วช.๑ จรณชัย ศรีประดิษฐ

ปช-๑.๐๓
2.8. การบรหิ ารจดั การช้ันเรียน

จากการที่ได้สังเกตสามารถสรุปได้ว่าครูผู้สอนใช้ช้ันเรียนแบบนวัตกรรม เป็นชั้น
เรียนท่ีเอ้ืออานวยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิควิธีการแบบสอนใหม่ๆ มีส่ือการ
สอนท่ีน่าสนใจ ทันสมัย มีสันสันสวยงาม ซึ่งทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกในการเรียน และมีอิสระในการ
เรียน ซง่ึ ครเู ป็นผกู้ ากบั และแนะแนวนักเรยี นเป็นผแู้ สดงบทบาท ครจู ะพูดน้อยลง ให้นกั เรยี นไดค้ ิด ได้
ถาม ได้แกป้ ญั หา และไดท้ ากิจกรรมด้วยตนเอง

2.9. การใชห้ ลักจติ วิทยาในการสอน
มีนักเรียนคนหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษคือ ถ้าไม่เข้าใจเขาจะแสดงพฤติกรรมการเคาะ

โต๊ะเสียงดังทันทคี รจู งึ ใช้วิธีการอธบิ ายดว้ ยนา้ เสียงนุม่ นวลและเอาอกเอาใจเป็นอยา่ งดี
3. การใช้สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
3.1. ประเภทของสอื่
สื่อหลัก
1) ใบกิจกรรม (แบบฝึกทกั ษะ)
2) วงเวยี น
สอ่ื เสรมิ
1) ภาพแสดงสว่ นประกอบของวงกลม
2) ไม้บรรทดั
3.2. ความสอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรม
จากการจัดกิจกรรมที่มีเน้ือหาเรื่อง วงกลมและทรงกลม (เข้าใจต้องทาได้)

ปรากฏว่านักเรียนเข้าใจเร่ือง ส่วนประกอบของวงกลม,สมบัติของวงกลม,การสร้างวงกลมและการ
เปรียบเทียบความยาวโดยใช้วงเวียนผ่านการทาใบกิจกรรมแบบประยุกต์เน้ือรวมกันได้นั่นหมายถึง
กจิ กรรมนบ้ี รรลุวัตถุประสงคท์ ว่ี างไว้

3.3. คณุ ภาพของสือ่ ที่ใช้
สอื่ การเรียนการสอนมีความคมชัด มองเหน็ จากดา้ นหลังชัดเจน คาส่งั เน้ือหาถกู ต้อง

สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาการเรยี นการสอน
3.4. การใชส้ ่ือ/แหล่งเรยี นรนู้ อกสถานท่ี
ครูใช้สื่อท่ีเคยใช้จากเร่ืองก่อนมาแล้วนามาประยุกต์รวมในครั้งนี้ซึ่งทาให้ผู้เรียน

สามารถประยกุ ตเ์ นอ้ื หาได้ตามวตั ถุประสงค์

ปช-๑.๐๓
3.5. การมีส่วนรว่ มในการใช้ส่อื ของผูเ้ รียน

ในการจัดกิกรรมการเรียนการสอนในครั้งน้ีครูได้ให้นักเรียนได้ทากิจกรรมรายคน
เพื่อเปน็ การวดั ความรู้ความเข้าใจของนักเรยี นและช่วงสรุปผลครูให้นักเรียนนาใบกิจกรรมของตนเอง
ออกไปนาเสนอแนวคดิ ใหเ้ พ่อื นๆฟัง

3.6. ความคมุ้ คา่ ของสอ่ื ทใ่ี ช้
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสามารถสรุปได้ว่าส่ือการเรียนการสอนทุกช้ิน

ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเน้ือหาทุกช้ินและท่ีสาคัญส่ือการเรียนการสอนนี้ก็ยั งสามารถนาไปใช้จัด
กิจกรรมการเรยี นการสอนกบั ห้องเรยี นอื่นอกี ด้วยนน่ั แสดงวา่ ส่อื ชุดน้มี คี วามคุ้มค่าในการใช้

ลงช่ือ____________________
( นายจรณชัย ศรีประดิษฐ )
ผสู้ งั เกต

ปช-๑.๐๓
รายงานการสงั เกตการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ครัง้ ที่ ๒๑

รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕
วนั พฤหัสบดี ที่ ๗ เดอื น มถิ นุ ายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๒.๑๕ – ๑๓.๑๕ น.
คุณครูมาลัยทิพย์ คนซือ่ (ครผู สู้ อน)

1. แผนการจดั การเรียนรู้
1.1. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) บอกจานวนของสิ่งท่ีอยู่รอบตัวที่มีจานวนไม่เกิน 10 แล้วเขียนตัวเลขเพื่อ

เป็นสัญลักษณแ์ สดงแทนค่าของสิง่ เหลา่ นน้ั ได้
2) นกั เรยี นสามารถเปรยี บเทียบจานวนถึง 10
3) นกั เรยี นเขา้ ใจความหมายของ 0 (ศนู ย์)
4) นกั เรียนสามารถแสดงหรือนับจานวนจาก 1-10 ไดถ้ กู ต้อง
5) นักเรียนเข้าใจถึงความมากน้อยของจานวนจาก 1-10 และสามารถ

เรียงลาดับความมากน้อยได้
6) นักเรียน เข้าใจความหมายของจานวน 9 รวมถึงสามารถเขียนและอ่าน

ตัวเลขท่ใี ชเ้ ป็นสัญลักษณแ์ ทนจานวนนัน้ ได้
1.2. มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้วี ัด
จานวนทไ่ี ม่เกิน 10
1.3. เน้ือหาที่เรยี น
เข้าใจความหมาย และสามารถเขยี น อ่าน ตวั เลข 9 ได้
1.4. ข้ันตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1) ขน้ั นาเสนอปัญหา (10 นาท)ี
- ครูทักทายนักเรียน ครูนารูปภาพหน้า 16,18 ขึ้นบนกระดาน

จากน้ันครูทบทวนรูปภาพและบทเรียนท่ีได้เรียนในคาบที่แล้ว ครูบอกนักเรียนว่า “วันนี้เราจะมา
เปลี่ยนบรรยากาศจัดงานเล้ียงกันที่สวนสัตว์” จากนั้นก็ถามนักเรียนว่าเห็นอะไรบ้าง และครูถาม
นกั เรียนวา่ ไหนจากภาพใครเห็นบ้างวา่ ครอบครัวของหมีน้อยอยู่ตรงไหน เม่ือนักเรียนตอบคาถามแล้ว
ครตู ิดรปู หมี พร้อมคาสง่ั บนกระดาน “ให้นักเรียนหาว่ามอี ะไรบ้างที่มจี านวนเทา่ กับจานวนของหม”ี

ปช-๑.๐๓

2) ข้นั การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองของนกั เรยี น ( 25 นาที )

- ครใู หน้ กั เรียนน่งั เปน็ กล่มุ แล้วแจกรปู ภาพหนา้ 16,18 ให้นักเรียน

ทุกกลุ่ม พร้อมกับแจกบล็อกไม้ ครูจะคอยกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและสนใจในการ

ทางาน รวมถึงคอยยา้ คาส่ังเพอื่ ใหน้ กั เรยี นมคี วามเขา้ ใจในคาสง่ั

3) ข้นั นาเสนอแนวคดิ และอภปิ ราย ( 10 นาที)

- ครูเลือกแนวคิดของนักเรียนที่แตกต่างกัน โดยให้นาเสนอจาก

ส่ิงของที่มีจานวนเท่ากับจานวนหมี ครูจะถามว่าใครที่หาได้มากที่สุด จากน้ันก็จะถามว่าใครหาได้

แตกตา่ งจากนบ้ี า้ ง

4) ขน้ั สรุปโดยการเช่ือมโยงแนวคดิ ของนกั เรยี น (15 นาที)

- ครูสรุปบทเรียนจากการนาเสนอผลงานของนักเรียนแล้วเช่ือมโยง

แนวคิดของนักเรียนนาไปสู่ใบงาน ท่ีเป็นตัวสรุปบทเรียนเพ่ือให้นักเรียนได้เขียน อ่าน เลข 9 และ

ความหมายของจานวนเหล่าน้ัน พรอ้ มตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน

1.5. การวดั และประเมินผล

ส่งิ ที่จะประเมิน

รายการประเมิน/จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เครือ่ งมอื ท่ีใช้

ดา้ นความรู้ 1. ประเมินจากการทา 1. ใบกิจกรรม

1.เข้าใจความหมาย และสามารถเขียน อ่าน กจิ กรรม

ตัวเลข 9 ได้ 2. การนาเสนอผลงาน

ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1. การอภิปราย 1. การนาเสนอ

1. การแกป้ ัญหา แลกเปลยี่ นความคิดเห็น ผลงานหนา้

- นกั เรียนใช้สญั ลกั ษณก์ ึง่ รปู ธรรมแสดง ระหว่างการนาเสนอ ชน้ั เรียน
2. การตอบคาถาม
แทนจานวนส่ิงของในรูปภาพทีค่ รู ผลงาน การรบั ฟังความ

กาหนดให้ คดิ เหน็ จากเพอ่ื นในช้นั

2. การใหเ้ หตผุ ล เรยี น

- นักเรียนสามารถบอกเหตุผลเพื่ออธิบาย 2. การตอบคาถาม

แนวคดิ ของตนเองได้

3. การเชอื่ มโยง

- นักเรียนสามารถใช้บล็อคหรือรูปภาพ

แ ส ด ง แ ท น จ า น ว น ไ ด้ แ ล ะ ส า ม า ร ถ ใ ช้

สงิ่ ท่จี ะประเมิน ปช-๑.๐๓
เครื่องมือทีใ่ ช้
รายการประเมนิ /จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมิน

สัญลักษณ์ (ตวั เลข) แสดงแทนจานวนของ

สงิ่ ของในรปู ภาพได้

4. การสอ่ื สารทางคณิตศาสตร์

- นกั เรียนสามารถพูดอธิบาย เขียนอธิบาย

แนวคิดของตนเพ่ือสื่อสารให้ทุกคนในช้ัน

เรยี นเขา้ ใจได้

5. การนาเสนอ

- นักเรียนสามารถนาเสนอแนวคิดเก่ียวกับ

จ า น ว น โ ด ย ใ ช้ วั ต ถุ กึ่ ง รู ป ธ ร ร ม ใ น ก า ร

นาเสนอ

- นักเรียนพูดนาเสนอผลงานและอธิบาย

แนวคิดของตนที่หน้าชน้ั เรยี น

ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. การนาเสนอผลงาน 1. ใบกิจกรรม

1. นักเรียนมีมุ่งม่ันและตั้งใจในการร่วมทา 2. การอภิปราย 2. การนาเสนอ

กิจกรรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผลงานหน้า

2. นักเรยี นสามารถพัฒนาทักษะทางการคดิ ได้ และการรบั ฟงั ความ ชนั้ เรยี น
คิดเหน็ จากเพอื่ นในชนั้
3. นักเรียนมีความรอบคอบและมีความ เรียน

