5 มิติ ขั้นตอนที่3 หน่วยบริการสามารถดูผลการประเมินในแต่ละ มิติผ่านทางระบบตรวจสอบอัตโนมัติ 5 มิติ ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ขั้นตอนที่ 4 ผลการประเมินแต่ละมิติจะต้องมีคะแนนไม่ต่ ากว่า ร้อยละ 90 หากได้คะแนนต่ ากว่าร้อยละ 90 หน่วยงานจะต้อง จัดท าแผนพัฒนาองค์กรตามมิติที่พบจุดอ่อน แผนการพัฒนา องค์กร 5 มิติ และแนบไฟล์ให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ส านักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 -สรุปผลการด าเนินงาน ประชุมเพื่อถอดบทเรียน และหาแนว ทางแก้ไขปรับปรุง เพื่อพัฒนาระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์(EIA) ในปีงบประมาณต่อไป ปัจจัยแห่ง ความส าเร็จ - ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ความส าคัญกับการ ด าเนินการประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA)


394 | P a g e ปัจจัยแห่งความส าเร็จ - ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ความส าคัญกับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการ ด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) อย่างเป็นรูปธรรม - ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ความส าคัญกับการประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศ ให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) อย่างเป็นรูปธรรม - ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ความส าคัญกับการประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตารางที่ 164 ปัญหาอุปสรรคในการด าเนินงานตรวจสอบและควบคุมภายใน ประเด็นงาน/โครงการ ปัญหาอุปสรรค 1. โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการ ด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - หน่วยบริการบางหน่วยไม่ได้ log in ด าเนินการในระบบ ตามระยะเวลาที่ก าหนด - ปัญหาด้านระบบอินเตอร์เน็ตที่ต้องแนบลิงก์ในระบบ MITAS (MOPH Integrity and Transparency Assessment System) - สถานการณ์การแพร่บาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศ ให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - บางหน่วยงานยังมีความเข้าใจในการแนบเอกสารในระบบ คลาดเคลื่อน ท าให้การด าเนินงาน ยังไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ตามเกณฑ์การประเมิน และระยะเวลาที่ก าหนด - ทุกหน่วยงานมีการจัดวางระบบการควบคุมภายใน แต่ยัง ไม่ครอบคลุมทุกส่วนงานย่อย 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - บางหน่วยงานยังมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และข้อก าหนดที่เกี่ยวข้อง ขาดการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานให้ถูกต้อง ครบถ้วน ก่อนการส่งเอกสารและ หลักฐานประกอบการประเมินในระบบ EIA ตามที่แบบ ประเมินก าหนด ตารางที่ 165 แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไปงานตรวจสอบและควบคุมภายใน ประเด็นงาน/โครงการ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1 . โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการ ด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - จัดการประชุมเพื่อให้ความรู้ ก ากับ และติดตามในการ ด าเนินการเปิดเผยข้อมูลตามข้อก าหนดของแบบวัดการ เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (MOIT) ส าหรับหน่วยงานในสังกัด ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด ศรีสะเกษ เพื่อให้เกิด


395 | P a g e ประเด็นงาน/โครงการ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ความรู้ น าไปปรับปรุงและพัฒนาการด าเนินงานดังกล่าวฯ ต่อไป 2. การประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบสารสนเทศ ให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) และ (IA 03) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - จัดการประชุมเพื่อให้ความรู้ ก ากับ และติดตาม ในการ ด าเนินการประเมินผลการควบคุมภายในผ่านระบบ สารสนเทศให้กลุ่มตรวจสอบภายใน ระดับกระทรวง (IA 02) แล ะ (IA 03) ส าห รับหน่วยง านในสังกัดส านักง าน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาล ทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง เพื่อให้เกิดความรู้ น าไปปรับปรุงและพัฒนาการด าเนินงานดังกล่าวต่อไป 3. การประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - จัดการประชุมเพื่อให้ความรู้ ก ากับ และติดตามในการ ด าเนินการประเมินประสิทธิภาพระบบควบคุมภายในด้วย อิเล็กทรอนิกส์ 5 มิติ (Electronics Internal Audit : EIA ) ส าหรับหน่วยงานในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะ เกษ (โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาล ชุมชน ทุกแห่ง) เพื่อให้เกิดความรู้ น าไปปรับปรุงและ พัฒนาการด าเนินงานดังกล่าวฯ ต่อไป ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง และส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ ทุกอ าเภอ จ านวน 45 หน่วย ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ในการประเมินคุณธรรม และความโปร่งใส ในการด าเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ส านักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข ทุกหน่วยงาน


