The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน ๑
นายจรณชัย ศรีประดิษฐ (โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Charonchai Sripradit, 2022-03-03 22:54:07

วช.๑ จรณชัย ศรีประดิษฐ

รายงานการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน ๑
นายจรณชัย ศรีประดิษฐ (โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย)

รายงานการฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1
วชิ า ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู 1 ( ECI0311 )

นายจรณชัย ศรีประดษิ ฐ
รหัสนกั ศึกษา 5915102001205
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี

ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลสถานศกึ ษา

ตอนท่ี ๑
ขอ้ มูลสถานศึกษา

ขอ้ มูลโรงเรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิวชิ าชีพระหว่างเรียน

๑. ข้อมูลสถานศกึ ษา

๒. คณะผบู้ ริหารโรงเรียน

๓. รายชือ่ คณะกรรมการสถานศึกษา ตาแหนง่ ประธานคณะกรรมการ
๑) ดร.ปรียานนั ท์ เทพนวล ตาแหน่ง กรรมการ
๒) นางอมรา เทพนวล ตาแหน่ง ผู้แทนครู
๓) นายสเุ ชษฐ์ ดษิ ฐราชา ตาแหน่ง ผู้แทนผปู้ กครอง
๔) นายพิตตินันท์ รักเอียด ตาแหนง่ ผ้แู ทนทรงคณุ วฒุ ิ
๕) นายธวัชชยั ดว้ งโยธา ตาแหน่ง ผแู้ ทนทรงคุณวฒุ ิ
๖) นายธีระ แก้วฟุ้ง ตาแหนง่ ผ้แู ทนทรงคุณวฒุ ิ
๗) นายเกรียงศักด์ิ สินธวาชีวะ ตาแหน่ง เลขานกุ าร
๘) นายปรีชา เทพนวล

๔. ปรชั ญาของโรงเรยี น
“วิชาการดี กิจกรรมเด่น เนน้ คุณธรรม”
วิชาการดี หมายถงึ นักเรยี นมคี วามรู้ความสามารถในวิชากาต่างๆ ทส่ี ามารถนาไปใช้

ประโยชนใ์ นการศึกษาต่อและเป็นพนื้ ฐานในการดาเนินชวี ติ
กิจกรรมเด่น หมายถึง กระบวนการจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อกระบวนการเรียนรู้ นักเรียน

กล้าคดิ กลา้ ทาและกล้าแสดงออกถูกต้องเหมาะสมกับวัย
เน้นคณุ ธรรม หมายถึง ต้องเป็นผปู้ ระพฤติดี ทงั้ กาย วาจา ใจและอยู่ในสงั คมไดอ้ ย่าง

มคี วามสขุ
๕. วิสยั ทศั น์ของโรงเรยี น
โรงเรียนสงเสริมให้นักเรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน มีคุณธรรม จริยธรรม

มสี ขุ ภาพกายและจิตท่ีดี ชมุ ชนมีสว่ นรว่ มพฒั นาวิชาการ
๖. พันธกจิ ของโรงเรยี น
๑) พฒั นาและปลกู ฝงั ผเู้ รยี นให้มคี ุณธรรม จริยธรรมและยึดมัน่ ในหลักธรรมของศาสนา
๒) พฒั นาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ มีทักษะในการใช้ภาษาและเทคโนโลยี

สารสนเทศ
๓) ส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนมคี วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ ฝ่รใู้ ฝ่เรียนอย่างต่อเนอ่ื ง
๔) จดั กิจกรรมส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นมสี ุขภาพอนามยั ทีด่ ที ง้ั กายและใจ
๕) พฒั นาบคุ ลากรให้มศี กั ยภาพในการบรหิ ารจัดการศกึ ษา
๖) สร้างสัมพันธ์ท่ีดรี ะหว่างโรงเรียนกับชุมชน
๗) จดั สภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรเพ่อื การเรยี นการสอนทเ่ี อื้อต่อการเรียนรู้

๗. ยุทธศาสตร์ของโรงเรยี น
๑) ผูเ้ รียนทุกคนไดร้ บั การพฒั นาทางด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณแ์ ละสงั คมอยา่ งตอ่ เนื่อง
๒) ผู้เรียนมีทักษะในการทางาน สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้และเป็นแบบอย่างของ

ผู้นาทด่ี ี
๓) ผู้เรียนร้อยละ ๗๕ มีผลการเรียนเฉล่ียสะสมไม่ต่ากว่า ๒.๗๕ มีความรู้และทักษะที่

จาเป็นต่อหลกั สูตร
๔) ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมอันพึงประสงคข์ องโรงเรียน
๕) ครูเป็นผู้มจี ิตวิญญาณของความเปน็ ครู มีความรู้ มีความสามารถเหมาะสมกับงานท่ี

รบั ผิดชอบ
๖) ครมู ีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ

๗) ผู้บริหารมีคุณธรรม จริยธรรม มีภาวะผู้นา มีความสามารถในการจัดการบริหาร

การศกึ ษาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล

๘) โรงเรยี นมีมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาตามกฎกระทรวง

๙) โรงเรยี นมกี ารจัดกิจกรรม สภาพแวดลอ้ ม การบรกิ ารทเ่ี ออ้ื ต่อการเรียนร้ขู องผูเ้ รียน

๘. เอกลักษณ์ของโรงเรียน

“เรียนดี”

๙. อัตลกั ษณ์ของโรงเรียน

“ย้ิมง่าย ไหวส้ วย”

๑๐.ขอ้ มลู บคุ ลากร

๑) ครู จานวนครู ทง้ั หมด ๑๑๙ คน แบ่งเปน็ ชาย ๙ คน และ หญงิ ๑๑๐ คน

o จาแนกตามวุฒกิ ารศกึ ษา ประกอบด้วย

ครทู ่ีมีวฒุ กิ ารศกึ ษาระดบั ปริญญาเอก จานวน ๑ คน

ครูที่มวี ุฒกิ ารศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาโท จานวน ๔ คน

ครูท่มี ีวุฒิการศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี จานวน ๑๑๓ คน

ครูที่มีวฒุ กิ ารศกึ ษาระดับตา่ กวา่ ปรญิ ญาตรี จานวน ๑ คน

o จาแนกตามระดับชน้ั ของนกั เรยี น

ครูระดับปฐมวยั จานวน ๓๘ คน

ครรู ะดับประถมศกึ ษา จานวน ๕๓ คน

o จาแนกตามหมวด/กลุ่มสาระวชิ า

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย จานวน ๖ คน

กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ จานวน ๖ คน

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จานวน ๗ คน

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ จานวน ๗ คน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา จานวน ๖ คน

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ จานวน ๖ คน

กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ จานวน ๖ คน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษา จานวน ๖ คน

ครตู า่ งชาติ จานวน ๘ คน

๒) เจ้าหนา้ ที่/ลูกจา้ งพเิ ศษ/เสมยี น จานวนทง้ั หมด ๒๓ คน

๓) นกั การ/ภารโรง จานวนทัง้ หมด ๕ คน

๔) แมค่ รัว จานวนทัง้ หมด ๘ คน

๑๑.ขอ้ มูลนักเรียน จานวนนกั เรยี นโรงเรยี นเพชรผดงุ เวียงไชย

๑๐๐ ระดบั ชั้นปฐมวัย จานวน ๔๕๙ คน
๘๐
๖๐ ๖๗ ๖๔ ๘๓ ๗๙ ๙๓
๔๐ ๗๙
๒๐
๐ จานวน ันกเ ีรยน (คน)

ชั้นอ.๑ ชั้นอ.๒ ชนั้ อ.๓
นกั เรียนชาย นกั เรยี นหญงิ

จานวนนักเรียนโรงเรยี นเพชรผดงุ เวียงไชย

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษา จานวน ๙๖๖ คน

๑๐๐ ๘๙ ๘๙ ๗๑ ๗๙ ๘๕ ๙๒ ๙๘
๘๐ ๗๖
๗๖ ๖๔ ๗๕
๖๖
จานวน ันกเรียน (คน)
๖๐

๔๐

๒๐


ช้นั ป.๑ ช้นั ป.๒ ชั้นป.๓ ช้นั ป.๔ ช้ันป.๕ ชัน้ ป.๖

นกั เรยี นชาย นักเรยี นหญงิ

จานวนนักเรยี นทัง้ หมด ๑,๔๒๕ คน แบ่งเป็น นักเรยี นชาย ๗๑๑ คน นกั เรยี นหญิง ๗๐๘ คน

