217 | P a g e ปรางค์กู่ อุทุมพร …กันทรา …ยางชุม …โนนคูณ ศรีรัตนะ เบญจลักษ์ พยุห์ เมืองศรี …บึงบูรพ์ น้ าเกลี้ยง 3 27.15 32.33 34.13 36.07 38.04 39.43 47.27 48.31 52.63 56.94 60.91 ปีงบประมาณ 2565 จ าแนกรายอ าเภอ ราษีไศล ห้วยทับทัน ไพรบึง ขุขันธ์ ขุนหาญ กันทรลักษ์ ศิลาลาด ภูสิงห์ เมืองจันทร์ โพธิ์ศรีสุวรรณ วังหิน ปรางค์กู่ อุทุมพรพิสัย กันทรารมย์ ยางชุมน้อย ขจังหวัดศรีสะเกษ
218 | P a g e กระบวนการด าเนินงาน : งานป้องกันควบคุมโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีจังหวัดศรีสะเกษปีงบประมาณ 2564 วัตถุประสงค์ 1) ลดอัตราป่วยในประชากรกลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 2) ลดอัตราตายในผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 3) เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีในระยะเริ่มแรก และส่งรักษาต่อตามมาตรฐาน กิจกรรมด าเนินงาน 1) ส ารวจประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี จัดฐานข้อมูลกลุ่มเสี่ยงรายอ าเภอ เพื่อก าหนดเป้าหมายในการคัดกรอง ดังนี้ * ประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป ร่วมกับมีอาการดังต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ - เคยรับประทานอาหารประเภทปลาน้ าจืดเกล็ดขาวปรุงดิบ หรือ สุก ๆดิบ ๆ - เคยตรวจพบพยาธิใบไม้ในตับ Opisthorchis viverrini (OV) - มีบุคคลในครอบครัวที่มีประวัติเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี โดยนับสายตรง 3 ชั้น ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกของผู้เสียชีวิต - ป่วยเป็น case Hepatitis B หรือ Chronic Active Hepatitis-B - ผู้ป่วยกลุ่ม Alcoholic หรือ Cirrhosis 2) ด าเนินการตรวจอัลตร้าซาวด์กลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 3) การลงบันทึกในฐานข้อมูล 43 แฟ้มโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล 4) หากพบผิดปกติได้แก่ Liver mass หรือ Dilate Duct ให้ส่งต่อโรงพยาบาลศรีสะเกษ หรือ โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี เพื่อรับการวินิจฉัย รักษา 5) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 6) จัดท าทะเบียนผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 7) ดูแล รักษา ติดตาม เยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 8) ดูแลประคับประคองผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี ระยะสุดท้าย 9) การบันทึกข้อมูลการคัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ าดี - บันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลโรงพยาบาลหรือฐานข้อมูลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล (43แฟ้ม) - ในแบบฟอร์มรายงานการด าเนินงานคัดกรองกลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีด้วยเครื่อง อัลตร้าซาวด์ (แบบฟอร์มรายงาน CCA SSK 1,2,3)
219 | P a g e ปัญหาและอุปสรรค 1) ขาดแคลนแพทย์อัลตร้าซาวด์ในโรงพยาบาลชุมชน 2) วัฒนธรรมการรับประทานปลาน้ าจืดมีเกล็ด สุกๆดิบๆ ในท้องถิ่น 3) การแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) จึงมีการชะลอการการจัดกิจกรรมคัดกรองกลุ่ม เสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1) การส่งแพทย์เข้าร่วมอบรมการตรวจอัลตร้าซาวด์และวินิจฉัยโรค ช่วยลดการขาดแคลนแพทย์ อัลตร้าซาวด์ในโรงพยาบาลชุมชน 2) การให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี โดยสร้างการ ตระหนักถึงการรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย และปลอดภัยปลอดโรค สาเหตุที่จะน ามาสู่การเกิดโรคมะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ าดี โดยเริ่มจากสถานศึกษา สถาบันครอบครัว วัด ชุมชน ช่วยเสริมแรง และให้เกิดโอกาสใน ความส าเร็จในการด าเนินงานป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี ประเด็นงาน : สุขภาพจิตผู้ใหญ่ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์การฆ่าตัวตายส าเร็จ จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2560 – 2564 พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายส าเร็จ 4.85, 3.8, 5.6, 4.05 และ 8.08 ต่อประชากรแสนคน ตามล าดับ ซึ่งพบว่า อัตราการฆ่าตัวตายส าเร็จของประชา ชนมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและลดลงตามสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ทั้งจาก สภาพปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเจ็บป่วยเรื้อรังและปัญหาการติดสุรา ยาเสพติด เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของการฆ่าตัวตายส าเร็จ ปีงบประมาณ 2565 (1 ตุลาคม 2564 – 30 กันยายน 2565) จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้ฆ่าตัวตายส าเร็จ จ านวน 105 คน คิดเป็นอัตรา 7.20 ต่อประชากรแสนคน อ าเภอที่มีอัตรา การฆ่าตัวตายส าเร็จสูง 3 อันดับแรก ได้แก่ อ าเภอบึงบูรพ์ ห้วยทับทัน และวังหิน อัตรา 18.98, 18.94 และ 13.90 ตามล าดับ หากพิจารณาจ านวนผู้ฆ่าตัวตายส าเร็จสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อ าเภอกันทรลักษ์ จ านวน 12 คน อ าเภอขุขันธ์ จ านวน 10 คน และอ าเภอเมืองศรีสะเกษ อ าเภอขุนหาญ และอ าเภออุทุมพรพิสัย จ านวนอ าเภอ ละ 9 คน (ข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย 506S ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ, 2565) ในส่วน ประเด็นการพยายามฆ่าตัวตาย เฝ้าระวังผู้พยายามฆ่าตัวตายกลับมาท าร้ายตัวเองซ้ าในระยะเวลา 1 ปี พบว่า อ าเภอเมืองศรีสะเกษ อ าเภอกันทรารมย์ และอ าเภออุทุมพรพิสัย มีผู้พยายามฆ่าตัวตายกลับมาท าร้ายตัวเองซ้ าใน ระยะ 1 ปี จากกลุ่มเฝ้าระวัง สรุปภาพรวมผู้พยายามฆ่าตัวตายจังหวัดศรีสะเกษ ร้อยละ 99 ไม่กลับมาท าร้าย ตัวเองซ้ า ในระยะเวลา 1 ปี ผลงานผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 99 ไม่กลับมาท าร้ายตัวเองซ้ าในระยะเวลา 1 ปี
220 | P a g e การด าเนินงานสุขภาพจิตประเด็นการเข้าถึงบริการโรคซึมเศร้า ข้อมูลจากคลังข้อมูลสุขภาพ (HDC) และ ฐานข้อมูลส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 30 กันยายน 2565 พบว่า ภาพรวมจังหวัดเข้าถึงบริการโรคซึมเศร้า ได้ร้อยละ 90.04 มากกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่ก าหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 74 อ าเภอที่เข้าถึงบริการไม่ถึงเป้าหมาย ได้แก่ อ าเภอภูสิงห์ กันทรลักษ์และศิลาลาด ในด้านการประเมิน สุขภาพจิตเชิงรุก จังหวัดศรีสะเกษ ด้วยโปรแกรม MENTAL HEALTH CHECK IN ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 – 30 กันยายน 2565 มีผู้เข้าถึงการประเมินสุขภาพจิต จ านวน 85,828 ราย พบภาวะเสี่ยงซึมเศร้า ร้อยละ 4.56 ภาวะหมดไฟ (Burnout) ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ร้อย ละ 4 .34 ภ าวะเครียดสูง ร้อยละ 3 .13 และ เสี่ยงฆ่ าตัวตาย ร้อยละ 2.23 ในกลุ่มเสี่ยงข้ างต้น ทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT) ติดตามเยี่ยมทางโทรศัพท์และเยี่ยมบ้าน สามารถติดตามและดูแลช่วยเหลือได้ร้อยละ 99.27 จากจ านวนกลุ่มเสี่ยงสุขภาพจิตที่เข้าถึงการประเมินสุขภาพจิตและยินยอมให้ติดตามดูแลช่วยเหลือ ตารางที่ 100 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานสุขภาพจิตผู้ใหญ่ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการ ด าเนินงาน การบรรลุความส าเร็จ ตามเป้าหมาย 1. อัตราการฆ่าตัวตายส าเร็จ ไม่เกิน 8.0 ต่อประชากรแสนคน ร้อยละ 7.20 √ 2. ร้อยละของผู้พยายามฆ่าตัวตาย ไม่กลับมาท าร้ายตัวเองซ้ า ในระยะเวลา 1 ปี ร้อยละ 80 ร้อยละ 99 √ 3. ร้อยละการเข้าถึงบริการโรคซึมเศร้า ร้อยละ 80 ร้อยละ 90.04 √
221 | P a g e ตารางที่ 101 แสดงผลการด าเนินงานการฆ่าตัวตายส าเร็จรายอ าเภอ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 ล าดับ อ าเภอ จ านวนประชากรทั้งหมดปี 2564 ส าเร็จ(คน) (A) อัตราต่อแสนประชากร 1 เมือง 138,708 9 6.49 2 ยางชุมน้อย 36,038 2 5.55 3 กันทรารมย์ 99,605 9 9.04 4 กันทรลักษ์ 201,488 12 5.96 5 ขุขันธ์ 149,625 10 6.68 6 ไพรบึง 47,546 4 8.41 7 ปรางค์กู่ 66,291 2 3.02 8 ขุนหาญ 106,957 9 8.41 9 ราษีไศล 79,827 3 3.76 10 อุทุมพรพิสัย 105,179 9 8.56 11 บึงบูรพ์ 10,538 2 18.98 12 ห้วยทับทัน 42,231 8 18.94 13 โนนคูณ 39,433 3 7.61 14 ศรีรัตนะ 53,265 0 0.00 15 น้ าเกลี้ยง 44,329 2 4.51 16 วังหิน 50,349 7 13.90 17 ภูสิงห์ 54,666 5 9.15 18 เมืองจันทร์ 17,837 1 5.61 19 เบญจลักษณ์ 35,961 2 5.56 20 พยุห์ 35,193 4 11.37 21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 23,726 2 8.43 22 ศิลาลาด 19,788 0 0.00 ประชากรปี 2564 จากทะเบียนราษฎ์ 1,458,580 105 7.20 (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2565 จากระบบรายงาน 506S จังหวัดศรีสะเกษ)
222 | P a g e ตารางที่ 102 แสดงข้อมูลผู้พยายามท าร้ายตนเอง และผู้พยายามฆ่าตัวตายไม่กลับมาท าร้ายตัวเองซ้ าใน 1 ปี รายอ าเภอ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 ล าดับ อ าเภอ จ านวนประชากรทั้งหมด ปี 2564 (B) ผู้พยายามท าร้าย ตนเอง(คน) ผู้พยายามฆ่าตัวตายไม่กลับมาท า ร้ายตัวเองซ้ าภายใน 1 ปี (คน) (คน) อัตราต่อแสน ประชากร 1 เมือง 138,708 98 95 97 2 ยางชุมน้อย 36,038 21 20 95 3 กันทรารมย์ 99,605 34 34 100 4 กันทรลักษ์ 201,488 24 24 100 5 ขุขันธ์ 149,625 12 12 100 6 ไพรบึง 47,546 2 2 100 7 ปรางค์กู่ 66,291 2 2 100 8 ขุนหาญ 106,957 12 12 100 9 ราษีไศล 79,827 8 8 100 10 อุทุมพรพิสัย 105,179 28 28 100 11 บึงบูรพ์ 10,538 2 2 100 12 ห้วยทับทัน 42,231 3 3 100 13 โนนคูณ 39,433 15 15 100 14 ศรีรัตนะ 53,265 8 8 100 15 น้ าเกลี้ยง 44,329 13 13 100 16 วังหิน 50,349 1 1 100 17 ภูสิงห์ 54,666 4 4 100 18 เมืองจันทร์ 17,837 7 7 100 19 เบญจลักษณ์ 35,961 8 8 100 20 พยุห์ 35,193 9 9 100 21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 23,726 3 3 100 22 ศิลาลาด 19,788 3 3 100 ประชากรปี 2564 จากทะเบียนราษฎ์ 1,458,580 317 313 99 (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2565 จากระบบรายงาน 506S จังหวัดศรีสะเกษ)
223 | P a g e ตารางที่ 103 แสดงผลการด าเนินงาน ร้อยละผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเข้าถึงบริการสุขภาพจิต รายอ าเภอ จังหวัด ศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 ล าดับ อ าเภอ จ านวนประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป ปี2564 เป้าหมายปี 2565 จากความชุก 2.7 (B) ผลการด าเนินงาน ปี 2565 (A) ร้อยละ 1 เมือง 116011 3,132 4,739 151.29 2 ยางชุมน้อย 30858 833 1,088 130.59 3 กันทรารมย์ 84282 2,276 1,964 86.31 4 กันทรลักษ์ 165,750 4,475 2,078 46.43 5 ขุขันธ์ 123630 3,338 2,900 86.88 6 ไพรบึง 39620 1,070 923 86.28 7 ปรางค์กู่ 55508 1,499 1,391 92.81 8 ขุนหาญ 88103 2,379 2,077 87.31 9 ราษีไศล 68666 1,854 1,592 85.87 10 อุทุมพรพิสัย 89357 2,413 2,330 96.57 11 บึงบูรพ์ 9104 246 453 184.29 12 ห้วยทับทัน 34999 945 796 84.24 13 โนนคูณ 32894 888 1,437 161.80 14 ศรีรัตนะ 43641 1,178 1,493 126.71 15 น้ าเกลี้ยง 36275 979 1,924 196.44 16 วังหิน 41295 1,115 1,025 91.93 17 ภูสิงห์ 43714 1,180 765 64.82 18 เมืองจันทร์ 15112 408 623 152.69 19 เบญจลักษณ์ 29718 802 759 94.59 20 พยุห์ 29704 802 757 94.39 21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 20036 541 634 117.20 22 ศิลาลาด 17039 460 126 27.39 ประชากรปี 2564 จากทะเบียนราษฎ์ 1,215,316 32,814 29,547 90.04 (ข้อมูลจากระบบ HDC จากส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ)
224 | P a g e มาตรการในการด าเนินงาน จังหวัดศรีสะเกษ มีมาตรการแนวทางการด าเนินการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาการฆ่าตัวตาย ดังนี้ 1. การป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยการใช้หลัก 3 ส Plus พัฒนาศักยภาพ อสม./แกนน าชุมชน เครือข่ายในชุมชน เพื่อนบ้าน การหาบัดดี้ การประชาสัมพันธ์การประเมินสุขภาพจิตออนไลน์ MENTAL HEALTH CHECK IN ให้เกิดความครอบคลุม สื่อสารสร้างความตระหนักรู้ ในเรื่อง สัญญาณเตือนการท าร้ายตนเอง การจัดท าป้ายประชาสัมพันธ์ ออกรายการวิทยุชุมชนในท้องถิ่น รายการผู้ว่าฯ มาแล้ว การรณรงค์สื่อสารสร้าง ความตระหนัก ได้แก่ ความรู้ Early Warning Sign วัคซีนใจ การลดการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ผลักดันให้เกิด กิจกรรมวาระคนศรีสะเกษสุขภาพดี การเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชน ด้วย 4 สร้าง 2 ใช้ ประเด็นการเฝ้าระวังและ ป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย (แผนด าเนินการในปีงบประมาณ 2565 จ านวน 13 อ าเภอ อยู่ระหว่าง การขับเคลื่อนด าเนินงาน) 2. การเฝ้าระวังปัญหาการฆ่าตัวตาย เฝ้าระวังติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงจากการสุขภาพจิตเชิงรุก MENTAL HEALTH CHECK IN การช่วยเหลือทางจิตใจให้มีความครอบคลุม มีการจัดท า Mapping Care กลุ่ม เสี่ยง และบูรณาการงานเฝ้าระวังฯ กับงาน EMS 1669 ขับเคลื่อนพัฒนาทีมการสอบสวนระบาดฆ่าตัวตายส าเร็จ MCATT กับหน่วยงานภาคส่วนอื่น เช่น “ทีมใส่ใจ CCRT” ด าเนินการสอบสวนระบาดวิทยาการฆ่าตัวตายในระดับ พื้นที่และจัดท า case conference วิเคราะห์ข้อมูลและน าเสนอผู้บริหารในแต่ละระดับเพื่อรับทราบข้อมูล สถานการณ์ 3. การดูแลรักษาและบ าบัด การพัฒนาทีมช่วยเหลือ ดูแลจิตใจผู้ทีเป็นกลุ่มเสี่ยง ระดับโรงพยาบาล ศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล ด้วยแนวทางการให้ค าปรึกษา Basic counselling BA BI รวมถึงมีแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงฆ่าตัวตายและมีการจัดระบบ Fast track ร่วมกับ 1669 การจัดกิจกรรมการบ าบัดสุรา ยาเสพติดโดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTX) ครอบคลุม ทุกอ าเภอ มีระบบ consult จิตแพทย์ รพ.แม่ข่าย ในการช่วยเหลือดูแลรักษาผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยง 4. การฟื้นฟูจิตใจ ติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงฆ่าตัวตาย ต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 1 ปี ร่วมมือกับ ภาคีเครือข่ายในการดูแลช่วยเหลือและฟื้นฟูตามสภาพปัญหารายบุคคล 5. การบริหารจัดการ ใช้กลยุทธ์ 3 ก 3 ย ได้แก่ (1) ก กรรมการ มีคณะอนุกรรมการประสานงาน เพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิตระดับจังหวัดและผลักดันบูรณาการกิจกรรมการป้องกันการฆ่าตัวตายกับ คณะกรรมการ พชอ./พชต. ก ากับติดตามอย่างต่อเนื่อง สม่ าเสมอ ทุกอ าเภอส่งข้อมูลรายงานการฆ่าตัวตายและ พยายามฆ่าตัวตาย ให้กับงานสุขภาพจิต ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อด าเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ (2) ก กองทุน มีกองทุนสุขภาพระดับต าบล สนับสนุนงบประมาณในการด าเนินงานในระดับพื้นที่และชุมชน