ผลการด าเนินงาน กลุ่มกฎหมาย


396 | P a g e 3.10 ผลการด าเนินงานกลุ่มกฎหมาย สถานการณ์สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ความบกพร่อง ความอ่อนแอ และหย่อนประสิทธิภาพของกลไกการบริหารจัดการในระดับชาติ และระดับองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงการทุจริตและการกระท าผิดวินัย คุณธรรม จริยธรรม ในวิชาชีพ อีกทั้งการขาดกลไกและกฎเกณฑ์ที่ดีพอในการบริหารความอ่อนด้อยและถดถอยของกลุ่มข้าราชการ นักวิชาการ ตลอดจนระบบการตัดสินใจและการบริหารจัดการที่ขาดความโปร่งใสบริสุทธิ์ละยุติธรรม ประชาชน ขาดข้อมูลข่าวสาร ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองอย่างชัดเจน ท าให้เกิดปัญหาการทุจริต และประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและเอกชน การไม่มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนจะต้อง ขจัดปัญหาดังกล่าวข้างต้น และสร้างธรรมภิบาลเพื่อการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance) ให้ ปรากฏเป็นจริงในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักถึงความส าคัญในเรื่อง ดังกล่าว ประกอบกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2521 มาตรา 87 บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชามี หน้าที่เสริมสร้างพัฒนาให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัย และป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระท าผิดวินัย และ ก.พ. ได้ พิจารณาเห็นว่าผู้บังคับบัญชามีหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายในการรักษาวินัยผู้ใต้บังคับบัญชา โดยต้อง เสริมสร้างพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัย ป้องกันมิให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระท าผิดวินัย และด าเนินการทางวินัย แก่ผู้กระท าผิดวินัย และประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ส่วนที่ 2 ระบบการบังคับใช้ประมวลจริยธรรม ข้อ 18 การฝ่าฝืนจริยธรรมนี้ เป็นความผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังนั้น ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ด าเนินการเสริมสร้างและพัฒนาบุคลากรในสังกัดทุก ระดับให้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และป้องกันการกระท าผิดวินัย ตลอดจนด าเนินการตามกฎหมาย และระเบียบ วินัยเมื่อมีการกระท าผิดวินัยขึ้น ผลกำรด ำเนินงำน ตารางที่ 166 การด าเนินงานทางคดี ล าดับ ที่ ประเภทคดี จ านวน (คดี) ผลการด าเนินการเสร็จถูกต้องเป็นไป ตามขั้นตอน หมายเหตุ ผลงาน ร้อยละ 1 2 3 คดีปกครอง - อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีแพ่ง คดีอาญา - 3 1 - - 3 1 - - 100 100 -