ระดบั ช้ันปฐมวัย จานวน ๔๕๙ คน

ระดับช้ันปฐมวยั ปที ี่ ๑ จานวน ๑๓๑ คน ชาย ๖๗ คน หญิง ๖๔ คน

ระดบั ชนั้ ปฐมวยั ปที ี่ ๒ จานวน ๑๖๒ คน ชาย ๘๓ คน หญิง ๗๙ คน

ระดับชน้ั ปฐมวยั ปีท่ี ๓ จานวน ๑๖๖ คน ชาย ๙๓ คน หญงิ ๗๓ คน

ระดับช้นั ประถมศึกษา จานวน ๙๖๖ คน
ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ จานวน ๑๗๘ คน ชาย ๘๙ คน หญิง ๘๙ คน
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ จานวน ๑๔๒ คน ชาย ๗๖ คน หญงิ ๖๖ คน
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ จานวน ๑๕๐ คน ชาย ๗๑ คน หญิง ๗๙ คน
ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ จานวน ๑๖๑ คน ชาย ๗๖ คน หญงิ ๘๕ คน
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ จานวน ๑๓๙ คน ชาย ๖๔ คน หญิง ๗๕ คน
ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ จานวน ๑๙๐ คน ชาย ๙๒ คน หญงิ ๙๘ คน

สรปุ อัตราสว่ นระหวา่ งจานวนครูตอ่ จานวนนักเรยี น
คิดเปน็ ครู ๑๑๙ คน ตอ่ นกั เรยี น ๑,๔๒๕ คน หรอื ครู ๑ คน ต่อนักเรยี น ๑๒ คน

๑๒.ประวัตคิ วามเป็นมาของโรงเรยี น
โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย เดิมมีช่ือว่า “ โรงเรียนเพชรผดุงวิทยาคม ” เป็นโรงเรียน

ประเภทมัธยมวิสามัญ เปดิ ทากาสอนเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๐ ตั้งอยู่เลขท่ี ๑๖ หมู่ท่ี ๔ ตาบล
ตลาดไชยา อาเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนางนอบ ไวทยินทร์ เป็นผู้จัดต้ังและนายแช่ม
ไวทยินทร์ เป็นผู้จัดการและครูใหญ่ต่อมานายแช่ม ไวทยินทร์ และนางนอบ ไวทยินทร์ ได้ลาออก
จึงแต่งตั้งนายล้อม แก้วฟุ้ง ให้เป็นผู้รับใบอนุญาตจนกระทั่งนายล้อม แก้วฟุ้ง ถึงแก่กรรมใน
ปกี ารศึกษา๒๕๓๐ ได้โอนให้นางอมรา เทพนวล เป็นผู้รับใบอนุญาตและแต่งตั้งให้นายปรีชา เทพนวล
เป็นผู้จัดการและครูใหญ่ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ได้แต่งต้ังให้ ดร.ปรียนันท์ เทพนวล เป็นผู้จัดการจนถึง
ปจั จบุ นั

ปกี ารศึกษา ๒๕๒๒ ได้ขยายชนั้ เรียนอนุบาล
ปีการศึกษา ๒๕๒๓ ได้ยุบชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ , ๒ , ๓
ปีการศึกษา ๒๕๒๔ ไดย้ ้ายจากโรงเรยี นเดิม เลขท่ี ๑๖ หมทู่ ่ี ๔ ตาบล
ตลาดไชยา อาเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาต้ังอยู่ท่ีหมู่บ้านโพธ์ิ เลขที่ ๒๙ หมู่ท่ี ๓ ตาบลเวียง
อาเภอไชยา จงั หวดั สุราษฎร์ธานี และได้เปดิ สอนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ จนถงึ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
ในปีต่อๆมา
ปัจจุบันโรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชยเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ในสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต ๒ สงั กดั สานักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน

๑๓.ลักษณะบริบทชุมชนรอบ ๆ โรงเรยี น
โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชยเป็นโรงเรียนท่ีต้ังอยู่ท่ามกลางของอารยธรรมศรีวิชัยท่ี

เจริญงอกงามมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบนั บริบทชุมชนรอบโรงเรียนกจ็ ะประกอบด้วยแหลง่ เรียนรูท้ ี่ให้
นักเรียนได้ใช้เป็นห้องเรียนศึกษาวัฒนธรรม ประเพณีที่สาคัญมากมายโดยจะนาเสนอแหล่งเรียนรู้ท่ี
ตั้งอยู่ในตาบลเวียง (ตาบลเดยี วกบั โรงเรยี น) ซง่ึ มีดังน้ี

๑) แหลง่ เรยี นรู้ “วัดศรีเวียง”
เปน็ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและแหลง่ เรียนร้ทู างพุทธศาสนา

๒) แหล่งเรียนรู้ “วดั พระบรมธาตไุ ชยาราชวรวิหาร”
เป็นสถานที่สาคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความเป็นศูนย์กลางและ

ความรุ่งเรอื งของอาณาจกั รศรีวิชัยในอดตี ซึ่งจะประกอบดว้ ยส่วนต่างๆคือ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นสถานท่ีแสดงถึงวิถีชีวิต เครื่องมือ

เครอ่ื งใชท้ างประวตั ิศาสตร์ และหลกั ฐานตา่ งๆทางประวตั ใิ นสมยั ศรีวชิ ัย
- พระบรมธาตุไชยา เป็นสถาปัตยกรรมสมัยศรีวิชัยที่เป็นหลักฐาน

สาคัญอันแสดงว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยและเป็นยึดเหน่ียวทางจิตของประชาชนใน
บรเิ วณอาเภอไชยาและละแวกใกลเ้ คียง

- โรงเรียนวัดพระบรมธาตุไชยา เป็นโรงเรียนท่ีประกอบด้วยอาคาร
เรยี นทเี่ ป็นสถาปตั ยกรรมสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้นและเปน็ โรงเรยี นต้นแบบวถิ พี ทุ ธ

- เรือพนมพระ ท่ีแกะสลักด้วยไม้สักทองโดยยึดแบบของการสร้าง
งานสถาปัตยกรรมสมยั ศรวี ชิ ัย

๓) แหล่งเรยี นรู้ “อาศรมพทุ ธบุตร”
เปน็ แหล่งเรียนรแู้ ละแหล่งปฏิบัตธิ รรมทถ่ี กู สร้างแยกออกมาจากสวนโมกข-

พลารามซ่ึงในสวนโมกข์จะมีผคู้ นมาเที่ยวและปฏิบัตธิ รรมเป็นจานวนมากเลยทาใหส้ ถานท่ีไม่เพียงพอ
และค่อนข้างวุ่นวายเลยได้มีการสร้างอาศรมพุทธบุตรข้ึนมาอีกแห่งซึ่งอยู่ห่างจากสวนโมกข์ประมาณ
๘๐๐ เมตรโดยปกติแลว้ โรงเรยี นในละแวกนัน้ จะนานกั เรียนไปเขา้ คา่ ยลกู เสือทน่ี ั่น

๔) แหล่งเรยี นรู้ “วดั วชิ ราราม”
เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพทุ ธศาสนาที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยตม้ ไม้

ร่มรนื่ และล้อมรอบด้วยคลองไชยา
๕) แหลง่ เรียนรู้ “อ่างเกบ็ น้าบ้านสามสกั ”
เป็นอ่างเก็บน้าขนาดกลางที่สร้างไว้รองรับน้าจากเขาพุทธทองและเก็บน้า

ไวป้ ลอ่ ยใหป้ ระชาชนใช้ในฤดูทานาโดยปลอ่ ยเข้าส่คู ลองชลประทานของอาเภอไชยา

จากที่ได้กล่าวมาท้ังหมดข้างต้นเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีการปกครองส่วน
ท้องถ่ินเดียวกันกับโรงเรียนซ่ึงทุกวันสาคัญทางศาสนาหรืองานประเพณีต่างทางโรงเรียนก็จะพา
นักเรียนและคณะครูไปเป็นส่วนร่วมของแต่ละกิจกรรมอยู่เสมออีกอย่างคือเม่ือมีเนื้อหาสาระไหนใน
บทเรียนท่ีสอดคล้องกับแหล่งเรียนรู้ท่ีมีอยู่ก็จะมีการนานักเรียนลงโรงเรียนไปศึกษาและเรียนรู้ตาม
แหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆอยตู่ ลอดเวลา

