สรุปการอ
-ออสโมซิส เปนกระบวนการ
นาผา่ น "เยอื เลอื กผา่ น" จาก
นามาก" ไปยงั บริเวณทมี "ี คว
กระจายจนกวา่ โมเลกลุ ของน
ออสโมซสิ
รแพร่โมเลกลุ ของเหลวหรือ
กบริเวณทมี คี วาม"เขม้ ขน้ ของ
วามเขม้ ขน้ ของนาน้อย"
นาจะเทา่ กนั
English Class | Laredo York Primary School
ใบกิจกรรมที 3
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6
รายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1/2564
เวลา 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ 4 เรอื่ ง การดารงชีวิต เรอ่ื ง การสืบพันธุแ์ ละการขยายพันธพ์ุ ืช
วนั ท8่ี กันยายน2564
ดอก
โรงเรียน เทศบาลวดั หนองผา ผสู้ อน นาย อานนท์ นุ่มพรม
1.มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1.2 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสิง่ มีชีวติ หนว่ ยพืน้ ฐานของสิ่งมชี ีวติ การลาเลยี งสารเขา้ และออก
จากเซลล์ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าทีข่ องระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ยท์ ีท่ างานสมั พนั ธ์
กนั ความสมั พนั ธข์ องโครงสรา้ งและหน้าท่ีของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทางานสมั พนั ธก์ ันรวมท้งั นา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตัวชว้ี ัด
ม 1/11 อธบิ ายการสบื พันธแุ์ บบอาศยั เพศ และไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอก
ม 1/12 อธิบายลักษณะโครงสรา้ งของดอกท่มี สี ว่ นทาใหเ้ กิดการถา่ ยเรณรู วมท้ังบรรยายการปฏสิ นธิ
ของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ดการกระจายเมลด็ และการงอกของเมล็ด
2.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายและยกตวั อย่างการสบื พนั ธแุ์ บบอาศัยเพศและไม่อาศยั เพศของพชื ได้
2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายโครงสรา้ งและส่วนประกอบของดอกได้
ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
2. นกั เรียนสามารถวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างการสบื พนั ธ์แุ บบอาศยั เพศและแบบไมอ่ าศยั
เพศได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นมีความใฝ่เรียนรู้และมีความมงุ่ มนั่ ในการทางาน
3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การสืบพนั ธุ์ (Reproduction) หมายถงึ การสรา้ งส่งิ มชี ีวติ ใหม่จากสง่ิ มีชีวติ ชนดิ เดมิ เพ่ือดารง
เผา่ พนั ธุ์ การสบื พนั ธ์ุของพืช มี 2 รปู แบบ ไดแ้ ก่ การสืบพนั ธ์ุแบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) และ
การสบื พนั ธุ์แบบไม่อาศยั เพศ (Asexual reproduction)
การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) คอื การสบื พนั ธท์ุ ่ีมีการผสมกันของเซลล์
สืบพนั ธุ์เพศผู้ กบั เซลลส์ ืบพันธุ์เพศเมยี เซลลส์ บื พนั ธุ์เพศผู้ คอื สเปิรม์ (Sperm) เซลลส์ บื พนั ธเุ์ พศเมียคือ
เซลล์ไข่ (Egg) การสืบพนั ธแุ์ บบอาศยั เพศของพชื เกดิ ขนึ้ ท่ีดอก
การสบื พนั ธุแ์ บบไมอ่ าศัยเพศ (Asexual reproduction) เป็นการสืบพนั ธทุ์ พ่ี ืชต้นใหม่ไม่ไดเ้ กิดจาก
การปฏสิ นธิระหวา่ งสเปริ ์ม กบั เซลล์ไข่ แต่เกดิ จากส่วนตา่ ง ๆ ของพืช เช่น ราก ลาตน้ ใบ มีการเจรญิ เตบิ โต
และพฒั นาข้ึนมา เปน็ ต้นใหมไ่ ด้ เช่น การตอน การต่อก่ิง การตดิ ตา การทาบก่งิ การแตกหนอ่ การใช้ใบ การ
ใชล้ าตน้ ใต้ดิน การใช้ส่วนของลาตน้ ทเี่ จรญิ ออกไปจากต้นเดมิ ที่เรยี กว่าไหล การเพาะเลีย้ งเนอื้ เยอื่ เป็นต้น
ชนิดของดอก
ถา้ พจิ ารณาส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์จะแบ่งชนิดของดอกไม้ได้ 2 ชนดิ
1. ดอกครบสว่ น คือดอกไมท้ ีม่ ีองคป์ ระกอบครบท้ัง 4 ส่วน คอื กลีบเลย้ี ง กลีบดอก เกสรตวั ผู้ เกสรตวั
เมยี อยู่ภายในดอกเดยี วกันเชน่ ดอกบานบรุ ี ชบา กุหลาบ ต้อยตง่ิ ดอกบัวหลวง อัญชนั ผกั บงุ้ พรกิ มะเขือ
2. ดอกไม่ครบส่วน คือดอกไมท้ สี่ ่วนประกอบของดอกไมค่ รบท้งั 4 สว่ น ในดอกเดียวกนั เชน่ ดอก
