สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.

258
สาราสารกถา




ไหมล่ะ? ไม่สะอาดก็แสดงว่ามันขาดพระอรหันต์ ใช่ไหมเล่า?

ู
ั
อะระหัง หมายถึงความสะอาด ใช่เปล่า? น่นแหละ คุณครไม่ใหญ่
ี
�
�
ี
ู
เขาสอนไว้แล้ว ทาตามเถอะ แล้วทุกท่ทาตามท่คุณครไม่ใหญ่
ี
ี
บอกน่ พระอรหันต์ก็จะไปอยู่ท่นั่น พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้
ั
อย่างน้น ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ต� ภูมิรามเณยฺยก� ท่ใดมีพระ
ี
อรหันต์อยู่ ที่นั่นจะเป็นที่น่ารื่นรมย์ สุขสบายทุกที่ ก็หมายถึง
ั
ี
มีความสะอาด มีคนดี มีคนท่สุจริต มีคนท่ยุติธรรมต้งไว้ เข้า
ี
ใจน่ะ ตรงนี้น่ะ
เข้าใจก็จบแล้ว (สาธุ)
ี
้
ในท้ายท่สุดน ขออาราธนาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม
ี
คณพระสงฆ์ บารมีธรรมของหลวงปู่วัดปากนา เมตตาธรรม
ุ
�
้
ของคุณครไม่ใหญ่ ท่เก้อกูลให้เราทุกท่านทุกคนได้มีโอกาส
ี
ื
ู
สร้างบารมีกันเรื่อยๆ จงมารวมกันเป็นพลวปัจจัยสนับสนุน
ส่งเสริมให้คณะธรรมยามตรา คณะธรรมทายาท คณะกัลยาณ-
�
�
มิตร ผู้มีบุญทุกท่าน มีความเกษมสวัสดี มีกาลังกาย มีกาลัง
�
�
ใจ มีกาลังทรัพย์ มีกาลังสติปัญญา สามารถท่จะปฏิบัติภารกิจ
ี
�
ิ
ให้สาเร็จลุล่วงไป ทุกส่ง ทุกประการ ทุกท่าน ทุกคน เทอญฯ
(สาธุ)

เรื่องที่พระพุทธเจ้ำสอนมำกที่สุด









ขอโอกาสคณะสงฆ์ทุกรูป

ขอเจริญพร ท่านนายอ�าเภอสามพราน ท่านปลัดอ�าเภอ

ู
ู
�
ั
�
สามพราน ท่านผ้ก�ากบการตารวจภธรอาเภอสามพราน ท่าน
�
่
์
ิ
นายกองคการบรหารสวนตาบล และศรทธาสาธชนทกทาน (สาธ) ุ
ุ
่
ั
ุ
ั
ั
คร้งน้เป็นคร้งท่ ๓ ในรอบเดือนมกราคม หรือเดือนใหม่
ี
ี
ั
ี
ั
ของปี พ.ศ. ๒๕๕๙ พบกันคร้งแรกวันท่ ๑๐ มกราคม คร้งท ี ่
๒ วันที่ ๒๓ มกราคม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓
ั
ี
ี
คร้งแรกท่วัดสองพ่น้อง ครั้งที่ ๒ ท่หน้าวัดบางปลา คร้งท ่ ี
ั
ี
๓ ที่คลองบางนางแท่น ซึ่งจริงๆ ชื่อเดิมเขาชื่อบางอีแท่น แต่
ด้วยความสุภาพของพวกเรา ก็ไม่อยากใช้ภาษาของพ่อขุนราม-
คาแหง เร่องไอ้ เร่องอี เร่องมึง เร่องกู มันเป็นภาษาไทยเดิม
�
ื
ื
ื
ื
�
ั
�
ั
ใช้กันมาต้งแต่สมัยพ่อขุนรามคาแหง แต่ปัจจุบันคาเช่นน้น เรา
ิ
* พระเทพสุวรรณโมลี (สอ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) บรรยายในพิธีจุดโคม
คลองบางนางแท่น อ.สามพราน จ.นครปฐม ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙

260
สาราสารกถา




�
ิ
�
ิ
ั
ไปคดว่ามนเป็นคาใหญ่คาโต เกนไปกว่าฐานะของเรา ไม่ใช่
�
�
�
�
คาหยาบน่ะ คาว่ามึง คาว่ากู คาว่าไอ้ คาว่าอี มันเป็นคาใหญ่
�
�
ค�าโต ปัจจุบันมันเป็นอย่างนั้น
ภำษำพ่อขุนรำม
�
ทาไมจึงเรียกว่าเป็นคาใหญ่คาโต ก็พูดให้เป็นเคร่องประดับ
�
�
ื
ั
�
ความร้กนสักหน่อย เพราะเป็นคาทผู้ใหญ่เขาเรยกเดกๆ สมัย
ี
็
ี
ู
่
ึ
ึ
ั
ั
ึ
ก่อนพ่อแม่เขาเรียกลูกก็ข้นไอ้ข้นอีท้งน้น ถ้าลูกชายก็ข้นไอ้ ลูก
ู
็
หญิงก็ขนอ แล้วกใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าก ใช้สรรพนาม
้
ึ
ี
แทนลูกว่ามึง คนท่จะพูดมึงกูกับใครได้ มันเป็นเคร่องบ่งบอก
ี
ื
ี
่
ู
แสดงสถานะของผ้พดว่า จะต้องเป็นคนทใหญ่กว่า และเราก ็
ู
เลยไม่กล้า เพราะ “อีแท่น” น่ สมัยก่อนก็คงเป็นเด็กๆ ว่งเล่น
ี
ิ
ี
ั
็
ู
ั
ี
่
ี
กนอย่แถวน คนผ้ใหญ่สมยนน กเลยเรยกว่า “อแท่น” นมน
ู
ั
ั
้
้
ี
เป็นเร่องเก่าแก่ ต้งแต่ก่อนสมัยหลวงปู่เราเกิดมา อีแท่นน่มัน
ั
ี
ื
เกิดมาก่อนหลวงปู่
์
่
่
็
พวกเรากไดรบการอบรมมาจากครบาอาจารยวา ไมควร
ู
ั
้
�
�
ี
จะใช้คาใหญ่คาโตเรียกคนท่เหนือเราว่าไอ้ว่าอี จะเรียกว่านาง
นี่ก็ยังไม่เหมาะ จะเรียกว่าอะไรดี
ตามหลักมันจะเรียกให้ไพเราะ มันก็ต้องเรียกว่า “คลองย่า
แท่น” จะเหมาะ นางแท่นก็เหมือนกับบางทีมันเป็นคาประชดน่ะ
�

261
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ี
ี
“อนางน!” ใช่ไหม? อนางคนนน อนางคนน บางทมน
ี
่
ี
้
ั
ี
้
ั
ี
ี
ก็ไม่เหมาะ เปล่ยนใหม่ไหม? นางแท่นติดปากกันยัง? ถ้ายัง
ไม่ติดปากก็เรียกคลองย่าแท่น น่มันเข้าท่าดีเหมือนกัน ใช่ไหม?
ี
ื
หรือยายก็ได้ ย่าก็ได้ เป็นช่อเรียกผู้อาวุโสสูงสุดในตระกูล ท่เรา
ี
พอล�าดับนึกได้
ิ
ู
ุ
ั
ื
เหมอนกับผู้อาวุโสสงสดในหมู่อุบาสกาวดพระธรรมกาย
ของเรา เราก็เรียกว่าคุณยายอาจารย์จันทร์ไง เห็นไหม? เรียกว่า
ี
คุณยาย น่จะเรียกว่าคลองบางยายแท่น ก็น่าจะดี ก็ไปเลือกกัน
เอาก็แล้วกัน คาว่าย่า คาว่ายายเป็นช่อเรียกผู้อาวุโสผู้เป็นสตร ี
�
ื
�
เพศ นี่เรียกว่า เป็นเครื่องประดับความรู้
ความรู้ท่เราแสวงหากันโดยท่วๆ ไป มันมีความรู้อยู่ ๒
ั
ี
ึ
�
อย่าง อย่างหน่งก็คือรู้เอาไว้ประดับความรู้ คือเอาไปใช้ทามา
หากินไม่ได้ แต่ว่ามันก็ต้องรู้ เหมือนกับเรารู้ว่าคลองน้เดิมช่อ
ี
ื
คลองบางอีแท่น แล้วเราจะเปล่ยนมาเป็นคลองบางยายแท่น
ี
คลองบางย่าแท่น อะไรก็ตาม มันก็เป็นเคร่องประดับความรู้
ื
ื
�
กัน เอาไปใช้ประกอบอาชีพทามาหากินไม่ได้ เรียกว่ารู้ไว้เพ่อ
ประดับสติปัญญา
�
กับอกอย่างหน่ง ก็รู้ไว้เพ่อใช้เป็นเคร่องมือในการดาเนิน
ี
ื
ึ
ื
ี
ี
ั
ชีวิต น่เป็นความรู้ท่มนุษย์เราก็ต้องมีกัน มันก็ต้องมีท้งสอง
อย่างล่ะ

262
สาราสารกถา




สถำนที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนใจดี


�
ึ
สถานท่ตรงน้มันก็เกิดความสาคัญข้นมา จากความรู้สึก
ี
ี
นึกคิด ของคนมีจิตมีใจเป็นบุญเป็นกุศล เรียกว่าคนใจดี ใจบุญ
ใจกุศล มันก็ตรงกันข้ามกับ ใจบาป ใจอกุศล ใจร้าย

ระหว่างคนใจดี ใจบุญ ใจกุศล กับ คนใจบาป ใจร้าย

ใจอกุศล คิดว่าโลกเราต้องการคนประเภทไหน? (ใจดีครับ)

แล้วในโลกเรามีไหม คนใจดีน่ะ? (มีครับ) ในโลกมีไหม? มี แต่ว่า
มันจะน้อยๆ ไปหน่อย ในโลกปัจจุบัน


เพราะคนใจดี มันมีน้อย ใจบุญ ใจกุศล มันมีน้อย เร่อง
ื
้
ล�าบากเดือดรอน มันจึงมีมาก พูดตรงนี้มันส�าคัญ ใจดี ใจบุญ
ี
ใจกุศล มันเป็นใจอย่างไง? ใจดี ใจบุญ ใจกุศล ก็ใจท่คิดดี คิด
จะท�าดี คิดจะท�าสิ่งที่มีประโยชน์ นี้เรียกว่าใจที่คิดดี

ี
ู
้
ี
�
ี
ุ
ู
สถานทนไม่เคยมีพระจานวนเป็นพันๆ รป ไม่มผ้มบญ
ี
่
ั
�
จานวนเป็นพันเป็นหม่นมาชุมนุมกัน เรียกว่าต้งแต่เกิดเป็น
ื
ิ
ี
แผนดนข้นมาก็ว่าได้ ไม่เคยมีคนท่ทรงคุณความดี มีศีลธรรมมา
่
ึ
ชุมนุมกันที่นี่มากขนาดนี้
็
ึ
ี
ิ
่
เกดจากอะไร? กนก อ้อ! แล้วใครล่ะ คนทใจบุญ ใจ
ี
กุศล ใจดี บันดาลสถานท่น้ให้เป็นสถานท่ดี ท่สถานท่ศักด์สิทธ ์ ิ
ี
ิ
ี
ี
ี
ึ
ข้นมาในทันทีทันใด ไม่ต้องเฉลยก็รู้ ก็คือครูไม่ใหญ่ของเรา
ื
(สาธุ) เออ! คิดได้อย่างไร เร่องท่ไม่น่าจะคิดก็คิดได้ คิดได้แล้ว
ี

263
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




�
มันก็ดีด้วย แล้วพวกเราก็เห็นดีเห็นงามกับท่าน แล้วทาไมพวก
ิ
้
ั
่
็
่
่
้
ี
ั
เราคดกนไมได เออ! กเพราะบารมเรามนอบรมมานอยกวาทาน
ท่านคิดให้ เราก็เห็นเลย
ี
ั
ี
�
ื
�
เพราะว่าเร่องสาคัญๆ ท่เก่ยวกบชีวิตบุคคลสาคัญๆ มัน
เป็นเร่องท่ต้องจด ต้องจารึก ต้องจากัน มันจึงจะเสริมสังคม
ี
�
ื
แต่ละยุคๆ ของเรานี้ ดีงามไปด้วย
พระเจ้ำอโศกมหำรำช
เรานึกดู ว่าพระพุทธศาสนาของเรา ถ้าไม่มีพระเจ้าแผ่นดิน
อย่างพระเจ้าอโศกมหาราช ปัจจุบันจะมีอะไรเหลือเป็นหลักฐาน
ยืนยันแสดงความมีอยู่ของพระพุทธเจ้าได้บ้าง มีไหม? (ไม่ม ี
ี
ครับ) ถ้าไม่มีพระเจ้าแผ่นดินอย่างพระเจ้าอโศกมหาราช ท่ท ่ ี
จะบอกให้เรารู้ว่า พระพุทธเจ้ามีจริงๆ จะไม่ปรากฏบนโลกใบน ้ ี


จะถูกตาหนิถูกวิจารณ์ว่า พระพุทธเจ้าไม่มีจริง สมัยก่อน
�
ี
เคยพูดกัน แต่พอไปพบหลักฐานท่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้
ี
ี
เด๋ยวน้ไม่พูดแล้วว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่มีจริง? รับรอง
กันทั่วโลก ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง

ั
พระเจ้าอโศกมหาราชทาอย่างน้น ถ้าคิดอย่างเราๆ สามัญ
�
�
�
ี
ึ
สานึก ไม่ต้องเอาปัญญาอะไรลึกซ้งมาคิดหรอก ก็ทาตามท่พระ
ั
พุทธเจ้าท่านส่ง พระเจ้าอโศกมหาราชทาตามท่พระพุทธเจ้า
�
ี
ท่านส่ง เออ! ก็ทาให้สงสัย ท่านท่คงแก่เรียนเป็นนักวิชาการ
ี
ั
�

264
สาราสารกถา




ก็สงสัยแล้วว่า พระเจ้าอโศกเกิดเม่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไป
ื
แล้วต้ง ๒๐๐ กว่าปี พระพุทธเจ้าจะมาส่งพระเจ้าอโศกมหาราช
ั
ั
ให้สร้างโน่นสร้างนี่ได้อย่างไร? ก็พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว

แล้วเราว่าไง? นกไม่ออกไง! เลยลองถามไป เหมือนในสภา
ึ
ื
่
่
ั
ึ
ิ
่
เขาอภปรายกน พอนกไมออก กถามทานประธานทเคารพ เพอ
็
่
ี
จะได้ตั้งหลักใหม่ เรื่องมันก็เป็นอย่างงั้น
ก่อนท่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานก็ส่งพุทธบริษัทไว้ว่า
ั
ี
หลังจากพระตถาคตนิพพานไปแล้ว ให้พุทธบริษัทไปดูสังเวชนีย-
ี
สถาน คือสถานท่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จ
ั
�
ดับขันธปรินิพพาน น่เป็นคาส่งพระพุทธเจ้า ใช่ไหม? แล้ว
ี
ั
สถานท่น้นๆ น่ะ ถ้าไม่สร้างหลักสร้างฐานเป็นรูปวัตถุไว้ จะไป
ี
ตามเจอที่ไหนล่ะ? ตามไม่เจอ
พระเจ้าอโศกหลังจากกลับมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว
ก็มาคิดถึงเรื่องนี้ เพราะมันช่วงระยะเวลาเพียง ๒๐๐ ปี
็
้
ั
ั
ุ
ุ
ิ
ี
้
ี
่
ั
๒๐๐ ป ถาเทยบกบปจจบน กตอนเรมสรางกรงเทพมหา-
ี
ี
นครของเราน่เอง กรุงเทพฯ ปัจจุบันน้ก็ ๒๐๐ กว่าปี เท่าๆ กับ
อายุของพระเจ้าอโศกเกิดมาหลังพุทธปรินิพพาน ก็ยังมีหลักฐาน
้
็
ี
ู
ื
ทพดสบตอๆ กนมาวา ตรงนนตรงนเปนอะไรๆ ซากเมอง ซากอฐ
ิ
่
่
้
ั
ี
ั
ื
่
ซากอะไรต่างๆ ท่มันเป็นท่เก่าแก่ เหมือนเราไปดูกรุงสุโขทัย
ี
ี
มันก็ ๔๐๐ กว่าปี ก็ยังอยู่ ใช่ไหม? อยุธยา ๓-๔๐๐ กว่าปี
ก็อยู่ สุโขทัยมัน ๗๐๐ ปี มันก็ยังอยู่

265
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ี
ี
ยุคพระเจ้าอโศก ๒๐๐ กว่าปี สถานท่ท่มันเก่ยวกับพระ
ี
�
พุทธเจ้าท้ง ๔ ตาบล มันก็มี พระเจ้าอโศกไปสืบหมด ก็ดาริว่า
ั
�
�
ี
ั
ถ้าเราไม่ทาอะไรท่เป็นวัตถุม่นคงถาวรเอาไว้ ต่อไปภายหน้า ก ็
ี
จะหาร่องรอยหลักฐานท่เก่ยวกับพระพุทธเจ้า เก่ยวกับสังเวชนีย-
ี
ี
สถานไม่พบ ร่องรอยความมีอยู่ของพระพุทธเจ้าก็จะสูญหาย
ไปด้วย
แนวทำงของบุรพำจำรย์ดี


ู
ี
แล้วท่คุณครไม่ใหญ่ของเรา หลวงพ่อของเรา ดาริอย่างน ้ ี
�
ี
�
ก็ดาริตามแนว เขาเรียกว่า ตามแนวท่พระพุทธเจ้าประทานไว้
คือให้ไปดู ไประลึกถึงสังเวชนียสถาน
ี
สังเวชนียสถาน ก็คือสถานท่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คน
�
ตัดสินใจทาความดีได้ เราเรียกว่าสังเวชนียสถาน คือสถานท ี ่
ไปแล้วเกิดแรงบันดาลใจ


ี
อย่างพวกเราก็เหมือนกัน เราไปท่สาคัญๆ ท่เก่ยวกับหลวงป ู่
�
ี
ี
ึ
ู
มันก็มีแรงบันดาลใจเกิดข้น ถึงจะไม่เท่าคุณครไม่ใหญ่ แต่ก ็
ี
เกิดข้นว่าเราจะต้งให้ม่นคงอยู่ ในคุณงามความดีตลอดไป น่เรา
ั
ั
ึ
ึ
�
ี
ี
ก็เห็นแล้ว ว่าสถานท่น้เป็นท่สาคัญข้นมา ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อเรา
ี
�
จะพาไปลาบาก ยากเข็ญกันท่โน้นท่น่ มันเป็นเร่องท่จะเพ่มบุญ
ิ
ี
ี
ี
ี
ื
เพ่มบารมี เพ่มคุณงามความดี เพ่มความคิดดีๆ ให้มันเกิดข้น
ิ
ิ
ิ
ึ
�
ี
กับพวกเราและคนรุ่นหลังต่อๆ ไป เพราะทุกสถานท่ท่จะไปทาน ้ ี
ี

266
สาราสารกถา




ั
ี
ี
ั
มันก็เก่ยวกับพระพุทธศาสนาท้งน้น จะว่าเก่ยวกับพระพุทธเจ้า
ก็เกี่ยวได้
ท่เราทาก็ทาในนามของหลวงปู่ แต่ถามว่า ท่หลวงปู่เป็น
�
�
ี
ี
ึ
หลวงปู่ข้นมาได้ เพราะอะไร? ก็เพราะหลวงปู่เอาคุณพระพุทธเจ้า
�
ี
ไปไว้ในตัว อันน้สาคัญมาก หลวงปู่เอาคุณของพระพุทธเจ้าเป็น
ู
ุ
ี
ั
�
ิ
่
ี
�
แนวทางดาเนินชวต จนบรรลความสาเร็จดงท่หลวงป่ต้องการ
ั
ั
ั
แล้วก็เอาแนวทางน้นมาอบรมส่งสอนบุคคลท่วๆ ไป ให้ได้รู้ ให้
ได้เห็นตาม
เขาเรียกว่า เรารู้จักพระรัตนตรัย รู้จักพระพุทธเจ้า ผ่าน
หลวงปู่ เรื่องอย่างนี้มันก็เกิดมาตั้งแต่ครั้งพระพุทธกาลอย่างที่
เคยบอกไว้ ท่เราจะรู้จักพระพุทธเจ้าได้ เราเกิดไม่ทันพระพุทธเจ้า
ี
ก็ต้องผ่านครูบาอาจารย์
ครูบาอาจารย์ท่านใด รูปใด พาเราให้ไปพบพระพุทธเจ้าได้
้
�
เราก็ยกย่องเชิดชูบูชา หลวงปู่วัดปากนา พาคุณยายอาจารย์จันทร์
ุ
ไปพบพระพทธเจ้า คุณยายอาจารย์จันทร์พาคณครไม่ใหญ่ไป
ู
ุ
ั
พบพระพุทธเจ้า ก็คือพบวิชาธรรมกาย น่นแหละคือพาไปพบ
พระพุทธเจ้า


เรื่องพระวักกลิ



ั
พระพุทธเจาทานกบอก สงไว้ตอนหน่งกพดกบสาวกองค์หนง
่
้
ึ
่
่
็
็
ั
ู
ึ
องค์น้ก็หลงใหล คล่งไคล้ในพระรูปสมบัติของพระพุทธเจ้า
ั
ี

267
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ื
อยากจะอยู่ใกล้พระพุทธเจ้าไปเร่อยๆ ดูแล้วมันสบายตาสบายใจ
ี
ี
พระพุทธเจ้าท่านก็รู้อุปนิสัยว่า ถ้าปล่อยไว้อย่างน้ โอกาสท่จะ
ั
บรรจุธรรมไม่มี ท่านก็เลยไล่ไป ก็เสียใจ เสียใจก็ไป ก็ไปน่งปลง
สังเวชตัวเอง


เออ! หวงจะอยู่ใกล้ๆ กับพระพุทธเจ้าให้สบายใจ พระ
ั
พุทธเจ้าก็มาไล่เราเสียอีก ก็เลยชีวิตน้มันจะมีความหมายอะไร
ี
ี
ิ
ไม่ได้ส่งดังท่ใจคิด ก็คิดไปๆๆ ก็นึกถึงภาพพระพุทธเจ้าท่ตัวเอง
ี
ึ
ประทับใจ คิดไปๆ ก็เกิดธรรมกายข้นมา ไปดู ใช่ไหม? ถ้าเรา
ึ
ื
ไปดูในเร่องประวัติของพระวักกลิ พอธรรมกายเกิดข้นก็มีองค์
พระพุทธเจ้าไปปรากฏ
ี
ั
ท่ปรากฏแก่พระวักกลิน้น ในพระคัมภีร์ท่านบอกว่า เหมือน
ไปยืนอยู่ข้างหน้าพระวักกลิ แล้วก็พูดปลอบพระวักกลิว่า มา

เถิดวักกลิ อย่ากลัวเราเลย! แล้วก็ทรงแสดงธรรมในลักษณะ
ั
ท่ว่า ผู้ใดเห็นเรา ผู้น้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้น้นเห็นเรา
ั
ี
ี
อันน้ พวกคงแก่เรียนก็รู้แล้ว ก็แสดงว่า เรากับธรรมะมัน
เป็นตัวเดียวกัน ถ้าเราจะพูดกันแบบภาษาสมัยใหม่ ให้เป็น
ท่เข้าใจกันได้ ก็สามารถจะพูดได้ว่า ท่ไหนมีคน ท่น่นมีเรา
ี
ั
ี
ี
ี
ท่ไหนมีเรา ท่น่นมีธรรม เข้าใจไหมน่? (เข้าใจครับ) ไม่เข้าใจ
ั
ี
ี
ก็ไปคิดดู ถ้าเราจะแปลกันอย่างง่ายๆ ให้เข้าใจกับแนวทาง มัน
ตรงกับแนวทางท่เราปฏิบัติกัน กท่ไหนมีเรา ท่น่นมีธรรมกาย
ี
ี
็
ั
ี
ื
เม่อปฏิบัติให้เข้าถึงกันแล้ว ธรรมกายมันก็ปรากฏอยู่ตรงนั้นแหละ

268
สาราสารกถา




แต่ว่าเราเข้าไม่ถึง มีก็เหมือนไม่มี ถ้าเข้าถึงแล้วมันก็มี เข้าใจ

ไหม? ก็เหมือนอย่างท่เคยพูดให้เห็น เออ! บุญวาสนามันม ี
ี
ก็มันเยอะแยะไปหมด พระธรรมกายก็มี มีอยู่ในตัวเราทุกคน

ิ
ี
แต่ว่าเราจะเข้าถงธรรมกาย ต้องมบารม ต้องมวรยะ ต้องม ี
ึ
ิ
ี
ี
ความเพียร
ี
มันเหมือนท่เคยบอกว่าทรัพย์สินเงินทองมันมีอยู่เต็ม
ไปหมดในโลกน้ ใช่ไหม? จาได้ไหม? (จาได้ครับ) ว่าทรัพย์สิน
�
ี
�
มันมีแยะหมด แต่ถ้าเราไม่มีบุญ ไม่มีความพยายาม ไม่มีสต ิ
ปัญญาพอ มันก็ไปเอามาเป็นสมบัติไม่ได้ ใครมีบุญ ใครมีสต ิ
ิ
ปัญญา ใครมีความพยายามพอ ก็เอามาได้เยอะแยะ ย่งในปัจจุบัน
ี
น้เราก็เห็นบนอากาศน้ เงินเยอะแยะไปหมด เต็มหมดเลย มน
ี
ั
็
ู
จบมาขายรวยเป็นว่าเล่น ใช่ไหม? เรากร้กเหน แต่จบมนมา
็
ั
็
ั
ั
ขายไม่ได้ ก็ต้องสร้างบารมีกันต่อไป
ี
ี
ื
ื
น่เร่องสาคัญท่ต้องมาสร้างตรงน้ ก็พูดให้พวกเราปล้มใจ
�
ี
้
ที่คุณครูไมใหญ่นาพวกเราสร้างบารมกันตรงน ก็ไม่ได้คิดโดย
ี
่
ี
�
�
ไม่มีหลัก ไม่มีเหตุ ไม่มีผล ก็ดาเนินรอยตามมหาปูชนียาจารย์
ิ
รุ่นเก่าๆ ต่อมา เร่มต้งแต่พระเจ้าอโศกท่คิดจะสร้างหลักฐาน
ั
ี
เป็นอนุสรณ์ไว้ให้ เพ่อให้คนรุ่นหลังได้มาตามร่องรอยพระพุทธ-
ื
ศาสนา ร่องรอยพระพุทธเจ้าได้พบ พวกเราได้มีส่วนมาช่วยกัน
ิ
ก็เลยถือว่าได้สร้างคุณประโยชน์ใหญ่ย่ง ให้แก่พระพุทธศาสนา

269
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ของเรา น่เป็นประเด็นหน่งท่จะมาพูดกันตรงน้ให้เป็นท่เข้าใจว่า
ี
ี
ี
ึ
ี
เออ! ท�าไมจึงต้องมีสร้างกัน ก็เห็นความจ�าเป็นแล้ว
เอำสวรรค์มำขำย