ประมวลภาพ กจิ กรรมวันสาคญั ทางพุทธศาสนา (วสิ าขบูชาและอัฐมีบูชา) ที่คณะครูและนกั เรยี นได้
เข้าร่วมเป็นสว่ นหนึ่งของการอนุรกั ษ์และปลูกฝังใหน้ กั เรยี นได้ซมึ ซับในวถิ ีพุทธ

จากการท่ีไดล้ งโรงเรียนเพอ่ื ฝึกปฏบิ ัติวิชาชพี ระหวา่ งเรียน ๑ ซึ่งโรงเรียนเพชรผดงุ -
เวยี งไชยเป็นโรงเรยี นทอ่ี ยหู่ ่างไกลจากมหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านีพอสมควรดังแผนที่แสดง
ระยะทางจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎรธ์ านีถงึ โรงเรยี นเพชรผดงุ เวยี งไชยต่อไปนี้

ตอนท่ี ๒ ขอ้ มลู หลักสตู รสถานศึกษา

ตอนที่ ๒
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)

๑. วสิ ัยทัศนข์ องโรงเรยี น
โรงเรียนส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนมีคุณภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมมีสขุ ภาพกาย

และสขุ ภาพจติ ท่ดี ี ชุมชนมีส่วนรว่ มพฒั นาวิชาการ
ภารกิจ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย พุทธศักราช ๒๕๖๑ ( ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

๒๕๖๐ ) ไดด้ าเนนิ การตามหลกั การของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ซึง่ ได้กาหนดภารกิจที่สาคัญไว้ดังน้ี

๑) พัฒนาและปลูกฝังผเู้ รยี นให้มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและยึดมัน่ ในหลักธรรมของศาสนา
๒) พัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ มีทักษะในการใช้ภาษาและเทคโนโลยี
สารสนเทศ
๓) สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนมีความคดิ สรา้ งสรรค์ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี นอย่างตอ่ เนื่อง
๔) จดั กิจกรรมสง่ เสริมให้ผูเ้ รียนมสี ขุ ภาพอนามยั ทีด่ ที ัง้ กายและใจ
๕) พัฒนาบคุ ลากรให้มศี ักยภาพในการบริหารจดั การศึกษา
๖) สร้างสมั พันธท์ ี่ดีระหว่างโรงเรียนกบชมุ ชน
๗) จดั สภาพแวดล้อมและทรัพยากรเพ่ือการเรยี นการสอนที่เออื้ ตอ่ การเรยี นรู้
๒. เปา้ หมาย
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวยี งไชย พุทธศักราช ๒๕๕๓ ไดก้ าหนดเปา้ หมายตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา
มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อผเู้ รียนและประกอบอาชีพ โดยเป้าหมายท่ีกาหนดเพ่ือใหเ้ กดิ กับ
ผู้เรยี นเมือ่ จบการ ศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน มีดงั น้ี
๑) ผ้เู รียนมสี มรรถนะและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๒) ผเู้ รียนมีทักษะในการทางาน สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ น่ื ได้และเปน็ แบบอยา่ งของ
ผู้นาทด่ี ี
๓) ผเู้ รียนรอ้ ยละ ๘๕ มผี ลการเรียนสะสมไม่ต่ากว่า ๒.๕๐ มีความร้แู ละทักษะท่จี าเป็น
ต่อหลักสูตร
๔) ครแู สวงหาความรู้และพัฒนาตนเอง
๕) ครมู ีความสามารถในการจดั การเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ

๖) ผบู้ รหิ ารมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มภี าวะผู้นา มีความสามารถในการจดั บรหิ าร
การศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพและประสิทธิผล

๗) โรงเรยี นมมี าตรฐานคุณภาพการศึกษาตามกฎกระทรวง
๘) โรงเรยี นมกี ิจกรรม สภาพแวดลอ้ ม การบริการทเ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น
๓. อัตลกั ษณข์ องสถานศึกษา
“ยิม้ งา่ ย ไหว้สวย”
๔. เอกลักษณข์ องสถานศกึ ษา
“เรียนดี”
๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย พุทธศักราช ๒๕๖๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มี
คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐ ) โดยมงุ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะที่สาคญั ๕ ประการ ดังน้ี
๑) ความสามารถในการส่ือสาร เปน็ ความสามารถในการรับและการส่งสาร มีวัฒนธรรม
ในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียน
ข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจา
ต่อรองเพ่อื ขจัดและลดปัญหาความขดั แย้งตา่ งๆ การเลอื กรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล
และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อ
ตนเองและสังคม
๒) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์
การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์
ความรู้หรอื สารสนเทศ เพอื่ การตดั สินใจเกีย่ วกบั ตนเอง และสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓) ความสามารถในการแกป้ ญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่างๆ
ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตา่ งๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้
ในการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา และมกี ารตัดสนิ ใจท่มี ีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึน้ ต่อ
ตนเอง สังคมและสง่ิ แวดล้อม
๔) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไป
ใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เนื่อง การทางาน และการอยู่
ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ
ขดั แยง้ ต่างๆอย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ
การรู้จกั หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน

๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยี
ด้านต่างๆและมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้
การสื่อสาร การทางาน การแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสม และมีคุณธรรม

๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย พุทธศักราช ๒๕๕๓ ได้กาหนดคุณลักษณะ

อันพงึ ประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ท่ีม่งุ พัฒนาผูเ้ รียนให้
มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุขในฐานะเป็น
พลเมืองไทย และพลเมืองโลกจานวน ๘ คุณลกั ษณะ ซ่ึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท้งั ๘ คุณลกั ษณะ
โรงเรียนถือเป็นจุดเน้นท่ีสาคัญของโรงเรียนท่ีผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาอย่างจริงจัง
และต่อเน่ือง เพื่อความสะดวกแก่ครูผู้สอน และผู้เก่ียวข้อง ได้ใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนา
ผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่หลักสูตรกาหนด โรงเรียนจึงได้กาหนดนิยาม ตัวชี้วัด
พฤติกรรมบ่งช้ี ของแต่ละคณุ ลกั ษณะไว้ ดงั น้ี

๑) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
นิยาม
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธารง
ไวซ้ ึ่งความเป็นชาติไทย ศรทั ธายดึ ม่นั ในศาสนาและเคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์
ผู้ท่ีรักชาติศาสน์กษัตริย์ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความ
สามัคคี ปรองดอง ภมู ใิ จเชดิ ชูความเปน็ ชาติไทยปฏิบัตติ นตามหลกั ศาสนาทีต่ นนับถอื และแสดงความ
จงรักภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษัตริย์
ตัวชีว้ ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี

๑.๑) เป็นพลเมืองดีของชาติ
๑.๑.๑) ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของ

เพลงชาติไดถ้ ูกต้อง
๑.๑.๒) ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิและหน้าทพ่ี ลเมอื งดีของชาติ
๑.๑.๓) มคี วามสามัคคปี รองดอง

๑.๒) ธารงไว้ซึ่งความเปน็ ชาติไทย
๑.๒.๑) เข้าร่วมส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดองที่

เป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม
๑.๒.๒) หวงแหนปกป้องยกย่องความเป็นชาตไิ ทย

๑.๓) ศรัทธา ยดึ มน่ั และปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา
๑.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ

๑.๓.๒ ปฏิบัตติ นตามหลกั ของศาสนาท่ตี นนับถือ
๑.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ขี องศาสนิกชน
๑.๔) เคารพเทดิ ทูน สถาบนั พระมหากษตั ริย์
๑.๔.๑ เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เก่ียวกับสถาบัน
พระมหากษตั รยิ ์
๑.๔.๒ แสดงความสานกึ ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระมหากษตั รยิ ์
๑.๔.๓ แสดงออกซงึ่ ความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์
๒) ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ
นยิ าม
ซ่ือสัตย์ สุจริต หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการยึดม่ันในความถูกต้อง ประพฤติตรง
ตามความเป็นจรงิ ต่อตนเองและผอู้ ่นื ท้งั ทางกาย วาจา ใจ
ผู้ท่ีมีความซื่อสัตย์ สุจริต หมายถึง ผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริง ทั้งทางกาย วาจา ใจ
และยึดหลักความจริง ความถูกต้องในการดาเนินชีวิต มคี วามละอายและเกรงกลวั ต่อการกระทาผดิ
ตัวช้วี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้
๒.๑) ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อตนเองท้ังทางกาย วาจา ใจ
๒.๑.๑) ให้ขอ้ มูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
๒.๑.๒) ปฏิบัตติ นโดยคานงึ ถงึ ความถกู ตอ้ ง ละอายและเกรงกลัวตอ่ การ
กระทาผิด
๒.๑.๓) ปฏบิ ัติตามคามน่ั สญั ญา
๒.๒) ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อผอู้ ื่นทั้งทางกาย วาจา ใจ
๒.๒.๑) ไม่ถือเอาส่ิงของหรือผลงานของผู้อ่ืนมาเป็นของตนเองต่อผู้อื่นทั้ง
ทางกาย วาจา ใจ
๒.๒.๒) ปฏิบตั ติ นต่อผ้อู นื่ ดว้ ยความซอื่ ตรง
๒.๒.๓) ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถกู ตอ้ ง
๓) มีวินัย
นยิ าม
มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ
ข้อบงั คบั ของ ครอบครวั โรงเรยี นและชุมชน
ผู้ท่ีมีวินัย คือ ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรยี นและสังคมเปน็ ปกติวสิ ยั ไม่ละเมิดสทิ ธิของผอู้ ืน่

ตัวชวี้ ดั และพฤติกรรมบง่ ชี้
๓.๑) ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรียนและ

สงั คม
๓.๑.๑) ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว

โรงเรียนและสังคม ไม่ละเมดิ สทิ ธิของผูอ้ ื่น
๓.๑.๒) ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน และ

รับผดิ ชอบในการทางาน
๔) ใฝ่เรยี นรู้

นยิ าม
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คุณลกั ษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหา
ความรู้ จากแหลง่ เรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผ้ทู ี่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียน และ
เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่าง
สมา่ เสมอ ดว้ ยการเลือกใชส้ อื่ อยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ แลกเปลี่ยน
เรยี นรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
ตวั ชี้วัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้

๔.๑) ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑.๑) ตงั้ ใจเรียน
๔.๑.๒) เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นรู้
๔.๑.๓) สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนร้ตู ่างๆ

๔.๒) แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วย
การเลือกใชส้ ือ่ อยา่ งเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

๔.๒.๑) ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร ส่งิ พิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี
ต่าง ๆ แหล่งเรยี นรทู้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ ื่อได้อยา่ งเหมาะสม

๔.๒.๒) บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ข้อมลู จากสิง่ ทีเ่ รียนรู้ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้
๔.๒.๓) แลกเปล่ยี นความร้ดู ้วยวธิ ีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
๕) อยู่อย่างพอเพยี ง
นยิ าม
อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มี
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี และปรับตัวเพือ่ อยใู่ นสงั คมได้อย่างมีความสุข

ผ้ทู ่อี ย่อู ย่างพอเพียง คือ ผู้ทด่ี าเนินชีวิตอย่างประมาณตน มเี หตผุ ล รอบคอบ ระมดั ระวงั อยู่
ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ มีการวางแผน
ปอ้ งกนั ความเสย่ี ง และพร้อมรับการเปลีย่ นแปลง

ตัวช้ีวัดและพฤตกิ รรมบ่งชี้
๕.๑) ดาเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคณุ ธรรม
๕.๑.๑) ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น เงิน ส่ิงของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่าง

ประหยัด คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี รวมทงั้ การใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒) ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล

อย่างดี
๕.๑.๓) ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔) ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืนและไม่ทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อ

ผอู้ ื่นกระทาผดิ พลาด
๕.๒) มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี ปรับตัวเพ่ืออยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข
๕.๑.๑) วางแผนการเรียน การทางาน และการใช้ชีวิตประจาวนั บนพ้ืนฐาน

ของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร
๕.๑.๒) รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม ยอมรับ

และปรบั ตวั เพอื่ อยรู่ ่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุข
๖) มงุ่ ม่ันในการทางาน

นยิ าม
มุง่ มน่ั ในการทางาน หมายถึง คณุ ลักษณะท่ีแสดงออกถงึ ความต้ังใจและรับผิดชอบในการทา
หนา้ ทก่ี ารงานด้วยความเพยี รพยายาม อดทน เพือ่ ใหง้ านสาเร็จตามเปา้ หมาย
ผู้ท่ีมุ่งม่ันในการทางาน คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับ
มอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกาลังกาย กาลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สาเร็จ
ลุล่วงตามเป้าหมายทก่ี าหนดด้วยความรบั ผิดชอบและมีความภาคภูมิใจในผลงาน
ตัวชี้วดั และพฤติกรรมบ่งช้ี

๖.๑) ต้งั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีการงาน
๖.๑.๑) เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
๖.๑.๒) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเรจ็
๖.๑.๓) ปรบั ปรุงและพัฒนาการทางานดว้ ยตนเอง

๖.๒) ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ ตามเป้าหมาย
๖.๒.๑) ทุม่ เททางาน อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่อปัญหาและอปุ สรรคในการทางาน

๖.๒.๒) พยายามแกป้ ญั หาและอปุ สรรคในการทางานให้สาเร็จ
๖.๒.๓) ชน่ื ชมผลงานด้วยความภาคภูมใิ จ
๗) รกั ความเป็นไทย
นิยาม
รักความเป็นไทย หมายถึง คณุ ลกั ษณะท่ีแสดงออกถงึ ความภาคภูมิใจ เหน็ คุณคา่ รว่ มอนรุ กั ษ์
สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้
อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
ผู้ท่ีรักความเป็นไทย คือ ผู้ท่ีมีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
สืบทอดเผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญู
กตเวที ใช้ภาษาไทย ในการสอ่ื สารอยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ตวั ช้วี ัดและพฤตกิ รรมบ่งชี้
๗.๑) ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความ
กตัญญูกตเวที
๗.๑.๑) แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญู
กตเวทีต่อผู้มพี ระคุณ
๗.๑.๒) ร่วมกจิ กรรมท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย
๗.๒) เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม
๗.๒.๑) ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม
๗.๒.๒) ชกั ชวน แนะนาให้ผูอ้ ื่นเหน็ คุณคา่ ของการใช้ภาษาไทยทถี่ ูกต้อง
๗.๓) อนรุ กั ษ์และสืบทอดภูมิปญั ญาไทย
๗.๓.๑) นาภมู ิปัญญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวถิ ีชีวติ
๗.๓.๒) ร่วมกิจกรรมทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับภมู ิปัญญาไทย
๘) มจี ติ สาธารณะ
นยิ าม
มีจติ สาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะทแี่ สดงออกถงึ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์
ทีก่ ่อใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ผูอ้ ื่น ชมุ ชน และสังคม ดว้ ยความเต็มใจ กระตอื รอื รน้ โดยไม่หวังผลตอบแทน
ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อ่ืน แบ่งปันความสุขส่วนตนเพ่ือ
ทาประโยชน์แก่ส่วนรวม เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วย
แรงกายสตปิ ญั ญา ลงมอื ปฏิบตั เิ พื่อแก้ปัญหา หรือร่วมสร้างสรรคส์ ิ่งท่ีดีงามให้เกดิ ในชุมชน โดยไม่หวัง
สงิ่ ตอบแทน

ตวั ชีว้ ดั และพฤติกรรมบ่งช้ี
๘.๑) ชว่ ยเหลอื ผ้อู ื่นด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังผลตอบแทน
๘.๑.๑) ชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างานด้วยความเต็มใจ
๘.๑.๒) อาสาทางานให้ผู้อื่นด้วยกาลังกาย กาลังใจ และกาลังสติปัญญา

ดว้ ยความสมัครใจ
๘.๑.๓) แบ่งปันส่ิงของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ และช่วยแก้ปัญหาหรือสร้าง