ซ่ือสตั ย์ในการทางาน

4. นกั เรยี นมคี วามใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น

2. การดาเนินการสอน
2.1. พฤตกิ รรมการสอน/บคุ ลิกภาพ/การแต่งกาย
พฤติกรรมการสอน : พฤติกรรมการสอนของครูมีมากมายแต่พฤติกรรมการสอนที่

สงั เกตไดจ้ ากครพู ่ีเล้ยี งมดี งั น้ี
1) สามารถสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและ

ความสุขทัง้ ครผู ู้สอนและผเู้ รยี น

ปช-๑.๐๓
2) ใหน้ ักเรียนไดพ้ ัฒนาความคดิ ด้วยการลงมือทา แกป้ ัญหาสถานการณ์ปัญหา
ดว้ ยตนเองและออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรียน
3) นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเพื่อให้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองภายใต้คาปรึกษา
จากครูผสู้ อน
4) ให้นักเรยี นทากจิ กรรมรว่ มกันเป็นกล่มุ ฝกึ ให้ทุกคนไดม้ โี อกาสเปน็ ผู้นา
5) ใช้อุปกรณ์ประกอบการสอนอย่างเหมาะสม
6) ชมนักเรียนเมื่อมีจิตอาสา และให้โอกาสที่เด็กอ่อนจะได้รับคาชมบ้าง โดย
การมองหาสว่ นดขี องเขา
บุคลกิ ภาพ :
1) บุคลิกภาพทางกาย รูปร่างหน้าตา กิริยาอาการ ลักษณะท่าทางท่ีสง่างาม
การแต่งกายที่เหมาะสม ด้านวาจา เช่น การพูดด้วยถ้อยคาที่ถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม ถูกกาลเทศะ
คล่องแคล่ว ไพเราะออ่ นหวาน และพูดจามสี าระมีเหตผุ ล
2) บุคลิกภาพด้านอารมณ์ เช่น การควบคุมอารมณ์ได้ดี ความสนใจผู้เรียน
การมีอารมณข์ นั ไม่เคร่งเครียดจรงิ จงั จนเกินไป มอี ารมณ์แจม่ ใส เบกิ บาน ยิ้มแย้ม และร่าเริงอยู่เสมอ
3) บุคลิกภาพด้านสติปัญญา เช่น การมีปฏิภาณไหวพริบที่ดี มีความสามารถ
ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีการตดั สินใจท่ดี ี มีความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ มีความร้รู อบตัวดี เป็นคน
ชา่ งสังเกต ละเอียดรอบคอบ มคี วามรู้ในรายวิชาท่ีสอน
การแต่งกาย : นอกเหนือจากเรื่องรูปร่างหน้าตา การแต่งกายก็มีส่วนสาคัญอีก
ประการหนึง่ ทจี่ ะช่วยใหบ้ ุคลิกภาพดดู ีขึน้ การแต่งกายของครูผ้สู อนดดู ี สภุ าพ ประณีต ประหยัด และ
สะอาด
2.2. รูปแบบ/เทคนคิ ทีใ่ ช้ในการสอน
ครูผูส้ อนใชว้ ิธีการสอนแบบเปดิ คอื การชว่ ยให้กิจกรรมสรา้ งสรรค์ และวธิ ีคิดในการ
แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ของนกั เรียนให้เกิดข้ึนพรอ้ มๆ กนั กลา่ วคอื ทง้ั กิจกรรมของนักเรยี น และวิธี
คิดทางคณิตศาสตร์จะถูกนาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถ ให้นักเรียนแต่ละคนมีอิสระในการ
พัฒนาความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาตามความสามารถและความสนใจของตน ปล่อยให้นักเรียนได้
พัฒนาความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขา ครผู ู้สอนจึงสร้างกิจกรรมในห้องเรียนทจี่ ะสง่ เสริมวธิ ีคิด
ทางคณิตศาสตร์แบบต่างๆ ขณะท่ีนักเรียนท่ีมีความสามารถสูงกว่าก็สามารถที่จะใช้วิธีการทาง
คณิตศาสตร์อย่างหลากหลายและนักเรียนท่ีมคี วามสามารถด้อยกว่าก็ยังคงสนุกสนานกับกบั กิจกรรม
การเรียนการสอนตามความสามารถของตนการทาเช่นน้ี เป็นการช่วยให้นักเรียนได้ทาการแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ โดยเปิดโอกาสการสืบเสาะด้วยวิธีการท่ีตนเชื่อม่ันและนาไปสู่การแก้ปัญหาทาง

ปช-๑.๐๓
คณิตศาสตร์ท่ีมีความซับซ้อนสูงข้ึน ผลท่ีเกิดข้ึน มีความเป็นไปได้ที่นักเรียนจะเกิดการพัฒนาสูงขึ้นท่ี
จะแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรข์ องพวกเขา

2.3. การสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม
จากการท่ีได้สังเกตครูผู้สอนใช้วิธีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในรูปแบบของ

การประยุกต์ใช้กบั การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเช่น ให้นักเรียนออกไปส่งงานแล้วบอกว่าอย่าแซง
เพื่อน การแซงเพอ่ื นเป็นสิง่ ทไ่ี มด่ ี

2.4. การสอดแทรกการคดิ วเิ คราะห์
ในรายวชิ าคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่จาเปน็ ต้องใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะหม์ าใช้ในการ

แก้ปัญหาอยู่แล้วโดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนแบบเปิดเพราะการจัดการเรียนการสอนแบบน้ี
จะเน้นให้นักเรียนได้ลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเองซ่ึงการสอดแทรกการคิดวิเคราะห์นั้นถือว่าสอดแทรก
เข้าไปในเน้อื หาได้ดแี ละครบถ้วน

2.5. การแกป้ ัญหาระหว่างสอน
ครูติดส่ือการสอนสูงไปเลยทาให้นักเรียนเขียนไม่ถึงครูจึงใช้วิธีการให้นักเรียนเขียน

อธิบายใตภ้ าพแทน
2.6. การใช้ภาษาองั กฤษสอดแทรกในการสอน
ในทุกๆคาบก่อนการเรียนการสอนจะมีการทักทายเปน็ ภาษาอังกฤษอยตู่ ลอดและใน

เวลาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนก็จะมีการใช้คาภาษาอังกฤษอยู่เสมอเช่น เคร่ืองหมาย คาส่ังก็
จะมีคาภาษาองั กฤษมาใชต้ ลอด

2.7. การพัฒนาทกั ษะการฟงั พูด อา่ น เขียนในขณะที่ดาเนินการสอน
การฟัง : ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมการสอนครูจะคอยสังเกตนักเรียนอยู่เสมอ

ว่ามีใครฟังอยู่บ้างและมีใครที่ไม่ฟังอยู่บ้างหากใครไม่ฟังก็จะเรียกชื่อเพอื่ เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้
ต้ังใจฟงั ครมู ากขน้ึ

การพูด : การพูดของครูจะใช้คาภาษาอังกฤษมาแทรกบ้างและใช้น้าเสียงในโทนที่
ต่างกันทาให้น่าฟังมากยิ่งขึ้นและส่วนของเด็กนักเรียนจะใช้วิธีการให้นักเรียนออกมาพูดนาเสนอ
แนวคิดหนา้ ชั้นเรียนเพ่อื เปน็ การฝกึ ทักษะทางดา้ นของการพูด

การอา่ น : ในทกุ ๆขน้ั ตอนทีม่ ีคาสง่ั หรอื สถานการณ์ปญั หาครูจะใหน้ ักเรียนไดอ้ า่ นไป
พร้อมกนั กบั ครเู พื่อฝึกทักษะการอา่ นใหน้ กั เรยี นอ่านหนังสือได้คล่องแคล่วข้นึ

การเขียน : หลังจากที่ครูได้นาเข้าสถานการณ์ปัญหาเสร็จแล้วก็จะให้นักเรียนได้ลง
มือทาใบกิจกรรมด้วยตนเองซ่ึงนักเรียนก็จะได้เขียนไปด้วยและเมื่อมีการให้นักเรียนออกไปนาเสนอ
แนวคดิ ก็จะให้นกั เรียนฝึกเขยี นบนกระดานดาดว้ ย

ปช-๑.๐๓
2.8. การบริหารจัดการช้นั เรยี น

จากการที่ได้สังเกตสามารถสรุปได้ว่าครูผู้สอนใช้ช้ันเรียนแบบนวัตกรรม เป็นชั้น
เรียนที่เอ้ืออานวยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิควิธีการแบบสอนใหม่ๆ มีส่ือการ
สอนท่ีน่าสนใจ ทันสมัย มีสันสันสวยงาม ซึ่งทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกในการเรียน และมีอิสระในการ
เรียน ซง่ึ ครเู ปน็ ผู้กากบั และแนะแนวนักเรยี นเปน็ ผแู้ สดงบทบาท ครจู ะพดู น้อยลง ให้นกั เรียนได้คิด ได้
ถาม ไดแ้ กป้ ญั หา และได้ทากิจกรรมดว้ ยตนเอง

2.9. การใช้หลกั จิตวทิ ยาในการสอน
ถ้สมีนักเรียนเร่ิมไม่ฟังหลายๆคนเพิ่มข้ึนเรื่อยๆครูจะใช้วิธีการเรียกสมาธินักเรียน

ดว้ ยการให้นกั เรียนปรบมือเปน็ จงั หวะและมที ่าประกอบทซี่ ับซ้อนซ่ึงถา้ ใครไม่มสี มาธกิ ็จะทาผดิ
3.การใชส้ ่อื และแหล่งการเรยี นรู้
3.1. ประเภทของส่อื
สือ่ หลัก
รูปภาพจากหนงั สอื คณิตศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษ หน้า 16,18
สอ่ื เสริม
บล็อคไม,้ ใบกิจกรรม
3.2. ความสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
จากการจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาเร่ือง จานวนที่ไม่เกิน 10 (จานวน 9) ปรากฏว่า

นกั เรยี น เขา้ ใจความหมาย และสามารถเขยี น อ่าน ตัวเลข 9 เป็นภาษาไทยและอังกฤษไดน้ ั่นหมายถึง
กิจกรรมนบี้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ่ีวางไว้

3.3. คุณภาพของสื่อที่ใช้
สื่อการเรียนการสอนมีสวยงาม สร้างสรรค์ มีความคมชัด และมีความถูกต้องของ

เนอ้ื หาท่สี มบูรณ์
3.4. การใช้ส่อื /แหล่งเรยี นรูน้ อกสถานท่ี
ครูใช้ส่ือท่ีมีการ์ตูนตัวต่างและเป็นการไปเท่ียวงานปาร์ต้ีซ่ึงนักเรียนก็จะชอบมาก

