The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benzalove147, 2021-09-16 10:42:31

แผนเสร็จ

แผนเสร็จ

บใดบใอนากศาัยรเขพยศายขอ?งพชื









ตวั อยา่ งการสบื พนั ธ์ุแบบไมอ่

อาศยั เพศ







สว่ นประกอบของดอก









-กลบี เลยี ง กลบี ดอก
เมยี อยภู่ ายในดอกเด

ก เกสร เพศผู้ และเกสรเพศ
ดยี วกนั











CINNAVASE BOTANICALS | 2020





ชนิดของดอก







Project

Poetry

























แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7

รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1/2564
เวลา 2 ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรู้ 4 เรือ่ ง การเคลือ่ นที่ เรอ่ื ง แรงในชีวติ ประจาวัน
วันที่ 8กันยายน2564
และแรง (แรงเสยี ดทาน)

โรงเรียน เทศบาลวดั หนองผา ผู้สอน นายอานนท์ น่มุ พรม

1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1.2 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงทกี่ ระทาต่อวตั ถุลกั ษณะการ
เคลอ่ื นท่แี บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชว้ี ัด
ว 2.2 ม.2/6 อธิบายแรงเสยี ดทานสถิตและแรงเสียดทานจลน์ จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
ว.2.2 ม.2/8 เขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทานและแรงอ่ืน ๆ ทก่ี ระทาต่อวตั ถุ
ว 2.2 ม.2/9 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของความรเู้ ร่อื ง แรงเสยี ดทานโดยวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา
และเสนอแนะ วธิ กี ารลดหรือเพิ่มแรงเสียดทานทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ การทากิจกรรมในชวี ติ ประจาวัน

2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายแรงเสยี ดทานสถติ และแรงเสียดทานจลนไ์ ด้
2.นกั เรยี นสามารถบอกประโยชน์ของแรงเสียดทานได้
ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
1.นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งเหตุการที่มีผลต่อแรงเสียดทานได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1. นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นร้แู ละรบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่

3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
- แรงเสียดทานเป็นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ เพื่อต้านการเคลื่อนท่ีของวัตถุนั้น โดยถ้า

ออกแรงกระทาตอ่ วัตถุทอ่ี ยู่นง่ิ บนพน้ื ผวิ ใหเ้ คล่ือนท่ี แรงเสยี ดทานก็จะต้านการเคลือ่ นทขี่ องวัตถุ แรงเสยี ดทาน
ท่ีเกิดขึ้นในขณะที่วตั ถุยังไม่เคล่ือนท่ีเรยี ก แรงเสียดทานสถิต แต่ถ้าวัตถุกาลังเคล่ือนที่ แรงเสียดทานก็จะทาให้
วัตถนุ ้ันเคล่ือนทีช่ ้าลงหรือหยดุ นงิ่ เรียก แรงเสยี ดทานจลน์

- ขนาดของแรงเสยี ดทานระหวา่ งผิวสัมผสั ของวัตถขุ ้ึนกับลักษณะผิวสมั ผสั และขนาดของแรงปฏิกิริยา
ตง้ั ฉากระหว่างผิวสัมผัส

- กิจกรรมในชวี ติ ประจาวนั บางกิจกรรมต้องการแรงเสยี ดทาน เชน่ การเปดิ ฝาเกลียวขวดนา้
การใช้แผ่นกันลื่นในห้องน้า บางกิจกรรมไม่ต้องการแรงเสียดทาน เช่น การลากวัตถุบนพ้ืน การใช้
น้ามนั หลอ่ ล่ืนในเครื่องยนต์

- ความรเู้ รื่องแรงเสียดทานสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวนั
4. สาระการเรยี นรู้

1.แรงเสยี ดทานสถติ และแรงเสยี ดทานจลน์
2.กิจกรรมในชีวิตประจาวนั บางกิจกรรมตอ้ งการแรงเสียดทาน
3.แรงเสียดทานสามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั
5. สมรรถนะของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการสงั เกต
6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. มคี วามสนใจใฝ่รู้
2. มวี ินยั
7. ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรู้
ใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 Es
1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)

1.1 ครูสร้างความสนใจโดยการยกตัวอย่างแรงเสียดทานในชีวิตประจาวัน และยกตัวอย่าง
รถไฟฟ้าความเร็วสูงท่ลี อยอย่บู นราง พร้อมตงั้ คาถามเกี่ยวกับการเคล่ือนทีร่ ถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ลอยอยู่บนราง
วา่ “รถไฟฟา้ ความเรว็ สงู ทล่ี อยอยบู่ นรางถึงว่งิ ได้เร็วกวา่ รถไฟฟา้ แบบธรรมดา”

2. ขนั้ สารวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 ทากิจกรรมที่ 4.5 แรงเสยี ดทานเมอื่ วัตถไุ ม่เคลื่นทแี่ ละเคลื่อนท่แี ตกต่างกันอยา่ งไร โดย

ทากิจกรรมจากการรว่ มกนั ทากจิ กรรมจากพาวเวอร์พ้อย ที่ครนู าเสนอ
3. การอภปิ รายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
3.1 ครูอธิบายเรื่อง แรงเสียดทานสถิตและแรงเสียดทานจลน์ กิจกรรมในชีวิตประจาวันบาง

กจิ กรรมตอ้ งการแรงเสยี ดทาน และแรงเสียดทานสามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูขยายความรู้ให้นักเรียนโดยให้นักเรียนตอบคาถามจากใบงงานที่ 3 เร่ือง แรงเสียด