สร้างกันแล้ว มันดีไหม? ก็ต้องตอบว่าดี เพราะจะเป็น

ั
ี
ท่ท่จะมีแต่คนมาทาบุญกน ส่วนใหญ่ก็ทาบุญกันท้งน้น มาท่น ี ่
ั
ี
�
ั
�
ี
�
�
�
แล้วก็มาทาบุญกัน แล้วจะทาบุญกันอย่างไง เออ ! ทาบุญบางท ี
�
ี
มันในปัจจุบันน้ เราก็ตกเป็นจาเลยของคนบางกลุ่ม วัดพระ
�
ธรรมกายเราน่ เป็นจาเลยน่ะ บางกลุ่มเขากล่าวหาว่า วัดพระ
ี
ธรรมกายน้เอาสวรรค์มาขาย เคยได้ยินไหมเล่า? (เคยครับ) แรงๆ
ี
ใช่ไหม? วัดพระธรรมกายเอาสวรรค์มาขาย เออ ! มันก็ว่ากันได้
คนที่จะว่านี่ ใช่ไหม? (ใช่ครับ)
แล้วถ้าเราถามว่า ศาสนาไหนบ้างท่มันไม่มีสวรรค์น่ะ?
ี
บอกมาซิว่า ศาสนาไหนไม่มีสวรรค์ เร่องสวรรค์มนมทกศาสนา
ั
ื
ุ
ี
ใช่เปล่า? (ใช่ครับ) ศาสนาคริสต์มีสวรรค์ไหม? (มครบ) ศาสนา
ั
ี
ั
อิสลามมีสวรรค์ไหม? (มีครับ) ทุกศาสนามีสวรรค์ท้งนั้น แต่ว่า
�
่
ี
ทางท่จะทาให้คนไปสวรรค์ได้ มันต่างกัน ใช่ไหมเล่า? (ใชครับ)
เออ! มันต่างกัน แล้วจะว่าเอาสวรรค์มาขายอย่างไง?
เป็นแต่เพียงว่า คุณครไม่ใหญ่มาแผ่วถางทางท่จะนาเรา
ี
�
ู
ี
ั
ี
ื
ไปสู่สวรรค์กัน (สาธุ) น่ ท่ทาน่ เร่องความจริงมันเป็นอย่างง้น
ี
�

270
สาราสารกถา




เด๋ยวจะพูดความแตกต่างกันให้ฟัง พระมหาสุราช บอกว่าให้
ี
ี
ื
ิ
พูด ๓๐ นาที น่แค่เกร่นก็ ๓๐ นาทีแล้ว ยังไม่ได้เข้าเร่องน่ะ
ี
�
แล้ววันน้เป็นคร้งท่ ๓ พูด แล้วคงหมดโปรแกรมสาหรับปีน้ ก ็
ี
ั
ี
คงจะต้องยาวสักหน่อย จะขัดข้องไหม? (ไม่ครับ) ประเด็นมัน
แยะ พอพูดเรื่องสวรรค์แล้ว ประเด็นมันแยะเลย
วงจรชีวิต


วัฏจักรชีวิต เขาเรียกว่าวงจรชีวิต แต่ละชีวิตมันมีวงจร

ื
วงจรก็คือชีวิตท่แต่ละคนจะต้องผ่านกันไปเร่อยๆๆๆ อย่างพวก
ี
เรามันก็มีวงจรชีวิต ผ่านไปจนกว่าจะถึงท่สุดแห่งธรรม มันจะ
ี
ี
ต้องผ่านวงจรชีวิตไปอย่างน้เร่อยๆๆ ถ้าเราจะพูดกันให้มันจา
�
ื
กนอย่างง่ายๆ ก็พูดว่า วงจรชีวตคิดให้เห็น มีประเด็นน่าคิด
ิ
ั
ื
ิ
ั
ุ
่
ิ
วนิจฉย แต่ละองค์ศาสดาว่ากันไป จะเชอใคร พทธ ครสต์
อิสลาม
มันก็มีวงจรชีวิตเหมือนกันท้งน้น เร่องวงจรชีวิตคิดให้เห็น
ั
ื
ั
ื
ั
ิ
็
ี
ิ
ั
มประเดนน่าคดวนิจฉย แต่ละองค์ศาสดาว่ากนไป จะเช่อใคร
ื
พุทธ คริสต์ อิสลาม (สาธุ) เออ! แล้วเราจะเช่อใคร? (เช่อพุทธ
ื
ื
ครับ) เออ! มันมีความแตกต่างกันเร่องวงจรชีวิต ระหว่างวงจร
ชีวิตค�าสอนในทางพระพุทธศาสนากับศาสนาอื่น
ี
ื
ศาสนาอ่นเขามีวงจรชีวิตเพียงแค่ ๒ ช่วง คราวน้ฟังไว้
ื
เราจะเห็นความแตกต่าง ศาสนาอ่นเขามีวงจรชีวิตเพียงแค่

271
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ี
๒ ช่วง คือ ชาติน้กับชาติหน้า เข้าใจไหม? (เข้าใจครับ) มี ๒
ช่วง คือ มีชาติน้และมีชาติหน้า เพราะเขาถือว่า ทุกชีวิตเกิด
ี
ี
ี
มาในชาติน้ได้ เพราะพระเจ้าสร้างมา ไม่เก่ยวกับชาติก่อน น ี ่
ื
ึ
ื
�
คือคาสอนของศาสนาอ่น ซ่งก็มีคนเช่อกันและเช่อกันแยะด้วย
ื
แยะกว่าพวกเราอีกในตอนนี้ ใช่ไหม? เราก็เอาเหตุเอาผล เรา
จะได้มีเหตุมีผลกันไงเล่า พระพุทธเจ้าท่านก็สอนให้เรามีเหต ุ
ื
มีผลกัน ให้เรารู้จักใช้ปัญญา เม่อเราเปรียบเทียบวงจรชีวิต
ท่พระพุทธเจ้าสอนกับศาสนาอ่นเขาสอน เราก็จะเห็นความ
ี
ื
ต่างกัน

พระพุทธเจ้าของเราบอกว่า วงจรชีวิตของคนมันมี ๓

ช่วง มีชาติก่อน แล้วก็มามีชาติน้ แล้วก็ไปมีชาติหน้า ท่เรา
ี
ี
เรียกว่าวัฏสงสาร มันก็เป็นวงจรอย่างน้ ต้องมีชาติก่อน แล้ว
ี
ี
ก็มามีชาติน้ แล้วจึงไปมีชาติหน้า ตรรกะง่ายๆ พูดถึงตรรกะ
ี
ื
เป็นหลักคิดง่ายๆ ท่เราจะทาความเข้าใจ เราจะเช่อใคร? ว่าวัน
�
ื
ี
ี
ื
ื
น้มันไม่ได้มาจากเม่อวาน ใครท่สอนว่าเม่อวานไม่มี เราจะเช่อ
ื
ไหม? (ไม่เช่อครับ) แล้วทาไมมันมีคนเช่อล่ะ? เออ ! คนในโลก
ื
�
ื
น้เยอะแยะเช่อว่าไม่มีอดีต พูดกันอย่างง่ายๆ น่พอจะทาให้เรา
ี
ี
�
ี
�
ั
ม่นใจได้ไหม? ว่าหลักคาสอนท่พระพุทธเจ้าท่านสอนพวกเรา
ี
ี
ไว้น้ มันเป็นหลักท่เป็นสัจธรรม เพราะว่ามันตรงกับความจริง
ี
สากล เขาเรียกว่าความจริงสากลท่เราต้องยอมรับกันในตรงน ี ้
มันมีอดีต มีปัจจุบัน แล้วมีอนาคต เขาเรียกว่ามันต้องมี ๓

272
สาราสารกถา




วัฏจักรของโลกมันต้องมี ๓ มีอดีต มีปัจจุบัน มีอนาคต,

มีพระพุทธ มีพระธรรม มีพระสงฆ์, มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา,

มีบุญ มีบาป มีอัพยากฤต

เห็นไหม? พระพุทธเจ้าสอนไว้ มันจะมี ๓ ก็เพราะว่ามัน

เป็นคุณลักษณะของท่ภาษาพระเขาเรียกว่า สังขตธรรม มัน
ี
ั
ี
ต้องมี ๓ ท้งน้น มันมี ๒ ไม่ได้ มันผิดหลัก น่คือวงจรชีวิตท ี ่
ั
ี
ื
พวกเราประพฤติปฏิบัติกัน ก็เพราะเราเช่อตามท่พระพุทธเจ้า
ท่านสอน ว่าชีวิตเรามันก็ผ่านวงจรมา มาถึงวันน้ มันก็ผ่านอดีต
ี
มาแล้ว จะมาถึงวันนี้ มันก็ต้องผ่านวันนี้ไปก่อน จะไปผ่านแต่
ี
ั
้
ั
ุ
ื
่
เมอวานแล้วไปถึงวนพร่งน มนไปไม่ได้ ไปได้ไหม? (ไม่ได้ครับ)
มันก็ต้องเป็นไปตามนี้ทั้งนั้น
ั
เพราะฉะน้น ใครจะว่าอย่างไงๆ ก็ให้เราต้องม่นใจไว้
ั
ี
ใช่ไหม? เออ! นรกสวรรค์ก็มีทุกศาสนาแหละ แต่ว่าทางท่จะ
ให้ไปนรกไปสวรรค์ เราก็ใช้กันดู เม่อเข้าใจพ้นฐาน เข้าใจท่เขา
ี
ื
ื
ั
่
ิ
็
ั
ุ
เรยกว่ากลดกระดมผด มนกผดไปตลอดแถวนนแหละ แต่ว่า
ี
ั
ิ
คนก็ใส่ผิดๆ ไปอย่างง้น ท้งโลกมันก็ไม่ว่ากัน ใช่ไหม? มันก ็
ั
ั
ึ
เป็นไปไม่ได้ท่วงจรชีวิตมีแค่ ๒ วง ชาติน้กับชาติหน้า ซ่งมัน
ี
ี
ั
ขัดหลักสัจจะของกาลเวลา มันก็ขัดกันชัดๆ อยู่แล้ว ถ้าไปต้ง
ประเด็นตรงนั้น มันก็ผิดหมดแหละ ทางที่จะไปนรกไปสวรรค์
มันก็เพี้ยนไป เราก็แผ่เมตตากันไป

273
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




คนตระหนี่ไปสวรรค์ไม่ได้



ี
พระพุทธเจ้าสอนอย่างไง? คนท่เขาว่าเอาสวรรค์มาขายน ี ่
ื
เขาไม่เช่อถือพระพุทธเจ้าเหรอ? เขาเป็นคนพุทธเหมือนกัน
แล้วเขาเอาหลักการอะไรมา ท่เราได้ยิน เขาเอาหลักการอะไร
ี
มาว่าเราเอาสวรรค์มาขาย ก็คนตระหน่ไปสวรรค์ได้ไหม? (ไม่ได้
ี
ั
ี
ครบ) พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าคนตระหน่ไปสวรรค์ไม่ได้หรอก
ั
่
สวรรค์เขาไม่เปิดประตรบ เออ! มนมบาลด้วยน่ะ คาทว่า คน
ั
ู
ี
�
ี
ี
ื
ื
ี
ตระหน่ไปสวรรค์ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ แล้วคนถ้าไม่เช่อเร่องนรก
เรื่องสวรรค์ พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า
วิติณฺณปรโลกสฺส นตฺถิ ปาปํ อการิย �
“คนที่จะไม่ก่อกรรมท�าชั่ว ท�าบาปท�ากรรม ไม่มี”
คนท่เขาด่าเราว่าเราเอาสวรรค์มาขาย ก็แสดงว่า เขาไม่เช่อ
ื
ี
่
เรื่องนรกเรื่องสวรรค์ คนพวกนี้พระพุทธเจ้าทานบอกว่า นตฺถิ
ั
ปาปํ อการิยํ จะไม่ก่อกรรมทําเข็ญ ไม่ก่อกรรมทําช่ว ไม่ม ี
คนใช้ไม่ได้ แต่เราก็ต้องแผ่เมตตาไปให้เขา ต้องแผ่เมตตา ไม่
แผ่เมตตาไม่ได้หรอก ใจเย็นๆ


ี
ทางท่พระพุทธเจ้าสอนว่า จะเป็นทางท่นาเราไปสู่สุคต ิ
ี
�
ื
โลกสวรรค์ พระพุทธเจ้าตรัสไว้เยอะแยะในพระสูตรเร่องสุคต ิ
โลกสวรรค์ สุคติโลกสวรรค์ตรัสไว้เยอะแยะ

274
สาราสารกถา




ั
แล้วมาว่าเราเอาสวรรค์มาขาย ก็คนท่จะไปสวรรค์น้น
ี
คนตระหน่มันไปไม่ได้หรอก พระพุทธเจ้าท่านว่าอย่างง้น ลอง
ี
ั
เปิดดู พระมหาสุราช คาถาว่าไง? วันนี้ไม่บอก มันมีจริงๆ ไม่ใช่

ไม่มี ก็คนตระหน่ไปสวรรค์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านยืนยัน แล้ว
ี
ื
ื
เราจะไปเช่อคนพวกน้น เช่อได้อย่างไง? มันจะพา มันจะหลอก
ั
ให้เราไปนรก มันอาจจะเป็นพวกนรกมาเกิด ใช่ไหม? มาพาคน
ไปนรกกัน มันมาหลอก ใช่ไหม? มาตีว่าเราเอาสวรรค์มาขาย

ไม่ใช่อย่างง้นพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า จะไปสวรรค์ได้ มันต้อง
ั
ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แล้วเราให้ทาน รักษาศีล เจริญ

ภาวนากันนี่ เออ! มาว่าเราเป็นคนเลว มันบ้าไปอย่างไง?