มะละกอ ดอกตาลงึ ฟักทอง แตงกวา บวบ เฟอื่ งฟ้า กล้วยไม้ บานเยน็ หน้าววั
ถ้าพจิ ารณาโดยใชเ้ กสรตัวผแู้ ละเกสรตวั เมียเปน็ เกณฑใ์ นการแบ่งดอกไม้ ได้ 2 ประเภท
1. ดอกสมบูรณเ์ พศ หมายถงึ ดอกทีม่ อี งค์ประกอบครบ 4 สว่ น คอื กลีบดอกกลีบเล้ียง เกสรตวั ผู้
เกสรตัวเมีย ไดแ้ ก่ ดอกพริก ดอกกุหลาบ ดอกชบาดอกตอ้ ยติ่งดอกมะเขอื ดอกพู่ระหง ดอกผักบุ้ง ดอก
บานบุรี ดอกมะลดิ อกชงโค ดอกอญั ชนั ดอกมะแว้ง ดอกแค ดอกการเวก
2. ดอกไม่สมบูรณเ์ พศ หมายถงึ ดอกที่มอี งค์ประกอบไม่ครบ 4 สว่ น ได้แก่ดอกมะพรา้ ว ดอกมะระ
ดอกบวบ ดอกฟกั ทอง ดอกตาลงึ ดอกมะละกอ ดอกขา้ วดอกข้าวโพด ดอกตาลงึ ดอกฟกั ทอง ดอกจาปา ดอก
จาปี ดอกบานเย็น ดอกเฟ่อื งฟา้ ดอกมะยม ดอกมะเด่ือ ดอกตาล ดอกบวบ ดอกหญา้ ดอกแตงกวา
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 การสบื พันธุ์ (Reproduction)
4.2 ชนดิ ของดอก
5. สมรรถนะของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการสังเกต
- ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็
6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มคี วามสนใจใฝร่ ู้
2. มวี นิ ยั
7. ข้นั ตอนการจัดการเรียนรู้
1.ขั้นสรา้ งความสนใจ
- ครนู ารูปของของพชื มาให้นกั เรียนดูพร้อมกับอธบิ ายเกย่ี วการดารงชีวติ ของพชื
- ครูนาเข้าส่กู ารสบื พนั ธข์ องพชื โดยการต้งั คาถามว่า “ทาไมพืชถึงมจี านวนมากก พชื เหลา่ นี้
เกดิ ขึ้นมาได้อยา่ งไร”
2.ขัน้ สารวจและคน้ หา
- ครูเปิดวดี ีโอการขยายพันธุ์ของพชื ให้นักเรยี นดู พร้อมต้งั คาถามวา่ “การขยายพนั ธ์ขุ องพืช
เกดิ ขน้ึ ได้อย่างไรและมีวิธีการแบบใดบา้ ง”
3.ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ
- ครอู ธิบายเรือ่ ง การสืบพนั ธแุ์ ละชนดิ ของดอกให้นกั เรยี นได้เขา้ ใจตรงกนั โดยใชส้ ือ่ พาวเวอร์
พ้อย ในการอธิบาย
4.ขั้นขยายความรู้
-ใหน้ กั เรียนสรุปความรทู้ ่ีไดร้ บั พร้อมกบั ทาใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การสืบพนั ธุ์และการขยายพนั ธ์ุ
พชื ดอก
5.ข้ันประเมลิ ผล
- ประเมินจากการมีส่วนรว่ มชั้นเรยี นและการตอบคาถาม
- ประเมนิ จากใบงานที่นักเรยี นทาในใบงานที่ 4 เร่อื ง การสบื พันธ์แุ ละการขยายพนั ธพ์ุ ืชดอก
8.สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียนวิชาวทิ ยาศาสตร์เลม่ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
2. PowerPoint เรอื่ ง การสบื พันธแ์ุ ละการขยายพนั ธุพ์ ชื ดอก
9. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
1. ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์พชื ดอก
10. การวดั และประเมินผล
1. กรอบการวดั และประเมนิ ผล แต่ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรนู้ าเสนอประเด็นที่ทาการวัด และ
ประเมนิ ผล วิธกี ารวดั และเคร่ืองมอื วดั ดงั ตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมินผล
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีการวัดผล เคร่อื งมือ เกณฑ์การผ่าน
จุดประสงค์
ด้านความรู้ (K) ผ่านจดุ ประสงค์ร้อยละ
70 ข้นึ ไป
- นักเรียนสามารถอธิบายและยกตัวอย่าง - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง
ผา่ นจดุ ประสงค์ร้อยละ
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ ที่ 4 เรื่อง การ การสืบพันธแ์ุ ละ 70 ขึน้ ไป
ของพชื ได้ สืบพันธแุ์ ละการ การขยายพันธ์ุพืช ระดับ 2 จาก 4ระดบั
- นักเรียนสามารถอธิบายโครงสร้างและ ขยายพันธุพ์ ชื ดอก ดอก
ส่วนประกอบของดอกได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ ง - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง
ระหวา่ งการสืบพนั ธุแ์ บบอาศยั เพศและแบบ ที่ 4 เรอ่ื ง การ การสบื พันธ์แุ ละ
ไม่อาศัยเพศได้ สืบพนั ธ์ุและการ การขยายพันธุ์พชื
ขยายพันธพ์ุ ชื ดอก ดอก
คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นรแู้ ละมคี วามมงุ่ ม่ัน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต
ในการทางาน พฤตกิ รรม