ความสขุ ให้กบั ผอู้ น่ื
๘.๒) เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม
๘.๒.๑) ดูแลรักษาสาธารณสมบัติและสง่ิ แวดลอ้ มดว้ ยความเต็มใจ
๘.๒.๒) เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสังคม
๘.๑.๓) เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรือร่วมสร้างส่ิงท่ีดีงามของส่วนรวม

ตามสถานการณ์ ทเ่ี กิดขนึ้ ดว้ ยความกระตอื รือรน้
๗. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘ กลุ่มสาระการ

เรียนรู้ จานวน ๕๗ มาตรฐานซ่ึงกลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ มีดังน้ี
กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

สาระท่ี ๑ จานวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ

จานวน ผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา้ ใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ ัน ลาดบั และอนุกรม และ

นาไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใชน้ ิพจน์ สมการ อสมการ อธิบายความสมั พันธห์ รือช่วยแก้ปัญหาทีก่ าหนดให้
สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการวัด และ

นาไปใช้
มาตรฐาน ค ๒.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสมั พันธ์ระหว่าง

รปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้
สาระที่ ๓ สถติ ิและความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถิติในการแกป้ ญั หา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนบั เบอื้ งต้น ความน่าจะเป็น และนาไปใช้

โครงสร้างเวลาเรยี น

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนเพชรผดงุ เวียงไชย พทุ ธศักราช ๒๕๖๑ กาหนดกรอบโครงสรา้ ง

เวลาเรยี น ดังน้ี

กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง) / ระดบั ประถมศึกษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖

 กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

วัฒนธรรม

ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

รวมเวลาเรียน (พืน้ ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

 รายวชิ า/กจิ กรรม ทสี่ ถานศึกษาจัดเพ่ิมเตมิ ตามความพร้อมและจดุ เน้น

คณิตศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - - -

ภาษาองั กฤษ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ภาษาจนี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

คอมพิวเตอร์ (วทิ ยาการ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

คานวณ)

ห้องสมดุ - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐

 กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กจิ กรรมแนะแนว ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กิจกรรมนักเรียน

- ลกู เสอื / ยวุ กาชาด ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- ชุมนมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง) / ระดบั ประถมศกึ ษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐
สาธารณประโยชน์
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรียนทง้ั หมด

โครงสรา้ งหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑

รายวชิ า / กจิ กรรม เวลาเรยี น ( ช่ัวโมง / ปี )
รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสอื / เนตรนารี / ยวุ กาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรยี นท้งั สนิ้

โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒

รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรยี น ( ชั่วโมง / ปี )
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๑๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสือ / เนตรนารี / ยวุ กาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรียนทงั้ สนิ้

โครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรียน ( ชั่วโมง / ปี )
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๑๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสือ / เนตรนารี / ยวุ กาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรียนท้ังสนิ้

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔

รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น ( ชั่วโมง / ปี )
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๘๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสือ / เนตรนารี / ยุวกาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕

รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น ( ชั่วโมง / ปี )
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๘๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสือ / เนตรนารี / ยุวกาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖

รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น ( ชั่วโมง / ปี )
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๘๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑๒๐
- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น
ลกู เสือ / เนตรนารี / ยุวกาชาด ๔๐
ชมรม ชุมนมุ ๔๐
- กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒๐
๑,๒๐๐
รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้

โครงสรา้ งกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ระดบั ประถมศึกษา

รายวชิ าพ้นื ฐาน

ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ จานวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๑๖๐ ชัว่ โมง
ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง

คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับ

๑-๑๐๐ และ ๐ การแสดงจานวนไมเ่ กิน ๒๐ ในรูปความสัมพันธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – ส่วนรวม
การบอกอนั ดับที่ หลกั คา่ ๑-๑๐๐ และ ๐ โดยใช้เคร่อื งหมาย = ≠ ≤ ≥ เรียงลาดับจานวน ๑-๑๐๐
และ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน ความหมายของการบวก ความหมายของการลบ การสร้างโจทย์ปญั หา
รูปเรขาคณติ สองมติ แิ ละรปู เรขาคณติ สามมิติ แบบรปู ของจานวนทเี่ พ่ิมขึน้ หรอื ลดลงทีละ ๑ ทลี ะ ๑๐
แบบรูปซา้ ของจานวน รูปเรขาคณิต และรูปอ่ืนๆ การวัดความยาวโดยใช้หน่วยท่ีไม่ใชห่ นว่ ยมาตรฐาน
การวดั และการเปรียบเทียบความยาวโดยมีหน่วยเปน็ เซนติเมตร เปน็ เมตร โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับความ
ยาวท่มี ีหน่วยเป็นเซนตเิ มตร เป็นเมตร การวัดน้าหนักโดยใช้หน่วยทไ่ี มใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐาน การวัดและ
เปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมเป็นขีด
การอ่านแผนภมู ริ ูปภาพ

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าฝึกทักษะโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
และกระบวนการทีไ่ ดน้ าไปใช้ในการเรยี นรูส้ ิง่ ตา่ ง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์แลหะมีความเชื่อม่ัน
ในตนเอง

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ค. ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ค. ๑.๒ ป.๑/๑
ค. ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ค. ๒.๒ ป.๑/๑
ค. ๓.๑ ป.๑/๑

รวม ๕ มาตรฐาน ๑๐ ตวั ชว้ี ัด

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

รหสั วิชา ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

คาอธิบายรายวิชา
ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณและฝกึ แก้ปัญหา จานวนนบั ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและ

แสดงจานวนส่ิงต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอก
อันดับที่หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวน
นบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้เคร่อื งหมาย = ≠ > < เรยี งลาดับจานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ
๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ
การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่า
ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน ๒ หลัก และประโยค
สัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวต้ังไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยที่ผลหารมี ๑ หลัก ท้ังหารลงตัว
และหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดง
วิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขน้ั ตอนของจานวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวธิ ีหาคาตอบของ
โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลาที่มีหน่วยเด่ียวและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตร
และเซนติเมตร พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวท่ีมีหน่วย
เป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมทั้ง
แสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกการลบเกย่ี วกับน้าหนักทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรัม
กิโลกรัมและขีด วัดและเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตร จาแนกและบอกลักษณะของรูป
หลายเหล่ียมและวงกลม ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อกาหนด
รปู ๑ รปู แทน ๒ หน่วย ๕ หน่วยหรอื ๑๐ หน่วย

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าฝึกทักษะโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
และกระบวนการท่ไี ด้นาไปใชใ้ นการเรียนรู้ส่ิงตา่ ง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์

เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความเชื่อม่ันใน
ตนเอง

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑

รวม ๔ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง

คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้โจทย์ปัญหาในเร่ืองการเขียนและอ่านตัวเลขฮินดู

อารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนไม่เกิน 100,000 และ 0 การเปรียบเทียบและเรียงลาดับ
จานวนนับไม่เกินหน่ึงแสนและศูนย์ การบวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคน ของจานวนนับ
ไม่เกินหน่ึงแสนและศูนย์ การวิเคราะห์และหาคาตอบของโจทย์ปัญหาและโจทย์ปัญหาระคนของ
จานวนนับไม่เกินหนึ่งแสนและศูนย์ การบอกความยาวเป็นเมตร เซนติเมตร และมิลลิเมตร การบอก
น้าหนักเป็นกิโลกรัม กรัม และขีด การบอกปริมาตรและความจุเป็นลิตร มิลลิลิตร เลือกเครื่องวัด
เคร่ืองชั่ง และเครื่องตวงที่เหมาะสม พร้อมทั้งเปรียบ เทียบความยาว น้าหนัก ปริมาตรและความจุ
การบอกเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา การอ่านและเขียนบอกเวลาโดยใชจ้ ุด การบอกความสัมพันธ์ของหน่วย
การวัดความยาว น้าหนักและเวลา การอ่านและเขียนจานวนเงินโดยใช้จุด การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการวัด
ความยาว การชั่ง การตวง เงิน และเวลา การอ่านและเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย การอ่านและเขียน
บันทึกกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ระบุเวลา การบอกชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีเป็นส่วนประกอบ
ของสิ่งของท่ีมีลักษณะเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติ การระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตร การเขียน
รูปเรขาคณิตสองมิติ และบอกรูปเรขาคณิตต่าง ๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม รอบตัว การบอกจานวนและ
ความสัมพันธ์ในแบบรปู ของจานวนและแบบรูปซา้ การบอกรูปและความสัมพันธ์ในแบบรปู ของรูปท่ีมี
รูปร่าง ขนาด หรือสีท่ีสัมพันธ์กันสองลักษณะ การรวบรวมและจาแนกข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและ
สง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตวั ทพี่ บเห็นในชีวิตประจาวัน การอ่านข้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพและแผนภูมิแท่งอย่าง
ง่าย

