142 เมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรวำงแผนกลยุทธ์จะอยู่ในระดับมำกที่สุดทุกประเด็น โดยมีค่ำเฉลี่ย ตั้งแต่ 4.51 - 4.88 ซึ่งกำรวิเครำะห์ปัจจัยภำยในและภำยนอก และกำรใช้สำรสนเทศที่ส ำคัญ มำประกอบกำรวำงแผนกลยุทธ์ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และควำมคิดเห็นต่อสภำพปัจจุบัน และควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนตั้งแต่ 0.59 -0.96 ตารางที่ 7 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 3. การมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย 2.69 0.75 ปานกลาง 4.79 0.76 มากที่สุด 3.1 ความผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย 2.99 0.74 ปานกลาง 4.73 0.77 มากที่สุด การจัดการหลักสูตร บริการส่งเสริมการ เรียนรู้ และบริการทางการศึกษา 2.99 0.77 ปานกลาง 4.64 0.79 มากที่สุด 1. กำรพัฒนำหลักสูตร บริกำรส่งเสริมกำร เรียนรู้และบริกำรทำงกำรศึกษำที่ตอบสนอง ต่อควำมต้องกำรและควำมคำดหวังของผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและตลำด 3.33 0.64 ปำนกลำง 4.82 0.76 มำกที่สุด 2. กำรก ำหนดกลไกกำรสืบค้นสำรสนเทศของ กำรบริกำรที่จ ำแนกตำมกลุ่มของผู้เรียนและผู้ มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.21 0.86 น้อย 4.45 0.85 มำก 3. กำรก ำหนดเป้ำหมำยหลักในกำรพัฒนำ ผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และมีกำร น ำไปสู่กำรปฏิบัติในทุกกระบวนกำร ที่เกี่ยวข้อง 3.42 0.73 ปำนกลำง 4.64 0.74 มำกที่สุด
143 ตารางที่ 7 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย 2.98 0.69 ปานกลาง 4.81 0.78 มากที่สุด 4. กำรสร้ำงวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นที่จะท ำให้ ผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับประสบกำรณ์ที่ดีและมี ควำมผูกพันต่อสถำนศึกษำ 3.35 0.68 ปำนกลำง 4.87 0.81 มำกที่สุด 5. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ที่สนองต่อควำม ต้องกำร ควำมคำดหวัง และควำมผูกพันของ ผู้เรียนและผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย 3.26 0.72 ปำนกลำง 4.76 0.63 มำกที่สุด 6. กำรสร้ำงหรือพัฒนำวัฒนธรรมกำรมุ่งเน้น ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ทันต่อควำม ต้องกำรและทิศทำงของสถำนศึกษำ 2.34 0.63 น้อย 4.81 0.74 มำกที่สุด 3.2 เสียงของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.53 0.77 ปานกลาง 4.82 0.76 มากที่สุด การรับฟังผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.23 0.78 น้อย 4.81 0.83 มากที่สุด 7. กำรรับฟังผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ได้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับหลักสูตร บริกำรส่งเสริมกำรเรียนรู้และบริกำรทำง กำรศึกษำ 2.01 0.75 น้อย 4.72 0.89 มำกที่สุด 8. กำรติดตำมคุณภำพของหลักสูตร บริกำร ส่งเสริมกำรเรียนรู้และบริกำรทำงกำรศึกษำ จำกผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3.28 0.89 ปำนกลำง 4.85 0.72 มำกที่สุด 9. กำรรับฟังผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน อดีต และอนำคตของสถำนศึกษำคู่เทียบเคียง เพื่อให้ได้ข้อมูลป้อนกลับของหลักสูตร บริกำร ส่งเสริมกำรเรียนรู้และบริกำรทำงกำรศึกษำ 1.43 0.73 น้อยที่สุด 4.82 0.84 มำกที่สุด 10. กำรจัดกำรกับข้อร้องเรียนที่ได้รับจำก ผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้เกี่ยวข้อง อย่ำงมีประสิทธิภำพ 2.19 0.61 น้อย 4.87 0.91 มำกที่สุด
144 ตารางที่ 7 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของ สถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การประเมินความพึงพอใจและความผูกพัน ของผู้เรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.96 0.77 ปานกลาง 4.76 0.73 มากที่สุด 11. กำรประเมินควำมพึงพอใจและควำมผูกพัน ของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อหลักสูตร และกำรให้บริกำรของสถำนศึกษำ 3.47 0.75 ปำนกลำง 4.73 0.82 มำกที่สุด 12. กำรรวบรวมและใช้สำรสนเทศเกี่ยวกับ ควำมพึงพอใจ และควำมผูกพันของผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเปรียบเทียบกับ สถำนศึกษำคู่เทียบเคียง หรือเปรียบเทียบกับ เกณฑ์ 1.96 0.79 น้อย 4.68 0.67 มำกที่สุด 13.กำรใช้ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจและ ควำมผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไปตอบสนองควำมต้องกำร ควำมคำดหวังและ ปรับปรุงกำรด ำเนินงำนของสถำนศึกษำ 3.46 0.82 ปำนกลำง 4.86 0.74 มำกที่สุด การวิเคราะห์และใช้ข้อมูลของผู้เรียน และผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย 2.51 0.78 ปานกลาง 4.87 0.75 มากที่สุด 14. กำรใช้สำรสนเทศของผู้เรียน และผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียเพื่อกำรก ำหนดกลุ่มของผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งในปัจจุบันและอนำคต 2.11 0.69 น้อย 4.92 0.81 มำกที่สุด 15. กำรใช้สำรสนเทศของผู้เรียน และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อกำรก ำหนดและ คำดกำรณ์ควำมต้องกำรและควำมคำดหวัง ของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.43 0.82 น้อย 4.87 0.76 มำกที่สุด
145 ตารางที่ 7 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 16. กำรใช้สำรสนเทศของผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และหลักสูตรบริกำรส่งเสริมกำร เรียนรู้ และบริกำรทำงกำรศึกษำ เพื่อเสริมสร้ำงวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นผู้เรียน และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และกำรสร้ำงนวัตกรรม 2.04 0.82 น้อย 4.81 0.73 มำกที่สุด 17. กำรก ำหนดแนวทำงกำรประเมิน ควำมพึงพอใจ และควำมผูกพันของผู้เรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3.44 0.74 ปำนกลำง 4.88 0.66 มำกที่สุด จำกตำรำงที่ 7 พบว่ำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภำพรวม มีระดับกำรน ำไปใช้ในปัจจุบันตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.69 องค์ประกอบย่อยคือด้ำนควำมผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ ด้ำนเสียงของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก็ได้น ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำในระดับปำนกลำงเช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.99 และ 2.53 ตำมล ำดับ และ เมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำในหมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะอยู่ในระดับน้อยที่สุดถึงปำนกลำง มีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 1.43 - 3.36 ซึ่งกำรรับฟังผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอดีต และอนำคต ของสถำนศึกษำคู่เทียบเคียง เพื่อให้ได้ข้อมูลป้อนกลับของหลักสูตร บริกำรส่งเสริมกำรเรียนรู้ และบริกำรทำงกำรศึกษำ ได้มีกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำในระดับต่ ำสุด ส่วนภำพรวมของควำมต้องน ำไปใช้ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุด โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.79องค์ประกอบย่อยทั้ง 2 ด้ำน คือด้ำนควำมผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และด้ำนเสียงของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับมำกที่สุดเช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.73 และ 4.82 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของควำมต้องกำรในกำรน ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะอยู่ในระดับมำกถึงมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 4.45- 4.92ซึ่งกำรใช้สำรสนเทศ ของผู้เรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อกำรก ำหนดกลุ่มของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในปัจจุบัน
146 และอนำคตได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และควำมคิดเห็นต่อสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก ในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนตั้งแต่ 0.61 -0.91 ตารางที่ 8 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และ กำรจัดกำรควำมรู้ การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 4. การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการ ความรู้ 2.39 0.74 ปานกลาง 4.77 0.75 มากที่สุด 4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรับปรุง ผลการด าเนินการ 2.16 0.76 น้อย 4.80 0.73 มากที่สุด การวัดผลการด าเนินการ 2.04 0.74 น้อย 4.84 0.79 มากที่สุด 1. กำรเลือก กำรรวบรวม และบูรณกำรข้อมูล สำรสนเทศที่ใช้ติดตำมกำรปฏิบัติงำน ประจ ำวัน และ ผลกำรด ำเนินกำรโดยรวม ของสถำนศึกษำ 2.16 0.68 น้อย 4.82 0.72 มำกที่สุด 2. กำรใช้ข้อมูลและสำรสนเทศเชิงเปรียบเทียบ ที่ส ำคัญ ในกำรตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และกำร ตัดสินใจในกำรปฏิบัติงำนประจ ำวัน และกำร สร้ำงนวัตกรรม 2.52 0.81 ปำนกลำง 4.87 0.84 มำกที่สุด 3. กำรพัฒนำระบบกำรวัดผลกำรด ำเนินกำร ที่ทันต่อควำมต้องกำร ทิศทำงกำรศึกษำ และ กำรเปลี่ยนแปลงทั้งภำยในและภำยนอก สถำนศึกษำ 1.44 0.76 น้อยที่สุด 4.84 0.71 มำกที่สุด
147 ตารางที่ 8 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และ กำรจัดกำรควำมรู้(ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น การวิเคราะห์และทบทวนผลการด าเนินการ 2.07 0.72 น้อย 4.79 0.68 มากที่สุด 4. กำรวิเครำะห์และทบทวนผลกำร ด ำเนินกำรโดยเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์ เชิงกลยุทธ์ของแผนปฏิบัติกำร และ เปรียบเทียบกับสถำนศึกษำคู่เทียบเคียง 2.07 0.72 น้อย 4.79 0.68 มำกที่สุด การปรับปรุงผลการด าเนินการ 2.39 0.83 ปานกลาง 4.74 0.79 มากที่สุด 5. กำรแปลงผลกำรทบทวนผลกำรด ำเนินกำร ไปจัดล ำดับควำมส ำคัญ เพื่อกำรปรับปรุงและ กำรสร้ำงนวัตกรรมของสถำนศึกษำ 3.31 0.85 ปำนกลำง 4.74 0.81 มำกที่สุด 6. กำรถ่ำยทอดกำรจัดล ำดับควำมส ำคัญและ โอกำสไปยังบุคลำกรของสถำนศึกษำ และ สถำนศึกษำที่เป็นคู่ควำมร่วมมือเพื่อมีควำม เข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนร่วมกัน 1.47 0.82 น้อยที่สุด 4.73 0.76 มำกที่สุด 4.2 การจัดการสารสนเทศ ความรู้ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.74 0.72 ปานกลาง 4.73 0.77 มากที่สุด การจัดการข้อมูล สารสนเทศ และการ จัดการความรู้ 2.74 0.72 ปานกลาง 4.73 0.77 มากที่สุด 7. กำรจัดกำรให้ข้อมูล สำรสนเทศ และองค์ ควำมรู้มีควำมแม่นย ำ ถูกต้อง เชื่อถือได้ ทัน เหตุกำรณ์ และปลอดภัย 3.35 0.73 ปำนกลำง 4.62 0.81 มำกที่สุด 8. กำรจัดกำรข้อมูล สำรสนเทศ ให้มีควำม พร้อมใช้งำน และบุคลำกร ผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และสถำนศึกษำอื่นสำมำรถเข้ำถึง ข้อมูลได้อย่ำงเหมำะสม 3.07 0.86 ปำนกลำง 4.77 0.72 มำกที่สุด
148 ตารางที่ 8 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และ กำรจัดกำรควำมรู้(ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น X S.D. ระดับ ความ คิดเห็น 9. กำรจัดกำรควำมรู้ของสถำนศึกษำเพื่อให้ บรรลุผลในกำรรวบรวม และถ่ำยทอดควำมรู้สู่ บุคลำกร ผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ สถำนศึกษำคู่ควำมร่วมมือ 2.46 0.76 น้อย 4.69 0.85 มำกที่สุด 10. กำรจัดกำรควำมรู้ของสถำนศึกษำเพื่อให้ บรรลุผลในกำรค้นหำ ระบุ แบ่งปัน และกำร น ำวิธีกำรปฏิบัติที่เป็นเลิศไปด ำเนินกำร และ วำงแผนเชิงกลยุทธ์ 2.09 0.68 น้อย 4.85 0.79 มำกที่สุด จำกตำรำงที่ 8 พบว่ำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ภำพรวม มีระดับกำรน ำไปใช้ในปัจจุบันตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.39 องค์ประกอบย่อยคือ ด้ำนกำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรปรับปรุงผล กำรด ำเนินกำร และด้ำนกำรจัดกำรสำรสนเทศ ควำมรู้ และเทคโนโลยีสำรสนเทศ ก็ได้น ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับน้อยและปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.16 และ 2.74 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของกำรน ำผลกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ จะอยู่ในระดับน้อยที่สุดถึงปำนกลำง มีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 1.44 - 3.35 ซึ่งกำรพัฒนำระบบกำรวัดผล กำรด ำเนินกำรที่ทันต่อควำมต้องกำร ทิศทำงกำรศึกษำ และกำรเปลี่ยนแปลงทั้งภำยในและภำยนอก สถำนศึกษำได้มีกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ในระดับต่ ำสุด ส่วนภำพรวมของควำมต้องน ำไปใช้ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.77 องค์ประกอบย่อยทั้ง 2 ด้ำน คือด้ำนกำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรปรับปรุงผลกำรด ำเนินกำร และ ด้ำนกำรจัดกำรสำรสนเทศ ควำมรู้ และเทคโนโลยีสำรสนเทศ ก็ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับมำกที่สุดเช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.80 และ4.73 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้จะอยู่ในระดับมำกที่สุดทุกประเด็น โดยมีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 4.62 -4.87 ซึ่งกำรใช้ข้อมูลและสำรสนเทศเชิงเปรียบเทียบที่ส ำคัญในกำรตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และกำรตัดสินใจ
149 ในกำรปฏิบัติงำนประจ ำวัน และกำรสร้ำงนวัตกรรม ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และ ควำมคิดเห็นต่อสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนตั้งแต่ 0.68 - 0.86 ตารางที่ 9 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 5. การมุ่งเน้นครูและบุคลากร 2.39 0.79 ปานกลาง 4.72 0.84 มากที่สุด 5.1 ความผูกพันของครูและบุคลากร 2.24 0.78 น้อย 4.73 0.83 มากที่สุด การสร้างคุณค่าของครูและบุคลากร 2.13 0.77 น้อย 4.78 0.75 มากที่สุด 1. กำรก ำหนดปัจจัยส ำคัญที่ส่งผลต่อควำม ผูกพันและควำมพึงพอใจของบุคลำกรของแต่ ละกลุ่ม และแต่ละประเภท 2.21 0.83 น้อย 4.87 0.71 มำกที่สุด 2. กำรเสริมสร้ำงวัฒนธรรมองค์กร เพื่อน ำไปสู่ ผลกำรด ำเนินกำรที่ดีและสร้ำงแรงจูงใจต่อ บุคลำกร 1.40 0.72 น้อยที่สุด 4.76 0.84 มำกที่สุด 3. กำรจัดระบบกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ของบุคลำกรที่พิจำรณำถึงกำรบริหำร ค่ำตอบแทน กำรยกย่องชมเชย กำรให้รำงวัล และกำรให้สิ่งจูงใจเพื่อผูกใจบุคลำกร และ สนับสนุนให้เกิดผลกำรด ำเนินกำรที่ดี 1.52 0.82 น้อย 4.64 0.76 มำกที่สุด 4. กำรจัดระบบกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ของบุคลำกรที่ส่งเสริมให้เกิดกำรมุ่งเน้นผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และกำรบรรลุแผนปฏิบัติ กำรของสถำนศึกษำ 3.37 0.65 ปำนกลำง 4.85 0.62 มำกที่สุด