เพราะทัง้ สีสนั ของสือ่ และตวั ประกอบในภาพทส่ี มวยั กับนักเรยี น
3.5. การมสี ่วนรว่ มในการใชส้ อื่ ของผู้เรยี น
ในการจัดกกิ รรมการเรียนการสอนในครั้งนีค้ รูได้ให้นักเรียนได้ออกไปอธบิ ายแนวคิด

และร่วมกันใช้สื่อการสอนได้ครบทุกคนในห้องจึงทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกและดีใจ อยากเรียนวิชาน้ีต่อ
อีกในคาบถัดไป

ปช-๑.๐๓
3.6. ความคุ้มค่าของส่ือท่ีใช้

จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสามารถสรุปได้ว่าส่ือการเรียนการสอนทุกชิ้น
ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเน้ือหาทุกชิ้นและที่สาคัญสื่อการเรียนการสอนน้ีก็ยังสามารถนาไปใช้จัด
กจิ กรรมการเรียนการสอนกับหอ้ งเรยี นอน่ื อกี ดว้ ยนัน่ แสดงว่าส่ือชุดนี้มีความคุ้มคา่ ในการใช้

ลงชือ่ ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๓
รายงานการสงั เกตการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คร้งั ท่ี ๒๓

รายวิชา คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑/๕
วัน ศกุ ร์ ท่ี ๘ เดอื น มิถุนายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.
Teacher Anna (ครูผ้สู อน)

1. แผนการจัดการเรยี นรู้
1.1. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) บอกจานวนของสิ่งที่อยู่รอบตัวท่ีมีจานวนไม่เกิน 10 แล้วเขียนตัวเลขเพ่ือ

เป็นสญั ลักษณ์แสดงแทนค่าของสิง่ เหลา่ นนั้ ได้
2) นกั เรียนสามารถเปรยี บเทยี บจานวนถงึ 10
3) นักเรยี นเขา้ ใจความหมายของ 0 (ศนู ย์)
4) นักเรยี นสามารถแสดงหรือนบั จานวนจาก 1-10 ไดถ้ ูกตอ้ ง
5) นักเรียนเข้าใจถึงความมากน้อยของจานวนจาก 1-10 และสามารถ

เรียงลาดบั ความมากน้อยได้
6) นักเรียน เข้าใจความหมายของจานวน 10 รวมถึงสามารถเขียนและอ่าน

ตวั เลขทใ่ี ชเ้ ป็นสญั ลักษณ์แทนจานวนนัน้ ได้
1.2. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ัด
จานวนท่ไี ม่เกิน 10 (จานวน 10)
1.3. เนื้อหาท่ีเรยี น
เขา้ ใจความหมาย และสามารถเขียน อ่าน ตัวเลข 10 ได้
1.4. ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1) ข้นั นาเสนอปัญหา (10 นาท)ี

- ครูทักทายนักเรียน ครูนารูปภาพหน้า 16,18 ข้ึนบนกระดาน

จากนั้นครูทบทวนรูปภาพและบทเรียนที่ได้เรียนในคาบที่แล้ว พร้อมถามนักเรียนว่า “จารูปภาพงาน

เลี้ยงได้หรือไม่” จากน้ันก็ถามนักเรียนว่าไหนจากภาพใครเห็นบ้างว่าส้อมอยู่ตรงไหน เม่ือนักเรียน

ตอบคาถามแลว้ ครูตดิ รูปสอ้ ม พร้อมคาสั่งบนกระดาน “ใหน้ กั เรียนหาว่ามอี ะไรบ้างที่มจี านวนเทา่ กับ

จานวนของสอ้ ม”

ปช-๑.๐๓

2) ขั้นการเรียนรดู้ ้วยตนเองของนกั เรียน ( 25 นาที )

- ครใู ห้นักเรียนนั่งเป็นกลุ่ม แลว้ แจกรูปภาพหน้า 16,18 ให้นกั เรยี น

ทุกกลุ่ม พร้อมกับแจกบล็อกไม้ ครูจะคอยกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและสนใจในการ

ทางาน รวมถึงคอยยา้ คาส่ังเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจในคาส่ัง

3) ข้ันนาเสนอแนวคิดและอภปิ ราย ( 10 นาที)

- ครูเลือกแนวคิดของนักเรียนท่ีแตกต่างกัน โดยครูจะถามว่าใครท่ี

หาไดม้ ากทส่ี ดุ จากน้นั ก็จะถามว่าใครหาไดแ้ ตกตา่ งจากนบี้ ้าง

4) ขัน้ สรุปโดยการเช่ือมโยงแนวคดิ ของนกั เรยี น (15 นาที)

- ครูสรุปบทเรียนจากการนาเสนอผลงานของนักเรียนแล้วเชื่อมโยง

แนวคิดของนกั เรียนนาไปสู่ใบงาน ทีเ่ ป็นตัวสรุปบทเรียนเพื่อใหน้ ักเรียนได้เขียน อ่าน ตัวเลข 10 และ

ความหมายของจานวนเหล่าน้ัน พรอ้ มตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น

1.5. การวดั และประเมนิ ผล

ส่งิ ทีจ่ ะประเมิน

รายการประเมิน/จุดประสงค์ วิธกี ารประเมนิ เครอ่ื งมือท่ีใช้

ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1. การทาใบกิจกรรม เร่ือง 1. ใบกิจกรรม เข้าใจ

1. การแกป้ ัญหา เขา้ ใจตอ้ งทาได้ ต้องทาได้

- นักเรียนใช้สัญลักษณ์กึ่งรูปธรรม 2. การตอบคาถามและการ

แสดงแทนจานวนสิ่งของในรูปภาพที่ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ

ครกู าหนดให้ คดิ เหน็ ระหว่างการทา

2. การใหเ้ หตุผล กิจกรรมการเรียนรู้

- นักเรียนสามารถบอกเหตุผลเพื่อ

อธบิ ายแนวคิดของตนเองได้

3. การเชอ่ื มโยง

- นกั เรียนสามารถใช้บลอ็ คหรือ

รูปภาพแสดงแทนจานวนได้และ

สามารถใชส้ ญั ลักษณ์ (ตัวเลข) แสดง

แทนจานวนของสิ่งของในรูปภาพได้

4. การส่อื สารทางคณติ ศาสตร์

ปช-๑.๐๓

ส่งิ ที่จะประเมนิ

รายการประเมิน/จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมิน เครื่องมอื ท่ีใช้

- นักเรียนสามารถพูดอธิบาย เขียน

อธิบายแนวคิดของตนเพื่อส่ือสารให้

ทกุ คนในชั้นเรยี นเข้าใจได้

5. การนาเสนอ

- นกั เรยี นสามารถนาเสนอแนวคดิ

เกีย่ วกบั จานวนโดยใชว้ ตั ถุก่งึ

รูปธรรมในการนาเสนอ

- นักเรียนพูดนาเสนอผลงานและ

อธิบายแนวคิดของตนทห่ี น้าช้นั เรียน

ด้านความรู้ 1. การอภิปรายแลกเปล่ียน 1. การทากิจกรรม

1.เข้าใจความหมาย และสามารถเขียน ความคิดเห็นระหว่างการทา การเรยี นรู้

อ่าน ตัวเลข 10 ได้ กิจกรรมการเรียนรู้

2. การมีส่วนร่วมในกิจกรรม
การเรียนรู้

ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรม 1. การทากิจกรรม

1. มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับ การเรียนรู้ การเรยี นรู้

มอบหมาย 2. การทาใบกิจกรรม เร่ือง 2. ใบกิจกรรม เข้าใจ

2. มีระเบียบวินยั ในการทางาน เขา้ ใจต้องทาได้ ต้องทาได้

3. ยอมรับความคดิ เหน็ ของผอู้ ่ืน 3. การอภิปรายแลกเปลี่ยน

4. มีความกลา้ แสดงออก ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ร ะ ห ว่ า ง ก า ร

นาเสนอแนวคิด และการรับ

ฟังความคิดเห็นจากเพื่อนใน
กลมุ่ และเพื่อนร่วมชนั้ เรยี น

2. การดาเนนิ การสอน
2.1. พฤตกิ รรมการสอน/บคุ ลิกภาพ/การแต่งกาย
พฤติกรรมการสอน : พฤติกรรมการสอนของครูมีมากมายแต่พฤติกรรมการสอนท่ี

สังเกตไดจ้ ากครูพเี่ ลีย้ งมีดงั น้ี

ปช-๑.๐๓
1) สามารถสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและ
ความสขุ ทง้ั ครผู สู้ อนและผู้เรียน
2) ให้นักเรียนได้พฒั นาความคดิ ด้วยการลงมือทา แกป้ ญั หาสถานการณ์ปัญหา
ดว้ ยตนเองและออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
3) ให้นักเรียนทากิจกรรมร่วมกนั เปน็ กลมุ่ ฝึกใหท้ ุกคนไดม้ โี อกาสเป็นผูน้ า
4) ชมนักเรียนเม่ือมีจิตอาสา และให้โอกาสที่เด็กอ่อนจะได้รับคาชมบ้าง โดย
การมองหาส่วนดีของเขา
บุคลกิ ภาพ :
1) บุคลิกภาพทางกาย รูปร่างหน้าตา กิริยาอาการ ลักษณะท่าทางท่ีสง่างาม
การแตง่ กายที่เหมาะสม
2) บุคลิกภาพด้านอารมณ์ เช่น การควบคุมอารมณ์ได้ดี ความสนใจผู้เรียน
การมีอารมณข์ นั ไมเ่ คร่งเครียดจริงจงั จนเกนิ ไป มีอารมณ์แจม่ ใส เบกิ บาน ย้ิมแย้ม และร่าเรงิ อยูเ่ สมอ
3) บุคลิกภาพด้านสติปัญญา เช่น การมีปฏิภาณไหวพริบท่ีดี มีความสามารถ
ในการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า มีการตดั สนิ ใจท่ดี ี มคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ มคี วามรรู้ อบตวั ดี
การแต่งกาย : นอกเหนือจากเร่ืองรูปร่างหน้าตา การแต่งกายก็มีส่วนสาคัญอีก
ประการหนึ่งท่จี ะช่วยให้บคุ ลิกภาพดูดีข้ึน การแตง่ กายของครผู สู้ อนดดู ี สภุ าพ
2.2. รูปแบบ/เทคนคิ ทใี่ ชใ้ นการสอน
ครูผ้สู อนใชว้ ิธกี ารสอนแบบเปิด คือ การชว่ ยให้กิจกรรมสรา้ งสรรค์ และวิธีคดิ ในการ
แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ของนักเรียนใหเ้ กิดข้ึนพรอ้ มๆ กนั กลา่ วคือ ทง้ั กิจกรรมของนักเรียน และวิธี
คิดทางคณิตศาสตร์จะถูกนาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถ ให้นักเรียนแต่ละคนมีอิสระในการ
พัฒนาความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาตามความสามารถและความสนใจของตน ปล่อยให้นักเรียนได้
พัฒนาความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขา ครผู ู้สอนจึงสร้างกิจกรรมในห้องเรียนท่จี ะส่งเสรมิ วธิ ีคิด
ทางคณิตศาสตร์แบบต่างๆ ขณะที่นักเรียนที่มีความสามารถสูงกว่าก็สามารถท่ีจะใช้วิธีการทาง
คณิตศาสตร์อย่างหลากหลายและนักเรียนที่มีความสามารถด้อยกว่าก็ยังคงสนุกสนานกับกับกิจกรรม
การเรียนการสอนตามความสามารถของตนการทาเช่นน้ี เป็นการช่วยให้นักเรียนได้ทาการแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ โดยเปิดโอกาสการสืบเสาะด้วยวิธีการที่ตนเช่ือม่ันและนาไปสู่การแก้ปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ท่ีมีความซับซ้อนสูงข้ึน ผลท่ีเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่นักเรียนจะเกิดการพัฒนาสูงข้ึนท่ี
จะแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ของพวกเขา

