The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน ๑
นายจรณชัย ศรีประดิษฐ (โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Charonchai Sripradit, 2022-03-03 22:54:07

วช.๑ จรณชัย ศรีประดิษฐ

รายงานการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน ๑
นายจรณชัย ศรีประดิษฐ (โรงเรียนเพชรผดุงเวียงไชย)

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน คร้ังท่ี ๒๐
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔/๔
วนั พฤหัสบดี ที่ ๗ เดอื น มถิ นุ ายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
คณุ ครูมาลยั ทิพย์ คนซอื่ (ครูผสู้ อน)

๑. จานวนนักเรียนในชั้นเรยี น

จานวนนกั เรียนในชัน้ เรียน

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔

10 9 10 10
9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นักเรียนท่มี าเรยี น นักเรยี นทไี่ มม่ าเรียน
นกั เรยี นทั้งหมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรียนหญงิ

สาเหตุ ไม่มี
การไม่มาเรียน

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยส่ือการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมือครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันทั้งห้องและเม่ือครูขอตัวแทน
นักเรียนต่างก็แย่งที่ออกไปหน้าชั้นเรียน ช่วงการของาทาใบกิจกรรมก็จะทากันเป็นคู่ซึ่งต่างคนก็ต่าง
ช่วยกันทาและนาเสนอแนวคิดของตนเองใส่ลงไปใบในกิจกรรมซ่ึงจากการที่ได้สังเกตนักเรียนมี
ความคดิ ท่หี ลากหลายมากทาใหร้ ้ถู งึ การประสบความสาเร็จในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน

ปช-๑.๐๔
๓. ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้จากการสังเกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รียนรเู้ ปน็ ๒ ประเด็นด้วยกันคอื
- ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรจู้ ากครู
การควบคุมนักเรียนภายในช้ันเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธคี ิดและอธิบายให้เพื่อนๆฟัง กรณี
นักเรียนคุยกันหรือนักเรียนไม่ตั้งใจเรียนครูก็อาจใช้วิธีการควบคุมช้ันเรียนแบบเข้มงวดมากขึ้น และ
ทราบถึงวิธีการจัดการช้ันเรียนท่ดี ขี องครูและวิธีการทบทวนความรคู้ วามเขา้ ใจ กอ่ นทจ่ี ะปิดหน่วยการ
เรียนรเู้ พอ่ื ให้ผูเ้ รียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจท่ถี ูกต้องและแม่นยาในการนาเนื้อหาไปประยุกต์ในเรื่องถัดไป

- สง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรจู้ ากผ้เู รียน
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบน้ีและที่

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดท่ีแตกต่างและหลากกันของนักเรียนซ่ึงถือว่าเป็นเร่ืองดีท่ีนักเรียนมี
ความคิดแบบนี้ อีกอย่างคือทาให้ได้รู้ว่านักเรยี นห้องน้ีชอบการออกไปนาเสนอแนวคิดของตนหน้าชั้น
เรียนซึ่งจะทาให้นักเรยี นกลายเป็นคนท่ีมีทักษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออกที่ดีในอนาคตได้
เชน่ กนั

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผสู้ ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผู้เรียน คร้งั ท่ี ๒๑
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕
วัน พฤหัสบดี ท่ี ๗ เดือน มถิ นุ ายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๒.๑๕ – ๑๓.๑๕ น.
คณุ ครูมาลัยทิพย์ คนซ่ือ (ครูผสู้ อน)
๑. จานวนนักเรยี นในชน้ั เรยี น

จานวนนกั เรียนในช้นั เรยี น

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นักเรียนท่ีมาเรยี น 00
นกั เรยี นที่ไม่มาเรียน
0
นกั เรียนทั้งหมด

จานวนนกั เรยี นชาย จานวนนักเรียนหญงิ

สาเหตุ ไม่มี
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซ่ึงประกอบด้วยสื่อการสอนท่ีน่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมอื ครูเป็นอยา่ งดี เม่ือครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องเสียงดังมากและเมื่อครูขอ
ตัวแทนนักเรยี นต่างกแ็ ย่งทีอ่ อกไปหนา้ ช้ันเรียน

ปช-๑.๐๔
๓. สิ่งทไ่ี ด้เรียนรจู้ ากการสังเกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ สงิ่ ที่ได้เรียนรูเ้ ปน็ ๒ ประเด็นด้วยกนั คือ
- สงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนรจู้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าการให้เด็กทาใบงานนน้ั ครูจาเป็นที่จะต้องเดินไปดูทั่วๆ

ห้องเพื่อที่จะสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนและอีกอย่างท่ีสาคัญคือการเดินไปดูแนวคิดของ
นกั เรียนเพื่อท่ีจะทาการเลือกแนวคิดที่แตกต่างและน่าสนใจมานาเสนอหน้าชัน้ เรียนให้เพ่ือนได้เข้าใจ
ดว้ ยในสิ่งท่เี ขาคดิ และทราบถงึ วิธีการให้ผู้เรยี นทกุ คนไดม้ ีสว่ นรว่ มอย่างเทา่ เทียมกนั ในการทากิจกรรม
การเรยี นการสอนเพื่อท่ีจะให้นักเรียนได้ฝกึ ทักษะการแสดงออกและให้ผู้เรียนไดร้ ู้สกึ สนุกกับการเรียน
จนคิดวา่ เปน็ กจิ กรรมการทดลอง

- ส่งิ ที่ได้เรยี นรูจ้ ากผเู้ รียน
การที่ครูให้ความสนใจด้วยการเดินเข้าไปดูแบบตัวต่อตัวก็จะทาให้เด็กรู้สึก

อบอุ่นและมีกาลังใจที่จะทางานมากขึ้นซ่ึงจะทาให้กิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุจุดประสงค์และ
ประสบความสาเรจ็ ทง้ั ครูและนกั เรยี น

ลงชือ่ ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผูส้ งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤติกรรมผู้เรยี น ครั้งที่ ๒๒
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔/๔
วัน ศกุ ร์ ท่ี ๘ เดือน มิถุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
คุณครมู าลัยทิพย์ คนซ่ือ (ครูผู้สอน)

๑. จานวนนักเรียนในชนั้ เรียน

จานวนนักเรยี นในชน้ั เรยี น

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔

10 9 10 10
9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นักเรยี นทีม่ าเรยี น นักเรยี นทีไ่ มม่ าเรยี น
นักเรยี นทง้ั หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนักเรยี นหญิง

สาเหตุ ไม่มี
การไม่มาเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของผเู้ รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นทดสอบเก็บคะแนนเพ่ือวัดความรู้

ความเข้าใจในเน้ือหาคณิตศาสตร์นักเรียนทกุ คนต่างก็ตง้ั ใจทาข้อสอบของตนเองโดยไม่สนใจเพ่ือนคน
อื่นๆและด้วยความที่นักเรียนทุกคนต่างตั้งใจทาในข้อสอบของตนเองก็มีข้อสอบอยู่ช่วงหน่ึงท่ีถ่าย
เอกสารแล้วมองภาพไม่ชัดเจนนักจึงยกมือขึ้นถามทันทีเพ่ือความแน่ในใจในคาถามและความถูกต้อง
ในการทาข้องสอบของนักเรยี นเอง

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรจู้ ากการสังเกต

จากการสังเกตสามารถสรุปสิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรเู้ ป็น ๒ ประเดน็ ดว้ ยกนั คอื
- สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้จากครู
การควบคุมนักเรียนภายในช้ันเรียนของครูเช่น ทราบถึงวิธีการคุมสอบของ

ครูท่ีให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อวัดความรู้ว่าท่ีเรียนมาผู้เรียนได้รับความรู้มากน้อย
เพียงใดและเทคนิคการแก้ปัญหาเม่ือนักเรียนมองไม่ชัดครูจาเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยการเขียนให้ดูบน
กระดานหรือไม่ก็อา่ นใหน้ กั เรียนฟัง

สิง่ ที่ไดเ้ รียนร้จู ากผเู้ รียน
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมการสอบของนักเรียนที่ต่างจากที่อ่ืนคือ เมื่อ

นกั เรยี นแตล่ ะคนเขา้ ใจและมีแนวคดิ เปน็ ของตนเองกไ็ มจ่ ะเป็นท่จี ะต้องลอกของเพ่อื น

ลงช่อื ____________________
( นายจรณชยั ศรปี ระดิษฐ )
ผสู้ ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤติกรรมผเู้ รยี น คร้ังที่ ๒๓
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕
วนั ศุกร์ ท่ี ๘ เดือน มถิ นุ ายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.
Teacher Anna (ครูผู้สอน)
๑. จานวนนักเรยี นในชนั้ เรียน

จานวนนกั เรียนในช้ันเรยี น

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นักเรยี นทมี่ าเรียน 00
นกั เรยี นทีไ่ ม่มาเรยี น
0
นักเรยี นทง้ั หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรยี นหญงิ

สาเหตุ ไมม่ ี
การไมม่ าเรียน

๒. พฤติกรรมและการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมของผู้เรยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนโดยครูต่างชาติ

ทั้งหมดของกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่มีผลกระตบต่อการทากิจกรรมของ
นักเรียนเพราะเม่ือครูถามนักเรียนก็ยังคงแย่งกันตอบเหมือนเดิมและเมื่อขอตัวแทนนักเรียนก็จะแย่ง
กันออกไปหน้าชั้นเรียนแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของนักเรียนที่พร้อมจะรับฟังและร่วม
ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายของคาบนี้ มีนักเรียนหลายคนสามารถส่ือสาร
ภาษาอังกฤษไดช้ ัดเจนและบางคนกส็ ามารถแปลคาที่ครผู ู้สอนพดู ได้เชน่ กนั แสดงให้เหน็ ถึงพื้นฐานทาง
ภาษาองั กฤษของนกั เรยี นที่แน่นต้งั แตร่ ะดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้จากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรเู้ ปน็ ๒ ประเด็นด้วยกนั คอื
- สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรูจ้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าครูพยายามใช้ภาษาและคาที่เข้าใจง่ายในการ

อธิบายให้นักเรียนเข้าและถ้ามีคาไหนท่ีนักเรียนไมเ่ ข้าใจครูจะใช้วิธีการวาดภาพบนกระดานพร้อมทั้ง
บอกว่าภาพน้ีภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรและทราบถึงวิธีการให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วย
ความสนกุ ซ่ึงจะชว่ ยดึงดดู ความสนใจจากผู้เรยี นได้เปน็ อยา่ งดี

- สิ่งที่ได้เรียนรจู้ ากผู้เรียน
การที่ครูจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบที่ให้ทุกคนได้แสดงออกและมีร่วมใน

กิจกรรมไปพร้อมๆกันจะทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนักเ รียนมี
ความต้ังใจเรยี นมากยิ่งขึน้

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผูส้ งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤติกรรมผ้เู รยี น ครัง้ ท่ี ๒๕
รายวิชา คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑/๕
วัน จนั ทร์ ท่ี ๑๑ เดือน มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.
Teacher Anna (ครผู ู้สอน)
๑. จานวนนักเรียนในชนั้ เรยี น

จานวนนกั เรยี นในชนั้ เรียน

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นกั เรยี นทม่ี าเรียน 00
นกั เรียนทไี่ ม่มาเรยี น
0
นกั เรียนทั้งหมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนักเรยี นหญิง

สาเหตุ ไมม่ ี
การไม่มาเรียน

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมของผู้เรยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนโดยครูต่างชาติ

ท้ังหมดของกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่มีผลกระตบต่อการทากิจกรรมของ
นักเรียนเพราะเม่ือครูถามนักเรียนก็ยังคงแย่งกันตอบเหมือนเดิมและเม่ือขอตัวแทนนักเรียนก็จะแย่ง
กันออกไปหน้าช้ันเรียนแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของนักเรียนท่ีพร้อมจะรับฟังและร่วม
ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายของคาบนี้ มีนักเรียนหลายคนสามารถส่ือสาร
ภาษาองั กฤษไดช้ ัดเจนและบางคนก็สามารถแปลคาทีค่ รผู ู้สอนพดู ได้เช่นกนั แสดงให้เห็นถงึ พน้ื ฐานทาง
ภาษาอังกฤษของนักเรยี นทแ่ี นน่ ต้งั แตร่ ะดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้จากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรเู้ ปน็ ๒ ประเด็นด้วยกนั คอื
- สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรูจ้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าครูพยายามใช้ภาษาและคาที่เข้าใจง่ายในการ

อธิบายให้นักเรียนเข้าและถ้ามีคาไหนท่ีนักเรียนไมเ่ ข้าใจครูจะใช้วิธีการวาดภาพบนกระดานพร้อมทั้ง
บอกว่าภาพน้ีภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรและทราบถึงวิธีการให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วย
ความสนกุ ซ่ึงจะชว่ ยดึงดดู ความสนใจจากผู้เรยี นได้เปน็ อยา่ งดี

- สิ่งที่ได้เรียนรจู้ ากผู้เรียน
การที่ครูจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบที่ให้ทุกคนได้แสดงออกและมีร่วมใน

กิจกรรมไปพร้อมๆกันจะทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนักเ รียนมี
ความต้ังใจเรยี นมากยิ่งขึน้

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผูส้ งั เกต

ปช-๑.๐๕

รายงานการสงั เกตการจดั สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรียน คร้ังท่ี ๑
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔

วนั จันทร์ ท่ี ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๒๐ น.

