The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขียนภาษาไทย การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าสารในงานอาชีพจากสื่อประเภทต่างๆ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khamphan rachada, 2021-05-05 22:22:36

ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขียนภาษาไทย การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าสารในงานอาชีพจากสื่อประเภทต่างๆ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

ธติ ระบบการทาํ งาน

รยากาศท่ีเปน็ กันเอง
ดมงุ่ หมายให้ผู้ฟังทราบ
ามลําดับข้ัน

แจ้ง ละเอียดลึกซง้ึ
กับผู้ฟัง

3. การพูดประเภ

3.2 การพดู เพ

การพูดเพ่ือการขายสินค
จะเห็นได้ว่าอัตราการแข่งขันเ
สูงข้ึนเรื่อย ๆ หน่วยงานหรอื ห
เสนอขายสินค้าหรอื บรกิ ารให้ไ
สินค้าหรอื บรกิ าร คือ การพดู เพ

หลกั ในการพดู ขายสินค้าหรอื บ

1. พดู ใหล้ ูกค้าเห็นประโยชน์ท่ีจะได้ร
2. ศึกษาหาขอ้ มูลของลูกค้า
3. ควรหาจังหวะเวลาในการพดู ท่เี หม
4. พูดเสนอเนื้อหาอย่างกระชับชัดเจ
5.ผู้พดู ต้องคํานึงอยู่เสมอว่า ในขณะ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

พอื่ ขายสินค้าหรอื บรกิ าร

ค้าหรอื บรกิ ารเป็นหัวใจสําคัญของธุรกิจ
เพ่ือช่วงชิงตลาดทางการค้า นับวันจะมี
หน่วยธุรกิจแต่ละแห่งจึงพยายามหาวิธี
ได้มากท่ีสุดวิธีหน่ึง ท่ีทําให้ลูกค้าสนใจใน
พ่ือดึงดูดใจลูกค้า

บรกิ าร

รบั
หมาะสม
จน
ะน้ันผู้ฟงั หรอื ลูกค้าสําคัญท่ีสุด

3. การพดู ประเภ

3.3

3.3.1 ความสาํ คัญของก

1. ในกรณีท่ีเป็นการสัมภาษณ์เพือ่ คัดเล
2. ในกรณีทเ่ี ป็นการสัมภาษณ์ผู้มีชอื่ เสีย
3. ทางการตลาดใชก้ ารสัมภาษณ์เป็นว

3.3.2 ประเภทของการส

1. การสมั ภาษณ์แบบไมเ่ ปน็ ทางการ เป
หรอื แบบแผน มกั ใชส้ ําหรบั การซักถามค
2. การสมั ภาษณ์แบบเปน็ ทางการ เปน็
ต้องมกี ารเตรยี มความพรอ้ ม ไมว่ ่าจะเป

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

การสัมภาษณ์

การสมั ภาษณ์

ลือกบุคคลเขา้ ทํางาน
ยงในอาชพี ต่าง ๆ หรอื เป็นนักการเมือง
วิธวี ิจัยหรอื หาขอ้ มลู ทางการตลาด

สมั ภาษณ์

ป็นการสัมภาษณ์แบบไมม่ หี ลักเกณฑ์
ความคิดเห็นท่ัว ๆ ไปของประชาชน
นการสัมภาษณ์ท่ีมหี ลักเกณฑ์ มีแบบแผน
ปน็ เรอื่ งการตั้งคําถาม การนัดหมายเวลา

3. การพูดประเภ

3.3

3.3.3 วธิ กี ารสัมภา

1. การสมั ภาษณ์แบบต
2. การสัมภาษณ์โดยใช
3. การสมั ภาษณ์โดยก

3.3.4 การเตรยี มการสัม

1. ควรนัดหมายใหผ้ สู้ ัมภาษณ์ทราบวัน เวล
ในการสัมภาษณ์ ก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์
2. ศึกษาความรูพ้ น้ื ฐานเกี่ยวกับเรอื่ งทีจ่ ะส
3. คาํ ถามท่ีนํามาใช้สมั ภาษณ์
4. เตรยี มอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการสมั ภาษณ์

