KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ขอ้ พึงระวงั
สานักงานอัยการสูงสุดเคยมีหนังสือแนะนาการปฏิบตั ิราชการของพนักงานอัยการ ใหต้ รวจสอบ
การรอ้ งทุกขข์ องผเู้ สียหายในคดีความผิดต่อส่วนตวั ดงั น้ ี
“ให้พนักงานอัยการใชค้ วามระมัดระวังตรวจสอบเอกสารสานวนการสอบสวนในคดีความผิด
ต่อส่วนตัวใหแ้ น่ชดั ว่า บันทึกคารอ้ งทุกข์ เป็ นคารอ้ งทุกขท์ ี่ชอบดว้ ยกฎหมายหรือไม่ กล่าวคือ ผูเ้ สียหาย
ไดเ้ ป็ นผู้รอ้ งทุกข์ดว้ ยตนเองโดยชอบ หากพิจารณาปรากฏว่ามีบุคคลอ่ืนที่ไม่ใช่ผูเ้ สียหายเป็ นผูร้ อ้ งทุกข์
อนั เป็ นคารอ้ งทุกขท์ ่ีไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ก็ใหส้ งั่ สอบสวนเพ่ิมเติม โดยแจง้ ใหพ้ นักงานสอบสวน ดาเนินการ
แกไ้ ขบันทึกคารอ้ งทุกข์ดังกล่าวเสีย โดยจัดให้ผู้เสียหายท่ีถูกต้องแท้จริงมาดาเนินการร้องทุกข์ใหม่
ตามระเบียบ ภายในระยะเวลารอ้ งทุกขต์ ่อไป ก็จะไม่เป็ นเหตุใหศ้ าลฎีกาหยิบยกมายกฟ้ องโจทก”์ (หนังสือ
สานักงานอยั การสูงสุด ท่ี อส 0018.3/ว 168 ลงวันที่ 8 กันยายน 2538 เรื่อง การบรรยายฟ้ องและ
ตรวจสอบคารอ้ งทุกขใ์ นความผิดต่อพระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยความผิดอนั เกิดจากการใชเ้ ช็ค)
ในความผิดต่อส่วนตัว พนักงานสอบสวนไม่มีอานาจบงั คบั ใหผ้ ูเ้ สียหายรอ้ งทุกขไ์ ด้ แต่ถา้ การกระทา
ความผิดฐานฉอ้ โกง ท่ีกระทาต่อนิติบุคคลซึ่งเป็ นองคก์ รของรฐั หรือหน่วยงานของรฐั ถือว่า เป็ นการกระทา
ต่อทรพั ยข์ องแผ่นดิน ไมเ่ ป็ นความผิดต่อส่วนตวั พนักงานสอบสวนดาเนินคดีไดโ้ ดยไมต่ อ้ งมกี ารรอ้ งทุกข์
ท่มี ำ : - คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546 หนา้ 112 - 113.
- ระเบียบสานักงานอยั การสงู สดุ ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 94(4)
ที่มำ : - คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำงศิรอิ ร มณีสนิ ธุ์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เ่ี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 38/2565
ประจำวนั ที่ 25 กุมภำพนั ธ์ 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
กำรสืบพยำนจำเลย (ตอนที่ 2)
การถามคา้ นพยานจาเลยมีขอ้ ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ ี
1. ศึกษาขอ้ มลู ส่วนตวั ของจาเลยและพยานฝ่ายจาเลย
1.1 ศึกษาขอ้ มูลส่วนตัวของจาเลยและพยานฝ่ ายจาเลย เช่น ประวัติการศึกษา การฝึกอบรม
หน้าที่การงาน ถ่ินกาเนิดหรือที่อยู่ ความสมั พนั ธ์ หรือเหตุโกรธเคืองกบั จาเลยและผูเ้ สียหาย รวมตลอดท้งั
บุคคลในครอบครวั ของจาเลยและผเู้ สียหาย หากมีขอ้ มลู จะถามคา้ นก็ใหเ้ ตรียมคาถามไวก้ ่อน
1.2 กรณีท่ีจาเลยและพยานฝ่ ายจาเลยเป็ นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเป็ นผูม้ ีความประพฤติ
เก่ียวขอ้ งกบั การกระทาผิดหรือเหตุอื่น ใหถ้ ามใหศ้ าลเห็นว่าพยานดังกล่าวเบิกความเขา้ ขา้ งจาเลย ท้ังน้ ี
เพราะเป็ นญาติ เป็ นเพื่อน เป็ นผู้มีหน้ ีบุญคุณกับจาเลยหรือคนในครอบครัวจาเลย หรือเป็ นผู้มีสาเหตุ
โกรธเคืองกบั ผูเ้ สียหายหรือบุคคลในครอบครวั ผูเ้ สียหาย
2. วิธีการในการเตรียมคาถามคา้ น
2.1 ต้งั ใจฟังคาซกั ถามของทนายจาเลยและคาเบิกความตอบคาซกั ถาม หากมคี าถามใดท่ีจะถาม
คา้ นไดใ้ หจ้ ดบนั ทึกไวท้ ุกคาถาม เมื่อถึงเวลาท่ีศาลอนุญาตใหถ้ ามคา้ น จะถามไดโ้ ดยลาดบั และครบถว้ น
3. ถามเพ่ือใหข้ อ้ เท็จจริงของฝ่ายจาเลยไมน่ ่าเช่ือถือ
3.1 ควรถามใหศ้ าลเห็นว่า ขอ้ เท็จจริงตามที่พยานเบิกความแลว้ น้ัน ไมเ่ ป็ นไปตามที่พยานเบิก
ความ โดยพยานสาคัญผิดในขอ้ เท็จจริงน้ัน พยานเขา้ ใจความหมายของถอ้ ยคาผิด หรือพยานคิดสรุป
ขอ้ เท็จจริงเองผิดไป ท้งั น้ ี เพราะมลู เหตุท่ีต้งั แห่งความเชื่อของพยาน เพราะประสาทรบั รขู้ องพยานเสื่อมถอย
เชน่ ชรา หตู าพรา่ มวั เป็ นตน้
3.2 พยานเบิกความขดั กับเหตุผล การถามคา้ นใหน้ าขอ้ เท็จจริงอื่นท่ีเกี่ยวเน่ืองกับขอ้ เท็จจริง
ท่ีพยานเบิกความแลว้ มาถามเพื่อแสดงว่าถอ้ ยคาท่ีพยานเบิกความตอบคาซกั ถามขดั ต่อเหตุผล ไม่สอดคลอ้ ง
กบั ขอ้ เท็จจริงท่ีรบั รกู้ นั ทวั่ ไป
3.3 พยานเบิกความขดั กบั ขอ้ เท็จจริงในพยานเอกสาร กรณีที่จาเลยอา้ งตนเองเป็ นพยาน และ
จาเลยเคยใหก้ ารรบั สารภาพหรือรบั ขอ้ เท็จจริงไวใ้ นชน้ั สอบสวน ใหน้ าบนั ทึกคาใหก้ ารช้นั สอบสวนของจาเลย
หรือเอกสารอื่นท่ีจาเลยไดท้ าข้ นึ หรือลงลายมือช่ือรบั รองไวม้ าถามคา้ น
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
3.4 พยานเบิกความขัดกับคาเบิกความของพยานปากอ่ืนของฝ่ ายจาเลยท่ีเบิกความไปแลว้
หรือกรณีท่ีพยานฝ่ ายจาเลยเป็ นพยานคู่ เช่น คดีที่จาเลยอา้ งสถานท่ีอยู่ การถามคา้ น พนักงานอัยการ
ควรถามคา้ นพยานคู่ปากแรกในรายละเอียดขอ้ เท็จจริงใหไ้ ดม้ ากที่สุด เพื่อจะไดข้ อ้ มูลไปถามคา้ นพยาน
คปู่ ากหลงั กรณีเชน่ น้ ีหากพยานไมไ่ ดร้ เู้ ห็นจริง มกั จะตอบถามคา้ นแตกต่างกนั เสมอ
3.5 พยานจาเลยคนอ่ืนถ้าเคยให้การไว้ในช้ันสอบสวนแล้วควรพิจารณาคาให้การเช่นเดียวกับ
ตวั จาเลย
4. ถามเพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ เท็จจริงเสริมขอ้ เท็จจริงท่ีพยานฝ่ายโจทกน์ าสืบไปแลว้
4.1 ถามใหไ้ ดข้ อ้ เท็จจริงที่เป็ นประโยชน์ต่อฝ่ ายโจทก์ เช่น พยานรับรองขอ้ เท็จจริงที่โจทก์
นาสืบแลว้ จาเลยหรือพยานฝ่ายจาเลยเบิกความยืนยนั ขอ้ เท็จจริงใหม่ที่คา้ นกบั พยานอื่นของฝ่ายจาเลย หรือ
ปฏิเสธพยานหลกั ฐานอ่ืนของจาเลย
ทม่ี ำ : คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยวิรชั เนตธิ รรมำภิมุข
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่เี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 39/2565
ประจำวนั ที่ 28 กุมภำพนั ธ์ 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทขี่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอ่ื ง ควำมผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์
ตวั อยำ่ งกำรกระทำควำมผิดเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
กำรเปลยี่ นแปลงหนำ้ เว็บไซตโ์ ดยใชก้ ำรเขำ้ ถึงโดยมิชอบ (Web defacement)
ตวั อยา่ งเช่น การเขา้ ถึงระบบคอมพิวเตอร์ แลว้ ทาการเปล่ียนแปลงหน้าเว็บไซต์ (Website) ซ่ึงถือว่า
เป็ นขอ้ มลู คอมพิวเตอรข์ องบุคคลอ่ืนโดยมิชอบ หากผูก้ ระทาการเปลี่ยนแปลงเว็บไซตก์ ระทาโดยการนาภาพ
ลามกอนาจารข้ ึนแทนหน้าเว็บไซต์เดิม การกระทาเป็ นความผิดตามกฎหมายว่าดว้ ยการกระทาความผิด
เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ หากภาพดงั กล่าวเป็ นภาพตดั ต่อ ก็อาจจะเป็ นความผิดอีก และอาจเป็ นความผิดฐานอื่น
ตามประมวลกฎหมายอาญา หากการเปล่ียนแปลงหนา้ เวบ็ ไซตด์ งั กลา่ วเป็ นความผิดเก่ียวกบั ความมนั่ คง ก็จะ
เป็ นความผิดตามกฎหมายในสว่ นที่เก่ียวขอ้ งกบั ความมนั่ คงดว้ ย
หากเป็ นกรณีท่ีสรา้ งเว็บไซตเ์ ท็จข้ ึนมา อนั มีลกั ษณะคลา้ ยเว็บไซต์ของผู้อื่นเพ่ือใชใ้ นการหลอกลวง
ผูเ้ สียหาย (Phishing) โดยไมม่ ีการเขา้ ส่รู ะบบคอมพิวเตอรข์ องผูอ้ ื่น ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการกระทาความผิด
เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ แลว้ หากเป็ นการกระทาโดยประสงคต์ ่อทรพั ย์ อาจเป็ นความผิดฐานฉอ้ โกง หรือฉอ้ โกง
โดยแสดงตนเป็ นบุคคลอ่ืน หรือฉอ้ โกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 หรือมาตรา 342
หรือมาตรา 343 แลว้ แต่กรณี
หมำยเหตุ : ไดม้ ีการปรบั เปลี่ยนขอ้ มลู บางส่วนใหเ้ ป็ นปัจจบุ นั
ที่มำ : ค่มู ือพนักงานอยั การสาหรบั การสอบสวนและดาเนินคดีความผิดเกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ หนา้ 5.
ค่มู ือพนกั งำนอยั กำรสำหรบั กำรสอบสวนและดำเนินคดีควำมผิด นำงสำวณฤดี เกียรตคิ งยง่ิ
เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2554 อยั กำรอำวุโส
หรอื สำมำรถคลิกลงิ คข์ ำ้ งล่ำงน้ ี เพ่ือเขำ้ ถึงขอ้ มูล สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
https://drive.google.com/file/d/1my59o1-l3FvaFXYcDoNWH2hKL0w_D2Hl
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 40/2565
ประจำวนั ที่ 1 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดีแพง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรือ่ ง ขอ้ พึงสงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร
สำนวนคดีอำญำท่ีกล่ำวหำผูต้ อ้ งหำที่เป็ นเจำ้ หน้ำที่ของรฐั และเอกชน กระทำควำมผิดฐำนร่วมกนั
ตกลงรำคำในกำรเสนอรำคำ เพ่ือวตั ถุประสงคท์ ่ีจะใหป้ ระโยชน์แก่ผู้ใดผูห้ นึ่ง เป็ นผูท้ ่ีมีสิทธิทำสญั ญำกับ
หน่วยงำนของรฐั โดยหลีกเลี่ยงกำรแขง่ ขนั รำคำอยำ่ งเป็ นธรรม และรว่ มกนั ให้ ขอให้ หรือรบั ว่ำจะใหเ้ งิน หรือ
ทรพั ยส์ ิน หรือ ประโยชน์อ่ืนใด เพ่ือประโยชน์ในกำรเสนอรำคำ โดยมีวตั ถุประสงคท์ ี่จะจงู ใจใหผ้ ูน้ ้ันร่วมกนั
ดำเนินกำรใด ๆ อนั เป็ นกำรใหป้ ระโยชน์แก่ผูใ้ ดเป็ นผูม้ ีสิทธิทำสญั ญำกบั หน่วยงำนของรฐั อนั เป็ นควำมผิด
ตำมพระรำชบญั ญตั ิวำ่ ดว้ ยควำมผิดเก่ียวกบั กำรเสนอรำคำต่อหน่วยงำนของรฐั พ.ศ. 2542 มำตรำ 4 และ
มำตรำ 5 จึงเป็ นคดีอำญำที่อย่ใู นอำนำจกำรพิจำรณำพิพำกษำของศำลอำญำคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้ังศำลอำญำคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มำตรำ 3 ที่บัญญัติว่ำ
“คดีทุจริตและประพฤติมชิ อบ หมำยควำมวำ่ คดี ดงั ต่อไปน้ ี ... (2) คดีอำญำที่ฟ้ องใหล้ งโทษเจำ้ หนำ้ ที่ของรฐั
หรือบุคคลท่ีกระทำควำมผิดฐำนฟอกเงิน ที่เก่ียวเนื่อง กับควำมผิดตำม (1) หรือกระทำควำมผิดตำม
กฎหมำยวำ่ ดว้ ยควำมผิดเกี่ยวกบั กำรเสนอรำคำต่อหน่วยงำนของรฐั … ” คดีมิใชอ่ ยู่ในอำนำจกำรพิจำรณำของ
ศำลยุติธรรมทวั่ ไป
ส่วนอำนำจหน้ำท่ีของพนักงำนอัยกำรในกำรพิจำรณำสัง่ คดี ตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ
ควำมอำญำ มำตรำ 16 ประกำศคณะกรรมกำรอยั กำร เรื่อง กำรแบ่งหน่วยงำน และกำรกำหนดอำนำจและ
หน้ำท่ีของ หน่วยงำนภำยในของสำนักงำนอยั กำรสงู สุด ฉบบั ที่ 22 พ.ศ. 2560 ขอ้ 52 (ข) กำหนดอำนำจ
หน้ำท่ีของสำนักงำนคดีปรำบปรำมกำรทุจริตภำค และระเบียบสำนักงำนอยั กำรสูงสุด วำ่ ดว้ ยกำรดำเนินคดี
ของพนักงำนอยั กำรในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2560
ดังน้ัน เมื่อสำนวนคดีน้ ี เป็ นกำรดำเนินคดีตำมพระรำชบัญญัติว่ำดว้ ยควำมผิดเกี่ยวกบั กำรเสนอ
รำคำต่อหน่วยงำนของรัฐ พ.ศ. 2542 จึงอยู่ในอำนำจหน้ำท่ีของพนักงำนอัยกำร ประจำสำนักงำนคดีปรำบปรำม
กำรทุจริตภำค ในกำรพิจำรณำสงั่ คดี ไมใ่ ช่อำนำจหนำ้ ที่ของอยั กำรจงั หวดั กำรที่พนักงำนสอบสวนส่งสำนวน
ใหส้ ำนักงำนอยั กำรจงั หวดั พิจำรณำ ซึ่งอยั กำรจงั หวดั ไดม้ ีคำสงั่ ไมฟ่ ้ องผูต้ อ้ งหำท้งั สอง และเสนอผูบ้ ญั ชำกำร
ตำรวจภธู รภำค พิจำรณำแลว้ ไมแ่ ยง้ คำสงั่ ไมฟ่ ้ อง คำสงั่ ไมฟ่ ้ องเด็ดขำดแลว้
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอ่ื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
กำรดำเนินกำรของอัยกำรจังหวดั ที่สัง่ คดีที่ไม่อยู่ในอำนำจหน้ำท่ี ซ่ึงตอ้ งส่งสำนวนสอบสวนคืน
พนักงำนสอบสวน เพื่อส่งไปยงั พนักงำนอยั กำรประจำศำลท่ีคดีน้ันอย่ใู นเขตอำนำจ จึงไม่ชอบ ตำมระเบียบ
สำนักงำนอัยกำรสูงสุด ว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำของพนักงำนอัยกำร พ.ศ. 2547 ขอ้ 10 (ระเบียบ
สำนักงำนอยั กำรสูงสุด ว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2563 ขอ้ 29 และขอ้ 44)
เป็ นควำมบกพร่อง
ทีม่ ำ : สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ำยประเมินผล สำนักงำนวชิ ำกำร
บนั ทึกขอ้ ควำม สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ำยประเมินผล ท่ี อส 0008(ปผ)/91 ลงวนั ท่ี 2 พฤศจิกำยน 2563
นำยวิชช์ จรี ะแพทย์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 41/2565
ประจำวนั ที่ 2 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพิ่มศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทข่ี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เร่ือง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร : กำรบรรยำยคำฟ้ องคดีเล่ือยโซ่ยนต์
พนักงานอัยการเจา้ ของสานวน ผูก้ ลัน่ กรองงาน และอัยการจังหวดั ไดม้ ีความเห็นสัง่ ฟ้ องและย่ืนฟ้ อง
จาเลย ในความผิดฐานร่วมกันมีเล่ือยโซ่ยนต์ไวใ้ นครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่ได้บรรยายฟ้ อง
ให้เห็นว่า นอกจากเลื่อยโซ่ยนต์จะเป็ นเครื่องมื อสาหรับใช้ตัดไม้หรือแปรรูปไม้ ที่มีฟั นเล่ือยติดกับโซ่
ซ่ึงขับเคล่ือนดว้ ยกาลังเครื่องจักรกลแลว้ ยงั ใหห้ มายความถึงส่วนหนึ่งส่วนใดท่ีเป็ นส่วนประกอบของเคร่ืองมือ
ดังกล่าวดว้ ย ตามกฎกระทรวงกาหนดลกั ษณะเล่ือยโซ่ยนต์และส่วนประกอบของเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2555 ลงวนั ท่ี
28 ธนั วาคม 2555 อนั เป็ นกฎหมายท่ีใชใ้ นขณะกระทาความผิดวา่ เล่ือยโซ่ยนต์ที่จาเลยกบั พวกมีไวใ้ นครอบครอง
เป็ นเครือ่ งมือท่ีมีตน้ กาลงั ต้ังแต่หน่ึงแรงมา้ โดยมีแผ่นบงั คบั โซ่ท่ีมีขนาดยาวต้งั แต่สิบสองน้ ิวตามลกั ษณะท่ีกาหนดไว้
ในกฎกระทรวงดังกล่าว คาฟ้ องของโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิด และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) (6) แต่กลบั ไปบรรยายฟ้ อง ตามกฎกระทรวงกาหนดลกั ษณะ
เลื่อยโซ่ยนต์และส่วนประกอบของเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2551 ลงวนั ท่ี 23 พฤษภาคม 2551 ซึ่งถูกยกเลิกแล้ว
เป็ นเหตุใหศ้ าลฎีกายกฟ้ องโจทก์ในความผิดดังกล่าว ทาใหค้ ดีไดร้ บั ความเสียหาย ถือเป็ นขอ้ บกพร่อง ขาดความ
ละเอียดรอบคอบในการปฏิบตั ิหน้าที่ราชการ และไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบสานักงานอยั การสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนิน
คดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 94 (ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุด วา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของ
พนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 ขอ้ 94) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) (6)
ตามระเบียบสานักงานอัยการสงู สุด วา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาช้ันศาลสงู ของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2556 ขอ้ 35
(ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุด วา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู ของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 37)
ท่ีมำ : ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 94
(ระเบยี บ สานักงานอยั การสงู สุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 94)
สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล สานักงานวิชาการ, บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล
ที่ อส 0007(ปผ)/ 65 ลงวนั ท่ี 12 กุมภาพนั ธ์ 2563
นำยยคุ ล เหล่ำพลู สุข
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 42/2565
ประจำวนั ท่ี 3 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรือ่ ง แบบจดั เก็บองคค์ วำมรูห้ นำ้ งำน (Knowledge from Field Building: KFB) ตอนที่ 1
องคค์ วำมรูท้ จ่ี ดั เก็บ เป็ นควำมรูท้ เ่ี กิดจำกควำมรู้ 2 ประเภท
(1) Knowledge Capturing on Job : KCJ คือ ความรู้ที่เกิดข้ ึนจากการนาความรูท้ ่ีมีอยู่ในตัวไป
ปฏิบตั ิงานและสามารถแกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้ นึ ขณะที่ปฏิบตั ิงานน้ัน ๆ
(2) Combination Explicit Knowledge : CEK คือ ความรชู้ ดั แจง้ ใหมท่ ่ีสรา้ งข้ ึนจากความรชู้ ดั แจง้ เดิม
ดว้ ยการรวบรวม บูรณาการ หรือสงั เคราะห์โดยการอ่าน การคิด การพูด การรบั ฟังเกี่ยวกบั งานท่ีปฏิบัติ
ในหน้าที่จนเกิดเป็ นความรูช้ ดั แจง้ ใหม่ และความรูท้ ่ีไดน้ ้ ีสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นการทางานและแกป้ ัญหา
ในการปฏิบตั ิงานได้
----------------------------
กำรจดั เก็บควำมรูห้ นำ้ งำน : Knowledge Capturing on Job (KCJ)
- เป็ นระบบจดั เก็บความรู้ หรือประสบการณจ์ ากงานประจาของผูป้ ฏิบตั ิงานที่ประสบความสาเร็จ
และเป็ น Best Practice ท่ีสมควรรวบรวม เพ่ือเผยแพร่ใหส้ ามารถเป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิของบุคคลอ่ืนต่อไป
- เป็ นระบบจดั เก็บความรใู้ หมท่ ่ีไมใ่ ช่ความรทู้ ี่ใคร ๆ ก็รู้
- เป็ นความรพู้ ้ ืนฐาน ความรตู้ ่อยอด และความรทู้ ่ีเกิดจากการแกป้ ัญหา (แกป้ ัญหาน้ัน ๆ อยา่ งไร)
- การนาเสนอ KCJ ไมต่ อ้ งกลวั การซ้าซอ้ น
- สานักงานคณะกรรมการอยั การ (สานักงาน ก.อ.) ไดอ้ อกแบบการจดั ทาและนาเสนอความรหู้ น้า
งานตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดว่าดว้ ยการประเมินผลการปฏิบัติราชการของขา้ ราชการอัยการ
พ.ศ. 2560 ขอ้ 20 วิธีการประเมินผลการปฏิบตั ิราชการ กาหนดใหผ้ ูร้ บั การประเมินผลการปฏิบตั ิราชการ
มหี นา้ ที่บนั ทึกขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผลการปฏิบตั ิราชการใหถ้ ูกตอ้ งเป็ นจริง โดยใหบ้ นั ทึก...งานการจดั การความรู.้ ..
