การเปลี่ยนแปลงปริมาณเงนิ
ทฤษฎีลกู โป่ง 3 สบู ของ ดร. ปว๋ ย อง่ึ ภากรณ์
งบประมาณขาดดุล ปริมาณเงนิ ธ.พาณิชย์เพ่ิมสนิ เช่อื
ธ.พาณิชยล์ ดสนิ เชือ่
งบประมาณเกนิ ดุล ด้านการเงนิ ภายในประเทศ
ดา้ นรัฐบาล
ด้านตา่ งประเทศ
ดลุ การชาระเงินเกนิ ดุล
ดุลการชาระเงนิ ขาดดลุ
21
2. เงินเฟ้อท่ีเกดิ ขนึ้ เน่อื งจากต้นทุนเพ่มิ ขึน้ (Cost –Push Inflation)
หมายถึง เงินเฟอ้ ทเี่ กดิ ขึ้นจากการทีต่ น้ ทนุ การผลิตเพิม่ ขึ้น ทาใหเ้ สน้
อุปทานมวลรวมลดลง ขณะท่อี ปุ สงคม์ วลรวมไม่เปล่ียนแปลง
ราคาสนิ คา้ AS
PPP132 E3 E2 E1
AD
0 Y3 Y2Yf รายไดป้ ระชาชาติ
Yf = รายได้ประชาชาติ ณ ระดับการจ้างงานเต็มท่ี 22
สาเหตทุ ี่ทาใหต้ ้นทุนการผลติ เพม่ิ ข้นึ อาจเน่ืองมาจาก
1) การเพ่ิมขึ้นของคา่ จ้างแรงงานในการผลติ สินคา้
ตามปกตคิ ่าจา้ งแรงงานจะเพ่ิมสูงขึ้นหากแรงงานมปี ระสิทธภิ าพการผลิตเพม่ิ ขึ้น แต่
บางครงั้ ผู้ผลิตกข็ ึ้นค่าจ้างแรงงานทง้ั ๆทปี่ ระสิทธิภาพแรงงานไมไ่ ดเ้ พ่มิ หรอื อาจจากแรงกดดันของ
สหภาพแรงงาน ทาใหผ้ ู้ผลิตมีต้นทุนสงู ข้ึน ภาวะน้เี รยี กว่า เงินเฟ้อท่ีเกดิ ทางดา้ นค่าแรง (Wage
Push Inflation)
คา่ จ้างแรงงานเพ่ิมข้ึน
ตน้ ทนุ การผลิตเพ่ิมข้นึ
ลดการผลติ ไมล่ ดการผลติ แตป่ รบั
AS ลดลง ราคาสินค้าเพ่ิมข้ึน
ราคาสินค้าเพิ่มข้ึน
23
2) การเพิ่มขึ้นของอัตรากาไรของผู้ผลิต เนื่องจากผู้ผลิตต้องการกาไรเพิ่มขึ้น จึง
รวมกาไรเข้าไปในต้นทุนการผลิต ซึ่งเรียกว่า เงินเฟ้อทางด้านกาไร (Profit
Push Inflation)
3) การเพ่ิมข้ึนของราคาปัจจัยการผลิตอ่ืน เช่นราคาน้ามันเช้ือเพลิงและวัตถุดิบ
ต่างๆ ซึ่งมีผลทาให้ต้นทุนการผลิตเพ่ิมขึ้น ทาให้อุปทานมวลรวมลดลง ทาให้
ราคาสนิ ค้าเพ่มิ ขึน้
24
3. สาเหตจุ ากต่างประเทศเนอ่ื งจากระบบเศรษฐกจิ แบบเปิด
แบ่งออกเป็น
• ทางด้านอุปสงค์รวม คือเม่ือราคาสินค้าในต่างประเทศเพ่ิมขึ้นมากกว่าราคา
ในประเทศ ดังนั้นทาให้ส่งออกเพิ่มขึ้น อาจทาให้เกิดการขาดแคลนสินค้า
ดังกลา่ วในประเทศ ทาใหร้ าคาในประเทศสงู ข้ึน (เกิดเงินเฟ้อ)
• ทางด้านอุปทานรวม คือ เม่ือราคาสินค้าในต่างประเทศเพ่ิมขึ้น อาจมีผล
ทางตรงและทางอ้อมต่อเงินเฟ้อภายในประเทศ โดยทางตรงคือราคาสินค้า
นาเข้ามาบริโภคสูงข้ึน ทางอ้อม คือ กรณีสินค้านาเข้าเป็นสินค้าทุน ทาให้
ตน้ ทุนการผลิตสูงขนึ้ ทาให้ราคาสนิ คา้ ในประเทศสงู ข้นึ
25
• ผลกระทบของเงินเฟ้อ
1. ผลต่อการกระจายรายได:้ คนบางกลุ่มอาจไดป้ ระโยชนจ์ ากเงินเฟ้อใน
ขณะที่บางกลมุ่ เสยี ประโยชน์
ผูท้ ไ่ี ดป้ ระโยชน์จากเงนิ เฟอ้ ผู้ทเ่ี สยี ประโยชน์จากเงินเฟอ้
• ผู้มีรายได้เพิม่ ข้ึนมากกวา่ อัตราเงนิ • ผ้มู รี ายได้คงทีห่ รือรายได้ประจา เช่น
เฟอ้ เช่น พ่อคา้ ขา้ ราชการ
• ผทู้ าสัญญาจ่ายเงินไว้ระยะยาว เชน่ • ผใู้ หเ้ ช่าหรือมสี ญั ญาให้จ่ายเงินไว้
ลกู หน้ี ผู้เช่า ระยะยาวท่ีไม่สามารถปรบั คา่ เช่าได้
• ผู้ทถ่ี ือทรัพย์สนิ ในรูปของท่ีดิน ที่ราคา เชน่ เจ้าหน้ี ผูใ้ หเ้ ช่า
สูงตามเงินเฟ้อ • ผทู้ ถี่ ือทรัพย์สินในรปู ของเงินฝาก
ธนาคารที่อตั ราผลตอบแทนคงที่ หนุ้ กู้
26
2. ผลตอ่ การออมและการลงทนุ ของประเทศ: หากอัตราดอกเบ้ียเงนิ ฝาก