225 | P a g e (3) ก กิจกรรม ด าเนินกิจกรรมบูรณาการในชมรม TO BE NUMBER ONE จังหวัด ในประเด็นยุทธศาสตร์ 3 ย ยุทธศาสตร์สร้างกระแส ยุทธศาสตร์สร้างภูมิคุมกันและยุทธศาสตร์สร้างเครือข่าย และขับเคลื่อนการเฝ้าระวังและ ป้องกันการฆ่าตัวตายผ่านวาระจังหวัด ผ่านเครือข่ายการดาเนินงานสุขภาพจิตและจิตเวชที่มีในพื้นที่ บูรณาการ ป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย ในระบบสุขภาพปฐมภูมิ พชอ. 3 หมอ ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผู้บริหารในพื้นที่ ทุกระดับ ให้ความส าคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย 2. การได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ในการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย 3. มีการพัฒนาข้อมูลสารสนเทศที่ให้เอื้อต่อการเตือนภัยและวางแผนแก้ไขปัญหา โดยส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ก าหนดแนวทางให้ทีมสอบสวนโรค (Psychological Autopsy) ในพื้นที่อ าเภอ สอบสวนการเสียชีวิตทุกรายที่ฆ่าตัวตายส าเร็จ บันทึกข้อมูลฆ่าตัวตายและพยายามฆ่าตัวตายในระบบ 506S ที่เป็นปัจจุบัน และสนับสนุนให้มีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการวางแผนและใช้ประโยชน์ในการจัดการและแก้ไข ปัญหา 5. การนิเทศและติดตามเป็นพี่เลี้ยงวิชาการจากทั้งในระดับโรงพยาบาลศรีสะเกษ ส านักงาน สาธารณสุขจังหวัด ระดับเขตสุขภาพ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 10 และ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ ปัญหาอุปสรรค 1. การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตในพื้นที่ ขาดความต่อเนื่องใน การด าเนินกิจกรรมส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตทั้งในสถานศึกษา สถานประกอบการ หน่วยงาน และชุมชน 2. การด าเนินงานสอบสวนการฆ่าตัวตาย กรณีเสียชีวิต (Psychological Autopsy) ในระดับ ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิตในพื้นที่ มีการสอบสวนการฆ่าตัวตายไม่ครอบคลุมทุกราย/พื้นที่และขาดการน า ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวน ไปวิเคราะห์ วางแผนและใช้ประโยชน์ เป็นโอกาสการพัฒนางานและการด าเนินงาน ให้ครอบคลุมเป็นรูปธรรมต่อไป 3. การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต การสร้างความตระหนัก ให้เห็นความส าคัญด้านสัญญาณเตือน ความเสี่ยงฆ่าตัวตายโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย แกนน าชุมชน ท้องถิ่น หน่วยงานในพื้นที่และประชาชน ในการป้องกันเฝ้าระวัง ค้นหากลุ่มเสี่ยง และติดตามเยี่ยมกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ยังไม่ครอบคลุม แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ส าหรับพื้นที่ : ส าหรับการด าเนินงานในระดับพื้นที่ ผู้นิเทศมีข้อเสนอแนะในการดูแลเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาการฆ่า ตัวตาย เพื่อการปรับปรุงพัฒนา ต่อยอดและยกระดับการด าเนินงาน โดยแบ่งกลุ่มประเภทความเสี่ยง ดังนี้
226 | P a g e 1. กลุ่มทั่วไป (Universal Prevention) ได้แก่ กลุ่มคนทั่วไป เน้นการพัฒนาระบบเฝ้าระวัง ส่งต่อและ ติดตาม ประเมินสุขภาพจิตและติดตามดูแลช่วยเหลือเชิงรุกต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ใน สถานศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มพยายามฆ่าตัวตายสูง การน าข้อมูลสารสนเทศจากการสอบสวนโรค มาใช้เฝ้าระวังป้องกัน การฆ่าตัวตายในพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมชุมชน เครือข่าย พัฒนาศักยภาพกลุ่ม อสม. ชุมชน เพื่อนบ้าน ในการ ดูแลจิตใจ สร้างภูมิคุ้มกันทางใจด้วยวัคซีนใจ เสริมสร้างสายสัมพันธ์ ในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน สร้าง ความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต (Mental Health Literacy) ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เข้าถึงประชาชน สื่อสารสร้างความ ตระหนัก การสังเกตสัญญาณเตือน (Early Warning Sign) ในคนใกล้ชิด และแหล่งการดูแลช่วยเหลือด้านสังคม จิตใจ 2. กลุ่มเฝ้าระวัง (Selective Prevention) ได้แก่ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจิตเวชสูง ผู้ที่มีปัจจัย เสี่ยงทางชีววิทยา ด้านจิตใจ ด้านสังคม และกลุ่มเปราะบางทางสังคมจิตใจ (กลุ่มผู้มีความเสี่ยงสุขภาพจิต ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจ าตัว เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้พิการทางกายทางจิต ผู้มีภาวะพึ่งพิง ผู้โดดเดี่ยวถูกทอดทิ้ง) พัฒนา ระบบ เฝ้าระวัง ส่งต่อและติดตาม โดยการพัฒนา Gate Keeper , Acute Care บริการสุขภาพจิตเชิงรุกให้มีความ ครอบคลุมและเฝ้าระวังติดตามดูแลต่อเนื่อง ข้อมูลสารสนเทศจากการสอบสวนโรค มาใช้ในการก าหนดแนวทาง รูปแบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่ายในการเฝ้าระวังป้องกันการฆ่าตัวตาย ผ่านกลไกคณะอนุกรรมการประสานงาน พรบ.สุขภาพจิตระดับจังหวัด บูรณาการความร่วมมือผ่านเครือข่าย สุขภาพจิตที่มีในพื้นที่ เช่น นโยบาย 3 หมอ บูรณาการป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายในคณะกรรมการ พชอ. และ พชต. สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต กลุ่มแกนน าชุมชน อสม. ให้มีการสอดส่อง สังเกตอาการ สัญญาณ เตือน การใส่ใจรับฟังและส่งต่อ การให้ข้อมูลบริการด้านสุขภาพจิต (3 ส Plus) ส าหรับครอบครัว ชุมชน สื่อสาร สังเกตสัญญาณเตือน การดูแลช่วยเหลือ – ส่งต่อ การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ (RQ) ทักษะชีวิตวัยรุ่น เยาวชน ในสถานศึกษาที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังการท าร้ายตนเอง พัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนการจัดกิจกรรม อบรม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจกลุ่มญาติ ผู้ดูแล คนใกล้ชิดในการสังเกต เฝ้าระวัง การให้การช่วยเหลือทางจิตใจเบื้องต้นในชุมชน 3. กลุ่มเสี่ยงสูง (Indicated Prevention) ได้แก่ กลุ่มผู้มีอาการทางจิตเล็กน้อย หรือ บ่งชี้ว่า มีแนวโน้ม เป็นโรคจิตเวช แต่ยังไม่ครบเกณฑ์วินิจฉัย และผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังรับยาเดิม ญาติรับยาแทนท าให้ผู้ป่วยขาดการ ประเมินความเสี่ยง กลุ่มผู้พยายามฆ่าตัวตายเฝ้าระวังไม่ให้ท าร้ายตัวเองซ้ า กลุ่มผู้ติดสุราใช้ยาเสพติด กลุ่มประสบ ปัญหาวิกฤตในชีวิต เน้นการติดตามดูแลต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดด าเนินการพัฒนาศักยภาพทีมสอบสวนโรคระดับ จังหวัดและระดับอ าเภอ ให้มีการสอบสวนโรคผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายทุกราย วิเคราะห์ข้อมูล ให้ถูกต้อง สรุปรายงานการสอบสวนโรคน าไปสู่การจัดท าชุดข้อมูลสารสนเทศและสะท้อนข้อมูลน าไปใช้ประโยชน์
227 | P a g e ในการแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายในพื้นที่ มีจุดแจ้งเหตุเบอร์โทร 24 ชั่วโมงหรือช่องทางไลน์เมื่อพบเห็นการฆ่าตัว ตายหรือสัญญาณเตือน ยกระดับทีม MCATT เพื่อการปฏิบัติการ HOPE task force เพื่อการช่วยชีวิต การสร้าง ความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกันกลุ่มที่เสี่ยงสูงไม่ให้ท าร้ายตนเอง โดยบทบาทเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข กลุ่มแกนน าชุมชน อสม. การสอดส่อง สังเกตอาการ สัญญาณเตือน การใส่ใจรับฟังและส่งต่อการให้ ข้อมูลบริการด้านสุขภาพจิต ประสานความร่วมมือชุมชนและเครือข่ายการดูแลทางสังคมจิตใจ การดูแลช่วยเหลือ – ส่งต่อ ให้มีความครอบคลุม ต่อเนื่องและอย่างใกล้ชิด ส าหรับส่วนกลาง 1. การสอบสวนโรค กรณีเสียชีวิตและผู้พยายามฆ่าตัวตายทุกราย (Psychological Autopsy) 2. การวิเคราะห์และสะท้อนข้อมูล เพื่อใช้ในการวางแผนเฝ้าระวังป้องกันในพื้นที่ และด าเนินงานตามแผน 3. การมีส่วนร่วมและบูรณาการความร่วมมือ ผ่านกลไกคณะอนุกรรมการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วย สุขภาพจิตระดับจังหวัดและเครือข่ายทางสังคมอื่น ๆ เพื่อร่วมเฝ้าระวัง ป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย 4. เพิ่มการเข้าถึงการคัดกรองกลุ่มวัยเรียน วัยรุ่น กลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ การจัดกิจกรรมสร้าง ความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต สื่อสารประเด็นการดักจับและการดูแลช่วยเหลือเมื่อพบสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตาย 5. บันทึกข้อมูลรายงานการฆ่าตัวตายในระบบเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย (506s) ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัว ตายระดับชาติ ที่ครบถ้วน ถูกต้อง ต่อเนื่องสม่ าเสมอและเป็นปัจจุบัน ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่ให้เอื้อประโยชนต่อการเตือนภัยและวางแผนแก้ไขปัญหา ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ก าหนดแนวทางให้ทีมสอบสวนระบาดวิทยาการฆ่าตัวตาย (Psychological Autopsy) ระดับพื้นที่/อ าเภอ สอบสวนโรค สาเหตุการเสียชีวิตในรายที่ฆ่าตัวตายส าเร็จ 2. ผลักดันเป็นวาระจังหวัด “คนศรีสะเกษสุขภาพดี ปลอดโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี สู่การ ท่องเที่ยววิถีใหม่ สุขภาพจิตดีมีวัคซีนใจไม่ฆ่าตัวตาย” ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย 3. มีการวางและพัฒนาระบบการให้การปรึกษา Consult จิตแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ ในการ ช่วยเหลือ ดูแลรักษา ส่งต่อ ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงอย่างทันท่วงที 4. มีการสื่อสาร คืนข้อมูล ประสานการท างานผ่านช่องทางออนไลน์ และมีการประชุมชี้แจงแนวทาง ก ากับติดตามและเป็นพี่เลี้ยงCoaching การด าเนินงานเครือข่ายสุขภาพจิต ภายในจังหวัดอย่างสม่ าเสมอต่อเนื่อง โดยส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษและโรงพยาบาลศรีสะเกษ 5. ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิตในจังหวัด (รพศ./รพท./ รพช./สสอ./รพ.สต.) ทีมสหวิชาชีพด้านสุขภาพกาย กู้ชีพ/กู้ภัย หน่วยบริการผู้ป่วยฉุกเฉิน เคลื่อนที่เร็ว (EMS
228 | P a g e 1669) ทั้งในระบบสาธารณสุขและเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมซ้อมแผนบูรณาการ แนวทางการดูแล ช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตและวิกฤตสุขภาพจิต ต่อเนื่องในทุกปี เพื่อให้เกิดความเข้าใจในบทบาท มีทักษะการ ช่วยเหลือเบื้องต้น ตลอดจนเชื่อมโยงการท างาน ประสานงาน ส่งต่อและเข้าช่วยเหลือทันท่วงทีในกรณีผู้มีปัญหา สุขภาพจิตฉุกเฉิน รุนแรง และยุ่งยากซับซ้อน ให้ได้รับการช่วยเหลือและเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพจิตที่ทันท่วงที ประเด็นงาน : สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากรายงานการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลจิตเวชทั้งประเทศเกี่ยวกับจิตเวชเด็ก พบว่า โรคที่เจอบ่อยคือเด็กที่มีปัญหาการเรียน มี 4 โรค คือ โรคสมาธิสั้น (ADHD=Attention Deficit Hyperactive Disorder) โรคบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD=Learning Disorders) โรคบกพร่องทางสติปัญญา (ID= Intellectual Disabilities) โรคออทิสติก (Autistic Disorders) เช่น ข้อมูลจากโรคสมาธิสั้น (ADHD= Attention deficit hyperactivity disorder) คือ กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในวัยเด็ก ก่อนอายุ 12 ปี เป็นโรคที่เกิดจาก ความผิดปกติของสมอง กลุ่มอาการของโรคประกอบไปด้วย อาการขาดสมาธิ (attention deficit) อาการหุนหัน พลันแล่น วู่วาม (impulsivity) และอาการซนอยู่ไม่นิ่ง (hyperactivity) ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน และการเข้าสังคมกับผู้อื่น และจากการศึกษาความชุกทั่วโลกพบอยู่ที่ร้อยละ 5.29 (Polanczyk G.,2007) ในไทยมีความชุกที่ร้อยละ 8.1 (ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ,2555) เด็กที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นหากไม่ได้รับการ รักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นเด็กจะมีภาวะแทรกซ้อนที่มีผลกระทบในแง่ลบด้านต่างๆ มากมายทั้งต่อตัว เด็กและครอบครัว เสี่ยงต่อ การเกิดปัญหาสังคม โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรง อาชญากรรม และปัญหาการใช้ สารเสพติดเมื่อโตขึ้น พบว่าเด็ก สมาธิสั้นมีปัญหาการเรียนร่วมด้วยถึงร้อยละ 40-60 นอกจากนั้น ยังพบว่า เด็กสมาธิสั้น มีความสัมพันธ์โดยตรง และมีโอกาสสูงในการพัฒนาไปสู่ภาวะดื้อต่อต้าน (Oppositional Defiant Disorder) และภาวะเกเรก้าวร้าว (Conduct Disorder) เมื่อโตขึ้น และเด็กสมาธิสั้นมีโอกาสกลายเป็นเด็กเกเร และต่อต้านสังคมมากกว่าเด็กทั่วไปประมาณ 3-4 เท่า มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงถึง 5 เท่าของคนทั่วไป มี ความเสี่ยงต่อโรควิตกกังวลสูงถึง 3 เท่าของคนทั่วไป แต่ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อยและยังไม่มี ภาวะแทรกซ้อนการรักษาจะได้ผลดีและเสียค่าใช้จ่ายไม่สูง พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ปกครองมักเข้าใจผิดว่าเป็นแค่เด็กดื้อ เด็กซนปกติทั่วไป การที่จะท าให้เด็กสมาธิสั้นได้รับการตรวจประเมินและเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อย ต้องอาศัยการให้ความรู้สู่ขุมชน การสร้างความตระหนักรู้ในครูและผู้ปกครอง รวมถึงมีการคัดกรองที่มีคุณภาพ จากสถิติกรมสุขภาพจิต ปีงบประมาณ 2564 อัตราการเข้าถึงบริการผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น มีค่าเป้าหมายร้อยละ 40) พบว่าทั้งประเทศมีอัตราการเข้าถึงบริการ ร้อยละ 32.06 เขตสุขภาพที่ 10 พบอัตราการเข้าถึงบริการร้อยละ 39.05 ซึ่งยังไม่ถึงเป้าหมาย จังหวัดศรีสะเกษ พบอัตราการเข้าถึงบริการได้ร้อยละ 40.14 ผ่านค่าเป้าหมาย และ