ใบงานท่ี 4 เร่ือง การสบื พนั ธุแ์ ละการขยายพันธ์ุพืชดอก
คาชแี้ จง: ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง
1. การสืบพันธแุ์ บบอาศัยเพศ หมายถงึ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การสืบพันธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศ หมายถงึ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ให้นักเรยี นอธบิ ายความแตกต่างของการสบื พันธุแ์ บบอาศยั เพศ กับ การสบื พนั ธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศ มา 3
ข้อ
3.1 .............................................................................................................................................
.............................................................................................................................................
3.2 .............................................................................................................................................
.............................................................................................................................................
3.3 .............................................................................................................................................
.............................................................................................................................................
4. จากภาพดา้ นลา่ งให้นกั เรยี นเขยี นสว่ นประกอบของดอกไมใ้ ห้ถูกต้อง
1 3 10 8
2 11
9
4 7
5 6
แบบสังเกตคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ (A)
เลข ่ีทช่ือ – สกุล ผลการประเมิน
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดังที่กาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1 ไม่ส่งงาน
1 เด็กชายกณั ชัย จนั ทรบ์ ตุ ร
2 เดก็ ชายณัฐกรณ์ ปานวงศ์
3 เด็กชายวิชญะ มลู อุด
4 เด็กชายจตุพล แสนแปลง
5 เดก็ ชายธรี ภทั ร ไชยสิงห์
6 เดก็ ชายวทิ วสั รอดจนั ทร์
7 เด็กชายณัฐกติ ใจตลุ ะ
8 เด็กชายพนุรกั ษ์ จวิ๋ อยู่
9 เด็กชายปณั ณวัฒน์ พิศเพ็ง
10 เดก็ ชายณัฐพล ยอดคา
11 เดก็ ชายณฐั พล ศรที องเจอื
12 เด็กชายณัฐวฒุ ิ นนั ทะโคตร์
13 เด็กชายนครินทร์ อนิ พรม
14 เดก็ ชายปัฐพี สวสั ดิ์ภาพ
15 เด็กชายรตั นชาต บัวเลิศ
16 เดก็ ชายวาทรี ชั ต์ พรวนศิริ
17 เด็กชายวิสกุ ศักดิ์ ทิพยม์ าลา
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส
19 เด็กชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต
แบบสังเกตคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)
เลข ่ีท ช่ือ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดัง ี่ทกาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1 ไม่ส่งงาน
20 เด็กชายอฐิเทพ มากมี
21 เด็กชายอาทติ ย์ จนั ทรแ์ ดง
22 เดก็ หญงิ กัญญารัตน์ สนี ลิ
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกนั
24 เด็กหญงิ กญั จนจ์ ิรา โยธา
25 เดก็ หญงิ ภรณี สีมา
26 เด็กหญงิ ณชิ านันท์ ทองศรี
27 เดก็ หญงิ ทิพยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์
28 เด็กหญิงนวภรณ์ แอบทองหลาง
29 เด็กหญิงเบญจมาศ เขียวคง
30 เดก็ หญงิ ศศธิ ร พิจิตรศิริ
31 เด็กหญงิ สริ าวรรณ เรือนคา
32 เดก็ หญงิ สกุ ัญญา แสงซ่ือ
33 เด็กหญิงสุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เด็กหญงิ อรนุช โฉมบญุ มี
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดมี าก จานวน ....... คน คิดเปน็ ร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี จานวน ....... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง จานวน ....... คน คดิ เป็นร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั คอ่ นข้างน้อย จานวน ....... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............
แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ (K) และ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
เลข ่ีท ผลการประเมิน
ร้อยละ 70 ้ึขนไป ผา่ น ไม่ผา่ น
ต่ากว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป
ชื่อ – สกุล
1 เด็กชายกัณชยั จนั ทรบ์ ุตร
2 เดก็ ชายณฐั กรณ์ ปานวงศ์
3 เด็กชายวิชญะ มลู อดุ
4 เดก็ ชายจตพุ ล แสนแปลง
5 เด็กชายธีรภทั ร ไชยสิงห์
6 เดก็ ชายวิทวสั รอดจนั ทร์
7 เดก็ ชายณฐั กิต ใจตลุ ะ
8 เด็กชายพนรุ กั ษ์ จิ๋วอยู่
9 เด็กชายปณั ณวฒั น์ พิศเพ็ง
10 เด็กชายณัฐพล ยอดคา
11 เด็กชายณัฐพล ศรีทองเจือ
12 เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ นนั ทะโคตร์
13 เดก็ ชายนครนิ ทร์ อินพรม
14 เด็กชายปัฐพี สวัสด์ภิ าพ
15 เด็กชายรัตนชาต บัวเลศิ
16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ
17 เด็กชายวสิ กุ ศักดิ์ ทิพยม์ าลา
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส
19 เดก็ ชายสราวธุ บุญยะวะรัต
แบบบนั ทกึ การประเมินดา้ นความรู้ (K) และ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
เลข ี่ทชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ร้อยละ 70 ข้ึนไป
่ตากว่าร้อยละ 70
ผา่ น ไม่ผา่ น
20 เด็กชายอฐิเทพ มากมี
21 เดก็ ชายอาทิตย์ จนั ทรแ์ ดง
22 เดก็ หญงิ กญั ญารตั น์ สนี ลิ
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกัน
24 เด็กหญงิ กัญจนจ์ ิรา โยธา
25 เดก็ หญิงภรณี สมี า
26 เด็กหญงิ ณชิ านันท์ ทองศรี
27 เดก็ หญงิ ทพิ ยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์
28 เด็กหญิงนวภรณ์ แอบทองหลาง
29 เด็กหญงิ เบญจมาศ เขยี วคง
30 เดก็ หญิงศศิธร พิจติ รศริ ิ
31 เดก็ หญิงสริ าวรรณ เรอื นคา
32 เดก็ หญิงสกุ ญั ญา แสงซอ่ื
33 เด็กหญิงสุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เดก็ หญิงอรนุช โฉมบญุ มี
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป จานวน ....... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตา่ กว่าร้อยละ 70 ขึ้น จานวน ....... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............
ทบทวนก
กอ่ นเรียน
English Class | Laredo York Primary School
English Class | Laredo York Primary School
หน่ว
ก
วยการเรียนรู้ที ๔
การดาํ รงชวี ติ
บทที ๑
การสบื พนั ธุ์และการขยาย
พชื ดอก
ยพนั ธุ์
CINNAVASE BOTANICALS | 2020
-การสรา้ งสงิ มชี
เดมิ เพอื ดาํ รงเผ
ชวี ติ ใหมจ่ ากชนดิ
ผา่ พนั ธ์
- การสบื พนั ธุ์แบ
บบไมอ่ าศยั เพศ
เมอื เกิดการสบื พนั ธแ์ บ
จะไดอ้ งค์ประกอบใ