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

การสมั ภาษณ์

าษณ์

ตัวต่อตัว
ชแ้ บบสอบถาม
การใชโ้ ทรศพั ท์

มภาษณ์

ลา หวั ขอ้ เรอ่ื งและคําถามท่ีใช้
สัมภาษณ์

3. การพดู ประเภ

3.3

3.3.5 ลักษณะของ

ยุพดี ทรงทอง (2546 : 203) ได
ควรเปน็ บุคคลทีส่ าํ คัญและน่าสน
1. ผู้เปน็ ตัวอย่างทดี่ ีในสังคม เช่น ข้าราชการดีเ
2. ผู้มีความสําคัญในบ้านเมือง เช่น นายกรฐั ม
3. ผู้ท่ีสังคมกําลังสนใจ เชน่ นักกีฬายอดเยี่ยม
4. ผู้ประสบความสําเรจ็ ในการงานและอาชพี เ
5. ผู้ประสบภัยรา้ ยแรงต่าง ๆ
6. ผู้เป็นแขกเมอื ง
7. ผู้มีความรูแ้ ละประสบการณ์ตามหัวขอ้ เรอื่ ง

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

การสมั ภาษณ์

งคําถามทใี่ ช้ในการสัมภาษณ์

ด้กล่าวไวว้ า่ บุคคลทเ่ี ปน็ ผใู้ ห้สัมภาษณ์
นใจ ดังน้ี
เด่น เกษตรกรดีเด่น ฯลฯ
มนตรี รฐั มนตรกี ระทรวง
ม ดาราภาพยนตร์ นางสาวไทย ฯลฯ
เชน่ นักเรยี นท่ีได้รบั ทุน เล่าเรยี นหลวง

งท่ีผู้สัมภาษณ์ต้องการ

3. การพูดประเภ

3.3

3.3.6 คณุ สมบตั ิของผู้ส
1. มมี นุษยสัมพันธ์ดี
3. ศกึ ษาขอ้ มูลเก่ียวกับเรอื่ งทจ่ี ะสัมภาษณ์
5. มบี ุคลิกภาพดี
7. สามารถสรา้ งบรรยากาศใหเ้ ป็นกันเอง

3.3.7 ลักษณะของคําถา
1. คาํ ถามเปดิ
2. คําถามปดิ
3. คําถามหย่ัง
4. คาํ ถามนํา

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

การสัมภาษณ์

สัมภาษณ์
2. มคี วามรูด้ ี
4. มมี ารยาททัง้ ในการพูด ฟงั และการถาม
6. มีความสามารถในการใชค้ ําพดู

ามท่ีใชใ้ นการสมั ภาษณ์

3. การพดู ประเภ

3.3

3.3.8 คณุ สมบัติของผสู้

1. กล่าวปฏิสันถารผู้ให้สัมภาษณ์ 2. ให้เ
3. ไมค่ วรถามนอกเรอื่ ง 4. คว
5.ควรใหเ้ กียรติผู้อาวุโสก่อน 6. จด
7. ควรกล่าวขอบคุณผู้ใหส้ ัมภาษณ์

3.3.9 การเขยี นบทบันท
1. บันทึกเรอ่ื งท่ีสมั ภาษณ์
2. รายละเอียดเก่ียวกับปญั หา คําถาม คาํ
3. บนั ทึกขอ้ คดิ เห็น หรอื บทสรุปของผูส้ ัม
4. เรยี บเรยี งเปน็ บทบันทึกจากการสมั ภาษ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

การสัมภาษณ์

สัมภาษณ์
เกียรติและแสดงความสนใจผู้ให้สัมภาษณ์
วรใหเ้ วลาผู้ให้สัมภาษณ์ตอบ
ดบันทึกเฉพาะประเด็นที่สําคัญ