229 | P a g e อัตราการเข้าถึงโรคออทิสติก ค่าเป้าหมาย ร้อยละ 50 พบว่าทั้งประเทศมีอัตราการเข้าถึงบริการ ร้อยละ 40.51 ระดับเขต 24.07 จังหวัดศรีสะเกษเข้าถึงร้อยละ 39.84 ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ตารางที่ 104 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการ ด าเนินงาน การบรรลุความส าเร็จ ตามเป้าหมาย 1. อัตราการเข้าถึงโรคสมาธิสั้น 50 48.72 × 2. อัตราการเข้าถึงโรคออทิสติก 50 61.76 √ 3. เด็กปฐมวัยอายุ 9, 18, 30, 42, 60 เดือน ที่มีพัฒนาการล่าช้า เข้ารับการกระตุ้นพัฒนาการด้วย TEDA 4I 75 80.45 √ 4. เด็กพัฒนาการล่าช้าที่รับการกระตุ้นพัฒนาการด้วยเครื่องมือ TEDA 4I จนสมวัย 35 19.05 × ตารางที่ 105 แสดงผลการด าเนินงาน อัตราการเข้าถึงโรคสมาธิสั้น รายอ าเภอ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 อ าเภอ ตัวชี้วัด สมาธิสั้น ปี2565 ปชก. 6-15 ปี ในปี2564 เป้าคาดการณ์ จากความชุก 5.4 ผลงาน (ราย) ร้อยละ เมืองศรีสะเกษ 16,668 900 795 88.33 ยางชุมน้อย 3,783 204 128 62.66 กันทรารมย์ 11,023 595 230 38.64 กันทรลักษ์ 25,664 1,386 961 69.34 ขุขันธ์ 19,177 1,036 411 39.69 ไพรบึง 5,741 310 109 35.16 ปรางค์กู่ 7,917 428 58 13.57 ขุนหาญ 13,695 740 362 48.95 ราษีไศล 8,146 440 173 39.33 อุทุมพรพิสัย 11,570 625 233 37.29 บึงบูรพ์ 1,084 59 35 59.79 ห้วยทับทัน 5,229 282 86 30.46 โนนคูณ 4,935 266 69 25.89 ศรีรัตนะ 7,009 378 210 55.48
230 | P a g e อ าเภอ ตัวชี้วัด สมาธิสั้น ปี2565 ปชก. 6-15 ปี ในปี2564 เป้าคาดการณ์ จากความชุก 5.4 ผลงาน (ราย) ร้อยละ น้ าเกลี้ยง 5,886 318 48 15.10 วังหิน 6,449 348 220 63.17 ภูสิงห์ 7,779 420 315 74.99 เมืองจันทร์ 2,056 111 76 68.45 เบญจลักษ์ 4,521 244 135 55.30 พยุห์ 3,996 216 60 27.81 โพธิ์ศรีสุวรรณ 2,746 148 71 47.88 ศิลาลาด 1,983 107 69 64.44 จังหวัด 177,057 9,561 4658 48.72 (ข้อมูลจากระบบ HDC จากส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ) ตารางที่ 106 แสดงผลการด าเนินงาน อัตราการเข้าถึงโรคออทิสติก รายอ าเภอ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 อ าเภอ ปชก. 2-5ปี 11 ด. 29 วันใน ปี64 ความชุก 0.6% ผลงาน (ราย) ร้อยละ เมืองศรีสะเกษ 5,449 33 124 379.27 ยางชุมน้อย 1,254 8 4 53.16 กันทรารมย์ 3,812 23 21 95.45 กันทรลักษ์ 8,703 53 28 52.83 ขุขันธ์ 6,171 37 10 27.01 ไพรบึง 1,919 12 5 43.43 ปรางค์กู่ 2,063 16 1 6.25 ขุนหาญ 4,627 28 15 54.03 ราษีไศล 2,735 16 11 67.03 อุทุมพรพิสัย 3,750 23 9 40.00 บึงบูรพ์ 329 2 1 50.66 ห้วยทับทัน 1,759 11 5 47.38 โนนคูณ 1,503 9 7 77.62
231 | P a g e อ าเภอ ปชก. 2-5ปี 11 ด. 29 วันใน ปี64 ความชุก 0.6% ผลงาน (ราย) ร้อยละ ศรีรัตนะ 2,336 14 5 35.67 น้ าเกลี้ยง 1,915 11 3 26.11 วังหิน 2,263 14 9 66.28 ภูสิงห์ 2,754 17 15 90.78 เมืองจันทร์ 636 4 1 26.21 เบญจลักษ์ 1,496 9 4 44.56 พยุห์ 1,344 8 0 0.00 โพธิ์ศรีสุวรรณ 856 5 0 0.00 ศิลาลาด 655 4 2 50.89 จังหวัด 58,329 353 218 61.76 (ข้อมูลจากระบบ HDC จากส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ) ตารางที่ 107 แสดงผลการด าเนินงาน กระตุ้นพัฒนาการด้วย TEDA 4I รายอ าเภอ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 (ข้อมูลจากระบบ HDC จากส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ) ล าดับ อ าเภอ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 เด็กล่าช้าส่งเข้า รับบริการใน คลินิกกระตุ้น พัฒนาการ รับการกระตุ้นด้วย TEDA4I เกณฑ์ ร้อยละ 75 กระตุ้นครบ ตามเกณฑ์ร้อยละ 60 กระตุ้นครบตามเกณฑ์ และสมวัยร้อยละ35 จ านวน จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ 1 เมือง 5 5 83.33 3 60 1 33.33 2 ยางชุมน้อย 2 8 88.89 2 25 2 100 3 กันทรารมย์ 5 11 100 10 90.91 1 10 4 กันทรลักษ์ 9 7 87.5 6 85.71 1 16.67 5 ขุขันธ์ 13 15 93.75 11 73.33 5 45.45 6 ไพรบึง 5 3 60 3 100 0 0 7 ปรางค์กู่ 5 5 83.33 0 0 0 0 8 ขุนหาญ 8 6 75 4 66.67 1 25 9 ราษีไศล 8 6 100 3 50 0 0 10 อุทุมพรพิสัย 5 8 88.89 3 37.5 0 0
232 | P a g e มาตรการในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2565 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก ส านักงานหลักประกันสุขภาพเขต 10 อุบลราชธานี ในการด าเนินโครงการบริการคัดกรองดูแลสุขภาพจิตเด็ก อายุ 6-15ปี และโครงการการพัฒนาระบบดูแลเฝ้าระวังวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้ด าเนินการ จัดสรรงบประมาณ และโอนงบประมาณลงให้พื้นที่ 22 อ าเภอ ด าเนินการตามแผนงานโครงการ เพื่อเพิ่มการ เข้าถึงระบบบริการของผู้ป่วยจิตเวชเด็กเพิ่มขึ้น และมีแนวทางการด าเนินงาน ดังต่อไปนี้ 1. มีแผนงานโครงการคัดกรอง ดูแลช่วยเหลือจิตเวชเด็ก 6-15 ปี ประจ าปีงบประมาณ 2565 เป้าหมาย คัดกรอง 5,000 ราย และโครงการพัฒนาระบบดูแลเฝ้าระวังวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า จังหวัดศรีสะเกษ เป้าหมาย คัดกรอง 3,500 ราย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ และจัดสรรงบประมาณการด าเนินงานตามโครงการ ครบ ทั้ง 22 อ าเภอ ด าเนินการตามแผน 2. จัดประชุมชี้แจงและก าหนดแนวทางการด าเนินงานแก่ผู้รับผิดชอบงาน 3 .ทุกอ าเภอ มีแผนงาน โครงการ คัดกรอง ดูแลช่วยเหลือสุขภาพจิตเด็ก อายุ 6-15 ปี ปีงบประมาณ 2565 และโครงการพัฒนาระบบดูแลเฝ้าระวังวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้าโดยสนับสนุนงบประมาณจาก สปสช.เขต 10 4.ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตที่ 10 ด าเนินงานพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กวัยเรียนกลุ่มเสี่ยง โดยใช้ โปรแกรม School Health HERO ขยายผลครอบคลุมทุกโรงเรียนในสังกัด สพป.ศรีสะเกษ 5. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ บุคลากรสาธารณสุขผู้นับผิดชอบงาน ออกแบบการคัดกรองโรคสมาธิสั้นแบบ google form ใช้ ในสถานการณ์ระบาดโรค COVID-19 11 บึงบูรพ์ 0 1 100 0 0 0 0 12 ห้วยทับทัน 10 10 62.5 3 30 0 0 13 โนนคูณ 1 1 100 1 100 0 0 14 ศรีรัตนะ 3 3 75 2 66.67 0 0 15 น้ าเกลี้ยง 3 4 80 4 100 0 0 16 วังหิน 2 2 100 2 100 0 0 17 ภูสิงห์ 4 4 80 2 50 0 0 18 เมืองจันทร์ 5 3 42.86 3 100 1 33.33 19 เบญจลักษ์ 1 2 100 0 0 0 0 20 พยุห์ 2 3 100 1 33.33 0 0 21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 0 0 0 0 0 0 0 22 ศิลาลาด 5 0 0 0 0 0 0 รวม 96 107 80.45 63 58.88 12 19.05
233 | P a g e 6. เพิ่มศักยภาพของครู และพยาบาลใน รพ.สต. ในการคัดกรองเด็กกลุ่มเสี่ยงโรคสมาธิสั้นออกจากโรคอื่น ก่อนส่งพบแพทย์โดยใช้เครื่องมือคัดกรองกรมสุขภาพจิต 7. พัฒนาศักยภาพ พยาบาลจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โดยมีแผนส่งพยาบาลวิชาชีพ เรียนหลัดสูตรการ พยาบาลผู้ป่วยจิตเวชและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น 4 เดือน ให้ครบ ทั้ง 22 แห่ง (ปี 2565 ส่งเรียน 2 แห่งได้แก่ วังหิน ศิลาลาด) 8. พัฒนาศักยภาพ แพทย์ทั่วไป กุมารแพทย์ เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจวินิจฉัยโรคจิตเวชเด็กและ วัยรุ่นให้ครอบคลุมทุกอ าเภอ (จัดประชุมวิชาการฯ โดย โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ 9. จัดท าแผนแผนตรวจวินิจฉัยและรักษา Mobile clinic และ Tele medicine โดยจิตแพทย์เด็กจาก โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ และรพ.node ใช้ระบบ consult โดยกลุ่มแพทย์ทั่วไป จิตแพทย์เด็ก จิตแพทย์ผู้ใหญ่ กุมารแพทย์ 10. พัฒนาศักยภาพ เภสัชกรทุกรพช.มีความรู้เรื่องการจ าหน่ายยาและ การบริหารจัดการยาจิตเวชเด็กให้ ครบและเพียงพอทุกแห่ง 11. มีการสรุปติดตามผลการด าเนินงาน ทุกรายไตรมาส ในระบบHDC 12. มีระบบการติดตามผลงาน โดย นิเทศ Ranking และ coaching ตามแผน 13. รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป สสจ. เป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ และทักษะ การด าเนินงานแก่ รพช.และเครือข่าย ปัญหาอุปสรรค กลุ่มสมาธิสั้นและออทิสติก 1. โครงการคัดกรองและดูแลช่วยเหลือสุขภาพจิตในกลุ่มเด็ก 6-15 ปี จังหวัดศรีสะเกษ และโครงการ พัฒนาระบบดูแลเฝ้าระวังวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า จังหวัดศรีสะเกษ มีการด าเนินงานล่าช้าเนื่องจากสถานการณ์ การระบาดโรคCOVID-19 ระบาด โรงเรียนเปิดเทอมช้ากว่าปกติ 2. ไม่สามารถจัดประชุมอบรมครู ผู้ปกครอง นักเรียน ตามเป้าหมายและก าหนดเวลาได้ 3. กลุ่มเป้าหมายเด็กออทิสติก อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครอบครัวชุมชน ผู้ปกครองบางคนไม่ให้ความ ร่วมมือในการส่งเด็กมาตรวจวินิจฉัย กลุ่ม TEDA4I 1. การลงรหัส การให้บริการเด็กพัฒนาการล่าช้าใน HDC ไม่เป็นปัจจุบันเพราะระบบก าหนดระยะเวลา การลงไม่เกิน 60 วันแต่โรงพยาบาลชุนบางแห่งยังมีการลงข้อมูลไม่ครบตามระยะเวลาที่ก าหนด ระบบจะขึ้น ข้อความว่าขาดการติดตาม ส่งผลต่อผลการด าเนินงานของโรงพยาบาลนั้นๆ
234 | P a g e 2. เด็ก 5 กลุ่มวัยอายุ 9,18,32,42 และ 60 เดือน ซึ่งเป็นเด็กกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ที่ต้องได้รับการ ประเมินจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล แล้วพบว่าเด็กมีโรคร่วมได้แก่ Cerebral plusy /พิการแต่ก าเนิด และ Down’Syndrome ผู้รับผิดชอบในรพสต.จะลงข้อมูลในโปรแกรม J ว่าส่งต่อ แต่ยังขาดการประสานงานและ ส่งต่อข้อมูลเด็กกลุ่มดังกล่าวมายังผู้รับผิดชอบงานพัฒนาการเด็ก ในโรงพยาบาลชุมชน ส่งผลให้เด็กจะไม่ได้ถูกส่ง มาเพื่อพบผู้รับผิดชอบงานกระตุ้นพัฒนาการโดยตรง เมื่อตรวจเช็ครายชื่อในระบบ HDC เพื่อดูข้อมูลในโปรแกรม TEDA 4I ของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ก็จะพบว่าเด็กกลุ่มดังกล่าวถูกสรุปว่าขาดการติดตาม ท าให้ ยอดการ เข้าถึงบริการเพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้วยTEDA 4Iไม่ได้ตามเป้าหมาย 4. ผู้รับผิดชอบงานพัฒนาการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจะมีการสับเปลี่ยนหน้าที่ค่อนข้างบ่อย เจ้าหน้าที่หลายคนยังไม่ได้รับการฟื้นฟูความรู้เรื่องการใช้คู่มือ DSPM และ DAIM ไม่เข้าใจเรื่องการประเมิน ระบบ การดูแล และระบบการส่งต่ออย่างถูกต้อง และครบถ้วน ส่งผลให้เด็กพัฒนาการเข้าถึงงบริการไม่ได้ตามเป้าหมาย ที่ก าหนด แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. เร่งรัดและติดตามการด าเนินงานให้ทันกับระยะเวลาก าหนด โดยปรับแนวทางการด าเนินงานแบบ new normal ในสถานการณ์ราดของโรคไวรัส โควิด-19 2. โครงการด าเนินงานพัฒนาสุขภาพจิตเด็กควรได้รับการประสานความร่วมมือจากคณะกรรมการ พชอ. และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเน้นหนักและต่อเนื่อง 3. ออกแบบฟอร์มการประเมิน คัดกรอง โรคสมาธิสั้น ออทิสติก โดยใช้QR code หรือ google form น าไปใช้ในระดับพื้นที่ 4. จัดท าแนวทางหรือกระบวนการประสานงาน ส่งต่อข้อมูลรายชื่อเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า ระหว่าง Child Project Manager ในส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลทุกแห่ง ให้ผู้รับผิดชอบ งานคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กพัฒนาการล่าช้าในโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชน เพื่อการส่งต่อ ข้อมูล และติดตามติดตามเด็กพัฒนาการล่าช้าให้เข้าระบบการรับบริการที่กระตุ้นพัฒนาการให้ครบตามเกณฑ์และ ครอบคลุม 100% 5. ปรับปรุงระบบการบันทึกข้อมูลใน HDC ให้สามารถ ติดตามข้อมูล ให้เป็นปัจจุบัน และสะดวก ไม่ ซ้ าซ้อนส าหรับผู้ปฏิบัติ กรณีเด็กป่วยมีโรคร่วมควรมีช่องหมายเหตุที่ระบุชื่อโรคอย่างชัดเจนเพราะเมื่อเด็กมีอายุ เพิ่มขึ้นในช่วงวัยต่อไปและยังเป็นกลุ่มเป้าหมายอยู่ ผู้รับผิดชอบก็จะทราบได้ว่าเด็กมีโรคร่วม และจะมีการประสาน ผู้รับผิดชอบงานพัฒนาการเด็กใน รพสต.เพื่อส่งเด็กมารับบริการที่โรงพยาบาลได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการประเมิน พัฒนาการซ้ าตามระบบการดูแลเด็กปฐมวัย เพราะจะท าให้เด็กขาดโอกาสการรักษา และการดูแลอย่างต่อเนื่อง
235 | P a g e 6. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การบันทึกข้อมูลโปรแกรมTEDA4I และแนวทางการส่งต่อเด็กพัฒนาการ ล่าช้าให้ระหว่าง รพ.สต.กับโรงพยาบาล (วันที่ 21 เมษายน 2565) ระบบบริการศูนย์พึ่งได้ จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 วิเคราะห์สถานการณ์ การด าเนินงานศูนย์พึ่งได้ของโรงพยาบาลในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มีการให้บริการ ในทุกโรงพยาบาล ปัจจุบันอยู่ในขั้นของการพัฒนาระบบบริการศูนย์พึ่งได้ เพื่อการดูแลช่วยเหลือผู้ถูกกระท า รุนแรง/ค้ามนุษย์และตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานและเชื่อมโยงการช่วยเหลือ ร่วมกับทีมสห วิชาชีพ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน ภายในและภายนอกพื้นที่ ในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ถูกกระท าและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระรุนแรง ทั้งด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ภายในจังหวัดศรีสะเกษ และเริ่มขยายการเฝ้าระวังสู่ รพ.สต.ทุกแห่ง โดยการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ใน รพ.สต.ทุกแห่ง ในการคัดกรอง เฝ้าระวัง ผู้ที่สงสัยว่าจะถูกกระท ารุนแรง ผลการด าเนินงาน การขับเคลื่อนระบบบริการศูนย์พึ่งได้ จังหวัดศรีสะเกษที่ผ่านมา ด าเนินกิจกรรมหลายด้านดังนี้ 1. ให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกระท าและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระรุนแรง ทั้งด้านการแพทย์ 2. การน าเข้าข้อมูลระบบรายงานในโปรแกรมช่วยเหลือผู้ถูกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ให้ ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน 3. พัฒนาบุคลากรผูปฏิบัติงาน โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสรมสร้างพลังใจ ผู้ปฏิบัติงานศูนย์พึ่งได้ และผู้เกี่ยวข้อง ในโรงพยาบาลทุกแห่ง 4. ร่วมเป็นคณะกรรมการสหวิชาชีพด้านสาธารณสุข ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กในการพิจารณาแนว ทางแก้ไขและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่กระท าผิด 5. บุคลากรในสังกัดร่วมในการด าเนินงานคุ้มครองเด็กโดยร่วมปฏิบัติหน้าที่นักจิตวิทยาหรือนักสังคม สงเคราะห์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญามาตรา 133 ทวิและมาตรา 134/ 2 (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2550 (วิธีสืบพยานเด็ก) ในชั้นพนักงานอัยการและชั้นศาล
