The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เศรษฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plu.edu2022, 2022-09-01 06:07:04

เศรษฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

เศรษฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

คำถำม

หากรายไดน้ อ้ ยลงจนเท่ากับ 0 รายจ่ายในการบรโิ ภคจะนอ้ ยลงจน

เท่ากับ 0 ด้วยหรือไม่ ?

คาตอบ
ถ้ารายได้น้อยมากจนเทา่ กบั 0 รายจา่ ยในการบรโิ ภคจะไมเ่ ท่ากบั 0
แต่ผบู้ ริโภคจะมีรายจ่ายในการบริโภคตา่ สุดจานวนหนง่ึ ซ่งึ อาจจะนาเอาเงิน
ออมทม่ี ีอยมู่ าใชบ้ ริโภค หรอื อาจกู้ยมื มาใชจ้ า่ ย

21

o การบริโภคและการออม

เมื่อบุคคลมีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเกิดข้ึน (Disposable income; Yd) จะ
แบ่งรายได้ออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่นาไปใช้จ่ายเพื่อการบริโภค (Consumption;
C) และส่วนทเี่ ก็บออมเพือ่ ใช้จา่ ยในอนาคต (Saving; S)

Yd = C + S

ซ่ึงจานวนเงินทจ่ี ะเหลอื ออมนน้ั ก็คานวณไดจ้ าก

S = Yd - C

ดังน้นั เงินออมของแตล่ ะคนอาจมคี ่าเทา่ กบั หรอื มากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 0 กไ็ ด้

22

ตัวอย่าง รายจ่ายในการบริโภค รายจ่ายในการออม
(C) (S)
รายได้ 800 -800
(Yd) 1,400 -400
0 2,000 0
1,000 2,600 400
2,000 3,200 800
3,000
4,000

23

24

ตัวอย่าง รายจา่ ยในการบริโภค MPC = C/Yd
(C)
รายได้ 800 -
(Yd) 1,400 0.6
0 2,000 0.6
1,000 2,600 0.6
2,000 3,200 0.6
3,000
4,000

MPC = 0.6 หมายถึง ถ้าผบู้ รโิ ภคมีรายไดเ้ พ่มิ ขน้ึ (หรอื ลดลง) 1 บาท
เขาจะมีรายจ่ายในการบริโภคเพ่มิ ขึ้น (หรือลดลง) 0.6 บาท

25

26

ตัวอย่าง รายจา่ ยในการออม MPS = S/Yd
(S)
รายได้ -800 -
(Yd) -400 0.4
0 0 0.4
1,000 +400 0.4
2,000 +800 0.4
3,000
4,000

MPS = 0.4 หมายถึง ถา้ ผบู้ ริโภคมีรายไดเ้ พิ่มขน้ึ (หรอื ลดลง) 1 บาท
เขาจะมเี งินออมเพ่ิมขึน้ (หรือลดลง) 0.4 บาท

27

การหาสมการการบริโภคและการออม
จากข้อมูลต่อไปน้ี

Yd C S MPC MPS
(5) = [(3)t-(3)t-1]/
(1) (2) (3) (4) = [(2)t-(2)t-1]/
[(1)t-(1)t-1] [(1)t-(1)t-1]
0.25
300 325 -25.00 0.75 0.25
0.25
350 362.5 -12.50 0.75 0.25
0.25
400 400 0.00 0.75 0.25

450 437.5 12.50 0.75

500 475 25.00 0.75

550 512.5 37.50 0.75

MPC + MPS = 1 เสมอ

28

จากสมการ C = Ca + bYd โดย b คือ MPC = 0.75
C = Ca +0.75Yd

จากนั้นหาคา่ Ca โดยแทนค่า C และ Yd ท่ีระดบั การบรโิ ภคใดกไ็ ด้
เช่น 325 = Ca + 0.75x300

= Ca + 225
325-225 = Ca
100 = Ca
ดังน้ัน C = 100 + 0.75Yd

จากสมการการออมคอื S = -Ca + (1-b)Yd
ดังนน้ั S = -100 + 0.25Yd

29

องค์ประกอบท่ี 2

2) รายจ่ายเพื่อการลงทุนในประเทศของเอกชน
(Gross Private Domestic Investment Expenditure; I)