397 | P a g e จากตารางพบว่า งานคดีปกครอง จะเป็นกรณีฟ้องให้หน่วยงานราชการเพิกถอนค าสั่งทางปกครองหรือ ค าสั่งโยกย้ายสถานที่ท างานไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนคดีแพ่งจะเป็นกรณีหน่วยงานราชการ โดยกลุ่มกฎหมาย ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเอกชน กรณีผิดสัญญาจ้าง ส่วนคดีอาญานั้น เป็นกรณีบุคลากรทางการแพทย์ถูกฟ้อง ฐาน กระท าหรือละเว้นการกระท าในหน้าที่อันเป็นความผิดจนท าให้บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกได้รับความ เสียหาย และเรียกให้หน่วยงานในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ชดใช้ค่าเสียหายในเบื้องต้น เนื่องจากกระท าหรือละเว้นการกระท าของบุคลากรนั้น ลักษณะหน้าที่ของงานเป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน การตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อสัญญา ข้อกฎหมาย การค านวณค่าเสียหาย และวินิจฉัยความรับผิด การร้องทุกข์ กล่าวโทษ การติดต่อประสานงาน เสนอแนะและให้ความเห็นต่อพนักงานสอบสวนพนักงานอัยการ รวมตลอดถึง การเข้ารับฟังการไต่สวน การพิจารณาและพิพากษาของศาล ซึ่งกลุ่มกฎหมายได้ด าเนินงานทางด้านคดีเสร็จ ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่ก าหนดคิดเป็น ร้อยละ 100 ตารางที่ 167 งานส่งเสริมพัฒนาและบริการด้านกฎหมาย ล าดับที่ กิจกรรมหลัก จ านวน (ครั้ง) ผลการปฏิบัติงาน ผลงาน ร้อยละ 1 2 การเผยแพร่กฎหมาย ระเบียบ ค าสั่ง และประกาศ. ตอบข้อหารือเกี่ยวกับข้อ กม. และระเบียบ ด าเนินการเสร็จได้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอน ภายในระยะเวลาที่ก าหนด 33 4 33 4 100 100 จากตารางพบว่า งานส่งเสริมพัฒนาและบริการด้านกฎหมายเป็นงานส่งเสริมการปฏิบัติให้เป็นไปตาม กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบและประกาศ เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบและ ประกาศ โดยเผยแพร่ให้ค าปรึกษา วิเคราะห์ ข้อกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบและประกาศ ที่มีความซับซ้อนหรือ ที่เขียนไม่ชัดเจน รวมทั้งเสนอแนะแนวทางปฏิบัติ หรือการแก้ไขเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารงานของ หน่วยงานในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งกลุ่มกฎหมายได้ด าเนินงานส่งเสริมพัฒนาและบริการ ด้านกฎหมายส าเร็จถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่ก าหนดคิดเป็น ร้อยละ 100 ตารางที่ 168 งานนิติกรรมสัญญา ล าดับที่ กิจกรรม จ านวน (เรื่อง) ผลการด าเนินงาน ผลงาน ร้อยละ 1 2 ตรวจสอบร่างข้อตกลงและสัญญา ตรวจสอบการผูกพันและเรียกเงินค่าปรับ 569 8 569 8 100 100


398 | P a g e จากตารางพบว่า งานนิติกรรมสัญญา ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ดังนี้ 1. การตรวจสอบร่างข้อตกลงและสัญญา เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของการกรอกข้อความใน ข้อตกลงหรือสัญญา รวมทั้งการตรวจสอบเอกสารแนบท้ายข้อตกลงหรือสัญญาให้ถูกต้องและใช้บังคับได้ตาม กฎหมาย ส่วนงานร่างข้อตกลงหรือสัญญาเป็นการก าหนดสาระส าคัญของข้อตกลงหรือสัญญา และร่างโดยเรียบ เรียงเรื่องให้สอดคล้องต้องกัน โดยจะต้องค านึกถึงเจตนารมณ์ของผู้ท าข้อตกลง หรือสัญญาความเป็นธรรมและ สามารถใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ซึ่งกลุ่มงานนิติการได้ด าเนินงานเสร็จถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนภายในระยะเวลา ที่ก าหนด คิดเป็นร้อยละ 100 2. งานตรวจสอบภาระผูกพัน และเรียกเงินค่าปรับตามข้อตกลงหรือสัญญา เป็นการตรวจสอบการปฏิบัติ ตามข้อตกลงหรือสัญญา ว่าเป็นไปโดยถูกต้อง และครบถ้วนตามที่ได้ตกลงหรือสัญญากันหรือไม่ หากปฏิบัติไม่ ถูกต้องและไม่ครบถ้วนก็ต้องค านวณความเสียหาย บอกเลิกข้อตกลงหรือสัญญา และเรียกให้ชดใช้เงินเงิน เช่น เรียกให้ชดใช้เงินตามสัญญาลาไปศึกษา สัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มกฎหมายได้ด าเนินงานเสร็จถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่ก าหนด คิดเป็นร้อยละ 100 ตารางที่ 169 งานวินัย ล าดับที่ ลักษณะงาน จ านวน ผลการด าเนินงานเสร็จถูกต้อง เป็นไป ตามขั้นตอนภายในระยะเวลาก าหนด ผลงาน ร้อยละ 1 2 3 กระท าผิดวินัย 1.1 สืบสวนหาข้อเท็จจริง (คน) 1.2 เสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชา พิจารณาลงโทษหรือไม่ลงโทษ (คน) การส่งเสริมการรักษาวินัย (ครั้ง) และให้ค าปรึกษา ข้อร้องเรียน / ร้องทุกข์ - - 12 11 - - 12 11 - - 100 100 กลุ่มกฎหมายได้มีการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้มารับบริการ และด าเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เกี่ยวกับพฤติกรรมบริการของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งได้ส่งเสริมการรักษาวินัยและพัฒนาบุคลากรในสังกัดทุกระดับให้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และป้องกัน การกระท าผิดวินัยและให้ค าปรึกษาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ


399 | P a g e ข้อเสนอแนะ บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ปฏิบัติควรยึดถือ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานอย่าง เคร่งครัด เพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข


400 | P a g e 3.11 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข ประเด็นงาน : สาธารณสุขชายแดน สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุขมีแผนยุทธศาสตร์การด าเนินงานสาธารณสุขชายแดนและสุขภาพพิเศษประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามกรอบแผนแม่บทสาธารณสุขชายแดน พ.ศ. 2565 – 2569 โดยมี5 ยุทธศาสตร์ดังนี้ 1) ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดน 2) ยุทธศาสตร์การเพิ่มศักยภาพการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงการด าเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดน 3) ยุทธศาสตร์การจัดการสุขภาพประชากรในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาความเข้มแข็งภาคีเครือข่ายความร่วมมือภายในและระหว่างประเทศ ด้านสาธารณสุขชายแดน 5) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการงานสาธารณสุขชายแดน สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน ด้านการสร้างโอกาสความ เสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม ปัญหาสาธารณสุขชายแดนมีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน เชื่อมโยงกับปัจจัยหลายด้านมีความเกี่ยวพัน/ เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ เนื่องจากบริเวณชายแดนมีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเชื่อ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาโรคติดต่อ และโรคอุบัติใหม่ ได้แก่ โรคมาลาเรีย วัณโรค โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์ อุจจาระร่วง ปัญหาอนามัยแม่และเด็ก และการวางแผนครอบครัว พบว่า อัตราตายของมารดาและทารกยังสูงกว่าเป้าหมายของประเทศ รวมทั้งค่านิยมและการเข้าไม่ถึงการรับบริการ วางแผนครอบครัว การไหลทะลักของสินค้าท าลายสุขภาพ เมื่อเปิดอาเซียน เช่น เหล้า สุรา อาหารและยาที่ไม่ได้ มาตรฐานเข้ามา การลักลอบน าเข้า-ส่งออก อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่ไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย ปัญหาการเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุข เนื่องจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความครอบคลุมเฉพาะ การให้บริการสุขภาพคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น ส่งผลให้ชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และแรงงานข้ามชาติ ที่ผิด กฎหมายไม่สามารถเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขได้การด าเนินงานเพียงกระทรวงสาธารณสุขเพียงล าพังย่อมไม่ ประสบความส าเร็จ ปัญหาสาธารณสุขชายแดนบางปัญหาเป็นผลพวงมาจากวัฒนธรรม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี อาชญากรรม การพัฒนาด้านต่างๆ อีกด้วย จังหวัดศรีสะเกษมีชายแดนติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างอ าเภอกันทรลักษ์ อ าเภอขุนหาญกับ จังหวัดพระวิหาร และอ าเภอภูสิงห์กับจังหวัดอุดรมีชัย ด้านสาธารณสุขมีโรงพยาบาลชายแดน จ านวน 3 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล จ านวน 61 แห่ง ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ 3 แห่ง จากการส ารวจประชากร ชาวต่างชาติในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พบมีประชากรชาวต่างชาติอาศัยอยู่กระจายทุกอ าเภอ หนาแน่นมากที่สุดที่