นอ้ ยกวา่ อัตราเงินเฟ้อ ทาใหป้ ระชาชนนาเงินไปลงทนุ อยา่ งอ่ืนแทน
ทาให้ประเทศขาดเงนิ ออม กระทบต่อการลงทนุ ในระยะยาว
3. ผลกระทบต่อรฐั บาล: มกั ไดป้ ระโยชนจ์ ากการเกบ็ ภาษีได้มากข้ึน
รายจ่ายส่วนใหญค่ งท่ี ได้ประโยชนห์ ากเป็นลกู หน้ี
4. ผลตอ่ การคา้ ระหว่างประเทศ: ราคาสินคา้ ในประเทศสงู กว่า
ตา่ งประเทศ การสง่ ออกลดลง นาเขา้ เพ่มิ ขาดดลุ การค้า
5. ผลต่อการเมอื ง: เกิดปัญหาคา่ ครองชพี สงู ข้นึ เกิดการเรียกรอ้ ง
เดินขบวนขอขึ้นค่าแรง
27
การดาเนินนโยบายการเงินตามกรอบเป้าหมายเงนิ เฟ้อเรมิ่ ใชต้ ง้ั แตว่ นั ท่ี 23 พฤษภาคม
2543
- หากอตั ราเงนิ เฟอ้ พน้ื ฐานต่างจากเปา้ หมายท่กี าหนด (ร้อยละ 0.5 ถงึ ร้อยละ 3 ต่อปี)
คณะกรรมการฯ จะตอ้ งช้แี จง้ ต่อประชาชน
- คณะกรรมการฯใชอ้ ตั ราดอกเบีย้ ตลาดซ้อื คนื พนั ธบตั รระยะเวลา 1 วัน เปน็ อตั รา
ดอกเบีย้ เชิงนโยบาย (Key Policy Rate)
28
• การแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
o การแก้ปัญหาทางด้านอปุ สงค์ ลดปรมิ าณเงิน
งบประมาณเกนิ ดุล
นโยบายการเงนิ : นโยบายการเงนิ แบบเขม้ งวด
เคร่อื งมือนโยบายการเงนิ :
- ขายหลกั ทรัพย์
- เพิม่ อัตราดอกเบย้ี นโยบาย
- เพ่ิมอตั รารบั ช่วงซือ้ ลด
- เพม่ิ อัตราเงนิ สดสารองตามกฎหมาย
- เพิ่ม Margin Requirement
- เพ่มิ เงนิ ดาว์น ลดระยะเวลาผอ่ น
นโยบายการคลัง: นโยบายการคลงั แบบหดตัว
เคร่อื งมอื : ลดคา่ ใชจ้ ่ายรัฐบาล + เพมิ่ อตั ราภาษี
29
o การแก้ปัญหาเงนิ เฟ้อทางด้านอุปทาน
- กระตนุ้ การออม
- การควบคุมตน้ ทุนการผลิต
- ปรับปรุงประสิทธภิ าพการผลิต
o มาตรการอ่ืนๆ
- การควบคุมราคาสนิ คา้
- ออกกฎหมายลงโทษผกู้ กั ตุนสนิ คา้
30
• เงินฝืด
เงินฝืด (Deflation) คือ ภาวะท่ีระดับราคาสินค้าโดยทั่วไปลด
ต่าลงเรื่อยๆ สาเหตุหน่ึงเกิดจากการที่อุปสงค์มวลรวมของระบบเศรษฐกิจ
ลดลง (AD shift ซ้าย) ขณะท่ีอปุ ทานมวลรวมไม่เปลี่ยนแปลง ทาให้ผู้ผลิต
ตอ้ งลดราคาสินค้าลงเร่ือยๆ และลดการผลิต จนถึงลดการจ้างงาน ทาให้การ
ว่างงานเพ่ิมขน้ึ
**ผลกระทบของเงินฝดื ตอ่ การกระจายรายได้ กจ็ ะตรงกันขา้ มกบั เงินเฟอ้
31
• การแก้ปัญหาเงินฝืด
นโยบายการเงนิ : นโยบายการเงนิ แบบผ่อนคลาย เพิม่ ปริมาณเงิน
เครื่องมือนโยบายการเงนิ : งบประมาณขาดดุล
- ซ้ือหลกั ทรัพย์
- ลดอตั ราดอกเบี้ยนโยบาย
- ลดอัตรารบั ชว่ งซอื้ ลด
- ลดอัตราเงนิ สดสารองตามกฎหมาย
- ลด Margin Requirement
- ลดเงินดาว์น เพ่มิ ระยะเวลาผอ่ น
นโยบายการคลงั : นโยบายการคลงั แบบขยายตวั
เคร่ืองมอื : เพิ่มคา่ ใชจ้ ่ายรัฐบาล + ลดอัตราภาษี
32
• การว่างงาน
การวา่ งงาน หมายถึง ภาวะการณท์ ี่ผทู้ ีอ่ ยู่ในวัยทางาน (ไทย คือผทู้ ี่
มอี ายตุ ง้ั แต่ 15 ปีขนึ้ ไป โดยไม่รวมนกั เรียน นักศึกษา ทหาร ภกิ ษุ นกั บวช
ผู้เจ็บป่วย คนพกิ าร และผู้เกษยี ณอายุ) ทม่ี ีความสามารถทางานและสมคั ร
ใจทจ่ี ะทางานแต่ไม่สามารถหางานทาได้
โดยการว่างงานจะไม่รวมการวา่ งงานโดยสมคั รใจ (Voluntary
Unemployment) ได้แก่ ผ้ทู ่ีไม่ทางานถึงแมจ้ ะมีงานใหท้ า อาจเนอื่ งจาก
คา่ จ้างไมจ่ ูงใจให้ทางาน เป็นต้น ซง่ึ ถือว่าไม่ใชผ่ ู้ว่างงาน
33
o ประเภทของการว่างงาน
