The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benzalove147, 2021-09-16 10:42:31

แผนเสร็จ

แผนเสร็จ

แผนการ
จัดการเรียนรู้

การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 2

โ ร ง เ รี ย น
เ ท ศ บ า ล วั ด ห น อ ง ผ า

นายอานนท์ นุ่มพรม

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1

รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2564
เวลา 1 ชวั่ โมง
หน่วยการเรยี นรู้ 3 เรอ่ื ง หนว่ ยพื้นฐาน เร่ือง กลอ้ งจุลทรรศน์
วันที่ 31สิงหาคม2564
ของส่งิ มีชวี ติ

โรงเรยี น เทศบาลวัดหนองผา ผูส้ อน นาย อานนท์ นมุ่ พรม

1.มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1.2 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ขิ องส่ิงมชี ีวติ หน่วยพน้ื ฐานของสง่ิ มชี วี ิต การลาเลียงสารเขา้ และออก
จากเซลลค์ วามสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ งและหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ยท์ ี่ทางานสัมพนั ธ์
กันความสมั พันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ที างานสมั พันธก์ นั รวมทัง้ นา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชีว้ ดั
ว 1.2 ม.1/1 ใชก้ ล้องจลุ ทรรศน์ใช้แสงศกึ ษาเซลลแ์ ละโครงสรา้ งต่าง ๆภายในเซลล์
2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1.นักเรยี นสามารถบอกสว่ นประกอบของกล้องกลอ้ งจลุ ทรรศน์ได้
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P)

3.นกั เรยี นเขยี นสว่ นประกอบและวธิ กี ารใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

4. นกั เรียนมคี วามใฝเ่ รยี นรแู้ ละมีความมงุ่ ม่ันในการทางาน

3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
กลอ้ งจลุ ทรรศนแ์ บบใช้แสงธรรมดา (COMPOUND MICROSCOPE)
แบง่ ออกเป็น 2 ชนิดดว้ ยกนั
1.กลอ้ งจุลทรรศน์อยา่ งง่ายหรอื แวน่ ขยาย (Compound Microscope or Magnifying glass)

ซึง่ ใชเ้ พียงเลนส์นนู เพยี งอนั เดียวเป็นตัวช่วยในการขยายวตั ถุใหด้ ใู หญข่ น้ึ และภาพท่ีได้จะเปน็ ภาพเสมือน
2.กลอ้ งจุลทรรศนเ์ ชงิ ซอ้ น (Compound Light Microscope) เปน็ กล้องจลุ ทรรศนท์ ่มี ีระบบ

เลนสท์ ที่ าหน้าท่ีขยายภาพ 2 ชดุ ดว้ ยกัน คอื เลนส์ใกลว้ ตั ถุ และเลนสใ์ กลต้ า กลอ้ งจุลทรรศนเ์ ชิงซอ้ นทใ่ี ช้งาน
ทว่ั ไปในหอ้ งปฏิบัติการจะเป็นชนิด Light field Microscope หรือ Bright field Microscope หลกั การ
ทางานของกล้องจลุ ทรรศน์ชนิดน้ีคือ เม่ือแสงไฟจากหลอดไฟเปน็ แหลง่ กาเนิดแสงจะถกู รวบรวมแสงโดย
condenser lens ไปตกทว่ี ตั ถุท่วี างบนแท่นวางวัตถุ (Specimen stage) จากนนั้ เลนสใ์ กล้วัตถุ (objective

lens) จะเปน็ ตัวขยายวตั ถุให้ไดภ้ าพทีใ่ หญ่ข้นึ แล้วจะส่งตอ่ ไปยงั เลนส์ใกล้ตา (ocular lens) เพอื่ ขยายภาพ
สดุ ทา้ ย

การใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์
1.การจับกล้องและเคลื่อนย้ายกล้อง ตอ้ งใชม้ ือหนึ่งจบั ท่แี ขนและอีกมือหนึ่งรองทฐี่ านของกลอ้ ง
2.ตงั้ ลากล้องให้ตรง
3.เปดิ ไฟเพอื่ ใหแ้ สงเขา้ ลากลอ้ งได้เตม็ ที่
4.หมุนเลนส์ใกล้วตั ถุ ให้เลนส์ท่ีมกี าลังขยายตา่ สุดอยู่ในตาแหน่งแนวของลากลอ้ ง
5.นาสไลดท์ จ่ี ะศกึ ษามาวางบนแทน่ วางวตั ถุ โดยปรับให้อย่กู ลางบรเิ วณทแ่ี สงผ่าน
6.คอ่ ยๆหมนุ ปมุ่ ปรับภาพหยาบให้กล้องเลือ่ นขน้ึ ช้า ๆเพ่อื หาระยะภาพ แต่ตอ้ งระวงั ไมใ่ หเ้ ลนสใ์ กล้วตั ถกุ ระทบ
กับสไลด์ตัวอยา่ ง เพราะจะทาให้เลนสแ์ ตกได้
7.ปรบั ภาพใหช้ ัดเจนขึ้นดว้ ยปุ่มปรบั ภาพละเอียด ถ้าวัตถทุ ศี่ กึ ษาไม่อยูต่ รงกลางให้เลื่อนสไลด์ให้มาอย่ตู รง
กลาง
8.ถ้าตอ้ งการใหภ้ าพขยายใหญข่ นึ้ ใหห้ มนุ เลนสใ์ กล้วัตถุทมี่ ีกาลงั ขยายสงู กวา่ เดิมมาอยู่ในตาแหน่งแนวของลา
กล้อง จากน้นั ปรบั ภาพให้ชดั เจนดว้ ยปุ่มปรับภาพละเอยี ดเท่านั้น ห้ามปรับภาพด้วยป่มุ ปรับภาพหยาบเพราะ
จะทาให้ระยะของภาพ หรอื จุดโฟกัสของภาพเปลยี่ นไป
9.บนั ทกึ กาลังขยายโดยหาไดจ้ ากผลคณู ของกาลงั ขยายของเลนส์ใกล้วัตถกุ ับกาลังขยายของเลนสใ์ กลต้ า

เซลล์เป็นหนว่ ยพืน้ ฐานของสิ่งมชี วี ิตส่งิ มชี ีวิตบางชนิดมีเซลลเ์ พียงเซลลเ์ ดียว เชน่ อะมีบา
พารามีเซยี ม ยสี ตบ์ างชนิดมีหลายเซลล์เชน่ พืช สัตว์
4. สาระการเรียนรู้

1.สว่ นประกอบของกล้องจุลทรรศน์
2.วธิ ีการใช้กล้องจุลทรรศน์
5. สมรรถนะของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด

- ทักษะการสังเกต
- ทกั ษะการสรุปลงความเห็น
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีความสนใจใฝ่รู้
2. มีวนิ ยั
3. มจี ติ สาธารณะ
4. มีความอดทน

7. ขั้นตอนการจดั การเรยี นรู้
ใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ บบ 5 Es
1.ขนั้ สรา้ งความสนใจ
-ครเู ชค็ จานวนนักเรยี นกอ่ นเข้าเรียนจากน้นั ครูบอกจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ให้กับนกั เรยี น
-ครนู ารปู ส่ิงมชี ีวติ ทขี่ นาดเล็กท่ตี ้องใช้กลอ้ งจุลทรรศนใ์ นการศกึ ษาใหน้ กั เรยี นดู
-ครตู ้ังคาถามว่า เหน็ สัตว์ขนาดเล็กนไ้ี หมทาไมเราถึงสามารถเหน็ ได้ เราตอ้ งใชอ้ ะไรใน

การศึกษาสงิ่ มชี ีวติ พวกนี้
2.ขนั้ สารวจและคน้ หา
-ครเู ปดิ รูปกลอ้ งจุลทรรศน์และใหน้ กั เรียนหาคาตอบว่าส่วนประกอบของกลอ้ งจุลทรรศน์ มี

ชอื่ ว่าอะไรบา้ ง
3.ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรปุ
-ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เรื่องสว่ นประกอบของกลอ้ งจุลทรรศน์และวิธกี ารใชง้ านกลอ้ งจุลทรรศน์

โดยใช้พาวเวอร์พอ้ ย
4.ขั้นขยายความรู้
-ครูใหน้ กั เรียนดวู ดิ ีโอ เร่ืองวธิ ีการใช้กล้องจลุ ทรรศน์

-ครแู จกใบงานที่ 1.1 เรอื่ งวิธกี ารใชก้ ล้องจลุ ทรรศนแ์ ละสว่ นประกอบของกลอ้ งจลุ ทรรศน์
5.ขั้นประเมิลผล

-การมสี ว่ นร่วมชน้ั เรยี น
-การตอบคาถาม
-ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ งวิธีการใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์