ถ้าคนให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นคนเลวล่ะก้อ

ี
ี
พวกเราตายกันวันน้ อย่าอยู่มันเลยในโลกน้ คงอยู่กันไม่ได้ ใช่
ไหม? จะอยู่อย่างไง ให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา มันกลายเป็น

ั
ี
ั
คนช่วคนเลว กล้นใจตายกันให้หมดตรงน้ ไปสวรรค์กันดีกว่า
ใช่ไหม? เออ! แล้วมันเป็นอย่างไง
่
ิ
ั
ี
ี
่
ก่อนทพระพทธเจ้าท่านจะแสดงอรยสจ ธรรมะทพระ
ุ
พุทธเจ้าแสดงน้น มันมี ๒ ระดับ ระดับท่วๆ ไป ท่านจะไม่แสดง
ั
ั
ุ
ี
อริยสัจหรอก ท่านจะแสดงอนุปพพกถาก่อน อนุปพพกถาก็คอ
ุ
ื
ี
ธรรมะ คาสอนท่พระพุทธเจ้าสอนติดต่อกัน ๕ เร่องเรียกว่า
�
ี
ื
อนุปุพพีกถา เราไม่ค่อยจะได้ยินพูดกันเดี๋ยวนี้

275
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




เพราะฉะน้น คนมันจึงหลงประเด็นกันไปแยะ สอนให้คน
ั
มาให้ทาน สอนให้คนมารักษาศีล สอนให้คนมาภาวนา หาว่า
เอาสวรรค์มาขาย มันไม่รู้จะพูดอย่างไง


อย่างง้ เราควรจะเกลียดหรือควรจะสงสาร (สงสาร) เออ!
ี
สาธุ น่คือใจพระ (สาธุ) เออ! อย่าไปเกลียดคนท่น่าสงสาร ใช่ไหม
ี
ี
เล่า? ก็เขาเช่อโลกน้โลกหน้า คนท่มีทิฐิอย่างง้มีความเห็นอย่างง ้ ี
ื
ี
ี
ี
พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้แล้ว ทุคติปรายะโน มีทุคติเป็นท่ไป
ี
ในเบ้องหน้า ไม่ได้ไปสวรรค์อย่างพวกเราหรอก ฮิ..ฮิ... ข่ม
ื
ี
เสียเลย ข่มหรือเปล่าน่? เราไม่ได้ข่มหรอก เราพูดตามแนวทาง

เรื่องที่พระพุทธเจ้ำสอนมำกที่สุด



�
จะพูดอนุปุพพีกถาให้ฟัง อนุปุพพีกถาก็คือธรรมะ คาสอน
๕ เร่องท่พระพุทธเจ้าจะสอน ในพระสูตรท้งหมด จะสอน ๕
ั
ื
ี
เร่องนี้เท่าน้นแหละ อัน ๕ เร่องน้สอนเพ่ออะไร? ก็เพ่อจะบ่ม
ื
ี
ื
ื
ั
ื
เพาะอุปนิสัยของเราให้มันแก่กล้าข้นทีละน้อยๆ มันเหมือนกับ
ึ
ว่าเล้ยงบัว ในทางศาสนาของเรา ท่านเปรียบบุคคลไว้ ๔ จาพวก
�
ี
เหมือนกับบัว ๔ เหล่า อันนี้เรารู้กัน
�
้
ี
ี
บัว ๔ เหล่า ประเภทท่ ๑ ก็คือบัวท่พ้นนา พอดวงอาทิตย์
�
ึ
้
ี
ข้นมันก็สว่าง คนท่เปรียบเหมือนกับบัวท่พ้นนา พระพุทธเจ้า
ี
ท่านเรียกว่า อุคติตัญญู คือพอพูดหัวข้อธรรมะก็รู้ทันทีเลย
แล้วมันมีกี่คนล่ะ? มันไม่มี มันมีน้อย อุคติตัญญู

276
สาราสารกถา




ประเภทท่ ๒ เหมือนกับบัวท่กาลังปร่มจะพ้นนา ท่าน
ี
ี
้
�
�
ิ
เรียกว่า วิปจิตัญญู
วิปจิตัญญูน่ต้องอธิบายเอาเหตุเอาผลมาประกอบ จึง
ี
เข้าใจ เรียกว่าวิปจิตัญญู
่
ี
็
ี
ุ
ุ
ประเภทท ๓ กจะต้องเอาอปมาอปไมยมาเปรยบให้ฟัง
มันจึงจะเข้าใจ เรียกว่าเนยยะ
ี
ประเภทท่ ๔ ก็จะต้องเอานิทาน เอาชาดกมาเล่าให้ฟัง
�
ให้จาธรรมะไว้ในรูปของนิทาน ในรูปของชาดก เรียกว่าปทะปรมะ
น่คน ๔ จาพวก แยกแยะให้เห็น พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า
�
ี
ประเภทท่ ๑ เหมือนบัวพ้นนา พอต้องแสงอาทิตย์ก็บาน
้
ี
�
ทันที
้
�
ี
้
ประเภทท ๒ พร่งนจะพ้นนา ใช่ไหม? ค่อยๆ อธบาย
ิ
่
ุ
ี
�
้
เหตุอธิบายผลไป พอเข้าใจเหตุผล ก็เหมือนกับพ้นนา ก็บานทันท ี
ี
ประเภทท่ ๓ ยังอยู่ใต้นา ต้องวันมะรืนจึงจะโผล่พ้นน�า
้
�
้
ี
พวกน้จะอธิบายธรรมะให้เข้าใจ ต้องหาอุปมาอุปไมยเอามา
ิ
ั
เปรียบเทียบกัน ต้องเปรียบเทียบอย่างน้น เอาส่งของ ๒ อย่าง
มาเปรียบเทียบกัน จึงจะเข้าใจ เช่น เราจะพูดว่า ให้ทานเป็น
ของดี ใช่ไหม?
ี
ี
เออ! คนท่เป็นอุคติตัญญู พอบอกว่าให้ทานน่มันดี พูด
ี
เท่าน้เข้าใจเลย พวกเราเข้าใจไหม? (เข้าใจครับ) เออ! เข้าใจ

277
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




แต่บางคนไม่เข้าใจ ให้ทานเป็นของดี แล้วย้อนพระเอาอีก

ก็ท่านได้ท่านก็ว่าดีซิ! ฮิ...ฮิ... อ้าว...แล้วพระตอบอย่างไงล่ะ?

ั
ั
ก็ท่านได้ท่านก็ว่าดีซิ! โฮ้.. ใช่ไหม? มันไม่ใช่อย่างง้น โยมน่ง
ก่อนใจเย็นๆ...

ให้ทานน่ะมันดี ๒ อย่างน้ ใช่ไหม? เพราะมันทาให้ใจเรา
ี
�
ี
ี
ก็เบิกบาน แล้วถามว่า ในโลกน้ มันมีใครท่ไม่ชอบให้ทานบ้าง
ไม่ชอบให้บ้าง ไม่มีหรอก! มีไหม? คนท่ไม่ชอบให้ มีไหม? (มีครับ)
ี
ไม่มีหรอก!




อนุปุพพีกถำ เริ่มที่ทำน


สรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ชอบให้ทั้งนั้น ใช่ไหม?


คนสัตว์และพฤกษา ทั้งผักหญ้าทั่วดินแดน
เทพไท้ในเมืองแมน ต่างชอบใจผู้ให้ทาน

ต้นไม้เราให้น�้า ย่อมงอกงามตลอดกาล

เติบโตแต่กิ่งก้าน บอกอาการว่าชอบใจ

ไม้มันชอบใจไหม? เราเอาปุ๋ยไปใส่ เอานาไปรดน่ ชอบใจ
�
้
ี
ไหม? (ชอบครับ) มันแสดงอาการย้มแย้มให้เราเห็นไหม?
ิ
ต้นไม้มันยังย้มได้ ให้มันน่ะ แล้วมันดีไหมเล่า? (ดีครับ) เห็น
ิ
ยังล่ะว่าให้ทานดี เออ! อธิบายแล้ว ดีจริงๆ สิงสาราสัตว์มัน

ี
ั
ื
ชอบท้งนั้น เสือมันก็เช่อง ไปดูท่สามพรานน่ะ พรุ่งน้ไปน่ะไปดู
ี

278
สาราสารกถา




ี
ไปฟาร์มจระเข้สามพรานน่ะ เสือมันเล่นกับคนเหมือนแมว ท่มัน
ั
ี
เปล่ยนนิสัยไปอย่างง้น เพราะอะไร? ก็เพราะเราไปให้ทานมัน
ี
ใช่เปล่า? น่อธิบายอย่างง้ โอ้ย.. ให้ทานน้มันดีจริงๆ ใช่ไหมเล่า?
ี
ี
ี
เออ! คนท่ตระหน่ก็หาว่า ให้ทานก็เปล้องอย่างน้นเปล้อง
ื
ื
ั
ี
ี
อย่างน มันก็เปล้องน่ะซิให้ทาน ไม่ให้มันจะเปล้องได้อย่างไง?
้
ื
ื
เออ! จะไม่คิดให้ใครเลย! มันไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้ว เราจะต้อง
ื
นึกว่า ความปล้มใจของเรา ความมีชีวิตอยู่ของพวกเราแต่ละคน
ี
ทุกวันๆ น้ มันเกิดจากเงินท่เราใช้ไปแล้ว ชีวิตท่เราอยู่ตรงน ี ้
ี
ี
ื
ื
มันเกิดจากเงินท่เราไปซ้อข้าวแล้วมากิน เงินซ้อข้าวกินยังอยู่
ี
ี
หรือเปล่า? (ไม่อยู่) เงินที่มันหมดไปแล้วต่างหากท่มันต่อชีวิต
ี
ี
ี
ให้เรามาอยู่ตรงน้ เงินท่อยู่ในกระเป๋าเรา ท่อยู่ในธนาคาร ถาม
ว่ามันมีประโยชน์รึเปล่า? (ไม่มี) มันยังไม่มีประโยชน์หรอก แต่
เราก็เตรียมไว้ จะไปใช้มันหมด
ไม่ใช่ว่า ให้เอามาใช้กันให้หมดน่ะ เพราะว่ามันก็ต้อง
ี
อาศัยไง เพราะชีวิตวันน้ก็ได้จากเงินท่ใช้ไปแล้ว ชีวิตพรุ่งน้ก ็
ี
ี
จะได้เอาเงินท่ยังอยู่น้ไงมาใช้ต่อ ก็เพราะชีวิตมันไม่ใช่มีวันน ้ ี
ี
ี
มันมีวันพรุ่งนี้ มีวันต่อๆ ไป
�
เพราะฉะน้น เสบียงกรังมันก็ต้องเก็บไว้เท่าท่จาเป็น
ั
ี
ั
ื
จะไปเก็บไว้มากหม่นล้านแสนล้าน มันก็เศษกระดาษท้งน้น
ั
อย่าไปเก็บกัน มาท�าบุญกันให้หมดเถิด (สาธุ) เออ! อย่าหาว่า
หลอกรึนี่? หลอกไหม? (ไม่หลอก)

279
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ก็มันเป็นเร่องจริงมันเป็นอย่างง้น ก็ท้องเรามันใหญ่แค่
ั
ื
ไหน? มีแสนล้านกินข้าวได้ร้อยกระสอบไหม? (ไม่ครับ) เออ!

ิ
ี
็
ิ
ี
มเป็นแสนล้าน กินได้เป็นกระสอบ มเข้าไปเถด กมันกนข้าว
�
�
จานเดียว ใช่ไหม? ก็คานวณท้องตัวเอง คานวณปริมาณการ
ใช้จ่ายตัวเองไม่ออก แล้วจะเรียกว่าเป็นคนมีปัญญาได้อย่างไง
ก็คานวณซิ ชีวิตน้สมมุติเราจะอยู่ร้อยปี กินเท่าไร? ใช้เท่าไร?
ี
�
ื
�
เก็บไว้รักษาเน้อรักษาตัวเท่าไร? ตายจะใช้เท่าไร? คานวณเก็บๆ
ั
�
กันๆ ไว้ นอกน้นก็ให้ทยอยทาบุญไปเร่อยๆๆๆ อย่างง้เขาว่า
ี
ื
�
เราเอาสวรรค์มาขาย ก็ให้ทาให้มันถูก ใช่ไหมเล่า? เพราะพวก
ี
ุ
ี
่
เรานกต้องนก ใช่ไหมเล่า? เราจะมความสขในโลกมนษย์นได้
้
ี
ึ
ุ
็
มันต้องมีมนุษย์สมบัติ ก็ต้องให้มันพร้อม มนุษย์สมบัติมีอะไร
บ้าง? ก็เคร่องท่จะช่วยให้ชีวิตของเรามีความสุข มีความสบาย
ื
ี
ตามควรแก่อัตภาพในชาติน้ แต่มนุษย์สมบัติมันก็คือมนุษย์
ี
ี
สมบัติ แล้วเราจะครองมันได้ก็ช่วงท่เราเป็นมนุษย์อยู่ พอเรา
ละความเป็นมนุษย์ไปแล้ว มันก็เป็นมนุษย์สมบัติของคนอ่น
ื
ต่อไป
สาหรับเราในฐานะลูกวัดพระธรรมกาย เราก็ต้องนึกถึง
�
หลักความจริงข้อนี้
มนุษย์สมบัติ ก็ไม่ยืนยง
วันหนึ่งเราคง ต้องพรากจากไป
จงมีศรัทธา อย่าชะล่าใจ

280
สาราสารกถา




เพียรสร้างบุญไว้ เป็นหลักประกัน

ถึงคราวดับจิต ชีวิตแปรผัน

ได้ขึ้นสวรรค์ เป็นเทพเทวา
เสพแต่ความสุข ทุกวันเวลา

อยู่กับชาวฟ้า สุดแสนสบาย

ถ้าท�ากรรมชั่ว ถึงคราวตัวตาย

ไปสู่อบาย ทนทุกข์ทรมาน

เราจะเอาอย่างไง? (สาธุ) ยังไม่ถึงช่วโมงเลย ดูนาฬิกา ๕๕
ั
ี
นาทีแล้ว เหลืออีก ๕ นาท จะสรปไม่ลงเสยแล้ว มันเป็นอย่างง ้ ี
ี
ุ
ก็อธิบายกันไป ให้ทานดี ใช่ไหม? (ดีครับ) คนที่เหมือนบัวพ้น
้
นา คนท่เป็นอุคติตัญญูบอกว่า ให้ทานซิดี ก็เห็นทันทีเลย ให้
ี
�
ทานมันดี คนที่เป็นวิปจิตัญญู ต้องเอาเหตุเอาผลมา ก็อธิบาย
เหตุอธิบายผลให้ฟัง เออ! ดี


ี
แต่ว่าคนท่เป็นเนยยะยังไม่เข้าใจ ท่พูดน่ยังไม่เข้าใจ เข้าใจ
ี
ี
ี
ี
ี
ไหม? พวกเราท่ฟังน่ เข้าใจไหม? พูดไป ๒ ตอนน่ (เข้าใจครับ)
็
ั
เออ! พดว่าทานน เข้าใจไหม? (เข้าใจครบ) กพดมนดจรงๆ
ี
ิ
ู
ั
่
ี
ู
ั
ั
เพราะคนสัตว์ต้นหมากรากไม้ มันชอบคนให้ทานท้งน้น เข้าใจ
ี
ไหม? (เข้าใจครับ) เออ! น่เหตุผลเราก็เข้าใจ เราเข้าใจน่ก็แสดงว่า
ี
เราเป็นบวประเภท ๑ ประเภท ๒ เออ! จะได้สาเรจในไม่ช้าน ้ ี
�
็
ั
(สาธุ) อย่างน้อยไม่เกิน ๗ ชาติ

281
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ี
เออ! ๗ ชาติเขาว่าอย่างมากน่ะ แต่ว่าของเราน่ไม่แน่ อาจ
ั
จะเลย ๗ ชาติ เพราะเรายังส่งสมบารมีกันยังไม่ครบ ใช่ไหม
เล่า? อาจจะหนักทานบารมี หนักศีลบารมี แต่บารมีอย่างอ่นๆ
ื
ี
ยังอ่อนอยู่ มันก็ต้องพยายามให้ครบไปทุกบารมี มันจะถึงท่สุด
แห่งธรรมได้


ประเภทท่ ๓ เนยยะ เนยยะก็คือต้องอุปมาอุปไมยเปรียบ
ี
เทียบกัน เอามาเปรียบมาเทียบ มันจึงจะเข้าใจว่า อ้อ! ให้ทานน ี ่
่
มันดี แล้วเราจะเปรียบเทียบกับอะไร? ก็ในโลกมันมี ๒ อยาง
เราจะรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี มันต้องมีสิ่งตรงกันข้าม ใช่ไหม?