236 | P a g e ตารางที่ 108 ข้อมูลการให้บริการช่วยเหลือผู้ถูกกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในพื้นที่จังหวัด ศรีสะเกษปีงบประมาณ 2560 – 2565 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 รุนแรง ตั้งครรภ์ ไม่พึง ประสงค์ รุนแรง ตั้งครรภ์ ไม่พึง ประสงค์ รุนแรง ตั้งครรภ์ไม่ พึงประสงค์ รุนแรง ตั้งครรภ์ไม่ พึงประสงค์ รุนแรง ตั้งครรภ์ไม่พึง ประสงค์ รุนแรง ตั้งครรภ์ไม่ พึงประสงค์ 296 259 264 245 228 198 259 243 128 143 216 331 จากตารางจะเห็นได้ว่าแนวโน้มของการให้บริการช่วยเหลือผู้ถูกกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย จ านวนผู้ถูกกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มีสัดส่วน เท่าๆ กัน ผลงานเด่น/Best Practice การด าเนินการให้บริการช่วยเหลือผู้ถูกกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของโรงพยาบาลทุกแห่ง ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในนามของศูนย์พื่งได้ แม้ว่าจะยังมีบางพื้นยังอยู่ในขั้นตอนที่ต้องมีการพัฒนา แต่ก็มี หลายพื้นที่ที่ด าเนินการได้ค่อนข้างดี มีการดูแลช่วยเหลือผู้ถูกกระท ารุนแรงและตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ที่เป็น รูปธรรมชัดเจน มีการประสานการช่วยเหลือกับภาคีเครือข่ายภายนอกหน่วยงาน ส่งผลไห้ผู้ถูกกระท ารุนแรงและ ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้รับการดูแลครอบคลุมในทุกๆด้าน เช่น โรงพยาบาลโนนคูณ โรงพยาบาลน้ าเกลี้ยง โรงพยาบลวังหิน โรงพยาบาลกันทรลักษ์ โรงพยาบาลศรีสะเกษ ฯลฯ การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ) การด าเนินงานศูนย์พึ่งได้ของโรงพยาบาลในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ แม้จะมีการ ให้บริการในทุกโรงพยาบาล และมีการด าเนินงานมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ยังจ าเป็นต้องมีการ พัฒนา เพราะมีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบค่อนข้างบ่อย อาจจะด้วยลักษณะของงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ยุ่งยากซับซ้อน ต้องอาศัยทักษะเและความรักในงานเป็นการส่วนตัวของผู้ให้บริการ ต้องมีการ บูรณาการ กับ หน่วยงานนอกหลายหน่วยงาน แม้จะมีงบประมาณสนับสนุนในการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันก็ยังอยู่ใน ขั้นของการพัฒนา ซึ่งหากต้องการที่จะพัฒนางานดังกล่าว ต้องอาศัยการให้การสนับสนุนผลักดันจากผู้บริหารใน ทุกระดับ แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานต่อไป จากการวิเคราะห์ปัญหาที่พบ เพื่อให้การพัฒนาการด าเนินงานให้มีคุณภาพตามมาตรฐานเชื่อมโยงการ ช่วยเหลือ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน และเพื่อป้องกัน
237 | P a g e ไม่ให้ผู้ถูกกระท ารุนแรงถูกกระท าซ้ า หรือได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ควรจะเพิ่มการขยายงานดังกล่าว ให้ลงไปถึงเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนในระดับหมู่บ้านหรือต าบล ให้เกิดความตระหนักในการมองถึงปัญหา ดังกล่าว ต่อไป ประเด็นงาน : การพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากปี 2563 ถึงปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ “วิกฤตภัยโควิด” ที่ส่งผลกระทบ รุนแรง ทั้งทาง สุขภาพ สังคมและเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันประเทศไทยยังประสบกับ “ภัยเงียบ” อย่าง อุบัติเหตุทางถนนที่สร้าง ความสูญเสียและผลกระทบต่อ เหยื่อ ครอบครัวและสังคม รวมทั้งระบบบริการสุขภาพ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนอาจจะกลายเป็นความคุ้นชิน และมองข้ามปัญหาเหล่านี้ทั้งๆ ที่มีขนาดปัญหาและมี แนวโน้มที่จะสร้าง ผลกระทบด้านสุขภาพ เศรษฐกิจสังคม ได้เช่นเดียวกัน สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2554-2563) มีจ านวนผู้เสียชีวิตสะสมถึง 206,589 ราย เฉลี่ยเสียชีวิต 20,659 คน/ปี หรือ 58 คน/วัน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องดูแล รักษาในโรงพยาบาลถึง 150,000 – 200,000 ราย/ปี โดยร้อยละ 4.6 พบว่ามีความพิการร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่ง เท่ากับว่ามีผู้พิการรายใหม่ 7,000 – 13,000 รายต่อ/ปี คิดเป็น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศที่การศึกษาของ TDRI คาดประมาณไว้สูงถึง 545,435 ล้านบาท/ปี อย่างกรณีสงกรานต์ปี 2564 ที่ ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดโควิดระลอกที่ 3 แต่ในช่วง 7 วันอันตราย (10-16 เมษายน 2564) ข้อมูล กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดตามจนครบ 30 วันหลัง เหตุการณ์ พบมีผู้เสียชีวิตถึง 341 ราย (เฉลี่ยวันละ 48.7 ราย) มีผู้บาดเจ็บรวม 19,256 ราย ใช้บริการการแพทย์ ฉุกเฉิน EMS-1669 จ านวน 8,297 ราย และมีผู้ บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล 3,684 ราย หรือวันละ 526 ราย โดยผู้บาดเจ็บหรือ เสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (ร้อยละ 79.3) และพบผู้ไม่ สวมหมวกนิรภัยถึงร้อยละ 82.6(5) สาเหตุ เบื้องต้นที่ท าให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนยังคง เป็นปัจจัยร่วมระหว่างปัจจัยด้าน “คน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม” โดย ปัจจัยบุคคลมีสัดส่วนที่สูงสุด ซึ่งผลการ ศึกษาต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศที่มีสัดส่วนรถ จักรยานยนต์ ใกล้เคียงกับไทยพบใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ 95.6 รองลงมาเป็นปัจจัยด้านยานพาหนะ ร้อยละ 27.54 และปัจจัย ด้านกายภาพ (ถนน) และสภาพแวดล้อมร้อย ละ 21.6 และถ้าวิเคราะห์สาเหตุการเกิดเหตุเฉพาะรถ จักรยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการเสียชีวิตสูงสุด ส าหรับข้อมูลผู้เสียชีวิตจังหวัดศรีสะเกษจากข้อมูล 3 ฐาน โดยความร่วมมือของต ารวจ บริษัทกลาง และโรงพยาบาลทุกแห่ง อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้ ปี 2562 พบ 26.33อัตราต่อแสน ประชากร ปี 2563 พบ 25.83 อัตราต่อแสนประชากร ปี 2564 พบ 8.19อัตราต่อแสนประชากร และในปี 2565 (ตุลาคม – ธันวาคม 2564) พบ5.02 อัตราต่อแสนประชากร ตามล าดับ จากข้อมูล พบว่าอัตราการเสียชีวิตมี
238 | P a g e แนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้ความเร็วสูง แม้ว่าศูนย์ความปลอดภัยทางท้องถนนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการ ก าหนดจุดเสี่ยงพื้นที่ที่มีการเกิดอุบัติเหตุสูง มีการด าเนินการสอบสวนโรคในผู้เสียชีวิตเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกับ ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดให้มีการซ้อมแผนรับอุบัติเหตุหมู่ รณรงค์การขับขี่ปลอดภัย โครงการสวม หมวกกันน็อค 100 % และร่วมออกมาตรการต่าง ๆ อย่างสม่ าเสมอ อีกทั้ง ในปี 2565 พบว่า การระบาดของโรค COVID -19 เป็นสายพันธุ์ Omicron ที่มีการระบาดอยู่ในขณะนี้ เชื่อกันว่าไวรัสจะแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ Delta เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มาก แต่เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงได้มี นโยบาย ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างเพื่อให้ประชาชนด าเนินกิจกรรมต่างๆตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตัวตามวิถี ชีวิตใหม่ New Normal จึงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราการตายด้วยอุบัติเหตุจราจรเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามนโยบาย การพัฒนางาน ER คุณภาพ ของกระทรวงสาธารณสุขภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID –19 ยังคงปฏิบัติตามแนวทางการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ ผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งระบบ IC ที่มีความเข้มงวดมากเหมือนเดิม กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ตระหนักต่อการระบาดของ โรค ระบบการ Consult แพทย์เฉพาะสาขาที่มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ระบบ Fast Track ในผู้ป่วย Stroke, STEMI, Sepsis และ Trauma การคัดกรองผู้ป่วยสีเหลือง สีเขียวที่ไม่ผ่านระบบการส่งต่อ ต้องตรวจ ATK ทุกรายก่อนที่ จะท าการคัดกรองผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่กระบวนการการดูแลรักษาต่อไป เพื่อเป็นการค้นหา และป้องกันการ แพร่กระจายเชื่อภายในห้องตรวจ ER ตารางที่ 109 ตัวชี้วัด เป้าหมายงานการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 ตัวชี้วัด เป้าหมาย 1. การเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลระดับ F2 ขึ้นไป อัตราการเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตภายใน 24 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลระดับ F2 ขึ้นไป < 12% 2. การเสียชีวิตผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury อัตราการเสียชีวิตผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury น้อย กว่าร้อยละ 30 ผลการด าเนินงาน ตัวชี้วัด : 1. การเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลระดับ F2 ขึ้นไป เป้าหมาย: อัตราการเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตภายใน 24 ชั่วโมงในโรงพยาบาลระดับ F2 ขึ้นไป < 12%
239 | P a g e ตารางที่110 แสดงอัตราการเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ระดับ โรงพยาบาล ปี 2564 ปี 2565 รอบที่ 1 (ต.ค.-ธ.ค.) ประเมินผล ผู้ป่วยสีแดงเสียชีวิต ภายใน 24 ชม. (ราย) จ านวนผู้ป่วยสีแดง ทั้งหมด (ราย) ร้อยละ ผ่าน ไม่ ผ่าน A ศรีสะเกษ 10.48 109 1,223 8.91 / M1 กันทรลักษ์ 2.42 12 302 3.31 / M1 อุทุมพรพิสัย 4.52 10 221 4.52 / M2 ขุขันธ์ 5.04 23 388 5.93 / M2 กันทรารมย์ 2.03 8 264 3.03 / M2 ขุนหาญ 0.30 2 175 1.14 / F1 ราษีไศล 1.51 6 237 2.53 / F2 ยางชุมน้อย 0.00 0 63 0 / F2 ไพรบึง 4.39 1 95 1.05 / F2 ปรางค์กู่ 2.73 7 97 7.22 / F2 บึงบูรพ์ 11.76 2 2 100 / F2 ห้วยทับทัน 3.94 0 41 0 / F2 โนนคูณ 2.99 4 93 4.3 / F2 ศรีรัตนะ 1.58 0 64 0 / F2 น้ าเกลี้ยง 4.64 4 20 20 / F2 วังหิน 0.40 3 57 5.26 / F2 ภูสิงห์ 9.46 1 11 9.1 / F2 เมืองจันทร์ 71.43 1 1 100 / F2 เบจลักษณ์ 3.80 1 91 1.1 / F1 พยุห์ 0.65 1 63 1.58 / F1 โพธิ์ศรีสุวรรณ 0.00 0 5 0 / F1 ศิลาลาด 19.42 2 28 7.14 / รวม 5.70 197 3541 5.56 / จากตาราง พบว่า อัตราการเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลระดับ F2 มี ผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 12 จ านวน 2 แห่ง ได้แก่ บึงบูรพ์ และเมืองจันทร์ เสียชีวิตด้วย 5 อันดับโรคได้แก่
240 | P a g e Cardiac arrest , Sepsis , Pneumonia , CHF และ ESRD ส าหรับ รพ. ศรีสะเกษผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงพบมากในโรค Pneumonia, Sepsis, และ Cardiac arrest ตัวชี้วัด : 2. การเสียชีวิตผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury เป้าหมาย: อัตราการเสียชีวิตผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury น้อยกว่าร้อยละ 30 ตารางที่111 แสดงอัตราการเสียชีวิตผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury ระดับ โรงพยาบาล ปี 2564 ปี 2565 (ต.ค.-ก.ย..65) ภาพรวม ปี 65 Dead STBI ทั้งหมด A ศรีสะเกษ 36.72 14 35 40.00 M1 กันทรลักษ์ 11.76 1 10 10 M1 อุทุมพรพิสัย 46.88 2 3 66.667 M2 ขุขันธ์ 33.33 7 14 50 M2 กันทรารมย์ 14.29 1 3 33.33 M2 ขุนหาญ 18.92 3 8 37.5 F1 ราษีไศล 3.70 0 5 2.53 F2 ยางชุมน้อย 46.15 0 25 0 F2 ไพรบึง 30.00 0 2 0.00 F2 ปรางค์กู่ 100.00 0 0 0 F2 บึงบูรพ์ 0.00 0 0 0 F2 ห้วยทับทัน 71.43 4 4 100 F2 โนนคูณ 85.71 2 7 28.57 F2 ศรีรัตนะ 16.67 0 0 0 F2 น้ าเกลี้ยง 10.26 0 0 0 F2 วังหิน 66.67 0 5 0 F2 ภูสิงห์ 13.64 1 3 33.333 F2 เมืองจันทร์ 100.00 1 1 100 F2 เบญจลักษ์ 14.29 0 3 0 F2 พยุห์ 20.00 2 4 50.00 F3 โพธิ์ศรีสุวรรณ 0.00 0 1 0.00 ศิลาลาด 0.00 0 0 0 รวม 28.50 38 133 28.57
241 | P a g e จากตาราง พบว่า ผลการด าเนินงาน ผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury ทั้งจังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 133 ราย เสียชีวิต 38 ราย หรือ ร้อยละ 28.57 อ าเภอที่มีการเสียชีวิตด้วย Severe Traumatic Brain Injury สูง 5 อันดับแรก ได้แก่ อุทุมพรพิสัย ขุขันธ์ พยุห์ ศรีสะเกษ และกันทรารมย์ ตารางที่112 ร้อยละของผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่เข้าถึงระบบบริการโดย EMS (ต.ค.- ก.ย. 2565) โรงพยาบาล ระดับ ผู้ป่วยสีแดงมาด้วย EMS (ราย) ผู้ป่วยสีแดงทั้งหมด (ราย) ร้อยละ โรงพยาบาลศรีสะเกษ A 458 1,442 31.7614 โรงพยาบาลกันทรลักษ์ M1 93 302 30.7947 โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย M1 70 221 31.6742 โรงพยาบาลขุขันธ์ M2 82 388 21.134 โรงพยาบาลกันทรรมย์ M2 69 341 20.2346 โรงพยาบาลขุนหาญ M2 112 175 64 โรงพยาบาลราษีไศล F1 3 84 3.57143 โรงพยาบาลยางชุมน้อย F2 16 41 39.0244 โรงพยาบาลไพรบึง F2 25 95 26.3158 โรงพยาบาลปรางกู่ F2 209 387 54.0052 โรงพยาบาลบึงบูรณ์ F2 1 1 100 โรงพยาบาลห้วยทับทัน F2 36 63 57.1429 โรงพยาบาลโนนคูณ F2 39 104 37.5 โรงพยาบาลศรีรัตนะ F2 22 64 34.375 โรงพยาบาลน้ าเกลี้ยง F2 3 23 13.0435 โรงพยาบาลวังหิน F2 36 72 50 โรงพยาบาลภูสิงห์ F2 62 154 40.2597 โรงพยาบาลเมืองจันทร์ F2 5 6 83.3333 โรงพยาบาลเบญจลักษณ์ F2 15 91 16.4835 โรงพยาบาลพยุห์ F2 24 67 35.8209 โรงพยาบาลโพธิ์ศรีสุวรรณ F3 5 5 100 โรงพยาบาลศิลาลาด F3 6 28 21.4286 ภาพรวม 1391 4,154 33.4858 จากตาราง พบว่า ภาพรวมระดับจังหวัดผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่เข้าถึงระบบบริการโดย EMS ภาพรวมทั้ง จังหวัด ศรีสะเกษ พบร้อยละ 33.48 มากที่สุด โรงพยาบาลเมืองจันทร์ ร้อยละ 83.33 รองลงมาคือ โรงพยาบาล