คุณครูมาลัยทพิ ย์ คนซ่อื (ครผู สู้ อน)
หมายเหตุ : รวมถึงการสงั เกตคร้งั ท่ี ๗,๑๒,๑๗,๑๘,๑๙,๒๐ และ ๒๒

แผนผังห้องเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔/๔

๑. การจัดโต๊ะเรียน
การจัดโต๊ะเรียนจดั เป็น ๓ แถวคือ แถวคู่ ๒ แถวและแถวเด่ยี ว ๑ แถวซึ่งการนั่งโดย

ส่วนใหญ่ก็จะให้น่ังสลับชาย – หญิง เพื่อท่ีจะได้ฝึกการทางานร่วมกันของเพ่ือนต่างเพศและอีกอย่าง
การจัดโต๊ะอยู่ในอัตราส่วนท่ีสมดุลกับพื้นท่ีของห้องเรียนซ่ึงดูแล้วไม่แออัด และสะดวกต่อการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเวลาครูเดินเข้าไปดูก็สามารถเดินเข้าไปได้ท่ัวถึงหรือเวลาให้เกออกไป
หนา้ ชั้นเรยี นกส็ ามารถออกไปไดอ้ ย่างสะดวก

ปช-๑.๐๕

๒. การจัดโตะ๊ ครู
โต๊ะครปู ระจาชั้นจะมที ั้งหมด ๒ โต๊ะซึ่งต้ังอยูด่ ้านหลงั ของห้องเรียนโดยบนโตะ๊ ครจู ะ

ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ การบ้านนักเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอนเช่น ปากกาเคมี ดินสอ
ยางลบและไม่บรรทัด ซึ่งวางอยู่เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้านทาให้เหมาะแก่การทางานของครู ข้างๆ
โต๊ะครูก็จะมีชั้นวางของของนักเรียนที่ไว้สาหรับวางหนังสือ สมุดและการบ้านในรายวิชาต่างๆ และท่ี
สาคัญการจัดโต๊ะครูไวด้านหลังน้ันจะสามารถควบคุมพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ดีอีกด้วย
เพราะครสู ามารถมองเหน็ นกั เรียนได้อยา่ งทวั่ ถึงจากด้านหลงั วา่ ใครทาอะไรบ้าง

๓. ความสะอาด/แสงสวา่ ง/การถา่ ยเทของอากาศ
ความสะอาด : อยใู่ นระดับปานกลาง ไมถ่ งึ ขัน้ วา่ สะอาดมากแต่กไ็ มไ่ ด้มขี ยะตกหล่น

อยูใ่ นห้องเรียนเช่นกนั
แสงสว่างและการถ่ายเทของอากาศ : ด้านหน้ามีประตู ๒ บานและด้านหลังก็มี

หน้าต่างเป็นแถวเรียงรายทาให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเมื่อมีการเปิดเคร่ืองปรับอากาศก็จะมีการเปิด
ไฟทม่ี ถี ึง ๔ จดุ ทาใหส้ วา่ งเพียงพอและไมส่ ่งผลกระทบต่อการมองเหน็ ของนกั เรียน

๔. ป้ายนเิ ทศ/มมุ วิชาการ
ป้ายนิเทศและมุมวิชาการน้ันมีพ้ืนท่ีน้อยแต่ก็จะไปมีอยู่ในส่วนของการจัดตกแต่ง

หอ้ งเรียนทเี่ ป็นภาพและป้ายตา่ งๆท่ีถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
๕. การจดั ตกแตง่ หอ้ ง
การจัดตกแต่งห้องบริเวณผนังด้านข้างของห้องเรียน มีรูปภาพและป้ายต่างๆที่ถูก

ประดับตกแตง่ ไว้รอบๆห้องอย่างสวยงาม มีสีสันและน่าสนใจอกี ทั้งยังมีครบทุกสาระการเรียนรู้ท่ีเป็น
จุดดีของการต่อแต่งห้องเรียนให้น่าอยู่และมีประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นอย่างมากในการศึกษาหาความรู้
รอบตัว

๖. มุมผลงานนกั เรียน
ผลงานนักเรียนจะถูกติดอยู่ด้านหน้าห้องเรียน และบริเวณข้างๆหรือรอบๆกระดาน

แต่กจ็ ะเปน็ ผลงานที่ความโดดเด่นมากด้วยความที่พ้นื ทีห่ ้องเรยี นน้ันมขี นาดจากัด

ลงชอ่ื ____________________
(นายจรณชัย ศรีประดิษฐ)
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๕

รายงานการสังเกตการจัดสภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน ครง้ั ที่ ๒
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๒/๕

วนั จันทร์ ที่ ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.

คณุ ครูมาลยั ทพิ ย์ คนซอื่ (ครูผู้สอน)
หมายเหตุ : รวมถึงการสงั เกตคร้ังท่ี ๖,๑๐ และ ๑๖

แผนผังหอ้ งเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒/๕

๑. การจดั โต๊ะเรยี น
การจัดโต๊ะเรียนนั่งเป็นชุด โดยชุดละ ๓ คน ซึ่งการนั่งโดยส่วนใหญ่ก็จะให้นั่งสลับ

ชาย – หญิง เพื่อท่ีจะได้ฝึกการทางานร่วมกันของเพ่ือนต่างเพศและอีกอย่างการจัดโต๊ะแบบน้ีอาจ
มากเกินไปสาหรับการทางานกลุ่มเพราะนักเรียนในห้องมีจานวนน้อย ควรจะจัดเป็นคู่ๆ อีกอย่างคือ
เวลาครูหรอื นักเรียนจะเดนิ เข้าออกก็จะลาบากกว่าการจัดเป็นค่เู พราะพื้นท่ใี นหอ้ งเรียนก็ยงั มีเหลืออีก
มาก สามารถออกแบบการจดั โต๊ะใหด้ กี วา่ น้ี

ปช-๑.๐๕

๒. การจดั โต๊ะครู
โตะ๊ ครปู ระจาชั้นจะมที ั้งหมด ๑ โตะ๊ ซง่ึ ตั้งอยดู่ ้านหลังของห้องเรียนโดยบนโตะ๊ ครจู ะ

ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ การบ้านนักเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอนเช่น ปากกาเคมี ดินสอ
ยางลบและไม่บรรทัด ซ่ึงวางอยู่เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้านทาให้เหมาะแก่การทางานของครู ซึ่งการ
จัดโต๊ะครูไวด้านหลังนั้นจะสามารถควบคุมพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ดีอีกด้วยเพราะครู
สามารถมองเห็นนักเรียนได้อย่างท่ัวถึงจากด้านหลังว่าใครทาอะไรบ้างและด้านหลังห้องก็จะมีช้ันวาง
ของให้นักเรียนรายบุคคลโดยมีการพิมพ์ช่ือติดไว้ตามล็อกเพื่อที่จะให้นักเรียนได้นาของของตนเอ งมา
ไว้โดยไมต่ ้องมีปัญหาว่าใครวางลอ็ กใครทีจ่ ะแย่งกัน

๓. ความสะอาด/แสงสวา่ ง/การถ่ายเทของอากาศ
ความสะอาด : อยู่ในระดับดี ค่อนข้างที่จะสะอาดมาก มีการจัดเก็บของเป็นเป็น

หมวดหมู่ ขยะในหอ้ งก็ไม่มีแต่บรเิ วณผนงั อาจยงั มรี อยเลอะอย่บู ้าง
แสงสว่างและการถ่ายเทของอากาศ : ด้านหน้ามีประตู ๒ บานและด้านหลังก็มี

หน้าต่างเป็นแถวเรียงรายทาให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเมื่อมีการเปิดเครื่องปรับอากาศก็จะมีการเปิด
ไฟที่มีถึง ๔ จดุ ทาใหส้ ว่างเพียงพอและไมส่ ง่ ผลกระทบต่อการมองเห็นของนกั เรียนเหมือนห้องป.๔/๔

๔. ป้ายนเิ ทศ/มุมวชิ าการ
ป้ายนิเทศและมุมวิชาการน้ันมีพื้นท่ีน้อยแต่ก็จะไปมีอยู่ในส่วนของการจัดตกแต่ง

หอ้ งเรยี นท่เี ปน็ ภาพและปา้ ยตา่ งๆทถี่ ูกตกแต่งไวอ้ ย่างสวยงาม
๕. การจัดตกแต่งห้อง
การจัดตกแต่งห้องบริเวณผนังด้านข้างของหอ้ งเรียนดดู ี มกี ารเลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ที่

สีสันเข้ากับสีผนังทาให้ดูกลมกลืนกันได้ดี มีภาพการ์ตูนประยุกต์ท่ีเป็นส่ือการเรียนการสอนแบบให้
ผเู้ รียนศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเองไดส้ วยงามและเหมาะสมสาหรับวัยของนกั เรยี น

๖. มุมผลงานนกั เรียน
ผลงานนักเรียนจะถูกติดอยู่ท่ีบริเวณริมขอบกระดานหน้าห้องเรียนเม่ือมีการเปล่ียน

คาบเรียนก็จะมีการเปลี่ยนผลงานที่ติดวนไปเรื่อยๆอันเนื่องมาจากพ้ืนท่ีติดมีจานวนจากัดเลยไม่
สามารถติดไดค้ รบและติดไวเ้ ป็นเวลานาน

ลงช่ือ____________________
(นายจรณชยั ศรีประดษิ ฐ)
ผสู้ ังเกต

ปช-๑.๐๕

รายงานการสังเกตการจดั สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น ครง้ั ที่ ๓
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑/๕

วนั จนั ทร์ ที่ ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.

คณุ ครมู าลัยทพิ ย์ คนซ่ือ (ครผู ูส้ อน)
หมายเหตุ : รวมถงึ การสังเกตคร้ังที่ ๔,๙,๑๔,๒๑,๒๓ และ ๒๕

แผนผงั ห้องเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕

๑. การจดั โต๊ะเรียน
การจัดโต๊ะเรียนถือว่ากาลังดีด้วยจานวนนักเรียนที่มีพอดีเม่ือเทียบกับจานวนพ้ืนท่ี

ในห้องเรียนซ่งึ ส่วนใหญ่จะให้นักเรียนนั่งสลับชาย – หญิง เพื่อที่จะได้ฝึกการทางานร่วมกันของเพ่ือน
ต่างเพศ โดยให้นักเรียนท่ีมีสมาธิส้ันหรือไม่ค่อยต้ังใจเรียนมาน่ังด้านหลังสุดเพราะจะได้อยู่ใกล้ชิดกับ
ความดแู ลของครูประจาชน้ั

ปช-๑.๐๕

๒. การจดั โตะ๊ ครู
โต๊ะครปู ระจาชั้นจะมีท้ังหมด ๒ โต๊ะซ่งึ ตั้งอยู่ด้านหลังของห้องเรียนโดยบนโตะ๊ ครูจะ

ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การเรียนการสอนเช่น ปากกาเคมี ดินสอ ยางลบและไม่บรรทัด
ซง่ึ วางอยเู่ ป็นระเบยี บ สะอาดสะอา้ นทาใหเ้ หมาะแกก่ ารทางานของครู ซึ่งการจัดโต๊ะครไู วดา้ นหลังน้ัน
จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ดีอีกด้วยเพราะครูสามารถมองเห็นนักเรียนได้
อย่างท่ัวถึงจากด้านหลังว่าใครทาอะไรบ้างและข้างโต๊ะครูจะมีชั้นวางของสาหรับการวางของของ
นกั เรียนสว่ นด้านบนชนั้ วางของก็จะเป็นท่สี ง่ การบ้านของนกั เรยี น

๓. ความสะอาด/แสงสวา่ ง/การถ่ายเทของอากาศ
ความสะอาด : อยู่ในระดับดีมาก มีการจัดอุปกรณ์ภายในห้องเรียนไว้ในสัดส่วนท่ี

เหมาะสม มีผ้าคลุมโต๊ะ คลุมชั้นวางของเรียบร้อยดูเป็นระบบระเบียบมองแล้วสะอาดเหมาะแก่การ
เปน็ ทีเ่ รียนร้ขู องนักเรยี น