ทึกจากการสัมภาษณ์
าตอบ
มภาษณ์
ษณ์ตามแบบฟอรม์

3. การพูดประเภ

3.3

3.3.10 การเตรยี มตัวขอ

1. หาความรูเ้ กี่ยวกับองค์กร หน่วยงา
2. เตรยี มพรอ้ มทงั้ จิตใจและรา่ งกาย
3. ลองตั้งคําถามและฝึกหาคําตอบท
4. เตรยี มเอกสารท่ีจําเป็นต้องนําติด
5. เม่ือถกู เรยี กเขา้ ไปสัมภาษณ์ ควรย
6. ตอบคําถามทุกข้ออย่างชัดเจน ชดั
7. กิรยิ ามารยาทต้องให้ดูสุภาพเรยี บ
8. ไมค่ วรพดู ซ้าเติม หรอื ใหเ้ หน็ ความ
9. ถ้าผู้สัมภาษณ์ให้โอกาสซักถามเร
ก็ควรซักถามอย่างสนใจ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

การสัมภาษณ์

องผใู้ หส้ ัมภาษณ์เพ่ือสอบเข้าทาํ งาน

าน บรษิ ัททก่ี ําลังสมคั รเขา้ ทํางาน

ทีจ่ ะส่งผลใหเ้ กิดผลดีกับตัวเอง
ดตัวไปในวันสัมภาษณ์
ยกมือไหว้ กล่าวคําสวัสดี
ดถ้อยชัดคํา
บรอ้ ย
มไมด่ ีของหน่วยงานเดิม
รอื่ งงานหรอื ช่วงเวลาในการทํางาน

3. การพูดประเภ

3.4 การพูด

การพูดเพ่ือการประชาสัม
หน่วยงานให้บุคคลทัว่ ไปได้ทราบ เพ
พูดประชาสัมพันธ์โดยตรง ทางโทรศ

หลักในการพดู เพื่อการประช

1. พูดในสิ่งท่ีถูกต้องและเปน็ ความจรงิ
2. ควรพูดเรอ่ื งสําคัญเพยี งเรอ่ื งเดียวเพอื่
3. พูดด้วยภาษาท่ีเข้าใจง่าย กระชับ และ
4. พูดด้วยถ้อยคําทไ่ี พเราะ สุภาพ นุ่มนว
5. ควรมเี อกสารประกอบเพื่อให้ผู้ฟงั เขา้ ใ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

ดเพื่อประชาสัมพันธ์

พันธ์เป็นการแจ้งความเคล่ือนไหวของ
พ่อื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจอันดีระหว่างกัน อาจ
ศัพท์ หรอื พูดผ่านสื่อมวลชน

ชาสัมพันธ์

อป้องกันความสับสนของผู้ฟงั
ะชดั เจน
วล และแสดงความสนิทสนมเปน็ กันเอง
ใจง่ายขึน้

3. การพดู ประเภ

3.5 การพดู แน

3.5.1 ข้นั ตอนการ
1. กล่าวชอ่ื นามสกุล
2. บอกสถานท่ที ํางาน
3. อาจบอกตําแหน่งด
4. บอกความสนใจเพ

3.5.2 ข้ันตอนการ
1. กล่าวชอ่ื นามสกุล
2. บอกกิจธุระทีม่ าติด
จะได้ดําเนินการ ติดต

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

นะนําตนเองและวิทยากร

รพูดแนะนําตนเองในงานสังคม
ให้ชดั เจน ด้วยน้าเสียงสุภาพ
นใหค้ ่สู นทนาได้รูจ้ ักเพิม่ ข้ึนอีกเล็กน้อย