การวา่ งงาน (Involuntary Unemployment ) แบง่ ออกเปน็ 5 ประเภท
1. การว่างงานช่ัวคราว (Frictional Unemployment) เป็นการว่างงาน
ระยะส้นั
2. การว่างงานตามฤดกู าล (Seasonal Unemployment) เป็นการว่างงานที่
เกิดขน้ึ จากการผลิตสนิ ค้าบางอยา่ งท่ตี อ้ งทาเป็นฤดูกาล
3. การวา่ งงานเนอ่ื งจากโครงสรา้ งเศรษฐกิจ (Structural Unemployment)
เป็นการว่างงานทเี่ กิดจากการเปลยี่ นแปลงของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เชน่
พนักงานธนาคารถูก IA มาแทนที่
4. การว่างงานเนอื่ งจากวัฏจกั รเศรษฐกิจ (Cyclical Unemployment)
34
รายไดป้ ระชาชาติ (Y)
เศรษฐกจิ รุง่ เรือง (Expansion) เศรษฐกจิ หดตัว (Recession)
Y ว่างงานน้อย Y ว่างงานเพ่มิ ขึ้น
เศรษฐกจิ ตกตา่ (Depression) เศรษฐกจิ ฟื้นตัว (Recovery)
Y ว่างงานมาก Y ว่างงานลดลง
35
5. การว่างงานแอบแฝง (Disguised Unemployment) เป็นการว่างงานที่เกดิ
จากการที่แรงงานมจี านวนมากเกนิ ความจาเป็น หรอื การทางานต่ากว่าระดับ
ความร้คู วามสามารถ (Underemployment)
เชน่
ชาวนามีสมาชกิ 6 คน ปี 57 ทานา 5 ไร่ ไดข้ า้ ว 500 ถงั
ต่อมา 2 คนไปทางานทีอ่ น่ื ในปี 2558 เหลอื 4 คน ทานา 5 ไร่ ได้ขา้ ว 500 ถงั
ดงั น้ัน แสดงวา่ ในปี 57 มกี ารวา่ งงานแอบแฝงอยู่ 2 คน นน่ั เอง
36
o การแก้ปัญหาการว่างงาน
• ดา้ นนโยบายการเงิน: นโยบายการเงินแบบผอ่ นคลาย
• ดา้ นนโยบายการคลงั : นโยบายการคลังแบบขยายตัว (งบประมาณขาดดลุ )
• นโยบายประชากร: โดยการควบคมุ อัตราการเพมิ่ ของประชากร
37
บทที่ 9
เศรษฐกิจการคา้ และการเงนิ ระหว่างประเทศ
สาเหตุของการค้าระหวา่ งประเทศ
ผลดแี ละผลเสยี ของการค้าระหวา่ งประเทศ
นโยบายการคา้ ระหวา่ งประเทศ
องค์กรการค้าระหวา่ งประเทศ
การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ
สถาบันการเงนิ ระหวา่ งประเทศ
1
บทท่ี 9
เศรษฐกิจการค้าและการเงนิ ระหวา่ งประเทศ
ดลุ การชาระเงิน
ความหมายของอตั ราแลกเปลย่ี นเงินตราตา่ งประเทศ
ระบบอัตราแลกเปลย่ี นเงินตราต่างประเทศ
ระบบอัตราแลกเปล่ยี นของประเทศไทย
2
• สาเหตุของการค้าระหว่างประเทศ
1. ความแตกตา่ งทางดา้ นทรพั ยากรท่ีใช้ผลิตในแต่ละประเทศ เนื่องมาจากความ
แตกตา่ งในเร่ืองสภาพภมู ปิ ระเทศและภมู ิอากาศ หรอื การมปี ัจจัยพ้ืนฐานท่ี
แตกตา่ งกันในแตล่ ะประเทศ เชน่ ที่ดิน แรงงาน และเงนิ ทุน
2. แต่ละประเทศผลติ สนิ ค้าในตน้ ทุนที่แตกต่างกัน โดยหากมที รัพยากรท่ีใช้ใน
การผลิตมาก ตน้ ทุนการผลิตตอ่ หนว่ ยกจ็ ะตา่
3. แต่ละประเทศมีเทคโนโลยีท่แี ตกต่างกนั
3
• ผลดี-ผลเสียของการค้าระหว่างประเทศ
ผลดีของการค้าระหว่างประเทศ
- ทาให้ประเทศสามารถใช้ปัจจัยการผลิตเป็นประโยชนม์ ากท่สี ดุ
- ทาให้ประเทศนาเขา้ สนิ ค้าตา่ ง ๆ ทต่ี ้องการ
- ทาให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรเู้ ทคนิคการผลติ การบรหิ ารจดั การ
ผลเสียของการคา้ ระหวา่ งประเทศ
- ทาใหป้ ระเทศมีปญั หาการขาดดุลการค้า
- อัตราการคา้ ต่า: อัตราการค้า= ดัชนีราคาสินคา้ ส่งออก
ดัชนีราคาสินคา้ นาเข้า
4
• นโยบายการค้าระหว่างประเทศ
แบ่งออกเปน็ 2 นโยบายใหญ่ ๆ คอื