ปช-๑.๐๓
2.3. การสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

จากการที่ได้สังเกตครูผู้สอนใช้วิธีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในรูปแบบข อง
การประยุกตใ์ ช้กับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเช่น ให้นักเรียนตั้งใจฟังครูสอน ให้ปฏิบัติตนเป็น
นักเรียนท่ดี ขี องครู

2.4. การสอดแทรกการคิดวิเคราะห์
ในรายวชิ าคณิตศาสตร์เปน็ วิชาท่ีจาเป็นต้องใช้กระบวนการคิดวเิ คราะห์มาใช้ในการ

แก้ปัญหาอยู่แล้วโดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนแบบเปิดเพราะการจัดการเรียนการสอนแบบนี้
จะเน้นให้นักเรียนได้ลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเองซึ่งการสอดแทรกการคิดวิเคราะห์น้ันถือว่าสอดแทรก
เข้าไปในเน้ือหาได้ดแี ละครบถ้วน

2.5. การแกป้ ัญหาระหว่างสอน
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีการสอนเป็นภาษาอังกฤษท้ังหมดก็มีบางคาที่

นักเรยี นไม่เข้าใจครูจะวาดภาพให้นกั เรยี นดู
2.6. การใช้ภาษาอังกฤษสอดแทรกในการสอน
ในคาบน้ีจะเป็นการสอดคณติ ศาสตรด์ ว้ ยการใชภ้ าษาอังกฤษทั้งหมด
2.7. การพัฒนาทักษะการฟงั พดู อ่าน เขียนในขณะที่ดาเนินการสอน
การฟัง : ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมการสอนครูจะคอยสังเกตนักเรียนอยู่เสมอ

ว่ามีใครฟังอยู่บ้างและมีใครท่ีไม่ฟังอยู่บ้างหากใครไม่ฟังก็จะเรียกช่ือเพือ่ เป็นการกระต้นุ ใหน้ ักเรียนได้
ตัง้ ใจฟงั ครมู ากขึน้

การพูด : การพูดของครูจะใช้คาภาษาอังกฤษทั้งหมดและใช้น้าเสียงในโทนท่ีต่างกัน
ทาให้น่าฟังมากยิ่งขน้ึ และส่วนของเด็กนักเรยี นจะใช้วิธีการให้นักเรียนออกมาพูดนาเสนอแนวคิดหน้า
ชน้ั เรียนเพ่ือเปน็ การฝกึ ทักษะทางด้านของการพูด

การอา่ น : ในทุกๆขัน้ ตอนท่ีมีคาส่ังหรือสถานการณ์ปญั หาครูจะใหน้ ักเรียนได้อ่านไป
พรอ้ มกนั กับครูเพือ่ ฝึกทกั ษะการอ่านใหน้ ักเรียนอา่ นหนงั สอื ไดค้ ล่องแคล่วขึ้น

การเขียน : หลังจากที่ครูได้นาเข้าสถานการณ์ปัญหาเสร็จแล้วก็จะให้นักเรียนได้ลง
มือทาใบกิจกรรมด้วยตนเองซึ่งนักเรียนก็จะได้เขียนไปด้วยและเมื่อมีการให้นักเรียนออกไปนาเสนอ
แนวคิดก็จะให้นกั เรยี นฝึกเขียนบนกระดานดาดว้ ย

2.8. การบริหารจัดการชัน้ เรยี น
จากการที่ได้สังเกตสามารถสรุปได้ว่าครูผู้สอนใช้ช้ันเรียนแบบนวัตกรรม เป็นช้ัน

เรียนท่ีเอ้ืออานวยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิควิธีการแบบสอนใหม่ๆ มีส่ือการ
สอนที่น่าสนใจ ทันสมัย มีสันสันสวยงาม ซ่ึงทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกในการเรียน และมีอิสระในการ

ปช-๑.๐๓
เรียน ซง่ึ ครเู ปน็ ผู้กากับและแนะแนวนักเรียนเป็นผู้แสดงบทบาท ครจู ะพดู น้อยลง ใหน้ กั เรยี นได้คดิ ได้
ถาม ไดแ้ ก้ปัญหา และได้ทากิจกรรมด้วยตนเอง

2.9. การใชห้ ลกั จติ วิทยาในการสอน
ครูอยากให้นักเรียนตังใจทากิจกรรมจึงให้นักเรียนได้เล่นเกมส์ก่อนเพื่อดึงดู ดความ

สนใจและลดความกลัวของนักเรียนที่ต้องเรียนกับครตู ่างชาติ
3. การใช้ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
3.1. ประเภทของส่ือ
สื่อหลกั
1) รูปภาพจากหนงั สือคณติ ศาสตรภ์ าคภาษาอังกฤษ หน้า 16,18
ส่อื เสรมิ
1) บล็อกไม้
2) ใบกจิ กรรม
3.2. ความสอดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์ของกจิ กรรม
จากการจัดกิจกรรมท่ีมีเนื้อหาเร่ือง จานวนที่ไม่เกิน 10 (จานวน 10) ปรากฏว่า

นักเรียนเข้าใจความหมาย และสามารถเขียน อ่าน ตัวเลข 10 ได้นั่นหมายถึงกิจกรรมน้ีบรรลุ
วตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้

3.3. คณุ ภาพของสอื่ ทใ่ี ช้
ส่ือการเรียนการสอนมีความคมชัด มองเห็นจากด้านหลังชัดเจน เนื้อหาถูกต้อง

สอดคล้องกับเน้ือหาการเรียนการสอน
3.4. การใชส้ ่อื /แหล่งเรียนรนู้ อกสถานท่ี
ครูใช้ส่ือที่นักเรียนรู้คุ้นเคยเป็นอย่างดีจึงทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกไปกับกิจกรรมการ

เรียนการสอน
3.5. การมีส่วนรว่ มในการใชส้ ่ือของผู้เรยี น
ในการจดั กิกรรมการเรียนการสอนในครั้งนี้ครูได้ให้นักเรียนไดท้ ากิจกรรมไปพรอ้ มๆ

กันทุกคนและให้ทุกคนไดม้ สี ว่ นรว่ มในการใช้สือ่ การเรยี นการสอน
3.6. ความคุ้มค่าของสอ่ื ทใ่ี ช้
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสามารถสรุปได้ว่าส่ือการเรียนการสอนทุกชิ้น

ล้วนมีความเก่ียวข้องกับเนื้อหาทุกชิ้นและท่ีสาคัญส่ือการเรียนการสอนนี้ก็ยั งสามารถนาไปใช้จัด
กจิ กรรมการเรยี นการสอนกับห้องเรยี นอ่ืนอกี ดว้ ยน่ันแสดงวา่ ส่อื ชุดนมี้ ีความคุ้มคา่ ในการใช้

ปช-๑.๐๓

ลงช่ือ____________________
( นายจรณชยั ศรปี ระดิษฐ )
ผสู้ งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤตกิ รรมผูเ้ รยี น ครงั้ ที่ ๑
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔/๔
วัน จนั ทร์ ที่ ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
คุณครมู าลยั ทพิ ย์ คนซือ่ (ครผู ้สู อน)

๑. จานวนนักเรียนในช้ันเรยี น

จานวนนักเรยี นในช้ันเรยี น

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔/๔

10 9 10 9
8

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4 11
2

0 นักเรยี นที่มาเรยี น นักเรยี นท่ีไมม่ าเรียน
นกั เรียนทั้งหมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรยี นหญิง

สาเหตุ ๑. เดก็ ชายเอ (นามสมมต)ิ ลากจิ
การไมม่ าเรยี น ๒. เด็กหญิงบี (นามสมมต)ิ ลาป่วย

๒. พฤติกรรมและการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมของผูเ้ รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนยกตัวอย่างและ

การให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดในเรื่องที่ได้เรียนมาจากคาบที่แล้วนักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือกับ
ครูผู้สอนเป็นอย่างดีสังเกตได้จากการที่ครูตั้งตัวอย่างข้ึนมาในกระดานแล้วแสดงวิธีทาไปพร้อมๆกับ
นักเรียนในห้องทุกคนตอบเสียงดัง ฟังชัดและเมื่อครูขอตัวแทนออกไปแสดงวิธีคิดนักเรียนก็ต่างแย่ง
กันยกมือเพ่ือที่จะออกไปเม่ือครูให้ทาแบบฝึกหัดต่างคนก็ต่างทาของตนเองเป็นอย่า งดีแต่ก็ได้
สังเกตเห็นนักเรยี นอยู่คนหน่ึงท่ีไม่ทาแบบฝึกหัดแต่เขากลับเดนิ ไปเดินมาเมอื่ เดินมานงั่ ทีโ่ ต๊ะกช็ อบเอา
ไม้บรรทัดหรือกล่องดินสอเคาะโต๊ะส่งเสียงดังจนกระท่ังครูเตือนอยู่บอ่ ยคร้ัง จนบางคร้ังครูต้องเอาไม้
ไปขู่วา่ ถ้าไม่ทาแบบฝกึ หัดก็จะตหี รือบางคร้ังครูบอกว่าถ้าไม่ต้ังใจทาก็จะฟ้องแม่เขาจึงนั่งทาแต่ก็ได้ไม่
นานเช่นกันแตเ่ ม่อื เปดิ หนังสอื ดูปรากฏว่าแบบฝกึ หดั สว่ นใหญ่ทท่ี ากท็ าถูก

ปช-๑.๐๔
๓. ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้จากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้เป็น ๒ ประเด็นด้วยกนั คือ
- สิ่งที่ได้เรียนรู้จากครู
การควบคุมนักเรียนภายในชั้นเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้เพ่ือนๆฟัง กรณี
นกั เรยี นคยุ กันหรือนักเรียนไมต่ ัง้ ใจเรียนครูก็อาจใชว้ ิธีการควบคุมชน้ั เรียนแบบเข้มงวดมากขึน้

- สิง่ ที่ได้เรยี นรูจ้ ากผ้เู รยี น
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบนี้และท่ี

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดที่แตกต่างและหลากกันของนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นเร่ืองดีที่นักเรียนมี
ความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้ว่านักเรียนห้องน้ีชอบการออกไปนาเสนอแนวคิดของตนหน้าช้ัน
เรียนซึ่งจะทาให้นักเรียนกลายเป็นคนท่ีมที ักษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออกที่ดีในอนาคตได้
เช่นกนั

