บทที่ ความรูเ้ บ
ภาษาแล
1
เบอ้ื งต้นเก่ียวกับ
ละการสื่อสาร
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของภาษา
2. ความสําคัญของภาษาเพอื่ สอ่ื สาร
3. องค์ประกอบของการสอ่ื สาร
4. ประเภทของภาษาเพื่อส่ือสาร
5. ระดับของภาษา
6. ข้อควรระวังในการใชภ้ าษา
เพ่ือการสือ่ สาร
1. ความหมา
คําว่า ภาษา
บอก กล่าว มีนักวิชาก
ภาษาไว้หลายความห
ซ่ึงอาจสรุปไ
พูดหรือเขียนเพื่อส
ภาษาพูดก่อนภาษาเ
นักภาษาศาสตรพ์ บว่า
ภาษา ในขณะทมี่ ภี าษ
ายของภาษา
า มาจากคําว่า “ภาษ” แปลว่า พูด
การหลายท่านได้ให้ความหมายของ
หมาย
ได้ว่า ภาษา คือ ถ้อยคําท่ีมนุษย์ใช้
สื่อสารความหมาย ทุกภาษาจะมี
เขียน หรอื บางภาษาไม่มีภาษาเขียน
ามนุษย์มีภาษาพูด ประมาณ 3,000
ษาเขียนเพียง 400 ภาษาเทา่ น้ัน
2. ความสาํ คัญขอ
1. ภาษาเ
วฒั น
2. ภาษา
ใหค้ น
3. ภาษาเป็น
4. ภาษาเ
5. ภาษาเป
องภาษาเพื่อส่ือสาร
เปน็ เครอ่ื งมือในการถา่ ยทอด
นธรรม และปลกู ฝงั คณุ ธรรม
าเปน็ เครอ่ื งมอื ในการสือ่ สาร
นในสังคมเดยี วกนั เข้าใจกนั
นเครอื่ งมอื ในการประกอบอาชพี
เปน็ เครอ่ื งมอื ในการปกครอง
ป็นเครอื่ งมอื ในการศกึ าเล่าเรยี น
3. องค์ประกอบ
ผู้ส่งสาร
ผู้ที่ทาํ หน้าที่ส่ง
เรอ่ื งราวต่าง ๆ ผา่
สอ่ื ไปยงั ผู้รบั สาร
สอ่ื
ช่องทางทน่ี ําสารจ
ผูส้ ่งสารไปยังผู้รบั ส
บของการส่ือสาร
สาร
ง สาระหรอื เรอ่ื งราว
าน ต่าง ๆ ทตี่ ้องการสอื่
ร
ผู้รบั สาร
จาก บุคคลเปา้ หมายที่
สาร ทาํ หน้าทีร่ บั สาร
3. องค์ประกอบ
กาลเทศะและ
ผู้ส่งสาร สาร
“ปฏ
กาลเทศะและ
บของการส่ือสาร
ะสภาพแวดล้อมทางสงั คม
สื่อ(ช่องทาง) ผ้รู บั สาร
ฏิกิรยิ าตอบกลับ ”
ะสภาพแวดล้อมทางสงั คม
4. ประเภทของภา
1. วจั นภาษ
ภาษาที่ใช้ตัว
พูด ที่อ อก เ สีย งเป็
ความหมายสามารถ
าษาเพอื่ การสอื่ สาร
ษา (Verbal Language)
วอักษรเป็นสัญลักษณ์ หรอื ภาษา
น ถ้ อย คํ า ห รือ เป็ น ป ร ะโ ย ค ที่ มี
ถเข้าใจได้
4. ประเภทของภา
2. อวจั นภาษา
ภาษาท่ีใช้ท่าท
ถ้อยคํา แต่มีความ
เช่น น้าเสียง การเน
การหยุดพูด และย
การเคลื่อนไหว ก
รวมถึงสื่ออื่น ๆ ที่เก
ของมนุษย์