1. นโยบายการค้าเสรี (Free Trade Policy) หมายถงึ นโยบายการค้าระหว่าง
ประเทศทร่ี ฐั บาลไมพ่ ยายามเขา้ แทรกแซงกิจการทางการคา้ โดยจะปลอ่ ยให้
เอกชนดาเนนิ การคา้ ระหวา่ งประเทศเอง และไม่มีการกาหนดข้อกดี ขวางทาง
การคา้
2. นโยบายการค้าแบบคมุ้ กัน (Protective Trade Policy) หมายถงึ นโยบาย
การค้าระหว่างประเทศที่รฐั บาลเขา้ แทรกแซงในกิจการเพื่อลดและกดี กนั
ปริมาณสนิ ค้านาเข้า และสนับสนุนสินค้าภายในประเทศ โดยใชม้ าตรการท้งั
ทางภาษี (ภาษสี ่งออกและภาษีนาเขา้ ) และไมใ่ ชภ่ าษี (การกาหนดโควต้า
นาเขา้ การห้ามการนาเขา้ การใช้ขอ้ อา้ งทางสิง่ แวดล้อม สุขอนามัย สทิ ธิ
มนุษยชน)
5
o ตัวอย่างมาตรการทางการค้า
1. การต้ังกาแพงภาษีศุลกากรกับสินค้านาเข้าในอัตราสูง เพ่ือลดการนาเข้า
สนิ คา้ จากตา่ งประเทศ เช่น สหรัฐฯ ประกาศเก็บอากรสินค้าขาเข้าจากจีน
ในอัตรา 100% สาหรับสินค้าสิ่งทอ อุปกรณ์โทรคมนาคม โทรศัพท์มือถือ
เคร่ืองส่งโทรสาร เคร่ืองทาความร้อน หม้อหงุ ข้าว และถุงมือแพทย์ ตั้งแต่
มิ.ย. 2539 โดยใหเ้ หตุผลว่าจีนไม่ได้ทาตามข้อตกลงเก่ียวกับทรัพยส์ ินทาง
ปัญญา
2. การจากัดปริมาณสินค้าหรือโควตา เป็นการจากัดปริมาณสินค้าท่ีนาเข้า
(Import Quota) และการจากัดปริมาณสินค้าท่ีส่งออก (Export Quota)
เชน่ สหภาพยโุ รปกาหนดโควตานาเข้ามันสาปะหลงั จากไทยเพียงปีละ 4.5
ลา้ นตัน
6
3. การกาหนดมาตรฐานสินค้านาเข้า การควบคุมมาตรฐานสุขอนามัย การ
ติดฉลากและการบรรจุหีบห่อสินค้า เช่น ญี่ปุ่นมีการกาหนดขนาด
หอมหวั ใหญ่จากไทยต้องมีขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 4-8 ซ.ม. เท่าน้ัน
4. การกาหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ของการนาเข้าสินค้า มีความ
ยุ่งยากและลา่ ช้า ทาให้เกิดความเสียหายต่อสินคา้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
5. การทุ่มตลาด (Dumping) เป็นการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศในราคาท่ี
ต่ากว่าในประเทศหรือบางครั้งต่ากว่าต้นทุน เพ่ือแย่งส่วนแบ่งตลาด
ดังนั้นประเทศนาเข้าจะต่อต้านการทุ่มตลาดโดยการตั้งกาแพงภาษี หรือ
การจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด เช่น ญ่ีปุ่นได้เคยทาการทุ่มตลาดใน
การเปดิ ตลาดรถยนต์ ตลาดเคร่อื งรับโทรทัศน์ กล้องถา่ ยรปู ในสหรัฐฯ
7
• องค์กรการค้าระหว่างประเทศ
1. ข้อตกลงท่วั ไปวา่ ดว้ ยภาษศี ลุ กากรการคา้ หรือ แกตต์
(General Agreement on Tariffs and Trade : GATT)
เป็นขอ้ ตกลงทจ่ี ดั ตัง้ เมอ่ื พ.ศ. 2490 เพอ่ื ส่งเสริมการค้าเสรี โดยการลด
อุปสรรคทางการคา้ ทง้ั ภาษีศุลกากรและมาตรการทไ่ี ม่ใชภ่ าษี (Non Tariff Barriers)
และยังทาการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพพิ าททางการค้าระหว่างภาคี แต่ GATT ไมม่ ี
อานาจในการตัดสนิ ลงโทษหรือตดิ ตามผลการปฏิบตั ิงานอย่างจริงจงั และดูแลเฉพาะ
การคา้ สินคา้ เท่าน้ัน
8
GATT มีการจัดประชุมมาแลว้ 7 ครง้ั และมีการลดภาษศี ลุ กากรลง
ตามลาดบั แต่การเจรจารอบสุดทา้ ย (รอบท่ี 8) ซ่งึ จัดท่ปี ระเทศอรุ กุ วยั เม่ือ
พ.ศ. 2529 แต่ไมส่ ามารถหาขอ้ สรุปได้ ทาใหก้ ารประชมุ ตอ่ เนอ่ื งยาวนานมาถึง
