The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานประจำปี 2565

รายงานประจำปี 2565

Keywords: รายงานประจำปี 2565

266 | P a g e ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน รหัสรับรอง ผลประเมิน ปีที่รับรอง 11 เทศบาลต าบลโพธิ์กระสังข์ ขุนหาญ - - - 12 เทศบาลต าบลสิ ขุนหาญ EHA7000 ไม่ผ่าน 2565 13 เทศบาลต าบลบึงบูรพ์ บึงบูรพ์ EHA4002 ไม่ผ่าน 2565 14 เทศบาลต าบลปรางค์กู่ ปรางค์กู่ EHA4003 พื้นฐาน 2563 15 เทศบาลต าบลพยุห์ พยุห์ - - - 16 เทศบาลต าบลโดด โพธิ์ศรีสุวรรณ EHA4002 พื้นฐาน 2563 17 เทศบาลต าบลผือใหญ่ โพธิ์ศรีสุวรรณ EHA4003 พื้นฐาน 2564 EHA4001 พื้นฐาน 2565 18 เทศบาลต าบลไพรบึง ไพรบึง EHA2001 เกียรติบัตร 2565 EHA4003 ไม่ผ่าน 2565 19 เทศบาลต าบลส าโรงพลัน ไพรบึง EHA4001 พื้นฐาน 2565 EHA4003 ไม่ผ่าน 2565 EHA6000 ไม่ผ่าน 2565 20 เทศบาลต าบลเมืองจันทร์ เมืองจันทร์ EHA4003 เกียรติบัตร 2565 21 เทศบาลต าบลหนองใหญ่ เมืองจันทร์ - - - 22 เทศบาลต าบลน้ าค า เมืองศรีสะเกษ EHA4001 เกียรติบัตร 2564 EHA4002 ไม่รับประเมิน 2565 EHA5000 ไม่รับประเมิน 2565 23 เทศบาลเมืองศรีสะเกษ เมืองศรีสะเกษ EHA1001 พื้นฐาน 2565 EHA1002 เกียรติบัตร 2565 EHA6000 เกียรติบัตร 2565 EHA7000 เกียรติบัตร 2565 ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน รหัสรับรอง ผลประเมิน ปีที่รับรอง EHA9002 พื้นฐาน 2565 EHA9003 พื้นฐาน 2565 24 เทศบาลต าบลยางชุมน้อย ยางชุมน้อย - - -


267 | P a g e ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน รหัสรับรอง ผลประเมิน ปีที่รับรอง 25 เทศบาลต าบลบัวหุ่ง ราษีไศล EHA4003 พื้นฐาน 2563 26 เทศบาลต าบลเมืองคง ราษีไศล EHA1002 ไม่รับประเมิน 2565 EHA4001 ไม่รับประเมิน 2565 EHA9001 ไม่รับประเมิน 2565 27 เทศบาลต าบลส้มป่อย ราษีไศล EHA4001 ไม่รับประเมิน 2565 EHA5000 ไม่รับประเมิน 2565 28 เทศบาลต าบลบุสูง วังหิน EHA3002 เกียรติบัตร 2565 EHA4001 เกียรติบัตร 2565 29 เทศบาลต าบลวังหิน วังหิน EHA4001 พื้นฐาน 2564 EHA4003 พื้นฐาน 2564 EHA5000 พื้นฐาน 2564 30 เทศบาลต าบลศรีรัตนะ ศรีรัตนะ EHA3001 พื้นฐาน 2563 31 เทศบาลต าบลจานแสนไชย ห้วยทับทัน EHA2001 พื้นฐาน 2564 32 เทศบาลต าบลห้วยทับทัน ห้วยทับทัน EHA4003 พื้นฐาน 2564 33 เทศบาลต าบลก าแพง อุทุมพรพิสัย EHA4003 พื้นฐาน 2565 EHA9003 เกียรติบัตร 2565 34 เทศบาลต าบลอุทุมพรพิสัย อุทุมพรพิสัย EHA4001 พื้นฐาน 2565 35 เทศบาลต าบลโคกจาน อุทุมพรพิสัย EHA1002 ไม่รับประเมิน 2565 EHA4003 ไม่รับประเมิน 2565 36 เทศบาลต าบลแต้ อุทุมพรพิสัย EHA9001 พื้นฐาน 2563 EHA2001 ไม่ผ่าน 2565 37 เทศบาลต าบลสระก าแพงใหญ่ อุทุมพรพิสัย - - - มาตรการในการด าเนินงาน 1. ประสานผู้เกี่ยวข้อง ชี้แจงแผนการด าเนินงานและประเด็นงานการพัฒนาระบบบริการอนามัย สิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA) ดังนี้ 1.1 การจัดการสุขาภิบาลอาหาร 1.1.1 EHA : 1001 การจัดการสุขาภิบาลอาหารในสถานที่จ าหน่ายและสะสมอาหาร


268 | P a g e 1.1.2 EHA : 1002 การจัดการสุขาภิบาลอาหารในตลาด 1.1.3 EHA : 1003 การจัดการสุขาภิบาลอาหารในการจ าหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ 1.2 การจัดการคุณภาพน้ าบริโภค 1.2.1 EHA : 2001 การจัดการคุณภาพน้ าประปา (ผลิตโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 1.2.2 EHA : 2002 การจัดการคุณภาพน้ าประปา (ผลิตโดยหน่วยงานอื่น) 1.2.3 EHA : 2003 การจัดการคุณภาพตู้น้ าดื่มหยอดเหรียญ/น้ าดื่มบรรจุขวด 1.3 การจัดการสิ่งปฏิกูล 1.3.1 EHA : 3001 การจัดการส้วมสาธารณะ 1.3.2 EHA : 3002 การจัดการสิ่งปฏิกูล 1.4 การจัดการมูลฝอย (EHA 4001-4003) 1.4.1 EHA : 4001 การจัดการมูลฝอยทั่วไป 1.4.2 EHA : 4002 การจัดการมูลฝอยติดเชื้อ 1.4.3 EHA : 4003 การจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน 1.5 การรองรับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติ 1.5.1 EHA 5000 การรองรับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติ 1.6 การจัดการเหตุร าคาญ 1.6.1 EHA 6000 การจัดการเหตุร าคาญ 1.7 การจัดการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 1.7.1 EHA 7000 การจัดการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 1.8 การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ 1.8.1 EHA 8000 การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ 1.9 การบังคับใช้กฎหมาย 1.9.1 EHA : 9001 การออกข้อบัญญัติท้องถิ่น 1.9.2 EHA : 9002 การออกหนังสือรับรองการแจ้ง 1.9.3 EHA : 9003 การออกใบอนุญาต 1.9.4 EHA : 9004 การออกค าสั่งทางปกครอง 1.9.5 EHA : 9005 การเปรียบเทียบปรับและการด าเนินคดี


269 | P a g e 2. ประกาศรับสมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจรับการประเมิน ซึ่งสามารถสมัครผ่านช่องทางได้ ดังนี้ 2.1 ร ะ บ บ อ อ น ไ ล น์ ไ ด้ ที่ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ข อง ส า นั ก อ น า มั ย สิ่ง แ ว ด ล้ อ ม ก ร ม อ น า มั ย https://ehasmart.anamai.moph.go.th (ระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม : EHA Smart Web) 2.2 ระบบไปรษณีย์ ส่งได้ที่ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เลขที่ 485 หมู่ 6 ต าบลโพนข่า อ าเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 33000 และศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี เลขที่ 45 หมู่ 4 ต าบลธาตุ อ าเภอวารินช าราบ จังหวัดอุบลราชธานี 2.3 ระบบโทรศัพท์ หรือ App Line ของผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดและศูนย์อนามัย 3. คณะกรรมการประเมินรับรองผ่านช่องทางการประเมินตามระบบการสมัครขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (เลือกสุ่มลงพื้นที่) 4. คณะกรรมการประเมินรับรองแจ้งผลการประเมินและสรุปคะแนนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงนามรับทราบผลการประเมิน 5. ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษรวบรวมและส่งผลการประเมินให้ศูนย์อนามัย 6. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจัดท าใบประกาศมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการ ประเมิน EHA ในระดับเกียรติบัตร ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. มีช่องทางการสมัครและการประเมินที่หลากหลาย ได้แก่ ระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ของส านัก อนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย (ระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม : EHA Smart App) ระบบไปรษณีย์ ส่งได้ที่ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี และระบบโทรศัพท์ หรือ App Line ของผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดและศูนย์อนามัย 2. การประเมินรับรอง EHA องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้ผลการประเมินเชื่อมโยงกับคะแนน LPA ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ โดยตัวชี้วัดที่ 86 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการด าเนินงาน การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม EHA 1000-4000 และตัวชี้วัดที่ 87 องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมีการด าเนินงานการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม EHA 5000-9000 ซึ่งมีเกณฑ์การให้ คะแนน ดังนี้


270 | P a g e ตารางที่ 126 เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินรับรอง EHA องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน มีการด าเนินงานการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามมาตรฐาน (ระดับเกียรติบัตร) อย่างน้อย 1 ด้านขึ้นไป 5 คะแนน มีการด าเนินงานการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามมาตรฐาน (ระดับพื้นฐาน) อย่างน้อย 1 ด้านขึ้นไป 3 คะแนน มีการด าเนินงานการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม 1 คะแนน ไม่มีการด าเนินงานการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม 0 คะแนน 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการประเมินระดับเกียรติบัตรจะได้รับใบประกาศจากกรมอนามัย ปัญหาอุปสรรค 1. การประเมินรับรอง EHA ยังเป็นเพียงการสมัครใจเข้าร่วมประเมินรับรองจากองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น 2. คณะกรรมการประเมินรับรองและผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์การบริหารส่วนต าบลมี การเปลี่ยนแปลงโยกย้าย/ลาออก ท าให้การขับเคลื่อนการด าเนินงานในพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง 3. ช่วงเวลาการประเมินรับรอง EHA เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการประเมิน LPA ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารและส่งให้คณะกรรมการประเมินรับรองได้ ทันเวลาที่ก าหนด แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. จัดอบรมหลักสูตรผู้ให้ค าปรึกษา (Instructors) การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ครบคลุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัยของ ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอและโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อเป็นผู้ให้ค าปรึกษาด้านวิชาการ สนับสนุนการพัฒนา และ เป็นคณะกรรมการประเมินรับรองการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น 2. จัดอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (Practitioners) ให้ครบคลุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความรู้ และทักษะในการประเมินคุณภาพระบบบริการ อนามัยสิ่งแวดล้อม และ สามารถประเมินตนเองในด้านคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานใน เบื้องต้นได้


271 | P a g e 3. ปรับช่วงเวลาการประเมินรับรอง EHA ให้แล้วเสร็จก่อนการประเมิน LPA ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ซึ่งเป็นการลดความกังวลของเจ้าหน้าที่ และท าให้มีเวลาในการรวบรวมหลักฐานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้ง สามารถน าผลคะแนน EHA ที่ได้ไปใช้รวมกับคะแนน LPA ในปีที่ประเมินรับรองได้ทันเวลา ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. การประเมินมาตรฐาน EHA ของเทศบาล ปีงบประมาณ 2565 มีเทศบาลสมัครเข้ารับการประเมิน จ านวน 21 แห่ง ผ่านการประเมิน จ านวน 13 แห่ง สรุปผลการด าเนินงานการด าเนินงานสะสม (ปีงบประมาณ 2563-2565) มีเทศบาลผ่านการประเมิน EHA 1001-9005 ในระดับพื้นฐานขึ้นไป จ านวน 25 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.57 2. การประเมินมาตรฐาน EHA ขององค์การบริหารส่วนต าบล ปีงบประมาณ 2565 มีองค์การบริหารส่วน ต าบลสมัครเข้ารับการประเมิน จ านวน 15 แห่ง ผ่านการประเมิน จ านวน 10 แห่ง สรุปผลการด าเนินงานการ ด าเนินงานสะสม (ปีงบประมาณ 2563-2565) มีองค์การบริหารส่วนต าบลผ่านการประเมิน EHA 1001-9005 ใน ระดับพื้นฐานขึ้นไป จ านวน 16 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 8.94 ประเด็นงาน : องค์การบริหารส่วนต าบลมีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่ (GREEN and Healthy Communities) สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและ ต่อเนื่อง ปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพ และความเป็นอยู่ของประชาชน ปัจจุบันประเทศไทยก าลัง พัฒนาเติบโตด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีการขยายตัวของความเป็นเมือง โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มจ านวนมากขึ้น การ ก่อสร้างและการพัฒนาสาธารณูปโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อาทิ มลพิษ อากาศ การจัดการมูลฝอย น้ าเสีย สารเคมี โรคอุบัติใหม่ เป็นต้น และแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ของประเทศไทย วิถีการด าเนินชีวิตแบบสังคมเมือง น ามาซึ่งความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในอนาคตหลายประการ ประเทศไทยมีนโยบายเน้นหนักการดeเนินงานแบบบูรณาการ และเพิ่มประสิทธิภาพการด าเนินงานมุ่งเน้นการ พัฒนาสู่ความยั่งยืน มีนโยบายและแนวทางการด าเนินงานสานพลังประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากและประชารัฐในระดับพื้นที่ และมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนความเข้มแข็งของท้องถิ่นและชุมชน โดย ประชาชนมีความตระหนักรู้ มีส่วนร่วมและมีความสามารถจัดการปัญหา และพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนด้านต่าง ๆ ของตนเองได้ โดยการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมตามแนวทางประชารัฐ อันจะน าไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ และก าหนดวิธีการด าเนินงาน รวมถึงการ ประเมินความส าเร็จของหน่วยงานในพื้นที่เป็นหลัก มุ่งเน้นการพัฒนากลไกด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด


272 | P a g e โดยจังหวัดท าหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน หน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งระดับอ าเภอ ต าบล รวมถึงแกนน าชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน ประชาชน ในการจัดการปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ สร้างการมีส่วน ร่วม สนับสนุนให้ท้องถิ่นมีศักยภาพ พัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมคุณภาพ (EHA) จนถึงการส่งเสริมความ เข้มแข็งของชุมชน ให้ชุมชนร่วมคิด วิเคราะห์ ร่วมวางแผน ก าหนดมาตรการแก้ไขปัญหานั้น ๆ และร่วมลงมือ ด าเนินการ ท าให้ท้องถิ่นและชุมชนสามารถจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมของชุมชนให้เอื้อต่อสุขภาพดี และเกิดเป็น ท้องถิ่นและชุมชนน่าอยู่ Healthier Community ได้ กรมอนามัยก าหนดยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาพ โดย ปี 2563 มีแนวทางสนับสนุนให้เกิดองค์การบริหารส่วนต าบลมีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นและ ชุมชนน่าอยู่ มีเป้าหมาย ร้อยละ 5 ในปี 2563 ร้อยละ 15 และ 30 ในปี 2564-2565 ดังนั้นการด าเนินงานโครงการ “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” โดยมุ่งเป้าหมายการพัฒนา องค์การบริหารส่วนต าบล ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนและมีบทบาทส าคัญในการพัฒนา งานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการพัฒนารูปแบบและกลไกการด าเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมระหว่าง ท้องถิ่นและชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยมีแนวทางปฏิบัติสนับสนุนการด าเนินงานที่สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการ สาธารณสุข เพื่อส่งเสริมให้องค์การบริหารส่วนต าบลและภาคีเครือข่ายเข้มแข็ง ชุมชนมีศักยภาพในการจัดการ อนามัยสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างขีดความสามารถของแกนน าชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน ร่วมกันใน การจัดการปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเฝ้าระวัง และติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจจะเกิด ขึ้นกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ตารางที่ 127 ตัวชี้วัด เป้าหมายงานองค์การบริหารส่วนต าบลมีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่น ชุมชนน่าอยู่ (GREEN and Healthy Communities) ตัวชี้วัด เป้าหมาย 1. องค์การบริหารส่วนต าบลมีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่ ร้อยละ 15 ตารางที่ 128 ผลการด าเนินงานองค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่ องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่ ปีงบประมาณ 2563-2565 มีองค์การบริหารส่วนต าบลผ่านการประเมินในระดับน่าอยู่ขึ้นไป จ านวน 30 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 16.76 ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน ระดับ ผลประเมิน ปีที่รับรอง 1 องค์การบริหารส่วนต าบลหนองกุง โนนคูณ น่าอยู่ ผ่าน 2564 2 องค์การบริหารส่วนต าบลห้วยเหนือ ขุขันธ์ น่าอยู่ ผ่าน 2564 3 องค์การบริหารส่วนต าบลส าโรงตาเจ็น ขุขันธ์ น่าอยู่ ผ่าน 2564