ิ
ี
ิ
ถ้ามนมีส่งเดียว เราจะไม่รู้จักอะไรเลยในโลกน้ ส่งตรงกันข้าม
ั
กับการให้ทานคืออะไร? ส่งตรงกันข้ามกับการให้ก็คือการลัก
ิ
ขโมย ๒ อย่างนี้ อย่างไหนมันดีกว่ากัน (ให้ทานครับ)
ี
ลักขโมยจ้ปล้นดีไหม? (ไม่ดีครับ) ไม่ดีใช่ไหมเล่า? เอาง่ายๆ
ี
ไม่ต้องถึงการลักขโมยจ้ปล้นหรอก เอาแค่ให้ทานกับขอทาน
อย่างไหนมันดีกว่ากัน? (ให้ทานครับ)

�
�
โลกมันมีตาแหน่งอยู่ ๒ ตาแหน่งให้เราเลือก เราจะเลือก
็
เปนอะไร หนึ่งเปนคนใหทานกับเปนคนขอทาน (ใหทานครับ)
้
็
็
้
เออ! แล้วก็จะมาเสียดายกันอยู่อย่างไง เออ! มันต้องซ่อสัตย์
ื
คนท่ไม่ชอบให้ทานคือคนท่ไม่ซ่อสัตย์ คบไม่ได้ มีใครคบบ้าง
ื
ี
ี
ี
คนท่ไม่ให้ทาน มีใครอยากคบไหม? (ไม่อยากคบ) ไม่มีหรอก

282
สาราสารกถา




ี
ื
เพราะมันเป็นคนไม่ซ่อ ท่ไม่ซ่อตรงน้เพราะอะไร? พูดอย่าง
ี
ื
ื
ื
ง่ายๆ ก็ไม่ซ่อกับตัวเอง ตัวเองยังไม่ซ่อแล้วจะคบได้อย่างไง ก ็
ไม่ซ่อต่อตัวเองหมายความว่าอย่างไง? ก็ตัวเองชอบ แต่ว่าไม่ทา
�
ื
ชอบให้ทาน ใครมาให้ เราชอบ ใช่เปล่า? เออ! แต่ว่าเราไม่ให้
ื
ี
ใคร อย่างน้เขาเรียกว่าไม่ซ่อกับตัวเอง คบไม่ได้ ไม่ได้เร่อง ใช่ไหม?
ื
พระพุทธเจ้าท่านสอนเร่องให้ทานก่อน ค่อยๆ ขยาย
ื
อารมณ์ ขยายความรู้สึกของเราให้มันเบิกบาน ให้มนกว้าง
ั
ื
แล้วก็มีการให้ทาน ในเร่องอนุปุพพีกถาท่านสอนเร่องการให้
ื
ี
ทานเป็นอันดับแรก เพราะคนเราเกิดมาน่ ส่วนใหญ่ๆ คิดจะ
เอาเป็นอันดับแรก เอาไม่ต้องไปสอนมันเลย คิดกันเองเป็นต ุ

ั
เป็นตะ จะเอาท่าน้น จะเอาไอ้น่น จะเอาไอ้น่ อูย… สารพัด
ี
ั
สารเพ ใช่ไหม? แล้วเอามาก็กินไม่ได้ ใช้ไม่ได้ มันก็ยังเอามาอย ู่
ี
ั
น่นแหละ โลกมนุษย์เราเป็นอย่างน้ พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้
ทานเป็นอันดับแรก และทานบารมีก็เป็นบารมีอันดับแรกด้วย
ที่พระพุทธเจ้าสอน




อนุปุพพีกถำ ข้อที่ ๒ เรื่องศีล



ื
ต่อเร่องให้ทานแล้ว ก็ต่อเร่องรักษาศีล แล้วต่อด้วยเร่อง
ื
ื
สวรรค์ ใช่ไหม? ในอนุปุพพีกถา ท่านจะสอนตามล�าดับกัน
๑. สอนเรื่องให้ทาน

283
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




๒. สอนเร่องรักษาศีลห้า อย่างหมู่บ้านศีลห้าท่หลวงพ่อ
ื
ี
สมเด็จเรากาลังรณรงค์อยู่น่ มันก็เป็นหน่งในห้าของอนุปุพพีกถา
ี
�
ึ
ก็ไปสอน ใช่ไหม?
ื
่
๓. สอนเรองสวรรค์ มันกไม่มใครสอนเรองสวรรค์ เรอง
่
ี
็
ื
่
ื
ี
ี
�
สวรรค์เด๋ยวน้คนไม่กล้าสอนกันเลย รับรองได้ว่ามีสานักเดียวที่
ื
ื
�
ี
กล้าสอนเร่องสวรรค์ ก็คือสานักวัดพระธรรมกายน่ (สาธุ) คนอ่น
ไม่กล้าสอน เพราะพวกน้นมันคอยดัก เอาสวรรค์มาหลอก เอา
ั
สวรรค์มาล่อ มันว่าจนพระท่วไปอายหมด ไม่อยากจะสอนเร่อง
ั
ื
สวรรค์เลย ใช่ไหม? เคยได้ยินพระเทศน์เร่องสวรรค์เหมือนวัด
ื
พระธรรมกายเราไหม? ถ้าพูดเร่องสวรรค์มากไป เขาก็เลยว่า
ื
่
เอาสวรรค์มาขายไง? ก็ท่วๆ ไปเขาไม่พูดกัน ใชเปลา? กสวรรค ์
่
็
ั
มันมี พระพุทธเจ้าท่านก็สอน ในอนุปุพพีกถาก็สอนเรื่องสวรรค์
ั
ั
ี
ี
ุ
่
ึ
ั
ี
ั
็
ไว้ มนดไม่ดกว่ากนไป มนยงพอใจอย่ มนยงไม่ถงทสดธรรม
ั
ู
ั
้
ี
มันก็เอามนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ ก็วนเวียนกันอยู่ตรงน
็
อย่างทครไม่ใหญ่ท่านสอนน่ะ ใช่ไหม? เกดชาตใดภพใด กให้
ิ
ู
ิ
ี
่
เพียบพร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติไว้ก่อน ก็ใช้มนุษย์
ั
สมบัติสวรรค์สมบัติน่นแหละสร้างบารมี บ่มบารมีไป แล้ววัน
หน่งมันก็ถึงท่สุดแห่งธรรม ก็ไม่ต้องไปพูดกันแล้วเร่องมนุษย์
ึ
ื
ี
สมบัติ สวรรค์สมบัติ ใช่ไหม?

284
สาราสารกถา




สวรรค์ในพระพุทธศำสนำ



ี
ั
ั
็
่
้
ั
้
ุ
่
กมนยงถึงทสดแหงธรรม แล้วจะไม่ใหสรางทาน ไม่รกษา
�
ศีล มันจะเป็นไปได้อย่างไง คาสอนของพระพุทธเจ้าก็หมดนะซ ิ
ี
เอ้า! จะพาไปเท่ยวสวรรค์ ไปกันไหม? (ไปครับ) เออ! ไปแล้วจะ
เห็นสวรรค์ไรๆ เลยน่ะ
ทานศีลมีผลเลิศ ก่อให้เกิดโลกสวรรค์
มันเกิดจากทาน เกิดจากศีล เกิดจากภาวนา ใช่ไหม? แต่
ส่วนใหญ่ก็เกิดจากทานจากศีล ภาวนามันไปเลยสวรรค์ มันไป

ชั้นพรหมโน้น ภาวนา

ี
ั
เฉพาะระดับสวรรค์ ๖ ช้นน้ ระดับทานระดับศีล ต้องใส่
ท�านองไหม?

ทานศีลมีผลเลิศ ก่อให้เกิดโลกสวรรค์

สูงต�่าแตกต่างกัน ถึงหกชั้นเทพธานี

พิภพของชาวฟ้า ทั้งเทวาและเทวี
เรียกแดนสุขาวดี สมบัติมีบริบูรณ์

สีแสงใสผุดผ่อง แสงแก้วส่องแทนแสงสูรย์

โอภาสเรืองจ�ารูญ แสงละมุนละไมตา
ไม่หนาวและไม่ร้อน ลมโชยอ่อนเย็นกายา

หอมกลิ่นทิพย์มณฑา ชื่นนาสาตลอดปี

(สาธุ)

285
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




อบอวลหอมทวนลม เทพเที่ยวชมสมฤดี

ยิ่งชมยิ่งเปรมปรีย์ ทุกทิศมีให้ชื่นชม
นานาสุทธาโภชน์ ล้วนเอมโอชรสกล่อมกลม

เพียงนึกก็ได้สม อิ่มอารมณ์ทุกเวลา

วิมานที่สถิต งามวิจิตรตระการตา
สีทองผ่องนภา เรียกกันว่าวิมานทอง

สีเงินวิมานเงิน พาเพลิดเพลินยามเที่ยวมอง

สีขาวนวลผุดผ่อง ไม่เป็นรองวิมานใด
วิมานแก้วแลแพรแพร้ว แสงแวววาวสุกสดใส

หลากสีผ่องอ�าไพ งามวิไลลออตา ฯ

(สาธุ)


เห็นสวรรค์ไรๆ ไหม? เห็นไหม? (เห็นครับ) น่าไปไหม
เล่า? (น่าไปครับ) เออ! เคล็ดต่างๆ น่ ครูไม่ใหญ่ท่เคยมาเล่า
ี
ี
ในโรงเรียนอนุบาลเราน่ะ มีเคล็ดอย่างงี้บ้างไหม? มีไหม? เออ!

วิมานที่สถิต งามวิจิตรตระการตา


โอ้ย... มันสวย บอกไม่ถูก โอ้โฮ...ไม่เคยเห็นเลย (สาธุ)

ื
ั
เร่องมันเป็นอย่างง้น เออ! มันมีเทพบุตรเทพธิดากัน ก็ว่า
กันไป น่ว่าย่อๆ ยืนยัน มันต้องยืนยัน พวกเรา ก็เพราะทุกศาสนา
ี
ั
มันมีท้งหมดแหละ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม
่
มันก็มี แต่ศาสนาพุทธจะไปสวรรค์ได้ ไม่ใช่ไปฆาคน ใชเปลา?
่
่
ื
่
่
่
ั
่
ั
่
ั
ื
ั
็
้
(ใชครบ) เออ! เขาจะเชอกนอยางงนกเชอกนของเขาไป แตวา
่

286
สาราสารกถา




มันตรงกันข้ามกัน ศาสนาพุทธบอกว่า ถ้าขืนฆ่าเขามากๆ ม ี

็
ื
่
ี
็
้
็
้
ื
่
ุ
อยางเดยวกคอไปนรก เรากเชอพระพทธเจา เรากใหทาน เรา
ก็รักษาศีล เราก็สวดมนต์ เราก็เจริญภาวนากันไป
ตอบโจทย์เรื่องเอำสวรรค์มำขำย
น่ก็เป็นการเรียกว่าตอบโจทย์ ตอบโจทย์ได้ไหมท่พูดมาน?
ี
่
ี
ี
พวกเราไปตอบโจทย์กันได้ไหม? (ตอบได้ครับ) เออ! เอาไปตอบได้
ท่เขาว่าเอาสวรรค์มาขาย ไม่ใช่หรอก เอาสวรรค์มาให้โยมดูให้
ี
โยมเห็นกัน แล้วโยมอยากจะไปสวรรค์ โยมจะทาอย่างไงกันล่ะ
�
ก็ให้ทาน พระพุทธเจ้าท่านบอก ไม่ใช่ว่าหลวงพ่อธัมมชะโยบอก
หลวงพ่อธัมมชะโยเอามาจากไหนล่ะ ว่าให้ทานแล้วไปสวรรค์

พระพุทธเจ้าท่านบอก แล้วก็บอกอย่างบอกไว้ต้งแต่แรกว่า คน
ั
ี
ตระหน่ไปสวรรค์ไม่ได้ คนตระหน่คือคนอย่างไง? คนตระหน ี ่
ี
ี
ี
คือคนประเภทไหน? คนท่ไม่ให้ทาน ใช่ไหม? เออ! คนท่ไม่ให้
ทานไปสวรรค์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านก็บอกไว้อย่างงี้

เอาล่ะ เวลาหมดแล้ว เกินไป ๘ นาที ก็ยังมีประเด็นท่จะ
ี
พูดจะคุยเยอะ แต่ว่าเวลามันหมด เอาไว้ปีหน้าก็แล้วกัน (สาธุ)

ี
ปีหน้าก็จะมีประเด็นอะไรใหม่ๆ มาพูดมาคุยให้ฟัง เอาวันน้ก ็
ี
เอากันแค่น้ เอาแค่ไปสวรรค์กันก็พอน่ะ (สาธุ) จะไปพรหมโลก
ไปนิพพาน ก็ต้องสร้างบารมีกันไปเร่อยๆ แทนท่จะให้เพียบ
ี
ื
พร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติไปพลางๆ ก่อน ก็ดีแล้ว

287
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ก็ต้องขออนุโมทนาสาธุ กับหลวงพ่อธัมมชะโย พระเดช

ี
พระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมหามุนี ท่พาลูกพาหลานเข้ามา
�
ี
ดาเนินชีวิตในทางท่พระพุทธเจ้าสอนให้เดิน แล้วก็ว่านอนสอน
ง่ายกัน