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผู้สงั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี น คร้งั ท่ี ๒
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒/๕
วัน จนั ทร์ ที่ ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.
คณุ ครูมาลยั ทพิ ย์ คนซอ่ื (ครผู ู้สอน)

๑. จานวนนักเรยี นในช้ันเรียน

จานวนนกั เรยี นในช้นั เรียน

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๒/๕

10 10 10
9 9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นกั เรยี นท่ีมาเรยี น นักเรยี นทไี่ ม่มาเรยี น
นกั เรยี นทง้ั หมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนกั เรยี นหญิง

สาเหตุ ไมม่ ี
การไม่มาเรียน

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมของผูเ้ รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรม (ไปจ่ายตลาดกันเถอะ) เป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซ่ึงประกอบด้วยสื่อการสอนที่
น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้ความร่วมมือครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันทั้งห้อง
เสียงดังมากและเม่ือครูขอตัวแทนนักเรียนต่างก็แย่งท่ีออกไปหน้าช้ันเรียน ในบางครั้งนักเรียนคนที่
ไม่ได้ออกไปถึงกับส่งเสียงดังโวยวายว่าทาไมครูถึงไม่ให้หนูออกไป หนูคิดได้หนูอยากออกไป ซ่ึงจาก
การท่ีสงั เกตเหน็ ไมม่ ีนักเรียนคนไหนเลยที่นั่งนิ่งทแี่ สดงอาการว่าไม่อยากออกไปหน้าชัน้ เรียน

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทไี่ ด้เรียนรจู้ ากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิ่งท่ีไดเ้ รียนรูเ้ ปน็ ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คอื
- สิง่ ท่ีได้เรียนร้จู ากครู
เมื่อมีนักเรียนคนท่ีไม่ได้ออกไปส่งเสียงดังไม่พอใจครูจึงใช้วิธีการเพ่ิมคาถาม

ขน้ึ มาเพอ่ื ท่ีจะใหน้ ักเรียนได้ออกมาหน้าชั้นเรียนทุกคน นั่นก็คือการให้โอกาสนักเรียนทุกคนอย่างเท่า
เทียมกันและอีกอย่างคือการที่ครูไม่ปิดกันความคิดเด็กก็จะทาให้เด็กมีความคิดที่หลากหลายและ
น่าสนใจอนั จะนาไปสทู่ ักษะกระบวนคิดทางคณิตศาสตร์ท่ีสมบูรณ์

- สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ ากผู้เรยี น
ทาใหท้ าบว่าการสร้างสื่อการสอนท่ีน่าสนใจ มีสสี ันและทันสมัยมากเทา่ ไหร่

ก็จะทาให้สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้มากเท่าน้ัน เมื่อครูจัดกิจกรรมตามที่เด็กชอบก็จะ
ทาให้ช้ันเรียนนั้นกลายเป็นการทอลองท่ีเต็มไปด้วยความสุขอันเป็นวัตถุประสงค์หลักของการจัดกา ร
ชนั้ เรียน

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรีประดิษฐ )
ผ้สู งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี น ครัง้ ท่ี ๓
รายวิชา คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑/๕
วนั จนั ทร์ ท่ี ๒๘ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.
คุณครมู าลัยทพิ ย์ คนซือ่ (ครผู สู้ อน)
๑. จานวนนกั เรียนในชัน้ เรียน

จานวนนักเรยี นในช้ันเรยี น

ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นกั เรยี นท่ีมาเรยี น 00
นกั เรยี นทีไ่ มม่ าเรียน
0
นกั เรียนทั้งหมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนักเรยี นหญงิ

สาเหตุ ไม่มี
การไม่มาเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรม (งานปาร์ตี้ วันเกิด) เป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยส่ือการสอนที่
น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้ความร่วมมือครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันทั้งห้อง
เสียงดังมากและเมื่อครูขอตัวแทนนักเรียนต่างก็แย่งท่ีออกไปหน้าชั้นเรียน ในบางคร้ังนักเรียนคนท่ี
ไม่ได้ออกไปถึงกับส่งเสียงดังโวยวายว่าทาไมครูถึงไม่ให้หนูออกไป หนูคิดได้หนูอยากออกไป
เช่นเดียวกับการสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ครั้งท่ี ๒ แต่จะมีนักเรียนผู้หญิงอยู่คนหน่ึงท่ีน่ังอยู่ด้าน
หลังสุดดูเหมือนว่าเขาไม่มีสมาธิในการเรียนเพราะจากการสังเกตเขาจะนั่งเล่นอุปกรณ์การเรียนของ
เขาไปเรือ่ ยๆ จนกระทง่ั มีครเู ข้าไปสอนและอธิบายเขาแบบตัวต่อตัวเขาก็จะกลับมาทาใบงานตามปกติ
และสามารถทาส่งครไู ดต้ ามเวลากาหนดพรอ้ มกับเพื่อนๆ

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรู้จากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นร้เู ป็น ๒ ประเด็นด้วยกนั คอื
- สงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรจู้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าการใหเ้ ด็กทาใบงานนนั้ ครูจาเป็นที่จะต้องเดินไปดูทั่วๆ

ห้องเพ่ือที่จะสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนและอีกอย่างท่ีสาคัญคือการเดินไปดูแนวคิดของ
นกั เรียนเพื่อท่ีจะทาการเลือกแนวคิดที่แตกต่างและน่าสนใจมานาเสนอหน้าช้นั เรียนให้เพื่อนได้เข้าใจ
ด้วยในส่ิงที่เขาคดิ

- สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรจู้ ากผ้เู รียน
การที่ครูให้ความสนใจด้วยการเดินเข้าไปดูแบบตัวต่อตัวก็จะทาให้เด็กรู้สึก

อบอุ่นและมีกาลังใจที่จะทางานมากข้ึนซ่ึงจะทาให้กิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุ จุดประสงค์และ
ประสบความสาเร็จทง้ั ครแู ละนักเรยี น

ลงช่อื ____________________
( นายจรณชยั ศรปี ระดิษฐ )
ผ้สู งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤตกิ รรมผู้เรียน ครงั้ ที่ ๔
รายวิชา คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑/๕
วนั พธุ ท่ี ๓๐ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
Teacher Anna (ครูผ้สู อน)
๑. จานวนนักเรียนในชัน้ เรยี น

จานวนนักเรยี นในชนั้ เรียน

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นักเรยี นท่มี าเรียน 00
นักเรียนทไี่ ม่มาเรยี น
0
นักเรียนทั้งหมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนักเรยี นหญิง

สาเหตุ ไม่มี
การไม่มาเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมของผเู้ รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนโดยครูต่างชาติ

ท้ังหมดของกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่มีผลกระตบต่อการทากิจกรรมของ
นักเรียนเพราะเมื่อครูถามนักเรียนก็ยังคงแย่งกันตอบเหมือนเดิมและเม่ือขอตัวแทนนักเรียนก็จะแย่ง
กันออกไปหน้าช้ันเรียนแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของนักเรียนท่ีพร้อมจะรับฟังและร่วม
ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายของคาบนี้ มีนักเรียนหลายคนสามารถสื่อสาร
ภาษาองั กฤษได้ชัดเจนและบางคนก็สามารถแปลคาท่ีครผู ้สู อนพูดได้เช่นกันแสดงให้เห็นถงึ พื้นฐานทาง
ภาษาอังกฤษของนักเรียนทแ่ี นน่ ต้ังแตร่ ะดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรจู้ ากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิ่งท่ไี ดเ้ รียนร้เู ป็น ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คอื
- สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรจู้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าครพู ยายามใชภ้ าษาและคาที่เขา้ ใจง่ายในการอธิบายให้

นักเรียนเข้าและถ้ามีคาไหนท่ีนักเรียนไม่เข้าใจครูจะใช้วิธีการวาดภาพบนกระดานพร้อมท้ังบอกว่า
ภาพนภี้ าษาอังกฤษเรียกวา่ อะไร

- ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรจู้ ากผ้เู รยี น
การที่ครูจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบที่ให้ทุกคนได้แสดงออกและมีร่วมใน

กิจกรรมไปพร้อมๆกันจะทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนักเ รียนมี
ความตัง้ ใจเรยี นมากยิง่ ข้นึ

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรปี ระดิษฐ )
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผ้เู รยี น ครงั้ ที่ ๕
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑/๔
วนั พธุ ที่ ๓๐ เดือน พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.
คณุ ครสู ภุ าวี ศรีงาม (ครผู ู้สอน)
๑. จานวนนักเรียนในชั้นเรยี น

จานวนนักเรียนในชนั้ เรียน

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑/๔

20 18 17 18 17

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 15

10

5 นักเรยี นทม่ี าเรียน 00
นักเรียนทไ่ี ม่มาเรียน
0
นักเรียนทง้ั หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนักเรยี นหญิง

สาเหตุ ไม่มี
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนด้วยวิธีการแบบ

เปิดคือ นาเข้าสถานการณ์ปัญหาและต่อด้วยให้ผู้เรียนได้ลงมือแก้ปัญหาดว้ ยตนเองด้วยเหตุท่ีห้องน้ีมี
นักเรียนเป็นจานวนมากจึงทาให้การควบคุมชั้นเรียนค่อนข้างยาก มีนักเรียนหลายคนคุยกัน เล่นกัน
ทะเลาะกันไม่ฟังและให้ความร่วมมือในกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ก็ยังมีนักเรียนอีกกลุ่มหน่ึงท่ีให้
ความรว่ มมือกบั กจิ กรรมเป็นอย่างดีและคอยห้ามเพื่อนไม่ให้คยุ กันให้ตง้ั ใจเรยี น

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ที่ไดเ้ รยี นรจู้ ากการสงั เกต

จากการสังเกตสามารถสรุปสิง่ ที่ได้เรียนรู้เป็น ๒ ประเดน็ ดว้ ยกันคอื
- สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรจู้ ากครู
การควบคุมช้ันเรียนการท่ีมีนักเรียนจานวนมากในห้องเรียนที่ขนาดแคบและ

นักเรียนส่วนใหญ่ก็เล่นกัน คุยกันครูจึงต้องวิธีการเดินสอนไปทั่วๆชั้นเรียนและกระตุ้นนักเรียนอยู่
ตลอดเวลาเพ่อื ดึงความสนใจของนักเรียนมาที่กิจกรรมการเรยี นการสอน

- สิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรจู้ ากผเู้ รียน
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นที่นักเรียนแสดงออกมาในคาบน้ีและทาให้รู้

วา่ ถ้ากิจกรรมการเรยี นรู้ไม่นา่ สนใจตามวยั ท่ีนักเรยี นกาลงั ชอบอยู่กจ็ ะไม่สามารถดึงดูดความสนใจจาก
นกั เรียนไดเ้ ชน่ กัน