273 | P a g e ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน ระดับ ผลประเมิน ปีที่รับรอง 4 องค์การบริหารส่วนต าบลธาตุ วังหิน น่าอยู่ ผ่าน 2564 5 องค์การบริหารส่วนต าบลเสียว เบญจลักษ์ น่าอยู่ ผ่าน 2564 6 องค์การบริหารส่วนต าบลดูน กันทรารมย์ น่าอยู่ ผ่าน 2564 7 องค์การบริหารส่วนต าบลโนนค้อ โนนคูณ น่าอยู่ ผ่าน 2564 8 องค์การบริหารส่วนต าบลเมืองแคน ราศีไศล น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 9 องค์การบริหารส่วนต าบลตาโกน เมืองจันทร์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 10 องค์การบริหารส่วนต าบลโพธิ์ โนนคูณ น่าอยู่ ผ่าน 2564 11 องค์การบริหารส่วนต าบลซ า เมืองศรีสะเกษ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 12 องค์การบริหารส่วนต าบลคูซอด เมืองศรีสะเกษ น่าอยู่ ผ่าน 2564 13 องค์การบริหารส่วนต าบลเมืองคง ราษีไศล น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 14 องค์การบริหารส่วนต าบลทาม กันทรารมย์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 15 องค์การบริหารส่วนต าบลกู่ ปรางค์กู่ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 16 องค์การบริหารส่วนต าบลโคกตาล ภูสิงห์ น่าอยู่ ผ่าน 2564 17 องค์การบริหารส่วนต าบลขะยูง อุทุมพรพิสัย น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 18 องค์การบริหารส่วนต าบลเมืองน้อย กันทรารมย์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2564 19 องค์การบริหารส่วนต าบลกุง ศิลาลาด น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 20 องค์การบริหารส่วนต าบลรังแร้ง อุทุมพรพิสัย น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 21 องค์การบริหารส่วนต าบลหนองไฮ อุทุมพรพิสัย น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 22 องค์การบริหารส่วนต าบลหนองห้าง อุทุมพรพิสัย น่าอยู่ ไม่ผ่าน 2565 23 องค์การบริหารส่วนต าบลไพรพัฒนา ภูสิงห์ น่าอยู่ ไม่ผ่าน 2565 24 องค์การบริหารส่วนต าบลโพธิ์ศรี ปรางค์กู่ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 25 องค์การบริหารส่วนต าบลโพธิ์ เมืองศรีสะเกษ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 26 องค์การบริหารส่วนต าบลตะเคียน ขุขันธ์ น่าอยู่ ผ่าน 2565 27 องค์การบริหารส่วนต าบลหมากเขียบ เมืองศรีสะเกษ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 28 องค์การบริหารส่วนต าบลหนองไผ่ เมืองศรีสะเกษ น่าอยู่ ผ่าน 2565 29 องค์การบริหารส่วนต าบลกฤษณา ขุขันธ์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 30 องค์การบริหารส่วนต าบลจะกง ขุขันธ์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565


274 | P a g e ล าดับ ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ าเภอ การด าเนินงาน ระดับ ผลประเมิน ปีที่รับรอง 31 องค์การบริหารส่วนต าบลบก โนนคูณ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 32 องค์การบริหารส่วนต าบลจาน กันทรารมย์ น่าอยู่ยั่งยืน ผ่าน 2565 มาตรการในการด าเนินงาน 1. ประสานผู้เกี่ยวข้อง ชี้แจงแผนการด าเนินงานและประเด็นการด าเนินงานโครงการ “องค์การบริหาร ส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” ดังนี้ 1.1 องค์ประกอบที่ 1 การประเมินความพร้อม องค์การบริหารส่วนต าบลมีการวิเคราะห์และประเมิน ความพร้อมของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มีการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการด าเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและกฎหมายว่าด้วยการ สาธารณสุข และหน่วยงานมีข้อมูลสถานการณ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มีการประเมินสถานการณ์ปัญหาการจัดการ ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และสามารถวิเคราะห์ประเด็นปัญหาหรือโอกาสในการพัฒนาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม 1.2 องค์ประกอบที่ 2 การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนต าบลมีการออกข้อบัญญัติ ท้องถิ่นตามตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือมีการก าหนดนโยบาย แนวทางการปฏิบัติ หรือมีการด าเนินงานตามมาตรฐานคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA) ผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐานขึ้นไป 1.3 องค์ประกอบที่ 3 การเสริมสร้างภาคีเครือข่าย องค์การบริหารส่วนต าบล ส่งเสริมให้เกิดความ ร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการ ด าเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ และสื่อสารสาธารณะ โดยมีแนวทางการเสริมสร้างภาคี เครือข่าย 1.4 องค์ประกอบที่ 4 ผลลัพธ์การด าเนินงาน มีผลการด าเนินงานที่ช่วยส่งเสริมและป้องกันการเกิดโรค อันเนื่องมาจากการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือการจัดการสุขลักษณะสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน ที่ไม่เหมาะสม เช่น ที่พักอาศัย สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศาสนสถาน สถานบริการสาธารณะ อันส่งผลให้เกิดโรค อาทิ หนอนพยาธิ ไข้เลือดออก โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ หรือโรคอุบัติใหม่ เป็นต้น หรือ สามารถลดเรื่องร้องเรียน เหตุร าคาญในสถานประกอบการหรือชุมชน และส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เข้าใจใน การปฏิบัติตามกฎหมาย และมีส่วนร่วมในการด าเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่นชุมชน 2. ประกาศรับสมัครองค์การบริหารส่วนต าบลที่สนใจรับการประเมิน ซึ่งสามารถสมัครผ่านช่องทางได้ ดังนี้


275 | P a g e 2.1 ร ะ บ บ อ อ น ไ ล น์ ไ ด้ ที่ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ข อง ส า นั ก อ น า มั ย สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ก ร ม อ น า มั ย https://envold.anamai.moph.go.th/main.php?filename=HCC โครงการ “องค์การบริหารส่วนต าบล จัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” : CREEN and Healthy Communities) 2.2 ระบบไปรษณีย์ ส่งได้ที่ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เลขที่ 485 หมู่ 6 ต าบลโพนข่า อ าเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 33000 และศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี เลขที่ 45 หมู่ 4 ต าบลธาตุ อ าเภอวารินช าราบ จังหวัดอุบลราชธานี 2.3 ระบบโทรศัพท์ หรือ App Line ของผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดและศูนย์อนามัย 3. คณะกรรมการประเมินรับรองผ่านช่องทางการประเมินตามระบบการสมัครขององค์การบริหารส่วน ต าบล (เลือกสุ่มลงพื้นที่) 4. คณะกรรมการประเมินรับรองแจ้งผลการประเมินและสรุปคะแนนให้องค์การบริหารส่วนต าบลทราบ เพื่อให้องค์การบริหารส่วนต าบลลงนามรับทราบผลการประเมิน 5. ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษรวบรวมและส่งผลการประเมินให้ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี 6. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจัดท าใบประกาศมอบให้องค์การบริหารส่วนต าบลที่ผ่านการประเมิน “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” ในระดับน่าอยู่และน่าอยู่ยั่งยืน ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. มีการเพิ่มช่องทางการสมัครและการประเมินที่หลากหลาย ได้แก่ ระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ของส านัก อนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย (โครงการ “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชน น่าอยู่” : CREEN and Healthy Communities) ระบบไปรษณีย์ส่งได้ที่ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี และระบบโทรศัพท์ หรือ App Line ของผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดและ ศูนย์อนามัย 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการประเมินทุกระดับ (น่าอยู่และน่าอยู่ยั่งยืน) จะได้รับใบประกาศ จากกรมอนามัย ปัญหาอุปสรรค 1. การประเมินรับรอง “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” ยัง เป็นเพียงการสมัครใจเข้าร่วมประเมินรับรองจากองค์การบริหารส่วนต าบล 2. คณะกรรมการประเมินรับรองและผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์การบริหารส่วนต าบลมี การเปลี่ยนแปลงโยกย้าย/ลาออก ท าให้การขับเคลื่อนการด าเนินงานในพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง


276 | P a g e 3. ช่วงเวลาการประเมินรับรอง “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชน น่าอยู่” เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการประเมิน LPA ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ งานไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารและส่งให้คณะกรรมการประเมินรับรองได้ทันเวลาที่ก าหนด 4. หลายกระทรวงมีการก าหนดการประเมินมาตรฐานการด าเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ท าให้เกิดความซ้ าซ้อนและส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความสับสน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. จัดอบรมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัยของส านักงานสาธารณสุข อ าเภอและโรงพยาบาล เพื่อเป็นผู้ให้ค าปรึกษาด้านวิชาการ สนับสนุนการพัฒนา และเป็นคณะกรรมการประเมิน รับรอง“องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” 2. จัดอบรมให้ความรู้แนวทางการด าเนินงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานขององค์การบริหารส่วนต าบล เพื่อให้ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนต าบลมีความรู้ และทักษะการพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นและชุมชนน่าอยู่ อย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ 3. ปรับช่วงเวลาการประเมินรับรอง “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่น ชุมชนน่าอยู่” ให้แล้วเสร็จก่อนการประเมิน LPA ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการลดความกังวลของ เจ้าหน้าที่ 4. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ควรมีการปรับลดการประเมิน โดยคัดเลือกเฉพาะการประเมินที่ สอดคล้องกับภารกิจหลักของกระทรวง ซึ่งจะเป็นการลดความซ้ าซ้อนกับการประเมินของหน่วยงานอื่น เพื่อให้ เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. การด าเนินงาน “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” ปีงบประมาณ 2563-2564 มีองค์การบริหารส่วนต าบลผ่านการประเมินในระดับน่าอยู่ขึ้นไป จ านวน 18 แห่ง 2. การด าเนินงาน “องค์การบริหารส่วนต าบลจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่” ปีงบประมาณ 2565 มีองค์การบริหารส่วนต าบลผ่านการประเมินในระดับน่าอยู่ขึ้นไป จ านวน 12 แห่ง สรุปผลการ ด าเนินงานสะสม (ปีงบประมาณ 2563-2565) มีองค์การบริหารส่วนต าบลผ่านการประเมินในระดับน่าอยู่ขึ้นไป จ านวน 30 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 16.76


277 | P a g e ตารางที่ 129 แนวทางการตรวจราชการเขตสุขภาพที่10 ประจ าปีงบประมาณ 2565 เรื่อง ที่เป็นปัญหา ส าคัญในพื้นที่ (Area based) ประเด็น : การจัดการสิ่งปฏิกูลให้ถูกหลักสุขาภิบาล เป้าหมาย มาตรการด าเนินงาน ในพื้นที่ แนวทางการตรวจ ติดตาม ผลลัพธ์ที่ต้องการ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมีระบบ บ าบัดสิ่งปฏิกูลอย่าง น้อย อ าเภอละ 1 แห่ง 1.มีการวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์การจัดการสิ่งปฏิกูล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน พื้นที่ 2.มีการส ารวจสถานการณ์ความ พร้อมในการก่อสร้างระบบบ าบัด สิ่งปฏิกูลของ อปท.ในพื้นที่ 3.มีการสร้างความร่วมมือภาคี เครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการ ด าเนินงานในพื้นที่ 4.มีการด าเนินงานผ่านกลไก คณะกรรมการระดับต่างๆ เช่น คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดับอ าเภอ(พชอ) คณะกรรมการ สาธารณสุขจังหวัด(คสจ) คณะกรรมการปฏิกูลและมูลฝอย จังหวัด เป็นต้น 5.มีการสนับสนุนความรู้และ/หรือ แนวทางการด าเนินงานการจัดการ สิ่งปฏิกูลให้ถูกหลักสุขาภิบาล 6.มีการพัฒนาศักยภาพองค์ ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีระบบ บ าบัดสิ่งปฏิกูลในการน า กระบวนการพัฒนาคุณภาพบริการ ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (EHA) มา ใช้ในการจัดการสิ่งปฏิกูล 1.ข้อมูล สถานการณ์การ จัดการสิ่งปฏิกูลขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในและ สถานการณ์ความพร้อมใน การก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่ง ปฏิกูลของ อปท.ในพื้นที่ 2.รูปแบบการขับเคลื่อนงาน เพื่อให้มีระบบบ าบัดสิ่ง ปฏิกูลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 3.การสนับสนุนความรู้และ/ หรือแนวทางการด าเนินงาน การจัดการสิ่งปฏิกูลให้ถูก หลักสุขาภิบาลให้กับ ผู้รับผิดชอบงานด้านอนามัย สิ่งแวดล้อมของหน่วยงาน สาธารณสุขและผู้บริหาร/ ผู้ปฏิบัติงานขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น 4.อปท.ที่มีระบบบ าบัด สิ่งปฏิกูลมีการประเมินการ พัฒนาคุณภาพบริการด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม ประเด็น การ จัดการสิ่งปฏิกูล(EHA 3002) 1.องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น มี ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูลอย่างน้อย อ าเภอละ 1 แห่ง 2.อปท.ที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล (ก่อนปี 2565) ผ่านการประเมิน การพัฒนาคุณภาพบริการด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม ประเด็นการ จัดการสิ่งปฏิกูล(EHA 3002) ระดับพื้นฐานขึ้นไป 3.มีอปท.ต้นแบบการด าเนินงาน การจัดการ สิ่งปฏิกูล อย่าง น้อยจังหวัดละ 1 แห่ง


278 | P a g e ตารางที่ 130 Small Success การจัดการสิ่งปฏิกูลให้ถูกหลักสุขาภิบาล 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน 1.อ าเภอที่ยังไม่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล 1.มีเป้าหมาย อปท.ที่จะด าเนินการ ก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล อย่าง น้อยอ าเภอละ 1 แห่ง 2.มีสถานการณ์การจัดการสิ่งปฏิกูล ในพื้นที่ เช่น - ข้อบัญญัติท้องถิ่น - รูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูลใน พื้นที่ - จ านวนระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล - จ านวนผู้ประกอบการสูบสิ่ง ปฏิกูล - ข้อมูลพื้นที่เสี่ยง OVCCA เป็น ต้น 1.มีการติดตาม ความก้าวหน้า อปท. เป้าหมายในการก่อสร้าง ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ใน ประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อบัญญัติท้องถิ่น งบประมาณ สถานที่ ก่อสร้าง แบบแปลน ระยะเวลาในการ ด าเนินงาน เป็นต้น 2.มีการรายงาน ความก้าวหน้าการ ด าเนินงานผ่านกลไก คณะกรรมการระดับต่างๆ เช่น คณะกรรมการพัฒนา คุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ (พชอ) คณะกรรมการ สาธารณสุขจังหวัด(คสจ) คณะกรรมการปฏิกูลและ มูลฝอยจังหวัด เป็นต้น 1.อปท.เป้าหมาย มี ความก้าวหน้าในการ ก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่ง ปฏิกูล เช่น - มีการน าประเด็นการ ก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่ง ปฏิกูลเข้าพิจารณาใน สภาท้องถิ่น - มีการประชาคม ชุมชน - มีการศึกษาดูงาน พื้นที่ต้นแบบ เป็นต้น - ร้อยละ 100 ของอ าเภอที่ยัง ไม่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล มี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ มีการบรรจุแผนก่อสร้างระบบ บ าบัดสิ่งปฏิกูลอย่างน้อย 1 แห่ง/อ าเภอ หรือมีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล อย่าง น้อย 1 แห่ง/อ าเภอ 2.อ าเภอที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล 1.มีข้อมูลสถานการณ์การใช้งาน ระบบบ าบัด สิ่งปฏิกูลในแต่ละ อปท. 1.ร้อยละ 100 ของ อปท.ที่ มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ได้รับการพัฒนาศักยภาพ เพื่อด าเนินงานพัฒนา คุณภาพระบบบริการ อนามัยสิ่งแวดล้อม ประเด็นการจัดการสิ่ง ปฏิกูล(EHA 3002) 1.ร้อยละ 100 อปท.ที่ มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล (ก่อนปี 2565) ผ่าน การประเมินการพัฒนา คุณภาพบริการด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม ประเด็นการจัดการสิ่ง 1.มีต้นแบบการด าเนินงาน อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง


279 | P a g e 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน 2.ร้อยละ 100 ของ อปท.ที่ มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล สมัครเข้ารับการประเมิน ตามมาตรฐาน (EHA 3002) ปฏิกูล(EHA 3002) ระดับพื้นฐานขึ้นไป อปท.ต้นแบบการจัดการสิ่งปฏิกูล หมายถึง อปท.ที่มีการด าเนินงานการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างต่อเนื่อง และเป็น แหล่งศึกษาดูงานของ อปท.หรือภาคีเครือข่ายอื่นๆได้ ประเด็นงาน : จังหวัดมีการขับเคลื่อนวาระคนศรีสะเกษสุขภาพดี ประเด็นที่ 7 : โครงการก าจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี หัวข้อ : การจัดการระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ตัวชี้วัด : อปท.มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูลอย่างน้อย อ าเภอละ 1 แห่ง ตารางที่ 131 Small Success โครงการก าจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน -มีเป้าหมาย อปท.ที่จะ ด าเนินการก่อสร้างระบบ บ าบัดสิ่งปกิกูลอย่างน้อย อ าเภอละ 1 แห่ง -มีสถานการณ์การจัดการ สิ่งปฏิกูลในพื้นที่ -มีการติดตามความก้าวหน้า อปท.เป้าหมาย ในการก่อสร้าง ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล -มีการายงานความก้าวหน้า ผ่านกลไกคณะกรรมการต่างๆ เช่น คปสจ. , พชอ. -มีระบบบ าบัดที่มีการก่อสร้าง แล้วเสร็จ -ร้อยละ 100 ของ อปท.ที่มี ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ผ่านการ ประเมินพัฒนาคุณภาพบริการ ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ประเด็นการจัดการสิ่งปฏิกูล (EHA 3002) ระดับพื้นฐานขึ้นไป -ร้อยละ 100 ของอ าเภอที่ ยังไม่มีระบบบ าบัดสิ่ง ปฏิกูล มีองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ที่มีการบรรจุ แผนก่อสร้างระบบบ าบัด สิ่งปฏิกูลอย่างน้อยอ าเภอ ละ 1 แห่ง -มีต้นแบบการด าเนินงาน 1 แห่ง 1. สถานการณ์การออกข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.1 จ านวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒๑๖ แห่ง - เทศบาล. 37 แห่ง - อบต. 179 แห่ง 1.2 จ านวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูล หรือการ จัดการ สิ่งปฏิกูลและมูลฝอย - เทศบาล. 37 แห่ง ร้อยละ 100