ทาน

5. ขน้ั ประเมนิ ผล (Evaluation)
5.1 ประเมินความรู้และทกั ษะด้วยการใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 3 เร่อื งแรงเสยี ดทาน
5.2 ประเมินผลพฤตกิ รรมดว้ ยการสงั เกตจุ าการภาระงานของนักเรียน

8.ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นวชิ าวิทยาศาสตรเ์ ล่ม 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
2. PowerPoint เรือ่ ง แรงเสยี ดทาน

9. ชิ้นงาน / ภาระงาน
1. ใบงานที่ 3 เร่อื ง แรงเสยี ดทาน

10. การวัดและประเมนิ ผล
1. กรอบการวดั และประเมินผล แตล่ ะจุดประสงค์การเรียนร้นู าเสนอประเดน็ ทที่ าการวัด และ

ประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด และเครอ่ื งมือวดั ดงั ตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดผล เครอื่ งมือ เกณฑ์การผ่าน
จดุ ประสงค์
ดา้ นความรู้ (K) - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 3 เรื่อง
-นกั เรยี นสามารถอธบิ ายแรงเสยี ดทานสถิต ผา่ นจุดประสงค์ร้อยละ
และแรงเสียดทานจลน์ได้ ท่ี 3 เรอ่ื ง แรงเสยี ด แรงเสยี ดทาน 70 ข้นึ ไป
-นกั เรยี นสามารถบอกประโยชน์ของแรง ทาน
เสียดทานได้ ผา่ นจุดประสงคร์ อ้ ยละ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 3 เรอื่ ง 70 ขึ้นไป
-นกั เรยี นสามารถยกตัวอยา่ งเหตุการท่ีมผี ล ที่ 3 เรือ่ ง แรงเสยี ด แรงเสยี ดทาน
ตอ่ แรงเสยี ดทานได้ ทาน ระดับ 2 จาก 4ระดับ
(Rubric Scaring)
คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A) สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต
- นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นรแู้ ละรบั ผดิ ชอบ และจากการสง่ งาน พฤติกรรม
ตอ่ หนา้ ที่
ตรงตอ่ เวลา

2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเป็นรายขอ้ ของเกณฑร์ ูบรคิ ส์ ที่

สร้างข้ึนสาหรบั การประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑ์รบู รคิ ส์

ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ

การประเมนิ 4 3 21

(ดมี าก) (ด)ี (ปานกลาง) (คอ่ นข้างน้อย)

ด้านความรู้ (K)

-นกั เรยี นสามารถอธิบายแรงเสยี ดทาน

สถติ และแรงเสยี ดทานจลน์ได้ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
-นกั เรยี นสามารถบอกประโยชนข์ อง

แรงเสียดทานได้

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

-นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างเหตุการ ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

ทีม่ ผี ลต่อแรงเสียดทานได้

คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)

- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ มคี วาม - มคี วามตัง้ ใจทางาน ีมีผลการเรยี นรตู้ าม ีมีผลการเรยี นรู้ ีมีผลการเรียนรู้

ม่งุ ม่นั ในการทางาน - มีความเพยี รพยายาม คาอธิบายเป็นราย ตาม คาอธิบาย ตาม คาอธิบาย

- ความรับผดิ ชอบงาน ขอ้ ดังท่กี าหนด เป็นราย ขอ้ ดังที่ เป็นรายขอ้ ดงั ท่ี

ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ระดับดมี ากข้อใดๆ กาหนด ระดับดี กาหนด ระดับดี

- มคี วามอดทนอดกลั้น จานวน 3 ข้อ มากข้อใดๆ มากข้อใดๆ

จานวน 2 ข้อ น้อยกวา่ 2 ขอ้

3. เกณฑ์ประเมินระดับคุณภาพผลการเรียนรู้ กาหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรูร้ ว่ มกนั ทุกดา้ นเปน็ 4
ระดบั คอื ดมี าก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ แต่ละระดบั กาหนดเกณฑ์ประเมินตามคะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพดีมาก มคี ะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดบั คุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์รอ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดับคณุ ภาพพอใช้ มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์รอ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเตม็
ระดับคณุ ภาพปรบั ปรุง มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบรคิ ส์นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม





ใบกจิ กรรมท่ี 3
แรงเสยี ดทาน

คำชแ้ี จง : จงตอบคำถำมตอ่ ไปน้ีให้ถกู ต้อง
1.แรงเสียดทำนม.ี ........ประเภท ประกอบด้วย (อธบิ ำยรำยละเอยี ด)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ขนำดของแรงเสยี ดทำน จะมำกหรอื น้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้ำง จงอธิบำย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3.จำกภำพ กำรทดลองลำกถุงทรำยที่วำงบนพืน้ ท่ีแตกต่ำง ดว้ ยตำช่ังสปรงิ จงตอบคำถำมตอ่ ไปนี้

3.1 ถงุ ทรำยเมื่อยงั นิ่งไม่มีกำรดงึ มแี รงใดบ้ำงมำกระทำต่อถุงทรำย
.............................................................................................................................................................
3.2 เมอ่ื เร่ิมดึงถงุ ทรำย จนถุงทรำยทง้ั สองเร่ิมเคล่ือนท่ี นักเรียนคิดว่ำกำรทดลอง A. หรอื B. ตรำชั่ง
สปรงิ จะยดื น้อยกว่ำกนั เพรำะอะไร
................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
3.3 กำรทดลองนี้ สรุปได้ว่ำ ปจั จัยใดมผี ลต่อค่ำของแรงเสียดทำน
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version