ธ.ค. 2536 จึงได้ข้อสรปุ ได้ทาการลดภาษีศลุ กากรลงเฉลี่ย 40% จากระดบั เดิม
และมกี ารยกระดับ GATT เปน็ WTO
9
2. องค์กรการค้าโลก (World Trade Organization : WTO)
กอ่ ตงั้ เมื่อ 1 ม.ค. 2538 WTO ทาหน้าท่ีหลกั ในการนดูแลการค้าสินค้า
การค้าบริการ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและมาตรการการลงทุนท่ีเก่ียวกับ
การค้า และประเทศสมาชิกทุกประเทศต้องทาตามทุกข้อตกลง โดย WTO ทา
หน้าท่ีส่งเสริมการค้าเสรี ด้วยการลดอุปสรรคและข้อขัดแย้งทางการค้าท้ังในรูป
ภาษีศุลกากรและไม่ใช่ภาษี และให้ความช่วยเหลือประเทศกาลังพัฒนาในด้าน
ข้อมูลข่าวสาร ข้อแนะนาต่างๆ และเป็นคนกลางในการตัดสินความขัดแย้ง และ
ทาหน้าที่ประสานงานกับ IMF และ World Bank เพื่อให้นโยบายเศรษฐกิจโลก
สอดคลอ้ งกนั ย่งิ ข้ึน
10
• การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ หมายถึง การรวมกลมุ่ ของประเทศตา่ งๆ ใน
ภมู ิภาคเดยี วกัน เพื่อรกั ษาผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ร่วมกันและขยายลู่ทางการค้า
ระหวา่ งกันให้มขี อบเขตมากขน้ึ โดยการยกเลกิ หรือลดอปุ สรรคทัง้ ภาษีศลุ กากรและ
ไมใ่ ช่ภาษี รวมทง้ั การปรับปรุงแก้ไขข้อปฏิบัติทางการคา้ ที่แตกตา่ งกนั ระหวา่ ง
ประเทศในกลมุ่ และนอกกลุม่
11
การรวมกลุ่มสามารถแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ สามารถแบง่ ระดบั ของความรว่ มมือ
ตามลาดับจากนอ้ ยไปหามาก โดยลดอุปสรรคทางการคา้ ลงเรอ่ื ยๆ หรือขยาย
ระดับความร่วมมือกันให้กว้างมากขนึ้ ดังนี้
1. เขตลดพิกัดอตั ราภาษีศลุ กากร ระดับความรว่ มมอื : น้อย
2. เขตการค้าเสรี
3. สหภาพศลุ กากร
4. ตลาดรว่ ม
5. สหภาพทางเศรษฐกจิ มาก
12
1. เขตลดพิกัดอัตราภาษีศุลกากร
(Preferential Area)
เป็นการรวมกลุ่มในระดับต่าสุด กล่าวคือ ประเทศสมาชิกจะมีการ
ลดหย่อนภาษีระหว่างกัน โดยการเก็บภาษีสินค้าประเภทเดียวกันระหว่าง
ประเทศสมาชิกถกู กวา่ ภาษที ่เี ก็บจากสินคา้ นาเข้าจากประเทศนอกกลมุ่
เชน่
การรวมตัวกนั เป็น ASEAN ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10
ประเทศในยคุ แรก ซง่ึ ประเทศสมาชิกได้ตกลงวา่ จะใหส้ ิทธิพิเศษทางการค้าระหวา่ ง
กนั ดงั น้นั เมอ่ื ประเทศไทยและจนี ส่งออกดอกไมป้ ระดิษฐ์ท่ีทาจากผา้ ไปยังประเทศ
มาเลเซีย มาเลเซยี กจ็ ะเกบ็ ภาษนี าเขา้ ดอกไมน้ ้ันจากไทยรอ้ ยละ 8 ในขณะที่เรยี กเกบ็
จากประเทศจีนรอ้ ยละ 12 ของราคาสินคา้ เนื่องจากมาเลเซียและไทยเปน็ ประเทศ
สมาชิกอาเซียนด้วยกนั
13
2. เขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA)
เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในลักษณะที่ประเทศสมาชิกจะไม่มี
การเก็บภาษีศุลกากรระหว่างกัน และไม่มีการจากัดโควตานาเข้าของประเทศ
สมาชิก แต่ระดับภาษีศุลกากรท่ีแต่ละประเทศเก็บกับประเทศนอกกลุ่มยัง
แตกตา่ งกนั
การที่แต่ละประเทศเรียกเก็บภาษีจากประเทศภายนอกกลุ่ม
ได้อย่างเสรีนี้ จะทาให้ภาษีที่เรียกเก็บจากประเทศนอกกลุ่มมีอัตราแตกต่างกัน
ดังนั้น ประเทศนอกกลุ่มสามารถเปรียบเทียบอัตราภาษีที่แต่ละประเทศจัดเก็บ
และเลอื กทาการคา้ กับประเทศสมาชกิ ที่ต้ังอัตราภาษีไวต้ ่าได้
14