242 | P a g e ห้วยทับทัน ร้อยละ 57.17 โรงพยาบาลปรางค์กู่ ร้อยละ 54 โรงพยาบาลภูสิงห์ ร้อยละ 40.25 โรงพยาบาลยางชุม น้อย ร้อยละ39.02 โรงพยาบาลพยุห์ ร้อยละ 35.82 และ โรงพยาบาลศรีรัตนะ ร้อยละ 34.37 ตามล าดับ มาตรการในการด าเนินงาน ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2565 ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องในเรื่องการลดแออัด ลดรอคอย ตาม นโยบาย ER คุณภาพ และ New Normal Medical Service ภายใต้ Slogan ยกการ์ดให้สูง ผลการด าเนินการ ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ระดับ 4 - 5 ในไตรมาสแรก ปี 2565 ลดลงร้อยละ 1.49 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 คณะกรรมการ EOC Covid-19 ชุดที่ 2 ด้าน Operation ต้องเกาะติดสถานการณ์ ทบทวนบทบาท ของทีมแพทย์พยาบาลและระบบการดูแลผู้ป่วยทุกกลุ่มโรค ติดตามสถานการณ์การระบาดในพื้นที่เสี่ยง ตาม นโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 มุ่งเน้น 3 P Safety จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นคณะกรรมการ EOC Covid-19 ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้เปิดศูนย์ประสานงานโควิดอ าเภอ เมืองศรีสะเกษ เพื่อประสานงานกับผู้ป่วยโควิด กับสถานบริการเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสม ห้อง ฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีสะเกษได้ตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ จึงมีมาตรการท า Rapid Antigen test (RT) ก่อน Admitted ทุกราย ส าหรับผู้ป่วยที่ Refer เข้ามาโรงพยาบาลชุมชนต้นทาง ต้องท า RT หากยังไม่พร้อมต้องประสานแจ้งล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมในการท า RT ส าหรับผู้ป่วยที่จ าเป็นต้องนอนพักรักษา ตัวในโรงพยาบาลนั้นต้องท า Rapid Antigen Test (RT) ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นมา – ถึง 30 ก.ย. 2564 ข้อมูลผู้ป่วยท า RT จ านวน3,770 ราย (เฉลี่ย 26 ราย/วัน) พบผล Positive จ านวน 11 ราย คิดเป็นร้อย ละ 0.29 ปีงบประมาณ 2565 ในไตรมาตรแรก ข้อมูลผู้ป่วยท า RT จ านวน 2,539ราย (เฉลี่ย 29 ราย/วัน) พบผล Positive จ านวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ0.35 จากสถานการณ์ดังกว่าพบว่าหลังเทศกาลปีใหม่มีอัตราการ แพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้น พบผู้ป่วยผล Rapid Antigen Test (RT) ผลเป็นบวกในระหว่างรอตรวจในห้องฉุกเฉิน จ านวน 8 ราย จึงเน้นการคัดกรองผู้ป่วยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การใส่ชุด PPE การฉีดวัคซีน DMHTT การ Zoning ผู้ป่วย และขยายกรอบการท า Rapid Antigen Test (RT) ให้ครอบคลุมผู้รับบริการในห้องฉุกเฉินทั้งหมด รวมถึงญาติที่จะเฝ้าไข้ 1 คน จัดอัตราก าลัง และพื้นที่ปลอดภัยส าหรับการท า Rapid Antigen Test (RT) มี แนวทางในการบริหารจัดการหลังพบผู้ป่วยมีผล Rapid Antigen Test (RT) เป็นบวก คือ 1. ควบคุมการ แพร่กระจายเชื้อ 2. ด้านสิ่งแวดล้อม 4. ด้านการ 5. จัดท าแนวทางการปรับอัตราก าลังของพยาบาลวิชาชีพเมื่อ สัมผัสผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 6. ค่าตอบแทน ประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยการจัดบริการเครือข่ายห้องฉุกเฉินให้มีมาตรฐานตาม ER Service Delivery ก าหนด มาตรการ 3 P safety โดยจัดระบบคัดกรองปรับเปลี่ยนแบบคัดกรองให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ อัตราการเสียชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน Level 1 ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้ง ER – Admit เฉลี่ยร้อยละ 5.56 ผ่านเกณฑ์ ในราย STBI ที่มี GCS น้อยกว่า 8 จะนับตั้งแต่ Dead ณ จุดเกิดเหตุ เฉลี่ยร้อยละ 28.57 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละของประชากรที่เข้าถึงระบบ EMS เฉลี่ยร้อยละ 33.49 ผ่านเกณฑ์
243 | P a g e ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ได้มีการประสานงานการถ่ายโอนศูนย์สั่งการไปยังองค์การบริหารส่วน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจะเปิดด าเนินการ วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ส่วนด้านปฏิบัติการได้พัฒนาระบบการรับแจ้งเหตุให้ สอดคล้องกับสถานการณ์การเกิดโรคระบาด COVID-19 ตั้งแต่การซักประวัติ การคัดกรองเบื้องต้น ผ่านระบบ Telephone Triage การใส่ชุด PPE การออกรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง COVID-19 ณ จุดเกิดเหตุ ระบบ Refer ศูนย์ประสาน - ส่งต่อ มีการประสานงาน/ปฏิบัติงานร่วมกับทีมแยกโรค COVID-19 ในการ ส่งผู้ป่วยไปยังสถานบริการที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 หรือส่งผู้ป่วยที่จ าหน่ายจากโรคนี้กลับบ้าน (ให้บริการเฉพาะใน เขตเมือง) พร้อมทั้งจัดสรรเจ้าหน้าที่ในการรับ- ส่ง ด้านธ ารงรักษาก าลังคน ในปีงบประมาณ 2565 จะมีแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน (EP) เพิ่มอีก 3 คน การ อบรมเฉพาะทางพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน (ENP) อยู่ระหว่างการศึกษา 2 คน และได้อัตราก าลังเพิ่ม 5 จากการ ทดแทนที่พยาบาลวิชาชีพที่ขอโอนไปปฏิบัติงาน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 5 คน เกษียณอายุราชการ 1 คน ผลการด าเนินงาน ผู้ป่วย Severe Traumatic Brain Injury ทั้งจังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 133 ราย เสียชีวิต 38 ราย หรือ ร้อยละ 28.57 อ าเภอที่มีการเสียชีวิตด้วย Severe Traumatic Brain Injury สูง 5 อันดับ แรก ได้แก่ อุทุมพรพิสัย ขุขันธ์ พยุห์ ศรีสะเกษ และกันทรารมย์ อัตราการเสียชีวิตผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลระดับ F2 มีผู้ป่วยเสียชีวิต มากกว่าร้อยละ 12 จ านวน 2 แห่ง ได้แก่ บึงบูรพ์ และเมืองจันทร์ เสียชีวิตด้วย 5 อันดับโรคได้แก่ Cardiac arrest , Sepsis , Pneumonia , CHF และ ESRD ส าหรับ รพ. ศรีสะเกษผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงพบมาก ในโรค Pneumonia, Sepsis, และ Cardiac arrest ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. มีการประชาสัมพันธ์ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ประชาชนเข้าถึง 1669 มากขึ้น 2. มีความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งจังหวัด ของภาครัฐ และเอกชนมากยิ่งขึ้น 3. ผู้บริหารเห็นความส าคัญในการเข้าถึงระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ปัญหาอุปสรรค 1. เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 2019 จึงมีผลต่อการด าเนินงานระบบ การแพทย์ฉุกเฉินในด้านแนวทางการ และการปฏิบัติที่ถูกต้องในการรับ ส่ง ผู้ป่วยในช่วงสถาการณ์ดังกล่าว และไม่ สามารถจัดอบรมให้แก่ทีมกู้ชีพได้ แต่อย่างไรก็ตามก็สามารถด าเนินการปฏิบัติงานได้ 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครเข้าร่วมปฏิบัติการแล้ว แต่พบปัญหาการไม่สามารถออกเหตุได้ เต็มที่เนื่องจากไม่มีรถใช้ในการออกเหตุ ต้องใช้รถหน่วยกู้ชีพในการออกปฏิบัติการ ท าให้ขาดความต่อเนื่อง และถ้า เป็นรถของท้องถิ่นเองมี 1 คัน แต่ใช้ ทุกภารกิจ ท าให้เวลาแจ้งให้ออกปฏิบัติการ ไม่สามารถออกรับผู้ป่วยได้ ซึ่ง ส่งผลให้ อปท.ที่สมัครขึ้นหน่วยแต่ไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ครบทุกแห่ง
244 | P a g e 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ บางแห่งเคยออก ปฏิบัติงาน แต่ถูกตรวจสอบ จากส านักงานตรวจเงินแผ่นดินและตรวจสอบภายในจังหวัด และถูกเรียกเงินคืน ส่งผล ให้ไม่กล้าออกปฏิบัติงาน เพราะถูกเรียกเงินคืน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนกลาง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียกเงินคืน จากการออกปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้หน่วยปฏิบัติงานในระดับภูมิภาค ท างานได้อย่างราบรื่น ประเด็นงาน : การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2565 ตัวชี้วัด/ผลลัพธ์1 KPI: อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนไม่เกิน 16 ต่อแสนประชากร เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ระดับประเทศ ลดอัตราการตายเหลือ 12 ต่อประชากรแสนคนในปี 2570 เป้าหมาย กพร. ระดับประเทศ อัตราการเสียชีวิต ไม่เกิน 28.37 ต่อประชากรแสนคน เป้าหมายจังหวัดศรีสะเกษ : อัตราการเสียชีวิต ไม่เกิน 16.00 ต่อปชก.แสนคน (234 คน) สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ 5 ปีย้อนหลัง จากปี 2559 -2564 พบว่ามีจ านวน ผู้เสียชีวิต 1,539 ราย โดยมีอัตราการเสียชีวิต 14.98, 14.16, 17.32, 21.33, 21.18,16.19 ตามล าดับ ปี 2564 มีรายงานการเสียชีวิต จ านวน 236 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 16.19 ต่อแสนปชก. ปี 2565 (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) มีรายงานผู้เสียชีวิต 297 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 20.38 ต่อแสนปชก. กราฟ แสดงจ านวนและอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2559 - 2565 แหล่งข้อมูล : ข้อมูลอุบัติเหตุจราจรเสียชีวิต แยกรายเดือน (ข้อมูล 3 ฐาน สาธารณสุข/ต ารวจ/บริษัทกลาง) สถานการณ์การเสียชีวิตอุบัติเหตุทางถนน ปี 2565 ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565 พบว่า จ านวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จ านวน 297 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 20.38 ต่อประชากรแสนคน ปี59 ปี60 ปี61 ปี62 ปี63 ปี64 ปี65 จ านวนการเสียชีวิต 220 205 255 314 309 236 297 อัตราการเสียชีวิต 14.98 14.16 17.32 21.33 21.18 16.19 20.38 14.98 14.16 17.32 21.33 21.18 16.19 20.38 -5 5 15 25 0 200 400
245 | P a g e กราฟ แสดงจ านวนและอัตราผู้เสียชีวิตจ าแนกรายเดือน ปี 2565 แหล่งข้อมูล : ข้อมูลอุบัติเหตุจราจรเสียชีวิตแยกรายเดือน (ข้อมูล 3 ฐาน สาธารณสุข/ต ารวจ/บริษัทกลาง) สถานการณ์การเสียชีวิตอุบัติเหตุทางถนนจ าแนกรายอ าเภอ ปี 2565 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565) พบว่า อ าเภอที่มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ อ าเภอไพรบึง อ าเภอพยุห์ อ าเภอ เมืองศรีสะเกษ อ าเภอศิลาลาดและอ าเภอเบญจลักษ์ คิดเป็น 33.78, 31.34, 31.13, 30.40 และ24.98 ต่อ ประชากรแสนคน ตามล าดับ และอ าเภอที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ได้แก่ อ าเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ และเมื่อเทียบอัตรา ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี พ.ศ. 2565 ในช่วงเวลาเดียวกันพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กราฟ แสดงจ านวนและอัตราผู้เสียชีวิตจ าแนกรายอ าเภอ ปี 2565 เปรียบเทียบกับปี 2564 แหล่งข้อมูล : ข้อมูลอุบัติเหตุจราจรเสียชีวิตแยกรายเดือน (ข้อมูล 3 ฐาน สาธารณสุข / ต ารวจ/บริษัทกลาง) 33 26 26 19 18 27 25 15 27 28 27 26 2.26 1.78 1.78 1.3 1.23 1.85 1.72 1.03 1.85 1.92 1.85 1.78 0 0.5 1 1.5 2 2.5 0 5 10 15 20 25 30 35 40 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. จ านวน อัตรา 6.33 5.70 23.89 0.00 13.88 15.90 22.05 20.26 15.0314.09 18.36 28.64 25.02 28.41 5.48 15.25 6.76 15.03 16.8417.81 6.04 8.44 16.19 33.78 31.34 31.13 30.40 24.98 24.32 24.05 22.79 22.54 21.13 19.35 19.09 16.68 16.57 16.43 16.20 13.52 13.15 11.23 7.92 4.53 0.00 20.38 0.00 5.00 10.00 15.00 20.00 25.00 30.00 35.00 40.00 0.00 5.00 10.00 15.00 20.00 25.00 30.00 35.00 40.00 อัตรา ปี 2564 อัตรา ปี 2565 ภาพจังหวัดRate = 16.00อัตราการเสียชีวิต
246 | P a g e ตารางที่ 113 แสดงจ านวนและอัตราตายจากอุบัติเหตุทางถนนศรีสะเกษจ าแนกรายอ าเภอ ปี 2565 ที่ อ าเภอ จ านวนเสียชีวิต อัตรา ที่ อ าเภอ จ านวนเสียชีวิต อัตรา 1 ไพรบึง 16 33.78 12 บึงบูรพ์ 2 19.09 2 พยุห์ 11 31.34 13 ยางชุมน้อย 6 16.68 3 ศรีสะเกษ 43 31.13 14 ห้วยทับทัน 7 16.57 4 ศิลาลาด 6 30.40 15 ภูสิงห์ 9 16.43 5 เบญจลักษ์ 9 24.98 16 อุทุมพรพิสัย 17 16.20 6 ขุนหาญ 26 24.32 17 น้ าเกลี้ยง 6 13.52 7 ขุขันธ์ 36 24.05 18 ศรีรัตนะ 7 13.15 8 โนนคูณ 9 22.79 19 เมืองจันทร์ 2 11.23 9 ราษีไศล 18 22.54 20 วังหิน 4 7.92 10 กันทรารมย์ 21 21.13 21 ปรางค์กู่ 3 4.53 11 กันทรลักษ์ 39 19.35 22 โพธิ์ศรีสุวรรณ 0 0.00 2. ผลการด าเนินงานตามค่าเป้าหมาย เป้าหมาย : อัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2565 เท่ากับ 16.00 ต่อแสนปชก. จ านวน 234 คน ผลการด าเนินงาน : อัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2565 20.38 ต่อแสนปชก. จ านวน 297 คน 3. ตารางที่ 114 ผลการด าเนินงานตามมาตรการและแนวทางการด าเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนน ประเด็น ผลการด าเนินการ 1. มาตรการบริหารจัดการ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษขับเคลื่อนนโยบายการลดอุบัติเหตุทางถนน เป็นวาระ จังหวัด “365 วัน ศรีสะเกษ ขับขี่ปลอดภัย” 2. TEA Unit คุณภาพ (รพ.A S M1)100% 3. ผลักดัน สสอ./รพช./คปสอ. เป็นเลขาร่วมใน ศปถ.ทุกระดับ 4. สสส.ร่วมกัน ศปถ.จังหวัด บูรณาการการลดอุบัติเหตุทางถนน พื้นที่เสี่ยง 5 อ าเภอ เส้น 24 ได้แก่ อ าภอกันทรลักษ์ อ าเภอขุนหาญ อ าเภอเบญจลักษ์ อ าเภอขุขันธ์ และ อ าเภอไพรบึง 2. มาตรการบริหารจัดการข้อมูล 1. วิเคราะห์ Data 3 ฐาน ส่งเลขา ศปถ.จังหวัด 2. ขยาย IS online (รพ. ระดับ F) สมัครอบรมเพิ่ม 11 โรงพยาบาล 3. วิเคราะห์จุดเสี่ยงร่วมกับทีมภาคียุทธศาสตร์ 5 E เวที ศปถ.จังหวัด 3. มาตรการป้องกัน ขับเคลื่อนกลไก ศปถ.อปท.ทุกต าบล 2. พัฒนานโยบายและขับเคลื่อน คก.แก้ไขปัญหาการตายและบาดเจ็บในกลุ่มเด็ก และเยาวชนที่ใช้รถจักรยานยนต์3 อ าเภอ กันทรลักษ์ ขุนหาญ และโพธิ์ศรีสุวรรณ 3. สสส.ร่วมกับ ศปถ.จังหวัดภายใต้ 5E RTI เส้น 24
247 | P a g e ประเด็น ผลการด าเนินการ 4.มาตรการรักษาพยาบาล 1.จัดท าแผนการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉิน ในวันที่ 2- 4 พ.ย.64 ณ ส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเครือข่ายEMS เพื่อเพิ่ม ทักษะการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ (EMS Rally) ในวันที่ 18- 19 พ.ย.64 และพัฒนา ศักยภาพบุคลากรที่ปฏิบัติงานที่ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ ณ องค์การบริหารส่วน จังหวัดศรีสะเกษ 2. มีระบบการเรียกใช้บริการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านหมายเลข 1669 โดยตั้ง ศูนย์สั่งการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 3. อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน (Triage level 1) ภายใน 24 ชม. ใน รพ. A, S, M1 (ทั้งที่ ER และ Adrnit) น้อยกว่าร้อยละ 12 ผลการด าเนินงาน ร้อยละ 7.50 4.ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่เข้าถึงระบบบริการโดย EMS ไม่ต่ ากว่า ร้อยละ 26.5 ผลการ ด าเนินงาน ร้อยละ 33.48 4. ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ และแนวทางการแก้ไข การด าเนินงานที่ไม่ต่อเนื่องของ ศปถ.อ าเภอ ศปถ.อ าเภอยังไม่มีผู้รับผิดชอบงานโดยตรง เปลี่ยน ผู้รับผิดชอบบ่อยขาดความต่อเนื่องศปถ.ควรมีผู้รับผิดชอบโดยตรงเพื่อให้มีการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง 5. แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. ระดับจังหวัดและอ าเภอ ต้องประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาขับเคลื่อนการด าเนินการ แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่อง การตั้งด่านชุมชน และการแก้ไขจุดเสี่ยง ในระดับต าบลและหมู่บ้าน 2. ขับเคลื่อนโดยใช้ขบวนการ D-RTI ระบบสุขภาพอ าเภอ และ RTI Team โดยให้ระดับอ าเภอจัดท า ค าสั่งคณะท างานทั้งระดับอ าเภอ และให้ท้องถิ่นอ าเภอสั่งการให้ องค์การบริหารส่วนต าบล จัดท าค าสั่ง คณะกรรมการ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนและด าเนินกิจกรรมควบคู่กันไปทั้งระดับอ าเภอและต าบล/หมู่บ้าน 3. ระดับจังหวัดโดย ศปถ.จังหวัดก าหนดจัดการประชุมขับเคลื่อนงานอุบัติเหตุทางถนน โดยจัดประชุม ในระดับอ าเภอ เพื่อกระตุ้นให้ ศปถ.อ าเภอ มีการตื่นตัวและพร้อมขับเคลื่อนการท างาน โดยมี สสอ.และ รพ.เป็น เลขาคณะกรรมการในระดับอ าเภอ และคณะกรรมการ ศปถ.อ าเภอและภาคีเครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกอ าเภอ เข้าร่วมประชุมเพื่อเสนอปัญหาและให้ข้อเสนอแนะแก่ทีม ศปถ.จังหวัด 6. ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ นวัตกรรม/ตัวอย่างที่ดี 1. วาระจังหวัด“365 วัน ศรีสะเกษขับขี่ปลอดภัย” 2. ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมโดยการจัดตั้ง ศปถ.อปท.ทุกแห่ง