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าฝึกทักษะโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
และกระบวนการที่ได้นาไปใชใ้ นการเรยี นรู้สง่ิ ต่าง ๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แลหะมีความเช่ือม่ัน
ในตนเอง

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๘, ป.๓/
๑๐,
ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๘, ป.๓/
๑๐,
ป.๓/๑๑, ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒

รวม ๕ มาตรฐาน ๒๘ ตัวชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และหนังสือแสดงจานวนนับท่ี

มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หลัก ค่าประจาหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก การเขียนตัวเลข
แสดงจานวนในรูปกระจาย การเปรยี บเทียบและเรยี งลาดับจานวนทมี่ ากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ค่าประมาณ
ของจานวนนับ การใช้เคร่ืองหมายประมาณการบวก การลบ การคูณ การหาร การประมาณผลลัพธ์
การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร แบบ
รปู ของจานวนท่ีเกิดจากการคูณ การหารดว้ ยจานวนเดียวกัน เสน้ ตรง ส่วนของเสน้ ตรง ส่วนประกอบ
ของมุม ชนิดของมุม การวัดและการสร้างมุม ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก โจทย์ปัญหา
เก่ียวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของสี่เหล่ียมมุมฉาก ความหมาย การอ่านและเขียนเศษส่วนและ
จานวนคละที่ตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหูคูณของอีกตัวหน่ึง ความหมาย การอ่านละการเขียนทศนิยมไม่
เกินสามตาแหน่งหลัก ค่าประจาหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของทศนิยม การเขยี นทศนิยม
ในรูปกระจาย การเปรยี บเทียบและเรียงลาดับทศนยิ ม การบวก การลบเศษส่วนและจานวนคละทีต่ ัว
สว่ นตวั หน่ึงเปน็ พหูคณู ของอีกตัวหน่ึง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบเศษส่วนและจานวนคละ การบวก
การลบทศนิยมไม่เกินสามตาแหน่ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบทศนิยม การบอกระยะ เวลาเป็น
วนิ าที นาที ชั่วโมง วนั สัปดาห์ เดือน ปี การเปรียบเทยี บระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ย
เวลา การอ่านตารางเวลา โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั เวลา การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการจาแนกขอ้ มูล การ
อา่ นและการเขยี นแผนภมู แิ ท่ง (ไม่รวมการยน่ ระยะ) การอ่านตารางสองทาง

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้ าฝึกทักษะโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
และกระบวน การทไ่ี ด้นาไปใช้ในการเรียนรู้สิง่ ตา่ ง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์แลหะมีความเชื่อมั่น
ในตนเอง

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๘, ป.๔/
๑๐,
ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑

รวม ๔ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ชี้วดั

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง

คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้โจทย์ปัญหาในเร่ืองการเขียนเศษส่วนที่ตัวส่วน

เป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1000 ในรูปทศนิยม การวิเคราะห์และแสดงวิธีหาคาตอบของ
โจทย์ปัญหาและโจทย์ปัญหาระคนของจานวนนับโดยการเทียบบัญญัตไิ ตรยางศ์ หาผลบวกของเศษส่วน
และจานวนคละหาผลคูณและหารจานวนคละ การบอกความสัมพนั ธ์ของหน่วยการวัดปรมิ าตร หรือความจุ
การหาความยาวรอบรูป และการหาพื้นที่ของรูปส่ีเหลี่ยมและพ้ืนที่ของรูปส่ีเหล่ียมด้านขนานและขนม
เปียกปูน สร้างรูปส่ีเหลี่ยมชนิดต่างๆเมื่อกาหนดขนาดของมุม สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรง จาแนก
รูปสี่เหลี่ยมโดยพิจารณาสมบัติของรูป การหาปริมาตรหรือความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก และการ
แก้ปัญหาเกยี่ วกับพ้ืนท่ี ความยาวรอบรปู ของรูปสีเ่ หล่ียมมุมฉากและรูปสามเหลี่ยม การบอกลักษณะและ
จาแนกรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ การบอกลักษณะ ความสัมพันธ์และจาแนกรูปสี่เหล่ียมชนิด
ต่าง ๆ การบอกลักษณะ ส่วนประกอบ ความสัมพันธ์ และจาแนกรูปสามเหลี่ยมชนิดต่าง ๆ ใช้ข้อมูล
จากกราฟเสน้ ในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา เขียนแผนภูมแิ ทง่ จากข้อมูลทเ่ี ปน็ จานวนนบั ได้

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าฝึกทักษะโดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
และกระบวน การท่ีไดน้ าไปใชใ้ นการเรยี นรูส้ ิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แลหะมีความเช่ือม่ัน
ในตนเอง

มาตรฐาน / ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒

รวม ๔ มาตรฐาน ๑๙ ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง

คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ การเปรียบเทียบและเรียงลาดับเศษส่วน และทศนิยมไม่เกิน

สามตาแหน่ง การเขียนทศนิยมในรูปเศษส่วนและเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม การบวก ลบ คูณ หาร และ
บวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน จานวนคละ และทศนิยม การวิเคราะห์และแสดงวิธีหาคาตอบ
ของโจทย์ปัญหาและโจทย์ปัญหาระคนของจานวนนับ เศษส่วน จานวนคละ ทศนิยม และร้อยละ การ
แก้ปัญหาเก่ียวกับแบบรูป การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนบั การหาพื้นท่ีของรูปส่ีเหล่ียม การ
หาความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปวงกลม การแก้ปัญหาเกี่ยวกับพ้ืนที่ ความยาวรอบรูป ของรูปส่ีเหลี่ยม
และรูปวงกลม การแก้ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุของทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก การบอกชนิดของรูป
เรขาคณิตสองมิติที่เป็นส่วนประกอบของรูปเรขาคณิตสามมิติ การบอกสมบัติของเส้นทแยงมุมของรูป
สี่เหล่ียมชนิดต่าง ๆ การบอกว่าเส้นตรงคู่ใดขนานกัน การประดิษฐ์ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก
กรวย ปริซึมและพีระมิด จากรูปคลี่หรือรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีกาหนดให้ การสร้างรูปส่ีเหล่ียมชนิด
ตา่ ง ๆ การเขยี นสมการจากสถานการณ์หรอื ปัญหา และการแกส้ มการพรอ้ มทั้งตรวจคาตอบ การอา่ น
ข้อมูลจากกราฟเส้นและแผนภมู ริ ปู วงกลม

กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นการเน้นจัดประสบการณจ์ ากรปู ธรรม ไปสูภ่ าพและสัญลักษณก์ ารจัด
กิจกรรมกลมุ่ หรือเกม ใหผ้ ู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในการสรา้ งความคิดรวบยอด ใชโ้ จทย์ที่หลากหลายใกล้เคียง
กับชีวิต ประจาวนั เพ่ือฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกการแก้โจทย์ปัญหา โดยเรียงลาดับโจทย์ จากง่ายไป
หาโจทย์ที่มีความซับซ้อนมากข้ึน เพ่ือให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะเป็นลาดับขั้น ส่งเสริมการอธิบาย ให้เหตุผล
ประกอบการแก้ปญั หา และเน้นการแก้ปัญหาโดยใชว้ ธิ ีการทีห่ ลากหลายสร้างสรรค์

เพื่อให้มีความคิดรวบยอด มีทักษะในการคิดคานวณ มีเหตุผลในการแก้ปัญหา มีความคิด
ริเริม่ สรา้ งสรรค์ และนาความรู้ไปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้

มาตรฐาน / ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/
๑๐,
ป.๖/๑๑, ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑

รวม ๕ มาตรฐาน ๒๑ ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหสั วิชา ค ๑๑๒๐๑ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง

คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาและฝึกทักษะในการคิดคานวณ ฝึกการแก้ปัญหา บอกช่วงเวลา บอกเวลาบนหน้าปัด