คือ รายจา่ ยของภาคเอกชนเพอ่ื ซอื้ ปัจจัยการผลิตมาทาการผลิตสนิ ค้าและบริการ
ซง่ึ ประกอบด้วย

- รายจ่ายในการกอ่ สร้างใหม่ เชน่ การสร้างสานักงานใหม่ โกดังสนิ ค้า
สร้างที่อยู่อาศัยใหม่

- รายจา่ ยในการซือ้ เครือ่ งมอื ถาวรท่ใี ชใ้ นการผลิต เช่น เครื่องจักร
เครอ่ื งมือ รถบรรทุก หรอื คา่ ใชจ้ ่ายในการซ้ือสินคา้ ประเภททนุ

- ส่วนเปลย่ี นแปลงของสนิ ค้าคงเหลือ (ไมใ่ ชจ่ านวนสนิ คา้ คงเหลือ) ซ่ึง
หาได้จากมลู คา่ สินคา้ คงเหลอื ปลายปีนห้ี กั ด้วยมลู ค่าสินค้าคงเหลอื ตน้ ปีที่ยกยอด
มาจากปีที่แล้ว (มคี ่าเปน็ บวกหรอื ลบก็ได้)
หมายเหต:ุ รายจ่ายสนิ ค้ามอื สอง และรายจ่ายเงินโอนไม่รวมในรายไดป้ ระชาชาติ

30

o ตัวทวีคูณของการลงทุน

เคนส์ (Keynes) กลา่ วว่า ถา้ การลงทุนเปล่ยี นแปลงไปจะมีผลทาให้
รายได้ประชาชาติเปล่ียนแปลงไปด้วย โดยจะเปลย่ี นแปลงไปมากหรือน้อยขึน้ อยู่
กบั ตวั ทวคี ูณของการลงทุน

ตัวทวคี ณู ของการลงทนุ (Investment Multiplier; k) คือ สัดสว่ น
ของการเปลย่ี นแปลงรายได้ประชาชาตเิ ม่ือการลงทนุ เปล่ียนแปลงไป 1 หน่วย

เมื่อ k = ตัวทวีคณู ของการลงทุน 31

Y = การเปลยี่ นแปลงของรายได้ประชาชาติ
I = การเปลย่ี นแปลงของการลงทุน

32

สมมตุ วิ ่าบรษิ ทั หน่งึ มโี ครงการลงทุนสร้างบ้านจดั สรรมลู ค่า 100 ล้านบาท และ MPC = 0.6
ซ่งึ จะมีผลต่อรายไดป้ ระชาชาตดิ ังน้ี

Y = kI = 1- 1 I ขน้ั ท่ี I Y C S
MPC 1 100 100 60 40
2 60 36 24
= 1 1  100 = 1  100 3 36 21.60 14.40
- 0.6 0.4 4 21.60 12.96 8.64
5 12.96 7.78 5.18
Y = 250 6 7.78 4.67 3.11

7 4.67 2.80 1.87

8 2.80 1.68 1.12

… …… …

รวม 250 100

33

คาถาม

รายการตอ่ ไปน้ี นบั รวมใน GDP ผ่านการลงทนุ หรอื ไม่
• การซือ้ ที่ดนิ เกง็ กาไร No

• นาย A ซือ้ หุ้นของธนาคารกรงุ เทพ 100 ลา้ นบาท No
• พอธนาคารกรงุ เทพได้เงินมาแลว้ กน็ าไปซ้อื คอมพิวเตอรใ์ หม่
ให้แก่ทกุ แผนก Yes

34

องค์ประกอบท่ี 3

3) รายจ่ายของภาครัฐบาล
(Government Expenditure; G)

รายจา่ ยของภาครัฐบาล เป็นรายจา่ ยเพ่ือซอื้ สินคา้ และบริการขน้ั
สดุ ทา้ ยของภาครฐั บาล
ประกอบไปด้วย