280 | P a g e - อบต. 179 .แห่ง ร้อยละ. 100 2.สถานการณ์ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล 2.1 จ านวนระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ๑๖ แห่ง 2.2 จ านวนอ าเภอที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ๑๕ อ าเภอ ประกอบด้วย ตารางที่ 132 จ านวนอ าเภอที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล อ าเภอ จ านวนระบบ (แห่ง) อปท.เจ้าของระบบ 1. วังหิน 1 เทศบาลต าบลบุสูง 2. ขุขันธ์ 1 เทศบาลต าบลเมืองขุขันธ์ 3. ศรีรัตนะ 1 เทศบาลต าบลศรีรัตนะ 4. เบญจลักษ์ 1 อบต.เสียว 5. ปรางค์กู่ 1 เทศบาลต าบลปรางค์กู่ 6. อุทุมพรพิสัย 1 เอกชน(รถดูดส้วม) ต.รังแร้ง 7. น้ าเกลี้ยง 1 อบต.คูบ 8. เมืองศรีสะเกษ 1 เทศบาลต าบลน้ าค า และ อบต.ซ า 9. โนนคูณ 1 อบต.โพธิ์ 10. ขุนหาญ 1 เทศบาลต าบลพธิ์กระสังข์ 11. พยุห์ 1 เทศบาลต าบลพยุห์ 12. กันทรลักษ์ 1 อบต.กระแชง 13. ศิลาลาด 1 อบต.กุง 14. ราษีไศล 1 เทศบาลต าบลบัวหุ่ง 15. ไพรบึง 1 เทศบาลต าบลไพรบึง 2.3 จ านวนอ าเภอที่มีแผนก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล 22 อ าเภอ ประกอบด้วย ตารางที่ 133 จ านวนอ าเภอที่มีแผนก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล อ าเภอ อปท.ที่จะก่อสร้างระบบ หมายเหตุ เมืองศรีสะเกษ - พยุห์ องค์การบริหารส่วนต าบลพยุห์ องค์การบริหารส่วนต าบลพรหมสวัสดิ์ องค์การบริหารส่วนต าบลต าแย องค์การบริหารส่วนต าบลโนนเพ็ก องค์การบริหารส่วนต าบลหนองค้า จัดหาสถานที่ก่อสร้าง จัดหาสถานที่ก่อสร้าง จัดหาสถานที่ก่อสร้าง สภาอนุมัติใช้งบประมาณ สภาอนุมัติใช้งบประมาณ


281 | P a g e อ าเภอ อปท.ที่จะก่อสร้างระบบ หมายเหตุ วังหิน เทศบาลต าบลวังหิน องค์การบริหารส่วนต าบลดวนใหญ่ องค์การบริหารส่วนต าบลบ่อแก้ว องค์การบริหารส่วนต าบลทุ่งสว่าง องค์การบริหารส่วนต าบลธาตุ องค์การบริหารส่วนต าบลโพนยาง องค์การบริหารส่วนต าบลศรีส าราญ จัดท าแผน ผ่านประชาคม ขออนุญาตใช้พื้นที่ ผ่านประชาคม ขออนุญาตใช้พื้นที่ จัดท าแผน จัดท าแผน จัดท าแผน จัดท าแผน กันทรารมย์ องค์การบริหารส่วนต าบลเมืองน้อย องค์การบริหารส่วนต าบลโนนสัง ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง ๒๕๖๔ ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง ๒๕๖๕ น้ าเกลี้ยง - โนนคูณ องค์การบริหารส่วนต าบลหนองกุง กันทรลักษ์ 1.อบต.รุง 2.อบต.บึงมะลู 3.อบต.สังเม็ก 4.อบต.โนนส าราญ แผนก่อสร้าง ปี 2566 แผนก่อสร้าง ปี 2566 แผนก่อสร้าง ปี 2566 แผนก่อสร้าง ปี 2566 ขุนหาญ - ศรีรัตนะ - ขุขันธ์ 1.องค์การบริหารส่วนต าบลส าโรงตาเจ็น 2.อบต.กฤษนา 3.อบต.กันทรารมย์ 4.อบต.นิคมพัฒนา 5.อบต.ปรือใหญ่ จัดท าแผน ปรางค์กู่ 1.องค์การบริหารส่วนต าบลตูม ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง ในปี 2564 ไพรบึง อบต.ปราสาทเยอ อบต.ดินแดง ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง ในปี 2564 ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง ในปี 2564 ภูสิงห์ องค์การบริหารส่วนต าบลโคกตาล ขออนุญาตใช้พื้นที่ ในปี 2564 อุทุมพรพิสัย 1.เทศบาลต าบลก าแพง 2.เทศบาลต าบลสระก าแพงใหญ่ 3.องค์การบริหารส่วนต าบลหนองไฮ 4.องค์การบริหารส่วนต าบลทุ่งไชย จัดท าแผน 2564 จัดท าแผน 2564 จัดท าแผน 2564 ขออนุญาตใช้พื้นที่ ในปี 2564 ห้วยทับทัน เทศบาลต าบลจานแสนไชย องค์การบริหารส่วนต าบลผักไหม อยู่ระหว่างประชาคม 2564


282 | P a g e อ าเภอ อปท.ที่จะก่อสร้างระบบ หมายเหตุ เมืองจันทร์ 1. เทศบาลต าบลหนองใหญ่ 2. เทศบาลต าบลเมืองจันทร์ 3.องค์การบริหารส่วนต าบลตาโกน 2564 2564 ขออนุญาตใช้พื้นที่ 2564 โพธิ์ศรีสุวรรณ 1. เทศบาลต าบลผือใหญ่ ระหว่างด าเนินการก่อสร้าง ในปี 2564 ราษีไศล - บึงบูรพ์ 1. เทศบาลต าบลบึงบูรพ์ ขออนุญาตใช้พื้นที่ในปี ในปี2564 ยางชุมน้อย 1. เทศบาลต าบลยางชุมน้อย ศิลาลาด - 3. ผลการด าเนินงานประเมินระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมส าหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA) ที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล ตารางที่ 134 ผลการด าเนินงานประเมินระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมส าหรับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (EHA) ที่มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประเมิน EHA สมัครรับการ ประเมิน ผ่านระดับพื้นฐาน ผ่านระดับเกียรติบัตร เทศบาลต าบลบุสูง อ าเภอวังหิน / - / สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จังหวัดศรีสะเกษ มีเทศบาลเมือง จ านวน 2 แห่ง เทศบาลต าบล 35 แห่ง และองค์การบริหารส่วนต าบล จ านวน 179 แห่ง รวม 216 แห่ง มีระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูล จ านวน 16 แห่ง คือ 1.1 เทศบาลต าบลบุสูง อ าเภอวังหิน 1.2 เทศบาลต าบลเมืองขุขันธ์ อ าเภอขุขันธ์ 1.3 เทศบาลต าบลศรีรัตนะ อ าเภอศรีรัตนะ 1.4 เทศบาลต าบลปรางค์กู่ อ าเภอปรางค์กู่ 1.5 องค์การบริหารส่วนต าบลเสียว อ าเภอเบญจลักษ์ 1.6 องค์การบริหารส่วนต าบลรังแร้ง อ าเภออุทุมพรพิสัย (เอกชนด าเนินการก่อสร้าง) 1.7 องค์การบริหารส่วนต าบลคูบ อ าเภอน้ าเกลี้ยง 1.8 เทศบาลต าบลน้ าค า อ าเภอเมืองศรีสะเกษ 1.9 องค์การบริหารส่วนต าบลซ า อ าเภอเมืองศรีสะเกษ 1.10 องค์การบริหารส่วนต าบลโพธิ์ อ าเภอโนนคูณ 1.11 เทศบาลต าบลโพธิ์กระสังข์ อ าเภอขุนหาญ


283 | P a g e 1.12 เทศบาลต าบลบัวหุ่ง อ าเภอราษีไศล 1.13 เทศบาลต าบลพยุห์ อ าเภอพุห์ 1.14 เทศบาลต าบลไพรบึง อ าเภอไพรบึง 1.15 องค์การบริหารส่วนต าบลกระแชง อ าเภอกันทรลักษ์ 1.16 องค์การบริหารส่วนต าบลกุง อ าเภอศิลาลาด ซึ่งไม่ครอบคลุมเพียงพอ ในการรองการบ าบัดสิ่งปฏิกูล มีการปล่อยสิ่งปฏิกูลที่ไม่ถูกต้อง เป็นการ แพร่กระจายเชื้อโรคพยาธิใบไม้ตับ โรคมะเร็งท่อน้ าดี โรคติดต่อระบบทางเดินอาหารอื่นๆ และเกิดผลกระทบต่อ สุขภาพประชาชน ปัญหาอุปสรรค 1. การใช้พื้นที่ของหน่วยงานที่ครอบครอง ซึ่งเลิกใช้ประโยชน์ ใช้เวลานานและเอกสารประกอบการ พิจารณามาก 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่ให้ความส าคัญผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แนวทางการแก้ไขปัญหา 1. เห็นควรให้จังหวัดประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง แจ้งขั้นตอน วิธีการของใช้ที่ดิน ที่ให้ชัดเจน แก่ หน่วยงานที่ใช้ที่ดิน 2. ประชุมเชิงปฏิบัติการฯและศึกษาดูงาน ระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูลต้นแบบ ส าหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นงาน : จังหวัดมีการขับเคลื่อนการด าเนินงานพัฒนาน้ าบริโภค อุปโภคที่มีประสิทธิภาพ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กรมอนามัย ด าเนินงานโครงการพัฒนาและยกระดับระบบการจัดการระบบน้ าอุปโภค บริโภคใน โรงเรียนโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุรกันดาร (กพด.) ปีงบประมาณ 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับ มาตรฐาน ขับเคลื่อนการด าเนินงานด้านกฎหมาย พัฒนาระบบเฝ้าระวังคุณภาพ น้ าอุปโภค บริโภค ในโครงการ พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุรกันดาร (กพด.) และขับเคลื่อนเพื่อยกระดับมาตรฐานน้ าอุปโภค บริโภค ในระบบ ประปาหมู่บ้านในสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมีความรู้ และความเชี่ยวชาญในการด าเนินงานด้านการจัดการน้ าอุปโภค บริโภค รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภค อุปโภคน้ าที่ สะอาด ปลอดภัยได้ตามมาตรฐานกรมอนามัย ปี 2563 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ให้ความส าคัญต่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพน้ าอุปโภค บริโภค ให้ ผ่านตามมาตรฐานกรมอนามัย ปี2563 โดยอาศัยความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท่องถิ่น ผู้เกี่ยวข้อง ในการร่วมพัฒนาเพื่อให้น้ าอุปโภค บริโภค เป็นไปตามมาตรฐานและสะอาดปลอดภัยส าหรับผู้บริโภค โดยมีระดับการพัฒนาดังนี้


284 | P a g e 1. ยกระดับระบบการจัดการระบบน้ าอุปโภค บริโภคในโรงเรียนโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุร กันดาร (กพด.) ปีงบประมาณ 2565 โดยการ 1.1 ติดตามให้ความรู้แนะน า การพัฒนาระบบการจัดการคุณภาพน้ าอุปโภค บริโภค โดยแนะน า สาธิตวิธีล้างไส้กรองน้ าดื่ม และล้างถังสารปรับปรุงคุณภาพน้ าของระบบ รวมทั้งเก็บตัวอย่างน้ าส่งตรวจคุณภาพน้ า ตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย ในระบบน้ าบริโภค อุปโภคที่โรงเรียนพระปริยัติธรรม พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 9 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนกันทรลักษ์ธรรมวิทย์ ต าบลหนองหญ้าลาด อ าเภอกันทรลักษ์ โรงเรียนวัดสระ ก าแพงใหญ่ อ าเภออุทุมพรพิสัย โรงเรียนโพธิ์ศรีวิทยา อ าเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ โรงเรียนดวนใหญ่วิทยา อ าเภอวังหิน โรงเรียนโนนคูณวิทยา อ าเภอโนนคูณ โรงเรียนเกียรติแก้ววิทยา อ าเภอศรีรัตนะ โรงเรียนปรางค์กู่วิทยา อ าเภอ ปรางค์กู่ โรงเรียนศรีเกษตรวิทยา อ าเภอเมืองศรีสะเกษ และโรงเรียนวัดประชานิมิต อ าเภออุทุมพรพิสัย โรงเรียน ในสังกัดกองก ากับการต ารวจตระเวนชายแดน (โรงเรียนตชด.หนองใหญ่ อ าเภอกันทรลักษ์) และโรงเรียนสังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม(สพป.) (โรงเรียนบ้านหนองบาง อ าเภอน้ าเกลี้ยง ) 1.2 ลงพื้นที่ติดตามการติดตั้งถัง Antiscale และถังน้ าเกลือส าหรับล้าง Resin ของระบบ Reverse Osmosis (RO) ในระบบน้ าดื่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม และให้ความรู้การจัดการระบบน้ าสะอาดใน โรงเรียนพระปริยัติธรรมพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จ านวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนปริยัติธรรมเกียรติแก้ววิทยา อ าเภอ ศรีรัตนะ โรงเรียนโนนคูณวิทยา อ าเภอโนนคูณ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสระก าแพงใหญ่ อ าเภออุทุมพรพิสัย โรงเรียนพระปริยัติธรรมปรางค์กู่วิทยา อ าเภอปรางค์กู่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมโพธิ์ศรีวิทยา อ าเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ และโรงเรียนพระปริยัติธรรมดวนใหญ่วิทยา อ าเภอวังหิน 1.3 สรุปมีโรงเรียนโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุรกันดาร (กพด.) มีคุณภาพน้ าผ่าน เกณฑ์มาตรฐาน ปีงบประมาณ 2565 จ านวน 4 แห่ง ได้แก่โรงเรียนกันทรลักษ์ธรรมวิทย์ ต าบลหนองหญ้าลาด อ าเภอกันทรลักษ์ โรงเรียนโนนคูณวิทยา อ าเภอโนนคูณ โรงเรียนปรางค์กู่วิทยา อ าเภอปรางค์กู่ โรงเรียนศรีเกษตร วิทยา อ าเภอเมืองศรีสะเกษ 2. ขับเคลื่อนเพื่อยกระดับมาตรฐานน้ าอุปโภค บริโภค ในระบบประปาหมู่บ้านในสังกัดองค์การบริหาร ส่วนท้องถิ่น ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการด าเนินงานด้าน การจัดการน้ าอุปโภค บริโภค 2.1 พัฒนาระบบน้ าประปาหมู่บ้านขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้มาตรฐาน น าร่องของ จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับศูนย์อนามัยที่ 10 จ านวน 1 แห่ง ได้แก่ระบบประปาหมู่บ้านของเทศบาลต าบลไพรบึง จ านวน ๒ ระบบ (ได้เกียรติบัตรรับรองจากกรมอนามัย) 2.2 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้เรื่องการตรวจเฝ้าระวังคุณภาพน้ าประปาให้ได้มาตรฐานแก่ อาสาสมัครผู้เฝ้าระวังดูแลระบบน้ าประปาหมู่บ้านขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้มาตรฐานน าร่องของจังหวัด ศรีสะเกษ จ านวน 1 แห่ง 2 ระบบ ในเทศบาลต าบลไพรบึง จ านวน 11 หมู่บ้านๆละ 5 คน รวม 55 คน


285 | P a g e ปัจจัยแห่งความส าเร็จ การประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการด าเนินงานร่วมกัน ปัญหาอุปสรรค ภาคีเครือข่ายองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องการจัดการน้ า สะอาด จึงไม่ให้ความส าคัญในการพัฒนาคุณภาพระบบน้ าประปาตามมาตรฐาน 3C – ของกรมอนามัย แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ปีงบประมาณ 2566 มุ่งเน้นการพัฒนายกระดับ เพิ่มความครอบคลุมในการด าเนินการในองค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. จังหวัดศรีสะเกษ มีระบบน้ าประปาหมู่บ้านผ่านเกณฑ์มาตรฐาน กรมอนามัย ตามเป้าหมายจ านวน 1แห่ง 2. จังหวัดศรีสะเกษ มีโรงเรียนโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุรกันดาร (กพด.) มีคุณภาพน้ าผ่าน เกณฑ์มาตรฐาน ปีงบประมาณ 2565 จ านวน 4 แห่ง (เพิ่มขึ้นจาก ปี2564 จ านวน 3 แห่ง) ตัวชี้วัด "ร้อยละจังหวัดที่มีระบบจัดการปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งกระทบต่อการลดลงของอัตราป่วยด้วยโรค ที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและมลพิษสิ่งแวดล้อม" การประเมินผล : จังหวัดศรีสะเกษ มีผลการด าเนินงาน"ผ่าน" ตามเกณฑ์ของกระทรวงฯ (ไม่มีการแบ่งระดับ) ตัวชี้วัด "ร้อยละจังหวัดที่ผ่านประเมินระบบเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม" การประเมินผล จังหวัดศรีสะเกษ มีผลการด าเนินงาน"ผ่าน" ตามเกณฑ์ของกระทรวง ใน"ระดับดีมาก".***** การด าเนินงานด้านอาชีวอนามัย (การจัดบริการมาตรฐานอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ในสถาน บริการด้านสาธารณสุข ระดับ รพศ./รพท./รพช. จังหวัดศรีสะเกษ. มีผลการด าเนินงานครบทุกแห่ง จ านวน 22 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 100 จ าแนกได้ดังนี้ 1."ระดับดีเด่น" 1 แห่ง ได้แก่ รพ.ขุนหาญ 2."ระดับดีมาก" 1 แห่ง ได้แก่ รพ.โนนคูณ 3."ระดับดี" จ านวน 3 แห่ง ได้แก่ รพ.ศรีสะเกษ รพ.อุทุมพรพิสัย รพ.กันทรลักษ์ 4."ระดับเริ่มต้นพัฒนา" จ านวน 17 แห่ง ได้แก่ รพ.ราษีไศล รพ.ขุขันธ์ รพ.กันทรารมย์ รพ.ศิลาลาด รพ. เมืองจันทร์ รพ.โพธิ์ศรีสุวรรณ รพ.ห้วยทับทัน รพ.ปรางค์กู่ รพ.ภูสิงห์ รพ.ยางชุมน้อย รพ.วังหิน รพ.ไพรบึง รพ.น้ า เกลี้ยง รพ.ศรีรัตนะ รพ.เบญจลักษ์ รพ.พยุห์ รพ.บึงบูรณ์