แสงสว่างและการถ่ายเทของอากาศ : ด้านหน้ามีประตู ๒ บานและด้านหลังก็มี
หน้าต่างเป็นแถวเรียงรายทาให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเมื่อมีการเปิดเครื่องปรับอากาศก็จะมีการเปิด
ไฟทมี่ ีถึง ๔ จดุ ทาให้สว่างเพยี งพอและไมส่ ง่ ผลกระทบต่อการมองเหน็ ของนกั เรียนเหมือนห้องป.๔/๔

๔. ป้ายนิเทศ/มุมวชิ าการ
ป้ายนิเทศนั้นมีพื้นที่น้อยแต่ก็จะไปมีอยู่ในส่วนของการจัดตกแต่งห้องเรียนที่เป็น

ภาพและป้ายต่างๆที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ส่วนมุมวิชาการจะอยู่ด้านหน้าโต๊ะครูประจาช้ัน
ประกอบดว้ ยหนงั สือเรยี นแบบการ์ตนู มากมายทไี่ วใ้ หผ้ ู้เรยี นไดอ้ า่ นในเวลาว่าง

๕. การจดั ตกแตง่ หอ้ ง
การจัดตกแต่งห้องบริเวณผนังด้านข้างของห้องเรียนดูดีมาก มีการออกแบบป้าย

ข้อความต่างๆได้น่าสนใจ สีสันสวยงาม ขนาดตัวหนังสือเหมาะสมและครบถ้วนในเรื่องของความรู้
รอบตวั ที่นกั เรยี นจะได้ศึกษาเพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน

๖. มุมผลงานนกั เรยี น
ผลงานนักเรียนจะถูกติดอยู่ที่บริเวณประตูห้องเรียนซึ่งสามารถติดได้หลากหลาย

ชิ้นงานและเมื่อเปิดประตูออกก็จะมองเห็นจากด้านนอก ใครเดินผ่านก็จะได้เห็นถึงผลงานของ
นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕

ลงชอ่ื ____________________
(นายจรณชยั ศรีประดิษฐ)
ผู้สังเกต

ปช-๑.๐๕

รายงานการสังเกตการจดั สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน คร้ังที่ ๕
รายวิชา คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๔

วนั พธุ ที่ ๓๐ เดือน พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.

คณุ ครูมาลัยทพิ ย์ คนซื่อ (ครผู ู้สอน)
หมายเหตุ : รวมถึงการสงั เกตครั้งท่ี ๑๓

แผนผังห้องเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑/๔

๑. การจัดโตะ๊ เรยี น
การจัดโต๊ะเรียนถอื ว่ากาลังดดี ้วยสภาพความเปน็ อยู่ท่มี นี ักเรยี นจานวนมากแต่ขนาด

หอ้ งเรียนเท่ากับห้องอื่นก็จะดูคบั แคบ การจัดโต๊ะเรียนเลยออกแบบได้ยากเพราะเมื่อจานวนนักเรียน
มากการควบคุมก็จะยากขึ้นซ่งึ จาเป็นทีจ่ าต้องเว้นทางเดนิ ใหค้ รูได้เดินเข้าไปดูพฤติกรรมการเรียนการ
สอนอย่างท่ัวถึงและครูได้ใช้วิธีการให้นักเรียนคนที่คนหรือไม่ค่อยต้ังใจเรียนนั่งแถวกลางที่เป็นแถว

ปช-๑.๐๕
เด่ียวซ่ึงก็จะช่วยให้นักเรียนต้ังใจเรียนมากย่ิงข้ึน อีกอย่างการนั่งแถวเดียวแบบน้ีครูสามารถเข้าถึง
นักเรยี นไดจ้ ากทุกๆดา้ นนัน่ ก็สะดวกตอ่ การดูแลเชน่ กัน

๒. การจัดโต๊ะครู
โตะ๊ ครปู ระจาชั้นจะมีท้ังหมด ๒ โต๊ะซึง่ ตั้งอยดู่ า้ นหลงั ของห้องเรยี นโดยบนโต๊ะครจู ะ

ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การเรียนการสอนเช่น ปากกาเคมี ดินสอ ยางลบและไม่บรรทัด
ซ่ึงวางมากมายจนไม่สามารถที่จะวางการบ้านของนักเรียนไว้บนโต๊ะได้ แต่การจัดโต๊ะครูไวด้านหลัง
นั้นจะสามารถควบคุมพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ดีอีกด้วยเพราะครูสามารถมองเห็นนักเรียน
ได้อย่างท่ัวถึงจากดา้ นหลังว่าใครทาอะไรบ้างและดา้ นหลงั ห้องจะมีชั้นวางของสาหรับการวางของของ
นกั เรยี นโดย ๑ ช่องก็จะมีนกั เรียน ๑ คนทีส่ ามารถนาของไปวางไว้ในชอ่ งนนั้ ๆ

๓. ความสะอาด/แสงสว่าง/การถา่ ยเทของอากาศ
ความสะอาด : อยู่ในระดับปานกลาง มีขยะบ้างบางครั้ง เช่นเปลือกดินสอสี เศษ

กระดาษ เป็นตน้ ทหี่ ลน่ อยใู่ ต้โตะ๊ นักเรียนอาจเปน็ เพราะนกั เรียนมจี านวนมากการดูแลอาจไม่ทวั่ ถึง
แสงสว่างและการถ่ายเทของอากาศ : ด้านข้างมีประตู ๒ บานและตรงข้ามก็มี

หน้าต่างเป็นแถวเรียงรายทาให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเม่ือมีการเปิดเคร่ืองปรับอากาศก็จะมีการเปิด
ไฟที่มถี ึง ๔ จดุ ทาใหส้ ว่างเพียงพอและไมส่ ง่ ผลกระทบต่อการมองเหน็ ของนกั เรียนเหมือนหอ้ งป.๔/๔

๔. ป้ายนเิ ทศ/มุมวิชาการ
ป้ายนิเทศและมุมวิชาการนั้นมีพื้นท่ีท่ีจะติดน้อยแต่ก็จะไปมีอยู่ในส่วนของการจัด

ตกแตง่ ห้องเรยี นทีเ่ ปน็ ภาพและป้ายต่างๆท่ถี ูกตกแต่งไวอ้ ย่างสวยงาม
๕. การจดั ตกแตง่ หอ้ ง
การจัดตกแต่งห้องบริเวณผนังด้านข้างของห้องเรียนไม่มากจนเกินไปแต่ก็ไม่น้อย

จนเกินไปอยู่ในระดบั ทพี่ อดี เรียบง่ายและการทาสหี อ้ งเรยี นท่ีมสี ีสนั สดใสดแู ล้วรูส้ กึ สว่างขนึ้ ก็จะทาให้
หน้าเรียนยงิ่ ข้ึน

๖. มมุ ผลงานนักเรียน
ผลงานนักเรียนจะถูกติดอยู่ทบี่ ริเวณดา้ นข้างของกระดานดาท้ัง ๒ ข้างโดยจะติดแค่

ผลงานชน้ิ ท่ีโดดเดน่ มากๆเทา่ น้ันเพราะพื้นท่ีมีอยูอ่ ย่างจากดั

ลงช่อื ____________________
(นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ)
ผสู้ ังเกต

ปช-๑.๐๕

รายงานการสงั เกตการจดั สภาพแวดล้อมในห้องเรียน ครง้ั ที่ ๘
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓/๔

วัน พฤหัสบดี ท่ี ๓๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.

คณุ ครูมาลยั ทิพย์ คนซ่อื (ครูผู้สอน)

แผนผังห้องเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑/๕

๑. การจัดโต๊ะเรยี น
การจัดโต๊ะเรียนถือว่ากาลังดีด้วยจานวนนักเรียนที่มีพอดีเมื่อเทียบกับจานวนพื้นท่ี

ในห้องเรียนซ่ึงส่วนใหญ่จะให้นักเรียนนั่งสลับชาย – หญิง เพ่ือท่ีจะได้ฝึกการทางานร่วมกันของเพ่ือน
ต่างเพศ โดยให้นักเรียนท่ีจะมีนักเรียนอยู่ ๑ คนท่ีต้องนั่งติดกับโต๊ะครูเพราะเป็นนักเรียนสมาธิสั้นแต่
เมื่อไดน้ งั่ ใกลค้ รปู ระจาชั้นกจ็ ะตัง้ ใจเรียนเปน็ อยา่ งดี

ปช-๑.๐๕
๒. การจัดโต๊ะครู

โตะ๊ ครูประจาช้ันจะมที ั้งหมด ๑ โตะ๊ ซ่งึ ตั้งอยู่ดา้ นหลงั ของห้องเรยี นโดยบนโต๊ะครูจะ
ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การเรียนการสอนเช่น ปากกาเคมี ดินสอ ยางลบและไม่บรรทัด
ซึ่งวางอยู่เป็นระเบยี บ สะอาดสะอ้านทาให้เหมาะแกก่ ารทางานของครู ซึ่งการจัดโต๊ะครไู วด้านหลังนั้น
จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ดีอีกด้วยเพราะครูสามารถมองเห็นนักเรียนได้
อย่างท่ัวถึงจากด้านหลังว่าใครทาอะไรบ้างและอีกด้านของโต๊ะครูจะมีชั้นวางของสาหรับการวางของ
ของนกั เรยี นส่วนดา้ นบนชนั้ วางของกจ็ ะเปน็ ที่สง่ การบา้ นของนกั เรยี น

๓. ความสะอาด/แสงสวา่ ง/การถา่ ยเทของอากาศ
ความสะอาด : อยู่ในระดับดีมาก มีการจัดอุปกรณ์ภายในห้องเรียนไว้ในสัดส่วนที่

เหมาะสม มีผ้าคลุมโต๊ะ คลุมชั้นวางของเรียบร้อยดูเป็นระบบระเบียบมองแล้วสะอาดเหมาะแก่การ
เปน็ ที่เรียนรู้ของนกั เรยี น

แสงสว่างและการถ่ายเทของอากาศ : ด้านหน้ามีประตู ๒ บานและด้านหลังก็มี
หน้าต่างเป็นแถวเรียงรายทาให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเม่ือมีการเปิดเคร่ืองปรับอากาศก็จะมีการเปิด
ไฟทส่ี ว่างเพยี งพอเหามะแกการเรยี นของนักเรียน

๔. ป้ายนิเทศ/มมุ วชิ าการ
ป้ายนิเทศน้ันมีอยู่ในส่วนของการจัดตกแต่งห้องเรียนท่ีเป็นภาพและป้ายต่างๆที่ถูก

ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ส่วนมุมวิชาการจะอยู่ด้านหน้าโต๊ะครูประจาช้ันประกอบด้วยหนังสือเรียน
แบบการ์ตนู มากมายทไ่ี วใ้ หผ้ ูเ้ รยี นไดอ้ ่านในเวลาว่าง

๕. การจัดตกแต่งหอ้ ง
การจัดตกแต่งห้องบริเวณผนังด้านข้างของห้องเรียนดูดีมาก มีการออกแบบป้าย

ข้อความต่างๆได้น่าสนใจ สีสันสวยงาม ขนาดตัวหนังสือเหมาะสมและครบถ้วนในเร่ืองของความรู้
รอบตวั ท่นี กั เรยี นจะได้ศกึ ษาเพื่อนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน

๖. มุมผลงานนักเรียน
ผลงานนักเรียนจะถูกติดอยู่ท่ีบริเวณประตูห้องเรียนซ่ึงสามารถติดได้หลากหลาย

ชิน้ งานและเม่ือเปดิ ประตูออกก็จะมองเหน็ จากดา้ นนอก

ลงชอ่ื ____________________
(นายจรณชัย ศรีประดษิ ฐ)
ผู้สังเกต

ตอนที่ ๔ การศึกษารายกรณี

แบบรายงานผลการศึกษารายกรณี

ชื่อ-สกลุ นกั เรียน : เดก็ ชาย ก (นามสมมต)ิ
ชนั้ : ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔
โรงเรียน : เพชรผดงุ เวียงไชย
ชือ่ ครปู ระจาชัน้ : คณุ ครรู ชั นก สงั ขง์ าม

ด้านที่ ๑ สภาพปญั หาของนกั เรยี น

จากการที่ได้ไปสังเกตกจิ กรรมการเรียนการสอนในชั้นเรยี นระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๔
ทาให้พบพฤติกรรมท่ีน่าสนใจอยู่หลายประเด็นแต่ประเด็นน้ีที่เป็นพฤติกรรมของเด็กชาย ก (นาม
สมมติ) เปน็ ประเด็นทน่ี ่าสนใจในการศึกษาผ้เู รยี นรายกรณีทสี่ ุดซึง่ มีพฤติกรรมดังนี้

๑. ในทกุ คาบทไี่ ด้สังเกตเด็กชาย ก (นามสมมติ) จะลุกขึน้ เดินไปมาภายในห้องเรียนในขณะท่ีครู
กาลังสอนอยู่หรือเพื่อนๆกาลังทากิจกรรมอยู่ ซึ่งเขาจะเดินไปเรื่อยๆเมื่อเขาจะนั่งก็นั่งเองแต่น่ังได้สัก
พักก็จะลุกขึ้นเดนิ อกี