าษาเพอื่ การสื่อสาร
า (Non - verbal Language)
ทาง หรอื ภาษาที่ไม่ออกเสียงเป็น
มหมายแฝงที่สามารถสื่อสารได้
น้นเสียง จังหวะของการพูดและ
ยังหมายความถึง กิริยาท่าทาง
ารใช้สีหน้าหรือสายตา และยัง
ก่ียวข้องกับการแปลความหมาย
4. ประเภทของภา
2. อวัจนภาษา
ในความหมายของอ
ของภาษาต่าง ๆ ดงั น้ี
ภาษาสญั ลกั ษณ
ภาษาการกระท
ภาษาวตั ถุ (Ob
ภาษากาลเทศะ
ภาษาน้าเสียง (
ภาษาสมั ผสั (B
าษาเพอื่ การสอ่ื สาร
า (Non - verbal Language)
อวจั นภาษา อาจสรุปรวมถงึ ความหมาย
ณ์ หรอื ภาษาสัญญาณ (Sign Language)
ทาํ (Action Language)
bject Language)
ะ (Time and Space Language)
(Tone Language)
Body Language)
5. ระดับข
1. ภาษาระดับทางการ
เปน็ ภาษาท่ีมีลักษณะเปน็ แบบแผนและมีมาตร
คาํ ทีใ่ ช้ในวงราชการ เชน่ เน่ืองด้วย เนื่องจ
คําทีใ่ ช้ในวงการศกึ ษา เชน่ แนวคิด บูรณ
คาํ ราชาศัพท์ เชน่ บรรทม ประสูติ ประชว
คําสุภาพ เช่น รบั ประทาน ทราบ ศรี ษะ ข้า
การใช้ภาษาระดับทางการ ใช้ในการเขีย
หนังสือราชการ คําสั่ง สารคดี บทความทาง
การเขยี นตอบขอ้ สอบ
ของภาษา
รฐานในการใช้ ดังนี้
จาก ตามท่ี เสนอ
ณาการ สาระสําคัญ
วร หมายกําหนดการ
าพเจ้า บิดา มารดา
ยนตํารา แบบเรยี น
งวิชาการ หรอื ใช้ใน
5. ระดับข
2. ภาษาระดับกึ่งทางการ
เปน็ ภาษาทใ่ี ชอ้ ยา่ งไมเ่ ปน็ แบบแผนหรอื ไม่เป
คาํ ทใ่ี ชใ้ นภาษาโฆษณา เช่น ชวี ิตดีไซน์ไ
กลางเมอื ง
คาํ ท่ีใชใ้ นภาษาสื่อมวลชน เชน่ นักหวดล
คําเฉพาะกล่มุ เชน่ วงการกีฬา กลุ่มวัยร
การใช้ภาษาระดับก่ึงทางการ ใช้ในกา
ไม่คุ้นเคยมาก่อน การแนะนําบุคคลหรอื กา
เป็นทางการ การอภิปราย
ของภาษา
ปน็ พธิ รี ตี อง ดังน้ี
ได้ อาณาจักรใหญ่ใจ
ลูกขนไก่ เทกระจาด
รุน่ ทหาร แพทย์ ชา่ ง
ารสนทนากับบุคคลที่
ารสัมภาษณ์อย่างไม่
5. ระดับข
3. ภาษาระดับไม่เป็นทางการ
เปน็ ภาษาทไ่ี มไ่ ด้มาตรฐาน ไมค่ าํ นึงถึงความถ
คาํ ตลาดหรอื ภาษาปาก เช่น ผัว เมีย รถมอ
คาํ ภาษาถ่ิน เช่น มว่ นซ่ืน แซบอีหลี หนั (หม
คาํ สแลงหรอื คําคะนอง เช่น เรดิ่ กิ๊ก ฟนิ ล
คําหยาบหรอื คําต่า เชน่ คําด่า คําสบถ คําห