- รายจ่ายในการซ้อื วสั ดุ ครุภณั ฑจ์ ากภาคธุรกิจต่างๆ
- รายจ่ายประเภทเงินเดือน คา่ จ้าง
- รายจ่ายทางการปอ้ งกนั ประเทศ โดยไม่รวมเงนิ โอน

35

คาถาม

รัฐบาลซือ้ ข้าวสาร อาหารแห้ง ไปบริจาคให้แก่ผปู้ ระสบอุทกภยั
อย่างนีน้ บั รวมเปน็ “G” หรอื ไม่ ? Yes

36

องค์ประกอบที่ 4

4) การส่งออกสุทธิ
(Net Exports; X - M)

หมายถึง รายไดส้ ุทธิจากการส่งออกสินค้าและบริการ ซ่งึ คานวณได้
ดังนี้

การสง่ ออกสุทธิ = มูลคา่ การส่งออก – มูลค่าการนาเข้า
Net export = Export (X) - Import (M)

37

Expenditure on gross domestic product at current market prices

8,000,000 '(Millions of Baht)

7,000,000 Private final consumption expenditure
General government final consumption expenditure

6,000,000 Investment
5,000,000 Exports - Imports

4,000,000

3,000,000

2,000,000

1,000,000

0

-1,000,000 1990
1991
1992
1993
1994
1995
1996
1997
1998
1999
2000
2001
2002
2003
2004
2005
2006
2007
2008
2009
2010
2011
2012r
2013r
2014p

ท่ีมา: สานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ, 2015 38

• คาศัพท์ในบัญชีรายได้ประชาชาติ

(1) ผลิตภณั ฑภ์ ายในประเทศเบือ้ งตน้ ณ ราคาตลาด (Gross
Domestic Product at market price; GDP at market price) คือ มูลค่า
รวมของสนิ ค้าและบรกิ ารข้ันสุดท้ายในตลาด ณ ราคาตลาด ซ่งึ ผลิตขึ้นภายใน
อาณาเขตของประเทศนั้น ๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คานึงว่าผู้ผลิตจะเปน็
พลเมอื งของประเทศนนั้ หรอื ไม่

39

(2) ผลติ ภัณฑป์ ระชาชาตเิ บ้ืองต้น ณ ราคาตลาด (Gross National
Product at market price; GNP at market price) คอื มลู ค่าของสินค้า
และบรกิ ารขนั้ สุดทา้ ยในตลาด ณ ราคาตลาด ซึง่ ผลิตข้นึ ด้วยทรพั ยากรหรือปัจจัย
การผลิตของประเทศท่ใี ช้ในการผลิต ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คานงึ ถึงวา่
ทรพั ยากรท่ีใช้ในการผลิตนัน้ จะอยูใ่ นประเทศหรือไม่ เพียงแตข่ อใหเ้ กดิ จากบุคคล
ของประเทศน้ันเป็นพอ ซง่ึ จะอยภู่ ายในประเทศ หรอื อยู่ต่างประเทศกไ็ ด้

40

GNP = GDP + รายได้สทุ ธิจากตา่ งประเทศ

เมื่อ รายได้สทุ ธจิ ากตา่ งประเทศ (Net Factor Income from aboad: F)
F มีค่าเป็นบวก เม่ือรายได้ท่ีเกิดข้ึนโดยชาวต่างประเทศที่มาลงทุนในประเทศน้อยกว่า
รายไดท้ ่ีเกิดขึน้ โดยคนของประเทศนั้นไปลงทุนในต่างประเทศ
F มีค่าเป็นลบ เมื่อรายได้ท่ีเกิดขึ้นโดยชาวต่างประเทศที่มาลงทุนในประเทศมากกว่า
รายไดท้ เี่ กดิ ขน้ึ โดยคนของประเทศนัน้ ไปลงทนุ ในตา่ งประเทศ

41

คาถาม

นักศกึ ษาคดิ ว่าประเทศกาลังพฒั นา เชน่ ประเทศไทย
GDP หรอื GNP จะมคี า่ มากกวา่ กัน ?

