3 1
1
2
3
2
3 1
1
2
3
2
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5
รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1/2564
เวลา 2 ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรู้ 3 เร่ือง หน่วยพืน้ ฐาน เรือ่ ง การแพรแ่ ละการออสโมซิส
วนั ท7ี่ กันยายน2564
ของส่ิงมีชีวิต
โรงเรยี น เทศบาลวดั หนองผา ผ้สู อน นาย อานนท์ น่มุ พรม
1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1.2 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องส่งิ มชี ีวิต หนว่ ยพ้ืนฐานของสิ่งมีชวี ิต การลาเลียงสารเขา้ และออก
จากเซลลค์ วามสัมพันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ยท์ ที่ างานสัมพนั ธ์
กนั ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ที างานสัมพันธ์กนั รวมท้งั นา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชีว้ ดั
ว 1.2 ม.1/5 อธิบายกระบวนการแพร่และออสโมซิสจากหลักฐานเชิงประจักษ์และยกตัวอย่าง
การแพรแ่ ละออสโมซสิ ในชวี ิตประจาวัน
2.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายและยกตวั อยา่ งกระบวนแพรแ่ ละการออสโมซิสในชวี ติ ประจาวันได้
ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
2. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลเก่ยี วกบั การแพรแ่ ละการออสโมซิสได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรยี นรแู้ ละมีความมุ่งมน่ั ในการทางาน
3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การแพร่ (Diffusion) เป็นการเคล่ือนท่ีของโมเลกุลหรือไอออนของสารจากบริเวณท่ีมีโมเลกุลหรือ
ไอออนของสารหนาแน่นมากไปยังบริเวณที่มีโมเลกุลหรือไอออนของสารหนาแน่นน้อยกว่า โดยการเคลื่อนท่ี
น้นั จะอาศยั พลังงานจลนใ์ นโมเลกลุ หรือไอออนของสารนน้ั
ออสโมซิส เป็น กระบวนการแพร่โมเลกุลของเหลวหรือน้าผ่านเย่ือเลือกผ่าน จากบริเวณท่ีมีความ
เข้มข้นของน้ามาก (สารละลายความเข้มข้นต่า) ไปยังบริเวณท่ีมีความเข้มข้นของน้าน้อย (สารละลายความ
เข้มข้นสูง) กระจายจนกว่าโมเลกุลของน้าจะเท่ากัน เป็นกระบวนการทางกายภาพท่ีตัวทาละลายจะเคลื่อนท่ี
โดยอาศัยพลังงานความร้อน ผ่านเย่ือเลือกผ่าน (ซ่ึงตัวทาละลายจะผ่านเย่ือเลือกผ่านได้ แต่สารละลายจะไม่
สามารถผ่านเยื่อเลือกผา่ นได)้ ออสโมซิสก่อให้เกดิ พลงั งาน และ สามารถสร้างแรงได้
การเคลื่อนที่ของตวั ทาละลายจะเคล่ือนที่จากสารละลายความเข้มข้นตา่ กว่า ไปยังสารละลายท่ีมีความ
เข้มข้นสูงกว่า เพื่อเป็นการลดความต่างของความเข้มข้นของสาร แรงดันออสโมซิส หมายถึง แรงดันที่ใช้
สาหรับการคงดลุ ยภาพ โดยท่ีไมม่ ีการเคลือ่ นที่ของตวั ทาละลายอีกตอ่ ไป
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 การแพร่
4.2 การออสโมซสิ
5. สมรรถนะของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการสงั เกต
- ทักษะการสรปุ ลงความเห็น
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีความสนใจใฝร่ ู้
2. มวี นิ ยั
7. ขนั้ ตอนการจดั การเรยี นรู้
1.ขั้นสร้างความสนใจ
ชวั่ โมงท1่ี
- ครูเชค็ จานวนนักเรียนก่อนเข้าเรียนจากนัน้ ครูบอกจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้กบั นกั เรยี น
- เปิดรปู อาหารดองโดยใช้เกลอื ในการดองในการทาให้ผักเค็ม และอธิบายการแพร่ทเ่ี กดิ ข้นึ
ในอาหารดอง
-ครูตัง้ คาถามว่า การแพร่ในชวี ติ ประจาวนั มีอะไรบาง
ช่วั โมงที่ 2
-ครูต้ังคาถามว่า ออสโมซิสในชวี ิตประจาวันมีอะไรบาง
2.ขั้นสารวจและคน้ หา
ช่ัวโมงที1่
-ทากิจกรรมท่ี 3.3 อนุภาคของสารมีการเคลอื่ นที่อยา่ งไร โดยทากจิ กรรมจากการร่วมกันทา
กิจกรรมจาก พาวเวอรพ์ อ้ ย ท่ีครนู าเสนอ
ชว่ั โมงที่ 2
-ทากจิ กรรมที่ 3.4 น้าเคล่อื นทผี่ ่านเยอ่ื เลือกผ่านไดอ้ ย่างไร โดยทากจิ กรรมจากการร่วมกนั
ทากิจกรรมจาก พาวเวอรพ์ อ้ ย ทค่ี รูนาเสนอ
3.ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ
ชว่ั โมงที1่
-ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง การแพรโ่ ดยใชพ้ าวเวอร์พ้อย
ช่วั โมงท่ี 2
-ครูอธิบายเพ่ิมเติมเรือ่ ง ออสโมซสิ ใชพ้ าวเวอรพ์ ้อย
4.ขน้ั ขยายความรู้
-ครูใหน้ กั เรียนดูวิดีโอ เรอื่ งการแพรข่ องสี
5.ขนั้ ประเมิลผล
-ประเมนิ จากการมสี ่วนรว่ มช้ันเรียนและการตอบคาถาม
- ประเมินจากใบงานทน่ี ักเรยี นทา ในใบงานท่ี 3 เรื่อง การแพรข่ องสารและการออสโอซิส
8.สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนวิชาวิทยาศาสตรเ์ ลม่ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
2. PowerPoint เรอ่ื ง การแพร่และการออสโมซิส
9. ช้ินงาน / ภาระงาน
1. ใบกิจกรรมท่ี 3 เร่ือง การแพร่และการออสโมซสิ
10. การวัดและประเมนิ ผล
1. กรอบการวดั และประเมินผล แตล่ ะจุดประสงคก์ ารเรยี นร้นู าเสนอประเด็นที่ทาการวัด และ
ประเมินผล วธิ กี ารวดั และเครอื่ งมอื วัด ดังตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมินผล
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารผา่ น
จุดประสงค์
ด้านความรู้ (K)
- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายและยกตวั อยา่ ง - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 3 ผ่านจุดประสงคร์ อ้ ยละ
70 ขน้ึ ไป
กระบวนแพรแ่ ละการออสโมซิสใน ท่ี 3
ผา่ นจดุ ประสงค์รอ้ ยละ
ชีวิตประจาวันได้ 70 ข้นึ ไป
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ระดบั 2 จาก 4ระดบั
- นกั เรยี นสามารถให้เหตผุ ลเกย่ี วกบั การ - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานที่ 3
แพร่และการออสโมซิสได้ ที่ 3
คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นรแู้ ละมคี วามมงุ่ ม่ัน สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต
ในการทางาน พฤติกรรม
2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑร์ บู ริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเป็นรายข้อของเกณฑ์รูบรคิ ส์ ท่ี
สร้างข้นึ สาหรบั การประเมนิ (Analytical Rubric Score)
ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑร์ บู ริคส์
ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ
การประเมิน 4 3 21
(ดมี าก) (ด)ี (ปานกลาง) (คอ่ นขา้ งน้อย)
ด้านความรู้ (K)
- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายและ
ยกตวั อยา่ งกระบวนแพรแ่ ละการ ร้อยละ 70 ข้ึนไป
ออสโมซสิ ในชีวติ ประจาวนั ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามารถให้เหตุผลเก่ยี วกับ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
การแพร่และการออสโมซสิ ได้
คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ มี - มีความตั้งใจทางาน ีมีผลการเรียนรตู้ าม ีมีผลการเรียนรตู้ าม ีมีผลการเรียนรตู้ าม
ความมุ่งมน่ั ในการทางาน - มีความเพยี รพยายาม คาอธิบายเปน็ ราย คาอธิบายเปน็ ราย คาอธิบายเปน็ ราย
- ความรบั ผิดชอบงาน ขอ้ ดังท่ีกาหนด ข้อดังท่ีกาหนด ขอ้ ดังท่กี าหนด
ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ระดบั ดมี ากข้อใดๆ ระดบั ดมี ากข้อใดๆ ระดับดมี ากขอ้ ใดๆ
- มคี วามอดทนอดกลนั้ จานวน 3 ข้อ จานวน 2 ขอ้ น้อยกว่า 2 ข้อ
ใบกจิ กรรมที่ 3 เรอ่ื ง กำรแพรข่ องสำรและกำรออสโอซิส
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้
1. กำรแพร่ หมำยถึง
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
2. เพรำะเหตใุ ดในกำรดองผักนัน้ จะมเี กลือไปยังผักทำใหผ้ ักเค็ม
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
3. ยกตัวอยำ่ งกำรแพรใ่ นชวี ติ ประจำวนั หมำยถึง
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
4. เพรำะเหตใุ ดเชลลเ์ หล่ำน้ถี ึงมีรูปร่ำงอยใู่ นสภำพดังรูปภำพนี้
4.1……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..