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานพัฒนาคุณภาพ และรูปแบบบริการ


286 | P a g e 3.5 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานพัฒนาคุณภาพและรูปแบบบริการ ประเด็นงาน : ลดแออัด ลดรอคอย ลดป่วย ลดตาย สาขาหัวใจและหลอดเลือด สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โรงพยาบาลศรีสะเกษเป็นโรงพยาบาลศูนย์ระดับ A ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์หัวใจระดับ 2 สามารถ ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้ง Non Invasive และ Invasive (Peacemaker, CAG, PCI, open heart) ส่วนที่ไม่สามารถท าได้ต้องส่งต่อโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ได้แก่ CAG +PCI สิทธิ 30 บาท หรือ Complex case, RFA, CRTD, Open heart complex เป็นต้น จากสถานการณ์การดูแลผู้ป่วย STEMI ในเครือข่ายจังหวัดศรีสะเกษที่ผ่านมา ในปี 2562 - 2564 พบว่า อัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI คือ 10.58, 6.67 และ 9.66 ยังสูงกว่าเป้าหมาย ในปี 2565 ตั้งเป้าอัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI < 8 % ในไตรมาสแรกของปี 2565 พบ อัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI 12.70 % (8/63 ราย) จากการ ทบทวนเป็นผู้ป่วย Cardiac Arrest ก่อนถึงโรงพยาบาล 5 ราย คิดเป็น 62.5 % post SK เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ชุมชน 2 ราย คิดเป็น 25 % และ cardiogenic shock 1 ราย คิดเป็น 12.5 % ในไตรมาสแรกของปี 2565 อัตรา การให้ SK ภายใน 30 นาทีหลังได้รับการวินิจฉัย คือ 90 % ดีขึ้นกว่าปี ที่ผ่านมา เนื่องจากโรงพยาบาลทุกแห่งใน จังหวัดศรีสะเกษสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือด (SK) ได้ โดยมีอายุรแพทย์โรคหัวใจโรงพยาบาลศรีสะเกษเป็นที่ ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง จากการที่โรงพยาบาลศรีสะเกษเปิดบริการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือดในเดือน กรกฎาคม 2564 แต่สามารถให้บริการได้เฉพาะสิทธิเบิกและสิทธิประกันสังคม แต่ยังไม่มีผู้ป่วย STEMI ที่อยู่ใน เกณฑ์การท า Primary PCI และการผ่าตัดหัวใจเริ่มเดือนพฤศจิกายน 2564 ผ่าตัดจ านวน 9 ราย เป็นการผ่าตัด CABG 2 ราย อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ท า CABG 0 % หลังการผ่าตัดได้รับการดูแลที่หอผู้ป่วย ICU CVT แต่ บุคลากรยังไม่เพียงพอ ประสบการณ์ยังน้อย พยาบาลยังไม่ผ่านการอบรมเฉพาะทางหัวใจและหลอดเลือด จึงไม่ สามารถเปิดบริการได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งทีมผ่าตัดของโรงพยาบาลศรีสะเกษยังจ าเป็นต้องมีทีมจากโรงพยาบาล สรรพสิทธิประสงค์เป็นที่ปรึกษา ด้านเครื่องมือต่างๆที่จ าเป็นในหน่วยตรวจสวนหัวใจ (Cath Lab) หอผู้ป่วยวิกฤต ศัลยศาสตร์หัวใจ (ICU CVT) และห้องผ่าตัดหัวใจ ยังไม่เพียงพอ ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากเขตบริการสุขภาพ และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย ได้รับการ ดูแลที่ปลอดภัยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน


287 | P a g e ตารางที่ 135 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลกสนด าเนินงานลดแออัด ลดรอคอย ลดป่วย ลดตาย ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1. อัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อ หัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI< 8 % 2. ร้อยละของการให้การรักษาผู้ป่วย STEMI ได้ตามมาตรฐานที่ก าหนด 2.1 ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ได้รับยา ละลายลิ่มเลือดภายใน 30 นาที หลัง ได้รับการวินิจฉัย ≥ 60 2.2 ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ได้รับการ ท า Primary PCI ภายใน 120 นาทีหลัง ได้รับการวินิจฉัย ≥ 60 2.3 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ท า CABG < 5 % 3. อัตราตายผู้ป่วย NSTEMI < 12 % 1. อัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อ หัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI < 8 % 2.1 ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ได้รับยา ละลายลิ่มเลือดภายใน 30 นาที หลัง ได้รับการวินิจฉัย≥ 60 2.2 ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ได้รับการ ท า Primary PCI ภายใน 120 นาทีหลัง ได้รับการวินิจฉัย ≥ 60 2.3 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ท า CABG < 5 % 3. อัตราตายผู้ป่วย NSTEMI < 12 % - อัตราตายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้v หัวใจตายเฉียบพลันชนิดSTEMI=12.70 - ร้อยละผู้ป่วย STEMI ได้รับยาละลาย ลิ่มเลือดภายใน 30 นาที หลังได้รับการ วินิจฉัย (Diagnosis to needle time in 30 min) = 90 - ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ได้รับการ ท า Primary PCI ภายใน 120 นาทีหลัง ได้รับการวินิจฉัย = ND - อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ท า CABG = 0 - อัตราตายผู้ป่วย NSTEMI = 9.41 มาตรการในการด าเนินงาน 1. การปรับ Flow Fast track และการรับ Consult-Line application เพื่อพิจารณาการให้ยา SK ตลอด 24 ชั่วโมงโดยอายุรแพทย์โรคหัวใจหรืออายุรแพทย์ที่อยู่เวร (ส่ง line แล้วโทรศัพท์สายตรงแจ้ง) 2. พัฒนาศักยภาพบุคลากรในโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ในการตรวจพิเศษด้าน หัวใจ โดยในปี 2565 จัดท าโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ Hand on Basic Echocardiogram for General physician 3. การทบทวนปัญหาในการดูแลผู้ป่วย ACS ร่วมกันภายในเครือข่ายและน าสู่การพัฒนาระบบที่เชื่อมโยง กัน เช่น การทบทวน case ที่เกิดปัญหาหรือเสียชีวิต ผ่านระบบ online ด าเนินการไปแล้ว 1 ครั้ง (2/12/2564) 4. การพัฒนาศักยภาพในการให้ยาละลายลิ่มเลือด (SK) ในผู้ป่วย STEMI ของโรงพยาบาลทุกระดับอย่าง ต่อเนื่องและยั่งยืน 5. การพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลในเครือข่ายด้านบุคลากรแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นัก กายภาพบ าบัด ในการขยายบริการในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กันทรลักษ์ ขุขันธ์ และอุทุมพรพิสัย


288 | P a g e 6. การพัฒนาเครือข่ายหัวใจที่เชื่อมโยงตั้งแต่ปฐมภูมิ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้รวดเร็วขึ้น พัฒนา ศักยภาพบุคลากร ทบทวนและเสริมความรู้แก่โรงพยาบาลชุมชนในเครือข่าย 7. พัฒนาระบบการท างานที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอื่น เช่น เครือข่าย NCD ในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในการ เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ท า EKG 12 lead ปีละ 1 ครั้ง เฝ้าระวังติดตามอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผู้บริหารเห็นความส าคัญมีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ปัญหาอุปสรรค 1. ด้านบุคลากร 1.1 ขาดทักษะและประสบการณ์ในการดูแลรักษาและวินิจฉัย 1.2 บุคลากรไม่เพียงพอกับการขยายบริการ ทั้ง พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบ าบัด 1.3 รพ.สต ขาดความรู้ในการคัดกรอง เฝ้าระวัง การช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงในชุมชน 2. ด้านระบบบริการ 2.1 การเรียกใช้บริการ 1669 ยังน้อย 1.2 การติดตาม ดูแลรักษาขาดความต่อเนื่อง 3. ข้อมูล 3.1 จัดเก็บข้อมูลไม่เชื่อมโยง ขาดความต่อเนื่อง : Thai ACS registry, HDC, 43 แฟ้ม 3.2 ระบบการคืนข้อมูลไม่ครบถ้วน ต่อเนื่อง : Thai ACS registry, refer back 4. เครื่องมือ 4.1 ขาดอุปกรณ์การแพทย์ : Defibrillator, AED, Infusion pump, Monitor EKG แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. จัดหาบุคลากร (สหสาขา) ให้สอดคล้องกับการขยายหน่วยบริการแต่ละโรงพยาบาล 2. พัฒนาศักยภาพบุคลากร ในโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ในการดูแลรักษาผู้ป่วย STEMI, ACLS 3. อบรมให้ความรู้บุคลากรในรพ.สต อ.ส.ม.ผู้น าชุมชน คัดกรอง เฝ้าระวัง ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น กลุ่มเสี่ยง 4. พัฒนาระบบการส่งต่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้รวดเร็วขึ้น การใช้บริการ 1669 5. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่เชื่อมโยงตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติภูมิ และตติยภูมิ 6. พัฒนาระบบการติดตามเยี่ยมผู้ป่วย ACS , ได้รับยา warfarin, CHF ให้เชื่อมโยงกับระบบ Thai COC


289 | P a g e 7. พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูล มีฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกันทั้งเครือข่าย 8. อบรมการลงข้อมูลโปรแกรม Thai ACS registry ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ โครงการผ่าตัดหัวใจ โรงพยาบาลศรีสะเกษร่วมกับโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ สาขา Intermediate Care สถานการณ์ หลักของการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยระยะกลาง หรือ Intermediate care คือ เกิดระบบการดูแลผู้ป่วย อย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศรีษะและสมอง และผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลัง เพื่อลด ภาวะแทรกซ้อน ที่จะน าไปสู่ความพิการและพัฒนาความสามารถในการท ากิจวัตรประจ าวันของผู้ป่วยให้ดีขึ้น จนผู้ป่วยส่วนหนึ่งสามารถช่วยเหลือตนเอง กลับมาท างานและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ อีกทั้งยังช่วยลดความแออัด ของผู้ป่วยใน 3 กลุ่มโรคในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป เพิ่มอัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลชุมชน เกิดเครือข่ายบริการที่ไร้รอยต่อมีการพัฒนาระบบบริการที่เชื่อมโยงตั้งแต่ระบบการบริการระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิจนถึงศูนย์เชี่ยวชาญระดับสูง สภาพปัญหา จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าจ านวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เข้าถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทาง การแพทย์ยังมีไม่มาก จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน จ านวนรวม 25 แห่ง มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจ านวนทั้งสิ้น 4,499 ราย พบว่าได้รับบริการฟื้นฟู 1,930 ราย คิดเป็นร้อยละ 43 ซึ่งมีทั้งการได้รับบริการแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จากการวิเคราะห์ข้อมูลจ านวนผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคของโรงพยาบาลศรีสะเกษ พบว่ามีจ านวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี แผนภูมิแสดงจ านวนผู้ป่วยกลุ่มโรค Intermediate Care ปี 2561-2565 ในจังหวัดศรีสะเกษ (คน) 0 500 1000 1500 2000 2500 3000 2561 2562 2563 2564 2565 2287 2602 2649 2333 1083 234 678 554 603 307 380 426 439 363 148 292 345 346 316 130 Stroke Traumatic brain injury Spinal cord injury Fragility fracture hip


290 | P a g e จากการวิเคราะห์ข้อมูลจ านวนผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคของโรงพยาบลศรีสะเกษ ที่ได้รับการส่งต่อไปรักษา และฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชุมชนในระบบผู้ป่วยใน (Refer back for admit ) มีจ านวนมากขึ้นอันเป็น ผลจากนโยบาย เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์และเพิ่มอัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลชุมชน ผ่าน Service plan สาขา Intermediate Care แผนภูมิแสดงจ านวนผู้ป่วย Refer back for Intermediate care 4 กลุ่มโรค จากโรงพยาบาลศรีสะเกษ สู่ โรงพยาบาลชุมชน ระหว่าง เดือน ตุลาคม 2564 ถึง มีนาคม 2565 (คน)จาก PRM Referal program ตารางที่ 136 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานร้อยละของผู้ป่วย Stroke, Traumatic Brain Injury และ Spinal Cord Injury ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน ร้อยละของผู้ป่วย Stroke, Traumatic Brain Injury และ Spinal Cord Injury ที่รอดชีวิตและมีคะแนน Barthel Index 15 with multiple impairments ได้รับการบริบาลฟื้นสภาพระยะกลาง และติดตาม จนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel Index = 20 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 95.56 ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผู้บริหารเห็นความส าคัญ 2. ทีมกายภาพบ าบัด นักกิจกรรมบ าบัด พยาบาลและเจ้าหน้าสาธารณสุข ให้ความร่วมมือ เข้มแข็งในการ ขับเคลื่อนงานมีการพัฒนาศักยภาพ Care giver และเจ้าหน้าสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ปัญหาอุปสรรค 1. การด าเนินงานส่วนใหญ่จะเป็นการ D/C เพื่อให้กลับบ้านและมีระบบการส่งต่อเพื่อให้นัก กายภาพบ าบัดไปฟื้นฟูสมรรถภาพในชุมชนหรือนัดมาที่โรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยร้อยละ 75 ได้รับการฟืนฟูอย่าง ต่อเนื่อง 0 5 10 15 20 25 30 29 14 11 4 0 10 0 20 6 8 3 19 16 5 17 3 2 11 5 0 5 12 จำ นวนผู้ป่วย Refer for IMC


291 | P a g e 2. จ านวนแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มีแค่ 3 โรงพยาบาล คือ สปส ศรีสะเกษ และอ านาจเจริญ 3. นักกายภาพบ าบัดไม่เพียงพอในเขต 10 มีเพียง 60 % ของ FTE รพช บางแห่งมีนักกายภาพบ าบัดเพียง 1 คน 4. นักกิจกรรมบ าบัดมีที่ สปส และ ศรีสะเกษ เท่านั้น 5. นักวจีบ าบัดมีที่ สปส เท่านั้น 6. พยาบาลฟื้นฟูมีไม่ครอบคลุมทุก โรงพยาบาล 7. Health System financing 8. แต่ละจังหวัดมีการใช้โปรแกรมการ REFER และจัดเก็บข้อมูลที่ แตกต่างกัน 9. การพัฒนาศักยภาพของแต่ละ รพ แตกต่างกันความเข้าใจในแนวทางการดูแลส่งต่อผู้ป่วยยังไม่ ครอบคลุมทุกพื้นที่ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. มีการพัฒนาระบบการดูแลต่อเนื่องผู้ป่วย 3 กลุ่มโรคที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้รับการส่งต่อ เพื่อไปฟื้นฟูสมรรถภาพในโรงพยาบาลใกล้บ้าน 2. การพัฒนาระบบการ refer back ผ่านโปรแกรม PRM และ Thai COC 3. ระบบ ontop จาก สปสช เขต 10 โรงพยาบาลที่ refer ได้ 2,000 บาท (จ านวนวันนอนอย่างน้อย 4 วัน) และ โรงพยาบาลที่รับ admit for intensive rehab service ได้ 4,000 บาท (จ านวนวันนอนอย่างน้อย 5 วัน) 4. เพิ่มแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใน รพ ระดับ S ขึ้นไป 5. ผลักดันให้มีการจ้างนักกายภาพบ าบัดเพิ่มขึ้น ระดับ F1 รพสต หรือหน่วยปฐมภูมิ 6. ผลักดันให้มีการจ้างนักกิจกรรมบ าบัดเพิ่มขึ้น ระดับ S 7. ผลักดันให้มีการจ้างนักวจีบ าบัดเพิ่มขึ้น ระดับ S 8. ผลักดันให้มีการส่งพยาบาลไปอบรมเฉพาะทางด้านฟื้นฟู ระดับ S 9. อบรมระยะสั้นบุคลากรพยาบาลและสหสาขาวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วย IMC 10. ระบบ ontop จาก สปสช เขต 10 โรงพยาบาลที่ refer ได้ 2,000 บาท (จ านวนวันนอนอย่างน้อย 4 วัน) และ โรงพยาบาลที่รับ admit for intensive rehab service ได้ 4,000 บาท (จ านวนวันนอนอย่างน้อย 5 วัน) อย่างต่อเนื่องทุกปีงบประมาณ 11. พัฒนาระบบ IT ที่ใช้งานได้ง่าย ใช้เวลาลงข้อมูลน้อยและเป็นรูปแบบเดียวกันเพื่อบันทึกข้อมูลการ refer และติดตามฟื้นฟูสมรรถภาพต่อเนื่อง เช่น PRM program 12. มีการนิเทศงานและการประเมินตามเกณฑ์ 13. ทบทวนแนวทางสื่อสาร 14. มีการนิเทศงาน