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผสู้ ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤติกรรมผ้เู รียน ครัง้ ท่ี ๖
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒/๕
วนั พุธ ท่ี ๓๐ เดือน พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๒.๑๕ – ๑๓.๑๕ น.
คุณครูมาลัยทิพย์ คนซ่ือ (ครูผสู้ อน)

๑. จานวนนักเรียนในชั้นเรยี น

จานวนนกั เรียนในชั้นเรียน

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒/๕

10 10 10
9 9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นักเรียนที่มาเรียน นักเรยี นท่ีไมม่ าเรียน
นกั เรยี นทงั้ หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรียนหญงิ

สาเหตุ ไมม่ ี
การไมม่ าเรียน

๒. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยส่ือการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมือครูเป็นอยา่ งดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องเสียงดังมากและเม่ือครูขอ
ตวั แทนนักเรียนตา่ งก็แย่งท่ีออกไปหน้าชั้นเรียน ในบางคร้ังนักเรียนคนท่ีไม่ได้ออกไปถึงกับส่งเสียงดัง
โวยวายว่าทาไมครูถึงไม่ให้หนูออกไป หนูคิดได้หนูอยากออกไป ซ่ึงจากการที่สังเกตเห็นไม่มีนักเรียน
คนไหนเลยที่นงั่ น่งิ ทีแ่ สดงอาการวา่ ไม่อยากออกไปหนา้ ชัน้ เรยี น

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้จากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้เป็น ๒ ประเด็นด้วยกนั คอื
- สิ่งท่ีไดเ้ รยี นรู้จากครู
เม่ือมีนักเรียนหลายคนอยากออกไปทากิจกรรมหน้าช้นั เรียนครูจึงให้นักเรียนได้

ออกทากิจกรรมหน้าช้ันเรียนทุกคนเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้กับนักเรียนแล้วจะทาให้
นักเรียนร้สู กึ อยากทจี่ ะเรียนและทากิจกรรมอกี ในคร้ังถัดไป

- สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ ากผู้เรียน
ทาให้ทาบว่าการสรา้ งส่อื การสอนที่นา่ สนใจ มีสสี ันและทันสมัยมากเท่าไหร่

ก็จะทาให้สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้มากเท่านั้น เม่ือครูจัดกิจกรรมตามที่เด็กชอบก็จะ
ทาให้ช้ันเรียนน้ันกลายเป็นการทอลองที่เต็มไปด้วยความสุขอันเป็นวัตถุประสงค์หลักของการจัดการ
ชั้นเรียนและเมื่อครูให้ออกไปหน้าช้ันเรียนครบทุกคนนักเรียนก็จะดีใจและมีความสุขกับการเรียน
เชน่ กนั

ลงชือ่ ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผู้สงั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผเู้ รียน คร้ังท่ี ๗
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔
วนั พฤหสั บดี ที่ ๓๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
คุณครมู าลัยทพิ ย์ คนซอื่ (ครผู ู้สอน)

๑. จานวนนกั เรียนในชัน้ เรียน

จานวนนักเรียนในช้ันเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๔

10 9 10 99

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4 01
2

0 นักเรียนที่มาเรยี น นักเรยี นท่ไี มม่ าเรียน
นักเรียนทัง้ หมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนกั เรียนหญิง

สาเหตุ ๑. เดก็ หญิงเอ (นามสมมต)ิ ลาป่วย
การไม่มาเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมของผู้เรยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยสื่อการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมือครูเป็นอยา่ งดี เมื่อครูถามอะไรนักเรยี นก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องเสียงดังมากและเม่ือครูขอ
ตัวแทนนักเรียนต่างก็แย่งที่ออกไปหน้าช้ันเรียน และมีนักเรียนคนหน่ึงจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือน
เพ่อื นคือ ลุกขึน้ เดนิ ไปมาทวั่ ช้นั เรยี น ไมท่ ากิจกรรมกบั เพ่ือนและชอบเอาของปาใส่เพอื่ นในบางครง้ั แต่
พอครูประจาช้ันบอกให้ไปนงั่ และทากจิ กรรมร่วมกบั เพื่อนๆเขาก็ไปนั่งปกตเิ หมือนเพ่ือนคนอื่นๆ

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรจู้ ากการสงั เกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ ส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรเู้ ป็น ๒ ประเด็นด้วยกนั คอื
- สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรจู้ ากครู
การควบคุมนักเรียนภายในชั้นเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้เพื่อนๆฟัง กรณี
นกั เรียนคยุ กันหรอื นักเรยี นไม่ตง้ั ใจเรยี นครูกอ็ าจใชว้ ธิ ีการควบคุมชั้นเรียนแบบเข้มงวดมากขึ้น

- ส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรู้จากผู้เรยี น
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบื้องต้นที่นักเรียนแสดงออกมาในคาบน้ีและที่

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดที่แตกต่างและหลากกันของนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นเร่ืองดีท่ีนักเรียนมี
ความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้วา่ นักเรียนห้องน้ชี อบการออกไปนาเสนอแนวคดิ ของตนหน้าช้ัน
เรียนซึง่ จะทาให้นักเรยี นกลายเป็นคนที่มีทักษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออกท่ีดีในอนาคตได้
เช่นกันและไดท้ ราบถงึ การแกป้ ญั หากรณีนักเรียนท่มี ีพฤติกรรมพิเศษ

ลงช่อื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผู้สังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน ครง้ั ท่ี ๘
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓/๔
วนั พฤหัสบดี ที่ ๓๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.
คณุ ครอู รอรงค์ ทองมี (ครูผู้สอน)
๑. จานวนนกั เรยี นในช้ันเรียน

จานวนนกั เรยี นในช้ันเรยี น

ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓/๔

20 18 18
15 15

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 15

10

5 นกั เรยี นที่มาเรยี น 00
นักเรยี นท่ีไมม่ าเรยี น
0
นกั เรียนทั้งหมด

จานวนนกั เรียนชาย จานวนนกั เรียนหญงิ

สาเหตุ ไม่มี
การไม่มาเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมของผู้เรียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนยกตัวอย่างและ

การให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดในเรื่องที่ได้เรียนมาจากคาบที่แล้วนักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือกับ
ครูผู้สอนเป็นอย่างดีสังเกตได้จากการที่ครูต้ังตัวอย่างขึ้นมาในกระดานแล้วแสดงวิธีทาไปพร้อมๆกับ
นักเรียนในห้องทุกคนตอบเสียงดัง ฟังชัดและเมื่อครูขอตัวแทนออกไปแสดงวิธีคิดนักเรียนก็ต่างแย่ง
กนั ยกมอื เพอ่ื ท่จี ะออกไปเม่ือครูใหท้ าแบบฝึกหดั ตา่ งคนก็ต่างทาของตนเองเปน็ อยา่ งดี

ปช-๑.๐๔
๓. ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรูจ้ ากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรูเ้ ปน็ ๒ ประเด็นดว้ ยกนั คอื
- สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้จากครู
การควบคุมนักเรยี นภายในช้ันเรยี นของครเู ช่น การเดนิ ไปดูนักเรียนท่วั ห้องว่ามี

นักเรียนคนไหนทาไม่ได้หรือไม่เข้าใจครูก็จะอธิบายให้นักเรียนฟังและเข้าใจทันที กรณีให้นักเรียน
ร่วมกันคิดไปพร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้
เพื่อนๆฟัง กรณีนักเรียนคุยกันหรือนักเรียนไม่ตั้งใจเรียนครูก็อาจใช้วิธีการควบคุมชั้นเรียนแบบ
เข้มงวดมากข้ึน

- สง่ิ ทไี่ ดเ้ รียนรู้จากผเู้ รียน
ทาให้ทราบถึงแนวคิดท่ีแตกต่างและหลากกันของนักเรยี นซงึ่ ถือวา่ เปน็ เรื่อง

ดีท่ีนักเรียนมีความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้ว่านักเรียนห้องน้ีชอบการออกไปนาเสนอแนวคิด
ของตนหน้าช้ันเรียนซ่ึงจะทาให้นักเรียนกลายเป็นคนท่ีมีทกั ษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออก
ท่ดี ีในอนาคตได้เชน่ กัน

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผ้สู งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน ครัง้ ท่ี ๙
รายวิชา คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑/๕
วัน พฤหัสบดี ท่ี ๓๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๒.๑๕ – ๑๓.๑๕ น.
คุณครมู าลัยทิพย์ คนซ่ือ (ครผู ูส้ อน)
๑. จานวนนกั เรยี นในชั้นเรยี น

จานวนนักเรยี นในชั้นเรียน

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 14 14
15

10 10
10

5 นักเรยี นที่มาเรียน 00
นักเรียนที่ไมม่ าเรยี น
0
นกั เรยี นทง้ั หมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนักเรยี นหญงิ

สาเหตุ ไมม่ ี
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยสื่อการสอนท่ีน่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมอื ครูเป็นอยา่ งดี เม่ือครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันทั้งห้องเสียงดังมากและเม่ือครูขอ
ตวั แทนนักเรียนต่างก็แย่งที่ออกไปหน้าช้ันเรียน ในบางคร้ังนักเรียนคนท่ีไม่ได้ออกไปถึงกับส่งเสียงดัง
โวยวายว่าทาไมครูถึงไม่ให้หนูออกไป หนูคิดได้หนูอยากออกไป เช่นเดียวกับการสังเกตพฤติกรรม
ผู้เรียน ครั้งท่ี ๒

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรจู้ ากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรุปสิง่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้เป็น ๒ ประเด็นด้วยกันคอื
- ส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้จากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าการให้เด็กทาใบงานน้ันครูจาเป็นที่จะต้องเดินไปดูทั่วๆ

ห้องเพื่อท่ีจะสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนและอีกอย่างท่ีสาคัญคือการเดินไปดูแนวคิดของ
นกั เรียนเพ่ือท่ีจะทาการเลือกแนวคิดที่แตกต่างและน่าสนใจมานาเสนอหน้าช้ันเรียนให้เพ่ือนได้เข้าใจ
ด้วยในส่งิ ทเ่ี ขาคิด

- สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรู้จากผ้เู รยี น
การที่ครูให้ความสนใจด้วยการเดินเข้าไปดูแบบตัวต่อตัวก็จะทาให้เด็กรู้สึก

อบอุ่นและมีกาลังใจท่ีจะทางานมากข้ึนซึ่งจะทาให้กิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุจุดประสงค์และ
ประสบความสาเร็จท้ังครูและนักเรียน

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี น ครั้งที่ ๑๐
รายวิชา คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒/๕
วัน พฤหสั บดี ท่ี ๓๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๓.๑๕ – ๑๔.๑๕ น.
คณุ ครมู าลยั ทพิ ย์ คนซือ่ (ครูผสู้ อน)