248 | P a g e 3. มีระบบ/กลไกขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง เครือข่ายเข้มแข็ง 4. มีการขับเคลื่อนจากหลายภาคส่วน ได้แก่ สสส. ศปถ.จังหวัด, ทีม 5 E, ศปถ.อ าเภอ, ศปถ.อปท. 5. ผลักดันเป็นอ าเภอต้นแบบ อ.กันทรลักษ์ อ.ขุขันธ์ อ.ขุนหาญ อ.ไพรบึง และ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ประเด็นงาน : ป้องกันและแก้ไขปัญหาการจมน้ า จังหวัดศรีสะเกษ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากข้อมูลกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี2555 – 2564 พบว่า คน ไทยจมน้ าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จ านวน 35,915 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 10 คน โดยระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 สิงหาคม 2565 พบว่าประชากรทุกกลุ่มอายุเสียชีวิตจากจมน้ า รวม 2,883 คน และ พบว่าระหว่างปี 2555–2564 มีเด็กจมน้ าเสียชีวิต รวม 7,374 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 2 คน คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 5.0–8.6 ต่อประชากรแสนคน จากข้อมูลข้างต้นพบว่า แม้แนวโน้มการจมน้ าของเด็กลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมาพบมากขึ้นในช่วง การแพร่ระบาดโควิด 19 (ปี 2564 และ 2565) ขณะที่กลุ่มอายุอื่นมีแนวโน้มคงที่มาตลอด แต่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงการ ระบาดของโควิด 19 เช่นเดียวกัน ซึ่งจากผลการวิเคราะห์อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเด็กอายุ ต่ ากว่า 15 ปี พบว่า เด็กอายุ แรกเกิด - 4 ปี และอายุ 5-9 ปี มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด คิดเป็น 7.3 ต่อประชากรแสนคน รองลงมา ได้แก่ กลุ่มอายุ 10 – 14 ปี มีอัตราการเสียชีวิต 4.7 ต่อประชากรแสนคน เขตสุขภาพที่ 10 มีอัตราเสียชีวิตจากการจมน้ าต่อประชากรแสนคน ปีงบประมาณ 2560 -2564 มีอัตรา ต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 9.0, 6.7, 6.1, 4.6, และ 8.0 ตามล าดับ โดยจ าแนกอัตราเสียชีวิตต่อแสนประชากร รายจังหวัดปี พ.ศ. 2564 สูงที่สุดคือ จังหวัดยโสธร 12.4 รองลงมาคือ มุกดาหาร 8.5, อุบลราชธานี 8.1, ศรีสะเกษ 7.1 และอ านาจเจริญ 5.0 ตามล าดับ การด าเนินงานป้องกันการจมน้ าตามแผนงานป้องกันการจมน้ าปี 2564 ซึ่งได้ก าหนดค่าเป้าหมายลดอัตรา การเสียชีวิตและการสร้างทีมผู้ก่อการดี(Merit Maker) โดยจังหวัดศรีสะเกษ มีเป้าหมายการลดโรคประจ าปี 2565 คืออัตราการเสียชีวิตการจมน้ าของเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี ไม่เกิน 3.1 ต่อประชากรเด็กแสนคน (เสียชีวิต ไม่เกิน 8 คน) และจังหวัดศรีสะเกษ จัดอยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงปานกลาง(พื้นที่สีเหลือง) มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ย 3 ปี (ปี พ.ศ. 2569-2563) 6.3 ต่อแสนประชากร มีเป้าหมายทีมผู้ก่อการดี ปี 2558-2565(ทีมเก่าและใหม่) จ านวน 103 ทีม ดังนั้นกิจกรมที่จะด าเนินการต้องเข้มข้น จริงจังและต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายคือลดอัตราการจมน้ าและเสียชีวิตใน กลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้นในปี 2564 คปสอ. จ านวน 22 แห่ง ในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จะต้องเข้ารับการประเมินเป็นผู้ก่อการดี(Merit Maker) ซึ่งมีเกณฑ์การประเมิน จ านวน 10 องค์ประกอบ ผู้ก่อการดี(Merit Maker) คือกลยุทธ์การด าเนินงานป้องกันการจมน้ าที่ครอบคลุมทั้งการจัดการปัจจัย เสี่ยงด้านตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อม เกิดจากการรวมตัวกันเป็นทีมขึ้นของเครือข่ายภาครัฐ(สาธารณสุข ท้องถิ่น
249 | P a g e การศึกษา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสังคมฯ ฯลฯ ) ภาคเอกชนจิตอาสา หรือประชาชนทั่วไป เพื่อร่วมกันด าเนินการป้องกันการจมน้ าใน 10 ในองค์ประกอบของผู้ก่อการดี(Merit Maker) แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ ระดับทอง ระดับเงิน และระดับทองแดง โดยระดับทองแดงด าเนินงาน 8 องค์ประกอบ ส่วนระดับทอง และระดับเงินจะต้องด าเนินงานทั้ง 10 องค์ประกอบและแบ่งการประเมินเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1. ระดับทองแดง ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล ต้องสมัครเป็นผู้ก่อการดีป้องกันเด็กจมน้ า ทุกแห่ง ซึ่งมีเกณฑ์การประเมิน 6 ข้อ ตามคู่มือการประเมิน ซึ่งในระดับทองแดงจังหวัดจะเป็นคนประเมิน ถ้าผ่านการ ประเมินตามเกณฑ์ จะได้รับใบเกียรติบัตร จากเขตสุขภาพ 2. ระดับเงิน คปสอ. ทั้ง 22 อ าเภอ ต้องท าประเมินผู้ก่อการดีระดับเงิน อย่างน้อย 8 ทีม และทีมประเมิน จากจังหวัดและเขต ต้องประเมินในขั้นต้น ถ้าผ่านการประเมินตามเกณฑ์ในระดับเขตจะได้รับโล่รางวัล จากเขต สุขภาพที่ 10 และเขตจะคัดเลือกทีมที่มีผลงานดีที่สุด จาก 5 จังหวัดในเขตสุขภาพ เพื่อส่งเข้าประกวดใน ระดับประเทศ 3. ระดับทอง คปสอ. ทั้ง 22 อ าเภอ ต้องท าประเมินผู้ก่อการดีระดับทอง อย่างน้อย 8 ทีม และทีม ประเมินจากจังหวัดและเขต ต้องประเมินในขั้นต้น ถ้าผ่านการประเมินตามเกณฑ์ในระดับเขตจะได้รับโล่รางวัล จากเขตสุขภาพที่ 10 และเขตจะคัดเลือกทีมที่มีผลงานดีที่สุด จาก 5 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 10 เพื่อส่งเข้า ประกวดในระดับประเทศ นโยบาย/การบริหารจัดการ 1. จัดท าแผนงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กจมน้ าจังหวัดศรีสะเกษโดยบูรณาการกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง 2. จัดท าค าสั่งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กจมน้ าจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ศรีสะเกษ เป็นประธานคณะกรรมการ 3. ระดับจังหวัด ได้วิเคราะห์และสรุปสถานการณ์เด็กจมน้ า น าเสนอในที่ประชุมผู้บริหารระดับจังหวัดที่ ศาลากลางจังหวัดและผู้บริหารจากส านักงานสาธารณสุขจังหวัด(คปสจ.) ทุกเดือน และระดับอ าเภอ น าเสนอ สถานการณ์เด็กจมน้ าในที่ประชุมผู้บริหารระดับอ าเภอและที่ประชุมก านัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกเดือน 4. ระดับจังหวัด/อ าเภอ วิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุจากการจมน้ าในเด็กอายุต่ ากว่า 15 ปี ย้อนหลัง 5 ปี และน าเสนอข้อมูลให้ผู้บริหารได้รับทราบในที่ประชุมผู้บริหารสาธารณสุขทุกเดือน 5. การแก้ไขแหล่งน้ าเสี่ยงในชุมชน รพท./รพช./สสอ./รพ.สต. ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการ ส ารวจและแก้ไขแหล่งน้ าเสี่ยง พร้อมทั้งหาอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่จ าเป็นไว้ที่ข้างขอบสระน้ า และมีป้ายประชาสัมพันธ์ ติดไว้เพื่อเตือนใจให้ผู้ปกครองเกิดความตระหนัก
250 | P a g e 6. จัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กจมน้ าในระดับอ าเภอ/จังหวัด ในวันที่20 พฤษภาคม 2565 ณ ห้องประชุมส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 7.ประเมินความก้าวหน้าในการด าเนินการของทีมผู้ก่อการดีในระดับอ าเภอ โดยส านักงานป้องกันควบคุม โรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ในเดือน สิงหาคม 2565 ตารางที่ 115 ตัวชี้วัด เป้าหมายงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการจมน้ า จังหวัดศรีสะเกษ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ตัวชี้วัด : อัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ า ในเด็กอายุต่ ากว่า 15 ปี ค่าเป้าหมาย : ไม่เกิน 3.1 ต่อแสนประชากร ( ไม่เกิน 8 ราย ) ตารางที่ 116 ผลการด าเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการจมน้ า จังหวัดศรีสะเกษ ล าดับ ตัวชี้วัด ข้อมูล ผลการด าเนินการ 1 ร้อยละ 50 ของพื้นที่เสี่ยง มีทีมผู้ก่อการดีทีมใหม่(Merit Maker) เป้าหมาย 11 ผลงาน 1 ร้อยละ 9.09 2 ทีมผู้ก่อการดี ทั้งทีมเก่าและทีมใหม่ (Merit Maker) เป้าหมาย 103 ผลงาน 168 ร้อยละ 100 3 ร้อยละ100ของการจมน้ าของเด็กอายุต่ ากว่า 15 ปีต้องมี การสอบสวนทุกราย( ทั้งเสียชีวิตและไม่เสียชีวิต ) เป้าหมาย 6 ผลงาน 6 ร้อยละ 100 4 อัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ าของเด็กอายุต่ ากว่า 15 ปี ไม่ เกิน 8 ราย เป้าหมาย 8 ผลงาน 6 ร้อยละ 75
251 | P a g e ตารางที่ 117 รายงานการตกน้ า จมน้ า ในกลุ่มอายุ 0 - 14 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ปี พ.ศ. 2565 ที่ เขต/อ าเภอ เหตุการณ์ (ครั้ง) เสียชีวิต (คน) บาดเจ็บ (คน) ไม่บาดเจ็บ (คน) 1 อ.กันทรลักษ์ 0 0 0 0 2 อ.กันทรารมย์ 0 0 0 0 3 อ.ขุขันธ์ 0 0 0 0 4 อ.ขุนหาญ 2 2 1 0 5 อ.น้ าเกลี้ยง 1 1 0 0 6 อ.บึงบูรพ์ 0 0 0 0 7 อ.ปรางค์กู่ 0 0 0 0 8 อ.พยุห์ 0 0 0 0 9 อ.ภูสิงห์ 0 0 0 0 10 อ.ยางชุมน้อย 0 0 0 0 11 อ.ราษีไศล 0 0 0 0 12 อ.วังหิน 0 0 0 0 13 อ.ศรีรัตนะ 1 1 0 0 14 อ.ศิลาลาด 0 0 0 0 15 อ.ห้วยทับทัน 0 0 0 0 16 อ.อุทุมพรพิสัย 0 0 0 0 17 อ.เบญจลักษ์ 0 0 0 0 18 อ.เมืองจันทร์ 0 0 0 0 19 อ.เมืองศรีสะเกษ 0 0 0 0 20 อ.โนนคูณ 2 2 0 2 21 อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ 0 0 0 0 22 อ.ไพรบึง 0 0 0 0 รวม 6 6 1 2
252 | P a g e ปัญหาอุปสรรค เนื่องจากภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกระบวนการในการปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง จึงท าให้ผลการด าเนินงานปี 2565 ในการสร้างทีมผู้ก่อการดีทีมใหม่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ก าหนด แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. นโยบายการขับเคลื่อนกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กจมน้ า ต้องด าเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง โดยอาศัยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภารรัฐ เอกชนและภาคประชาชน มาร่วมมือกัน ขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม 2.การป้องกันเด็กจมน้ า ต้องมีการด าเนินงานที่ต่อเนื่อง และต้องท าพร้อมกัน ทุกพื้นที่ ตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับอ าเภอ ระดับต าบลและระดับหมู่บ้าน จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ได้ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ : จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับรางวัลการประเมินรับรองทีมผู้ก่อการดี (Merit Maker) ป้องกันการจมน้ า ระดับประเทศ ประจ าปี 2565 ดังนี้ 1. ผู้ก่อการดี (Merit Maker) ป้องกันการจมน้ า ประเภทองค์กรสนับสนุนทีมผู้ก่อการดี (Merit Maker) ป้องกันการจมน้ า ระดับจังหวัดดีเด่น 2. ทีมผู้ก่อการดี (Merit Maker) ป้องกันการจมน้ า ระดับทองแดง อ าเภอขุนหาญ จ านวน 22 ทีม 0 1 1 2 2 3 อ.กันทรลักษ์ อ.กันทรารมย์ อ.ขุขันธ์ อ.ขุนหาญ อ.น้้าเกลี้ยง อ.บึงบูรพ์ อ.ปรางค์กู่ อ.พยุห์ อ.ภูสิงห์ อ.ยางชุมน้อย อ.ราษีไศล อ.วังหิน อ.ศรีรัตนะ อ.ศิลาลาด อ.ห้วยทับทัน อ.อุทุมพรพิสัย อ.เบญจลักษ์ อ.เมืองจันทร์ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.โนนคูณ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ อ.ไพรบึง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 แผนภูมิแสดงจ ำนวนกำรตกน ำ จมน ำ อำยุ ๐-๑๔ ปี จังหวัดศรีสะเกษ ปี ๒๕๖๕ เหตุการณ์ (ครั้ง) เสียชีวิต (คน) บาดเจ็บ (คน) ไม่บาดเจ็บ (คน) แผนภูมิแสดงจ านวนการตกน้ า จมน้ า อายุ 0-14 ปี จ.ศรีสะเกษ ปี 2565
253 | P a g e ประเด็นงาน : ร้อยละของผู้ป่วย Intermediate care * ได้รับการบริบาลฟื้นสภาพและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จังหวัดศรีสะเกษ มีการดูแลผู้ป่วยระยะกลางที่มีอาการทางคลินิกผ่านพ้นภาวะวิกฤติและมีอาการคงที่ แต่ ยังคงมีความผิดปกติของร่างกายบางส่วนอยู่และมีข้อจ ากัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจ าวัน จ าเป็นต้องได้รับ บริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์โดยทีมสหวิชาชีพ (multidisciplinary approach) อย่างต่อเนื่องจนครบ 6 เดือนตั้งแต่ในโรงพยาบาลจนถึงชุมชน เพื่อเพิ่มสมรรถนะร่างกาย จิตใจ ในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน และลด ความพิการหรือภาวะทุพพลภาพ รวมทั้งกลับสู่สังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีการให้บริการผู้ป่วยระยะกลางใน รพ.ทุกระดับ (A, S: เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย M, F: โรงพยาบาลลูกข่ายและให้บริการ intermediate bed/ward) โดยได้ก าหนดตัวชีวัดเพื่อพัฒนาระบบบริการฟื้นฟูสมรรถภาพและการดูแลต่อเนื่องในผู้ป่วย Stroke, traumatic brain injury และ spinal cord injury ไปจนครบระยะเวลา 6 เดือน เพิ่มคุณภาพชีวิต ป้องกันและลด ความพิการของผู้ป่วย เพิ่มทักษะในการดูแลตนเองของผู้ป่วยและญาติ พร้อมเชื่อมโยงแผนการดูแลต่อเนื่องสู่ที่ บ้านและชุมชน ลดความแออัด รพศ. รพท./เพิ่มอัตราครองเตียง รพช. และสร้างเครือข่ายบริการโดยทีมสหวิชาชีพ ตารางที่ 118 ตัวชี้วัด เป้าหมายร้อยละของผู้ป่วย Intermediate care ตัวชี้วัด เป้าหมาย ร้อยละของผู้ป่วย Intermediate care * ได้รับการบริบาล ฟื้นสภาพและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน ≥70 ผลการด าเนินงาน ตารางที่ 119 ผลการด าเนินงานร้อยละของผู้ป่วย Intermediate care * ได้รับการบริบาลฟื้นสภาพ และติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน (ไม่ต่ ากว่าร้อยละ 70) ที่ พื้นที่ ผลการด าเนินการ ปี 2565 ผู้ป่วย IMC จ าหน่าย เป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 1 รพ.ศรีสะเกษ 93 65 143.08 2 รพ.ยางชุมน้อย 17 12 141.67 3 รพ.กันทรารมย์ 47 33 142.42 4 รพ.กันทรลักษ์ 33 23 143.48 5 รพ.ขุขันธ์ 45 32 140.63 6 รพ.ไพรบึง 14 10 140.00 7 รพ.ปรางค์กู่ 24 17 141.18