401 | P a g e อ าเภอกันทรลักษ์ อ าเภอภูสิงห์ ปัญหาสาธารณสุขชายแดนที่พบยังเป็นปัญหาโรคติดต่อ และโรคอุบัติใหม่ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อหลายๆ ด้าน เช่น ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ และสังคม ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีการจ ากัดการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัญหาการเข้าถึงการ ให้บริการทางสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ยังมีอุปสรรคด้านต่างๆ เช่น สถานะทางกฎหมายของ ประชาชน การสื่อสารด้านภาษาของคนต่างชาติ และขาดระบบการส่งต่อไปยังหน่วยบริการ รวมทั้งระบบ หลักประกันสุขภาพยังคงเอื้อให้เฉพาะผู้ที่มีเอกสารแสดงตน ภายใต้หลักประกันสุขภาพและประกันสังคม ท าให้ กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงการให้บริการสาธารณสุข ประกอบกับความ เชื่อมั่นในระบบบริการสาธารณสุขของไทย ท าให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามารับบริการ รักษาพยาบาลเป็นจ านวน มากขึ้น และเนื่องด้วยหลักของมนุษยธรรมที่หน่วยบริการสาธารณสุข จ าเป็นต้องให้การรักษา ก่อให้เกิดภาระ ค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขของหน่วยบริการที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้เพิ่มขึ้นมาก ปีงบประมาณ 2565 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากส านักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาสาธารณสุขชายแดน และพัฒนาคุณภาพชีวิต ประชาชนให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ตามแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-กัมพูชา สาขา สาธารณสุข ระยะที่ 2 ประกอบด้วย (1) การสร้างความเข้มแข็งระบบส่งต่อ (Strengthening Referral System) (2) การพัฒนาโรงพยาบาลคู่มิตร (Twin Hospitals Development) ตารางที่ 170 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานสาธารณสุขชายแดน ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลงาน ร้อยละ 1. ร้อยละของโรงพยาบาลชายแดนให้บริการที่เป็นมิตร (Friendly Service) แก่ประชากรต่างด้าว 3 3 100 2. ร้อยละการส่งเสริมให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ต่อประชากร 300 คน 2 120 100 มาตรการในการด าเนินงาน 1) มาตรการควบคุมป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ า โรคติดต่อส าคัญ และภัยสุขภาพในพื้นที่ ชายแดน 2) มาตรการส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขชายแดน 3) มาตรการพัฒนารูปแบบ กลไก ระบบบริหารจัดการของสาธารณสุขชายแดน รวมถึงการจัดการระบบ ข้อมูลด้านสุขภาพประชากรต่างด้าว


402 | P a g e 4) มาตรการพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือของภาคีเครือข่ายภายในประเทศและระหว่าง ประเทศ 5) มาตรการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและเพิ่มศักยภาพการเฝ้าระวัง ป้องกันภัยสุขภาพและผลิตภัณฑ์ สุขภาพในพื้นที่ชายแดน ผลการด าเนินงาน 1. การด าเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาสาธารณสุขชายแดน เพื่อตอบสนองตามวัตถุประสงค์ของ แผนแม่บทสาธารณสุขชายแดน ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้ด าเนินกิจกรรมเพื่อตอบสนองตามวัตถุประสงค์ของ แผนแม่บทสาธารณสุขชายแดน โดยมีผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ดังนี้ 1) มีการอบรมให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐานและสนับสนุนชุดทดสอบเบื้องต้น ให้กับสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล เพื่อพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ สุขภาพที่ไม่ปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ณ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย อสม. นักวิทย์ฯ ชุมชน รวมทั้งเครือข่าย อสม. ในชุมชน 2) มีการอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ส าหรับสถานประกอบการ/ โรงงาน ในจังหวัดศรีสะเกษ มีอาสาสมัครต่างด้าวเข้าร่วมอบรมจ านวน 17 คน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 โดยจังหวัดศรีสะเกษ มีเป้าหมายอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวที่ต้องผ่านการอบรมจ านวน 2 คน ผ่านตัวชี้วัด ร้อยละการส่งเสริมให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวต่อประชากร 300 คน 3) มีการอบรมพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการด าเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันโรคและภัยสุขภาพ อสม. อสต. คู่บัดดี้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อและภัยสุขภาพให้เกิด ความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 มิถุนายน 2565 กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ในพื้นที่ 3 อ าเภอ ได้แก่ อ าเภอภูสิงห์ อ าเภอกันทรลักษ์ และอ าเภอขุนหาญ 4) จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่อ าเภอชายแดน ปัญหาอุปสรรค ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดศรีสะเกษ มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ท าให้ไม่สามารถด าเนินกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจ านวนมากได้ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต้องระดมสรรพ ก าลังเพื่อด าเนินการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 จึงท าให้ไม่สามารถด าเนินกิจกรรมตามแผนที่ก าหนดไว้ได้ 2. การด าเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย – กัมพูชา สาขาสาธารณสุข ระยะที่ 2 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมด าเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย – กัมพูชา ในปีงบประมาณ 2565 เป็นปีแรก เพื่อด าเนินงานภายใต้แผนงานหลัก (1) การสร้างความเข้มแข็งระบบส่งต่อ