๑. จานวนนักเรียนในชั้นเรียน

จานวนนักเรียนในชั้นเรยี น

ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒/๕

10
10 9 9 9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

41
20

0 นกั เรยี นทม่ี าเรียน นกั เรียนที่ไมม่ าเรยี น
นกั เรยี นทงั้ หมด

จานวนนักเรยี นชาย จานวนนักเรียนหญิง

สาเหตุ ๑. เดก็ ชาย เอ (นามสมมติ) ลาปว่ ย
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของผู้เรยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซ่ึงประกอบด้วยส่ือการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมอื ครูเป็นอย่างดี เม่ือครูถามอะไรนักเรยี นก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องเสียงดังมากและเม่ือครูขอ
ตัวแทนนักเรียนต่างก็แย่งท่ีจะออกไปหน้าช้ันเรียน โดยท่ีนักเรียนคนมีความกล้าที่จะคิด ท่ีจะ
แสดงออก ในแนวคิดของตนเองเม่ือมีคนออกไปด้านในท่ีเหลือก็จะคิดตามและคอยสังเกตว่าเพื่อนทา
ถูกหรอื ไม่

ปช-๑.๐๔
๓. ส่ิงที่ได้เรยี นรู้จากการสงั เกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ ส่ิงท่ีได้เรยี นรูเ้ ป็น ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คอื
- สิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้จากครู
เม่ือมีนักเรยี นหลายคนอยากออกไปทากิจกรรมหนา้ ชนั้ เรียนครูจึงใหน้ ักเรียนได้

ออกทากิจกรรมหน้าชั้นเรียนทุกคนเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้กับนักเรียนแล้วจะทาให้
นักเรยี นร้สู ึกอยากทจี่ ะเรียนและทากิจกรรมอีกในคร้งั ถัดไป

- สง่ิ ท่ไี ด้เรียนรจู้ ากผู้เรียน
ทาให้ทราบว่าการสร้างส่ือการสอนที่น่าสนใจ มีสีสันและทันสมัยมาก

เท่าไหร่ก็จะทาให้สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้มากเท่าน้ัน เมื่อครูจัดกิจกรรมตามที่เด็ก
ชอบกจ็ ะทาใหช้ ้นั เรยี นน้ันกลายเปน็ การทอลองทีเ่ ต็มไปดว้ ยความสุขอันเป็นวัตถปุ ระสงค์หลักของการ
จัดการชั้นเรียนและเมื่อครูให้ออกไปหน้าชั้นเรียนครบทุกคนนักเรียนก็จะดีใจและมีความสุขกับการ
เรยี นเช่นกนั

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรีประดิษฐ )
ผ้สู งั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผูเ้ รียน ครั้งท่ี๑๒
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔
วนั ศกุ ร์ ท่ี ๑ เดือน มถิ ุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๑๕ – ๐๙.๑๕ น.
คณุ ครูมาลยั ทพิ ย์ คนซอื่ (ครูผูส้ อน)

๑. จานวนนกั เรียนในช้ันเรียน

จานวนนกั เรียนในช้นั เรียน

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔/๔

9 10 10

10 8

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

41
20

0 นกั เรียนทมี่ าเรยี น นกั เรยี นทีไ่ มม่ าเรยี น
นักเรียนทั้งหมด

จานวนนกั เรียนชาย จานวนนักเรยี นหญิง

สาเหตุ ๑. เดก็ ชายเอ (นามสมมติ) ลาปว่ ย
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤติกรรมและการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยส่ือการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมอื ครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องเสียงดังมากและเมื่อครูขอ
ตวั แทนนกั เรยี นต่างกแ็ ย่งที่ออกไปหน้าชน้ั เรยี น ช่วงการของาทาใบกิจกรรมก็จะทากนั เป็นคู่ซง่ึ ต่างคน
ก็ต่างช่วยกันทาและนาเสนอแนวคิดของตนเองใส่ลงไปใบในกิจกรรมซ่ึงจากการท่ีได้สังเกตนักเรียนมี
ความคิดท่ีหลากหลายมากทาให้รู้ถึงการประสบความสาเร็จในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของ
ครู

ปช-๑.๐๔
๓. สิ่งทีไ่ ด้เรยี นรูจ้ ากการสังเกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ ส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรเู้ ปน็ ๒ ประเด็นดว้ ยกนั คอื
- สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรูจ้ ากครู
การควบคุมนักเรียนภายในช้ันเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้เพื่อนๆฟัง ถ้ามี
แนวคดิ ไหนทนี่ ักเรียนอธิบายให้เพือ่ นไมเ่ ขา้ ใจครกู จ็ ะชว่ ยเสริมให้

- ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้จากผู้เรยี น
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบื้องต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบนี้และท่ี

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดที่แตกต่างและหลากกันของนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นเร่ืองดีที่นักเรียนมี
ความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้วา่ นักเรยี นห้องน้ชี อบการออกไปนาเสนอแนวคดิ ของตนหน้าชั้น
เรียนซง่ึ จะทาให้นักเรยี นกลายเป็นคนท่ีมีทักษะทางด้านการสื่อสารและการแสดงออกท่ีดีในอนาคตได้
เช่นกัน

ลงชอื่ ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผู้สงั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสงั เกตพฤติกรรมผเู้ รียน คร้ังที่ ๑๓
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑/๔
วัน ศกุ ร์ ที่ ๑ เดือน มิถนุ ายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.
คณุ ครูสุภาวี ศรีงาม (ครูผู้สอน)
๑. จานวนนกั เรยี นในชั้นเรยี น

จานวนนกั เรยี นในชน้ั เรียน

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑/๔

20 18 17 18 17

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 15

10

5 นกั เรียนทีม่ าเรียน 00
นกั เรยี นทไี่ ม่มาเรียน
0
นกั เรยี นทงั้ หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรยี นหญงิ

สาเหตุ ไมม่ ี
การไมม่ าเรียน

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนด้วยวิธีการแบบ

เปิดคือ นาเข้าสถานการณ์ปัญหาและต่อด้วยให้ผู้เรียนได้ลงมือแก้ปัญหาดว้ ยตนเองด้วยเหตุที่ห้องนี้มี
นักเรียนเป็นจานวนมากจึงทาให้การควบคุมช้ันเรียนค่อนข้างยาก มีนักเรียนหลายคนคุยกัน เล่นกัน
ทะเลาะกันไม่ฟังและให้ความร่วมมือในกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ก็ยังมีนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งท่ีให้
ความร่วมมือกบั กจิ กรรมเป็นอยา่ งดแี ละคอยห้ามเพ่ือนไม่ให้คยุ กนั ใหต้ ั้งใจเรยี นแต่ในครั้งน้ีนักเรียนให้
ความร่วมมือในกจิ กรรมการสอนเรียนการสอนมากกวา่ คร้ังท่ีแล้ว

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ท่ไี ด้เรียนรจู้ ากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรุปสงิ่ ที่ได้เรยี นรเู้ ป็น ๒ ประเดน็ ดว้ ยกันคือ
- สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรจู้ ากครู
การควบคุมชั้นเรียนการที่มีนักเรียนจานวนมากในห้องเรียนที่ขนาดแคบและ

นักเรียนส่วนใหญ่ก็เล่นกัน คุยกันครูจึงต้องวิธีการเดินสอนไปทั่วๆชั้นเรียนและกระตุ้นนักเรียนอยู่
ตลอดเวลาเพื่อดึงความสนใจของนักเรยี นมาทก่ี ิจกรรมการเรยี นการสอน

- สิ่งทไี่ ดเ้ รยี นร้จู ากผู้เรียน
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบน้ีและทาให้รู้

ว่าถ้ากจิ กรรมการเรียนรู้และส่ือการสอนน่าสนใจมากขึ้นนักเรียนกจ็ ะให้ความร่วมมือกับกิจกรรมมาก
ยิง่ ข้ึน

ลงชอื่ ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผู้สงั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผู้เรยี น ครงั้ ที่ ๑๔
รายวิชา คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑/๕
วนั ศกุ ร์ ที่ ๑ เดือน มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๐.๑๕ – ๑๑.๑๕ น.
Teacher Anna (ครูผูส้ อน)
๑. จานวนนักเรยี นในชั้นเรยี น

จานวนนกั เรียนในช้ันเรียน

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑/๕

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 15 14 13
10 10

10

5 นกั เรียนท่ีมาเรียน 01
นักเรยี นท่ีไมม่ าเรียน
0
นักเรยี นทง้ั หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนักเรียนหญิง

สาเหตุ ๑.เดก็ หญงิ เอ (นามสมมติ) ลากิจ
การไม่มาเรียน

๒. พฤติกรรมและการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของผเู้ รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในรูปของการสอนโดยครูต่าง ชาติ

ท้ังหมดของกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่มีผลกระตบต่อการทากิจกรรมของ
นักเรียนเพราะเม่ือครูถามนักเรียนก็ยังคงแย่งกันตอบเหมือนเดิมและเมื่อขอตัวแทนนักเรียนก็จะแย่ง
กันออกไปหน้าชั้นเรียนแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของนักเรียนท่ีพร้อมจะรับฟังและร่ว ม
ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายของคาบน้ี มีนักเรียนหลายคนสามารถสื่อสาร
ภาษาอังกฤษได้ชัดเจนและบางคนกส็ ามารถแปลคาที่ครูผสู้ อนพดู ได้เชน่ กันแสดงให้เห็นถงึ พน้ื ฐานทาง
ภาษาอังกฤษของนกั เรียนทีแ่ น่นต้ังแต่ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรจู้ ากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สิ่งท่ไี ดเ้ รียนร้เู ป็น ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คอื
- สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรจู้ ากครู
จากการสังเกตทาให้รู้ว่าครพู ยายามใชภ้ าษาและคาที่เขา้ ใจง่ายในการอธิบายให้

นักเรียนเข้าและถ้ามีคาไหนท่ีนักเรียนไม่เข้าใจครูจะใช้วิธีการวาดภาพบนกระดานพร้อมทั้ งบอกว่า
ภาพนภี้ าษาอังกฤษเรียกวา่ อะไร

- ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรจู้ ากผ้เู รยี น
การที่ครูจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบท่ีให้ทุกคนได้แสดงออกและมีร่วมใน

กิจกรรมไปพร้อมๆกันจะทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนักเรียนมี
ความตัง้ ใจเรยี นมากยิง่ ข้นึ

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผเู้ รยี น ครั้งที่ ๑๖
รายวิชา คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒/๕
วัน พฤหัสบดี ท่ี ๓๑ เดอื น พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๓.๑๕ – ๑๔.๑๕ น.
Teacher Anna (ครผู ู้สอน)

๑. จานวนนกั เรียนในชนั้ เรยี น

จานวนนกั เรียนในชั้นเรียน

ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒/๕

10
10 9 9 9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

41
20

0 นักเรียนท่มี าเรียน นกั เรยี นทไี่ ม่มาเรียน
นกั เรียนทงั้ หมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนักเรียนหญิง

สาเหตุ ๑. เดก็ ชาย เอ (นามสมมติ) ลาป่วย
การไม่มาเรียน

๒. พฤติกรรมและการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมของผู้เรยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนโดยครูต่างชาติ