งด้วยก็ได้ แต่ควรใชค้ วามระมัดระวัง
พอ่ื เพิ่มประเด็นการสนทนาใหม้ ากขึน้
รพูดแนะนําตนเองในการทาํ กิจธุระ

ให้ชัดเจน ด้วยน้าเสียงสุภาพ
ดต่อ เพือ่ ใหผ้ ู้ที่เรามาติดต่อด้วยเขา้ ใจ
ต่อสื่อสารจนบรรลุวัตถปุ ระสงค์

3. การพดู ประเภ

3.5 การพูดแน

3.5.3 การพูดแนะน

1. กล่าวแสดงความเคารพอาจารย์ แล
2. บอกชอ่ื นามสกลุ ภูมิลําเนา 3.
4. อุปนิสัย 5.
6. อาหารที่ชอบ สีทีช่ อบ 7. ค

3.5.4 การพูดแนะน
1. แนะนําชอื่ นามสกุล
2. ตําแหน่ง หน่วยงา
3. ความถนัด ความส
4. ผลงานทส่ี รา้ งช่ือเ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

นะนําตนเองและวิทยากร

นําตนเองในชนั้ เรยี น
ละทกั ทายเพ่ือนรว่ มชัน้ เรยี น
ประวัติการศกึ ษา
บอกความสามารถพเิ ศษ ความสนใจ
ความใฝ่ฝันในอนาคต
นําวิทยากร

าน งานในหน้าที่รบั ผิดชอบ
สามารถพเิ ศษ ประสบการณ์
เสียง

3. การพูดประเภ

3.6 การส

มารยาทในก

1. กล่าวคําว่า สวัสดีค่ะ
2. พดู ด้วยน้าเสียงที่สุภ
3. ฟังค่สู นทนาพดู ใหจ้
4. ถ้าต่อโทรศัพทผ์ ิดค
5. เมือ่ จบการพดู ควรก

ภทต่าง ๆ ในงานอาชพี

สนทนาทางโทรศพั ท์

การสนทนาทางโทรศพั ท์

ะ สวัสดีครบั ตามด้วยชือ่ และนามสกลุ
ภาพ อ่อนโยน เป็นธรรมชาติ
จบเสียก่อน ไม่ควรพดู แทรกขึ้นมา
ควรกล่าวคําขอโทษผู้รบั ด้วย
กล่าวคําว่า สวัสดี และวางหูอย่างนิ่มนวล

3. การพูดประเภ

3.7 การนําเส

การพูดเพื่อนําเสนอข้อมูลห
1. พูดให้เหน็ ความเป็นมาของเรอ่ื งทก่ี
2. เรอื่ งที่พูดเป็นผลงานเรอ่ื งอะไร ขอ
3. ความสําคัญของผลงานนั้น ประโย
4. เรยี บเรยี งบทพดู ด้วยภาษาของตน
5. พดู ใหต้ รงประเด็น ไม่ออกนอกเรอื่
6. ใชน้ ้าเสียงและลีลาทส่ี ุภาพน่าฟัง
7. พดู เพื่อนําเสนอขอ้ มลู ท่ีถูกต้องหรอ
8. ควรมีส่ือประกอบการพูด เช่น รูปภ

ภทต่าง ๆ ในงานอาชีพ

สนอขอ้ มูลหรอื บรรยายสรุป

หรอื บรรยายสรุปมหี ลักการพดู ดังนี้
กําลังจะพดู
องใคร ทาํ อะไร ทีไ่ หน เมอื่ ไร และอย่างไร
ยชน์ที่ผู้ฟงั จะได้รบั
นเอง
อง

อื บรรยายสรุปภายในเวลาทกี่ ําหนด
ภาพหรอื ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

สรุปท

การพูดจะประสบค
จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร เ ต รีย ม พ
บุคลิกภาพ การใช้ภาษา
พูด ควรมีการวิเคราะห์ผ
การเลือกใช้วธิ กี ารพูด ก็ม
ใหป้ ระสบความสําเรจ็ ในก