GDP > GNP

เพราะตา่ งประเทศมาลงทุนในบา้ นเรา
มากกวา่ ท่ีเราไปลงทนุ ต่างประเทศ

42

(3) Per Capita

ผลติ ภัณฑ์ภายในประเทศเบอ้ื งตน้ เฉลีย่ ตอ่ คน (GDP Per Capita)

ผลิตภัณฑภ์ ายในประเทศเบ้อื งต้น = ผลติ ภัณฑภ์ ายในประเทศเบื้องต้นในปที ี่ n

เฉล่ยี ต่อคน จานวนประชากรปีท่ี n

ผลติ ภัณฑ์ประชาชาติเบื้องตน้ เฉล่ยี ตอ่ คน (GNP Per Capita)

ผลติ ภณั ฑป์ ระชาชาติเบ้ืองต้น = ผลิตภณั ฑ์ประชาชาตเิ บอื้ งต้นในปที ่ี n

เฉลยี่ ตอ่ คน จานวนประชากรปีที่ n

รายได้ประชาชาตเิ ฉลยี่ ต่อคน (National Income Per Capita)

รายได้ประชาชาติเฉลยี่ ตอ่ คน = รายไดป้ ระชาชาติในปที ี่ n
จานวนประชากรปีท่ี n

43

44

45

Nominal GDP Vs Real GDP

• ผลติ ภัณฑภ์ ายในประเทศเบ้อื งต้นทีเ่ ปน็ ตวั เงนิ (Money GDP)
หรอื ผลติ ภณั ฑ์ภายในประเทศ ณ ราคาตลาด (GDP at market price)
หรอื Nominal GDP
• ผลติ ภณั ฑ์ภายในประเทศทแ่ี ทจ้ รงิ (Real GDP) หรือ ผลิตภัณฑ์
ภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ (GDP at constant price)

46

47

o Nominal GDP

ผลิตภณั ฑภ์ ายในประเทศเบื้องต้นทเ่ี ปน็ ตวั เงิน (Money GDP) หรอื
ผลติ ภณั ฑ์ภายในประเทศทคี่ านวณตามราคาปจั จุบันหรอื ราคาตลาด (GDP at
current or market price)

n
Money GDP =
Pit Q it

i=1

โดยท่ี Pit คือ ราคาสนิ ค้าที่ i (i=1,…,n) ณ เวลาที่ t
Qitคือ ปรมิ าณสนิ ค้าที่ i ณ เวลาท่ี t

48

การเปลี่ยนแปลง Nominal GDP อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในปริมาณ
การผลิต หรือการเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้า หรือเกิดจากทั้งสองสาเหตุ
ดังนัน้ การเปล่ียนแปลง Money GDP ไมส่ ามารถบอกใหท้ ราบได้ว่าในแต่ละปี
ผลผลิตทแ่ี ทจ้ รงิ ของประเทศเปลย่ี นแปลงไปเทา่ ไรและอย่างไรได้

49

o Real GDP

ผลิตภณั ฑ์ภายในประเทศทแี่ ทจ้ รงิ (Real GDP) คือ ผลิตภัณฑ์
ภายในประเทศทขี่ จัดความผนั ผวนของราคาผลผลิต ดว้ ยการใชด้ ชั นรี าคา
(Price Index) ในการปรบั โดย Real GDP สามารถคานวณได้ ดังน้ี

n

Real GDP = Pi0Qit
i=1

โดยท่ี Pi0 คือ ราคาสินคา้ ที่ i ณ เวลาที่ 0 (ปฐี าน)

50

ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่แทจ้ รงิ (Real GDP) สามารถหาได้อกี วธิ ี โดยการ
ใช้ GDP deflator หรือใชด้ ชั นีราคาผูบ้ รโิ ภค (Consumer Price Index; CPI) ของปีนน้ั
เป็นตวั หาร