8.สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นวชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1
2. อุปการณ์ในการศึกษาค้นคว้า เชน่ โทรศพั ท์มือถือ คอมพวิ เตอร์
3. พาวเวอร์พอ้ ย เร่อื งสว่ นประกอบของกล้องจุลทรรศน์และวธิ ีการใชง้ านกล้องจุลทรรศน์
3. วิดีโอเรือ่ งวธิ ีการใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์

9. ชิ้นงาน / ภาระงาน
1.ใบงานท่ี 1.8 เรื่องส่วนประกอบของกล้องจลุ ทรรศน์
2.ใบงานท่ี 1.1 เร่ืองวธิ กี ารใช้กล้องจุลทรรศน์

10. การวดั และประเมินผล
1. กรอบการวดั และประเมินผล แตล่ ะจดุ ประสงคก์ ารเรียนร้นู าเสนอประเด็นทท่ี าการวัด และ

ประเมนิ ผล วิธกี ารวัด และเครื่องมือวัด ดงั ตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารผ่าน
จุดประสงค์
ด้านความรู้ (K) - ทาใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1
- นกั เรยี นสามารถบอกส่วนประกอบของ ผา่ นจดุ ประสงค์ร้อยละ
กล้องกล้องจุลทรรศน์ได้ - ทาใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 70 ขน้ึ ไป
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามรถอธบิ ายวธิ กี ารใชก้ ลอ้ ง สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ผา่ นจุดประสงค์รอ้ ยละ
จลุ ทรรศนไ์ ด้ พฤตกิ รรม 70 ขนึ้ ไป
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ ระดบั 2 จาก 4ระดบั

2. เกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ บู ริคส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑร์ ูบริคส์ ทสี่ รา้ งขึ้น

สาหรบั การประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑ์การใหค้ ะแนนเกณฑ์รบู รคิ ส์

ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ

การประเมิน 4 3 21

(ดมี าก) (ด)ี (ปานกลาง) (คอ่ นข้างนอ้ ย)

ด้านความรู้ (K)

- นกั เรยี นสามารถบอกสว่ นประกอบ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป

ของกล้องกลอ้ งจุลทรรศน์ได้

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

-นกั เรยี นสามรถอธบิ ายวธิ กี ารใชก้ ลอ้ ง

จลุ ทรรศน์ได้ ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A)

- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ มคี วาม - ความรบั ผดิ ชอบงาน ีมีผลการเรียนรตู้ าม ีมีผลการเรียนรู้ ีมีผลการเรียนรู้
ตาม คาอธบิ าย
มงุ่ ม่ันในการทางาน ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย คาอธิบายเปน็ ราย ตาม คาอธบิ าย เปน็ ราย ขอ้ ดังที่
กาหนด ระดับดี
- มคี วามอดทนอดกล้ัน ข้อดงั ทีก่ าหนด เป็นราย ข้อดังที่ มากข้อใดๆ
นอ้ ยกวา่ 2 ขอ้
ระดับดมี ากขอ้ ใดๆ กาหนด ระดับดี

จานวน 3 ข้อ มากขอ้ ใดๆ

จานวน 2 ข้อ

3. เกณฑ์ประเมินระดบั คณุ ภาพผลการเรียนรู้ กาหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ทกุ ด้านเป็น 4
ระดบั คอื ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรุง แตล่ ะระดับกาหนดเกณฑ์ประเมินตามคะแนนเกณฑ์รูบรคิ ส์ ดังนี้

ระดบั คุณภาพดีมาก มีคะแนนตามเกณฑร์ ูบรคิ สร์ อ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดบั คุณภาพดี มีคะแนนตามเกณฑร์ บู รคิ ส์รอ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเตม็
ระดับคุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์รอ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเตม็
ระดับคณุ ภาพปรบั ปรุง มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็





ใบงานที1่ .1 เร่อื งสว่ นประกอบของกล้องจลุ ทรรศน์

ชื่อ........................................................................................................................ช้ัน..................เลขที่..............
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นส่วนประกอบของกลอ้ งจุลทรรศนล์ งในช่องส่เี หลี่ยม

ใบงานที่ 1.1 เร่อื งวธิ กี ารใชก้ ล้องจลุ ทรรศน์

ชื่อ........................................................................................................................ชั้น..................เลขที.่ .............
คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเขยี นวธิ กี ารใช้กลอ้ งจุลทรรศนอ์ ยา่ งละเอียด

...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

แบบสังเกตคุณลักษณะที่พึงประสงค์ (A)

เลข ่ีทชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดังที่กาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ

43 2 1

1 เดก็ ชายกณั ชยั จนั ทร์บุตร /

2 เด็กชายณฐั กรณ์ ปานวงศ์ /

3 เดก็ ชายวิชญะ มลู อุด /

4 เดก็ ชายจตุพล แสนแปลง /

5 เดก็ ชายธรี ภัทร ไชยสิงห์ /

6 เดก็ ชายวิทวัส รอดจนั ทร์ /

7 เดก็ ชายณฐั กติ ใจตลุ ะ /

8 เดก็ ชายพนุรกั ษ์ จ๋ิวอยู่ /

9 เดก็ ชายปัณณวัฒน์ พศิ เพ็ง /

10 เด็กชายณฐั พล ยอดคา /

11 เด็กชายณฐั พล ศรที องเจอื /

12 เด็กชายณฐั วฒุ ิ นนั ทะโคตร์ /

13 เด็กชายนครินทร์ อนิ พรม /

14 เดก็ ชายปฐั พี สวสั ด์ิภาพ /

15 เดก็ ชายรตั นชาต บวั เลศิ /

16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ /

17 เด็กชายวสิ ุกศักด์ิ ทิพย์มาลา /

18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส /

19 เดก็ ชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต /

แบบสังเกตคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)

เลข ่ีท ชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดัง ี่ทกาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ

4 3 2 1
/
20 เดก็ ชายอฐิเทพ มากมี / / /
21 เด็กชายอาทติ ย์ จันทรแ์ ดง / / /
22 เด็กหญงิ กัญญารตั น์ สีนลิ / /
23 เด็กหญิงธีราพร ทระกนั
24 เด็กหญงิ กญั จนจ์ ิรา โยธา /
25 เดก็ หญงิ ภรณี สมี า /
26 เดก็ หญงิ ณชิ านนั ท์ ทองศรี /
27 เด็กหญิงทพิ ยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์ /
28 เด็กหญงิ นวภรณ์ แอบทองหลาง /
29 เดก็ หญงิ เบญจมาศ เขยี วคง /
30 เดก็ หญิงศศธิ ร พจิ ิตรศริ ิ
31 เดก็ หญงิ สิราวรรณ เรอื นคา
32 เด็กหญงิ สกุ ัญญา แสงซ่อื
33 เดก็ หญิงสุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เด็กหญิงอรนชุ โฉมบญุ มี

ผลการประเมนิ

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดีมาก จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.88

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 17.64

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง จานวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 67.64

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ค่อนขา้ งนอ้ ย จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 8.82

แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ (K) และ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

เลข ่ีทชื่อ – สกุล ผลการประเมนิ
ร้อยละ 70 ้ึขนไป
ต่ากว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป

1 เด็กชายกณั ชยั จันทร์บุตร / ผา่ น ไม่ผา่ น
2 เดก็ ชายณัฐกรณ์ ปานวงศ์ / //
3 เดก็ ชายวิชญะ มูลอุด //
4 เดก็ ชายจตพุ ล แสนแปลง //
5 เดก็ ชายธีรภทั ร ไชยสงิ ห์ //
6 เด็กชายวิทวสั รอดจันทร์ //
7 เดก็ ชายณัฐกติ ใจตลุ ะ //
8 เดก็ ชายพนุรกั ษ์ จิว๋ อยู่ //
9 เด็กชายปณั ณวฒั น์ พิศเพ็ง //
10 เด็กชายณัฐพล ยอดคา //
11 เด็กชายณฐั พล ศรีทองเจือ //
12 เดก็ ชายณฐั วุฒิ นนั ทะโคตร์ //
13 เดก็ ชายนครินทร์ อินพรม
14 เดก็ ชายปัฐพี สวัสดภิ์ าพ /
15 เด็กชายรัตนชาต บวั เลิศ /
16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ //
17 เด็กชายวิสุกศักดิ์ ทิพยม์ าลา //
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส //
19 เด็กชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต //
//
//

แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ (K) และ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)