๒. เด็กชาย ก (นามสมมติ) ชอบเคาะโตะ๊ เสียงดังขณะทเี่ พ่ือนกาลงั ทากิจกรรมครูห้ามก็ไมฟ่ ังจน
เมื่อเขาพอใจท่ีจะหยดุ เขากจ็ ะหยุดเอง

๓. เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ ทางานชา้ มากแตพ่ อสงั เกตไปหลายๆครั้งกป็ รากฏวา่ ถ้างานในที่ชอบ
กจ็ ะทาดีแต่ถา้ ไม่ชอบก็จะไม่ทา เช่น เม่ือให้สร้างวงกลมทม่ี ีรัศมีตามท่ีกาหนดเขาก็จะไม่ทาแต่พอวาด
วงกลมได้แล้วเขาชอบท่จี ะลากเส้นผ่านศนู ยก์ ลางหลายๆเส้นจนเต็มรูป

๔. ปา้ ยประกาศหนา้ โรงเรียนมีชื่อเด็กชาย ก (นามสมมติ) ได้รับรางวลั เหรียญทองแดง โครงการ
SEAMO ระดบั เอเชีย ที่ประเทศสิงคโปร์ รายวชิ า คณิตศาสตร์

๕. ครแู ละเพื่อนๆจะเตือนเขาอยตู่ ลอดเวลาจนดูเหมือนจะเปน็ เรื่องปกติ
๖. จากสังเกตการท่ีได้สอนของนักเรียนอีกห้องสังเกตเห็นน้องของเด็กชาย ก (นามสมมติ) ที่มี
พฤตกิ รรมทค่ี ล้ายๆกนั

ด้านท่ี ๒ จดุ ประสงคใ์ นการศกึ ษา

๑. เพ่ือทาความเข้าใจนักเรียนอย่างละเอียดลึกซึ้งเก่ียวกับพฤติกรรมที่แสดงออกมา สาเหตุของ
พฤติกรรมซ่ึงอาจจะมีผลมาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ท้ังในอดีตหรือท่เี กิดข้ึนในปจั จบุ ัน

๒. เพ่อื การวนิ ิจฉัยในอนั จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการชว่ ยเหลือนักเรียนทงั้ ทางด้านการป้องกันปญั หา
ทอ่ี าจจะเกิดขึ้นการหาทางแก้ไขปัญหาทกี่ าลังจะเกดิ ข้ึนและการช่วยส่งเสริมและพัฒนาความสามารถ
ตา่ งๆ ใหแ้ กน่ กั เรยี น

๓. เพ่ือสืบค้นหานักเรียนที่มีลักษณะพิเศษบางประการ เพ่ือที่ทางโรงเรียนจะได้ให้การส่งเสริม
พัฒนาไดอ้ ย่างเหมาะสม

ด้า๑น.ท่ี ป๓รสะวภตัาสิพ่วทนั่วตไปวั แเกลี่ยะวคกรับอนบักคเรรัวยี น
๑.๑ ขอ้ มลู นักเรยี น
ชื่อ-สกลุ นกั เรยี น : เดก็ ชาย ก (นามสมมติ)
วนั เดือน ปี ท่ีเกดิ : ๐๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๒
ท่อี ยปู่ ัจจุบนั : ม.๑ ตาบลเวยี ง อาเภอไชยา จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี
๑.๒ ขอ้ มูลบิดา
ชื่อบดิ า : นาย ข (นามสมมต)ิ
อายุ : ๔๔ ปี
สถานภาพ  ยงั มชี วี ิตอยู่  เสยี ชวี ิต
อาชพี : รบั ราชการ
รายได้ต่อเดือน : ๕๐,๐๐๐ บาท
๑.๒ ข้อมลู มารดา
ชอื่ มารดา : นาง ค (นามสมมต)ิ
อายุ : ๔๒ ปี
สถานภาพ  ยงั มชี ีวิตอยู่  เสียชวี ติ
อาชพี : รบั ราชการ
รายได้ตอ่ เดอื น : ๓๐,๐๐๐ บาท

สถานภาพของบิดาและมารดา  อยูด่ ว้ ยกัน  หยา่ รา้ ง  แยกกนั อยู่
๑.๓ ขอ้ มลู ผ้ปู กครอง
ช่อื ผปู้ กครอง : นาง ค (นามสมมต)ิ
อายุ : ๔๒ ปี
อาชพี : รบั ราชการ

ทอ่ี ยูป่ ัจจุบนั : ม.๑ ตาบลเวียง อาเภอไชยา จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

นักเรยี นมพี น่ี ้องร่วมบดิ า - มารดาเดยี วกนั จานวน ๒ คน (รวมทงั้ ตัวนกั เรยี นด้วย)

คนที่ เพศ อายุ ประกอบอาชพี การศกึ ษา/กาลงั ศกึ ษา หมายเหตุ

๑ ชาย ๙ - นักเรียน เดก็ ชาย ก (นามสมมติ)

๒ หญงิ ๘ - นกั เรียน

๒. ประวตั กิ ารศึกษาและผลการศกึ ษา
ระดบั อนบุ าล : โรงเรยี นอนุบาลเพชรผดุงเวียงไชย
ระดบั ประถมศึกษา : โรงเรียนเพชรผดุงเวยี งไชย
ผลการศึกษา
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ผลการศึกษาเฉลีย่ ๖๙.๙๐
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ผลการศึกษาเฉลี่ย ๖๖.๑๐
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ผลการศกึ ษาเฉล่ยี ๗๐.๑๐
รางวลั ทภ่ี าคภมู ใิ จ
รางวลั : เหรยี ญทองแดง
โครงการ : SEAMO การแขง่ ขนั คณติ ศาสตร์ ระดับเอเชีย

๓. ประวัตสิ ุขภาพ
เด็กชาย ก (นามสมมติ) มีโรคประจาตัวคือ โรคภูมิแพ้ ( แพ้นมวัว แป้งฝุ่นและฝุ่น

ละออง )
๔. สภาพครอบครวั ความเป็นอยแู่ ละฐานะทางเศรษฐกจิ
จากการท่ีได้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและครอบครัวของเด็กชาย ก (นามสมมติ) ทาให้

สรปุ ได้ว่า ครบครวั ของเด็กชาย ก (นามสมมต)ิ พ่อและแม่รับราชการท้งั ๒ คนโดยมีรายไดเ้ ฉล่ียเดือน
ละ ๘๐,๐๐๐ บาทซึ่งถือมีฐานะคอ่ นข้างดอี ีกอยา่ งสังเกตได้จากอุปกรณ์การเรียนของเด็กชาย ก (นาม
สมมต)ิ ส่วนใหญ่จะเปน็ ของทมี่ ีย่ีห้อและทันสมัยสาหรบั เด็กในวยั เดียวกัน

๕. ทศั นคติของบุคคลรอบข้างท่มี ีต่อนกั เรียน
 ครูทีป่ ระจาช้ัน

o ลกั ษณะทางร่างกาย
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีมีรูปร่างอวบ ผิวเข้ม การแต่งกาย

สะอาดเรียบรอ้ ย และเปน็ คนทพ่ี ูดจาไพเราะ

o ลกั ษณะอารมณ์
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่มีอารมณ์ร่าเริง แต่บางครั้งถ้ามี

เหตกุ ารณ์ท่ีส่งผลกระทบตอ่ จติ ใจ กจ็ ะทาใหค้ วบคมุ อารมณ์คอ่ นข้างยาก
o ลักษณะทางสติปญั ญา
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีเรียนเก่งในรายวิชาคณิตศาสตร์และ

สามารถเลน่ ดนตรีได้
o ลกั ษณะทางสงั คม
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีสามารถอยู่กับเพ่ือนๆได้ดี
o พฤตกิ รรมท่ีควรปรับปรงุ แก้ไข
เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ มีพฤติกรรมทีค่ วรปรับปรุง แกไ้ ข ดงั นี้
- ชอบเดนิ ในขณะท่กี ิจกรรมการเรยี นการสอน
- เปน็ คนท่ีทางานชา้

 ครูท่านอ่ืนๆ
o ลักษณะทางรา่ งกาย
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนทมี่ ีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์แต่ไม่ถึงกับ

อว้ นมาก มสี ่วนสูงพอดีสมกับวยั หน้าตาสะอาดสะอา้ น ยิ้มแย้มแจ่มใสบางคร้ังอาจเงียบขรึม การแต่ง
กายเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน กิริยาท่าทางถ้ามองผ่านๆก็เหมือนกับเด็กปกติแต่ถ้าอยู่กับเขาบ่อยครั้ง
เขากม็ กั จะแสดงอาการก้าวร้าวหรอื เซ่อื งซมึ เม่ือไม่พอใจหรือมีอะไรกระทบจิตใจ

o ลักษณะอารมณ์
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่มีอารมณ์สดช่ืน ร่าเริงเมื่อเขารู้สึก

สบายใจและมีคนเอาใจอยู่ตลอดเวลา มีสมาธิสั้น เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจก็จะแสดงอาการก้าวร้าว
ซ่ึงเขาจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แต่ไม่ใช่ว่าจะก้าวร้าวข้ันรุนแรงมากนัก ซ่ึงเขาจะใช้เวลา
อย่กู บั ตวั เองสักพักก็จะดขี ้นึ ในบางคร้ังถึงขั้นว่าถ้าเขาคิดได้เขาทาอะไรโดนใครเขากจ็ ะมาถามว่า “เม่ือ
ก้ีผมปาของใส่เธอใชไ่ หม เจ็บหรือไม่” เป็นตน้

o ลักษณะทางสตปิ ญั ญา
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนทีช่ อบทาอะไรตามที่ตนชอบ ตนคิดอยู่

ว่าจะทาอะไร ไม่ชอบอะไรท่ีเป็นวิชาการหรือเป็นลาดับข้ันตอน เป็นคนที่คิดเลขเกก่งจนได้รับรางวัล
ระดบั อาเซียนในรายการคิดเลขเร็วและยังสามารถเล่นดนตรไี ด้

o ลักษณะทางสังคม
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยสนิทกับใคร

ส่วนใหญ่จะสนิทกบั ครูเมื่อสนิทกบั ใครแลว้ ก็จะมาหาอยบู่ ่อยครั้งแตใ่ นหลายครัง้ เขาก็พยายามปรับตัว

ให้เข้ากับเพื่อน แต่วิธีการปรับตัวของเขาเป็นวิธีท่ีผิดคือ เหมือนเขายังเข้าใจอะไรบางอย่างในการ
ปรบั ตวั ทผี่ ดิ

o พฤติกรรมทค่ี วรปรบั ปรงุ แกไ้ ข
เด็กชาย ก (นามสมมติ) มพี ฤติกรรมทคี่ วรปรบั ปรงุ แก้ไข ดังน้ี
- ไมช่ อบทากจิ กรรมการเรียนการสอนไปพร้อมกบั เพื่อนคนอน่ื ๆ
- การปรับตัวเขา้ กับสังคม
- นสิ ยั ทเี่ ห็นตนเองสาคัญกวา่ ผูอ้ นื่

 เพ่อื นนักเรียน
o ลกั ษณะทางรา่ งกาย
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่มีรูปร่างอวบ สมบูรณ์ หน้าตาสดใส

สะอาด สะอ้าน การแต่งกายเรยี บรอ้ ย กริ ยิ าวาจาบางครัง้ ก้าวร้าวเกินไปซึ่งควรปรับปรุง
o ลกั ษณะอารมณ์
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีมีอารมณ์สดชื่น ร่าเริง แต่เมื่อมีอะไร

ท่ีขัดใจหรือเข้ามาทาให้เขารู้สึกโกรธและชอบอยู่คนเดียวซึ่งเขาจะลุกขึ้นเดินไปไหนมาไหนตามที่ใจ
ต้องการโดยไม่สนใจว่าขณะนัน้ ตนกาลงั ทาอะไรอยูจ่ นต้องมคี นคอยเตือนอยู่ตลอดเวลา

o ลักษณะทางสติปญั ญา
เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่เี รียนคณติ ศาสตรเ์ ก่งและคิด
เลขเรว็ มากจนไดร้ างวัลระดับเอเชีย และอีกอยา่ งทีส่ าคญั เขาสามารถเล่นดนตรีได้

o ลักษณะทางสงั คม
เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) ชอบอย่คู นเดียว ชอบทาอะไรคนเดียว เวลาคิด

อะไรก็จะเดินไปเร่ือยๆโดยไม่สนใจใครและอีกอย่างคือไม่ชอบปรับตัวเข้ากับเพ่ือนๆเม่ือเวลาต้องง
ทางานรว่ มกบั เพ่ือนกจ็ ะตอ้ งให้ครจู ดั ให้อยู่บ่อยครง้ั

o พฤติกรรมที่ควรปรบั ปรุง แกไ้ ข
เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ มีพฤติกรรมทค่ี วรปรบั ปรุง แกไ้ ข ดังนี้
- การปรบั ตัวเข้ากบั เพือ่ นๆ
- กริ ยิ าการแสดงออก
- การท่ีมีสมาธสิ ั้น