นาฬกิ า (ช่วง ๕ นาที) เขยี นและอา่ นบอกเวลาโดยใช้จดุ บอกความสัมพนั ธ์ของหน่วยเวลา จานวนวัน
และชื่อวันในสัปดาห์ บวก ลบ และบวกลบระคนของจานวนที่มีผลลพั ธแ์ ละตัวต้งั ไม่เกนิ ๑๐๐

การจัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏบิ ัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทกั ษะ กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ญั หา การ
ให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ
กระบวนการทไ่ี ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่งตา่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์และมีความเชื่อม่ันใน
ตนเอง

ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั
๑. นกั เรยี นสามารถบอกช่วงเวลา บอกเวลาบนหน้าปดั นาฬิกาได้
๒. นกั เรียนสามารถบอกเวลาโดยใชจ้ ุดและการอา่ น ความสมั พนั ธข์ องหนว่ ยเวลา จานวนวนั

และชื่อวันในสปั ดาห์ได้
๓. นักเรียนบวก ลบ และบวกลบระคนของจานวนที่มผี ลลพั ธแ์ ละตัวตง้ั ไมเ่ กิน ๑๐๐ พร้อม

ทงั้ ตระหนักถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบได้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหสั วชิ า ค ๑๒๒๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง

คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาและฝกึ ทักษะในการคิดคานวณ ฝึกการแกป้ ัญหา การคณู ทีม่ จี านวน ๑ หลกั กบั จานวน

ทมี่ ี ๔ หลัก การคณู ท่มี ีจานวน ๒ หลกั กับจานวนท่มี ี ๒ หลัก การหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑
หลัก และการหารทตี่ ัวตัง้ ไม่เกนิ ๓ หลกั ตวั หาร ๑ หลกั

การจัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การ
ให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ
กระบวนการท่ไี ด้ไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์

เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์และมีความเช่ือมั่นใน
ตนเอง

ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั
๑. นกั เรยี นสามารถหาผลคณู ทม่ี จี านวน ๑ หลักกบั จานวนที่มี ๔ หลกั ได้
๒. นักเรยี นสามารถหาผลคูณที่มีจานวน ๒ หลักกับจานวนทม่ี ี ๒ หลักได้
๓. นักเรยี นสามารถหาผลหารที่ตัวตง้ั ไมเ่ กิน ๒ หลกั ตวั หาร ๑ หลกั ได้
๔. นักเรยี นสามารถหาผลหารทีต่ วั ตง้ั ไมเ่ กิน ๓ หลกั ตัวหาร ๑ หลักได้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหสั วิชา ค ๑๓๒๐๑ คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษาและฝกึ ทักษะในการคิดคานวณ และฝกึ การแก้ปญั หา การบวก ลบ เศษส่วนท่ีมีตัวสว่ น

เท่ากัน การบวกทศนิยม ๑ ตาแหน่ง กับทศนิยม ๑ ตาแหน่ง และการลบทศนิยม ๑ ตาแหน่ง กับ
ทศนิยม ๑ ตาแหน่ง

การจัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏบิ ัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่อื พัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปญั หา การ
ให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์

เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์และมีความเช่ือมั่นใน
ตนเอง

ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง
๑. นักเรียนสามารถหาการบวก ลบ เศษสว่ นท่ีมตี ัวสว่ นเทา่ กนั ได้
๒. นกั เรียนสามารถหาการบวกทศนยิ ม ๑ ตาแหนง่ กบั ทศนยิ ม ๑ ตาแหนง่ ได้
๓. นกั เรียนสามารถหาการลบทศนิยม ๑ ตาแหนง่ กบั ทศนิยม ๑ ตาแหน่งได้

๘. กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งให้

ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ท้ังร่างกาย
สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม เสรมิ สรา้ งใหเ้ ป็นผูม้ ีศีลธรรม จริยธรรม มรี ะเบยี บวินัยปลกู ฝังและสรา้ ง
จิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสงั คม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผ้อู ่ืนอย่างมีความสุข
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใช้องคค์ วามรู้ ทักษะและเจตคติจากการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียนมาปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ
ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิดความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนา
ผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์กษตั ริย์ ซือ่ สัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่
อย่างพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทยและมจี ิตสาธารณะ เกิดทักษะการทางาน และอยู่
ร่วมกบั ผูอ้ น่ื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ประกอบด้วยกจิ กรรม ๓ ลกั ษณะ ดงั น้ี

๑) กิจกรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์ส่ิงแวดล้อม สามารถคิด

ตดั สินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตนได้
อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเป็นกิจกรรม ท่ีช่วยเหลือ และให้
คาปรึกษาแกผ่ ้ปู กครองในการมีส่วนร่วมพฒั นาผเู้ รยี น

๒) กจิ กรรมนกั เรียน
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี ความ

รับผิดชอบการทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การ
ช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และ
ความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัตติ ามแผน ประเมิน และปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มตามความเหมาะสม
และสอดคลอ้ งกบั วฒุ ภิ าวะของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษาและท้องถ่ิน

กิจกรรมนักเรียนประกอบดว้ ย
๒.๑) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ และ

นักศกึ ษาวิชาทหาร
๒.๒) กิจกรรมชมุ นุม ชมรม

๓) กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และ

ทอ้ งถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร เพ่ือแสดงถงึ ความรบั ผดิ ชอบ ความดีงาม ความเสียสละ
ต่อสังคม และการมีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม
(กระทรวงศกึ ษาธิการ, ๒๕๕๑)

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทั้ง
๓ ลักษณะ คอื กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรียน และกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เม่ือ
ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมแล้วนาไปสู่เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มีความสัมพันธ์
เชอ่ื มโยงกนั

๙. กรอบและแนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
หลักการ

โรงเรยี นกาหนดใหด้ าเนินการจดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน โดยยดึ หลกั การสาคัญ ดงั น้ี
๑) มีเปา้ หมายของการจดั กจิ กรรมท่ีชัดเจน เป็นรปู ธรรม และครอบคลมุ ผู้เรยี นทุกคน
๒) เป็นกจิ กรรมทีผ่ ูเ้ รยี นไดพ้ ัฒนาตนเองอย่างรอบด้านเต็มตามศักยภาพตามความสนใจ

ความถนัด ความตอ้ งการ เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะ
๓) เป็นกิจกรรมท่ีปลูกฝังและส่งเสริมจิตสานึกในการบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อ

สงั คมในลกั ษณะต่าง ๆ ที่สอดคลอ้ งกบั วิถชี วี ิต ประเพณี และวฒั นธรรมอย่างตอ่ เน่อื งและสม่าเสมอ
๔) เป็นกิจกรรมท่ียึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครองผู้นา

ชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน องค์กร และหน่วยงานอ่ืน มีสว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรม
เปา้ หมาย
โรงเรียนดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนใช้

ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการเรียนรู้ไปพัฒนาตนเองให้เกิดสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ
ได้แก่

๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒) ความสามารถในการคดิ
๓) ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
อันจะนาไปสู่คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ได้แก่
๑) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒) ซ่ือสตั ย์สุจรติ
๓) มวี ินัย
๔) ใฝเ่ รยี นรู้
๕) อยู่อยา่ งพอเพียง
๖) มุง่ มัน่ ในการทางาน
๗) รักความเป็นไทย
๘) มจี ติ สาธารณะ

แนวการจดั กจิ กรรม
โรงเรยี นจดั ใหผ้ ูเ้ รยี นทกุ คนเขา้ ร่วมกิจกรรม โดยไดก้ าหนดแนวทางการจัดกจิ รรม ดงั นี้
๑) ใหผ้ เู้ รียนปฏิบัติกจิ กรรมตามความสนใจ
๒) ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมผ่านประสบการณ์ท่ีหลากหลาย ฝึกการทางานท่ี

สอดคล้องกบั ชีวติ จริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณข์ องผู้เรยี น
๓) จัดกิจกรรมอย่างสมดุลทั้ง ๓ ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและ

กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยจัดกิจกรรมรายบุคคล กิจกรรมกลุ่ม ท้ังในและนอก
สถานศกึ ษาอยา่ งสมา่ เสมอและตอ่ เนื่อง