ทา้ ยบท

ความสําเรจ็ ได้ ผู้พูด
พ ร้อ ม ทั้ ง ใ น เ ร่ื อ ง

และเนื้อหาท่ีจะใช้
ผู้ฟังก่อนพูดทุกครง้ั
มีส่วนสําคัญทจ่ี ะทํา
การพูดได้

บทที่ การเ

4

เขียนบนั ทกึ



สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของการเขียนบันทึก
2. หลักการเขียนบันทกึ และ
วิธเี ขยี นบันทึก
3. รูปแบบของการเขียนบันทกึ
4. สว่ นประกอบของการเขียนบันทกึ

1. ความหมายขอ

“การเขยี นบันท

หมายถึง การเขียนข้อความ
ข่าวสารหรอื ติดต่องาน แบบกึ่งท
เป็นทา งการนั ก อาจใช้รูปแบ
ห รือ ไ ม่ มี รู ป แบ บ ท่ี กํ า ห น ด แน่ น
จุดประสงค์เพ่อื ชี้แจง เสนอเรอื่ งรา
สง่ิ ทไ่ี ด้ ค้นคว้าข้อมลู อย่างมีระบบ

องการเขยี นบนั ทกึ

ทกึ ”

มส้ัน ๆ เพ่ือแจ้ง
ทางการหรอื ไม่
บ บท่ีกํา หนดไว้
นอนก็ได้ โดยมี
าวหรอื รายงาน


1. ความหมายขอ

“การเขยี นบนั ทกึ

กา รเขียน บั นทึกเป็น วิธีก
อยา่ งหน่ึงทไี่ ด้รบั ความนิยมอย่าง
และสามารถเขียนบันทึกจากแห
ต่าง ๆ ได้ 3 ทาง ดังนี้

1. เขยี นบันทึกจากการฟ
2. เขียนบันทึกจากการอ
3. เขยี นบันทึกจากเหตกุ
หรอื ประสบการณ์

องการเขียนบนั ทกึ
ก”

ารรับสาร
งแพรห่ ลาย
ห ล่ ง ข้ อ มู ล
ฟงั
อ่าน
การณ์

2. หลักการเขยี นบนั ท

2
1. เขียนบันท
2. บอกแห
3.
4. ใช้เครอ่ื งห

ทกึ และวธิ เี ขยี นบันทกึ

2.1 หลักการเขียนบันทึก

ทกึ ตามขอ้ เท็จจรงิ และมีความถูกต้องชัดเจน
หล่งทมี่ าของขอ้ มูล วัน เดือน ปที จี่ ดบันทึก

เขียนบันทกึ ให้มีระเบียบ อ่านง่าย
หมายหรอื สัญลักษณ์ตา่ ง ๆ แทนบางข้อความ

2. หลักการเขียนบนั ท

1. เขียนบันท
2. เขียนขอ้ คว
3. คัดลอกข
4. เขีย

ทกึ และวธิ เี ขยี นบนั ทกึ

2.2 วิธเี ขยี นบันทกึ

ทกึ เฉพาะสาระสําคัญของเรอ่ื งทีไ่ ด้อ่านหรอื ฟัง
วามสําคัญที่เป็นคําพูด หลักฐานสําหรบั อ้างอิง
ข้อความสําคัญตอนใดตอนหนึ่งจากเอกสาร

เพื่อเก็บไว้ใชอ้ ้างอิง
ยนบันทึกข้อสังเกต ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม

ตามความเหมาะสม

3. รูปแบบของก

3.1 บันทึกโดยกา

“ มักใช้ในโอกาสที่ผู้ต้องการจะติดต่อด้ว

เขยี นข้อความท่ตี ้องการใหผ้ ู้รบั ทราบไว้ด้าน
ซ่ึงเป็นกระดาษว่าง ไม่ มีข้อความใด ๆ
รบั ทราบว่าใครเป็นผู้มาติดต่อและจะติดต