ทั้งหมดของกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่มีผลกระตบต่อการทากิจกรรมของ
นักเรียนเพราะเมื่อครูถามนักเรียนก็ยังคงแย่งกันตอบเหมือนเดิมและเม่ือขอตัวแทนนักเรียนก็จะแย่ง
กันออกไปหน้าช้ันเรียนแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของนักเรียนท่ีพร้อมจะรับฟังและร่วม
ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายของคาบน้ี มีนักเรียนหลายคนสามารถสื่อสาร
ภาษาองั กฤษได้ชัดเจนและบางคนก็สามารถแปลคาท่คี รูผสู้ อนพดู ได้เชน่ กันแสดงให้เห็นถงึ พืน้ ฐานทาง
ภาษาอังกฤษของนกั เรียนว่าถ้าช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ มีพ้ืนฐานมาดใี นระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ ก็
จะไมม่ อี ุปสรรคทางการเรียน

ปช-๑.๐๔
๓. สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรจู้ ากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนร้เู ป็น ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คอื
- สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรจู้ ากครู
จากการสังเกตทาใหร้ ู้ว่าครพู ยายามใชภ้ าษาและคาที่เขา้ ใจง่ายในการอธิบายให้

นักเรียนเข้าและถ้ามีคาไหนท่ีนักเรียนไม่เข้าใจครูจะใช้วิธีการวาดภาพบนกระดานพร้อมท้ังบอกว่า
ภาพนภี้ าษาอังกฤษเรียกวา่ อะไร

- ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรจู้ ากผ้เู รียน
การที่ครูจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบท่ีให้ทุกคนได้แสดงออกและมีร่วมใน

กิจกรรมไปพร้อมๆกันจะทาให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนักเรียนมี
ความตัง้ ใจเรยี นมากยิง่ ข้นึ

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชยั ศรีประดิษฐ )
ผ้สู ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน ครั้งท่ี๑๗
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔
วนั จันทร์ ท่ี ๔ เดอื น มถิ ุนายน พทุ ธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๘.๐๕ – ๐๙.๐๕ น.
คุณครูมาลยั ทิพย์ คนซื่อ (ครผู ูส้ อน)

๑. จานวนนกั เรยี นในชน้ั เรยี น

จานวนนกั เรยี นในชั้นเรียน

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔/๔

10 9 10 10
9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นักเรยี นท่ีมาเรยี น นกั เรียนทไ่ี ม่มาเรยี น
นักเรยี นทั้งหมด

จานวนนกั เรยี นชาย จานวนนกั เรียนหญิง

สาเหตุ ไมม่ ี
การไม่มาเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมของผ้เู รยี น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบน้ีเป็นในงานเปิดช้ันเรียนคณิตศาสตร์

(Open Class ) ทีส่ อนในรูปแบบ Open Approach ซ่ึงมีผู้สังเกตน้ันเป็นคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย
ตา่ งๆมากมายที่คอยเดินเข้าไปดูและสอบถามเวลานักเรียนทากิจกรรมแต่ก็ไม่มีผลกระทบตอ่ กิจกรรม
การเรียนการสอนของนักเรียน นักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือเหมือนตอนอยู่ในชั้นเรียนท่ีโรงเรีย น
ตามปกติและนักเรียนทุกคนแสดงแนวคิดที่ได้ของตนได้อย่างสร้างสรรค์และมีทักษะกระบวนการคิด
แบบคณติ ศาสตร์

ปช-๑.๐๔
๓. สิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้จากการสงั เกต

จากการสงั เกตสามารถสรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรู้เป็น ๒ ประเด็นดว้ ยกันคือ
- สิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรจู้ ากครู
การควบคุมนักเรียนภายในช้ันเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้เพ่ือนๆฟัง ถ้ามี
แนวคดิ ไหนทน่ี กั เรียนอธิบายใหเ้ พอ่ื นไมเ่ ข้าใจครกู จ็ ะช่วยเสริมให้

- สิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรจู้ ากผู้เรยี น
นักเรียนทุกห้องได้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบเปิดมาตั้งแต่ชั้น

ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ซ่ึงทาให้รู้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบนี้ทาให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกในการ
เรียนและมีแนวคิดท่ีหลากหลายแต่งต่างกัน น่ันคือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบเปิด
สามารถทาให้ผู้เรียนนั้นประสบผลสาเร็จทางการเรียนคณิตศาสตร์กล่าวคือผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ทาง
คณติ ศาสตร์

ลงช่ือ____________________
( นายจรณชัย ศรีประดิษฐ )
ผูส้ ังเกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ครัง้ ท่ี ๑๘
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔
วัน องั คาร ท่ี ๕ เดอื น มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๐๙.๑๕ – ๑๐.๑๕ น.
คณุ ครูมาลยั ทิพย์ คนซ่อื (ครูผสู้ อน)

๑. จานวนนกั เรยี นในช้นั เรยี น

จานวนนกั เรยี นในชั้นเรยี น

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔

10 9 10 10
9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นักเรียนทมี่ าเรียน นกั เรียนทีไ่ มม่ าเรียน
นกั เรยี นท้ังหมด

จานวนนกั เรยี นชาย จานวนนกั เรยี นหญิง

สาเหตุ ไม่มี
การไมม่ าเรียน

๒. พฤตกิ รรมและการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมของผ้เู รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยสื่อการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมือครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันท้ังห้องและเม่ือครูขอตัวแทน
นักเรียนต่างก็แย่งที่ออกไปหน้าชั้นเรียน ช่วงการของาทาใบกิจกรรมก็จะทากันเป็นคู่ซ่ึงต่างคนก็ต่าง
ช่วยกันทาและนาเสนอแนวคิดของตนเองใส่ลงไปใบในกิจกรรมซ่ึงจากการท่ีได้สังเกตนักเรียนมี
ความคดิ ท่หี ลากหลายมากทาใหร้ ู้ถึงการประสบความสาเร็จในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน

ปช-๑.๐๔
๓. ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้จากการสังเกต

จากการสงั เกตสามารถสรุปส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้เป็น ๒ ประเดน็ ด้วยกนั คือ
- สิ่งที่ได้เรียนรู้จากครู
การควบคุมนักเรียนภายในชั้นเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พร้อมกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนได้ออกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายให้เพื่อนๆฟัง กรณี
นกั เรยี นคยุ กันหรือนักเรียนไมต่ ัง้ ใจเรียนครกู ็อาจใชว้ ิธีการควบคุมชน้ั เรียนแบบเข้มงวดมากขึน้

- สิง่ ที่ไดเ้ รยี นรู้จากผ้เู รยี น
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบนี้และที่

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดที่แตกต่างและหลากกันของนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นเร่ืองดีท่ีนักเรียนมี
ความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้ว่านักเรียนห้องน้ีชอบการออกไปนาเสนอแนวคิดของตนหน้าชั้น
เรียนซึ่งจะทาให้นักเรียนกลายเป็นคนท่ีมที ักษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออกที่ดีในอนาคตได้
เช่นกนั

ลงชอ่ื ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผู้สงั เกต

ปช-๑.๐๔

รายงานการสังเกตพฤติกรรมผู้เรยี น คร้งั ที่ ๑๙
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔/๔
วนั พุธ ที่ ๖ เดอื น มิถุนายน พทุ ธศักราช ๒๕๖๑

เวลา ๑๓.๑๕ – ๑๔.๑๕ น.
คุณครูมาลยั ทพิ ย์ คนซื่อ (ครผู ู้สอน)

๑. จานวนนกั เรียนในชน้ั เรียน

จานวนนกั เรียนในชนั้ เรียน

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๔

10 9 10 10
9

จานวน ันกเ ีรยน (คน) 8

6

4
2 00

0 นกั เรียนท่มี าเรียน นกั เรียนท่ไี ม่มาเรยี น
นักเรยี นทั้งหมด

จานวนนักเรียนชาย จานวนนกั เรียนหญิง

สาเหตุ ไมม่ ี
การไมม่ าเรยี น

๒. พฤตกิ รรมและการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมของผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในคาบนี้เป็นในรูปของการสอนแบบเปิดโดยใช้

กิจกรรมเป็นฐานของการจัดการเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วยส่ือการสอนที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียนให้
ความร่วมมือครูเป็นอย่างดี เมื่อครูถามอะไรนักเรียนก็ตอบพร้อมกันทั้งห้องและเม่ือครูขอตัวแทน
นักเรียนต่างก็แย่งท่ีออกไปหน้าชั้นเรียน ช่วงการของาทาใบกิจกรรมก็จะทากันเป็นคู่ซึ่งต่างคนก็ต่าง
ช่วยกันทาและนาเสนอแนวคิดของตนเองใส่ลงไปใบในกิจกรรมซ่ึงจากการท่ีได้สังเกตนักเรียนมี
ความคดิ ท่หี ลากหลายมากทาให้รู้ถึงการประสบความสาเรจ็ ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ปช-๑.๐๔
๓. สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้จากการสังเกต

จากการสังเกตสามารถสรปุ สิง่ ที่ได้เรยี นรเู้ ป็น ๒ ประเด็นดว้ ยกันคอื
- สง่ิ ท่ไี ด้เรียนรูจ้ ากครู
การควบคุมนักเรียนภายในชั้นเรียนของครูเช่น กรณีให้นักเรียนร่วมกันคิดไป

พรอ้ มกับครูผู้สอนในกระดานหรือการให้นักเรียนไดอ้ อกมาแสดงวิธีคิดและอธิบายใหเ้ พือ่ นๆฟงั ทราบ
ถึงการให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติในการแก้ปัญหาด้วยตนเองจนกว่าจะเกิดแนวคิดที่สอดคล้องกับ
จุดประสงค์จึงจะดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนต่อซึ่งวิธีการนี้ก็จะส่งผลให้ผู้เรี ยนเกิดทักษะ
กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบและเกิดองค์ความรู้ทางคณิตศาสตร์น่ีคือสิ่งท่ีครูควรจะทาให้เกิดใน
ทุกๆกิจกรรมการเรียนการสอน

- สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้จากผ้เู รียน
ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมเบ้ืองต้นท่ีนักเรียนแสดงออกมาในคาบนี้และที่

สาคัญคือได้ทราบถึงแนวคิดท่ีแตกต่างและหลากกันของนักเรียนซ่ึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่นักเรียนมี
ความคิดแบบน้ี อีกอย่างคือทาให้ได้รู้วา่ นักเรียนห้องนีช้ อบการออกไปนาเสนอแนวคดิ ของตนหน้าชั้น
เรียนซงึ่ จะทาให้นักเรยี นกลายเป็นคนท่ีมที ักษะทางด้านการส่ือสารและการแสดงออกที่ดีในอนาคตได้
เชน่ กนั

ลงชื่อ____________________
( นายจรณชัย ศรปี ระดิษฐ )
ผู้สงั เกต