150 ตารางที่ 9 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การพัฒนาครู บุคลากร และผู้น า 2.76 0.78 ปานกลาง 4.72 0.80 มากที่สุด 5. กำรจัดระบบกำรเรียนรู้ และกำรพัฒนำ บุคลำกรครอบคลุมประเด็นสมรรถนะหลัก ควำมท้ำทำยเชิงกลยุทธ์ กำรปรับปรุงผล กำรด ำเนินกำร กำรเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงจริยธรรมในวิชำชีพ 3.14 0.79 ปำนกลำง 4.88 0.73 มำกที่สุด 6. กำรจัดระบบกำรเรียนรู้และกำรพัฒนำ บุคลำกร โดยค ำนึงถึงควำมต้องกำร กำร ถ่ำยทอดควำมรู้จำกผู้ปฏิบัติงำนที่จะลำออก หรือเกษียณอำยุ และกำรส่งเสริมกำรน ำควำมรู้ ทักษะใหม่มำใช้ในกำรท ำงำน 2.37 0.82 น้อย 4.63 0.94 มำกที่สุด 7. กำรประเมินประสิทธิภำพและประสิทธิผล ของระบบกำรเรียนรู้และกำรพัฒนำของ บุคลำกรและกลุ่มผู้น ำเพื่อน ำมำพัฒนำปรับปรุง 3.08 0.75 ปำนกลำง 4.71 0.82 มำกที่สุด 8. กำรวำงแผนสืบทอดต ำแหน่งส ำคัญทุกระดับ ของสถำนศึกษำ และกำรจัดกำรควำมก้ำวหน้ำ ในวิชำชีพส ำหรับบุคลำกร 2.45 0.76 น้อย 4.66 0.84 มำกที่สุด การประเมินความผูกพันของครูและบุคลากร 1.42 0.78 น้อยที่สุด 4.64 0.85 มากที่สุด 9. กำรประเมินควำมผูกพันของบุคลำกรทั้งที่ เป็นทำงกำรและไม่เป็นทำงกำร ด้วยวิธีกำรและ ตัวชี้วัดที่แตกต่ำงกันของแต่ละกลุ่มบุคลำกร 1.47 0.81 น้อยที่สุด 4.59 0.73 มำกที่สุด 10. กำรน ำผลกำรประเมินควำมผูกพันของ บุคลำกรมำเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ระดับ สถำนศึกษำ เพื่อปรับปรุงควำมผูกพันของ บุคลำกรและผลลัพธ์ของสถำนศึกษำ 1.36 0.77 น้อยที่สุด 4.68 0.87 มำกที่สุด
151 ตารางที่ 9 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 5.2 สภาพแวดล้อมของครูและบุคลากร 2.61 0.79 ปานกลาง 4.71 0.81 มากที่สุด การจัดการขีดความสามารถและ อัตราก าลังของครูและบุคลากร 2.51 0.80 ปานกลาง 4.72 0.82 มากที่สุด 11. กำรประเมินควำมต้องกำรด้ำนขีด ควำมสำมำรถ และศักยภำพที่จ ำเป็นของ บุคลำกร รวมทั้งทักษะ สมรรถนะ และ อัตรำก ำลังบุคลกรของสถำนศึกษำ 1.42 0.68 น้อยที่สุด 4.75 0.76 มำกที่สุด 12. กำรสรรหำ ว่ำจ้ำง บรรจุ และรักษำ บุคลำกรไว้กับสถำนศึกษำโดยให้ควำมส ำคัญ กับควำมหลำกหลำยทำงควำมคิด วัฒนธรรมของบุคลำกร และชุมชน 1.38 0.88 น้อยที่สุด 4.53 0.85 มำกที่สุด 13. กำรบริหำรและจัดโครงสร้ำงของ บุคลำกร โดยมุ่งเน้นกำรใช้ ประโยชน์ จำกสมรรถนะหลัก และตอบสนองต่อ ควำมท้ำทำย เชิงกลยุทธ์ แผนปฏิบัติกำร และควำมคล่องตัวต่อกำรเปลี่ยนแปลง 3.46 0.79 ปำนกลำง 4.68 0.71 มำกที่สุด 14. กำรเตรียมบุคลำกรให้มีควำมพร้อมรับ ต่อกำรเปลี่ยนแปลงด้ำนขีดควำมสำมำรถ และอัตรำก ำลังของบุคลำกร 3.09 0.82 ปำนกลำง 4.79 0.84 มำกที่สุด 15. กำรบริหำรบุคคลตำมควำมต้องกำร ร่วมกันทั้งของบุคลำกรและสถำนศึกษำ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจำกกำร ลดจ ำนวนบุคลำกร 3.18 0.77 ปำนกลำง 4.85 0.79 มำกที่สุด
152 ตารางที่ 9 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การสร้างบรรยากาศของครูและบุคลากร 2.87 0.76 ปานกลาง 4.70 0.81 มากที่สุด 16. กำรก ำหนดตัวชี้วัดและเป้ำประสงค์ของกำร ปรับปรุงสถำนที่ท ำงำนให้มีสุขอนำมัย ควำม ปลอดภัย และมีกำรป้องกันภัยพิบัติหรือเหตุ ฉุกเฉินในแต่ละสภำพแวดล้อมของกำรท ำงำน ที่แตกต่ำงกัน 2.42 0.72 น้อย 4.67 0.86 มำกที่สุด 17.กำรก ำหนดนโยบำยของกำรบริกำร และสิทธิ ประโยชน์ให้เหมำะสมกับควำมต้องกำรและควำม แตกต่ำงของแต่ละกลุ่มบุคคล 3.31 0.81 ปำนกลำง 4.72 0.77 มำกที่สุด จำกตำรำงที่ 9 พบว่ำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร ภำพรวมมีระดับกำรน ำไปใช้ ในปัจจุบันตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 2.39 องค์ประกอบย่อยคือด้ำนควำมผูกพันของครูและบุคลำกร และด้ำนสภำพแวดล้อม ของครูและบุคลำกร ก็ได้น ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ในระดับน้อยและปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.24 และ 2.61 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำ เป็นรำยประเด็นของกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ในหมวดกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร จะอยู่ในระดับน้อยที่สุดถึงปำนกลำง มีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 1.36 - 3.46 ซึ่งกำรน ำผลกำรประเมินควำมผูกพันของบุคลำกรมำเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ระดับสถำนศึกษำ เพื่อปรับปรุงควำมผูกพันของบุคลำกรและผลลัพธ์ของสถำนศึกษำ ได้มีกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับต่ ำสุด ส่วนภำพรวมของควำมต้องน ำไปใช้ ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.72 องค์ประกอบย่อยทั้ง 2 ด้ำน คือ ด้ำนควำมผูกพัน ของครูและบุคลำกร และด้ำนสภำพแวดล้อมของครูและบุคลำกร ก็ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับมำกที่สุดเช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.73 และ4.71 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรมุ่งเน้น ครูและบุคลำกร จะอยู่ในระดับมำกที่สุดทุกประเด็น โดยมีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 4.53 - 4.88 ซึ่งกำรจัดระบบ กำรเรียนรู้ และกำรพัฒนำบุคลำกรครอบคลุมประเด็นสมรรถนะหลัก ควำมท้ำทำยเชิงกลยุทธ์ กำรปรับปรุงผลกำรด ำเนินกำร กำรเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงจริยธรรม
153 ในวิชำชีพ ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และควำมคิดเห็นต่อสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก ในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนตั้งแต่ 0.62 -0.94 ตารางที่ 10 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 6. การจัดการกระบวนการ 3.28 0.82 ปานกลาง 4.81 0.84 มากที่สุด 6.1 ระบบงาน 2.63 0.84 ปานกลาง 4.77 0.86 มากที่สุด การออกแบบระบบงาน 2.87 0.81 ปานกลาง 4.81 0.83 มากที่สุด 1. กำรออกแบบและกำรสร้ำงนวัตกรรม ในระบบงำนที่ประกอบด้วยกระบวนกำรหลัก และกระบวนกำรสนับสนุน 3.28 0.76 ปำนกลำง 4.83 0.85 มำกที่สุด 2. กำรก ำหนดสมรรถนะหลักของสถำนศึกษำ ที่จะใช้ในระบบงำนและกระบวนกำรท ำงำน หลัก 2.45 0.87 น้อย 4.79 0.82 มำกที่สุด การก าหนดกระบวนการท างานหลัก 2.98 0.70 ปานกลาง 4.81 0.82 มากที่สุด 3. กำรก ำหนดกระบวนกำรท ำงำนหลักที่มี ควำมสอดคล้องกับกลยุทธ์ พันธกิจ และ สร้ำงคุณค่ำให้ผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3.52 0.72 มำก 4.86 0.79 มำกที่สุด 4. กำรจัดท ำข้อก ำหนดของกระบวนกำร ท ำงำนหลักโดยใช้ข้อมูลจำกผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และคู่ควำมร่วมมือทั้งกฎหมำยและ ระเบียบรำชกำร 2.44 0.68 น้อย 4.75 0.84 มำกที่สุด
154 ตารางที่ 10 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร (ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การเตรียมความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน 1.47 0.94 น้อยที่สุด 4.63 0.91 มากที่สุด 5. กำรจัดเตรียมระบบงำน และสถำนที่ ท ำงำนให้พร้อมรับต่อภัยพิบัติและภำวะ ฉุกเฉินโดยกำรค ำนึงถึงกำรป้องกัน กำร ปฏิบัติ และกำรฟื้นฟูสภำพอย่ำงต่อเนื่อง 1.47 0.94 น้อยที่สุด 4.63 0.91 มำกที่สุด 6.2 กระบวนการท างาน 3.65 0.83 มาก 4.83 0.85 มากที่สุด การออกแบบกระบวนการท างาน 3.51 0.80 มาก 4.80 0.79 มากที่สุด 6. กำรออกแบบ และสร้ำงนวัตกรรมของ กระบวนกำรท ำงำนให้เป็นไปตำมข้อก ำหนด ส ำคัญโดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ องค์ ควำมรู้ของสถำนศึกษำ 3.38 0.81 ปำนกลำง 4.77 0.76 มำกที่สุด 7. กำรออกแบบและสร้ำงนวัตกรรมของ กระบวนกำรท ำงำนหลัก โดยค ำนึงถึงผลต่อ ผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้รับบริกำร และ กำรบรรลุพันธกิจ 3.64 0.79 มำก 4.83 0.84 มำกที่สุด 8. กำรน ำกระบวนกำรท ำงำนที่ออกแบบไป ใช้ปฏิบัติให้ได้ผลตำมข้อก ำหนดของ กระบวนกำร 3.05 0.82 ปำนกลำง 4.86 0.75 มำกที่สุด 9. กำรจัดกำรกระบวนกำรท ำงำนโดยใช้ ข้อมูลที่ได้จำกผู้เรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ ผู้รับบริกำร 3.58 0.74 มำก 4.89 0.85 มำกที่สุด 10. กำรก ำหนดตัวชี้วัดที่ส ำคัญที่ใช้ในกำร ควบคุม และปรับปรุงกระบวนกำรท ำงำนให้มี ประสิทธิภำพ 3.61 0.68 มำก 4.81 0.76 มำกที่สุด 11. กำรจัดระบบกำรควบคุมตรวจสอบ กำรปฏิบัติตำมแผนปฏิบัติกำร และกำรใช้ ทรัพยำกร รวมถึงกำรตรวจสอบกระบวนกำร หรือผลกำรด ำเนินงำน 3.72 0.79 มำก 4.87 0.88 มำกที่สุด
155 ตารางที่ 10 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร(ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น การปรับปรุงกระบวนการท างาน 3.94 0.85 มาก 4.81 0.88 มากที่สุด 12. กำรปรับปรุงกระบวนกำรท ำงำนเพื่อให้ เกิดกระบวนกำรท ำงำนทันต่อควำมต้องกำร และทิศทำงกำรจัดกำรศึกษำ 4.06 0.94 มำก 4.93 0.98 มำกที่สุด 13. กำรก ำหนดแผนกำรประเมิน ควำมก้ำวหน้ำและประเมินผลรวมของ กระบวนกำรท ำงำน 3.82 0.84 มำก 4.65 0.79 มำกที่สุด 14. กำรแลกเปลี่ยนควำมรู้และเผยแพร่ วิธีกำรปรับปรุงกระบวนกำรท ำงำนกับ หน่วยงำนอื่น หรือผู้ปฏิบัติงำนของ กระบวนกำรท ำงำนอื่นภำยในสถำนศึกษำ 3.95 0.76 มำก 4.84 0.80 มำกที่สุด จำกตำรำงที่ 10 พบว่ำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร ภำพรวมมีระดับกำรน ำไปใช้ ในปัจจุบันตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 3.28 องค์ประกอบย่อยคือ ด้ำนระบบงำน และด้ำนกระบวนกำรท ำงำน ก็ได้น ำผลกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับปำนกลำงและมำก โดยมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 2.63 และ 3.65 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร จะอยู่ในระดับ น้อยที่สุดถึงมำก มีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 1.47 -3.95ซึ่งกำรจัดเตรียมระบบงำน และสถำนที่ท ำงำนให้พร้อมรับ ต่อภัยพิบัติและภำวะฉุกเฉินโดยกำรค ำนึงถึงกำรป้องกัน กำรปฏิบัติ และกำรฟื้นฟูสภำพอย่ำงต่อเนื่อง ได้มีกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับต่ ำสุด ส่วนภำพรวมของควำมต้องน ำไปใช้ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.81 องค์ประกอบย่อยทั้ง 2 ด้ำน คือ ด้ำนระบบงำน และด้ำนกระบวนกำรท ำงำน ก็ได้มีควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับมำกที่สุด เช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.77 และ 4.83 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็น ของควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ในหมวดกำรจัดกำรกระบวนกำร จะอยู่ในระดับมำกที่สุดทุกประเด็น โดยมีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 4.63 - 4.93 ซึ่งกำรปรับปรุงกระบวนกำรท ำงำนเพื่อให้เกิดกระบวนกำรท ำงำนทันต่อควำมต้องกำรและทิศทำง
156 กำรจัดกำรศึกษำได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และควำมคิดเห็นต่อสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก ในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนตั้งแต่ 0.68 -0.98 ตารางที่ 11 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดผลลัพธ์ การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 7. ผลลัพธ์ 3.19 0.80 ปานกลาง 4.81 0.78 มากที่สุด 7.1 ผลลัพธ์ด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและด้าน กระบวนการ 3.57 0.78 มาก 4.79 0.76 มากที่สุด ผลลัพธ์ด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน 3.67 0.81 มาก 4.83 0.77 มากที่สุด 1. ระดับปัจจุบันและแนวโน้มที่ส ำคัญของกำร เรียนรู้ และกำรพัฒนำกำรเรียนรู้จ ำแนกตำม กลุ่มของผู้เรียน 4.38 0.77 มำก 4.90 0.81 มำกที่สุด 2. ผลลัพธ์ด้ำนกำรเรียนรู้และกำรพัฒนำกำร เรียนรู้ของผู้เรียนเชิงเปรียบเทียบผลลัพธ์กับ สถำนศึกษำคู่เทียบเทียง 3.15 0.82 ปำนกลำง 4.76 0.73 มำกที่สุด ผลลัพธ์ด้านกระบวนการ 3.38 0.71 ปานกลาง 4.76 0.83 มากที่สุด 3. ผลกำรด ำเนินกำรด้ำนกำรปฏิบัติกำรของ ระบบงำน รวมทั้งกำรเตรียมพร้อมของ ระบบงำน และสถำนที่ท ำงำนส ำหรับภัยพิบัติ และภำวะฉุกเฉิน 3.36 0.72 ปำนกลำง 4.69 0.87 มำกที่สุด 4. ผลกำรด ำเนินกำรด้ำนกระบวนกำรท ำงำนที่ ส ำคัญ ประสิทธิผลและประสิทธิภำพของ กระบวนกำรและนวัตกรรม 3.40 0.68 ปำนกลำง 4.82 0.76 มำกที่สุด
157 ตารางที่ 11 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดผลลัพธ์(ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 7.2 ผลลัพธ์ด้านการมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 1.96 0.81 น้อย 4.81 0.79 มากที่สุด 5. ระดับปัจจุบันและแนวโน้มของผลลัพธ์ที่ ส ำคัญในด้ำนควำมพึงพอใจและไม่พึงพอใจ ของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อ เปรียบเทียบกับสถำนศึกษำคู่เทียบเคียง 1.53 0.85 น้อย 4.79 0.82 มำกที่สุด 6. ระดับปัจจุบันและแนวโน้มของผลลัพธ์ที่ ส ำคัญด้ำนกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และควำม ผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.38 0.76 น้อย 4.83 0.75 มำกที่สุด 7.3 ผลลัพธ์ด้านการมุ่งเน้นครูและบุคลากร 3.29 0.78 ปานกลาง 4.80 0.82 มากที่สุด 7. ผลลัพธ์ในด้ำนควำมผูกพัน และควำมพึง พอใจของบุคลำกร 2.27 0.81 น้อย 4.77 0.85 มำกที่สุด 8. ผลลัพธ์ด้ำนกำรพัฒนำบุคลำกร และกำรพัฒนำ กลุ่มผู้น ำ 3.41 0.73 ปำนกลำง 4.86 0.79 มำกที่สุด 9. ผลลัพธ์ด้ำนอัตรำก ำลัง ขีดควำมสำมำรถ และทักษะที่เหมำะสมของบุคลำกร 3.42 0.92 ปำนกลำง 4.81 0.73 มำกที่สุด 10. ผลลัพธ์ด้ำนบรรยำกำศกำรท ำงำน สุขอนำมัย ควำมปลอดภัย กำรป้องกันภัย กำรให้บริกำร และสิทธิประโยชน์ของบุคลำกร 4.06 0.75 มำก 4.76 0.82 มำกที่สุด 7.4 ผลลัพธ์ด้านการน าองค์กรและการก ากับ ดูแล 3.12 0.78 ปานกลาง 4.83 0.81 มากที่สุด 11. ผลลัพธ์ด้ำนควำมส ำเร็จตำมกลยุทธ์ และ แผนปฏิบัติกำรของสถำนศึกษำ 3.47 0.84 ปำนกลำง 4.86 0.71 มำกที่สุด 12. ผลลัพธ์ด้ำนควำมรับผิดชอบ ด้ำนกำรเงิน ทั้งภำยในและภำยนอกของสถำนศึกษำ 2.48 0.79 น้อย 4.78 0.86 มำกที่สุด 13. ผลลัพธ์ด้ำนกำรปฏิบัติตำมระเบียบ ข้อบังคับและกฎหมำย ควำมปลอดภัย กำรรับรองคุณภำพของสถำนศึกษำ 2.41 0.67 น้อย 4.83 0.77 มำกที่สุด
158 ตารางที่ 11 สภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดผลลัพธ์(ต่อ) การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไป ใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก การน าไปใช้ในปัจจุบัน ความต้องการน าไปใช้ ในอนาคต X S.D. ระดับ ความคิดเห็น X S.D. ระดับ ความคิดเห็น 14. ผลลัพธ์ด้ำนพฤติกรรมที่มีจริยธรรม และระบบ ธรรมมำภิบำลของผู้บริหำร 3.44 0.74 ปำนกลำง 4.75 0.83 มำกที่สุด 15. ผลลัพธ์ด้ำนควำมรับผิดชอบต่อสังคม และกำร สนับสนุนชุมชนที่ส ำคัญของสถำนศึกษำ 3.82 0.88 มำก 4.89 0.82 มำกที่สุด 7.5 ผลลัพธ์ด้านการงบประมาณ การเงินและการ สร้างชื่อเสียง 3.63 0.79 มาก 4.85 0.74 มากที่สุด 16. ผลกำรด ำเนินกำรด้ำนงบประมำณ กำรเงิน และ กำรควบคุมต้นทุน หรือควำมเข้มแข็งด้ำนกำรเงิน 3.08 0.71 ปำนกลำง 4.79 0.78 มำกที่สุด 17. ผลกำรด ำเนินกำรด้ำนกำรสร้ำงชื่อเสียง และ กำรยอมรับของชุมชน สังคม 4.18 0.85 มำก 4.91 0.72 มำกที่สุด จำกตำรำงที่ 11 พบว่ำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้หมวดผลลัพธ์ภำพรวมมีระดับกำรน ำไปใช้ในปัจจุบัน ตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำง โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.19 องค์ประกอบย่อยคือด้ำนกำรเรียนรู้ของผู้เรียนและด้ำนกระบวนกำร ด้ำนกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้ำนกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร ด้ำนกำรน ำองค์กรและกำรก ำกับดูแล และ ด้ำนกำรงบประมำณ กำรเงินและกำรสร้ำงชื่อเสียง ได้น ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำตั้งแต่ในระดับน้อย ปำนกลำง และมำก โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.67, 1.96, 3.29, 3.12 และ 3.63 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดผลลัพธ์จะอยู่ในระดับน้อยถึงปำนกลำง มีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 1.53 - 4.38 ซึ่งระดับปัจจุบันและแนวโน้มของผลลัพธ์ที่ส ำคัญในด้ำนควำมพึงพอใจและไม่พึงพอใจ ของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อเปรียบเทียบกับสถำนศึกษำคู่เทียบเคียง ได้มีกำรน ำผลกำร ประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับต่ ำสุด ส่วนภำพรวม ของควำมต้องน ำไปใช้ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.81 องค์ประกอบย่อย ทั้ง 5 ด้ำน คือด้ำนกำรเรียนรู้ของผู้เรียนและด้ำนกระบวนกำร ด้ำนกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้ำนกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร ด้ำนกำรน ำองค์กรและกำรก ำกับดูแล และด้ำนกำรงบประมำณ กำรเงินและกำรสร้ำงชื่อเสียง ก็ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในระดับมำกที่สุดทุกด้ำนเช่นเดียวกัน โดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.79, 4.81, 4.80, 4.83 และ 4.85 ตำมล ำดับ และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยประเด็นของควำมต้องกำร ในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำในหมวดผลลัพธ์
159 จะอยู่ในระดับมำกที่สุดทุกประเด็น โดยมีค่ำเฉลี่ยตั้งแต่ 4.69 -4.91ซึ่งผลกำรด ำเนินกำรด้ำนกำรสร้ำง ชื่อเสียง และกำรยอมรับของชุมชน สังคม ได้มีควำมต้องกำรในกำรน ำไปใช้สูงสุด และควำมคิดเห็น ต่อสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ในหมวดนี้มีควำมแตกต่ำงกันน้อย โดยมีค่ำส่วนเบี่ยงเบน มำตรฐำนตั้งแต่ 0.68 -0.92 1.2 ผลกำรศึกษำเชิงคุณภำพโดยกำรใช้สนทนำกลุ่มผู้บริหำรสถำนศึกษำ หัวหน้ำงำนวิชำกำร และครูผู้รับผิดชอบงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำในสถำนศึกษำขนำดเล็ก พร้อมกับศึกษำแผนพัฒนำ คุณภำพกำรศึกษำ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปี รำยงำนกำรประเมินตนเอง (SAR) ประจ ำปีกำรศึกษำ 2558 และรำยงำนกำรประเมินคุณภำพภำยนอกสถำนศึกษำ รอบที่ 3 ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษำ 2 โรงเรียน และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษำ 1 โรงเรียน โดยทั้ง 3 โรงเรียนได้สังกัดต่ำงเขตพื้นที่กำรศึกษำกัน 1.21 ผลกำรเก็บข้อมูลเชิงคุณภำพเพื่อศึกษำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ : กรณีศึกษำโรงเรียนระดับประถมศึกษำ A โรงเรียน A เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบำล 1 ถึงชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 มีบุคลำกร สำยบริหำร 1 คน และครูผู้สอน 4 คน มีนักเรียนทั้งหมด 63 คน แบ่งเป็นระดับกำรศึกษำปฐมวัย 21คน และระดับประถมศึกษำ 42คน หัวหน้ำงำนวิชำกำรได้ท ำหน้ำที่เป็นครูผู้รับผิดชอบงำนประกันคุณภำพ กำรศึกษำด้วย กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในของโรงเรียนได้ด ำเนินกำร ให้เป็นไปตำมกฎกระทรวง เรื่องระบบ หลักเกณฑ์และวิธีกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2553 และได้ยึด 15 มำตรฐำน 65 ตัวบ่งชี้ ของกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ซึ่งเป็นไปตำมข้อก ำหนดในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน โดยผู้บริหำรและครูได้ร่วมกันวิเครำะห์มำตรฐำนและตัวบ่งชี้เพื่อก ำหนดเป็นโครงกำร ในกำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ ผลกำรประเมิน คุณภำพกำรศึกษำแต่ละมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ทั้งหมดของแต่ละปีกำรศึกษำได้ก ำหนดเป็นแนวทำง ในพัฒนำของสถำนศึกษำไว้ในทุกมำตรฐำนกำรศึกษำ ผู้อ ำนวยกำรและคณะครูได้ร่วมกัน จัดข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำรำยมำตรฐำนกำรศึกษำไว้อย่ำงชัดเจน ซึ่งเมื่อจัดท ำรำยงำนกำรประเมินตนเองในแต่ละปีกำรศึกษำเสร็จ ผู้อ ำนวยกำรจะน ำไปบรรจุเป็น วำระกำรประชุมประจ ำเดือนในเดือนแรกที่จัดท ำ SAR เสร็จ และได้พูดคุยอย่ำงไม่เป็นทำงกำรอยู่เป็นประจ ำ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ 2559 ประกอบด้วยโครงกำรจ ำนวน 19 โครงกำร โดยต้องกำร ให้โครงกำรมีจ ำนวนไม่มำกนักเพื่อเหมำะสมกับบริบทของโรงเรียนขนำดเล็กแต่ต้องรองรับและ สอดคล้องกับแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียน โครงกำรทั้งหมดจะแบ่งแยกกำรท ำงำนและ กิจกรรมไปยังฝ่ำยงำนทั้ง 4 ฝ่ำย เมื่อด ำเนินงำนตำมโครงกำรเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้รับผิดชอบโครงกำร ทุกโครงกำรจะต้องจัดท ำรำยงำนผลกำรด ำเนินงำนตำมโครงกำร 5 บท แต่เป็นรำยงำนที่ไม่สมบูรณ์
160 ทำงวิชำกำรมำกนักเพื่อเสนอต่อผู้อ ำนวยกำร ดังนั้น ผลกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ จึงเป็นประเด็นปัญหำและแนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพของโรงเรียน น ำไปสู่กำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำร ประจ ำปีกำรศึกษำ โครงกำรและกิจกรรมของโรงเรียนในแต่ละปีกำรศึกษำ โรงเรียนได้รับกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบสำมเมื่อวันที่ 22-24 สิงหำคม 2554 ระดับกำรศึกษำปฐมวัยมีผลกำรประเมินในระดับดีมำก 8 ตัวบ่งชี้ และระดับดี 4 ตัวบ่งชี้ ส่วนระดับประถมศึกษำมีผลกำรประเมินในระดับดีมำก 10 ตัวบ่งชี้ ระดับดี 1 ตัวบ่งชี้ และระดับพอใช้ 1 ตัวบ่งชี้ ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำมำตรฐำนคุณภำพสถำนศึกษำทั้ง 4 ด้ำน คือด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ ด้ำนกำรบริหำรกำรศึกษำ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และด้ำนกำรประกันคุณภำพ ภำยใน ผู้อ ำนวยกำรได้น ำเข้ำสู่กำรพิจำรณำและวิเครำะห์ในที่ประชุมประจ ำเดือนอย่ำงเป็นทำงกำร พร้อมทั้งได้ใช้ข้อเสนอแนะเหล่ำนั้นส ำหรับกำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรทุกปีกำรศึกษำ ส่วนกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพทั้งภำยในและภำยนอกไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวด ยังไม่เห็น เชิงประจักษ์ได้ชัดเจน เพรำะโรงเรียนได้จัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและแผนปฏิบัติกำร ประจ ำปีตำมมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกันคุณภำพภำยในเป็นหลักส ำคัญ แต่หำกจะจัดระบบ กำรบริหำรจัดกำรของโรงเรียนตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศผู้อ ำนวยกำร ให้ควำมเห็นว่ำสำมำรถด ำเนินกำรได้โดยต้องวิเครำะห์ว่ำมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกันคุณภำพภำยใน ว่ำมีควำมสอดคล้องกับตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวดอย่ำงไรบ้ำง เป็นเรื่องที่ดีมำกโดยจะเป็นพัฒนำระบบกำรประกันคุณภำพศึกษำให้มีมำตรฐำนและมีประสิทธิผล ในกำรพัฒนำสถำนศึกษำสูงขึ้น ซึ่งเป็นองค์ควำมรู้ทำงวิชำกำรของศำสตร์กำรบริหำรกำรศึกษำ ที่น่ำสนใจ อีกทั้งส ำนักงำนคณะกรรมกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนก็ได้จัดท ำระบบกำรประกันคุณภำพ ตำมแนวทำง OBECQA ที่อำศัยเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศเป็นฐำนองค์ควำมรู้ ในกำรพัฒนำระบบอยู่แล้วในขณะนี้ แต่ยังจ ำกัดอยู่ในเฉพำะโรงเรียนตำมโครงกำรโรงเรียนมำตรฐำนสำกลเท่ำนั้น 1.22 ผลกำรเก็บข้อมูลเชิงคุณภำพเพื่อศึกษำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ : กรณีศึกษำโรงเรียนระดับประถมศึกษำ B โรงเรียน B เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบำล 1 ถึงชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 มีบุคลำกร สำยบริหำร 1 คน และครูผู้สอน 5 คน มีครูธุรกำร 1 คน และมีนักเรียนอยู่ทั้งหมด 64 คน แบ่งเป็น ระดับกำรศึกษำปฐมวัย 12 คน และระดับประถมศึกษำ 52 คน กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในของโรงเรียนได้ด ำเนินกำร ให้เป็นไปตำมกฎกระทรวง เรื่องระบบ หลักเกณฑ์และวิธีกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2553 และได้ยึด 15 มำตรฐำน 65 ตัวบ่งชี้ ของกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ซึ่งเป็นไปตำมข้อก ำหนดในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน โดยผู้บริหำรให้ควำมส ำคัญในกำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ แผนปฏิบัติกำร ประจ ำปีกำรศึกษำ และกำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ให้มีควำมเชื่อมโยงกันอย่ำงเป็นระบบ
161 โดยในกำรบริหำรจัดกำรของโรงเรียนได้ใช้ผลกำรประเมินคุณภำพภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ เป็นฐำนในกำรพัฒนำภำรกิจและโครงกำรต่ำง ๆ ของโรงเรียน ผู้บริหำรและครูได้ร่วมกันวิเครำะห์ มำตรฐำนและตัวบ่งชี้เพื่อก ำหนดเป็นโครงกำร ผลกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำแต่ละมำตรฐำนและ ตัวบ่งชี้ทั้งหมดของแต่ละปีกำรศึกษำได้ก ำหนดเป็นแนวทำงในพัฒนำของสถำนศึกษำไว้ในทุกมำตรฐำนกำรศึกษำ ผู้อ ำนวยกำรและคณะครูได้ร่วมกันจัดข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำรำยมำตรฐำน กำรศึกษำไว้เป็นอย่ำงดี ซึ่งเมื่อจัดท ำรำยงำนกำรประเมินตนเองในแต่ละปีกำรศึกษำเสร็จ ผู้อ ำนวยกำรจะ น ำไปบรรจุเป็นวำระกำรประชุมประจ ำเดือนในเดือนแรกที่จัดท ำ SAR เสร็จ และได้พูดคุยอย่ำงไม่เป็น ทำงกำรอยู่เป็นประจ ำ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ 2559 ประกอบด้วยโครงกำรจ ำนวน 20โครงกำร แบ่งแยกตำมกลยุทธ์ในกำรพัฒนำโรงเรียน 5 กลยุทธ์ และสอดคล้องกับแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ของโรงเรียน โครงกำรทั้งหมดจะแบ่งแยกกำรท ำงำนและกิจกรรมไปยังฝ่ำยงำนทั้ง 4 ฝ่ำย พร้อม ก ำหนดครูผู้รับผิดชอบโครงกำร เมื่อด ำเนินงำนตำมโครงกำรเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้รับผิดชอบโครงกำร ทุกโครงกำรจะต้องจัดท ำรำยงำนกำรประเมินโครงกำรอย่ำงง่ำยๆ ตำมที่ได้ก ำหนดแบบประเมินโครงกำร และแบบสอบถำมควำมพึงพอใจของโครงกำรไว้ล่วงหน้ำในแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีแล้ว เพื่อเสนอต่อ ผู้อ ำนวยกำร ซึ่งผลกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำจึงเป็นประเด็นปัญหำและแนวทำงกำรพัฒนำ คุณภำพของโรงเรียน น ำไปสู่กำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ โครงกำรและกิจกรรมของ โรงเรียนในแต่ละปีกำรศึกษำ โดยในแต่ละปีกำรศึกษำผู้บริหำรและครูได้พยำยำมพัฒนำโครงกำรต่ำงๆ ให้มีคุณภำพมำกขึ้น ซึ่งได้อำศัยผลกำรด ำเนินกำรของโครงกำรนั้น ๆ ในปีที่ผ่ำนมำเป็นฐำน ว่ำจะปรับเปลี่ยนกิจกรรมต่ำง ๆ อย่ำงไรบ้ำง โรงเรียนได้รับกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบสำมเมื่อวันที่ 3-5กุมภำพันธ์ 2557 ระดับกำรศึกษำปฐมวัยมีผลกำรประเมินในระดับดีมำก 7 ตัวบ่งชี้ และระดับดี 5 ตัวบ่งชี้ ส่วนระดับประถมศึกษำมีผลกำรประเมินในระดับดีมำก 6 ตัวบ่งชี้ ระดับดี 5 ตัวบ่งชี้ และระดับพอใช้ 1 ตัวบ่งชี้ ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำมำตรฐำนคุณภำพสถำนศึกษำทั้ง 4 ด้ำน คือด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ ด้ำนกำรบริหำรกำรศึกษำ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และด้ำนกำรประกัน คุณภำพภำยใน ผู้อ ำนวยกำรได้น ำเข้ำสู่กำรพิจำรณำและวิเครำะห์ในที่ประชุมประจ ำเดือนอย่ำงเป็น ทำงกำร พร้อมทั้งได้ใช้ข้อเสนอแนะเหล่ำนั้นส ำหรับกำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ 2558 ส่วนกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพทั้งภำยในและภำยนอกไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวด ยังไม่เห็น เชิงประจักษ์ได้ชัดเจน เพรำะโรงเรียนได้จัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและแผนปฏิบัติกำร ประจ ำปีตำมมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกันคุณภำพภำยในเป็นหลักส ำคัญ ผู้บริหำรและ หัวหน้ำงำนวิชำกำรรับทรำบถึงมำตรฐำนและตัวบ่งชี้กำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนใหม่แล้ว แต่รอรำยละเอียดในแนวทำงกำรด ำเนินงำน และรูปแบบกำรเขียนรำยงำนผล
162 กำรประเมินคุณภำพภำยในสถำนศึกษำจำกส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และ ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำอยู่ว่ำ จะให้สถำนศึกษำด ำเนินกำรอย่ำงไรบ้ำง 1.23 ผลกำรเก็บข้อมูลเชิงคุณภำพเพื่อศึกษำกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ : กรณีศึกษำโรงเรียนระดับมัธยมศึกษำ C โรงเรียน C เปิดสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 มีบุคลำกรสำยบริหำร 2 คน และครูผู้สอน 30 คน มีนักเรียนทั้งหมด 271 คน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษำตอนต้น 157 คน และระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย 114 คน ผู้อ ำนวยกำรเพิ่งย้ำยมำด ำรงต ำแหน่งเมื่อ 10 พฤศจิกำยน 2558 และรองผู้อ ำนวยกำรก็เพิ่งบรรจุมำด ำรงต ำแหน่งใหม่ด้วย กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในของโรงเรียนได้ด ำเนินกำร ให้เป็นไปตำมกฎกระทรวง เรื่องระบบ หลักเกณฑ์และวิธีกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2553 และได้ยึด 15 มำตรฐำน 65 ตัวบ่งชี้ ของกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน แต่ ปัญหำส ำคัญ คือ หัวหน้ำงำนวิชำกำร และครูผู้รับชอบงำนกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ยังไม่เข้ำใจ กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำเท่ำที่ควร ไม่เห็นร่องรอยกำรบริหำรจัดกำรงำนประกัน คุณภำพใน 8 ระบบ ตำมข้อก ำหนดในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของส ำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ผู้บริหำรและครูที่รับผิดชอบเพียงบำงส่วนเท่ำกันได้ร่วมกัน วิเครำะห์มำตรฐำนและตัวบ่งชี้เพื่อก ำหนดเป็นโครงกำรในกำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ และแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไม่ได้เป็นวัฒนธรรมคุณภำพและ วิถีชีวิตในกำรปฏิบัติงำนของผู้บริหำร หัวหน้ำฝ่ำยงำน ครูผู้รับผิดชอบโครงกำร ครูผู้สอน ผลกำร ประเมินคุณภำพกำรศึกษำแต่ละมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ทั้งหมดของแต่ละปีกำรศึกษำได้ก ำหนดเป็น แนวทำงในพัฒนำของสถำนศึกษำไว้ในทุกมำตรฐำนกำรศึกษำ ผู้อ ำนวยกำรและคณะครูบำงคนได้ ร่วมกันจัดข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำรำยมำตรฐำนกำรศึกษำไว้อย่ำงชัดเจน พอสมควร รำยงำนกำรประเมินตนเอง (SAR )ในแต่ละปีกำรศึกษำ ผู้อ ำนวยกำรเห็นควำมส ำคัญจะ น ำไปบรรจุเป็นวำระกำรประชุมประจ ำเดือน และได้พูดคุยอย่ำงไม่เป็นทำงกำรอยู่บ้ำง แผนปฏิบัติ กำรประจ ำปีกำรศึกษำ 2559 มีงบประมำณทั้งหมด 1,668,700 บำท เป็นงบประมำณประจ ำ 1,074039 บำท เหลือส ำหรับเป็นงบประมำณส ำหรับกำรพัฒนำจัดท ำโครงกำรต่ำงๆเพียง 594,661 บำท ประกอบด้วยโครงกำรจ ำนวน 15โครงกำร กิจกรรมในแต่ละโครงกำรผู้อ ำนวยกำรสำมำรถ อนุมัติให้ปรับเปลี่ยนได้ตำมควำมเหมำะสมแต่พิจำรณำแล้วแผนปฏิบัติกำรประจ ำปียังไม่ค่อยจะ รองรับและสอดคล้องกับแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียน โครงกำรทั้งหมดจะแบ่งแยกกำร ท ำงำนและกิจกรรมไปยังฝ่ำยงำนทั้ง 5 ฝ่ำย แต่ฝ่ำยบริหำรยังจัดระบบกำรรำยงำนผลกำรด ำเนินงำน ตำมโครงกำรได้ไม่ดีเพรำะยังเป็นผู้บริหำรที่มำด ำรงต ำแหน่งใหม่ อีกทั้งครูผู้รับผิดชอบโครงกำรยังมี ภำระงำนสอนมำก ดังนั้นท ำให้ผลกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำจึงไม่ค่อยเป็นประเด็นปัญหำ