ตวั อยา่ งเขตการคา้ เสรี
• เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) หรือ อาฟตา้
เป็นข้อตกลงทางการค้าสาหรับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศสมาชิก
อาเซยี นท้ังหมด โดยกาหนดให้ประเทศสมาชิก ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร
แก่กันแบบต่างตอบแทน กล่าวคือ การท่ีจะได้สิทธิประโยชน์จากการลดภาษีของ
ประเทศอื่นสาหรับสินค้าชนิดใด ประเทศสมาชิกน้ันจะต้องประกาศลดภาษี
สาหรบั สนิ ค้าชนิดเดยี วกนั ด้วย
15
• ความตกลงการคา้ เสรอี เมรกิ าเหนอื (North American Free Trade
Agreement: NAFTA) หรือ นาฟต้า
เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจในทวีปอเมริกาเหนือ ในการที่จะร่วมมือกันหา
ตลาดส่งออกและลดต้นทุนการผลิตสินค้า เพ่ือให้มีราคาถูกลง สามารถแข่งขันกับ
ตลาดโลกได้ โดยเป็นการเปิดเสรีระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และ
เม็กซิโก ให้เป็นตลาดเดียว และจะลดอัตราภาษศี ลุ กากรใหเ้ หลือร้อยละ 0
16
3. สหภาพศุลกากร (Customs Union)
เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจท่ีก้าวหน้ากว่า FTA โดย
ประเทศสมาชิกนอกจากจะยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรและไม่มีการ
จากัดโควตาระหว่างประเทศสมาชิกแล้ว นอกเหนือจากนี้ ประเทศ
สมาชกิ แตล่ ะประเทศยงั มีขอ้ ตกลงเรอื่ งการกาหนดนโยบายอัตราภาษี
ศุลกากรกับประเทศนอกกลุ่มในอัตราเดียวกัน (common external
tariff: CET)
17
ตัวอย่างการรวมกลุ่มเศรษฐกิจในรูปแบบสหภาพศุลกากร ได้แก่
การรวมกลุ่มของเบเนลักซ์ หรือ สหภาพเศรษฐกิจเบเนลักซ์ (Bénélux) ซึ่ง
ประกอบไปด้วย ประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบอร์ก โดย
เบลเยียมและลักเซมเบอร์ก ได้จัดตั้งสหภาพศุลกากรตั้งแต่ปี พ.ศ.2464 ซ่ึง
เป็นระยะเวลาระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้ตกลงให้เนเธอร์แลนด์
เขา้ รว่ มเป็นสมาชิกของสหภาพดว้ ย
18
4. ตลาดร่วม (Common Market)
เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าสหภาพศุลกากร กล่าวคือ
การรวมกลุ่มแบบตลาดร่วมน้ันไม่เพียงแต่ยกเลิกข้อกีดกันทางการค้าระหว่าง
ประเทศสมาชิกในทุกรูปแบบ และกาหนดภาษีศุลกากรกับประเทศภายนอก
กลุ่มในอัตราเดียวกันแล้ว (CET) ยังมีการเพ่ิมเงื่อนไขว่า ปัจจัยการผลิต เช่น
ทุน วัตถดุ บิ แรงงาน เทคโนโลยีต่างๆ ก็สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีระหว่าง
ประเทศสมาชิก
นั่นคือ ทั้งสินค้าและปัจจัยการผลิตสามารถเคล่ือนย้ายได้อย่างเสรี
ระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกนั เอง
19
การที่ปัจจัยผลิตสามารถเคล่ือนย้ายได้อยา่ งอิสระภายในกลุ่มทางเศรษฐกิจเช่นนี้
ทาให้การใช้ทุน แรงงาน เทคโนโลยีต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพราะปจั จัยการผลติ จะถูกใช้ภายใตภ้ าวะที่ก่อให้เกดิ การผลติ ที่ไดผ้ ลสงู สุด
ตวั อย่าง ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)
ในปจั จุบัน ท่ตี ้ังแตป่ ี พ.ศ. 2558 เปน็ ต้นมา 10 ประเทศในอาเซียนกไ็ ดพ้ ยายาม