๖. บคุ ลิกภาพทวั่ ไปของนกั เรยี น
 ลักษณะทางร่างกาย
รปู รา่ ง หน้าตา : เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ เป็นคนทมี่ ีรปู ร่างอวบ ผวิ เข้ม
การแตง่ กาย : การแตง่ กายดูดี เรยี บรอ้ ย

กิริยาวาจา : เป็นคนที่พูดจาสุภาพกับผู้ใหญ่แต่กับเพื่อนๆในบางคร้ังก็จะ
ขน้ึ เสียงบา้ ง บางคร้งั ก็จะไม่พูดกับเพ่ือนๆ

 ลกั ษณะทางอารมณ์
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีอยู่กับอารมณ์ของตัวเองคือคิดจะเดินไป

ไหนก็จะเดิน คิดจะทาอะไรก็จะทาแต่สักพักเขาจะมาขอโทษเองถ้าเขาทาผิดโดยไม่ต้องมีใครใช้หรือ
บงั คับ เป็นแบบนี้อยู่ทุกๆคร้ัง บางคร้ังถ้าไม่พอใจอะไรก็จะเงียบขรึมไปเลยแต่บางครั้งถ้าอารมณ์หรือ
ถูกใจอะไรกจ็ ะหัวเราะเสียงดงั ติดๆกนั

 ลักษณะทางสตปิ ัญญา
เด็กชาย ก (นามสมมติ) จะมีความสามารถพิเศษในด้านวิชา คณิตศาสตร์

มากกวา่ วิชาอ่ืนๆ โดยเขาจะไมช่ อบวิชาประวตั ิศาสตร์ สงั คมศกึ ษาและภาษาไทย ซึ่งสังเกตไดจ้ ากการ
สมั ภาษณแ์ ละดูผลการเรียน อกี อยา่ งทส่ี าคญั คอื เขาสามารถเลน่ ดนตรีได้ด้วย

 ลักษณะทางสังคม
เด็กชาย ก (นามสมมติ) โดยส่วนใหญ่แล้วจะชอบอยู่คนเดียวแต่เม่ือมี

กจิ กรรมกลุม่ ก็จะช่วยเพอื่ นทาซง่ึ เพื่อนๆกจ็ ะเข้าใจถงึ พฤติกรรมของเขาเป็นอยา่ งดีเพื่อนจะช่วยเขาให้
ทากจิ กรรมอยตู่ ลอดส่วนกบั ครูนั้นเขาจะชอบถามอยู่ตลอดเวลาเม่อื เขาสงสยั อะไรกจ็ ะถามทุกครั้ง

๗. พฤตกิ รรมทีค่ วรปรบั ปรงุ แกไ้ ข
๗.๑ การท่ีคิดจะทาอะไรก็จะทาเช่น การเคาะโต๊ะ เอาของปาใสเ่ พือ่ น เดินไปเดนิ มา

ตะโกนเสยี งดัง เปน็ ต้น
๗.๒ การทีช่ อบอยคู่ นเดยี ว ชอบทาอะไรคนเดยี ว

ด้านที่ ๔ การรวบรวมขอ้ มูลไดร้ วบรวมขอ้ มลู จากวธิ กี ารต่อไปน้ี

๑. สมั ภาษณ์เด็กชาย ก (นามสมมติ) จานวน ๓ ประเด็น

ประเดน็ ท่ี ๑ คือ สารวจสภาพปัญหาการเรยี นของนักเรยี น

ประเด็นที่ ๒ คอื สารวจสภาพปญั หาครอบครวั ของนักเรยี น

ประเด็นท่ี ๓ คือ สารวจสภาพปัญหาทางสงั คมของนกั เรยี น

๒. สมั ภาษณค์ ณุ ครปู ระจาชัน้ จานวน ๑ คน

คณุ ครรู ัชนก สังขง์ าม ครูประจาชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๔

๓. สัมภาษณค์ ณุ ครผู ูส้ อน จานวน ๒ คน

คุณครูมาลัยทพิ ย์ คนซอ่ื ครผู ู้สอนรายวชิ า คณติ ศาสตร์

คุณครูกนกวรรณ ภมู ิภูถาวร ครผู สู้ อนรายวชิ า วิทยาศาสตร์

๔. สมั ภาษณ์เพือ่ นรว่ มช้นั เรียน จานวน ๕ คน

เด็กชาย ข นามสมมติ เพื่อรว่ มชั้นเรียน

เด็กชาย ค นามสมมติ เพ่ือรว่ มชัน้ เรียน

เดก็ หญิง ง นามสมมติ เพอ่ื ร่วมช้ันเรียน

เด็กหญิง จ นามสมมติ เพ่อื ร่วมชน้ั เรยี น

เดก็ หญงิ ช นามสมมติ เพอ่ื ร่วมชน้ั เรียน

๕. สัมภาษณบ์ ุคคลในครอบครวั จานวน ๑ คน

เด็กหญิง ง (นามสมมต)ิ น้องสาวของเดก็ ชาย ก (นาสมมติ)

๖. สังเกตพฤติกรรมการเรียน จานวน ๘ ครงั้

การสังเกตกิจกรรมการเรยี นกรสอนครง้ั ท่ี ๑ รายวชิ า คณติ ศาสตร์

การสงั เกตกิจกรรมการเรียนกรสอนคร้ังที่ ๗ รายวชิ า คณิตศาสตร์

การสงั เกตกจิ กรรมการเรยี นกรสอนครง้ั ท่ี ๑๑ รายวชิ า คณิตศาสตร์

การสงั เกตกิจกรรมการเรยี นกรสอนคร้ังที่ ๑๗ รายวชิ า คณติ ศาสตร์

การสงั เกตกิจกรรมการเรยี นกรสอนครง้ั ที่ ๑๘ รายวชิ า คณิตศาสตร์

การสงั เกตกิจกรรมการเรยี นกรสอนคร้ังที่ ๑๙ รายวิชา คณติ ศาสตร์

การสงั เกตกจิ กรรมการเรยี นกรสอนครง้ั ที่ ๒๐ รายวชิ า คณิตศาสตร์

การสังเกตกจิ กรรมการเรียนกรสอนครั้งที่ ๒๑ รายวิชา คณติ ศาสตร์

ตวั อยา่ งแบบสัมภาษณบ์ ุคคลรอบข้างของเดก็ ชาย ก (นามสมมติ)
และ

ตัวอยา่ งแบบสัมภาษณ์เด็กชาย ก (นามสมมติ)

แบบสารวจสภาพปัญหาการเรยี นของนกั เรียน
คาชี้แจง ให้นกั เรยี นกรอกข้อมูลใหค้ รบทุกข้อตามความเป็นจรงิ โดยจะไมส่ ง่ ผลตอ่ คะแนนหรือผล
การเรยี นของนักเรียน

ชอื่ เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔/๔

คา่ ระดับความคดิ เห็น : เหน็ ดว้ ยมาก = ๔, เห็นด้วยปานกลาง = ๓, เหน็ ด้วยนอ้ ย = ๒, ไมเ่ หน็ ด้วย = ๑

ขอ้ รายการ เหน็ ดว้ ย เห็นด้วย เหน็ ด้วย ไมเ่ หน็
มาก ปานกลาง น้อย ด้วย

๑ ข้าพเจ้าไมค่ ่อยมีสมาธขิ ณะฟงั ครู

๒ ข้าพเจ้ามกั ง่วงนอนในเวลาเรยี น

๓ ข้าพเจ้าไมช่ อบเรยี นในหลายวิชา

๔ ขา้ พเจ้ารสู้ ึกว่าครใู หก้ ารบา้ นมากเกินไป

๕ ข้าพเจา้ ต้องการใหค้ รเู ขา้ ใจและเอาใจใสข่ า้ พเจา้

๖ ขา้ พเจา้ ตอ้ งการความช่วยเหลือจากครูเป็นพิเศษ

๗ เพื่อนขา้ พเจา้ ชอบลอ้ เลยี นวา่ เรยี นไม่ดเี ท่าเขา

๘ ขา้ พเจ้าอยากลาออกจากโรงเรยี น

๙ ขา้ พเจา้ อยากเรยี นวิชาท่ีไม่ต้องใช้ความคิดมากๆ

๑๐ ขา้ พเจ้าอยากอ่านหนงั สอื ใหเ้ กง่ กวา่ นี้

๑๑ ครชู อบดขุ า้ พเจา้ เพราะข้าพเจา้ เรยี นไม่เกง่

๑๒ ข้าพเจา้ ตอ้ งการคาแนะนาวิธีเรยี นหนงั สอื ใหด้ ี

๑๓ ข้าพเจา้ อยากแสดงออกให้เพือ่ นและครเู หน็ ว่า

ข้าพเจ้ามคี วามสามารถ

๑๔ ขา้ พเจา้ ร้สู กึ ว่าเรยี นหนงั สอื แล้วมคี วามสขุ

๑๕ ขา้ พเจา้ รู้สกึ วา่ ครสู อนหนงั สือสนุก

รวม

แบบสารวจสภาพปญั หาครอบครัวของนักเรยี น
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนกรอกข้อมลู ใหค้ รบทุกข้อตามความเป็นจริง โดยจะไม่สง่ ผลต่อคะแนนของ
นักเรยี น

ชื่อ เดก็ ชาย ก (นามสมมต)ิ ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔

ค่าระดับความคดิ เห็น : เห็นดว้ ยมาก = ๔, เห็นด้วยปานกลาง = ๓, เห็นด้วยน้อย = ๒, ไม่เหน็ ด้วย = ๑

ขอ้ รายการ เหน็ ด้วย เห็นด้วย เหน็ ด้วย ไม่
มาก ปานกลาง นอ้ ย เหน็ ดว้ ย

๑ ขา้ พเจา้ อยากมที ีเ่ งยี บๆอ่านหนังสอื บ้าง

๒ ขา้ พเจ้าอยากมีทีอ่ ยู่เปน็ สดั ส่วนของขา้ พเจา้

๓ ขา้ พเจ้าเอาอย่างเพือ่ นไม่ได้เพราะข้าพเจา้ ไมม่ เี งนิ

๔ พ่อและแมจ่ จู้ ใี้ นเรอ่ื งส่วนตวั ของขา้ พเจ้า

๕ พ่อและแมไ่ มช่ อบเพอ่ื นของข้าพเจ้า

๖ พอ่ และแม่รักลกู ลาเอยี ง

๗ พอ่ และแมไ่ มส่ นใจขา้ พเจ้า

๘ พอ่ และแม่ชอบบ่นว่าขา้ พเจ้าเร่ืองการเรยี น

๙ ขา้ พเจา้ เบือ่ บา้ น

๑๐ ข้าพเจา้ ไดเ้ งินนอ้ ยมาก

๑๑ พอ่ แม่ไม่ค่อยฟงั ความคดิ เหน็ ของขา้ พเจา้

๑๒ ข้าพเจา้ ไมก่ ล้าขอความคดิ เหน็ จากพอ่ แม่

๑๓ พ่อแมเ่ ข้มงวดเกินไป

๑๔ พ่อแมไ่ ม่ใหก้ าลังใจข้าพเจ้าเลย

๑๕ ขา้ พเจา้ อยากใหบ้ า้ นนา่ อยู่กว่าน้ี

๑๖ ข้าพเจ้ารสู้ ึกว่าตัวเองไมใ่ ชล่ กู ของพ่อแม่

๑๗ ขา้ พเจ้าไมส่ ามารถปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกใจพอ่ แมไ่ ด้

๑๘ ขา้ พเจ้าไม่กล้าบอกพ่อแม่เม่อื ขา้ พเจ้าทาผดิ

รวม

แบบสารวจสภาพปญั หาทางสังคมของนกั เรียน
คาชแี้ จง ให้นักเรียนกรอกข้อมูลใหค้ รบทุกข้อตามความเป็นจริง โดยจะไมส่ ง่ ผลตอ่ คะแนนของ
นกั เรียน

ชอ่ื เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔

คา่ ระดบั ความคดิ เห็น : เห็นด้วยมาก = ๔, เหน็ ดว้ ยปานกลาง = ๓, เห็นด้วยน้อย = ๒, ไม่เห็นด้วย = ๑