163 และแนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพของโรงเรียนมำกนัก ที่จะน ำไปสู่กำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ โครงกำรและกิจกรรมของโรงเรียนในแต่ละปีกำรศึกษำ มีแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ 4 ปี แผนปฏิบัติกำรประจ ำปีกำรศึกษำ และรำยงำนผลกำรประเมินตนเองครบ แต่ยังขำดควำมสอดคล้อง และรองรับซึ่งกันและกัน คณะผู้บริหำร และครู ยังไม่ได้ใช้แผนต่ำงๆและผลกำรประกันคุณภำพ เป็นเครื่องมือกำรขับเคลื่อนในกำรพัฒนำโรงเรียน โรงเรียนได้รับกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบสำมเมื่อวันที่ 13-15 มิถุนำยน 2555 มีผลกำรประเมินในระดับดีมำก 6 ตัวบ่งชี้ ระดับดี 4 ตัวบ่งชี้ และระดับต้องปรับปรุง 1ตัวบ่งชี้ ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำมำตรฐำนคุณภำพสถำนศึกษำทั้ง 4 ด้ำน คือด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ ด้ำนกำรบริหำรกำรศึกษำ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และด้ำนกำรประกัน คุณภำพภำยใน คณะผู้บริหำรชุดเก่ำได้น ำเข้ำสู่กำรพิจำรณำและวิเครำะห์ในที่ประชุมประจ ำเดือน อย่ำงเป็นทำงกำร พร้อมทั้งได้ใช้ข้อเสนอแนะเหล่ำนั้นส ำหรับกำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรประจ ำปี กำรศึกษำ 2556 อยู่บ้ำง ส่วนกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพทั้งภำยในและภำยนอกไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวด ผู้อ ำนวยกำร หัวหน้ำงำนวิชำกำร และครูผู้รับผิดชอบงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำได้เป็นผู้ตอบ แบบสอบถำมที่ผู้วิจัยส่งไปให้ด้วย แต่พิจำรณำแล้วทั้งหมดยังไม่ค่อยจะเข้ำใจและรับรู้แนวคิด กำรบริหำรเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ (EdPEx) อยู่เลย ดังนั้น กำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ ทั้งภำยในและภำยนอกไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำ เพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศยังไม่เห็นร่องรอยกำรน ำไปใช้ ทั้งนี้เพรำะโรงเรียนได้จัดท ำแผนพัฒนำ คุณภำพกำรศึกษำและแผนปฏิบัติกำรประจ ำปี ตำมมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกันคุณภำพ ภำยในเท่ำนั้น และกำรจัดท ำแผนต่ำงๆ ยังจ ำกัดอยู่เฉพำะบุคลำกรบำงกลุ่ม ขำดกำรก ำกับ ติดตำม ประเมินอย่ำงเป็นระบบ กำรจัดระบบและท ำงำนกำรประกันคุณภำพของสถำนศึกษำยังด ำเนินกำร ได้ไม่สมบูรณ์มำกนัก เป็นกำรด ำเนินงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำเพื่อรองรับกำรประเมินคุณภำพ ภำยในและภำยนอกเท่ำนั้น สรุปผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลเชิงคุณภำพจำกกรณีศึกษำ 3 โรงเรียน พบว่ำกำรน ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ เชิงคุณภำพ ได้มีกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพทั้งภำยในและภำยนอกไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวด ยังไม่เห็น เชิงประจักษ์ได้ชัดเจน เพรำะโรงเรียนได้จัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและแผนปฏิบัติกำร ประจ ำปีตำมมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกันคุณภำพภำยในเป็นหลักส ำคัญ แต่หำกจะจัดระบบ กำรบริหำรจัดกำรของโรงเรียนตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ
164 ผู้อ ำนวยกำรให้ควำมเห็นว่ำสำมำรถด ำเนินกำรได้โดยต้องวิเครำะห์ว่ำมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ของกำรประกัน คุณภำพภำยในว่ำมีควำมสอดคล้องกับตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 หมวดอย่ำงไรบ้ำง เป็นเรื่องที่ดีมำกโดยจะเป็นพัฒนำระบบกำรประกันคุณภำพศึกษำให้มีมำตรฐำน และมีประสิทธิผลในกำรพัฒนำสถำนศึกษำสูงขึ้น ซึ่งเป็นองค์ควำมรู้ทำงวิชำกำรของศำสตร์ กำรบริหำรกำรศึกษำที่น่ำสนใจ อีกทั้งส ำนักงำนคณะกรรมกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนก็ได้จัดท ำระบบ กำรประกันคุณภำพตำมแนวทำง OBECQA ที่อำศัยเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ เป็นฐำนองค์ควำมรู้ในกำรพัฒนำระบบอยู่แล้วในขณะนี้ แต่ยังจ ำกัดอยู่ในเฉพำะโรงเรียนตำม โครงกำรโรงเรียนมำตรฐำนสำกลเท่ำนั้น ผู้บริหำรและหัวหน้ำงำนวิชำกำรรับทรำบถึงมำตรฐำนและ ตัวบ่งชี้กำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนใหม่แล้ว แต่รอรำยละเอียดในแนวทำง กำรด ำเนินงำน และรูปแบบกำรเขียนรำยงำนผลกำรประเมินคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ จำกส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำอยู่ว่ำ จะให้สถำนศึกษำด ำเนินกำรอย่ำงไรบ้ำง ตอนที่ 2 ผลการพัฒนารูปแบบการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก 2.1 ผลการศึกษาเอกสาร โดยกำรศึกษำเอกสำรต่ำง ๆ ทั้งเอกสำรสิ่งพิมพ์ภำษำไทย และภำษำอังกฤษ รวมถึงเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ที่พิจำรณำเห็นว่ำเกี่ยวข้องกับรูปแบบกำรบริหำรคุณภำพ และกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำในลักษณะต่ำง ๆ พบว่ำมีเนื้อหำสำระเกี่ยวกับองค์ควำมรู้ที่ส ำคัญ ของรูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ที่ส ำคัญ ได้แก่ กำรพัฒนำรูปแบบ กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรใช้ผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ เกณฑ์คุณภำพ กำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ ปี 2016-2018 (Education Criteria for Performance Excellence ; EdPEx) กำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลง กำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำแบบร่วมคิดร่วมท ำ กำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ และบริบทของสถำนศึกษำขนำดเล็ก 2.2 ผลสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) ผู้ทรงคุณวุฒิทำงด้ำนกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำ เกี่ยวกับองค์ประกอบของรูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก
165 2.2.1. ตามความเชื่อของท่าน การน าเอา “รูปแบบการน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก” ไปใช้ในการบริหาร สถานศึกษา จะมีความเหมาะสม เป็นไปได้ สอดคล้อง และเป็นประโยชน์หรือไม่ เพราะอะไร ควำมเหมำะสม เป็นไปได้ สอดคล้อง และเป็นประโยชน์ในกำรน ำเอำ “รูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก” ไปใช้ในกำรบริหำรสถำนศึกษำ กำรป ระกันคุณภ ำพกำรศึกษ ำเป็นเครื่องมือในกำรพัฒ น ำคุณภ ำพ ของสถำนศึกษำซึ่งเป็น Tool Management ของผู้บริหำรและสถำนศึกษำ ช่วยให้กำรวำงแผน และกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำเป็นไปด้วยกัน ท ำให้งำนทุกงำนของสถำนศึกษำมุ่งสู่คุณภำพ อีกทั้งต้องเป็นไปตำมกฎหมำยที่สถำนศึกษำต้องจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ดังนั้น กำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำจึงเป็นหัวใจส ำคัญ ของระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ “ คิดว่าเรื่องนี้มีความส าคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะการประกันคุณภาพ การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาขนาดเล็ก ปัญหาส าคัญ ของระบบการประกันคุณภาพการศึกษา คือ มีการตรวจ การประเมินกันมาก แต่ขาดสิ่งที่เป็นหัวใจ ของการประกันคุณภาพการศึกษา ได้แก่ การน าผลจากการตรวจประเมินไปใช้เป็นฐานในการจัดท า แผน และการพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพในทุกมิติ ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีความเหมาะสม เป็นไปได้ ทั้งในเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติของสถานศึกษา สอดคล้องเพราะสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งหากท าวิจัยเรื่องนี้ได้ส าเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพบริหารการศึกษาและสถานศึกษา อย่างมากมาย” ผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 “คิดว่าเรื่องนี้มีความส าคัญ เพ ราะก ารป ระกันคุณ ภ าพก ารศึกษ า เป็น Management Tool ของผู้บริหารและสถานศึกษา หากท าเรื่องนี้ได้ดีจะเป็นประโยชน์ต่อ วงการศึกษาไทยยิ่ง” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “คิดว่าเรื่องนี้มีความส าคัญต่อวงการบริหารการศึกษาอย่างมากมาย การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นการวางแผนของสถานศึกษา งานทุกงานมุ่งสู่คุณภาพ และวางแผนเพื่อคุณภาพของสถานศึกษา จะช่วยท าให้งานการวางแผนและงานการประกันคุณภาพ เป็นไปด้วยกัน ไม่แยกออกจากกัน” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3
166 2.2.2. ท่านคิดว่ามี “บทเรียนจากประสบการณ์ หรือแนวคิดใดบ้างในการน าผล การประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก” ที่จะช่วยให้การบริหารสถานศึกษามีคุณภาพเพิ่มขึ้น แนวคิดในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้พัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก 1. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ต้องเป็นกำรรำยงำนผลลัพธ์ กำรด ำเนินงำนในกำรจัดกำรศึกษำต่อผู้ปกครอง ชุมชน และสำธำรณะ สถำนศึกษำควรได้จัดท ำเป็น รำยงำนประจ ำปีและใช้เป็นข้อมูลพื้นฐำนส ำหรับกำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปีในรอบต่อ ๆ ไป 2. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำจะท ำให้สถำนศึกษำได้จัด กำรศึกษำแบบรับผิดรับชอบ (Accreditation) ท ำให้สถำนศึกษำสำมำรถมองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อน ของตนเอง สำมำรถแก้ปัญหำและพัฒนำจุดอ่อนได้ตรงจุด ผู้บริหำรสถำนศึกษำและบุคลำกรทุกคน ต้องจัดท ำและด ำเนินกำรงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำอยู่เป็นประจ ำต่อเนื่องให้เป็นวิถีชีวิตและ วัฒนธรรมคุณภำพของสถำนศึกษำ 3. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำจะช่วยให้เกิดฐำนข้อมูล ซึ่งเป็น MIS เพื่อกำรบริหำรจัดกำรของสถำนศึกษำ หำกสำมำรถพัฒนำให้เป็นระบบ Automation สำมำรถท ำงำนในระบบ online ที่สำมำรถค้นหำ ใช้ข้อมูลได้ทันที เอำมำตรฐำนและตัวบ่งชี้ ของกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำเป็นฐำนข้อมูลเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ 4.กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำต้องเป็นกำรช่วยประชำสัมพันธ์ ส ำหรับสร้ำงภำพลักษณ์ (Image) ของสถำนศึกษำ และมีส่วนช่วยท ำให้สถำนศึกษำเป็นของชุมชน ท้องถิ่น และประเทศชำติ 5. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำควรต้องด ำเนินกำรให้ เหมำะสมกับข้อจ ำกัดของสถำนศึกษำขนำดเล็ก มีเกณฑ์เฉพำะไว้ส ำหรับเป็นมำตรฐำนในกำรบริหำร จัดกำร และควรพิจำรณำเฉพำะประเด็นส ำคัญ ๆ ในกำรกำรจัดกำรศึกษำ “แนวคิดในการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ที่จะช่วยให้การบริหารสถานศึกษามีคุณภาพเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย 1. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ต้องเป็นการรายงาน ผลลัพธ์การด าเนินงานในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาต่อผู้ปกครอง ชุมชน และสาธารณะ 2. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาต้องเป็นการจัดการศึกษา แบบรับผิดรับชอบ (Accreditation) ผู้บริหารสถานศึกษาและครูทุกคนเป็นเจ้าภาพในการท างาน ร่วมกันรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ทุกคนสามารถตอบค าถามได้ มีระบบ MIS ทั้งภายในและภายนอก ที่ช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทุกหน่วยงาน ทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้จะต้องมี หากสามารถพัฒนาให้เป็นระบบ Automation ที่ให้ข้อมูลได้ทันที โดยสามารถใช้ ในระบบ Online ได้จะเป็นการดียิ่ง
167 3. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ต้องเป็นการประชาสัมพันธ์ ช่วยในการสร้างและรักษาภาพลักษณ์ (Image) ของสถานศึกษา สามารถรายงานความจริงให้ผู้มีส่วน ได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ได้รับทราบ สถานศึกษาควรมีรูปแบบและสื่อที่สมบูรณ์แบบ จะต้องจัดท า วารสารทั้งภายในและภายนอกเพื่อท าการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารให้ครู ผู้ปกครอง และชุมชน ได้รับทราบอย่างทั่วถึง 4. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา จะต้องมีส่วนช่วยท าให้ สถานศึกษาเป็นของชุมชน เป็นของท้องถิ่น และประเทศชาติ ไม่ใช่โรงเรียนเป็นของผู้อ านวยการ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “แนวคิดในการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ที่จะช่วยให้การบริหารสถานศึกษามีคุณภาพเพิ่มขึ้นประกอบด้วย 1. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาในแต่ละขนาดไม่ควรจะ เหมือนกัน เพราะข้อจ ากัด ทรัพยากรต่าง ๆ ของสถานศึกษาแต่ละขนาดมีไม่เท่ากัน แต่ประเทศเรา แต่ละสถานศึกษาต้องมีมาตรฐานและตัวบ่งชี้ในการจัดการศึกษาเหมือนกัน 2. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ต้องดูเรื่องใหญ่ ๆ ไม่ควร จะวัดและประเมินในรายละเอียดมากจนเกินไปเช่น ให้ความส าคัญกับภาวะผู้น าของผู้บริหาร 3. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ต้องท าให้เหมาะสมกับ ข้อจ ากัดต่าง ๆ ของสถานศึกษาขนาดเล็ก 4. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา จะต้องมีเกณฑ์เฉพาะ ของโรงเรียนขนาดเล็กไว้อิงส าหรับการบริหารจัดการของสถานศึกษา ไม่ควรเหมือนกับสถานศึกษา ขนาดใหญ่และขนาดกลาง” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “แนวคิดในการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กที่จะช่วยให้การบริหารสถานศึกษามีคุณภาพเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย 1. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา และรายงานประจ าปี เป็นข้อมูลพื้นฐานส าหรับการท าแผนพัฒนาของสถานศึกษาในปีต่อไป 2. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ช่วยให้สถานศึกษา มองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของสถานศึกษา แก้ปัญหาและพัฒนาจุดอ่อนของสถานศึกษา ต้องจัดท า และด าเนินการเป็นประจ า ไม่ใช่การท าแบบเป็นช่วงเทศกาลก่อนหน้าที่จะมีการประเมิน 3. การจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ช่วยให้เกิดฐานข้อมูล MIS เพื่อการบริหารจัดการของสถานศึกษา เอามาตรฐานและตัวบ่งชี้ของการประกันคุณภาพเป็น ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาสถานศึกษา หน้าที่ส าคัญของสถานศึกษา คือ สอนนักเรียนให้มีคุณภาพ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3
168 2.2.3. ท่านเชื่อว่ามี “องค์ประกอบหรือปัจจัย” ใดบ้างที่จะท าให้การน าผล การประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ประสบความส าเร็จ เพราะอะไร องค์ประกอบหรือปัจจัย ที่จะท ำให้กำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กประสบควำมส ำเร็จ 1. บริบทและทรัพยำกรของสถำนศึกษำ 2. วิสัยทัศน์ ภำวะผู้น ำ ประสบกำรณ์และควำมเป็นมืออำชีพของผู้บริหำร สถำนศึกษำ 3. ควำมพร้อม ควำมตระหนัก และควำมรับผิดชอบในบทบำทหน้ำที่ และ ภำระงำนของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 4. กำรสนับสนุนและศักยภำพของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ชุมชน และท้องถิ่น 5. นโยบำย กำรนิเทศ ก ำกับ ติดตำม และประเมินผลของหน่วยงำนต้นสังกัด 6. กำรท ำงำนแบบบูรณำกำรทุกอย่ำงเข้ำด้วยกัน โดยสถำนศึกษำต้องวำงแผน เก็บรวบรวมข้อมูล วิเครำะห์ ก ำกับ ติดตำมผลกำรด ำเนินงำน ทุกอย่ำงต้องท ำไปพร้อม ๆ กัน “ปัจจัยที่จะท าให้การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กประสบความส าเร็จ ประกอบด้วย 1. วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ถ้า Mind Set ของผู้บริหารเปิดตัวเปิดใจเห็น ความส าคัญของการประชาสัมพันธ์ การท างานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีธรรมมาภิบาล ระบบการ ประกันคุณภาพการศึกษาจะประสบความส าเร็จ 2. ผู้อ านวยการสถานศึกษา ต้องมีการท างานเป็นทีมของผู้บริหาร ทุกระดับในสถานศึกษา เข้าพบง่าย เป็นที่ปรึกษา ระบายปัญหาได้สะดวก รับฟังความคิดเห็น หาวิธีการแก้ปัญหาให้กับบุคลกรในทุกระดับ แต่ไม่ใช่ไปแก้ปัญหาให้เขา บริหารงานแบบ Open Door Policy 3. ผู้อ านวยการต้องอยู่ในสถานศึกษาอย่างสม่ าเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องส าคัญ อย่างยิ่ง อย่าให้ความส าคัญกับงานภายนอกสถานศึกษามากกว่างานในสถานศึกษา 4. ครูตระหนักในบทบาทหน้าที่ตามความเชี่ยวชาญและความถนัด ของตนเอง ไม่ท าตัวให้เกิด Role Confic ในหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง 5. คณะกรรมการสถานศึกษา ต้องรู้บทบาท อ านาจหน้าที่ของตนเอง โดยเป็นองค์กรในการก ากับนโยบาย และรักษามาตรฐาน คุณภาพของสถานศึกษา ไม่ใช่ไปบริหาร สถานศึกษา หรือสั่งการแทนผู้อ านวยการ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใด ๆ 6. นโยบาย การนิเทศ ติดตาม และการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง จากส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1