ยกระดับการรวมกล่มุ ใหเ้ ปน็ ตลาดเดียวกนั และฐานการผลิตเดียว มกี ารเปิดเสรใี น
สนิ ค้าและบริการ และมีการเคลอ่ื นยา้ ยการลงทุน แรงงานมีฝมี ือไดอ้ ยา่ งเสรี
20
5. สหภาพเศรษฐกิจ (Economic Union)
การรวมกลุ่มรูปแบบนี้มีลักษณะเหมือนกันกับตลาดร่วมทุกประการ
แต่มีการประสานความร่วมมือในเร่ืองนโยบายทางเศรษฐกิจ การเงิน และการ
คลังด้วย โดยเพ่ิมเงื่อนไขให้ประเทศสมาชิกในกลุ่ม มีการใช้นโยบายด้าน
การเงินและการคลังเหมือนกัน เพ่ือให้เศรษฐกิจมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
มากข้ึน และจัดตั้งหน่วยงานกลาง เช่น รัฐบาลกลาง ธนาคารกลาง ข้ึนมา
บริหารนโยบายร่วมกัน ซ่ึงเป็นการรวมตัวของนโยบายทางเศรษฐกิจเพื่อการ
เคลือ่ นยา้ ยอย่างเสรีของสินคา้ บรกิ าร และปจั จยั การผลติ ขา้ มพรมแดน
21
นอกจากน้ี ยังมีการใช้เงินตราในสกุลเดียวกัน ทาให้ไม่มีความเส่ียงจากการผัน
ผวนของอัตราแลกเปล่ยี น
ตัวอย่างการรวมกลุ่มรูปแบบนี้ เช่น การรวมตัวกันเป็นสหภาพยุโรป
(European Union: EU) ซ่งึ มีการรวมตัวกันทางการเงินอย่างเต็มท่ีต้ังแต่ พ.ศ.
2542 โดยการใช้เงนิ สกลุ เดยี วกนั คอื ยูโร (Euro)
22
เปรยี บเทียบการรวมกลุ่มแบบ AEC กบั EU
ลกั ษณะ EU AEC
แนวทางการรวมกลุม่ - เป็นแบบบังคับ โดยมี Supra- - เป็นความร่วมมือ แบบ
National Authority ที่มอี านาจ Intergovernmental Method
อัตราภาษขี องประเทศ ในการตดั สินใจแทนรัฐสมาชกิ โดยแตล่ ะรัฐมีฐานะเท่าเทียมกัน
ภายในกลมุ่ และยงั มีอานาจอธปิ ไตยของแต่รัฐ
ลดเหลือ 0%
อตั ราภาษนี อกกลมุ่ / ลดเหลือ 0%
การเคลื่อนย้ายแรงงาน - ทุกประเทศใช้อัตราเดยี วกัน
-100% -- แตล่ ะประเทศใชอ้ ัตราตา่ งกนั
การรวมตัวทางด้านสกุลเงิน - เคลอื่ นยา้ ยแรงงานโดยเสรี -70%
- เคลอ่ื นย้ายเสรเี ฉพาะแรงงานมี
-ใชเ้ งนิ สกลุ เดียวกัน ฝมี อื
ใช้เงินสกุลประจาชาติ
• สภาบันการเงินระหว่างประเทศ
1. ธนาคารโลก (World Bank)
2. กองทุนการเงนิ ระหว่างประเทศ (International Monetary Fund:
IMF)
3. ธนาคารพฒั นาเอเชยี (Asian Development Bank: ADB)
24
1. ธนาคารโลก (World Bank)
เป็นองคก์ รระหว่างประเทศที่จดั ตัง้ ข้นึ ภายหลงั สงคราวโลกคร้งั ที่ 2 โดยมี
วัตถุประสงค์เพอ่ื ชว่ ยเหลือและฟนื้ ฟูบูรณะประเทศทปี่ ระสบภัยจากสงครามโลกครั้ง
ท่ี 2 โดยการระดมเงินทุนระหว่างประเทศ สาหรบั ใหป้ ระเทศสมาชกิ กยู้ มื ไปใชใ้ นการ
ฟื้นฟูประเทศจากสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 และเพอ่ื นามาใชพ้ ัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
สมาชิก
ปจั จบุ นั ธนาคารโลกมุ่งเน้นใหค้ วามช่วยเหลอื ทางการเงินแก่ประเทศ
สมาชกิ ในการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คม เพอ่ื ให้ประชาชนกนิ ดอี ยู่ดี
25
สถาบนั ภายใต้กลุ่มธนาคารโลก เชน่
• สมาพันธ์การพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development
Association: IDA) ต้ังขน้ึ เพือ่ ชว่ ยเหลือประเทศทย่ี ากจนที่สุดของโลก 79 ประเทศ
เช่น ใหก้ ้ปู ลอดดอกเบย้ี เพ่ือบรรเทาปัญหาหนส้ี ิน
• ธนาคารระหวา่ งประเทศเพอื่ การบรู ณะและพฒั นา (International Bank For
Reconstruction And Development; IBRD) ซง่ึ เปน็ ธนาคารเกีย่ วกบั งานด้าน