เลข ี่ทชื่อ – สกลุ ผลการประเมิน
ร้อยละ 70 ข้ึนไป
่ตากว่าร้อยละ 70

20 เด็กชายอฐเิ ทพ มากมี / ผา่ น ไม่ผา่ น
21 เดก็ ชายอาทิตย์ จนั ทรแ์ ดง / /
22 เดก็ หญงิ กญั ญารตั น์ สนี ลิ / /
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกัน / /
24 เด็กหญิงกญั จน์จิรา โยธา /
25 เดก็ หญิงภรณี สีมา
26 เด็กหญิงณชิ านันท์ ทองศรี //
27 เด็กหญิงทพิ ยาภรณ์ ไผ่จนั ทร์ //
28 เด็กหญงิ นวภรณ์ แอบทองหลาง //
29 เดก็ หญิงเบญจมาศ เขียวคง //
30 เดก็ หญงิ ศศิธร พจิ ิตรศิริ //
31 เด็กหญิงสริ าวรรณ เรอื นคา //
32 เด็กหญิงสุกญั ญา แสงซอ่ื //
33 เดก็ หญิงสภุ าพร ถาเปน็ บญุ //
34 เด็กหญงิ อรนุช โฉมบญุ มี //
//
//

ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป จานวน 6 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 17.64
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 70 ขึ้น จานวน 28 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.235

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

รายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2564
เวลา 2 ชัว่ โมง
หน่วยการเรยี นรู้ 3 เร่ือง หนว่ ยพน้ื ฐาน เรอ่ื งโครงสรา้ งและหน้าที่ของเซลล์พชื
วนั ท3ี่ 1สงิ หาคม2564
ของสิง่ มีชีวติ

โรงเรยี น เทศบาลวัดหนองผา ผู้สอน นายอานนท์ นุม่ พรม

1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1.2 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก
จากเซลล์ความสัมพันธข์ องโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์
กันความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กันรวมทั้งนา
ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ชี้วดั
ว 1.2 ม.1/2 เปรียบเทยี บรปู รา่ งของเซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ รวมท้งั บรรยายหน้าทีข่ องผนงั เซลล์
เยือ่ หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาซึม นิวเคลียส แวคิวโอล ไมโทคอนเดรีย และคลอโรพลาสต์
ว 1.2 ม.1/3 อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างรูปร่างกับการทาหนา้ ที่ของเซลล์
2.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)

1.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั โครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องเซลลพ์ ืชและสัตวไ์ ด้
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P)

2.นกั เรยี นสามารถเขยี นสรปุ โครงสร้างและหนา้ ทขี่ องเซลล์พชื และสตั ว์ได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

3. นกั เรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้และมีความมุ่งมัน่ ในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
เซลลข์ องสิ่งมชี วี ติ มีรูปรา่ ง ลกั ษณะ ทหี่ ลากหลาย และมคี วามเหมาะสมกบั หน้าท่ขี องเซลลน์ ัน้ เชน่

เซลลป์ ระสาทสว่ นใหญ่ มเี สน้ ใยประสาทเปน็ แขนงยาว นากระแสประสาทไปยงั เซลลอ์ น่ื ๆ ท่ี อยูไ่ กลออกไป
เซลลข์ นราก เป็นเซลล์ผิวของราก ท่ีมผี นังเซลลแ์ ละเยอื่ หมุ้ เซลลย์ ่นื ยาวออกมา ลกั ษณะคล้ายขนเสน้ เล็ก ๆ
เพอ่ื เพ่มิ พื้นทีผ่ วิ ใน การดูดนา้ และธาตอุ าหาร
4. สาระการเรียนรู้

โครงสร้างและหนา้ ทข่ี องเซลล์พืชและสตั ว์

5. สมรรถนะของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
- ทักษะการสงั เกต
- ทักษะการสรปุ ลงความเหน็
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีความสนใจใฝร่ ู้
2. มีวนิ ัย
3. มจี ิตสาธารณะ
4. มีความอดทน
5. มีความซ่ือสัตย์

7. ขนั้ ตอนการจัดการเรยี นรู้
จัดประสบการณก์ ารเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการการสอนแบบ แบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es)
โดยจัดลาดับการสอนเป็นขั้นดงั ต่อไปนี้
1. ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement)

1.1 ครนู าเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยครใู ชภ้ าพของเซลล์
-ตั้งคาถามวา่ เชลล์คืออะไร
-เชลลม์ คี วามสาคัญอยา่ งไร

1.2 ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู ห้นกั เรียนทราบ
2. ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration)

2.1 ครเู ปดิ รูปเชลล์พืชและเชลลส์ ตั ว์ และใหน้ กั เรยี นหาคาตอบวา่ เชลล์พชื และเชลลส์ ตั ว์ตา่ งกัน

อย่างไร

3. ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)

3.1. ครูอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์พืชและสัตว์ โดยพาวเวอร์พ้อยเร่ือง โครงสร้างและ
หน้าทข่ี องเซลลพ์ ืชและสัตว์
4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)