ลงในแบบจัดเก็บงานที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนดแนบทา้ ยแบบประเมิน และใหส้ านักงานของผู้รับ
การประเมินส่งแบบจดั เก็บองคค์ วำมรูก้ ำรปฏิบัติงำน (KCJ) ไปยงั สำนักงำนอัยกำรพิเศษฝ่ ำยบริหำร
จัดกำรควำมรู้ สำนักงำนวิชำกำร ทุกคร้ังท่ีมีกำรนำเสนอผลงำนดังกล่ำวโดยเร็ว ท้ังน้ ี สานักงาน
คณะกรรมการอยั การ ไดอ้ อกแบบการจดั ทา KCJ ดงั น้ ี
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอ่ื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
การจดั ทา KCJ เป็ นประโยชน์ท้งั ผูจ้ ัดทาและเป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิงานของบุคคลอื่นอย่างมาก
และยงั เป็ นส่วนหนึ่งของการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิราชการของผูจ้ ดั ทาอีกดว้ ย
ท่ีมำ : ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการของขา้ ราชการอยั การ พ.ศ. 2560 ขอ้ 20
องคค์ วามรเู้ ก่ียวกบั การจดั การความรู้ รวบรวมโดยสานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายบริหารจดั การความรู้ สานักงานวชิ าการ
นำงสมสขุ มีวุฒิสม
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
กำรสรำ้ ง KFB (ประเภท KCJ และ CEK) องคค์ วำมรูท้ เ่ี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
หรือสำมำรถคลิกลิงคข์ ำ้ งล่ำงน้ ี เพือ่ เขำ้ ถึงขอ้ มูล
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/1Uw5kC4_YKfcmeuAcJAlDrjwIM80DENtf
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 43/2565
ประจำวนั ที่ 4 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดแี พง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอื่ ง แบบจดั เก็บองคค์ วำมรูห้ นำ้ งำน (Knowledge from Field Building: KFB) ตอนที่ 2
(ตอนท่ี 1 ปรำกฏตำม KM : 3P เร่ืองที่ 42/2565)
กำรจดั เก็บควำมรูห้ นำ้ งำน (Knowledge Capture on Job : KCJ)
องคค์ วำมรูเ้ รอื่ ง ควำมรูจ้ ำกกำรปฏิบตั ิ ณ หนำ้ งำน”
1. ความรหู้ นา้ งานคืออะไร
2. ใครมหี นา้ ที่จดั เก็บความรหู้ นา้ งาน
3. วธิ ีการจดั เก็บน้ันตอ้ งทาอยา่ งไร
ควำมหมำยของควำมรูห้ นำ้ งำน”
- ความรหู้ นา้ งานเกิดจากความรใู้ หมท่ ี่ไมใ่ ช่ในความรพู้ ้ ืนฐานที่ใคร ๆ ก็รู้
- ความรหู้ นา้ งานเกิดจากในการทางานเมื่อตอ้ งเผชิญกบั ปัญหาและไดใ้ ชป้ ัญญาแกไ้ ขปัญหา
จนงานสาเร็จลุลว่ งดว้ ยดี
- ความรใู้ หมน่ ้ ีจึงเป็ นความรทู้ ่ีเกิดจากการปฏิบตั ิการ ณ หนา้ งาน
ใครมีหน้ำท่ีจัดเก็บควำมรูห้ นำ้ งำน : ขา้ ราชการฝ่ ายอัยการ ซึ่งได้แก่ พนักงานอัยการ และ
ขา้ ราชการธุรการ
ประเภทการจดั เก็บ : จดั เก็บโดยตรง/จดั เก็บร่วม/จดั เก็บโดยการพิจารณางาน
ส่งิ ท่คี วรทำ KCJ
1. นาแบบพิมพ์ KCJ ติดตวั ไปเช่นเดียวกนั รายงานคดี
2. เก็บผลงานทุกคร้งั ท่ีไดพ้ บความรูใ้ หม่ (กระทาไดเ้ ช่นเดียวกบั การเขียนรายงานคดีทุกคร้งั
ท่ีกลบั จากศาล)
3. ความรูใ้ หม่ที่ไม่ใช่ความรูท้ ี่ใคร ๆ ก็รู้ (ความรูพ้ ้ ืนฐาน ความรูต้ ่อยอด ความรูท้ ่ีไดจ้ าก
การแกป้ ัญหา)
4. ความรทู้ ี่เกิดจากการแกป้ ัญหา (แกป้ ัญหาน้ัน ๆ อยา่ งไร)
5. เก็บใหไ้ ดม้ ากที่สุดไมต่ อ้ งกลวั การซ้าซอ้ น
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
วิธีกำรจดั เก็บน้นั ตอ้ งทำอยำ่ งไร
- จดั เก็บตามแบบฟอรม์ ที่สานักงานคณะกรรมการ (ก.อ.) กาหนด
- งานทุกประเภทจดั เก็บความรหู้ นา้ งานได้
1. งานคดี (อาญา แพง่ ปกครอง ศาลสงู ฯลฯ)
2. งาน สคช.
3. งานสนับสนุนงานอยั การ/ธุรการ
4. งานพฒั นาองคก์ ร
ที่มำ : ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดว่าดว้ ยการประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการของขา้ ราชการอยั การ พ.ศ. 2560 ขอ้ 20
องคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั การจดั การความรู้ รวบรวมโดยสานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายบริหารจดั การความรู้ สานักงานวิชาการ
นำงสมสุข มีวุฒิสม
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
กำรสรำ้ ง KFB (ประเภท KCJ และ CEK)
หรอื สำมำรถคลิกลิงคข์ ำ้ งล่ำงน้ ี เพอ่ื เขำ้ ถึงขอ้ มูล
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/1Uw5kC4_YKfcmeuAcJAlDrjwIM80DENtf
องคค์ วำมรูท้ ่เี ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 44/2565
ประจำวนั ท่ี 7 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ขี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรื่อง กำรบงั คบั ทำงปกครองตำมพระรำชบญั ญตั ิวิธีปฏิบตั ิรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ตอนท่ี 2
การบงั คบั ตามคาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงิน
การบงั คบั ทางปกครองกรณีคาสงั่ ทางปกครองท่ีกาหนดใหช้ าระเงิน อาจทาได้ สองวิธี คือ เจา้ หนา้ ท่ีของหน่วยงานของรฐั
ดาเนินการเอง หรอื การบงั คบั โดยเจา้ พนักงานบงั คบั คดี
2.2.1. กรณีเจา้ หนา้ ที่ของหน่วยงานของรฐั ดาเนินการเอง
1. ใหเ้ จา้ หน้าท่ีผูท้ าคาสัง่ ทางปกครองมีหนังสือเตือนใหผ้ ูน้ ้ันชาระภายในระยะเวลาที่กาหนดแต่ตอ้ งไม่น้อยกว่าเจ็ดวนั
ถ้าไม่มีการปฏิบัติตามคาเตือน เจ้าหน้าท่ีมีอานาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้น้ันและ
ขายทอดตลาดเพื่อชาระเงินใหค้ รบถว้ นได้ (มาตรา 63/7 วรรค 1)
2. การดาเนินการตามขอ้ 1. ตอ้ งมีการออกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครอง และแต่งต้งั เจา้ หนา้ ท่ีบังคบั ทางปกครอง
เพื่อดาเนินการยดึ หรอื อายดั และขายทอดตลาดทรพั ยส์ ินต่อไป
ตาม”กฎกระทรวงกาหนดเจา้ หน้าท่ีผูอ้ อกคาสัง่ ใชม้ าตรการบังคบั ทางปกครองและการแต่งต้ังเจา้ พนักงานบังคับทางปกครอง
พ.ศ. 2562” ดงั ตอ่ ไปน้ ี
ก) การออกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครองที่กาหนดใหใ้ ชเ้ งิน ใหเ้ ป็ นอานาจของเจา้ หนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ ี
(ขอ้ 1) การออกคาสงั่ ใชม้ าตรการบังคบั ทางปกครองสาหรบั คาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดให้ ชาระเงิน ใหเ้ ป็ นอานาจของ
เจา้ หนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ ี
(1) ปลดั สานักนายกรฐั มนตรี ปลดั กระทรวง หรือปลดั ทบวง ในกรณีที่ผูท้ าคาสงั่ ทางปกครอง เป็ นเจา้ หนา้ ที่ของสานักงาน
ปลดั สานักนายกรฐั มนตรี สานักงานปลดั กระทรวง หรอื สานักงานปลดั ทบวง แลว้ แต่กรณี
(2) อธิบดีหรือหวั หน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็ นกรม ในกรณีที่ผูท้ าคาสงั่ ทางปกครอง เป็ นเจา้ หน้าที่ของกรมหรือส่วน
ราชการท่ีมีฐานะเป็ นกรม แลว้ แตก่ รณี
(3) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ในกรณีที่ผทู้ าคาสงั่ ทางปกครองเป็ นเจา้ หนา้ ท่ีของราชการส่วนภมู ภิ าค ในจงั หวดั
(4) ผบู้ รหิ ารรฐั วสิ าหกิจ ในกรณีที่ผทู้ าคาสงั่ ทางปกครองเป็ นเจา้ หนา้ ที่ของรฐั วสิ าหกิจ
(5) ผบู้ รหิ ารหน่วยงานอื่นของรฐั ในกรณีที่ผทู้ าคาสงั่ ทางปกครองเป็ นเจา้ หนา้ ท่ีของหน่วยงานอื่น ของรฐั
(6) นายกองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั นายกเทศมนตรี ผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร หรือนายกเมืองพทั ยา ในกรณีท่ีผูท้ า
คาสัง่ ทางปกครองเป็ นเจา้ หน้าท่ีขององค์การบริหารส่วนจังหวดั เทศบาลนคร เทศบาลเมือง กรุงเทพมหานคร หรือเมืองพัทยา
แลว้ แต่กรณี
(7) ผูบ้ ริหารทอ้ งถิ่นอื่นนอกจาก (6) โดยความเห็นชอบของผูว้ ่าราชการจังหวดั ในกรณี ที่ผูท้ าคาสัง่ ทางปกครองเป็ น
เจา้ หนา้ ที่ขององคก์ ารบริหารส่วนทอ้ งถ่ินน้ัน
(8) นายกสภาวชิ าชีพ ในกรณีท่ีผทู้ าคาสงั่ ทางปกครองเป็ นสภาวชิ าชีพซ่ึงมอี านาจหนา้ ท่ี ตามที่กฎหมายกาหนด
(9) หวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ซ่ึงเป็ นหน่วยธุรการของคณะกรรมการน้ัน ในกรณีที่ผูท้ าคาสงั่ ทางปกครองเป็ นคณะกรรมการ
ตามกฎหมาย
(10) เจา้ หน้าที่ผูม้ ีอานาจตาม (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) แลว้ แต่กรณี ในกรณีท่ีผูท้ าคาสงั่ ทางปกครอง
เป็ นเอกชนซ่ึงไดร้ บั อนุญาต ไดร้ บั แตง่ ต้งั หรอื ไดร้ บั มอบหมาย จากเจา้ หนา้ ที่ดงั กล่าว
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
(ขอ้ 2) ในกรณีท่ีรฐั มนตรี หรอื เจา้ หนา้ ที่ผมู้ อี านาจตามขอ้ ๑ เป็ นผูท้ าคาสงั่ ทางปกครอง ท่ีกาหนดใหช้ าระเงิน ใหร้ ฐั มนตรี
หรอื เจา้ หนา้ ที่ แลว้ แตก่ รณี เป็ นผมู้ ีอานาจออกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครอง
3. ใหผ้ ูม้ ีอานาจออกคาสัง่ ใชม้ าตรการบังคบั ทางปกครองแต่งต้ังเจา้ หน้าท่ีผูอ้ ยู่ภายใต้ บังคับบัญชาซึ่งผ่านการอบรม
ดา้ นการบงั คบั คดีจากกรมบังคบั คดีหรือดา้ นการบังคบั ทางปกครอง ตามหลักสูตรที่คณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ใหค้ วามเหน็ ชอบ เป็ นเจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองเพื่อดาเนินการยดึ หรอื อายดั และขายทอดตลาดทรพั ยส์ ิน
4. ในการดาเนินการยดึ หรอื อายดั และขายทอดตลาดทรพั ยส์ ิน เพื่อประโยชน์ในการใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครองสาหรบั
คาสงั่ ทางปกครองท่ีกาหนดใหช้ าระเงินแต่ละคาสงั่ ผูอ้ อกคาสงั่ ใชม้ าตรการบังคบั ทางปกครองอาจมอบหมายใหเ้ จา้ พนักงานบงั คบั
ทางปกครองหน่ึงคนหรือหลายคนรว่ มเป็ นเจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองก็ได้
ในกรณีท่ีมีการมอบหมายเจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองตามวรรคสองเพียงหน่ึงคน บุคคลดังกล่าวตอ้ งสาเร็จการศึกษา
ปริญญาตรที างนิติศาสตร์ แต่กรณีท่ีมีการมอบหมายเจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองหลายคน ในการดาเนินการยึดหรืออายดั ทรพั ยส์ ิน
ตอ้ งมีเจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองอยา่ งนอ้ ยหน่ึงคนสาเร็จการศึกษาปริญญาตรที างนิติศาสตร์
ขอ้ 5 ในการแต่งต้ังเจา้ พนักงานบังคับทางปกครอง ใหห้ ัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือ นายกสภาวิชาชีพ แลว้ แต่กรณี
เป็ นผูอ้ อกบัตรประจาตัวเจา้ พนักงานบังคบั ทางปกครอง โดยใหน้ าแบบบัตร และหลักเกณฑใ์ นการออกบัตรตามกฎหมายว่าดว้ ย
บตั รประจาตวั เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม
ขอ้ 6 กรณีท่ีกฎหมายใดกาหนดเจา้ หน้าที่ผู้ออกคาสัง่ ใชม้ าตรการบังคับทางปกครอง หรือหลักเกณฑ์ในการแต่งต้ั ง
เจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครองไวโ้ ดยเฉพาะแลว้ ใหใ้ ชบ้ ังคบั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ัน เวน้ แต่เจา้ หน้าท่ีเห็นวา่ การใชห้ ลกั เกณฑ์
ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ันจะเกิดผลน้อยกวา่ หลกั เกณฑท์ ่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวงน้ ี เจา้ หนา้ ที่จะใชห้ ลกั เกณฑต์ ามกฎกระทรวงน้ ี
แทนก็ได้
7. หน่วยงานของรฐั ท่ีออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินตอ้ งดาเนินการยดึ หรืออายดั ทรพั ยส์ ินภายในสิบปี นับแต่วนั ที่คาสงั่ ทางปกครองท่ี
กาหนดใหช้ าระเงินเป็ นท่ีสุด
คาสงั่ ทางปกครองท่ีกาหนดใหช้ าระเงินเป็ นท่ีสุดในกรณีดงั ตอ่ ไปน้ ี
(1) ไมม่ ีการอุทธรณค์ าสงั่ ต่อเจา้ หนา้ ที่ฝ่ายปกครองภายในระยะเวลาอุทธรณ์
(2) เจา้ หนา้ ที่ผมู้ อี านาจพิจารณาอุทธรณม์ คี าวนิ ิจฉยั ยกอุทธรณ์ และไมม่ กี ารฟ้ องคดี ตอ่ ศาลภายไนระยะเวลาการฟ้ องคดี
(3) ศาลมคี าสงั่ หรือคาพิพากษายกฟ้ อง หรอื เพิกถอนคาสงั่ บางส่วน และคดีถึงท่ีสุดแลว้ หากหน่วยงานของรฐั ท่ีออกคาสงั่ ให้
ชาระเงินไดย้ ึดหรืออายดั ทรพั ย์สินแลว้ แต่ยัง ไม่ไดร้ บั ชาระเงินครบถว้ น และล่วงพน้ กาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง จะยึดหรืออายัด
ทรพั ยส์ ินเพิ่มเติมอีกมไิ ด้
การขายทอดตลาดหรือจาหน่ายโดยวธิ ีอื่นซ่ึงทรพั ยส์ ินของผอู้ ยใู่ นบงั คบั ของ มาตรการบงั คบั ทางปกครองท่ีถูกยึดหรืออายดั ไว้
ภายในกาหนดเวลาตามวรรคหน่ึงเพื่อชาระเงิน รวมท้ังค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน หรือค่าใชจ้ ่ายอื่นในการบังคับทางปกครอง
ใหก้ ระทาไดแ้ มล้ ว่ งพน้ ระยะเวลาดงั กลา่ ว (มาตรา 36/8)
ขอ้ 8 การขอทุเลาการบงั คบั คดี
กรณีท่ีผูอ้ ยู่ในบงั คบั การของมาตรการบงั คบั ทางปกครองไดย้ ่ืนอุทธรณค์ าสงั่ ใหใ้ ชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครอง ก็อาจย่ืนคา
รอ้ งขอทุเลาการบงั คบั ตามมาตรการบงั คบั ทางปกครองได้ ตาม มาตรา 63/9 โดยยื่นต่อเจา้ หน้าที่ผูอ้ อกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทาง
ปกครอง หรือ ผูม้ ีอานาจพิจารณาคาอุทธรณ์ แลว้ แต่กรณี เพ่อสัง่ ใหม้ ีการทุเลาการบังคบั ทางปกครองไวก้ ่อนก็ได้ โดยอาจมีการ
กาหนดเง่ือนไขใหผ้ อู้ ยใู่ นบงั คบั ของมาตรการบงั คบั ทางปกครองตอ้ งปฏิบตั ิดว้ ยก็ได้
ขอ้ 9 อานาจของเจา้ หน้าที่ผูอ้ อกคาสัง่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครอง ตามนัยแห่งงมาตรา 63/10 เจา้ หน้าที่ดังกล่าว
มีอานาจต่อไปน้ ี
(1) มีหนังสือสอบถามสถาบันการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กรมที่ดิน กรมการขนส่งทางบก กรมทรพั ยส์ ินทางปัญญา หรือหน่วยงานอ่ืนของรฐั ที่มีหน้าท่ีควบคุมทรพั ยส์ ินท่ีมีทะเบียน เก่ียวกบั
ทรพั ยส์ ินของผอู้ ยใู่ นบงั คบั ของ มาตรการบงั คบั ทางปกครอง
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
(2) มีหนังสือขอใหน้ ายทะเบียน พนักงานเจา้ หน้าที่ หรือบุคคลอื่นผูม้ ีอานาจหน้าท่ี ตามกฎหมาย ระงบั การจดทะเบียน
หรือแก่ไขเปล่ียนแปลงทางทะเบียนที่เก่ียวกับทรพั ยส์ ินของผูอ้ ยู่ใน บังคบั ของมาตรการบังคบั ทางปกครองไวเ้ ป็ นการชวั่ คราวเท่าที่
จาเป็ นเนื่องจากมีเหตุขดั ขอ้ งท่ีทาให้ ไม่อาจยึดหรืออายดั ทรพั ยส์ ินไดท้ นั ที และเมื่อเหตุขดั ขอ้ งส้ ินสุดลงใหแ้ จง้ ยกเลิกหนังสือดงั กล่าว
ท้งั น้ ี ตอ้ งปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑเ์ กี่ยวกบั การระงบั การจดทะเบียนหรือแกไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ัน
หน่วยงานตาม (1) ท่ีใหข้ อ้ มูลแก่เจา้ หนา้ ท่ีผูอ้ อกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทาง ปกครองในการดาเนินการตาม (1)ใหถ้ ือว่า
ไมเ่ ป็ นความผิดตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกิจสถาบนั การเงิน กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ และกฎหมายอ่ืน
ผใู้ ดไมป่ ฏิบตั ิตามหนังสือของเจา้ หน้าที่ผูอ้ อกคาสงั่ ใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครอง ตามวรรคหน่ึงโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร
ผนู้ ้ันมคี วามผิดฐานขดั คาสงั่ เจา้ พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
ขอ้ 10 การยดึ อายดั ทรพั ยส์ ิน
10.1. การสืบหาทรพั ยส์ ิน ตาม มาตรา 63/11 สามารถกระทาได้ 2 วธิ ีการคอื
(ก) โดยการรอ้ งขอใหส้ านักงานอยั การสูงสุด ซึ่งไดแ้ ก่ สานักงานบงั คบั คดี หรือ หน่วยงานอื่นดาเนินการสืบหาทรพั ยส์ ิน
แทนได้ โดยหน่วยงานดงั กลา่ วมีอานาจตาม มาตรา 63/10 ดงั ที่กลา่ วมาในขอ้ 9. ดว้ ย ตาม มาตรา 63/11 วรรคหน่ึง
(ข) หน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินดาเนินการเอง โดยกรณีท่ีจานวนเงินท่ีตอ้ งชาระมีจานวนต้งั แต่ 2 ลา้ นบาท
ข้ ึนไป และหน่วยงานไม่มีเจา้ หน้าท่ีในการดาเนินการ อาจมอบหมายใหเ้ อกชนสืบหาทรพั ยแ์ ทนได้ ตาม มาตรา 63/11 วรรคสอง
โดยเอกชนผูส้ ืบหาทรพั ยส์ ินจะไดร้ บั ค่าตอบแทนไม่เกินรอ้ ยละสองคร่ึงของจากเงินหรือทรพั ยส์ ินที่ไดม้ าจากการยึด อายัดหรือขาย
ทอดตลาดทรพั ยส์ ินที่สืบพบได้ แต่ตอ้ งไมเ่ กิน 1 ลา้ นบาทต่อกรณีหรือตามจานวนที่กาหนดเพิ่มข้ นึ โดยกฎกระทรวง
10.2. การยึด อายดั และการขายทอดตลาด เป็ นไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนดในกฎกระทรวง และในกรณีท่ีกฎกระทรวง
ไมไ่ ดก้ าหนดเรอื่ งใดไวใ้ หน้ าบทบญั ญตั ิในประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความแพ่งมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม (มาตรา 63/12) โดยในการ
อนุโลมใชน้ ้ัน ใหถ้ ือวา่
(1) เจา้ หน้ ีตามคาพิพากษา หมายถึง หน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงิน
(2) ลกู หน้ ีตามคาพิพากษา หมายถึง ผอู้ ยใู่ นบงั คบั ของมาตรการบงั คบั ทางปกครอง
(3) อานาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดี เป็ นอานาจของหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐ ท้ังน้ ี ตามท่ีกาหนด
ในกฎกระทรวง
(4) เจา้ พนักงานบงั คบั คดี หมายถึง เจา้ พนักงานบงั คบั ทางปกครอง
ท่ีมำ : พระราชบญั ญตั ิวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
นำยเชดิ ศกั ดิ์ หริ ญั สิรสิ มบตั ิ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 45/2565
ประจำวนั ท่ี 8 มีนำคม 2565
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่อื ทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
กำรปลอ่ ยชวั ่ ครำวโดยมีประกนั หรอื มีประกนั และหลกั ประกนั
การอนุญาตใหป้ ล่อยชวั่ คราวในคดีที่มีอตั ราโทษจาคุกอยา่ งสูงเกินสิบปี ข้ ึนไป พนักงานอยั การ พึงตระหนักวา่ กฎหมายมิได้
บญั ญตั ิใหต้ อ้ งมีหลกั ประกนั ดว้ ยเสมอไป
การปล่อยชวั่ คราวโดยมีประกนั ตอ้ งทาสัญญาประกันตามแบบที่สานักงานอยั การสูงสุดกาหนด ในการกาหนดจานวนเงิน
ในสญั ญาประกนั หรอื เรียกหลกั ประกนั พนักงานอยั การจะกาหนดจานวนเงิน หรือเรยี กหลกั ประกนั จนเกินควรแก่กรณีมิได้