ข้อ รายการ เห็นด้วย เหน็ ด้วย เหน็ ดว้ ย ไม่
มาก ปานกลาง น้อย เห็นดว้ ย

๑ ขา้ พเจา้ อยากให้ใครๆชอบข้าพเจา้

๒ ขา้ พเจ้าอยากคยุ ให้ถกู ใจคน

๓ ขา้ พเจา้ ไมส่ บายเวลาไปงานสังคม

๔ ข้าพเจ้าไดเ้ พอื่ นใหม่

๕ ขา้ พเจ้าอยากให้ตนเองมคี วามมั่นใจมากข้นึ

๖ ข้าพเจ้าพดู ต่อหนา้ คนมากๆ ไมเ่ ปน็

๗ ความเห็นของขา้ พเจ้ามกั จะขัดแยง้ กบั เพอ่ื นๆ เสมอ

๘ ข้าพเจ้าอยากเปน็ ผฟู้ ังท่ดี ี

๙ ข้าพเจา้ อยากเขา้ กับเพือ่ นรุ่นเดยี วกนั ได้

๑๐ ข้าพเจ้าไมค่ ่อยมีเรอ่ื งคุยเมอื่ อยู่ในกลุม่ เพอ่ื น

๑๑ ขา้ พเจ้ารู้สกึ งุม่ ง่ามเม่ือต้องรับประทานอาหารในงานเลี้ยง

๑๒ ขา้ พเจ้าอยากเรยี นรูว้ ิธีเป็นผูน้ า

๑๓ ข้าพเจ้าวางตัวไมถ่ ูกเมือ่ อยู่ในหมเู่ พ่อื น

๑๔ ขา้ พเจา้ ปฏิเสธเพือ่ นไมเ่ ป็นไม่ต้องการทาตามเขา

๑๕ เพอื่ นๆ ไม่ใหข้ า้ พเจา้ เข้าร่วมกลมุ่ บ่อยๆ

รวม

แบบสอบสัมภาษณ์ทศั นคตขิ องครทู ี่มตี อ่ เดก็ ชาย ก (นามสมมติ)

สัมภาษณ์เมื่อวนั ที่_____เดือน______________พ.ศ.______

เวลา______-______น. สถานท_่ี _________________

1. ลกั ษณะทางรา่ งกาย (รูปรา่ ง หน้าตา การแต่งกาย กริ ยิ าวาจา ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
2. ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณส์ ดช่นื ร่าเรงิ เงยี บขรมึ การควบคมุ อารมณ์ ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
3. ลกั ษณะทางสตปิ ัญญา (ความสามารถดา้ นการเรยี น ความสามารถพเิ ศษ ความถนดั )
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
4. ลกั ษณะทางสงั คม (การปรับตัวเขา้ กับเพื่อน ครู สงั คมในห้องเรียน และโรงเรยี น)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

5. พฤติกรรมท่ีควรปรับปรงุ แก้ไข
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

ลงชื่อ_______________________ผูใ้ ห้ขอ้ มูล
(_________________________)

วนั ท่ี____เดือน_____________พ.ศ.______

แบบสอบสัมภาษณ์ทัศนคติของเพือ่ นที่มตี ่อ เดก็ ชาย ก (นามสมมต)ิ

สมั ภาษณ์เม่ือวนั ท่ี_____เดือน______________พ.ศ.______

เวลา______-______น. สถานท_ี่ _________________

1. ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หนา้ ตา การแตง่ กาย กริ ิยาวาจา ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
2. ลกั ษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณส์ ดช่ืน รา่ เริง เงยี บขรมึ การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
3. ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพเิ ศษ ความถนัด)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
4. ลกั ษณะทางสังคม (การปรบั ตัวเข้ากับเพ่ือน ครู สงั คมในห้องเรียน และโรงเรยี น)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

5. พฤติกรรมท่ีควรปรับปรงุ แก้ไข
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

ลงชื่อ_______________________ผูใ้ ห้ขอ้ มูล
(_________________________)

วนั ท่ี____เดือน_____________พ.ศ.______

แบบสอบสัมภาษณ์ทัศนคตขิ องบุคคลในครอบครัวที่มีต่อ เด็กชาย ก (นามสมมติ)

สัมภาษณ์เมื่อวนั ท่ี_____เดอื น______________พ.ศ.______

เวลา______-______น. สถานท_ี่ _________________

1. ลกั ษณะทางรา่ งกาย (รปู ร่าง หน้าตา การแต่งกาย กริ ิยาวาจา ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
2. ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณส์ ดชื่น รา่ เริง เงียบขรมึ การควบคมุ อารมณ์ ฯลฯ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
3. ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถดา้ นการเรยี น ความสามารถพิเศษ ความถนดั )
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
4. ลักษณะทางสังคม (การปรบั ตัวเข้ากับเพ่ือน ครู สงั คมในห้องเรยี น และโรงเรียน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

5. พฤติกรรมท่ีควรปรับปรงุ แก้ไข
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

ลงชื่อ_______________________ผูใ้ ห้ขอ้ มูล
(_________________________)

วนั ท่ี____เดอื น_____________พ.ศ.______

สรปุ ผลแบบสัมภาษณบ์ ุคคลรอบข้างของเด็กชาย ก (นามสมมติ)
และ

สรุปผลแบบสัมภาษณ์เด็กชาย ก (นามสมมติ)

สรุปแบบสารวจสภาพปัญหาการเรยี นของนักเรียน

เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) ชั้น ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๔

๑. ข้าพเจ้าไม่คอ่ ยมีสมาธิขณะฟังครู อยใู่ นระดับ ไม่เหน็ ดว้ ย

๒. ข้าพเจา้ มกั ง่วงนอนในเวลาเรียน อยใู่ นระดบั ไม่เหน็ ด้วย

๓. ข้าพเจา้ ไม่ชอบเรยี นในหลายวชิ า อยใู่ นระดบั ไม่เห็นดว้ ย

๔. ขา้ พเจ้ารู้สกึ ว่าครูให้การบ้านมากเกนิ ไป อยู่ในระดับ ไมเ่ ห็นดว้ ย

๕. ขา้ พเจา้ ต้องการใหค้ รูเขา้ ใจและเอาใจใส่ขา้ พเจา้ อยู่ในระดบั เหน็ ด้วยนอ้ ย

๖. ข้าพเจา้ ต้องการความช่วยเหลือจากครูเปน็ พเิ ศษ อยู่ในระดบั เห็นดว้ ยนอ้ ย

๗. เพอ่ื นขา้ พเจ้าชอบล้อเลียนวา่ เรียนไมด่ ีเท่าเขา อยู่ในระดบั ไม่เหน็ ด้วย

๘. ข้าพเจา้ อยากลาออกจากโรงเรียน อยใู่ นระดบั ไมเ่ ห็นด้วย

๙. ขา้ พเจา้ อยากเรยี นวิชาท่ไี ม่ต้องใช้ความคดิ มากๆ อยู่ในระดับ เห็นด้วยนอ้ ย

๑๐.ข้าพเจ้าอยากอา่ นหนงั สือให้เกง่ กว่านี้ อยู่ในระดับ เหน็ ดว้ ยมาก

๑๑.ครูชอบดขุ ้าพเจ้าเพราะขา้ พเจ้าเรียนไมเ่ ก่ง อยู่ในระดับ ไมเ่ ห็นด้วย

๑๒.ข้าพเจา้ ต้องการคาแนะนาวธิ ีเรยี นหนังสอื ใหด้ ี อยใู่ นระดบั เห็นด้วยนอ้ ย

๑๓.ข้าพเจา้ อยากแสดงออกใหเ้ พ่ือนและครูเห็นวา่ มีความสามารถอยใู่ นระดับ เห็นด้วยปานกลาง

๑๔.ขา้ พเจ้าร้สู กึ ว่าเรียนหนังสือแลว้ มคี วามสุข อยู่ในระดบั เหน็ ดว้ ยมาก

๑๕.ข้าพเจา้ รู้สึกว่าครูสอนหนังสือสนกุ อยู่ในระดับ เหน็ ดว้ ยมาก

สรุปแบบสารวจสภาพปัญหาครอบครัวของนกั เรยี น

เดก็ ชาย ก (นามสมมต)ิ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔/๔

๑. ข้าพเจา้ อยากมีทเี่ งียบๆอา่ นหนงั สือบา้ ง อยใู่ นระดบั เหน็ ดว้ ยมาก

๒. ข้าพเจา้ อยากมีท่ีอยเู่ ป็นสดั สว่ นของข้าพเจา้ อยู่ในระดับ เหน็ ด้วยปานกลาง

๓. ข้าพเจ้าเอาอย่างเพอื่ นไม่ไดเ้ พราะขา้ พเจ้าไม่มเี งิน อยใู่ นระดบั ไม่เห็นด้วย

๔. พอ่ และแมจ่ จู้ ้ีในเรื่องสว่ นตวั ของข้าพเจ้า อยใู่ นระดับ ไม่เหน็ ด้วย

๕. พ่อและแม่ไม่ชอบเพื่อนของข้าพเจ้า อยู่ในระดับ ไมเ่ ห็นด้วย

๖. พ่อและแมร่ ักลูกลาเอียง อยใู่ นระดับ เห็นดว้ ยน้อย

๗. พอ่ และแม่ไม่สนใจข้าพเจา้ อยใู่ นระดบั ไมเ่ หน็ ดว้ ย

๘. พอ่ และแม่ชอบบน่ ว่าขา้ พเจ้าเรือ่ งการเรยี น อยใู่ นระดับ ไมเ่ หน็ ด้วย

๙. ขา้ พเจา้ เบื่อบา้ น อยูใ่ นระดับ ไม่เห็นด้วย

๑๐.ขา้ พเจ้าได้เงินน้อยมาก อยู่ในระดับ ไม่เห็นด้วย

๑๑.พ่อแม่ไม่ค่อยฟงั ความคิดเหน็ ของขา้ พเจ้า อยู่ในระดับ ไม่เห็นด้วย

๑๒.ข้าพเจา้ ไม่กลา้ ขอความคดิ เห็นจากพ่อแม่ อยใู่ นระดบั ไมเ่ ห็นดว้ ย
๑๓.พ่อแม่เข้มงวดเกินไป อยใู่ นระดับ ไมเ่ หน็ ด้วย
๑๔.พอ่ แมไ่ ม่ให้กาลงั ใจข้าพเจา้ เลย อยู่ในระดับ ไม่เห็นด้วย
๑๕.ข้าพเจ้าอยากให้บา้ นนา่ อยกู่ ว่านี้ อยใู่ นระดบั เหน็ ด้วยมาก
๑๖.ข้าพเจา้ รู้สกึ วา่ ตัวเองไมใ่ ชล่ กู ของพอ่ แม่ อยใู่ นระดบั ไมเ่ ห็นดว้ ย
๑๗.ขา้ พเจา้ ไมส่ ามารถปฏบิ ัติให้ถูกใจพ่อแม่ได้ อยใู่ นระดบั ไมเ่ หน็ ด้วย
๑๘.ขา้ พเจา้ ไม่กลา้ บอกพ่อแมเ่ ม่ือขา้ พเจา้ ทาผิด อยู่ในระดับ ไมเ่ หน็ ด้วย

สรุปแบบสารวจสภาพปัญหาทางสงั คมของนกั เรยี น

เด็กชาย ก (นามสมมติ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔/๔

๑. ข้าพเจา้ อยากให้ใครๆชอบขา้ พเจา้ อยู่ในระดบั เหน็ ด้วยมาก

๒. ข้าพเจ้าอยากคุยให้ถูกใจคน อยใู่ นระดับ เหน็ ด้วยมาก

๓. ข้าพเจ้าไมส่ บายเวลาไปงานสังคม อยู่ในระดับ ไมเ่ หน็ ดว้ ย

๔. ข้าพเจ้าไดเ้ พือ่ นใหม่ อยู่ในระดบั ไม่เห็นดว้ ย

๕. ขา้ พเจ้าอยากใหต้ นเองมคี วามมนั่ ใจมากข้นึ อยู่ในระดับ เห็นดว้ ยมาก

๖. ขา้ พเจ้าพดู ต่อหนา้ คนมากๆ ไม่เป็น อยใู่ นระดบั ไม่เหน็ ดว้ ย

๗. ความเห็นของข้าพเจา้ มักจะขัดแย้งกบั เพ่อื นๆ เสมอ อย่ใู นระดับ ไม่เหน็ ดว้ ย

๘. ขา้ พเจ้าอยากเป็นผ้ฟู งั ท่ีดี อยใู่ นระดบั เหน็ ดว้ ยมาก

๙. ข้าพเจ้าอยากเขา้ กบั เพื่อนรนุ่ เดียวกนั ได้ อยู่ในระดับ เห็นด้วยมาก

๑๐.ข้าพเจา้ ไม่คอ่ ยมีเรอื่ งคยุ เม่ืออยูใ่ นกล่มุ เพอื่ น อยใู่ นระดบั ไมเ่ ห็นด้วย

๑๑.ข้าพเจ้ารู้สึกงมุ่ ง่ามเม่ือต้องรับประทานอาหารในงานเลย้ี ง อยู่ในระดับ ไม่เห็นดว้ ย