4.1 ครูขยายความรู้โดยเปิดวีดีโอโครงสร้างของเชลล์พืชและเชลล์สัตว์ให้นักเรียนสรุปส่ิงที่แตกต่าง
ของเชลล์พชื และเชลล์สัตว์

4.2 นกั เรยี นทาใบงานเรอ่ื ง โครงสร้างและหน้าทีข่ องเซลลพ์ ืชและสตั ว์

5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)

1. ประเมินทกั ษะกระบวนการจากทาแผนผังความคดิ

2. ใบงานเร่อื ง โครงสร้างและหนา้ ทีข่ องเซลลพ์ ชื

8.สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรช์ ั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1 (สสวท)
2. Power Point เรือ่ ง โครงสร้างและหนา้ ทขี่ องเซลลพ์ ชื
3. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

9. ช้ินงาน / ภาระงาน
1.ใบงานเรื่อง โครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของเซลลพ์ ืชและสัตว์

10. การวดั และประเมนิ ผล
1. กรอบการวดั และประเมินผล แต่ละจุดประสงคก์ ารเรียนร้นู าเสนอประเด็นทท่ี าการวดั และ

ประเมินผล วธิ กี ารวดั และเครื่องมอื วดั ดังตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผ่าน
จุดประสงค์

ดา้ นความรู้ (K)

- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั โครงสรา้ ง - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงาน เร่ือง ผ่านจุดประสงคร์ อ้ ยละ

ของเซลล์พชื และเชลล์สัตวไ์ ด้ เรื่อง โครงสร้าง โครงสรา้ งและ 70 ขึ้นไป

และหนา้ ที่ของ หนา้ ท่ีของเซลล์พืช

เซลล์พชื และสตั ว์

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

- นกั เรยี นสามารถเขยี นสรปุ โครงสรา้ งและ นกั เรยี นทาใบงาน ใบงาน เรอ่ื ง ผา่ นจดุ ประสงคร์ ้อยละ

หนา้ ที่ของเซลลพ์ ืชได้ เรอื่ ง โครงสรา้ ง โครงสรา้ งและ 70 ขน้ึ ไป

และหน้าที่ของ หนา้ ที่ของเซลล์พืช

เซลล์พชื และสตั ว์

คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)

- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกต ระดบั 2 จาก 4ระดับ

พฤตกิ รรม (Rubric Scaring)

2. เกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ ูบรคิ ส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑ์รูบรคิ ส์ ทสี่ รา้ งขึน้

สาหรบั การประเมิน (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑ์การใหค้ ะแนนเกณฑร์ บู ริคส์

ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ

การประเมิน 4 3 21

(ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (คอ่ นข้างนอ้ ย)

ดา้ นความรู้ (K)

- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
โครงสรา้ งของเซลล์พืชได้

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป
- นกั เรยี นสามารถเขยี นสรปุ
โครงสร้างและหนา้ ท่ขี องเซลล์พืชได้ - มคี วามต้งั ใจทางาน ีมีผลการเรยี นรตู้ าม ีมีผลการเรียนรตู้ าม ีมีผลการเรยี นรตู้ าม
คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A) - มคี วามเพียรพยายาม คาอธิบายเป็นราย คาอธิบายเป็นราย คาอธบิ ายเปน็ ราย
- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ มี - ความรับผิดชอบงาน ขอ้ ดังที่กาหนด ขอ้ ดงั ทกี่ าหนด ข้อดงั ที่กาหนด
ความมงุ่ ม่ันในการทางาน ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ระดบั ดมี ากขอ้ ใดๆ ระดบั ดีมากขอ้ ใดๆ ระดบั ดมี ากข้อใดๆ
จานวน 2 ข้อ นอ้ ยกวา่ 2 ข้อ
จานวน 3 ข้อ

3. เกณฑป์ ระเมินระดับคณุ ภาพผลการเรียนรู้ กาหนดระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรรู้ ่วมกันทกุ ดา้ นเปน็ 4
ระดับ คอื ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรุง แตล่ ะระดบั กาหนดเกณฑ์ประเมนิ ตามคะแนนเกณฑร์ บู รคิ ส์ ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพดีมาก มคี ะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ สร์ อ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คณุ ภาพดี มีคะแนนตามเกณฑร์ บู ริคสร์ อ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเตม็
ระดบั คุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑ์รบู ริคส์รอ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดับคณุ ภาพปรบั ปรุง มีคะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ สน์ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม





ใบงาน เรือ่ ง

โครงสร้างและหนา้ ที่ของเซลล์พืช

คาช้ีแจง : ให้นักเรียนบอกโครงสรา้ งและอธบิ ายหน้าทข่ี องเซลล์สตั วท์ ่กี าหนดให้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงาน เรอื่ ง

โครงสร้างและหนา้ ท่ีของเซลลส์ ัตว์

คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นบอกโครงสร้างและอธิบายหน้าท่ขี องเซลลส์ ัตวท์ กี่ าหนดให้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบสังเกตคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)

เลข ่ีทชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดังที่กาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ

43 2 1

1 เดก็ ชายกณั ชยั จนั ทร์บุตร /

2 เด็กชายณฐั กรณ์ ปานวงศ์ /

3 เดก็ ชายวิชญะ มลู อุด /

4 เดก็ ชายจตุพล แสนแปลง /

5 เดก็ ชายธรี ภัทร ไชยสิงห์ /

6 เดก็ ชายวิทวัส รอดจนั ทร์ /

7 เดก็ ชายณฐั กติ ใจตลุ ะ /

8 เดก็ ชายพนุรกั ษ์ จ๋ิวอยู่ /

9 เดก็ ชายปัณณวัฒน์ พศิ เพ็ง /

10 เด็กชายณฐั พล ยอดคา /

11 เด็กชายณฐั พล ศรที องเจอื /

12 เด็กชายณฐั วฒุ ิ นนั ทะโคตร์ /

13 เด็กชายนครินทร์ อนิ พรม /

14 เดก็ ชายปฐั พี สวสั ด์ิภาพ /

15 เดก็ ชายรตั นชาต บวั เลศิ /

16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ /

17 เด็กชายวสิ ุกศักด์ิ ทิพย์มาลา /

18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส /

19 เดก็ ชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต /

แบบสังเกตคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A)

เลข ่ีท ชื่อ – สกุล ผลการประเมิน
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดัง ี่ทกาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ

4 3 2 1
/
20 เดก็ ชายอฐเิ ทพ มากมี / /
21 เด็กชายอาทติ ย์ จนั ทรแ์ ดง / / /
22 เด็กหญิงกัญญารตั น์ สนี ลิ / /
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกัน / /
24 เด็กหญงิ กัญจนจ์ ริ า โยธา /
25 เดก็ หญงิ ภรณี สีมา /
26 เดก็ หญิงณชิ านันท์ ทองศรี /
27 เดก็ หญงิ ทพิ ยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์ /
28 เด็กหญิงนวภรณ์ แอบทองหลาง
29 เด็กหญิงเบญจมาศ เขยี วคง /
30 เดก็ หญงิ ศศิธร พจิ ิตรศิริ
31 เดก็ หญิงสิราวรรณ เรอื นคา
32 เด็กหญิงสุกัญญา แสงซ่ือ
33 เดก็ หญงิ สุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เด็กหญิงอรนุช โฉมบญุ มี

ผลการประเมนิ

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดมี าก จานวน 0 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี จานวน 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 14.70

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง จานวน 21 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 61.76

นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั คอ่ นข้างนอ้ ย จานวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 23.52

แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ (K) และ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

เลข ่ีทชื่อ – สกุล ผลการประเมิน
ร้อยละ 70 ้ึขนไป
ต่ากว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป

1 เด็กชายกณั ชยั จันทร์บุตร / ผา่ น ไม่ผา่ น
2 เดก็ ชายณัฐกรณ์ ปานวงศ์ / //
3 เดก็ ชายวิชญะ มูลอุด / //
4 เดก็ ชายจตพุ ล แสนแปลง //
5 เดก็ ชายธีรภทั ร ไชยสงิ ห์ / //
6 เด็กชายวิทวสั รอดจันทร์ / //
7 เดก็ ชายณัฐกติ ใจตลุ ะ //
8 เดก็ ชายพนุรกั ษ์ จิว๋ อยู่ /
9 เด็กชายปณั ณวฒั น์ พิศเพ็ง / /
10 เด็กชายณัฐพล ยอดคา / /
11 เด็กชายณฐั พล ศรีทองเจือ / /
12 เดก็ ชายณฐั วุฒิ นนั ทะโคตร์ //
13 เดก็ ชายนครินทร์ อินพรม /
14 เดก็ ชายปัฐพี สวัสดภิ์ าพ /
15 เด็กชายรัตนชาต บวั เลิศ //
16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ //
17 เด็กชายวิสุกศักดิ์ ทิพยม์ าลา //
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส /
19 เด็กชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต /
/
/

แบบบันทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ (K) และ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

เลข ี่ทช่ือ – สกุล ผลการประเมิน
ร้อยละ 70 ข้ึนไป
่ตากว่าร้อยละ 70

20 เด็กชายอฐเิ ทพ มากมี / ผา่ น ไม่ผา่ น
21 เดก็ ชายอาทิตย์ จันทรแ์ ดง / /
22 เดก็ หญงิ กญั ญารัตน์ สนี ลิ / /
23 เด็กหญิงธรี าพร ทระกัน / /
24 เด็กหญงิ กญั จน์จริ า โยธา / /
25 เด็กหญิงภรณี สมี า / /
26 เดก็ หญิงณิชานันท์ ทองศรี / /
27 เดก็ หญิงทิพยาภรณ์ ไผจ่ นั ทร์ / /
28 เด็กหญงิ นวภรณ์ แอบทองหลาง / /
29 เดก็ หญิงเบญจมาศ เขยี วคง /
30 เด็กหญงิ ศศิธร พจิ ิตรศริ ิ /
31 เดก็ หญิงสริ าวรรณ เรอื นคา //
32 เด็กหญงิ สุกัญญา แสงซอ่ื /
33 เด็กหญิงสุภาพร ถาเป็นบญุ
34 เด็กหญงิ อรนชุ โฉมบญุ มี //
//
//
//

ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป จานวน 19 คน คิดเปน็ ร้อยละ 55.88
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ต่ากว่ารอ้ ยละ 70 ขึ้น จานวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 44.22

โครงสรา้
หนา้ ทีขอ

างและ
องเชลล์

เซลล

ความ

ล์คือ?

มสาํ คัญของเซลล์?

เชลล์

หน
มรี ูป
ขนึ อยกู่ บั ชนิดข

น่วยพนื ฐานทเี ลก็ ทสี ดุ ของสงิ มชี วี ติ
ปร่างลกั ษณะและขนาดแตกตา่ งกนั
ของสงิ มชี วี ติ และหน้าทขี องเซลลเ์ หลา่ นันเซลล์

เซลล์ พชื

เซลล์ สตั ว์

เชลล์พชื







-



-
-



ผนงั เซลล์

(Cell Wall )

- เซลล์ทัวไปประกอบด้วยสารพวกเซลลโู ลสเปนหลัก
ทําหนา้ ทีห่อห้มุ ปองกันอันตรายให้แก่เซลล์พชื
ให้เซลล์คงรูปเพมิ ความแขง็ แรง
- เซลล์ของสตั วไ์ มม่ ผี นังเซลล์
- ผนงั เชลล์จะยอมให้สารทีพชื ต้องการผา่ นเขา้ ออก
ได้

-
-

-


เยอื ห้มุ เซลล์

(Cell Membrane)

- เปนเยอื บาง ๆ ประกอบด้วยโปรตีน และไขมนั
- หน้าทีควบคมุ ปรมิ าณ และชนิดของสารทีผา่ น
เขา้ ออกจากเซลล์
- มรี ูเล็ก ๆ เพอื ให้สารบางอยา่ งผา่ นเขา้ ออกได้
และไมใ่ ห้สารบางอยา่ งผา่ นเขา้ ออกจากเซลล์



ไซโทพลาซมึ

(Cytoplasm)

- เปนสว่ นประกอบทเี ปนของเหลวอยู่
ภายในเซลล์ มสี ารทลี ะลายนาได้ เชน่
โปรตนี ไขมนั เกลอื แร่...

ไซโทพลาซึม
(Cytoplasm)

นิวเคลยี ส แวคลิ โอ คลอโรพล

ลาสต์ ไมโทรคอนเดยี กลอจิบอดี

-
-
-
-


นวิ เคลียส

- มรี ูปร่างคอ่ นขา้ งกลม มเี ยอื หมุ้ นิวเคลยี ส
- เชลลท์ วั ไปมนี ิวเคลยี ส 1 นิวเคลยี ส
- ภายในมสี ารพนั ธุกรรม
- ทาํ หน้าทคี วบคมุ การทาํ งานและกจิ กรรม
ตา่ งๆ ของเชลล์

-



แวคิลโอ

- เปนโครงสร้างทมี ชี อ่ งวา่ งชนาดใหญม่ าก
ในเซลลพ์ ชื ภายในมสี าร พวกนามนั ยาง
และแกส๊ ตา่ ง ๆ


Click to View FlipBook Version