Real GDP ปีที่ t = Money GDP ในปีที่ t x 100
GDP deflator ปที ี่ t

Real GDP ปีที่ t = Money GDP ในปีท่ี t x 100
CPI ปีที่ t

51

GDP deflator ปที ี่ t = Money GDP ปที ่ี t x 100
Real GDP ปีที่ t

n
 PitQit
GDP deflator ปีที่ t = i=1 × 100
n ดชั นีราคาของปาเช่
 Pi0Qit (Paasche)
i=1
52
โดยที่ Pit = ราคาของสินค้าที่ i ณ ปที ่ี t
Pi0 = ราคาของสินคา้ ท่ี i ณ ปีที่ 0 (ปีฐาน)
Qit = ปรมิ าณของสินคา้ ท่ี i ณ ปที ่ี t

ตวั อยา่ ง การคานวณดชั นีราคาผลิตภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศ (บาท)
Pi0xQit
สินค้า 2002 (ปีฐาน) Pit 2014 7700
Pi0 Qi0 Pi0xQi0 11250
Qit PitxQit 18950
กล้วย 70 100 7000 80 110 8800
53
ออ้ ย 90 120 10800 100 125 12500

รวม 17800 21300

สมมตุ ิว่าระบบเศรษฐกิจน้มี ีสนิ คา้ แค่ 2 ชนิดคอื กล้วยกบั ออ้ ย ดงั นนั้
Money GDP ปี 2002 =(Pกล้วย, 2002 x Qกล้วย, 2002) + (Pออ้ ย, 2002 x Qอ้อย, 2002)

=Pi0xQi0
= 17,800 บาท
Money GDP ปี 2014 =(Pกลว้ ย, 2014 x Qกลว้ ย, 2014)+(Pอ้อย, 2014 x Qอ้อย, 2014)
=PitxQit
= 21,300 บาท

Real GDP ปี 2002 =(Pกล้วย,2002xQกลว้ ย,2002)+(Pอ้อย,2002xQออ้ ย,2002)
= Pi0xQi0 = 17,800 บาท

Real GDP ปี 2014 =(Pกล้วย2002xQกลว้ ย2014)+(Pอ้อย2002xQอ้อย2014)
= Pi0xQit = 18,950 บาท

GDP Deflator ปี 2002 = 100 x Money GDP ปี 2002/ Real GDP ปี 2002

= 100x17800/17800
= 100

GDP Deflator ปี 2014 = 100 x Money GDP ปี 2014 / Real GDP ปี 2014

= 100x21300/18950
= 112.4

54

• ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับ
รายได้ประชาชาติ

o รายได้ประชาชาติไมไ่ ดร้ วมสนิ คา้ และบริการบางอย่างไดม้ กี ารผลติ จริงแต่
ไม่ไดผ้ า่ นตลาด
o รายได้ประชาชาตไิ ม่ได้รวมสนิ ค้าท่ีผิดกฎหมาย
o รายได้ท่ีเกิดจากอาชพี อสิ ระตา่ งๆ อาจไมม่ กี ารบนั ทึกหรือบันทึกไว้ต่ากวา่
ความเป็นจริง
o รายไดป้ ระชาชาตไิ มไ่ ด้ให้ความสาคัญถึงการพักผ่อนหย่อนใจของบุคคล และ
ไมไ่ ด้วดั คณุ ภาพของสินค้าและบรกิ าร
o รายไดป้ ระชาชาตไิ ม่ได้แสดงถงึ การกระจายสนิ คา้ และบรกิ าร
o รายไดป้ ระชาชาตไิ มไ่ ดค้ านงึ ถงึ ความเสยี หายทเ่ี กิดจากการผลติ ตอ่ สังคม

55

• ประโยชน์ของตัวเลขรายได้ประชาชาติ

o รายไดป้ ระชาชาติทางด้านผลผลิตทาให้รู้ถงึ โครงสรา้ งทางเศรษฐกิจ
o รายได้ประชาชาติทางด้านรายได้ทาให้รู้ถึงลักษณะการดาเนินธุรกิจของ
เอกชน
o รายไดป้ ระชาชาติทางดา้ นรายจ่ายทาให้รูถ้ งึ ลกั ษณะการใชจ้ ่ายของประเทศ
o ใช้ในการเปรียบเทยี บฐานะทางเศรษฐกจิ ของประเทศกบั ประเทศอ่นื ๆ
o ใช้เป็นเคร่ืองมือในการวางแผนและกาหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ

56

57

บทท่ี 6

การเงนิ และการธนาคาร

ความหมายและววิ ฒั นาการของเงิน
หนา้ ทีข่ องเงนิ
ปริมาณเงิน
ตลาดเงนิ และตลาดทุน
ธนาคารพาณิชย์
ตลาดหลักทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย

1

บทที่ 6

การเงนิ และการธนาคาร

ธนาคารกลาง
ธนาคารแหง่ ประเทศไทย
นโยบายการเงิน
การดาเนินนโยบายการเงินของไทย

2

• ความหมายของเงิน

เงิน คือ สิ่งที่เป็นท่ียอมรับทั่วไปในสังคมในขณะใดขณะหน่ึง และใน
พ้ืนที่ใดพื้นที่หน่ึง ในฐานะสื่อกลางในการแลกเปล่ียน โดยมีการกาหนดค่าขึ้น
เป็นหนว่ ยเงนิ ตราและพยายามรักษาค่าใหค้ งทอี่ ยูเ่ สมอ

3

• วิวัฒนาการของเงิน

I. ระบบเศรษฐกิจท่ีใช้สง่ิ ของแลกเปลยี่ นกัน (Barter Economy)

คือ การนาสิง่ ของทีต่ นผลิตไดม้ าแลกเปลี่ยนกับสง่ิ ของท่อี ีกครอบครัว
หนงึ่ ผลติ ได้ โดยเปน็ การแลกเปล่ียนกนั โดยตรง (Direct exchange) เช่น การนา
ขา้ วสารมาแลกเปล่ียนกบั เนอื้ หมู ผ้าแลกกับปลา เปน็ ตน้

จุดออ่ น
- ตอ้ งหาบุคคลท่มี ีความต้องการในของท่แี ต่ละฝ่ายมีอยู่
- ต้องเกบ็ รักษาสนิ ค้า เพ่ือไว้ใชแ้ ลกเปลย่ี นกับสนิ ค้าอน่ื ๆ
- ความไม่สะดวกในการขนส่ง

4

II. ระบบเศรษฐกิจที่ใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (Money
Economy)
- เงินท่ีเป็นสิ่งของหรือสินค้า (Commodity Money): การใช้สิ่งของ

เปน็ ส่อื กลางในการแลกเปลีย่ นสนิ ค้าอ่นื ซง่ึ ต้องเป็นสง่ิ ของทมี่ ีความจาเป็นและเป็น
ที่ต้องการของคนโดยท่ัวไป แต่สังคมที่ต่างกันก็อาจเลือกใช้สินค้าท่ีแตกต่างกันได้
ตามสภาพภูมิศาสตร์และความจาเป็นของสินค้า เช่น ประเทศจีนนิยมดื่มชากัน
ทว่ั ไป ใบชาจึงเป็นท่ียอมรับกันในสงั คมและทาหน้าท่เี ปน็ เงนิ

- เงนิ โลหะ (Metallic Money): เช่น โลหะเงิน โลหะทองคา การชาระ
ใช้วธิ ีชั่งนา้ หนักโลหะให้ไดต้ ามที่ตอ้ งการ ตอ่ มานาโลหะมาหลอมเปน็ เหรียญ
กษาปณ์ ซงึ่ ในยุคแรกเปน็ เงินท่ีมีคา่ เต็มตัว (Full-bodied cion) แตใ่ นยุคตอ่ ๆ มา
เงินเหรียญก็พัฒนามาเปน็ แบบทมี่ ีคา่ ไม่เตม็ ตวั (Token money)

- เงินกระดาษ (Paper Money): มีจุดกาเนิดมาจากใบรับฝากโลหะ
ของช่างทอง ที่ไดก้ ลายมาเปน็ ธนบัตรและธนาคารพาณชิ ยอ์ ยา่ งในปัจจบุ ัน