ด้วยอานุภาพของคุณพระพุทธเจ้า ท่หลวงพ่อธัมมชะโย
ี
นามาใช้ เอาอานุภาพของพระพุทธเจ้ามาใช้ เอาคุณพระพุทธเจ้า
�
้
มาใช้ จึงทาให้พวกเราเป็นอย่างท่เป็นทุกวันน เราจะไปไหนมาไหน
ี
�
ี
ั
ไป เราแต่งตัวกันสะอาดสะอ้าน เราน่งกันเรียบร้อย เราสงบกาย
�
ี
สงบวาจา สงบใจ เวลาทาบุญทากุศลน่ใครสอนเรา? (หลวงพ่อ)
�
�
หลวงพ่อสอน ทาไมท่านสอนได้อย่างง้ ถามว่าคนอ่นสอนได้อย่างง ้ ี
ื
ี
ั
ไหม? ถ้าเร่องน้แล้ว มองทอดตาไปท้งแผ่นดินเลย น่ต้องชมอีกนิด
ื
ี
ี
�
ไม่มีใครสอนได้อย่างง้หรอก (สาธุ) เวลาไปทากิจกรรมให้แต่งตัว
ี
ี
้
ี
ี
้
็
่
้
้
ใหสะอาดๆ น แลวใหนงกนใหเงยบรอยเปนระเบยบและใหเงยบ
้
ี
่
ั
้
ั
ให้สงบ ท่านเอาคุณพระข้อไหนมาสอน? เอาคุณพระพุทธเจ้า
ี
ี
พระพุทธเจ้าท่านสอนคนแบบนแหละ แบบท่หลวงพ่อธัมมชะโย
้
สอนนี่แหละ (สาธุ) ที่หลวงพ่อเราสอนนี่
คนติ กับคนสรรเสริญ
�
�
จาได้ไหม? พวกมหาเปรียญจาได้ พวกเรียนพุทธประวัต ิ
จ�าได้ เคยไปอินเดียล่ะก็รู้เลย

288
สาราสารกถา




ึ
วันหน่ง พระพุทธเจ้าพาพระ ๕๐๐ จากเมืองนาลันทา
จะมาราชคฤห์ พระ ๕๐๐ รูปก็เหมือนกับพระธรรมยาตรา

ี
ี
ี
ของเรา ๑,๓๐๐ รูปน่ เดินแบบน้เลย เดินแบบน้ เหมือนกับ
ี
หลวงพ่อเราน้ไปเห็นภาพพระท่มาจากเมืองนาลันทาจะมากรุง
ี
ราชคฤห์ ๕๐๐ รูป เดินกันน่ง ไม่ตกแถวเลย แล้วก็ตามหลัง
ิ
พระพุทธเจ้ามา ก็มีสุปปิยะปริพาชก นักบวชอีกศาสนาหนึ่ง

ั
น่นก็ดังเหมือนกัน ดังเหมือนกะใครบางรูปในยุคปัจจุบัน
นี้แหละ ดังเหมือนกัน ก็พาลูกน้องมา ลูกน้องก็เดินกันอีเหละ

เขะขะ เหมือนกับพวกอพยพ หอบหมอนหอบเส่อเหมือนกับ
ื
ั
ั
พวกหนีไอซิสมาน่นแหละ มาแบบน้นน่ะ ใช่ไหม? หนีจากซีเรีย
จะเข้าไปประเทศโน้นประเทศน้ สุปปิยะปริพาชกก็พาลูกน้อง
ี
ี
ื
้
๕๐๐ คน ก็เดนมาเหมอนคนลภยการเมือง เหนพระพุทธเจ้า
ิ
็
ั
เดินเรียบร้อย สุปปิยะปริพาชกอิจฉา ว่า สร้างภาพ มันไม่ได้
ดีจริงหรอก มันสู้กูไม่ได้ มันธรรมชาติโว้ย
ก็บอกให้ลูกน้องฟัง ลูกน้องสุปปิยะปริพาชกฟังก็เช่อ แต่ว่า
ื
่
ี
ื
่
ั
คนหน่งมนไม่เชอ ไมเชอ ช่อพรหมทัตตะมาณพ อย่างทเราไป
ึ
่
ื
ื
่
สวดในบทแจง จาได้ไหมเล่า? พุทฺธสฺส อวณฺณ ภาสติ สุปปิยะ-
�
�
ปริพาชกด่าพระพุทธเจ้า ด่าสาวกพระพุทธเจ้าว่า ดีแต่สร้าง
ี
ภาพ มันไม่ได้ดีจริงๆ อะไรหรอก มันไม่ได้เป็นธรรมชาติ กูน่ซ ิ
จึงเป็นธรรมชาติ แต่ลูกน้องก็เชื่อ

289
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ื
ั
แต่ว่าพรหมทัตตะมาณพมันไม่เช่อ เขาเรียบร้อยแบบน้น
้
จะไปเทยวต จะไปเทยวตงเขาไดอยางไง? บาปกรรม! “ไมเชอ”
่
่
ิ
ี
ิ
่
ี
่
ื
่
ี
ผลท่สุดก็ไปดู เป็นเช่นนั้นจริงๆ พระพุทธเจ้า และสาวก ๕๐๐
ู
รป ไปอยู่ท่ไหนไม่มีเสยงเลยเหมือนอย่างง ธัมมชะโยฝึกพวก
้
ี
ี
ี
ี
เราน่ เหมือนพระพุทธเจ้าฝึกพระสาวก ไม่ได้ยกมากนะ จะหา
ว่ายกมากประจบ ใช่ไหม? คือยกตัวอย่างให้เห็นว่า มันมีเรื่อง
มีราว มันมีประเด็น อันนี้เราไม่ต้องไปออกหน้าอะไรมาก
ู
ี
่
์
้
ื
้
ื
คอยกตวอยางใหพวกเราจะไดปลมใจวา เรามครบาอาจารยที่
ั
้
่
�
ดีท่สุด ควรท่จะเช่อจะฟังแล้ว (สาธุ) เพราะทาให้เราสามารถเอา
ี
ื
ี
คุณพระพุทธเจ้ามาไว้กับตัวเราได้ เรารู้ไหมว่าคุณพระพุทธเจ้า
ี
ปัจจุบันน้อยู่กับตัวเรา รู้ไหม? เอ๊ะ! คุณข้อไหนว่ะ? รู้แต่ไม่
่
แนใจ เออ! นจะยาวไปอกนด เปนเรองประเดนใหมได เอามน
็
่
ี
้
่
่
ี
็
ื
ั
ิ
ท้งคืนเลยไหม? มหาสุราช ถ้าประเด็นใหม่ไปคืนหน่งได้เลยนะ
ึ
ั
เพราะคุณพระพุทธเจ้ามันเยอะ
เอำพระพุทธคุณมำไว้กับตัว
ี
ก็คุณของพระพุทธเจ้ามี ๙ ประการ วันน้ต้งใจมาท่จะ
ี
ั
เอาคุณพระพุทธเจ้ามาช่วยกันระลึก ช่วยกันสวด ช่วยกันเสก
คุณพระพุทธเจ้า ๙ ประการ ท่คุณครูไม่ใหญ่เอามาใส่
ี
ี
ตัวเรา ใส่ใจเรา เออ! ท่านไม่ได้ช้ตรงๆ แต่ว่าคุณพระมาอยู่กับ
ตัวเราแล้ว

290
สาราสารกถา




ี
คุณพระพุทธเจ้าข้อแรกคืออะไร? ในบทพุทธคุณท่เรา
ี
สวดกันน่ะ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง... อะระหังน่คือคุณ
ี
ข้อแรกของพระพุทธเจ้า คุณพระพุทธเจ้าปัจจุบันน้อยู่ท่ตัวเรา
ี
พวกเรามีคุณข้อนี้กันไหม?

อะระหง หมายถงอะไร? เอาในทางความหมายทางกาย-
ึ
ั
ภาพ หมายถึงความสะอาด หมายถึงความบริสุทธ์ ความสะอาด
ิ
ความบริสุทธ์ เป็นคุณของพระพุทธเจ้าเป็นข้อแรก หลวงพ่อ
ิ
ิ
ฝึกให้เราเป็นคนสะอาด ฝึกให้เราเป็นคนบริสุทธ์ ฝึกให้เรารัก
ความสะอาด ฝึกให้เรารักความบริสุทธ์ เราก็เลยเป็นคนสะอาด
ิ
เป็นคนบริสุทธิ์

คนสะอาดคนบริสุทธิ์ ก็คือคนที่มีพระอะระหังประจ�าตัว

อย่ ยงไม่ได้เป็นหรอก แต่ว่ามนมคณของพระอะระหงประจา
ุ
ั
ั
�
ี
ั
ู
ตัวอยู่ แล้วดีไหมล่ะ? (ดีครับ) เออ! มันเกิดข้นเพราะอะไร?
ึ
ก็เพราะคุณครูไม่ใหญ่ฝึกเราสอนเรา ให้เราอัญเชิญคุณพระ
ี
อะระหังมาไว้ในตัวเรา โดยท่บางทีเราก็ไม่รู้หรอก สัมมาอะระหัง
้
ิ
่
่
่
้
ั
อะไร กเอามาไวในตวเรา เรายงไมเกดธรรมกาย แตวาดวยบารม ี
็
ั
�
มันก็เกิด ทาให้เราทุกคนรักความสะอาด เห็นขยะก็เป็นเพชร
เป็นพลอยช่วยกันเก็บ ใช่ไหมเล่า? สถานท่ท่สะอาดก็เหมือน
ี
ี
ั
ี
กับว่ามีพระอรหันต์ไปประจาอยู่สถานท่น้น แล้วโลกเราถ้าหาก
�
มีพระอะระหังประจาอยู่ทุกท่ ตามท่หลวงพ่อเราสอน ถามซ ิ
ี
�
ี
ั
ั
โลกเราจะเป็นอย่างไง ท้งโลกมันก็จะสะอาด ท้งโลกมันก็จะ
สงบ เพราะฉะนั้น ท่านจึงมีแนวทางว่าฟื้นฟูศีลธรรมโลก

291
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ฟื้นฟูศีลธรรมโลก ศีลธรรมมันคืออะไร? ก็คือคุณพระ

ี
ั
พุทธเจ้าข้อแรกน่นแหละท่เราเรียกว่าศีลธรรม ก็คืออะระหัง
คนมีศีลก็คือมีพระมีคุณของพระ ใช่ไหมเล่า? มีความสะอาด
มีธรรมะก็คือมีความสะอาดในกาย ในใจทางกายภาพ ทั้งด้าน

จิตใจ แล้วก็ไปศึกษาคุณพระพุทธเจ้าดู เราก็จะเห็นเลย คนท ี ่
�
มีคุณพระพุทธเจ้าประจาตัวประจาใจ จะมีความสุขสวัสดีทุก
�
ี
่
้
่
ุ
้
ี
่
่
ี
ี
่
ภพทกชาต เอาละ! แคนพอแน เทานนะ (สาธ) รายไปเสยอก
ิ
ุ
๑๐ นาทีเลย เอาล่ะ! ก็ขอจบเพียงเท่านี้
ท้ายท่สุดน้ ก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย บารมีธรรม
ี
ี
ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากนา บารมีธรรมท่ท่านเจ้าคุณ
้
�
ี
พระเทพญาณมหามุนี คุณครูไม่ใหญ่ หลวงพ่อธัมมชะโย ของ
พวกเรา ได้บาเพ็ญมา จงมารวมกันเป็นพลวปัจจัย สนับสนุน
�
ั
ส่งเสริมให้พวกเราทุกท่านทุกคน ท้งฝ่ายพระฝ่ายญาติฝ่ายโยม
�
�
�
มีความเกษม มีความสวัสดี มีกาลังกาย มีกาลังใจ มีกาลังสต ิ
ื
�
ี
ปัญญา มีกาลังทรัพย์มาก เพ่อท่จะสร้างบุญบารมีทุกอย่าง ให้
ิ
�
สาเร็จลุล่วงไปด้วยด ทุกส่ง ทุกประการ ทุกท่าน ทุกคน เทอญฯ
ี
(สาธุ)

ไม่ช่วยเหลือใคร ไฉนจะได้ดี

โอวำทพระธรรมพุทธิมงคล


ที่แอลเอ








ขอโอกาส พระเถรานุเถระทุกรูป ขอศุภมงคลความด ี

ั
ั
้
ั
้
ุ
ิ
ู
ู
ี
ิ
ั
่
ความงามทงหลายทงปวง จงบงเกดมแกกลยาณมตรทกรป ลก
หลวงพ่อธัมมชะโยทุกคน (สาธุ)
ดีใจมาก ที่ได้มาพบปะผู้มีบุญทุกคน ในวันนี้
มีเร่องจะพูดให้เราได้ปล้มใจ และได้รู้จักว่าตนของบุญ
ื
ื
จริงๆ ท่มันมีติดตัวเรามาทุกคน บางทีเราไม่ได้คิด ไม่ได้นึก
ี
นึกว่าบุญน้ไม่ได้ช่วยอะไรเราเท่าไร อันเป็นความนึกท่ผิด และ
ี
ี
ไม่ได้เป็นความนึกคิดของลูกหลวงพ่อธัมมชะโย
ลูกหลวงพ่อพระธัมมชะโยจะต้องมีความเช่อม่นเต็มร้อย
ั
ื
ในเร่องการทาบุญ ต้องเช่อให้เต็มร้อย เตมไหม? (เต็ม) ต้อง
ื
�
ื
็
* โอวาทพระธรรมพุทธิมงคล (หลวงพ่อสอ้ง สิรินนฺโท) เจ้าอาวาส
ิ
ี
วัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี และท่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุร ี
ั
ั
บรรยาย ณ วดธรรมกายแอลเอ (LA) มลรฐแคลิฟอร์เนย ช่วงธรรมะทวร์
ั
ี
สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันท่ ๓๑ ตุลาคม - ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ี