“ตามท่ีอยู่ทีป่ รากฏ

การเขียนบนั ทกึ

ารใช้นามบัตร

วยไม่อยู่ นิยม
นหลังนามบัตร

จ ะ ช่ ว ย ใ ห้ ผู้
ต่อกลับไปได้

3. รูปแบบของก

3.2 บันทกึ โดยกา

“ นิยมใช้เขียนเป็นจดหมายขนาดส้ัน มักใ

ที่มีความคุ้นเคยกัน จําเป็นต้องติดต่อกัน
พิธีรตี องนัก นิยมเรยี กว่า จดหมายน้อย เป
จดหมายขนาดเล็กซึ่งไมเ่ ครง่ ครดั เรอ่ื งรูปแบ

การเขียนบันทึก

ารใช้จดหมาย

ใช้กับบุคคล
น อ ย่ า ง ไ ม่ มี
ป็นการเขียน

“บบ

3. รูปแบบของก

3.3 บันทกึ โดยการใช้แ

“ โอกาสที่ใช้บันทกึ มักเป็นกรณีทมี่ ผี ู้โท

แต่ผู้ทีต้องการพูดด้วยไม่อยู่ ผู้รบั โทรศัพ
ใ ห้ ฝ า ก ข้ อ ค ว า ม ไ ว้ แ ล้ ว บั น ทึ ก ล ง ใ น แ

“โทรศัพท์เพ่อื แจ้งให้ผู้รบั ทราบ

การเขยี นบนั ทึก

แบบฟอรม์ รบั โทรศพั ท์

โทรศัพท์เขา้ มา
พท์จําเป็นต้อง
แบบฟอร์มรับ

3. รูปแบบของก

3.4 บันทกึ โดยการใช้ก

“ โอกาสท่ีใช้มักใช้ในการ

ติ ดต่ อ งาน หรือ แจ้ งข่ าว ส าร
หรอื ใช้ตอบรับการรับของเพื่อ
เป็นหลักฐาน หรือเป็นการส่ัง
ก า ร ข อ ง ผู้ บั ง คั บ บั ญ ช า ถึ ง
ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยข้อความ

“ทเี่ ปน็ คําส่ังอย่างส้ัน ๆ

การเขยี นบนั ทกึ

กระดาษบันทึกขนาดส้นั

3. รูปแบบของก

3.5 บันทึกโดยการ

“ โอกาสท่ีใช้มักเป็ นเรื่องท่ีจํ าเป็นจะ

ดําเนินการให้เรยี บรอ้ ย แต่ในขณะนั้นยังมีภ
อ่ืนต้องทํา ไม่สะดวกติดต่อหรือดําเนินกา
จําเปน็ ต้องเขียนบันทึกเพือ่ เตือนความจําของ

การเขยี นบนั ทกึ

รใช้ใบช่วยความจา

ะต้ องติ ดต่ อหรือ
ภารกิจหรอื หน้าที่
ารได้ในทันที จึง

“งตนเอง

3. รูปแบบของก

3.6 บันทึกโดยการใช้ก

“ โ อ ก า ส ที่ ใ ช้ มั ก ใ ช้ ใ น ก า ร
ติดต่อสื่อ สารภายในองค์ กร หรือ
หน่วยงานเดียวกัน กระดาษที่ใช้ต้อง
เป็ น ก ร ะ ด า ษ บั น ทึ ก ข้ อ ค ว า ม ที่ มี ตั ว
ครุฑสูง 1.5 เซนติเมตร
ผู้ใต้บังคับบัญชาจะใช้ในกรณีท่ี
ต้องการรายงานดําเนินงานหรอื แจ้ง
ค ว า ม ป ร ะ ส ง ค์ ห รื อ ข อ อ นุ ญ า ต
“ผู้บังคับบัญชา


Click to View FlipBook Version