292 | P a g e ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. พัฒนาโปรแกรม PRM referral Network /COC ร่วมกับ Telemedicine 2. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์กรมหาชน) ได้เลือกโรงพยาบาล ศรีสะเกษ และ อ านาจเจริญเข้าร่วมโครงการช่วยฝึกเดินในผู้สูงอายุและคนไข้ในระยะ Intermediate Care 3. เป็นพี่เลี้ยงพัฒนา IMC ward ที่ รพ. วารินช าราบ และ IMC สามสหาย (ยโสธร-มุกดาหารอ านาจเจริญ) 4. มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ร่วมกับ โรงพยาบาลศรีสะเกษ เตรียมเปิดศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพและการ ดูแลต่อเนื่อง ณ ตึกคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ สาขามะเร็ง สถานการณ์ โรคมะเร็งมีอัตราการเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด 5 อันดับอัตรา ตายโรคมะเร็งต่อแสนประชากรจังหวัดศรีสะเกษ ดังนี้ 1. มะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี 2. มะเร็งล าไส้ใหญ่ 3. มะเร็ง เต้านม 4. มะเร็งปอด และ 5. มะเร็งปากมดลูก อัตราต่อแสนประชากร 10.49 5.62 3.50 3.50 และ 1.78 ตามล าดับ (ข้อมูลจาก TCB Report Online สถาบันมะเร็งแห่งชาติ) ซึ่งนอกจากเป็นโรคที่มีอัตราตายสูงแล้วยัง เป็นโรคที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่สูงอีกด้วย ปี 2565 มีการปรับเพิ่มเป้าหมายตัวชี้วัดใหม่ ดังนี้ ผ่าตัด in 4 wks เป้า ≥75% เคมี เป้า ≥75% RT เป้า ≥60% แผนภูมิแสดงร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด เคมี รังสี โรงพยาบาลศรีสะเกษ ปี 2562- 2564 สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง - ตัวชี้วัดร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีรักษาภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ ≥ 60% ข้อมูล 1 ตุลาคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564 ผลงาน 50.73% (103/203) ไม่ผ่านเกณฑ์ (แหล่งข้อมูลจากโรงพยาบาล มะเร็งอุบลราชธานี) นั้น จากการทวนสอบข้อมูล (ตามเลขที่ใบ refer) ระหว่างโรงพยาบาลศรีสะเกษ และ 85.8 90 88 83.4 88.5 89 90 87 77.4 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ผ่าตัด in 4 wks เป้า ≥70% เคมี in 6 wks เป้า ≥70% รังสี in 6 wks เป้า ≥60%


293 | P a g e โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี พบว่า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564 ผลงาน จากเดิม 50.73% (103/203) ผลการทวนสอบข้อมูล เป็น 77.44% (103/133) ซึ่งผ่านเกณฑ์ ปัญหาที่พบคือ โรงพยาบาลมะเร็ง อุบลราชธานี มีการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ ไม่ได้ตัดรายชื่อซ้ าออก อย่างไรก็ตาม ในด้านการพัฒนากระบวนการ ลดระยะเวลารอคอยการฉายรังสี จังหวัดศรีสะเกษนั้น ได้มีการเตรียมผลชิ้นเนื้อ ผล CT ถอนฟัน ฯลฯ ให้พร้อม ก่อนส่ง เมื่อส่งผู้ป่วยไปรับบริการจะสามารถได้รับการฉายรังสีได้ทันที First visit fist treatment - ชะลอการท า Colonoscopy ในการคัดกรองมะเร็งล าไส้ใหญ่ ในกลุ่มเป้าหมายที่รอรับการยืนยันผลด้วย การส่องกล้องล าไส้ใหญ่ จากสถานการณ์ระบาด โควิด 19 ตั้งแต่ ปี 2562-2564 มีจ านวนกลุ่มเป้าหมายที่มีผล Fit test positive ค้างท่อ รวมทั้งสิ้น 1,723 ราย ปี 2565 ชะลอการด าเนินการ Fit test จาการทวนสอบ วิเคราะห์ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่มา สสจ.ศรีสะเกษ) พบว่า รพช.หลายแห่ง ได้ส่งกลุ่มเป้าหมาย ท า Colonoscopy เอกชน ไปบ้างแล้ว จึงท าให้มีจ านวนกลุ่มเป้าหมายในปี 2562-2564 ค้างท่อลดลง จาก 1,723 ราย คงเหลือ รวมทั้งสิ้น 1,275 ราย ( 225 ราย 578 ราย และ 472 ราย ตามล าดับ) แต่เมื่อดึงข้อมูลจาก 43 แฟ้ม พบว่า มีกลุ่มเป้าหมาย อายุ 50-70 ปี ผล Fit test positive แต่ไม่พบการลงข้อมูลการส่งท า Colonoscope เอกชน - ยังมีการส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี ไปผ่าตัด ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เนื่องจากศัลยแพทย์ที่ผ่าตัด Hepatectomy ได้ มีเพียง 1 คน รอแพทย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ตับ ตับอ่อน และ ทางเดินน้ าดี จบมาปี 2566 - มีการ Refer ไปโรงพยาบาลเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลเอกชนจุรีเวชร้อยเอ็ดร้อยเอ็ด เพื่อท า TACE (transarterial chemoembolization) การให้สารเคมีเฉพาะที่ ผ่านหลอดเลือดแดงเข้าไปสู่ตับในบริเวณที่มี ก้อนมะเร็งโดยตรง อุดด้วยสารอุดหลอดเลือด มีผลให้ก้อนมะเร็งขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นการรักษาแบบ ประคับประคองในผู้ป่วย un-resectable ตารางที่ 137 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานลดแออัด ลดรอคอย ลดป่วย ลดตายสาขามะเร็ง ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1. ร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดภายใน ระยะเวลา 4 สัปดาห์ 2. ร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบ าบัดภายใน ระยะเวลา 6 สัปดาห์ 3. ร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีรักษาภายใน ระยะเวลา 6 สัปดาห์ ร้อยละ ≥ 60 ≥ร้อยละ 75 ≥ร้อยละ 75 ร้อยละ ≥ 60 ≥ร้อยละ 75 ≥ร้อยละ 75 ร้อยละ ≥ 60 มาตรการในการด าเนินงาน ด าเนินการตาม ด าเนินการตามกรอบ 7 ยุทธการงานมะเร็งดังนี้ 1) Primary prevention 2) Screening and early diagnosis 3) Diagnosis 4) Treatment 5) Palliative 6) Cancer informatics 7) Cancer research


294 | P a g e โรงพยาบาลศรีสะเกษ เน้น ยุทธการที่ 3, 4 6 และ 7 โรงพยาบาลชุมชน เน้น ยุทธการที่ 1, 2, 5 โรงพยาบาล กันทรลักษ์ เพิ่มยุทธการที่ 3, 4 มะเร็งเต้านม มะเร็งล าไส้ใหญ่ระยะเริ่มต้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ า ต าบล เน้น ยุทธการที่ 1, 5 ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผู้บริหารเห็นความส าคัญ 2. ทีมงานที่ดี ปัญหาอุปสรรค 1. ระบบการบริหารจัดการข้อมูล ของ รพช.ที่ส่งท า Colonoscope เอกชน เมื่อ สสจ. ดึงข้อมูลจาก 43 แฟ้ม พบว่า มีกลุ่มเป้าหมาย อายุ 50-70 ปี ผล Fit test positive แต่ไม่พบข้อมูลการส่งท า Colonoscope เอกชน และไม่ทราบข้อมูลสรุปผลการตรวจชิ้นเนื้อ อีกทั้งเมื่อมีการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบงาน ข้อมูลจึงไม่ต่อเนื่อง รพช.บางแห่ง ไม่มีข้อมูล และไม่สามารถติดตาม ความต่อเนื่องในการรักษาเมื่อผู้ป่วยมีผลชิ้นเนื้อที่เป็นมะเร็งล าไส้ ใหญ่ได้ (โรงพยาบาลศรีสะเกษ กันทรลักษ์ ขุขันธ์ ที่สามารถ ท า Colonoscope มีการลง ICD9 ICD 10 ดึงข้อมูล จาก 43 แฟ้มได้) 2. มีการส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี ไป รพ.เอกชน เพื่อท า TACE เนื่องจาก แพทย์ Intervention ที่ รพ.มะเร็งอุบล มาช่วยปฏิบัติงาน 1 วัน/เดือน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. การจัดระบบการบริหารจัดการข้อมูล ภาพจังหวัด ภาพเขต ประเทศ ของกลุ่มเป้าหมาย ผล Fit test positive การส่งท า Colonoscope ผลการตรวจชิ้นเนื้อ การส่งรักษา และติดตามการรักษาเมื่อเป็นมะเร็งล าไส้ใหญ่ 2. ขอสนับสนุนให้ โรงพยาบาลระดับ M ( ราษีไศล,อุทุมพรพิสัย ) มีเครื่องผสมยาเคมีบ าบัด 3. ขอสนับสนุนจัดหาหลักสูตรการให้ยาเคมีบ าบัดของศัลยแพทย์ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. จัดพิมพ์เล่มทะเบียนมะเร็ง ประจ าปี 2564 (ด าเนินการจัดท าทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล Hospital based ตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน) 2. พัฒนาเป็นหน่วยตรวจ HPV DNA test ผ่านการรับรองแล้ว สาขาทารกแรกเกิด สถานการณ์และปัญหาที่พบ สถานการณ์การดูแลทารกแรกเกิดในจังหวัดศรีสะเกษ พบว่าอัตราตายของทารกน้ าหนักมากกว่า 500 กรัม ที่อายุน้อยกว่า 28 วัน ในปี 2562 ถึง ปี 2564 คือ 3.61, 3.87,3.66 ตามล าดับ ในปี 2565 ตั้งเป้าหมาย อัตราตายน้อยกว่า 3.6 : 1,000 ทารกเกิดมีชีพ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน (ต.ค.ถึง ธ.ค. 2564) พบว่าอัตราตายของ ทารกน้ าหนักมากกว่า 500 กรัม ที่อายุน้อยกว่า 28 วัน 3.12 : 1,000 ทารกเกิดมีชีพ โดยสาเหตุการตายหลักคือ


295 | P a g e ทารกคลอดก่อนก าหนดน้ าหนักตัวน้อย ภาวะขาดออกซิเจนแรกคลอด ภาวะความดันหลอดเลือดในปอดสูง ภาวะติดเชื้อในทารกแรกเกิด มีทารกที่จ าเป็นต้องส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่ข่ายหลัก เนื่องจากขาดบุคลากรและอุปกรณ์ไม่ พร้อม เช่น ทารกที่มีปัญหาหัวใจพิการแต่ก าเนิดชนิดซับซ้อน ทารกที่มีขาดออกซิเจนแรกเกิดระดับรุนแรง ทารก คลอดก่อนก าหนดที่มีภาวะแทรกซ้อนเรื่องล าไส้อักเสบติดเชื้อระดับรุนแรงที่ต้องได้รับการผ่าตัดซึ่งมีแนวโน้มพบ มากขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา ทารกที่รอดชีวิตพบว่ามีภาวะแทรกซ้อนจากการดูแลรักษา เช่น จอประสาทตาเสื่อม โรค ปอดเรื้อรัง ซึ่งท าให้หย่าออกซิเจนล าบาก จังหวัดศรีสะเกษ มีหอผู้ป่วยที่รองรับทารกแรกเกิดป่วยที่มีภาวะวิกฤติ จ านวน 10 เตียงเฉพาะใน โรงพยาบาลจังหวัด ปีงบประมาณ 2564 ทารกเกิดมีชีพทั้งหมด 8206 ราย อัตราส่วนเตียง NICU คือ 1: 821 ทารกเกิดมีชีพ ซึ่งเกินค่าเป้าหมายที่ก าหนด คือ 1 : 500 ทารกเกิดมีชีพ ในด้านบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ประกอบด้วยกุมารแพทย์ ใน รพ จังหวัด (10 คน) ได้แก่ กุมารแพทย์ทั่วไป (ก าลังศึกษาต่อ 3 คน), กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ 1, โรคเลือด 1, โรคติดเชื้อ 1,โรคผิวหนัง 1, ศึกษาต่อ ระบบทางเดินหายใจ 1 (จบปี’65), ทารกแรกเกิด (จบปี’66) ส่วนที่ รพ.ชุมชน (8 คน) (ได้แก่ รพกันทรลักษ์ 2, ขุ ขันธ์ 2, อุทุมพร 2, ขุนหาญ 1, ราษีไศล 1,กันทรารมย์ 1) ในส่วนของพยาบาลเฉพาะทาง จบด้านการดูแลทารก แรกเกิด 4 เดือน 15 คน และทารกแรกเกิด 1 เดือน 21 คน ตารางที่ 138 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานลดแออัด ลดรอคอย ลดป่วย ลดตาย สาขาทารกแรกเกิด ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1.อัตราตายของทารกแรกเกิดอายุน้อยกว่า 28 วัน ที่มี น้ าหนักแรกเกิดมากกว่า 500 กรัมน้อยกว่าร้อยละ 3.6 ต่อ 1,000 ทารกเกิดมีชีพ 2. จ านวนเตียง NICU ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน > 1:500 ทารกเกิดมีชีพ < 3.6:1,000 ทารกเกิดมีชีพ > 1 :500 ทารกเกิดมีชีพ 1.5 : 1,000 ทารกเกิดมีชีพ 1: 869 ทารกเกิดมีชีพ มาตรการในการด าเนินงาน 1. ทบทวนค าสั่งและแต่งตั้งคณะกรรมการสาขาแม่และเด็กประจ าปี 2565 2. พัฒนาบริการหอผู้ป่วย NICU และ sick newborn ให้ได้คุณภาพตามเกณฑ์ที่ก าหนด 3. พัฒนาระบบการส่งผู้ป่วยกลับ (refer back) ทารกที่อาการคงที่ไปโรงพยาบาลระดับ M ที่มีกุมาร แพทย์ช่วยดูแล เพื่อลดความแออัด ทบทวนเคสที่มีปัญหาในการส่งต่อเพื่อหาแนวทางแก้ไข 4. พัฒนาแนวทางและเครือข่ายรับ-ส่งต่อผู้ป่วยทารกแรกเกิดในและนอกเขต โดยพัฒนางาน fast track newborn อย่างต่อเนื่อง น าปัญหาทีพบและภาวะแทรกซ้อนในแต่ละปีมาทบทวนหาทางแก้ไข


296 | P a g e 5. ทบทวนการจัดระบบทีมกู้ชีพทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลโดยมีตัวแทนจากกลุ่มงานกุมารเวชกรรม กลุ่มงานสูติกรรม งานห้องผ่าตัด และแผนกฉุกเฉิน 6. ประเมินจ านวนและศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วย NICU และทารกแรกเกิดเด็กป่วย ( sick newborn) ให้มีความเหมาะสมในการปฏิบัติงานทั้งในและนอกเวลาราชการ 7. วางแผนการสนับสนุนบุคลากรอบรมหลักสูตรเฉพาะทาง ทั้งในส่วนของกุมารแพทย์ทารกแรกเกิด พยาบาลทารกแรกเกิดวิกฤต 4 เดือนและ 1 เดือน อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง 8. จัดอบรมฟื้นฟูความรู้ในการช่วยกู้ชีพทารกแรกเกิดให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลจังหวัดและ โรงพยาบาลในเครือข่ายทุกปีวางแผนร่วมกับทางสูติกรรมในเรื่องแนวทางการป้องกันการคลอดก่อนก าหนด ก าหนดศักยภาพในการดูแลทารกแรกเกิด ดังนี้ 1. สามารถให้การดูแลทารกแรกเกิด และทารกแรกเกิดก่อนก าหนดได้ในทุกระดับความรุนแรง 2. สามารถให้การรักษาด้วยเลเซอร์ในทารกแรกเกิดที่ได้รับการวินิจฉัย retinopathy of prematurity 3. สามารถให้การวินิจฉัยและรักษาเบื้องต้นในเด็กโรคหัวใจพิการแต่ก าเนิดชนิดเขียว และให้การดูแล รักษาทารกที่มีปัญหาโรคหัวใจพิการแต่ก าเนิดชนิดไม่เขียว 4. ให้การดูแลและติดตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่พบในทารกแรกเกิดอย่างต่อเนื่อง 5. การทดสอบทางพัฒนาการและสติปัญญา โดยการใช้ developmental test 6. เป็นแม่ข่ายจัดส่งเครือข่ายรับและส่งต่อทารกแรกเกิดในระดับจังหวัด ปัจจัยแห่งความส าเร็จ : ผู้บริหารเห็นความส าคัญ ปัญหาอุปสรรค 1. ขาดแคลนบุคลากร 1.1 กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด และกุมารแพทย์ใน รพช ที่เป็นแม่ข่ายระดับรองลงมายังไม่ครบ ทุกเขต 1.2 ศัลยแพทย์ทรวงอกที่ให้การผ่าตัดประคับประคองในเด็กทารกหัวใจพิการชนิดเขียวและภาวะ ที่พบบ่อย เช่น PDA ligation รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถในการดูแลทารกโรคหัวใจพิการแต่ก าเนิด 1.3 กุมารศัลยแพทย์ที่ให้การรักษาด้านผ่าตัด ท าให้ต้องส่งต่อการรักษาไปที่ รพ แม่ข่าย 1.4 อัตราก าลังพยาบาลเฉพาะทางทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลใน เครือข่ายระดับ M 2. ปัญหาด้านสถานที่และจ านวนเตียงที่ดูแลผู้ป่วย 2.1 จ านวนเตียงที่ให้การดูแลผู้ป่วยทารกแรกเกิดวิกฤติยังไม่เพียงพอ ทั้งในโรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชนระดับ M ได้แก่ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และโรงพยาบาลขุขันธ์