169 “ปัจจัยที่จะท าให้การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กประสบความส าเร็จ ประกอบด้วย 1. บริบทและทรัพยากรของสถานศึกษา 2. ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของผู้บริหาร 3. ความพร้อมและภาระงานครูและบุคลากรทางการศึกษา 4. การสนับสนุนและศักยภาพของคณะกรรมการสถานศึกษา ท้องถิ่น และชุมชน 5. ควรท าการพัฒนาให้แต่ละโรงเรียนมีชื่อเสียง จุดเด่นและความส าเร็จ ในด้านใดด้านหนึ่งเป็นการเฉพาะ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “ปัจจัย ที่จะท าให้การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กประสบความส าเร็จ ประกอบด้วย 1. การสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ที่ต้องใช้ ข้อมูลเป็นฐานส าหรับการตัดสินใจในการบริหารจัดการและการพัฒนาของสถานศึกษา 2. การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลการประกันคุณภาพการศึกษาให้ บุคลากรทุกคน ทุกฝ่าย ได้มีความเข้าใจและเข้าถึงฐานข้อมูลต่าง ๆ ได้รับทราบอย่างถึง อย่าให้จ ากัด อยู่เฉพาะฝ่ายงานประกันคุณภาพ 3. ท างานแบบบูรณาการทุกอย่างเข้าด้วยกัน โดยสถานศึกษาท าการ วางแผน เก็บข้อมูล วิเคราะห์ ก ากับติดตาม ผลการด าเนินงานร่วมกันต้องท าไปพร้อม ๆ ด้วยกัน” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3 2.2.4. ท่านคิดว่า “โครงสร้างการบริหารสถานศึกษา” ที่สอดคล้องกับการน าผล การประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ควรประกอบด้วยอะไรบ้าง และมีลักษณะเป็นอย่างไร โครงสร้ำงกำรบริหำรสถำนศึกษำที่สอดคล้องกับกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กงำนประกันคุณภำพ กำรศึกษำ ควรอยู่กับฝ่ำยวิชำกำรเพรำะวิชำกำรเป็นหัวใจของสถำนศึกษำ ลดงำนเอกสำรลงให้มำกที่สุด เน้น Result Based ท ำหลักฐำนต่ำง ๆ ให้ง่ำยที่สุดซึ่งโรงเรียนขนำดเล็กไม่ควรไปสร้ำงกลุ่มงำนต่ำง ๆ ให้มำก เพรำะมีคนอยู่น้อย แต่ต้องมีภำระงำนเท่ำ ๆ กับโรงเรียนขนำดอื่น ๆ “งานประกันคุณภาพการศึกษา ควรอยู่กับฝ่ายวิชาการเพราะวิชาการ เป็นหัวใจของสถานศึกษา ลดงานเอกสารลงให้มากที่สุด เน้น Result Based ท าหลักฐานต่าง ๆ ให้ง่ายที่สุด” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1
170 “งานประกันคุณภาพการศึกษา ควรอยู่กับฝ่ายวิชาการ ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ควรไปสร้างกลุ่มงานต่าง ๆ ให้มาก เพราะมีคนอยู่น้อย แต่ต้องมีภาระงานเท่า ๆ กับโรงเรียน ขนาดอื่น ๆ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “ระบบงานประกันคุณภาพการศึกษา ต้องท าให้บุคลากรทุกคนได้ร่วมท างาน ไปด้วยกัน เพราะสถานศึกษาขนาดเล็กมีบุคลากรอยู่น้อย” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3 2.2.5. ท่านคิดว่า “กระบวนการและวิธีการปฏิบัติ” ในการน าผลการประกัน คุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ควรมี ลักษณะเฉพาะอย่างไรบ้าง กระบวนกำรและวิธีกำรปฏิบัติต้องสำมำรถสร้ำง Best Practice หรือ Brand Name ให้เกิดขึ้นกับสถำนศึกษำได้ต้องสร้ำงวิถีคุณภำพให้เกิดขึ้นกับระบบประกันคุณภำพ ภำยในและระบบกำรประกันคุณภำพภำยนอก อย่ำท ำประกันคุณภำพกำรศึกษำเพื่อตรวจประเมิน ต้องเน้นกำรท ำระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำที่อยู่บนข้อมูลสำรสนเทศที่เป็นจริง สถำนศึกษำ ต้องจัดระบบกำรประกันคุณภำพเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ให้สำมำรถเห็นจุดอ่อน จุดแข็ง ในสถำนศึกษำของตนเอง ไม่ใช่เพื่อรองรับกำรประเมิน “เน้นการท าระบบการประกันคุณภาพ ที่อยู่บนข้อมูลสารสนเทศที่เป็นจริง สถานศึกษาต้องจัดระบบการประกันคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ให้สามารถเห็น จุดอ่อน จุดแข็งในสถานศึกษาของตนเอง ไม่ใช่เพื่อรองรับการประเมิน ที่ต้องให้ผู้รับชอบการประกัน คุณภาพต้องไป Make ข้อมูลต่าง ๆ มารองรับ ซึ่งเป็นความเสียหายของระบบเป็นอย่างยิ่ง” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “กระบวนการและวิธีการปฏิบัติต้องสามารถสร้าง Best Practice หรือ Brand Name ให้เกิดขึ้นกับสถานศึกษาได้ ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “การสร้างวิถีคุณภาพให้เกิดขึ้นกับระบบประกันคุณภาพภายในและระบบ การประกันคุณภาพภายนอก อย่าท าประกันคุณภาพเพื่อตรวจประเมิน ให้องค์กรภาคีที่สามมายืนยัน คุณภาพของสถานศึกษา อย่าวัดประเมินที่เอกสาร ให้พิจารณาที่ข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้บริหารดูที่ ภาวะผู้น า ครูดูที่กระบวนการจัดการเรียนการสอน นักเรียนดูที่ผลผลิต” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3
171 2.2.6. ท่านเชื่อว่าแต่ละภาคส่วนต่อไปนี้ คือ “ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากร กรรมการสถานศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการน าผลการประกันคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก” ควรมีบทบาทและ หน้าที่อะไรบ้าง บทบำทและหน้ำที่ของผู้บริหำรสถำนศึกษำ คณะครู บุคลำกร กรรมกำร สถำนศึกษำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กทุกภำคส่วนมีควำมส ำคัญทั้งหมด ทุกคนต้องท ำหน้ำที่ ตำมบทบำทและหน้ำที่ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ให้ดีที่สุด ให้งำนในหน้ำที่ของตนเองมีคุณภำพสูงสุด ต้องท ำงำนให้เต็มศักยภำพ และควำมรู้ ควำมสำมำรถที่ตนเองมีอยู่ ทุกฝ่ำยต้องค ำนึงถึงคุณภำพใน กำรท ำงำนของตนเอง หำกทุกคนทุกฝ่ำยมีคุณภำพ ในที่สุดสถำนศึกษำจะมีคุณภำพเอง “ทุกภ าคส่วนมีความส าคัญหมด ทุกคนต้องตระหนักและท าหน้าที่ ตามบทบาทที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ให้ดีที่สุด ทุกฝ่ายต้องค านึงถึงคุณภาพในการท างานของตนเอง หากทุกคนทุกฝ่ายมีคุณภาพ ในที่สุดสถานศึกษาจะมีคุณภาพเอง” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “การประกันคุณภาพการศึกษาเป็น Management Tool ทางการบริหาร ที่ไปสร้างความตระหนักในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานทางการศึกษาให้กับผู้บริหารและคณะครู และ ภาคส่วนต่าง ๆ ได้ท าหน้าที่และมีความรับผิดชอบตามบทบาทของตนเองได้ดีขึ้น” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “ทุกคนต้องท าหน้าที่ตามบทบาทและหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ให้ดีที่สุด ให้งานในหน้าที่ของตนเองมีคุณภาพสูงสุด ต้องท างานให้เต็มศักยภาพ และความรู้ ความสามารถ ที่ตนเองมีอยู่” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3 2.2.7. ท่านคิดว่า มีวิธีการในการสร้างความตระหนักและจิตส านึกให้ผู้บริหาร สถานศึกษา และคณะครู ได้น าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กได้อย่างไรบ้าง วิธีกำรในกำรสร้ำงควำมตระหนักและจิตส ำนึกให้ผู้บริหำรสถำนศึกษำ และ คณะครู ได้น ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน ขนำดเล็ก ประกอบด้วย 1. เวลำท ำงำนให้สร้ำงแนวคิด กำรท ำงำนเต็มที่ เต็มควำมรู้ เต็มควำมสำมำรถ เต็มตำมสมรรถภำพ กำรท ำงำนต้องมีพันธะสัญญำชัดเจน 2. กำรท ำงำนที่ต้องมีควำมรับผิดชอบ เน้นกำรพิจำรณำที่ผลงำนของแต่ละบุคคล
172 3. บริหำรงำนแบบบังคับบัญชำแบบหลวม ๆ แสวงหำควำมร่วมมือในกำรท ำงำน บริหำรงำนแบบมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วน ให้ชุมชนและผู้ปกครองรู้สึกเป็นเจ้ำของสถำนศึกษำ 4. ต้องจัดระบบกำรบริหำรกำรศึกษำทั้งในระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำและ ระดับสถำนศึกษำให้เอื้อต่อคุณภำพของสถำนศึกษำ ต้องเป็นระบบเพื่อสร้ำงคุณภำพของสถำนศึกษำ 5. ต้องอบรมให้ผู้บริหำรสถำนศึกษำทุกคนเก่งในเรื่องเทคนิคให้ค ำปรึกษำ ผู้ใต้บังคับบัญชำ ซึ่งเป็นหลักจิตวิทยำในกำรค ำปรึกษำ “วิธีการในการสร้างความตระหนักและจิตส านึกให้ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู ได้น าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ประกอบด้วย 1. เวล าท างานให้ส ร้างแนวคิด ก ารท างานเต็มที่ เต็มความ รู้ เต็มความสามารถ เต็มตามสมรรถภาพ 2. เน้นการพิจารณาที่ผลงานของแต่ละบุคคล 3. บริหารงานแบบบังคับบัญชาแบบหลวมๆ 4. เทคนิคให้ค าปรึกษาผู้ใต้บังคับบัญชา อบรมเรื่องนี้ให้ผู้บริหารทุกคน เก่งในเรื่องนี้ เป็นจิตวิทยาในการค าปรึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “วิธีการในการสร้างความตระหนักและจิตส านึกให้ผู้บริหารสถานศึกษา และ คณะครู ได้น าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ขนาดเล็ก ประกอบด้วย 1. การท างานที่ต้องมีพันธะสัญญาอย่างชัดเจน 2. การท างานที่ต้องมีความรับผิดชอบ 3. การท างานแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 4. การให้ชุมชนและผู้ปกครองเป็นเจ้าของสถานศึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “วิธีการในการสร้างความตระหนักและจิตส านึกให้ผู้บริหารสถานศึกษา และ คณะครู ได้น าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ขนาดเล็ก ประกอบด้วย 1. ระบบของสถานศึกษาทั้งระบบ ต้องเป็นระบบเพื่อสร้างคุณภาพ ของสถานศึกษา ระบบการให้รางวัลแก่บุคลากรต้องให้ตอบโจทย์เพื่อคุณภาพของสถานศึกษา 2. ต้องจัดระบบให้ผู้บริหารสถานศึกษามีอ านาจอย่างแท้จริง ไม่ใช่อ านาจอยู่ อค.กศ. 3. ต้องสร้างระบบการบริหารการศึกษาเพื่อให้เอื้อต่อคุณภาพของสถานศึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3
173 2.2.8. ท่านเชื่อว่า มีวิธีการหรือรูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษา ขนาดเล็กที่อาศัยผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากการประกันคุณภาพการศึกษาทั้งภายใน และภายนอก สามารถท าได้อย่างไรบ้าง วิธีกำรหรือรูปแบบกำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลงของสถำนศึกษำขนำดเล็ก ที่อำศัยผลกำรประเมินและข้อเสนอแนะจำกกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำทั้งภำยในและภำยนอก สำมำรถท ำได้โดย 1. สร้ำงควำมตระหนักในบทบ ำทและหน้ำที่ของตนเอง ตรวจสอบ ควำมเปลี่ยนแปลงภำยนอกอยู่เสมอ กำรเปลี่ยนแปลงภำยในต้องสมดุลกับกำรเปลี่ยนแปลงภำยนอก กำรเปลี่ยนแปลงทุกชนิดจะมีแรงต้ำน ท ำใจและให้เวลำ ต้องวิเครำะห์สำเหตุและท ำตำมล ำดับขั้น ให้มีช่วงเวลำในกำรเปลี่ยนผ่ำน และต้องพัฒนำบุคลำกรให้ยอมรับกำรเปลี่ยนแปลง 2. กำรมีส่วนร่วมและได้รับกำรกระตุ้นจำกชุมชนและผู้ปกครอง 3. ผู้บริหำรต้องเป็นผู้น ำกำรเปลี่ยนแปลง มีควำมเป็นมืออำชีพสูง ท ำงำนเพื่องำน ท ำงำนเพื่ออุดมกำรณ์ สร้ำงควำมฝันของตนเอง 4. เน้นกำรสร้ำง Improvement ให้เกิดขึ้นกับสถำนศึกษำ ต้องมีแผน กำรเปลี่ยนแปลง (Plan Change) ต้องท ำให้สถำนศึกษำเกิดกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงมีแผน สำมำรถ เปลี่ยนแปลงได้เท่ำไร ท ำเท่ำที่สำมำรถท ำได้ ท่ำมกลำงข้อจ ำกัดต่ำง ๆ ที่สถำนศึกษำประสบอยู่ “วิธีการหรือรูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาขนาดเล็ก ที่อาศัยผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากการประกันคุณภาพการศึกษาทั้งภายในและภายนอก สามารถท าได้โดย 1. ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงภายนอกอยู่เสมอ การเปลี่ยนแปลงภายใน ต้องสมดุลกับการเปลี่ยนแปลงภายนอก 2. การเปลี่ยนแปลงทุกชนิดจะมีแรงต้าน ท าใจและให้เวลาต้องวิเคราะห์สาเหตุและ ท าตามล าดับขั้น 3. สร้างนิสัยให้ยอมรับการวิพากษ์ ให้ข้อคิดว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร 4. สร้างการยอมรับการเปลี่ยนแปลง ให้มีช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “วิธีการหรือรูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาขนาดเล็กที่อาศัย ผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากการประกันคุณภาพการศึกษาทั้งภายในและภายนอก สามารถท าได้โดย 1. สร้างความตระหนักในบทบาทและหน้าที่ของตนเอง 2. การมีส่วนร่วมและได้รับการกระตุ้นจากชุมชนและผู้ปกครอง 3. ผู้บริหารต้องเป็นผู้น าการเปลี่ยนแปลง มีความเป็นมืออาชีพสูง 4. เน้นการสร้าง Improvement ให้เกิดขึ้นกับสถานศึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2
174 “วิธีการหรือรูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาขนาดเล็ก ที่อาศัยผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากการประกันคุณภาพการศึกษาทั้งภายในและภายนอก สามารถท าได้โดย 1. ผู้บริหารต้องมีภาวะน า (Leadership) ในตนเอง ท างานเพื่องาน ท างานเพื่ออุดมการณ์ สร้างความฝันของตนเอง แล้วการน าผลประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ ในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาจะเกิดขึ้นเอง 2. ต้องมีแผนการเปลี่ยนแปลง (Plan Change) สถานศึกษาเกิด การเปลี่ยนแปลงอย่างมีแผน สามารถเปลี่ยนแปลงได้เท่าไร ท าเท่าที่สามารถท าได้ ท่ามกลาง ข้อจ ากัดต่าง ๆ ที่สถานศึกษาประสบอยู่” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3 2.2.9. ท่านคิดว่า รูปแบบการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก ควรเป็นอย่างไร รูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กทรัพยำกรของโรงเรียนขนำดเล็กมีข้อจ ำกัดมำก ครูมีภำระ กำรสอนและภำระงำนต่ำง ๆ มำก ควรมีรูปแบบเฉพำะส ำหรับโรงเรียนขนำดเล็ก ต้องสร้ำง Road Map ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำให้ชัดเจน ให้มีผู้รับผิดชอบในกำรร่วมกัน สร้ำงแผนปฏิบัติกำรต่ำง ๆ ให้ชัดเจน และรูปแบบนั้นจะมีองค์ประกอบที่เป็นสำระส ำคัญ 10 ประกำร คือ 1) ชื่อรูปแบบ 2) หลักกำรและเหตุผล 3) วัตถุประสงค์ 4) หลักกำร แนวคิด และข้อมูลที่น ำมำใช้ ในกำรออกแบบรูปแบบ 5) แนวคิดและค่ำนิยมหลักของรูปแบบ 6) นิยำมศัพท์เฉพำะที่ใช้ในรูปแบบ 7) กลไกและกระบวนกำรบริหำรของรูปแบบ 8) แนวทำงกำรด ำเนินงำนของรูปแบบ 9) เงื่อนไข และข้อจ ำกัดของรูปแบบ 10) แนวทำงกำรน ำรูปแบบไปใช้ “สร้าง Road Map ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาให้ชัดเจน ให้มีผู้รับผิดชอบในการร่วมกันสร้างแผนปฏิบัติการต่าง ๆ ให้ชัดเจน และรูปแบบนั้นจะต้องมี องค์ประกอบส าคัญใน 7 ส่วน คือ 1) ชื่อรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ3) แนวคิดและค่านิยม หลักของรูปแบบ 4) ขั้นตอนและกระบวนการบริหารของรูปแบบ5) แนวทางการด าเนินงาน ตามรูปแบบ 6) เงื่อนไขและข้อจ ากัดของรูปแบบ และ 7) แนวทางการน ารูปแบบไปใช้ ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “ทรัพยากรของโรงเรียนขนาดเล็กมีข้อจ ากัดมาก ครูมีภาระการสอน และภาระงานต่าง ๆ มาก ควรมีรูปแบบเฉพาะส าหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ควรคิดแบบราชการ ที่ต้องให้ทุกสถานศึกษามีมาตรฐานและตัวบ่งชี้เหมือนกัน แต่จะต้องมีวิธีการในยกคุณภาพ และมาตรฐานให้สูง ควรไปศึกษาดูว่าการจัดท ามาตรฐานการศึกษาของประเทศอังกษษว่า OFSED เขามีพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างแล้ว ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2