การเรยี กประกนั หรอื หลกั ประกนั การปล่อยชวั่ คราวผูต้ อ้ งหาในช้นั สอบสวนจะเรียกจนเกินควรแก่กรณีมิได้ และตอ้ งคานึงถึง
เง่ือนไขและมาตรการป้ องกันต่าง ๆ ที่ไดใ้ ชก้ ับผูถ้ ูกปล่อยชวั่ คราวประกอบดว้ ย ท้ังน้ ี ใหเ้ ป็ นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไข
ท่ีกาหนดในกฎกระทรวงและขอ้ บงั คบั ของประธานศาลฎีกาท่ีออกตามความในวรรคสามของมาตรา 110 แห่งประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา
หลกั ทรพั ยต์ ามมาตรา 114 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หมายความถึง หลกั ทรพั ยท์ ุกชนิด เช่น ที่ดิน
อาคาร สิ่งปลูกสรา้ ง พนั ธบตั ร สลากออมสิน ตวั๋ แลกเงินที่ธนาคารเป็ นผูจ้ ่ายและผูจ้ ่ายไดร้ บั รองตลอดไป ตวั๋ สัญญาใชเ้ งินท่ีธนาคาร
เป็ นผอู้ อกตวั๋ เช็คที่ธนาคารเป็ นผูส้ งั่ จ่ายหรือรบั รอง หนังสือรบั รองของธนาคารหรือหนังสือรบั รองของบริษัทประกนั ภยั ที่รบั รองวา่ จะ
ชาระเงินตามจานวนท่ีระบุในสญั ญาประกนั แทนผปู้ ระกนั ในกรณีผิดสญั ญาประกนั เป็ นตน้
การฝาก การจ่าย การถอน หรือคืน เงินสดซึ่งเป็ นหลักประกัน ใหเ้ ป็ นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยการน้ัน
ส่วนหนังสือสาคญั อย่างอ่ืน เอกสารสิทธิตามกฎหมายท่ีดิน หรือเอกสารหลักทรัพยอ์ ื่นใหเ้ ก็บรกั ษาไวใ้ นตูน้ ิรภัย หากไม่มีตูน้ ิรภัย
ใหเ้ ก็บรกั ษาไวใ้ นสถานท่ีเหน็ สมควร
อนึ่ง โดยเฉพาะท่ีดินซ่ึงใชเ้ ป็ นหลกั ประกนั น้ัน ในการพิจารณาอนุญาตใหป้ ล่อยชวั่ คราวของพนักงานอยั การ ไมจ่ าเป็ นตอ้ ง
พิจารณาวา่ หนังสือรบั รองราคาประเมินที่ดินมีการประทับตราของกรมที่ดินหรือไม่ และจะตอ้ งมีกาหนดระยะเวลาว่าหนังสือรบั รอง
ราคาประเมินที่ดินใชไ้ ดถ้ ึงวนั เดือน ปี ใด อนั เป็ นการใหค้ วามสะดวกแก่ผูข้ อประกนั และสอดคลอ้ งกบั หลกั การคุม้ ครองสิทธิเสรีภาพ
ของประชาชนตามรฐั ธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบความถูกตอ้ งในเบ้ ืองตน้ โดยทวั่ ไปของราคาท่ีดินดงั กล่าว สานักงาน
อยั การทุกจงั หวดั ควรประสานกบั สานักงานท่ีดินจังหวดั เพ่ือขอเอกสารบญั ชีราคาประเมินที่ดินในแต่ละจังหวดั ไวป้ ระจาทุกที่ทาการ
เพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาหลกั ทรพั ยท์ ่ีใชใ้ นการประกนั ตวั และป้ องกนั ความผิดพลาดอีกช้นั หนึ่งดว้ ย
(ระเบียบสานักงานอยั การสูงสุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาชองพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 51 วรรคหา้ ถึงวรรคเกา้ ,
หนังสือกรมอยั การ ที่ มท 1203/ว 55 ลงวนั ที่ 12 กรกฎาคม 2533, หนังสือสานักงานอยั การสูงสุด ท่ี อส(สฝปผ.) 0018/ว 174
ลงวนั ท่ี 19 พฤศจิกายน 2541)
ที่มำ : คมู่ ือการดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546, คลงั กฎหมายและเอกสาร
ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยปรญิ ญำ จติ รกำรนทกี ิจ
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 46/2565
ประจำวนั ท่ี 9 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
คำขอทำ้ ยฟ้ อง
คำขอทำ้ ยฟ้ อง เป็ นส่วนสำคญั อีกส่วนหน่ึงที่จะตอ้ งระบุไวใ้ นฟ้ อง ซึ่งตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
มำตรำ 192 วรรคแรก บญั ญตั ิว่ำ หำ้ มมิใหศ้ ำลพิพำกษำ หรือสงั่ เกินคำขอ และในกำรทำคำขอทำ้ ยฟ้ องสำนักงำนอยั กำรสูงสุด
มีแบบพิมพ์ “คำขอทำ้ ยคำฟ้ องอำญำ” สำหรับใช้งำนโดยเฉพำะ มีลักษณะต่ำงจำกแบบพิมพ์ของศำล ประกอบดว้ ย
เร่ืองสำคญั 3 ประกำร คือ
1. กำรอำ้ งบทกฎหมำย
2. กำรขอใหศ้ ำลมีคำพิพำกษำหรือคำสงั่ และ
3. กำรลงช่ือโจทก์ ผเู้ รียง ผพู้ ิมพ์
หมวดที่ 1 กำรอำ้ งบทกฎหมำย
ประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ มำตรำ 158 (6) บญั ญัติให้ ตอ้ งอำ้ งมำตรำในกฎหมำยซึ่งบญั ญัติว่ำ
กำรกระทำเช่นน้ันเป็ นควำมผิด ซ่ึงต่ำงจำกกฎหมำยแพ่งท่ีไม่ตอ้ งอำ้ งกฎหมำยในคำขอทำ้ ยฟ้ อง เหตุที่คำฟ้ องคดีอำญำ
ต้องอำ้ งบทกฎหมำยท่ีบัญญัติว่ำกำรกระทำเป็ นควำมผิดในคำขอท้ำยฟ้ อง ก็เพรำะประสงค์จะใหจ้ ำเลยได้ทรำบว่ำ
กำรกระทำของจำเลยมีกฎหมำยท่ีใชข้ ณะกระทำน้ันบญั ญตั ิเป็ นควำมผิด และกำหนดโทษไว้ และโทษมีมำกน้อยเท่ำใดจำเลย
จะไดพ้ ิจำรณำว่ำควรรับสำรภำพหรือไม่ และยงั เป็ นกำรประกนั ว่ำจะไม่ถูกลงโทษหนักกว่ำที่กำหนดไวใ้ นมำตรำต่ำง ๆ
ที่ไดร้ ะบุไวใ้ นคำฟ้ องน้ัน
ในทำงปฏบิ ตั ิของพนักงำนอยั กำร คำฟ้ องตอ้ งระบุช่ือกฎหมำย มำตรำซ่ึงบญั ญตั ิว่ำกำรกระทำเช่นน้ันเป็ นควำมผิด
และมำตรำลงโทษ รวมท้งั มำตรำอื่นที่เก่ียวขอ้ ง เช่น ในกำรขอใหร้ ิบของกลำง อำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 32, 33
กำรกระทำของจำเลยเป็ นควำมผิดหลำยกรรมต่ำงกนั อำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 91 ในควำมผิดฐำนพยำยำม
กระทำผิดอำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ 80,81,82 แลว้ แต่กรณี ฐำนะของจำเลยในกำรกระทำผิด เช่น เป็ นตวั กำร
ผูก้ ่อ ผูใ้ ช้ ผูส้ นับสนุน อำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 83 - 87 กำรกระทำผิดอีก หรือ กำรขอใหศ้ ำลเพ่ิมโทษ
จำเลยอำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 92-93 กำรกระทำโดยประมำท อำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 59
กำรขอใหศ้ ำลกำหนดโทษ หรือบวกโทษ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 58 และกำรขอใหใ้ ชว้ ธิ ีกำรเพื่อควำมปลอดภยั
อำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 39 - 47 เป็ นตน้ ท้งั น้ ีเพือ่ ใหศ้ ำลไดเ้ ห็นเจตนำในกำรฟ้ องของโจทกช์ ดั เจนยงิ่ ข้ นึ
อน่ึง กรณีเป็ นควำมผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมำยหลำยบท ไม่จำเป็ นตอ้ งอำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 90
ลงไปในฟ้ อง เพรำะศำลลงโทษอย่ำงน้อยเป็ นกรรมเดียวไดอ้ ย่แู ลว้ แต่มีบำงคดีที่กำรกระทำของจำเลยอำจเป็ นควำมผิ ด
กรรมเดียวหรือหลำยกรรมไดแ้ ลว้ แต่มุมมองควำมเห็น จะบรรยำยควำมผิดท้งั หมดน้ันรวมกนั ไปในฟ้ องขอ้ เดียวกนั ใหศ้ ำล
ใชด้ ุลพินิจลงโทษจำเลยตำมท่ีเห็นสมควรก็ได้ ถึงแมว้ ่ำ กฎหมำยจะใหโ้ จทกฟ์ ้ องแยกกระทงเรียงกนั ก็ตำม (ตำมประมวล
กฎหมำยวธิ ีพจิ ำรณำควำมอำญำ มำตรำ 160) แต่ถำ้ ศำลเห็นวำ่ กำรกระทำของจำเลยเป็ นควำมผิดหลำยกระทง
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ศำลเรียงกระทงลงโทษตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 91ได้ แต่ถำ้ โจทก์ระบุเจำะจงไปว่ำกำรกระทำดังกล่ำว
เป็ นกรรมเดียว หรืออำ้ งประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 90 ดว้ ย ศำลตอ้ งลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวตำมประสงคข์ อง
โจทก์ ศำลไม่สำมำรถพิพำกษำเกินคำขอไดต้ ำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ มำตรำ 192 ดังตัวอย่ำง
คำพพิ ำกษำฎกี ำต่อไปน้ ี
“โจทกบ์ รรยำยฟ้ องว่ำ จำเลยพรำกเด็กหญิงไปเพ่ือกำรอนำจำร และข่มขืนกระทำชำเรำเด็กหญิงน้ัน ขอใหล้ งโทษ
ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ 277, 317, 90 ซ่ึงมิไดม้ ีรำยละเอียดใหเ้ ห็นว่ำโจทกป์ ระสงคใ์ หล้ งโทษทุกกรรม ท้งั ยงั อำ้ ง
ประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 90 มำดว้ ย ดังน้ ี แมท้ ำงพิจำรณำไดค้ วำมว่ำจำเลยกระทำผิดฐำน พรำกผเู้ ยำว์ กบั ข่มขืน
กระทำชำเรำ เป็ นควำมผิดหลำยกรรมต่ำงกนั ศำลจะลงโทษจำเลยในแต่ละกรรมนอกเหนือจำกคำฟ้ องและคำขอของโจทก์
หำไดไ้ ม่ เป็ นเร่ืองเกินคำขอ และเป็ นปัญหำเกี่ยวกบั ควำมสงบเรียบรอ้ ย ศำลฎีกำมีอำนำจยกข้ นึ วินิจฉยั ไดเ้ อง จึงใหล้ งโทษ
จำเลย ในควำมผิดฐำน พรำกผูเ้ ยำว์ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 317 วรรคสำม กรรมเดียว” (คำพิพำกษำ
ศำลฎกี ำท่ี 1774/2536)
ที่มำ : - คมู่ ือกำรดำเนินคดีอำญำสำหรบั พนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2546 หนำ้ 117-119.
ที่มำ : - คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำที่ 1774/2536
ที่มำ : - คลงั กฎหมำยและเอกสำร ระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ สำนักงำนอยั กำรสงู สุด
นำงศิริอร มณีสนิ ธุ์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 47/2565
ประจำวนั ท่ี 10 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพอื่ ทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
กำรทำรำยงำนกำรคดี
พนักงานอยั การจะตอ้ งบนั ทึกการดาเนินคดีทุกเรื่องในแบบรายงานการคดี (อ.ก. 13) เรียงไปตามลาดับ
เหตุการณ์ที่มีการใชต้ ามวนั ก่อนและหลงั จนเสร็จสานวน โดยใหไ้ ดค้ วามเพียงพอท่ีจะทราบวา่ ในการดาเนินคดีน้ัน
ในคร้งั ใดหรือวนั ใด พนักงานอยั การคนใดไดจ้ ดั การเกี่ยวกบั คดีน้ันไปอยา่ งไร ถา้ เหตุที่ไดจ้ ดั การไปน้ันสมควรจะให้
ปรากฏถึงเจตนาเพ่ือผลใด ๆ ก็ใหบ้ นั ทึกเป็ นเหตุใหป้ รากฏไวด้ ว้ ย ท้งั น้ ี เพ่ือเตือนความจาและเพื่อใหพ้ นักงานอยั การ
ที่รบั โอนสานวนหรือที่ตอ้ งดาเนินคดีแทนดาเนินการต่อไปได้ เช่น กรณีเรียกพยานมาซกั ถาม หรือในกรณีที่มีการ
สืบพยานใหบ้ ันทึกไวด้ ว้ ยว่า ไดส้ ืบพยานกี่ปาก แต่ละปากไดค้ วามว่าอย่างไรโดยย่อ หากมีการอา้ งพยานเอกสาร
ใหร้ ะบุวา่ เอกสารใดพรอ้ มท้งั เลขหมายเอกสารตามที่ศาลไดห้ มายไว้
ในคดีท่ีจาเลยใหก้ ารรบั สารภาพตามฟ้ องทุกประการโดยปราศจากเงื่อนไขและเป็ นคดีท่ีไม่ตอ้ งดาเนินการใด ๆ
ในศาลต่อไปอีกแลว้ ใหบ้ ันทึกรายงานการคดีในการช้ ีความในคดีอาญาใหป้ รากฏไวท้ ี่ปกสานวนตรงบรรทัดล่าง
(ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 129)
กรณีท่ีพยานเบิกความไม่ตรงกับคาใหก้ ารช้นั สอบสวน พนักงานอยั การผูว้ า่ คดีตอ้ งบันทึกรายงานการคดี
ใหต้ รงความเป็ นจริง
ตัวอย่างเช่น ฟ้ องจาเลยฐานปลน้ ทรพั ย์ ขอ้ เท็จจริงปรากฏว่า พนักงานสอบสวนไดเ้ บิกความขัดแยง้ กับ
ขอ้ เท็จจริงในสานวนการสอบสวนในประเด็นสาคญั โดยพยานเบิกความวา่ ผเู้ สียหายดตู วั จาเลยแลว้ ผเู้ สียหายยืนยนั
วา่ จาหน้าคนรา้ ยไมไ่ ด้ ท้งั ๆ ท่ีพนักงานสอบสวนเป็ นผจู้ ดบนั ทึกคาใหก้ ารช้นั สอบสวนของผเู้ สียหาย ซึ่งผเู้ สียหายได้
ใหก้ ารว่า “ขา้ ฯ ไดเ้ ห็น นาย... ผูต้ อ้ งหา (จาเลย) แลว้ จาไดว้ ่าเป็ นคนรา้ ยคนหน่ึงในจานวนสามคน ที่ร่วมปลน้
ทรพั ยข์ า้ ฯ” แต่พนักงานอัยการผูว้ า่ คดีกลับบันทึกในรายงานการคดี (อ.ก. 13) วา่ “โจทกน์ า ร.ต.ท. ... เขา้ เบิกความ
ไดส้ าระสาคัญตามทางสอบสวน ฯลฯ” ซึ่งเป็ นการบนั ทึกรายงานการคดีเท็จ ไม่ตรงต่อความเป็ นจริง นับเป็ นการ
ดาเนินคดีบกพรอ่ ง เป็ นตน้
ทีม่ ำ : คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยวิรชั เนตธิ รรมำภิมุข
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ี่เผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 48/2565
ประจำวนั ท่ี 11 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดแี พ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
ขอ้ สงั เกตในกำรตรวจสำนวนและสงั ่ คดี
กรณีการสอบสวนไมส่ ้ ินกระแสความ
ในการตรวจสานวนคดีอาญา อาจมีขอ้ เท็จจริงที่ยงั ไมย่ ุติ ขอ้ เท็จจริงท่ียงั ขดั แยง้ กนั ซ่ึงการขดั แยง้ กนั
ดังกล่าว อาจเป็ นการขัดแยง้ ในระหว่างพยานบุคคลกับพยานบุคคล พยานบุคคลกับพยานเอกสาร
พยานเอกสารกบั พยานเอกสาร การไม่สอบสวนพยานบุคคลท่ีเป็ นพยานแวดลอ้ มท่ีสาคญั ซึ่งพยานปากอื่น
ในสานวนการสอบสวนไดใ้ หก้ ารพาดพิงถึง สานวนการสอบสวนท่ีพนักงานสอบสวนไม่ไดจ้ ัดทาเอกสาร
บางอย่าง เพ่ือประกอบขอ้ เท็จจริงในสานวน ถา้ พนักงานอยั การไมส่ งั่ ใหส้ อบสวนเพ่ิมเติม ใหไ้ ดค้ วามชดั เจน
ก็จะมีผลในการสืบพยานในช้นั ศาล โดยศาลถือวา่ เป็ นขอ้ พิรุธของพยานโจทก์ และ พิพากษายกฟ้ อง
ในการพิจารณาตรวจสานวนของพนักงานอัยการ สานักงานอัยการสูงสุดไดก้ าหนดหลักเกณฑ์
ไวว้ า่ สานวนการสอบสวนจะตอ้ งสอบสวนใหส้ ้ ินกระแสความ ดงั กาหนดไวใ้ นระเบียบสานักงานอยั การสูงสุด
ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 32 เพ่ือปฏิบัติตามแนวระเบียบดังกล่าว
การพิจารณาสานวนจึงตอ้ งมีการสอบสวนเพ่ิมเติม ซึ่งเป็ นอานาจที่กฎหมายใหไ้ ว้ ตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 และระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญา
ของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 35
ในการพิจารณาสานวนจึงต้องตรวจสอบวันเวลา และสถานที่เกิดเหตุ ในเอกสารรายงาน
การสอบสวน คาใหก้ ารพยานบุคคล คาใหก้ ารผูต้ อ้ งหา บันทึกการตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ แผนที่สังเขป
ที่เกิดเหตุ บนั ทึกช้ ีท่ีเกิดเหตุประกอบคารบั สารภาพ บนั ทึกพนักงานสอบสวน บนั ทึกคารอ้ งทุกข์ แบบพิมพ์
ลายน้ ิวมือ และคารอ้ งขอฝากขงั หรือคารอ้ งขอผัดฟ้ องผูต้ อ้ งหาใหต้ รงกนั ทุกฉบบั หากมีฉบบั ใดฉบบั หน่ึง
ไม่ถูกต้อง ก็ควรที่จะใหพ้ นักงานสอบสวนดาเนินการใหถ้ ูกต้อง เหตุแห่งการผิดพลาดจะได้ไม่เกิดข้ ึน
ในช้นั พิจารณาของศาล
ที่มำ : คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาชน้ั ศาลสงู เล่มที่ 2
คณะกรรมการจดั ทาค่มู ือการดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู สานักงานคดีศาลสงู สานักงานอยั การสงู สุด พ.ศ. 2555 หนา้ 163
นำงสำวณฤดี เกียรติคงย่ิง
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่เี ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 49/2565
ประจำวนั ท่ี 14 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เร่ือง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร
สำนวนคดีอำญำ กรณีไมไ่ ดบ้ รรยำยฟ้ อง ขอใหศ้ ำลเพ่ิมโทษจำเลย ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 92
จำกกำรตรวจสอบสำนวนกำรสอบสวน รำยกำรประวัติกำรกระทำควำมผิดของจำเลย ได้ควำมว่ำ
จำเลย เคยต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เม่ือวันท่ี 27 สิงหำคม 2552 และพ้นโทษเม่ือวันท่ี
23 พฤศจิกำยน 2556 และไดก้ ลับมำกระทำควำมผิดในคดีน้ ี เมื่อวนั ที่ 23 มีนำคม 2561 จึงเป็ นกำรกระทำ
ควำมผิดใด ๆ อีก ภำยในเวลำหำ้ ปี นับแต่วันพน้ โทษ เขำ้ หลักเกณฑ์ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 92
ซ่ึงหำกศำลจะพิพำกษำลงโทษจำเลยในคดีน้ ีถึงจำคุก ก็ใหเ้ พิ่มโทษท่ีจะลงแก่จำเลยหนึ่งในสำมของโทษที่ศำล
กำหนดสำหรบั คดีน้ ี ซึ่งคดีน้ ี ศำลพิพำกษำลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 9 เดือน ตำมระเบียบสำนักงำนอัยกำรสูงสุด
วำ่ ดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำของพนักงำนอัยกำร พ.ศ. 2547 ขอ้ 56 และขอ้ 94 (ระเบียบสำนักงำนอยั กำรสูงสุด
วำ่ ดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2563 ขอ้ 33 และขอ้ 94) พนักงำนอยั กำรตอ้ งตรวจพิจำรณำ
สำนวนกำรสอบสวน และพิจำรณำสงั่ สำนวนโดยละเอียดรอบคอบ ตอ้ งขอใหศ้ ำลเพ่ิมโทษจำเลย และบรรยำยฟ้ อง
ในส่วนของกำรเพ่ิมโทษไวใ้ นคำฟ้ องดว้ ย แต่พนักงำนอัยกำรเจำ้ ของสำนวน ผูก้ ลัน่ กรองงำน และอัยกำรจงั หวดั
มิไดต้ รวจพิจำรณำสำนวนกำรสอบสวน และพิจำรณำสงั่ สำนวนโดยละเอียดรอบคอบ เป็ นเหตุใหจ้ ำเลยไดร้ บั โทษ
นอ้ ยกวำ่ ที่กฎหมำยกำหนด ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 92 จงึ เป็ นควำมบกพรอ่ ง
ที่มำ : สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ำยประเมินผล สำนักงำนวชิ ำกำร ,
บนั ทึกขอ้ ควำม สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ำยประเมนิ ผล ที่ อส 0007(ปผ)/444 ลงวนั ที่ 23 กนั ยำยน 2563
นำยวิชช์ จรี ะแพทย์
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ี่เผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 50/2565
ประจำวนั ท่ี 15 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดแี พง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอื่ ง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร : กำรตรวจสำนวนคดีอำญำ
สำนวนคดีอำญำ กำรพิจำรณำสำนวนพนักงำนอยั กำรตอ้ งตรวจควำมถกู ตอ้ งของสำนวนกำรสอบสวน
และพิจำรณำกำรสัง่ สำนวนโดยละเอียด รอบคอบ รวมท้ังตอ้ งพิจำรณำพยำนหลักฐำนในสำนวนว่ำเป็ น
พยำนหลกั ฐำนซ่ึงน่ำจะพิสจู น์ควำมผิดหรือควำมบริสุทธ์ิของผตู้ อ้ งหำ ไดห้ รือไม่
ตำมขอ้ เท็จจริงปรำกฏว่ำ หัวหน้ำพนักงำนอัยกำรได้รับสำนวนเพื่อพิจำรณำและดำเนินคดี
ผูต้ อ้ งหำในควำมผิดฐำนเสพและร่วมกนั มียำเสพติดใหโ้ ทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตำมีน) ไวใ้ นครอบครอง
เพ่ือจำหน่ำยโดยไม่ได้รับอนุ ญำต ท้ังน้ ี โดยเฉพำะควำมผิดฐำนเสพยำเสพติดให้โทษประเภท 1
(เมทแอมเฟตำมีน) ได้มีกำรพิจำรณำและฟ้ องคดีโดยตำมคำฟ้ องและขอ้ เท็จจริงแห่งคดี ปรำกฏว่ำ
จำเลยเสพเมทแอมเฟตำมีนในระหว่ำงวนั ที่ 3 มีนำคม 2555 เวลำกลำงคืนหลงั เที่ยงถึงวนั ที่ 4 มีนำคม 2555
เวลำกลำงวันต่อเน่ืองกัน และมีกำรเก็บตัวอย่ำงปั สสำวะของจำเลยไปตรวจหลังจำกวันที่จำเลยกระทำ
ควำมผิดตำมฟ้ องเป็ นเวลำ 2 เดือน แมผ้ ลกำรตรวจพิสูจน์จะพบเมทแอมเฟตำมีนในตัวอย่ำงปัสสำวะของ
จำเลยดังท่ีโจทก์นำสืบ แต่ระยะเวลำกำรกระทำผิดตำมฟ้ อง จึงเป็ นวนั เวลำก่อนท่ีจะนำปั สสำวะจำเลย
ไปตรวจถึง 2 เดือน จึงแตกต่ำงกนั อนั เป็ นเหตุใหศ้ ำลพิจำรณำเห็นวำ่ กรณี ไม่อำจช้ ีไดช้ ดั วำ่ จำเลยกระทำผิด
ฐำนเสพเมทแอมเฟตำมีนจริงหรือไม่ และไดม้ ีคำพิพำกษำถึงที่สุดใหย้ กฟ้ องจำเลยในควำมผิดฐำนดังกล่ำว
ซ่ึงกำรยกฟ้ องดังกล่ำวจึงเกิดจำกกำรไม่ตรวจและพิจำรณำสำนวนใหล้ ะเอียดรอบครอบอนั เป็ นขอ้ บกพร่อง