403 | P a g e (Strengthening Referral System) (2) การพัฒนาโรงพยาบาลคู่มิตร (Twin Hospitals Development) มีผล การด าเนินงานที่ส าคัญ ดังนี้ 1) มีการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรด่านพรมแดนช่องสะง า (ไทย – กัมพูชา) ในการตรวจคัดกรอง โควิด-19 โดยใช้ชุดตรวจ ATK เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ณ สถานีขนส่งเมืองใหม่ช่องสะง า อ าเภอภูสิงห์ จังหวัดศรี สะเกษ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด่านพรมแดนช่องสะง า (ไทย – กัมพูชา) ให้สามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้ ด้วยตนเอง สามารถตรวจคัดกรองและถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยบุคลากร ทางด้านสาธารณสุข และบุคลากรประจ าด่านพรมแดนช่องสะง า ทั้งจากฝ่ายไทยและกัมพูชา ถือเป็นความร่วมมือด้าน สาธารณสุขครั้งแรกของทั้งสองประเทศ หลังจากที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 2) การประชุมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ และสนับสนุนอุปกรณ์ ทางการแพทย์ให้กับราชอาณาจักรกัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ โดยส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมด าเนินงานตามแผนงานความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาไทย-กัมพูชา สาขาสาธารณสุข ระยะที่ 2 (ปี 2565-2567) โดยเป็นจังหวัดคู่ความร่วมมือไทยกัมพูชา (จังหวัดศรีสะเกษ – จังหวัดอุดรมีชัย) ซึ่งจะมุ่งเน้นการด าเนินกิจกรรมการสร้างความเข้มแข็งระบบส่งต่อ (Strengthening Referral System) และการพัฒนาโรงพยาบาลคู่มิตร (Twin Hospitals Development) เพื่อ เสริมสร้างระบบสาธารณสุขชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกรม ความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดท าโครงการพัฒนาศักยภาพการป้องกันควบคุมโรคอ าเภอ ชายแดนคู่ขนาน จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 ขึ้น โดยมีกิจกรรมส าคัญคือ “การประชุมเชิงปฏิบัติการซ้อม แผน การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ และสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับราชอาณาจักรกัมพูชา จัดขึ้นใน วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ณ สถานีขนส่งเมืองใหม่ช่องสะง า ด่านพรมแดนถาวรช่องสะง าอ าเภอภูสิงห์ จังหวัดศรี สะเกษ และถนน 2201 สามแยกบายพาสไปจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งการ ด าเนินงานครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของจังหวัดชายแดนที่มีการซ้อมแผนการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ และมีการซ้อม แผนที่ราชอาณาจักรกัมพูชา วัตถุประสงค์ : เพื่อพัฒนาระบบการส่งต่อ การติดตามการรักษา พัฒนาศักยภาพบุคลากร ด้านการส่งต่อป่วยระหว่างประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพการท างานเป็นทีม การประสานงาน การก าหนดบทบาท หน้าที่และขั้นตอนการปฏิบัติร่วมกัน ในการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ ขอบเขต : ปฏิบัติการนี้เป็นการทดสอบการตอบสนองต่อสถานการณ์สมมุติการตอบโต้สถานการณ์ ฉุกเฉินเพื่อการช่วยเหลือและการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ ในการฝึกซ้อมจะดูการตอบสนองของการปฏิบัติงาน ในหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งการฝึกซ้อมออกเป็น 2 แบบ คือ Table Top Exercise ณ