คาํ โบราณทปี่ จั จบุ ันเลิกใชแ้ ล้ว เชน่ เผือ เข
การใชภ้ าษาระดับไม่เปน็ ทางการ ใช้ในก
คุ้นเคย สนิทสนม เป็นการล้อเลียน เสียดสี ปร
ตลกขบขัน
ของภาษา
ถูกต้องเหมาะสม
อไซค์ กินขา้ ว
มนุ ) กระแป๋ง
ล้ัลลา วืด มโน เงบิ
หยาบคาย
ขอื ศรี ษะแหวน
การพูดจาในหมู่คน
ระชดประชัน หรือ
6. ขอ้ ควรระวังในการใ
6.1 ใชค้ ําใ
6.1 ใน ก า ร สื่ อ ส า ร
เลือกใช้คําควรศึกษ
แ ล ะ พิ จ า ร ณ า ใ ห้ ร
คําน้ัน ๆ ให้ความหม
พจนานุ กรมดู เม่ื
ร ะ มั ด ร ะ วั ง ก า ร ใช
ตามทต่ี ้องการ
ใช้ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
ใหถ้ ูกต้องตามความหมาย
รไม่ควรใช้คําผิดความหมาย ก่อน
ษาความหมายของคําให้เข้าใจถ่องแท้
รอบคอบว่าเม่ือใดควรจะใช้คํ าใด
มายไว้อย่างไร ถ้าไม่แน่ใจก็ควรเปิด
อเข้าใจค วามหมายของ คําและ
ช้คํา ก็จะทําให้สามารถส่ือสารได้
6. ขอ้ ควรระวงั ในการใ
6.2 6.2 การใชศ้ พั ทส์ ํานวน
การติดต่อสื่อสา
สาธารณชนโดยผ่าน
ทางการ ซ่ึงได้แก่ ภ
ติดต่อส่ือสารธุรกิจท
และนอกวงการธุรกิจ
ซึ่งได้แก่ ภาษาสุภ
ติดต่อส่ือสารเรอ่ื งทั่ว
หรอื เร่ืองส่วนตัวควร
หรอื เป็นกันเอง ซง่ึ ได
ใชภ้ าษาเพอื่ การสอ่ื สาร
นใหเ้ หมาะสมกับกาลเทศะหรอื โอกาส
ารกับหน่วยงานราชการหรอื สื่อสารกับ
นส่ือมวลชน ควรใช้สํานวนภาษาระดับ
ภาษาราชการหรือภาษาแบบแผน การ
ที่เป็นกิจจะลักษณะทั้งบุคคลในวงการ
จควรใช้สํานวนภาษาระดับก่ึงทางการ
ภาพหรือภาษาก่ึงแบบแผน ส่วนกา ร
วไป ทัง้ เรอื่ งทเี่ ก่ียวข้องกับหน้าที่การงาน
รใช้สํานวนภาษาระดับไม่เป็นทางการ
ด้แก่ ภาษาปาก นั่นเอง
6. ขอ้ ควรระวงั ในการใ
6.3 6.3 การใชศ้ ัพท์สาํ นว
ในการติดต่อส
ในและนอกองค์ ก
ถูกต้องเหมาะสมกั
พิจารณาจากชาติว
หน้าท่ีการงาน เพศ
บุคคลน้ัน ๆ เพื่อเป็น
ได้ ช่วย อนุ รักษ์ มรด
ชาติเราไว้สืบไป
ใช้ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
วนให้เหมาะสมกับระดับฐานะบุคคล
ส่ือสารด้านธุรกิจกับบุคคลต่าง ๆ ท้ัง
าร ผู้ส่งสารควรใช้ศัพท์สํานวนห้
บระดับฐานะของผู้รับสาร โดยอาจ
วุฒิ คุณวุฒิ ฐานะ ตําแหน่งทางสังคม
ศ อาชีพ และสัมพันธภาพระหว่าง