ตำมระเบียบสำนักงำนอยั กำรสูงสุดว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำช้นั ศำลสูงของพนักงำนอัยกำร พ.ศ. 2556
ขอ้ 35 (ระเบียบสำนักงำนอัยกำรสูงสุดว่ำด้วยกำรดำเนินคดีอำญำช้ันศำลสูงของพนักงำนอัยกำร
พ.ศ. 2563 ขอ้ 37)
ทีม่ ำ : สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ำยประเมินผล สำนักงำนวิชำกำร ,
บนั ทึกขอ้ ควำม สำนักงำนวชิ ำกำร สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ำยประเมินผล ที่ อส 0007(ปผ)/966
ลงวนั ท่ี 31 ธนั วำคม 2562
นำยยุคล เหลำ่ พูลสุข
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 51/2565
ประจำวนั ท่ี 16 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพ่ิมศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ขี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรื่อง กำรบงั คบั ทำงปกครองตำมพระรำชบญั ญตั วิ ิธีปฏิบตั ิรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ตอนท่ี 3
การบงั คบั ตามคาสงั่ ทางปกครองท่ีกาหนดใหช้ าระเงิน
การบังคบั ทางปกครองกรณีคาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงิน อาจทาได้ สองวิธี คือ เจา้ หน้าท่ีของหน่วยงานของรฐั
ดาเนินการเอง หรอื การบงั คบั โดยเจา้ พนักงานบงั คบั คดี
2.2.1. กรณีเจา้ หนา้ ที่ของหน่วยงานของรฐั ดาเนินการเอง (รายละเอียดปรากฏตาม KM : 3P เรอื่ งที่ 44/2565)
2.2.2. กรณีการบงั คบั โดยเจา้ พนักงานบงั คบั คดี ตาม มาตรา 63/15
ขอ้ 1 ใหห้ น่วยงานของรัฐท่ีออกคาสัง่ ใหช้ าระเงิน ย่ืนคาขอฝ่ ายเดียวต่อศาลภายในสิบปี นับแต่วนั ที่คาสัง่ ทางปกครอง
ท่ีกาหนดใหช้ าระเงินเป็ นท่ีสุด เพ่ือใหศ้ าลออกหมายบังคบั คดีเพื่อบงั คับใหเ้ ป็ นไปตามคาสัง่ ทางปกครองน้ัน โดยระบุจานวนเงินที่
ผูอ้ ยู่ในบังคบั ของมาตรการบังคับทางปกครองยังมิไดช้ าระตามคาสั่งทางปกครอง ท้ังน้ ี ไม่วา่ หน่วยงานของรฐั ยังไม่ไดบ้ ังคับทาง
ปกครองหรอื ไดด้ าเนินการบงั คบั ทางปกครองแลว้ แต่ยงั ไมไ่ ดร้ บั ชาระเงินหรือไดร้ บั ชาระเงินไมค่ รบถว้ น
ศาลที่มีอานาจพิจารณามีอานาจวินิจฉัยช้ ีขาด หรือทาคาสงั่ ในเร่ืองใด ๆ อันเก่ียวดว้ ยการบงั คบั คดี รวมท้งั ก ารบงั คบั คดี
ไดแ้ ก่ ศาลจงั หวดั และศาลแพ่งในเขตกรงเทพมหานครท้งั หมด ที่ผูอ้ ยูใ่ นบงั คบั มาตรการบงั คบั ทางปกครองมีภูมิลาเนาอยู่ในเขตศาล
หรือ ศาลที่ทรพั ยส์ ินท่ีถกู บงั คบั ทางปกครองน้ันต้งั อยใู่ นเขตศาล
กรณีคาขอซึ่งอาจย่ืนต่อศาลไดม้ ากกว่าหน่ึงศาล ไม่ว่าจะเป็ นเพราะภูมิลาเนาของผูอ้ ยู่ในบังคับของมาตรการบังคบั ทาง
ปกครองก็ดี เพราะท่ีต้งั ของทรพั ยส์ ินท่ีถูกบงั คบั ทางปกครองก็ดี หรอื เพราะมีผูอ้ ยใู่ นบงั คบั ของมาตรการบงั คบั ทางปกครองหลายคนใน
มลู หน้ ีท่ีเกี่ยวขอ้ งกนั ก็ดี จะย่ืนคาขอตอ่ ศาลใดศาลหนึ่งเช่นวา่ น้ันก็ได้
ขอ้ 2 หน่วยงานของรฐั ท่ีมีอานาจยื่นคาขอตามขอ้ 1 หมายถึง กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการ ท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืน
และมฐี านะเป็ นกรม ราชการสว่ นภมู ิภาค ราชการสว่ นทอ้ งถิ่น และหน่วยงานอ่ืน ของรฐั ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
ขอ้ 3 ถา้ ศาลเหน็ วา่ คาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงินเป็ นท่ีสุดแลว้ ใหศ้ าลออกหมายบงั คบั คดีต้งั เจา้ พนักงานบงั คบั คดี
และแจง้ ใหเ้ จา้ พนักงานบงั คบั คดีทราบเพื่อดาเนินการต่อไป โดยใหถ้ ือว่าหน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินเป็ นเจา้ หน้ ีตามคา
พิพากษา และใหถ้ ือวา่ ผอู้ ยใู่ นบงั คบั ของมาตรการบงั คบั ทางปกครองเป็ นลกู หน้ ีตามคาพิพากษา
ขอ้ 4 เม่ือศาลออกหมายบังคบั คดีแลว้ ใหห้ น่วยงานของรฐั ติดต่อกรมบงั คบั คดี พรอ้ มท้งั มีหนังสือแจง้ ใหผ้ ูอ้ ยู่ในบงั คบั ของ
มาตรการบงั คบั ทางปกครองทราบวา่ ศาลไดต้ ้งั เจา้ พนักงานบงั คบั คดี เพ่ือดาเนินการบงั คบั คดีแลว้ โดยในการดาเนินการบงั คบั คดี
ตามหมายบงั คบั คดีของศาล เพ่ือประโยชน์ในการบงั คบั คดีใหน้ ามาตรา 63/10และมาตรา 63/11 มาบงั คบั ใชก้ ารสืบหาทรพั ยส์ ินได้
ดว้ ย ตาม มาตรา 63/13
นอกจากน้ ี หน่วยงานของรัฐท่ีออกคาสัง่ ใหช้ าระเงินตอ้ งดาเนินการสืบทรัพย์แลว้ แจง้ ใหเ้ จา้ พนักงานบังคับคดีทราบ
พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวขอ้ งเพ่ือใหเ้ จ้าพนักงานบงั คบั คดี ดาเนินการเพื่อใหม้ ีการยึดหรืออายดั ทรพั ยส์ ินภายในสิบปี นับแต่วนั ที่
คาสัง่ ทางปกครองท่ีกาหนดให้ ชาระเงินเป็ นท่ีสุด และใหน้ าความในมาตรา 63/8 วรรคสามและวรรคส่ี มาใชบ้ ังคับโดยอนุโลม
(มาตรา 63/18) และมิใหน้ าระยะเวลาระหวา่ งการงดการบงั คบั คดีตามคาสัง่ ศาลตามมาตรา 63/10 วรรคหนึ่ง มานับรวมในระยะ
การบงั คบั คดีสิบปี ดงั กล่าว (ตาม มาตรา 63/18 วรรคสอง)
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ขอ้ 5 การขอทุเลาการบงั คบั คดี ตาม มาตรา 63/16 วรรคหน่ึงและวรรคสอง)
5.1 เหตุท่ีจะขอทุเลาการบงั คบั คดี เมื่อปรากฏวา่
(1) ในกรณีที่คาสัง่ ทางปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงินเป็ นที่สุดแล้ว และต่อมาผู้อยู่ในบังคับของคาสัง่ ทางปกครอง
ขอใหพ้ ิจารณาคาสงั่ ทางปกครองท่ีเป็ นที่สุดแลว้ น้ันใหม่ หรือ
(2) ฟ้ องคดีตอ่ ศาลเพ่ือใหพ้ ิจารณาเกี่ยวกบั คาสงั่ ทางปกครองที่เป็ นท่ีสุดแลว้ น้ันใหม่ หรือ
(3) ขอใหศ้ าล พิจารณาคดีใหม่และหน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินหรือศาลมีคาสงั่ ใหร้ บั คาขอหรือไดร้ บั คาฟ้ องไว้
พิจารณา
ผูอ้ ยู่ในบังคับของคาสัง่ ทางปกครองอาจยื่นคารอ้ งต่อศาลท่ีมีอานาจในการออกหมายบังคับคดีตามมาตรา 63/15
เพื่อขอใหส้ งั่ งดการบงั คบั คดีไวก้ อ่ น
5.2 หากศาลพิจารณาคารอ้ งแลว้ มีคาสัง่ ใหง้ ดการบังคับคดีใหศ้ าลส่งคาสัง่ น้ันไปใหเ้ จา้ พนักงานบังคับคดีท ราบ และ
ใหเ้ จา้ พนักงานบงั คบั คดีงดการบงั คบั คดีไวภ้ ายในระยะเวลาหรือเงื่อนไขตามท่ีศาลกาหนด รวมท้งั ส่งคาบอกกล่าวงดการบงั คบั คดีให้
หน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินและบุคคลภายนอกผมู้ สี ่วนไดเ้ สียทราบโดยไมช่ กั ชา้
5.3 การรอ้ งคดั คา้ น
ถา้ หน่วยงานของรฐั ท่ีออกคาสัง่ ใหช้ าระเงิน ยื่นคารอ้ งว่า อาจไดร้ บั ความเสียหายจากการยื่นขอทุเลาการบังคับคดีและ
มีพยานหลกั ฐานเบ้ ืองตน้ แสดงวา่ คารอ้ งน้ันไมม่ ีมูลและย่ืนเขา้ มาเพ่ือประวิงการบงั คบั คดี ศาลมีอานาจสงั่ ใหผ้ ูอ้ ยู่ในบงั คบั ของคาสงั่
ทางปกครองวางเงินหรือหาประกนั ตามท่ีศาลเห็นสมควรภายในระยะเวลาที่ศาลจะกาหนด เพ่ือเป็ นประกนั การชาระค่าสินไหมทดแทน
แก่หน่วยงานของรฐั สาหรบั ความเสียหายท่ีอาจไดร้ บั เน่ืองจากเหตุเนิ่นชา้ ในการบงั คบั คดีอันเกิดจากการยื่นคารอ้ งน้ัน หรือกาหนด
วธิ ีการชวั่ คราวเพื่อคุม้ ครองอยา่ งใด ๆ ตามท่ีเหน็ สมควรก็ได้ ถา้ ผูอ้ ยูใ่ นบงั คบั ของคาสงั่ ทางปกครองไมป่ ฏิบตั ิตามคาสงั่ ศาล ใหศ้ าลสงั่
ใหด้ าเนินการบงั คบั คดีต่อไป
5.4 การเพิกถอนการบงั คบั คดี ตาม มาตรา 63/16 วรรคสาม
ในกรณีหน่วยงานของรฐั ที่ออกคาสัง่ ใหช้ าระเงินหรือศาลท่ีมีเขตอานาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับคาสัง่ ทาง
ปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงิน ไดม้ คี าสงั่ ใหท้ บทวนคาสงั่ ทางปกครองที่เป็ นท่ีสุดน้ันใหม่
ใหห้ น่วยงานของรฐั ที่ออกคาสงั่ ใหช้ าระเงินยน่ื คารอ้ งต่อศาลที่มอี านาจออกหมายบงั คบั คดีตามมาตรา 63/15 เพื่อเพิกถอน
การบงั คบั คดีท่ีไดด้ าเนินการไปแลว้
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าเป็ นการพน้ วิสัยที่จะใหค้ ู่ความกลับสู่ฐานะเดิม หรือเม่ือศาลเห็นว่าไม่จาเป็ นท่ีจะบังคับใหเ้ ป็ นไป
ตามหมายบังคบั คดีต่อไป เพื่อประโยชน์แก่คู่ความหรือบุคคลภายนอก ใหศ้ าลมีอานาจสัง่ อย่างใด ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควร และ
แจง้ ใหเ้ จา้ พนักงานบงั คบั คดีทราบ
5.5 การดาเนินการบังคับคดีใหเ้ ป็ นไปตามคาสัง่ ทางปกครองที่กาหนดใหช้ าระเงิน ใหเ้ ป็ นไปตามประมวลกฎหมาย
วธิ ีพิจารณาความแพง่ (มาตรา 63/19)
ท่ีมำ : พระราชบญั ญตั ิวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
นำยเชดิ ศกั ด์ิ หริ ญั สิริสมบตั ิ
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เ่ี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 52/2565
ประจำวนั ที่ 17 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรประกนั ดว้ ยบคุ คลโดยไม่มีหลกั ประกนั
ระเบียบสำนักงำนอัยกำรสูงสุดว่ำด้วยกำรดำเนินคดีอำญำของพนักงำนอัยกำร พ.ศ. 2563 ขอ้ 52
กำหนดกำรพิจำรณำคำรอ้ งขอปล่อยชัว่ ครำวโดยไม่มีหลักประกัน ใหพ้ ิจำรณำควำมน่ำเช่ือถือของผู้รอ้ งจำก
อำชีพ สถำนภำพ ชื่อเสียงทำงสังคมหรือคุณสมบัติอื่น ๆ ของผูร้ อ้ ง และผูต้ อ้ งหำมีสิทธิรอ้ งขอใหป้ ล่อยชัว่ ครำว
โดยไม่มีหลกั ประกนั ไดด้ ว้ ย
แต่เดิม สำนักงำนอยั กำรสงู สุดไดก้ ำหนดหลักเกณฑ์สำหรบั กำรใชบ้ ุคคลเป็ นประกนั ในกำรปล่อยชวั่ ครำว
กำรประกันด้วยบุคคลในกำรทำสัญญำประกันตนเองหรือผู้อื่น แยกตำมสถำนภำพของบุคคลแต่ละประเภท
เช่น ผูท้ ำสัญญำประกันเป็ นขำ้ รำชกำรพลเรือน (เฉพำะขำ้ รำชกำรประจำเท่ำน้ัน) ขำ้ รำชกำรบำนำญ พนักงำน
รฐั วิสำหกิจ ขำ้ รำชกำรฝ่ ำยกำรเมือง ขำ้ รำชกำรส่วนทอ้ งถิ่น บุคคลทัว่ ไป เป็ นตน้ โดยกำหนดจำนวนเงินท่ีบุคคล
ในสถำนภำพน้ันจะตอ้ งรบั ผิดไวเ้ ป็ นกำรแน่นอน และในบำงหน่วยงำนยงั มีมำตรกำรควบคุมกำรใชบ้ ุคคลเป็ นประกนั
ในกำรขอปล่อยชัว่ ครำวผู้ต้องหำในคดีอำญำไวเ้ ป็ นพิเศษ ดังเช่นที่ปรำกฏในหนังสือเวียนสำนักงำนอัยกำรสูงสุดต่ำง ๆ
อน่ึง ในปัจจุบัน หลักเกณฑ์กำรประกันด้วยบุคคลในกำรทำสัญญำประกันตนเองหรือผูอ้ ่ืนน้ัน ระเบียบ
สำนักงำนอัยกำรสูงสุดว่ำด้วยกำรดำเนินคดีอำญำ พ.ศ. 2563 ขอ้ 51 ใหถ้ ือปฏิบัติตำมประมวลกฎหมำย
วิธีพิจำรณำควำมอำญำ ระเบียบรำชกำรฝ่ ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ว่ำดว้ ยกำรปล่อยชัว่ ครำว พ.ศ. 2548 และ
ขอ้ บังคับของประธำนศำลฎีกำว่ำดว้ ยหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขเก่ียวกับกำรเรียกประกันหรือหลักประกัน
ในกำรปล่อยชวั่ ครำวผตู้ อ้ งหำหรือจำเลยในคดีอำญำ พ.ศ. 2548 และหนังสือเวยี นที่เก่ียวขอ้ ง
ที่มำ : คมู่ อื กำรดำเนินคดีอำญำสำหรบั พนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมำยและเอกสำร ระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ สำนักงำนอยั กำรสูงสุด
นำยปรญิ ญำ จติ รกำรนทีกิจ
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 53/2565
ประจำวนั ที่ 18 มีนำคม 2565
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
วิธีกำรอำ้ งมำตรำ ในคำฟ้ องของพนกั งำนอยั กำร
1. หลกั ทวั ่ ไป
ควรเรียงมาตราท่ีกฎหมายบญั ญัติว่าการกระทาเช่นน้ันเป็ นความผิด และเป็ นบทหนักข้ ึนก่อน เพ่ือใหส้ อดคลอ้ ง
ต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 และการลงสารบบประเภทคดีหลกั อีกท้งั เป็ นการสะดวกในการ
จะตรวจสอบว่าคดีดงั กล่าวเป็ นคดีท่ีตอ้ งสืบพยานประกอบหรือไม่ แต่ไม่ควรถือหลกั ตอ้ งอา้ งมาตราเรียงลาดบั ตามเลขมาก
ไปหาเลขน้อย หรือจากเลขน้อยไปหาเลขมากข้ ึน เพราะกฎหมายแต่ละฉบับจะมีระบบการเรียงบทมาตราไม่เหมือนกนั
บางฉบบั มาตราที่บญั ญตั ิว่าเป็ นความผิด จะถูกกาหนดไวก้ ่อนบทลงโทษ เช่น พระราชบญั ญตั ิต่างๆ ส่วนประมวลกฎหมายอาญา
จะบัญญัติบทมาตราทัว่ ไปที่ไม่เก่ียวกับความผิดไวก้ ่อน จากน้ันจึงเป็ นบทเก่ียวกับความผิดและกาหนดโทษไวใ้ นตัว
ซ่ึงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) ที่ถือว่าเป็ นแม่บทในการทาคาฟ้ องคดีอาญากาหนดให้
อา้ งมาตราในกฎหมายซ่ึงบัญญัติว่าการกระทาเช่นน้ันเป็ นความผิด จึงควรอา้ งมาตรากฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทา
เช่นน้ันเป็ นความผิดข้ นึ กอ่ น ตามที่กฎหมายใหค้ วามสาคญั เช่น ฟ้ องวา่ จาเลยกบั พวกอีก 1 คน ร่วมกนั กระทาความผิดฐาน
ทารา้ ยร่างกายและทาใหเ้ สียทรพั ย เป็ นความผิดหลายกรรมต่างกนั การอา้ งบทมาตราควรเป็ นดงั น้ ี
“ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,295,91,83,33 พระราชบัญญัติแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบบั ท่ี 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4” เป็ นตน้
ในกรณีที่จาเลยกระทาผิดต่อกฎหมายหลายฉบบั ควรอา้ งกฎหมายแต่ละฉบบั ใหเ้ ป็ นหมวดหม่ไู ป
2. การอา้ งบทมาตราท่ีกฎหมายบญั ญตั ิว่าการกระทาน้ันเป็ นความผิด ไม่จาเป็ นตอ้ งระบุ วรรค หรือ อนุมาตรา
หรือ วงเล็บ ไปดว้ ย เพราะจะทาใหก้ ารอา้ งกฎหมายแคบลง อาจไม่ครอบคลุมการกระทาผิดของจาเลย และป้ องกัน
การนับวรรคผิด หรืออา้ งเลขในวงเล็บไม่ถูกตอ้ ง เวน้ แต่ บทบญั ญัติว่าการกระทาเป็ นความผิดในแต่ละวรรค อนุมาตรา
หรือวงเล็บ มีบทลงโทษแยกอยู่คนละมาตรา จึงจะระบุวรรค หรือวงเล็บของบทกฎหมายน้ัน เช่น ความผิดตาม
พระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 แต่ละอนุมาตราจะมีบทลงโทษอยใู่ นมาตรา 157 หรือ 160 ก็สามารถ
ระบุอนุมาตราได้ หรือ ในบางความผิดที่เห็นชินตาว่าไม่เป็ นคดีท่ีตอ้ งมีการสืบพยาน แต่ในบางวรรค มีอตั ราโทษข้นั ตา่
ต้งั แต่หา้ ปี ข้ นึ ไปซ่ึงโจทกจะตอ้ งสืบพยานใหเ้ ป็ นท่ีพอใจแก่ศาลว่าจาเลยไดก้ ระทาผิดตามฟ้ อง ก็อาจระบุมาตราและวรรคได้
เพื่อเป็ นเครื่องเตือนในการแถลงศาลขอสืบพยานประกอบ เช่นความผิดฐาน รับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 357 วรรคสาม เป็ นตน้ ซึง่ แมไ้ มอ่ า้ งวรรค หรืออนุมาตรา ศาลก็มีหนา้ ท่ีตอ้ งปรบั บทกฎหมายลงโทษจาเลยใหถ้ กู ตอ้ งได้
3. การอา้ งบทมาตราที่มีการแกไ้ ขเพ่ิมเติม กรณีมีกฎหมายแกไ้ ข ใหร้ ะบุกฎหมายท่ีแกไ้ ขดว้ ย โดยเรียงติดต่อ
กบั กฎหมายหลกั โดยอา้ งเป็ นหมวดหม่เู ดียวกนั และอา้ งบทมาตรากฎหมายฉบบั ที่แกไ้ ขหลงั สุดเท่าน้ัน ไม่ว่าบทมาตราน้ัน
จะมีการแกไ้ ขเพมิ่ เติมก่ีคร้งั ก็ตามโดยไม่ตอ้ งใชค้ าเชื่อม และ หรือ กบั ในการอา้ งกฎหมาย
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ขอ้ สงั เกต
ตามกฎหมาย และแนวคาพพิ ากษาศาลฎกี า
1. “ถา้ ศาลเห็นว่าขอ้ เท็จจริงตามฟ้ องน้ันโจทกสืบสม แต่โจทกอา้ งฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมีอานาจลงโทษ
จาเลยได้ ตามฐานความผิดท่ีถูกตอ้ งได้” (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 192 วรรคหา้ ) โจทก ขอใหล้ งโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ซ่ึงเป็ นการอา้ งฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมีอานาจปรับบท และ
ปรับโทษ ตามมาตรา 191 อนั เป็ นบทที่ถูกตอ้ งไดต้ ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคหา้
ท้ังน้ ี แม้อัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 191 สูงกว่า มาตรา 189 ก็ตาม เพราะบทบัญญัติของ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหา้ เป็ นขอ้ ยกเวน้ ของวรรคแรก จาเลยจะอา้ งว่าพิพากษา
เกนิ คาขอไมไ่ ด้ (คาพิพากษาฎกี าที่ 391/2509)
ศาลจะมีอานาจลงโทษใหถ้ ูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคหา้ ไดน้ ้ัน
ตอ้ งเป็ นเรื่องท่ีโจทกสืบสมตามท่ีกล่าวไวใ้ นฟ้ องเพียงแต่อ้างบทผิดไปเท่าน้ัน แต่ตอ้ งมิใช่เร่ืองท่ีโจทกอา้ งตวั บทกฎหมายผิด
เป็ นคนละฉบบั (คาพพิ ากษาฎกี าที่ 1173/2539)
2. โจทกอา้ งกฎหมายที่ยกเลิกแลว้ มาขอใหล้ งโทษจาเลยเท่ากบั ไม่ไดอ้ า้ งกฎหมายใดเลยหาใช่เป็ นเร่ืองที่โจทกอา้ ง
บทมาตราผิดไม่ ศาลลงโทษจาเลยไม่ได้ (คาพิพากษาฎกี าที่ 488/2483)
3. โจทกบรรยายฟ้ องว่า จาเลยกระทาผิด ฐานชิงทรัพย เป็ นเหตุใหม้ ีผูอ้ ่ืนไดร้ บั อนั ตรายสาหสั และพยายามฆ่า
เพ่ือจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชนอันเกิดแก่การที่จาเลยกับพวกได้ชิงทรัพยแต่โจทกไม่ระบุอ้างประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 289 มาในคาขอทา้ ยฟ้ อง กรณีมิใช่โจทกอา้ งฐานความผิด หรือบทมาตราผิด แต่โจทกไม่อา้ งมาตรากฎหมาย
ที่บญั ญตั ิว่าการกระทาเช่นน้ันเป็ นความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) ศาลลงโทษ
จาเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ไม่ได้
4. กรณีที่การกระทาเป็ นการฝ่าฝืนต่อ พระราชกฤษฎีกา พระราชกาหนด กฎกระทรวง หรือประกาศของรฐั มนตรี
ซ่งึ บญั ญตั ิว่าเป็ นความผิด (เป็ นองคประกอบความผิด)
นอกจากตอ้ งบรรยายในฟ้ องแลว้ ตอ้ งอา้ งไวใ้ นทา้ ยฟ้ องดว้ ย เพราะเป็ นท้งั องคประกอบความผิด และเป็ นบทบญั ญตั ิ
วา่ การกระทาเช่นน้ันเป็ นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6)
กำรบรรยำยฟ้ องทีบ่ กพรอ่ งท่สี ำนกั งำนอยั กำรสูงสดุ เคยแนะนำตกั เตือน
ความผิดฐานมีซากสัตวป่ าสงวน และซากสัตวป่ าคุม้ ครองไวใ้ นความครอบครองโดยไม่ไดร้ ับอนุญาตพนักงานอัยการ
จะตอ้ งบรรยายฟ้ องใหป้ รากฏดว้ ยว่า ซากสตั วป่ าคุม้ ครองเป็ นชนิดท่ีคุม้ ครองไวใ้ นกฎกระทรวง ฉบับใด ลงวนั ท่ีเท่าใด และอยใู่ น
ลาดับท่ีเท่าไร ตามบัญชีทา้ ยกฎกระทรวง และตอ้ งอา้ งกฎกระทรวงอันเป็ นกฎหมายที่จาเลยฝ่ าฝืนไวใ้ นคาขอท้ายฟ้ องด้วย
ศาลฎีกาพิจารณาว่าฟ้ องของโจทกมิไดก้ ล่าวอา้ งกฎกระทรวงน้ ีไว้ เป็ นฟ้ องที่ไม่สมบูรณ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา มาตรา 158 และเม่อื ฟ้ องโจทกไมส่ มบรู ณ ศาลก็สงั่ ริบของกลางไม่ไดด้ ว้ ย (คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 3869/2526)
ที่มำ : - ค่มู ือการดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546 หนา้ 119-122.