404 | P a g e สถานีขนส่งเมืองใหม่ช่องสะง า อ าเภอภูสิงห์ และ Functional Exercise ณ ด่านพรมแดนช่องสะง า อ าเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และถนน 2201 สามแยกบายพาส ไปจังหวัดเสียมราฐ จังหวัดอุดรมีชัย ผู้เข้าร่วมฝึกซ้อม ประกอบด้วย 1) ทีมผู้จัดการและเตรียมการฝึกซ้อม ประกอบด้วย : คณะท างานเตรียมการฝึกซ้อมแผน บทบาทหน้าที่ : เตรียมการ ประสานหน่วยงาน วิทยากร และด าเนินการจัดการฝึกซ้อมแผน และสนับสนุนการฝึกซ้อมทั้งหมด 2) ทีมผู้เข้าร่วมฝึกซ้อม ประกอบด้วย 2.1) บุคลากรจากหน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ไทย-กัมพูชา) 2.2) บุคลากรประจ าด่านพรมแดนช่องสะง า-จวม (ไทย-กัมพูชา) 2.3) บุคลากรจากหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยประสานงานชายแดนที่เกี่ยวข้อง (ไทยกัมพูชา) 2.4) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส านักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ส านักงานจังหวัดศรีสะเกษ สถานี ต ารวจภูธรภูสิงห์องค์การบริหารส่วนต าบลห้วยตามอญ อ าเภอภูสิงห์ และองค์การบริหารส่วนต าบลไพรพัฒนา อ าเภอภูสิงห์ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 1) ระบบการสั่งการของ commander ในการตอบโต้สถานการณ์ มีความรวดเร็ว ทันต่อ สถานการณ์ สั่งการและมอบหมายภารกิจชัดเจน 2) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และสามารถประสานงานกันทั้งสอง ประเทศได้เป็นอย่างดี 3) มีแนวทางการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศร่วมกันทั้งสองประเทศ 4) การลดขั้นตอนในการประสานงาน พิธีการด้านเอกสาร การข้ามแดน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน 5) การแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกัน เกี่ยวกับด้านการแพทย์ฉุกเฉินของทั้งสองประเทศ 6) มีทะเบียนเครือข่ายในการประสานงานระหว่างประเทศ ช่องว่าง (GAP) 1) ยังไม่ได้จัดท าทะเบียน EMS fast track เพื่อส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่อยู่ประจ าด่าน 2) ต้องพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยให้มีความรวดเร็ว ทันเวลา มากยิ่งขึ้น 3) ยังไม่ได้มีการหารือประเด็นด้านข้อกฎหมายการจราจรของทั้งสองประเทศ


405 | P a g e ปัญหา อุปสรรค 1) จังหวัดศรีสะเกษเปิดด่านพรมแดนช่องสะง า เดือนพฤษภาคม 2565 ท าให้กิจกรรมทั้งหมด ต้องด าเนินการหลังจากที่มีการเปิดด่านแล้ว และต้องด าเนินการแบบกระชั้นชิด เร่งด่วน บริหารจัดการได้ยาก 2) การประสานงานระหว่างไทย – กัมพูชา สามารถด าเนินการได้ยาก ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น การตัดสินใจของฝ่ายกัมพูชาต้องรอส่วนกลางเป็นผู้ตัดสินใจ ปัญหาด้านการสื่อสาร ต้องใช้ล่ามในการ แปลภาษา แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ควรมีผู้ประสานงานระหว่างไทย – กัมพูชา ในระดับส่วนกลาง เพื่อช่วยสนับสนุนในการ ประสานงานระหว่างประเทศ 3. การด าเนินงานภายใต้บันทึกการประชุมร่วมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 23 ประจ าปี 2565 1) ที่ประชุมด ารงการสนับสนุนในการปฏิบัติตามมาตรฐานกฎอนามัยระหว่างประเทศของประเทศ ทั้งสองปี 2548 (International Health Regulations: IHR 2005) การด าเนินงานตามสมรรถนะหลักตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ IHR 2005 ของจังหวัดสุขภาพ ชายแดนและจังหวัดเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ด าเนินการใน 19 ประเด็นหลักของกฎอนามัยระหว่าง ประเทศ โดยมีกิจกรรมที่ได้ด าเนินการดังนี้ 1. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และ ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดในปี พ.ศ. 2564 จ านวน 37 ครั้ง และปี พ.ศ. 2565 จ านวน 16 ครั้ง โดยได้มีการน าเสนอวาระเกี่ยวการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อและภัยสุขภาพในพื้นที่ชายแดนอยู่ เสมอ ตามสถานการณ์หรือความจ าเป็นเร่งด่วน เช่น การรายงานสถานการณ์/การเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ตามแนว ชายแดน การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับการเปิดด่านพรมแดนช่องสะง า มาตรการป้องกันโรค ส าหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรส าหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร เป็นต้น 2. คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกด่านพรมแดนช่องสะง า อ าเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ด าเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและภัยสุขภาพ ณ จุดผ่านแดนเข้าออกระหว่างประเทศ ช่องสะง า อ าเภอภูสิงห์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศ คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศด่านพรมแดนช่องสะง า อ าเภอภู สิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เรื่อง แนวทางการตรวจจับโรค การเฝ้าระวังภัยสุขภาพและการส่งต่อผู้ป่วยทุกกลุ่มโรค ทุก ระบบระหว่างประเทศ ด่านพรมแดนช่องสะง า จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2563 โดยมีสาระส าคัญเกี่ยวกับการ ก าหนดให้มีแผนปฏิบัติการตรวจจับโรค การเฝ้าระวังภัยสุขภาพและการส่งต่อผู้ป่วยทุกกลุ่มโรค ทุกระบบระหว่าง ประเทศให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐานและสอดคล้องกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (International