นการยกย่อง ให้เกียรติแก่กัน อีกทั้งจะ
ดกวัฒนธรรมทางภาษาที่ดีงามของ
6. ขอ้ ควรระวงั ในการใ
6.4 6.4 การใชค้ ําสํานว
ใน ปั จ จุ บั น ก า ร
กลายเป็นค่านิยมขอ
เหล่ านั้ นสา มา รถใช
หลีกเลี่ยงการใช้คําสํา
นักพูดหลายคนม
วา่ นักพดู หลายคนมีพ
ใชภ้ าษาเพอื่ การสอ่ื สาร
วนภาษาต่างประเทศโดยไม่จําเป็น
ใช้ คํ า สํ า น ว น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เท ศ
องคนไทยจํานวนไม่น้อย ท้ัง ๆ ท่ีคํา
ช้ภ าษา ไทยแทนไ ด้ ดั งนั้ นจึงควร
านวนภาษาต่างประเทศ เชน่
มี gift ในการพูด ควรใช้คําไทยแทน
พรสวรรค์ในการพูด
6. ขอ้ ควรระวังในการใ
6.5 6.5 การใ
ก า ร ใช้ คํ า ศั พ
ชัดเจน เพราะคําส
ตัวอักษร ต้องอาศ
แฟนลกู หนัง
นักสอยคิว ห
ม้าเหล็ก หม
เรอื เหาะ หม
ใช้ภาษาเพือ่ การสื่อสาร
ใช้ศัพท์สแลง
พท์สแลงทําให้การส่ือความหมายไม่
สแลงจะมีความหมายแฝง ไม่ตรงตาม
ศัยบรบิ ทในการตีความ เช่น
ง หมายถึง ผ้ชู อบชมกีฬาฟตุ บอล
หมายถึง นักกีฬาสนุกเกอร์
มายถึง รถไฟ
มายถึง เครอื่ งบิน
6. ข้อควรระวังในการใ
6.6 6.6 การใช
การใชค้ ําต่างระด
บางกรณียังทําให้เกิด
ผู้ชายใจงา่ ยกว่าส
พ่อแม่รอบุตร คว
สุภาพสตรดี ูเขม้ แ
ใชภ้ าษาเพ่ือการส่อื สาร
ช้คําต่างระดับ
ดับทําให้ภาษาไม่ชัดเจน ไม่สละสลวยและ
ดความหมายขดั แย้งกันในประโยค เชน่
สตรี ควรใชค้ ําวา่ ผหู้ ญงิ
วรใช้คําวา่ ลูก
แข็งไมแ่ พผ้ ชู้ าย ควรใช้คําวา่ สภุ าพบุรุษ
6. ข้อควรระวังในการใ
6.7 6.7 การใช
ผู้ใช้ภา ษา ใน
ฟมุ่ เฟือยหรอื ซา้ ซาก
พายุครา่ ชีวิต
ชีวิตชาวประมง ซ่ึง
ตาย ฉะน้ันไม่ควรม
ใช้ภาษาเพอื่ การส่อื สาร
ใช้คําฟมุ่ เฟอื ยหรอื ซ้าซาก
นกา รสื่ อส า รค วรหลี กเลี่ ย งกา รใช้คํ า
กโดยไม่จําเปน็ เช่น
ตชาวประมงตาย ควรใช้คําว่า พายุคร่า
งความหมายชัดเจนอยู่แล้วว่าชาวประมง
มีส่วนขยาย ตาย ซา้ ซ้อนกันอีก
6. ข้อควรระวงั ในการใ
6.8 6.8 การ
ในการสื่อสา
ผู้ส่งสารควรเอาใจ
เว้นวรรคผดิ ความห
วันนี้คุณแมแ่
วนั น้ีคุณแม่แ
ใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร
รเว้นวรรคตอนท่ีถูกต้อง
ารไม่ว่าจะเป็นการพูดหรอื การเขียนก็ตาม