ที่มำ : - คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 391/2509, 1173/2539, 488/2483, 3869/2526)
ที่มำ : - คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำงศิรอิ ร มณีสนิ ธุ์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอ่ื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 54/2565
ประจำวนั ที่ 21 มีนำคม 2565
สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
กำรลงสมุดบญั ชีนดั ทำกำร (บ. 2)
สมุดบัญชีนัดทำกำร (บ. 2) เป็ นบัญชีเกี่ยวกับคดีควำม กำรลงสมุดบัญชีนัดทำกำร (บ. 2)
ใหใ้ ชห้ มึกสีน้ำเงิน หรือสีดำ แต่ในคดีท่ีมีอัตรำโทษอย่ำงตำ่ จำคุกต้ังแต่ 5 ปี ข้ ึนไป เมื่อลงนัดพิจำรณำ
ใหล้ งดว้ ยหมึกสีแดง ช่องขอ้ หำใหเ้ ขียนขอ้ หำตำมคำฟ้ อง ช่องสืบพยำนแลว้ กี่ปำก ช่องน้ ีลงเฉพำะเม่ือศำล
ไดส้ ืบพยำนแลว้ โดยลงเฉพำะตวั เลขจำนวนพยำนที่สืบได้ ส่วนพยำนปำกท่ีสืบไมเ่ สร็จในวนั น้ันยงั ไมน่ ับรวม
เป็ น 1 ปำก แต่ไปนับรวมในนัดหน้ำที่สืบเสร็จปำก หำกมีกำรเล่ือนกำรสืบพยำนโจทก/์ จำเลย รบั สำรภำพ
ถอนคำรอ้ งทุกข์ จำหน่ำยคดี ใหล้ งรำยกำรในช่องหมำยเหตุ ช่องชื่อผู้ว่ำควำมกรณีสืบ พยำนคร้ังแรก
ต้องเขียนชื่อพร้อมนำมสกุลด้วยตัวบรรจง สืบพยำนคร้ังต่อ ๆ ไปให้ลงช่ือย่อ ถ้ำเป็ นกำรสืบพยำน
เจำ้ ของสำนวนก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับกำรสืบพยำนในคร้ังแรก คดีฟ้ องศำลจำเลยใหก้ ำรรับสำรภำพ
ไม่มีกำรสืบพยำน ใหถ้ ือว่ำพนักงำนอยั กำรเวรช้ ีเป็ นผู้ว่ำควำม กำรส่งหมำยเมื่อออกหนังสือส่งหมำยเรียก
อ.ก. 23 ใหพ้ นักงำนสอบสวนรบั ไปแลว้ ใหห้ มำยเหตุ “ม” ดว้ ยหมกึ สีแดงในชอ่ งหมำยเหตุ
สำหรับกำรลงสมุดบัญชีนัดทำกำรน้ัน ส่วนบน สำหรับลงนัดฟั งคำพิพำกษำ และสืบพยำน
ส่วนล่ำง ลงนัดช้ ีควำมจำเลยรับสำรภำพ และนัดทำกำรอ่ืน แล้วนำสำนวนส่งคืนเจ้ำของสำนวน
เพื่อดำเนินกำรในสว่ นที่เก่ียวขอ้ งต่อไป
ที่มำ : คมู่ อื กำรดำเนินคดีอำญำสำหรบั พนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมำยและเอกสำร ระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ สำนักงำนอยั กำรสงู สุด
นำยวิรชั เนตธิ รรมำภิมุข
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่เี ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 55/2565
ประจำวนั ที่ 22 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพิ่มศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ขี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
ขอ้ สงั เกตในกำรตรวจสำนวนและสงั ่ คดี กรณีกำรสอบสวนไม่ส้ ินกระแสควำม
ตวั อยา่ งขอ้ สงั เกตที่ไมไ่ ดส้ งั่ สอบสวนเพ่ิมเติม
- ฟ้ องจาเลยฐานมีเฮโรอีนเพื่อจาหน่าย บนั ทึกการตรวจคน้ จบั กุมระบุว่า จาเลยเป็ นผูน้ าตรวจคน้
และพบเฮโรอีนของกลาง แต่คาใหก้ ารช้นั สอบสวนของพยานซึ่งเป็ นตารวจ ใหก้ ารว่า พยานเป็ นผูค้ น้ พบ
เฮโรอีนของกลางจากรูระบายน้าที่ดา้ นหลังหอ้ งน้า จึงเป็ นกรณีคาใหก้ ารช้นั สอบสวนพยานขดั กับบันทึก
การจบั กุม ทาใหศ้ าลยกฟ้ อง
- ฟ้ องจาเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร บันทึกคาให้การของพยานโจทก์ 3 ปากมีขอ้ ความ
ตรงกบั รายงานการสอบสวนวา่ วนั เกิดเหตุเวลา 10.00 น. กระบือผูเ้ สียหายไดห้ ายไป จึงไดต้ ิดตามพบจาเลย
จงู กระบือของผูเ้ สียหายเวลา 11.00 น. ซึ่งแตกต่างจากบนั ทึกคารอ้ งทุกข์ บนั ทึกของพนักงานสอบสวนและ
บนั ทึกความเห็นชอบออกหมายจบั ว่า ติดตามไปพบจาเลยจูงกระบือน้ันเป็ นเวลา 15.00 น. ซึ่งแตกต่างกนั
ถึง 4 ชวั่ โมง นอกจากน้ ีตาหนิรปู พรรณของผูก้ ระทาผิด ระบุวา่ เหตุเกิดเวลา 14.00 น. ทาใหศ้ าลยกฟ้ อง
- ฟ้ องจาเลยฐานฆ่าผูอ้ ื่น ภรรยาผูต้ ายบอกพยานคนหน่ึงว่าคนรา้ ยคือจาเลย แต่ในรายงานชนั สูตร
พลิกศพของผู้ตาย ซึ่งเป็ นเอกสารที่ทาหลังเกิดเหตุใหม่ๆ ในช่องผูท้ ่ีทาใหต้ าย กลับไม่ระบุชื่อผูท้ ่ีทาใหต้ ายไว้
ทาใหศ้ าลยกฟ้ อง
ทม่ี ำ : ค่มู ือการดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู เล่มท่ี 2
คณะกรรมการจดั ทาค่มู ือการดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู สานักงานคดีศาลสงู สานักงานอยั การสงู สุด พ.ศ. 2555
หนา้ 163-164
นำงสำวณฤดี เกียรตคิ งยง่ิ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องที่ 56/2565
ประจำวนั ที่ 23 มีนำคม 2565
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่อื ทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
เร่ือง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ิรำชกำร
ความผิดฐานพยายามฆ่าผูอ้ ื่น มีอาวุธปื นและเครื่องกระสุนปื นไวใ้ นครอบครองโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต และพกพา
อาวุธปื นติดตวั ไปในเมือง หมบู่ า้ น ทางสาธารณะ โดยเปิ ดเผย โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต โดยไม่มเี หตุสมควร
จากการพจิ ารณา ปรากฏวา่ พยานเคยใหก้ ารต่อพนักงานสอบสวนตามบนั ทกึ คาใหก้ ารวา่ เห็นบคุ คลท่ใี สเ่ ส้ อื สแี ดงใชอ้ าวธุ
ปื นพกยงิ ไปยงั กลุ่มวยั รุ่น แลว้ เห็นวยั รุ่นคนหน่ึงลม้ ลง แต่ในช้นั พิจารณา พยานปากน้ ีเบิกความว่าขณะเกิดเหตุไดย้ ินเพียงเสียงปื น
ดงั ข้ ึน 1 นัด แต่ไม่ทราบว่าบุคคลใดยิง และยืนยนั ว่า พนักงานสอบสวนบนั ทึกคาใหก้ ารดงั กล่าวไวไ้ ม่ถูกตอ้ ง น้ัน ถือไดว้ ่าพยาน
เบิกความกลบั คาใหก้ ารช้นั สอบสวนในขอ้ สาระสาคญั ทาใหเ้ สียรปู คดี เพราะจากขอ้ เท็จจริงที่เห็นว่า ใครเป็ นคนรา้ ย เป็ นไม่เห็นว่า
ใครเป็ นคนรา้ ยที่ใชอ้ าวธุ ปื นยงิ ซ่งึ พนักงานอยั การเจา้ ของสานวนท่ีดาเนินคดีไดถ้ ามพยานยนื ยนั แลว้ ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ แต่ไม่ได้
บันทึกรายงานหวั หน้าพนักงานอยั การโดยเร็วว่าสมควรดาเนินคดีแก่พยานดังกล่าวหรือไม่ เป็ นการไม่ดาเนินการใหค้ รบถว้ น
ตามระเบียบสานักงานอยั การสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 116 (ระเบียบสานักงาน
อยั การสงู สุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 122) เร่ือง พยานกลบั คาใหก้ าร ในช้นั สอบสวนพยาน
ท่ีเห็นเหตุการณ์ ไดเ้ ห็นคนรา้ ยท่ีใชอ้ าวุธปื นยิงแต่จาหน้าไม่ได้ คงมีเฉพาะพยานท่ีไดใ้ หก้ ารไวว้ ่า คนรา้ ยท่ีใชอ้ าวุธปื นยิงไปที่
กลุ่มวัยรุ่น คือบุคคลท่ีใส่เส้ ือสีแดง ซึ่งแสดงใหเ้ ห็นว่าพยานดังกล่าวทราบว่า คนรา้ ยเป็ นใคร แต่ไม่ไดใ้ หก้ ารถึงช่ือ นามสกุล
ของคนรา้ ยดงั กล่าว ปรากฏว่า พนักงานอยั การเจา้ ของสานวน และอยั การจงั หวดั ไม่ไดม้ ีความเห็นและคาสงั่ ใหส้ อบพยานดงั กล่าว
เพ่ิมเติมและใหช้ ้ ีตวั ผูต้ อ้ งหาว่าใช่บุคคลท่ีพยานไดเ้ ห็นว่าเป็ นคนรา้ ยในวันเกิดเหตุตามท่ีพยานไดใ้ หก้ ารไวห้ รือไม่ ทาใหไ้ ม่มี
หลกั ฐานยืนยนั นาสืบในช้นั ศาลไดว้ ่า บุคคลท่ีใส่เส้ ือสีแดงคือผูต้ อ้ งหาท่ีเป็ นคนรา้ ยท่ีไดก้ ระทาความผิดตามคาฟ้ องจริงหรือไม่
ซึ่งศาลไดน้ ามาเป็ นเหตุหนึ่งในการยกฟ้ อง โดยอา้ งเหตุว่าพยานไม่ไดใ้ หก้ ารยืนยนั ว่าบุคคลท่ีใส่เส้ ือสีแดง เป็ นบุคคลคนเดียวกนั
กบั จาเลย และพนักงานสอบสวนก็ไม่ไดจ้ ดั ใหพ้ ยานช้ ีตัวยืนยนั ตวั ผูต้ อ้ งหา ดงั น้ ี จึงถือไดว้ ่าเป็ นการไม่พิจารณาและสัง่ สอบสวน
ใหเ้ สร็จส้ ินกระแสความ ไม่มีความรอบคอบในการพิจารณาสานวน ไม่พิจารณาตามพยานหลักฐานในคดีใหไ้ ดค้ วามแน่ชัด
เสียก่อนว่า ผู้ต้องหาได้กระทาความผิดหรือไม่ ตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดาเนิ นคดีอาญาของ
พนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 49 และขอ้ 69 (ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ
พ.ศ. 2563 ขอ้ 32 และขอ้ 35) เรื่อง การตรวจพิจารณาสานวนและการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนมีความเห็น และคาสงั่ กรณีดงั กล่าว
ถือเป็ นขอ้ บกพร่อง
ท่ีมำ : สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมินผล สานักงานวชิ าการ , บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล
ท่ี อส 0007(ปผ)/421 ลงวนั ท่ี 15 กนั ยายน 2563
นำยวิชช์ จรี ะแพทย์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 57/2565
ประจำวนั ท่ี 24 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพิ่มศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรื่อง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ิรำชกำร : กำรตรวจสอบสำนวนคดีทรพั ยำกร
ความผิดฐานร่วมกนั ฟอกเงินหรือทรพั ยท์ ี่ไดม้ าจากการกระทาความผิดเกี่ยวกบั ทรพั ยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอ้ ม
โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
โดยมิชอบดว้ ยกฎหมาย อนั มลี กั ษณะเป็ นการคา้ ท่ีมีคาสงั่ เด็ดขาดไมฟ่ ้ อง แต่กลบั ปรากฏว่า คดีน้ ี พยานหลกั ฐานในสานวน
ยงั ฟังไมไ่ ดว้ ่าแน่ชดั ว่า ผตู้ อ้ งหาท้งั หา้ ไดก้ ระทาความผิดตามขอ้ กล่าวหาหรือไม่ เพราะในช้นั สอบสวน ผตู้ อ้ งหาท่ี 1 และที่ 2
ใหก้ ารรบั สารภาพตามขอ้ กล่าวหา ดงั น้ัน เพ่ือใหก้ ารคน้ หาความจริงสมบูรณม์ ีประสิทธิภาพ และสามารถนาสืบพิสจู น์การ
กระทาความผิดของผูต้ อ้ งหาท้ังหา้ ในช้ันศาล พนักงานอยั การควรมีคาสงั่ ใหพ้ นักงานสอบสวนทาการสอบสวนเพิ่มเติม
หมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ตอ้ งหาท้ังหา้ ว่ามีหมายเลขใดไดข้ อเปิ ดใชห้ มายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวกับบริษัทส่ือสาร
โทรคมนาคมใด และมีการโทรศัพทต์ ิดต่อตามท่ีผตู้ อ้ งหาท่ี 1 และที่ 2 ใหก้ ารรบั สารภาพ และผูต้ อ้ งหาที่ 5 ใหก้ ารในช้นั
สอบสวน เป็ นพยานประกอบสานวนการสอบสวนเพื่อเช่ือมโยงกับการทาธุรกรรมทางการเงินท่ีปรากฏในสานวน
การสอบสวน แต่พนักงานอยั การผตู้ รวจสานวน มคี าสงั่ เห็นควรสงั่ ไมฟ่ ้ องผตู้ อ้ งหาท้งั หา้ ตามขอ้ กล่าวหา เสนออยั การจงั หวดั
ซึ่งอัยการจงั หวดั มีความเห็นสัง่ ไม่ฟ้ องผูต้ อ้ งหาท้ังหา้ ตามขอ้ กล่าวหา และเสนอผูบ้ ัญชาการตารวจภูธรภาคพิจารณา
โดยท่ีไม่ทาการสอบสวนเพ่ิมเติมใหไ้ ด้ความแน่ชัดก่อนสัง่ คดี จึงเป็ นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด
ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 69 (ระเบียบสานักงานอยั การสูงสุดว่าดว้ ยการดาเนิน
คดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 35) ถือว่าเป็ นความบกพร่อง
ท่ีมำ : ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 69
(ระเบยี บสานักงานอยั การสงู สุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 35)
สานักงานอยั การพิเศษฝ่ายประเมนิ ผล สานักงานวิชาการ , บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล
ท่ี อส 0007(ปผ)/2733 ลงวนั ท่ี 14 พฤศจิกายน 2562
นำยยคุ ล เหล่ำพลู สขุ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 58/2565
ประจำวนั ที่ 25 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพิ่มศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรือ่ ง แนวคดิ เกี่ยวกบั ภำวะผนู้ ำ
ผู้นำ คือ ผู้ท่ีก่อใหเ้ กิดกำรเปล่ียนแปลง (Change Agent) และภำวะผู้นำ คือ กำรทำงำนร่วมกัน
ในลักษณะของกลุ่มบุคคลท่ีตอ้ งกำรใหเ้ กิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงสงั คมข้ ึน ดังน้ันโครงกำรพัฒนำผูน้ ำใด ๆ
ท่ีมีฐำนควำมเช่ือดงั กล่ำว จึงเน้นเรื่องค่ำนิยม (Values) สำคญั ที่ใชเ้ ป็ นฐำนของกำรเปล่ียนแปลงทำงสงั คม
ควบค่ไู ปกบั กำรเรียนรคู้ ่ำนิยมส่วนบุคคลเพื่อกำรมีภำวะผูน้ ำท่ีดีต่อไป ดงั น้ันเพ่ือใหเ้ กิดควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกบั
ภำวะผูน้ ำท่ีชดั เจน ผูว้ ิจยั จึงทบทวนเก่ียวกบั นิยำมของภำวะผูน้ ำ ซึ่งมีผูน้ ิยำม “ภำวะผูน้ ำ” ไวห้ ลำยนิยำม
ดงั น้ ี
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเผชิญกบั ภำวกำรณ์เปลี่ยนแปลงได้ โดยมีผูน้ ำเป็ นผูส้ รำ้ ง
วิสยั ทศั น์ใหเ้ ป็ นตวั กำกบั ทิศทำงขององคก์ ำรในอนำคต จำกน้ันจึงจดั วำงคนพรอ้ มท้งั สื่อควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจ
วิสยั ทศั น์และสรำ้ งแรงดลใจแก่คนเหล่ำน้ันใหส้ ำมำรถเอำชนะอุปสรรคเพ่ือไปส่วู ิสยั ทศั น์ดังกล่ำว คอตเตอร์
(Kotter, 1999)
ภำวะผู้นำ หมำยถึง กำรมีอำนำจเหนือผู้อ่ืนและอำนำจน้ ีช่วยให้ผู้นำสำมำรถปฏิบัติงำน ซึ่งเขำ
ไมส่ ำมำรถปฏิบตั ิคนเดียวไดส้ ำเร็จ และทำใหผ้ ูต้ ำมยอมรบั และเต็มใจปฏิบตั ิตำม (Kootz and Weihrich, 1988)
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงผูน้ ำกบั กลุ่มผูต้ ำมท่ีมีประโยชน์ร่วมกนั และพฤติกรรมตน
อยภู่ ำยใตก้ ำรอำนวยกำรและกำรกำหนดแนวทำงของผูน้ ำ(Robbins, 1989)
ภำวะผู้นำ หมำยถึง ศิลปะของกำรบอก ช้ ีแนะ ผู้ร่วมงำนหรือผู้ใต้บังคับบัญชำใหป้ ฏิบัติหน้ำที่
ตำมหนำ้ ที่ดว้ ยควำมเต็มใจ และกระตือรือรน้ (Schwartz, 1980)
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง กำรใชอ้ ิทธิพลต่อกลุ่ม เพื่อใหม้ ุง่ ไปส่จู ุดหมำยท่ีกำหนดไว้ (McFarland, 1979)
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรนำ (The American Heritage Dictionary, 1985)
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง กำรมคี วำมคิดริเริ่มและธำรงไวซ้ ่ึงโครงสรำ้ งของควำมคำดหวงั และควำมสมั พนั ธ์
ระหวำ่ งกนั ของสมำชิกของกลุม่ (Stogdil, 1974)
ภำวะผู้นำ หมำยถึง กระบวนกำรท่ีบุคคลใชอ้ ิทธิพลต่อกลุ่มเพ่ือใหบ้ รรลุควำมตอ้ งกำรของกลุ่ม
หรือจุดมุง่ หมำยขององคก์ ำร (Mitchell and Larson, Jr., 1987)
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ภำวะผูน้ ำ หมำยถึง กำรมีคุณสมบตั ิเฉพำะอย่ำงที่สำมำรถเป็ นศูนยก์ ลำงหรือจุดรวมของกิจกรรม
ภำยในกลุ่ม เปรียบเสมือนแกนของกลุ่ม เป็ นผูม้ ีโอกำสติดต่อสื่อสำรกบั ผูอ้ ่ืนมำกกวำ่ ทุกคนในกลุ่มมีอิทธิพล
ต่อกำรตดั สินใจของกลุม่ สงู (กวี วงศพ์ ุฒ. 2535)
จำกควำมหมำยดงั กล่ำวขำ้ งตน้ จะเห็นวำ่ แนวคิดส่วนใหญ่เกี่ยวกบั ภำวะผูน้ ำจะเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มคน
และสมำชิกของกลุ่มท่ีมีควำมสัมพนั ธภ์ ำยในต่อกนั อย่ำงสมำ่ เสมอ และควำมหมำยของภำวะผูน้ ำส่วนมำก
จะเก่ียวขอ้ งกบั กำรใชอ้ ิทธิพล ซ่ึงส่วนมำกจะเป็ นผูน้ ำ (Leader) พยำยำมจะมีอิทธิพลต่อผูต้ ำม (Followers)
ในกลุ่มหรือบุคคลอ่ืนๆ เพ่ือใหม้ ีทัศนคติ พฤติกรรมและอ่ืนๆ ไปในทิศทำงที่ทำใหจ้ ุดมุ่งหมำยของกลุ่ม