๔) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ โดยการศึกษาและใช้ข้อมูลประกอบการ
วางแผนอยา่ งเปน็ ระบบ เนน้ การคดิ วเิ คราะห์และใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการดาเนินกจิ กรรม

๕) ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าเน้นการแข่งขันบน
พนื้ ฐานการปฏิบตั ิตามวิถปี ระชาธิปไตย

๖) จัดให้มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละเผยแพร่กจิ กรรม

ขอบข่ายกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
โรงเรียนกาหนดให้มีการจัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน โดยการจัดกิจกรรมให้ครบท้ัง ๓ ลักษณะ

คือ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยสามารถจัด
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นไดห้ ลากหลาย รูปแบบและวิธกี าร โดยมีขอบขา่ ย ดงั นี้

๑) เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้กว้างขวางลึกซ้ึงย่ิงขึ้น
ในลกั ษณะเป็นกระบวนการเชิงบรู ณาการโดยยดึ หลกั คณุ ธรรมจริยธรรม ตลอดจนสามารถ บูรณาการ
ระหว่างกจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรยี น และกจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์

๒) เป็นกิจกรรมท่ีตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตาม
ความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นการให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของวิชาความรู้ อาชีพ และการดาเนินชีวิต
ทดี่ งี าม ตลอดจนเหน็ แนวทางในการศกึ ษาต่อและการประกอบอาชพี

๓) เป็นกิจกรรมท่ีปลูกฝังและส่งเสริมจิตสานึกการทาประโยชน์ต่อสังคมในลักษณะ
ต่างๆ สนับสนุนค่านิยมท่ีดีงามและเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๔) เป็นกิจกรรมท่ีฝึกการทางานและการให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ ต่อ
ตนเองและต่อส่วนรวม เพื่อเสริมสร้างความมีน้าใจ ความเอ้ืออาทร ความเป็นพลเมืองดี และความ
รับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั และสงั คม

๑๐.โครงสรา้ งกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

โรงเรียนได้กาหนดโครงสร้าง เวลาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ตาม

หลักสูตรแกนกลางการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๑ ( ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐ ) โดยให้จัดกิจกรรม

พัฒนาผู้เรียนในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีละ ๑๒๐ ชั่วโมง ผู้เรียนต้องได้

รับการพัฒนาและฝึกปฏิบัติกิจกรรมท้ัง ๓ กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและ

กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ อย่างต่อเน่ืองทุกปีจนจบการศึกษาตามหลักสตู รแกนกลาง

การศกึ ษา พุทธศักราช ๒๕๕๑ ( ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐ ) ดงั นี้

กจิ กรรม ประถม
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖

กิจกรรมแนะแนว ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐

กจิ กรรมนกั เรยี น

- กิจกรรมลกู เสอื กจิ กรรมเนตรนารี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- กิจกรรมชมุ นุม ชมรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐

รวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

สาหรับกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย ไม่ได้จัดแบ่ง

เวลาเรียนแยกออกเป็นการเฉพาะ แต่จัดให้ผู้เรียนทากิจกรรมโดยใช้บูรณาการในกลุ่มสาระการ

เรียนรู้บางกลุ่มสาระ หรือในกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และในกิจกรรมชุมนุม หรือจัดกิจกรรมใน

ลักษณะโครงการ โครงงาน หรือจัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่น โดยสามารถใช้เวลาได้ท้ังในและนอก

เวลาเรียน ซึ่งในการจดั กิจกรรมสามารถยดื หยุ่นได้ตามความเหมาะสม ตามแผนการจดั กิจกรรมในแต่

ละปีการศึกษา แต่เมื่อจบหลักสูตรระดับประถมศึกษาแล้ว ผู้เรียนจะต้องมีเวลาปฏิบัติกิจกรรมตาม

แนวทางทห่ี ลกั สตู รกาหนดไว้ ดังนี้ ระดับประถมศึกษา ( ป.๑-๖ ) รวม ๖ ปี จานวน ๖๐ ชัว่ โมง

๑๑.กจิ กรรมแนะแนว
กรอบและแนวการจดั กจิ กรรมแนะแนว
หลกั การ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนเพชรผดงุ เวยี งไชย พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับ

ปรับปรุง ๒๕๖๐) ได้กาหนดแนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ( ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐ ) โดยได้กาหนดคณุ ภาพผูเ้ รยี นระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
ไว้ ๒ ส่วน เพื่อมุ่งส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการเรียนรู้ไป
พัฒนาตนเองให้เกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ไดแ้ ก่

๑) ความสามารถในการส่ือสาร
๒) ความสามารถในการคิด
๓) ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
อันจะนาไปส่คู ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ ประการ ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ได้แก่
๑) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒) ซอื่ สัตย์สุจรติ
๓) มวี ินัย
๔) ใฝเ่ รยี นรู้
๕) อยู่อย่างพอเพยี ง
๖) มงุ่ มั่นในการทางาน
๗) รักความเปน็ ไทย
๘) มจี ติ สาธารณะ
การจัดกิจกรรมแนะแนวต้องส่งเสริมและสนับสนุนเพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เกิด
การเรยี นรู้อนั จะนาไปสู่สมรรถนะที่สาคญั ๕ ประการ และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ ประการ โดย
นาไปบูรณาการในการจัดกิจกรรมตามลักษณะของกิจกรรมแนะแนวท่ีระบุไว้ในหลั กสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ อีกท้ังยังต้องส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตโดย
มุ่งจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาติของผู้เรียนและ
วสิ ยั ทัศน์ของสถานศึกษา ที่ตอบสนองจุดมุ่งหมายหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช
๒๕๕๑ ใหค้ รอบคลุมทั้งด้านการศึกษา ดา้ นอาชีพ รวมท้ังด้านส่วนตัวและสังคมเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ
โดยผู้เรียนมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตนเอง เรียนรู้ด้วยตนเองด้วยการปฏิบัติจนกระท่ังเกิด

ทักษะชีวิต ตลอดจนครูทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม โดยมีครูแนะแนวเป็นพี่เล้ียงและ
ประสานงาน

วัตถุประสงค์
๑) เพื่อใหผ้ ้เู รียนร้จู ัก เข้าใจ รัก และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผ้อู ่นื
๒) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมท้ังการดาเนินชีวิตและ

สงั คม
๓) เพ่อื ให้ผเู้ รียนสามารถปรบั ตวั ได้อย่างเหมาะสม และอยรู่ ่วมกับผูอ้ ื่นได้อย่าง

มีความสขุ
ขอบขา่ ยของกิจกรรมแนะแนว
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเพชรผดุงเวียงไชย พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ

ปรับปรงุ ๒๕๖๐)กาหนดใหก้ ารจัดกิจกรรมแนะแนว มีองค์ประกอบ ๓ ด้าน ดงั นี้
๑) ด้านการศึกษา ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มตาม

ศักยภาพรู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้
อย่างเหมาะสม

๒) ด้านการงานและอาชีพ ให้ผู้เรียนได้รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้และเข้าใจโลก
ของงานอาชีพอย่างหลาก หลาย มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต มกี ารเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผน
เพื่อประกอบอาชพี ตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ

๓) ด้านส่วนตัวและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่า
ของตนเองและผู้อื่น รักษ์สิ่งแวดล้อม มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติท่ีดีต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพมี
ทกั ษะชวี ติ และสามารถปรับตวั ดารงชวี ิตอยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสุข

แนวการจดั กจิ กรรม
ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม แ น ะ แ น ว ต า ม ห ลั ก สู ต ร โ ร ง เ รี ย น เ พ ช ร ผ ดุ ง เ วี ย ง ไ ช ย

พุทธศักราช ๒๖๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ได้ใช้กระบวนการแบบมีส่วนร่วม โดยผู้บริหาร ครูแนะ
แนว ครูท่ีปรึกษา ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ท่ีเกี่ยวข้องได้ทาการศึกษาแนวการจัดกิจกรรมของ
หลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๖๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) วิสัยทัศน์ของ
สถานศึกษาตลอดจนสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการ ความสนใจ และธรรมชาติของผู้เรียน แล้ว
นามากาหนดเป็นสาระและรายละเอยี ดของการจัดกิจกรรมแนะแนวในโรงเรยี น

๑) ศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาติของ
ผเู้ รียน


Click to View FlipBook Version