294
สาราสารกถา




�
ู
็
ื
่
เชอให้เตมร้อย ถ้าไม่เต็มร้อยอย่าทา บุญมันจะสญเปล่า มันจะ
แคระ ไม่โต
ี
วิธีท่เราจะเช่อให้เต็มร้อย เราจะต้องเห็นบุญท่ตัวเองก่อน
ื
ี
ว่าพวกเราทุกคนท่เกิดมาทุกคนและมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันน้ บุญ
ี
ี
ตามมาปกป้องคุ้มครองเราตั้งแต่วันแรกที่เรามาเกิด เห็นไหม?
ว่าบุญตามมาปกป้องคุ้มครองเรามา เห็นเปล่า? ต้องเห็นให้ชัด
แล้วเราจะไม่เบื่อบุญ

ื
ไม่เบ่อบุญ ใจจะเต็มไปด้วยบุญ ใจเต็มไปด้วยบุญ ใจก็จะ
เต็มไปด้วยความสุขเหมือนกัน ต้องเห็นให้ชัด ว่าพวกเราทุกคน

ท่เกิดมามีชีวิตอยู่ได้ถึงทุกวันน้ เรามีบุญปกป้องคุ้มครองเรามา
ี
ี
ตั้งแต่วันแรกที่เรามาเกิด

ี
ึ
เราต้องยอมรับความจริงอย่างหน่งว่า วันท่เรามาเกิดใน
ท้องแม่เรา มันมีความตายติดมาด้วย ติดมาไหม? ในชีวิตเรา
ทุกคน แล้วทาไมเราไม่ตายกันล่ะ ใช่ไหม? อยู่ในท้องแม่ ลอง
�
นกภาพตัวเองว่ามันน่ารอดไหม? ไม่นารอดหรอก แตเราก็รอด
่
่
ึ
และอยู่มาได้จนทุกวันน้ เพราะมีบุญตามมาปกป้องคุ้มครอง
ี
เรามา ทุกคนล่ะ ถ้าไม่มีบุญ อยู่ไม่ได้ถึงทุกวันน้หรอก ตาย
ี
ตั้งแต่วันแรกที่มาเกิด

เราจะเห็นได้ว่าบุญตามมาปกป้องคุ้มครองเราให้ชัดเจน

ื
ก็ต้องรู้เร่องตายก่อน เราต้องรู้เร่องตายของคนท่เกิดมาบนโลก
ี
ื
ใบนี้ มันมีเรื่องที่ท�าให้ตายอยู่ ๔ เรื่อง

295
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ื
นอกจาก ๔ เร่องน้จะไม่มีใครตายเลย เร่องท่เราต้องตาย
ี
ื
ี
๔ เรื่อง
ิ
๑. อดตาย อดตายไหม? หิวแล้วไม่มีกน อดตายกัน
ึ
ไหม? ต้งแต่เช้า ไม่ได้กิน มันก็จะตายแล้ว ต่นข้นมา ใช่เปล่า?
ั
ื
ตนขนมามนกหวแล้ว หวทุกวนไหม? นเหนไหมเล่า? หนง
ึ
ั
็
ิ
ิ
ั
่
ื
ึ
็
่
ี
่
้
อดตาย
็
ี
๒. เจบตาย เกิดมาตัวเราน้ โรคมันติดตัวเรามาไม่รู้คน
ละเท่าไร ใช่ไหม? แต่มนแสดงออกไม่ได้ เพราะเรามบญ
ั
ี
ุ
คุ้มครองอยู่ โรคภัยไข้เจ็บมันไม่สามารถแสดงตัวตน ท�าให้เรา
ต้องทุกข์ยากลาบากทรมานได้ ถึงเป็นบ้างก็สามารถรักษาหาย
�
ใช่ไหม? เร่องเจ็บตาย เราไม่เจ็บตายกัน ใช่ไหม? เราเคยเจ็บ
ื
กันมา แต่ไม่ตาย เพราะอะไร? ก็เพราะบุญรักษา
ี
๓. อุบัติเหตุตาย เกิดมาบนโลกใบน้ มีตรงไหนบ้างท่มัน
ี
ี
ิ
ไม่มีอุบัติเหตุ มีไหม? ทุกตารางน้วบนโลกน้ มันมีอุบัติเหต ุ
ั
ี
ท้งน้น ในหอประชุมเราน้ มีไหม? น่งๆ อยู่น้ คุยกันเพลินๆ
ั
ี
ั
่
ั
ิ
่
ิ
่
้
์
แผนดนไหวสก ๗ รกเตอร เป็นไง? ใครจะรอดบางละ ใชไหม?
�
�
้
เพราะเรามีบุญ ดินนาลมไฟยอมให้เราอยู่ ไม่มาทาร้ายให้เรา
ต้องอุบัติเหตุอุบัติภัยตาย เห็นไหม?
อดตาย เจ็บตาย อุบัติเหตุตาย เราไม่มี
แต่ความตายทเราไม่สามารถหลกหนได้ มอย่อย่างเดยว
ี
ี
ี
ี
ี
่
ู
คือ

296
สาราสารกถา




๔. แก่ตาย อันนี้ทุกคนเกิดมาแล้วต้องแก่ตายกันทั้งนั้น

บุญจะตามมาปกป้องคุ้มครองเรา ใช่ไหม? บุญคุ้มครอง

เราไม่ให้อดตาย คุ้มครองเราไม่ให้เจ็บตาย คุ้มครองเราไม่ให้

อุบัติเหตุตาย เรามีบุญมาพอ อยู่จนแก่ตายทุกคนล่ะ



ธรรมบำลชำดก


มีนิทานชาดก เราอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมา เรียกว่าธรรม-

ึ
ี
บาลชาดก มีหมู่บ้านหมู่หน่ง เป็นหมู่บ้านท่อยู่ในศีลในธรรม
ตลอดทุกคนท้งเด็กและปู่ย่าตายาย ไม่มีใครล่วงละเมิดศีลธรรม
ั
ั
ี
ู
่
่
้
้
่
เลย อยในศลในธรรมโดยตลอด ปรากฏวาคนในหมบานนน อาย ุ
ู
ไม่ถึงร้อยปีจะไม่มีใครตายเลยสักคนเดียว
มีตระกูลๆ หน่ง ส่งลูกไปเรียนในมหาวิทยาลัยตักสิลา
ึ
ส่งลูกไปเรียน บังเอิญว่ามันมีนิสิตของมหาวิทยาลัยตักสิลานั้น
ั
เป็นคนหนุ่มแน่นอายุ ๒๐ กว่าปี ๓๐ กว่าปีโดยประมาณน้นล่ะ
ตายและไปเผากัน เด็กคนท่ไปจากหมู่บ้านของคนอายุร้อยปี
ี
ี
นึกสงสัยแปลกใจว่า เอ๊ะ! มันตายได้อย่างไร? อายุแค่น้ เรา
เกิดมาในหมู่บ้านเรา ไม่เคยมีใครอายุน้อยกว่าร้อยปีเลยสักคน
เดียว เกิดความสงสัยก็ไปถามอาจารย์


อาจารย์บอกว่า เป็นอย่างน้กันทุกคนล่ะ มันไม่แน่ เร่อง
ื
ี
ตายมันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ว่ากันไป ใช่ไหม? ว่าไม่
แน่หรอก

297
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ุ่
“ท่หมู่บ้านผม ไม่มีใครมีอายุไม่ถงร้อยปีตายเลย” เด็กหนม
ี
ึ
มันบอก
อาจารย์ตกใจ อยากจะทดสอบว่าจริงไหม? ก็ไม่บอกให้

ั
ลูกศิษย์น้นรู้ แต่ถามว่า บ้านอยู่ไหน เมืองไหน แล้วพยายาม
ี
ี
ไปด้วยตนเองเลย ห่อกระดูกเด็กท่เผาน้นาไปด้วย จนไปเจอ
�
�
็
หม่บ้าน ไปเจอพ่อแม่ของเดกคนน้น แล้วทาท่าร้องห่มร้องไห้
ั
ู
ฟูมฟาย เสียอกเสียใจกับพ่อแม่ของเด็กที่ไปเรียนนั้น
พ่อแม่กลับหัวร่อ จะว่าอย่างไงนี่?
ี
อาจารย์ว่า “ลูกแกท่ส่งไปเรียนมันเกิดโรคปัจจุบันตาย
ทันด่วน ก็ไม่รู้จะท�าอย่างไง เผาแล้วก็เอากระดูกมาให้”


่
ื
่
่
ู
่
ี
่
ั
พอแมหวรอ บอกวา “ไปเอากระดกใครมาน เราไมเชอ”
่
่
ื
�
แล้วทาไม่ไม่เช่อล่ะ? ก็บอกว่า เพราะคนในหมู่บ้านน้ ถ้า
ี
อายุไม่ถึงร้อยปี จะไม่มีใครตายเลยสักคนเดียว
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ จึงเชื่อว่า เออ! มันเป็นได้จริงๆ
ในเด๋ยวน้ มันก็มีน่ะ มีคนเช้อชาติอะไรน่ะ? อยู่แถวเทือก
ื
ี
ี
ึ
ี
เขาหิมาลัยโน้น มีหมู่บ้านท่คนอายุยืนอยู่เมืองหน่ง อายุยืน
ี
ทุกคนเลย มีแล้วน่ะ! ใครเคยได้ยินช่อไหม? ยังมีคนท่อายุยืน
ื
แบบนี้ เออ! มันเป็นเรื่องมีจริงๆ
ี
เพราะว่ามันเป็นสิทธิท่เราเกิดมา อายุขัยของมนุษย์เราน ้ ี
ปกติก็อายุ ๑๒๐ ปี ๑๐๐ ปี ๘๐ ปีพอดีๆ ใช่ไหม?

298
สาราสารกถา




่
ถ้าตากว่า ๘๐ ปีน้ก็เรียกว่ายังไม่ถึงคราวตาย พวกเรา
ี
�
ต้องเข้าใจกันอย่างนี้ด้วย พวกเรานี้บางทีไม่เข้าใจหรอก
ื
ี
บางทีไปเย่ยมบ้านเพ่อนกัน ลูกหลานเขาตายก็ไปปลอบใจ
กันว่า “เออ! ทาใจเถอะ พ่อเอ๋ย แม่เอ๋ย มันถึงคราวตาย”
�
ั
ปลอบใจให้เขาปลงว่า ลูกมันถึงคราวตาย ไปพูดอย่างน้นได้
อย่างไร? คนมันไม่ถึงคราวตาย ต้องถึงคราวตายจึงพูดได้ คน

ท่ถึงคราวตายคือคนอยู่จนแก่จึงตาย เรียกว่าถึงคราวตาย ถ้า
ี
ตายก่อนแก่นี้ไม่ถึงคราวตายหรอก ใช่ไหมเล่า?



เงื่อนไขกำรตำย


�
ุ
ตายเพราะหมดบญ ตายเพราะความประมาท อะไรทานองน ้ ี
เรียกว่า “หมดบุญ” ก็แล้วกัน

บุญตามมาปกป้องคุ้มครองเรา เราก็ต้องย้อนไปดูว่า บุญ

อะไรท่ตามปกป้องคุ้มครองเราไม่ให้อด อ้อ! บุญให้ทาน ใช่ไหม?
ี
ิ
ิ
ู
ถ้าเราไม่ให้ทาน ทาอะไรก็ไม่ได้ ทรัพย์สนเงนทองมันมีอย่เต็ม
�
โลก มองเห็นไหมว่า เงินมันอยู่เต็มโลก โลกตรงไหนบ้างท่มัน
ี
ั
ั
ไม่มีเงิน มีไหม? ท่เราน่งน้ก็มีเงินท้งน้น แล้วทาไมเราหยิบมา
�
ี
ั
ี
เป็นของเราไม่ได้ล่ะ?
นายบิล เกตส์ (Bill Gates) ทาไมไปหยิบได้ล่ะ? ใช่เปล่า
�
ึ
มันมีบุญมากกว่าเรานี่น่ะ เพราะหยิบเงินมาได้เป็นอันดับหน่ง
ั
ื
แต่เด๋ยวน้ว่าสู้อเมซอนไม่ได้แล้ว ใช่ไหม? เร่องมันเป็นอย่างง้น
ี
ี

299
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




เราต้องนึกว่า เออ! นอกจากสติปัญญา นอกจากความ

มานะพยายามแล้ว ท่เราจะหยิบเอาเงินมาเป็นของเราได้ มัน
ี
ื
ต้องมีบุญวาสนาเป็นพ้นฐาน ถ้าไม่มีวาสนา หากันแทบตาย
มันก็ไม่ได้ ใช่ไหม? หาแทบตายจะให้มันรวย ก็ไม่รวยหรอก


แต่ว่าเราก็ต้องหา ใช่ไหม? ส่วนจะได้แค่ไหนเป็นอีกเร่อง
ื
หนึ่ง ได้มากได้น้อย

ท�าไมเราหยิบอากาศมาขายไม่ได้ล่ะ? เราก็อยู่กับอากาศ

ทุกวัน เราจะหยิบอากาศมาขายเหมือนอย่างนายบิล เกตส์

เหมือนอย่างนายสตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ไม่ได้! ดูซิ มันหยิบ

อากาศมาขายได้ หน้าตาเฉยเลย เราก็อยู่ในประเทศอเมริกา

ใช่ไหม? คนอเมริกาหัวดีๆ หยิบโน่นหยิบน่มาขายให้เราได้ เรา
ี
หยิบขายไม่ได้ มันเอาไอโฟน ๑๐ มาอีกแล้ว เราก็ต้องตามไล่ไป

ี
ื
ซ้อมันอีก ใช่ไหม? เวลาน้มันก็ออกตัวใหม่ๆ มาขายแทนตัวเก่า
ี
ื
ื
ตัวเก่าเราล้าสมัย ต้องไปซ้อตัวใหม่มันมาอีก น่เร่องมันเป็น
อย่างนี้ คนมีบุญมันเป็นอย่างนั้น เชื่อน่ะ! เออ ต้องเชื่อไว้
่
้
ั
้
ที่เราจะไดมากไดนอยในปจจุบันนี้ มันตอง หนึ่งบุญเกา
้
้
สองพยายามใหม่
ถ้ามีบุญเก่ามามาก ไม่ต้องพยายามอะไรเลย เกิดมาก็ม ี
เงินเป็นพันล้านมารออยู่แล้ว อย่างลูกนายบิล เกตส์น่ มันไม่
ี
ต้องท�าอะไร พอแว้ออกมาก็มีเงินเป็นล้านๆ แล้ว ใช่ไหม?