หรือองคก์ รประสบควำมสำเร็จ
ดังน้ัน จึงสรุปไดว้ ่ำ ภำวะผู้นำ (Leadership) คือกระบวนกำรท่ีบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือมำกกว่ำ
พยำยำมใชอ้ ิทธิพลของตนหรือกลุ่มตน กระตุน้ ช้ ีนำ ผลกั ดัน ใหบ้ ุคคลอื่นหรือกลุ่มบุคคลอื่นมีควำมเต็มใจ
และกระตือรือรน้ ในกำรทำสิ่งต่ำงๆ ตำมตอ้ งกำร โดยมคี วำมสำเร็จของกลุ่มหรือองคก์ รเป็ นเป้ ำหมำย
ที่มำ : รำยงำนผลกำรวจิ ยั โครงกำรศึกษำวจิ ยั เพอ่ื พฒั นำภำวะผนู้ ำและเสริมสรำ้ งทกั ษะกำรนำตนเองของผบู้ ริหำร
เสนอ สำนักงำนอยั กำรสงู สุด โดยศนู ยบ์ ริกำรวชิ ำกำร มหำวทิ ยำลยั ศรีนครินทรวิโรฒ
นำงสมสุข มีวุฒิสม
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เ่ี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอ่ื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบรุ ีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 59/2565
ประจำวนั ที่ 28 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรวำ่ ตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอ่ื ง กำรบงั คบั ทำงปกครองตำมพระรำชบญั ญตั วิ ิธีปฏิบตั ริ ำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ตอนท่ี 4
การบงั คบั ตามคาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทา
ขอ้ 1 กลไกในการบังคับใหเ้ ป็ นไปตามคาสัง่ ทางปกครองที่กาหนดใหก้ ระทาหรือละเงน้ กระทาน้ัน อาจดาเนินการได้
2 ประการ ตาม มาตรา 63/21 ไดแ้ ก่
(1) เจา้ หน้าที่เขา้ ดาเนินการดว้ ยตนเองหรือมอบหมายใหบ้ ุคคลอ่ืนกระทาการแทน โดยผูอ้ ยู่ในบังคับของคาสัง่
ทางปกครองจะต้องชดใชค้ ่าใชจ้ ่ายและเงินเพ่ิมรายวันในอัตรารอ้ ยละย่ีสิบหา้ ต่อปี ของค่าใชจ้ ่ายดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐ
ท่ีเจา้ หนา้ ที่น้ันสงั กดั
(2) ใหม้ ีการชาระคา่ ปรบั บงั คบั การตามจานวนที่สมควรแก่เหตุแต่ตอ้ งไม่เกินหา้ หม่ืนบาทต่อวนั
ค่าปรบั บงั คบั การ ตามมาตรา 63/20 บญั ญตั ิวา่ หมายความวา่ ค่าปรบั ท่ีเจา้ หน้าท่ีสงั่ ใหผ้ ูท้ ี่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบตั ิตาม
คาสงั่ ทางปกครองที่กาหนดใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทา ชาระเป็ นรายวนั ไปจนกว่าจะยุติการฝ่าฝืนคาสงั่ หรือไดม้ ีการปฏิบตั ิตามคาสงั่
แลว้ ไมว่ า่ จะเป็ นค่าปรบั ที่กาหนดโดยพระราชบญั ญตั ิน้ ีหรือโดยกฎหมายอื่น
เจา้ หน้าที่ระดับใดมีอานาจกาหนดค่าปรับบังคับการจานวนเท่าใด สาหรับในกรณีใด ใหเ้ ป็ นไปตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ซึ่งไดแ้ ก่ กฎกระทรวงกาหนดเจา้ หนา้ ท่ีผมู้ ีอานาจกาหนดคา่ ปรบั บงั คบั การ พ.ศ. 2562 ไดแ้ ก่
(1) รฐั มนตรีกาหนดไดไ้ มเ่ กินหา้ หมื่นบาทต่อวนั
(2) คณะกรรมการตามกฎหมายกาหนดไดไ้ ม่เกินหา้ หมื่นบาทต่อวนั
(3) ปลดั กระทรวง อธิบดี หรือตาแหน่งที่เรียกชื่ออยา่ งอ่ืนและมีฐานะเทียบเท่าปลดั กระทรวง หรืออธิบดี กาหนดไดไ้ ม่
เกินสามหมื่นบาทต่อวนั
(4) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรือผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครกาหนดไดไ้ ม่เกินสามหมื่นบาทต่อวนั
(5) หวั หนา้ สว่ นราชการประจาจงั หวดั กาหนดไดไ้ ม่เกินสองหม่ืนบาทต่อวนั
(6) นายอาเภอกาหนดไดไ้ มเ่ กินสองหมื่นบาทต่อวนั
(7) ผบู้ ริหารทอ้ งถ่ินกาหนดไดไ้ มเ่ กินสองหมื่นบาทต่อวนั
(8) ผบู้ ริหารรฐั วิสาหกิจกาหนดไดไ้ มเ่ กินสองหมื่นบาทต่อวนั
(9) ผบู้ ริหารหน่วยงานอื่นของรฐั กาหนดไดไ้ ม่เกินสองหมื่นบาทต่อวนั
(10) พนักงานเจา้ หน้าที่ตามกฎหมายหรือตาแหน่งท่ีเรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งเป็ นเจา้ หน้าที่ผูท้ าคาสัง่ ทางปกครอง
กาหนดไดไ้ ม่เกินหน่ึงหม่ืนบาทต่อวนั
(11) นายกสภาวชิ าชีพกาหนดไดไ้ ม่เกินสองหมื่นบาทต่อวนั
(12) หวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ผมู้ อบอานาจหรือผูก้ ากบั ดแู ลเอกชนกาหนดไดไ้ ม่เกินสองหม่ืนบาทต่อวนั สาหรบั กรณี
ท่ีเอกชนเป็ นผใู้ ชอ้ านาจทาคาสงั่ ทางปกครอง
ขอ้ 3 ในกรณีท่ีไม่มีการชาระคา่ ปรบั บงั คบั การ ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ตามขอ้ 1 แจง้ ใหผ้ ูอ้ ยใู่ นบงั คบั ของคาสงั่ ทางปกครองชาระ
ค่าปรบั บงั คบั การทุกสิบหา้ วนั
ขอ้ 2 ในกรณีท่ีมีความจาเป็ นท่ีจะตอ้ งบงั คบั การโดยเร่งด่วนเพ่ือป้ องกนั มิใหม้ ีการกระทาท่ีขดั ต่อกฎหมายที่มีโทษทางอาญา
หรือมิใหเ้ กิดความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ เจา้ หน้าที่อาจใช้ มาตรการบงั คบั ทางปกครองโดยไม่ตอ้ งออกคาสงั่ ทางปกครอง
ที่กาหนดใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทา ก่อนก็ได้ แต่ท้ังน้ ี ตอ้ งกระทาโดยสมควรแก่เหตุและภายในขอบเขตอานาจหน้าท่ีของตน
(มาตรา 63/21 วรรคสอง)
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
ขอ้ 3 การดาเนินการบงั คบั
(3.1) กอ่ นใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครองตามมาตรา 63/21 เจา้ หนา้ ท่ีจะตอ้ งมีคาเตือนเป็ นหนังสือใหม้ ีการกระทา
หรือละเวน้ กระทาตามคาสงั่ ทางปกครองภายใน ระยะเวลาท่ีกาหนดตามสมควรแก่กรณี คาเตือนดังกล่าวจะกาหนดไปพรอ้ มกบั
คาสงั่ ทางปกครองก็ได้ (มาตรา 63/22)
คาเตือนน้ันจะตอ้ งระบุ
(1) มาตรการบงั คบั ทางปกครองที่จะใชใ้ หซ้ ดั แจง้ แต่จะกาหนดมากกวา่ หน่ึงมาตรการ ในคราวเดียวกนั ไม่ได้
(2) ค่าใชจ้ ่ายและเงินเพิ่มรายวนั ในการท่ีเจา้ หนา้ ท่ีเขา้ ดาเนินการดว้ ยตนเองหรือ มอบหมายใหบ้ ุคคลอ่ืนกระทาการ
แทน หรือจานวนคา่ ปรบั บงั คบั การ แลว้ แต่กรณี
การกาหนดค่าใชจ้ ่ายในคาเตือน ไม่เป็ นการตดั สิทธิที่จะเรียกค่าใชจ้ ่ายเพ่ิมข้ ึน หากจะตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่ายจริงมากกว่า
ท่ีไดก้ าหนดไว้
(3.2) เจ้าหน้าที่จะต้องใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามท่ีกาหนดไว้ในคาเตือนตามมาตรา 63/22
การเปลี่ยนแปลงมาตรการจะกระทาไดก้ ็ต่อเม่ือปรากฏวา่ มาตรการที่กาหนดไวไ้ มบ่ รรลุตามวตั ถุประสงค์ (มาตรา 63/23)
ถา้ ผูอ้ ยู่ในบังคับของคาสัง่ ทางปกครองต่อสูข้ ดั ขวางการบังคับทางปกครอง เจา้ หน้าท่ีอาจใชก้ าลังเขา้ ดาเนินการเพ่ือใหเ้ ป็ นไป
ตามมาตรการบงั คบั ทางปกครองได้ แต่ตอ้ งกระทาโดยสมควรแกเ่ หตุ (มาตรา 63 วรรคสอง)
ในการใชม้ าตรการบังคับทางปกครองดังกล่าว เจา้ หน้าท่ีอาจแจง้ ขอความช่วยเหลือจากเจา้ พนักงานตารวจได้ (มาตรา 63/23
วรรคสาม)
(3.3) ในกรณีไม่มีการชาระค่าปรบั บังคับการ ค่าใชจ้ ่าย หรือเงินเพ่ิม รายวันโดยถูกตอ้ งครบถว้ น ใหเ้ จา้ หน้าที่
ดาเนินการบงั คบั ทางปกครองกรณีใหช้ าระเงนิ ต่อไป (มาตรา 63/23)
ขอ้ 4 การคดั คา้ นการบงั คบั ตามคาสงั่ ทางปกครองใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทา
มาตรา 63/25 การฟ้ องคดีโต้แยง้ การบังคับทางปกครองใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทาใหเ้ สนอต่อศาลท่ีมีเขตอานาจ
ในการพจิ ารณาพพิ ากษาคดีเก่ียวกบั คาสงั่ ที่มีการบงั คบั ทางปกครองน้ัน
ท่ีมำ : พระราชบญั ญตั ิวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
นำยเชิดศกั ดิ์ หิรญั สิรสิ มบตั ิ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบรุ ีดเิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่อื งท่ี 60/2565
ประจำวนั ท่ี 29 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพอื่ ทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ทข่ี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรปลอ่ ยชวั ่ ครำวผตู้ อ้ งหำกรณีหน่วยงำนของรฐั ขอปลอ่ ยชวั ่ ครำว
ในกรณีเจา้ หน้าท่ีของหน่วยงานของรฐั ตกเป็ นผูต้ อ้ งหาในคดีอาญา เน่ืองมาจากการปฏิบัติหน้าที่
หากหน่วยงานของรัฐหรือผูร้ ับมอบอานาจ รอ้ งขอใหป้ ล่อยชัว่ คราวดว้ ยบุคคล แทนการนาเงินสด หรือ
หลกั ทรพั ยม์ าวางประกนั ใหห้ วั หน้าพนักงานอยั การพิจารณาใหค้ วามร่วมมือ (ระเบียบสานักงานอยั การสูงสุด
วา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 53)
ท่มี ำ : คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยปริญญำ จติ รกำรนทกี ิจ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เ่ี ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรือ่ งท่ี 61/2565
ประจำวนั ท่ี 30 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพอื่ ทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทข่ี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรขอใหศ้ ำลมีคำพิพำกษำและคำสงั ่
คำขอทำ้ ยฟ้ องสว่ นน้ ีเป็ นกำรขอใหศ้ ำลมคี ำพิพำกษำหรือคำสงั่ เกยี่ วกบั เรื่องตำ่ ง ๆ เชน่ ขอริบของกลำง ขอเพ่ิมโทษ
ขอนับโทษต่อ ขอบวกโทษ ขอคืนหรือใชร้ ำคำทรัพย์ที่ยงั ไม่ไดค้ ืน ขอมีคำสัง่ ใชว้ ิธีกำรเพ่ือควำมปลอดภัย ขอใหม้ ีคำสัง่
หำ้ ม เพกิ ถอนหรือตดั สิทธิอยำ่ งใด ๆ ของจำเลยตำมที่กฎหมำยบญั ญตั ิไว้
แนวทำงปฏิบตั ิของพนักงำนอยั กำรมี ดงั น้ ี
1. หำกตอ้ งกำรใหศ้ ำลมีคำสงั่ อยำ่ งใด ตอ้ งบรรยำยไวใ้ นคำขอทำ้ ยฟ้ อง แมค้ ำขอบำงอย่ำง ศำลมีอำนำจสงั่ ไดเ้ อง
ตำมกฎหมำยก็ตำม เพรำะตำมประมวลกฎหมำยวธิ ีพิจำรณำควำมอำญำ มำตรำ 192 “หำ้ มมใิ หพ้ ิพำกษำ หรือ สงั่ เกนิ คำขอ
หรือ ที่มไิ ดก้ ลำ่ วไวใ้ นฟ้ อง” เชน่ โจทกม์ ไิ ดข้ อใหร้ ิบของกลำง แมข้ องกลำงจะเป็ นทรพั ยท์ ี่มีไวเ้ ป็ นควำมผิดหรือกฎหมำยใหร้ ิบ
โดยเด็ดขำด
2. ปื นไมม่ ีทะเบียน ศำลก็สงั่ ริบไมไ่ ดเ้ พรำะเกินคำขอ (ฎีกำท่ี 3595/2540, 892/2497, 5595/2530)
3. เร่ืองต่ำง ๆ ท่ีขอใหศ้ ำลมีคำพพิ ำกษำหรือคำสงั่ ในคำขอทำ้ ยฟ้ อง
3.1 กำรขอริบของกลำง
3.2 ขอเรียกทรพั ยค์ นื หรือใชร้ ำคำ พนักงำนอยั กำรขอไดเ้ ฉพำะฐำนควำมผิดตำมประมวลกฎหมำยวธิ ีพิจำรณำ
ควำมอำญำ มำตรำ 43 เท่ำน้ัน จะขอเรียกดอกเบ้ ียไม่ได้ เวน้ แต่ควำมผิดตำมพระรำชกำหนดกำรกูย้ มื เงินที่เป็ นกำรฉอ้ โกง
ประชำชน พ.ศ.2527 ซึ่งผเู้ สียหำยไดร้ อ้ งขอใหพ้ นักงำนอยั กำรเรียกเงินตน้ พรอ้ มผลประโยชน์ (ดอกเบ้ ีย) ที่เป็ นสิทธิอนั ชอบ
ดว้ ยกฎหมำย พนักงำนอยั กำรยอ่ มมคี ำขอใหศ้ ำลสงั่ ใหจ้ ำเลยคนื เงินตน้ พรอ้ มดอกเบ้ ียตำมกฎหมำยต่อไปได้
3.3 ในกำรฟ้ องคดีอำญำ ฐำนบุกรุกที่ดินของรฐั ตำมพระรำชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมำยท่ีดิน พ.ศ. 2497
มำตรำ 108 ทวิ วรรคสี่ พระรำชบญั ญตั ิป่ ำไม้ พ.ศ.2484 มำตรำ 72 ตรี วรรคทำ้ ย และพระรำชบญั ญตั ิป่ ำสงวนแหง่ ชำติ
พ.ศ.2507 มำตรำ 31 วรรคทำ้ ย ใหพ้ นักงำนอยั กำรมีคำขอไวใ้ นคำฟ้ องใหข้ บั ไล่ผกู้ ระทำผิด คนงำน ผรู้ ับจำ้ ง ผูแ้ ทน และ
บริวำรของผกู้ ระทำผิดออกจำกท่ีดินที่บุกรุกดว้ ย แมศ้ ำลจะมอี ำนำจสงั่ ไดเ้ องแตถ่ ำ้ โจทกไ์ มข่ อ ศำลก็จะไมม่ ีคำสงั่ เกินคำขอ
3.4 กำรขอให้จำเลยจ่ำยเงินสินบนนำจับ หรือรำงวัลนำจับ สำนักงำนอัยกำรสูงสุดแจ้งให้ปฏิบัติว่ำ
“ในสำนวนคดีท่ีมีหลักฐำนในกำรสอบสวนว่ำ มีผูน้ ำจับเพื่อขอรับสินบนนำจับซึ่งอำจปรำกฏอยู่ในคำใหก้ ำรขอ งผูจ้ ับ หรือ
พนักงำนสอบสวนบนั ทึกเป็ นหลกั ฐำนวำ่ มีผนู้ ำจบั เพอ่ื ขอสินบนนำจบั ก็ควรฟ้ องขอใหศ้ ำลมีคำสงั่ ใหจ้ ำเลยจำ่ ยสินบนนำจบั ได้ ”
ในสว่ นกำรบรรยำยฟ้ อง ตอ้ งใหไ้ ดค้ วำมดว้ ยวำ่ คดีท่ีจำเลยกระทำผิดมีผนู้ ำจบั ประสงคเ์ งินสินบนนำจบั หรือมีสิทธิ
ไดร้ บั เงินสินบนนำจบั หรือ รำงวลั นำจบั และมคี ำขอทำ้ ยฟ้ องไวด้ ว้ ย เชน่
กำรขอเงินรำงวัลนำจบั ตำมพระรำชบัญญตั ิศุลกำกร พ.ศ.2469 บรรยำยว่ำ อน่ึง คดีน้ ีมีผูแ้ จง้ ควำมนำจบั
ซ่ึงผนู้ ำจบั มีสิทธไิ ดร้ บั เงินสนิ บน และเจำ้ พนกั งำนผจู้ บั มีสทิ ธิไ์ ดร้ บั เงินรำงวลั ตำมกฎหมำย
คำขอทำ้ ยฟ้ อง ใหจ้ ำเลยจำ่ ยเงินรำงวลั แกเ่ จำ้ พนักงำนผจู้ บั และจำ่ ยเงินสินบนแกผ่ แู้ จง้ ควำมนำจบั ตำมกฎหมำย
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลมิ พระเกียรตฯิ อำคำรรำชบรุ ีดิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
กำรขอใหจ้ ำ่ ยเงินบำเหน็จตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรประมง พ.ศ. 2490
ตำมบทบัญญัติพระรำชบัญญัติกำรประมงฯ มำตรำ 71 บัญญัติใหผ้ ู้กระทำควำมผิดตำมพระรำชบัญญัติน้ ี
ตอ้ งจ่ำยเงินบำเหน็จแก่ผูน้ ำจับตำมระเบียบท่ีรัฐมนตรีกำหนด กำรท่ีศำลจะสัง่ ใหจ้ ำเลยจ่ำยเงินบำเหน็จจำตอ้ งพิจำรณำ
จำกระเบียบท่ีรฐั มนตรีกำหนดข้ ึน และระเบียบดงั กล่ำวเป็ นขอ้ เท็จจริงที่โจทกต์ อ้ งบรรยำยมำใหศ้ ำลทรำบหรือแนบระเบียบ
ดังกล่ำวมำดว้ ย เพ่ือที่ศำลจะไดพ้ ิพำกษำใหจ้ ำเลยจ่ำยเงินบำเหน็จโดยถูกตอ้ ง เม่ือโจทก์มิไดแ้ นบระเบียบดังกล่ำวมำ
ศำลจึงไมอ่ ำจพิพำกษำใหจ้ ำเลยจำ่ ยเงินบำเหน็จได้ ท้งั น้ ีเนื่องจำกกำรที่ศำลจะพพิ ำกษำใหจ้ ำเลยจำ่ ยบำเหน็จเป็ นเร่ืองสำคญั
มีผลเท่ำกบั ลงโทษทำงอำญำแก่จำเลย และระเบียบดงั กล่ำวคือขอ้ เท็จจริงอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งเท่ำท่ีจำเลยจะเขำ้ ใจขอ้ หำไดด้ ี
ตำมมำตรำ 19 แหง่ พระรำชบญั ญตั ิจดั ต้งั ศำลแขวงและวธิ ีพิจำรณำควำมอำญำในศำลแขวง พ.ศ. 2499
กำรท่ีศำลอทุ ธรณย์ กเร่ืองกำรจำ่ ยเงินบำเหน็จตำมพระรำชบญั ญตั ิกำรประมงฯ มำตรำ71 ข้ ึนมำพิพำกษำมิใช่เป็ น
กำรพิพำกษำเกินคำขอหรือท่ีมิไดก้ ล่ำวในฟ้ อง หำกแต่เป็ นกำรยกเรื่องขอ้ บกพร่องของคำฟ้ อง ซ่ึงเป็ นปัญหำอันเก่ียวดว้ ย
ควำมสงบเรียบรอ้ ยมำพิพำกษำใหเ้ ป็ นประโยชน์แกจ่ ำเลย (ฎีกำท่ี 1395/2542)
ในคดีควำมผิดฐำนใด หำกกฎหมำยระบุใหศ้ ำลใชว้ ิธีกำรกับจำเลยนอกเหนือไปจำกกำรลงโทษทำงอำญำแลว้
ตอ้ งบรรยำยขอใหศ้ ำลใชว้ ธิ ีกำรน้ันดว้ ย เชน่
ควำมผิดฐำนต้งั โรงงำนแปรรูปไม้ และประกอบกิจกำรโรงงำนแปรรูปไมโ้ ดยไมไ่ ดร้ บั อนุญำต ตำมพระรำชบญั ญตั ิ
ป่ ำไม้ พ.ศ.2484 ตอ้ งมคี ำขอดว้ ยวำ่ “ใหจ้ ำเลยหยดุ ประกอบกิจกำรโรงงำนจนกวำ่ จะไดร้ บั อนุญำต”
ควำมผิดฐำนแข่งรถในทำงโดยไม่ไดร้ ับอนุญำตเป็ นหนังสือจำกเจำ้ พนักงำนจรำจร ตำมพระรำชบัญญัติจรำจร
ทำงบก พ.ศ. 2522 มำตรำ 134,160 ทวิ กฎหมำยให้อำนำจศำลสั่งพัก ใช้ใบอนุ ญำตขับขี่ของผู้กระทำผิด
ตอ้ งบรรยำยในคำขอท้ำยฟ้ องว่ำ ขอใหศ้ ำลสัง่ พักใชใ้ บอนุญำตขบั ข่ีของผูน้ ้ันดว้ ย ซึ่งสำนักงำนอัยกำรสูงสุดไดม้ ีหนังสือ
ท่ี อส 0018.1/ว 73 ลงวนั ที่ 16 กนั ยำยน 2537 กำหนดใหพ้ นักงำนอยั กำร บรรยำยคำขอดงั กลำ่ วไวท้ ำ้ ยฟ้ อง
ท่ีมำ : - ค่มู ือกำรดำเนินคดีอำญำสำหรบั พนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2546 หนำ้ 122-124.