175 “พยายามมองปัญหาให้ออก ท างานตามก าลังและความสามารถของตนเอง เน้นการพัฒนา แก้ปัญหา ตามจุดอ่อนของสถานศึกษาในประเด็นหลักๆ อย่าท าเยอะ ต้องอาศัย เครือข่ายของโรงเรียนด้วยกัน ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น การพัฒนาสถานศึกษาต้องท าเพื่อท้องถิ่น ชุมชน และนักเรียน ” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3 2.2.10. “ความคิดเห็นอื่น ๆ” ที่เกี่ยวกับการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษา ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก คืออะไรบ้าง “ไม่มีความคิดเห็นอื่น ๆ แล้ว ระบบการประกันคุณภาพของสถานศึกษา หากท าได้ตามที่ให้ข้อเสนอแนะไป จะมีความสมบูรณ์แบบแล้ว” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 1 “การประกันคุณภาพเป็นเรื่องส าคัญมาก ซึ่งเกณฑ์ไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ควรแสวงหาวิธีการในลดภาระงานด้านการท าหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ให้น้อยลงมากที่สุด” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 2 “ระบบการประกันคุณภาพของสถานศึกษาต้องท าให้สถานศึกษา สามารถจัดล าดับความส าคัญของปัญหาสร้างระบบให้ง่ายในการด าเนินงาน ใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด สามารถให้การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นวิถีชีวิตการท างานตามปกติของสถานศึกษา” ผู้ทรงคุณวุฒิ คนที่ 3
173 2.3 ผลการยกร่างรูปแบบการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กในภาคใต้ ชื่อรูปแบบ รูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้เชิงระบบ : IPOF_UREd.QA Input Process Output Feedback for Using the Results from Educational Quality Assurance Model หลักการและเหตุผล หลักกำรส ำคัญของกำรจัดกำรศึกษำโดยทั่วไป มีควำมมุ่งหมำยเพื่อพัฒนำเด็ก และเยำวชนให้ส ำเร็จกำรศึกษำอย่ำงมีคุณภำพ มีประสิทธิภำพ เต็มตำมศักยภำพของแต่ละคน สำมำรถร่วมพัฒนำสังคมอย่ำงสร้ำงสรรค์ทั้งในและต่ำงประเทศ รวมทั้งเป็นผู้สำมำรถตัดสินใจ ได้อย่ำงมีเหตุผล เป็นบุคคลแห่งกำรเรียนรู้ และปรับตัวได้ทันกับควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี (กระทรวงศึกษำธิกำร, 2557 : 17) แต่ในสภำพควำมเป็นจริงพบว่ำ กำรจัดกำรศึกษำที่ผ่ำนมำ ประสบผลส ำเร็จเป็นที่น่ำพอใจไม่มำกนัก ในขณะที่มีปัญหำบำงประกำรสะสมอยู่ กล่ำวคือ ยังไม่สำมำรถจัดกำรศึกษำได้ทั่วถึงและครอบคลุม อีกทั้งควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์ ของผู้จบกำรศึกษำในแต่ละระดับยังไม่เพียงพอต่อกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตให้ดีขึ้นไม่สำมำรถรองรับ กำรเปลี่ยนแปลงของสังคมตำมกระแสโลกำภิวัตน์ คุณภำพกำรศึกษำในด้ำนอำคำรสถำนที่ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ กำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรบริหำรจัดกำร ตลอดจนผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรียนยังไม่เป็นที่พึงพอใจ อีกทั้งมีควำมแตกต่ำงกันมำกในมำตรฐำนและคุณภำพ ของสถำนศึกษำ ท ำให้ผู้ปกครองเกิดค่ำนิยมในกำรส่งบุตรหลำนเข้ำเรียนในสถำนศึกษำที่มีคุณภำพ และมีชื่อเสียง (ประกอบ คุณำรักษ์ และคณะ ,2543 : 53) กระทรวงศึกษำธิกำรจึงได้ก ำหนด เป้ำประสงค์ของกำรจัดกำรศึกษำว่ำ ให้มุ่งกำรจัดกำรศึกษำที่เป็นเลิศ ให้ควำมส ำคัญกับกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำ ด้วยกำรท ำให้โรงเรียนมีคุณภำพ กำรเรียนกำรสอนมีคุณภำพ ห้องเรียนมีคุณภำพ และผลกำรศึกษำของผู้เรียนมีคุณภำพได้มำตรฐำนสูงในระดับสำกลภำยในปี พ.ศ. 2560 (กระทรวงศึกษำธิกำร ,2558 : 5-6) กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำเป็นแนวทำงในกำรบริหำรที่มำจำกกำรบริหำรทำงธุรกิจ และอุตสำหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นกำรใช้วิธีกำรบริหำรที่สร้ำงควำมเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคสินค้ำ และ ผู้ใช้บริกำรจะได้รับสิ่งที่มีคุณภำพถึงระดับมำตรฐำนที่ก ำหนด กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำจึงเป็น กระบวนกำรหรือกลไกที่ด ำเนินกำรเพื่อให้เกิดกำรรักษำ ปรับปรุง และพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ให้ได้มำตรฐำนคุณภำพอย่ำงต่อเนื่อง โดยเน้นกำรประกันคุณภำพของกระบวนกำรบริหำร และกำรบริกำรทำงกำรศึกษำทั้งระบบ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ำยเกิดควำมมั่นใจในคุณภำพ ของผู้ส ำเร็จกำรศึกษำ และเชื่อถือคุณภำพของโรงเรียน ระบบกำรบริหำรที่ให้ควำมส ำคัญ กับกำรวำงแผนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหำ มีกำรก ำกับ ควบคุม ตรวจสอบกำรด ำเนินกำรทุกขั้นตอน มีกำรรักษำ ปรับปรุง พัฒนำกระบวนกำรท ำงำนอย่ำงต่อเนื่อง เพื่อให้งำนในทุกส่วนของโรงเรียน
174 ด ำเนินกำรไปด้วยควำมรำบรื่น มีประสิทธิภำพ และเกิดประสิทธิผล จึงเรียกว่ำเป็นระบบกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำ (Vroman & Luchsinger,1994 : 329) กำรจัดกำรในเรื่องกำรป ระกันคุณภำพกำรศึกษ ำ ได้มีกำรระบุไว้อย่ำงชัดเจน ในพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 โดยก ำหนดจุดหมำยและหลักกำรของกำรจัด กำรศึกษำที่ต้องมุ่งเน้นคุณภำพมำตรฐำน ไว้ในหมวด 6 มำตรฐำนและกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ว่ำกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำประกอบด้วย ระบบกำรประกันคุณภำพภำยในและระบบกำรประกัน คุณภำพภำยนอก (ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำแห่งชำติ ,2545 : 28) กำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำเป็นกลไกส ำคัญในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ซึ่งถือว่ำเป็นหน้ำที่ของบุคลำกร ทุกคนทั้งในและนอกสถำนศึกษำ โดยกำรด ำเนินกำรต้องยึดหลักกำรมีส่วนร่วมและกำรกระจำย อ ำนำจให้ทุกฝ่ำยได้เข้ำมำก ำหนดนโยบำย วำงแผน ก ำกับ ติดตำม และประเมินผลกำรด ำเนินงำน ได้ร่วมกันพัฒนำและปรับปรุงให้สถำนศึกษำมีคุณภำพตำมเป้ำหมำยและมำตรฐำนที่ก ำหนดไว้ ซึ่งกระบวนกำรพัฒนำระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำต้องเป็นไปอย่ำงต่อเนื่องตำมวงจรกำรบริหำร PDCA จนกลำยเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตกำรท ำงำนของบุคลำกรทุกฝ่ำยในสถำนศึกษำ ทั้งนี้เพื่อให้ ผู้เรียนได้รับกำรศึกษำที่ดีมีคุณภำพ เป็นไปตำมควำมต้องกำรของผู้ปกครอง ชุมชน สังคม และ ประเทศชำติ กำรประกันคุณภำพภำยในเป็นกำรสร้ำงระบบและกลไกในกำรควบคุม ตรวจสอบ และ ประเมินกำรท ำงำนของสถำนศึกษำให้เป็นไปตำมนโยบำย เป้ำประสงค์และระดับคุณภำพ ตำมมำตรฐำนที่ก ำหนดโดยสถำนศึกษำ และ/หรือหน่วยงำนต้นสังกัด ส ำหรับกำรประกันคุณภำพ ภำยในนั้น หน่วยงำนต้นสังกัดและสถำนศึกษำจะต้องด ำเนินกำรให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนกำร บริหำรกำรศึกษำที่กระท ำอย่ำงต่อเนื่องตลอดจนจัดท ำรำยงำนเสนอต่อหน่วยงำนต้นสังกัด หน่วยงำน ที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสำธำรณชนเป็นประจ ำทุกปี เพื่อน ำไปสู่กำรพัฒนำคุณภำพและมำตรฐำน กำรศึกษำ และเพื่อรองรับกำรประเมินคุณภำพภำยนอกโดยส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมิน คุณภำพกำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน) (สมศ.) กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยนอกเป็นกำรติดตำม ตรวจสอบ และประเมินคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำโดยส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพ กำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน) ใน 3 มิติ คือ ควำมตระหนักถึงควำมส ำคัญของกำรพัฒนำกำรศึกษำ ให้ได้ม ำต รฐ ำน ค ว ำมพ ย ำย ำมใน ก ำรพัฒ น ำคุณ ภ ำพให้ได้ม ำต รฐ ำน แล ะผลสัมฤท ธิ์ ของกำรด ำเนินงำนตำมมำตรฐำนที่ก ำหนด (ส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพ กำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน), 2545 : 25) กำรประกันคุณภำพภำยนอกที่รับผิดชอบโดย สมศ. นั้น พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 ได้ก ำหนดให้สถำนศึกษำทุกแห่งต้องได้รับกำรประเมิน คุณภำพภำยนอกอย่ำงน้อย 1 ครั้ง ในทุกระยะ 5 ปี โดยกำรประเมินในช่วง พ.ศ. 2559-2562 โรงเรียนจะได้รับกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำในรอบ 4 จำกส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมิน คุณภำพกำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน) พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ หมวด 6 มำตรำ 48 ระบุว่ำให้หน่วยงำนต้นสังกัด และสถำนศึกษำจัดให้มีระบบประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ และให้ถือว่ำกำรประกันคุณภำพ ภำยในเป็นส่วนหนึ่งของกำรบริหำรจัดกำร แต่ควำมจริงที่ปรำกฏพบว่ำ กำรประกันคุณภำพ
175 และกระบวนกำรบริหำรได้แยกส่วนกันปฏิบัติ และนอกจำกนี้กระบวนกำรขั้นตอนของกำรประกัน คุณภำพที่มีอยู่ 3 ขั้นตอน คือ กำรควบคุม กำรตรวจสอบ และกำรประเมินคุณภำพนั้น ส่วนใหญ่ จะน ำมำใช้ในส่วนของกำรประเมินคุณภำพเท่ำนั้นและใช้อย่ำงไม่จริงจัง หลังจำกประเมินแล้ว ก็จะน ำมำเขียนรำยงำนกำรประเมินตนเอง (Self-AssessmentReport : SAR) โดยกำรเขียนนี้จะขึ้นอยู่กับ ควำมสำมำรถของบุคลำกรและควำมต้องกำรของผู้บริหำรหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งเจตนำและไม่เจตนำ จึงไม่สอดคล้องกับควำมเป็นจริงของสถำนศึกษำเพียงพอ นอกจำกนี้ก็ไม่น ำผลกำรประเมินโดยเฉพำะ ในประเด็นที่บกพร่องไปใช้ในกำรปรับปรุงแก้ไขซึ่งปรัชญำของกำรประเมิน คือ กำรพัฒนำ เมื่อไม่น ำผล กำรประกันคุณภำพไปพัฒนำสถำนศึกษำหรือน ำไปใช้น้อยกว่ำที่ควรแล้ว ก็ถือว่ำกำรด ำเนินงำน ในขั้นตอนอื่น ๆ เป็นกำรสูญเปล่ำมำกจึงอำจกล่ำวได้ว่ำ ในทำงปฏิบัติแล้วกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนกำรบริหำรจัดกำรตำมที่กฎหมำยก ำหนดไว้ปัญหำของระบบ กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำในโรงเรียนขนำดเล็กจึงต้องได้รับกำรแก้ไขอย่ำงเป็นรูปธรรม มิฉะนั้น จะส่งผลต่อคุณภำพของผู้เรียน และคุณภำพของสถำนศึกษำ รวมทั้งควำมมั่นใจของสังคมต่อคุณภำพ ของกำรจัดกำรศึกษำอีกด้วย ในกำรพัฒนำสถำนศึกษำให้มีคุณภำพจ ำเป็นต้องใช้ผลกำรประเมิน (Evaluation Utilization) ให้เป็นกระบวนกำรขับเคลื่อนในกำรท ำงำน โดยต้องน ำผลหรือสำรสนเทศที่ได้จำกกำร ประเมินมำก่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงของนโยบำยหรือกำรปฏิบัติงำน และช่วยในกำรตัดสินใจ ของผู้บริหำรเกี่ยวกับกำรวำงแผนและด ำเนินงำน และท ำให้วงจรกำรท ำงำนเชิงคุณภำพเป็นไป อย่ ำงต่ อเนื่ อง (ศิ ริวัฒ น์ ว รน ำม , 2540 : 135) เป้ ำเหม ำยส ำคัญ ของก ำรป ระเมิน คือ กำรได้สำรสนเทศส ำหรับน ำไปใช้ประโยชน์ในกำรพัฒนำคุณค่ำของสิ่งที่มุ่งประเมิน (ศิริชัย กำญจนวำสี, 2550 : 151) ดังนั้น ในกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำและกำรประกันคุณภำพภำยนอก สถำนศึกษ ำ ที่จะท ำให้เกิดป ระโยชน์และคุ้มค่ ำ ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงควรน ำผลกำรป ระเมิน และข้อเสนอแนะไปใช้ในกำรปรับปรุงและพัฒนำสถำนศึกษำ เพื่อให้สถำนศึกษำสำมำรถด ำเนินกำร จัดกำรศึกษำได้อย่ำงมีคุณภำพมำกขึ้น (Castetter, 1992 : 3) ซึ่งกำรพัฒนำสถำนศึกษำให้สำมำรถ เป็นแบบอย่ำงที่มีคุณภำพ งำนบรรลุตำมวัตถุประสงค์ เป้ำหมำยกำรจัดกำรศึกษำ ตำมแนวปฏิรูป กำรศึกษำและมำตรฐำนกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และสำมำรถก้ำวสู่ควำมเป็นเลิศได้นั้น สถำนศึกษำทุกแห่งจ ำเป็นต้องเรียนรู้ถึงเทคนิคกำรบริหำรจัดกำรคุณภำพสมัยใหม่โดยเฉพำะเกณฑ์ คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ กำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลง และแนวคิดกำรบริหำร จัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ น่ำจะเป็นนวัตกรรมทำงกำรบริหำรกำรศึกษำที่ควรได้รับ กำรประยุกต์ใช้เพื่อช่วยท ำให้ระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำมีประสิทธิผลสูงขึ้น โรงเรียนขนำดเล็กเป็นสิ่งท้ำทำยผู้บริหำรมำตลอดทุกยุคสมัย กระทรวงศึกษำธิกำร ได้พยำยำมแก้ปัญหำโรงเรียนขนำดเล็กมำอย่ำงต่อเนื่อง แต่อัตรำกำรเกิดของประชำกรได้ลดลง ตำมล ำดับ ได้ส่งผลให้จ ำนวนประชำกรในวัยประถมศึกษำ (6-12 ปี) ลดลง ดังนั้น จึงท ำให้นักเรียน ที่เป็นตัวป้อนให้แก่โรงเรียนประถมศึกษำจึงลดลงอย่ำงต่อเนื่อง โดยเฉพำะโรงเรียนขนำดเล็กที่สังกัด ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำในภำคใต้ในปีกำรศึกษำ 2559 ซึ่งมีอยู่ถึง 2,505 โรงเรียน จำกโรงเรียน ทั้งหมด 4,311 โรงเรียน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 58.11 จำกกำรที่มีโรงเรียนขนำดเล็กเป็นจ ำนวนมำก ย่อมส่งผลประสิทธิภำพในกำรบริหำรจัดกำร โดยเฉพำะกำรบริหำรอัตรำก ำลังครู และเมื่อวิเครำะห์
176 คุณภำพทำงกำรศึกษำพบว่ำ โรงเรียนขนำดเล็กได้เป็นที่รองรับนักเรียนที่มีพื้นฐำนของครอบครัว ที่ยำกจน ท ำให้เกิดข้อเสียเปรียบในกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำหลำยประกำร ซึ่งจำกกำรศึกษำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของส ำนักทดสอบทำงกำรศึกษำในปีกำรศึกษำ 2556 พบข้อมูลที่สอดคล้องกัน คือนักเรียนในโรงเรียนขนำดเล็กทุกช่วงชั้นในทุกเขตพื้นที่กำรศึกษำ มีค่ำเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ต่ ำกว่ำนักเรียนจำกโรงเรียนขนำดกลำงและขนำดใหญ่อีกทั้งผลกำรประเมินมำตรฐำนของส ำนักงำนรับรอง มำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำที่ได้ด ำเนินกำรประเมินคุณภำพภำยนอกสถำนศึกษำ รอบ3 (พ.ศ. 2554-2558) ของสถำนศึกษำในระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พบว่ำมีโรงเรียนได้รับรองมำตรฐำน ทั้งสิ้น 4,185 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 53.72 และไม่ได้รับรองมำตรฐำน 3,606 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 46.28 โรงเรียน โดยโรงเรียนที่ไม่ได้รับรองมำตรฐำนนั้นเป็นโรงเรียนขนำดเล็กถึง 3,025 โรงเรียน คิดเป็น ร้อยละ 47.99 ของโรงเรียนขนำดเล็กทั้งหมด (ส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำ, 2557) ประกอบกับข้อมูลผลกำรประเมินคุณภำพภำยนอกสถำนศึกษำ รอบ3 (พ.ศ. 2554-2558) ของสถำนศึกษำขนำดเล็กระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนในภำคใต้จำกส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมิน คุณภำพกำรศึกษำ ในปี พ.ศ. 2559 พบว่ำในจ ำนวนโรงเรียนทั้งหมด 1,174 โรงเรียน ได้มีสถำนศึกษำ ขนำดเล็กในภำคใต้ที่ได้รับกำรรับกำรรับรองมำตรฐำน 680 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 57.92 และไม่รับรอง มำตรฐำนถึง 494 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 42.08 ดังนั้นกำรพัฒนำรูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ จึงมีควำมจ ำเป็น ต้องด ำเนินกำรเป็นอย่ำงยิ่ง พร้อมกับผลกำรศึกษำสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผล กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก ในภำคใต้ พบว่ำ กำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ภำพรวมมีระดับกำรน ำไปใช้ในปัจจุบันตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำ เพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศอยู่ในระดับปำนกลำงโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.78 และเมื่อพิจำรณำเป็นรำยหมวด เกือบทุกหมวดมีระดับกำรน ำไปใช้อยู่ในระดับปำนกลำงเช่นเดียวกันยกเว้นหมวดกำรน ำองค์กรระดับ กำรน ำไปใช้อยู่ในระดับน้อยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 2.06 โดยทุกหมวดจะมีค่ำเฉลี่ยอยู่ระหว่ำง 2.06 - 3.49 หำกเมื่อพิจำรณำควำมต้องกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ ในอนำคต ภำพรวมจะอยู่ในระดับมำกที่สุดโดยมีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.74 และเมื่อพิจำรณำรำยละเอียด เป็นรำยหมวด ทุกหมวดจะมีระดับควำมต้องกำรน ำไปใช้ในอนำคตอยู่ในระดับมำกที่สุดเช่นเดียวกัน โดยจะมีค่ำเฉลี่ยอยู่ระหว่ำง 4.57 - 4.81 พร้อมผลกำรศึกษำข้อมูลเชิงคุณภำพของกรณีศึกษำโรงเรียน ขนำดเล็ก 3 โรงเรียน และผลกำรสัมภำษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิทำงด้ำนกำรบริหำรคุณภำพและกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำ จึงได้ก ำหนดรำยละเอียดของรูปแบบดังต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้ำงรูปแบบกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กที่สอดคล้องกับบริบทของภำคใต้