297 | P a g e 2.2 บางขณะผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดใน รพ จังหวัดเตียงเต็มและ รพ แม่ข่ายเต็ม ท าให้ไม่ สามารถรับดูแลผู้ป่วยต่อได้ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงและอัตราการเสียชีวิตจากการดูแลที่ล่าช้า 3.ขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือที่จ าเป็น 3.1 ใน NICU ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจที่มีประสิทธิภาพ การตรวจอัลตราซาวน์หัวใจข้างเตียงเพื่อ ช่วยวินิจฉัยรักษาภาวะหัวใจพิการแต่ก าเนิดที่มีความเร่งด่วน ( critical congenital heart disease ) และ ภาวะความดันหลอดเลือดในปอดสูง (PPHN), การรักษาด้วยเครื่องไนตริกออกไซด์ในผู้ป่วยภาวะความดันหลอด เลือดในปอดสูง, เครื่อง monitor ติดตามสัญญาณชีพ เครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือด, monitor เฝ้าระวังและ ติดตามการดูแลผู้ป่วย 3.2 รพช ระดับ M ที่จะพัฒนาให้ดูแลผู้ป่วยทารกแรกเกิดหนักระดับเบื้องต้น ได้แก่ เครื่องช่วย หายใจ เครื่องให้ออกซิเจนในระดับสูง ( HHHFNC) เครื่อง monitor ติดตามอาการผู้ป่วย 3.3 ขาดแคลน transport incubator ส าหรับโรงพยาบาลชุมชนที่ต้องส่งทารกมาดูแลรักษาต่อที่ โรงพยาบาลจังหวัดอีก 7 โรงพยาบาล รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ติดตาม monitor ผู้ป่วยขณะส่งมารับการรักษาต่อ 4. ปัญหาด้านศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย 4.1 ขาดศักยภาพในการดูแลเด็กแรกเกิดที่มีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง ในรายที่จ าเป็นต้องใช้ Cooling System for Asphyxia and EEG monitoring โดยยังขาดบุคลากรและเจ้าหน้าที่มีความรู้ความสามารถ และเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยเมื่อจ าเป็นต้องใช้เครื่องมือดังกล่าว 4.2 บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลยังต้องการพัฒนาศักยภาพต่อเนื่องในการดูแลทารกแรก เกิด ได้แก่ การช่วยฟื้นคืนชีพทารกแรกเกิด การดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันหลอดเลือดในปอดสูง ผู้ป่วยที่มี ปัญหาโรคหัวใจชนิดเขียวและไม่เขียว การให้ยาและติดตามภาวะเสี่ยงในยาhigh alert drugs, การดูแลการให้สาร น้าและอาหารทางหลอดเลือดด าอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ด้านอัตราก าลัง 1. เพิ่มอัตราก าลังตามแผนการเพื่อให้มีกุมารแพทย์ทารกแรกเกิด โดยวางแผนเพิ่มให้มีสัดส่วนกุมารแพทย์ ทารกแรกเกิด : NICU bed = 1:6 จ านวน 2 คน ในปีงบประมาณ 2567 และ 2569 2. เพิ่มอัตราก าลังบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทารกแรกเกิด ได้แก่ - ศัลยแพทย์ทรวงอกที่สามารถท า PDA ligation ได้ รวมถึงการผ่าตัด palliative shunt in congenital heart disease 1 คน ( คาดว่าจะมีปีงบประมาณ 2565 ) - กุมารแพทย์โรคหัวใจ 2 คน ขณะนี้ปฏิบัติงานจริง 1 คน ( ขอเพิ่มอัตราก าลังปี 2566) - กุมารศัลยแพทย์2 คน (วางแผนขออัตราก าลังปี 2565 และ ปี 2567 ) - จักษุแพทย์ด้านเรตินา 2 คน ขณะนี้ปฏิบัติงานจริง 1 คน ( เรียนต่อ 1 คน จบปี 2565 )


298 | P a g e - ศัลยแพทย์ระบบประสาท 2 คน ขณะนี้ปฏิบัติงานจริง 1 คน - สูตินรีแพทย์ด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกแรกเกิด ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีปฏิบัติงาน 3. เพิ่มอัตราก าลังพยาบาลวิชาชีพใน NICU ปี 2567 ซึ่งอัตราก าลังในปัจจุบันมี 13 คน วางแผนขอเพิ่มปี ละ 2-3 คน ( ต้องการจ านวน 20 คน เพื่อจะได้เพิ่มเตียง NICU และขยายจ านวนวอร์ดได้ในปีถัด ๆ ไป ) 4. เพิ่มอัตราก าลังพยาบาลวิชาชีพใน Sick newborn ปัจจุบันมี 13 คน (ต้องการจ านวน 18 คน) 5. เพิ่มอัตราก าลังเจ้าหน้าที่ในการช่วยดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติที่มีปัญหาด้านโรคหัวใจและภาวะที่ต้องให้ การดูแลรักษาด้วยการใช้ Cooling system for asphyxia and EEG monitoring 6. เพิ่มอัตราก าลังพยาบาลที่ให้การดูแลทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลระดับ M และจัดอบรมเพื่อพัฒนา ศักยภาพพยาบาลในระดับโรงพยาบาลชุมชน ด้านสถานที่และจ านวนเตียงที่ดูแลผู้ป่วย 1. เพิ่มงบประมาณการขยายจ านวนเตียง NICU โดยวางแผนขยายเพิ่มเตียง NICU ในโรงพยาบาลศรีสะ เกษเป็น 12 เตียง ปี 2566 และวางแผนเพิ่ม 16 เตียง (แยก 2 วอร์ด) ในระยะ 3-5 ปี 2. เพิ่มงบประมาณสนับสนุนโรงพยาบาลชุมชนระดับ M เพื่อให้มีเตียงและอุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยหนักทารก แรกเกิด ได้แก่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ 2 เตียง และโรงพยาบาลขุขันธ์ 2 เตียง 3. สร้างห้องแยกผู้ป่วยทารกแรกเกิดสัมผัสเสี่ยง/ ติดเชื้อโควิด-19 ด้านอุปกรณ์และเครื่องมือที่จ าเป็นและไม่เพียงพอ 1. เพิ่มงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จ าเป็นใน NICU ของโรงพยาบาลจังหวัด ได้แก่ - เครื่องบริหารแก๊สไนตริกออกไซด์พร้อมอุปกรณ์ ( 2.5 ล้านบาท ) - เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ ( defibrillator ) 500,000 บาท - Invasive blood pressure monitoring - เครื่องติดตามสัญญาณชีพในการดูแลผู้ป่วย (monitor) - เครื่องจับและติดตามระดับออกซิเจนในกระแสเลือด - หน้าจอรวมแสดงผลการดูแลติดตามผู้ป่วยในภาวะวิกฤต ( central monitor ) - อุปกรณ์ที่ใช้เป็นประจ าและไม่เพียงพอ ได้แก่ syringe pump, เครื่อง IV infusion 2. เพิ่มงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลชุมชนระดับ M ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จ านวน 2 เครื่อง และโรงพยาบาลขุขันธ์ 2 เครื่อง 3. transport incubator จ านวน 7 แห่งให้กับโรงพยาบาลชุมชนที่ยังไม่มี ด้านศักยภาพ 1. พัฒนาความสามารถการรักษาด้วย therapeutic hypothermia/PPHN/ventilator ส่งพยาบาลอบรม เพิ่มเติมด้าน cooling system, การดูแลทารกโรคหัวใจพิการแต่ก าเนิด การบริหารก้าซไนตริกออกไซด์


299 | P a g e 2. พัฒนาความรู้ความสามารถในการดูแลผู้ป่วยทารกแรกเกิดใน รพ.เครือข่าย (ลด BPD, NEC) โดยจัด อบรมทบทวนการช่วยฟื้นคืนชีพในเด็กแรกเกิด การดูแลเด็กแรกเกิดน้ าหนักตัวน้อย ส่งเสริมการไปดูงานหรือ ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องทั้งแพทย์และพยาบาล 3. พัฒนางานฝากครรภ์คุณภาพ ห้องคลอดคุณภาพ การดูแลหลังคลอดที่มีคุณภาพ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. นวัตกรรมเชือกมหัศจรรย์ พันลด VAP NICU เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลทารกที่ได้รับการใส่ ท่อทางเดินหายใจ ป้องกันการเลื่อนหลุดและลดอัตราการติดเชื้อ VAP in NICU 2. นวัตกรรม U-nest อุ่นรัก เพื่อส่งเสริมพัฒนาความตึงตัวของกล้ามเนื้อทารกแรกเกิดก่อนก าหนดจาก การจัดท่านอนเพื่อให้ทารกหลับลึกขึ้นส่งผลเพิ่มรอยหยักในสมอง 3. นวัตกรรมจุดยืน NCPR in NICU เพื่อให้ทีมช่วยกู้ชีพปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ที่สุด 4.นวัตกรรมเคลื่อนย้ายปลอดภัย สายไม่หลุด เพื่อลดอุบัติการณ์สายท่อระบายลมเลื่อนหลุดในผู้ป่วยทารก แรกเกิดที่ต้องใส่สายระบายลมหรือน้ าในทรวงอก 5.โครงการกล่องดวงใจ BOX of HUG ซึ่งเป็นการดูแลผู้ป่วยทารกระยะสุดท้ายที่เสียชีวิต โดยคาดหวังให้ บิดามารดามีความพึงพอใจในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในการจัดการดูแลเพื่อส่งกลับบ้าน สาขาอุบัติเหตุ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากปี 2563 ถึงปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ “วิกฤตภัยโควิด” ที่ส่งผลกระทบ รุนแรง ทั้งทางสุขภาพ สังคมและเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันประเทศไทยยังประสบกับ “ภัยเงียบ” อย่าง อุบัติเหตุทางถนนที่สร้างความ สูญเสียและผลกระทบต่อ เหยื่อ ครอบครัวและสังคม รวมทั้งระบบบริการสุขภาพ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จน อาจจะกลายเป็นความคุ้นชิน และมองข้ามปัญหาเหล่านี้ทั้งๆ ที่มีขนาดปัญหาและมี แนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบ ด้านสุขภาพ เศรษฐกิจสังคม ได้เช่นเดียวกัน สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2554- 2563) มีจ านวนผู้เสียชีวิตสะสมถึง 206,589 ราย เฉลี่ยเสียชีวิต 20,659 คน/ปี หรือ 58 คน/วัน นอกจากนี้ยังมี ผู้บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องดูแล รักษาในโรงพยาบาลถึง 150,000 – 200,000 ราย/ปี โดยร้อยละ 4.6 พบว่ามีความ พิการร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่ง เท่ากับว่ามีผู้พิการรายใหม่ 7,000 – 13,000 รายต่อ/ปี คิดเป็นผลกระทบต่อ เศรษฐกิจและสังคม ของประเทศที่การศึกษาของ TDRI คาดประมาณไว้สูงถึง 545,435 ล้านบาท/ปี อย่างกรณี สงกรานต์ปี 2564 ที่ ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดโควิดระลอกที่ 3 แต่ในช่วง 7 วันอันตราย (10-16 เมษายน 2564) ข้อมูล กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดตามจนครบ 30 วันหลัง เหตุการณ์ พบมีผู้เสียชีวิตถึง 341 ราย (เฉลี่ยวันละ 48.7 ราย) มีผู้บาดเจ็บรวม 19,256 ราย ใช้บริการการแพทย์ ฉุกเฉิน EMS-1669 จ านวน 8,297 ราย และมีผู้ บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล 3,684 ราย หรือวันละ 526 ราย โดยผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วน


300 | P a g e ใหญ่ เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (ร้อยละ 79.3) และพบผู้ไม่ สวมหมวกนิรภัยถึงร้อยละ 82.6(5) สาเหตุเบื้องต้นที่ท า ให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนยังคง เป็นปัจจัยร่วมระหว่างปัจจัยด้าน “คน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม” โดยปัจจัยบุคคลมี สัดส่วนที่สูงสุด ซึ่งผลการ ศึกษาต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศที่มีสัดส่วนรถ จักรยานยนต์ใกล้เคียงกับไทยพบ ใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ 95.6 รองลงมาเป็นปัจจัยด้านยานพาหนะ ร้อยละ 27.54 และปัจจัยด้านกายภาพ (ถนน) และสภาพแวดล้อมร้อย ละ 21.6 และถ้าวิเคราะห์สาเหตุการเกิดเหตุเฉพาะรถ จักรยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มี สัดส่วนการเสียชีวิตสูงสุด ส าหรับข้อมูลผู้เสียชีวิตจังหวัดศรีสะเกษจากข้อมูล 3 ฐาน โดยความร่วมมือของต ารวจ บริษัทกลางและ โรงพยาบาลทุกแห่ง อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในปี 2564 จ านวน 253 ราย คิดเป็นล าดับที่ เก็บ รวบรวมข้อมูลอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรย้อนหลัง 3 ปี ดังต่อนี้ ปี 2562 พบร้อยละ 26.33, ปี 2563 พบร้อยละ 25.83 ปี 2564 พบร้อยละ 8.19 และในปี 2565 (ตุลาคม – ธันวาคม 2564) พบ5.02 อัตราต่อแสน ประชากร ตามล าดับ จากการเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่าอัตราการเสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้ ความเร็วสูง แม้ว่าศูนย์ความปลอดภัยทางท้องถนนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการก าหนดจุดเสี่ยงพื้นที่ที่มีการเกิด อุบัติเหตุสูง มีการด าเนินการสอบสวนโรคในผู้เสียชีวิตเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอก ชล จัดให้มีการซ้อมแผนรับอุบัติเหตุหมู่ รณรงค์การขับขี่ปลอดภัย โครงการสวมหมวกกันน็อค 100 % และร่วม ออกมาตรการต่าง ๆ อย่างสม่ าเสมอ ในปี 2565 พบว่า การระบาดของโรค COVID -19 เป็นสายพันธุ์ Omicron ที่มีการระบาดอยู่ในขณะนี้ เชื่อกันว่าไวรัสจะแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มากเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงได้มีนโยบาย ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างเพื่อให้ ประชาชนด าเนินกิจกรรมต่างๆตามปกติแต่ต้องปฏิบัติตัวตามวิถีชีวิตใหม่ New Normal จึงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ อัตราการตายด้วยอุบัติเหตุจราจรเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามนโยบายการพัฒนางาน ER คุณภาพ ของกระทรวง สาธารณสุขภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID –19 ยังคงปฏิบัติตามแนวทางการดูแลผู้ป่วย อุบัติเหตุ ผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งระบบ IC ที่มีความเข้มงวดมาก เหมือนเดิม กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ตระหนักต่อการระบาดของโรค ระบบการ Consult แพทย์เฉพาะ สาขาที่มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ระบบ Fast Track ในผู้ป่วย Stroke, STEMI, Sepsis และ Trauma การคัดกรอง ผู้ป่วยสีเหลือง สีเขียวที่ไม่ผ่านระบบการส่งต่อ ต้องตรวจ ATK ทุกรายก่อนที่จะท าการคัดกรองผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่ กระบวนการการดูแลรักษาต่อไป เพื่อเป็นการค้นหา และป้องกันการแพร่กระจายเชื่อภายในห้องตรวจ ER ตารางที่ 139 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานลดแออัด ลดรอคอย ลดป่วย ลดตาย สาขาอุบัติเหตุ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน (Triage level 1) ภายใน 24 ชั่วโมง ใน โรงพยาบาลระดับ A, S, M1 (ทั้งที่ ER และ Admit) (Trauma < 12%, Non-trauma < 12%) ≤ 12 % 9.32 %


301 | P a g e มาตรการในการด าเนินงาน 1. การพัฒนา CPG การดูแลผู้ป่วยร่วมกับ PCT ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในกลุ่ม Pneumonia, Sepsis, CHF, UGIB Trauma audit ภายในเครือข่ายจังหวัดศรีสะเกษ 2. การพัฒนาระบบ Fast pass ไปยัง Ward 3. การพัฒนา TEA Unit โรงพยาบาลระดับ M1 - F2 ให้ผ่านเกณฑ์ ปัจจัยแห่งความส าเร็จ : ผู้บริหารเห็นความส าคัญ ปัญหาอุปสรรค 1. ขาดแคลนบุคลากร 2. ปัญหาด้านสถานที่และจ านวนเตียงที่ดูแลผู้ป่วย 3. ขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือที่จ าเป็น 4. ปัญหาด้านศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. งานบริการ (service delivery) - เพิ่มศักยภาพ Node - พัฒนาการคัดกรอง ร่วมกับ PUI ตามสถานการณ์ - โครงการอบรม Comprehensive Life support - อบรม Trauma audit / Referral audit - ซ้อมแผนสาธารณภัย/อุบัติเหตุกลุ่มชน/เหตุทะเลาะวิวาทใน ER หรือสถานการณ์อื่นๆที่ เกี่ยวข้องกับ ER 1-2 ครั้ง/ปี 2. ก าลังคนด้านสุขภาพ (workforce) - แพทย์ EP อยู่ระหว่างศึกษาต่อจะจบ, ปี 65-3 คน ปี 66- 1 คน ส่งอบรม ENP 2 คน/ปี - ขออัตราก าลังพยาบาลทดแทน 5 คน - ขออนุมัติจ้าง Paramedics & AEMT-I ต าแหน่งละ 3 คน - จัดท าแผนอบรมการพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน 2 คน/ปี 3. ระบบข้อมูลข่าวสาร (IT) - พัฒนาระบบ Digital Triage ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ - การพัฒนาห้องฉุกเฉินคุณภาพ 3 มิติ - พัฒนาระบบบริการที่มีมาตรฐาน (เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน, เพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยไม่ ฉุกเฉิน OPD นอกเวลา)


302 | P a g e - พัฒนาระบบสนับสนุนที่มีมาตรฐาน (อาคารสถานที่, ระบบสารสนเทศ Patient tracking, ศูนย์รับแจ้งเหตุ AOC) - การพัฒนาและธ ารงรักษาก าลังคน (EP ปัจจุบัน 3 คน ส.ค.65 มาเพิ่ม 3 คน,ENP มี 10 คน ก าลังศึกษา 2 คน, Paramedics มี 3 คน) ประเด็นงาน : ระบบบริการก้าวหน้า การพัฒนาสถานบริการตามนโยบาย EMS (Environment, Modernization and Smart Service) สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นโยบายการด าเนินงานกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2565 โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข มุ่งเน้น ให้มีพัฒนาโรงพยาบาลทุกระดับให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความทันสมัย และบริการที่ดี ตามนโยบาย (EMS : Environment, Modernization and Smart Service) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด 19 และความเจ็บป่วยเรื้อรังอื่นๆ ตารางที่ 140 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานระบบบริการก้าวหน้า ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1. สถานบริการผ่านเกณฑ์การประเมิน ขั้นพื้นฐาน (The Must) ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 2. สถานบริการต้นแบบในการพัฒนา ตามนโยบาย EMS ที่ผ่านเกณฑ์การ ประเมินในระดับสูง (The Best) อย่าง น้อยเขตสุขภาพละ 1 แห่ง - รพศ./รพท. 1 แห่ง,รพช 10 แห่ง - รพศ./รพท./รพช.ในจังหวัดผ่าน เกณฑ์ The Best จ านวน 1 แห่ง - รพศ./รพท. ผ่านการประเมิน 1 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 50 ,รพช. ผ่านการประเมิน 11 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 55 - รพช.ผ่านเกณฑ์ The Best ระดับเขต จ านวน 1 แห่ง มาตรการในการด าเนินงาน การพัฒนาให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนต่อการจัดบริการรูปแบบใหม่ให้ ครอบคลุม ในทุกมิติสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการน าเทคโนโลยี นวัตกรรมที่มีความทันสมัย ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. ผู้บริหารเห็นความส าคัญ 2. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาอุปสรรค : งบประมาณในการพัฒนา แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป ปรับปรุงและพัฒนางานด้านสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนต่อการจัดบริการ รูปแบบใหม่ให้ครอบคลุม ในทุกมิติสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการน าเทคโนโลยี นวัตกรรมที่มีความทันสมัย ในงบประมาณที่มีจ ากัด เน้นสิ่งจ าเป็นเร่งด่วน ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ : โรงพยาบาลราษีไศลผ่านเกณฑ์ The Best ระดับเขต