ที่มำ : - คำพิพำกษำศำลฎีกำท่ี 3595/2540, 892/2497, 5595/2530, 1395/2542
ท่ีมำ : - คลงั กฎหมำยและเอกสำร ระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ สำนักงำนอยั กำรสงู สุด
นำงศิริอร มณีสนิ ธุ์
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบรุ ีดิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรอื่ งท่ี 62/2565
ประจำวนั ที่ 31 มีนำคม 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพอ่ื ทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทีข่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรถอนฟ้ อง
เมื่อพนั กงานอัยการได้สั่งฟ้ องและได้ยื่นฟ้ องคดีอาญาใดแล้ว ต่อมาพนั กงานอัยการพิจารณา
เห็นสมควรถอนฟ้ องคดีน้ัน ใหท้ าความเห็นใน อ.ก. 4 เสนอตามลาดบั ช้นั ถึงอธิบดีอยั การเพื่อพิจารณาสงั่
เม่ืออธิบดีอยั การพจิ ารณาแลว้ มีคาสงั่ ใหถ้ อนฟ้ อง ก่อนยืน่ คารอ้ งขอถอนฟ้ อง ใหพ้ นักงานอยั การผู้รบั ผิดชอบ
ดาเนินการตามมาตรา 145 และมาตรา 145/1 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือกฎหมาย
เก่ียวกบั วิธีพิจารณาความอื่น ใหเ้ สร็จส้ ินเสียกอ่ น และเม่ือถอนฟ้ องแลว้ ใหร้ ายงานอยั การสงู สุดทราบ และ
ใหใ้ ชบ้ ังคับในกรณีถอนอุทธรณ์หรือถอนฎีกาด้วยโดยอนุโลม (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดว่าดว้ ย
การดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 132)
การดาเนินคดีที่พนักงานอยั การเห็นว่าการฟ้ องคดีอาญาจะไม่เป็ นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือ
จะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมัน่ คงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสาคัญของประเทศ
ใหพ้ นักงานอยั การดาเนินการตามระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการสงั่ คดีอาญาที่จะไมเ่ ป็ นประโยชน์
แกส่ าธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภยั หรือความมนั่ คงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อนั สาคญั
ของประเทศ (ระเบียบสานักงานอยั การสูงสุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563
ขอ้ 206)
การถอนคารอ้ งทุกข์ในคดีความผิดอันยอมความไดใ้ นช้นั ศาล เมื่อผูเ้ สียหายถอนคารอ้ งทุกข์ช้ัน
พิจารณาของศาล และพนักงานอยั การไม่มีขอ้ แถลงคดั คา้ นประการใดแลว้ พนักงานอยั การควรแถลงขอให้
ศาลจาหน่ายคดีจากสารบบของศาลดว้ ย
ที่มำ : ค่มู ือการดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยวิรชั เนตธิ รรมำภมิ ุข
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ี่เผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลมิ พระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรอ่ื งท่ี 63/2565
ประจำวนั ท่ี 1 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดีแพง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพ่อื ทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทข่ี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
ขอ้ สงั เกตในกำรตรวจสำนวนและสงั ่ คดี กรณีกำรสอบสวนไม่ส้ นิ กระแสควำม
ตวั อยา่ งขอ้ สงั เกตที่ไมไ่ ดส้ งั่ สอบสวนเพ่ิมเติม
- ผูเ้ สียหายถูกผูต้ อ้ งหากับพวกร่วมกันชกต่อยทารา้ ยและใชม้ ีดดาบฟันทารา้ ย เป็ นเหตุใหไ้ ดร้ ับ
อนั ตรายแกก่ ายถึงสาหสั กะโหลกศีรษะแตก มีแผลฉีกขาด และเอ็นขอ้ มือขาดท้งั สองขา้ ง แพทยล์ งความเห็น
ใชเ้ วลารกั ษา ประมาณ 60 วนั พนักงานสอบสวนแจง้ ขอ้ หาผูต้ อ้ งหาวา่ กระทาความผิดฐานทารา้ ยร่างกาย
ผู้อ่ืนเป็ นเหตุใหไ้ ด้รับอันตรายแก่กายสาหัส พนักงานอัยการจะฟ้ องผู้ต้องหาตามที่พนักงานสอบสวน
แจง้ ขอ้ หาไม่ได้ ต้องสอบสวนเพิ่มเติมดูคาให้การแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายก่อน
เพราะความผิดดังกล่าวใกลเ้ คียงกบั ความผิดฐานพยายามฆ่า จึงตอ้ งสงั่ พนักงานสอบสวนทาการสอบสวน
เพ่ิมเติมใหไ้ ดค้ วามชดั ว่า บาดแผลผูเ้ สียหายดังกล่าว หากรักษาไม่ทันท่วงทีผูเ้ สียหายจะถึงแก่ความตาย
หรือไม่ จะฟ้ องตามพนักงานสอบสวนทนั ทีไมไ่ ด้ พงึ พจิ ารณาดว้ ยความรอบคอบและเป็ นธรรม
ท่มี ำ : คมู่ ือการดาเนินคดีอาญาชน้ั ศาลสงู เล่มท่ี 2
คณะกรรมการจดั ทาคมู่ อื การดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู สานักงานคดีศาลสงู สานักงานอยั การสงู สุด พ.ศ. 2555
หนา้ 164
นำงสำวณฤดี เกียรตคิ งยงิ่
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ี่เผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 64/2565
ประจำวนั ที่ 4 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดีอำญำ คดแี พง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอ่ื ง ขอ้ พึงสงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร
ความผิ ดฐานยอมให้ลูกจ้างซ่ึงเป็ นเด็ กอายุต่ากว่าสิบแปดปี บริบูรณ์ทางานในสถานบริการ
ตามพระราชบัญญัติคุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 50 และมาตรา 148/2 การท่ีพนักงานอัยการ
เจา้ ของสานวน มีความเห็นและคาสงั่ ไม่ฟ้ องผูต้ อ้ งหาในความผิดฐานยอมใหเ้ ด็กอายุตา่ กว่าสิบแปดปี บริบรู ณ์
ทางานในสถานบริการ ยินยอมให้เด็กอายุต่ากว่าสิบแปดปี ทางานในระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา
ถึงเวลา 06.00 นาฬิกา โดยไม่ไดร้ ับอนุญาต เสนออัยการจงั หวัดเพื่อทราบ ซ่ึงอัยการจังหวัดไดท้ ราบกรณี
สัง่ ไม่ฟ้ อง และเสนอสานวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา อันเป็ นการสั่งคดีโดยไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ขอ้ 52
วรรคหนึ่ง (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563
ขอ้ 41 วรรคหนึ่ง) ซ่ึงกรณีคาสัง่ ไม่ฟ้ องดังกล่าว อยู่ในอานาจพิจารณาคดีของศาลจังหวดั ตอ้ งเสนอสานวน
ไปยงั ผบู้ ญั ชาการตารวจภธู รภาค เพื่อทาความเห็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1
การท่ีเสนอสานวนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดไดม้ ีความเห็นแยง้ คาสัง่ ไม่ฟ้ อง
ของอัยการจงั หวดั เป็ นการปฏิบัติไม่ถูกตอ้ งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 และ
ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุด วา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 52 วรรคหน่ึง
และขอ้ 56 วรรคหนึ่ง (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ
พ.ศ. 2563 ขอ้ 41 วรรคหนึ่ง และขอ้ 33 วรรคหน่ึง) ถือเป็ นขอ้ บกพรอ่ ง
ทีม่ ำ : สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมินผล สานักงานวชิ าการ ,
บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล ที่ อส 0007(ปผ)/468 ลงวนั ท่ี 28 กนั ยายน 2563
นำยวิชช์ จรี ะแพทย์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 65/2565
ประจำวนั ที่ 5 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดีอำญำ คดแี พ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เร่อื ง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ิรำชกำร : กำรรบั สำนวนตอ่
ความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไวใ้ นครอบครองเพื่อจาหน่ายและจาหน่าย
โดยผิดกฎหมาย จาเลยที่ 1 ใหก้ ารรบั สารภาพ จาเลยท่ี 2 ใหก้ ารปฏิเสธ ผูต้ อ้ งหาที่ 3 หลบหนี ศาลใหแ้ ยกฟ้ องจาเลยที่ 2 เป็ นคดีใหม่
ต่อมาเจา้ พนักงานตารวจจบั กุมผตู้ อ้ งหาที่ 3 ได้ และส่งตวั ดาเนินคดี ศาลจงั หวดั ใหร้ วมพิจารณาคดีจาเลยที่ 2 และจาเลยท่ี 3 เขา้ ดว้ ยกนั
ตอ่ มาศาลช้นั ตน้ พิพากษายกฟ้ องจาเลยท่ี 2 และจาเลยท่ี 3 โจทกอ์ ุทธรณ์ ศาลอุทธรณภ์ าค พิพากษายนื คดีถึงที่สุด
จากการตรวจสอบของอยั การศาลสงู จงั หวดั ปรากฏขอ้ บกพรอ่ งดงั น้ ี
สานวนฟ้ องจาเลยที่ 2 เจา้ พนักงานตารวจผูก้ ล่าวหา เบิกความวกวนยอกยอ้ น และเจา้ พนักงานตารวจผูจ้ ับกุมเบิกความ
ในช้นั พิจารณาแตกตา่ งในประเด็นสาคญั ขาดความน่าเชื่อถือ เสมือนไม่อยูใ่ นเหตุการณ์ จึงควรนาเจา้ พนักงานตารวจอื่น ๆ ท่ีเขา้ ร่วม
ปฏิบัติการในคร้ังน้ ี และมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ท้ังยงั เป็ นประจักษ์พยานมาเบิกความ แต่กลับปรากฏว่าพนักงานสอบสวน
ไมไ่ ดส้ อบสวนเป็ นพยาน และโจทกไ์ มไ่ ดน้ าพยานปากดงั กล่าวเขา้ เบิกความ ทาใหพ้ ยานโจทกม์ ีขอ้ พิรุธสงสยั วา่ จาเลยท่ี 2 กระทาผิด
รว่ มกบั จาเลยที่ 1 และจาเลยท่ี 3 หรือไม่ อีกท้งั ขอ้ มลู การใชโ้ ทรศพั ท์ การบนั ทึกช่ือไวใ้ นเครื่องโทรศพั ทข์ องจาเลย ก็ไม่ใช่ขอ้ มูลของ
ทางราชการ โดยไม่มีการสอบสวนเพ่ิมเติมในประเด็นการใชโ้ ทรศพั ทจ์ ากทางราชการ พยานหลักฐานโจทกจ์ ึงมีเพียงคาซดั ทอดของ
จาเลยท่ี 1 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้ อง จึงเกิดจากความบกพร่องของพนักงานอัยการผู้ตรวจสานวน และอัยการจังหวัดท่ีไม่ใช้
ความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และไมส่ อบสวนเพิ่มเติมใหไ้ ดค้ วามแน่ชดั ก่อนท่ีจะพิจารณามีความเหน็ และคาสงั่
สานวนฟ้ องจาเลยที่ 3 พนักงานอยั การ ซึ่งรบั โอนสานวน ผูว้ า่ ความในช้นั ศาล ไดย้ า้ ยมารบั ราชการ เม่ือวนั ที่ 1 เมษายน 2560
ก่อนสืบพยานโจทก์ ในวนั ท่ี 17 เมษายน 2560 ก็ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องท่ีไม่แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของสานวนการสอบสวน ไม่ไดส้ อบ
ประจกั ษ์พยานเพ่ิมเติม เนื่องจากเป็ นพยานสาคญั และระบุพยานเพ่ิมเติมต่อไป ท้งั ท่ีมีระยะเวลาพอสมควร และในช้นั พิจารณาก่อน
ฟ้ องคดี กอ่ นที่จะสืบพยานโจทก์ เม่อื พยานเบิกความกลบั คาในช้นั สอบสวนในสาระสาคญั ก็ไมด่ าเนินการกรณีพยานกลบั คาใหก้ าร
ดงั น้ัน การปฏิบตั ิหน้าที่ของพนักงานอยั การผูต้ รวจสานวน อยั การจงั หวดั และพนักงานอยั การ ซึ่งรบั โอนสานวนผูว้ า่ ความ
ในช้นั ศาล จึงเป็ นการไมป่ ฏบิ ตั ิตามระเบียบสานักงานอยั การสูงสุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 49
ขอ้ 56 ขอ้ 69 และขอ้ 116 (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ .ศ. 2563 ขอ้ 32
ขอ้ 33 ขอ้ 35 และขอ้ 122) ถือเป็ นความบกพรอ่ ง
ทม่ี ำ : ระเบยี บสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2547 ขอ้ 49 ขอ้ 56 ขอ้ 69 และขอ้ 116
(ระเบยี บสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 32 ขอ้ 33 ขอ้ 35 และขอ้ 122)
สานักงานอยั การพิเศษฝ่ายประเมินผล สานักงานวิชาการ , บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมินผล
ที่ อส 0007(ปผ)/89 ลงวนั ที่ 10 มกราคม 2563 และท่ี อส 0007(ปผ)/42 ลงวนั ที่ 31 มกราคม 2563
นำยยุคล เหล่ำพูลสุข
อยั กำรอำวุโส
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 66/2565
ประจำวนั ที่ 7 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดแี พ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพ่มิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ขี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรอื่ ง ทฤษฎีเกย่ี วกบั ภำวะผนู้ ำ
กลุม่ แนวคิดตำมสถำนกำรณ์ (Contingency Theories)
แนวคิดน้ ีมุ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสถานการณ์และพฤติกรรมของผูน้ ากล่าว คือ รูปแบบของผูน้ าจะเปล่ียนแปลงไป
ตามสถานการณผ์ นู้ าคนหน่ึงอาจมีพฤติกรรมท่ีแตกต่างกนั ไปตามเหตุการณท์ ่ีเกิดข้ นึ ข้ นึ อยกู่ บั ปัจจยั ดา้ นตวั บุคคล เวลา และสภาพแวดลอ้ ม
ทฤษฎีภาวะผู้นาตามสถานการณ์ (Situation Leadership Theory) พัฒนาโดยเฮอร์ซีและบลังชาร์ด (Hersey & Blanchard)
ซ่ึงในระยะแรกเรียกว่า ทฤษฎีวงจรชีวิตของภาวะผู้นา (Life-Cycle Theory of Leadership) โดยได้แบ่งพฤติกรรมออกเป็ น 2 มิติ
เช่นเดียวกับผลการศึกษาวิจัยที่รัฐโอไฮโอ คือ พฤติกรรมมุ่งงาน (Task Behavior) ซึ่งผู้นาจะให้บุคคลหรือกลุ่ม ทาหน้าท่ีและ
มีความรบั ผิดชอบในงานวา่ จะทาอะไร ทาอย่างไร ทาเมื่อไร และทาท่ีไหน เป็ นตน้ และพฤติกรรมมุ่งสัมพันธ์ (Relationship Behavior)
ซึ่งผูน้ าจะใชก้ ารติดต่อส่ือสารแบบสองทางหรือมากกว่า เพื่อตรวจสอบว่าพฤติกรรมใดจะเหมาะสมกับสถานการณ์ใด โดยพิจารณา
จากความพร้อม (Readiness) ของผู้ใต้บังคับบัญชา (Hersey & Blanchard 1988 อ้างใน Bartol & others 1998) ใน 2 ด้าน คือ
ดา้ นความสามารถ (Ability) ดูจากความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ที่จาเป็ นสาหรบั งาน และ ดา้ นความเต็มใจ (Willingness) ท่ีจะทาให้
งานสาเร็จ ดจู ากความเช่ือมนั่ ความมีพนั ธะผูกพนั และแรงจงู ใจ ท่ีจะทางานน้ัน ความพรอ้ มเหลา่ น้ ีจะแบง่ ได้ 4 ระดบั ที่ตอ่ เนื่องกนั คือ
ระดบั ตา่ (R1)
ระดบั ตา่ ถึงปานกลาง (R2)
ระดบั ปานกลางถึงสงู (R3) และ
ระดบั สงู (R4)
ในแต่ละระดบั มีเสน้ โคง้ ตดั ผ่าน ซ่ึงจะข้ ีใหเ้ ห็นวา่ พฤติกรรมใดจะเหมาะสมกบั ความพรอ้ มระดบั ใดเป็ นภาวะผูน้ า 4 รปู แบบ
ดังน้ ี แบบกากับ (telling) ต้องกาหนดสิ่งที่จะทาและวิธีการดาเนินงานให้ กากับ และควบคุมอย่างใกลช้ ิดใชใ้ นสถานการณ์ที่
ผูใ้ ตบ้ ังคับบัญชามีความพรอ้ มตา่ ไม่มีความสามารถและไม่เต็มใจหรือจะมีความเสี่ยงเกินไป ถ้าใหร้ ับผิดชอบงานน้ัน แบบขาย
ความคิด (selling) อธิบายถึงส่ิงที่จะทาและใหโ้ อกาสในการทาความเขา้ ใจในงานท่ีจะทาน้ันใชใ้ นสถานการณ์ที่ผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาไม่มี
ความสามารถ แต่มีความเต็มใจหรือมีความมนั่ ใจท่ีจะทางานน้ัน แบบมีส่วนร่วม (participating) เน้นการติดต่อส่ือสารสองทางและ
ความร่วมมือ ใชใ้ นสถานการณ์ที่ผูใ้ ตบ้ ังคับบัญชามีความสามารถท่ีจะรบั ผิดชอบงานแต่ไม่มีความเต็มใจหรือมีความเสี่ยงเกินไป
ท่ีจะใหท้ างานน้ัน แบบมอบอานาจ (delegating) ให้ความเป็ นอิสระในการทางานมาก ใช้กับสถานการณ์ที่ ผู้ใต้บังคับบัญชา
มคี วามสามารถและมีความเต็มใจหรอื ความมนั่ ใจท่ีจะทางานน้ัน
ท่ีมำ : รายงานผลการวจิ ยั โครงการศึกษาวิจยั เพอ่ื พฒั นาภาวะผนู้ าและเสริมสรา้ งทกั ษะการนาตนเองของผบู้ ริหาร
เสนอ สานักงานอยั การสงู สุด โดยศนู ยบ์ ริการวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ
นำงสมสุข มีวุฒิสม
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พือ่ กำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 67/2565
ประจำวนั ท่ี 8 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ขี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรใชห้ ลกั ประกนั เดิมในกำรปลอ่ ยชวั ่ ครำวผตู้ อ้ งหำ
ในจังหวัดอ่ืนนอกเขตกรุงเทพมหานคร กรณีมีการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในช้ันสอบสวน
โดยมีการวางเงินสดหรือหลักทรัพย์อ่ืนเป็ นประกันต่อพนักงานสอบสวน และยงั ไม่ไดร้ ับหลักประกันคืน
แลว้ ต่อมาผู้ตอ้ งหาหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวขอ้ งรอ้ งขอปล่อยชัว่ คราวต่อพนักงานอัยการ โดยขอใหถ้ ือเอา
ทรพั ยส์ ินดังกล่าวเป็ นหลกั ประกนั เมื่อเห็นเป็ นการสมควร หวั หน้าพนักงานอยั การอาจสงั่ อนุญาตใหป้ ล่อย
ชวั่ คราว โดยถือวา่ ทรพั ยส์ ินน้ันเป็ นหลกั ประกนั ในช้นั พนักงานอยั การได้ เม่ือมีคาสงั่ อนุญาตใหป้ ล่อยชวั่ คราว
แลว้ ใหห้ วั หนา้ พนักงานอยั การจดั การใหไ้ ดห้ ลกั ประกนั ดงั กลา่ วมาโดยเร็ว
ในกรณีท่ีมีบุคคลเป็ นประกันหรือหลักประกันต่อพนักงานสอบสวน แล้วต่อมาผู้ต้องหาหรือ
ผูม้ ีประโยชน์เก่ียวขอ้ งรอ้ งขอ พนักงานอยั การอาจถือเอาบุคคลน้ันเป็ นประกนั หรือหลกั ประกนั ในการปล่อย
ชัว่ คราวต่อไปได้ กรณีเช่นว่าน้ ี ใหห้ ัวหน้าพนักงานอัยการแจง้ ใหพ้ นักงานสอบสวนส่งเอกสารเก่ียวกับ
การประกันมาโดยเร็ว (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ
พ.ศ. 2563 ขอ้ 54 และประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา 113/1)
ท่ีมำ : ค่มู อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำยปรญิ ญำ จติ รกำรนทีกิจ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ เี่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พอ่ื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 68/2565
ประจำวนั ที่ 11 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
กำรลงลำยมือช่ือ โจทก์ ผูเ้ รียง ผพู้ มิ พ์ และอำนำจในกำรลงนำมในคำฟ้ อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) บญั ญตั ิว่า “ฟ้ องตอ้ งมีลายมือช่ือโจทก์
ผู้เรียง ผู้เขียน หรือพิมพ์ฟ้ อง “ในการลงลายมือช่ือโจทก์ ผู้เรียง ผู้พิมพ์ ให้ลงลายมือชื่อใหค้ รบถ้วน
ท้งั ในคาฟ้ องและสาเนา แยกพิจารณาได้ ดงั น้ ี
1. ลายมือชื่อโจทกก์ ารลงนามในคาฟ้ อง เป็ นอานาจหน้าที่ของหัวหน้าพนักงานอัยการผูม้ ีอานาจ
ดาเนินคดีน้ัน (ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563
ขอ้ 34)
2. ลายมือชื่อผเู้ รียง มาตรา 158 (7) ใหค้ วามสาคญั แกผ่ ทู้ าคาฟ้ องหรือผเู้ รียง โดย ตอ้ งลงช่ือผเู้ รียง
หากผู้เรียงไม่ลงช่ือไว้ ย่อมเป็ นคาฟ้ องท่ีไม่ชอบดว้ ยวิธีพิจารณาความอาญา ปกติผูท้ ่ีจะลงชื่อผู้เรียง คือ
พนักงานอยั การเจา้ ของสานวน เพราะเป็ นผูต้ รวจสานวนและเป็ นผูเ้ รียงคาฟ้ องน้ัน ดังน้ัน พนักงานอยั การ
ซ่ึงมตี าแหน่งต้งั แต่อยั การผูช้ ่วยข้ นึ ไปสามารถลงชื่อผูเ้ รียงไดท้ ้งั ส้ ิน โจทกก์ บั ผูเ้ รียงอาจจะเป็ นคน ๆ เดียวกนั ได้
3. ลายมอื ช่ือผเู้ ขยี นหรือพิมพ์
การลงลายมือชื่อผูเ้ ขียนหรือพิมพม์ ีความสาคัญเช่นเดียวกบั ลายมือช่ือโจทก์และลายมือช่ือผูเ้ รียง
ซ่ึงหากไม่มีลายมือช่ือผู้เขียนหรือพิมพ์ก็ต้องถือว่าคาฟ้ องน้ันไม่ชอบด้วยกฎหมาย การปฏิบัติงานของ
สานักงานอัยการสูงสุดตามระเบียบงานจะมีเจา้ หน้าที่บันทึกขอ้ มูลทาหน้าท่ีพิมพ์คาฟ้ อง เม่ือเจา้ หน้าที่
ดังกล่าวพิมพ์คาฟ้ องเสร็จ ก็ต้องลงลายมือชื่อใหเ้ รียบรอ้ ย หากไม่ไดล้ งลายมื อชื่อไว้ พนักงานอัยการ
ซึ่งเป็ นเจา้ ของสานวนตอ้ งดาเนินการจดั ใหม้ ีการลงลายมอื ชื่อใหเ้ รียบรอ้ ย
ที่มำ : - ค่มู อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546 หนา้ 124-125.