4.2……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..
4.3……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..
แบบสังเกตคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ (A)
เลข ่ีทช่ือ – สกุล ผลการประเมิน
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดังที่กาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1 ไม่ส่งงาน
1 เด็กชายกณั ชัย จนั ทรบ์ ตุ ร
2 เดก็ ชายณัฐกรณ์ ปานวงศ์
3 เด็กชายวิชญะ มลู อุด
4 เด็กชายจตุพล แสนแปลง
5 เดก็ ชายธรี ภทั ร ไชยสิงห์
6 เดก็ ชายวทิ วสั รอดจนั ทร์
7 เด็กชายณัฐกติ ใจตลุ ะ
8 เด็กชายพนุรกั ษ์ จวิ๋ อยู่
9 เด็กชายปณั ณวัฒน์ พิศเพ็ง
10 เดก็ ชายณัฐพล ยอดคา
11 เดก็ ชายณฐั พล ศรที องเจอื
12 เด็กชายณัฐวฒุ ิ นนั ทะโคตร์
13 เด็กชายนครินทร์ อนิ พรม
14 เดก็ ชายปัฐพี สวสั ดิ์ภาพ
15 เด็กชายรตั นชาต บัวเลิศ
16 เดก็ ชายวาทรี ชั ต์ พรวนศิริ
17 เด็กชายวิสกุ ศักดิ์ ทิพยม์ าลา
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส
19 เด็กชายสราวุธ บญุ ยะวะรัต
แบบสังเกตคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)
เลข ่ีท ช่ือ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดัง ี่ทกาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1 ไม่ส่งงาน
20 เด็กชายอฐิเทพ มากมี
21 เด็กชายอาทติ ย์ จนั ทรแ์ ดง
22 เดก็ หญงิ กัญญารัตน์ สนี ลิ
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกนั
24 เด็กหญงิ กญั จนจ์ ิรา โยธา
25 เดก็ หญงิ ภรณี สีมา
26 เด็กหญงิ ณชิ านันท์ ทองศรี
27 เดก็ หญงิ ทิพยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์
28 เด็กหญิงนวภรณ์ แอบทองหลาง
29 เด็กหญิงเบญจมาศ เขียวคง
30 เดก็ หญงิ ศศธิ ร พิจิตรศิริ
31 เด็กหญงิ สริ าวรรณ เรือนคา
32 เดก็ หญงิ สกุ ัญญา แสงซ่ือ
33 เด็กหญิงสุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เด็กหญงิ อรนุช โฉมบญุ มี
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดมี าก จานวน ....... คน คิดเปน็ ร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี จานวน ....... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง จานวน ....... คน คดิ เป็นร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั คอ่ นข้างน้อย จานวน ....... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............
แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ (K) และ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
เลข ่ีท ผลการประเมิน
ร้อยละ 70 ้ึขนไป ผา่ น ไม่ผา่ น
ต่ากว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป
ชื่อ – สกุล
1 เด็กชายกัณชยั จนั ทรบ์ ุตร
2 เดก็ ชายณฐั กรณ์ ปานวงศ์
3 เด็กชายวิชญะ มลู อดุ
4 เดก็ ชายจตพุ ล แสนแปลง
5 เด็กชายธีรภทั ร ไชยสิงห์
6 เดก็ ชายวิทวสั รอดจนั ทร์
7 เดก็ ชายณฐั กิต ใจตลุ ะ
8 เด็กชายพนรุ กั ษ์ จิ๋วอยู่
9 เด็กชายปณั ณวฒั น์ พิศเพ็ง
10 เด็กชายณัฐพล ยอดคา
11 เด็กชายณัฐพล ศรีทองเจือ
12 เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ นนั ทะโคตร์
13 เดก็ ชายนครนิ ทร์ อินพรม
14 เด็กชายปัฐพี สวัสด์ภิ าพ
15 เด็กชายรัตนชาต บัวเลศิ
16 เด็กชายวาทีรัชต์ พรวนศริ ิ
17 เด็กชายวสิ กุ ศักดิ์ ทิพยม์ าลา
18 เด็กชายศรชนิภา ศรีนาคใส
19 เดก็ ชายสราวธุ บุญยะวะรัต
แบบบนั ทกึ การประเมินดา้ นความรู้ (K) และ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
เลข ี่ทชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ร้อยละ 70 ข้ึนไป
่ตากว่าร้อยละ 70
ผา่ น ไม่ผา่ น
20 เด็กชายอฐิเทพ มากมี
21 เดก็ ชายอาทิตย์ จนั ทรแ์ ดง
22 เดก็ หญงิ กญั ญารตั น์ สนี ลิ
23 เดก็ หญิงธรี าพร ทระกัน
24 เด็กหญงิ กัญจนจ์ ิรา โยธา
25 เดก็ หญิงภรณี สมี า
26 เด็กหญงิ ณชิ านันท์ ทองศรี
27 เดก็ หญงิ ทพิ ยาภรณ์ ไผจ่ ันทร์
28 เด็กหญิงนวภรณ์ แอบทองหลาง
29 เด็กหญงิ เบญจมาศ เขยี วคง
30 เดก็ หญิงศศิธร พิจติ รศริ ิ
31 เดก็ หญิงสริ าวรรณ เรอื นคา
32 เดก็ หญิงสกุ ญั ญา แสงซอ่ื
33 เด็กหญิงสุภาพร ถาเปน็ บุญ
34 เดก็ หญิงอรนุช โฉมบญุ มี
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป จานวน ....... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตา่ กว่าร้อยละ 70 ขึ้น จานวน ....... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............
ทบทวนก
กอ่ นเรียน
ลกั ษ
มชี วี
01
สงิ มชี วี ติ ห
02
สงิ มชี วี ติ เช
หน่วยพนื ฐานทเี ลก็ ทสี ดุ ของสงิ มชี วี ติ มรี ูปร่าง
ษณะและขนาดแตกตา่ งกนั ขนึ อยกู่ บั ชนิดของสงิ
วติ และหน้าทขี องเซลลเ์ หลา่ นัน
หลายเชลล์
2
ชลล์เดียว
เซลล์ พชื
เซลล์ สตั ว์
เยอื ห้มุ เซลล์
(Cell Membrane)
- เปนเยอื บาง ๆ ประกอบดว้ ยโปรตนี และไขมนั
- หน้าทคี วบคมุ ปริมาณ และชนิดของสารทผี า่ น
เขา้ ออกจากเซลล์
- มรี ูเลก็ ๆ เพอื ใหส้ ารบางอยา่ งผา่ นเขา้ ออกได้
และไมใ่ หส้ ารบางอยา่ งผา่ นเขา้ ออกจากเซลล์
บทท2ี
English Class | Laredo York Primary School
ตัวอยา่ ง
ต้มนาํ กระเจยี บ
ต้มนาํ กระเจยี บ
English Class | Laredo York Primary School
English Class | Laredo York Primary School
ตัวอยา่ ง
ตัวอยา่ ง
-การถนอมอาหารโดย"การ
ซงึ เปนการใชเ้ กลือในการด
เพอื ให้อาหารนนั ไมเ่ นา่ เสยี
นาน เชน่ การทําผกั ดอง
ารดอง"
ดอง
ยเก็บได้
ตัวอยา่ ง
-เกิดการแพรเ่ นอื งจากโมเ
เกลือเคลือนเขา้ สเู่ ซลล์ของ
เลกลุ
งผกั กาด
ตัวอยา่ ง
-เกิดการแพรเ่ นอื งจากโมเ
เกลือเคลือนเขา้ สเู่ ซลล์ของ
-เพราะโมเลกลุ ของเกลือม
เขม้ ขน้ มากกวา่ โมเลกลุ ขอ
เลกลุ
งผกั กาด
มคี วาม
องผกั