254 | P a g e ที่ พื้นที่ ผลการด าเนินการ ปี 2565 ผู้ป่วย IMC จ าหน่าย เป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 8 รพ.ขุนหาญ 35 25 140.00 9 รพ.ราษีไศล 38 27 140.74 10 รพ.อุทุมพรพิสัย 42 29 144.83 11 รพ.บึงบูรพ์ 3 2 150.00 12 รพ.ห้วยทับทัน 13 9 144.44 13 รพ.โนนคูณ 11 8 137.50 14 รพ.ศรีรัตนะ 10 7 142.86 15 รพ.น้ าเกลี้ยง 7 5 140.00 16 รพ.วังหิน 6 4 150.00 17 รพ.ภูสิงห์ 22 15 146.67 18 รพ.เมืองจันทร์ 7 5 140.00 19 รพ.เบญจลักษ์ 11 8 137.50 20 รพ.พยุห์ 19 13 146.15 21 รพ.โพธิ์ศรีสุวรรณ 10 7 142.86 22 รพ.ศิลาลาด 8 6 133.33 รวม 515 362 142.27 จากตาราง หากนับเฉพาะผู้ป่วย IMC ที่มีการติดตามการรักษาครบ 6 เดือนแล้วทุกโรงพยาบาลมีการ ติดตามการรักษาผู้ป่วยครบร้อยละ 100 หรือในบางรายมี Barthel index = 20 ก่อนครบก าหนด 6 เดือน มาตรการในการด าเนินงาน 1) มีการเปิดให้บริการผู้ป่วยระยะกลางใน รพ.ทุกระดับ โดยมีการให้บริการ Intermediate ward ใน จังหวัดอย่างน้อยละ 2 แห่ง 2) ด าเนินการให้ผู้ป่วย Stroke, Traumatic Brain Injury และ Spinal Cord Injury ที่รอดชีวิตได้รับการ ประเมินและวางแผนการฟื้นฟูฯ ใน 6 เดือนแรกหรือจน Barthel index = 100 3) ด าเนินการให้ผู้ป่วย Stroke, Traumatic Brain Injury และ Spinal Cord Injury ที่รอดชีวิตและมี คะแนน Barthel index < 70 ได้รับบริการฟื้นฟูฯและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 100 4) มีการบันทึกข้อมูลใน 43 แฟ้ม และระบบ PRM Referral ให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน 5) บริหารจัดการ/พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง
255 | P a g e 6) นิเทศติดตามประเมินผล 7) สรุปด าเนินผลงาน ปัจจัยแห่งความส าเร็จ โรงพยาบาลทุกแห่งให้การดูแลผู้ป่วยระยะกลางที่มีอาการทางคลินิกผ่านพ้นภาวะวิกฤติและมีอาการคงที่ แต่ยังคงมีความผิดปกติของร่างกายบางส่วนอยู่และมีข้อจ ากัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจ าวัน จ าเป็นต้อง ได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์โดยทีมสหวิชาชีพ (multidisciplinary approach) อย่างต่อเนื่องจน ครบ 6 เดือนตั้งแต่ในโรงพยาบาลจนถึงชุมชน เพื่อเพิ่มสมรรถนะร่างกาย จิตใจ ในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน และลดความพิการหรือภาวะทุพพลภาพ รวมทั้งกลับสู่สังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ ปัญหาอุปสรรค 1) ประชากรบางส่วนมีการย้ายภูมิล าเนาท าให้การติดตามการรักษาล าบาก 2) มีหลายโปรแกรม การบันทึกข้อมูลมีความซ้ าซ้อน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1) ควรเน้นย้ าให้มีการบันทึกข้อมูลในระบบฐานข้อมูลการรักษาและการส่งต่อเคส IMC ในโปรแกรม PRM Referral เพื่อเป็นระบบฐานข้อมูลในการติดตามการรักษา 2) ควรมีการปรับปรุงโปรแกรมให้ครอบคลุมการใช้งาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถใช้โปรแกรมเชื่อม ข้อมูลกันได้ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ ผลการด าเนินงานร้อยละของผู้ป่วย Intermediate care * ได้รับการบริบาลฟื้นสภาพและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน คิดเป็นร้อยละ 142.27 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายถึงสองเท่า
ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อม และอาชีวอนามัย
256 | P a g e 3.4 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ประเด็นงาน : โรงพยาบาลที่พัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุขได้ก าหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีด้านสาธารณสุขตามนโยบายการปฏิรูป ประเทศไทยของรัฐบาลเพื่อรองรับกาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยที่ก าลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ พฤติกรรม สุขภาพประชาชนที่ท าให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้นโรคติดต่ออุบัติใหม่/อุบัติซ้ า การบาดเจ็บจากการจราจร การคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมโดยได้ก าหนดวิสัยทัศน์เป็นองค์กรหลักด้านสุขภาพที่รวมพลังสังคมเพื่อ ประชาชนสุขภาพดีมีเป้าหมายให้ประชาชนสุขภาพดีเจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน โดยพัฒนาความเป็น เลิศ 4 ด้าน ได้แก่ 1. การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (PP&P Excellence) 2. ระบบบริการ (Service Excellence) 3. การพัฒนาคน (People Excellence) 4. ระบบบริหารจัดการ (Governance Excellence) ภายใต้การด าเนินงานร่วมกันตามค่านิยมองค์กร MOPH : Mastery ความเป็นนายตนเอง Originality สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพ People centered approach ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง Humility อ่อนน้อมถ่อมตน น านโยบายไปสู่การปฏิบัติภายใต้ยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (PP&P Excellence) ได้ก าหนดให้มีการด าเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ GREEN & CLEAN Hospital โดยโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ส่งผล กระทบต่อชุมชน และยกระดับโรงพยาบาลไปสู่การเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชุมชน ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ให้ความส าคัญต่อการพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital เพื่อให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของประชาชน และเจ้าหน้าที่ โดยมีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (โรงพยาบาล ศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน) จ านวน 22 แห่ง เข้าร่วมโครงการฯ โรงพยาบาลที่พัฒนาอนามัย สิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital เป็น 4 ระดับ คือ ระดับพื้นฐาน ดี ดีมาก และ ดีมาก Plus ผลการด าเนินงาน ดังนี้ - ผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐานขึ้นไป 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 - ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100
257 | P a g e - ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 - ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก Plus 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ตารางที่ 120 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานโรงพยาบาลที่พัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1. ร้อยละของโรงพยาบาลที่พัฒนา อนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital ระดับ ดีมาก Plus 2. ร้อยละของโรงพยาบาลที่พัฒนา อนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ร้อยละ 60 ร้อยละ 98 ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก Plus จ านวน 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 คือ โรงพยาบาลขุนหาญ,อุทุมพรพิสัย, เมืองจันทร์, บึงบูรพ์, ห้วย ทับทัน, ขุขันธ์, กันทรารมย์, เบญจลักษ์, ราษีไศล, ปรางค์กู่, ศรีสะเกษ, โพธิ์ศรีสุวรรณ, ยางชุมน้อย, ศรีรัตนะ, ไพรบึง, โนนคูณ, กันทรลักษ์ วังหิน โพธิ์ศรีสุวรรณ ศิลาลาด น้ าเกลี้ยง และ พยุห์ ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก จ านวน 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 คือ โรงพยาบาลขุนหาญ,อุทุมพรพิสัย, เมืองจันทร์, บึงบูรพ์, ห้วยทับ ทัน, ขุขันธ์, กันทรารมย์, เบญจลักษ์, ราษีไศล, ปรางค์กู่, ศรีสะเกษ, โพธิ์ ศรีสุวรรณ, ยางชุมน้อย, ศรีรัตนะ, ไพรบึง, โนนคูณ, กันทรลักษ์, น้ า เกลี้ยง, พยุห์, ศิลาลาด, ภูสิงห์, วังหิน ผ่านเกณฑ์ระดับดีจ านวน 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 คือ โรงพยาบาลขุนหาญ,อุทุมพรพิสัย, เมืองจันทร์, บึงบูรพ์, ห้วย ทับทัน, ขุขันธ์, กันทรารมย์, เบญจลักษ์, ราษีไศล, ปรางค์กู่, ศรีสะเกษ, โพธิ์ศรีสุวรรณ, ยางชุมน้อย, ศรีรัตนะ, ไพรบึง, โนนคูณ, กันทรลักษ์, น้ าเกลี้ยง, พยุห์, ศิลาลาด, ภูสิงห์, วังหิน ผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐาน จ านวน 22 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 คือ โรงพยาบาลขุนหาญ,อุทุมพรพิสัย, เมืองจันทร์, บึงบูรพ์, ห้วย ทับทัน, ขุขันธ์, กันทรารมย์, เบญจลักษ์, ราษีไศล, ปรางค์กู่, ศรีสะเกษ, โพธิ์ศรีสุวรรณ, ยางชุมน้อย, ศรีรัตนะ, ไพรบึง, โนนคูณ, กันทรลักษ์, น้ าเกลี้ยง, พยุห์, ศิลาลาด, ภูสิงห์, วังหิน มาตรการในการด าเนินงาน 1. ชี้แจงเกณฑ์ G&C Hospital แก่โรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบ 2. ส่งเสริมโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อด าเนินการพัฒนาตามเกณฑ์ 3. ด าเนินการขับเคลื่อน เยี่ยมเสริมพลังและพัฒนาความรู้ให้แก่ โรงพยาบาลตามเกณฑ์ G&C Hospital 4. จัดทีมตรวจประเมินโรงพยาบาล G&C Hospital ซึ่งมีความเชี่ยวชาญครอบคลุมเกณฑ์
258 | P a g e 5. ด าเนินการตรวจประเมินโรงพยาบาลในพื้นที่ 100% 6. รายงานผลการด าเนินงานตามตัวชี้วัด - ผู้ตรวจราชการ - ศูนย์อนามัย ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผลการรับรองโรงพยาบาลที่พัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital เชื่อมโยงกับผลการประเมิน KPI Ranking ของหน่วยงาน ปัญหาอุปสรรค 1. การจ ากัดของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานสายวิชาชีพเฉพาะทางของแพทย์หรือพยาบาล หลักสูตรอาชีวอนา มัยและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้การด าเนินงานอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาลแต่ละแห่งแตกต่างกัน ออกไป ซึ่งมีผลกับการประเมินมาตรฐานการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมส าหรับโรงพยาบาล 2. ข้อจ ากัดด้านงบประมาณ การพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐาน GREEN & CLEAN Hospital ต้องใช้ งบประมาณในการด าเนินการก่อสร้างหรือปรับปรุงเพิ่มเติม โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีงบประมาณที่แตกต่างกัน ท า ให้เกิดข้อจ ากัดในการพัฒนา 3. การติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายนอก เช่น การเก็บขนและก าจัดมูลฝอยทั่วไป องค์กรปกครอง ครองส่วนท้องถิ่นบางแห่ง ไม่มีความพร้อมในการจัดการตามกฎหมาย ท าให้โรงพยาบาลต้องบริหารจัดการแก้ไข ปัญหาขยะทั่วไปเอง 4. สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้การด าเนินงานนโยบายโรงพยาบาลอาหาร ปลอดภัยร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ด าเนินการจัดตลาด Green Market ของโรงพยาบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่สามารถด าเนินการได้ในช่วงของการแพร่ระบาด แนวทางแก้ไข คือ ด าเนินการจัดตลาดออนไลน์ 5. การจัดการด้านพลังงาน ต้องอาศัยความตระหนักในการร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการ จึงจะท าให้ มาตรการนั้นเกิดผลยั่งยืน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ปีงบประมาณ 2566 พัฒนายกระดับมาตรฐาน GREEN & CLEAN Hospital Plus สู่ GREEN & CLEAN Hospital Challenge เพื่อมุ่งพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลให้เป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐาน และ นโยบายที่เกี่ยวข้องสู่ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน เพิ่มความครอบคลุมในการด าเนินการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเกิดการบูรณาการแนวทางการด าเนินงานกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย
259 | P a g e ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. จังหวัดศรีสะเกษ ผ่านการประเมินรับรอง ร้อยละของโรงพยาบาลที่พัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตาม เกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital ระดับ ดีมาก Plus จ านวน 22 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 100 สูงกว่าเป้าหมายของ กระทรวงสาธารณสุข (ผ่านเกณฑ์ระดับ ดีมาก Plus ร้อยละ 60) ซึ่งเขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี มีจังหวัด ที่ผ่านการรับรอง ระดับ ดีมาก Plus ร้อยละ 100 จ านวน 2 แห่ง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดยโสธร 2. จังหวัดศรีสะเกษ มีโรงพยาบาลน าร่องของเขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ที่ผ่านเกณฑ์การ ประเมินรับรอง GREEN & CLEAN Hospital Challenge ระดับท้าทาย (Challenge) ด้านการจัดบริการอาชีวอ นามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อม และเข้าร่วมการจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ โรงพยาบาลขุนหาญ 3. จังหวัดศรีสะเกษ มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลน าร่องของเขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินรับรอง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Sub-district Health Promoting Hospital ระดับ ดี ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้าน พรานเหนือ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ประเด็นงาน : จังหวัดมีการขับเคลื่อนการด าเนินงานอาหารปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กรมอนามัย ด าเนินงานโครงการพัฒนาและยกระดับระบบการจัดการสุขาภิบาลอาหารเพื่อรองรับการ ท่องเที่ยวไทย ปีงบประมาณ 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐาน ขับเคลื่อนการด าเนินงานด้านกฎหมาย พัฒนาระบบเฝ้าระวังของสถานประกอบกิจการด้านอาหาร ได้แก่ สถานที่จ าหน่ายอาหารและสะสมอาหาร ตลาด อาหารริมบาทวิถี ในพื้นที่ท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นต่อการให้บริการด้านอาหารแก่นักท่องเที่ยว ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการด าเนินงานด้านสุขาภิบาล อาหาร รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ให้ความส าคัญต่อการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบกิจการ ด้านอาหาร โดยอาศัยความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท่องถิ่น ผู้ประกอบการ ในการร่วมพัฒนา เพื่อให้สถานประกอบกิจการด้านอาหาร ได้แก่ สถานที่จ าหน่ายอาหารและสะสมอาหาร ตลาด อาหารริมบาทวิถี ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เป็นไปตามมาตรฐานและสะอาดปลอดภัยส าหรับผู้บริโภค โดยมีระดับการพัฒนาดังนี้ มาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) หมายถึง เกณฑ์มาตรฐานอาหารริมบาทวิถี ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคม และมิติด้านวัฒนธรรม โดยแบ่งการ รับรองเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับพื้นฐาน ระดับดี ระดับดีมาก ซึ่งต้องผ่านระดับพื้นฐานขึ้นไป