406 | P a g e Health Regulations (IHR 2005) ท าให้จังหวัดศรีสะเกษ สามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เป็นอย่างดี มีระบบ แนวทางปฏิบัติ และเครือข่ายการด าเนินงานประสานส่งต่อ เชื่อมโยงทั้งฝั่งประเทศไทยและกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และโรคระบาดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังและโรคระบาด ปี 2565 - 2569 โดยเขตสุขภาพที่ 10 ได้จัดท าแผนให้ สอดรับกับยุทธศาสตร์และแผนการด าเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข และส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะ เกษ ได้จัดท าแผนปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ปี 2566-2570 เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะ เกษ และเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติอต่อ ในช่วง 5 ปีต่อไป 4. การพัฒนาข้อตกลงร่วมกันระหว่างจังหวัดชายแดนคู่ขนาน จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทยกับ จังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ในการส่งต่อข้อมูลเฝ้าระวังโรคติดต่อ โดยมีการส่งรายงาน โรคติดต่อประจ าสัปดาห์ (Weekly Epidemiology Report) ระว่างส านักงานธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย และจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง 5. การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องใน 19 ประเด็น IHR 2005 เพื่อ ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการด าเนินงานและท าความเข้าใจในการท างานร่วมกันในการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ โดยในปี 2565 ได้ประเมินใน 4 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 3 ด้านการป้องกันการเกิดและการแพร่ระบาดของเชื้อจุลชีพ ดื้อยา ประเด็น 5 ด้านอาหารปลอดภัย ประเด็น 10 ด้านการพัฒนาระบบการรายงานโรค และ ประเด็น 12 ด้าน การเตรียมความพร้อม 2) ที่ประชุมสานต่อการสนับสนุนในการเพิ่มความร่วมมือด้านสาธารณสุขให้มากขึ้น เช่น การป้องกันสกัดกั้นโรคติดต่อตามแนวชายแดน โดยเฉพาะไข้มาลาเรีย โรคเอดส์ (HIV/AIDS) อีโบลา วัณโรค โรคไข้ซิก้า (Zica) และโรคไข้เลือดออก การควบคุมอาหาร และยารักษาโรค รวมทั้งการบริการด้าน สาธารณสุขแก่ประชาชน การสนับสนุนส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไปเผยแพร่ความรู้ถึงระดับพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะโรคที่ระบาดตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันสกัดกั้น การแพร่ระบาดของโรคให้มีประสิทธิภาพสูงและทันเวลา 1. ด้านการพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคติดต่อและภัยสุขภาพ - มีการก าหนดโรค กลุ่มอาการ ภัยสุขภาพที่เป็นปัญหาส าคัญทางสาธารณสุขของจังหวัด ไม่น้อยกว่า 10 โรค ภัยสุขภาพและโรคตามฤดูกาล - ด าเนินการเฝ้าระวังและตรวจจับการระบาดของโรค/ภัยสุขภาพที่ก าหนด โดยได้ ประยุกต์ใช้ระบบการเฝ้าระวังโรคของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ที่มีการด าเนินงานที่มีประสิทธิภาพ อยู่แล้ว และได้เพิ่มช่องทางในการสื่อสาร การรับ-ส่ง รายงานผู้ป่วยในช่องทางไลน์ และทางโทรศัพท์


Click to View FlipBook Version