303 | P a g e ประเด็นงาน : การด าเนินการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุข ก าหนดนโยบายการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการองค์กรโดยน าเกณฑ์คุณภาพ การบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) มาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ถึง ปัจจุบัน และในปี พ.ศ.2565 ได้ก าหนดตัวชี้วัดระดับความส าเร็จของการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ของส่วนราชการในสังกัดส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี(ด้าน สาธารณสุข) ยุทธศาสตร์ที่ 4 บริหารเป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล(Governance Excellence) แผนงานที่ 11 การ พัฒนาระบบธรรมาภิบาลและองค์กรคุณภาพ โครงการพัฒนาคุณภาพ และตัวชี้วัดระดับความส าเร็จของการ พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการของส่วนราชการในสังกัดส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมาย ความส าเร็จการด าเนินการในระดับส านักงานสาธารณสุขจังหวัดและส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ ร้อยละ 100 และให้ด าเนินการภาคบังคับ ในปี 2561-2563 ปีละ 2 หมวด และในปี 2564-2565 ปีละ 6 หมวด โดยหน่วยงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษมีการขับเคลื่อนการด าเนินงานพัฒนาหน่วยงานทั้งจังหวัด ในส่วนของส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดด าเนินการในรูปแบบคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) แบ่งความ รับผิดชอบรายหมวดและประเด็นงานในแบบฟอร์มที่ก าหนดส าหรับด าเนินงาน และส่วนของส านักงานสาธารณสุข อ าเภอด าเนินการในรูปแบบคณะกรรมการของแต่ละแห่ง ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพและ เกิดประสิทธิผล รวมทั้งผ่านเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขก าหนด ตารางที่ 141 ตัวชี้วัด เป้าหมายโครงการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) จังหวัดศรีสะเกษ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตัวชี้วัด เป้าหมาย 1. ร้อยละการด าเนินการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ตามเกณฑ์ที่ส านักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุขก าหนด (ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด) 2. ร้อยละของส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ ด าเนินการ พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐผ่านเกณฑ์ที่ ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขก าหนด - ร้อยละ 100 - ร้อยละ 100 ผลการด าเนินงาน - ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด และส านักงานสาธารณสุขอ าเภอทุกแห่ง ด าเนินการพัฒนาคุณภาพการ บริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) ผ่านตามเกณฑ์ที่ก าหนด ร้อยละ 100 1) จัดท าลักษณะส าคัญขององค์กร จ านวน 13 ข้อค าถาม และทบทวนทุกปี 2) ด าเนินการประเมินองค์การด้วยตนเอง(Self-Assessment) หมวด 1- 6 หาโอกาสในการ ปรับปรุง(Opportunity For Improvement: OFI) 3) น าโอกาสในการปรับปรุง(OFI) มาจัดล าดับความส าคัญและจัดท าแผนพัฒนาองค์การ หมวดละ 1แผน 4) ก าหนดตัวชี้วัดหมวด 7ผลลัพธ์การด าเนินการ ตามหัวข้อ 7.1-7.6 จ านวน 6 หัวข้อ ครบ 18ข้อ


304 | P a g e 5) ด าเนินการแผนพัฒนาองค์การ 6) จัดส่งรายงานความก้าวหน้าผลการด าเนินงานของแผนพัฒนาองค์การและผลลัพธ์ตัวชี้วัด รอบ 3, 6, 9 และ 12 เดือน ให้กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบออนไลน์ ภายใน ระยะเวลาที่ก าหนด 7) จัดท าแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice) และผลงานที่โดดเด่นจากการน าเกณฑ์ คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) มาพัฒนาบริหารจัดการองค์กร อย่างน้อย 1 เรื่อง มาตรการในการด าเนินงาน 1. จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) ส านักงาน สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 2. จัดประชุม/ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรผู้รับผิดชอบในการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหาร จัดการภาครัฐ(PMQA) เพื่อสามารถขับเคลื่อนการด าเนินงานให้เป็นไปในทิศทางที่กระทรวงสาธารณสุขก าหนด 3. จัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับประสบการณ์การด าเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ ภาครัฐ(PMQA) 4. ประสานและติดตามให้มีการรายงานผลการด าเนินงานตามแผน และจัดส่งรายงานเข้าระบบออนไลน์ ของส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. เป็นนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ก าหนดให้เป็นตัวชี้วัดชี้วัดการด าเนินงานใน ภาพของหน่วยงานสาธารณสุขที่ต้องขับเคลื่อนการด าเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน 2. สามารถรายงานและประเมินผลการด าเนินงาน ผ่านระบบออนไลน์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ ท าให้ สะดวกต่อการก ากับและติดตาม ผลการด าเนินงานได้อย่างเป็นระบบ 3. ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดกับผู้รับผิดชอบงานในระดับอ าเภอ ท าให้เกิด ความร่วมมือและช่วยเหลือด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ปัญหาอุปสรรค 1. มีงบประมาณและบุคลากรสนับสนุนการด าเนินงานจ านวนจ ากัด 2. การจัดการข้อมูลของการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) ค่อนข้างมาก ในขณะที่ข้อมูลจากเอกสารหรือหลักฐานของประเด็นงานที่เกี่ยวข้องยังไม่เกิดการบูรณาการกัน มีผลต่อการส่งต่อ ของเนื้อหาและการจัดระบบการด าเนินงาน แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการหรืออบรมให้ความรู้แก่บุคลากรผู้รับผิดชอบในการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพ การบริหารจัดการภาครัฐ(PMQA) พร้อมกับแนวทางในการยกระดับการพัฒนาสู่การขอรับรางวัลเลิศรัฐ


305 | P a g e อันเป็นการบูรณาการเชิงบริหารจัดการให้ผ่านการด าเนินงานตามเกณฑ์ที่ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก าหนด และผลักดันให้เห็นผลเชิงการสร้างขวัญและก าลังใจในการได้รับรางวัลต่อไป 2. มีการลงพื้นที่ไปก ากับ ติดตาม และเสริมพลังในการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) ให้กับส านักงานสาธารณสุขอ าเภอที่เป็นหน่วยงานในสังกัด ผลงานที่โดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. การพัฒนารูปแบบการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้เครื่องมือธรรมนูญต าบล จังหวัดศรีสะเกษ 2. การลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยใช้กลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ จังหวัด ศรีสะเกษ ประเด็นงาน : พัฒนาคุณภาพบริการ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ศรีสะเกษ มีจ านวนโรงพยาบาลทั้งหมด 22 แห่ง แบ่งเป็น รพศ/รพท จ านวน 2 แห่ง ผ่านการรับรอง คุณภาพขั้น 3 จ านวน 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 มีจ านวน รพช.ทั้งหมด 20 แห่ง ผ่านการรับรองคุณภาพ ขั้น 3 จ านวน 17 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85 มีโรงพยาบาลที่ยังไม่ผ่านการรับรองขั้น 3 จ านวน 3 แห่ง ได้แก่ รพ.พยุห์ รพ.โนนคูณ และ รพ.ศิลาลาด ตารางที่ 142 ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพบริการ ตัวชี้วัด เป้าหมาย ผลการด าเนินงาน 1. รพ.ทุกแห่งผ่านการประเมิน รับรองคุณภาพ ขั้น 3 2. รพ.ทุกแห่งที่ผ่านการรับรอง คุณภาพ ขั้น 3 มีการต่ออายุ การรับรองคุณภาพทุกแห่ง 3 แห่ง (รพ.ศิลาลาด/โพธิ์ศรีสุวรรณ/พยุห์) 11 แห่ง (รพ.ศรีสะเกษ/เบญจลักษ์/บึงบูรพ์/เมือง จันทร์/วังหิน/อุทุมพรพิสัย/ขุขันธ์/ปรางค์ กู่/ยางชุมน้อย/ราษีไศล/น้ าเกลี้ยง) โรงพยาบาลทุกแห่งผ่านการประเมินรับรอง คุณภาพ ขั้น 3 โรงพยาบาลทุกแห่งผ่านการต่ออายุการรับรอง คุณภาพ มาตรการในการด าเนินงาน 1. จัดท าค าสั่งระดับจังหวัด 2. การน าองค์กร ของผู้บริหาร สสจ.และ ผอ.รพ.ในการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน HA 3. ใช้เครือข่ายพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลด้วยระบบพี่เลี้ยงเครือข่าย สสจ.ศรีสะเกษ (QLN:Quality Learning Network) 4. การใช้เกณฑ์ Ranking HA ในการกระตุ้นขับเคลื่อนการพัฒนา ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. การน าองค์กร ของผู้บริหารทุกระดับในการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน HA


306 | P a g e 2. การเรียนรู้ร่วมกันของเครือข่ายพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลด้วยระบบพี่เลี้ยงเครือข่าย สสจ.ศรีสะเกษ 3. สสจ.สนับสนุนงบประมาณในการด าเนินงานด้วยระบบพี่เลี้ยงเครือข่าย สสจ.ศรีสะเกษ 4. ผู้อ านวยการโรงพยาบาลทุกแห่งสนันสนุนให้ทีมร่วมเป็นพี่เลี้ยงเครือข่ายจังหวัดศรีสะเกษ 5. มีพี่เลี้ยง สรพ.เป็นบุคลากรในจังหวัดศรีสะเกษ 6. ทีมพี่เลี้ยงที่เข้มแข็งเป็นจิตอาสาสามารถเป็นแบบอย่างได้ ปัญหาอุปสรรค 1. สถานการณ์โรคระบาด(Covid 19) ท าให้การด าเนินงานในบางส่วนไม่สามารถด าเนินงานได้ตาม เป้าหมาย 2. งบประมาณที่จ ากัด แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. สมัครโครงการ Membership ต่อเนื่องในปี 67 2. พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เป็นผู้น าการพัฒนาคุณภาพทุกระดับในองค์กรรวมทั้งความรู้ในการพัฒนา คุณภาพ ผลงานที่โดดเด่น/ รางวัลที่ภาคภูมิใจ 1. โรงพยาบาลในจังหวัดศรีสะเกษ ผ่านการรับรองและต่ออายุการรับรองคุณภาพ ครบทุกแห่ง ร้อยละ 100 และเมื่อเทียบกับ จังหวัดอุบลราชธานีที่ยังไม่ครบทุกแห่ง 2. ทีมพี่เลี้ยงคุณภาพจังหวัดที่เข้มแข็ง เสียสละ 3. ทีมพี่เลี้ยงประกอบด้วยทีมสหวิชาชีพ ท าให้การเสริมพลังและค าปรึกษาที่ตรง ประเด็นงาน : การพัฒนาคุณภาพงานวิชาการ สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ผลการด าเนินวิชาการในช่วงระยะเวลา 5 ปีย้อนหลัง กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานของรัฐมีขอบเขตความรับผิดชอบในงานที่มีผลต่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยได้ก าหนดยุทธศาสตร์ ที่จะ พัฒนาความเป็นเลิศ 4 ด้าน คือ 1) ส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคเป็นเลิศ (Prevention & Promotion Excellence)2) บริการเป็นเลิศ (Service Excellence) 3)บุคลากรเป็นเลิศ (People Excellence)และ 4) บริหาร เป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล (Governance Excellence) เพื่อขับเคลื่อนทุกหน่วยงานไปสู่เป้าหมายโดยน ากรอบ แนวคิดประเทศไทย 4.0" สร้างเศรษฐกิจใหม่ ก้าวข้ามกับดักรายได้ ปานกลาง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals– SDGs by 2030)ซึ่งการด าเนินงานเพื่อให้บรรลุการด าเนินงานตาม ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรด้านการคิดค้น นวัตกรรมและกระบวนการการจัดท าวิจัย จึงเป็นกลยุทธ์ที่ส าคัญที่หน่วยงานสาธารณสุขทุกหน่วยงานต้องด าเนินการอย่างต่อเนื่อง


307 | P a g e การด าเนินงานพัฒนางานวิจัยของเขตสุขภาพที่ 10ในปีงบประมาณ 2565 โดยนโยบายผู้ตรวจ ราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 10 (นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน) ก าหนดให้การพัฒนาการวิจัยเพื่อ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของพื้นที่เป็นหลักและเป็นการน าวิจัยที่มิใช่หวังผลเพียงได้ผลงานวิชาการอย่างเดียว โดย เมื่อมีผลงานวิชาการ แล้วต้องมีระบบฐานข้อมูลเพื่อการสืบค้นภายในอย่างเป็นระบบ และผลงานวิชาการเหล่านี้ได้ ถูกน าใช้ประโยชน์ทั้งในงานในพื้นที่หรือการน าไปสู่การก าหนดเป็นนโยบายภาพรวมของเขตสุขภาพ ซึ่งในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาวิชาการอยู่ในรูปคณะกรรมการโดยมีผู้บริหารระดับสูงสุดของเขตสุขภาพท าหน้าที่เป็นหัวหน้า จัดการระบบของการจัดการความรู้ในองค์กรคณะกรรมการจัดการความรู้ (Chief Knowledge Officer: CKO) แล้วมีคณะกรรมการย่อยในแต่ละส่วนแบ่งความรับผิดชอบเช่น คณะกรรมการวิจัยและ R2R คณะกรรมการจัดการ ความรู้ คณะกรรมการจัดท าฐานข้อมูลการวิจัยและคณะกรรมการพิจารณาธรรมการวิจัย ใช้กลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรทั้งในระดับเขตและแต่ละจังหวัด การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มอบหมายให้ทุกจังหวัดเวียน ความรับผิดชอบในการจัดกิจกรรมประชุมวิชาการเขตสุขภาพประจ าปีโดยให้มีการส่งผลงานวิชาการในระดับพื้นที่ เข้าร่วมน าเสนอละมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ร่วมวิพากษ์ให้ข้อเสนอแนะปรับปรุงที่ส่งผลให้บุคลากรอยาก มีส่วนร่วมมากขึ้นการบริหารจัดการฐานข้อมูลการวิจัยที่อาศัยสถาบันในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนกที่ตั้งอยู่ใน เขตสุขภาพรับผิดชอบได้แก่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรอุบลราชธานี และการพัฒนาโครงสร้างและกิจกรรม สนับสนุนเพื่อให้การพัฒนาวิชาการความก้าวหน้ายิ่งขึ้น จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีกระบวนการพัฒนางานด้านวิชาการอย่างยาวนานตั้งแต่มีการก าหนด นโยบายการพัฒนาสถานีอนามัย ปี 2535 ที่ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับมีการผลิตผลงานวิชาการโดย สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการเข้าร่วมประชุมและน าเสนอผลงานวิชาการในเวทีวิชาการระดับต่างๆทั้งเป็นเวที ภายในหน่วยงานของตนเอง เวทีการประชุมวิชาการของเครือข่ายบริการสุขภาพระดับอ าเภอ เวทีวิชาการ สาธารณสุขระดับจังหวัด และเวทีวิชาการภายนอกได้แก่ เวทีวิชาการของศูนย์วิชาการต่างๆ เวทีวิชาการระดับเขต และเวทีวิชาการประจ าปีระดับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้อาศัยกลยุทธ์ส าคัญ 8 กลยุทธ์ ได้แก่ การพัฒนาบุคลากร ด้านการวิจัยโดยมีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการวิจัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับทั้งการ จัดโดยหน่วยงานต้นสังกัดและการจัดโดยส านักงานสาธารณสุขจังหวัดซึ่งวัดประเมินผลส าเร็จของการอบรมจาก จ านวนผลงานวิชาการตามจ านวนผู้ร่วมอบรม การเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในหน่วยงานในรูปของ คณะกรรมการขับเคลื่อนงานวิชาการภายในเครือข่ายบริการสาธารณสุขระดับอ าเภอและการแต่งตั้งคณะกรรมการ ขับเคลื่อนวิชาการระดับจังหวัด การจัดเวทีแลกเปลี่ยนรู้เรียนรู้โดยการจัดประชุมวิชาการสาธารณสุขประจ าปีระดับ จังหวัดซึ่งได้จัดให้มีระบบการลงทะเบียนการเข้าร่วมประชุมในเว็บไซต์ของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี2554 – 2563 รวมทั้งสิ้น 4,352 ผลงาน ดังนี้ ปี 2554 จ านวน 525 ผลงาน ปี 2555 จ านวน 465 ผลงาน ปี 2566 จ านวน 540 ผลงาน ปี 2557 จ านวน 391 ผลงาน ปี 2558 จ านวน 422 ผลงาน ปี 2559 จ านวน 293 ผลงาน ปี 2560 จ านวน 493 ผลงาน ปี 2561 จ านวน 315 ผลงาน ปี 2562 จ านวน 360 ผลงาน และปี 2563