จใส่กับการเว้นวรรคตอนให้มาก เพราะถ้า
หมายก็จะผิดไปด้วย เช่น
แกงจืดใส่เหด็ หอมน่ารบั ประทานจัง
แกงจืดใส่เหด็ หอม น่ารบั ประทานจัง
6. ข้อควรระวังในการใ
6.9 6.9 การ
การวางคํา
ความชัดเจน ส่ือ
นักเรยี นท่ีป
ควรแกไ้ ขเปน็ น
ดีทกุ คน
ใชภ้ าษาเพื่อการสอื่ สาร
รวางคําขยายให้ถกู ท่ี
าขยายให้ถูกที่ จะช่วยให้เป็นประโยคมี
อความหมายได้ถกู ต้องและรวดเรว็ เชน่
ประพฤติดีย่อมเป็นที่รกั ของครูทุกคน
นักเรยี นย่อมเปน็ ทร่ี กั ของครูท่ีประพฤติ
6. ขอ้ ควรระวงั ในการใ
6.10 6.10 การ
ผู้ใชภ้ าษาใน
โดยไม่จําเป็น เ
ความสุขความส
สามารถสมหวงั
ทุกคนเอง ควร
ความสําเรจ็ ในช
ความเพยี ร
ใชภ้ าษาเพือ่ การสอ่ื สาร
รใชป้ ระโยคที่กะทัดรดั
นการสื่อสารควรหลีกเล่ียงประโยคยาว ๆ
เช่น คนทุกคนในโลกนี้ทุกคนต้องการ
สําเรจ็ ในชีวิตด้วยกันทุกคน และทุกคนก็
งดังท่คี ิดได้ด้วยความเพียรพยายามของ
รแก้ไขเป็น ทุกคนต้องการความสุข
ชีวติ จะสามารถสมหวังดังท่ีคิดได้ด้วย
6. ขอ้ ควรระวงั ในการใ
6.11 6.11 การใ
ในการส่ือสารถ้า
ให้ผู้รับสารเข้าใจแล
ก า ร ผู ก ป ร ะ โ ย ค ท่ี ส
ขนานความมาช่วย
การขัดความ
เทียบกัน โดยให้มีใ
ข้อความทั้งสองขา้ งเ
การขนานควา
คล้อยตามกัน
ใชภ้ าษาเพื่อการสอื่ สาร
ใช้ประโยคที่สละสลวย
าผู้ส่งสารรู้จักเลือกเฟ้นถ้อยคําก็จะทํา
ละเกิดจินตภาพตามข้อความนั้น ๆ ได้
ล ะ ส ล ว ย อ า จ ต้ อ ง ใช้ วิ ธี ขั ด ค ว า ม ห รือ
คือ การยกข้อความสองข้อความข้ึน
ใจความถ่วงกัน คือ มีช่ังน้าหนักของ
เท่า ๆ กัน
าม คือ การผูกประโยคให้มีข้อความ
6. ขอ้ ควรระวังในการใ
6.12 6.12 กา
ถ้าผ้สู ่งสา
ตรงกัน เพรา
หลายมุม เชน่
ขอหอมห
หน่อย ขอต้นห
ใช้ภาษาเพ่อื การส่ือสาร
ารใชค้ ํากํากวม
ารใช้คํากํากวมจะทาํ ให้ผู้รบั สารเข้าใจไม่
าะผู้รบั สารสามารถตีความได้หลายแง่
หน่อย อาจตีความได้ว่า ขอหอมแก้ม
หอมหน่อย หรอื ขอหัวหอมหน่อยก็ได้
สรุปท
ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย เ
อาชีพอย่างมีประ สิท
จํ า เ ป็ น ต้ อ ง เ ลื อ ก ใ ช้ ป
ระดับภาษา การใช้คําแ
ถูกต้อง เหมาะสมกับ
โอกาสทใ่ี ช้