260 | P a g e มาตรฐานตลาดนัด น่าซื้อ (Temporary Market) หมายถึง เกณฑ์มาตรฐานตลาดนัด น่าซื้อ ประกอบด้วยเกณฑ์ 20 ข้อ ซึ่งครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ด้านความปลอดภัยของ อาหาร และด้านคุ้มครองผู้บริโภค โดยแบ่งการรับรองเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับพื้นฐาน ระดับดี ระดับดีมาก ซึ่ง ต้องผ่านระดับพื้นฐานขึ้นไป ร้านอาหาร หมายถึง สถานที่จ าหน่ายอาหาร ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และ กฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จ าหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 มาตรฐาน Clean Food Good Taste Plus หมายถึง เกณฑ์การรับรองมาตรฐานสถานที่จ าหน่ายอาหาร ระดับดีมาก ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร “สถานที่จ าหน่ายอาหาร” อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) ระดับพื้นฐาน จ านวน 5 หมวด และผ่านเกณฑ์การพัฒนาและยกระดับ มาตรฐานสถานที่จ าหน่ายอาหารในระดับก้าวหน้า จ านวน 9 ข้อ ตารางที่ 121 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานจังหวัดมีการขับเคลื่อนการด าเนินงานอาหารปลอดภัยที่มี ประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน จังหวัดมีการขับเคลื่อนการด าเนินงาน อาหารปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ 1 ตลาดนัด น่าซื้อ (Temporary Market) พื้นที่ขยาย 2 อาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) พื้นที่ขยาย 3 ร้านอาหาร (Clean Food Good Taste Plus) จังหวัดละ 5 แห่ง จังหวัดละ 1 แห่ง จังหวัดละ 5 แห่ง ตลาดนัด น่าซื้อ (Temporary Market) - ผ่านระดับพื้นฐาน 2 แห่ง 1. ตลาดกอนกูย อ.ปรางค์กู่ 2. ตลาดนัดต าบลละลม - ผ่านระดับดี 2 แห่ง 1. ตลาดโต้รุ่งศรีนครล าดวน 2. ตลาดยูเทิร์น - ผ่านระดับดีมาก 1 แห่ง 1. ตลาดโต้รุ่งอ าเภอขุขันธ์ อาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) - ผ่านระดับพื้นฐาน 1 แห่ง ได้แก่ ตลาดประชารัฐ ศาลหลักเมือง อ.กันทรลักษ์ ร้านอาหาร (Clean Food Good Taste Plus) - ผ่านการยกระดับ 10 ร้าน ได้แก่ 1.ร้านน้องแฝด อ.ไพรบึง 2. Nature อ.เบญจลักษ์ 3. กาแฟสยาม อ.ยางชุม น้อย 4.ครัวพิกุลแก้ว อ.กันทรลักษ์ 5.ร้านแสงถาวร อ.ขุ ขันธ์ 6. ครัวต้นข้าว อ.น้ าเกลี้ยง 7. ร้านเนื้อย่างเพชรล าภู อ.ศรีรัตนะ 8. ร้านบุมแจ๋วฮ้อน 9. ร้านป.ปัยฑรี ปลาจุ๋ม 10. ชาบูโซน อ าเภอขุนหาญ
261 | P a g e มาตรการในการด าเนินงาน 1. ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและภาคีเครือข่าย 2. พัฒนาศักยภาพ/เสริมสร้างความรู้ให้ผู้ประกอบการ/อปท.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3. พัฒนาและยกระดับพื้นที่เป้าหมายตามเกณฑ์มาตรฐานฯ 4. รณรงค์ ขับเคลื่อน และเยี่ยมเสริมพลังการด าเนินงาน 5. จัดทีมตรวจประเมิน อปท.,สสจ.,ศูนย์อนามัย 6. รายงานผลการด าเนินงานตามตัวชี้วัด - ผู้ตรวจราชการ - ศูนย์อนามัย ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. การประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ในการ ด าเนินงานร่วมกัน 2. ผลการรับรองสถานประกอบกิจการด้านอาหาร ได้แก่ สถานที่จ าหน่ายอาหารและสะสมอาหาร ตลาด อาหารริมบาทวิถี เชื่อมโยงกับผลการประเมิน KPI Ranking ของหน่วยงาน ปัญหาอุปสรรค 1. บริบทของการจัดตั้งตลาดนัดในจังหวัดศรีสะเกษ มีลักษณะเป็นตลาดนัดชุมชน ท าให้มีปัญหาในการ คัดเลือกและพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานและค่าเป้าหมายที่ก าหนด 2. เกณฑ์มาตรฐานบางข้อเป็นอุปสรรต่อการประเมินมาตรฐานในพื้นที่เป้าหมาย 3. เจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจในการพัฒนา การพัฒนาในบางเกณฑ์มาตรฐานต้องมี ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการอบรมหลัดสูตรผู้สัมผัสอาหารและผู้ประกอบกิจการ อปท.บางแห่งไม่สามารถจัดการอบรม ให้ครอบคลุมทุกสถานประกอบการได้เนื่องจากข้อจ ากัดด้านงบประมาณ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ปีงบประมาณ 2566 มุ่งเน้นการพัฒนายกระดับสถานประกอบกิจการด้านอาหาร ได้แก่ สถานที่จ าหน่าย อาหารและสะสมอาหาร ตลาด อาหารริมบาทวิถี เพื่อขยายพื้นที่ให้สถานประกอบการในจังหวัดศรีสะเกษ ผ่าน มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น เพิ่มความครอบคลุมในการด าเนินการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเกิดการบูรณาการ แนวทางการด าเนินงานกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย
262 | P a g e ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. จังหวัดศรีสะเกษ ผ่านการประเมินรับรอง ตลาดนัด น่าซื้อ (Temporary Market) ผ่านระดับดีมาก 1 แห่ง สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก าหนดให้ผ่านมาตรระดับพื้นฐานขึ้นไป 2. จังหวัดศรีสะเกษ ผ่านเกณฑ์การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสถานที่จ าหน่ายอาหารในระดับก้าวหน้า จ านวน 9 ข้อ จ านวน 10 แห่ง สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข โดยก าหนดให้ผ่านจ านวน 5 แห่ง ประเด็นงาน : กฎหมายสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกฎหมายหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อน งานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มีเจตนารมณ์ในการคุ้มครองสิทธิประชาชนให้สามารถอาศัยอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ เอื้อต่อการมีสุขภาพดี โดยอาศัยหลักในการกระจายอ านาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีเจ้าพนักงานท้องถิ่น เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และมีอ านาจในการติดตาม ก ากับ และควบคุมการประกอบกิจการ หรือการด าเนิน กิจกรรมใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน สาระส าคัญของพระราชบัญญัติฉบับ ดังกล่าว ได้แก่ การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การจัดการเหตุร าคาญ การควบคุมการเลี้ยงและปล่อยสัตว์ การประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การจัดตั้งตลาด การจัดตั้งสถานที่จ าหน่ายอาหารและสถานที่สะสม อาหาร และการจ าหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ ตารางที่ 122 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานกฎหมายสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน การจัดประชุมคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (คสจ.) 3 ครั้ง 2 ครั้ง มาตรการในการด าเนินงาน 1. คณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (คสจ.) มีการประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้ข้อเสนอแนะ วางแผนการด าเนินงานแก้ไขปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ครอบคลุมทุกเรื่อง ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 จ านวน 2 ครั้ง ในปีงบประมาณ 2565 2. มีการน ามติ ข้อเสนอแนะ ที่ประชุมคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (คสจ.) แจ้งให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อด าเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่อาจ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน 3. มีการออกบัตรประจ าตัว เจ้าพนักงานท้องถิ่น จ านวน 1 ราย
263 | P a g e 4. มีการออกบัตรประจ าตัว เจ้าพนักงานสาธารณสุขจ านวน 45 ราย ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ความร่วมมือของเครือข่าย คณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด 2. ความร่วมมือของเครือข่ายท างานระดับพื้นที่ ปัญหาอุปสรรค 1. ขาดงบประมาณด าเนินงาน 2. องค์ความรู้ด้านกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. การอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ เจ้าพนักงานท้องถิ่น 2. การอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ เจ้าพนักงานสาธารณสุข ผลงานที่โดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. การด าเนินการแก้ไขปัญหา เรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ จ านวน 7 เรื่อง แก้ไขปัญหาเสร็จเรียบร้อย จ านวน 7 เรื่อง ประเด็นงาน : การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation: EHA) สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation: EHA) เป็นกลไกและเครื่องกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบทั้งองค์กร ท าให้องค์กรเกิดการเรียนรู้ มีการประเมินและพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กรอบแนวคิดมาจากการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (Public Sector Management Quality Award : PMQA) ของส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เพื่อให้การ ด าเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีคุณภาพและยั่งยืน อันจะน าไปสู่การลดความเสี่ยง ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และสร้างหลักประกันให้แก่ประชาชนที่จะได้รับการคุ้มครองด้านการบริการอนามัย สิ่งแวดล้อมอย่างมีคุณภาพ เป็นการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้นตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่ ควบคุมดูแลเกี่ยวกับการอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อคุ้มครองประชาชนด้านสุขภาพ โดยครอบคลุมการด าเนินกิจการ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขของประชาชน ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน ตลอดจนกิจการขนาดเล็กและ ขนาดใหญ่
264 | P a g e ปัจจุบันการรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation: EHA) ประกอบด้วยประเด็นงานหลัก 9 ประเด็น(20 ประเด็นย่อย) ดังนี้ การจัดการ สุขาภิบาลอาหาร การจัดการคุณภาพน้ าบริโภค การจัดการสิ่งปฏิกูล การจัดการมูลฝอย การรองรับภาวะฉุกเฉิน และภัยพิบัติ การจัดการเหตุร าคาญ การจัดการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และการบังคับใช้กฎหมาย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารจัดบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมถึงการ อ านวยความเป็นธรรมในการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ เข้าถึงได้ให้กับประชาชน และส่งเสริมการเป็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคุณภาพด้านการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความพึงพอใจ ความ น่าเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งของประชาชน เงื่อนไขการรับรอง EHA การรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมแก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นที่มีการด าเนินงาน “ผ่าน” ครอบคลุม เงื่อนไข ดังนี้ เงื่อนไขที่ 1 การบริหารจัดการ การด าเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (องค์ประกอบที่ 1–5) ก าหนดค่าคะแนนรวมทุกองค์ประกอบ (คะแนนเฉลี่ยรวมทุกด้าน) “ผ่าน” ร้อยละ 60 ขึ้นไป โดยใช้ผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ-อปท.) (Local Performance Assessment: LPA) ตามผลการประเมินในปีก่อนหน้าเป็นหลัก เงื่อนไขที่ 2 การจัดการกระบวนการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ขอรับการรับรอง และผลลัพธ์การ ด าเนินงาน (องค์ประกอบที่ 6–7) ตามแบบประเมินมาตรฐานคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (EHA) “ผ่าน” เกณฑ์กระบวนการตามเงื่อนไขที่ก าหนดในคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ส าหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Standard Operating Procedure : SOP) และได้ผลลัพธ์การด าเนินงานตาม มาตรฐานกระบวนการที่ก าหนด ดังนี้ ตารางที่ 123 ผลลัพธ์การด าเนินงานตามมาตรฐานกระบวนการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ขอรับการรับรอง ล าดับ คะแนน LPA คะแนน EHA ผลการประเมิน 1 ร้อยละ 60-79 ต่ ากว่าร้อยละ 60 ไม่ผ่านเกณฑ์ 2 ร้อยละ 60-79 ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์พื้นฐาน 3 ร้อยละ 80 ขึ้นไป ร้อยละ 60-79 ผ่านเกณฑ์พื้นฐาน 4 ร้อยละ 80 ขึ้นไป ร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์เกียรติบัตร
265 | P a g e ตารางที่ 124 ตัวชี้วัด เป้าหมายการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation: EHA) ตัวชี้วัด เป้าหมาย 1. เทศบาลผ่านการประเมิน EHA 1001-9005 ในระดับพื้นฐานขึ้นไป ร้อยละ 70 ตารางที่ 125 ผลการด าเนินงานเทศบาลผ่านการประเมิน EHA 1001-9005 ในระดับพื้นฐานขึ้นไป เทศบาลผ่านการประเมิน EHA 1001-9005 ในระดับพื้นฐานขึ้นไป จ านวน 25 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.57 ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน รหัสรับรอง ผลประเมิน ปีที่รับรอง 1 เทศบาลต าบลสวนกล้วย กันทรลักษ์ EHA4003 พื้นฐาน 2563 2 เทศบาลต าบลหนองหญ้าลาด กันทรลักษ์ EHA4001 พื้นฐาน 2565 EHA7000 เกียรติบัตร 2565 EHA9003 เกียรติบัตร 2565 ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน รหัสรับรอง ผลประเมิน ปีที่รับรอง 3 เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ กันทรลักษ์ EHA4001 พื้นฐาน 2564 EHA4003 พื้นฐาน 2564 EHA9003 พื้นฐาน 2564 EHA6000 พื้นฐาน 2565 4 เทศบาลต าบลกันทรารมย์ กันทรารมย์ - - - 5 เทศบาลต าบลเมืองขุขันธ์ ขุขันธ์ EHA1003 ไม่ผ่าน 2565 EHA4001 พื้นฐาน 2565 6 เทศบาลต าบลศรีสะอาด ขุขันธ์ EHA5000 พื้นฐาน 2564 7 เทศบาลต าบลกระหวัน ขุนหาญ EHA2001 พื้นฐาน 2563 8 เทศบาลต าบลกันทรอม ขุนหาญ EHA9001 เกียรติบัตร 2565 EHA9002 เกียรติบัตร 2565 9 เทศบาลต าบลขุนหาญ ขุนหาญ EHA4003 เกียรติบัตร 2565 EHA6000 เกียรติบัตร 2565 10 เทศบาลต าบลโนนสูง ขุนหาญ EHA4003 ไม่รับประเมิน 2565