ท่ีมำ : -ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดวา่ ดว้ ยการดาเนินคดีอาญาของพนักงานอยั การพ.ศ. 2563 ขอ้ 34
ท่ีมำ : - คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสงู สุด
นำงศิรอิ ร มณีสินธุ์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 69/2565
ประจำวนั ที่ 12 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดแี พง่ เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพอื่ ทบทวนและเพิม่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ของพนักงำนอยั กำร
----------------------------
กำรฟังคำพิพำกษำหรือคำสงั ่ ศำล
หนา้ ที่การฟังหรือการรบั ทราบคาพิพากษา
ให้พนักงานอัยการเจ้าของสานวนมีหน้าที่ฟังหรือรับทราบคาพิพากษาหรือคาสัง่ ศาลช้ันต้น
ดว้ ยตนเอง แลว้ จดั ทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 และจัดทาความเห็นและคาสัง่ ช้นั ศาลพิจารณา
ตามแบบ อ.ก. 14 ติดสานวน ในกรณีท่ีไม่อาจรบั ทราบไดด้ ว้ ยตนเอง อาจมอบหมายใหพ้ นักงานอยั การอื่น
ไปปฏิบตั ิหน้าที่แทนได้ ผูร้ บั มอบหมายมีหนา้ ท่ีตอ้ งจัดทาแบบรายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 และจดั ทา
ความเห็นและคาสัง่ ช้ันศาลพิจารณาตามแบบ อ.ก. 14 ระบุใหช้ ัดเจนถึงสาเหตุขดั ขอ้ งท่ีเจา้ ของสานวน
ไมอ่ าจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี แลว้ สง่ ใหเ้ จา้ ของสานวนดาเนินการต่อไป
การฟังหรือการรบั ทราบคาพิพากษาศาลช้นั ตน้ ในคดีที่จาเลยใหก้ ารรบั สารภาพในช้นั สอบคาใหก้ าร
และไม่ตอ้ งสืบพยานประกอบ ใหเ้ ป็ นหน้าท่ีของพนักงานอยั การผูป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีเวรช้ ีประจาวนั และใหน้ าความ
ในวรรคหนึ่งมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม
ใหพ้ นักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรช้ ีประจาวนั มีหน้าท่ีฟังหรือรับทราบคาพิพากษาหรือคาสัง่
ช้ันอุทธรณ์ และช้ันฎีกาตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดาเนินคดีอาญาช้ันศาลสูง
ของพนักงานอยั การ รวมท้งั กรณีดงั น้ ี
(1) กรณีที่ศาลออกหมายนัดใหไ้ ปฟังคาพิพากษาหรือคาสัง่ ช้ันอุทธรณ์และช้ันฎีกา ใหพ้ นักงานอัยการ
ผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรช้ ีประจาวันรับผิดชอบลงสมุดบัญชีนัดทาการ (บ. 2) ไวใ้ หต้ รงตามกาหนดวันเวลาในหมายนัด
หากผูร้ ับหมายมิใช่พนักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรช้ ีประจาวนั ให้ผูร้ ับหมายน้ันแจง้ และส่งหมายนัด
ใหแ้ ก่พนักงานอยั การผูป้ ฏิบัติหน้าที่เวรช้ ีประจาวนั ทราบ เพ่ือลงสมุดบัญชีนัดทาการ (บ. 2) ในการแจง้
ใหท้ ราบดง้ กล่าวใหผ้ ูร้ บั หมายน้ันจดั ทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 ไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน
(2) กรณีที่ศาลสงั่ เลื่อนการอ่านคาพิพากษาหรือคาสัง่ ตาม (1) ใหพ้ นักงานอยั การผูป้ ฏิบตั ิหน้าท่ี
เวรช้ ีประจาวนั มีหน้าท่ีลงสมุดบัญชีนัดทาการ (บ. 2) ไวใ้ หต้ รงตามกาหนดวนั เวลานัดท่ีเล่ือนไปทุกคร้งั
และจดั ทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 หากผูร้ บั ทราบคาสงั่ เล่ือนการอ่านหรือหมายนัดเล่ือนการอ่าน
มิใช่พนักงานอยั การผูป้ ฏิบตั ิหน้าที่เวรช้ ีประจาวนั ใหผ้ ูร้ ับทราบน้ันแจง้ และส่งมอบหมายนัดเลื่อนการอ่าน
(ถา้ มี) ใหพ้ นักงานอยั การผูป้ ฏิบตั ิหน้าที่เวรช้ ีประจาวนั ทราบเพื่อลงนัดใหม่ในสมุดบญั ชีนัดทาการ (บ. 2)
ในการแจง้ ใหท้ ราบดงั กล่าวใหผ้ ูร้ บั ทราบน้ัน จดั ทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 ไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศูนยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
(3) กรณีที่ศาลออกหมายนัดฟังคาพิพากษาหรือคาสัง่ ช้ันอุทธรณ์และช้ันฎีกา แต่มีพนักงานอัยการ
ผูม้ ิใช่เวรช้ ีประจาวนั ลงลายมือชื่อรบั ทราบการอ่านคาพิพากษาหรือคาสงั่ ดังกล่าว ใหพ้ นักงานอยั การผูน้ ้ัน
แจง้ ใหพ้ นักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรช้ ีประจาวันทราบเพ่ือจัดทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13
และจัดทาความเห็นและคาสัง่ ช้ันศาลพิจารณาตามแบบ อ.ก. 14 ต่อไป ในการแจง้ ใหท้ ราบดังกล่าวให้
พนักงานอยั การท่ีลงลายมือช่ือน้ันทารายงานการคดีตามแบบ อ.ก. 13 ไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน
กรณีท่ีศาลอ่านคาพิพากษาหรือคาสงั่ ศาลอุทธรณห์ รือศาลฎีกาโดยไม่ไดอ้ อกหมายนัด ใหส้ านักงาน
อัยการทุกแห่งพยายามประสานงานกับศาลเท่าท่ีจะทาได้ โดยขอความร่วมมือใหศ้ าลออกหมายนัดฟัง
คาพิพากษา หรือคาสัง่ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ใหพ้ นักงานอัยการโจทก์ทราบล่วงหน้าทุกคร้ังทุกคดี
เพื่อป้ องกนั ปัญหาที่จะเกิดหรืออาจจะเกิดในทางปฏิบตั ิได้ (ระเบียบสานักงานอยั การสงู สุดว่าดว้ ยการดาเนิน
คดีอาญาของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 135)
ท่ีมำ : คมู่ อื การดาเนินคดีอาญาสาหรบั พนักงานอยั การ พ.ศ. 2546,
คลงั กฎหมายและเอกสาร ระบบสารสนเทศการจดั การความรู้ สานักงานอยั การสูงสุด
นำยวิรชั เนตธิ รรมำภมิ ุข
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พ่ือกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองท่ี 70/2565
ประจำวนั ที่ 18 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดแี พ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพมิ่ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทข่ี องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
ขอ้ สงั เกตในกำรตรวจสำนวนและสงั ่ คดี กรณีกำรสอบสวนไม่ส้ ินกระแสควำม
ตวั อยา่ งขอ้ สงั เกตที่ไมไ่ ดส้ งั่ สอบสวนเพิ่มเติม
- โจทก์ฟ้ องจาเลย 2 ฐาน ฐานละเมิดลิขสิทธ์ิงานภาพยนตร์ และฐานประกอบกิจการใหเ้ ช่า
แลกเปลี่ยนหรือจาหน่าย แผ่นดีวีดี หรือซีดีภาพยนตร์ซ่ึงบันทึกภาพและเสียงโดยไม่ไดร้ ับอนุญาตจาก
นายทะเบียน ศาลฎีกายกฟ้ องฐานละเมิดลิขสิทธ์ิ โดยอา้ งว่าหนังสือมอบอานาจจากบริษัทเจา้ ของสิทธ์ิ
ได้มอบอานาจใหแ้ ก่ผูร้ ับมอบอานาจ โดยกาหนดอายุของการมอบอานาจไวใ้ นวรรคทา้ ยของสัญญาว่า
ใหม้ ีผลบงั คับใชด้ าเนินการภายในอายุสญั ญาท่ีกระทา เมื่อผูร้ บั มอบอานาจไดม้ อบอานาจต่อใหผ้ ูร้ บั มอบ
อานาจช่วง การมอบอานาจจะมีผลใชไ้ ดต้ อ้ งอยู่ในระยะเวลาของสัญญา เม่ือโจทก์ไม่สืบใหไ้ ดค้ วามว่า
อายุสญั ญามถี ึงวนั เวลาใด คดีจึงฟังไมไ่ ดว้ ่าผูร้ บั มอบอานาจช่วง มีอานาจในขณะท่ีเขา้ รอ้ งทุกขใ์ นคดีความผิด
ต่อส่วนตัว โจทก์จึงไม่มีอานาจฟ้ อง จากการตรวจสานวนไม่พบว่ามีการสอบสวนเพิ่มเติม ใหช้ ัดเจน
ในประเด็นน้ ีก่อนฟ้ องคดี (หนังสือสานักงานอัยการสูงสุดท่ี อส 0039(อก)/1984 ลงวันท่ี 8 ตุลาคม 2555)
ท่ีมำ : ค่มู อื การดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู เล่มท่ี 2
คณะกรรมการจดั ทาค่มู ือการดาเนินคดีอาญาช้นั ศาลสงู สานักงานคดีศาลสงู สานักงานอยั การสงู สุด พ.ศ. 2555
หนา้ 164.
นำงสำวณฤดี เกียรตคิ งยงิ่
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่เี ผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหล่งรวมควำมรูเ้ พ่อื กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 71/2565
ประจำวนั ท่ี 19 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกร็ดควำมรู้ เพ่ือทบทวนและเพ่ิมศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรือ่ ง ขอ้ พงึ สงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร
ความผิดฐานร่วมกนั ประกอบกิจการควบคุมน้ามนั เช้ ือเพลิงโดยไม่ไดร้ บั อนุญาตและร่วมกนั ปลอมปน
น้ามันเช้ ือเพลิง และครอบครองน้ามันเช้ ือเพลิงที่มีลักษณะ และคุณภาพแตกต่างจากอธิบดีกาหนด มีปริมาณ
ต้ังแต่ 200 ลิตรข้ ึนไป น้ัน ตามพระราชบัญญัติการคา้ น้ามันเช้ ือเพลิง พ.ศ. 2543 มาตรา 50 ซึ่งผูต้ อ้ งหา
มีภาระจะตอ้ งพิสจู น์หกั ลา้ งขอ้ ยกเวน้
คดีน้ ี พบผูร้ ่วมกระทาความผิดท่ี 1 – 6 ในที่เกิดเหตุและตรวจยึดของกลางไว้ ช้ันจบั กุมผูต้ อ้ งหา
ที่ 1 - 4 ใหก้ ารรับสารภาพตามขอ้ กล่าวหา และช้ันสอบสวน ผูต้ อ้ งหาที่ 2 - 5 ใหก้ ารรับสารภาพตาม
ขอ้ กล่าวหา ต่อมาหลังเกิดเหตุประมาณ 7 เดือน ผูต้ อ้ งหาท่ี 2 – 4 ใหก้ ารปฏิเสธว่าตนเป็ นเพียงลูกจา้ งของ
ผตู้ อ้ งหาที่ 1 และไม่ทราบว่าน้ามันของกลางเป็ นน้ามันที่ผิดกฎหมาย โดยผตู้ อ้ งหาที่ 1 – 4 มิไดพ้ ิสจู น์หกั ลา้ ง
ขอ้ สันนิ ษฐานของกฎหมายดังกล่าว ซ่ึงไม่มีน้ าหนักในการรับฟั ง คดีจึงมีพยานหลักฐานพอรับฟั งได้ว่า
ผตู้ อ้ งหาท่ี 2 – 4 ไดร้ ่วมกระทาความผิดกบั ผตู้ อ้ งหาที่ 1
พนั กงานอัยการได้ยื่นฟ้ องจาเลยต่อศาล ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจาเลยตามฟ้ อง ดังน้ั น
คดีมีพยานหลกั ฐานเท่าท่ีปรากฏในสานวน จึงรบั ฟังไดว้ า่ ผตู้ อ้ งหาท่ี 2 – 5 ไดร้ ่วมกระทาความผิดกบั ผตู้ อ้ งหาที่ 1
ดังน้ัน คาสัง่ ใชด้ ุลพินิ จไม่ฟ้ องผู้ตอ้ งหาท่ี 2 – 5 ท้ัง ๆ ที่ผูต้ ้องหาท่ี 1 – 4 มิได้พิสูจน์หักล้างขอ้ สันนิษฐาน
ของกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติการคา้ น้ามันเช้ ือเพลิง พ.ศ. 2543 มาตรา 50 ดังกล่าว ของพนักงานอัยการ
เจา้ ของสานวน และอัยการจังหวัด จึงไม่ชอบ ตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญา
ของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ข้อ 56 (3) (ระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญา
ของพนักงานอยั การ พ.ศ. 2563 ขอ้ 33) ถือเป็ นขอ้ บกพร่อง
ท่มี ำ : สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล สานักงานวชิ าการ ,
บนั ทึกขอ้ ความ สานักงานอยั การพเิ ศษฝ่ายประเมนิ ผล ที่ อส 0007(ปผ)/2431 ลงวนั ท่ี 16 กรกฎาคม 2563
นำยวิชช์ จรี ะแพทย์
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ีเ่ ผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรือ คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศนู ยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พื่อกำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธิ์ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั ส่ี กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เรื่องท่ี 72/2565
ประจำวนั ที่ 20 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำตำ่ ง แกต้ ่ำง คดอี ำญำ คดแี พง่ เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพม่ิ ศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีของพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
เรื่อง ขอ้ พึงสงั เกตในกำรปฏิบตั ริ ำชกำร : กำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่เวรช้ ี
สำนวนคดีอำญำ กำรดำเนินคดีในช้นั พิจำรณำของศำล ตำมประมวลกฎหมำยวธิ ีพจิ ำรณำควำมอำญำ มำตรำ 176
กำหนดให้ “ในช้นั พจิ ำรณำ ถำ้ จำเลยใหก้ ำรรบั สำรภำพตำมฟ้ อง ศำลจะพพิ ำกษำโดยไมส่ ืบพยำนหลกั ฐำนต่อไปก็ได้ เวน้ แต่
คดีที่มีขอ้ หำในควำมผิดซึ่งจำเลยรบั สำรภำพน้ันกฎหมำยกำหนดอตั รำโทษอย่ำงตำ่ ไวใ้ หจ้ ำคุกต้งั แต่ 5 ปี ข้ ึนไป หรือโทษ
สถำนที่หนักกว่ำน้ัน ศำลตอ้ งฟังพยำนโจทกจ์ นกว่ำจะพอใจว่ำจำเลยไดก้ ระทำผิดจริง”
ตำมขอ้ เท็จจริง ไดม้ กี ำรฟ้ องจำเลยในควำมผิดฐำนบุกรุกเคหสถำนของผอู้ ื่นในเวลำกลำงคืน ชิงทรพั ยใ์ นเคหสถำน
ในเวลำกลำงคืนโดยผ่ำนสิ่งกีดก้นั สำหรบั คุม้ ครองบุคคลหรือทรพั ยเ์ ขำ้ ไปดว้ ยประกำรใด ๆ เป็ นเหตุใหผ้ อู้ ื่นไดร้ บั อนั ตรำย
แกก่ ำยหรือจิตใจ ทำรำ้ ยผอู้ นื่ จนเป็ นเหตุใหเ้ กิดอนั ตรำยแก่กำยหรือจิตใจ และเป็ นบุคคลต่ำงดำ้ วเขำ้ มำอย่ใู นรำชอำณำจกั ร
โดยไม่ไดร้ ับอนุญำต ท้ังน้ ีในควำมผิดฐำนชิงทรัพยต์ ำมฟ้ อง เป็ นควำมผิดตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ 339
วรรคสอง และวรรคสำม มีโทษจำคุกต้งั แต่สิบปี ถึงย่สี ิบปี ซึ่งแมจ้ ำเลยจะใหก้ ำรรบั สำรภำพ ศำลตอ้ งฟังพยำนโจทกจ์ นกว่ำ
จะพอใจว่ำจำเลยได้กระทำผิดจริง กรณีจึงต้องมีกำรสืบพยำนโจทก์เพื่อแสดงถึงกำรกระทำผิดของจำเลยตำมฟ้ อง
แต่ปรำกฏว่ำในวันช้ ีสองสถำน จำเลยให้กำรรับสำรภำพ พนักงำนอัยกำรท่ีปฏิบัติหน้ำท่ีเวรช้ ีสองสถำนได้แถลง
ไม่ติดใจสืบพยำนและลงลำยมือชื่อไวใ้ นรำยงำนกระบวนพิจำรณำ และในวนั เดียวกนั น้ันศำลช้นั ตน้ ไดพ้ ิพำกษำใหล้ งโทษ
จำเลยตำมฟ้ อง แต่ในศำลช้ันอุทธรณ์ได้มีคำวินิจฉัยว่ำ เมื่อโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยำนดังน้ ีจึงต้องถือว่ำโจทก์ไม่มี
พยำนหลักฐำนท่ีจะใหศ้ ำลช้ันตน้ ลงโทษจำเลยในบทมำตรำดังกล่ำวได้ กรณีจึงไม่จำตอ้ งใหศ้ ำลช้ันตน้ ดำเนินกระบวน
พิจำรณำและพิพำกษำใหม่ จึงพิพำกษำแกเ้ ป็ นใหล้ งโทษจำเลยเพียงฐำนลกั ทรัพย์ จำคุก 2 ปี คดีไม่ฎีกำ กรณีดังกล่ำวน้ ี
ถือเป็ นขอ้ บกพร่อง ตำมระเบียบสำนักงำนอยั กำรสงู สุดว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำช้นั ศำลสงู ของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2556
ขอ้ 35 (ระเบียบสำนักงำนอยั กำรสงู สุดว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำช้นั ศำลสงู ของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2563 ขอ้ 37)
ที่มำ : ระเบียบสำนักงำนอยั กำรสงู สุดว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำชน้ั ศำลสงู ของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2556 ขอ้ 35
(ระเบียบสำนักงำนอยั กำรสงู สุดว่ำดว้ ยกำรดำเนินคดีอำญำช้นั ศำลสงู ของพนักงำนอยั กำร พ.ศ. 2563 ขอ้ 37)
สำนักงำนอยั กำรพิเศษฝ่ำยประเมนิ ผล สำนักงำนวชิ ำกำร, บนั ทึกขอ้ ควำม สำนักงำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ำยประเมนิ ผล
ที่ อส 0007(ปผ)/ 766 ลงวนั ท่ี 19 กนั ยำยน 2562
นำยยคุ ล เหล่ำพลู สขุ
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพิเศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ่ีเผยแพรใ่ น Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th
KM : Perfect Public Prosecutor (KM : 3P)
www.kmcenter.ago.go.th
Knowledge Management System : KMS
สำนกั งำนวิชำกำร
ศูนยก์ ฎหมำยและเอกสำรวิชำกำร คลงั ควำมรู้ แหลง่ รวมควำมรูเ้ พอื่ กำรทำงำน
ศนู ยร์ ำชกำรเฉลิมพระเกียรตฯิ อำคำรรำชบุรดี เิ รกฤทธ์ิ ช้นั 3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วฒั นะ
เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหำนคร 10210 โทร 0 2142 1499 โทรสำร 0 2143 9475
เร่ืองที่ 73/2565
ประจำวนั ที่ 21 เมษำยน 2565
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้ ขอเสนอเทคนิค /2563
ขอ้ สงั เกตกำรว่ำต่ำง แกต้ ำ่ ง คดอี ำญำ คดีแพ่ง เป็ นเกรด็ ควำมรู้ เพื่อทบทวนและเพ่ิมศกั ยภำพ
ในกำรปฏิบตั หิ นำ้ ทขี่ องพนกั งำนอยั กำร
----------------------------
ทฤษฎีเก่ียวกบั ภำวะผนู้ ำ : กลมุ่ ทฤษฎีคณุ ลกั ษณะของผนู้ ำ (Traits Theories)
ทฤษฎกี ลุ่มน้ ีมีความเช่ือวา่ บุคคลบางคนเกิดมาพรอ้ มดว้ ยลกั ษณะบางประการที่จะช่วยสนับสนุนใหเ้ ขาเป็ นผนู้ าได้
ซง่ึ หมายถึงคุณลกั ษณะ ดงั น้ ี
1. บุคลิกภาพ (Personality) เป็ นเรื่องที่ติดมากับตัวบุคคลแต่ละคน ในส่วนที่สามารถปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีได้
บุคลิกภาพดงั กล่าว ไดแ้ ก่ ความสามารถในการปรบั ตวั ความตอ้ งการท่ีจะนาความตอ้ งการทางอารณ์ ความเป็ นตวั ของตวั เอง
ความเพยี รพยายาม ความคดิ สรา้ งสรรค์ และความทะเยอทะยาน
2. ความรู้ ความสามารถ (Intelligence) สมองของคนเราธรรมชาติสรา้ งมาเพื่อใชส้ ติปั ญญาใหเ้ กิดประโยชน์
ต่อส่วนรวม ความรคู้ วามสามารถจะเห็นไดจ้ ากเชาวป์ ัญญา ความแม่นยาในการตดั สินใจ ระดบั ความรู้ และความคล่องแคล่ว
ในการใชภ้ าษา
3. คุณลักษณะดา้ นสงั คม (Social SKill) การเขา้ สงั คมเป็ นของคนทุกคน เพราะคนเราไม่สามารถอย่ไู ดค้ นเดียว
ในโลก การเขา้ สงั คมของคนแต่ละระดบั ตอ้ งมีพิธีรีตองแตกต่างกนั ออกไปตามสภาพการณแ์ ละเหตุการณ์น้ัน ๆ คุณลกั ษณะ
ดา้ นสงั คม เช่น การรจู้ กั ประนีประนอม ความสามารถในการบริหาร ความร่วมมือ ความเป็ นที่นิยมชมชอบ และความเป็ น
นักการทตู
4. คุณลกั ษณะดา้ นกายภาพ (Physical Characteristies) ถือเป็ นเรื่องที่ติดตวั มาอยา่ งเห็นไดช้ ดั ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ ีอาจ
สามารถแกไ้ ข ปรบั ปรุงดว้ ยการใหอ้ าหาร หรือรบั ประทานอาหารที่ถูกสุขลกั ษณะ รวมท้งั การออกกาลงั กายท่ีเหมาะสมดว้ ย
คุณลกั ษณะดา้ นกายภาพ มีดงั น้ ี ส่วนสงู น้าหนัก และความสมบรู ณข์ องร่างกาย
ที่มำ : รายงานผลการวจิ ยั โครงการศึกษาวิจยั เพ่อื พฒั นาภาวะผนู้ าและเสริมสรา้ งทกั ษะการนาตนเองของผบู้ ริหาร
เสนอ สานักงานอยั การสงู สุด โดยศนู ยบ์ ริการวชิ าการ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ
นำงสมสขุ มีวุฒิสม
อยั กำรอำวุโส
สำนกั งำนอยั กำรพเิ ศษฝ่ ำยบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้
องคค์ วำมรูท้ ี่เผยแพร่ใน Line KM : 3P ท้งั หมด
อยั กำรพิเศษฝ่ ำยบริหำรจดั กำรควำมรู้
KMS : คลงั ควำมรู้ คลงั กฎหมำยและเอกสำร ควำมรู้ ตอบขอ้ หำรอื คลงั สมอง
กำรเขำ้ ใชง้ ำนระบบสำรสนเทศกำรจดั กำรควำมรู้ (KMS) : www.km.ago.go.th