ฟื้นฟูและพัฒนา ใหก้ ยู้ ืมและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ด้านการพฒั นาแกป่ ระเทศยากจน
และมรี ายได้ปานกลาง
26
แหลง่ เงนิ ทุนทสี่ าคัญของธนาคารโลก
1) ขายพันธบตั รระยะปานกลางและยาวในตลาดหุ้นท่ีสาคัญของโลก ***
2) เงินทนุ สมทบของประเทศสมาชิก
3) เงนิ กาไรสะสมของธนาคารโลก
โดยธนาคารโลกจะให้กู้ระยะยาว 10 20 ปี ระยะเวลาปลอดหน้ี 1-5 ปี
และตอ้ งเป็นสมาชกิ IMF ก่อนจงึ จะสามารถเป็นสมาชกิ ของ World bank ได้
27
28
2. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เปิดดาเนินการพร้อมกับธนาคารโลก เม่ือ 25 มถิ นุ ายน 2489 IMF มี
วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีจะปอ้ งกันวกิ ฤตการณ์ในระบบ โดยสง่ เสริมใหป้ ระเทศต่างๆ ปรับใช้
นโยบายเศรษฐกิจทีเ่ หมาะสม นอกจากนี้ IMF ยงั เป็นกองทุน กล่าวคอื ประเทศ
สมาชกิ ที่ตอ้ งการเงินทนุ ชวั่ คราว สามารถขอความช่วยเหลือจาก IMF เพอื่ แก้ปัญหา
ดุลการชาระเงินของตนได้
29
ทาหนา้ ที่
• สนับสนุนการคา้ ระหวา่ งประเทศให้ขยายตวั มากข้ึน
• รักษาเสถียรภาพของอตั ราแลกเปลีย่ น
• แกป้ ัญหาการขาดดลุ การชาระเงนิ ของประเทศสมาชิก โดยการให้กู้
ระยะส้ันถึงปานกลาง
• ติดตาม ตรวจสอบ ให้คาปรึกษาและให้ความช่วยเหลือในการ
แก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยการให้คาแนะนาเชิงนโยบายแก่ประเทศ
สมาชิก
• ดแู ลระบบการเงินของโลก
30
IMF กาหนดใหป้ ระเทศสมาชิกดารงเงินสารองไว้ที่ IMF และตอ้ งจ่ายเงิน
สมทบเป็นคา่ สมาชิกตามขนาดและฐานะทางเศรษฐกจิ
IMF ไดส้ ร้างสินทรัพยส์ ารองระหวา่ งประเทศ เรียกว่า “สทิ ธิถอนเงนิ พิเศษ
(Special Drawing Rights: SDR)”
• 1 SDR = 1.38 USD
• ประเทศสมาชกิ จะไดร้ ับการจัดสรร SDR จาก IMF โดยดูจากรายได้
ประชาชาติ ปริมาณและมลู ค่าของสนิ ค้านาเข้า การเปลย่ี นแปลงของ
สนิ คา้ ส่งออก และอัตราสว่ นสนิ คา้ สง่ ออกตอ่ รายได้ประชาชาติ
•สมาชกิ สามารถใช้ SDR ชาระหน้ใี ห้แก่ประเทศอน่ื ๆ ไดก้ ็ตอ่ เม่อื ประเทศ
นั้นขาดดลุ การชาระเงิน
31
3. ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)
• กอ่ ตั้งเม่อื พ.ศ. 2509 โดยมีวตั ถปุ ระสงค์หลกั เพอ่ื การสง่ เสรมิ เศรษฐกิจและความ
ร่วมมอื กนั ในภูมิภาคเอเชยี และตะวันออกไกล โดยเน้นให้ความชว่ ยเหลอื ทางด้าน
การเงนิ และวชิ าการเพอื่ เรง่ รดั การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศสมาชกิ ที่กาลงั
พัฒนาในภมู ภิ าค
• ประเทศสมาชกิ ต้องถอื หนุ้ ของธนาคาร ADB ซ่งึ อาจมากหรือนอ้ ยขน้ึ อยู่กับสถานะ
ทางเศรษฐกิจของสมาชกิ
• ADB ใชเ้ งินทุนโดยการปลอ่ ยกใู้ หแ้ ก่สมาชิกระยะเวลา 10-15 ปี
32
• ดุลการชาระเงิน
(Balance Of Payment: BOP)
ดุลการชาระเงิน หมายถึง บันทึกรายรับและรายจ่ายเงินตรา
ต่างประเทศท่ีเกิดจากรายการแลกเปล่ียนทางเศรษฐกิจระหว่างผู้มีถ่ินฐานใน
ประเทศนั้นกับผ้มู ถี ่นิ ฐานของประเทศอืน่ ๆ ในเวลาใดเวลาหนึ่ง (ปกติ 1 ปี)
ผูม้ ถี ่ินฐานในประเทศ คือ บุคคลและองคก์ ารธุรกจิ ต่างๆ ทีม่ ีภูมิลาเนา
ในประเทศเป็นการถาวร ดงั น้ัน ผู้มถี น่ิ ฐานของประเทศไทยก็คือคนไทย
33