177 2. เพื่อยกระดับแนวทำงในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กให้มี ควำมเป็นเลิศทั้งระบบด้วยกำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลงโดยใช้ข้อมูลและสำรสนเทศจำกผลกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำ แนวคิด หลักการ และข้อมูลที่น ามาใช้ในการออกแบบรูปแบบ 1. แนวคิดเกี่ยวกับกำรพัฒนำรูปแบบ ในกำรพัฒนำรูปแบบนั้นไม่มีข้อก ำหนดที่แน่นอนว่ำจะต้องท ำอะไรบ้ำง แต่จำกกำรศึกษำ ส่วนใหญ่จะด ำเนินกำรพัฒนำรูปแบบ 4 ขั้นตอน ดังนี้คือ 1) กำรทบทวนวรรณกรรมโดยกำรศึกษำ เอกสำร แนวคิด ทฤษฎีองค์ควำมรู้เกี่ยวกับรูปแบบที่จะพัฒนำให้ชัดเจน 2) กำรสัมภำษณ์นักวิชำกำร และผู้เชี่ยวชำญ 3) กำรพัฒนำรูปแบบ และ 4) กำรตรวจสอบรูปแบบ 2. หลักกำรของกำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรพัฒนำระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน ได้ยึดหลักกำร 3 ประกำร คือ 1) กำรกระจำยอ ำนำจ (Decentralization) สถำนศึกษำมีอิสระ และมีควำมคล่องตัวในกำรบริหำร และตัดสินใจด ำเนินงำน ทั้งด้ำนกำรบริหำรงำนวิชำกำร งบประมำณ บุคลำกร และทรัพยำกร กำรจัดสิ่งอ ำนวยควำมสะดวกและผู้สอนท ำบทบำทหน้ำที่ ในกำรสอน จัดกิจกรรมและพัฒนำสื่อเพื่อพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียนให้บรรลุผลตำมจุดหมำย ของหลักสูตรได้อย่ำงเต็มที่ สำมำรถจัดกำรศึกษำได้สอดคล้องกับสภำพพื้นที่ ควำมต้องกำรของชุมชน และสังคมได้มำกที่สุด 2) กำรเปิดโอกำสกำรมีส่วนร่วมในกำรท ำงำน (Participation) หน่วยงำน ทั้งภำครัฐ ภำคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบกำร ภูมิปัญญำท้องถิ่น/ปรำชญ์ชำวบ้ำน เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนทั้งในฐำนะเป็นคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ หรือ คณะท ำงำนในส่วนอื่น ๆ ของสถำนศึกษำโดยมีกำรร่วมกันคิด ตัดสินใจ สนับสนุน ส่งเสริม และ ติดตำมตรวจสอบกำรด ำเนินงำน ตลอดจนร่วมภำคภูมิใจในควำมส ำเร็จของสถำนศึกษำ และ 3) กำรแสดงภำระรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (Accountability) มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ เป็นเป้ำหมำย (Goals) ที่ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนต้องได้รับรู้เพื่อกำรพัฒนำร่วมกันและเพื่อกำรติดตำม ตรวจสอบกำรด ำเนินงำนของสถำนศึกษำว่ำสำมำรถน ำพำผู้เรียนไปสู่มำตรฐำนที่ได้ก ำหนดร่วมกันไว้ หรือไม่จำกเป้ำหมำยและจุดเน้นกำรพัฒนำดังกล่ำว สถำนศึกษำต้องสร้ำงกำรมีส่วนร่วมในกำรจัดท ำ แผนพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำ (School Improvement Plan) เลือกกลวิธีกำรพัฒนำที่เหมำะสม และสำมำรถท ำให้เกิดผลได้อย่ำงเป็นรูปธรรม มีกำรประชำสัมพันธ์เป้ำหมำยและจุดเน้นที่ต้องกำร พัฒนำให้ทุกฝ่ำยได้รับรู้เพื่อเป็นสัญญำประชำคมและเพื่อให้ทุกฝ่ำยที่เกี่ยวข้องมีทิศทำงกำรท ำงำน ที่ชัดเจนสู่เป้ำหมำยเดียวกัน 3. แนวคิดของเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ ใน 7 องค์ประกอบ ปี 2016-2018 (Education Criteria for Performance Excellence ; EdPEx) ซึ่งได้แก่ 1) กำรน ำองค์กร 2) กำรวำงแผนกลยุทธ์
178 3) กำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4) กำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ 5) กำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร 6) กำรจัดกำรกระบวนกำร 7) ผลลัพธ์ 4. แนวคิดเกี่ยวกับกำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงสภำพ ในปัจจุบันไปสู่สภำพที่ต้องกำรในอนำคต ประกอบด้วยขั้นตอนกำรบริหำร 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 กำรเตรียมกำรเปลี่ยนแปลง (Preparing for Change) เป็นกำรเตรียมควำมพร้อม ขององค์กรก่อนด ำเนินกำรตำมเป้ำหมำยที่ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำรด ำเนินงำน 6 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรวิเครำะห์สถำนศึกษำ 2) กำรก ำหนดเป้ำหมำย 3) กำรสร้ำงทีม 4) กำรประเมินควำมสำมำรถในกำรเปลี่ยนแปลง 5) กำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือ 6) กำรสื่อสำร ขั้นตอนที่ 2 กำรจัดกำรกำรเปลี่ยนแปลง (Managing Change) เป็นกำรด ำเนินกำร ให้บรรลุเป้ำหมำยที่ได้ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำรด ำเนินงำน 4 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรออกแบบแผน 2) กำรวำงแผน 3) กำรน ำแผนสู่กำรปฏิบัติ 4) กำรประเมินผล ขั้นตอนที่ 3 กำรเสริมแรงกำรเปลี่ยนแปลง (Reinforcing Change) เป็นกำรด ำเนินกำร หลังจำกด ำเนินงำนเป็นระยะๆ และเมื่อกำรด ำเนินกำรบรรลุเป้ำหมำยที่ได้ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วย กระบวนกำร 5 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) แก่สถำนศึกษำ 2) กำรทบทวนหลังกำรปฏิบัติงำน (After Action Review) 3) กำรเผยแพร่ผลกำรปฏิบัติงำนที่ประสบควำมส ำเร็จแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและ บุคคลทั่วไปทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ 4) กำรยกย่อง ชื่นชม ควำมส ำเร็จ 5) กำรเพิ่มพลังอ ำนำจแก่บุคลำกร 5. แนวคิดเกี่ยวกับกำรบริหำรจัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ ซึ่งกระบวนกำร บริหำรจัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ ประกอบไปด้วยขั้นตอนต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้
179 1)กำรก ำหนดเป้ำหมำยและวิเครำะห์ปัญหำ/ควำมต้องกำร (Goal Setting and Need Identification) 2) กำรก ำหนดนโยบำย (Policy Making) 3) กำรวำงแผน (Planning) 4) กำรก ำหนดงบประมำณ (Budgeting) 5) กำรน ำแผนไปปฏิบัติ (Implementing) 6) กำรประเมินผล (Evaluating) 6. แนวทำงในกำรจัดท ำปฏิบัติกำรประจ ำปีและแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 7. บริบทของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็ก 8. ข้อมูลจำกผลกำรศึกษำสภำพปัจจุบันและควำมต้องกำรในกำรน ำผลกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ 9. ข้อมูลจำกกำรสัมภำษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิทำงกำรบริหำรคุณภำพและกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ แนวคิดและค่านิยมหลักของรูปแบบ 1. กำรจัด ระบบก ำรป ระกันคุณ ภ ำพก ำรศึกษ ำ ต้องเป็นก ำรรำยงำนผลลัพ ธ์ กำรด ำเนินงำนในกำรจัดกำรศึกษำต่อผู้ปกครอง ชุมชน และสำธำรณะ สถำนศึกษำควรได้จัดท ำเป็น รำยงำนประจ ำปีและใช้เป็นข้อมูลพื้นฐำนส ำหรับกำรจัดท ำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปีในรอบต่อ ๆ ไป 2. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำจะท ำให้สถำนศึกษำได้จัดกำรศึกษำ แบบรับผิดรับชอบ (Accreditation) ท ำให้สถำนศึกษำสำมำรถมองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง สำมำรถแก้ปัญหำและพัฒนำจุดอ่อนได้ตรงจุด ผู้บริหำรสถำนศึกษำและบุคลำกรทุกคนต้องจัดท ำและ ด ำเนินกำรงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำอยู่เป็นประจ ำ ต่อเนื่อง ให้เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรม คุณภำพของสถำนศึกษำ 3. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำจะช่วยให้เกิดฐำนข้อมูล ซึ่งเป็น MIS เพื่อกำรบริหำร จัดกำรของสถำนศึกษำ หำกสำมำรถพัฒนำให้เป็นระบบ Automation สำมำรถท ำงำนในระบบ online ที่สำมำรถค้นหำ ใช้ข้อมูลได้ทันที เอำมำตรฐำนและประเด็นกำรพิจำรณำของกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำเป็นฐำนข้อมูลเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ 4. กำรจัดระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำต้องเป็นกำรช่ วยประชำสัมพันธ์ ส ำหรับสร้ำงภำพลักษณ์ (Image) ของสถำนศึกษำ และมีส่วนช่วยท ำให้สถำนศึกษำเป็นของชุมชน ท้องถิ่น และประเทศชำติ 5. เพื่อให้สถำนศึกษำมีคุณภำพบรรลุตำมวิสัยทัศน์ แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ และ แผนปฏิบัติกำรประจ ำปี ผู้บริหำรสถำนศึกษำต้องจัดระบบกำรบริหำรจัดกำรของสถำนศึกษำโดยควร เริ่มต้นจำกกำรท ำกำรวิเครำะห์จุดอ่อน จุดแข็ง แนวทำงกำรพัฒนำจำกรำยงำนกำรประเมินตนเองของ สถำนศึกษำ (SAR) และรำยงำนผลกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำของส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและ ประเมินคุณภำพกำรศึกษำ ตำมมำตรฐำนและประเด็นกำรพิจำรณำของกำรประกันคุณภำพ ก ำ ร ศึ ก ษ ำ
180 ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน แล้วน ำเสนอโครงกำรพัฒนำสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำ เพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศทั้ง 7 องค์ประกอบ โดยมุ่งหวังจะให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงของสถำนศึกษำ สำมำรถบรรลุตำมวิสัยทัศน์และคุณภำพด้วยกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ นิยามศัพท์เฉพาะที่ใช้ในรูปแบบ 1. การประกันคุณภาพภายใน หมำยถึง ระบบที่สถำนศึกษำสร้ำงควำมมั่นใจแก่ผู้รับบริกำร ทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ตลอดจนองค์กรหรือสถำนประกอบกำรที่รับผู้เรียนเข้ำศึกษำต่อหรือท ำงำน ว่ำสถำนศึกษ ำสำมำรถจัดกำรศึกษ ำให้มีคุณภำพได้ตำมมำตรฐำนที่สถำนศึกษ ำก ำหนด โดยด ำเนินกำรใน 8 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ก ำหนดมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 2) จัดท ำแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำที่มุ่งคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 3) จัดระบบบริหำรและสำรสนเทศ 4) ด ำเนินงำนตำมแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 5) จัดให้มีกำรติดตำมตรวจสอบคุณภำพกำรศึกษำ 6)จัดให้มีกำรประเมินคุณภำพภำยในตำมมำตรฐำน กำรศึกษำของสถำนศึกษำ 7) จัดท ำรำยงำนประจ ำปีที่เป็นรำยงำนประเมินคุณภำพภำยใน และ 8) จัดให้มีกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำอย่ำงต่อเนื่อง 2. การประกันคุณภาพภายนอก หมำยถึง ระบบกำรประเมินผลและกำรติดตำมตรวจสอบ คุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำจำกภำยนอก โดยส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและ ประเมินคุณภำพกำรศึกษำ หรือบุคคลหรือหน่วยงำนภำยนอกที่ส ำนักงำนดังกล่ำวรับรอง เพื่อให้เป็น ผู้ประเมินภำยนอก ทั้งนี้เพื่อให้มีกำรพัฒนำคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 3. ผลการประกันคุณภาพการศึกษา หมำยถึง ผลกำรประเมินคุณภำพของสถำนศึกษำ ตำมมำตรฐำนที่ว่ำด้วยผลกำรจัดกำรศึกษำ กำรบริหำรจัดกำรศึกษำ กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และกำรประกันคุณภำพภำยใน พร้อมข้อเสนอแนะในกำรพัฒนำจุดอ่อน และเสริมจุดแข็ง หรือแนวทำงในกำรพัฒนำเพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ อันเป็นผลมำจำก สำรสนเทศที่ได้รับกำรประเมินภำยในและกำรประเมินภำยนอกของสถำนศึกษำ 4.การน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา หมำยถึง กำรด ำเนินกำรน ำผลจำกกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้เพื่อพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ใน 7 องค์ประกอบ ซึ่งได้แก่ 1) กำรน ำองค์กร 2) กำรวำงแผนกลยุทธ์ 3) กำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4) กำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ 5) กำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร 6) กำรจัดกำรกระบวนกำร และ 7) ผลลัพธ์ 4.1 การน าองค์กร หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำโดยใช้ภำวะผู้น ำ ของผู้น ำระดับสูงที่เกี่ยวกับ กำรก ำหนดและกำรสื่อสำร วิสัยทัศน์ ค่ำนิยม และพันธกิจ กำรสร้ำงบรรยำกำศ ที่ส่งเสริมให้มีกำรผลกำรด ำเนินกำรที่ดี กำรพัฒนำผู้น ำในอนำคตของสถำนศึกษำ กำรก ำกับดูแล เพื่อให้มีกำรด ำเนินกำรที่ถูกต้องตำกฎหมำยและจริยธรรม ควำมรับผิดชอบต่อสังคม และกำรสนับสนุน ชุมชนที่ส ำคัญ 4.2การวางแผนเชิงกลยุทธ์หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำที่เกี่ยวกับ กำรจัดท ำกลยุทธ์และวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ กำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำร และถ่ำยทอดแผนปฏิบัติกำร
181 ไปสู่กำรปฏิบัติ กำรวัดผลควำมก้ำวหน้ำและกำรเปรียบเทียบผลกำรด ำเนินกำรเกี่ยวกับเป้ำประสงค์ ของสถำนศึกษำ 4.3 การมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำร สถำนศึกษำที่เกี่ยวกับกำรสร้ำงควำมผูกพันกับผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กำรสร้ำงวัฒนธรรม ที่มุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กำรรับฟังเสียงผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และกำรใช้ สำรสนเทศนี้เพื่อกำรปรับปรุงและสร้ำงนวัตกรรมในกำรจัดกำรหลักสูตร กำรบริกำรด้ำนกำรศึกษำ แก่ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4.4การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำร สถำนศึกษำที่เกี่ยวกับ กำรเลือกรวบรวม วิเครำะห์ จัดกำร และปรับปรุงข้อมูลสำรสนเทศ และ สินทรัพย์เชิงควำมรู้ กำรบริหำรจัดกำรเทคโนโลยีสำรสนเทศ กำรทบทวนและกำรใช้ผลกำรทบทวน ในกำรปรับปรุงผลกำรด ำเนินงำน 4.5 การมุ่งเน้นครูและบุคลากร หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ ที่เกี่ยวกับกำรผูกใจครูและบุคลำกร กำรจัดกำรและกำรพัฒนำครูและบุคลำกรเพื่อน ำศักยภำพของครู และบุคลำกรมำใช้อย่ำงเต็มที่และสอดคล้องไปในทิศทำงเดียวกับพันธกิจ กลยุทธ์ แผนปฏิบัติกำร ของสถำนศึกษำ และกำรสร้ำงสภำพแวดล้อมที่สนับสนุนกำรท ำงำนที่ส่งผลต่อควำมส ำเร็จของงำน 4.6 การจัดการกระบวนการ หมำยถึง กระบวนกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ ที่เกี่ยวกับกำรก ำหนดสมรรถนะหลักของสถำนศึกษำ กำรออกแบบระบบงำน กำรออกแบบ กระบวนกำรท ำงำนหลัก และกำรจัดกำรและกำรปรับปรุงกระบวนกำรท ำงำนเพื่อสร้ำงคุณค่ำแก่ ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และท ำให้สถำนศึกษำบรรลุผลส ำเร็จ 4.7 ผลลัพธ์หมำยถึง ผลลัพธ์ที่เกิดจำกกำรด ำเนินกำรของสถำนศึกษำใน 5 ด้ำน ได้แก่ 1)ด้ำนกำรเรียนรู้ของผู้เรียนและด้ำนกระบวนกำร 2) ด้ำนกำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3) ด้ำนกำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร 4) ด้ำนกำรน ำองค์กรและกำรก ำกับดูแล 5) ด้ำนกำรงบประมำณ กำรเงินและชื่อเสียง 5. รูปแบบการน าผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก หมำยถึง ภำพจ ำลองที่แสดงควำมสัมพันธ์ของชุดองค์ประกอบ เชิงระบบในกำรน ำผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำไปใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ ขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยน ำเข้ำ กระบวนกำร และผลผลิต พร้อมข้อมูล ย้อนกลับ 6. การบริหารการเปลี่ยนแปลง หมำยถึง กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงสภำพในปัจจุบันไปสู่ สภำพที่ต้องกำรในอนำคตของสถำนศึกษำโดยอำศัยข้อมูลและสำรสนเทศจำกผลกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำ ประกอบด้วยขั้นตอนกำรบริหำร 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 กำรเตรียมกำรเปลี่ยนแปลง เป็นกำรเตรียมควำมพร้อมขององค์กรก่อนด ำเนินกำรตำมเป้ำหมำยที่ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วย กระบวนกำรด ำเนินงำน6 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรวิเครำะห์สถำนศึกษำ 2) กำรก ำหนดเป้ำหมำย 3) กำรสร้ำงทีม 4) กำรประเมินควำมสำมำรถในกำรเปลี่ยนแปลง 5) กำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือ 6) กำรสื่อสำร ขั้นตอนที่ 2 กำรจัดกำรกำรเปลี่ยนแปลง เป็นกำรด ำเนินกำรให้บรรลุเป้ำหมำยที่ได้ ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำรด ำเนินงำน 4 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรออกแบบแผน
182 2) กำรวำงแผน 3) กำรน ำแผนสู่กำรปฏิบัติ4) กำรประเมินผล และขั้นตอนที่ 3 กำรเสริมแรงกำร เปลี่ยนแปลง เป็นกำรด ำเนินกำรหลังจำกด ำเนินงำนเป็นระยะ ๆ และเมื่อกำรด ำเนินกำร บรรลุเป้ำหมำยที่ได้ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำร 5 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรให้ข้อมูล ย้อนกลับแก่สถำนศึกษำ 2) กำรทบทวนหลังกำรปฏิบัติงำน 3) กำรเผยแพร่ผลกำรปฏิบัติงำน ที่ประสบควำมส ำเร็จแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไปทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ 4) กำรยกย่อง ชื่นชม ควำมส ำเร็จ 5) กำรเพิ่มพลังอ ำนำจแก่บุคลำกร 7. การบริหารจัดการในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท า หมำยถึง กระบวนกำรบริหำร จัดกำรในโรงเรียนเพื่อให้สถำนศึกษำมีคุณภำพโดยกำรมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วน ประกอบไปด้วย ขั้นตอนต่ำง ๆ คือ 1) กำรก ำหนดเป้ำหมำยและวิเครำะห์ปัญหำ/ควำมต้องกำร 2) กำรก ำหนดนโยบำย 3) กำรวำงแผน 4) กำรก ำหนดงบประมำณ 5) กำรน ำแผนไปปฏิบัติ และ 6) กำรประเมินผล 8. คุณภาพของสถานศึกษา หมำยถึง ประสิทธิผลในกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ ตำมควำมคิดเห็นของผู้บริหำร ครู และคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนที่เป็นไปตำมมำตรฐำน ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนใน 4 ด้ำน คือ 1) ด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ 2) ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรศึกษำ 3) ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และ 4) ด้ำนกำรประกันคุณภำพภำยใน 9. สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หมำยถึง สถำนศึกษำของรัฐบำลที่อยู่ในสังกัดของส ำนักงำน เขตพื้นที่ประถมศึกษำ และส ำนักงำนเขตพื้นที่มัธยมศึกษำในภำคใต้ 10. สถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก หมำยถึง โรงเรียนในสังกัดส ำนักงำนเขตพื้นที่ กำรศึกษำประถมศึกษำที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน หรือโรงเรียนในสังกัดส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ มัธยมศึกษำที่มีนักเรียนไม่เกิน 300 คน ขั้นตอนและกระบวนการบริหารของรูปแบบ รูปแบบก ำรน ำผลก ำรป ระกันคุณ ภ ำพกำรศึกษ ำไปใช้ในก ำรพัฒ น ำคุณ ภ ำพ ของสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนขนำดเล็กในภำคใต้ประกอบด้วยขั้นตอนในกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ ตำมแนวคิดทฤษฎีระบบเป็น 3 ขั้นตอน คือ ปัจจัยน ำเข้ำ (Input) กระบวนกำร (Process) และ ผลผลิต (Output) พร้อมกับข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) ของรูปแบบ โดยรำยละเอียดของขั้นตอน และกระบวนกำรบริหำรของรูปแบบเป็นไปตำมรูปภำพ ซึ่งปัจจัยน ำเข้ำ (Input) ประกอบด้วย 1. กำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ โดยสถำนศึกษำต้องบริหำรจัดกำรให้สถำนศึกษำมีคุณภำพ ใน 4 มำตรฐำน คือ 1) คุณภำพผู้เรียน 2) กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำ 3) กระบวนกำร จัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ และ 4) ระบบกำรประกันคุณภำพภำยในที่มีประสิทธิผล 2. กำรประกันคุณภำพภำยนอกสถำนศึกษำ โดยสถำนศึกษำต้องบริหำรจัดกำรให้สถำนศึกษำ มีคุณภำพเป็นไปตำมมำตรฐำนที่ส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำก ำหนด 3.ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรใช้ผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำใน 4 ปัจจัย ประกอบด้วย 1) ลักษณะ บริบทของสถำนศึกษำ 2) ควำมน่ำเชื่อถือของผลกำรประเมิน 3) ศักยภำพของบุคลำกรในสถำนศึกษำ และ 4) กำรก ำกับติดตำมจำกหน่วยงำนต้นสังกัด กระบวนกำร (Process) ประกอบด้วย 1. กำรพัฒนำสถำนศึกษำตำมเกณฑ์คุณภำพ กำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศใน 7 หมวด คือ 1) กำรน ำองค์กำร 2) กำรวำงแผนกลยุทธ์
183 3) กำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4) กำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ 5) กำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร 6) กำรจัดกำรกระบวนกำร และ 7) ผลลัพธ์ 2. กำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลง ใน 3 ระยะ คือ 1) กำรเตรียมกำรเปลี่ยนแปลง 2) กำรจัดกำรกำรเปลี่ยนแปลง และ 3) กำรเสริมแรง กำรเปลี่ยนแปลง 3. กำรบริหำรจัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ คือ 1) กำรก ำหนดเป้ำหมำย และวิเครำะห์ปัญหำ 2) กำรก ำหนดนโยบำย 3) กำรวำงแผน 4) กำรก ำหนดงบประมำณ 5) กำรน ำแผนไปปฏิบัติ และ 6) กำรประเมินผล ทั้งนี้ให้เป็นไปตำมแผนปฏิบัติกำรประจ ำปี ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ และบรรลุตำมวิสัยทัศน์ของสถำนศึกษำที่ก ำหนดไว้ ผลผลิต (Output) เป็นคุณภำพของสถำนศึกษำขนำดเล็กใน 4 ด้ำน ประกอบด้วย 1) ผลกำรจัดกำรศึกษำ 2) กำรบริหำรจัดกำรศึกษำ 3) กำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นส ำคัญ และ 4) กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) ซึ่งเป็นข้อมูลและสำรสนเทศส ำหรับใช้ในกำรพัฒนำ คุณภำพของสถำนศึกษำในรอบปีกำรศึกษำต่อ ๆ ไป
184
185 แนวทางการด าเนินงานของรูปแบบ 1. ผู้บริหำรสถำนศึกษำ หัวหน้ำงำนวิชำกำร ครูผู้รับผิดชอบงำนกำรประกันคุณภำพ กำรศึกษำ และคณะครูทุกคนในสถำนศึกษำ ประชุมร่วมกันเพื่อพิจำรณำจุดอ่อน จุดแข็ง และ แนวทำงพัฒนำของสถำนศึกษำตำมรำยงำนกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำและรำยงำนผล กำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำของส ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำ ตำมมำตรฐำนและประเด็นกำรพิจำรณำของกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พร้อมกับท ำควำมเข้ำใจแนวคิดของเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ ซึ่งบุคลำกร ทุกคนในสถำนศึกษำต้องรับรู้และเข้ำใจว่ำมำตรฐำนและประเด็นกำรพิจำรณำของกำรประกัน คุณภำพกำรศึกษำใดได้ไปสอดคล้องกับองค์ประกอบของเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำร ที่เป็นเลิศอย่ำงไรบ้ำง 2. ผู้บริหำรศึกษำจัดระบบกำรบริหำรจัดกำรของสถำนศึกษำโดยยึดเกณฑ์คุณภำพ กำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศใน 7 องค์ประกอบ ซึ่งได้แก่ 1) กำรน ำองค์กร 2) กำรวำงแผน กลยุทธ์ 3) กำรมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4) กำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรจัดกำรควำมรู้ 5) กำรมุ่งเน้นครูและบุคลำกร 6) กำรจัดกำรกระบวนกำร 7) ผลลัพธ์ โดยต้องจัดระบบกำรท ำ แผนปฏิบัติกำรของสถำนศึกษำให้โครงกำรต่ำง ๆ ของสถำนศึกษำในแต่ละมำตรฐำนกำรศึกษำเป็นไป ตำมแนวทำงกำรพัฒนำของสถำนศึกษำ และข้อเสนอแนะของผู้ประเมินภำยนอก พร้อมกับเป็นไป ตำมเกณฑ์คุณภำพกำรศึกษำเพื่อกำรด ำเนินกำรที่เป็นเลิศ โดยแต่ละโครงกำรต้องมีผู้รับผิดชอบ โครงกำร จัดท ำข้อเสนอโครงกำร ด ำเนินงำนตำมโครงกำร และรำยงำนกำรประเมินผลโครงกำร ที่เป็นระบบและมีสะดวก ไม่ก่อให้เกิดควำมยุ่งยำกในกำรด ำเนินงำน 3. ผู้บริหำรสถำนศึกษำต้องสร้ำงกำรบริหำรกำรเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นกระบวนกำร เปลี่ยนแปลงสภำพในปัจจุบันไปสู่สภำพที่ต้องกำรในอนำคตของสถำนศึกษำตำมโครงกำรต่ำง ๆ ที่ได้ก ำหนดไว้ในแผนปฏิบัติกำรประจ ำปี และมีควำมสอดคล้องกับแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ของสถำนศึกษำ ทั้งนี้เพื่อต้องกำรจะบรรลุตำมวิสัยทัศน์ของสถำนศึกษำ ประกอบด้วยขั้นตอน กำรบริหำรใน 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 กำรเตรียมกำรเปลี่ยนแปลง (Preparing for Change) เป็นกำรเตรียม ควำมพร้อมขององค์กรก่อนด ำเนินกำรตำมเป้ำหมำยที่ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำร ด ำเนินงำน 6 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรวิเครำะห์สถำนศึกษำ ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรศึกษำและวิเครำะห์บริบทของสถำนศึกษำ (2) กำรส ำรวจและวิเครำะห์ปัญหำ ควำมต้องกำร (3) กำรประเมินทรัพยำกร และ (4) กำรประเมินควำมสำมำรถของทีมงำน 2) กำรก ำหนดเป้ำหมำย ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรร่วมกันก ำหนดเป้ำหมำย (2) กำรท ำควำมเข้ำใจเป้ำหมำย และ (3) กำรสื่อสำรเป้ำหมำย 3)กำรสร้ำงทีม ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรแต่งตั้ง คณะกรรมกำรด ำเนินงำน (2) กำรสร้ำงบรรยำกำศกำรมีส่วนร่วม และ (3) กำรพัฒนำควำมสำมำรถ ของทีมงำน
186 4) กำรประเมินควำมสำมำรถในกำรเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำร ใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรส ำรวจ วิเครำะห์ ควำมต้องกำรเปลี่ยนแปลงสถำนภำพของสถำนศึกษำ (2) กำรจัดล ำดับควำมส ำคัญ (3) กำรก ำหนดภำพอนำคต และ (4) กำรก ำหนดผู้สนับสนุนและ ควำมสำมำรถในกำรสนับสนุน 5) กำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือ ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรสร้ำงควำมร่วมมือภำยในสถำนศึกษำ (2) กำรสร้ำงควำมร่วมมือภำยนอกสถำนศึกษำ และ (3) กำรสร้ำงบรรยำกำศกำรมีส่วนร่วม 6)กำรสื่อสำร ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรศึกษำ ควำมพร้อมในกำรสื่อสำร (2) กำรก ำหนดช่องทำงกำรสื่อสำร (3) กำรจัดหำทรัพยำกรที่จ ำเป็นในกำรสื่อสำร และ (4) กำรพัฒนำควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำรแก่บุคลำกร ขั้นตอนที่ 2 กำรจัดกำรกำรเปลี่ยนแปลง (Managing Change) เป็นกำรด ำเนินกำร ให้บรรลุเป้ำหมำยที่ได้ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำรด ำเนินงำน 4 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรออกแบบแผน ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) แผนกำรสื่อสำร (2) แผนกำรสนับสนุน (3) แผนกำรอบรม และ (4) แผนกำรนิเทศ ติดตำม ประเมินผล 2)กำรวำงแผน ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรจัดท ำ และกำรสื่อสำรวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ (2) กำรก ำหนดกิจกรรม/วิธีกำร (3) กำรจัดท ำปฏิทิน กำรปฏิบัติงำน และ (4) กำรก ำหนดเครื่องมือ ระยะเวลำ วิธีกำรนิเทศ ติดตำม ประเมินผล 3)กำรน ำแผนสู่กำรปฏิบัติ วำงแผน ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรด ำเนินกำรตำมแผน (2) กำรสนับสนุน (3) กำรสอนงำน และ (4) กำรนิเทศ ควบคุม ติดตำมผล 4)กำรประเมินผล ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรก ำหนด เครื่องมือกำรวัดและประเมินผล (2) กำรสร้ำงและหำคุณภำพเครื่องมือวัดและประเมินผล (3) กำรวัด และประเมินผลกำรด ำเนินงำนตำมเวลำที่ก ำหนด และ (4) กำรเปรียบเทียบผลกำรด ำเนินงำน กับวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยของสถำนศึกษำ ขั้นตอนที่ 3 กำรเสริมแรงกำรเปลี่ยนแปลง (Reinforcing Change) เป็นกำรด ำเนินกำร หลังจำกด ำเนินงำนเป็นระยะ ๆ และเมื่อกำรด ำเนินกำรบรรลุเป้ำหมำยที่ได้ร่วมกันวำงไว้ ประกอบด้วยกระบวนกำร 5 กระบวนกำร ได้แก่ 1) กำรให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) แก่สถำนศึกษำ ประกอบด้วย กำรด ำเนินกำรใน 2 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรเก็บรวบรวมข้อมูลย้อนกลับ และ (2) กำรนิเทศ ควบคุม ติดตำมผล
187 2) กำรทบทวนหลังกำรปฏิบัติงำน (After Action Review) ประกอบด้วย กำรด ำเนินกำรใน 2ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรประชุมทบทวนระหว่ำงกำรปฏิบัติงำน และ (2) กำรประชุม ทบทวนเมื่อเสร็จสิ้นกำรปฏิบัติงำน 3) กำรเผยแพร่ผลกำรปฏิบัติงำนที่ประสบควำมส ำเร็จแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและ บุคคลทั่วไปทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 2 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรเผยแพร่ผลกำรปฏิบัติงำนที่ประสบควำมส ำเร็จภำยในองค์กร และ (2) กำรเผยแพร่ ผลกำรปฏิบัติงำนที่ประสบควำมส ำเร็จภำยนอกองค์กร 4) กำรยกย่อง ชื่นชม ควำมส ำเร็จ ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 2 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรยกย่อง ชื่นชม ควำมส ำเร็จในเบื้องต้น และ (2) กำรยกย่อง ชื่นชม ควำมส ำเร็จ เมื่อเสร็จสิ้นกำรด ำเนินงำน 5) กำรเพิ่มพลังอ ำนำจแก่บุคลำกร ประกอบด้วยกำรด ำเนินกำรใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำรมอบหมำยงำนที่ตรงกับควำมสำมำรถของบุคลำกร (2) กำรให้อิสระในกำรท ำงำน ของบุคลำกร และ (3) กำรให้อิสระในกำรตัดสินใจในกำรปฏิบัติงำน 4. ผู้บริหำรสถำนศึกษำบริหำรจัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ ซึ่งกระบวนกำรบริหำร จัดกำรในโรงเรียนแบบร่วมคิดร่วมท ำ ประกอบไปด้วยขั้นตอนต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 กำรก ำหนดเป้ำหมำยและวิเครำะห์ปัญหำ/ควำมต้องกำร (Goal Setting and Need Identification) เป้ำหมำย (Goal) เป็นข้อควำมแสดงทิศทำงอย่ำงกว้ำง ๆ รวมทั้งวัตถุประสงค์ หรือควำมต้องกำร ไม่มีก ำหนดช่วงเวลำและไม่เกี่ยวกับผลผลิตเฉพำะในช่วงเวลำ เป้ำหมำยของ โรงเรียนมักจะแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน ปกติเป้ำหมำยของโรงเรียนจะมีอยู่ 4 ประเภท คือ 1. เป้ำหมำยที่แสดงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน 2. เป้ำหมำยที่แสดงถึงประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ของนักเรียน 3. เป้ำหมำยที่แสดงถึงกำรจัดสรรทรัพยำกร 4. เป้ำหมำยที่แสดงถึงระบบกำรบริหำรจัดกำรของโรงเรียน กำรก ำหนดปัญหำ/ควำมต้องกำร (Need Identification) ในส่วนที่เกี่ยวกับกำรก ำหนดปัญหำและควำมต้องกำรนั้นก็ก ำหนดได้จำกกำร พิจำรณำจำกสิ่งเป็นจริงกับส่วนที่ควรจะเป็นว่ำมีควำมแตกต่ำงกันมำกน้อยเพียงใด กล่ำวคือ ถ้ำช่องว่ำงระหว่ำงสิ่งที่ควรจะเป็นกับสิ่งที่เป็นจริง (Gap) มีมำก ก็แสดงว่ำมีปัญหำหรือควำมต้องกำร มำก หลังจำกนั้นก็น ำเอำปัญหำ/ควำมต้องกำรในแต่ละด้ำนมำจัดล ำดับควำมส ำคัญ เพื่อน ำไปก ำหนด เป็นนโยบำยต่อไป ขั้นที่ 2 กำรก ำหนดนโยบำย (Policy Making) นโยบำยเป็นข้อควำมที่แสดงถึงวัตถุประสงค์และแนวทำง (มำตรกำร) ที่จะ ด ำเนินกำรเพื่อให้วัตถุประสงค์นั้นประสบควำมส ำเร็จ รวมทั้งก ำหนดกรอบเพื่อเป็นแนวปฏิบัติด้วย โดยปกติแล้วนโยบำยมักจะน ำมำจำกแนวปรัชญำกำรศึกษำและเป้ำหมำยกำรศึกษำที่โรงเรียนยอมรับ