300
สาราสารกถา




อย่างพวกเราน่ มีบุญไม่มาก จะให้มันรามันรวย ก็ต้องม ี
ี
่
�
สติปัญญา มีมานะพยายาม ถ้าเราใช้สติปัญญา ใช้ความมานะ
ี
ั
พยายามเต็มท่แล้ว มันได้แค่พอกินพออยู่ ก็ยินดีแค่น้น แล้ว
ท�าทานกันไว้เถิด

ี
ิ
ี
เราต้องปลงไปว่า เราไม่มีบุญท่จะได้มาก เพราะว่าส่งท่เรา
ี
จะได้ๆ กันทุกวันๆ นี้ มันได้จากผลทานท่เราปลูกไว้ ต้องนึกว่า
ุ
ั
ื
ั
ี
้
ั
�
ั
เราทาบญให้ทานน มนเหมอนกบเราเอาทรพย์ เอาทรพย์ของ
เรามาปลูกเป็นต้นทานไว้ เข้าใจไหม?
ี
้
ี
ท่ทาบุญทุกอย่างน มันเหมือนกับเราปลูกต้นไม้ ใช่ไหมเล่า?
�
เราปลูกต้นมะม่วง เราใช้อะไรปลูก? เม็ดมะม่วงปลูก ใช่ไหม?
เม็ดมะม่วงเวลาเอามาปลูก ออกช่อมาก็เป็นมะม่วง ออกดอกออก
ุ
้
ชอมาเปนอะไร? เวลาทาบญเราใชอะไรทาละ? เราใชทรพยทา
�
้
�
ั
�
์
่
่
็
ี
ื
เอาทรัพย์มาปลูกเป็นต้นบุญไว้ เห็นหรือยัง? ท่ให้ๆ กันเม่อก้น ้ ี
ี
ื
ั
น่นแหละต้นบุญเราท้งน้น พระท่านก็เป็นเน้อนาบุญให้เท่าน้นเอง
ั
ั
ั
เหมือนกับเป็นไร่เรา เป็นสวนเรา พระพุทธเจ้าท่านบอกอย่างน้น
ั
บอกว่า อนุตฺตรํ ปุญญกฺเขตฺตํ โลกสฺส ไงล่ะ? น้พระเป็นสวน
ฺ
ี
ช้นดี อุดมด้วยนาด้วยปุ๋ย ปลูกไว้จะงอกงามว่าง้นเถิด เช่อกัน
ื
ั
ั
�
้
ยังล่ะ! เรื่องมันเป็นอย่างนี้
ึ
เหมือนปลูกมะม่วง เวลามันโตข้น ออกลูกมา มันออกลูก
เป็นอะไร?

301
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




เราให้ทาน เอาทรัพย์มาปลูกเป็นต้นทาน เวลาต้นทาน

มันโต มันออกลูกเป็นอะไร? เห็นไหมเล่า?

ั
พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า “ปลูกพืชเช่นไร ได้ผลเช่นน้น”
็
ั
่
ั
๊
ี
่
ู
็
้
ั
้
เขาใจยงละ? มนตรงเปะ เปนไปตามหลกทพดไดว่า เปนสัจธรรม
สากล
สัจธรรมสากล หมายความว่า เป็นความจริงท่สามารถจะ
ี
ยอมรับกันได้ทั้งโลก ไม่ว่าจะนับถืออะไร
คาสอนของพระพุทธเจ้าน้เป็นความดีสากล เป็นความจริง
�
ี
สากลทั้งนั้น
ี
�
น่หลักการทาบุญท่จะให้มันงอกงาม จะให้ต้นบุญมันเจริญ
ี
ี
มนโตไปเรอยๆ แล้วให้ผลดให้ผลมากแก่เรา ใจเราต้องมหลก
ี
ื
ั
ั
่
เขาเรียกคุณสมบัติในจิตใจของคนที่จะท�าบุญต้องให้ครบ
มันจะต้องมีคุณสมบัติ ๓ ประการ ใจเราน่ะ เวลาตรวจ
�
�
ดู เวลาจะทาบุญ มันครบไหม? ถ้าไม่ครบ อย่าไปทา ใช่ไหม?
คุณสมบัติ ๓ ประการ
๑. ตั้งใจ

๒. เต็มใจ

๓. ปลื้มใจ

302
สาราสารกถา




�
�
จาได้ไหม? ว่าไง? (ต้งใจ เต็มใจ ปล้มใจ) เออ! ต้องจา
ื
ั
�
ให้ได้ เวลาเราทาบุญน้ ใจต้องประกอบด้วย ๓ ลักษณะน้ แล้ว
ี
ี
ต้นบุญที่เราไปปลูก มันจะค่อยงอกงาม และโตขึ้นไปเรื่อยๆ
ั
ต้งใจ หมายความว่าอย่างไง? หมายความว่า เตรียมการ
ี
ี
เราจะปลูกมะม่วง ต้องเตรียมพันธุ์มะม่วง เตรียมท่ท่จะปลูก
ี
เตรียมนาท่จะรด ใช่ไหม? ไม่ง้น ต้นมะม่วงมันจะงอกข้นมาได้
ึ
�
ั
้
อย่างไง? เรื่องมันเป็นอย่างงี้ ตั้งใจคือเตรียมการ
ื
ื
ู
ี
่
ี
มมะม่วงแล้ว มีทแล้ว เต็มใจคอลงมอปลก เข้าใจไหม?
อ้าว ปลูกเสร็จแล้ว
ปลื้มใจคือรดน�้าไง เข้าใจไหมเล่า?
ทาบุญอะไรก็ตาม พยายามนึกให้มันปล้มใจทุกวัน เท่ากับ
ื
�
�
รดน้าต้นบุญทุกวัน ใช่ไหมเล่า? ทาอะไรแบบปล้มวันเดียวก ็
ื
�
�
้
ื
จบ ต้นมะม่วงมันชะลอโตเม่อไร? เอ๊ะ! เม่อไรจะรดนาให้สักท ี
ื
ใช่ไหม?
�
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่าทาบุญแล้วให้นึกถึงบ่อยๆ นึก
เรื่อยๆ ให้สะสมไปเรื่อยๆ ให้ปลื้มไปทุกวันๆ เข้าใจไหมเล่า?
ึ
ี
ี
้
เอาล่ะ พอแล้วน่ะแค่น พูดมากก็เหน่อย วันน้ไปมาวันหน่ง
ื
แล้ว
้
ต้องคิด ต้องให้เข้าใจ คือ ให้ตงใจ เต็มใจ ปลมใจ
ื
ั
้
ั
ื
ั
�
แล้วเช่อม่นให้เต็มร้อย ถ้าไม่เต็มร้อย ทาไปมันก็ได้อย่างง้นๆ

303
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




�
มันเหมือนกับว่าเราไม่ต้งใจทาอะไรมัน พอได้ผลเขาเรียกว่า
ั
กตัตตากรรม กรรมสักแต่ว่าทํา จะให้ผลก็ไม่เต็มเม็ดเต็ม
หน่วย เม่อมันไม่มีจะให้จริงๆ ใช่ไหม? แต่ถ้าจะให้มันผลดีผล
ื
ั
มาก ใจต้องประกอบด้วยคุณลักษณะ ๓ อย่าง ต้งใจ เต็มใจ
ปลื้มใจ


พรุ่งน้จะทาบุญอะไร ตั้งใจไว้วันน้ ถึงเวลาไปทาอะไร เต็มใจ
�
ี
�
ี
้
�
ื
ื
ทาเสร็จแล้วกรวดนาปล้มใจ กลับไปบ้าน ไปนอนปล้มใจอีก
�
เอาล่ะ เข้าใจกันดีน่ะ!
ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน ท่มีใจเป็นบุญเป็นกุศล ได้
ี
ี
มาทอดผ้าป่ากันในวันน้ ทอดกันทุกวันอาทิตย์ใช่ไหม? ก็ดีแล้ว
ขออนุโมทนาส่วนบุญด้วย
ื
ี
ี
ี
ี
ในท้ายท่สุดน้ ในนามของ...อาตมาก็ร่วมด้วยเม่อก้น้ ปลูก
ึ
�
ื
เหมือนกัน (สาธุ) ร่วมด้วยไปพันหน่งยูเอ็ส (สาธุ) ทาเร่อยล่ะ!
�
วันน้ไปกดเอทีเอ็มมา ๓ พัน ไม่เหลือเลย! ทาบุญหมดเลย เมื่อกี้
ี
ยังต้องยืมหลวงพ่อน่เลย ทาบุญน้เป็นหน้เขา เอาล่ะ ขอให้ม ี
ี
�
ี
ี
ความสุขสวัสดีกัน
ท�าบุญวันนี้ ขอให้โชคดี
อยากมีอะไร สิ่งนั้นจงมี
ทันทีทันใด สุขกายสุขใจ
รวย รวย รวย ฯ
(สาธุ)ฯ

ไม่มีใครโชคดีตลอดไป

ไม่มีใครโชคร้ายตลอดกาล

อ�ำนวยพรปีใหม่ ๒๕๖๑









เจริญพรศรัทธา สาธุชน ผู้ชม ผู้ฟัง ทุกท่าน

็
ี
เน่องในโอกาสวนขนปใหม่ ๒๕๖๑ น กจะพดเรองปีใหม่
้
ื
ี
ู
้
ึ
่
ั
ื
ให้เราได้รับรู้กัน
ี
ี
พวกเราคนไทยทุกคนอยู่ในประเทศน้ เรามีโอกาสท่ได้
ขึ้นปีใหม่กัน อย่างน้อยก็คนละ ๔ ครั้ง ส�าหรับคนไทยเรา
ี
ี
ั
ปีใหม่คร้งท่ ๑ คือวันท่ ๑ มกราคม ท่ถือว่าเป็นปีใหม่
ี
ั
สากลของคนท้งโลก ถึงวันท่ ๑ มกราคมทุกปี ท้งโลกก็จะ
ี
ั
เฉลิมฉลองกัน ถือว่าเป็นปีใหม่สากล
ี
ี
ปีใหม่ระดับท่ ๒ ท่เราคนไทยจะได้มีโอกาสร่วมกันเฉลิม
ฉลองอีก คือวันตรุษจีน
ฺ
* พระธรรมพทธมงคล (สอง สรนนโท ป.ธ.๘) เจ้าอาวาสวดป่าเลไลยก์
ั
ุ
ิ
ิ
้
ิ
ิ
วรวิหาร และท่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี อานวยพรปีใหม่ ๒๕๖๑
ี
�
เม่อวันท่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ สานักงานโครงการแกะสลักพระพุทธ-
ี
�
ื
ปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ถอดคาบรรยายจากรายการ
�
บอกใจให้เป็นสุข ททบ.๕

306
สาราสารกถา




ึ
วันตรุษจีนคือปีใหม่ของชาวจีน ซ่งในประเทศไทยเราก ็
มีชาวจีน คนไทยเชื้อสายจีนมาก ถึงปีใหม่จีนหรือตรุษจีนก็จะ

เฉลิมฉลองเช่นเดียวกัน

และปีใหม่ของไทยแท้ ของไทยโดยตรงคือวันสงกรานต์

ึ
ึ
สงกรานต์ถือว่าเป็นวันข้นปีใหม่อีกวันหน่งของคนไทย
ถึงวันสงกรานต์ เราก็เฉลิมฉลองกันเป็นการเอิกเกริก ไม่แพ้

วันท่ ๑ มกราคม แต่วันสงกรานต์เราเฉลิมฉลองกันเฉพาะใน
ี
ประเทศไทยของเรา และในประเทศเขมร (กัมพูชา) ประเทศ
ลาว ประเทศพม่า ก็ดูจะมีเฉลิมฉลองสงกรานต์คล้ายๆ กับเรา

ี
เหมือนกัน สงกรานต์ถือว่าเป็นปีใหม่เฉพาะของเรา น้ก็เป็น
ปีใหม่ครั้งที่ ๓

ปีใหม่ครั้งที่ ๔ คือครบรอบวันเกิดของแต่ละบุคคล


ื
เม่อครบรอบวันเกิดของแต่ละบุคคล เราก็จะจัดงานเลี้ยง
่
ิ
่
ั
่
็
ี
ี
ิ
ื
งานเฉลมฉลองกนเปนกรณพเศษ แตเปนปใหมสวนตวคอครบ
็
ั
รอบวันเกิดในแต่ละปีของแต่ละคน
ี
ในแต่ละปีใหม่ของแต่ละคนน้น ส่งท่เราจะต้องทากันเป็น
�
ั
ิ
ื
�
ี
หลัก ก็คือการทาบุญ เพราะเรามีความเช่อกันว่า การท่เราเกิด
มาบนโลกใบน้ จะมีอายุยืนยงอยู่ได้ ก็ต้องมีบุญคอยปกป้อง
ี
คุ้มครองเราอยู่ ถ้าเราไม่มีบุญปกป้องคุ้มครองเราอยู่ เราก็มี
ชีวิตมาถึงวันนี้ไม่ได้ ให้เราเห็นและมีความเชื่ออย่างนี้

307
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)




ิ
ุ
ี
่
เพราะในช่วงแรกทเราเกดมาในท้องแม่พวกเราทกคนน ี ้
มันมีความตายติดมากับชีวิตด้วย ต้งแต่วันแรก ถ้าเราไม่มีบุญ
ั
ปกป้องคุ้มครองมา ก็ตายกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว
ี
ี
ท้ายท่สุดน้ ก็ขอถือโอกาสท้ายท่สุดของปีใหม่ วันข้น
ี
ึ
ปีใหม่นี้ อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
ขออ�านาจ พุทธรัตน์ ก�าจัดทุกข์

ให้มีสุข ยิ้มแย้ม จิตแจ่มใจ

ขออ�านาจ ธรรมรัตน์ ก�าจัดภัย
ให้ห่างไกล อย่ามี มาบีฑา

ขออ�านาจ สังฆรัตน์ ก�าจัดโรค

ให้วิโยค เว้นขาด ดั่งปรารถนา
ปลอดทุกข์ภัย ไร้โรค โชคหลั่งมา

ดั่งคงคา ไหลตรง ลงสาครฯ

ิ
ขอพรน้ จงสาเร็จ แก่ทุกท่าน ทุกคน ทุกส่ง ทุกประการ
ี
�
เทอญ ฯ