๑๒.ข้าพเจา้ อยากเรียนรู้วิธีเปน็ ผู้นา อยใู่ นระดบั เหน็ ดว้ ยมาก

๑๓.ขา้ พเจา้ วางตวั ไม่ถูกเมื่ออยู่ในหมเู่ พ่ือน อยใู่ นระดับ ไม่เห็นด้วย

๑๔.ขา้ พเจา้ ปฏิเสธเพื่อนไม่เปน็ ไม่ตอ้ งการทาตามเขา อยู่ในระดบั ไม่เหน็ ดว้ ย

๑๕.เพ่อื นๆ ไมใ่ ห้ขา้ พเจา้ เข้ารว่ มกลมุ่ บ่อยๆ อยู่ในระดบั ไม่เหน็ ด้วย

สรุปแบบสอบสัมภาษณ์ทศั นคตขิ องครูท่ีมตี ่อ เด็กชาย ก (นามสมมติ)
๑. ลกั ษณะทางรา่ งกาย (รูปรา่ ง หน้าตา การแตง่ กาย กิริยาวาจา ฯลฯ)

เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) เปน็ คนท่ีมีรูปรา่ งอ้วนทว้ มสมบูรณ์แต่ไม่ถึงกับอ้วนมาก มสี ่วนสูง
พอดีสมกับวัย หน้าตาสะอาดสะอ้าน ย้ิมแย้มแจ่มใสบางคร้ังอาจเงียบขรึม การแต่งกายเรียบร้อย
สะอาดสะอ้าน กิริยาท่าทางถ้ามองผ่านๆก็เหมือนกับเด็กปกติแต่ถ้าอยู่กับเขาบ่อยคร้ังเขาก็มักจะ
แสดงอาการก้าวร้าวหรือเซอ่ื งซมึ เมอื่ ไมพ่ อใจหรือมีอะไรกระทบจิตใจ

๒. ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชน่ื รา่ เริง เงียบขรมึ การควบคมุ อารมณ์ ฯลฯ)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เปน็ คนทม่ี อี ารมณ์สดชืน่ ร่าเริงเมอื่ เขารสู้ กึ สบายใจและมีคนเอา

ใจอยู่ตลอดเวลา มีสมาธิส้ัน เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจก็จะแสดงอาการก้าวร้าวซ่ึงเขาจะไม่สามารถ
ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แตไ่ ม่ใช่ว่าจะก้าวร้าวขั้นรุนแรงมากนัก ซ่ึงเขาจะใชเ้ วลาอยู่กับตัวเองสักพักก็
จะดขี ้ึนในบางคร้ังถึงขัน้ วา่ ถ้าเขาคิดได้เขาทาอะไรโดนใครเขาก็จะมาถามว่า “เมอื่ ก้ีผมปาของใส่เธอใช่
ไหม เจ็บหรือไม”่ เป็นต้น

๓. ลักษณะทางสตปิ ัญญา (ความสามารถดา้ นการเรียน ความสามารถพเิ ศษ ความถนัด)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่ชอบทาอะไรตามที่ตนชอบ ตนคิดอยู่ว่าจะทาอะไร

ไม่ชอบอะไรท่ีเป็นวิชาการหรือเป็นลาดับขั้นตอน เป็นคนท่ีคิดเลขเกก่งจนได้รับรางวัลระดับอาเซียน
ในรายการคดิ เลขเรว็ และยงั สามารถเล่นดนตรไี ด้

๔. ลกั ษณะทางสังคม (การปรบั ตวั เขา้ กับเพ่อื น ครู สังคมในหอ้ งเรยี น และโรงเรียน)
เดก็ ชาย ก (นามสมมติ) เปน็ คนท่ีชอบอยู่คนเดียว ไม่คอ่ ยสนิทกับใครส่วนใหญ่จะสนิท

กับครูเม่ือสนิทกับใครแล้วก็จะมาหาอยู่บ่อยครั้งแต่ในหลายคร้ังเขาก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับเพ่ือน
แตว่ ิธกี ารปรบั ตวั ของเขาเปน็ วธิ ที ผ่ี ดิ คือ เหมือนเขายังเขา้ ใจอะไรบางอย่างในการปรับตัวท่ีผดิ

๕. พฤตกิ รรมท่คี วรปรับปรุง แก้ไข
เดก็ ชาย ก (นามสมมต)ิ มีพฤตกิ รรมท่ีควรปรบั ปรุง แก้ไข ดังนี้
- ชอบเดินในขณะที่กิจกรรมการเรยี นการสอน
- เป็นคนที่ทางานชา้
- ไมช่ อบทากจิ กรรมการเรียนการสอนไปพร้อมกับเพื่อนคนอืน่ ๆ
- การปรบั ตัวเข้ากบั สังคม
- นสิ ยั ท่ีเห็นตนเองสาคญั กว่าผู้อ่นื

สรปุ แบบสอบสัมภาษณ์ทศั นคติของเพื่อนและบคุ คลในครอบครวั
ท่มี ีต่อ เดก็ ชาย ก (นามสมมติ)

๑. ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หนา้ ตา การแตง่ กาย กิรยิ าวาจา ฯลฯ)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีมีรูปร่างอวบ สมบูรณ์ หน้าตาสดใส สะอาด สะอ้าน

การแต่งกายเรียบร้อย กิริยาวาจาบางคร้งั ก้าวรา้ วเกนิ ไปซ่ึงควรปรบั ปรุง
๒. ลกั ษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชืน่ ร่าเรงิ เงียบขรึม การควบคมุ อารมณ์ ฯลฯ)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีมีอารมณ์สดชื่น ร่าเริง แต่เมอ่ื มีอะไรท่ีขัดใจหรือเข้ามา

ทาให้เขารู้สึกโกรธและชอบอยู่คนเดียวซึ่งเขาจะลุกข้ึนเดนิ ไปไหนมาไหนตามท่ีใจต้องการโดยไม่สนใจ
วา่ ขณะนน้ั ตนกาลังทาอะไรอยจู่ นต้องมคี นคอยเตือนอย่ตู ลอดเวลา

๓. ลกั ษณะทางสติปัญญา (ความสามารถดา้ นการเรยี น ความสามารถพิเศษ ความถนัด)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนทเ่ี รียนคณิตศาสตร์เก่งและคิดเลขเร็วมากจนได้รางวัล

ระดบั เอเชีย และอกี อยา่ งทสี่ าคญั เขาสามารถเล่นดนตรีได้
๔. ลกั ษณะทางสังคม (การปรบั ตวั เขา้ กับเพือ่ น ครู สังคมในห้องเรยี น และโรงเรียน)
เด็กชาย ก (นามสมมติ) ชอบอยู่คนเดียว ชอบทาอะไรคนเดียว เวลาคิดอะไรก็จะเดิน

ไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจใครและอีกอย่างคือไม่ชอบปรับตัวเข้ากับเพ่ือนๆเม่ือเวลาต้องงทางานร่วมกับ
เพื่อนก็จะตอ้ งใหค้ รูจัดให้อยู่บ่อยครง้ั

๕. พฤตกิ รรมทค่ี วรปรบั ปรงุ แกไ้ ข
เด็กชาย ก (นามสมมติ) มพี ฤตกิ รรมที่ควรปรับปรงุ แก้ไข ดังน้ี
- การปรบั ตวั เข้ากับเพอ่ื นๆ
- กริ ยิ าการแสดงออก
- การที่มีสมาธสิ ้ัน

ดา้ นท่ี ๕ ขอ้ มูลทนี่ ่าสนใจของกรณีศึกษา

หลังจากได้ศกึ ษานักเรียนดว้ ยวิธีตา่ งๆแล้ว ค้นพบข้อมูลทีน่ ่าสนใจดังน้ี
จากการสัมภาษณ์บุคคลรอบข้าง

๑. เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนทถ่ี ้ามีอะไรมากระทบจิตใจก็จะไม่สามารถควบคมุ ตนเองได้ว่า
ในขณะน้ันตนตอ้ งทาอะไรบา้ ง

๒. เด็กชาย ก (นามสมมติ) ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเพ่ือนได้เนื่องจากเป็นเพราะเขายังไม่เข้าใจ
ในสภาพบริบทโดยทว่ั ไปทีเ่ พื่อนเป็นอย่กู ันในปจั จุบัน
จากแบบสารวจสภาพปญั หาการเรยี นของนักเรียน

๓. ขา้ พเจ้าอยากอา่ นหนังสอื ให้เก่งกวา่ น้ี
๔. ข้าพเจา้ ร้สู กึ วา่ เรียนหนังสอื แลว้ มคี วามสขุ
๕. ขา้ พเจา้ รู้สึกวา่ ครูสอนหนงั สอื สนกุ
จากแบบสารวจสภาพปัญหาครอบครัวของนกั เรยี น
๖. ขา้ พเจ้าอยากมที ่เี งยี บๆอา่ นหนังสอื บ้าง
๗. ข้าพเจา้ อยากใหบ้ า้ นน่าอย่กู วา่ น้ี
จากแบบสารวจสภาพปญั หาทางสังคมของนกั เรียน
๘. ขา้ พเจา้ อยากใหใ้ ครๆชอบข้าพเจ้า
๙. ข้าพเจา้ อยากคุยใหถ้ กู ใจคน
๑๐. ขา้ พเจา้ อยากใหต้ นเองมคี วามมั่นใจมากข้นึ
๑๑. ขา้ พเจ้าอยากเปน็ ผฟู้ ังท่ดี ี
๑๒. ข้าพเจา้ อยากเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกันได้
๑๓. ข้าพเจา้ อยากเรียนรู้วิธีเปน็ ผ้นู า

ดา้ นที่ ๖ แนวทางการแก้ปัญหา/สง่ เสรมิ

๑. จากกรณีท่ีว่า เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่ถ้ามีอะไรมากระทบจิตใจก็จะไม่สามารถ
ควบคุมตนเองไดว้ ่าในขณะน้นั ตนตอ้ งทาอะไรบ้าง

วิธีการแก้ปัญหาคือ การที่ครูต้องเปิดใจกับนักเรียนก่อนต้องคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
จนกระท่ังเขารู้สึกว่าเขาไว้ใจและเคารพ นับถือครูมากที่สุดเม่ือเมื่อเหตุการณ์อะไรท่ีกระทบใจจิตเขา
ครูจะเป็นคนหนึ่งเขาสามารถช่วยยับยั้งอารมณข์ องเขาได้ หรือไม่อีกอย่างก็คือ การฝกึ ให้เขาเป็นคนท่ี
มีสติและสมาธิจนสามารถระงับใจตนเองได้ด้วยวิธีการเข้าไปพูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนมแล้วจึง

อธิบายให้เขาฟังถึงวิธีการและข้อดีการฝึกตนให้อยู่ในสติเมื่อเขามีสติเขาก็สามารถระงับอารมณ์
ขณะน้ันได้

๒. จากกรณีที่ว่า เด็กชาย ก (นามสมมต)ิ ไม่สามารถปรับตวั เข้ากับเพื่อนได้เนื่องจากเป็นเพราะ
เขายงั ไม่เข้าใจในสภาพบริบทโดยทวั่ ไปทเ่ี พื่อนเปน็ อยกู่ นั ในปจั จบุ ัน

วิธีการแก้ปัญหาคือ ครูต้องปรับทัศนคติ แนวคิดของเขาในเร่ืองของการปรับตัวเข้ากับ
เพื่อนๆว่าโดยปกติแล้วเพื่อนอยู่กันอย่างไรและให้เหตุผลสนับสนุนว่าทาไมถึงต้องอยู่ร่วมกันแบบน้ัน
เพ่ือที่จะให้เขาได้เห็นถึงทางที่ถูกต้องในการเดินไปพร้อมๆกับเพ่ือนๆขณะทากิจกรรมเพ่ือบรรลุ
เป้าหมายเดียวกนั อยา่ งสมบูรณ์แบบ

๓. จากแบบสารวจสภาพปัญหาการเรียนของนักเรยี นท่ีเด็กชาย ก (นามสมมติ) บอกว่าข้าพเจ้า
อยากอ่านหนังสือให้เก่งกว่านี้,ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเรียนหนังสือแล้วมีความสุขและข้าพเจ้ารู้สึกว่าครูสอน
หนังสือสนุกนั่นถือเป็นความเข้าใจท่ีถูกต้องและแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกตัวเองว่าไม่ได้มีปัญหาทางการ
เรียนและเขายังพร้อมทจ่ี ะพัฒนาตนเองให้ดขี ึ้นอกี ดว้ ย

แนวทางการส่งเสริม ในเม่ือเขารู้สึกดีกับการเรียนการสอนและอยากพัฒนาตนครูก็ตอ้ งมอง
ในแง่มุมว่าทาไมจากสายตาคนเขาดูเหมือนไม่ต้ังใจเรยี นทั้งๆท่เี ขารู้สกึ ดีด้วยซ้าไปเพราะฉะนั้นครูควร
ปรับทัศนคติในการมองและให้โอกาสในการแสดงออกของเขาเพื่อพัฒนาให้เขารู้สึกว่าเขาก็มีความรู้
ความสามารถไมไ่ ดต้ ่างไปจากเพ่ือนๆคนอื่นใด