5

III. ระบบเศรษฐกิจท่ีใช้เครดิตเป็นส่ือกลางในการแลกเปลี่ยน (Credit
Economy)
เมื่อเศรษฐกิจเจริญก้าวหน้ามากขึ้น จึงได้มีผู้คิดเงินเครดิตเพ่ืออานวย

ความสะดวกในการซ้ือขาย และใช้มากในระบบธนาคารและสถาบันการเงิน เช่น
เงินฝากกระแสรายวันของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งสั่งจ่ายโดยการใช้เช็ค เพ่ือ
แลกเปล่ียนกับสนิ คา้ และบริการ

6

คาถาม

บตั รเครดติ (Credit card) นับเปน็ เงนิ หรือไม่ ?

7

IV. ระบบเศรษฐกิจทใ่ี ช้เงินดิจิทัล (Digital economy)
เงินดิจทิ ัล (Digital money) คอื เงนิ ท่ที าหนา้ ท่เี ปน็ สอื่ กลางในการ

แลกเปล่ยี นทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดแ้ ต่มีตวั ตนทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ มเี งนิ สกลุ ท้องถิน่ หนนุ หลงั
เชน่ ตอ้ งนาเงินบาทมาชาระผู้ใหบ้ รกิ าร e-money ก่อนใชช้ าระค่าสนิ ค้า จงึ มีหนว่ ย
เป็นเงนิ สกุลทอ้ งถ่ินและมีมลู ค่าแนน่ อน เชน่ เงนิ ใน e-wallet บัตร 7-11 บตั ร
รถไฟฟ้า เป็นต้น

8

สรุปคุณสมบัติของเงินท่ีดี

1. เปน็ ส่งิ ท่หี ายาก
2. มีมูลค่าคงที่
3. นาตดิ ตัวไปได้สะดวก
4. สามารถแบง่ เป็นหนว่ ยย่อยได้
5. มคี วามคงทน

9

• หน้าท่ีของเงิน

1. เป็นส่ือกลางในการแลกเปล่ียน (Medium of exchange)
2. เปน็ มาตรฐานในการวัดคา่ (Unit of account): กาหนดคา่ ของสงิ่ ของตา่ งๆ

ให้อยู่ในรปู ของราคาสนิ ค้าทม่ี หี นว่ ยเป็นเงิน เชน่ ขา้ วสารราคาถงั ละ 150
บาท
3. เป็นมาตรฐานในการชาระหนีใ้ นอนาคต (Standard of Deferred
Payments)
4. เป็นเคร่ืองรักษามลู ค่า (Store of Value): เงนิ เปน็ สนิ ทรพั ย์รูปหนงึ่ ท่คี นใช้
สะสมความม่งั คงั่ นอกเหนอื จากส่งิ ของ เช่น บ้าน ท่ดี ิน นอกจากนี้เงนิ ยังเป็น
ส่งิ คนนยิ มถอื ไว้เนอ่ื งจากมีสภาพคลอ่ ง (liquidity) สงู

10

สกุลเงนิ ดจิ ทิ ัล (Digital currency)

สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เป็นสกุลเงิน
ใหม่ที่สร้างข้ึนจากกลไกคณิตศาสตร์ท่ีกาหนดจานวนไว้จากัด ต้องใช้ระบบ
คอมพวิ เตอร์ถอดรหสั เพ่ือนาเงินออกจากกลไก สร้างขึ้นเพื่อลดการรวมศูนยข์ องระบบ
การชาระเงนิ ผา่ นสถาบันการเงินให้สามารถกระจายไปยังผู้ใช้ในเครือข่ายสกุลเงินน้ันๆ
ได้ โดยใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) ติดตามการเคล่ือนไหวของเงิน การ
ชาระหรือโอนเงินให้อยแู่ คภ่ ายในเครอื ข่าย

11

ตัวอย่าง สกุลเงินดิจิทัล

ที่มา: https://www.123rf.com/photo_88688251_stock-vector-cryptocurrency-bitcoin-litecoin-ethereum-vector-flat-icons-bitcoin-and-ethereum- 12
litecoin-and-digital.html

13


Click to View FlipBook Version