308 | P a g e จ านวน 548 ผลงาน ปี 2564 ผลงานระดับจังหวัด จ านวน 204 ผลงาน ผลงานระดับเขต จ านวน 64 ผลงาน ผลงานระดับกระทรวง จ านวน 104 ผลงาน ผลการด าเนินงานวิชาการในปีงบประมาณ 2565 จากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง จังหวัดศรีสะเกษจึงได้น า แนวทางในการพัฒนาการจัดท างารนวิชาการกระจายไปสู่การด าเนินงานโดยเครือข่ายบริการจ านวน 22 เครือข่าย โดยมีส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษเป็นผู้ประสานงานและขับเคลื่อนการด าเนินงานวิชาการต่อในระดับ เขตและระดับกระทรวงโดยปรับกระบวนการด าเนินงานโดยใช้ CIPP modelแบบใหม่ ดังนี้วิเคราะห์ได้แก่ ๑. บริบท (Context : C) สนับสนุนให้เครือข่ายด าเนินงานประชุม ผลิตนวัตกรรมจากบริบทในพื้นที่และกระตุ้นหน่วย บริการในเครือข่ายได้แก่หน่วยบริการปฐมภูมิให้มีการจัดท าวิจัยหรือนวัตกรรมอย่างน้อย 1 ผลงาน /หน่วยบริการ และส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษมีบทบาทก าหนดนโยบายระดับจังหวัด การสนับสนุนองค์ความรู้ ทีมพี่ เลี้ยงติดตาม ออกใบรับรองผลการจัดท าผลงานวิชาการ (เกียรติบัตร) ๒. ประเด็นปัจจัยน าเข้า (Input : I) ได้แก่ (1)ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษมอบนโยบายการด าเนินงานขับเคลื่อนในระดับเครือข่ายและสนับสนุน การเข้าร่วมงานวิชาการในระดับเขตสุขภาพ ระดับกระทรวงของเครือข่ายบริการสุขภาพทุกอ าเภอ (2) เครือข่าย บริการสุขภาพทุกอ าเภอจัดหาบุคลากร งบประมาณ ทรัพยากร และการบริหารจัดการในการจัดประชุม จัดท า บทความวิชาการ/ผลงานวิจัย/นวัตกรรมร่วมกับลูกข่ายในพื้นที่ 3..กระบวนการ (Process : C) ได้แก่ การจัด ประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศงาน การตรวจติดตาม การควบคุมก ากับและการรายงาน โดยส านักงาน สาธารณสุขจังหวัด โซนสุขภาพและเครือข่ายบริการสุขภาพ ๔. ผลลัพธ์และผลผลิต (Product : P) ผลลัพธ์ที่ ต้องการ คือ การเวทีประชุมและน าเสนอผลงานวิชาการระดับจังหวัด ปีละครั้ง และจ านวนผลงานที่เข้าร่วม น าเสนอ รพท. จ านวน 10 เรื่อง รพช. จ านวน 5 เรื่อง ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ 2 เรื่อง และโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบล แห่งละ 1เรื่อง ส่วนผลกระทบเชิงบวก ได้แก่ การใช้ผลงานวิชาการประกอบการเลื่อนระดับ ที่สูงขึ้น กิจกรรมที่ 1 การพิจารณาจริยธรรมการวิจัย การพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ของส านักงานสาธารณสุขศรีสะเกษ ได้ด าเนินการพิจารณาให้ บุคลากรในสังกัดก่อนเนินการวิจัย ร้อยละ 100 แยกเป็นประเภท ให้การรับรอง จ านวน 107 เรื่อง ตารางที่ 143 ข้อมูลกิจกรรมที่ 1 การพิจารณาจริยธรรมการวิจัย ล าดับที่ รายการ เป้าหมาย ผลงาน ร้อยละ 1 จัดประชุมพิจารณาฯ 12 6 50 2 ประเภทรับรองโครงการวิจัย 107 107 100 3 ประเภทยกเว้น - - - 4 การจัดอบรมจริยธรรมฯ - - -


309 | P a g e ปัญหาและอุปสรรค 1. นักวิจัยที่ส่งขอจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ ต้องการให้คณะกรรมการพิจารณาฯ อย่างรวดเร็วภายใน 1เดือน 2. นักวิจัยขอให้รับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ย้อนหลัง 3. เอกสารที่ส่งมาพิจารณาจริยธรรมการวิจัย ไม่ครบและ ไม่ถูกต้อง ท าให้เกิดความล้าช้าในกระบวนการท างาน แนวทางการพัฒนาในปี 2565 1. ปรับระบบการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์โดยเลขาคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมส่ง เอกสารให้คณะกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละสาขาที่ก าหนดขึ้นให้พิจารณาเนื้อหาก่อนเบื้องต้น ก่อนที่ จะมี การประชุมพิจารณาในวันประชุมจริง เพื่อแก้ไขปัญหาการจ ากัดจ านวนผู้เข้าประชุม /ลดระยะเวลาของการประชุม 2. ลดระยะเวลาในการออกหนังสือรับรองจริยธรรมสั้นลง(เดิม 45วัน)คงเหลือระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน 3. รายงานผู้บังคับบัญชา ไม่มีการอนุมัติจริยธรรมย้อนหลัง ซึ่งเป็นการกระท าผิดจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ 4. ทุกหน่วยงานควรจัดการเรียนรู้การท าวิจัย R2R CQI และนวัตกรรม โดยเน้นการขอจริยธรรมการวิจัย ในมนุษย์ กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาวารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพจังหวัดศรีสะเกษ (Sisaket Journal of Research and Health development (SJRH) ผลการด าเนินงาน 1. การเผยแพร่บทความวิชาการบนเว็บไซด์ของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ตามลิงค์ http://docresearch.ssko.moph.go.th/ จ านวน 10 เรื่อง ระหว่างเดือน สิงหาคม-ธันวาคม 2565 2. การแต่งตั้งกองบรรณาธิการประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และสถาบันการศึกษา 3. การพัฒนาวารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลาง ของป ระเทศไทย Thai Journals Online (Thai JO) ตั้งแต่เดือนมกร าคม 2566 ผ่ านเ วปไซค์ ว า รส า ร https://he03.tci-thaijo.org/index.php/SJRH ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (กันยายน –ธันวาคม 2565) ก าหนดเผยแพร่ จ านวน3 ฉบับ/ปี ISSN 2822-0749 (Online) ปัญหาและอุปสรรค 1. บุคลากรผู้ดูแลระบบการเข้าใช้ระบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย Thai Journals Online (Thai JO) ยังไม่คล่อง 2. ผลงานที่ส่งเข้ามาเผยแพร่ ยังมีน้อย เนื่องจากก าลังด าเนินการ 3. ไม่มีบุคลากร ประจ ากองบรรณาธิการ 4. งบประมาณสนับสนุนการด าเนินงานไม่เพียงพอ


310 | P a g e 5. ขาดเอกสารคู่มือการด าเนินงานและระเบียบการใช้เงิน แนวทางการแก้ไข 1. พัฒนาบุคลากรในหน่วยงานให้มีทักษะในการใช้โปรแกรมวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศ ไทย Thai Journals Online (Thai JO) 2. จัดหางบประมาณสนับสนุนการด าเนินงานที่ต่อเนื่อง 3. ประชาสัมพันธ์การจัดท าวารสารไปยังหน่วยงานข้างนอก เพื่อให้มีผลงานที่หลากหลายและก้าวสู่ มาตรฐานการจัดท าวารสารวิชาการระดับสูงขึ้น 4. จัดหาบุคลากรที่รับผลชอบงานวิจัยโดยตรง 5. จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการจัดท าวิชาการแก่บุคลากรเพื่อการจัดท าบทความวิชาการที่มีคุณภาพ 6. จัดท าคู่มือการด าเนินงานโดยเฉพาะระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณในการจัดท าวารสาร กิจกรรมที่ 3 การประชุมและน าเสนอผลงานวิชาการด้านสาธารณสุข กลุ่มงานพัฒนาคุณภาพและรูปแบบบริการได้ด าเนินการสนับสนุนการจัดท าวิชาการในทุกระดับโดยมี บุคลากรสาธารณสุขได้ส่งผลงานเข้าร่วมน าเสนอผลงานวิชาการตั้งแต่ระดับจังหวัด เขตจนถึงระดับกระทรวง สาธารณสุข โดยมีผลงานการจัดท าผลงานวิชาการในระดับต้นๆของเขตสุขภาพโดยในปี 2565 ได้ด าเนินการส่งผล งานวิช าก ารเข้า ร่วมใน ระดับกระทรวงสาธ า รณสุข ป ระจ าปีงบป ระม าณ 2565 ผ่ านท างเว็ปไซต์ http://moph.co.th โดยมีการส่งผลงานวิชาการในระดับกระทรวงจ านวน 2,770 ผลงาน และเขตสุขภาพที่ 10 มี จ านวนผลงานวิชาการที่ส่งเข้ารับคัดเลือกจ านวนทั้งหมด 580 ผลงาน ได้รับการคัดเลือกในระดับกระทรวงจ านวน ทั้งหมด 121 ผลงาน คิดเป็นร้อยละ 20.16 สรุปผลการด าเนินงานวิชาการในระดับต่างๆ ดังนี้ ตารางที่ 144 ข้อมูลกิจกรรมที่ 3 การประชุมและน าเสนอผลงานวิชาการด้านสาธารณสุข ล าดับที่ รายการ เป้าหมาย ผลงาน ร้อยละ ผลงานเด่น 1 การจัดประชุมวิชาการประจ าปีระดับ เครือข่าย (CUP) 22 22 (ครั้ง) 100 - 2 การจัดประชุมวิชาการประจ าปีระดับ กระทรวง 1 1 100 3 ผลงานระดับจังหวัด 223 223 100 - 4 ผลงานระดับจังหวัด 45 45 100 9 3 ผลงานระดับกระทรวง 49 49 5 5 ปัญหาและอุปสรรค 1. ผลงานวิชาการน้อยเนื่องจากไม่มีการจัดประชุมวิชาการระดับจังหวัดเนื่องจากสถานการณ์การ ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา2019 2. หลายอ าเภอที่เคยส่งผลงานจ านวนมาก มาระยะหลังไม่มีผลงานน าเสนอ


311 | P a g e 3. ไม่มีเวทีเชิดชูเกียรติในระดับจังหวัด 4. งบประมาณสนับสนุนการด าเนินงานน้อย 5. ขาดการด าเนินงานด้านวิชาการที่ต่อเนื่อง เนื่องจากผู้รับผิดชอบงานย้าย แนวทางการแก้ไข 1. ระดับจังหวัด ควรคงนโยบายการจัดล าดับไว้ โดยมีผลงานวิชาการเป็นตัวชี้วัดอีกตัว 2. จัดงบประมาณสนับสนุน หรือการสร้างขวัญก าลังใจ 3. จัดเวทีเชิดชูเกียรติ ร่วมกับฝ่ายต่างๆ 4. แสวงหางบประมาณจากแหล่งทุนภายนอก 5. สนับสนุนทีมพี่เลี้ยงการจัดท าผลงานวิชาการในระดับจังหวัด ระดับโซนสุขภาพ 6. ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ก าหนดนโยบายให้ทุกเครือข่ายได้ด าเนินกิจกรรมงานวิชาการ ควบคู่และบูรณาการร่วมกับงานอื่นๆและทุกเครือข่ายมีแผนการจัดท างานวิชาการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 7. สร้างขวัญและก าลังใจให้แก่บุคลากรผู้มีผลงานวิชาการในด้านความดีความชอบและความก้าวหน้า 8. จัดท าปฏิทินการสร้างองค์ความรู้ด้านการจัดท าวิจัยผ่านคลินิกนักวิจัยสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 9. สนับสนุนช่องทางการเผยแพร่ผลงานวิชาการของนักวิจัยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การน าเสนอทางวาจา โปสเตอร์ การตีพิมพ์วารสาร ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 1. เป็นนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ก าหนดให้เป็นตัวชี้วัดชี้วัดการด าเนินงานใน ภาพของหน่วยงานสาธารณสุขที่ต้องขับเคลื่อนการด าเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน 2. สามารถรายงานและประเมินผลการด าเนินงาน ผ่านระบบออนไลน์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ ท าให้ สะดวกต่อการก ากับและติดตาม ผลการด าเนินงานได้อย่างเป็นระบบ 3.การสร้างบรรยากาศในองค์กรให้เอื้อต่อการท ากิจกรรมงานวิชาการ ในหน่วยงานทุกระดับ 4.กระบวนการสร้างแรงจูงใจแก่บุคลากรผู้จัดท างานวิชาการ เช่น ความดีความชอบ แนวทางการพัฒนางานในปีถัดไป 1. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการหรืออบรมให้ความรู้ในประเด็นที่สนับสนุนให้บุคลากรสาธารณสุขเข้าถึง กระบวนการจัดท าวิจัยได้ง่าย เช่น การพัฒนาศักยภาพด้านจริยธรรมส าหรับวิจัย 2. การสร้างบรรยากาศการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุขให้มีการต่อยอดประเด็นการปฏิบัติงานโดย ใช้กระบวนการค้นคว้าและศึกษาวิจัย 3. การก าหนดนโยบายที่ชัดเจนของผู้บริหารตั้งแต่ระดับกรม เขต จังหวัดให้มีความสอดคล้องกันและมี กิจกรรมที่สนับสนุนให้บุคลากรได้จัดท าผลงานวิชาการอย่างสม่ าเสมอทุกไตรมาส


312 | P a g e 4. บูรณาการเชิงบริหารจัดการด้านวิชาการให้เชื่อมต่อกับการปฏิบัติงานครอบคลุมการบริการด้าน สาธารณสุขครบ 4 มิติ ได้แก่ การส่งเสริม ป้องกันโรค รักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพ จนเกิดผลส าเร็จของการ จัดการเรียนรู้ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับกระทรวง ระดับกรม ระดับเขตสุขภาพ จังหวัด เครือข่าย และผลักดันให้การ สร้างขวัญและก าลังใจบุคลากรจากการท าผลงานวิชาการ 5. การลงพื้นที่ไปก ากับ ติดตาม และเสริมพลังในการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพงานวิชาการ ให้กับ เครือข่ายบริการสุขภาพทุกอ าเภอ 6. ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้รับผิดชอบงานในระดับจังหวัดกับผู้รับผิดชอบงานในระดับอ าเภอ ท าให้เกิด ความร่วมมือและช่วยเหลือด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง


ผลการด าเนินงาน กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชสาธารณสุข


313 | P a g e 3.6 ผลการด าเนินงานกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข ประเด็นงาน : การพัฒนาระบบบริการให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU) จังหวัดศรีสะเกษ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ก าหนดให้การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เป็นแผนพัฒนาระบบ บริการสุขภาพ วัตถุประสงค์เพื่อให้การใช้ยาเกิดความคุ้มค่าและปลอดภัยและการป่วยจากเชื้อดื้อยาลดลง จังหวัด ศรีสะเกษ ได้ด าเนินการผ่านการขับเคลื่อนของการพัฒนางานบริการสาขาส่งเสริมการใช้ยาสมเหตุผล (Service Plan) ระดับจังหวัด มีการน านโยบาย ลงสู่การปฏิบัติ ปี 2565 จากนโยบายการด าเนินงานของกระทรวง สาธารณสุขพัฒนาระบบสุขภาพใหมีการใชยาอย่างสมเหตุผลในระดับจังหวัดและอ าเภอ พัฒนาสู่“จังหวัดใช้ยา อย่างสมเหตุผล” (RDU Province)นโยบายระบบและโครงสร้างกระบวนการและการติดตามประเมินผลเพื่อการ พัฒนา สู่ “อ าเภอใชยาสมเหตุผล” ตามเป้าหมายที่กระทรวงก าหนด ที่มุ่งเน้นการด าเนินงานให้ครอบคลุม องค์ประกอบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ (1) การพัฒนาโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนใหมีการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU Hospital) ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด10 ใน 12 ตัวชี้วัด (2) การพัฒนาสถานพยาบาลเอกชนและร้านยาให้มีการใชยาอย่าง สมเหตุผล (RDU in Private Sectors) มีการด าเนินการประเมินตนเองตามแบบประเมินจากสบส. และเกณฑ์ ประเมินร้านยา GPP หมวด 5 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 (3) การพัฒนาการใชยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน (RDU Community) ผ่านเกณฑ์ระดับ 5 ซึ่งจากผลการด าเนินงานRDU Province ปีงบประมาณ 2565 พบว่า ผล ประเมินการด าเนินงาน RDU Province ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จ านวน 5 แห่ง ได้แก่ ราษีไศล บึงบูรพ์ ศิลาลาด โพธิ์ ศรีสุวรรณ ยางชุมน้อย ส่วนมาตรการการด าเนินงาน ได้แก่ สรุปการรายงานผลการด าเนินงาน RDU ในการ ประชุมระดับจังหวัด การก าหนดตัวชี้วัดในการประเมินผลการด าเนินระดับอ าเภอ (Ranking) และการนิเทศ ติดตามผลการด าเนินงานเชิงรุก การ บรูณาการการด าเนินงานเภสัชกรเยี่ยมบ้าน เภสัชกรรมปฐมภูมิ ส่งเสริมการ ใช้ยาสมเหตุผลในชุมชน เน้นการด าเนินงานโดยอาศัยเครือข่าย ตัวชี้วัด : ระดับความส าเร็จของการด าเนินงานพัฒนาสู่จังหวัดใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU province) ตามเกณฑ์ ที่ก าหนด การประเมินผล มีการวัดเกณฑ์การประเมิน 3 ด้าน 1. RDU hospital ตารางที่ 145 ข้อมูลตัวชี้วัด เกณฑ์การประเมิน RDU hospital - รพ.ของรัฐ มีตัวชี้วัด 12 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัด เกณฑ์การประเมิน RI -รพ.ระดับ A ,S,M1 ≤ ร้อยละ 30 I -รพ.ระดับ F M1 ≤ ร้อยละ 20 AD ≤ ร้อยละ 20 FTW ≤ ร้อยละ 50 APL ≤ ร้อยละ 15


Click to View FlipBook Version