๔. จากแบบสารวจสภาพปญั หาครอบครัวของนักเรียนท่เี ดก็ ชาย ก (นามสมมติ) บอกว่าข้าพเจ้า
อยากมีท่ีเงียบๆอ่านหนงั สือบา้ งและขา้ พเจ้าอยากให้บ้านน่าอยู่กว่านี้น่ันแสดงว่าเขาต้องการที่ส่วนตัว
ในการเรยี นรขู้ องเขาเอง

วิธีการแกป้ ัญหาคือ การให้ครูประจาชั้นสอบถามและให้ขอ้ มูลในเชิงแนะนากับผู้ปกครองว่า
ในตอนนี้ลูกมพี ฤติกรรมอย่างไรซ่ึงทางทด่ี ีควรจะทาอย่างไรถงึ จะแก้ปญั หานี้ได้เพราะผู้ปกครองทกุ คน
ก็ลว้ นแลว้ แตต่ ้องการให้ลูกของตนประสบความสาเร็จในขน้ั สูงสดุ เช่นกัน

๕. จากแบบสารวจสภาพปัญหาทางสงั คมของนักเรียนที่เด็กชาย ก (นามสมมติ) บอกว่าข้าพเจ้า
อยากให้ใครๆชอบข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าอยากคุยให้ถูกใจคน, ขา้ พเจา้ อยากให้ตนเองมีความม่ันใจมากข้ึน,
ข้าพเจ้าอยากเป็นผู้ฟังที่ดี, ข้าพเจ้าอยากเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกันได้และข้าพเจ้าอยากเรียนรู้วิธีเป็น
ผู้นา ท้ังหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความต้องการท่ีกาลังเป็นปัญหาสาคัญสาหรับเขาในการปรับตัวเข้ากับ
สงั คมเพ่ือนๆของเขาซึ่งเขาก็อยากจะมีบทบาททางสังคมโดยเฉพาะภายในชน้ั เรียนเช่นเดียวกับเพื่อน
คนอื่นของเขา

วิธีการแก้ปัญหาคือ การปรับทัศนคติความคิดทั้งตัวเด็กชาย ก (นามสมมติ)และเพื่อร่วมช้ัน
เรียนในการทาความเข้าใจซ่ึงกันและกนั เพื่อท่ีจะผลักดันหรือเปิดโอกาสให้เขาได้สวมบทบาทของผู้นา

หรือให้ได้แสดงออกมากยิ่งข้ึนซ่ึงจะช่วยเสริมสร้างความม่ันใจภายในตัวเขาอาจนาไปสู่การพั ฒนาท่ี
กา้ วไกลท่ีสดุ สาหรบั ความตอ้ งการของเขากเ็ ปน็ ได้

หนงั สอื สรุปผลและอนเุ คราะหค์ รปู ระจาชั้นและประจาวชิ า
ในการนาวธิ ีการแกป้ ัญหาและแนวทางการส่งเสริมไปใช้กบั นกั เรยี นกรณีศึกษาครัง้ น้ี

เด็กชาย ก (นามสมมติ) เพือ่ พัฒนาศกั ยภาพของผูเ้ รยี นให้สมบูรณ์

ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ในการศกึ ษารายกรณี (Case Study)
ของ เดก็ ชาย ก (นามสมมติ)

นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔
เรอื่ ง : ขอความอนุเคราะห์ครูประจาชัน้ ในการนาวธิ ีการแก้ปัญหาและแนวทางการส่งเสริมไปใชก้ ับ
นักเรียนกรณีศกึ ษาครัง้ นี้ เด็กชาย ก (นามสมมติ) เพื่อพัฒนาศกั ยภาพของผเู้ รียนใหส้ มบรู ณ์

ด้านท่ี ๕ ข้อมูลทนี่ า่ สนใจของกรณศี ึกษา

หลังจากได้ศึกษานกั เรียนด้วยวิธีต่างๆแลว้ ค้นพบข้อมลู ท่นี ่าสนใจดังนี้
จากการสัมภาษณบ์ คุ คลรอบข้าง
๑๔. เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนท่ีถ้ามีอะไรมากระทบจิตใจก็จะไม่สามารถ

ควบคุมตนเองได้วา่ ในขณะน้ันตนตอ้ งทาอะไรบ้าง
๑๕. เด็กชาย ก (นามสมมติ) ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้เน่ืองจากเป็น

เพราะเขายังไมเ่ ขา้ ใจในสภาพบรบิ ทโดยท่ัวไปทเี่ พ่ือนเปน็ อยู่กันในปัจจบุ ัน
จากแบบสารวจสภาพปัญหาการเรยี นของนกั เรยี น
๑๖. ขา้ พเจา้ อยากอ่านหนงั สือใหเ้ กง่ กว่าน้ี
๑๗. ขา้ พเจา้ รู้สึกว่าเรยี นหนังสอื แลว้ มคี วามสุข
๑๘. ข้าพเจ้ารู้สกึ วา่ ครูสอนหนังสอื สนุก
จากแบบสารวจสภาพปญั หาครอบครัวของนักเรียน
๑๙. ข้าพเจ้าอยากมที เี่ งยี บๆอ่านหนังสอื บ้าง
๒๐. ขา้ พเจา้ อยากให้บ้านนา่ อยกู่ ว่านี้
จากแบบสารวจสภาพปัญหาทางสงั คมของนกั เรยี น
๒๑. ขา้ พเจ้าอยากใหใ้ ครๆชอบขา้ พเจา้
๒๒. ขา้ พเจ้าอยากคยุ ให้ถกู ใจคน
๑๐. ข้าพเจา้ อยากให้ตนเองมคี วามมนั่ ใจมากขึ้น
๑๑.ขา้ พเจา้ อยากเปน็ ผู้ฟงั ทด่ี ี
๑๒.ข้าพเจา้ อยากเขา้ กบั เพื่อนรุน่ เดยี วกนั ได้
๑๓.ข้าพเจา้ อยากเรยี นร้วู ธิ ีเป็นผู้นา

ดา้ นท่ี ๖ แนวทางการแก้ปญั หา/ส่งเสริม

๖. จากกรณีที่ว่า เด็กชาย ก (นามสมมติ) เป็นคนที่ถ้ามีอะไรมากระทบจิตใจก็จะไม่
สามารถควบคุมตนเองได้ว่าในขณะนน้ั ตนต้องทาอะไรบา้ ง

วิธีการแก้ปัญหาคือ การท่ีครูต้องเปิดใจกับนักเรียนก่อนต้องคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
จนกระท่ังเขารู้สึกว่าเขาไว้ใจและเคารพ นับถือครูมากท่ีสุดเม่ือเม่ือเหตุการณ์อะไรที่กระทบใจจิตเขา
ครูจะเป็นคนหนึ่งเขาสามารถช่วยยับย้ังอารมณ์ของเขาได้ หรือไม่อีกอย่างก็คือ การฝกึ ให้เขาเป็นคนท่ี
มีสติและสมาธิจนสามารถระงับใจตนเองได้ด้วยวิธีการเข้าไปพูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนมแล้วจึง
อธิบายให้เขาฟังถึงวิธีการและข้อดีการฝึกตนให้อยู่ในสติเมื่อเขามีสติเขาก็สามารถระงับอารมณ์
ขณะนนั้ ได้

๗. จากกรณีท่ีว่า เด็กชาย ก (นามสมมติ) ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้เน่ืองจาก
เป็นเพราะเขายังไมเ่ ข้าใจในสภาพบริบทโดยทว่ั ไปท่เี พื่อนเปน็ อยู่กันในปจั จุบนั

วิธีการแก้ปัญหาคือ ครูต้องปรับทัศนคติ แนวคิดของเขาในเรื่องของการปรับตัวเข้ากับ
เพื่อนๆว่าโดยปกติแล้วเพ่ือนอยู่กันอย่างไรและให้เหตุผลสนับสนุนว่าทาไมถึงต้องอยู่ร่วมกันแบบนั้น
เพ่ือท่ีจะให้เขาได้เห็นถึงทางที่ถูกต้องในการเดินไปพร้อมๆกับเพ่ือนๆขณะทากิจกรรมเพ่ือให้บรรลุ
เป้าหมายเดียวกันอยา่ งสมบรู ณ์แบบ

๘. จากแบบสารวจสภาพปญั หาการเรียนของนักเรยี นท่ีเด็กชาย ก (นามสมมติ) บอกว่า
ข้าพเจ้าอยากอ่านหนังสือให้เก่งกว่านี้,ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเรียนหนังสือแล้วมีความสุขและข้าพเจ้ารู้สึกว่า
ครูสอนหนังสือสนุกนั่นถือเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องและแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกตัวเองว่าไม่ได้มีปัญหา
ทางการเรยี นและเขายงั พร้อมทจี่ ะพฒั นาตนเองใหด้ ีขน้ึ อีกดว้ ย

แนวทางการส่งเสริม ในเมื่อเขารู้สึกดกี ับการเรียนการสอนและอยากพฒั นาตนครูก็ตอ้ งมอง
ในแง่มุมว่าทาไมจากสายตาคนเขาดูเหมือนไม่ตัง้ ใจเรียนท้ังๆทเ่ี ขารู้สกึ ดีด้วยซ้าไปเพราะฉะนัน้ ครูควร
ปรับทัศนคติในการมองและให้โอกาสในการแสดงออกของเขาเพ่ือพัฒนาให้เขารู้สึกว่าเขาก็มีความรู้
ความสามารถไมไ่ ดต้ ่างไปจากเพ่ือนๆคนอื่นใด

๙. จากแบบสารวจสภาพปัญหาครอบครัวของนักเรียนที่เด็กชาย ก (นามสมมติ) บอก
ว่าข้าพเจ้าอยากมีท่ีเงียบๆอ่านหนังสือบ้างและข้าพเจ้าอยากให้บ้านน่าอยู่กว่านี้นั่นแสดงว่าเขา
ตอ้ งการทส่ี ่วนตวั ในการเรยี นรูข้ องเขาเอง

วิธีการแกป้ ัญหาคือ การให้ครูประจาชั้นสอบถามและให้ข้อมูลในเชิงแนะนากับผู้ปกครองว่า
ในตอนน้ีลกู มพี ฤติกรรมอย่างไรซ่ึงทางท่ดี ีควรจะทาอย่างไรถงึ จะแก้ปญั หาน้ีได้เพราะผู้ปกครองทุกคน
กล็ ้วนแล้วแต่ตอ้ งการใหล้ ูกของตนประสบความสาเรจ็ ในขัน้ สงู สุดเช่นกนั

๑๐.จากแบบสารวจสภาพปญั หาทางสังคมของนกั เรียนที่เด็กชาย ก (นามสมมติ) บอกว่า
ขา้ พเจ้าอยากให้ใครๆชอบขา้ พเจา้ , ข้าพเจ้าอยากคุยใหถ้ ูกใจคน, ข้าพเจ้าอยากให้ตนเองมคี วามม่นั ใจ
มากข้ึน, ข้าพเจ้าอยากเปน็ ผู้ฟังท่ีดี, ข้าพเจ้าอยากเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกันได้และข้าพเจ้าอยากเรียนรู้
วิธีเป็นผู้นา ท้ังหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความต้องการที่กาลังเป็นปัญหาสาคัญสาหรับเขาในการปรับตัว
เขา้ กับสังคมเพ่ือนๆของเขาซง่ึ เขาก็อยากจะมีบทบาททางสังคมโดยเฉพาะภายในชั้นเรียนเช่นเดยี วกับ
เพอ่ื นคนอืน่ ของเขา

วิธีการแก้ปัญหาคือ การปรับทัศนคติความคิดทั้งตัวเด็กชาย ก (นามสมมติ)และเพ่ือร่วมชั้น
เรียนในการทาความเข้าใจซ่ึงกันและกันเพื่อที่จะผลักดันหรือเปิดโอกาสให้เขาได้สวมบทบาทของผู้นา
หรอื ใหไ้ ดแ้ สดงออกมากยิ่งขึน้ ซ่งึ จะช่วยเสริมสร้างความมน่ั ใจภายในตวั โดยเขาอาจนาไปสู่การพัฒนา
ทก่ี ้าวไกลท่ีสดุ สาหรับความต้องการของเขากเ็ ปน็ ได้

ลงชือ่ ____________________
( นายจรณชยั ศรปี ระดิษฐ )
ผู้ทาการศกึ ษา

 เหน็ สมควรกบั การนาไปปรบั ใช้ ลงชื่อ____________________
 ไมเ่ ห็นสมควรกบั การนาไปปรับใช้
เพราะ________________________________________ (คุณครูมาลยั ทิพย์ คนซ่อื )
ครูผู้สอน


Click to View FlipBook Version